Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมการเรียนรู้(นักเรียน)_ป.1

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้(นักเรียน)_ป.1

Description: ชุดกิจกรรมการเรียนรู้(นักเรียน)_ป.6-เทอม2

Search

Read the Text Version

ใบงานที่ ๐๓ บ ๕.๒ / ผ.๔– ๐๓ การตง้ั ถนิ่ ฐาน คาชี้แจง ๑. ใหน้ กั เรียนเขียนอธบิ ำยเหตผุ ล “ถำ้ เลอื กไปตังถิ่นฐำน นกั เรียนจะเลอื กบริเวณ ทมี่ ลี กั ษณะภมู ิประเทศ แบบใด” ๒. ให้นักเรียนวำดภำพประกอบและระบำยสใี หส้ วยงำม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………....................................................……………………………………………………………………… ชื่อ........................................................สกุล......................................................ชัน..................ชัน...............

ใบความรสู้ าหรบั นักเรยี น กลมุ่ ท่ี ๑ การตงั้ ถนิ่ ฐานของประชากรภาคเหนือ กำรตังถิ่นฐำน หมำยถึง กำรเลือกถ่ินท่ีอยู่อำศัย โดยในแต่ละภูมิภำคประชำกรจะเลือกตังถ่ินฐำนแตกต่ำงกัน ออกไป ขึนอย่กู ับสภำพแวดล้อม ซ่ึงมคี วำมสัมพนั ธก์ ับรูปแบบวิถีชวี ิต ลักษณะกำรประกอบอำชีพ ควำมสะดวกสบำยใน กำรเดินทำง รวมไปถงึ ควำมร้สู ึกทเี่ กิดขนึ จำกกำรตังถน่ิ ฐำน เช่น รู้สกึ มคี วำมปลอดภยั มีควำมอบอุ่นใจ สุขใจ ภำคเหนือ พืนท่ีของภำคเหนือส่วนใหญ่จะมีลกั ษณะเป็นภูเขำท่ีรำบสูงและทรี่ ำบระหว่ำงหุบเขำที่มีแม่นำไหลผ่ำน โดยบริเวณท่ีมีผู้คนเข้ำมำตังถิ่นฐำนในภำคเหนือจะเป็นบริเวณท่ีรำบระหว่ำงหุบเขำและท่ีรำบริมแม่นำ เช่น แม่นำปิง วัง ยม และน่ำน ทำให้เกิดกำรคมนำคมทำงนำท่ีสะดวก โดยภำคเหนือเป็นบรเิ วณที่มีผู้คนมำตังถิ่นฐำนตังแต่ยุคหิน ทังนีโดย พบหลักฐำน เช่น เคร่ืองมือหินกะเทำะที่เก่ำแก่ท่ีสุดที่บ้ำนแม่ทะ และบ้ำนดอนมูล จังหวัดลำปำง ถำผีแมน จังหวัด แม่ฮ่องสอน ลักษณะภูมิประเทศของภำคเหนือทำให้มีดินที่เกิดจำกกำรสลำยตัวของหินจำกภูเขำเป็นดินที่อุดมด้วยแร่ธำตุ เหมำะแก่กำรเพำะปลกู โดยเฉพำะพชื เมืองหนำวเนื่องจำกมีอำกำศเยน็ และฝนตกชกุ นอกจำกนใี นบริเวณเขตภเู ขำสูง ยังเป็นที่ตงั ถิ่นฐำนของชำวเขำเผ่ำต่ำง ๆ เช่น ชำวม้ง (แม้ว) กะเหร่ยี ง อีกอ้ (อำ ขำ่ ) มเู ซอ และนิยมเพำะปลูกพชื ตำมภเู ขำ ดอย หรอื เนนิ เขำตำ่ ง ๆ มีวิถีกำรดำเนนิ ชวี ิตท่เี รียบง่ำย ทีม่ ำ : http://www.maceducation.com/e-knowledge/๒๓๖๓๑๐๔๑๐๐/๐๖.htm

ใบความรสู้ าหรับนักเรยี น กลมุ่ ท่ี ๒ การต้งั ถน่ิ ฐานของประชากรภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ กำรตังถิ่นฐำน หมำยถึง กำรเลือกถ่ินที่อยู่อำศัย โดยในแต่ละภูมิภำคประชำกรจะเลือกตังถ่ินฐำนแตกต่ำงกัน ออกไป ขึนอยู่กับสภำพแวดล้อม ซึง่ มีควำมสัมพันธก์ ับรูปแบบวถิ ีชีวิต ลักษณะกำรประกอบอำชพี ควำมสะดวกสบำยใน กำรเดินทำง รวมไปถึงควำมรสู้ กึ ทเ่ี กดิ ขนึ จำกกำรตังถ่ินฐำน เช่น รูส้ กึ มคี วำมปลอดภยั มีควำมอบอุ่นใจ สุขใจ ภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ บรเิ วณทมี่ ผี ูค้ นเข้ำมำตังถิน่ ฐำนในภำคตะวันออกเฉียงเหนอื ประชำกรส่วนใหญ่ เลอื กตงั ถ่นิ ฐำนบรเิ วณทด่ี อน เพรำะภมู ิประเทศดงั กล่ำวมีควำมต่ำงระดับและควำมลำดชนั ไม่มำก กำรไหลของนำจึงมี กำรพัดพำตะกอนมำสะสม เกิดเป็นโคก ทีด่ อน ใช้เปน็ พืนที่เพำะปลูก เช่น ทำไร่ ทำสวน ทำนำ และเลยี งสัตว์ อีก ทังยังมีควำมปลอดภยั จำกกำรเกดิ นำทว่ ม นอกจำกบริเวณที่ดอนแล้วยังมีที่รำบที่มีแม่นำไหลผ่ำน คือ บริเวณแอ่งสกลนครและแอ่งโครำช บริเวณแอ่ง สกลนครจะเป็นบริเวณท่ีแม่นำสงครำมไหลผ่ำน ได้แก่ บริเวณจังหวัดอุดรธำนี หนองคำย สกลนคร มุกดำหำร นครพนม โดยพบหลักฐำนทำงโบรำณคดี เช่น เคร่ืองมือเครื่องใช้ เคร่ืองป้ันดินเผำ เครื่องประดับ กระจำยอยู่ท่ัวไป ท่ี สำคญั คือแหลง่ โบรำณคดีบำ้ นเชยี ง จังหวดั อุดรธำนี บรเิ วณแอง่ โครำชจะเปน็ บริเวณที่มแี มน่ ำชแี ละแม่นำมูลไหลผ่ำน ไดแ้ ก่ บริเวณจงั หวัดขอนแก่น นครรำชสีมำ มหำสำรคำม บรุ ีรัมย์ ร้อยเอ็ด สุรนิ ทร์ ศรสี ะเกษ อบุ ลรำชธำนี และยโสธร แหล่งโบรำณคดที ีส่ ำคัญ คือ ท่บี ้ำนนำดี จงั หวัดขอนแก่น และบำ้ นปรำสำท จังหวดั นครรำชสีมำ ท่ีมำ : http://www.maceducation.com/e-knowledge/๒๓๖๓๑๐๔๑๐๐/๐๖.htm

ใบความรู้สาหรบั นักเรยี น กลุม่ ที่ ๓ การตง้ั ถิ่นฐานของประชากรภาคกลาง กำรตังถิ่นฐำน หมำยถึง กำรเลือกถิ่นท่ีอยู่อำศัย โดยในแต่ละภูมิภำคประชำกรจะเลือกตังถ่ินฐำนแตกต่ำงกัน ออกไป ขึนอยู่สภำพแวดล้อม ซ่ึงมีควำมสัมพันธ์กับรูปแบบวิถีชีวิต ลักษณะกำรประกอบอำชีพ ควำมสะดวกสบำยใน กำรเดนิ ทำง รวมไปถึงควำมรูส้ ึกท่เี กดิ ขนึ จำกกำรตงั ถ่นิ ฐำน เชน่ รูส้ กึ มคี วำมปลอดภัย มีควำมอบอนุ่ ใจ สขุ ใจ ภำคกลำง เน่ืองจำกพืนที่ส่วนใหญ่เป็นทร่ี ำบลุ่มแมน่ ำที่มีแม่นำไหลผ่ำนหลำยสำย เช่น แม่นำเจ้ำพระยำ แม่นำป่ำ สัก แม่นำแมก่ ลอง แม่นำลพบุรี จึงเปน็ บริเวณทีม่ พี นื ที่อดุ มสมบรู ณ์ เหมำะแกก่ ำรเพำะปลกู จึงทำให้บรเิ วณนีมปี ระชำกร เลือกตังถิ่นฐำนกันมำก นอกจำกนีแม่นำดังกล่ำวยังสำมำรถเดินทำงติดต่อค้ำขำยกับดินแดนอื่นๆ ได้สะดวก ทำให้บริเวณ นีเปน็ แหล่งกำรค้ำทสี่ ำคัญและได้รับอำรยธรรมควำมเจริญจำกภำยนอกมำผสมผสำนเปน็ ของตนเอง ภมู ิประเทศดังกล่ำวมีระบบลุม่ นำเปน็ พืนที่รองรับนำจำกท่ีสูง กำรไหลของแม่นำสำยตำ่ ง ๆ จะนำพำตะกอนและ แร่ธำตุลงมำสะสมกลำยเป็นพืนท่ีที่มีธำตุอำหำรอุดมสมบูรณ์ สำมำรถทำกำรเกษตรได้ทุกรูปแบบ และสำมำรถทำนำทำ สวนได้ตลอดทงั ปี นอกจำกกำรตังถ่ินฐำนบริเวณท่ีรำบและที่รำบลุ่มแล้ว ปัจจุบันมีแนวโน้มกำรเลือกตังถ่ินฐำนตำมแนวถนนและ เส้นทำงคมนำคมสำยหลกั ต่ำง ๆเพิม่ มำกขนึ ทมี่ ำ : http://www.maceducation.com/e-knowledge/๒๓๖๓๑๐๔๑๐๐/๐๖.htm

ใบความรสู้ าหรับนกั เรยี น กลุ่มที่ ๔ การตั้งถ่ินฐานของประชากรภาคตะวันออก กำรตังถิ่นฐำน หมำยถึง กำรเลือกถ่ินที่อยู่อำศัย โดยในแต่ละภูมิภำคประชำกรจะเลือกตังถิ่นฐำนแตกต่ำงกัน ออกไป ขึนอยู่สภำพแวดล้อม ซึ่งมีควำมสัมพันธ์กับรูปแบบวิถีชีวิต ลักษณะกำรประกอบอำชีพ ควำมสะดวกสบำยใน กำรเดินทำง รวมไปถึงควำมรสู้ ึกท่เี กดิ ขนึ จำกกำรตงั ถิ่นฐำน เชน่ รสู้ ึกมีควำมปลอดภัย มคี วำมอบอนุ่ ใจ สขุ ใจ ภำคตะวันออก ประชำกรส่วนใหญ่เลือกตังถิ่นฐำนบริเวณชำยฝั่งทะเล ตังแต่อำเภอชลบุรี ถึงอำเภอสัตหีบ จงั หวดั ชลบุรี อำเภอบ้ำนฉำงถงึ อำเภอแกลง จงั หวดั ระยองอำเภอเมืองจันทบรุ ถี ึงอำเภอเมอื งตรำด ภมู ิประเทศดังกล่ำว ก่อใหเ้ กดิ ส่ิงตำ่ ง ๆ ดังนี - กำรสร้ำงอำชีพ เชน่ บรกิ ำรกำรทอ่ งเท่ียว อำชพี ประมง - มีกำรสรำ้ งท่ำเรือ จนกลำยเปน็ จดุ เช่ือมต่อกำรคมนำคมขนส่งกลำยเป็นเขตอุตสำหกรรม - บริเวณชำยฝั่งเว้ำแหว่งตำมบริเวณปำกแม่นำในจังหวัดจันทบุรี และตรำด มีกำรสะสมตะกอน โคลนตม กลำยเปน็ พืนทีป่ ำ่ ชำยเลนและเพำะเลยี งสตั ว์นำ นอกจำกนียังพบกำรตังถ่ินฐำนบรเิ วณท่ีรำบลุ่ม ได้แก่ท่ีรำบลุ่มบำงปะกงและที่รำบฉนวนไทย เนื่องจำกท่ีรำบลุ่ม บำงปะกง มีควำมอุดมสมบูรณ์อันเกิดจำกกำรสะสมตัวของธำตุอำหำร และมีนำเพียงพอต่อกำรเพำะปลูก ท่ีรำบฉนวน ไทยเป็นท่ีรำบอยู่ระหว่ำงทิวเขำสันกำแพง และทิวเขำจันทบุรี ต่อเน่ืองกับท่ีรำบลุ่มเจ้ำพระยำ เป็นที่รำบดินตะกอนที่ แม่นำพัดพำมำทับถม ครอบคลุมพืนที่ จังหวัดฉะเชิงเทรำ ปรำจีนบุรี สระแก้ว อยู่ในเขตอับฝน มีช่วงแล้งยำวนำน เหมำะแกก่ ำรทำปศุสตั ว์ หลกั ฐำนกำรตังชุมชนและเมืองในภำคตะวันออกท่ีสำคัญ ได้แก่ เมืองศรีมโหสถ จังหวัดปรำจีนบุรี และเมืองพนัส นิคม จงั หวัดชลบุรี โดยพบหลักฐำนทีเ่ ป็นเทวรปู ในศำสนำพรำหมณ์-ฮนิ ดู และพระพุทธศำสนำ ที่มำ : http://www.maceducation.com/e-knowledge/๒๓๖๓๑๐๔๑๐๐/๐๖.htm

ใบความรสู้ าหรบั นักเรยี น กลมุ่ ท่ี ๕ การต้งั ถ่นิ ฐานของประชากรภาคตะวันตก กำรตังถ่ินฐำน หมำยถึง กำรเลือกถิ่นที่อยู่อำศัย โดยในแต่ละภูมิภำคประชำกรจะเลือกตังถิ่นฐำนแตกต่ำงกัน ออกไป ขึนอยู่สภำพแวดล้อม ซึ่งมีควำมสัมพันธ์กับรูปแบบวิถีชีวิต ลักษณะกำรประกอบอำชีพ ควำมสะดวกสบำยใน กำรเดินทำง รวมไปถงึ ควำมรูส้ ึกทเ่ี กิดขนึ จำกกำรตังถน่ิ ฐำน เช่น รู้สกึ มีควำมปลอดภยั มีควำมอบอุ่นใจ สุขใจ ภำคตะวันตก ประชำกรส่วนใหญ่เลือกตังถิ่นฐำนบริเวณท่ีรำบและที่รำบลุ่ม ได้แก่ ที่รำบลุ่มแม่นำแม่กลอง ที่ รำบลุม่ แมน่ ำเพชรบุรี และที่รำบลุ่มแม่นำปิง ภูมิประเทศดังกล่ำวเป็นที่สะสมของตะกอนท่ีถูกพัดพำมำโดยลำนำสำยใหญ่และแควสำขำ จึงเป็นพืนท่ีท่ีมีควำม อดุ มสมบูรณเ์ หมำะแกก่ ำรทำเกษตรกรรม นอกจำกนียังพบกำรตังถิ่นฐำนบริเวณชำยฝ่ังตำมที่รำบลุ่มชำยฝ่ังตำมท่ีรำบลุ่มชำยฝั่งปำกแม่นำเพชรบุรี และท่ี รำบชำยฝง่ั ในเขตจงั หวดั เพชรบุรี และประจวบคีรขี ันธ์ ท่มี ำ : http://www.maceducation.com/e-knowledge/๒๓๖๓๑๐๔๑๐๐/๐๖.htm

ใบความรสู้ าหรบั นักเรยี น กลุ่มท่ี ๖ การตง้ั ถิ่นฐานของประชากรภาคใต้ กำรตังถ่ินฐำน หมำยถึง กำรเลือกถ่ินท่ีอยู่อำศัย โดยในแต่ละภูมิภำคประชำกรจะเลือกตังถิ่นฐำนแตกต่ำงกัน ออกไป ขึนอยู่สภำพแวดล้อม ซึ่งมีควำมสัมพันธ์กับรูปแบบวิถีชีวิต ลักษณะกำรประกอบอำชีพ ควำมสะดวกสบำยใน กำรเดินทำง รวมไปถึงควำมรู้สกึ ทเ่ี กิดขนึ จำกกำรตังถน่ิ ฐำน เช่น รู้สึกมคี วำมปลอดภยั มคี วำมอบอุน่ ใจ สขุ ใจ ภำคใต้ ประชำกรส่วนใหญ่เลือกตังถ่ินฐำนบริเวณชำยฝั่งทะเลบนพืนท่ีสันทรำย ซึ่งภูมิประเทศดังกล่ำวได้รับ อทิ ธิพลจำกทะเล ทำใหเ้ กิดชำยหำดสนั ทรำยใหม่ ลักษณะกำรใชด้ นิ - ท่ลี ุม่ ระหวำ่ งสันทรำยใหม่กบั สันทรำยเก่ำ ใชเ้ ปน็ พนื ที่ทำนำและสวนผลไม้ - ท่รี ำบดอน ใชเ้ ปน็ สวนยำงพำรำ - ชำยฝ่งั หำดทรำยใชเ้ ปน็ สวนมะพรำ้ ว มีระบบกำรไหลรวมของแมน่ ำดี นอกจำกนีแล้วลักษณะของภำคใต้ที่เป็นคำบสมุทรย่ืนยำวไปในทะเลและมีแม่นำสำยสันๆ ไหลผ่ำน ทำให้บริเวณ ภำคใต้มีผู้คนเข้ำมำอำศัยอยู่ตังแต่ยุคหิน ทังนีโดยพบหลักฐำนตำมบริเวณท่ีใกล้แหล่งนำ เช่น เคร่ืองปั้นดินเผำและ เครื่องใช้ ท่ีถำสิงขร จังหวัดสุรำษฎร์ธำนี และถำหลังโรงเรียน จังหวัดกระบ่ี เป็นต้น ซึ่งกลุ่มคนที่ตังถ่ินฐำนบริเวณนี ต่อมำไดร้ วมตวั เป็นชมุ ชนและขยำยตัวเปน็ เมืองในเวลำต่อมำ เนื่องจำกภำคใต้มที ะเลทังสองด้ำน จึงเป็นดินแดนท่ีมพี ่อคำ้ ต่ำงชำติเข้ำมำตดิ ต่อค้ำขำยและพักแรมอยู่เสมอ ซึ่ง พ่อค้ำต่ำงชำติเหล่ำนีโดยเฉพำะพ่อค้ำอินเดียได้นำควำมรู้ควำมเจริญต่ำงๆ มำถ่ำยทอดให้กับชุมชนเหล่ำนี ดังนันเมือง ตำ่ งๆ ในภำคใตจ้ ึงมคี วำมเจรญิ และมคี วำมหลำกหลำยทำงวฒั นธรรม ท่มี ำ : http://www.maceducation.com/e-knowledge/๒๓๖๓๑๐๔๑๐๐/๐๖.htm

ใบความรสู้ าหรบั นกั เรยี น การย้ายถิ่นฐานของประชากร กำรย้ำยถ่ินฐำน คือ กำรเคลื่อนย้ำยของประชำกรจำกถ่ินฐำนเดิมเพ่ือเข้ำไปอำศัยอยู่ในท้องถ่ินท่ีเหมำะสมแห่ ง ใหม่ เช่น มีสภำพแวดล้อมที่ดใี กล้เส้นทำงคมนำคม มีทรพั ยำกรอดุ มสมบูรณ์ ปจั จัยท่ีทาให้เกิดการอพยพยา้ ยถิ่นฐาน ๑. ปจั จัยด้ำนสภำพแวดล้อม ถำ้ ทองถ่ินใดมภี มู ิประเทศ ภมู ิอำกำศที่เหมำะสมและมที รัพยำกรธรรมชำติท่ีอดุ ม สมบรู ณ์ ย่อมดึงดดู ใจใหผ้ ู้คนยำ้ ยถิ่นเขำ้ ไปอยู่มำกกวำ่ ท้องถ่นิ ทม่ี ีสภำพแวดลอ้ มแห้งแล้ง และขำดแคลน ทรัพยำกร ๒. ปัจจัยด้ำนเศรษฐกจิ ทอ้ งถน่ิ ใดมีกำรขยำยตวั ทำงเศรษฐกิจที่ดี และมีอำชีพทีห่ ลำกหลำยทังดำ้ นกำรเกษตร อุตสำหกรรมกำรคำ้ และบริกำรย่อมทำให้ประชำกรพำกันเข้ำไปประกอบอำชีพเปน็ จำนวนมำก เปน็ กำรเพ่มิ รำยได้ ยกฐำนะทำงเศรษฐกจิ และสังคมของตนเองและครอบครัวให้สงู ขนึ เพือ่ ให้มีชวี ิตควำมเป็นอย่ทู ่ีดขี ึน ๓. ปัจจยั ดำ้ นควำมปลอดภยั ถ้ำท้องถ่นิ ใดมีภัยอนั ตรำยต่ำง ๆ เกิดขนึ เช่น กำจลำจล สงครำม โรคระบำด โจร ผู้รำ้ ย หรอื ภัยธรรมชำติ ยอ่ มทำให้ประชำกรอพยพย้ำยถิ่นเพื่อไปหำแหล่งท่ีอยู่ใหมท่ ใ่ี ห้ควำมปลอดภัยมำกกวำ่ ผลกระทบทเี่ กิดจากการยา้ ยถน่ิ ฐาน ๑. ปญั หำมลพิษ เช่น นำเสยี อำกำศเปน็ พษิ ๒. ปัญหำกำรจรำจรตดิ ขัด ๓. ปัญหำชมุ ชนแออดั ๔. ปญั หำกำรขำดแคลนแรงงำนในทอ้ งถ่นิ ๕. ปัญหำกำรวำ่ งงำน ทมี่ ำ : เอกรนิ ทร์ สม่ี หำศำล และคณะ. สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ป.๕. พิมพค์ รังท่ี ๓. กรงุ เทพฯ : อักษร เจรญิ ทศั น์

ภาพบา้ นเรอื นบริเวณริมแม่นา้ ภาพบ้านและอาคารตึกสงู บรเิ วณในเมอื ง

ภาพบา้ นเรือนทีต่ ง้ั อยูไ่ กลจากเส้นทางคมนาคม ภาพบ้านเรือนบรเิ วณใกลช้ ายฝงั่ ทะเล

บ ๕.๒ / ผ.๕– ๐๑ ใบงานท่ี ๐๑ สิง่ แวดลอ้ มในประเทศ คาชแ้ี จง ๑. ให้นักเรียนแบง่ กลุ่มคละชนั แตล่ ะกลุ่มศไทกึ ษยำใบควำมรู้ ดังนี กลุม่ ท่ี ๑ ส่งิ แวดล้อมทำงธรรมชำติ กลมุ่ ที่ ๒ ส่ิงแวดลอ้ มทำงวัฒนธรรม กล่มุ ท่ี ๓ ส่ิงแวดล้อมทำงควำมกำ้ วหน้ำด้ำนวทิ ยำกำร กลุ่มที่ ๔ ควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งส่งิ แวดลอ้ มทำงธรรมชำติกับสิ่งแวดล้อมทำงสังคม กลุ่มที่ ๕ ผลกระทบท่ีเกิดจำกควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งสิ่งแวดล้อมทำงธรรมชำตกิ ับส่งิ แวดล้อมทำงสังคม ๒. สรุปควำมรูเ้ ป็นแผนผังควำมคิด ๓. ตัวแทนนำเสนอผลงำน เรอ่ื ง...................................... ชื่อกลุม่ ........................................................ สมำชกิ กล่มุ ๑. ช่ือ.............................................สกุล.............................................ชนั ...............เลขท่.ี .............. ๒. ช่อื .............................................สกลุ .............................................ชัน...............เลขท.่ี .............. ๓. ชือ่ .............................................สกุล.............................................ชัน...............เลขท.่ี .............. ๔. ชอ่ื .............................................สกุล.............................................ชัน...............เลขที่...............

บ ๕.๒ / ผ.๕– ๐๒ ใบงานที่ ๐๒ สิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ มทางสังคม คาชแี้ จง ๑. ใหน้ ักเรยี นจบั คู่ ๒. ให้นกั เรียนร่วมกันจำแนกสิ่งแวดลอ้ มทำงธรรมชำติกบั สิง่ แวดล้อมทำงสังคม สิ่งแวดล้อมในประเทศไทย สงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อมทางสงั คม …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …๑….…ช…อ่ื …...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…ส…กุล…..…..............…...…...…...…...…...…...…...…...…...…..ช…ัน…..…...…...…...…..…..เ…ลข…ท…ี่..…...…...…....... …๒….…ช…่อื …...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…...…ส…กลุ…..…..............…...…...…...…...…...…...…...…...…...…..ช…ัน…..…...…...…...…...….เ…ลข…ท….ี่ .…...…...…....... …………………………………………………………… …………………………………………………………… …

บ ๕.๒ / ผ.๕– ๐๓ ใบงานท่ี ๐๓ แนวทางการดแู ลรักษาสงิ่ แวดลอ้ ม คาชแี้ จง ๑. ให้นกั เรยี นเขียนแนวทำงกำรดแู ลรักษำสงิ่ แวดลอ้ ม ๒. วำดภำพประกอบ พร้อมระบำยสสี วยงำม แนวทางการดูแลรักษาสงิ่ แวดลอ้ ม ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ช่ือ..................................................สกลุ ..................................................ชัน...............เลขท่ี...............

ใบความรสู้ าหรบั นกั เรยี น กลมุ่ ท่ี ๑ ส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติ (Natural environment) สงิ่ ท่ีเกดิ ขนึ เองตำมธรรมชำติ เชน่ ปำ่ ไม้ สตั วป์ ำ่ อำกำศ ดนิ นำ มนุษย์ สิง่ เหล่ำนีตอ้ งอำศัยสง่ิ แวดล้อมอ่นื ประกอบ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย - สง่ิ ทีม่ ีชีวติ (Biotic Environment) หรือเรยี กว่ำสิ่งแวดลอ้ มทำงชีวภำพ (Biological Environment) เกิดขนึ เอง ตำมธรรมชำติมคี ุณสมบตั ิเฉพำะตวั ของสิง่ ที่มีชวี ิต เช่น พชื สัตว์ มนษุ ย์ - ส่งิ ทไี่ มม่ ีชวี ติ (Abiotic Environment) หรอื ส่งิ แวดลอ้ มทำงกำยภำพ อำจจะมองเห็นหรือมอง ไมเ่ หน็ เชน่ แร่ ธำตุ อำกำศ เสยี ง สาระสาคญั ของส่งิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติในประเทศไทย ๑. โครงสรา้ งทางธรณีวิทยา - กำรดันตวั ของเปลือกโลก ทำใหเ้ กดิ กำรโค้ง โก่ง งอ ปรำกฏเป็นเทอื กเขำตำ่ ง ๆ โดยเฉพำะในเขตภำคเหนอื และภำคตะวันตก - กำรยบุ ตวั ของแผ่นดนิ ทำให้เกิดท่รี ำบระหว่ำงภเู ขำ เชน่ แอ่งแม่สะเรียง แอ่งแมฮ่ ่องสอน - กำรทับถมของเศษหิน ดนิ กรวดทรำย ตะกอนนำพำและตะกอนทะเลเป็นระยะเวลำนำน ประกอบกบั กำรยก ตวั สงู ขนึ ของแผ่นดินทำให้เกดิ เปน็ ที่รำบ ซงึ่ นับวนั จะขยำยเปน็ บริเวณกว้ำงมำกขึน เช่น บรเิ วณท่รี ำบภำคกลำง ๒. ภมู ิประเทศ - เกิดจำกกำรเปลีย่ นแปลงโครงสรำ้ งทำงธรณีวิทยำ ร่วมกับกระบวนกำรทำงธรรมชำติ - ลักษณะภูมปิ ระเทศทีป่ รำกฏในประเทศไทย จำแนกเป็น ภเู ขา มคี วำมสูง ๒๐๐ เมตรขึนไป มลี ักษณะเป็นภูเขำโดด ทิวเขำ และเทือกเขำ พบมำกในภำคเหนือและภำค ตะวันตก ทร่ี าบสงู พบบรเิ วณภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ซ่ึงมีระดับควำมสูงแยกจำกท่ีรำบภำคกลำง ทดี่ อน และทร่ี ำบภำค ตะวันออกอย่ำงชัดเจน ที่ราบ มีควำมสูงน้อยกวำ่ ๑๐๐เมตร มลี กั ษณะเปน็ ท่รี ำบพบเป็นบริเวณกวำ้ งในภำคกลำง นอกจำกนียงั พบภมู ปิ ระเทศแบบท่ลี มุ่ ชายฝั่งทะเลและเกาะ ๓. ดนิ - ปัจจัยควบคมุ ได้แก่ วตั ถตุ ้นกำเนดิ ดิน ภมู ปิ ระเทศ ภมู ิอำกำศ พชื พันธุ์ และระยะเวลำ - ประเทศไทยตงั อยูใ่ นเขตรอ้ นชนื จงึ มสี ภำพอำกำศร้อนและมีฝนตกชกุ ส่งผลให้ดนิ สลำยตวั อยำ่ งรวดเร็ว แร่ ธำตใุ นดนิ จงึ ถูกชะลำ้ งไปมำก ทำให้ดินขำดควำมอุดมสมบูรณ์ - ดินที่มคี วำมอดุ มสมบรู ณเ์ หมำะแก่กำรเพำะปลกู คือ ดินในเขตที่รำบลมุ่ แม่นำในภำคกลำง ภำค ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และแอง่ ทีร่ ำบระหวง่ ภูเขำในภำคเหนือ - ปญั หำดนิ ในประเทศไทย คือ ดนิ ขำดควำมอุดมสมบรู ณ์ดินถกู บุกรุกทำใหเ้ กิดกำรพังทลำยอย่ำงรวดเรว็ และกำร ใช้ดนิ อย่ำงไม่ถูกวิธี

- แนวทำงกำรอนุรักษด์ นิ เช่น กำรปลูกพชื คลุมดิน ปลกู พชื หมนุ เวยี น รกั ษำบรเิ วณที่ดนิ อุดมสมบรู ณ์ ๔. แหลง่ น้า - มคี วำมสมั พันธ์กบั ภูมิประเทศและภมู ิอำกำศ - แหล่งท่มี ำของนำมำจำก ๓ แหล่งสำคัญ ได้แก่ แหล่งน้าผิวดนิ เช่น แม่นำ ห้วย หนอง คลอง บึงและ ทะเลสำบ แหลง่ นา้ ใต้ดนิ หรอื น้าบาดาล และนา้ ฝน - ปญั หำแหลง่ นำในประเทศไทย คือ กำรทำลำยป่ำไม้ซึ่งเป็นแหล่งต้นนำ กำรใชน้ ำอย่ำงไมถ่ ูกวิธี เกิดมลพิษทำง นำ เกดิ ภำวะกำรขำดแคลนนำ และภำวะนำทว่ ม - แนวทำงกำรอนรุ ักษน์ ำทำไดโ้ ดยปลกู ปำ่ เพ่ือรกั ษำแหลง่ ต้นนำและชะลอกำรไหลของนำ หำวิธเี ก็บกกั นำอยำ่ งมี ประสทิ ธิภำพ ไม่ทิงขยะหรือส่ิงปฏิกลู ลงในแมน่ ำ ๕. ภูมอิ ากาศ - ปัจจัยควบคุม ได้แก่ ท่ีตงั ควำมใกล้ไกลพืนดนิ และพนื นำ ระดบั ควำมสงู ของพืนที่ ภูมิประเทศท่ีกันขวำง ลม ประจำท่ีพัดผำ่ นและพำยุ - อณุ หภมู ใิ นประเทศไทย โดยเฉลี่ยมีอณุ หภมู สิ ูงตลอดปปี ระมำณ ๒๗ องศำเซลเซียส เฉลี่ยสูงสุดประมำณ ๓๒ องศำเซลเซยี ส และเฉลี่ยตำ่ สุดประมำณ ๒๒ องศำเซลเซยี ส - ปริมำณนำฝนในประเทศไทย ส่วนใหญ่ไดร้ ับอทิ ธิพลจำกลมมรสุมตะวันตกเฉยี งใต้ โดยเฉล่ียทงั ประเทศประมำณ ๑,๕๕๐ มิลลิเมตรต่อปี ภำคใต้เปน็ ภมู ิภำคท่ีมีปริมำณนำฝนมำกที่สดุ โดยเฉพำะจังหวดั ระนอง เนอื่ งจำกภำคใต้มลี ักษณะเปน็ คำบสมุทร และมที วิ เขำเปน็ แกนกลำง จงึ สำมำรถรบั ลมมรสุมได้ทัง ๒ ดำ้ น - ฤดูกำล ประเทศไทยแบ่งออกเปน็ ๓ ฤดู คือ ฤดูรอ้ น ฤดฝู น ฤดหู นำว ยกเว้นภำคใตไ้ มม่ ีฤดูหนำว - พำยุ ทม่ี อี ิทธิพลต่อประเทศไทย ส่วนใหญเ่ ปน็ พำยุหมนุ เขตรอ้ น ไดแ้ ก่ พำยดุ เี ปรสชนั พำยุโซนร้อน และพำยุ ไต้ฝ่นุ ๖. พชื ปา่ ไม้ และสตั วป์ า่ - ปจั จัยควบคมุ ไดแ้ ก่ ภูมปิ ระเทศ ภมู ิอำกำศ นำ และดิน - ปำ่ ไม้ในประเทศไทยแบง่ ออกเปน็ ๓ ประเภท ได้แก่ ๑. ป่ำไม้ไม่ผลดั ใบ ประกอบด้วย ป่ำดบิ ชืน ปำ่ ดิบเขำ ป่ำดิบแล้ง ป่ำสน ปำ่ พรุ ปำ่ ชำยเลน ป่ำชำยหำด ๒. ป่ำไมผ้ ลดั ใบผสม ไดแ้ ก่ ป่ำเบญจพรรณ ๓. ป่ำไมผ้ ลัดใบ ประกอบดว้ ย ปำ่ เต็งรงั และปำ่ หญ้ำ - ปญั หำป่ำไม้ในประเทศไทย คอื กำรถกู บุกรุกทำลำยจนมีปริมำณลดลงดว้ ยสำเหตตุ ำ่ ง ๆ เช่น กำรทำไร่เล่ือน ลอย กำรลกั ลอบตัดไม้ - ปัญหำสตั ว์ปำ่ ในประเทศไทย คอื มีปรมิ ำณลดลงอย่ำงรวดเรว็ จนบำงชนดิ มีแนวโน้มที่จะสูญพนั ธ์ ซึ่งมำจำก สำเหตตุ ่ง ๆ เชน่ ทีอ่ ยู่ถูกบุกรุกทำลำย ถูกลำ่ ไดร้ ับผลกระทบจำกยำฆ่ำแมลงหรือมลพิษตำ่ งๆ - แนวทงกำรอนุรักษ์พชื พนั ธ์ ปำ่ ไม้ และสตั ว์ปำ่ เชน่ ส่งเสริมให้มีกำรปลูกปำ่ สรำ้ งสวนพฤกษศำสตร์ กำหนดเขต อุทยำนแห่งชำติ และเขตรกั ษำพนั ธสุ์ ัตว์ปำ่

ใบความรสู้ าหรบั นักเรยี น กลมุ่ ที่ ๒ สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม สงิ่ แวดล้อมทางวัฒนธรรม คือ ส่ิงแวดล้อมท่ีจับต้องไม่ได้ แต่ถกู กำหนดขึนเพ่ือใชเ้ ป็นกรอบในกำรดำรงชีวิตของ กลุ่มคนท่ีอยู่ร่วมกัน เพื่อให้สังคมเกิดควำมสงบเรียบร้อยและมีควำมปลอดภัย รวมถึงมีผลทำงด้ำนจิตใจของคนในสังคม ประกอบด้วย ๑. ขนบธรรมเนียม คือ กำรปฏิบัติตนตำมโอกำสต่ำง ๆ ที่สังคมยอมรับ ซึ่งสำมำรถเปล่ียนแปลงได้ตำมยุคสมัย และควำมนยิ มของแตล่ ะสังคม เช่น กำรทำบุญตกั บำตร กำรไหว้ กำรรับประทำนอำหำร กำรแต่งกำย ๒. ประเพณี คือ ส่ิงที่สังคมยึดถือปฏิบัติสืบเน่ืองต่อกันมำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกำรจัดกิจกรรมร่วมกัน เช่น ประเพณกี ำรแต่งงำน งำนบวช ประเพณสี งกรำนต์ ๓. เชือชำติ ประชำกรส่วนใหญ่เป็นเชือชำติไทย ส่วนที่เหลือเป็นเชือชำติอื่น ๆ ซึ่งมีกำรกระจำยและตังถ่ินฐำน อยู่ในท่ัวทุกจังหวัดของประเทศ โดยเฉพำะบริเวณพืนที่ติดพรมแดนประเทศเพ่ือนบ้ำน เช่น พม่ำ มอญ จีน เขมร มุสลิม ชนกล่มุ นอ้ ยต่ำง ๆ ๔. ศำสนำ ประเทศไทยให้เสรีภำพแก่ประชำชนในกำรเลือกนับถือศำสนำ เพรำะทุกศำสนำสอนให้คนเป็นคนดี ทกุ คนในสังคมจงึ อยู่ร่วมกนั อย่ำงมีควำมสขุ ๕. ภำษำ ใช้ภำษำไทยเป็นภำษำกลำงในกำรติดต่อสื่อสำร และในแต่ละภำคของประเทศไทยจะมีภำษำถิ่นท่ีใช้ใน กำรตดิ ต่อสื่อสำร เชน่ ภำษำถิ่นเหนือ ภำษำถิน่ ใต้

ใบความรสู้ าหรบั นกั เรยี น กลุม่ ท่ี ๓ สงิ่ แวดล้อมทางความเจริญด้านวทิ ยาการ ส่ิงแวดล้อมทำงควำมเจริญด้ำนวิทยำกำร คือ ส่ิงแวดล้อมที่สำมำรถจับต้องได้ สำมำรถเห็นได้ท่ัวไป ซึ่งถูกสร้ำง ขึนเพ่ืออำนวยควำมสะดวกสบำยและให้เกิดประโยชน์แก่มนุษย์ในกำรดำรงชีวิต เช่น กำรคมนำคมขนส่ง กำรพัฒนำ เทคโนโลยี ควำมเจรญิ ทำงดำ้ นวัตถุ ศลิ ปกรรมและโบรำณวัตถุ ๑. การคมนาคมขนส่ง - ช่วยให้กำรเดินทำง กำรติดต่อกันเป็นไปอย่ำงสะดวกและรวดเร็ว ทังภำยในประเทศและระหว่ำง ประเทศ - มีกำรปรับปรุงและขยำยเส้นทำงคมนำคมขนสง่ ทังทำงบก ทำงนำ ทำงอำกำศ และอื่น ๆ เช่น สร้ำง ถนนสำยใหม่ สรำ้ งทำงดว่ น ขยำยเสน้ ทำงกำรบิน - เกิดปัญหำตำมมำ คอื ควำมหนำแน่นของกำรจรำจรและมลพิษทำงอำกำศ ๒. การพฒั นาเทคโนโลยี - ทำใหป้ ระเทศไทยมโี อกำสแข่งขนั กับต่ำงประเทศมำกขนึ ในดำ้ นเศรษฐกจิ และอื่น ๆ - ให้เกิดวิธีกำรและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซ่ึงสำมำรถนำมำใช้กับกำรประกอบอำชีพทังในภำคเกษตรกรรม อตุ สำหกรรม กำรค้ำและบริกำร เชน่ กำรใช้เครอ่ื งจกั รแทนแรงงำนคน - เกดิ ปญั หำตำมมำ คือ ปัญหำกำรวำ่ งงำนและส่งิ แวดล้อมเปน็ พษิ ๓. ความเจริญทางดา้ นวัตถุ - ทำให้มนุษย์เกิดควำมสะดวกสบำยในกำรดำเนินชวี ิต - เกิดปัญหำตำมมำ คือ ทรพั ยำกรเสื่อมโทรมและหมดไป ๔. ศลิ ปกรรมและโบราณวตั ถุ - แสดงถึงควำมเจรญิ รงุ่ เรืองและเอกลกั ษณ์ของประเทศชำติ - โบรำณสถำนและโบรำณวัตถุต่ำง ๆ เช่น วัด โบสถ์ เคร่ืองลำยครำม เครื่องป้ันดินเผำ พระพุทธรูป สมัยต่ำงๆ ถือเปน็ หลกั ฐำนทำงประวตั ิศำสตร์ทีส่ ำคญั ของประเทศไทย

ใบความรสู้ าหรับนักเรยี น กลุ่มท่ี ๔ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงแวดลอ้ มทางธรรมชาติกับส่ิงแวดลอ้ มทางสังคม ๑. การประกอบอาชีพ กำรประกอบอำชีพตำ่ ง ๆ มักจะเป็นไปตำมสภำพแวดล้อมทำงธรรมชำติ เชน่ - คนท่อี ยูบ่ รเิ วณปำ่ เขำ มกั จะประกอบอำชพี หำของป่ำ ล่ำสัตว์ ทำเหมืองแร่ ทำอตุ สำหกรรมไม้แปรรปู - คนทอ่ี ยูบ่ รเิ วณท่ีรำบลุ่ม มักประกอบอำชีพเพำะปลูก - คนท่อี ยู่บริเวณรมิ นำหรือชำยทะเล มักประกอบอำชีพประมง ทำนำเกลอื ๒. การตงั้ ถิน่ ฐานของประชากร สมัยกอ่ นคนต้องพ่งึ พำอำศยั นำจำกแหล่งนำในกำรดำรงชีวิต จงึ มกั ตงั บ้ำนเรือนอยรู่ ิมนำ รู้จกั ปลูกสร้ำงบำ้ นทีเ่ หมำะสมกับสภำพภูมศิ ำสตร์ เชน่ บ้ำนยกพืนสูงเพอ่ื ป้องกนั นำท่วม หลงั คำมีจั่วสงู เพ่ือระบำยนำเวลำ ฝนตก และให้อำกำศถ่ำยเทได้สะดวกเหมำะกับภูมิอำกำศทร่ี อ้ น ๓. วฒั นธรรมและประเพณี เปน็ สิง่ สะท้อนใหเ้ ห็นถงึ วิถชี วี ิตของผู้คนในแต่ละท้องถ่นิ เช่น ดำ้ นกำรแตง่ กำย อำหำรกำรกนิ ควำมเชือ่ โดยผคู้ นท่ีอำศัยอยู่ในบริเวณทมี่ ีอำกำศหนำวเย็น มกั แต่งกำยดว้ ยเสอื ผ้ำหนำ ๆ รบั ประทำนอำหำรท่ใี ห้พลงั งำน แก่ร่ำงกำย ส่วนประเพณตี ำ่ ง ๆ จะขนึ อยู่กบั สภำพแวดลอ้ มของแต่ละท้องถ่ิน เชน่ ภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื มีสภำพพืนที่ แหง้ แลง้ จงึ มีประเพณบี ญุ บังไฟเป็นกำรบวงสรวงเทวดำเพื่อขอฝน

ใบความรสู้ าหรับนักเรยี น กลุ่มท่ี ๕ ผลกระทบท่ีเกิดจากความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาตกิ ับสงิ่ แวดล้อมทางสงั คม ๑. การอพยพย้ายถนิ่ ฐาน ส่วนใหญม่ สี ำเหตมุ ำจำกควำมอุดมสมบรู ณ์ของพนื ท่เี ดิมลดน้อยลง ทำให้กำรเพำะปลูก เลียงสตั ว์ ไดผ้ ลผลติ นอ้ ยลง รวมถงึ มีควำมต้องกำรพนื ทท่ี ำกินเพิ่มขึน เพรำะจำนวนประชำกรเพิ่มขนึ ประกอบกบั ควำมสะดวกสบำยของกำร คมนำคมขนสง่ และรำยได้ทม่ี ่ันคงมำกกว่ำกำรทำเกษตรกรรมในพนื ท่ีเดิม จงึ สง่ ผลใหเ้ กิดกำรอพยพออกจำกถ่นิ ฐำนเดิม ไปสแู่ ห่งใหม่ ๒. การพฒั นาไมย่ ง่ั ยนื จำกกำรท่ีประชำกรวัยทำงำนส่วนใหญ่มีกำรอพยพเข้ำสู่เมืองหลวงเป็นจำนวนมำก ทำให้ชุมชนเดิมเหลือเพียง ผู้สูงอำยุและเด็ก จึงทำให้กำรพัฒนำชุมชนไม่มีประสิทธิภำพเท่ำท่ีควร ประกอบกับทรัพยำกรและสิง่ แวดลอ้ มในชุมชนเดิม เส่ือมโทรมและลดน้อยลง ขำดบุคลำกรในกำรอนุรักษ์และฟ้ืนฟู ทำให้กลำยเป็นพืนท่ีเสื่อมโทรมในท่ีสุด เกิดผลเสียต่อ สิ่งแวดล้อมทำงธรรมชำติและสง่ิ แวดลอ้ มทำงสงั คมของชมุ ชน ๓. ปรมิ าณทรัพยากรธรรมชาตลิ ดนอ้ ยลง เมื่อจำนวนประชำกรในประเทศเพ่ิมมำกขึน ประกอบกับกำรพัฒนำด้ำนเทคโนโลยี และกำรเติบโตของ อุตสำหกรรม จึงมีกำรนำทรัพยำกรธรรมชำติมำใช้ประโยชน์เพ่ิมขึนอย่ำงรวดเร็วและฟุ่มเฟือย อีกทังยังขำดกำรควบคุม และดูแลอย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพจงึ ส่งผลใหป้ ริมำณทรัพยำกรธรรมชำตนิ อ้ ยลง ๔. เกิดความเส่อื มโทรม - ควำมเสอื่ มโทรมของส่งิ แวดลอ้ มทำงธรรมชำติ เน่อื งจำกกำรนำเทคโนโลยีและวธิ ีกำรสมัยใหม่มำใช้ เช่น กำรใช้ ยำฆำ่ แมลง ปุ๋ยเคมีในกระบวนกำรเพิ่มผลผลิตทำงกำรเกษตร ทำใหด้ ินขำดธำตุอำหำรและเกิดควำมเสื่อมโทรม กำรปล่อย นำทิงจำกโรงงำนอุตสำหกรรมและบ้ำนเรือนโดยไม่มีกำรำบัด ทำให้นำเน่ำเสีย กำรปล่อยควันพิษจำกโรงงำน อตุ สำหกรรมและยำนยนต์ ทำให้อำกำศเปน็ พิษ - ควำมเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมทำงสังคม เนื่องจำกมลพิษที่เกิดขึน ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้ำงขึนและ โบรำณสถำนอันเปน็ เอกลกั ษณ์ของประเทศชำติ เช่น วัด เจดีย์ พระธำตุ เกดิ ควำมเสียหำย ชำรดุ และเสอื่ มโทรม















แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยที่ ๕ โลกสวยด้วยมอื เรา หน่วยยอ่ ยท่ี ๒ มองดูธรรมชาติ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ คำชแี จง ให้กำ  ทบั ตวั อกั ษรหนำ้ ข้อควำมทเ่ี ป็นคำตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งข้อเดียว ๑. ข้อใดเปน็ แหลง่ นำจืดในภำคกลำง ก. แมน่ ำปิง ข. แม่นำโขง ค. แมน่ ำ โก-ลก ง. บงึ บอระเพ็ด ๒. ลกั ษณะกำรประกอบอำชีพของประชำกรในภมู ปิ ระเทศภูเขำสูง ขอ้ ใดเด่นชัดทีสุด ก. กำรเพำะปลูกพชื เมืองหนำว ข. กำรทำโรงงำนอตุ สำหกรรม ค. กำรทำประมง ง. กำรทำไร่ ๓. เหตุใดชำวภำคกลำงจงึ นิยมสร้ำงบ้ำนเรือนทม่ี ีใตถ้ ุนสงู มำก ก. ปอ้ งกันสตั วป์ ำ่ ข. ใชท้ ำคอกสัตว์ ค. ป้องกันนำท่วม ง. ใช้เกบ็ ผลผลิตทำงกำรเกษตร ๔. ลักษณะภมู ปิ ระเทศแบบใดทีค่ นมกั ตงั บำ้ นเรือนอำศัยอยหู่ นำแน่น ก. ภเู ขำ ข. ทีร่ ำบสงู ค. ภูเขำและท่ีรำบสูง ง. ที่รำบและชำยฝั่งทะเล ๕. ขอ้ ใดคือลกั ษณะภูมิประเทศท่ีเดน่ ชดั ทสี่ ุดของภำคใต้ ก. ภเู ขำและทรี ำบระหว่ำงภูเขำ ข. ท่รี ำบกวำ้ งใหญ่มีแมน่ ำไหลผำ่ น ค. ทะเลทังสองด้ำนที่รำบตลอดแนวชำยฝงั่ ง. เปน็ แอ่งท่ีรำบสูงตอนกลำง

๖. แม่นำปงิ วัง ยม และนำ่ น ไหลรวมกันกลำยเปน็ แม่นำใด ก. แมน่ ำแมก่ ลอง ข. แมน่ ำปำ่ สกั ค. แมน่ ำเจ้ำพระยำ ง. แมน่ ำโขง ๗. ภูมิประเทศท่ีเปน็ ชำยฝ่ังทะเลสง่ ผลให้เกดิ ชมุ ขนใด ก. ชุมชนชำวนำ ข. ชุมชนชำวเล ค. ชุมชนชำวไร ง. ชมุ ชนชำวสวน ๘. เหตุผลในขอ้ ใดทต่ี ้องศึกษำลักษณะทำงกำยภำพของประเทศไทย ก. เพ่อื เกดิ ควำมรักควำมภูมใิ จในชำติ ข. เพ่อื ชว่ ยกนั รักษำและทำนบุ ำรงุ ชำติ ค. เพ่อื ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ และปรับตวั ให้ดำรงชีวติ อยำ่ งปลอดภยั ง. ถกู ทกุ ข้อ ๙. จังหวดั ลำปำงเปน็ แหลง่ ผลิตเคร่อื งป้นั ดนิ เผำและเคร่อื งเคลอื บท่ีมีช่ือเสียงมำก เพรำะเหตผุ ล ในขอ้ ใด ก. มีดนิ เหนยี วมำก ข. มดี ินขำวมำก ค. มหี ินปูนมำก ง. มีหินดินดำนมำก ๑๐. ภำคใต้และภำคตะวันตกมีภมู ปิ ระเทศที่เหมือนกันอย่ำงไร ก. มภี เู ขำทั่วทุกพนื ที่ ข. มีพนื ท่ตี ิดกบั ชำยฝัง่ ทะเล ค. พืนทส่ี ่วนใหญ่เป็นที่รำบลุ่ม ง. พืนที่สว่ นใหญเ่ ป็นท่รี ำบสูง

เฉลย แบบทดสอบหลังเรยี น ชัน้ ป.๖ หน่วยย่อยท่ี ๒ มองดูธรรมชาติ ขอ้ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เฉลย ง ก ค ง ค ค ข ค ข ข

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยที่ ๕ โลกสวยด้วยมอื เรา หนว่ ยย่อยที่ ๓ ซมึ ซาบการเปล่ียนแปลง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่๖ ******************************** คาช้ีแจงให้นักเรยี นทำเครื่องหมำย X ทับตัวอกั ษรหน้ำขอ้ ควำมท่ีเป็นคำตอบท่ีถูกตอ้ งที่สดุ เพยี งขอ้ เดยี ว ๑. บคุ คลทีอ่ ยใู่ นสภำพอำกำศหนำว ควรรับประทำนอำหำรในข้อใด ก. ไส้อว่ั แกงโฮะ ข. ยำถว่ั พู ผัดผักรวมมติ ร ค. แกงออ่ ม ซปุ หน่อไม้ ง. แกงจดื ต้มยำก้งุ ๒. ข้อใดสมั พนั ธก์ ันมำกที่สดุ ก. ผทู้ อี่ ยบู่ นภูเขำมักประกอบอำชีพขับรถบรกิ ำร ข. ผทู้ ี่อยู่ป่ำมกั ประกอบอำชพี บริกำร ค. ผ้ทู ่ีอยูบ่ ริเวณที่รำบลุม่ มกั ประกอบอำชพี คำ้ ขำย ง. ผทู้ ี่อยตู่ ิดทะเลมักประกอบอำชพี ประมง ๓. ขอ้ ใดกลำ่ วไม่ถกู ต้อง ก. อำคำรบ้ำนเรือนจัดเป็นส่ิงแวดลอ้ มทำงสงั คม ข. สิง่ แวดลอ้ มท่ีมนุษยส์ ร้ำงขึนเรยี กวำ่ ส่ิงแวดลอ้ มทำงสังคม ค. ประเพณีตำ่ ง ๆจดั เป็นสิง่ แวดล้อมทำงธรรมชำติ ง. ส่งิ แวดลอ้ มที่เกดิ ขนึ เองตำมธรรมชำติ เรียกว่ำ ส่ิงแวดล้อมทำงธรรมชำติ ๔. ในบรเิ วณทีม่ ีอำกำศเสียจะมีปรมิ ำณก๊ำซใดสงู กว่ำปกติมำก ก. ก๊ำซออกซิเจน ข. กำ๊ ซคำร์บอนมอนอกไซด์ ค. กำ๊ ซไนโตรเจน ง. ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์

๕. ขอ้ ใดน่ำจะเป็นผลเสียจำกกำรที่พนื ทปี่ ่ำไมใ้ นประเทศไทยถกู ทำลำยลง ก. ทำให้คนมีท่อี ยอู่ ำศัยมำกขนึ ข. ทำใหม้ พี นื ทส่ี ร้ำงเขอื่ นกักเกบ็ นำ ค. ทำให้พืนดินเกิดควำมแห้งแลง้ ง. ทำให้มพี ืนที่ทำเกษตรกรรมมำกขึน ๖. บคุ คลใดไมช่ ว่ ยอนรุ ักษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติในชุมชน ก. ดำวเรืองตักนำคลองรดนำต้นไม้ ข. ชบำอำบนำในลำคลอง ค. มะลิใช้นำคลองซกั เสือผำ้ ง. จำปีใชไ้ ม้เขยี่ ซำกสตั ว์ลงในนำ ๗. ทรัพยำกรธรรมชำติที่เส่ือมโทรมสง่ ผลกระทบตอ่ ประชำกรในดำ้ นใดมำกท่ีสดุ ก. ทำใหป้ ระชำกรอพยพย้ำยถนิ่ ฐำน ข.กำรเกิดปัญหำควำมยำกจน ค. กำรขำดสถำนทพ่ี กั ผอ่ นหย่อนใจ ง.ขำดสถำนที่ทำมำค้ำขำย ๘. ข้อใดเป็นปัจจัยท่ีสง่ ผลให้ทรพั ยำกรธรรมชำติลดลง ก. ประเพณีและวัฒนธรรม ข. จำนวนประชำกรที่เพิม่ ขึน ค. ทรัพยำกรธรรมชำติมีจำกดั ง. กำรประกอบอำชีพทหี่ ลำกหลำย ๙. กำรเปลี่ยนแปลงทำงธรรมชำติข้อใดทีท่ ำให้เกิดควำมสะดวกสบำยตอ่ มนุษย์ ก. กำรตดั ภูเขำทำเหมอื งหิน ข. กำรตดั ไมม้ ำสร้ำงบำ้ นเรือน ค. กำรสร้ำงแหลง่ ท่องเทยี่ วบรเิ วณรมิ นำ ง. กำรสร้ำงถนนผ่ำนช่องเขำทำให้เดนิ ทำงไดร้ วดเรว็ ๑๐. ขอ้ ใดส่งผลต่อวฒั นธรรมกำรแตง่ กำยของประชำชนในภำคเหนือ ก. ภมู ิอำกำศ

ข. เชือชำตขิ องประชำกร บ ๕.๓/ผ ๑ -๐๑ ค. ระบบกำรปกครอง ง. สีผิวของประชำกร ใบงานท่ี ๐๑ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มสืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติในประเทศไทยแลว้ บนั ทึก ขอ้ มลู ๑. ประเทศไทยมสี ภำพแวดลอ้ มทำงธรรมชำติ ดังนี ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ๒. จำกสภำพแวดล้อมดังกล่ำว ในประเทศไทยมีลกั ษณะกำรดำรงชีวติ ดังนี ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ๓. ลักษณะทรัพยำกรธรรมชำติในประเทศไทย เป็นดงั นี ๑) ดนิ .............................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................... ๒) นำ............................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ๓) ป่ำไม.้ .......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ๔) แรธ่ ำตุ.......................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ๕) สตั ว์ปำ่ ......................................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………. สมาชิก กลุ่ม

๑. ชื่อ..............................................สกลุ ...............................................ชัน..............เลขท.ี่ ............. ๒. ชอ่ื ..............................................สกุล................................................ชนั ..............เลขท่.ี ............. ๓. ช่อื ..............................................สกุล...............................................ชัน..............เลขที่.............. ๔. ช่ือ..............................................สกุล................................................ชัน.............. เลขที.่ ............ บ ๕.๓/ผ ๑-๐๒ ใบงานที่ ๐๒ ปัจจยั ที่ทาใหส้ ภาพแวดล้อมเปลย่ี นแปลง คาช้แี จงใหน้ ักเรยี นนำตวั เลอื กที่กำหนดใหเ้ ตมิ ใต้ภำพให้สอดคล้อง ปัจจยั จากธรรมชาติ ปัจจัยจากมนุษย์ ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. .............................................

............................................. ............................................. ............................................. สมาชิก ๑. ชอ่ื .................................................สกลุ .................................................ชัน..............เลขท่ี.............. ๒. ชื่อ.................................................สกุล..................................................ชนั ..............เลขท.่ี ............. บ ๕.๓/ผ ๑-๐๑ ใบงานท่ี ๐๑ ผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทเี่ ปลย่ี นแปลง ใหน้ กั เรียนวำดแผนผงั ควำมคดิ ผลกระทบท่เี กิดจำกกำรเปล่ียนแปลงของสภำพแวดล้อมในประเทศ

ช่อื .........................................................สกุล.................................................ชนั ..............เลขท.่ี ........... ตวั อย่างรูปภาพประกอบการนาเข้าสู่บทเรียน ภูเขำท่อี ุดมสมบรู ณ์

ครผู สู้ อนสำมำรถเลือกใช้ได้ตำมควำมเหมำะสม ภำพภูเขำท่ถี ูกตดั ไม้ทำลำยปำ่ แห้งแล้ง

ภำพแม่นำสะอำด

ภำพแม่นำสกปรก

ใบความรทู้ ี่ ๑ (สาหรบั นักเรยี น) การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและปจั จยั ทที่ าให้สภาพแวดลอ้ มเปลีย่ นแปลง สภาพแวดลอ้ ม หมำยถงึ ระบบควำมสัมพนั ธข์ องส่ิงทงั หลำยทแี่ วดล้อมรอบ ๆ ตัวเรำ สภำพแวดลอ้ มจะมีกำรเปลยี่ นแปลงไปตลอดเวลำ เชน่ บรเิ วณทอ่ี ดีตเคยเป็นที่ดอนระดบั สูง เมอ่ื เวลำผ่ำนไปถกู นำฝน นำไหล นำใต้ดิน ลมพดั และอน่ื ๆ เขำ้ กระทำ จนกระทง่ั ปจั จุบนั กลำยเป็นท่ีรำบ หรอื บริเวณที่ปกคลุมไปดว้ ยผืนป่ำไม้ตำมธรรมชำติ ต่อมำถูกมนษุ ยเ์ ขำ้ ตัดโค่นและทำลำยจนหมดสิน จน กลำยเปน็ ภูเขำที่ไม่มีตน้ ไมป้ กคลุม เป็นต้น สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติหรอื สภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพเปน็ สิง่ ท่เี กดิ ขึนและมอี ยกู่ ่อน ต่อมำเมือ่ มนุษย์ ถือกำเนดิ ขนึ จึงเขำ้ มำอำศัย พงึ่ พำเรียนรู้ และปรับตัวเขำ้ กับสภำพแวดลอ้ มทำงธรรมชำติ พรอ้ มๆ กับกำร สร้ำงสภำพแวดล้อมของมนษุ ยเ์ องขึนมำ เรียกว่ำสภาพแวดล้อมทางสงั คม นัน่ เอง

กำรเปล่ียนแปลงของสิง่ หนงึ่ จะเป็นปจั จัยแกก่ ำรเปลีย่ นแปลงของส่ิงอื่นต่อไปเรื่อยๆ ดงั ตัวอย่ำง กำร เปล่ียนแปลงของป่ำไมท้ ลี่ ดลงสง่ ผลตอ่ กำรเปลีย่ นแปลงของอำกำศทำให้อำกำศรอ้ นขนึ เม่ืออำกำศรอ้ นกท็ ำ ให้พนื ดินแห้งแลง้ แล้วจะสง่ ผลให้พืชไม่เจรญิ เตบิ โต ทำใหค้ นขำดรำยไดอ้ ันจะนำมำซึง่ กำรย้ำยถนิ่ ไปทำมำหำ กนิ ในทีท่ ่มี คี วำมอุดมสมบูรณ์มำกกว่ำเป็นตน้ ดังสรุปเป็นแผนภำพไดด้ ังนี คนตัดไมท้ ำลำยปำ่ ปัญหำ ผลทีเ่ กิดขึน สำเหตุ ปำ่ ไมล้ ดลง  อำกำศร้อนขึน  พนื ดินแห้งแลง้ เกดิ จำกภัยธรรมชำติ เช่น ไฟป่ำ  พืชไม่เจริญเตบิ โต  คนได้รับผลกระทบ เชน่ ไมม่ ีพืชรบั ประทำน ขำดรำยได้ จึงทำใหเ้ กิด กำรยำ้ ยถน่ิ ฐำน เป็นตน้ ปัจจัยท่ีทำใหส้ ภำพแวดลอ้ มเปลี่ยนแปลง ปจั จุบนั สภำพแวดลอ้ มในท้องถน่ิ ต่ำง ๆ เปลี่ยนไปอย่ำงรวดเร็วทงั นีเกดิ จำกปัจจยั ทส่ี ำคัญ ๒ประกำรได้แก่ ปจั จัยจากธรรมชาติเช่น แผน่ ดินไหวกำรทรุดตัวของแผน่ ดนิ นำกดั เซำะตลงิ่ ภเู ขำไฟระเบิดดนิ ถล่ม นำ ไหลบ่ำหนำ้ ดิน รงั สจี ำกดวงอำทิตย์ กำรผพุ ังของสิ่งตำ่ งๆ จำกแสงอำทิตย์ กำรเปลีย่ นแปลงของอุณหภูมิ เปน็ ตน้

ปรำกฏกำรณส์ นึ ำมิ ภเู ขำไฟระเบดิ แผน่ ดนิ ไหว ปจั จัยจากมนุษย์เชน่ กำรสรำ้ งท่ีอยู่อำศัยกำรสร้ำงเข่อื นกำรนำเทคโนโลยที ันสมยั มำใชใ้ นกำรผลติ กำร ปลกู ป่ำชำยเลน กำรทำเหมอื งแร่ กำรทำเหมืองหิน กำรสร้ำงโรงงำน กำรสรำ้ งหำ้ งสรรพสนิ คำ้ กำรสร้ำง โรงแรม กำรสร้ำงสถำนศกึ ษำ เป็นตน้ กำรสร้ำงรีสอรท์ ตำมภูเขำ เพอ่ื เป็นแหลง่ ท่องเทยี่ ว กำรสร้ำงเข่ือน เพื่อกักเกบ็ นำใชใ้ นกำร กำรสร้ำงบ้ำนเรอื นทท่ี ันสมยั จนกลำยเปน็ สงั คม กำรเกษตร เมอื ง กำรผลิตกระแสไฟฟ้ำ กำรปลกู ป่ำชำยเลน เพ่ือรักษำสิง่ แวดล้อม ขอ้ มูลจำก : หนังสอื เรียนรำยวิชำพนื ฐำนสังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชนั ป.๔. (พว.) ใบความรู้ที่ ๒ (สาหรับนักเรียน) ผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดล้อม  ผลกระทบตอ่ สภาพแวดล้อมธรรมชาติ กำรกระทำของมนษุ ยม์ สี ่วนสำคัญท่ที ำใหส้ ภำพแวดลอ้ มเสียไปทงั โดยควำมจงใจและควำม รู้เท่ำไม่ถึงกำรณจ์ ำกกิจกรรมต่ำง ๆและจำกกำรนำเทคโนโลยที ี่ทนั สมัยมำใชอ้ ยำ่ งไม่คำนึงถึงผลเสยี ที่มตี ่อ ส่ิงแวดล้อมทำให้เกิดปญั หำส่งิ แวดลอ้ มต่ำง ๆ ตำมมำมำกมำย ดงั นี ๑. มลพษิ ทำงอำกำศหรืออำกำศเปน็ พษิ เปน็ ภำวะของอำกำศทก่ี ่อให้เกิดอันตรำย เชน่ ไอ จำม เคอื ง ตำหำยใจไม่ออก เกิดจำกเขมำ่ ควัน ฝุ่นละออง ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ ก๊ำซคำร์บอนมอนอกไซดซ์ ง่ึ เกิดกำร

สะสมในปรมิ ำณมำก บ ๕.๓/ผ ๒-๐๑ ๒. มลพษิ ทำงนำ หรือนำเสยี สว่ นใหญเ่ กดิ จำกกำรทิงสำรพิษลงในแหล่งนำ เช่น ขยะ นำเสียจำก โรงงำนอตุ สำหกรรมสำรเคมที ใ่ี ชใ้ นกำรเกษตร ทำใหน้ ำเน่ำเสยี นำไปใช้ประโยชน์ไม่ไดน้ อกจำกนยี ังเปน็ แหล่ง เพำะเชอื โรค สตั วน์ ำไมม่ ที ่ีอยอู่ ำศยั ๓. ปญั หำเกี่ยวกบั ทดี่ นิ มีหลำยประกำร ไดแ้ ก่ ดนิ ขำดควำมอุดมสมบรู ณ์เพรำะกำรใช้ดนิ ทผ่ี ดิ ประเภท ดนิ เน่ำเสียเพรำะกำรทงิ ขยะและสำรเคมีดินจดื เพรำะขำดปุ๋ยเนือ่ งจำกำรปลูกพืชชนิดเดยี วกนั ซำ ๆ ในพนื ทเ่ี ดิม ๔. เกิดภัยธรรมชำตริ ้ำยแรงบ่อยครัง เชน่ สึนำมิ โลกรอ้ น นำทว่ ม แผ่นดนิ ไหว  ผลกระทบตอ่ สภาพแวดล้อมทางสงั คม ๑. เกดิ การย้ายถ่ินฐานของคนในสงั คม เนอ่ื งจำกกำรลดลงของทรพั ยำกรธรรมชำติ ทำใหต้ ้องไปหำแหล่งทีม่ ีทรพั ยำกรธรรมชำติมำกกวำ่ ปัญหำทำงดำ้ นรำยได้และอำชีพ ทำใหต้ ้องย้ำยไปหำถ่นิ ที่ทำให้มรี ำยไดเ้ พม่ิ มำกขึน เกดิ ภัยธรรมชำติทีท่ ำให้บำ้ นเรือน เรอื กสวนไรน่ ำ และทรัพยส์ ินอ่ืนๆ เสียหำยจึง ตอ้ งอพยพไปหำท่อี ยู่ใหม่ปญั หำควำมปลอดภัยและควำมเปน็ ธรรม จึงจำเป็นต้องไปอย่ใู นแหล่งทใี่ หค้ วำม ปลอดภัย และมีควำมเป็นธรรมมำกกว่ำปญั หำกำรขำดแคลนสถำนศึกษำ ทำใหต้ ้องยำ้ ยไปหำแหลง่ ทม่ี ี สถำนศกึ ษำทีส่ งู กว่ำและดกี วำ่ ๒. เกิดการตงั้ ถ่ินฐานเนอ่ื งจำกท้องถน่ิ ใดมีทรพั ยำกรอุดมสมบูรณ์ มีส่งิ แวดล้อมดี มชี ่องทำงในกำรทำมำหำกินดกี วำ่ ที่อยู่เดมิ กจ็ ะเปน็ เหตจุ งู ใจใหค้ นทอ้ งถ่ินอืน่ เข้ำมำอยอู่ ำศัย หรือ โอกำสดำ้ นกำรศกึ ษำและฝกึ ฝนอำชพี ทดี่ ีกวำ่ ที่อยู่เดิม ควำมดงึ ดูดใจในสภำพแวดล้อมและควำมปลอดภัย ควำมทันสมัย ควำมคลอ่ งตวั ในกำรดำรงชีวติ เชน่ คนชุมชนชนบทมกั จะย้ำยถ่ินฐำนเข้ำมำอยใู่ นชมุ ชนเมือง อันเนอ่ื งมำจำกปจั จัยทก่ี ล่ำวมำขำ้ งตน้ นัน่ เอง ใบงานท่ี ๐๑ สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติกับวถิ ชี ีวิต ใหน้ ักเรียนเขยี นบรรยำยภำพ แสดงถึงสงิ่ แวดลอ้ มทำงธรรมชำติท่มี อี ทิ ธิพลต่อวิถชี วี ติ ตดิ รูปภำพสง่ิ แวดล้อมให้นักเรยี นเขยี นบรรยำย

เขียนบรรยำยเก่ยี วกบั ............................... บรรยำยลักษณะทำงกำยภำพ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. บรรยำยวถิ ชี ีวติ ที่ส่งผลมำจำกลกั ษณะทำงกำยภำพ กำรประกอบอำชพี ....................................................................................................................... .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. วิถีชวี ิตด้ำนอืน่ ๆ .......................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. สมำชิก ๑. ชอ่ื ....................................................สกุล.............................................ชนั .............เลขท่ี................. ๒. ชื่อ....................................................สกุล.............................................ชัน.............เลขท.่ี ................ ๓. ชือ่ ....................................................สกุล.............................................ชัน.............เลขท.่ี ................ ๔. ชื่อ....................................................สกุล.............................................ชัน.............เลขท่ี............... บ ๕.๓/ผ ๒-๐๒ ใบงานที่ ๐๒ อิทธิพลของสิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติ ใหน้ กั เรยี นวำดภำพวถิ ีชวี ิตหรอื วฒั นธรรมที่มีผลมำจำกสิงแวดลอ้ มทำงธรรมชำตใิ นประเทศไทย

ช่อื .................................................สกลุ ................................................ชัน................เลขท.ี่ ................. ภำพสำหรับใบงำนท่ี ๐๑ ภำคใต้

ภำคกลำง ภำคเหนอื

ภำคอสี ำน ภำคตะวนั ออก

ภำคตะวนั ตก ใบงานที่ ๐๑ ผลจากการเปล่ยี นแปลงสภาพธรรมชาติจากอดตี ถงึ ปัจจุบัน

บ ๕.๓/ผ ๓-๐๑ คาชแ้ี จง นกั เรียนร่วมกันวเิ ครำะห์ผลทเี่ กดิ จำกกำรเปล่ยี นแปลงสภำพธรรมชำตใิ นประเทศ จำกอดีตถงึ ปจั จบุ ัน ดำ้ น อดตี ปจั จุบนั  ดำ้ นประชำกร ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... .........................................................  ดำ้ นกำร ......................................................... ......................................................... ประกอบอำชีพ ......................................................... ......................................................... ......................................................... .........................................................  ด้ำนเศรษฐกิจ ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... .........................................................  ดำ้ นสงั คม ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... .........................................................  ด้ำนวฒั นธรรม ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... สมาชกิ ๑. ชอื่ .................................................สกลุ ...........................................ชัน............เลขท.่ี ............. ๒. ชือ่ .................................................สกลุ ...........................................ชัน............เลขท่ี.............. ๓. ชอ่ื .................................................สกลุ ...........................................ชัน............เลขท.่ี ............. ๔. ช่อื .................................................สกุล...........................................ชนั ............เลขท.่ี .............

(เฉลย) ใบงานท่ี ๐๑ ผลทีเ่ กดิ จากการเปลีย่ นแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศ ให้นกั เรยี นดรู ่วมกนั วิเครำะห์ผลท่เี กิดจำกกำรเปลย่ี นแปลงสภำพธรรมชำติในประเทศของตนเองจำกอดีตถึงปัจจุบัน ด้ำน อดตี ปจั จุบนั  ด้ำนประชำกร ......................................................... .........................................................  ด้ำนกำร ประกอบอำชพี ........ข้ึนอยู่กับดุลยพินิจของ .........................................................  ด้ำนเศรษฐกจิ ครผู ู้สอน โดยครผู ้สู อนอาจใชใ้ บ .........................................................  ด้ำนสงั คม ความรู้นกั เรยี นมาเปน็ แนวทางใน ......................................................... การเฉลยค้าตอบ............................. ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... ......................................................... .........................................................

ภำพสำหรับนำเขำ้ สู่บทเรียน ภำพกำรเปล่ยี นแปลงจำกธรรมชำติ กดุ ทิง ท่มี ำ : http://www.thailovetrip.com/view-bangkok.php?id_view=222 ภเู ขาไฟระเบดิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook