Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษามัธยมศึกษา 4 - 6 2565

หลักสูตรสถานศึกษามัธยมศึกษา 4 - 6 2565

Published by netnapit89, 2022-08-02 07:30:33

Description: หลักสูตรสถานศึกษามัธยมศึกษา 4 - 6 2565

Search

Read the Text Version

๙๔ คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม ค๓๒๒๐๔ ทฤษฎกี ราฟขน้ั สงู กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝึกการแก้ปัญหาในสาระต่อไปน้ี แผนภาพจำลอง แนะนำกราฟ กราฟออยเลอร์ กราฟแฮมมิลตัน เส้นทางส้ันที่สุด แนะนำกราฟทิศทาง การเก็บเมทริกซ์ด้วยกราฟ คุณสมบัติ ของตน้ ไม้ ต้นไม้แผ่ท่ัว การไหลส่วนตัด การไหลสงู สุดของขา่ ยงาน ใช้ความรู้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลายในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ใช้ภาษาและสญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร การส่ือความหมาย และการนำเสนอได้อย่างถูกต้องชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตรไ์ ปเชอ่ื มโยงกบั ศาสตร์อ่ืน ๆ ได้ การวัดและประเมินผลเพ่ือให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบรับ ผิดชอบ มีวิจารณญาณมีความเช่ือม่ันในตนเอง มีความซ่ือสัตย์สุจริตมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันใน การทำงาน รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะพรอ้ มท้ังตระหนักในคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณติ ศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. เข้าใจทฤษฎกี ราฟเบอ้ื งตน้ และนำไปใช้ในการแก้ปญั หา ๒. เข้าใจกราฟทศิ ทางและนำไปใช้ในการแกป้ ัญหา ๓. เข้าใจต้นไม้และนำไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา ๔. เขา้ ใจขา่ ยงานและนำไปใช้ในการแกป้ ญั หา รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรียนรู้

๙๕ คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เติม ค๓๒๒๐๕ พชี คณติ เชงิ เสน้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศกึ ษา มโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ และหลักการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ โดยบูรณาการเน้ือหาสารสู่ กระบวนการแก้ปัญหาในสถานการณ์ท่ีหลากหลาย โดยสอนเน้ือหาสาระสำคัญเกี่ยวกับ ระบบสมการต้องกัน (Consistent System) ระบบสมการใดเป็นระบบแย้งกัน(Inconsistent System ระบบสมการเชิงเส้นท่ีเขียน อยู่ในรูปเมทริกซ์ ซึ่งสามารถเขียนให้อยู่ในรูปของ Ax = b ระบบสมการเชิงเส้นระบบเอกพันธ์ุ (Homogeneous System) ระบบสมการเชิงเส้นไม่เอกพันธุ์(Non-homogeneous System) ผลเฉลยชัด (Trivial Solution) ผลเฉลยไม่ชัด(Non-trivial Solution) เวกเตอร์แถวนอน (Row Vector) เวกเตอร์ แถว ต้ัง (Column Vector) คุณสมบัติของเมทริกซ์ขนาด m x n การ Span ในหน้าราบ (Plane) การหาผลเฉลย ของระบบสมการการดำเนนิ การตามแถวข้ันมลู ฐาน (Elementary Row Operations) การดำเนินการตามแถว ข้นั มลู ฐานในรปู แบบของเมทริกซข์ ั้นบันได (Echelon Form of a Matrix) เมทริกซ์ขัน้ บันไดลดรปู (Reduced Echelon Form of a Matrix) การหาผลเฉลยท่ัวไป (General Solution) การหาผลเฉลยจากระบบสมการ ผลรวมเชิงเส้นของเวกเตอร์ในสองมิติและสามมติ ิ ใช้กระบวนการจัดกระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการสอนเชิงทฤษฎีที่มีความลึกซึ้งเพ่ือนำไปใช้ใน การเรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยเช่ือมโยงกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ใช้การสอนด้วยรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การบรรยาย อธิบาย ประกอบการใช้คำถาม การสอนเพื่อให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจากการฝึกฝนจาก โจทยแ์ ละสถานการณ์ปัญหาอยา่ งหลากหลาย เป็นต้น เพื่อมุ่งพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่ จำเป็นได้แก่ ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือสาร ส่ือความหมายและนำเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และการมีความคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ อีกทงั้ ส่งเสริม ให้นักเรียนมีการทำงานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบวินัย มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีจิจารณญาณ มีความเช่ือมันในตนเอง พร้อมตระหนักในคุณค่าและมเี จตคติทดี่ ตี ่อคณิตศาสตร์ และสามารถนำความรไู้ ปใช้ใน ระดบั ทสี่ งู ขึ้นและในมหาวิทยาลยั ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ การวัดและประเมินผลเพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อย่างอย่าง พอเพียง มงุ่ มัน่ ในการทำงาน รักความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความเขา้ ใจทฤษฎีเกย่ี วกับคุณสมบัติขงิ ระบบสมการและคำตอบของระบบสมการในรูปแบบ ตา่ ง ๆได้อย่างถูกต้อง ๒. มีความเขา้ ใจทฤษฎีเวกเตอรแ์ ถวนอน (Row Vector) เวกเตอรแ์ ถวต้ัง (Column Vector) สามารถหาค่าการ Span ในหนา้ ราบ (Plane) และสามารถนำทฤษฎีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ดำเนนิ การหาคา่ ต่าง ๆ ได้ ๓. สามารถเข้าใจในทฤษฎีและคุณสมบตั ขิ องเมทริกซ์ขนาด m x n และแกส้ มการหาคำตอบทั่วไปได้ ๔. สามารถหาผลเฉลยของระบบสมการการดำเนินการตามแถวขนั้ มลู ฐาน (Elementary Row Operations) ไดถ้ ูกตอ้ ง ๕. สามารถหาผลเฉลยจากการดำเนนิ การตามแถวขัน้ มลู ฐานในรูปแบบของเมทริกซ์ข้นั บนั ได (Echelon Form of a Matrix) เมทรกิ ซข์ ัน้ บนั ไดลดรปู (Reduced Echelon Form of a Matrix) ไดถ้ กู ตอ้ ง

๙๖ ๖. มคี วามเขา้ ใจทฤษฎีเก่ยี วกบั การหาผลเฉลยทัว่ ไป (General Solution) และการหาผลเฉลยจาก ระบบสมการ สามารถนำทฤษฎีไปประยุกตใ์ ช้ในการดำเนนิ การหาคา่ ต่าง ๆ ได้ ๗. มีความเขา้ ใจทฤษฎีการหาผลรวมเชิงเสน้ ของเวกเตอร์ในสองมติ ิและสามมิติ และสามารถนำไป ประยุกตใ์ ชใ้ นการดำเนินการได้ รวมทงั้ หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

๙๗ คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เติม ค๓๒๒๐๖ คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศึกษา ฝกึ ทักษะกระบวนการเกี่ยวกับเมทริกซ์ เมทริกซ์สลับเปลยี่ น การบวกเมทริกซ์ การคูณ เมทริกซ์ กับจำนวนจริง การคูณระหว่างเมทริกซ์ ดีเทอร์มิแนนต์ เมทริกซ์ผกผัน การแก้ระบบสมการเชิงเส้นโดยใช้เมท ริกซ์ ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟังก์ชันตรีโกณมิติผกผัน เอกลักษณ์และสมการตรีโกณมิติ กฎของไซน์และกฎของ โคไซน์ เวกเตอร์ในสามมิติ นิเสธของเวกเตอร์ การบวก การลบเวกเตอร์ การคูณ เวกเตอร์ด้วย สเกลาร์ ผลคูณ เชงิ สเกลาร์ ผลคูณเชิงเวกเตอร์ ใช้ความรู้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อยา่ งเหมาะสม โดยใช้วธิ กี ารที่หลากหลายในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการส่ือสาร การส่ือความหมาย และการนำเสนอได้อย่างถูกต้องชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเช่ือมโยงกับศาสตร์อ่ืน ๆ ได้ การวัดและประเมนิ ผลให้เกดิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์สามารถทำงานอยา่ งมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผิดชอบ มีวิจารณญาณมีความเช่ือม่ันในตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริตมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะพรอ้ มท้ังตระหนักในคณุ ค่าและมีเจตคติท่ีดตี อ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เขา้ ใจความหมาย หาผลลพั ธ์ของการบวกเมทรกิ ซ์ การคูณเมทรกิ ซ์กับจำนวนจรงิ การคูณ ระหวา่ งเมทริกซ์ และหาเมทรกิ ซส์ ลับเปล่ียน หาดีเทอร์มิแนนตข์ องเมทริกซ์ n×n ๒. หาเมทรกิ ซ์ผกผันของเมทริกซ์ ๒×๒ ๓. แกร้ ะบบสมการเชิงเส้นโดยใช้เมทริกซผ์ กผันและการดำเนินการตามแถว ๔. เข้าใจฟงั กช์ นั ตรีโกณมติ แิ ละลกั ษณะกราฟของฟังกช์ นั ตรโี กณมิตแิ ละนำไปใชใ้ นการแก้ปัญหา ๕. แกส้ มการตรีโกณมติ ิ และนำไปใช้ในการแกป้ ัญหา ๖. ใชก้ ฎของไซนแ์ ละกฎของโคไซน์ในการแก้ปัญหา ๗. หาผลลัพธข์ องการบวก การลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอรด์ ้วยสเกลาร์ หาผลคณู เชงิ สเกล์ และ ผลคูณเชิงเวกเตอร์ ๘. นำความรเู้ กย่ี วกับเวกเตอร์ในสามมติ ิไปใชใ้ นการแก้ปัญหา รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรียนรู้

๙๘ คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เติม ค๓๒๒๐๗ คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศึกษา ฝึกทกั ษะกระบวนการเกย่ี วกับจำนวนเชงิ ซ้อน กราฟและคา่ สัมบรู ณข์ องจำนวนเชิงซอ้ น จำนวน เชิงซ้อนในรูปเชิงข้ัว รากที่ n ของจำนวนเชิงซ้อน เม่ือ n เป็นจำนวนนับท่ีมากกว่า ๑ สมการ พหุนามตัวแปร เดียวดีกรีไม่เกินสี่ที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็ม หลักการนับเบื้องต้น หลักการบวก และ การคูณ การเรียง สับเปล่ียน การจัดหมู่ส่ิงของท่ีแตกต่างกันทั้งหมด ทฤษฎีบททวินาม ความน่าจะเป็น การทดลองสุ่มและ เหตุการณ์ ความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ ใช้ความรู้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลายในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอได้อย่างถูกต้องชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปเชือ่ มโยงกับศาสตร์อ่ืน ๆ ได้ การวัดและประเมินผลให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผิดชอบ มีวิจารณญาณมีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริตมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันใน การทำงาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะพรอ้ มท้งั ตระหนกั ในคณุ ค่า และมีเจตคตทิ ด่ี ีต่อคณิตศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. เขา้ ใจจำนวนเชงิ ซ้อนและใชส้ มบัตขิ องจำนวนเชิงซ้อนในการแก้ปญั หา ๒. หารากท่ี n ของจำนวนเชงิ ซ้อนเมื่อ n เป็นจำนวนนบั ทม่ี ากกว่า ๑ ๓. แก้สมการพหนุ ามตวั แปรเดียว ดกี รีไมเ่ กินสี่ ที่มีสัมประสิทธิ์เปน็ จำนวนเตม็ และนำไปใช้ ในการแก้ปญั หา ๔. เข้าใจและใช้หลกั การบวกและการคณู การเรียงสับเปลี่ยน และการจดั หมใู่ นการแก้ปญั หา ๕. หาความน่าจะเป็นและนำความรูเ้ ก่ียวกบั ความน่าจะเป็นไปใชไ้ ด้ รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรียนรู้

๙๙ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เติม ค๓๒๒๐๘ คณติ ศาสตร์เสริม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศกึ ษา ฝึกทักษะกระบวนการเก่ียวกับเมทริกซ์ เมทริกซ์สลับเปล่ียน การบวกเมทริกซ์ การคูณเมทริกซ์ กับจำนวนจริงการคูณระหว่างเมทริกซ์ ดีเทอร์มิแนนต์ เมทริกซ์ผกผัน การแก้ระบบสมการเชิงเส้นโดยใช้เมท ริกซ์ ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟังก์ชันตรีโกณมิติผกผัน เอกลักษณ์และสมการตรีโกณมิติ กฎของไซน์และกฎของ โคไซน์ เวกเตอรใ์ นสามมติ ิ นิเสธของเวกเตอร์ การบวก การลบเวกเตอร์ การคูณ เวกเตอร์ด้วย สเกลาร์ ผลคูณ เชิงสเกลาร์ ผลคูณเชงิ เวกเตอร์ ใช้ความรู้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลายในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรุปผลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ใช้ภาษาและสญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการส่ือสาร การส่ือความหมาย และการนำเสนอได้อย่างถูกต้องชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณติ ศาสตรไ์ ปเชอ่ื มโยงกบั ศาสตร์อืน่ ๆ ได้ การวัดและประเมินผลให้เกิดคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผิดชอบ มีวิจารณญาณมีความเช่ือมั่นในตนเอง มีความซ่ือสัตย์สุจริตมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะพร้อมทงั้ ตระหนกั ในคุณคา่ และมเี จตคตทิ ี่ดีต่อคณติ ศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เข้าใจความหมาย หาผลลพั ธ์ของการบวกเมทรกิ ซ์ การคูณเมทริกซ์กบั จำนวนจรงิ การคณู ระหวา่ งเมทริกซ์ และหาเมทริกซส์ ลับเปล่ียน หาดีเทอรม์ ิแนนตข์ องเมทรกิ ซ์ n×n ๒. หาเมทริกซ์ผกผนั ของเมทรกิ ซ์ ๒×๒ ๓. แกร้ ะบบสมการเชงิ เส้นโดยใช้เมทรกิ ซ์ผกผันและการดำเนินการตามแถว ๔. เขา้ ใจฟังกช์ นั ตรีโกณมติ ิและลักษณะกราฟของฟงั กช์ นั ตรีโกณมิติและนำไปใช้ในการแกป้ ัญหา ๕. แกส้ มการตรีโกณมติ ิ และนำไปใช้ในการแก้ปญั หา ๖. ใชก้ ฎของไซนแ์ ละกฎของโคไซน์ในการแก้ปัญหา ๗. หาผลลพั ธข์ องการบวก การลบเวกเตอร์ การคณู เวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ หาผลคูณเชงิ สเกล์ และ ผลคณู เชิงเวกเตอร์ ๘. นำความรูเ้ กี่ยวกับเวกเตอร์ในสามมติ ไิ ปใช้ในการแกป้ ญั หา รวมทง้ั หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

๑๐๐ คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม ค๓๒๒๐๙ คณติ ศาสตร์เสริม กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษา ฝึกทักษะกระบวนการเก่ียวกบั จำนวนเชิงซ้อน กราฟและค่าสัมบรู ณข์ องจำนวนเชิงซอ้ น จำนวน เชิงซ้อนในรูปเชิงขั้ว รากที่ n ของจำนวนเชิงซ้อน เมื่อ n เป็นจำนวนนับท่ีมากกว่า ๑ สมการพหุนามตัวแปร เดียวดีกรีไม่เกินสี่ท่ีมีสัมประสิทธ์ิเป็นจำนวนเต็ม หลักการนับเบ้ืองต้น หลักการบวกและการคูณ การเรียง สับเปลี่ยน การจัดหมู่ส่ิงของที่แตกต่างกันท้ังหมด ทฤษฎีบททวินาม ความน่าจะเป็น การทดลองสุ่มและ เหตุการณ์ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ใช้ตวามรู้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสมโดยใช้วธิ กี ารท่ีหลากหลายในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการสื่อสาร การส่ือความหมาย และการนำเสนอได้อย่างถูกต้องชัดเจน เช่ือมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปเช่อื มโยงกบั ศาสตร์อื่น ๆ ได้ การวัดและประเมนิ ผลให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์สามารถทำงานอยา่ งมีระบบระเบยี บ รอบคอบ รับผิดชอบ มีวิจารณญาณมีความเชื่อม่ันในตนเอง มีความซ่ือสัตย์สุจริตมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะพร้อมท้ังตระหนกั ในคณุ คา่ และมีเจตคติท่ีดตี อ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เขา้ ใจจำนวนเชิงซ้อนและใชส้ มบัติของจำนวนเชิงซอ้ นในการแก้ปัญหา ๒. หารากท่ี n ของจำนวนเชงิ ซอ้ นเมือ่ n เปน็ จำนวนนบั ทม่ี ากกว่า ๑ ๓. แก้สมการพหุนามตัวแปรเดียว ดกี รไี มเ่ กินส่ี ทมี่ สี มั ประสิทธิเ์ ปน็ จำนวนเต็มและนำไปใช้ ในการแก้ปญั หา ๔. เขา้ ใจและใชห้ ลกั การบวกและการคูณ การเรียงสับเปลีย่ น และการจดั หมู่ในการแกป้ ัญหา ๕. หาความน่าจะเปน็ และนำความรู้เก่ยี วกบั ความนา่ จะเป็นไปใช้ได้ รวมทงั้ หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

๑๐๑ คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม ค๓๓๒๐๑ แคลคูลสั กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง จำนวน ๒.๐ หน่วยกติ ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้ ลิมิต ทฤษฎีบทของลิมิต การแทนค่าลิมิต ความต่อเนื่องของฟังก์ชัน การหาอนุพันธ์ของฟังก์ชันโดยใช้บทนิยามและโดยใช้สูตร อนุพันธ์ อนั ดบั สูง กฎของ โลปิตาล การประยุกตข์ องอนพุ นั ธ์ การหาปฏิยานุพนั ธข์ องฟงั กช์ ัน พ้ืนที่ปิดล้อมดว้ ยเส้นโคง้ ใช้ความรู้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาสถานการณ์ ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม โดยใช้วธิ ีการท่ีหลากหลายในการคิดคำนวณ การแก้ปญั หา การให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการส่ือสาร การสื่อความหมาย และการนำเสนอได้อย่างถูกต้องชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตรไ์ ปเช่ือมโยงกับศาสตร์อนื่ ๆ ได้ การวัดและประเมินผลเพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบรับผิดชอบ มีวิจารณญาณมีความเช่ือม่ันในตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริตมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะพรอ้ มทงั้ ตระหนกั ในคณุ ค่าและมเี จตคติทีด่ ตี ่อคณติ ศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. เข้าใจลิมติ และความต่อเนอ่ื งของฟงั กช์ ันและนำไปใช้ในการแก้ปญั หา ๒. เข้าใจอนพุ ันธ์ของฟงั กช์ นั และนำไปใชใ้ นการแก้ปัญหา ๓. เขา้ ใจปฏิยานุพันธ์ของฟังก์ชนั และนำไปใช้ในการแก้ปญั หา รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรียนรู้

๑๐๒ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม ค๓๓๒๐๒ ทกั ษะทางคณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกิต ศึกษา พร้อมทั้งฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในสาระการเรียนรู้แกนกลาง เกี่ยวกับเซต ตรรกศาสตร์ จำนวนจริง เมตริกซ์ ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตดั กรวย เลขยกกำลัง ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียล ฟังก์ชันลอการิทึม ฟังก์ชันตรีโกณมิติ เวกเตอร์ จำนวนเชิงซ้อนกฎการนับและความ นา่ จะเป็น สถิติ ลำดบั และอนุกรม แคลคลู ัส จัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ การแก้ปัญหา การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การเช่อื มโยง การใหเ้ หตผุ ล และการคิดสรา้ งสรรค์ การวัดและประเมินผลเพ่ือให้ผู้เรียนมีระเบียบ เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรบั ผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และมคี วามเชื่อม่นั ตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ทบทวนเนือ้ หาทเ่ี รียนในระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 และนำไปใช้ในการแก้ปัญหา ๒. ทบทวนเน้ือหาท่ีเรยี นในระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 และนำไปใช้ในการแก้ปัญหา ๓. ทบทวนเน้ือหาที่เรียนในระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 และนำไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้

๑๐๓ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม ค๓๓๒๐๓ คณิตศาสตร์เพม่ิ เติม ๕ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศึกษา พร้อมท้ังฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในสาระการเรียนรู้แกนกลาง เก่ียวกับ ลำดับและอนุกรม ลำดับจำกัดและลำดับอนันต์ ลำดับเลขคณิตและลำดับเรขาคณิต ลิมิตของลำดับอนันต์ อนุกรมจำกัดและอนุกรมอนันต์ อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเราขาคณิต ผลบวกของอนุกรมอนันต์ การนำ ความรู้เกี่ยวกับลำดับและอนุกรมไปใช้ในการแก้ปัญหามูลค่าของเงินและค่ารายงวด การแจกแจงความน่าจะ เป็นเบื้องต้น การแจกแจงความน่าจะเป็นของตัวแปรสุ่ม การแจกแจงความน่าจะเป็นชนิดไม่ต่อเนื่องบางชนิด การแจกแจงเอกรูปไม่ต่อเน่ือง การแจกแจงทวินาม การแจกแจงความน่าจะเป็นชนิดต่อเนื่อง บางชนิด การ แจกแจงเอกรปู ต่อเนอ่ื ง การแจกแจงปกติ จัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ การแก้ปัญหา การ สื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ การเช่ือมโยง การให้เหตุผล และการคดิ สร้างสรรค์ การวัดและประเมินผลเพื่อให้ผู้เรียนมีระเบียบ เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บ มีความรับผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ และมคี วามเชือ่ มั่นตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. ระบุไดว้ า่ ลำดบั ที่กำหนดใหเ้ ปน็ ลำดับลู่เขา้ หรอื ลำดบั ลู่ออก ๒. หาผลบวก n พจน์แรกของอนกุ รมเลขคณิตและอนกุ รมเรขาคณติ ๓. หาผลบวกอนุกรมอนันต์ ๔. เข้าใจและนำความรเู้ กยี่ วกับลำดับและอนกุ รมไปใช้ ๕. หาความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณท์ เี่ กิดจากตัวแปรสุ่มท่ีมีการแจกแจงเอกรูป การแจกแจงทวนิ าม และการแจกแจงปกติ และนำไปใช้ในการแก้ปัญหา รวมทงั้ หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

๑๐๔ คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม ค๓๓๒๐๔ คณติ ศาสตร์เสริม ๕ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ศึกษา พร้อมทั้งฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในสาระการเรียนรู้แกนกลาง เก่ียวกับ แคลคูลัส ลิมิตของฟังก์ชัน ความตอ่ เนื่องของฟังก์ชัน ความชันของเส้นโคง้ อนุพนั ธ์ของฟังก์ชัน การหาอนพุ ันธ์ ของฟังก์ชันพีชคณิตโดยใช้สูตร อนุพันธ์ของฟังก์ชันประกอบ อนุพันธ์อันดับสูง การประยุกต์ของอนุพันธ์ ปฏิยานุพนั ธข์ องฟังกช์ นั ปรพิ ันธ์ไม่จำกดั เขต ปริพนั ธ์จำกัดเขต พ้ืนท่ีปดิ ลอ้ มด้วยเสน้ โคง้ จัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ การแก้ปัญหา การสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ การเชือ่ มโยง การใหเ้ หตุผล และการคิดสร้างสรรค์ การงวัดและประเมินผลเพื่อให้ผู้เรียนมีระเบียบ เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเช่ือมน่ั ตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. ตรวจสอบความต่อเนอ่ื งของฟงั กช์ นั ท่ีกำหนดให้ ๒. หาอนุพันธ์ของฟงั ก์ชันพีชคณิตทก่ี ำหนดให้ และนำไปใชแ้ ก้ปัญหา ๓. หาปรพิ ันธ์ไม่จำกัดเขตและจำกัดเขตของฟังก์ชันพชี คณิตที่กำหนดให้ และนำไปใชแ้ กป้ ญั หา รวมทง้ั หมด ๓ ผลการเรยี นรู้

๑๐๕ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เติม ค๓๓๒๐๕ คณิตศาสตรเ์ สริม ๖ กลุม่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาพร้อมท้ังฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในสาระการเรียนรู้แกนกลาง ดังนี้ ลำดับ และอนุกรม ลำดับจำกัดและลำดับอนันต์ ลำดับเลขคณิตและลำดับเรขาคณิต ลิมิตของลำดับอนันต์ อนุกรม จำกัดและอนุกรมอนันต์ อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเราขาคณิต ผลบวกของอนุกรมอนันต์ การนำความรู้ เกยี่ วกับลำดับและอนุกรมไปใช้ในการแกป้ ญั หามลู ค่าของเงนิ และค่ารายงวด การแจกแจงความน่าจะเป็นเบ้ืองต้น การแจกแจงความน่าจะเป็นของตัวแปรสุ่ม การแจกแจงความ น่าจะเป็นชนิดไม่ตอ่ เนื่องบางชนิด การแจกแจงเอกรปู ไม่ต่อเน่ือง การแจกแจงทวนิ าม การแจกแจงความนา่ จะ เปน็ ชนดิ ต่อเนื่องบางชนิด การแจกแจงเอกรูปตอ่ เนอ่ื ง การแจกแจงปกติ จัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ การแก้ปัญหา การสอื่ สารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ การเชอ่ื มโยง การให้เหตผุ ล และการคดิ สร้างสรรค์ การวัดและประเมินผลเพื่อให้ผู้เรียนมีระเบียบ เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรับผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ และมีความเช่ือมั่นตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ระบุไดว้ ่าลำดับทีก่ ำหนดให้เป็นลำดับลเู่ ข้าหรอื ลำดบั ลู่ออก ๒. หาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณติ และอนุกรมเรขาคณิต ๓. หาผลบวกอนกุ รมอนนั ต์ ๔. เข้าใจและนำความรเู้ กีย่ วกับลำดบั และอนุกรมไปใช้ ๕. หาความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ทีเ่ กดิ จากตวั แปรสุม่ ที่มีการแจกแจงเอกรปู การแจกแจงทวนิ าม และการแจกแจงปกติ และนำไปใชใ้ นการแก้ปัญหา รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรียนรู้

๑๐๖ คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน ว๓๐๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (ฟสิ กิ ส์) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕,๖ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาหลักการพื้นฐานของแรงและการเคลื่อนท่ีในเร่ืองระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว ความเร่ง การเคลื่อนท่ีแนวตรง การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล การเคลื่อนท่ีแบบวงกลมและการเคล่ือนที่แบบ สนั่ แรงที่กระทำตอ่ วัตถุในสนามโน้มถ่วง และการเคล่อื นท่ีของวัตถใุ นสนามโน้มถว่ ง แรงท่ีกระทำต่อ อนุภาคที่ มีประจไุ ฟฟ้าในสนามไฟฟา้ และสนามแม่เหล็ก รวมทั้งแรงนิวเคลยี ร์ในนิวเคลียส และการใชป้ ระโยชนจากแรง และการเคล่อื นท่แี บบต่าง ๆ ศึกษาหลกั การพ้ืนฐานของพลังงานในเร่ืององคป์ ระกอบ ของคล่ืน สมบัติของคลื่น เสียงและการไดย้ ิน ความเข้มเสียง การเกิดเสียงสะท้อนกลับ บีต ดอปเพลอร์ และการสั่นพ้องของเสียง มลพิษ ทางเสียง การมองเห็นสีของวัตถุ การผสมสารสีและการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน สเปกตรัมคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า การส่ือสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หลักการทำงานของอุปกรณ์บางชนิดที่อาศัยคล่ืน แม่เหล็กไฟฟ้า กัมมันตภาพรังสี รังสีในชีวิตประจำวัน ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลียร์ และการใช้ ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ ผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดล้อม ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และวิเคราะห์ การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมีผลต่อ การดำเนินชีวติ อาชีพ สงั คม และวัฒนธรรม ประยกุ ต์ใช้ความรู้ และทักษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้งทรพั ยากร ในการทำโครงงานเพ่ือแกป้ ญั หาหรือพัฒนางาน ใช้กระบวนการ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และ ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ การสบื ค้นข้อมูลและการอภิปราย การวัดและประเมินผลให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถ ในการตัดสินใจ การแกป้ ัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และ ค่านยิ มทเ่ี หมาะสม รหัสตัวชี้วดั ว ๒.๒ ม.๖/๑ , ม.๖/๒ , ม.๖/๓ , ม.๖/๔ , ม.๖/๕ , ม.๖/๖ , ม.๖/๗ , ม.๖/๘ , ม.๖/๙ , ม.๖/๑๐ ว ๒.๓ ม.๖/๑ , ม.๖/๒ , ม.๖/๓ , ม.๖/๔ , ม.๖/๕ , ม.๖/๖ , ม.๖/๗ , ม.๖/๘ , ม.๖/๙ , ม.๖/๑๐ , ม.๖/๑๑ , ม.๖/๑๒ ว ๔.๑ ม.๕/๑ ว ๔.๒ ม.๖/๑ รวมทั้งหมด ๒๓ ตัวชวี้ ดั

๑๐๗ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน ว๓๐๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (เคม)ี กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕,๖ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาวิเคราะห์ธาตุ สารประกอบ แบบจำลองอะตอม อนุภาคมูลฐานของ ระบุหมู่และคาบของธาตุ ระบุธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ กลมุ่ ธาตรุ ีพรีเซนเททีฟ ธาตุแทรนซิชัน สภาพข้ัวของสารในโมเลกุล สมบัติของ ธาตุตามหมู่ ตามคาบ สมบัติบางประการของสารประกอบของธาตุบางชนิด สัญลักษณ์นิวเคลียร์ ไอโซโทป ประโยชน์และอันตรายจากธาตุ สมบัติของธาตุกมั มันตรังสี ประโยชน์และการป้องกันของสารกมั มันตรังสี ครึ่ง ชีวิต พันธะเคมี การละลายของสาร สารละลายอิเล็กโทรไลต์ นอนอิเล็กโทรไลต์ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน แบบอ่ิมตัวและไม่อ่ิมตัว ความเป็นกรดเบสของสารประกอบอินทรีย์ ปฏิกิริยาเคมีสมการเคมี อัตราการ เกิดปฏิกิริยาและ ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเกิดปฏิกิริยา พอลิเมอร์ สมบัติและโครงสร้างของพอลิเมอร์ ผลกระทบ ของผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ ปฏิกิริยารีดอกซ์ การประยุกตใ์ ช้ความรู้และทักษะต่าง ๆ รวมท้ังทรัพยากรในการทำ โครงงานเพ่ือแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน การรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล ใช้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาหรือเพิ่มมูลค่าให้กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ในชีวิตจริงอย่างสร้างสรรค์ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับสมบัติและความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของธาตุและสารประกอบ พันธะเคมี ปฏิกิริยาเคมี พอลิเมอร์ การละลายของสาร ปฏิกิริยารีดอกซ์ สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแบบอิ่มตัวและไม่ อิ่มตวั ความเป็นกรดเบสของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สามารถนำความรู้ละหลักการไปใช้ประโยชน์เช่ือมโยง อธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถจดั กระทำและวิเคราะหข์ อ้ มลู การวัดและประเมินผลเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรี ยนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม รหสั ตวั ช้ีวัด ว ๑.๒ ม.๕/๑ , ม.๕/๒ , ม.๕/๓ , ม.๕/๔ , ม.๕/๕ , ม.๕/๖ , ม.๕/๗ , ม.๕/๘ , ม.๕/๙ , ม.๕/๑๐ , ม.๕/๑๑ , ม.๕/๑๒ , ม.๕/๑๓ , ม.๕/๑๔ , ม.๕/๑๕ , ม.๕/๑๖ , ม.๕/๑๗ , ม.๕/๑๘ , ม.๕/๑๙ , ม.๕/๒๐ , ม.๕/๒๑ , ม.๕/๒๒ , ม.๕/๒๓ , ม.๕/๒๔ , ม.๕/๒๕ รวมทั้งหมด ๒๕ ตัวช้ีวัด

๑๐๘ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ว๓๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศึกษาความหลากหลายของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของระบบนิเวศ องค์ประกอบของ ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม เซลล์และโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ การลำเลยี งสารเข้าออก จากเซลล์ การรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุ กรด-เบส อุณหภูมิในร่างกายมนุษย์ ระบบภูมิคุ้มกัน ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การสร้างอาหารของพืชด้วยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง สารสังเคราะห์ จากพืช ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช การตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า ยีนและการถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพันธุกรรมระดับยีนและโครโมโซม การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ วิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิตจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติ การคดั เลอื กโดยธรรมชาติของส่ิงมชี ีวิต ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลอง การอธิบาย สรุป รวมถึงการสำรวจ ตรวจสอบ การใช้เหตุผล การส่ือสาร การนำเสนอ และการเช่ือมโยงความรู้ เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเองและดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอ่ืน ๆ เฝ้าระวังและพัฒนา ส่ิงแวดล้อมอย่างยั่งยืน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม เพื่อใหผ้ ู้เรียนเกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจในส่งิ ที่เรียนรู้มีความสมารถในการตัดสินใจ ตระหนักถึงคุณคา่ ความมีระเบียบวินยั มคี วาม รับผิดชอบ รอบคอบ มีวิจารณญาณ มีความเชื่อม่ันในตนเอง มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์มีเจตคติที่ดีต่อวิชา วิทยาศาสตร์ และเหน็ คุณค่าของการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน การวัดและประเมินผลโดยการประเมินก่อนเรยี น ประเมินระหวา่ งการจัดการเรียนรู้ โดยประเมินจาก การปฏิบัติงานจากกิจกรรม การนำเสนอ พฤติกรรมการทำรายงานบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ความมี วินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน รหัสตัวช้ีวัด ว ๑.๑ ม.๔/๑ , ม.๔/๒ , ม.๔/๓ , ม.๔/๔ ว ๑.๒ ม.๔/๑ , ม.๔/๒ , ม.๔/๓ , ม.๔/๔ , ม.๔/๕ , ม.๔/๖ , ม.๔/๗ , ม.๔/๘ , ม.๔/๙ , ม . ๔ / ๑ ๐ , ม.๔/๑๑ , ม.๔/๑๒ ว ๑.๓ ม.๔/๑ , ม.๔/๒ , ม.๔/๓ , ม.๔/๔ , ม.๔/๕ , ม.๔/๖ รวมท้ังหมด ๒๒ ตัวช้ีวดั

๑๐๙ คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน ว๓๓๑๖๑ โลก ดราราศาสตร์และอวกาศ ๑ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต เอกภพเป็นระบบใหญ่ท่ีสดุ ประกอบด้วยกาแล็กซีจำนวนมหาศาลอยู่รวมกัน โดยทฤษฎกี ำเนดิ เอกภพ ท่ียอมรับในปัจจุบันคือทฤษฎีบิกแบง หลักฐานสำคัญที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง คือ การขยายตัวของเอกภพ และการค้นพบไมโครเวฟพ้ืนหลัง กาแล็กซีประกอบด้วยดาวฤกษ์จำนวนมาก ระบบสุริยะอยู่ในกาแล็กซีทาง ช้างเผือก ดาวฤกษ์มีคุณสมบัติท่ีต่างกันทำให้มีวิวัฒนาการที่ต่างกัน เทคโนโลยีอวกาศเป็นการสำรวจส่ิงต่าง ๆ ที่อยู่ในอวกาศเพ่ือหาข้อมูลทำให้ได้ความรู้ใหม่ ๆ และนำมาใช้ในการพัฒนาความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีความ สะดวกสบายมากขึ้น การศึกษาโครงสร้างโลกใช้ข้อมูลสำคัญในการสนับสนุนการแบ่งชั้นโครงสร้างโลกท้ังการ แบ่งตามองคป์ ระกอบทางเคมี และการแบ่งตามสมบัติเชิงกล แผน่ ธรณตี ่าง ๆ ของโลกมีการเปล่ียนแปลงขนาด และตำแหน่งต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อธิบายการเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีได้ตามทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผ่น ธรณี ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว และสึนามิ เป็นธรณีพิบัติภัยที่เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทาง ธรณีวิทยาแบบฉับพลันและรุนแรง กระบวนการหมุนเวียนของอากาศและการหมุนเวียนของน้ำผิวหน้า มหาสมุทรส่งผลต่อภูมิอากาศ ลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และส่ิงแวดล้อมของบริเวณต่าง ๆ บนโลก โลกมี กระบวนการสมดลุ พลังงาน ที่ควบคุมให้พลังงานเฉล่ียท่ีโลกได้รับเท่ากับพลังงานเฉลี่ยทโ่ี ลกปล่อยกลับสู่อวกาศ การแปลความหมายสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนแผนท่ีอากาศผิวพ้ืนร่วมกับภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา และ ข้อมลู เรดารต์ รวจอากาศ จะช่วยให้สามารถคาดการณส์ ภาพลมฟ้าอากาศในช่วงเวลาตา่ ง ๆ ได้ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา การสืบค้นข้อมูล อธิบายและ ทดลองรวมถึงการสำรวจ ตรวจสอบ การใช้เหตุผล การสื่อสาร การนำเสนอ และการเช่ือมโยงความรู้ เพ่ือให้ เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจสิง่ ที่เรียนรู้ มคี วามสมารถในการตัดสินใจตระหนกั ถึงคณุ ค่า ความมรี ะเบยี บ มี ความรับผิดชอบ รอบคอบ มีวิจารณญาณ มีความเชื่อม่ันในตนเอง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีเจตคติท่ีดีต่อ วิชาวิทยาศาสตร์ และเหน็ คณุ คา่ ของการนำความรู้ไประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม การวัดและประเมนิ ผลโดยการประเมินกอ่ นเรียนและประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ โดย ประเมินการปฏิบัติงานจากกิจกรรม การนำเสนอผลงาน พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรมการ ทำงานกลมุ่ ความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน รหสั ตัวช้ีวดั ว. ๓.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐ ว. ๓.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐, ม.๖/๑๑, ม.๖/๑๒, ม.๖/๑๓, ม.๖/๑๔ รวมทั้งหมด ๒๔ ตัวช้ีวัด

๑๑๐ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน ว๓๑๑๐๒ การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อ่ืนโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา เทคโนโลยี ศึกษาการระบุปัญหาหรือความต้องการที่มีผลกระทบต่อสังคม รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่ เกี่ยวข้องกับปัญหาที่มีความซับซ้อนเพื่อสังเคราะห์วิธีการ เทคนิคในการแก้ปัญหา โดยคำนึงถึงความถูกต้องด้าน ทรพั ยส์ ินทางปัญญา ศกึ ษาการออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ และตดั สนิ ใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการท่ีหลากหลาย โดยใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบ วางแผนขั้นตอนการทำงานและดำเนินการแก้ปัญหา การทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องท่ีเกดิ ขึ้นภายใต้กรอบเงื่อนไข หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข พร้อม ท้ังเสนอแนวทางการพัฒนาต่อยอด ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไกไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีทีซ่ ับซอ้ นในการแก้ปัญหาหรอื พัฒนางานได้อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย ใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning) และการเรียนรู้แบบใช้ โครงงานเปน็ ฐาน (Project – based Learning) เน้นใหผ้ เู้ รียนไดล้ งมือปฏบิ ัติ ฝกึ ทกั ษะการคดิ เผชิญสถานการณ์การ แก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ และนำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงานเพ่ือให้เกิดทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ และ ทักษะในการวิเคราะห์ปัญหา นำไปสู่การสร้างต้นแบบ ตลอดจนสามารถนำกระบวนการเทคโนโลยี สร้างเทคโนโลยี วธิ ีการ เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการดำรงชีวิต รวมท้ังคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจใน วิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิด และจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการส่ือสาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้ทมี่ จี ติ วทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์ การวัดและประเมินผลโดยใช้แบบฝึกหัด แบบประเมินช้ินงาน/ภาระงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล รหัสตัวช้ีวัด ว. ๔.๑ ม.๔/๑ , ม.๔/๒ , ม.๔/๓ , ม.๔/๔ , ม.๔/๕ รวมทั้งหมด ๕ ตัวชี้วัด

๑๑๑ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน ว๓๑๑๐๓ วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคำนวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบ การคดิ เชิงนามธรรม ตวั อย่างและประโยชนข์ องแนวคดิ เชิงคำนวณเพือ่ แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั ใช้ ก ร ะ บ ว น ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใช้ แ น ว คิ ด เชิ ง ค ำ น ว ณ ใน ก า ร อ อ ก แ บ บ ขั้ น ต อ น วิ ธี ส ำ ห รั บ แ ก้ ปั ญ ห า การแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และเง่ือนไขของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธี การทำซำ้ การจัดเรยี งและคน้ หาข้อมูลตัวอยา่ งการออกแบบข้ันตอนวิธเี พื่อแกป้ ัญหาดว้ ยคอมพวิ เตอร์ การวัดและประเมินผลเพ่ือให้ผู้เรียนศึกษาตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การกำหนด ปญั หา ศึกษา วางแผน ดำเนินงาน สรุปผลและเผยแพร่ ในการพัฒนาโครงงานที่มีการบรู ณาการร่วมกับวชิ าอ่ืน และเช่ือมโยงกบั ชวี ติ จรงิ รหสั ตัวชี้วัด ว. ๔.๒ ม.๔/๑ รวมท้ังหมด ๑ ตัวชี้วัด

๑๑๒ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน ว๓๒๑๐๑ การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศึกษาเก่ียวกับความหมายของนวัตกรรม ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรม รูปแบบของ เทคโนโลยี การพัฒนาอย่างยั่งยืน หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒ นาอย่างยั่งยืน ระบบทาง เทคโนโลยี กระบวนการเทคโนโลยี องค์ประกอบท่ีสัมพันธ์กับกระบวนการทางเทคโนโลยี การออกแบบเชิง วิศวกรรม สะเต็มศึกษา โครงงานสะเต็ม การทำโครงงาน การประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมท้ังทรัพยากรในการสร้างหรือพัฒนาชิ้นงาน เพ่ือแก้ปัญหาในการทำงาน การทำโครงงานออกแบบและ เทคโนโลยี ผลงานโครงงานการออกแบบและเทคโนโลยี ใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning) และการเรียนรู้แบบใช้ โครงงานเป็นฐาน (Project–based Learning) เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญ สถานการณ์การแก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ และ นำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงาน เพื่อให้เกิดทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการวิเคราะห์ปัญหา นำไปสู่การสร้างต้นแบบ ตลอดจนสามารถนำ กระบวนการเทคโนโลยี สร้างเทคโนโลยีวิธีการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำรงชีวิต รวมท้ังคำนึงถึงทรัพย์สิน ทางปัญญา ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ จัดการทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ อีกท้ังยังเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมในการใชว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์ การวัดและประเมินผลโดยใช้แบบฝึกหัด แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แบบประเมินคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล รหสั ตัวช้ีวดั ว. ๔.๑ ม.๕/๑ รวมท้ังหมด ๑ ตัวชี้วดั

๑๑๓ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน ว๓๒๑๐๒ วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดำเนินชีวิต เทคโนโลยีการจัดการข้อมูล ข้อมูล ฐานข้อมูล คลังข้อมูล การทำเหมืองข้อมูล ประมวลผลข้อมูล วิทยาการ ข้อมลู ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ การวเิ คราะห์ข้อมลู วทิ ยาการขอ้ มูล ใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning) และการเรียนรู้แบบใช้ โครงงานเป็นฐาน(Project-based Learning) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญ สถานการณ์การแก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงาน เพื่อให้เกิดทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา จนสามารถนำเอาแนวคิดเชิง คานวณมาประยุกต์ใช้ในการสร้างโครงงานได้ เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถใช้ความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพ่ือรวบรวมข้อมูลในชีวิตจริงจากแหล่งต่าง ๆ และความร้จู าก ศาสตรอ์ ่ืนมาประยกุ ตใ์ ช้ สรา้ งความรู้ใหม่ เข้าใจการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยที ีม่ ีผลต่อการดาเนินชวี ติ อาชีพ สังคม วัฒนธรรม และใช้อย่างปลอดภัย มีจริยธรรม ตลอดจนนาความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตดั สินใจ และเป็นผู้ ที่มีจิตวทิ ยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์ การวดั และประเมินผลโดยใช้แบบฝึกหดั แบบประเมินช้ินงาน/ภาระงาน แบบประเมินคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล รหัสตวั ช้ีวดั ว. ๔.๒ ม.๕/๑ รวมทั้งหมด ๑ ตัวชี้วัด

๑๑๔ คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม ว๓๐๒๖๑ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศึกษาการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก รอยต่อระหว่างช้ันโครงสร้างพร้อมหลักฐานสนับสนุน การศึกษาการเคล่ือนที่ของแผน่ ธรณีตามทฤษฎีแปรสญั ฐานสนับสนุน ศึกษาสาเหตุและรูปแบบแนวต่อของแผ่น ธรณีท่ีสัมพนั ธ์กับการเคลอ่ื นที่ของแผ่นธรณี และหลักฐานท่เี ปน็ ผลจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ศึกษาสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากการเกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว และสึนามิ พร้อมแนวทางการเฝ้าระวังและ ปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภัย อธบิ ายลำดับเหตุการณ์ทางธรณีวทิ ยาในอดตี จาก การใช้หลกั ฐานท่ีพบในปัจจุบัน ศึกษา ชนิดแร่และหิน สมบัติของแร่และหิน การจำแนกแร่ตามสมบัติของแร่ การจำแนกหินจากการเกิดและเนื้อหิน และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแร่และหินที่เหมาะสม ศึกษากระบวนการเกิด และการสำรวจแหล่ง ปิโตรเลียมและถ่านหนิ โดยใช้ความรู้พ้ืนฐานธรณีวิทยาดา้ นตา่ ง ๆ รวมท้งั วิธีการและเทคนคิ ทเ่ี หมาะสม เพอ่ื นำ ทรัพยากรมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า และย่ังยืน ศึกษาองค์ประกอบและการแปลความหมายของแผนที่ภูมิประเทศ และแผนทีธ่ รณวี ทิ ยา พร้อมท้งั นำเสนอการนำขอ้ มลู จากแผนทีภ่ ูมิประเทศและแผนท่ีธรณีวิทยาไปใช้ประโยชน์ ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา การสบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายและ ทดลองรวมถึงการสำรวจ ตรวจสอบ การใช้เหตุผล การสื่อสาร การนำเสนอ และการเช่อื มโยงความรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจส่ิงที่เรียนรู้ มีความสมารถใน การตัดสินใจตระหนักถึงคุณค่า ความมีระเบียบ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นใน ตนเอง มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ มีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ และเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไประยุกต์ ใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสรา้ งโลกพร้อมยกตวั อย่างข้อมลู ทส่ี นบั สนุน ๒. อธิบายหลักฐานทางธรณีวทิ ยาท่ีสนบั สนนุ การเคล่อื นท่ีของแผ่นธรณี ๓. ระบุสาเหตแุ ละอธิบายแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณีที่สัมพนั ธก์ ับการเคล่อื นที่ของแผน่ ธรณีพร้อม ยกตัวอยา่ งหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาท่ีพบ ๔. วิเคราะห์หลักฐานทางธรณีวทิ ยาท่พี บในปัจจุบนั และอธบิ ายลำดับเหตกุ ารณ์ ทางธรณีวิทยาในอดตี ๕. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิดภเู ขาไฟระเบิดและปจั จยั ทีท่ ำให้ความรนุ แรงของการปะทแุ ละ รูปร่างของภูเขาไฟแตกตา่ งกนั รวมทั้งสืบค้นข้อมลู พ้นื ที่เสีย่ งภยั ออกแบบ และนำเสนอแนวทาง การเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัย ๖. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมทง้ั สืบคน้ ขอ้ มูลพนื้ ทเ่ี ส่ียงภยั ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย ๗. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกดิ และผลจากสนึ ามิ รวมทงั้ สบื คน้ ข้อมลู พื้นทเี่ ส่ยี งภยั ออกแบบ และนำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏิบตั ิตนให้ปลอดภัย ๘. ตรวจสอบ และระบุชนดิ แร่ รวมทั้งวเิ คราะห์สมบัติ และนำเสนอการใช้ประโยชน์จาก ทรพั ยากรแรท่ เี่ หมาะสม ๙. ตรวจสอบ จำแนกประเภทและระบชุ ่ือหินรวมท้งั วิเคราะหส์ มบตั ิและนำเสนอการใช้ประโยชน์ ของทรพั ยากรหินทีเ่ หมาะสม

๑๑๕ ๑๐. อธบิ ายกระบวนการเกิด และการสำรวจแหล่งปิโตรเลยี มและถ่านหนิ โดยใชข้ อ้ มลู ทางธรณวี ิทยา ๑๑. อธบิ ายสมบัตขิ องผลิตภัณฑท์ ่ไี ดจ้ ากปโิ ตรเลียมและถ่านหิน พรอ้ มนำเสนอการใช้ประโยชน์ อย่างเหมาะสม ๑๒. อา่ นและแปลความหมายจากแผนทีภ่ ูมิประเทศและแผนที่ธรณวี ิทยาของพืน้ ที่ ทก่ี ำหนดพร้อม ทัง้ อธิบาย และยกตวั อย่างการนำไปใช้ประโยชน์ รวมทงั้ หมด ๑๒ ผลการเรยี นรู้

๑๑๖ คำอธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม ว๓๐๒๖๒ โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาเก่ียวกับองค์ประกอบของอากาศ พลังงานจากดวงอาทิตย์ อุณหภูมิของอากาศ ปัจจัยท่ีมีผลต่อ การรับและการคาย พลังงานจากดวงอาทิตย์ ผลท่ีมีต่ออุณหภูมิอากาศในแต่ละบริเวณของโลก กระบวนการที่ ทำให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก การเกิดลม ผลของแรงเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศ การหมุนเวียนระบบลม แบบจำลองการหมุนเวียนอากาศ การหมุนเวียนอากาศตามเขตละติจูด ผลจาก การหมุนเวียนของระบบลม พายุ พายุฝนฟ้าคะนอง ทอร์นาโด พายุหมุนเขตร้อน การเกิดมรสุม อิทธิพลของ มรสุมต่อประเทศไทย ร่องมรสุม การหมุนเวียนของน้ำในมหาสมุทร การแบ่งช้ันน้ำในมหาสมุทร และ ผลกระทบจากการหมุนเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทร ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา การสืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายและ ทดลองรวมถงึ การสำรวจ ตรวจสอบ การใช้เหตผุ ล การส่อื สาร การนำเสนอ และการเชอ่ื มโยงความรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสมารถใน การตัดสินใจตระหนักถึงคุณค่า ความมีระเบียบ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ มีวิจารณญาณ มีความเช่ือม่ันใน ตนเอง มีความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรคม์ ีเจตคติทด่ี ีต่อ ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายปัจจยั สำคญั ที่มผี ลต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทิตยแ์ ตกต่างกนั และผลทม่ี ีต่อ อณุ หภูมอิ ากาศในแต่ละบรเิ วณของโลก ๒. อธิบายกระบวนการทีท่ ำให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก ๓. อธบิ ายผลของแรงเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลสิ แรงสู่ศนู ย์กลาง และแรงเสียดทานทม่ี ีต่อการหมนุ เวยี นของอากาศ ๔. อธิบายการหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจดู และผลทมี่ ตี ่อภมู ิอากาศ ๕. อธิบายปัจจัยที่ทำให้เกิดการแบง่ ชั้นน้ำในมหาสมทุ ร ๖. อธิบายปจั จยั ทที่ ำให้เกิดการหมนุ เวยี นของน้ำในมหาสมุทรและรูปแบบการหมนุ เวียนของน้ำ ในมหาสมทุ ร ๗. อธิบายผลของการหมุนเวียนของนำ้ ในมหาสมุทรท่ีมีต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สง่ิ มีชีวติ และ สิ่งแวดล้อม รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

๑๑๗ คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เติม ว๓๐๒๖๓ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโม จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศึกษาเกี่ยวกับการเกิดเมฆ เสถียรภาพอากาศ แนวปะทะอากาศ การเปล่ียนแปลงภูมิอากาศของ โลก ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศของโลก ข้อมูลสนับสนุนการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศของโลก และปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนจากการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศของโลก เช่น ปรากฎการณ์เอลนีโญ และ ลานีญา ปรากฎการณ์เรือนกระจก การเกิดคลื่นความร้อน สามารถอธิบายเก่ียวกับการพยากรณ์อากาศ การตรวจสอบอากาศ ข้ันตอนการพยากรณ์อากาศ วิธกี ารพยากรณ์อากาศ และแผนทีอากาศได้ การทำความ เข้าใจปรากฎการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากการเปล่ียนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก สามารถนำไปใช้ใน ชีวติ ประจำวันได้ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา การสบื ค้นขอ้ มูล อธิบายและ ทดลองรวมถึงการสำรวจ ตรวจสอบ การใช้เหตุผล การสื่อสาร การนำเสนอ และการเชื่อมโยงความรู้ การวัดและประเมินผลเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจในส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสมารถใน การตัดสินใจตระหนักถึงคุณค่า ความมีระเบียบ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ มีวิจารณญาณ มีความเช่ือมั่นใน ตนเอง มคี วามคดิ ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์มเี จตคติที่ดีตอ่ วชิ าวิทยาศาสตร์ และเห็นคณุ คา่ ของการนำความรไู้ ประยุกตใ์ ช้ ในชวี ติ ประจำวันได้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเสถียรภาพอากาศและการเกดิ เมฆ ๒. อธิบายการเกดิ แนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ และลักษณะลมฟ้าอากาศที่เกย่ี วข้อง ๓. อธิบายปัจจัยต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูล สนับสนุน ๔. วิเคราะห์ และอภิปรายเหตุการณ์ที่เป็นผลจากการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศโลก และนำเสนอแนว ปฏิบัตขิ องมนุษย์ท่มี สี ่วนช่วยในการชะลอการเปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศโลก ๕. แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศบนแผนที่อากาศ ๖. วิเคราะห์ และคาดการณ์ลักษณะลมฟ้าอากาศเบ้ืองต้นจากแผนท่ีอากาศและข้อมูลสารสนเทศอ่ืน ๆ เพื่อวางแผนในการประกอบอาชีพและการดำเนินชีวติ ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพลมฟา้ อากาศ ๗. อธิบายผลของการหมุนเวียนของน้ำในมหาสมุทรท่ีมีต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ ส่ิงมีชีวิต และ ส่ิงแวดลอ้ ม รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรียนรู้

๑๑๘ คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ว๓๐๒๖๔ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพ หลังฐานท่ีสนับสนุนทฤษฎี บิกแบง โครงสร้าง องค์ประกอบกาแล็กซีทางช้างเผือก และการสังเกตเห็นทางช้างเผือก สมบัติดาวฤกษ์ กำเนิดดาวฤกษ์ วิวัฒนาการดาวฤกษ์ กระจุกดาว แหล่งกำเนิดพลังงานของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ กำเนิดระบบสุริยะและการแบ่งเขตบริวารรอบดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวฤกษ์ท่ีเอ้ือต่อการดำรงชีวิต การ โคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ โครงสร้างและปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ และปรากฏการณ์หรือ เหตกุ ารณ์ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับผลของลมสรุ ิยะและพายสุ รุ ยิ ะ และเทคโนโลยีอวกาศกับการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา การสืบค้นข้อมูล อธิบาย และทดลองรวมถึงการสำรวจ ตรวจสอบ การใช้เหตุผล การสื่อสาร การนำเสนอ และการเชื่อมโยงความรู้ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสมารถในการตัดสินใจตระหนักถึงคุณค่า ความมี ระเบียบ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ มีวิจารณญาณ มีความเชื่อม่ันในตนเอง มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์มีเจต คติทดี่ ีต่อวิชาวทิ ยาศาสตร์ การวัดและประเมินผลโดยการประเมินก่อนเรียนและประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดย ประเมินจากการปฏิบัติงานจากกิจกรรม การนำเสนอผลงาน พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรมการ ทำงานกลุ่ม ความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายการกำเนิดและการเปล่ยี นแปลงพลังงานสสาร ขนาดอณุ หภมู ขิ องเอกภพหลงั เกิดบิกแบง ในชว่ งเวลาตา่ ง ๆ ตามวิวัฒนาการของเอกภพ ๒. อธบิ ายหลกั ฐานทส่ี นับสนุนทฤษฎบี กิ แบงจากความสัมพันธ์ระหวา่ งความเรว็ กับระยะทางของ กาแล็กซี รวมท้ังข้อมูลการค้นพบไมโครเวฟพ้นื หลังจากอวกาศ ๓. อธิบายโครงสร้างและองคป์ ระกอบของกาแลก็ ซีทางชา้ งเผือก และระบุตำแหน่งของระบบสุริยะ พร้อมอธิบายเชอื่ มโยงกบั การสังเกตเหน็ ทางชา้ งเผือกของคนบนโลก ๔. อธบิ ายกระบวนการเกิดดาวฤกษ์ โดยแสดงการเปลี่ยนแปลงความดนั อณุ หภูมิ ขนาดจากดาว ฤกษ์กอ่ นเกดิ จนเป็นดาวฤกษ์ ๕. อธิบายกระบวนการสร้างพลงั งานของดาวฤกษแ์ ละผลทเี่ กิดข้ึน โดยวิเคราะหป์ ฏิกิรยิ าลูกโซ่ โปรตอน และวฏั จักรคารบ์ อน ไนโตรเจน ออกซเิ จน ๖. ระบุปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ ความส่องสว่างของดาวฤกษแ์ ละอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างความสอ่ ง สวา่ งกบั โชติมาตรของดาวฤกษ์ ๗. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสี อณุ หภูมผิ ิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์ ๘. อธบิ ายวธิ กี ารหาระยะทางของดาวฤกษดว้ ยหลักการแพรัลแลกซ์ พร้อมคำนวณหาระยะทาง ของดาวฤกษ์ ๙. อธิบายลำดบั วิวัฒนาการท่สี ัมพนั ธก์ ับมวลตง้ั ตน้ และวเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงสมบตั ิบาง ประการของดาวฤกษใ์ นลำดับววิ ฒั นาการ จากแผนภาพเฮริ ซ์ ปรุง-รสั เซลล์ ๑๐. อธบิ ายกระบวนการเกดิ ระบบสรุ ยิ ะ การแบ่งเขตบรวิ ารของดวงอาทิตยแ์ ละลักษณะของดาว เคราะห์ที่เอื้อต่อการดำรงชีวติ

๑๑๙ ๑๑. อธิบายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตยด์ ว้ ยกฎเคพเลอร์ และกฎความโน้มถว่ งของ นวิ ตัน พร้อมคำนวณคาบการโคจรของดาวเคราะห์ ๑๒. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทติ ย์ การเกดิ ลมสรุ ิยะ พายุสรุ ิยะ และวิเคราะห์ นำเสนอปรากฏการณ์ หรือเหตุการณท์ เ่ี กีย่ วขอ้ งกับผลของลมสุรยิ ะ และพายุสรุ ิยะทีม่ ตี อ่ โลกรวมทัง้ ประเทศไทย ๑๓. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายการสำรวจอวกาศ โดยใช้กลอ้ งโทรทรรศนใ์ นชว่ งความยาวคลนื่ ตา่ ง ๆ ดาวเทยี ม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนำเสนอแนวคิดการนำความรู้ทางดา้ นเทคโนโลยี อวกาศมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันหรอื ในอนาคต ๑๔. สืบค้นขอ้ มูล ออกแบบ และนำเสนอกิจกรรมการสงั เกตดาวบนทอ้ งฟ้าด้วยตาเปล่า และกลอ้ ง โทรทรรศน์ รวมทั้งหมด ๑๔ ผลการเรียนรู้

๑๒๐ คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ว๓๐๒๘๒ พันธศุ าสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะเก่ียวกับลักษณะพันธุศาสตร์ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของ การถ่ายทอดทางพนั ธศุ าสตร์ โครโมโซม และการแปรผันทางมนุษย์สารพันธุศาสตร์ ศึกษาโครงสร้างโครโมโซม และดีเอ็นเอ โรคที่เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุศาสตร์การจัดระบบหมู่เลือด เอ บี โอ การแปรผันทางพันธุ ศาสตร์ การเปล่ียนแปลงทางพันธุศาสตร์ท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิวัฒนาการของ ส่งิ มชี ีวติ รวมทั้งนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสังเกต การสืบค้นขอ้ มลู ทดลอง อภปิ ราย การอธบิ าย สรปุ การวัดและประเมินผล เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารที่เรียนรู้ มีความสามารถใน การตดั สินใจ นำความรู้ท่ไี ดม้ าใชใ้ นชวี ติ ของตนเอง ดแู ลรักษาสง่ิ มชี ีวติ อ่นื เฝ้าระวังและพฒั นา ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายกระบวนการถา่ ยทอดสารพนั ธุกรรม โครงสร้างของโครโมโซมและดเี อน็ เอ ๓. การแปรผนั ทางพนั ธกุ รรม มิวเทชัน และการเกดิ ความหลากหลายทางชวี ภาพ ๓. สืบค้นข้อมลู และอภปิ รายผลของเทคโนโลยีชีวภาพที่มตี ่อมนุษย์และสิ่งแวดลอ้ มและนำความรู้ ไปใช้ประโยชน์ ๔. อธิบายกระบวนการคดั เลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลอื กตามธรรมชาตติ อ่ ความ หลากหลายของสงิ่ มีชีวติ รวมทงั้ หมด ๔ ผลการเรยี นรู้

๑๒๑ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เติม ว๓๐๒๘๑ วิทยาศาสตร์การกฬี า กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศกึ ษาความหมาย ความเปน็ มาของวิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตรด์ ้านสรีรวทิ ยา จิตวิทยาการกฬี า กายวิภาคศาสตร์ ชีวกลศาสตร์ เวชศาสตร์การกีฬา เทคโนโลยีการกีฬา โภชนาการการกีฬา การจัดการกีฬา การฝึกกีฬา และปฏิบัติเกี่ยวกับ หลักการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย อาหาร และโภชนาการที่เสริมสร้าง สมรรถภาพทางกาย (การออกกำลังเพื่อสุขภาพ) การทดสอบสมรรถภาพทางกาย การหาค่าดัชนีมวลกาย หลักการและรูปแบบการออกกำลังกายด้วยกีฬาไทย กีฬาสากล มีวินัย มีน้ำใจนักกีฬา เคารพกฎกติกา มีมารยาทในการดูและเล่นกีฬา เลือกและปฏิบัติการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม มีความสุขภายใต้หลักความ พอเพยี ง ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลอง การอธิบาย สรุป รวมถึงการสำรวจ ตรวจสอบ การใช้เหตุผล การส่ือสาร การนำเสนอ และการเช่อื มโยงความรู้ การวดั และประเมนิ ผลโดยการประเมนิ ก่อนเรียน ประเมนิ ระหวา่ งการจัดการเรียนรู้ โดยประเมินจาก การปฏบิ ัตงิ านจากกจิ กรรม การนำเสนอ พฤติกรรมการทำรายงานบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ความมี วนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน ผลการเรียนรู้ ๑. สืบค้นข้อมลู และอธบิ ายความหมาย ความเป็นมาวทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬา ๒. ศกึ ษา และอธิบายด้านวทิ ยาศาสตรด์ ้านสรรี วทิ ยา จติ วทิ ยาการกีฬา กายวภิ าคศาสตร์ ชีวกลศาสตร์ เวชศาสตรก์ ารกีฬา เทคโนโลยีการกีฬา โภชนาการการกีฬา การจดั การกีฬา ๓. สามารถปฏบิ ตั เิ กีย่ วกบั หลกั การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย อาหาร และโภชนาการที่เสรมิ สรา้ ง สมรรถภาพทางกาย ๔. ทดสอบสมรรถภาพทางกาย การหาคา่ ดัชนีมวลกาย หลักการและรูปแบบการออกกำลังกายดว้ ย กีฬาไทย กีฬาสากล ๕. มีเจตคติ และกิจนสิ ัยทด่ี ีในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายด้วยความมวี นิ ยั มีน้ำใจนกั กฬี า ความสามัคคี เคารพกฎกตกิ า และมมี ารยาท รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

๑๒๒ คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม ว๓๐๒๘๓ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศึกษาวิเคราะห์ ความหมาย ประเภท ข้ันตอนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ คิดหัวเรื่อง เลือกเรื่อง ท่ีจะทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ทำการทดลองเบ้ืองต้นดูความเป็นไปได้ จัดทำเค้าโครงของเรื่องท่ีเลือกทำลงมือ ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ๑ เรื่อง โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ในการรวบรวมข้อมูลหลาย ๆ คร้ัง น ำเสนอ ข้อมูลอย่างเป็นระบบ แก้ปัญหาท่ีเกิดข้ึน โดยวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์ พัฒนาช้ินงานให้เหมาะสม วิเคราะห์ผล การทดลอง สรุปผลการทดลอง ทำรายงานผลการทดลอง และนำเสนอโครงงาน ด้วยปากเปล่า อย่างถูกต้อง และม่นั ใจ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การสำรวจตรวจสอบ และการทดลอง การวัดและประเมินผลเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และอภิปรายความหมายและประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ ๒. ศึกษา และอธิบายขั้นตอนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ และคิดหัวเรื่องโครงงาน ๓. สืบคน้ ข้อมลู เก่ยี วกับเรอ่ื งที่เลอื กทำโครงงานทำการทดลองเบื้องตน้ ดูความเป็นไปได้ และ จัดทำเค้าโครงของเร่ือง ๔. ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 เร่อื ง โดยใช้วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการรวบรวมขอ้ มูลหลาย ๆ ครง้ั นำเสนอข้อมลู อย่างเปน็ ระบบ แกป้ ญั หาทเ่ี กิดขน้ึ โดยวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์ และพฒั นา ชิน้ งานใหเ้ หมาะสม ๕. วิเคราะห์ผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง และทำรายงานผลการทดลอง ๖. นำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ ดว้ ยปากเปล่า อย่างถกู ต้อง และมั่นใจ ๗. มเี จตคติ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่ดี ี ตอ่ วิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี และสงิ่ แวดล้อม รวมทงั้ หมด ๗ ผลการเรียนรู้

๑๒๓ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม ว๓๑๒๐๑ ฟสิ กิ ส์ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกิต ศึกษา วเิ คราะห์ และอธิบายเก่ียวกับธรรมชาติของฟิสิกส์ พฒั นาการของหลักการแนวคิดทางฟิสิกส์ที่ มีผลต่อการแสวงหาความรู้ใหม่ การพัฒนาเทคโนโลยี การวัด การรายงานผลการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ได้ ถูกต้องเหมาะสม โดยนำความคลาดเคล่ือนในการวัดมาพิจารณาในการนำเสนอผลในรูปของกราฟ การแปล ความหมายจากกราฟเส้นตรง การบอกตำแหน่งของวัตถุ การกระจัด ความเร็ว ความเร่งของการเคล่ือนท่ีของ วัตถุในแนวตรงที่มีความเร่งคงตัวจากกราฟ และสมการ การหาค่าความเร่งโน้มถ่วงของโลก คำนวณปริมาณ ตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อธิบายแรง ผลของแรงลัพธ์ที่มีต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ การหาแรงลัพธ์ เขียนแผนภาพของ แรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระ กฎการเคล่ือนที่ของนิวตัน การใช้กฎการเคล่ือนท่ีของนิวตันกับสภาพการเคลื่อนที่ ของวัตถุ ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรง มวล และความเร่ง ตามกฎข้อที่สองของนิวตัน อธิบาย กฎความโน้มถ่วงสากล ผลของสนามโน้มถ่วงที่ทำให้วัตถุมีน้ำหนัก รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง วิเคราะห์และอธิบายแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ ในกรณีที่วัตถุหยุดน่ิงและวัตถุเคลื่อนท่ี สัมประสิทธคิ์ วามเสียดทานระหว่างผวิ สัมผัสของวัตถุคหู่ นึ่ง ๆ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้การแก้ปัญหา การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมลู บนั ทกึ และจัดกระทำข้อมลู การคำนวณ และการอภปิ ราย การวัดและประเมินผลเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่รู้มีความสามารถ ในการตัดสินใจ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ สามารถนำความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ อธิบาย ปรากฏการณห์ รือแก้ปัญหาในชวี ิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยม ๑๒ ประการ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มคี วามซอื่ สัตยส์ จุ รติ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน ผลการเรียนรู้ ๑. สบื คน้ และอธบิ ายการคน้ หาความรู้ทางฟสิ ิกส์ ประวตั ิความเปน็ มา รวมทัง้ พัฒนาการของ หลักการ และแนวคดิ ทางฟิสกิ ส์ทีม่ ผี ลต่อการแสวงหาความรู้ใหมแ่ ละการพัฒนาเทคโนโลยี ๒. วัด และรายงานผลการวัดปรมิ าณทางฟิสิกส์ ได้ถกู ต้องเหมาะสม โดยนำความคาดเคลอ่ื น ในการวัดมาพิจารณาในการนำเสนอผล รวมทัง้ แสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์ และแปลความหมายจากกราฟเส้นตรง ๓. ทดลอง และอธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ตำแหนง่ การกระจดั ความเร็ว และความเร่ง ของ การเคลื่อนท่ขี องวัตถใุ นแนวตรงที่มคี วามเร่งคงตวั จากกราฟ และสมการรวมทง้ั ทดลองหาคา่ ความเรง่ โน้มถว่ งของโลก และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ๔. ทดลอง และอธบิ ายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่ทำมุมต่อกนั ๕. เขยี นแผนภาพของแรงที่กระทำตอ่ วตั ถอุ สิ ระ ทดลอง และอธบิ ายกฎการเคลือ่ นทข่ี องนวิ ตนั และการใชก้ ฎการเคลื่อนท่ขี องนิวตันกบั สภาพการเคลอื่ นทขี่ องวตั ถุ รวมทง้ั คำนวณปริมาณ ตา่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ๖. อธิบายกฎความโน้มถว่ งสากลและผลของสนามโนม้ ถว่ งท่ที ำใหว้ ตั ถุมีนำ้ หนกั รวมท้งั คำนวณ ปริมาณตา่ ง ๆ ท่เี ก่ียวข้อง

๑๒๔ ๗. วิเคราะห์อธบิ าย และคำนวณแรงเสียดทานระหวา่ งผิวสมั ผัสของวตั ถุคหู่ นึ่ง ๆ ในกรณที ี่วัตถุ หยุดนิง่ และวัตถุเคลอ่ื นที่ รวมทง้ั ทดลองหา สัมประสิทธ์ิความเสยี ดทานระหว่างผิวสัมผสั ของ วัตถุคู่หนง่ึ ๆ และนำความรู้เรื่องแรงเสียดทานไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั รวมท้ังหมด ๗ ตัวช้ีวัด

๑๒๕ คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม ว๓๑๒๐๒ ฟิสิกส์ ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายเก่ียวกับสมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์ ผลรวมของโมเมนต์ที่มีต่อการหมุน แรงคู่ควบ ผลของแรงคู่ควบท่ีมีต่อสมดุลของวัตถุ เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระเมื่อวัตถุอยู่ใน สมดุลกล คำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง สมดุลของแรงสามแรง สภาพการเคล่ือนที่ของวัตถุ เมื่อแรงที่ กระทำต่อวัตถุผ่านศูนย์กลางมวลของวัตถุ ผลของศูนย์ถ่วงท่ีมีต่อเสถียรภาพของวัตถุ งานเน่ืองจากแรงคงตัว และไม่คงตัว กำลัง พลังงานกล การอนุรักษ์พลังงานกล เคร่ืองกล ประสิทธิภาพของเคร่ืองกล หลักการทำงาน หลักการสมดุลกลกับเคร่ืองกลอย่างง่าย โมเมนตัมและการชน กฎอนุรักษ์โมเมนตัม การเคล่ือนท่ีแบบโพรเจก ไทล์และปริมาณต่าง ๆ ของการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์ ความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของ การเคล่ือนท่ี การเคลื่อนท่ีในแนวโค้ง และประยุกต์ใช้ความรู้การเคล่ือนที่แบบวงกลมในการอธิบายการโคจร ของดาวเทียม ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้การแก้ปัญหา การสำรวจตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมลู บนั ทึกและจดั กระทำขอ้ มูล การคำนวณ และการอภิปราย การวัดและประเมินผลเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิง่ ทร่ี มู้ ีความสามารถใน การตัดสินใจ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ สามารถนำความรู้และหลักการไปใชป้ ระโยชน์ อธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม ๑๒ ประการ คุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ มคี วามซื่อสัตย์สจุ รติ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายสมดลุ กลของวตั ถุโมเมนตแ์ ละผลรวม ของโมเมนตท์ ี่มีต่อการหมุน แรงคู่ควบ และผล ของแรงคคู่ วบทมี่ ตี ่อสมดลุ ของวัตถุ เขียนแผนภาพของแรงทก่ี ระทำตอ่ วัตถุอิสระเมื่อวัตถุอยู่ใน สมดุลกล และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง รวมท้ังทดลองและอธิบายสมดลุ ของแรงสามแรง ๒. สงั เกตและอธิบายสภาพการเคล่อื นทข่ี องวัตถุ เมือ่ แรงท่ีกระทำตอ่ วัตถผุ ่านศูนย์กลางมวลของ วตั ถุ และผลของศนู ย์ถ่วงทม่ี ตี อ่ เสถียรภาพของวตั ถุ ๓. วเิ คราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตวั จากสมการและพืน้ ทใี่ ตก้ ราฟความสมั พันธร์ ะหวา่ งแรง กับตำแหน่ง รวมท้งั อธิบายและคำนวณกำลงั เฉล่ีย ๔. อธบิ ายและคำนวณพลงั งานจลน์ พลังงานศกั ย์ พลังงานกล ทดลอง หาความสัมพันธ์ระหว่าง งานกับพลังงานจลน์ ความสัมพันธ์ ระหว่างงานกบั พลังงานศักย์โนม้ ถว่ ง ความสัมพนั ธ์ระหว่าง ขนาดของแรงที่ใชด้ ึงสปรงิ กับระยะท่สี ปริงยืดออก และความสมั พันธ์ระหว่างงานกบั พลังงาน ศกั ย์ยืดหยนุ่ รวมทง้ั อธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งงานของแรงลพั ธ์และพลังงานจลน์ และ คำนวณ งานท่ีเกิดขึ้นจากแรงลัพธ์ ๕. อธบิ ายกฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล รวมทง้ั วิเคราะห์และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกยี่ วข้องกับ การเคล่ือนท่ขี องวัตถใุ นสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล ๖. อธบิ ายการทำงาน ประสทิ ธิภาพและการได้เปรยี บเชงิ กลของเคร่ืองกลอยา่ งง่ายบางชนดิ โดยใช้ ความรูเ้ รอื่ งงานและสมดลุ กล รวมทงั้ คำนวณประสทิ ธภิ าพและการได้เปรียบเชงิ กล ๗. อธบิ าย และคำนวณโมเมนตมั ของวัตถแุ ละการดลจากสมการและพนื้ ทใี่ ต้กราฟ ความสมั พันธ์ ระหวา่ งแรงลพั ธ์กับเวลา รวมท้ัง อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างแรงดลกับโมเมนตัม

๑๒๖ ๘. ทดลอง อธบิ าย และคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆที่เกย่ี วกบั การชนของวัตถใุ นหนึง่ มติ ิท้งั แบบ ยดื หยุ่น ไมย่ ืดหยุ่น และการดดี ตัวแยกจากกัน ในหนึ่งมติ ซิ งึ่ เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์ โมเมนตัม ๙. อธบิ าย วิเคราะหแ์ ละคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้องกับการเคลอื่ นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ และ ทดลองการเคลอ่ื นที่แบบโพรเจกไทล์ ๑๐. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่าง แรงสู่ศนู ย์กลาง รศั มขี องการเคลื่อนที่ อัตราเร็ว เชิงเส้น อตั ราเรว็ เชงิ มุม และมวล ของวัตถุในการเคลือ่ นท่แี บบวงกลมในระนาบ ระดับ รวมท้ังคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง และประยกุ ตใ์ ช้ความรกู้ ารเคล่ือนที่ แบบวงกลมใน การอธบิ ายการโคจรของดาวเทียม รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

๑๒๗ คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ว๓๒๒๐๑ ฟสิ ิกส์ ๓ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒.๐ หน่วยกติ ศึกษาการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวัตถุติดปลายสปริงและลูกตุ้มอย่างง่าย ความถี่ ธรรมชาติของวัตถุและการเกิดการสั่นพ้อง ศึกษาหลักการของคลื่นเกี่ยวกับองค์ประกอบและการเคลื่อนท่ีของ คล่นื สมบตั ขิ องคลื่น ศึกษาการเกิดเสยี ง การเคลื่อนท่ขี องเสียง สมบัติของคลื่นเสียง การอธิบายปรากฏการณท์ ่ี เกี่ยวกับคลื่นเสียง การส่ันพ้องของเสียง บีตส์ ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์และคลื่นกระแทก การได้ยิน ความเข้ม ของเสียงและมลพิษทางเสียง ศึกษาเก่ียวกับธรรมชาติของแสง แสงเชิงฟิสิกส์ แสงเชิงเรขาคณิต กระจกเงา โค้ง การหักเหแสง เลนส์บาง การอธิบายปรากฏการณ์ ที่เกี่ยวกับคลื่นแสง และศึกษาการมองเห็นแสงสี สีของ วัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ี เรียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ การวัดและประเมินผล เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถส่ือสารส่ิงท่ีรู้ มีความสามารถใน การตัดสินใจนำความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ใน การทำงาน มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ทดลอง และอธิบายการเคล่ือนท่ีแบบฮาร์มอนกิ อยา่ งง่ายของวตั ถตุ ิดปลายสปริง และลกู ตุ้ม อย่างง่าย รวมทง้ั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ๒. อธิบายความถีธ่ รรมชาติของวตั ถุและการเกิดการสั่นพอ้ ง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ๓. อธิบายปรากฏการณ์คลื่น ชนดิ ของคลื่น สว่ นประกอบของคล่ืน การแผข่ องหน้าคลน่ื ดว้ ยหลัก การของฮอยเกนส์ และการรวมกันของคลื่นตามหลกั การซ้อนทับพร้อมทั้งคำนวณอัตราเรว็ ความถี่ ความยาวคลื่น ๔. สงั เกต และอธบิ ายการสะทอ้ น การหกั เห การแทรกสอด และการเลยี้ วเบนของคลื่นผวิ นำ้ รวมท้ังคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง ๕. อธบิ ายการเกิดเสยี ง การเคลือ่ นท่ขี องเสยี ง ความสัมพันธร์ ะหว่างคล่ืน การกระจัดของอนุภาค กับคลืน่ ความดัน ความสัมพนั ธร์ ะหว่างอตั ราเรว็ ของเสยี งในอากาศที่ข้นึ กับอุณหภมู ิในหนว่ ย องศาเซลเซียส สมบตั ิของคล่ืนเสยี ง ไดแ้ ก่ การสะท้อน การหกั เห การแทรกสอด การเล้ียวเบน รวมทั้งคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ๖. อธบิ ายความเขม้ เสียง ระดบั เสียง องค์ประกอบของการไดย้ นิ คุณภาพเสยี ง และมลพษิ ทาง เสียง รวมท้งั คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๗. ทดลอง และอธิบายการเกิดการสน่ั พ้องของอากาศในทอ่ ปลายเปิดหนึง่ ดา้ น รวมทั้งสังเกต และ อธิบายการเกิดบีตส์ คล่ืนน่งิ ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คลน่ื กระแทกของเสยี ง คำนวณปริมาณ ตา่ ง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง และนำความรู้เรอ่ื งเสียงไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน ๘. ทดลอง และอธบิ ายการแทรกสอดของแสงผา่ นสลติ คแู่ ละเกรตติง การเลี้ยวเบน และการแทรก สอดของแสงผา่ นสลติ เดย่ี ว รวมทงั้ คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง

๑๒๘ ๙. ทดลอง และอธบิ ายการสะทอ้ นของแสงท่ีผวิ วัตถุ ตามกฎการสะท้อน เขยี นรงั สีของแสง และ คำนวณตำแหนง่ และขนาดภาพของวตั ถุ เมอื่ แสงตกกระทบกระจกเงาราบ และกระจกเงา ทรงกลม รวมท้งั อธิบาย การนำความรู้เรื่องการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบ และ กระจกเงาทรงกลมไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั ๑๐. ทดลอง และอธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งดรรชนหี ักเห มมุ ตกกระทบ และมุมหกั เห รวมท้งั อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความลึกจริงและความลกึ ปรากฏ มมุ วิกฤตและการสะทอ้ นกลบั หมดของแสง และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่เี กยี่ วข้อง ๑๑. ทดลอง และเขยี นรงั สขี องแสงเพื่อแสดงภาพที่เกิดจากเลนส์บาง หาตำแหนง่ ขนาด ชนิดของ ภาพ และความสัมพันธร์ ะหวา่ งระยะวัตถรุ ะยะภาพและความยาวโฟกสั รวมทง้ั คำนวณ ปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วข้อง และอธิบายการนำความรูเ้ รื่องการหักเหของแสงผา่ นเลนสบ์ างไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ิตประจำวัน ๑๒. อธิบายปรากฏการณธ์ รรมชาติท่ีเกยี่ วกบั แสงเชน่ ร้งุ การทรงกลด มริ าจ และการเหน็ ทอ้ งฟ้า เป็นสีตา่ ง ๆ ในช่วงเวลาต่างกัน ๑๓. สังเกต และอธบิ ายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี รวมทั้ง อธบิ ายสาเหตุของการบอดสี รวมท้งั หมด ๑๓ ผลการเรยี นรู้

๑๒๙ คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม ว๓๒๒๐๒ ฟิสิกส์ ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษาและอธิบายการเกิดไฟฟ้าสถิต กฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า พลังงานศักย์ไฟฟ้า ความ จุไฟฟ้าและตัวเก็บประจุ นำความรู้เรื่องไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า ศึกษา การเคลื่อนท่ีของอิเล็กตรอนอิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำ กฎของโอห์ม สภาพต้านทาน การต่อตัว ต้านทานและสภาพนำไฟฟา้ วิเคราะหว์ งจรไฟฟา้ กระแสตรงอย่างงา่ ย ศึกษาค่าอีเอ็มเอฟของแหล่งกำเนิดไฟฟ้า กระแสตรง พลังงานไฟฟ้า และกำลังไฟฟ้า และการเปลีย่ นพลังงานทดแทนเปน็ พลังงานไฟฟ้า ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ี เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ การวัดและประเมินเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถสอ่ื สารสิ่งท่ีรู้ มีความสามารถใน การตัดสนิ ใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ทดลอง และอธิบายการทำวตั ถทุ ่เี ปน็ กลางทางไฟฟา้ ให้มปี ระจุไฟฟา้ โดยการขัดสีกัน และ การเหน่ียวนำไฟฟ้าสถิต ๒. อธบิ าย และคำนวณแรงไฟฟ้าตามกฎของคลู อมบ์ ๓. อธบิ าย และคำนวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟา้ ที่กระทำกบั อนภุ าคท่ีมีประจุไฟฟา้ ที่อยู่ในสนาม ไฟฟา้ รวมทง้ั หาสนามไฟฟ้าลัพธ์เนอื่ งจากระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์ ๔. อธิบาย และคำนวณพลงั งานศักยไ์ ฟฟา้ ศกั ย์ไฟฟ้าและความต่างศักยร์ ะหว่างสองตำแหน่งใด ๆ ๕. อธิบายสว่ นประกอบของตวั เก็บประจุความสมั พันธ์ระหวา่ งประจุไฟฟา้ ความต่างศักย์ และ ความจุของตัวเกบ็ ประจุ และอธิบายพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ และความจสุ มมูล รวมทง้ั คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ๖. นำความรู้เร่ืองไฟฟา้ สถติ ไปอธบิ ายหลกั การทำงานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าบางชนิด และปรากฏการณ์ ในชวี ิตประจำวัน ๗. อธบิ ายการเคลอ่ื นทข่ี องอเิ ลก็ ตรอนอสิ ระและกระแสไฟฟา้ ในลวดตัวนำ ความสมั พันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟา้ ในลวดตวั นำกบั ความเร็วลอยเล่ือนของอิเล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่นของ อิเล็กตรอนในลวดตัวนำ และพ้ืนท่หี นา้ ตดั ของลวดตัวนำ และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง ๘. ทดลอง และอธบิ ายกฎของโอหม์ อธบิ ายความสมั พันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว พืน้ ทห่ี นา้ ตัด และสภาพตา้ นทานของตัวนำโลหะที่อณุ หภูมิคงตัว และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องรวมทัง้ อธิบาย และคำนวณความต้านทานสมมูล เมอ่ื นำตัวต้านทานมาต่อกนั แบบ อนกุ รมและแบบขนาน ๙. ทดลอง อธิบาย และคำนวณอีเอม็ เอฟของแหล่งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทง้ั อธบิ าย และ คำนวณ พลังงานไฟฟ้า และกำลังไฟฟา้ ๑๐. ทดลอง และคำนวณอีเอม็ เอฟสมมลู จากการต่อแบตเตอร่ีแบบอนุกรมและแบบขนานรวมทง้ั คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้องในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซึง่ ประกอบดว้ ยแบตเตอรี่ และ ตัวตา้ นทาน

๑๓๐ ๑๑. อธิบายการเปลี่ยนพลงั งานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟา้ รวมทั้งสืบค้นและอภิปรายเก่ยี วกับ เทคโนโลยที ี่นำมาแกป้ ัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลงั งานไฟฟ้า โดยเน้นดา้ น ประสทิ ธิภาพ และความคุ้มค่าดา้ นค่าใชจ้ ่าย ๑๒. สังเกต และอธิบายเสน้ สนามแมเ่ หลก็ อธิบายและคำนวณฟลักซ์แมเ่ หล็กในบริเวณที่กำหนด รวมท้ังสังเกต และอธิบายสนามแม่เหลก็ ทีเ่ กิดจากกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำเส้นตรง และ โซเลนอยด์ ๑๓. อธบิ าย และคำนวณแรงแม่เหล็กทก่ี ระทำต่ออนภุ าคทมี่ ีประจุไฟฟา้ เคลือ่ นที่ในสนามแม่เหล็ก แรงแมเ่ หลก็ ทีก่ ระทำต่อเสน้ ลวดที่มกี ระแสไฟฟ้าผา่ นและวางในสนามแมเ่ หล็ก รศั มีความโค้ง ของการเคล่ือนท่ีเมื่อประจุเคลอ่ื นท่ีตั้งฉากกับสนามแมเ่ หล็ก รวมทัง้ อธบิ ายแรงระหวา่ ง เส้นลวดตัวนำคู่ขนานที่มกี ระแสไฟฟา้ ผา่ น ๑๔. อธบิ ายหลกั การทำงานของแกลแวนอมิเตอรแ์ ละมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งคำนวณ ปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ๑๕. สงั เกต และอธบิ ายการเกดิ อเี อ็มเอฟเหนยี่ วนำกฎการเหนี่ยวนำของฟาราเดย์ และคำนวณ ปริมาณต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้อง รวมทงั้ นำความร้เู ร่ืองอเี อ็มเอฟเหนี่ยวนำไปอธิบายการทำงานของ เครอื่ งใช้ไฟฟ้า ๑๖. อธิบาย และคำนวณความต่างศักย์อาร์เอ็มเอสและกระแสไฟฟา้ อารเ์ อ็มเอส ๑๗. อธิบายหลักการทำงานและประโยชน์ของเครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส การแปลง อีเอ็มเอฟของหม้อแปลง และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ๑๘. อธิบายการเกิดและลักษณะเฉพาะของ คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรสแ์ สงโพลาไรส์ เชิงเสน้ และแผ่นโพลารอยดร์ วมทัง้ อธบิ ายการนำคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้าในชว่ งความถ่ีต่าง ๆ ไปประยกุ ตใ์ ช้ และหลักการทำงานของอุปกรณท์ ี่เก่ียวข้อง ๑๙. สืบค้น และอธิบายการส่ือสารโดยอาศยั คลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ ในการส่งผ่านสารสนเทศ และ เปรียบเทียบการสื่อสารด้วยสญั ญาณอนาล็อกกบั สญั ญาณดจิ ิทัล รวมท้ังหมด ๑๙ ผลการเรยี นรู้

๑๓๑ คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม ว๓๓๒๐๑ ฟสิ ิกส์ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาสนามแมเหล็ก แรงแม่เหล็ก โมเมนตข์ องแรงคู่ควบกระทำกับขดลวดทมี่ ีกระแสไฟฟ้าผ่านเม่ืออยู่ ในสนามแม่เหล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างแมเ่ หล็กและไฟฟา หลักการของมอเตอร กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ อีเอ็ม เอฟเหน่ียวนำไฟฟากระแสสลับ การแปลงไฟฟ้ากระแสสลับเป็นไฟฟ้ากระแสตรง ความร้อน อุณหภูมิ การเปลี่ยนสถานะของสาร แก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส ของแข็ง สภาพยืดหยุ่นของของแข็ง กฎข้อหนึ่ง ของอุณหพลศาสตร์ สมบัติท่ัวไปของของไหล ความหนาแน่น ความดันในของไหล ความตึงผิว ความหนืด แรงพยุง ของไหลอุดมคติ กฎของอาร์คิมีดิส กฎของพาสคาล กฎของสโตกส์ สมการความต่อเนื่องและสมการ แบรน์ ลู ี ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่ เรียนรู้ มีความ สามารถในการตัดสินใจ เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจสามารถส่ือสารสิ่งท่ีรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ ม่ันในการทำงาน มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมทเี่ หมาะสม การวัดและประเมินผลโดยการประเมินก่อนเรียนและประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดย ประเมินจากการปฏิบัติงานจากกิจกรรม การนำเสนอผลงาน พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรม การทำงานกลมุ่ ความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน ผลการเรยี นรู้ ๑. สงั เกตและอธบิ ายเสน้ สนามแม่เหล็ก อธบิ ายและคำนวณฟลกั ซ์แม่เหลก็ ในบรเิ วณท่กี ำหนด รวมทั้ง สังเกต และอธบิ ายสนามแมเ่ หลก็ ที่เกดิ จากกระแสไฟฟ้าในลวดตวั นำเส้นตรงและโซเลนอยด์ ๒. อธิบายและคำนวณแรงแม่เหล็กที่กระทำต่ออนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้าเคล่ือนท่ีในสนามแม่เหล็ก แรง แม่เหล็กที่กระทำต่อเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมีความโค้งของ การเคลื่อนท่ีเม่ือประจเุ คล่ือนที่ตั้งฉาก กับสนามแม่เหล็ก รวมทั้งอธิบายแรงระหว่างเส้นลวดตัวนำ คขู่ นานทีม่ กี ระแสไฟฟา้ ผ่าน ๓. อธบิ ายหลกั การทำงานของแกลแวนอมิเตอรแ์ ละมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง รวมท้ังคำนวณปรมิ าณ ต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ๔. สงั เกตและอธิบายการเกดิ อีเอม็ เอฟเหนี่ยวนำ กฎการเหนี่ยวนำของฟาราเดย์ และคำนวณปรมิ าณ ต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง รวมท้ังนำความรเู้ ร่อื งอีเอม็ เอฟเหน่ียวนำไปอธบิ ายการทำงานของ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ๕. อธิบายและคำนวณความตา่ งศักยอ์ ารเ์ อม็ เอส และกระแสไฟฟา้ อาร์เอ็มเอส ๖. อธบิ ายหลักการทำงานและประโยชน์ของเครื่องกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ ๓ เฟส การแปลงอีเอ็ม เอฟของหม้อแปลง และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ ง ๗. อธบิ ายและคำนวณความร้อนทีท่ ำใหส้ สารเปลย่ี นอณุ หภูมิ ความร้อนท่ที ำให้สสารเปลี่ยนสถานะ และความรอ้ นทเ่ี กิดจากการถา่ ยโอนตามกฎการอนุรักษ์พลังงาน ๘. อธิบายกฎของแก๊สอุดมคติและคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ๙. อธบิ ายแบบจำลองของแกส๊ อดุ มคติ ทฤษฎีจลน์ของแกส๊ และอตั ราเร็วอาร์เอม็ เอสของโมเลกลุ ของ แก๊ส รวมทั้งคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง

๑๓๒ ๑๐. อธิบายและคำนวณงานท่ที ำโดยแกส๊ ในภาชนะปิดโดยความดนั คงตัว และอธิบายความสัมพันธ์ ระหวา่ งความรอ้ น พลังงานภายในระบบ และงาน รวมทงั้ คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง และ นำความรเู้ รื่องพลงั งานภายในระบบ ไปอธิบายหลักการทำงานของเครือ่ งใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ๑๑. อธบิ ายสภาพยืดหยนุ่ และลกั ษณะการยืดและหดตวั ของวัสดุท่เี ป็นแท่งเมอื่ ถูกกระทำด้วยแรงค่า ต่าง ๆ รวมทั้งทดลอง อธิบายและคำนวณความเค้นตามยาว ความเครยี ดตามยาว และมอดุลสั ของยงั และนำความร้เู รอ่ื งสภาพ ยืดหยุ่นไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ๑๒. อธิบายและคำนวณความดันเกจ ความดนั สมั บรู ณ์ และความดันบรรยากาศ รวมท้งั อธบิ าย หลักการทำงานของแมนอมิเตอร์ บารอมเิ ตอร์ และเคร่ืองอดั ไฮดรอลิก ๑๓. ทดลอง อธิบายและคำนวณขนาดแรงพยุงจากของไหล ๑๔. ทดลอง อธิบายและคำนวณความตึงผวิ ของของเหลว รวมท้ังสงั เกตและอธิบายแรงหนืดของ ของเหลว ๑๕. อธบิ ายสมบัตขิ องของไหลอดุ มคติ สมการความตอ่ เน่อื ง และสมการแบรน์ ูลลี รวมทง้ั คำนวณ ปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง และนำความรู้เก่ยี วกับสมการความตอ่ เนื่องและสมการแบร์นูลลีไป อธิบายหลกั การทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมท้ังหมด ๑๕ ผลการเรยี นรู้

๑๓๓ คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ว๓๓๒๒๒ ทักษะทางฟสิ ิกส์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายการเกิดคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า โพลาไร เซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถ่ีต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ รวมทั้งการส่ือสาร โดยอาศัยคล่นื แม่เหล็กไฟฟ้าฟิสิกส์อะตอม อะตอมและการค้นพบอิเล็กตรอน รังสีแคโทด การทดลองของทอม สัน การทดลองของมิลลิแกน แบบจำลองอะตอม แบบจำลองอะตอมของทอมสัน แบบจำลองอะตอมของ รัทเทอร์ฟอร์ด สเปกตรัมของอะตอม สเปกตรัมจากอะตอมของแก๊ส การแผ่คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าจากวัตถุดำ สมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ระดับพลังงานของอะตอม การทดลองของฟรังก์และเฮิรตซ์รังสี เอกซ์ ความไม่สมบูรณ์ของทฤษฎีอะตอมของโบร์ ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ปรากฏการณ์คอมป์ตัน สมมติฐานเดอบรอยล์ กลศาสต์ควอนตัม หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก โครงสร้างอะตอมตามแนวคิดกลศาสต์ควอนตัม ฟิสิกส์นิวเคลียร์ การค้นพบกัมมันตภาพรังสี การเปล่ียนสภาพ นิวเคลียส องค์ประกอบของนิวเคลียส การค้นพบนิวตรอน การสลายของนิวเคลียสกัมมันตรังสี ไอโซโทป เสถียรภาพของนิวเคลียส แรงนิวเคลียร์ พลังงานยึดเหนี่ยว ปฏิกิริยานิวเคลียร์ ฟิชชัน ฟิวชันประโยชน์ของ กัมมันตภาพรังสีและการใช้พลังงานนิวเคลียร์ รังสีในธรรมชาติ อันตรายจากรังสี และการป้องกัน การคน้ ควา้ วจิ ยั และประโยชน์ดา้ นฟิสกิ สอ์ นุภาค ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การอภปิ ราย การอธบิ ายและการสรุปผล เพ่ือใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มคี วามสามารถใน การตัดสินใจสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตตนเอง ตลอดจนมีจิตวิทยาศาสตร์ มีความซื่อสัตย์ สจุ รติ มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม การวัดและประเมินผลโดยการประเมินก่อนเรียนและประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดย ประเมินจากการปฏิบัติงานจากกิจกรรม การนำเสนอผลงาน พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มัน่ ในการทำงาน ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายการเกิดและลกั ษณะเฉพาะของคล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ แสงไมโ่ พลาไรส์ แสงโพลาไรสเ์ ชิงเสน้ และแผ่นโพลารอยด์ รวมทั้งอธบิ ายการนำคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าในชว่ งความถี่ต่าง ๆ ไปประยกุ ต์ใช้ และหลักการทำงานของอปุ กรณ์ท่เี ก่ียวข้อง ๒. สบื คน้ และอธบิ ายการสอ่ื สารโดยอาศัยคล่นื แม่เหล็กไฟฟ้าในการสง่ ผ่านสารสนเทศและ เปรยี บเทียบการสื่อสารดว้ ยสญั ญาณแอนะล็อกกบั สญั ญาณดิจิทัล ๓. อธิบายสมมตฐิ านของพลงั ค์ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ และการเกิดเสน้ สเปกตรัมของอะตอม ไฮโดรเจน รวมท้ังคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เก่ียวข้อง ๔. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเลก็ ทริก และคำนวณพลังงานโฟตอน พลังงานจลน์ของโฟโต อเิ ลก็ ตรอน และฟังกช์ ันงานของโลหะ ๕. อธิบายทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค รวมท้ังอธบิ ายและคำนวณความยาวคล่นื เดอบรอยล์ ๖. อธบิ ายกมั มันตภาพรงั สีและความแตกตา่ งของรังสีแอลฟา บีตาและแกมมา ๗. อธิบายและคำนวณกัมมนั ตภาพของนวิ เคลียสกัมมันตรงั สี รวมทัง้ ทดลอง อธิบาย และคำนวณ จำนวนนวิ เคลยี สกมั มันตภาพรงั สที เ่ี หลอื จากการสลาย และคร่งึ ชวี ิต

๑๓๔ ๘. อธิบายแรงนิวเคลยี ร์ เสถียรภาพของนิวเคลียส และพลงั งานยดึ เหนี่ยว รวมทั้งคำนวณปริมาณ ตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง ๙. อธิบายปฏิกิริยานิวเคลียร์ ฟชิ ชนั และฟิวชัน รวมท้ังคำนวณพลังงานนิวเคลยี ร์ ๑๐. อธบิ ายประโยชน์ของพลงั งานนิวเคลยี ร์และรังสี รวมทัง้ อนั ตรายและการปอ้ งกันรงั สีในดา้ นต่าง ๆ ๑๑. อธิบายการค้นควา้ วจิ ยั ดา้ นฟสิ ิกส์อนภุ าคแบบจำลองมาตรฐาน และการใชป้ ระโยชน์จากการ ค้นคว้าวจิ ยั ด้านฟิสกิ สอ์ นภุ าคในด้านต่าง ๆ รวมทั้งหมด ๑๑ ผลการเรยี นรู้

๑๓๕ คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม ว๓๑๒๒๓ เคมี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ศึกษาเกี่ยวกับสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายของสารเคมีในระบบ GHS และ NFPA ข้อควร ปฏิบัติการเคมี ทั้งก่อนทำปฏิบตั ิการ ขณะทำปฏิบัตกิ าร และหลงั ทำปฏิบัติการ การกำจัดสารเคมี และการปฐม พยาบาลเม่ือได้รับอุบัติเหตุจากสารเคมี ศึกษาการพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้จากการวัดจากความ เท่ียงและความแม่น อุปกรณ์วัดปริมาตรและวัดมวล เลขนัยสำคัญ หน่วยวัดในระบบเอสไอ แฟกเตอร์ เปลี่ยนหน่วย รวมทั้งวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ ศึกษาแบบจำลอง อะตอมของดอลตัน ทอมสัน รัทเทอร์ฟอร์ด โบร์ และแบบกลุ่มหมอก เขียนและแปลความหมายสัญลักษณ์ นวิ เคลียร์ของธาตุ เลขอะตอม เลขมวล ไอโซโทป เขยี นการจดั เรียงอิเล็กตรอนในอะตอม ศึกษาความหมายของ ระดับพลังงานของอิเล็กตรอน ออร์บิทัล เวเลนซ์อิเล็กตรอน วิวฒั นาการของการสรา้ งตารางธาตุและตารางธาตุ ในปัจจุบัน แน้วโน้มสมบัติบางประการของธาตุในตารางธาตุตามหมู่และตามคาบเก่ียวกับขนาดอะตอม ขนาด ไอออน พลังงานไอออไนเซชัน สัมพรรคภาพอิเล็กตรอน อิเล็กโทรเนกาติวิตี ศึกษาสมบัติของธาตุแทรนซิชัน ธาตุกัมมันตรงั สี การเกิดกัมมันตภาพรังสี การสลายตัวและอันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสี คำนวณคร่ึงชีวิต ของธาตุกัมมันตรังสี ศึกษาปฏิกิริยา นิวเครียร์และเทคโนโลยีที่เก่ียวข้องกับการใช้สารกัมมันตรังสี การนำ ธาตุไปใชป้ ระโยชน์ รวมท้งั ผลกระทบต่อส่ิงมีชวี ิตและสิ่งแวดลอ้ ม ศึกษาพันธะเคมี สัญลกั ษณแ์ บบจุดของลิวอิส และกฎออกเตต การเกิดพันธะไอออนิก สูตรเคมีและช่ือของสารประกอบไอออนิก พลังงานกั บการเกิด สารประกอบไอออนิก สมบัตขิ องสารประกอบไอออนกิ สมการไอออนิกและสมการไอออนกิ สุทธิ การเกิดพันธะ โคเวเลนต์ โครงสร้างลิวอิส สูตรโมเลกุลและช่ือของสารโคเวเลนต์ ความยาวและพลังงานพันธะ เรโซแนนซ์ การคำนวณพลังงานพันธะและพลังงานของปฏิกิริยารูปร่างและสภาพข้ัวของโมเลกุลโคเวเลนต์ แรงยึดเหนี่ยว ระหว่างโมเลกุลและสมบัติของสารโคเวเลนต์ สาร โคเวเลนต์โครงร่างตาข่าย การเกิดพันธะโลหะและ สมบตั ขิ องโลหะ และการนำสารประกอบชนิดต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธบิ าย อภิปรายและสรปุ เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตดั สินใจ มีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้าน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการ คิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม การวัดและประเมินผล สังเกตการณ์ทำงานกลุ่ม การนำเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมแบบกลุ่ม แบบประเมินรายงานการทดลอง แบบประเมินช้ินงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียนc และหลังเรยี น การอ่าน คิดวิเคราะห์ เขยี น สมรรถนะสำคัญ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สรุปองคค์ วามรู้ ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกและอธบิ ายขอ้ ปฏิบตั เิ บอื้ งต้น และปฏบิ ตั ติ น ที่แสดงถึงความตระหนกั ในการทำปฏิบัติ การเคมี เพื่อใหม้ ีความปลอดภยั ทัง้ ต่อตนเอง ผูอ้ ื่นและสง่ิ แวดลอ้ ม และเสนอแนวทางแกไ้ ข เม่อื เกดิ อบุ ัติเหตุ ๒. เลือก และใช้อุปกรณ์หรือเครอื่ งมือในการทำ ปฏบิ ัตกิ าร และวัดปรมิ าณต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ๓. นำเสนอแผนการทดลอง ทดลองและเขยี น รายงานการทดลอง ๔. ระบุหน่วยวดั ปริมาณตา่ ง ๆ ของสาร และเปลี่ยนหนว่ ยวดั ใหเ้ ป็นหนว่ ยในระบบเอสไอดว้ ยการใช้ เเฟกเตอรเ์ ปล่ียนหนว่ ย

๑๓๖ ๕. สบื คน้ ข้อมูลสมมติฐาน การทดลอง หรือ ผลการทดลองที่เป็นประจักษ์พยานในการเสนอ แบบจำลองอะตอมของนักวิทยาศาสตร์ และอธิบายววิ ฒั นาการของแบบจำลองอะตอม ๖. เขยี นสญั ลักษณน์ วิ เคลยี รข์ องธาตแุ ละระบุ จำนวนโปรตอน นวิ ตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอม จากสญั ลักษณน์ ิวเคลียร์รวมท้งั บอก ความหมายของไอโซโทป ๗. อธิบาย และเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลงั งานหลักและระดับพลังงานย่อย เมื่อทราบ เลขอะตอมของธาตุ ๘. ระบุหมคู่ าบ ความเปน็ โลหะ อโลหะ และ ก่ึงโลหะ ของธาตุเรพรเี ซนเททฟี และธาตุแทรนซิชันใน ตารางธาตุ ๙. วเิ คราะหแ์ ละบอกแนวโนม้ สมบตั ขิ องธาตเุ รพรเี ซนเททีฟตามหมูแ่ ละตามคาบ ๑๐. บอกสมบตั ิของธาตโุ ลหะแทรนซิชันและเปรียบเทียบสมบตั ิกับธาตุโลหะในกลมุ่ ธาตุเรพรีเซนเททีฟ ๑๑. อธิบายสมบตั แิ ละคำนวณคร่ึงชีวิตของไอโซโทป กัมมันตรงั สี ๑๒. สบื ค้นข้อมลู และยกตัวอยา่ งการนำธาตุ มาใชป้ ระโยชนร์ วมท้งั ผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิตและ ส่งิ แวดล้อม ๑๓. อธบิ ายการเกดิ ไอออนและการเกิดพนั ธะ ไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรือสัญลกั ษณ์แบบจดุ ของ ลวิ อสิ ๑๔. เขียนสตู ร และเรียกชอ่ื สารประกอบไอออนกิ ๑๔. คำนวณพลงั งานทเ่ี กีย่ วข้องกับปฏิกริ ิยาการเกดิ สารประกอบไอออนิกจากวฏั จกั รบอรน์ -ฮาเบอร์ ๑๖. อธิบายสมบัติของสารประกอบไอออนิก ๑๗. เขียนสมการไอออนกิ และสมการไอออนิกสุทธิของปฏกิ ิรยิ าของสารประกอบไอออนิก ๑๘. อธิบายการเกดิ พนั ธะโคเวเลนต์แบบพนั ธะเด่ียว พันธะคู่และพันธะสาม ดว้ ยโครงสร้างลวิ อิส ๑๙. เขยี นสตู ร และเรยี กชื่อสารโคเวเลนต์ ๒๐. วิเคราะห์และเปรียบเทยี บความยาวพนั ธะ และพลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์รวมทั้งคำนวณ พลงั งานทเี่ กย่ี วขอ้ งกับปฏกิ ิริยาของสารโคเวเลนต์จากพลังงานพันธะ ๒๑. คาดคะเนรูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนตโ์ ดยใชท้ ฤษฎกี ารผลกั ระหวา่ งค่อู ิเลก็ ตรอนในวงเวเลนซแ์ ละ ระบุสภาพขั้วของโมเลกุลโคเวเลนต์ ๒๒. ระบุชนดิ ของแรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งโมเลกุล โคเวเลนตแ์ ละเปรียบเทียบจดุ หลอมเหลว จุดเดอื ด และการละลายน้ำของสารโคเวเลนต์ ๒๓. สบื คน้ ขอ้ มูล และอธิบายสมบตั ิของ สารโคเวเลนตโ์ ครงรา่ งตาข่ายชนิดตา่ ง ๆ ๒๔. อธบิ ายการเกดิ พันธะโลหะและสมบัตขิ องโลหะ ๒๕. เปรยี บเทยี บสมบตั ิบางประการของสารประกอบไอออนิกสารโคเวเลนตแ์ ละโลหะ สืบค้นขอ้ มูล และนำเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนิกสารโคเวเลนต์และโลหะไดอ้ ย่าง เหมาะสม รวมทั้งหมด ๒๕ ผลการเรียนรู้

๑๓๗ คำอธิบายรายวิชาเพิม่ เติม ว๓๑๒๒๔ เคมี ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต แปลความหมายสัญลักษณ์ในสมการเคมี เขียนและดุลสมการเคมีของปฏิกิริยาเคมีบางชนิด คำนวณ ปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมีท่ีเก่ียวข้องกับมวลสารคำนวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวข้องกับ ความเข้มข้นของสารละลายคำนวณปรมิ าณของสารในปฏิกิริยาเคมีทีเ่ กี่ยวข้องกับปริมาตรแก๊ส คำนวณปริมาณ ของสารในปฏิกิรยิ าเคมีหลายข้ันตอน ระบุสารกำหนดปริมาณ และคำนวณปริมาณสารต่าง ๆ ในปฏิกิริยาเคมี คำนวณผลได้ร้อยละของผลิตภัณฑ์ในปฏิกิริยาเคมี บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ และคำนวณมวล อะตอมเฉลี่ยของธาตุ มวลโมเลกุลและมวลสูตร อธิบายและคำนวณปริมาณใดปริมาณหนึ่งจากความสัมพันธ์ ของโมล จำนวนอนุภาค มวล และปรมิ าตรของแก๊สที่ STP คำนวณอัตราส่วนโดยมวลของธาตุองคป์ ระกอบของ สารประกอบตามกฎสัดส่วนคงที่คำนวณสูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกุลของสาร คำนวณความเข้มข้นของ สารละลายในหนว่ ยต่าง ๆ อธบิ ายวิธีการและเตรียมสารละลายให้มีความเขม้ ขน้ ในหน่วยโมลาริตี และปรมิ าตร สารละลายตามท่กี ำหนดเปรียบเทยี บจุดเดือดและจุดเยือกแข็งของสารละลายกับสารบริสุทธิ์ รวมท้งั คำนวณจุด เดอื ดและจุดเยอื กแขง็ ของสารละลาย ใช้กระบวนการ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสบื ค้นขอ้ มูลและการอภิปราย การวัดและประเมินผลเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหาการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. บอกความหมายสญั ลกั ษณใ์ นสมการเคมี เขียนและดลุ สมการเคมีของปฏกิ ิรยิ าเคมีบางชนิดได้ ๒. คำนวณปริมาณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมีทเ่ี ก่ยี วข้องกับมวลสารได้ ๓. คำนวณปริมาณของสารในปฏิกริ ิยาเคมที ่เี กี่ยวขอ้ งกับความเขม้ ขน้ ของสารละลายได้ ๔. คำนวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมที เ่ี ก่ียวข้องกับปรมิ าตรแกส๊ ได้ ๕. คำนวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมีหลายข้ันตอนได้ ๖. ระบุสารกำหนดปรมิ าณ และคำนวณปริมาณสารต่าง ๆ ในปฏกิ ริ ยิ าเคมไี ด้ ๗. คำนวณผลไดร้ ้อยละของผลติ ภัณฑใ์ นปฏิกิริยาเคมีได้ ๘. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ คำนวณมวลอะตอมเฉล่ยี ของธาตุ มวลโมเลกลุ มวลสูตรได้ ๙. อธิบาย และคำนวณปริมาณใดปรมิ าณหน่งึ จากความสมั พันธข์ องโมล จำนวนอนุภาค มวล และปริมาตรของแก๊สท่ี STP ได้ ๑๐. คำนวณอตั ราสว่ นโดยมวลของธาตุองคป์ ระกอบของสารประกอบตามกฎสัดสว่ นคงที่ได้ ๑๑. คำนวณสูตรอย่างง่ายและสตู รโมเลกุลของสารได้ ๑๒. คำนวณความเข้มข้นของสารละลายในหน่วยต่าง ๆ ได้ ๑๓. อธบิ ายวธิ ีการ และเตรียมสารละลายใหม้ ีความเข้มข้นในหนว่ ยโมลาริตี และปรมิ าตรสาร สารละลายตามท่ีกำหนดได้ ๑๔. เปรียบเทยี บจุดเดอื ดและจดุ เยือกแขง็ ของสารละลายกบั สารบรสิ ุทธร์ิ วมท้งั คำนวณจุดเดือด และจุดเยอื กแขง็ ของสารละลายได้ รวมทั้งหมด ๑๕ ผลการเรยี นรู้

๑๓๘ คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ว๓๒๒๒๑ เคมี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศึกษาสมบัติของของแข็ง การจัดเรียงอนุภาคของของแข็ง ชนิดของผลึก การเปลี่ยนสถานะของ ของแข็ง สมบัติของของเหลว ความตึงผิว การระเหย ความดันไอกับจุดเดือดของของเหลว สมบัติของแก๊ส ความสัมพันธ์ของปริมาตร ความดัน และอุณหภูมิของแก๊สตามกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎรวมแก๊ส กฎแก๊สสมบูรณ์ การแพร่ของแก๊ส เทคโนโลยีท่ีเกี่ยวข้องกับสมบัติของของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ศึกษา วิเคราะห์ความหมายของอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี แนวคิดเก่ียวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี พลังงานกับ การดำเนินไปของปฏิกิริยาเคมี ปัจจัยท่ีมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ความเข้มข้นของสารกับอัตรา การเกิดปฏิกิริยาเคมี พ้ืนท่ีผิวของสารกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี อุณหภูมิกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวเร่งและตัวหน่วงปฏิกิริยาเคมี การเปลี่ยนแปลงท่ีผันกลับได้ การเปล่ียนแปลงที่ทำให้เกิดภาวะสมดุล สมดุล ในปฏิกิริยาเคมี ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่าง ๆ ณ ภาวะสมดุล ค่าคงท่ีสมดุลกับสมการเคมี การคำนวณเกี่ยวกับค่าคงท่ีสมดุล ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุล การเปลี่ยนความเข้มข้น การเปลี่ยนความดัน และอุณหภูมิ หลักของเลอชาเตอลิเอ การใช้หลักของเลอชาเตอลิเอในอุตสาหกรรม สมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและ ส่ิงแวดล้อม ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล บันทึก จดั กลมุ่ ขอ้ มลู และอภิปราย การวัดและประเมินผล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ เหน็ คุณค่าของการนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายความสมั พันธ์และคำนวณปรมิ าตรความดัน หรอื อุณหภมู ขิ องแก๊สท่ีภาวะตา่ ง ๆ ตามกฎ ของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย–์ ลสู แซก ๒. คำนวณปริมาตร ความดนั หรืออุณหภูมขิ องแก๊สทภ่ี าวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแก๊ส ๓. คำนวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จำนวนโมลหรอื มวลของแกส๊ จากความสมั พนั ธ์ตามกฎของ อาโวกาโดร และกฎแก๊สอดุ มคติ ๔. คำนวณความดันย่อยหรอื จำนวนโมลของแกส๊ ในแกส๊ ผสม โดยใช้กฎความดันย่อยของดอลตนั ๕. อธิบายการแพร่ของแกส๊ โดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คำนวณและเปรยี บเทยี บอัตราการแพร่ของ แกส๊ โดยใชก้ ฎการแพรผ่ า่ นของเกรแฮม ๖. สบื คน้ ข้อมูล นำเสนอตัวอยา่ ง และอธบิ ายการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้เกย่ี วกับสมบัตแิ ละกฎต่าง ๆ ของแก๊สในการอธบิ ายปรากฏการณ์ หรือแกป้ ญั หาในชีวิตประจำวนั และในอุตสาหกรรม ๗. ทดลอง และเขียนกราฟการเพมิ่ ขึ้นหรือลดลงของสารทท่ี ำการวดั ในปฏิกริ ิยา ๘. คำนวณอัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี และเขียนกราฟการลดลงหรอื เพิ่มขึ้นของสารทีไ่ มไ่ ด้วดั ในปฏิกิรยิ า ๙. เขียนแผนภาพ และอธบิ ายทศิ ทางการชนกนั ของอนภุ าคและพลังงานท่ีส่งผลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี ๑๐. ทดลอง และอธิบายผลของความเข้มข้น พืน้ ท่ีผิวของสารต้ังตน้ อุณหภูมิ และตวั เรง่ ปฏกิ ริ ิยาท่ี มตี ่ออัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี

๑๓๙ ๑๑. เปรียบเทยี บอัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเมอื่ มกี ารเปล่ียนแปลงความเขม้ ข้น พื้นทผี่ วิ ของสารต้ังตน้ อุณหภูมิ และตวั เร่งปฏกิ ิรยิ า ๑๒. ยกตวั อย่าง และอธิบายปจั จัยทมี่ ผี ลตอ่ อัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมใี นชวี ิตประจำวันหรือ อตุ สาหกรรม ๑๓. ทดสอบ และอธบิ ายความหมายของปฏิกริ ิยาผนั กลับได้และภาวะสมดลุ ๑๔. อธบิ ายการเปลยี่ นแปลงความเขม้ ข้นของสาร อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าไปข้างหน้า และอตั รา การเกิดปฏกิ ริ ิยาย้อนกลบั เมือ่ เร่ิมปฏกิ ิริยาจนกระท่ังระบบอยใู่ นภาวะสมดุล ๑๕. คำนวณคา่ คงท่ีสมดลุ ของปฏกิ ิริยา ๑๖. คำนวณความเขม้ ข้นของสารที่ภาวะสมดลุ ๑๗. คำนวณค่าคงทส่ี มดลุ หรอื ความเข้มขน้ ของปฏิกิริยาหลายขน้ั ตอน ๑๘. ระบุปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดลุ และค่าคงทีส่ มดุลของระบบ รวมท้ังคาดคะเนการเปล่ียนแปลง ทเ่ี กิดข้ึนเม่ือภาวะสมดลุ ของระบบถูกรบกวน โดยใช้หลักของเลอชาเตอลเิ อ รวมท้ังหมด ๑๘ ผลการเรียนรู้

๑๔๐ คำอธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม ว๓๒๒๒๒ เคมี ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง จำนวน ๒.๐ หน่วยกิต ศึกษาสารละลายอิเล็กโทรไลต์และนอนอิเล็กโทรไลต์ สารละลายกรดและสารละลายเบส ไอออนใน สารละลายกรด ไอออนในสารละลายเบส ทฤษฎีกรด – เบส คู่กรด – เบส การแตกตัวของกรดและเบส การแตกตัวของกรดแก่และเบสแก่ การแตกตัวของกรดอ่อน การแตกตัวของเบสอ่อน การแตกตัวเป็นไอออน ของน้ำ การเปล่ียนความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนและไฮดรอกไซด์ไอออนในน้ำ pH ของสารละลาย อินดิเคเตอร์สำหรับกรด – เบส สารละลายกรด – เบสในชีวิตประจำวันและในส่ิงมีชีวิต ปฏิกิริยาของกรดและ เบส ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส ปฏิกิริยาของกรดหรือเบสกับสารบางชนิด ปฏิกิริยาไฮโดรไลซิส การไทเทรต กรด – เบส การประยกุ ต์ใชว้ ธิ กี ารไทเทรตในชวี ิตประจำวัน สารละลายบฟั เฟอร์ ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมูล บนั ทึก จัดกล่มุ ข้อมูล และอภิปราย การวัดและประเมินผลเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ เหน็ คุณคา่ ของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจติ วิทยาศาสตร์ คณุ ธรรมจริยธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ระบุ และอธิบายว่าสารเปน็ กรดหรอื เบส โดยใชท้ ฤษฎีกรด–เบสของอารเ์ รเนยี ส เบรินสเตด – ลาวรี และลวิ อิส ๒. ระบุคกู่ รด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด-ลาวรี ๓. คำนวณ และเปรยี บเทียบความสามารถ ในการแตกตัวหรอื ความแรงของกรดและเบส ๔. คำนวณคา่ pH ความเขม้ ขน้ ของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซดไ์ อออนของสารละลาย กรด และเบส ๕. เขยี นสมการเคมีแสดงปฏกิ ิรยิ าสะเทิน และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลาย หลงั การสะเทิน ๖. เขียนปฏิกริ ยิ าไฮโดรลซิ ิสของเกลอื และระบุความเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ ๗. ทดลอง และอธิบายหลักการการไทเทรต และเลอื กใช้อนิ ดิเคเตอร์ทีเ่ หมาะสมสำหรับ การไทเทรตกรด – เบส ๘. คำนวณปรมิ าณสารหรือความเข้มข้นของสารละลายกรดหรอื เบสจากการไทเทรต ๙. อธบิ ายสมบตั ิ องคป์ ระกอบ และประโยชนข์ องสารละลายบฟั เฟอร์ ๑๐. สบื คน้ ข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างการใชป้ ระโยชน์และการแก้ปัญหาโดยใชค้ วามร้เู กี่ยวกบั กรด - เบส รวมทั้งหมด ๑๘ ผลการเรียนรู้

๑๔๑ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม ว๓๒๒๒๓ เคมี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษา ทดลอง และเขียนกราฟการเพ่ิมข้ึนหรือลดลงของสารท่ีทำการวัดในปฏิกิริยาคำนวณอัตรา การเกิดปฏิกิริยาเคมี และเขียนกราฟการลดลงหรือเพ่ิมข้ึนของสารที่ไม่ได้วัดในปฏิกิริยา เขียนแผนภาพและ อธิบายทิศทางการชนกันของอนุภาคและพลังงานท่ีส่งผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ทดลอง และอธิบายผล ของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารต้ังต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้น พ้ืนที่ผิวของสารต้ังต้น อุณหภูมิ และ ตัวเร่งปฏิกิริยา ยกตัวอย่างและอธิบายปัจจัยท่ีมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวันหรือ อุตสาหกรรม ทดสอบและอธิบายความหมายของปฏิกิริยาผันกลับได้และภาวะสมดุล อธิบายการเปลี่ยนแปลง ความเข้มข้นของสารอัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า และอัตราการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับเมื่อเร่ิมปฏิกิริยา จนกระทัง่ ระบบอยู่ในภาวะสมดุล คำนวณค่าคงที่สมดลุ ของปฏกิ ิริยาคำนวณความเขม้ ขน้ ของสารทภ่ี าวะสมดุล คำนวณค่าคงท่ีสมดุลหรือความเข้มข้นของปฏิกิริยาหลายขั้นตอนระบุปัจจัยท่ีมีผลต่อภาวะสมดุล และค่าคงที่ สมดุลของระบบรวมทั้งคาดคะเนการเปลี่ยนแปลงท่ีเกดิ ขนึ้ เมอ่ื ภาวะสมดุลของระบบถูกรบกวน โดยใช้หลักของ เลอชาเตอลิเอยกตัวอย่าง และอธิบายสมดลุ เคมขี องกระบวนการท่เี กิดข้ึนในส่ิงมีชีวิตปรากฏการณ์ในธรรมชาติ และกระบวนการในอุตสาหกรรม ระบุและอธิบายว่าสารเป็นกรดหรือเบสโดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอารเ์ รเนียส เบรินสเตด - ลาวรี และลิวอิส ระบุคู่กรด - เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด - ลาวรี คำนวณ และเปรียบเทียบความสามารถในการแตกตัวหรือ ความแรงของกรดและเบส คำนวณค่า pHความเข้มข้นของ ไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรดและเบสเขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาสะเทิน และระบุความเป็นกรด - เบสของสารละลายหลังการสะเทินเขียนปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเกลือ และระบุความ เป็นกรด - เบสของสารละลายเกลือ ทดลองและอธิบายหลักการไทเทรต และเลือกใช้อินดิเคเตอร์ท่ีเหมาะสม สำหรบั การไทเทรตกรด - เบสคำนวณปรมิ าณสารหรือความเข้มข้นของสารละลายกรดหรอื เบสจากการไทเทรต อธิบายสมบัติ องค์ประกอบและประโยชน์ของสารละลายบัฟเฟอร์ สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างการใช้ ประโยชนแ์ ละการแก้ปัญหาโดยใชค้ วามรูเ้ กี่ยวกับกรด - เบส ใช้กระบวนการ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบค้นข้อมลู และการอภปิ ราย การวัดและประเมินผล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหาการนำความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ทดลอง และเขยี นกราฟการเพิม่ ข้นึ หรือลดลงของสารท่ีทำการวดั ในปฏิกริ ยิ าได้ ๒. คำนวณอัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี และเขยี นกราฟการลดลงหรือ เพ่ิมขน้ึ ของสารทไี่ ม่ได้วดั ใน ในปฏกิ ริ ิยาได้ ๓. เขียนแผนภาพ อธบิ ายทิศทางการชนกันของอนภุ าค พลังงานท่สี ่งผลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีได้ ๔. ทดลอง และอธิบายผลของความเข้มขน้ พืน้ ทผ่ี ิวของสารตัง้ ต้น อุณหภมู ิ และตวั เร่งปฏกิ ริ ยิ าทมี่ ี ตอ่ อตั ราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมไี ด้ ๕. เปรียบเทียบอตั ราการเกิดปฏกิ ิริยาเมอื่ มกี ารเปลีย่ นแปลงความเข้มขน้ พ้ืนที่ผิวของสารตัง้ ต้น อุณหภมู ิ และตวั เร่งปฏิกริ ยิ าได้

๑๔๒ ๖. ยกตัวอย่าง และอธิบายปัจจยั ทีม่ ผี ลตอ่ อัตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมีในชวี ติ ประจำวันหรอื อตุ สาหกรรมได้ ๗. อธบิ ายความหมายของปฏกิ ิริยาผันกลบั ไดแ้ ละภาวะสมดลุ อธิบายการเปลีย่ นแปลงความเข้มขนั ของสารอตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาไปข้างหนา้ และอตั ราการเกดิ ปฏิกิริยายอ้ นกลับเมอื่ เร่ิมปฏกิ ริ ยิ า จนกระทง่ั ระบบอยูใ่ นภาวะสมดลุ ได้ ๘. คำนวณค่าคงทีส่ มดลุ ของปฏิกริ ยิ าได้ ๙. คำนวณความเข้มขน้ ของสารทภี่ าวะสมดุลได้ ๑๐. คำนวณคา่ คงที่สมดลุ หรือความเข้มขน้ ของปฏิกิริยาหลายขัน้ ตอนได้ ๑๑. ระบปุ จั จัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลและค่าคงทส่ี มดลุ ของระบบรวมท้ังคาดคะเนการเปลี่ยนแปลง ทเี่ กิดขนึ้ เมื่อภาวะสมดลุ ของระบบถูกรบกวน โดยใชห้ ลกั ของเลอชาเตอลิเอได้ ๑๒. อธิบายและยกตัวอยา่ งสมดลุ เคมีของกระบวนการท่ีเกดิ ขนึ้ ในสิ่งมีชีวติ ปรากฏการณ์ในธรรมชาติ และกระบวนการในอตุ สาหกรรมได้ ๑๓. ระบุ และอธิบายวา่ สารเปน็ กรดหรือเบสโดยใช้ทฤษฎกี รด-เบสของอารเ์ รเนียส เบรินสเตด - ลาวรี และลวิ อิสได้ ๑๔. ระบุคู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด – เบสของเบรินสเตด - ลาวรีได้ ๑๕. คำนวณ และเปรียบเทยี บความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดและเบสได้ ๑๖. คำนวณค่า pH ความเขม้ ขน้ ของไฮโดรเนยี มไอออนหรอื ไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลาย กรด-เบสได้ ๑๗. เขยี นสมการเคมแี สดงปฏกิ ริ ยิ าสะเทิน และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลาย หลงั การสะเทนิ ได้ ๑๘. เขยี นปฏิกิรยิ าไฮโดรลิซิสของเกลอื และระบุความเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลอื ได้ ๑๙. ทดลอง และอธิบายหลักการไทเทรต และเลอื กใชอ้ ินดิเคเตอร์ทีเ่ หมาะสมสำหรับการไทเทรต กรด - เบสได้ ๒๐. คำนวณปรมิ าณสารหรอื ความเขม้ ข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรตได้ ๒๑. อธิบายสมบัติ องค์ประกอบ และประโยชน์ของสารละลายบฟั เฟอร์ได้ ๒๒. สืบคน้ ข้อมลู และนำเสนอตัวอยา่ งการใช้ประโยชนแ์ ละการแก้ปญั หาโดยใช้ความรเู้ กย่ี วกบั กรด – เบสได้ รวมทั้งหมด ๒๒ ผลการเรยี นรู้

๑๔๓ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม ว๓๒๒๒๔ เคมี ๔ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษาอธิบายความสัมพันธ์และคำนวณปริมาตรความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สท่ีภาวะต่าง ๆ ตามกฎ ของบอยล์กฎของชาร์ล กฎของเกย์-ลูสแซก คำนวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สท่ีภาวะต่าง ๆ ตาม กฎรวมแก๊สคำนวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จำนวนโมลหรือมวลของแก๊ส จากความสัมพันธ์ตามกฎ ของอาโวกาโดรและกฎแก๊สอุดมคติ คำนวณความดันย่อยหรือจำนวนโมลของแก๊สในแก๊สผสม โดยใช้กฎความ ดนั ย่อยของดอลตันอธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คำนวณและเปรียบเทียบอตั ราการแพร่ ของแก๊สโดยใช้กฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม สืบค้นข้อมูล นำเสนอตัวอย่างและอธิบายการประยุกต์ใช้ความรู้ เก่ียวกับสมบัติและกฎต่าง ๆ ของแก๊สในการอธิบายปรากฏการณ์หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันและใน อุตสาหกรรม คำนวณเลขออกซิเดชัน และระบุปฏิกิริยาที่เป็นปฏิกิริยารีดอกซ์วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงเลข ออกซิเดชัน และรุบตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์รวมท้ังเขยี นคร่ึงปฏิกิริยาออกซเิ ดชันและคร่งึ ปฏกิ ิริยารีดกั ชันของ ปฏิกิริยารีดอกซ์ ทดลองและเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ และเขียนแสดง ปฏิกิริยารีดอกซ์ดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลขออกซิเดชันและวิธีครึ่งปฏิกิริยา ระบุองค์ประกอบของเซลล์ เคมีไฟฟ้าและเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาท่ีแอโนดและแคโทด ปฏิกิริยารวม และแผนภาพเซลล์ คำนวณค่า ศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้าและปฏิกิริยาเคมีท่ีเกิดขึ้นอธิบาย หลักการทำงาน และเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทุติยภูมิ ทดลองชุบโลหะและแยก สารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วย กระแสไฟฟ้า การทำโลหะให้บริสุทธ์ิ และการป้องกันการกัดกร่อนของโลหะ สืบค้นข้อมลู และนำเสนอตัวอย่าง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เก่ียวขอ้ งกับเซลล์เคมไี ฟฟ้าในชีวิตประจำวัน ใช้กระบวนการ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และ ทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบคน้ ขอ้ มลู และการอภิปราย การวัดและประเมินผล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ื อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหาการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายความสัมพนั ธแ์ ละคำนวณปริมาตรความดนั หรืออุณหภูมิของแกส๊ ท่ภี าวะต่าง ๆ ตาม กฎของบอยล์ กฎของชารล์ กฎของเกย์-ลสู แซกได้ ๒. คำนวณปรมิ าตร ความดัน หรอื อุณหภมู ขิ องแกส๊ ทีภ่ าวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแก๊สได้ ๓. คำนวณปริมาตร ความดนั อุณหภูมิ จำนวนโมลหรอื มวลของแกส๊ จากความสมั พันธ์ตามกฎของ อาโวกาโดร และกฎแกส๊ อุดมคติได้ ๔. คำนวณความดนั ย่อยหรือจำนวนโมลของแก๊สในแกส๊ ผสม โดยใช้กฎความดนั ย่อยของ ดอลตนั ได้ ๕. อธบิ ายการแพร่ของแกส๊ โดยใชท้ ฤษฎจี ลน์ของแก๊ส คำนวณและเปรียบเทยี บอัตราการแพร่ ของแก๊สโดยใช้กฎการแพรผ่ า่ นของเกรแฮมได้ ๖. สืบคน้ ขอ้ มลู นำเสนอตัวอย่าง และอธบิ ายการประยุกตใ์ ชค้ วามร้เู ก่ียวกบั สมบตั ิและกฎตา่ ง ๆ ของแก๊สในการอธิบายปรากฏการณ์ หรอื แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวันและในอตุ สาหกรรมได้ ๗. คำนวณเลขออกซเิ ดชัน และระบปุ ฏิกิรยิ าท่ีเปน็ ปฏิกริ ยิ ารีดอกซไ์ ด้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook