Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุมชนเข้มแข็ง ประเทศมั่นคง

ชุมชนเข้มแข็ง ประเทศมั่นคง

Description: ประสบการณ์การเรียนรู้ในพื้นที่ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งนายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เขียนเผยแพร่ทาง Face Book 2562-64 มาตามลำดับ

Keywords: อำพล จินดาวัฒนะ

Search

Read the Text Version

1

2

3

คำนำ 4 นายแพทยอ์ ำพล จนิ ดาวฒั นะ ผมเรียนจบไปทำงานในชนบทเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ได้เห็น ได้เรียนรู้ความเป็นไป และ พฒั นาการของชมุ ชนทอ้ งถิ่นมาตลอดชวี ิต ไดท้ ำงานด้านสาธารณสุข ดา้ นการพฒั นาคน ดา้ น สังคม และด้านวิชาการท่ีมีสว่ นหนนุ เสริมการพัฒนาชุมชนทอ้ งถิน่ เรอ่ื ยมา จนกระทั่งในช่วง 20 ปีหลัง มีโอกาสทำงานปฏิรูประบบสุขภาพ ทำให้ได้ทำงานเชื่อมโยงกบั ภาคเี ครือข่ายต่างๆทัว่ ประเทศ ทง้ั จากภาคชมุ ชน ภาครัฐ และภาคส่วนอ่ืนๆกวา้ งขวางมากข้ึน ปี 2557 มีโอกาสเข้าไปทำงานใน “สภาปฏิรูปแห่งชาติ” (สปช.) ในฐานะประธาน คณะกรรมาธิการปฏิรูปด้านสังคม จึงได้ร่วมกันกับภาคีต่างๆ จัดทำ “ข้อเสนอการปฏิรูป ระบบสรา้ งเสรมิ ชมุ ชนเขม้ แขง็ ” ด้วยเลง็ เห็นรว่ มกนั ว่า “ชุมชนเข้มแข็ง” นนั้ คือคำตอบของการพัฒนาประเทศใหม้ ัน่ คง หากพัฒนาประเทศโดยปลอ่ ยให้ฐานของสังคมอ่อนแอ ประเทศกอ็ อ่ นแอตามไปด้วย การพัฒนาประเทศช่วงที่ผ่านๆมา มักให้ความสำคัญกับการพัฒนารายสาขา และการพัฒนา ข้างบนมากกวา่ ข้างลา่ ง ข้อเสนอการปฏิรูประบบสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง ได้ถูกผลักดันผ่านสภาขับเคลื่อนการปฏิรปู ประเทศ (สปท.) ในหว้ งเวลาถดั มา จนกระทั่งถึงปี 2561 ข้อเสนอเหล่านั้นได้ไปปรากฎอยู่ในแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ ด้านสังคม ประเด็นว่าด้วย “การปฏิรูประบบสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง” ซึ่งมีทั้งแผนการ ปฏิรูปเชิงประเด็น 4 ด้าน และแผนการปฏิรปู เชิงพื้นที่ ซึ่งได้กำหนดการปฏริ ูป “ระบบสร้าง เสริมตำบลเขม้ แขง็ ” ไวเ้ ปน็ เปา้ หมายสำคัญ

5 นอกจากนีใ้ นรฐั ธรรมนูญปี 2560 และในยทุ ธศาสตร์ชาติด้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอ ภาคทางสงั คม และแผนแมบ่ ทดา้ นความมนั่ คง กไ็ ดก้ ำหนดเร่อื งชุมชนเขม้ แขง็ ไว้อยา่ งชดั เจน จนกล่าวได้ว่า เรื่อง “ชุมชนเข้มแข็ง” เป็นประเด็นร่วมที่สังคมทุกภาคส่วนยอมรับ และให้ ความสำคญั ตรงกนั ในส่วนของผม หลังจากทำหน้าท่ี สปช., สปท., กรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม และได้มี โอกาสมาเป็น “สมาชิกวุฒิสภา “ ก็ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมให้ทำ หนา้ ที่ตดิ ตาม เสนอแนะ และเรง่ รดั การปฏิรปู ประเทศดา้ นสังคมต่ออกี และคณะกรรมาธิการ การแก้ความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ ก็ได้มอบหมายให้ดูแลการแก้จน ลดความเหลื่อมล้ำ ด้านสงั คมอีกดว้ ย ผมจึงไดจ้ บั งานเกี่ยวกบั การสรา้ งเสรมิ ชมุ ชนเขม้ แข็งอยา่ งตอ่ เน่อื งขา้ มทศวรรษ ยิง่ ทำงานด้านน้ี กย็ ิง่ เห็นความสำคัญของการส่งเสริมการพัฒนาที่ควรมุ่งเนน้ ชมุ ชนเข้มแขง็ การทำงานที่ผ่านมา ทำให้ผมได้มีโอกาสรู้ว่า ไม่ว่าระบบบริหารและนโยบายการพัฒนา ประเทศจะเป็นอย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ฐานรากของสังคม มีเรื่องราวดีๆ มีการพัฒนาดีๆ เกิดขน้ึ อยู่ตลอดเวลา เปรียบเสมือนมี “แสงเทียนถกู จุดข้ึน กระจายอยู่ทัว่ ไปในท่ามกลางความมดื ” ทำให้ผมไดร้ ับร้แู ละเรยี นรเู้ พม่ิ ข้ึนตลอดเวลา อนั เป็นความรแู้ ละปัญญาท่มี ีคุณคา่ มาก และหา ไดย้ ากในห้องเรียน หรือในการทำงานขา้ งบน ผมได้เขียนประสบการณ์การเรียนรู้ในพื้นที่ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องชุมชนเข้มแข็ง เผยแพร่ทาง Face Book มาตามลำดับ บัดนี้ จึงถึงเวลาที่ควรนำมาจัดทำเป็น E-book เพื่อให้สะดวกต่อการเผยแพร่และเรียนรู้ รว่ มกนั หนงั สอื “ชมุ ชนเขม้ แข็ง ประเทศมั่นคง” จงึ เกดิ ขนึ้

6 กราบขอบพระคุณ ศ.นพ.ประเวศ วะสี บรมครูผู้ใหป้ ัญญาแกผ่ มมาอย่างยาวนาน ทำให้ผม เข้าใจและซาบซึ้งในแนวทางการพัฒนาที่เน้นชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง และเน้นการเสริมสร้าง พลงั ของการรวมตัว ร่วมคดิ รว่ มทำ ขอบคุณทกุ ท่านทีท่ ำใหผ้ มได้เรียนรงู้ าน และเรื่องราวเก่ียวกบั ชมุ ชนเข้มแข็ง ตลอดหลายสบิ ปี ที่ผา่ นมาจนถงึ ทุกวนั นี้ ขอบคุณครอบครวั ทีใ่ ห้ความรัก ความอบอนุ่ และเปน็ กำลังใจใหก้ ันและกนั ตลอดมา ขอบคณุ ทีมงานทชี่ ว่ ยทำหนงั สือ และช่วยเหลอื งานด้านอื่นๆอย่างดเี สมอมาครบั อำพล จนิ ดาวฒั นะ ตลุ าคม 2564

สารบาญ 7 1) อภิปรายนอกสภา (อภปิ รายนโยบาย 28 กค. 62 หนา้ รัฐบาล พลเอกประยทุ ธ จันทร์โอชา) 11 2) ไหใหญล่ น้ 12 กย. 62 15 18 3) อาบยาพิษ 15 กย. 62 20 22 4) เรียนจากชมุ ชน 3 พย. 62 25 28 5) มดตะนอยปลอดโฟม 22 พย. 62 32 35 6) มดตะนอยกู้โลก 23 พย. 62 38 40 7) มดตะนอยสๆู้ 24 พย. 62 42 47 8) มดตะนอยโมเดล 25 พย. 62 48 9) ชุมชนคนพกิ าร 1 ธค. 62 10) ฟังชุมชน 18 มค. 63 11) อกี มมุ หนง่ึ 23 มค. 63 12) อีสานเขียว 7 กพ. 63 13) แข็งจรงิ หรือแข็งแต่ในกระดาษ 4 มีค. 63 14) พลิกวิกฤติ หนุนตำบลเขม้ แข็ง 13 พค. 63

สารบาญ 8 15) สานพลัง หนุนตำบลเขม้ แข็ง 24 มยิ . 63 หน้า 49 16) พลังชุมชน 20 สค. 63 52 55 17) ความมัน่ คงหลงั โควิด 25 สค. 63 56 59 18) ชาวดอยรกั ษ์ปา่ 29 สค. 63 63 67 19) พลิกกองขยะเป็นสวนผกั คนเมือง 31 สค. 63 69 72 20) 4 หนุม่ 4 ภูมิพลัง 1 กย. 63 74 21) ธนาคารตน้ ไมข้ องจรงิ 3 กย. 63 76 78 22) ปลูกต้นไม้ ก้เู งนิ ไดจ้ ริง 4 กย. 63 83 85 23) ปลกู ต้นไม้ ออมทองคำเขยี ว ขาย 5 กย. 63 คาร์บอนเครดิต: ไดเ้ งนิ ใช้ ไดช้ ว่ ยโลก 24) แนะนำ SE 8 กย. 63 25) ไปเรียนชมุ ชน 10 กย. 63 26) หนองสาหรา่ ย 12 กย. 63 27) เขา้ ดง 26 กย. 63 28) ดูแลปญั หาประชาชน 15 ตค. 63

สารบาญ 9 29) คนพิการ 6 พย. 63 หน้า 87 30) ซ้ำซ้อน 7 พย. 63 90 92 31) เช้านที้ ี่ภหู ลวง 14 พย. 63 93 95 32) นำ้ คอื ชีวิต: โรงเรยี นอยทู่ ชี่ ุมชน 26 พย. 63 97 99 33) Smart Industry: โรงเรียนชมุ ชน 27 พย. 63 101 106 34) ลงชุมชน 4 ธค. 63 108 111 35) แรงงานหลังโควิด 11 กพ. 64 115 36) ยทุ ธศาสตร์เสรมิ พลงั มด 27 กพ. 64 120 37) ขุนยวม เมืองเลก็ ทีร่ ่มุ รวย 7 มีค. 64 38) เมอื งปอน ไมใ่ ชเ่ มอื งปอนๆ 8 มีค. 64 39) ชมุ ทางรถไฟแกง่ คอย ส่เู ศรษฐกิจ 22 มคี . 64 สร้างสรรค์ 40) ไปเรยี นร้ดู ูสวรรค์บนดนิ 23 มคี . 64 41) อดีตกับอนาคต 24 มีค. 64

สารบาญ 10 ภาคผนวก หนา้ 124 ภาคผนวกท่ี 1 สรปุ การเสวนา เร่อื ง “พลเมอื งกมั มนั ตะ 152 (Active Citizen) กบั ตำบลเข้มแข็ง” วันพฤหสั บดีท่ี 20 สิงหาคม 2563 184 จดั โดยคณะกรรมาธกิ ารการแกป้ ัญหา ความยากจนและลดความเหล่อื มล้ำ วฒุ ิสภา รว่ มกบั สถาบันพัฒนาองคก์ รชุมชน (องค์การมหาชน) ภาคผนวกท่ี 2 บทสรุปย่อการศึกษาการจัดการตำบล เขม้ แขง็ ตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาตแิ ละ แผนการปฏริ ปู ประเทศ ของคณะกรรมาธกิ าร การแก้ปญั หาความยากจนและลดความ เหลอ่ื มล้ำ วฒุ สิ ภา (พ.ศ.2564)

11 (1) อภปิ รายนอกสภา (อภปิ รายนโยบายรฐั บาล พลเอกประยุทธ จนั ทร์โอชา) เมื่อกลางดึกวันที่ 25 ต่อ 26 กค.ได้คิวอภิปรายนโยบายรัฐบาลเป็นคนสุดท้าย ในเวลา 5 นาทตี อนนนั้ ท้ังคนในและนอกสภาอยากนอนเตม็ ที และหลับกันไปมากแลว้ คนอภิปรายเองก็ใกลจ้ ะหลบั เช่นกนั ! 555 เวลาก็จำกดั แตม่ ีเร่อื งหนึง่ ที่ตั้งใจจะพดู ไมไ่ ด้พดู คอื ประเด็น “การมีสว่ นรว่ ม” ที่ปรากฏอยู่ในนโยบายหลักด้านท่ี 7 “การสร้างพลังสังคม เพื่อหนุนการพัฒนาสร้างความ เขม้ แขง็ จากฐานราก” ดังนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องค้างอยู่ในใจ อีกทั้งอาจเกิดประโยชน์แก่สาธารณะบ้าง จึงขออนุญาตนำ ประเด็นน้ีมาอภปิ รายนอกสภา เปน็ บนั ทกึ สาธารณะไว้ในเพจน้คี รับ “ทา่ นประธานรัฐสภาท่เี คารพ ผมคิดว่า เนื้อหานโยบายรัฐบาลข้อ 7.2.5 การสร้างพลังทางสังคม เพื่อการพัฒนาสร้าง ความเข้มแขง็ จากฐานราก ที่เขียนไวว้ ่า “สง่ เสริมประชาชนทุกภาคสว่ นเข้าร่วมกระบวนการตัดสนิ ใจกำหนดนโยบายและ มาตรการภาครัฐ.....เพือ่ เป็นรากฐานของการพฒั นาระบอบประชาธิปไตย...” น้ัน เปน็ นโยบายท่ดี มี คี วามสำคัญต่อการสรา้ งเสริมความเขม็ แขง็ ของชุมชนฐานรากมาก ถ้าทำจริง

12 ท่านประธานครับ ชุมชนท้องถิ่นไม่ไช่แก้วน้ำที่ไม่มีน้ำเลย ไม่ไช่พื้นที่หรือเป้าหมายการพัฒนา ท่รี อให้คนอืน่ คนนอกมาคิดใหเ้ ตมิ ใหเ้ สยี หมด เหมือนการเตมิ น้ำใหม่ลงในแกว้ เปลา่ ตรงกันข้าม ชุมชนท้องถิ่นทุกแห่งทุกที่ เหมือนแก้วที่มีน้ำอยู่แล้ว เขามีตัวตน มีวิถีชีวิต วัฒนธรรม อาชีพ มีทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดลอ้ ม มีทุนทางสงั คม มีจุดเด่นจุดด้อยของเขา มายาวนาน และมีพฒั นาการเจรญิ เตบิ โตตลอดเวลา เหมอื นสง่ิ มชี วี ิต ไมไ่ ดห้ ยดุ น่งิ อยูก่ ับท่ี ถ้ามองเห็นเช่นน้ี หากรฐั บาลมคี วามจริงใจที่จะพัฒนาโดยเน้นสร้างความเข้มแขง็ จากฐานราก จริง ก็ต้องไมล่ ะเลยการมสี ว่ นรว่ มของชุมชน ดังนั้น นโยบายการพัฒนาใดๆที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถิ่น จึงต้องให้องค์กรในชุมชน คนในชมุ ชนทอ้ งถ่นิ น้ันๆ ร่วมรู้-รว่ มคิด-ร่วมตดั สินใจ-รว่ มทำ-ร่วมเป็นเจา้ ของ-ร่วมรบั ผล เพราะแน่นอนเหลือเกินว่า ทุกเรื่องที่ตัดสินใจ ย่อมไปกระทบกับวิถีชุมชน ทั้งบวกทั้งลบ มาก บ้างนอ้ ยบ้างอย่างแนน่ อน ท่านประธานครับ ผมขอยกตัวอย่างนโยบาย EEC ที่รัฐบาล คสช.จัดทำขึ้น เพื่อเร่งพัฒนา อุตสาหกรรมใหม่ที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเลือกลงในพื้นที่ 3-4 จังหวัดภาค ตะวันออก ต่อยอดจากนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเดิม มีทั้งแผนการสร้างพื้นท่ี อุตสาหกรรมใหม่ ศูนย์โลจิสติค ระบบขนส่งทางราง ถนนและทางอากาศ เมืองใหม่ และ อื่นๆ ทั้งหมดก็เพื่อหวังให้ประเทศก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก หวังว่าจะช่วยนำไทยไป 4.0 ดึงการลงทุนจาก ตปท. สร้างงานและกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต หารายได้มาพัฒนา ประเทศสว่ นอน่ื ๆ ซ่ึงกด็ ูวา่ มีความจำเปน็ และมปี ระโยชน์อยไู่ มน่ ้อย แต่ถา้ ไมร่ ะมดั ระวงั ใหด้ ี “ปลาใหญจ่ ะไดม้ าก ปลาเล็กจะเสียมาก” ความเหล่อื มล้ำเพม่ิ มากข้ึน ไปอีก สงั คมกห็ าความสงบสุขไดย้ าก เมื่อรัฐบาลตัดสินใจวางโครงการลงที่จังหวัดภาคตะวันออก ที่มีโครงสร้างพื้นฐานส่วนหน่ึง พร้อมอยู่แล้ว และอยู่ใกล้ทะเล ซึ่งพื้นที่ ชุมชนท้องถิ่นแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์ แค่ลุ่มน้ำ บางปะกงอยา่ งเดียว ก็มคี วามอดุ มสมบรู ณ์มาก ประเมนิ คา่ ไมไ่ ด้ พ้ืนทแี่ ถบนมี้ ีพัฒนาการทาง วถิ เี กษตรยั่งยืน มีวถิ ีชีวิต มีการท่องเทยี่ วเชงิ นเิ วศ วฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์ มีประมง มพี ชื ผกั ผลไม้ มีทนุ ทางสังคมสงู อยู่กอ่ นแล้ว

13 โครงการใหญ่ๆอย่างนี้ย่อมจะกระทบกับโครงสร้างเศรษฐกิจวิถีชุมชนเดิม วิถีธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม เสน้ ทางการพัฒนาเดิม (ทม่ี จี ดุ แขง็ อยมู่ าก) อยา่ งหลีกเลี่ยงไม่ไดเ้ ลย การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมที่แท้จริงและทั่วถึง การมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์และ จริงใจ กัน จงึ มคี วามสำคัญและจำเป็นมาก เพื่อร่วมกันตีแผ่ข้อมูลทุกด้าน วิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูล เนื้อหานโยบาย ทางเลือกนโยบาย แสวงหาจุดร่วม ค้นหาคาดการณ์ผลกระทบทางลบเพ่ือวางแผนการแก้ไขและเยียวยาอย่าง ครอบคลุมทุกมิติ การขับเคลื่อนนโยบายใหญ่ๆอย่างนี้ถึงจะไปได้สวย ชุมชนท้องถิ่นฐานรากก็ จะเขม้ แข็งและได้รบั ประโยชน์จากการพัฒนาไปด้วยกัน โดยไม่ทิง้ ใครไว้ข้างหลงั จรงิ ที่ผ่านมาหาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อนโยบายตัดสินใจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากข้างบน ก็เดินหน้าอย่าง รวดเรว็ คนในชุมชนท้องถิน่ ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกลายเปน็ เพยี งตวั ประกอบเลก็ ๆไปทันที ท่านประธานครับ เมื่อปีที่ผ่านมา ผมเคยได้รับแต่งตั้งจาก รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นประธานอนุกรรมการติดตามการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลเชิงพื้นที่ ได้ลงไปติดตาม งานในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ EEC พบชัดเจนว่า ภาคประชาชนและชุมชน ท้องถิ่นรู้เรื่อง EEC น้อยมาก มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย แต่ไร้คำตอบ แม้มีการจัดเวทีให้ ประชาชนมสี ่วนร่วมอย่บู ้าง แตค่ ่อนขา้ งเบาบางและผวิ เผินไปสักหนอ่ ย ในขณะที่หน่วยงานรับผิดชอบที่เป็นหน่วยงานจัดตั้งขึ้นพิเศษ มักจะยืนยันว่าได้จัด กระบวนการมสี ่วนรว่ มมากและสมบูรณแ์ ล้ว! ล่าสุด เมื่อเร็วๆนี้ เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกได้มายืนหนังสือคัดค้านและขอให้รัฐบาล ใหม่ทบทวนนโยบาย EEC และขอมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการตดั สนิ ใจทางนโยบาย ตามสิทธทิ ่ี กำหนดอยใู่ น รธน.ปี 2560 ท่ีใชอ้ ย่ใู นปจั จบุ นั ซึง่ หน่วยงานที่รบั ผดิ ชอบกแ็ ถลงโต้ทนั ทวี่ า่ ทำทุกอยา่ งถูกตอ้ งครบถว้ นดีแลว้

14 ท่านประธานครับ จึงเปน็ ท่ีนา่ ยนิ ดแี ละพอจะมีความหวงั บา้ ง ทรี่ ัฐบาลชดุ ใหม่น้ี มีนโยบายให้ความสำคัญกบั การ พัฒนาเพ่ือสรา้ งความเขม้ แขง็ จากฐานราก ควบคูไ่ ปกับนโยบายด้านอื่นๆ จึงขอฝากถึงรัฐบาล ใหท้ บทวนการขบั เคลอ่ื นนโยบาย EEC ใหค้ วามสำคัญกบั กระบวนการมี ส่วนร่วม เพื่อสร้างพลังทางสังคม เสริมสร้างความเข้มแข็งจากฐานรากให้เป็นรูปธรรม ความจรงิ ใหท้ กุ ฝา่ ยได้ประโยชนไ์ ปพรอ้ มๆกัน นโยบายทเ่ี ขยี นไว้สวยหรูจะได้ไม่เป็นเพยี งแค่ “กระดาษธาต”ุ คอื ขอ้ ความสวยหรทู ่ีอยเู่ พียงในกระดาษเท่านัน้ ไมช่ ้าเกินไปครบั เพราะอะไรทเ่ี ริม่ เรว็ รวบรดั หวงั ไปใหเ้ ร็ว ในที่สุดจะช้าทกี่ ลางทางและปลายทาง แต่ถ้ายอมเริ่มช้าๆ ให้คน องค์กร ชุมชนท้องถิ่นต่างๆที่เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบได้มีส่วน ร่วมอย่างแท้จริงเสียแต่ต้น อาจใช้เวลาตอนต้นมาก เหน็ดเหนื่อยกับการทำกระบวนการที่มี คุณภาพและสรา้ งสรรค์และเป็นมิตร เมอ่ื รว่ มกันตดั สนิ ใจ ยอมรับรว่ มกัน และเดนิ หน้าได้แลว้ ทุกอย่างกจ็ ะเรว็ และสำเรจ็ ไดป้ ระโยชนร์ ว่ มกนั ทุกฝ่าย โดยไมท่ ิ้งใครไวข้ า้ งหลงั ท่านประธานครับ การพัฒนาที่ทำให้ฐานของเจดีย์แข็งแรง เจดีย์ทั้งองค์ถึงจะสวยงาม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนได้ จรงิ ตรงข้าม การพัฒนาที่ส่งผลกระทบทำให้ฐานเจดีย์อ่อนแอ เจดีย์ทั้งองค์จะอยู่ได้ อย่างไร? บันทกึ สว. (17) 28 กค. 62

15 (2) ไหใหญ่ลน้ ภาษิตอีสานท่วี ่า “ไหใหญ่ลน้ ไหนอ้ ยบ่เตม็ ” มีมานานมากแล้ว สะท้อนภาพการพัฒนาประเทศท่คี นมีมากได้มากจนล้น ส่วนคนมีนอ้ ยกข็ าดแคลนอย่รู ำ่ ไป การพัฒนาที่ผ่านมาทำให้ปรากฏการณ์นี้รุนแรง ความเหลื่อมล้ำยิ่งถ่างมากขึ้น กลายเป็น ความอยตุ ิธรรมในสงั คม นำไปส่คู วามขดั แย้งแตกแยก 6 กย. 62 ไปเรยี นรูด้ ูงานอยู่ที่ อบจ.หนองบวั ลำภู เมือ่ ไดค้ ุยลงเนอ้ื งาน ทำให้มองเห็นปัญหา นี้ชดั มาก อบจ.หนองบัวลำภู เป็น อบจ.ในจังหวัดยากจนท้ายๆตารางของประเทศ คู่คี่กับแม่ฮ่องสอน อบจ.ได้รับงบประมาณสนับสนุนและจัดเก็บภาษีเองได้รวมปีละเพียง 400 ล้านบาท ใน จำนวนนี้เป็นเงินอุดหนุน อสม. 120 ล้านบาท หักรายจ่ายประจำ เหลือเงินพัฒนาที่จะตกไป ถงึ ประชาชนไม่เท่าไร อบจ.เล็ก พื้นที่ยากจน ก็เหมือนลูกตัวเล็ก ไม่แข็งแรง กินอยู่ก็จำกัด เก็บภาษีได้นิดเดียว ก็มี เงินนอ้ ย “การทำงานก็เปน็ แบบเตี้ยอมุ้ คอ่ ม มีปญั หามาก มีงานตอ้ งทำมาก แต่งบประมาณจำกัดมาก” นายกศราวุธฯบอก “รัฐบาลกลางควรมีเกณฑ์พิจารณางบประมาณอุดหนุนให้จังหวัดเล็ก จังหวัดยากจน เป็น พิเศษ ไม่ไช่ใช้เกณฑ์เหมือนกันไปหมด การสนับสนุนแบบที่ผ่านๆมา ลูกคนไหนแข็งแรงน้อย อ่อนแอ ก็ได้กินน้อย ลูกคนไหนแข็งแรงมาก ก็ได้กินมาก แล้วมันจะพัฒนาทันหรือใกล้เคียง กนั ได้อย่างไร” คณุ หมอบุญชยั ฯ ที่ร่วมคณะไปดว้ ยกนั เล่าวา่

16 “อยู่นนทบุรี จังหวัดเล็กๆติดกทม. ร่ำรวยมาก อบจ.ได้รับเงินอุดหนุนและเก็บภาษีเองได้มาก มีงบประมาณปีละหลายพันล้าน ไม่ต้องไปวิ่งแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน หรือพัฒนาแบบ จังหวัดยากจน ไม่ต้องจัดหาแหล่งน้ำ ไม่ต้องช่วยภัยแล้งฯลฯ ถึงขนาดมีงบประมาณเหลือ สนับสนุนให้โรงเรียนในพื้นที่สอนภาษาต่างประเทศให้ประชาชน อุดหนุนครูไปดูงานอบรม ตปท.ได้ แตกต่างตรงข้ามกับจังหวัดยากจนอย่างหนองบัวลำภูที่ชาวบ้านยังขาดแหล่งน้ำ ปจั จัยพื้นฐานสำหรับดำรงชีวติ เหน็ ความแตกต่างเหลอ่ื มลำ้ ชัดเจนมาก” ทำใหค้ ิดถงึ ข้อเสนอเพอื่ การปฏริ ปู ประเทศเพ่ือ “ลดความเหลอื่ มล้ำ เพ่ิมความเปน็ ธรรม” ของ คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) ทม่ี ที า่ นอานนั ท์ ปญั ยารชนุ เป็นประธาน เสนอเมอ่ื ราวปี 2553 ว่ารัฐบาลควรเจียดงบประมาณปีละสัก 5 % จัดเพิ่มให้กับจังหวัดยากจนท้ายๆตาราง เพื่อ แก้ปัญหาและพัฒนาท้องถิ่น ให้จังหวัดเหล่านั้นซี่งเป็น “ไหน้อย” ได้มีโอกาสเติมเต็มส่วนขาด ซึง่ เปน็ งบประมาณจิบ๊ จ๊อยมาก ไม่กระทบงบประมาณในภาพรวม และไมก่ ระทบกบั “ไหใหญ”่ ที่เต็มหรือล้นอยแู่ ลว้ แต่น่าเสียดายที่ข้อเสนอดีๆแนวนี้ ยังไมเ่ คยได้รับความสนใจ และดูเหมือนว่าจะยังไมม่ ใี นแผน ปฏิรูประบบงบประมาณและการบริหารราชการแผน่ ดนิ อกี ด้วย วนั นี้อาจารย์ชยั อนันต์ สมทุ รวานชิ ผู้เขยี นข้อเสนอนี้ ทา่ นถงึ แกก่ รรมไปแลว้ ไหใหญ่ก็คงจะลน้ ตอ่ ไป ไหน้อยก็พรอ่ งซำ้ ซากต่อไป อยากให้รัฐบาลใหมน่ ้ฟี ังอยา่ ง “ได้ยนิ ” ผมกำลังจะเข้าไปทำงานใน กมธ.การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ ของ วุฒิสภา จะได้ผลักดันเรื่องนใ้ี หเ้ ตม็ กำลงั ตอ่ ไป เผื่อจะมีอะไรไหลกระเดน็ ลง “ไหน้อย” เพม่ิ ข้นึ บ้าง!!! บนั ทกึ สว. (46) 12 กย. 62

17

18 (3) อาบยาพษิ ตอนไปลงพนื้ ที่หนองบัวลำภู เมือ่ 6 กย.62 ภาคบ่ายออกเย่ยี มพนื้ ท่ี อ.สวุ รรณคหู า ฟงั ขอ้ มูล วิจัยชุมชน เกี่ยวกับการทำเกษตรกรรม การใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช และ ผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งทำวิจัยโดยนักวิจัยท้องถิ่น สนับสนุนโดย สกว. และโครงการสำรวจการปนเป้ือนสารเคมกี ำจดั วัชพชื เห็นขอ้ มลู แลว้ นา่ ตกใจ หนองบัวลำภูเป็นพ้นื ทีย่ ากจนของอีสานตอนบน ได้รบั การยกฐานะเป็นจงั หวดั มาได้ 20 ปี รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ อนุญาตให้ตั้งโรงงานน้ำตาล เพิ่มพื้นที่ปลูก อ้อยป้อนโรงงาน และส่งเสรมิ การปลกู ยางพารา ชาวบา้ นสว่ นหนึง่ หนั มาทำไร่ออ้ ยและยางพารา ขยายพื้นท่ีอยา่ งรวดเร็ว ในขณะที่ประเทศปรับเคลื่อนเข้าสู่ยุคสังคมสูงวัย คนวัยทำงานลดลง ส่วนหนึ่งเข้าไปทำงาน ในเมือง ถ้าทำไร่อ้อยไม่เกิน 5-10 ไร่ ก็พอใช้แรงคนปราบหญ้าไหว แต่ถ้าทำมาก ก็หนีไม่พ้น ตอ้ งใช้หญา้ ฆ่าหญา้ ใชท้ ้ังสตู รเดย่ี วและสูตรผสม ปราบวชั พืชให้อยู่หมัด กอ่ นปลกู อ้อยก็ฉีดยาคลมุ ไว้ก่อน เมอื่ ออ้ ยเรมิ่ ขี้น กต็ ้องอดั ซำ้ ยาฆา่ หญา้ กต็ กค้างในดนิ ในน้ำ ในสิ่งแวดล้อมท่ัวไป “ลงหว่านกล้า มีแผลที่หลังเท้านิดเดียว กลายเป็นแผลใหญ่ เนื้อเน่าลุกลามถึงหน้าแข้ง หมอ ต้องเลาะเนือ้ ตายออก เห็นกระดกู ขาว เกอื บตอ้ งตดั ขาท้งิ ” ลงุ ท่ีบ้านกุดผ้งึ ใหข้ อ้ มูล พร้อมโชว์แผลขนาดใหญท่ ่ีเพิง่ ปลูกถา่ ยผวิ หนงั มาไมน่ าน

19 ตำบลกุดผึ้ง เป็นพื้นที่หนึ่งที่มี พื้นที่ปลูกอ้อยมาก ชาวบ้านทำ เองส่วนหนึ่ง นายทุนข้างนอกมา เช่าที่ทำเป็นส่วนมาก ใช้ยาฆ่า หญ้าหนัก ในตำบลมีหนองน้ำ เป็นที่รวมของน้ำที่ไหลมาจาก หลายทาง มีการตรวจสารเคมีตกค้างในน้ำ ในดิน ในผลิตผลเกษตร มีค่า ปนเปือ้ นเกินมาตรฐานไปมากมาย มกี ารสง่ เสรมิ การใช้วัสดุอนิ ทรยี ก์ ำจัดวัชพชื แทนสารเคมี แต่ยังไมแ่ พรห่ ลายมากนัก การใช้สารเคมียงั เปน็ วิธีหลัก เพราะได้ผลดี สะดวก รวดเร็ว ใช้แรงงานนอ้ ยกวา่ แตก่ ็สร้างปญั หามากกวา่ กลายเปน็ ปัญหาใหญ่ท่ีสะสมพอกพนู ขน้ึ ตามลำดับ ชาวบ้านต้องแลกดว้ ยชวี ติ และสขุ ภาพ เกดิ ปัญหาความขดั แยง้ ระหว่างคนทอ่ี ยากเลิกใชก้ ับคน ที่ยังใช้สารเคมี และปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ที่นักวิชาการเรียกว่า ผลกระทบทางลบต่อ สงั คม (negative externality) ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต้องแลกด้วยผลกระทบมากและรุนแรงเช่นนี้ ถ้าไม่รีบแก้ไข คง จะไปกนั ใหญ่ ได้นำข้อมูลบางส่วนมาประกอบการตั้งกระทู้ถามรัฐบาล แต่เนื่องจากสภากำลังจะปิดสมัย ประชุม 18 กย. 62 น้ี จงึ ต้องรอถามในสมยั ประชมุ หนา้ ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2562 บนั ทึก สว. (47) 15 กย. 62

20 (4) เรยี นจากชุมชน 1-2 พย.62 กมธ.พัฒนาสังคมฯ และทีมงาน นำโดย สว.วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธาน ไปเยี่ยมเรียนรู้สถานการณ์และการทำงานดูแลผู้สูงวัยในชุมชนตำบลกลอนโด อำเภอ ด่านมะขามเต้ยี จงั หวัดกาญจนบรุ ี และประชมุ สัมมนาวางแผนการทำงานของ กมธ. ได้เรียนรู้การทำงานดูแลผู้สูงอายุในชุมชนที่มีประมาณ 1,100 คน ทั้งประเภทติดสังคม- ติดบ้าน-ติดเตียง ได้เห็นและเข้าใจการทำงานของอาสาสมัครและบุคลากรหลายหน่วยงาน ไดแ้ ก่ สา,สุข พัฒนาสงั คม อบต.และอนื่ ๆ ในภาพรวมถือว่าทำได้ดีมาก แต่ในบางเรื่องยังมีปัญหาที่เกิดจากการคิดและการสั่งการแบบแยกส่วนของหน่วยงาน เบอื้ งบนอยไู่ ม่น้อย เช่น ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน มีชื่อต่างกัน มีระบบระเบียบต่างกัน มีการพัฒนาต่างกัน มคี ่าตอบแทนตา่ งกนั การบูรณาการในพนื้ ท่จี งึ สับสน ล่าสุด กระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบให้ อปท.จ้างอาสาสมัครบริบาลผู้สูงอายุได้แล้ว แต่ยังไม่มีการปฏิบัติในพื้นที่ ในขณะที่ทางสาธารณสุขมีการสนับสนุนทำแล้วด้วยระบบ ระเบียบ และคา่ ตอบแทนแตกตา่ งกัน เป็นตน้ เรื่องนี้ คณะอนุกมธ.ตสร.ปฏิรูปด้านสังคม ซึ่งต้องดูแลประเด็นผู้สูงอายุและระบบรองรับ สังคมสูงวัยด้วย จะได้หยิบขึ้นมาศึกษาให้ชัด เพื่อดูว่ามีประเด็นใหญ่ที่สำคัญจำเป็นต้อง เสนอแนะตอ่ รฐั บาลด้วยหรอื ไม่ บนั ทึก สว. (77) 3 พย. 62

21

22 (5) มดตะนอยปลอดโฟม เคยไปนอนที่เกาะลิบง จ.ตรัง เมื่อ 20 ปีก่อน ไปเรียนรู้วิถีชุมชน ดูหญ้าทะเล แหล่งอาหาร พะยูน ตกปลาหมึก เดนิ เกบ็ หอยชักตีน ฯลฯ ไมก่ ี่เดอื นท่ผี า่ นมา คนไทยเศร้ากบั ข่าว “มาเรยี ม” ลูกพะยนู นอ้ ยตาย มขี ยะเต็มท้อง! ปญั หา “ขยะลน้ โลก” กำลังคุกคามโลกของเรา ดว้ ยน้ำมือของมนษุ ย์เอง เมื่อบ่ายวันที่ 21 พย.62 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเยี่ยมชุมชน “มดตะนอย” อยู่ในเขตตำบล เกาะลิบง อำเภอกนั ตงั แต่อยู่ดา้ นบนฝัง่ เปน็ พนื้ ทปี่ า่ ชายเลนปากคลอง มหี าดทรายโค้งเชื่อม สนั มังกรเผอื ก มองเหน็ เกาะลิบงอย่ตู รงขา้ ม พ้ืนทแี่ บบน้ี จึงกลายเปน็ ทีด่ กั ขยะที่มาจากลำน้ำบนฝง่ั และมาจากทะเล “มดตะนอย” เป็นชุมชนมุสลิมเล็กๆ มีประชากร 1,084 คน 303 หลังคาเรือน อยู่กันอย่าง สงบตามวถิ ีเดิมมายาวนาน ในอดีตชุมชนมีปัญหาขยะล้น ทั้งขยะจากในชุมชน และจากนอกชุมชนที่คนนอกนำเข้ามาและ ท่ีมาจากทอ้ งทะเล ในขณะที่มีกระแสความตระหนกั เร่อื งขยะลน้ เกดิ ขน้ึ และกระจายไปท่ัวโลก เม่ือ 6 ปีก่อน (2556) ชุมชนมดตะนอยเร่มิ ต้นชวนกันคดิ ชวนกนั คุยเรือ่ งการจัดการขยะชมุ ชน เห็นตรงกันว่า ขยะในชุมชน ต้องจัดการกนั โดยชมุ ชน จะรอให้ใครมาทำให้คงไมไ่ ดแ้ ลว้ เกิดแนวคดิ วา่ ขยะไม่ไช่ของเสียไร้คา่ ไร้ประโยชน์ ตรงกันขา้ ม ขยะแปลงเป็นทรัพย์ได้ ซึ่งตรงกับทม่ี ีคนกล่าววา่ “ในโลกน้ีไมม่ ขี ยะ มแี ตท่ รัพยากรซึง่ อยูผ่ ิดท”ี่

23 คิดกันแล้ว ไม่คิดเฉยๆ ไม่พูดเฉยๆแบบ no action, talk only แต่พวกเขาลงมือชวนกันทำ แบบ “เดินทลี ะกา้ ว กนิ ข้าวทลี ะคำ” มีหมอหนึ่งหทัย สกุลส่องบุญศิริ พยาบาลวิชาชีพ รพสต.มดตะนอย และสามี (ผอ.รพสต.), ผู้ใหญ่บ้านและเครือข่าย อสม. ที่ขยันขันแข็งอีก 20 กว่าชีวิต เป็นแกนนำ ชวนชาวบ้าน ทกุ เพศวยั มารว่ มกนั “จัดการขยะโดยชมุ ชน” ถึงวันนี้ ทุกหลังคาเรือนมีการคัดแบกขยะ อะไรที่รีไซเคิลได้ก็ แยกขาย อะไรทำปุ๋ยหมัก ทำนำ้ หมกั ไดก้ ็ทำ อะไรท่ีแปรรปู ให้เป็นประโยชนไ์ ด้ กช็ ่วยกนั ทำ มดตะนอย กลายเปน็ “ชุมชนปลอดโฟม” และกำลังจะเป็นชุมชนปลอดพลาสตกิ ในอีกไมน่ านนี้ เขาทำกนั ได้อยา่ งไร จะเลา่ ต่อในตอนต่อไปครับ บันทกึ สว. (91) 22 พย. 62

24

25 (6) มดตะนอยกูโ้ ลก “ย้ายมาอยู่ทำงานที่นี่ปี 2556 นอกจากทำงานรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ในรพ.สต.แล้ว ก็ออกทำงานชุมชน ชวนชาวบ้านคุย คิดเกี่ยวกับปัญหาของชุมชน พบว่าเรื่อง ขยะเป็นปัญหาใหญ่ของชุมชน รอบๆบ้าน ตามถนนหนทาง ในคลอง ในน้ำ ในป่า ชายหาด และในทะเลมีขยะแยะ” หมอหนึ่ง (หน่ึงหทยั ) เลา่ “ก็ชวนกันคดิ วา่ เราจะทำอย่างไรกันดี ในทสี่ ุดกเ็ หน็ ตรงกนั วา่ ต้องเรม่ิ ทต่ี วั เราทกุ คน ทุกบา้ น ก็เริ่มมีกิจกรรมเก็บขยะ คัดแยะขยะ เรียนรู้เรื่องขยะ โดยนำการวิจัยปฏิบัติการ (participatory action research หรือ PAR) มาใช้ คือ ชวนชาวบ้านวิจัยแบบทำไป เรียนรู้ ไป ประเมนิ ไป ปรบั ไป พัฒนาไปเรื่อย ๆ” “เมื่อมีชาวบ้านป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ก็สืบค้นข้อมูลวิชาการพบว่าการใช้โฟมบรรจุอาหารมี โอกาสเป็นมะเร็งสูง ก็มาเล่าให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านก็คิดโครงการเลิกการใช้ภาชนะโฟมใน ชุมชน” “เรามี อสม.อยู่ทุกกลุ่มบ้าน ทั้งกลุ่มบ้านที่น้ำขึ้นถึง กลุ่มบ้านบนบก กลุ่มบ้านริมทะเล เราใช้ วิธีคดิ ด้วยกนั ทำดว้ ยกัน” “ตั้งแต่ปี 2559 ชุมชนมดตะนอยเลิกใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหารได้หมดแล้ว คนจากข้างนอก มาขายของใช้ภาชนะโฟม ชาวบา้ นก็ไม่ซ้ือแลว้ มีการจัดกิจกรรมทำความสะอาดชุมชน เก็บขยะชายหาด ขยะทะเล จำแนกแยกประเภท บนั ทกึ ขอ้ มลู นำไปกำจัดให้ถกู ทาง ทำไปเรยี นรู้ไป พบขยะสารพัดชนดิ มาจากสารพัดทิศ” “เศษอาหาร เปลือกหอยปูปลา ก็ทำปุ๋ยหมัก ทำน้ำหมักชีวภาพใช้กันตามครัวเรือน เมื่อก่อน ชาวบ้านไม่เคยปลูกผักกินเอง เข้าใจกันมานานแล้วว่า ดินริมทะเลเค็มปลูกผักไม่ได้ จึงซื้อจาก

26 ข้างนอก เมื่อร่วมกันคิด ชวนกันลองปลูก ทุกวันนี้เกือบทุกบ้านปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ เป็น ผกั อินทรีย์ ดตี อ่ สขุ ภาพ ประหยดั กันไดม้ าก” พ่ี อสม.เสริมประสบการณ์ ขยะหลายชนิดที่เอามาทำสิ่งของเพิ่มมูลค่า ขายบ้าง แบ่งปันกันใช้บ้าง มีการรวมกลุ่มกันมา ทำ ใช้ รพสต.เป็นศูนย์กลาง เช่น เศษอวนเก่า ก็นำมาทำถุงใส่ขยะ ขวดพลาสติก ก็เอามา ทำท่ีปลกู ต้นไม้ ทำ eco brick ขยะหลายๆอย่างเอามาทำของใช้ ของทร่ี ะลกึ เป็นต้น “ท่ี รพสต. เราไม่ใช้ถุงพลาสติกใส่ยาให้คนไข้มานานหลายปีแล้ว ทำก่อนที่กระทรวง สาธารณสุขจะมนี โยบายออกมา เราให้ชาวบา้ นนำถุงผา้ มาเอง แรกๆก็ลำบาก ตอนนีท้ กุ คนรหู้ มดแลว้ ” ผอ.รพ.สต.เสรมิ

27 “ปีหลังๆนี้ เรากำลังชวนกันลด ละเลิกใช้พลาสติก ชาวบ้านใช้ถุง ผ้าใส่ของกันเป็นธรรมดา เวลาไป ซื้อของที่อำเภอ เอาถุงผ้าไปใส่ ของ เขาจะรู้ว่าชาวบ้านพวกนี้มา จากบ้านมดตะนอย” “ตอนนี้เรามีกิจกรรมเลกิ ใช้ขวดน้ำ แก้วน้ำพลาสติก ร้านค้าในชุมชน ทั้งหมดเอาด้วย มีโครงการทำดี ให้ดาว เริ่มที่เด็ก ถ้าเอาแก้วน้ำเอาถ้วยไปใส่ของที่ซื้อ ไม่ใช้ขวด แก้ว ถุง พลาสติก เรามี คูปองให้ จบั ฉลากแจกรางวลั ทกุ วันที่ 15 ต่อมาผู้ใหญ่ก็เข้ารว่ มโครงการด้วย” ทุกวันนี้ขยะในชุมชมมดตะนอยลดนอ้ ยลงไปมาก มีการวางอวนท่ีปากคลองดักไม่ให้ขยะชุมชน หลดุ ไปลงทะเล เด๋ียวนม้ี ีแตใ่ บไมใ้ บหญา้ ไม่มีขยะจากชุมชนมดตะนอยหลดุ รอดไปลงทะเล” “เราตงั้ เป้าหมายกนั ว่าปี 2565 บา้ นมดตะนอย จะ เปน็ ชมุ ชนปลอดขยะ 100%” ผู้ใหญ่ณัฐวัฒน์ ทะเลลึก กลา่ วเสริม “ส่วนขยะในทะเลที่มาติดชายหาดยังมมี าตลอด มา จากที่อื่นทั้งนั้น เราไม่ได้เป็นคนก่อ แต่เราก็ช่วยกัน เก็บข้นึ เปน็ ระยะๆ เพราะนค่ี อื บ้านของเรา” “นี่คอื ภารกิจทพี่ วกเรากำลงั ช่วยกนั กู้โลก” อะเมซิงจรงิ ๆ โรบิ้น! บนั ทกึ สว. (92) 23 พย. 62

28 (7) มดตะนอยสูๆ้ ไม่ไชเ่ พียงแค่ชาวบ้านมดตะนอยก้โู ลกด้วยการจัดการขยะโดยชุมชน ที่คดิ และทำกนั มานานถงึ 6 ปแี ล้วเท่านัน้ แตค่ นมดตะนอยทำมากกวา่ น้ัน หมบู่ ้านมดตะนอย อยูบ่ นพ้นื ทีห่ าดและป่าชายเลน อย่ใู นเขตห้ามล่าสัตวป์ ่าเกาะลบิ ง มีคลองบ้านมดตะนอยและคลองลัดเจ้าไหมโอบล้อม ในอดีตต้องเดินทางด้วยเรือเพื่อติดต่อ กับโลกภายนอก จึงได้ชอื่ ว่าเปน็ “เกาะมดตะนอย” ต่อมาทางการทำสะพานข้ามคลองมดตะนอยเชื่อมเข้าสู่ชุมชน สภาพเกาะก็หายไป การ ติดต่อคมนาคมกบั ภายนอกสะดวกขน้ึ คนภายนอกกเ็ ข้าไปงา่ ยขึ้นดว้ ย มที ง้ั ดีทงั้ เสียตามมา ทรัพยากรธรรมชาตถิ กู รุกล้ำทำลายมากขน้ึ มีคนมาหาหอยชกั ตนี หาปูหา (ทัง้ ปูดำในป่าชาย เลน และปมู ้าในทะเล) มากข้นึ ทรพั ยากรธรรมชาตลิ ดลงอยา่ งรวดเร็ว พี่น้องชุมชนมดตะนอยตระหนักเรื่องนี้ มีการสร้างกติกาชุมชนในการรักษาป่าโกงกาง มีพื้นที่ หา้ มตัดเดด็ ขาด บางพ้ืนที่ใหช้ าวบา้ นตัดใชไ้ ดต้ ามกติกาท่กี ำหนด และต้องปลกู ทดแทน มกี ารจัดทำธนาคารปูม้า บริเวณตีนสะพานเข้าหมูบ่ ้าน องค์กรภายนอกสนับสนุนเงินแสนกว่า บ้านทำอาคารง่ายๆ และจัดหาอุปกรณ์บรบิ าลแม่ปู มีอาสาสมัครดูแลขยายพันธ์ุปูปลอ่ ยคืนสู่ ทะเล เพาะกล้าต้นโกงกางไว้ปลูกเสริมในป่าชายเลน เพาะขยายหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของ พะยนู เพ่ือนำไปปลกู เสรมิ ในทะเลใกล้เกาะลิบง “แมป่ ่ไู ข่ ได้จากชาวบ้านบริจาคให้ เราจะจดช่อื ขนึ้ กระดานไว้เลย

29 เมื่อแม่ปู 1 ตัว ออกไข่เป็นลูกปู ราว ๆ 5 ล้านตัว พออายุได้ 1 วัน เราก็เอาไปปล่อยลงทะเล เมื่อเช้าเพิ่งเอาไปปล่อย 6 ถัง (ลูกปูจากแม่ปู 6 ตัว) ก็ราว 30 ล้านตัว ถ้ารอดโตเป็นปูใหญ่ สัก 1 แสนตวั กถ็ ือว่าคุ้มแลว้ ” คุณลุงจิตอาสาพาชมกิจการ เล่าประสบการณ์และความรู้ต่างๆจากการปฏิบัติจริงให้พวกเรา ฟงั อยา่ งมีความสขุ “เราขออนุญาตใช้สถานที่จากเขตห้ามล่า ค่าน้ำค่าไฟใช้จากเงินบริจาค ค่าแรงไม่มี เรา ทำงานกนั ดว้ ยจติ อาสา” ผใู้ หญบ่ า้ นเลา่ เสรมิ นแ่ี หละ คนตัวเล็กๆ แตห่ วั ใจยิ่งใหญ่ นี่แหละ ชุมชนเลก็ ๆ แต่ทำงานยงิ่ ใหญ่ ชุมชนมดตะนอยไม่ได้อยู่โดด ๆ ตัดขาดจากโลกภายนอก ทุกวันนี้ทุกพื้นที่ ทุกสิ่งทุกอย่าง เชอื่ มโยงกันมาก ชุมชนเลก็ ก็ย่อมได้รบั ผลกระทบทงั้ ดา้ นดดี า้ นรา้ ย ขยะทไี่ หนก็ไม่รมู้ าเกยตนื้ รมิ หาดของชมุ ชน ชมุ ชนก็รวมตัวกนั จัดการกันเอง ทรัพยากรธรรมชาตริ อ่ ยหรอ ชมุ ชนก็ชว่ ยกันพทิ ักษร์ ักษาและเพมิ่ พูน แตท่ ด่ี นิ รมิ ทะเลกำลังกลายเป็นท่หี มายปองของคนภายนอก!!! ชาวบ้านมดตะนอยอยู่กันมานาน ต่อมาพื้นที่ถูกประกาศเป็นเขตห้ามล่า ชาวบ้านไม่มีเอกสาร สทิ ธใ์ิ ดๆเป็นหลักประกันความมนั่ คง วนั ขา้ งหนา้ จะเกิดอะไรข้นึ กับชมุ ชนยงั ไมร่ ู!้ เมื่อชุมชนมีสะพานเชื่อมกับภายนอก ก็เริ่มมีคนภายนอกเข้าไปจับจองที่ดินริมหาดทำรีสอร์ท บางรายเป็นข้าราชการเกษียณ เขา้ มาจบั จองท่ีดนิ รมิ ทะเลไดอ้ ยา่ งไรไม่มีใครรู้ ท้ัง ๆพ้ืนทที่ ั้งหมดเป็นเขตห้ามล่า! อะไรจะเกดิ ข้ึนในอนาคต จะเหมือนชมุ ชนชาวเลหาดราไวย์ที่ภเู กต็ หรือทห่ี ลเี ปะ๊ ไหม?

30 วันร้ายคืนร้าย คนจากภายนอกมีโฉนดที่ดิน ฟ้องขับไล่ชาวบ้านที่อยู่มาหลายชั่วคนหน้าตา เฉย! ภัยคกุ คามด้วยความฉอ้ ฉลอยา่ งน้ีร้ายนกั รา้ ยกวา่ ขยะทม่ี าเกยตน้ื มากนกั “ผู้ใหญ่รีบชวนกันทำประวัติหรือปูมชุมชนกันไวเ้ ลย สิ่งเหล่านี้จะช่วยยืนยันการมีอยู่ของชุมชน บ้านมดตะนอยไดเ้ ป็นอยา่ งดี วันขา้ งหนา้ อาจจำเปน็ ตอ้ งใช้” คุณชาญเชาว์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมที่ร่วมคณะฯ ให้คำแนะนำแก่ผู้นำชุมชน ด้วยความหว่ งใย ดว้ ยเร่ืองอย่างนี้ ผมจึงตั้งชื่อตอนนี้แบบให้กำลังชมุ ชนไวว้ ่า มดตะนอยสู้ๆ น่ันกค็ ือ “มดตะนอยส้โู ว้ย” บนั ทกึ สว. (93) 24 พย. 62

31

32 (8) มดตะนอยโมเดล ได้ไปดูงานชมุ ชนมดตะนอย บอกไดว้ ่า โชคดมี าก ไดเ้ รียนรมู้ ากมาย ไดเ้ หน็ การขับเคลื่อนงาน ทีย่ ่งิ ใหญ่ของคนตัวเลก็ ตัวน้อย ในชุมชนเลก็ ๆทเี่ ป็นฐานรากของสังคมประเทศชาติ แมร้ ู้สกึ หว่ งใยในบางเรอ่ื ง แตก่ เ็ กดิ ปติ สิ ุขมากกวา่ เกิดความชน่ื ชมยินดี ผมสรปุ บทเรยี นดว้ ยตัวเอง อยากจะเรียกสิง่ ดๆี ทเ่ี ห็นทม่ี ดตะนอยวา่ เปน็ “มดตะนอยโมเดล” คือ แบบอยา่ งของคนตวั เลก็ ๆ ชมุ ชนเลก็ ๆ ท่ีคดิ เล็กๆ และทำเล็กๆ แตผ่ ลสะเทือนยิ่งใหญม่ าก ไม่ได้คดิ ทำเพื่อตัวเองอยา่ งเดียว แต่คดิ ทำเพื่อสว่ นรว่ ม เพอื่ ประเทศและเพื่อโลก เหมือนที่ผมเคยเห็นอาซิ้มอาสาสมัครมูลนิธิพุทธฉือจี้ ไต้หวัน เก็บขยะข้างถนน 1 ชิ้น อาซ้ิม บอกว่า กำลังทำงาน “กูโ้ ลก” สิ่งที่คนบ้านมดตะนอยคิดและทำ สอดคล้องกับศาสตร์พระราชา หรือหลักการทรงงานของ ในหลวงรชั กาลท่ี 9 ตัวอยา่ งได้แก่ หนึ่ง ระเบิดจากภายใน ชัดเจนว่าคนมดตะตอยคิดและทำอะไรต่อมิอะไรจากการคิดกันเอง สำนกึ และตระหนักดว้ ยตัวเอง เปน็ การระเบดิ จากจติ ใจ จากภายในตน สอง เล็กไปใหญ่ ค่อยๆคิดและทำจากเรื่องเล็กๆ ค่อยๆขยายออกไป เหมือนเดินทีละก้าว กนิ ขา้ วทลี ะคำ สาม ศึกษาขอ้ มูลทำงานอย่างเป็นระบบ มีการใชข้ ้อมูลวิชาการแม้กระท่ังใชง้ านวจิ ยั ง่ายๆเขา้ มาช่วยมาเสรมิ เตมิ ตอ่

33 สี่ ใช้หลักภูมิสังคม ใช้ความรู้ท้องถิ่น วัฒนธรรม วิถีชุมชน ภูมิศาสตร์ ธรรมชาติวิทยา ฯลฯ เชือ่ มกับความรจู้ ากภายนอกอยา่ งแยบยล ห้า ประโยชน์ส่วนรวม คิดและทำอย่างไม่เห็นแก่ตัวหรือเอาแต่ได้ หากแต่คิดและทำเพ่ือ ชุมชน เพอ่ื คนรุ่นหลัง เพ่อื สงั คมและเพื่อโลก หก มีส่วนร่วม ไม่ว่าจะคิดจะทำอะไร ไม่ทำแบบต่างคนต่างคิด หรือเอาผู้นำเป็นใหญ่ หากแตเ่ นน้ กระบวนการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำในทุกเรอื่ ง เรอื่ งดีๆจึงเกดิ ขึน้ ตลอดเวลา เจด็ ทำให้งา่ ย ไมค่ ดิ ยากทำยาก คดิ งา่ ยๆท่ที ำได้งา่ ยๆทำได้จริง แล้วก็ทำกันไป แปด พ่ึงตนเอง ไม่มัวเรียกร้อง ไมม่ วั อา้ งขอ้ จำกัด ตีโพยตีพาย แตอ่ ะไรทำกันเองได้ ทำเลย เก้า พออยู่พอกิน คิดทุกเรื่องทำทุกเรื่องไม่ไช่ทำเพื่อเอามาก กอบโกยให้ได้มากๆ แต่ทำแบบ พออยู่พอกิน ผักสวนครัว รั้วกินได้ ใช้ปุ๋ยหมักน้ำหมักชีวภาพ หาปูหาปลา ตัดไม้ใช้ไม้ ไม่ ทำลายล้าง ปลกู ทดแทน ปลอ่ ยลูกปสู ่ทู ะเล ฯลฯ คดิ ถึงความยัง่ ยืน สิบ ทำอย่างมีความสุข ร่วมกันคิดร่วมกันทำอย่างมีความสุข ชื่นชมความสำเร็จร่วมกัน แม้ เพยี งความสำเรจ็ เลก็ น้อย ผ้คู นทกุ เพศวัยจึงเตม็ ไปดว้ ยรอยยม้ิ สิบเอ็ด มีความเพียร คิดไปทำไป ไม่ย่อท้อตอ่ อุปสรรคหรอื ความยากลำบากใดๆ มองปัญหา เป็นความท้าทายท่ีจะฟนั ฝา่ และก้าวขา้ ม เหมือนดง่ั ในเร่ืองพระมหาชนก น่ีเพียงตัวอย่างเพียงส่วนหนงึ่ เท่านนั้ “มดตะนอยโมเดล” จึงเหมือนตำราภาคปฏิบัติเล่มเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบทเรียนรู้ และคำสอนทางปัญญาที่ยิ่งใหญ่ ครบั บันทึก สว. (95) 25 พย. 62

34

35 (9) ชุมชนคนพกิ าร เสาร์ 30 พย.62 ลงพื้นที่อุบลรัตน์ ขอนแก่น ท่ีศูนย์สินค้าชุมชนและบริการของคนพิการ ต.ทุ่งโป่ง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น คนพิการรวมตัวกันประกอบ “กิจการเพื่อสังคม” ยืนบน ขาตนเองด้วยการทำงานหลายอย่างทั้งงานช่าง งานผลิตเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ งานเกษตร อนิ ทรีย์ งานบริการอาหาร ของฝาก และสถานทพ่ี ักผอ่ น เปน็ ต้น กิจการนี้สนับสนุนโดยบริษัทเอกชน (ไมเนอร์ กรุ๊ป) ด้วยระบบการจ้างงานตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ.ส่งเสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตคนพกิ าร “เป็นคนอุบลรัตน์ ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ขณะขี่จักรยานยนต์ตอนทำงานอยู่ท่ี กทม. อัมพาตท่อนล่าง กลายเปน็ คนพิการต้องกลับมาอยบู่ า้ น ติดเตียงหมดอาลัยตายอยากในชวี ิต อยู่ในสภาพอย่างนั้น 2-3 ปี มีหมอ รพ.อุบลรัตน์ออกเยี่ยมบ้าน มาเจอ หมอมาช่วยทำ กายภาพบำบัด ให้ฝึกดูแลตัวเอง ก่อนหน้านั้นต้องให้พ่อแม่ให้คนอื่นทำให้ทุกอย่าง หมอชวน ใหอ้ อกมาอบรมเรียนร้เู พ่อื ทำงาน เมื่อดูแลตัวเองได้ มาใช้วีลแชร์ เริ่มทำของขาย แต่เป็นสินค้าต้องพึ่งความเมตตาจากคนซื้อ กไ็ ปไม่รอด หันมาเริ่มทำงานที่ตัวถนัด คือเขียนทรายบนกระจก เริ่มมีคนอุดหนุนบ้าง ก็ชวนคนพิการคน อื่นมาร่วมทำ แต่เขาไม่ถนัด บางคนถนัดงานช่าง เราก็ขยายงานให้เขาทำงานที่ถนัด ก็ทำได้ ดี ขยายงานไดเ้ รื่อย ๆ มบี ริษัทเอกชนภายนอกเขา้ มาสนบั สนุนตามมาตรา 35 เร่มิ หาทด่ี ินตดิ ถนน เพือ่ ให้มีหนา้ ร้าน การออกแบบ การก่อสรา้ ง การพัฒนาสถานท่คี นพกิ าร ทำกันเอง ก็เปิดบริการต่างๆเพิ่ม บริการอาหารเครื่องดื่ม ปลูกผักอินทรีย์ใช้ทำอาหาร เริ่มมีคนมาสั่ง ผกั ก็ขยายกจิ การ

36 ชวี ติ คนพกิ ารอยา่ งพวกเราเปลีย่ นไปอย่างส้ินเชงิ จากท่เี ป็นภาระ ตัวเองกท็ ้อแท้ สิ้นหวัง เรา กลบั มาเปน็ พลัง ทำงานพ่ึงตนเองได้ ทุกคนมีความสขุ ” คณุ เกษราภรณ์ หลวงจนั ทร์ (เกษ) แกนนำศูนย์ฯ เล่าใหฟ้ ัง @ ศูนย์ค้ำคูน มูลนิธิพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีคนพิการส่วนหนึ่ง ทำงานดูแลการปลูกพืชผักส่งให้ รพ. อุบลรัตน์ใช้ประกอบอาหารให้ผู้ป่วย คนพิการทาง สายตาบางคนเปน็ หมอนวดสขุ ภาพ เป็นต้น คนพิการอีกส่วนหนึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่อยู่ท่ี รพ.อุบลรัตน์ และ รพ.น้ำพอง รวม ทั้งสิ้นประมาณ 50 คน ทั้งหมดล้วนเป็นคนในพื้นที่ ได้รับการจ้างงานโดยบริษัท SCG ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ าร “เคยไปทำงานเปน็ คนงานก่อสร้าง ถูกไฟช็อตเกือบตายแลว้ นอนรกั ษาตวั อยู่หลายเดอื น ต้อง ตัดแขนทิ้งข้างหน่ึง กก็ ลบั มาอยู่บ้าน ดีใจทีม่ ีบรษิ ทั มาจา้ งให้เป็นลูกจ้าง ทำงานดูแลสวนอยู่ท่ี ศนู ย์ค้ำคนู ได้อยู่กบั ครอบครวั ได้งานทำ แม้ค่าจ้างไมม่ าก แตก่ ็พออยู่ได้ คา่ ใชจ้ ่ายไมส่ ูง ซื้อ รถเคร่ืองได้ ปลูกบ้านได้ ชีวิตดีขึน้ ” คนพิการคนหนึ่งเล่าให้ฟงั “คนพิการไม่ได้ต้องการรอคอยแต่ความเมตตาสงสาร แต่ต้องการโอกาสและการสนับสนุนให้ คิดเองทำเองได”้ ผมเคยได้ยินคนพิการคนหนึ่งบอกอยา่ งนี้ ซง่ึ ดูวา่ เปน็ เชน่ นั้นจรงิ ๆ บันทกึ สว. (102) 1 ธค. 62

37

38 (10) ฟังชุมชน บ่ายวันท่ี 17 มค.63 ไปเยี่ยมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดและงานกับครูตี๋ (นิวัฒน์ ร้อยแก้ว) ประธานกลุ่มรกั ษเ์ ชียงของ @ โฮงเฮียนแม่นำ้ ของ รมิ ฝัง่ โขง มีประเด็นสำคัญเล็กใหญ่ที่ภาคประชาชนห่วงกังวล ต้องการให้ภาครัฐคำนึงถึงและพิจารณา หลายเร่ือง ได้แก่ หนึ่ง การย้ายด่านไทย-ลาวจากจุดเดิมในชุมชนเชียงของ ออกไปไว้ที่สะพานข้ามโขง มี ผลกระทบต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนอย่างมาก เสนอให้เปิดด่านเก่าคู่ขนานไปกับดา่ นใหม่ และควรหาจดุ เปดิ ให้คนเขา้ ถงึ สะพานขา้ มโขงเพอื่ เปน็ การจัด landmark สำหรับนักท่องเทยี่ ว เพราะทุกวันน้ีผ้คู นไม่มีโอกาสเหน็ ตวั สะพาน นอกจากจะตอ้ งเดนิ ทางออกไปนอกเมอื งไกลมาก สอง การศึกษาเรียนรู้ของคนไทย โดยเฉพาะคนในพื้นที่ เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน และจนี เพราะทุกวันนี้และอนาคตมีผลกระทบถึงกันมาก หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรู้เขา-รู้เรา แสวงหา แนวทางการพัฒนาที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ไม่ปล่อยให้ประชาชน ชุมชน ไดร้ ับผลกระทบเสยี หายฝ่ายเดียว

39 สาม นโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงของที่จะเปิดรับทุนใหญ่ทั้งไทยและเทศ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งคือจีน จะมีผลกระทบกับชุมชนท้องถิ่นและพื้นที่อย่างมาก ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรมและอัตลักษณ์ชุมชน ควรส่งเสริมการพัฒนาทางปัญญาและการศึกษาที่เกี่ยวกับ สมนุ ไพรและวิถธี รรมชาตติ ามแนวทางการพฒั นาอย่างยง่ั ยนื ดีกว่า สี่ การที่จีนจะระเบิดเกาะแก่งในลำน้ำโขง จะกระทบกับระบบนิเวศน์ วัฒนธรรมอย่าง ร้ายแรงและมีปัญหาดา้ นความมั่นคงท่ีรฐั บาลไม่ควรยนิ ยอม หากรัฐบาลจะออกนโยบายและตัดสินใจทำอะไรที่จะกระทบกับชุมชนท้องถิ่น ควรให้ ประชาชนและชุมชนไดม้ ีสว่ นรว่ มคิดรว่ มตดั สินใจด้วย ทกุ ประเด็นน่ารบั ฟังท้ังนั้นครับ บันทึก สว. (129) 18 มค. 63

40 (11) อกี มุมหนง่ึ ค่ำ 23 มค.63 ร่วมคณะประธานกมธ.สังคมฯ (ครูหยุย) ลงพื้นที่หัวลำโพง เยี่ยมเรียนรู้ชีวิต และความเป็นอยขู่ องคนเรร่ อ่ นจำนวนนบั รอ้ ย ทีร่ วมกนั อยแู่ ถวนัน้ ได้รู้มิติสังคมของคนกลุ่มเปราะบางอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีทั้งลำบากยากจน ไร้บ้าน ไร้ญาติ และ ที่ปฏิเสธบ้าน มาอาศัยอยู่แถวนั้น มีเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ บางคนมีคู่ใหม่ ฯลฯ เรื่องราวของ แต่ละคนไมม่ ีซ้ำกนั ได้สัมผัสตวั เป็นๆ ไดก้ ลน่ิ อายความจนคละคลุ้ง ไดเ้ หน็ ระบบการทำงานของเจา้ หน้าทรี่ ฐั ทเี่ ขา้ ไปดูแลชว่ ยเหลืออยูอ่ ยา่ งตอ่ เนื่อง ได้เห็นการอะลมุ่ อล่วยของการรถไฟฯทม่ี ตี อ่ คนเหล่านั้น ได้เห็นน้ำใจขององค์กรทางสังคมและคนไทยส่วนหนึ่งที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือ แจกอาหาร เสอ้ื ผา้ ปัจจัยพ้ืนฐานดว้ ยจิตใจเมตตากรุณาฯลฯ ไดม้ องเหน็ มติ ทิ างสังคมและระบบสังคมทีซ่ บั ซอ้ นท่เี ชอ่ื มโยงกัน ได้ประเดน็ ความคิดหลายเร่ือง นับเป็นการลงพื้นที่ในเวลาส้ันๆทม่ี ีคุณค่ามาก บนั ทึก สว. (135) 23 มค. 63

41

42 (12) อสี านเขยี ว เมื่อวันศุกร์ 7 กพ.63 ได้ไปเรียนรู้ดูงานการแก้จนของชาวบ้าน ด้วยแนวทางเกษตรกรรม ย่ังยืนตามศาสตร์พระราชา @ ต.ทุง่ ชมพู อ.ภูเวียง จ.ขอนแกน่ ในท่ามกลางความแห้งแล้งสองข้างทาง ดินเป็นฝุ่น ต้นไม้ใบหญ้าสีน้ำตาล เปลวแดดเป็น ระยิบ ไรอ่ ้อยเพงิ่ ตดั หลายแห่งมรี อยเผา บางแหง่ กำลังเผากนั เห็นๆ แต่มีต้นไม้และแปลงพืชเกษตรสีเขียวขจี ปรากฏให้เห็นเป็นหย่อมๆ พร้อมกับถังเก็บน้ำสีน้ำ เงิน บอ่ น้ำต้ืนและทอ่ พวี ีซ.ี .. น่นั คอื “อสี านเขียว” ทเี่ ปน็ รูปธรรม เขาทำกันไดอ้ ยา่ งไร?

43 “ชาวบ้านที่นี่ก็เหมือนพี่น้องอีสานทั่วไป คือ ขาดแคลนน้ำในการทำเกษตรกรรม แม้อยู่ไม่ไกล จากเขื่อนอุบลรัตน์มากนัก มีคลองส่งน้ำพาดผ่านในบางพื้นที่ แต่ไม่มีน้ำให้ส่งมา นานๆมีน้ำ สง่ มา ก็ไมท่ ัว่ ถงึ คลองส่งนำ้ ที่สรา้ งดว้ ยงบประมาณสงู มากกถ็ ูกทิง้ ไวร้ กรา้ ง คลองใหมก่ เ็ พิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ แต่ไม่มีนำ้ สกั หยด” น่ันคือความจรงิ ทเี่ กิดจากการพัฒนาแบบเดิมๆ “หากมีนำ้ ซ่งึ เปน็ ปจั จยั พื้นฐานในการดำรงชีวิตและการผลติ ชีวติ ชาวบ้านจะเปลี่ยนไปในทาง ท่ดี ี ถา้ ใช้หลกั คิดเศรษฐกิจพอเพยี ง” ใครๆกพ็ ดู อยา่ งนี้

44 “สูบน้ำบาดาลขึ้นมาด้วยพลังแสงอาทิตย์ เอาไปเติมในบ่อ ให้น้ำบาดาลได้หายใจ แล้วเอาขึ้น ถัง ปล่อยเข้าสู่ระบบนำ้ หยดดว้ ยแรงโน้มถ่วงของโลก ใช้พลาสติกคลุมหน้าดิน ใช้น้ำน้อย พชื เติบโตได้ดี เพาะปลูกไดต้ ลอดปี ปลูกสลับกันไปหลายชนิด พริก ฟัก แตง ดอกไม้ มะเขือเทศ พืชผักสวนครัว ฯลฯ และเลี้ยง เป็ดไก่ สัตวเ์ ล้ียงต่างๆไปดว้ ย ต้นทุนไมม่ าก ขายมีรายไดท้ ง้ั ป”ี พอ่ เข็ม หน่งึ ในเกษตรกรเจา้ ของพ้ืนท่เี ล่าให้ฟงั “เรารวมกันเป็นกลุ่มเกษตรกรโซล่าเซลทุ่งชมพู ดูแลช่วยเหลือกัน มีสมาชิกประมาณ 60ครอบครัว เมื่อมีน้ำ ก็เพาะปลูกได้สารพัด ปลูกได้ตลอดปี ไม่มีคำว่าแล้ง ไม่ต้องเสียค่า ไฟฟ้าค่าน้ำมัน ต้นทุนก็ต่ำ ทำเกษตรกรรมแบบนี้ อยู่ได้สบาย นี่แตงร้านอายุเดือนเศษ เก็บ ผลผลิตได้แล้ว ถุงละ 10 กก. มีคนมารับถึงที่ถุงละ 80 บาท เก็บได้ 3 รอบ ปีหนึ่งๆทำได้ 4ครง้ั รายไดไ้ รล่ ะหลายหม่นื พริกท่ีเห็น ปหี นึง่ ๆได้ไร่ละเป็นแสน...” ศกั ดา ดอนเข่ือนโสม ประธานกล่มุ ฯเล่าไปย้มิ ไปอย่างมีความสุข คนอีสาน ในท่ามกลางดินแดนอันแห้งแล้ง ทำเกษตรกรรมอยู่ที่บ้าน หยิบเงินหมื่น เงินแสน เงนิ ล้าน เขาทำได้จริงๆ น่ีคอื “อีสานเขียวจิว๋ ” “ที่เกิดแบบนี้ มาจากโครงการขุดบ่อบาดาลประจำครอบครัว เชื่อมการสูบน้ำด้วยพลังจาก แสงอาทิตย์ ได้งบประมาณพัฒนากลุ่มจังหวัด ปี 2560 มาสนับสนุนอุปกรณ์บ่อบาดาล ถัง พกั น้ำ แผงโซล่าเซล เคร่ืองจกั รขุดบาดาล เป็นตน้ ตกวงเงนิ บา้ นละ 5-6 หมน่ื บาท ชาวบา้ นออกคา่ ทอ่ นำ้ ค่าทำระบบน้ำหยดและอื่นๆ วงเงนิ 1-2 หมน่ื อบต.เข้ามาช่วยดูแลการจัดตั้งกลุ่ม พัฒนาการทำงานของกลุ่ม ช่วยแก้ปัญหาบ้าง กลุ่มมี ความก้าวหน้าดี ชาวบ้านท่ีเข้าร่วม เห็นผลทันตา คนอื่นๆก็อยากทำบ้าง” นายกสุรินทร์ หลา้ แก้ว นายกอบต.ทุ่งชมพู เล่า

45 งานดีๆที่เกิดขึ้นได้นี้ มี ผอ.ภัทรพล ณ หนองคาย ผอ.สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดกลาง ที่6 และทีมงาน รวมทั้งเครือข่ายจิตอาสา ที่ศรัทธาและมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาตาม ศาสตรพ์ ระราชาเข้าช่วยสนับสนุนอย่างใกลช้ ดิ เห็นแบบนี้ แล้วคิดถึงที่เคยไปเห็นอิสราเอล พลิกทะเลทรายเป็นเกษตรกรรมใช้น้ำน้อยเมื่อ หลายสิบปีก่อน วนั นีอ้ สี านเราก็ทำไดจ้ รงิ แลว้ โดยยดึ แนวทางตามศาสตรพ์ ระราชา ไดแ้ ก่ -แกป้ ัญหาท่จี ุดเล็ก -ประหยดั เรยี บง่าย ไดป้ ระโยชน์สงู สุด -ทำใหง้ า่ ย -มีสว่ นรว่ ม -ใชธ้ รรมชาตชิ ว่ ยธรรมชาติ -พึ่งตนเอง -ระเบดิ จากภายใน -ใชภ้ มู สิ งั คม -ไม่ตดิ ตำรา -พออยู่พอกนิ เปน็ ตน้

46 การสนับสนุนแนวทางเช่นนี้ ดีกว่าปล่อยให้ราชการทำโครงการใหญ่ๆ ละลายงบประมาณ มากมาย แต่ชาวอีสานกไ็ มม่ ีนำ้ ใชเ้ หมอื นเดมิ น้ำท่วมน้ำแลว้ ซ้ำซากเหมอื นเดมิ ถ้ารัฐบาลเสริมงบประมาณลงพื้นที่ให้ชัดเจน, สนับสนุนอปท.และหน่วยงานรัฐที่มีเครื่องจักร อุปกรณ์ เทคโนโลยี ไปช่วยขุดเจาะบาดาล เชื่อมพลังแสงอาทิตย์ ส่งเสริมการรวมกลุ่มและ การจัดการร่วม ทำเกษตรกรรมน้ำหยดเป็นพื้นฐาน ส่งเสริมชาวบ้านทำอาชีพตามหลัก เศรษฐกจิ พอเพยี ง แบบท่ีเห็นที่ภูเวียง ใหไ้ ด้สัก 1-2 ลา้ นครอบครัว อีสานก็จะเขยี วไปทั่วได้จรงิ ๆ บันทึก สว. (149) 7 กพ. 63

47 (13) แขง็ จรงิ หรอื แขง็ แต่ในกระดาษ เช้าวันน้ี (4 มีค.63) ประชุมอนุตสร.ปฏิรูปด้านสังคม ติดตามเรื่อง การปฏิรูประบบสร้าง เสรมิ ชมุ ชนเข้มแขง็ ที่มงุ่ เนน้ ใช้ “ตำบล” เป็นฐาน ท่ีเรียกวา่ “ตำบลเขม้ แข็ง” ซ่ึงปรากฏอยูใ่ น แผนปฏิรูปด้านสังคม และ “ตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ซึ่งปรากฏอยู่ในแผนแม่บท ยทุ ธศาสตร์ชาติดา้ นความมนั่ คง เชิญผู้แทนกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านความ มั่นคง/ด้านการสร้างโอกาส, กรรมการปฏิรูปด้านสังคม ,ศอบต., พอช., สภาพฒั น์ มาใหข้ ้อมูล สรุปได้ว่าทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า ต้องใช้ “ตำบล” เป็น พน้ื ทบ่ี ูรณาการการพัฒนา แต่แนวคิดอาจจะยังไม่ค่อยตรงกันมากนัก บางฝ่ายยัง มองการพัฒนาโดยรัฐเป็นหลัก เมื่อมียุทธศาสตร์ชาติ แล้ว ก็ต้องถ่ายระดับลงไปเป็นแผนระดับต่างๆ บวกกับ การตั้งงบประมาณ แล้วให้กลไกราชการกระทรวงต่างๆ นำไปปฏิบัติเป็นหลัก ประชาชนเข้ามามีส่วนรว่ มตามสมควร (governance by state) แต่อีกส่วนหนึ่งมองในมุมปฏิรูประบบและการจัดการ ว่าต้องมีกลไก ระบบ และกระบวน การบูรณาการการพัฒนาในระดับตำบลที่มุ่งให้ทุกฝ่าย-หน่วยงานรัฐ(ท้องที่ ท้องถิ่น หน่วยงานอื่นๆในตำบล)- องค์กรภาคประชาสังคม-และอื่นๆ เข้ามาร่วมคิดและทำด้วยกัน (governance by partnership) ตำบลจึงจะเข้มแขง็ ไดจ้ ริง สรปุ คอื อยากให้ชุมชนเข้มแขง็ เหมือนกนั มองตำบลเปน็ พน้ื ท่เี ปา้ หมายเดยี วกนั แต่มีหลักคดิ ต่างกนั และมองกลไกและระบบแตกต่างกันอย่างอยูม่ าก อนุกมธ.จะสังเคราะห์ข้อมูลและจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องนี้ร่วมกันต่อไป เพื่อติดตาม เสนอแนะ และเรง่ รดั เร่อื งน้ีใหเ้ กดิ รูปธรรมเทา่ ทจี่ ะพอทำได้ เพือ่ ไม่ให้ “ตำบลเขม้ แข็ง” แข็งอยู่แคใ่ นกระดาษ!!! บันทกึ สว. (161) 4 มคี . 63

48 (14) พลกิ วกิ ฤติ หนุนตาบลเขม้ แขง็ เมือ่ วาน (12 พค.63) รว่ มกับทมี กมธ.แก้จน ลดเหล่ือมล้ำ แถลงขา่ วเสนอแนะรฐั บาลใชเ้ งินกู้ ฟ้ืนฟปู ากทอ้ งชมุ ชน กรณวี กิ ฤติโควิด 1 แสนลา้ นบาท หนนุ การพัฒนาเศรษฐกิจ คณุ ภาพชวี ิต ส่ิงแวดลอ้ ม อยา่ งเป็นองคร์ วม มุ่งที่ “ตำบลเข้มแขง็ ” ท่วั ไทย เสนอให้จัดระบบสนับสนุน “พหุภาคีในตำบล” (ท้องถิ่น-ท้องที่-ประชาสังคม-เอกชน-องค์กร อ่ืนๆ) เปน็ เจ้าของโครงการ คิดจากลา่ งข้นึ บน ราชการทำหน้าทแ่ี ค่สนบั สนุน อย่าคิดแทนทำแทนขา้ งลา่ ง ซึ่งสอดคลอ้ งกบั ยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฎริ ูปชุมชนเข้มแข็งอยแู่ ลว้ บันทกึ สว. (207) 13 พค. 63

49 (15) สานพลงั หนุนตาบลเขม้ แขง็ วันที่ 24 มิถุนายน 2563 ณ อาคารสุขภาพแห่งชาติ นนทบุรี นพ.อำพล จินดาวัฒนะ รอง ประธานกรรมาธิการแก้จน ลดเหลื่อมล้ำ คนท่ี 1 ประธานอนุกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ เร่งรัดการปฏิรูปด้านสังคม และนายภาณุ อุทัยรัตน์ รองประธานอนุกรรมาธิการแก้จน ลด เหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ, สถาบันพัฒนาองค์กร ชุมชน และกองทุนสานพลัง สรา้ งสงั คมสขุ ภาวะ จัดประชุมเสวนา “สานพลังขับเคลื่อนตำบลเข้มแข็ง : มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ยุคหลังโควิด-19” ระดมความร่วมมือหน่วยงานและองค์กรทุกภาคส่วน 30 องค์กร ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูประบบสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง โดยเน้นแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาอยา่ งย่งั ยนื อยา่ งสมดลุ ทงั้ มติ ิเศรษฐกจิ ชวี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม ซ่งึ จะจัดประชุมรว่ ม ต่อเนื่องทกุ 2 เดอื น เพอ่ื ให้เกดิ การขบั เคลอื่ นการปฏริ ปู เชงิ พ้ืนท่ใี หเ้ ป็นรูปธรรมร่วมกนั ต่อไป ผมไดก้ ล่าวสรุปผลการเสวนาไว้ ดังน้ี 1) การมุ่งไปสู่ตำบลเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นเรื่องที่ถูกต้อง เรียกว่าเป็นพ้ืนที่จัดการ ตนเองโดยถูกกำหนดไว้และให้ความสำคัญ ท้ังในรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรปู ประเทศ รวมทงั้ แผนในระดบั ต่าง ๆ

50 2) ตำบลมีจตุพลังที่ชัดเจน คือ ท้องถิ่น ท้องที่ ภาคประชาสังคม และหน่วยงานต่าง ๆ ของ รฐั รวมท้ังภาคเอกชนด้วย 3) ทิศทางในการไปสู่ตำบลเข้มแข็งให้ยึดโยงกับหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ เพ่มิ เติมคือเป้าหมายการพฒั นาท่ยี ั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ดว้ ย 4) เร่ืองสขุ ภาพแบบสุขภาวะท่ีหมายถึงการมีชวี ิตทีด่ ี หรอื “Well-being” 5) ต้องมีการจัดการกันเอง เป็นความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยใช้พ้ืนที่เป็นฐาน เศรษฐกิจ ต้องดี มีความสุข สิ่งแวดล้อมดี มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีภูมิต้านทานจากผลกระทบ ภายนอก ซึ่งในปัจจุบันมีท้ังชุมชนที่เข้มแข็งและอ่อนแอ และการทำให้ตำบลหรือชุมชนมีความ เข้มแข็งนั้น จะต้องมีการเสริมสิทธิ อำนาจหน้าที่ ทรัพยากร รวมท้ังการขจัดอุปสรรคและ การเพม่ิ ศกั ยภาพ 6) ตำบลมีความหลากหลายท้ังความจริง พื้นที่ สถานการณ์ ความเป็นเมืองหรือชนบท นอกจากน้ันยงั มวี ฒั นธรรมและวถิ คี วามเช่ือ ทย่ี ังไม่ไดก้ ล่าวถงึ ในการเสวนาคร้ังนี้ 7) มีหน่วยงานภายนอกเข้ามาหนุนเสริมมากมาย มีทั้งที่ใช้กฎหมาย ใช้แผน ใช้กลไกการ บรู ณาการ รวมทง้ั กองทุนตา่ ง ๆ 8) มีการเสนอให้สร้างเจ้าภาพหลัก เจ้าภาพร่วม ที่ต้องค้นหาให้เจอ ผู้ที่จะท้าหน้าที่ในการ เป็นผู้ฝึกสอนหรอื ผู้จดั การในระดับพ้ืนที่น้ัน หน่วยงานต่าง ๆ อาจจะต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียน ในการรับบทบาท เป็นผู้ฝึกสอนหรือผู้จัดการในระดับพื้นที่ การจัดโครงสร้างเป็นรูปแบบ สมัยใหม่ที่ไม่เป็นโครงสร้างแบบตายตัว และเป็นการท้างานแบบหุ้นส่วน ไม่ใช่การนำโดยรัฐ เปน็ หลัก หลังจากการเสวนาในครงั้ นี้ สง่ิ ทตี่ อ้ งดำเนนิ การต่อไปสรปุ ได้ ดงั น้ี 1) คณะกรรมาธิการและเครือข่ายต่าง ๆ ที่ร่วมการเสวนาในคร้ังน้ี จะต้องส่งเสริมสนับสนุน ให้มกี ารทำงานวิชาการ การวิเคราะห์เชิงระบบ และตอ้ งมีการคล่ีระบบตา่ ง ๆ ในระดับตำบล ให้มีความชดั เจนมากกว่านี โดยคล่ีใหเ้ ห็นวา่ โครงการข้างบนทล่ี งไปหนนุ ตำบลนั้นมอี ะไรบ้าง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook