| 100
| 101
| 102
| 103 หนงั สือขอ้ เสนอแนะ การจดั ทำ รา่ ง พ.ร.บ.สง่ เสริมและพฒั นาองคก์ รภาคประชาสังคม ของประธาน กมธ.พฒั นาสังคมฯ วฒุ สิ ภา ถงึ นายกรฐั มนตรี 6 สงิ หาคม 2564
| 104 คณะกรรมาธกิ ารการพัฒนาสังคม และกิจการเดก็ เยาวชน สตรี ผสู้ งู อายุ คนพกิ ารและผู้ดอ้ ยโอกาส เสนอแนะรัฐบาลให้เรง่ ขบั เคลื่อน การจัดทำ รา่ ง พ.ร.บ.สง่ เสริมและพฒั นาองคก์ รภาคประชาสงั คม ตามแผนและขั้นตอนการปฏริ ปู ประเทศด้านสงั คม พ.ศ.2561 โดยไมค่ วรนำรา่ ง พ.ร.บ.ว่าดว้ ย การดำเนินงานขององคก์ รทีไ่ มแ่ สวงหารายไดห้ รอื กำไรมาแบง่ ปันกันฯ มาปะปนกนั
| 105 หนงั สือตอบจากสำนกั เลขาธิการนายกรฐั มนตรี 31 สิงหาคม 2564
| 106
| 107 “ไทยชนะ” ใครชนะ? เช้าวันนี้(จ.14 กย.63) ประชุมวุฒิสภา ตั้งถามกระทู้เป็นหนังสือต่อ นาย กรัฐ มนต รี เรื่อง “ ค ว า มปลอด ภ ัย ขอ ง ข้ อ มูลส ่ว นบุ ค ค ล ใ น ระบบปฏิบัติการ “ไทยชนะ” ซึ่งถามไว้ตั้งแต่ปลายเดือน พค.2563 แล้ว (รายละเอียดตามหนงั สอื ที่แนบ) เป็นกระทูท้ ี่ 11 ต้ังแต่ทำหน้าท่ี สว.มาไดป้ ีเศษ นายกรัฐมนตรี มอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายพทุ ธิพงษ์ ปุณณกันต์) มาแทน รฐั มนตรตี อบกระทู้ได้กระจ่างดีครับ เมื่อลงทะเบียน “ไทยชนะ” รู้แค่เบอร์โทรศัพท์และเวลาที่เราเข้าไปสถานที่ ที่ลงทะเบียน เก็บไว้ 90 วันลบทิ้ง ไม่มีใครเข้าไปดูข้อมูลได้ ยกเว้นเมื่อพบ ผู้ป่วย กรมควบคุมโรคจะเข้าไปดูว่าจุดที่ผู้ป่วยไปในช่วงเวลานั้นๆ มี ผู้ลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์ใดไปบ้าง ก็สามารถโทรติดต่อให้ไปตรวจคัดกรอง โรคได้ ได้ฝากให้ ศคบ.ประเมินและสรุปการใช้การลงทะเบียนไทยชนะในการสืบค้น ผู้สัมผัสจริงๆ ว่าเกิดประโยชน์ ได้ผลดีเพียงใด สื่อสารให้สังคมรู้ ประชาชน จะไดร้ ว่ มมอื กันมากขนึ้ โควดิ -19 กำลงั ปว้ นเปย้ี นรอบบา้ นเรา มโี อกาสหลุดเข้ามาเม่ือไรกไ็ ม่รู้ได้ ทหี่ ย่อนๆกันในระยะหลงั ๆ ตอ้ งชว่ ยกันให้ความรว่ มมอื ลงทะเบยี นเวลาไปไหน มาไหน จะเกดิ ผลดแี ก่ตวั เราเองและตอ่ สงั คมส่วนรวม สรปุ ถาม “ไทยชนะ” ใครชนะ? สรปุ ตอบ “คนไทยชนะด้วยกัน” ครับ บนั ทกึ สว. (268) 14 กย. 2563
| 108 หนงั สอื กระท้ถู าม
| 109 บนั ทกึ ถาม-ตอบ โดยเจา้ หนา้ ที่วุฒสิ ภา กระทู้ถาม เรื่อง ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลในระบบปฏิบัติการ “ไทยชนะ” นายอำพล จินดาวฒั นะ เปน็ ผ้ตู ้ังถาม ถามนายกรฐั มนตรี สบื เนือ่ งจากศนู ย์บรหิ ารสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโร น่า 2019 (Covid - 19) (ศบค.) ได้มีการจัดทำระบบปฏิบัติการที่มีชื่อว่า “ไทยชนะ” ใช้ในการลงทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมและป้องกันการ ระบาดของ Covid - 19 ในชว่ งผอ่ นปรนระยะท่ี 2 น้ัน ปรากฏว่า ข้อมูลที่เก็บรวบรวมนั้นส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้ ลงทะเบียนต้องให้ความยินยอมให้หน่วยงานเจ้าของมาตรการ คือ กระทรวง สาธารณสุข หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่น ใดทไี่ ด้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข เกบ็ รวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลใด ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ลงทะเบียนได้ให้ไว้ เพ่ือ ประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค Covid - 19 และโรคตดิ ต่ออน่ื จากการกำหนดเงื่อนไขและความยินยอมดังกล่าว ทำให้ประชาชนทั่วไปมี ความกังวล และมีข้อห่วงใยว่า หากมีการนำข้อมูลไปใช้นอกขอบ วัตถุประสงค์ของการควบคุมและป้องกันการระบาดของ Covid - 19 หรือ หากมีการนำข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไปใช้แสวงหาประโยชน์อันมิใช่ประโยชน์ สาธารณะท่เี กีย่ วข้องกบั การควบคุมและป้องกนั การระบาดของ Covid - 19 หรือโรคระบาดอื่น จะทำให้เกิดความเสียหายและกระทบสิทธิของประชาชน ได้ ขอเรียนถามว่า รัฐบาลมีมาตรการป้องกันหรือการควบคุมมิให้มีการนำ ข้อมูลของผู้ลงทะเบียนในระบบปฏิบัติการ “ไทยชนะ” ไปใช้นอกขอบ วัตถุประสงค์ของการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรค Covid - 19 หรือโรคระบาดอื่นหรือไม่ อย่างไร รวมทั้งจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้
| 110 ลงทะเบียนในระบบปฏิบัติการ “ไทยชนะ” ไว้นานเพียงใด และเมื่อครบ กำหนดระยะเวลาแล้ว รัฐบาลจะดำเนินการกับข้อมูลของผู้ลงทะเบียน อย่างไร ตลอดจนเมื่อได้ดำเนินการตามระบบปฏิบัติการ “ไทยชนะ” แล้ว ได้มีการนำไปใช้ในการติดตามผู้ติดเชื้อได้หรือไม่ และได้ผลดีหรือไม่ อยา่ งไร นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม ผ้ไู ดร้ บั มอบหมายใหต้ อบกระทูถ้ ามตอบชแี้ จงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid - 19 ในขณะนี้ จึงต้องให้ ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” เพื่อลงทะเบียนเช็คอิน- เช็คเอาท์ ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการ ข้อมูลของผู้ลงทะเบียนใน ระบบปฏิบัติการ “ไทยชนะ” ได้มีการเก็บไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน หน่วยงาน ที่สามารถเข้าถึงเข้าถึงมูลได้มีเพียงกรมควบคุมโรคเท่านั้น และต้องเป็นกรณี ที่มีการติดเชื้อจากโรคระบาดเท่านั้น จึงจะสามารถเปิดข้อมูลของผู้ ลงทะเบียนได้เพื่อติดตามมาดำเนินการสอบสวนโรค ในกรณีที่พบผู้ติดเช้ือ Covid - 19 ไปแพร่เชื้อที่จังหวัดระยอง สามารถนำข้อมูลของผู้ลงทะเบียน มาใชเ้ พ่ือติดตามมาสอบสวนโรคได้ จำนวน 300 คน รัฐบาลได้มีการจัดเก็บข้อมูลอย่างระมัดระวัง และดำเนินการอย่างรอบคอบ ที่สุด ทั้งนี้ การจัดเก็บข้อมูลต้องใช้เวลาเกิน 60 วัน เพื่อให้ทราบถึงต้นทาง ของบุคคลที่เป็นผู้แพร่เชื้อ จึงต้องขยายเวลาในการเก็บข้อมูลจาก 60 วัน เป็น 90 วัน เพื่อเป็นการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด และทราบถึงที่มาและที่ ไปของเชื้อที่แพร่ระบาด หลังจากระยะเวลาผ่านไป 90 วันแล้ว จึงจะลบ ข้อมูลและเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด ดังนั้น หากประชาชนให้ ความร่วมมือในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ เพื่อเช็คอิน- เช็คเอาท์ เมื่อเข้าใช้บริการในร้านค้าหรือสถานประกอบบริการจะเป็น ประโยชนต์ ่อการควบคมุ โรคอย่างมาก
| 111
| 112
| 113
| 114
| 115
| 116
| 117
| 118
| 119
| 120
| 121
| 122
| 123
| 124
| 125
| 126
| 127
| 128
| 129
| 130 ชว่ ยกนั หยุดวกิ ฤต เช้าวันนี้ (4 กพ. 63) ช่วงขอปรึกษาก่อนเข้าระเบียบวาระการประชุม ได้หารือกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินออกระเบียบค่าใช้จ่ายการเดินทางไป ราชการ ปี 2563 สดๆร้อน ระบใุ ห้ “คู่สมรส” เบกิ ค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางไปราชการตา่ งประเทศสำหรบั ได”้ ?!? คือ เบิกเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก ค่าพาหนะ ค่ารับรอง ค่าเครื่องแต่งตัวได้ เปน็ ตน้ ทั้ง ๆที่คู่สมรสฯ ไม่ไช่พนักงานของรัฐ งานของผู้ตรวจการแผ่นดินมีวง ขอบเขตอย่ใู นประเทศเทา่ นน้ั ไมไ่ ช่ผ้ตู รวจการโลก! ถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีการไปต่างประเทศก็เป็นเรื่องการประชุม อบรม สมั มนา ดงู าน ซง่ึ กไ็ ม่เก่ียวกับผ้สู มรสอยู่ดี ถ้าคู่สมรสติดตามผู้ตรวจการแผ่นดินไปต่างประเทศ ก็ควรเป็นเรื่องส่วนตัว จะมาเบกิ เงินจากภาษปี ระชาชนได้อย่างไร? ผู้ตรวจการแผ่นดินออกระเบียบเอง ใช้กันเอง เอื้อประโยชน์ (ที่ไม่ควรได้) กันเอง เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล หลักความผิดชอบชั่วดี หลักคุณธรรม หรอื ไม่?!? เรื่องนี้ ทราบว่ามีองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอีกแห่งหนึ่งทำระเบียบแบบน้ี ไวก้ อ่ นแลว้ (แต่สงั คมอาจไม่ทนั รบั รู้!) เรอื่ งนีก้ ำลงั กลายเป็น “วิกฤตศรทั ธาของประชาชนต่อองค์กรของรฐั ” จึงได้หารือต่อประธานวุฒิสภา เสนอแนะให้ “กมธ.กิจการองค์กรอิสระตาม รัฐธรรมนูญของวุฒิสภา) ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจสอบหาข้อเท็จจริง ติดตาม
| 131 และประเมินผลการรับและการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรอิสระ ได้สอบ ขอ้ เท็จจริงเร่ืองน้เี ป็นการด่วนตอ่ ไป บนั ทกึ สว.(143) 7 กพ.63
| 132 ดที ไ่ี ม่ดงึ ดัน จากกรณีคณะผู้ตรวจการแผ่นดินออกระเบียบให้ผู้สมรสเบิกค่าใช้จ่ายไป ต่างประเทศได้เหมือนกับผู้ตรวจฯ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั้งบ้าน ทง้ั เมือง วา่ ไม่เหมาะสม เมื่อวันท่ี 4 กพ. 63 ผมได้ปรึกษาหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมวุฒิสภา โดยระบุ ว่ายังมีองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอีกแห่งหนึ่ง ออกระเบียบเช่นนี้มาก่อน แล้วด้วย ต่อมาวันท่ี 5 กพ. 63 คณะผู้ตรวจการแผ่นดินได้แก้ไขระเบียบ ยกเลิกเรื่อง น้ีโดยพลัน และวันน้ี (7 กพ. 63) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เจ้าของ ระเบียบ ซึ่งออกมาใช้ตั้งแต่ปี 2560 ก็ยอมยูเทิร์นเช่นกัน แก้ระเบียบตัด เรื่องนี้ออกไปแล้ว ขอบคุณครบั ท่ีฟังเสียงของประชาชน ไม่ดงึ ดนั ทำในสง่ิ ทไ่ี มค่ วรทำกันอีกต่อไป บนั ทกึ สว.(146) 7 กพ.2563
| 133
| 134
| 135 ความนำ เริ่มต้นเรื่องที่คณะกรรมการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ของ วุฒิสภา รายงานผลการดำเนินงานต่อวุฒิสภา เมื่อวันท่ี 18กุมภาพันธ์ 2563 จึงได้เรียนต่อประธานวุฒิสภา ฝากพิจารณาเรื่องที่มีองค์กรบางแหง่ ได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตรวจสอบรับรองงบการเงิน และไดต้ ดิ ตามเร่อื งนีอ้ กี หลายคร้ัง สรปุ ไดด้ ังนี้
| 136 บ่ายวันนี้ (18 กพ. 63) กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มา รายงานการทำงานช่วงทผ่ี า่ นมา ตอ่ ทป่ี ระชมุ วุฒสิ ภา จึงได้ถือโอกาสอภิปรายฝาก กมธ.ฯ กรณี สตง.ออกระเบียบเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมการตรวจและรับรองงบการเงินจากหน่วยงานต่างๆ เป็นเงิน สูงมาก นำไปเข้ากองทุนใช้จ่ายกันเอง (ทราบว่าปัจจุบันกองทุนนี้มีเงินนับ พันล้าน!!!) โดยทั่วไป หน่วยงานรัฐที่กฎหมายอนญุ าตใหเ้ รียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ ก็เป็น การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายพื้นฐานเล็กน้อย หลักร้อย หลักพัน อย่างมากก็หลัก หม่นื แต่ท่ี สตง.เรียกเก็บ เป็นการคำนวนจำนวนคนและวันทำการตรวจ แล้วคูณ ด้วยคา่ ตรวจ ตัวอย่างหน่วยงานเล็กๆที่ สตง.เข้าตรวจ ใช้เจ้าหน้าที่สตง.(ซึ่งมีเงินเดือน และค่าใชจ้ ่ายปกตจิ ากงบประมาณแผน่ ดนิ อยู่แลว้ =เงนิ ในกระเปา๋ ขวา) 5 คน ทำการตรวจ 30 วันทำการ เท่ากับ 150 คน-วัน สตง.คิดค่าตรวจคนละ 8,000 บาทต่อวัน รวมเป็นเงิน 1,200,000บาท ใจดีลดให้ 50 % เก็บ 600,000 บาท!!! บ า ง ห น ่ ว ย ง า น ถ ู ก เ ร ี ย ก เ ก็ บ ค่าธรรมเนียมปีละหลายล้าน บาท อย่างนี้เรียกว่าค่าธรรมเนียม หรือน!ี่ !!
| 137 เงินนี้ ก็คืองบประมาณแผ่นดินที่หน่วยรับตรวจได้รับมา ก็ต้องยอมจ่ายให้ไป เขา้ กระเป๋าซ้ายของ สตง.!!! ไม่มหี น่วยงานใดกลา้ ปฏเิ สธ อยา่ งน้ีเปน็ ธรรมาภิบาลหรอื ไม?่ เปน็ การขัดกันซึง่ ผลประประโยชนต์ ามที่กฎหมายกำหนดไวห้ รอื ไม่? เรื่องนี้ มีผู้บริหารหน่วยงานรัฐจำนวนมากที่อยู่ในสภาพยอมจำนนเขาฝาก ผมมา ก็ไดฝ้ ากตอ่ ไปยังกมธ.ช่วยพิจารณาศึกษาด่วนด้วย อะไรดีและถกู ตอ้ ง หนนุ ใหท้ ำต่อไป อะไรไม่ดี ไม่ถูกตอ้ ง รบี แกไ้ ขเถอะครับ บนั ทกึ สว.(153) 18 กพ. 2563
| 138 บ่ายวันน้ี (22 มิย.63) มีระเบียบวาระที่ สตง.รายงาน “นโยบายการตรวจ เงนิ แผน่ ดนิ ประจำปงี บประมาณ 63” ให้วุฒิสภาทราบ จึงถือโอกาสนี้ ขอตรวจสอบธรรมาภิบาลของ คตง. และ สตง. ต่อจากท่ี เคยตรวจสอบครง้ั แรกเมอ่ื เดือน กพ. 63 ทผี่ า่ นมา เรื่องมีอยู่ว่า สตง.ออกระเบียบเก็บเงิน “ค่าธรรมเนียม” เป็นเงินค่าสอบ บัญชีจากหน่วยงานรับตรวจ เข้า “กองทุนพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน” เพ่อื นำไปใชจ้ า่ ยพฒั นางานกนั เอง ระเบียบดังกล่าว ให้ความหมาย “ค่าธรรมเนียม” รวมไปถึงเงินที่เรียกเก็บ จากการปฏิบัติงานตรวจสอบบัญชีของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน ทุน หมุนเวยี นและอนื่ ๆ ซึง่ เปน็ หน่วยงานของรฐั อัตราการเก็บเงิน ตัวอย่างเช่น ถ้าใช้ เจ้าหน้าท่ี ปฏิบัติงานตรวจ 11 คน ใช้ เวลาตรวจ 30 วัน คิดเงิน 11 X 30 x 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 3.3 ล้าน ลดใหค้ รง่ึ หนงึ่ เรยี กเกบ็ จรงิ 1.65 ลา้ นบาท นำไปเขา้ กองทุนฯ ทราบว่ากองทนุ น้ีมีเงนิ นบั พันลา้ นบาท!!! ปัญหาคือว่า เจ้าหน้าท่ีสตง. มีเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดินแล้ว เหตุใด จึงมาเรียกเก็บเงินค่าปฏิบัติงานสอบบัญชีจากหน่วยงานของรัฐซ้ำอีก โดยมา ออกระเบยี บเอง เรยี กว่าเปน็ “คา่ ธรรมเนียม” เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และถูกกฎหมายหรือไม่? จึงได้ไปตรวจค้นหลักฐานตอนท่ี สนช.พิจารณากฎหมายตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อปี 2560 พบความจริงว่า ในร่างกฎหมายตรวจเงินแผ่นดินที่เข้า สนช. เขียนว่า กองทุนพัฒนาฯมรี ายได้มาจาก..
| 139 ...(2)รายไดจ้ ากค่าสอบบัญชีจากหน่วยงานรับตรวจ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการปฏบิ ตั ิงานของสำนกั งาน แต่ สนช.ไม่เห็นด้วยที่ สตง.จะเก็บเงินค่าสอบบัญชีจากหน่วยงานรับตรวจ จึงให้ตัดค่าตรวจสอบบัญชีออก ให้เก็บได้เฉพาะค่าธรรมเนียมเท่านั้น โดย ระบไุ ว้ชดั เจนว่า “...ห้ามมิให้ สตง.เรียกค่าสอบบัญชีจากหน่วยงานตรวจรับเข้าเป็น เงนิ กองทุน..” ก็ชัดเจนว่าเจตนารมณ์ตอนออกกฎหมาย เขาอนุญาตให้เก็บค่าธรรมเนียม ต่างๆได้ แต่ไมเ่ ห็นชอบใหเ้ ก็บค่าสอบบัญชีมาเข้ากองทนุ คา่ สอบบัญชี และค่าธรรมเนยี มไม่เหมอื นกนั การที่ สตง.มาออกระเบียบ แล้วตีขลุมกำหนดอัตราเรียกเก็บค่าสอบบัญชี จากหน่วยงานของรัฐเอามาเป็น “ค่าธรรมเนียม” จึงน่าจะเข้าข่ายผิด เจตนารมณ์ของกฎหมาย และไมเ่ ป็นธรรมาภบิ าลหรือไม่??? (ดรู ายละเอยี ดและเอกสารหลกั ฐานทแ่ี นบ) เรื่องนี้ไม่ปกติธรรมดา ปล่อยผ่านไปง่ายๆคงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดกับ สตง.ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบหน่วยงานอื่น จึงต้องยึดหลักธรรมาภิบาลอย่าง เคร่งครัด ทั้งในแง่ความถูกต้องทางกฎหมาย และความถูกต้องชอบธรรม เพ่อื เป็นตัวอยา่ งให้กบั หนว่ ยงานอ่ืนดว้ ย ได้ฝากคำถาม 3 ข้อ ถึงคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และสตง. ท่านบอกว่าจะตอบมาเป็นเอกสารในภายหลงั และฝากถึงคณะกรรมาธิการกิจการองค์การอิสระ วุฒิสภา กรุณาศึกษา เรื่องนี้ใหก้ ระจา่ งต่อไปดว้ ย (หลังจากท่ีเคยฝากครงั้ หนง่ึ แลว้ เม่อื วันท่ี 18 กพ. 63 ในท่ปี ระชุมวุฒสิ ภา)
| 140 หน่วยงานรับการตรวจที่ได้รับผลกระทบ ก็ควรไม่นิ่งเฉย เรื่องนี้ควร ดำเนนิ การให้สิน้ กระแสความ เพ่ือประโยชนส์ ว่ นรวม อะไรดี อะไรถกู ต้อง ทำต่อไป ถา้ อะไรไมด่ ี ไม่ถูกต้อง ก็ควรแกไ้ ขให้ถกู ต้อง เครดิตขององคก์ รสำคัญเหนอื ส่ิงอืน่ ใดนะครับ บนั ทกึ สว.(225) 22 มยิ . 2563
| 141
| 142
| 143
| 144
| 145
| 146 สตง.มารายงานการตรวจสอบปีงบประมาณ 2561 ได้ขอติดตามเร่ืองเดิม ที่ ผูว้ ่าการ สตง.รับปากวา่ จะตอบเป็นหนงั สือ แต่ยังไมไ่ ดร้ ับ อังคาร 18 สค. 63 ประชุมวุฒิสภา มีระเบียบวาระรับทราบรายงาน ตรวจสอบสตง. ปีงบประมาณ 61 ของกรมบญั ชกี ลาง ได้ทวงถามคำตอบที่เคยถาม สตง. เกี่ยวกับการออกระเบียบให้เรียกเก็บเงิน “ค่าสอบบัญชีจากหน่วยงานรับตรวจ” เข้าเป็นเงินกองทุนพัฒนาของ สตง. ใช้จ่ายใน สตง. ว่าผดิ กฎหมายและผดิ หลกั ธรรมาภิบาลหรือไม่? เนื่องจากตอนท่ี สนช.ออกกฎหมาย สตง.ปี2561 ได้ตัดข้อความในร่าง กฎหมายส่วนน้อี อกแล้ว เหลือใหเ้ กบ็ ไดเ้ ฉพาะคา่ ธรรมเนียมเทา่ นั้น โดยระบุไว้ชัดเจนว่า “ห้ามมิให้ สตง.เรียกเก็บค่าสอบบัญชีจากหน่วยรับ ตรวจเข้ากองทนุ ฯ”
| 147 แล้วเหตุใด สตง.จึงมาออกระเบียบค่าธรรมเนียมครอบคลุม “เงินค่าสอบ บัญชจี ากหนว่ ยรับตรวจ” กลบั เขา้ ไปเป็นค่าธรรมเนยี มอกี ??? มีความพยายามอธิบายว่า กฤษฎีกาตีความว่า การเรียกเก็บค่าสอบบัญชี จากหนว่ ยงานรบั ตรวจ ถา้ เขา้ องค์กร ไม่เข้ากระเป๋าเจ้าหน้าทโี่ ดยตรง ไม่ถือ วา่ เป็นเรื่องขัดกนั แหง่ ผลประโยชน์ ตาม ม.55 ซึ่งเป็นคนละประเดน็ กนั !!! เคยถามเรื่องนี้ในที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 22 มิย. 63 ซึ่งผู้ว่าการ สตง. ตอบว่าจะตอบคำถามเป็นหนังสือ นี่เวลาล่วงเลยมาเกือบ 2 เดือน ไม่มี หนังสือใดตอบกลบั มาเลย จึงขอทวงคำตอบอีกครัง้ ผมไม่ไช่นักกฎหมาย แต่อ่านทั้งหมดแล้ว เข้าใจได้ไม่ยากว่า การออก ระเบียบค่าธรรมเนียมที่รวมไปถึงค่าสอบบัญชีจากหน่วยรับตรวจ มันผิด เจตนารมณ์ท่ี สนช.ออกกฎหมายนไี้ ว้ ซงึ่ เขยี นระบุไว้ชดั เจนอยแู่ ล้ว ไม่ไช่ประเด็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ที่มีความพยายาม ยกมาเบี่ยง ประเดน็ แตอ่ ยา่ งใด เรื่องนี้เป็นประเด็นกฎหมาย ไม่ไช่ประเด็นการพิจารณาหรือตีความในทาง บริหารแบบชว่ ยๆกันไป ในที่สุด เรื่องน่าจะต้องถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน หากมีหน่วยงานรับตรวจแห่ง ใดยนื่ เร่ืองให้พิจารณา บทจบของเรื่องน้ี คงอกี ไกลครับ บนั ทกึ สว.(260) 21 สค.63
| 148 สตง.ตอบมาเป็นหนังสือ (9 กย. 63), 24 กย.63 แจ้งได้ทำหนังสือแจ้ง กลบั ไปว่า สตง.ยังไมไ่ ด้ตอบประเด็นตามที่ถา
| 149
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167