กระทู้ สว. "หมออำพล" เล่มที่ 1

| 150

| 151

| 152

| 153

| 154 สตง.ออกระเบียบค่าธรรมเนียม เรียกเก็บค่าสอบบัญชีจากหน่วยงานรับ ตรวจ (จากองค์การมหาชนและนิติบุคคลกองทุนต่างๆของรัฐ) เข้ากองทุน พัฒนาการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ น่าจะขัดกับเจตนารมณ์การออกกฎหมายตรวจเงินแผ่นดิน ปี 2561 ที่ห้าม สตง.เก็บค่าสอบบัญชีจากหนว่ ยงานรับตรวจเข้ากองทนุ ครัง้ ที่ 1 : 4 กพ. 2563 หารอื ประธานวฒุ สิ ภาในเรอื่ งน้ี ประธานส่งเรอ่ื งให้ กมธ. กจิ การองคก์ ารอิสระพจิ ารณา (ทราบวา่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว รอ เขา้ รายงานต่อวฒุ ิสภา) ครั้งท่ี 2 : 22 มิย. 2563 ถามในที่ประชุมวุฒิสภา ในวันท่ี สตง. มา รายงานนโยบายตรวจเงินแผ่นดินปี 2563 ครั้งนั้นถาม 3 ข้อ ขึ้นจอด้วย ผู้ว่าการ สตง.แจ้งว่าจะตอบเป็นหนังสือ แต่ ก็เงยี บ ครง้ั ท่ี 3 : 19 สค. 2563 สอบถามเรอ่ื งนี้ในทีป่ ระชุมวุฒสิ ภาอีกครัง้ ในวนั ท่ี มีรายงานตรวจสอบ สตง.ของกรมบัญชีกลางเข้า ผู้ว่าแจ้งว่าจะตอบเป็น หนังสือ 9 กย. 2563 สตง.ตอบมาเป็นหนังสือ แต่ตอบไม่ตรงคำถาม (ทีมงาน กลา่ วหาว่าผมถามไมต่ รงคำตอบเอง! 555) ครั้งที่ 4 : 24 กย. 2563 จึงได้ทำหนังสือถึง สตง.เพื่อถามกลับไปอีกครั้ง เร่ืองเงียบไปอีกเกือบ 3 เดือน เมอ่ื วานนี้ (14 ธค. 63) มีรายงานผลปฏบิ ัติงานของ สตง. ปี 62 เขา้ วฒุ ิสภา จงึ สอบถามซ้ำเป็นคร้งั ท่ี 5

| 155 ครัง้ นี้เน้นถามประเด็นเดยี ว ตรงๆ ชัดๆ “สนช.ออก พ.ร.บ.ตรวจเงินแผ่นดิน 2561 ซึ่งเป็นกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญ ให้ สตง.มีกองทุนพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินได้ , ให้ สตง. ออกระเบยี บเกบ็ คา่ ธรรมเนียมจากการปฏบิ ตั งิ านตา่ งๆได้ แตต่ ดั อำนาจเรยี กเกบ็ ค่าสอบบัญชจี ากหนว่ ยรบั ตรวจทีม่ ใี นรา่ งกฎหมายฉบับ ที่เข้า สนช.ออก และเขียนบันทึกไว้ชัดเจนว่า ไม่ให้ สตง.เรียกเก็บค่าสอบ บัญชีจากหน่วยรับตรวจ นำไปเข้ากองทนุ แต่เมื่อ สตง. มาออกระเบียบค่าธรรมเนียม ปี 2562 กลับระบุอำนาจเรียก เก็บคา่ สอบบัญชจี ากหน่วยรับตรวจเป็นค่าธรรมเนียม นำไปเข้ากองทุนฯ - ใช้ฐานกฎหมายใดรองรบั ? - ผดิ เจตนารมณก์ ารออกกฎหมายแมห่ รอื ไม่? ผูว้ ่า สตง.ตอบ (อกี คร้ัง) วา่ จะรับไปพจิ ารณาหาทางออกใหเ้ รยี บร้อยโดยเร็ว แล้วจะแจง้ ใหว้ ุฒสิ ภาทราบ หนงั ยงั ไมจ่ บครบั บนั ทกึ สว.(349) 15 ธค.2563

| 156

| 157 รายงานกมธ.กิจการองค์กรอิสระ เข้าวุฒิสภา ตรงตามที่ทักท้วงไว้เลย อภปิ รายสนับสนนุ และขอบคุณ กมธ. บ ่ า ย ว า น น ี ้ ( 2 6 ม ค . 64 ) กรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา นำเสนอรายงานต่อวุฒสิ ภา เรื่อง “การเก็บค่าธรรมเนียม จากการ ตรวจสอบรายงานการเงินของ หน่วยรบั ตรวจ โดย สตง.” ก็คือเรื่องที่ผมติดตามตรวจสอบและทักท้วง สตง. ตลอดมาตั้งแต่ต้นปี 2563 น่นั เอง งานนี้ มีท่าน สว.ปิยพันธ์ุ นิมมานเหมินทร์ ประธานอนุ กมธ. เป็นหัวหน้า ทีมทำรายงาน เป็นรายงานที่ศึกษาวิเคราะห์อย่างเป็นกลาง ละเอียด รอบด้าน และสรุปผล ไวด้ ีมาก ผมได้อภิปรายชื่นชม และแสดงความยินดีที่เห็นกลไกวุฒิสภาทำงานได้สม บทบาทหน้าท่ตี ามทร่ี ฐั ธรรมนญู กำหนด ดีใจที่เห็นเรื่องที่ผมทักท้วง ติดตาม ทวงถาม อยู่ในรายงานฉบับนี้หมดแล้ว และสิ่งที่ผมเคยทักท้วง ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ กมธ.ทำได้ละเอียด รอบด้าน ครอบคลุมทุกมิติมากกว่าท่ผี มทว้ ง จากนี้ไป เรื่องนี้ไม่ไช่เรื่องของสมาชิกวุฒิสภารายบุคคล ตรวจสอบ ทักท้วง และติดตาม อย่างท่ผี า่ นมาอีกแล้ว

| 158 แต่เป็นการติดตาม ตรวจสอบ ทักท้วง เสนอแนะ จากวุฒิสภา ซึ่งเป็นองค์กร ฝา่ ยนติ ิบัญญตั ติ ามรฐั ธรรมนูญ ก็ต้องตามดูต่อว่า เมื่อวุฒิสภาส่ง รายงานให้ “คณะกรรมการกำกับการ ตรวจสอบการตรวจเงินแผ่นดิน” ที่มี กรมบัญชีกลางเป็นหน่วยเลขานุการ จะพจิ ารณาอย่างไร? ควบคู่กันไปตอ้ งตามดูว่า คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดนิ (คตง.) ในฐานะผู้ ออกระเบียบ และ สตง.เอง จะพจิ ารณาอย่างไร? ส่ิงที่ กมธ.สรุปข้อคน้ พบสำคญั ไว้ มี 5 ขอ้ คอื 1) สตง.เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการสอบบัญชีตามอำนาจ หน้าทจ่ี ากหนว่ ยรบั ตรวจ ไมอ่ าจทำได้ กฎหมายไมไ่ ด้ให้อำนาจไว้ และขัดต่อ เจตนารมณ์ของกฎหมายการตรวจเงินแผ่นดิน พศ.2561 2) มาตรา55 กฎหมายตรวจเงินแผ่นดิน ห้ามมิให้ผู้ว่า สตง. หรือเจ้าหน้าที่ เรียกเกบ็ ค่าใชจ้ ่ายจากการสอบบญั ชีตามหน้าท่ี จากหนว่ ยรบั ตรวจชัดเจนอยู่ แลว้ สตง.ไดร้ ับงบประมาณประจำปีเพ่อื การทำงานตามหน้าท่แี ละอำนาจอยู่ แลว้ 3) กฎหมายตรวจเงินแผ่นดิน กำหนดให้ คตง., ผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าท่ีต้อง ปฏิบัติงานตามข้อกำหนดหลายด้าน ทั้งหลักความเป็นกลาง หลักความเป็น อิสระ หลักความเที่ยงธรรม หลักการปราศจากอคติ หลักธรรมาภิบาล และ หลกั การขดั กนั แห่งผลประโยชน์ ซง่ึ เปน็ สง่ิ ที่ คตง. และ สตง. ตอ้ งยดึ ถือ การออก พ.ร.บ.การตรวจเงินแผ่นดิน ได้ตัดอำนาจการเรียกเก็บค่าสอบ บัญชีออกแล้ว เพื่อป้องกันโอกาสและพฤติกรรมในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และผลประโยชน์ขัดกัน แต่การท่ี คตง. ออกระเบียบให้เรียกเก็บ

| 159 ค่าธรรมเนียมจากงานสอบบัญชีได้อีก จึงกลายเป็นช่องโหว่ เป็นจุดอ่อนท่ี อาจส่งผลตอ่ วงจรพฤตกิ รรมบางอย่าง ซ่ึงไมไ่ ชเ่ จตนารมณข์ องกฎหมาย 4) สตง.มีหน้าที่และอำนาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆจากการปฏิบัติงาน ของ สตง.ได้ แต่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการตรวจสอบบัญชีไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ และยังเป็นการขัดเจตนารมณ์ของ กฎหมายดงั กล่าวด้วย 5) นอกจากนั้น การท่ี คตง.ออกระเบียบเรื่องค่าธรรมเนียม เรียกเก็บเงิน จากการตรวจสอบบัญชีรายงานการเงินของหน่วยรับตรวจ แล้วนำเข้า กองทุนพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน แล้วนำเงินไปจ่ายเป็นค่าตอบแทนใน การทำงานของเจ้าหน้าท่ี สตง. ยังเข้าลักษณะการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามมาตรา 55 อกี ด้วย ลองทายกันไวล้ ว่ งหน้าดีไหมครับว่า “ลูกเต๋าจะออกเหลย่ี มไหน?” บนั ทกึ สว.(369) 27 มค. 2564

| 160

| 161 เรื่องเงียบหายไปอีก จึงได้สอบถาม สตง.อีกครั้ง ในการประชุมพิจารณา ศึกษา พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2565 ใน กมธ.วิสามัญฯ อีกคร้ัง (6 สค. 64) ขอให้ สตง.ตอบเป็นหนังสือ ต่อมา สตง. ตอบหนังสือกลับมา (16 สค. 64)

| 162

| 163 หนังเรื่องนี้เป็นหนังยาวมาก ยังไม่จบง่ายๆ ต้องรอการพิจารณาของ “คณะกรรมการกำกับการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561 ที่มีกรมบัญชีกลางเป็น เลขานุการ ซึ่ง กมธ.กิจการองค์การอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา ได้ ศึกษาและเสนอไวช้ ัดเจนแล้ว

| 164

| 165 เกีย่ วกบั ผเู้ ขยี น นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เป็นลูกนายทหารที่มาจากชั้นประทวน จบชั้นประถมศึกษาที่ผดุงศิษย์พิทยา บางซื่อ, จบมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายที่โยธินบูรณะ, จบแพทยศาสตร์ที่ศิริราช, จบปริญญา โทสาธารณสุขศาสตร์ ท่ีมหาวิทยาลัยมหิดล และที่สถาบันโรคเขตร้อน ประเทศเบลเยี่ยม, ผูเ้ ช่ยี วชาญสาขาเวชศาสตรป์ ้องกนั จากแพทยสภา (เทียบเทา่ ปริญญาเอก) เคยเป็นหัวหน้ากลุ่มอาสาและค่ายอาสา มหาวิทยาลัยมหิดล, ประธานชมรมแพทย์ชนบท, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน 2 แห่ง ที่ลพบุรี (พัฒนานิคม และโคกสำโรง) ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมวิชาการและบริการสาธารณสุข 2 จังหวัด (ลพบุรี และพิษณุโลก), นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัด 3 จังหวัด (ยโสธร, พิษณุโลก และอุดรธานี), ผู้อำนวยการกองการ สาธารณสุขต่างประเทศ, เคยเป็นนายแพทย์ใหญ่ กรมควบคุมโรคติดต่อ, ผู้อำนวยการสถาบันพระบรมราชชนก เพ่ือ การพัฒนากำลังคนด้านสาธารณสุข, นักพัฒนาทรัพยากรบุคคล ระดับ 10, โฆษกกระทรวง

| 166 สาธารณสุข, ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิรูประบบสุขภาพ (สปรส.), เลขาธิการคณะกรรมการ สขุ ภาพแหง่ ชาต,ิ นักวชิ าการสาธารณสุข ระดับ 11 เคยเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการศึกษาแห่งชาติ , กรรมการกองทุนพัฒนาการเมือง, กรรมการสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน (มหาวิทยาลัยชีวิต), ประธานกรรมการบริหาร องค์การเภสัชกรรม เคยเป็นสมาชกิ สภาปฏิรปู แห่งชาติ (สปช.) และประธานกรรมาธกิ ารการปฏิรูปดา้ นสังคมและ ชุมชน, สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.), ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการปรองดอง (ปยป.), กรรมการปฏิรูปประเทศด้าน สังคม, ประธานอนุกรรมการติดตามการขบั เคล่ือนนโยบายรฐั บาลเชงิ พน้ื ที่ ปัจจุบนั (2565) เป็นสมาชิกวุฒิสภา และประธานมลู นิธิสานพลังเพือ่ แผ่นดิน (มสผ.) เคยได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนโยธินบูรณะ , ศิษย์เก่าดีเด่น และศิษย์เก่าเกียรติยศ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎ เชียงราย และนกั การสาธารณสขุ ดีเด่น (ดา้ นบริหาร) รางวลั ชยั นาทนเรนทร เป็นนักบริหารกิจการสาธารณะ, ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสาธารณสุข, สังคมและชุมชน ประชา สังคม งานรฐั สภา และการปฏริ ูป ภรรยา คือ คุณวงเดือน (แฝงสีคำ) จินดาวัฒนะ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ ผอู้ ำนวยการกลมุ่ พฒั นาระบบบรหิ าร กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก บตุ รสาว: แพทยห์ ญงิ อษิ ฏา กลุ กลการ และบุตรชาย: นายแพทยช์ ญงค์ จินดาวฒั นะ