Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กระทู้ สว. "หมออำพล" เล่มที่ 1

กระทู้ สว. "หมออำพล" เล่มที่ 1

Description: เป็นการตั้งกระทู้ถามเพื่อติดตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน นโยบาย และการดำเนินงานด้านต่างๆของรัฐบาล เป็นหน้าที่และอำนาจสำคัญประการหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติ (สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ทั้งนี้ตั้งแต่พฤษภาคม 2562 นับถึงเดือนกันยายน 2563 ซึ่งเป็นห้วงเวลาเปิดสมัยประชุม 3 ครั้ง นพ.อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งกระทู้ถามไปรวมทั้งสิ้นรวมทั้งสิ้น 12 กระทู้ มีการขอหารือประธานวุฒิสภาก่อนเข้าระเบียบวาระการประชุม 2 ครั้ง และเป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ ในคณะ กรรมาธิการ 2 คณะ ทำรายงานที่เกี่ยวข้องเสนอต่อวุฒิสภา จำนวน 3 ฉบับ

Keywords: อำพล จินดาวัฒนะ

Search

Read the Text Version

|1

|2 ผมได้อ่านหนังสือรวมกระทู้ของคุณหมออำพล จินดาวัฒนะ ที่ได้ตั้งกระทู้ ถามเพื่อติดตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาลและ ข้าราชการประจำทั้งในเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญอย่าง หนึ่งของสมาชิกวุฒสิ ภา ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของคุณหมออำพล ท่านได้ทำหน้าที่ดังกล่าวอย่างเข้มแข็งด้วยความวิริยะอุตสาหะ สะท้อน ปัญหาที่เกิดจากการบริหารราชการแผ่นดินให้รัฐบาลและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขอันเป็นประโยชน์ในการดูแลทุกข์สุข ของประชาชนอย่างยงิ่ หนังสือรวมกระทู้ของคุณหมออำพล จึงมิใช่เป็นเพียงหนังสือที่รวบรวม ผลงานในฐานะสมาชิกวุฒิสภาเท่านั้น แต่ยังเป็นเอกสารที่สะท้อนให้เห็นถึง ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และสะท้อนให้เห็นถึงกลไกการแก้ไข ปัญ หาค วามเด ือด ร้อนของป ระ ชาช นผ ่านก ารต ั ้งก ระทู้ ถ าม ขอ งส ม า ชิ ก วุฒสิ ภา 20 มถิ นุ ายน 2565

|3 คำนำ การตั้งกระทู้ถามเพื่อติดตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน นโยบาย และการดำเนินงานด้านต่างๆของรัฐบาล เป็นหน้าที่และอำนาจ สำคัญประการหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติ (สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) ตามท่ีรัฐธรรมนูญกำหนด สมัยที่ผมเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปี 2549- 2551 เคยทำหนา้ ทใ่ี นบทบาทนบ้ี ้างไม่มากนัก แต่การเปน็ สมาชกิ วุฒิสภาครง้ั นี้ พอมเี วลาและมที มี งานชว่ ยเหลือ จึงมีโอกาสทำงานในส่วนนมี้ ากขนึ้ การตั้งกระทู้มี 2 แบบ คือ กระทู้เป็นหนังสือให้ตอบในที่ประชุม วุฒิสภา หรือให้ตอบในราชกิจจานุเบกษาก็ได้ และกระทู้สด ตั้งถามเช้าวันท่ี มกี ารประชมุ ให้ตอบในการประชุมวนั นนั้ เลย เป็นการตั้งถามนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ เรื่องนั้นๆ ส่วนนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีจะมาตอบเอง หรือมอบหมายให้ รฐั มนตรีท่านใดมาตอบกระทู้แทนก็ได้ แต่ไม่สามารถส่งขา้ ราชการประจำมา แทนได้ โดยมีการประสานวันเวลากันให้เป็นที่ลงตัว ที่ให้สมาชิกสภาและ

|4 รัฐมนตรีมีโอกาสถามตอบกันโดยตรง ให้สาธารณะรับรู้ไปพร้อมๆกัน ได้ แลกเปลี่ยนข้อมูลและขอ้ เสนอแนะกนั โดยตรง แต่ก็ต้องมีการทำการบ้านล่วงหน้าให้ดี ทั้งฝ่ายผู้ตั้งถาม และฝ่ายผู้มา ตอบกระทู้ จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับสาธารณะ ถ้าทำการบ้านไม่ดี ไม่รู้ งาน ผิดประเด็น หรือตอบตามที่ข้าราชการประจำเขียนให้ก็อาจไม่สมาร์ท เทา่ ทค่ี วร ซึ่งก็พอพบเห็นอยบู่ ้าง ในสภาผู้แทนราษฎร สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรต้งั กระท้ถู ามรัฐบาลเป็น จำนวนมาก และรัฐมนตรีมักให้ความสำคัญกับการมาตอบกระทู้ในสภา ผู้แทนฯ ค่อนข้างมาก แต่ในวุฒิสภา มีการตั้งกระทู้ถามน้อยกว่า อีกทั้งเมื่อตั้งถามแล้ว ก็มักจะได้รับความสำคัญจากฝ่ายรัฐบาลในการมาตอบกระทู้ถามน้อย บาง สมยั ประชมุ มีการตอบกระท้ถู ามในวุฒสิ ภาเพยี งไมถ่ งึ 10 กระทู้ สำหรับการตอบกระทู้ถามในราชกิจจานุเบกษา ส่วนใหญ่เป็นการตอบ ที่แห้งแล้งแบบราชการมากๆ แต่ก็มีข้อดี คือ เป็นการตอบอย่างเป็นทางการ เป็นลายลักษณ์อักษร ทุกภาคส่วนเข้าถึงและสามารถนำไปใช้อ้างอิงในงาน อน่ื ๆทเี่ ก่ียวขอ้ งตอ่ ไปได้ ผมเป็นสมาชิกวุฒิสภาตั้งแต่พฤษภาคม 2562 นับถึงเดือนกันยายน 2563 ซึ่งเป็นห้วงเวลาเปิดสมัยประชุม 3 ครั้ง ได้ตั้งกระทู้ถามไปรวมทั้งสิ้น รวมท้ังสิ้น 12 กระทู้ มีการขอหารือประธานวุฒิสภาก่อนเข้าระเบียบวาระ การประชุม 2 ครั้ง และเป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ ในคณะ กรรมาธิการ 2 คณะ ทำรายงานที่เกี่ยวข้องเสนอต่อวุฒิสภา จำนวน 3 ฉบบั ดังนั้นเพื่อเป็นการบันทึกงานไว้ให้เป็นระบบ เพื่อการสืบค้น เรียนรู้ และพัฒนางานเพื่อประโยชน์ของสาธารณะต่อไป ทีมงานของผมจึงช่วย เรียบเรียงกระทถู้ าม-ตอบ และข้อมูลทีเ่ กี่ยวข้องมาทำเป็นหนงั สอื อบี ุค๊ เล่มน้ี ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ได้ทำให้ผมมีโอกาสทำงานเหล่านี้ และ ได้ทำเป็นหนงั สอื เลม่ นค้ี รบั อำพล จนิ ดาวฒั นะ กรกฎาคม 2565

|5 สารบาญ ส่วนท่ี 1 กระทูถ้ ามเป็นหนังสือ และกระทูถ้ ามดว้ ยวาจา (กระทู้สด) ให้ตอบในท่ีประชุมวุฒสิ ภา จานวน 9 กระทู้ กระทู้ถามท่ี 1 กระทปู้ ระเดมิ ของวฒุ ิสภา 11 12 • ถามไมต่ รงคำตอบ FB บนั ทกึ สว.(38) 2 กย. 2562 14 • หนังสือกระท้ถู าม เรอื่ ง การตรวจพบ 16 สารพษิ ตกค้างในผกั ผลไม้จำนวนมาก 31 กค. 2562 • ผลการดำเนินงานของรฐั บาลท่รี ายงานตอ่ วุฒสิ ภา กระท้ถู ามท่ี 2 การขยายอายเุ กษยี ณราชการ 20 21 • กระทู้ถามดว้ ยวาจา : FB บันทกึ สว. (87) 24 ขยายเกษยี ณอายรุ าชการ 8 พย. 2562 27 29 • บนั ทกึ ถาม-ตอบ (โดยเจ้าหน้าทีว่ ฒุ สิ ภา) 35 • ข้อมูลผลการดำเนนิ การตามกระทถู้ าม 24 สค. 2563 • บทสรุปผู้บริหาร รายงานการศึกษา พย. 2562 เรือ่ งการจ้างงานขา้ ราชการภายหลัง เกษยี ณอายุ 60 ปี เพอื่ รองรับสงั คม สงู วัย ของคณะกรรมาธิการพฒั นา สังคม และกจิ การเด็ก เยาวชน สตรี ผูส้ ูงอายุ คนพกิ าร และผูด้ อ้ ยโอกาส วฒุ ิสภา • มติ ครม.ตอ่ ข้อเสนอของ กมธ.พฒั นา 2 มีค. 2564 สงั คมฯ

|6 สารบาญ กระท้ถู ามที่ 3 การแบนสารพษิ 36 37 • แบนสารพิษ FB บนั ทึก สว.(103) 2 ธค. 2562 39 • หนงั สอื กระทูถ้ าม : การยกเลิกการใช้ 21 ตค. 2562 41 วัตถุอันตราย 3 ชนิด • บันทึกถาม-ตอบ (โดยเจ้าหน้าทวี่ ฒุ สิ ภา) กระท้ถู ามท่ี 4 การจดั การปัญหาบหุ รไี่ ฟฟา้ ผดิ กฎหมาย 44 45 • กระทบู้ ุหรไ่ี ฟฟ้า FB บันทึก สว. (115) 23 ธค. 2562 46 47 • หนงั สือกระท้ถู าม 21 ตค. 2562 • บันทึกถาม-ตอบ (โดยเจ้าหนา้ ท่ีวฒุ ิสภา) กระททู้ ี่ 5 นโยบายหาบเรแ่ ผงลอย 51 53 • กระท้หู าบเร่แผงลอย FB บันทึก สว.(121) 54 6 มค. 2563 55 • หนงั สือกระทูถ้ าม การดำเนินการ 21 ตค. 2562 58 ตามนโยบายหาบเร่แผงลอย 67 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล • บันทึกถาม-ตอบ (โดยเจา้ หนา้ ทว่ี ฒุ สิ ภา) • บทสรปุ ผูบ้ ริหาร รายงานการศึกษา มค. 2563 เรือ่ ง ข้อเสนอเชงิ นโยบายการบริหาร จดั การหาบเรแ่ ผงลอยใน กทม. เพ่ือ สง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ฐานราก ชีวติ และ ชุมชน ของ กมธ.แก้ปญั หาความ ยากจน ลดความเหลื่อมลำ้ ฯ วุฒสิ ภา • ผลการดำเนนิ การซงึ่ รัฐบาลรายงาน 29 ธค. 2563 ตอ่ วฒุ สิ ภา

|7 สารบาญ กระทู้ที่ 6 การสอ่ื สารในยามวกิ ฤต (กระทู้ดว้ ยวาจา) 71 72 • สอ่ื สารภาวะวกิ ฤต FB บันทกึ สว. (151) 17 กพ. 2563 74 • บนั ทึกถาม-ตอบ (โดยเจา้ หนา้ ทวี่ ฒุ สิ ภา) กระทู้ถามที่ 7 กฎหมายชาตพิ นั ธ์ุ 76 • ตอบดี-กระทูก้ ล่มุ ชาติพันธฺ์ุ FB บนั ทกึ สว. (234) 77 20 กค. 2563 • หนงั สอื กระทถู้ าม พค. 2563 79 • บนั ทกึ ถาม-ตอบ (โดยเจ้าหน้าที่วฒุ สิ ภา) 80 • ทำรายงานหนนุ กลุ่มชาติพนั ธ์ุ FB บันทึก สว. (334) 83 24 พย. 2563 • ภาพฉายรายงานฯ เสนอวฒุ ิสภา 24 พย. 2563 85 กระท้ถู ามท่ี 8 กฎหมายสง่ เสรมิ ภาคประชาสงั คม 91 • รฐั บาลรบั ปาก : พ.ร.บ.สง่ เสรมิ FB บนั ทกึ สว. (256) 92 ประชาสงั คม 17 สค. 2563 • บันทึกถาม-ตอบ (โดยเจา้ หนา้ ที่วุฒสิ ภา) 96 • ภาวะแทรกซอ้ น : การจดั ทำ 98 พ.ร.บ. สง่ เสรมิ และพฒั นาองคก์ รภาคประชาสงั คม • หนงั สือขอ้ เสนอแนะการจัดทำรา่ ง 6 สค. 2564 103 พ.ร.บ.สง่ เสริมและพฒั นาองค์กรภาคประชาสงั คม ของประธาน กมธ. พฒั นาสงั คมฯ วฒุ ิสภา ถึงนายกรัฐมนตรี • หนงั สอื ตอบจากสำนักเลขาธกิ าร 31 สค. 2564 105 นายกรฐั มนตรี กระทถู้ ามที่ 9 ขอ้ มลู \"ไทยชนะ\" 106 • ไทยชนะ ใครชนะ FB บันทึก สว. (268) 107 14 กย. 2563 • หนงั สอื กระทถู้ าม 108 • บนั ทกึ ถาม-ตอบ (โดยเจา้ หน้าท่ีวฒุ สิ ภา) 109

|8 สารบาญ ส่วนที่ 2 กระท้เู ป็นหนังสอื ใหต้ อบในราชกจิ จานเุ บกษา จานวน 3 กระทู้ กระทถู้ ามท่ี 1 การแกป้ ญั หาคนลน้ คกุ 112 113 • กระทถู้ าม เร่อื งการแก้ปัญหาคนล้นคุก (ถาม 25 ธันวาคม 2562) 115 • คำตอบกระทูถ้ าม กระทู้ถามที่ 2 มาตรการป้องกนั ความรนุ แรงและการทำรา้ ย 119 ร่างกายในโรงพยาบาล • กระทถู้ าม เร่ือง มาตรการป้องกันความรนุ แรงและการทำร้าย 120 รา่ งกายในโรงพยาบาล (ถาม 25 ธันวาคม 2562) • คำตอบกระทู้ถาม 121 กระทูถ้ ามท่ี 3 ปญั หานโยบายและการบรหิ ารใน อสมท. 124 125 • กระทู้ถามและคำตอบกระทู้ถาม เรอื่ ง ปัญหานโยบายและ การบรหิ ารใน อสมท. (ถาม 19 มิถนุ ายน 2563) 126 • คำตอบกระทู้ถาม

|9 สารบาญ สว่ นท่ี 3 ข้อหารอื ประธานวุฒิสภา กอ่ นเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม 2 เร่อื ง หารอื 1 ตรวจสอบกรรมการตรวจการแผน่ ดนิ 129 130 • ชว่ ยกนั หยดุ วิกฤต! FB บันทึกสว.(143) 4 กพ. 63 132 • ดีท่ีไมด่ งึ ดัน FB บนั ทึกสว.(146) 134 7 กพ. 63 136 หารอื 2 ตรวจสอบ สตง. FB บันทึกสว.(153) 138 • (1) ถูกแล้วหรอื ? 18 กพ. 63 FB บันทึกสว.(225) 146 • (2) ตรวจสอบ สตง. 22 มยิ . 63 FB บันทกึ สว.(260) 148 • (3) ตดิ ตาม สตง.(ตอ่ ) 21 สค. 63 154 • (4) สตง.ตอบมาเปน็ หนงั สอื 9 กย.2563 157 • (5) ถาม สตง.(ครง้ั ที่ 5) FB บันทึกสว.(349) 161 • (6) ตรวจสอบ สตง. (ครัง้ ท่ี 6) 15 ธค. 63 • (7) เรือ่ งเงียบหายไป จงึ ไดส้ อบถาม FB บนั ทกึ สว.(369) สตง.อกี ครง้ั 27 มค. 64 16 สค. 64 เกยี่ วกบั ผเู้ ขยี น 164

| 10

| 11

| 12 ถามไมต่ รงคำตอบ ประชมุ วฒุ สิ ภา ครงั้ ที่ 14 เชา้ วันนี้ (จันทร์ 2 กย.62) มีกระท้ถู ามรัฐบาล 2 เร่อื ง ผมถามกระทู้ประเดิมเป็นคนแรกของวุฒิสภาชุดปี 2562 เนื่องจากกระทู้ ก่อนหน้าผม รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องขอเลื่อนการตอบออกไป กระทู้ของผมก็เลย ขยบั ขึน้ มาเป็นกระทแู้ รก ผมถามนายกรฐั มนตรีเก่ียวกับ “ปญั หาการตรวจพบสารอนั ตรายปนเปื้อนใน ผักผลไมเ้ ป็นจำนวนมาก” ท่านนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ (คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์) มาตอบกระทูแ้ ทน ผมถามไป 3 ข้อ (ตามแนบ) ท่านตอบโดยอ่านจากเอกสารที่ท่านเตรียมมา ไม่ยาวนกั ผมพยายามจับประเด็นที่ท่านตอบ ฟังได้ว่า รัฐบาลทำเต็มที่ทั้งการแนะนำ เกษตรกรใช้สารเคมีให้ถูกวิธี ส่งเสริมการใช้ชีวพันธุ์เกษตรเพื่อเกษตรอินทรีย์ มีการเก็บตัวอย่างผักผลไม้ตรวจพบว่า เกือบ 90 % ปลอดภัย สารเคมีที่ไม่ อนญุ าตใหใ้ ช้แลว้ บางชนิดยงั อยูใ่ นช่วงจำหน่ายได้ ท่านไม่พูดถึงข้อมูลการตรวจของเครือข่ายเตือนภัย เคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ที่ผมนำมาใช้เป็น ข้อมูลถามเลย ตอนท้าย ผมถามย้ำว่า รัฐบาลมีมาตรการใดที่จะ ทำให้ประชาชน “มั่นใจ”ได้ว่า หากมีการตรวจอีก ในช่วง 3-6 เดือนจากนี้ไป ปัญหาดังกล่าวจะ

| 13 ลดลง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทอาหารแห่งชาติ และ นโยบาย “ครัวโลก” ท่าน รัฐมนตรีไม่ตอบคำถามนี้ เพียงขอรับไปเป็นข้อสังเกต (ทั้งๆที่เป็น คำถาม) ก็เลยไม่รู้ว่ารัฐบาลจะทำให้ประชาชน อย่างเราๆท่านๆที่ต้องกินผัก ผลไมอ้ ยทู่ กุ เมอื่ เช่อื วัน จะมน่ั ใจได้อยา่ งไร? ผมไม่ได้ถามต่อ เพราะเห็นว่าท่านเป็น “รัฐมนตรีป้ายแดง” อุตส่าห์รับ มอบหมายมาตอบกระทู้ในวุฒิสภาเป็นครั้งแรกและเป็นท่านแรก อีกท้ัง รฐั บาลนี้ก็เพิ่งเขา้ บริหารราชการแผน่ ดินได้ไมน่ าน ก็ขอเพียงปักหลักเสนอปัญหาสำคัญนี้ไวใ้ หเ้ ป็นทางการในวุฒิสภา เพื่อจะได้มี การทำงานตดิ ตาม ตรวจสอบใหเ้ ข้มขน้ ยิง่ ข้ึนในโอกาสต่อๆไป มองอีกมุมหนึ่งให้สบายใจ ก็ถือเสียว่า ผมถามกระทู้ครั้งนี้ไม่ดีเอง คือ “ถาม ไม่ตรงคำตอบ” ครับ บนั ทกึ สว.(38) 2กย.2562

| 14 หนงั สือกระทถู้ าม

| 15

| 16 ผลการดำเนนิ งานของรฐั บาลทรี่ ายงานต่อวฒุ สิ ภา

| 17

| 18

| 19

| 20

| 21 “กระทู้ถาม-ขยายเกษยี ณอายุราชการ” วันน้ี (จันทร์ 18 พย. 62) ต้ัง กระท้ถู ามด้วยวาจา ในการประชมุ วุฒิสภา เรื่อง “การขยาย เกษียณอายุราชการ” ตามที่เป็น ข่าวในช่วงเดอื นท่ผี า่ นมา ท่านรองนายกรัฐมนตรี (ดร.วิษณุ เครืองาม) ได้รับมอบหมายจาก นายกรฐั มนตรี มาตอบกระทนู้ ้ี (ขา่ วทีเ่ ผยแพร่ทางส่อื มวลชน) ได้ต้งั ถามไป 2 ขอ้ ใหญ่ (ตามภาพถา่ ยโน้ตลายมอื ) ท่านรองนายกรัฐมนตรี ตอบโดยสรปุ ดังนี้ ข้อ 1) ข่าวที่มีการเผยแพร่กัน คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ปกติตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 108 ให้ส่วนราชการ ขออนุมัติขยายการเกษียณอายุราชการบางตำแหน่ง รวม 8 ตำแหน่งได้อยู่ แล้ว 4 ปี + 3 ปี + 3 ปี คือ ขยายได้ไม่เกิน 70 ปี ที่เป็นข่าวนั้น เป็นการ อนุมัติแก้กฎ กพ. เพิ่มตำแหน่งอีก 28 ตำแหน่ง รวม 36 ตำแหน่งในส่วน ราชการบางแห่ง ไม่ไช่การขยายอายุเกษียณราชการท้งั หมด (ข้อมูลเพิ่มเติม: เป็นการขยายได้เฉพาะข้าราชการในตำแหน่งสูงๆที่ต้อง อาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษหรือเฉพาะ, มีส่วนราชการขออนุมัติขยายน้อย เพราะต้องใช้ตำแหนง่ เดิมและส่วนใหญม่ ีอัตราเงนิ เดือนสงู ) ข้อ 2) การเตรียมขยายการเกษียณอายุราชการจาก 60 ปี เป็น 63 ปี แบบขั้นบันได เป็นการเตรียมดำเนินการตามแผนและขั้นตอนปฏิรูปประเทศ ด้านสงั คม

| 22 สำนักงาน กพ.ทำการศึกษาวิจัยและเสนอต่อ กพ.แล้ว 3 รอบ มีการรับฟัง ความคิดเห็นตอ่ เนอื่ ง - จะนำร่องเฉพาะข้าราชการพลเรือนก่อน เนื่องจากมีฐานกฎหมายเดิม รองรับอยู่แล้ว ถ้าจะทำก็เพียงแค่แก้กฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ระเบียบ บรหิ ารข้าราชการพลเรอื น และ พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญ เท่านั้น - เกณฑ์เบือ้ งต้นขณะนี้ ไดแ้ ก่ ให้ใชอ้ ายุราชการที่ 60 ปี เปน็ เกณฑค์ ำนวณ บำเหน็จบำนาญ, ไม่บังคับ, ไม่ขยายให้กับตำแหน่งบริหาร, ไม่ขยายให้กับ ตำแหน่งท่ีตอ้ งใช้สมรรถนะทางกายหรือตรากตรำ เป็นตน้ ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ คาดว่าจะเสนอแก้กฎหมายได้ไม่เร็วกว่าเดือน กพ.63 และยงั ต้องใช้เวลาอกี เป็นปๆี กวา่ จะเห็นผล ท่านรองนายกรัฐมนตรีได้บอกว่า จะให้ศึกษาผลกระทบที่ห่วงใยให้รอบคอบ ได้แก่ ผลกระทบด้านงบประมาณ, อุปสรรคต่อการรับข้าราชการใหม่เข้าใน ระบบ, จะขดั ขวางการเติบโตของคนรุ่นใหม่หรือไมเ่ พียงใด ได้ฝากท่านรองนายกรัฐมนตรีว่า ควรให้ความสำคัญกับการสร้าง “ระบบ การจา้ งงานหลงั เกษยี ณอายุราชการ” ซง่ึ มีตัวอยา่ งใชอ้ ย่ใู นส่วนราชการบางแหง่ บ้างแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อให้ข้าราชการที่เกษียณแล้ว ได้ทำงานเป็นพลังของบ้านเมืองตาม ศักยภาพและตามความสมัครใจ และได้ค่าตอบแทนเพิ่มจากเงินบำนาญปกติ ตามปริมาณและคณุ ภาพของงานท่ที ำ โดยไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งขยายอายเุ กษยี ณ ซ่งึ จะมผี ลกระทบตอ่ ระบบราชการนอ้ ยกว่าการขยายอายุเกษียณราชการ ท่านรองนายกรัฐมนตรรี บั ว่าจะได้มอบให้กพ.ศกึ ษาเร่ืองนใ้ี หล้ ะเอยี ดต่อไป บนั ทกึ สว.(87) 18 พฤศจกิ ายน 2562

| 23

| 24 บนั ทึกถาม-ตอบ (โดยเจา้ หนา้ ที่วฒุ สิ ภา) กระทู้ถามด้วยวาจา กระทถู้ าม เร่อื ง การขยายอายเุ กษยี ณราชการ (นายอำพล จนิ ดาวัฒนะ เปน็ ผู้ต้ังถาม ถามนายกรฐั มนตรี) ด้วยช่วงที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับการขยายอายุเกษียณราชการออกมาผ่านสื่อ สาธารณะ ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวไปอย่างกว้างขวาง โดย ข่าวเผยแพร่ไปว่าคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายอายุเกษียณราชการได้ถึง 70 ปี ซึ่งยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่พอสมควร อีกประการหนึ่ง จากข้อมูลที่ทราบ มาจะมีการขยายอายุเกษียณราชการจาก 60 ปี เป็น 63 ปี แต่อยู่ใน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำการศึกษา ซึ่งแนวทางดังกล่าวอาจ ส่งผลกระทบให้ข้าราชการใหม่เข้ามาน้อยลง และข้าราชการเดิมที่อายุ มากกว่า 60 ปีมีมากขึ้น ทำให้กระทบต่องบประมาณที่นำมาจัดสรรเป็น เงนิ เดือนได้ จึงอยากเสนอแนะวา่ รัฐบาลควรหาทางเลือกอ่ืนทีไ่ ม่ใช่แต่แนวทางการขยาย อายุเกษียณราชการเท่านั้น แต่ควรมีระบบการจ้างงานหลังเกษียณเข้ามา เป็นแนวทางรองรับผู้สูงอายุที่เกษียณราชการแล้ว ปัจจุบันแม้ว่าระบบการ จา้ งงานหลงั เกษียณถูกนำมาใช้ก็ใชใ้ นเพยี งบางกลมุ่ ไม่ไดส้ ่งผลถึงข้าราชการ เกษียณส่วนใหญ่ ดังนั้น รัฐบาลควรมกี ารศึกษาระบบการจ้างงานหลังเกษยี ณ ซึ่งอาจเป็นการ ทำงานสาธารณะของรัฐ และมีการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระหน้างาน โดย อาจใช้แนวทางดังกล่าวเพิ่มเติมหรือควบคู่กับแนวทางการขยายอายุเกษียณ ราชการกไ็ ด้ จึงขอเรียนถามว่า ข้อเท็จจริงในข่าวที่เผยแพร่ออกมานั้นเป็นประการใด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการสื่อสารเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดของสังคม อย่างไร ตลอดจนรัฐบาลจะมีการศึกษาแนวทางการจ้างงานหลังเกษียณ เพือ่ นำมาใชแ้ ก้ไขปัญหาดังกลา่ วหรือไม่ อยา่ งไร

| 25 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้ตอบกระทู้ถาม วา่ ประเด็นข่าวที่เผยแพร่ผ่านสื่อว่า คณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายอายุเกษียณ ราชการจนถึง 70 ปีนั้นไม่เป็นความจริง และรัฐบาลได้ดำเนินชี้แจง ข้อเท็จจริงไปแล้วหลายช่องทาง เช่น การมีหนังสือจาก ก.พ. ชี้แจงเวียนไป ยังส่วนราชการต่าง ๆ ชแ้ี จงผ่านเว็บไซต์ของ ก.พ. และมกี ารทำความเข้าใจ กับสื่อมวลชน ตลอดจนรองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวที่ทำเนียบ รฐั บาลเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 108 ก็มีบทบัญญัติเกี่ยวกับประเด็นการขยายอายุราชการให้เกษียณ 70 ปีไว้เช่นกัน โดยให้ข้าราชการพลเรือนเมื่ออายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ และ ทางราชการมีความจำเป็นที่จะให้รับราชการต่อไป เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในทาง วิชาการหรือที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวในตำแหน่งตามที่กำหนดในกฎ ก.พ. ซง่ึ เดิมมที ั้งหมด 8 ตำแหนง่ ให้รับราชการต่อไดอ้ กี ไมเ่ กนิ สบิ ปี ต่อมามีบางหน่วยงานที่เห็นว่าบางตำแหน่งในหน่วยงานของตนมีความ จำเป็นที่จะต้องขยายอายุราชการเช่นเดียวกับตำแหน่งในมาตรา 108 จึงมี การดำเนินการขออนุญาต ก.พ. เป็นกรณีพิเศษ ภายหลังมีการประกาศกฎ ก.พ. เพื่อเพิ่มตำแหน่งที่สมควรขยายอายุเกษียณราชการอีก 28 ตำแหน่ง รวมเป็นท้ังสิน้ 36 ตำแหนง่ ดังนน้ั เรอ่ื งการขยายอายเุ กษยี ณราชการจนถึง 70 ปี จงึ เป็นขอ้ เทจ็ จรงิ เดิม ที่มอี ยแู่ ล้ว เพียงแต่เปน็ การขยายอายุเฉพาะขา้ ราชการพลเรอื นเทา่ นัน้ ไม่ได้ รวมถึงข้าราชการอื่น ๆ ในระบบแต่อย่างใด ส่วนแนวทางขยายอายรุ าชการ เกษียณจาก 60 ปี เป็น 63 ปีนั้น เป็นแนวทางที่อยู่ในระหว่างให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทำการศึกษา เพราะจะนำมาใช้กับข้าราชการทั้งระบบ จึงต้อง ทำการศึกษาผลกระทบต่อจำนวนข้าราชการใหม่ที่จะเข้ามา และผลกระทบ ตอ่ งบประมาณทจ่ี ะต้องใช้ใหล้ ะเอียด

| 26 โดยเบอ้ื งตน้ ไดร้ ับแจ้งจากกระทรวงการคลังวา่ แนวทางนจ้ี ะสง่ ผลกระทบต่อ เรื่องดังกล่าวเพียงเล็กน้อย และจะมีการนำเสนอกฎหมายเข้าคณะรัฐมนตรี ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ ระยะหนึ่ง เพราะต้องมีการดำเนินการตามรฐั ธรรมนูญมาตรา 77 และส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบด้วย ประการสุดท้าย คือ เรื่องการหาทางเลือกอื่น เช่น ระบบการจ้างงานหลัง เกษียณ ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่ได้นำมาใช้บ้างแล้วบางตำแหน่งในบาง หน่วยงาน เช่น ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา ปลัดสำนัก นายกรัฐมนตรี โดยมีการจ้างต่อคราวละ 1 ปี ทั้งนี้ จะขอรับแนวทางที่ผู้ตั้ง ถามแนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ใน การนำไปใช้ต่อไป

| 27 ข้อมูลผลการดำเนินการตามกระทถู้ าม

| 28

| 29 บทสรปุ ผบู้ ริหาร รายงานการศกึ ษา เรื่องการจา้ งงานขา้ ราชการภายหลังเกษยี ณอายุ 60 ปี เพอ่ื รองรับ สงั คมสงู วยั ของคณะกรรมาธกิ ารพัฒนาสงั คม และกจิ การเด็ก เยาวชน สตรี ผสู้ งู อายุ คนพกิ าร และผู้ด้อยโอกาส วฒุ สิ ภา คณะอนกุ รรมาธิการติดตามการปฏริ ปู ด้านสงั คม กจิ การผู้สงู อายุและสังคมสูงวัย ทม่ี ีนายแพทย์อำพล จินดาวฒั นะ เปน็ ประธาน ไดศ้ กึ ษาและจัดทำรายงานฉบบั นี้ ซ่งึ วฒุ สิ ภาเห็นชอบเมื่อวนั ท่ี 2 พฤศจกิ ายน 2563 ใหเ้ สนอรฐั บาลพิจารณาแลว้ (เป็นงานทเ่ี ก่ียวข้องกับกระทถู้ ามนี้)

| 30

| 31

| 32

| 33

| 34

| 35 มติ ครม.ต่อขอ้ เสนอของ กมธ.พัฒนาสงั คมฯ 2 มีนาคม 2564

| 36

| 37 “แบนสารพษิ ” ประชุมวุฒิสภาวนั น้ี (2 ธค. 62) ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการแบน 3 สารพิษ ซ่งึ เขียนถามเปน็ หนังสือไวต้ ัง้ แต่ 23 ตค. 62 แลว้ นายกรัฐมนตรีมอบรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ (น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์) มาตอบแทน ท่านตอบเหมือนกับยังไม่ตอบ คือ ท่านแจ้งว่ากระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่มี ประกาศออกตามมติคณะกรรมการวัตถอุ ันตราย ท่านกเ็ ลยไม่ได้ตอบคำถามอื่นทถี่ าม ก็เข้าใจรัฐมนตรีช่วยว่าการมนัญญา เพราะท่านกำลังมึนกับการท่ีคณะ กรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ ตามกฎหมายใหม่ ที่มีรัฐมนตรีอุตสาหกรรม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) เป็นประธาน ซึ่งประชุมเมื่อวันท่ี 27 พ.ย.62 ได้ พลิกมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่ให้แบน 3 สารพิษไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ตค.62 ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการท่านนี้ เปิดหน้าเดินหน้าผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มตัว มาต้ังแต่เข้ารับตำแหนง่ อย่ๆู มกี ารกลบั มตโิ ดยมีรฐั มนตรตี า่ งพรรคน่งั เปน็ หัวโตะ๊ เหมอื นเพอื่ นผลกั ให้ลม้ หนา้ คะมำ กเ็ จบ็ กช็ ้ำซิครบั เรื่องนี้เป็นหนังยาว มีข้อมูล มีความเห็น และมีผลประโยชน์ที่แตกต่างกันซุก ซ้อนอย่มู ากมาย กระทวู้ นั น้กี เ็ ลยไมไ่ ดห้ วงั คำตอบแตล่ ะประเดน็ ที่ชัดเจน ทำได้วนั นคี้ อื “ให้กำลงั ใจรัฐมนตรชี ว่ ยว่าการมนญั ญา”

| 38 และฝากถึงรฐั บาล 3 ขอ้ คือ หนึ่ง สร้างเอกภาพให้เกิดขึ้น แม้มาจากต่างพรรค ต่างพวก ขณะนี้สังคม กำลงั จับตา สอง การตัดสินใจเรื่องต่างๆ ควรวางอยู่บนผลประโยชน์สาธารณะมากกว่า ผลประโยชน์กลุ่มพวก สาม ใช้ความกลา้ หาญทางจริยธรรมในการตดั สินใจในส่งิ ท่ถี ูกต้อง บนั ทกึ สว.(103) 2 ธค. 2562

| 39 หนงั สอื กระทูถ้ าม : การยกเลิกการใชว้ ตั ถอุ นั ตราย 3 ชนิด

| 40

| 41 บันทึกถาม-ตอบ (โดยเจา้ หนา้ ที่วฒุ สิ ภา) กระทู้ถาม เรื่อง การยกเลิกการใช้วัตถุอันตราย 3 ชนิด นายอำพล จินดา วฒั นะ เป็นผตู้ ง้ั ถาม ถามนายกรฐั มนตรี โดยในปี 2560 มีการผลักดันยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอรไ์ พรีฟอส และไกลโฟเซต ซึง่ มกี ารดำเนินการเปน็ ลำดับ ดงั น้ี 5 เมษายน 2560 คณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาสารเคมีป้องกันกำจัด ศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง เสนอให้มีการยกเลิกการใช้พาราควอตและคลอร์ ไพรฟี อส 3 มกราคม 2561 นายกรัฐมนตรีในรัฐบาลที่แล้วสั่งการให้กระทรวง สาธารณสุขหารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ มีมติยืนยันเหมือนคณะกรรมการ ขับเคลอื่ นชดุ แรก 23 พฤษภาคม 2561 คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาเห็นว่าไม่ควร ยกเลกิ การใช้ 16 กรกฎาคม 2561 นายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเดิมได้ตั้งคณะกรรมการ แก้ปัญหาการใชส้ ารเคมี ปอ้ งกันและกำจดั ศัตรูพืชทมี่ คี วามเสี่ยงสูง 23 พฤศจิกายน 2561 ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้ยกเลิกการใช้พาราควอต ใน 1 ปี ยกเลิกและให้มีการจำกัดการใช้ และสร้างการเรียนรู้ของประชาชน พฒั นาวิธีการทดแทน 6 กุมภาพันธ์ 2562 คณะกรรมการแก้ปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ มคี วามเสี่ยงสูง เสนอใหพ้ ิจารณาตั้งคณะทำงานขึน้ มา 10 กุมภาพันธ์ 2562 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เสนอให้รัฐบาล กำหนดให้พาราควอตเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 14 กมุ ภาพันธ์ 2562 คณะกรรมการวตั ถุอนั ตรายมีมติยืนยนั ไมย่ กเลิก 13 กันยายน 2562 สภาผู้แทนราษฎรไดต้ ้ังคณะกรรมาธิการมาพจิ ารณา มี การสรุปและเสนอแนะใหม้ ีการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมดี ังกลา่ ว

| 42 18 กันยายน 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติมอบหมายให้กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพ นำเสนอวิธีการทดแทน กรณีที่มีการยกเลิก การใชส้ ารเคมีเหลา่ นี้ เพือ่ ให้พิจารณาภายใน 60 วัน 22 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้ยกเลิกการใช้ 3 สารพษิ นตี้ ั้งแต่ 1 ธันวาคม 2562 27 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการเปลี่ยน องค์ประกอบตามกฎหมายใหม่ ได้มีการกลับมติ คือ ยกเลิกการใช้พาราค วอตและคลอร์ไพรีฟอส แต่เลื่อนเวลาการบังคับใช้ 6 เดือน และมายกเลิก การใช้ไกลโฟเซต โดยใช้มาตรการควบคมุ การใช้ อย่างไรก็ตามยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ทั้งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์สรา้ งการเตบิ โตบนคุณภาพชีวิตและเปน็ มิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วน ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน เกี่ยวกับการจัดการ มลพิษ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการใช้สารเคมีทางการเกษตรทั้งระบบให้ เป็นไปตามมาตรฐานในแผนแมบ่ ทของยทุ ธศาสตร์ชาตใิ นแผนย่อย นอกจากนี้ยังมีแผนการเกษตรปลอดภัย แผนพัฒนาประเทศด้านทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีการใช้และที่มีการลดการใช้สารเคมีทาง การเกษตรที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อม ประกอบกับ นโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันที่แถลงต่อสภาเกี่ยวกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ สินค้าเกษตรโดยลด ละ เลิกการใช้ยาปราบศัตรูพืชโดยเร็ว โดยต้องจัดหา สารทดแทนทีม่ ปี ระสิทธภิ าพ เพียงพอและเป็นที่ยอมรบั ทั้งนี้ มีประเด็นข้อถาม 3 ข้อ ดังนี้ ข้อ 1 รัฐบาลมีแผนการยกเลิกการใช้ สารเคมี 3 ชนิดนี้อย่างไร ทั้งนี้ เป็นการตั้งถามก่อนมีมติ ซึ่งขณะนี้มีการ ยกเลิกแต่มีการเลื่อนเวลาออกไป 6 เดือน 2 ชนิด และ 1 ชนิดมีการกลับ มติไม่ยกเลิกการใช้ แต่จำกัดการใช้ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร มีแผน อย่างไร เมื่อครบ 6 เดือนจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และไกลโฟเซตที่ กลบั ไปหยุดยกเลกิ การใช้ มเี หตุผลอยา่ งไร ขอ้ 2 หากไมม่ ีการยกเลกิ อย่างกรณีไกลโฟเซตจะคุม้ ครองสขุ ภาพประชาชน และสิ่งแวดล้อมอย่างไร ข้อ 3 แผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติ

| 43 และสิ่งแวดล้อม แผนยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาท่ี มอี ยา่ งชัดเจน รฐั บาลได้มแี ผนรองรับเรอ่ื งนีเ้ ร่ืองเหล่านี้อย่างไร เข้าใจในสถานการณ์และให้กำลังใจรัฐมนตรี แต่ขอสอบถามแผนของรัฐบาล ท ี ่ ด ำ เ น ิ น ก า ร ต ่ อ ไ ป เ พื่ อ ร อ ง ร ั บ ต า ม ท ี ่ ไ ด ้ แ ถ ล ง น โ ย บ า ย ต ่ อ ร ั ฐ ส ภ า แ ล ะ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนปฏิรูป ซึ่งได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ ทั้งนี้อาจมีการ ตอบเป็นเอกสารในโอกาสต่อไป อย่างไรก็ตามขอฝากรัฐบาลในภาพรวม 3 ประเดน็ คอื (1) การสรา้ งเอกภาพของรฐั บาล (2) การตัดสินใจบนประโยชน์ สาธารณะ และ (3) ความกล้าหาญทางจริยธรรมในการตัดสนิ ใจ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ ผู้ได้รับมอบหมายให้ตอบกระทู้ถาม ได้ตอบชี้แจงดังนี้ การประชุม ของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ราย ละเอียดปรากฏตามที่ทราบกัน ยังไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด จึงไม่อาจ ชี้แจงยนื ยันในสว่ นนไ้ี ด้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ที่ผ่านมาได้เสนอห้าม ใช้วัตถุอันตรายไปแล้ว 89 ชนิด และล่าสุดเสนออีก 3 ชนิดตามที่ได้ทราบ กันแล้ว อย่างไรก็ตามการประกาศยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าว ต้องอาศัย อำนาจตามมาตรา 18 ของพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ซึ่งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานกรรมการ และเป็น รฐั มนตรรี ักษาการตามกฎหมาย ทั้งนี้ สารเคมีทั้ง 3 ชนิด หลายประเทศที่ยกเลิกการใช้ไปแล้วเนื่องจาก เกษตรกรต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดี อย่างไรก็ตามเกษตรกรมีสิทธิ์ได้รับสิทธิ ต่าง ๆ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ นอกจากนี้จะดำเนินการ เร่งรดั เก่ยี วกบั วตั ถุอนั ตรายซง่ึ สง่ ผลต่อเกษตรกรและผบู้ ริโภค

| 44

| 45 “กระทบู้ ุหรไ่ี ฟฟา้ ” จันทร์ 23 ธค.62 ประชุมวุฒิสภา มีกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการ จัดการปัญหาบหุ ร่ไี ฟฟ้าผดิ กฎหมาย เขา้ ระเบียบวาระ นายกรัฐมนตรีมอบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวีรศักดิ์ หวงั ศภุ กจิ โกศล) มาตอบกระทู้แทน รัฐมนตรีช่วยว่าการอ่านคำตอบตามเอกสารที่เตรียมมา สรุปได้ว่า มีการ จับกุมดำเนินคดีผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าทางด่านภาคใต้ ทางสนามบินสุวรรณภูมิ/ ดอนเมอื ง และมีการจับกมุ ผู้คา้ ส่วนหนึง่ แต่ไม่ได้รับคำตอบเกี่ยวกับการจัดการการขายบุรีไฟฟ้าทางออนไลน์และสื่อ สงั คมต่างๆซ่ึงเปน็ ช่องทางขายบหุ รี่ไฟฟา้ ทีเ่ ปน็ ล่ำเปน็ สันมากในปจั จุบนั รฐั มนตรบี อกแตเ่ พียงวา่ “จะดำเนนิ การเชงิ รกุ ” รุกอย่างไรท่านไมไ่ ด้บอก กเ็ อวังกบั คำตอบตอ่ กระทถู้ ามเรือ่ งน้ี จะใหค้ ะแนนอยา่ งไรดคี รับ บนั ทกึ สว.(115) 23 ธนั วาคม 2562 (ปรบั ปรงุ พฤษภาคม 2565)

| 46 หนงั สือกระทถู้ าม

| 47 บนั ทกึ ถาม-ตอบ (โดยเจา้ หนา้ ที่วฒุ สิ ภา) กระทู้ถาม เรื่อง การจัดการปญั หาบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย นายอำพล จินดา วัฒนะ เปน็ ผตู้ งั้ ถาม ถามนายกรฐั มนตรี (เป็นเรอ่ื งที่เลอื่ นมาจากการประชุม วุฒิสภา ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันจันทร์ที่ 25 พฤศจกิ ายน 2562) ตามที่มีการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่โดยทำให้เกิด ความร้อนและไอน้ำ โดยไม่มีควันเหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป ซึ่งมีส่วนประกอบ หลัก 3 ส่วนคือ แบตเตอรี่ ตัวทำให้เกิดไอความร้อน และน้ำยา โดยน้ำยา ประกอบด้วยสารหลกั ๆ คือ นิโคตินซ่ึงจะไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มความดันโลหิต เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ เพิ่มความ เสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด มะเร็งช่องปาก หลอดอาหารและตับอ่อน โรค เกย่ี วกบั ระบบทางเดนิ หายใจ เปน็ ตน้ นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นเป็นสาเหตุของ การเป็นโรคเบาหวาน กระตุ้นให้จำนวนเซลล์ผนังหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ทำให้ เส้นเลือดตีบ เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง สำหรับหญิง ต้งั ครรภส์ ่งผลตอ่ การพฒั นาของสมองทารกในครรภ์ สำหรับประเทศไทยบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย มีกฎหมายควบคุมอย่าง เด็ดขาด อาทิ มีการห้ามนำเข้าตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามในการ นำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนลักลอบนำเข้าจะมีโทษ ทั้งจำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงให้ริบสินค้าและพาหนะที่ใช้ในการ บรรทกุ สินค้า นอกจากนี้คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 บุหรี่ไฟฟ้ายัง เป็นสินค้าที่ห้ามขาย หรือให้บริการซึ่งผู้ประกอบธุรกิจทั่วไปจะมีการกำหนด โทษทั้งจำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ที่กระทำผิดเป็นผู้ประกอบ ธรุ กิจในฐานะผผู้ ลิต ผู้ส่ัง หรือผทู้ ่นี ำเข้ามาเพ่ือขายตอ้ งรับโทษเพิ่มสูงขึ้น ใน ส่วนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะ ที่กำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ เช่น

| 48 ในโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด ถือวา่ ฝา่ ฝืนมาตรา 42 แหง่ พระราชบญั ญตั ิ ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษปรับและสำหรับกรณี ของผู้ที่ช่วยซ่อนเร้น ซื้อ รับไว้ หรือมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง ทั้งที่รู้อยู่ว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นของที่ห้ามนำเข้ามาในประเทศไทยต้องถือว่ามีความผิดเช่นกัน ซึ่งหากถูกจับกุมดำเนินคดีต้องได้รับโทษจำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม มาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศลุ กากร พ.ศ. 2560 อย่างไรก็ตามปรากฏว่ามีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทางสื่อออนไลน์อย่าง แพร่หลายและมีการแอบจำหน่ายตามร้านค้าหลายแห่ง และจากข้อมูลจาก การประชุมการขับเคลื่อนเชิงนโยบายการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย พบวา่ สถานการณ์การจำหน่ายบุหรไี่ ฟฟ้าในช่องทางการสือ่ สารออนไลน์ จากการตดิ ตามในช่วงเดือนธันวาคม 2561 – พฤษภาคม 2562 มผี ู้ค้าบุหร่ี ไฟฟ้าใช้สื่อออนไลน์และสื่อโซเชียลมีเดียทุกประเภท โดยพบมากที่สุด คือ เฟสบุ๊ค รองลงมาคอื แอพพลิเคชน่ั ไลน์ ทางเวบ็ ไซต์ อินสตาแกรม และทวิต เตอร์ ทั้งนี้ ยังก่อให้เกิดความเชื่อที่ผิดโดยเชื่อว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่เสพติด ไม่ก่อมะเร็งปอด และเชื่อว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้า คือ การสูบควันไอน้ำเท่าน้ัน อย่างไรกต็ ามสนั นิษฐานไดว้ ่าการขายผ่านส่ือออนไลนแ์ ละส่ือโซเชียลมีเดียไม่ สามารถควบคมุ ได้ และจะมน่ั ใจได้อย่างไรว่าจะดำเนินการควบคุมได้ จึงขอถามว่า 1. รัฐบาลมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า หรือไม่ อยา่ งไร 2. รฐั บาลมกี ารบงั คับใชก้ ฎหมายให้มีประสทิ ธิภาพ โดยการ สืบสวน สอบสวน และจับกุมผู้กระทำผิดอย่างไรมีผลดำเนินการและ แผนการดำเนนิ การอย่างไร ทจ่ี ะทำให้ประชาชนและสงั คมมัน่ ใจได้ นายวรี ศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รฐั มนตรีช่วยวา่ การกระทรวงพาณชิ ย์ ผ้ไู ด้รับ มอบหมายใหต้ อบกระทู้ถามไดต้ อบชแี้ จงว่า กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขได้ขอความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ ออกประกาศควบคุมการนำเข้าบารากู่ไฟฟ้าและบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อป้องกัน ปัญหาด้านสุขภาพโดยหลังจากได้เก็บผลิตภัณฑ์ไปตรวจสอบ พบว่ามีสารที่ เป็นอันตราย อาทิ โครเมียม แมงกานีส คอปเปอร์ ทองแดง ตะกั่ว สารหนู

| 49 กระทรวงพาณชิ ยจ์ ึงไดอ้ อกประกาศกระทรวง เรอ่ื ง กำหนดใหบ้ ารากูแ่ ละบา รากู่ไฟฟา้ หรอื บหุ ร่ไี ฟฟา้ เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ในส่วนประเด็นข้อถามที่ 1 ขอช้ีแจงว่า กรณีการนำเข้า เป็นความผิดตาม ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ส่วนการนำผ่านเป็นความผิดตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้า ต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 ส่วนการนำเข้าและนำผ่านเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 สำหรับการขายหรือให้บริการ เป็นความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการ คุม้ ครองผบู้ รโิ ภคที่ 9/2558 การครอบครองอาจเป็นความผิดกรณีเป็นผูช้ ่วย ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ซื้อ รับจำนำ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 นอกจากนี้การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเขตปลอดบุหรี่อาจเป็นความผิดว่าด้วยการ คุ้มครองสขุ ภาพของผูไ้ ม่สูบบหุ รี่ ตามพระราชบญั ญตั คิ วบคุมผลิตภัณฑย์ าสูบ พ.ศ. 2560 ส่วนประเด็นข้อถามที่ 2ขอชี้แจงว่า รัฐบาลมีหน่วยงานหลาย ภาคส่วนที่ดูแลในเรื่องนี้ และมีการบังคับใช้กฎหมายสืบสวน สอบสวน และ จับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค ในเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม 2562 จับกุมผู้กระทำผิด 80 ราย ดำเนินคดีสิ้นสดุ 10 คดี คดที ี่เหลืออย่รู ะหวา่ งการสอบสวน นอกจากนี้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค โดยเพิ่มบทลงโทษให้ สูงขึ้น กรณีลักลอบจำหน่ายสินค้าที่มีคำสั่งห้าม อีกทั้งมีการแต่งตั้ง คณะทำงานปฏิบัติการพิเศษเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ติดตามความ เคลื่อนไหวผู้กระทำผิดทางสื่อออนไลน์ ประกอบกับมีการเชิญผู้ประกอบการ ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ต่าง ๆ มาหารือแนวทางควบคู่กับการสืบสวนจับกุม อยา่ งต่อเน่ืองในสว่ นกรมศุลกากร จากขอ้ มลู มีการจบั กุมมากท่ีสดุ ใน 3 ด่าน โดยในปี 2562 จบั กุมที่ดา่ นสะเดา จำนวน 8 คดี ทา่ อากาศยานสวุ รรณภูมิ จำนวน 6,031 คดี ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 28 คดีส่วนสํานักงาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook