Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ การป้องกันการทุจริตระดับม.2

แผนการจัดการเรียนรู้ การป้องกันการทุจริตระดับม.2

Published by kruyok nampleeksuksa, 2019-05-09 10:21:10

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ การป้องกันการทุจริตระดับม.2

Search

Read the Text Version

- ๑๔๘ - ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลา ๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี ๒ ชอ่ื หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ เรอ่ื ง การสอบ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความไมท่ นและความละอายตอ่ การทจุ รติ ๑.๒ ปฏิบัตติ นเป็นผไู้ ม่ทนและละอายต่อการทุจรติ ทุกรูปแบบ ๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการต่อต้านและป้องกนั การทจุ รติ ๒.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 นกั เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับความไม่ทนและความละอายต่อการทจุ รติ ในการสอบ 2.2 นกั เรยี นสามารถคิดวิเคราะห์ถึงผลเสยี จากการทจุ ริตในการสอบ 2.3 นกั เรียนตระหนักและเห็นความสาคัญของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ๑. ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต ๒. ผลเสียจากการทุจริตในการสอบ ๓. ความสาคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทจุ รติ 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กดิ ) 1. ความสามารถในการคดิ 1).ทกั ษะการสงั เกต 2).ทกั ษะการระบุ 2. ความสามารถในการสอ่ื สาร (ฟัง พดู อ่าน เขยี น) 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต (วิเคราะห์ จดั กลุ่ม สรุป) 3.3 คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ / คา่ นิยม ๑) ใฝ่หาความรู้ หม่ันศึกษาเล่าเรยี นท้ังทางตรง และทางอ้อม ๒) มสี ติรตู้ วั ร้คู ดิ รู้ทา รู้ปฏบิ ตั ติ ามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว ๓) มคี วามเข้มแข็งทงั้ รา่ งกายและจติ ใจไม่ยอมแพ้ตอ่ อานาจฝา่ ยตา่ หรือกเิ ลส มีความ ละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ จานวน ๒ ชัว่ โมง

- ๑๔๙ - ชั่วโมงท่ี ๑ ๑. ชมคลิปวดี ีโอ เรื่อง จบั เดก็ ใชอ้ ปุ กรณโ์ กงข้อสอบแพทย์ ม.รงั สิต | 09-05-59 | ชดั ทนั ข่าว ฮอลิ เดย์ | ThairathTV โดยทม่ี าของคลิปวีดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=xrUiXZ6jhVg ๒. สนทนา อภิปราย ร่วมกนั หลงั รับชมคลิปวีดีโอ เรือ่ ง จับเด็กใชอ้ ุปกรณ์โกงข้อสอบแพทย์ ม.รงั สติ โดยชใ้ี ห้เห็นถงึ ผลเสียท่ีเกดิ จากการทุจริตในการสอบและความรับผิดชอบท่ตี ้องรับจากผลของ การกระทาผิดจากการทจุ รติ ในการสอบ ๓. สนทนา อภิปราย เพื่อชใ้ี หน้ ักเรยี นได้ เลง็ เหน็ และตระหนักถึงการทุจริตเปน็ สิง่ ที่ไม่ดี ไมจ่ าเปน็ ต้องลอกข้อสอบ แต่มวี ธิ กี ารท่จี ะสอบให้ได้คะแนนหลายวิธี โดยอาจใชป้ ระเดน็ ตอ่ ไปน้ี  นกั เรยี นมคี วามคดิ เหน็ อยา่ งไรกับเหตกุ ารณ์การลอกข้อสอบ  นักเรียนคดิ ว่าสาเหตุใดบ้างที่ทาให้ลอกข้อสอบ และจะแก้ปัญหาน้ันอยา่ งไร (ครูพยายาม ช้ีให้เหน็ วา่ การลอกขอ้ สอบไม่ดี) ๔. แจกใบงาน เรื่อง รสู้ ึกอยา่ งไรกบั ข่าวนี้ ๕. กจิ กรรม “มารว่ มกนั ต่อตา้ นการลอกข้อสอบในหอ้ งเราดีกว่า” โดยให้นกั เรยี นช่วยกันคดิ ว่าจะทา อย่างไรบ้างใหเ้ กดิ พฤติกรรมในการลอกขอ้ สอบ ลงบนกระดาษชารต์ ๖. สนทนา อภปิ ราย โดยครูเป็นผู้ท่กี ระตุ้นให้นักเรียนเกดิ ตระหนกั และเหน็ ความสาคัญของการ ตอ่ ต้านและป้องกันการทจุ รติ โดยการเร่มิ จากการไม่ลอกข้อสอบ ชวั่ โมงท่ี ๒ ๗. แบง่ กลมุ่ นักเรียน กลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน ๘. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มออกแบบโปสเตอร์ หวั ข้อ กฎ กติกาในการข้อสอบ ๙. แต่ละกลุม่ นาเสนอผลงาน 4.2 ส่ือการเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ 1) คลปิ วีดโี อ เรอ่ื ง จับเดก็ ใช้อุปกรณ์โกงข้อสอบแพทย์ ม.รังสิต | 09-05-59 | ชดั ทันขา่ ว ฮอลิเดย์ | ThairathTV ทีม่ าของคลิปวีดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=xrUiXZ6jhVg ๒) ใบงาน เรื่อง ร้สู กึ อยา่ งไรกับข่าวนี้ ๓) กระดาษชารต์ ๔) กระดาษโปสเตอร์ ๕) สี ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ กี ารประเมิน ๑) ชิ้นงานการออกแบบโปสเตอร์ หัวข้อ กฎ กติกาในการข้อสอบ ๒) สงั เกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รียนเป็นรายบุคคล ๓) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ๔) การนาเสนอผลงาน ๕) ใบงาน เร่ือง ร้สู ึกอย่างไรกับข่าวน้ี

- ๑๕๐ - ๕.๒ เครื่องมอื ทใี่ ช้ในการประเมนิ 1) แบบประเมินชน้ิ งาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล ๓) แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ๔) แบบบนั ทกึ การนาเสนอผลงาน ๕) แบบประเมินใบงาน 5.3 เกณฑก์ ารตดิ สิน นกั เรียนไดร้ ะดบั ดขี น้ึ ไปถือว่าผ่าน 6. บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... ....................................................................................... ลงชอื่ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- ๑๕๑ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รยี นเปน็ รายบคุ คล พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน หมายเหตุ ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอนื่ ตามทไี่ ดร้ ับ มอบหมาย ชื่อ-สกุล คิดเหน็ 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี ดีมาก = 4 สนใจฟัง ไม่หลับ ไม่พูดคุยในช้ัน มีคาถามที่ดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบ ตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรับปรงุ = 1 เขา้ ช้ันเรยี น แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไม่ตรงเวลา ลงชอ่ื ……………………………….ผู้ประเมิน (……………………………….) …………/…………/………..

- ๑๕๒ - แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลมุ่ กลุ่ม .......................................................................................................... สมาชกิ ในกลุ่ม 1. ...................................................................... 2. ...................................................................... 3. ...................................................................... 4. ...................................................................... 5. ...................................................................... 6. ...................................................................... คาชแี้ จง: ใหน้ ักเรยี นทาเครื่องหมาย  ในช่องทต่ี รงกบั ความเป็นจรงิ พฤติกรรมทส่ี ังเกต คะแนน 32 1 1. มีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น 2. มีความกระตือรอื ร้นในการทางาน 3. รบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4. มีขนั้ ตอนในการทางานอยา่ งเป็นระบบ 5. ใชเ้ วลาในการทางานอยา่ งเหมาะสม รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤตกิ รรมทีท่ าเปน็ ประจา ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมทท่ี าเปน็ บางคร้งั ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทท่ี าน้อยคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 13-15 ดี 8-12 5-7 ปานกลาง ปรับปรุง

- ๑๕๓ - แบบการประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน เร่ือง ………………………………………………………………………. วิชา…………………………………………………….…………….ชนั้ ………………. ชื่อ/กลุม่ ……………………………………………………….………………………………………………….. ที่ รายการประเมิน ผปู้ ระเมนิ รวม เกณฑ์การประเมนิ 1 เนือ้ หา ( 4 คะแนน ) ตนเอง เพอื่ น ครู 1. เน้ือหาครบถ้วนสมบูรณ์ 2. เน้อื หาถูกต้อง คะแนน 4 : มีครบทกุ ขอ้ 3. เนอื้ หาต่อเน่อื ง 4. มกี ารคน้ ควา้ เพิม่ เตมิ คะแนน 3 : มี 3 ขอ้ ขาด 1 ข้อ 2 กระบวนการทางาน(2คะแนน ) คะแนน 2 : มี 2 ขอ้ ขาด 2 ข้อ 1. มกี ารวางแผนอย่างเป็นระบบ 2. การปฏบิ ตั ิตามแผน คะแนน 1 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้ 3. ตดิ ตามประเมนิ ผล 4. การปรบั ปรงุ พฒั นางาน คะแนน 2: มีครบทุกข้อ คะแนน 1 : มี ไม่ครบ 4 ขอ้ 3 การนาเสนอ ( 2 คะแนน ) คะแนน 0 : ไมป่ รากฏกระบวน 1. การใช้สานวนภาษาดีถกู ต้อง 2. การสะกดคาและไวยากรณ์ การทางานท่ชี ัดเจน ถูกต้อง 3. รูปแบบน่าสนใจ คะแนน 2 : มคี รบทุกขอ้ 4. ความสวยงาม คะแนน 1.5: มี 3 ข้อ ขาด 1 ข้อ คะแนน 1 : มี 2 ข้อ ขาด 2 ข้อ 4 คุณธรรม ( 2 คะแนน ) คะแนน 0.5 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้ 1. ตรงตอ่ เวลา 2. ซ่ือสตั ย์ คะแนน 2 : มีครบทกุ ข้อ 3. ความกระตอื รือรน้ คะแนน 1.5: มี 3 ขอ้ ขาด 1 ขอ้ 4. ความมนี ้าใจ คะแนน1 : มี 2 ขอ้ ขาด 2 ข้อ รวม คะแนน 0.5 :มี 1 ข้อ ขาด 3 ข้อ เฉล่ยี คะแนนเต็ม 10 คะแนน ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ …………………………….. ตนเอง ลงช่ือผปู้ ระเมิน…………………………….. เพ่ือน ลงช่ือผูป้ ระเมนิ …………………………….. ครู

- ๑๕๔ - แบบประเมนิ ชิ้นงาน ช่อื - นามสกลุ .................................................................................. ช้ัน …………………........ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ................................ กจิ กรรม ……………….………………...................... คาชีแ้ จง: ใหผ้ ้ปู ระเมนิ ขดี  ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดับคะแนน ประเด็นทปี่ ระเมนิ ผูป้ ระเมนิ ตนเอง เพ่ือน ครู 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 21 1. ตรงจดุ ประสงค์ท่ีกาหนด 2. มีความถูกต้องสมบรู ณ์ 3. มีความคิดสรา้ งสรรค์ 4. มคี วามเปน็ ระเบียบ รวม รวมทกุ รายการ เฉล่ยี ผู้ประเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผู้ประเมิน .......................................................... (เพอ่ื น) ผูป้ ระเมิน ................................................................ (ครู)

- ๑๕๕ - เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเด็นทป่ี ระเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกบั 4 321 จดุ ประสงค์ท่กี าหนด ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไม่ 2. ผลงานมคี วามถูกต้อง สมบูรณ์ กบั จุดประสงค์ กับจุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ สอดคล้องกับ 3. ผลงานมีความคดิ ทกุ ประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่ บางประเดน็ จดุ ประสงค์ สรา้ งสรรค์ เนื้อหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ 4. ผลงานมคี วามเป็น ระเบียบ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเปน็ ผลงานไมถ่ ูกต้อง ครบถว้ น เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมคี วาม ผลงานไม่แสดง ถงึ ความคดิ แปลกใหม่แต่ยงั น่าสนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคดิ ใหม่ สรา้ งสรรค์ ไม่เปน็ ระบบ มแี นวคิดแปลก แปลกใหม่ ใหม่ และเป็นระบบ ผลงานมคี วามเป็น ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่ ระเบียบแสดงออก ความเปน็ เป็นระเบียบแต่มี ไม่เปน็ ระเบยี บ ถงึ ความประณีต ระเบยี บแต่ยงั มี ข้อบกพร่อง และมีข้อ ข้อบกพร่อง บางส่วน บกพร่องมาก เล็กนอ้ ย เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ นักเรยี นได้คะแนน 13 คะแนนขน้ึ ไป หรือร้อยละ 80 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

- ๑๕๖ - แบบประเมินใบงาน เรอื่ ง .......................................................................... ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี …….. วันท่ี.....................เดอื น........................................................พ.ศ. .................................. ท่ี ประเด็นคะแนน ความตัง้ ใจ ความ เสรจ็ ตาม รวม ระดับ ชื่อ - สกลุ ปฏิบัตงิ าน ถกู ต้อง กาหนด ๑๕ คุณภาพ คะแนน ๕ ๕ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คณุ ภาพ คะแนน ๑๓ - ๑๕ คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๙ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๕ – ๘ คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ – ๔ คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ จานวนคนทีผ่ า่ นระดับคณุ ภาพ......................คน ร้อยละ............... จานวนคนท่ไี ม่ผ่านระดับคุณภาพ..................คน ร้อยละ............... ลงช่ือ.................................... ผู้ประเมนิ (...................................................)

- ๑๕๗ - ชอื่ .......................................สกลุ ...........................................ชนั้ .........เลขที.่ ..... โรงเรยี น ........................................................... ใบงาน เรือ่ ง รสู้ กึ อยา่ งไรกบั ภาพตอ่ ไปนี้ คาชแ้ี จง ให้นักเรียนดูภาพและวิเคราะห์วา่ ภาพดังกล่าวเกิดผลเสยี อย่างไร มวี ิธีการแก้ไขอยา่ งไร ผลเสีย คอื .............................................................. .............................................................. .............................................................. .............................................................. .................................. วธิ กี ารแกไ้ ข .............................................................. .............................................................. ผ..ล..เ.ส.ยี...ค..ือ................................................... ............................................................................................................................ ................................................................................................ .............................................................. .............................................................. .................................. วิธกี ารแก้ไข .............................................................. .............................................................. .ผ.ล..เ.ส.ีย...ค..อื ................................................... ............................................................................................................................ ................................................................................................ .............................................................. .............................................................. .................................. วธิ กี ารแก้ไข .............................................................. .............................................................. .............................................................. ..............................................................

- ๑๕๘ - ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๑ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๒ ชือ่ หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ เรือ่ ง การแต่งกาย ๑.ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับความไม่ทนและความละอายต่อการทุจรติ ๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนเป็นผไู้ ม่ทนและละอายต่อการทุจริตทุกรปู แบบ ๑.๓ ตระหนักและเห็นความสาคัญของการต่อต้านและป้องกันการทุจริต ๒.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 นกั เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความไม่ทนและความละอายตอ่ การแต่งกายที่ไม่ เหมาะสม 2.2 นักเรยี นสามารถคิดวิเคราะห์ถงึ ความไมเ่ หมาะสมจากการแต่งกาย ๒.๓ นกั เรยี นตระหนกั และเห็นความสาคัญของการต่อต้านและป้องกันการทุจรติ ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ๑. ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ ๒. การแต่งกายท่ถี ูกตอ้ ง และเหมาะสม ๓. ความสาคญั ของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทจุ รติ 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) 1.ความสามารถในการคดิ 1).ทกั ษะการสังเกต 2).ทักษะการระบุ 2 ความสามารถในการสื่อสาร (ฟงั พดู อ่าน เขยี น) 4.ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ (วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรุป) 3.3 คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ / ค่านยิ ม ๑) รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม ๒) มีความเข้มแข็งทง้ั รา่ งกายและจติ ใจไมย่ อมแพต้ ่ออานาจฝ่ายต่า หรอื กเิ ลส มคี วาม ละอาย เกรงกลวั ต่อบาปตามหลักของศาสนา

- ๑๕๙ - ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้ันตอนการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวน ๑ ชั่วโมง ๑. ชมคลปิ วดี โี อ เร่อื ง แตง่ กายถกู ระเบียบ ไดเ้ ปรียบและดูดี โดยมที มี่ าของคลปิ https://www.youtube.com/watch?v=SlGg041qwJ0 ๒. สนทนา อภิปราย ซักถาม จากการชมคลปิ วดี โี อ เร่ือง แตง่ กายถกู ระเบียบ ไดเ้ ปรียบและดดู ี ถงึ ประเดน็ เก่ียวกับการแตง่ กายใหเ้ หมาะสมกบั โอกาส สถานที่ กจิ กรรม เปน็ ต้น ๓. ครตู ้งั คาถามประเดน็ ตอ่ ไปวา่ “ในฐานะท่ีเราเป็นนักเรยี นควรมกี ารแต่งกายอยา่ งใหถ้ ูกตอ้ งตาม ระเบยี บ และมีความเหมาะสมกบั วยั ของนกั เรียน” (ครสู ังเกตการตอบคาถาม และกระตุ้นใหน้ กั เรียน ชว่ ยกนั ตอบคาถาม) ๔. ครูนาภาพการแตง่ กายทถ่ี ูกระเบยี บ และผิดระเบยี บมาใหน้ ักเรียนดู ๕. สนทนา อภิปราย ซกั ถาม จากภาพการแต่งกาย โดยกาหนดประเดน็ ในการสนทนา อภปิ ราย ซักถาม คือ การแตง่ การอย่างไรจงึ จะถือไดว้ ่า แตง่ กายถกู ตอ้ งท้งั ในกรณีนักเรยี นชาย – นกั เรยี นหญงิ การแตง่ กายทถ่ี ูกต้องตามระเบยี บเกีย่ วขอ้ งกับการตอ่ ตา้ นและป้องกนั การทุจรติ อย่างไร (ครเู ชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเห็นวา่ การแตง่ กายทเ่ี หมาะสมกับกาละและเทศะเก่ียวข้องกบั การตอ่ ต้านและป้องกนั การทุจรติ คือ การปฏิบตั ติ ามความถกู ต้องนน้ั เอง) ๖. แจกใบงาน เร่อื ง แตง่ กายอยา่ งไรให้เหมาะสม ให้นกั เรียนทาเปน็ การบ้าน และนาสง่ 4.2 สื่อการเรยี นรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ 1) คลิปวีดโี อ เรื่อง แต่งกายถกู ระเบยี บ ได้เปรียบและดูดี โดยมีทมี่ าของคลปิ https://www.youtube.com/watch?v=SlGg041qwJ0 ๒) รูปภาพการแตง่ กายทถ่ี กู ระเบียบ และผดิ ระเบยี บ ๓) ใบงาน เรือ่ ง แตง่ กายอยา่ งไรให้เหมาะสม ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ 5.1 วธิ ีการประเมิน ๑) ใบงาน เรอ่ื ง แตง่ กายอย่างไรใหเ้ หมาะสม ๒) สังเกตพฤตกิ รรมการทางานของผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล ๕.๒ เครอ่ื งมือทใี่ ชใ้ นการประเมิน 1. แบบประเมนิ ใบงาน ๒. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล 5.3 เกณฑก์ ารตดิ สนิ นกั เรยี นไดร้ ะดับดีขน้ึ ไปถือว่าผา่ น

- ๑๖๐ - 6. บนั ทึกหลังสอน ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... ....................................................................................... ลงชื่อ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- ๑๖๑ - แบบประเมินใบงาน เรอื่ ง .......................................................................... ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี …….. วันท่ี.....................เดอื น........................................................พ.ศ. .................................. ท่ี ประเด็นคะแนน ความตัง้ ใจ ความ เสรจ็ ตาม รวม ระดับ ชื่อ - สกลุ ปฏิบัตงิ าน ถกู ต้อง กาหนด ๑๕ คุณภาพ คะแนน ๕ ๕ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คณุ ภาพ คะแนน ๑๓ - ๑๕ คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๙ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๕ – ๘ คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ – ๔ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง จานวนคนทีผ่ า่ นระดับคณุ ภาพ......................คน ร้อยละ............... จานวนคนท่ไี ม่ผ่านระดับคุณภาพ..................คน รอ้ ยละ............... ลงช่ือ.................................... ผู้ประเมนิ (...................................................)

- ๑๖๒ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน หมายเหตุ ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอนื่ ตามที่ไดร้ ับ มอบหมาย ชื่อ-สกุล คดิ เหน็ 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดบั คุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดงั น้ี ดีมาก = 4 สนใจฟัง ไม่หลับ ไม่พูดคุยในช้ัน มีคาถามท่ีดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบ ตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรับปรงุ = 1 เขา้ ชั้นเรยี น แต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไม่ตรงเวลา ลงชอ่ื ……………………………….ผ้สู ังเกต (……………………………….) …………/…………/………..

- ๑๖๓ - ชื่อ ...............................................................สกลุ ..............................................ช้นั ................เลขที่ ...... โรงเรียน................................................................................................. ใบงาน เร่อื ง แตง่ กายอยา่ งไรใหเ้ หมาะสม คาชแี้ จง ให้นกั เรียนดูภาพ A และ B การแต่งกาย แล้วพิจารณาวา่ แบบใดเหมาะสมกับวยั นักเรยี น เพราะสาเหตใุ ด AB การแตง่ กายมคี วามเหมาะสมวยั คือ ………………………………………………………………………….. เพราะ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………

- ๑๖๔ - ตัวอย่าง ภาพการแตง่ กายท่ีถูกระเบยี บ และผดิ ระเบยี บ

- ๑๖๕ - ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ๒ี่ เวลา ๒ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี ๒ ชือ่ หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕ เรอ่ื ง การเข้าแถวมารยาทคนดี ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความไมท่ นและความละอายต่อการทุจริต ๑.๒ ปฏบิ ัติตนเป็นผู้ไม่ทนและละอายต่อการทจุ ริตทุกรูปแบบ ๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทุจริต ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั ความไมท่ นและความละอายตอ่ การไมเ่ ข้าแถว 2.3 สามารถคดิ วเิ คราะห์ถึงความเหมาะสมจากการเข้าแถว ๒.๓ ตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการตอ่ ต้านและป้องกันการทุจริต ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ๒.๑. ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต ๒.๒. การเขา้ แถว ๒.๓. ความสาคญั ของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทจุ ริต 3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กิด) 3.1. ความสามารถในการคิด 1).ทกั ษะการสงั เกต 2).ทกั ษะการระบุ 3.2 ความสามารถในการส่ือสาร (ฟัง พดู อ่าน เขียน) 3.๓ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ (วิเคราะห์ จดั กลุ่ม สรปุ ) 3.3 คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / คา่ นยิ ม ๑) รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม ๒) มีระเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ยรูจ้ ักการเคารพผใู้ หญ่ ๓) มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจติ ใจไม่ยอมแพ้ตอ่ อานาจฝา่ ยต่า หรือกิเลส มคี วาม ละอาย เกรงกลวั ต่อบาปตามหลักของศาสนา ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน ๑ ช่ัวโมง ๑. ชมคลปิ วดี โี อ เรอ่ื ง ภาพการแสดงของทหารหน่วยหน่งึ ต้งั แถวแปรขบวนเล่นเปน็ เวฟไล่ระดับกัน อย่างสวยงาม โดยมีทม่ี าของคลปิ https://www.youtube.com/watch?v=bgkpnNrnDJA

- ๑๖๖ - ๒. สนทนา อภิปราย ซักถาม จากการชมคลปิ วีดโี อ เรอื่ ง ภาพการแสดงของทหารหนว่ ยหน่ึงต้ังแถว แปรขบวนเล่นเป็นเวฟไล่ระดับกนั อย่างสวยงาม โดยใช้คาถาม เชน่ นกั เรยี นรสู้ กึ อยา่ งไรจากการรบั ชมคลิปวีดโี อ นกั เรยี นคดิ วา่ การเข้าแถวทเี่ ปน็ ระเบียบดีหรอื ไมอ่ ยา่ งไร ฯลฯ ๓. แจกใบงาน เรื่อง ต่อควิ เพื่อความเรยี บรอ้ ยในสงั คม ๔. ชมคลปิ วีดีโอ เรื่อง ตอ่ ควิ เพื่อความเรยี บร้อยในสงั คม โดยมีทม่ี าของคลปิ https://www.youtube.com/watch?v=FOrGijZK5m0&t=7s ๕. นักเรียนศกึ ษาใบงาน และลงมอื ปฏบิ ตั ิตามคาช้แี จง ๖. ครูต้ังคาถามประเด็นต่อไปว่า “ในฐานะทเ่ี ราเป็นนักเรยี นควรปฏิบัติอย่างไรในการเขา้ แถว” (ครูสงั เกตการตอบคาถาม และกระตนุ้ ให้นักเรยี นชว่ ยกันตอบคาถาม โดยครูเชอื่ มโยงใหน้ กั เรยี นเหน็ วา่ การเขา้ แถวที่มวี ินยั เกีย่ วข้องกบั การต่อต้านและปอ้ งกันการทจุ รติ คือ การปฏิบัตติ ามระเบียบวนิ ัย นัน้ เอง) 4.2 สื่อการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ 1) คลปิ วีดโี อ เรือ่ ง ภาพการแสดงของทหารหนว่ ยหน่งึ ตัง้ แถวแปรขบวนเลน่ เปน็ เวฟไล่ ระดบั กนั อย่างสวยงาม โดยมีทม่ี าของคลิป https://www.youtube.com/watch?v=bgkpnNrnDJA ๒) คลิปวดี ีโอ เร่อื ง ต่อคิว เพื่อความเรยี บร้อยในสังคม โดยมีทมี่ าของคลปิ https://www.youtube.com/watch?v=FOrGijZK5m0&t=7s ๓) ใบงาน เรอื่ ง ต่อคิว เพ่ือความเรยี บรอ้ ยในสังคม ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.1 วธิ ีการประเมนิ ๑) ใบงาน เรือ่ ง ต่อคิว เพื่อความเรยี บร้อยในสงั คม ๒) สงั เกตพฤติกรรมการทางานของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล ๕.๒ เครื่องมือทใี่ ชใ้ นการประเมนิ 1. แบบประเมนิ ใบงาน ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล 5.3 เกณฑก์ ารติดสนิ นักเรียนได้ระดบั ดีขึ้นไปถือว่าผ่าน 6. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- ๑๖๗ - แบบประเมินใบงาน เรอื่ ง .......................................................................... ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี …….. วันท่ี.....................เดอื น........................................................พ.ศ. .................................. ท่ี ประเด็นคะแนน ความตัง้ ใจ ความ เสรจ็ ตาม รวม ระดับ ชื่อ - สกลุ ปฏิบัตงิ าน ถกู ต้อง กาหนด ๑๕ คุณภาพ คะแนน ๕ ๕ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คณุ ภาพ คะแนน ๑๓ - ๑๕ คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๙ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๕ – ๘ คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ – ๔ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง จานวนคนทีผ่ า่ นระดับคณุ ภาพ......................คน ร้อยละ............... จานวนคนท่ไี ม่ผ่านระดับคุณภาพ..................คน รอ้ ยละ............... ลงช่ือ.................................... ผู้ประเมนิ (...................................................)

- ๑๖๘ - แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล พฤติกรรม การแสดง การตอบ การยอมรบั ทางาน หมายเหตุ ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอน่ื ตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย ชื่อ-สกุล คิดเห็น 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดังนี้ ดีมาก = 4 สนใจฟัง ไม่หลับ ไม่พูดคุยในชั้น มีคาถามที่ดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบ ตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรับปรงุ = 1 เขา้ ช้ันเรยี น แต่การแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา ลงช่อื ……………………………….ผู้ประเมิน (……………………………….) …………/…………/………..

- ๑๖๙ - ชื่อ ..............................................................สกุล...............................................ช้นั ................เลขที่ ...... โรงเรียน................................................................................................. ใบงาน เรือ่ ง ต่อควิ เพอ่ื ความเรยี บรอ้ ยในสงั คม คาชีแ้ จง ๑. ชมคลปิ วีดีโอ เร่ือง ตอ่ ควิ เพื่อความเรียบรอ้ ยในสงั คม ๒. ใหน้ กั เรยี นเขียนประเดน็ ในเชงิ บวกส่งิ ทไี่ ด้รบั จากการชมคลิปวีดีโอ นักเรียนคดิ วา่ การเขา้ แถวท่ีเปน็ ระเบยี บมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… …

- ๑๗๐ - ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๑ ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ ๒ ชอื่ หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๖ เรื่อง การเลือกตัง้ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั ความไม่ทนและความละอายต่อการทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบตั ิตนเป็นผไู้ ม่ทนและละอายตอ่ การทุจรติ ทกุ รปู แบบ ๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการต่อต้านและป้องกนั การทจุ ริต ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 นกั เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การเลือกตง้ั ตามระบอบประชาธปิ ไตย 2.4 นักเรยี นสามารถคิดวิเคราะห์ถงึ ความเหมาะสมเกีย่ วกับการเลือกตง้ั ตามระบอบประชาธปิ ไตย ๒.๓ นักเรยี นตระหนักและเห็นความสาคญั ของการต่อตา้ นและป้องกันการทุจริต ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ๒.๑. ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ ๒.๒. การเลือกต้งั ในระดับตา่ งๆ ตามระบอบประชาธปิ ไตย ๒.๓. ความสาคัญของการตอ่ ต้านและป้องกันการทจุ ริต 3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กิด) 3.1. ความสามารถในการคิด 1).ทกั ษะการสังเกต 2).ทักษะการระบุ 3.2 ความสามารถในการส่ือสาร (ฟัง พดู อ่าน เขียน) 3.๓ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (วเิ คราะห์ จดั กลุ่ม สรุป) 3.3 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ / ค่านยิ ม ๑) เข้าใจเรียนรู้การเปน็ ประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ ที่ถูกต้อง ๒) มีความเข้มแข็งทั้งรา่ งกายและจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออานาจฝ่ายตา่ หรอื กิเลส มีความ ละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ขน้ั ตอนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวน ๑ ชั่วโมง ๑. ชมคลิปวีดโี อ เรอ่ื ง หาเสียงประธานคณะกรรมการนักเรียน 2559 เบอร์1 By TYN B.D. ท่มี าของคลปิ วีดโี อ https://www.youtube.com/watch?v=k9Ycz2aAaVw คลิปวีดีโอ เร่ือง หาเสยี งประธานคณะกรรมการนกั เรียน 2559 เบอร2์ By TYN B.D. ท่มี าของคลิปวดี โี อ https://www.youtube.com/watch?v=RKT4B1bjU1s และ คลิปวดี ีโอ เรอ่ื ง หาเสยี งประธานคณะกรรมการนักเรียน 2559 เบอร3์ By TYN B.D.

- ๑๗๑ - ทม่ี าของคลปิ วีดีโอhttps://www.youtube.com/watch?v=vcS7f59XmjU ตามลาดับ ๒. สนทนา อภปิ ราย ซักถาม จากการชมคลปิ วีดโี อ โดยใช้คาถาม เชน่ นักเรยี นคดิ ว่าจากคลปิ วดี โี อเกยี่ วขอ้ งกับเร่ืองใด นกั เรียนจะเลอื กเบอร์อะไร เพราะอะไร จากการรบั ชมคลปิ วีดโี อ นักเรยี นเขา้ ใจวา่ ประชาธปิ ไตย วา่ อยา่ งไร กจิ กรรมอะไรบา้ งท่ีแสดงให้เห็นถงึ ความเปน็ ประชาธิปไตย โดยครูเชื่อมโยงใหผ้ ้เู รียนสะทอ้ น ใหเ้ ห็นถงึ การเลือกตัง้ ๓. นกั เรยี นยกตัวอย่างกจิ กรรมทส่ี ่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย แลว้ หาอาสาสมัครนักเรียนออกมาเขียน รวบรวม บนกระดาน ๔. ครูชแ้ี จงให้นักเรียนทราบวา่ กิจกรรมที่สง่ เสริมประชาธปิ ไตยมีหลายรปู แบบ นักเรยี นควรรจู้ กั การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมต่างๆ อย่างเหมาะสม ๕ สนทนา อภปิ ราย วา่ หากการเลือกตง้ั มีการทจุ รติ คอรัปชนั จะเกดิ ผลเสียอย่างไร และท่ถี ูกต้อง ควรเปน็ เชน่ ไร ๖. ใหน้ ักเรียนทาใบงาน เรอื่ ง กจิ กรรมท่สี ่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียนเป็นการบ้าน 4.2 ส่ือการเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ ๑) คลปิ วีดโี อ เร่ือง หาเสยี งประธานคณะกรรมการนักเรียน 2559 เบอร์1 By TYN B.D. ทีม่ าของคลิปวีดโี อ https://www.youtube.com/watch?v=k9Ycz2aAaVw ๒) คลปิ วีดีโอ เร่อื ง หาเสียงประธานคณะกรรมการนักเรยี น 2559 เบอร์2 By TYN B.D. ทม่ี าของคลิปวีดโี อ https://www.youtube.com/watch?v=RKT4B1bjU1s ๓) คลิปวีดโี อ เรือ่ ง หาเสียงประธานคณะกรรมการนักเรยี น 2559 เบอร์3 By TYN B.D. ทีม่ าของคลิปวดี ีโอhttps://www.youtube.com/watch?v=vcS7f59XmjU ๔) ใบงาน เร่อื ง กิจกรรมทสี่ ่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.1 วิธกี ารประเมนิ ๑) ใบงาน เร่อื ง กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานของผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล ๕.๒ เคร่อื งมือท่ีใช้ในการประเมนิ 1. แบบประเมินใบงาน ๒. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานของผ้เู รยี นเป็นรายบุคคล 5.3 เกณฑก์ ารติดสนิ นักเรียนได้ระดบั ดีข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน

- ๑๗๒ - 6 บันทึกหลังสอน ........................................................................................................................................... ................................ ................................................................................................... ........................................................................ ............................................................................................................................. .............................................. .......................................................................................................................................... ................................. .................................................................................................. ......................................................................... ลงชอื่ ................................................ ครูผูส้ อน (.................................................) ภาคผนวก 1. แบบประเมินใบงาน ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รียนเป็นรายบุคคล ๓. ใบงาน เร่อื ง กิจกรรมที่ส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรยี น

- ๑๗๓ - แบบประเมนิ ใบงาน เรื่อง .......................................................................... ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี …….. วนั ท่.ี ....................เดือน........................................................พ.ศ. .................................. ท่ี ประเดน็ คะแนน ความตัง้ ใจ ความ เสร็จตาม รวม ระดบั ชื่อ - สกลุ ปฏิบัตงิ าน ถกู ต้อง กาหนด ๑๕ คณุ ภาพ คะแนน ๕ ๕ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คุณภาพ คะแนน ๑๓ - ๑๕ คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน ๙ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๕ – ๘ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๑ – ๔ คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ จานวนคนทผ่ี า่ นระดับคณุ ภาพ......................คน ร้อยละ............... จานวนคนท่ไี มผ่ ่านระดับคุณภาพ..................คน ร้อยละ............... ลงชอ่ื .................................... ผูป้ ระเมิน (...................................................

- ๑๗๔ - แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล พฤติกรรม การแสดง การตอบ การยอมรบั ทางาน หมายเหตุ ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอืน่ ตามทไี่ ด้รบั มอบหมาย ชื่อ-สกุล คิดเห็น 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดังนี้ ดีมาก = 4 สนใจฟัง ไม่หลับ ไม่พูดคุยในชั้น มีคาถามที่ดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบ ตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรับปรงุ = 1 เขา้ ช้ันเรยี น แต่การแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงเวลา ลงช่อื ……………………………….ผู้ประเมิน (……………………………….) …………/…………/………..

- ๑๗๕ - ช่อื ...............................................................สกลุ ..............................................ช้นั ................เลขที่ ...... โรงเรียน................................................................................................. ใบงาน เรือ่ ง กจิ กรรมท่ีสง่ เสรมิ ประชาธิปไตยในโรงเรยี น คาชีแ้ จง นกั เรยี นเขียนอธิบายโดยสังเขป จากภาพกิจกรรมการสง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตย ภาพท่เี ห็น ........................................................ เป็นการสง่ เสริมประชาธิปไตย เพราะ

- ๑๗๖ - แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๒ ช่ือหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท๒ี่ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๗ เรอ่ื ง เรามารวมกลุม่ เพ่อื สรา้ งสรรค์ตา้ นทุจริต เวลา ๑ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความไมท่ นและความละอายต่อการทุจริต ๑.๒ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้ไมท่ นและละอายตอ่ การทจุ ริตทุกรูปแบบ ๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความสาคัญของการตอ่ ต้านและป้องกันการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับการต่อตา้ นการทุจรติ ในรปู แบบตา่ งๆ 2.5 นักเรยี นสามารถรวมกลุ่มคดิ วิเคราะห์ถึงวธิ กี ารต่อต้านการทจุ ริตในรูปแบบต่างๆ ๒.๓ นกั เรยี นตระหนกั และเห็นความสาคัญของการต่อตา้ นและปอ้ งกันการทุจรติ ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ๒.๑. ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต ๒.๒. การทุจริตในรปู แบบตา่ งๆ ๒.๓. ความสาคญั ของการต่อตา้ นและป้องกนั การทุจรติ 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกิด) 3.1. ความสามารถในการคิด 1).ทกั ษะการสังเกต 2).ทกั ษะการระบุ 3.2 ความสามารถในการส่ือสาร (ฟงั พูด อ่าน เขยี น) 3.๓ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ (วเิ คราะห์ จดั กลุ่ม สรุป) 3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ / คา่ นิยม ๑) ซ่ือสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณใ์ นสิ่งท่ีดีงามเพ่ือสว่ นรวม ๒) มีศีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวังดตี ่อผู้อืน่ เผอ่ื แผ่และแบง่ ปนั ๓) มคี วามเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจไมย่ อมแพ้ตอ่ อานาจฝ่ายต่า หรอื กเิ ลส มคี วาม ละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ขน้ั ตอนการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวน ๑ ช่ัวโมง ๑. ชมคลิปวดี ีโอ เร่ือง รณรงคต์ ่อต้านคอร์รปั ช่นั โดย มีที่มาของคลิป https://www.youtube.com/watch?v=UgxbgwMZJY4 ๒ สนทนา อภิปราย ซักถาม จากการชมคลปิ วีดโี อ เรอ่ื ง รณรงค์ต่อตา้ นคอร์รัปชนั่ โดยใชค้ าถาม เชน่

- ๑๗๗ - นกั เรยี นรสู้ ึกอยา่ งไรจากการรับชมคลิปวดี โี อ การคอรัปชนั คืออะไรในความคดิ ของนกั เรยี น การคอรัปชนั ดีหรอื ไม่ อย่างไร นักเรียนเหน็ ดว้ ยหรอื ไม่ทวี่ ่า รัฐบาลทจุ ริตได้แตข่ อให้ตนเองไดป้ ระโยชน์ดว้ ย นักเรยี นพบเห็นการคอรัปชนั ท่อี ยใู่ กล้ๆตัว นักเรยี นเชน่ เร่ืองใดบา้ ง นักเรยี นเกิดความรสู้ กึ อยา่ งไร และนกั เรยี นจะแกไ้ ขอย่างไร ฯลฯ ๓. นาตวั อย่าง โลโก้การตอ่ ต้านการทจุ ริตมาให้นักเรยี นดู ๔. ใหน้ ักเรียนร่วมกลมุ่ กนั กลุม่ ละ 4-5 คน รว่ มกันคดิ โลโกร้ ณรงคท์ จี่ ะรว่ มกันต่อตา้ นการทจุ รติ โดยจดั ทาเป็นโลโก้รณรงค์ พรอ้ มนาเสนอ และนาผลงานไปตดิ ประชาสัมพันธ์ตามบริเวณต่างๆ เพือ่ เผยแพร่ 4.2 สื่อการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ 1) คลปิ วดี โี อ เรอ่ื ง รณรงค์ต่อต้านคอรร์ ปั ช่นั โดย โดยมีท่มี าของคลิป https://www.youtube.com/watch?v=UgxbgwMZJY4 ๒) ตวั อยา่ ง โลโก้การต่อต้านการทจุ รติ ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ กี ารประเมิน ๑) ชิ้นงานการออกแบบแผน่ ปา้ ยรณรงค์การตอ่ ต้านการทุจรติ ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล ๓) สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ๔) การนาเสนอผลงาน ๕.๒ เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ 1) แบบประเมนิ ชน้ิ งาน ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล ๓) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ๔) แบบบนั ทึกการนาเสนอผลงาน 5.3 เกณฑก์ ารติดสนิ นกั เรยี นได้ระดับดีขึน้ ไปถือว่าผ่าน 6. บนั ทึกหลังสอน ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... ................................................................. ...................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................. ......................................................................................... ลงชอ่ื ................................................ ครผู สู้ อน (.................................................)

- ๑๗๘ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของผเู้ รยี นเปน็ รายบคุ คล พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน หมายเหตุ ที่ ความสนใจ ความ คาถาม ฟงั คนอนื่ ตามทไี่ ดร้ ับ มอบหมาย ชื่อ-สกุล คิดเหน็ 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี ดีมาก = 4 สนใจฟัง ไม่หลับ ไม่พูดคุยในช้ัน มีคาถามที่ดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบ ตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรับปรงุ = 1 เขา้ ช้ันเรยี น แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไม่ตรงเวลา ลงชอ่ื ……………………………….ผู้ประเมิน (……………………………….) …………/…………/………..

- ๑๗๙ - แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ กลุ่ม .......................................................................................................... สมาชิกในกลมุ่ 1. ...................................................................... 2. ...................................................................... 3. ...................................................................... 4. ...................................................................... 5. ...................................................................... 6. ...................................................................... คาชแี้ จง: ใหน้ ักเรียนทาเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งท่ตี รงกับความเป็นจริง พฤตกิ รรมท่ีสังเกต คะแนน 32 1 1. มสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น 2. มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการทางาน 3. รับผิดชอบในงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 4. มขี ้นั ตอนในการทางานอย่างเปน็ ระบบ 5. ใช้เวลาในการทางานอยา่ งเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน พฤตกิ รรมทที่ าเปน็ ประจา ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ที าเปน็ บางครง้ั ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ทานอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 13-15 ดี 8-12 5-7 ปานกลาง ปรบั ปรุง

- ๑๘๐ - แบบการประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน เร่ือง ………………………………………………………………………. วิชา…………………………………………………….…………….ชนั้ ………………. ชื่อ/กลุม่ ……………………………………………………….………………………………………………….. ที่ รายการประเมิน ผปู้ ระเมนิ รวม เกณฑ์การประเมนิ 1 เนือ้ หา ( 4 คะแนน ) ตนเอง เพอื่ น ครู 5. เน้ือหาครบถ้วนสมบูรณ์ 6. เน้อื หาถูกต้อง คะแนน 4 : มีครบทกุ ขอ้ 7. เนอื้ หาต่อเน่อื ง 8. มกี ารคน้ ควา้ เพิม่ เตมิ คะแนน 3 : มี 3 ขอ้ ขาด 1 ข้อ 2 กระบวนการทางาน(2คะแนน ) คะแนน 2 : มี 2 ขอ้ ขาด 2 ข้อ 5. มกี ารวางแผนอย่างเป็นระบบ 6. การปฏบิ ตั ิตามแผน คะแนน 1 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้ 7. ตดิ ตามประเมนิ ผล 8. การปรบั ปรงุ พฒั นางาน คะแนน 2: มีครบทุกข้อ คะแนน 1 : มี ไม่ครบ 4 ขอ้ 3 การนาเสนอ ( 2 คะแนน ) คะแนน 0 : ไมป่ รากฏกระบวน 4. การใช้สานวนภาษาดีถกู ต้อง 5. การสะกดคาและไวยากรณ์ การทางานท่ชี ัดเจน ถูกต้อง 6. รูปแบบน่าสนใจ คะแนน 2 : มคี รบทุกขอ้ 4. ความสวยงาม คะแนน 1.5: มี 3 ข้อ ขาด 1 ข้อ คะแนน 1 : มี 2 ข้อ ขาด 2 ข้อ 4 คุณธรรม ( 2 คะแนน ) คะแนน 0.5 : มี 1 ขอ้ ขาด 3 ขอ้ 5. ตรงตอ่ เวลา 6. ซ่ือสตั ย์ คะแนน 2 : มีครบทกุ ข้อ 7. ความกระตอื รือรน้ คะแนน 1.5: มี 3 ขอ้ ขาด 1 ขอ้ 8. ความมนี ้าใจ คะแนน1 : มี 2 ขอ้ ขาด 2 ข้อ รวม คะแนน 0.5 :มี 1 ข้อ ขาด 3 ข้อ เฉล่ยี คะแนนเต็ม 10 คะแนน ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ …………………………….. ตนเอง ลงช่ือผปู้ ระเมิน…………………………….. เพ่ือน ลงช่ือผูป้ ระเมนิ …………………………….. ครู

- ๑๘๑ - แบบประเมนิ ชิ้นงาน ช่อื - นามสกลุ .................................................................................. ช้ัน …………………........ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ................................ กจิ กรรม ……………….………………...................... คาชีแ้ จง: ใหผ้ ้ปู ระเมนิ ขดี  ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดับคะแนน ประเด็นทปี่ ระเมนิ ผูป้ ระเมนิ ตนเอง เพ่ือน ครู 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 21 1. ตรงจดุ ประสงค์ท่ีกาหนด 2. มีความถูกต้องสมบรู ณ์ 3. มีความคิดสรา้ งสรรค์ 4. มคี วามเปน็ ระเบียบ รวม รวมทกุ รายการ เฉล่ยี ผู้ประเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผู้ประเมิน .......................................................... (เพอ่ื น) ผูป้ ระเมิน ................................................................ (ครู)

- ๑๘๒ - เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน ประเดน็ ทป่ี ระเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกับ 4 321 จดุ ประสงค์ท่ีกาหนด ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่ 2. ผลงานมีความถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ กับจดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคล้องกบั 3. ผลงานมคี วามคิด ทกุ ประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ บางประเดน็ จุดประสงค์ สร้างสรรค์ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ 4. ผลงานมคี วามเปน็ ระเบียบ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานไมถ่ ูกต้อง ครบถ้วน เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคิด ผลงานมคี วาม ผลงานไม่แสดง ถงึ ความคดิ แปลกใหมแ่ ตย่ งั นา่ สนใจ แต่ยงั ไม่ แนวคดิ ใหม่ สร้างสรรค์ ไมเ่ ป็นระบบ มีแนวคิดแปลก แปลกใหม่ ใหม่ และเป็นระบบ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ ระเบียบแสดงออก ความเป็น เปน็ ระเบียบแต่มี ไม่เป็นระเบยี บ ถงึ ความประณตี ระเบยี บแต่ยังมี ขอ้ บกพร่อง และมีข้อ ขอ้ บกพร่อง บางส่วน บกพร่องมาก เล็กนอ้ ย เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ นกั เรียนไดค้ ะแนน 13 คะแนนขึ้นไป หรือร้อยละ 80 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

- ๑๘๓ - ตัวอย่าง โลโกก้ ารตอ่ ตา้ นการทจุ รติ

- ๑๘๔ - หนว่ ยท่ี 3 STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ

- ๑๘๕ - ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 2 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 3 ชื่อหนว่ ย STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง ความพอเพียง 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 นกั เรียนสามารถบอกความหมายของคาว่า ความพอพยี ง ได้ 2.2 นกั เรยี นสามารถแยกแยะความประพฤติไม่ดีท่ีแสดงถึงความทุจริต และส่งผลกระทบต่อตนเอง และผอู้ ื่นได้ 2.3 นักเรียนตระหนักถงึ ความพอดี ความจาเป็นของสงิ่ ของทีต่ อ้ งใช้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ 1) ความหมายของความพอเพยี ง 2) ความประพฤติไมด่ ีทแี่ สดงถึงความทุจริตส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน 3) ความพอดี ความจาเปน็ ของสง่ิ ของต้องใช้ 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ 3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 3.3 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ / ค่านิยม 1) มคี วามม่งุ มน่ั ในการทางานรว่ มกนั 4. ขน้ั ตอนการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1) ครเู ปิดคลปิ วิดิโอ “ชวี ติ พอเพยี ง ตามรอยพอ่ ” ให้นักเรยี นดู จากนั้นให้นกั เรียนเขียนแสดงความรู้ ถงึ วธิ ีการใชช้ วี ติ แบบพอเพยี งว่าควรทาอะไรบ้าง จากนัน้ ใหน้ กั เรียนออกมาพูดหนา้ ช้ันเรียน 2) ครูอธบิ ายความหมายของความพอเพียงความ พอประมาณ มเี หตุผล การเดินสายกลาง ตามแนว พระราชดารัส 3) นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ศึกษาใบความรู้ “กรณีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์” ใหช้ ว่ ยกนั เขยี นแสดงความคิดถึงส่ิงที่เกิดขึ้น สะท้อนปัญหาในหลายด้านของสังคมไทยลงในใบงานที่ 1 เรื่อง จิตพอเพยี งต้านการทจุ รติ จากนั้นนักเรยี นตัวแทนกลุม่ ออกมานาเสนอ 4) ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปข้อคิดที่ได้จากการอ่านข่าว และนักเรียนสามารถแยกแยะพฤติกรรม ที่แสดงถึงความทุจรติ

- ๑๘๖ - ชั่วโมงที่ 2 5) ทบทวนความรู้เดิมเรอ่ื งของความหมายของความพอเพยี ง 6) นกั เรียนช่วยกันยกตัวอย่างความพอเพยี งท่เี กย่ี วข้องในชวี ติ ประจาวัน 7) มอบหมายใหน้ ักเรยี นแต่งคาขวัญในหัวขอ้ “ความพอเพยี ง ตา้ นโกง” 8) นกั เรยี นแตล่ ะคนแลกเปล่ียนผลงานการแต่งคาขวญั หนา้ ชัน้ เรียน 9) สนทนา อภปิ ราย แลกเปล่ยี นความคิดเห็นความพอเพยี ง สามารถตา้ นการทุจรติ ไดอ้ ย่างไร 4.2 สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1) ใบความรู้เรื่อง ข่าวเรือ่ งการทจุ รติ “ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพนั ธ์ุ” 2) ใบงานที่ 1 เรอ่ื งจติ พอพยี งตา้ นทจุ ริต 3) คลิปวิดโี อ “ชวี ติ พอเพียงตามรอยพอ่ ” (สานกั ข่าวไทย อสมท) 5. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.1 วิธกี ารประเมนิ 1) สังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานของนกั เรยี นแต่ละกลุ่ม 2) ตรวจผลงานบันทกึ การวิเคราะห์ข่าว ของแตล่ ะกล่มุ 3) สังเกตพฤตกิ รรมการนาเสนอผลงานของแตล่ ะกลมุ่ 4) ตรวจใบงานสรุปผลพฤติกรรมการทจุ ริตโดยไม่พอเพยี ง 5) การแต่งคาขวัญ 5.2 เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน 1) แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกลมุ่ 2) แบบบนั ทกึ การให้คะแนนการวิเคราะห์ขา่ ว ของแต่ละกลมุ่ 3) แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานของแตล่ ะกลุ่ม 4) แบบประเมนิ การแต่งคาขวัญ 5.3 เกณฑก์ ารตัดสนิ 1) เกณฑ์การประเมนิ กิจกรรม 2) เกณฑ์การประเมนิ กิจกรรมวิธนี าเสนอผลงานของแตล่ ะกลุ่ม 6. บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ......................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่อื ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- ๑๘๗ - ใบความรู้ ขา่ วเร่ือง การทจุ รติ “พลตารวจโทพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์” ศาลแพ่ง พิพากษาส่ังริบทรัพย์กว่า 1,000 รายการ รวม 25 ล้านบาทเศษ \"พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ\" อดตี ผบช.ก. ตกเป็นของแผน่ ดนิ ศาลแพ่ง รัชดา อ่านคาพิพากษา ในคดีท่ี พนักงานอัยการ ย่ืนคาร้องขอให้ศาลมีคาสั่งริบทรัพย์สิน พล.ต.ท. พงศพ์ ัฒน์ ฉายาพนั ธุ์ อดีต ผบช.ก. รวม 1,014 รายการ มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท พร้อมดอกเบ้ีย ให้ตกเป็น ของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กรณีสืบเน่ืองจาก พล.ต.ท.พงศ์ พัฒน์ กบั พวก มพี ฤตกิ ารณ์กระทาผิดเก่ยี วกับตาแหน่งหน้าที่ราชการและความผดิ เกย่ี วกับการพนัน โดยขณะ ดารงตาแหน่งเป็น ผบช.ก. ได้ร่วมกับพวก เรียกร้องเงินจากข้าราชการตารวจท่ีขอแต่งต้ังโยกย้ายตาแหน่ง สาคัญรายละ 3,000,000 - 5,000,000 ล้านบาท เม่ือได้รับแต่งตั้งแล้วต้องนาเงินส่งให้ พล.ต.ท.พงศ์ พฒั น์ เปน็ รายเดอื นๆ ละ 10,000 - 2,000,000 บาท นอกจากนี้ พล.ต.ท.พงศพ์ ฒั น์ กบั พวก ร่วมกนั เรียกรบั ผลประโยชนจ์ ากผู้ประกอบธุรกิจค้าน้ามันเถื่อนทางน้า เป็นเงินเดอื นละ 2,000,000 - 5,000,000 ล้านบาท และยังร่วมกับพวก เช่าสถานบริการอาบอบนวดโค ลอนเซ่ เพอ่ื เปดิ บอ่ นการพนนั ถั่วครอบ ต่อมา พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถกู ศาลพิพากษาลงโทษในคดีอาญา ในหลายข้อหา โดยอัยการยื่นคาร้องขอให้ศาล แพ่ง มีคาส่ังยึดทรัพย์ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จานวน 1,014 รายการ พร้อมดอกเบี้ยให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซ่ึง ไม่มีผู้ใดคัดคา้ น ศาลพิเคราะหแ์ ล้ว เห็นว่า พล.ต.ท.พงศพ์ ฒั น์ รับราชการตารวจ มีรายได้จากเงินเดือนทางราชการ อีกทั้ง ไม่ มหี ลักฐานมาแสดงวา่ มีรายไดพ้ ิเศษ อย่างอน่ื แต่กลับมีทรัพย์สินต่าง ๆ เป็นจานวนมาก โดยทรัพย์สิน 1,014 รายการ มีมูลค่าถึง 25 ล้านบาท เศษ โดยไม่สามารถแสดงถึงการได้มาโดยชอบของทรัพย์สินดังกล่าวได้ จึงรับฟังได้ว่าทรัพย์สินตามรายการ ขา้ งต้น เปน็ ทรัพยส์ ินทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การกระทาความผิด จึงมีคาส่งั ให้ทรพั ยส์ ินดงั กลา่ วตกเปน็ ของแผน่ ดิน

- ๑๘๘ - ใบงานที่ 1 เร่อื งจติ พอเพียงต้านการทุจริต ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ************************************************************************************************* พฤติกรรมทท่ี ุจรติ โดย ไมม่ คี วามพอเพยี ง

- ๑๘๙ - ประเมนิ แบบบนั ทกึ พฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม กลุ่มที่ (ช่ือกลมุ่ ) .......................................................................................................... สมาชิกในกลุ่ม 1. ...................................................................... 2. ...................................................................... 3. ...................................................................... 4. ...................................................................... 5. ...................................................................... คาชีแ้ จง: ใหน้ กั เรียนทาเคร่ืองหมาย  ในช่องท่ีตรงกบั ความเปน็ จริง พฤตกิ รรมทส่ี ังเกต 3 คะแนน 1 2 1. มีความสามคั คีและมีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น 2. มคี วามกระตือรือร้นในการทางาน 3. รบั ผิดชอบในงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย 4. มีขน้ั ตอนในการทางานอย่างเปน็ ระบบ 5. ใชเ้ วลาในการทางานอยา่ งเหมาะสม 6. ความซือ่ สตั ยส์ ุจริต ในการทางานดว้ ยตนเอง รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน พฤติกรรมทท่ี าเป็นประจา ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีท่ าเปน็ บางครง้ั ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทท่ี านอ้ ยคร้ัง ให้ 1 เกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 11 - 15 ดี 6 - 10 พอใช้

- ๑๙๐ - เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน รายการประเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกับ 432 1 จดุ ประสงค์ ทก่ี าหนด ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไม่ กบั จุดประสงค์ 2. ผลงานมคี วาม ทกุ ประเดน็ กับจดุ ประสงค์ กับจดุ ประสงค์ สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์ ถกู ต้องสมบูรณ์ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้อง เป็นสว่ นใหญ่ บางประเดน็ 3. ผลงานมี ครบถว้ น ความคดิ ผลงานมีความคิด เนื้อหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของผลงานไม่ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ แปลกใหม่ ผลงานถูกต้อง เปน็ ผลงานถกู ต้อง เป็น ถูกต้องเปน็ ส่วนใหญ่ 4. ผลงานมีความ และเป็นระบบ เป็นระเบยี บ ผลงานมคี วามเปน็ ส่วนใหญ่ บางประเด็น ระเบียบ แสดงออก 5. ผลงานเสร็จ ถงึ ความประณีต ผลงานมคี วามคิด ผลงานมคี วาม ผลงานไมน่ ่าสนใจไมม่ ี ตามเวลาท่ี กาหนด ส่งผลงานตามเวลา สรา้ งสรรค์ แตย่ งั นา่ สนใจ แต่ยงั ไม่มี ความคิดสรา้ งสรรค์แปลก ที่กาหนด ไม่เป็นระบบ ความคิดสรา้ งสรรค์ ใหม่ แปลกใหม่ ผลงานส่วนใหญ่ มี ผลงานมีความเปน็ ผลงานสว่ นใหญไ่ ม่เปน็ ความเป็นระเบยี บ ระเบยี บ แตม่ ีขอ้ ระเบียบและ แต่ยงั มขี ้อบกพร่อง บกพร่องบางสว่ น มขี อ้ บกพร่อง เลก็ นอ้ ย สง่ ผลงานชา้ กวา่ ส่งผลงานชา้ กวา่ สง่ ผลงานช้ากวา่ เวลาที่ เวลาทกี่ าหนด เวลาท่ีกาหนด กาหนด 1-2 วัน 3-5 วนั เกิน 5 วนั ข้นึ ไป เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17 – 20 ดมี าก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5–8 ปรบั ปรงุ

- ๑๙๑ - แบบประเมินการนาเสนองาน หัวขอ้ - การเตรยี ม - ตอบขอ้ -ความ - มีค- วามพอพี ความพร้อม สงสัยได้ตรง ชัดเจนใน - ตอบขอ้ งสัยได้ ยง ประเด็น การนาเสนอ ตรงประเด็น สามารถ ไม่ทุจรติ มองเห็นได้ ข้อท่ี ช่ือ / กล่มุ ผนู้ าเสนองาน ชัดเจน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ คะแนน 9-10 ระดบั คณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก คะแนน 7-8 ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี คะแนน 5-6 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถึงพอใช้ คะแนน 0-4 ระดับคุณภาพ 1 หมายถึงปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่านต้งั แต่ระดับคณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไป สรปุ ผา่ น ไม่ผ่าน ลงชอ่ื ..........................................................ผูป้ ระเมิน (........................................................)

- ๑๙๒ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม “มวี นิ ยั ” คาชแ้ี จง ทาเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งทต่ี รงกบั ความเปน็ จรงิ ตามเกณฑ์การประเมิน เอาใจใส่ต่อการ ตงั้ ใจและ ทมุ่ เททางาน รวม ผลการประเมิน ปฏบิ ัตหิ น้าทีท่ ่ี รบั ผดิ ชอบในการ อดทนไม่ย่อท้อต่อ คะแนน เลขท่ี ช่ือ - สกลุ ได้รับมอบหมาย ทางานให้สาเร็จ ปญั หาและ อปุ สรรคในการ ทางาน ผา่ น ไมผ่ ่าน ๓๒๑๐๓๒๑๐๓๒ ๑ ๐ (ลงช่อื )...................................ครูผ้ปู ระเมิน (…………………………………………………) ............../................./.............

- ๑๙๓ - แผนการจัดการเรียนรู้ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๒ ชว่ั โมง หน่วยท่ี ๓ ชือ่ หน่วย STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง ความโปร่งใส 6. ผลการเรียนรู้ 1.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจริต ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 สามารถอธบิ ายความหมายของคาว่าความโปรง่ ใสได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถ แยกแยะการกระทาทถ่ี ูกต้องและไม่ถูกต้องได้ ๒.๓ เพื่อให้ตระหนักถงึ การปฏบิ ตั ติ นดว้ ยความโปร่งใส 2.๔ เพ่ือสร้างจิตสานึกในการทางาน ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ 1) ความหมายของคาว่าความโปรง่ ใส 2) แยกแยะการกระทาทีถ่ กู ต้องและไมถ่ ูกต้อง 3) การสรา้ งจิตสานึกดา้ นความโปรง่ ใส 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กิด) 1) ความสามารถในการสอื่ สาร ใชภ้ าษาถา่ ยทอดความคดิ ๒) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรเู้ พื่อการตดั สินใจเก่ียวกับ ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม 3) ความสามารถในการแก้ปญั หาอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ีเผชญิ ได้อย่างถูกต้องบนพนื้ ฐานของหลกั เหตผุ ล คุณธรรม โดยคานึงถงึ ผลกระทบท่เี กดิ ขนึ้ ตอ่ ตนเอง สังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม 4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิตในการดาเนนิ ชวี ิตและรจู้ ักหลีกเล่ียงพฤตกิ รรมไม่พึง ประสงคท์ ่สี ่งผลกระทบต่อผู้อื่นและตนเอง 3.3คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ / คา่ นยิ ม 1) มคี วามมุ่งมั่นในการทางานร่วมกนั ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้ันตอนการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 1) รับชมคลปิ วิดีโอ เรอื่ ง “มหาวทิ ยาลัยโปร่งใส บณั ฑิตไทยไมโ่ กง” ๒) สนทนา ถงึ พฤตกิ รรมในตวั ละคร ว่ามพี ฤติกรรมใดถูกต้องหรอื ไม่ถูกต้อง (ครูพยายาม เช่อื มโยง ใหน้ ักเรยี นไดเ้ ล็งเห็นความสาคญั ของพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความโปร่งใส) 3) ครูตั้งคาถามตอ่ ไปน้ี “จากคลิปวดิ โี อ เรอื่ งมหาวทิ ยาลยั โปร่งใส บัณฑติ ไทยไม่โกงที่นักเรียนชม นักเรียนคิดว่าความโปร่งใส หมายถงึ ”

- ๑๙๔ - 4) แบ่งกล่มุ นกั เรียน กล่มุ ละ 5 – 6 คน แจกกระดาษชารต์ และใบความรเู้ ร่ือง ข่าว เก่ียวกับการทจุ รติ ในรูปแบบต่างๆ (โดยให้แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันคดิ วิเคราะห์ ความละอาย และความไม่ ทนตอ่ การทุจริต จากกรณีตวั อย่างในใบความรู้ เพอื่ ชใี้ ห้เห็นว่า การทจุ รติ คอรัปชันเปน็ สิ่งไม่ถูกต้อง) 5) ตวั แทนกลุ่มนาเสนอหน้าชน้ั เรยี น 6) สนทนา อภิปรายผลจากการนาเสนอหนา้ ช้ันเรียน ชวั่ โมงที่ 2 7) ครทู บทวนความร้เู ดิมถงึ ความหมายของความโปรง่ ใส โดยวธิ กี ารสนทนา อภิปราย 8) แบ่งกลุ่มนักเรียน 5-7 กลุม่ จากนั้นครแู จกกระดาษชาร์ตตามกลุม่ ท่ีแบง่ ไว้ 9) ครนู าหนงั สอื พิมพ์มาใหน้ ักเรียนคน้ ควา้ ข่าวท่ีมคี วามเกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทจุ ริต และวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหา สาเหตุ พรอ้ มหาแนวทางการแกป้ ญั หา แนวทางการนาความรูห้ รือสิง่ ท่ีไดม้ าปรับใชไ้ ด้อย่างไร 10) นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น 11) สนทนา อภิปรายประเด็น วธิ กี ารนาความรูเ้ กี่ยวกับการตอ่ ต้านการทุจรติ มาใช้ใน ชีวิตประจาวันอย่างไร 12) แจกกระดาษใหน้ ักเรยี นเขยี นคาปฏิญาณตน ในการต่อตา้ นการทุจรติ แลว้ นามาติด บอร์ด/ปา้ ย ในที่ที่เหมาะสม 4.2 ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1) คลปิ วดิ ีโอ เรอื่ ง “มหาวิทยาลัยโปรง่ ใส บณั ฑิตไทยไมโ่ กง” 2) ใบความรู้ เร่อื ง ข่าวเก่ียวกบั การทุจริตในรูปแบบต่างๆ ๓) หนังสือพิมพ์ 4) กระดาษชาร์ต ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ 5.1วธิ ีการประเมิน 1) สังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานของนกั เรียนแต่ละกลุ่ม 2) ตรวจผลงานการรว่ มคดิ วิเคราะห์ ข่าวการคอรปั ชัน่ ๕.๒ เคร่อื งมอื ที่ใช้ในการประเมิน 1) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตงิ านของนกั เรยี น ในการเขา้ รว่ มกลมุ่ ๒) เกณฑ์การให้คะแนนผลการนักเรียนอภิปรายแสดงความคดิ เห็นพฤตกิ รรมของตวั ละคร ๓) แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานของแต่ละกลมุ่ 5.3 เกณฑ์การตัดสิน 1) เกณฑก์ ารประเมินกจิ กรรมสรุปองค์ความรู้ 2) เกณฑ์การประเมินกิจกรรมวธิ ีการนาเสนอผลงานของแต่ละกลุ่ม

- ๑๙๕ - 6 บนั ทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... ....................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ......................................................................................................................................... .................................. ลงช่ือ ................................................ ครผู ู้สอน (.................................................)

- ๑๙๖ - ใบความรู้ ขา่ วเกยี่ วกับการทจุ รติ ในรูปแบบต่างๆ 1. ตวั อย่างความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริต การทุจริตมีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ ทาให้เกิดความเสียหายอย่างมากในด้านต่างๆ หากนา เงินท่ีทุจริตไปมาพัฒนาในส่วนอ่ืน ความเจริญหรือการได้รับโอกาสของผู้ที่ด้อยโอกาสก็จะมีมากขึ้น ความ เหลือ่ มล้าดา้ นโอกาส ทางด้านสังคม ทางดา้ นการศึกษา ฯลฯ ของประชนในประเทศก็จะลดน้อยลง ดังท่ีเห็น ในปัจจุบันว่าความเจริญตา่ ง มักอยกู่ บั คนในเมืองมากกวา่ ชนบท ท้ังๆที่คนชนบทก็คือประชาชนส่วนหน่ึงของ ประเทศ แต่เพราะอะไรทาไมประชาชนเหล่านั้นถึงไม่ได้รับโอกาสที่ทัดเทียมหรือใกล้เคียงกับคนในเมือง ปจั จัยหน่ึงคือการทจุ ริต สาเหตกุ ารเกดิ การทจุ รติ มหี ลายประการตามทกี่ ล่าวมาข้างต้น แต่ทาอย่างไรถึงทาให้ มีการทุจริตได้มาก อย่างหนึ่งคือการลงทุน เมท่อมีการลงทุนก็ย่อมมีงบประมาณ เม่ือมีงบประมาณก็เป็น สาเหตุให้บุคคลที่คนที่ทุจริตสามารถหาช่องทางดังกล่าวในการทุจริตได้ แม้ประเทศไทยจะมีกฎหมายหลาย ฉบับเพือ่ ป้องกนั การทจุ รติ ปราบปรามการทุจริต แต่นั้นก็คือตัวหนังสือท่ีได้เขียนเอาไว้ แต่การบังคับใช้ยังไม่ จริงจังเทา่ ทค่ี วรและยิง่ ไปกวา่ นัน้ หากประชาชนเห็นวา่ เร่อื งดังกลา่ วไมเ่ กี่ยวข้องกบั ตนเองก็มักจะไม่อยากเข้า ไปเกี่ยวข้อง เน่ืองจากตนเองก็ไม่ได้รับผลกระทบที่เกิดข้ึน แต่การคิดดังกล่าวเป็นส่ิงผิด เนื่องจากว่าตนเอง อาจจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อการที่มีคนทุจริต แต่โดยอ้อมแล้วถือว่าใช่ เช่น เมื่อมีการทุจริตมาก งบประมาณของประเทศที่จะพัฒนาหรือลงทุนก็น้อย อาจส่งผลให้ประเทศไม่สามารถจ้างแรงงานหรือลงทุน ได้ ความเสยี หายท่ีเกิดจากการทุจริต หากเป็นการทจุ ริตในโครงการใหญ่ๆ แล้ว ปริมาณเงิรท่ีทุจริตย่อม มีมาก ความเสียหายก็ย่อมมีมากไปด้วย โดยในบทนี้ได้ยกกรณีตัวอย่างท่ีเกิดข้ึนจากการทุจริตไว้ในท้ายบท ซ่ึงจะเห็นได้ว่าความเสียหายท่ีเกิดข้ึนนั้นมีมูลค่ามากมาย และน้ีเป็นเพียงโครงการเดียวเท่านั้น หากรวมเอา การทุจริตหลายๆโครงการ หลายๆกรณีเข้าด้วยกัน จะพบว่าความเสียหายที่เกิดข้ึนมานั้นมากมายมหาศาล ดงั นนั้ เม่ือเปน็ เชน่ นแ้ี ล้ว ประชาชนจะต้องมีความต่ืนตัวในการท่ีจะร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต การร่วมมือกันในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ สถานการณืท่ีอาจเกิดการทุจริตได้ เมื่อประชนรวมทั้ง ภาคเอกชนภาคธุรกิจมีความตื่นตัวท่ีจะร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ปัญหาการทุจริตจะถือเป็น ปญั หาเพยี งเลก็ น้อยของประเทศไทย เพราะไม่ว่าจะทาอย่างไรก็จะมีการสอดส่อง ติดตาม เฝ้าระวังเรื่องการ ทุจรติ อย่างตอ่ เน่ือง ดังนนั้ แลว้ สิ่งสาคญั ส่งิ แรกท่จี ะต้องสรา้ งให้เกิดขึน้ คอื ความตระหนักรู้ถึงผลเสียท่ีเกิดข้ึน จากการทุจริต สร้างให้เกิดการต่ืนตัวต่อการปราบปรามการทุจริต การไม่ทนต่อการทุจริต ให้เกิดขึ้นใน สังคมไทย เมื่อประชาชนในประเทศมีความต่ืนตัวที่ว่า “ไม่ทนต่อการทุจริต” แล้ว จะทาให้เกิดกระแสการ ต่อตา้ นตอ่ การกระทาทุจริต และคนท่ีทาทุจริตก็จะเกิดความละอายไม่กล้าท่ีจะทุจริตต่อไป เช่น หากพบเห็น

- ๑๙๗ - ว่ามีการทุจริตเกิดข้ึนอาจมีการบันทึกเหตุการณ์หรือลักษณะการกระทา แล้วแจ้งข้อมูลเหล่านั้นไปยัง หนว่ ยงานหรอื สือ่ มวลชนเพ่ือรว่ มกนั ตรวจสอบการกระทาท่ีเกิดข้ึน และยงิ่ ในปัจจุบันเป็นสังคมสมัยใหม่ และ กาลังเดินหน้าประเทศไทยก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 แต่การจะเป็น 4.0 ให้สมบูรณ์แบบได้นั้น ปัญหาการทุจริตจะต้องลดน้อยลงไป ดว้ ย เมื่อประชนมคี วามต่นื ตวั ต่อการท่ีไม่ทนต่อการทุจริตแล้ว ผลที่ เกดิ ข้ึนจะเปน็ อย่างไร ตัวอย่างท่ีจะนามากล่าวถึงต่อไปนี้เป็นกรณีท่ี เกิดขึ้นในต่างประเทศ แสดงให้เห็นต่อการไม่ทนต่อการทุจริตที่ ประชาชนได้ลุกข้ึนมาสู้ ต่อต้านต่อนักการเมืองท่ีทาทุจริต จนนาใน ท่ีสุดนักการเมืองเหล่านั้นหมดอานาจทางการเมืองและได้รับ บทลงโทษท้ังทางสังคมและทางกฎหมาย ดังน้ี 2. ประเทศเกาหลใี ต้ เกาหลีใต้ถือเปน็ ประเทศหนง่ึ ทป่ี ระสบความสาเร็จในด้านของการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ รติ แตก่ ย็ งั คงมปี ัญหาการทุจริตเกดิ ข้นึ อยู่บา้ ง เชน่ เมอ่ื ปี พ.ศ.2559 มขี ่าวของประธานาธิบดถี กู ปลอดออกจากตาแหน่งเพราะเขา้ ไปมีส่วนเกี่ยวข้องใน การเอื้อประโ ยช น์ให้พว กพ้อง โ ดยการถูกกล่าว หาว่าให้เ พื่อนสนิทของครอบครัว เข้าม า http://www.bbc.com/thai/international-39227441 แทรกแซงการบรหิ ารประเทศ รวมถงึ ใช้ความสัมพันธ์ท่ีใกล้ชิดกับประธานาธิบดีแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ผลที่เกิดข้ึนคือถูกดาเนินคดีและต้ังข้อหาว่าพัวพันการทุจริตและใช้อานาจหน้าท่ี ในทางมิชอบเพ่ือเอื้อ ผลประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง กรณีที่เกิดขึ้นน้ีประชาชนเกาหลีใต้ได้มีการรวมกันประท้วงกว่าพันเรียกร้องให้ ประธานาธบิ ดคี นดังกล่าวออกจากตาแหนง่ หลงั มเี หตอุ ื้อฉาวทางการเมือง อกี กรณที ก่ี ลา่ วถึงเพื่อเป็นตัวอย่างการต่อต้านการกระทาท่ีไม่ถูกต้อง คือ การที่นักศึกษาคนหนึ่งได้ เข้าเรียนท่ีมหาวิทยาลัยทั้งที่ผลคะแนนที่เรียนมานั้นไม่ได้ สงู และการที่คุณสมบตั ิของนักศึกษาดังกล่าวมีคุณสมบัติไม่ ตรงกับการคัดเลือกโควต้านักกีฬาที่กาหนดไว้ว่าจะต้อง ผ่านการแข่งขันประเภทเด่ียว แต่นักศึกษาคนดังกล่าวผ่าน การแขง่ ขนั ประเภททมี เทา่ กบั ว่าคณุ สมบัติไม่ถูกต้องแต่ได้ รับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดังกล่าว การกระทาเช่นน้ีจึง เป็นสาเหตุหนึ่งของการนาไปสู่การประท้วง ต่อต้านจาก นั ก ศึ ก ษ า แ ล ะ อ า จ า ร ย์ ข อ ง http://www.bbc.com/thai/international-39227441 มหาวิทยาลัยดังกล่าว ซ่ึงทางมหาวิทยาลัยก็ไม่สามารถให้คาตอบที่ชัดเจนแก่กลุ่มผู้ประท้วงได้ จนในที่สุด ประธานมหาวิทยาลับจึงลาออกจากตาแหนง่ 3. ประเทศบราซิล ปลายปี พ.ศ.2559 ประชาชนใน ประเทศบราซิลได้มีการชุมนุมประท้วงการทุจริตท่ีเกิดข้ึนเป็น