คู่มอื การประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กัด ตามมาตรฐานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั พ.ศ. 2562 สาหรบั สถานศกึ ษาในสงั กดั สานกั งาน กศน. สานกั งาน กศน. สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ เอกสารวิชาการลาดับที่ 3/2565
คู่มอื การประเมินคุณภาพการศกึ ษาโดยตน้ สงั กัด ตามมาตรฐานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 สำหรบั สถานศึกษาในสงั กดั สำนักงาน กศน. กลุ่มพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา สำนกั งาน กศน. สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร
ก คำนำ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 มาตรา 20 กำหนดให้สำนักงาน กศน. จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษานอกระบบ ซึ่งเป็นระบบการประกัน คุณภาพภายใน สำหรับสถานศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ ให้สถานศึกษาดำเนินการประกนั คุณภาพภายในให้สอดคล้องกับระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพ ภายใน โดยได้รับความร่วมมือ ส่งเสริม และสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายและสำนักงาน กศน. ตามกฎกระทรวง กำหนดระบบ หลกั เกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพภายในสำหรับสถานศกึ ษาท่จี ัดการศึกษานอกระบบ พ.ศ. 2555 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ในข้อ 5 (2) กำหนดให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหรือสำนักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร มีหน้าท่ีส่งเสริมและสนับสนุนการประกัน คุณภาพภายในของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอหรือของศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยเขตที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ตามมาตรฐานการศึกษาท่ีกำหนดอย่างน้อยหน่ึงครั้ง ภายในสามปีงบประมาณ และแจ้งผลให้สถานศึกษาทราบ รวมท้ังเปิดเผยผลการประเมินคุณภาพภายใน ตอ่ สาธารณชน ท้ังน้ี สำหรับสถานศกึ ษาอ่นื นอกเหนอื จากศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอ/เขต ให้สำนักงาน กศน. มีหน้าท่ีในการประเมินคุณภาพการศึกษาให้แก่สถานศึกษาดังกล่าว ด้วยเช่นกนั เพ่ือเป็นการส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินงานตามกฎกระทรวง สำนักงาน กศน. จึงดำเนินการจัดทำ “คู่ มื อ ก าร ป ร ะเมิ น คุ ณ ภ าพ ก าร ศึก ษ าโด ย ต้ น สั งกัด ต าม ม า ต ร ฐ าน กา ร ศึก ษ าน อ ก ระบ บ แ ล ะกา รศึ ก ษ า ตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 สำหรับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน กศน.” เล่มนี้ขึ้น เพื่อนำไปเผยแพร่ให้แก่ บุคลากรในสำนกั งาน กศน.จังหวดั /กรุงเทพมหานคร สถานศกึ ษา และผู้ท่ีจะได้รบั แต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการ ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เพ่ือนำไปใช้เป็นคู่มือในการดำเนินการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ในการติดตาม ตรวจสอบ และ ประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา ตามมาตรฐานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ท่ีกระทรวงศึกษาธกิ าร ประกาศกำหนด เพอื่ การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษาในสงั กัดสำนักงาน กศน. ต่อไป สำนักงาน กศน. ขอขอบคุณผู้บริหารสำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. และผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในสังกัดสำนักงาน กศน. ทุกท่าน ท่ีมีส่วนร่วมในการจัดทำเอกสารเล่มน้ี ให้มีความสมบรู ณ์ จนสามารถนำไปใช้ในการปฏิบตั งิ านไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ตอ่ ไป (นายวลั ลพ สงวนนาม) เลขาธิการ กศน.
ข สารบัญ หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข ตอนที่ 1 บทนำ 1 ทม่ี าและความสำคัญของการประเมิน 1 วัตถุประสงค์ของการประเมินคณุ ภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด 2 แนวทางการดำเนินงานเพอ่ื ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสงั กัดให้แกส่ ถานศึกษาในภาพรวม 2 ชว่ งและระยะเวลาการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด 4 องคป์ ระกอบของคณะกรรมการ 5 คุณสมบตั ิของบุคลากรทมี่ สี ทิ ธ์ไิ ดร้ บั การแตง่ ต้ังเป็นคณะกรรมการ 5 หน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบของคณะกรรมการ 6 จรรยาบรรณของคณะกรรมการ 9 นิยามศพั ท์ทเี่ กีย่ วขอ้ ง 9 ตอนที่ 2 ข้ันตอนการประเมินคณุ ภาพการศกึ ษาโดยตน้ สงั กดั 11 ก่อนการประเมิน 11 ระหวา่ งการประเมิน 12 หลังการประเมิน 13 ตอนที่ 3 มาตรฐานการศึกษาและประเดน็ การพจิ ารณาเพ่ือการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาโดยตน้ สังกัด 15 มาตรฐานการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน 19 มาตรฐานการศึกษาตอ่ เนื่อง 37 มาตรฐานการศึกษาตามอธั ยาศยั 52 ตอนท่ี 4 การสรุปและรายงานการประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษาโดยต้นสงั กัด 74 วตั ถุประสงค์ของการจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กัด 74 สาระสำคัญที่ควรปรากฏอยู่ในรายงานการประเมนิ คุณภาพการศกึ ษาโดยต้นสังกดั 74 กรอบเนื้อหารายงานการประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด 75 ภาคผนวก 76 ภาคผนวก ก แบบบันทึกขอ้ มลู ภาคสนามเพ่อื การประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยตน้ สังกัด 77 ภาคผนวก ข เกณฑ์การเทยี บคะแนนกบั ระดบั คุณภาพ 194 ภาคผนวก ค (เคา้ โครง) การเขียนรายงานการประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด 196 ภาคผนวก ง กฎกระทรวงกำหนดระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกนั คณุ ภาพภายใน สำหรับสถานศกึ ษาทจ่ี ดั การศึกษานอกระบบ พ.ศ. 2555 227 ภาคผนวก จ ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เรือ่ ง มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั 232 ภาคผนวก ฉ ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ ารที่เก่ยี วข้องกับการกำหนดอำนาจ และหน้าท่ีของสถานศึกษา 237
1 ตอนที่ 1 บทนำ ทมี่ าและความสำคัญของการประเมิน ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2553 ในหมวด 6 มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา มาตรา 48 กำหนดให้ หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาต้องจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาและให้ถือว่า การประกันคุณภาพภายในเปน็ ส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศกึ ษาทต่ี ้องดำเนินการอยา่ งตอ่ เน่อื ง โดยมี การจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปส่กู ารพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพือ่ รองรับการประกันคุณภาพภายนอก ประกอบกับ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 มาตรา 20 กำหนดให้ สำนักงาน กศน. ต้องจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษานอกระบบ ซึ่งเป็นระบบการประกันคุณภาพ ภายในสำหรับสถานศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ ให้สถานศึกษาดำเนินการประกันคุณภาพภายในให้สอดคล้องกบั ระบบ หลักเกณฑ์ และวธิ ีการประกันคุณภาพ ภายใน โดยได้รับความร่วมมือ ส่งเสริม และสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายและสำนักงาน กศน. และตาม กฎกระทรวง กำหนดระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพภายในสำหรับสถานศึกษาท่ีจัดการศึกษา นอกระบบ พ.ศ. 2555 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ในข้อ 5 กำหนดให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหรือ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ส่งเสริมและ สนับสนุนการประกันคุณภาพภายในของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอหรือ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเขต ที่อยู่ในพ้ืนท่ีรับผิดชอบ ดังต่อไปน้ี (1) ให้คำปรึกษา แนะนำ ช่วยเหลือ และร่วมพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา (2) ดำเนินการประเมิน คุณภาพภายในของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาที่กำหนดอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในสามปีงบประมาณ และแจง้ ผลให้สถานศกึ ษาทราบ รวมทั้งเปดิ เผยผลการประเมินคุณภาพภายในตอ่ สาธารณชน (3) เสนอรายงาน สรุปผลการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษาเป็นภาพรวมของจังหวัดต่อสำนักงาน กศน. และ (4) นำเสนอผลการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษามาใช้ในการวางแผนสนับสนุน ช่วยเหลอื และพัฒนา สถานศึกษา นั้น นอกจากน้ี ยังกำหนดให้สำนักงาน กศน. มีหน้าท่ีในการส่งเสริมและสนับสนุนการประกัน คุณภาพภายในใหแ้ กส่ ถานศกึ ษาประเภทอ่นื ด้วย เช่นกัน สำนักงาน กศน. ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีบทบาทหน้าที่ในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ การส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีคุณภาพ เพ่อื ส่งเสริมการศกึ ษาตลอดชีวิตของประชาชน จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษาให้สอดคล้องกับกฎหมายด้านการศึกษา มาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561 และมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประกาศ ณ วันที่ 6 ธนั วาคม พ.ศ. 2562 ในท่ีนี้ สำนักงาน กศน. จึงมีการจัดทำ “คู่มือการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดตาม มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 สำหรับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน กศน.” เล่มน้ีขึ้น เพ่ือนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และเผยแพร่ให้แก่สำนักงาน กศน.
2 จงั หวัด/กทม. และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด โดยเฉพาะผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้ง หรือมอบหมายให้เป็นผู้ประเมินคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาที่กำหนด อย่างน้อยหนงึ่ คร้ังภายในสามปีงบประมาณ หรือท่ีเรียกว่า “การประเมินคณุ ภาพการศกึ ษาโดยต้นสังกัด” ให้มี ความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินคุณภาพการศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ต่อไป วตั ถปุ ระสงค์ของการประเมินคุณภาพการศกึ ษาโดยต้นสงั กดั 1. เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษาท่ีประกาศใช้ไว้และเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ทกี่ ระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศกำหนด โดยหนว่ ยงานตน้ สงั กดั หรือบุคคลที่หนว่ ยงานต้นสังกัดมอบหมาย 2. เพื่อให้ข้อเสนอแนะแก่สถานศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาที่ประกาศใช้ไว้และเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั ทกี่ ระทรวงศึกษาธกิ ารประกาศกำหนด แนวทางการดำเนินงานเพ่ือประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยต้นสงั กดั ใหแ้ ก่สถานศึกษาในภาพรวม 1. กรณี ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดให้แก่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัยอำเภอ/เขต ให้ดำเนนิ งาน ดังนี้ 1.1 ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. ดำเนินการสำรวจสถานศึกษาที่ครบรอบการประเมิน คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดที่อยู่ในพ้ืนท่ีรับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการดำเนินงาน ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด และนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบในการจัดคำขอรับงบประมาณ สนบั สนุนจากสำนักงาน กศน. 1.2 ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. กำหนดจำนวนและรายช่ือสถานศึกษาเป้าหมายท่ีจะได้รับ การประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดในแต่ละปีงบประมาณ ซึ่งอาจกำหนดจำนวนให้สอดคล้องกับ งบประมาณท่ีมีอยู่ ทั้งน้ี หากยังมิสามารถดำเนินการประเมินคุณภาพการศึกษาให้แก่สถานศึกษาได้ทุกแห่ง ภายในปีงบประมาณเดียวกัน ควรพิจารณาคัดเลือกจากสถานศึกษาท่ีครบรอบการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยตน้ สงั กดั ก่อนให้ได้รับการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาโดยตน้ สังกัดก่อน 1.3 ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพ การศึกษาโดยต้นสังกัดให้แก่สถานศึกษาเป้าหมาย โดยจัดทำเป็นคำส่ังสำนักงาน กศน. จังหวัด/กทม. แต่งตั้ง คณะกรรมการประเมินคุณภาพการศกึ ษาโดยตน้ สังกัด ให้แกส่ ถานศกึ ษาดังกลา่ ว 1.4 ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. แจ้งคำส่ังการแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินคุณภาพ การศกึ ษาโดยตน้ สังกัดของสถานศึกษาไปยงั คณะกรรมการ และสถานศึกษาที่เก่ียวขอ้ ง 1.5 ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. ประสานงานไปยังคณะกรรมการและสถานศึกษา เพอ่ื วางแผน และกำหนด วนั เวลา ในการดำเนินการประเมินคุณภาพการศกึ ษาโดยต้นสงั กดั ให้แกส่ ถานศกึ ษา 1.6 ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. แจ้งกำหนดการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด แก่คณะกรรมการ และสถานศึกษาเป้าหมายเพื่อทราบ 1.7 ให้คณะกรรรมการ ดำเนินการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ตามวัน และเวลา ท่ีกำหนดไว้ และดำเนนิ การจดั ทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กัด ฉบบั ร่าง
3 ทั้งน้ี ระหว่างการประเมินคุณภาพการศึกษา ให้สถานศึกษาสนับสนุนข้อมูล ร่องรอย หลักฐานจากการดำเนินงานของสถานศึกษาท่ีมีอยู่ตามสภาพจริงให้แก่คณะกรรรมการ เพ่ือใช้ประกอบในการ ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกดั พรอ้ มทัง้ อำนวยความสะดวกให้แก่คณะกรรรมการ โดยการจัดเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ท่ีจำเป็นสำหรับใช้ในการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เช่น กระดาษ เครื่องพิมพ์ คอมพวิ เตอร์ เป็นต้น 1.8 ให้คณะกรรรมการ จัดส่งรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับร่าง ไปยังสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เพ่ือทราบ และพิจารณายืนยันข้อมูล ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดตามท่ีปรากฏอยู่ในรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกดั ฉบบั ร่าง ทั้งนี้ หากสถานศึกษาพบว่า ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้ นสังกัด มิสอดคล้องกับผลการดำเนินงาน และร่องรอย หลักฐานจากการดำเนินงานของสถานศึกษา ให้สถานศึกษา มีสิทธ์ิชี้แจง หรือทักท้วงผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดได้ โดยแจ้งกลับไปยังคณะกรรมการ เพือ่ ทราบ และทบทวนผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสงั กดั ต่อไป 1.9 เมื่อสถานศึกษายืนยันผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว และคณะกรรมการจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับสมบูรณ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้จดั สง่ รายงานการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กดั ดงั กล่าวไปยงั สำนกั งาน กศน.จังหวดั /กทม. 1.10 ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. จัดส่งรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ไปยังสถานศึกษา และสำนักงาน กศน. หรือนำเข้าระบบการจัดเก็บรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกัดผา่ นระบบออนไลน์ ตามทสี่ ำนกั งาน กศน. กำหนดตอ่ ไป อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลแนวทางการดำเนินงานเพ่ือประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ให้แก่สถานศึกษาในภาพรวมดังกล่าวข้างต้นน้ัน ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. พิจารณานำไปดำเนินงาน หรือประยกุ ต์ใชใ้ นการกำหนดแนวทางการดำเนินงานประเมินคณุ ภาพการศึกษาโดยต้นสงั กัดให้แก่สถานศึกษา ตามความเหมาะสม ทั้งน้ี ให้เหมาะสมกับความแตกต่างของบริบทและศักยภาพของแต่ละพ้ืนท่ีที่อาจมี แตกต่างกัน โดยคำนึงถึงผลลัพธ์จากการดำเนินงานเป็นสำคัญ คือ 1) สถานศึกษาที่ครบรอบการประเมิน คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดควรได้รับการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด และ 2) สถานศึกษา และหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาควรได้รับทราบผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ของสถานศึกษา เพ่ือนำไปใช้เป็นข้อมูลในการวางแผน ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของสถานศกึ ษาต่อไป 2. กรณี ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสงั กัดสถานศึกษาขึ้นตรง ใหด้ ำเนนิ งาน ดงั น้ี 2.1 ให้สำนักงาน กศน. สำรวจสถานศึกษาขึ้นตรงในสังกัดสำนักงาน กศน. ที่ครบรอบการประเมิน คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด และจัดทำหนังสือแจ้งสถานศึกษาดังกล่าว เพ่ือเตรียมความพร้อมและจัดทำ คำขอรับงบประมาณสนบั สนุนจากสำนักงาน กศน. เพื่อใช้ในการประเมินคณุ ภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กัด 2.2 ให้สำนักงาน กศน. ติดต่อ ประสานงาน ไปยังสถานศึกษาเพ่ือวางแผนการดำเนินการประเมิน คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกดั ใหแ้ ก่สถานศึกษาข้ึนตรงทเี่ ป็นเป้าหมาย 2.3 ให้สำนักงาน กศน. ดำเนินการแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ให้แก่สถานศึกษาเป้าหมาย โดยจัดทำเป็นคำส่ังสำนักงาน กศน. เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพ การศึกษาโดยตน้ สังกัดให้แกส่ ถานศึกษาดงั กลา่ ว 2.4 ให้สำนักงาน กศน. แจ้งคำสั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ของสถานศกึ ษาไปยงั คณะกรรมการ และสถานศึกษาเป้าหมายทเ่ี กี่ยวขอ้ ง
4 2.5 เม่ือสถานศึกษาได้รับหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ของสถานศึกษาจากสำนักงาน กศน. เรียบร้อยแล้ว ให้สถานศึกษาประสานงานไปยังคณะกรรมการ เป็นรายบุคคล เพื่อวางแผน และกำหนดวัน เวลาในการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดของ สถานศึกษาร่วมกบั คณะกรรมการ ตอ่ ไป 2.6 ให้สถานศึกษาจัดทำและแจ้งหนังสือเชิญ พร้อมกำหนดการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกัดไปยังคณะกรรมการเพื่อทราบและเข้าประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ตามวัน และเวลา ทกี่ ำหนดไวร้ ว่ มกัน 2.7 ให้คณะกรรรมการ ดำเนินการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ตามวัน และเวลา ทกี่ ำหนดไว้ และดำเนนิ การจดั ทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กดั ฉบบั รา่ ง ท้ังน้ี ระหว่างการประเมินคุณภาพการศึกษา ให้สถานศึกษาสนับสนุนข้อมูล ร่องรอย หลักฐานจากการดำเนินงานของสถานศึกษาที่มีอยู่ตามสภาพจริงให้แก่คณะกรรรมการ เพ่ือใช้ประกอบในการ ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกดั พร้อมทง้ั อำนวยความสะดวกให้แก่คณะกรรรมการ โดยการจัดเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้ในการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เช่น กระดาษ เครื่องพิมพ์ คอมพวิ เตอร์ เป็นตน้ 2.8 ให้คณะกรรรมการ จัดส่งรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับร่าง ไปยังสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เพื่อทราบ และพิจารณายืนยันข้อมูล ผ ล การป ร ะเมิ น คุณ ภ าพ การศึกษ าโด ย ต้ น สั งกัด ที่ ป รากฏ อยู่ ใน ร าย งาน การป ระเมิ น คุณ ภ าพ การศึ กษ า โดยตน้ สงั กัด ฉบบั ร่าง ทั้งน้ี หากสถานศึกษาพบว่า ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด มิสอดคล้องกับผลการดำเนินงาน และร่องรอย หลักฐานจากการดำเนินงานของสถานศึกษา ให้สถานศึกษา มีสิทธ์ิชี้แจง หรือทักท้วงผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดได้ โดยแจ้งกลับไปยังคณะกรรมการ เพื่อทราบ และทบทวนผลการประเมินคณุ ภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กัดต่อไป 2.9 เมื่อสถานศึกษายืนยันผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว และคณะกรรมการจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับสมบูรณ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้จัดส่งรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดดังกล่าวไปยังสถานศึกษา และสำนักงาน กศน. หรือนำเข้าระบบการจัดเก็บรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดผ่านระบบออนไลน์ ตามท่ี สำนักงาน กศน. กำหนด ต่อไป ช่วงและระยะเวลาการประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยต้นสงั กัด สำหรับการดำเนินงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดให้แก่สถานศึกษา ควรดำเนินการ ดงั น้ี 1. ควรดำเนินการ ในช่วงเดือนตุลาคม - มีนาคม ของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงระยะเวลาหลังจากสิ้น ปีงบประมาณ และเป็นช่วงเวลาที่สถานศึกษาแต่ละแห่งมีการจัดส่งรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ประจำปงี บประมาณที่ผา่ นมา เปน็ ที่เรียบรอ้ ยแล้ว 2. ระยะเวลาท่ีใช้ในการตรวจเยี่ยม และประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดให้แก่สถานศึกษา ควรอยู่ระหว่าง 3 - 5 วัน ท้ังนี้ ให้พิจารณาจากจำนวนประเภทมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่ต้องใช้ใน การประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา เช่น หากประเมินโดยใช้มาตรฐานการศึกษาประเภทเดียวอาจ ใช้เวลาในการตรวจเย่ียม 3 วัน หากประเมินโดยใช้มาตรฐานการศึกษา จำนวน 3 ประเภท อาจใช้เวลาในการ ตรวจเย่ยี ม 5 วนั เป็นตน้
5 องค์ประกอบของคณะกรรมการ คณะกรรมการท่ีจะทำหน้าท่ีประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดให้แก่สถานศึกษา ควรมีจำนวน 3 - 5 คน (ไมร่ วมผู้ชว่ ยเลขานกุ าร) ซง่ึ ประกอบด้วย 1. ประธานคณะกรรมการ จำนวน 1 คน 2. กรรมการ จำนวน 1 - 3 คน 3. กรรมการและเลขานุการ จำนวน 1 คน ซึ่งการแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดของสถานศึกษา นั้น ให้สำนักงาน กศน. สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. เป็นผู้พิจารณาคัดเลือก และแต่งตั้งจากรายชื่อบุคลากร ที่สำนักงาน กศน. ประกาศรายชื่อไว้ให้เป็นผู้ท่ีมีสิทธ์ิได้รับการแต่งต้ังให้เป็นผู้ประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกัดสำนักงาน กศน. ตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 ซง่ึ ควรใช้เกณฑใ์ นการพจิ ารณาตามลำดบั ดังตอ่ ไปนี้ 1) เป็นบุคลากรในสังกดั สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. นน้ั ๆ 2) เปน็ บุคลากรในกลุ่มสำนักงาน กศน.จงั หวัด เดียวกนั 3) เป็นบคุ ลากรในภูมภิ าคเดียวกัน สำหรับการจัดทำคำส่ังแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษานั้น ๆ ควรกำหนดหน้าท่ีและความรับผิดชอบของคณะกรรมการให้สอดคล้องกับหน้าท่ีและความรับผิดชอบของ คณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดที่สำนักงาน กศน. กำหนดไว้ใน “คู่มือ การประเมินคุณภาพ การศึกษาโดยต้นสังกัด ตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 สำหรับ สถานศกึ ษาในสงั กัดสำนักงาน กศน.” หรอื เอกสารที่เกีย่ วข้อง ท้ังน้ี ในการแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดของสถานศึกษา ให้สำนักงาน กศน. หรือสำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. สามารถแต่งตั้งผูช้ ่วยเลขานกุ าร เพิ่มเติมได้ไม่เกิน 2 คน ในแตล่ ะคณะ คุณสมบตั ิของบคุ ลากรท่ีมีสทิ ธิ์ไดร้ ับการแต่งตงั้ ให้เปน็ คณะกรรมการ การแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดให้แก่สถานศึกษา นั้น ให้สำนักงาน กศน. สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้ง โดยให้พิจารณาจากผู้ที่มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ 1. คุณสมบัติท่ัวไป 1.1 ต้องเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมหรือพัฒนาศักยภาพให้เป็นผู้ประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกัดตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 ซ่ึงอาจจัดขึ้นโดย สำนักงาน กศน. หรอื หน่วยงานทส่ี ำนักงาน กศน. มอบหมายให้จัด ซ่งึ สำนักงาน กศน. ประกาศไว้เปน็ “รายช่ือ ผู้ท่ี มี สิทธ์ิได้รับ การแต่งตั้งให้ เป็ น ผู้ป ระเมิน คุณ ภ าพ การศึกษ าโดยต้น สั งกัดสำนั กงาน กศน . ตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562” และต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อม ความรู้ และความสามารถ ดงั น้ี 1) เป็นผู้ท่ีมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยตน้ สังกัด 2) เป็นผู้ทมี่ คี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญ และหลกั การประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา
6 3) เป็นผู้ท่ีมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายด้านการศึกษาท่ีเป็นปัจจุบัน เช่น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 กฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 และกฎกระทรวง กำหนดระบบ หลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารประกนั คุณภาพภายในสำหรบั สถานศกึ ษาทีจ่ ดั การศึกษานอกระบบ พ.ศ. 2555 เป็นตน้ 4) เปน็ ผู้ทมี่ ีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการศกึ ษา ประเดน็ การพจิ ารณาหรือตวั บง่ ช้ี เกณฑ์การพิจารณาหรือเกณฑ์การประเมนิ คุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั พ.ศ. 2562 5) เป็นผู้ท่ีมีความรู้เกี่ยวกับการจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ทีเ่ ป็นปจั จบุ นั 1.2 เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานของสถานศึกษาที่จะเข้ารับ การประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด 1.3 เปน็ ผู้ที่มคี วามเป็นกลาง มคี ุณธรรม และมที ักษะในการติดตอ่ สือ่ สารอยา่ งกลั ยาณมิตร 1.4 เปน็ ผู้ท่ีมีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ และสรุปขอ้ มลู 1.5 เป็นผทู้ ี่มีความสามารถในการทำงานเป็นทีมที่ดี 2. คณุ สมบตั เิ ฉพาะ 2.1 กรณีแต่งต้งั เปน็ ประธานคณะกรรมการ ให้มคี ุณสมบตั ิเฉพาะ ดงั น้ี เป็นข้าราชการ หรือข้าราชการบำนาญในสังกัดสำนักงาน กศน. ที่มีระดับหรือวิทยฐานะ ต้ังแต่ระดบั ชำนาญการพเิ ศษ ข้ึนไป 2.2 กรณแี ต่งต้งั เปน็ คณะกรรมการ หรือคณะกรรมการและเลขานุการ เปน็ ขา้ ราชการ หรือข้าราชการบำนาญในสังกัดสำนกั งาน กศน. ท่มี ีระดับหรือวิทยฐานะ ตงั้ แต่ ระดบั ชำนาญการ ข้ึนไป ยกเว้น ข้าราชการทป่ี ฏิบัติงานในตำแหน่งทมี่ หี น้าที่รับผดิ ชอบงานโดยตรงเกย่ี วกับงาน ประกันคุณภาพการศึกษาของสำนักงาน กศน.ส่วนกลาง ซ่ึงต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่า 3 ปี ให้สามารถได้รับการ แต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประเมนิ คุณภาพการศกึ ษาโดยต้นสังกัดได้ ถึงแม้วา่ จะมีระดับหรือวิทยฐานะที่ต่ำกว่า ชำนาญการ เนื่องจากเปน็ บุคคลทมี่ หี น้าทรี่ ับผดิ ชอบโดยตรงของสำนักงาน กศน. ส่วนกลาง 2.3 ผู้ชว่ ยเลขานุการ (กรณีแตง่ ตั้งเพ่ิมเติมจากองค์ประกอบของคณะกรรมการ) กรณี ที่สำนักงาน กศน. หรือสำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. ต้องการแต่งต้ังผู้ช่วยเลขานุการ เพิ่มเติมจากองค์ประกอบของคณะกรรมการ ให้แต่งต้ังเพิ่มเติมได้ไม่เกินจำนวน 2 คน ในแต่ละคณะ โดยพิจารณาคัดเลือกจากบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถทางด้านวิชาการ ซึ่งจะเป็นข้าราชการหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของผ้แู ตง่ ตง้ั ซง่ึ การแตง่ ตงั้ ใหก้ ำหนดไดเ้ ปน็ เพียงผชู้ ่วยเลขานกุ าร เท่านน้ั มิใชก่ รรมการ หน้าท่แี ละความรบั ผิดชอบของคณะกรรมการ องค์ประกอบของคณะกรรมการ ประกอบด้วย ประธานกรรมการ กรรมการ และกรรมการและ เลขานุการ ในที่นี้ จงึ กำหนดหนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบ ไว้ดังน้ี 1. ประธานคณะกรรมการ มีหน้าทแ่ี ละความรบั ผิดชอบ ดงั นี้ 1.1 ศึกษารายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา และข้อมูลอ่ืน ๆ ของสถานศึกษาท่ีจะ เข้ารบั การประเมนิ
7 1.2 เป็นประธานในการกำหนดแนวทาง และการประเมินคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับคู่มือ การประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดท่ีสำนักงาน กศน. กำหนด และเผยแพร่ไว้ เพื่อให้กระบวนการ ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในทิศทางเดียวกัน และบรรลุตาม วัตถุประสงค์ 1.3 เป็นประธานในการจัดทำกำหนดการตรวจเยี่ยม และประเมินคุณภาพการศึกษาของ สถานศกึ ษา 1.4 เป็นประธานในการตรวจเย่ียม และประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตาม มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาท่ีกำหนดข้ึนตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด โดยให้เป็นไปตามแนวทางการประเมินและกำหนดการตรวจเยี่ยม ทก่ี ำหนดไว้ 1.5 เป็นประธานในการวิเคราะห์ สรุปผล และจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกัดของสถานศึกษาในภาพรวม 1.6 เป็นประธานในการตรวจสอบ ทบทวนความถูกต้องเชิงเนื้อหาของรายงานการประเมิน คณุ ภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กัดของสถานศกึ ษาให้มคี วามสมบรู ณ์ ถูกต้อง 1.7 แจ้งผลการประเมินคุณภาพการศึกษา พร้อมให้ข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษาอย่างไม่เป็นทางการด้วยวาจาต่อสถานศึกษา ในวันสุดท้ายของการตรวจเย่ียม และประเมนิ คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 1.8 ลงนามรับรองผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดของสถานศึกษาในรายงาน การประเมินคุณภาพการศกึ ษาโดยต้นสงั กัด 1.9 กำกับ ติดตามการจัดทำและการจัดส่งรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ของสถานศกึ ษาไปยงั ผ้ทู เ่ี กี่ยวข้อง ตามท่สี ำนกั งาน กศน.กำหนด 1.10 พิจารณาอนุญาต และกำหนดขอบเขต บทบาทของผู้ท่ีมีความประสงค์จะเข้าสังเกตการณ์ ในระหวา่ งทค่ี ณะกรรมการอยู่ระหว่างการตรวจเย่ียม และประเมนิ คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ทั้งน้ี ในกรณีท่ีมีผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าสังเกตการณ์ระหว่างการประเมินคุณภาพ การศึกษาโดยต้นสังกัด ให้ประธานคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาอนุญาต และกำหนดขอบเขต บทบาท ของบุคคลที่จะเข้าสังเกตการณ์ และให้แจ้งต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้ทราบก่อน ยกเว้น ข้าราชการ ที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับงานประกันคุณภาพการศึกษาของสำนักงาน กศน. ส่วนกลาง ให้สามารถ เข้าสงั เกตการณก์ ารประเมินได้ โดยอนโุ ลม 2. กรรมการ มหี นา้ ทแี่ ละความรับผิดชอบ ดังนี้ 2.1 ศึกษารายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา และข้อมูลอื่น ๆ ของสถานศึกษาที่จะ เข้ารบั การประเมิน 2.2 ร่วมกำหนดแนวทางการประเมินคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับคู่มือการประเมิน คณุ ภาพการศกึ ษาโดยต้นสงั กดั ทีส่ ำนักงาน กศน. กำหนด และเผยแพร่ไว้ 2.3 รว่ มจัดทำกำหนดการตรวจเย่ียม และประเมนิ คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 2.4 ร่วมตรวจเย่ียม และประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษา ของสถานศึกษาที่กำหนดข้ึนตามมาตรฐานการศึกษ านอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ี กระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด โดยให้เป็นไปตามแนวทางการประเมินและกำหนดการตรวจเย่ียม ที่กำหนดไว้
8 2.5 ร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้ ให้ข้อมูลหรือข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษาบนพื้นฐานความเป็นไปได้ สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา และสอดคล้องกับ อำนาจหน้าทข่ี องสถานศกึ ษา 2.6 ร่วมสืบค้น บันทึก วิเคราะห์ และสรุปผลการประเมินคณุ ภาพการศึกษา พร้อมท้ังมสี ่วนร่วม จัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศกึ ษาโดยตน้ สังกัดของสถานศึกษา 2.7 ร่วมตรวจสอบ ทบทวนความถูกต้องเชิงเนื้อหาของรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกดั ของสถานศึกษาใหม้ คี วามสมบรู ณ์ ถูกต้อง 2.8 ลงนามรบั รองผลการประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษาโดยตน้ สังกดั ของสถานศึกษา 2.9 ปฏิบัติหน้าท่ีอื่นท่ีประธานคณะกรรมการมอบหมาย เพื่อให้การประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกดั บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ 3. กรรมการและเลขานุการ มหี น้าทแ่ี ละความรบั ผิดชอบ ดงั น้ี 3.1 ปฏบิ ัติหน้าที่ ตามหนา้ ที่และความรบั ผิดชอบของคณะกรรมการที่กำหนดไว้ข้างตน้ 3.2 ประสานงานในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เพื่อให้ กระบวนการดำเนินงานประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดของสถานศึกษาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ 3.3 รับผดิ ชอบงานเลขานกุ ารของคณะกรรมการ 3.4 ติดตาม รวบรวมข้อมูลผลการประเมิน เพ่ือนำมาจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพ การศึกษาโดยต้นสังกัดของสถานศึกษาท่ีเข้ารับการประเมิน ฉบับร่าง โดยใช้ฟอร์มหรือรูปแบบตาม (เค้าโครง) การเขียนรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดที่สำนักงาน กศน. กำหนดไว้ในภาคผนวก ข และเสนอให้คณะกรรมการทุกคนตรวจสอบความถูกต้องเชิงเนื้อหาของรายงานผลการประเมิน ดำเนินการ แก้ไข และเม่ือดำเนินการแก้ไขเสร็จเรียบร้อย ให้จัดส่งรายงานผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับรา่ ง ไปยังสถานศึกษาเพื่อพิจารณา ยืนยันข้อมูลผลการประเมิน และรับทราบผลการประเมินอย่างไม่เป็น ทางการก่อน เม่ือสถานศึกษายืนยันข้อมูลผลการประเมินเป็นท่ีเรียบรอ้ ยแล้ว ให้จัดทำรูปเล่มรายงานฉบับสมบูรณ์ และเสนอรายงานต่อคณะกรรมการทุกคนเพ่ือลงนามรับรองผลการประเมิน และจัดส่งรายงานการประเมิน คณุ ภาพการศึกษาโดยตน้ สังกัดฉบับสมบูรณ์ ไปยังผู้ทีเ่ กย่ี วข้อง ดงั น้ี 1) กรณีประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ให้แก่ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอ/เขต ให้จัดส่งรายงานไปยงั สำนกั งาน กศน.จงั หวดั /กทม. 2) กรณีประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดให้แก่สถานศึกษาขึ้นตรง ให้จัดส่งรายงาน ไปยังสถานศึกษา และสำนักงาน กศน. หรือนำเข้าระบบการจัดเก็บรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกดั ผ่านระบบออนไลน์ ตามทีส่ ำนักงาน กศน. กำหนด เพื่อจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลสารสนเทศสำหรับนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศกำหนด ตอ่ ไป 3.5 ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนที่ประธานคณะกรรมการมอบหมาย เพ่ือให้การประเมินคุณภาพการศึกษา โดยตน้ สงั กัดบรรลตุ ามวตั ถุประสงค์
9 4. ผู้ช่วยเลขานุการ (กรณีแต่งต้ังเพ่ิมเติมจากองค์ประกอบของคณะกรรมการ) ให้มีหน้าท่ี และความรับผดิ ชอบ ดังน้ี 4.1 สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื การปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและเลขานุการ 4.2 ปฏิบัติหนา้ ท่อี ื่น ที่ประธานคณะกรรมการมอบหมาย เพื่อให้การประเมินคุณภาพการศกึ ษา โดยตน้ สงั กดั บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ จรรยาบรรณของคณะกรรมการ 1. มีความยุติธรรมในการดำเนนิ การประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษา 2. มคี วามซ่ือสัตย์ สุจริต ไมแ่ สวงหาผลประโยชน์จากการดำเนินงานประเมินคณุ ภาพการศึกษา 3. ไมน่ ำความลบั หรอื ข้อมลู ด้านลบของสถานศกึ ษาไปเปิดเผย 4. มีความรับผิดชอบ เสียสละ และอุทิศเวลา เพื่อให้การประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เปน็ ไปด้วยความเรียบรอ้ ย สำเรจ็ ตามวัตถุประสงค์ 5. ส่อื สารข้อมลู ทเี่ ป็นประโยชน์เกี่ยวกับการประเมินคณุ ภาพการศึกษาให้แก่ผ้ทู ี่เกย่ี วข้องอยา่ งชัดเจน นิยามศัพท์ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 1. การประเมิน หมายถึง การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาของ สถานศกึ ษาตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา 2. การประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด หมายถึง การติดตาม ตรวจสอบ และประเมิน คุ ณ ภ าพ ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ าข อ งส ถ าน ศึ ก ษ า ต าม ม า ต รฐ า น ก าร ศึ ก ษ า ข อ งส ถ า น ศึ ก ษ าท่ี ป ร ะ ก าศ ใช้ ไว้ และเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีกระทรวงศึกษาธิการประกาศ กำหนด โดยคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดที่สำนักงาน กศน. หรือสำนักงาน กศน. จงั หวดั /กทม. แตง่ ตงั้ 3. มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 หมายถึง มาตรฐาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด ตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง ประกาศใช้มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งประกาศ ณ วนั ท่ี 6 ธันวาคม 2562 4. คณะกรรมการ หมายถึง คณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดท่ีได้รับการแต่งต้ัง จากสำนักงาน กศน. หรอื สำนกั งาน กศน.จังหวดั /กทม. 5. สถานศึกษา หมายถึง หน่วยงานท่ีมีหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ/เขต ทุกแห่ง ในสังกัดสำนักงาน กศน. รวมถึงหน่วยงานที่จัดตั้งข้ึนและมีสถานะเป็นสถานศึกษาภายใต้พระราชบัญญัติ ส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย พ.ศ. 2551 ทุกแห่ง 6. สถานศึกษาข้ึนตรง หมายถึง หน่วยงานท่ีจัดต้ังขึ้นและมีสถานะเป็นสถานศึกษาภายใต้ พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 นอกเหนือจาก ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอ/เขต 7. รายงาน หมายถึง รายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดท่ีคณะกรรมการประเมิน คณุ ภาพการศกึ ษาโดยตน้ สงั กดั จดั ทำข้นึ
10 8. นวัตกรรม หมายถึง กระบวนการ วิธีการหรือการกระทำใหม่ ๆ หรอื ส่ิงประดษิ ฐ์ใหม่ ๆ ทย่ี ังไม่เคย มีมาก่อน หรือเกิดขึ้นจากการพัฒนา ดัดแปลงมาจากสิ่งที่มีอยู่เดิมให้มีความทันสมัยหรือให้ใช้ได้ดีย่ิงขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นจากการสร้าง พัฒนา ต่อยอด โดยใช้ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และแนวปฏิบัติต่าง ๆ จนประสบ ความสำเร็จ ทั้งน้ี เมื่อนำนวัตกรรมดังกล่าวไปใช้แล้ว จะต้องส่งผลที่ดีต่อการจัดการศึกษา หรือคุณภาพ ของผ้เู รียน หรอื ผู้รบั บรกิ ารของสถานศึกษา ในท่ีน้ี มหี ลักเกณฑใ์ นการพิจารณา จำนวน 3 ขอ้ คือ 8.1) Thing คอื มรี ายละเอยี ดชดั เจน มขี ้ันตอนชัดเจน เห็นรูปร่างลกั ษณะชัดเจน เปน็ รูปธรรม 8.2) New คอื มีความใหม่ หรือถ้าเคยมีมากอ่ นต้องบอกให้ได้วา่ แตกต่างจากเดิมที่มอี ยู่หรือแตกตา่ ง จากท่อี ื่นอยา่ งไร 8.3) Value ต้องมีคุณค่า เป็นประโยชน์ ส่งผลที่ดีต่อการจัดการศึกษา หรือคุณภาพของผู้เรียน หรือผู้รบั บริการของสถานศึกษา 9. แบบอยา่ งท่ีดี หมายถงึ วิธีการ แนวทางการดำเนินงานหรอื ข้ันตอนการปฏบิ ัติที่นำไปสู่ความสำเร็จ ตามเป้าหมายหรือผลลัพธ์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นท่ียอมรับแก่ผู้ท่ีเก่ียวข้อง เช่น ผู้บริการ สถานศึกษา ผู้สอน ผู้จัดการเรียนรู้ ผู้เรียน ผรู้ ับบริการ คณะกรรมการสถานศึกษา ประชาชนในชมุ ชน ท้องถิ่น เป็นต้น โดยมีหลักฐานของความสำเร็จ มีการสรุปและบันทึกวิธีการ แนวทางการดำเนินงานหรือขั้นตอน การปฏิบัติที่ดี รวมถึงความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องไว้ และเผยแพร่ไว้ให้หน่วยงานท้ังภายในและ ภายนอก
11 ตอนท่ี 2 ขนั้ ตอนการประเมินคุณภาพการศกึ ษาโดยตน้ สังกดั การประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เป็นส่วนหน่ึงของการดำเนินงานของระบบการประกัน คุณภาพภายในสถานศึกษา ซ่ึงตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 ในหมวด 6 มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา มาตรา 48 กำหนดให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาต้องจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการบริหารการศึกษาท่ีต้องดำเนินการอย่าง ต่อเนื่อง เพ่ือนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพ่ือรองรับการประกันคุณภาพภายนอก ประกอบกับกฎกระทรวง กำหนดระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพภายใน สำหรบั สถานศกึ ษาทจี่ ัด การศึกษานอกระบบ พ.ศ. 2555 ที่อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 วรรคสาม และมาตรา 25 วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ในข้อ 5 (2) กำหนดให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหรือสำนักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ดำเนินการประเมินคุณภาพภายใน ของสถานศึกษาท่ีอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบตามมาตรฐานการศึกษาท่ีกำหนดอย่างน้อยหน่ึงครั้งภายใน สามปีงบประมาณ และแจ้งผลให้สถานศึกษาทราบ รวมทั้งเปิดเผยผลการประเมินคุณภาพภายในต่อ สาธารณชน ทั้งนี้ สำหรับสถานศึกษาอ่ืนนอกเหนือจากศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอ/เขต ให้สำนักงาน กศน. มีหน้าท่ีในการประเมินคุณภาพให้แก่สถานศึกษาดังกล่าวด้วยเช่นกัน ในการประเมิน คุณภาพการศึกษาโดยตน้ สังกัด จงึ มกี ารกำหนดข้ันตอนการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสงั กัดไว้ 3 ระยะ ดังนี้ 1. กอ่ นการประเมนิ 2. ระหว่างการประเมนิ 3. หลงั การประเมิน 1. ก่อนการประเมิน เป็นข้ันตอนของการเตรียมความพร้อมก่อนการตรวจเยี่ยมสถานศึกษา โดยให้คณะกรรมการ ดำเนินการตามแนวทาง ดังต่อไปนี้ 1.1 ศกึ ษาข้อมลู ของสถานศกึ ษา เพื่อทำความรู้จักบรบิ ท ศักยภาพของสถานศึกษา เบอื้ งต้น 1.2 วางแผนการประเมิน ให้สอดคล้องกับแนวทางการประเมินหรือคู่มือการประเมินคุณภาพ การศกึ ษาโดยตน้ สังกัดทสี่ ำนักงาน กศน. จัดทำ และเผยแพร่ไว้ โดยดำเนินการ ดงั น้ี 1.2.1 คณะกรรมการ รว่ มกับสำนักงาน กศน.จงั หวัด/กทม. และสถานศกึ ษาจัดทำปฏิทินหรือ กำหนดการประเมินหรือตารางการตรวจเยี่ยมสถานศึกษา ซ่ึงควรจดั ทำรายละเอียดหรือกำหนดการตรวจเยี่ยม ในแตล่ ะวันใหช้ ัดเจน 1.2.2 คณะกรรมการ ทบทวน ทำความเข้าใจเก่ยี วกับมาตรฐานการศึกษา และเกณฑ์การประเมิน คุณภาพการศึกษาที่จะใช้ในการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา และแบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบ ร่วมกัน
12 1.3 จัดเตรียมเคร่ืองมือ และอุปกรณ์ท่ีจำเป็นสำหรับใช้ในการประเมิน เช่น แบบบันทึกข้อมูล หรือแนวคำถาม ประเด็นการสัมภาษณ์ โนต้ บุก๊ เอกสาร/ค่มู ือการประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกดั เปน็ ตน้ 1.4 ประสานงานเพื่อสร้างความเข้าใจและยืนยันข้อมูลเก่ียวกับกำหนดการ กระบวนการและ ลำดับข้ันตอนในการประเมินในแต่ละวัน รวมถึงระบุส่ิงที่ต้องการให้สถานศึกษาอำนวยการความสะดวก เช่น ข้อมูล ร่องรอย หลักฐานจากการดำเนินงานตามสภาพจริงของสถานศึกษา คอมพิวเตอร์ เคร่ืองพิมพ์ กระดาษ เป็นต้น ท้ังนี้ คณะกรรมการควรประสานงานไปยังสถานศึกษาเพื่อสร้างความเข้าใจและยืนยันข้อมูลดังกล่าว กอ่ นถงึ วนั ทจี่ ะดำเนนิ การตรวจเยยี่ มสถานศกึ ษาอย่างน้อย 7 วนั 2. ระหว่างการประเมนิ เป็นข้ันตอนที่คณะกรรมการต้องปฏิบัติในระหว่างการตรวจเยี่ยมหรือประเมินสถานศึกษา โดยให้ คณะกรรมการดำเนินการตามแนวทาง ดงั ต่อไปนี้ 2.1 แนะนำคณะกรรมการประเมิน โดยประธานคณะกรรมการประเมินแนะนำคณะกรรมการ ทกุ คน ชี้แจงวัตถุประสงคก์ ารประเมิน และรายละเอยี ดข้นั ตอนการประเมนิ ตามกำหนดการประเมนิ หรือตาราง การตรวจเย่ียมสถานศึกษาท่ีกำหนดไว้ รวมถึงวิธีการประเมินหรือเก็บข้อมูล 3 วิธี ประกอบด้วย การศึกษา จากรอ่ งรอย หลักฐานจากการดำเนินงานของสถานศกึ ษา การสงั เกต และการสัมภาษณ์ผู้ที่เกย่ี วข้อง 2.2 รับฟังข้อมูลของสถานศึกษา โดยให้สถานศึกษานำเสนอข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา แผนการดำเนินงานของสถานศึกษา ผลการดำเนินงานของสถานศึกษา และข้อมูลผลการประเมินตนเอง ของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาท่ีกำหนด รวมถึงข้อเสนอแนะจากการประเมินคุณภาพภายนอก (ถ้ามี) และอาจมีการแนะนำคณะกรรมการสถานศึกษา หรือภาคีเครือข่าย หรือบุคคลอื่นที่เก่ียวข้องที่สถานศึกษา เชิญมารว่ มให้ข้อมูล หรอื แลกเปล่ียนเรยี นรู้ร่วมกับคณะกรรมการ 2.3 ดำเนินการประเมินแบบกัลยาณมิตร ให้คณะกรรมการดำเนินการประเมินคุณภาพการศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 ให้เป็นไปตามมาตรฐานและประเด็นการพิจารณาท่ีสำนักงาน กศน. กำหนด โดยดำเนินการให้เป็นไปตามกำหนดการประเมินหรือตารางการตรวจเยี่ยมสถานศึกษาท่ีกำหนดไว้ ทั้งนี้ ในภาพรวมของการตรวจสอบร่องรอย หลักฐานจากการดำเนินงานเพื่อประเมินคุณภาพการศึกษานั้น คณะกรรมการควรดำเนนิ การ ดังนี้ 2.3.1 ศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพ่ือการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยดำเนินการ เกบ็ ขอ้ มลู 3 วธิ ี ประกอบดว้ ย 1) การสัมภาษณ์หรือสอบถาม รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงาน และการจัด การศึกษาของสถานศึกษาจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้บริหารสถานศึกษา ครูหรือบุคลากรของสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา ภาคีเครอื ข่าย และผเู้ รยี นหรอื ผู้รับบรกิ ารท่เี กี่ยวขอ้ ง 2) ศึกษาข้อมูลจากร่องรอย หลักฐานจากการดำเนินงานท่ีสถานศึกษามีอยู่จริง ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานของสถานศึกษาท่ีผ่านมา เช่น แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาหรือแผนพัฒนา การจัดการศึกษา แผนปฏิบัตกิ ารประจำปี หลักสูตรหรือโปรแกรมการเรียนรู้ หรือโครงการ กิจกรรม ส่ือการเรียนรู้ รายงานสรุปผลการจัดการเรียนรู้ รายงานสรุปผลการจัดโครงการ กิจกรรม คำส่ัง ฯลฯ ซ่ึงควรเป็นร่องรอย หลักฐาน หรือข้อมูลการดำเนินงานท่ีสอดคล้องกับเกณฑ์การประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และประเดน็ การพจิ ารณาทใี่ ชใ้ นการประเมนิ คุณภาพการศึกษา 3) การสังเกตสภาพจริงในพื้นที่ โดยการสังเกตบรรยากาศ การจัดสภาพแวดล้อม การจดั โครงการ กจิ กรรม การเรยี นรู้ทม่ี ีอยใู่ นสถานศกึ ษาหรอื ทม่ี อี ยู่ในพื้นที่
13 ซ่ึงขั้นตอนน้ีถือเป็นขั้นตอนท่ีมีความสำคัญมาก เพราะจะทำให้ได้ข้อมูลที่จะสามารถ นำมาใช้ในการพิจารณา และวเิ คราะห์ข้อมูล เพื่อสรุปผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาท่ีเป็นไปตามมาตรฐาน การศึกษา และประเด็นการพิจารณาหรือเกณฑ์ท่ีใช้ในการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ครอบคลุม และตรงตามสภาพจริงของการดำเนินงานของสถานศึกษา โดยใช้แบบบันทึกข้อมูลภาคสนามเพ่ือการประเมิน คุณภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กดั ตามรายละเอยี ดในภาคผนวก ก ได้ 2.3.2 วิเคราะห์ และสรุปผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด โดยคณะกรรมการ ร่วมกันวิเคราะห์ และสรุปผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดตามมาตรฐานการศึกษาท่ีกำหนด ซึ่ ง ใน ก า ร วิ เค ร า ะ ห์ ข้ อ มู ล เพื่ อ ส รุ ป ผ ล ก า ร ป ร ะเมิ น คุ ณ ภ า พ ก า ร ศึ ก ษ า ที่ เป็ น ไป ต า ม ม า ต ร ฐ า น ก า ร ศึ ก ษ า และประเด็นการพิจารณาหรือเกณฑ์ท่ีใช้ในการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ให้คณะกรรมการ คำนึงถึงความน่าเช่ือถือของร่องรอย หลักฐานจากผลการดำเนินงานที่สถานศึกษามีอยู่ โดยพิจารณา ความเช่ือมโยงกันระหว่างข้อมูลท่ีได้จาก 1) การสัมภาษณ์ 2) การศึกษาจากร่องรอย หลักฐานจากการดำเนินงาน ทมี่ อี ยู่ และ 3) การสังเกตจากสภาพจรงิ ในพน้ื ท่ี ทั้งน้ี คณะกรรมการ ต้องมีความเข้าใจบริบทของการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ทั้งในแง่มุมของศักยภาพ ภาระงาน การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โครงสร้างของสถานศึกษา และการบริหาร จัดการ เพ่ือให้การให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงหรือพัฒนาสถานศึกษาเป็นไปอย่างชัดเจน ตรงประเด็น และเกิดประโยชนต์ ่อสถานศกึ ษาอย่างแทจ้ ริง นอกจากน้ี คณะกรรมการต้องมีการพูดคุย แลกเปล่ียนเรียนรู้ข้อมูลผลการประเมิน ร่วมกัน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความชัดเจนของข้อมูล ซึ่งจะทำให้การสรุปผลการประเมินของ คณะกรรมการประเมนิ มีความถูกต้อง และเทย่ี งตรงมากย่ิงข้นึ 2.4 การรายงานผลการประเมินเบ้ืองต้นอย่างไม่เปน็ ทางการต่อสถานศึกษา โดยคณะกรรมการ ประเมินจะต้องรายงานผลการประเมินเบ้ืองต้นต่อสถานศึกษาในวันสุดท้ายของการประเมิน ซึ่งถือเป็น การรายงานผลการประเมินอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ ซ่ึงควรมสี าระครอบคลุมประเดน็ ดงั ต่อไปน้ี 1) ขอบคุณสถานศึกษา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล และอำนวย ความสะดวกในการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด 2) ทบทวนวตั ถุประสงค์ในการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยตน้ สังกัด 3) แจ้งผลการประเมินคุณภาพการศึกษา พร้อมสรุปข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาคุณภาพ สถานศึกษาอย่างไม่เป็นทางการด้วยวาจาต่อสถานศึกษา พร้อมทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นที่มีการซักถาม จากสถานศึกษา 4) นำเสนอกระบวนการดำเนนิ งาน และผลการดำเนินงานท่ีดีเป็นจุดเดน่ และจุดที่ควรพฒั นา ของสถานศึกษา ในแต่ละประเภทมาตรฐานการศึกษา (การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาตอ่ เนอื่ ง และการศกึ ษาตามอัธยาศัย) 5) ให้ข้อสังเกต และ/หรือข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา เชิงรูปธรรม ท่ีสถานศึกษาจะสามารถนำไปพิจารณาและปฏิบัติได้จริงในแต่ละประเภทมาตรฐานการศึกษา (การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน การศกึ ษาต่อเนื่อง และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย) 3. หลงั การประเมนิ เป็นข้ันตอนท่เี กดิ ขึน้ หลังการตรวจเย่ียมสถานศึกษา โดยใหค้ ณะกรรมการดำเนนิ การตามแนวทาง ดังน้ี 3.1 จดั ทำรายงานการประเมนิ คุณภาพการศกึ ษาโดยต้นสังกัด ให้คณะกรรมการดำเนนิ การ ดังน้ี 1) ให้คณะกรรมการ ร่วมกันจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดของ สถานศึกษา ฉบับร่าง โดยมีกรรมการและเลขานุการเป็นผู้รวบรวมข้อมูลผลการประเมิน โดยใช้แบบฟอร์ม
14 หรือรูปแบบที่สำนักงาน กศน. กำหนด ตามรายละเอียดในภาคผนวก ค และเสนอให้คณะกรรมการทุกคน ตรวจสอบความถูกต้องเชิงเน้ือหาของรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดและดำเนินการแก้ไข ซง่ึ ต้องดำเนินการจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศกึ ษาโดยต้นสังกัดของสถานศึกษา ฉบับร่าง ให้แล้วเสร็จ ภายใน 7 วนั หลังวนั ที่ส้ินสุดการประเมินโดยการตรวจเยยี่ ม 2) ให้กรรมการและเลขานุการ จัดส่งรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับร่าง ไปยังสถานศึกษาเพื่อทราบ และยืนยันผลการประเมิน ทั้งนี้ ให้สถานศึกษาดำเนินการตรวจสอบ รายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับร่าง และแจ้งผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการ ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ภายใน 15 วัน นับจากวันท่ีได้รับรายงานการประเมินคุณภาพ การศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับร่าง จากคณะกรรมการประเมิน หากสถานศึกษาไม่มีข้อทักท้วงภายในเวลาที่ กำหนด ใหถ้ ือวา่ สถานศึกษายอมรับผลการประเมิน ดังกล่าว ท้ังนี้ กรณีที่สถานศึกษาทักท้วงหรือไม่เห็นด้วยกับผลการประเมิน สถานศึกษาสามารถช้ีแจง และให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่คณะกรรมได้ เพ่ือให้คณะกรรมการนำไปพิจารณาเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อมูลรายงาน ผลการประเมินตามที่เหน็ สมควร ต่อไป 3) กรรมการและเลขานุการ จัดทำรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบบั สมบูรณ์ 3.2 การรับรองผลการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เมื่อกรรมการและเลขานุการ จดั ทำรายงานการประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด เสร็จเรียบรอ้ ยแลว้ ให้จัดส่งให้คณะกรรมการทุกคน พิจารณา เพื่อลงนามรบั รองรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด จึงจะถอื วา่ รายงานการประเมิน คุณภาพการศกึ ษาโดยตน้ สงั กดั เปน็ รายงานฉบบั สมบูรณ์ 3.3 การจัดส่งรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ฉบับสมบูรณ์ ไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้กรรมการและเลขานุการ จัดส่งรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกัดไปยังหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องตามที่สำนักงาน กศน.กำหนดไว้ เช่น สำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. และสถานศึกษา ภายใน 45 วัน โดยนับจากวันที่ส้ินสุดการประเมินโดยการตรวจเย่ียม เพ่ือจัดเก็บไว้เป็น ขอ้ มลู สารสนเทศ และใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดทิศทาง แนวทางในการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาให้เป็นไปตาม มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด ต่อไป ทั้งน้ี เม่ือสถานศึกษา และสำนักงาน กศน. ได้รับรายงานการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกดั ฉบบั สมบรู ณ์แล้ว ให้เปิดเผยผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาโดยตน้ สงั กัดต่อสาธารณชนด้วย
15 ตอนท่ี 3 มาตรฐานการศึกษาและประเดน็ การพจิ ารณาเพ่อื การประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาโดยตน้ สังกดั มาตรฐานการศึกษาทจ่ี ะนำไปใช้ในการประเมินคุณภาพการศึกษา เพ่ือการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยต้นสังกัดโดยภาพรวมของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน กศน. ให้ใช้มาตรฐานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประกาศ ณ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ซ่ึงแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ มาตรฐานการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มาตรฐานการศึกษา ต่อเน่ือง และมาตรฐานการศกึ ษาตามอัธยาศัย สำหรับการดำเนินการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัด ให้คณะกรรมการเลือกประเภท มาตรฐานการศึกษา ที่จะใช้ในการประเมินให้สอดคล้องกับอำนาจและหน้าท่ีของสถานศึกษาท่ีมีหน้าที่ ในการจัดการศึกษา ได้แก่ การจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยให้พิจารณาเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาท่ีสถานศึกษา ประกาศใช้ไว้ เช่น สถานศึกษาที่เป็นศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ/เขต ให้ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยต้นสังกัดโดยใช้มาตรฐานการศึกษา ทั้ง 3 ประเภท คือ มาตรฐานการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน มาตรฐานการศึกษาต่อเนื่อง และมาตรฐานการศึกษาตามอัธยาศัย เปน็ ต้น ท้ังน้ี ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย ประกาศ ณ วันท่ี 6 ธันวาคม พ.ศ. 2562 และเอกสารแนวทางการประเมินคุณภาพการศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2562 ได้กำหนดรายละเอียดมาตรฐาน การศึกษา และประเด็นการพิจารณาท่ีจะใช้ในการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัด สำนกั งาน กศน. ไวด้ ังน้ี มาตรฐานการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน มจี ำนวน 3 มาตรฐาน ประกอบดว้ ย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ซ่ึงมีประเด็น การพิจารณา จำนวน 8 ประเด็น ประกอบด้วย 1.1 ผู้เรยี นการศึกษาขั้นพื้นฐานมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนที่ดสี อดคล้องกบั หลักสูตรสถานศกึ ษา 1.2 ผู้เรียนการศึกษาข้ันพื้นฐานมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะที่ดีตามที่สถานศึกษา กำหนด 1.3 ผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานมคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ คิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และแลกเปลี่ยน ความคิดเหน็ รว่ มกบั ผู้อนื่ 1.4 ผู้เรียนการศึกษาข้นั พืน้ ฐานมคี วามสามารถในการสรา้ งสรรค์งาน ชิ้นงาน หรือนวัตกรรม 1.5 ผู้เรยี นการศึกษาขนั้ พื้นฐานมคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ทิ ัล 1.6 ผู้เรยี นการศึกษาขั้นพืน้ ฐานมีสขุ ภาวะทางกาย และสนุ ทรียภาพ 1.7 ผเู้ รยี นการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานมีความสามารถในการอ่าน การเขียน 1.8 ผู้จบการศึกษาขัน้ พ้นื ฐานนำความรู้ ทกั ษะพืน้ ฐานที่ไดร้ ับไปใชห้ รือประยกุ ต์ใช้
16 มาตรฐานท่ี 2 คุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานท่ีเน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ ซง่ึ มีประเด็นการพจิ ารณา จำนวน 4 ประเดน็ ประกอบดว้ ย 2.1 การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาทสี่ อดคล้องกับบรบิ ท และความต้องการของผู้เรยี น ชุมชน ท้องถิ่น 2.2 สอื่ ทีเ่ อื้อต่อการเรยี นรู้ 2.3 ครูมคี วามรู้ ความสามารถในการจัดการเรียนรทู้ ่ีเน้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ 2.4 การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ของผู้เรียนอยา่ งเปน็ ระบบ มาตรฐานที่ 3 คุณภาพการบริหารจัดการของสถานศึกษา ซ่ึงมีประเด็นการพิจารณา จำนวน 9 ประเด็น ประกอบด้วย 3.1 การบริหารจัดการของสถานศึกษาทเ่ี นน้ การมีส่วนร่วม 3.2 ระบบการประกันคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา 3.3 การพัฒนาครู และบุคลากรของสถานศึกษา 3.4 การใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิทัลเพื่อสนับสนนุ การบริหารจดั การ 3.5 การกำกบั นเิ ทศ ติดตาม ประเมนิ ผลการดำเนินงานของสถานศึกษา 3.6 การปฏิบัติหนา้ ท่ีของคณะกรรมการสถานศึกษาท่ีเป็นไปตามบทบาทที่กำหนด 3.7 การส่งเสรมิ สนับสนนุ ภาคเี ครอื ขา่ ยให้มสี ว่ นรว่ มในการจัดการศกึ ษา 3.8 การส่งเสริม สนับสนุนการสรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้ 3.9 การวิจยั เพอ่ื การบริหารจัดการศึกษาสถานศึกษา มาตรฐานการศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง มีจำนวน 3 มาตรฐาน ประกอบด้วย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียนการศึกษาต่อเน่ือง ซ่ึงมีประเด็นการพิจารณา จำนวน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.1 ผู้เรียนการศึกษาต่อเน่ืองมีความรู้ ความสามารถ และหรือทักษะ และหรือคุณธรรมเป็นไปตาม เกณฑก์ ารจบหลักสูตร 1.2 ผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องสามารถนำความรู้ท่ีได้ไปใช้ หรือประยุกต์ใช้ บนฐานค่านิยมร่วม ของสังคม 1.3 ผู้จบหลักสตู รการศกึ ษาต่อเนือ่ งที่นำความรู้ไปใชจ้ นเห็นเป็นประจกั ษ์หรือตัวอย่างทดี่ ี มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจัดการเรียนรู้การศึกษาต่อเนื่อง ซ่ึงมีประเด็นการพิจารณา จำนวน 5 ประเดน็ ประกอบด้วย 2.1 หลกั สตู รการศึกษาตอ่ เนอื่ งมีคณุ ภาพ 2.2 วิทยากรการศึกษาต่อเน่ืองมีความรู้ ความสามารถ หรือประสบการณ์ตรงตามหลักสูตรการศึกษา ต่อเนอ่ื ง 2.3 ส่อื ทเ่ี อื้อตอ่ การเรียนรู้ 2.4 การวดั และประเมนิ ผลผเู้ รยี นการศึกษาต่อเนอ่ื ง 2.5 การจดั กระบวนการเรยี นรู้การศกึ ษาต่อเน่ืองทมี่ คี ุณภาพ มาตรฐานที่ 3 คุณภาพการบริหารจัดการของสถานศึกษา ซึ่งมีประเด็นการพิจารณา จำนวน 9 ประเด็น ประกอบดว้ ย 3.1 การบรหิ ารจัดการของสถานศึกษาท่ีเนน้ การมสี ่วนร่วม 3.2 ระบบการประกันคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา 3.3 การพฒั นาครู และบุคลากรของสถานศึกษา
17 3.4 การใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทลั เพื่อสนับสนนุ การบรหิ ารจัดการ 3.5 การกำกบั นเิ ทศ ติดตาม ประเมินผลการดำเนนิ งานของสถานศึกษา 3.6 การปฏบิ ัติหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการสถานศึกษาท่ีเป็นไปตามบทบาททกี่ ำหนด 3.7 การสง่ เสรมิ สนับสนนุ ภาคเี ครอื ข่ายให้มีสว่ นร่วมในการจัดการศกึ ษา 3.8 การส่งเสริม สนบั สนนุ การสรา้ งสงั คมแหง่ การเรียนรู้ 3.9 การวจิ ัยเพอ่ื การบรหิ ารจัดการศึกษาสถานศกึ ษา มาตรฐานการศกึ ษาตามอธั ยาศัย มีจำนวน 3 มาตรฐาน ประกอบด้วย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้รับบริการการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งมีประเด็นการพิจารณา จำนวน 1 ประเดน็ ประกอบดว้ ย 1.1 ผู้รับบริการมีความรู้ หรือทักษะ หรือประสบการณ์ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ หรือ กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศยั มาตรฐานท่ี 2 คุณภาพการจัดการศึกษาตามอัธยาศยั ซง่ึ มีประเด็นการพิจารณา จำนวน 4 ประเด็น ประกอบดว้ ย 2.1 การกำหนดโครงการ หรอื กิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย 2.2 ผ้จู ัดกจิ กรรมมคี วามรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรมการศกึ ษาตามอัธยาศยั 2.3 สื่อ หรอื นวัตกรรม และสภาพแวดล้อมทเ่ี อื้อต่อการจดั การศึกษาตามอัธยาศัย 2.4 ผรู้ บั บรกิ ารมีความพึงพอใจตอ่ การจดั การศกึ ษาตามอัธยาศยั มาตรฐานท่ี 3 คุณภาพการบริหารจัดการของสถานศึกษา ซึ่งมีประเด็นการพิจารณา จำนวน 9 ประเด็น ประกอบดว้ ย 3.1 การบรหิ ารจัดการของสถานศึกษาท่เี นน้ การมสี ว่ นรว่ ม 3.2 ระบบการประกันคุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา 3.3 การพัฒนาครู และบุคลากรของสถานศึกษา 3.4 การใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทัลเพื่อสนับสนุนการบริหารจดั การ 3.5 การกำกบั นิเทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดำเนนิ งานของสถานศกึ ษา 3.6 การปฏบิ ตั ิหน้าท่ีของคณะกรรมการสถานศึกษาทีเ่ ปน็ ไปตามบทบาทที่กำหนด 3.7 การสง่ เสริม สนบั สนนุ ภาคีเครือขา่ ยใหม้ ีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา 3.8 การสง่ เสริม สนบั สนนุ การสร้างสังคมแห่งการเรยี นรู้ 3.9 การวจิ ยั เพือ่ การบรหิ ารจัดการศึกษาสถานศึกษา หมายเหตุ มาตรฐานที่ 3 คุณภาพการบริหารจัดการของสถานศึกษา ให้ใช้เป็นมาตรฐานร่วมกันได้ท้ังมาตรฐาน การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน มาตรฐานการศึกษาต่อเน่ือง และมาตรฐาน การศกึ ษาตามอัธยาศัย
18 รายละเอยี ดมาตรฐาน ประเดน็ การพิจารณา และเกณฑ์การพิจารณา ตามมาตรฐานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย
19 มาตรฐานการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน
20 มาตรฐานการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐาน มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา คา่ นำ้ หนัก คะแนน มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผู้เรยี นการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน 50 1.1 ผเู้ รียนการศึกษาขั้นพ้ืนฐานมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นท่ีดีสอดคลอ้ งกบั หลักสูตรสถานศึกษา 10 1.2 ผู้เรียนการศึกษาข้ันพื้นฐานมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะที่ดีตามท่ี 10 สถานศกึ ษากำหนด 1.3 ผู้เรียนการศึกษาข้ันพื้นฐานมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ 5 และแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ รว่ มกบั ผู้อน่ื 1.4 ผเู้ รยี นการศกึ ษาขัน้ พื้นฐานมีความสามารถในการสร้างสรรค์งาน ชน้ิ งาน หรือนวตั กรรม 5 1.5 ผูเ้ รียนการศึกษาขน้ั พ้นื ฐานมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 4 1.6 ผู้เรียนการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานมีสุขภาวะทางกาย และสุนทรยี ภาพ 4 1.7 ผู้เรียนการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานมีความสามารถในการอา่ น การเขยี น 4 1.8 ผู้จบการศึกษาขั้นพ้นื ฐานนำความรู้ ทักษะพื้นฐานท่ีได้รับไปใช้หรอื ประยกุ ต์ใช้ 8 มาตรฐานที่ 2 คณุ ภาพการจัดการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานทเ่ี น้นผู้เรียน 20 เปน็ สำคญั 2.1 การพัฒนาหลักสูตรสถานศกึ ษาที่สอดคลอ้ งกบั บริบท และความต้องการของผ้เู รียน ชุมชน 5 ทอ้ งถน่ิ 2.2 สอ่ื ท่ีเอื้อต่อการเรยี นรู้ 5 2.3 ครมู ีความรู้ ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ 5 2.4 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผเู้ รยี นอย่างเปน็ ระบบ 5 มาตรฐานที่ 3 คุณภาพการบริหารจดั การของสถานศึกษา 30 3.1 การบริหารจดั การของสถานศกึ ษาทเ่ี นน้ การมสี ว่ นรว่ ม 3 3.2 ระบบการประกันคณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา 4 3.3 การพฒั นาครู และบคุ ลากรของสถานศึกษา 3 3.4 การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือสนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการ 3 3.5 การกำกบั นิเทศ ตดิ ตาม ประเมินผลการดำเนินงานของสถานศึกษา 3 3.6 การปฏิบตั หิ น้าที่ของคณะกรรมการสถานศึกษาทเ่ี ป็นไปตามบทบาททกี่ ำหนด 3 3.7 การส่งเสรมิ สนบั สนนุ ภาคีเครือข่ายใหม้ ีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษา 3 3.8 การส่งเสริม สนับสนนุ การสรา้ งสังคมแห่งการเรยี นรู้ 5 3.9 การวจิ ัยเพ่อื การบรหิ ารจัดการศึกษาสถานศึกษา 3
21 มาตรฐานการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มาตรฐานการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน มีจำนวน 3 มาตรฐาน ประกอบดว้ ย มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน เป็นการพิจารณาจากผลท่ีเกิดจากการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ท่ีเกิดข้ึนกับ ผู้เรียน ประกอบด้วย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ความสามารถในการอ่าน การเขียน การสร้างสรรค์งาน ชิ้นงาน หรือนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึง ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ แลกเปล่ียนความคิดเห็น ความสามารถในการนำ ความรู้ ทักษะพนื้ ฐานไปใช้หรอื ประยกุ ตใ์ ช้ และสามารถทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื ได้ นอกจากน้ี พิจารณาจากผู้เรียนที่มีพฤติกรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะที่ดีเป็นไปตามที่ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดไว้ 9 ประการ (สะอาด สุภาพ กตญั ญู ขยัน ประหยดั ซอ่ื สัตย์ สามัคคี มีนำ้ ใจ มีวินัย) มจี ติ อาสา และเคารพในกฎกติกาบนหลักประชาธิปไตย ภูมิใจในท้องถ่ิน เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณีไทย รวมทั้ง ภูมิปัญญาไทย สามารถอยู่และทำงานร่วมกับผู้อ่ืนบนพ้ืนฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลในด้านเพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี ได้ โดยปราศจากความขัดแย้ง แสดงออกทางพฤติกรรม มีกิริยา ที่เหมาะสม ถูกกาลเทศะ มีสุขภาวะทางกาย และสุนทรียภาพ หรือมีคุณลักษณะท่ีสอดคล้องกับอัตลักษณ์ ทส่ี ถานศึกษากำหนด โดยไม่ขดั ตอ่ กฎหมายและวฒั นธรรมท่ีดีงาม โดยมีประเดน็ การพิจารณา จำนวน 8 ประเดน็ ดังน้ี 1. ผเู้ รยี นการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นท่ีดีสอดคลอ้ งกับหลักสตู รสถานศึกษา 2. ผู้เรียนการศึกษาขั้นพ้ืนฐานมีคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะท่ดี ีตามทสี่ ถานศึกษากำหนด 3. ผู้เรียนการศึกษาข้ันพื้นฐานมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และแลกเปลี่ยน ความคดิ เหน็ รว่ มกับผู้อืน่ 4. ผู้เรียนการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานมีความสามารถในการสรา้ งสรรคง์ าน ชน้ิ งาน หรอื นวัตกรรม 5. ผูเ้ รยี นการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐานมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั 6. ผเู้ รียนการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานมีสขุ ภาวะทางกาย และสุนทรยี ภาพ 7. ผู้เรียนการศึกษาขน้ั พน้ื ฐานมคี วามสามารถในการอ่าน การเขียน 8. ผู้จบการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานนำความรู้ ทักษะพนื้ ฐานที่ไดร้ บั ไปใช้หรอื ประยุกต์ใช้
22 ประเด็นการพิจารณาท่ี 1.1 ผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนท่ีดี สอดคล้องกับหลักสตู รสถานศึกษา ค่าน้ำหนักคะแนน 10 คะแนน คำอธบิ าย พิจารณาจากผู้เรียนทุกระดับการศึกษาที่มีความรู้ ความสามารถ หรือทักษะตามจุดมุ่งหมาย การจัดการเรียนร้ใู นรายวิชาบังคับท่ีเป็นไปตามแผนการลงทะเบียนเรียนที่กำหนดไว้ในหลกั สตู รสถานศึกษา โดยพิจารณาจากคะแนนเฉลี่ยผลการสอบปลายภาคเรียนของผู้เรียน หรือคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-Net) ระดับสถานศึกษา จำนวน 2 ภาคเรียนใน ปีงบประมาณทจี่ ะดำเนนิ การประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา เกณฑ์การพิจารณา คะแนนเฉล่ียผลการสอบปลายภาคเรียนของผู้เรียนทุกระดับการศึกษาในรายวิชาบังคับของสถานศึกษา หรอื คะแนนเฉล่ียผลการทดสอบระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-Net) เปรียบเทียบกับค่าคะแนน เปา้ หมายท่ีสถานศึกษากำหนดไว้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 0 คะแนน = สถานศึกษามีร้อยละเฉลี่ยของจำนวนรายวิชาบังคับที่มีคะแนนเฉล่ียผลการสอบ ปลายภาคเรียนของผู้เรียนในรายวิชาบังคับ หรือคะแนนเฉลย่ี ผลการทดสอบระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบ โรงเรยี น (N-Net) ทเ่ี ทา่ กบั หรือสูงกว่า คา่ คะแนนเปา้ หมายทีส่ ถานศกึ ษากำหนดไว้ ตงั้ แตร่ อ้ ยละ 0.00 - 9.99 1 คะแนน = สถานศึกษามีร้อยละเฉลี่ยของจำนวนรายวิชาบังคับท่ีมีคะแนนเฉลี่ยผลการสอบ ปลายภาคเรียนของผู้เรียนในรายวชิ าบังคับ หรือคะแนนเฉลยี่ ผลการทดสอบระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบ โรงเรียน (N-Net) ทเี่ ท่ากับหรอื สงู กว่า ค่าคะแนนเปา้ หมายท่ีสถานศกึ ษากำหนดไว้ ตั้งแต่ร้อยละ 10.00 - 19.99 2 คะแนน = สถานศึกษามีร้อยละเฉล่ียของจำนวนรายวิชาบังคับท่ีมีคะแนนเฉลี่ยผลการสอบ ปลายภาคเรียนของผู้เรียนในรายวิชาบังคับ หรือคะแนนเฉลยี่ ผลการทดสอบระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบ โรงเรยี น (N-Net) ทเ่ี ทา่ กับหรอื สูงกวา่ ค่าคะแนนเป้าหมายทสี่ ถานศกึ ษากำหนดไว้ ตัง้ แตร่ ้อยละ 20.00 - 29.99 3 คะแนน = สถานศึกษามีร้อยละเฉล่ียของจำนวนรายวิชาบังคับท่ีมีคะแนนเฉลี่ยผลการสอบ ปลายภาคเรียนของผู้เรียนในรายวิชาบังคับ หรือคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบ โรงเรยี น (N-Net) ทเี่ ทา่ กับหรือสูงกว่า ค่าคะแนนเป้าหมายทส่ี ถานศกึ ษากำหนดไว้ ตั้งแต่รอ้ ยละ 30.00 - 39.99 4 คะแนน = สถานศึกษามีร้อยละเฉล่ียของจำนวนรายวิชาบังคับที่มีคะแนนเฉลี่ยผลการสอบ ปลายภาคเรียนของผู้เรียนในรายวชิ าบังคับ หรือคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบ โรงเรียน (N-Net) ทเี่ ทา่ กับหรือสงู กวา่ คา่ คะแนนเปา้ หมายทส่ี ถานศึกษากำหนดไว้ ต้ังแต่ร้อยละ 40.00 - 49.99 5 คะแนน = สถานศึกษามีร้อยละเฉล่ียของจำนวนรายวิชาบังคับที่มีคะแนนเฉลี่ยผลการสอบ ปลายภาคเรียนของผู้เรียนในรายวชิ าบังคับ หรือคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบ โรงเรียน (N-Net) ทเ่ี ทา่ กบั หรอื สูงกว่า คา่ คะแนนเปา้ หมายทสี่ ถานศึกษากำหนดไว้ ตง้ั แต่ร้อยละ 50.00 ขน้ึ ไป
23 การคำนวณคะแนนทไี่ ด้เทียบกับค่านำ้ หนักคะแนน และการเทียบกับเกณฑ์ระดับคุณภาพ 1. คำนวณคะแนนที่ได้จากเกณฑ์การให้คะแนนเทยี บกับคา่ น้ำหนักคะแนน (คา่ น้ำหนกั คะแนน 10 คะแนน) จากสตู ร คะแนนท่ไี ด้ (จากเกณฑ์การใหค้ ะแนน) X คา่ นำ้ หนักคะแนน = คะแนนท่ไี ด้ คะแนนเตม็ (จากเกณฑ์การให้คะแนน) 2. นำคะแนนทไี่ ดไ้ ปเทยี บกบั เกณฑร์ ะดับคุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ กำลังพัฒนา ปานกลาง ดี ดีเลิศ ยอดเยย่ี ม ช่วงคะแนน 0.00 - 4.99 5.00 - 6.25 6.26 - 7.50 7.51 - 8.75 8.76 - 10.00
24 ประเด็นการพิจารณาท่ี 1.2 ผู้เรียนการศึกษาข้ันพ้ืนฐานมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะท่ีดีตามที่สถานศึกษากำหนด คา่ นำ้ หนักคะแนน 10 คะแนน คำอธบิ าย พิจารณาจากผู้เรียนที่มีพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะที่ดี เป็นไปตามทห่ี ลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดไว้ 9 ประการ (สะอาด สุภาพ กตัญญู ขยัน ประหยัด ซ่ือสัตย์ สามัคคี มีน้ำใจ มีวินัย) มีจิตอาสา เคารพในกฎกติกาบนหลัก ประชาธิปไตย ภูมิใจในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์ วัฒนธรรม ประเพณีไทย รวมท้ังภูมิปัญญาไทย สามารถอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่นบนพ้ืนฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลในด้านเพศ อายุ เช้ือชาติ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ประเพณีได้ โดยปราศจากความขัดแยง้ ทั้งน้ี สถานศึกษาสามารถกำหนดคุณลักษณะของผู้เรียนเพิ่มเติมได้ โดยไม่ขัดต่อกฎหมายและ วัฒนธรรมท่ดี ีงาม เกณฑก์ ารพิจารณา 1. สถานศึกษามีการกำหนดโครงการ กิจกรรม เพ่ือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะที่ดตี ามทีส่ ถานศึกษากำหนด 2. สถานศึกษามีการดำเนินงานโครงการ กิจกรรม เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะทดี่ ตี ามทีส่ ถานศึกษากำหนด 3. สถานศึกษามีการประเมินผล สรุปผล และรายงานผลการดำเนินงานโครงการ กิจกรรม เพอื่ สง่ เสรมิ สนับสนุนใหผ้ ู้เรียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะที่ดีตามทีส่ ถานศึกษากำหนด 4. สถานศึกษามีผู้เรียนท่ีผ่านการประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะท่ีดีตามที่ สถานศึกษากำหนด ในระดับ ดีขนึ้ ไป โดยมีจำนวนไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ของจำนวนผ้เู รยี น 5. สถานศึกษามีผู้เรียนที่ได้รับการยกย่อง เชิดชูเกียรติ หรือเป็นแบบอย่างท่ีดีในด้านที่เก่ียวข้องกับ การมคี ุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม หรอื คณุ ลกั ษณะท่ีดี ตามค่าเปา้ หมายทส่ี ถานศึกษากำหนด เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานได้เป็นไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 1 ขอ้ 2 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานได้เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 2 ขอ้ 3 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 3 ขอ้ 4 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนินงานได้เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 4 ข้อ 5 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 5 ขอ้
25 การคำนวณคะแนนท่ไี ด้เทียบกบั ค่านำ้ หนักคะแนน และการเทียบกบั เกณฑร์ ะดบั คุณภาพ 1. คำนวณคะแนนทไี่ ด้จากเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเทียบกบั ค่านำ้ หนกั คะแนน (คา่ น้ำหนักคะแนน 10 คะแนน) จากสูตร คะแนนท่ไี ด้ (จากเกณฑ์การให้คะแนน) X คา่ นำ้ หนกั คะแนน = คะแนนที่ได้ คะแนนเตม็ (จากเกณฑก์ ารให้คะแนน) 2. นำคะแนนท่ีได้ไปเทยี บกับเกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเย่ยี ม ชว่ งคะแนน 0.00 - 4.99 5.00 - 6.25 6.26 - 7.50 7.51 - 8.75 8.76 - 10.00
26 ประเด็นการพิจารณาที่ 1.3 ผู้เรียนการศึกษาข้ันพื้นฐานมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ รว่ มกับผู้อ่ืน คา่ นำ้ หนกั คะแนน 5 คะแนน คำอธบิ าย พิจารณาจากผู้เรียนที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดยใช้ข้อมูลและ เหตุผลประกอบการตัดสินใจ แก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง สมเหตุสมผล และสามารถแลกเปล่ียนความคิดเห็น ร่วมกับผู้อื่นได้ เกณฑก์ ารพิจารณา สถานศกึ ษามีจำนวนผู้เรยี นที่มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ คิดอย่างมวี ิจารณญาณ และแลกเปล่ียน ความคดิ เห็นร่วมกบั ผู้อื่น เป็นไปตามค่าเปา้ หมายท่สี ถานศึกษากำหนด เกณฑก์ ารให้คะแนน 0 คะแนน = สถานศึกษาไม่มีผู้เรียนท่ีมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นร่วมกบั ผู้อ่ืน 1 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้เรียนที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับผู้อื่น ต่ำกว่าค่าเป้าหมาย มากกว่าร้อยละ 50 ของค่าเป้าหมาย ทส่ี ถานศึกษากำหนด 2 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้เรียนท่ีมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และแลกเปล่ียนความคิดเห็นร่วมกับผู้อ่ืน ต่ำกว่าค่าเป้าหมาย แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าเป้าหมาย ท่สี ถานศึกษากำหนด 3 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้เรียนที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นร่วมกับผอู้ ืน่ เปน็ ไปตามค่าเปา้ หมายท่สี ถานศึกษากำหนด 4 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้เรียนที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับผู้อื่น สูงกว่าค่าเป้าหมาย แต่ไม่เกินร้อยละ50 ของค่าเป้าหมาย ท่ีสถานศกึ ษากำหนด 5 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้เรียนท่ีมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และแลกเปล่ียนความคิดเห็นร่วมกับผู้อื่น สูงกว่าค่าเป้าหมาย มากกว่าร้อยละ 50 ของค่าเป้าหมาย ที่สถานศึกษากำหนด นำคะแนนท่ีไดจ้ ากเกณฑ์การให้คะแนนไปเทยี บกับเกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ (คา่ นำ้ หนักคะแนน 5 คะแนน) ระดับคณุ ภาพ กำลงั พัฒนา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเยี่ยม ชว่ งคะแนน 0.00 - 2.49 2.50 - 3.12 3.13 - 3.75 3.76 - 4.38 4.39 - 5.00
27 ประเด็นการพิจารณาที่ 1.4 ผู้เรียนการศึกษาขั้นพ้ืนฐานมีความสามารถในการสร้างสรรค์งาน ชนิ้ งาน หรือนวตั กรรม คา่ น้ำหนักคะแนน 5 คะแนน คำอธิบาย พิจารณาจากผู้เรียนที่มีความสามารถในการรวบรวมความรทู้ ี่ได้จากการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพ้ืนฐานของสถานศึกษา และสามารถเชื่อมโยงความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับกับท่ีมีอยู่เดิม แล้วนำไปใช้ในการจัดทำโครงงาน ช้ินงาน สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ หรือสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นและใช้ประโยชน์ ได้จริง โดยเป็นผลมาจากการส่งเสริม สนบั สนุนของสถานศึกษา เกณฑ์การพิจารณา 1. สถานศึกษามีการจัดการเรียนรู้ หรือกิจกรรมท่ีส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนมีความสามารถ ในการจดั ทำโครงงาน ช้ินงาน สงิ่ ประดษิ ฐ์ งานสรา้ งสรรค์ หรือส่ิงใหม่ ๆ 2. ผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 สามารถจัดทำโครงงาน ชิ้นงาน สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ หรือสิง่ ใหม่ ๆ ได้ 3. ผู้เรียนสามารถสร้างโครงงาน ชิ้นงาน สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ หรือส่ิงใหม่ ๆ ท่ีสามารถนำไปใช้ ประโยชนไ์ ดจ้ ริง เปน็ ไปตามคา่ เป้าหมายทสี่ ถานศกึ ษากำหนด 4. สถานศึกษามีการเผยแพร่ ผลงานโครงงาน ชิ้นงาน ส่ิงประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ หรือส่ิงใหม่ ๆ ของผเู้ รยี นผา่ นชอ่ งทางส่ือต่าง ๆ 5. สถานศึกษามีการจัดแข่งขัน ประกวดโครงงาน ชิ้นงาน ส่ิงประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ หรือส่ิงใหม่ ๆ ของผู้เรยี นให้แก่ผู้เรียน หรอื มีการจัดสง่ โครงงาน ชิ้นงาน สิ่งประดษิ ฐ์ งานสร้างสรรค์ หรือสิ่งใหม่ ๆ ของผู้เรียน ไปประกวด แข่งขนั รว่ มกับหน่วยงาน หรือสถานศกึ ษาอ่ืน เกณฑ์การให้คะแนน 1 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนนิ งานได้เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 1 ขอ้ 2 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 2 ขอ้ 3 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนนิ งานได้เปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 3 ขอ้ 4 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนนิ งานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 4 ขอ้ 5 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 5 ขอ้ นำคะแนนท่ีได้จากเกณฑ์การให้คะแนนไปเทยี บกับเกณฑ์ระดบั คุณภาพ (ค่าน้ำหนักคะแนน 5 คะแนน) ระดับคณุ ภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลิศ ยอดเย่ยี ม ชว่ งคะแนน 0.00 - 2.49 2.50 - 3.12 3.13 - 3.75 3.76 - 4.38 4.39 - 5.00
28 ประเด็นการพิจารณาที่ 1.5 ผู้เรียนการศึกษาขั้นพ้ืนฐานมีความสามารถในการใช้ เทคโนโลยดี ิจิทลั คา่ นำ้ หนักคะแนน 4 คะแนน คำอธิบาย พิจารณาจากผู้เรียนที่มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้ การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม การสอ่ื สาร การทำงาน และการดำรงชีวติ เทคโนโลยีดิจิทัล หมายถึง การนำเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บเลต โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ และส่ือออนไลน์ เป็นต้น มาใช้ด้วยความรู้ ความเข้าใจให้เกิด ประโยชน์ เพอื่ การสอื่ สาร การปฏิบัตงิ าน และการทำงานร่วมกบั ผูอ้ ื่น เกณฑ์การพิจารณา รอ้ ยละของผูเ้ รียนท่ีมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทลั เพอ่ื การเรยี นรู้ การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม การส่อื สาร การทำงาน และการดำรงชีวติ การคำนวณคะแนนท่ไี ด้เทียบกบั คา่ น้ำหนักคะแนน และการเทียบกบั เกณฑร์ ะดบั คุณภาพ 1. คำนวณคะแนนที่ได้ด้วยการเทียบบัญญัติไตรยางศ์ โดยใช้สดั ส่วนร้อยละ 100 เท่ากับ 4 คะแนน ดงั น้ี รอ้ ยละของผเู้ รยี นทม่ี ีคณุ ลักษณะเป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา X 4 คะแนน 100 2. นำคะแนนท่ไี ด้ไปเทียบกบั เกณฑ์ระดบั คุณภาพ ระดับคณุ ภาพ กำลงั พฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเยีย่ ม ชว่ งคะแนน 0.00 - 1.99 2.00 - 2.50 2.51 - 3.00 3.01 - 3.50 3.51 - 4.00
29 ประเด็นการพิจารณาที่ 1.6 ผู้เรียนการศึกษาข้ันพ้ืนฐานมีสุขภาวะทางกาย และ สนุ ทรียภาพ ค่าน้ำหนักคะแนน 4 คะแนน คำอธิบาย พิจารณาจากผู้เรียนท่ีมีภาวะทางร่างกายท่ีเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย และมีสุขภาพจิต อารมณ์ และสังคมทด่ี ี เกณฑ์การพิจารณา 1. ร้อยละของผู้เรยี นไดร้ ับการตรวจสุขภาพ หรือมหี ลักฐานการตรวจสุขภาพ 2. ร้อยละของผู้เรียนที่มีการเข้าร่วมโครงการ กิจกรรม ด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ นันทนาการ จิตอาสา หรอื การอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม การคำนวณคะแนนทไ่ี ดเ้ ทียบกบั คา่ น้ำหนักคะแนน และการเทยี บกบั เกณฑร์ ะดบั คุณภาพ 1. คำนวณคะแนนที่ได้ด้วยการเทียบบัญญัตไิ ตรยางศ์ โดยใช้สดั ส่วนร้อยละ 100 เท่ากับ 4 คะแนน ดังน้ี ร้อยละเฉลย่ี ของผ้เู รยี นที่มคี ุณลักษณะเป็นไปตามเกณฑก์ ารพจิ ารณาท้งั 2 ข้อ X 4 คะแนน 100 2. นำคะแนนทีไ่ ดไ้ ปเทียบกับเกณฑ์ระดับคุณภาพ ระดับคณุ ภาพ กำลังพัฒนา ปานกลาง ดี ดเี ลศิ ยอดเยย่ี ม ชว่ งคะแนน 0.00 - 1.99 2.00 - 2.50 2.51 - 3.00 3.01 - 3.50 3.51 - 4.00
30 ประเด็นการพิจารณาท่ี 1.7 ผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความสามารถในการอ่าน การเขยี น คา่ น้ำหนกั คะแนน 4 คะแนน คำอธบิ าย พจิ ารณาจากผเู้ รียนที่มีความสามารถในการอ่าน การเขียนภาษาไทย เพ่ือการส่ือสารที่เป็นไปตามเกณฑ์ ในแต่ละระดบั การศกึ ษา ดงั นี้ ระดบั ประถมศึกษา มีความสามารถในการอา่ นออก เขียนได้ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ มีความสามารถอ่าน และเขียนไดค้ ล่อง ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย มีความสามารถในการอ่านจบั ใจความ และเขียนเชงิ สรา้ งสรรค์ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ร้อยละของผ้เู รยี นท่มี ีความสามารถในการอ่าน การเขียนภาษาไทย เพื่อการสอื่ สารที่เป็นไปตามเกณฑ์ ในแต่ละระดบั ช้ัน การคำนวณคะแนนท่ีได้เทยี บกบั ค่านำ้ หนักคะแนน และการเทียบกับเกณฑร์ ะดบั คุณภาพ 1. ให้สถานศึกษานับจำนวนผู้เรียนท่ีผ่านเกณฑ์การอ่าน การเขียนในแต่ละระดับมารวมกัน แล้วนำไปหา ค่ารอ้ ยละ 2. นำค่าร้อยละท่ีได้ไปคำนวณคะแนนที่ได้ ไปคำนวณด้วยการเทียบบัญญัติไตรยางศ์ โดยใช้สัดส่วน รอ้ ยละ 100 เทา่ กบั 4 คะแนน (ค่าน้ำหนกั คะแนน 4 คะแนน) ดังน้ี ร้อยละของผเู้ รียนทม่ี คี ณุ ลักษณะเปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา X 4 คะแนน 100 3. นำคะแนนท่ีไดไ้ ปเทียบกับเกณฑ์ระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ กำลงั พัฒนา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเยีย่ ม ชว่ งคะแนน 0.00 - 1.99 2.00 - 2.50 2.51 - 3.00 3.01 - 3.50 3.51 - 4.00
31 ประเด็นการพิจารณาท่ี 1.8 ผู้จบการศึกษาขนั้ พืน้ ฐานนำความรู้ ทักษะพ้ืนฐานทไ่ี ด้รับไปใช้ หรือประยุกตใ์ ช้ ค่าน้ำหนกั คะแนน 8 คะแนน คำอธบิ าย พิจารณาจากผู้จบการศึกษาตามหลักสูตรสามารถนำความรู้ และทักษะพ้ืนฐานท่ีได้รับไปใช้ หรอื ประยกุ ต์ใช้ในการดำเนนิ ชวี ิต การประกอบอาชพี หรือเพอื่ การศกึ ษาตอ่ ในระดับทส่ี ูงขนึ้ เกณฑก์ ารพจิ ารณา จำนวนผู้จบการศึกษาตามหลักสูตรสามารถนำความรู้ ทักษะพ้ืนฐานที่ได้รับไปใช้ หรือประยุกต์ใช้ ในการดำเนนิ ชีวิต การประกอบอาชีพ หรอื เพ่ือการศกึ ษาตอ่ ในระดับท่สี งู ขน้ึ เป็นไปตามค่าเป้าหมายทก่ี ำหนด เกณฑก์ ารให้คะแนน 0 คะแนน = สถานศกึ ษาไม่มผี ู้จบทม่ี ีการนำความรู้ไปใช้ 1 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบที่มีการนำความรู้ไปใช้ต่ำกว่าค่าเป้าหมาย มากกว่าร้อยละ 50 ของค่าเป้าหมายทีส่ ถานศกึ ษากำหนด 2 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบที่มีการนำความรู้ไปใช้ต่ำกว่าค่าเป้าหมาย แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของคา่ เป้าหมายทส่ี ถานศึกษากำหนด 3 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบที่มีการนำความรู้ไปใช้เป็นไปตามค่าเป้าหมายท่ีสถานศึกษา กำหนด 4 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบที่มีการนำความรูไ้ ปใช้สูงกวา่ คา่ เป้าหมาย แตไ่ ม่เกินรอ้ ยละ 50 ของค่าเปา้ หมายทีส่ ถานศึกษากำหนด 5 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบท่ีมีการนำความรู้ไปใช้สูงกว่าค่าเป้าหมาย มากกว่าร้อยละ 50 ของคา่ เปา้ หมายที่สถานศกึ ษากำหนด การคำนวณคะแนนทไ่ี ดเ้ ทยี บกับค่าน้ำหนกั คะแนน และการเทียบกับเกณฑร์ ะดบั คุณภาพ 1. คำนวณคะแนนท่ีได้เทยี บกบั คา่ นำ้ หนกั คะแนน (คา่ นำ้ หนักคะแนน 8 คะแนน) จากสตู ร คะแนนท่ไี ด้ (จากเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน) X คา่ นำ้ หนกั คะแนน = คะแนนทไ่ี ด้ คะแนนเตม็ (จากเกณฑ์การใหค้ ะแนน) 2. นำคะแนนท่ไี ด้ไปเทียบกบั เกณฑ์ระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ กำลงั พฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเยี่ยม ช่วงคะแนน 0.00 - 3.99 4.00 - 5.00 5.01 - 6.00 6.01 - 7.00 7.01 - 8.00
32 มาตรฐานที่ 2 คณุ ภาพการจดั การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานทเี่ น้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั พิจารณาจากกระบวนการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่สถานศึกษามีการพัฒนา หลักสูตรขึ้นอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับบริบท และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และชุมชน ท้องถิ่น เพ่ือใช้ในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างผู้เรียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการคิด และการลงมือปฏิบัติท่ีเน้นผู้เรียน เปน็ สำคัญ มสี ่ือ เทคโนโลยดี ิจิทลั แหลง่ เรียนรู้ หรอื ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ท่ีเอ้อื ตอ่ การเรียนรู้ มกี ารสร้างปฏสิ มั พันธ์ ท่ีดีต่อกันระหว่างครูกับผู้เรียน ในฐานะครูกับผู้เรียน มีการกำหนดแนวทางการตรวจสอบ การวัดและ ประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ สามารถตรวจสอบได้ และมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ เพอ่ื นำผลการประเมนิ มาพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตลอดจนมีการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เพ่อื ส่งเสริม สนับสนุน การเรียนรู้ของผูเ้ รียน และผู้ทม่ี คี วามสนใจในการเรยี นรู้ โดยมีประเดน็ การพิจารณา จำนวน 4 ประเด็น ดังน้ี 1. การพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาทส่ี อดคล้องกบั บริบท และความต้องการของผู้เรียน ชมุ ชน ทอ้ งถิ่น 2. สือ่ ท่เี อื้อตอ่ การเรียนรู้ 3. ครมู ีความรู้ ความสามารถในการจัดการเรียนรทู้ ่ีเน้นผ้เู รียนเปน็ สำคญั 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ของผู้เรียนอยา่ งเป็นระบบ
33 ประเด็นการพจิ ารณาที่ 2.1 การพัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษาทีส่ อดคล้องกับบรบิ ท และความต้องการของผเู้ รยี น ชมุ ชน ท้องถ่นิ คา่ น้ำหนักคะแนน 5 คะแนน คำอธิบาย พิจารณาจากการดำเนินงานของสถานศึกษาที่สามารถพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาข้ึนอย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีความสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพปัญหา และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงนโยบายของ หน่วยงานต้นสังกัด โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา เพ่ือใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และคุณลักษณะตามท่ีหลักสูตรกำหนดไว้ โดยมีองค์ประกอบท่ีสำคัญ ครบถ้วน ซ่ึงอย่างน้อยต้องประกอบด้วย หลักการ จุดหมายของหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย โครงสร้างหลักสูตร ระยะเวลาเรียน วิธีการจัดการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการจบหลกั สตู ร เกณฑ์การพจิ ารณา 1. มีหลักสูตรสถานศึกษาท่ีจัดทำข้ึน โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา และได้รับ การอนมุ ัติจากผ้บู รหิ ารสถานศึกษา 2. หลักสูตรสถานศึกษามีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน ซ่ึงอย่างน้อยต้องประกอบด้วย หลักการ จุดหมายของหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย โครงสร้างหลักสูตร ระยะเวลาเรียน วิธีการจัดการเรียนรู้ กระบวนการจัด การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล และการจบหลักสตู ร 3. หลักสูตรสถานศึกษา มีเนื้อหาที่มีความสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขน้ั พน้ื ฐาน สอดคล้องกบั สภาพปัญหา และความตอ้ งการของกลุ่มเปา้ หมาย 4. มกี ารนำหลกั สูตรสถานศกึ ษาไปใช้ในการจัดการเรยี นรตู้ ามจุดหมายของหลักสตู ร 5. มกี ารประเมนิ ผลการนำหลักสูตรไปใช้ และนำผลการประเมินมาปรบั ปรงุ หรือพฒั นา เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 1 ข้อ 2 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนนิ งานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 2 ขอ้ 3 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 3 ขอ้ 4 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 4 ข้อ 5 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 5 ข้อ นำคะแนนที่ได้จากเกณฑ์การให้คะแนนไปเทยี บกับเกณฑ์ระดับคณุ ภาพ (คา่ นำ้ หนกั คะแนน 5 คะแนน) ระดับคุณภาพ กำลงั พฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเยยี่ ม ช่วงคะแนน 0.00 - 2.49 2.50 - 3.12 3.13 - 3.75 3.76 - 4.38 4.39 - 5.00
34 ประเด็นการพิจารณาที่ 2.2 สือ่ ทเ่ี อ้อื ต่อการเรียนรู้ ค่าน้ำหนกั คะแนน 5 คะแนน คำอธิบาย พิจารณาจากการดำเนินงานของสถานศึกษาท่ีสามารถพัฒนา หรือจัดหาสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องกับหลักสูตรและวิธีการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา รวมถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ของผู้เรียน เพ่ือสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนเกดิ ความเข้าใจในเน้อื หาสาระตามหลักสตู รสถานศกึ ษา ในทนี่ ี้ ส่ือการเรียนรู้ แบ่งเปน็ 3 ประเภท คือ 1) สอ่ื ส่งิ พิมพ์ หมายถงึ หนังสือ และเอกสารส่งิ พิมพ์ต่าง ๆ ท่ีแสดงหรอื เรียบเรียงสาระความรู้ ตา่ ง ๆ โดยใชต้ ัวหนังสอื ทีเ่ ปน็ ตวั เขียน หรอื ตวั พมิ พ์เป็นส่อื ในการแสดงความหมาย 2) ส่ือเทคโนโลยี หมายถึง สื่อการเรียนรู้ท่ีผลิตขึ้นใช้ควบคู่กับเคร่ืองมือโสตทัศนวัสดุ หรือเคร่อื งมือท่ีเป็นเทคโนโลยใี หม่ ๆ รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ในกระบวนการเรียนรู้ 3) ส่ืออ่ืน ๆ ได้แก่ บุคคล ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัสดุ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ แหล่งเรียนรู้ เปน็ ต้น เกณฑ์การพจิ ารณา 1. มีการพฒั นา หรอื จดั หาส่ือการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลายสอดคล้องกับหลกั สูตรสถานศกึ ษา 2. มีการจดั ทำข้อมลู สารสนเทศ หรอื ทำเนียบส่ือการเรียนรู้ 3. มกี ารใชส้ ่ือการเรยี นรู้ท่ีหลากหลายในการจดั การเรยี นรู้ 4. มกี ารประเมินความพงึ พอใจของผู้เรียนทมี่ ีต่อสือ่ การเรียนรู้ 5. มีการนำผลการประเมินความพึงพอใจไปใช้ในการพัฒนา หรือจัดหาสื่อการเรียนรู้ท่ีเป็นไปตาม ความต้องการ เกณฑก์ ารให้คะแนน 1 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 1 ขอ้ 2 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนนิ งานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 2 ข้อ 3 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 3 ข้อ 4 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 4 ข้อ 5 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 5 ขอ้ นำคะแนนที่ได้จากเกณฑ์การใหค้ ะแนนไปเทยี บกบั เกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพ (ค่าน้ำหนกั คะแนน 5 คะแนน) ระดับคณุ ภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง ดี ดเี ลศิ ยอดเย่ียม ช่วงคะแนน 0.00 - 2.49 2.50 - 3.12 3.13 - 3.75 3.76 - 4.38 4.39 - 5.00
35 ประเด็นการพิจารณาที่ 2.3 ครูมีความรู้ ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ คา่ น้ำหนกั คะแนน 5 คะแนน คำอธิบาย พิจารณาจากการดำเนินงานของครูที่สามารถบริหารจัดการ เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน อย่างเต็มความสามารถ เพ่ือมุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ หรือคุณลักษณะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหลกั สูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ท่ีคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยมีการสำรวจ ความต้องการในการเรยี นรู้ และเปิดโอกาสให้ผูเ้ รียนได้มีส่วนร่วมในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ มีการใช้สื่อ และจัดสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ รวมถึงการให้คำแนะนำ คำปรึกษา และแก้ไขปัญหาของ ผู้เรียนอย่างทั่วถึง เช่น การวิจัยในชั้นเรียนเพ่ือพัฒนา หรือแก้ไขปัญหาของผู้เรียน เป็นต้น เพื่อให้การจัด กระบวนการเรียนรบู้ รรลตุ ามวัตถปุ ระสงคข์ องหลักสูตรสถานศึกษา ในท่ีน้ี ครู หมายถงึ ข้าราชการครู หรือบคุ คลท่ีได้รบั การแต่งต้ังจากสถานศึกษาให้ทำหน้าที่จัดกระบวนการ เรยี นรู้การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน เกณฑก์ ารพิจารณา 1. ครทู ุกคนและผเู้ รียนร่วมกันวิเคราะห์ความต้องการการเรยี นรู้เปน็ รายบุคคล หรือรายกลมุ่ 2. ครูทุกคนออกแบบการจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกบั ผ้เู รียน 3. ครูทุกคนมกี ารจดั การเรยี นรูต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ 4. ครูทุกคนมีบันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 5. ครูทกุ คนมีการทำวจิ ัยในชั้นเรยี น เพือ่ พัฒนาหรือแก้ไขปัญหาของผูเ้ รียน 6. ครูทุกคนมีการจดั ระบบชว่ ยเหลือผู้เรียน ให้คำแนะนำ ปรึกษา เพ่ือให้ประสบความสำเรจ็ ในการเรียนรู้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานได้เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 1 - 2 ข้อ 2 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนนิ งานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 3 ข้อ 3 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 4 ข้อ 4 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนนิ งานได้เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 5 ขอ้ 5 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 6 ขอ้ นำคะแนนท่ไี ด้จากเกณฑก์ ารให้คะแนนไปเทยี บกบั เกณฑ์ระดับคณุ ภาพ (คา่ น้ำหนักคะแนน 5 คะแนน) ระดับคุณภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเย่ียม ช่วงคะแนน 0.00 - 2.49 2.50 - 3.12 3.13 - 3.75 3.76 - 4.38 4.39 - 5.00
36 ประเดน็ การพจิ ารณาที่ 2.4 การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ของผู้เรยี นอย่างเป็นระบบ ค่าน้ำหนักคะแนน 5 คะแนน คำอธบิ าย พิ จ าร ณ าจ าก ก าร ด ำเนิ น งาน ข อ งค รู ที่ มี ก าร วั ด แ ล ะป ร ะเมิ น ผ ล การ เรี ย น รู้ ข อ งผู้ เรี ย น ก าร ศึ ก ษ า นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเป็นระบบ โดยมีการใช้เคร่ืองมือ หรือวิธีการวัดและประเมินผล ที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของหลักสูตร และแจ้งข้อมูลผลการประเมินการเรียนรู้ย้อนกลับ ไปยังผ้เู รียน และนำไปส่กู ารพฒั นาการจดั กระบวนการเรยี นรู้ เกณฑ์การพิจารณา 1. ครูทุกคนมีการกำหนดแนวทางการวัดและประเมินผลที่สอดคล้องกับจุดหมายหรือวัตถุประสงค์ ของหลกั สตู รไว้ในแผนการจัดการเรยี นรู้อย่างชดั เจน 2. ครทู ุกคนมีการจดั ทำเครอ่ื งมอื หรอื มวี ธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลทส่ี อดคล้องกบั แผนการจัดการเรยี นรู้ 3. ครูทุกคนมีการชี้แจงรายละเอียดวธิ ีการวดั และประเมินผลใหแ้ ก่ผู้เรยี น 4. ครูทกุ คนมีการแจ้งผลการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ก่ผ้เู รยี นได้รบั ทราบ 5. ครูทุกคนมีการนำผลการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ไปใชใ้ นการพัฒนาการจดั กระบวนการเรียนรู้ เกณฑก์ ารให้คะแนน 1 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานได้เป็นไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 1 ข้อ 2 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานได้เปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 2 ข้อ 3 คะแนน = สถานศกึ ษาสามารถดำเนนิ งานได้เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 3 ข้อ 4 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนนิ งานได้เปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 4 ขอ้ 5 คะแนน = สถานศึกษาสามารถดำเนนิ งานได้เปน็ ไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 5 ข้อ นำคะแนนทีไ่ ด้จากเกณฑ์การให้คะแนนไปเทยี บกับเกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพ (ค่าน้ำหนักคะแนน 5 คะแนน) ระดับคุณภาพ กำลงั พัฒนา ปานกลาง ดี ดเี ลศิ ยอดเยี่ยม ช่วงคะแนน 0.00 - 2.49 2.50 - 3.12 3.13 - 3.75 3.76 - 4.38 4.39 - 5.00
37 มาตรฐานการศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง
38 มาตรฐานการศึกษาตอ่ เน่ือง มาตรฐาน/ประเดน็ การพิจารณา ค่านำ้ หนัก คะแนน มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผู้เรียนการศึกษาตอ่ เนอื่ ง 50 1.1 ผู้เรียนการศึกษาต่อเน่ืองมีความรู้ ความสามารถ และหรือทักษะ และหรือคุณธรรมเป็นไปตาม 10 เกณฑก์ ารจบหลักสตู ร 1.2 ผู้จบหลกั สตู รการศึกษาต่อเนื่องสามารถนำความรทู้ ่ีได้ไปใช้ หรอื ประยุกตใ์ ช้บนฐานคา่ นิยมรว่ ม 20 ของสงั คม 1.3 ผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องที่นำความรู้ไปใช้จนเห็นเป็นประจักษห์ รอื ตวั อย่างที่ดี 20 มาตรฐานท่ี 2 คณุ ภาพการจัดการเรียนรกู้ ารศึกษาตอ่ เน่อื ง 20 2.1 หลักสตู รการศกึ ษาต่อเนื่องมคี ุณภาพ 4 2.2 วิทยากรการศึกษาต่อเนื่องมีความรู้ ความสามารถ หรือประสบการณ์ตรงตามหลักสูตร 4 การศึกษาต่อเน่ือง 2.3 สือ่ ทเ่ี อ้ือต่อการเรยี นรู้ 4 2.4 การวัดและประเมินผลผเู้ รยี นการศึกษาต่อเนอ่ื ง 4 2.5 การจัดกระบวนการเรียนรู้การศกึ ษาต่อเน่ืองทีม่ ีคณุ ภาพ 4 มาตรฐานที่ 3 คณุ ภาพการบรหิ ารจดั การของสถานศึกษา 30 3.1 การบริหารจัดการของสถานศึกษาทีเ่ นน้ การมีส่วนร่วม 3 3.2 ระบบการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา 4 3.3 การพฒั นาครู และบคุ ลากรของสถานศึกษา 3 3.4 การใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเพ่ือสนับสนุนการบริหารจดั การ 3 3.5 การกำกับ นเิ ทศ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานของสถานศึกษา 3 3.6 การปฏิบตั หิ น้าท่ีของคณะกรรมการสถานศึกษาทเ่ี ป็นไปตามบทบาททก่ี ำหนด 3 3.7 การส่งเสริม สนบั สนนุ ภาคีเครอื ข่ายให้มีสว่ นรว่ มในการจัดการศึกษา 3 3.8 การส่งเสริม สนับสนุนการสรา้ งสงั คมแหง่ การเรยี นรู้ 5 3.9 การวจิ ัยเพือ่ การบริหารจัดการศึกษาสถานศกึ ษา 3
39 มาตรฐานการศึกษาตอ่ เน่อื ง มาตรฐานการศึกษาตอ่ เนอื่ ง มีจำนวน 3 มาตรฐาน ประกอบด้วย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผูเ้ รยี นการศึกษาต่อเนอื่ ง พิจารณาจากผลการจัดการเรียนรู้การศึกษาต่อเน่ือง ซ่ึงเป็นความรู้ ความสามารถ และ/หรือทักษะ และ/หรือคุณธรรมของผู้เรียนการศึกษาต่อเน่ืองท่ีเป็นไปตามจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของหลักสูตร รวมทั้ง สามารถนำความรู้ไปใช้ หรือประยุกต์ใชใ้ นการดำเนนิ ชีวิตได้อยา่ งเหมาะสมบนฐานค่านยิ มรว่ มของสังคม ในที่นี้ การศึกษาต่อเน่ือง หมายถึง การจัดการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบที่เป็นหลักสูตร ระยะสั้น ที่มีหลักสูตรตั้งแต่ 6 ช่ัวโมงขึ้นไป ซึ่งจัดตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยมีเนื้อหาเก่ียวกับ อาชีพ ทักษะชีวิต หรือการพัฒนาสังคมและชุมชน รวมถึงการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง และการใช้เทคโนโลยี ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตท่ีดี (ตามแนวทางการดำเนินงานการจัด การศึกษาต่อเนือ่ ง ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) ดงั น้ี การพัฒนาอาชีพ หมายถึง การศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบ อาชีพของบุคคล เพื่อให้บุคคลสามารถเข้าสู่อาชีพ สามารถประกอบอาชีพ หรือพัฒนาอาชีพของตนเองได้ โดยพจิ ารณาถึงความต้องการในการเรยี นของแต่ละบุคคล การพัฒนาทักษะชีวิต หมายถึง การศึกษาที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง เพ่ือให้มีความรู้ เจตคติและทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวติ ในสังคมปัจจุบัน เพื่อให้บุคคลสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมความพร้อมกับการปรับตัวในอนาคต เช่น สุขภาพกาย และใจ การมีสนุ ทรียภาพ ความปลอดภยั ในชีวิตและทรพั ย์สิน คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมทด่ี ี เปน็ ต้น การพัฒนาสังคมและชุมชน หมายถึง เป็นการศึกษาท่ีบูรณาการความรู้ และทักษะจากการศึกษา ทผี่ ู้เรียนมีอยู่หรือได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบ แล้วนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา สังคมและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีรูปแบบการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย และใช้ชุมชนเป็นฐานในการพัฒนาการเรียนรู้ของคนในชุมชน เช่น ประชาธิปไตย ส่ิงแวดล้อม วิสาหกิจชุมชน การใช้เทคโนโลยีท่เี หมาะสม เปน็ ต้น ทั้งนี้ ค่านิยมร่วมของสังคม หมายถึง ความเพียรอันบริสุทธิ์ ความพอเพียง วิถีประชาธิปไตย และความเทา่ เทยี มเสมอภาค โดย 1) ความเพียรอันบริสุทธ์ิ หมายถึง ความอดทน มุ่งม่ัน ทำส่ิงใด ๆ ให้เกิดผลสำเร็จ อย่างไม่ย่อท้อ ต่อความลำบาก เพื่อใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ส่วนรวม ชุมชน สังคม ประเทศชาติ 2) ความพอเพียง หมายถึง การมีความสมดุลรอบด้านทั้งความรู้ คุณธรรม และทักษะ โดยคำนึงถึง ความสมดุล ทงั้ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง ชุมชน และสงั คม 3) วถิ ีประชาธิปไตย หมายถึง การยึดม่นั ในการมสี ่วนร่วม การเคารพกตกิ า สิทธิหน้าท่ี ความรับผิดชอบ การรบั ฟงั ความคดิ เห็นที่แตกต่าง และสามารถอยู่ร่วมกันในสงั คมพหวุ ฒั นธรรมได้อย่างมีความสขุ 4) ความเท่าเทียมเสมอภาค หมายถึง การเคารพความแตกต่าง และการให้ความสำคัญแก่ผู้อ่ืน โดยปราศจากอคติ แม้มีสภาพความแตกต่างกันทางเศรษฐกิจ สังคม เชื้อชาติ ถ่ินท่ีอยู่ วัฒนธรรมและ ความสามารถ
40 ท้ังน้ี มาตรฐานคณุ ภาพของผู้เรียนการศึกษาต่อเนือ่ ง มปี ระเด็นการพจิ ารณา จำนวน 3 ประเดน็ ดังน้ี 1. ผู้เรียนการศึกษาต่อเน่ืองมีความรู้ ความสามารถ และหรือทักษะ และหรือคุณธรรมเป็นไปตาม เกณฑก์ ารจบหลกั สตู ร 2. ผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ืองสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ หรือประยุกต์ใช้ บนฐานค่านิยมร่วม ของสงั คม 3. ผจู้ บหลักสตู รการศึกษาตอ่ เนื่องที่นำความรู้ไปใช้จนเหน็ เป็นประจักษ์หรือตัวอย่างทดี่ ี
41 ประเด็นการพิจารณาที่ 1.1 ผู้เรียนการศึกษาต่อเน่อื งมีความรู้ ความสามารถ และหรือทักษะ และหรือคุณธรรมเปน็ ไปตามเกณฑก์ ารจบหลักสตู ร คา่ น้ำหนักคะแนน 10 คะแนน คำอธบิ าย พิจารณาจากผู้เรียนการศึกษาต่อเน่ือง ที่มีความรู้ ความสามารถ และ/หรอื ทักษะ และ/หรือคุณธรรม เป็นไปตามเกณฑ์การจบหลกั สตู ร ท้ังน้ี ผู้เรียนการศึกษาต่อเน่ือง หมายถึง ผู้เรียนท่ีเข้าศึกษาตามหลักสูตรระยะสั้น ตั้งแต่ 6 ชั่วโมงข้ึนไป ท่ีสถานศึกษาจัดหาหรือพัฒนาขึ้นตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และตามนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด ที่มีเนื้อหาเก่ียวกับอาชีพ ทักษะชีวิต การพัฒนาสังคมและชุมชน รวมถึงการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และการใช้เทคโนโลยี ทน่ี ำไปสู่การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ร้อยละของผูจ้ บหลกั สูตรการศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง การคำนวณคะแนนท่ีได้เทยี บกบั ค่าน้ำหนักคะแนน และการเทียบกับเกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ 1. คำนวณคะแนนทไี่ ด้เทียบกบั คา่ นำ้ หนักคะแนน (ค่านำ้ หนักคะแนน 10 คะแนน) โดยการเทยี บบัญญตั ไิ ตรยางศ์ โดยใช้สัดส่วนรอ้ ยละ 100 เท่ากบั 10 คะแนน ดงั นี้ ร้อยละของผู้จบหลักสูตรการศึกษาตอ่ เนือ่ ง X 10 คะแนน 100 2. นำคะแนนท่ไี ดไ้ ปเทียบกับเกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง ดี ดเี ลศิ ยอดเยย่ี ม ชว่ งคะแนน 0.00 - 4.99 5.00 - 6.25 6.26 - 7.50 7.51 - 8.75 8.76 - 10.00
42 ประเด็นการพิจารณาที่ 1.2 ผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องสามารถนำความรู้ท่ีได้ไปใช้ หรอื ประยกุ ต์ใช้ บนฐานคา่ นิยมรว่ มของสงั คม ค่านำ้ หนกั คะแนน 20 คะแนน คำอธบิ าย พจิ ารณาจากผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องทุกรูปแบบท่ีสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ หรือประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสมบนฐานความอดทน ความมุ่งมั่นในการทำสิ่งใดส่ิงหน่ึง มีความพอเพียง มีส่วนร่วมรับผิดชอบ ทำงานร่วมกับผู้อ่ืนได้เป็นอย่างดี และเป็นไปตามจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของ หลักสตู รการศึกษาต่อเน่อื งในดา้ นตา่ ง ๆ ดังน้ี ด้านการพัฒนาอาชีพ คือ ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ หรือประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ หรอื พัฒนาอาชีพของตนเองได้ ด้านการพฒั นาทักษะชวี ิต คอื ผู้เรียนสามารถนำความรู้ท่ีไดไ้ ปใช้ หรอื ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวันได้ ด้านการพัฒนาสงั คมและชุมชน คือ ผ้เู รียนสามารถนำความรูไ้ ปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสงั คม และชมุ ชนอยา่ งยั่งยืน เกณฑก์ ารพิจารณา 1. ร้อยละของผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ืองด้านการพัฒนาอาชีพที่สามารถนำความรู้ท่ีได้ไปใช้ หรือประยกุ ต์ใช้ในการประกอบอาชีพ หรอื พฒั นาอาชีพได้บนฐานคา่ นิยมร่วมของสงั คมได้ 2. ร้อยละของผจู้ บหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องด้านการพัฒนาทักษะชีวิตท่ีสามารถนำความรู้ท่ีได้ไปใช้ หรือประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ บนฐานค่านิยมร่วมของสังคม 3. ร้อยละของผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องด้านการพัฒนาสังคมและชุมชนท่ีสามารถนำความรู้ ไปใชใ้ ห้เป็นประโยชน์ตอ่ การพฒั นาสังคมและชุมชน โดยยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การคำนวณคะแนนท่ีได้เทยี บกับค่าน้ำหนักคะแนน และการเทยี บกับเกณฑ์ระดบั คุณภาพ 1. คำนวณหาร้อยละเฉลีย่ ของผู้จบหลกั สูตรการศึกษาตอ่ เนื่อง โดยการนำรอ้ ยละของผู้จบหลักสูตร การศึกษาต่อเนื่องของสถานศึกษาท่ีมีอยู่ในแต่ละเกณฑ์การพิจารณามาบวกกันแล้วหารด้วยจำนวนเกณฑ์ การพิจารณาทม่ี กี ารคำนวณร้อยละของผู้จบหลกั สูตร 2. นำร้อยละท่ีได้จากข้อ 1. ไปเทียบกับค่าน้ำหนักคะแนน (ค่าน้ำหนักคะแนน 20 คะแนน) ด้วยวิธีการ เทียบบญั ญตั ไิ ตรยางศ์ โดยใชส้ ัดสว่ นร้อยละ 100 เท่ากบั 20 คะแนน ดงั นี้ รอ้ ยละเฉลี่ยของผจู้ บหลักสูตรการศึกษาต่อเน่อื งทส่ี ถานศกึ ษาดำเนนิ การจัดการศึกษาต่อเนื่อง X 20 คะแนน 100 3. นำคะแนนท่ไี ดไ้ ปเทยี บกับเกณฑ์ระดบั คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเยี่ยม ชว่ งคะแนน 0.00 - 9.99 10.00 - 12.50 12.51 – 15.00 15.01 - 17.50 17.51 - 20.00
43 ประเด็นการพิจารณาท่ี 1.3 ผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องที่นำความรู้ไปใช้จนเห็น เปน็ ประจักษ์หรอื ตัวอย่างท่ีดี คา่ นำ้ หนักคะแนน 20 คะแนน คำอธิบาย พิจารณาจากผู้จบหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องต้ังแต่ 6 ชั่วโมงข้ึนไป ที่มีการนำความรู้จากการเข้ารับ การศึกษาต่อเนื่องของสถานศึกษาไปใช้สำหรับตนเอง ครอบครัว หรือชุมชน จนกระทั่งมีผลการดำเนินงาน ปรากฏให้เห็นเป็นประจักษ์ในพ้ืนที่ หรือมีผลการดำเนินงานอย่างต่อเน่ืองแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความย่ังยืน ทงั้ ทเี่ ป็นรายบุคคลหรือเปน็ รายกลุ่ม เกณฑก์ ารพิจารณา จำนวนผู้จบการศึกษาและ/หรือจำนวนกลุ่มผู้จบการศึกษาต่อเนื่องที่มีผลการดำเนินงานท่ีเห็นเป็น ประจกั ษ์ในพื้นที่ หรอื เป็นตัวอยา่ งทด่ี ี เปน็ ไปตามคา่ เป้าหมายทสี่ ถานศกึ ษากำหนด เกณฑก์ ารให้คะแนน 0 คะแนน = สถานศึกษาไม่มีผู้จบการศึกษาต่อเน่ืองท่ีมีผลการดำเนินงานท่ีเห็นเป็นประจักษ์ในพื้นท่ี หรือเปน็ ตวั อยา่ งทีด่ ี เป็นไปตามค่าเป้าหมายที่สถานศกึ ษากำหนด 1 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบการศึกษาต่อเน่ืองท่ีมีผลการดำเนินงานท่ีเห็นเป็นประจักษ์ ในพ้ืนท่ี หรือเป็นตัวอย่างท่ีดี ตำ่ กว่าค่าเปา้ หมาย มากกว่ารอ้ ยละ 50 ของคา่ เป้าหมายท่สี ถานศกึ ษากำหนด 2 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบการศึกษาต่อเนื่องท่ีมีผลการดำเนินงานที่เห็นเป็นประจักษ์ ในพ้นื ท่ี หรือเป็นตวั อยา่ งทีด่ ี ต่ำกวา่ ค่าเป้าหมาย แตไ่ ม่เกนิ ร้อยละ 50 ของค่าเป้าหมายท่สี ถานศกึ ษากำหนด 3 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบการศึกษาต่อเนื่องท่ีมีผลการดำเนินงานท่ีเห็นเป็นประจักษ์ ในพนื้ ท่ี หรอื เปน็ ตัวอย่างทดี่ ี เป็นไปตามค่าเป้าหมายทส่ี ถานศึกษากำหนด 4 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบการศึกษาต่อเนื่องที่มีผลการดำเนินงานท่ีเห็นเป็นประจักษ์ ในพืน้ ที่ หรอื เป็นตวั อยา่ งท่ีดี สูงกว่าค่าเปา้ หมาย แตไ่ มเ่ กินรอ้ ยละ50 ของค่าเปา้ หมายทสี่ ถานศึกษากำหนด 5 คะแนน = สถานศึกษามีจำนวนผู้จบการศึกษาต่อเน่ืองท่ีมีผลการดำเนินงานที่เห็นเป็นประจักษ์ ในพ้นื ท่ี หรือเป็นตัวอยา่ งท่ีดี สูงกวา่ คา่ เปา้ หมาย มากกว่ารอ้ ยละ 50 ของค่าเปา้ หมายที่สถานศึกษากำหนด การคำนวณคะแนนทีไ่ ด้เทียบกับค่าน้ำหนกั คะแนน และการเทียบกับเกณฑ์ระดับคณุ ภาพ 1. คำนวณคะแนนท่ไี ด้เทยี บกับค่านำ้ หนักคะแนน (คา่ นำ้ หนักคะแนน 20 คะแนน) จากสตู ร คะแนนทไี่ ด้ (จากเกณฑ์การให้คะแนน) X ค่านำ้ หนักคะแนน = คะแนนที่ได้ คะแนนเตม็ (จากเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน) 2. นำคะแนนท่ไี ดไ้ ปเทยี บกับเกณฑ์ระดับคุณภาพ ระดบั คุณภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลศิ ยอดเยย่ี ม 15.01 - 17.50 17.51 - 20.00 ช่วงคะแนน 0.00 - 9.99 10.00 - 12.50 12.51 – 15.00
44 มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจัดการเรยี นรู้การศกึ ษาต่อเน่ือง พิจารณาจากการจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาต่อเน่ืองของสถานศึกษา โดยสถานศึกษามีการจัดหา หรือจัดทำ หรือพัฒนาหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ืองท่ีสอดคล้องกับสภาพบริบท หรือความต้องการ หรือ ความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมายในชุมชน สังคม และเป็นไปตามนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด สำหรับนำไปใช้ ในการจัดการเรียนรู้ โดยวิทยากรท่ีมีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ตรงตามหลักสูตร มีการใช้ส่ือ และจัด สภาพแวดล้อมท่ีเอื้อตอ่ การจดั การศกึ ษาตอ่ เนื่อง มีการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกบั ผ้เู รียน และจดั ให้มี การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรูอ้ ยา่ งถูกต้อง น่าเชอ่ื ถือ โดยมปี ระเดน็ การพิจารณา จำนวน 5 ประเดน็ ดงั น้ี 1. หลักสูตรการศึกษาตอ่ เน่อื งมคี ุณภาพ 2. วิทยากรการศึกษาต่อเนื่องมีความรู้ ความสามารถ หรือประสบการณ์ตรงตามหลักสูตรการศึกษา ต่อเน่ือง 3. สือ่ ทเ่ี ออื้ ต่อการเรียนรู้ 4. การวัดและประเมินผลผูเ้ รยี นการศึกษาต่อเน่ือง 5. การจดั กระบวนการเรียนรู้การศึกษาต่อเน่อื งที่มีคณุ ภาพ
45 ประเดน็ การพิจารณาที่ 2.1 หลักสูตรการศึกษาต่อเนือ่ งมีคณุ ภาพ ค่าน้ำหนักคะแนน 4 คะแนน คำอธิบาย พิจารณาจากการดำเนินงานของสถานศึกษาท่ีมีการจัดหา จัดทำ หรือพัฒนาหลักสูตรการศึกษา ต่อเน่ือง ซ่ึงสอดคล้องกับสภาพบริบท หรือความต้องการ หรือความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมายในชุมชน สังคม และเป็นไปตามนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด โดยมีจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของการจัดเพ่ือการพัฒนา อาชีพ การพัฒนาทักษะชีวิต และการพัฒนาสังคมและชมุ ชน ซงึ่ ให้พิจารณาเฉพาะหลักสูตรท่ีมีหลักสูตร ตั้งแต่ 6 ช่ัวโมงขึ้นไป โดยมีองค์ประกอบของการจัดทำหลักสูตรครบถ้วน ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สถานศึกษา และได้รบั การอนุมตั ิจากผบู้ ริหารสถานศึกษา เกณฑ์การพิจารณา 1. สถานศึกษามีการศึกษาสภาพบริบท หรือความต้องการ หรือความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมาย ในชุมชน สงั คม และนโยบายของหน่วยงานต้นสังกดั เพื่อนำมาใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการจัดหา หรอื จัดทำ หรือพัฒนา หลกั สตู รการศึกษาตอ่ เนอ่ื งทกุ หลักสตู ร 2. สถานศึกษามีการจัดหา หรือจัดทำ หรือพัฒนาหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ืองทุกหลักสูตรท่ีมีองค์ประกอบ สำคัญครบถ้วน ซ่ึงอย่างน้อยต้องประกอบด้วย ความเป็นมา จุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย ระยะเวลา โครงสร้างหลกั สตู ร ส่อื การเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และเกณฑ์การจบหลกั สูตร 3. สถานศึกษาเสนอหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ืองทุกหลักสูตร ให้คณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณา ใหค้ วามเห็นชอบ และอนุมตั ิใช้โดยผบู้ รหิ ารสถานศึกษาก่อนนำไปใช้จัดกระบวนการเรียนรู้ 4. สถานศึกษามีการทบทวน หรือตรวจสอบ หรือประเมินการใช้หลักสูตรการศึกษาต่อเน่ืองทุกหลักสูตร หลังการนำไปใช้จัดกระบวนการเรียนรู้ 5. สถานศึกษามีการนำผลการทบทวน หรือตรวจสอบ หรือประเมินการใช้หลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง ทกุ หลักสตู ร มาใช้ในการปรบั ปรุง พัฒนาหลกั สูตร หรือกำหนดแนวทางในการปรับปรงุ พัฒนาหลกั สตู ร เกณฑก์ ารให้คะแนน 1. สถานศึกษาจะได้ 1 คะแนนต่อเกณฑ์การพิจารณา 1 ข้อ ต่อเม่ือสถานศึกษามีการดำเนินงานตาม เกณฑก์ ารพิจารณาแตล่ ะขอ้ ในทกุ หลกั สูตร คอื 1 คะแนน เม่อื สถานศกึ ษาสามารถดำเนินงานได้เปน็ ไปตามเกณฑก์ ารพจิ ารณา จำนวน 1 ขอ้ 2 คะแนน เมอ่ื สถานศกึ ษาสามารถดำเนนิ งานได้เปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 2 ขอ้ 3 คะแนน เมือ่ สถานศึกษาสามารถดำเนนิ งานได้เปน็ ไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 3 ข้อ 4 คะแนน เมอื่ สถานศึกษาสามารถดำเนนิ งานไดเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 4 ขอ้ 5 คะแนน เมื่อสถานศกึ ษาสามารถดำเนนิ งานไดเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์การพจิ ารณา จำนวน 5 ข้อ 2. หากสถานศึกษา มีการดำเนินงานเป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณาตามข้อใดก็ตาม แต่ไม่ครบ ทกุ หลักสูตร ให้ไดค้ ะแนนตามเกณฑ์การพิจารณาในข้อนัน้ ขอ้ ละ 0.5 คะแนน
46 การคำนวณคะแนนที่ได้เทียบกบั คา่ นำ้ หนกั คะแนน และการเทยี บกบั เกณฑ์ระดับคณุ ภาพ 1. คำนวณคะแนนท่ไี ด้เทียบกบั คา่ น้ำหนักคะแนน (ค่าน้ำหนกั คะแนน 4 คะแนน) จากสตู ร คะแนนทีไ่ ด้ (จากเกณฑ์การใหค้ ะแนน) X คา่ น้ำหนกั คะแนน = คะแนนทไ่ี ด้ คะแนนเตม็ (จากเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน) 2. นำคะแนนทไี่ ด้ไปเทยี บกับเกณฑ์ระดับคณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ กำลงั พฒั นา ปานกลาง ดี ดีเลิศ ยอดเยี่ยม ช่วงคะแนน 0.00 - 1.99 2.00 - 2.50 2.51 - 3.00 3.01 - 3.50 3.51 - 4.00
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265