Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปลูกใจรักษ์โลกปี3

ปลูกใจรักษ์โลกปี3

Published by 500bookchonlibrary, 2021-06-02 07:46:36

Description: ปลูกใจรักษ์โลกปี3

Search

Read the Text Version

99 โครงการสายลอ่ ฟ้า Top Ten Life ที่ปรึกษาโครงการ ยุพนิ ลนุ บง ทมี งาน รตั นาภรณ์ ขวญั ทอง กติ ติกร ประสมบรู ณ์ อาภัสรา ธรรมราช ศศธิ ร ก้อนสีลา

100

101 เราเปลยี่ น...โลกเปลยี่ น โครงการลกู เข่ืองในปลกู ใจรกั ษ์ปา่

102 การตั้งข้อสังเกตเมอ่ื เห็นปัญหาการทิง้ ขยะในพืน้ ที่ป่าของ โจ-้ พงศภ์ คั ศารามณ กับเพือ่ นๆ ยงั ไมไ่ ดน้ �ำ ไปสกู่ ารเปลย่ี นแปลงใดๆ หลงั กลบั จากเทย่ี วหมบู่ า้ นของ ทวิ -ภาณพุ งศ์ ธงศรี ในวนั นน้ั โจย้ งั คงเลน่ โซเซยี ลมเี ดยี ดว้ ยความสนใจ วนั ดคี นื ดเี หลอื บเหน็ เพจทถ่ี กู แนะน�ำ ในเฟซบกุ๊ โจจ้ งึ คลกิ เขา้ ไปในเพจของมลู นิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำ กดั (มหาชน) เพราะเห็นข่าวรบั สมคั ร เยาวชนท�ำ โครงการปลกู ใจรกั ษโ์ ลก ความสนใจผดุ บงั เกดิ พรอ้ มๆ กบั ภาพขยะในปา่ ขา้ งทาง เนอ่ื งจาก ตอนอยู่โรงเรียนก็ทำ�กิจกรรมในชุมนุมสิ่งแวดล้อม เคยมีประสบการณ์ในการทำ�กิจกรรมปลูกป่าใน ป่าเสื่อมโทรมมาบ้าง โจ้จึงหยิบยกเร่ืองดังกล่าวมาพูดคุยกับทิว เพื่อสอบถามความสนใจ เม่ือเพื่อน แสดงความสนใจ จงึ ระดมรายชอื่ เพอ่ื นๆ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 โรงเรยี นเขอื่ งในพทิ ยาคาร อ�ำ เภอเขอื่ งใน จังหวดั อบุ ลราชธานี ต้ังเปน็ กลมุ่ ลกู เขือ่ งใน เสนอโครงการลกู เข่อื งในปลูกใจรกั ษป์ า่ มด-วรรณลนิ ี ยอดบญุ พลอย-พชิ ญพรรณ บัญเจน อน้ -อรสา ครองยุติ ตกิ๊ -อไุ รวลั ย์ สภุ าพ ขมิ -นภสร บญุ โกศล อาร-์ อานนท์ ทองใบ และ โย-โยธนิ หมายมน่ั คอื ทมี งานทจ่ี ะรว่ มกนั ท�ำ โครงการ แมเ้ พอ่ื นบางคนยงั ไมร่ ชู้ ดั วา่ จะท�ำ อะไร แตด่ ว้ ยความทเี่ ปน็ เพอื่ นกนั เคยเรยี น เคยเลน่ และท�ำ กจิ กรรม รว่ มกนั มา จงึ เตม็ ใจเขา้ รว่ ม โจใ้ นฐานะโตโ้ ผใหญจ่ งึ ตอ้ งคอยอธบิ ายงานใหเ้ พอ่ื นๆ ฟงั ตามทต่ี นเองเขา้ ใจ พรอ้ มทง้ั รา่ งโครงการสง่ โดยมเี ปา้ หมายโครงการคอื ท�ำ ใหป้ า่ อดุ มสมบรู ณแ์ ละปลอดขยะ

103 โจเ้ ลา่ วา่ ตอนรวู้ า่ ไดร้ บั การสนบั สนนุ รสู้ กึ ดใี จมาก ขยะมาทง้ิ ทงั้ ตรงปากทางเขา้ ปา่ หรอื ขร่ี ถเขา้ ไปตามถนน แต่เม่ือเห็นเอกสารมีคำ�แนะนำ�ของกรรมการแทบจะ ท่ีตดั ผา่ นปา่ เพือ่ เอาขยะเข้าไปทง้ิ ในปา่ ทกุ บรรทดั สรา้ งความสะเทอื นใจใหก้ บั เขาเปน็ อยา่ งมาก เพราะยังไม่เข้าใจส่ิงท่ีกรรมการแนะนำ� จนกระท่ัง หมู่บ้านยางข้ีนกซึ่งทิวอาศัยอยู่ เป็นหมู่บ้านท่ีมี พี่ตอง-จริยา ตาทิพย์ เจ้าหน้าท่ีโครงการปลูกใจ อาณาเขตตดิ กบั ปา่ และใชป้ ระโยชนจ์ ากปา่ แตช่ าวบา้ น รักษ์โลกนัดหมายให้ไปร่วมอบรม จึงสอบถามว่าต้อง ในชุมชนไม่ได้มีการดูแลรักษาป่า แม้จะมีกฎระเบียบ ทำ�อย่างไร คำ�ตอบที่ได้ทำ�ให้โล่งใจคือ มาอบรมก่อน เก่ยี วกับป่า แต่ไม่ได้บังคับใช้อย่างจริงจัง ป่าจึงอยู่ใน แล้วค่อยปรับขอ้ เสนอโครงการ สภาพถูกปล่อยปละละเลยไร้คนดูแล “ก่อนไปอบรม พวกเราเตรียมตัวหาข้อมูลก่อน กจิ กรรมแรกของทมี งานคอื การส�ำ รวจขอ้ มลู ชมุ ชน เพราะคดิ ว่าตอ้ งน�ำ เสนอให้ดีทส่ี ุด ต้องพูดใหต้ ัวเองดดู ี รวบรวมประวัติความเป็นมาของป่า จากผู้รู้ในชุมชน ทีส่ ดุ ” ทิว เลา่ ถึงการเตรียมตัวเข้าค่าย ใชศ้ กั ยภาพของกลมุ่ ซง่ึ มปี ระสบการณใ์ นการท�ำ หนงั สน้ั จัดการถ่ายทำ�วิดีโอไปพร้อมๆ กับการเก็บข้อมูล โดย บรรยากาศในการอบรม ที่พๆี่ ช่วยกันซักถาม คาดหวังว่า จะนำ�วิดีโอไปฉายในค่ายที่จะจัดให้น้องๆ เพ่ือสร้างความเข้าใจในโครงการของกลุ่มเยาวชน แกนน�ำ แตล่ ะกลมุ่ ท�ำ ใหท้ มี งานเกดิ ความชดั เจนในเสน้ ทาง การทำ�งานของตนเองมากข้นึ ที่เคยหวาดหว่ันก็เร่มิ “ส�ำ รวจขอ้ มลู ครง้ั แรก พวกเราอดั วดิ โี ออยา่ งดี โดยให้ คลายใจ เพราะเหน็ สภาพเพอ่ื นกลมุ่ อน่ื วา่ ไมต่ า่ งกนั พลอยเปน็ พธิ กี ร ทค่ี ดิ ไวค้ อื เปน็ วดิ ที ศั นใ์ หท้ งั้ ผใู้ หญแ่ ละ การได้ทบทวนเป้าหมาย วัตถุประสงค์โครงการ เดก็ ดู ประเดน็ ทศ่ี กึ ษา เชน่ ปญั หาขยะในปา่ ความส�ำ คญั ท�ำ ให้ทมี งานเกดิ ความชัดเจนมากขน้ึ แตส่ ิ่งท่ีอยาก ของปา่ ท้ังด้านเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม และประวตั ิ เหน็ ยงั เหมอื นเดมิ คอื “ปา่ ดงสวนหมอ่ นอดุ มสมบรู ณ์ ของป่า เปน็ ต้น ท่ีแบง่ หวั ข้อเช่นน้ี เพราะตอนนั้นเราจะ และสะอาด” โดยสงิ่ ทจี่ ะท�ำ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายได้ คอื เอาขอ้ มลู มาท�ำ คา่ ย จงึ คดิ วา่ ตอ้ งเชอื่ มใหเ้ ดก็ เหน็ ความ การสร้างแกนนำ�เยาวชนเพ่ือดูแลป่าชุมชนจำ�นวน สำ�คัญของปา่ ผืนน”้ี ทวิ เลา่ 40 คน และผลกั ดนั ใหเ้ กดิ กตกิ าชมุ ชนในการรกั ษาปา่ ข้อมูลจากการไปสัมภาษณ์ชาวบ้านในหมู่บ้าน ฟ้ นื ความทรงจ�ำ...สู่ป่าท่ถี กู ลมื ยางขี้นก ทกุ คนตา่ งช้ีนิ้วออกจากตวั ตา่ งบอกวา่ ขยะที่ เหน็ อยขู่ า้ งทางเปน็ ขยะทคี่ นภายนอกน�ำ มาทง้ิ โดยไมม่ ี ป่าชุมชนบ้านยางขี้นก หรือป่าดงสวนหม่อน ใครยอมรับว่ามีส่วนในการท้ิงขยะในบริเวณดังกล่าว เป็นป่าชุมชนขนาดใหญ่ มีพ้ืนท่ี 157 ไร่ เป็นแหล่ง ท้ังๆ ท่ีเด็กๆ เคยเห็นชาวบ้านหิ้วขยะไปท้ิงระหว่าง หาอยู่ หากนิ ของชาวบา้ นบรเิ วณใกลเ้ คียงอาศยั หาเก็บ เดินทางไปนา แม้ข้อมูลท่ีได้รับกับความเป็นจริงจะ เห็ด แมลง และอาหารชนิดต่างๆ จากปา่ ผนื ปา่ ถูกแบง่ ไม่สอดคล้องกัน แต่ทีมงานไม่ได้โต้แย้งอะไร เพียงแต่ ออกเป็น 2 สว่ น คอื ส่วนท่ี 1 เปน็ ป่าช้าเก่าซึง่ ปล่อยให้ รับรู้และสัมผัสได้ถึงท่าทีของชาวบ้านต่อสถานการณ์ ตน้ ไม้ขึ้นเต็มที่ และสว่ นท่ี 2 เป็นส่วนทชี่ าวบ้านตกลง ปญั หา กนั วา่ จะแบง่ เปน็ พ้ืนท่ีท�ำ กิน ซึง่ ช่วงนนั้ มกี ารสนับสนนุ ใหช้ าวบา้ นปลูกหมอ่ น เลยี้ งไหม โดยพ้ืนทที่ ั้ง 2 ส่วนนี้ การจัดค่ายลูกเข่ืองในปลูกใจให้น้อง ผิดแผนไป มถี นนตัดผา่ นเขา้ ไปในป่า หลังจากนัน้ ไมน่ านชาวบ้าน จากท่ีก�ำ หนดไว้ เพราะเป็นชว่ งปดิ เทอม จงึ ไม่สามารถ ก็เลกิ ปลกู ต้นหมอ่ น และปลอ่ ยใหป้ ่ารกร้าง ผู้น�ำ ชุมชน ประสานงานกบั นอ้ งๆ ระดบั มธั ยมศกึ ษาจ�ำ นวน 20 คน จึงนำ�ต้นยูคาลิปตัสเข้ามาปลูกแทน และก็เร่ิมมีคนเอา จากโรงเรยี นเขอ่ื งในพทิ ยาคารได้ ทมี จงึ ปรบั แผนเปลย่ี น กลุ่มเป้าหมายเป็นน้องๆ จากโรงเรียนยางข้ีนก ซ่ึงทิว มีสายสัมพันธ์อันดีกับผู้อำ�นวยการ จึงอนุญาตให้ นกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3-6 เขา้ รว่ มทงั้ หมด เพราะ

104 แต่ละชัน้ มนี กั เรยี นไมม่ าก รวมแล้วจ�ำ นวน 28 คน รว่ มเรียนรปู้ ระวตั คิ วามเปน็ มาของป่า ความร้เู กยี่ ว กบั ปา่ และปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั ปา่ โดยทมี งานออกแบบกระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยการบรรยายสลบั กบั กิจกรรมสันทนาการ เพ่ือไม่ให้บรรยากาศน่าเบื่อ ซ่ึงก็ได้เพื่อนๆ จากอำ�เภอเชียงยืน จังหวัด มหาสารคาม ท่ีเป็นเครือข่ายกลุ่มเยาวชนในโครงการปลูกใจรักษ์โลกอาสามาช่วยทำ�กิจกรรม สนั ทนาการ “การบรรยายทเ่ี ปน็ เนอื้ หาความรู้ เราจะไมบ่ รรยายเองเพราะเราเองก็ไม่ไดม้ คี วามรมู้ ากขนาดนน้ั แต่ใช้วิดีโอ และเชิญพ่อทองใส ธงศรี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 มาให้ความรู้เร่ืองประวัติความเป็นมา สว่ นอาจารย์เสถยี ร ประกอบจนั ทร์ มาให้ความรูเ้ ร่ืองการเปลย่ี นแปลงของปา่ เพราะเปน็ คนคิดเอา ต้นยคู าไปปลูกในพน้ื ทร่ี กร้าง” โดยทีมงานส่วนหน่ึงทำ�หน้าท่ีเป็นพี่เล้ียงกลุ่ม ทิวและโจ้ช่วยสรุปเนื้อหาการเรียนรู้ของวิทยากร เป็นชว่ งๆ พร้อมน�ำ กระบวนการเรียนรโู้ ดยการฉายวดิ โี อเก่ยี วกับเรอ่ื งขยะ สถานการณ์ขยะในปัจจุบัน แลว้ ชวนนอ้ งพดู คยุ ถึงความรู้สกึ ความคิดเห็นต่อปญั หา และเพื่อประเมินผลการทำ�งาน โย บอกว่า หลังเสร็จจากค่าย พวกเขาสัมภาษณ์ตัวแทนน้อง 4 คนว่า น้องได้อะไรจากการเข้าค่ายครั้งนี้บ้าง น้องๆ ตอบว่า รักป่ามากข้ึน อยากดูแลป่า และ จะไม่ท้ิงขยะ นับได้ว่าการจัดค่ายของพวกเขาประสบความสำ�เร็จแล้วในระดับหน่ึง น่ันคือสามารถ ปลุกจิตสำ�นกึ รักป่าให้นอ้ งได้ ก่อร่างสร้างฐานกตกิ า เพราะอยากสรา้ งฐานใหน้ อ้ งๆ คดิ ได้ แตห่ ลงั จากจบคา่ ยทมี งานยงั ไมไ่ ดเ้ รม่ิ ท�ำ กจิ กรรมอะไร กับน้องๆ เพราะเป็นช่วงปิดเทอม จึงหันมาให้ความสำ�คัญกับการจัดประชุมในชุมชนแทน เพอ่ื ผลักดนั ให้เกดิ กติกาของชมุ ชน แมว้ า่ ชมุ ชนจะมีกตกิ าของชุมชนอยู่แล้ว แต่ก็เป็นทร่ี กู้ ันดีวา่ เปน็ กตกิ าทีค่ ดิ ขน้ึ มาโดยคณะกรรมการหมบู่ า้ นไม่กี่คน แล้วนำ�มาติดไวท้ ีศ่ าลากลางบา้ น แต่คน ในชุมชนไม่ได้รับรู้ การบังคับใช้กฎกติกาจึงไม่เกิดผล พวกเขาจึงคิดสร้างกติกาขึ้นมาใหม่ โดยเปน็ กตกิ าทชี่ าวบ้านทุกคนรว่ มกันคดิ โชคดีท่ีพ่อของทิวเป็นสารวัตรหมู่บ้าน และทิวเองก็มีบทบาทช่วยเหลืองานของชุมชนสม่ำ�เสมอ จึงเป็นที่รู้จักของคนในชุมชน การประสานขอเข้าร่วมประชุมหมู่บ้านเพ่ือนำ�เสนอผลการสำ�รวจของ เยาวชนจึงท�ำ ไดไ้ ม่ยาก ทีมงานจดั ท�ำ ใบปลิวและฝากผใู้ หญบ่ ้านประกาศเสยี งตามสายท้ังหมทู่ ี่ 2 และ หมทู่ ี่ 10 ซ่งึ มีพนื้ ทีต่ ิดตอ่ กนั เชิญชวนให้ชาวบา้ นมาประชุม ในขณะเดียวกนั นอ้ งๆ ทีเ่ คยมาเขา้ คา่ ยก็ เปน็ แรงงานชว่ ยแจกใบปลวิ ใหถ้ งึ มอื สมาชกิ ทกุ ครวั เรอื น พรอ้ มทงั้ ยงั เปน็ กระบอกเสยี งบอกเลา่ กจิ กรรม ทีไ่ ดท้ �ำ กับพๆ่ี ให้พอ่ แมผ่ ูป้ กครองได้รบั รู้ เวที “เว้าสู่กันฟัง แล้วกะนั่งโสเหล่” จึงมีสมาชิกจากท้ัง 2 หมู่บ้านเข้าร่วมจำ�นวน 67 คน จากจำ�นวนท้งั หมด 200 กว่าครัวเรอื น โดยชาวบา้ นสว่ นหนง่ึ ต้องไปรว่ มงานศพ รวมทัง้ เกดิ เหตกุ ารณ์ ไฟไหมบ้ า้ นในหมบู่ า้ น จ�ำ นวนของผู้เขา้ รว่ มทีเ่ กิน 1 ใน 3 จงึ เปน็ จ�ำ นวนทีท่ มี งานยอมรบั ได้

105

106 กระบวนการในเวที ทีมงานใชก้ ารสืบค้นข้อมลู ทิว เล่าบรรยากาศการมีส่วนร่วมของคนทุกวัยในการ ประวัติศาสตร์ชุมชนจากชาวบ้าน โดยจัดหมวดหมู่ ประชมุ พร้อมท้งั เสรมิ ถึงบทเรียนการท�ำ งานครงั้ นี้วา่ ตามชว่ งอายุของคนแตล่ ะรุน่ รวมท้งั นำ�เสนอข้อมลู ความส�ำ คญั ของปา่ ปญั หาขยะทพ่ี บเจอในปา่ ชมุ ชน “เนื่องจากผมกับอารไ์ มเ่ คยท�ำ งานด้วยกัน เลยยัง และเสนอแนวทางแก้ไข โดยมีทวิ เปน็ คนชวนพดู คยุ ไมร่ ทู้ างกนั อารจ์ บั ประเดน็ ไมไ่ ด้ ผมชวนชาวบา้ นคยุ อยู่ อารเ์ ปน็ คนจบั ประเดน็ ขณะทท่ี มี งานคนอน่ื ๆ ชว่ ยกนั หันไปจะสรุปเนื้อหา ปรากฏว่าไม่มีข้อมูลอะไรเลย ลงทะเบยี น ดแู ลอ�ำ นวยความสะดวก โดยมที มี งาน จึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เรียกโจ้ท่ีดูภาพรวมของ เสรมิ คอื กลมุ่ นอ้ งๆ ทเ่ี คยเขา้ คา่ ยเขา้ รว่ มประชมุ กนั งานมาช่วยจบั ประเดน็ แทน” ทิวเลา่ อย่างคึกคกั “ตอนน้ันจับประเด็นไม่ได้ พอทิวเรียกโจ้มาช่วย “เดก็ ๆ กระตอื รือร้นตลอด เราบอกวา่ เวทปี ระชุม กร็ สู้ กึ เหมอื นไมม่ หี นา้ ทต่ี รงนน้ั เลยไปชว่ ยเสริ ฟ์ น�ำ้ แทน” ไม่ต้องมากไ็ ด้ ขอตัวแทนแค่ 2 คนใหม้ าสะท้อนความ อาร์เลา่ แถมสารภาพว่า รู้สกึ ไมด่ ีทีช่ ว่ ยเพอ่ื นไมไ่ ด้ คิดเห็นว่าตอนพ่ีๆ จัดค่ายให้รู้สึกอย่างไร แต่น้องๆ ยกโขยงปั่นจักรยานมากันเต็มศาลา บางคนมาถึงแล้ว การประชมุ ระดมแนวคดิ เพอ่ื หาวธิ แี กป้ ญั หาขยะ ไมเ่ หน็ พอ่ แมต่ นเองเขา้ รว่ มประชมุ กป็ น่ั จกั รยานไปตาม และวิธีอนุรักษ์ป่าดงสวนหม่อน ได้หัวข้อหลักๆ ที่ ท่ีบา้ น เป็นบรรยากาศทท่ี �ำ ให้ผ้ใู หญร่ สู้ กึ ไดว้ ่า เดก็ ๆ มี ทีมงานส่งมอบให้คณะกรรมการของหมู่บ้านไป ความต่ืนตัวแบบน้ีแล้วผู้ใหญ่จะนิ่งเฉยได้หรือ แต่ก็ ดำ�เนินงานต่อ เพอ่ื ใหไ้ ด้กติกาของชมุ ชนทผี่ า่ นการ มขี อ้ เสยี คอื นอ้ งๆ พดู คยุ หยอกลอ้ กนั เสยี งดงั ไปหนอ่ ย” ท�ำ ประชาคมของหม่บู ้านทงั้ สองแห่ง

107 หลงั เปดิ เทอม ทมี งานกลบั ไปท�ำ กจิ กรรมรว่ มกบั นอ้ งๆ ทเ่ี คยมาเขา้ คา่ ย โดยชว่ ยกนั ท�ำ ปา้ ยรณรงค์ เพอ่ื ประชาสมั พนั ธไ์ มใ่ หช้ าวบา้ นน�ำ ขยะมาทง้ิ ในปา่ มพี ๆ่ี เปน็ คนรา่ งแบบ นอ้ งๆ ชว่ ยกนั ลงสี ขอ้ ความ บนปา้ ยทส่ี ะทอ้ นแนวคดิ การรณรงค์ เชน่ “บา้ นของฉนั คอื ถงั ขยะ” ทห่ี มายถงึ ขยะเปน็ คนพดู วา่ เขาไมค่ วร อยใู่ นป่า เขาควรอยูใ่ นถงั ขยะ อาร์ เลา่ “ขอร้องล่ะ ไปท้งิ มอ่ ง (ท)่ี อื่น” มด บอก ส่วนต๊กั เลา่ ด้วยความภาคภมู ิใจว่า ป้ายรณรงค์ที่เขาออกแบบ เปน็ การต์ ูนภาพเดก็ ผ้หู ญงิ ท่ใี ครๆ มองก็รูว้ า่ เป็นเธอ พรอ้ มข้อความออ้ นวอนว่า “อย่าทง้ิ ขยะนะคะ หนูขอร้อง” ปา้ ยรณรงคท์ งั้ 3 แผน่ ถกู น�ำ ไปตดิ ไวใ้ นบรเิ วณปา่ ทมี่ คี นมาทงิ้ ขยะ พรอ้ มๆ กบั ทที่ มี งานเหน็ ความเปล่ียนแปลงในการจัดการพ้ืนที่ของหมู่บ้านคือ ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้าน ท�ำ รั้วกนั้ พนื้ ทีป่ ่าไม่ใหค้ นเขา้ ไปทงิ้ ขยะ เราเปล่ยี น...โลกจงึ เปล่ียน การทำ�กิจกรรมได้ปลุกสำ�นึกภายในของทีมงาน และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนโดยเฉพาะ พฤตกิ รรมการทง้ิ ขยะของตนเอง “เราประกาศตวั วา่ เปน็ ผดู้ แู ลโลก พฤตกิ รรมของเราเรม่ิ เปลย่ี นแปลง เราอาจจะเคยทง้ิ ขยะไมเ่ ปน็ ท่ี พอเราท�ำ งานแบบน้ี กร็ สู้ กึ วา่ เราจะไปชวนใหค้ นอน่ื เขาเปลย่ี นแปลง แตเ่ รายงั มพี ฤตกิ รรมแบบเดมิ มนั ไมม่ ปี ระโยชน์ เรากต็ อ้ งเปลย่ี นพฤตกิ รรมตนเอง ไมก่ ลา้ ทง้ิ ขยะ ไมเ่ ปน็ ทีเ่ ป็นทาง รู้และตระหนักมากขน้ึ ว่าตอ้ งท�ำ อะไร อย่างไร” โจส้ ะทอ้ น

108

109 ขณะเดียวกันแต่ละคนก็เกิดทักษะในการทำ�งานจากการเรียนรู้ท่ีแตกต่างกันออกไป เช่น “หนูได้เรียนรู้การตอบคำ�ถาม การวิเคราะห์ข้อมูล หนูชอบมากเพราะได้ฝึกใช้สมองคิดวิเคราะห์ หาเหตผุ ล ทีน่ ำ�มาปรับใช้ในชีวติ ประจำ�วัน คอื หนเู ปน็ คนชอบเถยี ง แต่ตอนน้หี นฟู งั เพอ่ื นมากขน้ึ เอาสงิ่ ทีเ่ พื่อนพูดมาคดิ ด้วยเหตุผลวา่ เพือ่ นพูดถกู ไหม แลว้ ถา้ เพือ่ นถูกแลว้ หนูผดิ หนูก็ขอโทษ” ต๊ัก เล่าถึงมุมเรียนรู้ของตนเอง ท่ีเกิดข้ึนจากกระบวนการที่พ่ีๆ ใช้การตั้งคำ�ถามทีละข้ัน ถ้าตอบ ไมไ่ ด้ ไมใ่ หผ้ า่ น เหมอื นเลน่ เกม และถามทลี ะคน ใหต้ อบโดยไมซ่ �ำ้ กนั ซงึ่ เปน็ กระบวนการทท่ี �ำ ให้ ไดฝ้ ึกการคดิ วิเคราะห์และท�ำ งานอยา่ งเปน็ ขน้ั เปน็ ตอน “ตลอดโครงการพ่ีๆ จะกระตนุ้ ใหน้ ้องๆ แตล่ ะทมี ทำ� ใหด้ ีท่ีสุด โดยไมเ่ นน้ ทคี่ วามส�ำเรจ็ แตจ่ ะเน้นทีก่ ระบวนการท�ำงานและกระบวนการเรยี นรู้ ซ่ึงส่ิงน้ีทำ� ให้น้องๆ สบายใจท่ีจะบอกเล่าท้งั ความส�ำเรจ็ และไม่ส�ำเรจ็ อยา่ งตรงไปตรงมา” ส�ำ หรบั มดนน้ั การท�ำ งานครง้ั นที้ �ำ ใหเ้ ธอไดเ้ รยี นรบู้ ทบาทการเปน็ ผตู้ าม เพราะทผ่ี า่ นมาในการ ท�ำ กิจกรรมทกุ คร้งั เธอมกั เป็นผู้นำ� เม่อื ทำ�งานกับทวิ ทวิ มีภาวะผู้นำ�มากกวา่ เธอก็ไดร้ บั ความรสู้ ึก ของการเปน็ ผตู้ ามบา้ ง เมอ่ื กลบั ไปเปน็ ผนู้ �ำ อกี ครง้ั มดจงึ เขา้ ใจวา่ คนทเ่ี ปน็ ผตู้ ามเขารสู้ กึ อยา่ งไร แลว้ ยงั ได้เรียนรูก้ ระบวนการคิด การวางแผนการทำ�งานทีเ่ ปน็ ข้ันตอนมากขนึ้ มด ยังสะท้อนเพิ่มเติมว่า ความที่เป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่จึงค่อนข้างห่วงและ หวง ชวี ติ ทผ่ี า่ นมาของเธอจงึ ไมค่ อ่ ยไดไ้ ปไหนไกลๆ การท�ำ งานกบั เพอื่ นๆ ในครง้ั นเ้ี ปดิ โลกการเรยี น รู้เรอื่ งทกั ษะชีวิต ท่เี พือ่ นบางคนอาจเหน็ เปน็ เร่ืองงา่ ยๆ เปน็ เรอ่ื งปกติที่เขาทำ�กัน แตส่ �ำ หรับมด น้ันบางเรือ่ งเป็นสงิ่ ใหมท่ ไ่ี ดเ้ รยี นรูจ้ ากเพือ่ นๆ เช่น การไปกรงุ เทพฯ ซึ่งเปน็ การเดินทางไกลโดย ไมม่ ผี ใู้ หญไ่ ปดว้ ยครง้ั แรก การตอ้ งอยทู่ า่ มกลางคนแปลกหนา้ คนเดยี วครง้ั แรก “บางทโี จเ้ ขากส็ อน แต่เขาไมร่ ู้ตัวว่าเขาก�ำ ลงั สอนหนูอยู่ เชน่ การจองต๋วั รถทัวร์ หนไู ม่เคยรเู้ ลยว่าตอ้ งทำ�อย่างไร เพราะไม่ เคยเดินทางคนเดยี ว พอเห็นโจท้ ำ� จึงได้เรียนรู้ไปด้วย เปน็ ประสบการณ์ที่ดีมากๆ” ส�ำ หรบั โจแ้ ลว้ การท�ำ โครงการนค้ี อื กระบวนการเรยี นรทู้ แ่ี ปลกใหม่ เพราะตลอดโครงการพ่ีๆ จะ กระต้นุ ใหน้ ้องๆ แต่ละทมี ท�ำ ใหด้ ีทีส่ ดุ โดยไมเ่ น้นทค่ี วามสำ�เรจ็ แตจ่ ะเนน้ ทก่ี ระบวนการทำ�งาน และกระบวนการเรียนรู้ ซ่ึงส่ิงน้ีทำ�ให้น้องๆ สบายใจท่ีจะบอกเล่าทั้งความสำ�เร็จและไม่สำ�เร็จ อยา่ งตรงไปตรงมา โดยไมต่ อ้ งสรา้ งภาพหรอื โกหกวา่ ท�ำ งานส�ำ เรจ็ นอกจากนกี้ ารท�ำ งานกบั เพอื่ น ท�ำ ให้ได้เรียนรนู้ ิสยั ใจคอกันลึกซ้ึงมากขน้ึ จึงรจู้ กั รู้ใจกันมากขึ้นวา่ พฤติกรรมเช่นไรทเี่ พือ่ นชอบ หรอื ไม่ชอบ สิง่ นชี้ ่วยปรับความสัมพันธ์ระหวา่ งกัน ดา้ นทวิ ยนื ยนั ความรสู้ กึ ในแนวทางเดยี วกนั วา่ “โครงการนเ้ี ปน็ โครงการทด่ี มี าก ท�ำ ใหไ้ ดเ้ รยี นรู้ สอนใหเ้ ราไมโ่ กหกเหมอื นกบั ทโ่ี จพ้ ดู ทผ่ี า่ นมาทกุ โครงการทสี่ ง่ เขา้ ไปจะตอ้ งเปน็ โครงการทดี่ ที ส่ี ดุ เลิศเลออลังการงานสร้าง แต่ไม่ได้เปรียบเทียบว่ามันจะเป็นจริงไหม สามารถทำ�ได้จริงไหม

110 โครงการนี้ผมก็แปลกใจเหมือนกันตอนที่ไปค่ายคร้ังแรก มีกระบวนการให้เรา ได้เรียนรู้ นอนทำ�งานกล้ิงเกลือกอยู่ตรงน้ัน ทำ�ให้ความคิดของเราปลอดโปร่ง ความคดิ ของเราอาจจะเรม่ิ จาก 0 แล้วค่อยๆ ไป 1 ค่อยๆ เรียนรู้ แลว้ ยอ้ นกลับ มาดอู กี ทวี า่ ตอบหวั ขอ้ หลกั ของเราไดไ้ หม แลว้ ถา้ เราลงมอื ท�ำ จะเปน็ จรงิ ไดไ้ หม” นอกจากความชื่นชมกระบวนการเรียนรู้ของโครงการแล้ว ทวิ บอกวา่ การท�ำ งานครงั้ นท้ี �ำ ใหเ้ ขารจู้ กั จดั การอารมณข์ องตวั เอง จากคนอารมณร์ อ้ น ไม่ฟังใคร ก็เริ่มพูดน้อยลง รับฟังคนอื่นมากขึ้น และส่ิงสำ�คัญคือ การได้ แลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ บั เพอื่ นตา่ งกลมุ่ ท�ำ ใหเ้ หน็ รปู แบบวถิ ชี วี ติ ทห่ี ลากหลาย ทำ�ให้ย้อนกลับมาต้ังคำ�ถามในเรื่องเป้าหมายชีวิตของตนเองอย่างจริงจัง มากขึ้นวา่ อยากเรียนอะไร อยากเป็นอะไร “การไดเ้ หน็ โอกาสของเพอ่ื นๆ พๆ่ี ท�ำ ใหผ้ มไดย้ อ้ นมองวา่ เราตอ้ งตอบค�ำ ถาม ของชวี ติ วา่ เราจะท�ำ อะไร เพอื่ อะไร ท�ำ แลว้ เรามคี วามสขุ ไหม แลว้ เราจะสามารถ ทำ�ไปตลอดชวี ิตของเราได้ไหม” ทิว เล่าถึงหลักคิดในการกำ�หนดเป้าหมายชีวิต ที่แม้ตอนน้ียังไม่สามารถ ตอบตนเองได้ชัดเจน แต่กม็ หี ลักคดิ ในการพจิ ารณา จากค�ำ ถามเร่อื งราวของบ้านเพอื่ น นำ�มาสกู่ ระบวนการเรยี นรู้ร่วมกนั ของทมี งาน แมว้ า่ ไมใ่ ชบ่ า้ นของตนเอง แตท่ กุ คนเตม็ ใจทจ่ี ะชว่ ยใหบ้ า้ นของ เพอ่ื นสะอาดและอดุ มสมบูรณ์ การทำ�งานท่ที ำ�ใหส้ มั ผสั ถึงน�้ำ จติ น้ำ�ใจของ กันและกัน สานความสัมพันธ์ในกลุ่มให้แน่นเฟ้น ทักษะท่ีถูกพัฒนาเป็น ทักษะชีวิตช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ให้สามารถเอาตัวรอดในสังคม ปัจจุบัน การเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นกับตนเอง เป็นพลังขับเคลื่อนท่ีทำ�ให้ ตระหนักถึงความสำ�คัญของถ่ินเกิด แม้จะไม่ใช่บ้านเกิด แต่เมื่อพิจารณา ความเชอ่ื มโยงแลว้ ไมส่ �ำ คญั วา่ เปน็ ปา่ ของหมบู่ า้ นไหน กเ็ ปน็ ปา่ ของอ�ำ เภอ เขอ่ื งใน เปน็ ปา่ ของจงั หวดั อบุ ลราชธานที เ่ี ราอาศยั อยู่ เปน็ ปา่ ของประเทศไทย และเปน็ ปา่ ของโลก เปน็ บา้ นของเรา เปน็ โลกของเราทต่ี อ้ งชว่ ยกนั ดแู ลรกั ษา

111 โครงการลกู เขอ่ื งในปลูกใจรักษ์ปา่ ที่ปรกึ ษาโครงการ สุรพล ยะค�ำ ป้อ ทีมงาน ภาณุพงศ์ ธงศรี พงศ์ภัค ศารามณ พิชญพรรณ บัญเจน วรรณลินี ยอดบญุ อไุ รวลั ย์ สภุ าพ อรสา ครองยตุ ิ อานนท์ ทองใบ นภสร บุญโกศล โยธนิ หมายมน่ั

112

113 ปลูกปา่ ...ปลกู ใจ โครงการสลันปรเี ซราะแอง

114 “ความไมร่ ”ู้ เหตุผลส�ำ คญั ของการทำ�ลายทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม เมอ่ื ไมร่ ูจ้ ึงไม่เหน็ ความสำ�คัญ เมื่อไม่เห็นความสำ�คัญจึงไม่เห็นคุณค่า เมื่อไม่เห็นคุณค่าก็ไม่เห็นความจำ�เป็นท่ีจะต้อง รกั ษาสง่ิ นนั้ ไว้ จนเกิดเปน็ วงจรแห่งการทำ�ลายทเ่ี ห็นกันอยู่ในปัจจุบัน บนเนอ้ื ทป่ี า่ กวา่ 700 ไรใ่ นเขตต�ำ บลหนองปลอ่ ง อ�ำ เภอช�ำ นิ จงั หวดั บรุ รี มั ย์ ครอบคลมุ พน้ื ท่ี 4 หมบู่ า้ น ท่ีดนิ สว่ นหน่ึงถูกกนั ไวเ้ ปน็ ศนู ยเ์ พาะเลีย้ งเนื้อเยอ่ื พชื เน้ือท่ที ีเ่ หลืออกี ราว 170 ไร่เปน็ เขตป่าชุมชนท่ี รู้จักกันในชื่อ “ป่าชุมชนหนองผงาด” ป่าแห่งน้ีเป็นป่าสาธารณะประโยชน์ที่คนในท้องถิ่นสามารถ เขา้ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ตงั้ แตเ่ กบ็ เหด็ และพชื ผกั ไปท�ำ อาหาร กระทง่ั ตดั ไมอ้ อกมาใชใ้ นครวั เรอื น โดยไมม่ ี ระเบยี บควบคุม และส่วนใหญม่ แี ต่ใช้ มีเพยี งส่วนน้อยท่ีปลกู เพม่ิ เติม แต่ก็ไม่มกี ารดูแลฟืน้ ฟู ป่าทเ่ี คย เป็นท่หี าอยู่ หากนิ จึงเรม่ิ หมดความหมาย “รูส้ กึ อากาศร้อนมาก แลว้ ก็รอ้ นขึน้ กวา่ เมื่อกอ่ น ไดย้ ินผูใ้ หญ่บอกวา่ อากาศไม่เคยร้อนและแลง้ ขนาดน”้ี ก๊ิก-สกุ ัญญา ยะแสง เล่าถึงสงิ่ ทเ่ี ธอสงั เกตและสัมผสั ได้จากส่งิ แวดลอ้ มรอบตวั สลันปรเี ซราะแอง สลนั ปรีเซราะแอง เป็นภาษาเขมรซึ่งเปน็ ภาษาถ่ินของชมุ ชน มคี วามหมายอยา่ งตรงไปตรงมาวา่ รกั ษ์ป่าบา้ นเกิด

115 กก๊ิ เลา่ ถงึ จดุ เรมิ่ ตน้ วา่ เธอรสู้ กึ วา่ อยากท�ำ กจิ กรรม เรยี นรู้เพ่ือทำ� ความเขา้ ใจ ท่ีสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนบ้าง เมื่อครูมน-ถวัลย์ พอกประโคน ท่ีปรึกษาโครงการและครูประจำ� “ป่าก็คือป่า ก็แค่นั้น” ออย-ธิดารัตน์ ร่วมชาติ โรงเรียนบ้านตาเหล็ง ให้ลองศึกษารายละเอียด อกี หนึ่งแกนนำ�เยาวชน เอย่ ข้นึ โครงการปลูกใจรักษ์โลก เธอเลยลองคิดโครงการส่ง เข้าไป แต่การอบรมเชิงกระบวนการของพี่เลี้ยงโครงการ ปลกู ใจรกั ษโ์ ลกพาพวกเขาเรยี นรวู้ า่ กอ่ นจะท�ำ โครงการ ขณะทีค่ รมู น บอกว่า เหตผุ ลทอ่ี ยากให้เด็กๆ ทำ� อะไรก็ตามต้องมีความรู้ก่อน เม่ือจะทำ�โครงการ โครงการนี้ เนอ่ื งจากสนใจงานพฒั นาชมุ ชนเปน็ ทนุ เดมิ เก่ยี วกับปา่ ก็ตอ้ งรจู้ กั ป่าก่อน และเล็งเห็นถึงพิษภัยของการพัฒนาแบบไม่ยั่งยืนท่ี สร้างความเสยี หายตอ่ ชุมชนทอ้ งถ่ิน โดยเฉพาะปญั หา พวกเขาจงึ ตง้ั ตน้ ดว้ ยการเขา้ ไปส�ำ รวจเสน้ ทางและ การไลถ่ างผนื ปา่ ใชป้ ลกู พชื เศรษฐกจิ หากมโี ครงการหรอื เก็บข้อมูลพรรณไม้ในป่าชุมชน รวมท้ังพูดคุยกับผู้เฒ่า กิจกรรมอะไรที่จะช่วยให้ป่าบ้านเราดีข้ึน เธอจึงยินดี ผู้แก่ท่เี คยเข้าไปใชป้ ระโยชน์จากปา่ 30 คน โดยใช้เวลา สนบั สนนุ เตม็ ที่ ซงึ่ เหตผุ ลที่เลอื กกกิ๊ เขา้ มาเปน็ แกนน�ำ ทง้ั หมด 2 วนั ผลทไ่ี ด้จากการส�ำ รวจเส้นทาง คอื แผนที่ คอื กก๊ิ มภี าวะความเปน็ ผนู้ �ำ เปน็ เดก็ วา่ นอนสอนงา่ ย ป่าชุมชนหนองผงาดท่ีกลุ่มแกนนำ�เยาวชนบรรจงวาด และมคี วามรบั ผดิ ชอบ เปน็ ประธานนกั เรยี นโรงเรยี น กับมือ และข้อมูลท่ีได้จากการแลกเปล่ียนกับผู้ใหญ่ใน เตบิ โตมาทา่ มกลางครอบครวั และเครอื ญาตทิ ท่ี �ำ งาน ชมุ ชน คอื แตเ่ ดมิ ปา่ แหง่ นม้ี สี ตั วแ์ ละพชื ทอ้ งถนิ่ ชนดิ ใด ด้านการปกครองส่วนท้องถ่ิน คุณสมบัติของกิ๊กจึง บ้าง ส่ิงมีชีวิตใดท่ีสูญพันธุ์ไปแล้ว และส่ิงใดยังมีอยู่ เหมาะสมที่จะเป็นตัวต้ังตัวตีในการชักชวนเพื่อนๆ รวมทง้ั ประวตั ขิ องปา่ ชมุ ชนผนื นท้ี เ่ี คยเปน็ ปา่ ชา้ มากอ่ น ในชุมชนใหม้ าท�ำ โครงการรว่ มกนั “ถา้ รแู้ ตแ่ รกวา่ เปน็ ปา่ ชา้ เกา่ พวกเราคงไมก่ ลา้ เดนิ เมือ่ ได้รบั ความไว้วางใจจากครใู ห้เป็นโตโ้ ผชักชวน เขา้ ไปสำ�รวจ” ออย กล่าวตดิ ตลก เพอ่ื นๆ ก๊ิก ใช้วธิ ีชกั ชวนคนทส่ี นทิ กนั กอ่ น ด้วยคดิ ว่า น่าจะพูดคุยได้ง่ายกว่า ด้วยเหตุน้ีแกนนำ� 10 คนแรก แต่สิ่งสำ�คัญท่ีสุดท่ีพวกเขาได้รู้และเห็นด้วยตา ของกลุ่มจึงเป็นคนคุ้นเคยท้ังเพ่ือนในโรงเรียนและ ตวั เองคอื ภาพปา่ แหง้ แลง้ ผนื ดนิ แหง้ เหอื ด และจ�ำ นวน ต่างโรงเรียน รวมท้งั กลมุ่ เดก็ และเยาวชนในชมุ ชนทีอ่ ยู่ ตน้ ไมโ้ หรงเหรง ไมไ่ ดด้ หู นาแนน่ อยา่ งทเี่ หน็ ในระยะไกล ในละแวกเดียวกนั ทราย-รัตนากร พวงมาลัย บอกว่า สิ่งที่ได้เห็น ด้วยสภาพความแห้งแล้งในชุมชน และปัญหา คลายความสงสยั และท�ำ ใหเ้ ขา้ ใจไดว้ า่ เพราะอะไรอากาศ ขาดแคลนนำ้�กินนำ้�ใช้ คือโจทย์ท่ีกลุ่มเยาวชนเมล็ด จึงร้อนขึ้นทุกวันๆ นอกจากน้ี คำ�บอกเล่าจากปากของ พนั ธดุ์ รี กั ษบ์ า้ นเกดิ ใชท้ �ำ โครงการสลนั ปรเี ซราะแอง ผเู้ ฒา่ ผแู้ กย่ งั ย�้ำ ใหร้ ถู้ งึ สาเหตทุ แ่ี ทจ้ รงิ ทที่ �ำ ใหต้ น้ ไมใ้ น ทมี่ เี ปา้ หมายคอื การอนรุ กั ษแ์ ละฟน้ื ฟปู า่ ดว้ ยคดิ วา่ ป่าชุมชนลดลงอยา่ งรวดเร็ว นนั่ คอื 1. มีการลกั ลอบ ป่าที่อุดมสมบูรณ์จะช่วยสร้างความชุ่มชื้นและเป็น ตดั ไมใ้ หญอ่ อกไปใชง้ านและเอาไปขาย 2. เมอ่ื ตน้ ไมล้ ด แหล่งเกบ็ กักนำ�้ ตามธรรมชาติทดี่ ที ่ีสุด ลงความแห้งแล้งก็ตามมา ส่งผลให้พืชพรรณที่ไม่ทน ความแห้งแล้งตายลง ลดจำ�นวนจนสูญพันธุ์ไปในที่สุด ปัญหาคือ พวกเขาแทบจะไม่รู้จักป่าชุมชนเลย 3. ขยะท่ีชาวบ้านนำ�ไปทิ้งในป่า ทับถมจนทำ�ให้ต้นไม้ แมแ้ ตน่ ้อย!!! ไม่สามารถเตบิ โตได้

116 นอกจากน้ี การส�ำ รวจขอ้ มลู ยงั ท�ำ ใหก้ ลมุ่ เยาวชนรอู้ กี วา่ ชาวบา้ นบางกลมุ่ รวมตวั กนั ปลกู ปา่ ตอ่ เนอ่ื ง ทุกปี แตไ่ ม่มีการจดั เวรเขา้ มาดูแล ต้นกล้าท่ีรอดตายเติบโตข้นึ มาเปน็ ต้นไม้ใหญ่ไดจ้ ึงเหลอื ไมม่ ากนกั “ไดไ้ ปเหน็ สภาพปา่ ดว้ ยตาตวั เองแบบนน้ั ท�ำ ใหเ้ รายอ้ นนกึ ไปสมยั เรยี นมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ เขา้ ใจ เจตนารมณข์ อง ผอ.สญั ญา เสาวกลู ผอู้ �ำ นวยการโรงเรยี นวดั ตาเหลง็ เลยวา่ ท�ำ ไมทา่ นถงึ พยายาม ปลกู ฝงั ใหน้ กั เรยี นปลกู ตน้ ไมใ้ นโรงเรยี น แลว้ แบง่ เวรเขา้ มารดน�ำ้ ใสป่ ยุ๋ ตอนนน้ั ขเ้ี กยี จไมอ่ ยากท�ำ ไมเ่ หน็ ประโยชนว์ ่า ผอ.จะบงั คับให้ทำ�ไปท�ำ ไม เพราะเราไมร่ ู้ แต่ตอนนีร้ แู้ ละเข้าใจแล้ว” กก๊ิ สะท้อนความรูส้ กึ ป่าเป็นเร่อื งของทุกคน โครงการสลนั ปรเี ซราะแอง มงุ่ หวงั อยากใหค้ นในทอ้ งถน่ิ เขา้ ใจสถานการณป์ ญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม ในชุมชนและเต็มใจร่วมดูแลฟื้นฟูผืนป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น นำ�มาสู่การจัดเวทีสร้าง ความเขา้ ใจกับชาวบ้าน และจัดกิจกรรมการปลกู ป่า ทัง้ น้กี ลุม่ เยาวชนยังวางแผนระยะยาวให้เดก็ และ เยาวชน รวมทงั้ ผใู้ หญใ่ นชมุ ชนใสใ่ จเขา้ ไปดแู ลตน้ ไมท้ ป่ี ลกู และใหค้ วามรว่ มมอื ไมต่ ดั โคน่ ตน้ ไมใ้ หญอ่ กี “ตอนนป้ี า่ ของเราลดนอ้ ยลงไปมากแลว้ ขอเชญิ ชวนพอ่ แมพ่ น่ี อ้ งมารว่ มฟงั เสวนาและรว่ มกนั ปลกู ปา่ ” เสียงน้ดี ังขนึ้ จากหอกระจายเสียง สง่ ขา่ วสารไปทัว่ ท้ัง 4 หมบู่ ้านในต�ำ บลหนองปล่อง วันละไมต่ ำ่�กว่า 2 คร้งั โดยขอความรว่ มมือจากผ้ใู หญบ่ ้านทง้ั 4 หมู่ โชคดที ผี่ ู้ใหญ่บ้านทุกหมูเ่ ขา้ ใจและให้ความรว่ มมือ “เราเขา้ ไปอธบิ ายใหผ้ ใู้ หญบ่ า้ นฟงั วา่ เราจะท�ำ อะไร เพอ่ื อะไร พอดชี ว่ งนน้ั แตล่ ะคนในกลมุ่ ยงุ่ กนั มาก จากท่วี างแผนว่าจะไปประกาศเสยี งตามสายแบบสดๆ ดว้ ยตัวเองทกุ วนั ตอ้ งใช้วธิ ีอดั เสยี ง แล้วนำ�ไป ให้หอกระจายเสียงแตล่ ะหมู่บ้านแทน” ออย เล่า นอกจากการประกาศผ่านหอกระจายเสียงแล้ว กลุ่มเยาวชนยังใช้วิธีประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่าน เฟซบุ๊ก เพือ่ ชักชวนกลมุ่ เด็กเยาวชนในชมุ ชนด้วย แต่แกนนำ�เยาวชนยนื ยนั วา่ วิธีท่ีดีท่สี ดุ คือการเดนิ เขา้ ไปพบปะพดู คยุ ตามบา้ นเรอื น เพราะการสอ่ื สารแบบตวั ตอ่ ตวั สรา้ งความคนุ้ เคยและความประทบั ใจ ได้มากกว่า การทำ�กิจกรรมร่วมกับคนในชุมชนต้องคำ�นึงถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนเป็นหลัก เช่น ชาวบา้ นต�ำ บลหนองปลอ่ งใน 4 หมบู่ า้ นทอี่ ยตู่ ดิ ปา่ ชมุ ชน ชาวบา้ นสว่ นใหญต่ อ้ งออกไปท�ำ นา ท�ำ เกษตร หาเลีย้ งชพี เมอ่ื เป็นเชน่ นี้จากเดิมทก่ี ลมุ่ แกนนำ�เยาวชนวางแผนท�ำ กิจกรรม 2 วัน จึงลดลงเหลือเพยี ง 1 วัน โดยจดั เวทีสรา้ งความเขา้ ใจในชว่ งเชา้ และลงมอื ปลูกปา่ ในช่วงบา่ ย ทมี แกนนำ�เยาวชน บอกว่า ประโยชน์จากการเก็บข้อมลู ป่าชุมชนอยา่ งครอบคลมุ ทง้ั เร่ืองประวัติ พนั ธไ์ุ ม้ และปญั หาทเ่ี ขา้ ไปเหน็ ดว้ ยตาตวั เอง เปน็ หลกั ฐานชน้ั เยยี่ มทชี่ ว่ ยใหก้ ารสอื่ สารสรา้ งความเขา้ ใจ กบั คนในชุมชนไดช้ ดั เจนและงา่ ยมากขึ้น “ถา้ จๆู่ เราเขา้ ไปบอกใหเ้ ขาท�ำ โนน่ น่ี โดยไมม่ ขี อ้ มลู หรอื หลกั ฐานมาชแ้ี จง ยงั ไมต่ อ้ งถงึ ขนั้ ท�ำ ตาม ทเ่ี ราบอกหรอก แค่ฟงั เขายงั ไมฟ่ ังเลย แตค่ วามจริงทีไ่ ดไ้ ปเหน็ และข้อมูลจากการสำ�รวจ จะทำ�ให้ เขาฟังเรา ส่วนจะร่วมมือหรือเปล่ากอ็ ีกเรอ่ื งหน่งึ ” กกิ๊ กล่าว

117

118 กลา้ ไมจ้ �ำ นวน 600 ตน้ ทกี่ ลมุ่ แกนน�ำ เยาวชนตดิ ตอ่ ปลกู ป่าตอ้ งเริม่ ท่ีใจ ขอจากสถานเี พาะช�ำ กลา้ ไมล้ ะหานทราย จงั หวดั บรุ รี มั ย์ ถูกเตรียมไว้เป็นเพ่ืองานนี้ แม้ช่วงเช้าจะมีคนในชุมชน เม่ือกิจกรรมปลูกป่าผ่านไป สิ่งที่ต้องทำ�ต่อคือ มาร่วมเวทีเสวนาน้อยกว่าท่ีคิด แต่กิจกรรมลงแรงช่วง การติดตามผลเพ่ือให้ม่ันใจว่า ต้นกล้าจะอยู่รอดแล้ว บา่ ยทบี่ อกใหแ้ ตล่ ะบา้ นเอาจอบเอาเสยี มมาเอง กลบั มี เตบิ โตไดจ้ รงิ แตด่ ว้ ยสภาพความแหง้ แลง้ อนั เกดิ จากฝน คนมาเข้ารว่ มราว 150 คน ไมม่ ากไมน่ อ้ ย แตน่ า่ พอใจ ทไ่ี มต่ กตอ้ งตามฤดกู าล เปน็ ปจั จยั นอกเหนอื การควบคมุ ต้นกลา้ หลายรอ้ ยตน้ ทป่ี ลกู ไว้ จึงคอ่ ยๆ ตายลงในที่สดุ กลา้ ไม้ 600 ตน้ อาจมากเกนิ ไปส�ำ หรบั คน 150 คน กับระยะเวลาปลูกเพียงแค่ไม่ก่ีช่ัวโมง กลุ่มแกนนำ� “เห็นแล้วใจหายมาก ต้นกล้าเหลือแค่ 30 ต้น เยาวชนจงึ แบง่ ปนั ตน้ ไมใ้ หช้ าวบา้ นน�ำ ไปปลกู ทบ่ี า้ นของ แต่ยงั ดกี วา่ ไม่เหลอื รอดเลย” กก๊ิ เอย่ ข้นึ ตวั เอง เพ่อื ให้คนในชุมชนมีกิจกรรมทเ่ี ก่ียวข้องกับการ ปลูกปา่ ไปท�ำ ตอ่ ทบี่ า้ น เปน็ การ “เชอ่ื มโยง” ความรู้สกึ ทราย เสรมิ วา่ จากสภาพภมู อิ ากาศทเ่ี ปลยี่ นแปลง และความผกู พนั กบั ตน้ ไม้ในป่าทแ่ี ตล่ ะคนปลูก ไปทกุ ปี ไมส่ ามารถคาดเดาได้ พระครเู จา้ อาวาสวดั ตาเหลง็ จงึ แนะน�ำ ใหห้ าเมลด็ พนั ธไ์ุ มท้ เี่ หมาะสมกบั ปา่ เขา้ ไปโรย “ธรรมชาตขิ องชาวบ้านหรอื แม้แต่เด็กๆ ถ้าใหเ้ ขา ในพ้ืนท่ี เม่อื ใดที่ฝนตก เมลด็ พันธทุ์ ่มี ีความพร้อมก็จะ มานั่งฟังบรรยายเขาไม่ชอบ แต่ถ้าให้ลงมือทำ�พวกเขา เตบิ โตงอกงามขน้ึ มาได้ และมคี วามแขง็ แรง เนอื่ งจากมี เตม็ ท่ี การประชาสมั พนั ธผ์ า่ นหอกระจายเสยี งย�ำ้ ๆ ซ�ำ้ ๆ รากแก้วท่หี ย่ังลึกได้มากกวา่ ชว่ ยไดเ้ ยอะ เมอ่ื กอ่ นชาวบา้ นไมส่ นใจปา่ เลย แตห่ ลงั จาก ประชาสัมพันธ์ แล้วมีกิจกรรมปลูกป่า คนก็เร่ิมพูดถึง นอกจากการปลูกกล้าและบ่มเพาะเมล็ดพันธ์ุแล้ว และกระตอื รอื รน้ ที่จะท�ำ กจิ กรรมกับปา่ มากขน้ึ ” ครูมน การรกั ษาตน้ ไมใ้ หญใ่ หค้ งอยเู่ ปน็ สงิ่ ทต่ี อ้ งจดั การเชน่ กนั กล่าว การบวชป่าจึงเป็นกิจกรรมท่ีกลุ่มเยาวชนเมล็ดพันธ์ุดี รกั ษบ์ า้ นเกดิ วางแผนท�ำ ตอ่ ไป ดว้ ยเชอ่ื วา่ การบวชปา่ เปน็

119 เรอ่ื งพธิ กี รรมความเชอ่ื ทช่ี าวบา้ นมคี วามเชอ่ื เรอ่ื งพวกนอ้ี ยแู่ ลว้ เขากจ็ ะไมก่ ลา้ ตดั ไม้ กลา่ วได้วา่ กจิ กรรมเหล่านี้เป็น “กศุ โลบาย” ทที่ �ำ ใหเ้ ด็กและเยาวชน รวมทง้ั คนในชมุ ชนได้ มีโอกาสเขา้ ไปรู้จกั และสมั ผสั กับป่า ผา่ นการลงมือทำ� สงิ่ ท่เี กดิ ขึน้ ตามมาคอื ความผูกพนั และ ความหวงแหนไม่อยากให้ใครมาทำ�ลายป่าของตน นอกจากน้ี แกนน�ำ เด็กและเยาวชนไดข้ อความรว่ มมอื จากชาวบา้ นว่า หากใครเห็นคนมาลักลอบ ตัดไม้ให้ช่วยกันตักเตือนหรือไม่ก็มาแจ้งผู้นำ�ชุมชน คล้ายเป็นการวางระเบียบในชุมชนแบบไม่เป็น ลายลกั ษณ์อักษร โดยใชใ้ จซือ้ ใจกัน โครงการสลนั ปรีเซราะแองยงั เดนิ หน้าตอ่ ไป ทา่ มกลางความเปลยี่ นแปลงทีเ่ กิดขนึ้ ในกลมุ่ แกนนำ� เน่ืองจากแกนนำ�เด็กและเยาวชนอย่างก๊ิก ออย และทราย ต้องออกไปศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา นอกชมุ ชน ท�ำ ใหก้ ระทบตอ่ การท�ำ งานในภาพรวมของกลมุ่ แมว้ า่ กกิ๊ จะพยายามปลกุ ปน้ั แกนน�ำ รนุ่ ใหม่ อยา่ ง ยุ้ย-ศริ ิวรรณ โนนกระโทก และ อ๋วิ -อารีรัตน์ แก้วโศก ใหม้ ารบั ช่วงตอ่ แตย่ ุ้ยและอว๋ิ ก็เพงิ่ เข้ามารว่ มโครงการได้ไมน่ าน จึงยังไมม่ ีความมนั่ ใจและยงั ไม่เขา้ ใจวธิ ีการคดิ ดแู ลจดั การปา่ อย่างลกึ ซึ้ง ก๊ิก วิเคราะห์ข้อบกพร่องในการทำ�งานของตัวเองว่า สาเหตุของปัญหาส่วนหน่ึงเกิดขึ้นจาก ตวั เองทใี่ ชว้ ธิ กี ารชกั ชวนแกมบงั คบั ดงึ เพอ่ื นๆ ใหเ้ ขา้ มาท�ำ กจิ กรรมในตอนตน้ โดยไมไ่ ดอ้ ธบิ าย ถึงท่ีมาท่ีไปและประโยชน์ท่ีจะเกิดข้ึนให้สมาชิกคนอ่ืนๆ เข้าใจตั้งแต่แรก ท้ังยังไม่ได้ติดต่อ ประสานงานกบั กลมุ่ สมาชกิ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง เมอ่ื ท�ำ โครงการไปไดร้ ะยะหนงึ่ สมาชกิ แกนน�ำ บางคน จงึ เริ่มถอนตวั ออกไป จนเหลือแกนน�ำ เพียงไมก่ ี่คนที่ยงั ทำ�งานรว่ มกนั อย่จู นถงึ ปจั จบุ ัน “ใครอยากท�ำ หรอื ไมอ่ ยากท�ำ เราบงั คบั เขาไมไ่ ด้ แตส่ ง่ิ ทเ่ี ราท�ำ ได้ คอื สรา้ งความเขา้ ใจตง้ั แตแ่ รกวา่ กจิ กรรมทเ่ี ราชกั ชวนไปท�ำ มปี ระโยชนต์ อ่ ตวั เขา คนรอบขา้ ง และชมุ ชนอยา่ งไร เพอ่ื ใหแ้ ตล่ ะคน ตดั สนิ ใจเองวา่ อยากอาสามาท�ำ กจิ กรรม และรบั ผดิ ชอบงานรว่ มกนั หรอื เปลา่ ถา้ เขาอาสากด็ งึ เขา้ มามสี ว่ นร่วมตามทเี่ ขาถนดั ” ก๊กิ กลา่ วถงึ บทเรียนที่ได้รับ “ทีมแกนนำ� เด็กและเยาวชน ยนื ยนั ชดั เจนว่า การได้มีโอกาสเขา้ ไป ทำ� ความรจู้ กั กบั ป่า จนเขา้ ใจสถานการณ์ปัญหาตามความเปน็ จริง ตลอดจนความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มเดก็ และเยาวชนกบั ผู้ใหญ่ในชุมชน ชว่ ยปลกู จติ ส�ำนกึ ใหเ้ กิดความรกั และหวงแหนป่าอยา่ งไมร่ ู้ตัว” “คุณคา่ ” จากการลงมือทำ� ทีมแกนนำ�เด็กและเยาวชน ยืนยันชัดเจนว่า การได้มีโอกาสเข้าไปทำ�ความรู้จักกับป่า จน เขา้ ใจสถานการณป์ ญั หาตามความเปน็ จรงิ ตลอดจนความรว่ มมอื กนั ระหวา่ งกลมุ่ เดก็ และเยาวชน กบั ผ้ใู หญ่ในชมุ ชน ช่วยปลกู จิตส�ำ นกึ ใหเ้ กดิ ความรกั และหวงแหนป่าอย่างไมร่ ูต้ ัว “ถ้าไม่มาทำ�โครงการน้ี ก็ไม่เคยคดิ ถงึ ป่า ไมเ่ ห็นคณุ ค่า และไม่มีทางใหค้ วามสำ�คัญกบั ป่า” กก๊ิ ยอมรบั

120 นอกจากน้ี กก๊ิ ยงั สะทอ้ นวา่ กระบวนการเรยี นรทู้ เ่ี กดิ ขน้ึ ระหวา่ งท�ำ โครงการ ทำ�ให้เธอซ่ึงมีทักษะการประสานงานกับผู้คนดีอยู่แล้ว ได้พัฒนาทักษะการ สอ่ื สารดา้ นการเขยี นใหด้ ยี งิ่ ขนึ้ ทงั้ ยงั สามารถน�ำ มาใชก้ บั การเขยี นโครงงาน ในห้องเรียนได้อีกด้วย เมื่อก่อนเวลาเขียนโครงงานก็จะเขียนแค่พอผ่านๆ ไม่ไดใ้ ส่ใจ แตห่ ลังจากได้เขา้ อบรมกบั พเ่ี ลย้ี งโครงการ รเู้ ลยว่าเราตอ้ งรับผดิ ชอบ ต่อทกุ ๆ ค�ำ ท่ีเขยี นลงไป เมอ่ื กอ่ นเคยคิดวา่ ยาก ตอนนี้รู้แลว้ ว่าทีม่ นั ยาก เพราะ ไมไ่ ดค้ ดิ จะทำ�จรงิ จัง ส่วนออย เคยต้ังคำ�ถามก่อนมาทำ�กิจกรรมนี้ว่า “ในเมื่อมีป่าอยู่แล้วจะ ปลกู อกี ท�ำ ไม?” กระทงั่ ไดเ้ หน็ ดว้ ยตาตวั เองจงึ เกดิ ความตระหนกั วา่ “ไมป่ ลกู ไม่ได้” สาเหตทุ ตี่ อ้ งปลูกก็เพ่ือใหม้ ีต้นไม้ มปี ่าอยตู่ ่อไปจนถงึ ร่นุ ลกู หลาน “เราเหน็ คณุ คา่ ของปา่ กต็ อนทไ่ี ดข้ ดุ ดนิ แลว้ ปลกู ตน้ กลา้ แตล่ ะตน้ ดว้ ยมอื ของเราเอง” ทราย กล่าวย้ำ� ทง้ั น้ี ทราย ยงั บอกอกี วา่ การเขา้ มาท�ำ โครงการท�ำ ใหเ้ ธอและเพอ่ื นๆ ในทมี มีความใกล้ชิดและสนิทสนมกันมากข้ึน “สำ�นึกเกิดข้ึนเพราะเราไม่ทิ้งกัน ถา้ ใครคนใดคนหนึง่ มา ที่เหลอื ก็ต้องมาช่วย ยกเว้นจะตดิ ธรุ ะสำ�คญั จรงิ ๆ เวลาทกุ คนมีเท่ากัน ต้องจัดสรรเวลาของตวั เองใหไ้ ด้” ดา้ นอว๋ิ และยยุ้ สมาชกิ นอ้ งใหม่ ถงึ แมไ้ มไ่ ดเ้ ขา้ รว่ มโครงการตง้ั แตต่ น้ แตก่ ็ ยนื ยนั วา่ การไดล้ งมอื ปลกู ตน้ กลา้ ทลี ะตน้ ๆ ดว้ ยตวั เอง หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ ทตี่ อ้ งเขา้ ไปดแู ลตน้ กลา้ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจากทมี ท�ำ ใหพ้ วกเธอรกั ปา่ และอยากดูแลรักษาปา่ ชมุ ชนให้มสี ภาพสมบูรณก์ วา่ ที่เปน็ อยู่ “มาทำ�กิจกรรมกับพี่ๆ ถึงแม้จะต้องทำ�งานกลางแดดร้อนๆ แต่ก็สนุก ท�ำ งานด้วยกันแล้วมีความสขุ เลยอยากมาท�ำ ” อ๋วิ กล่าว ป่าชุมชนหนองผงาดเปน็ ป่าผืนสดุ ทา้ ยในตำ�บล เปน็ ป่าท่ีคนในชุมชน ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ใครคนใดคนหน่ึงคงไม่สามารถดูแลป่าทั้งผืนได้อย่าง ทว่ั ถงึ การพฒั นาผนื ปา่ บนพน้ื ทเ่ี พยี ง 70 ไร่ แมเ้ ปน็ เพยี งจดุ เลก็ ๆ ของผนื ปา่ ทั้งหมดและเป็นเศษเส้ียวของผืนป่าท่ัวประเทศ แต่ความอุดมสมบูรณ์ จดุ เลก็ ๆ น้ี จะขยายออกไปเขยี วขจมี ากขน้ึ ไดด้ ว้ ยความรว่ มมอื ของทกุ ฝา่ ย ในชุมชน

121 โครงกาสลนั ปรีเซราะแอง (รกั ษ์ป่าบา้ นเกิด) ทป่ี รึกษาโครงการ ถวัลย์ พอกประโคน แล บุญรอดดวง ทีมงาน ธดิ ารตั น์ รว่ มชาติ สกุ ญั ญา ยะแสง ศิริวรรณ โนนกระโทก รตั นากร พวงมาลยั อารีรตั น์ แกว้ โศก

122

123 สร้าง “คณุ คา่ ” ป่าชายเลน โครงการชวนทำ�ดี รกั ษ์ปา่ รักบา้ นเรา

124 เพราะเปน็ กลมุ่ เยาวชนทส่ี นใจท�ำ กจิ กรรมนอกหอ้ งเรยี น แถมยงั มปี ระสบการณท์ �ำ โครงการมากมาย อาทิ ปั่นปั่นพลังส่ือพลเมือง Ship and Share True ปลูกปัญญาเร่ิมต้นด้วยการให้ พื้นท่ีน้ีดีจัง ลานวฒั นธรรม ฯลฯ เมือ่ ครูฮาริส มาศชาย น�ำ ขา่ วการรบั สมคั รโครงการปลกู ใจรกั ษ์โลกมาบอก ทำ�ให้ วา-วลยั ลกั ษณ์ และมาลี และ อทิ -ณฐั วฒุ ิ เอยี่ วนอ้ ย รสู้ กึ สนใจ จงึ ชกั ชวนคแู่ ฝดคอื นญั มา-ศริ ลิ กั ษณ์ และมาลี และเพื่อนๆ รวมทง้ั นาบีล แซ่แดง ร่นุ นอ้ งในโรงเรียนร่วมทำ�โครงการ โดยเบอ้ื งต้นคดิ วา่ จะรณรงค์ให้ข้อมูลเก่ียวกับโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน ท้ังด้านบวก และด้านลบแก่ชุมชนในพ้ืนท่ี แต่ได้รับ การทกั ทว้ งจากพๆ่ี ในโครงการว่า เป็นประเดน็ รอ้ นที่มีทั้งกระแสคัดคา้ นและสนบั สนุนในพนื้ ที่ ซ่ึงอาจ สง่ ผลกระทบท่รี นุ แรงต่อนอ้ งๆ หรอื ตอ่ โรงเรยี นได้ ขอ้ คดิ สะกดิ ใจทำ�ใหท้ ีมงานต้องหันกลับมาทบทวน โจทยก์ ารท�ำ งานใหม่อกี คร้ัง วิเคราะหบ์ ริบทพ้ืนท่หี า “โจทย”์ โครงการ คร้งั นี้ทีมงานพิจารณาถงึ บรบิ ทของโรงเรยี นดวงแกว้ อสิ ลามนสุ รณ์ ซ่ึงตั้งอยู่ทีบ่ า้ นเขาแกว้ ต�ำ บล เหนือคลอง อำ�เภอเหนอื คลอง จงั หวดั กระบี่ มพี น้ื ที่ตดิ ภเู ขา และมีปา่ ชายเลย เพราะอย่ใู กลท้ ะเลฝงั่ อนั ดามัน เปน็ ชุมชนมุสลมิ ขนาดเลก็ 30 หลงั คาเรอื น สว่ นใหญ่ประกอบอาชีพประมง มีการทำ�นา ทำ� สวนยาง สวนปาลม์ และนากงุ้ อยบู่ า้ ง โรงเรยี นอยไู่ มไ่ กลจากปา่ ชายเลนมากนกั นกั เรยี นจงึ ใชพ้ นื้ ท่ี ปากคลองและป่าชายเลน และนาข้าว เป็นแหล่งเรียนรู้ในวิชาต่างๆ ทำ�ให้เห็นสภาพปัญหาที่ กำ�ลังเกิดขึ้นกับป่าชายเลน คือ มีการปลูกสร้างอาคารรุกลำ้�ลำ�นำ้� การว่ิงเรือในลำ�คลองทำ�ให้

125 “โรงเรียนอยู่ไมไ่ กลจากป่าชายเลนมากนัก นักเรยี นจึงใช้พ้ืนท่ีปากคลอง ป่าชายเลน และนาข้าว เปน็ แหลง่ เรยี นรใู้ นวชิ าต่างๆ ทำ� ให้เหน็ สภาพปัญหา ท่กี ำ� ลังเกิดข้นึ กบั ป่าชายเลน คอื การปลูกสรา้ งอาคารรุกล้�ำล�ำน้�ำ การวิง่ เรือใน ล�ำคลองท�ำให้น้�ำกัดเซาะรมิ ตล่งิ การทำ� นากงุ้ รวมถงึ การปล่อยน้�ำเสียลงคลอง ซ่งึ ส่งผลกระทบตอ่ ป่าชายเลนอนั เปน็ แหล่งอนบุ าลสัตว์น้�ำ ป่าชายเลนจึงกลายเปน็ ประเด็นทท่ี มี งานเหน็ พ้องตอ้ งกันว่าเหมาะสมกบั การทำ� โครงการ” น�้ำ กดั เซาะรมิ ตลง่ิ การท�ำ นากงุ้ รวมไปถงึ การปลอ่ ย แม้ตั้งใจขับเคลื่อนงานเต็มที่ แต่ทีมงานต้องปรับ น�ำ้ เสยี ลงคลอง ซง่ึ จะสง่ ผลกระทบตอ่ ปา่ ชายเลนซง่ึ กระบวนท่าการทำ�งานให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของ เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ� ป่าชายเลนจึงกลายเป็น นกั เรยี นโรงเรยี นอสิ ลามทตี่ อ้ งเรยี นรทู้ งั้ วชิ าสามญั และ ประเด็นท่ีทีมงานเห็นพ้องต้องกันว่า เหมาะสมกับ ด้านศาสนา ตารางชีวิตจึงถูกอัดแน่น ทีมงานจึงขอใช้ การท�ำ โครงการ เวลาช่วงกิจกรรมจิตสาธารณะ ที่ก�ำ หนดใหน้ ักเรียนทำ� กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ เช่น การทำ�ความสะอาด นัญมาและนาบีลเป็นตัวแทนกลุ่ม เล่าถึงการทำ� ห้องเรียน การทำ�ความสะอาดบริเวณโรงเรียน มาทำ� โครงการชวนท�ำ ดี รกั ษป์ า่ รกั บา้ นเราวา่ มเี ปา้ หมาย กจิ กรรมในโครงการแทน เพื่อให้ชาวบ้านในบ้านเขาแก้วเห็นถึงความสำ�คัญ และคุณค่าของป่าชายเลน ทั้งน้ีในช่วงแรกทีมงาน “ทุกวันศุกร์ช่วงบ่ายโรงเรียนจะจัดเวลาประมาณ กำ�หนดกลุ่มเป้าหมาย คือ สร้างการเรียนรู้ให้กับเด็ก 1.30-2 ชั่วโมงไว้เป็นคาบจิตสาธารณะ พวกเราจะใช้ เยาวชนในหมบู่ า้ นเขาแกว้ เพอ่ื สรา้ งแกนน�ำ ในการดแู ล เวลาช่วงนี้นัดกันมาทำ�กิจกรรม แต่ก่อนทำ�กิจกรรม รักษาส่งิ แวดล้อมในปา่ ชายเลนใกล้ชุมชน แต่เนื่องดว้ ย ทุกครั้ง ทีมจะจัดประชุมว่าสัปดาห์นี้จะจัดกิจกรรม ในชมุ ชนมเี ดก็ และเยาวชนจ�ำ นวนไมม่ าก อกี ทง้ั ทมี งาน อะไร แต่ไม่ได้ทำ�กิจกรรมของโครงการกันทุกสัปดาห์ สว่ นใหญไ่ มใ่ ชค่ นในพน้ื ท่ี การจะดงึ เดก็ ๆ มารว่ มกจิ กรรม บางทีก็จะหากิจกรรมอย่างอืน่ ให้น้องเลน่ หรือบางครง้ั ท�ำ ไดย้ าก จงึ เปลย่ี นกลมุ่ เปา้ หมายเปน็ นกั เรยี นชน้ั อนบุ าล ก็ท�ำ ความสะอาดโรงเรยี น” นัญมา เล่า ถงึ มธั ยมศกึ ษาในโรงเรยี นดวงแกว้ อสิ ลามนสุ รณ์ จ�ำ นวน 40-50 คน ซึ่งส่วนหน่ึงเปน็ ลูกหลานคนในชมุ ชนแทน กจิ กรรมหลกั ของโครงการคอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะ ให้กับสมาชิกในโครงการ ท้ังทักษะการเก็บข้อมูล รูแ้ ละรักษ์อย่างเข้าใจ และความรู้ความเข้าใจเร่ืองป่าชายเลน โดยก่อนจัด กิจกรรมทีมงานหาความรู้เร่ืองป่าชายเลนด้วยการไป ก่อนพาน้องๆ ทำ�กิจกรรม ทีมงานช่วยกันหา ศึกษาดูงานที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนท่ี 27 ความร้เู กี่ยวกบั การอนุรกั ษป์ ่าชายเลน เพอื่ เป็นความรู้ (ทา่ แดง กระบ)่ี หลงั จากนน้ั ชว่ ยกนั ออกแบบวธิ เี กบ็ ขอ้ มลู พืน้ ฐานในการท�ำ งาน และเพ่ือให้ความรู้แกน่ ้องๆ โดย วิธีสำ�รวจข้อมูลป่าชายเลน พร้อมกับหนุนเสริมทักษะ ได้เรียบเรียงเนื้อหาส่วนหน่ึงนำ�เสนอในรูปแบบของ ถ่ายภาพแก่น้องๆ เพราะมีเป้าหมายที่จะใช้ภาพถ่าย พาวเวอรพ์ อยต์ บางสว่ นน�ำ ไปเผยแพรผ่ า่ นเสยี งตามสาย ในการเล่าเรื่องราวป่าชายเลนของชุมชน ของโรงเรยี น รวมทัง้ ใช้วตั ถดุ บิ ท่ีมอี ยแู่ ลว้ เช่น หนงั สั้น ที่เคยทำ�แข่งขนั ในงานวชิ าการมาเปน็ สื่อใหค้ วามรู้ เมอ่ื ถงึ วนั กจิ กรรมสำ�รวจขอ้ มลู ทีมงานนำ�สมาชกิ ทง้ั หมดลงพนื้ ทเี่ พ่ือเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ป่าชายเลน และ ปญั หาระบบนเิ วศปา่ ชายเลนในชมุ ชน ทง้ั ส�ำ รวจ ถา่ ยภาพ

126 “ขอ้ มลู ทไ่ี ดท้ �ำให้ทมี งานเขา้ ใจสภาพความเปน็ อยขู่ องชุมชนท่ียงั คงมีวถิ กี าร ดำ� รงชวี ติ ทตี่ อ้ งอาศัยทรัพยากรจากป่าชายเลน แต่ชาวบา้ นก็ยอมรับว่า การตอ้ งใช้พ้ืนท่ีบรเิ วณดังกลา่ วในการประกอบอาชพี เช่น การเล้ียงกุง้ การเผาถ่าน ทำ� ใหไ้ มส่ ามารถดแู ลป่าชายเลนได้ เม่อื เดก็ ๆ เข้ามาท�ำกจิ กรรม จึงเปน็ ส่วนหน่ึงที่กระตนุ้ ให้ชาวบา้ นเห็นความส�ำคญั ของป่าชายเลน และ ต่างร้สู ึกดใี จและยินดชี ว่ ยเหลอื กจิ กรรมต่างๆ ของเยาวชนเทา่ ทจี่ ะทำ� ได”้ และสมั ภาษณ์เกบ็ ข้อมลู ครวั เรอื นเก่ียวกับการใชป้ ระโยชนป์ า่ ชายเลนจาก 24 ครัวเรือน “คำ�ถามทีใ่ ชส้ มั ภาษณก์ ง็ า่ ยๆ เช่น อยากให้เราทำ�อะไร ชาวบ้านทราบไหมวา่ ป่าชายเลน เปลย่ี นแปลงไปอย่างไร ชาวบ้านมกี ารใชป้ ระโยชน์จากปา่ ชายเลนอย่างไร การเปลย่ี นแปลงของ ป่าชายเลนส่งผลกระทบต่อชุมชนอย่างไร และถ้าไม่มีป่าชายเลนแล้วชุมชนจะเป็นอย่างไร” นญั มา เล่าถงึ กรอบค�ำ ถามทใ่ี ชส้ ัมภาษณช์ าวบา้ น ขอ้ มลู ทไี่ ดท้ �ำ ใหท้ มี งานเขา้ ใจถงึ สภาพความเปน็ อยขู่ องชมุ ชนทยี่ งั คงมวี ถิ กี ารด�ำ รงชวี ติ ทต่ี อ้ งอาศยั ทรพั ยากรจากปา่ ชายเลน แตช่ าวบา้ นกย็ อมรบั วา่ การตอ้ งใชพ้ นื้ ทบ่ี รเิ วณดงั กลา่ วในการประกอบอาชพี เชน่ การเลยี้ งกงุ้ การเผาถา่ น ท�ำ ใหไ้ มส่ ามารถดแู ลปา่ ชายเลนได้ เมอ่ื เดก็ ๆ เขา้ มาท�ำ กจิ กรรมจงึ เปน็ สว่ นหนงึ่ ทกี่ ระตนุ้ ใหช้ าวบา้ นเหน็ ความส�ำ คญั ของปา่ ชายเลน และตา่ งรสู้ กึ ดใี จและยนิ ดชี ว่ ยเหลอื กิจกรรมตา่ งๆ ของเยาวชนเท่าที่จะทำ�ได้ ภาพถา่ ย “เคร่ืองมือ” สรา้ งการรับรใู้ นชุมชน กจิ กรรมชวนนอ้ งท�ำ ดรี กั ษโ์ ลก เปน็ กจิ กรรมทต่ี อ่ เนอ่ื งจากการลงพนื้ ที่ โดยทมี งานพานอ้ งๆ ลงไป ปลูกป่าเพ่ิม โดยขอพันธ์ุต้นโกงกางจำ�นวน 500 ต้น จากสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนท่ี 27 (ท่าแดง กระบี่) นำ�มาปลูกเสริมในพ้ืนที่ป่าชายเลนของชุมชนร่วมกับชาวบ้านท่ีแวะเวียนเข้ามาช่วย โดยระหวา่ งท�ำ กจิ กรรมปลูกปา่ ทมี งานแบง่ กลุม่ ให้น้องๆ ถา่ ยภาพปา่ ชายเลน เพ่ือนำ�เสนอข้อมลู ผา่ น ภาพถา่ ยท้งั ดา้ นบวกและดา้ นลบ “หลงั จากไดภ้ าพถา่ ยแลว้ นอ้ งๆ แตล่ ะคนจะตอ้ งน�ำ เสนอภาพทตี่ นเองถา่ ยคนละ 2 รปู ใหเ้ พอ่ื นๆ ในกลุ่มช่วยกันคัดเลือกเพื่อส่งเข้ากองกลางกลุ่มละ 2 ภาพ ซ่ึงภาพท่ีได้รับการคัดเลือกจะถูกนำ�ไป อัดขยายใช้เป็นส่ือในนิทรรศการภาพถ่ายที่จะนำ�เสนอต่อชุมชน” นาบีล เล่า ขณะที่นัญมา เสริมว่า ทีมงานจะคัดเลอื กภาพถา่ ยเพ่ิมอกี จำ�นวนหนง่ึ เพือ่ ให้เพียงพอต่อการจัดนิทรรศการ ทมี งานใชท้ กั ษะความรเู้ กย่ี วกบั การถา่ ยภาพเปน็ “เครอ่ื งมอื ” การสอ่ื สารของโครงการ ดว้ ยเหน็ วา่ ภาพถา่ ยมีพลงั ในการสร้างการรบั ร้ไู ด้มากกว่าการเลา่ เรอ่ื ง การคืนข้อมูลใหช้ ุมชนถกู ออกแบบให้เปน็ การนำ�เสนอผ่านนิทรรศการภาพถ่าย โดยทมี งานเลือก จดั นทิ รรศการหนา้ มสั ยดิ ชมุ ชนในวนั ศกุ ร์ ดว้ ยเหน็ วา่ เปน็ โอกาสทสี่ มาชกิ ในชมุ ชนจะมาละหมาดทม่ี สั ยดิ อยู่แล้ว หลังทำ�พิธีละหมาดเสร็จก็จะสะดวกในการเดินชมนิทรรศการ ซึ่งการจัดนิทรรศการภาพถ่าย ของโครงการสามารถสรา้ งการรบั รู้แกส่ มาชิกในชุมชนไดเ้ ป็นอยา่ งดี

127 สนกุ เรยี น...รบั ร้จู ุดอ่อน เพราะสนุกกับการทำ�งาน ทีมงานจึงมองว่า สง่ิ ทด่ี แี ละเปน็ ประโยชน์ เพราะในการสมคั รทนุ เรยี นตอ่ การเขา้ ๆ ออกๆ ของนอ้ งๆ สมาชกิ หรอื ทมี งานไมใ่ ช่ ในระดบั มหาวทิ ยาลยั แฟม้ ผลงานนกั เรยี นของเธอลว้ น ปัญหาใหญ่ แม้จะทำ�ให้งานสะดุดไปบ้าง แต่ก็พอจะ สะสมผลงานการท�ำ กิจกรรมต่างๆ รวมทงั้ โครงการนี้ หมุนเวียนกันมาช่วยอุดชอ่ งว่างในการท�ำ งานได้ แต่สิ่ง ท่ีทีมงานมองว่ายากท่ีสุดในการทำ�งานคือการจัดการ นอกจากนี้การทำ�กิจกรรมยังทำ�ให้ทีมงานเป็นที่ ดา้ นเอกสารการเงนิ ทร่ี สู้ กึ วา่ มรี ายละเอยี ดคอ่ นขา้ งมาก รจู้ กั ของนอ้ งๆ ในโรงเรียน โดยนัญมา บอกว่า ปกตเิ ธอ ด้วยความเป็นเด็กทำ�ให้บ่อยคร้ังท่ีทีมงานบกพร่อง เป็นคนที่มีความกล้าอยู่แล้ว แต่โครงการนี้ช่วยพัฒนา ในการเกบ็ หลกั ฐานการเงนิ ตามขอ้ ก�ำ หนดของโครงการ ทักษะการเป็นผู้นำ�ของเธอ เพราะฝึกฝนน�ำ น้องๆ ทำ� ตวั ช่วยสำ�คญั คือ ครูท่ีปรกึ ษาท่จี ะชว่ ยหนุนเสรมิ ใหท้ ีม กิจกรรม ซึ่งเธอมองว่าเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและ แกป้ ัญหา นอ้ ง เปน็ การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละสนกุ สนาน ไปพร้อมๆ กัน “ชอบท�ำ กจิ กรรม แตเ่ ร่ืองเอกสารไมช่ อบ ถามวา่ จดั กจิ กรรมแลว้ ตอ้ งมรี ายงานไหม มนั กใ็ ช่ แตเ่ รารสู้ กึ วา่ สำ�หรับนาบีล การทำ�โครงการทำ�ให้เขาเปล่ยี น จดั กจิ กรรมไปแลว้ สนกุ แลว้ ตอ้ งยอ้ นกลบั มาท�ำ รายงาน บทบาทตนเอง ไดก้ า้ วออกมาจากพ้ืนที่คนแถวหลัง เอกสารการเงนิ อกี มนั กไ็ มค่ อ่ ยอยากท�ำ ” นญั มา สะทอ้ น ออกมานำ�กิจกรรม นำ�สันทนาการ จนพัฒนาเป็น ความรู้สึก แต่ก็ยอมรับว่า การฝึกฝนเรื่องเอกสารเป็น ความสามารถในการพูดต่อหน้าสาธารณะได้อย่าง มนั่ ใจมากขนึ้

128 คนคัดท้าย ครูฮาริส มาศชาย ผู้จัดการโรงเรียน และท่ีปรึกษาโครงการ เล่าว่า การท�ำ งานสว่ นใหญจ่ ะใหอ้ สิ ระกบั ลกู ศษิ ยใ์ นการคดิ วางแผน และลงมอื ท�ำ ครจู ะเปน็ ผสู้ นบั สนนุ เมอ่ื มปี ญั หา ทผี่ า่ นมาการท�ำ งานสว่ นใหญจ่ ะอยใู่ นมอื ของเดก็ ๆ มบี า้ งบางครง้ั ทท่ี มี งานรสู้ กึ กดดนั จากการท�ำ งาน ครกู ต็ อ้ งเตมิ เตม็ ก�ำ ลงั ใจใหเ้ ปน็ ระยะๆ “ความกดดนั จากการท�ำ งานในพน้ื ทม่ี ไี มม่ าก พอท�ำ กนั ได้ แตเ่ วลาตอ้ งไปคา่ ย เด็กๆ เขาจะรู้สึกกดดันมาก แม้จะไม่ใช่การแข่งขัน แต่เม่ือต้องไปเปรียบเทียบ กับที่อื่น เขาจะกดดันคอ่ นขา้ งเยอะ” ครูฮารสิ เล่าถึงอาการท้อของลกู ศิษย์ เมอ่ื พบวา่ ลกู ศษิ ยม์ อี าการเชน่ น้ี การกระตนุ้ ของครคู อื ใหร้ นุ่ พเ่ี ขา้ ไปพดู คยุ ใหค้ ำ�ปรกึ ษา เพราะด้วยวยั ท่ีใกล้กนั เดก็ ๆ จะเปิดใจไดง้ า่ ยกวา่ กลยุทธใ์ ห้ร่นุ พี่ ที่ประสบความส�ำ เร็จเขา้ มาจูง ชวน เชญิ จึงเป็นยารกั ษาอาการทอ้ ท่ีครตู ้องให้ กับกลุ่มเป็นประจำ� นอกเหนือจากการเติมเต็มความรู้โดยการพาไปเรียนรู้กับ หนว่ ยงาน องคก์ รภายนอกเพ่อื เปิดโลกทศั น์ ครูฮาริส ยังสะท้อนความรู้สึกต่อโครงการปลูกใจรักษ์โลกว่า การทำ�งานท่ี พๆ่ี พยายามใหน้ อ้ งใสใ่ จในรายละเอยี ดดา้ นเอกสารการเงนิ เปน็ เรอื่ งทดี่ ี เพราะ เป็นการฝึกวินัยทางการเงิน ซึ่งเป็นทักษะจำ�เป็นต่อการดำ�รงชีวิต อีกท้ัง กระบวนการเรยี นรทู้ ไี่ มเ่ นน้ ผลส�ำ เรจ็ แตเ่ นน้ สรา้ งกระบวนการคดิ วเิ คราะหใ์ หแ้ ก่ เยาวชนกเ็ ปน็ แนวทางการเรยี นรทู้ ช่ี ว่ ยใหเ้ ยาวชนมที กั ษะในเรอื่ งของการจดั การ ตนเองได้เป็นอยา่ งดี “ทุกอย่างมันเป็นกระบวนการเรียนรู้ การที่เด็กออกไปข้างนอก พบเพื่อน แม้กระทั่งการเดินทาง เป็นกระบวนการเรียนรู้ทั้งน้ัน แล้วเด็กกลับมาทำ�เอง อยกู่ ับเพื่อน อย่กู ับนอ้ ง กับชุมชน ไดฝ้ ึกแก้ปัญหา เป็นผลลพั ธ์ที่มคี า่ มาก มนั ได้ ในเรอ่ื งของสงั คม ไดใ้ นเรื่องของการจัดการตนเอง” การใส่ใจสังเกตความเป็นไปของสิ่งใกล้ตัว นำ�มาสู่การศึกษาพื้นที่ป่า ชายเลนในชุมชนทโี่ รงเรยี นตั้งอยูอ่ ยา่ งลึกซงึ้ พร้อมท้งั ลงมือสร้างจิตส�ำ นกึ ปลกุ ใหค้ นในชมุ ชนเหน็ คณุ คา่ ของปา่ ชายเลนทใ่ี ชป้ ระโยชนอ์ ยทู่ กุ เมอ่ื เชอ่ื วนั พากันหาความรู้เพ่ือปลูกต้นไม้ฟ้ืนฟูสภาพป่า ผลลัพธ์ของการเรียนรู้ไม่ใช่ ความส�ำ เรจ็ งดงาม แตร่ ะหวา่ งทางของการลงมอื ปฏบิ ตั ทิ �ำ ใหเ้ กดิ กระบวนการ เรียนรขู้ น้ั ตอน วิธีการท�ำ งานท่ีพฒั นาศักยภาพสว่ นบุคคลใหก้ ลา้ ใหม้ น่ั ใจ ใหม้ ที กั ษะความเปน็ ผนู้ �ำ จนสามารถเชอ่ื มโยงบทบาทในสงั คมทต่ี นเองสงั กดั กบั ชมุ ชนไดอ้ ยา่ งแนบเนยี น

129 โครงการ ชวนทำ�ดี รกั ษ์ปา่ รกั บา้ นเรา ที่ปรึกษาโครงการ ฮาริส มาศชาย ทมี งาน วลัยลักษณ์ และมาลี ณัฐวฒุ ิ เอีย่ วนอ้ ย ศิรลิ กั ษณ์ และมาลี นาบีล แซ่แดง

130

131 สานรักษ์ปา่ ภูกระแต โครงการป่าสญั จร รอนแรมในปา่ ใหญ่

132 ปา่ โคกหนิ นกยงู หรอื ปา่ ภกู ระแต ปจั จบุ นั มเี นอ้ื ท่ี 7,016 ไร่ ตง้ั อยใู่ นเขตอ�ำ เภอเอราวณั จงั หวดั เลย อยู่ในพ้ืนที่ลำ�น้ำ�ปวน ซึ่งเป็นสาขาของแม่นำ้�เลย ป่าภูกระแตเป็นพ้ืนที่ต้นนำ้�ของลำ�ห้วยหลายสาย เช่น หว้ ยเตย หว้ ยวา ห้วยลิ้นควาย ห้วยซ�ำ ใหญ่ ทีไ่ หลลงสู่ล�ำ น้ำ�สวยซ่ึงเป็นลำ�น�ำ้ สาขาของลำ�น�ำ้ ปวน ชาวบ้านใช้ประโยชน์ป่าภูกระแตเป็นที่เลี้ยงสัตว์ และแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เช่น เห็ด หน่อไม้ ผักหวาน พ้ืนทบ่ี างสว่ นของป่าภกู ระแตถูกประกาศเป็นพ้ืนที่ สปก. 12,684 ไร่ เปน็ พื้นท่ีการเกษตรและ ท่ีอยู่อาศัย นอกจากนี้พื้นท่ีป่าประมาณ 20 ไร่ยังใช้เป็นพื้นท่ีทิ้งขยะของเทศบาลตำ�บลเอราวัณและ เทศบาลต�ำ บลผาอนิ ทร์ โดยเปน็ ทก่ี �ำ จดั ขยะแบบฝงั กลบและเผาจ�ำ นวน 6 บอ่ ดว้ ยความทพี่ น้ื ทบี่ อ่ ขยะ ต้ังอย่บู รเิ วณตน้ น�้ำ ห้วยเตย ห้วยแย้ และหว้ ยซำ�ใหญ่ ท�ำ ให้ชว่ งฤดูฝนมนี �ำ้ จากบ่อขยะไหลลงสู่ลำ�ห้วย ส่วนการเผาขยะก็ท�ำ ใหเ้ กิดควนั ไฟเป็นมลภาวะในอากาศและสร้างความรำ�คาญกับชมุ ชน ทัง้ ยังพบวา่ ชาวบ้านส่วนหน่ึงท่ีเข้าไปใช้ประโยชน์ เช่น หาของป่า หาอาหาร หาฟืน และสมุนไพร มีการเผาป่า ล่าสัตว์ หรือตัดไม้ บางรายก็ขุดต้นผักหวานออกจากป่า ทำ�ให้แหล่งอาหารตามธรรมชาติลดน้อยลง สตั วป์ า่ บางชนดิ เรม่ิ หายไป วถิ ชี วี ติ หาอยหู่ ากนิ กเ็ ปลย่ี นแปลงไป คนรนุ่ ใหมบ่ รโิ ภคอาหารพน้ื บา้ นนอ้ ยลง จนเกิดวัฒนธรรมตลาดนัดทีพ่ ึง่ พงิ อาหารจากภายนอกมากขึ้น กลุ่มเยาวชนก่อการดี เป็นกลุ่มเยาวชนท่ีรวมตัวกันทำ�กิจกรรมภายใต้การสนับสนุนของ สถาบนั ไทเลยเพือ่ การพฒั นาเด็กและเยาวชนในปี 2552 มเี ป้าหมายคือ ทำ�ส่ิงดๆี ใหก้ บั ชมุ ชน ตนเอง เชน่ การปรบั ปรงุ ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ใหเ้ ปน็ หอ้ งสมดุ ชมุ ชน มกี ารสรา้ งกลมุ่ เยาวชนอาสา สง่ เสรมิ การอา่ น ควบคไู่ ปกบั การจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ น มกี ารสรา้ งแกนน�ำ ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง จนไดร้ บั การยอมรบั จากชมุ ชน และไดร้ บั ความรว่ มมอื จากผนู้ �ำ ชมุ ชน ผปู้ กครอง ตลอดจนองคก์ ร ตา่ งๆ ในทอ้ งถ่นิ เชน่ เทศบาลตำ�บลเอราวัณ กศน.เอราวณั

133 ในปี พ.ศ.2556 กลุ่มเยาวชนได้เข้าร่วมโครงการ เพราะถา้ ไมถ่ าม ไมห่ าขอ้ มลู มนั เหมอื นวา่ เราจบั ประเดน็ ปลกู ใจรกั ษโ์ ลก โดยท�ำ โครงการปา่ สญั จร รอนแรมใน ไม่อยู่ ถ้าเรามีแนวคร่าวๆ เราก็จะทำ�งานได้ง่ายข้ึน” ปา่ ใหญ่ ปี 1 ซง่ึ เกดิ จากการนงั่ คยุ กนั และไดต้ ง้ั ขอ้ สงั เกต เบญ เลา่ ถึงหลกั คิดในการท�ำ งาน วา่ “เมอ่ื กอ่ นคนบา้ นเราไมต่ อ้ งไปหาอาหารไกล แตเ่ ดย๋ี ว น้ีต้องไปหาไกลถึงต่างจังหวัด แล้วทำ�ไมมันถึงหายไป ก่อนการสำ�รวจ ทีมงานได้จัดค่ายนอนกลางดิน แลว้ ถา้ มนั เปน็ อยา่ งนอ้ี ยมู่ นั จะสง่ ผลอยา่ งไรตอ่ อนาคต กนิ กลางปา่ ใหก้ บั นอ้ งๆ ในชมุ ชน เพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจ ของคนในชุมชน” เบญ-เบญจมาภรณ์ วงษา เล่าท่มี า แกน่ อ้ งๆ วา่ ท�ำ ไมถงึ ตอ้ งท�ำ โครงการ ท�ำ ไมตอ้ งรกั ษาปา่ ของโครงการ กจิ กรรมในคา่ ยมกี ารเชญิ ปราชญช์ าวบา้ นมาเลา่ ประวตั ิ ความเปน็ มาของปา่ วา่ เมอ่ื กอ่ นเปน็ อยา่ งไร แลว้ ตอนน้ี รู้จกั “คน” กอ่ นร้จู กั “ป่า” เปน็ อยา่ งไร กอ่ นทจ่ี ะพานอ้ งๆ ขน้ึ ไปส�ำ รวจปา่ ภกู ระแต โดยให้โจทยก์ ารส�ำ รวจป่าแกน่ อ้ งแต่ละกลมุ่ รวมทัง้ เมอื่ เหน็ เหตแุ หง่ ปญั หา และเมอ่ื ไดท้ บทวนวถิ ชี วี ติ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ แบง่ งานกนั เชน่ คนจดบนั ทกึ คนถา่ ยรปู ของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่จึงจำ�ได้ว่า พ่อแม่เคยข้ึนไปหา คนถาม เมอ่ื เสรจ็ สน้ิ การส�ำ รวจนอ้ งๆ แตล่ ะกลมุ่ ตอ้ ง ผักหวาน เก็บเห็ด เก็บหน่อไม้จากป่าบนภูกระแตเป็น นำ�ข้อมูลท่ีได้มาสรุป จัดหมวดหมู่พรรณไม้ท่ีพบ ประจ�ำ แตเ่ ยาวชนกลบั ไมค่ อ่ ยรวู้ า่ มปี า่ ภกู ระแตอยู่ หรอื สมนุ ไพรทเ่ี จอ รวมทง้ั วาดแผนทเ่ี สน้ ทางปา่ ภกู ระแต มีอยู่ตรงไหน ทีมงานจึงได้ข้อสรุปว่าจะทำ�การศึกษา กอ่ นท่ีจะนำ�ผลงานมานำ�เสนอแลกเปล่ยี นรว่ มกนั ป่าภกู ระแตซึ่งเปน็ แหลง่ อาหารของชมุ ชน “ข้างบนจะมีต้นไม้คือ เต็ง รัง ยางนา หูกวาง แตก่ ่อนทีจ่ ะรู้จกั “ป่า” ทมี งานต้องรูจ้ กั “คน” หญ้าเพ็ก ตอนแรกขึ้นไปเป็นหน้าแล้ง ต้นไม้ผลัดใบ กอ่ นวา่ ใครเปน็ ผทู้ ม่ี คี วามรเู้ กยี่ วกบั ปา่ ภกู ระแตบา้ ง สง่ิ ทเี่ ปน็ ผลดี คอื พอตน้ ไมบ้ างเราจะเหน็ ตอไมท้ โ่ี ดนตดั ทมี งานจงึ พากนั ไปหาก�ำ นนั ซง่ึ เปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ในการ โผลม่ าเยอะมาก เปรยี บเทยี บกบั ทเ่ี ราไปหนา้ ฝน ซง่ึ แทบ สืบค้นหาผู้รู้ในชุมชน รายช่ือท่ีได้มาก็มีแม่บุญโฮม จะไม่เห็นเลย เพราะมีต้นไม้หรือหญ้าเพ็กปกคลุม เซียนเห็ด ยายแสงเดือนหมอสมุนไพร ตาสมบูรณ์ พอหน้าแล้งหญ้าเพ็กตายเหลือแต่ตอ แล้วก็เจอขยะ ตาวุฒิ และตาบุญเทียนคนหาของปา่ ในชุมชน เราก็ได้รู้ว่า ขยะจากหน้าบ้านเรามันไปอยู่ตรงนั้นเอง จากท่ีเราเคยสงสัยว่าเขาเอามันไปไหน พอข้ึนไปแล้ว การเขา้ หาผใู้ หญเ่ พอ่ื ขอความรเู้ ปน็ ไปอยา่ งราบรนื่ ตกใจมากว่า ป่าอย่ใู นสภาพนเี้ ลยเหรอ” เบญ เลา่ เพราะความเมตตาเอน็ ดตู อ่ ลกู หลานทแ่ี สดงความสนใจ ตอ่ ฐานทรพั ยากรในชมุ ชน ผรู้ ตู้ า่ งเตม็ อกเตม็ ใจบอกเลา่ ในขณะทเี่ ดก็ เยาวชนไดค้ วามรู้ ไดซ้ มึ ซบั คณุ คา่ เร่อื งราว ความรู้ และภมู ปิ ญั ญาเก่ยี วกบั ป่าภูกระแตให้ ของทรพั ยากรชมุ ชน และเหน็ สภาพความเสอ่ื มโทรม แก่แกนนำ�เยาวชน จากนั้นนำ�มาเรียบเรียงเป็นข้อมูล ของสภาพแวดล้อมในป่า ผู้ใหญ่ท่ีเป็นผู้รู้ก็รู้สึก เก็บไว้ เพราะคิดว่าการเรียนรู้จากการฟังคงไม่ทำ�ให้รู้ ชุ่มชื่นหัวใจ มีความสุขที่ได้บอกได้เล่า เกิดสายใย ชดั แจง้ เทา่ กบั การสมั ผสั ของจรงิ แกนน�ำ จงึ นดั หมายกนั ความสัมพันธ์ระหว่างวัย ต่างจากเดิมที่แม้จะอยู่ ติดตามผรู้ ู้ข้ึนไปส�ำ รวจป่าภูกระแต หมบู่ า้ นเดยี วกนั แตก่ ต็ า่ งคนตา่ งอยู่ แมเ้ ดก็ ๆ จะรจู้ กั ว่าใครชื่ออะไร แต่ไม่ได้ลึกซ้ึงว่าแต่ละท่านเก่งใน “เราตอ้ งศกึ ษาขอ้ มลู ของปา่ ภกู ระแต เพราะเราท�ำ เรื่องใดบ้าง เด็กๆ ได้ประสบการณ์การเรียนรู้นอก เรอ่ื งเกย่ี วกบั ปา่ และการอนรุ กั ษ์ จงึ ตอ้ งรกู้ อ่ นวา่ ขา้ งบน ห้องเรยี น และรู้จกั แหล่งความรู้ที่เปิดโลกกวา้ งกว่า นั้นมีอะไรบ้าง มีเห็ดหรือมีต้นไม้ชนิดใดบ้าง พวกเรา ในตำ�รา ให้ความสำ�คัญกับการเก็บข้อมูลในเร่ืองท่ีจะทำ�มาก

134 การท�ำงานท่เี ก้อื กูลคู่ขนาน ความสมั พันธท์ ก่ี อ่ เกิดระหวา่ งผใู้ หญก่ บั เดก็ ในชุมชนที่ไดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกัน ประจวบเหมาะกบั เป็นช่วงเวลาท่ีผู้ใหญ่ในชุมชนสนใจทำ�งานวิจัยเพ่ือท้องถ่ินในโครงการศึกษาการใช้ประโยชน์ อยา่ งยง่ั ยนื ปา่ ภกู ระแต อ�ำ เภอเอราวณั จงั หวดั เลย จงึ น�ำ ไปสกู่ ารกอ่ รา่ งสรา้ งตวั ของคณะกรรมการ อนรุ ักษ์ปา่ ภูกระแต โดยเดก็ ๆ ได้เชญิ ผ้รู แู้ ละกำ�นนั รว่ มเปน็ คณะกรรมการ การได้เหน็ สภาพปัญหาขยะในพืน้ ทป่ี า่ ภูกระแต ที่แมว้ ่าจะมบี ่อขยะ แตข่ ยะกลับเกลื่อนกลาดอยู่ รอบๆ บ่อ แม้จะมีเตาเผาขยะก็ไม่ใช้ แต่กลับมีการเผาขยะนอกเตา สิ่งท่ีพบเจอนำ�มาซึ่งการหา แนวทางแกไ้ ข แกนน�ำ เยาวชนจงึ รว่ มกนั จดั คา่ ยขยะ ทม่ี เี ปา้ หมายคอื ตอ้ งการใหเ้ ดก็ และชาวบา้ น รู้จักการคัดแยกขยะก่อนนำ�ไปท้ิง โดยทีมงานอาศัยจังหวะช่วงการจัดงานบุญบ้ังไฟในชุมชน ร่วมรณรงค์ให้ชุมชนคดั แยกขยะ ให้เด็กๆ แตง่ กายด้วยชุดท่ีท�ำ จากขยะ เดนิ รว่ มขบวนแหบ่ ัง้ ไฟ ซึ่งสร้างความสนใจแก่ชาวบ้าน และเป็นจุดเร่ิมต้นท่ีทำ�ให้หน่วยงาน เช่น เทศบาลเร่ิมสนใจ เขา้ มาจดั การปัญหาขยะ พาชาวบา้ นไปศกึ ษาดูงานการจัดการขยะจากตา่ งถน่ิ แล้วสนับสนุนให้ ชาวบ้านคัดแยกขยะอย่างจริงจังมากขึ้น รวมทั้งมีการนำ�ร่องจัดต้ังธนาคารขยะท่ีบ้านโนนถาวร หม่ทู ่ี 13 เมื่อมีหน่วยงานในพ้ืนที่เข้ามารับผิดชอบจัดการปัญหาขยะ กลุ่มเยาวชนจึงทุ่มความสนใจไปท่ี การอนุรักษ์ป่าภูกระแตต่อ เพราะระหว่างการขึ้นไปสำ�รวจป่าภูกระแต เยาวชนได้ช่วยกันเก็บลูกไม้ เมลด็ พนั ธไ์ุ มม้ าเพาะ โดยหวงั วา่ จะน�ำ ไปปลกู เพม่ิ ในปา่ แตพ่ บวา่ เมลด็ พนั ธท์ุ เ่ี พาะไวง้ อกบา้ งตายบา้ ง ทีมงานจึงร่วมกันพูดคุยเพื่อสรุปบทเรียนการทำ�งานพบว่า เป็นเพราะกลุ่มเยาวชนไม่มีความรู้ เรื่องการเพาะพันธ์ุกล้าไม้ จึงเป็นท่ีมาของการเช่ือมโยงสู่การทำ�งานต่อยอดโครงการป่าสัญจร รอนแรมในปา่ ใหญ่ ปี 2 มเี ปา้ หมายเพอ่ื ต่อยอดการท�ำ งาน และสรา้ งการเรยี นรู้ให้กับเยาวชน รนุ่ ใหมร่ ว่ มกันดแู ลป่าภูกระแต โดยเริม่ ตน้ แกนนำ�ได้จัดกิจกรรม เวา้ ส่กู ันฟงั เวา้ เทา้ ความ เพื่อนำ�เสนอขอ้ มลู จากการสำ�รวจป่า เม่ือปีที่แล้ว ผ่านแผนท่ีป่าภูกระแต รายช่ืออาหารจากป่า สมุนไพร ไม้ใช้สอย สภาพปัญหาในป่า ข้อตกลงในการดูแลรักษาป่า และขอความร่วมมือจากชุมชนในการทำ�โครงการ โดยกิจกรรมหลักของ ปนี ้คี อื การเพาะพนั ธุ์ไม้ ซง่ึ ในสว่ นของเยาวชนเองไดม้ กี ารจัดกิจกรรมเพาะรกั ษจ์ งึ ปลกู โดยเชิญผรู้ ูม้ า สอนวธิ กี ารเพาะเมลด็ พันธวุ์ ่า ควรปลูกอยา่ งไร วิธีปลกู ตน้ ไมต้ ้องท�ำ อยา่ งไร เชน่ ตน้ มะคา่ ก่อนจะปลกู ต้องทำ�ให้นำ�้ เขา้ ไปข้างในเมล็ดก่อน เปน็ ต้น “ปีแรกเราได้เมล็ดมะค่ามา เราก็เอาไปฝังดินเลย มันก็ไม่งอก แต่ปีน้ีเราเอาเมล็ดมะค่ามาผ่าให้ เป็นแผล นำ�ไปแชน่ �้ำ ใหม้ ันบวม แลว้ จงึ เอาไปฝัง มันงอกเยอะมากถึง 90 เปอรเ์ ซน็ ต์ เราก็ไดค้ วามรวู้ ่า ตอ้ งท�ำ แบบน้ี ถอื วา่ ประสบความส�ำ เรจ็ ” เบญ เลา่ ถงึ ความกา้ วหนา้ ของการท�ำ งาน ทรี่ อวนั ฝนตกจะได้ นำ�กลา้ ไม้ทเ่ี พาะไว้ขึ้นไปปลูกบนป่าภูกระแต

135

136 การทำ�โครงการของเยาวชนทำ�คู่ขนานไปกับ คุณคา่ ท่เี กิดจากการลงมอื ทำ� กจิ กรรมหอ้ งสมดุ ทมี่ กี ารจดั ทกุ เดอื น เดอื นละ 1 ครงั้ นอ้ งๆ ทม่ี าหอ้ งสมดุ กจ็ ะแวะเวยี นมาชว่ ยพๆ่ี เพอ่ื นๆ การทำ�งานซ่ึงมีเบญ ฝน-พัชรี อินทนาม และ ขนแกลบดบิ มาท�ำ แกลบด�ำ บา้ ง ชว่ ยกนั เกบ็ เมลด็ พนั ธ์ุ ก้อย-รุ่งธิวา หวังประสพกลาง เป็นพ่ีใหญ่นำ�น้องๆ บ้าง ช่วยกนั เพาะเมล็ดในถุงดำ� หรอื รดน้ำ�ตน้ กลา้ ที่ คือ ฟ้า-กิตติยา วันเอ็ด จอน-อดิสรณ์ สอนสุภาพ ก�ำ ลงั เตบิ โตบา้ ง บรรยากาศการท�ำ งานจงึ เปน็ ไปดว้ ย นน-ยุทธยา ภูมิภาค พลอย-สุพัฒตา รุ่งเช้า และ ความเพลดิ เพลนิ ไรค้ วามกดดนั ขณะเดยี วกนั ทมี งาน ต้น-นันทกร เศิกกันยา คอยช่วยประสานงานกับเด็ก กไ็ ดเ้ ขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มในงานวจิ ยั ของผใู้ หญ่ โดยเฉพาะ และเยาวชนในชมุ ชน รวมทง้ั ชว่ ยงานตามโอกาสทพ่ี ีๆ่ การขบั เคลอ่ื นเรอ่ื งคณะกรรมการอนรุ กั ษป์ า่ ภกู ระแต จัดกิจกรรม เม่ือถึงวาระท่ีพี่ก้อยและพ่ีฝนไปเรียนต่อ รว่ มกบั ผใู้ หญใ่ นชมุ ชมจดั ท�ำ ปฏทิ นิ การใชป้ ระโยชน์ น้องๆ ทัง้ 5 คน จึงกลายเปน็ แกนนำ�หลกั ช่วยพ่ีเบญ จากปา่ โดยหารอื กบั หมบู่ า้ นทอี่ ยรู่ อบๆ ปา่ ภกู ระแต ทำ�งานในปีท่ี 2 เพือ่ สรา้ งข้อตกลงในการปิดป่าร่วมกัน “พ่ีให้ช่วยนัดเพื่อนๆ ช่วยพาน้องๆ ทำ�กิจกรรม “ในฤดฝู นเราจะเปดิ ปา่ 2 วนั ปดิ ปา่ 3 วนั ถา้ ฝา่ ฝนื ก่อนการประชมุ เชน่ เล่นเกม สันทนาการ บางครง้ั พีก่ ็ จะมีการปรับ ซึง่ เราก็ตอ้ งอธิบายให้เขาฟงั วา่ เหตุผลที่ ใหช้ ่วยอา่ นหนงั สอื ใหน้ ้องๆ ฟงั ” พลอย เลา่ ถงึ บทบาท ต้องเปิดปิดป่าเพราะอยากให้ต้นไม้ได้มีโอกาสฟื้นฟู หน้าที่ และแม้ว่าจะเป็นการทำ�งานตามท่ีพ่ีมอบหมาย ตวั เอง เพราะหากเปดิ ปา่ ทกุ วนั คนกจ็ ะเขา้ ไปเหยยี บย�ำ่ รายคร้ัง แต่เมื่อได้ทำ�บ่อยๆ เข้าก็ทำ�ให้เกิดการฝึกฝน ต้นไม้กจ็ ะเตบิ โตไดน้ อ้ ย” จนเกง่ ขนึ้ โดยไมร่ ตู้ วั ซง่ึ พลอย เลา่ ถงึ ความเปลยี่ นแปลง

137 “ส�ำหรับผูใ้ หญ่ใจดใี นชุมชนท้งั หลาย ตา่ งกลา่ วเปน็ เสียงเดียวกันวา่ รู้สึกดีใจ ภูมิใจ ปล้มื ใจทเ่ี ดก็ ๆ สนใจเร่อื งราวป่าของชมุ ชน และยินดีทีจ่ ะ สนบั สนนุ การท�ำงานของกล่มุ เยาวชนต่อไป โดยคาดหวังว่าเยาวชนกลมุ่ นี้ จะเปน็ ผูส้ ืบทอดการดูแลรักษาป่าภูกระแตให้เปน็ แหลง่ อาหารและ ที่พ่ึงของชุมชนสืบไป” ของตนเองว่า “เมื่อได้เขา้ กลุ่มกเ็ รียนรูไ้ ปเรือ่ ยๆ คอื เราต้องฝึกฝน ถ้าเราท�ำ ไม่ได้เราต้องฝกึ ถา้ เรา ท�ำ ไดแ้ ลว้ กย็ งั ตอ้ งฝกึ ใหด้ ขี น้ึ อกี เพราะเมอ่ื กอ่ นหนูอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ทำ�อะไร หนูเรียนหนังสือไม่เก่ง เมอ่ื กอ่ นสอบไดเ้ ลขสองหลกั ตลอด แตพ่ อขน้ึ ป.6 สอบไดเ้ ลขตวั เดยี ว เพราะวา่ มาท�ำ กจิ กรรมรกั การอา่ น แลว้ ใหพ้ ีเ่ ขาสอน ได้ฝึกอา่ นหนังสอื ไดอ้ ่านหนังสอื ใหน้ อ้ งๆ ฟัง” สำ�หรับฟ้าบอกว่า เธอเกิดพัฒนาการทางความคิด และกล้าแสดงออกมากขึ้น เป็นผลจาก การผลกั ดันของพ่ี ทเ่ี วลาผใู้ หญถ่ ามอะไร พๆ่ี กจ็ ะกระตนุ้ ใหต้ อบ ไมม่ ผี ดิ ไมม่ ถี กู ท�ำ ใหก้ ลา้ พดู มากข้ึน ทงั้ นี้ฟ้ายอมรับในชว่ งแรกๆ ที่มาช่วยพีเ่ บญท�ำ งาน ต้องอยูก่ บั น้องเลก็ ๆ ที่ยังเดก็ มาก เธอรสู้ กึ ไมช่ อบเดก็ รสู้ กึ ร�ำ คาญ วนุ่ วาย จงึ ตอ้ งฝนื ตวั เอง นน่ั กลายเปน็ การฝกึ ความอดทน และท�ำ ใหเ้ ปลยี่ น ความคิดว่า “น้องเล็กๆ ก็เหมือนเราตอนเด็กๆ พ่ียังพัฒนาเราได้ เราก็น่าจะช่วยพัฒนาน้องๆ เหมอื นทพ่ี ่ีพฒั นาเรา” ในขณะที่ต้นบอกว่า การได้ไปเรียนรู้ในป่าภูกระแตทำ�ให้รู้จักสมุนไพรหลายชนิด ซ่ึงสมุนไพร บางอย่าง เชน่ ตน้ แคนา สามารถน�ำ มาขยท้ี าแผลเพอ่ื หา้ มเลอื ดได้ นับว่าเปน็ ประโยชนก์ บั เด็กแบบตน้ ที่มกั มีแผลจากการเลน่ ซนเปน็ ประจำ� ดา้ น เบญ สะทอ้ นความเปลย่ี นแปลงของนอ้ งๆ วา่ มพี ฒั นาการดา้ นความคดิ และการสอ่ื สารอยา่ ง เหน็ ไดช้ ดั สามารถแสดงความคิดเห็นในท่ปี ระชุม หรือพูดคยุ กบั ผู้ใหญ่ได้อยา่ งเหมาะสม สว่ นตวั ของ เบญนน้ั การตอ้ งกมุ สภาพงานท�ำ ใหไ้ ดพ้ ฒั นาความสามารถและความคดิ ดว้ ยบทบาทในปที ี่ 2 ทต่ี อ้ ง เปน็ พเี่ ลยี้ งดนู อ้ งๆ ดแู ลภาพรวมของงานและการด�ำ เนนิ กจิ กรรม อกี ทง้ั ยงั ชว่ ยพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สาร ความกลา้ ทจ่ี ะประสานงานกบั ผใู้ หญใ่ นชมุ ชน แตใ่ ชว่ า่ การท�ำ งานจะราบรน่ื เพราะในชว่ งทผ่ี า่ นมาแกนน�ำ หลายคนอยใู่ นชว่ งเปลย่ี นผา่ นเตรยี มตวั สอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั ท�ำ ใหง้ านตอ้ งหยดุ ชะงกั ไปชว่ งหนง่ึ เพราะ ไมม่ ีคนท�ำ งาน คนทเ่ี หลอื อยจู่ งึ ต้องรับภาระหนกั นอกจากนเ้ี บญยงั สะทอ้ นปญั หาสว่ นตวั ท่อี าจจะมภี าวะทย่ี งั จดั การกบั อารมณข์ องตนเองไมไ่ ด้ ทำ�ให้บางคร้ังเธอจะมีอารมณ์หงุดหงิด บางครั้งก็โกรธจนไม่อยากทำ�งาน โดยเฉพาะเมื่อได้รับฟัง ข้อเสนอแนะจากผู้ใหญ่ซึ่งใช้ถ้อยคำ�ที่ติดลบ จึงหมดกำ�ลังใจในการทำ�งาน แต่การทำ�งานโครงการ ไดช้ ่วยให้ร้จู กั จดั การอารมณ์ตนเองไดด้ ีขึน้

138 สำ�หรับผู้ใหญ่ใจดีในชุมชนทั้งหลาย ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สกึ ดใี จ ภูมใิ จ ปล้ืมใจท่เี ดก็ ๆ สนใจเรอ่ื งราวปา่ ของชุมชน และยนิ ดีทจ่ี ะ สนบั สนนุ การท�ำ งานของกลุ่มเยาวชนตอ่ ไป โดยคาดหวงั วา่ เยาวชนกล่มุ น้ี จะเปน็ ผสู้ บื ทอดการดแู ลรกั ษาปา่ ภกู ระแตใหเ้ ปน็ แหลง่ อาหารและทพี่ ง่ึ ของ ชมุ ชนสืบไป “ดที เ่ี ดก็ ๆ ไดเ้ รยี นรกู้ ารท�ำ กจิ กรรม จากทไ่ี มเ่ คยรจู้ กั ตน้ ไมเ้ รากแ็ นะน�ำ ไปวา่ ช่ืออะไร ทง้ั ช่ือไทย ช่อื อสี าน กเ็ รียนรสู้ องภาษา ชอ่ื ท่ีพวกอนุรักษ์ปา่ ไมเ้ ขาเรยี ก อยา่ งหนงึ่ เราเรยี กอกี อย่าง เขาจะได้ร้ไู ว้วา่ ตน้ ไมใ้ ชท้ �ำ ประโยชนอ์ ะไรบ้าง ดใี จที่ เขาสนใจด้านป่า ถ้าเขาสนใจอย่างนี้ก็จะสนับสนุน แนะนำ�ต่อไป เมื่อก่อนเขา ไมเ่ คยมาถามอะไรแบบน้ี จนนอ้ งเบญเขามาตดิ ตอ่ พาไปหาผม เหน็ แลว้ กใ็ จออ่ น มาชว่ ย ไมป่ ฏเิ สธเลย เพราะวา่ มนั มปี ระโยชนท์ เี่ ราสามารถน�ำ ความรภูุ้ มู ปิ ญั ญา มาแนะนำ�เด็กๆ ได้ รู้สึกดีใจมาก” พ่อวุฒิ แก้วก่ำ� ตัวแทนผู้อาวุโสสะท้อน ความรู้สึกต้ืนตันใจ เพราะไม่ปล่อยให้เร่ืองเล็กๆ เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หยิบฉวยเอามา ศึกษาเป็นบทเรียน และสร้างสถานการณ์เพ่ือสร้างการเรียนรู้ การรวมตัว ของเดก็ ๆ ดว้ ยพลงั ทเี่ กดิ จากความใสใ่ จถน่ิ ฐานบา้ นเกดิ จงึ เปน็ แรงกระตกุ กระตุ้นชุมชนให้ลุกข้ึนมาจัดการทรัพยากรของบ้านตนเอง ความร่วมมือ ระหว่างเยาวชนกับผู้ใหญ่ในชุมชนจับมือเดินคู่ขนานกันไปบนเส้นทางของ การอนุรักษ์ป่าภูกระแต จึงเป็นภาพสะท้อนที่อยู่ท่ียืนของพลเมืองเยาวชน ที่มีบทบาทในการสรา้ งสรรคส์ งิ่ ดๆี สู่สงั คม

139 โครงการปา่ สัญจร รอนแรมในปา่ ใหญ่ ทป่ี รกึ ษาโครงการ สรุ ยิ าณีย์ วงษา ทมี งาน เบญจมาภรณ์ วงษา พชั รี อนิ ทนาม รุง่ ธิวา หวงั ประสพกลาง กิตติยา วันเอด็ อดสิ รณ์ สอนสุภาพ ยทุ ธยา ภมู ิภาค สพุ ัฒตา รุ่งเชา้ นันทกร เศกิ กนั ยา

140

141 พลกิ ฟ้นื ผืนป่า... แก้ปญั หาใหช้ ุมชน โครงการพลกิ ฟ้ืนผนื ป่าหนองอยี อ

142 ‘ปา่ เรามีขยะเยอะ พวกเราจะทำ�อะไรไดบ้ า้ งกบั ขยะทอ่ี ยใู่ นปา่ ’ คำ�ถามทเ่ี ดก็ เยาวชนกลุม่ หนงึ่ ฉกุ คิดข้นึ เมอ่ื เข้าไปเหน็ สภาพป่าชมุ ชนของพวกเขา ............................. เมอ่ื พืชเศรษฐกจิ อย่างยางพารารกุ คืบเข้ามา ทดี่ ินส่วนตวั ของชาวบ้านบางผนื ท่เี คยเปน็ พืน้ ท่ปี ่า กลบั กลายเป็นสวนยางพาราไปในทีส่ ุด ซ้�ำ ร้ายป่าชมุ ชนที่เหลืออยรู่ าว 37 ไร่ 3 งาน โดยพ้นื ที่ 5 ไร่ กลายสภาพเปน็ ทท่ี ง้ิ ขยะของคนในชมุ ชน เมอ่ื ขยะรกุ ล�ำ้ เหด็ และพชื ผกั ตามธรรมชาตทิ พ่ี อหาเกบ็ กนิ ได้ จงึ แทบไมเ่ หลอื เดก็ และเยาวชนจากโรงเรยี นหนองอยี อวทิ ยา อ�ำ เภอสนม จงั หวดั สรุ นิ ทร์ กลมุ่ หนง่ึ จงึ ลกุ ขึ้นมาทำ�โครงการพลกิ ฟน้ื ผนื ปา่ ชมุ ชนหนองอยี อ เพอ่ื ขยายแนวรว่ มกลมุ่ เดก็ และเยาวชนใน โรงเรียน ตลอดจนสร้างการมสี ่วนรว่ มกบั ผู้ใหญใ่ นชุมชน ใหเ้ ข้ามาจัดการปญั หาขยะมลู ฝอยใน ป่าชุมชน รวมท้งั พลิกฟ้ืนผนื ป่าใหก้ ลบั มามสี ภาพดขี น้ึ “รสู้ กึ สงสารปา่ ป่าไม่นา่ จะเปน็ แบบน้”ี ยะ-สริ ิชยั พร้อมดี หนึ่งในแกนน�ำ รุ่นที่ 2 เอย่ ถงึ ปัญหาท่ี เพง่ิ เกดิ ขนึ้ ในชว่ ง 4-5 ปที ผ่ี า่ นมา ขณะทแี่ ปม๋ -กรรณกิ าร์ ดวงดี ฝา้ ย-รงุ่ นภา จนั ทรล์ �ำ้ เอริ น์ -จนั ทมิ า งามสงา่ หมวิ -สนุ ษิ า นาคแสร์ บอกเปน็ เสยี งเดยี วกนั วา่ กอ่ นเขา้ มารบั ผดิ ชอบโครงการน้ี พวกเขามโี อกาส ท�ำ กจิ กรรมบ�ำ เพญ็ ประโยชนเ์ พอ่ื ชมุ ชน รว่ มกบั โรงเรยี นและองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำ บลหนองอยี ออยเู่ สมอ ทง้ั ปลกู ผกั สวนครวั ในโรงเรยี น ออกไปดแู ลผสู้ งู อายใุ นชมุ ชน จดั กจิ กรรมท�ำ บญุ ใสบ่ าตรและงานประเพณี ตา่ งๆ หรอื แมแ้ ตก่ ารเดนิ เกบ็ ขยะทท่ี งิ้ เกลอื่ นกลาดรอบต�ำ บล กจิ กรรมเหลา่ นชี้ ว่ ยปลกู ฝงั ส�ำ นกึ จติ อาสา ท�ำ ให้พวกเขานึกถึงประโยชน์ของผู้อ่ืนและส่วนรวมมากขึ้น

143 สว่ น “แรงบันดาลใจ” ท่ที �ำ ให้ทีมคดิ ท�ำ โครงการ มาเห็น มาทำ�เอง พวกเราท่ีเป็นเด็กยังมาช่วยกันทำ� พลิกฟ้ืนผืนป่าหนองอียอเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่นักเรียน ผู้ใหญ่ก็น่าจะคิดได้ว่า ต่อไปเขาไม่ควรทำ�แบบน้ีอีก” โรงเรียนหนองอียอวิทยาได้เข้าร่วมโครงการปลูกป่า ยะ กลา่ วอย่างชดั เจน เฉลิมพระเกียรติกับทางโรงเรียน ทำ�ให้เห็นสภาพป่า ชุมชนที่กลายเป็นที่ท้ิงขยะ รู้สึกทนไม่ได้ท่ีเห็นภาพ โชคดีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงเรียน ขยะเกลอ่ื นไปทว่ั ผนื ปา่ เมอื่ มโี ครงการปลกู ใจรกั ษโ์ ลก ให้การสนับสนุนการทำ�กิจกรรมของกลุ่มเยาวชนเต็มที่ เข้ามาพวกเขาจึงไม่รีรอ ใช้โอกาสนี้สานต่อแนวคิด โดยไมเ่ ขา้ ไปชน้ี �ำ วา่ เดก็ จะตอ้ งท�ำ อะไร แตเ่ ปดิ โอกาสให้ ดังกล่าว เด็กคิดและทำ�อย่างอิสระ ท้ังเจ้าหน้าท่ี อบต. และ ครทู ปี่ รกึ ษาวางบทบาทตวั เองเปน็ เพยี งแคท่ ปี่ รกึ ษาและ “กอ่ นหนา้ นต้ี อ่ ใหเ้ ราคดิ อยากท�ำ แตไ่ มม่ โี ครงการ ผู้ดแู ลเด็กๆ ระหวา่ งลงพื้นท่ไี ปทำ�กิจกรรมเท่านน้ั หรอื ผใู้ หญเ่ ขา้ มาสนบั สนนุ อยา่ งเปน็ ทางการ จงึ ท�ำ อะไร ไม่ได้มาก เพราะพวกเราเป็นเด็ก ไม่มีความน่าเชื่อถือ ม่งุ ม่นั สู่เป้าหมายแหง่ ความส�ำเร็จ ในสายตาของคนในชุมชน ผูใ้ หญม่ กั จะคดิ วา่ เด็กๆ มา ทำ�กจิ กรรม เดี๋ยวก็เลกิ ไม่ได้จริงจังอะไร” ฝา้ ย เล่าถงึ เปา้ หมายของโครงการพลกิ ฟนื้ ผนื ปา่ หนองอยี อที่ ภาพลกั ษณข์ องเดก็ ในสายตาผใู้ หญ่ กลุ่มเยาวชนหมายม่ันปั้นมืออยากทำ�ให้สำ�เร็จ ตั้งอยู่ บนบันได 3 ขัน้ ได้แก่ สืบคน้ หาปั ญหา...เพ่ือหาทางออก ข้ันที่หน่ึง กำ�จัดขยะมูลฝอยท่ีทับถมภายในป่า “ท�ำ ไมคนในชมุ ชนถงึ ตอ้ งน�ำ ขยะไปทง้ิ ในปา่ ?” ใหห้ มด คำ�ถามน้ีนำ�ไปสู่การค้นหาสาเหตุแห่งปัญหาท่ี เกิดข้นึ กลุม่ เยาวชนบอกวา่ ขอ้ คน้ พบท่ไี ดจ้ ากการ ขน้ั ทส่ี อง ท�ำ ใหค้ นในชมุ ชนไมน่ ง่ิ นอนใจตอ่ ปญั หา สอบถามผ้ปู กครองและเจ้าหน้าท่ี อบต. คอื ระบบ สว่ นรวม และเกดิ ความหวงแหนพืน้ ทีป่ า่ ชุมชนซึ่งเหลอื การเก็บจัดการขยะของ อบต.ยังไม่ครอบคลุม อยู่ไม่มากนัก โดยเฉพาะชาวบ้านหมู่ 11 ท่ีป่าชุมชน ทกุ พ้นื ทใ่ี นชุมชน ตั้งอยู่ รวมทั้งปลูกฝังจิตสำ�นึกรักส่ิงแวดล้อมให้แก่เด็ก “ปกติแต่ละบ้านจะมีที่ทิ้งขยะ เพ่ือรวบรวมไว้เผา และเยาวชนในชมุ ชน และฝงั กลบด้วยตัวเอง บ้านที่ใกล้ตลาดนัดก็จะขนขยะ ไปกองไว้ให้รถของ อบต.มาเกบ็ บ้านไหนทีไ่ กลหน่อย ขน้ั ท่สี าม จดั พน้ื ท่ปี า่ ชุมชนใหเ้ ปน็ ฐานการเรียนรู้ กเ็ อาขยะมาทง้ิ ในปา่ เพอื่ ไมใ่ หร้ กบา้ นตวั เอง พอคนหนงึ่ เก่ียวกับพืชพันธุ์ท้องถ่ิน ซ่ึงสอดคล้องกับนโยบายของ ท้งิ คนอน่ื ก็ท้งิ ตามกัน” ยะ กล่าวถงึ สภาพความเปน็ จริง อบต. ในชมุ ชน เม่ือสาเหตุมาจากผู้ใหญ่ จึงจำ�เป็นท่ีกลุ่มเยาวชน นอกจากความนา่ เชือ่ ถือที่เกิดขนึ้ จาก อปท. และ จะต้องดึงผู้ใหญ่ในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมกำ�จัดขยะ โรงเรียนช่วยหนุนเสริมแล้ว กลุ่มเยาวชนจึงต้องสร้าง ด้วย “คนในชุมชนนี่แหละเป็นคนเอาขยะมาท้ิง แม้จะ ความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้าง ไม่รู้ว่าใครบ้าง ่ในเมื่อทิ้งก็ต้องมาเก็บเอง ถ้าผู้ใหญ่ได้ ความร่วมมือร่วมใจระหว่างเด็กและเยาวชนกับผู้ใหญ่ ในระยะยาวด้วยเชน่ เดยี วกนั ทง้ั นี้ หมิว บอกว่า เวลาเปน็ เครอื่ งพิสจู นท์ ีท่ �ำ ให้ คนในชุมชนเห็นความต้ังใจจริงของกลุ่มเยาวชนท่ี ต้องการพฒั นาชมุ ชนให้ดีข้ึน

144 แปม๋ อธบิ ายวา่ พวกเขาตอ้ งวางแผนขน้ั ตอนการท�ำ งานอยา่ งเปน็ ล�ำ ดบั ชดั เจนกอ่ น แลว้ จงึ น�ำ เสนอ ให้ผู้ใหญ่รับทราบ โครงการเข้ามากระตุ้นให้เราคิดแลว้ ท�ำ แตพ่ อตอ้ งท�ำ จรงิ ๆ ยงั ไงกต็ อ้ งไปขอ ค�ำ แนะน�ำ จากพๆ่ี อบต. กบั คณุ ครกู อ่ นวา่ แบบนด้ี ีไหม เหมาะสมหรือเปล่า ขนั้ ตอนการท�ำ งานของแกนน�ำ เดก็ และเยาวชนหนองอยี อในโครงการพลกิ ฟน้ื ผนื ปา่ ประกอบดว้ ย การส�ำ รวจขอ้ มลู และทำ�แผนทปี่ ่า กจิ กรรม Big Cleaning Day เกบ็ ขยะในปา่ ชุมชน และการจดั การขยะ ในป่าร่วมกบั ผใู้ หญ่ในชมุ ชน เติมความรู้...ก่อนใหค้ วามรู้ ยะ เลา่ วา่ กอ่ นชกั ชวนนอ้ งๆ ในโรงเรยี นท�ำ กจิ กรรม Big Cleaning ในปา่ ชมุ ชน พวกเขาตอ้ งเขา้ ไป สำ�รวจพน้ื ท่ปี า่ เพอ่ื ท�ำ ความรจู้ กั ป่าดว้ ยตัวเองกอ่ น เพราะกอ่ นหนา้ นพ้ี วกเขาเองกแ็ ทบไม่ได้สนใจป่า เท่าไร ส่วนการวาดแผนที่ปา่ ก็เพ่อื ดงึ ดูดความสนใจของนอ้ งๆ ในโรงเรียน และเปน็ เครอ่ื งมอื ใหค้ วามรู้ เก่ยี วกบั พชื สมุนไพรและผกั พ้ืนบา้ นทีไ่ ด้จากการสำ�รวจป่า “ครงั้ แรกกอ่ นไปส�ำ รวจปา่ พวกเราขอใหค้ รูไปเปน็ เพอ่ื น พอลงพน้ื ที่ก็เจอผู้นำ�ชมุ ชน เจอชาวบา้ น เราเลยถามถึงปราชญ์ชาวบ้านท่ีพอจะรู้เรื่องพืชพรรณในป่า ก็ได้รับคำ�แนะนำ�มา ตอนมาสำ�รวจป่า ครง้ั ท่ี 2 พส่ี มเกยี รติ สาระ เลยขอความรว่ มมอื จากผรู้ ใู้ หช้ ว่ ยพาพวกเราเขา้ ไปส�ำ รวจ เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู พชื พนั ธไ์ุ มต้ า่ งๆ ดว้ ย” แป๋ม อธิบายการทำ�งาน หลังทีมงานเติมความรเู้ รอ่ื งป่าแล้ว กิจกรรม Big Cleaning Day กม็ าถึง ครงั้ น้กี ลุ่มเยาวชนขอให้ ครทู ีป่ รกึ ษาช่วยประชาสมั พนั ธ์ชักชวนนกั เรียนในโรงเรยี นเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผลคือไดร้ บั การตอบรับจาก นักเรียนในโรงเรียนอย่างล้นหลาม มีน้องๆ นักเรียนมาร่วมกิจกรรมในวันจริงร่วม 50 คน ทั้งท่ีต้อง ท�ำ งานออกแรงกลางแจ้งกต็ าม ดอม-จริ วฒั น์ การะเกต แกนนำ�เด็กและเยาวชนรุ่นท่ี 3 นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 โรงเรยี น หนองอยี อวทิ ยา เลา่ วา่ ภาพท่เี หน็ นกั เรยี นในโรงเรยี นมาทำ�กิจกรรมกนั ดว้ ยความสนุกสนาน ท�ำ ให้นึก ยอ้ นไปถงึ ตอนทเ่ี ขา้ มาชว่ ยท�ำ กจิ กรรมครง้ั แรกตงั้ แตเ่ รยี นอยชู่ น้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 “ผมเหน็ รนุ่ พมี่ าปลกู ผักสวนครวั หนา้ บ้าน ดแู ลว้ สนกุ ดี แถมยงั ได้ผักมากินอีก เลยอยากมาท�ำ กจิ กรรมดว้ ย” เช่นเดียวกับหมิว ท่ียำ้�ว่า ความสนุกจากการทำ�กิจกรรมร่วมกับเพ่ือนๆ ดึงดูดใจให้เด็กอย่าง พวกเธอออกมาทำ�กจิ กรรมกลางแจง้ แม้ตอ้ งใชเ้ วลาวันหยดุ เสารอ์ าทิตย์ก็ตาม เห็นตัวอย่างดีๆ จาก พแ่ี กนน�ำ รนุ่ ท่ี 1 ทม่ี กั จดั กจิ กรรมจติ อาสา ชกั ชวนนอ้ งๆ ใหเ้ ขา้ มารว่ มกจิ กรรมอยเู่ สมอ “อยบู่ า้ นสบาย กวา่ กจ็ ริง แต่มาท�ำ กิจกรรมแบบนสี้ นุกกว่า” แกไ้ ขความไม่ร.ู้ ..ดว้ ยการให้ความรู้ “ตอนมาส�ำ รวจ เราเหน็ ขยะเยอะมากกจ็ รงิ แตไ่ มค่ ดิ วา่ เมอ่ื มาท�ำ จรงิ มนั จะเยอะขนาดน้ี เกบ็ ยงั ไง กไ็ ม่หมด” เอริ ์น กล่าว

145

146 ยะ บอกว่า ขยะท่ีกองทับถมกันในป่าไม่สามารถ “เห็นเด็กลงมือทำ�ขนาดนี้ ใจลึกๆ ของผู้ใหญ่ก็ คดั แยกเปน็ หมวดหมไู่ ดเ้ ลย วธิ กี ารก�ำ จดั ขยะจงึ หลกี เลย่ี ง นา่ จะคดิ ไดแ้ ลว้ วา่ ตวั เองตอ้ งท�ำ อะไรบา้ ง เพราะปา่ ไมใ่ ช่ วิธีเผาและฝังไม่ได้ พวกเราแบ่งกลุ่มและแบ่งพื้นท่ีกัน ของใครคนใดคนหนงึ่ แตเ่ ป็นของทกุ คน” ฝา้ ย กลา่ ว แต่ละกลุม่ มีแกนนำ�เยาวชนเป็นหวั หนา้ เก็บแล้วน�ำ มา กองรวมไว้ ยะกบั เพอ่ื นๆ ผชู้ ายจะท�ำ หนา้ ทเ่ี กบ็ รวบรวม ท้ังนี้ วิธีการแก้ความไม่รู้ ก็คือการให้ความรู้ อีกที ขยะด้านบนแห้งหน่อยก็เผา แต่ขยะด้านล่างที่ กลมุ่ เยาวชนจงึ ท�ำ แผน่ พบั ใหค้ วามรเู้ รอื่ งการคดั แยก ทบั ถมกนั จนชนื้ กต็ อ้ งขนไปขดุ หลมุ ฝงั บรเิ วณนน้ั มพี น้ื ท่ี ขยะและคณุ คา่ จากปา่ ชมุ ชนขนึ้ มา เพอื่ น�ำ ไปแจกให้ อยปู่ ระมาณ 1 งานใหฝ้ งั ได้ ครง่ึ วนั ผา่ นไปกย็ งั ท�ำ ไมเ่ สรจ็ ถงึ มือชาวบา้ นหมู่ 11 ท่ีมีอย่รู าว 40 หลังคาเรือน เพราะไม่ใช่แค่เศษขยะ มที ง้ั อิฐ หิน ปนู ทราย ทวี ีกม็ ี คือถ้ายกบ้านทั้งหลังมาทิ้งได้คงทำ�ไปแล้ว พวกขยะท่ี “เราตัง้ ใจไปถึงบ้านอยแู่ ลว้ คดิ ว่ามแี ผน่ พบั ตดิ มือ เกบ็ แลว้ บางสว่ นแตข่ นไปไมไ่ ดก้ ย็ งั กองรวมกนั อยใู่ นปา่ ไปดว้ ยนา่ จะดกี ว่า ไปแลว้ เรากอ็ ธบิ ายให้เขาฟงั ด้วยว่า พวกเราเป็นใคร ก�ำ ลังทำ�อะไร อยากใหผ้ ใู้ หญ่ชว่ ยอะไร เม่ือปฏิบัติการคร้ังแรกยังไม่สำ�เร็จด้วยแรง ถา้ ทำ�แล้วจะเกดิ ผลดีต่อชุมชนอยา่ งไร” แปม๋ กลา่ ว ของเดก็ และเยาวชน จงึ ถงึ เวลาทที่ มี แกนน�ำ เยาวชน จะต้องเดินเข้าหาผู้นำ�ชุมชนอย่างจริงจัง เพ่ือขอ ยะ ยำ้�ว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างเร่งด่วนเพ่ือ ความรว่ มมอื อยา่ งเปน็ ทางการ เรมิ่ จากแกไ้ ขปญั หา ท�ำ ใหบ้ นั ไดข้ันแรกสำ�เร็จ คอื ความรว่ มมอื จากผใู้ หญ่ที่ ความไม่รู้ของผู้ใหญ่ และการไม่ตระหนักถึงผลเสีย จะสละเวลาและเครอื่ งมือ ไมว่ า่ จะเป็นรถไถ รถแบ็คโฮ ของการทิ้งขยะในปา่ มาชว่ ยขดุ ขนของหนกั ๆ ใสร่ ถขนออกไปจากปา่ เพอื่ น�ำ ไปจัดการตอ่ อยา่ งถูกวิธี

147 “ผูใ้ หญค่ วรเปดิ พ้ืนทใ่ี ห้เด็กออกไปแสดงความสามารถ ฝกึ คดิ ฝกึ ท�ำ และฝกึ แก้ปัญหาด้วยตวั เอง ทักษะและกระบวนการเรียนรจู้ ากการ ลงมอื ท�ำ ช่วยใหเ้ ดก็ เห็นและดึงศักยภาพของตัวเองออกมา เม่อื เดก็ มี ทกั ษะการใชช้ วี ิตทีเ่ หมาะสม พวกเขาก็จะเปน็ รากฐานส�ำคัญตอ่ การ พัฒนาชุมชนตอ่ ไปในอนาคต” “พลัง” ของความร่วมมือร่วมใจ เมอื่ ต้องสะทอ้ นความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง กลมุ่ เยาวชนตอบเป็นเสียงเดยี วกันว่า พวกเขาเหน็ “พลังของการท�ำ งานเป็นทมี ” การท�ำ งานเพ่อื สว่ นรวมท�ำ ใหต้ อ้ งขยนั อดทน และมีความรับผดิ ชอบ มากขึน้ “เวลาท�ำ งานด้วยกัน เราอยากมาเพราะมเี พ่ือน เลยชวนๆ กันมา มาแล้วถ้าเพอื่ นยงั ไมก่ ลับเราก็ กลับไม่ได้ เพราะเพื่อนยังท�ำ งานอยู่ เราต้องชว่ ยกันท�ำ รอกลับพร้อมกัน” ยะ กลา่ วถงึ มมุ มองความคดิ ของเขา ด้าน หมิว บอกว่า งานสว่ นรวมแทนท่ีจะดงึ เวลาส่วนตวั กลับทำ�ใหเ้ ธอรจู้ กั จัดสรรเวลาและ มเี วลาใหต้ วั เองมากขน้ึ พอมงี านตอ้ งรบั ผดิ ชอบ แทนทจี่ ะปลอ่ ยเวลาใหผ้ า่ นไปโดยเปลา่ ประโยชน์ รโู้ ดยอตั โนมตั วิ า่ เวลาไหนควรท�ำ อะไรกอ่ นหลงั ถา้ มกี ารบา้ นตอ้ งรบี ท�ำ การบา้ นใหเ้ สรจ็ กอ่ น แลว้ จงึ ออกไปกบั เพื่อนๆ ได้ สว่ น ฝา้ ย เล่าว่า จากคนทข่ี เี้ กยี จ อย่บู า้ นไมท่ �ำ อะไรนอกจากเล่นโทรศพั ท์อย่างเดยี ว กลับกลาย เป็นคนท่ีอยากออกไปข้างนอกเพื่อทำ�กิจกรรมจิตอาสา ไม่เคยรู้สึกฝืนใจเวลารุ่นพี่มอบหมาย ให้ท�ำ งาน การหนุนเสรมิ ของชุมชน ด้านสมเกียรติ สาระ หัวหน้าสำ�นักงานปลัด อบต.หนองอียอ บอกว่า องค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถน่ิ และขา้ ราชการทอ้ งถนิ่ มหี นา้ ทส่ี ง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การพฒั นาชมุ ชนในทกุ ๆ ดา้ น เมอ่ื มอี งคก์ รภายนอก เข้ามาสนับสนุนให้เด็กเยาวชนทำ�โครงการท่ีเป็นประโยชน์และช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน ถอื เปน็ โอกาสทด่ี ที ต่ี อ้ งควา้ ไว้ ผใู้ หญค่ วรเปดิ พนื้ ทใี่ หเ้ ดก็ ออกไปแสดงความสามารถ ฝกึ คดิ ฝกึ ท�ำ และฝึกแก้ปัญหาด้วยตวั เอง ทกั ษะและกระบวนการเรียนร้จู ากการลงมือท�ำ ช่วยใหเ้ ด็กเหน็ และ ดึงศักยภาพของตวั เองออกมา เม่อื เด็กมีทกั ษะการใชช้ ีวติ ทเ่ี หมาะสม พวกเขากจ็ ะเปน็ รากฐาน ส�ำ คัญต่อการพัฒนาชุมชนต่อไปในอนาคต หนคู ลา้ ย วรวงษ์ ทปี่ รกึ ษาโครงการ บอกวา่ ทางโรงเรยี นสนบั สนนุ โครงการพฒั นาศกั ยภาพเดก็ และเยาวชนร่วมกบั อบต.อยแู่ ล้ว ท่ผี ่านมาไดม้ กี ารจัดค่ายในโรงเรียนเป็นรนุ่ ที่ 4 เพือ่ เฟน้ หาแกนนำ� เด็กและเยาวชนท่ีอาสาเข้ามาเป็นผู้นำ�และเป็นแบบอย่างแก่เพ่ือนๆ นักเรียน เพราะเช่ือว่ากิจกรรม

148 ทใี่ หน้ กั เรยี นเขา้ มาเรยี นรจู้ ะชว่ ยพฒั นาตวั เองและพฒั นาสว่ นรวมไปพรอ้ มกนั ทั้งนี้ กิจกรรมท่ีโรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนในโรงเรียนได้เข้ามาเรียนรู้ส่วนใหญ่ เนน้ ทก่ี ารฝกึ ทกั ษะอาชพี เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นน�ำ ความรแู้ ละทกั ษะทไ่ี ดไ้ ปประกอบอาชพี พึง่ พาตวั เองและดูแลครอบครัวได้ “การท�ำ กิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน ชว่ ยพัฒนาศักยภาพและทักษะชวี ิตให้ เดก็ และเยาวชนได้ โดยเฉพาะดา้ นการวางแผนความรบั ผดิ ชอบและความอดทน เราสร้างเด็กมา 3 รุ่นแล้ว ตอนนี้ก�ำ ลังจะมีรุ่นท่ี 4 สิ่งท่ีเกิดข้ึนอย่างชัดเจนใน ตวั เดก็ คือ เขาสามารถวางแผนการทำ�งาน เป็นตวั ตัง้ ตวั ตเี ขา้ มาขอค�ำ ปรกึ ษาเรา ดว้ ยตัวเอง ไมต่ อ้ งรอให้ใครบอกหรือสัง่ ” ตลอดหลายปีที่ผา่ นมา การทำ�งานของแกนนำ�เด็กและเยาวชนภายใตก้ าร ดแู ลของเจา้ หน้าที่ อบต. และครูทป่ี รกึ ษา สรา้ งผลกระทบเชิงบวกท่เี หน็ ไดอ้ ย่าง ชดั เจน 2 อยา่ ง คอื 1. สรา้ งความนา่ เชอ่ื ถอื ใหแ้ กนน�ำ เดก็ และเยาวชนในการ ท�ำ กจิ กรรมพัฒนาชมุ ชน ท�ำ ใหแ้ กนนำ�สามารถชักชวนเด็กคนอื่นๆ เข้ามาทำ� กจิ กรรมไดม้ ากขน้ึ โดยมคี รชู ว่ ยประชาสมั พนั ธแ์ ละขอความรว่ มมอื จากผปู้ กครอง ผปู้ กครองเองก็ไวใ้ จและอนญุ าตใหล้ กู หลานมาทำ�กจิ กรรมในวนั หยุด เนอ่ื งจาก มคี รูและเจ้าหน้าที่ อบต. คอยดแู ลเรื่องความปลอดภยั 2. การสนบั สนุนของ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและโรงเรียน ทำ�ให้ผู้นำ�ชุมชนและชาวบ้าน เปดิ ใจยอมรบั กจิ กรรมของเดก็ และเยาวชนมากขน้ึ เหมอื นเปน็ ใบเบกิ ทางให้ แกนนำ�เยาวชนสามารถเข้าถึงผู้ใหญ่ แล้วต่อยอดพัฒนาความสัมพันธ์ท่ีดีข้ึน ตอ่ ไปในอนาคต จากค�ำ ถามกระตุกตอ่ มคดิ ทวี่ า่ “ปา่ เรามีขยะเยอะ พวกเราจะทำ�อะไร ไดบ้ า้ งกบั ขยะทอ่ี ยใู่ นปา่ ” ท�ำ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนกลมุ่ หนง่ึ ไมน่ งิ่ ดดู าย รว่ มผนกึ ก�ำ ลงั ทงั้ แรงกาย แรงใจกนั อยา่ งแขง็ ขนั เพอ่ื พลกิ ฟนื้ ผนื ปา่ ของชมุ ชนใหก้ ลบั มาเป็น “ปา่ ” เหมือนเดมิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook