Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน_ว21_27032563

แผนการสอน_ว21_27032563

Published by sang2556000, 2020-03-26 05:51:04

Description: แผนการสอน_ว21_27032563

Search

Read the Text Version

5. การบูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 5.1ความพอประมาณ 1. มีควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มูลในกำรใช้พลงั งำนไฟฟ้ำอยำ่ ง เหมำะสมและประหยัด เช่น ปิดเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ปดิ เครอื่ งปรบั อำกำศ ปิดไฟฟำ้ ปิดพดั ลมเมอื่ เลกิ กำรใช้งำน 2. จัดสรรเวลำในกำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมท่ีไดร้ ับมอบหมำยอย่ำงเหมำะสม 5.2 ความมเี หตุผล 1. เหน็ คุณคำ่ ของปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งในกำรนำไปพฒั นำชีวติ โดยใชพ้ ลังงำนไฟฟำ้ ที่มอี ยู่ ใหค้ ้มุ ค่ำและเกดิ ประโยชน์สงู สุด 2. สำมำรถพิมพห์ นงั สอื รำชกำร และจดหมำยเวียนได้อย่ำงถูกตอ้ ง 5.3 การมีภมู คิ ุม้ กันในตัวทด่ี ี 1. มคี วำมตระหนกั และรู้จกั ประยุกต์ใช้ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งในกำรดำเนินชวี ิตได้อยำ่ งถกู ต้อง 2. ฝึกฝนทกั ษะกำรพิมพ์หนงั สอื รำชกำร และจดหมำยเวียนได้อยำ่ งถูกตอ้ ง 3. ฝกึ ฝนทกั ษะกำรสรุปสำระสำคญั ประจำหน่วยเรียน 5.4 เง่อื นไขความรู้ 1. กำรพมิ พ์และจดั รปู แบบหนงั สอื ภำยใน 2. กำรพิมพ์และจดั รปู แบบหนังสอื ภำยนอก 3. กำรสร้ำงจดหมำยเวยี น 5.5 เง่ือนไขคุณธรรม 1. ควำมรับผดิ ชอบในกำรปฏิบัติงำน 2. ควำมมวี ินัย 3. กำรพ่งึ ตนเอง 4. มคี วำมสนใจใฝร่ ู้ 5. มีควำมซื่อสัตยส์ จุ รติ 6. กำรประหยดั 7. มคี วำมเชอื่ มั่นในตนเอง 8. มีควำมคิดริเร่ิมสรำ้ งสรรค์ 9. มคี วำมรอบคอบ/ระมัดระวงั 10. มีควำมเป็นประชำธปิ ไตยและควำมเป็นไทย 5.6 เชอ่ื มโยงสู่ 4 มิติ มที กั ษะในกำรพมิ พห์ นงั สือรำชกำร และจดหมำยเวียน โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2016 ไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม ทำให้เป็นผมู้ คี วำมสนใจใฝ่รู้ มีควำมระมัดระวงั และเกิดควำมเชือ่ มัน่ ในตนเอง

6. กจิ กรรมการเรียนรู้ (สอนแบบบรรยาย อธิบายและสาธิต) ขน้ั เตรยี ม 1. จัดเตรยี มเอกสำรประกอบกำรสอน สอื่ กำรเรียนกำรสอน วิธกี ำรเรียน กำรปฏบิ ตั งิ ำนทไ่ี ด้รับมอบหมำย และวธิ ีวดั ผลประเมนิ ผล กำรปฏบิ ัติตำมกฎระเบยี บของสถำนศึกษำ 2. ให้ผูเ้ รยี นเปดิ ไฟฟำ้ ดวงทจี่ ำเป็นต้องใช้ เปดิ เครือ่ งปรบั อำกำศ และเปดิ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ตำมจำนวนผู้เรยี น ถำ้ มเี ครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ ี่ไมไ่ ดใ้ ชห้ รือใชไ้ ม่ได้ ห้ำมไม่ให้เปิดหนำ้ จอทงิ้ ไว้ เพรำะสิน้ เปลืองพลงั งำน 3. แจง้ จดุ ประสงค์กำรเรยี นของหน่วยที่ 8 และกำรใหค้ วำมร่วมมือของผ้เู รยี นในกำรทำกิจกรรม 4. สอบถำมผู้เรยี นเร่อื งกำรพมิ พ์จดหมำยเวยี น สำมำรถใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2016 พมิ พไ์ ด้หรอื ไม่ โดยกำรสอบถำมเปน็ รำยบุคคลและรำยกลุ่มเพื่อให้ผเู้ รียนไดแ้ สดงควำมคดิ เหน็ อยำ่ งมีเหตผุ ล 5. ผสู้ อนบอกแนวทำงในกำรเรยี น และวธิ กี ำรปฏิบัติตำมภำระงำนทมี่ อบหมำย ข้นั นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ใหผ้ ้เู รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยท่ี 8 ในเวลำที่กำหนด 2. เม่อื ผ้เู รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเสรจ็ แลว้ ให้ผู้เรียนผลดั กนั ตรวจแบบทดสอบกบั เพ่ือนดว้ ยควำมซอื่ สตั ย์ สุจรติ โดยผู้สอนเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยที่ 8 ขน้ั สอน 1. ผู้สอนทำกำรสอนโดยใหผ้ ู้เรียนเปิดหนงั สือประกอบกำรเรียนกำรสอน 2. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นเปิดเครื่องคอมพวิ เตอร์และเข้ำส่กู ำรใชง้ ำนโปรแกรม Microsoft Word 2016 3. ผ้สู อนทำกำรอธิบำยเน้อื หำควำมร้เู กย่ี วกับกำรพมิ พ์จดหมำยเวยี น และกำรพิมพซ์ องจดหมำย พรอ้ มท้งั สำธิตเน้อื หำกำรเรยี นรแู้ ตล่ ะเรอ่ื งใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ รยี นรไู้ ปพร้อมกนั 4. ผู้สอนบอกวิธกี ำรและแนวคดิ ในกำรปฏบิ ตั ทิ ถ่ี ูกต้องใหแ้ ก่ผเู้ รียน สงั เกต บันทึกพฤติกรรมผเู้ รยี นขณะเรยี น และศกึ ษำบทเรียน คอยชว่ ยเหลือและใหค้ ำแนะนำเมอ่ื ผเู้ รยี นเกดิ ควำมสงสัย 5. ผสู้ อนเปดิ โอกำสใหผ้ ู้เรียนซกั ถำมข้อสงสยั ข้นั สรุป 1. ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนศึกษำจำกใบควำมรแู้ ละทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิตำมใบงำน 2. สังเกต บนั ทึกพฤติกรรมผู้เรยี นขณะดำเนนิ งำนตำมใบงำน คอยชว่ ยเหลอื ใหค้ ำแนะนำเมอ่ื ผู้เรียนเกิดควำมสงสยั 3. ผเู้ รียนทำงำนตำมใบงำน ผสู้ อนเดนิ สำรวจกำรศกึ ษำข้อมูลจำกใบควำมรู้และฝกึ ปฏบิ ตั ติ ำมใบงำนของผเู้ รยี น หำกพบว่ำผเู้ รียนยงั ไม่เขำ้ ใจ ผูส้ อนจะทำกำรอธิบำยให้ผเู้ รียนอีกครั้ง 4. เมอ่ื ผู้เรยี นทำงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำยเสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ให้อธบิ ำยคำตอบพรอ้ มท้งั วธิ ีกำรไดม้ ำซงึ่ คำตอบ 5. ผู้สอนทำกำรเฉลยรว่ มกับผเู้ รียน พรอ้ มทงั้ อธบิ ำยข้อมลู เพิม่ เตมิ หำกผเู้ รยี นเกดิ ควำมสงสยั และผเู้ รียนคนใด ยังทำงำนทีไ่ ด้รับมอบหมำยไมถ่ ูกตอ้ งใหท้ ำกำรแกไ้ ขให้ถกู ต้องเรยี บร้อยและเกบ็ สะสมชน้ิ งำนทุกงำนทไ่ี ด้รบั มอบหมำย ส่งตำมกำหนด 6. ผสู้ อนร่วมกับผู้เรียนชว่ ยกันสรุปสำระกำรเรยี นรปู้ ระจำหน่วยกำรเรียน เพอ่ื สง่ เสรมิ ควำมเปน็ ประชำธิปไตย 7. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั ท้ำยหนว่ ยเรียน

8. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 8 ในเวลำท่ีกำหนด 9. ผูส้ อนเฉลยแบบฝกึ หดั ทำ้ ยหน่วยเรียน พรอ้ มกับให้ผู้เรยี นแลกเปลยี่ นกระดำษคำตอบกนั โดยครูผู้สอน เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 10. ผู้สอนให้ผเู้ รียนท่ีไดร้ ับมอบหมำยเวรประจำวนั สำรวจควำมเรียบรอ้ ยของหอ้ งเรยี น พรอ้ มท้ังทำควำม สะอำดหอ้ งเรียน และให้ผู้เรยี นเตรยี มตวั เรยี นในคำบต่อไป 7. สอ่ื ประกอบการจัดการเรียนรู้ สือ่ ส่ิงพมิ พ์ 1. หนังสอื เรียนวิชำโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) รหสั วิชำ 20204-2102 2. แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรียน 3. ใบควำมรทู้ ี่ 8 กำรสรำ้ งจดหมำยเวยี นและกำรพมิ พ์ซองจดหมำย 4. ใบกิจกรรม 5. แบบฝึกหดั ทำ้ ยหนว่ ยเรียน 6. แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรยี น และแบบฝึกหดั ท้ำยหน่วยเรียน 7. แบบประเมนิ ผลกำรทำงำนตำมใบงำน 8. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม สื่อโสตทศั น์ 1. คอมพวิ เตอร์พรอ้ มอปุ กรณ์ต่อพว่ ง 2. โปรแกรม Microsoft Word 2016 3. โปรเจคเตอร์ 4. บทเรียนออนไลน์ วชิ ำโปรแกรมประมวลผลคำ 5. ไมโครโฟน เครือ่ งขยำยเสยี งพรอ้ มลำโพง สอ่ื ของจรงิ - 8. แหลง่ การเรยี นรู้เพิ่มเติม ในสถานศึกษา 1. e-learning วทิ ยำลัยเทคนิคนำ้ พอง 2. หอ้ งปฏบิ ัติกำร Internet ค้นควำ้ ขอ้ มูลทำง Internet 3. ครูผู้สอนแผนกวิชำคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ นอกสถานศึกษา 1. ห้องสมดุ ประชำชน / ร้ำนหนังสือ 2. Internet

9. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธก์ ับวิชาอ่นื 1. บูรณำกำรกบั กลมุ่ วิชำภำษำไทย กำรฝึกปฏบิ ัตเิ ขยี นยอ่ ควำมเขยี นเรยี งควำมเขยี นโครงกำรเขยี นรำยงำน วชิ ำกำร เขียนจดหมำยสมัครงำนเขียนบนั ทึกขอ้ ควำมในหน่วยงำนเขียนรำยงำนกำรประชมุ กรอกแบบฟอรม์ เอกสำร ประเภทตำ่ ง ๆ เขยี นแสดงควำมรสู้ กึ ในโอกำสตำ่ ง ๆ โดยกำรจดั พิมพใ์ นโปรแกรมประมวลผลคำ 2. บูรณำกำรรว่ มกับกลุ่มวชิ ำภำษำต่ำงประเทศ โดยกำรนำโปรแกรมประมวลผลคำมำประยกุ ตใ์ ช้ในกำรเขยี น โต้ตอบทำงสังคมเขยี นให้ขอ้ มูลบคุ คลเขียนจดหมำยส่วนตัวเขยี นจดหมำยอเิ ลก็ ทรอนิกส์เขยี นบนั ทึกยอ่ / ขอ้ ควำม สั้นๆในโอกำสต่ำง ๆ กรอกใหข้ ้อมลู ในแบบฟอร์มต่ำง ๆ ใบสมคั รงำนใบสมคั รสมำชิกตำ่ ง ๆ ใบขอรับทนุ ใบสมคั รเขำ้ ศกึ ษำ ใบสมัครสอบฯลฯเขยี นใหข้ ้อมลู ในเอกสำรกำรปฏิบตั งิ ำนในงำนอำชพี ตำ่ ง ๆ เขยี นบันทึกย่อรำยงำนส้นั ๆ เขยี น จดหมำยธุรกจิ ประเภทตำ่ ง ๆ ใช้ ICT เปน็ แหลง่ กำรเรยี นรดู้ ้วยตนเองหรอื ฝกึ ฝนกบั เพอื่ นใช้ ICT พัฒนำทักษะ กำรฟงั -กำรดูกำรพูดอำ่ น กำรเขยี นสบื ค้นขอ้ มลู จำกแหลง่ กำรเรยี นรู้ทหี่ ลำกหลำยเพ่ือพฒั นำทักษะกำรสื่อสำรและ กำรประกอบอำชพี 3. บรู ณำกำรร่วมกบั กลุ่มวชิ ำคณิตศำสตร์ ดำ้ นกำรใช้สตู รและฟงั กช์ ั่นในกำรคำนวณประยกุ ต์ กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ในกำรวำงแผนกำรออกแบบประดษิ ฐค์ ดิ ค้นสง่ิ ใหมๆ่ ในงำนอำชีพ 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ขณะเรยี น 1. ตรวจผลงำนตำมทไี่ ด้รบั มอบหมำย 2. สังเกตกำรปฏิบัตงิ ำน หลังเรยี น 1. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 2. ตรวจงำนทไ่ี ดร้ บั มอบหมำย 3. ตรวจแบบฝกึ หัดทำ้ ยหนว่ ยเรยี น 1. สงิ่ ทจ่ี ะวดั 1.1 ควำมรูค้ วำมเข้ำใจจดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1.2 กำรประเมินผลงำน 1.3 สังเกตพฤติกรรมขณะเรียน 2. วิธีการวดั 2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หลงั เรียน 2.2 ตรวจงำนทมี่ อบหมำย 2.3 สังเกตพฤตกิ รรมขณะเรยี น

3. เคร่อื งมือวัด 3.1 แบบทดสอบ 3.2 กจิ กรรมทีม่ อบหมำย 3.3 แบบสังเกตพฤติกรรม 4. เกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดผล 1. ให้ข้อถูก ข้อละ 1 คะแนน ขอ้ ผิด 0 คะแนน 2. ให้คะแนนพฤติกรรมกำรเรียน 5 หมำยถึง ดมี ำก 4 หมำยถงึ ดี 3 หมำยถึง ปำนกลำง 2 และ 1 หมำยถึง ตอ้ งปรบั ปรงุ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. ผู้เรยี นได้คะแนนจำกกำรทำแบบทดสอบ ไม่ต่ำกวำ่ รอ้ ยละ 60 2. ผู้เรยี นไดค้ ะแนนจำกกิจกรรมกำรเรียน ไมต่ ำ่ กวำ่ รอ้ ยละ 80 3. ผเู้ รยี นไดค้ ะแนนพฤติกรรมกำรเรยี น ไมต่ ่ำกว่ำร้อยละ 60 เกณฑก์ ารวดั แบบทดสอบ 15 คะแนน ระดบั ดี ตงั้ แตร่ ้อยละ 80 ขน้ึ ไป (12 คะแนน) ระดบั ปำนกลำง ต้ังแตร่ อ้ ยละ 60 - 70 ขน้ึ ไป (9 - 11 คะแนน) ระดับปรับปรุง ตงั้ แตร่ ้อยละ 50 ลงมำ (8 คะแนนลงมำ) เกณฑ์การผา่ น ตัง้ แตร่ ะดบั ปำนกลำงขึน้ ไป หรอื ต้ังแต่รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป กจิ กรรมเสนอแนะประจาหน่วย 1. ผเู้ รียนตอ้ งให้ควำมสนใจในกำรศกึ ษำ เพื่อหำเทคนคิ วธิ ีกำร หรอื หลักกำรง่ำยเพอ่ื ใหห้ ำคำตอบไดอ้ ยำ่ ง ถูกตอ้ ง และรวดเร็ว โดยกำร ตง้ั ใจฟังหลกั กำร เทคนิควธิ กี ำรทีค่ รผู ู้สอนสรุปในขณะที่ทำกำรสอน และนำขอ้ สงสยั ซักถำมครูในกำรเรยี นทุกครงั้ ทีเ่ กดิ ควำมสับสน และไม่เขำ้ ใจ 2. ผู้เรยี นควรมกี ำรทบทวนบทเรยี นตลอด เพ่ือเสริมสร้ำงควำมเข้ำใจอย่ำงแทจ้ รงิ 3. ผูเ้ รียนหมั่นทำใบงำน แบบฝกึ หัด และแกไ้ ขขอ้ ทผ่ี ดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ

ตวั ชี้วัดท่ี 1.2.1 ข้อ 3 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ ขอ้ 3 ประเมนิ ผลการใช้หนว่ ยการเรียนรู้ หรอื เนอ้ื หาสาระ การเรียนรู้ และนาผลการประเมินมาปรับปรงุ ให้มคี ุณภาพ สงู ขน้ึ แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วทิ ยาลยั เทคนิคนา้ พอง

แบบประเมินค่าดชั นีความสอดคลอ้ ง (IOC) ของเนอ้ื หาหน่วยการเรยี นรู้ รหสั วิชา 20204-2102วิชา โปรแกรมประมวลผลคา แบบประเมนิ ผลชดุ นีเ้ ป็นแบบสอบถำมควำมคดิ เหน็ ผเู้ ชย่ี วชำญ ทมี่ ตี ่อแบบประเมนิ เนอ้ื หำหนว่ ยกำรเรยี นรู้ รหสั วิชำ 20204-2102วิชำ โปรแกรมประมวลผลคำ คำชแี้ จง แบบประเมินชุดนแ้ี บง่ ออกเป็น 2 ตอน ดังน้ี ตอนที่ 1 ขอ้ มูลเกี่ยวกับสถำนภำพของผตู้ อบแบบประเมนิ ตอนที่ 2 ควำมคดิ เหน็ ของผู้เชี่ยวชำญทม่ี ีต่อขอ้ คำถำมเนื้อหำหน่วยกำรเรยี นรู้ ตอนท่ี 1 ข้อมลู เกีย่ วกับสถำนภำพของผตู้ อบแบบประเมิน คำชี้แจงโปรดกำเคร่อื งหมำย “ ✓ ” ลงในวงเล็บหน้ำข้อควำมทตี่ รงกับควำมจริง 1. ระดบั กำรศกึ ษำ ( ) ปรญิ ญำตรีหรือเทยี บเทำ่ ( ) ปรญิ ญำโท หรือเทียบเท่ำ ( ) ปรญิ ญำเอก หรือเทยี บเท่ำ ( ) อ่ืนๆโปรดระบุ…………………………………………………….. 2. ตำแหนง่ /หน้ำทก่ี ำรทำงำน ( ) ครู-อำจำรย์ ( ) ผู้บรหิ ำร ( ) นักวจิ ยั ( ) อื่นๆโปรดระบุ…………………………………………………….. 3. ประสบกำรณใ์ นกำรทำงำน ( ) 5-10 ปี ( ) มำกกว่ำ 10 ปแี ต่ไมเ่ กนิ ่ 15 ปี ( ) มำกกว่ำ 15 ปขี ึ้นไป

ตอนที่ 2 ควำมคดิ เห็นของผู้เชย่ี วชำญท่ีมีตอ่ ขอ้ คำถำมต่อเนื้อหำหนว่ ยกำรเรียนรู้ คำชแ้ี จง โปรดพิจำรณำประเมนิ คณุ ดำ้ นขอ้ คำถำม เน้ือหำหน่วยกำรเรยี นรู้ รหสั วิชำ 20204-2102 วิชำ โปรแกรมประมวลผลคำ โดยพิจำรณำข้อควำมในแต่ละข้อแล้วทำเครอ่ื งหมำย “ ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รง ” กบั ควำมเห็นของทำ่ น โดยระดบั ควำมคิดเหน็ มีเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ดงั นี้ ระดับความคิดเหน็ +1 หมำยถึง ดีมำก ระดบั คะแนน 0 หมำยถงึ ดี ระดับคะแนน -1 หมำยถึง ปรบั ปรุง ระดบั คะแนน ขอ้ คาถามความคิดเหน็ ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ผู้เช่ียวชาญ 1. เนอ้ื หำสอดคล้องหรอื ตรงตำมหลกั สตู ร 2. เนื้อหำตรงตำมวตั ถุประสงคข์ องเร่ือง +1 0 -1 3. เนอ้ื หำครอบคลมุ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 4. กำรเรยี งลำดบั เนือ้ หำเหมำะสม 5. เนอ้ื หำมีควำมยำกงำ่ ยมคี วำมเหมำะสมกับระดบั ผูเ้ รยี น 6. เนื้อหำมีควำมถูกต้อง 7. กำรจัดรูปแบบเนื้อหำมีควำมเหมำะสม 8. กำรเชอื่ มโยงเนอื้ หำอน่ื เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมโี อกำสคน้ คว้ำเพิ่มเติม 9. ภำพประกอบมคี วำมสมั พันธก์ ับเน้ือหำ ข้อเสนอแนะ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชอ่ื …………………………………………….ผ้ปู ระเมนิ (…………………………………………….) ตำแหนง่ ............................................... วันท่ีประเมิน............/………../……….. หมายเหตุ : กำรประเมินผลใชห้ นว่ ยกำรเรยี นรูห้ รอื เนือ้ หำสำระกำรเรียนรโู้ ดยประเมินจำกกำรทำ แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียนของผเู้ รยี นหรือผรู้ ับบรกิ ำร

แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลงั เรยี น จงทาเคร่ืองหมาย × เพือ่ เลือกคาตอบท่ถี กู ต้องท่ีสุดเพยี งคาตอบเดยี ว 1. วธิ ีกำรใช้คำสั่งในกำรแทรกตำรำงขอ้ ใดถกู ต้อง ก. แฟ้ม >แทรก ข. แทรก >ตำรำง ค. ตำรำง >แทรก ง. มุมมอง >ตำรำง 2. ปุ่มเคร่ืองมือน้ี ใช้สำหรับทำอะไร ก. ดูเสน้ ตำรำง ข. เลอื กตำรำง ค. แทรกตำรำง ง. วำดตำรำง 3. จำกขอ้ ควำม ตำรำง 4x3 หมำยควำมว่ำอยำ่ งไร ก. ทำกำรแทรกแถวแบบ 4x3 แถว ข. ทำกำรแทรกคอลมั น์ 4 คอลัมน์ แทรกแถว 3แถว ค. ทำกำรแทรกแถว 4 แถว แทรกคอลัมน์ 3คอลมั น์ ง. ทำกำรแทรกคอลัมน์แบบ 4x3 คอลมั น์ 4. ปมุ่ เครอ่ื งมือใดใช้สำหรับลบคอลมั น์ ก. ข. ค. ง.

5. ปมุ่ เครอ่ื งมือน้ี ใช้สำหรบั ทำอะไร ก. แทรกแถวดำ้ นบน ข. แทรกแถวดำ้ นล่ำง ค. แทรกคอลัมนท์ ำงขวำ ง. แทรกคอลมั น์ทำงซำ้ ย 6. ปุ่มเครื่องมอื นี้ ใชส้ ำหรบั ทำอะไร ก. แทรกคอลัมน์ทำงขวำ ข. แทรกคอลมั นท์ ำงซำ้ ย ค. แทรกแถวด้ำนบน ง. แทรกแถวดำ้ นลำ่ ง 7. ปมุ่ เครื่องมอื น้ี ใช้สำหรับทำอะไร ก. ผสำนเซลล์ ข. แยกเซลล์ ค. กระจำยแถว ง. กระจำยคอลัมน์ 8. ปุ่มเคร่อื งมอื ใดใชใ้ นกำรแยกตำรำง ก. ข. ค. ง. 9. ปุม่ เครื่องมอื นี้ ใชส้ ำหรบั ทำอะไร ก. จดั ข้อควำมชิดขวำ ข. จัดข้อควำมชิดซ้ำย ค. ปรับพอดอี ตั โนมัติ ง. จดั วำงทศิ ทำงของขอ้ ควำม 10. ปุม่ เครื่องมอื นี้ ใช้สำหรับทำอะไร ก. แทรกคำ่ ตวั เลข ข. ปรบั ปรงุ ข้อมูล ค. ฟงั กช์ นั กำรคำนวณ ง. กำหนดรูปแบบขอ้ มูล

ตัวชวี้ ดั ที่ 1.2.1 ขอ้ 4 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ขอ้ 4 เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นพเี่ ลี้ยง และหรอื เปน็ ท่ีปรกึ ษา ดา้ นการออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ แผนกวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วิทยาลัยเทคนิคน้าพอง

ร่วมปรึกษาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ดา้ นการจัดทาส่อื การเรียนการสอน อบรมครแู กนนาจดั ทาบทเรยี นออนไลน์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา อบรมพฒั นานวัตกรรม เพ่ือการจัดการเรยี นร้แู บบบรู ณาการ สื่อดิจทิ ลั แบบ Active Learning

นาเสนอนวตั กรรมการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนแบบบูรณาการส่อื ดจิ ิทลั แบบ Active Learning

เผยแพร่และนาเสนอการจดั ทาบทเรยี นออนไลน์ จดั อบรมให้ความรแู้ ก่ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา เร่อื ง การสรา้ งสื่อดว้ ย AR

ตัวชวี้ ัดที่ 1.2.2 ขอ้ 1 1.2.2 การจัดทาแผนการเรยี นรู้/แผนการฝกึ อบรมอาชพี / แผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล(IP)/แผนการจัด ประสบการณ์ ข้อ 1 วิเคราะห์ผเู้ รียนหรอื ผเู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมเปน็ รายบุคคล แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วทิ ยาลัยเทคนคิ นา้ พอง

แบบประเมนิ ผู้เรียนรายบคุ คลโดยการทดสอบกอ่ นเรียน รหสั วชิ า 20204-2102 ชือ่ รายวชิ า โปรแกรมประมวลผลคา ระดับช้นั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้นั ปีท่ี 1 ประจาภาคเรยี นที่ 1/2562 จัดทาโดย นางแสงเดือน จงเจริญวิไล ตาแหนง่ ครู วทิ ยะฐาน ชานาญการพเิ ศษ แผนกวิชาคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ วิทยาลัยเทคนคิ นา้ พอง

แบบทดสอบกอ่ นเรียน จงทาเครอื่ งหมาย× เพ่อื เลือกคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งท่สี ุดเพยี งคาตอบเดียว 1. ข้อใดเปน็ ควำมหมำยของโปรแกรมประมวลผลคำ ก. เป็นโปรแกรมทส่ี ร้ำงคำหรอื ข้อควำมและรปู ภำพ ข. เป็นโปรแกรมทช่ี ว่ ยสรำ้ งงำนเอกสำรตำ่ ง ๆ ค. เป็นโปรแกรมใชส้ ร้ำงเอกสำรเพอ่ื นำเสนอผลงำน ง. เป็นโปรแกรมทีส่ ร้ำง และเก็บข้อมลู ในรปู แบบเอกสำร 2. โปรแกรมประมวลผลคำเป็นโปรแกรมทเ่ี หมำะจะนำมำใช้กับงำนด้ำนใด ก. ดำ้ นกำรจัดเก็บประวัติพนกั งำน ข. ดำ้ นกำรคำนวณ ค. ด้ำนกำรนำเสนอผลงำน ง. ด้ำนกำรจดั ทำเอกสำร รำยงำน 3. โปรแกรมประมวลผลคำทใ่ี ช้ในยคุ แรกๆ มีช่อื วำ่ อะไร ก. WORDSTAR ข. CU Writer ค. Microsoft Offices ง. Rachavitee 4. โปรแกรมประมวลผลคำท่ีคนไทยพัฒนำขน้ึ คร้ังแรกคือขอ้ ใด ก. WORDSTAR ข. CU Writer ค. Microsoft Offices ง. Rachavitee 5. โปรแกรมชดุ สำนักงำน ที่ผลติ สู่ออกตลำดครง้ั แรก มชี ื่อวำ่ อะไร ก. Microsoft WordStar ข. Microsoft Office 3.5 ค. Microsoft CU Writer ง. Microsoft RW Rachavitee

6. คำวำ่ “Auto Format” หมำยถึงขอ้ ใด ก. กำรตรวจสอบคำผดิ อตั โนมตั ิ ข. กำรจดั รูปแบบอตั โนมตั ิ ค. กำรแกไ้ ขอัตโนมัติ ง. กำรใส่ขอ้ ควำมอตั โนมตั ิ 7. ข้อใดเปน็ คุณลักษณะของโปรแกรมประมวลผลคำทีด่ ี ก. มรี ะบบทำงำนอตั โนมตั ิ ข. มตี ำรำงคำนวณทีส่ ะดวก ค. สำมำรถเปดิ โปรแกรมอืน่ ๆ ได้ ง. สำมำรถแทรกภำพเคล่ือนไหวได้ 8. ขอ้ ใดไม่ใช่คุณลักษณะท่ีดีของกำรใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ ก. กำรทำงำนอตั โนมัติ ข. กำรขอควำมช่วยเหลอื ค. กำรคน้ หำและแทนท่คี ำ ง. ใช้ขอ้ มูลรว่ มกบั โปรแกรมอื่นไม่ได้ 9. ขอ้ ใดคือควำมสำคญั ของโปรแกรมประมวลผลคำ ก. มรี ะบบกำรคน้ หำและแทนทค่ี ำ ข. สำมำรถแทรกภำพเคล่ือนไหวได้ ค. มรี ะบบกำรทำงำนอัตโนมัติ ง. สำมำรถจัดรปู แบบเอกสำรไดอ้ ย่ำงรวดเร็ว 10. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคำ ก. ช่วยสรำ้ งเอกสำรใหม้ ีควำมสวยงำม ข. ชว่ ยลดปริมำณกระดำษทจี่ ัดเก็บ ค. ช่วยประหยดั เวลำและค่ำใช้จำ่ ย ง. เพม่ิ ข้นั ตอนในกำรจดั ทำเอกสำร 11. วธิ ีกำรใช้คำส่งั ในกำรแทรกตำรำงขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก. แฟม้ >แทรก ข. แทรก >ตำรำง ค. ตำรำง >แทรก ง. มุมมอง >ตำรำง

12. ปุ่มเครื่องมือนี้ ใชส้ ำหรบั ทำอะไร ก. ดเู ส้นตำรำง ข. เลอื กตำรำง ค. แทรกตำรำง ง. วำดตำรำง 13. จำกข้อควำม ตำรำง 4x3 หมำยควำมวำ่ อย่ำงไร ก. ทำกำรแทรกแถวแบบ 4x3 แถว ข. ทำกำรแทรกคอลมั น์ 4 คอลัมน์ แทรกแถว 3แถว ค. ทำกำรแทรกแถว 4 แถว แทรกคอลมั น์ 3คอลัมน์ ง. ทำกำรแทรกคอลัมน์แบบ 4x3 คอลมั น์ 14. ปมุ่ เคร่ืองมอื ใดใช้สำหรบั ลบคอลมั น์ ก. ข. ค. ง. 15. ปมุ่ เครอื่ งมือนี้ ใช้สำหรับทำอะไร ก. แทรกแถวด้ำนบน ข. แทรกแถวดำ้ นล่ำง ค. แทรกคอลมั นท์ ำงขวำ ง. แทรกคอลัมน์ทำงซำ้ ย

16. ปุม่ เครื่องมือน้ี ใช้สำหรบั ทำอะไร ก. แทรกคอลัมน์ทำงขวำ ข. แทรกคอลัมน์ทำงซ้ำย ค. แทรกแถวด้ำนบน ง. แทรกแถวด้ำนลำ่ ง 17. ปมุ่ เครื่องมอื น้ี ใชส้ ำหรับทำอะไร ก. ผสำนเซลล์ ข. แยกเซลล์ ค. กระจำยแถว ง. กระจำยคอลมั น์ 18. ปุ่มเครอื่ งมอื ใดใช้ในกำรแยกตำรำง ก. ข. ค. ง. 19. ป่มุ เครือ่ งมอื นี้ ใชส้ ำหรบั ทำอะไร ก. จดั ข้อควำมชดิ ขวำ ข. จัดขอ้ ควำมชดิ ซำ้ ย ค. ปรับพอดอี ตั โนมัติ ง. จดั วำงทศิ ทำงของข้อควำม 20. ปมุ่ เครอ่ื งมือน้ี ใช้สำหรับทำอะไร ก. แทรกคำ่ ตวั เลข ข. ปรับปรุงขอ้ มูล ค. ฟงั ก์ชนั กำรคำนวณ ง. กำหนดรูปแบบขอ้ มูล 21. ข้อใดใหค้ วำมหมำยของแผ่นพับไดถ้ กู ต้อง ก. เอกสำรท่ีใชใ้ นกำรประชำสมั พนั ธ์ ข. เอกสำรทใ่ี ชใ้ นกำรโฆษณำ ค. แผ่นพบั 3 พบั ง. ขอ้ ก และ ข

22. แผ่นพับโดยทวั่ ไปนยิ มพบั ก่ีพบั ก. 1-2 ทบ ข. 2-5 ทบ ค. 3-5 ทบ ง. พบั คร่ึง 23. หนำ้ สุดทำ้ ยของแผน่ พบั จะมีไวส้ ำหรบั ใสร่ ำยกำรใดของขอ้ มูล ก. สถำนท่ีติดต่อสอบถำม ข. รำยละเอียดของกำรสรำ้ งแผ่นพับ ค. สถำนท่ีพิมพแ์ ผน่ พับหรอื จดุ ใหบ้ ริกำร ง. ช่ือเรอ่ื ง/หัวขอ้ 24. กำรสรำ้ งแผ่นพบั จำกแมแ่ บบสำมำรถเลอื กได้จำกที่ใด ก. คน้ หำแผ่นพบั ข. จำกอินเตอร์เนต็ ค. เทมเพลตออนไลน์ ง. สรำ้ งแมแ่ บบใช้เอง 25. ขอ้ ใดให้ควำมหมำยของนำมบตั รไดถ้ ูกตอ้ ง ก. นำมบตั รใชแ้ ทนบัตรตำ่ ง ๆ ได้ ข. กำรแสดงประวตั ิของผ้ถู ือนำมบัตร ค. เอกสำรสำหรับแนะนำตัว ง. ข้อมลู ของบริษัท 26. ขอ้ มูลใดไม่มีในนำมบตั ร ก. หมำยเลขบัตรประชำชน ข. เบอรโ์ ทรศพั ท์ ค. ท่ีอยู่บริษัท ง. สัญลกั ษณ์/โลโกบ้ ริษัท 27. ข้อใดเป็นขนำดของนำมบัตรท่ีเปน็ มำตรฐำนสำกล ก. 5.4x9 นิ้ว ข. 5.4x9 ซม. ค. 5.4x9 ม. ง. 5.4x9 มม.

28. กำรสร้ำงนำมบตั รจำกตวั เลือกป้ำยผนึก สำมำรถสรำ้ งนำมบตั รไดจ้ ำนวนก่ีใบ ก. 1 ใบ ข. 2 ใบ ค. 6 ใบ ง. 10 ใบ 29. กำร์ด หมำยถงึ ขอ้ ใด ก. บัตรของขวัญ ข. บตั รอวยพร ค. กระดำษที่พิมพข์ อ้ ควำม ง. จดหมำย/นำมบัตร 30. ขอ้ ใดเปน็ ขน้ั ตอนสำคัญในกำรเปิดใชก้ ำร์ดจำกเทมเพลตออนไลน์ ก. กำหนดขนำดของกำร์ด ข. เวบ็ เบรำว์เซอร์ ค. คลกิ ปุ่ม สร้ำง ง. วำดรปู ประกอบ 31. ข้อใดจะตอ้ งทำเปน็ อันดบั แรก ในกำรใสเ่ ชงิ อรรถ ก. คลกิ แทบ็ แทรก> แทรกเชิงอรรถ ข. คลิกแท็บกำรอำ้ งองิ > แทรกเชิงอรรถ ค. เลือกข้อควำมทตี่ อ้ งกำรทำเปน็ เชิงอรรถ ง. เลอื กตำแหนง่ ที่ตอ้ งกำรใส่คำอธิบำยของเชงิ อรรถ 32. ปมุ่ เครื่องมือใดใชใ้ นกำรแทรกท้ำยกระดำษ ก. ข. ค. ง. 33. ปมุ่ เครอ่ื งมือใดใชเ้ ลอื่ นไปทหี่ วั กระดำษ ก. ข. ค. ง.

34. กำรแทรกหมำยเลขหน้ำ ใช้แท็บคำสั่งข้อใด ก. หน้ำแรก ข. แทรก ค. มุมมอง ง. เคำ้ โครงหน้ำกระดำษ 35. รูปแบบตวั เลข หมำยเลขหนำ้ ข้อใดทไ่ี มส่ ำมำรถแสดงได้ ก. ก, ข, ค ข. 1, 2, 3 ค. I VI VV ง. one, two, three 36. กำรทำดชั นจี ะตอ้ งกดคยี ์ใด เพ่ือเข้ำไปยังกล่องโต้ตอบ Mark Index Entry ก. <Alt+Shift+I> ข.<Alt+Shift+O> ค. <Alt+Shift+X> ง.<Alt+Shift+E> 37. กำรสร้ำงสำรบญั ใชแ้ ทบ็ คำสั่งขอ้ ใด ก. แทรก ข. หน้ำแรก ค. เคำ้ โครงหน้ำกระดำษ ง. กำรอำ้ งอิง 38. กำรพมิ พป์ กเอกสำร จะตอ้ งทำสิง่ ใดก่อน ก. พมิ พข์ อ้ ควำม ข. ตง้ั ค่ำหนำ้ กระดำษ ค. จัดรูปแบบเอกสำร ง. กำหนดแบบอักษร 39. ปุ่มเครอื่ งมือนี้ ใช้สำหรับทำอะไร ก. แสดงตัวอย่ำงก่อนพมิ พแ์ ละพิมพ์ ข. หน้ำตำ่ งแก้ไขเอกสำร ค. มมุ มองเอกสำร ง. ดูเอกสำรท้งั หมด

40. ข้อใดเปน็ สำเหตุท่ตี ้องปรบั ปรุงตำรำงสำรบัญ ก. สำรบญั เป็นตัวอกั ษรสีแดง ข. สำรบัญเป็นตวั ขีดเสน้ ใต้ ค. มกี ำรปรบั เปล่ยี นเน้อื หำในเอกสำร ง. มีกำรแทรกเนือ้ หำลงในสำรบัญ ตารางสรปุ แบบประเมินผเู้ รียนรายบุคคลโดยการทดสอบกอ่ นเรียน รหสั วชิ า 20204-2102 วิชาโปรแกรมประมวลผลคา ชอ่ื -สกลุ คะแนนสอบ ระดับ ระดับ ระดับ ก่อนเรียน เก่ง ปาน อ่อน (40คะแนน) กลาง หลักเกณฑ์กำรจดั ระดับผูเ้ รยี น อยใู่ นระดบั เก่ง 1. ได้ 31-40 อยใู่ นระดบั ปำนกลำง อยู่ในระดบั อ่อน 2. ได้ 20-30 3. ได้ 0-19 ลงช่ือ................................ผูป้ ระเมนิ (นำงแสงเดือน จงเจริญวิไล) ตำแหนง่ ครู

ตัวชว้ี ดั ท่ี 1.2.2 ขอ้ 2 1.2.2 การจดั ทาแผนการเรียนรู้/แผนการฝกึ อบรมอาชีพ/ แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล(IP)/แผนการจัด ประสบการณ์ ขอ้ 2 จัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้และหรอื แผนการฝึก อาชีพสอดคล้องกบั การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ธรรมชาติของผ้เู รียนหรอื ผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมและ บรบิ ทของสถานศึกษาหรอื ส่วนราชการต้นสงั กัด กาหนดและสามารถนาไปปฏิบัตไิ ดจ้ รงิ แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วิทยาลัยเทคนคิ น้าพอง

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 8 ช่อื วิชา โปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) สอนครง้ั ท่ี 13- 14 ช่ือหน่วย กำรสร้ำงจดหมำยเวียนและกำรพิมพซ์ องจดหมำย จานวน 6 ชว่ั โมง ชอ่ื เรอื่ ง การสรา้ งจดหมายเวยี นและการพิมพ์ซองจดหมาย ชว่ั โมงรวม 42 1. สาระสาคัญ กำรพมิ พจ์ ดหมำยท่ีมเี นอื้ หำเดียวกันแต่ต้องกำรส่งจดหมำยใหก้ ับหลำยๆ คน หรือส่งใหก้ ับ ผู้รับหลำยๆ คน สำมำรถทำได้โดยกำรทำจดหมำยธรรมดำใหเ้ ป็นจดหมำยเวยี น 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป 1. เพ่อื ให้มีควำมรคู้ วำมเข้ำใจเกยี่ วกบั กำรพิมพจ์ ดหมำยเวยี นและกำรพมิ พซ์ องจดหมำย 2. เพอ่ื ให้มีเจตคติทีด่ ตี อ่ กำรเตรียมควำมพรอ้ มด้ำนกำรเรียนรู้ตำมหัวข้อที่กำหนด ควำมสนใจใฝ่รู้ ควำมมเี หตุผล ควำมรอบรู้ ควำมรอบคอบ/ระมดั ระวังตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง และควำมเป็นประชำธปิ ไตย 2.2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1.สรำ้ งจดหมำยเวียนได้ 2. พมิ พจ์ ดหมำยเวยี นออกทำงเครอ่ื งพมิ พไ์ ด้ 3. พิมพซ์ องจดหมำยเวียนได้ 4. พิมพซ์ องจดหมำยเวยี นออกทำงเครือ่ งพมิ พไ์ ด้ 5. ผูเ้ รียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรมทีพ่ งึ ประสงค์ คอื มมี นุษยสัมพันธ์ ควำมมวี นิ ยั ควำมซ่อื สัตย์ ควำมรับผดิ ชอบ ควำมเชอื่ ม่นั ในตนเอง กำรประหยัด ควำมติดริเร่ิมสร้ำงสรรค์ ควำมสนใจใฝร่ ู้ กำร พ่ึงตนเอง 6. ผูเ้ รยี นมีควำมพรอ้ มด้ำนกำรเรียนรู้ตำมทก่ี ำหนด มีควำมสนใจใฝร่ ู้ มีเหตผุ ล มคี วำมรอบรู้ มี ควำมรอบคอบ/ระมัดระวงั ตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และมีควำมเปน็ ประชำธิปไตย 3.สมรรถนะ สำมำรถสร้ำงจดหมำยเวียนและกำรพิมพซ์ องจดหมำยได้ 4. สาระการเรียนรู้ การพมิ พ์หนงั สือราชการและจดหมายเวยี นศึกษาเก่ียวกับ 1.จดหมำยเวยี น 2. กำรพิมพ์จดหมำยเวยี นออกทำงเครือ่ งพิมพ์ 3. กำรพมิ พ์ซองจดหมำยเวียน 4. กำรพมิ พ์ซองจดหมำยเวยี นออกทำงเคร่อื งพมิ พ์

5. การบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5.1ความพอประมาณ 1. มีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพอ่ื ใช้เป็นขอ้ มลู ในกำรใช้ พลงั งำนไฟฟำ้ อยำ่ งเหมำะสมและประหยดั เช่น ปิดเครื่องคอมพวิ เตอร์ ปดิ เครือ่ งปรบั อำกำศ ปิดไฟฟ้ำ ปดิ พัดลมเมอ่ื เลิกกำรใชง้ ำน 2. จดั สรรเวลำในกำรปฏิบตั ิงำนตำมท่ไี ดร้ ับมอบหมำยอย่ำงเหมำะสม 5.2 ความมเี หตุผล 1. เหน็ คุณคำ่ ของปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งในกำรนำไปพฒั นำชีวติ โดยใช้ พลังงำนไฟฟำ้ ท่ีมอี ย่ใู ห้คมุ้ คำ่ และเกดิ ประโยชน์สูงสดุ 2. สำมำรถพิมพ์หนังสือรำชกำร และจดหมำยเวยี นได้อยำ่ งถกู ตอ้ ง 5.3 การมภี ูมิค้มุ กันในตวั ทด่ี ี 1. มีควำมตระหนักและร้จู กั ประยกุ ต์ใช้ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งในกำรดำเนิน ชีวติ ได้อยำ่ งถกู ต้อง 2. ฝึกฝนทักษะกำรพมิ พ์หนงั สอื รำชกำร และจดหมำยเวยี นได้อย่ำงถกู ต้อง 3. ฝกึ ฝนทักษะกำรสรุปสำระสำคัญประจำหนว่ ยเรียน 5.4 เงอื่ นไขความรู้ 1. กำรพิมพ์และจัดรูปแบบหนังสอื ภำยใน 2. กำรพิมพแ์ ละจดั รูปแบบหนังสอื ภำยนอก 3. กำรสรำ้ งจดหมำยเวียน 5.5 เงอื่ นไขคุณธรรม 1. ควำมรบั ผดิ ชอบในกำรปฏบิ ตั งิ ำน 2. ควำมมีวนิ ัย 3. กำรพง่ึ ตนเอง 4. มคี วำมสนใจใฝ่รู้ 5. มีควำมซอื่ สตั ย์สจุ รติ 6. กำรประหยัด 7. มคี วำมเช่อื มัน่ ในตนเอง 8. มีควำมคดิ รเิ รม่ิ สร้ำงสรรค์ 9. มคี วำมรอบคอบ/ระมดั ระวัง 10. มีควำมเปน็ ประชำธปิ ไตยและควำมเป็นไทย 5.6 เชอื่ มโยงสู่ 4 มิติ มีทกั ษะในกำรพมิ พ์หนังสือรำชกำร และจดหมำยเวยี น โดยใช้ โปรแกรม Microsoft Word 2016 ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ทำใหเ้ ป็นผมู้ คี วำมสนใจใฝ่รู้ มคี วำม ระมัดระวงั และเกิดควำมเชอ่ื ม่ันในตนเอง

6. กจิ กรรมการเรียนรู้ (สอนแบบบรรยาย อธิบายและสาธติ ) ขน้ั เตรียม 1. จดั เตรยี มเอกสำรประกอบกำรสอน สือ่ กำรเรียนกำรสอน วธิ กี ำรเรียน กำรปฏบิ ัตงิ ำนที่ ได้รับมอบหมำย และวธิ วี ัดผลประเมินผล กำรปฏิบัติตำมกฎระเบยี บของสถำนศึกษำ 2. ให้ผเู้ รยี นเปดิ ไฟฟำ้ ดวงทจี่ ำเปน็ ตอ้ งใช้ เปดิ เครอื่ งปรับอำกำศ และเปดิ เครื่องคอมพวิ เตอร์ ตำมจำนวนผเู้ รียน ถำ้ มเี ครอ่ื งคอมพิวเตอร์ท่ีไมไ่ ด้ใชห้ รือใช้ไมไ่ ด้ ห้ำมไม่ใหเ้ ปดิ หนำ้ จอท้งิ ไว้ เพรำะ สน้ิ เปลืองพลังงำน 3. แจ้งจดุ ประสงคก์ ำรเรยี นของหนว่ ยที่ 8 และกำรใหค้ วำมรว่ มมอื ของผเู้ รียนในกำรทำกิจกรรม 4. สอบถำมผูเ้ รียนเรื่องกำรพิมพ์จดหมำยเวยี น สำมำรถใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2016 พมิ พ์ไดห้ รือไม่ โดยกำรสอบถำมเปน็ รำยบุคคลและรำยกลมุ่ เพ่ือให้ผเู้ รยี นไดแ้ สดงควำมคิดเหน็ อยำ่ งมี เหตุผล 5. ผู้สอนบอกแนวทำงในกำรเรยี น และวธิ กี ำรปฏิบตั ติ ำมภำระงำนท่ีมอบหมำย ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ใหผ้ ูเ้ รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยที่ 8 ในเวลำท่ีกำหนด 2. เม่อื ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเสรจ็ แลว้ ใหผ้ ู้เรียนผลดั กนั ตรวจแบบทดสอบกบั เพ่ือน ดว้ ยควำมซือ่ สตั ยส์ ุจรติ โดยผ้สู อนเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยที่ 8 ข้นั สอน 1. ผู้สอนทำกำรสอนโดยใหผ้ เู้ รยี นเปิดหนังสอื ประกอบกำรเรียนกำรสอน 2. ผสู้ อนใหผ้ ้เู รยี นเปิดเคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ ละเขำ้ ส่กู ำรใช้งำนโปรแกรม Microsoft Word 2016 3. ผสู้ อนทำกำรอธิบำยเนือ้ หำควำมรูเ้ กยี่ วกับกำรพมิ พจ์ ดหมำยเวียน และกำรพิมพ์ซอง จดหมำย พร้อมท้ังสำธิตเนือ้ หำกำรเรยี นรแู้ ต่ละเรื่องให้ผู้เรียนได้เรยี นรไู้ ปพร้อมกัน 4. ผสู้ อนบอกวธิ กี ำรและแนวคดิ ในกำรปฏบิ ตั ทิ ถ่ี กู ตอ้ งใหแ้ กผ่ เู้ รียน สังเกต บันทกึ พฤตกิ รรม ผู้เรยี นขณะเรียนและศึกษำบทเรียน คอยช่วยเหลือและใหค้ ำแนะนำเมือ่ ผู้เรียนเกิดควำมสงสัย 5. ผูส้ อนเปดิ โอกำสใหผ้ ู้เรียนซกั ถำมขอ้ สงสยั ขัน้ สรุป 1. ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นศึกษำจำกใบควำมรูแ้ ละทำแบบฝึกปฏิบตั ติ ำมใบงำน 2. สงั เกต บนั ทกึ พฤติกรรมผเู้ รียนขณะดำเนนิ งำนตำมใบงำน คอยช่วยเหลอื ใหค้ ำแนะนำเม่อื ผู้เรียนเกิดควำมสงสยั 3. ผูเ้ รยี นทำงำนตำมใบงำน ผู้สอนเดินสำรวจกำรศกึ ษำข้อมลู จำกใบควำมรู้และฝกึ ปฏบิ ัติตำม ใบงำนของผู้เรียน หำกพบว่ำผเู้ รยี นยังไมเ่ ขำ้ ใจ ผสู้ อนจะทำกำรอธบิ ำยใหผ้ ูเ้ รยี นอีกครง้ั 4. เมื่อผู้เรียนทำงำนท่ีไดร้ บั มอบหมำยเสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ ให้อธบิ ำยคำตอบพร้อมทั้งวธิ กี ำร ได้มำซง่ึ คำตอบ

5. ผสู้ อนทำกำรเฉลยรว่ มกบั ผ้เู รียน พร้อมทั้งอธบิ ำยข้อมูลเพ่มิ เติมหำกผเู้ รียนเกดิ ควำมสงสยั และผู้เรียนคนใดยงั ทำงำนท่ีไดร้ ับมอบหมำยไม่ถูกตอ้ งใหท้ ำกำรแกไ้ ขใหถ้ กู ต้องเรียบร้อยและเก็บสะสม ชิ้นงำนทกุ งำนที่ได้รับมอบหมำยสง่ ตำมกำหนด 6. ผู้สอนรว่ มกับผู้เรยี นช่วยกันสรุปสำระกำรเรยี นรปู้ ระจำหนว่ ยกำรเรยี น เพ่ือสง่ เสริมควำม เป็นประชำธิปไตย 7. ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดทำ้ ยหน่วยเรียน 8. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 8 ในเวลำที่กำหนด 9. ผสู้ อนเฉลยแบบฝกึ หดั ท้ำยหนว่ ยเรียน พร้อมกับใหผ้ ้เู รียนแลกเปลย่ี นกระดำษคำตอบกัน โดยครผู ้สู อนเฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 10. ผ้สู อนให้ผู้เรยี นท่ีได้รับมอบหมำยเวรประจำวัน สำรวจควำมเรยี บร้อยของห้องเรยี น พรอ้ มท้งั ทำควำมสะอำดห้องเรียน และให้ผเู้ รียนเตรียมตวั เรียนในคำบต่อไป 7. ส่อื ประกอบการจดั การเรียนรู้ สือ่ ส่ิงพิมพ์ 1. หนังสือเรยี นวชิ ำโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) รหัสวิชำ 20204-2102 2. แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรียน 3. ใบควำมรู้ท่ี 8 กำรสร้ำงจดหมำยเวียนและกำรพมิ พซ์ องจดหมำย 4. ใบกิจกรรม 5. แบบฝกึ หัดทำ้ ยหนว่ ยเรียน 6. แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น และแบบฝึกหัดท้ำยหนว่ ยเรียน 7. แบบประเมินผลกำรทำงำนตำมใบงำน 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม สื่อโสตทศั น์ 1. คอมพวิ เตอรพ์ รอ้ มอุปกรณ์ตอ่ พ่วง 2. โปรแกรม Microsoft Word 2016 3. โปรเจคเตอร์ 4. บทเรียนออนไลน์ วิชำโปรแกรมประมวลผลคำ 5. ไมโครโฟน เครื่องขยำยเสียงพรอ้ มลำโพง สอื่ ของจริง -

8. แหล่งการเรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ ในสถานศกึ ษา 1. e-learning วิทยำลัยเทคนคิ นำ้ พอง 2. ห้องปฏบิ ัติกำร Internet คน้ ควำ้ ข้อมลู ทำง Internet 3. ครผู ูส้ อนแผนกวชิ ำคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ นอกสถานศึกษา 1. ห้องสมดุ ประชำชน / ร้ำนหนังสือ 2. Internet 3. บุคลำกรต่ำงๆ ทมี่ คี วำมรู้เกย่ี วกับกำรใชง้ ำนโปรแกรมประมวลผลคำ 9. การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กับวิชาอ่นื 1. บูรณำกำรกบั กลุ่มวชิ ำภำษำไทย กำรฝึกปฏบิ ตั เิ ขยี นย่อควำมเขยี นเรยี งควำมเขยี นโครงกำร เขยี นรำยงำนวชิ ำกำร เขียนจดหมำยสมคั รงำนเขยี นบันทกึ ขอ้ ควำมในหน่วยงำนเขียนรำยงำนกำร ประชุมกรอกแบบฟอร์มเอกสำรประเภทต่ำง ๆ เขียนแสดงควำมรู้สึกในโอกำสตำ่ ง ๆ โดยกำรจดั พิมพ์ใน โปรแกรมประมวลผลคำ 2. บรู ณำกำรรว่ มกับกลมุ่ วชิ ำภำษำต่ำงประเทศ โดยกำรนำโปรแกรมประมวลผลคำมำ ประยุกต์ใชใ้ นกำรเขยี นโต้ตอบทำงสงั คมเขยี นให้ขอ้ มูลบุคคลเขียนจดหมำยสว่ นตวั เขียนจดหมำย อิเลก็ ทรอนิกสเ์ ขยี นบนั ทกึ ยอ่ / ข้อควำมสน้ั ๆในโอกำสตำ่ ง ๆ กรอกให้ขอ้ มลู ในแบบฟอร์มต่ำง ๆ ใบ สมัครงำนใบสมคั รสมำชกิ ต่ำง ๆ ใบขอรับทนุ ใบสมคั รเข้ำศึกษำใบสมคั รสอบฯลฯเขียนให้ข้อมลู ใน เอกสำรกำรปฏบิ ัตงิ ำนในงำนอำชพี ต่ำง ๆ เขียนบันทกึ ย่อรำยงำนส้ัน ๆ เขียนจดหมำยธรุ กจิ ประเภท ตำ่ ง ๆ ใช้ ICT เป็นแหลง่ กำรเรียนรู้ดว้ ยตนเองหรือฝึกฝนกบั เพือ่ นใช้ ICT พัฒนำทักษะกำรฟัง -กำรดู กำรพูดอำ่ น กำรเขียนสบื ค้นข้อมูลจำกแหลง่ กำรเรยี นร้ทู ีห่ ลำกหลำยเพือ่ พฒั นำทกั ษะกำรสือ่ สำรและ กำรประกอบอำชีพ 3. บรู ณำกำรร่วมกับกลุม่ วิชำคณติ ศำสตร์ ดำ้ นกำรใช้สตู รและฟงั ก์ชน่ั ในกำรคำนวณประยุกต์ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตรใ์ นกำรวำงแผนกำรออกแบบประดิษฐค์ ิดค้นสิง่ ใหมๆ่ ในงำนอำชีพ 10. การวดั ผลและประเมินผล กอ่ นเรยี น ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ขณะเรียน 1. ตรวจผลงำนตำมที่ได้รับมอบหมำย 2. สงั เกตกำรปฏิบัติงำน

หลังเรียน 1. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 2. ตรวจงำนทไ่ี ด้รับมอบหมำย 3. ตรวจแบบฝึกหดั ท้ำยหน่วยเรยี น 1. ส่งิ ทจ่ี ะวัด 1.1 ควำมรูค้ วำมเข้ำใจจดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1.2 กำรประเมนิ ผลงำน 1.3 สังเกตพฤติกรรมขณะเรียน 2. วธิ ีการวดั 2.1 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรยี น 2.2 ตรวจงำนทมี่ อบหมำย 2.3 สังเกตพฤตกิ รรมขณะเรียน 3. เคร่อื งมือวัด 3.1 แบบทดสอบ 3.2 กิจกรรมทมี่ อบหมำย 3.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 4. เกณฑก์ ารวดั ผลและประเมินผล เกณฑ์การวัดผล 1. ให้ข้อถกู ข้อละ 1 คะแนน ขอ้ ผดิ 0 คะแนน 2. ให้คะแนนพฤตกิ รรมกำรเรียน 5 หมำยถึง ดีมำก 4 หมำยถงึ ดี 3 หมำยถึง ปำนกลำง 2 และ 1 หมำยถึง ตอ้ งปรับปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. ผู้เรียนได้คะแนนจำกกำรทำแบบทดสอบ ไม่ต่ำกวำ่ รอ้ ยละ 60 2. ผ้เู รียนได้คะแนนจำกกจิ กรรมกำรเรยี น ไมต่ ่ำกวำ่ รอ้ ยละ 80 3. ผเู้ รยี นไดค้ ะแนนพฤตกิ รรมกำรเรยี น ไม่ตำ่ กวำ่ ร้อยละ 60 เกณฑก์ ารวดั แบบทดสอบ 15 คะแนน ระดับดี ตั้งแตร่ อ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป (12 คะแนน) ระดบั ปำนกลำง ตัง้ แตร่ ้อยละ 60 - 70 ข้ึนไป (9 - 11 คะแนน) ระดับปรับปรุง ตง้ั แตร่ อ้ ยละ 50 ลงมำ (8 คะแนนลงมำ) เกณฑก์ ารผ่าน ต้ังแตร่ ะดับปำนกลำงข้นึ ไป หรอื ตัง้ แตร่ ้อยละ 60 ข้นึ ไป

กิจกรรมเสนอแนะประจาหนว่ ย 1. ผเู้ รยี นต้องใหค้ วำมสนใจในกำรศึกษำ เพ่อื หำเทคนิค วธิ ีกำร หรอื หลกั กำรงำ่ ยเพ่อื ใหห้ ำ คำตอบไดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง และรวดเร็ว โดยกำร ต้ังใจฟงั หลักกำร เทคนิควิธกี ำรทค่ี รูผ้สู อนสรุปในขณะท่ี ทำกำรสอน และนำข้อสงสยั ซกั ถำมครใู นกำรเรยี นทุกครงั้ ที่เกิดควำมสบั สน และไม่เขำ้ ใจ 2. ผเู้ รยี นควรมีกำรทบทวนบทเรียนตลอด เพื่อเสรมิ สร้ำงควำมเข้ำใจอย่ำงแท้จริง 3. ผู้เรยี นหม่นั ทำใบงำน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขขอ้ ทผ่ี ดิ ใหถ้ กู ตอ้ งเสมอ

ใบความรทู้ ่ี 8 หนว่ ยท่ี 8 ชื่อวชิ า โปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) สอนครั้งท่ี 13- 14 ช่ือหนว่ ย กำรสร้ำงจดหมำยเวียนและกำรพมิ พซ์ องจดหมำย จำนวน 6 ชั่วโมง ชอ่ื เรื่อง กำรสรำ้ งจดหมำยเวยี น 1. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.สร้ำงจดหมำยเวยี นได้ 2. พมิ พ์จดหมำยเวยี นออกทำงเคร่ืองพมิ พไ์ ด้ 3. พิมพ์ซองจดหมำยเวียนได้ 4. พมิ พ์ซองจดหมำยเวียนออกทำงเคร่ืองพมิ พไ์ ด้ 5. ผ้เู รียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมทีพ่ ึงประสงค์ คือ มีมนษุ ยสมั พนั ธ์ควำมมีวนิ ยั ควำมซอ่ื สตั ย์ ควำม รับผดิ ชอบ ควำมเชอ่ื มน่ั ในตนเอง กำรประหยดั ควำมสนใจใฝร่ ู้ ควำมตดิ ริเร่ิมสร้ำงสรรค์ กำรพง่ึ ตนเอง 6. ผูเ้ รียนมีควำมพร้อมดำ้ นกำรเรยี นรู้ตำมทีก่ ำหนด มคี วำมสนใจใฝร่ ู้ มีเหตผุ ล มคี วำมรอบรู้ มคี วำมรอบคอบ/ระมัดระวังตำมหลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และมคี วำมเป็นประชำธิปไตย 2. เน้อื หาสาระ การพมิ พ์หนงั สอื ราชการและจดหมายเวยี น ศกึ ษาเกย่ี วกบั 1.จดหมำยเวยี น 2. กำรพิมพจ์ ดหมำยเวียนออกทำงเครอ่ื งพมิ พ์ 3. กำรพิมพซ์ องจดหมำยเวียน 4. กำรพมิ พ์ซองจดหมำยเวยี นออกทำงเครอื่ งพิมพ์ สรปุ เน้อื หาสาระหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 จดหมำยเวยี น หมำยถงึ กำรสรำ้ งจดหมำยหลำยๆ ฉบบั ทมี่ เี นื้อควำมในจดหมำยเหมอื นกนั แต่มีชือ่ และทอี่ ยู่ของผรู้ ับทไ่ี มเ่ หมือนกัน ซงึ่ แทนทจ่ี ะตอ้ งพิมพ์จดหมำยแตล่ ะฉบบั สำหรับผรู้ ับแตล่ ะ รำยเพยี งแคส่ รำ้ งไฟล์เพ่ือเกบ็ ชอ่ื และทอ่ี ยไู่ วก้ อ่ น จำกน้ันสรำ้ งไฟลเ์ พอื่ เกบ็ ข้อควำมในจดหมำยไว้อกี ไฟล์หนงึ่ แยกจำกกัน แล้วจึงนำขอ้ มูลท้งั สองไปรวมหรอื ผนวกกัน ทำใหไ้ ด้จดหมำยทม่ี ีรปู แบบและ ขอ้ ควำมท่ีเหมือนกนั เว้นแต่ชอื่ และท่อี ยู่ของผรู้ บั เทำ่ นัน้ จดหมำยเวยี น (Mail Merge) หมำยถึงจดหมำยทม่ี ีขอ้ ควำมเดิมซำ้ ๆ กนั ทกุ ฉบบั แต่มี บำงส่วนของจดหมำยทแี่ ตกตำ่ งกนั เชน่ ชือ่ และทอี่ ยู่ ซึ่งจะมี 2 ส่วน คอื ส่วนทเี่ ป็นเอกสำรหลกั (Main Document) ท่ีเก็บข้อควำมในจดหมำย และสว่ นทเ่ี ปน็ แหล่งข้อมูลหรือฐำนข้อมลู (Database) องค์ประกอบของจดหมำยเวียน มีดังน้ี เอกสำรหลัก หมำยถึง เอกสำรทต่ี ัวเปน็ จดหมำยแบบฟอรม์ ขอ้ ควำมอเี มลของจดหมำย

หรอื ปำ้ ยลำเบลท่ไี ด้กำหนดใหม้ ีขอ้ ควำม ขนำด และรูปร่ำงท่ีเหมือนกัน เพอื่ ใชเ้ ปน็ ต้นแบบของกำร พมิ พจ์ ำนวนมำก แหล่งข้อมลู หมำยถงึ ไฟล์แหลง่ ขอ้ มูลทจี่ ะใชเ้ ปน็ ตัวฐำนขอ้ มูลเพอื่ ใหต้ วั จดหมำยเวยี น สำมำรถเรียกใชข้ อ้ มูลในไฟล์ตำรำงน้ีไปประกอบกับตวั เอกสำร และเปล่ียนขอ้ มลู ในสว่ นทก่ี ำหนด เช่น รำยช่ือและทีอ่ ยู่ของผูร้ ับ E-mail Address เปน็ ต้น ซึง่ ส่วนใหญ่จะเก็บอยู่ในรปู แบบของตำรำงของ Word ตำรำงรำยช่ือของ Excel และตำรำงฐำนขอ้ มลู ของAccess เพ่ือนำมำผนวกเข้ำกับตัวเอกสำร หลัก เมื่อสัง่ พิมพจ์ ดหมำย ซอง หรือป้ำยลำเบลโปรแกรมจะเปลีย่ นรำยชอ่ื ในเอกสำรแตล่ ะชุดใหโ้ ดย อัตโนมตั ิ หนังสือภำยในคือหนังสือติดตอ่ รำชกำรท่เี ปน็ แบบพิธีนอ้ ยกว่ำหนงั สือภำยนอกเป็นหนงั สอื ติดต่อ ภำยในกระทรวงทบวงกรมหรือจงั หวดั เดยี วกนั ใช้กระดำษบนั ทึกข้อควำมและใหจ้ ัดตำมแบบทก่ี ำหนดไว้ หนงั สือภำยนอก คอื หนังสือตดิ ตอ่ รำชกำรทเี่ ป็นแบบพิธโี ดยใช้กระดำษตรำครุฑเป็นหนงั สอื ตดิ ต่อระหวำ่ งสว่ นรำชกำร หรือสว่ นรำชกำรมีถงึ หนว่ ยงำนอื่นซง่ึ มิใช่ส่วนรำชกำร หรอื ทีม่ ถี งึ บคุ คลภำยนอก

แบบฝึกหดั จงตอบคำถำมตอ่ ไปนี้ใหไ้ ด้ใจควำมสมบูรณ์ 1. จดหมำยเวียน (Mail Merge) คอื อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… ..……………………………………………………………………………………………………………………………..………… …… 2. หนงั สือภำยนอก คอื อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… …..……………………………………………………………………………………………………………………………….……….… 3. หนงั สือภำยในคอื อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………

เฉลยแบบฝึกหดั จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ีให้ได้ใจความสมบรู ณ์ 1.. จดหมำยเวียน (Mail Merge) คอื อะไร ตอบ จดหมายเวยี น (Mail Merge) คอื จดหมำยทีม่ ขี อ้ ควำมเดมิ ซ้ำ ๆ กันทุกฉบบั แต่มีบำงสว่ นของ จดหมำยท่ีแตกต่ำงกันเชน่ ชอื่ และทีอ่ ยู่ ซ่งึ จะมี 2 ส่วน คือ สว่ นท่ีเปน็ เอกสำรหลัก (Main Document) ทเี่ ก็บข้อควำมในจดหมำย และส่วนทเี่ ป็นแหลง่ ขอ้ มลู (Data Source) หรือฐำนข้อมูล (Database) 2. หนงั สอื ภำยนอก คืออะไร ตอบหนังสือภายนอก คือหนังสอื ตดิ ตอ่ รำชกำรทเ่ี ปน็ แบบพิธีโดยใช้กระดำษตรำครฑุ เปน็ หนงั สอื ตดิ ตอ่ ระหว่ำงสว่ นรำชกำร หรอื ส่วนรำชกำรมีถงึ หน่วยงำนอน่ื ซ่ึงมิใช่สว่ นรำชกำร หรือที่มถี งึ บุคคลภำยนอก หนังสือภำยนอก เป็นเอกสำรทำงรำชกำรท่ีใชภ้ ำยนอกหนว่ ยงำน 3. หนังสือภำยในคอื อะไร ตอบหนังสอื ภายใน คอื หนังสอื ติดตอ่ รำชกำรที่เป็นแบบพธิ ีนอ้ ยกว่ำหนงั สอื ภำยนอกเป็นหนังสือติดตอ่ ภำยในกระทรวงทบวงกรมหรอื จงั หวัดเดียวกนั ใช้กระดำษบนั ทกึ ข้อควำมและใหจ้ ดั ตำมแบบทก่ี ำหนดไว้

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรียน จงทาเครื่องหมาย× เพอ่ื เลอื กคาตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคาตอบเดยี ว 1. จดหมำยเวยี น หมำยถงึ ข้อใด ก. เอกสำรทำงวชิ ำกำรหลำยๆ หนำ้ ข. จดหมำยหรือหนังสือรำชกำร ค. เอกสำรท่วั ไป ง. จดหมำยหลำยๆ ฉบับทมี่ เี น้ือควำมในจดหมำยเหมือนกนั 2. องคป์ ระกอบของจดหมำยเวียนมีก่ีรำยกำร ก. 1 รำยกำร ข. 2 รำยกำร ค. 3 รำยกำร ง. 4 รำยกำร 3. โปรแกรมใดไม่สำมำรถสรำ้ งแหล่งขอ้ มลู ใหก้ ับจดหมำยเวียนได้ ก. PowerPoint ข. Word ค. Excel ง. Access 4. ขอ้ ใดไม่จดั อยู่ในประเภทของเอกสำรหลัก ก. จดหมำย ข. ข้อควำมอีเมล ค. ซองจดหมำย ง. ตวั ชว่ ยสร้ำงจดหมำยเวยี นทีละขน้ั ตอน 5. ตวั ชว่ ยสรำ้ งจดหมำยเวยี นทีละขน้ั ตอนมีทั้งหมดกขี่ ั้นตอน ก. 2 ขัน้ ตอน ข. 4 ข้ันตอน ค. 6 ขัน้ ตอน ง. 8 ข้ันตอน 6. เมอ่ื แทรกเขตขอ้ มูลผสำนแล้วต้องกำรดูผลลัพธต์ อ้ งกดป่มุ ใด ก. พิมพจ์ ดหมำยเวียน ข. แสดงตัวอย่ำงผลลพั ธ์ ค. แทรกเขตขอ้ มูล ง. เสร็จสิ้นและผสำน

7. ถ้ำต้องกำรพมิ พ์จดหมำยเวยี นออกทำงเครอ่ื งพมิ พใ์ ห้เลอื กรำยกำรใด ก. แทรกเขตขอ้ มลู ข. กำรพมิ พ์ ค. ผสำนไปยังเครอ่ื งพิมพ์ ง. แสดงตัวอย่ำงผลลพั ธ์ 8. ซองจดหมำยเวียนมขี นำดกระดำษเทำ่ ใด ก. ขนำด A4 (21 x 29.7) ข. ขนำด 10 (4 1/8 x 9 1/2) ค. ขนำด A5 (14.8 x 21) ง. ขนำด B5 (18.2 x 25.7) 9. เมอ่ื สรำ้ งซองจดหมำยเวียนเสรจ็ สำมำรถตรวจสอบจดหมำยเวียนที่รำยกำรใด ก. เขตข้อมลู ผสำน ข. ภำพกอ่ นพิมพ์ ค. แสดงตวั อยำ่ งผลลพั ธ์ ง. เสร็จส้นิ และผสำน 10. ปมุ่ เครือ่ งมือ หมำยควำมว่ำอย่ำงไร ก. แทรกเขตข้อมูลผสำน ข. เน้นเขตขอ้ มลู ผสำน ค. ผสำนเปน็ เอกสำรใหม่ ง. กำรสงั่ พิมพจ์ ดหมำยเวยี น

ตวั ชี้วัดท่ี 1.2.2 ขอ้ 3 1.2.2 การจัดทาแผนการเรียนรู้/แผนการฝกึ อบรมอาชพี / แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล(IP)/แผนการจดั ประสบการณ์ ข้อ 3 มีกิจกรรมการเรียนรู้ดว้ ยวธิ กี ารปฏบิ ัติท่ีสร้างสรรค์ สอดคล้องกับธรรมชาตขิ องเนื้อหาสาระการเรยี นรู้ และ ผ้เู รียน หรอื ผูเ้ ขา้ อบรมอย่างหลากหลาย แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วทิ ยาลัยเทคนิคนา้ พอง

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 6 ชอ่ื วิชา โปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) สอนครัง้ ที่ 9–10 ชื่อหนว่ ย แผ่นพับ นำมบตั ร และกำร์ด จำนวน 6 ชว่ั โมง ชื่อเรือ่ ง แผน่ พบั นำมบัตร และกำรด์ ช่ัวโมงรวม 30 1. สาระสาคัญ กำรสรำ้ งงำนจำกโปรแกรมประมวลผลคำ นอกจำกกำรพมิ พ์เอกสำรทั่วไปแล้ว ยงั สำมำรถ ประยุกตส์ ร้ำงงำนแบบมืออำชีพทใ่ี ช้โปรแกรมใหมๆ่ นัน่ คอื กำรสรำ้ งแผ่นพับ กำรสรำ้ งนำมบัตร และ กำรสรำ้ งกำรด์ อวยพรในวันสำคัญตำ่ ง ๆ ซ่ึงมีขัน้ ตอนและวิธใี นกำรสรำ้ งงำ่ ยๆ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 จดุ ประสงคท์ ่วั ไป 1. เพอ่ื ใหม้ คี วำมรคู้ วำมเข้ำใจเกี่ยวกับ ควำมรเู้ กย่ี วกบั กำรสรำ้ งแผน่ พับ นำมบัตรและ กำร์ด 2. เพ่อื ใหม้ เี จตคตทิ ่ีดีตอ่ กำรเตรยี มควำมพร้อมดำ้ นกำรเรียนรตู้ ำมหัวขอ้ ทก่ี ำหนด ควำม สนใจใฝ่รู้ ควำมมีเหตผุ ล ควำมรอบรู้ ควำมรอบคอบ/ระมัดระวังตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจ พอเพยี ง และควำมเป็นประชำธปิ ไตย 2.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. สรำ้ งแผน่ พับได้ 2. สร้ำงนำมบตั รได้ 3. สร้ำงกำร์ดได้ 4. ผ้เู รยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรมทพ่ี ึงประสงค์ คอื มีมนุษยสมั พนั ธ์ มีวินยั มีควำมซ่ือสัตย์ ควำมรับผิดชอบ เชื่อมน่ั ในตนเอง ประหยดั มีควำมคดิ ริเรมิ่ สรำ้ งสรรค์ ควำมสนใจใฝ่รู้ และพึ่งตนเอง 5. ผู้เรียนมีควำมพรอ้ มด้ำนกำรเรียนรู้ตำมทกี่ ำหนด มีควำมสนใจใฝร่ ู้ มีเหตผุ ล มคี วำม รอบรู้ รอบคอบ/ระมดั ระวงั ตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง และมคี วำมเปน็ ประชำธปิ ไตย 3. สมรรถนะ แสดงควำมรูเ้ กีย่ วกบั กำรสร้ำงแผน่ พบั นำมบัตร และกำรด์ 4. สาระการเรยี นรู้ การสร้างแผน่ พับ นามบัตรและการ์ดศึกษาเกี่ยวกับ 1. กำรสร้ำงแผ่นพับ 2. กำรสรำ้ งนำมบัตร 3. กำรสร้ำงกำรด์

5. การบรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 5.1ความพอประมาณ 1. มีควำมรูค้ วำมเข้ำใจปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่ือใชเ้ ปน็ ข้อมลู ในกำรใช้ พลังงำนไฟฟ้ำอยำ่ งเหมำะสมและประหยดั เชน่ ปิดเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ปดิ ไฟฟ้ำ ปดิ พดั ลมเม่ือเลกิ กำร ใช้งำน 2. จดั สรรเวลำในกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมทไ่ี ด้รบั มอบหมำยอย่ำงเหมำะสม 5.2 ความมเี หตุผล 1. เหน็ คุณคำ่ ของปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งในกำรนำไปพฒั นำชวี ิต โดยใช้ พลงั งำนไฟฟำ้ ที่มอี ยใู่ หค้ ้มุ คำ่ และเกิดประโยชนส์ ูงสดุ 2. สำมำรถสรำ้ งแผ่นพบั นำมบัตร และกำร์ดได้อย่ำงถกู ต้อง 5.3 การมภี มู คิ ุม้ กันในตัวทด่ี ี 1. มีควำมตระหนกั และรู้จกั ประยุกตใ์ ช้ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรดำเนนิ ชีวติ ได้อย่ำงถกู ตอ้ ง 2. ฝกึ ฝนทกั ษะกำรสรำ้ งแผ่นพบั นำมบตั ร และกำร์ดไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง 5.4 เงอื่ นไขความรู้ 1. กำรสร้ำงแผ่นพับ 2. กำรพมิ พน์ ำมบัตร 3. กำรพมิ พ์กำร์ด 5.5 เงอ่ื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมรบั ผิดชอบในกำรปฏบิ ตั งิ ำน 2. ควำมมวี นิ ัย 3. กำรพง่ึ ตนเอง 4. มคี วำมสนใจใฝ่รู้ 5. มีควำมซอื่ สตั ยส์ จุ ริต 6. กำรประหยัด 7. มคี วำมเชื่อมนั่ ในตนเอง 8. มคี วำมคดิ รเิ ริม่ สร้ำงสรรค์ 9. มคี วำมรอบคอบ/ระมดั ระวัง 10. มคี วำมเป็นประชำธปิ ไตยและควำมเป็นไทย 5.6 เชอื่ มโยงสู่ 4 มิติ 1. มที กั ษะในกำรจดั กำรหวั กระดำษและท้ำยกระดำษ กำรพมิ พ์เอกสำรออกทำง เคร่อื งพมิ พ์และกำรพมิ พเ์ อกสำรเปน็ ไฟล์ PDFโดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2016 ไดอ้ ย่ำง เหมำะสม ทำให้เปน็ ผมู้ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ มคี วำมระมัดระวงั และเกิดควำมเชือ่ มั่นในตนเอง

6. กจิ กรรมการเรียนรู้ (สอนแบบบรรยาย อธิบายและสาธิต) ข้ันเตรียม 1. จัดเตรยี มเอกสำรประกอบกำรสอน ส่อื กำรเรยี นกำรสอน วธิ กี ำรเรยี น กำรปฏบิ ตั ิงำนที่ ได้รับมอบหมำย และวิธวี ดั ผลประเมนิ ผล กำรปฏบิ ตั ิตำมกฎระเบียบของสถำนศกึ ษำ 2. ใหผ้ ู้เรยี นเปดิ ไฟฟำ้ ดวงทจ่ี ำเป็นตอ้ งใช้ เปดิ เครื่องปรับอำกำศ และเปดิ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ตำมจำนวนผูเ้ รียน ถ้ำมีเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ที่ไม่ไดใ้ ช้หรือใช้ไม่ได้ หำ้ มไมใ่ หเ้ ปดิ หน้ำจอท้ิงไว้ เพรำะ สน้ิ เปลอื งพลงั งำน 3. แจง้ จุดประสงค์กำรเรียนของหน่วยที่ 6 และกำรใหค้ วำมร่วมมอื ของผูเ้ รยี นในกำรทำกิจกรรม 4. สอบถำมผู้เรียนเร่อื งกำรสรำ้ งแผ่นพับ นำมบตั ร และกำรด์ ผเู้ รียนสำมำรถทำได้หรอื ไม่ โดยกำรสอบถำมเป็นรำยบคุ คลและรำยกลุ่ม เพอ่ื ให้ผู้เรยี นไดแ้ สดงควำมคิดเหน็ อยำ่ งมเี หตุผล 5. ผู้สอนบอกแนวทำงในกำรเรียน และวิธีกำรปฏิบตั ิตำมภำระงำนทมี่ อบหมำย ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ใหผ้ เู้ รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยท่ี 6 ในเวลำทก่ี ำหนด 2. เม่อื ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเสรจ็ แลว้ ใหผ้ เู้ รียนผลดั กนั ตรวจแบบทดสอบกับ เพือ่ นดว้ ยควำมซื่อสัตยส์ จุ รติ โดยผูส้ อนเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 6 ขั้นสอน 1. ผูส้ อนทำกำรสอนโดยใหผ้ ู้เรียนเปิดหนังสอื ประกอบกำรเรียนกำรสอนและเอกสำร ประกอบกำรเรียนท่ผี ู้สอนจดั ทำขึ้น 2. ผู้สอนให้ผู้เรยี นเปดิ เครื่องคอมพวิ เตอร์และเขำ้ สูก่ ำรใช้งำนโปรแกรม Microsoft Word 2016 3. ผสู้ อนทำกำรอธบิ ำยเนอ้ื หำควำมรเู้ กย่ี วกับกำรสร้ำงแผ่นพับ นำมบัตร และกำรด์ พร้อมทัง้ สำธติ เนอ้ื หำกำรเรียนรูแ้ ตล่ ะเร่อื งให้ผู้เรยี นไดเ้ รยี นร้ไู ปพรอ้ มกัน 4. ผู้สอนบอกวิธกี ำรและแนวคดิ ในกำรปฏบิ ตั ทิ ถี่ ูกต้องใหแ้ ก่ผเู้ รียน สงั เกต บันทกึ พฤติกรรม ผเู้ รยี นขณะเรียนและศึกษำบทเรยี น คอยช่วยเหลอื และใหค้ ำแนะนำเม่ือผูเ้ รยี นเกดิ ควำมสงสยั 5. ผู้สอนเปิดโอกำสใหผ้ ้เู รียนซกั ถำมขอ้ สงสยั ขน้ั สรปุ 1. ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนศึกษำจำกใบควำมร้แู ละทำแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิตำมใบงำน 2. สังเกต บันทึกพฤตกิ รรมผูเ้ รยี นขณะดำเนินงำนตำมใบงำน คอยช่วยเหลือใหค้ ำแนะนำ เม่อื ผู้เรยี นเกิดควำมสงสัย 3. ให้ผู้เรียนดำเนินงำนตำมใบงำน ผูส้ อนเดนิ สำรวจกำรศึกษำข้อมลู จำกใบควำมรู้และฝกึ ปฏิบัติ ตำมใบงำนของผเู้ รยี น หำกพบว่ำผู้เรยี นยงั ไมเ่ ข้ำใจ ผสู้ อนจะทำกำรอธบิ ำยใหผ้ ู้เรียนอกี ครง้ั 4. เมื่อผู้เรยี นทำงำนท่ไี ด้รับมอบหมำยเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ให้สง่ งำนครผู ำ่ นระบบเครือขำ่ ย อนิ เตอรเ์ นต็

5. ผู้สอนร่วมกบั ผ้เู รยี นชว่ ยกนั สรปุ สำระกำรเรยี นรูป้ ระจำหน่วยกำรเรยี นเพือ่ สง่ เสริมควำม เป็นประชำธิปไตย 6. ผูเ้ รยี นทำแบบฝกึ หดั ทำ้ ยหนว่ ยเรยี น 7. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยท่ี 6 ในเวลำทก่ี ำหนด 8. ผูส้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ทำ้ ยหน่วยเรียนพร้อมกับให้ผเู้ รยี นแลกเปลี่ยนกระดำษคำตอบกัน โดยครผู ูส้ อนเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 9. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นทไี่ ดร้ ับมอบหมำยเวรประจำวันสำรวจควำมเรียบรอ้ ยของหอ้ งเรยี น พร้อม ทำควำมสะอำดห้องเรยี น และใหผ้ ้เู รยี นเตรยี มตวั เรียนในคำบตอ่ ไป 7. ส่อื ประกอบการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื ส่ิงพมิ พ์ 1. หนังสอื เรียนวชิ ำโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) รหัสวิชำ 20204- 2102 2. แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น 3. ใบควำมร้ทู ่ี 6เรอ่ื งแผ่นพบั นำมบตั ร และกำรด์ เครือ่ งพมิ พ์และกำรพมิ พ์เอกสำรเปน็ ไฟล์ PDF 4. ใบกจิ กรรม 5. แบบฝกึ หัดทำ้ ยหนว่ ยเรยี น 6. แบบเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หลังเรยี น และแบบฝึกหัดท้ำยหนว่ ยเรียน 7. แบบประเมนิ ผลกำรทำงำนตำมใบงำน 8. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม สื่อโสตทศั น์ 1. คอมพิวเตอรพ์ ร้อมอปุ กรณต์ อ่ พว่ ง 2. โปรแกรม Microsoft Word 2016 3. โปรเจคเตอร์ 4. บทเรียนออนไลน์ วิชำโปรแกรมประมวลผลคำ 5. ไมโครโฟน เครอ่ื งขยำยเสยี งพร้อมลำโพง สื่อของจริง - 8. แหลง่ การเรียนรู้เพ่มิ เติม ในสถานศกึ ษา 1. e-learning วิทยำลยั เทคนคิ น้ำพอง 2. หอ้ งปฏิบตั ิกำร Internet ค้นควำ้ ข้อมูลทำง Internet 3. ครผู สู้ อนแผนกวิชำคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

นอกสถานศกึ ษา 1. หอ้ งสมดุ ประชำชน / รำ้ นหนังสือ 2. Internet 3. บคุ ลำกรต่ำง ๆ ท่ีมคี วำมรู้เกยี่ วกับกำรใช้งำนโปรแกรมประมวลผลคำ 9. การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กับวิชาอื่น 1. บูรณำกำรกบั กล่มุ วิชำภำษำไทย กำรฝกึ ปฏบิ ัตเิ ขยี นย่อควำมเขยี นเรยี งควำมเขยี นโครงกำร เขียนรำยงำนวิชำกำร เขยี นจดหมำยสมัครงำนเขยี นบันทึกขอ้ ควำมในหน่วยงำนเขยี นรำยงำนกำร ประชมุ กรอกแบบฟอร์มเอกสำรประเภทต่ำง ๆ เขยี นแสดงควำมรสู้ ึกในโอกำสตำ่ ง ๆ โดยกำรจัดพิมพใ์ น โปรแกรมประมวลผลคำ 2. บูรณำกำรรว่ มกับกลมุ่ วชิ ำภำษำตำ่ งประเทศ โดยกำรนำโปรแกรมประมวลผลคำมำ ประยกุ ตใ์ ช้ในกำรเขยี นโต้ตอบทำงสงั คมเขยี นใหข้ อ้ มลู บุคคลเขยี นจดหมำยสว่ นตวั เขยี นจดหมำย อิเลก็ ทรอนกิ ส์เขยี นบนั ทกึ ย่อ / ขอ้ ควำมสน้ั ๆในโอกำสตำ่ ง ๆ กรอกใหข้ อ้ มลู ในแบบฟอร์มตำ่ ง ๆ ใบ สมคั รงำนใบสมคั รสมำชกิ ต่ำง ๆ ใบขอรบั ทุนใบสมคั รเข้ำศกึ ษำใบสมคั รสอบฯลฯเขยี นใหข้ ้อมลู ใน เอกสำรกำรปฏบิ ตั งิ ำนในงำนอำชพี ต่ำง ๆ เขยี นบันทึกยอ่ รำยงำนสน้ั ๆ เขียนจดหมำยธุรกจิ ประเภท ตำ่ ง ๆ ใช้ ICT เปน็ แหลง่ กำรเรยี นรู้ดว้ ยตนเองหรือฝกึ ฝนกบั เพื่อนใช้ ICT พัฒนำทกั ษะกำรฟัง -กำรดู กำรพูดอ่ำน กำรเขียนสบื คน้ ข้อมูลจำกแหลง่ กำรเรียนรู้ท่ีหลำกหลำยเพอื่ พฒั นำทักษะกำรสื่อสำรและ กำรประกอบอำชพี 3. บูรณำกำรรว่ มกับกลุ่มวชิ ำคณิตศำสตร์ ด้ำนกำรใช้สูตรและฟงั กช์ น่ั ในกำรคำนวณประยุกต์ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตรใ์ นกำรวำงแผนกำรออกแบบประดษิ ฐค์ ดิ ค้นสิ่งใหมๆ่ ในงำนอำชีพ 10. การวดั ผลและประเมินผล ก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ขณะเรียน 1. ตรวจผลงำนตำมท่ไี ดร้ บั มอบหมำย 2. สงั เกตกำรปฏบิ ัติงำน หลังเรียน 1. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 2. ตรวจงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำย 3. ตรวจแบบฝึกหัดทำ้ ยหนว่ ยเรยี น

1. ส่งิ ท่จี ะวัด 1.1 ควำมรู้ควำมเขำ้ ใจจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1.2 กำรประเมินผลงำน 1.3 สังเกตพฤติกรรมขณะเรียน 2. วธิ ีการวัด 2.1 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรยี น 2.2 ตรวจงำนที่มอบหมำย 2.3 สงั เกตพฤตกิ รรมขณะเรยี น 3. เคร่ืองมอื วดั 3.1 แบบทดสอบ 3.2 กิจกรรมทม่ี อบหมำย 3.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรม 4. เกณฑก์ ารวดั ผลและประเมินผล เกณฑก์ ารวดั ผล 1. ใหข้ ้อถูก ข้อละ 1 คะแนน ขอ้ ผดิ 0 คะแนน 2. ใหค้ ะแนนพฤติกรรมกำรเรียน 5 หมำยถงึ ดมี ำก 4 หมำยถึง ดี 3 หมำยถงึ ปำนกลำง 2 และ 1 หมำยถึง ตอ้ งปรับปรงุ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. ผเู้ รยี นไดค้ ะแนนจำกกำรทำแบบทดสอบ ไมต่ ำ่ กว่ำรอ้ ยละ 60 2. ผู้เรยี นไดค้ ะแนนจำกกจิ กรรมกำรเรียน ไมต่ ่ำกว่ำรอ้ ยละ 80 3. ผเู้ รียนได้คะแนนพฤติกรรมกำรเรยี น ไมต่ ่ำกว่ำรอ้ ยละ 60 เกณฑ์การวัด แบบทดสอบ 10 คะแนน ระดับดี ตั้งแต่ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป (8 คะแนน) ระดับปำนกลำง ตง้ั แต่รอ้ ยละ 60 - 70 ขึ้นไป (6 - 7 คะแนน) ระดบั ปรับปรุง ตัง้ แต่รอ้ ยละ 50 ลงมำ (5 คะแนนลงมำ) เกณฑ์การผา่ น ตงั้ แต่ระดับปำนกลำงขึ้นไป หรอื ต้ังแตร่ อ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป

กิจกรรมเสนอแนะประจาหนว่ ย 1. ผู้เรียนตอ้ งให้ควำมสนใจในกำรศึกษำ เพ่ือหำเทคนคิ วิธีกำร หรอื หลกั กำรง่ำยเพื่อให้หำ คำตอบไดอ้ ย่ำงถูกตอ้ ง และรวดเร็ว โดยกำร ต้งั ใจฟงั หลกั กำร เทคนคิ วธิ ีกำรทีค่ รูผ้สู อนสรปุ ในขณะที่ ทำกำรสอน และนำข้อสงสัยซกั ถำมครใู นกำรเรยี นทุกครง้ั ที่เกิดควำมสับสน และไม่เข้ำใจ 2. ผเู้ รียนควรมีกำรทบทวนบทเรยี นตลอด เพอื่ เสรมิ สรำ้ งควำมเข้ำใจอยำ่ งแท้จริง 3. ผู้เรียนหมั่นทำใบงำน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขขอ้ ท่ผี ดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ ใบงานท่ี 6 หนว่ ยท่ี 6 ชื่อวชิ าโปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) สอนครง้ั ที่ 9–10 ชอ่ื หนว่ ย แผน่ พับ จำนวน 6 ชั่วโมง ชอื่ งำน แผ่นพับ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพือ่ ให้ผูเ้ รยี นรูจ้ ักศึกษำคน้ ควำ้ หำควำมร้เู กี่ยวกับกำรสร้ำงแผน่ พบั 2. เพือ่ เสรมิ สรำ้ งทกั ษะควำมสำมำรถทำงดำ้ นกำรปฏบิ ัติ 3. เพอ่ื แลกเปลีย่ นเรียนรูค้ วำมรซู้ ง่ึ กนั และกัน 4. เพอื่ ให้ผูเ้ รียนได้มีบทบำทในกำรเรียน และสร้ำงสรรค์บรรยำกำศท่ีดจี ำกกำรเรยี น 5. เพ่อื ให้ผู้เรียนได้ปฏิบตั ิงำนดว้ ยควำมรอบคอบ วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1. หนังสอื เรยี นวิชำโปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) 2. ใบงำนที่ 6 เรอื่ งกำรสร้ำงแผ่นพบั 3. เครอื่ งคอมพิวเตอร์พรอ้ มอุปกรณ์ต่อพ่วง 4. โปรแกรม Microsoft Word 2016 ลาดบั ขัน้ การปฏิบตั ิงาน ขั้นท่ี 1 รับใบงำนที่ครผู ู้สอน ขั้นท่ี 2 ตรวจสอบอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ สำยไฟ ปลัก๊ ไฟ ให้เรียบรอ้ ยแล้วทำกำรเปดิ เคร่ือง คอมพิวเตอร์ เขำ้ สู่โปรแกรม Microsoft Word 2016 ขัน้ ที่ 3 ปฏบิ ัตงิ ำนตำมใบงำนท่ีไดร้ บั มอบหมำย

ใบงาน วทิ ยาลยั เทคนิคนา้ พอง ใบงานท่ี 6 วชิ าโปรแกรมประมวลผลคา (20204-2102) ระดับชั้น ปวช. 1 สอนโดย : ครูแสงเดอื น จงเจรญิ วิไล -------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------- คาสง่ั ให้นกั เรยี นสร้ำงแผน่ พับจำกข้อควำมทก่ี ำหนดให้ จัดรูปแบบและตกแต่งเอกสำรให้สวยงำม แลว้ บนั ทึกเอกสำรไว้ท่ีไดรฟ์ D:\\งำนนักเรียน\\ชื่อ-สกุลนกั เรยี น\\ใบงำนท่ี 6.Docxใชค้ ำส่ังในกำรจัด เอกสำรดังต่อไปนี้ 1. เปดิ โปรแกรมประมวลผลคำ และสรำ้ งเอกสำรใหม่ โดยเลือกเทมเพลตแบบ เอกสำรเปล่ำ 2. กำหนดขนำดกระดำษเปน็ A4 3. กำหนดกำรวำงแนวเปน็ แนวนอน 4. กำหนดระยะขอบท้งั 4 ด้ำนคอื ขอบบน ขอบลำ่ ง ขอบซำ้ ย และขอบขวำ เท่ำกบั 0.5 ซม. 5. ใหส้ ร้ำงแผ่นพบั จำนวน 3 พบั 6. ผเู้ รียนคน้ รปู ภำพเกย่ี วกบั เนอ้ื หำท่ีครูกำหนดใหโ้ ดยคน้ คว้ำจำกอินเทอรเ์ นต็ 7. บันทกึ เอกสำรช่อื ใบงำนท่ี 6.Docx 8. พิมพเ์ อกสำรออกทำงเครือ่ งพมิ พ์

ใบงานที่ 7 หน่วยที่ 6 ชื่อวชิ า โปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) สอนครง้ั ท่ี 9–10 ช่อื หน่วย นำมบตั ร จำนวน 6 ช่ัวโมง ชอื่ งำน นำมบัตร จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. เพ่อื ให้ผเู้ รียนร้จู ักศึกษำคน้ ควำ้ หำควำมรูเ้ กี่ยวกบั กำรสร้ำงนำมบัตร 2. เพือ่ เสรมิ สร้ำงทักษะควำมสำมำรถทำงด้ำนกำรปฏิบัติ 3. เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรูค้ วำมรซู้ ง่ึ กนั และกนั 4. เพื่อให้ผเู้ รียนได้มีบทบำทในกำรเรียน และสรำ้ งสรรค์บรรยำกำศทด่ี จี ำกกำรเรยี น 5. เพือ่ ให้ผู้เรียนได้ปฏบิ ัติงำนด้วยควำมรอบคอบ วสั ดุ/อุปกรณ์ 1. หนังสือเรียนวชิ ำโปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) 2. ใบงำนท่ี 7 เร่ืองกำรสรำ้ งนำมบัตร 3. เครือ่ งคอมพิวเตอร์พรอ้ มอปุ กรณ์ตอ่ พ่วง 4. โปรแกรม Microsoft Word 2016 ลาดบั ข้ันการปฏิบตั ิงาน ขั้นท่ี 1 รับใบงำนที่ครูผู้สอน ขน้ั ท่ี 2 ตรวจสอบอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ สำยไฟ ปลก๊ั ไฟ ให้เรยี บร้อยแล้วทำกำรเปิดเครือ่ ง คอมพวิ เตอร์ เขำ้ สโู่ ปรแกรม Microsoft Word 2016 ขั้นท่ี 3 ปฏิบัติงำนตำมใบงำนท่ีได้รบั มอบหมำย

ใบงาน วิทยาลยั เทคนิคน้าพอง ใบงานท่ี 7 วิชาโปรแกรมประมวลผลคา (20204-2102) ระดบั ชั้น ปวช. 1 สอนโดย : ครูแสงเดือน จงเจรญิ วิไล …………………………………………………………………………………………. คาสง่ั ใหน้ กั เรยี นสรำ้ งนำมบัตรโดยสมมตติ วั เองเปน็ เจ้ำของบริษัทใหญ่ จดั รปู แบบและตกแต่ง นำมบัตรใหส้ วยงำม แลว้ บนั ทึกเอกสำรไว้ทีไ่ ดร์ฟ D:\\งำนนักเรียน\\ช่ือ-สกลุ นักเรียน\\ใบงำนที่ 7.Docx ใชค้ ำส่งั ในกำรจดั เอกสำรดังต่อไปน้ี 1. เปดิ โปรแกรมประมวลผลคำ และสรำ้ งเอกสำรใหม่ โดยเลือกเทมเพลตแบบ เอกสำรเปลำ่ 2. กำหนดขนำดกระดำษเปน็ A4 3. กำหนดกำรวำงแนวเป็น แนวตั้ง 4. กำหนดระยะขอบเป็น แคบ 5. ใหส้ ร้ำงนำมบตั รตนเอง จำนวน 10 ใบ 6. บนั ทกึ เอกสำรชือ่ ใบงำนที่ 7.Docx 7. พมิ พเ์ อกสำรออกทำงเคร่ืองพิมพ์

ใบงานที่ 8 หน่วยท่ี 6 ชอื่ วิชา โปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) สอนคร้งั ที่ 9–10 ชอ่ื หน่วย กำรด์ จำนวน 6 ชวั่ โมง ชื่องำน กำรด์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพอ่ื ให้ผู้เรียนรู้จกั ศกึ ษำค้นควำ้ หำควำมรเู้ กี่ยวกบั กำรสรำ้ งกำรด์ อวยพร 2. เพ่อื เสริมสรำ้ งทกั ษะควำมสำมำรถทำงดำ้ นกำรปฏิบตั ิ 3. เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ควำมรู้ซ่ึงกนั และกนั 4. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นได้มบี ทบำทในกำรเรียน และสรำ้ งสรรค์บรรยำกำศท่ีดจี ำกกำรเรยี น 5. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นไดป้ ฏบิ ตั ิงำนด้วยควำมรอบคอบ วสั ด/ุ อุปกรณ์ 1. หนังสือเรยี นวิชำโปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) 2. ใบงำนท่ี 8 เรื่องกำรสรำ้ งกำร์ดอวยพร 3. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์พรอ้ มอุปกรณต์ อ่ พว่ ง 4. โปรแกรม Microsoft Word 2016 ลาดบั ขน้ั การปฏบิ ัติงาน ขนั้ ท่ี 1 รบั ใบงำนที่ครูผสู้ อน ขั้นที่ 2 ตรวจสอบอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ สำยไฟ ปลก๊ั ไฟ ให้เรียบรอ้ ยแล้วทำกำรเปดิ เครอ่ื ง คอมพิวเตอร์ เข้ำสู่โปรแกรม Microsoft Word 2016 ขั้นท่ี 3 ปฏบิ ัตงิ ำนตำมใบงำนท่ีได้รบั มอบหมำย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook