Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน1_2563

แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน1_2563

Published by sang2556000, 2020-09-28 03:12:30

Description: แผนการสอนว21_20001_20012563

Search

Read the Text Version

ตวั ชว้ี ดั ที่ 1.2.1 ข้อ 1 1.2.1 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ ขอ้ 1 ออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ หรือเนือ้ หาสาระการเรียนรู้ โดยการปรบั ประยุกตใ์ หส้ อดคล้องกบั บรบิ ทของสถานศึกษา หรอื สถานประกอบการหรอื ท้องถิ่น และเหมาะสมกับผ้เู รียน หรอื ผเู้ ข้ารับการอบรม แผนกวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ วิทยาลยั เทคนคิ น้าพอง

รายละเอยี ดของวิชา 1. จดุ ประสงค์รายวชิ า เพอ่ื ให้ 1. เข้าใจหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่องานอาชีพการใช้ระบบปฏิบั ติการ โปรแกรมสาเร็จรูปและอนิ เทอรเ์ นต็ เพื่องานอาชีพ 2. สามารถใช้ระบบปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์โปรแกรมสาเรจ็ รูปและเทคโนโลยสี ารสนเทศตามลักษณะงานอาชีพ 3. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความรับผดิ ชอบในการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศในงานอาชีพ 2. สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบัติการ โปรแกรม สาเร็จรปู และอนิ เทอร์เน็ตเพอ่ื งานอาชพี 2. ใชร้ ะบบปฏบิ ตั กิ ารในการจัดสภาพแวดลอ้ มและจดั สรรทรพั ยากรตา่ ง ๆ บนเคร่อื งคอมพิวเตอร์ 3. ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรปู ในงานอาชพี ตามลกั ษณะงาน 4. สืบคน้ ข้อมูลสารสนเทศในงานอาชีพโดยใช้อินเทอร์เน็ต 5. สือ่ สารข้อมลู สารสนเทศโดยใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ 3. คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏบิ ัตเิ กยี่ วกบั การใช้คอมพวิ เตอร์และระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพการใช้ระบบปฏบิ ัติการ(Windows หรือ Mac OS) การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา เพื่อจดั ทาเอกสารในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมตารางทาการเพื่อการคานวณ ในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมการนาเสนอผลงาน หรือการใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู อืน่ ๆ ตาม ลกั ษณะงานอาชพี การใช้ อินเทอร์เนต็ เพื่อสืบค้นและส่ือสารขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชพี ผลกระทบของการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมและ ความรับผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศในงานอาชีพ 4. แนวทางการจัดทาแผนการเรยี นรู้ การจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้บรู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง สาหรับรายวิชานมี้ ่งุ เน้นให้ผูเ้ รียนมคี วามร้เู ก่ียวกับการทางานและการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละ สารสนเทศ การใช้ระบบปฏิบัติการ การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา การใช้โปรแกรมตารางทาการ การใช้ โปรแกรมนาเสนอผลงาน การใชอ้ นิ เตอร์เนต็ เพ่ือสบื คน้ และสอ่ื สารขอ้ มูลสารสนเทศ และผลกระทบของ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ตามหลกั การและกระบวนการ โดยจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนท่เี น้นผูเ้ รียน เป็นสาคัญ

5. เกณฑ์การประเมนิ ผลรายวชิ า 1. ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรม 20 คะแนน 2. เวลาเรยี นตอ้ งไม่นอ้ ยกว่า 80% 10 คะแนน 3. งานท่ีมอบหมาย 50 คะแนน 4. สอบปลายภาค 20 คะแนน 6.เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล ใช้การตัดเกรดแบบอิงเกณฑ์ โดยใชร้ ะดับคะแนนดังน้ี คะแนน เกรดท่ไี ด้ 80 - 100 4 75 – 79 3.5 70 - 74 3 65 - 69 2.5 60 - 64 2 55 - 59 1.5 50 - 54 1 ต่ากว่า 50 0

หน่วยการเรียนรู้ (การออกแบบหน่วยการเรยี นรทู้ ีส่ อดคลอ้ งกบั คาอธิบายรายวิชาตามหลักสตู ร) สัปดาห์ หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วยการสอน/ช่อื เร่ือง จานวนชั่วโมง ท. ป. ชม. ที่ 2 13 1 1 การใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ 1. การใชค้ อมพวิ เตอรเ์ บอ้ื งต้น 2. กระบวนการทางานของคอมพิวเตอร์ 3. เทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. ระบบสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ 2-3 2 การใช้ระบบปฏบิ ัติการ 2 46 1. ระบบปฏบิ ัติการวินโดวส์ 2. สว่ นประกอบของหน้าจอวินโดวส์ 3. การใช้เมาสแ์ ละตวั ชเี้ มาส์ 4. การเรียกใชโ้ ปรแกรมในวินโดวส์ 5. สว่ นประกอบพ้นื ฐานของหน้าต่างหรอื วินโดวส์ 6. การทางานกบั ไดรฟ์ ไฟล์ และโฟลเดอร์ 7. ปฏบิ ตั กิ ารจดั การไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ด้วยโปรแกรม Windows Explorer 8. การจดั การเดสก์ท็อปและสรา้ งชอร์ตคตั 4-7 3 การใช้โปรแกรมประมวลผลคา 4 8 12 1. การใช้โปรแกรมประมวลผลคาเพ่ือจักทาเอกสารใน งานอาชพี 2. การแทรกขอ้ ความ/สัญลกั ษณ์/รูปภาพตา่ ง ๆ ลงใน เอกสาร 3. การทาแผ่นพับ/จดหมายราชการ/จดหมายเวยี น/ การ์ด 4. การสรา้ งตารางและการพิมพ์เอกสารออกทาง เคร่อื งพมิ พ์

สปั ดาห์ หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วยการสอน/ช่อื เรอ่ื ง จานวนชั่วโมง ท. ป. ชม. ท่ี 4 8 12 8-11 4 การใชโ้ ปรแกรมตารางทาการ 4 8 12 1. Microsoft Excel 2. สว่ นประกอบ Microsoft Excel 3. สมดุ งาน (workbook) และแผน่ งาน (worksheet) 4. การสรา้ งสมดุ งาน 5. การจดั การแผ่นงาน 6. การคานวณโดยใชส้ ูตร และฟังก์ชัน 7. การตกแตง่ แผน่ งานและการพิมพ์ออกทาง เคร่ืองพิมพ์ 8. การปอ้ นข้อมลู และการแก้ไขข้อมูล 9. การจัดการเซลล์, แถว และคอลัมน์ 10. การสร้างแผนภูมิ (Chart 12-15 5 การใชโ้ ปรแกรมนาเสนอผลงาน 1. งานนาเสนองานและเพาเวอร์พอยต์ 2. สว่ นประกอบของเพาเวอร์พอยต์ 3. การสร้างงานนาเสนอใหม่ 4. มมุ มองของงานนาเสนอ 5. การจดั การภาพน่งิ 6. การใสข่ ้อความลงในภาพน่ิงและการจดั ขอ้ ความ 7. การจดั รูปแบบการตกแต่งภาพนง่ิ 8. เทคนิคการทาภาพเคล่อื นไหว 9. การใส่รปู ภาพ, เสียง, คลิปวดิ โี อ และแผนภูมลิ งใน ภาพน่ิง

สปั ดาห์ หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วยการสอน/ช่อื เร่อื ง จานวนชว่ั โมง ท. ป. ชม. ที่ 1 23 16 6 การใช้อนิ เตอรเ์ น็ตเพือ่ สืบคน้ และส่ือสารข้อมลู 1 23 สารสนเทศ 18 36 54 1. อนิ เทอร์เนต็ (Internet) 2. บริการเวลิ ดไ์ วด์เว็บ 3. การใช้ Internet Explorer/Chrome/Fire Fox 4. การสืบคน้ ขอ้ มลู สารสนเทศ 5. การสมัครอเี มล 17 7 ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 1. ผลกระทบจากการใช้คอมพวิ เตอรก์ ับระบบ สารสนเทศ 2. ความหมายของจริยธรรม 3. การกระทาความผดิ เกย่ี วกับคอมพิวเตอร์ 4. จรยิ ธรรมทีจ่ าเปน็ ตอ่ การใช้งานคอมพิวเตอร์ 5. ขอ้ ควรระวังในการใช้อนิ เตอร์เนต็ 18 สอบปลายภาค รวม

ตัวชี้วดั ท่ี 1.2.1 ข้อ 2 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ ขอ้ 2 มีกจิ กรรมการเรยี นรูด้ ว้ ยวิธีการปฏบิ ตั ทิ ส่ี อดคล้อง กบั ธรรมชาติของเนื้อหาสาระการเรียนรู้ อย่างหลากหลาย และสมรรถนะนาไปปฏบิ ัตจิ รงิ แผนกวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ วทิ ยาลัยเทคนคิ นา้ พอง

แผนการจัดการเรียนร้มู ่งุ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 บูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สอนคร้งั ท่ี 4-7 ชั่วโมงรวม 54 ชว่ั โมง ชื่อหน่วย การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา จานวนชวั่ โมง12 ชั่วโมง 1. สาระสาคญั Microsoft Word คอื โปรแกรมสาเรจ็ รปู ยอดฮติ โปรแกรมหนึง่ ทอ่ี ยู่ในชุดของ Microsoft Office เปน็ ทน่ี ิยมใช้งานกนั ทงั้ แบบส่วนตวั ในสานกั งาน หนว่ ยงาน สถาบนั การศึกษา และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ Microsoft Word เป็นโปรแกรมท่ีใช้ จัดทาเอกสารต่าง ๆ เช่น รายงาน จดหมายเวียน พมิ พ์งาน ฯลฯ ภายในตวั โปรแกรมมลี กู เลน่ มากมายสาหรบั จดั ทาชิ้นงาน เชน่ การจัดตัวหนังสอื ตวั หนา-บาง ตัวเอียง การขีดเส้นใต้ การเนน้ ข้อความ การแทรกรปู ภาพ เปน็ ตน้ 2. สมรรถนะประจาหน่วย 2.1 แสดงความร้เู ก่ียวกบั การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคาเพ่ือจดั ทาเอกสารในงานอาชีพ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 อธบิ ายการเรยี กใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word ได้ 3.1.2 บอกสว่ นประกอบของหนา้ ต่างโปรแกรม Microsoft Word ได้ 3.1.3 บอกเตรียมพร้อมกอ่ นการใช้งานโปรแกรม Microsoft Word ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ 3.2.1 ปฏบิ ตั กิ ารจัดการเก่ียวกบั ข้อความได้ 3.2.2 ปฏบิ ัตกิ ารจดั การเกีย่ วกบั รูปภาพในโปรแกรม Microsoft Word ได้ 3.2.3 ปฏิบตั ิการจัดการตารางในโปรแกรม Microsoft Word ได้ 3.2.4 ปฏิบตั กิ ารพิมพเ์ อกสารทางเครื่องพิมพ์ได้ 3.2.5 ปฏบิ ตั ิการออกจากโปรแกรม Microsoft Word ได้ 3.3 ดา้ นลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 3.3.1 ปฏบิ ัติงานตามหลักคุณธรรม-จรยิ ธรรม

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 3 บูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สอนครง้ั ท่ี 4-7 ชว่ั โมงรวม 54 ชัว่ โมง ช่อื หน่วย การใช้โปรแกรมประมวลผลคา จานวนชวั่ โมง12 ช่วั โมง 4. เนื้อหาสาระ 1. การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา 1.1 การใช้โปรแกรมประมวลผลคาเพื่อจกั ทาเอกสารในงานอาชีพ - การเปิดโปรแกรม - สว่ นประกอบของโปรแกรม - การเตรียมพรอ้ มก่อนการใชง้ าน - การจัดการข้อความ - การออกจากโปรแกรม 1.2 การแทรกรูปภาพตา่ ง ๆ ลงในเอกสาร - การแทรกรปู ภาพ - การแทรกรปู ภาพแบบออนไลน์ - การสร้างรปู รา่ งตา่ ง ๆ - การจดั วางข้อความร่วมกับรปู ภาพ - การใชเ้ ครอ่ื งมือการจัดการรปู ภาพและรปู ร่าง 1.3 การสรา้ งตารางและการพิมพ์เอกสารออกทางเครอ่ื งพิมพ์ - การแทรกตาราง - การปรบั แต่งตาราง - การจัดรปู แบบตารางสาเร็จรปู - การพมิ พง์ านออกทางเครอื่ งพิมพ์

แผนการจดั การเรยี นร้มู งุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 3 บรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สอนครัง้ ที่ 4-7 ช่ัวโมงรวม 54 ช่ัวโมง ชื่อหน่วย การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา จานวนช่ัวโมง12 ช่ัวโมง 5. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ 5.1 ขั้นการนาเข้าสู่บทเรียน 1. ตรวจสอบรายชอื่ นักเรยี นท่ีเข้าเรยี น 2. ครนู าเขา้ สบู่ ทเรียนด้วย Kahoot.it /Brain Gym แลว้ โยงไปยงั เรือ่ งที่สอน 5.2 ข้นั การเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้โดยการอธิบายและสาธติ โดย 1. ครูอธิบายและสาธิต การใช้โปรแกรมประมวลผลคา 2. นกั เรียนลงมอื ปฏบิ ตั ไิ ปพร้อมกับครู 3. นักเรยี นลงมอื ปฏบิ ตั เิ อง โดยครูเป็นผคู้ วบคุมดแู ล 5.3 ขั้นการสรุป ครู นกั เรยี น รว่ มกันสรุปและอภิปรายความรู้ทไี่ ด้ 5.4 การวดั และประเมินผล แบบทดสอบก่อนและหลังเรยี น

แผนการจดั การเรียนรมู้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 บรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สอนครงั้ ที่ 4-7 ชวั่ โมงรวม 54 ชวั่ โมง ช่อื หนว่ ย การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา จานวนชวั่ โมง12 ช่ัวโมง 6. สอ่ื การเรียนรู้ /แหล่งการเรียนรู้ 6.1 ส่ือสง่ิ พิมพ์ - หนังสอื เรยี น - ใบความรู้ 6.2 สื่อโสตทัศนปู กรณ์ (ถ้าม)ี - 6.3 ห่นุ จาลองหรอื ของจริง (ถา้ มี) - เคร่อื งคอมพิวเตอร์ - Microsoft Word 2019 6.4 ส่ืออ่นื ๆ (ถ้ามี) - Internet - Moodle 7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) - ใบความรู้ - ใบมอบหมายงาน 8. การบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง/พระบรมราโชบาย ร.10 /ความสัมพนั ธก์ ับวชิ าอน่ื - การบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ชดั เจนเปน็ ลาดับข้ันตอน มีการกาหนดเนื้อหาสาระ อยา่ งชัดเจน และเหมาะสมกับแหล่งเรียนรู้ - คาถามกระต้นุ คิดเพ่ือปลูกฝงั หลกั คิดพอเพยี ง 1. นักเรยี นคดิ ว่าทาไมเราตอ้ งมีระเบยี บวินยั ในการใช้เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ 2. โปรแกรมประมวลผลคามปี ระโยชน์อยา่ งไรบ้าง 3. เราจาเป็นต้องมีความชานาญในการใช้คอมพวิ เตอรห์ รอื ไม่ เพราะอะไร - ความสัมพันธ์กบั วชิ าอ่ืน ภาษาต่างประเทศ ฟัง พูด อ่าน เขียน คาศัพท์ภาษาอังกฤษเกีย่ วกับคอมพิวเตอร์

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 บรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนครงั้ ที่ 4-7 ช่วั โมงรวม 54 ช่ัวโมง ช่อื หนว่ ย การใช้โปรแกรมประมวลผลคา จานวนช่วั โมง 12 ชั่วโมง การใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการเตรยี มการสอน/จัดการเรียนรู้ เงือ่ นไขความรู้ - ความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั โปรแกรม Microsoft Word - ความรเู้ กี่ยวกบั สว่ นประกอบของหนา้ ต่างโปรแกรม Microsoft Word - ความรเู้ รอ่ื งการใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word เง่อื นไขคณุ ธรรม - ความรบั ผดิ ชอบต่อภาระงานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย - ความซอื่ สตั ยใ์ นการทาสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน - ความขยนั อดทนในการทางานท้ังงานกลุ่มและงานส่วนบคุ คล - วิจารณญาณในการเลือกใช้โปรแกรมประมวลผลคาใหเ้ หมาะสม - เห็นคณุ คา่ ของโปรแกรมประมวลผลคา หลักความมเี หตุผล - การฝึกทักษะเก่ียวกบั การใช้โปรแกรม Microsoft Word และสามารถนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ - ความสนใจของผูเ้ รยี นแต่ละวัยมีความแตกต่างกนั การเลือกสรรเน้ือหาจงึ ต้องเหมาะสมกับผเู้ รยี น - การประเมินผลการเรยี นทุกหนว่ ยการเรียน ด้วยแบบทดสอบก่อนเรยี น และแบบทดสอบหลงั เรียนเป็นการสรา้ ง แรงจงู ใจใหผ้ เู้ รยี นเข้าเรยี นอย่างสมา่ เสมอเพ่ือเกบ็ คะแนนสะสม - การมอบหมายงานให้ผู้เรยี นสร้างใบงานในแตล่ ะหัวขอ้ เร่ืองเปน็ การเพ่มิ พนู ความรู้และทกั ษะ - การมอบหมายงานให้ผ้เู รียนบันทึกการเรียนรโู้ ดยฝึกการคิดวิเคราะหต์ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งเปน็ การบูรณาการท่ีโยงไปส่กู ารดารงชีวติ ของผู้เรียนได้ หลักความพอประมาณ - พอประมาณกับเวลาทใี่ ช้ในการเรียนการสอนและกิจกรรม - ค้นหาขา่ วที่มขี ้อมลู น่าสนใจ น่าติดตามเหมาะกับผเู้ รยี น - เนอ้ื หามคี วามยากงา่ ยเหมาะสมกับระดบั ชน้ั และความรู้ของผูเ้ รียน - มคี วามพอดีด้านเทคโนโลยี รู้จกั ใช้เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสมสอดคล้องกับความต้องการ - สามารถปรับเปลยี่ นเร่อื งอื่น ๆ ทที่ นั สมยั เพื่อใหเ้ หมาะสมกบั เหตุการณป์ จั จุบนั

แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 3 บรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สอนครั้งท่ี 4-7 ชั่วโมงรวม 54 ช่วั โมง ช่ือหน่วย การใช้โปรแกรมประมวลผลคา จานวนชั่วโมง 12 ช่ัวโมง หลกั สรา้ งภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี - การเรียนรู้จากโปรแกรม Microsoft Word ทาให้เพ่ิมพูนความรูแ้ ละประสบการณ์ - การฝกึ ทกั ษะการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word เปน็ การสง่ เสริมให้ผู้เรยี นรกั และพัฒนาความคดิ ในทุกดา้ น - เนื้อหาท่หี ลากหลายจากอินเทอรเ์ นต็ จากข่าวทาให้ผ้เู รียนมกี ารพฒั นาความรู้ความคิดเพอื่ การดารงชีวติ ต่อไปใน อนาคต - การบรู ณาการให้ผเู้ รยี นคิดวเิ คราะห์จากเนื้อหาทีส่ อนสใู่ บงานทาให้ผ้เู รยี นเกิดทักษะในการฝึกคิดวิเคราะห์ - ความรู้เกี่ยวกบั ความเป็นมาของโปรแกรม Microsoft Word เป็นการให้ข้อมูลเพอ่ื ให้ผ้เู รียนได้รู้เทา่ ทันส่ือและ เทคโนโลยี

ประเมนิ ผลลัพธ์ (KPA)ท่ีเกิดกับผู้เรยี น จากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จดุ ประสงค์ อยู่อยา่ งพอเพียง … สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลี่ยนแปลงในด้านตา่ ง ๆ ความรู้ (K) วัตถุ สังคม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม ทกั ษะ - ความรเู้ กี่ยวกับการ -มคี วามร้จู ากการ - การรจู้ กั โปรแกรม -เรียนรู้วัฒนธรรมในการใช้ (P) โปรแกรม Microsoft แลกเปล่ียนความรู้ Microsoft Word โปรแกรม Microsoft Word ความคิดในกลมุ่ - การเลือกใช้โปรแกรม Word เหมาะสมตามวาระ Microsoft Word ตาม โอกาส ความจาเปน็ - ฝึกทกั ษะการ - มีลาดับขัน้ ตอน - รจู้ กั การใช้โปรแกรม -ฝึกปฏบิ ัตติ ามกฎกติกา โปรแกรม Microsoft ในการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word อย่าง ของสังคมในการใช้ Word Microsoft Word ประหยดั คุม้ ค่า โปรแกรม Microsoft -ฝกึ การแลก Word อย่างเหมาะสมตาม เปลย่ี นความรู้ มารยาท ความคดิ ในกล่มุ ค่านิยม -เห็นคุณค่าของการ - การยอมรับฟัง - ตระหนกั ในการใช้ - เหน็ ความสาคัญของการ (A) โปรแกรม Microsoft ใช้โปรแกรม Microsoft ใช้จา่ ยในการใช้ ความคิดเห็นของ Word อย่างคมุ้ คา่ Word อย่างเหมาะสมตาม วฒั นธรรม โปรแกรม Microsoft ผอู้ ืน่ Word อยา่ งประหยัด - ความรว่ มมือใน และคุ้มคา่ การทางานกลมุ่

แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนครง้ั ท่ี 4-7 ช่วั โมงรวม 54 ชั่วโมง ชอื่ หน่วย การใช้โปรแกรมประมวลผลคา จานวนชัว่ โมง12 ช่วั โมง 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 กอ่ นเรียน แบบทดสอบก่อนเรยี น 9.2 ระหว่างเรียน สมั ภาษณ์ ถาม / ตอบ 9.3 หลงั เรยี น แบบทดสอบหลังเรียน 10. บันทกึ หลังการสอน 10.1 นักเรยี น ระดับ………. ชน้ั ปี…………..สาขาวิชา……………….สาขางาน……………………กล่มุ ………………………. จานวน (ตามงานทะเบียน)……………………………….……..คน มาเรยี นตรงเวลา……………………………………………….…….คน ขาดเรียน………………………………………………………….….…คน มาสาย……………………………………………………………….…..คน ลากิจ…………………………………………………………...………..คน ลาปว่ ย…………………………………………………………….……..คน รวมทั้งหมด…………………………………………………………..…คม 10.2 สอ่ื การเรยี นการสอน ( ) การดาน ( ) แผน่ ภาพ ( ) หุ่นจาลอง ( ) powerpoint ( ) วดี ีทศั น์ ( ) ของจรงิ ( ) ชุดสาธิต ( ) แผน่ ใส ( ) สอ่ื CAI ( ) ชุดจาลอง ( ) อน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.3 เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ ( ) แบบฝกึ หัด ( ) ใบงานภาคปฏบิ ัติ ( ) ใบงานท้ายบท ( ) ใบงานมอบหมาย ( ) หนงั สือ ( ) อนื่ ๆ ………………………………………………………………………………………………… 10.4 ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้และกจิ กรรมการเรียนการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุง่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 3 บูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนครัง้ ท่ี 4-7 ช่ัวโมงรวม 54 ชวั่ โมง ชือ่ หน่วย การใช้โปรแกรมประมวลผลคา จานวนชว่ั โมง 12 ชัว่ โมง 10.5 ผลการเรียนรู้ของนักเรียน/นักศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10.6 แนวทางพฒั นาคณุ ภาพการเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10.7 สิ่งที่ต้องการให้สถานศึกษาสนบั สนนุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… รับทราบผลการดาเนนิ งาน ลงชือ่ …………………………………….หวั หน้าแผนกวชิ า (นางแสงเดือน จงเจรญิ วไิ ล) ลงชอ่ื ……………………………………..ครูผสู้ อน (นางแสงเดอื น จงเจริญวิไล) วันที่…………./………………./……………. วนั ท่ี…………./………………./……………. ลงชื่อ ……………………………………………. ลงช่ือ …………….…………………………… (นายสราวฒุ ิ คาประสาร) (นายไชยนั ต์ ไชยาดลุ านันท์) หวั หน้างานพฒั นาหลกั สูตรการเรียนการสอน รองผ้อู านวยการฝ่ายวชิ าการ วันท่ี…………./………………./……………. วันที่…………./………………./…………….

ตวั ชว้ี ดั ท่ี 1.2.1 ขอ้ 3 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ข้อ 3 ประเมินผลการใชห้ น่วยการเรยี นรู้ หรือเนอื้ หาสาระ การเรยี นรู้ และนาผลการประเมินมาปรับปรงุ ใหม้ คี ุณภาพ สงู ข้ึน

แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วทิ ยาลัยเทคนคิ น้าพอง แบบประเมนิ ค่าดชั นีความสอดคลอ้ ง (IOC) ของเนอื้ หาหนว่ ยการเรยี นรู้ รหัสวิชา 20001-2001 วชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี แบบประเมินผลชดุ นี้เปน็ แบบสอบถามความคิดเหน็ ผูเ้ ชย่ี วชาญ ทมี่ ตี อ่ แบบประเมนิ เนือ้ หาหน่วยการเรยี นรู้ รหัสวชิ า 20001-2001 วชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ คาชแี้ จง แบบประเมนิ ชุดนแี้ บง่ ออกเปน็ 2 ตอน ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ข้อมลู เกี่ยวกับสถานภาพของผ้ตู อบแบบประเมนิ ตอนท่ี 2 ความคิดเหน็ ของผเู้ ช่ียวชาญท่ีมตี อ่ ขอ้ คาถามเนือ้ หาหนว่ ยการเรียนรู้ ตอนที่ 1 ข้อมลู เก่ียวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบประเมิน คาช้แี จงโปรดกาเคร่ืองหมาย “ ✓ ” ลงในวงเลบ็ หน้าข้อความทต่ี รงกับความจรงิ 1. ระดับการศึกษา ( ) ปริญญาตรหี รือเทียบเท่า ( ) ปริญญาโท หรือเทียบเทา่ ( ) ปรญิ ญาเอก หรอื เทียบเท่า ( ) อืน่ ๆโปรดระบุ…………………………………………………….. 2. ตาแหน่ง/หนา้ ทก่ี ารทางาน ( ) ครู-อาจารย์ ( ) ผบู้ ริหาร ( ) นกั วจิ ัย ( ) อนื่ ๆโปรดระบุ…………………………………………………….. 3. ประสบการณ์ในการทางาน ( ) 5-10 ปี ( ) มากกว่า 10 ปีแตไ่ มเ่ กนิ ่ 15 ปี ( ) มากกว่า 15 ปีขึน้ ไป

ตอนที่ 2 ความคดิ เห็นของผู้เชีย่ วชาญทีม่ ีต่อข้อคาถามต่อเนื้อหาหนว่ ยการเรียนรู้ คาชแ้ี จง โปรดพิจารณาประเมนิ คณุ ดา้ นขอ้ คาถาม เนอื้ หาหนว่ ยการเรียนรู้ รหสั วชิ า 20204-2102 วิชา โปรแกรมประมวลผลคา โดยพิจารณาข้อความในแต่ละข้อแล้วทาเครื่องหมาย “  ✓ ” ลงในช่องทีต่ รง กบั ความเหน็ ของทา่ น โดยระดบั ความคดิ เห็นมีเกณฑ์การให้คะแนน ดังน้ี ระดับความคิดเห็น +1 หมายถึง ดีมาก ระดบั คะแนน 0 หมายถงึ ดี -1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ระดับคะแนน ระดับคะแนน ขอ้ คาถามความคิดเห็น ความคดิ เห็น ข้อเสนอแนะ ผู้เช่ยี วชาญ 1. เนื้อหาสอดคล้องหรือตรงตามหลักสตู ร 2. เน้อื หาตรงตามวตั ถปุ ระสงคข์ องเร่ือง +1 0 -1 3. เนื้อหาครอบคลมุ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 4. การเรียงลาดบั เน้ือหาเหมาะสม 5. เน้อื หามีความยากง่ายมคี วามเหมาะสมกับระดับผเู้ รยี น 6. เนือ้ หามคี วามถกู ต้อง 7. การจดั รปู แบบเนือ้ หามคี วามเหมาะสม 8. การเช่ือมโยงเน้ือหาอนื่ เพอื่ ให้ผเู้ รียนมีโอกาสค้น คว้าเพมิ่ เติม 9. ภาพประกอบมีความสมั พันธก์ ับเน้ือหา ขอ้ เสนอแนะ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชอ่ื …………………………………………….ผู้ประเมนิ (…………………………………………….) ตาแหนง่ ............................................... วนั ทป่ี ระเมิน............/………../……….. หมายเหตุ : การประเมนิ ผลใชห้ น่วยการเรยี นรูห้ รอื เน้ือหาสาระการเรียนรโู้ ดยประเมินจากการทา

แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียนของผ้เู รียนหรือผ้รู ับบรกิ าร แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลงั เรียน จงทาเคร่อื งหมาย × เพอ่ื เลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งที่สดุ เพียงคาตอบเดยี ว 1. อุปกรณ์ใดต่อไปน้ีมีคุณสมบตั ิตรงกับคาวา่ “คอมพวิ เตอร์” มากที่สุด ก. โทรศพั ท์มือถือ ข. เครือ่ งคิดเลข ค. วทิ ยุ ง. กลอ้ งถ่ายรูปดิจทิ ลั 2. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของคอมพิวเตอร์ ข. ไมโครคอมพวิ เตอร์ ก. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ ง. คอมพวิ เตอร์พกพา ค. มนิ ิคอมพิวเตอร์ 3. ข้อใดไม่จดั อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ข. Software ก. Hardware ง. Internet ค. Peopleware 4. หน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์เทียบได้กบั อวยั วะส่วนใดของรา่ งกาย ก. ตา ข. หวั ใจ ค. สมอง ง. เสน้ เลือด 5. อุปกรณ์ขอ้ ใดไมใ่ ช่หนว่ ยรบั ข้อมลู ข. ลาโพง ก. เมาส์ ง. แป้นพมิ พ์ ค. ไมโครโฟน 6. ข้อใดไม่ไดจ้ ัดอยู่ในหนว่ ยประมวลผลกลาง ข. หนว่ ยความจา ก. หนว่ ยแสดงผล ง. หนว่ ยควบคุม ค. หนว่ ยคานวณเปรยี บเทียบ 7. เมอ่ื คอมพวิ เตอร์ทาการประมวลผลแลว้ จะแสดงผลออกทางด้านใด ก. จอภาพ ข. เคร่อื งพมิ พ์ ค. ลาโพง ง. ถูกทุกข้อ 8. เคร่อื งคอมพิวเตอรร์ ุ่นใหม่ ช่องทางออก (Port) ใดที่ทดแทนเมาสแ์ ละแป้นพมิ พ์ได้ ก. USB Port ข. Parallel Port ค. Serial Port ง. Sound Port

9. เครอื่ งคอมพิวเตอร์จะทางานไมไ่ ด้ถา้ ขาดอปุ กรณใ์ ด ก. ลาโพง ข. หน่วยประมวลผลกลาง ค. จอภาพ ง. ไมโครโฟน 10. ข้อใดคือความหมายของระบบปฏบิ ัตกิ าร (System Software) ก. ชดุ โปรแกรมทใ่ี ช้ในสานกั งาน ข. ชุดโปรแกรมทใ่ี ช้ในการปฏบิ ัติงานของซอฟตแ์ วร์ ค. ชดุ โปรแกรมทใ่ี ชต้ รวจสอบระบบของเครือ่ ง ง. ชุดโปรแกรมทีใ่ ชค้ วบคุมการปฏิบัติงานของฮาร์ดแวร์ 11.ระบบปฏิบตั กิ ารวินโดวสเ์ ปน็ ระบบท่มี ีการตดิ ต่อกบั ผู้ใช้ในลกั ษณะใด ก. DOS ข. GUI ค. Linux ง. E–Mail 12.สว่ นประกอบในข้อใดทีป่ รากฏอยู่บนหน้าต่างระบบปฏิบัติการ ก. แถบแสดงสถานะ ข. ปมุ่ ทาสก์บาร์ ค. ไอคอน ง. เมนบู าร์ 13.การคลกิ เมาสแ์ บบดับเบิลคลกิ มีจดุ มุ่งหมายตรงกบั ข้อใด ก. เลือกโปรแกรม ข. เปิดโปรแกรม ค. คดั ลอก ยา้ ยขอ้ มลู ง. เปดิ เมนูยอ่ ย 14.ขอ้ มลู ในขอ้ ใดที่ได้จากการตรวจสอบระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ ก. ชอื่ โปรแกรมระบบปฏบิ ัติการ ข. หนว่ ยความจา ค. ชอื่ ผ้ลู งทะเบยี นใชง้ าน ง. ถกู ทุกข้อ 15.ขอ้ ใดไม่ใช่สว่ นประกอบพนื้ ฐานของหนา้ ต่างโปรแกรม ก. ไตเตลิ บาร์ ข. คอนโทรลเมนู ค. ชือ่ โปรแกรม ง. เมนบู าร์ 16.การแสดงภาพไอคอนขนาดใหญเ่ หมาะสมกับไฟล์ลักษณะใด ก. ไฟล์เสียง ข. ไฟลร์ ปู ภาพ ค. ไฟล์ข้อความ ง. ไฟลช์ นิดใดก็ได้ 17.คาสั่งหรือสญั ลักษณ์ในข้อใดใช้ในการปิดหนา้ ต่างโปรแกรมการใชง้ าน ก. ข. ค. ง. Turn Off Computer

18.ถา้ ตอ้ งการกาหนดโปรแกรมในการติดตั้ง ควรกาหนดหวั ขอ้ ตดิ ตง้ั แบบใด ก. Custom Install ข. Minimal Install ค. Complete Install ง. Typical Install 19. คาส่ังใดใชป้ ดิ โปรแกรมและปิดเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ก. Log Off ข. Sleep ค. Restart ง. Shut Down 20.ขอ้ ใดเปน็ ความสามารถของโปรแกรม Microsoft Word ก. สร้างตารางที่สลบั ซบั ซ้อนได้ ข. พมิ พ์จดหมาย และเอกสาร ได้สวยงาม ค. สร้างการนาเสนองานทส่ี วยงาม น่าสนใจ ง. ทาตารางนัดหมาย แผ่นปลวิ ได้อยา่ งถูกต้องแม่นยา

ตวั ชวี้ ดั ที่ 1.2.1 ขอ้ 4 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ ขอ้ 4 เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นพเ่ี ลี้ยง และหรอื เปน็ ท่ีปรกึ ษา ดา้ นการออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ แผนกวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วิทยาลัยเทคนคิ น้าพอง

ร่วมปรึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดา้ นการจดั ทาส่ือการเรียนการสอน อบรมครแู กนนาจัดทาบทเรียนออนไลน์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา อบรมพฒั นานวัตกรรม เพ่ือการจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ สอ่ื ดจิ ิทลั แบบ Active Learning

นาเสนอนวตั กรรมการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนแบบบูรณาการส่อื ดจิ ิทลั แบบ Active Learning

เผยแพรแ่ ละนาเสนอการจดั ทาบทเรียนออนไลน์

จดั อบรมให้ความรแู้ ก่ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา เร่ือง การสร้างส่อื ด้วย AR ตัวชีว้ ดั ท่ี 1.2.2 ขอ้ 1 1.2.2 การจัดทาแผนการเรยี นรู้/แผนการฝกึ อบรมอาชีพ/ แผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล(IP)/แผนการจัด ประสบการณ์ ข้อ 1 วิเคราะห์ผเู้ รยี นหรือผเู้ ข้ารับการฝึกอบรมเป็น รายบุคคล

แผนกวชิ าคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ วทิ ยาลยั เทคนคิ นา้ พอง แบบประเมินผู้เรยี นรายบคุ คลโดยการทดสอบก่อนเรยี น รหัสวชิ า 20001-2001 ชอ่ื รายวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี ระดับชน้ั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ ช้ันปที ี่ 1 ประจาภาคเรยี นที่ 1/2563 จัดทาโดย นางแสงเดอื น จงเจริญวไิ ล ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชานาญการพเิ ศษ

แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ วทิ ยาลัยเทคนคิ นา้ พอง แบบทดสอบก่อนเรยี น จงทาเคร่ืองหมาย× เพ่ือเลอื กคาตอบทีถ่ ูกต้องท่ีสดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. ขอ้ ใดเปน็ ความหมายของโปรแกรมประมวลผลคา ก. เป็นโปรแกรมทสี่ ร้างคาหรือข้อความและรปู ภาพ ข. เปน็ โปรแกรมที่ชว่ ยสร้างงานเอกสารต่าง ๆ ค. เปน็ โปรแกรมใชส้ ร้างเอกสารเพ่อื นาเสนอผลงาน ง. เปน็ โปรแกรมที่สรา้ ง และเกบ็ ข้อมูลในรูปแบบเอกสาร 2. โปรแกรมประมวลผลคาเปน็ โปรแกรมท่เี หมาะจะนามาใช้กับงานด้านใด ก. ดา้ นการจัดเก็บประวัตพิ นักงาน ข. ดา้ นการคานวณ ค. ดา้ นการนาเสนอผลงาน ง. ด้านการจดั ทาเอกสาร รายงาน 3. โปรแกรมประมวลผลคาที่ใช้ในยุคแรกๆ มชี อื่ วา่ อะไร ก. WORDSTAR ข. CU Writer ค. Microsoft Offices ง. Rachavitee 4. โปรแกรมประมวลผลคาที่คนไทยพัฒนาขึน้ ครง้ั แรกคือข้อใด ก. WORDSTAR ข. CU Writer ค. Microsoft Offices ง. Rachavitee 5. โปรแกรมชดุ สานักงาน ที่ผลิตส่อู อกตลาดคร้งั แรก มีชอ่ื วา่ อะไร ก. Microsoft WordStar ข. Microsoft Office 3.5 ค. Microsoft CU Writer ง. Microsoft RW Rachavitee 6. คาว่า“Auto Format” หมายถงึ ข้อใด ก. การตรวจสอบคาผดิ อัตโนมตั ิ

ข. การจัดรปู แบบอตั โนมตั ิ ค. การแก้ไขอัตโนมัติ ง. การใสข่ ้อความอัตโนมตั ิ 7. ขอ้ ใดเปน็ คุณลกั ษณะของโปรแกรมประมวลผลคาที่ดี ก. มีระบบทางานอัตโนมัติ ข. มตี ารางคานวณท่สี ะดวก ค. สามารถเปดิ โปรแกรมอน่ื ๆ ได้ ง. สามารถแทรกภาพเคลือ่ นไหวได้ 8. ข้อใดไม่ใช่คณุ ลักษณะท่ดี ีของการใช้โปรแกรมประมวลผลคา ก. การทางานอัตโนมตั ิ ข. การขอความช่วยเหลอื ค. การคน้ หาและแทนที่คา ง. ใช้ข้อมูลรว่ มกบั โปรแกรมอื่นไม่ได้ 9. ข้อใดคือความสาคัญของโปรแกรมประมวลผลคา ก. มรี ะบบการค้นหาและแทนทค่ี า ข. สามารถแทรกภาพเคลื่อนไหวได้ ค. มีระบบการทางานอัตโนมัติ ง. สามารถจัดรปู แบบเอกสารไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 10. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคา ก. ช่วยสรา้ งเอกสารให้มีความสวยงาม ข. ช่วยลดปรมิ าณกระดาษที่จัดเกบ็ ค. ช่วยประหยดั เวลาและคา่ ใช้จ่าย ง. เพิม่ ข้นั ตอนในการจัดทาเอกสาร 11. วิธีการใช้คาสั่งในการแทรกตารางข้อใดถูกต้อง ก. แฟ้ม >แทรก ข. แทรก >ตาราง ค. ตาราง >แทรก ง. มุมมอง >ตาราง 12. ปมุ่ เคร่ืองมือนี้ ใช้สาหรบั ทาอะไร ก. ดเู สน้ ตาราง

ข. เลอื กตาราง ค. แทรกตาราง ง. วาดตาราง 13. จากข้อความ ตาราง 4x3 หมายความว่าอยา่ งไร ก. ทาการแทรกแถวแบบ 4x3 แถว ข. ทาการแทรกคอลมั น์ 4 คอลมั น์ แทรกแถว 3แถว ค. ทาการแทรกแถว 4 แถว แทรกคอลมั น์ 3คอลัมน์ ง. ทาการแทรกคอลัมนแ์ บบ 4x3 คอลมั น์ 14. ปุม่ เครื่องมือใดใชส้ าหรบั ลบคอลัมน์ ก. ข. ค. ง. 15. ปุ่มเครื่องมอื น้ี ใชส้ าหรับทาอะไร ก. แทรกแถวด้านบน ข. แทรกแถวดา้ นล่าง ค. แทรกคอลัมน์ทางขวา ง. แทรกคอลัมนท์ างซ้าย 16. ปมุ่ เคร่อื งมือน้ี ใช้สาหรับทาอะไร ก. แทรกคอลัมน์ทางขวา ข. แทรกคอลมั น์ทางซา้ ย ค. แทรกแถวดา้ นบน ง. แทรกแถวดา้ นลา่ ง

17. ป่มุ เครอ่ื งมือนี้ ใชส้ าหรบั ทาอะไร ก. ผสานเซลล์ ข. แยกเซลล์ ค. กระจายแถว ง. กระจายคอลัมน์ 18. ปุ่มเคร่ืองมือใดใช้ในการแยกตาราง ก. ข. ค. ง. 19. ปมุ่ เครอื่ งมือน้ี ใช้สาหรบั ทาอะไร ก. จดั ขอ้ ความชิดขวา ข. จดั ข้อความชดิ ซ้าย ค. ปรบั พอดีอตั โนมัติ ง. จดั วางทศิ ทางของขอ้ ความ 20. ปมุ่ เครอ่ื งมอื น้ี ใช้สาหรบั ทาอะไร ก. แทรกคา่ ตวั เลข ข. ปรับปรุงขอ้ มูล ค. ฟงั กช์ นั การคานวณ ง. กาหนดรปู แบบข้อมูล 21. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของแผน่ พับได้ถูกต้อง ก. เอกสารที่ใชใ้ นการประชาสมั พนั ธ์ ข. เอกสารทใี่ ช้ในการโฆษณา ค. แผ่นพับ 3 พบั ง. ข้อ ก และ ข 22. แผ่นพับโดยทัว่ ไปนยิ มพับกพี่ บั ก. 1-2 ทบ ข. 2-5 ทบ

ค. 3-5 ทบ ง. พับครึง่ 23. หน้าสุดทา้ ยของแผ่นพับจะมไี ว้สาหรับใส่รายการใดของข้อมูล ก. สถานทีต่ ิดต่อสอบถาม ข. รายละเอียดของการสร้างแผ่นพับ ค. สถานทพี่ ิมพ์แผน่ พับหรือจุดใหบ้ รกิ าร ง. ชื่อเร่อื ง/หวั ข้อ 24. การสร้างแผ่นพบั จากแม่แบบสามารถเลือกไดจ้ ากท่ีใด ก. คน้ หาแผน่ พับ ข. จากอินเตอรเ์ นต็ ค. เทมเพลตออนไลน์ ง. สร้างแม่แบบใชเ้ อง 25. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของนามบตั รได้ถูกต้อง ก. นามบตั รใช้แทนบตั รต่าง ๆ ได้ ข. การแสดงประวตั ิของผู้ถอื นามบัตร ค. เอกสารสาหรับแนะนาตวั ง. ข้อมลู ของบรษิ ัท 26. ข้อมูลใดไม่มใี นนามบตั ร ก. หมายเลขบัตรประชาชน ข. เบอรโ์ ทรศพั ท์ ค. ท่ีอยบู่ ริษัท ง. สัญลักษณ์/โลโกบ้ รษิ ทั 27. ขอ้ ใดเป็นขนาดของนามบัตรทเ่ี ปน็ มาตรฐานสากล ก. 5.4x9 น้วิ ข. 5.4x9 ซม. ค. 5.4x9 ม. ง. 5.4x9 มม. 28. การสรา้ งนามบัตรจากตัวเลือกปา้ ยผนกึ สามารถสรา้ งนามบตั รได้จานวนกี่ใบ ก. 1 ใบ ข. 2 ใบ

ค. 6 ใบ ง. 10 ใบ 29. การด์ หมายถงึ ข้อใด ก. บัตรของขวญั ข. บตั รอวยพร ค. กระดาษทีพ่ ิมพ์ข้อความ ง. จดหมาย/นามบตั ร 30. ข้อใดเป็นขั้นตอนสาคัญในการเปดิ ใชก้ ารด์ จากเทมเพลตออนไลน์ ก. กาหนดขนาดของการ์ด ข. เว็บเบราวเ์ ซอร์ ค. คลกิ ปมุ่ สรา้ ง ง. วาดรปู ประกอบ 31. ขอ้ ใดจะต้องทาเปน็ อนั ดับแรก ในการใส่เชิงอรรถ ก. คลกิ แทบ็ แทรก> แทรกเชิงอรรถ ข. คลิกแท็บการอา้ งองิ > แทรกเชิงอรรถ ค. เลือกข้อความท่ีตอ้ งการทาเปน็ เชิงอรรถ ง. เลือกตาแหน่งท่ีตอ้ งการใส่คาอธิบายของเชงิ อรรถ 32. ปุ่มเครอ่ื งมือใดใช้ในการแทรกทา้ ยกระดาษ ก. ข. ค. ง. 33. ปมุ่ เคร่ืองมอื ใดใช้เล่อื นไปท่หี วั กระดาษ ก. ข. ค. ง. 34. การแทรกหมายเลขหนา้ ใชแ้ ท็บคาสง่ั ข้อใด ก. หน้าแรก

ข. แทรก ค. มุมมอง ง. เค้าโครงหน้ากระดาษ 35. รูปแบบตวั เลข หมายเลขหน้าขอ้ ใดท่ีไมส่ ามารถแสดงได้ ก. ก, ข, ค ข. 1, 2, 3 ค. I VI VV ง. one, two, three 36. การทาดัชนจี ะต้องกดคีย์ใด เพื่อเขา้ ไปยังกล่องโต้ตอบ Mark Index Entry ก. <Alt+Shift+I> ข.<Alt+Shift+O> ค. <Alt+Shift+X> ง.<Alt+Shift+E> 37. การสร้างสารบญั ใชแ้ ท็บคาสั่งข้อใด ก. แทรก ข. หน้าแรก ค. เคา้ โครงหน้ากระดาษ ง. การอ้างอิง 38. การพมิ พป์ กเอกสาร จะต้องทาสิง่ ใดก่อน ก. พมิ พ์ขอ้ ความ ข. ตงั้ คา่ หนา้ กระดาษ ค. จัดรูปแบบเอกสาร ง. กาหนดแบบอักษร 39. ปุ่มเครือ่ งมือน้ี ใชส้ าหรับทาอะไร ก. แสดงตัวอยา่ งก่อนพิมพ์และพิมพ์ ข. หน้าต่างแก้ไขเอกสาร ค. มมุ มองเอกสาร ง. ดูเอกสารทงั้ หมด 40. ขอ้ ใดเป็นสาเหตุทต่ี ้องปรับปรุงตารางสารบญั ก. สารบญั เปน็ ตวั อักษรสแี ดง ข. สารบัญเปน็ ตัวขีดเสน้ ใต้

ค. มกี ารปรับเปลย่ี นเนือ้ หาในเอกสาร ง. มกี ารแทรกเนื้อหาลงในสารบญั ตารางสรปุ แบบประเมินผู้เรียนรายบคุ คลโดยการทดสอบกอ่ นเรยี น รหัสวิชา 20001-2001 วิชาคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ ชื่อ-สกุล คะแนนสอบ ระดบั ระดบั ระดบั กอ่ นเรียน เกง่ ปาน อ่อน (40คะแนน) กลาง หลกั เกณฑ์การจัดระดับผู้เรียน อยู่ในระดับเกง่ อยู่ในระดบั ปานกลาง 1. ได้ 31-40 อยู่ในระดับอ่อน 2. ได้ 20-30 3. ได้ 0-19 ลงช่อื ................................ผู้ประเมนิ (นางแสงเดือน จงเจรญิ วิไล) ตาแหนง่ ครู

ตวั ชวี้ ัดที่ 1.2.2 ข้อ 2 1.2.2 การจัดทาแผนการเรยี นร้/ู แผนการฝึกอบรมอาชีพ/ แผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล(IP)/แผนการจัด ประสบการณ์ ขอ้ 2 จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรแู้ ละหรอื แผนการฝึก อาชพี สอดคลอ้ งกบั การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ธรรมชาตขิ องผ้เู รยี นหรือผูเ้ ขา้ รบั การฝึกอบรมและ บริบทของสถานศกึ ษาหรอื สว่ นราชการต้นสังกัด กาหนดและสามารถนาไปปฏบิ ัติไดจ้ รงิ

แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ วิทยาลัยเทคนคิ น้าพอง แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 8 ชอื่ วิชา โปรแกรมประมวลผลคา (20204-2102) สอนคร้งั ที่ 13- 14 ชื่อหน่วย การสร้างจดหมายเวียนและการพิมพ์ซองจดหมาย จานวน 6 ชั่วโมง ชื่อเรือ่ ง การสร้างจดหมายเวียนและการพิมพ์ซองจดหมาย ชัว่ โมงรวม 42 1. สาระสาคญั การพมิ พ์จดหมายท่ีมีเน้ือหาเดยี วกันแตต่ ้องการส่งจดหมายใหก้ ับหลายๆ คน หรือสง่ ให้กบั ผู้รบั หลายๆ คน สามารถทาได้โดยการทาจดหมายธรรมดาใหเ้ ป็นจดหมายเวยี น 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ท่ัวไป 1. เพ่ือให้มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการพิมพจ์ ดหมายเวยี นและการพิมพ์ซองจดหมาย 2. เพื่อให้มีเจตคติท่ดี ตี ่อการเตรียมความพร้อมด้านการเรียนรู้ตามหัวข้อที่กาหนด ความสนใจใฝ่รู้ ความมเี หตุผล ความรอบรู้ ความรอบคอบ/ระมัดระวังตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง และความเปน็ ประชาธปิ ไตย 2.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1.สรา้ งจดหมายเวยี นได้ 2. พิมพ์จดหมายเวียนออกทางเครอ่ื งพมิ พไ์ ด้ 3. พมิ พ์ซองจดหมายเวยี นได้ 4. พมิ พซ์ องจดหมายเวยี นออกทางเคร่ืองพมิ พไ์ ด้ 5. ผู้เรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมที่พงึ ประสงค์ คือ มมี นษุ ยสมั พันธ์ ความมีวนิ ยั ความซือ่ สัตย์ ความรบั ผิดชอบ ความเชื่อมน่ั ในตนเอง การประหยดั ความติดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ ความสนใจใฝร่ ู้ การ พงึ่ ตนเอง 6. ผเู้ รียนมคี วามพร้อมดา้ นการเรยี นรตู้ ามท่กี าหนด มคี วามสนใจใฝร่ ู้ มีเหตุผล มีความรอบรู้ มี ความรอบคอบ/ระมัดระวงั ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีความเป็นประชาธิปไตย 3.สมรรถนะ สามารถสร้างจดหมายเวยี นและการพิมพ์ซองจดหมายได้ 4. สาระการเรยี นรู้ การพมิ พห์ นังสือราชการและจดหมายเวียนศกึ ษาเก่ียวกับ 1.จดหมายเวียน

2. การพมิ พ์จดหมายเวียนออกทางเครือ่ งพิมพ์ 3. การพมิ พซ์ องจดหมายเวียน 4. การพิมพซ์ องจดหมายเวยี นออกทางเครอื่ งพิมพ์ 5. การบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 5.1 เง่ือนไขความรู้ 1. การพมิ พ์และจดั รูปแบบหนังสือภายใน 2. การพมิ พ์และจัดรูปแบบหนังสอื ภายนอก 3. การสร้างจดหมายเวียน 5.2 เง่ือนไขคุณธรรม 1. ความรบั ผิดชอบในการปฏิบตั งิ าน 2. ความมวี นิ ยั 3. การพง่ึ ตนเอง 4. มคี วามสนใจใฝ่รู้ 5. มคี วามซอื่ สัตยส์ จุ ริต 6. การประหยัด 7. มคี วามเชอ่ื มน่ั ในตนเอง 8. มคี วามคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 9. มีความรอบคอบ/ระมัดระวัง 10. มคี วามเป็นประชาธิปไตยและความเปน็ ไทย 5.3 ความมีเหตุผล 1. เห็นคณุ ค่าของปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการนาไปพัฒนาชวี ติ โดยใช้ พลงั งานไฟฟ้าที่มอี ยูใ่ ห้ค้มุ ค่าและเกดิ ประโยชน์สงู สดุ 2. สามารถพมิ พห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวียนได้อย่างถูกต้อง 5.4 ความพอประมาณ 1. มีความรู้ความเข้าใจปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่อื ใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการใช้ พลงั งานไฟฟา้ อย่างเหมาะสมและประหยัด เช่น ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ปิดเคร่ืองปรับอากาศ ปิดไฟฟ้า ปิดพัดลมเม่ือเลกิ การใช้งาน 2. จัดสรรเวลาในการปฏิบตั ิงานตามที่ไดร้ บั มอบหมายอยา่ งเหมาะสม 5.5 การมภี ูมิคมุ้ กนั ในตวั ท่ีดี 1. มีความตระหนักและรู้จักประยุกตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการดาเนิน ชีวิตได้อย่างถูกต้อง 2. ฝกึ ฝนทักษะการพมิ พ์หนังสือราชการ และจดหมายเวยี นไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 3. ฝกึ ฝนทักษะการสรุปสาระสาคญั ประจาหน่วยเรยี น

5.6 เชือ่ มโยงสู่ 4 มติ ิ มีทกั ษะในการพิมพ์หนงั สือราชการ และจดหมายเวยี น โดยใช้ โปรแกรม Microsoft Word 2019 ได้อยา่ งเหมาะสม ทาใหเ้ ปน็ ผ้มู ีความสนใจใฝ่รู้ มีความ ระมดั ระวัง และเกิดความเช่ือม่ันในตนเอง 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สอนแบบบรรยาย อธบิ ายและสาธิต) ข้นั เตรยี ม 1. จัดเตรียมเอกสารประกอบการสอน สื่อการเรยี นการสอน วิธีการเรยี น การปฏิบตั ิงานท่ี ได้รับมอบหมาย และวิธวี ดั ผลประเมนิ ผล การปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสถานศึกษา 2. ให้ผู้เรียนเปดิ ไฟฟา้ ดวงทีจ่ าเป็นตอ้ งใช้ เปดิ เครื่องปรับอากาศ และเปิดเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ตามจานวนผู้เรยี น ถา้ มเี คร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ไ่ี มไ่ ด้ใชห้ รอื ใช้ไม่ได้ ห้ามไม่ให้เปดิ หนา้ จอทิ้งไว้ เพราะ ส้ินเปลอื งพลังงาน 3. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นของหนว่ ยที่ 3 และการให้ความรว่ มมือของผู้เรียนในการทากจิ กรรม 4. สอบถามผ้เู รียนเรือ่ งการพิมพ์จดหมายเวียน สามารถใช้โปรแกรม Microsoft Word 2019 พิมพ์ไดห้ รือไม่ โดยการสอบถามเปน็ รายบุคคลและรายกลมุ่ เพื่อให้ผเู้ รียนได้แสดงความคิดเห็นอยา่ งมี เหตุผล 5. ผสู้ อนบอกแนวทางในการเรียน และวธิ กี ารปฏิบตั ติ ามภาระงานท่ีมอบหมาย ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ให้ผูเ้ รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยท่ี 8 ในเวลาที่กาหนด 2. เม่อื ผู้เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนเสร็จแลว้ ใหผ้ ู้เรียนผลัดกันตรวจแบบทดสอบกับเพ่ือน ดว้ ยความซื่อสัตย์สจุ ริต โดยผสู้ อนเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยท่ี 8 ขน้ั สอน 1. ผสู้ อนทาการสอนโดยใหผ้ ู้เรียนเปดิ หนังสอื ประกอบการเรียนการสอน 2. ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนเปดิ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์และเข้าสูก่ ารใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word 2019 3. ผสู้ อนทาการอธบิ ายเนื้อหาความรเู้ กีย่ วกับการพิมพจ์ ดหมายเวยี น และการพมิ พ์ซอง จดหมาย พร้อมทั้งสาธติ เนื้อหาการเรียนรแู้ ต่ละเรือ่ งใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ รยี นรไู้ ปพร้อมกัน 4. ผู้สอนบอกวิธีการและแนวคิดในการปฏบิ ัติท่ถี ูกต้องให้แกผ่ ู้เรยี น สงั เกต บันทกึ พฤติกรรม ผู้เรียนขณะเรยี นและศึกษาบทเรียน คอยชว่ ยเหลอื และให้คาแนะนาเม่ือผูเ้ รยี นเกิดความสงสัย 5. ผูส้ อนเปิดโอกาสใหผ้ ้เู รยี นซกั ถามข้อสงสยั ขน้ั สรุป 1. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนศึกษาจากใบความรู้และทาแบบฝึกปฏบิ ัติตามใบงาน 2. สังเกต บันทึกพฤติกรรมผู้เรยี นขณะดาเนนิ งานตามใบงาน คอยชว่ ยเหลือให้คาแนะนาเม่ือ ผู้เรยี นเกิดความสงสัย 3. ผู้เรียนทางานตามใบงาน ผู้สอนเดินสารวจการศึกษาข้อมูลจากใบความรู้และฝึกปฏบิ ัติตาม ใบงานของผู้เรียน หากพบว่าผู้เรยี นยงั ไม่เข้าใจ ผูส้ อนจะทาการอธิบายให้ผ้เู รียนอกี คร้ัง

4. เม่ือผู้เรียนทางานที่ไดร้ บั มอบหมายเสรจ็ เรียบร้อยแล้ว ให้อธิบายคาตอบพร้อมทัง้ วิธีการ ไดม้ าซ่ึงคาตอบ 5. ผูส้ อนทาการเฉลยรว่ มกับผู้เรยี น พร้อมทงั้ อธิบายข้อมูลเพิ่มเตมิ หากผเู้ รียนเกดิ ความสงสัย และผเู้ รียนคนใดยงั ทางานท่ีได้รับมอบหมายไม่ถูกต้องให้ทาการแก้ไขให้ถูกต้องเรยี บร้อยและเกบ็ สะสม ช้ินงานทุกงานที่ได้รบั มอบหมายสง่ ตามกาหนด 6. ผู้สอนรว่ มกับผู้เรียนช่วยกันสรุปสาระการเรียนรูป้ ระจาหน่วยการเรียน เพ่ือสง่ เสริมความ เปน็ ประชาธิปไตย 7. ผ้เู รยี นทาแบบฝกึ หัดทา้ ยหน่วยเรียน 8. ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 3 ในเวลาทก่ี าหนด 9. ผู้สอนเฉลยแบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ยเรยี น พรอ้ มกบั ใหผ้ ูเ้ รียนแลกเปล่ียนกระดาษคาตอบกัน โดยครผู ูส้ อนเฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 10. ผ้สู อนให้ผู้เรียนท่ไี ด้รบั มอบหมายเวรประจาวัน สารวจความเรยี บร้อยของห้องเรียน พรอ้ มท้งั ทาความสะอาดห้องเรยี น และใหผ้ ู้เรียนเตรียมตวั เรยี นในคาบต่อไป 7. สือ่ ประกอบการจดั การเรียนรู้ สื่อสง่ิ พิมพ์ 1. หนังสือเรยี นวิชาโปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2019) 2. แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน 3. ใบความรู้ที่ 8 การสร้างจดหมายเวียนและการพิมพ์ซองจดหมาย 4. ใบกจิ กรรม 5. แบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ยเรยี น 6. แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน และแบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วยเรียน 7. แบบประเมินผลการทางานตามใบงาน 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ส่ือโสตทัศน์ 1. คอมพิวเตอร์พร้อมอปุ กรณ์ต่อพ่วง 2. โปรแกรม Microsoft Word 2019 3. โปรเจคเตอร์ 4. บทเรยี นออนไลน์ วิชาโปรแกรมประมวลผลคา 5. ไมโครโฟน เคร่ืองขยายเสียงพรอ้ มลาโพง สือ่ ของจรงิ -

8. แหลง่ การเรียนรเู้ พ่มิ เติม ในสถานศึกษา 1. e-learning วทิ ยาลัยเทคนิคนา้ พอง 2. หอ้ งปฏิบตั กิ าร Internet ค้นคว้าข้อมูลทาง Internet 3. ครูผสู้ อนแผนกวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ นอกสถานศกึ ษา 1. ห้องสมดุ ประชาชน / รา้ นหนังสือ 2. Internet 3. บุคลากรตา่ งๆ ที่มีความรเู้ กย่ี วกบั การใช้งานโปรแกรมประมวลผลคา 9. การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั วชิ าอนื่ 1. บูรณาการกับกลุ่มวิชาภาษาไทย การฝึกปฏิบัติเขียนย่อความเขียนเรียงความเขียนโครงการ เขียนรายงานวิชาการ เขียนจดหมายสมัครงานเขียนบันทึกข้อความในหน่วยงานเขียนรายงานการ ประชมุ กรอกแบบฟอร์มเอกสารประเภทต่าง ๆ เขยี นแสดงความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ โดยการจัดพิมพ์ใน โปรแกรมประมวลผลคา 2. บูรณาการร่วมกบั กลุ่มวชิ าภาษาตา่ งประเทศ โดยการนาโปรแกรมประมวลผลคามา ประยกุ ต์ใช้ในการเขียนโตต้ อบทางสงั คมเขยี นให้ขอ้ มลู บุคคลเขียนจดหมายส่วนตัวเขียนจดหมาย อเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ขียนบันทึกย่อ / ขอ้ ความสัน้ ๆในโอกาสต่าง ๆ กรอกให้ข้อมลู ในแบบฟอร์มต่าง ๆ ใบ สมัครงานใบสมัครสมาชิกตา่ ง ๆ ใบขอรับทุนใบสมัครเข้าศึกษาใบสมคั รสอบฯลฯเขยี นให้ขอ้ มลู ใน เอกสารการปฏิบัตงิ านในงานอาชพี ต่าง ๆ เขยี นบนั ทึกย่อรายงานสัน้ ๆ เขยี นจดหมายธุรกิจประเภท ตา่ ง ๆ ใช้ ICT เป็นแหล่งการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองหรือฝึกฝนกับเพอื่ นใช้ ICT พฒั นาทักษะการฟัง -การดู การพูดอ่าน การเขยี นสบื ค้นข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ที่หลากหลายเพื่อพัฒนาทักษะการส่ือสารและ การประกอบอาชีพ 3. บูรณาการร่วมกับกลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ ด้านการใช้สูตรและฟังก์ช่ันในการคานวณประยุกต์ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ในการวางแผนการออกแบบประดิษฐค์ ิดค้นส่งิ ใหมๆ่ ในงานอาชีพ 10. การวัดผลและประเมินผล กอ่ นเรยี น ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน ขณะเรยี น 1. ตรวจผลงานตามที่ได้รับมอบหมาย

2. สังเกตการปฏบิ ัตงิ าน หลงั เรียน 1. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 2. ตรวจงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 3. ตรวจแบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วยเรียน 1. สิ่งทจ่ี ะวัด 1.1 ความรคู้ วามเข้าใจจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.2 การประเมินผลงาน 1.3 สังเกตพฤติกรรมขณะเรียน 2. วธิ ีการวัด 2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรยี น 2.2 ตรวจงานที่มอบหมาย 2.3 สังเกตพฤติกรรมขณะเรียน 3. เครื่องมือวัด 3.1 แบบทดสอบ 3.2 กจิ กรรมท่ีมอบหมาย 3.3 แบบสังเกตพฤติกรรม 4. เกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล เกณฑก์ ารวดั ผล 1. ใหข้ ้อถูก ขอ้ ละ 1 คะแนน ขอ้ ผิด 0 คะแนน 2. ให้คะแนนพฤติกรรมการเรียน 5 หมายถงึ ดีมาก 4 หมายถึง ดี 3 หมายถึง ปานกลาง 2 และ 1 หมายถึง ต้องปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. ผูเ้ รยี นไดค้ ะแนนจากการทาแบบทดสอบ ไมต่ า่ กว่ารอ้ ยละ 60 2. ผูเ้ รยี นได้คะแนนจากกิจกรรมการเรยี น ไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ 80 3. ผ้เู รยี นไดค้ ะแนนพฤติกรรมการเรยี น ไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ 60 เกณฑ์การวัด แบบทดสอบ 15 คะแนน ระดบั ดี ต้งั แต่ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป (12 คะแนน) ระดบั ปานกลาง ต้ังแตร่ อ้ ยละ 60 - 70 ขนึ้ ไป (9 - 11 คะแนน)

ระดับปรับปรงุ ต้งั แต่รอ้ ยละ 50 ลงมา (8 คะแนนลงมา) เกณฑ์การผา่ น ตงั้ แตร่ ะดับปานกลางข้นึ ไป หรอื ตงั้ แตร่ ้อยละ 60 ข้ึนไป กิจกรรมเสนอแนะประจาหน่วย 1. ผู้เรียนตอ้ งให้ความสนใจในการศึกษา เพ่ือหาเทคนิค วิธกี าร หรือหลกั การง่ายเพื่อให้หา คาตอบได้อย่างถูกต้อง และรวดเรว็ โดยการ ตัง้ ใจฟงั หลกั การ เทคนิควธิ กี ารที่ครผู ้สู อนสรปุ ในขณะที่ ทาการสอน และนาข้อสงสยั ซักถามครูในการเรยี นทุกคร้งั ท่ีเกดิ ความสับสน และไม่เข้าใจ 2. ผูเ้ รียนควรมกี ารทบทวนบทเรียนตลอด เพ่ือเสริมสร้างความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริง 3. ผู้เรียนหม่นั ทาใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขข้อทีผ่ ิดให้ถูกต้องเสมอ

ใบความรทู้ ี่ 8 หนว่ ยท่ี 8 ชือ่ วิชา โปรแกรมประมวลผลคา (20204-2102) สอนคร้ังท่ี 13- 14 ชื่อหน่วย การสรา้ งจดหมายเวยี นและการพมิ พซ์ องจดหมาย จานวน 6 ชั่วโมง ชื่อเร่อื ง การสร้างจดหมายเวียน 1. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.สรา้ งจดหมายเวยี นได้ 2. พิมพจ์ ดหมายเวยี นออกทางเคร่อื งพมิ พ์ได้ 3. พมิ พ์ซองจดหมายเวยี นได้ 4. พิมพ์ซองจดหมายเวยี นออกทางเครือ่ งพมิ พ์ได้ 5. ผู้เรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมท่พี งึ ประสงค์ คือ มีมนุษยสมั พนั ธ์ความมวี นิ ัย ความซ่ือสตั ย์ ความ รับผดิ ชอบ ความเช่ือม่ันในตนเอง การประหยัด ความสนใจใฝ่รู้ ความติดริเริ่มสรา้ งสรรค์ การพงึ่ ตนเอง 6. ผเู้ รยี นมีความพร้อมด้านการเรียนรู้ตามที่กาหนด มีความสนใจใฝร่ ู้ มีเหตผุ ล มีความรอบรู้ มคี วามรอบคอบ/ระมัดระวังตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และมคี วามเปน็ ประชาธิปไตย 2. เนือ้ หาสาระ การพิมพห์ นงั สอื ราชการและจดหมายเวยี น ศกึ ษาเกีย่ วกับ 1.จดหมายเวียน 2. การพิมพ์จดหมายเวียนออกทางเครื่องพมิ พ์ 3. การพิมพ์ซองจดหมายเวยี น 4. การพมิ พซ์ องจดหมายเวียนออกทางเครือ่ งพิมพ์ สรปุ เนอ้ื หาสาระหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 จดหมายเวยี น หมายถงึ การสรา้ งจดหมายหลายๆ ฉบบั ที่มีเนื้อความในจดหมายเหมือนกัน แต่มีช่ือและที่อยู่ของผรู้ บั ท่ีไม่เหมือนกนั ซึ่งแทนที่จะต้องพิมพจ์ ดหมายแตล่ ะฉบบั สาหรบั ผู้รับแต่ละ รายเพียงแคส่ ร้างไฟลเ์ พ่ือเก็บช่อื และที่อย่ไู ว้กอ่ น จากนัน้ สรา้ งไฟลเ์ พื่อเกบ็ ข้อความในจดหมายไวอ้ ีก ไฟล์หนงึ่ แยกจากกัน แล้วจึงนาข้อมลู ท้งั สองไปรวมหรอื ผนวกกัน ทาให้ได้จดหมายทีม่ ีรูปแบบและ ขอ้ ความท่เี หมือนกัน เว้นแตช่ ่ือและท่ีอยู่ของผรู้ ับเท่านน้ั จดหมายเวยี น (Mail Merge) หมายถึงจดหมายทีม่ ขี ้อความเดมิ ซ้า ๆ กนั ทุกฉบับ แต่มี บางส่วนของจดหมายทแี่ ตกต่างกนั เชน่ ชอ่ื และท่ีอยู่ ซึ่งจะมี 2 สว่ น คอื ส่วนที่เปน็ เอกสารหลกั (Main Document) ทเ่ี ก็บข้อความในจดหมาย และสว่ นทีเ่ ป็นแหล่งข้อมลู หรอื ฐานข้อมูล (Database) องค์ประกอบของจดหมายเวียน มีดงั นี้

เอกสารหลกั หมายถึง เอกสารที่ตัวเปน็ จดหมายแบบฟอร์ม ข้อความอเี มลของจดหมาย หรอื ป้ายลาเบลทีไ่ ด้กาหนดใหม้ ีขอ้ ความ ขนาด และรูปรา่ งทีเ่ หมอื นกนั เพ่ือใช้เป็นต้นแบบของการ พิมพ์จานวนมาก แหลง่ ขอ้ มูลหมายถึง ไฟล์แหล่งขอ้ มูลทจ่ี ะใชเ้ ปน็ ตัวฐานข้อมูลเพอ่ื ให้ตัวจดหมายเวยี น สามารถเรยี กใช้ขอ้ มูลในไฟล์ตารางน้ีไปประกอบกับตัวเอกสาร และเปลีย่ นขอ้ มลู ในส่วนที่กาหนด เช่น รายชื่อและท่ีอยู่ของผ้รู ับ E-mail Address เป็นตน้ ซ่ึงสว่ นใหญ่จะเก็บอยูใ่ นรปู แบบของตารางของ Word ตารางรายชื่อของ Excel และตารางฐานข้อมลู ของAccess เพ่อื นามาผนวกเข้ากับตัวเอกสาร หลัก เมื่อสง่ั พมิ พจ์ ดหมาย ซอง หรอื ป้ายลาเบลโปรแกรมจะเปลย่ี นรายชื่อในเอกสารแตล่ ะชุดให้โดย อตั โนมัติ หนงั สือภายในคือหนังสอื ตดิ ต่อราชการท่ีเปน็ แบบพธิ นี อ้ ยกวา่ หนังสือภายนอกเปน็ หนงั สือตดิ ตอ่ ภายในกระทรวงทบวงกรมหรือจังหวัดเดยี วกนั ใช้กระดาษบันทึกข้อความและใหจ้ ดั ตามแบบท่กี าหนดไว้ หนังสอื ภายนอก คือหนงั สือติดต่อราชการท่ีเปน็ แบบพธิ ีโดยใชก้ ระดาษตราครุฑเปน็ หนังสอื ตดิ ต่อระหว่างส่วนราชการ หรือสว่ นราชการมีถงึ หน่วยงานอ่ืนซ่งึ มิใช่ส่วนราชการ หรือ ที่มีถงึ บุคคลภายนอก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook