ใบงานที่ 8 หน่วยท่ี 6 ชอื่ วิชา โปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) สอนคร้งั ที่ 9–10 ชอ่ื หน่วย กำรด์ จำนวน 6 ชวั่ โมง ชื่องำน กำร์ด จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพอ่ื ให้ผู้เรียนรจู้ กั ศกึ ษำคน้ ควำ้ หำควำมรู้เกี่ยวกบั กำรสรำ้ งกำรด์ อวยพร 2. เพ่อื เสริมสรำ้ งทักษะควำมสำมำรถทำงดำ้ นกำรปฏิบตั ิ 3. เพอื่ แลกเปลยี่ นเรียนรู้ควำมรซู้ ง่ึ กนั และกนั 4. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นไดม้ บี ทบำทในกำรเรียน และสรำ้ งสรรค์บรรยำกำศท่ีดจี ำกกำรเรยี น 5. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นไดป้ ฏบิ ัตงิ ำนด้วยควำมรอบคอบ วสั ด/ุ อุปกรณ์ 1. หนังสือเรยี นวิชำโปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) 2. ใบงำนท่ี 8 เรอ่ื งกำรสรำ้ งกำรด์ อวยพร 3. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์พร้อมอุปกรณ์ตอ่ พว่ ง 4. โปรแกรม Microsoft Word 2016 ลาดบั ขน้ั การปฏบิ ัติงาน ขนั้ ท่ี 1 รบั ใบงำนที่ครูผสู้ อน ขั้นที่ 2 ตรวจสอบอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ สำยไฟ ปลก๊ั ไฟ ให้เรียบรอ้ ยแล้วทำกำรเปดิ เครอ่ื ง คอมพิวเตอร์ เข้ำสู่โปรแกรม Microsoft Word 2016 ขั้นท่ี 3 ปฏบิ ัตงิ ำนตำมใบงำนท่ีได้รบั มอบหมำย
ใบงาน วิทยาลยั เทคนคิ นา้ พอง ใบงานท่ี 8 วิชาโปรแกรมประมวลผลคา (20204-2102) ระดับช้ัน ปวช. 1 สอนโดย : ครูแสงเดอื น จงเจริญวไิ ล …………………………………………………………………………. คาสงั่ ให้นักเรียนสร้ำงกำร์ดอวยพรเนือ่ งในวนั พอ่ จดั รูปแบบและตกแต่งนำมบัตรใหส้ วยงำม แลว้ บันทึกเอกสำรไวท้ ีไ่ ดร์ฟ D:\\งำนนกั เรียน\\ช่อื -สกลุ นกั เรียน\\ใบงำนที่ 8.Docxใชค้ ำสัง่ ในกำรจดั เอกสำร ดังต่อไปน้ี 1. เปดิ โปรแกรมประมวลผลคำ และสรำ้ งเอกสำรใหม่ โดยเลอื กเทมเพลตแบบ เอกสำรเปล่ำ 2. กำหนดขนำดกระดำษเปน็ A4 3. กำหนดกำรวำงแนวเป็น แนวตงั้ 4. กำหนดระยะขอบเป็น แคบ 5. ให้สร้ำงกำรด์ อวยพรวันพ่อ จำนวน 2ใบ 6. บันทึกเอกสำรชื่อ ใบงำนท่ี 8.Docx 7. พิมพเ์ อกสำรออกทำงเครอ่ื งพิมพ์
ตวั ชว้ี ดั ท่ี 1.2.2 ขอ้ 4 1.2.2 การจัดทาแผนการเรียนรู้/แผนการฝกึ อบรมอาชพี / แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล(IP)/แผนการจัด ประสบการณ์ ข้อ 4 มีบันทกึ หลงั การสอนหรือหลังการจดั กิจกรรมการ เรยี นรทู้ สี่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ และนาผลมา ปรบั ประยุกตแ์ ผนการจดั การเรยี นรใู้ หม้ คี ุณภาพสงู ข้ึน แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วทิ ยาลยั เทคนคิ นา้ พอง
11. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการเรียนของผู้เรยี น …………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการสอนของครู …………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 12. ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม …………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… . . ลงชื่อ ครูผู้สอน (นำงแสงเดอื น จงเจริญวไิ ล)
การเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน และเจตคติตอ่ การเรียนวชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ของนักเรยี นชน้ั ประกาศนยี บตั ร วชิ าชพี ปที ี่ 1 ท่ีจัดการเรยี นรแู้ บบสื่อเทคโนโลยเี สมือนจรงิ (AR) กบั การจดั การเรียนรู้แบบปกติ โดย นางแสงเดอื น จงเจริญวไิ ล แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ วิทยาลัยเทคนคิ น้าพอง สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ปีการศึกษา 2562
บทท่ี 1 ความเปน็ มาและความสาคญั ของปญั หา กำรศกึ ษำมีควำมสำคญั ตอ่ กำรพฒั นำประเทศกำรศกึ ษำจึงหมำยถึง กำรเจริญงอก งำม เพรำะกำรศกึ ษำเปน็ กระบวนกำรพัฒนำบคุ คลใหม้ ีควำมเจรญิ งอกงำมทกุ ดำ้ น คือ สติปญั ญำ อำรมณแ์ ละสังคม กำรจัดกำรศึกษำท่ดี ีจะตอ้ งคำนึงถงึ ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ ง บุคคล ทง้ั นีเ้ พรำะวำ่ เด็กแตล่ ะคนจะมคี วำมแตกตำ่ งกัน ทัง้ ด้ำนควำมคดิ ควำมรสู้ กึ บคุ ลิกภำพ ควำมสนใจ และควำมถนดั ดงั นน้ั กำรศกึ ษำมไิ ดข้ น้ึ อยู่กบั ควำมสำมำรถ ทำงด้ำนสติปญั ญำเพียงอยำ่ งเดยี ว แตย่ งั เกย่ี วข้องกับควำมถนดั ทำงกำรเรยี นของแตล่ ะ บคุ คล รวมทงั้ องค์ประกอบทไ่ี มเ่ กยี่ วขอ้ งกบั สตปิ ญั ญำด้วย เชน่ สถำนภำพทำงสงั คม บุคลกิ ภำพ ควำมสนใจ และพฤตกิ รรมต่ำง ๆ ท่ีแสดงออก อันเนอ่ื งมำจำกควำมนกึ คดิ เกย่ี วกบั ตนเอง ซึ่งจะส่งผลตอ่ เจตคติ ควำมคดิ ควำมรสู้ กึ ควำมเข้ำใจในสงิ่ ตำ่ ง ๆ ตลอดจนกำรปรับตวั และผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรยี น วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย 1. เพื่อเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นวชิ ำ กำรใช้โปรแกรมประมวลผลคำ สำหรับ นกั เรยี นชั้นประกำศนยี บตั รวชิ ำชพี ปีท่ี 1 สำขำงำนคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ โดยใช้สื่อ เทคโนโลยเี สมือนจริง (AR) และกำรเรยี นแบบปกติ 2. เพอื่ เปรียบเทยี บเจตคตติ ่อกำรเรยี นวิชำ กำรใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ สำหรับ นักเรยี นช้นั ประกำศนยี บัตรวชิ ำชพี ปที ี่ 1 สำขำงำนคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ โดยใชส้ ่อื เทคโนโลยีเสมอื นจรงิ (AR) และกำรเรยี นแบบปกติ ขอบเขตของการวจิ ัย ในกำรวิจยั ครัง้ นี้ ผ้วู ิจยั ใช้วชิ ำโปรแกรมประมวลผลคำ ของนกั เรียนชนั้ ประกำศนยี บตั ร วชิ ำชพี ปีท่ี 1 สำขำงำนคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ หลกั สตู รประกำศนียบตั รวชิ ำชีพ พทุ ธศักรำช 2562 ประเภทวชิ ำพำณชิ ยกรรม สำขำวิชำพณชิ ยกำร ซึง่ แบ่งเปน็ หัวข้อไดด้ งั นี้ 1. เรื่อง แผน่ พับ นำมบตั ร กำร์ด จำนวน 9 ชั่วโมง
สมมตฐิ านการวิจัย 1. นกั เรยี นชัน้ ประกำศนยี บตั รวชิ ำชพี ปที ่ี 1 สำขำงำนคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ ที่ไดร้ บั กำรสอน โดยใชส้ ่อื เทคโนโลยเี สมือนจริง (AR) และกำรเรียนแบบปกติ เร่อื ง แผ่นพับ นำมบัตร กำรด์ มผี ลสมั ฤทธหิ์ ลงั เรียนสูงกวำ่ กอ่ นเรยี น 2. นักเรียนชน้ั ประกำศนยี บตั รวิชำชพี ปีที่ 1 สำขำงำนคอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ ทไี่ ด้รบั กำรสอน โดยใชส้ อ่ื เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ (AR) เรื่องแผ่นพับ นำมบัตร กำรด์ มผี ลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำร เรียนสูงกว่ำนักเรียนทีส่ อนโดยวธิ ปี กติ 3. นกั เรยี นช้ันประกำศนยี บตั รวชิ ำชพี ปที ่ี 1 สำขำงำนคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ ทีไ่ ดร้ ับกำรสอน โดยใช้ส่อื เทคโนโลยเี สมือนจรงิ (AR) มเี จตคติตอ่ กำรเรยี นเร่ือง แผน่ พบั นำมบัตร กำรด์ ดกี วำ่ นกั เรียนทส่ี อนโดยวธิ ีปกติ
บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่เี ก่ยี วข้อง วรรณกรรมทีเ่ กยี่ วข้อง • เยำวลกั ษณ์ พรมศรี (2555) ไดว้ ิจยั พฒั นำและทดสอบประสิทธภิ ำพของบทเรียน คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนแบบมสี ่วนร่วมดว้ ยเทคนคิ กำรใช้ปญั หำเปน็ ฐำนร่วมกบั เทคนคิ จิกซอว์ เรือ่ ง อินเทอร์เน็ตเบอื้ งตน้ • อุดมลกั ษณ์ รำชสมบตั ิ และชัยยำ นอ้ ยนำรถ (2554) ได้ทำกำรวจิ ัยเร่ือง พฤตกิ รรมกำรเรยี นและเจตคติของนกั ศกึ ษำที่มีตอ่ ผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรยี น • ศศิธร อารยะพูนพงศ ์ [3] เสนอกำรออกแบบและกำรพฒั นำโปรแกรมประยกุ ตบ์ น แทบ็ เล็ต (J-Nitan) นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ 1. นักเรยี น หมำยถงึ นกั เรียนระดบั ชั้นประกำศนยี บตั รวชิ ำชพี ช้ันปที ่ี 1 สำขำงำน คอมพิวเตอร์ธรุ กจิ วิทยำลยั เทคนคิ นำ้ พอง อำเภอน้ำพองจังหวดั ขอนแกน่ ภำค เรยี นท่ี 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2562 2. โปรแกรมประมวลผลคำ หมำยถึง โปรแกรม Microsoft Office Word 2016 3. วธิ กี ำรเรยี นแบบใชส้ ่อื เทคโนโลยเี สมอื นจริง (AR) หมำยถึง เปน็ เทคโนโลยีใหม่ทผ่ี สำน โลกแหง่ ควำมจริง
บทที่ 3 วิธีการวจิ ยั ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชำกรทศี่ กึ ษำเป็นนักเรยี นระดับชนั้ ปวช. 1 สำขำงำนคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ วิทยำลัยเทคนคิ นำ้ พอง อำเภอนำ้ พอง จงั หวัดขอนแกน่ ภำคเรยี นที่ 1 ปกี ำรศึกษำ 2562 จำนวน 28 คน เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในการวจิ ยั • สื่อเทคโนโลยีเสมอื นจรงิ (AR) • แผนกำรสอนท่ใี ช้จดั กำรเรียนกำรสอนตำมปกติ • แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรยี น จำนวน 90 ขอ้ • แผนกำรสอนวชิ ำคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศเพอ่ื งำนอำชีพ มอี งคป์ ระกอบ ดงั น้ี • สำระสำคัญ • จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ • เนอ้ื หำสำระ • กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน การเกบ็ รวบรวมข้อมลู รปู แบบการวจิ ยั กำรวจิ ัยครง้ั นี้เป็นกำรวจิ ัยกง่ึ ทดลอง ซงึ่ ผู้วิจยั ได้ใชว้ ิธกี ำรศึกษำกลมุ่ ทดลองและกลุ่ม ควบคุม โดยกำรวัดผลกอ่ นและหลงั กำรทดลอง (Pretest-Posttest Design with Nonequivalent Group) โดยมรี ปู แบบกำรวิจัยดังน้ี(กำญจนำ วัธนสุนทร, ปรชี ำ เนำว์ เยน็ ผล, และ สภุ ำงค์ จนั ทวำนชิ . 2552 : 10-71) กลมุ่ ทดลอง O1 O2 X กลมุ่ ควบคมุ O3 O4
บทที่ 4 การวเิ คราะหผ์ ลการวจิ ยั การวเิ คราะหข์ ้อมลู กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ผวู้ จิ ัยได้ดำเนินกำรวเิ ครำะหด์ ังน้ี 1. เปรียบเทียบผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นก่อนและหลงั กำรทดลองของกลุม่ ทดลองโดยกำร ทดสอบคำ่ ทีกรณีขอ้ มูลไมเ่ ป็นอิสระตอ่ กัน (t - test for dependent) 2. เปรยี บเทียบผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรียนก่อนและหลังกำรทดลองของกลุ่มควบคมุ โดยกำร ทดสอบคำ่ ทีกรณขี อ้ มลู ไม่เปน็ อสิ ระต่อกัน (t - test for dependent) 3. เปรยี บเทียบผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรียนหลงั กำรทดลองของกลมุ่ ทดลอง และกลมุ่ ควบคุม โดยกำรทดสอบคำ่ ที กรณีขอ้ มูลเปน็ อสิ ระต่อกนั (t - test for Independent) 4. เปรยี บเทยี บเจตคติตอ่ วชิ ำคอมพวิ เตอร์เพอ่ื งำนอำชีพของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม โดยกำรทดสอบค่ำที กรณีข้อมลู เป็นอิสระตอ่ กนั (t - test for Independent) (Real World) กับโลกเสมือน (Virtual World) บำงคนเรียกว่ำ ระบบเสมอื นจรงิ แนวทางการแกป้ ญั หา 1. เพ่อื เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนวชิ ำกำรใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ เรอ่ื ง แผ่นพบั นำมบตั ร กำร์ด สำหรับนกั เรยี นชนั้ ประกำศนียบัตรวชิ ำชีพ ปที ี่ 1 สำขำงำน คอมพิวเตอร์ธุรกจิ โดยใชส้ ือ่ เทคโนโลยเี สมือนจริง (AR) และกำรเรียนแบบปกติ 2. เพอ่ื เปรียบเทยี บเจตคตติ ่อกำรเรยี นวชิ ำกำรใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ เรือ่ ง แผน่ พับ นำมบตั ร กำร์ด สำหรบั นักเรียนชน้ั ประกำศนยี บตั รวิชำชีพ ปที ี่ 1 สำขำงำน คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ โดยใชส้ ื่อเทคโนโลยเี สมือนจรงิ (AR) และกำรเรียนแบบปกติ
บทที่ 5 สรุปผลการวิจยั และข้อเสนอแนะ ผลการวิจัย 1. นักเรียนที่ได้รบั กำรสอนโดยใช้วิธกี ำรจดั กำรเรยี นรแู้ บบสอ่ื เทคโนโลยเี สมือนจรงิ (AR) มผี ลสมั ฤทธิ์หลังเรยี นสงู กวำ่ ก่อนเรยี น อยำ่ งมีนยั สำคัญทำงสถติ ทิ ร่ี ะดับ.01 2. นักเรยี นท่ีไดร้ บั กำรจัดกำรเรียนกำรสอนแบบปกติ มีผลสมั ฤทธห์ิ ลังเรยี นสงู กวำ่ กอ่ นเรียน อยำ่ งมนี ยั สำคญั ทำงสถิตทิ ร่ี ะดบั .01 3. นกั เรียนท่ไี ด้รับกำรสอนโดยใชว้ ิธกี ำรจดั กำรเรียนรู้แบบสอื่ เทคโนโลยเี สมือนจรงิ (AR) มีผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียนสงู กวำ่ นกั เรยี นทไ่ี ด้รับกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน แบบปกติ อยำ่ งมนี ัยสำคญั ทำงสถติ ทิ ี่ระดับ.01 4. นักเรยี นทไ่ี ด้รบั กำรสอนโดยใชว้ ิธกี ำรจดั กำรเรียนรแู้ บบสอ่ื เทคโนโลยเี สมือนจริง (AR) มเี จตคติต่อกำรเรยี นวชิ ำโปรแกรมประมวลผลคำ สูงกวำ่ นักเรียนทไี่ ด้รบั กำร จดั กำรเรยี นกำรสอนแบบปกตอิ ย่ำงมนี ยั สำคัญทำงสถติ ิทร่ี ะดับ .01 ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะในกำรนำไปใช้ 1. ผู้สอนตอ้ งวเิ ครำะหเ์ นอื้ หำวำ่ เหมำะสมที่จะแบง่ เป็นหวั ขอ้ ยอ่ ย ๆ ที่คอ่ นข้ำงเท่ำเทียม กันได้ 2. ผู้สอนตอ้ งปฐมนเิ ทศ แนะนำช้ีแจงให้นกั เรยี นเข้ำใจหลกั กำร ประโยชน์และเหน็ ควำมสำคัญของกำรเรียนแบบสอ่ื เทคโนโลยเี สมือนจริง (AR) พรอ้ มท้งั อธิบำยข้นั ตอน ของกำรเรยี นแบบใหน้ ักเรียนเขำ้ ใจ และสำมำรถปฏิบตั ิไดถ้ กู ตอ้ ง 3. ในกำรจดั กำรเรียนกำรสอนแบบสอื่ เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ (AR) เนือ่ งจำกนักเรียนตอ้ ง มีบทบำทเป็นท้งั ผเู้ รียนและผ้สู อนเพอ่ื น และควรคำนงึ ถงึ ควำมเหมำะสมของเวลำ เน้ือหำ ภำษำควำมชดั เจน และควำมน่ำสนใจของสอ่ื ต่ำงๆ เพ่อื ใหก้ ำรเรยี นแบบน้มี ี ประสิทธภิ ำพสงู ขนึ้
ข้อเสนอแนะสาหรบั การศกึ ษาค้นคว้าคร้งั ต่อไป ควรมีกำรศึกษำเปรยี บเทียบผลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรยี น ระหวำ่ งผเู้ รยี นท่เี รียนรู้ดว้ ย วธิ กี จดั กำรเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื ดว้ ยเทคนคิ จกิ ซอว์ กบั กำรเรยี นรูด้ ว้ ยวธิ กี ำรจัดกำรเรยี นรู้ แบบรว่ มมอื แบบอ่ืน ๆ
ตวั ชว้ี ดั ที่ 1.2.2 ขอ้ 5 1.2.2 การจัดทาแผนการเรียนร้/ู แผนการฝึกอบรมอาชีพ/ แผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล(IP)/แผนการจัด ประสบการณ์ ข้อ 5 เปน็ แบบอย่างท่ีดี เป็นพเี่ ลี้ยงและหรอื เป็นทีป่ รกึ ษา ด้านการจดั ทาแผนการเรยี นรู้ แผนกวิชาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ วทิ ยาลยั เทคนิคนา้ พอง
ตวั ช้วี ดั ท่ี 1.2.3 ข้อ 1 1.2.3 กลยทุ ธ์ในการจดั การเรียนรู้ ข้อ 1 จดั การเรยี นรโู้ ดยใช้รูปแบบ เทคนคิ และวธิ กี ารที่ เนน้ วิธีการปฏิบตั มิ ีความหลากหลาย ใช้ส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยี การจัดการเรียนรู้ การวัดผลและประเมนิ ผล ตามแผนการจดั การเรยี นรหู้ รือแผนการฝกึ อาชพี ท่ี สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ การเรยี นรู้สมรรถนะประจา หน่วย หรือสมรรถนะของหลกั สตู ร และสอดคล้องกับ ธรรมชาติของผู้เรียน หรอื ผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรม และ เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้ แผนกวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วิทยาลยั เทคนคิ น้าพอง
แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 7 ช่อื วิชา โปรแกรมประมวลผลคำ (20204-2102) สอนคร้งั ที่ 11- 12 ชื่อหนว่ ยกำรพมิ พห์ นังสือรำชกำรและจดหมำยธุรกจิ จานวน6 ชัว่ โมง ชอื่ เรอื่ ง การพมิ พ์หนังสอื ราชการและจดหมายธรุ กจิ ช่ัวโมงรวม36 1. สาระสาคญั กำรติดต่อรำชกำรทงั้ ภำยในหน่วยงำนและภำยนอกหนว่ ยงำน จำเป็นต้องคำนึงถงึ รูปแบบ ของหนงั สือรำชกำรตำมระเบียบของงำนสำรบรรณ ขอ้ ควำมในหนงั สอื ดงั กล่ำวถอื เปน็ หลกั ฐำนทำง รำชกำรส่วนกำรตดิ ต่อทำงด้ำนธรุ กจิ จะใช้จดหมำยธุรกิจ ในกำรติดต่อระหว่ำงกันในวงกำรธุรกจิ โดย มีจุดประสงคอ์ ย่ำงใดอย่ำงหนึง่ ในกำรดำเนนิ ธุรกิจ โดยถอื เป็นกำรสือ่ สำรทำงธุรกิจรปู แบบหนึ่งทยี่ งั คง มคี วำมสำคญั ต่อวงกำรธรุ กิจ ท้ังในด้ำนกำรประหยัด ควำมสะดวกรวดเรว็ กำรให้รำยละเอียดข้อมลู กำรใช้เป็นหลักฐำน และเปน็ สอ่ื สมั พันธ์ทด่ี ใี นกำรตดิ ต่อธุรกิจ โปรแกรมประมวลผลคำเป็นอีก โปรแกรมหน่ึงท่มี ีควำมสำมำรถในด้ำนกำรพมิ พห์ นงั สือดังกลำ่ ว 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 จุดประสงคท์ ั่วไป 1. เพือ่ ใหม้ ีควำมรคู้ วำมเข้ำใจเกยี่ วกับกำรพิมพห์ นังสอื รำชกำร 2. เพือ่ ให้มเี จตคตทิ ่ดี ีต่อกำรเตรียมควำมพรอ้ มดำ้ นกำรเรยี นรตู้ ำมหวั ขอ้ ทก่ี ำหนด ควำม สนใจใฝ่รู้ ควำมมีเหตผุ ล ควำมรอบรู้ ควำมรอบคอบ/ระมัดระวงั ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และควำมเป็นประชำธปิ ไตย 2.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. สร้ำงหนงั สือรำชกำรได้ 2. สรำ้ งจดหมำยธรุ กิจได้ 3. ผูเ้ รียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรมท่ีพงึ ประสงค์ คอื มีมนษุ ยสัมพันธ์ มวี นิ ยั มีควำมซื่อสตั ย์ ควำม รบั ผิดชอบ เชือ่ มั่นในตนเอง ประหยดั มีควำมคิดริเร่มิ สรำ้ งสรรค์ ควำมสนใจใฝร่ ู้ และพ่งึ ตนเอง 4. ผเู้ รียนมีควำมพรอ้ มด้ำนกำรเรยี นรู้ตำมทก่ี ำหนด มีควำมสนใจใฝ่รู้ มเี หตุผล มคี วำมรอบรู้ มี ควำมรอบคอบ/ระมดั ระวงั ตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง และมีควำมเป็นประชำธปิ ไตย 3. สมรรถนะ สำมำรถพิมพ์หนงั สอื รำชกำรและจดหมำยธรุ กิจได้อยำ่ งถกู ตอ้ ง
4. สาระการเรยี นรู้ กำรพมิ พห์ นงั สือรำชกำรและจดหมำยธุรกิจ ศกึ ษำเกยี่ วกบั 1. หนังสอื รำชกำร 2. จดหมำยธุรกิจ 5. การบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 5.1 ความพอประมาณ 1. มคี วำมรู้ควำมเข้ำใจปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง เพอื่ ใช้เปน็ ข้อมูลในกำรใช้ พลังงำนไฟฟ้ำอยำ่ งเหมำะสมและประหยดั เชน่ ปดิ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ปิดเคร่อื งปรบั อำกำศ ปดิ ไฟฟ้ำ ปิดพดั ลมเมื่อเลกิ กำรใชง้ ำน 2. จดั สรรเวลำในกำรปฏบิ ัติงำนตำมทไี่ ด้รบั มอบหมำยอย่ำงเหมำะสม 5.2 ความมเี หตุผล 1. เห็นคณุ คำ่ ของปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียงในกำรนำไปพฒั นำชวี ิต โดยใช้ พลังงำนไฟฟ้ำท่ีมอี ยู่ใหค้ ุม้ คำ่ และเกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ 2. สำมำรถพิมพ์หนังสือรำชกำร และจดหมำยธุรกจิ ได้อย่ำงถูกต้อง 5.3 การมภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี 1. มคี วำมตระหนักและรูจ้ ักประยุกตใ์ ช้ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงในกำรดำเนิน ชีวติ ได้อยำ่ งถูกตอ้ ง 2. ฝึกฝนทกั ษะกำรพมิ พ์หนงั สอื รำชกำร และจดหมำยธุรกิจไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง 3. ฝกึ ฝนทกั ษะกำรสรปุ สำระสำคัญประจำหนว่ ยเรยี น 5.4 เง่ือนไขความรู้ 1. กำรพมิ พแ์ ละจดั รูปแบบหนังสือรำชกำร 2. กำรพิมพ์จดหมำยธรุ กจิ 5.5 เง่ือนไขคณุ ธรรม 1. ควำมรบั ผดิ ชอบในกำรปฏิบัติงำน 2. ควำมมีวนิ ัย 3. กำรพ่ึงตนเอง 4. มคี วำมสนใจใฝ่รู้ 5. มีควำมซื่อสัตย์สจุ รติ 6. กำรประหยัด 7. มคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 8. มีควำมคิดริเร่มิ สร้ำงสรรค์ 9. มคี วำมรอบคอบ/ระมัดระวงั 10. มคี วำมเป็นประชำธปิ ไตยและควำมเปน็ ไทย
5.6 เชอ่ื มโยงสู่ 4 มิติ มที กั ษะในกำรพิมพห์ นังสือรำชกำร และจดหมำยธรุ กจิ โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2016 ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ทำให้เปน็ ผมู้ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ มีควำมระมดั ระวัง และเกิดควำมเช่ือม่ันในตนเอง 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สอนแบบบรรยาย อธบิ ายและสาธิต) ขน้ั เตรยี ม 1. จัดเตรียมเอกสำรประกอบกำรสอน ส่อื กำรเรยี นกำรสอน วธิ ีกำรเรยี น กำรปฏิบตั งิ ำนท่ี ได้รับมอบหมำย และวิธีวัดผลประเมินผล กำรปฏิบัตติ ำมกฎระเบียบของสถำนศกึ ษำ 2. ใหผ้ ู้เรยี นเปดิ ไฟฟ้ำดวงทจี่ ำเป็นต้องใช้ และเปิดเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ตำมจำนวนผูเ้ รยี น ถำ้ มี เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ทีไ่ มไ่ ดใ้ ช้หรอื ใชไ้ ม่ได้ ห้ำมไมใ่ หเ้ ปดิ หน้ำจอท้งิ ไว้ เพรำะส้ินเปลืองพลังงำน 3. แจ้งจุดประสงค์กำรเรียนของหนว่ ยที่ 7 และกำรให้ควำมร่วมมือของผู้เรียนในกำรทำกิจกรรม 4. สอบถำมผ้เู รยี นเรอ่ื งกำรพมิ พห์ นงั สอื รำชกำร และจดหมำยธุรกิจ สำมำรถใช้โปรแกรม Microsoft Word 2016 พิมพ์ได้หรอื ไม่ โดยกำรสอบถำมเปน็ รำยบคุ คลและรำยกลุ่ม เพ่ือใหผ้ ู้เรียนได้ แสดงควำมคิดเห็นอยำ่ งมีเหตุผล 5. ผู้สอนบอกแนวทำงในกำรเรยี น และวธิ ีกำรปฏบิ ตั ิตำมภำระงำนท่ีมอบหมำย ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ใช้เกมส์ ใน Kahoo.it เพื่อกระตนุ้ ให้ผ้เู รยี น กระตอื รอื ร้น 2. ให้ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยท่ี 7 ในเวลำท่ีกำหนด (e-learning) 3. เม่ือผ้เู รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเสรจ็ แลว้ ให้ผ้เู รียนผลดั กนั ตรวจแบบทดสอบกับเพอ่ื น ด้วยควำมซ่ือสัตย์สุจรติ โดยผู้สอนเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยท่ี 7 ขน้ั สอน 1. ผ้สู อนทำกำรสอนโดยใหผ้ ูเ้ รยี นเปดิ หนังสอื ประกอบกำรเรียนกำรสอน 2. ผสู้ อนใหผ้ ้เู รยี นเปดิ เคร่ืองคอมพิวเตอร์และเข้ำส่โู ปรแกรม Microsoft Word 2016 3. ผสู้ อนทำกำรอธิบำยเนื้อหำควำมร้เู กี่ยวกับกำรพิมพ์หนงั สือรำชกำร และจดหมำยธุรกิจ พรอ้ มทง้ั สำธิตเนอ้ื หำกำรเรยี นรูแ้ ตล่ ะเรอื่ งใหผ้ ้เู รยี นได้เรยี นรู้ไปพรอ้ มกนั 4. ผูส้ อนบอกวธิ กี ำรและแนวคิดในกำรปฏบิ ตั ทิ ถ่ี ูกต้องให้แกผ่ เู้ รียน สังเกต บนั ทึกพฤตกิ รรม ผู้เรยี นขณะเรยี นและศกึ ษำบทเรยี น คอยช่วยเหลอื และใหค้ ำแนะนำเมอื่ ผูเ้ รยี นเกดิ ควำมสงสยั 5. ผู้สอนเปิดโอกำสให้ผเู้ รียนซกั ถำมข้อสงสัย ขั้นสรุป 1. ผู้สอนใหผ้ ูเ้ รียนศึกษำจำกใบควำมรู้และทำแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิตำมใบงำน 2. สังเกต บนั ทกึ พฤติกรรมผูเ้ รียนขณะดำเนินงำนตำมใบงำน คอยชว่ ยเหลอื ใหค้ ำแนะนำเม่อื ผู้เรียนเกิดควำมสงสยั
3. แบง่ กลุม่ ผ้เู รยี นเพ่อื ดำเนินงำนตำมใบงำน ผูส้ อนเดนิ สำรวจกำรศึกษำขอ้ มลู จำกใบควำมรู้ และฝึกปฏิบัติตำมใบงำนของผเู้ รียน หำกพบว่ำผเู้ รยี นไม่เขำ้ ใจ ผ้สู อนทำกำรอธบิ ำยให้ผูเ้ รียนอีกครงั้ 4. เม่อื ผู้เรยี นทำงำนท่ไี ดร้ บั มอบหมำยเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ใหต้ วั แทนกลมุ่ หรอื สมำชิกท้ังกลุ่มลุก ขนึ้ อธิบำยคำตอบพร้อมทง้ั วธิ ีกำรไดม้ ำซง่ึ คำตอบ 5. ผู้สอนทำกำรเฉลยรว่ มกับผเู้ รยี น พรอ้ มท้งั อธิบำยขอ้ มูลเพม่ิ เติมหำกผเู้ รียนเกดิ ควำมสงสยั และผู้เรยี นคนใดยงั ทำงำนทไี่ ดร้ บั มอบหมำยไมถ่ กู ตอ้ งใหท้ ำกำรแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งเรียบรอ้ ยและเก็บสะสม ชิ้นงำนทุกงำนที่ไดร้ ับมอบหมำยส่งตำมกำหนด 6. ผู้สอนรว่ มกบั ผเู้ รียนชว่ ยกนั สรุปสำระกำรเรียนรปู้ ระจำหน่วยกำรเรยี น เพ่อื ส่งเสรมิ ควำม เป็นประชำธปิ ไตย 7. ผ้เู รียนทำแบบฝึกหัดทำ้ ยหน่วยเรียน 8. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยที่ 7 ในเวลำทีก่ ำหนด 9. ผู้สอนเฉลยแบบฝกึ หดั ทำ้ ยหน่วยเรยี น พรอ้ มกับใหผ้ เู้ รียนแลกเปลย่ี นกระดำษคำตอบกนั โดยครผู ้สู อนเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 10. ผสู้ อนให้ผูเ้ รยี นทไ่ี ดร้ ับมอบหมำยเวรประจำวัน สำรวจควำมเรียบร้อยของหอ้ งเรียน พรอ้ มทั้งทำควำมสะอำดหอ้ งเรยี น และให้ผูเ้ รยี นเตรยี มตัวเรียนในคำบต่อไป 7. สือ่ ประกอบการจดั การเรยี นรู้ สื่อสงิ่ พิมพ์ 1. หนังสือเรยี นวิชำโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) รหัสวชิ ำ 20204-2102 2. แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น 3. ใบควำมรู้ที่ 7เรื่องหนังสอื รำชกำร และจดหมำยธรุ กจิ 4. ใบกจิ กรรม 5. แบบฝกึ หดั ทำ้ ยหน่วยเรียน 6. แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรยี น และแบบฝกึ หดั ท้ำยหน่วยเรยี น 7. แบบประเมินผลกำรทำงำนตำมใบงำน 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ส่อื โสตทัศน์ 1. คอมพิวเตอรพ์ รอ้ มอุปกรณ์ตอ่ พว่ ง 2. โปรแกรม Microsoft Word 2016 3. โปรเจคเตอร์ 4. บทเรยี นออนไลน์ วชิ ำโปรแกรมประมวลผลคำ 5. Kahoot.it (https://create.kahoot.it/kahoots/my-kahoots) 6. ไมโครโฟน เคร่ืองขยำยเสียงพร้อมลำโพง
ส่อื ของจรงิ - 8. แหล่งการเรียนรู้เพม่ิ เตมิ ในสถานศกึ ษา 1. หอ้ งสมดุ วทิ ยำลยั ฯศกึ ษำข้อมูลจำกเอกสำร 2. หอ้ งปฏบิ ตั ิกำร Internet ค้นคว้ำขอ้ มลู ทำง Internet 3. ครผู ู้สอนแผนกวิชำคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ นอกสถานศึกษา 1. ห้องสมุดประชำชน / ร้ำนหนังสอื 2. Internet / รำ้ นคอมพิวเตอร์ที่ให้บรกิ ำรทำงดำ้ น Internet 3. บุคลำกรตำ่ ง ๆ ทมี่ คี วำมรเู้ ก่ยี วกบั โปรแกรมประมวลผลคำ 9. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธก์ ับวิชาอน่ื 1. บรู ณำกำรกับกลมุ่ วชิ ำภำษำไทย กำรฝึกเขยี นคำภำษำไทยท่ีถกู ตอ้ งกำรฝึกปฏิบตั เิ ขยี นยอ่ ควำมกำรเขียนเรียงควำมเขียนโครงกำรเขยี นรำยงำนวิชำกำร กำรออกแบบเอกสำร กำรรำ่ งเอกสำร กอ่ นพิมพ์เอกสำรประเภทต่ำง ๆ ด้วยโปรแกรมประมวลผลคำ 2. บรู ณำกำรรว่ มกับกล่มุ วิชำภำษำตำ่ งประเทศ เนอ่ื งจำกครูผู้สอนไดบ้ ูรณำกำรกำรสอนกับ สวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน กำรนำโปรแกรมประมวลผลคำมำประยุกตใ์ ช้จำเป็นต้องมีสว่ นเกี่ยวขอ้ งกบั รำยวชิ ำภำษำอังกฤษ โดยเฉพำะกำรพิมพ์เอกสำรท่ีเปน็ ภำษำองั กฤษใหถ้ กู ตอ้ ง 3. บรู ณำกำรรว่ มกับกลุ่มวิชำคณติ ศำสตร์ ดำ้ นกำรใช้สตู รและฟังก์ชัน่ ในกำรคำนวณประยุก ต์ กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรใ์ นกำรวำงแผนกำรออกแบบประดิษฐค์ ดิ คน้ สง่ิ ใหม่ ๆในงำนอำชพี 10. การวัดผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน ขณะเรียน 1. ตรวจผลงำนตำมที่ไดร้ ับมอบหมำย 2. สังเกตกำรปฏบิ ัตงิ ำน หลงั เรยี น 1. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 2. ตรวจงำนทีไ่ ด้รบั มอบหมำย 3. ตรวจแบบฝกึ หัดท้ำยหนว่ ยเรยี น
1. สงิ่ ทจ่ี ะวัด 1.1 ควำมรูค้ วำมเข้ำใจจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1.2 กำรประเมนิ ผลงำน 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมขณะเรยี น 2. วธิ กี ารวัด 2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น 2.2 ตรวจงำนทีม่ อบหมำย 2.3 สงั เกตพฤตกิ รรมขณะเรียน 3. เคร่อื งมือวดั 3.1 แบบทดสอบ 3.2 กิจกรรมที่มอบหมำย 3.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 4. เกณฑ์การวดั ผลและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดผล 1. ให้ข้อถูก ขอ้ ละ 1 คะแนน ข้อผิด 0 คะแนน 2. ใหค้ ะแนนพฤติกรรมกำรเรียน 5 หมำยถงึ ดีมำก 4 หมำยถึง ดี 3 หมำยถึง ปำนกลำง 2 และ 1 หมำยถึง ต้องปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. ผเู้ รยี นไดค้ ะแนนจำกกำรทำแบบทดสอบ ไม่ตำ่ กว่ำร้อยละ 60 2. ผเู้ รยี นไดค้ ะแนนจำกกจิ กรรมกำรเรยี น ไม่ตำ่ กวำ่ ร้อยละ 80 3. ผเู้ รียนไดค้ ะแนนพฤตกิ รรมกำรเรยี น ไมต่ ำ่ กว่ำร้อยละ 60 เกณฑก์ ารวัด แบบทดสอบ 10 คะแนน ระดบั ดี ตั้งแตร่ อ้ ยละ 80 ข้นึ ไป (8 คะแนน) ระดบั ปำนกลำง ตง้ั แตร่ อ้ ยละ 60 - 70 ขน้ึ ไป (6 - 7 คะแนน) ระดับปรับปรุง ตั้งแตร่ อ้ ยละ 50 ลงมำ (5 คะแนนลงมำ) เกณฑ์การผา่ น ต้งั แตร่ ะดบั ปำนกลำงข้ึนไป หรือตั้งแตร่ อ้ ยละ 60 ข้นึ ไป
กจิ กรรมเสนอแนะประจาหน่วย 1. ผู้เรียนตอ้ งใหค้ วำมสนใจในกำรศกึ ษำ เพ่ือหำเทคนคิ วธิ กี ำร หรอื หลกั กำรงำ่ ยเพอ่ื ใหห้ ำ คำตอบได้อย่ำงถกู ตอ้ ง และรวดเร็ว โดยกำร ต้ังใจฟงั หลักกำร เทคนคิ วิธีกำรท่คี รผู สู้ อนสรปุ ในขณะท่ี ทำกำรสอน และนำขอ้ สงสยั ซกั ถำมครูในกำรเรียนทุกคร้ังทเี่ กดิ ควำมสับสน และไม่เข้ำใจ 2. ผ้เู รยี นควรมีกำรทบทวนบทเรียนตลอด เพ่อื เสรมิ สรำ้ งควำมเข้ำใจอย่ำงแท้จริง 3. ผู้เรียนหมนั่ ทำใบงำน แบบฝึกหดั และแก้ไขขอ้ ทผ่ี ดิ ใหถ้ กู ตอ้ งเสมอ 4. ผเู้ รียนตอ้ งสรำ้ งมโนภำพใหเ้ กดิ ควำมคิดรวบยอดในสำระกำรเรียนรู้และเทคนิควิธกี ำร พรอ้ มกับควำมจำเปน็ ในกำรนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดขึ้นโดยตนเองใหไ้ ดเ้ พ่ือเกดิ ควำมร้คู วำมเขำ้ ใจ อย่ำงแท้จริงไม่ใช่เกดิ จำกกำรทอ่ งจำ
ตัวชวี้ ดั ท่ี 1.2.3 ข้อ 2 1.2.3 กลยทุ ธ์ในการจดั การเรยี นรู้ ข้อ 2 ประเมินผลในการใช้ กลยทุ ธ์ในการจัดการ เรยี นร้แู ละนาผลการประเมนิ มาปรบั ปรุงพัฒนาให้มี คุณภาพสูงขึน้ แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ วิทยาลัยเทคนิคน้าพอง
แบบสรุปการประเมนิ กลยุทธใ์ นการแกป้ ัญหาและพฒั นาผ้เู รียน เรือ่ ง แผน่ พับ นามบตั ร การด์ กิจกรรมที่มอบหมาย 1. ให้นกั เรยี นแต่ละคน ทำตำมใบงำนทม่ี อบหมำย 1.1 ใบงำนที่ 6 กำรทำแผน่ พบั 1.2 ใบงำนที่ 7 กำรทำนำมบัตร 1.3 ใบงำนท่ี 8 กำรทำกำร์ด ผลการประเมินกลยุทธ์ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ลงชื่อ.............................................ผู้ประเมนิ (.........................................................) ........../.............../............
ตวั ชี้วดั ท่ี 1.2.3 ข้อ 3 1.2.3 กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ ขอ้ 3 นิเทศการจัดการเรยี นรู้สถานศึกษา แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ วิทยาลัยเทคนิคนา้ พอง
นิเทศนกั ศกึ ษาก่อนเขา้ เรียน การประชมุ นิเทศ การจดั กจิ กรรมตรวจสอบรายวชิ า
นเิ ทศติดตามนกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์
ตัวช้วี ัดท่ี 1.2.3 ข้อ 4 1.2.3 กลยทุ ธ์ในการจัดการเรียนรู้ ขอ้ 4 กลยุทธก์ ารจัดการเรียนรู้สามารถนาไปใชไ้ ด้ใน สถานศกึ ษาท่ีมีบรบิ ทใกล้เคียงกัน แผนกวชิ าคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ วทิ ยาลยั เทคนิคนา้ พอง
แบบประเมนิ ผลงานการปฏบิ ัตงิ าน วชิ า โปรแกรมประมวลผลคา ผู้สอน นางแสงเดือน จงเจรญิ วิไล ชือ่ …………………………….ชั้น…….. วนั ท่ี………………………… แบบประเมนิ ผล ชอ่ื งำน…………………………………………… รายการประเมิน ระดบั ระดบั คะแนน น้าหนกั ความสาคญั 2 1 0 คะแนน 1. กำรเตรียมกำร 20 1.1 เตรียมเครือ่ งและเกบ็ เขำ้ ท่เี รยี บร้อย 15 1.2 ตรงเวลำ 5 2. ขนั้ กำรปฏิบัติกำร 50 2.1 ปฏิบัตไิ ดถ้ ูกต้องตำมหลกั วชิ ำกำร 30 2.2 ใบงำนและแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 10 2.3 ปฏิบตั งิ ำนดว้ ยควำมต้งั ใจ 10 3. ผลกำรปฏิบัตงิ ำน 30 3.1 ปริมำณงำนที่ได้ 15 3.2 คุณภำพของงำนเปน็ ทีย่ อมรบั 10 3.3 เสร็จตำมเวลำทีก่ ำหนด 5 รวม 100 ระดับคะแนนเฉลีย่ = น้ำหนกั คะแนน / 2 ระดบั คะแนนท่ไี ด้ (เกรด) ระดบั คะแนนที่ได้ 10% = น้ำหนักคะแนน / 20 ลงช่ือ…………………………………………………….ผปู้ ระเมนิ
แบบเกณฑก์ ารประเมินผลงานการปฏบิ ตั งิ าน (คาอธิบายเกณฑก์ ารประเมิน) รายการ เกณฑ์ ระดบั คะแนน 1. เตรยี มเครอื่ งและเกบ็ เข้ำท่ี 1. เตรยี มเครื่องและเกบ็ เข้ำท่ีเรียบรอ้ ย 2 เรียบร้อย (เกำ้ อ้ี คยี ์บอร์ด) 2. เกบ็ เขำ้ ท่ีไมเ่ รยี บร้อย 1 3. ไมป่ ฏบิ ัติ 0 1. เขำ้ ช้นั เรยี นตรงเวลำ 2 2. ตรงเวลำ 2. เข้ำชนั้ เรยี นสำย 1 3. ไม่เขำ้ ช้นั เรียน 0 3. ปฏิบตั ิได้ถกู ต้องตำมหลัก 1. ปฏิบัติไดถ้ ูกตอ้ งและครบทกุ อยำ่ ง 2 วชิ ำกำร 2. ปฏบิ ัติผดิ บำงส่วนหรือบกพรอ่ งบำงอยำ่ ง 1 3. ปฏิบัตไิ มไ่ ด้เลยหรอื ไม่ปฏบิ ตั ิงำน 0 1.ปฏบิ ตั ิได้ถูกต้องตำมข้ันตอนและเรียบรอ้ ย 2 4. ใบงำนและแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 2. ปฏิบตั มิ ขี อ้ บกพร่องบำงอยำ่ ง 1 3. ไม่ปฏบิ ัตใิ บงำนและแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิสง่ 0 1. ปฏบิ ัติงำนทไ่ี ดร้ บั มอบหมำยด้วยควำมตัง้ ใจ 2 5. ปฏิบัติงำนดว้ ยควำมต้ังใจ 2. ปฏิบตั งิ ำนท่ีไดร้ ับมอบหมำยแบบพอผ่ำน 1 3. ไม่ปฏบิ ัตงิ ำนท่ีได้รบั มอบหมำย 0 1. ทำครบตำมทกี่ ำหนด 2 6. ปรมิ ำณงำนทไี่ ด้ 2. ทำไม่ครบตำมทก่ี ำหนด 1 3. ไม่ทำเลย 0 7. คุณภำพของงำนเปน็ ที่ 1. ผลงำนสะอำดเรยี บร้อยดมี คี ุณภำพ 2 ยอมรบั 2. ผลงำนมขี อ้ บกพรอ่ งบำงอย่ำง 1 3. ผลงำนไมเ่ รยี บรอ้ ยเลย 0 1. ส่งงำนตรงเวลำที่กำหนด 2 8. เสรจ็ ตำมเวลำท่ีกำหนด 2. สง่ งำนไม่ตรงตำมเวลำท่ีกำหนด 1 3. ไมส่ ่งงำน 0 เกณฑก์ ำรประเมนิ ช่วงคะแนน % ระดบั คะแนน ควำมหมำย ชว่ งคะแนน % ระดบั คะแนน ควำมหมำย 80-100 4 ดเี ยี่ยม 60-64 2.0 พอใช้ 75-79 3.5 ดมี ำก 55-59 1.5 อ่อน 70-74 3 ดี 50-54 1.0 อ่อนมำก 65-69 2.5 ดพี อใช้ 0-49 0 ไมผ่ ่ำน
ตัวช้ีวัดท่ี 1.2.3 ขอ้ 5 1.2.3 กลยทุ ธ์ในการจัดการเรยี นรู้ ข้อ 5 เป็นแบบอย่างทดี่ ี แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกจิ วทิ ยาลยั เทคนคิ นา้ พอง
เปน็ แบบอยา่ งท่ีดี ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณ
เปน็ แบบอยา่ งท่ีดี เสยี สละเพื่อสว่ นรวม อทุ ิศเวลา
เปน็ แบบอย่างท่ีดี เสยี สละเพื่อสว่ นรวม
ตวั ชี้วดั ท่ี 1.2.4 1.2.4 คุณภาพผ้เู รยี น จานวนผเู้ รยี นหรอื ผู้เขา้ รับการฝึกอบรมไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 70 มีผลการพฒั นาคณุ ภาพเป็นไปตามค่า เปา้ หมายทีส่ ถานศึกษากาหนด แผนกวิชาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ วทิ ยาลัยเทคนคิ น้าพอง
ตัวอยา่ งโปรแกรมทีใ่ ช้ https://www.flippity.net/qs.asp?k=1SFLHK A2FB uduPsri4E VO_hhXu0BO HPiPeanUm4B rKhQ
ตวั ชวี้ ดั ท่ี 1.3 ข้อ 1 1.3 การสรา้ งและการพัฒนา สอ่ื นวตั กรรม เทคโนโลยีทาง การศึกษา และแหลง่ เรยี นรู้ ข้อ 1 การสรา้ งและพฒั นา สือ่ นวตั กรรมเทคโนโลยที าง การศึกษาและแหล่งเรยี นรนู้ าไปใช้ในการจัดการเรยี นรู้ เหมาะสมกบั ผ้เู รียนหรอื ผเู้ ข้ารับการอบรม สอดคล้องกับ เนอ้ื หาสาระรายวิชาและจุดประสงค์การเรียนรู้ แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ วิทยาลยั เทคนิคน้าพอง
บทเรยี นออนไลน์ วชิ าโปรแกรมประมวลผลคา ห้องเรียนออนไลน์ วิทยาลยั เทคนิคนา้ พอง
การใช้เกม และนวตั กรรม Active Learning
ตวั ช้วี ดั ที่ 1.3 ขอ้ 2 1.3 การสรา้ งและการพัฒนา สอื่ นวัตกรรม เทคโนโลยีทาง การศกึ ษาและแหล่งเรียนรู้ ข้อ 2 ประเมินผลการใชส้ ่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยที าง การศึกษาและแหลง่ เรียนรู้ และนาผลการประเมินไป ปรบั ปรงุ พฒั นาให้มคี ุณภาพสงู ข้นึ
แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ วิทยาลยั เทคนิคน้าพอง แบบประเมนิ ดัชนคี วามสอดคล้อง (IOC) ของแบบประเมินความพึงพอใจของผเู้ รยี น สาหรับผู้เชยี่ วชาญเกี่ยวกับสื่อประกอบการเรยี นการสอน เร่อื ง………………………………………… .................................................................................................................................................. คาชแ้ี จง แบบประเมินดชั นคี วำมสอดคล้อง(IOC) ของแบบประเมินควำมพึงพอใจสำหรับผ้เู ช่ียวชำญ เพื่อ ประเมนิ ควำมคิดเห็นของผู้เชย่ี วชำญทมี่ ีตอ่ สอื่ ใหม้ คี วำมเหมำะสมในกำนำไปใชเ้ ป็นเคร่อื งมือใน กำรเก็บ รวบรวมขอ้ มูลในกำรวิจัย ถ้ำมีควำมคิดเห็นใดๆนอกจำกหัวข้อที่มีในประเมนิ คุณภำพนกี้ รุณำระบุลงในช่องควำมคดิ เห็น เพมิ เติ่ม เพ่ือจะได้เปน็ แนวทำงในกำรปรบั ปรุงกำรออกแบบต่อไป ขอขอบพระคุณ ✓ หมำยเหตุ: โปรดท ำเครอ่ื งหมำย( ) ลงตรงกับช่องวำงควำมคิดเห็นของ่ทำ่ นมำกทีส่ ุด ระดับคะแนน +1 หมำยถงึ เหน็ ด้วยกับขอ้ คำถำม ระดบั คะแนน 0 หมำยถงึ ไมแ่ นใ่ จกับขอ้ คำถำม ระดับคะแนน -1 หมำยถงึ ไม่เหน็ ดว้ ยกับขอ้ คำถำม กรณที ม่ี ีระดบั คะแนน 0 เป็หรอื -1 กรุณำเขียนข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ ขอบคุณในควำมอนุเครำะห์ ณ โอกำสน้ี
แบบประเมนิ ความพงึ พอใจสาหรับผเู้ ชี่ยวชาญู ขอ้ คาถาม ความคิดเหน็ ของผ้เู ชย่ี วชาญู ขอ้ เสนอแนะ +1 0 -1 1. ดา้ นเนื้อหา 1.1 ได้รบั ควำมรแู้ ละมีควำมเขำ้ ใจเ่กย่ วกับเ่นอื หำ 1.2 เน้ือหำมีควำมนำ่ เช่อื ถอื ได้ 1.3 เนือ้ หำมีควำมกระชบั และเขำ้ ใจงำย่ 1.4 เนอื้ หำมีควำมต่อเนือ่ งกันจำกง่ำยไปยำก 1.5 เนื้อหำมคี วำมสอดคลอ้ งกับรำยวิชำ 1.6 บทเรยี นมีกำรยกตวั อย่ำงงำยต่อกำรเข้ำใจ 1.7 เน้อื หำบรรยำยตรงตำมรูปภำพ 1.8 ภำษำทใ่ี ช้บรรยำยเน้อื หำเข้ำใจไดง้ ำย่ 1.9 เน้ือหำมีควำมทนั สมัยมแี หลง่ อำ้ งองิ 2. ดา้ นภาพและกราฟิก 2.1 สื่อที่ออกแบบมีควำมนำ่ สนใจ 2.2 กำรเลือกใชก้ รำฟิกทมี่ โี ทนสีเหมำะสมกับเนอื้ หำ 2.3 กำรใช้รปู ภำพมีควำมชดั เจนเหมำะสมกับเนอื้ หำ 2.4 รปู ภำพจดั อยูในตำแหนง่ เหมำะสมกับจอแสดงผล 2.5 มเี ทคนคิ กำรนำเสนอท่ีดึงดดู น่ำสนใจ 3. ดา้ นตวั อกั ษร 3.1 รปู แบบตวั อักษรอำ่ นงำ่ ย 3.2 ขนำดของตวั อักษรมคี วำมเหมำะสม 3.3 ตวั อกั ษรจัดวำงได้เหมำะสม ดูสบำยตำอ่ำนง่ำย 3.4 สตี ัวอักษรมคี วำมเหมำะสมกับสพี ้ืนหลัง ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม ..................................................................................................................................................................... ลงชื่อ…………………………………………….ผูป้ ระเมิน (…………………………………………….) ตำแหนง่ ............................................... วนั ที่ประเมนิ ............/………../………..
แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรยี น เก่ียวกบั สื่อประกอบการเรียนการสอน เร่อื ง.......................................................................... ............................................................................................................................................ คาช้แี จง แบบประเมินควำมพึงพอใจสำหรับผู้เรียน เพอ่ื ประเมนิ ควำมคิดเห็นของผู้เรยี นที่มตี อ่ เนื้อหำให้ มี ควำมเหมำะสมในกำรนำไปใช้เปน็ เครอื่ งมือในกำรเก็บรวบรวมขอ้ มลู ในกำรวจิ ัย ถำ้ มคี วำมคิดเหน็ ใดๆ นอกจำกหวั ขอ้ ท่ีมีในประเมนิ คณุ ภำพนี้ กรุณำระบุลงในชอ่ งควำมคดิ เหน็ เพ่ิมเติมเพือ่ จะไดเ้ ป็นแนวทำงในกำรปรบั ปรงุ กำรออกแบบตอ่ ไป ขอขอบพระคณุ ✓ หมำยเหตุ : โปรดทำเครือ่ งหมำย( ) ลงตรงกบช่องวำงควำมคดิ เหน็ ของ่ทำ่ นมำกทสี่ ดุ ระดับ5 หมำยถงึ ดมี ำก ระดับ4 หมำยถึง ดี ระดบั 3 หมำยถงึ ปำนกลำง ระดบั 2 หมำยถึง น้อย ระดบั 1 หมำยถงึ นอ้ ยทสี่ ุด
ตารางแบบประเมินความพงึ พอใจของผู้เรยี น หวั ข้อในการประเมิน ระดบั การประเมินคุณภาพ น้อย ดีมำก ดี ปำน น้อย ท่ีสุด (1) กลำง (5) (4) (3) (2) 1. ด้านเนอ้ื หา 1.1 ไดร้ ับควำมรูแ้ ละมคี วำมเขำ้ ใจเ่กย่ วกับเ่นอื หำ 1.2 เน้ือหำมีควำมน่ำเชือ่ ถอื ได้ 1.3 เนื้อหำมีควำมกระชับและเขำ้ ใจง่ำย 1.4 เนอ้ื หำมคี วำมต่อเนือ่ งกันจำกง่ำยไปยำก 1.5 เนื้อหำมีควำมสอดคลอ้ งกับรำยวิชำ 1.6 บทเรยี นมีกำรยกตวั อย่ำง่งำ่ ยตอ่ กำรเขำ้ ใจ 1.7 เน้ือหำบรรยำยตรงตำมรูปภำพ 1.8 ภำษำท่ใี ชบ้ รรยำยเนื้อหำเขำ้ ใจได้งำย่ 1.9 เนื้อหำมีควำมทันสมัยมแี หล่งอำ้ งองิ 2. ด้านภาพและกราฟกิ 2.1 สื่อท่ีออกแบบมคี วำมน่ำสนใจ 2.2 กำรเลือกใชก้ รำฟกิ ที่มีโทนสเี หมำะสมกับเนื้อหำ 2.3 กำรใช้รปู ภำพมคี วำมชัดเจนเหมำะสมกับเนื้อหำ 2.4 รปู ภำพจดั อยใู นตำแหนง่ เหมำะสมกับจอแสดงผล 2.5 มีเทคนคิ กำรนำเสนอทีด่ งึ ดดู นำ่ สนใจ 3. ด้านตวั อกั ษร 3.1 รปู แบบตัวอักษรอ่ำนงำ่ ย 3.2 ขนำดของตวั อกั ษรมีควำมเหมำะสม 3.3 ตวั อักษรจดั วำงไดเ้ หมำะสม ดสู บำยตำอ่ำนได้ง่ำย 3.4 สตี วั อักษรมีควำมเหมำะสมกบสีพ้ืนหลัง ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229