Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 2 หน่วยของสิ่งมีชีวิต

แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 2 หน่วยของสิ่งมีชีวิต

Published by Jiab Chanchira, 2021-05-07 08:20:44

Description: แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 2 หน่วยของสิ่งมีชีวิต

Search

Read the Text Version

คำถามทา้ ยกิจกรรม 1.เมือ่ แช่ถุงกระดาษเซลโลเฟนทมี่ ีสารละลายเข้มข้นลงในน้ำและในน้ำหมึกสีแดงระดบั น้ำในหลอดแก้วมกี าร เปลย่ี นแปลงอย่างไร ระดับน้ำในหลอดแก้วสงู ข้ึนกวา่ เดิมและเม่ือแชใ่ นนำ้ หมึกสีแดงนำ้ ในหลอดแกว้ สูงขึ้นและมีสีแดง 2.การที่ระดบั น้ำในหลอดแก้วมีการเปลยี่ นแปลงเน่ืองจาก นำ้ และน้ำหมึกสแี ดงสามารถเคลื่อนทผ่ี า่ นกระดาษเซลโลเฟนเข้าขา้ งในถุงได้ 3.เมอื่ เปรียบเทียบความเขม้ ข้นของน้ำระหวา่ งภายในถุงกับภายนอกถงุ กระดาษเซลโลเฟนบรเิ วณใดจะมีความ เข้มขน้ ของน้ำมากกว่า บริเวณข้างนอกถุงกระดาษเซลโลเฟนมีความเข้มข้นของน้ำสูงกว่า 4.นำ้ และหมึกสีแดงมีการเคลื่อนทเี่ ข้าหรือออกจากถงุ กระดาษเซลโลเฟน น้ำและหมกึ สีแดงมีการเคลื่อนทเ่ี ข้าไปในถุงกระดาษเซลโลเฟน 5.การเคลอื่ นทข่ี องน้ำผ่านเย่ือกระดาษเซลโลเฟนจากบริเวณทมี่ ีความเขม้ ขน้ ของนำ้ มากไปสบู่ รเิ วณที่มีความ เขม้ ขน้ ของน้ำนอ้ ย เรียกว่า การออสโมซิส 6.ถา้ ต้องการให้ระดบั นำ้ ในหลอดแกว้ สงู ขนึ้ อยา่ งรวดเร็ว นักเรยี นคิดว่าควรทำอยา่ งไร เพิ่มความเขม้ ข้นของสารละลายนำ้ ตาลทรายให้มีความเข้มขน้ สงู ข้ึน 7.ถ้าเปล่ยี นนำ้ สแี ดงให้อยใู่ นถุงกระดาษเวลโลเฟนแทน โดยใหส้ ารละลายนำ้ ตาลเข้มขน้ อย่ขู า้ งนอกถงุ ระดบั นำ้ ในหลอดแก้วจะเป้นอย่างไร เหตใุ ดจึงเปน็ เช่นนัน้ ระดับนำ้ ในหลอดแกว้ จะลดลง เพราะน้ำในถุงกระดาษเซลโลเฟนเคลอ่ื นทอ่ี อกมานอกถุง 8.ถา้ แช่ถุงสารละลายน้ำในสารละลายนำ้ ตาลเหมอื นกัน นักเรยี นคดิ ว่าระดับนำ้ ในหลอดแก้วจะเป็นอย่างไร เหตุใดจึงเป็นเช่นนน้ั ระดับน้ำในหลอดแก้วจะไม่เปล่ยี นแปลง เพราะ ความเข้มข้นของน้ำเท่ากัน 9.ปัจจยั ใดบา้ งทมี่ ผี ลต่อการดูดนำ้ ของพืช ปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ การดดู น้ำของรากพชื ได้แก่ ปริมาณน้ำในดิน ความเข้มข้นของสารละลายในดนิ อุณหภูมิของ ดนิ และการถ่ายเทอากาศในดิน 10.จงยกตัวอย่างการออสโมซิสในชวี ิตประจำวัน การแชผ่ ักในนำ้ เพอ่ื ป้องกนั ผักเหี่ยว การดองหวาน ดองเคม็ การแชอ่ ่มิ ผลไม้ การทำไขเ่ คม็ การใช้โอเอซิสปัก แจกันดอกไมส้ ด

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 24 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 หน่วยพนื้ ฐานของส่งิ มีชวี ิต เวลา 2 ช่วั โมง แผนการจดั การเรียนรู้เรอ่ื ง องค์ประกอบและการสบื พันธขุ์ องพืช 1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ผูส้ อนนางสาวจันจิรา ธนนั ชยั 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจาก เซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ท่ีทำงาน สัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงาน สัมพันธ์กนั รวมท้งั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ตัวช้ีวดั ว 1.2 ม.1/11 อธิบายการสืบพันธแุ์ บบอาศัยเพศ และไมอ่ าศยั เพศของพืชดอก 3. สาระสำคัญ การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ เป็นการสืบพันธุ์ที่เกิดจากการผสมระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ (สเปิร์ม) และเซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศเมยี (เซลล์ไข่) เรยี กวา่ การปฎสิ นธิ โดยสว่ นใหญจ่ ะเกิดขึน้ ภายในดอกไม้ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) นักเรียนสามารถอธิบายการสบื พนั ธ์แุ บบอาศยั เพศของพชื ดอกได้ (K) (2) นกั เรียนสามารถเขียนสรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รียนรเู้ ก่ียวกับสืบพนั ธุ์แบบอาศยั เพศของพชื ดอกได้ (P) (3) นกั เรียนใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน และมีวนิ ัยในการเรียน (A) 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (1) ความสามารถในการสอ่ื สาร - การอธบิ าย การเขยี น การตอบคำถาม (2) ความสามารถในการคดิ - การสังเกต การสำรวจ การคิดวเิ คราะห์ การสรา้ งคำอธิบาย การอภปิ ราย การสื่อความหมาย การทำกจิ กรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื คน้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (3) ความสามารถในการแกไ้ ขปญั หา - สามารถแกป้ ญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ได้อย่างเหมาะสม 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - มวี ินยั - มุง่ มั่นในการทำงาน - ใฝ่เรียนรู้

7. สาระการเรยี นรู้ การสืบพันธุ์ เป็นกระบวนการที่สิ่งมีชีวิตใช้ในการดำรงเผ่าพันธ์ุไมใ่ ห้สญู หายไปจากโลก มี 2 ประเภท คอื การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและการสืบพนั ธแ์ุ บบไมอ่ าศัยเพศ การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ เป็นการสืบพันธุ์ที่เกิดจากการผสมระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ (สเปิร์ม) และเซลลส์ บื พันธุ์เพศเมีย (เซลล์ไข)่ เรยี กว่า การปฎิสนธิ โดยสว่ นใหญจ่ ะเกิดข้ึนภายในดอกไม้ โครงสร้างของ ดอกไม้ที่สำคญั คอื กลบี เลี้ยง, กลีบดอก, เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี สว่ นประกอบที่สำคัญของดอก มี 4 ส่วน คอื 1. กลีบดอก (petal) : มีสีเพื่อล่อแมลงใหม้ าช่วยถา่ ยละอองเรณู 2. กลีบเลี้ยง (sepal) : หมุ้ สว่ นต่างๆ ของดอกเพ่ือป้องกันอนั ตราย ขณะดอกยงั ตมู อยู่ 3. เกสรเพศผู้ (stamen) : ประกอบด้วยก้านชูอับละอองเรณู (filament) และอับละอองเรณู (anther) 4. เกสรเพศเมีย (pistil) : ประกอบด้วยยอดเกสรเพศเมีย (stigma) ก้านชูเกสรเพศเมีย (style) และรงั ไข่ (ovary) กระบวนการสบื พนั ธุ์ของพืชดอก มีกระบวนการที่เก่ียวข้อง คอื - การถ่ายเรณู อาจเกิดภายในดอกเดยี วกันหรือเกดิ การถา่ ยเรณูข้ามดอก โดยอาศัยลม แมลง น้ำ หรอื สตั ว์ตา่ งๆ - การงอกของละอองเรณู เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรเพศเมยี - การปฎสิ นธิ การท่ีสเปริ ม์ ผสมกบั เซลลไ์ ข่ ในออวลุ เปน็ ไซโกต แลว้ เจริญเตบิ โตเป็นเอ็มบริโอ

8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ (ใช้รปู แบบการสอนสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry cycle) (5Es) 8.1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) (5 นาที) (1) กระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนดูภาพส่วนประกอบของพืช และครูถาม คำถาม “ส่วนประกอบของพชื มอี ะไรบ้าง” (แนวคำตอบ สว่ นประกอบของพชื ไดแ้ ก่ ราก ลำตน้ ใบ ดอก และ ผล) (2) ครชู ีแ้ จงให้นกั เรียนว่า วนั นี้ครจู ะสอนเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบและการสืบพันธุ์ของพชื 8.2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) (80 นาที) (1) ครูอธิบายความรู้เรื่ององค์ประกอบและการสืบพันธุ์ของพืชให้นักเรียนฟัง โดยใช้สื่อการ สอน PowerPoint และใหศ้ ึกษาเนื้อหาความรู้เพิม่ เตมิ ในหนังสือเรียนหน้า 135-136 (2) นกั เรยี นรับใบงาน เรอ่ื งสว่ นประกอบและการสืบพันธ์ุของพชื จากครู และลงมือทำใบงาน 8.3 ขั้นอภิปรายและลงข้อสรปุ (Explain) (5 นาที) (1) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้ดังนี้ (การสืบพันธุ์ของพืชดอก ดังนี้ การ สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ เป็นการสืบพันธุ์ที่เกิดจากการผสมระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ (สเปิร์ม)และเซลล์ สืบพนั ธเ์ุ พศเมีย (เซลล์ไข่) เรียกว่า การปฎิสนธิ โดยสว่ นใหญ่จะเกดิ ขึ้นภายในดอกไม้) 8.4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที) (1) ครูเพิ่มเติมความรู้ให้นักเรียนโดยเปิดวีดีโอ เรื่องการปฏิสนธิของพืชดอก จาก https://www.youtube.com/watch?v=4WQqYhfOUzY&t=95s ใหน้ กั เรยี นฟงั 8.5 ข้ันประเมิน (Evaluation) (20 นาท)ี (1) นกั เรยี นและครรู ่วมกนั เฉลยใบงาน (2) ครตู ง้ั คำถามเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน (3) นกั เรยี นถามในส่ิงท่ีสงสัยและยังไมร่ ู้และครอู ธิบายเพ่ิมเติม 9. สื่อการเรยี นรู้ (1) สื่อการสอน PowerPoint (2) หนังสือวทิ ยาศาสตร์พืน้ ฐาน ม.1 เลม่ 1 (สสวท) (3) ใบงาน เร่อื งส่วนประกอบและการสืบพันธ์ุของพืช (4) วีดโี อ เรือ่ งการปฏิสนธิของพชื ดอก

10. การวัดผลและประเมินผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวัดผล เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมิน ผู้ประเมนิ ครูผู้สอน 1.ดา้ นความรู้ (K) ค ว า ม ถ ู ก ต ้ อ ง ข อ ง ใบงาน ผเู้ รยี นผา่ นเกณฑ์ ครผู ้สู อน ระดบั พอใช้ข้นึ ไป นักเรียนสามารถอธิบาย คำตอบในใบงาน ครูผสู้ อน ผู้เรยี นผา่ นเกณฑ์ การสืบพันธุ์แบบอาศัย ระดบั พอใชข้ นึ้ ไป เพศของพืชดอกได้ ผู้เรยี นผา่ นเกณฑ์ ระดับพอใช้ขน้ึ ไป 2.ด ้ า น ท ั ก ษ ะ / ดูทักษะการเขียนสรุป แบบประเมินทักษะ กระบวนการ (P) สิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การเขียนสรุปสิ่งที่ได้ นักเรียนสามารถเขียน สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ เรยี นรเู้ ก่ยี วกับสบื พันธุ์ สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ ของพชื ดอกในใบงาน แบบอาศัยเพศของพืช เกี่ยวกับสืบพันธุ์แบบ ดอกในใบงาน อาศัยเพศของพชื ดอกได้ 3.ด้านคุณลักษณะ(A) ประเมินความตั้งใจ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น นักเรียนใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ัน เรียน ตั้งใจ ในการ พ ฤ ต ิ ก ร ร ม บ ่ ง ชี้ ในการทำงาน และมีวินัย ทำงาน และความตรง คุณลักษณะอัน พึ ง ในการเรยี น ต่อเวลาในการส่งงาน ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑ์ประเมนิ ด้าน K รายการประเมนิ ดี (3) ระดับคุณภาพ ปรับปรงุ (1) พอใช้ (2) น ั กเ ร ี ย น ส า ม า ร ถ นักเรียนสามารถอธิบาย นักเรียนสามารถอธิบายการ นักเรียนสามารถอธิบาย อธิบายการสืบพันธ์ุ การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของ การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ แบบอาศัยเพศของพืช ข อ ง พ ื ช ด อ ก ไ ด้ อ ย ่ า ง พืชดอกได้ ถูกต้องเป็นส่วน ของพืชดอกได้เพียงส่วน ดอกได้ ถูกต้องและครบถ้วน(8- ใหญ(่ 5-7คะแนน) น้อย(ต่ำกวา่ 5คะแนน) 10คะแนน) *หมายเหตุ นักเรยี นต้องผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั 2 ขนึ้ ไป เกณฑ์การตดั สนิ ระดบั คุณภาพดา้ นคุณลกั ษณะ (K) 8-10 คะแนน อยูใ่ นระดบั 3 หมายถึง ดี 5-7 คะแนน อยใู่ นระดับ 2 หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 5 คะแนน อย่ใู นระดบั 1 หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑ์ประเมนิ ด้าน P รายการประเมิน ดี (3) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1) พอใช้ (2) นักเรียนสามารถเขียน นักเรียนสามารถเขียนสรุป นักเรียนเขียนสรุปสิ่งที่ได้ นักเรียนเขียนสรุปสิ่งที่ได้ สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ สิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ เรียนรู้เกี่ยวกับสืบพันธุ์แบบ เรียนรู้เกี่ยวกับสืบพันธ์ุ เกี่ยวกับสืบพันธุ์แบบ สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของ อาศัยเพศของพืชดอกได้ แบบอาศัยเพศของพืชดอก อาศัยเพศของพืชดอก พืชดอกได้ถูกต้องและ ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ( 5-7 ได้เพียงส่วนน้อย (ต่ำกว่า ได้ ครบถว้ น ( 8-10 คะแนน) คะแนน) 5 คะแนน) *หมายเหตุ นกั เรยี นตอ้ งผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับ 2 ขน้ึ ไป เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดับคุณภาพด้านคุณลกั ษณะ (P) 8-10 คะแนน อย่ใู นระดบั 3 หมายถงึ ดี 5-7 คะแนน อย่ใู นระดับ 2 หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 5 คะแนน อยู่ในระดับ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

เกณฑป์ ระเมินด้าน A รายการประเมิน ดี (3) ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรุง (1) พอใช้ (2) นักเรียนใฝ่เรียนรู้ มีความตั้งใจเรียน ตั้งใจใน มีความตั้งใจเรียน ตั้งใจใน ไม่มีความตั้งใจเรียน ไม่ มุ่งมั่นในการทำงาน การทำงาน และส่งงานตรง การทำงาน และส่งงานตรง ตั้งใจในการทำงาน และส่ง และมีวนิ ัยในการเรียน เวลาทุกครงั้ (4คะแนน) เวลาบางครั้ง (2-3 คะแนน) งานไม่ตรงเวลา(ต่ำกว่า2 คะแนน) *หมายเหตุ นักเรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับ 2 ข้นึ ไป เกณฑ์การตดั สนิ ระดับคณุ ภาพดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) 4 คะแนน อยู่ในระดับ 3 หมายถึง ดี 2-3 คะแนน อย่ใู นระดับ 2 หมายถงึ พอใช้ ต่ำกวา่ 2 คะแนน อยู่ในระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

วช-ร 06 แบบบนั ทึกหลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ……………… เรื่อง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรทู้ ี่ ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหนง่ …………………………………… เวลาที่ใช้ ……… ชวั่ โมง ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ไข ทีม่ กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เน้ือหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนร่วมของ ผเู้ รยี น ลงชอื่ …..........………….......................…….. ครผู จู้ ัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวจันจิรา ธนนั ชยั ) ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย

11. ผลการประเมิน นกั เรียนทง้ั หมด………………คน ดา้ น (K) นกั เรียนสามารถอธบิ ายการสบื พนั ธแ์ุ บบอาศัยเพศของพชื ดอกได้ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมคี ุณภาพอยู่ในระดับดี จำนวน……………….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ……………. ผ่านเกณฑก์ ารประเมินมคี ณุ ภาพอยใู่ นระดบั พอใช้ จำนวน……………….คน คดิ เปน็ ร้อยละ…………….. ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมิน จำนวน………...........คน คดิ เปน็ ร้อยละ……………. ด้าน (P) นักเรียนสามารถเขยี นสรุปสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรเู้ ก่ยี วกบั สบื พันธ์ุแบบอาศัยเพศของพืชดอกได้ ผ่านเกณฑก์ ารประเมินมคี ุณภาพอยู่ในระดบั ดี จำนวน……………….คน คิดเปน็ ร้อยละ……………. ผ่านเกณฑก์ ารประเมินมคี ณุ ภาพอยู่ในระดับพอใช้ จำนวน……………….คน คิดเปน็ ร้อยละ…………….. ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมิน จำนวน………...........คน คิดเปน็ ร้อยละ……………. ดา้ น (A) นกั เรียนใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการทำงาน และมวี ินยั ในการเรยี น ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ มคี ุณภาพอยู่ในระดบั ดี จำนวน……………….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…………… ผ่านเกณฑก์ ารประเมินมคี ณุ ภาพอยู่ในระดับพอใช้ จำนวน……………….คน คดิ เป็นร้อยละ…………….. ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จำนวน………...........คน คดิ เปน็ ร้อยละ……………. รายชือ่ นักเรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน สาเหตุ-ปญั หา แนวทางแก้ไข ลำดบั ชอื่ -สกุล ลงชื่อ...............................................(ผสู้ อน) (..............................................)

ใบงาน เรอ่ื งสว่ นประกอบและการสบื พันธ์ุของพืช คำสง่ั : ให้นักเรียนทำกจิ กรรม เรอื่ งส่วนประกอบของพชื ดงั ต่อไปน้ี 1. ให้นกั เรียนวาดรูปพชื จากการศึกษานอกหอ้ งเรียน พรอ้ มช้ีส่วนประกอบของพืชใหส้ มบรู ณ์ 2. จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1) ส่วนประกอบของพชื สว่ นใดเกีย่ วข้องกบั การสืบพันธุข์ องพืช ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2) สว่ นประกอบใด ของพืช เป็นแหลง่ สรา้ งอาหาร ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

คำส่ัง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ีให้ถูกตอ้ ง 1. การสืบพันธุ์ของพชื แบ่งออกเปน็ .........................ประเภท คอื .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. เซลลส์ บื พนั ธเุ์ พศเมีย คือ.................................................................. เซลล์สืบพนั ธเุ์ พศผู้ คือ...................................................................... 3. ส่วนประกอบของดอกไม้ มี .........................สว่ น ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ดอกครบสว่ น คือ ...................................................................................................... ................................................. ....................... ตัวอย่าง..................................................................................................................... ............................................ 5. ดอกไม่ครบส่วน คอื ............................................................................................................................. ............................................... ตัวอยา่ ง................................................................................................................................................................ 6. ดอกสมบรณู ์เพศ คือ .............................................................................................................................................................................. ตวั อย่าง................................................................................................................................................................. 7. ดอกไม่สมบรณู ์เพศ คือ ............................................................................................................................. ................................................. ตัวอยา่ ง..................................................................................................................................................... ........... 8. การปฏสิ นธิ (Fertilization) คอื .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 9. การปฏสิ นธซิ ้อน คอื ............................................................................................................................. ................................................. ................................................... ....................................................................................... .................................... 10. การสืบพันธแ์ บบอาศยั เพศ คือ ...................................................................................................... ........................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................... ........................................ ........................................................................................... ....................................................... ............................

คำส่งั : ใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรม เรอ่ื ง ส่วนประกอบของพชื ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ใหน้ ักเรียนวาดรปู พืช จากการศกึ ษานอกหอ้ งเรียน พรอ้ มช้ีส่วนประกอบของพืชให้สมบูรณ์ 2. จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1) ส่วนประกอบของพืชสว่ นใด เกี่ยวข้องกบั การสืบพนั ธุข์ องพืช ตอบ เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย 2) ส่วนประกอบใด ของพชื เปน็ แหล่งสรา้ งอาหาร ตอบ เอน็ โดสเปิรม์

คำส่ัง : ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกตอ้ ง 1. การสืบพันธข์ุ องพชื แบ่งออกเปน็ ...........2..............ประเภท คอื การสบื พนั ธ์แบบอาศยั เพศ และการสืบพนั ธ์แบบไม่อาศยั เพศ 2. เซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศเมีย คือ เกสรเพศเมีย เซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศผู้ คอื เกสรเพศผู้ 3. สว่ นประกอบของดอกไม้ มี .............4............สว่ น ไดแ้ ก่ กลบี เล้ยี ง (speal) สว่ นน้ีจะอย่นู อกสดุ โดยเปลีย่ นแปลงเจรญิ มาจากใบ กลบี ดอกไม้ (Petal) ส่วนนอ้ี ยถู่ ัดจากกลีบเลีย้ งเข้าไป มีขนาดใหญก่ วา่ ซง่ึ มีสสี ันสวยงาม มีกลิน่ หอม ทำหน้าท่ลี ่อแมลงเพ่ือชว่ ยผสมเกสร เกสรตัวผู้ (Stamen) ส่วนนอี้ ยู่ถัดจากกลีบดอกเข้าไป ทำหน้าทีเ่ ป็นเซลล์สืบพนั ธเุ์ พศผู้ เกสรตวั เมยี (Pistill) ส่วนนอ้ี ยู่ชั้นในสุด ทำหนา้ ที่เปน็ เซลลส์ บื พนั ธุเ์ พศเมีย 4. ดอกครบสว่ น คือ ดอกไมท้ ่ีมอี งคป์ ระกอบครบทั้ง 4 ส่วน คือกลบี เล้ยี ง กลบี ดอก เกสรตวั ผู้ เกสรตวั เมยี อยู่ภายในดอก เดียวกนั ตัวอยา่ ง ดอกบานบรุ ี ชบา กหุ ลาบ ต้อยตงิ่ ดอกบัวหลวง อญั ชัญ ผักบงุ้ พริก มะเขือ 5. ดอกไมค่ รบส่วน คอื ดอกไม้ที่สว่ นประกอบของดอกไม่ครบท้ัง 4 ส่วน ในดอกเดียวกัน ตัวอย่าง ดอกมะละกอ ดอกตำลึง ฟักทอง แตงกวา บวบ เฟื่องฟา้ กล้วยไม้ บานเย็น หน้าวัว 6. ดอกสมบรณู ์เพศ คอื ดอกไม้ท่ีมีท้งั เกสรตวั ผแู้ ละเกสรตวั เมยี อยู่ในดอกเดียวกนั ตวั อย่าง ดอกชบา ดอกกุหลาบ ดอกบัว ดอกบานบุรี ดอกมะเขือ ดอกพริก ดอกถวั่ 7. ดอกไม่สมบรณู ์เพศ คือ คอื ดอกไม้ที่เกสรตวั ผูแ้ ละเกสรตัวเมียอยคู่ นละดอก ตัวอยา่ ง ดอกตำลึง ฟกั ทอง มะละกอ ข้าวโพด มะยม 8. การปฏสิ นธิ (Fertilization) คอื กระบวนการท่เี ซลล์สบื พันธุ์เพศผู้ (ละอองเรณ)ู ผสมกบั เซลล์สืบพันธ์เุ พศ เมยี (ไข่อ่อน) เม่ือเกิดการถ่ายละอองเรณู 9. การปฏิสนธิซอ้ น คือ เปน็ รปู แบบการปฏิสนธใิ นพชื ซงึ่ มีการรวมตวั ของนิวเคลยี ส 2 ครัง้ การปฏิสนธิเร่ิม จากการทีล่ ะอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย (stigma) จากนัน้ เกดิ การงอกของละอองเรณู (pollination) เซลลข์ องละอองเรณยู ดื ตัวลงไปตามก้านชูยอดเกสรตวั เมีย (style) ลงไปจนถึงเกสรตวั เมีย แลว้ เข้าไปในรงั ไข่ (ovary) และเอม็ บรโิ อแซค ตามลำดบั นิวเคลยี สของละอองเรณูอนั หน่ึงกบั เซลลไ์ ขไ่ ด้เป็นไซโกต ซ่ึงจะเจริญไป เป็นพชื ต้นใหม่ อีกนิวเคลยี สของละอองเรณจู ะรวมกบั โพลารน์ วิ เคลียสทีอ่ ย่ตู รงกลางของเอ็มบริโอ แซค ได้ เซลล์ทมี่ โี ครโมโซมเปน็ 3n ซ่ึงจะเจริญไปเปน็ เอ็นโดสเปริ ม์ ในเมลด็ 10. การสบื พันธ์แบบอาศยั เพศ คอื การสืบพันธุ์ทีต่ ้องมีการรวมกันของเซลลส์ ืบพนั ธ์เุ พศผู้ (อสุจ)ิ และเซลล์ สืบพนั ธ์ุเพศเมยี (ไข)่ แลว้ เกดิ ออกมาเป็นไซโกตและเจริญมาเป็นเอ็มบรโิ อในเวลาต่อมา

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 หนว่ ยพน้ื ฐานของสงิ่ มีชวี ติ เวลา 2 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรู้เร่ือง องค์ประกอบและการสืบพันธุข์ องพืช 2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ผสู้ อนนางสาวจันจิรา ธนันชยั 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจาก เซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหนา้ ท่ีของระบบต่างๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ท่ีทำงาน สัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงาน สัมพนั ธ์กนั รวมทงั้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ตัวช้ีวัด ว 1.2 ม.1/11 อธบิ ายการสบื พนั ธุ์แบบอาศัยเพศ และไมอ่ าศัยเพศของพืชดอก 3. สาระสำคญั การสืบพนั ธุแ์ บบไมอ่ าศยั เพศ เป็นการสืบพันธ์ุของพืชทไ่ี ม่ใช้อวัยวะสืบพนั ธุ์ของเพศเมียและเพศผู้และ ไม่จำเปน็ ต้องมกี ารปฏิสนธิ แต่เปน็ การขยายพันธุ์พืชโดยอาศัยส่วนต่างๆ ของพืชมาช่วยในการขยายพันธุ์ เช่น ราก กง่ิ ใบ ลำต้น 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ (1) นักเรียนอธิบายการสบื พันธุแ์ บบไมอ่ าศยั เพศของพชื ได้ (K) (2) นักเรียนสามารถเขียนเปรียบเทียบการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพส ของพชื (P) (3) นกั เรียนใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และมีวนิ ัยในการเรียน (A) 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (1) ความสามารถในการสื่อสาร - การอธิบาย การเขียน การตอบคำถาม (2) ความสามารถในการคิด - การสงั เกต การสำรวจ การคดิ วเิ คราะห์ การสร้างคำอธิบาย การอภิปราย การสือ่ ความหมาย การทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื คน้ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (3) ความสามารถในการแกไ้ ขปญั หา - สามารถแก้ปญั หาท่เี กิดข้นึ ได้อยา่ งเหมาะสม

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มวี ินยั - มงุ่ ม่ันในการทำงาน - ใฝ่เรียนรู้ 7. สาระการเรยี นรู้ การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เป็นการสืบพันธุ์ของพืชที่ไม่ใช้อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศเมียและเพศผู้ และไม่จำเป็นต้องมกี ารปฎิสนธิ แต่เป็นการขยายพันธุ์พืชโดยอาศยั ส่วนต่างๆ ของพืชมาช่วยในการขยายพันธ์ุ เช่น ราก กง่ิ ใบ ลำต้น ดังน้ี 1) ใชส้ ว่ นของลำต้นทำหน้าที่ขยายพนั ธ์ุ พืชบางชนิดสามารถเกดิ ต้นใหม่จากลำตน้ ได้ ดังนี้ 1. ลำต้นใต้ดินที่ทอดนอนขนานใต้ผิวดิน เรียก เหง้า มีข้อปล้องเห็นชัด ตามข้อมีใบเปลี่ยนเป็นสี น้ำตาล ที่เรียกว่า ใบเกล็ด หุ้มตาเอาไว้ภายใน และมีรากงอกลงดิน เช่น เหง้าขิง ข่า สะระแหน่ หญ้าแห้วหมู พุทธรักษา ขม้ิน 2. ลำต้นที่ทอดนอนไปเหนือผิวดิน หรือ ไหล เมื่อทอดไปแตะกับผิวดินหรือน้ำ ก็งอกรากแลต้นใหม่ ขนึ้ มา เช่น สตรอวเ์ บอร์รี หญ้า บัว บวั บก ผกั ตบชวา ผักกระเฉด ผกั บุ้ง 3. ลำต้นใต้ดินที่มีอาหารสะสมไว้ในลำต้น เรียก หัว มีใบหนาสะสมอาหาร เช่น หัวหอม หรืออาจมี ลกั ษณะกลม ยาว หรอื แบน และมตี ามาก เผอื ก แหว้ จีน ซอ่ นกล่ินฝร่งั มันฝรั่ง เป็นต้น

4. ลำต้นเจริญเป็นกอ แล้วมีการแตกออกมาเป็นต้นใหมใ่ กล้ๆกบั ต้นเดิม เรียกว่า หน่อ ซึ่งมีทั้งหน่อที่ อย่ใู ตด้ ิน เช่น กลว้ ย และหน่อท่ีอยู่บนดิน เช่น สับปะรด 2) ใช้ส่วนของรากทำหน้าท่ีขยายพันธุร์ ากพืชหลายชนิดมตี าที่สามารถงอกเป็นพชื ต้นใหม่ได้ เชน่ มันเทศ สาเก ซึ่งถา้ นำส่วนของตาทงี่ อกเปน็ พืชตน้ เลก็ ๆ ไปปลูก จะสามารถเจรญิ เป็นต้นได้ 3) ส่วนของใบทำหน้าที่ขยายพันธุ์ใบบางชนิดมีขอบใบทีสามารถงอกเป็นพืชต้นใหม่ได้ เช่น ตน้ ตายใบเป็น โคมญี่ปุ่น 4) การขยายพันธุ์โดยมนษุ ย์ เช่น การตอน การทาบกิ่ง การปักชำ การต่อกิ่ง เป็นต้น การขยายพันธุ์ แบบนเ้ี หมาะสำหรับพชื ที่ใชเ้ มล็ดปลูกยาก จงึ ทำให้ขยายพนั ธ์ุได้รวดเร็ว และหลกี เลี่ยงการกลายพันธุ์ ทำให้ได้ พนั ธ์ทุ ยี่ ังมลี ักษณะดอี ยู่ แต่มขี ้อเสียคอื พืชต้นใหม่จะไม่มีรากแกว้ ทำให้ลำต้นไม่ แข็งแรงเท่าท่คี วร

8. กระบวนการจดั การเรียนรู้ (ใชร้ ปู แบบการสอนสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry cycle) (5Es) 8.1 ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (15 นาที) (1) กระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรยี นเตรยี มกระดาษหรือสมุดบันทึกข้ึนมาคนละ 1 แผ่น พร้อมปากกา จากนั้น ครูให้นักเรียนเขียนชื่อดอกไม้ที่นักเรียนรู้จักมา 20 ดอก โดยครูจับเวลา 1 นาที จากนั้นร่วมกันอภิปรายในประเด็นคำถามว่า “ดอกไม้ที่นักเรียนเขียนชื่อมานี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง” (แนว คำตอบ : ใช้ตกแตง่ เพ่อื ความสวยงาม ใช้เปน็ อาหารใช้ในการสืบพนั ธแ์ บบอาศยั เพศ ขายเปน็ รายได้ เป็นตน้ ) (2) ครูให้นักเรียนดูภาพตัวอย่างหรือของจริง(ถ้ามี) ของดอกพืชและผลไม้แต่ละชนิด เช่น มะม่วง ดอกกุหลาบ ดอกทิวลิบ ดอกชบา ดอกดาวเรือง มะละกอ ฟักทอง ดอกมะเขือ ดอกมะลิ เป็นต้น จากนั้นครูถามนักเรียนว่า ดอกไม้และผลไม้เหล่านี้มีโครงสร้างที่ดอกเหมือนหรือไม่ และแต่ละชนิดทำไมมี หลากสีสนั และรสชาติต่างกนั เพราะเหตใุ ด (แนวคำตอบ : ไม่เหมอื นกนั เพราะเปน็ พชื คนละชนิดกัน ดอกต่าง ชนิดกัน และบางชนิดเกิดจากการตัดต่อพันธุกรรม และการกลายพันธุ์ ) โดยครูยังไมเ่ ฉลยคำตอบให้ทราบ แต่ คำถามนี้เอาไวเ้ ช่ือมกบั การกลายพันธ์แุ ละปรับปรุงพันธข์ุ องพชื ตอนขยายความรู้ (3) ครูให้นักเรียนรับกระดาษคนละ 1 ใบ จากนั้นครูตั้งคำถามว่า หากนักเรียนต้องการเพ่ิม จำนวนขยายของพันธุข์ องพืชนักเรียนจะขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีใดได้บ้าง (แนวคำตอบ : เพาะเมล็ด การตอนก่ิง ปักชำ ทาบกิ่ง เป็นต้น) นักเรียนแตล่ ะคนเขียนคำตอบตามความคดิ ของตนเอง จากนั้นครูบอกให้นักเรียนขยำ กระดาษเป็นก้อนกลม แล้วปากระดาษไปให้เพื่อนคนใดก็ได้ จากนนั้ ให้นักเรยี นหยบิ กระดาษท่ีไม่ใช่ของตนเอง แล้วเปดิ อ่านคำตอบของเพ่อื น (4) ครูสุ่มนกั เรยี น 3-4 คน ให้อา่ นคำตอบในกระดาษท่ีตนเองถือให้เพ่ือนฟัง และครูแจ้งวัตถุ แระสงค์ใหน้ ักเรียนทราบเพ่อื เปน็ แนวทางในการทำกจิ กรรมการเรียนรูข้ องนักเรยี น 8.2 ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (70 นาที) (1) ครูอธิบายความรู้เรื่องการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศให้นักเรียนฟัง โดยใช้สื่อการสอน PowerPoint (2) นกั เรยี นรับใบงาน เรอ่ื งการสบื พนั ธแ์ บบไม่อาศัยเพศจากครู และลงมอื ทำใบงาน 8.3 ขนั้ อภปิ รายและลงขอ้ สรุป (Explain) (10 นาท)ี (1) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้ดังนี้ (การสืบพันธุ์ของพืชดอก ดังน้ี การ สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ เป็นการสืบพันธุ์ที่เกิดจากการผสมระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ (สเปิร์ม) และเซลล์ สบื พนั ธเ์ุ พศเมยี (เซลลไ์ ข)่ เรยี กว่า การปฎิสนธิ โดยสว่ นใหญจ่ ะเกิดขึ้นภายในดอกไม้) 8.4 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที) (1) ครเู พิม่ เตมิ ความรู้ให้นกั เรียนดงั น้ี - นักเรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อย่างขอ้ ดี – ขอ้ เสียของการขยายพันธ์ุพืชแต่ละวิธี - ครูถามเชื่อมโยงไปยังคำถามทีไ่ ดถ้ ามไว้ในตอนต้นว่า “ดอกไม้และผลไม้เหลา่ นีม้ ีโครงสร้างทีเ่ หมือน หรอื ไม่ และแต่ละชนิดทำไมมีหลากสสี ัน และรสชาติต่างกัน เพราะเหตุใด” จากน้ันครชู ้ใี ห้นักเรียนเห็นผลเสีย ของการเพาะเมล็ดวา่ สามารถเกิดการกลายพันธ์ไุ ด้ - นักเรียนดูภาพหรือของจริง (ถ้ามี) ของดอกพืชและผลไม้ แต่ละชนิด ที่ได้จากการตัดต่อพันธุกรรม (GMOs) จากแผนภาพพชื GMO

8.5 ข้นั ประเมนิ (Evaluation) (15 นาท)ี (1) นกั เรยี นและครูรว่ มกันเฉลยใบงาน โดยใหน้ กั เรยี นตอบคำถามทีละขอ้ โดยเรียงตามเลขท่ี ใครตอบผิดจะหกั คะแนน (2) ครูตงั้ คำถามเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน (3) นกั เรยี นถามในสิง่ ทสี่ งสัยและยงั ไมร่ ู้และครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ 9. สอ่ื การเรยี นรู้ (1) สือ่ การสอน PowerPoint (2) หนังสือวทิ ยาศาสตร์พนื้ ฐาน ม.1 เลม่ 1 (สสวท) (3) ใบงาน เรื่องการสืบพนั ธ์แบบไมอ่ าศยั เพศ (4) วีดีโอ เรอ่ื งการปฏิสนธขิ องพืชดอก

10. การวดั ผลและประเมินผล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน ผู้ประเมนิ ครผู ูส้ อน 1.ดา้ นความรู้ (K) ค ว า ม ถ ู ก ต ้ อ ง ข อ ง ใบงาน ผู้เรยี นผา่ นเกณฑ์ ครูผสู้ อน ระดับพอใช้ขน้ึ ไป นักเรียนอธิบายการ คำตอบในใบงาน ครผู ู้สอน ผเู้ รยี นผ่านเกณฑ์ สบื พนั ธแุ์ บบไม่อาศัยเพศ ระดบั พอใช้ขนึ้ ไป ของพืชได้ ผู้เรียนผา่ นเกณฑ์ ระดบั พอใช้ข้นึ ไป 2.ด ้ า น ท ั ก ษ ะ / ดู ท ั ก ษ ะ ก า ร เ ข ี ย น แบบประเมินทักษะ กระบวนการ (P) เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ ก า ร การเขียนเปรียบเทียบ น ั ก เ ร ี ย น เ ข ี ย น สืบพันธุ์แบบไม่อาศัย การสืบพันธุ์แบบไม่ เปรียบเทียบการสืบพันธุ์ เพศและการสืบพันธ์ุ อาศัยเพศและการ แบบไม่อาศัยเพศและ แบบอาศัยเพสของพืช สืบพนั ธุแ์ บบอาศัยเพส การสืบพันธุ์แบบอาศัย ในใบงาน ของพชื ในใบงาน เพสของพืชได้ 3.ด้านคุณลกั ษณะ(A) ประเมินความตั้งใจ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น นักเรียนใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ัน เรียน ตั้งใจ ในการ พ ฤ ต ิ ก ร ร ม บ ่ ง ช้ี ในการทำงาน และมีวินัย ทำงาน และความตรง คุณลักษณะอัน พึ ง ในการเรยี น ตอ่ เวลาในการส่งงาน ประสงค์

เกณฑ์การประเมิน เกณฑป์ ระเมินด้าน K รายการประเมิน ดี (3) ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) พอใช้ (2) นักเรียนอธิบายการ นกั เรียนอธิบายการสืบพันธุ์ นักเรียนอธิบายการสืบพันธ์ุ น ั ก เ ร ี ย น อ ธ ิ บ า ย ก า ร สืบพันธุ์แบบไม่อาศัย แบบไม่อาศัยเพศของพืชได้ แบบไม่อาศัยเพศของพืชได้ สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เพศของพืชได้ อย่างถูกต้องและครบถ้วน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่(5- ของพืชได้ เพียงส่วนน้อย (8-10คะแนน) 7คะแนน) (ตำ่ กวา่ 5คะแนน) *หมายเหตุ นกั เรยี นต้องผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับ 2 ขึน้ ไป เกณฑก์ ารตดั สินระดบั คณุ ภาพดา้ นคณุ ลักษณะ (K) 8-10 คะแนน อยูใ่ นระดับ 3 หมายถึง ดี 5-7 คะแนน อยใู่ นระดบั 2 หมายถึง พอใช้ ตำ่ กว่า 5 คะแนน อยใู่ นระดบั 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑ์ประเมินดา้ น P รายการประเมิน ดี (3) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1) พอใช้ (2) น ั ก เ ร ี ย น เ ข ี ย น นักเรียนเขียนเปรียบเทียบ นักเรียนเขียนเปรียบเทียบ นักเรียนเขียนเปรียบเทียบ เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ ก า ร การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัย การสบื พนั ธ์ุแบบไม่อาศัยเพศ การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัย สืบพันธุ์แบบไม่อาศัย เพศและการสืบพันธุ์แบบ และการสืบพันธุ์แบบอาศัย เพศและการสืบพันธุ์แบบ เพศและการสืบพันธุ์ อาศัยเพสของพืชได้ถูกต้อง เพสของพืชได้ถูกต้องเป็น อาศัยเพสของพืชได้เพียง แบบอาศัยเพสของพืช แ ล ะ ค ร บ ถ ้ ว น ( 8 - 1 0 ส่วนใหญ่ ( 5-7 คะแนน) ส ่ ว น น ้ อ ย ( ต ่ ำ ก ว ่ า 5 ได้ คะแนน) คะแนน) *หมายเหตุ นักเรียนตอ้ งผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับ 2 ขึน้ ไป เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดบั คณุ ภาพด้านคุณลกั ษณะ (P) 8-10 คะแนน อยใู่ นระดับ 3 หมายถงึ ดี 5-7 คะแนน อยูใ่ นระดับ 2 หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 5 คะแนน อย่ใู นระดับ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง

เกณฑ์ประเมนิ ด้าน A รายการประเมิน ดี (3) ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ (1) พอใช้ (2) นักเรียนใฝ่เรียนรู้ มีความตั้งใจเรียน ตั้งใจใน มีความตั้งใจเรียน ตั้งใจใน ไม่มีความตั้งใจเรียน ไม่ มุ่งมั่นในการทำงาน การทำงาน และส่งงานตรง การทำงาน และส่งงานตรง ตั้งใจในการทำงาน และส่ง และมีวนิ ัยในการเรยี น เวลาทกุ ครงั้ (4คะแนน) เวลาบางครั้ง (2-3 คะแนน) งานไม่ตรงเวลา(ต่ำกว่า2 คะแนน) *หมายเหตุ นักเรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับ 2 ขึน้ ไป เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดับคณุ ภาพด้านคุณลักษณะ (A) 4 คะแนน อยใู่ นระดับ 3 หมายถงึ ดี 2-3 คะแนน อยใู่ นระดับ 2 หมายถึง พอใช้ ต่ำกวา่ 2 คะแนน อยู่ในระดบั 1 หมายถึง ปรับปรงุ

วช-ร 06 แบบบนั ทึกหลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ……………… เรื่อง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรทู้ ี่ ………………… เรือ่ ง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหนง่ …………………………………… เวลาที่ใช้ ……… ชวั่ โมง ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ไข ทีม่ กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เน้ือหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนร่วมของ ผเู้ รยี น ลงชอื่ …..........………….......................…….. ครผู จู้ ัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวจันจิรา ธนนั ชยั ) ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย

11. ผลการประเมนิ นกั เรยี นทงั้ หมด………………คน ด้าน (K) นกั เรยี นอธบิ ายการสบื พันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพชื ได้ ผ่านเกณฑก์ ารประเมินมคี ณุ ภาพอยู่ในระดับดี จำนวน……………….คน คิดเป็นร้อยละ……………. ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ มคี ุณภาพอยใู่ นระดับพอใช้ จำนวน……………….คน คดิ เปน็ ร้อยละ…………….. ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน จำนวน………...........คน คิดเปน็ ร้อยละ……………. ด้าน (P) นักเรียนเขียนเปรียบเทยี บการสบื พันธ์แุ บบไมอ่ าศัยเพศและการสบื พันธ์ุแบบอาศยั เพสของพืชได้ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ มคี ณุ ภาพอยใู่ นระดับดี จำนวน……………….คน คิดเป็นรอ้ ยละ……………. ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ มคี ุณภาพอยูใ่ นระดับพอใช้ จำนวน……………….คน คดิ เป็นร้อยละ…………….. ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จำนวน………...........คน คดิ เปน็ ร้อยละ……………. ดา้ น (A) นักเรียนใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มั่นในการทำงาน และมีวินยั ในการเรยี น ผ่านเกณฑก์ ารประเมินมคี ณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดี จำนวน……………….คน คิดเปน็ ร้อยละ…………… ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ มคี ุณภาพอยใู่ นระดับพอใช้ จำนวน……………….คน คดิ เปน็ ร้อยละ…………….. ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จำนวน………...........คน คิดเป็นร้อยละ……………. รายชอื่ นกั เรยี นท่ีไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ สาเหตุ-ปัญหา แนวทางแก้ไข ลำดับ ชอื่ -สกุล ลงชอื่ ...............................................(ผสู้ อน) (..............................................)

ใบงาน เรือ่ งการสืบพันธแ์ บบไม่อาศัยเพศ คำชแี้ จง : นกั เรยี นสังเกตภาพ และลองวเิ คราะห์วา่ พชื ดอกแตล่ ะชนิดสามารถสืบพนั ธุแ์ บบไม่อาศยั เพศโดย ใช้ส่วนใดของพชื ไพล ผักตบชวา เผอื ก …………………………. …………………………………. ………………………… หอม บัวบก มันฝร่ัง …………………………… ………………………………. ………………………….. มนั เทศ เศรษฐเี งนิ ลา้ น ........................................................ ................................................

คำชี้แจง : จงตอบคำถามต่อไปน้ี 1. การสืบพันธ์แุ บบไมอ่ าศยั เพศ คือ ..................................................................................................................................................................... ......... .......................................................................................................................... .................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................... ................... ...................................................................................................... ........................................................................ 2. จงบอกข้อดขี องการสืบพันธุ์แบบไม่อาศยั เพศมา อยา่ งน้อย 3 ขอ้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................... ........................................... 3. จงบอกข้อเสยี ของการสบื พันธุ์แบบไม่อาศยั เพศมา อยา่ งนอ้ ย 3 ขอ้ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 4. จงยกตัวอย่างวธิ ีการสืบพนั ธ์แุ บบไม่อาศยั เพศมาอยา่ งนอ้ ย 3 วิธี ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 5. การสืบพันธ์ุแบบอาศยั เพศและแบบไม่อาศัยเพศของพชื ดอกแตกต่างกนั อยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................

คำชีแ้ จง : นกั เรยี นสังเกตภาพ และลองวิเคราะหว์ ่า พืชดอกแตล่ ะชนิดสามารถสืบพนั ธุแ์ บบไม่อาศยั เพศโดยใช้ สว่ นใดของพืช ไพล ผักตบชวา เผอื ก ลำต้นทำหน้าทข่ี ยายพันธ์ุ ลำต้นทำหนา้ ท่ีขยายพนั ธุ์ ลำต้นทำหนา้ ทขี่ ยายพนั ธ์ุ หอม บวั บก มันฝร่งั ลำต้นทำหนา้ ทข่ี ยายพันธ์ุ ลำต้นทำหนา้ ทข่ี ยายพนั ธ์ุ ลำต้นทำหน้าท่ีขยายพันธุ์ มันเทศ เศรษฐีเงนิ ลา้ น ใบทำหนา้ ท่ีขยายพนั ธ์ุ รากทำหนา้ ที่ขยายพันธุ์

คำชีแ้ จง : จงตอบคำถามต่อไปน้ี 1. การสืบพันธุแ์ บบไม่อาศัยเพศ คือ การสบื พนั ธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เปน็ การสืบพนั ธขุ์ องพืชทีไ่ มใ่ ช้อวัยวะสืบพนั ธุ์ของเพศเมยี และเพศผู้และ ไม่จำเปน็ ต้องมีการปฏสิ นธิ แต่เปน็ การขยายพนั ธุ์พืชโดยอาศัยสว่ นต่างๆ ของพืชมาชว่ ยในการขยายพันธุ์ เช่น ราก กง่ิ ใบ ลำต้น 2. จงบอกข้อดขี องการสบื พันธุแ์ บบไม่อาศัยเพศมา อย่างน้อย 3 ขอ้ 1. เพมิ่ จำนวนไดร้ วดเรว็ 2. สบื พนั ธ์ุไดด้ ้วยตวั เอง 3. ไมม่ ีการกลายพนั ธุ์ (No variation) 3. จงบอกข้อเสยี ของการสืบพันธแ์ุ บบไม่อาศัยเพศมา อย่างนอ้ ย 3 ขอ้ 1. ต้นไม่แข็งแรงเพราะไม่มรี ากแก้ว (ยกเวน้ การต่อกง่ิ ตดิ ตา และทาบก่ิง) 2. วิธกี ารเก็บรักษาและย้ายพันธท์ุ ำยากกวา่ 3.ส้นิ เปลอื งค่าใช้จ่ายในการปลกู มากกว่า 4. จงยกตัวอยา่ งวิธกี ารสบื พันธแุ์ บบไม่อาศยั เพศมาอย่างนอ้ ย 3 วิธี 1. การทาบก่ิง 2. การตอน 3. การปักชำ 5. การสืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศและแบบไม่อาศัยเพศของพืชดอกแตกตา่ งกนั อยา่ งไร การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอกจะเกิดขึ้นที่ดอก มีการถ่ายเรณูซึ่งนำไปสู่การปฏิสนธิ เกิดเป็น ผลและเมล็ดสามารถงอกเป็นต้นใหม่ได้ สว่ นการสืบพนั ธุแ์ บบไม่อาศยั เพศของพืชดอกไม่ไดเ้ กิดขึ้นท่ีดอกแต่จะ เกดิ ตน้ ใหม่จากการพฒั นาเน้อื เยอื่ สว่ นอื่นๆของพืชต้นเดิม เช่น ราก ใบ เปน็ ต้น