นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล นายชูสิน โคนันทน์ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยการสอบถามจาก โต๊ะครู โต๊ะอิหม่ามให้การสนับสนุน และด้วยนายชูสิน โคนันทน์ เป็นผู้กว้างขวางประกอบกับการเป็นนักธุรกิจ สัมปทานป่าไม้ในพื้นที่ทุรกันดาร และมีรถลากที่เข้าไปบุกเบิก ในพื้นที่ชนบท และอำเภอควนกาหลง อำเภอควนโดน อำเภอ ละงู และอำเภอทุ่งหว้า ทำให้เป็นที่รู้จักของประชาชนในจังหวัด สตูล และนายชูสิน โคนันทน์ ยังมีการดำรงตำแหน่งนายก- เทศมนตรีเมืองสตลู จงึ มีสว่ นทำให้ไดร้ บั การเลือกต้งั และในยุคน้ี ยังมีนักการเมืองที่ผ่านการต่อสู้การประท้วงอย่างโชกโชน คือ นายธานินทร์ ใจสมุทร และนายจิรายุส เนาวเกตุ เป็นต้น ดังนั้น นักการเมืองในยุคนี้ถือว่าเป็นยุคของผู้บุกเบิก และการต่อสู้ทางการเมืองที่ค่อนข้างมีอุดมการณ์ ความตั้งใจ ที่จะรับใช้ประชาชนค่อนข้างสูง มีความหนักแน่นในเชิง อุดมการณ์ ความปรารถนาที่จะรับใช้และสร้างคุณงามความดี ต่อประชาชนจังหวัดสตูล และเพื่อให้จังหวัดสตูลซึ่งเป็นจังหวัด ขนาดเล็ก ซึ่งไม่ค่อยได้รับความสนใจในการพัฒนาเท่าที่ควร จึงมีการต่อสู้เพื่อผลักดันนโยบายให้เกิดการพัฒนาการ เปลี่ยนแปลงจงหวัดสตูลในการเป็นเมืองเปิดในการท่องเที่ยว ความพยายามให้มีสนามบินและมหาวิทยาลัยช่วยให้ลูกหลาน คนในจังหวัดสตูลได้มีการรองรับต่อการหนุนเสริมการพัฒนา โดยนักการเมืองถิ่นได้สลับสับเปลี่ยน จึงมีการแข่งขันสร้าง โอกาสและได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาจังหวัดได้อย่าง ประสบความสำเร็จ 186
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล 4.3 การเมืองและนักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ยุคสาม (พ.ศ. 2538 – พ.ศ. 2550) การเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลเป็นยุค การเมืองแห่งทุนนิยมเป็นยุคที่มีความแตกต่างจากสองยุคแรก ยุคที่สามนักการเมืองต้องอาศัยปัจจัยต่างๆ มากมายเพื่อที่จะ ได้รับการเลือกตั้ง จากการศึกษาพบว่า ในยุคที่สามเป็นยุค ที่มีสีสันในการหากลยุทธ์ ยุทธวิธีในการต่อสู้โดยมีปัจจัย ทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง การแจกข้าวของ การให้บุคคลสนิท หรือหัวคะแนนมีส่วนในการช่วยวางแผนการหาเสียงอย่าง จริงจัง และในยุคที่สามนี้มีการแข่งขันที่นับว่ามีความน่าสนใจ ว่ายังมีบุคคลเดิมถึงแม้ว่าเปลี่ยนแปลงสังกัดพรรคการเมืองแล้ว ยังได้รับเลือกตั้ง รวมถึงการที่บุคคลที่ได้รับการเลือกตั้งยังอยู่ สังกัดพรรคการเมืองเดิม โดยเฉพาะจังหวัดสตูลซึ่งเป็นจังหวัด ทางภาคใต้ซึ่งมีพรรคประชาธิปัตย์ที่สามารถครอบครองพื้นที่ไว้ ได้อย่างเหนียวแน่น จึงทำให้เกิด ความน่าสนใจในการหา คำตอบว่า ตัวบุคคล หรือพรรคการเมืองที่มีบทบาทสำคัญต่อ การเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดสตูลคือใคร มีวิธีการอย่างไรในการ ทำให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจ เชื่อมั่น เชื่อถือ ในการ ทำงานว่าสามารถเข้ามาบริหารท้องถิ่นสตูลซึ่งเป็นจังหวัดที่มี ขนาดเล็ก ในยุคที่สามนี้มีนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลจำนวน 3 คน ประกอบด้วย 4.3.1 นายสนั่น สุธากุล 4.3.2 นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี 4.3.3 นายฮอซาลี ม่าเหร็ม 187
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 4.3.1 นายสนั่น สุธากุล นายสนั่น สุธากุล เกิดวันที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 เป็นบุตรนายมนัส และนางหรำหล๊ะ สุธากุล สมรสกับ นางสุจินธรา สุธากุล มีบุตรด้วยกัน 2 คน สำเร็จการศึกษา Shizuoka University Diploma (School Management) พ.ศ. 2535 การศึกษามหาบัณฑิต (การบริหารการศึกษา) มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา พ.ศ. 2529 และการศึกษาบัณฑิต (ภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทรวิโรฒ สงขลา พ.ศ. 2525 หลังจบการศึกษานายสนั่น สุธากุล เข้ารับราชการทำงาน ด้านการศึกษาเป็นหลักโดยดำรงตำแหน่งต่างๆ ทั้งงานราชการ ประจำและงานราชการพิเศษ จากนั้นจึงเข้าสู่สนามการเมือง ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล ทำหน้าที่จนวาระสุดท้ายของชีวิต สำหรับตำแหน่งงานราชการ ประกอบด้วย ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการการประถมศึกษา จังหวัดสตูล สังกัด สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) พ.ศ. 2538 หัวหน้า การประถมศึกษา อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล สังกัดสำนักงาน การประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 - 2538 หัวหน้าการประถมศึกษา อำเภอธารโต จังหวัดยะลา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ตั้งแต่ พ.ศ.2531 - 2535 ผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษา อำเภอ ควนโดน จงั หวดั สตลู สงั กดั สำนกั งานการประถมศกึ ษาแหง่ ชาติ (สปช.) พ.ศ. 2531 ผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษา อำเภอ ทุ่งหว้า จังหวัดสตูล สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ 188
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล (สปช.) ตั้งแต่ พ.ศ. 2525 - 2531 ครูโรงเรียนบ้านป่าฝาง อำเภอ ละงู จังหวัดสตูล ตั้งแต่ พ.ศ. 2520 - 2525 และครูโรงเรียนบ้าน ช่องไทร อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ตั้งแต่ พ.ศ. 2519 - 2520 4.3.1.1 เครอื ข่ายและความสมั พันธ์ทางการเมือง เครือข่ายและความสัมพันธ์ทางการเมืองของ นายสนั่น สุธากุลมาจากการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชน จึงได้รับความช่วยเหลือจากทุกคนด้วยดี ทั้งภรรยา คือ นางสุจินธรา สุธากุล ซึ่งเป็นทั้งคู่ชีวิตเพื่อนคู่คิด ให้กำลังใจและ ร่วมให้ความช่วยเหลือในด้านการทำงานกับนายสนั่นมาโดย ตลอด 4.3.1.2 บทบาททางการเมือง นายสนั่น สุธากุล ถือได้ว่าเป็นนักการเมือง โดยอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับงานทางการเมืองมาโดย ตลอด อันเนื่องมาจากอาชีพเดิมของนายสนั่น สุธากุล โดยเฉพาะจุดเริ่มต้นทางการเมืองในการแสดงออกซึ่งความ สนใจทางการเมืองอย่างชัดเจน คือ การชอบเดินทางไปฟังการ ปราศรัยของนายชวน หลีภัย จึงทำให้ปลูกฟังทางความคิด ให้ความสนใจ และความสำคัญกับท้องถิ่นสตูล เส้นทาง การเมืองของนายสนั่น สุธากุล นั้นได้รับการไว้วางใจจาก ประชาชนชาวจังหวัดสตูลมาโดยตลอดระยะเวลาการทำงาน ทางการเมืองจึงทำให้ได้รับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรติดต่อกันถึง 3 สมัย คือ 189
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 นายสนั่น สุธากุล ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล สมัยที่ 1 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 นายสนั่น สุธากุล ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล สมัยที่ 2 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 นายสนั่น สุธากุล ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล สมัยที่ 3 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างการทำงานทางการเมืองนายสนั่น สุธากุล เป็นคนขยัน มีความคิดในการพัฒนาท้องถิ่นอย่าง ต่อเนื่อง โดยผลงานที่เกิดขึ้นระหว่างการดำรงตำแหน่งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรที่สำคัญนั้น คือ การวางผังเมืองร่วมกับ กรมโยธาธิการทุกอำเภอ และการทำงานเป็นไปตามแผนที่ได้ วางไว้ งานนิติบัญญัติแยกออกจากพื้นที่เอาเรื่องราวร้องเรียน นำเสนอเป็นญัตติ และสิ่งที่นายสนั่น สุธากุล ทำจะมีการ ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับรู้รับทราบโดยตลอด เช่น ราคา ปาล์ม พืชผลการเกษตร การศึกษา 190
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล ภาพท่ี 16 อาจารย์ประยูร โขขดั บคุ คลผมู้ บี ทบาทตอ่ งานทางการเมอื งของนายสนน่ั สธุ ากลุ ภาพที่ 17 อาจารยป์ ระยรู โขขดั บอกเลา่ การเดินทาง ดา้ นการเมอื งของนายสนั่น สุธากลุ 4.3.1.3 กลวิธกี ารหาเสยี ง การทำงานทางการเมืองของนายสนั่น สุธากุล นั้นเป็นบุคคลที่ทำงานด้วยความรอบคอบ มีการวางแผนในการ 191
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ทำงาน โดยเฉพาะบุคคลสำคัญโดดเด่นในการหาเสียงของ นายสนั่น สุธากุล คือ อาจารย์ประยูร โขขัด เนื่องจากอาจารย์ ประยูร โขขัด เป็นทั้งเพื่อน ผู้รับงาน และเป็นบุคคลที่สำคัญ ช่วยทำงานทางการเมืองในการวางแผนการลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยนายสนั่น สุธากุล เป็นบุคคลซึ่งมีบุคลิกภาพการทำงานทาง ด้านการเมืองอยู่ในกฎ ระเบียบการปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกัน อย่างเคร่งครัด อาจารย์ประยูร โขขัด (สัมภาษณ์, 13 สิงหาคม 2554) กล่าวถึงนายสนั่น สุธากุลว่า “นายสนั่น สุธากุล มีการ วางแผนการทำงานทกุ วนั ทำงานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง มกี ารเคลอ่ื นไหว ทุกสัปดาห์ มีการเคลื่อนไหวในอำเภอต่างๆ โดยจุดเด่นในการ ทำงานที่มูลนิธิเป็นเครื่องมือช่วยเหลือที่พักของประชาชน การให้ความช่วยเหลือประชาชนต้องมีการใช้เงินมาก นายสนั่น สุธากุล ทำงานไม่มีเงิน บทบาทของมูลนิธิสืบทอดมาถึง ปัจจุบัน” นอกจากนี้ วิธีการหาเสียงของนายสนั่น สุธากุล อาศัยสื่อสิ่งพิมพ์ที่แกรมมี่จัดให้ รวมถึงวิธีการหาเสียงโดยการ อาศัยหัวคะแนน นักการเมืองต้องมีการเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ อย่างสม่ำเสมอ เช่น นายสนั่น สุธากุล มีการเข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น พิธีดาวะ เพื่อให้เข้ามาละหมาด ยิ่งมีคนเข้ามาละหมาดมากเท่าไหร่ก็จะได้คนดีมากเท่านั้น อาศัยหลักการทำงานกับกลุ่มคนนับถือศาสนามุสลิม “ต้อง ต่อด้วยผู้นำทางศาสนา” คนในพื้นที่จังหวัดสตูล “ต้องการ นักการเมืองที่เป็นคนดี และมีความคิดว่าผู้นำเป็นผู้สอนคน โดยมีการอาศัยเครือข่ายทางศาสนาอิสลามเป็นฐานเสียงใน การเลือกตั้ง” ซึ่งนายสนั่น สุธากุล เป็นบุคคลซึ่งยึดมั่นในหลัก 192
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล ปฏิบัติทางศาสนาอิสลาม มีการดำรงตนอยู่ในหลักปฏิบัติ รวม ถึงเป็นบุคคลที่มีการวางตนให้เข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี (อาจารย์ประยรู โขขัด, สัมภาษณ์, 13 สิงหาคม 2554) ภาพที่ 18 ส่ือจำลองการหาเสียงของผู้สมคั ร สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 4.3.2 นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี เกิดวันที่ 10 พฤษภาคม 2501 ปัจจุบันอายุ 54 ปี สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แพทย์ศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประกอบ อาชีพธุรกิจส่วนตัว ประสบการณ์ทางการเมือง คือ สมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล พรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2548 และ กรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม 193
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล ภาพที่ 19 นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังก ี 4.3.2.1 เครือข่ายและความสัมพนั ธท์ างการเมอื ง สำหรับนายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี มีเครือข่าย และความสัมพันธ์ทางการเมืองที่สำคัญ คือ บุคคลใกล้ชิด ซึ่งเป็นพี่เขย คือ นายไพศาล หลีเส็น โดยนายไพศาล หลีเส็น เป็นอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง ดังนั้น จุดเด่นของของ นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี เป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักของ ประชาชนในท้องถิ่นจังหวัดสตูล โดยเฉพาะมีบุคคลใกล้ชิด คือ นายไพศาล หลีเส็น เป็นผู้มีความรู้เรื่องกฎหมายการเลือกตั้ง เป็นอย่างดี จึงทำให้งานทางการเมืองของนายแพทย์อสิ มะหะ มัดยังกี เป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ ผ่านมานักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลเป็นบุคคลที่มาจาก พรรคประชาธิปัตย์ด้วยความยึดมั่นทางความคิดที่มีต่อพรรค ประชาธิปัตย์อันเนื่องมาจากการทำงานทางการเมืองของ นายชวน หลีกภัย 194
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล 4.3.2.2 บทบาททางการเมอื ง บทบาททางการเมืองของนายแพทย์อสิ มะหะ มัดยังกี ในตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่มีความ โดดเด่นมากนัก ด้วยการศึกษา อาชีพ และบุคลิกภาพซึ่งเป็น นายแพทย์มาก่อน ดังนั้น ภาพลักษณ์ทางการเมืองจึงไม่ โดดเด่นเท่ากับการประกอบอาชีพทางด้านการแพทย์ และด้วย เป็นบุคคลที่มีการประกอบอาชีพแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความสุขุมเยือกเย็น เป็นบุคคลที่มีเหตุผลทางความคิด อาศัย หลักการในการทำงาน โดยเฉพาะการทำงานทางการเมืองทำได้ ด้วยความสบายใจมีคนช่วยคิด ช่วยทำ ช่วยประสานประโยชน์ ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดที่สามารถไว้วางใจได้อย่างดี 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสตูล สมัยที่ 1 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสตูล สมัยที่ 2 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 195
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล ภาพท่ี 20 ภาพเลา่ การทำงานด้วยแนวคิดที่ว่า “ทำงานดว้ ยความบรสิ ุทธ์ิยตุ ิธรรม” 4.3.2.3 กลวิธกี ารหาเสียง ด้วยนายไพศาล หลีเส็น เป็นบุคคลใกล้ชิดที่สุด ที่มีหน้าที่ในการวางแผนการทำงานทางการเมืองให้กับ นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี การนัดหมายต่างๆ ซึ่งเป็นอีก หน้าที่หนึ่งในฐานะการเป็นเลขาส่วนตัวของนายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี รวมถึงสามารถเรียกได้ว่า นายไพศาล หลีเส็น เป็นหัวคะแนนรวมถึงการมีทีมงานทางการเมืองโดยยึดวิธีการ ในการหาเสียงระบบฐานเสียงตามวิธีการของพรรคประชา- ธิปัตย์ และที่สำคัญในการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อ เผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนรับทราบ 196
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล ภาพที่ 21 นายไพศาล หลีเส็น ญาตสิ นิทกับเส้นทาง การเมอื งของนายแพทยอ์ สิ มะหะมัดยังก ี 4.3.3 นายฮอซาลี ม่าเหร็ม นายฮอซาลี ม่าเหร็ม การศึกษาระดับประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลละงู ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 โรงเรียน อัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ และมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 5 เรียน ควบคู่ศาสนา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ สอบแข่งขันเทคนิคการแพทย์ ทำกิจกรรมการพัฒนา นักศึกษา ชมรมอาสา ค่ายมุสลิม สอนเด็กในชนบท มีส่วนร่วม ในการประท้วง นักศึกษาไม่พอใจอธิการบดี (ยุวประชาธิปัตย์ เป็นสมาชิกค่ายช่วยฝ่ายต่าง ๆ พ.ศ. 2527 - 2528) เมื่อจบ การศึกษาระดับปริญญาตรีมาทำงานบริษัทขายเครื่องมือแพทย์ ต่อมานายฮอซาลี ม่าเหร็ม มาทำงานโรงพยาบาลละงู (พ.ศ. 2531 - 2532) การศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ โดยมีมุมมองทางการเมือง ว่า “นักการเมืองมีหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชน” 197
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล 4.3.3.1 เครือขา่ ยและความสมั พนั ธท์ างการเมือง โดยมีเครือข่ายและความสัมพันธ์มาจาก พรรคการเมือง พรรคมีความสำคัญอย่างมากในการให้ความ ช่วยเหลือในบางกลุ่มที่ผู้สมัครเข้าไม่ถึงหรือไม่รู้จักเป็นการ ส่วนตัว การสร้างความสัมพันธ์ที่มีต่อกันโดยผ่านพรรค การเมืองเป็นสะพานสามารถให้ความช่วยเหลือได้เพิ่มมากขึ้น ถือว่าเป็นเสียงที่ได้มาจากการทำงานนอกเหนือจากที่ผู้สมัคร ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงานเพื่อฐานเสียงที่มั่นใจต่อ การกำชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนั้นๆ กลุ่มแต่มีผู้สมัครบางคน คนที่ไม่เอาพรรค ไม่ให้ความสำคัญกับพรรคมากนัก อันเป็น ความมั่นใจ เชื่อถือ ไว้วางใจต่อผู้ที่มีความผูกพันส่วนตัวซึ่งรู้จัก และเคยมีส่วนร่วมในการทำงาน หรือเป็นความพึงพอใจส่วน บุคคล หรือเป็นบุคคลที่เคยให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาก่อน เมื่อมีโอกาสจึงได้ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถือได้ว่าเป็น ผลประโยชน์ต่างตอบแทนกันเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม และ สามารถสร้างความคุ้มค่า 4.3.3.2 บทบาททางการเมอื ง นายฮอซาลี ม่าเหร็ม มีบทบาทและทำงาน ทางการเมืองมาโดยตลอดตั้งแต่ยังไม่เริ่มเข้ามาสมัครสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร ด้วยเหตุผลที่ว่างานทางการเมืองได้ซึมซับ และปลูกฝังอยู่ในสายเลือดด้วยบิดามาจากสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) ทำให้นายฮอซาลี ม่าเหร็ม สนใจงานทางการเมือง และ เห็นความสำคัญเรื่องความเดือดร้อน ถนนหนทาง การไม่ได้รับ ความเป็นธรรมของประชาชน รวมถึงพื้นฐานทางการศึกษาของ 198
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล นายฮอซาลี ม่าเหร็ม จบสาขารัฐประศาสนศาสตร์ซึ่งเป็นผู้ที่มี ความรู้ความสามารถ และให้ความสนใจงานทางการเมือง ดังนั้น จะเห็นได้ว่านายฮอซาลี ม่าเหร็ม มีบทบาททางการเมือง ในตำแหน่งต่างๆ มากมาย คือ ตำแหน่งกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัด คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กรรมาธิการงบประมาณ ตำแหน่งในสภา (เก่ียวกับงบประมาณ) ทำการอภิปรายพระราชบัญญัติงบประมาณ ด้านศาสนา ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology : ICT) ประธานอนุกรรมการศาสนา อิสลามสภาผู้แทนราษฎร จากความตั้งใจในการทำงานและ การสะสมประสบการณ์ทางการเมืองที่มีความคิดความสามารถ เข้ามาแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดสตูล จึงตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง และได้รับการเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 สมัย คือ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นายฮอซาลี ม่าเหร็ม ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 199
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ภาพท่ี 22 นายฮอซาลี ม่าเหรม็ กบั การใหส้ ัมภาษณง์ านการเมือง ภาพที่ 23 แนวคดิ สำคญั ของนายฮอซารี คอื “การสรา้ งคน สถาบันการศึกษา การพฒั นาแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว” 4.3.3.3 กลวิธกี ารหาเสียง อันเนื่องมาจากนายฮอซาลี ม่าเหร็ม มีพื้นฐาน การศึกษาเกี่ยวข้องกับทางด้านการเมือง และได้สะสม ประสบการณ์การทำงานทางการเมืองจนในที่สุดพรรคประชา- ธิปัตย์ได้ส่งให้ลงสมัครรับเลือกตั้งจนกระทั่งได้รับการเลือกตั้ง 200
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะเมื่อถึงสมัยเลือกตั้ง จะต้องหากลวิธีการหาเสียงเพื่อให้ประชาชนไว้วางใจและ ลงคะแนนเสียงให้กลยุทธ์การต่อสู้ทางการเมืองของพรรค ประชาธิปัตย์ จัดโครงสร้างพรรคการเมืองได้อย่างชัดเจน ระบบ สาขาพรรค มีตัวแทนของตนเองฝ่ายต่างๆ ในพื้นที่ ในหมู่บ้าน จะมอบหมายให้มีคนดูแล ประธานอำเภอ เป็นผู้ประสานงาน ประธานอำเภอสาขาพรรค การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ โดยคนที่ทำงานให้กับพรรคด้วยมีใจอาสา มีความผูกพันกับ พรรคมีการจัดสัมมนา การศึกษาดูงาน เพื่อเป็นการให้กำลังใจ มีการสื่อสารเพื่อระดมความคิดเห็น มีกลไกพื้นที่ ต้องมีการ ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่เพื่อคนมาฟัง ช่วงเย็นที่มัสยิด ต้อง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันศุกร์สำคัญมากเท่าที่ผ่านมา นายฮอซาลี ม่าเหร็ม ได้รับเกียรติพูดด้านการให้ความช่วยเหลือ ไม่ได้ หาเสียงเพราะถือว่าเป็นการฉวยโอกาสทางการเมือง การลง พื้นที่อย่างน้อย 1 ตำบล 1 วัน ความคิดเห็นที่ได้รับจาก ประชาชนที่มีต่อนายธานินทร์ ใจสมุทร ซึ่งอาจไม่เหมือนกัน ทั้งหมด ด้วยคู่ต่อสู้รุนแรงมาก การหาเสียงมีความแตกต่างกัน มากขึ้นอยู่กับพื้นที่และสถานการณ์ ซึ่งวิธีการหาเสียงมีความ แตกต่างจากอดีต ช่วยลดค่าใช้จ่าย มีกฎหมาย การเลือกตั้ง นอกจากนี้นายฮอซาลี ม่าเหร็ม ยังได้กล่าวว่า วิธีการหาเสียงของคู่แข่งทางการเมืองนั้นใช้วิธีการหาเสียง โดยการดาวะ (เผยแพร่ศาสนากันที่มัสยิด) และที่สำคัญกลยุทธ์ การทำงานการเมืองของพรรคการเมืองแต่ละพรรคนั้นมีความ แตกต่างที่สำคัญ (นายฮอซาลี ม่าเหร็ม, สัมภาษณ์, 11 พฤษภาคม 2554) คือ 201
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 4.3.2.3.1 พรรคประชาธิปัตย์มีการเชิญผู้บริหาร แถวหน้ามาให้กำลังใจ เช่น นายชวน หลีกภัย, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี มาช่วยปราศรัย หาเสียง ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สามารถดึงดูดความสนใจของ ประชาชนได้เป็นอย่างดี เนื่องมาจากบุคคลเหล่านี้เป็นที่รัก ชื่นชอบของประชาชน โดยลักษณะของคนใต้มีคำกล่าวที่ว่า “รักใคร รักจริง รักไม่เปลี่ยนแปลง” 4.3.2.3.2 พรรคการเมืองอื่นๆ ไม่มีการวาง โครงสร้าง ต้องง้อหัวคะแนนในพื้นที่ การติดต่อด้วยการต่อรอง ด้วย “เงิน” เพื่อให้การสนับสนุน สรุปภาพรวมการเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล ยุคสาม (พ.ศ. 2538 – พ.ศ. 2550) การเมืองจังหวัดสตูลยุคที่สามนี้เป็นยุคที่มีการแข่งขัน ทางการเมืองที่คาบเกี่ยวกับยุคบุกเบิกและยุคต่อสู้ และเป็นการ สืบเนื่องของการต่อสู้ของนักการเมืองถิ่น เช่น นายธานินทร์ ใจสมุทร ซึ่งเป็นนักต่อสู้เคลื่อนไหวของสหภาพแรงงาน รัฐวิสาหกิจ ไปรษณีย์ โดยเป็นนักต่อสู้ทางการเมือง ร่วมประท้วงในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ทำให้มีความสนใจ และฝักใฝ่เข้าสู่เส้นทางการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย ์ ด้วยความมีคุณลักษณะเป็นนักต่อสู้ใจถึงพึ่งได้ และทำงานให้ กับประชาชนจังหวัดสตูลได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน แต่ใน สมัยต่อมาก็มีคู่แข่งขัน มีพรรคการเมืองใหม่ที่ให้การสนับสนุน คู่แข่งเพื่อโค่นล้มพรรคเจ้าถิ่นอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และ 202
ภูมิหลังทางการเมือง และนักการเมืองจังหวัดสตูล เป็นผลให้การเมืองถิ่นในจังหวัดสตูลเริ่มดุเดือดและมีการใช้ทุน ปัจจัยต่าง ๆ เข้ามาเพื่อหวังยึดพื้นที่จังหวัดสตูลในยุคสมัยของ นายสนั่น สุธากุล และนายธานินทร์ ใจสมุทร ผู้สมัครของพรรค ประชาธิปัตย์ที่ต้องรักษาฐานที่มั่นทางการเมือง และผลพวง ของการต่อสู้การแข่งขันทางการเมืองทำให้พรรคคู่แข่งได้ระดม ทุน และกลไกข้าราชการ หัวคะแนน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ฝักใฝ่การเมืองบางส่วนใช้อำนาจกดดัน และใช้ทุนในการ ซื้อตัวให้มาอยู่ด้วย ถ้าไม่ยินยอมก็จะถูกโยกย้ายซึ่งเป็นการ ต่อสู้ที่ดุเดือดทั้งบนดินและใต้ดิน หลังจากนั้นนายธานินทร์ ใจสมุทร ถูกใบแดง โดยนายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการเลือกตั้ง จังหวัดสตูล (สัมภาษณ์, 28 สิงหาคม 2554) กล่าวถึงกรณี การให้ใบแดงนายธานินทร์ ใจสมุทร ว่าถกู ใบแดงเนื่องจากกรณี เอาคลิปวิดีโอของกรณีเหตุการณ์ที่ตากใบมาโจมตีคู่แข่งทำให้ ถูกฟ้องร้อง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหน้าที่ ตรวจสอบผู้สมัครและการทุจริตการเลือกตั้งในครั้งนั้นถือว่ามี ความรุนแรง มีการใช้ทุนและอำนาจทั้งสองฝ่ายที่มีอยู่จึงทำให้ นายธานินทร์ ใจสมุทร งัดกลยุทธ์เอาซีดีมาเผยแพร่ และโจมตี รัฐบาลต่อการกระทำที่มีต่อผู้ชุมนุมประท้วงที่ตากใบ ทำให้ นายธานินทร์ ใจสมุทร ต้องเว้นวรรคทางการเมือง และทำให้ เกิดนักการเมืองหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ คือ นายแพทย์ อสิ มะหะมัดยังกี และนายฮอซาลี ม่าเหร็ม โดยต้องมีการต่อสู้ ทางการเมืองกับกลุ่มทุนท้องถิ่นและทุนระดับชาติ เพราะพื้นที่ จังหวัดสตูลเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเกาะแก่ง ถ้ำ ผา ที่ม ี ชื่อเสียงระดับประเทศ และยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่จังหวัด 203
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ภาคใต้ คือ จังหวัดสตูล มีโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก นิคม อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ ในภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดสตูล 204
บ5ทท ่ี บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ บทสรุป จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็ก และมีจำนวน ประชากรน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นๆ จึงมีการเมือง และนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดสตูลที่ไม่โดดเด่นในเรื่อง เหตุการณ์ที่ชวนให้เกิดความตื่นตระหนกน่าตกใจ รวมถึง นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลก็มีไม่มากนักทำให้สนามการต่อสู้ ทางการเมืองไม่มีความรุนแรงนับได้ว่าเป็นการเมืองที่มี อัตลักษณ์ท้องถิ่นจังหวัดสตูลเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ การเมืองและนักการเมืองจังหวัดสตูลอย่างเป็นรูปธรรม แต่มี ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างจากจังหวัดอื่นในช่วงหลัง ที่มีการเบียดแทรกของนักการเมืองที่มิใช่มาจากพรรคเก่าแก่ แทรกตัว จึงอาจจำแนกบทสรุปออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 5.1 สรุปการเมืองจังหวัดสตูล จ ั ง ห ว ั ด ส ตู ล เ ป ็ น พ ื ้ น ท ี ่ ท ี ่ ม ี ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ท า ง วัฒนธรรมและศาสนา โดยเฉพาะศาสนาอิสลามที่มีประชาชน ผู้นับถือกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีความสัมพันธ์ทางความ เชื่อวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายสะท้อนความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดไป มาหาสู่การรับรู้ ความเข้าใจที่มีต่อกัน รู้ถึงความต้องการ เพื่อการแก้ไขปัญหาจึงเป็นหลักเกณฑ์อย่างหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อ การกำหนดผู้เข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และนำไปสู่ การลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น การเมืองถิ่นจังหวัดสตูลเป็น การเมืองที่ต้องการผู้มาเป็นนักการเมืองถิ่นสตูลซึ่งมีความขยัน มีอุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อการพัฒนาจังหวัด ประสบการณ์ การทำงาน ผลงานที่ปรากฏสามารถช่วยแก้ไขปัญหาคุณภาพ ชีวิตที่ดีของประชาชน และที่สำคัญคือความเป็นบุคคลที่ได้รับ การยอมรับ มีความซื่อสัตย์ เป็นบุคคลที่สามารถให้ความไว้เนื้อ เชื่อใจได้ นอกจากนี้ นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลเป็นนักการเมือง ซึ่งอาศัยความสัมพันธ์ที่มาจากกลุ่มญาติ พี่น้อง เพื่อนให้การ สนับสนุน และที่โดดเด่นอย่างชัดเจนมีความเป็นอัตลักษณ์ ทางการเมืองแสดงความเป็นตัวตนของท้องถิ่นภาคใต้ คือ ความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งครองใจคนภาคใต้มาอย่าง เหนียวแน่น โดยเฉพาะที่ผ่านมาจากการศึกษาพบว่า พรรค ประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตาม การเมืองถิ่นและนักการเมืองถิ่นสตูลก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงใน ส่วนของตัวนักการเมืองถิ่นสตูล อันอาจเนื่องมาจากการที่ 206
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ นกั การเมอื งไมส่ ามารถตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนได้ รวมถึงการทำงานที่สำคัญ คือ การลงพื้นที่ทำงานทางการเมือง ตามความคาดหวังของประชาชนในพื้นที่ ประชาชนมีความ ต้องการพบนักการเมืองแบบใกล้ชิด สามารถพูดคุย บอกเล่า ปัญหาที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็มีผลต่อตัว นักการเมือง ซึ่งพื้นฐานครอบครัว การประกอบอาชีพส่งผล ให้เห็นความเป็นตัวตนแสดงอัตลักษณ์ลักษณะที่เป็นตัว นักการเมืองอย่างชัดเจน ในที่สุดไม่ว่าการเมืองถิ่นและนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตลู มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในส่วนของตัวนักการเมือง สอบผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม แต่พรรคการเมืองที่สอบผ่าน และ ครองใจประชาชนจังหวัดสตูลและให้ความรัก ความศรัทธาไม่มี การเปลี่ยนแปลงตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในที่นี้ อาจไม่มีความหมายถึงการให้ความรัก ความศรัทธา ความไว้ เนื้อเชื่อใจต่อตัวนักการเมืองซึ่งมีให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เท่านั้น 5.2 สรุปประเด็นการศึกษา จากการศึกษาการเมืองและนักการเมืองถิ่นทั้งจาก เอกสาร หนังสือ ตำรา งานวิจัย การสัมภาษณ์นักการเมืองถิ่น จังหวัดสตูล และบุคคลใกล้ชิดหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง สามารถ สรุปประเด็นการศึกษาได้ดังต่อไปนี้ 207
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล 5.2.1 นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลที่เคยได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยมีผู้เป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดสตูลจำนวน 11 คน เมื่อศึกษาจำแนกตาม ภูมิหลังของนักการเมือง สามารถจัดเป็นกลุ่มได้ดังนี้ 5.2.1.1 กลมุ่ นักการเมอื งท้องถ่นิ จากการศึกษาทำให้พบว่า สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดสตูลในกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ผ่านงานทางการเมือง มีประสบการณ์ทางการเมือง มีความเข้าใจทางการเมืองโดยมี ผลงานการพฒั นางานทางการเมอื งในองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัด คือ นายวิทูร หลังจิ 5.2.1.2 กลุม่ นกั ธุรกิจ จากการศึกษาทำให้พบว่า กลุ่มนักธุรกิจเป็น กลุ่มท่ีมีบทบาทในจงั หวดั สตลู ซ่ึงเป็นบุคคลทมี่ ีความกว้างขวาง รวมถึงเครือข่ายทางธุรกิจมาก เมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรมีส่วนช่วยให้ธุรกิจในจังหวัดสตูลเกิดการเคลื่อนไหว เช่น นายวิทูร หลังจิ ซึ่งมีการประกอบอาชีพอู่ต่อเรือ และนายชูสิน โคนันทน์ ประกอบอาชีพค้าไม้ 5.2.1.3 กลุม่ ครู อาจารย์ ขา้ ราชการ จากการศึกษาทำให้พบว่า กลุ่มครู อาจารย์ ข้าราชการเป็นกลุ่มบุคคลที่ค่อนข้างมีบทบาททางการเมือง อันเนื่องมาจากเป็นกลุ่มบุคคลผู้มีความรู้ คือ พระยาสมันตรัฐ- บุรินทร์ (บุรินทร์ สมันตรัฐ), นายสงวน ณ นคร, นายเจ๊ะอับดุล- 208
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ ลาห์ หลังปูเต๊ะ, นายสมศักดิ์ เส็นดาโอ๊ะ, นายจิรายุส เนาวเกตุ, นายสนั่น สุทธากุล, นายธานินทร์ ใจสมุทร และนายฮอซารี ม่าเหร็ม โดยบุคคลเหล่านี้มีพื้นฐานการศึกษาที่ดี จึงได้รับ การศึกษาเรียนรู้และเป็นการปลูกฝังและซึมซับการให้ความ ช่วยเหลือ มีจิตใจที่ดีงามด้วยการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล ประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 5.2.1.4 กลุ่มนายแพทย ์ จากการศึกษาทำให้พบว่า นักการเมืองถิ่นสตูล ที่ประกอบอาชีพนายแพทย์มี 1 คนเท่านั้น คือ นายแพทย์ อสิ มะหะมัดยังกี โดยนายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี ได้รับการ เลือกตั้งมาแล้ว 2 สมัย อันเนื่องมาจากนายแพทย์อสิ มะหะ มัดยังกี ได้รับการยอมรับในด้านหน้าที่การงาน ประกอบอาชีพ ที่มั่นคง ได้รับการยอมรับและเชื่อถือว่าเป็นบุคคลที่ให้ความ เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาของท้องถิ่นได้ ประกอบกับฐานะทาง ด้านเศรษฐกิจที่มั่นคงสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ได้ และที่สำคัญ คือ การที่นายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในยุคหลังพบว่า บุคคลจะเป็นใคร ก็ตามถือว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ส่งลงชิงชัยแล้วย่อมได้รับการ ตอบรับ และการเลือกให้มาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ 5.2.2 เครือข่ายและความสัมพันธ์ของนักการเมืองในจังหวัด สตูล จากการศึกษาทำให้พบว่า นักการเมืองถิ่นสตูลที่มี เครือข่ายความสัมพันธ์กับครอบครัว เครือญาติ ที่ค่อนข้าง 209
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล เห็นชัดเจน ญาติพี่น้องมีส่วนช่วยในการหาเสียง รวมถึงเพื่อน สนิท คือ นายวิทูร หลังจิ และนายธานินทร์ ใจสมุทร ที่อาศัย เครือข่ายความสัมพันธ์กับเครือญาติอย่างชัดเจน เป็นตระกูล ใหญ่มีญาติพี่น้องให้การช่วยเหลืออย่างมาก ญาติให้การ ชว่ ยเหลอื ทง้ั แรงกายและการลงทนุ ทรพั ย์ โดยเฉพาะนกั การเมอื ง รุ่นหลังอย่างเช่น นายธานินทร์ มีนักธุรกิจให้การช่วยเหลือ คือ นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ (โกเกียรติ) และอดีตนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัด คือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ (โกโต้ง) ซึ่งมี อิทธิพลทางใจในการให้การยอมรับ เป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยผ่านการดำรงตำแหน่งการบริหารระดับจังหวัดมาแล้ว และ เป็นผู้กว้างขวางสามารถอ่านเกมการเมืองในแต่ละยุคได้อย่าง ทะลุ ปรโุ ปรง่ คาดการณอ์ นาคตทางการเมอื งของนกั การเมอื งได้ จากข้อมูลความคิดเห็น ความต้องการของประชาชนในจังหวัด สตลู 5.2.3 บทบาทและความสัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์และ กลุ่มท่ีไม่เป็นทางการ กลุ่มผลประโยชน์ หมายถึง เฉพาะกลุ่มผลประโยชน์ทาง สังคม วัฒนธรรมและศาสนา กลุ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง โดยกลุ่มเหล่านี้จะเป็นฐาน เสียงทางการเมืองในการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรอย่างมาก จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดขนาดเล็ก แต่มี ผลประโยชน์อยู่มากมาย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและของ หนีภาษี จึงมีกลุ่มที่มีอิทธิพลและผลประโยชน์ต่างตอบแทน นกั การเมอื งระดบั ชาตใิ หก้ ารสนบั สนนุ อยเู่ บอ้ื งหลงั ดงั รายละเอยี ด ต่อไปนี้ 210
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ 5.2.3.1 กลุ่มผลประโยชน์ทางสังคม วัฒนธรรมและ ศาสนา กลุ่มผลประโยชน์ทางสังคม วัฒนธรรมและ ศาสนาในจังหวัดสตูลมีความโดดเด่นอย่างมาก อันเนื่องมาจาก จังหวัดสตูลมีประชากรกว่าร้อยละ 80 นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้น นักการเมืองในจังหวัดสตูลจึงเข้าร่วมพิธีกรรมต่างๆ ทางศาสนาอยู่เป็นประจำ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีศพ พิธีสุนัต พิธีถือศีลอด สำหรับผู้นับถือพุทธศาสนาก็อาศัยพิธีกรรมทาง ศาสนาพุทธ เช่น งานศพ งานบวช รวมถึงการที่นักการเมือง อาศัยผู้นำศาสนา โต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม เจ้าอาวาสวัด กลุ่ม ผู้หญิง หรือกลุ่มสตรี หรือกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มอาสาสมัคร สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นักการเมืองทุกคนได้ใช้ ประโยชน์ในการเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาไปพร้อมกับ การประพฤติปฏิบัติตามหลักศาสนามุสลิมอย่างเคร่งครัด 5.2.3.2 กลมุ่ ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สำหรับจังหวัดสตูลมีกลุ่มผลประโยชน์ทาง เศรษฐกิจเป็นกลุ่มที่ไม่เป็นทางการ คือ บริษัทเอกชน ซึ่ง กลุ่มผลประโยชน์นี้เป็นผู้ให้การช่วยเหลือการเลือกตั้งมาโดย ตลอด คือ นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ จากการสัมภาษณ์ นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ (สัมภาษณ์, 20 สิงหาคม 2554) พบว่า เป็นเจ้าของธุรกิจเอกชนรายใหญ่ในการรับเหมาใน จังหวัดสตูลที่เป็นทีรู้จักเรียกได้ว่าเป็นนายทุนของกลุ่มบุคคล ต่างๆ ในจังหวัดสตูล และเป็นบุคคลเบื้องหลังที่ให้การ ช่วยเหลือนักการเมืองถิ่น พร้อมทั้งเป็นบุคคลที่นักการเมือง 211
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล ให้ความเคารพนับถืออยู่มาก ซึ่งสามารถ ไกล่เกลี่ยปัญหา บางประการทางการเมืองรวมทั้งการวิเคราะห์การเมืองใครควร ลงสมัครรับเลือกตั้ง สามารถสอบผ่านสนามการเลือกตั้ง เป็น บุคคลซึ่งให้ความสำคัญและสนใจต่อการเมืองจังหวัดสตูล เพราะว่านายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีฐานะเป็นน้องชาย และโลดแล่นอยู่บนเส้นทางการเมืองซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ทั้งส่วนตัวและการทำงาน เป็นต้น 5.2.3.3 กลุม่ ผลประโยชนท์ างการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองในจังหวัดสตูล มีบทบาทสูงมากในการให้ความช่วยเหลือสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร ซึ่งกลุ่มผลประโยชน์ดังกล่าวนี้ คือ การเลือกตั้งระดับ ชาติจะมีพรรคการเมืองต่างๆ ติดต่อขอความช่วยเหลือให้เป็น หัวคะแนนในจังหวัดสตูล เช่น พรรคไทยรักไทยให้ความ ช่วยเหลือสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งเป็นกลไกเชื่อมโยงกับ ข้าราชการในจังหวัดให้เข้ามาให้ความช่วยเหลือองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดสตูล (อบจ.) ซึ่งเป็นเครือข่ายความสัมพันธ์อันดีกับ องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล ที่จะต้องทำงานร่วมกัน ในการประเมินผลงานของภาคส่วนต่างๆ ซึ่งก็ส่งผลให้กลุ่ม ผลประโยชน์เหล่านี้มีความสัมพันธ์อันดีต่อสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรเพื่อการทำงานร่วมกันด้วยดีอันส่งผลต่อฐานเสียงในการ ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งต่อๆ ไป สำหรับความช่วยเหลือของสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรที่มาจากผู้ให้การสนับสนุนนักการเมืองท้องถิ่นสตูล เป็นทีมงาน และพรรคพวกที่เคยทำงาน พึ่งพาอาศัยช่วยเหลือ 212
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ กันซึ่งเป็นเครือข่ายการทำงานทางการเมืองโดยต่างตอบแทน ในการหางบประมาณสนบั สนนุ เพอ่ื ใชใ้ นการลงสมคั รรบั เลอื กตง้ั หรือมาจากความมีบุญคุณที่ให้ความช่วยเหลือกันมาของ นักการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ รวมถึงที่สำคัญ คือ หัวคะแนนจึงเป็นความสัมพันธ์ทั้งที่มาจากเครือญาติและ ความสัมพันธ์ที่ต้องให้ความช่วยเหลือต่อกัน 5.2.4 บทบาทและความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองกับ นักการเมืองถิ่นในจังหวัดสตูล จากการศึกษาข้อมูลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่า พรรคการเมืองมีบทบาทต่อการได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างมาก โดยเฉพาะพรรคประชา- ธิปัตย์ สำหรับพรรคการเมืองที่เคยได้รับเลือกตั้งในการเมืองถิ่น จังหวัดสตลู มีหลากหลายพรรคการเมือง ประกอบด้วย 1) พรรคเสรีมนังคศิลา 2) พรรคสหภูมิ 3) พรรคธรรมสังคม 4) พรรคประชาธิปัตย์ 5) พรรคกิจสังคม 6) พรรคชาติไทย 7) พรรคมวลชน จากการศึกษาพบว่า พรรคที่ยังคงดำเนินกิจกรรม ทางการเมือง ระหว่าง พ.ศ. 2476 ถึง พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย 213
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล พรรคการเมืองจำนวน 3 พรรคการเมือง คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคกิจสังคม และพรรคชาติไทยเท่านั้น สำหรับอีก 4 พรรค การเมืองได้ยกเลิกการทำกิจกรรมทางการเมืองแล้ว นอกจากนี้ สามารถสังเกตเห็นได้ว่า นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลตั้งแต่ยุคที่ สองนักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งนั้นยังเป็นบุคคลเดิมๆ แต่สังกัด พรรคการเมืองอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ที่เด่นชัดคือ ถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงสังกัดพรรคการเมืองอยู่บ้าง แต่พรรค ประชาธิปัตย์ก็ยังได้รับการเลือกตั้งของจังหวัดสตูลมากที่สุด ถือได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคยอดนิยมในพื้นที่จังหวัด สตูล ส ำ ห ร ั บ ด ้ า น ก า ร เ ช ื ่ อ ม ป ร ะ ส า น ผ ่ า น น ั ก ก า ร เ ม ื อ ง ในภูมิภาคและมีบทบาทการทำงานการเมืองกับพรรคการเมือง ระดับชาติของจังหวัดสตูลนั้นมีการทำงานแบบเชื่อมโยง โยงใย ซึ่งมีมาตั้งแต่ในยุคแรกนั้น คือ พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ (บุรินทร์ สมันตรัฐ) นอกจากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ต่อมา ท่านได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ส่วนในยุคที่สาม คือ นายฮอซาลี ม่าเหร็ม สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ สามารถที่จะเข้า ไปเป็นกรรมาธิการคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและ วัฒนธรรม (รองประธาน) คณะกรรมาธิการการสื่อสารและ โทรคมนาคม กรรมาธิการการต่างประเทศ พ.ศ. 2554 5.2.5 วิธีการหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองในจังหวัดสตูล นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลในอดีตยุคแรกนั้น ไม่มี เทคนิค หรือวิธีในการหาเสียง แต่ต่อมาในยุคที่สองและ 214
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ ยุคที่สาม มีเทคนิค กลวิธีในการหาเสียงมากขึ้นตามลำดับ มีความซับซ้อนและมีกิจกรรมโน้มน้าวใจประชาชนด้วยกลวิธีที่ แยบยลขึ้น เพราะการที่คนที่มีการศึกษา และมีความรู้ มีความ ตระหนักสนใจการเมืองที่มีความสามารถวิเคราะห์และเล็งเห็น ผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นผลให้การทำกิจกรรมทาง การเมืองมีต้นทุนสูงขึ้นจากการพบปะพูดคุยอย่างธรรมดา อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนมีการเรียกร้อง ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในทุกรูปแบบที่ทำให้ประชาชน รู้สึกได้อะไรบ้างที่ไม่ถูกต้อง นักการเมืองมาหลอกลวง และ ขอเสียงรับปากแล้วไม่ทำดังที่ให้นโยบายและรับปาก ดังคำ กล่าวที่ว่า “พอเลือกตั้งเห็นหน้า หลังเลือกตั้งไม่เห็นหัว และ พอหน้าเลือกตั้งหัวบันไดบ้านไม่แห้ง” และมีการใช้เครือข่าย ความสัมพันธ์ทางการเมืองมากขึ้น ซึ่งสามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้ 5.2.5.1 การเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา งานบุญ ตา่ งๆ ตามประเพณี ลักษณะการเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนหมู่บ้าน เช่น งานเทศกาล หรืองานบุญประเพณีวันขึ้นปีใหม่ งานสงกรานต์ งานศพ งานบุญอิสลาม งานนูหรี งานปอซอของศาสนาอิสลาม พิธีกรรมที่มัสยิดของศาสนาอิสลาม พิธีกรรมทางศาสนาพุทธ ตามร้านน้ำชา มีการส่งคนไปนั่งร้านน้ำชาแล้วมารายงานว่า เขามีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอะไร และมีความคิดเห็นอย่างไร ต่อการเมืองและนักการเมือง หรือเป็นที่ปล่อยข่าวทางการเมือง 215
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล 5.2.5.2 เวทีปราศรัยขนาดเล็ก และเวทีปราศรัย ขนาดใหญ ่ วิธีการหาเสียงทางการเมืองโดยการใช้เวที ปราศรัยเป็นวิธีการที่สำคัญมากที่สามารถส่งผลต่อคะแนนเสียง การเลือกตั้ง โดยเวทีปราศรัยเป็นกิจกรรมทางการเมืองของ นักการเมืองจังหวัดสตูลให้ความสำคัญกับกิจกรรมทางสังคม และการปราศรัยใหญ่เป็นการระดมคนที่ให้ความรัก ความ สนใจในเข้าฟังแนวความคิด นโยบายการพัฒนา ซึ่งพื้นที่ที่มี การจัดเวที การปราศรัยในพื้นที่จุดสำคัญของการสัญจรของ ประชาชน เช่น ตลาดสี่แยกการเดินทางหลัก แหล่งชุมชนซึ่งมี ประชาชนผ่านไปมาจำนวนมากทั้งที่ตั้งใจมาฟังโดยเฉพาะ และ สามารถจะได้กลุ่มคนที่เข้าฟังจากการสัญจรผ่านไปมา หรือ อาจเป็นช่วงเวลาของการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การไป ตลาด การไปวัด การไปออกกำลังกายที่สนามกีฬา เป็นต้น นอกจากน้ี จากการศกึ ษาพบวา่ เวทกี ารปราศรยั นี้จะมีรถแห่ติดภาพข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้งคู่กับ หัวหน้าพรรคการเมืองที่สังกัดเป็นการแจ้งข่าวการลงสมัครและ วัน - เวลาการปราศรัยเพื่อให้ประชาชนรับรู้และเป็นวิธีการ ระดมพลคนเข้าฟังการปราศรัยเพื่อทำให้เกิดการขนคน การเตรียมคน หรือหน้าม้า หัวคะแนนมานั่งฟังมีการส่งเสียง เชียร์ การใช้อุปกรณ์ช่วยเชียร์อันเป็นการสร้างแรงกระตุ้น ทางการเมือง เกิดกระแสทางการเมืองทั้งของ ตัวนักการเมือง และพรรคการเมือง พร้อมทั้งสามารถขยายผลทางการเมือง ที่ร้านน้ำชา ร้านค้า มัสยิดซึ่งเป็นการวิพากษ์วิจารณ์กล่าวถึง 216
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ นโยบาย โดยเฉพาะการปราศรัยของนายชวน หลีกภัย มีการให้ ความช่วยเหลืออนุเคราะห์กับประชาชนแบบลับซึ่งวิธีการแบบนี้ เป็นการสร้างฐานคะแนนเสียงของนักการเมืองถิ่นสตูล และ เป็นการสร้างความมีน้ำใจในการให้ความช่วยเหลือพร้อมขอ เสียงสนับสนุนทางการเมืองในงานบุญต่างๆ เช่น งานบวช งานแต่งงาน พิธีถือศีลอด รวมทั้งกลุ่มแม่บ้าน งานพิธีกรรม มัสยิด งานกีฬา กิจกรรมนันทนาการความบันเทิงอย่างเหมาะ สม ซึ่งสิ่งที่กล่าวข้างต้นนี้ในยุคแรกสามารถทำได้ถือว่าไม่มี ความผิดทางกฎหมาย แต่ในยุคหลังเป็นกิจกรรมการหาเสียง แบบถึงลูกถึงคน และเป็นกิจกรรมทางการเมืองของนักการเมือง สตูลในช่วงโค้งสุดท้ายก่อน 3 สัปดาห์การเลือกตั้งเพื่อทำ คะแนน การตีตื้นคะแนน หรือเป็นการตลาดทางการเมือง เพื่อการเน้นย้ำคะแนนเสียงและให้ความสำคัญกับความรู้สึกต่อ ประชาชนที่ได้พูดคุยไต่ถามทุกข์สุขในชีวิตประจำวันของ ประชาชน พร้อมทั้งชี้แจงตอบข้อซักถามทำให้ประชาชนมีความ รู้สึกมั่นใจ เข้าใจ ตลอดจนการสร้างความไว้วางใจต่อตน และ ให้ความสำคัญกับการมาเยี่ยมเยือนถึงเรือนชานทำให้มีผลต่อ การได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้ง 5.2.5.3 หวั คะแนน การเมืองในจังหวัดสตูลเป็นการเมืองที่ไม่มีการ ต่อสู้ที่รุนแรง หรือการปะทะอย่างเผ็ดร้อนมากนัก อันเนื่องมา จากจังหวัดสตูลเป็นเมืองสงบด้วยผู้คนยึดถือการปฏิบัติตนตาม หลักศาสนา ดังนั้น ในเรื่องของการหาเสียง หรือการรณรงค์ ทางการเมืองเพื่อให้ประชาชนโดยหัวคะแนนจึงเป็นแบบปกติ 217
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล เปิดตัวให้เป็นที่รู้จักของประชาชน ซึ่งเป็นการช่วยให้ประชาชน รู้ว่าหัวคะแนนของใคร โดยเฉพาะหัวคะแนนของนักการเมือง ของนายแพทยอ์ สิ มะหะมัดยงั กี ซึ่งหมายถึงนายไพศาล หลีเสน็ ซึ่งนอกจากทำหน้าที่หัวคะแนนที่สำคัญแล้วยังมีบทบาทใน การเป็นบุคคลใกล้ชิดซึ่งเป็นญาติสนิท และเลขานุการส่วนตัว ของนายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี คุณลักษณะที่โดดเด่นของ หัวคะแนนท่านนี้ คือ เป็นอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นได้ว่า นายไพศาลเป็นบุคคลที่มีความรู้ความ สามารถทางด้านรัฐศาสตร์ มีความรู้ทางด้านกฎหมายการ เลือกตั้ง ดังนั้น นายไพศาล หลีเส็น จึงทำหน้าที่ในการวางแผน กลยุทธ์ ยุทธวิธีในการเลือกตั้งที่ไม่ทำให้ผิดกฎหมาย การลง แข่งขันการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมเพื่อไม่เกิดความ เสื่อมเสียต่อนายแพทย์อสิ มะหะมัดยังกี ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์ของนายแพทย์ได้ 5.2.5.4 การแจกจ่ายข้าวของ การหาเสียงด้วยวิธีการแจกจ่ายข้าวของ นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลนั้นมีไม่มากนักในการใช้วิธีการนี้ เพื่อหาเสียง จากการศึกษาพบเฉพาะกรณีนายชูสิน โคนันทน์ ที่ได้ใช้วิธีการนี้เมื่อลงหาเสียงกับชาวบ้าน โดยเดินทางไป หาเสียงกับนางเตือนใจ โคนันทน์ ซึ่งนายชูสิน โคนันทน์ เข้าหา เสียงกับกลุ่มผู้ชาย และคุณนายเตือนใจเข้าหาเสียงกับกลุ่ม ผู้หญิง พร้อมทั้งมีการแจกผ้าปาเต๊ะ ซึ่งการแจกของดังกล่าวนี้ เป็นวิธีการสร้างสัมพันธภาพและความรู้สึกที่ดีต่อผู้รับถึงแม้ว่า จะเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าและปริมาณไม่มากนักก็ตาม สำหรับ 218
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ วิธีการแจกข้าวของนี้ถ้าเป็นการเลือกตั้งในยุคสองของการ เลือกตั้งวิธีการแจกจ่ายข้าวของไม่มีความผิดทางกฎหมาย แต่ในยุคปัจจุบันถือว่ามีความผิดทางกฎหมายซึ่งเป็นไปตาม กฎหมายการเลือกตั้ง นอกจากนี้ในสมัยนายชูสิน โคนันทน์ ยังใช้วิธีการเลี้ยงข้าวชาวบ้านเมื่อชาวบ้านมาพบที่บ้าน จนมี คำพดู ที่ว่า “มากินข้าวบ้านผู้แทนหรอย” 5.2.5.5 การให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ตามที่ประชาชนขอมา วิธีการหาเสียงแบบให้ความช่วยเหลือตามที่ ประชาชนร้องขอมีมาในทุกยุคทุกสมัย ส่วนใหญ่เป็นการขอ ความช่วยเหลือเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต และที่เห็นได้อย่างชัดเจน ในการขอความช่วยเหลือ คือ ขอเงิน จากการศึกษาพบว่า นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลตั้งแต่ยุคแรกถึงยุคปัจจุบัน และ นักการเมืองคนแรกถึงคนปัจจุบัน ประชาชนมาขอความ ช่วยเหลือจะมากจะน้อยก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ของนักการเมือง ที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ สำหรับพฤติกรรมของประชาชน ที่มีขอเงินจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะมาที่บ้านโดยตรง บางครั้งก็พบกับภรรยาของนักการเมืองก็ให้ความช่วยเหลือ เท่าที่จะช่วยได้ อันเนื่องมาจากการมาขอความช่วยเหลือ ลักษณะอย่างนี้มีมาก บางกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ หรือภรรยา ใช้วิธีการซักถามเดือดร้อนเรื่องใดสามารถให้ความ ช่วยเหลือได้ทันทีโดยเป็นการให้ความช่วยเหลือเป็นสิ่งของที่มี อยู่ที่บ้าน ไม่ให้เป็นเงินทอง เช่น กรณีที่ประชาชนมาขอความ ช่วยเหลือนายชูสิน โคนันทน์ บางครั้งให้เป็นสิ่งของช่วยเหลือ 219
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล โดยเฉพาะนางเตือนใจ โคนันทน์ มีส่วนช่วยงานทางการเมือง ของนายชูสิน โคนันทน์อย่างมาก เพราะโดยพื้นฐานเดิม นางเตือนใจ โคนันทน์ เป็นบุคคลที่มีบุคลิกชอบงานสังคม ทางการเมืองอย่างมาก พบปะสังสรรค์กลุ่มบุคคลในแวดวง ต่างๆ ทำให้เป็นผู้ให้การช่วยเหลือนายชูสิน โคนันทน์ ที่โดดเด่น ในฐานะ “หลังบ้าน” ได้เป็นอย่างดี 5.2.5.6 การลงพื้นท่ีเย่ียมเยือน พบปะประชาชน ตามบ้าน หรอื ท่ีเรียกว่า “การเคาะประตบู ้าน” สำหรับการหาเสียงโดยวิธีการลงพื้นที่พบปะ ประชาชนมีมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันในรูปแบบต่างๆ ที่แตกต่างกันตามสถานการณ์ และตามความสะดวก ถ้าเป็น ในยุคแรกๆ นั้นการพบปะประชาชนเมื่อประชาชนเข้ามาร้อง เรียน ร้องทุกข์อาจเป็นที่บ้านหรือสถานที่ทำงาน รวมถึง การลงพื้นที่ตรวจราชการงานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสตูล ต่อมา จนถึงยุคปัจจุบันวิธีการแบบในอดีตก็ยังคงมีอยู่ แต่ลักษณะ การเข้าพบอาจมีความแตกต่างเพิ่มมากขึ้น คือ การแสดงความ เป็นกันเอง การเป็นนักการเมืองติดดิน ค่ำที่ไหนนอนที่นั้น สามารถปรับตัวนอนในพื้นที่ บ้าน หรือสถานที่ไม่คุ้นเคยได้ เช่น ในสมัยนายชูสิน โคนันทน์ เป็นนักการเมืองที่หาเสียงแบบ ติดดิน อยู่พักค้างคืนร่วมกับชาวบ้าน เข้าถึงในครัวบ้าน รับประทานอาหารร่วมกับชาวบ้าน โดยนางเตือนใจ โคนันทน์ (สัมภาษณ์, วันที่ 21 พฤษภาคม 2554) กล่าวว่า “พยายาม คลุกคลีให้เข้ากับชาวบ้านมากที่สุด ทั้งเดินทางโดยวิธีการ นั่งเรือเพื่อหาเสียง หรือเดินทางหาเสียง ไปตามบ้านหัวคะแนน 220
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ ต่างๆ ใช้เวลานานมากกว่าหนึ่งเดือน” นางเตือนใจ โคนันทน์ ก็จะเข้าไปคลุกคลีอยู่ในครัวเพื่อช่วยทำอาหาร สวมเครื่อง แต่งกายตามศาสนาอิสลาม เพื่อให้กลมกลืนกับชาวบ้าน แม้แต่ ในการแต่งกายในการหาเสียงเอง นางเตือนใจ โคนันทน์ ก็จะ นุ่งผ้าถุงในการหาเสียงเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่านายชูสิน และ นางเตือนใจ โคนันทน์ เป็นคนที่ติดดิน และไม่มีการทำตัวให้ดู สูงส่งกว่าคนอื่นแต่อย่างใด สามารถปรับตัวให้เข้ากับชาวบ้าน โดยในการหาเสียงนั้นคุณนายเตือนใจจะต้องมีคนติดตามไป ด้วย 2-3 คน และในการที่นายชูสิน โคนันทน์ ต้องไปนอนค้าง อ้างแรมบ้านของชาวบ้าน บางครั้งนางเตือนใจ โคนันทน์ ก็จะ ต้มไข่เตรียมไปด้วยเพราะบางครั้งไม่สามารถกินอาหาร บางอย่างได้จะได้ไม่ต้องไปรบกวนชาวบ้านมากเกินไป นอกจากนี้ นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลที่มีบุคลิกภาพ ความเป็นนักการเมืองแบบชาวบ้านและได้รับการยอมรับ จากประชาชนในการให้ความช่วยเหลือกับประชาชน คือ นายธานินทร์ ใจสมุทร มีการพบปะกับประชาชนในสถานที่ ต่างๆ ทั้งตามบ้าน ร้านน้ำชา มัสยิด นายธานินทร์ ใจสมุทร เน้นลงพื้นที่พบปะที่มัสยิดเพื่อร่วมพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ โดยสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และจุดเด่นการสร้างความน่าสนใจ ของนักการเมืองคนนี้ คือ วิธีการหาเสียง เป็นวิธีการที่สร้าง ความน่าตื่นเต้น ปลุกเร้า สร้างความน่าสนใจ ดึงดูดให้ ประชาชนสนใจและติดตามการทำงานที่เอาจริงเอาจัง มีการ ต่อสู้ทางการเมืองอย่างดุเดือด 221
นักการเมืองถ่ินจังหวัดสตูล บทวิเคราะห์ จากการศึกษาการเมืองนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล จ ะ เ ห ็ น ไ ด ้ ว ่ า ต ล อ ด ร ะ ย ะ เ ว ล า อ ั น ย า ว น า น ข อ ง ร ะ บ อ บ การปกครองแบบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองโดย ประชาชนมีส่วนร่วมด้วยวิธีการเลือกตัวแทนในท้องถิ่นของ ตนเองเข้าไปทำหน้าที่แทนตนเองในการพัฒนาประเทศโดยผู้ได้ รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องนำความ ต้องการของประชาชนไปคิดพิจารณาหาวิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อ ความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน จากการศึกษาพบว่า จังหวัด สตูลเป็นจังหวัดขนาดเล็กที่มีการต่อสู้ทางการเมืองไม่รุนแรง ดุเดือดมากนัก นอกจากกระแสทางการเมืองที่สร้างและกระตุ้น ความคิดทางการเมืองให้ดูน่าสนใจ การเมืองท้องถิ่นสตูล เป็นการเมืองที่มีการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่เมื่อ ลงสนามการเลือกตั้งก็ขึ้นอยู่กับความสามารถ เทคนิค กลยุทธ์ และวิธีการ กลุ่มคนที่มีส่วนให้ความช่วยเหลือซึ่งเป็นฐานเสียง ที่สำคัญของแต่ละคนรวมถึงพรรคการเมือง ต้นสังกัดที่ให้ความ ช่วยเหลือ หรือเป็นความสัมพันธ์ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีให้ทั้งใน ส่วนตัวบุคคล และพรรคการเมือง โดยเฉพาะถ้าเป็นความ สัมพันธ์ส่วนบุคคลก็จะสังเกตได้จากการที่บุคคลนั้นได้รับการ คัดเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสมัยต่อไปอีกได้ถึง แม้ว่าจะสังกัดพรรคการเมืองใดก็ตาม ส่วนกรณีพรรคการเมือง ในใจของประชาชนจังหวัดสตูลที่เด่นชัด คือ พรรคประชาธิปัตย์ จากการศึกษาการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ ในอดีตถึงปัจจุบันจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์ 222
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ เป็นพรรคในใจประชาชนจังหวัดสตูล เพราะผู้ได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคประชาธิปัตย์มาโดย ตลอด ดังนั้น ประเด็นเรื่องการเมืองถิ่นและนักการเมืองถิ่น จังหวัดสตูลจึงมีประเด็นที่น่าสนใจและวิเคราะห์หาเหตุและ ผลทางการเมืองที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจ ทางการเมือง และนักการเมืองถิ่นสตลู อันสามารถที่จะเป็นฐาน ข้อมูลการวิเคราะห์การเมืองในระดับชาติต่อไปเพื่อการ วิเคราะห์วางแผนการเมืองระดับชาติโดยนักการเมืองสามารถ ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์มาใช้เพื่อการพัฒนา จังหวัดสตูลให้เกิดการเมืองท้องถิ่นเชิงสร้างสรรค์ได้อย่างยั่งยืน โดยประเด็นการวิเคราะห์จังหวัดสตูลที่สำคัญ ประกอบด้วย 1. กลุ่มชาติพันธ์ุ ในจังหวัดสตูล ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มชาติพันธุ์มุสลิม ร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 คือ กลุ่มชาติพันธุ์ไทยและกลุ่มชาติพันธุ์จีน ซึ่งในอดีตจังหวัดสตูล มีกลุ่มคนจีนอาศัยอยู่ตามเกาะแก่งในจังหวัดสตูล การค้าขาย ทางทะเลและต่อมาได้อพยพมาตั้งรกรากบนชายฝั่งทะเลและมี การค้าขายระหว่างชายแดนไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ จึงทำให้มี ฐานะความร่ำรวย และมีธุรกิจที่สามารถทำให้คนไทยและ คนมุสลิมมาเป็นคนงานและอยู่ภายใต้ การอุปถัมภ์นำไปสู่การ ขยายตัวไปสู่การเมืองท้องถิ่น และค่อยแทรกซึมในการเมือง ท้องถิ่นและอยู่เบื้องหลังนักการเมืองระดับชาติ และเพิ่ม บทบาทมากขึ้นจนเข้ามากุมกลไกของระบบราชการมีความ 223
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล สัมพันธ์เชิงเกื้อกูลกับข้าราชการ ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ วิ่งเข้าหานักธุรกิจ และให้เป็น ผู้อำนวยการเลือกตั้งและ หัวคะแนน ในการแข่งขันทางการเมืองกับพรรคเจ้าถิ่น แต่ธุรกิจ ยังมีสายสัมพันธ์ที่โยงใยกับนักการเมืองเดิมโดยไม่ออกหน้า แต่ อยู่เบื้องหลังทุกพรรคการเมืองทำให้สามารถรักษาสัมพันธภาพ ที่ดีกับการเมืองทุกพรรค เพื่อปกป้องธุรกิจและเครือข่ายที่ สามารถขยายอิทธิพลจนเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ กลุ่ม ชาติพันธุ์จีนมีน้อย และสามารถกุมบทบาทการเมืองของจังหวัด สตูล เช่น นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ นักธุรกิจ และนาย ปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตลู 2. พฤติกรรมทางการเมือง วถิ ชี วี ติ ของคนในจงั หวดั สตลู มปี ระชาชนไมม่ ากอยรู่ ว่ มกนั อย่างสงบสุขเป็นแบบพี่น้อง ไปมาพบปะกันพูดคุยในตอนเช้า ตามร้านน้ำชา ตลาด ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ณ มัสยิด การใช้พื้นที่สาธารณะในการพูดคุยทางการเมือง ดูนกเขา ฟังเสียงนกกรงยามเช้า มีการพูดคุยการเมืองและวิพากษ์ วิจารณ์สถานการณ์ทางการเมืองยามเช้าที่ร้านกาแฟ การใช ้ คนของพรรคการเมืองไปสืบข่าวทางการเมือง และหาข้อมูล เกี่ยวกับทัศนคติของนักการเมืองและพรรคการเมือง เช่น นายฮอซาลี ม่าเหร็ม ได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่คอยเช็คข่าวทาง การเมืองในพื้นที่ในด้านการทำงาน ความรู้สึกที่มีต่อ นักการเมือง พรรคการเมือง ปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชน ในพื้นที่เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลประกอบการแก้ไขปัญหาการเมือง ในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น สร้างความไว้วางใจ 224
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ และให้การสนับสนุนทั้งคนของพรรค และพรรคการเมือง วิธีการ ทำงานเช่นนี้เป็นแนวนโยบายการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะว่าเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาความรุนแรงของปัญหาจะมี ไม่มากโดยนักการเมืองและพรรคการเมืองสามารถเข้าไปช่วย แก้ไขปัญหาให้ได้อย่างทันที อันเนื่องมาจากการมีแหล่งข่าว ในพื้นที่ จึงให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วทันทีทันใด สร้างความประทับใจให้ประชาชนจังหวัดสตลู 3. วัฒนธรรมการเมืองภาคใต้ วัฒนธรรมทางการเมืองของท้องถิ่นภาคใต้ทั้งในด้าน อุดมการณ์ การรับรู้ทางการเมือง รวมถึงคติความคิดความเชื่อ และค่านิยมทางการเมืองที่เกิดจากกระบวนการสะสม ประสบการณ์ กระบวนการกล่อมเกลาทางความคิด ทัศนคติ ทางการเมือง หรือผ่านกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมโดย อาศัยสถาบันทางสังคม เช่น บ้าน วัด โรงเรียน (บวร) หรือ บ้าน โรงเรียน มัสยิด (บรม) ดังกล่าวนี้จนเกิดการเปลี่ยนแปลงกลาย เป็นลักษณะบุคลิกภาพของบุคคล มีอุปนิสัยใจคอของชาวใต้ ที่เด็ดเดี่ยว เป็นต้น ซึ่งวัฒนธรรมการเมืองของท้องถิ่นทาง ภาคใต้มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากภาคอื่นๆ ของประเทศไทย เป็นวัฒนธรรมที่ถูกสืบทอดมาจากสายเลือด ความเป็น ครอบครัว เพื่อน ซึ่งมีความรักในสายเลือดอย่างรุนแรง ถ้าให้ ความรัก ความศรัทธาต่อใครก็ตามยินดีให้ความช่วยเหลืออย่าง เต็มที่ โดยจากการศึกษานักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลจะเห็นได้ อย่างชัดเจนว่า วัฒนธรรมทางการเมืองของท้องถิ่นภาคใต้ เมื่อมีการเลือกตั้ง คือ พรรคการเมือง โดยท้องถิ่นภาคใต้ 225
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล ใ ห ้ ค ว า ม ส ำ ค ั ญ ก ั บ พ ร ร ค ป ร ะ ช า ธ ิ ป ั ต ย ์ ม า อ ั น ด ั บ ห น ึ ่ ง พรรคประชาธิปัตย์จะครอบครองที่นั่งทางการเมืองได้ในทุกสมัย อันเนื่องมาจากการผูกติด ยึดติดกับตัวบุคคลที่ชื่อว่านายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า นายชวน หลีกภัยเป็นคนดี เป็น คนใต้ ดังนั้น จึงต้องให้การช่วยเหลือสนับสนุน สอดคล้องกับ การศึกษาของ จรูญ หยูทอง (2547) ยุคปฏิรูปการเมืองจนเกิด การเมืองแบบท้องถิ่นนิยมในสมัยที่นายชวน หลีกภัย ดำรง ตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลัง พ.ศ.2531 ชูนโยบาย การหาเสียงในภาคใต้ว่า “เลือกประชาธิปัตย์ยกทีมทั้งภาค สนับสนุนนายชวน หลีกภัย คนใต้เป็นนายกรัฐมนตรี” และ ประสบความสำเร็จเกินคาดหมายจนกลายเป็นพรรคการเมือง หนึ่งเดียวของภาคใต้ที่ผูกขาดทุกสมัยเลือกตั้งจนปัจจุบัน 4. การส่ือสารทางการเมือง การสื่อสารทางการเมืองเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างคน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยในการสื่อสารประกอบด้วย ผู้รับสาร ผสู้ ง่ สาร และสารหรอื ขอ้ ความขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการสอ่ื สารระหวา่ งกนั โดยจากการศึกษาพบว่า รูปแบบการสื่อสารของนักการเมืองถิ่น จังหวัดสตูล ปรากฏออกมาในรปู แบบดังต่อไปนี้ 4.1 การสื่อสารระหว่างนักการเมืองถิ่นกับประชาชน โดย การสื่อสารระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายจะเกิดขึ้นทั้งก่อน ระหว่าง และ หลังการหาเสียง เพื่อเป็นการทำงานพื้นที่เชิงรุก โดยเข้าพบปะ กับประชาชนแบบเผชิญหน้า 2 คน ซึ่งเป็นการพูดแบบตัวต่อตัว (Face-to-Face Communication) สามารถสร้างแรงจูงใจ และ โน้มน้าวใจให้เป็นไปตามที่นักการเมืองต้องการ และการ 226
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ เผชิญหน้ากลุ่มเล็ก 2-3 คน ซึ่งการพูดคุยลักษณะแบบนี้ เป็นการสร้างความใกล้ชิด เห็นหน้า พูดคุย แสดงสีหน้าและ แววตาในการขอคะแนนเสียงเพื่อให้โอกาสผู้สมัครเข้าไปรับใช้ ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.2 การสื่อสารของนักการเมืองถิ่นผ่านการประชุมทั้งที่ เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากับกลุ่ม ประชาชนซึ่งสามารถพบได้ในเวทีการปราศรัยทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ที่มีช่วงวันเวลานัดล่วงหน้า และการประชุมอย่าง ไม่เป็นทางการเกิดขึ้นตามแต่สถานการณ์ในเวลานั้นๆ ที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ที่ทำงานทางการเมือง 4.3 การสื่อสารทางการเมืองของนักการเมืองถิ่นผ่าน สื่อการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ที่ใช้ตั้งแต่ในอดีต ประกอบด้วย แผ่นป้ายผ้า ป้ายประชาสัมพันธ์ แผ่นพับ สถานี วิทยุ สถานีโทรทัศน์ ป้ายติดรถแห่ ผลจากการศึกษาข้างต้นสามารถสรุปได้ว่าวิธีการสื่อสาร ของนักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลที่สำคัญตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย วิธีการเผชิญหน้า การประชุมทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ และที่สำคัญในปัจจุบันที่ปรากฏออกมาใน หลากหลายรูปแบบ คือ สื่อการประชาสัมพันธ์ ซึ่งสอดคล้องกับ การศึกษาของอรอนงค์ สวัสดิ์บุรี และรสชงพร กมลเสวิน (2552) ศึกษาเรื่อง “รูปแบบการสื่อสารของนักการเมืองท้องถิ่น” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นแรงจูงใจในการเลือก รูปแบบการสื่อสารของนักการเมืองท้องถิ่น ศึกษารูปแบบ การสื่อสารของนักการเมืองท้องถิ่นและอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับ 227
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล การสื่อสารที่ส่งผลต่อการทำงานของนักการเมืองท้องถิ่น ผลการวิจัยปรากฏ 3 รูปแบบการสื่อสารของนักการเมือง ท้องถิ่น ได้แก่ (ก) การสื่อสารแบบเผชิญหน้ากันระหว่าง นักการเมืองท้องถิ่นกับชาวบ้าน (ข) การสื่อสารโดยผ่านช่องทาง การสื่อสารต่างๆ และ (ค) การประชุมอย่างเป็นทางการและ ไม่เป็นทางการ ส่วนปัจจัยที่เป็นแรงจูงใจในการเลือกรูปแบบ การสื่อสารของนักการเมืองท้องถิ่น ได้แก่ ปัจจัยเรื่อง งบประมาณ 5. ชนชั้นนำ กลุ่มผลประโยชน์ ข้าราชการประจำเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเป็นหัวคะแนน เพราะมีความใกล้ชิดและมีการเกื้อหนุนตำแหน่งหน้าที่การงาน ตลอดจนความก้าวหน้าและมีความสัมพันธ์กับผู้สมัครสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรเคยเป็นอดีตข้าราชการ เช่น ครู พนักงาน รัฐวิสาหกิจ กลุ่มคนเหล่านี้จะเข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมือง สามารถควบคุมคน และฐานเสียงมวลชนด้วยการเป็นคนแบบ นักเลงให้ความช่วยเหลือผู้ที่รับความเดือดร้อน ทำการบริจาค ให้ความช่วยเหลือในงานการกุศลต่างๆ เช่น นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ อาชีพนักธุรกิจให้การช่วยเหลือประชาชน และนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดสตูลจนกลายเป็นที่รู้จักอย่าง กว้างขวางในจังหวัดสตูลที่มีพรรคการเมืองเข้ามาติดต่อ ขอความช่วยเหลือในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา และมี อิทธิพลทางการเมืองจังหวัดสตลู อย่างมาก 228
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ 6. ระบบอุปถัมภ์ และผู้รับอุปถัมภ์ จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดขนาดเล็กมีการเปลี่ยนผ่าน การเมืองการปกครองที่ผลัด เปลี่ยนจากระบอบการปกครอง รูปแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ระบอบประชาธิปไตยเมื่อ พ.ศ. 2475 การสถาปนาระบอบประชาธิปไตยเกิดหยั่งรากใน ประเทศไทยก็ตามแต่ด้วยวัฒนธรรมสังคมไทยมีระบบความคิด ความเชื่อ ระบบคุณค่ายังคงผูกติดอยู่กับระบบเดิมของสังคม ไทยทำให้ระบบเจ้าขุนมูลนายยังทรงอิทธิพลต่อการปกครองใน ท้องถิ่นที่ห่างไกลจากศูนย์กลางอำนาจ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลง จึงมีความล่าช้าและยังคงยึดโยงกับความเชื่อแบบเดิมใน รูปแบบโครงสร้างอุปถัมภ์ต้องการพึ่งพาผู้มีอำนาจ การต่าง ตอบแทนต่อกัน จากการศึกษาพบว่า ในสมัยพระยาสมันตรัฐ- บุรินทร์ (บุรินทร์ สมันตรัฐ) และนายสงวน ณ นคร มีการเอา ลูกหลานมาเสนอให้เป็นภรรยารับเลี้ยงดู และเป็นข้ารับใช้และ เป็นผลให้เกิดการช่วยเหลือต่างตอบแทนทางการเมืองและได้ รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นักการเมือง แม้แต่ยุคที่สองมีการเข้าหานักการเมือง เช่น สมัยนายชูสิน โคนันทน์ ในการรับการอุปถัมภ์ และการแจกของ และยุคที่สาม การอุปถัมภ์มีความคงอยู่ในรูปแบบของการช่วยเหลือเกื้อกูล การฝากลูกหลานเข้าทำงานเข้าโรงเรียนโดยผ่านกลไกของ หัวคะแนน และการมีการอุปถัมภ์จากการใช้การสนับสนุน ผู้สมัคร มีกลุ่มทุนในท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนผู้สมัครในท้องถิ่น ซึ่งอาจมีลักษณะต่างตอบแทน เช่น การได้รับโครงการที่ประมูล หรือรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งการใช้ปัจจัยทุนในการเลือกตั้งของ การเมืองท้องถิ่นต้องขอความช่วยเหลือ การสนับสนุนมีการ 229
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล เชื่อมโยงที่มีความไว้วางใจที่เป็นเครือข่ายทางการเมืองที่เคยอยู่ ในสังกัดและมีความผูกพันกัน มีการให้ความเคารพและ ช่วยเหลือเป็นหัวคะแนนจึงได้รับการอุปถัมภ์ การมีระบบ อิทธิพลเพื่อกดดันให้เกิดความเกรงกลัวไม่กล้าบิดพลิ้วหรือ หักหลังต่อการตกลงในการระดมคนไปใช้สิทธิ์และลงคะแนน เสียงหรือการข่มขู่ให้ฝ่ายตรงกันข้ามไม่กล้าเคลื่อนไหว ในกิจกรรมทางการเมือง หรือการปล้นจี้เงินผู้สมัครเพื่อให้เกิด ความผิดพลาด 7. กระแสพรรคประชาธิปัตย์ จากการวิเคราะห์ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรของจังหวัดสตูลจะพบว่า นักการเมืองท้องถิ่นจะเปลี่ยน เป็นใครก็ตาม แต่พรรคการเมืองที่รับการเลือกตั้งมาโดยตลอด คือ พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะที่โดดเด่นตั้งแต่หลัง พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายชวน หลีกภัย ซึ่งมีกระแสการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ที่โดดเด่น และสร้างกระแสความสนใจในแวดวงทางการเมืองในท้องถิ่น ภาคใต้ ดังนั้น ผู้นำก็มีส่วนสำคัญในการสร้างกระแสพรรค ประชาธิปัตย์ โดยสามารถเห็นได้อย่างเด่นชัดว่า ไม่ว่า พรรคความหวังใหม่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง คือ นายจิรายุส เนาวเกตุ หรือนายวิทูร หลังจิ นักการเมืองชื่อดังจังหวัดสตูล ลงก็ตาม แต่ต้องพ่ายให้กับนักการเมืองหน้าใหม่อย่าง นายธานินทร์ ใจสมุทร ที่มาจากรั้วไปรษณีย์และโทรคมนาคม ต่อมาใน พ.ศ. 2538 จังหวัดสตูล มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 คน พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง นายสนั่น สุธากุล นักการเมือง 230
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ หน้าใหม่จากรั้วการศึกษาก็สามารถกำชัยเหนือคู่แข่งและ ยึดพื้นที่มาจนถึงปัจจุบัน ต่อมา พ.ศ. 2544 มีการเลือกตั้ง จังหวัดสตูล โดยแบ่งออกเป็น 2 เขตเลือกตั้ง พรรคประชา- ธิปัตย์สามารถกวาดที่นั่งมาได้ยกจังหวัด (หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 13 ต.ค. 2546) และสอดคล้องกับการศึกษาของ ภิญโญ ตันพิทยคุปต์ (2549) พบว่า กลุ่มผลประโยชน์ที่มี บทบาทต่อการเมืองถิ่นจังหวัดสงขลาทั้งที่เป็นทางการและ กลุ่มที่ไม่เป็นทางการ กลุ่มที่สำคัญที่สุด คือ พรรคประชาธิปัตย์ และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ คือ นายชวน หลีกภัย ดังนั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า บุคคลทางการเมือง ในภาคใต้ที่มีบทบาททางการเมืองคนสำคัญ คือ นายชวน หลีกภัย ที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางจิตใจ มีอิทธิพลต่อการสร้าง กระแสความนิยมในการเลือกตั้งและให้ความสำคัญต่อ การตัดสินใจทางการเมือง และมักจะใช้นายชวน หลีกภัย เป็น บุคคลที่สามารถพลิกกระแสการเมืองถิ่นในจังหวัดสตูล โดยมี นายชวน หลีกภัย เป็นจุดขายและการสร้างกระแสนิยมแบบ ภาคนิยมเกิดขึ้น เพื่อต้องการผลักดันนายกเป็นคนใต้เกิดเป็น กระแส 8. ความศรัทธาและความเชื่อถือต่อนักการเมืองถ่ิน สำหรับท้องถิ่นทางภาคใต้นั้นให้ใจกับพรรคประชาธิปัตย์ มาโดยตลอด แต่พบว่าในยุคที่สองของการวิเคราะห์การเมือง จังหวัดสตูล นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูลที่ประชาชนเลือกนั้น ประชาชนให้ความสำคัญกับตัวบุคคลมากกว่าพรรคการเมือง ทเ่ี หน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน คอื สมยั นายจริ ายสุ เนาวเกตุ ซง่ึ นายจริ ายสุ 231
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล เนาวเกตุ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถึง 3 สมัย โดยเปลี่ยนสังกัดพรรคการเมือง คือ ครั้งที่ 1 เมื่อ 18 เม.ย. พ.ศ. 2526 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 2 เมื่อ 22 มี.ค. พ.ศ. 2535 สังกัดพรรคมวลชน นักการเมืองรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ต่างแสดงความจำนงเข้าพรรคไทยรักไทย เพื่อชิงตำแหน่ง ส.ส.อย่างคึกคักทั้ง 2 เขตเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 1 มี อำเภอ เมือง อำเภอควนโดน อำเภอควนกาหลง(เฉพาะ ตำบลทุ่งนุ้ย) มีนายธานินทร์ ใจสมุทร พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเจ้าของ ตำแหน่ง การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายธานินทร์ ใจสมุทร มีคู่แข่งเพียง 2 คน คือ นายวิทูร หลังจิ จากพรรคความหวังใหม่ นายแพทย์ชัยรัตน์ ลำโป อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอ ควนโดน จากพรรคไทยรักไทย การสู้ศึกของ นายธานินทร์ ใจสมุทร ค่อนข้างหนัก เพราะโค้งสุดท้ายพรรคความหวังใหม่ และไทยรักไทยจับมือกันหวังถล่ม แต่ไม่สามารถต้านแรงศรัทธา ของพรรคและความเชื่อถือในตัวบุคคลได้ (หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 13 ตุลาคม 2546) 9. ทุนท้องถ่ินผสานข้าราชการพ้ืนที่จังหวัดสตูล กลุ่มทุนจังหวัดสตูลซึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจเชื้อสายจีนรวม ตัวกันทางเชื้อชาติที่มีการร่วมกันทำธุรกิจประมง และธุรกิจรับ เหมาก่อสร้างธุรกิจในท้องถิ่นซึ่งมีความสัมพันธ์กันในการมี บทบาททางการเมืองเป็นกลุ่มที่ให้การสนับสนุนทางการเมือง และให้ความช่วยเหลือ มีเครือข่ายโยงใยกับนักการเมืองระดับ ชาติในระดับตำแหน่งรัฐมนตรีในยุคสมัยต่างๆ และชอบอยู่ เบื้องหลังการเมืองเพื่อไม่ให้กระทบกับการประกอบธุรกิจ และมี 232
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ การส่งเครือญาติโดยมีคนสนิทลงสนามการแข่งขันทางการเมือง ในระดับท้องถิ่นซึ่งเป็นวิธีการระดมมวลชนระดับล่าง รวมถึง เพื่อเป็นการเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักของประชาชนในจังหวัดสตูล โดยมีคุณลักษณะที่สำคัญ คือ ใจถึงพึ่งได้ และมีเครือข่ายทั้ง นักการเมือง และนักการพนันที่มีการคบค้าสมาคมกันทำให้เป็น ผู้มากบารมี เป็นบุคคลที่มีความกว้างขวาง มีการบริจาค ทุนทรัพย์ให้กับโรงเรียน สาธารณะกุศล การกีฬา เพื่อการ พัฒนาท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือภาคราชการตรวจสอบ เช่น คอยสอดส่องและเฝ้าระวังภัยเพื่อสร้างความสงบสุขและจัด ระเบียบความเรียบร้อยของจังหวัดสตูลที่มีการรายงาน สถานการณ์การเข้าจังหวัดสตูลในช่วงเวลาที่มีการเฝ้าระวัง ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การขยายเขตพื้นที่จังหวัด สตูลจนสามารถสร้างความสัมพันธ์กับข้าราชการที่มาทำงาน ระดับหัวหน้างาน ผู้บังคับบัญชาจึงทำให้พรรคการเมืองวิ่ง เข้าหาติดต่อให้เป็นหัวคะแนน ผู้อำนวยการพรรคการเมือง ในการแข่งขันและการแย่งชิงปักธงให้กับพรรคการเมืองใหม่ที่ หวังแย่งชิงที่นั่ง คือ พรรคไทยรักไทย แต่สุดท้ายก็ปราชัยใน พื้นที่จังหวัดสตูลซึ่งเป็นการต่อสู้ที่มีการใช้กลไกทุกชนิดเพื่อหวัง ชัยชนะการเลือกตั้งที่ข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้องจนกระทั่งได้รับ การปูมบำเหน็จรางวัลจากนักการเมืองซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ การเมืองที่ดุเดือดของการเลือกตั้งเพื่อช่วงชิงฐานที่มั่นของพรรค ประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพื้นที่ของการเมืองภูมิภาคนิยม อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการเมืองในจังหวัดสตูลยังคงเป็น พรรคประชาธิปัตย์ครอบครองที่นั่งและครองใจประชาชน จังหวัดสตูลก็ตาม แต่ที่น่าสังเกต คือ ผลการเลือกตั้ง 233
นักการเมืองถิ่นจังหวัดสตูล ทั่วประเทศปรากฏว่า พรรคไทยรักไทยภายใต้การนำของ พัน ตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ได้เสียงข้างมากและเป็นแกนนำจัดตั้ง รัฐบาล รัฐบาลภายใต้การนำของ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร สามารถผลักดันนโยบายออกมาอย่างเป็นรูปธรรมไม่ว่าจะเป็น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน และ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ เป็นต้น แต่ที่โดนใจชาวใต้ที่ทำอาชีพทำสวนยาง พารามากที่สุด คือราคายางขยับตัวสูงกว่าในยุครัฐบาลของ พรรคประชาธิปัตย์ บวกกับการทำงานที่ฉับไวของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ส่งผลให้คนภาคใต้เริ่มเปิดใจที่จะรับพรรคไทย รักไทยมากขึ้น ส่งผลให้นักการเมืองรุ่นใหม่รุ่นเก่าที่ต้องการ แจ้งเกิดทางการเมืองต่างหมายตาที่จะสวมเสื้อไทยรักไทย ลงชิงชัย (หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 13 ตุลาคม 2546) และ บางสมัยมีการสับเปลี่ยนพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนจาก พรรคการเมือง เช่น พรรคชาติไทย เพราะมีฐานเสียงซึ่งเป็น หวั คะแนนคนสำคญั ในพน้ื ทจ่ี งั หวดั สตลู หรอื พรรคความหวงั ใหม่ ในอดีตซึ่งมีบทบาทที่สำคัญในการลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อแย่ง ชิงพื้นที่ฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ให้จงได้ แต่ในที่สุดกลุ่ม ฐานเสยี งของพรรคประชาธปิ ตั ยย์ งั มคี วามแขง็ แกรง่ คะแนนเสยี ง ที่แตกออกไปบ้างให้กับพรรคการอื่นๆ ที่ยังมีอยู่ในพื้นที่สามารถ กลับมาเป็นคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ได้ในที่สุด โดยส่วนใหญ่การเลือกตั้งในจังหวัดสตูลนั้นสังเกตได้ว่า มีการ เปลี่ยนแปลงผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่สนับสนุนเปลี่ยนกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เช่น จากพรรคความหวังใหม่ พรรค ชาติไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นการบ่งบอกถึงการ เลือกตั้งถ่วงดุลในการเข้าไปทำหน้าที่ของตัวแทนประชาชน 234
บทสรุป วิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ ในจังหวัดสตูล เพื่อมีความเป็นเหตุผลในการเลือกตั้ง และอาจมี ความสัมพันธ์ของระบบหัวคะแนนที่มีความสัมพันธ์ในพื้นที่ จังหวัดสตูลที่มีแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ให้การสนับสนุน เช่น พรรคชาติไทย พรรคไทยรักไทยในขณะนั้นเพื่อปักธง ในภาคใต้และมีความพยายามแทรกตัวของพรรคการเมืองใน ภาคใต้ ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาพบว่า จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดขนาดเล็ก และประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จากที่ผ่านมา บุคคลผู้ได้รับเลือกตั้งต้องเป็นบุคคลที่ทำงานเพื่อต้องการ พัฒนาจังหวัดจริง โดยสามารถพิจารณาได้จากผลงานที่ปรากฏ และสามารถที่จะนำงบประมาณลงในพื้นที่เพื่อการพัฒนา ได้จริง หรือเป็นปากเสียงแทนประชาชน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีสิ่งที่น่าทำการศึกษาที่เกี่ยวกับนักการเมืองผู้เป็นตัวแทน ประชาชนในการที่จะได้บุคคล หรือพรรคการเมืองที่ตั้งใจ ทำงานจริง มีความเชื่อมั่นต่อการเมืองของจังหวัดสตูล ผู้วิจัย จึงขอเสนอแนะประเด็นที่เกี่ยวข้องที่น่าทำการศึกษาต่อเพื่อการ วิจัยในอนาคต และเพื่อการพัฒนาการเมืองในจังหวัดสตูล อันนำไปสู่การพัฒนาการเมืองในระดับประเทศต่อไป ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยในอนาคต 1. ควรทำการศึกษาการรับรู้นโยบายทางการเมืองที่มี คุณภาพของประชาชนในจังหวัดสตลู 235
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266