นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ศรุดา สมพอง ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data ศรุดา สมพอง. นกั การเมอื งถน่ิ จงั หวดั กาฬสนิ ธ-์ุ - กรงุ เทพฯ : สถาบนั พระปกเกลา้ , 2559. 228 หน้า. 1. นักการเมือง - - กาฬสินธุ์. 2. กาฬสินธุ์ - - การเมืองการปกครอง l. ชื่อเรื่อง. 342.2092 ISBN 978-974-449-XXX-X รหัสสง่ิ พิมพ์ของสถาบนั พระปกเกลา้ สวพ.58-XX-500.0 เลขมาตรฐานสากลประจำหนงั สอื 978-974-449-XXX-X ราคา พิมพค์ รั้งที่ 1 มีนาคม 2559 จำนวนพิมพ ์ 500 เล่ม ลขิ สทิ ธ์ ิ สถาบันพระปกเกล้า ทป่ี รกึ ษา ศาสตราจารย์(พิเศษ)นรนิติ เศรษฐบุตร รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต รองศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา หงษ์ไกรเลิศ รองศาสตราจารย์พรชัย เทพปัญญา ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ผูแ้ ต่ง รองศาสตราจารย์ ดร.ศรุดา สมพอง ผพู้ ิมพ์ผูโ้ ฆษณา สถาบันพระปกเกล้า จัดพมิ พ์โดย สถาบันพระปกเกล้า ศนู ย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 (โซนทิศใต้) เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02-141-9607 โทรสาร 02-143-8177 http://www.kpi.ac.th พิมพ์ที่ บริษัท เอ.พี. กราฟิค ดีไซน์และการพิมพ์ จำกัด 745 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ 02-243-9040-4 โทรสาร 02-243-3225
นักการเมืองถ่ิน จังหวัดกาฬสินธุ์ รองศาสตราจารย์ ดร.ศรุดา สมพอง สถาบันพระปกเกล้า อภินันทนาการ
คำนำ การวิจัยเรื่องนักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ ฉบับนี้ เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลนักการเมืองถิ่นในจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก 29 มกราคม พ.ศ. 2491 (นับตั้งแต่ แยกมาจากจังหวัดมหาสารคาม) จนกระทั่งถึงการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 เพื่อศึกษาเครือข่าย ความสัมพันธ์ของกลุ่ม ผลประโยชน์เทคนิค กลยุทธ์การหาเสียงของนักการเมืองถิ่น กาฬสินธุ์กับพรรคการเมืองต่าง ๆ ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งบรรดา ข้อมูลสารสนเทศเหล่านี้เป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ยังไม่เคยมีการ ศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบมาก่อน เพื่อศึกษานักการเมืองที่เคย ได้รับการเลือกตั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เครือข่ายและความสัมพันธ์ของนักการเมือง บทบาทและความ สัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์และกลุ่มที่ไม่เป็นทางการที่มีส่วน ในการสนับสนุนทางการเมือง บทบาทและความสัมพันธ์ของ พรรคการเมืองกับนักการเมือง และวิธีหาเสียงเลือกตั้งของ นักการเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะผู้สนับสนุนทุนการวิจัย และขอขอบพระคุณคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นผู้พิจารณางานวิจัยฉบับนี้ รวมถึงคำแนะนำ อันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน และขอขอบพระคุณ นักการเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น และ ผู้ประสานงานโครงการในการติดตามการทำงาน ท้ายที่สุดแต่ไม่น้อยที่สุด ขอขอบคุณ รองศาตราจารย์ ดร.พิชญ์ สมพอง (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) กำลังใจที่สำคัญที่อยู่ เบื้อหลังอันมีค่าสูงสุด และหากเนื้อหางานวิจัยนี้มีข้อผิดพลาด ข้อบกพร่อง ผู้วิจัยน้อมรับคำแนะนำไปแก้ไขปรับปรุงให้งาน วิจัยชิ้นนี้สมบรู ณ์มากยิ่งขึ้นต่อไป รองศาตราจารย์ ดร.ศรดุ า สมพอง ผู้วิจัย
บทคัดย่อ จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นเมืองเก่าโบราณมาตั้งแต่ปลายสมัย กรุงศรีอยุธยา และอยู่ภายใต้พระบรมโพธิ-สมภารมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2336 ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า- จุฬาโลกมหาราช แห่งบรมราชวงศ์จักรี เมืองกาฬสินธุ์ เปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองมาหลายยุคสมัย ในสมัย การปกครองแบบเทศาภิบาล พ.ศ. 2456 ได้ถูกเปลี่ยนเป็น หน่วยการปกครองต่ำกว่าระดับมณฑล โดยเปลี่ยนจาก “เมือง กาฬสินธุ์” เป็น “จังหวัดกาฬสินธุ์” ขึ้นกับมณฑลร้อยเอ็ด มีเขต การปกครองเพียง 5 อำเภอ คือ อำเภออุทัยกาฬสินธุ์ อำเภอ สหัสขันธ์ อำเภอกุฉินารายณ์ อำเภอกมลาสัย และอำเภอ ยางตลาด มีวัตถุประสงค์การศึกษา 1) เพื่อศึกษานักการเมืองที่เคย ได้รับการเลือกตั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์จากอดีตจนถึงปัจจุบัน
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ 2) เพื่อทราบถึงเครือข่ายและความสัมพันธ์ของนักการเมืองใน จังหวัดกาฬสินธุ์ 3) เพื่อทราบบทบาทและความสัมพันธ์ของ กลุ่มผลประโยชน์และกลุ่มที่ไม่เป็นทางการที่มีส่วนในการ สนับสนุนทางการเมืองแก่นักการเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์ 4) เพื่อทราบบทบาทและความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองกับ นักการเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์ 5) เพื่อทราบถึงวิธีหาเสียง เลือกตั้งของนักการเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์ จากการศึกษาพบวา่ 1) นักการเมืองท่ีเคยได้รับการเลือกตั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ จากอดีตจนถึงปจั จุบนั ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ รับราชการ รองลงมาประกอบอาชีพด้านธุรกิจ และทนายความ ตามลำดับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุด จำนวน 7 สมัย คือ นายสังข์ทอง ศรีธเรศ รองลงมา คือ ดำรงตำแหน่ง 5 สมัย มี 3 คน คือ นายขุนทอง ภูผิวเดือน นายวิวัฒนไชย ณ กาฬสินธุ์ และนายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง ดำรงตำแหนง่ จำนวน 4 สมยั มี 2 คน คอื นายชงิ ชยั มงคลธรรม และนายคมเดช ไชยศิวามงคล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ที่ย้ายพรรคมากที่สุด ในการสมัครรับเลือกตั้ง 3 พรรคการเมือง คือ นายคมเดช ไชยศิวามงคล นายพิชัย มงคลวิรกุล และนายวิทยา ภมู ิเหล่าแจ้ง VII
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ 2) เครือข่ายและความสัมพันธ์ของนักการเมืองในจังหวัด กาฬสนิ ธ ุ์ ในช่วงปี พ.ศ. 2495 ถึง พ.ศ. 2511 เครือข่ายที่มา ช่วยเหลือให้การสนับสนุนทางการเมืองส่วนใหญ่จะเป็นความ สัมพันธ์เชิงตัวบุคคล เช่น เป็นญาติทั้งที่เป็นเครือญาติทางกลุ่ม ตระกูล และเครือญาติในที่เกิดจากการช่วยเหลือเกื้อกูล เมื่อถึง การเลือกตั้งระหว่าง พ.ศ. 2517 ถึง พ.ศ.2539 เริ่มมีการสร้าง เครือข่ายทางการเมืองในระบบอุปถัมภ์ การแจกสิ่งของ และ การให้ความสัมพันธ์ในสายการบังคับบัญชาข้าราชการมาใช้ใน การสร้างเครือข่ายทางการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรบางคนด้วย บางส่วนเป็นเครือข่ายโดย สมัครใจจากการยอมรับในบทบาทของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เป็น ชนชั้นนำที่มีความรู้และมีหน้าที่การงานทางราชการระดับสูง ในขณะที่บางส่วนก็ใช้ความสัมพันธ์ในรูปแบบอุปถัมภ์เชิง เครือข่ายธุรกิจกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่และการ แจกเงินให้กับประชาชน การเลือกตั้งในปี พ.ศ.2538 เป็นต้นมา การสร้างเครือข่ายทางการเมืองและการสร้างความสัมพันธ์ของ นักการเมืองกับหัวคะแนนมีความซับซ้อนมากขึ้น จะใช้ระบบ อุปถัมภ์ทางธุรกิจระดับท้องถิ่น การแจกสิ่งของ การแลกเปลี่ยน ผลประโยชน์หรือการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันทางธุรกิจ การใช้ เงินซื้อเสียงและการสร้างระบบอุปถัมภ์ทางการเงินกับการ เลือกตั้งระดับท้องถิ่นทุกประเภท คือ สมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล การใช้ผู้นำท้องที่เป็นหัวคะแนน คือ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน VIII
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธ์ุ การเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีการจัดแบ่งเครือข่ายทาง การเมืองเป็นขั้วทางการเมืองที่ชัดเจน แต่ก็มีการจัดแบ่ง จัดระยะความสัมพันธ์ของเครือข่ายการเมืองกันอย่างลงตัว โดย การประนอมผลประโยชน์ทางการเมืองและผลประโยชน์ ทางธุรกิจไม่สร้างประเด็นความขัดแย้งทางเครือข่ายการเมือง ต่อกันในระดับที่รุนแรง 3) บทบาทและความสัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์และ กลมุ่ ทไ่ี มเ่ ปน็ ทางการทมี่ สี ว่ นในการสนบั สนนุ ทางการเมอื ง แก่นกั การเมืองในจงั หวดั กาฬสินธ ุ์ สว่ นสนบั สนนุ นกั การเมอื งทส่ี ำคญั ไดแ้ ก่ กลมุ่ นกั การเมอื ง ท้องถิ่นและนักธุรกิจ ประกอบไปด้วย สมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัด (ส.จ.) สมาชิกสภาเทศบาง (ส.ท.) และ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) เป็นฐานการเมือง ในระดับตำบลและระดับอำเภอ กลุ่มครูอาจารย์และข้าราชการ เก่ากลุ่มนี้ก็มีส่วนสนับสนุนและถือเป็นฐานที่สำคัญของ นักการเมืองที่มาจากข้าราชการเก่า โดยเฉพาะข้าราชการครู กลุ่มที่ไม่เป็นทางการกลุ่มนักปกครองท้องที่ ประกอบไปด้วย กำนันและผู้ใหญ่บ้าน เป็นฐานการเมืองที่สำคัญที่มาจาก นักปกครองท้องที่ กลุ่มนี้จะมีการควบคุมคะแนนเสียงในระดับ ตำบลและหมู่บ้านให้แก่นักการเมืองที่ตนเองมีความสัมพันธ์ และได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างดี กลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ กลุ่มอาสา สมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) กลุ่มสตรี กลุ่มสโมสรโรตารี่ IX
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ 4) บทบาทและความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองกับ นกั การเมอื งในจงั หวัดกาฬสินธ ์ุ ความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองและนักการเมือง บทบาทและนโยบายของพรรคการเมืองก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ นักการเมืองถิ่นในจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับการเลือกตั้ง เพราะ นโยบายของพรรคการเมืองที่สามารถเข้าถึงกลุ่มรากหญ้า นโยบายแบบประชานิยม จะสามารถสร้างกระแสความสนใจให้ แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พรรคที่มีขนาดใหญ่และ มีกำลังทรัพย์สูงก็จะมีส่วนช่วยในการสนับสนุนทุนทรัพย์ในการ หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 5) วิธหี าเสียงเลือกตัง้ ของนักการเมืองในจงั หวัดกาฬสินธ ุ์ การหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในอดีตมักใช้ วิธีการไปพบปะพูดคุยกับประชาชน โดยผู้สมัครเอง โดยใช ้ ช้าง จักรยาน และรถยนต์เป็นพาหนะเดินทางแตกต่างกัน ตามศักยภาพและสภาพเศรษฐกิจของผู้สมัครสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มีการจัดทำแผ่นปลิวและโปสเตอร์ติดตาม บ้านเรือนหรือตามที่สาธารณะต่าง ๆ แม้จะมีการแจกสิ่งของ และจัดเลี้ยงบ้างก็ใช้เงินไม่มาก ราคาไม่แพง แต่ผู้รับรู้สึกว่ามี คุณค่า เช่น แจกน้ำปลา ปลาทูเค็ม รองเท้า ไม้ขีดไฟ น้ำตาล ในส่วนการปราศรัยหรือการช่วยหาเสียงของหัวคะแนนจะใช้ การนำเสนอนโยบายให้ความหวังกับประชาชนในการพัฒนา ท้องถิ่นและการแก้ไขปัญหาประชาชนชูภาพหัวหน้ากลุ่มหรือ หัวหน้าพรรคของตน ส่วนการต่อสู้ในระดับพื้นที่จะใช้วิธีการ ปล่อยข่าวลือและการโจมตีว่าร้ายในบางคนบางช่วงเวลา
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ การสร้างคะแนนนิยมของนักการเมืองถิ่นจังหวัด กาฬสินธุ์ก่อนปี พ.ศ. 2535 ใช้ภาพลักษณ์บุคคล ความนิยม ในตัวของบุคล ในยุคแรกจะต้องอาศัยความช่วยเหลือจาก หัวคะแนนในพื้นที่ แต่หลังจากปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา นักการเมืองจะใช้วิธีการกำหนดพื้นที่เป้าหมาย วิเคราะห์พื้นที่ จัดตั้งองค์กรเครือข่าย ใช้ระบบแรงจูงใจและมีผลตอบแทน มีการกำหนดเป้าหมายจำนวนคะแนนเสียงขั้นต่ำและหากทำได้ ตามเป้าหมายหรือสูงกว่าเป้าหมายก็จะมีระบบการให้โบนัส หรือให้รางวัลตอบแทนพิเศษ การซื้อเสียงของนักการเมืองถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์จะจ่ายเงินซื้อเสียงให้หัวคะแนนและผู้มีสิทธิ เลือกตั้งเป็นหลัก ข้าราชการผู้มีอำนาจหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ไม่ต้องการขัดขวางหรือทำให้นักการเมืองไม่พอใจ ตลอดจน ผู้บังคับบัญชาของข้าราชการในพื้นที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ นักการเมืองที่เป็นนักธุรกิจ ทำให้ได้รับประโยชน์ตอบแทนจาก นักธุรกิจที่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกด้วย นักการเมืองที่เป็น นักธุรกิจส่วนใหญ่จะมีสายสัมพันธ์ที่ดีและใกล้ชิดกับข้าราชการ ในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ อัยการ และนักปกครองสังกัดกระทรวง มหาดไทย ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้าส่วนราชการในระดับ จังหวัดของนักธุรกิจเหล่านี้มีผลอย่างมากที่ทำให้ข้าราชการ ระดับรองลงไปในเขตเลือกตั้งในชนบทจะเป็นหัวคะแนนให้กับ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร XI
Abstract Politicians in the Area of Kalasin: A Survey Project to Gather Data of Politicians in Provinces Kalasin was an ancient town during late Ayuthaya period and was annexed into new Thai kingdom under Chakri dynasty in B.E. 2336by King Rama I. Kalasin underwent political changes many times. Under the Thesaphibhan administrative form in B.E. 2456, it was downgraded to be administrative unit lower than mandala or county---Kalasin Province under Roi-Et County--- and had only five amphoe (districts): Uthai-Kalasin, Sahassakhanth, Kuchi-Narai, Kamalasai, and Yang-Talad. The objectives of the study are: (1) to identify politicians who have been elected in Kalasin; (2) to survey politicians’ networks in Kalasin and explore the relationships; (3) to explore roles and relationships between interest groups and informal groups that provide political support to politicians in Kalasin; (4) to discover roles and relationships between political parties and politicians in Kalasin; and (5) to explicate political campaigns in Kalasin.
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ The following are the results of the study. (1) The politicians who have been elected in Kalasin Before entering into politics, most Kalasin politicians were government officials, businessmen, or lawyers. Mr. Sankthong Srithares was elected seven times. Mr. Khunthong Pupuedeun, Mr. Wiwatchai Na Kalasin, and Mr. Withaya Phumlauchaeng were each elected five times. Mr. Chingchai Mongkoltham and Mr. Khomdej Chaisivamongkol were each elected four times. Representatives of Kalasin who changed their political party membership most often—three times each—were Mr. Khomdej Chaisivamongkol, Mr. Pichai Mongkolwirakul, and Mr. Withaya Phumlauchaeng. (2) The politicians’ networks and relationships From B.E. 2495 to 2511, networks supporting political campaigns were mostly based on personal relationships, e.g., clanship and patron-client relationships. From B.E. 2517 to 2539, there were new political activities such as forming political networks under the patronage system, giving things, utilizing government chain of command to form political networks for national-level elections, forming voluntary networks by personally accepting of roles and status of the candidates as elites equipped with knowledge and titles, using business-oriented networks with communities and local leaders, and buying votes. The establishment of political XIII
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธ์ุ networks and the relationship between politicians and vote leading agents have been complicated since the election in B.E. 2538. Many techniques have been employed: using local business-oriented patronage system, giving things, establishing mutual interests and trading off interests between local businessmen and politicians, buying votes, applying a financial patronage system in all kinds of local elections, and using village headmen and kamnan (leaders of sub-district administrative units or tambol) as vote canvassers. There is no clear division among political networks of different political parties but there is certain distance of relationship among those political networks, in other words, a compromise between political interests and business interests does not provoke serious political conflict. (3) Roles and relationships between interest groups and informal groups in political support of politicians in Kalasin. Important supporters of politicians come from various groups: local politicians and businessmen at the level of tambol (sub-district) and amphoe (district), and teachers and retired government officials (important supporters of politicians who are retired government officials, especially teachers). Informal groups are composed of kamnan and village headmen (important supporters of politicians who come from head of XIV
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ sub-district administrative units or kamnan and village headman). Other informal groups are village public health volunteers, women’s groups, and rotary clubs. (4) Roles and relationships between political parties and politicians in Kalasin. Roles and policies of political parties play an important part in election victory for parties’ candidates. The new populist policies have been very attractive to grassroots constituencies. Moreover, big and wealthy parties also give some financial support in political campaigns for the election of national representatives. (5) Political campaigns in Kalasin. Before B.E. 2535, candidates used personal images and some help from vote canvassers in political campaigns. They rallied by riding elephants, biking, driving cars, or walking to knock on doors; the size and type of rallies varied according to the potential and economic status of the candidates. Other campaign methods used were distributing leaflets, installing posters, giving things, and holding parties. Small sums of money and miscellaneous items (such as fish sauce, salted fish, sandals, matches, and sugar) were given to people; the receivers felt these gifts were valuable. Concerning policy delivery, candidates and vote canvassers emphasized hope and highlighted local development policies and problem-solving XV
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ for the people. They also highly praised their group leaders or political leaders. Spreading of rumors and verbal attacks were sometimes employed at the campaign site. Since B.E. 2538, methods using in political campaigns have changed. Many techniques have been employed: targeting and analyzing the geographical area of a campaign, setting up organizational networks, using motivation and compensation, setting up targets of minimum votes, and giving bonuses or offering special rewards for those who can meet or exceed targets. Vote buying has been done mainly with canvassers and constituencies. Officials involved in the election do not want to block vote buying and do not want to make politicians unsatisfied. High-ranking officers such as soldiers policemen, attorneys, and officers from the Ministry of Interior even have good relationships with politico-business politicians and take benefits in return. As a consequence, the lower ranking officers become vote canvassers for candidates at the national level in rural areas. XVI
สารบัญ หนา้ คำนำ IV บทคัดย่อ V Abstract XII บทท่ี 1 บทนำ 1 1.1 ที่มาและความสำคัญของการศึกษา 1 1.2 วัตถุประสงค์ 3 1.3 ขอบเขตของการศึกษา 4 1.4 วิธีการศึกษา 5 1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5 บทท่ี 2 ขอ้ มลู ทว่ั ไปของจังหวดั กาฬสนิ ธ ์ุ 7 2.1 ประวัติความเป็นมาของจังหวัดกาฬสินธุ์ 7 2.2 ที่ตั้งและสภาพภมู ิศาสตร์ 9 2.3 สภาพทางเศรษฐกิจ 14 2.4 สภาพสังคมและวัฒนธรรม 18 2.5 การบริหารและการปกครอง 27 บทที่ 3 แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกย่ี วข้อง 32 3.1 แนวคิดและทฤษฎีทางการเมืองการปกครอง 32 3.2 แนวคิดเกี่ยวกับเครือข่ายทางสังคม 38 (Social Network Concept)
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ หน้า 3.3 ทฤษฎีว่าด้วยชนชั้นนำ (Elitist Theory) 42 3.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 47 บทที่ 4 นกั การเมอื งถิ่นจงั หวัดกาฬสนิ ธ ์ุ 51 4.1 การเลือกตั้งและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 51 จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งแต่ พ.ศ.2476 - ปัจจุบัน (พ.ศ. 2555) 4.2 การเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ยุคแรก 127 (พ.ศ. 2476-2539) 4.3 การเมืองและนักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ 153 ยุคปัจจุบัน (พ.ศ. 2540-2555) บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 166 5.1 สรุปผลการวิจัย 166 5.2 อภิปรายผลตามวัตถุประสงค์ 181 5.3 ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยในอนาคต 184 5.4 ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาการเมืองในจังหวัด 184 บรรณานกุ รม 185 ภาคผนวก 191 ที่ตั้งสาขาพรรคการเมือง 191 XVIII
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ สารบัญภาพ หน้า 11 28 ภาพ 1 แผนที่แสดงอาณาเขตของจังหวัดกาฬสินธุ์ 192 ภาพ 2 เขตการปกครองของจังหวัดกาฬสินธุ์ 193 ภาพ 3 ที่ตั้งสาขาพรรคความหวังใหม่ ลําดับที่ 1 194 ภาพ 4 ที่ตั้งสาขาพรรคความหวังใหม่ ลําดับที่ 2 195 ภาพ 5 ที่ตั้งสาขาพรรคความหวังใหม่ ลําดับที่ 3 196 ภาพ 6 ที่ตั้งสาขาพรรคความหวังใหม่ ลําดับที่ 8 197 ภาพ 7 ที่ตั้งสาขาพรรคพรรคชาติไทยพัฒนา ลําดับที่ 7 198 ภาพ 8 ที่ตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ลําดับที่ 40 199 ภาพ 9 ที่ตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ลําดับที่ 211 200 ภาพ 10 ที่ตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ลําดับที่ 222 201 ภาพ 11 ที่ตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ลําดับที่ 223 202 ภาพ 12 ที่ตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ลําดับที่ 227 203 ภาพ 13 ที่ตั้งสาขาพรรคเพื่อนเกษตรไทย ลําดับที่ 15 204 ภาพ 14 ที่ตั้งสาขาพรรคมหาชน ลําดับที่ 7 ภาพ 15 ที่ตั้งสาขาพรรคสยาม ลําดับที่ 4 XIX
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธ์ุ สารบัญตาราง หนา้ ตารางที่ 1 ข้อมูลเขตการปกครองของจังหวัดกาฬสินธุ์ 29 ตารางที่ 2 การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 31 จังหวัดกาฬสินธุ์ 54 ตารางที่ 3 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 3 54 ตารางที่ 4 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 56 (26 กุมภาพันธ์ 2500) 56 ตารางที่ 5 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 4 58 ตารางที่ 6 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 58 (15 ธันวาคม 2500) 62 ตารางที่ 7 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 5 62 ตารางที่ 8 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 64 (10 กุมภาพันธ์ 2512) 66 ตารางที่ 9 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 6 67 ตารางที่ 10 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 69 เขต 1 (26 มกราคม 2518) 71 ตารางที่ 11 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 71 เขต 2 (26 มกราคม 2518) 73 ตารางที่ 12 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 7 ตารางที่ 13 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 1 (4 เมษายน 2519) ตารางที่ 14 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 2 (4 เมษายน 2519) ตารางที่ 15 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 8 ตารางที่ 16 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 1 (22 เมษายน 2522) ตารางที่ 17 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 2 (22 เมษายน 2522) XX
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธ์ุ สารบัญตาราง หนา้ ตารางที่ 18 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 9 75 ตารางที่ 19 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 75 เขต 1 (18 เมษายน 2526) 77 ตารางที่ 20 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 79 เขต 2 (18 เมษายน 2526) 80 ตารางที่ 21 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 10 82 ตารางที่ 22 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 84 เขต 1 (27 กรกฎาคม 2529) 84 ตารางที่ 23 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 86 เขต 2 (27 กรกฎาคม 2529) 89 ตารางที่ 24 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 11 90 ตารางที่ 25 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 91 เขต 1 (24 กรกฎาคม 2531) 95 ตารางที่ 26 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 95 เขต 2 (24 กรกฎาคม 2531) 97 ตารางที่ 27 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 12 ตารางที่ 28 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 1 (22 มีนาคม 2535) ตารางที่ 29 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 2 (22 มีนาคม 2535) ตารางที่ 30 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 13 ตารางที่ 31 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 1 (13 กันยายน 2535) ตารางที่ 32 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 2 (13 กันยายน 2535) XXI
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 33 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 14 99 ตารางที่ 34 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 100 เขต 1 (2 กรกฎาคม 2538) ตารางที่ 35 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 101 เขต 2 (2 กรกฎาคม 2538) ตารางที่ 36 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 15 103 ตารางที่ 37 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 103 เขต 1 (17 พฤศจิกายน 2539) ตารางที่ 38 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 104 เขต 2 (17 พฤศจิกายน 2539) ตารางที่ 39 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 16 107 ตารางที่ 40 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 107 เขต 1 (6 มกราคม 2544) ตารางที่ 41 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 108 เขต 2 (6 มกราคม 2544) ตารางที่ 42 คะแนนเลอื กตง้ั ซอ่ ม ส.ส. แบบแบง่ เขต จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ 109 เขต 2 (3 มีนาคม 2545) ตารางที่ 43 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 109 เขต 3 (6 มกราคม 2544) ตารางที่ 44 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 110 เขต 4 (6 มกราคม 2544) ตารางที่ 45 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 110 เขต 5 (6 มกราคม 2544) ตารางที่ 46 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 111 เขต 6 (6 มกราคม 2544) ตารางที่ 47 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 17 113 XXII
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธ์ุ สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 48 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 114 เขต 1 (6 กุมภาพันธ์ 2548) ตารางที่ 49 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 114 เขต 2 (6 กุมภาพันธ์ 2548) ตารางที่ 50 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 115 เขต 3 (6 กุมภาพันธ์ 2548) ตารางที่ 51 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 115 เขต 4 (6 กุมภาพันธ์ 2548) ตารางที่ 52 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 116 เขต 5 (6 กุมภาพันธ์ 2548) ตารางที่ 53 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 116 เขต 6 (6 กุมภาพันธ์ 2548) ตารางที่ 54 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 18 118 ตารางที่ 55 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 118 เขต 1 (23 ธันวาคม 2550) ตารางที่ 56 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 120 เขต 2 (23 ธันวาคม 2550) ตารางที่ 57 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุดที่ 19 124 ตารางที่ 58 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 124 เขต 1 (3 กรกฎาคม 2554) ตารางที่ 59 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 125 เขต 2 (3 กรกฎาคม 2554) ตารางที่ 60 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 125 เขต 3 (3 กรกฎาคม 2554) ตารางที่ 61 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 126 เขต 4 (3 กรกฎาคม 2554) XXIII
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธ์ุ สารบัญตาราง หนา้ ตารางที่ 62 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 126 เขต 5 (3 กรกฎาคม 2554) ตารางที่ 63 คะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดกาฬสินธุ์ 127 เขต 6 (3 กรกฎาคม 2554) ตารางที่ 64 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ 170 XXIV
บ1ทท ี่ บทนำ 1.1 ท่ีมาและความสำคัญของการศึกษา กาฬสินธุ์ เป็นเมืองเก่าโบราณมาตั้งแต่ปลายสมัย กรุงศรีอยุธยา และอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารมาตั้งแต่ พ.ศ. 2336 ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช แห่งบรมราชวงศ์จักรี เมืองกาฬสินธุ์ ได้ผ่านการ เปลี่ยนแปลงตามอำนาจทางการเมืองมาหลายยุคสมัย ในสมัย การปกครองแบบเทศาภิบาล พ.ศ. 2456 ได้ถูกเปลี่ยนเป็น หน่วยการปกครองต่ำกว่าระดับมณฑล โดยเปลี่ยนจาก “เมือง กาฬสินธุ์” เป็น “จังหวัดกาฬสินธุ์” ขึ้นกับมณฑลร้อยเอ็ด มีเขต การปกครองเพียง 5 อำเภอ คือ อำเภออุทัยกาฬสินธุ์ อำเภอ สหัสขันธ์ อำเภอกุฉินารายณ์ อำเภอกมลาไสย และอำเภอ ยางตลาด
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ ในสมัยเศรษฐกิจตกต่ำทั่วประเทศในรัชกาลที่ 7 กาฬสินธุ์ก็ถูกยุบเป็นอำเภอ เมื่อ 1 เมษายน พ.ศ. 2475 เรียกว่า “อำเภอหลุบ” ขึ้นกับจังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์เป็นอำเภอ ในสังกัดจังหวัดมหาสารคาม จนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2490 จึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่า “จังหวัดกาฬสินธุ์” (สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคอีสาน, 2542, หน้า 201) ปัจจุบันกาฬสินธุ์ ก็มักจะได้รับการอ้างอิงกล่าวถึง ในลำดับต้น ๆ เมื่อมีการเขียนรายชื่อจังหวัดทั่วประเทศ เรียงตามลำดับตัวอักษร กาฬสินธุ์จะเป็นลำดับที่ 3 เสมอ กล่าวคือ เรียงรองลำดับจาก กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ส่วนในการเรียงลำดับอักษรจังหวัดเฉพาะภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ กาฬสินธุ์ก็เป็นจังหวัดอันดับหนึ่งตลอดมา เช่นกัน ในยุทธศาสตร์การต่อสู้เอาชนะพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทย ตำบลนาคู อำเภอเขาวง (ในยุค พ.ศ. 2509) จังหวัดกาฬสินธุ์ ก็เป็นพื้นที่แรกที่รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในสมัยโน้นเลือกเป็นที่ตั้งปฏิบัติการ ของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ (นพค.) โดยใช้ยุทธวิธีแผนปฏิบัติ การเพื่อพัฒนาไปสู่ความทันสมัย (Modernization) เป็นพื้นฐาน ที่ปฏิบัติการนำร่อง (Pilot Project) แห่งแรกของประเทศไทย ในส่วนการเมืองถิ่น กาฬสินธุ์ได้รับผลกระทบเฉกเช่น จังหวัดอื่น ๆ คือ ไม่ได้รับความสนใจศึกษา ไม่มีการจัดเก็บ รวบรวมข้อมูล ปล่อยให้กระจัดกระจายไม่เป็นระบบ เพราะ
บทนำ บรรดาผู้นำองค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ มุ่งรวมความสนใจให้ไป กระจุกอยู่กับระบบการรวมอำนาจสู่ศูนย์กลาง (Centralization) มาตั้งแต่อดีตแม้จะมีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจาก ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้กฎหมาย รัฐธรรมนูญ ใน พ.ศ. 2475 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 80 ปี แต่วัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยก็เป็นเพียงทฤษฏี เท่านั้น การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเพิ่งจะมาเริ่มปฏิบัติกัน ใน พ.ศ. 2537 เป็นต้นมานี่เอง ผู้ศึกษามีความสนใจจะเก็บรวบรวมข้อมูลนักการเมือง ถิ่นในจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก 29 มกราคม พ.ศ. 2491 (นับตั้งแต่แยกมาจากจังหวัดมหาสารคาม) จนกระทั่งถึงการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 เพื่อศึกษาเครือข่าย ความ สัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์เทคนิค กลยุทธ์การหาเสียงของ นักการเมืองถิ่นกาฬสินธุ์กับพรรคการเมืองต่าง ๆ ว่าจะเป็น อย่างไร ซึ่งบรรดาข้อมูลสารสนเทศเหล่านี้เป็นองค์ความรู้ใหม ่ ที่ยังไม่เคยมีการศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบมาก่อน 1.2 วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษานักการเมืองที่เคยได้รับการเลือกตั้งใน จังหวัดกาฬสินธุ์จากอดีตจนถึงปัจจุบัน 2) เพอ่ื ทราบถงึ เครอื ขา่ ยและความสมั พนั ธข์ องนกั การเมอื ง ในจังหวัดกาฬสินธุ์
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ 3) เพื่อทราบบทบาทและความสัมพันธ์ของกลุ่ม ผลประโยชน์และกลุ่มที่ไม่เป็นทางการที่มีส่วนในการสนับสนุน ทางการเมืองแก่นักการเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์ 4) เพื่อทราบบทบาทและความสัมพันธ์ของพรรค การเมืองกับนักการเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์ 5) เพื่อทราบถึงวิธีหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองใน จังหวัดกาฬสินธุ์ 1.3 ขอบเขตของการศึกษา 1 .3.1 ขอบเขตด้านเน้ือหา ศกึ ษาการเมอื งของนกั การเมอื งระดบั ชาตจิ งั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน โดยให้ความ สำคัญกับเครือข่ายและความสัมพันธ์ของนักการเมือง บทบาท ของกลุ่มผลประโยชน์และกลุ่มที่ไม่เป็นทางการต่าง ๆ บทบาท และความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองกับนักการเมืองในจังหวัด กาฬสนิ ธ์ุ ตลอดจนรปู แบบ วธิ กี าร และกลวธิ ตี า่ ง ๆ ทน่ี กั การเมอื ง ใช้ในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง 1 .3.2 ขอบเขตด้านพื้นท่ี การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษานักการเมืองถิ่นเฉพาะ พื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ 1 .3.3 ขอบเขตด้านระยะเวลา การศึกษาวิจัยนี้ใช้เวลา 8 เดือน
บทนำ 1.4 วิธีการศึกษา วิธีการดำเนินการวิจัยอาศัยการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) ด้วยการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง (Documentary Analysis) การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) ข้อมูลจากบุคคลผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informant) ที่สามารถให้ข้อมูลโยงใยไปถึงนักการเมืองคนต่าง ๆ ในพื้นที่ (รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ที่ยังมีชีวิตอยู่ ญาติพี่น้อง และเครือข่ายต่าง ๆ) 1.5 ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รับ 1) เข้าใจถึงกลไกทางการเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งแต่ มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน 2) ได้ทราบว่าถึงเครือข่ายและความสัมพันธ์ของ นักการเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์ 3) ได้ทราบถึงความสำคัญของกลุ่มผลประโยชน์และ กลุ่มที่ไม่เป็นทางการ เช่น ครอบครัว วงศาคณาญาติ ฯลฯ ที่มี ต่อการเมืองท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ 4) ได้ทราบถึงความสำคัญของพรรคการเมืองในการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดกาฬสินธุ์ 5) ไดท้ ราบรปู แบบ วธิ กี าร และกลวธิ ตี า่ งๆ ทน่ี กั การเมอื ง ใช้ในการเลือกตั้ง
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธ์ุ 6) ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ “การเมืองท้องถิ่น” สำหรับ เป็นองค์ความรู้ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง ไทยต่อไป
บ2ทท ี่ ข้อมูลท่ัวไป ของจังหวัดกาฬสินธ์ุ ประวัติความเป็นมาและข้อมูลสภาพทั่วไปของจังหวัด กาฬสินธุ์จะเป็นข้อมูลเพื่อฐานของจังหวัดกาฬสินธุ์อันจะช่วย ให้มองเห็นสภาพความเป็นมาของจังหวัดกาฬสินธุ์ทั้งในอดีต และสภาพในปัจจุบันได้อย่างชัดเจนมากขึ้น จึงขอกล่าวถึง ประวัติความเป็นมาของจังหวัดกาฬสินธุ์และข้อมูลสภาพทั่วไป ของจังหวัดกาฬสินธุ์โดยสังเขปเพื่อจะทำความเข้าใจต่อ การเมืองถิ่นของจังหวัดกาฬสินธุ์ในบทต่อไป 2.1 ประวัติความเป็นมาของจังหวัดกาฬสินธ์ุ ทวีศักดิ์ ศรีศิริ (2551) ได้ศึกษาเกี่ยวกับประวัติจังหวัด กาฬสินธุ์ สมัยกรุงธนบุรีประมาณ พ.ศ. 2310 พระเจ้าองค์เวียน ดาแห่งนครเวียงจันทน์ได้สิ้นพระชนม์ โอรสท้าวเพี้ยเมืองแสนได้ ยกกองทัพเข้ายึดเมืองเวียงจันทน์และได้สถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าแผ่นดินสืบแทน ทรงพระนามว่า “พระเจ้าศิริบุญสาร” พ.ศ. 2320 ท้าวโสมพะมิตร และอุปราชเมืองแสนฆ้องโปง
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธ์ุ เมืองแสนหน้าง้ำเกิดขัดใจกับพระเจ้าศิริบุญสาร จึงรวบรวม ผู้คนอพยพจากดินแดนทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ข้ามมาตั้งบ้าน เรือนบริเวณลุ่มน้ำก่ำแถบบ้านพรรณา (ปัจจุบันอยู่ในเขต จังหวัดสกลนคร) ต่อมา ท้าวศิริบุญสารได้ยกกองทัพติดตามมา ท้าวโสมพะมิตรจึงอพยพต่อไปโดยแยกเป็น 2 สาย คือ สายที่ 1 มีเมืองแสนหน้าง้ำเป็นหัวหน้า อพยพไปทางทิศ ตะวันออกสมทบกับพระวอหลบหนีไปจนถึงนครจำปาศักดิ ์ ขอพึ่งบารมีของพระเจ้าหลวงแห่งนครจำปาศักดิ์ และตั้ง บ้านเรือน ณ ดอนค้อนกอง ต่อมาเรียกว่า “ค่ายบ้านดู่บ้านแก” ใน พ.ศ. 2321 พระเจ้าศิริบุญสาร ให้เพี้ยสรรคสุโภย ยก กองทัพมาปราบ พระวอตายในสนามรบ ผู้คนที่เหลือจึงอพยพ ไปอยู่ในเกาะกลางลำแม่น้ำมูล ชื่อว่า “ดอนมดแดง” (ปัจจุบัน อยู่ในเขตจังหวัดอุบลราชธานี) สายที่ 2 มีท้าวโสมพะมิตรเป็นหัวหน้า ได้อพยพข้าม สันเขาภูพานลงมาทางใต้ และตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านกลางหมื่น ต่อมาท้าวโสมพะมิตร ได้ส่งท้าวตรัยและคณะ ออกเสาะหา ชัยภูมิที่จะสร้างเมืองใหม่ใช้เวลาประมาณปีเศษจึงพบทำเล ที่เหมาะสม คือบริเวณลำน้ำปาวและเห็นว่าแก่งสำโรง ชายสงเปือย มีดิน น้ำอุดมสมบูรณ์ จึงอพยพผู้คนมาตั้ง บ้านเรือนและได้จัดตั้งศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พ.ศ. 2336 ท้าวโสมพะมิตรได้นำเครื่องบรรณาการ คือ กาน้ำสัมฤทธิ์ เข้าถวายสวามิภักดิ์ต่อพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี และขอตั้งบ้านแก่งสำโรงขึ้นเป็นเมือง ต่อมาได้รับพระกรุณา
ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดกาฬสินธุ์ โปรดเกลา้ ยกฐานะบา้ นแกง่ สำโรงขน้ึ เปน็ เมอื งและพระราชทาน นามว่า “เมืองกาฬสินธุ์” หรือ “เมืองน้ำดำ” ซึ่งเป็นเมือง ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล “กาฬ” แปลว่า “ดำ” “สินธุ์” แปลว่า “น้ำ” กาฬสินธุ์จึงแปลว่า “น้ำดำ” ทั้งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ท้าวโสมพะมิตรเป็น “พระยาชัยสุนทร” ครองเมือง กาฬสินธุ์เป็นคนแรก พ.ศ. 2437 สมัยพระยาชัยสุนทร (ท้าวเก) ได้มีการ เ ป ล ี ่ ย น แ ป ล ง รู ป แ บ บ ก า ร ป ก ค ร อ ง เ ป ็ น แ บ บ เ ท ศ า ภ ิ บ า ล มี มณฑล จังหวัด อำเภอ ตำบล และให้เมืองกาฬสินธุ์ เป็น “อำเภออุทัยกาฬสินธุ์” ขึ้นกับจังหวัดร้อยเอ็ด วันที่ 1 สิงหาคม 2456 ได้ยกฐานะอำเภออุทัยกาฬสินธุ์ เป็น “จังหวัดกาฬสินธุ์” ให้มีอำนาจปกครอง อำเภออุทัย กาฬสินธุ์ อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอกุฉินารายณ์ อำเภอกมลาไสย และอำเภอยางตลาด โดยให้ขึ้นต่อมณฑลร้อยเอ็ด วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2474 จังหวัดกาฬสินธุ์ถูกยุบเป็น อำเภอ ขึ้นกับจังหวัดมหาสารคาม และ 1 ตุลาคม 2490 ได้ยก ฐานะเป็น “จังหวัดกาฬสินธุ์” จนถึงปัจจุบัน 2.2 ที่ต้ังและสภาพภูมิศาสตร์ 2.2.1 ที่ตั้งและอาณาเขต สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างเส้นละติจูด (เส้นรุ้ง) ที่ 16-17 องศาเหนือและลองติจูด
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ (เส้นแวง) ที่ 103-104 องศาตะวันออก ห่างจากกรุงเทพมหานคร โดยทางรถยนต์ประมาณ 519 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 6,946.746 ตร.กม. หรือประมาณ 4,341,716 ไร่หรือร้อยละ 4.5 ของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัด ใกล้เคียงดังนี้ ทศิ เหนือ ติดต่อกับ จังหวัดสกลนคร และจังหวัดอุดรธานี โดยมี ลำน้ำปาวและห้วยลำพันชาดเป็นแนวกั้นแบ่งเขต ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดมหาสารคาม ทศิ ตะวนั ออก ติดต่อกับ จังหวัดสกลนครและจังหวัดมุกดาหาร โดยมี สันปันน้ำของ เทือกเขาภพู านเป็นแนวแบ่งเขต ทศิ ตะวนั ตก ติดต่อกับ จังหวัดมหาสารคาม โดยมีลำน้ำชีเป็นเส้น แบ่งเขตและบางส่วนติดต่อกับจังหวัดขอนแก่น 10
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดกาฬสินธ์ุ ภาพ 1 แผนที่แสดงอาณาเขตของจังหวดั กาฬสินธุ์ ที่มา. จาก สภาพทั่วไป, โดย สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์, ม.ป.ป. 2.2.2 ลักษณะภูมิประเทศ สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ ลักษณะภูมิประเทศจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นภูเขาสูงจนถึงที่ราบ ลุ่มมีน้ำแช่ขัง ดังนั้น ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัด กาฬสินธุ์สามารถแบ่งลักษณะ ภูมิประเทศได้ 5 ลักษณะ ดังนี้ 1) พื้นที่ที่เป็นภูเขา ได้แก่ เทือกเขาภูพาน ซึ่งมีระดับ ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 200-500 เมตร อยู่ทาง ทิศตะวันออก และทิศเหนือของจังหวัดในพื้นที่ของอำเภอ สมเด็จ, อำเภอเขาวง, อำเภอกุฉินารายณ์และอำเภอห้วยผึ้ง 11
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธ์ุ บริเวณนี้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญได้แก่ ลำน้ำปาว และ ลำน้ำพาน 2) สภาพที่เป็นหุบเขา อยู่ในเขตอำเภอเขาวง มีลักษณะ เป็นที่ราบระหว่าง หุบเขาสภาพเป็นลูกคลื่น สูงจากระดับน้ำ ทะเลปานกลาง 175-250 เมตร มีลักษณะเป็นพื้นที่ลูกคลื่นลอน ตื้น อยู่ในเขตอำเภอท่าคันโท อำเภอสหัสขันธ์ บริเวณทิศเหนือ ของอำเภอยางตลาด ทิศใต้ของอำเภอสมเด็จ และบางส่วนของ อำเภอห้วยผึ้ง 3) สภาพเป็นลูกคลื่น สงู จากระดับน้ำปานกลาง 175-250 เมตร มีลักษณะเป็นลูกคลื่นลอนตื้น อยู่ในเขตอำเภอท่าคันโท อำเภอสหัสขันธ์ บริเวณทิศเหนือของอำเภอยางตลาด ทิศใต้ ของอำเภอสมเด็จ และบางส่วนของอำเภอห้วยผึ้ง 4) สภาพค่อนข้างราบ มีระดับน้ำทะเลปานกลาง 150- 170 เมตร อยู่ในบริเวณอำเภอเมือง, อำเภอยางตลาด บางส่วน ของทิศใต้ของอำเภอสหัสขันธ์ ทางทิศตะวันออกของอำเภอ สมเด็จ และอำเภอห้วยผึ้ง 5) สภาพพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งน้ำ เป็นที่ราบริมฝั่งแม่น้ำชี ลำน้ำปาว ลำน้ำพาน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 140-150 เมตร อยู่ในอำเภอกมลาไสย บางส่วนของอำเภอเมือง และอำเภอยางตลาด 2.2.3 ลักษณะภูมิอากาศและอุตุนิยมวิทยา สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ ภูมิอากาศโดยทั่วไปของจังหวัดกาฬสินธุ์ จะมีลักษณะ 12
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดกาฬสินธ์ุ คล้ายคลึงกับจังหวัดอื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ มีอากาศร้อน และค่อนข้างหนาวในฤดูหนาว ส่วนฤดูฝนจะมีฝน ตกซุกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม จังหวัดกาฬสินธุ์ มีฝนตกเฉลี่ย 1,313.9 มิลลิเมตร/ปี อุณหภูมิต่ำสุด 14.3 องศา เซลเซียส และอุณหภมู ิสูงสุด 35.1 องศาเซลเซียส 2.2.4 โครงสร้างพ้ืนฐาน สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ 1) การขนส่งและการคมนาคม จังหวัดกาฬสินธุ์ มีการ คมนาคมขนส่งติดต่อกับจังหวัด ต่าง ๆ ดังนี้ 1.1) ทางรถไฟ ต้องลงที่จังหวัดขอนแก่น แล้วต่อรถ โดยสารจากจังหวัดขอนแก่นเข้าจังหวัดกาฬสินธุ์ ระยะทาง ประมาณ 77 กิโลเมตร 1.2) ทางอากาศ ต้องลงที่จังหวัดขอนแก่น แล้วต่อรถ โดยสารจากจังหวัดขอนแก่นเข้าจังหวัดกาฬสินธุ์ ระยะทาง ประมาณ 83 กิโลเมตร 1.3) ทางรถยนต์ สามารถใช้เส้นทางติดต่อทั้งภายใน จังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนถึงกรุงเทพมหานคร ได้อย่างสะดวก 2) ด้านสาธารณูปโภค 2.1) การประปา มีกิจการประปาทั้งหมด 3 แห่ง ดำเนินการโดยการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดกาฬสินธุ์ 13
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธ์ุ 2.2) การไปรษณีย์โทรเลข มีที่ทำการไปรษณีย์ โทรเลข 18 แห่ง ให้บริการด้านสื่อสารไปรษณียภัณฑ์ ทั้งใน ประเทศและต่างประเทศ 2.3) โทรศัพท์ ในปีงบประมาณ 2553 มีชุมสาย โทรศัพท์ โครงข่ายของ TOT จำนวน 75 ชุมสาย จำนวน 37,499 เลขหมาย มีชุมสายโทรศัพท์ โครงข่ายของ TT&T จำนวน 6,217 เลขหมาย เลขหมายที่เปิดใช้แล้วในส่วนของโครงข่าย TOT จำนวน 20,121 เลขหมาย และโครงข่าย TT&T จำนวน 5,016 เลขหมาย โดยประเภทผู้เช่าส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัย ธุรกิจต่าง ๆ และส่วนราชการตามลำดับ 2.4) ไฟฟ้า จังหวัดกาฬสินธุ์ มีไฟฟ้าใช้กระจายไป เกือบทุกหมู่บ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ และ ในปี 2553 มีจำนวน ครัวเรือนทั้งหมด 233,203 ครัวเรือน ครัวเรือนที่มีไฟฟ้าใช้ 231,442 ครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ 99.24 คงเหลือที่ยังไม่มีไฟฟ้า ใช้ 1,761 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 0.76 2.3 สภาพทางเศรษฐกิจ สภาพเศรษฐกิจของจังหวัดกาฬสินธุ์ ในปี 2552 พบว่า ประชากรมรี ายได้เฉลยี่ ต่อคน 40,769 บาทต่อปี รายได้สว่ นใหญ่ มาจากภาคการเกษตร ร้อยละ 24.05 คิดเป็นมูลค่า 9,805 ล้านบาท รองลงมาเป็นภาคการค้าส่งและค้าปลีก ร้อยละ 21.05 คิดเป็นมูลค่า 8,583 ล้านบาท และภาคการอุตสาหกรรม ร ้ อ ย ล ะ 1 6 . 4 0 ค ิ ด เ ป ็ น มู ล ค ่ า 6 , 6 8 5 ล ้ า น บ า ท พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด ได้แก่ มันสำปะหลัง อ้อย 14
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดกาฬสินธ์ุ ถั่วลิสง และอื่น ๆ มีโรงงานอุตสาหกรรม 409 โรงงาน ส่วนใหญ่ เป็นอุตสาหกรรมผลผลิตทางการเกษตร 129 แห่ง การก่อสร้าง 61 แห่ง ผลิตอาหาร 36 แห่ง แปรรูปไม้ 37 แห่ง เครื่องดื่ม 2 แห่ง และโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรอื่น ๆ 13 แห่ง (สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์, ม.ป.ป.) 2.3.1 การเกษตรกรรม สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ จังหวัดกาฬสินธุ์ มีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งสิ้น 2,811,399 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 64.75 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด แบ่งการใช้ประโยชน์ ที่ดิน เป็นพื้นที่ทำนา จำนวน 1,663,406 ไร่ (ร้อยละ 59.17 ของ พื้นที่การเกษตร) พื้นที่ทำไร่ จำนวน 803,682 ไร่ (ร้อยละ 28.59 ของพื้นที่การเกษตร) พื้นที่ไม้ผลไม้ยืนต้น จำนวน 152,929 ไร่ (ร้อยละ 5.44 ของพื้นที่การเกษตร) พื้นที่ปลูกพืชผัก จำนวน 11,187 ไร่ (ร้อยละ 0.40 ของพื้นที่การเกษตร) และพื้นที ่ ไม้ดอกไม้ประดับ จำนวน 100 ไร่ (ร้อยละ 0.004 ของพื้นที่ การเกษตร) นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทำการเกษตรอื่น ๆ จำนวน 180,095 ไร่ (ร้อยละ 6.41 ของพื้นที่การเกษตร) พืชเศรษฐกิจ ที่สำคัญของจังหวัด ได้แก่ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา ถั่วลิสง พุทรา และอื่น ๆ ดังนี้ ข้าว ปีการผลิต 2552/2553 จังหวัดกาฬสินธุ์มีพื้นที่ปลูก ข้าวนาปีทั้งสิ้น 1,490,494 ไร่ แยกเป็นปลูกข้าวเหนียว 1,042,681 ไร่ ผลผลิต 491,071.47 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 470.97 กิโลกรัมต่อไร่ และพื้นที่ปลูกข้าวเจ้า 447,813 ไร่ ผลผลิต 218,864.13 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 488.74 กิโลกรัมต่อไร่ พื้นที่ 15
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เหลือจำนวน 172,912 ไร่ บางส่วนเป็นพื้นที่ทำนาที่ถูกปล่อย ว่างเปล่า ใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และบางส่วนใช้ในกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การเลี้ยงกุ้งก้ามกราม การเลี้ยงปลา ฯลฯ และในช่วง ฤดูแล้ง ยังมีการทำนาปรังในพื้นที่รวม 305,117 ไร่ แยกเป็น พื้นที่ข้าวเหนียวนาปรัง 47,900 ไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 29,522.69 ตัน และพื้นที่ข้าวเจ้านาปรัง 257,217 ไร่ ผลผลิตรวม ประมาณ 184,923.59 ตัน พืชไร่ จังหวัดกาฬสินธุ์มีพื้นที่ทำไร่ จำนวน 803,682 ไร่ ใช้เป็นพื้นที่ปลูกอ้อยโรงงาน 376,900 ไร่ ผลผลิตรวม 3,496,878 ต้น มีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลัง 352,192 ไร่ ผลผลิตโดยรวม 1,129,832 ส่วนที่เหลือใช้ในการผลิตพืชไร่อื่นๆ ได้แก่ ข้าวโพด ถั่วลิสง มะเขือเทศโรงงาน ฯลฯ ไม้ผล มีพื้นที่ 152,929 ไร่ ใช้ในการปลูกยางพารา 118,864.60 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่กรีดได้ 18,075.70 ไร่ และพื้นที่ ยังไม่ให้ผลผลิต 100,788.90 ไร่ มีผลผลิตรวมประมาณ 4,880.44 ตัน และผลผลิตเฉลี่ย 270 กิโลกรัมต่อไร่ พื้นที่ที่เหลือ อีก 34,064.40 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นอื่น ๆ เช่น ยคู าลิปตัส มะม่วง ลำไย มะขาม เป็นต้น 2.3.2 การปศุสัตว์ สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ การเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 100 จะเป็นการเลี้ยงในฟาร์มขนาดเล็กโดยมีฟาร์มปศุสัตว์ที่ได้ มาตรฐานเพียง 19 ฟาร์ม การค้าส่วนใหญ่จะเป็นการค้าขาย ในตลาดท้องถิ่นเท่านั้น สำหรับราคาที่เกษตรกรขายได้ในปีนี้ 16
ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดกาฬสินธุ์ ราคายังคงทรงตัว การเลี้ยงสัตว์ สามารถแบ่งได้ดังนี้ 1) โคเนื้อ เลี้ยงในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง อำเภอ ยางตลาด อำเภอสมเด็จ อำเภอกุฉินารายณ์ และอำเภอนาคู ซึ่งการซื้อขายส่วนใหญ่จะเป็นโคเนื้อ จังหวัดกาฬสินธุ์ม ี ตลาดนัดโค กระบือ 5 แห่ง 2) สุกร ปี 2553 จังหวัดกาฬสินธุ์ มีสุกรทั้งสิ้น 42,657 ตัว จำนวนครัวเรือนเกษตรกร ผู้เลี้ยงสุกร 3,849 ครัวเรือน 3) ไก่ ปี2553 มีไก่เนื้อ 584,308 ตัว เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ เนื้อ 11 ครัวเรือน ไก่พื้นเมือง 1,091,500 ตัว เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ พื้นเมือง 66,635 ครัวเรือน 2.3.3 การประมง สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ สัตว์น้ำจากการเพาะเลี้ยงที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แก่ กุ้งก้ามกราม ปลานิลแปลงเพศ และปลาดุกบิ๊กอุย โดยมี เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ดังนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม 1,196 ราย จำนวน 5,074 บ่อ พื้นที่ 8,457 ไร่ เกษตรกรผู้เลี้ยง ปลานิลแปลงเพศในกระชัง 78 ราย จำนวน 4,680 กระชัง พื้นที่ 52.65 ไร่ และเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย 86 ราย จำนวน 756 บ่อ พื้นที่ 423 ไร่ 2.3.4 การอุตสาหกรรม สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ โรงงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ส่วนมากเป็นโรงงานอุตสาหกรรม 17
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ แปรรูปผลผลิตการเกษตร เช่น โรงสีข้าว โรงงานผลิตแป้งมัน สำปะหลัง โรงงานน้ำตาลทรายดิบและน้ำตาลทรายขาว เป็นต้น อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่มีอยู่ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรม ขนาดกลางและขนาดเล็ก การขยายตัวอุตสาหกรรมของจังหวัด มีไม่มากนักจังหวัดกาฬสินธุ์มีสถานประกอบการ ณ มกราคม 2553 จำนวนโรงงานที่ยังคงดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 278 แห่ง 2.4 สภาพสังคมและวัฒนธรรม 2.4.1 การศึกษา ในปี 2553 จังหวัดกาฬสินธุ์มีสถานศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ (สำนักงานคณะกรรมการ การอุดมศึกษา, 2547) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา (สอศ.) 12 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพ ห้วยผึ้ง, วิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์, วิทยาลัยสารพัดช่าง กาฬสินธุ์, พณิชยการกาฬสินธุ์, พณิชยการกาฬสินธุ์ (ภาค พิเศษ), เทคโนโลยีกมลาไสย, ไทยเทคโนโลยีสารสนเทศเอเซีย, วิทยาลัยเทคนิคเขาวง, วิทยาลัยการอาชีพคำม่วง, สมเด็จ เทคโนโลยีพณิชยการ, วิทยาลัยการอาชีพหนองกุงศรี และ เทคโนโลยีพณิชยการหนองกุงศรี (สำนักงานคณะกรรมการ การอาชวี ศกึ ษา, 2547) สงั กดั สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขน้ั พน้ื ฐาน (สพฐ.) 639 แหง่ (สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขั้นพื้นฐาน, 2547) สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แบ่งออกเป็นสถานศึกษาในสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษา 18
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดกาฬสินธ์ุ นอกโรงเรียน (กศน.) 17 แห่ง (สำนักบริหารงานการศึกษา นอกโรงเรียน, 2546) และสำนักบริหารงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการศึกษา เอกชน (สช.) 35 แห่ง (สำนักบริหารงาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษา เอกชน, 2547) มีครู อาจารย์ 9,434 คน มีนักเรียน นิสิต นักศึกษา 169,708 คน มีอัตราส่วน ครู อาจารย์ ต่อนักเรียน นิสิต นักศึกษา เป็น 1:18 มีการจัดการศึกษาออกเป็น 2 ระบบ คือ การศึกษาในระบบโรงเรียนและการศึกษานอกระบบโรงเรียน (สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์, ม.ป.ป.) 2.4.2 การศาสนา ประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัดกาฬสินธุ์นับถือศาสนา พุทธจึงมีวัดและสำนักสงฆ์ในพุทธศาสนากระจายอยู่ทั่วไปใน จงั หวดั มวี ดั จำนวนทง้ั สน้ิ 739 แหง่ พทุ ธศาสนกิ ชน 980,158 คน นอกนั้นเป็น คริสต์ศาสนิกชน และอิสลาม (สำนักงานจังหวัด กาฬสินธุ์, ม.ป.ป.) 2.4.3 การสาธารณสุข โรงพยาบาลของรัฐ 14 แห่ง แยกเป็นโรงพยาบาลทั่วไป ขนาด 505 เตียงจำนวน 1 แห่ง โรงพยาบาลชุมชนขนาด 90 เตียง จำนวน 3 แห่ง โรงพยาบาลชุมชนขนาด 60 เตียง จำนวน 2 แห่งโรงพยาบาลชุมชน ขนาด 30 เตียง จำนวน 8 แห่ง โรงพยาบาลเอกชนขนาด 50 เตียง จำนวน 1 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขชุมชน จำนวน 18 แห่ง สถานีอนามัย จำนวน 157 แห่ง และคลินิกทั่วไปจำนวน 71 แห่ง (สำนักงาน จังหวัดกาฬสินธุ์, ม.ป.ป.) 19
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธุ์ 2.4.4 ข้อมูลแหล่งท่องเท่ียวจังหวัดกาฬสินธุ์ 1) แหล่งท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ 1.1) อนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร (ท้าวโสมพะมิตร) ตั้งอยู่หน้าที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็น อนุสาวรีย์หล่อด้วยสัมฤทธิ์เท่าตัวจริง ยืนบนแท่น มือขวาถือ กาน้ำ มือซ้ายถือดาบอาญาสิทธิ์ ชาวกาฬสินธุ์ได้สละทรัพย์ ก่อสร้างอนุสาวรีย์ เพื่อเป็นการแสดงกตเวทิตาคุณต่อผู้ให้ กำเนิดเมืองกาฬสินธุ์ 1.2) พระพุทธสถานภูปอ ตั้งอยู่ตำบลภูปอ อำเภอ เมืองกาฬสินธุ์ ห่างจากจังหวัดกาฬสินธุ์ไปทางทิศเหนือ ประมาณ 28 กิโลเมตร ไปทางอำเภอสมเด็จหรืออำเภอ สหัสขันธ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณปางไสยาสน์ ฝีมือช่างจากสมัยทวาราวดีจำหลักบนหน้าผา 2 องค์ เป็นที่ เคารพบูชาของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์และใกล้เคียง องค์แรก ประดิษฐานอยู่บนเชิงเขาทางขึ้น องค์ที่สอง ประดิษฐานอยู่บน ภูปอนอก จากภูปอจะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปาง ไสยาสน์อันศักดิ์สิทธิ์แล้วยังเป็นสถานที่มีทิวทัศน์ตามธรรมชาติ ที่สวยงามเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจอย่างยิ่ง 1.3) พระพุทธไสยาสน์ถ้ำภูค่าว อยู่บ้านนาสีนวล ตำบลโนนศิลา อำเภอสหัสขันธ์ ห่างจากตลาด สหัสขันธ์ ประมาณ 6 กิโลเมตร บริเวณถ้ำภูค่าวแต่เดิมเป็นสถานที่สำคัญ ทางศาสนาแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเป็นเพียงวัดเล็ก ๆ เป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ภูค่าวซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่แปลก 20
ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัดกาฬสินธ์ุ จากพระนอนทั่วไป คือ ไสยาสน์ตะแคงซ้าย ไม่มีพระเกตุมาลา พระนอนองค์นี้มีประวัติว่าสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2235 เป็นพระโม คัลลาน เป็นที่เคารพของชาวบ้านทั่วไป มีงานนมัสการปิดทอง ในวันตรุษสงกรานต์ทุกปี 1.4) พุทธสถานภูสิงห์ ตั้งอยู่บนยอดเขาภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์ ใกล้ตลาดสหัสขันธ์ห่างจากจังหวัด 34 กิโลเมตร มีทางขึ้น 2 ทาง คือ ทางราดยางคดเคี้ยวขึ้นตาม ไหล่เขาทางทิศตะวันตก และทางเดินเท้า ทำเป็นบันได 104 ขั้น ทางทิศตะวันออก เป็นสถานที่พักผ่อนที่ร่มรื่นล้อมรอบด้วย ธรรมชาติ ทั้งยังมองเห็นทิวทัศน์ของทุ่งนา หมู่บ้าน และน้ำ ในเขื่อนลำปาวอันสวยงามอีกด้วย พุทธสถานภูสิงห์เป็นที่ ประดิษฐานพระพรหมภูมิปาโล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 10.5 เมตร มีพุทธลักษณะสง่างามเป็น พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสร้างเมื่อ พ.ศ. 2511 1.5) เมืองฟ้าแดดสงยาง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอ กมลาไสย ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 20 กิโลเมตร มีซากอิฐ ปนดิน คูเมืองสองชั้น มีลักษณะเป็นท้องน้ำที่พอมองเห็น คือ พระธาตุยาคูผังเมืองรูปไข่แบบทวาราวดีแต่มีตัวเมืองสองชั้น เชื่อว่าเกิดจากการขยายตัวเมือง ชาวนามักขุดพบใบเสมา หินทรายมีลวดลายบ้างไม่มีบ้าง ที่ขึ้นทะเบียนไว้ทางกรม ศิลปากร 130 แผ่น พระพิมพ์ดินเผามีลักษณะเป็นอิทธิพลของ สกุลช่างคุปตะรุ่นหลัง อายุประมาณ 1,000-2,000 ปี มีอยู่ทั่วไป นอกจากนี้ ยังพบกล้องยาสูบดินเผาลวดลายอมราวดีก้านขด 21
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาฬสินธ์ุ เป็นรูปตัวมังกร อายุ 7,000 ปี ที่น่าสนใจคือกล้องยาสูบชนิด เดียวกันแต่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์อายุประมาณ 5,000-6,000 ปี ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ายุคโลหะของสุวรรณภูมิได้เริ่มมาก่อน ทุก ๆ แห่งในโลกนี้ 1.6) พระธาตุยาคู ตั้งอยู่กลางทุ่งนาทิศเหนือ บ้านเสมา อำเภอกมลาไสย ห่างจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ประมาณ 19 กิโลเมตร เป็นศิลปะการก่อสร้างแบบทวาราวดีทำด้วย อิฐดิน ฐานเป็นรูป 8 เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองขนาดฐานกว้าง 10 เมตร ยาว 10 เมตร สร้างซ้อนกันเป็นลักษณะแบบจตุรมุข สูงจากฐานถึงยอด 8 เมตร เชื่อกันว่าเป็นเจดีย์บรรจุอัฐิของ พระเถระผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองเคารพนับถือ 1.7) ใบเสมาบ้านก้อม ตั้งอยู่บ้านเสมาตำบลหนอง แปน อำเภอกมลาไสย (อยู่ภายในเมืองฟ้าแดดสงยาง) ทำด้วย ศิลาแลง กว้าง 1 ศอก หนา 8 นิ้ว รวม 29 แผ่น และทำด้วย ศิลาแลง จำหลักฐานเป็นเทวดาผู้ชาย 1 หลัก ผู้หญิงยืนเคียง กัน 1 หลัก กว้าง 1 ศอกคืบ ยาว 3 ศอก หนา 8 นิ้ว 1 แผ่น 1.8) พิพิธภัณฑ์สิรินธร หรือ อุทยานโลกไดโนเสาร์ ภูกุ้มข้าว ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูกุ้มข้าว วัดป่าสักกะวัน อำเภอ สหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นแหล่งค้นพบซากโครงกระดูก ของไดโนเสาร์ ซึ่งมีอายุกว่า 150 ล้านปี ที่มีความสมบูรณ์ และ มากที่สุดในประเทศไทย (มากกว่า 700 ชิ้น) สมเด็จพระเทพ- รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาเปิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2551 เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 8.00-17.00 น. 22
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดกาฬสินธุ์ 1.9) รอยเท้าไดโนเสาร์ จังหวัดกาฬสินธุ์ค้นพบ รอยเท้าไดโนเสาร์ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2539 บริเวณกลาง ลานหินร่องน้ำห้วยวังเครือจาน เชิงเขาภูแฝก เทือกเขาภูพาน บ้านน้ำคำ ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็น รอยเท้าไดโนเสาร์ประเภทเทอร์โรฟอส จัดอยู่ในกลุ่มคาร์โนซอร์ ชนิดกินเนื้อ อายุประมาณ 140 ล้านปี ซึ่งลักษณะรอยเท้า มีความชัดเจนถึง 7 รอย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาฬสินธุ์ นอกจากนี้ ยังขุดพบซากกระโครงกระดูกที่วัดบ้านนาไคร้ อำเภอกุฉินารายณ์ และที่เชิงเขาวัดภปู อ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ 1.10) หมู่บ้านพัฒนาวัฒนธรรมผู้ไทยบ้านโคกโก่ง อำเภอกุฉินารายณ์ ห่างจากจังหวัดประมาณ 90 กม. ได้รับ รางวัลชนะเลิศหมู่บ้านวัฒนธรรมดีเด่นแบบ Homestay 1.11) พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ ศาลากลาง จังหวัด (อาคารเดิม) จัดตั้งเป็นศูนย์สาธิตอาชีพหัตถกรรม จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ประกอบดว้ ยหอ้ งจดั แสดงนทิ รรศการตา่ ง ๆ เชน่ ห้องประวัติของจังหวัดกาฬสินธุ์ ห้องวิถีชีวิตชาวผู้ไทยในอดีต ที่มีหัตถกรรมพื้นบ้านต่าง ๆ จัดแสดงไว้ห้องเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ห้องวิถีชีวิตการทำนา ชาวนากาฬสินธุ์ ห้องโชว์แพรวา ห้องจัดแสดงผลผลิตทางการ เกษตร และห้องจำหน่ายผ้าไหม สินค้าของที่ระลึกต่างๆ ของ จังหวัด 1.12) พุทธอุทยานอ่างเก็บน้ำห้วยสังเคียบ อ.สมเด็จ (ห่างจากจังหวัดประมาณ 42 กม.) นอกจากจะเป็นสถานที่ 23
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาฬสินธ์ุ ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแล้วยังเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธสมเด็จชุมเย็นมิ่งเมืองกาฬสินธุ์อีกด้วย 1.13) ศูนย์วัฒนธรรมชาวผู้ไทยบ้านโพน (ศูนย์วิจิตร แพรวาบ้านโพน) อำเภอคำม่วง (ห่างจากจังหวัดประมาณ 85 กิโลเมตร) ประกอบด้วยอาคารวิจิตรแพรวา ศาลาเฉลิม- พระเกียรติ อาคารโปงลางและงานการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ ของ จังหวัด พร้อมกับหาซื้อผ้าไหมแพรวาและสินค้าของที่ระลึก ต่างๆ จากแหล่งผลิตในราคาท้องถิ่น 2) แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์. (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ 2.1) เขื่อนลำปาว เป็นเขื่อนดิน สูงจากท้องน้ำ 33 เมตร สันเขื่อนยาว 7.8 กิโลเมตร กว้าง 8 เมตร นับเป็น เขื่อนดินยาวที่สุดในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างเมื่อ ปี พ.ศ. 2506 เพื่อปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยางที่บ้านหนองสองห้อง ตำบล ลำปาว อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำให้เกิดเป็นอ่างเก็บน้ำ แฝดทางด้านเหนือเขื่อนจึงได้ขุดร่องเชื่อมระหว่างอ่างทั้งสองให้ เปน็ อา่ งเดยี วกนั ซง่ึ ตวั อา่ งนำ้ เกบ็ นำ้ ได้ 1,430 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร มีพื้นที่รับน้ำเหนือเขื่อน 5,960 ตารางกิโลเมตร ทางเข้าเขื่อน แยกจากทางหลวงสายกาฬสินธุ์-มหาสารคามที่กิโลเมตรที่ 10 ประมาณ 26 กิโลเมตร เขื่อนลำปาวเป็นเขื่อนที่สร้างขึ้น เพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ นอกจากนั้น ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำทางบก ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ 24
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดกาฬสินธ์ุ 2.2) หาดดอกเกด ซึ่งเป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ ปรับปรุงได้อย่างสวยงาม อยู่บริเวณหน้าสันเขื่อนลำปาว และ อุทยานสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์เพาะปลา รวมจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ สัตว์น้ำด้วย 2.3) สวนสะออน (สถานศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า ลำปาว) เป็นสวนป่าธรรมชาติอยู่ทางทิศเหนือของเขื่อนลำปาว มีเนื้อที่ประมาณ 1,420 ไร่ สร้างขึ้นเพื่อรักษาป่าธรรมชาติ ปรับปรุงบริเวณให้สะอาดร่มรื่น ปลูกต้นไม้เพิ่มเติมแบ่งภายใน บริเวณสวนสะออนออกเป็นส่วน ๆ โดยสร้างรั้วตาข่ายล้อมรอบ แล้วนำสัตว์ป่าในเมืองไทยทุกชนิดมาปล่อยไว้เพื่อให ้ นักท่องเที่ยวเข้าชมและศึกษา ตลอดทั้งหาความเพลิดเพลินกับ ธรรมชาติด้วย 2.4) แหลมโนนวิเศษ เป็นผืนดินที่ยื่นเข้าไปในบริเวณ อ่างเก็บน้ำของเขื่อนลำปาว ตั้งอยู่ที่ ตำบลโนนบุรี อำเภอ สหัสขันธ์ ห่างจากตัวจังหวัดกาฬสินธุ์ 36 กิโลเมตร เป็นจุดชม พระอาทิตย์อัสดงที่สวยที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ 2.5) เกาะมหาราช เป็นสวนสาธารณะและพักผ่อน อยู่ที่อำเภอหนองกุงศรี อยู่ริมฝั่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาวตรง ข้ามกับแหลมโนนวิเศษ อำเภอสหัสขันธ์ สามารถนั่งเรือหรือแพ ขนานยนต์ข้ามฟากได้ขณะนี้จังหวัดได้ทำโครงการพัฒนาถนน รอบเกาะเพื่อความสะดวกในการเดินทาง 2.6) น้ำตกแก้งกะอาม อยู่ในเขตบ้านแก้งกะอาม หมู่ที่ 6 ตำบลผาเสวย อำเภอสมเด็จ ห่างจากที่ว่าการอำเภอ ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่กำลังพัฒนาให้เป็นแหล่ง 25
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230