2 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี เรื่อง การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จังหวดั สพุ รรณบุรี Political Activities and Electoral Behavior in the 2019 Thailand General Election in Supanburi Province ผเู้ ขียน ฐปนรรต พรหมอินทร์ เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ (e-book) 978-616-476-102-5 รหัสสง่ิ พิมพส์ ถาบนั สวพ.63-22-00.0 (ebook) พมิ พ์คร้ังที่ 1 มิถนุ ายน 2563 ประสานงาน วริศรา อมั พรศิริธรรม สงวนลขิ สทิ ธ ์ิ © 2563 ลขิ สทิ ธิ์ของสถาบันพระปกเกลา้ จดั พิมพ์โดย สำ�นกั วิจยั และพฒั นา สถาบันพระปกเกลา้ ศนู ย์ราชการเฉลมิ พระเกยี รติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ชนั้ 5 (โซนทศิ ใต้) เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวฒั นะ แขวงทงุ่ สองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศพั ท์ 0-2141-9596 โทรสาร 0-2143-8177 http://www.kpi.ac.th
3 ค�ำน�ำสถาบันพระปกเกล้า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเม่ือวันท่ี 24 มีนาคม พ.ศ.2562 เป็นการเลือกต้ังครั้งแรก ภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งได้มีการเปล่ียนแปลงกติกา ที่เก่ียวข้องกับการเลือกตั้งหลายประการ ได้แก่ การน�ำระบบการเลือกต้ังท่ีเรียกว่า “การเลือกตั้งแบบจัดสรร ปนั สว่ นผสม” มาใช้ โดยก�ำหนดใหแ้ ตล่ ะเขตเลอื กตง้ั มสี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรไดเ้ ขตละหนงึ่ คน และประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งได้คนละหนึ่งคะแนน ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบ บัญชีรายชื่อน้ันเป็นการจัดสรรโดยค�ำนวณจากคะแนนรวมที่พรรคการเมืองได้จากการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตท่ัวประเทศ การก�ำหนดให้พรรคการเมืองสามารถเสนอรายชื่อบุคคลซ่ึงสมควร ได้รับแต่งต้ังเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกินสามรายช่ือ การก�ำหนดในเร่ืองคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั รปู แบบและวธิ กี ารรณรงคห์ าเสยี งเลอื กตงั้ ตลอดจนบทลงโทษกรณกี ระท�ำความผดิ เกยี่ วกบั การเลือกตั้งที่เข้มข้นกว่าการเลือกต้ังครั้งก่อนๆ นอกจากนี้ การเลือกตั้งเม่ือวันท่ี 24 มีนาคม 2562 ยังเกิดขึ้น ท่ามกลางบริบทและสภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองท่ีเปล่ียนแปลงไปจากการเลือกตั้งท่ัวไป ครั้งหลังสุดเมื่อปี 2554 เป็นอย่างมาก อาทิ การว่างเว้นจากการเลือกต้ังเกือบแปดปีท�ำให้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คร้ังแรก (First Time Voter) มากกว่า 7 ล้านคน การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของเทคโนโลยีการสื่อสาร (Digital Disruption) ท�ำให้ส่ือใหม่ (new media) เข้ามามีอิทธิพลในการเลือกตั้งอย่างเด่นชัดเป็นคร้ังแรก การเปลี่ยนแปลงในกติกาและสภาพแวดล้อมดังกล่าวท�ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการจัดการเลือกตั้ง ยทุ ธวธิ กี ารหาเสยี งของผสู้ มคั รและพรรคการเมอื ง รวมถงึ พฤตกิ รรมการตดั สนิ ใจลงคะแนนของประชาชนอยา่ ง มนี ัยยะส�ำคัญและน่าสนใจยิ่ง หนงั สอื ชุด “การเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562” นเ้ี ปน็ ผลการศึกษาจากชดุ โครงการวจิ ยั ท่ี สถาบันพระปกเกล้าได้จัดท�ำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือส�ำรวจและบันทึกปรากฏการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะ ในมิติของความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเม่ือ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 ในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาฬสินธุ์ ก�ำแพงเพชร กาญจนบุรี ขอนแก่น ชลบุร ี เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช แพร่ ร้อยเอ็ด สงขลา สุพรรณบุรี สุรินทร์ พะเยา พิษณุโลก ปัตตานี สุราษฎร์ธาน ี เลย สระแก้ว และอุบลราชธานี ข้อมลู ที่น�ำเสนอในหนงั สอื ชุดนไี้ ดฉ้ ายให้เหน็ ภาพในระดับพน้ื ทขี่ องบรรยากาศ และความเคล่ือนไหวของพรรคการเมือง องค์กรและกลุ่มทางการเมืองต่าง ๆ ความเคลื่อนไหวและพฤติกรรม
4 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี ทางการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้ง บทบาทของหน่วยงานที่เข้ามาเก่ียวข้องในการเลือกตั้ง พฤติกรรม ทางการเมืองของประชาชนและกลุ่มการเมือง การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องค่าใช้จ่าย การเปลย่ี นแปลงของขว้ั อ�ำนาจทางการเมอื ง การยา้ ยพรรคการเมอื ง ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การตดั สนิ ใจทางการเมอื ง รวมทั้งการวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งท่ีเกิดขึ้น การเคลื่อนไหวและการรณรงค์ในการเลือกตั้งในแต่ละจังหวัดท่ี ปรากฏในส่ือออนไลน์ ตลอดจนประเด็นอ่ืน ๆ ท่ีน่าสนใจท่ีปรากฏขึ้นมาในช่วงระหว่างการมีพระราชกฤษฎีกา ก�ำหนดใหม้ ีการเลือกต้งั วนั เลือกตั้ง และหลงั การเลือกตัง้ สถาบนั พระปกเกลา้ ขอขอบคณุ รองศาสตราจารย์ ฐปนรรต พรหมอนิ ทร ์ รองศาสตราจารย์ พรชยั เทพ ปัญญา รองศาสตราจารย์ ดร.สามารถ ทองเฝือ รองศาสตราจารย์ ดร.กตญั ญู แกว้ หานาม รองศาสตราจารย์ ดร.ศิวัช ศรีโภคางกุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไพลิน ภู่จีนาพันธุ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บูฆอรี ยีหมะ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร ตันศิริคงคล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤษฎา พรรณราย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพงศ์ บุญเหลือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศุทธิกานต์ มีจั่น ดร.พิมพ์ลิขิต แก้วหานาม ดร.พิสมัย ศรีเนตร ดร.จันทรา ธนะวัฒนาวงศ์ ดร.ภคพร วัฒนด�ำรง ดร.ประเทือง ม่วงอ่อน ดร.ณรินทร์ เจริญทรัพยานนท์ ดร.เสริมสิทธิ์ สร้อยสอดศรี อาจารย์ ชนันทิพย์ จันทรโสภา อาจารย์ อุบลวรรณ สุภาแสน อาจารย์ ดารารัตน์ ค�ำเป็ง ตลอดจนผู้เก่ียวข้องทุกท่านที่ให ้ ความอนุเคราะห์ร่วมด�ำเนินงานวิจัย ขอขอบพระคุณทรงคุณวุฒิทุกท่านที่กรุณาเป็นผู้พิจารณาให้ข้อเสนอแนะ เพื่อให้งานวิจัยมีคุณภาพ สถาบันพระปกเกล้าคาดหวังว่าผลจากการศึกษาของชุดโครงการวิจัยนี้ จะเป็น ฐานข้อมลู ส�ำคญั ที่จะน�ำไปสกู่ ารพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยตอ่ ไป สถาบนั พระปกเกล้า 2563
5 ค�ำน�ำ รายงานการวิจัยเรื่อง “การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2562 จงั หวดั สพุ รรณบรุ ”ี มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ศกึ ษา 1) บรรยากาศทางการเมอื ง และความเคลื่อนไหวทางการเมือง ขององค์กรและกลุ่มทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดสุพรรณบุรี 2) ความเคลื่อนไหว และพฤติกรรมทางการเมือง ของผู้สมัคร รับเลือกต้ังสมาชิกผู้แทนราษฎรในจังหวัดสุพรรณบุรี 3) บทบาทของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้องกับการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดสุพรรณบุรี และ 4) พฤติกรรมทางการเมือง แบบแผนพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชน ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดสพุ รรณบรุ ี รายงานการวิจัยฉบับน้ี แบ่งการน�ำเสนอเน้ือหาออกเป็น 6 บท คือ บทท่ี 1 บทน�ำ บทท่ี 2 ทบทวน วรรณกรรม บทที่ 3 บทบาทของหน่วยงานภาครฐั และองค์กรอ่ืน บทท่ี 4 ความเคล่ือนไหวและพฤติกรรมทาง การเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร บทที่ 5 พฤติกรรมทางการเมือง แบบแผนพฤติกรรม ทางการเมอื งของประชาชน บทที่ 6 สรปุ อภปิ รายผลสรปุ และข้อเสนอแนะ และข้อเสนอแนะ ทง้ั นรี้ ายงานการวจิ ยั อาจมขี อ้ จ�ำกดั หรอื ขอ้ บกพรอ่ งใดๆ เกดิ ขน้ึ ผอู้ า่ นสามารถสง่ ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ มาถงึ ผวู้ จิ ัย ที่สาขาวิชารฐั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช ขอขอบพระคุณล่วงหนา้ มา ณ โอกาสนี้ดว้ ย รายงานการวิจัยฉบับนี้ส�ำเร็จลุล่วงด้วยทีมผู้ช่วยนักวิจัยทุกคน พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุน ทุนวิจัยจากสถาบันพระปกเกล้า จึงขอถอื โอกาสขอบพระคณุ มา ณ ทน่ี ี้ รองศาสตราจารยฐ์ ปนรรต พรหมอนิ ทร์ กันยายน 2562 รองศาสตราจารย์ฐปนรรต พรหมอนิ ทร์ กนั ยายน 2562
6 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี
สารบัญ 7 หน้า ค�ำน�ำสถาบันพระปกเกล้า 3 ค�ำน�ำ 5 สารบญั 7 สารบัญตาราง 9 สารบัญภาพ 10 บทคัดยอ่ 12 Abstract 14 บทสรปุ ผบู้ รหิ าร 17 The Executive Summary 23 บทที่ 1 บทน�ำ 1 25 หลกั การและเหตผุ ล 25 วัตถปุ ระสงค์ 30 ขอบเขตของการศกึ ษา 30 ระยะเวลาท�ำการศกึ ษา 30 วิธดี �ำเนินการวิจยั 30 ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั 36 บทที่ 2 วรรณกรรมท่เี ก่ียวขอ้ ง 39 แนวคดิ ทฤษฎีทีเ่ กย่ี วข้อง 39
8 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี กฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอ่ืนทเี่ ก่ียวข้อง 44 สรุปสาระสงั เขปเกี่ยวกบั การเลือกตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 52 การจัดการเลือกตั้งในพนื้ ที่จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี 53 ผลการเลอื กตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสพุ รรณบรุ ี 57 ข้อมูลพนื้ ฐานเกี่ยวกับจงั หวัดสุพรรณบรุ ี 66 ผลงานวจิ ัยที่เก่ียวขอ้ ง 71 บทท่ี 3 บทบาทของหนว่ ยงานภาครัฐ และองค์กรอนื่ 77 การท�ำงานของคณะกรรมการการเลอื กตง้ั ระดับพื้นท ่ี 77 การตรวจสอบการเลอื กตั้ง 105 บทที่ 4 ความเคล่ือนไหว และพฤตกิ รรมทางการเมอื ง ของผ้สู มคั รรับเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร 117 สาขาพรรคการเมือง 117 พรรคการเมอื งที่สง่ ผู้สมคั รรับเลอื กต้ังในแต่ละเขตเลอื กตง้ั 120 ข้อมลู เก่ยี วกบั ผสู้ มคั รรบั เลือกตั้งในแตล่ ะเขตเลือกตง้ั 132 ผลการสัมภาษณ์ผู้สมคั รรบั เลอื กตัง้ 144 บทที่ 5 พฤตกิ รรมทางการเมอื ง แบบแผนพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชน 173 พฤติกรรมทางการเมืองของผูม้ สี ิทธิเลอื กตัง้ 173 การส�ำรวจความคดิ เห็นของผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั 192 บทท่ี 6 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 215 สรปุ ผลการวิจัย 216 อภปิ รายผล 223 ขอ้ เสนอแนะ 226 บรรณานกุ รม 227 ภาคผนวก 231 แบบสมั ภาษณ ์ 233 แบบสอบถาม 238 ภาพประกอบ 241 รายช่อื คณะผูว้ จิ ยั 248
9 สารบัญตาราง หน้า ตาราง 2.1 รูปแบบของการเขา้ รว่ มทางการเมอื ง 40 ตาราง 2.2 ผลการใช้สทิ ธิเลือกตัง้ สมาชิกสภาผ้แู ทนาราษฎร แบบบญั ชรี ายชือ่ 6 กุมภาพนั ธ์ 2548 57 ตาราง 2.3 การใชส้ ิทธิเลือกต้ังสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร แบบแบง่ เขตเลอื กตั้ง วนั ที่ 6 กมุ ภาพันธ์ 2548 58 ตาราง 2.4 รายชอ่ื และผลคะแนนเลอื กตั้งสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตงั้ วันท่ี 6 กมุ ภาพันธ์ 2548 59 ตาราง 2.5 ผลการลงคะแนนการเลอื กตั้งแบบสัดส่วน 60 ตาราง 2.6 การใชส้ ทิ ธเิ ลือกตั้งสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตง้ั วนั ท่ี 23 ธันวาคม 2550 61 ตาราง 2.7 รายชอ่ื และผลคะแนนเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลอื กตั้ง วันที่ 23 ธันวาคม 2550 62 ตาราง 2.8 การใชส้ ทิ ธิเลอื กต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร แบบบัญชรี ายชอ่ื วันท่ี 3 กรกฎาคม 2554 63 ตาราง 2.9 การใชส้ ทิ ธิเลอื กตั้งสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร แบบแบง่ เขตเลอื กตงั้ วนั ที่ 3 กรกฎาคม 2554 64 ตาราง 2.10 รายชอ่ื และผลคะแนนเลอื กต้งั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันท่ี 3 กรกฎาคม 2554 64 ตาราง 3.1 การแบ่งเขตเลือกตง้ั จังหวดั สุพรรณบุรี 82 ตาราง 3.2 สถานท่ีตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง จงั หวดั สุพรรณบรุ ี 84 ตาราง 3.3 สถานที่เลือกต้งั กลางในเขตเลอื กตง้ั จงั หวัดสุพรรณบรุ ี 85 ตาราง 4.1 แสดงพรรคการเมอื งท่สี ่งผสู้ มคั รรบั เลอื กต้งั ในแต่ละเขต 121 ตาราง 4.2 แสดงเพศของผู้สมัครรบั เลือกตง้ั ในระบบแบง่ เขต จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี 132 ตาราง 4.3 แสดงอายุของผ้สู มคั รรับเลือกตั้งในระบบแบง่ เขต จงั หวัดสพุ รรณบุรี 132
10 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี ตาราง 4.4 แสดงข้อมลู ผสู้ มัครรับเลือกต้งั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบง่ เขต 133 เขตเลือกตั้งที่ 1 ตาราง 4.5 แสดงข้อมลู ผู้สมคั รรบั เลอื กตงั้ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรแบบแบ่งเขต 136 ตาราง 4.6 เขตเลือกตง้ั ท่ี 2 ตาราง 4.7 แสดงขอ้ มูลผ้สู มัครรับเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรแบบแบง่ เขต 138 เขตเลือกต้ังที่ 3 ตาราง 4.8 ตาราง 4.9 แสดงข้อมลู ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรแบบแบ่งเขต 141 ตาราง 4.10 เขตเลอื กตง้ั ที่ 4 ตาราง 4.11 ตาราง 4.12 คา่ ใชจ้ า่ ยของผูส้ มัครรับเลอื กตั้ง เขตเลือกตง้ั ท่ี 1 161 ตาราง 5.1 ตาราง 5.2 ค่าใช้จ่ายของผ้สู มคั รรับเลอื กตั้ง เขตเลอื กตง้ั ท่ี 2 162 ตาราง 5.3 ตาราง 5.4 ค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรบั เลอื กตง้ั เขตเลือกตงั้ ที่ 3 163 ตาราง 5.5 ตาราง 5.6 ค่าใชจ้ ่ายของผูส้ มคั รรับเลือกต้งั เขตเลอื กตัง้ ท่ี 4 165 ตาราง 5.7 ตาราง 5.8 เปรียบเทยี บการใชจ้ ่ายของพรรคการเมอื ง 3 พรรค 167 ตาราง 5.9 ตาราง 5.10 คะแนนรวมรายพรรคการเมืองท้งั ประเทศท่ีส่งผสู้ มคั รรับเลอื กต้ังในจังหวัดสุพรรณบุร ี 173 ตาราง 5.11 ตาราง 5.12 สรปุ การใช้สทิ ธเิ ลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบญั ชีรายชื่อ จงั หวดั สุพรรณบุรี 175 ตาราง 5.13 สรุปการใชส้ ิทธิเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรแบบบญั ชรี ายช่ือ เขตเลอื กตงั้ ท่ี 1 175 ผลคะแนนเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรแบบแบง่ เขตเลือกตง้ั เขตเลอื กตงั้ ที่ 1 175 สรุปการใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรแบบบัญชรี ายชื่อ เขตเลือกตัง้ ท่ี 2 177 ผลคะแนนเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตงั้ เขตเลือกต้ังท่ี 2 177 สรุปการใชส้ ิทธิเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เขตเลอื กตั้งที่ 3 179 ผลคะแนนเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลอื กต้ัง เขตเลือกต้งั ที่ 3 179 สรปุ การใชส้ ิทธิเลือกตง้ั สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เขตเลือกต้ังที่ 4 181 ผลคะแนนเลือกตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบง่ เขตเลอื กตั้ง เขตเลอื กตั้งท่ี 4 181 แสดงจ�ำนวนและร้อยละขอ้ มลู ทัว่ ไปของประชาชน 193 การติดตามข่าวสารการเลอื กตัง้ 195 ชอ่ งทางของสอื่ ท่ีมีการสนใจติดตามขา่ วสารการเลือกตัง้ 196
ตาราง 5.14 ผลของการตดิ ตามข่าวสารการเลือกต้งั 11 ตาราง 5.15 สาเหตทุ ท่ี �ำให้ไมส่ นใจติดตามข่าวสารการเลือกตง้ั ตาราง 5.16 เหตผุ ลท่ที �ำให้ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตง้ั 197 ตาราง 5.17 บุคคลทมี่ ีอิทธพิ ลต่อการไปใช้สิทธเิ ลือกตง้ั 199 ตาราง 5.18 ประเด็นการตดั สินใจเลือก ส.ส. 180 ตาราง 5.19 การพบเห็นพฤตกิ รรมในการเลือกต้งั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 202 ตาราง 5.20 ลักษณะการเขา้ ไปมีสว่ นรว่ มในพรรคการเมือง 203 ตาราง 5.21 ปัจจัยทีท่ �ำใหส้ นับสนนุ พรรคการเมือง 205 206 สารบัญภาพ 208 หนา้ 83 ภาพที่ 3.1 การแบ่งเขตเลือกต้ังจังหวัดสุพรรณบรุ ี
12 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี บทคัดย่อ รายงานการวิจัยเร่ือง “การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี” มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษา 1) บรรยากาศทางการเมือง และความเคล่ือนไหวทางการเมืองขององค์กรและกลุ่มทางการเมือง 2) ความเคล่ือนไหว และพฤติกรรม ทางการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้ง 3) บทบาทของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรอ่ืนๆ และ 4) พฤติกรรม ทางการเมือง แบบแผนพฤติกรรมทางการเมือง ของประชาชนในการเลอื กต้ัง การวจิ ยั เปน็ การวจิ ยั เชงิ คณุ ภาพโดยใชแ้ บบสมั ภาษณก์ บั กลมุ่ ผใู้ หข้ อ้ มลู ส�ำคญั และการวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณ ใช้แบบสอบถามกบั กลมุ่ ตวั อยา่ ง และใช้การสังเกตการณ์ ค่าสถิติท่ีใช้คอื คา่ ร้อยละ ค่าเฉลีย่ และส่วนเบย่ี งเบน มาตรฐาน และการวเิ คราะหเ์ ชิงพรรณนา ผลการวจิ ัย พบวา่ 1. บทบาทของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรอื่นๆ ระดับจังหวัด ผู้ตรวจการเลือกต้ังมีบทบาท ในการท�ำงานน้อย ผู้อ�ำนวยการการเลือกตั้งประจ�ำจังหวัดสุพรรณบุรี มีการวางและด�ำเนินการตามแผน มีเขตเลือกต้ัง 4 เขต สถานที่สมัครรับและที่เลือกต้ังใช้หอประชุมของหน่วยงาน โรงเรียน และศาลา ประชาคม ตามวันเวลาที่ก�ำหนด มีผู้สมัครฯ 112 คน จาก 32 พรรค ท้ังน้ีมีผู้ที่ขาดคุณสมบัติ หน่วยงานต่างๆ ให้การสนับสนุนและร่วมมือในการปิดประกาศและติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกต้ัง มีการเดินรณรงค ์ การจดั ประชุมและการออกเสยี งตามสาย งบประมาณมคี วามเหมาะสม ส่วนกฎ กติกาไมช่ ดั เจน ระดับเขตและ หน่วยเลือกต้ัง มีการวางและด�ำเนินตามแผน เจ้าหน้าท่ีมีน้อย แต่เวลาท�ำงานเพิ่มข้ึนท�ำให้เกิดความเหน่ือยล้า การนับคะแนนและรายงานผลระบบไอซีทีไม่เสถียร ท�ำให้ระบบล่ม ด้านผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิดความสับสน เน่ืองจากผู้สมัครรับเลือกต้ังมีเป็นจ�ำนวนมากท�ำให้จ�ำข้อมูลไม่ได้ แม้จะมีการติดป้ายช่ือและล�ำดับของผู้สมัคร รับเลือกตั้งและผู้มีสิทธิเลือกตั้งและไว้ที่หน้าคูหาแต่ก็หาช่ือไม่พบ มีการตรวจสอบการเลือกตั้งจากสื่อมวลชน ผแู้ ทนจากสถานทูต องค์กรระหวา่ งประเทศ และสภาองคก์ รชุมชน
13 2. ความเคลอื่ นไหว และพฤตกิ รรมทางการเมอื งของผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ ผแู้ ทนราษฎร มสี าขา พรรคการเมือง 3 พรรค ผู้สมัครรับเข้ารับการเลือกตั้งส่วนใหญ่เป็นเพศชายและอาศัยอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี อายรุ ะหวา่ ง 51-60 ปี ลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ เพราะเปน็ ตระกลู การเมอื ง อยากเปลย่ี นแปลงการเมอื ง หาคะแนนนยิ ม โดยใช้นโยบายพรรค สโลแกนประจ�ำตัว และความสัมพันธ์ส่วนตัว มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านส่ือต่างๆ รวมท้ังสอ่ื เทคโนโลยี การเลอื กตั้งครั้งน้ีเกิดกระแส “ชา้ งชนชา้ ง” และ “การแตกตระกลู ” 3. พฤติกรรมทางการเมือง แบบแผนพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชน มีผู้สนใจใช้สิทธ ิ เลือกตั้ง ร้อยละ 77.25 เพราะว่างเว้นจากการเลือกตั้งมานาน ผู้ท่ีได้รับเลือกตั้งมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา ทกุ เขต คอื นายสรชดั สจุ ติ ต์ นายณฐั วฒุ ิ ประเสรฐิ สวุ รรณ นายประภตั ร โพธสธุ น และนายเสมอกนั เทยี่ งธรรม โดยได้รับชัยชนะเพราะความต่อเนื่องในการท�ำงานทางการเมืองของตระกูล ความศรัทธาในตัวนายบรรหาร ศิลปอาชา ตัวผู้สมัครรับเลือกต้ัง และผู้ให้การสนับสนุนการเลือกต้ัง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิ เพราะการ ติดตามข่าวสารการเลือกต้ัง กฎหมายก�ำหนด อิทธิพลของผู้น�ำในชุมชน และความชื่นชอบท่ีมีต่อตัวผู้น�ำ/ แกนน�ำพรรคการเมอื ง ทั้งนต้ี ดั สินใจเลอื ก ส.ส. จากนโยบายของพรรค ข้อเสนอแนะ ควรมีการจัดท�ำคู่มือส�ำหรับกฎ กติกาไม่ชัดเจน ควรมีการวางระบบรองรับ การรายงานผลเลือกตั้งด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และควรเพ่ิมข้อมูลให้ชัดเจนกรณีการใช้บัตรเลือกต้ังเพียง ใบเดยี ว
14 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี Abstract A Study of Political Activities and Electoral Behaviors in the 2019 Thailand General Election in Suphan Buri Province aimed to study 1) the political climate and political activities of election-related organizations and political groups; 2) the political activities and behaviors of candidates; 3) the roles of government agencies and other organizations related to the election; and 4) political behaviors and patterns of political behaviors of people involved in the election. The research used qualitative and quantitative methods by conducting structured interviews with key informants. Questionnaires and observation were used with sample groups. The data were analyzed by using percentage, average, standard deviation, and descriptive analysis. The results revealed the following. 1. The role of government agencies and other organizations. At the provincial level, the inspector-general of Suphan Buri Province played little role in this election. The director of the provincial election of Suphan Buri planned and implemented the election process. The province was divided into four constituencies. Candidate application was arranged on February 4-8th, 2020 from 08.30- 16.30 hrs. Pre-election activities took place at the auditoriums of government agencies, schools, and public halls in the four constituencies. There were 112 candidacy applicants from 32 parties, but some would-be candidates did not meet qualifications for candidacy. Campaigns were arranged. The budget was appropriate, but rules were not clear. Election processes at polling places and around constituencies were able to be undertaken according to plans. The small number of election officials impacted the work by
15 causing fatigue and increasing the time required for vote counting. Reporting from ICT systems was unstable, causing the systems to crash. Voters were confused because there were so many candidates that voters could not remember relevant information. Eligible voters could not find their names on the voter lists and also could not remember candidate numbers or party logos. The election processes were monitored by representatives from embassies, international organizations, and community organization councils. 2. Activities and political behavior of candidates. In Suphan Buri Provience, there were three political party branches. Most of the candidates were male, aged between 51-60 years old, and resided in Suphan Buri. Most candidates were members of politically prominent families, and some candidates wanted to change politics. They sought votes using party policy identification, slogans, and personal relationships. Information was disseminated through various media including technology media. This election caused a big battle between Mr. Prapat Photasuthon and Mr. Jongchai Thiangtham. 3. Political behavior patterns of people. It was found that 77.25 percent of people were interested in voting because it had been a long time since the last general election. Mr. Sorachat Sujit, Mr. Natthawut Prasertsuwan, Mr. Prapat Photasuthon, and Mr. Samakkan Thiangtham, from Chart Thai Pattana won the election in their respective constituencies because of the continuing political work of the Silpa-archa family, and people’s faith in the late Mr. Banharn Silpa-archa. Eligible voters went to the polls because of the election news, the law, the influence of leaders in the community, and the love towards leaders/leaders of political parties. However, voters decided to choose MPs based on the party’s policy. Based on the research, it is suggested that there should be a manual for the election rules, a system to support the reporting of election results by using modern technology, and clear information on the ballots.
16 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี บทสรุปผู้บริหาร รายงานการวิจัยเรื่อง “การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) บรรยากาศทางการเมืองและ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองขององค์กรและกลุ่มทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 2) ความเคล่ือนไหว และพฤตกิ รรมทางการเมอื งของผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั 3) บทบาทของหนว่ ยงานภาครฐั และองคก์ รอน่ื ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง กบั การเลอื กตงั้ และ 4) พฤตกิ รรมทางการเมอื ง แบบแผนพฤตกิ รรมทางการเมอื ง ของประชาชนในการเลอื กตง้ั การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผสมกับการวิจัยเชิงปริมาณ โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูลเชิงคุณภาพ มีจ�ำนวน 22 คน ประกอบด้วย ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้อ�ำนวยการการเลือกต้ังประจ�ำจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้อ�ำนวยการเลือกตั้ง และคณะกรรมการประจ�ำหน่วยเลือกต้ัง นักการเมืองระดับท้องถิ่น ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักธุรกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้น�ำชุมชน องค์กรตรวจสอบการเลือกต้ัง และผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ส่วนกลุ่มตัวอย่าง เชงิ ปรมิ าณ คอื ประชาชนจากทกุ เขตเลอื กตง้ั จ�ำนวน 402 ตวั อยา่ ง เกบ็ และรวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสมั ภาษณ์ แบบสอบถาม และการสังเกตการณ์ ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนา ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณ ใชค้ ่าสถติ ริ ้อยละ คา่ เฉลีย่ และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน ผลการวิจยั พบว่า 1. บทบาทของหนว่ ยงานภาครัฐ และองคก์ รอืน่ ๆ 1.1 ระดับจังหวัด 1) ผู้ตรวจการเลือกตั้งมีบทบาทในการท�ำงานน้อย 2) ผู้อ�ำนวยการการเลือกตั้ง ประจ�ำจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี มกี ารวางแผนการท�ำงาน และด�ำเนนิ งานตามแผนทวี่ างไวท้ กุ ขนั้ ตอน โดยแบง่ เขตเลอื กตงั้ ออกเป็น 4 เขต การรับสมัครรับเลือกต้ังใช้หอประชุมที่ว่าการอ�ำเภอเมืองสุพรรณบุรี ระหว่างวันท่ี 4 – 8 กมุ ภาพันธ์ 2562 มีผสู้ มัครฯ รวมทั้งสิ้น 112 คน จาก 32 พรรคการเมอื ง สว่ นท่เี ลอื กต้งั กลางนอกเขตเลอื กต้งั และท่ีเลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้ง ใช้หอประชุมของหน่วยงาน โรงเรียน และศาลาประชาคม 3) มีผู้สมัคร รบั เลอื กตงั้ ทข่ี าดคณุ สมบตั ิ เนอ่ื งจากพรรคถกู ยบุ และเปน็ สมาชกิ พรรคการเมอื งซำ�้ ซอ้ น 4) สถานทปี่ ดิ ประกาศ และติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกต้ังเป็นสถานท่ีของหน่วยงานต่างๆ ท่ีมีพื้นที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี และ
17 ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ 5) มกี ารเดนิ รณรงค์ การจดั ประชมุ และการออกเสยี งตามสาย 6) งบประมาณ โดยภาพรวมมีความเหมาะสม แต่การใช้จ่ายบางรายการไม่สามารถเบิกได้ 7) กฎ กติกาไม่ชัดเจน ท�ำให้การปฏิบัติงานเกิดความล่าช้า และเกิดความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ 8) ได้รับการสนับสนุนและ ความร่วมมอื เป็นอย่างดจี ากหนว่ ยงานต่างๆ 1.2 ระดับเขต และระดบั หนว่ ยเลอื กต้งั 1) มีการวางแผน และด�ำเนินการตามท่ีก�ำหนด แตเ่ นอื่ งจาก แต่ละเขตมีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้ประชาชนเกิดความสับสน 2) มีการติดป้ายช่ือและล�ำดับ ไว้ท่ีหน้าคูหา ท้ังในส่วนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้สมัครรับเลือกตั้ง 3) การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต้องท�ำ ด้วยความระมัดระวัง มีบุคลากรปฏิบัติหน้าที่น้อย ขณะท่ีเวลาในการท�ำงานเพ่ิมข้ึน 4) ช่วงระยะเวลา ในการลงคะแนนคอ่ นขา้ งนาน ท�ำใหเ้ จา้ หนา้ ทเ่ี กดิ ความเหนอื่ ยลา้ 5) การนบั คะแนนมคี วามชดั เจน และรายงาน ผลตามล�ำดับ แตม่ ีปัญหาในเรื่องของไอซีทไี มเ่ สถียร ท�ำใหร้ ะบบล่ม ต้องยดึ การรายงานจากเอกสาร 6) ผมู้ สี ิทธิ เลือกตง้ั หาช่ือไม่พบ จ�ำขอ้ มูลพรรคการเมอื งและผู้สมัครรับเลอื กตัง้ ไม่ได้ 1.3 การตรวจสอบการเลือกตั้ง 1) มีส่ือมวลชน ผู้แทนจากสถานทูต องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรภายในประเทศท่ีเข้าร่วมสังเกตการณ์ 2) องค์กรตรวจสอบการเลือกตั้งในพ้ืนท่ีจังหวัดสุพรรณบุร ี คอื สภาองคก์ รชมุ ชน ท�ำหน้าทตี่ รวจปา้ ยเลือกต้ัง ข้อความที่ปรากฎบนป้ายหาเสียงท่ีติดตง้ั พบการท�ำลายปา้ ย การกระท�ำทอ่ี าจผดิ กฎหมายเลอื กตง้ั รวมถงึ การรบั เงนิ แตไ่ มส่ ามารถหาผมู้ าเปน็ พยานได้ ทงั้ นไ้ี ดร้ บั งบประมาณ สนบั สนนุ จากสถานทูตสหรฐั อเมริกา 2. ความเคล่ือนไหว และพฤติกรรมทางการเมือง ของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร 2.1 มี 3 สาขาพรรค คือ สาขาพรรคชาติไทยพัฒนา สาขาพรรครักประเทศไทย และสาขาพรรค พลังปวงชนไทย 2.2 มีพรรคการเมืองท่ีส่งผู้สมัครรับเข้ารับการเลือกตั้งจ�ำนวน 32 พรรค โดยมี 24 พรรค ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกต้ังครบทุกเขต 2.3 การเลือกตั้งครั้งน้ีเกิดกระแส “ช้างชนช้าง” ระหว่างนายประภัตร โพธสธุ น กบั นายจองชยั เทยี่ งธรรม รวมทง้ั ยงั เกดิ “การแตกตระกลู ” คอื ตระกลู “ประเสรฐิ สวุ รรณ” และตระกลู “เทยี่ งธรรม” 2.4 มผี สู้ มัครรบั เลือกตั้งทัง้ ส้ิน 103 คน ส่วนใหญเ่ ป็นเพศชายและอาศัยอยู่ในจงั หวดั สุพรรณบรุ ี กลุ่มที่มีจ�ำนวนมากท่ีสุดอายุระหว่าง 51-60 ปี 2.5 เหตุผลในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเป็นตระกูล การเมือง อยู่ในแวดวงการเมืองต้ังแต่ในระดับท้องถิ่น ต้องการสืบทอดเจตนารมณ์ทางการเมือง ศรัทธา ในพรรคการเมอื ง ตอ้ งการชว่ ยเหลอื และพฒั นาพน้ื ทที่ ย่ี งั มคี วามขาดแคลน ตอ้ งการเปลย่ี นแปลงสงั คมและตอ้ งการสรา้ ง ความเชื่อมั่นให้กับคนรุ่นใหม่ 2.6 พรรคการเมืองมีการด�ำเนินการกิจกรรมเพื่อหาคะแนนนิยมในพ้ืนท่ีต่างๆ โดยใช้นโยบายที่พรรคก�ำหนด สโลแกนประจ�ำตัว และความสัมพันธ์ส่วนตัว มีการเผยแพร่ผ่านสื่อเอกสาร สื่อป้ายหาเสียง สื่อรถโฆษณาหาเสียง มีการใช้ส่ือบุคคล และการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ในการหาเสียง 2.7 มีการใช้จ่ายเงินตามท่ีก�ำหนด โดยพรรคชาติไทยพัฒนามีการใช้จ่ายเงินรวมทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง จ�ำนวน 4,618,044.50 บาท 2.8 ปญั หาอปุ สรรค คอื ปา้ ยท่ีมีจ�ำนวนมาก และขนาดทไี่ ม่ตรงตามที่ก�ำหนด มีการขนคน มาฟังการหาเสียง และอากาศร้อน 2.9 ผู้สมัครรับเลือกตั้งน�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ เช่น สอ่ื สังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ค ไลน์ แฟนเพจ เป็นต้น
18 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี 3. พฤติกรรมทางการเมอื ง แบบแผนพฤตกิ รรมทางการเมอื งของประชาชน 3.1 ผลการเลือกตัง้ 1) แบบบญั ชรี ายช่อื มีผมู้ าใชส้ ทิ ธเิ ลือกต้งั รอ้ ยละ 77.25 บตั รดี ร้อยละ 71.63 บัตรเสีย ร้อยละ 4.79 และมีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด ร้อยละ 0.83 2) แบบแบ่งเขตเลือกต้ัง มีผู้มาใช้สิทธ ิ เลือกตั้ง ร้อยละ 77.25 บัตรดี ร้อยละ 92.73 บัตรเสีย ร้อยละ 6.20 บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด ร้อยละ 1.08 3) ผู้ท่ีได้รับเลือกต้ังให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มาจากพรรคชาติไทยพัฒนาทุกเขต คือ เขตเลือกต้ังท่ี 1 นายสรชัด สุจิตต์ เขตเลือกต้ังที่ 2 นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เขตเลือกต้ังท่ี 3 นายประภัตร โพธสธุ น และเขตเลอื กต้ังท่ี 4 นายเสมอกนั เทีย่ งธรรม 3.2 ผู้ตอบแบบสอบถาม 1) ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง กลุ่มที่มีจ�ำนวนมากที่สุดอายุระหว่าง 36-45 ปี ส�ำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกอบอาชีพรับจ้าง และมีรายได้ 5,001–10,000 บาท/เดือน 2) พฤติกรรมการเลือกต้ัง โดยภาพรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับปานกลาง คือ การติดตามข่าวสารการเลือกต้ัง โดยผ่านช่องส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ เช่น อินเทอรเ์ นต็ เฟซบคุ๊ ทวติ เตอร์ อนิ สตราแกรม เปน็ ต้น การตดิ ตามข่าวสาร การเลือกตั้งท�ำให้ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง เหตุผลที่ไม่สนใจติดตามข่าวสารการเลือกตั้งเพราะสาระของ ข่าวสารเช่ือถือไม่ได้ ขณะที่ไปเลือกต้ังเพราะกฎหมายก�ำหนด ผู้ท่ีมีอิทธิพลต่อการไปใช้สิทธิเลือกต้ังคือ ผู้น�ำ ในชุมชน ตัดสินใจเลือก ส.ส. จากนโยบายของพรรคการเมือง และปัจจัยท่ีท�ำให้สนับสนุนพรรคการเมือง เพราะความชื่นชอบท่ีมีต่อตัวผู้น�ำ/แกนน�ำพรรคการเมือง ท้ังนี้ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับน้อย คือ เรอ่ื งของการแจกเงนิ และประเดน็ ทมี่ คี า่ เฉลย่ี อยใู่ นระดบั นอ้ ยทสี่ ดุ คอื การเปน็ สมาชกิ พรรคการเมอื ง 3) ประชาชน สนใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และมีความต่ืนตัวต่อการเลือกตั้ง เพราะว่างเว้นการเลือกตั้งมานาน และอยากเห็น ความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ปัจจัยท่ีท�ำให้ผู้สมัครรับเลือกต้ังได้รับเลือกตั้ง เพราะความผูกพันกับประชาชน การให้ความช่วยเหลือ/ค�ำปรึกษา และจากบารมีของนายบรรหาร ศิลปอาชา ส่วนเหตุที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เพราะเช่ือว่ามีการทุจริตการเลือกต้ังด้วยการซ้ือเสียง ทั้งน้ีมีบัตรเสียที่เกิดจาก การสง่ จดหมายผิดพืน้ ท่ี และการขีดฆา่ บนบตั รเลอื กต้งั 3.3 ชัยชนะของพรรคชาติไทยพัฒนา มาจากความต่อเน่ืองในการท�ำงานทางการเมืองของตระกูล การเมือง ความศรทั ธาในตวั นายบรรหาร ศลิ ปอาชา ผู้สมัครรบั เลอื กต้ัง และผใู้ ห้การสนับสนุนการเลอื กตงั้ ข้อเสนอแนะ 1. ประเด็นกฎ กติกาไม่ชัดเจน ควรมีการจัดท�ำคู่มือค�ำอธิบายวิธีการ และขั้นตอนในแต่ละเรื่อง โดยละเอยี ด 2. ประเด็นการรายงานผลเลือกตั้งด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ควรต้องทบทวนการวางระบบท่ีน�ำมาใช ้ ให้สามารถรองรบั กจิ กรรมทีเ่ กิดขนึ้ พร้อมกนั ในเวลาเดยี วกนั 3. ประเดน็ การใชบ้ ตั รเลอื กตง้ั เพยี งใบเดยี ว ควรเพมิ่ ขอ้ มลู ชอื่ -สกลุ ของผสู้ มคั ร และชอื่ พรรคการเมอื ง หรอื ควรแยกบตั รเลือกตง้ั แบบบญั ชรี ายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตัง้ เปน็ ละใบ
19 The Executive Summary This research report, entitled “Political Activities and Electoral Behavior in the 2019 Thailand General Election in Suphan Buri Province” aimed to study 1) the political climate and political activities of election-related organizations and political groups; 2) the political activities and behaviors of candidates; 3) the roles of government agencies and other organizations related to the election; and 4) political behaviors and patterns of political behaviors of people involved in the election. This is a mixed-method study using quantitative and qualitative research methodologies. For the qualitative study, the key research informants were 22 persons comprising the candidates, the director of the provincial election of Suphan Buri, election unit board members, local politicians, sub-district heads, village heads, businessmen, experts, community leaders, election monitoring organization members, and eligible voters. In the quantitative study, the research sample consisted of 402 people from all election zones. Data were collected with the use of a questionnaire, interviews, and observation. Qualitative data were analyzed with descriptive analysis, while quantitative data were statistically analyzed using percentage, mean, and standard deviation. Research findings are as follow. 1. The roles of state agencies and other organizations 1.1 The roles at the provincial level are as follow. 1) The inspector-general of Suphan Buri Province had little role in the election. 2) The director of the provincial election of Suphan Buri performed his roles in planning and carrying out the election
20 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี operations in accordance with all steps of the election plan. The province was divided into four constituencies. The auditorium of Mueang Suphan Buri District Office was used for candidate registration. The election application period was from February 4 to February 8, 2019. In total, 112 people from 32 political parties applied to run as candidates. The pre-election activities were organized at the auditoriums of regional government organization, schools, and community center pavilions. 3) Some candidacy applicants lacked qualifications because their political party was dissolved or because they were members of multiple political parties at the same time. 4) Election announcements and posters concerning the election were posted at the offices of regional and local government organizations in Suphan Buri Province and offices of local administrative organizations. 5) There were campaign walking events, organized meetings, and closed circuit broadcasts. 6) The overall allocated budget was appropriate, but expenditure items could not be reimbursed. 7) Some rules and regulations were not clear resulting in slowness in work performance and the occurrence of minor errors. 8) The election work received good support and cooperation from various regional and local government organizations. 1.2 The roles at the constituency and polling place level are as follow. 1) There was election planning and the election activities were carried out in accordance with the plan. However, since there were a lot of candidates in each constituency, the people were confused. 2) Announcements of the lists of candidates and the lists of eligible voters were posted in front of the polling stations. 3) State officials responsible for the election process had to carry out their work carefully due to the fact that the number of personnel was small and it took a long time to do the work. 4) The duration for vote casting was rather long resulting in the responsible personnel being fatigued. 5) The vote counting and reporting of voting results were carried out in a clear and orderly manner. However, there was the problem of information and communication technology being unstable, and breakdowns resulted in the reporting process having to depend on information from written documents alone. 6) Some eligible voters could not find their names on the posted lists, and some people could not remember information concerning the political parties and names of candidates.
21 1.3 The roles in the monitoring of the election are as follow. 1) There were mass media reporters, representatives from various embassies, and representatives from international and domestic organizations who came to participate in the observation of the election. 2) The organization that monitored the election in Suphan Buri Provincial area was the Private Organization Council. It performed the duty of examining the election posters and their contents. It found that some election posters had been destroyed and there were some actions that might be in violation of the election law. It also received reports of bribery allegations but could not identify any witness to support such allegations. The election monitoring organization received financial support from the US Embassy. 2. The political movements and political behaviors of election applicants 2.1 In Suphan Buri Province, there were only three political party branches: Chart Thai Pattana Party, Rak Prathet Thai Party, and Phalang Puang Chon Chao Thai Party. 2.2 Despite not having party branches, 32 political parties fielded candidates in the province, with 24 parties fielding candidates in all four constituencies. 2.3 In this election, there was a big battle between Mr. Praphat Phothisuthon and Mr. Jongchai Thiangtham. 2.4 There were 103 candidates, the majority of whom were males residing in Suphan Buri Province. The largest group comprised those who were 51 – 60 years old. 2.5 The reasons for running in the election were: being a member of a family that engages in political activities; having been in political circles at local up to the national level; wanting to inherit and continue a political dynasty; having faith in one’s political party; wanting to help and develop the areas that still lack prosperity; wanting to change society; and wanting to create confidence among new voters. 2.6 The political parties engaged in activities to gain votes in various areas with the use of policies determined by each party, personal slogans, and personal relationships. The political activities were disseminated via printed media, canvassing posters, canvassing vehicles, personal information media, and online social media with the purpose to win votes. 2.7 The political parties spent their money in accordance with the legal limit, with the Chart Thai Pattana Party’s total spending in all four constituencies amounting to 4,618,044.50 Baht. 2.8 The problems and obstacles were the following: the large number of election posters; transporting people to listen to the canvassing presentations; and the hot weather. 2.9 Candidates used technology such as online social media, Facebook, Line, and Fan Page, etc. to communicate with the new generation audience.
22 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี 3. The political behaviors and patterns of political behaviors of the people 3.1 Election results. 1) In the party-list system, 77.25 percent of eligible voters cast ballots, 94.48 percent of ballots cast were valid, 4.79 percent were invalid, and 0.83 percent of ballots were cast for the “no vote” option (rejecting all candidates). 2) The Chart Thai Pattana Party candidates won in every constituency. Specifically, Mr. Sorachat Suchit won in Constituency 1, Mr. Natthawut Prasertsuwan won in Constituency 2, Mr. Praphat Phothisuthon took Constituency 3, and Mr. Samerkan Thiangtham won in Constituency 4. 3.2 Questionnaire respondents. 1) The majority of respondents were female; the largest group comprised those who were 36–45 years old, with upper secondary level education, with occupation of working for hire, and with monthly income of 5,001– 10,000 baht. 2) Regarding election behaviors, the overall rating mean of questionnaire respondents’ election behaviors was at the moderate level: following information concerning the election via electronic media channels like the Internet, Facebook, Twitter, and Instagram; following information concerning the election enables them to exercise their right to vote; the reason that they are not interested in following information concerning the election is that the information is unreliable; the reason that they go to cast their votes is that it is specified in the law; the persons who have influence on their decision to go vote are the community leaders; the decision to vote is based on the policy of the political parties; the factor causing respondents to support a political party is appreciation of and satisfaction with the leader/core leaders of the political party. On the other hand, the specific item receiving the low rating mean was that on giving out money for vote buying, while the specific item receiving the lowest rating mean was that on being a member of a political party. 3) The people were interested in exercising their right to vote because the country had been without an election for a long time, and respondents wanted to see many changes in the country, especially economic change. The factors that enabled the candidates to be elected were the following: their popularity among the people; their provision of help/advice to the people; and the popularity of Mr. Banharn Silpa-acha. On the other hand, the factor that prevented other candidates was vote buying. Moreover, it was found that invalid ballots were caused by the ballots being sent to the wrong constituency, and voters marked the ballots incorrectly.
23 3.3 The success of Chart Thai Pattana Party came from the continuity of the Silpa-archa political family, belief in Mr. Banharn Silpa-archa, candidates, and their supporters. Recommendations 1. Regarding the issue of the rules and regulations being not clear, an election handbook should be created with detailed explanations of the election procedures. 2. Regarding the issue of reporting election results via modern technology, there should be a review of the system that was used in order to ensure that the reporting can cover all activities occurring at the same time. 3. Regarding the issue of using only one ballot, the each candidate’s name, surname, and political party should be printed on the ballot, or there should be two separate ballots—one for the election on the party-list system, and another for the election on the constituency system.
24 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี
25 บทที่ 1 บทน�ำ 1. หลักการและเหตุผล ประชาธิปไตย คือการปกครองโดยผู้ถูกปกครอง หรือ การปกครองโดยประชาชน โดยหลักการ ทส่ี �ำคญั ๆ ของประชาธปิ ไตยประกอบดว้ ย 1) ความเชอ่ื ในหลกั การอ�ำนาจอธปิ ไตยของปวงชน ซงึ่ แสดงใหเ้ หน็ ได ้ จากการเลอื กตง้ั การรวมตวั เปน็ กลมุ่ ผลประโยชน์ และการรวมตวั เปน็ พรรคการเมอื ง การมสี ว่ นรว่ มทางการเมอื ง อยา่ งอน่ื และการถอื หลกั ตดั สนิ ใจโดยเสยี งขา้ งมากทเี่ คารพสทิ ธขิ องเสยี งขา้ งนอ้ ย 2) หลกั การวา่ ดว้ ยสทิ ธเิ สรภี าพ 3) หลักการว่าด้วยความเสมอภาค และ 4) เชอ่ื ในหลกั ภราดรภาพของมนุษย์ (วิสทุ ธิ์ โพธิแทน่ 2551: 1-80) ส�ำหรับประเทศไทยได้น�ำรูปแบบการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยมาใช้นับต้ังแต่ พ.ศ.2475 เปน็ ตน้ มา โดยผปู้ กครองพยายามใหค้ วามส�ำคญั กบั ความเชอื่ ในอ�ำนาจอธปิ ไตยของปวงชนทแ่ี สดงผา่ นการเลอื กตงั้ แตก่ จ็ ะพบวา่ ตลอดระยะเวลาเกอื บ 80 ปที ผี่ า่ นมา ประเทศไทยจดั ใหม้ กี ารเลอื กตงั้ เปน็ ชว่ งๆ สลบั กบั การยดึ อ�ำนาจ อย่างไรก็ตามการเลือกต้ัง ถือเป็นรูปแบบหน่ึงของการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการออกเสยี งลงคะแนนตามความคดิ เหน็ ของตนเองโดยอสิ ระวา่ จะเลอื กผใู้ ดเปน็ ตวั แทนของตนเขา้ ไปใชอ้ �ำนาจ อธปิ ไตยบรหิ ารกจิ การของประเทศ ซงึ่ ผทู้ ไี่ ดร้ บั การเลอื กตงั้ นนั้ จะเปน็ ผทู้ สี่ มคั รใจเสนอตวั เขา้ มาใหป้ ระชาชนเลอื ก และผู้ที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่จะเป็นผู้ท่ีได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้แทนของประชาชนท้ังหมด มีสิทธิตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนให้เข้าร่วมเป็นคณะบุคคลด�ำเนินการบริหารและปกครอง (พิมลจรรย์ นามวฒั น์ 2534: 716) นอกจากนก้ี ารเลอื กตง้ั ถอื เปน็ สทิ ธขิ นั้ พนื้ ฐานของมนษุ ยด์ งั ปรากฏในปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชน (Universal Declaration of Human Rights) ว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในรัฐบาลประเทศของตน ไม่ว่า โดยทางตรงหรอื โดยทางออ้ ม โดยผา่ นทางผแู้ ทนทไ่ี ดร้ บั การเลอื กตงั้ โดยอสิ ระ เจตจ�ำนงของประชาชนยอ่ มเปน็ มูลฐานแห่งอ�ำนาจของรัฐบาล เจตจ�ำนงเช่นนี้ต้องแสดงออกโดยการเลือกต้ังท่ีสุจริต ตามระยะเวลาท่ีก�ำหนด ทีจ่ ะเป็นการออกเสียงท่วั ไป เป็นไปอย่างเสมอภาคด้วยวธิ กี ารทีเ่ ปน็ ความลบั หรือการลงคะแนนโดยอสิ ระ
26 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี การเลือกตั้งที่เกิดข้ึนใน พ.ศ. 2562 เป็นการเลือกต้ังที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่ประเทศไทย ไม่ได้มีการเลือกต้ังติดต่อกันถึงระยะเวลา 8 ปี ซ่ึงเป็นช่วงระยะเวลาท่ีมีความเปล่ียนแปลงเกิดข้ึนในโครงสร้าง ของทางอ�ำนาจ และโครงสรา้ งของสถาบนั การเมอื งไทยอยา่ งทไ่ี มเ่ คยปรากฎมากอ่ น ในส่วนของโครงสร้างทางอ�ำนาจนั้น การเว้นว่างของการเลือกต้ังในห้วงระยะเวลา 8 ปีนี้ ส่วนหน่ึง เป็นผลมาจากการรัฐประหารในวนั ท่ี 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเปน็ เหตกุ ารณ์ต่อเนือ่ งในบรบิ ทของความขัดแยง้ ทางการเมืองในประเทศไทยในช่วงระยะเวลากว่าทศวรรษก่อนหน้าน้ัน โดยชนวนของความขัดแย้งล่าสุด อยู่ท่ีเร่ืองพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซ่ึงได้น�ำไปสู่การต่อต้านรัฐบาล เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง และการใช้ความรุนแรงท้งั ในเขตกรงุ เทพมหานครและเมอื งใหญห่ ลายเมอื งในประเทศไทย ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ได้เกิดการเปล่ียนแปลงในโครงสร้างของความสัมพันธ์ทางอ�ำนาจ ของประเทศไทยหลายประการ ทง้ั การเกดิ ขน้ึ ของกลมุ่ การเมอื งโดยคณะกรรมการประชาชนเพอื่ การเปลย่ี นแปลง ปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยท่ีสมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ทป่ี ระสบความส�ำเรจ็ ในการระดมความสนบั สนนุ จากทวั่ ประเทศ ตอ่ เนอ่ื งมาจนถงึ การรฐั ประหาร และแมก้ ระทง่ั ชว่ งหลงั รฐั ประหาร กย็ งั มกี ารแสดงออกทางการเมอื งของกลมุ่ ผลประโยชนต์ า่ ง ๆ และปฏกิ ริ ยิ าโตต้ อบของรฐั บาล ในการจ�ำกัดการแสดงออกทางการเมือง เชน่ การเรียกพบนักการเมืองทมี่ ีบทบาทเดน่ การส่งทหารไปเฝ้าระวงั ท่ีบ้านนักการเมือง หรือเรียกตัวนักการเมืองเข้าพบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อปรับทัศนคต ิ ซ่ึงเกิดควบคู่กับการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร เช่น กลุ่มประชาธิปไตยใหม ่ และกลุ่มอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้อง นอกจากน้ีในช่วงระยะเวลาดังกล่าวน้ีได้มีการเสริมบทบาทของข้าราชการ โดยมี การโยกย้ายสับเปล่ียนข้าราชการหลายคนให้เข้าไปท�ำงานด้านยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนการสนับสนุนบทบาท ทีเ่ ดน่ ชดั มากขึน้ ใหก้ บั ส�ำนกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ เป็นต้น แม้จะมีการจ�ำกัดการแสดงออกทางการเมือง แต่ในระยะเวลาท่ีผ่านมากลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ หลายกลุ่ม ประสบความส�ำเร็จในการสร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองให้กับตนเอง โดยพัฒนา ไปเป็นพรรคการเมือง เช่น กลุ่ม กปปส. ท่ีกลายไปเป็นพรรครวมพลังประชาชาติไทย กลุ่มของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ท่ีได้พัฒนาไปเป็นพรรคประชาชนปฏิรูป และกลุ่มท่ีเกิดขึ้นจากการรวมตัวของ 4 รัฐมนตรี ได้แก ่ พรรคพลงั ประชารฐั ตลอดจนมกี ลมุ่ นกั กจิ กรรมสงั คมทม่ี คี วามสนใจทจ่ี ะตง้ั พรรคการเมอื ง เชน่ พรรคอนาคตใหม ่ ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นผู้ร่วมก่อต้ังพรรค และการประกาศเปลี่ยน อุดมการณ์เพื่อย้ายพรรคการเมืองของนักการเมืองหลายคน เช่น นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายนคร มาฉิม นายประดษิ ฐ์ ภทั รประสิทธ์ิ เป็นตน้ นอกจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว ในส่วนของรัฐบาลเองได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และพระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู อกี 3 ฉบบั ได้แก่ พระราชบญั ญตั ิ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลือกตงั้ และพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนูญวา่ ด้วยพรรคการเมือง
27 จากโครงสร้างดังกล่าวนี้ ได้ส่งผลให้การเลือกต้ังท่ีเกิดข้ึนแตกต่างจากการเลือกตั้งท่ีผ่านมาตั้งแต ่ หลงั ปี พ.ศ. 2544 โดยสิ้นเชิง เช่น การเลอื กตั้งแบบบตั รใบเดียว โดยใชก้ ารนับคะแนนแบบจัดสรรปนั ส่วนผสม ยังมีมาตรการใหม่ท่ีก�ำหนดรายละเอียดเก่ียวกับการเลือกตั้งข้ันต้น (แม้ภายหลังจะมีมาตรา 44 ออกมาสร้าง ความยืดหยุ่นให้กับมาตรการดังกล่าว) เงื่อนไขใหม่เกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมือง หน้าที่และสถานภาพ ของสมาชกิ พรรคการเมอื ง และคณะกรรมการบรหิ ารพรรค รวมทง้ั การก�ำหนดโทษของพรรคการเมอื งไวส้ งู มาก การก�ำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการเลือกต้ังของพรรคการเมืองและวิธีการหาเสียงเลือกต้ังของพรรคการเมือง ในมาตรา 62-83 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง บทบาทท่ีเพิ่มมากขึ้นของ คณะกรรมการการเลือกต้ัง พร้อมกับการประกาศยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการปฏิรูปประเทศ 13 ด้าน ซงึ่ ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ กตกิ า หรอื บทบญั ญตั ใิ หมท่ เี่ กดิ ขน้ึ ทจี่ ะสง่ ผลตอ่ โครงสรา้ งทางการเมอื ง และการเปลยี่ นแปลง ของสถาบันการเมืองไทยอีกหลายสถาบัน ซ่ึงยังไม่นับถึงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีกหลายฉบับ ท่ีให้บทบาทหน้าที่กับองค์กรอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่ออ�ำนาจและบทบาทของผู้แทนราษฎรและรัฐบาล ทจี่ ะเกดิ ขึน้ ภายหลงั การเลือกตงั้ ทงั้ นห้ี ากพจิ ารณาจากบทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย 2560 โดยสงั เขปในบางเรอื่ ง เช่น หน้าท่ีของปวงชนชาวไทย บัญญัติไว้ในหมวด 4 เกี่ยวกับการเลือกต้ังหรือการลงประชามติว่า “ไปใช้สิทธิ เลอื กตงั้ หรอื ลงประชามตอิ ยา่ งอสิ ระโดยค�ำนงึ ถงึ ประโยชนส์ ว่ นรวมของประเทศเปน็ ส�ำคญั ” (ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ที่ 134 ตอนท่ี 40 ก มาตรา 50 (7)) นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ยังได้บัญญัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การเลือกต้ังไว้ในหลายประเด็น คือ 1) ก�ำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (มาตรา 95) ขณะเดียวกันได้ บญั ญตั ถิ งึ คณุ สมบตั ขิ องบคุ คลทมี่ ลี กั ษณะตอ้ งหา้ มใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตงั้ (มาตรา 96) 2) องคก์ รอสิ ระทเี่ ขา้ มาท�ำหนา้ ที่ ในการจัดการเลือกต้ัง คือ คณะกรรมการการเลือกต้ัง (มาตรา 222-223) อ�ำนาจหน้าท่ี (มาตรา 224) 3) สภาผู้แทนราษฎร ได้บัญญัติถึงจ�ำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 83) คุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัคร รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 97) และลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร (มาตรา 98) (ราชกิจจานุเบกษา เล่มท่ี 134 ตอนที่ 40 ก) ส�ำหรบั กรณกี ารเลอื กตงั้ ในพน้ื ทจ่ี งั หวดั สพุ รรณบรุ นี น้ั โดยพน้ื ฐานทผ่ี า่ นมา ถอื วา่ เปน็ พน้ื ทกี่ ารเลอื กตง้ั ท่ีไม่พบความขัดแย้งของผู้สมัครรับเลือกต้ังระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ การเลือกต้ังในจังหวัดสุพรรณบุรี นบั ตงั้ แตก่ ารเลอื กตง้ั ใน พ.ศ. 2531 เปน็ ตน้ มา เปน็ พน้ื ทผี่ กู ขาดของผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ในนามของพรรคชาตไิ ทย1 มาโดยตลอด แม้ว่าในการเลือกตั้งครั้งต่างๆ ที่ผ่านมาจะมีพรรคการเมืองหลายพรรคได้ส่งผู้สมัครรับเลือกต้ัง เข้าลงแข่งขัน เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 มีพรรคการเมือง สง่ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ 6 พรรค ประกอบดว้ ย พรรคชาตไิ ทย ความหวงั ใหม่ ไทยรกั ไทย ประชาธปิ ตั ย์ ประชากรไทย 1 พรรคชาตไิ ทยเปลย่ี นชอ่ื เปน็ พรรคชาตไิ ทยพฒั นา เมอ่ื วนั ท่ี 18 เมษายน พ.ศ. 2551 เนอ่ื งจากคณะกรรมการการเลอื กตงั้ มีมติให้ยุบพรรคเม่ือวันท่ี 11 เมษายน พ.ศ. 2551 และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง กรรมการของพรรคเป็นเวลา 5 ปี ในวันท่ี 2 ธันวาคม 2551
28 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี และพรรคเสรธี รรม โดยผทู้ ไี่ ดร้ บั เลอื กตงั้ ใหด้ �ำรงต�ำแหนง่ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในครงั้ นี้ ประกอบดว้ ยตระกลู “ศิลปอาชา” 3 คน คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา นายวราวุธ ศิลปอาชา และนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ตระกูล “ประเสริฐสวุ รรณ” คอื นายณัฐวฒุ ิ ประเสริฐสวุ รรณ ตระกลู “โพธสธุ น” คอื นายประภัตร โพธสธุ น และตระกลู “เทยี่ งธรรม” คอื นายจองชยั เทย่ี งธรรม ตอ่ มาเมอื่ มกี ารจดั การเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรเมอ่ื วนั ที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2548 มพี รรคการเมอื งสง่ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ลดลงมาเหลอื เพยี ง 3 พรรค ประกอบดว้ ย พรรคชาติไทย ไทยรักไทย และประชาธิปัตย์ โดยผู้ที่ได้รับเลือกตั้งให้ด�ำรงต�ำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในคร้ังน้ีประกอบด้วยตระกูล “ศิลปอาชา” 3 คน คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา นายวราวุธ ศิลปอาชา และ นางสาวกัญจนา ศลิ ปอาชา ตระกลู “ประเสริฐสุวรรณ” คือ นายณัฐวุฒิ ประเสรฐิ สวุ รรณ ตระกูล “โพธสุธน” คือ นายยุทธนา โพธสุธน และตระกูล “เท่ียงธรรม” คือ นายเสมอกัน เท่ียงธรรม ส่วนการเลือกต้ังเม่ือวันท ี่ 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2550 มพี รรคการเมอื งตา่ งๆ สง่ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ จ�ำนวน 8 พรรค ประกอบดว้ ย พรรคชาตไิ ทย พลังประชาชน ไทยร�่ำรวย เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ประชามติ ประชาธิปัตย์ ความหวังใหม่ และเพอ่ื แผน่ ดนิ ซง่ึ จะพบขอ้ เทจ็ จรงิ ตอ่ มาคอื ประชาชนทม่ี าใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตงั้ นนั้ จะใชส้ ทิ ธลิ งคะแนนเสยี งใหก้ บั ผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคชาติไทยด้วยคะแนนท่ีทิ้งห่างจากผู้สมัครรับเลือกต้ังจากพรรคการเมือง อน่ื ๆ อยา่ งมากมาย โดยวธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการรณรงคห์ าเสยี งเลอื กตง้ั จะใชท้ งั้ การปราศรยั การแจกเอกสาร แผน่ พบั แผ่นปลิว และป้ายโปสเตอร์ ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของการจัดต้ังสาขาพรรคการเมืองยังมีน้อยมาก (ฐปนรรต พรหมอินทร์ 2547: บทคัดย่อ) ทั้งน้ีผู้สมัครรับเลือกตั้งท่ีได้รับเลือกต้ังก็ยังคือคนเดิม ประกอบ ด้วยตระกูล “ศิลปอาชา” 2 คน คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา และนายวราวุธ ศิลปอาชา นอกจากนั้นยังเป็น พื้นที่ของตระกูลเดิม คือ ตระกูล “ประเสริฐสุวรรณ” คือ นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ตระกูล “โพธสุธน” คือ นายยุทธนา โพธสุธน และตระกูล “เที่ยงธรรม” คือนายเสมอกัน เที่ยงธรรม อย่างไรก็ตามต่อมา ผู้ได้รับเลือกตั้งท้ัง 5 คนถูกตัดสิทธ์ิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ท�ำให้ผู้ท่ีได้รับเลือกตั้งแทนประกอบไปด้วย2 นายนติ วิ ฒั น์ จันทร์สว่าง นายชาญชยั ประเสริฐสวุ รรณ นายนพดล มาตรศรี และนายเจรจา เทยี่ งธรรม สว่ นการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรไทยเปน็ การทวั่ ไป พ.ศ. 2554 จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี พบวา่ เปน็ พ้นื ท่ีของชาติไทยพฒั นาเพยี ง 4 เขต คอื เขตเลือกตัง้ ที่ 1-4 ส่วนเขตเลือกตั้งท่ี 5 เป็นชัยชนะของพรรคเพื่อไทย (ฐปนรรต พรหมอนิ ทร์ 2558: ฉ) ซงึ่ การเลอื กตงั้ ครงั้ น้ี เปน็ ครงั้ แรกทต่ี ระกลู “ศลิ ปอาชา” มไิ ดล้ งสมคั รรบั เลอื กตงั้ ในระบบเขตเลอื กตงั้ หลงั จากทต่ี ระกลู นไี้ ดร้ บั การเลอื กตง้ั มาอยา่ งยาวนาน เหตกุ ารณน์ อี้ าจเปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ ของการท ี่ ท�ำให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นท่ีจังหวัดสุพรรณบุรีมีความห่างเหินกับตระกูล “ศิลปอาชา” เน่ืองด้วย ตระกลู “ศิลปอาชา” ไมไ่ ด้สง่ บคุ คลในตระกูลนลี้ งสมัครรบั เลอื กต้งั ในระบบแบง่ เขตเลอื กตงั้ การเลือกตั้งครงั้ น ี้ ตระกูลที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และได้รับเลือกตั้งประกอบด้วยเขตเลือกตั้งที่ 2 ตระกูล “ประเสริฐสุวรรณ” คือ นายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ เขตเลือกต้ังที่ 4 ตระกูล “โพธสุธน” คือ นางสาวพัชรี โพธสุธน ขณะที่ มีผู้สมัครรับเลือกตั้งระดับชาติตระกูลใหม่ข้ึนมาในเขตเลือกตั้งท่ี 1 คือ ตระกูล “สุจิตต์” คือ นายสรชัด สุจิตต์ 2 https://th.wikipedia.org/wiki/สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรจงั หวดั สพุ รรณบุรี
29 ซ่ึงมาลงสมัครรับเลือกต้ังในพื้นที่ของตระกูล “ศิลปอาชา” เช่นเดียวกับผู้สมัครรับเลือกต้ังท่ีได้รับเลือกต้ัง มาครงั้ แรกในนามของพรรคชาตไิ ทยในเขตเลอื กตง้ั ท่ี 3 คอื นายนพดล มาตรศรี ขณะเดยี วกนั การเลอื กตง้ั ครง้ั น้ี ถือเป็นการสูญเสียพื้นที่การเลือกต้ัง 1 เขต ให้กับผู้สมัครรับเลือกต้ังท่ีลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรค “เพือ่ ไทย” เขตเลอื กตัง้ ที่ 5 คอื นายสหรัฐ กลุ ศรี ในการจัดการการเลือกตั้งของจังหวัดสุพรรณบุรีน้ัน ที่ผ่านมาบุคลากรที่เข้ามาท�ำหน้าท่ีเป็น คณะกรรมการการเลอื กตงั้ ในระดบั เขตสว่ นใหญจ่ ะเปน็ ขา้ ราชการครใู นต�ำแหนง่ ตา่ งๆ และมกั จะมปี ระสบการณ์ ในการท�ำงานมาตอ่ เนอ่ื ง ทงั้ นใ้ี นสว่ นขององคก์ ารเอกชนทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การเลอื กตง้ั มเี พยี ง 2 องคก์ ร และมปี ญั หา ทพ่ี บคอื มจี �ำนวนนอ้ ย ขาดความเขม้ แขง็ ระยะเวลาในการท�ำหนา้ ทก่ี ระชนั้ ชดิ ท�ำใหค้ วามพรอ้ มในการปฏบิ ตั งิ าน และการคัดสรรบุคคลที่จะเข้ามาปฏิบัติงานไม่พร้อม จึงท�ำให้เกิดความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่อยู่บ้าง (ฐปนรรต พรหมอินทร์ 2547: บทคัดย่อ) ตลอดระยะเวลาทม่ี กี ารจดั การเลอื กตงั้ ขนึ้ จงั หวดั สพุ รรณบรุ ถี อื วา่ พรรคชาตไิ ทย/พรรคชาตไิ ทยพฒั นา ยึดครองพ้ืนที่มานับต้ังแต่การเลือกต้ัง พ.ศ. 2531 จนถึงการเลือกต้ัง พ.ศ. 2554 ที่พรรคชาติไทยพัฒนาต้อง สูญเสียพ้ืนท่ีเป็นครั้งแรกให้กับพรรคเพ่ือไทย หลังจากที่พรรคชาติไทย หรือพรรคชาติไทยพัฒนาครองพ้ืนที่ จังหวัดสุพรรณบุรีอย่างต่อเนื่องมากว่า 23 ปี ขณะเดียวกันการเลือกต้ังใน พ.ศ. 2554 ก็เป็นคร้ังแรกที่ตระกูล “ศลิ ปอาชา” มิไดล้ งสมคั รรบั เลือกตัง้ ในระบบเขตเลือกต้งั ด้วยเช่นกัน ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา และด้วยความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ท้ังจากการเปล่ียนแปลงตัวผู้สมัครรับเลือกต้ัง โดยเฉพาะการที่ตระกูล “ศลิ ปอาชา” จากการทนี่ ายบรรหาร ศลิ ปอาชา ซง่ึ เปน็ ผทู้ ปี่ ระชาชนชาวจงั หวดั สพุ รรณบรุ ตี า่ งใหก้ ารยอมรบั ถงึ ผลงานทไี่ ดส้ รา้ งไวใ้ หก้ บั จงั หวดั ไดส้ นิ้ ชวี ติ ประกอบกบั ตระกลู “ศลิ ปอาชา” กม็ ไิ ดส้ ง่ ทายาทลงสมคั รรบั เลอื กตง้ั ในระบบเขตเลือกตั้งด้วย จึงเป็นท่ีน่าจับตามองว่า การเลือกต้ังคร้ังใหม่นี้จะส่งผลต่อพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคการเมอื งอ่ืนๆ ทสี่ ง่ สมาชิกลงสมัครรบั เลือกต้งั หรอื ไม่ อยา่ งไร พฤตกิ รรมทางการเมอื งของประชาชน จะมีการเปล่ียนแปลงไปหรือไม่ ประกอบกับกรอบกติกาใหม่ ผลของการเลือกตั้งยังจะยืนยันความต้ังม่ัน ของระบบพรรคการเมอื ง หรอื ความเขม้ แขง็ ของพรรคการเมอื งบางพรรคทเี่ คยกอ่ รา่ งสรา้ งตวั มาจากรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ไดห้ รอื ไม่ จากประเดน็ ทงั้ หลายทกี่ ลา่ วมานน้ั ควรจะไดร้ บั การศกึ ษาเชงิ ลกึ เกย่ี วกบั การเคลอ่ื นไหวทางการเมอื ง ในระดบั พ้นื ที่ ท้ังในส่วนของผ้สู มัครรับเลอื กต้ัง พรรคการเมอื ง และพฤตกิ รรมและการเปลย่ี นแปลงพฤติกรรม ทางการเมืองของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ซึ่งถือว่ามีความส�ำคัญเป็นอย่างยิ่งท่ีในการท่ีจะพัฒนาการเมือง การปกครองไทยในระบอบประชาธิปไตยต่อไป
30 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพ่ือศึกษาบรรยากาศทางการเมืองและความเคลื่อนไหวทางการเมือง ขององค์กรและกลุ่ม ทางการเมอื งที่เก่ยี วข้องกบั การเลือกต้ังสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในจงั หวดั สพุ รรณบุรี 2.2 เพ่ือศึกษาความเคลื่อนไหว และพฤติกรรมทางการเมือง ของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎรในจังหวัดสพุ รรณบุรี 2.3 เพ่ือศึกษาบทบาทของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการเลือกต้ังสมาชิก สภาผ้แู ทนราษฎรในจงั หวัดสุพรรณบุรี 2.4 เพ่ือศึกษาพฤติกรรมทางการเมือง แบบแผนพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชน ในส่วนทเี่ กี่ยวข้องกบั การเลือกตั้งสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรในจังหวดั สุพรรณบุรี 3. ขอบเขตของการศึกษา 3.1 ขอบเขตด้านเวลา ขอบเขตด้านเวลาของการศึกษาประกอบไปด้วย การศึกษาตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกต้ัง ช่วงระหว่าง การมีพระราชกฤษฎีกาก�ำหนดให้มีการเลือกตั้ง วันเลือกต้ัง และภายหลังจากคณะกรรมการเลือกต้ังประกาศ รบั รองผลการเลือกต้งั อย่างเป็นทางการในจงั หวดั สพุ รรณบุรี 3.2 ขอบเขตประชากร ประชากรท่ีท�ำการศึกษา ประกอบด้วย ผู้สมัครรับเลือกต้ัง ผู้อ�ำนวยการการเลือกต้ังประจ�ำจังหวัด สุพรรณบุรี ผู้อ�ำนวยการการเลือกตั้งประจ�ำเขตเลือกตั้ง คณะกรรมการประจ�ำหน่วยเลือกต้ัง นักการเมือง ระดับท้องถ่ิน ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักธุรกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้น�ำชุมชน องค์กรตรวจสอบการเลือกต้ัง ตลอดจน ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตง้ั ในจังหวดั สุพรรณบุรี 3.3 ขอบเขตพน้ื ท่ี พ้ืนที่เขตเลือกตง้ั ทั้ง 4 เขต ในจงั หวดั สุพรรณบรุ ี 3.4 ขอบเขตเนื้อหา 3.4.1 ศึกษาบรรยากาศทางการเมืองและความเคล่ือนไหวทางการเมือง ขององค์กรและกลุ่ม ทางการเมืองทเี่ ก่ียวขอ้ งกับการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรในจงั หวัดสุพรรณบุรี
31 3.4.2 ศึกษาความเคลื่อนไหว และพฤติกรรมทางการเมือง ของผู้สมัครรับเลือกต้ังสมาชิก สภาผูแ้ ทนราษฎรในจังหวัดสุพรรณบุรี 3.4.3 ศึกษาบทบาทของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรอื่นๆ ที่เข้ามามีบทบาทเก่ียวข้อง กบั การเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรในเขตจังหวัดสุพรรณบรุ ี 3.4.4 ศกึ ษาการเปลย่ี นพฤตกิ รรมทางการเมอื ง แบบแผนพฤตกิ รรมทางการเมอื ง ของประชาชน ในสว่ นท่เี กีย่ วขอ้ งกับการเลือกตั้งสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในจังหวัดสพุ รรณบุรี 4. ระยะเวลาท�ำการศึกษา 1 ตลุ าคม 2561 – 30 กนั ยายน 2562 5. วิธีด�ำเนินการวิจัย 5.1 ผูใ้ หข้ ้อมลู และกลมุ่ ตัวอย่าง การวิจยั ครั้งน้ี ผู้วจิ ัยแบ่งกลมุ่ ผู้ใหข้ ้อมลู ออกเป็น 2 กลุ่มคอื 5.1.1 กลุม่ ตวั อยา่ งส�ำหรับการวจิ ัยเชงิ คณุ ภาพ จ�ำนวน 22 คน ประกอบดว้ ย ผูส้ มคั รรบั เลือกต้งั -นายณฐั วฒุ ิ ประเสรฐิ สุวรรณ ผู้สมคั รรับเลอื กต้งั พรรคชาตไิ ทย พัฒนา เขตเลอื กตงั้ ที่ 2 -นายเสมอกัน เทย่ี งธรรม ผู้สมัครรับเลอื กตัง้ พรรคชาตไิ ทยพฒั นา เขตเลือกตงั้ ท่ี 4 -นายสรชดั สจุ ติ ต์ ผู้สมัครรับเลอื กตัง้ พรรคชาตไิ ทยพัฒนา เขตเลือกตั้งท่ี 1 -นายสหรฐั กลุ ศรี ผสู้ มัครรบั เลือกตง้ั พรรคเพ่อื ไทย เขตเลือกต้ังท่ี 4 -นายอัศวรักษ์ ผดงุ ชีพ ผู้สมคั รรับเลอื กต้งั พรรคอนาคตใหม่ เขตเลอื กตง้ั ที่ 1 ผู้อ�ำนวยการการเลอื กตง้ั ประจ�ำจังหวัด -พ.ต.อ.หญิง มาลนิ ี ปญั ญาค�ำเลิศ ผอู้ �ำนวยการการเลือกตั้ง สุพรรณบรุ ี ประจ�ำจังหวดั สุพรรณบรุ ี
32 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี ผอู้ �ำนวยการประจ�ำเขตเลือกต้ัง -นายนติ กิ รณ์ ฉันทว์ งศ์ชนะ ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนสงวนหญงิ คณะกรรมการประจ�ำหน่วยเลือกตง้ั -นายเช่ียวชาญ ดวงใจดี ผ้อู �ำนวยการโรงเรียนบางลี่วิทยา -นายพิทยา แกว้ ทพิ ย์ ผอู้ �ำนวยการโรงเรยี นศรปี ระจนั ต์ นักการเมืองระดับท้องถนิ่ “เมธปี ระมขุ ” ก�ำนนั ผู้ใหญบ่ ้าน -ครู ประธานกรรมการประจ�ำหนว่ ยเลอื กต้ัง อ�ำเภอสองพน่ี ้อง นกั ธุรกิจ ผ้ทู รงคุณวฒุ ิ ผู้น�ำชุมชน เขตเลือกตงั้ ท่ี 2 องคก์ รตรวจสอบการเลือกต้ัง -ผูใ้ หญบ่ ้าน/เจ้าของธุรกิจ กรรมการประจ�ำหนว่ ยเลือกต้งั ผู้มสี ิทธิเลอื กตัง้ อ�ำเภออูท่ อง เขตเลือกตัง้ ที่ 3 -สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นต�ำบล/ประธานวสิ าหกจิ ชมุ ชน ตน้ ตาล กรรมการประจ�ำหน่วยเลอื กตั้ง อ�ำเภอสองพี่น้อง เขตเลอื กตง้ั ท่ี 2 -ผู้ใหญ่บ้านหมทู่ ่ี 5 อ�ำเภอบางปลาม้า และเจา้ ของธรุ กจิ กรรมการประจ�ำหน่วยเลอื กตั้ง เขตเลือกตง้ั ท่ี 1 -ก�ำนันต�ำบลสนามชยั เขตเลอื กตงั้ ท่ี 1 -ผู้น�ำชมุ ชน/เจา้ ของธรุ กจิ อ�ำเภออู่ทอง เขตเลือกตงั้ ท่ี 3 -นายกเทศบาลทา้ วอู่ทอง/ธุรกิจสว่ นตวั อ�ำเภออ่ทู อง เขตเลือกตั้งที่ 3 -ทนั ตแพทยอ์ นศุ กั ด์ิ คงมาลัย ผ้ทู รงคุณวุฒจิ งั หวดั สุพรรณบุรี -เจา้ ของธรุ กิจเกีย่ วกับการทอ่ งเที่ยว/ธรุ กจิ การศกึ ษา เขตเลือกตั้งท่ี 4 -เจ้าของธรุ กิจรายใหญใ่ นอ�ำเภอดา่ นชา้ ง เขตเลือกตัง้ ท่ี 4 -อาจารยว์ ิภาศศิ ชา้ งทอง ผู้ประสานงานจงั หวัดเครือข่าย ประชาชนเพ่อื การเลือกต้ัง (P-Net) จังหวดั สุพรรณบรุ ี -นักศกึ ษา วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จังหวดั สพุ รรณบุรี ผมู้ าใช้สทิ ธิเลือกตัง้ ภมู ิล�ำเนาจงั หวดั สระบรุ ี เขตเลือกตง้ั ที่ 1 -นกั ศกึ ษา วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี จังหวดั สพุ รรณบรุ ี ผู้มาใชส้ ิทธิเลอื กตงั้ ภมู ลิ �ำเนาจังหวัดราชบุรี เขตเลือกตงั้ ท่ี 1
33 5.1.2 กลุ่มตัวอย่างส�ำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ ประชาชนซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ท้ัง 4 เขต จ�ำนวน 402 ตัวอยา่ ง 5.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล อาศัยวิธีการศึกษาทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณเป็นเครื่องมือส�ำคัญ ในการศกึ ษา โดยแบ่งออกเปน็ 2 วธิ ี คอื 5.2.1 การศึกษาเอกสารต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ไดแ้ ก่ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ัง พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ข้อมูลเชิงพ้ืนท ี่ ในจังหวัดสุพรรณบุรี เช่น ข้อมูลประชากร ข้อมูลพรรคการเมืองที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดสุพรรณบุร ี ท้ังในการเลือกตั้งปัจจุบัน และการเลือกต้ังในอดีต และข้อมูลประวัติผู้ลงสมัครรับเลือกต้ัง และผลการเลือกต้ัง ยอ้ นหลงั 3 ครง้ั ในเขตจังหวดั สพุ รรณบรุ ี 5.2.2 การเก็บขอ้ มลู ภาคสนาม แบง่ ออกเป็น 3 วิธี คือ 1) การสมั ภาษณเ์ จาะลกึ บคุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ ง ประกอบดว้ ย ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ผอู้ �ำนวยการ การเลือกตั้งประจ�ำจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้อ�ำนวยการการเลือกต้ังประจ�ำเขตเลือกตั้ง คณะกรรมการประจ�ำหน่วยเลือกตั้ง นักการเมืองระดับท้องถิ่น ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักธุรกจิ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผนู้ �ำชมุ ชน องค์กรตรวจสอบการเลอื กต้ัง ตลอดจนประชาชน ผมู้ สี ทิ ธิเลอื กตงั้ ในจังหวดั สุพรรณบุรี 2) การเก็บข้อมูลจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้ังในพ้ืนท่ีเลือกตั้งเขตต่างๆ ทั้ง 4 เขต โดยใชแ้ บบสอบถาม 3) การสังเกตแบบมสี ว่ นรว่ มและไมม่ ีส่วนร่วม โดยเปน็ การสงั เกต บนั ทึก และวเิ คราะห์ บรรยากาศท่ัวไป พฤติกรรมทางการเมืองของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง บทบาท ของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ที่เข้ามามีบทบาทเก่ียวข้องกับ การเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พฤตกิ รรมทางการเมอื งของประชาชน ในชว่ งกอ่ น การเลอื กตง้ั ชว่ งการเลือกตั้ง และช่วงหลงั จากการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 5.3 เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ประกอบด้วย 5.3.1 แบบสมั ภาษณ์ ใชส้ มั ภาษณบ์ คุ คลทเี่ กย่ี วขอ้ งตา่ งๆ โดยแบง่ ออกเปน็ 4 ชดุ คอื แบบสมั ภาษณ์ ส�ำหรบั ผสู้ มคั รรับเลือกตงั้ แบบสัมภาษณ์ส�ำหรับผอู้ �ำนวยการการเลอื กตงั้ ประจ�ำจงั หวัด แบบสมั ภาษณ์ส�ำหรับ ผู้อ�ำนวยการการเลือกตั้งประจ�ำเขตเลือกตั้ง/คณะกรรมการประจ�ำหน่วยเลือกต้ัง และแบบสัมภาษณ์ส�ำหรับ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ และอน่ื ๆ
34 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี แบบสัมภาษณ์ส�ำหรับผู้สมัครรับเลือกต้ัง ประกอบด้วยประเด็น เหตุผลที่ลงสมัครรับเลือกต้ัง สภาพการณเ์ ปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม และเทคโนโลยกี บั การเลอื กตงั้ การด�ำเนนิ นโยบายตามยทุ ธศาสตรช์ าต ิ ของพรรคการเมอื ง นโยบายส�ำคญั ทใ่ี ชใ้ นการน�ำเสนอกบั ผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั วธิ กี ารทใี่ ชใ้ นการหาคะแนนสนบั สนนุ การเลือกต้ัง กลุ่มบุคคลท่ีช่วยสนับสนุนการเลือกต้ัง ค่าใช้จ่ายในการเลือกต้ัง การได้รับการสนับสนุนทางด้าน การเงิน ปัญหาและอุปสรรคท่ีพบในการสมัครรับเลือกตั้ง และวิธีการแก้ไข การทุจริตการเลือกต้ัง พฤติกรรม ทางการเลือกต้ังของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การปฏิบัติหน้าท่ีของหน่วยจัดการการเลือกต้ัง การปฏิบัติหน้าที่ของ องค์กรตรวจสอบการเลือกตั้ง บทบาทของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการเลือกต้ังเป็น ปัจจัยทท่ี �ำให้ได้รบั ชัยชนะ/ไม่ได้รับชยั ชนะในการเลือกตัง้ แบบสัมภาษณ์ส�ำหรับผู้อ�ำนวยการการเลือกตั้งประจ�ำจังหวัด ประกอบด้วยประเด็น ภารกิจก่อน วันเลือกตั้งของ กกต. การวางแผนการด�ำเนินการ การมอบหมายหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง การรณรงค ์ หาเสยี งของผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ชอ่ งทางที่ กกต. จงั หวดั จดั เตรยี มไวใ้ หผ้ สู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั การไดร้ บั ความรว่ มมอื ในการจัดการการเลือกตั้งกับหน่วยงานต่างๆ งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ความสนใจในการไปใช้สิทธ ิ ในการเลือกต้ังของประชาชน การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าท่ีประจ�ำหน่วยเลือกต้ังปัญหา การรายงานผล การเลอื กต้ังในหน่วยเลอื กตัง้ พรอ้ มปัญหาอุปสรรคและวิธีการแกไ้ ข แบบสัมภาษณ์ส�ำหรับผู้อ�ำนวยการการเลือกต้ังประจ�ำเขตเลือกตั้ง/คณะกรรมการประจ�ำหน่วย เลือกต้ัง ประกอบด้วยประเด็น ภารกิจท่ีได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติ การวางแผนด�ำเนินการจัดการเลือกตั้ง ในเขตเลือกตงั้ ท่ีรับผดิ ชอบ การจัดเตรยี มและด�ำเนนิ การในเร่ืองหนว่ ยเลือกตง้ั และท่ีเลือกตัง้ วธิ กี ารด�ำเนนิ การ เกยี่ วกบั ผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั และบญั ชรี ายชอื่ ผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ วธิ ดี �ำเนนิ การเกยี่ วกบั ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ การด�ำเนนิ การ ในเรื่องการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง การวางแผนการด�ำเนินการเก่ียวกับการลงคะแนน การนับคะแนน และการประกาศผลการเลือกต้ัง ความเหมาะสมในเรื่องบุคลากร งบประมาณ และระยะเวลาในการจัด การเลือกตั้ง การได้รับความร่วมมือ/สนับสนุนจากสถาบัน หน่วยงาน องค์กร ร้านค้าต่างๆ ในการปฏิบัติงาน และปญั หาและอปุ สรรคในการปฏบิ ตั งิ าน และวิธีการแกไ้ ข แบบสัมภาษณ์ส�ำหรับผู้ทรงคุณวุฒิ และอ่ืนๆ ประกอบด้วยประเด็น หน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมายให้ท�ำ ในการเลือกต้ัง การได้รับการสนับสนุนในการมาปฏิบัติหน้าที่ ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ และ วิธีการแก้ไข การทุจริตการเลือกตั้งในจังหวัดสุพรรณบุรี การควบคุมทุจริตในการ การเคยพบเห็นการซื้อเสียง การแจกของ หรอื มีการตกลงสัญญาวา่ จะให้ ในการหาเสียงเลือกตัง้
35 5.3.2 แบบสอบถาม ใชเ้ ก็บขอ้ มลู จากผมู้ สี ทิ ธเิ ลือกตั้งในเขตเลือกตงั้ ทง้ั 4 เขต จ�ำนวน 402 ตวั อยา่ ง ประกอบด้วยค�ำถาม 2 ตอน คือ ตอนท่ี 1 ข้อมูลปัจจัยพ้ืนฐานส่วนบุคคล ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับ การศึกษา อาชีพ และรายได้ และตอนที่ 2 พฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชน ประกอบด้วย การติดตาม ขา่ วสารการเลอื กตง้ั สอื่ /ชอ่ งทางการตดิ ตามขา่ วสารการเลอื กตง้ั ผลของการตดิ ตามขา่ วสารการเลอื กตง้ั สาเหตุ ท่ีท�ำให้ไม่สนใจติดตามข่าวสารการเลือกต้ัง เหตุผลท่ีท�ำให้ไปใช้สิทธ์ิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง บุคคลท่ีมีอิทธิพล ตอ่ การไปใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตงั้ การพจิ ารณาตดั สนิ ใจเลอื กสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พฤตกิ รรมทพ่ี บในการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร การเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มในการสนบั สนนุ พรรคการเมอื ง และปจั จยั ท�ำใหส้ นบั สนนุ พรรคการเมอื ง โดยแบบสอบถามเป็นแบบมาตรประมาณคา่ 5 ตวั เลอื ก คือ 1 หมายถึง ระดบั ความคดิ เห็นนอ้ ยท่ีสดุ 2 หมายถงึ ระดับความคดิ เหน็ น้อย 3 หมายถงึ ระดบั ความคดิ เหน็ ปานกลาง 4 หมายถึง ระดับความคดิ เหน็ มาก 5 หมายถงึ ระดับความคิดเหน็ มากทสี่ ดุ และมีการแบง่ เกณฑก์ ารแปลผล ดังน้ี 1.00 – 1.80 หมายถงึ ระดับความคิดเห็นน้อยท่สี ดุ 1.81 – 2.60 หมายถงึ ระดบั ความคิดเห็นนอ้ ย 2.61 – 3.20 หมายถงึ ระดบั ความคิดเห็นปานกลาง 3.21 – 4.20 หมายถึง ระดับความคิดเหน็ มาก 4.21 – 5.00 หมายถงึ ระดับความคดิ เห็นมากที่สุด 5.4 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ส�ำหรบั การวจิ ยั เชงิ คณุ ภาพ ใชว้ ธิ กี ารพรรณาวเิ คราะห์ (Descriptive Analysis) เป็นส�ำคัญ ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณจะใช้ค่าสถิติร้อยละ (Percentages) และค่าเฉล่ีย (Means) ส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน (Standard Deviation) แล้วจึงใช้การพรรณนาความ
36 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี 6. ประโยชน์ที่ได้รับ 6.1 ทราบถงึ บรรยากาศทวั่ ไป ความรคู้ วามเขา้ ใจ และความเคลอ่ื นไหวของประชาชน คณะกรรมการ เลือกตั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พรรคการเมืองและนักการเมืองในพ้ืนท่ี และหน่วยงานภาครัฐ รวมถึง องคก์ รอื่นๆ ท่ีเกีย่ วขอ้ งกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 6.2 ทราบถงึ บทบาทและการท�ำงานของคณะกรรมการการเลอื กตง้ั ระดบั ตา่ งๆ รวมถงึ ปญั หาอปุ สรรค และการแก้ไขปัญหาที่เกดิ ข้ึนจากการบริหารจดั การการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 6.3 ทราบถึงพฤติกรรมทางการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หน่วยงาน ภาครฐั และองค์กรอ่ืนๆ ทเ่ี ขา้ มามีบทบาทเกีย่ วขอ้ งกับการเลอื กตัง้ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 6.4 ทราบถึงแบบแผนพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนโดยเฉพาะที่เก่ียวข้องกับการเลือกต้ัง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 6.5 ทราบถงึ พฤตกิ รรมการใชจ้ ่ายเงินในการหาเสียงเลอื กตง้ั 6.6 ทราบถึงการต้ังมนั่ ของสถาบันพรรคการเมืองในสงั คมไทย ในบรบิ ททีม่ กี ารเปล่ยี นแปลง 6.7 ผสู้ นใจและหนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้องสามารถน�ำผลการวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชน์ได้
37
38 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี
39 บทที่ 2 วรรณกรรมท่ีเก่ียวข้อง บทนี้แบ่งการน�ำเสนอเน้ือหาออกเป็น 7 ประเด็น คือ 1. แนวคิดทฤษฎีท่ีเกี่ยวข้อง 2. กฎหมาย รัฐธรรมนูญและกฎหมายอ่ืนที่เกี่ยวข้อง 3. สรุปสาระสังเขปเก่ียวกับการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 4. การจัดการเลือกต้ังในพื้นท่ีจังหวัดสุพรรณบุรี 5. ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี ท่ีผ่านมา 6. ข้อมลู พื้นฐานเกี่ยวกับจังหวดั สุพรรณบรุ ี และ 7. ผลงานวจิ ัยท่เี ก่ยี วขอ้ ง โดยมีรายละเอยี ด ดงั นี้ 1. แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ในส่วนน้ีเป็นการน�ำเสนอแนวคิดทฤษฎี แบ่งออกเป็น 4 แนวคือ คือ แนวคิดเก่ียวกับการมีส่วนร่วม ทางการเมือง แนวคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง แนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจ เลือกต้ัง และแนวคดิ การส่ือสารทางการเมือง ดงั นี้ 1.1 แนวคิดเก่ียวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมือง มีความหมาย ที่แตกต่างกันออกไปในหลายๆ แง่มุมแล้วแต่ว่านักคิดหรือนักวิชาการแต่ละคนจะได้ให้นิยาม ซึ่งอาจจะเป็น ลักษณะเฉพาะเจาะจงหรอื กวา้ งๆ ขึ้นอยู่กบั วัตถปุ ระสงค์ทสี่ นใจหรือตอ้ งการท่จี ะศึกษาวเิ คราะห์ Milbrath และ Goel (1977: 2) ได้นิยามการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างกว้างๆ ว่า หมายถึง การกระท�ำตา่ งๆ ของพลเมอื งทต่ี อ้ งการจะมอี ทิ ธพิ ลหรอื สนบั สนนุ ตอ่ รฐั บาลและระบบทางการเมอื ง การมสี ว่ นรว่ ม ทางการเมืองจึงเป็นการกระท�ำหรือบทบาทของประชาชนท่ีจะมีอิทธิพลต่อผลท่ีปรากฏออกมาในทางการเมือง รวมไปถึงเป็นกิจกรรมท่ีสนับสนุนและเป็นการกระท�ำอย่างเป็นพิธีการอีกด้วย (Ceremonial and support activities)
40 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่ Verba, Nie และ Kim (1978: 46) ได้นิยามว่า หมายถึง กิจกรรมต่างๆ ซ่ึงมีความถูกต้อง ตามตัวบทกฎหมายของประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์มากหรือน้อยก็ตามแต่ต้องการมีอิทธิพลในการเลือกสรร เจา้ หน้าทร่ี ฐั บาล ตลอดจนการกระท�ำหรอื การด�ำเนินการต่างๆ ของเจ้าหนา้ ทเ่ี หล่าน้ัน รูปแบบของการเข้าร่วมทางการเมือง โดยทั่วไปแล้วจะถูกจัดแบ่งออกไปตามการให้นิยามของ การเขา้ รว่ มทางการเมอื งวา่ จะมคี วามครอบคลมุ ไดม้ ากนอ้ ยแคไ่ หน เชน่ Kim ไดจ้ ดั รปู แบบโดยจ�ำแนกออกเปน็ มิตติ ่างๆ ดงั ตาราง ตาราง 2.1 รปู แบบของการเข้าร่วมทางการเมือง การเข้าร่วมโดยเปน็ ไปตาม การเขา้ ร่วมโดยไมเ่ ป็นไปตาม ธรรมเนยี มนิยม (conventional) ธรรมเนียมนิยม (unconventional) แบบที่ 1 แบบท่ี 2 การเข้ารว่ มโดย - การไปใชส้ ิทธิในการเลอื กตง้ั - เป็นกิจกรรมทางการเมืองท่ีไม่ถูกต้อง ความสมัครใจ ตามตัวบทกฎหมาย เช่น การเดินขบวน - การพดู คยุ สนทนากันในเร่อื งที่เกย่ี วกับ การประทว้ ง การกอ่ วนิ าศกรรม การเผชญิ ทางการเมือง หน้าต่อสู้ เปน็ ตน้ - การเขา้ ร่วมกลุ่มในทางการเมือง - การเขา้ รว่ มในลักษณะการ sit-ins - การเขา้ ร่วมในการรณรงค์หาเสยี ง - เป็นพฤติกรรมทางการเมืองท่ีรุนแรง - การติดต่อกับเจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือ เช่น การลอบฆาตกรรม การลักพาเรียก เจา้ หนา้ ทบี่ ้านเมือง ค่าไถ่ การรบอย่างกองโจร การปฏิวัติ จลาจล เปน็ ตน้ - การหาต�ำแหนง่ ในทางการเมือง การเข้ารว่ มโดย แบบที่ 3 แบบท่ี 4 ความไม่สมคั รใจ - การไปใช้สทิ ธใิ นการเลอื กต้งั - การเข้าไปมีส่วนร่วมในกลุ่มพลังต่างๆ - การเขา้ รว่ มกลมุ่ ในทางการเมือง ทางการเมืองที่มุ่งจะท�ำลายในทาง การเมือง - การเขา้ ร่วมในการรณรงค์หาเสียง - การเข้าร่วมชุมนมุ ระดับของการเข้าร่วมทางการเมือง การจัดล�ำดับความสูงต�่ำของการเข้าร่วมทางการเมือง ประเภทต่างๆ มักจะยึดในหลักเชิงตรรกะท่ีว่า การเข้าร่วมทางการเมืองแต่ละประเภทนั้นต่างก็จะใช้ทรัพยากร เช่น เวลา เงินทอง ตลอดจนพลังงาน และอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ดังน้ัน กิจกรรมการเข้าร่วมแบบใดท่ีบุคคลได้
41 ใหค้ วามทมุ่ เทมาก สญู เสยี หรอื ใชจ้ า่ ยทรพั ยากรมากกจ็ ะถอื วา่ เปน็ การเขา้ รว่ มทางการเมอื งทอี่ ยใู่ นระดบั สงู กวา่ กจิ กรรมการเขา้ รว่ มประเภทอน่ื ๆ ตามล�ำดบั ลงไป ดงั ท่ี Milbrath ไดจ้ ดั ระดบั การเขา้ รว่ มทางการเมอื ง 15 ล�ำดบั จากระดบั สงู สดุ ไปส่ตู �ำ่ สุด ดังนี้ 1. การไดร้ ับเลอื กเขา้ ด�ำรงต�ำแหนง่ ของรัฐบาลและของพรรคการเมือง 2. การลงสมัครเปน็ ผ้เู ขา้ รบั การเลือกตง้ั เพื่อท่จี ะเขา้ ไปด�ำรงต�ำแหน่งของรฐั บาล 3. การวงิ่ เต้นเพ่อื หาเงินสนับสนนุ พรรคการเมืองหรอื ผสู้ มัครเขา้ รบั การเลอื กตัง้ 4. การเข้าประชุมกับบุคคลชั้นหัวหน้าของพรรคการเมือง หรือคณะกรรมการบริหารพรรค และการประชุมในการวางแผนการต่างๆ ของพรรคการเมือง 5. การเปน็ สมาชกิ ทีก่ ระตือรอื ร้นของพรรคการเมอื ง 6. การเสียสละเวลาเพ่ือช่วยในการรณรงค์หาเสยี ง 7. การเข้ารว่ มชุมนุมหรอื การประชุมในทางการเมอื ง 8. การบรจิ าคเงนิ ทองเพอ่ื ชว่ ยเหลอื พรรคการเมอื งหรอื ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั คนใดคนหนง่ึ 9. การติดต่อกบั เจ้าหนา้ ท่ีบ้านเมอื งหรือผูน้ �ำทางการเมอื ง 10. การติดกระดุมหรือแผ่นป้ายของพรรคการเมืองหรือแสดงถึงผู้สมัครรับเลือกต้ังคนใดคนหน่ึง บนเสื้อผา้ หรือบนรถยนต์ 11. การพยายามพดู จาทเ่ี ปน็ การชกั ชวนใหบ้ คุ คลอน่ื ๆ ใหไ้ ปใชส้ ทิ ธอิ อกเสยี งเลอื กตงั้ ในทางใดทางหนง่ึ 12. การพดู คยุ หรอื สนทนากนั ในเรอื่ งราวทีเ่ กยี่ วข้องกับทางการเมอื ง 13. การไปใชส้ ทิ ธอิ อกเสยี งในการเลือกตัง้ 14. การรบั ทราบส่ิงกระต้นุ ทางการเมือง เชน่ การรบั ขา่ วทางการเมืองจากสอ่ื มวลชน เปน็ ตน้ 15. พวกทม่ี คี วามเฉือ่ ยหรอื เฉยเมยในทางการเมือง 1.2 แนวคิดเก่ียวกับพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง พฤติกรรมการลงคะแนนเสียง เลือกตั้งเป็นการเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างหน่ึง ซึ่งถือเป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน กบั ผปู้ กครอง กระบวนการปกครองอนั เปน็ หวั ใจของกจิ กรรมทางการเมอื ง โดยเฉพาะระบบการเมอื งการปกครอง แบบประชาธิปไตย มผี ูท้ ที่ �ำการศกึ ษาไว้ เช่น
42 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี ลาซาร์สเฟลด์ และคณะ (Pual F. Lazarsfeld, Berelson, and Hazel Gandet, 1944) และ การศึกษาของเบอเรลสันและคณะ (Bernard R. Berelson, Paul F. Lazarsfeld, and William M. Mcphee, 1954: 107) ไดข้ ้อสรุปเชิงทฤษฎีของพฤติกรรมการลงคะแนนเสยี งเลือกต้ังหลายประการเป็นตน้ ว่า การรณรงคห์ าเสยี งเลอื กตงั้ ท�ำใหค้ นทตี่ ดั สนิ ใจไวแ้ ลว้ วา่ จะเลอื กผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ คนใด เปลย่ี นใจไปเลอื กผสู้ มคั ร รับเลือกตั้งคนอ่ืนมีจ�ำนวนเพียงเล็กน้อยเท่าน้ัน และในจ�ำนวนท่ีเปลี่ยนใจไปนั้นเป็นพวกที่ได้รับอิทธิพล จากความกดดันของกลุ่มที่นิยมพรรคการเมือง (กลุ่ม Primary) ยิ่งกว่าจะเป็นอิทธิพลของประเด็นนโยบาย ทใ่ี ชใ้ นการหาเสยี ง นอกจากนยี้ งั พบวา่ มคี นจ�ำนวนเพยี งเลก็ นอ้ ยเทา่ นน้ั ทม่ี กี ารสอื่ สารตดิ ตอ่ กบั พรรคการเมอื งที่ ตนไมส่ งั กดั และทส่ี �ำคญั คอื อาชพี ทอ่ี ยอู่ าศยั (ชนบท ในเมอื ง) ศาสนา และอปุ นสิ ยั การลงคะแนนเสยี งเลอื กตง้ั ของบุคคลในอดตี เป็นตวั ก�ำหนดท่ีส�ำคัญตอ่ พฤติกรรมการไปลงคะแนนเสียงเลือกตง้ั ของบคุ คล แคมปเ์ บลล์ และคณะ (1954; Angus Campbell, Philip E. Converse, Warren E. Miller, and Donald E. Stokes, 1960, 1966) ศึกษาพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง สรุปสาระส�ำคัญของทฤษฎี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การลงคะแนนเสียงเลอื กตัง้ เช่น • ทฤษฎีความส�ำนึกเชิงเหตุผล (Consciously rational Theories) เน้นที่ปฏิกิริยา ของความส�ำนกึ ตรกึ ตรองของผไู้ ปใชส้ ทิ ธอิ อกเสยี งทมี่ ตี อ่ การบรหิ ารการเลอื กตง้ั นโยบายของพรรค และสภาพของผู้สมัครรับเลือกต้ัง ลกั ษณะดงั กลา่ วคลา้ ยกบั วา่ กรอบความคดิ เชงิ เหตผุ ล (rational framework) ของผไู้ ปใชส้ ทิ ธอิ อกเสยี งเลอื กตงั้ เสมอื นกบั การตดั สนิ ใจของผบู้ รโิ ภคในทางเศรษฐศาสตร ์ • ทฤษฎีระบบ (Systems Theories) เปน็ การศกึ ษาพฤตกิ รรมการลงคะแนนเสยี งเลอื กตง้ั โดย การพจิ ารณาเชงิ ระบบทว่ั ไปวา่ ปจั จยั แวดลอ้ มทเ่ี กดิ ขน้ึ เฉพาะชว่ งสมยั ทม่ี กี ารเลอื กตงั้ ซงึ่ เปน็ ปจั จยั ทมี่ ผี ลระยะสนั้ (Short-term forces) เชน่ ความสนใจในตวั ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ความเหน็ ตอ่ นโยบาย และปญั หาทางการเมอื ง ภาพพจนท์ มี่ ตี อ่ การปฏบิ ตั งิ านของพรรค สถานการณภ์ ายในและภายนอก ประเทศ สภาพการแข่งขันของผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น จะผันแปรไปในแต่ละช่วงสมัยของ การเลือกต้ัง เมื่อประมวลรวมกันแล้วจะมีผลต่อปัจจัยพ้ืนฐาน คือ ความนิยมพรรคการเมือง ซึ่งอาจท�ำให้ผู้ลงคะแนนเสียงเปลี่ยนความนิยมพรรคการเมืองจากพรรคการเมืองหน่ึงไปยัง อีกพรรคการเมืองหน่ึง เป็นการแกว่งออกจากสภาวะสมดุล “ปกติ” และเมื่อถึงการเลือกต้ัง คราวตอ่ ไป กม็ กั จะแกวง่ กลบั โดยนยั เดียวกนั เชน่ นี้เรอื่ ยไป ความผูกพันพรรคมีองค์ประกอบหลายประการ บางคนผูกพันพรรคเพราะชอบนโยบายพรรค ตรงกบั ตน หรอื ชอบบคุ ลกิ ภาพของผนู้ �ำ ความผกู พนั พรรคมไิ ดห้ มายความเฉพาะการเปน็ สมาชกิ พรรคการเมอื ง เท่าน้นั แตร่ วมถึงการสนบั สนนุ พรรคในรูปแบบต่างๆ อีกดว้ ย อย่างไรก็ตามได้เคยมีผู้ศึกษาและสรุปเก่ียวกับความผูกพันพรรคของคนไทยออกมาว่าการเลือกต้ัง ของไทยนั้น การลงคะแนนเสียงมักให้ความส�ำคัญกับผู้สมัครมากกว่าพรรคการเมือง (สุจิต บุญบงการ และพรศักดิ์ ผ่องแผว้ , 2527: 184)
43 1.3 แนวคิดเก่ียวกับกระบวนการตัดสินใจเลือกตั้ง สิ่งส�ำคัญก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียง เลือกตั้งคือ การตัดสินใจเลือกต้ัง ซ่ึงมีผู้ศึกษาและแบ่งกระบวนการตัดสินใจเลือกตั้งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ (สัมฤทธ์ิ ราชสมณะ, 2530: 36-71) ขั้นตอนท่ี 1 การได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งและข่าวสารเก่ียวกับผู้สมัครรับเลือกต้ัง ซ่ึงจะเร่ิมจากการได้รับข่าวสารว่าจะต้องมีการเลือกต้ัง การได้รับทราบข่าวสารของการสมัครรับเลือกตั้ง การไดท้ ราบขา่ วสารเกย่ี วกบั ตวั ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ และนโยบายตา่ ง ๆ ของพรรคการเมอื งของผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ซงึ่ ในการไดร้ บั ขา่ วสารเกยี่ วกบั การเลอื กตง้ั นนั้ ประชาชนในชนบทไดร้ บั ขา่ วสารเกย่ี วกบั การเลอื กตง้ั โดยผา่ นสอื่ หรือช่องทางใดบ้างและข่าวสารต่างๆ ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเก่ียวกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือเก่ียวกับ พรรคการเมืองท่ีส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประชาชนเลือกรับข่าวสารในลักษณะใดจนกระท่ังน�ำข่าวสารน้ันไปเป็น หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง ให้เหลือเท่ากับจ�ำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องการ จะลงคะแนนเสยี งให้ จากสอื่ หรอื ชอ่ งทางหลายๆ ทางนนั้ ประชาชนเลอื กทจ่ี ะเชอ่ื ขา่ วสารจากแหลง่ ใดมากทส่ี ดุ และลกั ษณะของขา่ วสารทผ่ี า่ นไปสผู่ ลู้ งคะแนนเสยี งเลอื กตง้ั นนั้ กเ็ ปน็ ลกั ษณะขา่ วสารทหี่ ลากหลาย เพอ่ื ทจ่ี ะจงู ใจ ให้ลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกต้ังคนใดคนหน่ึง ประชาชนเลือกที่จะรับข่าวสารลักษณะใดมาเป็นเกณฑ์ ในการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครรบั เลือกต้ังเพื่อที่จะลงคะแนนเสยี งให้ ขั้นตอนที่ 2 การสร้างหลักเกณฑ์และการให้น�้ำหนักของหลักเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกตั้ง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร เมอื่ ผลู้ งคะแนนเสยี งเลอื กตงั้ ยอมรบั วา่ จะตอ้ งมกี ารตดั สนิ ใจ และไดร้ บั ขา่ วสารตา่ งๆ เกย่ี วกบั ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ หรอื นโยบายของพรรคการเมอื งทผ่ี สู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ สงั กดั อยู่ หรอื ผลู้ งคะแนนเสยี งเลอื กตงั้ ท่ีผูกพันกับพรรคการเมืองหรือผูกพันกับผู้สมัครรับเลือกต้ังก็จะสร้างหลักเกณฑ์ในการที่จะคัดเลือกผู้สมัคร รบั เลอื กตง้ั เพอื่ ทจ่ี ะคดั เลอื กผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ทตี่ นเองถกู ใจมากทส่ี ดุ ใหเ้ หลอื จ�ำนวนเทา่ กบั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ที่พึงมีได้ หรือเท่าท่ีตัวเองต้องการจะลงคะแนนเสียงให้ ผู้ลงคะแนนเสียงก็จะมาสร้างหลักเกณฑ์ของตนเองว่า ในการลงคะแนนเสียงคร้ังน้ีจะให้ความส�ำคัญกับพรรคการเมืองหรือให้ความส�ำคัญกับคุณสมบัติส่วนตัว ของบุคคล ในข้ันตอนน้ีจะเริ่มมีการรณรงค์หาเสียงเลือกต้ัง เพ่ือให้ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกต้ังเห็นชอบกับ ตัวผ้สู มัครรับเลือกต้ัง ขา่ วสารต่างๆ ทง้ั ในด้านสว่ นตัวของผู้สมคั รรบั เลอื กตั้ง หรอื นโยบายของพรรคการเมือง ก็จะเริ่มเข้าสู่ประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงก็จะเร่ิมประเมินข่าวสารต่างๆ ที่ ได้รับมานั้นสอดคล้องกับหลักเกณฑ์หรือจุดมุ่งหมายของผู้ลงคะแนนเสียงเลือกต้ังหรือไม่ ผู้ลงคะแนนเสียง เลอื กตงั้ บางคนอาจจะใหค้ วามส�ำคญั กบั นโยบายของพรรคการเมอื ง บางคนใหค้ วามส�ำคญั กบั คณุ สมบตั สิ ว่ นตวั ของผู้สมคั รรับเลือกต้ัง ข้นั ตอนที่ 3 การประเมนิ และการจัดล�ำดับผสู้ มัครรับเลือกตัง้ เม่ือได้ก�ำหนดหลักเกณฑต์ ่างๆ และ ให้น�้ำหนักของหลักเกณฑ์ท่ีใช้ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้ว ตามท่ีผู้ลงคะแนนเสียงเลือกต้ังใช้เป็นเกณฑ์ ในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกต้ัง หลังจากน้ันจะเป็นการประเมินผู้สมัครรับเลือกต้ังแต่ละคน (หรือเท่าท ่ี ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกต้ังจะประเมิน) ว่าตามหลักเกณฑ์ที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคน ควรจะไดร้ ับการประเมนิ เทา่ ไร ตามการประเมินของผลู้ งคะแนนเสยี งเลอื กตัง้ แต่ละคน
44 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี ข้ันตอนท่ี 4 การตัดสินใจสุดท้ายท่ีจะลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดคนหนึ่ง ในขั้นตอนน้ี ตามปกติแล้วผู้ลงคะแนนเสียงเลือกต้ังจะตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกต้ังให้กับผู้สมัคร รบั เลอื กตง้ั ทมี่ คี ะแนนรวมจากการประเมนิ มากทสี่ ดุ แตใ่ นขน้ั ตอนนอี้ าจจะมเี หตกุ ารณบ์ างอยา่ งเขา้ มาสอดแทรก คอื ผู้ลงคะแนนเสียงบางคนอาจจะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งตามอิทธิพลของส่ิงของเงินทองที่ได้รับจากหัวคะแนน ผู้สมัครรับเลือกต้ังคนใดคนหน่ึงด้วย กล่าวคือ ถึงแม้ว่าจะมีข้ันตอนในกระบวนการตัดสินใจเลือกตั้ง มาโดยตลอด จนกระทงั่ ไดต้ วั ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ทไ่ี ดร้ บั การประเมนิ สงู สดุ แตเ่ มอ่ื รบั เงนิ หรอื สงิ่ ของไปแลว้ อาจจะ ท�ำการเปลย่ี นแปลงการตดั สนิ ใจไปลงคะแนนเสยี งใหก้ บั ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ทต่ี นเองรบั สง่ิ ของเงนิ ทองมากไ็ ด้ 1.4 แนวคดิ การสอ่ื สารทางการเมอื ง (Political Communication) (ยทุ ธพร อสิ รชยั , 2561: 8-5-8-6) มีนักวิชาการ เช่น Rush & Althoff ให้ความหมายว่า หมายถึง การถ่ายทอดข่าวสารที่เก่ียวกับการเมือง จากสว่ นหนง่ึ ของระบบการเมอื งไปยงั อกี สว่ นหนง่ึ ของระบบการเมอื ง และเปน็ การถา่ ยทอดระหวา่ งระบบสงั คม กับระบบการเมือง ขณะที่ Shaffee กลา่ วว่า การส่อื สารทางการเมืองมลี กั ษณะเปน็ ระบบของการแพร่ขา่ วสาร ทางการเมอื งไปยงั สมาชิกของพรรคการเมอื ง จากการก่อตัวของโลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ McLuhan เสนอทฤษฎีเก่ียวกับชุมชนโลก (global community) (ยุทธพร อิสรชัย, 2561: 8-34) โดยกล่าวว่า วัฒนธรรมของปัจเจกบุคคลท่ีมนุษย์เคยรู้จัก จะถกู แทนทดี่ ว้ ยสง่ิ ทเ่ี รยี กวา่ “การพงึ่ พาอาศยั ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส”์ (electronic interdependence) ในยคุ สมยั ใหม ่ มนุษยชาติจะเปล่ียนแนวทางการติดต่อส่ือสารที่มีความเป็นปัจเจกบุคคลสูง ไปเป็นความมีอัตลักษณ์ร่วมกัน หรอื ท่ี McLuhan เรยี กวา่ “รากฐานแบบชนเผา่ ” (tribal base) ประดษิ ฐกรรมทางความคดิ ซงึ่ ถอื เปน็ นวตั กรรม ทางสงั คมน้ี ใชเ้ รยี กองคก์ รทางสงั คมแบบใหมซ่ ง่ึ มลี กั ษณะเปน็ “หมบู่ า้ นโลก” (global village) ทค่ี นทวั่ ทงั้ โลก สามารถตดิ ตอ่ สื่อสารกันได้ผา่ นเครือข่ายเทคโนโลยสี ารสนเทศ จนเปรยี บเสมือนกับผคู้ นที่อยใุ่ นชุมชนเดยี วกนั คนทั่วโลกจะมีความส�ำนึกรับรู้ (perception) และประสบการณ์ (experience) อันเป็นสากลเฉกเช่นเดียวกัน โดยผ่านการแพร่กระจายของส่ือท่ีเป็นระบบโลก (global media system) ท�ำให้คนจ�ำนวนมากสามารถ รเู้ รอ่ื งราวทไ่ี หนกไ็ ด้ ภายในระยะเวลาทรี่ วดเรว็ หรอื เวลาเดยี วกนั แมจ้ ะมที อี่ ยทู่ างกายภาพคนละซกี โลกกส็ ามารถ ทราบเรอื่ งราวในเวลาจริงได้ผ่านส่อื เชน่ การถ่ายทอดสดโทรทัศนผ์ า่ นดาวเทียม เว็บไซต์ และอินเทอรเ์ นต็ 2. กฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอ่ืนที่เก่ียวข้อง ส่วนแรกนี้เป็นการน�ำเสนอกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นท่ีเกี่ยวข้องกับสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎร พรรคการเมอื ง ผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั คณะกรรมการการเลอื กตงั้ ผตู้ รวจการเลอื กตง้ั ประจ�ำจงั หวดั ซ่งึ มรี ายละเอยี ด ดังน้ี
45 2.1 สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จ�ำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 (มาตรา 83) และพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ยการเลือกต้งั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 (รฐั ธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 หมวด 1 บทท่ัวไป มาตรา 11 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วา่ ดว้ ยการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2561 (มาตรา 26)) บญั ญตั ถิ งึ จ�ำนวนสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร วา่ สภาผแู้ ทนราษฎรประกอบด้วยสมาชกิ จ�ำนวนห้ารอ้ ยคน ดงั น้ี (1) สมาชกิ ซง่ึ มาจากการเลอื กตง้ั แบบแบง่ เขตเลอื กต้ังจ�ำนวนสามร้อยห้าสบิ คน (2) สมาชิกซึ่งมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองจ�ำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบคน ในกรณีที่ต�ำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด และยังไม่มีการเลือกต้ังหรือประกาศชื่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรข้ึนแทนต�ำแหน่งที่ว่าง ให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรเท่าทม่ี ีอยู่ ในกรณมี เี หตใุ ด ๆ ทที่ �ำใหส้ มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรแบบบญั ชรี ายชอื่ มจี �ำนวนไมถ่ งึ หนงึ่ รอ้ ยหา้ สบิ คน ให้สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อประกอบดว้ ยสมาชกิ เทา่ ทีม่ อี ยู่ คณุ สมบตั ผิ มู้ สี ทิ ธสิ มคั รรบั เลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการเลือกต้งั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2561 (มาตรา 41) บัญญัติวา่ บคุ คลผ้มู ีคุณสมบตั ดิ ังตอ่ ไปนี้ เปน็ ผู้มีสทิ ธสิ มัครรบั เลือกตั้งเป็นสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร (1) มีสญั ชาตไิ ทยโดยการเกิด (2) มอี ายุไม่ตำ่� กวา่ ยส่ี ิบหา้ ปนี บั ถึงวันเลอื กตงั้ (3) เป็นสมาชกิ พรรคการเมอื งใดพรรคการเมอื งหนึง่ แตเ่ พยี งพรรคการเมืองเดียวเปน็ เวลาติดตอ่ กนั ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีท่ีมีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะเหตุยุบสภา ระยะเวลาเกา้ สิบวนั ดังกล่าวใหล้ ดลงเหลือสามสบิ วัน (4) ผ้สู มคั รแบบแบง่ เขตเลอื กต้ัง ต้องมลี กั ษณะอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงดังต่อไปนี้ด้วย (ก) มีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดท่ีสมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า หา้ ปนี บั ถึงวันสมคั รรับเลือกตั้ง (ข) เป็นบุคคลซึ่งเกดิ ในจังหวดั ทสี่ มัครรบั เลอื กตัง้ (ค) เคยศึกษาในสถานศึกษาท่ตี ง้ั อยใู่ นจงั หวดั ท่สี มคั รรบั เลอื กตัง้ เป็นเวลาตดิ ตอ่ กนั ไมน่ อ้ ยกวา่ ห้าปีการศกึ ษา
46 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี (ง) เคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ หรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในจงั หวดั ท่สี มคั รรับเลือกตง้ั แล้วแตก่ รณี เป็นเวลาติดต่อกนั ไม่น้อยกว่าหา้ ปี ลกั ษณะตอ้ งหา้ มมใิ หใ้ ชส้ ทิ ธสิ มคั รรบั เลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 (มาตรา 42) บัญญัติว่าบุคคลผู้มีลักษณะ ดังตอ่ ไปนี้ เป็นบคุ คลตอ้ งหา้ มมใิ ห้ใช้สทิ ธสิ มัครรับเลอื กตงั้ เป็นสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร (1) ตดิ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (2) เปน็ บุคคลล้มละลายหรือเคยเปน็ บุคคลลม้ ละลายทจุ ริต (3) เปน็ เจา้ ของหรอื ผถู้ อื หุ้นในกจิ การหนังสือพมิ พห์ รอื สือ่ มวลชนใดๆ (4) เปน็ ภกิ ษุ สามเณร นักพรต หรือนกั บวช (5) อยู่ในระหวา่ งถกู เพกิ ถอนสทิ ธิเลอื กต้ังไม่ว่าคดีนั้นจะถึงท่ีสดุ แลว้ หรอื ไม่ (6) วิกลจรติ หรอื จิตฟ่นั เฟือนไม่สมประกอบ (7) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกต้ังเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตัง้ (8) ต้องค�ำพพิ ากษาใหจ้ �ำคุกและถกู คมุ ขงั อยโู่ ดยหมายของศาล (9) เคยไดร้ บั โทษจ�ำคกุ โดยไดพ้ น้ โทษมายงั ไมถ่ งึ สบิ ปนี บั ถงึ วนั เลอื กตงั้ เวน้ แตใ่ นความผดิ อนั ไดก้ ระท�ำ โดยประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ (10) เคยถกู สงั่ ใหพ้ น้ จากราชการ หนว่ ยงานของรฐั หรอื รฐั วสิ าหกจิ เพราะทจุ รติ ตอ่ หนา้ ท่ี หรอื ถอื วา่ กระท�ำการทจุ รติ หรอื ประพฤตมิ ชิ อบในวงราชการ (11) เคยต้องค�ำพิพากษาหรือค�ำส่ังของศาลอันถึงท่ีสุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร�่ำรวย ผดิ ปกติ หรอื เคยตอ้ งค�ำพพิ ากษาอนั ถงึ ทส่ี ดุ ใหล้ งโทษจ�ำคกุ เพราะกระท�ำความผดิ ตามกฎหมาย วา่ ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ (12) เคยตอ้ งค�ำพพิ ากษาอนั ถงึ ทสี่ ดุ วา่ กระท�ำความผดิ ตอ่ ต�ำแหนง่ หนา้ ทรี่ าชการหรอื ตอ่ ต�ำแหนง่ หนา้ ท่ี ในการยุติธรรม หรือกระท�ำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือ หน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ท่ีกระท�ำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผดิ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการกยู้ มื เงนิ ทเ่ี ปน็ การฉอ้ โกงประชาชน กฎหมายวา่ ดว้ ยยาเสพตดิ ในความผดิ ฐานเปน็ ผผู้ ลติ น�ำเขา้ สง่ ออก หรอื ผคู้ า้ กฎหมายวา่ ดว้ ยการพนนั ในความผดิ ฐานเปน็ เจ้ามือหรือเจ้าส�ำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมาย วา่ ดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ ในความผดิ ฐานฟอกเงิน
47 (13) เคยต้องค�ำพิพากษาอนั ถงึ ทสี่ ุดว่ากระท�ำการอันเป็นการทจุ รติ ในการเลือกต้ัง (14) เป็นข้าราชการซง่ึ มตี �ำแหน่งหรือเงนิ เดือนประจ�ำนอกจากข้าราชการการเมือง (15) เปน็ สมาชกิ สภาทอ้ งถน่ิ หรือผบู้ รหิ ารท้องถิ่น (16) เปน็ สมาชิกวุฒสิ ภาหรือเคยเปน็ สมาชกิ วุฒิสภาและสมาชกิ ภาพสนิ้ สดุ ลงยงั ไม่เกินสองปี (17) เปน็ พนกั งานหรอื ลกู จา้ งของหนว่ ยราชการ หนว่ ยงานของรฐั หรอื รฐั วสิ าหกจิ หรอื เปน็ เจา้ หนา้ ที่ อ่นื ของรัฐ (18) เป็นตุลาการศาลรฐั ธรรมนูญ หรือผดู้ �ำรงต�ำแหน่งในองคก์ รอสิ ระ (19) อยใู่ นระหว่างตอ้ งหา้ มมิใหด้ �ำรงต�ำแหนง่ ทางการเมอื ง (20) เคยพ้นจากต�ำแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอ การแปรญัตติ หรือ การกระท�ำดว้ ยประการใดๆ ทม่ี ผี ลใหส้ มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร สมาชกิ วฒุ สิ ภา หรอื กรรมาธกิ าร มีส่วนไม่วา่ โดยทางตรงหรือทางออ้ มในการใชง้ บประมาณรายจา่ ย (21) เคยพน้ จากต�ำแหนง่ เพราะศาลฎกี าหรอื ศาลฎกี าแผนกคดอี าญาของผดู้ �ำรงต�ำแหนง่ ทางการเมอื ง มีค�ำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่�ำรวยผิดปกติ หรือกระท�ำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าท่ีหรือใช้อ�ำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืน หรือไมป่ ฏิบตั ิ 2.2 พรรคการเมอื ง บทบาทของพรรคการเมือง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 บัญญัติการ ด�ำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข โดยให้พรรคการเมืองต้องมีกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างดังต่อไปน้ี (รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 23) (1) ส่งเสริมให้สมาชิกและประชาชนมีความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องเก่ียวกับการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การใช้สิทธิและเสรีภาพอย่างมีเหตุผลและ มคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม และความรู้เก่ียวกบั หนา้ ทีข่ องปวงชนชาวไทย (2) ร่วมกับประชาชนในการหาแนวทางการพัฒนาประเทศ และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ท่ีเกิดขึ้น ในสังคมอย่างมีเหตุผลโดยค�ำนึงถึงความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านวัตถุกับการพัฒนา ดา้ นจิตใจและความอยู่เยน็ เปน็ สขุ ของประชาชนประกอบกนั (3) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการด�ำเนินกิจกรรมทางการเมือง รวมตลอดทั้ง การตรวจสอบการใชอ้ �ำนาจรฐั และการด�ำเนินงานขององคก์ รอสิ ระอย่างมเี หตุผล
48 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี (4) ส่งเสรมิ ใหส้ มาชกิ และประชาชนมคี วามสามัคคีปรองดอง รจู้ กั ยอมรบั ในความเห็นทางการเมือง โดยสุจริตที่แตกต่าง และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยสันติวิธี เพ่ือประโยชน์สุข ของประเทศชาตแิ ละประชาชน (5) กิจกรรมอื่นอันจะยังประโยชน์ต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย ์ ทรงเป็นประมุข รวมท้ังการพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน ทงั้ นี้ ตามท่ไี ดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ 2.3 ผูม้ สี ทิ ธิเลอื กตงั้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ได้บัญญัติถึงหน้าท ่ี ของปวงชนชาวไทย ไว้ในหมวด 4 เก่ียวกับการเลือกต้ังหรือการลงประชามติว่า “ไปใช้สิทธิเลือกต้ัง หรือลงประชามตอิ ยา่ งอสิ ระโดยค�ำนึงถงึ ประโยชนส์ ว่ นรวมของประเทศเป็นส�ำคัญ” (มาตรา 50 (7)) คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกต้ัง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 (มาตรา 95) และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 (มาตรา 31) บญั ญตั ิถึงคุณสมบัติของผมู้ ีสิทธิเลือกต้ังไว้ดงั น้ี (1) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อย กว่าหา้ ปี (2) มีอายุไมต่ �่ำกวา่ สบิ แปดปีในวันเลือกตงั้ (3) มชี อ่ื อยู่ในทะเบยี นบา้ นในเขตเลอื กตงั้ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าเกา้ สิบวนั นบั ถึงวันเลอื กตง้ั ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซ่ึงอยู่นอกเขตเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตเลอื กต้งั เปน็ เวลานอ้ ยกว่าเก้าสบิ วนั นับถึงวันเลือกตง้ั หรือมถี ิ่นทอ่ี ย่นู อกราชอาณาจักร จะขอลงทะเบยี น เพื่อออกเสียงลงคะแนนเลือกต้ังนอกเขตเลือกต้ัง ณ สถานที่ และตามวันเวลา วิธีการ และเง่ือนไขที่บัญญัติ ไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ซ่ึงไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยมิได้แจ้งเหตุอันสมควรตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ัง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร อาจถูกจ�ำกดั สทิ ธิบางประการตามทีก่ ฎหมายบัญญตั ิ คุณสมบัติของบุคคลท่ีมีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิเลือกต้ัง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 (มาตรา 96) และพระราชบัญญัติประกอบรฐั ธรรมนูญ ว่าดว้ ยการเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พ.ศ. 2561 (มาตรา 32) บัญญตั วิ ่าบคุ คลผมู้ ีลกั ษณะดงั ต่อไปนี้ในวันเลือกตงั้ เป็นบคุ คลตอ้ งห้ามมิใหใ้ ช้สิทธเิ ลอื กต้ัง
49 (1) เปน็ ภกิ ษุ สามเณร นกั พรต หรือนักบวช (2) อยูใ่ นระหวา่ งถูกเพิกถอนสทิ ธิเลือกตง้ั ไม่ว่าคดีน้ันจะถงึ ที่สดุ แล้วหรอื ไม่ (3) ตอ้ งคมุ ขังอยโู่ ดยหมายของศาลหรอื โดยค�ำสง่ั ทช่ี อบดว้ ยกฎหมาย (4) วิกลจริตหรือจิตฟัน่ เฟอื นไมส่ มประกอบ การถูกจ�ำกัดสทิ ธิหากไมไ่ ปใชส้ ทิ ธเิ ลือกตั้ง พระราชบัญญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ยการเลือกตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 (มาตรา 35) บัญญตั ไิ ว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ย่ืนค�ำรอ้ งคัดค้านการเลือกตงั้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร (2) สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถ่ิน หรอื สมคั รรบั เลือกเป็นสมาชิกวุฒสิ ภา (3) สมัครรบั เลือกเปน็ ก�ำนนั และผใู้ หญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องท่ี (4) ด�ำรงต�ำแหนง่ ขา้ ราชการการเมอื งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บขา้ ราชการการเมอื ง และขา้ ราชการ รฐั สภาฝา่ ยการเมอื งตามกฎหมายว่าดว้ ยระเบียบขา้ ราชการรฐั สภา (5) ด�ำรงต�ำแหนง่ รองผบู้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ เลขานกุ ารผบู้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารผบู้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ ประธานทป่ี รกึ ษาผบู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ทปี่ รกึ ษาผบู้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ หรอื คณะทปี่ รกึ ษาผบู้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจัดตัง้ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น 2.4 ผูต้ รวจการเลือกต้ังประจ�ำจงั หวัด ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยผู้ตรวจการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 ได้บัญญัติถึงผู้ตรวจ การเลือกต้ังประจ�ำจังหวัดไว้ โดยจังหวัดสุพรรณบุรีมีจ�ำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ 4 คน ดังนั้น ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจ�ำจังหวัดจึงมีได้จ�ำนวน 5 คน “จังหวัดที่มีเขตเลือกต้ังไม่เกินห้าเขตเลือกต้ัง ให้มี ผ้ตู รวจการเลือกต้ังประจ�ำจังหวัดห้าคน” (ข้อ 24 (1) คณุ สมบัตผิ ูต้ รวจการเลือกต้ังประจ�ำจังหวดั ผตู้ รวจการเลอื กต้งั ประจ�ำจงั หวดั ต้องมคี ณุ สมบตั ดิ ังนี้ (ข้อ 10) (1) มีสญั ชาตไิ ทยโดยการเกิด (2) มีอายไุ มต่ �่ำกวา่ สสี่ ิบห้าปี แต่ไมเ่ กินเจด็ สิบปี นบั ถงึ วนั สมคั ร (3) มีชอื่ อยูใ่ นทะเบียนบา้ นในจงั หวัดทส่ี มคั รตดิ ตอ่ กันไม่น้อยกวา่ เก้าสิบวัน นับถงึ วนั สมัคร
50 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี (4) ส�ำเร็จการศึกษาไม่ต�่ำกว่าปรญิ ญาตรีหรือเทยี บเท่า (5) มีความเป็นกลางทางการเมือง (6) มคี วามซอื่ สัตยส์ จุ รติ ไม่มีความประพฤติเส่ือมเสีย (7) มสี ขุ ภาพทีส่ ามารถปฏิบตั หิ น้าทีไ่ ด้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ลักษณะต้องหา้ มของผู้ตรวจการเลือกต้ัง ผู้ตรวจการเลอื กต้ังต้องไม่มลี ักษณะต้องหา้ ม (ขอ้ 11) ดังต่อไปน้ี (1) เปน็ ข้าราชการซ่ึงมตี �ำแหนง่ หรือเงนิ เดือนประจ�ำ (2) เปน็ พนกั งานหรอื ลกู จา้ ง หรอื กรรมการหรอื ทปี่ รกึ ษาของหนว่ ยงานของรฐั รฐั วสิ าหกจิ หรอื ราชการ สว่ นท้องถิ่น หรอื เปน็ เจา้ หน้าทอ่ี ่นื ของรฐั (3) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดในเวลาห้าปีที่ผ่านมากอ่ นการแตง่ ต้งั (4) ติดยาเสพตดิ ให้โทษ (5) เปน็ บุคคลล้มละลายหรอื เคยเปน็ บุคคลลม้ ละลายทจุ ริต (6) เปน็ เจ้าของหรือผ้ถู อื หุน้ ในกจิ การหนังสอื พิมพห์ รือสือ่ มวลชนใด ๆ (7) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนกั บวช (8) อยู่ในระหวา่ งถูกเพิกถอนสทิ ธิเลือกตง้ั ไมว่ ่าคดนี ั้นจะถึงท่ีสดุ แลว้ หรือไม่ (9) วกิ ลจรติ หรือจติ ฟ่ันเฟอื นไม่สมประกอบ (10) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิ สมัครรบั เลอื กต้งั (11) ต้องค�ำพิพากษาให้จ�ำคุกและถูกคุมขังอยโู่ ดยหมายของศาล (12) เคยไดร้ บั โทษจ�ำคกุ โดยไดพ้ น้ โทษมายงั ไมถ่ งึ สบิ ปนี บั ถงึ วนั สมคั ร เวน้ แตใ่ นความผดิ อนั ไดก้ ระท�ำ โดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ (13) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าท่ีหรือถือว่า กระท�ำการทุจริตหรือประพฤตมิ ิชอบในวงราชการ (14) เคยต้องค�ำพิพากษาหรือค�ำส่ังของศาลอันถึงท่ีสุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่�ำรวย ผดิ ปกติ หรอื เคยตอ้ งค�ำพพิ ากษาอนั ถงึ ทส่ี ดุ ใหล้ งโทษใหจ้ �ำคกุ เพราะกระท�ำความผดิ ตามกฎหมาย ว่าดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249