นกั การเมอื งถ่นิ จงั หวดั ยะลา ในยุคเร่ิมต้นของประชาธิปไตยคือ หลังการเปล่ียนแปลง การปกครอง พ.ศ. 2475 ของคณะราษฎรน้ัน ข้าราชการในพ้ืนที่มี บทบาทสูงในการกำ�หนดผู้ที่จะชนะเลือกต้ัง นับต้ังแต่การเลือกต้ัง คร้ังแรกท่ีเป็นการเลือกตั้งทางอ้อมในปีพ.ศ. 2476 ซ่ึงได้นายสง่า สายศิลป์ ข้าราชการสังกัดกรมท่ีดิน นับถือศาสนาพุทธและไม่ใช่คน ในพ้ืนท่แี ต่เดิม เพราะนามสกลุ นม้ี ีรากเหง้าอยทู่ ภี่ าคอสี าน เม่ือมาถึง การเลือกตั้งโดยตรงคร้ังแรกในปี พ.ศ. 2480 และครั้งที่ 2 ในปีพ.ศ. 2481 ผู้ชนะเลือกตั้งคือนายวิไล เบญจลักษณ์ ซึ่งเป็นมุสลิมคนแรก และเป็นส.ส. คนท่ี 2 ของจังหวัดยะลา ปัจจัยท่ีทำ�ให้ได้รับเลือกตั้ง ประการหน่ึงคือ การสนับสนุนของข้าราชการในพื้นท่ี เพราะเม่ือถึง การเลือกตั้งครั้งต่อมา แม้นายวิไล มีเครือข่ายหรือฐานเสียงประเภท อื่นด้วย แต่เม่ือเครือข่ายข้าราชการในพ้ืนท่ียกเลิกการสนับสนุนแล้ว หันไปสนับสนุนผู้สมัครรายอ่ืนแทน นายวิไล ต้องทิ้งพื้นท่ีเดิมแล้ว กลบั ไปสมัครทีจ่ ังหวัดปัตตานี บา้ นเกิดแทน และผูท้ ่ีขา้ ราชการในพนื้ ที่ ให้การสนับสนุนก็ได้รบั การเลือกตัง้ คือ นายประสาท ไชยะโท แมก้ ระทงั่ ปจั จบุ นั เครอื ขา่ ยขา้ ราชการในพนื้ ทก่ี ย็ งั คงมบี ทบาท สูงโดยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ซ่ึงถูกมองว่าเป็น “พรรคของ เรา” เพราะเป็นพรรคการเมืองที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับชาติพันธ์ อตั ลกั ษณ์ และศาสนาของขา้ ราชการซง่ึ สว่ นใหญเ่ ปน็ ชาวพทุ ธเมอ่ื เทยี บ กบั พรรคการเมืองอืน่ ๆ โดยเฉพาะกลมุ่ วะห์ดะฮ์ ซง่ึ เปน็ กล่มุ การเมือง ที่เป็นคู่แข่งสำ�คัญของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นท่ี โดยมองว่ากลุ่มวะห์ ดะฮ์ มนี โยบายทเ่ี นน้ ใหค้ วามสำ�คญั ตอ่ ชาตพิ นั ธ์ อตั ลกั ษณแ์ ละศาสนา อิสลามของชาวมลายูมุสลิม ข้อสังเกตนี้ยืนยันจากผลการเลือกตั้ง นับต้ังแต่ปี 2538 จนกระทั่งถึงปัจจุบันที่ผู้สมัครชาวพุทธ ซึ่งสังกัด 188
สรุปและอภิปรายผล พรรคประชาธิปัตย์ยังคงได้รับการเลือกต้ังเพียงจังหวัดเดียวต่างจาก อกี 2 จังหวดั คือ ปตั ตานีและนราธิวาส ในเขตเลอื กตง้ั ท่ลี ักษณะของ พื้นท่ีมีความเป็นเมืองสูงและมีข้าราชการอาศัยอยู่เป็นจำ�นวนมาก คือ อำ�เภอเมือง อำ�เภอเบตง ดังน้ัน นายไพโรจน์ เฉลียวศักด์ิ และ ส.ส.คนปัจจุบันคือ นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ นอกจากการสังกัด พรรคการเมอื งเก่าแก่แลว้ ฐานเสียงกลุ่มขา้ ราชการประจำ�นับเป็นหน่ึง ในปจั จยั สำ�คัญทีท่ ำ�ให้ชนะเลอื กตง้ั 2) เครือขา่ ยพ่อค้า นักธรุ กิจ พ่อค้า นักธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเช้ือสายจีน รอง ลงมาเป็นชาวไทยพุทธเป็นอีกหน่ึงกลุ่มผลประโยชน์ท่ีมีส่วนสำ�คัญต่อ ความสำ�เร็จของนักการเมืองถ่ินจังหวัดยะลาจำ�นวนไม่น้อย นับตั้งแต่ ส.ส. คนแรกท่ีมาจากการเลือกต้ังโดยตรงคือ นายวิไล เบญจลักษณ์ ซ่ึงการได้เสียงสนับสนุนของกลุ่มพ่อค้าทั้งจากชาวไทยเช้ือสายจีนและ ไทยพุทธเป็นผลมาจากการท่ีนายวิไล มีภูมิหลังด้านอาชีพเป็นพ่อค้า ด้วยจึงทำ�ให้สามารถสร้างเครือข่ายทางการเมืองได้เป็นอย่างดี เช่น เดียวกับส.ส. คนต่อมาคือ นายประสาท ไชยะโท ไม่เพียงตัวเขาเอง เป็นพ่อค้า เปิดร้านขายยาและคลินิกรักษาผู้มีรายได้น้อย ซ่ึงถือเป็น กลยทุ ธส์ ำ�คญั ทำ�ใหไ้ ดฐ้ านเสยี งจากคนยากจนชาวมสุ ลมิ ทม่ี าใชบ้ รกิ าร เปน็ จำ�นวนมากแลว้ กลมุ่ พอ่ คา้ นกั ธรุ กจิ ทเี่ ขาเปน็ สว่ นหนงึ่ ของกลมุ่ ใน ฐานะเปน็ ผปู้ ระกอบอาชพี นย้ี งั เปน็ เครอื ขา่ ยทางการเมอื งสำ�คญั ทท่ี ำ�ให้ เขาได้รับเลอื กตง้ั ถึง 4 สมยั ส.ส. บางคนมีบิดาเป็นพ่อค้าหรือประกอบธุรกิจ ขณะที่ ตนเองประกอบอาชพี อน่ื ในการเลอื กตงั้ แตล่ ะครงั้ เครอื ขา่ ยกลมุ่ พอ่ คา้ นกั ธรุ กจิ ทบี่ ดิ าสรา้ งขน้ึ มาอยา่ งยาวนานเปน็ ปจั จยั สำ�คญั ตอ่ ความสำ�เรจ็ 189
นักการเมืองถิน่ จังหวดั ยะลา ในทางการเมืองไม่แตกต่างจากส.ส. ท่ีเป็นพ่อค้าเอง เช่น นายอดุล ภูมิณรงค์ มาจากตระกูลพ่อค้าผู้มั่งคั่งทั้งในรูปเงินทองและทรัพย์สินที่ เป็นที่ดินจากความสำ�เร็จในการค้าขายย่านใจกลางเมือง อำ�เภอเมือง จังหวัดยะลา โดยตนเองทำ�งานบริษัทอยู่ในกรุงเทพฯก่อนตัดสินใจลง สมคั รรับเลือกต้งั นายไพโรจน์ เฉลียวศักด์ิ เป็นบุตรชายพ่อค้ายางระดับเศรษฐี ผมู้ เี ครอื ขา่ ยพอ่ คา้ ยางตงั้ แตร่ ะดบั ยอ่ ยคอื หมบู่ า้ น ไปจนถงึ ระดบั ใหญ่ คอื จังหวัด เชน่ เดยี วกับนายประเสริฐ พงษส์ ุวรรณศิริ ส.ส.คนปจั จุบัน เพียง 1 เดียวท่ีไม่ใช่มุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น บตุ รชายของนกั ธรุ กจิ รบั เหมากอ่ สรา้ งและการแปรรปู ไมย้ างพารา ซง่ึ มี เครอื ข่ายกลมุ่ พอ่ ค้า นักธุรกิจในพน้ื ทีใ่ หก้ ารสนบั สนนุ อย่างเตม็ ท่ี 3) เครอื ขา่ ยผู้นำ�ศาสนา โต๊ะครู โตะ๊ อหิ ม่าม ศาสนาอิสลามเปน็ แนวทางในการดำ�เนนิ ชีวติ ในทุกๆ ดา้ นของ คนทเี่ ปน็ มุสลมิ ดังนั้นผู้นำ�ศาสนา โต๊ะครู โต๊ะอิหมา่ มจงึ มบี ทบาทและ อิทธิพลสูงเพราะมหี น้าท่ีท้ังในการอบรมสั่งสอน การให้คำ�ปรึกษา การ ประกอบพธิ กี รรมในงานบญุ ประเพณตี า่ งๆ เชน่ การเปน็ ผนู้ ำ�ในการขอ พรแก่เด็กแรกเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาความ ขดั แยง้ ข้อพพิ าทตา่ งๆ ในสงั คม อย่างไรก็ตาม ผู้นำ�ศาสนามีบทบาทและอิทธิพลทางการเมือง อย่างเดน่ ชดั ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นับตง้ั แตห่ ลังเหตุการณ์การ เดินขบวนประท้วงใหญ่ ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ในกรณีทหาร ทำ�ร้ายประชาชนที่สะพานกอตอ อำ�เภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีใน ปลายปี 2518 เพราะชมรมโตะ๊ ครู โต๊ะอหิ มา่ ม 3 จังหวัดชายแดนภาค ใต้ประกาศให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ของยะลา 190
สรปุ และอภปิ รายผล ปตั ตานแี ละนราธวิ าส ในการเลอื กตงั้ ปี 2519 นายอสุ มาน อเุ ซง็ ผสู้ มคั ร ของพรรคประชาธปิ ตั ย์ จงึ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากเครอื ขา่ ยผนู้ ำ�ศาสนา เปน็ อยา่ งสงู เพราะไมเ่ พยี งชมรมโตะ๊ ครู โตะ๊ อหิ มา่ ม 3 จงั หวดั ชายแดน ภาคใตเ้ ทา่ นน้ั แตย่ งั มาจากฐานเสยี งในหมนู่ กั การศาสนาทบ่ี ดิ าของเขา เป็นหนึ่งในนักการศาสนาผู้มีชื่อเสียงของจังหวัดยะลาในฐานะเป็นลูก ศิษย์คนสำ�คัญของนายหะยีสุหลง โต๊ะมีนาและได้รับมอบหมายให้ไป บุกเบิกกิจการศาสนาในพ้ืนท่ีจังหวัดยะลาจนได้รับตำ�แหน่งกรรมการ อิสลามประจำ�จงั หวัดยะลาหลายสมยั เครือข่ายนักการศาสนา โดยเฉพาะชมรมโต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม 3 จังหวดั ชายแดนภาคใต้มีบทบาทและอิทธพิ ลทางการเมอื งสูงเพราะ นายอุสมาน ได้เปน็ ส.ส. เพียงสมยั เดียว ในการเลือกตงั้ คร้งั ตอ่ มาคือ พ.ศ. 2522 เขาลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์อีกคร้ัง เม่ือชมรม โตะ๊ ครู โตะ๊ อหิ มา่ ม 3 จงั หวดั ชายแดนภาคใตย้ กเลกิ การสนบั สนนุ พรรค ประชาธปิ ตั ย์ก็ส่งผลทำ�ให้นายอสุ มานแพ้เลือกต้ังดว้ ย นายไพศาล ย่ิงสมาน เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ใช้เครือข่าย นักการศาสนาเป็นแรงหนุนสำ�คัญในการผลักดันตนเองจนชนะเลือก ต้งั นับต้งั แตก่ ารลงสมคั รคร้งั แรกในปี 2535/1 ถึงแมม้ อี าชพี เป็นพอ่ คา้ ระดบั เศรษฐขี องชาวมสุ ลมิ ในจงั หวดั แตเ่ ขาไดแ้ รงสนบั สนนุ จากนกั การ ศาสนาด้วย ส่วนหน่ึงเป็นเพราะการดำ�รงตำ�แหน่งกรรมการอิสลาม ประจำ�จังหวัดยะลามาแล้วหลายสมัย อีกทง้ั ยงั เป็นบุตรเขยของดะโต๊ะ ยตุ ธิ รรมจงั หวดั ยะลาอกี ดว้ ย เครอื ขา่ ยนกั การศาสนาจงึ เปน็ ปจั จยั หนงึ่ ท่สี ำ�คญั ทท่ี ำ�ให้ประสบความสำ�เร็จทางการเมืองในเวลาอนั รวดเรว็ แมก้ ระท่ังผูส้ มัครทมี่ ฐี านเสยี งหรือเครอื ขา่ ยหลายๆ เครอื ข่าย เช่น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายบูราฮานูดิน อุเซ็ง นายณรงค์ 191
นกั การเมืองถิ่นจงั หวดั ยะลา ดดู ิง กม็ ีเครือขา่ ยนกั การศาสนาเป็นหนึ่งในเครอื ขา่ ยสำ�คัญท่ีส่งผลตอ่ ความสำ�เร็จในทางการเมือง 4) ครอบครวั /เครือญาติ ตามทไ่ี ดก้ ลา่ วมาแลว้ ในหวั ขอ้ เครอื ขา่ ยพอ่ คา้ นกั ธรุ กจิ ส.ส.บาง คนเป็นลูกพ่อค้า ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวโดยใช้เครือข่ายท่ี ตนเองมีอยู่ ตลอดจนธุรกิจท่ีดำ�เนินการอยู่มาใช้เพ่ือความได้เปรียบ ทางการเมอื ง เชน่ นายไพโรจน์ เฉลยี วศกั ด์ิ เปน็ ลกู พอ่ คา้ รบั ซอื้ ยางพารา ระดบั จงั หวดั ไดใ้ ชก้ ลไกราคาเปน็ เครอ่ื งมอื ในการสรา้ งความผกู พนั ตอ่ ผู้ ใช้สทิ ธิเลือกตงั้ นกั การเมอื งหลายคนมญี าตผิ ใู้ กลช้ ดิ พชี่ าย หรอื กระทง่ั บดิ าเปน็ ผู้บุกเบิกทางการเมืองไว้บ้างแล้ว แม้ว่าบางคนจะไม่เคยประสบความ สำ�เร็จได้เป็นส.ส.ก็ตาม แต่ก็ถือว่าการเข้าสู่เวทีการเมืองของคนรุ่นต่อ มาไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์เสียทีเดียว เช่น นายอดุล ภูมิณรงค์ มีญาติ สนิทซึ่งเคยลงสมัครแล้วแพ้ให้กับนายประสาท ไชยะโท นายอุสมาน อุเซ็ง แม้บิดาไม่เคยลงสมัครแต่เป็นนักการศาสนาและนักเคล่ือนไหว ทางการเมอื งเคยร่วมงานกับแกนนำ�ผกู้ ่อตงั้ พรรค PAS ในรฐั กลนั ตนั ของมาเลเซีย ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดทางการเมืองของคนในพื้นท่ี 3 จงั หวดั ชายแดนภาคใตอ้ ยบู่ า้ ง จงึ ถอื วา่ นายบรู าฮานดู นิ อเุ ซง็ ส.ส.ยะลา ในปี 2539 และ 2544 มีนายอุสมาน อุเซ็ง พีช่ ายเปน็ ผ้เู บิกทางไว้ให้ บา้ งแลว้ แม้กระท่ังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา บิดาคือ นายเจะ๊ อาแว มะทา ก็เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาแลว้ ในปี 2500 แตไ่ ม่ประสบความ สำ�เร็จ ในขณะท่ีนายซกู าร์โน มะทา ผู้เป็นนอ้ งชายถอื ว่าเป็นผสู้ บื ทอด ทางการเมอื งและประสบความสำ�เรจ็ ทางการเมอื งไดเ้ พราะใชเ้ ครอื ขา่ ย ทางการเมืองของนายวันมหู ะมัดนอร์ มะทา เปน็ ปัจจัยสำ�คัญ 192
สรปุ และอภิปรายผล ปัจจัยด้านเครือญาติเม่ือพิจารณาในเชิงปริมาณหรือในแง่ ของจำ�นวนแลว้ ส.ส.บางคน โดยเฉพาะในชว่ งเร่ิมต้นหรือการลงสมัคร คร้ังแรก ปัจจัยน้ีเป็นปัจจัยสำ�คัญประการหน่ึงต่อความสำ�เร็จทางการ เมอื ง กอ่ นทป่ี จั จยั นจี้ ะเปน็ เรอ่ื งรองในเวลาตอ่ มาเพราะความมชี อื่ เสยี ง โด่งดงั จากบทบาทและตำ�แหนง่ ทางการเมอื ง เชน่ นายวนั มูหะมดั นอร์ มะทา การลงสมคั รครงั้ แรกในปี 2522 ปจั จยั สำ�คญั ประการหนงึ่ คอื การ ใชเ้ ครอื ญาตทิ ม่ี เี ปน็ จำ�นวนมากจากการเปน็ ครอบครวั ใหญ่ โดยเฉพาะ ในพืน้ ท่ีอำ�เภอรามันเป็นเครือข่ายทางการเมืองช่วยหาเสยี งเลอื กตง้ั 5) เครอื ขา่ ยคนหนมุ่ สาว เม่ือสังคมเจริญก้าวหน้ามากขึ้น เกิดการขยายตัวด้านการ ศึกษาจากระดับประถมศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษา ตลอดจนการ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารท่ีแพร่หลายมากขึ้นโดยเฉพาะสื่อสารมวลชนใน รูปของโทรทัศน์ ส่งผลสำ�คัญต่อการตื่นตัวทางการเมืองของผู้ใช้สิทธิ เลือกตั้งโดยเฉพาะเครือข่ายคนหนุ่มสาว ซ่ึงแตกต่างจากเครือข่าย อืน่ ๆ ในแง่ของการจดั ต้งั หรือการเป็นคะแนนจดั ต้ัง เพราะมีอิสระทาง ความคิด พร้อมที่จะเปล่ียนแปลงความนิยมต่อตัวผู้สมัครและพรรคที่ นกั การเมอื งสงั กดั ไดง้ า่ ยกวา่ เครอื ขา่ ยทางการเมอื งอน่ื ๆ ทเ่ี หลอื ทง้ั หมด พลังของคนหนุ่มสาวมีบทบาททางการเมืองนับตั้งแต่หลัง เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นตน้ มา ซ่งึ ถอื เป็นช่วงเวลาทีก่ ารเมอื ง ของจงั หวัดยะลาเขา้ สู่ยุคท่ี 3 ยุคที่สงั คมเปดิ กว้างมากขึน้ มีความร้ใู น ดา้ นตา่ งๆ โดยเฉพาะความรสู้ มยั ใหม่มากขึ้น เครือข่ายคนหนมุ่ สาวนี้ เป็นปัจจัยสำ�คัญประการหน่ึงต่อความสำ�เร็จทางการเมืองของนาย วนั มหู ะมดั นอร์ มะทา ในการลงสมคั รครง้ั แรกปี 2522 นอกเหนอื จากปจั จยั เครอื ญาติ เพราะคนหนมุ่ สาวตดั สนิ ใจเลอื กเนอื่ งจากมองเหน็ ความเปน็ 193
นกั การเมอื งถนิ่ จังหวัดยะลา ปญั ญาชนของเขา ทง้ั ในดา้ นภมู หิ ลงั ทางการศกึ ษาและการทำ�งานจนมี ตำ�แหน่งสงู สดุ เปน็ ถึงรองอธิการของวทิ ยาลยั ครูสงขลา (มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สงขลาในปจั จบุ นั ) มคี วามสามารถในการปราศรยั ทงั้ ภาษามลายู และภาษาไทย เช่นเดียวกบั นายอสุ มาน อเุ ซ็ง ที่ไดเ้ ปน็ ส.ส.กอ่ นหนา้ นี้ คอื ในปี 2519 จากภูมิหลงั ทางการศกึ ษาท่จี บจากวทิ ยาลยั ครูและเปน็ ครมู ากอ่ น ทำ�ใหไ้ ด้รับเสยี งสนบั สนนุ จากคนหนุ่มสาวมากเช่นเดยี วกนั คนหนมุ่ สาวยงั เปน็ ปจั จยั สำ�คญั ตอ่ ความสำ�เรจ็ ของส.ส.คนอนื่ ๆ ในเวลาต่อมา ได้แกน่ ายบรู าฮานูดิน อุเซง็ นายณรงค์ ดูดงิ เพราะมอง วา่ นกั การเมอื งทงั้ 2 รายมคี วามเปน็ ปญั ญาชน สามารถเปน็ ตวั แทนของ ประชาชนในการนำ�เสนอปญั หาต่างๆ ในสภาไดเ้ ปน็ อย่างดี 6) อดตี นักการเมอื ง/นกั การเมืองทอ้ งถ่ิน/กำ�นัน ผู้ใหญบ่ ้าน นักการเมืองบางคนอาศัยเครือข่ายหรือฐานเสียงเดิมของ อดีตส.ส. ท่ียุติบทบาททางการเมืองหรือเว้นวรรคทางการเมืองไม่ลง สมคั ร ไดแ้ ก่ นายเฉลมิ เบน็ หาวัน ไม่มฐี านเสยี งหรอื เครอื ขา่ ยทางการ เมอื งใดๆ รวมทงั้ เครอื ญาติ อาศยั เครอื ขา่ ยเดมิ ของนายวนั มหู ะมดั นอร์ มะทา ท้งั หมดในลักษณะทอี่ าจเรยี กไดว้ ่า “ยกให้” ในการเลอื กตัง้ เมอ่ื ปี 2526 เมือ่ นายวนั มหู ะมดั นอร์ มะทา ตัดสนิ ใจไม่ลงสมัครและกลับ ไปเป็นอาจารยอ์ กี ครงั้ นายซกู ารโ์ น มะทา ใชเ้ ครอื ขา่ ยหรอื ฐานเสยี งของพชี่ ายคอื นาย วนั มูหะมดั นอร์ มะทา เชน่ เดยี วกนั หลงั จากนายวนั มหู ะมดั นอร์ ไม่ลง สมคั รเพราะถกู ตดั สทิ ธทิ างการเมอื งจากการทศี่ าลรฐั ธรรมนญู ตดั สนิ ยบุ พรรคไทยรักไทย ท่ีเขาดำ�รงตำ�แหน่งเปน็ รองหวั หน้าพรรค นายอับดุลการิม เด็งระกีนา ใช้เครือข่ายนักการเมืองท้องถ่ิน และกำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน จากอดีตท่ีเคยดำ�รงตำ�แหน่งประธานชมรม 194
สรุปและอภิปรายผล กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน อำ�เภอรามัน และอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหาร สว่ นจงั หวดั (ส.จ.) อำ�เภอรามัน 3. กลยทุ ธ์/วิธีการหาเสียง ปฏเิ สธไม่ได้ว่ากลยุทธ์ วิธกี ารหาเสียงเป็นปจั จัยสำ�คัญประการ หนึ่งต่อความสำ�เร็จทางการเมือง กลยุทธ์ วิธีการหาเสียงของนัก การเมอื งในจงั หวดั ยะลาโดยสว่ นใหญม่ คี วามสมั พนั ธเ์ ชอื่ มโยงกบั บรบิ ท หรอื สภาพแวดลอ้ มทางเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม ประเพณี ชาตพิ นั ธ์ อัตลักษณ์และศาสนาของคนในจังหวัดยะลา กลยุทธ์ วิธีการหาเสียง สรุปได้ 4 รปู แบบดงั นี้ 1) การสนบั สนุนองคก์ รและกจิ กรรมทางศาสนา ส.ส.ตง้ั แตอ่ ดตี จนกระทงั่ ถงึ ปจั จบุ นั ตา่ งลว้ นใชก้ ลยทุ ธน์ ้ี แมก้ ระ ท่ังส.ส.ท่เี ปน็ ชาวไทยพทุ ธ เชน่ นายประสาท ไชยะโท ใชว้ ิธีบรจิ าคเงนิ สงิ่ ของใหก้ บั องคก์ รและกจิ กรรมตา่ งๆของศาสนาอสิ ลาม การมอบเงนิ ใหแ้ กผ่ นู้ ำ�ศาสนาและชาวมสุ ลมิ เพอ่ื ใหอ้ า่ นดอุ าหรอื ขอพรจากพระเจา้ ให้ประสบความสำ�เร็จในการเลือกตั้ง หรือในอดีตที่การเลือกตั้งยัง ไม่ดำ�เนินการโดยกกต. การตีความการซ้ือเสียงยังไม่เข้มงวด ผู้สมัคร จำ�นวนไม่น้อยใช้กลยุทธ์จัดงานบุญเชิญผู้นำ�ศาสนาและชาวมุสลิมใน พนื้ ท่ีมาร่วมละหมาดขอพร (ละหมาดฮายัต) หลังจากเสร็จพิธีผู้มารว่ ม งานได้รบั เงินและส่งิ ของตอบแทน ส.ส. จำ�นวนไมน่ อ้ ยตง้ั แตอ่ ดตี จนกระทง่ั ถงึ ปจั จบุ นั ใชว้ ธิ อี ำ�นวย ความสะดวกแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่นครเมกกะ ประเทศ ซาอุดิอาระเบยี โดยเฉพาะในอดีตซ่ึงต้องเดินทางด้วยเรอื หรือเครื่อง บนิ ทกี่ รงุ เทพฯ การเดนิ ทางจงึ เปน็ ไปดว้ ยความลำ�บาก ตา่ งจากปจั จบุ นั 195
นักการเมืองถน่ิ จงั หวดั ยะลา ท่มี ีการเชา่ เหมาลำ�และข้ึนเครือ่ งท่สี นามบินนานาชาติหาดใหญ่ 2) การอำ�นวยความสะดวกหรือช่วยเหลือในการดำ�รงชีวิต ประจำ�วัน ในอดตี ทสี่ งั คมยะลาไมเ่ จรญิ เทา่ ปจั จบุ นั โดยเฉพาะดา้ นปจั จยั ส่ี ประชาชนทีอ่ ยู่ในพ้ืนที่ชนบทห่างไกลยามเจ็บไข้ไดป้ ว่ ยตอ้ งเดินทางไป รักษาในตวั จังหวัดซ่ึงใช้เวลานานเป็นแรมวัน ปัญหาท่ีตามมากค็ อื เรือ่ ง ทพ่ี กั อาศัย นายประสาท ไชยะโท ใช้กลยทุ ธ์เปดิ คลนิ ิกรกั ษาผมู้ ีรายได้ นอ้ ย พรอ้ มท่ีพักและอาหารฟรี ส.ส.บางคนทคี่ รอบครัวประกอบธุรกิจ ใช้ธุรกิจเป็นเครื่องมือในการหาคะแนนเสียง เช่น นายไพโรจน์ เฉลียวศักดิ์ ใช้กลยุทธ์ปั่นราคายางเพ่ือให้ชาวสวนยางซ่ึงล้วนเป็นชาว มสุ ลิมได้ราคายางท่ีสูงข้นึ ปัจจุบัน เมื่อการเมืองไทยตกอยู่ในกระแสของการใช้เงินเป็น หนึ่งในปัจจัยสำ�คัญท่ีชี้ขาดผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการซื้อเสียง การเมืองในจังหวัดยะลาก็เผชิญกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน ส.ส. ทุกคน จำ�เปน็ ตอ้ งใชเ้ งนิ ในเวลาปกตจิ ำ�เปน็ ตอ้ งบรจิ าคใหก้ บั งานบญุ ประเพณี ตา่ งๆ ทง้ั ทีเ่ ปน็ งานส่วนบุคคลและงานของสว่ นรวม ในช่วงของการหา เสียงเลือกต้ังมีการใช้เงิน “ซื้อเสียง” ไม่แตกต่างจากพื้นท่ีอื่นๆ ของ ประเทศ เพียงแตจ่ ำ�นวนเงินอาจแตกต่างและไม่มีหลกั ฐานปรากฏเปน็ ทชี่ ัดแจ้งเท่านัน้ 3) การจดั เวทปี ราศรยั ส.ส.ท่ีมีวาทศิลป์ดี โดยเฉพาะผู้ท่ีสามารถปราศรัยได้ทั้งภาษา มลายูและภาษาไทยจะเปิดปราศรัยย่อยและปราศรัยใหญ่ ซ่ึงทำ�ให้ มีส.ส.เพียงไม่ก่ีคนที่ใช้กลยุทธ์หรือวิธีการหาเสียงน้ี นายวิไล เบญจลกั ษณ์ ซึ่งเป็นส.ส.ในยุคแรกของการเลือกตั้งนับเปน็ คนแรกที่ใช้ 196
สรุปและอภิปรายผล วธิ นี เี้ พราะไมเ่ พยี งความสามารถในการพดู ทฉ่ี ะฉานทง้ั ภาษามลายแู ละ ภาษาไทยแลว้ ยังเป็นผทู้ ่มี ีบคุ ลิกและรูปร่างหน้าตาดีจึงสามารถดงึ ดูด ใหม้ ผี มู้ ารบั ฟงั สงิ่ ทเี่ ขานำ�เสนอเปน็ จำ�นวนมาก ส.ส.ในยคุ ตอ่ จากเขาทงั้ พทุ ธและมุสลมิ ไมใ่ ช้กลยุทธ์ วิธีการหาเสยี งน้ี เนื่องจากส.ส.ไทยพทุ ธ คอื นายประสาท ไชยะโท และนายสาลี่ กลู ณรงค์ พูดภาษามลายไู ด้ เพียงเล็กน้อย ส่วนการปราศรัยด้วยภาษาไทยก็มีจุดอ่อนท่ีขาดทักษะ ในการพดู ต่อหนา้ คนจำ�นวนมาก สว่ นนายอดลุ ภมู ณิ รงค์ ผมู้ ีรปู ร่างสูง ใหญ่และหนา้ ตาดีไมต่ า่ งจากนายวไิ ล เบญจลกั ษณ์ อันเปน็ คณุ สมบตั ิ หนง่ึ ทมี่ ผี ลตอ่ ความสำ�เรจ็ ในทางการเมอื ง แตต่ ลอดอายกุ ารเปน็ ส.ส. 5 สมยั ไมป่ รากฏการหาเสยี งดว้ ยการจดั เวทปี ราศรยั เนอื่ งจากขาดทกั ษะ ในการพูดตอ่ หน้าคนจำ�นวนมาก ดงั นนั้ กวา่ จะมสี .ส. ทใ่ี ชก้ ลยทุ ธ์ หรอื วธิ กี ารหาเสยี งดว้ ยการเปดิ เวทปี ราศรยั เปน็ คนท่ี 2 ตอ่ จากนายวไิ ล เบญจลกั ษณ์ กใ็ ชเ้ วลายาวนาน ถงึ 40 ปี เมือ่ การเลอื กต้งั ปี 2519 นายอสุ มาน อุเซ็ง ซง่ึ มปี ระสบการณ์ และทักษะการพูดจากการเป็นครูมาก่อน จึงสามารถปราศรัยหาเสียง ด้วยภาษามลายูและภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว อีก 3 ปีต่อมาคือ การเลือกตัง้ ในปี 2522 นายวนั มูหะมดั นอร์ มะทา อาจถือไดว้ ่าเปน็ ผู้ สรา้ งปรากฏการณก์ ารหาเสยี งดว้ ยวธิ กี ารปราศรยั อยา่ งจรงิ จงั และเขม้ ข้นเป็นคร้ังแรก และถือเป็นกลยุทธ์หลักที่ใช้ในการเลือกตั้งเพราะเน้น การปราศรัยท้ังในเวทีขนาดใหญ่ที่มีผู้ฟังจำ�นวนมากและปราศรัยย่อย ในหมผู่ ูฟ้ งั กลุ่มเลก็ ๆ ทั่วเขตพนื้ ที่เลือกตั้ง ปัจจบุ ัน การปราศรยั เป็นกลยุทธ์หรอื วธิ กี ารหาเสยี งที่ส.ส.สว่ น ใหญน่ ำ�มาใชเ้ มอ่ื ประชาชนมคี วามตนื่ ตวั ทางการเมอื งสงู แมส้ .ส.บางคน ผสู้ มคั รบางรายไมค่ ่อยถนดั นักในการพูดเพอ่ื โน้มน้าวใจผฟู้ ังแตจ่ ำ�เป็น 197
นกั การเมืองถิน่ จังหวัดยะลา ต้องจัดเวทีปราศรัยโดยเฉพาะการปราศรัยใหญ่อยา่ งนอ้ ย 1 ครงั้ เชน่ นายประเสริ ฐ พงษส์ วุ รรณศิริ ซึ่งเป็นส.ส. เพียงคนเดยี วของ 3 จงั หวัด ชายแดนภาคใต้ท่ีไมใ่ ชม่ ุสลมิ มาต้งั แตป่ ี 2538 จนถงึ ปัจจุบนั แมไ้ มใ่ ช่ผู้ สนั ทัดในการพูดตอ่ หนา้ ผฟู้ งั จำ�นวนมากกต็ าม แตก่ ม็ คี วามจำ�เป็นท่ีจะ ต้องใช้วิธีการหาเสียงเชน่ น้ี 4) การหาเสียงในงานบุญ ประเพณีต่างๆ หรือ “งานกิน เหนียว”(มาแกปโู ละ๊ ) วธิ ีการหาเสียงในงานบญุ ประเพณตี ่างๆ หรือ “งานกินเหนียว” (มาแกปโู ละ๊ ) เปน็ เรอื่ งทส่ี .ส.ทกุ คนทำ�นบั ตง้ั แตอ่ ดตี จนกระทงั่ ถงึ ปจั จบุ นั ไม่ว่างานนั้นจะเป็นของสว่ นบุคคล เช่น งานแต่งงาน งานขนึ้ บ้านใหม่ หรือเพ่ือสว่ นรวมเช่น งานหาทุนกอ่ สรา้ งหรือตอ่ เตมิ มสั ยดิ เพราะเป็น วธิ กี ารทง่ี า่ ย สามารถพบปะกบั ประชาชนผมู้ ารว่ มงานไดจ้ ำ�นวนไมน่ อ้ ย โดยไมต่ อ้ งเสยี เวลาและทนุ ในการให้คนมารจู้ กั ตนเอง ในขณะเดียวกนั สามารถสรา้ งความพงึ พอใจสงู หรอื ถงึ ขนั้ สรา้ งความผกู พนั กบั ประชาชน อยา่ งแนบแนน่ หากเปน็ ผสู้ มคั รหนา้ ใหมห่ รอื สมคั รครงั้ แรกมกั จะจดั งาน บุญ ประเพณีเพื่อเปิดตัวให้ผู้มาร่วมงานได้ทราบว่าการเลือกตั้งที่จะมี ขนึ้ ตนเองขออาสาเปน็ ตวั แทนของประชาชนในพนื้ ท่ี อกี ทงั้ ส.ส.บางคน ไม่สันทัดในการข้ึนเวทีปราศรัยจึงมักจะอาศัยงานบุญ ประเพณีต่างๆ เปน็ สถานทสี่ ำ�หรบั ทำ�ความรจู้ กั กบั ประชาชนในพนื้ ทพี่ รอ้ มทงั้ ใหค้ วาม ชว่ ยเหลือในรูปของทรัพย์สนิ หรอื เงนิ ทองตอ่ งานนั้นๆ ยอ่ มทำ�ให้เกิด ความชนื่ ชม ศรทั ธาตอ่ ผมู้ ารว่ มงานแลกกบั คะแนนทจี่ ะไดร้ บั ในวนั เลอื ก ตงั้ 198
สรุปและอภปิ รายผล อภิปรายผล งานวจิ ยั นผ้ี วู้ จิ ยั ไดป้ ระมวลแนวคดิ ทฤษฎตี า่ งๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งแลว้ นำ�มาสรา้ งกรอบในการวิจัยว่า “การเมอื งถน่ิ และนกั การเมอื งถน่ิ จงั หวดั ยะลาเปน็ ผลมาจากการ มีปฏิสัมพันธ์เช่ือมโยงระหว่างกันกับบริบทเชิงโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรมของจงั หวดั ยะลาและบรบิ ทเชงิ โครงสรา้ ง ทางการเมอื ง เศรษฐกิจ สงั คมและวัฒนธรรมในระดับชาตใิ นแต่ละช่วง เวลา ซึ่งเป็นกรอบหรือเงื่อนไขในการกำ�หนดพฤติกรรมทางการเมือง เช่น รูปแบบการลงคะแนนเสียงเลือกต้ังของประชาชน รูปแบบการ หาเสียงเลือกต้ังของผู้สมัคร กลุ่มผลประโยชน์ท่ีสนับสนุนตัวผู้สมัคร ทงั้ หมดนม้ี ผี ลตอ่ การกา้ วขนึ้ สกู่ ารเปน็ นกั การเมอื งถนิ่ ของจงั หวดั ยะลา” เมอ่ื พจิ ารณาจากผลการวจิ ยั และการสรปุ ผลดงั ทกี่ ลา่ วมาพบวา่ กรอบการวจิ ยั ทผ่ี วู้ จิ ยั ไดส้ รา้ งขนึ้ มคี วามสมั พนั ธเ์ ชอื่ มโยงกนั สามารถนำ� มาอธบิ ายการเมืองถน่ิ และนักการเมืองถน่ิ จังหวัดยะลา รายละเอียดมี ดังน้คี ือ การเลอื กตง้ั ครง้ั แรกซง่ึ เปน็ การเลอื กตงั้ ทางออ้ ม ในปี 2476 นบั เปน็ เรอื่ งใหมไ่ มเ่ พยี งประชาชนในจงั หวดั ยะลาเทา่ นนั้ แตย่ งั ใหมส่ ำ�หรบั สังคมไทยทั้งประเทศ อีกท้ังความแตกต่างในด้านต่างๆ โดยเฉพาะ ภาษา ซง่ึ ในขณะนน้ั ชาวยะลาโดยสว่ นใหญไ่ มร่ หู้ นงั สอื ไทย การเผยแพร่ ความรูท้ ี่เกย่ี วขอ้ งกับระบอบการเมอื งใหม่ ซึ่งรวมถงึ การมตี วั แทนของ ตนเองเขา้ ไปเปน็ ปากเสยี งใหย้ อ่ มเปน็ ไปไดย้ าก ส.ส.คนแรกของจงั หวดั ยะลาจึงมคี วามสัมพันธ์กับชาวยะลาเพียงความเป็นข้าราชการในพื้นท่ี เทา่ น้นั แตใ่ นด้านอ่นื ๆ ไม่ปรากฏเพราะเปน็ คนนอกพื้นท่ี เม่ือมกี ารเลือกต้งั โดยตรงเป็นครั้งแรกในปี 2480 จึงได้ส.ส.ทม่ี ี 199
นักการเมืองถิน่ จังหวดั ยะลา ความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับบริบทเชิงโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของจงั หวดั ยะลา คือนายวิไล เบญจลกั ษณ์ หรือ แวและ เบญ็ อาบชั ร์ ผทู้ ใี่ ชค้ วามเปน็ ชาตพิ นั ธม์ ลายมู สุ ลมิ ศาสนา ภาษา วฒั นธรรม ประเพณเี ป็นเครอื่ งมือในการหาเสยี งจนชนะเลือกต้ัง เชน่ การอา่ นคมั ภรี อ์ ลั -กรุ อา่ น ดว้ ยเสยี งอนั ไพเราะในงานบญุ ประเพณตี า่ งๆ การให้ความชว่ ยเหลือแก่กิจกรรมต่างๆ ของศาสนา ส.ส.คนตอ่ ๆ มาหลงั จากนายวไิ ล เบญจลกั ษณ์ เปน็ ชาวไทยพทุ ธ ซ่ึงกนิ เวลายาวนานถงึ 11 ปีกว่าท่ีจะมีส.ส.ท่ีเปน็ ชาวมุสลมิ อีกครั้งหนงึ่ ปัจจัยสำ�คัญประการหนึ่งมาจากโครงสร้างประชากรของจังหวัดยะลา ทมี่ ีชาวไทยพทุ ธสูงเกือบ 30 เปอร์เซน็ ต์ ผู้ซ่ึงมักตงั้ บ้านเรือนอาศัยอยู่ ในเขตเมือง มีความตื่นตัวทางการเมืองสูงกว่าชาวมลายูมุสลิมผู้ซึ่งมัก อยู่ในพ้ืนท่ีชนบท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากส.ส.ชาวไทยพุทธเป็นคน กลมุ่ น้อย ในพืน้ ที่ท่ีบรบิ ทหรอื สภาพแวดล้อมทางชาติพันธ์ อตั ลักษณ์ ศาสนา ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี มคี วามแตกต่างจากตน ความสำ�เรจ็ ในทางการเมอื งจงึ มาจากการปรบั ตวั ใหเ้ หมาะสมสอดคลอ้ ง กบั สภาพแวดลอ้ มดงั กลา่ ว เชน่ นายประสาท ไชยะโท มวี ธิ กี ารหาเสยี ง ด้วยการใหค้ วามช่วยเหลอื แก่กิจกรรมต่างๆ ของศาสนาอสิ ลาม อาทิ การบรจิ าคเงนิ หรอื สง่ิ ของแกม่ สั ยดิ หรอื องคก์ รศาสนา การรว่ มงานบญุ ประเพณใี นโอกาสต่างๆ ในช่วงทศวรรษปี 2520 หลังเหตุการณ์เดือนตุลาคม ปี 2516 และ 2519 บริบททางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของไทยเจริญ กา้ วหนา้ เปน็ อยา่ งยงิ่ จงั หวดั ยะลากไ็ ดร้ บั อานสิ งคน์ เี้ ชน่ กนั บรรยากาศ ทางการเมืองของจังหวัดยะลาในช่วงทศวรรษนี้ประชาชนเร่ิมให้ความ สนใจทางการเมืองอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อมีคนรุ่นใหม่ผู้มี 200
สรุปและอภิปรายผล ภมู หิ ลงั ทางการศกึ ษาสงู และมตี ำ�แหนง่ หนา้ ทกี่ ารงานโดดเดน่ อยา่ งนาย วันมูหะมดั นอร์ มะทา ลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ ในปี 2522 ด้วยการเนน้ เปดิ เวทีปราศรัยครอบคลุมทั่วเขตพื้นท่ีเลือกตั้ง จูงใจผู้มีสิทธิเลือกต้ังด้วย นโยบายและสิ่งท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคตหากประชาชนตัดสินใจเลือกเขา จนทำ�ใหเ้ ขาเปน็ ส.ส.ของจงั หวดั ยะลาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งยาวนานนบั ตง้ั แตป่ ี 2522 จนกระทัง่ ถึงปี 2548 รวม 9 สมัย (เลือกต้งั ปี 2526 ไม่ลงสมคั ร และปี 2544 และ 2548 เป็นส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อไมใ่ ชร่ ะบบเขต) นับต้ังแต่น้ันมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน กลยุทธ์ วิธีการหาเสียงด้วยการ เปดิ เวทปี ราศรยั ทงั้ การปราศรยั ใหญแ่ ละปราศรยั ยอ่ ยกเ็ ปน็ ทนี่ ยิ มแพร่ หลายของผูส้ มัครเกือบทกุ คน นบั ตงั้ แตท่ ศวรรษปี 2530 เปน็ ตน้ มาจนกระทงั่ ถงึ ปจั จบุ นั บรบิ ท เชงิ โครงสรา้ งทางเศรษฐกจิ ซงึ่ มกี ารขยายตวั อยา่ งกา้ วกระโดดเมอื่ เทยี บ กบั ทศวรรษที่ผ่านๆ มา สง่ ผลใหเ้ กิดความเจรญิ กา้ วหน้าในด้านต่างๆ ทว่ั ประเทศรวมถงึ จงั หวดั ยะลาดว้ ย ผมู้ ภี มู หิ ลงั ของตนเองหรอื ครอบครวั ประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจที่สัมพันธ์กับชีวิตประจำ�วันหรือความ อยู่รอดของประชาชนได้ก้าวเข้ามาสู่สนามการเลือกตั้งจนประสบ ผลสำ�เร็จได้เป็นส.ส.ของจังหวัดยะลา และยังนับเป็นปัจจัยสำ�คัญท่ี สง่ ผลตอ่ ความไดเ้ ปรยี บทางการเมอื งในยคุ ปจั จบุ นั ซงึ่ เปน็ ทย่ี อมรบั กนั โดยท่วั ไปว่าเงินมีบทบาทสูงมากข้ึนเรอื่ ยๆ ในวงการเมืองไทย ในขณะเดยี วกนั ในปจั จบุ นั ประเดน็ ดา้ นอตั ลกั ษณ์ ชาตพิ นั ธ์ และ ศาสนามีบทบาทมากยง่ิ ขึน้ เพราะไม่ใช่ประเด็นท่มี กี ารกลา่ วถงึ เฉพาะ ในพ้ืนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ยังเช่ือมโยงกับการ ต่ืนตัวด้านจิตสำ�นึกทางการเมืองของประชาชนในระดับประเทศและ เชอื่ มโยงกบั กระแสโลกในยคุ โลกาภวิ ตั นท์ ผ่ี คู้ นทวั่ โลกตา่ งใหค้ วามสนใจ 201
นักการเมอื งถนิ่ จังหวัดยะลา ในประเดน็ ดังกล่าวนี้ ดงั นัน้ ความสำ�เรจ็ ทางการเมืองของส.ส.จงั หวัด ยะลาในปัจจบุ นั จึงเช่อื มโยงกับประเด็นดงั กลา่ วน้อี ยา่ งแนบแน่น ดังท่ี ปรากฏวา่ ในการเลอื กต้งั ปี 2548 ส.ส.ในกลุ่มวะหด์ ะฮ์ ซ่ึงสงั กัดพรรค ไทยรกั ไทยพา่ ยแพแ้ กผ่ สู้ มคั รของพรรคประชาธปิ ตั ยท์ ง้ั หมด ในปี 2550 ซึ่งลงสมัครในนามพรรคพลังประชาชนก็ชนะเลือกต้ังเพียง 1 ท่ีนั่ง และในปี 2554 อดตี ส.ส.กลุม่ วะหด์ ะฮไ์ ด้แตกออกเปน็ 2 ขว้ั ขวั้ หน่งึ นำ�โดยนายวนั มหู ะมัดนอร์ มะทา ซ่งึ นอ้ งชายคือ นายซกู ารโ์ น มะทา ลงสมัครในนามพรรคเพ่ือไทย หลังจากพรรคพลังประชาชนถูก ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรค กับอีกข้ัวหนึ่งนำ�โดยนายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ุ อดีตส.ส.นราธิวาส ไปร่วมก่อต้ังพรรคกับพรรคมาตุภูมิ ผลการเลือกตั้งท้ัง 2 พรรคต่างพ่ายแพ้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ซ่ึง สาเหตุส่วนหน่ึงมาจากความไม่พอใจของประชาชนท่ียังคงมีอยู่ต่อ บทบาททางการเมืองของกลุ่มวะห์ดะฮ์ในช่วงที่ผ่านต่อปัญหาความ รนุ แรงใน 3 จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ นอกเหนอื จากการแยกตวั ของกลมุ่ แล้วทำ�ให้เกิดการแข่งขันกันเองส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบ ในทางการเมอื ง กล่าวโดยสรุป การศึกษาวิจัยนี้ ผลการวิจัยที่ปรากฏจึงยืนยัน กรอบการวิจัยทผี่ ู้วจิ ัยได้กำ�หนดไว้ 202
บรรณานุกรมความเปน็ มาและสภาพปญั หา ภาษาไทย กระมล ทองธรรมชาติ สมบรู ณ์ สขุ สำ�ราญ และปรีชา หงส์ไกรเลศิ . 2531. การ เลือกต้ัง พรรคการเมืองและเสถียรภาพของรัฐบาล. กรุงเทพฯ: ฝ่าย วิจัย คณะรัฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . ครองชยั หตั ถา. 2541. ปตั ตานี การคา้ และการเมอื งการปกครองในอดตี . ปตั ตาน:ี คณะ มนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร.์ คูส่ ร้างคสู่ ม. 2547. ปกั ษ์หลัง กรกฎาคม. ชาดา นนทวฒั น์ 2552. กบฏแผ่นดิน แย่งชงิ อำ�นาจ : 11 กบฏ 1 ปฏวิ ัติ 12 รัฐประหารในวงั วนเก้าอีผ้ ้นู ำ�ชาต.ิ กรงุ เทพฯ: ยิปซี ชาญวทิ ย์ เกษตรศิร.ิ 2543. 2475 การปฏิวัตสิ ยาม. กรงุ เทพฯ : มลู นิธิโครงการ ตำ�ราสังคมศาสตร์ และมนษุ ยศาสตร์. เตช บนุ นาค. 2551. ขบถ ร.ศ. 121. กรงุ เทพฯ : มูลนิธโิ ครงการตำ�ราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. บูฆอรี ยีหมะ.2549. นักการเมืองถิ่น จังหวัดปัตตาน.ี กรุงเทพฯ: สถาบันพระ ปกเกลา้ . ปยิ นาถ บนุ นาค. 2546. นโยบายการปกครองของรฐั บาลไทยตอ่ ชาวไทยมสุ ลมิ ในจงั หวัด ชายแดนภาคใต้ (พ.ศ. 2475-2516). กรุงเทพฯ : โครงการเผย แพร่ผลงานวชิ าการ คณะอักษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. 2547. เล่าเรื่องหัวเมืองใต้ : จากกรือเซะถึงปัตตาน.ี กรุงเทพฯ : One World. พชิ ยั เกา้ สำ�ราญ สมเจตน์ นาคเสวี และวรวทิ ย์ บาร.ู 2531. การเลอื กตง้ั ปตั ตานี ปี 2529 : ศกึ ษา กรณกี ระบวนการหาเสยี ง และระบบหวั คะแนน. กรงุ เทพฯ : มลู นธิ เิ พอ่ื การศึกษา ประชาธปิ ไตย และการพัฒนา. 203
นกั การเมืองถิ่นจังหวัดยะลา พิชาย รตั นดิลก ณ ภเู ก็ต. 2537. ระบบการทุจรติ เลือกต้ัง. กรงุ เทพฯ : ศนู ย์วจิ ยั และผลติ ตำ�รา สถาบนั เทคโนโลยีสงั คม (เกริก). แพร ศิริศักดิ์ดำ�เกิง. 2551.องค์ความรู้การวิจัยความสัมพันธ์พุทธ-มุสลิมใน จงั หวดั ชายแดน ภาคใต้ ในรอบ 49 ป.ี กรงุ เทพฯ : ศนู ยม์ านษุ ยวทิ ยาสริ นิ ธร. มนตรี แสนสขุ . 2547. วนั มหู ะมดั นอร์ มะทา. กรงุ เทพฯ : อนเิ มทกรปุ๊ . รัตติยา สาและ. 2547. รัฐปัตตานี ใน “ศรีวิชัย” เก่าแก่กว่ารัฐสุโขทัยใน ประวตั ศิ าสตร.์ กรงุ เทพฯ: ศลิ ปวัฒนธรรม. รงุ่ แกว้ แดง. 2548. สงครามและสนั ติสุข @ ชายแดนภาคใต้. กรุงเทพฯ: มตชิ น. ศรสี มภพ จติ รภ์ ริ มย์ศรี ภาวณิ ี ไชยภาคและจินดา เล่งซา้ ย. 2545. “การเลือกตง้ั จงั หวัดสงขลา และปตั ตานี”. ใน กระบวนการเลือกตัง้ และปจั จัยในการ ตัดสินใจเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร : รายงานการวิจัย. นนทบุรี: สถาบันพระปกเกลา้ . สมบตั ิ จนั ทรวงศ.์ 2536. เลอื กตงั้ วกิ ฤต : ปญั หาและทางออก. กรงุ เทพฯ : คบไฟ. สิรพิ รรณ นกสวนและเอก ตง้ั ทรพั ยว์ ฒั นา. 2546. คำ�และความคดิ ในรฐั ศาสตร์ รว่ มสมัย.กรงุ เทพฯ : สำ�นักพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . สริ ริ ตั น์ เรอื งวงษว์ าร. 2521. ประวตั ศิ าสตรก์ ารเมอื งไทยตงั้ แตเ่ ปลยี่ นแปลงการ ปกครอง พ.ศ. 2475 จนถงึ ปจั จุบนั . กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รามคำ�แหง หน่ึงในผู้นำ�ทางการเมือง : วันรำ�ลึก วันนอร์ มะทา วันครบ 5 รอบ. 2547. ปทุมธานี : โรงพิมพ์อาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง กระทรวง มหาดไทย. อารฟี นิ บนิ จแิ ละคณะ. 2550. ปาตาน.ี ..ประวตั ศิ าสตรแ์ ละการเมอื งในโลกมาลา ย.ู สงขลา : มลู นธิ ิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ HI-CLASS. 2540. วันมูหะมัดนอร์ มะทา สุภาพบุรุษนักการเมือง นัก ประชาธปิ ไตย. 14, 164 (ธ.ค.40) 28-34, 110-116 ภาษาอังกฤษ Hay, Colin. 1995. “Structure and Agency”. In David Marsh and Gery Stoker (eds.), Theory and Methods in Political Science. New York: St. Martin’s Press. 204
บคุ ลานกุ รมความเป็นมาและสภาพปัญหา ซูการ์โน มะทา อดีตส.ส. ปี 2550. สัมภาษณ.์ 14 มกราคม 2553. ณรงค์ ดูดงิ ส.ส. ปี 2548 และ 2554. สมั ภาษณ.์ 8 มนี าคม 2553. เด่น โต๊ะมีนา อดีตส.ส. ปตั ตาน.ี สมั ภาษณ์. 5 กรกฎาคม 2552. นาแว กรยี อ กำ�นนั และแกนนำ�สำ�คัญของนายวนั มูหะมดั นอร์ มะทา. สัมภาษณ.์ 21 กรกฎาคม. 2552. บรู าฮานดู ิน อุเซง็ อดตี ส.ส. ปี 2538 และ 2544. สมั ภาษณ์. 10 มิถนุ ายน 2553. เบอร์ลิน อุเซ็ง น้องชายนายบูราฮานูดิน อุเซ็ง อดีตส.ส. ปี 2538 และ 2544. สัมภาษณ์. 10 มิถุนายน 2553. ประสทิ ธิ ไชยะโท บตุ รชายนายประสาท ไชยะโท อดตี ส.ส. ปี 2489, 2495, 2500/1 และ 2518. สัมภาษณ.์ 11 มนี าคม 2552. ไพศาล ย่ิงสมาน อดีตส.ส. ปี 2535/1, 2535/2, 2539 และ 2544. สัมภาษณ์. 8 กรกฎาคม 2553. มขุ สไุ ลมาน อดตี ส.ส. ปัตตาน.ี สมั ภาษณ.์ 29 มิถุนายน 2552. ยีหะ กาโด แกนนำ�สำ�คัญของนายวันมหู ะมัดนอร์ มะทา. สมั ภาษณ.์ 17 สงิ หาคม 2552. วันมหู ะมัดนอร์ มะทา อดีตส.ส. ปี 2522, 2529, 2531, 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2544 และ2548. สัมภาษณ์. 5 พฤศจิกายน 2552. สมาน เลือดวงรฐั อดตี กรรมการบรหิ ารพรรคไทยรักไทย. สัมภาษณ์. 3 เม.ย. 2553 205
นักการเมอื งถิ่นจงั หวัดยะลา สนั ทดั นวลสกลุ ผอู้ าวโุ สทต่ี ดิ ตามการเมอื งในจงั หวดั ยะลา. สมั ภาษณ.์ 20 มนี าคม 2552. สชุ า จลุ เพชร. สัมภาษณ์. 5 มนี าคม 2552. สุรพร ดนัยตั้งตระกลู . สมั ภาษณ.์ 12 มีนาคม 2552. สุรพล นาควานชิ อดตี อาจารยว์ ทิ ยาลยั ครูสงขลาและเพื่อนสนทิ ของนายวนั มหู ะ มัดนอร์ มะทา. สัมภาษณ.์ 13 กนั ยายน 2553. อดลุ หะสาเมาะ ญาติของนายอดลุ ภมู ิณรงค์ อดีต ส.ส. ยะลา. สัมภาษณ์ 10 สิงหาคม 2553. อดินันท์ ฮะซะนี. ผู้ใกล้ชิดและแกนนำ�คนสำ�คัญของนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณ ศิร.ิ สมั ภาษณ์. 25 กนั ยายน 2552. อับดลุ เล๊าะ มาศมันต.์ สัมภาษณ.์ 28 เมษายน 2552. อาซิส เบ็ญหาวัน อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา. สัมภาษณ์. 30 สิงหาคม 2552. อารเี พญ็ อุตรสนิ ธ.์ อดีตส.ส. นราธิวาส. สัมภาษณ.์ 19 ธันวาคม 2552. อิริยัส อุเซ็ง น้องชายนายบูราฮานูดิน อุเซ็ง อดีตส.ส. ยะลา . สัมภาษณ์. 11 มิถุนายน 2552. อสุ มาน ปาละวัน. สมั ภาษณ.์ 15 พฤษภาคม 2552. 206
ภาคผนวกความเป็นมาและสภาพปัญหา ภาพนักการเมืองถิน่ จังหวดั ยะลา (บางสว่ น) นายสงา่ สายศลิ ป์ นายวนั มูหะมัดนอร์ มะทา นายไพศาล ยงิ่ สมาน นายประเสรฐิ พงษ์สุวรรณศริ ิ 207
นกั การเมอื งถนิ่ จงั หวดั ยะลา ภาพนกั การเมืองถ่นิ จงั หวัดยะลา (บางส่วน) นายบรู าฮานูดิน อุเซ็ง นายอบั ดลุ การมิ เด็งระกีนา นายซกู าร์โน มะทา นายณรงค์ ดดู งิ 208
ความเปน็ มาและสภาพปญั หา ประวัติผู้วจิ ัย ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.บูฆอรี ยหี มะ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.บฆู อรี ยหี มะ สงั กัดสาขาวชิ า รัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย ราชภฏั สงขลา ถ. กาญจนวนิช ต. เขารปู ช้าง อ. เมอื ง จ. สงขลา ประวัติการศึกษา • ประถมศกึ ษา ร.ร.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา • มธั ยมศกึ ษา ร.ร. มหาวชริ าวธุ สงขลา พ.ศ. 2529 • รฐั ศาสตรบณั ฑิต (การเมืองการปกครอง) มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2533 • รฐั ศาสตรมหาบณั ฑติ (การปกครอง) มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2540 • รัฐศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑิต (การเมืองเปรียบเทียบ) จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2547 ประวตั ิการทำ�งาน • 2535-2540 สังกัดกองบรรณาธิการขา่ วตา่ งประเทศ หนงั สอื พมิ พ์ผ้จู ดั การรายวนั และหนังสอื พมิ พไ์ ทยโพสต์ • 2541-2546 อาจารยป์ ระจำ�ภาควิชารฐั ศาสตร์ และนิตศิ าสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ สถาบนั ราชภัฏสงขลา • 2547-2552 ดำ�รงตำ�แหน่งประธานสาขารฐั ประศาสนศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สงขลา 209
นกั การเมอื งถิ่นจงั หวัดยะลา • 2552-ปจั จุบนั ดำ�รงตำ�แหน่งทางวชิ าการ เป็นผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดา้ นรัฐศาสตร์ ผลงานดา้ นตำ�รา/งานวจิ ยั /บทความ • วิทยานพิ นธ์ระดับมหาบัณฑติ เรื่อง หนังสือพมิ พ์ไทยกับ นายกรัฐมนตรี : กรณศี ึกษาภาวะผู้นำ�ของชวน หลีกภยั (2535-2538) ตอ่ มาตพี ิมพ์เปน็ หนงั สือชื่อ ชวน หลีกภัย ในกำ�มอื หนังสือพิมพ์ไทย จัดจำ�หนา่ ยโดยบรษิ ัท เคลด็ ไทย จำ�กดั • วิทยานิพนธร์ ะดบั ดุษฎีบัณฑิต เรื่อง นโยบายหาเสยี งแนว ประชานยิ มกับอำ�นาจทางเศรษฐกิจ : การศกึ ษาเชงิ เศรษฐกจิ การเมอื งเก่ียวกบั ความสำ�เรจ็ ในการเลอื กต้งั ของพรรค ไทยรกั ไทย • ตำ�ราเรอื่ ง ความรู้เบ้ืองตน้ ทางรฐั ศาสตร์ จัดจำ�หน่ายโดยบริษัท เคล็ดไทย จำ�กัด • ตำ�ราเร่ือง การปกครองท้องถนิ่ ไทย จัดจำ�หน่ายโดยบริษทั เคลด็ ไทย จำ�กัด • งานวจิ ยั เรอ่ื ง นักการเมืองถ่นิ จังหวัดปตั ตานี ทนุ วิจัยจาก สถาบนั พระปกเกลา้ • งานวจิ ัยเรือ่ ง ความเคลื่อนไหวทางสงั คมในกระบวนการเลอื ก ต้ังและปจั จัยในการตดั สินใจเลือกตัง้ สมาชกิ วุฒิสภา ปี พ.ศ. 2543 จังหวัดสงขลา ทนุ วิจัยจากสถาบันพระปกเกลา้ • งานวิจัยเรื่อง ความเคลือ่ นไหวในการลงประชามตแิ ละการเลือก ตัง้ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2550 ในพน้ื ท่จี งั หวัดสงขลา ทนุ วจิ ยั จากสถาบันพระปกเกล้า • งานวจิ ัยเรือ่ ง ความเคล่ือนไหวทางการเมอื งและพฤติกรรม การเลือกตง้ั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2554 กรณศี กึ ษาจังหวดั สงขลา ทนุ วิจัยจากสถาบันพระปกเกล้า 210
ความเปน็ มาและสภาพปญั หา • นักวจิ ัยรว่ ม โครงการศกึ ษาวจิ ัยการทุจรติ และประพฤติ มิชอบในหน่วยงานราชการไทย กรณีศกึ ษา : กรมสง่ เสริม การปกครองทอ้ งถนิ่ กระทรวงมหาดไทย ทนุ วิจยั จากสภา ที่ปรึกษาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ • หัวหน้าโครงการวจิ ยั การศกึ ษาความคิดของอลุ ามะอ:์ ความสัมพนั ธ์กับสขุ ภาวะชมุ ชนในสงั คมมุสลมิ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ทนุ วจิ ัยจากสำ�นักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) • วทิ ยากรเผยแพรป่ ระชาธปิ ไตย สถาบันพระปกเกล้า • บทความตพี ิมพใ์ นหนังสือพิมพม์ ติชนรายวัน เช่น สิทธิ มนุษยชน สิทธิของใคร? , ผลกระทบของ ‘ประชานยิ ม’ ตอ่ การเมืองไทย, รบั นอ้ งใหม่ การสืบทอดวัฒนธรรม อำ�นาจนิยมในสงั คมไทย เป็นต้น รายวิชาที่รบั ผิดชอบสอนในช่วงที่ผา่ นมา • ความร้เู บอื้ งต้นเก่ียวกับรฐั ศาสตร์ • ความรเู้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกบั รัฐประศาสนศาสตร์ • การเมอื งการปกครองไทย • การปกครองทอ้ งถนิ่ ไทย • นโยบายสาธารณะและการวางแผน • ปัญหาการเมืองไทย • รฐั ธรรมนญู และสถาบันการเมอื ง • ทฤษฎอี งคก์ าร • ทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตร์ • การบรหิ ารการพฒั นา • สมั มนาทางรัฐประศาสนศาสตร์ 211
นกั การเมอื งถ่นิ จงั หวดั ยะลา 212
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226