หลวงพอ่ คำ� เขยี น สวุ ณโฺ ณ อดตี เจา้ อาวาสวดั ปา่ สคุ ะโต จงั หวดั ชัยภูมิ ป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้�ำเหลืองคร้ังแรกเมื่ออายุ ๗๐ ปี กอ้ นเนอื้ ไมเ่ พยี งบบี หลอดลมและทำ� ใหค้ อบวม หากยงั ลามแพรก่ ระจาย ไปถงึ ขว้ั ปอด ทา่ นตอ้ งเขา้ รบั การรกั ษาตวั ในหอ้ งไอซยี ู และเมอื่ อาการ ทุเลาแล้ว ก็ต้องรับการบ�ำบัดด้วยเคมีและการฉายแสง ตลอดเวลา หลายเดือนที่รักษาตัวนั้นท่านได้รับทุกขเวทนามาก แต่ท่านแทบ ไม่แสดงอาการเจ็บปวดเลย แม้บางคร้ังหายใจไม่สะดวก ท่านก็ไม่มี อาการกระสบั กระส่าย ท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังในเวลาต่อมาว่า “การปวดนี่มันก็ไม่ได ้ ลงโทษเรา ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ (ถ้า) เราเป็นผู้ปวด น่ีมันลงโทษเรา กเ็ หน็ มันปวด ไปลงโทษอะไรมนั (ทำ� ไม)” 200
ท่านยังเล่าอีกว่าตอนนอนป่วยอยู่ท่ีโรงพยาบาลนั้น “มันแสน สบายหนอ เพราะมคี นทำ� ใหท้ กุ อยา่ ง” ทา่ นกลา่ วเสรมิ อกี วา่ “ตอนนนั้ ไม่ต้องท�ำอะไรหรอก เห็นไตรลักษณ์อย่างเดียวพอแล้ว มันโชว์ให ้ เราเอง” แปดปตี อ่ มามะเรง็ ตอ่ มนำ้� เหลอื งกลบั มาใหม ่ ทแี รกกอ็ ดุ หลอด อาหาร ต่อมาก็อุดหลอดลม ท่านจึงต้องรับอาหารทางสายยางและ หายใจทางท่อ ไม่สามารถพูดได้ ต้องส่ือสารกับผู้อ่ืนด้วยการเขียน หรือใช้มอื ความเจบ็ ปว่ ยครง้ั นก้ี อ่ ทกุ ขเวทนาใหแ้ กท่ า่ นมาก อกี ทงั้ ยงั ทำ� ให้ ท่านอ่อนเพลียอย่างย่ิง ท่านตระหนักดีว่าคราวน้ีเห็นจะไม่รอด แต่ท่านก็ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนแต่อย่างใด เพราะ “เวลาน้ีมีแต่ปล่อยวาง ไมเ่ ปน็ อะไรกบั อะไร” กายป่วย แต่ใจไม่ป่วยน้ัน เป็นส่ิงท่ีท�ำได้ เมื่อกายป่วย ก็ต้อง รักษาหรือบรรเทาด้วยยา หลวงพ่อไม่อยู่ในวิสัยที่จะช่วยตัวเองได้ใน เรอื่ งน ้ี จงึ ตอ้ งพงึ่ หมอ พยาบาล และลกู ศษิ ย ์ สว่ นจติ ใจนนั้ ทา่ นดแู ล ด้วยตนเองอย่างดีจนไม่ร้สู ึกเจบ็ ป่วยไปกับกาย ท่านอธบิ ายว่า “ธาตุ ขนั ธย์ งั เปน็ ภาระตอ่ ผอู้ น่ื สว่ นจติ ใจ ไมต่ อ้ งมใี ครชว่ ย มสี ต ิ มจี ติ ดจู ติ เอง ไม่มีอะไรทีจ่ ะต้องไปเปน็ เลยไม่ตอ้ งเปน็ อะไร” 201 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
หลงั จากอาพาธได ้ ๗ เดอื น วาระสดุ ทา้ ยของทา่ นกม็ าถงึ อาการ บวมของต่อมน้�ำเหลืองได้ลุกลามขยายตัว ดันหลอดลมตอนล่าง จนเกือบปิด ท�ำให้ท่านหายใจล�ำบากมาก ไม่ว่าจะเยียวยาเพียงใด ก้อนเน้ือก็ไม่ยุบ ท�ำให้ท่านหายใจติดขัด แต่ท่านไม่มีอาการทุกข์ร้อน มชี ว่ งหนง่ึ ทา่ นขอเขา้ หอ้ งนำ้� เพอื่ ถา่ ยอจุ จาระ จากนนั้ กล็ า้ งมอื ลา้ งหนา้ แล้วขน้ึ มาบนเตยี งด้วยตนเอง ทั้งๆ ทอ่ี าการน่าวิตกมาก ไมน่ านหลงั จากนนั้ การหายใจของทา่ นกต็ ดิ ขดั มากขนึ้ ลกู ศษิ ย์ พยายามแกไ้ ขสถานการณแ์ ตไ่ มม่ ที ที า่ วา่ จะไดผ้ ล ระหวา่ งนน้ั หลวงพอ่ ซึ่งมีสติตลอด ได้ขอกระดาษและดินสอ เขียนข้อความว่า “พวกเรา ขอใหห้ ลวงพอ่ ตาย” เมอื่ ยน่ื แผน่ กระดาษใหเ้ สรจ็ ทา่ นกป็ ระนมมอื ไหว้ เพื่อขอบคุณลูกศิษย์ท่ีดูแลท่าน และเป็นการอ�ำลาไปพร้อมๆ กัน จากนน้ั ทา่ นกน็ อนนงิ่ สกั พกั กห็ ลบั ตา ครใู่ หญล่ มหายใจของหลวงพอ่ ก็ขาดหายไป แลว้ สญั ญาณชพี ทัง้ หมดของหลวงพอ่ กห็ มดสิ้น หลวงพอ่ คำ� เขยี นจากไปอยา่ งสงบ ไมแ่ สดงความทกุ ขใ์ ดๆ ใหเ้ หน็ ในวาระสดุ ทา้ ยของทา่ น ทง้ั ๆ ทก่ี ายนน้ั ถกู ทกุ ขเวทนาบบี คน้ั อยา่ งแรง ทา่ นทำ� เชน่ นไี้ ดไ้ มใ่ ชเ่ พราะทา่ นเพง่ิ เตรยี มตวั เตรยี มใจเมอื่ รวู้ า่ ความตาย จะมาถึง ที่จริงท่านไม่ได้เตรียมใจใดๆ เลยก็ว่าได้ มีแต่เตรียมตัวด้วย การช�ำระกายให้สะอาดส�ำหรับวาระสุดท้ายเท่านั้น ทั้งน้ีเพราะท่าน ได้ฝึกฝนบ่มเพาะจิตใจด้วยวิปัสสนากรรมฐานมานานแล้ว จนเห็น 202
ความจริงของรูปและนามหรือกายกับใจอย่างแจ่มแจ้งว่า ไม่เท่ียง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตน จึงรู้ว่าไม่มีอะไรที่ยึดติดถือมั่นได้เลย เมื่อมี อะไรเกดิ ขนึ้ กส็ กั วา่ เหน็ สกั วา่ รเู้ ฉยๆ ไมส่ ำ� คญั มน่ั หมายในสง่ิ นนั้ วา่ เป็น “ตัวกู ของกู” กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ปรุงแต่ง “ตัวกู” ขน้ึ มา เปน็ นั่นเปน็ นเ่ี มือ่ มอี ะไรมากระทบ เม่ือมีความปวดเกิดข้ึนกับท่าน ก็เพียงแคเ่ ห็น แต่ไม่เข้าไปเป็น ผปู้ วด จติ จงึ เปน็ ปกต ิ อสิ ระ และสงบเยน็ ดว้ ยเหตนุ ต้ี ลอดเวลาทป่ี ว่ ย ทา่ นจงึ เขยี นเลา่ อยา่ งมนั่ ใจวา่ “เวลานอี้ ยกู่ บั ความไมเ่ ปน็ อะไรกบั อะไร” ตายอย่างสงบน้ันเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่เพราะโชค ความบังเอิญ หรือเทคโนโลยี หากเกิดจากการฝึกฝนตน มิใช่ด้วยทานและศีล หรือ การท�ำความดีเท่านั้น ท่ีส�ำคัญอันเป็นหลักประกันอย่างแท้จริง ก็คือ การภาวนาหรอื อบรมจติ จนเหน็ ความจรงิ ของกายและใจอยา่ งแจม่ แจง้ กระทง่ั ปลอ่ ยวางทกุ สง่ิ แมก้ ระทง่ั ความยดึ ถอื ในตวั ตน ถงึ ตอนนนั้ เมอ่ื ความตายมาถึง ก็ไม่มีผู้ตายอีกต่อไป มีแต่สังขารที่เส่ือมสลายและ คนื สู่ธรรมชาติ 203 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
ป ร ะ วั ติ พระไพศาล วสิ าโล พระไพศาล วสิ าโล นามเดมิ ไพศาล วงศว์ รวสิ ทิ ธ ิ์ เปน็ ชาวกรงุ เทพฯ เกดิ เมอื่ พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๐ สำ� เรจ็ การศกึ ษาชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ จากโรงเรยี นอสั สมั ชญั และ สำ� เร็จการศึกษาชัน้ อดุ มศกึ ษา จากคณะศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ สมยั เปน็ นกั เรยี น เรมิ่ สนใจปญั หาสงั คม จงึ เขา้ รว่ มกจิ กรรมคา่ ยอาสาพฒั นา ชนบทและกจิ กรรมอาสาสมัครต่างๆ เมอื่ อายุ ๑๕ ป ี ทา่ นไดอ้ า่ นงานเขียนของทา่ น อาจารยพ์ ทุ ธทาสภกิ ข ุ จงึ ไดป้ ลกู ฝงั ความเปน็ พทุ ธแตน่ น้ั มา ทง้ั ยงั สนใจงานหนงั สอื โดยเรม่ิ จากการเขยี นบทความตงั้ แตส่ มยั เรยี นชนั้ มธั ยม ทงั้ ในระหวา่ งทศี่ กึ ษาอยมู่ หา- วทิ ยาลัยธรรมศาสตร ์ เคยเป็นสาราณยี กรวารสารปาจารยสารอยู่ถงึ ๑ ปีเต็ม มคี วามสนใจดา้ นการเมอื ง ไดเ้ ขา้ รว่ มประทว้ งในเหตกุ ารณ ์ ๑๔ ตลุ าฯ ๒๕๑๖ ตอ่ มาชว่ ง ๖ ตลุ าฯ ๒๕๑๙ เคยไปรว่ มอดอาหารประทว้ งในแนวทางอหงิ สา จนกระทง่ั ถกู ลอ้ มปราบภายในมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร ์ และถกู คมุ ขงั เปน็ เวลา ๓ วนั เมอ่ื ออก จากคุกแล้วได้มาท�ำงานเป็นเจ้าหน้าท่ีกลุ่มประสานงานศาสนาเพื่อสังคม ตั้งแต่ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๙ ถงึ พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๖ เนน้ งานดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน ชว่ ยเหลอื ผถู้ กู คมุ ขงั ดว้ ยสาเหตทุ างการเมอื ง ซง่ึ สามารถดำ� เนนิ การประสบผลสำ� เรจ็ เมอื่ รฐั บาลออก กฎหมายนริ โทษกรรมผตู้ ้องหา กรณ ี ๖ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ประมาณ ๓,๐๐๐ กว่าคน พระไพศาล วิสาโล อุปสมบทเมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๖ ณ วัดทองนพคุณ กรงุ เทพมหานคร เรยี นกรรมฐานจากหลวงพอ่ เทยี น จติ ตสฺ โุ ภ วดั สนามใน กอ่ นไป จ�ำพรรษาแรก ณ วัดป่าสุคะโต อ�ำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ โดยศึกษาธรรมกับ หลวงพอ่ คำ� เขยี น สวุ ณโฺ ณ แตแ่ รกทา่ นตงั้ ใจจะบวชเพยี ง ๓ เดอื น แตเ่ มอื่ การปฏบิ ตั ิ ธรรมเกิดความก้าวหน้า จึงบวชต่อเรื่อยมา
ปจั จบุ นั ทา่ นเปน็ เจา้ อาวาสวดั ปา่ สคุ ะโต แตส่ ว่ นใหญจ่ ะจำ� พรรษาอยทู่ วี่ ดั ปา่ มหาวัน (ภูหลง) เพ่ือรักษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่า นอกจากการจัดอบรมปฏิบัติ ธรรม พฒั นาจรยิ ธรรมและอบรมโครงการเผชญิ ความตายอยา่ งสงบตอ่ เนอ่ื งตลอด มาแลว้ ทา่ นยงั เปน็ ประธานเครอื ขา่ ยพทุ ธกิ า กรรมการมลู นธิ โิ กมลคมี ทอง กรรมการ สถาบนั สนั ตศิ กึ ษา กรรมการมลู นธิ สิ นั ตวิ ถิ ี เปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ในเครอื ขา่ ยสนั ตวิ ธิ ี และ ยงั เคยเปน็ หนง่ึ ในคณะกรรมการปฏริ ปู และคณะกรรมการอสิ ระ เพอื่ ความสมานฉนั ท์ แห่งชาติ พระไพศาล วิสาโล ได้ช่ือว่าเป็นพระสงฆ์นักกิจกรรม นักคิด นักเขียน และ นกั รณรงคห์ วั กา้ วหนา้ ทนี่ ำ� ธรรมะมาสรา้ งสนั ต ิ เชอื่ มโยงความรทู้ างดา้ นพทุ ธธรรม มาอธบิ ายปรากฏการณข์ องชวี ติ และสงั คมในบรบิ ทของสงั คมสมยั ใหมอ่ ยา่ งเขา้ ใจงา่ ย ชดั เจนเปน็ รปู ธรรม มที กั ษะในการอธบิ ายหลกั ธรรมทย่ี ากและลกึ ซง้ึ ใหเ้ หน็ เปน็ เรอื่ ง งา่ ย นอกจากเผยแผธ่ รรมผา่ นการเทศนาแลว้ ทา่ นยงั มงี านเขยี นตอ่ เนอื่ งสมำ่� เสมอ ทงั้ หนงั สอื งานแปลและบทความ ปจั จบุ นั มผี ลงานหนงั สอื ของทา่ นมากกวา่ รอ้ ยเลม่ นอกจากนย้ี งั เปน็ บรรณาธกิ ารหนงั สอื หลายฉบบั ผลงานเขยี นเรอ่ื งลา่ สดุ คอื “ยมิ้ ได้ แม้พา่ ยแพ้” ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๔๘ ทา่ นไดร้ บั รางวลั ชเู กยี รต ิ อทุ กะพนั ธ ์ ในสาขาศาสนาและ ปรชั ญา จากผลงานหนงั สอื “พทุ ธศาสนาไทยในอนาคต:แนวโนม้ และทางออกจาก วกิ ฤต” อกี เกยี รตปิ ระวตั สิ ำ� คญั คอื ทา่ นเปน็ พระสงฆอ์ งคแ์ รกทไ่ี ดร้ บั รางวลั ศรบี รู พา ประจ�ำปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ โดยมติเอกฉันท์ และในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ท่าน ได้รับรางวัลนักเขียนอมตะประจ�ำปี ๒๕๕๓ โดยมติเอกฉันท์จากมูลนิธิอมตะ ซ่งึ ท่านได้มอบเงินรางวัลท้ังหมดจำ� นวน ๑ ลา้ นบาท ใหแ้ ก่มลู นธิ โิ กมลคมี ทอง แม้จะมีผลงานช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์ธรรมชาติส่ิงแวดล้อมและส่งเสริม การปฏบิ ตั ภิ าวนาหลากหลายรปู แบบจนแทบไมม่ เี วลาพกั แตท่ งั้ หมดทงั้ ปวงทกี่ ลา่ ว มาแลว้ พระไพศาล วสิ าโล ยงั คงยนื ยนั วา่ “ชวี ติ อาตมา เปน็ แคพ่ ระอยา่ งเดยี ว ก็ เป็นเกียรต ิ และประเสริฐสุดในชีวิตแล้ว ไม่มีอะไรสูงสุดกว่าการเป็นพระ ท่ีเหลือ เป็นส่วนเกนิ ”
ท ี่ ม า ข อ ง เ ก ร ็ ด ชี ว ิ ต ๑. ธรรมเกียรติ กันอริ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ส�ำนักพิมพ์ มตชิ น (๒๕๓๗) ๒. มหาอำ� มาตยต์ รพี ระยาทพิ โกษา (สอน โลหนนั ท)์ ชวี ประวตั สิ มเดจ็ พระพฒุ า- จารย์ (โต พรฺ หฺมรสํ ี) กลุ่มเสขิยธรรม (๒๕๕๗) ๓. ปฐม-ภัทรา นิคมานนท์ หลวงปู่ขาว อนาลโย โครงการหนังสือบูรพาจารย์ วดั ป่าอาจารย์มน่ั (ภรู ทิ ตฺโต) (๒๕๕๐) ๔. ปฐม-ภัทรา นิคมานนท์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร โครงการหนังสือบูรพาจารย์ วดั ป่าอาจารยม์ น่ั (ภรู ทิ ตโฺ ต) (๒๕๔๙) ๕. ปฐม-ภทั รา นคิ มานนท ์ พระครวู เิ วกพทุ ธกจิ หลวงปใู่ หญเ่ สาร ์ กนตฺ สโี ล พระ ปรมาจารย์ใหญ่ฝา่ ยพระกรรมฐาน โครงการหนังสอื บรู พาจารย์ ๖. วดั ป่าอาจารย์มัน่ (ภรู ทิ ตฺโต) (๒๕๔๖) ๗. ปฐม-ภัทรา นิคมานนท์ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม โครงการหนังสือบูรพาจารย์ วัดป่าอาจารยม์ น่ั (ภรู ทิ ตโฺ ต) (๒๕๕๓) ๘. ทา่ นพอ่ เฟื่อง โชติโก ยาใจ วดั เมตตาวนาราม ๙. ส.ศิวรักษ์ คันฉ่องส่องพระ สมาคมเผยแผ่คุณธรรม “เต็กก่า” จีจินเกาะ (๒๕๕๘) ๑๐. คณะศษิ ยป์ า่ รตั นวนั ธรรมปรากฏ : ชวี ประวตั พิ ระราชสเุ มธาจารย ์ (หลวงพอ่ สเุ มโธ) วัดปา่ รตั นวัน (๒๕๕๗) ๑๑. ปฐม นคิ มานนท ์ และคณะ อตุโล ไม่มีใดเทยี ม อมรินทร์พร้นิ ติ้ง (๒๕๕๒) ๑๒. วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง พระอาจารย์ม่ัน ภูริทัตโต อริยสงฆ์แห่งยุคสมัย สารคด ี (๒๕๕๓) ๑๓. พระมหาบัว ญาณสัมปนั โน พทุ โธหาย พิมพ์ดี (๒๕๕๐) 207 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
๑๔. ญาณสัมปนั นธมั มานสุ รณ์ วดั ป่าบ้านตาด (๒๕๕๔) ๑๕. ฐานิยตฺเถรวตฺถุ ชีวประวัติพระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน (๒๕๔๓) ๑๖. พระราชพรหมยาน ประวัติหลวงพ่อปาน (พระครูวิหารกิจจานุการ) วัดบาง- นมโค (๒๕๑๘) ๑๗. รกั พงศ ์ เปย่ี มเพิม่ พูล คุยกันฉนั ทธ์ รรม (๒๕๕๓) ๑๘. กมลา ตยิ ะวนิช พทุ ธในไพร Silkworm Books (๒๕๕๓) ๑๙. บรู พาจารย ์ มูลนิธพิ ระอาจารยม์ ัน่ ภูรทิ ตั โต (๒๕๔๕) ๒๐. กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ� ตามรอยธรรม ย้�ำรอยครู หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ คิว ปรนิ้ ท ์ แมเนจเม้นท์ (๒๕๕๒) ๒๑. เขมานนั ทะ ทางทรายใกลท้ ะเลสาบ สำ� นกั พมิ พ์ช่ืนใจ (๒๕๕๑) ๒๒. ศูนย์เผยแผ่มรดกพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) อุบลมณี กลางป่าพง (๒๕๕๕) ๒๓. หลวงพ่อค�ำเขียน สุวัณโณ ตถตา จะตายก็เป็นเช่นน้ันเอง วัดป่าสุคะโต (๒๕๕๗) 208
ธรรมะมิได้มีอยู่ในคัมภีร์หนังสือ หรือค�ำสอน เท่าน้ัน หากยังมีอยู่ในชีวิตของผู้คน ดังน้ันนอกจาก การสอื่ ดว้ ยถอ้ ยคำ� และตวั อกั ษรแลว้ ธรรมะยงั สามารถ ถ่ายทอดผ่านวิถีชีวิตและการกระท�ำของบุคคลได้ด้วย การสอื่ ดว้ ยวธิ กี ารอยา่ งหลงั นนั้ ทำ� ใหธ้ รรมะกลายเปน็ ส่ิงมีชีวิตชีวาที่แลเห็นได้และสัมผัสได้ง่ายอีกทั้งยัง สามารถสร้างแรงบนั ดาลใจในการดำ� เนินชวี ิตทดี่ งี าม พระไพศาล วสิ าโล www.visalo.org Facebook : พระไพศาล วิสาโล Facebook : Phra Paisal Visalo Facebook : วดั ปา่ สุคะโต ธรรมชาติ ทพ่ี กั ใจ www.kanlayanatam.com Facebook : kanlayanatam
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210