Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore AW_Uttacheevapravat

AW_Uttacheevapravat

Published by ชมรมกัลยาณธรรม, 2021-03-02 07:44:10

Description: AW_Uttacheevapravat

Search

Read the Text Version

๕๐ อัตตชีวประวตั ิ อ.วศนิ อินทสระ ป ๒๕๐๑ ตึกมหาวิทยาลัยท่ีใชอยูในปจจุบันก็สรางเสร็จ เปนตึก ๓ ชน้ั และยา ยมาเรยี นทตี่ กึ นี้ กวา งขวางสะดวกสบายขน้ึ ทส่ี ภา การศกึ ษาฯนน้ี อกจากไดเ รยี นวชิ าตา ง ๆ มากมายแลว ยงั ไดม เี พอ่ื น ฝงู จากวดั ตา ง ๆ มากมาย ทงั้ ธรรมยตุ และมหานกิ าย หตู ากวา งขวางขนึ้ รูสึกเพลิดเพลินตอการศึกษาเลาเรียน ไดความรูใหม ๆ แปลก ๆ ไดพบครูบาอาจารยมากมาย เชน อาจารยสุชีพ ปุญญานุภาพ อาจารยน าวาอากาศเอกเมฆ อาํ ไพจรติ อาจารยเ สถยี ร โพธนิ นั ทะ อาจารยศ ิริ พุทธศุกร เปนตน อาจารยสุชีพ ปุญญานุภาพ บรรยายวิชาพระสูตร ใน ชน้ั ตน คอื ชนั้ บรุ พศกึ ษา และชน้ั สดุ ทา ยคอื ชนั้ ปท ่ี ๔ อาจารยน าวา อากาศเอกเมฆ อาํ ไพจรติ สอนวชิ าพระสตู รในชนั้ ปท ี่ ๑ และ ๒ อาจารยเ สถยี ร โพธนิ นั ทะ บรรยายวชิ าพระพทุ ธศาสนา ฝายมหายาน และประวัติศาสตรพระพุทธศาสนา ลีลาของทาน สนกุ สนานตน่ื เตน เสยี งดงั จาํ แมน อยา งหาใครเสมอเหมอื นไดย าก เขาหองสอนไมเคยน่ัง ไมเคยมีตําราติดมือเขามาเลย อาศัย ความจาํ ของทา นอยา งเดยี ว พดู ไดต ลอด ๑ ชวั่ โมงหรอื ๒ ชวั่ โมง เปน ผใู ชช วี ติ แบบเรยี บงา ย อยอู ยา งปอน ๆ การแตง กายไมเ คยตาม โลกเลย นงุ กางเกงเกา ๆ ใสเ สอื้ ฮาวาย เทา นกี้ ไ็ ปไดท กุ หนทกุ แหง แตไมเคยมีใครรังเกียจทานเพราะการแตงตัวของทาน เคยมี มหาวิทยาลัยแหงหนึ่งเชิญทานไปปาฐกถา ขอรองใหทานแตงชุด สากลไป ทานบอกวา “จะฟงผมหรือจะฟงชุดสากล” จําไมไดวา

๕๑เมอ่ื มาเรียนทม่ี หาวิทยาลยั สงฆ ผเู ชญิ ตอบอยา งไร ตกลงคงไมไ ดไ ป สมยั นนั้ อาจารยม หาวทิ ยาลยั มักนิยมแตงชุดสากลเวลาไปบรรยายในหองเรียนหรือปาฐกถาใน หองประชุม ความรูของอาจารยเสถียรหลั่งไหลเหมือนเกลียวน้ํา จากท่ีสูงลงสูที่ต่ํานาอัศจรรยจริง ๆ ไมเคยเรียนในมหาวิทยาลัยใด ไมมีปริญญาใด ๆ นาเสียดายท่ีทานอายุสั้นเพียง ๓๘ เทานั้น คนื หนง่ึ อาบนา้ํ สระผมเขา นอน แลว ไมต นื่ อกี เลย ไมไ ดเ ปน โรคอะไร ขาพเจาไดเรียนกับทานอยู ๒ ป ตอมาเมื่อขาพเจาเขียนหนังสือ เร่ือง ‘พุทธปรัชญามหายาน’ ไดอุทิศสวนดีของหนังสือเร่ืองน้ีให แกท า น เพอื่ เปน เครอ่ื งบชู าพระคณุ ของทา นบา งตามสมควร อาจารย เสถยี ร โพธนิ ันทะ อายมุ ากกวา ขาพเจา ๘ ป ถายงั มชี วี ิตอยูถงึ เวลาน้ี อายุทา นก็ ๘๕ พอดี (พ.ศ.๒๕๕๔) อาจารยศ ริ ิ พทุ ธศกุ ร สอนวชิ าภาษาองั กฤษ เปน ผอู ยู อยา งเรยี บงา ยและปอนเหมอื นกนั รปู รา งผอมบาง ชอบนงุ กางเกง สีกากีใสเส้ือขาวแขนยาว เข็มขัดผา (ไมใชเข็มขัดหนัง) รองเทา ผา ใบสนี า้ํ ตาล ถงุ เทา สนี าํ้ ตาลพบั ลงมาครงึ่ หนงึ่ เครอื่ งแตง ตวั ของ ทานมีเทาน้ีทุกวัน บานทานอยูบางพลัดฝงธนบุรี ทานเดินจาก บางพลัดขามสะพานกรงุ ธนฯไปวัดบวรนเิ วศฯ ระยะทางไมนอ ยเลย ทกุ วนั ทีม่ กี ารสอน ทา นไมเ คยเขา เรยี นในมหาวิทยาลยั ใด ไมเ คยมี ปริญญา ท่ีเรียนในโรงเรียนจริง ๆ ก็คือ ช้ัน ม.๗ โรงเรียน เซนตค าเบรยี ล แตค วามรภู าษาองั กฤษของทา นมากมายเหลอื เกนิ ทงั้ กวา งขวางและลกึ ซง้ึ ทา นแปลหนงั สอื ธรรมะภาษาไทยเปน ภาษา อังกฤษมากมาย ตั้งแตหนังสือของสมเด็จพระมหาสมณเจา

๕๒ อัตตชีวประวตั ิ อ.วศิน อินทสระ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส หนงั สอื ของอาจารยส ชุ พี ปญุ ญานภุ าพ และแมหนังสือของขาพเจาผูเปนศิษยของทาน คือเร่ือง ‘หลักคํา สอนสาํ คญั ในพระพทุ ธศาสนา (พทุ ธปรชั ญาเถรวาท)’ เมอ่ื องคก าร พุทธศาสนิกสัมพันธแหงโลก (พ.ส.ล.) ไดออกหนังสือวารสาร ภาษาอังกฤษชื่อหนังสือ W.F.B. (The World Fellowship of Buddhists) ไดเชิญทานไปเปนบรรณาธิการ นับวาภาษาอังกฤษ ของทา นอยใู นระดบั โลกทเี ดยี ว ประธานองคก ารพทุ ธศาสนกิ สมั พนั ธ แหงโลกในระยะน้ันก็คือ ทานหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล และตอมาก็ เปนศาสตราจารยสญั ญา ธรรมศักดิ์ ขาพเจาเรียนภาษาอังกฤษกับทานอยู ๔ ปต้ังแตเปน นักศึกษาปท่ี ๑ ถึงปที่ ๔ ไดความรูท่ีเปนหลักและเปนเน้ือเปน หนงั จนใชภ าษาองั กฤษไดบ า ง กเ็ พราะไดอ าศยั การสงั่ สอนอยา งเอาจรงิ เอาจังและหวังความเจรญิ ในวิชาการทางภาษาอังกฤษของทา น ตอ มาภายหลงั เมอ่ื ขา พเจา จบปรญิ ญาโทจากประเทศอนิ เดยี แลว ไดเ ขยี นหนงั สอื เลม หนง่ึ คอื ‘จรยิ ศาสตร’ ไดอ าศยั ตาํ ราภาษา อังกฤษเปนหลกั สําคัญเวลาเขยี น จงึ ไดอ ุทิศสว นดขี องหนงั สือเลม นน้ั ใหอ าจารยศ ริ ิ พทุ ธศกุ ร ในฐานะผปู ระสาทความรภู าษาองั กฤษ แกขาพเจา จนสามารถอาศัยตําราภาษาอังกฤษเปนหลักเขียน ‘จริยศาสตร’ ขึ้นมาได พูดไดวาเปนหนังสือจริยศาสตรเลมแรกใน วงการศกึ ษาไทย

๕๓เม่ือมาเรียนที่มหาวิทยาลยั สงฆ วิธีสอน อาจารยศิริมักจะพิมพขอความ ซึ่งมีเนื้อหาเปน ความรทู วั่ ไปบา ง มเี นอื้ หาเปน ธรรมะบา ง มาแจกใหน กั ศกึ ษาแปลใน หอ งเรยี น เมอื่ นานวนั เขา บทเรยี นกค็ อ ย ๆ หนาขน้ึ มากขนึ้ เพอื่ น รว มชนั้ ของขา พเจา หลายทา นไปหาขา พเจา ทวี่ ดั บปุ ผาราม เพอื่ ชว ยกนั แปลขอ ความตาง ๆ ในบทเรยี นท่ไี ดร ับแจกนน้ั เพือ่ วา เมื่อถงึ เวลา อาจารยใ หแ ปลในชน้ั เรยี นกจ็ ะแปลไดโ ดยไมถ กู อาจารยด ุ ขา พเจา จงึ ตดั สนิ ใจวา จะแปลบทเรยี นทงั้ หมดดว ยตวั เอง แลว พมิ พแ จกเพอื่ น นกั ศกึ ษาดว ยกนั เพอ่ื เพอ่ื น ๆ จะไดไ มเ สยี เวลาเดนิ ทางไปทว่ี ดั บปุ ผาราม ในการนี้ตองไดรับรองจากอาจารยกอน เมื่อแปลแลวจึงไดสงให อาจารยต รวจ บางคราวกไ็ ปหาทา นทบ่ี า นตง้ั แตเ ชา และฉนั เพลทน่ี น่ั เพื่อนนักศึกษารูสึกสบายใจท่ีไดอาศัยคูมือซ่ึงขาพเจาได ทําดวยความพากเพียร และขาพเจาก็ภูมิใจท่ีไดทํางานนี้ เพ่ือน ๆ ชมวาขาพเจาแปลภาษาอังกฤษเปนไทยไดดี ทั้งน้ีนาจะเปนเพราะ ขาพเจารูจ กั ใชภาษาไทยใหสละสลวย และเปน ประโยชนอยา งยง่ิ ใน การแตงหนังสือในระยะตอมา แตในทางตรงกันขามคือการแปล ภาษาไทยเปน ภาษาองั กฤษนนั้ ขา พเจา ทาํ ไดไ มค อ ยดี คดิ วา เปน เพราะ ความรใู นภาษาองั กฤษยงั ไมแ ขง็ พอนนั่ เอง จงึ สเู พอ่ื นบางคนไมไ ดท ่ี ชาํ นาญในการใชภ าษาอังกฤษ พูดและเขยี นไดค ลอง มบี างทานท่ี พูดและเขียนไดคลองเหมือนกันแตไมถูกจึงถูกอาจารยดุเอาบอย ๆ ทําใหไมคอยชอบใจอาจารยนัก ท้ังน้ีเพราะคิดเอาเองวาเพราะตัว เขียนและพูดถกู แลว

๕๔ อัตตชวี ประวตั ิ อ.วศิน อินทสระ การเรียนภาษาอังกฤษกับทานอาจารยศิริ ทั้งหนักและ เหนด็ เหน่อื ย หลายคนทอแท หมดความพยายาม ออกไปเสียกม็ ี หลายทา นพอใจเพราะไดค วามรเู พม่ิ ขนึ้ ทกุ ครงั้ ทไ่ี ดเ รยี น ขา พเจา อยู ในประเภทหลังน้ี แมจะไมเกงเทาเพ่ือนบางคน แตก็พอใจท่ีได ความรเู พม่ิ ขน้ึ บางคราวขา พเจา ฝม อื ตกลง ไดค ะแนนนอ ย ทา นจะ ออกมาเตือนทหี่ นา หอ งเปน สวนตัว ทา นหวงั ดีตอขาพเจาเสมอมา ซ่งึ จะเลาอีกขางหนา สําหรับวิชาพระสุตตันตปฎกและวิชาท่ีเกี่ยวกับศาสนานั้น ขาพเจาไดค ะแนนดพี อสมควรเสมอ เม่อื เปน นกั ศึกษาปท่ี ๓ ทาง พทุ ธสมาคมแหง ประเทศไทย ซง่ึ ทา นศาสตราจารยส ญั ญา ธรรมศกั ด์ิ เปนนายกสมาคมฯอยู ไดขอมาทางมหาวิทยาลัยสงฆ เพ่ือไดพระ นกั ศกึ ษาสกั รปู หนง่ึ ไปสอนพระสตู รทพี่ ทุ ธสมาคมฯแกช าวบา นผสู นใจ ที่หองประชุมของพุทธสมาคมฯ ทางมหาวิทยาลัยไดสงขาพเจาไป สอนในตอนเยน็ วนั พธุ อาจารยส ญั ญามานงั่ ฟง ดว ยเสมอถา ทา นวา ง จากผฟู ง กลมุ นอ ย ๆ คอ ย ๆ เพม่ิ มากขน้ึ ตามวนั เวลาทผ่ี า นไปจนเกอื บ เตม็ หองประชุม ขา พเจา ใชพ ระไตรปฎกเปนหลักในการสอน สอน อยปู ระมาณ ๓ ป เมอื่ ขา พเจา ลาสกิ ขาแลว จงึ ไดเ ลกิ ไป ในปท ี่ ๒ ที่ไปสอน ทางพุทธสมาคมฯขอใหเปดสอนวิชาบาลีข้ึนดวย แตทํา อยไู ดไมน านก็ตอ งปด ลง ดวยเหตุอะไรจําไมไ ดเ สยี แลว ท่ีพุทธสมาคมแหงประเทศไทย นอกจากไดรูจักอาจารย สญั ญา ธรรมศกั ดิ์ แลว ยงั ไดร จู กั ผพู พิ ากษาอนื่ ๆ อกี หลายทา น

๕๕เมื่อมาเรียนทมี่ หาวทิ ยาลยั สงฆ ไดรูจักนักประพันธ นักหนังสือพิมพ เชน คุณประมูล อุณหธูป และภริยา คือ ครูประยงคศรี อุณหธูป อาจารยโรงเรียนราชินี ตอ มาไดเ ปนอาจารยใ หญโรงเรยี นราชินี และคุณอบ ไชยวสุ คณุ ประมลู เปน นกั เขยี น นกั หนงั สอื พมิ พ อยทู ห่ี นงั สอื พมิ พ สยามรฐั ทง้ั รายวนั และรายสปั ดาห มหี นงั สอื เลม หนง่ึ ของคณุ ประมลู เปนเรอื่ งแปลใหช ่อื วา ‘จาวแมทองดาํ (โอเพยี ม เวนเจอร)’ โดย เจอรัลด สแปรโรว คุณประมูลไดมอบหนังสือเลมน้ันใหขาพเจา พรอมดวยเขียนวา “ขอนอ มใหอ าจารยว ศนิ อนิ ทสระ ผพู าผมไปถงึ พระธรรม ดวยความเอิบอม่ิ เปนทา นแรก... ๑๘ สิงหาคม ๒๕๒๕” ๗ ปใ นมหาวทิ ยาลยั สงฆ ขา พเจา เทยี วไปเทยี วมาระหวา ง วดั บุปผารามกบั วัดบวรนิเวศฯ ซ่ึงเปนทต่ี ง้ั ของมหาวิทยาลยั ดวย ความยากลาํ บาก ดว ยความอดทน โรคภยั ไขเ จบ็ กเ็ บยี ดเบยี น การ เดนิ ทางกล็ าํ บาก เพราะตอ งขนึ้ รถเมลท ง้ั ไปและกลบั นาน ๆ ครงั้ จงึ จะไดอ าศัยรถแทก็ ซีข่ องอาจารยเ รียบ รงั ษีพงศ นกั ศกึ ษารุน พ่ี ซง่ึ ไดส าํ เรจ็ ไปกอ นแลว ไปทาํ งานทม่ี หาวทิ ยาลยั มสี ทิ ธเ์ิ บกิ คา รถได รถแทก็ ซเ่ี วลานน้ั เปน รถออสตนิ ทา ยตดั นงั่ ไมส บายเหมอื นรถแทก็ ซ่ี เวลานแ้ี ตก ด็ กี วา ขน้ึ รถเมล ซาํ้ รองเทา กไ็ มไ ดส วม เพราะวดั ธรรมยตุ หามสวมรองเทาออกนอกวัด จึงตองเดินเทาเปลามาข้ึนรถเมลที่ ถนนใหญเ ชงิ สะพานพทุ ธฯ เทย่ี ง ๆ รอ นเทา นา ดู ขากลบั มาขนึ้ รถ

๕๖ อตั ตชีวประวตั ิ อ.วศิน อินทสระ ทบ่ี างลาํ พู กย็ ากลาํ บากเหมอื นกนั เพราะพระมากดว ยกนั ตอ งคอย ใหเ กา อห้ี ลงั สดุ วา งจงึ ขนึ้ ไปได เวลาฝนตกยงิ่ ลาํ บากใหญ บางคราว ก็เดินขามสะพานพุทธฯ จําไมไดวาเพราะอะไร ไดกลิ่นไกยางท่ีเขา ยางขายอยูใตสะพานฝงธนฯ ยวนนาสิกเสียน่ีกระไร ความหิวซ่ึงมี อยบู า งแลว กลนิ่ ไกย า งกระตนุ ใหห วิ มากขน้ึ ชว งหลงั ๆ นตี้ อนเยน็ หวิ ทกุ วนั เพราะสขุ ภาพไมด ี แตพ อเชา ขน้ึ มากห็ าย ไดอ าศยั นาํ้ ปานะ ที่คุณนาสําอางใหเด็กนําไปถวาย พอประทังไปไดบาง แตถาหิว ตอนดกึ กเ็ ปน อนั สน้ิ หวงั บางคนื หวิ จนนอนไมห ลบั นมหรอื โอวลั ตนิ ไมตองพูดถึง เพราะพระธรรมยุตหามฉันในเวลาวิกาล คือต้ังแต เทย่ี งไปแลว น้ําหวานพอฉันไดแ ตไมม ีจะฉัน ที่กุฏิเกลย้ี งเกลาจาก สงิ่ บรโิ ภค ตงั้ แตเ พลแลว กไ็ มไ ดฉ นั อะไรอกี ทม่ี หาวทิ ยาลยั สมยั นนั้ ก็ยังไมมอี ะไรเลยแมแ ตน ้าํ เปลา นค่ี อื ความลาํ บากยากเขญ็ ในสมยั เปน พระนกั ศกึ ษา เพราะ เคยมปี ระสบการณแ บบน้ี เมอ่ื ขา พเจา เปน อาจารยอ ยใู นมหาวทิ ยาลยั สงฆจะถวายน้ําด่ืมพระและผูเรียนทุกคร้ังท่ีเขาสอน เมื่อเรียนจบ แลวและเปนอาจารยบรรยายวิชาแลวจึงมักพูดใหกําลังใจนักศึกษา เสมอวา “เรียนไปใหจบเถิด จะไมตกต่ําถาความประพฤติไมเสีย เพราะความเพยี รและความอดทนทที่ า นตอ งใชร ะหวา งเรยี นอยทู นี่ ม่ี ี มากพอทีจ่ ะเปน พน้ื ฐานของชีวติ ใหเ จรญิ งอกงามตอ ไป” จาํ ไดว า เมอื่ เรยี นอยปู ท ่ี ๔ ไดร บั นมิ นตใ หไ ปทาํ พจนานกุ รม บาล-ี ไทย-องั กฤษ โครงการของกรมการศาสนา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

๕๗เมื่อมาเรยี นทีม่ หาวิทยาลัยสงฆ สาํ นกั งานอยทู วี่ ดั เบญจมบพติ รฯ เขาใหช อื่ หนว ยงานวา หนว ยวจิ ยั ทางพระพทุ ธศาสนา กรมการศาสนา ทาํ งานชว งเชา ตงั้ แต ๐๙.๐๐ น. ไปถึง ๑๑.๐๐ น. ทุกวัน จะเวนวันพระหรือวันอาทิตย จําไมได ใหน ติ ยภตั เดอื นละ ๓๐๐ บาท นง่ั แทก็ ซไี่ ป-กลบั เทย่ี วละ ๗ บาท กลบั มาฉนั เพลทว่ี ดั บา ยกไ็ ปเรยี นหนงั สอื ทม่ี หาวทิ ยาลยั จะทาํ ได ถงึ ปห รอื ไมจ าํ ไมไ ด กรมการศาสนาเปลย่ี นอธบิ ดคี นใหม คอื พนั เอก ปน มุทุกันต ทานสั่งใหเลิกงานหนวยน้ี ดวยเหตุผลวางานอยาง นไ้ี มใ ชง านวจิ ยั ทางพระพทุ ธศาสนา คณะทาํ งานไปจากมหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ฯบาง จากมหาจฬุ าฯบาง เทา ที่มเี อกสารอยูในมอื เวลานี้ ทําไปไดถึงเลมท่ี ๖ คิดเปนหนาได ๙๖๐ หนา หนังสือขนาด ๘ หนายกตัดสั้น (ยาว ๒๑ ซม. กวาง ๑๕.๕ ซม.) คิดแลวนา เสียดาย ดูเหมือนวามหาวิทยาลัยท้ังสองแหงก็ไมไดสานตองานนี้ หรอื ทางมหาจฬุ าฯจะเอาไปทาํ ตอ ก็ไมทราบ อาจารยอ กี ทา นหนง่ึ ทยี่ งั ไมไ ดพ ดู ถงึ และควรจะพดู ไวใ นที่ นกี้ ค็ อื อาจารยแ สง จนั ทรง าม เมอ่ื ขา พเจา เขา ศกึ ษานน้ั ทา นยงั เปนพระอยู เปนผูท่ีไดรับการยกยองวาเกงทางภาษาอังกฤษ เคย เขา สอนขา พเจา ไมก ค่ี รงั้ เพราะงานทา นมากในตาํ แหนง ผบู รหิ าร ทา น พูดภาษาอังกฤษไดคลองแคลวและสําเนียงดีมาก ทานสอบชิงทุน ของบริติช เคานซิลได ลาสิกขาแลวไปเรียนตอท่ีประเทศอังกฤษ แลวไปตอปริญญาโทท่ีมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา จบ แลว ไดก ลบั มาทาํ งานทม่ี หามกฏุ ฯระยะหนง่ึ หมอ มหลวงตยุ ชมุ สาย อาจารยว ชิ าจติ วทิ ยาของมหามกฏุ ฯ ไดย า ยไปเปน คณบดที ม่ี หาวทิ ยาลยั

๕๘ อตั ตชีวประวัติ อ.วศิน อนิ ทสระ เชียงใหม ไดชวนอาจารยแสงไปดวย อาจารยแสงจึงไปอยูที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม คณะมนุษยศาสตรตั้งแตน้ันมา จนไดเปน คณบดีคณะมนุษยศาสตร และเปนศาสตราจารย มีศิษยจากมหา มกฏุ ฯหลายทา นไปทาํ งานอยทู ม่ี หาวทิ ยาลยั เชยี งใหม อาจารยแ สง จนั ทรง าม ไดเ ขยี นหนงั สอื ไวห ลายเลม ทร่ี จู กั กนั มากกค็ อื ลลี าวดี ขา พเจา เรยี นจบในปก ารศกึ ษา ๒๕๐๕ และไดร บั ปรญิ ญา ในป ๒๕๐๖ ปรญิ ญาศาสนศาสตรบณั ฑติ เวลานน้ั ยงั ไมม กี ารแยก คณะ เม่ือเขาเรียนปแรกประมาณ ๙๑ รูป เรียนไปคอย ๆ ออก กนั ไป เหลอื ปส ดุ ทา ยทไ่ี ดร บั ปรญิ ญาประมาณ ๒๔ รปู องคท ชี่ วน ขา พเจาวา ขอใหเ รียนกนั ใหจ บนะ ดูเหมอื นออกไปตั้งแตเ รียนไดปท ี่ ๒ ของ ๗ ป การรบั ปรญิ ญานน้ั ยงั คงรบั ในโบสถข องวดั บวรนเิ วศ วิหาร สมเด็จพระสังฆราชฯเปนผูประทานปรญิ ญา ขา พเจา ไดร บั บรรจใุ หเ ปน อาจารยส อนวชิ าพระสตุ ตนั ตปฎ ก ตงั้ แตส อบเทอมสดุ ทา ยเสรจ็ ยงั ไมท นั ประกาศผลสอบ ขา พเจา รสู กึ ประหลาดใจวาเหตุไฉนจึงเปนเชนน้ัน ทบทวนไปมา ก็เขาใจไดวา ทานผูใหญผูจัดการศึกษาคงจะมั่นใจในตัวขาพเจา จึงไดทําไปเชน นัน้ ทําใหรูสึกภูมิใจนิด ๆ วาทา นใหเ กียรตเิ ราถงึ ปานนี้ มีเรื่องจะเลาไวเสียตอนนี้เลยก็ไดวา เมื่อขาพเจาเรียนจบ และไดร บั ปรญิ ญาแลว กย็ งั คงไปสอนพระสตู รอยทู พี่ ทุ ธสมาคมแหง ประเทศไทย ทางประเทศเยอรมนีไดติดตอผานมาทางศาสตราจารย

๕๙เม่อื มาเรียนท่ีมหาวิทยาลัยสงฆ สัญญา ธรรมศักดิ์ วาขอพระไทยไปอยูเยอรมนี สักรูปหนึ่ง ศาสตราจารยส ญั ญา ธรรมศกั ดิ์ ทาบทามขอใหข า พเจา ไป ขา พเจา ก็เต็มใจที่จะไป เร่ืองถึงคณะธรรมยุตผูใหญ ทางคณะธรรมยุต ประชุมกัน มีสมเด็จพระสังฆราชฯ (จวน อุฏฐายี) ขณะน้ันดู เหมือนจะดํารงสมณศักดิ์เปนสมเด็จพระมหาวีรวงศ เปนประธาน ประชมุ ทหี่ อ งประชมุ ของมหาวทิ ยาลยั ขา พเจา ไปนงั่ ฟง อยดู ว ย มติ ทปี่ ระชมุ ไมอ นญุ าตใหไ ป เหตผุ ลวา ไปอยรู ปู เดยี วจะอยไู ดอ ยา งไร จะทําอุโบสถสังฆกรรมไดอยางไร จะปลงอาบัติกับใคร เขาใจวา เวลาน้ันพระสงฆไทยในเยอรมนีคงยังไมมีเลย เปนอันวาการไป เยอรมนเี ปนอันยกเลิก

๕ เม่อื ลาสกิ ขาและหนาท่ีการงาน

มเี สียงเลาลอื กันไปวา ขา พเจา นอ ยใจที่ไมไ ดไ ปเยอรมนั นจี ึงสึก ความจรงิ ไมใ ช ขาพเจาต้ังใจไวก อนจะบวชวา จะอยูเ พียงเทา น้ี เมื่อมีผถู ามวาทาํ ไปจงึ สึก ขาพเจาตอบอยูประโยคเดยี วซํา้ แลวซา้ํ อีกวา “ไมอยากอยูแลว” มพี ระนักศกึ ษาท่มี หาวิทยาลยั จาํ นวนมากเสยี ดาย และบอกวา พวกอาตมาสกึ สกั สิบองค ยงั ดกี วา อาจารยสกึ องคเ ดียว ขาพเจาตัดสินใจลาสิกขาในเดือนมกราคม ๒๕๐๗ ไดลา ทานอุปชฌายและทานอาจารย ทานไมพูดอะไร ทานอาจารยได กาํ หนดวนั ใหเ ปน วนั ท่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๗ ดเู หมอื นจะเปน เวลาเชาหลงั จากพระฉันอาหารแลว มีเสียงเลา ลือกันไปวา ขา พเจา นอ ยใจทไี่ มไ ดไ ปเยอรมนจี งึ สกึ ความจรงิ ไมใ ช ขา พเจา ตงั้ ใจไวก อ น วา จะบวชอยเู พยี งเทา น้ี เมอื่ มผี ถู ามวา ทาํ ไมจงึ สกึ ขา พเจา ตอบอยู ประโยคเดียวซ้ําแลวซ้ําอีกวา “ไมอยากอยูแลว” มีพระนักศึกษาที่ มหาวทิ ยาลยั จาํ นวนมากเสยี ดาย และบอกวา พวกอาตมาสกึ สกั สบิ องคยังดีกวาอาจารยสึกองคเดียว แตขาพเจาคิดวา นาจะลองมา

๖๒ อตั ตชวี ประวัติ อ.วศนิ อนิ ทสระ

๖๓เม่อื ลาสกิ ขาและหนา ท่กี ารงาน

๖๔ อัตตชวี ประวตั ิ อ.วศนิ อินทสระ หาประสบการณทางโลกดูบาง เพราะบวชต้ังแตเดก็ ไมเ คยใชชวี ติ แบบฆราวาสมาเลย ยงั ไปสอนทม่ี หาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ฯอยเู ปน ราย ชั่วโมง ทานเลขาธิการในสมัยนั้นคือทานเจาคุณพระเทพกวีหรือ พระราชสมุ นมนุ จี าํ ไมไ ดแ มน คอื สมเดจ็ พระญาณวโรดมองคป จ จบุ นั ไดถ ามขา พเจา ดว ยความหว งใยวา หางานทาํ ไดแ ลว หรอื ยงั ขา พเจา บอกวายัง ทานบอกวาควรจะหางานใหไดเสียกอนแลวจึงคอยสึก เพราะเราเปนผูใหญแลว ตกงานแลวอายเขา แตขาพเจาไมไดคิด อยางนนั้ ขาพเจาไมก ลาไปหางานตอนเปนพระ แตก ร็ ูส กึ ขอบคณุ ทานท่หี วังดี ขาพเจาพักอยูที่วัดที่กุฏิเดิมไมกี่วัน ไปเยี่ยมคุณนาล้ิม วอนขอพร ทว่ี งเวยี นใหญ มบี า นหลงั โตกวา งขวาง คณุ นา ทราบวา ยังไมมีท่ีอยูจึงชวนใหมาอยูดวย ใหหองเล็ก ๆ หองหน่ึงเปนที่พัก อาศัย สิ่งที่ขาพเจากลัวท่ีสุดในชวงนั้น คือกลัวจะไมมีสตางคเสีย คา รถเมล เพราะสกึ ออกมาตวั เปลา จรงิ ๆ ไมไ ดส ะสมเงนิ ทองอะไร ไวเ ลย อาศยั รายไดเ พยี งเลก็ นอ ยทไ่ี ปสอนพเิ ศษทม่ี หาวทิ ยาลยั สงฆ ดเู หมอื นจะชว่ั โมงละ ๒๐ หรอื ๓๐ บาทจาํ ไมไ ด แตก อ็ ยใู นประมาณ นน้ั มหาวทิ ยาลยั สงฆเ วลานน้ั ยงั ยากจนอยมู าก รฐั บาลยงั ไมร บั รอง ยงั ไมไ ดง บประมาณชว ยเหลอื จากรฐั บาล คงไดบ า งจากมลู นธิ มิ หามกฏุ ฯ และจากกรมการศาสนา อยูท่ีบานคุณนาล้ิมไมกี่เดือน ๒ หรือ ๓ เดือนจาํ ไมไ ดแ มน ยา ยไปเชา บา นทถ่ี นนนครไชยศรรี ะยะหนงึ่ แลว ยา ยไปทถ่ี นนพชิ ยั ชว งนน้ั นอกจากสอนทม่ี หามกฏุ ฯแลว ยงั ไดไ ปสอน

๖๕เม่ือลาสิกขาและหนาท่กี ารงาน ท่ีโรงเรียนราชินี ปากคลองตลาด โดยการเชิญของครูประยงคศรี และไดเ ขยี นหนังสือลงหนงั สอื พิมพส ยามรัฐสัปดาหวิจารณโ ดยการ ชกั ชวนของคณุ ประมลู อณุ หธปู พอมรี ายไดเ พมิ่ ขนึ้ บา ง หนงั สอื ทเ่ี ปน เลม ตอนนนั้ กพ็ มิ พแ ลว ๒ เลม คอื ‘แสงเทยี น’ และ ‘ชวี ติ นี้มีอะไร’ อันที่จริงหนังสือ ๒ เลมนี้ ขาพเจาเคยเขียนลงเปน ตอน ๆ ในนติ ยสารศภุ มติ รรายเดอื นมาแลว ตง้ั แตส มยั ทเี่ ปน พระ ขา พเจา เขียนเร่ือง ‘พระอานนทพุทธอนุชา’ ลงในหนังสือพิมพสยามรัฐ สปั ดาหว จิ ารณอ ยนู านหลายเดอื น (๓๓ สปั ดาห) และตอ ดว ยจอม จักรพรรดิอโศก ตอนทเี่ ชา บา นอยทู ถี่ นนพชิ ยั นน้ั เชา อยคู นละหอ งกบั คณุ ไว ตาทิพย (ปรีชา ทิพยเนตร) ผูเปนเพ่ือนนักศึกษารุนเดียวกันกับ ขาพเจาท่ีมหาวิทยาลัยมหามงกุฏฯ เขาชอบทํางานหนังสือพิมพ สกึ แลว ไดท าํ งานหนงั สอื พมิ พส มใจหมาย อยสู ยามรฐั บา ง ไทยรฐั บา ง บางเชา กอ็ อกไปว่ิงดว ยกันท่ลี านพระบรมรปู ทรงมา อยูท่ีบานเชาไดไมนานนัก ทางโรงเรียนพาณิชยการสีลม ของอาจารยป ระชมุ รตั นเพยี ร ตอ งการอาจารยผ ปู กครอง จงึ ตดิ ตอ มาทางทา นเจา คณุ มหานายก (แจม อภบิ าลศร)ี วดั บวรนเิ วศวหิ าร ซึง่ เปน พระบา นเดยี วกนั กบั อาจารยป ระชมุ คอื จงั หวัดตาก ทาน เจาคุณมองเห็นขาพเจาวาจะไปเปนอาจารยผูปกครองได จึงเสนอ ขา พเจา แกอาจารยประชุม ไดเ งินเดอื น ๙๐๐ บาท

๖๖ อัตตชีวประวัติ อ.วศิน อินทสระ ระหวางที่สอนอยูท่ีโรงเรียนพาณิชยการสีลมนั้น ทาง โรงเรียนเตรียมทหารตองการอาจารยสอนวิชาศีลธรรม ไดติดตอ ขออาจารยสอนวิชาศีลธรรม ทราบวาผานมาทางนาวาอากาศเอก ประยงค สุวรรณบุปผา อนุศาสนาจารยกองทัพอากาศ ขาพเจา ไมท ราบยศในขณะนนั้ ของทา น วา เปน ยศชนั้ อะไร อาจารยป ระยงค ไดเ สนอขา พเจา ไป อาจารยป ระยงคเ ปน ศษิ ยเ กา มหามกฏุ ฯ รนุ ๒ สาํ นกั วดั ราชประดษิ ฐฯ ขา พเจา ไดส ง เอกสารหลกั ฐานตา ง ๆ ไปให โรงเรยี นเตรียมทหาร ขา พเจาไมไดก ระตอื รือรนแตป ระการใด นกึ วาไดก็ดีไมไดก็ไมเปนไรเพราะไมไดไปสอบคัดเลือก อยูโรงเรียน พาณชิ ยการสลี มได ๑ เทอม ทางโรงเรียนเตรยี มทหารกเ็ รียกตวั นาวาเอกประชุม อารีรอบ รองผูบัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ไดไ ปตามขา พเจา ถงึ ที่อยูท ่ีถนนพชิ ยั ตอมาขา พเจา ไดย า ยไปอยูที่หอพักธรรมนวิ าสของวดั มกฏุ กษัตริยารามฯ ต้ังอยูทายวัดมกุฏฯ ติดกับสถาบันโรคผิวหนังของ กระทรวงสาธารณสขุ ในปจ จบุ นั เปน หอพกั ทร่ี บั เดก็ นกั ศกึ ษาซง่ึ มา จากตา งจงั หวดั ไมม ที พ่ี กั มาสมคั รเพอื่ เขา อยู เมอื่ ผา นคณะกรรมการ แลวก็เขาอยูได ทางวัดตองการผูปกครอง บรรณาธิการนิตยสาร ศุภมิตร คือ คุณมนูญ ธารานุมาศ ไดเสนอขาพเจา เมื่อคณะ กรรมการอนุมัติแลวจึงไดติดตอขอใหขาพเจาไปอยูเปนผูปกครอง นักศกึ ษา

๖๗เมอ่ื ลาสิกขาและหนา ท่ีการงาน เทาที่จําได นักศึกษาเวลาน้ันก็มีจากจุฬาลงกรณ มหาวทิ ยาลยั จากมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร เปน ตน จากทางจฬุ าฯ เชน โกมล คีมทอง, สวัสดิ์ อมรสิทธ์ิ ทางธรรมศาสตร เชน สถิตย อรรถบลยุคล, วนิ ยั ภกั ดี เปนตน นักเรียนแพทยศ ิรริ าช ก็มี นักศึกษาอยูที่น่ันไมตองเสียเงินคาหอพัก แตตองหากินเอง ขาพเจาอยูท่ีน่ันดวยความรูสึกมีความสุขสดชื่น อยูใกลทานเจา คุณเทพ ปญญากวี (บรรจง กลฺลิโต) ผูชวยเลขาฯ สมเด็จ พระสังฆราชฯ ในขณะนั้นเลขาฯสมเด็จพระสังฆราชฯ คือ สมเด็จ พระพุทธชินวงศในปจจุบัน ขณะน้ันเปนพระราชาคณะท่ีพระกิตติ สารมุนี (ประจวบ กนฺตาจาโร) ขาพเจาสนิทสนมกับทานท้ังสอง มาเปน เวลานาน

๖ โรงเรยี นเตรยี มทหาร

การเขาไปอยใู นโรงเรียนเตรียมทหาร ขา พเจา รสู ึกวา ไดเขา มหาวทิ ยาลยั ท่ีสําคญั อีกแหงหนึ่ง ทําใหข า พเจาไดมีประสบการณม ากมาย ในอาณาจักรทไ่ี มเคยคิดวา จะไดเ ขาไปอยู และไมเ คยขวนขวาย ท่ีโรงเรียนเตรียมทหาร ขาพเจาไดพบนาวาเอกประชุม อารีรอบ ไดพบพลตรีปยะ สุวรรณพิมพ (ยศในขณะน้ัน) และ นายทหารอื่น ๆ อีกมากมาย พลตรีปยะและนาวาเอกประชุมเปน นายทหารทสี่ ภุ าพและสงา งาม ตอนนน้ั ขา พเจา ยงั แตง กายพลเรอื น อยนู านเทา ไรจาํ ไมไ ด ถกู ไปฝก ทหารทกี่ รมการรกั ษาดนิ แดนใกลว ดั โพธทิ์ า เตยี น พรอ มกบั อาจารยอ ทุ ยั ทนั ตสวุ รรณซงึ่ จบมาจากจฬุ า ลงกรณมหาวิทยาลัยสอนวิชาคณิตศาสตร ตอนหลังพลตรีปยะได ยา ยไปเปน เจา กรมศกึ ษาวจิ ยั ไดเ ลอื่ นยศเปน พลโทและพลเอกตาม ลําดับ ขาพเจาไปฝกวิชาทหารอยูก่ีวันจําไมได คิดวาไมถึงเดือน ตอนเยน็ ยังกลบั ไปสอนที่มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ฯ

๗๐ อตั ตชวี ประวัติ อ.วศนิ อนิ ทสระ

๗๑โรงเรียนเตรยี มทหาร ขา พเจา คดิ วา ขา พเจา เปน ผมู รี า งกายออ นแอ แตม บี างคน ออ นแอกวา ขา พเจา อกี ทไี่ ปฝก ทหารพรอ มกนั จากหนว ยอน่ื ๆ ดว ย คดิ วา ประมาณ ๓๐ คนทง้ั ผหู ญงิ และผชู าย เพอ่ื รบั ยศเปน รอ ยตรี ครฝู ก ซงึ่ เปน นายสบิ บา งจา บา งไมไ ดเ ขม งวดอะไร เวลาวง่ิ รอบสนาม เขาจะบอกวา “ใครไมไหวใหวิ่งออกจากแถว” มีหลายคนว่ิงออก จากแถวบอ ย ๆ ขา พเจา ซง่ึ คดิ วา ตวั เองมรี า งกายออ นแอ ไมเ คยวงิ่ ออกจากแถวเลย เวลาใหยิงปนท้ังปนส้ันและปนยาว ขาพเจาไม เคยยิงถกู เปา เลย คงจะไมไ ดเ กิดมาเพอ่ื ถือปน เปนทหารถือชอลก และปากกา เปน อนั วา ฝก ทหารเสรจ็ เรยี บรอ ยกไ็ ดต ดิ ยศเปน รอ ยตรี เคยถามรองฯประชุม อารีรอบ วา “ไมตองแตงกายเครื่องแบบ ไมตองติดยศไดไหม” ทานบอกวา “ไมได” ทานถามวา “มียศไม ดีหรอื ไปไหนก็มคี นใหเกยี รตแิ ละเกรงใจ” ขาพเจานง่ิ อตั ราทก่ี องทพั เรอื วา ง ขา พเจา จงึ ไดร บั บรรจใุ หเ ปน ทหาร เรอื แตพอขาพเจา มาคยุ พลตรปี ยะ ทา นถามวา “อยากเปน ทหารบกหรอื ทหารเรอื ” ขา พเจา ตอบวา “อยาก เปนทหารบก” ทานจึงใหโอนมาเปนทหารบก ทานทําโดยวิธีใด ขาพเจาไมทราบ ทานเปนผูใหญในวงการทหารเร่ืองทํานองน้ีคง ทาํ ไดไ มย าก รสู กึ วา รองฯประชมุ จะนอ ยใจอยหู นอ ย ๆ แตเ สรจ็ แลว ก็แลวกันไป ทานไมไดเอามาเปนอารมณ ท่ีน่ันมีรองผูบัญชาการ อยู ๓ ทา น คอื นาวาเอกประชมุ อารรี อบ เปน ทหารเรอื นาวาอากาศ เอกสงิ ห ศริ คิ ปุ ต เปน ทหารอากาศ พนั ตาํ รวจโทเจอื จนั ทรเ พญ็

๗๒ อตั ตชวี ประวัติ อ.วศิน อนิ ทสระ เปนรองฯฝายตํารวจ เพราะที่นั่นเปนนักเรียนรวมเม่ือจบแลวตอง แยกยายกนั ไปเรยี นในโรงเรยี นนายรอยทหารบก โรงเรยี นนายเรอื โรงเรยี นนายเรอื อากาศและนายรอ ยตาํ รวจ ขา พเจา เขา ไปสอนเมอ่ื ป ๒๕๐๘ เปนนักเรียนเตรียมทหารรุนที่ ๘ เพราะโรงเรียน เตรียมทหารต้งั ขึ้นเม่อื ป ๒๕๐๐ พอดี ขา พเจา สอนอยทู น่ี น่ั ๔ ป นอกจากงานสอนแลว ทา น ผูบัญชาการยังใหเปนหัวหนากองบังคับการ (หัวหนา บก.) ซึ่ง เปน เหมอื นกองกลางของโรงเรยี น คอื หนงั สอื ราชการทกุ ฉบบั จะ เขา หรอื ออกตอ งผา นมาทางหวั หนา บก. ฟง ดเู หมอื นใหญแ ตค วาม จรงิ ไมไ ดใ หญ เพราะขา พเจา มยี ศเปน เพยี งรอ ยตรเี ทา นน้ั เอง หวั หนา กองวิชาการ หัวหนากองการปกครอง ทานเปนพันเอกกันท้ังนั้น หัวหนา บก. ในความหมายของขาพเจาที่ขาพเจาทําอยู เทากับ หัวหนาแผนกสารบัญกระมัง และก็นาจะเปนอยางนั้น นอกจาก งานเกี่ยวกับหนังสือน้ีแลว ขาพเจายังไดรับมอบหมายจากทานผู บญั ชาการใหร า งสนุ ทรพจนส าํ หรบั ทา นปราศรยั ในโอกาสตา ง ๆ เชน โอวาทนักเรียนเตรียมทหารในหองประชุม เปนตน ขาพเจารูสึก เปนเกียรติที่ไดทํางานนี้ ทานผูบัญชาการจะไมอานสุนทรพจนในท่ี ประชุม แตจ ะจบั สาระสําคญั ไปพูดปากเปลาโดยไมด ูตน ฉบับ การเขา ไปอยใู นโรงเรยี นเตรยี มทหาร ขา พเจา รสู กึ วา ไดเ ขา มหาวิทยาลัยที่สําคัญอีกแหงหน่ึง ทําใหขาพเจาไดมีประสบการณ มากมายในอาณาจกั รทไ่ี มเ คยคดิ วา จะไดเ ขา ไปอยแู ละไมเ คยขวนขวาย

๗๓โรงเรียนเตรยี มทหาร พลเอกปยะนั้นมีบุคลิกที่นาประทับใจอยางย่ิง สมเปนผูนํา คําสั่ง ของทานชัดเจนและรูจักใหเกียรติผูนอย ทานเปนนายทหารท่ีเปน นกั การศกึ ษาและเปน นกั จติ วทิ ยา ขา พเจา ยงั นกึ ถงึ ภาพของทา นได อยู เม่ือขาพเจานํางานเขาไปสงทานจะกลาวคํา “ขอบคุณ” ทุก ครง้ั และไมเ คยรกุ รานผนู อ ย ขา พเจา นา จะเปน คนโชคดใี นเรอ่ื งนี้ คอื เจอแตผ ูใหญท ดี่ ี ๆ มีความเอน็ ดแู ละความปรานีตอขาพเจา อยางดี เสมอมา ป ๒๕๑๑ ขาพเจาไดเลื่อนยศเปนรอยโท ไปติดยศที่ กระทรวงกลาโหมพรอมกับอาจารยอุทัย ทันตสุวรรณ และนาย ทหารจากที่อ่ืน ๆ ดวย แมขาพเจาจะคิดวาการเปนทหารอยูที่น่ีดี แตคดิ อยเู สมอวา นไี่ มใ ชทางของเรา จึงคิดจะลาออกอยเู สมอ

๗ เมอ่ื แตงงาน

เมื่อสง ใบลาออกแลว ไดเขา ไปคยุ กบั ผบู ญั ชาการ ทา นพดู กบั ขาพเจาหลายอยา ง มบี างประโยคท่จี บั ใจไมรลู ืม ระลกึ อยูเสมอ และเปน กาํ ลงั ใจในการใชช วี ติ ทดี่ ีงาม ไมใหท า นผูใ หญเ สยี ความตงั้ ใจ วนั ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๑๒ ขา พเจา แตง งานกบั สมจติ ต นุมบุญนํา ซ่ึงตอนนั้นเปนครูอยูท่ีโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ เชิง สะพานกรงุ ธนฯฝง ธนบรุ ี แตง ทโ่ี รงเรยี นเตรยี มทหาร ศาสตราจารย สญั ญา ธรรมศกั ดิ์ ไดใ หเ กยี รตไิ ปสวมมงคล พลเอกปย ะ สวุ รรณพมิ พ เปนผูถอดมงคล เชิญแขกแตพอสมควร เล้ียงท่ีสโมสรโรงเรียน เตรยี มทหาร ปลายป ๒๕๑๒ ขาพเจาตัดสินใจลาออกและขอลาออก ตง้ั แตว นั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๑๒ เมอ่ื สง ใบลาออกแลว ไดเ ขา ไปคยุ

๗๖ อตั ตชวี ประวัติ อ.วศนิ อนิ ทสระ

๗๗เม่อื แตงงาน

๗๘ อตั ตชวี ประวัติ อ.วศนิ อนิ ทสระ

๗๙เม่อื แตงงาน

๘๐ อัตตชีวประวัติ อ.วศิน อนิ ทสระ กับผูบัญชาการ ทานพูดกับขาพเจาหลายอยาง มีบางประโยคที่ จับใจไมรูลืม ระลึกอยูเสมอ และเปนกําลังใจในการใชชีวิตท่ีดีงาม ไมใหท า นผูใหญเ สยี ความต้ังใจ ลมื เลา ไปอยา งหนงึ่ วา เมอื่ ขา พเจา แตง งานแลว ไดย า ยจาก หอพกั ธรรมนวิ าสไปอยทู อ่ี าคารสงเคราะหก องทพั บก ซงึ่ อยทู ถ่ี นน ประชาธปิ ไตย ตรงกนั ขา มกบั หอพกั ธรรมนวิ าสนนั่ เอง นายทหาร คนหน่ึงเขามีสิทธ์ิอยู แตเขาไมไดอยูจึงใหขาพเจาไปอยู เสียเงิน เพยี งเลก็ นอย ขา พเจา ขอยอ นกลบั มาทหี่ อธรรมนวิ าสอกี นดิ หนง่ึ คอื เมอื่ ตอนทํางานอยูท่ีโรงเรียนเตรียมทหารน้ัน ขาพเจายังพักอยูที่หอ ธรรมนวิ าส มรี ถเลก็ ๆ คนั หนงึ่ ขบั ไปทาํ งาน จอดทซี่ อกตกึ ระหวา ง หอธรรมนวิ าสกบั สถาบนั โรคผวิ หนงั ตรงกนั ขา มกบั หอธรรมนวิ าส เปน ตาํ หนกั สมเดจ็ พระสงั ฆราชฯ หลงั ตาํ หนกั สมเดจ็ พระสงั ฆราชฯ เปน สาํ นกั งานนติ ยสารศภุ มติ ร ใกลส าํ นกั งานนติ ยสารศภุ มติ รมปี อ ม ยามตาํ รวจอยูอารกั ขาสมเด็จพระสงั ฆราชฯ คนื หนงึ่ ประมาณตสี ามมขี โมยมาขโมยรถของขา พเจา กาํ ลงั เขน็ ออกไป ตาํ รวจชอ่ื เบญ็ จาเลา ใหฟ ง วา เขากาํ ลงั หลบั ไดย นิ เสยี ง เหมือนมีคนปลุกวา “เบ็ญจา เบ็ญจา ลุกขึ้น มีคนมาขโมยรถ” เขาลุกขึ้นมาดูก็เห็นขโมยกําลังเข็นรถอยู แตไมเห็นใครอ่ืนจึงจับไว ไดค นหนงึ่ อกี คนหนงึ่ จะจบั ไดต อ มาหรอื ไมจ าํ ไมไ ด สมเดจ็ พระสงั ฆ

๘๑เม่ือแตง งาน ราชฯก็เสด็จลงมาดูดวย ตํารวจสงเรื่องฟองศาล ขาพเจาในฐานะ เปน เจา ของรถจงึ ตอ งไปใหก ารทศ่ี าลดว ย เปน ครงั้ แรกทข่ี นึ้ ศาลและ ไมเ คยขน้ึ อกี เลย ปรากฏวา ขโมยซงึ่ เปน เดก็ วยั รนุ คนหนง่ึ ตดิ คกุ เมอื่ ไปศาล ขาพเจา ยังเห็นเขาถกู ลามโซม าใหการตอ หนาผพู ิพากษา กอ นหนา ทจี่ ะเกดิ เรอื่ งน้ี ไมท ราบกว่ี นั หรอื กเี่ ดอื น ขา พเจา ฝนไปวาตอนเชาลงมาเปดกระโปรงรถเพ่ือจะดูหมอน้ํา ดูน้ํากล่ัน เปน ตน มองไปทเ่ี ครอื่ ง ปรากฏวา เครอ่ื งรถเปน พระพทุ ธรปู ทง้ั องค พระพักตรหันไปทางหนารถ เปนพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สวยงามมาก แถมยงั ตรสั ไดเ สยี อกี ทา นตรสั วา “ใชไ ปเถอะรถคนั น้ี ไมเ ปน ไรหรอก” ไมกี่วันตอมา ขาพเจาขับรถไปทางสะพานควาย มีเด็ก คนหนง่ึ วง่ิ ตดั หนา รถอยา งกะทนั หนั เดก็ อายปุ ระมาณ ๑๕ ขา พเจา มองไปท่ีหนารถไมเห็นเด็ก เขาใจวาเด็กคงเขาไปอยูใตทองรถเสีย แลว รีบเปดประตูรถออกไปดู เด็กลุกขึ้นจากตรงไหนไมทราบปด ฝุนแลววิ่งไป มีผูคนจับตาดูกันมาก ตํารวจก็มาถึง ขาพเจาไดให นามบตั รตาํ รวจไว บอกวา ถา เดก็ เปน อะไรใหต ามขา พเจา ตามนามบตั ร นี้ วนั เวลาลว งไปปรากฏวาเงยี บหายไปเลย แตใ นทส่ี ดุ ขา พเจา กจ็ าํ เปน ตอ งขายรถคนั นี้ ตอนทขี่ า พเจา ไปศึกษาท่ีอินเดียเปน เวลา ๒ ป เพราะแมบานยังขับรถไมเ ปน

๘ เม่อื ไปศึกษาตอ ทอี่ ินเดยี

ขา พเจา คิดวาไหนๆ ก็ลาออกมาแลว ควรจะไปเรยี นตอ จึงตดั สนิ ใจวา จะไปเรยี นตอ ท่ปี ระเทศอนิ เดีย ระหวางนั้น นอกจากเขยี นหนงั สอื และสอนพิเศษแลว กเ็ ตรียมตัวเพือ่ ไปอินเดีย โชคดที ตี่ อนนน้ั เมอื่ ขา พเจา อยทู อี่ าคารสงเคราะหก องทพั บก ชนั้ ๒ ผลงานการเขยี นหนงั สอื ของขา พเจา ไดแ พรห ลายไปมากแลว มรี ายไดพ อเลยี้ งตวั ได ประกอบกบั รายไดจ ากการสอนพเิ ศษกย็ งั พอ มอี ยู ขา พเจา คดิ วา ไหน ๆ กล็ าออกมาแลว ควรจะไปเรยี นตอ จงึ ตดั สนิ ใจวา จะไปเรยี นตอ ทปี่ ระเทศอนิ เดยี ระหวา งนนั้ นอกจากเขยี น หนังสือและสอนพิเศษแลว ก็เตรียมตัวเพ่ือไปอนิ เดีย ขา พเจา แตง งานเมอื่ ๒๕ เมษายน ๒๕๑๒ พอ ๒๗ เมษายน ๒๕๑๓ ขา พเจา มีลกู ชาย ๑ คน คือ วรตั ต หรอื โก

๘๔ อตั ตชวี ประวัติ อ.วศนิ อนิ ทสระ

๘๕เมอื่ ไปศกึ ษาตอท่ีอนิ เดีย ขาพเจาจําเปนตองไปอินเดียประมาณสิงหาคม ๒๕๑๓ จึงจําเปนตองใหแมบานและลูกไปอยูกับพี่ชายของเขาชั่วคราว ที่ ถนนพิบูลสงคราม ตําบลสวนใหญ อําเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี คือที่บานพี่จํานงค นุมบุญนํา ซ่ึงเปนพี่คนโตของแมบาน ไดยาย มาปลกู บานใหม ขา พเจา มีสว นรว มในการชว ยปลกู ดวย พี่จาํ นงค บอกวา ถา ยา ยออกเมอื่ ไหรก จ็ ะคนื เงนิ ใหแ ละกไ็ ดท าํ ตามนนั้ เมอ่ื ขา พเจา และแมบานไดยา ยออกไปจากที่น่นั จําไมไดวาไดยายมาอยูทีบ่ านพ่ี จาํ นงคค นื อาคารสงเคราะหเ ขาไปในเดอื นใด คงประมาณสกั ๒ เดอื น กอ นทข่ี าพเจา จะเดินทางไปอินเดยี ทบ่ี า นน้อี ยกู นั หลายคนพอชวย กนั เลย้ี งเดก็ ได และมพี นี่ อ งของแมบ า นปลกู บา นอยใู กลก นั อกี ๒ หลงั นับวาอบอนุ สําหรบั แมบานและลกู ชายพอสมควร

๙ มหาวทิ ยาลยั พาราณสี

เพือ่ นผูหวงั ดบี างคนไดเ ตอื นขา พเจา วา มัวมานงั่ เขียนหนังสืออยู เดี๋ยวสอบตกไมไ ดก ลบั เมอื งไทย ขาพเจารับคําเตือน เพียงแตย ม้ิ ใหเขา แตใ นใจกน็ กึ วา เขาไมร ูถ งึ ความจําเปน ของเรา ถงึ อยา งไรกข็ อบคณุ ทห่ี วังดี ขา พเจา และคณะ มอี าจารยเ ทย่ี ง นนั โท และคณุ ประสทิ ธิ์ ประถมของ เปนตน กับพระอีกหลายรูป ออกเดินทางในวันท่ี ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๑๓ โดยเครอ่ื งบนิ ของการบนิ ไทย (ไทยอนิ เตอร) ไปลงที่กัลกัตตา พักอยูที่กัลกัตตาชั่วระยะหน่ึงแลวนั่งรถไฟไป มหาวทิ ยาลยั พาราณสี หรอื เรยี กเปน ทางการวา Banaras Hindu University หรือใชอ กั ษรยอ วา B.H.U.

๘๘ อัตตชวี ประวัติ อ.วศิน อนิ ทสระ เรอ่ื งไปเรยี นทอี่ นิ เดยี นี้ ขา พเจา ไดเ ขยี นไวค อ นขา งละเอยี ด แลว ในหนังสือชอื่ ‘อนั ความกรณุ าปรานี’ หนา ๓๖๘ หนา ซงึ่ ในหนังสือนั้นตองขอเรียนทานท้ังหลายไวในท่ีน้ีวา ขาพเจาเขียน เปน ทาํ นองสารคดอี งิ นยิ าย หรอื จะเรยี กวา นยิ ายองิ สารคดกี ค็ งจะได เพราะฉะนน้ั จงึ มเี รอ่ื งที่จรงิ บา ง* เรอื่ งทส่ี รางข้ึนมาบาง ไมใชจ รงิ ทั้งหมดและไมใชสรางขึ้นมาท้ังหมด ถาทานท้ังหลายเขาใจตามน้ี ขา พเจาก็สบายใจทจี่ ะแนะนาํ ใหท านอา น มหาวทิ ยาลยั พาราณสนี น้ั สะอาดและสวยงามมาก ตน ไม รม ครมึ้ ไปหมด กวางขวางใหญโ ต ขา พเจา ไดพกั ทห่ี อพกั นกั ศกึ ษา นานาชาติ หอ งที่ ๓๗ เลข ๗ มคี วามสมั พนั ธเ กยี่ วขอ งกบั ขา พเจา เปนอันมาก เชน เกิดวันท่ี ๑๗ พ.ศ. ๒๔๗๗ เรียนบาลีได เปรียญ ๗ บวชพระ พ.ศ. ๒๔๙๗ ลาสิกขาป ๒๕๐๗ เรียน มหาวิทยาลัยสงฆอยู ๗ ป ฯลฯ ๒ ปที่มหาวิทยาลัยพาราณสีและท่ีอินเดีย ไดใหความรู และประสบการณแ กข า พเจา เปน อนั มาก ไมเ สยี ทที ตี่ ดั สนิ ใจไป แม ตอนแรก ๆ จะขลุกขลักเดือดรอนอยูบาง แตก็ลงตัวไดในท่ีสุด รศ.สุวรรณ เพชรนิล ไดเขียนจดหมายไปใหกําลังใจกับขาพเจาวา เมื่อเรียนจบแลว ขาพเจาจะนําวิชาความรูมาใชประโยชนในทาง พระพุทธศาสนาและในประเทศไทยไดม ากทสี่ ดุ * เชน เปรม สุจินดา ซ่ึงเปน ผูเลาเร่อื ง เรียนไมจบ แตข าพเจาเรียนจบ เปน ตน

๘๙มหาวทิ ยาลยั พาราณสี เนอ่ื งจากตอนทเี่ ดนิ ทางไปนน้ั ขา พเจา มเี งนิ ตดิ ตวั ไปเพยี ง เลก็ นอ ย เงนิ ทเี่ สยี คา เครอื่ งบนิ กด็ เู หมอื นจะยมื มหาวทิ ยาลยั สงฆไ ป จาํ ไมไ ดว า จาํ นวนเทา ไรแตค งจะไมถ งึ หมน่ื คดิ วา กลบั มาแลว จะผอ น สง ให ขา พเจาไปเรียนดวยทุนของตนเอง แตก็ไมม ีทนุ จงึ จาํ เปน ตองเรียนไปดวยทํางานไปดวย งานของขาพเจาก็คือเขียนหนังสือ สง มาพมิ พใ นประเทศไทย ไดเ งนิ แลว ทางบา นกจ็ ะเอาไวใ ชบ า ง สง ไป ใหขาพเจาบาง เวลาน้ันพิมพอยูสํานักพิมพเดียวคือสํานักพิมพ บรรณาคาร สงตน ฉบับมาเทาไร เรอื่ งอะไร เขารับพมิ พหมด ขอ ขอบคณุ สาํ นกั พมิ พบ รรณาคารไว ณ ทน่ี ด้ี ว ย ขา พเจา เขยี นหนงั สอื ไดป ระมาณ ๗ หรอื ๘ เลม แตล ะเลม ประมาณ ๓๐๐-๔๐๐ หนา โดยเฉลี่ย บางเลม กเ็ กอื บ ๖๐๐ หนา เชน ทางแหงความดี เลม ๑ เปน งานหนกั มใิ ชน อ ย เพยี งแตเ รยี นอยา งเดยี วกห็ นกั มาก อยูแลว เพราะตําราเรียนเปนภาษาอังกฤษทั้งหมด อาจารยสอน เปน ภาษาองั กฤษ ฟง รเู รอ่ื งบา งไมร เู รอ่ื งบา ง ตอ งจาํ หวั ขอ วา ทา น พูดเร่ืองอะไร แลวมาคนควาหาความรูจากหนังสือ ตํารา พรอม ท้ังทําโนตยอไวดวย ขาพเจารูสึกเหน็ดเหน่ือยมากเพราะทั้งสอง อยา งเปน งานหนกั ทงั้ นน้ั เวลานนั้ ขา พเจา อายุ ๓๕ แลว สขุ ภาพ ก็ไมไดแข็งแรง บางวันตอนเชา ๆ ไดออกไปว่ิงบาง ตอนเย็น ตแี บดมนิ ตนั บา ง แตก ท็ าํ ไดเ ลก็ ๆ นอ ย ๆ นกั เรยี นไทยในพาราณสี มมี ากพอสมควรทง้ั พระ ฆราวาสและผหู ญงิ ดว ย ทไี่ ปเรยี นปรญิ ญาตรี

๙๐ อัตตชีวประวัติ อ.วศนิ อนิ ทสระ กม็ ี ปรญิ ญาโทกม็ ี ทท่ี าํ ปรญิ ญาเอกอยกู ม็ ี เทา ทจ่ี าํ ไดเ มอ่ื ขา พเจา ไปน้ัน สมเด็จพระพุทธชินวงศ (ประจวบ กนฺตาจาโร) ขณะน้ัน เปน พระกติ ตสิ ารมนุ ที าํ ปรญิ ญาเอกอยู จากมหาจฬุ าฯกม็ ี คอื ทา น มหาสงั วร พรหมเสน ทาํ ปรญิ ญาเอกอยู จบปรญิ ญาเอกแลว ลา สกิ ขาไปเปนอาจารยท ่ีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร คณะศลิ ปศาสตร ขา พเจา ทง้ั เรยี นและทง้ั เขยี นหนงั สอื เพอื่ หาทนุ ในการศกึ ษา คาหอพักและคาอาหาร จนน้ิวบางน้ิวคือน้ิวกลางมือขวาเปนตุม แข็งข้ึนมาและเจ็บเล็กนอยจึงตองใชปลาสเตอรพันไวตลอดเวลา ๒ ป กลับมาอยูเมืองไทยแลวก็ยังไมหาย แตตอนนี้ ไดหายแลว หนังสือที่เขียนในระยะน้ัน เชน ‘ทางแหงความดี’ บางเลม ‘สาระสําคัญแหงมงคล ๓๘’ (๒ เลม) ‘อันความกรุณาปรานี’ ‘ธรรมและชวี ิต’ เปน ตน เพื่อนผูหวังดีบางคนไดเตือนขาพเจาวา มัวมาน่ังเขียน หนังสืออยูเด๋ียวสอบตกไมไดกลับเมืองไทย ขาพเจารับคําเตือน เพียงแตย้ิมใหเขา แตในใจก็นึกวา เขาไมรูถึงความจําเปนของเรา ถงึ อยา งไรก็ขอบคุณทห่ี วังดี

๙๑มหาวทิ ยาลัยพาราณสี สาเหตอุ กี อยา งหนงึ่ ทท่ี าํ ใหเ ขยี นหนงั สอื กค็ อื ชอบทจี่ ะเขยี น ไดความรูอะไรแลวก็อยากจะเผื่อแผใหผูอ่ืนไดรูดวย ขอสารภาพไว ในทนี่ ว้ี า ไฟคอื ความอยากรแู ละการเผอื่ แผค วามรู ลกุ โพลงอยเู สมอ ในจิตใจของขาพเจาไมเคยมอดดับไปเลย แมจนกระทั่งบัดน้ี เม่ือ ขาพเจา อายุถึง ๗๗ แลว

๑๐ กลบั เมอื งไทย

เม่อื เคร่ืองบินรอนลงที่สนามบนิ ดอนเมืองนัน้ รสู ึกอบอุนและมคี วามสขุ เสยี นก่ี ระไร การไปอยูตางประเทศเสยี ๒ ป ทาํ ใหร สู กึ รักเมืองไทยขน้ึ อีกมาก เมอื่ สอบปลายปข องปท ี่ ๒ เสรจ็ แลว รอฟงผลสอบอยู ชวั่ ระยะเวลาหนงึ่ ประกาศผลออกมาวา สอบไดห มดทกุ วชิ า กเ็ ตรยี ม ตัวเดินทางกลับ ขาพเจาจําไดวามาถึงเมืองไทยเดือนกรกฎาคม ๒๕๑๕ วนั ทเ่ี ทา ไรจาํ ไมไ ด แตจ าํ ความรสู กึ ไดว า เมอื่ เครอ่ื งบนิ รอ น ลงที่สนามบินดอนเมืองนั้น รูสึกอบอุนและมีความสุขเสียนี่กระไร การไปอยูตางประเทศเสีย ๒ ป ทําใหรูสึกรักเมืองไทยข้ึนอีกมาก แมบ า นไปคอยรบั ทสี่ นามบนิ ดอนเมอื ง มาพกั ทบี่ า นพจี่ าํ นงคอ ยชู วั่

๙๔ อตั ตชวี ประวัติ อ.วศนิ อนิ ทสระ

๙๕กลับเมอื งไทย ระยะหนึ่ง ลูกชายอายุ ๒ ขวบกวาอบอุนอยูในหมูญาติ ขาพเจา ยงั ไมม อี ะไรทาํ เปน ชนิ้ เปน อนั กเ็ ขยี นหนงั สอื ไปเรอื่ ย ๆ จาํ ไดว า จบั เขียน ‘ทางแหงความดี’ เลม ๒ ในตอนนี้ ไปสอนพิเศษท่ีมหา มกฏุ ฯบา ง เขียนหนงั สือบาง ก็พอยังอตั ภาพใหเ ปน ไปได เชา วนั หนง่ึ นงั่ รถเมลไ ปเรอื่ ย ๆ อยา งไมม จี ดุ หมายปลายทาง ไปถงึ หนา จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลยั ตง้ั ใจวา จะนงั่ เลน ในมหาวทิ ยาลยั สกั พกั หนง่ึ พอลงรถกไ็ ดย นิ เสยี งเรยี กขา งหลงั เหลยี วไปดู เหน็ คณุ จาํ ธรรมฤทธ์ิ เปนรุนลูกศิษย เคยเกื้อกูลเขามาบางพอสมควร เขา ชวนคุยเร่ืองน่ันเร่ืองน่อี ยพู กั หน่งึ เขาทํางานขับรถทัวรบริษทั อะไร จําไมได เอาสมุดบัญชีธนาคารใหดู บอกวาตอนน้ีเขาพอมีสตางค ขนึ้ บา งแลว ถา ขา พเจา จะใชก ย็ นิ ดใี หย มื ขา พเจา ตกลงยมื เขา ๑ หมนื่ ตกลงจะผอ นสง คนื เขาเดอื นละเทา ไรจาํ ไมไ ด เงนิ ๑ หมน่ื สมยั พ.ศ. นั้นก็ไมนอ ยสาํ หรบั ขา พเจา ใหด อกเบี้ยเขาบางเลก็ นอย ไดเงินคา เขยี นหนงั สอื ‘ทางแหง ความด’ี เลม ๒ มา ๘ พนั รวมกนั เปน ๑ หมน่ื ๘ พนั บาท พอจะปลกู บา นเลก็ ๆ ไดใ นสมยั นนั้ (๒๕๑๖) พอดีตอนทีข่ าพเจายังอยทู ีอ่ นิ เดียน้นั แมบ านไดเ ชา ทไ่ี วแปลงหนึง่ ๕๔ ตารางวา จงึ เอาเงนิ ดงั กลา วมาปลกู บา นชนั้ เดยี วเลก็ ๆ อยไู ด ๓ คนพอ -แม- ลกู เปน บา นหลงั แรกทข่ี า พเจา มแี ละคดิ วา คงจะเปน หลังสุดทาย รูสึกมีความสุขขึ้นพอประมาณ บานหางจากบานพ่ี จาํ นงคเ พยี งมคี คู ลองเลก็ ๆ คนั่ กลาง มสี ะพานไมข า มเดนิ ถงึ กนั ได

๙๖ อัตตชีวประวัติ อ.วศิน อนิ ทสระ เมื่อปลูกบานเสร็จแลวอยูอาศัยไดแลว ไดเชิญคุณจํา ธรรมฤทธิ์ และเพ่ือนของเขามาเล้ียงอาหารเย็นเพื่อตอบแทนเขา ในนาํ้ ใจอนั ดงี าม* มฉิ ะนน้ั ขา พเจา คงไมม ที างสรา งบา นไดใ นระยะนี้ คณุ นา สาํ อาง ชเู กษ ไดท ราบขา ววา สรา งบา นกม็ าเยย่ี ม ชมวา ขา พเจา เกง กลับจากอินเดียไมกี่วันก็ปลูกบานได ขาพเจาก็ไดแตหัวเราะ เบา ๆ รว้ั รอบบา นยงั เปน ไมร ะแนงอยู ดา นตะวนั ตกเปน ทอ งรอ งสวน ซง่ึ ปจ จบุ นั นเี้ ปน ลานทจี่ อดรถของโรงเรยี นอนบุ าลเพอื่ นเดก็ งเู งย้ี ว ก็เล้ือยเขาออกได หองอาบนํ้าอยูนอกตัวบานติดกับร้ัว พ้ืนหอง อาบนํ้าเปนพ้ืนระดับเดียวกับพื้นบริเวณบาน ตัวบานยกพ้ืนสูงข้ึน ตักน้ําจากตุมอาบ มีอยูวันหนึ่งขาพเจารูสึกรอนรนกระวนกระวายที่จะไปให เลือดแกโรงพยาบาล จึงไดไปที่โรงพยาบาลวชิระ เขาแนะนําใหไป ใหท ีส่ ภากาชาดฯ แตจ าํ ไมไ ดแ มนวาไดใ หท ี่น่ันหรือไปท่ีสภากาชาดฯ แตจําไดวาไดใหเลือดแลวแนนอน กลับมาสบายใจเพราะไดทําส่ิงที่ อยากทาํ วนั รงุ ขนึ้ ตอนสาย ๆ ขา พเจา ลงไปอาบนาํ้ งสู นี าํ้ ตาลตวั ใหญ โผลห วั ออกมาจากใตต มุ ใกลข าของขา พเจา ประมาณ ๒ คบื ขา พเจา ขน้ึ จากหอ งอาบนา้ํ เอาไมย าวไปแหย ๆ ดู มนั กเ็ ลอื้ ยไปยงั ทอ งรอ งสวน * คณุ จาํ บอกวา ขาพเจา เคยเกอ้ื กูลเขาหลายครัง้ เม่อื เขาขาดแคลน สมัยท่ีขาพเจา พักอยู ที่หอพกั ธรรมนวิ าส

๙๗กลับเมืองไทย ขาพเจานึกทบทวนดู โยงไปถึงเหตุการณเมื่อวันวานวา ทาํ ไมขา พเจา จงึ รอ นรนกระวนกระวายนกั ในการทจ่ี ะไปใหเ ลอื ด ถา ไมไ ด เอาเลือดออกเสียตั้งแตเม่ือวาน วันน้ีคงถูกงูกัดเอาเลือดออกแน และแถวนม้ี ีงพู ษิ เชน งูกะปะ เปนตน งูตัวนั้นคงเปนงูกะปะและ ตวั ใหญเ สยี ดว ย โบราณทา นบอกวา ใหเ ชอ่ื แรงสงั หรณไ วบ า ง ขา พเจา คดิ วา แรงสังหรณก็คอื อานุภาพของจิตใตสํานกึ นน่ั เอง วนั หนงึ่ ขา พเจา ตนื่ แตเ ชา ประมาณตหี า นกึ อะไรขน้ึ มากไ็ ม ทราบ บอกแมบา นใหจดั ของใสบ าตรสกั สองสามองค ธรรมดาไม ไดใ สท กุ วนั ใสบ า งเวน บา ง แตว นั นนั้ บอกวา ใหจ ดั ของใสบ าตร เมอ่ื แมบานถามวา ทําไม ขาพเจาก็คงยืนยันอยูอยางเดิม และใหเขา เปน คนใสบ าตรดว ย เขากท็ าํ ตาม เสรจ็ แลว นง่ั รถสองแถวไปทาํ งาน กลบั มาตอนเยน็ เลา ใหข า พเจา ฟง วา เมอื่ รถไปถงึ หนา วดั ปากนาํ้ รถ ชนกัน เขาน่ังคูไปกับคนขับ กระจกแตกลงมาทวมตัว แตไมเปน อะไร ไมบ าดเจบ็ เขาเลยเขา ใจวา ทาํ ไมเมอื่ เชา จงึ รกุ เรา ใหเ ขาไปใสบ าตร เกยี่ วกบั เรอ่ื งศาลพระภมู ิ ทบ่ี า นไมไ ดต ง้ั ศาลพระภมู ิ เมอ่ื สรา งบา นเสรจ็ แลว ขา พเจา กจ็ ดุ ธปู บชู าเทวดา และนอ มนกึ วา ถา มี เทวดาอารักษอยูบริเวณนี้ ทานจะอยูตรงไหนในบานน้ีก็ได ทั้งนั้น ไมไ ดท าํ บา นเลก็ ๆ ใหอ ยู แตใ ครจะสรา งศาลพระภมู ไิ วใ นบา น ขา พเจา กไ็ มคัดคา น ไมว า อะไร

๑๑ ทห่ี อสมดุ แหงชาติ

อยูมาได ๖ เดือน ขาพเจา ก็ขอลาออกอีก ตอนนี้ตั้งใจแนน อนวา จะตอ งออกเดด็ ขาด รสู กึ วาขา พเจา เสยี เวลาไปทงั้ วัน ในการมาทําราชการ ถาเปน อยางนข้ี าพเจาไปทํางานของขาพเจา เอง นาจะเหมาะกวา เพราะเวลานัน้ ขาพเจา กย็ ังเขียนหนังสอื ออกเผยแพรอ ยู วนั หนงึ่ ไปหานาวาเอกสมภพ ภริ มย อธบิ ดกี รมศลิ ปากร ท่ีกรมศลิ ปากร ทา นมที าทดี ีใจท่ีไดพบ ถามวา ไดง านทไี่ หนทาํ แลว หรอื ยงั เรยี นทา นวา ยงั ไมม แี ตส นใจงานหอสมดุ แหง ชาติ ทา นหยบิ กระดาษสมดุ ฉกี ขน้ึ มาแลว เขยี นจดหมายถงึ ผอู าํ นวยการหอสมดุ แหง ชาติ ซง่ึ เวลาน้นั คืออาจารยแ มน มาศ ชวลติ ใหพิจารณารับขาพเจาไว นาวาเอกสมภพรูจักกับขาพเจา ต้ังแตสมัยที่ขาพเจาอยู โรงเรยี นเตรยี มทหาร ทา นเปน สถาปนกิ ออกแบบกอ สรา งตกึ โรงเรยี น เตรยี มทหารทถ่ี นนพระรามสี่ ใกลส วนลมุ พนิ ี ทา นมาเยย่ี มโรงเรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook