Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ

แผนการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ

Published by me.arunee, 2020-07-14 04:13:28

Description: แผนการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ

Search

Read the Text Version

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 2 คำส่งั จงเลือกคำตอบท่ถี กู ตอ้ งเพียงข้อเดียว 1. ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หมายถึงขอ้ ใด ก. คอมพิวเตอรท์ ่ีทำหน้าท่ีเปน็ ผู้ใหบ้ รกิ ารทรัพยากรตา่ ง ๆ ข. การนำเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ มาเช่ือมตอ่ เขา้ ด้วยกนั เพือ่ แลกเปลย่ี นข้อมลู ค. ระบบเฉพาะเจาะจงชนดิ หนงึ่ ทท่ี ำงานเก่ียวขอ้ งในการจัดเก็บ ง. องค์ประกอบหลกั ที่จะทำให้เคร่อื งคอมพวิ เตอร์สามารถทำงานไดส้ มบูรณ์ จ. การลดต้นทนุ ด้านการสอื่ สาร 2. ข้อใดบอกความหมายของคอมพิวเตอรแ์ ม่ข่ายไดถ้ ูกตอ้ ง ก. เปน็ เครอื ข่ายระบบแม่ ข. เป็นระบบท่มี ีความสามารถสงู ในการบริหารอินเทอรเ์ น็ต ค. เป็นระบบปฏบิ ตั ิการท่ีชว่ ยให้เราสรา้ งสรรคง์ าน ง. คอมพิวเตอรท์ ี่ทำหน้าที่เปน็ ผู้ให้บริการทรพั ยากรตา่ ง ๆ จ. เป็นตัวกระจายสญั ญาณ 3. หนา้ ที่ของการด์ เชือ่ มตอ่ เครือข่ายคือขอ้ ใด ก. แปลงสัญญาณจากคอมพวิ เตอรส์ ง่ ผ่านไปตามสายสัญญาณ ข. แปลงสัญญาณดิจติ อลส่งสายสัญญาณขอ้ มลู แบบอนาล็อก ค. ทำหน้าทีเ่ ป็นสถานปี ลายทางหรอื สถานีงาน ง. แปลงสัญญาณเพือ่ แลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร จ. ทำหน้าทใ่ี หบ้ รกิ ารอินเทอร์เน็ต 4. ฮบั (Hub) คืออะไร ก. อุปกรณ์เชอื่ มต่อทีใ่ ช้เป็นจุดรวม และแยกสายสัญญาณ ข. อุปกรณเ์ ชือ่ มต่อในจุดศนู ย์กลาง ค. การอัพเดทขอ้ มูลจากอินเทอรเ์ น็ต ง. อปุ กรณ์เชอ่ื มตอ่ ที่กระจายออกไปให้ท่ัวถึง จ. อปุ กรณท์ วนสัญญาณ 5. อปุ กรณส์ ำหรบั การแปลงสัญญาณอนาลอ็ กเปน็ สัญญาณดจิ ิตอลคอื ข้อใด ก. การ์ดเชอ่ื มต่อเครือข่าย ข. โมเดม็ ค. ฮับ ง. ซพี ียู จ. Router 6. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศท่ถี กู ตอ้ งที่สดุ คอื ข้อใด ก. วธิ กี ารปฏบิ ัติท่ีมีการจดั ลำดบั อย่างมีรูปแบบและขนั้ ตอน ข. วธิ กี ารปฏบิ ัตทิ ่ีมีการจัดลำดับอย่างมีรปู แบบและขั้นตอนเพ่อื ท่จี ะทำให้เกดิ ประสทิ ธิภาพในเรือ่ งของความ รวดเร็ว ความนา่ เช่ือถือ และความถูกตอ้ ง ค. ขอ้ มูลดบิ ท่ีได้ผ่านการประมวลผลจากคอมพวิ เตอร์ ง. เทคโนโลยที ่ีมีการนำคอมพิวเตอร์ การสือ่ สาร โทรคมนาคม มาทำงานรว่ มกนั

จ. การรวบรวมและการจดั เรยี งข้อมูลดิบ 7. ขอ้ ใดเก่ียวข้องกบั ระบบสารสนเทศ ก. การนำเคร่อื งทุนแรงมาใชใ้ นดา้ นการเกษตร ข. การนำเครอ่ื งจักรมาใช้ในโรงงานอตุ สาหกรรม ค. การหาความรใู้ นการใชเ้ ครอ่ื งจกั รกลทางอุตสาหกรรมเกษตร ง. การเพิ่มผลผลติ ในโลกกสิกรรม จ. การทำให้ธุรกิจดำเนนิ งานได้สะดวกข้ึน 8. นกั ศกึ ษาคดิ ว่าข้อใดคอื สารสนเทศ ก. คะแนนสอบของนกั เรียน ข. เกรดของนกั เรียน ค. คะแนนสอบรวม ง. คะแนนเวลาเรยี น จ. คะแนนจิตพิสยั 9. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศดา้ นบวกคือข้อใด ก. เพม่ิ ความสะดวกสบายในการสื่อสาร ข. ทำให้เกิดการเปล่ยี นแปลงวัฒนธรรม ค. การมีสว่ นรว่ มของคนในสงั คมน้อยลง ง. มีคนใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พิ่มมากข้ึน จ. ไม่มีขอ้ ใดถกู 10. แนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคตจะเป็นอย่างไร ก. เทคโนโลยีสารสนเทศจะไม่มอี ทิ ธพิ ลตอ่ ทกุ ๆคนในครอบครวั และหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ข. คอมพวิ เตอรจ์ ะกลายเปน็ เคร่ืองมือเครอื่ งใช้ในชีวติ ประจำวันเชน่ เดียวกับ รถยนต์ ตู้เย็น เครอ่ื งรับโทรทศั น์ ค. ระบบสือ่ สารแบบมีสายจะกลบั มาแทนระบบไร้สาย ง. พนกั งานจะทำงานมากขึน้ จ. คอมพิวเตอร์มรี าคาถกู ลง แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 2 คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามดังต่อไปนี้ 1. จงอธิบายความหมายของระบบเครอื ข่ายมาพอสังเขป ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………..…………… 2. ประเภทของระบบเครือขา่ ยมกี ี่ประเภท อะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………

3. เทคโนโลยีสารสนเทศ มีความหมายอยา่ งไรจงอธิบาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… 4. ผลกระทบด้านบวกของเทคโนโลยสี ารสนเทศมีอะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ตอนที่ 2 ให้นักศกึ ษาเติมคำท่ีหายไปจากประโยคดงั ต่อไปนี้ให้สมบรู ณ์และถกู ต้อง 1) ฮาร์ดแวร์ (..................................) คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ท่ีใช้ในการรวบรวม .......................... การ จดั เกบ็ การประมวลผลขอ้ มลู ให้เป็น.................... และแสดง.....................................ทเ่ี ป็นผลลัพธอ์ อกมา 2) ซอฟต์แวร์ (.........................) คือ ................................ที่ใช้ในการปฏิบัติงานรว่ มกบั ฮาร์ดแวร์และใช้ใน .....................................................................................................เป็นสารสนเทศตามท่ีตอ้ งการ 3) ข้อมูล (.........................) คือ ..........................................ที่ถูกเก็บอยู่ในฐานข้อมูล โดย ..................................................... คือ กล่มุ ของค่าความจรงิ และสารสนเทศท่ีมี...................................... 4) บุคคล (..............................) คือ ผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องกับ...............................และปฏิบัติงานร่วมกับ ................................................. 5) ขบวนการ (..........................) คือ กลุ่มของ....................................ที่แนะนำวิธีการปฏิบัติงานกับ คอมพิวเตอร์ใน.............................................. อาจได้แก่ การแนะนำการควบคุมการเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ ............................................................................................ และวิธจี ัดการกับปญั หาทอ่ี าจเกดิ ขึน้ ได้ เป็นตน้ 6) การสื่อสารข้อมูล (................................) การส่งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์..................................... และ สามารถเช่ือมระบบคอมพิวเตอร์เขา้ กบั ....................................... (...............................) ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพได้

กิจกรรมนำสู่อาเซยี น หน่วยที่ 2 คำสั่ง : ใหน้ ักเรียนนำขอ้ ความไปใส่ลงในแผนผงั แสดงสว่ นประกอบของระบบสารสนเทศที่ใช้ คอมพวิ เตอร์แลว้ วาดภาพประกอบให้สอดคล้องกับขอ้ ความท่ีใสด่ ้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ ขอ้ มูล บคุ คล ขบวนการ (Data) (People) (Procedure) (Hardware) (Software) กิจกรรม บูรณาเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรม: คิดค้นคว้า อนาคตไกล จุดประสงค์ : เพ่ือให้นักเรียนรู้ระบบเครือขา่ ยและสารสนเทศ ภาระงาน 1. ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ให้แตล่ ะกลมุ่ รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับส่งิ ต่าง ๆ ท่ีช่วยเกดิ ความรู้คอมพวิ เตอร์และ อุปกรณ์โทรคมนาคม 2. จัดทำป้ายนิเทศ แผ่นพบั เพ่อื เผยแพร่ความรู้ และเพ่อื เป็นการประหยดั คา่ ใช้จ่าย 3. สรปุ การดำเนินงานเพ่อื รายงานครูผสู้ อน

กจิ กรรมบูรณาการจิตอาสา หนว่ ยท่ี 2 เรอื่ ง ระบบเครือข่ายและสารสนเทศ กจิ กรรมดา้ นบวกเพ่มิ ขนึ้ ด้านลบลดลง จุดประสงค์ เพ่ือให้นักเรยี นนำความรทู้ ่ีไดไ้ ปส่งเสรมิ การเกิดผลกระทบจากเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในดา้ นบวก และแก้ไขปัญหาผลกระทบดา้ นลบให้ลดน้อยลง ภาระงาน 1. ให้นักเรยี นจบั คู่กนั ตดิ ตอ่ กับสถานศึกษา เพอ่ื สำรวจการเกิดผลกระทบจากเทคโนโลยี สารสนเทศท้ังในด้านบวกและด้านลบ 2. นำขอ้ มลู ท่ีได้จากการสำรวจเพื่อหาข้อมูลหรือปรกึ ษาครผู สู้ อนในการสง่ เสรมิ การ เกดิ ผลกระทบจากเทคโนโลยสี ารสนเทศด้านบวก และแก้ปัญหาผลกระทบดา้ นลบ 3. นำขอ้ มลู และความรู้ทไ่ี ด้มาบรรยายเพ่ือให้ความรู้กับสถานศกึ ษาที่สำรวจ 4. เก็บภาพและขอ้ มูลในการใหค้ วามรู้สรปุ ส่งครูผู้สอนในรปู แบบรายงาน

แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 2 คำสงั่ จงเลอื กคำตอบทถี่ ูกต้องเพียงข้อเดียว 1. เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์คอื อะไร ก. เครือยขา่ ยคอมพวิ เตอร์ทต่ี งั้ แต่ 2 เครือ่ งข้นึ ไป ข. เครอื ยข่ายคอมพิวเตอรท์ ีต่ ั้งแต่ 6 เคร่อื งข้นึ ไป ค. เครือยข่ายคอมพวิ เตอร์ท่ีตั้งแต่ 10 เคร่ืองขึ้นไป ง. เครือยข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีตงั้ แต่ 15 เครือ่ งขึน้ ไป จ. เครือยข่ายคอมพิวเตอร์ที่ต้งั แต่ 20 เครื่องขน้ึ ไป 2. เครือขา่ ยระดับต่อไปน้ี สามารถติดตอ่ ส่งขอ้ มลู ระหวา่ งเครอ่ื งไดไ้ กลท่ีสดุ ก. เครือข่าย MAN ข. เครือขา่ ย WAN ค. เครือข่าย LAN ง. เครอื ขา่ ย PAN จ. ทุก ๆ เครือข่ายสามารถส่งข้อมูลได้ไกลเหมือน ๆ กนั ซ่ึงอยทู่ ่สี ายสัญญาณ 3. ขอ้ ใดเป็นลักษณะของสาย UTP ก. เหมอื นสายสัญญาณโทรศพั ทม์ ีทองแดงอยตู่ รงแนวกลางห้มุ ด้วยฉนวนและสายดิน ข. เหมอื นสายโทรศัพทต์ ามบ้านภายในประกอบด้วยสายทองแดง 4 เสน้ และหุ้มดว้ ยฉนวนภายนอก ค. คลา้ ยสายโทรศพั ท์ตามบ้านภายในประกอบดว้ ยสายทองแดง 8 เสน้ ง. คลา้ ยสายโทรศพั ท์ตามบ้านภายในประกอบด้วยสายทองแดง 8 เส้น ด้านนอกมฉี นวนหุ้ม จ. คลา้ ยสายโทรศพั ท์ตามบ้านภายในประกอบดว้ ยสายทองแดง 10 เส้น ดา้ นนอกมีฉนวนหุ้ม 4. สายสญั ญาณประเภทใดทม่ี รี าคาแพงท่ีสุด ก. สายโคแอก๊ เชยี ล ข. สายไฟเบอร์ออฟติก ค. สายยูทีพี ง. สายเอสทีพี จ. สายโคแอ๊กออฟติก 5. Wirless LAN หมายถงึ ขอ้ ใด ก. เครอื ขา่ ย LAN ที่ใช้สาย UTP ในการเชอื่ มต่อ ข. เครือขา่ ย LAN ทีใ่ ชส้ าย Coxcial ในการเชอ่ื มตอ่ ค. เครอื ข่าย LAN ทใ่ี ช้สาย Fiber Optic ในการเชอื่ มต่อ ง. เครือขา่ ยทีไ่ ม่ใช้สายในการเช่ือมตอ่ แต่ใช้คล่ืนวิทยุแทน จ.ถกู ทุกข้อท่ีกลา่ วมา 6. ขอ้ ใดกล่าวถึงขอ้ มูลและสารสนเทศไดถ้ ูกตอ้ ง ก. ข้อมูลคือข้อมูลดบิ ทีไ่ ดผ้ า่ นการประมวลผลมาแลว้ ข. สารสนเทศคือ ขอ้ เท็จจรงิ ทีเ่ กีย่ วข้องกับบุคคล ค. สารสนเทศคอื ขอ้ เทจ็ จริงทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั สถานท่ี ง. สารสนเทศคือ ขอ้ มูลดิบทีผ่ ่านการประมวลผลในหนว่ ยประมวลผลกลางมาแล้ว จ. ข้อมลู คือ ผลลพั ธ์ทนี่ ำมาใช้ในการตัดสนิ ใจ

7. ขอ้ ใดเป็นผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศดา้ นคณุ ภาพชีวิต ก. ออกแบบสิง่ ของเครอื่ งใชไ้ ด้ง่ายดว้ ยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ข. ผลิตอาหารกระปอ๋ งเสร็จไดร้ วดเร็วในเวลาจำกัด ค. หนภี ยั ธรรมชาตไิ ดท้ นั เวลาเพราะดูขา่ วโทรทศั น์ ง. เดนิ ทางสะดวกดว้ ยรถไฟฟ้า จ. ไมม่ ีข้อใดถูกต้อง 8. ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ ง ก.เทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มามบี ทบาทตอ่ ชวี ติ ประจำวัน ข.เทคโนโลยสี ารสนเทศมบี ทบาทสำคัญต่อการแข่งขนั ด้านธุรกิจ ค.เทคโนโลยีสารสนเทศมกี ารพฒั นาอยา่ งช้า ๆ ง.คอมพวิ เตอร์เป็นปจั จัยสำคัญในการพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ มดา้ นสารสนเทศ จ.คอมพวิ เตอรเ์ ป็นปจั จยั สำคัญในการพฒั นาเทคโนโลยสี ารสนเทศ 9. เทคโนโลยีสารสนเทศชว่ ยเพิม่ ประสิทธิภาพในการทำงานอย่างไร ก. ช่วยลดจำนวนพนกั งานลง ข. ชว่ ยเพม่ิ เวลาในการทำงานใหม้ ากขน้ึ ค. ชว่ ยให้ทำงานไดเ้ ร็วและถูกตอ้ งมากข้นึ ง. ชว่ ยให้ประหยดั ทรพั ยากรและรักษาส่งิ แวดลอ้ ม จ. ชว่ ยให้ค่าใชจ้ า่ ยเร่อื งบุคลากร 10.เทคโนโลยสี ารสนเทศส่งผลใหเ้ กิดความเสมอภาคในสังคม ก. ชว่ ยกระจายโอกาส ข. ช่วยเสริมสรา้ งรายได้ ค. ชว่ ยลดปัญหาอาชญากรรม ง. ชว่ ยลดความเสีย่ งในการตกงาน จ. ชว่ ยเพิม่ ศกั ยภาพในการทำงาน

แบบประเมนิ ผลการนำเสนอผลงาน ชื่อกล่มุ ……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง........................... รายช่ือสมาชกิ 1……………………………………เลขท…ี่ …. 2……………………………………เลขท…ี่ …. 3……………………………………เลขท…ี่ …. 4……………………………………เลขท…่ี …. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ข้อคดิ เหน็ 32 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรเู้ ก่ียวกบั เนอื้ หา ความถกู ต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รปู แบบการนำเสนอ 3 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลุ่ม 4 บคุ ลิกลักษณะ กิรยิ า ท่าทางในการพูด น้ำเสยี ง ซึ่งทำให้ผู้ฟังมคี วาม สนใจ รวม ผู้ประเมนิ ………………………………………………… เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลมุ ชัดเจนถกู ต้อง 3 คะแนน = มีสาระสำคญั ครบถว้ นถกู ตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบถว้ น แต่ตรงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคญั ไมถ่ กู ต้อง ไมต่ รงตามจดุ ประสงค์ 2. รปู แบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอท่ีเหมาะสม มีการใช้เทคนคิ ทแี่ ปลกใหม่ ใชส้ อื่ และเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอทีน่ ่าสนใจ นำวสั ดใุ นท้องถน่ิ มาประยุกต์ใชอ้ ยา่ งคุ้มค่าและประหยดั 2 คะแนน = มีเทคนคิ การนำเสนอทีแ่ ปลกใหม่ ใช้ส่อื และเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอท่นี ่าสน ใจ แต่ขาดการประยุกตใ์ ช้ วัสดใุ นท้องถน่ิ 1 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญ่มบี ทบาทและมีส่วนรว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกสว่ นนอ้ ยมบี ทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกล่มุ 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟงั มากกวา่ รอ้ ยละ 90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟงั ร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังนอ้ ยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื

แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ ช่ือกลุม่ ……………………………………………ชน้ั ………………………ห้อง........................... รายช่อื สมาชิก 1……………………………………เลขท…ี่ …. 2……………………………………เลขท…ี่ …. 3……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท…่ี …. ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คดิ เหน็ 321 1 การกำหนดเปา้ หมายร่วมกนั 2 การแบ่งหน้าทร่ี บั ผดิ ชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบตั ิหน้าทที่ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย 4 การประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ งาน รวม ผูป้ ระเมิน………………………………………………… วันท่ี…………เดอื น……………………..พ.ศ………….. เกณฑก์ ารให้คะแนน 1. การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมีสว่ นรว่ มในการกำหนดเปา้ หมายการทำงานอยา่ งชดั เจน 2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญ่มสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมีสว่ นร่วมในการกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน 2. การมอบหมายหนา้ ที่รบั ผดิ ชอบและการเตรยี มความพรอ้ ม 3 คะแนน = กระจายงานได้ท่วั ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ / อุปกรณไ์ วอ้ ย่างพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้ ่วั ถึง แตไ่ ม่ตรงตามความสามารถ และมสี อ่ื / อุปกรณไ์ ว้อยา่ งพร้อมเพรยี ง แตข่ าด การจดั เตรียมสถานท่ี 1 คะแนน = กระจายงานไมท่ ่ัวถงึ และมสี ่ือ / อปุ กรณ์ไมเ่ พยี งพอ 3. การปฏิบัติหนา้ ทท่ี ่ไี ดร้ ับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเรจ็ ตามเปา้ หมาย และตามเวลาที่กำหนด 2 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเร็จตามเป้าหมาย แตช่ า้ กว่าเวลาทก่ี ำหนด 1 คะแนน = ทำงานไมส่ ำเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมนิ ผลและปรบั ปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนร่วมปรกึ ษาหารอื ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรุงงานเปน็ ระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมสี ว่ นรว่ มปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชกิ บางส่วนมีสว่ นร่วมไมม่ ีส่วนรว่ มปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนรว่ มปรกึ ษาหารือ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรงุ งานเปน็ ระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นมีส่วนร่วมปรึกษาหารอื แต่ไมป่ รบั ปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นมสี ว่ นรว่ มไม่มสี ว่ นรว่ มปรกึ ษาหารอื และปรบั ปรุงงาน

รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้หน่วยท่ี 3 • จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 1 อธบิ ายความหมายของการจดั เกบ็ และค้นคนื สารสนเทศได้ 10.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 11.เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ 12.เกณฑ์การให้คะแนน : อธิบายความหมายของการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศได้ จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 2 ให้คำจำกดั ความสำคญั ของการจดั เก็บและค้นคืนสารสนเทศได้ 10.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 11.เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ 12.เกณฑ์การให้คะแนน : ให้คำจำกัดความสำคัญของการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศได้ จะได้ 1 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 3 แยกส่วนประกอบของเคร่ืองมอื ในการสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศได้ 10.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 11.เคร่อื งมอื : แบบทดสอบ 12.เกณฑ์การใหค้ ะแนน : แยกสว่ นประกอบของเครื่องมอื ในการสบื คน้ ข้อมลู สารสนเทศได้ จะได้ 1 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 4 วิเคราะห์เทคโนโลยีสารสนเทศและมาตรฐานในการจัดเก็บและคน้ คว้า สารสนเทศได้ 10.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 11.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ 12.เกณฑ์การให้คะแนน : วิเคราะห์เทคโนโลยีสารสนเทศและมาตรฐานในการจดั เกบ็ และคน้ คว้า สารสนเทศได้ จะได้ 1 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 5 เลือกทฤษฎีพื้นฐานและการประเมินระบบจัดเก็บและการค้นคืน สารสนเทศได้ 10.วิธีการประเมิน : ทดสอบ 11.เครื่องมอื : แบบทดสอบ 12.เกณฑก์ ารให้คะแนน : เลอื กทฤษฎีพื้นฐานและการประเมนิ ระบบจดั เก็บและการค้นคืน สารสนเทศได้ จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ขอ้ ท่ี 6 สบื ค้นข้อมลู สารสนเทศได้ 7. วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 8. เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ 9. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : สืบคน้ ข้อมูลสารสนเทศได้ จะได้ 1 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 7 สืบค้นขอ้ มลู สารสนเทศจากอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 7. วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ 8. เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ 9. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : สืบค้นขอ้ มูลสารสนเทศจากอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ จะได้ 2 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 8 ประยกุ ต์ใช้เครื่องมอื การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศได้ 7. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 8. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 9. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ประยุกตใ์ ช้เครอื่ งมือการสบื คน้ ข้อมลู สารสนเทศได้ จะได้ 1 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 9 ตระหนึกถึงประโยชนข์ องอินเทอร์เนต็ และนำไปปรบั ใชใ้ นการทำงาน ได้ 4. วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 5. เครอื่ งมอื : แบบทดสอบ 6. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : นำประโยชนข์ องอนิ เทอรเ์ น็ตไปปรับใช้ในการทำงานได้ จะได้ 1 คะแนน

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 3 คำสงั่ จงเลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งเพยี งข้อเดยี ว 1. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งท่ีสุด ก. การศกึ ษาคน้ ควา้ และรวบรวมขอ้ มลู ควรเรียนร้จู ากสถานท่ีจรงิ เทา่ น้ัน ข. การศึกษาค้นคว้าอยา่ งกว้างขวางควรอ่านจากเอกสารให้มาก ๆ ค. การศกึ ษาค้นคว้าใหไ้ ดร้ บั ความรมู้ ากควรอ่าน จากเอกสารและเรยี นรจู้ ากสถานที่อนื่ ๆ ง. การศึกษาค้นคว้าควรเร่ิมจากสือ่ อนิ เทอรเ์ น็ต จ. การศกึ ษาคน้ คว้าควรศึกษาจากเทคโนโลยีทีห่ ลากหลาย 2. ข้อใดคอื วัตถปุ ระสงค์ของการสบื ค้นสารสนเทศ ก. เพ่ือดำเนินงานหรือประกอบธุรกจิ ข. เพ่อื ความบนั เทงิ และพักผอ่ นหย่อนใจ ค. เพื่อการเผยแพรข่ ้อมูล ง. เพ่ือใช้ติดตอ่ ส่ือสาร จ. ขอ้ 1 และขอ้ 2 ถกู 3. เม่อื นกั ศึกษาพบบัตรรายการหรือพบข้อมูลเก่ียวกับหนงั สอื ทีต่ อ้ งการจากเครอื่ งคอมพิวเตอร์แล้วข้อใดคอื ตวั บง่ ชใี้ ห้นกั ศึกษาไปหยิบหนงั สือบนชัน้ ได้ ก. ชอ่ื ผู้แต่ง ข. ชอ่ื หนงั สอื ค. เลขหมหู่ นงั สอื ง. เลขเรยี กหนงั สือ จ. แนวสืบคน้ 4. ต้องการค้นหาขอ้ มูลความเคล่ือนไหวของสำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษาควรค้นหาจากขอ้ ใด ก. เว็บไซต์ของ สอศ. ข. หนงั สือแนะนำ สอศ. ค. วารสาร สอศ. ง. รายงานประจำปขี อง สอศ. จ. ฐานข้อมูลซีดรี อมของ สอศ. 5. ข้อใดเปน็ แหล่งสารสนเทศบนอนิ เทอร์เนต็ ก. ฐานข้อมูลเชงิ พาณิชย์ ข. ซีดรี อม ค. บริการรบั ส่งสินค้า ง. ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ จ. บริการรบั สง่ จดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ 6.ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระเภทของการคน้ หาข้อมลู ก.Search Engine ข.Search Directories ค.Metasearch ง. Google จ.Education

7. ข้อใดคือแหลง่ สารสนเทศบุคคล ก. ปราชญ์ชาวบ้าน ข. ศนู ย์ขอ้ มูล ค. ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ง. รา้ นหนังสอื จ. ทอี่ า่ นหนังสือพมิ พป์ ระจาหมบู่ า้ น 8. ข้อใดคอื เครอื่ งมอื ในการสบื ค้นสารสนเทศดว้ ยระบบมอื ก. บัตรประจาตัวนักศึกษา ข. บตั รสมาร์ทการ์ด ค. บัตรสมาชิกห้องสมดุ ง. บตั รรายการ จ. รหสั ผ่านการเขา้ ถึงข้อมูล 9. เครอ่ื งมือสืบค้นด้วยระบบคอมพวิ เตอร์คือขอ้ ใด ก. บัตรรายการ ข. อินเตอร์เน็ต ค. โอแพค ง. ดรรชนวี ารสาร จ. ระบบฐานข้อมูล 10. การสืบค้นสารสนเทศมีกีว่ ิธี ก. 2 วิธี ข. 3 วธิ ี ค. 4 วธิ ี ง. 5 วธิ ี จ. 6 วธิ ี แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 3 คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามดงั ตอ่ ไปน้ี 1. จงอธิบายความหมายการสืบคน้ ข้อมูลสารสนเทศ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………..…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………… 2. ส่วนประกอบของเคร่อื งมอื ในการสบื ค้นข้อมลู สารสนเทศ มอี ะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..……………

3. การจดั เก็บและการค้นคนื สารสนเทศ มีความหมายอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………… ตอนท่ี 2 ให้นักศึกษาลงเรยี งลำดับกอ่ นหลังของการประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถอื ของแหลง่ ขอ้ มลู การประเมินความนา่ เชื่อถือของแหล่งงขอ้ มลู 1. บอกวตั ถปุ ระสงค์ในการสร้างหรอื เผยแพร่ข้อมูลไว้ในเวบ็ ไซต์ 2. มกี ารระบุวนั เวลาในการเผยแพรข่ อ้ มลู บนเวบ็ ไซต์ 3. เนอ้ื หาเวบ็ ไซต์ไม่ขดั ต่อกฎหมาย ศีลธรรม และจรยิ ธรรม 4. มกี ารระบชุ ่ือผูเ้ ขียนบทความหรือผใู้ ห้ข้อมูลบนเวบ็ ไซต์ 5. สามารถเชื่อมโยง (link)ไปเว็บไซต์อนื่ ทอี่ ้างถงึ ได้ 6. มีการใหท้ ่ีอยู่ (e-mail address) ทผี่ ู้อา่ นสามารถติดตอ่ ผ้ดู ูแลเวบ็ ไซตไ์ ด้ 7. มีการระบวุ นั เวลาในการปรับปรงุ ข้อมลู คร้ังล่าสดุ 8. มกี ารอ้างอิงหรอื ระบแุ หลง่ ทม่ี าของขอ้ มูลของเนอ้ื หาท่ีปรากฏบนเว็บไซต์ 9.มชี อ่ งทางใหผ้ ู้อ่านแสดงความคิดเหน็ 10.มขี อ้ ความเตือนผูอ้ า่ นใหใ้ ชว้ ิจารณญาณในการตัดสินใจใชข้ อ้ มูลที่ปรากฏบนเวบ็ ไซต์ 11. การเสนอเนอ้ื หาตรงตามวัตถุประสงค์ในการสร้างหรือเผยแพรข่ อ้ มลู ของเว็บไซต์ 12.มีการระบวุ า่ เปน็ เว็บไซต์ส่วนตวั หรอื ระบุแหลง่ ที่ให้การสนับสนนุ ในการสร้างเวบ็ ไซต์ ลำดบั ท่ีถูกตอ้ งคือ

กจิ กรรมนำสู่อาเซียน หน่วยที่ 3 คำสั่ง : ใหน้ กั ศึกษาคน้ หาหน้าเวบ็ ไซต์ดังต่อไปนี้ ให้ถูกตอ้ งและสัมพนั ธ์กนั http://www.yahoo.com http://www.google.com http://www.infoseek.com http://www.excite.com http://www.sanook.com http://www.siamguru.com กิจกรรม บรู ณาเศรษฐกจิ พอเพยี ง กจิ กรรม: คดิ คน้ คว้า อนาคตไกล จดุ ประสงค์ : เพอ่ื ให้นกั เรยี นรู้การสบื ค้นข้อมลู สารสนเทศ ภาระงาน 1. ใหน้ ักเรยี นจบั คู่ ให้แต่ละกลุ่มรวบรวมข้อมูลเก่ยี วกับสง่ิ ตา่ ง ๆ ทช่ี ว่ ยเกิดการสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศ 2. จัดทำป้ายนเิ ทศ แผ่นพบั เพ่ือเผยแพรค่ วามรู้ และเพื่อเป็นการประหยดั คา่ ใช้จ่าย 3. สรปุ การดำเนนิ งานเพื่อรายงานครผู ู้สอน

กิจกรรมบูรณาการจิตอาสา หน่วยท่ี 3 เร่ือง การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศ กิจกรรมด้านบวกเพิ่มขน้ึ ด้านลบลดลง จดุ ประสงค์ เพ่ือใหน้ ักเรียนนำความรทู้ ่ไี ด้จากการสบื ค้นข้อมลู สารสนเทศ ภาระงาน 1. ให้นักเรยี นจับคู่กนั จดั ทำขน้ั ตอนในการสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศดว้ ยโปรแกรมอื่น ที่ไม่มีในบทเรยี น 2. นำขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ ากการสำรวจเพอ่ื หาขอ้ มูลหรือปรกึ ษาครูผู้สอนกอ่ นจัดทำ 3. นำข้อมลู และความรู้ทไ่ี ดม้ าบรรยายหน้าช้ันเรียน 4. สรุปสง่ ครผู ู้สอนในรูปแบบรายงาน

แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยท่ี 3 คำสงั่ จงเลอื กคำตอบทีถ่ ูกต้องเพยี งขอ้ เดยี ว 1.ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเครอ่ื งมือในการสืบค้นขอ้ มลู สารสนเทศ ก. หน้าจอ ข. แปน้ พมิ พ์ ค. เมาส์ ง. ซอฟตแ์ วร์ จ. บคุ ลากร 2. ทกุ ข้อคอื ประโยชน์ของอินเทอร์เนต็ แตย่ กเวน้ ขอ้ ใด ก. ไม่ใชอ้ ินเทอร์เน็ตทางลามกอนาจาร ข. ไมใ่ ช้อินเทอร์เนต็ ในการพดู คุยสนทนา ค. ไมใ่ ช้อนิ เทอรเ์ น็ตในการกระทำการทจุ ริต ง. ไมใ่ ชอ้ ินเทอร์เน็ตทำลายผู้อนื่ จ. ไมใ่ ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ในการละเมิดสทิ ธขิ์ องผู้อืน่ 3. ข้อใดคอื โปรแกรมสำหรับการสืบคน้ (Search Engine) ของประเทศไทย ก. http://www.google.com ข. http://www.yahoo.com ค. http://www.excite.com ง. http://www.sanook.com จ. http://www.webcrawler.com 4. ข้อใดไมใ่ ช่ตัวเชอ่ื มบูลนี (Boolean Operators) ก. AND ข. NOT ค. OR ง. BEFORE จ. BETWEEN 5. หากตอ้ งการค้นหา คำทเ่ี ปน็ วลีจะต้องใส่เครื่องหมายอยา่ งไร ก. (*) ข. (“ ”) ค. (* *) ง. (/) จ. (+) 6. เทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มูล การตัดคำ ต้องใช้สญั ลักษณ์ใด ก. (*) ข. (“ ”) ค. (* *) ง. (/) จ. (+)

7. เพอื่ เป็นการตรวจสอบความน่าเชอ่ื ของแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศท่สี ืบค้นมาไดผ้ ูส้ ืบค้นสามารถประเมินความ น่าเชื่อถอื ของแหลง่ ขอ้ มลู ได้กอี่ งค์ประกอบ ก. 10 องค์ประกอบ ข. 11 องค์ประกอบ ค. 12 องค์ประกอบ ง. 13 องค์ประกอบ จ. 14 องค์ประกอบ 8. ขอ้ ใดไม่ใช่ขอ้ ดีของการสบื คน้ ข้อมูลสารสนเทศทางอนิ เทอรเ์ น็ต ก. ขอบเขตของขอ้ มลู สารสนเทศกวา้ งขวางมาก มีความหลากหลาย ไรพ้ รมแดน ข. สะดวก ไมม่ ขี ้อจำกัดในแง่ของเวลาและสถานท่ี ค. การได้ข้อมูลผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ ใชเ้ วลาสั้นมาก ง. มคี ่าใช้จ่ายในการคน้ หาข้อมูลคอ่ นข้างสงู จ. สง่ เสรมิ การเรียนรู้ด้วยตนเอง 9. ข้อใดตอ่ ไปนค้ี อื ขอ้ จำกัดของการสบื ค้นข้อมลู สารสนเทศทางอินเทอร์เนต็ ก. เนื้อหาเวบ็ ไซตไ์ มข่ ัดตอ่ กฎหมาย ศีลธรรม และจริยธรรม ข. ขอบเขตของขอ้ มลู สารสนเทศกวา้ งขวางมาก มีความหลากหลาย ไรพ้ รมแดน ค. การได้ข้อมูลผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตใช้เวลาส้ันมาก ง. การเสนอเนอ้ื หาตรงตามวัตถปุ ระสงค์ในการสรา้ งหรือเผยแพร่ข้อมลู ของเว็บไซต์ จ. ข้อมูลสารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ น็ตถูกปรับปรงุ แก้ไขได้อยา่ งรวดเร็ว ทำใหก้ ารอา้ งองิ เอกสารทำได้ ลำบาก 10. สิ่งใดตอ่ ไปน้ไี มเ่ ก่ยี วขอ้ งกับความสำคญั ของการจดั เกบ็ และการค้นคืนสารสนเทศต่อสถาบันบริการสรสนเทศ ก. เปน็ ตวั กลางเช่ือมโยงระหวา่ งผู้ผลติ สารสนเทศและแหลง่ ทรพั ยากรสารสนเทศกับ ผตู้ ้องการใชส้ ารสนเทศ ข. ก่อใหเ้ กิดการสง่ เสรมิ ในการถา่ ยโอนและไหลของสารสนเทศเป็นไปอย่างมปี ระ สทิ ธิภาพระหวา่ งผู้ตอ้ งการใช้สารสนเทศกับแหล่งทรัพยากรสารสนเทศ ค. เป็นการกลั่นกรองสารสนเทศในช่องทางถา่ ยโอนสารสนเทศที่เปน็ ทางการ ง. การพัฒนารูปแบบการดำเนนิ งานจดั เกบ็ และการคน้ คืนสารสนเทศ จ. ชว่ ยให้ผ้ใู ช้ไดร้ บั สารสนเทศท่ีถูกต้อง

แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน ชื่อกล่มุ ……………………………………………ชัน้ ………………………หอ้ ง........................... รายช่ือสมาชกิ 1……………………………………เลขท…ี่ …. 2……………………………………เลขท…ี่ …. 3……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท…่ี …. ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ข้อคิดเหน็ 32 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรูเ้ กี่ยวกับเน้ือหา ความถูกตอ้ ง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รปู แบบการนำเสนอ 3 การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลุ่ม 4 บุคลิกลักษณะ กิรยิ า ท่าทางในการพูด น้ำเสียง ซ่ึงทำให้ผ้ฟู ังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมนิ ………………………………………………… เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลมุ ชัดเจนถกู ตอ้ ง 3 คะแนน = มีสาระสำคญั ครบถว้ นถูกตอ้ ง ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบถ้วน แตต่ รงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคญั ไม่ถกู ตอ้ ง ไมต่ รงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคทแี่ ปลกใหม่ ใชส้ ื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอทีน่ ่าสนใจ นำวสั ดุในทอ้ งถิ่นมาประยกุ ต์ใชอ้ ยา่ งคุม้ ค่าและประหยดั 2 คะแนน = มเี ทคนคิ การนำเสนอทีแ่ ปลกใหม่ ใชส้ ่ือและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอท่นี ่าสน ใจ แต่ขาดการประยุกต์ใช้ วสั ดใุ นท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอไมเ่ หมาะสม และไมน่ า่ สนใจ 3. การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมบี ทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญม่ บี ทบาทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมบี ทบาทและมีสว่ นร่วมกจิ กรรมกล่มุ 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟงั มากกวา่ รอ้ ยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื 2 คะแนน = ผู้ฟงั ร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ

แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ ช่ือกลมุ่ ……………………………………………ชน้ั ………………………หอ้ ง........................... รายชือ่ สมาชกิ 1……………………………………เลขท…ี่ …. 2……………………………………เลขท…ี่ …. ข้อคดิ เหน็ 3……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท…่ี …. ที่ รายการประเมนิ คะแนน 1 การกำหนดเป้าหมายร่วมกนั 321 2 การแบง่ หนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบและการเตรยี มความพรอ้ ม 3 การปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีท่ไี ด้รบั มอบหมาย 4 การประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ งาน รวม ผูป้ ระเมนิ ………………………………………………… วันท…่ี ………เดอื น……………………..พ.ศ………….. เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. การกำหนดเปา้ หมายรว่ มกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีสว่ นร่วมในการกำหนดเปา้ หมายการทำงานอย่างชดั เจน 2 คะแนน = สมาชิกสว่ นใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชิกสว่ นนอ้ ยมสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 2. การมอบหมายหนา้ ทร่ี ับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทวั่ ถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทุกคน มีการจัดเตรยี มสถานท่ี ส่ือ / อุปกรณไ์ ว้อย่างพร้อมเพรยี ง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้ ่วั ถงึ แตไ่ ม่ตรงตามความสามารถ และมีส่อื / อุปกรณไ์ วอ้ ย่างพร้อมเพรยี ง แต่ขาด การจดั เตรยี มสถานท่ี 1 คะแนน = กระจายงานไมท่ ่ัวถงึ และมีส่อื / อุปกรณไ์ ม่เพยี งพอ 3. การปฏบิ ตั ิหนา้ ทท่ี ่ีได้รบั มอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเร็จตามเปา้ หมาย และตามเวลาทกี่ ำหนด 2 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย แต่ชา้ กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 1 คะแนน = ทำงานไมส่ ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนรว่ มปรกึ ษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเปน็ ระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นมีสว่ นร่วมปรึกษาหารอื แต่ไม่ปรับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นมีส่วนร่วมไมม่ สี ่วนร่วมปรกึ ษาหารอื และปรบั ปรงุ งาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนรว่ มปรึกษาหารอื ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรุงงานเปน็ ระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรกึ ษาหารอื แตไ่ มป่ รับปรงุ งาน 1 คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นมีสว่ นร่วมไมม่ ีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน

รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรียนรู้หนว่ ยท่ี 4 • จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 1 อธบิ ายความหมายของโปรแกรมสำเรจ็ รปู ได้ 13.วิธีการประเมิน : ทดสอบ 14.เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ 15.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธิบายความหมายของโปรแกรมสำเรจ็ รูปได้ จะได้ 1 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 2 จำแนกประเภทของซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตไ์ ด้ 13.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 14.เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 15.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : จำแนกประเภทของซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ได้ จะได้ 2 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 3 วเิ คราะห์ลกั ษณะสำคญั ของซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ได้ 13.วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ 14.เครื่องมอื : แบบทดสอบ 15.เกณฑก์ ารให้คะแนน : วเิ คราะห์ลักษณะสำคญั ของซอฟตแ์ วรป์ ระยุกตไ์ ด้ จะได้ 2 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 4 ใช้งานโปรแกรมประยุกตไ์ ด้ 13.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 14.เครอื่ งมอื : แบบทดสอบ 15.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ใชง้ านโปรแกรมประยุกตไ์ ด้ จะได้ 3 คะแนน • จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 5 ประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูปในการทำงานได้ 13.วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ 14.เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ 15.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูปในการทำงานได้ จะได้ 2 คะแนน

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยท่ี 4 คำสั่ง จงเลอื กคำตอบทีถ่ กู ต้องเพียงข้อเดยี ว 1.ซอฟต์แวร์ระบบกบั ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์เกี่ยวขอ้ งกนั อยา่ งไร ก. มีลกั ษณะการใชง้ านที่คลา้ ยคลึงกนั ข. มีประสทิ ธิภาพในการทำงานเท่าเทยี มกนั ค. มีระบบปฏบิ ัติการเปน็ สอื่ กลางการทำงาน ง. มหี นว่ ยความจำเพยี งพอในการจดั เก็บขอ้ มูล จ. มเี น้ือกทใี่ นการจัดสรรข้อมลู 2.ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์พฒั นาข้ึนเพือ่ อะไร ก. เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการ ข. เพือ่ ให้ใชง้ านคอมพวิ เตอรไ์ ดร้ วดเร็วขึ้น ค. เพือ่ ความต้องการขององคก์ รใดองค์กรหนึ่ง ง. ชว่ ยใหค้ อมพิวเตอรท์ ำงานตามความต้องการของผู้ใช้ จ. ช่วยทำใหผ้ ู้ใช้งานทำงานง่ายขน้ึ 3.ข้อใดไม่ใช่ภาษาโปรแกรมท่ีใกล้เคียงภาษามนุษย์ ก. ภาษาแอสเซมบลี (Assembly) ข. ภาษาซี (C) ค. ภาษาโคบอล (COBOL) ง. ภาษาจาวา จ. ภาษาจาวา# 4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประเภทของโปรแกรมสำเร็จรูป ก. โปรแกรมประมวลผลคำ ข. โปรแกรมสื่อสารระยะใกล้ ค. โปรแกรมเพอ่ื ความบันเทิง ง. โปรแกรมเขยี นแบบ จ. โปรแกรมจดั การฐานขอ้ มลู 5.ซอฟตแ์ วร์สำเร็จรูปทน่ี ิยมใช้กันทั่วไปมีก่ีกลุ่ม ก. 3 กลุม่ ข. 4 กลุม่ ค. 5 กลุ่ม ง. 6 กลุ่ม จ. 7 กลมุ่ 6. ซอฟต์แวรใ์ นข้อใดที่เป็นซอฟตแ์ วร์ดา้ นการคิดคำนวณ ก. Word processing software ข. Spread sheet software ค. Data base management software ง. Presentation software จ. Data communication software

7. ข้อใดไม่ใช่เมนูมาตรฐานของโปรแกรมเงนิ เดอื น ก. บนั ทึก ข. ประเภทรายได้ ค. มาสาย ง. ค่าคงที่ OT จ. กำหนดการหักลดหย่อน 8. รูปแบบในการคิดประกนั สงั คมมีกร่ี ูปแบบ ก. 2 รูปแบบ ข. 3 รปู แบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รปู แบบ จ. 6 รปู แบบ 9. ขอ้ ใดคือความหมายของ Consignor ก. ตัวแทน ข. ผู้ฝากขาย ค. ผ้รู บั ฝากขาย ง. นายหนา้ จ. ผู้คา้ สง่ ฝากขาย 10. ขอ้ ใดต่อไปนี้ คอื โปรแกรมวิเคราะหข์ ้อมลู ก. โปรแกรม Procom ข. โปรแกรม WellCall ค. โปรแกรม Payroll ง. โปรแกรม Express จ. โปรแกรม SPSS

แบบฝกึ หัด หน่วยท่ี 4 คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามดังตอ่ ไปนี้ 1. จงอธิบายความหมายโปรแกรมสำเรจ็ รปู ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………..……………………………………….…… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..………………………. 2. จงอธบิ ายลกั ษณะของซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..……………………….. 3. ประเภทของซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตม์ กี ป่ี ระเภท อะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..……………………….

ตอนที่ 2 ใหน้ กั ศกึ ษาหาข่าวสารที่เกี่ยวขอ้ งกับโปรแกรมสำเรจ็ รูป มาคนละ 1 ข่าวสารซ่ึงสามารถหาไดจ้ าก สื่อ หนงั สือพิมพ์ นิตยสาร หรือ อินเทอรเ์ น็ต ตดิ รูปข่าวสาร หวั ขอ้ ข่าวสาร : ............................................................................................................................................... เนื้อหาของข่าว : ............................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................... ..................................................... ......................................................................................................................................................................... ทีม่ า : ..............................................................................................................................................................

กิจกรรมนำสอู่ าเซียน หนว่ ยที่ 4 คำส่ัง : ให้นกั ศกึ ษาทำเคร่ืองหมาย ✓หนา้ รปู ภาพทน่ี กั ศกึ ษาคดิ ว่าใชโ่ ปรแกรมสำเร็จรูป และทำเคร่อื งหมาย  หนา้ รูปภาพทนี่ กั ศึกษาคิดว่าไมใ่ ช่โปรแกรมสำเร็จรปู

กิจกรรม บรู ณาเศรษฐกิจพอเพียง กจิ กรรม: คดิ ค้นควา้ อนาคตไกล จุดประสงค์ : เพ่อื ใหน้ กั เรยี นรู้การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูป ภาระงาน 1. ใหน้ ักเรียนจบั คู่ ให้แต่ละกลุ่มรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกบั สงิ่ ต่าง ๆ ทชี่ ว่ ยเกิดความรู้การประยกุ ต์ใช้ โปรแกรมสำเรจ็ รปู 2. จัดทำปา้ ยนเิ ทศ แผ่นพบั เพอื่ เผยแพรค่ วามรู้ และเพื่อเป็นการประหยัดคา่ ใชจ้ ่าย 3. สรุปการดำเนนิ งานเพื่อรายงานครผู ู้สอน กิจกรรมบรู ณาการจิตอาสา หน่วยท่ี 4 เร่ือง การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูป กจิ กรรมรู้จกั ข้ันตอน ทดสอบกอ่ นใช้จริง จุดประสงค์ เพอ่ื ให้นักเรียนนำความร้ทู ่ไี ด้จากการประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูป ภาระงาน 1. ให้นักเรยี นจับคู่กัน 2. นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาทำป้าย แผ่นพับ เพือ่ บอกขนั้ ตอนในการใช้โปรแกรม สำเร็จรูปทนี่ กั ศกึ ษาถนัดพร้อมอธิบายขั้นตอน อย่างละเอยี ด 3. นำขอ้ มลู และความรู้ทไี่ ดม้ าบรรยายหน้าชนั้ เรยี น 4. เกบ็ ภาพและขอ้ มูลในการให้ความรู้สรุปส่งครผู ู้สอนในรปู แบบรายงาน

แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 4 คำสง่ั จงเลอื กคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว 1.ขอ้ ใดคอื ความหมายของโปรแกรมสำเร็จรปู ก. ซอฟตแ์ วร์ หรือโปรแกรมประยกุ ตท์ ่มี ผี ู้จดั ทำไว้ เพื่อใช้ในการทำงานประเภทตา่ งๆ โดยท่ีผ้ใู ช้คนอนื่ ๆ สามารถนำโปรแกรมไปใชก้ ับข้อมูลของตนเองได้ ข. โปรแกรมที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงาน ของเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ ค. เป็นตัวกลางเช่ือมโยงระหว่าง ผู้ใชก้ ับคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เกิดความสะดวก ในการสั่งงานคอมพวิ เตอร์ ง. กลมุ่ ชดุ คำสั่งทใ่ี ช้อธิบายช้ินงาน หรอื กลมุ่ งานที่จะประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ จ. โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการจัดการระบบเพื่อติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับกับซอฟต์แวร์ประเภทตา่ ง ๆ ให้สะดวกมากขน้ึ 2. การตดิ ตอ่ สอื่ สารทางอินเตอรเ์ น็ต เป็นประเภทของโปรแกรมสำเรจ็ รปู แบบใด ก. โปรแกรมประมวลผลคำ ข. โปรแกรมเวบ็ เพจ ค. โปรแกรมสื่อสารระยะไกล ง. โปรแกรมการฟกิ ส์ จ. โปรแกรมเพือ่ ความบันเทงิ 3. การสรา้ งและจดั การรปู ภาพในคอมพวิ เตอร์ เป็นประเภทของโปรแกรมสำเร็จรปู แบบใด ก. โปรแกรมประมวลผลคำ ข. โปรแกรมเว็บเพจ ค. โปรแกรมสอ่ื สารระยะไกล ง. โปรแกรมการฟกิ ส์ จ. โปรแกรมเพอื่ ความบันเทิง 4. การคำนวณ สรา้ งกราฟ และจดั การดา้ นฐานข้อมลู ก. โปรแกรมประมวลผลคำ ข. โปรแกรมตารางงาน ค. โปรแกรมจดั การฐานข้อมูล ง. โปรแกรมการฟิกส์ จ. โปรแกรมเขยี นแบบ 5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่โปรแกรมสำหรบั การใชง้ านอินเทอร์เนต็ ก. Internet Explorer ข. FireFox ค. FileZilla ง. Google Chrome จ. FireMozila

6. ขอ้ ใดไมเ่ กีย่ วขอ้ งกบั การเซ็ตค่ามาตรฐานให้กับพนักงานแตล่ ะคน ก. กำหนดมาตรฐานการทำงาน ข. กำหนดมาตรฐานประกันสงั คม ค. กำหนดประเภทรายได้ ง. กำหนดประเภทรายการหัก จ. กำหนดมาตรฐาน OT 7. รูปแบบการคิด OT มีกรี่ ปู แบบ ก. 2 รูปแบบ ข. 3 รปู แบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รูปแบบ จ. 6 รปู แบบ 8. ขอ้ ใดคอื ความหมายของ Consignee ก. ตัวแทน ข. ผฝู้ ากขาย ค. ผู้รบั ฝากขาย ง. นายหน้า จ. ผู้คา้ ส่งฝากขาย 9. การกำหนดชือ่ ตวั แปรในโปรแกรม Spss สามารถกำหนดเป็นตัวอกั ษรได้ไม่เกินก่ตี ัว ก. 6 ตวั อักษร ข. 7 ตัวอกั ษร ค. 8 ตวั อกั ษร ง. 9 ตัวอกั ษร จ. 10 ตวั อักษร 10. Missing เป็นการกำหนดค่าแบบใด ก. กำหนดช่ือหัวข้อ/ตวั แปร ข. กำหนดคา่ ให้กำหนดเป็น numeric ค. การกำหนดค่าทจ่ี ะไม่วิเคราะห์ ไมใ่ ช้ในการคำนวณ ง. การกำหนดค่าความกวา้ งของคอลมั น์ จ. การกำหนดทิศทางของตวั อักษรในช่องวา่ จะเป็น ซ้าย ขวา หรอื กลาง

แบบประเมนิ ผลการนำเสนอผลงาน ชื่อกล่มุ ……………………………………………ชัน้ ………………………หอ้ ง........................... รายช่ือสมาชิก 1……………………………………เลขท…ี่ …. 2……………………………………เลขท…ี่ …. 3……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท…่ี …. ท่ี รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเหน็ 32 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกบั เน้ือหา ความถกู ตอ้ ง ปฏิภาณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รปู แบบการนำเสนอ 3 การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลุ่ม 4 บคุ ลิกลักษณะ กิรยิ า ท่าทางในการพูด น้ำเสยี ง ซึ่งทำให้ผ้ฟู ังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมนิ ………………………………………………… เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลมุ ชัดเจนถกู ต้อง 3 คะแนน = มีสาระสำคญั ครบถ้วนถูกตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบถ้วน แตต่ รงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคญั ไม่ถกู ต้อง ไมต่ รงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคทแี่ ปลกใหม่ ใชส้ อื่ และเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอทีน่ า่ สนใจ นำวัสดุในทอ้ งถิ่นมาประยกุ ต์ใชอ้ ยา่ งคุม้ ค่าและประหยดั 2 คะแนน = มเี ทคนคิ การนำเสนอทีแ่ ปลกใหม่ ใชส้ ่ือและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอท่นี ่าสน ใจ แต่ขาดการประยุกต์ใช้ วัสดุในทอ้ งถิ่น 1 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอไมเ่ หมาะสม และไม่นา่ สนใจ 3. การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญม่ บี ทบาทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชิกสว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกล่มุ 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟงั มากกวา่ ร้อยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื 2 คะแนน = ผู้ฟงั ร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ

แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม ชอื่ กลมุ่ ……………………………………………ชน้ั ………………………ห้อง........................... รายช่อื สมาชกิ 1……………………………………เลขท…ี่ …. 2……………………………………เลขท…ี่ …. ข้อคดิ เหน็ 3……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท…ี่ …. ท่ี รายการประเมิน คะแนน 1 การกำหนดเป้าหมายรว่ มกนั 321 2 การแบ่งหน้าทร่ี ับผดิ ชอบและการเตรยี มความพรอ้ ม 3 การปฏิบตั หิ น้าท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4 การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน รวม ผูป้ ระเมนิ ………………………………………………… วนั ที่…………เดอื น……………………..พ.ศ………….. เกณฑ์การให้คะแนน 1. การกำหนดเป้าหมายรว่ มกนั 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมีสว่ นร่วมในการกำหนดเปา้ หมายการทำงานอย่างชดั เจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีสว่ นร่วมในการกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นน้อยมสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 2. การมอบหมายหนา้ ท่ีรับผิดชอบและการเตรยี มความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทวั่ ถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทกุ คน มีการจัดเตรยี มสถานท่ี ส่ือ / อปุ กรณไ์ วอ้ ย่างพร้อมเพรยี ง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้ ว่ั ถงึ แต่ไมต่ รงตามความสามารถ และมีส่อื / อุปกรณไ์ วอ้ ย่างพร้อมเพรยี ง แต่ขาด การจดั เตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ท่วั ถงึ และมีส่อื / อุปกรณไ์ มเ่ พยี งพอ 3. การปฏิบัตหิ น้าทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเปา้ หมาย และตามเวลาท่กี ำหนด 2 คะแนน = ทำงานได้สำเรจ็ ตามเปา้ หมาย แต่ช้ากวา่ เวลาท่ีกำหนด 1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเปา้ หมาย 4. การประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ งาน 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนรว่ มปรกึ ษาหารือ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรุงงานเปน็ ระยะ 2 คะแนน = สมาชกิ บางส่วนมีสว่ นรว่ มปรึกษาหารือ แต่ไมป่ รบั ปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นมีส่วนร่วมไม่มสี ่วนร่วมปรกึ ษาหารอื และปรบั ปรงุ งาน 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนรว่ มปรกึ ษาหารือ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรุงงานเปน็ ระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นมีส่วนรว่ มปรึกษาหารือ แตไ่ ม่ปรบั ปรงุ งาน 1 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นมีสว่ นร่วมไม่มสี ่วนรว่ มปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน

เฉลย กิจกรรม กจิ กรรมนำสู่อาเซยี น หน่วยที่ 1 คำสั่ง ให้นกั ศกึ ษาจบั ค่ขู อ้ ความ ท่กี าหนดให้ให้ถูกตอ้ ง System Analysis Speaker Programmer Monitor CPU Telecommunications

กจิ กรรมนำสอู่ าเซยี น หนว่ ยท่ี 2 คำสั่ง: ให้นกั เรียนนาขอ้ ความไปใส่ลงในแผนผงั แสดงส่วนประกอบของระบบสารสนเทศท่ใี ชค้ อมพิวเตอร์ แลว้ วาดภาพประกอบให้สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ความทใ่ี ส่ดว้ ย ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ ขอ้ มลู บคุ คล ขบวนการ (Hardware) (Software) (Data) (People) (Procedure) ซอฟตแ์ วร์ Software ส่อื สารข้อมลู (Telecommunication) บุคคล People ข้อมลู Data ฮาร์ดแวร์ Hardware ขบวนการ Procedure

กิจกรรมนำสอู่ าเซียน หน่วยท่ี 3 คำสั่ง : ให้นกั ศกึ ษาคน้ หาหนา้ เวบ็ ไซตด์ งั ตอ่ ไปน้ี ให้ถูกตอ้ งและสมั พนั ธ์กนั http://www.yahoo.com http://www.google.com http://www.infoseek.com http://www.excite.com http://www.sanook.com http://www.siamguru.com

กจิ กรรมนำสอู่ าเซียน หนว่ ยที่ 4 คาสงั่ : ให้นกั ศกึ ษาทาเคร่ืองหมาย ✓หนา้ รูปภาพทีน่ กั ศึกษาคิดว่าใช่โปรแกรมสาเร็จรูป และทา เคร่ืองหมาย  หนา้ รูปภาพท่ีนกั ศกึ ษาคดิ วา่ ไมใ่ ช่โปรแกรมสาเร็จรูป

กจิ กรรมนำสู่อาเซยี น หนว่ ยท่ี 5 คาส่งั : ใหน้ กั เรียนอธิบายแตล่ ะส่วนของหนา้ ตา่ งโปรแกรมน้ีอยา่ งละเอียด 12 3 8 9 7 4 6 10 5 หมายเลข สว่ นประกอบของหนา้ ต่างโปรแกรม หน้าท่ี 1. ปุ่ม แฟ้ม (File) ใชเ้ กบ็ คาส่งั ต่าง ๆ ท่ีใช้งานในโปรแกรม PowerPoint 2010 2. แถบเครื่องมอื ด่วน (Quick Access) ใชแ้ สดงคาสง่ั ที่ใชง้ านบอ่ ย ๆ ข้นึ มาเรียกใชง้ านไดท้ นั ที 3. แถบชื่อเร่ือง (Title bar) แสดงชื่อโปรแกรม และรายช่ือไฟลท์ ไี่ ดเ้ ปิ ดใชง้ านอยู่ 4. ปมุ่ ควบคุม Windows ใชค้ วบคมุ การ เปิ ด-ปิ ด และขยายหนา้ ต่างโปรแกรม 5. ริบบอน (Ribbon) เป็นแถบทใี่ ชร้ วบรวมเคร่ืองมือการใชง้ านเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั 6. ภ า พ น่ิ ง แ ล ะ เค้ า โค ร ง (Slide and ใชแ้ สดงแบบจาลองของภาพน่ิงท้งั หมดที่มอี ยใู่ นสไลด์ outline) โชว์ 7. หนา้ ต่างภาพน่งิ (Slide Pane) เป็นพ้นื ท่ที ใ่ี ชแ้ สดงรายละเอยี ดของสไลดโ์ ชว์ 8. หนา้ ตา่ งบันทึกยอ่ (Note Pane) เป็นส่วนทีใ่ ช้ใส่ขอ้ ความเพิ่มเติมลงไปในสไลดโ์ ชว์ 9. แถบสถานะ (Status Bar) ใชแ้ สดงรายละเอียดของสไลดโ์ ชวท์ ่ีเปิ ดข้ึนมาใชง้ าน 10. มุมมอง (View) เป็นส่วนท่ใี ช้เปลี่ยนมมุ มองในการแสดงสไลดโ์ ชว์



เฉลยแบบทดสอบ กอ่ น -หลงั แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 1 คำสั่ง จงเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ้ งเพียงขอ้ เดียว 1. ตอบ ข 2. ตอบ ง 3 ตอบ จ 4. ตอบ จ 5. ตอบ ก 6. ตอบ ก 7. ตอบ ข 8 ตอบ ง 9. ตอบ ก 10. ตอบ ก แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยที่ 1 คำสัง่ จงเลือกคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งเพียงขอ้ เดียว 1. ตอบ ข 2. ตอบ ค 3. ตอบ จ 4. ตอบ ข 5. ตอบ ง 6. ตอบ ก 7. ตอบ ก 8. ตอบ ง 9. ตอบ ข 10. ตอบ ข

แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 2 คำสั่ง จงเลือกคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งเพียงขอ้ เดียว 1. ตอบ ข 2. ตอบ ง 3 ตอบ ข 4. ตอบ ก 5. ตอบ ข 6. ตอบ ข 7. ตอบ ง 8 ตอบ ข 9. ตอบ ก 10. ตอบ ข แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยท่ี 2 คำสง่ั จงเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว 1. ตอบ ก 2. ตอบ ค 3. ตอบ ง 4. ตอบ ข 5. ตอบ ง 6. ตอบ ง 7. ตอบ ง 8. ตอบ ค 9. ตอบ ค 10. ตอบ ก

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยท่ี 3 คำสั่ง จงเลือกคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งเพียงขอ้ เดียว 1. ตอบ ค 2. ตอบ จ 3 ตอบ ง 4. ตอบ ก 5. ตอบ ก 6. ตอบ จ 7. ตอบ ก 8 ตอบ ง 9. ตอบ ค 10. ตอบ ก แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยท่ี 3 คำสง่ั จงเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว 1. ตอบ จ 2. ตอบ ข 3. ตอบ ง 4. ตอบ จ 5. ตอบ ข 6. ตอบ ก 7. ตอบ ค 8. ตอบ ง 9. ตอบ จ 10. ตอบ ง

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยท่ี 4 คำสั่ง จงเลือกคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งเพียงขอ้ เดียว 1. ตอบ ก 2. ตอบ ข 3 ตอบ จ 4. ตอบ ข 5. ตอบ ค 6. ตอบ ข 7. ตอบ ง 8 ตอบ ก 9. ตอบ ข 10. ตอบ จ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี 4 คำสง่ั จงเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว 1. ตอบ ก 2. ตอบ ค 3. ตอบ ง 4. ตอบ ข 5. ตอบ จ 6. ตอบ ข 7. ตอบ ก 8. ตอบ ค 9. ตอบ ค 10. ตอบ ค

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยที่ 5 คำสั่ง จงเลือกคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งเพียงขอ้ เดียว 1. ตอบ ข 2. ตอบ จ 3 ตอบ ค 4. ตอบ ง 5. ตอบ ง 6. ตอบ จ 7. ตอบ ก 8 ตอบ จ 9. ตอบ ง 10. ตอบ จ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 5 คำสง่ั จงเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว 1. ตอบ จ 2. ตอบ ก 3. ตอบ ค 4. ตอบ ง 5. ตอบ ง 6. ตอบ ข 7. ตอบ ก 8. ตอบ ค 9. ตอบ ค 10. ตอบ ข

เฉลยแบบฝกึ หัด แบบฝึกหัด หน่วยที่ 1 คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคำถำมดงั ตอ่ ไปน้ี 1.คอมพวิ เตอร์มีควำมมำยอยำ่ งไร จงอธิบำย แนวคำตอบ คอมพิวเตอร์ หมำยถงึ เครื่องจกั รอเิ ล็กทรอนิกส์ท่ีถูกสร้ำงข้ึนเพื่อใชท้ ำงำนแทนมนุษย์ ในดำ้ นกำรคิดคำนวณและสำมำรถจำขอ้ มูลท้ังตัวเลข และตวั อักษรไดเ้ พื่อกำรเรียกใช้งำนในคร้ังต่อไป นอกจำกน้ียงั สำมำรถจัดกำรกับสัญลักษณ์ได้ด้วยควำมเร็วสูงโดยปฏิบัติตำมข้ันตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยงั มีควำมสำมำรถในด้ำนต่ำง ๆ อีกมำก เช่น กำรเปรียบเทียบทำงตรรกศำสตร์ กำรรับส่ง ขอ้ มูล กำรจดั เกบ็ ขอ้ มลู ในตวั เคร่ืองและสำมำรถประมวลผลจำกขอ้ มลู ตำ่ ง ๆ ได้ 2. จงบอกประโยชน์ของคอมพิวเตอร์มำอยำ่ งนอ้ ย 2 ขอ้ แนวคำตอบ ประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์ 1. งานธรุ กิจ เช่น บริษทั ร้ำนคำ้ หำ้ งสรรพสินคำ้ ตลอดจนโรงงำนตำ่ งๆ ใชค้ อมพิวเตอร์ในกำรทำ บญั ชี งำนประมวลคำ และติดตอ่ กบั หน่วยงำนภำยนอกผ่ำนระบบโทรคมนำคม นอกจำกน้ีงำนอตุ สำหกรรม ส่วนใหญ่ก็ใชค้ อมพวิ เตอร์มำช่วยในกำรควบคุมกำรผลิต และกำรประกอบช้ินส่วนของอุปกรณ์ตำ่ งๆ เช่น โรงงำนประกอบรถยนต์ ซ่ึงทำให้กำรผลิตมีคณุ ภำพดีข้นึ บริษทั ยงั สำมำรถรับ หรืองำนธนำคำร ท่ีใหบ้ ริกำร ถอนเงินผำ่ นตฝู้ ำกถอนเงนิ อตั โนมตั ิ ( ATM ) และใชค้ อมพวิ เตอร์คดิ ดอกเบ้ียให้กบั ผูฝ้ ำกเงิน และกำรโอน เงนิ ระหวำ่ งบญั ชี เชื่อมโยงกนั เป็นระบบเครือข่ำย 2. งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สำมำรถนำคอมพวิ เตอร์มำใชใ้ นนำมำใชใ้ น ส่วนของกำรคำนวณที่คอ่ นขำ้ งซบั ซอ้ น เช่น งำนศกึ ษำโมเลกุลสำรเคมี วถิ กี ำรโคจรของกำรส่งจรวดไปสู่ อวกำศ หรืองำนทะเบียน กำรเงนิ สถติ ิ และเป็นอุปกรณส์ ำหรับกำรตรวจรักษำโรคได้ ซ่ึงจะใหผ้ ลที่แม่นยำ กวำ่ กำรตรวจดว้ ยวิธีเคมีแบบเดิม และใหก้ ำรรกั ษำไดร้ วดเร็วข้ึน 3. จงอธิบำยควำมหมำยของโทรคมนำคม แนวคำตอบ เป็นกำรส่งสำรสนเทศในรูปแบบของตวั อกั ษร ภำพและเสียงโดยใชค้ ลื่น แม่เหลก็ ไฟฟ้ำหรือกำรตดิ ต่อสำรจำกทห่ี น่ึงไปยงั อกี ทห่ี น่ึงไปยงั อกที่หน่ึงโดยใชพ้ ลงั งำนไฟฟ้ำใหไ้ หลไป ตำมสำยเคเบลิ ทองแดง เคเบิลเส้นใยแสง หรือโดยอำศยั คลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ำในกำรส่งสญั ญำณไปใน บรรยำกำศ เช่นกำรส่งวิทยุ โทรทศั น์ กำรส่งคล่ืนไมโครเวฟ และกำรส่งสัญญำณผ่ำนดำวเทยี ม โดยจดุ ที่ส่ง ข่ำวสำรกบั จุดรบั จะอยหู่ ่ำงไกลกนั และข่ำวสำรทสี่ ่งจะเฉพำะเจำะจงผรู้ บั คนใดคนหน่ึงหรือส่งให้ผรู้ บั ทว่ั ไป 4. อุปกรณ์โทรคมนำคมใดบำ้ งท่นี กั ศกึ ษำรู้จกั อยำ่ งนอ้ ยคนละ 3 อยำ่ ง แนวคำตอบ โทรศพั ท์ เครอ่ื งสง่ เอกสาร GPS คำตอบในข้อนี้อยู่ในดุลย์พินิจของครผุ ้สู อน

ตอนท่ี 2 ใหน้ กั ศึกษำเขยี นอธิบำยวำ่ รูปทำงดำ้ นขวำคอื รูปของอปุ กรณช์ นิดใด มีหนำ้ ท่ีอยำ่ งไรให้ถกู ตอ้ ง และสมบรู ณ์ทส่ี ุด CPU เป็ นส่วนท่ีสำคัญที่สุดของเคร่ือง คอมพิวเตอร์ ควบคุมกำรทำงำนของระบบ ท้ังหมดเป็ นส่วนท่ีเรียกโปรแกรมต่ำงๆ เพ่ื อ ส่ั ง ก ำร ใ ห้ ห น่ ว ย ป ร ะ ม ว ล ผ ล ก ล ำ ง ทำงำนตำมลำดบั เมาส์ (Mouse) คืออุปกรณ์ท่ีใช้ในกำรคลิก ดับเบ้ิล คลิก และเล่ือนตำแหน่งเพ่ือส่ังงำนให้คอมพิวเตอร์ ทำงำน ในกรณีท่ีไม่สำมำรถส่ังงำนทำงแป้นพิมพไ์ ด้ เมำส์จดั เป็นอปุ กรณด์ ำ้ นหน่วยป้อนขอ้ มลู เช่นเดียวกบั แป้นพมิ พแ์ ตใ่ ชง้ ำนในลกั ษณะทแ่ี ตกตำ่ งกนั จี พี เอ ส ( GPS) Global Positioning System หมำยถึง ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก โดยใช้ วิธี ก ำ รค ำ น วณ ต ำ แห น่ งพิ กัด ภู มิ ศ ำ ส ต ร์ ข อ ง อุปกรณ์รับสัญญำณ จำกค่ำตำแหน่งพิกัดจำก ดำวเทียมที่โคจรอยรู่ อบโลก ที่ส่งผ่ำนสัญญำณ นำฬิกำมำยงั โลก.

แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 2 คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคำถำมดงั ตอ่ ไปน้ี 1. จงอธิบำยควำมหมำยของระบบเครือขำ่ ยมำพอสงั เขป แนวคำตอบ หมำยถงึ กำรเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ต้งั แต่ 2 เคร่ืองข้ึนไปเขำ้ ดว้ ยกนั ดว้ ยสำยเคเบิล หรือ สื่ออื่นๆ ทำให้คอมพวิ เตอร์สำมำรถรับส่งขอ้ มลู แก่กนั และกนั ได้ 2. ประเภทของระบบเครือขำ่ ยมกี ี่ประเภท อะไรบำ้ ง แนวคำตอบ ระบบเครือข่ำยคอมพวิ เตอร์ แบง่ ตำมลกั ษณะกำรเชื่อมต่อทำงภมู ิศำสตร์ หรือ ระยะทำงกำรเชื่อมตอ่ สำมำรถแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ประเภท 1.LAN (Local Area Network) 2. MAN (Metropolitan Area Network) 3. WAN (Wide Area Network) 3. เทคโนโลยสี ำรสนเทศ มีควำมหมำยอยำ่ งไรจงอธิบำย แนวคำตอบ หมำยถึง วิธีกำรปฏิบตั ิทีม่ ีกำรจดั ลำดบั อยำ่ งมีรูปแบบและข้นั ตอน เพ่ือท่ีจะทำให้เกิด ประสิทธิภำพในเรื่องของควำมรวดเร็ว ควำมน่ำเชื่อถือ ควำมถูกต้อง ซ่ึงเป็ นเทคโนโลยีท่ีมีกำรนำ คอมพิวเตอร์ กำรส่ือสำรโทรคมนำคม และเทคโนโลยีสำหรับกำรผลิตในโรงงำนอุตสำหกรรมมำทำงำน ร่วมกันเพ่ือให้เกิดกำรแลกเปล่ียนสำรสนเทศ โดยนำข้อมูลป้อนเข้ำสู่เครื่องคอมพิวเตอร์แล้วทำกำร ประมวลผลเพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ำมตอ้ งกำร 4. ผลกระทบดำ้ นบวกของเทคโนโลยสี ำรสนเทศมอี ะไรบำ้ ง จงยกตวั อยำ่ ง แนวคำตอบ ขอยกตวั อยำ่ งผลกระทบดำ้ นบวกของเทคโนโลยสี ำรสนเทศ 2 ขอ้ ดงั น้ี คอื 1) การสร้างเสริมคุณภาพชีวิต เทคโนโลยีสำรสนเทศช่วยให้ควำมเป็ นอยู่ของมนุษย์ดีข้ึนช่วย ส่งเสริมให้มีประสิทธิภำพในกำรทำงำนมีเครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยอำนวยควำมสะดวกท่ีควบคุมดว้ ย คอมพิวเตอร์ เช่น ลิฟต์ เคร่ืองซักผำ้ เครื่องปรับอำกำศ วิทยุ โทรทศั น์ มีรำยกำรให้เลอื กชมไดม้ ำกมำย มีกำร แพร่กระจำยสัญญำณโทรทศั น์ผ่ำนดำวเทียม ทำให้ผูช้ มสำมำรถรับรู้ข่ำวสำรต่ำง ๆ จำกทว่ั ทุกมุมโลกได้ อยำ่ งรวดเร็ว 2) การเสริมสร้างความเสมอภาคในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีช่วยให้กำรกระจำย ข่ำวสำรไปไดท้ วั่ ทุกแห่ง แมแ้ ต่ในถิ่นทุรกนั ดำร มีกำรใช้ระบบกำรเรียนกำรสอนทำงไกล ทำให้เป็นกำร กระจำยโอกำสกำรเรียนรู้ไปยงั ถนิ่ ห่ำงไกล มีกำรพฒั นำระบบกำรรกั ษำพยำบำลผ่ำนเครือข่ำยสื่อสำรทำให้ ผปู้ ่ วยมโี อกำสไดร้ บั กำรรกั ษำอยำ่ งเท่ำเทียมกนั

ตอนที่ 2 ให้นกั ศึกษำเติมคำทีห่ ำยไปจำกประโยคดงั ต่อไปน้ีให้สมบูรณแ์ ละถกู ตอ้ ง 1) ฮำร์ดแวร์ (Hardware) คือ อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ทีใ่ ช้ในกำรรวบรวม นำเขำ้ กำรจดั เก็บกำร ประมวลผลขอ้ มลู ใหเ้ ป็นสำรสนเทศ และแสดงสำรสนเทศทเ่ี ป็นผลลพั ธ์ออกมำ 2) ซอฟตแ์ วร์ (Software) คอื โปรแกรมหรือชุดคำสงั่ ที่ใชใ้ นกำรปฏบิ ตั ิงำนร่วมกบั ฮำร์ดแวร์และใช้ ในกำรประมวลผลขอ้ มลู เป็นสำรสนเทศตำมที่ตอ้ งกำร 3) ขอ้ มูล (Data) คอื ขอ้ มลู และสำรสนเทศท่ีถกู เก็บอยใู่ นฐำนขอ้ มลู โดยฐำนขอ้ มูล คอื กลมุ่ ของคำ่ ควำมจริงและสำรสนเทศที่มีควำมเก่ียวขอ้ งกนั 4) บุคคล (People) คือ ผทู้ ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั กำรทำงำนและปฏิบตั งิ ำนร่วมกบั สำรสนเทศ 5) ขบวนกำร (Procedure) คอื กลมุ่ ของคำสั่งหรือกฎที่แนะนำวิธีกำรปฏบิ ตั ิงำนกบั คอมพวิ เตอร์ใน ระบบสำรสนเทศ อำจไดแ้ ก่ กำรแนะนำกำรควบคุมกำรเขำ้ ใชง้ ำนคอมพิวเตอร์ วิธีกำรสำรองขอ้ มูล สำรสนเทศในระบบ และวิธีจดั กำรกบั ปัญหำท่ีอำจเกิดข้ึนได้ เป็นตน้ 6) กำรส่ือสำรขอ้ มลู (Telecommunication) กำรส่งสัญญำณอิเล็กทรอนิกส์เพ่อื ติดตอ่ สื่อสำร และ สำมำรถเช่ือมระบบคอมพิวเตอร์เขำ้ กบั ระบบเครือข่ำย (Network) ที่มีประสิทธิภำพได้

แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 3 คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคำถำมดงั ต่อไปน้ี 1. จงอธิบำยควำมหมำยกำรสืบคน้ ขอ้ มูลสำรสนเทศ แนวคำตอบ การสืบค้นสารสนเทศ หมำยถงึ กระบวนกำรในกำรคน้ หำสำรสนเทศท่ตี อ้ งกำร โดย ใชเ้ คร่ืองมอื สืบคน้ รูปแบบตำ่ งๆ 2. ส่วนประกอบของเครื่องมอื ในกำรสืบคน้ ขอ้ มลู สำรสนเทศ มีอะไรบำ้ ง แนวคำตอบ ส่วนประกอบของเคร่ืองมอื ในกำรสืบคน้ ขอ้ มลู สำรสนเทศ ประกอบด้วย 1. หน้าจอ คือ อุปกรณ์ส่งออกข้อมูล (Output devices) หรือหน่วยแสดงผลประเภทหน่ึง ของ คอมพิวเตอร์โดยขอ้ มูลท่ีจอภำพแสดงผลน้นั มกั จะประกอบดว้ ยขอ้ มูลท้งั ทเ่ี ป็นตวั หนงั สือ และภำพกรำฟิ ก 2. แป้นพิมพ์ คือ อุปกรณ์นำเขำ้ ขอ้ มูล (Input devices) เป็ นอุปกรณ์หลกั ท่ีใช้ในกำรนำขอ้ มูลลง ในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ โดยปกติมกั จะมีลกั ษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผำ้ หรือใกลเ้ คียง มแี ป้นตำ่ ง ๆ ประมำณร้อย แป้นอยบู่ นคียบ์ อร์ด (ข้ึนอยกู่ บั ผงั แป้นพมิ พ)์ ซ่ึงถอดแบบมำจำกเครื่องพมิ พด์ ีด เพื่อใหก้ ำรป้อนขอ้ มูลท่เี ป็น อกั ขระและตวั เลขทำไดง้ ่ำยและสะดวกข้ึน แป้นพิมพ์จึงแยกแผงท่ีเป็นแป้นอกั ขระกบั แป้นตัวเลขแยกไว้ ต่ำงหำก 3.เมาส์ คือ อุปกรณ์นำเขำ้ ขอ้ มูล (Input devices) ท่ีใช้ในกำรควบคุมกำรใช้งำนใน คอมพิวเตอร์ ซ่ึงออกแบบ เพ่ือให้พอดีกบั กำรใช้งำนโดยส่วนโคง้ และส่วนเวำ้ จะโคง้ เขำ้ ตำมอุง้ มือของผู้ ใช้ โดยดำ้ นใต้ ของเมำส์จะมอี ุปกรณ์ ซ่ึงตรวจจบั กำรเคลอื่ นไหวของเมำส์ โดยส่งสญั ญำณ ไปทีค่ อมพวิ เตอร์ 4. เคส คอื กล่องสำหรับบรรจอุ ุปกรณ์ท่ีใช้ประมวลผลและหน่วยควำมจำของคอมพิวเตอร์ เอำไว้ ขำ้ งใน เพื่อประโยชน์ในกำรยึดอุปกรณ์ต่ำง ๆ ให้มีควำมมนั่ คง กะทดั รัด เคลื่อนยำ้ ยได้ ขณะเดียวกนั กเ็ พ่ือ ควำมปลอดภยั เช่น ป้องกนั ไฟดดู ป้องกนั อุปกรณส์ ูญหำย และกำรป้องกนั กำรส่งคล่นื รบกวน กำรทำงำน ของอุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ 5. ซอฟตแ์ วร์ (Software) เก่ียวกบั งำนของหอ้ งสมุด คอื โปรแกรมสืบคน้ สำรสนเทศ 3. กำรจดั เก็บและกำรคน้ คนื สำรสนเทศ มคี วำมหมำยอยำ่ งไร แนวคำตอบ การจัดเก็บและการค้นคืนสารสนเทศ เป็ นกระบวนกำรท้ังกำรคัดเลือกควบคุม โครงสร้ำงสำรสนเทศ กำรจดั หำ กำรจดั เก็บสำรสนเทศเพ่ือกำรเขำ้ ถงึ และกระบวนกำรสำคญั ใดๆ ในกำร แสวงหำทรัพยำกรสำรสนเทศ ซ่ึงครอบคลุมกำรค้นหำ กำรดึงสำรสนเทศที่เขำ้ เร่ือง เร่ืองใดเรื่องหน่ึง โดยเฉพำะจำกแหล่งต่ำงๆ ท้ัง แหล่งจดั เก็บภำยในและแหล่งภำยนอก เพื่อให้ผูใ้ ช้ไดร้ ับสำรสนเทศหรือ รำยกำรทรัพยำกรสำรสนเทศ ซ่ึงบรรจุเน้ือหำตรงตำมตอ้ งกำร และในกำรบริกำรจะนำส่งให้ผูใ้ ช้อย่ำง รวดเร็วทันกำรณ์ ท้ังน้ีกำรจัดเก็บและค้นคืนสำรสนเทศเป็ นระบบท่ีจัดทำท้ังดว้ ยแรงงำนคนและด้วย คอมพวิ เตอร

ตอนที่ 2 ให้นกั ศึกษำลงเรียงลำดบั กอ่ นหลงั ของกำรประเมินควำมน่ำเช่ือถอื ของแหล่งขอ้ มลู การประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของแหลง่ งข้อมลู 1. บอกวตั ถุประสงคใ์ นกำรสร้ำงหรือเผยแพร่ขอ้ มูลไวใ้ นเวบ็ ไซต์ 2. มกี ำรระบวุ นั เวลำในกำรเผยแพร่ขอ้ มูลบนเวบ็ ไซต์ 3. เน้ือหำเวบ็ ไซตไ์ มข่ ดั ตอ่ กฎหมำย ศลี ธรรม และจริยธรรม 4. มกี ำรระบุช่ือผเู้ ขียนบทควำมหรือผใู้ ห้ขอ้ มูลบนเวบ็ ไซต์ 5. สำมำรถเชื่อมโยง (link)ไปเวบ็ ไซตอ์ น่ื ทีอ่ ำ้ งถงึ ได้ 6. มกี ำรใหท้ อี่ ยู่ (e-mail address) ท่ผี อู้ ำ่ นสำมำรถติดตอ่ ผดู้ แู ลเวบ็ ไซตไ์ ด้ 7. มกี ำรระบุวนั เวลำในกำรปรบั ปรุงขอ้ มูลคร้ังลำ่ สุด 8. มีกำรอำ้ งองิ หรือระบุแหลง่ ท่มี ำของขอ้ มลู ของเน้ือหำทปี่ รำกฏบนเวบ็ ไซต์ 9.มชี ่องทำงให้ผอู้ ำ่ นแสดงควำมคดิ เห็น 10.มีขอ้ ควำมเตอื นผอู้ ำ่ นใหใ้ ชว้ จิ ำรณญำณในกำรตดั สินใจใชข้ อ้ มูลที่ปรำกฏบนเวบ็ ไซต์ 11. กำรเสนอเน้ือหำตรงตำมวตั ถปุ ระสงคใ์ นกำรสร้ำงหรือเผยแพร่ขอ้ มูลของเวบ็ ไซต์ 12.มีกำรระบุวำ่ เป็นเวบ็ ไซตส์ ่วนตวั หรือระบแุ หลง่ ที่ให้กำรสนบั สนุนในกำรสร้ำงเวบ็ ไซต์ ลำดบั ที่ถูกตอ้ งคือ 1 /11/3/4/6/8/5/2/7/9/10/12

แบบฝึกหัด หน่วยท่ี 4 คำช้ีแจง ให้นกั เรียนตอบคำถำมดงั ต่อไปน้ี 1. จงอธิบำยควำมหมำยโปรแกรมสำเร็จรูป แนวคำตอบ ซอฟตแ์ วร์ หรือโปรแกรมประยกุ ตท์ ี่มีผูจ้ ดั ทำไว้ เพื่อใชใ้ นกำรทำงำนประเภทต่ำงๆ โดยท่ผี ใู้ ชค้ นอื่นๆ สำมำรถนำโปรแกรมไปใชก้ บั ขอ้ มูลของตนเองได้ แตจ่ ะไมส่ ำมำรถทำกำรดดั แปลงหรือ แก้ไขโปรแกรมภำยในได้ ผูใ้ ช้ไม่จำเป็ นต้องเขียนโปรแกรมเองท้ังหมด ซ่ึงประหยดั เวลำและแรงงำน เพยี งแต่มำเรียนรู้วธิ ีใชเ้ ท่ำน้นั บำงคร้งั จะเรียกซอฟตแ์ วร์ประเภทน้ีว่ำ COTS : Commercial off the Shelf 2. จงอธิบำยลกั ษณะของซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ แนวคำตอบ กำรทีเ่ ทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ไดพ้ ฒั นำกำ้ วหนำ้ อยำ่ งรวดเร็วโดยเฉพำะกำรท่ีมคี อมพวิ เตอร์ ขนำดเลก็ ทำใหม้ ี กำรใชง้ ำนคล่องตวั ข้นึ จนในปัจจุบนั สำมำรถนำคอมพวิ เตอร์ขนำดเล็กตดิ ตวั ไปใชง้ ำนใน ทีต่ ำ่ งๆไดส้ ะดวกกำรใชง้ ำนคอมพวิ เตอร์ตอ้ งมซี อฟตแ์ วร์ประยกุ ตซ์ ่ึงอำจเป็นซอฟตแ์ วร์สำเร็จที่มีผพู้ ฒั นำ เพอ่ื ใชง้ ำนทวั่ ไป ทำให้ทำงำนไดส้ ะดวกข้ึนหรืออำจเป็นซอฟตแ์ วร์ใชง้ ำนเฉพำะซ่ึงผูใ้ ช้เป็นผูพ้ ฒั นำข้ึนเอง เพือ่ ให้เหมำะสม กบั สภำพกำรทำงำนของตนในบรรดำซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตท์ ม่ี ีใชก้ นั ทวั่ ไป 3. ประเภทของซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตม์ กี ่ีประเภท อะไรบำ้ ง แนวคำตอบ มี 2 ประเภท ประกอบดว้ ย (1) ซอฟต์แวรส์ ำเร็จ (package) : 1) ซอฟต์แวรป์ ระมวลคำ (word processing software) เป็นซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตใ์ ชส้ ำหรบั กำรพมิ พเ์ อกสำร สำมำรถแกไ้ ขเพมิ่ แทรก ลบ และจดั รูปแบบเอกสำรไดอ้ ยำ่ งดีเอกสำรที่พมิ พไ์ วจ้ ดั เป็น แฟ้มขอ้ มลู เรียกมำ พิมพห์ รือแกไ้ ขใหมไ่ ดก้ ำรพมิ พอ์ อกทำงเคร่ืองพิมพก์ ม็ รี ูปแบบตวั อกั ษรให้เลือกหลำย รูปแบบเอกสำรจึงดู เรียบร้อยสวยงำมปัจจุบนั มีกำรเพิม่ ขีดควำมสำมำรถของซอฟตแ์ วร์ประมวลคำอีก มำกมำยซอฟตแ์ วร์ประมวลคำที่นิยมอยใู่ นปัจจุบนั เช่น วินส์เวริ ์ดจุฬำจำรึก โลตสั เอมโิ ปร 2) ซอฟต์แวรต์ ารางทำงาน (spread sheet software) เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ีช่วยในกำรคดิ คำนวณกำรทำงำนของซอฟตแ์ วร์ตำรำงทำงำนใชห้ ลกั กำรเสมอื นมโี ต๊ะทำงำนทมี่ ีกระดำษขนำดใหญ่วำงไว้ มเี ครื่องมอื คลำ้ ยปำกกำยำงลบและเคร่ืองคำนวณเตรียมไวใ้ ห้เสร็จบนกระดำษมีช่องใหใ้ ส่ตวั เลขขอ้ ควำม หรือสูตร สำมำรถส่งั ให้คำนวณตำมสูตรหรือเงอื่ นไขท่ีกำหนดผใู้ ชซ้ อฟตแ์ วร์ตำรำงทำงำนสำมำรถ ประยกุ ตใ์ ชง้ ำนประมวลผลตวั เลขอ่นื ๆไดก้ วำ้ งขวำงซอฟตแ์ วร์ตำรำงทำงำนท่นี ิยมใชเ้ ช่น เอกเซล โลตสั 3) ซอฟตแ์ วร์จดั การฐานขอ้ มูล (data base management software) กำรใชง้ ำน คอมพิวเตอร์อยำ่ งหน่ึงคอื กำรใชเ้ กบ็ ขอ้ มูลและจดั กำรกบั ขอ้ มลู ทีจ่ ดั เก็บในคอมพวิ เตอร์จึง จำเป็นตอ้ งมซี อฟตแ์ วร์จดั กำรขอ้ มูล กำรรวบรวมขอ้ มลู หลำยๆเร่ืองที่เกี่ยวขอ้ งกนั ไวใ้ น คอมพิวเตอร์เรำกเ็ รียกวำ่ ฐำนขอ้ มูลซอฟตแ์ วร์จดั กำรฐำนขอ้ มลู จึงหมำยถึ ซอฟตแ์ วร์ที่ช่วยในกำร เกบ็ กำรเรียกคน้ มำใชง้ ำนกำรทำรำยงำนกำรสรุปผลจำกขอ้ มลู ซอฟตแ์ วร์จดั กำรฐำนขอ้ มูลท่ีนิยมใช้ เช่น เอกเซล ดีเบส พำรำดอ็ ก ฟ๊ อกเบส

4) ซอฟตแ์ วร์นำเสนอ (presentation software) เป็น ซอฟตแ์ วร์ทใ่ี ชส้ ำหรับนำเสนอขอ้ มลู กำรแสดงผลตอ้ งสำมำรถดึงดดู ควำมสนใจซอฟตแ์ วร์เหลำ่ น้ีจึงเป็นซอฟตแ์ วร์ท่นี อกจำกสำมำรถ แสดงขอ้ ควำม ในลกั ษณะทีจ่ ะส่ือควำมหมำยไดง้ ่ำยแลว้ จะตอ้ งสร้ำงแผนภมู ิ กรำฟ และรูปภำพ ได้ ตวั อยำ่ งของซอฟตแ์ วร์นำเสนอ เช่น เพำเวอร์พอยด์ โลตสั ฟรีแลนซ์ ฮำร์วำร์ดกรำฟิก 5) ซอฟต์แวรส์ อ่ื สารขอ้ มลู (data communication software) ซอฟตแ์ วร์ส่ือสำรขอ้ มูลน้ี หมำยถึง ซอฟตแ์ วร์ท่ีจะช่วยให้ไมโครคอมพิวเตอร์ติดตอ่ ส่ือสำรกบั เครื่องคอมพิวเตอร์อื่นในท่ี ห่ำงไกลโดยผ่ำนทำง สำยโทรศพั ท์ซอฟตแ์ วร์สื่อสำรใช้เชื่อมโยงตอ่ เขำ้ กบั ระบบเครือข่ำย คอมพวิ เตอร์ เช่น อนิ เทอร์เนต็ ทำให้สำมำรถใชบ้ ริกำรอนื่ ๆเพิ่มเตมิ ไดส้ ำมำรถใชร้ บั ส่งไปรษณีย์ อเิ ล็กทรอนิกส์ใชโ้ อนยำ้ ยแฟ้มขอ้ มลู ใชแ้ ลกเปลยี่ นขอ้ มูลอำ่ นข่ำวสำรนอกจำกน้ียงั ใชใ้ นกำรเช่ือม เขำ้ หำมนิ ิคอมพิวเตอร์หรือเมนเฟรมเพือ่ เรียกใชง้ ำนจำกเครื่องเหลำ่ น้นั ไดซ้ อฟตแ์ วร์ส่ือสำรขอ้ มูลท่ี นิยมมมี ำกมำยหลำยซอฟตแ์ วร์ เช่น โปรคอม ครอสทอลค์ เทลกิ (2) ซอฟตแ์ วร์ใชง้ านเฉพาะ กำรประยุกต์ใช้งำนด้วยซอฟต์แวร์สำเร็จมักจะเน้นกำรใช้งำนทั่วไปแต่อำจจะนำมำประยุกต์ โดยตรงกบั งำน ทำงธุรกิจบำงอยำ่ งไมไ่ ด้ เช่น ในกิจกำรธนำคำรมีกำรฝำกถอนเงนิ งำนทำงดำ้ นบญั ชีหรือใน ห้ำงสรรพสินคำ้ ก็มีงำนกำรขำยสินคำ้ กำรออกใบเสร็จรับเงินกำรควบคุมสินคำ้ คงคลงั ดงั น้ันจึงตอ้ งมีกำร พัฒนำซอฟต์แวร์ใช้งำนเฉพำะสำหรับงำนแต่ละประเภทให้ตรงกับควำมต้องกำรของผู้ใช้แต่ละรำย ซอฟตแ์ วร์ใชง้ ำนเฉพำะมกั เป็นซอฟตแ์ วร์ที่ผูพ้ ฒั นำตอ้ งเขำ้ ไปศึกษำรูปแบบกำรทำงำนหรือควำมตอ้ งกำร ของธุรกิจน้นั ๆแลว้ จดั ทำข้นึ โดยทวั่ ไปจะเป็ นซอฟต์แวร์ท่ีมหี ลำยส่วนรวมกนั เพื่อร่วมกนั ทำงำนซอฟต์แวร์ ใชง้ ำนเฉพำะท่ีใชก้ นั ในทำงธุรกิจ เช่น ระบบงำนทำงดำ้ นบญั ชี ระบบงำนจดั จำหน่ำย ระบบงำนในโรงงำน อตุ สำหกรรม บริหำรกำรเงิน และกำรเช่ำซ้ือควำมตอ้ งกำรของกำรใช้คอมพิวเตอร์ในงำนทำงธุรกิจยงั มีอีก มำกดงั น้นั จึงยงั มีควำมตอ้ งกำรผพู้ ฒั นำซอฟตแ์ วร์เพอ่ื พฒั นำซอฟตแ์ วร์ใชง้ ำนเฉพำะต่ำงๆอีกมำกมำย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook