มในาสตถรฐานานพกยาารบเกาลบ็ รพว.บศ.ร๒วม๕แ๕ล๙ะบนั ทกึ ข้อมลู สำนกั งานปลดั สกำรนะกัทนรโวยงบสาายธแารลณะยสทุ ขุ ธกศราะสทตรรว์ งสาธารณสขุ
มาตรฐานการเก็บรวบรวมและบนั ทกึ ขอมูลในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๙ คณะผจู ัดทาํ พอกเพิ่มดี ผอู าํ นวยการสํานกั นโยบายและยุทธศาสตร พรรณวดี นายแพทยชาํ นาญการ ทป่ี รึกษา นพ.พงศธร เปาอนิ ทร หวั หนาหนวยวิจยั เฉพาะทางรหัสมาตรฐานทางการ พญ.มานติ า ยืนยงสวุ รรณ แพทยแ ละสขุ ภาพระบบสาธารณสขุ ไทย คณะแพทยศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร บรรณาธกิ าร สาํ นักนโยบายและยทุ ธศาสตร รศ.ดร.นพ.วรรษา ดร.มะลิวัลย จัดทําโดย สาํ นกั นโยบายและยุทธศาสตร สาํ นักงานปลดั กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ISBN : 978-616-11-2840-1 พิมพค รัง้ ที่ 1 : มนี าคม ๒๕๕๙ จาํ นวน : ๑,๐๐๐ เลม พมิ พท่ี : สาํ นักกิจการโรงพิมพ องคการสงเคราะหทหารผานศึก ในพระบรมราชปู ถมั ภ
คาํ นํา มาตรฐานการเก็บรวบรวมและบันทึกขอมูลในสถานพยาบาล พ.ศ. 2559 ฉบับนี้เรียบเรียงและจัดทํา ข้ึนมาสําหรับใหบุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลใชเปนแนวทางปฏิบัติในการเก็บรวบรวมและบันทึก ขอมูลในสถานพยาบาลไดใชเปนแนวทางปฏิบัติ ซึ่งมีหลักเกณฑพ้ืนฐานการเก็บรวบรวมขอมูล หลักการ พื้นฐานการบันทึกขอมูล การเก็บรวบรวมขอมูลผูปวย การบันทึกขอมูลกิจกรรมการดูแลผูปวยนอก/ผูปวยใน รวมถึงหลกั การใหรหัสมาตรฐานและการจัดการเวชระเบียนในสถานพยาบาล สํานักนโยบายและยุทธศาสตร หวังเปนอยางย่ิงวามาตรฐานการเก็บรวบรวมและบันทึกขอมูลใน สถานพยาบาลฉบับนี้ จะชวยใหผูปฏิบัติงานมีความรูความเขาใจในการเก็บรวบรวมและบันทึกขอมูลใน สถานพยาบาลมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีผลทําใหขอมูลมีความครบถวน ครอบคลุมขอมูลการใหบริการตาง สามารถนํา ขอ มูลมาใชใ นการประมวลผลวเิ คราะหไ ดอ ยา งมปี ระสิทธิภาพตอไป สํานักนโยบายและยทุ ธศาสตร สาํ นักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ มีนาคม 2559
สารบัญ หนา เนื้อหา 1 บทที่ 1 หลกั การพน้ื ฐานการเกบ็ รวบรวมขอมลู (Data Collection) 2 2 1A. การลงทะเบียน 3 1B. การใหต อบแบบฟอรม หรอื แบบสอบถาม 3 1C. การซักถามหรอื สมั ภาษณ 4 1D. การสังเกตโดยตรงจากผเู กบ็ รวบรวมขอมลู 5 1E. การดรู ายงานจากแหลงอ่นื 5 บทที่ 2 หลกั การพ้นื ฐานการบันทกึ ขอมูล (Data Recording) 7 2A. การบันทกึ ขอมูลลงกระดาษ 10 2B. การบนั ทึกขอ มูลเขาสรู ะบบฐานขอ มลู 10 บทท่ี 3 การเก็บรวบรวมขอ มูลผูปวย (Patient Data Collection) 11 3A. การลงทะเบียนผปู ว ย 12 3B. การใหตอบแบบฟอรมหรอื แบบสอบถาม 20 3C. การซักถามหรือสัมภาษณ 22 3D. การสงั เกตโดยตรงจากผเู กบ็ รวบรวมขอมลู 23 3E. การดรู ายงานจากแหลงอนื่ 23 บทที่ 4 การบันทกึ ขอมลู กจิ กรรมการดแู ลผปู ว ยนอก (Out Patient Data Recording) 4A. การบนั ทกึ ขอมลู ตามแนวทางมาตรฐานแฟมขอมลู 43 แฟมของกระทรวงสาธารณสุข 72 4B. การบนั ทกึ ขอ มลู ผปู วยนอกทส่ี ําคญั สาํ หรบั สถานพยาบาล แตไมกําหนดในมาตรฐาน 81 แฟมขอ มลู 43 แฟม บทที่ 5 การบนั ทึกขอ มลู กจิ กรรมการดูแลผปู วยใน (In Patient Data Recording) 81 5A. การบนั ทกึ ขอมูลผปู วยในตามแนวทางมาตรฐานแฟม ขอมลู 43 แฟมของกระทรวง 89 สาธารณสุข 106 5B. การบันทึกขอมูลผูปว ยในทสี่ าํ คัญสําหรับสถานพยาบาล แตไ มก าํ หนดในมาตรฐาน 106 แฟม ขอมลู 43 แฟม 120 บทท่ี 6 การใหร หสั มาตรฐาน (Standard Coding) 6A. การใหรหสั มาตรฐานโดยบุคลากร 6B. การใหร หัสมาตรฐานโดยระบบคอมพิวเตอร ii
สารบัญ (ตอ ) หนา เนอ้ื หา 121 บทท่ี 7 การจัดการเวชระเบียนในโรงพยาบาลสงเสรมิ สขุ ภาพตาํ บล 121 128 7A. รายการเอกสารและขอ มลู สําคญั ท่ตี อ งเก็บรวบรวมและบนั ทกึ 130 7B. วธิ บี นั ทกึ ขอ มลู แกไ ขขอมูล จัดระเบยี บเอกสารและจัดเกบ็ 141 7C. การจดั การควบคมุ คุณภาพขอมูล 143 7D. การสงออกขอมลู 143 บทท่ี 8 การจัดการเวชระเบียนในโรงพยาบาล 145 8A. รายการเอกสารและขอมลู สาํ คญั ทต่ี อ งเกบ็ รวบรวมและบันทกึ 147 8B. วธิ บี ันทกึ ขอมลู แกไขขอ มลู จดั ระเบยี บเอกสารและจัดเกบ็ 158 8C. การจัดการควบคมุ คุณภาพขอมลู 160 8D. การสงออกขอ มลู 160 บทที่ 9 แนวทางปฏบิ ตั ิมาตรฐานทสี่ ําคัญแตอาจยงั ปฏบิ ัติไมถ ูกตอ งบางเรอ่ื ง 161 9A. แนวทางการบันทกึ ขอ มลู และจัดทาํ สถติ แิ ยกผปู ว ยนอกและผูปว ยใน 162 9B. แนวทางการใหรหสั ICD กรณผี ปู ว ยนอกและผูปว ยใน 162 9C. แนวทางปฏิบตั ิในกรณีผปู ว ยนอกมารบั บรกิ ารในโรงพยาบาลโดยไมพ บแพทย 164 9D. แนวทางปฏบิ ตั ใิ นกรณีไมมตี วั ผูปวยมารบั บรกิ าร แตต องบันทกึ ขอมลู References iii
มาตรฐานการเก็บรวบรวมและบนั ทกึ ขอ มูลในสถานพยาบาล สถานพยาบาลทุกระดับตงั้ แตระดบั โรงพยาบาลสง เสรมิ สขุ ภาพตาํ บล โรงพยาบาลชมุ ชน ข้นึ มาจนถึง โรงพยาบาลท่ัวไปและโรงพยาบาลศูนย มีภารกิจหลักในการใหการดูแลรักษาโรคตลอดจนสงเสริมการมี สุขภาพทด่ี ขี องประชาชนในพืน้ ทีท่ ี่รับผิดชอบ การดําเนนิ การตามภารกจิ หลักน้ี ยอ มเกย่ี วขอ งกับจดั การขอมูล จํานวนมาก ทงั้ ขอมูลทีเ่ กย่ี วขอ งกบั กจิ กรรมการรักษาพยาบาลและขอ มูลอนื่ ๆทเี่ กยี่ วขอ ง การจดั การขอมูลให ไดขอมูลที่ดีมีคุณภาพตองเร่ิมจากการเก็บรวบรวมและบันทึกขอมูลท่ีดี ดําเนินการไดตามมาตรฐานการ ปฏิบตั ิงาน โดยเรมิ่ จากมาตรฐานการเก็บรวบรวมขอมูล (Data Collection) และมาตรฐานการบันทึกขอมูล (Data Recording) ดงั ตอไปน้ี บทที่ 1. หลกั การพื้นฐานการเกบ็ รวบรวมขอมูล (Data Collection) การเก็บรวบรวมขอมูล หมายถงึ การสอบถาม ขอขอมลู ท่ีตองการจากแหลง ขอมูล โดยแหลงขอมูลที่ สาํ คญั ของสถานพยาบาลไดแก ผูปวยและญาติ ที่ตองใหขอมูลท่ีถูกตองแมนยําแกแพทยและเจาหนาที่ของ สถานพยาบาล เพอ่ื นํามาใชในการวนิ จิ ฉัยโรคและวางแผนการรักษาโรคหรือสงเสริมสุขภาพใหไดผลท่ีดี การ เกบ็ รวบรวมขอมูลจากผปู วยและญาติที่สถานพยาบาลจะเกิดขนึ้ หลายครงั้ หลายแผนก เชน เม่อื แรกเขามาใน โรงพยาบาล ฝายตอ นรับหรือแผนกทะเบยี นผปู วยก็จะตองสอบถามชื่อ นามสกุล เพ่ือคนหาประวัติเกา หาก เปน ผูปว ยใหม กต็ องสอบถามทอ่ี ยู เลขประจาํ ตัว สถานภาพสมรส ช่ือบิดา มารดา ฯลฯ เพื่อลงทะเบียนผูปวย เมื่อมาทีห่ อ งตรวจแพทย พยาบาลกจ็ ะซกั ประวัติการเจบ็ ปว ย เมอ่ื พบแพทย แพทยก็จะซักประวัติการเจบ็ ปว ย เพ่มิ เตมิ ตรวจรา งกาย เมือ่ ไดร ับใบสัง่ ยา ไปทห่ี องจา ยยา เภสัชกรกจ็ ะซกั ถามประวัตกิ ารแพย า ความเขาใจใน การใชยา ฯลฯ เหลาน้ี จะเห็นไดวา การเก็บรวบรวมขอมูลจะเกิดขึ้นท่ีหลายจุดในโรงพยาบาล โดยมีผูที่ ปฏิบตั งิ านหลายตาํ แหนงมีหนาที่รับผิดชอบในการเก็บรวบรวมขอมูล ซึ่งตองมีวิธีการเก็บรวบรวมขอมูลที่ดี เพื่อใหไดขอมูลทค่ี รบถวน ไมข าดตกบกพรองไป วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล มีวิธีการท่ีแตกตางกันได 5 วิธี ไดแก 1. การลงทะเบียน 2. การใหตอบ แบบฟอรมหรือแบบสอบถาม 3. การซกั ถามหรือสมั ภาษณ 4. การสังเกตโดยตรงจากผูเก็บรวบรวมขอ มลู และ 5. การดรู ายงานจากแหลงอ่นื 1
1A. การลงทะเบยี น การลงทะเบียน หมายถึง การขอขอมูลจากผูปวยแลวบันทึกลงไปในสมุดทะเบียนหรือฐานขอมูล เพ่ือใหมีรายชือ่ ของผูปวยพรอมรายละเอียดท่ีสําคัญเขาไปอยูในทะเบียนนั้น เชน เม่ือแพทยนัดผาตัดผูปวย เจา หนา ทผี่ ูดแู ละทะเบยี นนัดผา ตดั จะขอขอมลู ผูปวยแลว บันทึกชอื่ ผูปว ยพรอ มรายละเอยี ดสําคัญบางเรื่อง ไว ในทะเบยี นนัดผา ตัด เมื่อถงึ เวลาท่ีตองจดั ควิ เขา หองผาตดั ก็จะเปดดูรายช่ือในทะเบียนแลวดําเนินการจัดคิว ผา ตัดไดโ ดยสะดวก ตัวอยางทะเบียนท่มี ใี ชในสถานพยาบาล ไดแก - ทะเบียนผูปว ยใหม - ทะเบยี นผปู วยใน - ทะเบียนนดั ตรวจแผนกผปู วยนอก - ทะเบียนนดั ผาตดั - ทะเบยี นผปู ว ยโรคเบาหวาน - ทะเบยี นนัดติดตามผลหลงั การรกั ษา 1B. การใหต อบแบบฟอรมหรอื แบบสอบถาม การขอขอมูลจากผูปวยอาจทําไดโดยการใหผูปวยตอบแบบฟอรมหรือแบบสอบถาม โดยมีหัวขอท่ี สําคัญอยใู นแบบฟอรม แลวใหผูปว ยกรอกขอมูลเขาไป การใชวิธนี ้ีจะชว ยลดภาระงานของเจาหนาทีใ่ นการเกบ็ รวมรวมขอมลู เชน เม่อื ผูป วยใหมเ พง่ิ มารับบรกิ ารเปน ครั้งแรก จะไดรับแจกแบบฟอรมการลงทะเบียนผูปวย เพื่อใหผูปวยกรอก ชื่อ นามสกุล เลขประจําตัว วันเดอื นปเกดิ ทอ่ี ยู ชอื่ บดิ า ชอ่ื มารดา สถานภาพสมรส อาชีพ สัญชาติ ศาสนา ฯลฯ เขา ไปในแบบฟอรมกอนสงใหเจาหนาที่ดําเนินการตอ แตวิธีนี้อาจมีขอจํากัดในกรณีท่ี ผูปวยเขยี นหนงั สือไมได จากขอ จาํ กัดทางรางกายหรอื สติปญ ญา ตัวอยางแบบฟอรมหรือแบบสอบถามท่ีมีใช ในสถานพยาบาลไดแ ก - แบบฟอรม ลงทะเบยี นผปู วยใหม - แบบฟอรมขอแกไขเปลย่ี นแปลงขอ มูลในทะเบียนผูป วย - แบบสอบถามความพึงพอใจในการใหบ ริการ 2
1C. การซกั ถามหรือสมั ภาษณ การซักถามหรอื สมั ภาษณ เปน การ พูดคยุ สอบถามขอมูลจากผปู วยโดยเจาหนา ที่เปน ผถู ามตามหวั ขอ สําคัญท่ีไดก าํ หนดไวล ว งหนา วิธีการนีม้ ขี อดี คอื สะดวกตอ ผูปวย รวดเร็ว แตมีขอจํากัดในกรณีท่ีสื่อสารดวย คาํ พดู ไมไ ด เชน ผปู วยตางชาติ หรือผปู วยทีพ่ ูดไมไดจ ากขอ จํากัดทางรางกายหรือสติปญญา นอกจากนั้น ผูท่ี ซักถามตองไดรับการฝกฝนวิธีการซักถามเพื่อใหไดขอมูลสําคัญครบถวนภายในเวลาท่ีจํากัด ตัวอยางการ ซกั ถามหรอื สมั ภาษณทใ่ี ชในสถานพยาบาลไดแก - เจา หนาทีเ่ วชระเบยี นสอบถามขอ มูลผูปว ยเพ่อื ทาํ บัตร - พยาบาลสอบถามอาการเจบ็ ปวยเพ่อื พจิ ารณาวาจะสงตรวจท่ีแพทยแผนกใด - แพทยซ ักถามประวตั กิ ารเจบ็ ปวยเพ่อื นาํ ประวตั ิมาวินจิ ฉัยโรค - เจาหนา ทีห่ องยาสอบถามประวัติและอาการแพย าในอดีต 1D. การสังเกตโดยตรงจากผเู ก็บรวบรวมขอมลู การสังเกตโดยตรง เปนวิธีการที่ผูเก็บรวบรวมขอมูลสังเกตลักษณะ ทาทาง หรือตรวจรางกาย ตรวจวัดสัญญาณตา งๆจากตัวผูปว ย โดยวธิ ที ีไ่ ดก ําหนดไวลวงหนา เปนวิธกี ารท่ีใชกันมาในสถานพยาบาล เชน การตรวจรางกายผูปวยโดยแพทย เปนตัวอยางที่ชัดเจนของการสังเกตโดยตรงจากแพทย เม่ือแพทยตรวจ รางกายผปู ว ย แพทยจะใชก ารดู คลํา เคาะ และฟงสวนตางๆของรางกาย เพอื่ คน หาอาการแสดงผิดปกติ แลว บนั ทกึ ไวเปน ผลการตรวจรา งกาย เพื่อนาํ ไปประกอบการวนิ ิจฉัยโรคตอไป ตัวอยางการสังเกตโดยตรงที่ใชใน สถานพยาบาลไดแ ก - การตรวจวดั อุณหภูมริ า งกาย วัดความดนั จบั ชีพจรของผปู ว ย - การตรวจวดั สายตา วดั ความหนาของช้ันไขมนั ชัง่ นา้ํ หนัก วัดสวนสูง - การตรวจเอ็กซเรย อลั ตราซาวนด - การตรวจทางหองปฏบิ ตั ิการตางๆ 3
1E. การดูรายงานจากแหลงอ่ืน การดูรายงานจากแหลงอื่น หมายถึง รายงานที่ผูปวยนํามาใหดูหรือผูเก็บรวบรวมขอมูลขอดู เชน แพทยซ ักประวัตผิ ูป วย ไดค วามวาผูปว ยซือ้ ยามากนิ 2-3 อยา ง แพทยอาจขอดูตัวยา ชื่อยาหรือฉลากยา ก็ถือ วาเปนการดูรายงานจากแหลงอื่นเชนกัน บางคร้ังผูปวยอาจนําผลการเอ็กซเรย ผลการตรวจทาง หองปฏิบตั ิการทผี่ ปู วยเคยไปตรวจมาจากสถานพยาบาลอ่ืนมาใหแพทยดู รายงานจากแหลงอ่ืนท่ีพบบอยใน สถานพยาบาลไดแก - จดหมายสง ตอ จากแพทยในสถานพยาบาลอื่น รายงานผลการตรวจวินิจฉัยครั้งกอ น - ผลการตรวจเอก็ ซเรย ผลการตรวจทางหอ งปฏบิ ัติการท่ีผูป ว ยนํามาจากสถานพยาบาลอน่ื - ซองยา ฉลากยาท่ผี ปู ว ยซ้อื หรอื ไดม าจากรา นขายยาหรอื สถานพยาบาลอื่น - ผลการตรวจทางพยาธวิ ิทยา บอกลกั ษณะเซลลม ะเรง็ ทร่ี ายงานมาจากพยาธิแพทยท่ีปฏิบัติงาน ในสถานพยาบาลอน่ื การเกบ็ รวบรวมขอ มลู ดวยวธิ ีการตา งๆน้ี จะทําใหไ ดข อมลู ทม่ี าจากหลายแหลง เขา มาอยูดวยกนั ในเวช ระเบียนของผปู วย โดยทวั่ ไป ขอ มลู ในทะเบียนตา งๆจะมาจากการลงทะเบียน ขอ มูลทวั่ ไปของผูปวยจะมาจาก การกรอกแบบฟอรม และการสอบถามเพม่ิ เติม ขอมูลประวตั กิ ารเจบ็ ปว ยจะมาจากการซกั ถามสมั ภาษณ ขอ มูล การตรวจรา งกายจะมาจากการสังเกตโดยตรง สิ่งที่ควรระวงั คือ ขอมลู ท่ีมาจากแหลงอนื่ ควรบันทึกไวตางหาก ใหเหน็ วาเปนขอมูลทผ่ี ปู วยนํามา เชน ผลการตรวจทางหองปฏิบัติการทผี่ ปู ว ยนํามาจากสถานพยาบาลอื่น ควร บันทกึ แยกไวใหเห็นชดั เจนวา เปน ขอ มูลทมี่ าจากแหลง อนื่ 4
บทที่ 2. หลกั การพ้ืนฐานการบันทกึ ขอ มลู (Data Recording) การบันทึกขอมูล หมายถึง การทําใหขอมูลอยูในรูปแบบท่ีนําเสนอได เผยแพรได ทําสําเนาได โดยทวั่ ไปการบันทกึ จะบนั ทึกไวใ นสอ่ื บันทึกขอ มูล ไดแก กระดาษ และส่ืออิเล็กทรอนกิ สร ูปแบบตา งๆ รวมถึง การบันทึกและจัดเกบ็ ขอมูลในระบบฐานขอมลู คอมพวิ เตอร การบันทึกขอ มูลทาํ ใหเ กิดหลักฐานท่ีเชื่อถอื ได ใช อางองิ และนาํ มาใชป ระโยชนในการสรางสารสนเทศและความรูใหมๆไดโ ดยสะดวก การบันทึกขอมูล ถือเปนหนาที่หลักของบุคลากรทุกฝายในสถานพยาบาล และถือเปนจรรยาของ บุคลากรทางการแพทยและสาธารณสุขทุกๆฝายที่ตองถือเปนหนาท่ีท่ีตองปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยเฉพาะกิจกรรมท่ีเกี่ยวของกับการดูแลรักษาผูปวย ตองบันทึกไวใหครบถวน ถูกตอง มีรายละเอียดท่ีดี ภายในเวลาที่กาํ หนด ปจจุบันการบันทึกขอมูลในสถานพยาบาล มีรูปแบบท่ีปฏิบัติกันโดยท่ัวไป 3 รูปแบบ คือ 1. การ บันทึกขอมูลลงกระดาษ 2. การบันทึกขอมูลเขาในระบบฐานขอมูล และ 3. การบันทึกขอมูลเปนแฟม อิเล็กทรอนิกส โดยมีรายละเอียดแตล ะรูปแบบดงั น้ี 2A. การบันทกึ ขอ มลู ลงกระดาษ การบันทกึ ขอมลู ลงกระดาษ เปนการบนั ทึกที่ทาํ กันมานานแลว ตัง้ แตเ กดิ สถานพยาบาลแผนปจจุบัน ในประเทศไทย เรมิ่ จากใบสงั่ ยาทีแ่ พทยจะตอ งบนั ทกึ ช่ือยา ขนาดและวธิ ใี ชยาทสี่ ่ังใหก บั ผูป วยโดยละเอียดเพ่ือ สงใหเ ภสชั กรไปจดั ยาใหก บั ผูปว ย นอกจากนั้น ทุกสถานพยาบาลจะมสี มุดบันทึกกิจกรรมการดแู ลรกั ษาผูปว ย ทแ่ี พทย พยาบาล และเจาหนาที่อนื่ ๆจะจดบันทึกกิจกรรมการดูแลรักษาผูปวยทุกรายลงสมุด เมื่อบันทึกจน สมุดเลมเกาเต็ม ก็จะเปล่ียนสมุดเปนเลมใหม แลวจัดเก็บสมุดเลมเกาไวอยางเปนระบบเพื่อใหสามารถดึง กลับมาคนหาขอ มลู ไดเ มอ่ื ตอ งการโดยสะดวก ตอมาเมื่อมรี ะบบเวชระเบียน เชน บัตรผูปวย (OPD Card) หรือ แฟมผูปวยใน (In-patient File) แลว แพทย พยาบาลและเจาหนา ทอ่ี ืน่ ๆกต็ องจดบันทึกขอมูลที่ไดจากการเก็บรวบรวมขอมูลของผูปวยไวใน เวชระเบียนของผูปวยแตละราย สวนใหญจะบันทึกขอมูลเปนตัวอักษรและตัวเลข บางคร้ังแพทยอาจวาด รปู แสดงตําแหนงรางกายทมี่ อี าการผดิ ปกติ หรอื วาดรปู แสดงลักษณะการผาตัด เปนรปู ประกอบคําบรรยายที่ เปนตัวหนังสือ เม่ือสถานพยาบาลนําพิมพดีดเขามาใช เจาหนาที่บางฝายจะใชวิธีพิมพขอมูลเขาไปในเวช ระเบียนแทนการเขียน ทําใหขอ มูลในเวชระเบียนอานงา ยกวาการเขียนดว ยลายมอื 5
การบันทึกขอ มลู ลงกระดาษมขี อดีคือ บนั ทึกไดโดยงา ย ทาํ ไดโ ดยใชเพียงปากกาเขียนลงกระดาษ ไม ตองใชเครอ่ื งมืออเิ ล็กทรอนกิ ส โดยมีขอ ปฏบิ ตั ิมาตรฐานการบนั ทกึ ขอมูลลงกระดาษสําหรบั สถานพยาบาลดงั น้ี 2A.1 ขอ ปฏิบตั ิมาตรฐานการบนั ทกึ ขอ มูลลงกระดาษสําหรบั สถานพยาบาล 2A.1 ขอปฏิบตั มิ าตรฐานการบันทกึ ขอ มูลลงกระดาษสาํ หรบั สถานพยาบาล 1. บันทกึ ดวยปากกา หรือ เคร่ืองพิมพเ ทานั้น หา มใชด นิ สอ 2. บันทกึ ดว ยลายมอื บรรจง หรือ กึง่ บรรจง ใหอา นงา ย 3. มีการลงวันและเวลาทบี่ นั ทกึ กาํ กบั ขอ ความทบี่ นั ทึกเสมอ 4. บนั ทกึ ขอ ความทมี่ ีรายละเอียดชดั เจน ไมบนั ทกึ กํากวมหรอื ไมมีรายละเอยี ด เชน บนั ทกึ เพยี ง วา จา ยยาเดิม หรือ RM โดยไมมรี ายละเอียดอืน่ ใด 5. ไมบันทึกคํายอ หรือ สญั ลักษณทีไ่ มไดก ําหนดไวเปนมาตรฐานของสถานพยาบาล (สถานพยาบาลควรกาํ หนดคํายอและสัญลักษณทอี่ นญุ าตใหใ ชในการบนั ทกึ ขอ มลู หากคาํ ยอหรือสัญลักษณใด ไมอ ยใู นรายการ ใหถ อื วาเปนคาํ ยอ หรอื สัญลักษณท ีไ่ มไ ดมาตรฐาน) 6. บนั ทึกเมือ่ มเี หตกุ ารณเกิดขน้ึ โดยทนั ทหี รอื หลังจากจบเหตกุ ารณไ มน าน เชน เมื่อรักษาผูปว ย ฉกุ เฉนิ จนปลอดภยั แลวตอ งบันทกึ การรกั ษาโดยทันที 7. ลงช่ือผบู นั ทกึ ใหอา นไดโดยงา ยวาใครเปน ผบู ันทกึ หากใชล ายเซน็ ตองมขี อ ความกาํ กบั วาเปน ใคร หรือมสี มดุ ทะเบยี นลายเซ็นทีส่ ามารถตรวจสอบลายเซน็ ไดว า เปน ลายเซน็ ของใคร 8. หากตอ งการแกไขขอความทีบ่ ันทกึ ใหทําการแกไขโดยการขีดเสนตรง 1 เสน ทบั ขอ ความเดิม เขยี นขอ ความใหม แลว ลงนามกาํ กบั การแกไข หา มแกไขโดยการขดู ขอความเดมิ หรือ ลบ ดวยวธิ กี ารใดๆ หา มใชนํ้ายาลบคาํ ผิดแกไ ขขอความ ขอเสียของการบันทึกขอมูลลงกระดาษไดแก มีโอกาสสูญหายหรือขอความเลอะเลือนไดโดยงาย ลายมือบางคนอา นไมออก การทําสําเนากระดาษเกบ็ ไวม ตี นทนุ สงู กวารูปแบบอืน่ 6
2B. การบนั ทึกขอ มูลเขา สูระบบฐานขอ มลู การบันทึกขอมูลเขาสูระบบฐานขอมูล เร่ิมเกิดขึ้นในสถานพยาบาลของประเทศไทยในราวป พ.ศ. 2530 เปน ตน มาหลังการนาํ คอมพิวเตอรและโปรแกรมระบบโรงพยาบาลเขา มาใช การบนั ทกึ ขอมลู เขา สรู ะบบ ฐานขอมลู มขี อ เสียคือ ตองมเี คร่อื งคอมพิวเตอรจ งึ จะสามารถบันทึกได และผูใชตองมีทักษะการใชแปนพิมพ อยางดีจึงจะบันทึกขอมูลในอยางสะดวก รวดเร็ว นอกจากนั้น การเรียกดูขอมูลก็จะตองเรียกดูผานหนา จอคอมพิวเตอรเ ทานั้น ยกเวนจะสัง่ พมิ พขอมลู ท่ีบนั ทกึ ออกมาเปนกระดาษ จงึ จะดูไดในแฟมเวชระเบียน ขอ ดีของการบันทกึ ขอ มูลเขา สูระบบฐานขอมลู คอื การทาํ ใหขอ มูลพรอ มใชในเวลาเดียวกันหลายๆจุด เชน แพทยหลายคนท่ีชวยกันดูแลรักษาผูปวยรายเดียวกัน สามารถเรียกดูขอมูลผูปวยพรอมๆกันไดจาก คอมพวิ เตอรค นละเครอ่ื งในเวลาเดยี วกนั ลดปญหาการอานลายมือไมออก นอกจากนั้น การใชคอมพิวเตอร บนั ทึกทาํ ใหส ามารถใชการคัดลอกและตัดแปะ (copy and paste) ได ทาํ ใหการพิมพขอ ความรปู แบบเดยี วกัน ทมี่ ขี อความยาว สามารถดําเนินการไดส ะดวก รวดเร็ว ในปจจบุ นั สถานพยาบาลสว นใหญในประเทศไทย ขอความรวมมือใหแพทยบันทึกขอมูลผูปวยเขาสู ระบบฐานขอ มูล โดยมจี ํานวนแพทยท ใี่ หความรว มมอื มากขนึ้ เร่อื ยๆ ทําใหผ บู รหิ ารโรงพยาบาลบางคนคดิ วา จะ ยกเลิกการใชกระดาษบันทึกขอ มูล อยางไรก็ตาม การบนั ทึกขอมูลผูปวยท่ีสําคัญทั้งหมดยังไมสามารถบันทึก โดยคอมพิวเตอรไดครบถวน เชน ผลการตรวจรางกายท่ีแพทยอาจตองวาดภาพประกอบยังไมสามารถวาด ภาพโดยใชค อมพวิ เตอรไ ด หรอื การบนั ทึกคาํ วินิจฉยั โรคเขา ไปในระบบฐานขอ มลู บางโปรแกรมยังทําไมไ ด (มี ความเขา ใจผดิ คดิ วาการใสรหัส ICD เขาไปคือการบนั ทึกคําวนิ จิ ฉยั โรค) สถานพยาบาลจึงยังไมค วรยกเลกิ การ ใชกระดาษบันทึกขอมูลผูปวย หากพบวา โปรแกรมบันทึกขอมูลยังไมไดมาตรฐานที่จะทําใหยกเลิกการใช กระดาษได ดงั มาตรฐานการตรวจสอบโปรแกรมบันทึกขอ มูลในสถานพยาบาลกอนยกเลิกการบันทึกกระดาษ ในหวั ขอ 2B.1 กอ นสง่ั ยกเลิกการบันทึกกระดาษในสถานพยาบาล ผบู รหิ ารตอ งจัดใหมีกระบวนการทดสอบวา การ ใชโปรแกรม แทนการเขียนกระดาษ สามารถทาํ ใหแ พทยบันทึกขอ มูลไดปริมาณเทา กบั การเขียนกระดาษ หาก ตรวจสอบพบวาการใชโปรแกรมทาํ ใหแพทยบนั ทกึ ขอมลู ไดนอยกวาการเขยี นกระดาษก็ยังไมควรสง่ั ยกเลกิ การ บันทึกในกระดาษ เชน การเขียนผลการตรวจรางกายในกระดาษทําไดโดยสะดวกกวาการใชโปรแกรมบันทึก ผลการตรวจรางกาย หากใชโปรแกรมแลวแพทยไมบันทึกผลการตรวจรางกายเลย ก็จะทําใหขอมูลสําคัญ หายไป 7
2B.1 มาตรฐานการตรวจสอบโปรแกรมบันทึกขอมลู ในสถานพยาบาลกอ นยกเลกิ การบันทึกกระดาษ 2B.1 มาตรฐานการตรวจสอบโปรแกรมบันทึกขอมูลในสถานพยาบาลกอนยกเลิกการบันทึกกระดาษ 1. ตรวจสอบวาโปรแกรมมีชอ งใหบนั ทกึ ขอ มลู ครบตามรายการขอมูลมาตรฐานท่ีตองบนั ทกึ ของกระทรวงสาธารณสุขหรอื ไม เชน ตอ งมชี องใหบันทกึ ชอื่ โรค ไมใ ชร หสั ICD มาบันทกึ แทนชอื่ โรค 2. โปรแกรมตอ งมกี ารลงวันและเวลาทบ่ี นั ทกึ กาํ กบั ขอ ความทบี่ ันทกึ เสมอ 3. โปรแกรมตองไมมรี ะบบอัตโนมตั ิท่ีทาํ ใหเกดิ การบันทกึ ขอความท่ีกาํ กวมหรอื ไมม ีรายละเอยี ด เชน บันทึกเพยี งวา จายยาเดมิ หรอื RM โดยไมมรี ายละเอยี ดอน่ื ใด 4. โปรแกรมตองมรี ะบบตรวจสอบการใชค ํายอ หรอื สัญลักษณท ไ่ี มไดก าํ หนดไวเปนมาตรฐาน ของสถานพยาบาล (สถานพยาบาลควรกาํ หนดคํายอ และสญั ลักษณท อ่ี นญุ าตใหใ ชใ นการ บันทกึ ขอ มลู หากคาํ ยอ หรอื สญั ลกั ษณใ ด ไมอยใู นรายการ ใหถ ือวาเปน คํายอ หรอื สัญลกั ษณ ที่ไมไ ดม าตรฐาน) 5. โปรแกรมตอ งมรี ะบบตรวจสอบและบนั ทกึ วา ใครเปนผูบ นั ทกึ รายการ บนั ทึกเม่ือใด 6. โปรแกรมจะตองไมอนญุ าตใหผ ใู ชล บรายการทบ่ี ันทึกไวแลวออกไปจากฐานขอมลู หาก ตองการแกไขขอความทบี่ ันทึก ใหเ พม่ิ ขอความเปน รายการใหม แลว ทําเครื่องหมายยกเลกิ และแกไขรายการเกาโดยมีหมายเลขอา งองิ วารายการใหมท แี่ กไ ขใชท ดแทนรายการเกา หมายเลขใด พรอ มบันทกึ ชอ่ื ผแู กไ ขและวันเวลาทแ่ี กไข 7. ระบบฐานขอมลู ตอ งมีการรักษาความม่นั คงและปลอดภยั ขนั้ สูงสดุ มกี ารทาํ สาํ เนาขอมูล มี ระบบ log ทบี่ นั ทึกการเขา ไปแกไ ขฐานขอ มลู หรอื สําเนาฐานขอ มลู ทกุ รายการ 2C. การบนั ทกึ ขอ มูลเปน แฟมอเิ ลก็ ทรอนิกส การบันทึกขอมูลเปนแฟมอิเล็กทรอนิกสเกิดข้ึนเม่ือมีการนําคอมพิวเตอรเขามาใชในโรงพยาบาล เชนเดียวกับการบันทึกขอมูลเขาสูระบบฐานขอมูล การบันทึกขอมูลเปนแฟมอิเล็กทรอนิกสจึงมีขอเสีย เหมือนกบั การบันทึกขอ มูลเขาสูระบบฐานขอมูล กลาวคือ ตองมีเคร่ืองคอมพิวเตอรจึงจะสามารถบันทึกได และผใู ชตองมที ักษะการใชแปน พมิ พอยา งดีจึงจะบันทกึ ขอ มูลในอยา งสะดวก รวดเร็ว นอกจากนน้ั การเรียกดู 8
ขอมลู ก็จะตอ งเรยี กดูผา นหนาจอคอมพวิ เตอรเ ทาน้นั ยกเวน จะส่งั พิมพข อ มลู ท่ีบันทึกออกมาเปนกระดาษ จึง จะดูไดในแฟม เวชระเบียน การบันทกึ ขอ มูลเปนแฟม อเิ ลก็ ทรอนิกสมกั จะเกบ็ ขอ มลู ไวแยกจากขอ มลู ในเวชระเบยี นและขอมูลใน ฐานขอมูล จึงมักจะอยูแยกแผนก เชน ขอมูลรายงานผลการตรวจทางรังสีวิทยา อาจเก็บในรูปแฟม Microsoft Word Document ทีเ่ ก็บไวใ นเครื่องคอมพิวเตอรของรังสีแพทยเทานั้น หากขอมูลเหลาน้ีไมถูก จัดการอยางเหมาะสม จะทําใหเกิดผลเสีย คือ ไมสามารถนําขอมูลมาใชประโยชนในระบบเวชระเบียนหรือ ฐานขอมูลกลางของสถานพยาบาล หรอื ใชข อมูลรว มกันหลายๆแผนกได การจัดการขอมลู ที่จัดบันทกึ เปนแฟมอเิ ล็กทรอนกิ สแยกเก็บไวใ นแผนกตางๆนนั้ ควรมีมาตรฐานการ จัดการดังขอ 2C.1 2C.1 มาตรฐานการจัดการขอมลู ทจี่ ดั เกบ็ เปน แฟมอเิ ล็กทรอนิกสแ ยกไวใ นแผนกตางๆ 2C.1 มาตรฐานการจดั การขอมลู ที่จดั เก็บเปนแฟมอิเล็กทรอนิกสแยกไวใ นแผนกตา งๆ 1. ดาํ เนินการลงทะเบียนใหท ราบวาขอมลู ทจ่ี ดั เกบ็ เปนแฟมอเิ ลก็ ทรอนิกสแ ยกไวใ นแผนกตางๆ นั้น มขี อมลู อะไร เกบ็ ไวท แ่ี ผนกใดบา ง 2. หากขอมลู ทเี่ ก็บแยกไวเปน ขอ มลู ทเี่ กี่ยวของกบั การดูแลรกั ษาผปู วย เชน รายงานผลการ ตรวจทางรังสีวทิ ยา ใหพิมพเ ปน รายงานออกมาเกบ็ ไวในเวชระเบียนผปู ว ยแตล ะรายทกุ ครงั้ ท่ี จดั ทาํ รายงาน 3. จดั การใหม่นั ใจวา มกี ารสํารองแฟมขอ มลู ท่ขี ้ึนทะเบยี นไวเปน ระยะๆ ตรวจสอบไฟลท ่สี าํ รอง วา ใชไดจรงิ อยเู สมอ 4. ในระยะกลางควรสรางกลไกเชือ่ มโยงแฟมขอ มลู ทเี่ กบ็ แยกเขา กับระบบฐานขอมูลกลางของ โรงพยาบาล 5. ในระยะยาวควรสรา งคลงั ขอมลู ที่นําขอ มลู ทเ่ี ก็บแยกแฟม ไวเ ขา มาใชในการบริการขอ มูลและ วเิ คราะหขอ มลู เพือ่ นํามาพฒั นาสถานพยาบาลตอ ไป 9
บทที่ 3. การเก็บรวบรวมขอมลู ผูปว ย (Patient Data Collection) การเกบ็ รวบรวมขอ มลู ผปู ว ย เปน กิจกรรมท่ีสาํ คัญท่ีสุดของการเกบ็ รวบรวมขอมูลของสถานพยาบาล เพราะกจิ กรรมหลกั คือการดแู ลรกั ษาและสงเสริมสขุ ภาพ ทกุ ๆคร้ังทม่ี ผี ูปว ยมารบั บริการ เจาหนาท่ีทเ่ี กี่ยวของ ตองบนั ทกึ ขอมูลของผูปวยในสวนท่ีตนเอง เชน เมื่อแรกเขามาในโรงพยาบาล ฝา ยตอนรบั หรือแผนกทะเบียน ผูปวยก็จะตองสอบถามช่ือ นามสกุล เพ่ือคนหาประวัติเกา หากเปนผูปวยใหม ก็ตองสอบถามที่อยู เลข ประจําตวั สถานภาพสมรส ชอื่ บดิ า มารดา ฯลฯ เพื่อลงทะเบียนผปู วย เมอ่ื มาที่หองตรวจแพทย พยาบาลกจ็ ะ ซักประวตั กิ ารเจ็บปวย เมื่อพบแพทย แพทยก็จะซักประวตั ิการเจ็บปว ยเพมิ่ เติม ตรวจรา งกาย เม่ือไดรับใบสั่ง ยา ไปท่หี อ งจายยา เภสชั กรกจ็ ะซกั ถามประวัติการแพยา ความเขาใจในการใชยา ฯลฯ เหลานี้ จะเห็นไดวา การเก็บรวบรวมขอมูลจะเกิดข้ึนที่หลายจุดในโรงพยาบาล โดยมีผูที่ปฏิบัติงานหลายตําแหนงมีหนาท่ี รบั ผิดชอบในการเกบ็ รวบรวมขอมลู ซ่ึงตอ งมีวธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ มลู ทีด่ ีเพื่อใหไ ดข อ มลู ที่ครบถวน ไมขาดตก บกพรองไป วิธีการเก็บรวบรวมขอมูลขอมูลผูปวย ใชวิธีการพื้นฐานท่ีกลาวมาแลวครบท้ัง 5 วิธี ไดแก 1. การ ลงทะเบยี น 2. การใหตอบแบบฟอรมหรือแบบสอบถาม 3. การซักถามหรือสัมภาษณ 4. การสังเกตโดยตรง จากผเู ก็บรวบรวมขอ มลู และ 5. การดรู ายงานจากแหลง อน่ื 3A. การลงทะเบียนผปู วย การลงทะเบียนผูปวยจะเกิดข้ึนได 2 รูปแบบ รูปแบบแรกเกิดข้ึนเม่ือผูปวยเขามารับบริการใน สถานพยาบาลเปน คร้ังแรก สว นรูปแบบท่ี 2 จะเกดิ ข้ึนเมอ่ื ผูปว ยไดรับการวนิ จิ ฉัยโรคบางอยา งท่ีเขาเกณฑตอง ลงทะเบียน ไดแก โรคติดตอท่ีตองเฝาระวัง ฯลฯ หรือเกิดขึ้นเมื่อผูปวยจะตองไดรับบริการตอไปทําใหตอง ลงทะเบยี นกิจกรรมทีก่ ําหนด เชน นัดตรวจ นัดผาตัด เปน ตน การลงทะเบียนอาจทําไดโ ดยการใหผ ูปว ยกรอกแบบฟอรมลงทะเบียนแลวเจา หนาท่ีของโรงพยาบาล นํามาบันทึกในสมุดทะเบียน (รวมสมุดทะเบียนท่ีอยูในระบบฐานขอมูล) เชน การทําบัตรผูปวยคร้ังแรก สถานพยาบาลจะจัดเตรียมแบบฟอรม ใหผูปวยกรอกขอมูลพื้นฐานของตนเองแลวเจาหนาที่รับมาทําบัตรให แตการลงทะเบยี นสวนใหญในสถานพยาบาล เจาหนาที่ของโรงพยาบาลจะเปนผูบันทึกขอมูลของผูปวยลงไป ในสมดุ ทะเบียนเอง เชน การลงทะเบียนนัดรับเขาโรงพยาบาล ตารางนัดผาตัด ทะเบียนนัดตรวจเอ็กซเรย คอมพวิ เตอร เปนตน 10
การลงทะเบียนผูปวยไดครบถวนสมบูรณ จะทําใหสามารถคนหาผูปวยกลุมเปาหมายที่ตองการ ติดตามหรือเฝา ระวงั ไดอยางรวดเรว็ เพอ่ื การรักษาและปอ งกันโรคอยางมีคุณภาพ การกรอกสมุดทะเบียนจึง ควรทําดวยความระมัดระวัง ไมเวนขอมูลท่ีสําคัญ โดยหากขอมูลไมครบ ควรสอบถามจากผูปวยหรือญาติ เพ่อื ใหไ ดขอมลู ท่ีครบถวนกอนลงทะเบียน นอกจากน้ัน ควรใชแบบฟอรมหรือสมุดทะเบียนท่ีมีหัวขอขอมูล สาํ คญั ท่ตี อ งบนั ทกึ ครบถวนตามมาตรฐาน (ดูภาคผนวก) เพื่อใหมั่นใจวา มีขอมูลที่สามารถนํามาวิเคราะหใช ประโยชนใ นภายหนา ไดครบถวนทกุ ประเดน็ ผู ท่ี มี ห น า ที่ รั บ ผิ ดชอ บ ก า ร ตร วจ ส อ บ คุ ณภา พ ข อ มู ล ต อ ง ตร วจ ส อ บ ร ะ บ บ ก า ร ล ง ท ะ เ บี ย น ขอ ง สถานพยาบาล ใหม่นั ใจวา ไมมีผูปวยรายใดท่ีตองลงทะเบียนแตย งั ไมไ ดลงทะเบียน เชน การลงทะเบยี นผปู ว ย เบาหวาน ควรทาํ เครื่องหมายไวใ นเวชระเบียนใหท ราบวา ผูปวยเบาหวานรายใดลงทะเบียนแลวหรือไม หาก ลงทะเบียนแลว ใครเปนคนดําเนนิ การลงทะเบียนและดําเนนิ การในวนั เวลาใด 3B. การใหต อบแบบฟอรมหรือแบบสอบถาม การใหผูปว ยกรอกแบบฟอรมท่ีมหี ัวขอ ท่สี ําคญั อยใู นแบบฟอรมกอนสง ใหเจาหนาทด่ี าํ เนนิ การจะชวย ลดภาระงานของเจา หนาท่ใี นการเกบ็ รวมรวมขอ มลู ผูป ว ยไดม าก เชน เมื่อผปู วยใหมเพ่ิงมารับบริการเปนคร้ัง แรก จะไดรับแจกแบบฟอรม การลงทะเบยี นผูปวย เพอ่ื ใหผ ปู วยกรอก ช่อื นามสกุล เลขประจําตัว วันเดือนป เกิด ที่อยู ชื่อบิดา ช่ือมารดา สถานภาพสมรส อาชีพ สัญชาติ ศาสนา ฯลฯ เขาไปในแบบฟอรมกอนสงให เจาหนาท่ีทําบตั รให ขอดีของวธิ กี ารนี้คอื ทําใหไดขอมูลท่คี อ นขา ง แมน ยํา ตรงตามความเปน จริง อยา งไรก็ตาม หากเจาหนาที่พบวา ผูปวยกรอกแบบฟอรมไมครบ ก็ตองขอขอมลู เพมิ่ เตมิ จากผปู วยหรือญาติ แลวนํามาใสใน แบบฟอรมใหครบ เพื่อมใิ หข อ มลู สําคญั ขาดหายไป แบบฟอรมทผี่ ูปว ยกรอกทุกแผน ใหจัดเก็บไวในแฟมเอกสารหรือตูเอกสารโดยจัดเรียงตามขอมูลท่ี สําคัญ เชน แบบฟอรมขอทําบัตรผูปวยใหมท่ีไดมาในแตละวัน ใหแยกตามนามสกุลของผูปวย แลวนําไป จัดเก็บเรยี งลําดบั อักษรของนามสกุล หากนามสกุลเดียวกันใหเรียงลําดับอักษรของชื่อตอไป ตูเอกสารชิ้นน้ี สามารถใชเปนแหลงคน หาขอมูลสํารองไดในกรณีท่ีระบบคอมพิวเตอรติดขัด หรือไฟฟาดับ ไมสามารถคนหา ขอ มูลของผูปว ยในระบบคอมพิวเตอรไ ด แบบสอบถามที่ใชกันมากท่ีสุดในสถานพยาบาลคือแบบสอบถามความพึงพอใจในการใชบริการ สถานพยาบาลควรดาํ เนินการสอบถามความพงึ พอใจของผูป วยและญาติในการไดรับบริการเปนระยะๆ อยาง 11
นอยทุกๆ 6 เดอื น ควรมีการสํารวจความพงึ พอใจ โดยอาจสํารวจดานการบริการผูปวยนอก แยกกับดานการ บรกิ ารผปู ว ยใน แตอ าจสาํ รวจแยกบริการใหล ะเอียดข้นึ ถาตอ งการนาํ ผลมาใชปรับปรุงคุณภาพการบรกิ าร 3C. การซกั ถามหรือสมั ภาษณ การซักถามหรือสัมภาษณ เปนการ พูดคุย สอบถามขอมูลจากผูปวย เปนวิธีการท่ีใชมากทีสุดใน โรงพยาบาล เพราะเจา หนา ทที่ ุกฝายตอ งพูดคยุ และขอขอ มูลเพมิ่ เติมจากผูปวยท้ังส้ิน โดยขอมูลสวนที่สําคัญ ทส่ี ุดคืออาการทเ่ี จ็บปว ยไมส บายนน่ั เอง โดยผูท ี่รับผิดชอบซกั ถามขอ มูลสวนน้ี คอื แพทย และ พยาบาล แพทยจะสัมภาษณประวตั ิผูปว ยตามโครงสรางหวั ขอ การซักประวตั ผิ ปู ว ยตามมาตรฐานการซักประวตั ิ ของวชิ าชีพแพทย โดยมีหัวขอทส่ี ําคัญดงั น้ี - ลักษณะผูป ว ย (Patient Profile) ไดแ ก เพศ อายุ สถานภาพสมรส อาชีพ ภูมลิ ําเนา - อาการสําคัญ (Chief Complaint) - ประวตั ปิ จจุบนั (Present Illnesses) - ประวัติอดตี (Past History) - ประวตั ิครอบครัว (Family History) - ประวัตทิ างสังคม (Social History) - ทบทวนอาการตามระบบ (Review of System) การสัมภาษณประวตั ิผูป ว ยโดยแพทยม รี ายละเอยี ดทต่ี องสอบถามดงั ตอไปน้ี ลกั ษณะผูปว ย เนือ้ หาสวนนี้ เปน การบรรยายสนั้ ๆเพอ่ื สรุปลกั ษณะของผปู วย โดยกลา วถึง เพศ เช้อื ชาติ สถานภาพ สมรส อายุ อาชพี ทีอ่ ยู โดยสว นใหญจ ะบนั ทกึ ไวไมเ กิน 1-2 บรรทัด ดงั ตวั อยา งเชน “ผูปว ยชายไทยโสด อายุ 25 ป อาชีพขับจกั รยานยนตร บั จา ง บา นอยปู ทมุ ธานี” “ผปู วยหญงิ จนี สมรสแลว อายุ 38 ป อาชีพคาขาย บานอยูลาดพรา ว” “ผปู วยหญงิ ไทยหมาย อายุ 69 ป ไมไดทาํ งาน บา นอยูด อนเมอื ง” 12
บางครั้ง แพทยอาจบันทึกรายละเอียดแหลงขอมูล และประเมินความนาเช่ือถือได โดยเขียนตอดัง ตวั อยางเชน “ขอมูลไดจ ากผปู ว ยเอง เชือ่ ถือได 90 %” “ขอ มลู ไดจ ากมารดาผูปวย และแฟมประวัติเกา เชือ่ ถอื ได 80%” “ขอ มูลไดจากเจา หนาท่มี ูลนธิ ผิ นู ําสง เชื่อถอื ได 70%” การประเมนิ ความนาเชอ่ื ถือของขอมลู แพทยจ ะประเมินจากความนาจะเปนท่จี ะเกิดเหตุการณตามที่ ผูปวยหรือผูใหขอมูลเลา โดยแพทยอาจถามยํ้าหลายครั้งโดยเปลี่ยนคําถามแลวดูวา คําตอบจะเหมือนเดิม หรือไม หากผูใหข อมลู เลาเหตกุ ารณหลายๆครั้งแตรายละเอียดเปลีย่ นไปทัง้ ๆที่เปนเหตุการณเดียวกัน แพทย จะประเมินคา ความนา เช่อื ถอื ของขอ มูลตํา่ ลง ในกรณีที่ ผูปวยไดรับการสงตัวตอมาจากแพทยคนอื่น ใหระบุรายละเอียดในสวนนี้ไวดวย ดัง ตวั อยางเชน “สงตวั มาจากโรงพยาบาลชมุ ชน ….” “สง ตัวมาจากคลนิ กิ แพทย …..” อาการสาํ คญั เน้อื หาสวนนี้ เปน การบรรยายสัน้ ๆไมเ กนิ 1 บรรทดั เพือ่ บอกอาการสาํ คัญท่สี ุดที่ทาํ ใหผ ปู วยตองมา ใหแพทยรกั ษา และระยะเวลาท่เี ปนอาการนน้ั นับจากเวลาเมื่อเร่ิมเกดิ อาการจนถึงเวลาท่ีมาพบกับแพทย ดัง ตวั อยา งเชน “ปวดทอ ง 3 ช่ัวโมง” “ไข หนาวสั่น 1 วนั ” “ตาเหลอื ง 5 วนั ” 13
ขอ ความในสว นอาการสาํ คญั น้ี ไมจ ําเปน ตองลงทายดวยคําวา “กอนมาโรงพยาบาล” เพราะเปนท่ีรู กันดีอยแู ลววา ระยะเวลาทีเ่ ปนอาการนัน้ จะนบั จากเวลาเมอ่ื เร่มิ เกิดอาการจนถงึ เวลาท่มี าพบกบั แพทย จึงไม จําเปน ตอ งเขียนขอ ความ “กอ นมาโรงพยาบาล” ลงไป ประวัติปจ จบุ นั เน้ือหาสวนนี้ เปน การบรรยายอาการสําคัญโดยขยายความใหมีรายละเอียดมากขึ้น โดยอธิบาย ตามลําดับเวลา เริม่ ตน จากเหตุการณเมอ่ื เรมิ่ เกิดอาการสาํ คัญ จนมาถงึ นาทีที่พบกบั แพทย รายละเอยี ดในสวน นี้ มอี งคป ระกอบสาํ คัญ ดังน้ี รายละเอียดอาการสาํ คัญ อาการอ่ืนทพ่ี บรว ม อาการอนื่ ทไ่ี มพบรว มกบั อาการสาํ คญั การรักษาที่ผูปวยอาจไดร ับกอนมาพบกบั แพทยใ นครง้ั นี้ ตวั อยา ง การเขยี นประวัติปจจุบนั ไดแ ก (อาการสําคญั ปวดทอง 3 ชวั่ โมง)) “3 ชั่วโมง กอนมาโรงพยาบาล ขณะที่ผูปวยกําลังดูโทรทัศนอยูท่ีบาน รูสึกปวดทองอยางมาก ทันทที ันใด และรูสึกหนา มดื เหมือนจะเปนลม ตอ งนอนลงใชมอื กมุ หนาทอง ภรรยาชวยชงยาผงที่ลด กรดในกระเพาะใสน าํ้ ใหกิน ผปู ว ยกนิ ยาแลวรสู ึกดขี ึน้ เล็กนอย น่งั พกั ตอ 2 ช่ัวโมง กอนมาโรงพยาบาล อาการปวดทองเปนมากขึ้น ปวดจุกแนน ตลอดเวลา ไมบรรเทาลง ปวดมากบริเวณลิ้นป ไมมีคลื่นไส ไมอาเจียน ไมมีทองเสีย ผูปวยจึงไปพบแพทยท่ีคลีนิกใกลบาน แพทยฉ ีดยาแกป วดให 1 เขม็ แลว แนะนําใหมาโรงพยาบาล ผปู ว ยจึงมาทีโ่ รงพยาบาล” (อาการสําคัญ ตาเหลอื ง 5 วนั )) “5 วัน กอ นมาโรงพยาบาล บุตรท่ีอยูกับผูปว ยเริ่มทกั วา ดตู าผปู วยเหมอื นตาเหลือง แตผูปวยยังไมมี อาการอะไร ไมมีไข ไมค นั ไมป วดทอง ไมคล่นื ไส ไมอาเจยี น จงึ ไมไ ดไ ปตรวจรักษา 14
3 วนั กอนมาโรงพยาบาล เร่ิมมอี าการคนั ตามตวั ผูป ว ยเห็นมผี ่ืนคลายลมพิษข้ึน บริเวณหนาอก และ หนาทอง และขา จงึ ไปซอ้ื ยาจากรานขายยามาทา 1 วนั กอ นมาโรงพยาบาล รสู ึกปสสาวะมีสีเหลอื งเขม บุตรทกั วา ตาเหลอื งมากขน้ึ ผ่ืนลมพษิ หายไปแต ยังมีอาการคันตามผิวหนังอยู ไมปวดทอง ไมคล่ืนไส ไมอาเจียน ไมมีไข ถายอุจจาระไดตามปกติ สี อุจจาระเปน สีนํ้าตาลออน บุตรชวนมาตรวจ จงึ มาพบแพทยท่ีโรงพยาบาล” ประวตั ิอดตี เนื้อหาสวนน้ี เปน การบรรยายความเจ็บปว ยและโรคทผี่ ูปว ยไดรบั การวินิจฉัยและรักษาในอดีต โดย อาจจะเปน โรคทย่ี งั คงเปน มาจนถึงปจ จุบัน หรือโรคที่ไดรับการรักษาจนหายไปแลว รายละเอียดในสวนน้ี มี องคป ระกอบสําคญั ดังน้ี โรคประจําตวั ที่ไดร บั การวนิ ิจฉยั ในอดีต และรกั ษาตอ เนื่องมาจนถึงปจจุบนั โรคสําคญั อน่ื ท่ีเคยเปนและรกั ษาหายไปแลวแตแ พทยคดิ วา อาจสงผลมาถงึ ในปจจบุ นั ประวตั ิการเขารบั การรกั ษาในโรงพยาบาลครงั้ กอน การผาตดั สาํ คญั ในอดตี หากผปู วยเปนผูหญิงวัยเจริญพันธุ ควรบันทึกประวัติการต้ังครรภและการคลอดในอดีตไว ดวย ตัวอยาง การเขียนประวตั อิ ดีตไดแก “ผปู ว ยมีโรคประจาํ ตวั เปนความดันโลหิตสูง ไดรับการวินิจฉัย เม่ือ 10 ปกอน รักษาโดยการกินยา ตอเนือ่ ง รบั ยาจากโรงพยาบาลชมุ ชนใกลบ าน เคยเปนโรคตบั อกั เสบจากไวรัสบี เมอื่ 15 ปก อน รกั ษาหายแลว โดยแพทยแจงวา ผลการตรวจเลอื ดไม พบวา ยงั มเี ชอื้ ไวรสั อยู 6 เดือนกอ น เคยมอี าการแขนซายออ นแรง ตอ งเขารบั การรักษาในโรงพยาบาล แพทยบอกวาเปนอัม พฤกษ นอนโรงพยาบาลอยู 1 สปั ดาห อาการดขี ้ึน แขนซา ยมีกําลังเปนปกติ เคยไดรับการผา ตดั ไสตงิ่ เมอื่ 20 ปก อ น ปจ จบุ นั ไมมีอาการปวดทอ งเร้อื รัง” 15
ประวตั ิครอบครวั เน้อื หาสว นน้ี เปน การบรรยายโรคและสถานะสุขภาพของบคุ คลครอบครัว ไดแ ก บดิ า มารดา พี่นอง ลกู ของผปู ว ย และคูสมรส เพอ่ื มองหาความสัมพันธของโรคที่ถายทอดทางพันธุกรรมโดยตรง เชน ฮีโมฟเลีย หรือโรคทีม่ ปี จจัยเส่ยี งจากองคประกอบทางพนั ธุกรรม เชน ความดันโลหิตสูง มะเร็งเตานม ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจขาดเลอื ด เปน ตน การซกั ประวัตคิ รอบครวั อยา งละเอียดจะชวยใหการวินิจฉัยโรคของผูป วยเปน ไปได โดยงายข้นึ หากเปนโรคมีปจจัยเสี่ยงดานพันธุกรรม และยังอาจทําใหแพทยคนพบโรคท่ีเปนปญหาสําคัญใน ครอบครวั ผปู ว ย ขยายการดูแลรักษาไปยังคนอ่นื ๆในครอบครัวผปู ว ยไดดว ย ตวั อยาง การเขียนประวตั ิครอบครัวไดแก “บดิ าผปู ว ยเสยี ชีวิตแลว เมือ่ อายุ 74 ป จากโรคมะเร็งตับ มารดาผูปวยอายุ 75 ป ในปจจุบัน มีโรค ประจาํ ตวั เปน ความดันโลหิตสงู รักษาโดยการใชยา ผปู วยมีพแี่ ละนองสาว 3 คน พี่สาวคนโตและนองสาวคนเล็กเปนมะเร็งเตานม รักษาโดยการผาตัด และใหยาเคมบี าํ บัด ปจ จบุ ันไมม อี าการ ผปู วยมีนองชาย 1 คน มีโรคประจําตัวเปนความดันโลหิตสูง รกั ษาโดยการใชยา ผูปว ยแตง งานแลว สามีอายุ 48 ป มีโรคประจําตัวเปนเบาหวาน รักษาโดยการใชยา มีลูกชาย 2 คน อายุ 19 และ 15 ป ปจ จบุ ันศึกษาอยู ไมมีโรคประจาํ ตวั ” ประวตั สิ ังคม เนอ้ื หาสว นนี้ เปน เรือ่ งลกั ษณะการใชชวี ิตของผูป ว ย ท่อี ยูอาศยั การเดนิ ทาง การประกอบอาชีพ การ เขาสังคม พฤฒิกรรมเสยี่ งตางๆทอ่ี าจสง ผลตอ สุขภาพ เชน การสบู บุหร่ี การดม่ื สุรา ฯลฯ แพทยควรซกั ประวตั ิ และบนั ทึกประวัตสิ งั คมเสมอ เพราะมีโรคหลายโรคท่ีเกิดจากดําเนินวิถีชีวิตท่ีแตกตางกันไป เชน โรคติดเช้ือ โรคมะเร็ง โรคและหัวใจหลอดเลอื ด เปนตน 16
ตัวอยา ง การเขยี นประวัติสงั คมไดแก “ผูปวยทํางานเปนชางกอสราง สูบบุหร่ีวันละ 2 ซอง มา 10 ป ด่ืมสุราสัปดาหละ 3-4 วัน ไมมี พฤตกิ รรมเสย่ี งดา นเพศสัมพันธ” “ผูปวยทํางานบริการในไนทคลับ ไมสูบบุหร่ี ดื่มสุราเปนเพ่ือนกับลูกคาสัปดาหละ 6 วัน ไมมี มี เพศสัมพนั ธโดยใชถงุ ยางอนามัยทกุ ครั้ง” การทบทวนตามระบบ เนื้อหาสว นน้ี เปน การสอบถามอาการที่เก่ียวขอ งกบั ระบบตางๆของรา งกายที่ผปู วยอาจเคยมีอาการ ผดิ ปกติในอดีต หรอื ในปจจบุ นั เร่มิ จาก อาการท่ัวไป แลวไลรายละเอียดไปตามระบบรางกายตางๆ จากหัว จรดเทา ในลกั ษณะเดยี วกบั การตรวจรางกาย ตามรายการดงั นี้ อาการทั่วไป ระบบผวิ หนงั หวั ตา หู จมูก ลาํ คอ (HEENT) เตานม ระบบหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลอื ด ระบบยอยอาหาร ระบบปสสาวะ อวัยวะสบื พันธุ ระบบกลามเนื้อ กระดูก ระบบประสาท ระบบเลอื ด ระบบตอมไรท อ สภาวะทางจติ เม่ือแพทยสอบถามทบทวนอาการตามระบบแลว หากพบวามีอาการตามระบบท่ีผิดปกติ และคิดวา นาจะเกย่ี วขอ งกับอาการเจ็บปว ยในปจ จบุ ัน แพทยค วรนาํ อาการท่ีพบวาผิดปกติน้ี ไปเขียนไวในสวน ประวัติ ปจจุบนั หรอื ประวตั ิอดตี ทีเ่ กี่ยวของ ไมค วรแยกเขยี นไวต รงสวนน้ี 17
ตัวอยา งรายงานประวตั ิผูปว ย ผูปวยหญงิ ไทยหมา ย อายุ 70 ป อยบู านเลีย้ งหลาน ท่จี งั หวัดนครราชสมี า ประวัตไิ ดจ ากผปู วย เช่อื ถือได อาการสําคญั ตัวเหลอื งตาเหลอื ง มา 2 สปั ดาห ประวตั ิปจ จุบนั 2 สัปดาห กอนมาโรงพยาบาล มีคนทกั วาดตู าเหลืองขน้ึ ไมม ีไข ไมป วดทอ ง ไมค ล่นื ไส ไมอ าเจียน ไม คนั ตามตวั ผูป วยไมค ดิ วาเปน อะไรมาก 1 สัปดาห กอนมาโรงพยาบาล เริ่มมอี าการคันตามตวั ไปซ้อื ยาจากรานขายยามากินและทา อาการดี ข้ึนบา ง 3 วัน กอนมาโรงพยาบาล มไี ข ไมห นาวสั่น ไปพบแพทยท ่ีคลนิ ิก แพทยใหยาลดไข และบอกวาเปนดี ซาน แนะนําใหม าตรวจท่ีโรงพยาบาล กินยาแลว อาการไขหายไป เร่ิมมีปส สาวะสเี หลืองเขม อาการคันตามตัว เปนมากข้ึน แตไมปวดทอ ง ไมค ลน่ื ไส ไมอาเจยี น ผูปวยรอใหล กู ขบั รถมารับแลวใหลกู มาโรงพยาบาล ประวัตอิ ดีต มีโรคประจําตัวเปนความดันโลหิตสูง 20 ป รักษาโดยการกินยา รับยาท่ีสถานีอนามัยใกลบานเปน ประจํา 1 ป กอ น ผา ตอ กระจกและเปลย่ี นเลนสทต่ี าซา ย ทีโ่ รงพยาบาลประจาํ จังหวัด 3 ป กอน เคยเขา รบั การรักษาในโรงพยาบาลชุมชน แพทยวินิจฉัยวาเปนกรวยไตอักเสบ รักษาโดย การใหยาทางหลอดเลือดอยู 5 วนั จนหาย 40 ป กอ นเคยผาทอ งคลอดลูกคนที่ 2 เน่ืองจากคลอดลาํ บากท่ีโรงพยาบาลประจาํ จังหวดั ประวัตคิ รอบครวั บดิ า เสยี ชีวติ ตอน อายุ 50 ป จากโรคมะเรง็ ตบั มารดา เสยี ชีวิต ตอนอายุ 60 ป จากโรคปอดบวม 18
สามี เสียชีวิต ตอน อายุ 48 ป จากโรคมะเร็งทอนํ้าดี มีบุตรชาย 2 คน คนโตอายุ 50 ป มีโรค ประจาํ ตัวเปน ความดนั โลหิตสงู คนเล็กอายุ 40 ป ยงั แข็งแรง มพี ี่นอ งรวม 5 คน ผปู วยเปนลกู คนกลาง พน่ี องทกุ คนมีโรคความดันโลหิตสูง ประวตั สิ ังคม ไมสูบบหุ รี่ ไมด่มื เหลา ทกุ วันน้ี อยูท ีบ่ า นทาํ งานบาน และเลยี้ งหลาน 2 คน อายุ 13 และ 10 ขวบ สวนใหญก ินอาหารพ้ืนบา นทที่ ําเอง บางคร้งั กินปลารา และปลานาํ้ จดื ทไี่ มไ ดปรุงสุก ทบทวนตามระบบ อาการทั่วไป – นาํ้ หนักไมล ด ไมออนเพลยี ไมว ิงเวียน ไมม หี นา มดื เปน ลม ระบบผวิ หนงั – ไมม ผี น่ื ขน้ึ ตามตัว ผิวแหงเล็กนอ ย HEENT – ไมปวดหวั ตาขางขวามวั เล็กนอ ย แพทยแ นะนาํ ใหตรวจทุก 6 เดอื น ตาซา ยเปลย่ี นเลนสแลว หูตึง บางเลก็ นอ ย เปนหวัดไมบอย ไมม เี ลอื ดออกตามไรฟน มหี นิ ปนู บาง ขดู หนิ ปนู ลา สุดเมอ่ื 1 ปกอ น ไมมกี อนทคี่ อ เตา นม – ไมมกี อ น ไมเจ็บท่ีเตา นม ระบบหายใจ – ไมเหนอ่ื ยหอบ มไี อบางเวลาเปนหวดั เอก็ ซเรยปอดครงั้ สุดทาย 1 ปก อน ระบบหัวใจและหลอดเลือด – ไมม ใี จส่นั , ไมเ จ็บหนาอก ไมม อี าการขาบวม ไมมเี สน เลอื ดขอดทขี่ า ระบบยอยอาหาร – มจี ุกแนนทองบางครัง้ ในชวง 2 ปท ่ผี า นมา กนิ ยาธาตนุ ํา้ แดงแลว อาการดีข้ึน ไมเบ่อื อาหาร ถายอุจจาระทกุ วนั แตบ างครั้งเมอื่ ทองผูกจะถา ยทุกๆ 2 วนั ไมเ คยตรวจเอก็ ซเรยช อ งทอ ง ระบบปส สาวะ – ถายปส สาวะไดดี ไมเ คยถายเปนกอนนว่ิ ไมมีปสสาวะเปน สแี ดง ระบบสืบพนั ธุ – ไมม ตี กขาว ประจาํ เดอื นหมดไปเม่อื ตอนอายุ 51 ป ตรวจภายในครัง้ สุดทา ย 20 ปกอ น ระบบกลามเนื้อและกระดกู – ไมมอี าการปวดหลงั มปี วดเม่ือยกลามเน้ือบางเวลาทํางานหนัก รักษาโดยการ ขอรับยาจากสถานอี นามัยใกลบาน ไมเ คยมกี ระดกู หกั ไมป วดเขาหรือปวดตามขอ เดนิ ไดส ะดวกดี 19
ระบบประสาท – ไมม อี าการชาตามผดิ หนงั ไมเ คยชัก ความจํายังดีอยู จําลูกหลานได จําเหตุการณอดีตและ ปจจุบนั ได ระบบเลอื ด – ไมม ีโลหิตจาง ไมมีจ้าํ เลือดตามผวิ หนงั ไมมเี ลือดออกผดิ ปกติทใี่ ด ระบบตอมไรท อ – ไมม ีคอพอก ไมมอี าการปสสาวะบอยตอนกลางคนื ไมม นี ํา้ หนกั ลด สภาวะจติ – อารมณดี ไมห งุดหงิดงา ย ไมทะเลาะกับใคร บางคร้งั บน วาหลานที่ด้ือและซนบาง เปนหวงกังวล วา หลานจะไปทาํ ความเดือดรอนใหกบั เพ่อื นบา น ในกรณีท่แี พทยม ีเวลาไมม าก หวั ขอ ทถ่ี ามอาจถามไดไมครบตามมาตรฐานที่กําหนด แตอยางนอย ก็ ตองมี อาการสําคัญ ประวัตปิ จจบุ ัน และ ประวตั อิ ดีตท่ีสําคัญ และบันทึกใหครบ 3 หวั ขอน้ี ในสถานพยาบาลระดบั ปฐมภูมิ เชน โรงพยาบาลสง เสรมิ สขุ ภาพตาํ บล เจา หนาท่ีใหบริการตรวจรกั ษา โรคสวนใหญไ มใ ชแ พทย จงึ อาจไมสามารถสัมภาษณประวัติไดเหมือนกับท่ีแพทยเปนผูดําเนินการ แตสํานัก นโยบายและแผน กระทรวงสาธารณสุขไดกําหนดมาตรฐานการเก็บรวบรวมขอมูลประวัติผูปวย ดัง รายละเอยี ดตอ ไปนี้ “ประวตั คิ วามเจ็บปว ย ประกอบดว ย อาการสาํ คญั ไดแ ก อาการนํา (chief complaint) ระยะเวลา ท่เี ปน รายละเอียดของอาการ และการดําเนนิ โรค สวนนี้เปนสวนทจ่ี ําเปนสําคัญ และอาจตองใช ประกอบการวินจิ ฉัยโรค ประวัติอดีต ประวตั คิ รอบครัว การทบทวนตามระบบประวัตสิ วนตวั ท่สี ําคัญ เชน การสบู บหุ ร่ี ดมื่ สุรา สารเสพตดิ ประวัติการแพยา ในสวนที่สาํ คัญและเก่ียวของกบั การเจบ็ ปวย ครั้งน”ี้ 3D. การสงั เกตโดยตรงจากผเู กบ็ รวบรวมขอมลู การสงั เกตโดยตรง เปน วิธีการท่ีใชเ กบ็ ขอ มลู ในระหวา งการตรวจรางกาย หรอื ตรวจวัดสัญญาณตางๆ จากตัวผปู ว ย โดย แพทย และ พยาบาล จะใชการดู คลาํ เคาะ และฟงสว นตางๆของรางกาย เพอ่ื คนหาอาการ แสดงผิดปกติ แลวบันทึกไวเปนผลการตรวจรา งกาย เพอ่ื นาํ ไปประกอบการวินิจฉยั โรคตอไป การตรวจรางกายจะทาํ ใหไ ดข อมูลตามหัวขอตอไปนี้ - สภาพทว่ั ไปท่ปี รากฏ (General Appearance) 20
- สัญญาณชพี (Vital Signs) - ศีรษะ ตา หู จมูก คอ (Head Eye Ear Nose Throat – HEENT) - ระบบหายใจ (Respiratory System) - ระบบหวั ใจและหลอดเลือด (Cardiovascular System) - ชองทอ ง (Abdominal Region) - อวยั วะเพศ (Genital Area) - การตรวจชองคลอดและทวารหนกั (Per Vaginal – PV and Per Rectal Exam – PR) - แขนและขา (Extremities) - ระบบประสาท (Nervous System) - สุขภาพจติ (Mental Health) การตรวจรางกายผปู ว ยโดยแพทยมรี ายละเอยี ดทตี่ อ งตรวจ ดังตวั อยางตอไปน้ี ตัวอยา งการเขยี นบนั ทกึ การตรวจรา งกาย Vital Signs BT 37.5° C, BP 130/90 mmHg, PR 100/min RR 18/min GA a thin middle-aged woman, acutely ill, not toxic HEENT Head: no scalp lesion, smooth texture black hair Eyes: pupil 3 mm. both reactive to light, no pale conjunctiva, no jaundice, no limitation of eyes movement Ears: no pinna deformity, acuity good to whispered voice Nose: no septum deviation, no sinus tenderness, pink mucosa Mouth: pink oral mucosa, no bleeding per gum, no injected pharynx Neck : trachea in midline, no thyroid gland enlargement, no cervical lymph nodes enlargement Chest Beast; not examined Symmetric thorax, clear and equal breath sound, no adventitious sound Regular S1 and S2, no S3 , no S4, no murmur, no heave , no thrill Abdomen soft, not distended, no tender, no guarding Liver span 7 cm at right midclavicular line, no mass Active bowel sound. Tympany on percussion Groin and Genitalia no swelling or hernia at both groins Genitalia not examined Extremities no deformity, no edema, warm, not tender, no limitation of movements Nervous System Mental Status tense but alert and cooperative Cranial Nerves: pupil 3 mm both reactive to light, no facial palsy, no tongue deviation Motor : muscle power strength 5/5 all extremities Sensory : no decrease pain and temperature sensory Reflex : 2+ all Barbinski’s sign : dorsiflex 21
ในกรณีท่ีแพทยมีเวลาไมม าก หวั ขอ ที่ตรวจอาจไดไมค รบตามมาตรฐานท่ีกาํ หนด แตอยางนอย ก็ตอง มี ผลการตรวจรางกายในสวนทเ่ี ก่ยี วขอ งกับอาการทเี่ จ็บปว ย และบนั ทกึ ไวใหชัดเจน ในสถานพยาบาลระดบั ปฐมภมู ิ เชน โรงพยาบาลสง เสรมิ สขุ ภาพตาํ บล เจาหนาทใี่ หบ รกิ ารตรวจรกั ษา โรคสวนใหญไมใชแพทย จึงอาจไมสามารถตรวจรางกายไดเหมือนกับท่ีแพทยเปนผูดําเนินการ แตสํานัก นโยบายและแผน กระทรวงสาธารณสุขไดกําหนดมาตรฐานการเก็บรวบรวมผลการตรวจรางกายผูปวย ดัง รายละเอยี ดตอ ไปนี้ “การตรวจรางกาย ประกอบดว ย การบันทึกเฉพาะสว นตามอาการนาํ เชน มาตรวจดว ยอาการปวด ทอ ง บนั ทึกการตรวจเฉพาะการตรวจชอ งทอ ง ควรบนั ทกึ การตรวจรา งกายอืน่ ๆ ทเ่ี กีย่ วของ เชน บนั ทกึ ลกั ษณะทัว่ ไปของผปู ว ย เชน ซีด เหลอื ง ตรวจรา งกายระบบปอด และหวั ใจทอ่ี าจเปน รอยโรค ทที่ าํ ใหป วดรา วมาชองทองได สว นนี้เปนสวนทีจ่ ําเปน และสาํ คัญ การบนั ทกึ อาจมรี ายละเอยี ดมาก นอยตามความสาํ คัญของระบบรางกายสว นท่เี ก่ียวขอ งกับการเจบ็ ปวยครงั้ น”้ี 3E. การดรู ายงานจากแหลงอน่ื ขอมูลหรือรายงานจากแหลง อื่น เชน ยาท่ผี ปู วยกิน แพทยหรอื ผูต รวจรักษา อาจขอดูตัวยา ชอ่ื ยาหรอื ฉลากยา แลวบนั ทกึ ไวช ว งทายประวตั ิ โดยบันทกึ ใหชดั เจนวาเปนขอมูลทไี่ ดจากแหลงภายนอก สว นรายงานท่ี เปน กระดาษมาจากภายนอก ใหคัดลอกไวในหัวขอขอมูลจากแหลงภายนอกเชนเดียวกัน เพื่อใหไดขอมูลที่ ครบถว นทุกแงมมุ มาอยูในเวชระเบียน 22
บทท่ี 4. การบันทึกขอ มลู กิจกรรมการดแู ลผูปวยนอก (Out Patient Data Recording) ผทู ีม่ ารบั บรกิ ารสง เสริมสุขภาพหรือรักษาโรคโดยไมรับไวรักษาตอในสถานพยาบาล เรียกวา ผูปวย นอก (Out Patient) ผทู ่ใี หบริการตอ งกิจกรรมการดูแลผูปวยนอกทุกประการเปนลายลักษณอักษร จัดเก็บ เอาไวใ นระบบเวชระเบยี น และ/หรือ ระบบฐานขอมูลของสถานพยาบาล การบันทึกกิจกรรมการดูแลผูปวย นอกของสถานพยาบาลแบง ไดเ ปน 2 กลุม คอื 1. การบันทึกขอมลู ตามแนวทางมาตรฐานแฟมขอมูล 43 แฟม ของกระทรวงสาธารณสขุ และ 2. การบันทึกขอ มลู ที่สาํ คญั แตไ มอยใู นขอ กาํ หนดมาตรฐาน 43 แฟม 4A. การบนั ทึกขอ มลู ตามแนวทางมาตรฐานแฟมขอมูล 43 แฟม ของกระทรวงสาธารณสุข มาตรฐานแฟม ขอ มูล 43 แฟม มีแฟม ทีต่ อ งใชในการบันทกึ ขอมูลผปู ว ยนอกทุกราย 6 แฟม และแฟม ที่ใชในการบันทกึ ขอมลู ผปู วยบางราย 27 แฟม รวม 33 แฟม ดงั ตอ ไปน้ี 1. PERSON 2. ADDRESS 3. CARD 4. SERVICE 5. DIAGNOSIS_OPD 6. CHARGE_OPD 7. DEATH 8. CHRONIC 9. DISABILITY 10. WOMEN 11. DRUGALLERGY 12. FUNCTIONAL 13. ICF 14. DRUG_OPD 15. PROCEDURE_OPD 16. SURVIELLANCE 17. ACCIDENT 18. LABFU 19. CHRONICFU 20. APPOINTMENT 21. DENTAL 22. REHABILITATION 23. NCDSCREEN 24. FP 25. PRENATAL 26. ANC 27. LABOR 23
28. POSTNATAL 29. NEWBORN 30. NEWBORN_CARE 31. EPI 32. NUTRITION 33. SPECIALPP แฟมท่ีตองใชบันทึกขอมูลผูปวยนอกทุกราย คือ PERSON, ADDRESS, CARD, SERVICE และ CHARGE_OPD 4A.1 การบนั ทกึ แฟม PERSON แฟม PERSON ใชเพ่ือขนึ้ ทะเบียนผทู ีม่ ารบั บริการ กําหนดหัวขอ ทค่ี วรบันทึกดังนี้ ลาํ ดับ หวั ข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ 1 รหสั สถานบริการ ฐานข้อมูล 2 เลขทบ�ี ตั รประชาชน รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE ยทุ ธศาสตร์ CID 3 ทะเบียนบคุ คล เลขประจาํ ตวั ประชาชน ตามกรมการปกครองกาํ หนด เป็ นรหสั ประจําตัวบคุ คล PID 4 รหสั บ้าน หมายเหตุ : เป็ นเลขจํานวนเตม็ 13 หลกั ทะเบยี นของบคุ คลท�มี าขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการนนั � ๆ HID 5 คํานําหน้า ใช้สาํ หรบั เชือ� มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอ�ืน ๆ (สามารถ 6 ชอ�ื กําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั )(program generate) PRENAME 7 นามสกลุ รหสั บ้านที�กาํ หนดโดยโปรแกรมจากแฟ้ ม HOME และ NAME 8 เลขทผ�ี ้ปู ่ วยนอก (HN) รหสั นีจ� ะซาํ � กนั ได้หากบคุ คลอาศยั อยใู่ นหลงั คาเรือน LNAME 9 เพศ เดยี วกนั อ้างอิงเพือ� ค้นหาบ้านในแฟ้ ม HOME (หลงั คา HN เรือนในเขตรบั ผดิ ชอบ) กรณีทีอ� าศยั ในเขตรบั ผิดชอบ SEX หมายเหตุ : กรณไี ม่เป็ นคา่ ว่างอ้างอิงตาม HID ในแฟ้ ม HOME คํานาํ หน้าชอ�ื อ้างองิ มาตรฐานตามกรมการปกครอง ชื�อ นามสกลุ เลขทะเบียนการมารบั บริการ(สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) ในกรณที มี� ีเลขทะเบยี นที�ต่างไปจาก PID 1 = ชาย , 2 = หญิง 24
ลําดับ หัวข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 10 วนั เกิด วนั เดือนปี เกดิ กําหนดเป็ น ค.ศ. (YYYYMMDD) (หากไม่ BIRTH 11 สถานะสมรส ทราบวนั เดอื นที�เกิด แต่ทราบ ค.ศ เกิด ให้กาํ หนดวนั 13 อาชีพ(รหสั ใหม)่ เกิดเป็ นวนั ท�ี 1 มกราคมของปี ค.ศ.นนั � ๆ) 14 เชือ� ชาติ 1 = โสด, 2 = ค,ู่ 3 = มา่ ย, 4 = หยา่ , 5 = แยก, 6 = MSTATUS 15 สญั ชาติ สมณะ, 9=ไมท่ ราบ 16 ศาสนา OCCUPATION_N 17 ระดบั การศกึ ษา 18 สถานะในครอบครวั รหสั มาตรฐานสาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ EW 19 รหสั CID บิดา รหสั มาตรฐานตามกรมการปกครอง RACE 20 รหสั CID มารดา รหสั มาตรฐานตามกรมการปกครอง ถ้าไม่ทราบให้ระบุ NATION 21 รหสั CID ค่สู มรส 22 สถานะในชมุ ชน 999 ตามรหสั มาตรฐาน รหสั มาตรฐานสาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ RELIGION รหสั มาตรฐานสาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ EDUCATION 1 = เจ้าบ้าน , 2 = ผ้อู าศยั FSTATUS รหสั บัตรประชาชนของบดิ า FATHER หมายเหตุ : กรณีที�เป็ นเดก็ อายตุ �ํากวา่ 15 ปี รหสั บัตรประชาชนของมารดา MOTHER หมายเหตุ : กรณีท�ีเป็ นเดก็ อายตุ ํ�ากว่า 15 ปี รหสั บตั รประชาชนของคู่สมรส COUPLE 1 = กํานนั ผ้ใู หญ่บ้าน, 2 = อสม., 3 = แพทย์ประจาํ VSTATUS ตําบล, 4 = สมาชกิ อบต., 5 = อ�นื ๆ 23 วนั ทย�ี ้ายเข้ามาเขตพนื � ท�ี วนั เดอื นปี ทีย� ้ายเข้า ในเขตรบั ผิดชอบ กาํ หนดเป็ น ค.ศ. MOVEIN รับผิดชอบ (YYYYMMDD) 24 สถานะ/สาเหตกุ าร 1 = ตาย , 2 = ย้าย , 3 = สาบสญู ,9 =ไม่จาํ หนา่ ย DISCHARGE จาํ หน่าย 25 วนั ทจ�ี ําหน่าย วนั เดือนปี ทีจ� าํ หนา่ ย กําหนดเป็ น ค.ศ. (YYYYMMDD) DDISCHARGE หมายเหตุ : บนั ทกึ เฉพาะกรณีสถานะ/สาเหตกุ าร จําหนา่ ย (No.24) เป็ น 1 = ตาย , 2 = ย้าย , 3 = สาบสญู 26 หม่เู ลอื ด 1 = A , 2 = B , 3 = AB , 4 = O ABOGROUP 27 หม่เู ลอื ด RH 1 = positive , 2 = negative RHGROUP 25
ลําดบั หวั ข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ 28 รหสั ความเป็ นคนตา่ ง ฐานข้อมูล ด้าว 29 เลขท�ี passport รหสั มาตรฐานสาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ LABOR 30 สถานะบคุ คล หมายเหตุ : เฉพาะกรณีทีเ� ป็ นประชากรต่างด้าว 31 วนั เดอื นปี ทป�ี รับปรุง ข้อมลู เลขท�ี passport PASSPORT หมายเหตุ : กรณที เ�ี ป็ นประชากรต่างด้าวท�ีมีเลขท�ี passport 1=มชี อ�ื อยู่ตามทะเบยี นบ้านในเขตรับผิดชอบและอยู่จริง TYPEAREA 2= มีชื�ออยตู่ ามทะเบบี นบ้านในเขตรับผิดชอบแต่ตวั ไม่ อยจู่ ริง 3= มาอาศัยอยใู่ นเขตรบั ผิดชอบ(ตามทะเบียนบ้านใน เขตรับผิดชอบ)แตท่ ะเบียนบ้านอย่นู อกเขตรับผดิ ชอบ 4= ท�ีอาศยั อยนู่ อกเขตรับผดิ ชอบและทะเบียนบ้านไมอ่ ยู่ ในเขตรับผิดชอบ เข้ามารบั บริการหรือเคยอย่ใู นเขต รบั ผิดชอบ 5=มาอาศยั ในเขตรับผิดชอบแตไ่ มไ่ ด้อยู่ตามทะเบยี น บ้านในเขตรับผดิ ชอบ เชน่ คนเร่ร่อน ไมม่ ีท�พี กั อาศยั เป็ นต้น วนั ที�เพิม� และปรับปรุงข้อมูล กําหนดรูปแบบเป็ น ปี เดอื น D_UPDATE วนั ชว�ั โมงนาทีวินาที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ น ปี คริสตศกั ราช 4A.2 การบนั ทึกแฟม ADDRESS แฟม ADDRESS ใชบันทกึ ที่อยูของผูมารบั บรกิ าร กาํ หนดหวั ขอท่คี วรบันทึกดังนี้ ลําดับ หัวข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 1 รหสั สถานบริการ รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ 2 ทะเบียนบคุ คล ยทุ ธศาสตร์ HOSPCODE ทะเบยี นของบคุ คลท�มี าขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ PID นนั � ๆ ใช้สาํ หรบั เชือ� มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอ�ืน ๆ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั )(program generate) 26
ลําดับ หวั ข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 3 ประเภทของทอี� ยู่ 1= ท�ีอย่ตู ามทะเบยี นบ้าน, 2= ท�อี ยทู่ ีต� ดิ ตอ่ ได้ ADDRESSTYPE 4 รหสั บ้านตามกรมการ เลขประจาํ บ้าน ตามกรมการปกครองกําหนดเป็ นรหัส HOUSE_ID ปกครอง ประจําบ้าน 5 ลกั ษณะของทอ�ี ยู่ 1 = บ้านเดย�ี ว บ้านแฝด, 2 = ทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม, 3 HOUSETYPE = คอนโดมิเนยี ม, 4 =อพาร์ทเมนท์ หอพกั , 5= บ้านพกั คนงาน, 8 = อน�ื ๆ, 9 = ไมท่ ราบ 6 เลขห้อง หมายเลขห้อง กรณีอาคารชดุ หรืออพาร์ทเมนท์ หรือ ROOMNO หอพกั 7 ชอื� อาคารชดุ 8 บ้านเลขที� ชื�ออาคารชดุ หรืออพาร์ทเมนท์ หรือหอพกั CONDO 9 ซอยแยก 10 ซอยหลกั บ้านเลขที� HOUSENO 11 ถนน 12 ช�อื หม่บู ้านจดั สรร ช�ือซอยแยก SOISUB 13 หม่ทู ี� ชื�อซอยหลกั SOIMAIN 14 ตาํ บล ชอ�ื ถนน ROAD 15 อาํ เภอ ชอื� หมบู่ ้านจดั สรร VILLANAME 16 จงั หวดั รหสั เลขหม่ทู �ี เช่น 01 คอื หมทู่ ี� 1 เป็ นต้น (ใช้ 99 แทน VILLAGE ไม่ทราบ) 17 เบอร์โทรศพั ท์ 18 เบอร์โทรศพั ท์มือถือ รหสั ตาํ บลตามกรมการปกครอง (ใช้ 99 แทนไม่ TAMBON 19 วนั เดอื นปี ทป�ี รับปรุง ทราบ) ข้อมลู รหสั อาํ เภอตามกรมการปกครอง (ใช้ 99 แทนไม่ AMPUR ทราบ) รหสั จงั หวดั ตามกรมการปกครอง (ใช้ 99 แทนไม่ CHANGWAT ทราบ) เบอร์โทรศพั ท์ TELEPHONE เบอร์โทรศพั ท์มอื ถอื MOBILE วนั ทเ�ี พิม� และปรบั ปรุงข้อมลู กาํ หนดรูปแบบเป็ น ปี D_UPDATE เดอื นวนั ชวั� โมงนาทวี ินาที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศกั ราช 27
4A.3 การบนั ทึกแฟม CARD แฟม CARD ใชบันทกึ สทิ ธกิ ารรักษาของผูมารับบรกิ ารแตละราย กาํ หนดหวั ขอทคี่ วรบนั ทึกดงั นี้ ลําดับ หวั ข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 1 รหสั สถานบริการ รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบาย HOSPCODE 2 ทะเบียนบคุ คล และยทุ ธศาสตร์ ทะเบียนของบคุ คลท�ีมาขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ PID 3 ประเภทสทิ ธิการรักษา นนั � ๆ ใช้สาํ หรบั เชื�อมโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอ�นื ๆ (รหสั เดมิ ) (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) INSTYPE_OLD รหสั สทิ ธิมาตรฐาน เดมิ 4 ประเภทสทิ ธิการรักษา 5 เลขท�ีบตั รสทิ ธิ รหสั สทิ ธิมาตรฐานทีก� าํ หนดโดยหนว่ ยงานท�ี INSTYPE_NEW 6 เกย�ี วข้อง INSID STARTDATE วนั ทอ�ี อกบตั ร หมายเลขของบตั ร ตามประเภทสทิ ธิการรักษา EXPIREDATE 7 MAIN วนั เดอื นปี ทอี� อกบตั ร กําหนดเป็ น ค.ศ. วนั ทหี� มดอายุ (YYYYMMDD) SUB 8 สถานบริการหลกั วนั เดอื นปี ที�บตั รหมดอายุ กําหนดเป็ น ค.ศ. D_UPDATE 9 สถานบริการรอง (YYYYMMDD) 10 วนั เดือนปี ทป�ี รับปรุง รหสั สถานพยาบาลหลกั ค่สู ญั ญา กรณี หลกั ประกนั สขุ ภาพถ้วนหน้า และประกนั สงั คม ตามมาตรฐาน สาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ หมายเหตุ : บนั ทกึ กรณีประเภทสทิ ธิการรกั ษา เป็ นสทิ ธิ UC รหสั สถานพยาบาลปฐมภมู ิ กรณี หลกั ประกนั สขุ ภาพถ้วนหน้า และสถานพยาบาลในเครือขา่ ย 1 แห่ง (ถ้ามี) สาํ หรบั ประกนั สงั คม ตามมาตรฐานจาก สาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ หมายเหตุ : บนั ทกึ กรณีประเภทสทิ ธิการรักษา เป็ น สทิ ธิ UC วนั ทเ�ี พ�ิมและปรบั ปรุงข้อมลู กําหนดรูปแบบเป็ น ปี เดอื นวนั ชวั� โมงนาทีวินาที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศักราช หมายเหตุ : ไมเ่ ป็ นค่าวา่ งและมีรูปแบบคอื YYYYMMDDHHMMSS โดยบนั ทกึ เป็ น ค.ศ. 28
การบนั ทึกขอ มูลท้งั 3 แฟม ในทางปฏิบัติ จะมขี ้นั ตอนดงั ตอ ไปน้ี 1. เม่ือมีผูปว ยมาใหม เจาหนา ที่จะใหผ ปู วยกรอกแบบฟอรม การลงทะเบียนผูปว ยใหม 2. เจาหนาท่ีนําแบบฟอรมมาบันทึกเขาโปรแกรมระบบลงทะเบียนผูปวย ซึ่งโปรแกรมจะบันทึก ขอ มูลลงไปในแฟม PERSON, ADDRESS และ CARD 3. หากตอ งการพิมพแ บบฟอรม สามารถสง่ั ใหโ ปรแกรมพิมพแบบฟอรมแผนหนา OPD Card ดงั นี้ 4A.4 การบนั ทกึ แฟม SERVICE แฟม SERVICE ใชบรกิ ารการมารับบรกิ ารแตล ะคร้งั ของผูป วย กาํ หนดหัวขอที่ควรบนั ทึกดังน้ี ลําดบั หัวข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ 1 รหสั สถานบริการ ฐานข้อมูล รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE ยทุ ธศาสตร์ 29
ลําดับ หวั ข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 2 ทะเบียนบคุ คล ทะเบียนของบคุ คลทมี� าขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ PID นนั � ๆ ใช้สาํ หรับเช�อื มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอนื� ๆ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) 3 เลขทผี� ้ปู ่ วยนอก (HN) เลขทะเบยี นการมารบั บริการ(สามารถกาํ หนดได้ตงั � แต่ HN 1-15 หลกั ) ในกรณที ี�มเี ลขทะเบยี นทต�ี ่างไปจาก PID 4 ลาํ ดบั ท�ี ลาํ ดบั ท�ีของการบริการท�ีกําหนดโดยโปรแกรม SEQ เรียงลาํ ดบั โดยไม่ซาํ � กนั สาํ หรบั การมารบั บริการแต่ละ 5 วนั ท�ีให้บริการ ครัง� (visit) หมายเหตุ : ในกรณที ี�มารบั บริการ (visit) DATE_SERV หลายคลนิ กิ ใน 1 ครงั � ให้มีลาํ ดบั การให้บริการเป็ น TIME_SERV 6 เวลาท�ีให้บริการ ตวั เลข เดียวกนั LOCATION 7 ทต�ี งั � ของทอ�ี ยู่ วนั เดือนปี ที�มารับบริการ กําหนดเป็ น ค.ศ. ผ้รู ับบริการ (YYYYMMDD) 8 เวลามารับบริการ หมายเหตุ : กรณที �บี นั ทึกข้อมลู ย้อนหลงั ให้เปลยี� นวนั กลบั เป็ นวนั ท�ีรบั บริการจริง เวลาท�ีมารบั บริการ กาํ หนดเป็ น ชวั� โมง นาที วนิ าที (HHMMSS) 1 = ในเขตรับผิดชอบ, 2 = นอกเขตรบั ผิดชอบ 1 = ในเวลาราชการ, 2 = นอกเวลาราชการ INTIME 9 ประเภทสทิ ธิการรักษา รหสั สทิ ธิมาตรฐาน ท�ใี ช้ในการมารับบริการ INSTYPE 10 เลขที�บตั รสทิ ธิ หมายเลขของบัตร ตามประเภทสทิ ธิการรักษา INSID 11 สถานบริการหลกั รหสั มาตรฐานจาก สาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ MAIN 12 ประเภทการมารับ 1 = มารับบริการเอง, 2 = มารบั บริการตามนัดหมาย, TYPEIN บริการ 3 = ได้รับการสง่ ต่อจากสถานพยาบาลอน�ื , 4 = ได้รบั การสง่ ตวั จากบริการ EMS 13 สถานบริการท�ีสง่ ผ้ปู ่ วย รหสั สถานพยาบาลท�สี ่งผ้ปู ่ วยมารักษาต่อ REFERINHOSP มา 14 สาเหตกุ ารสง่ ผ้ปู ่ วยมา 1 = เพือ� การวนิ จิ ฉยั และรักษา, 2 = เพอื� การวินิจฉยั , CAUSEIN รับบริการ 3 = เพ�ือการรกั ษาและพืน� ฟตู ่อเน�ือง, 4 = เพ�ือการดแู ล ต่อใกล้บ้าน, 5 = ตามความต้องการผ้ปู ่ วย 15 อาการสาํ คญั อาการสาํ คญั ทม�ี าใช้บริการ CHIEFCOMP 30
ลําดับ หัวข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 16 สถานท�ีรับบริการ 1 = ในสถานบริการ , 2 = นอกสถานบริการ SERVPLACE 17 อณุ หภมู ิร่างกายแรกรับ อณุ หภมู ิร่างกายแรกรบั (เซลเซียส) จดุ ทศนิยม 1 BTEMP ตาํ แหนง่ SBP 18 ความดนั โลหิตซสิ โตลกิ ความดนั โลหิต ซสิ โตลกิ แรกรับ (มม.ปรอท) แรกรับ หมายเหตุ : ไมต่ ้องบนั ทกึ ในกรณีท�วี ดั ค่าไม่ได้ เชน่ กลมุ่ เด็ก 19 ความดนั โลหิตได ความดนั โลหิต ไดแอสโตลกิ (มม.ปรอท) DBP แอสโตลกิ แรกรับ หมายเหตุ : ไม่ต้องบนั ทกึ ในกรณที ี�วดั ค่าไม่ได้ เชน่ กลมุ่ เด็ก 20 อตั ราการเต้นของชีพจร อตั ราการเต้นของชีพจร (ครงั � ตอ่ นาท)ี PR 21 อตั ราการหายใจ อตั ราการหายใจ (ครงั � ต่อนาท)ี RR 22 สถานะผ้มู ารับบริการ 1 = จําหน่ายกลบั บ้าน, 2 = รบั ไว้รกั ษาตอ่ ในแผนก TYPEOUT เมือ� เสร็จสนิ � บริการ ผ้ปู ่ วยใน, 3 = สง่ ต่อไปยังสถานพยาบาลอนื� , 4 = เสยี ชีวิต, 5 = เสยี ชีวิตกอ่ นมาถงึ สถานพยาบาล, 6 = เสยี ชวี ติ ระหวา่ งสง่ ตอ่ ไปยงั สถานพยาบาลอื�น, 7= ปฏิเสธการรกั ษา, 8 = หนกี ลบั 23 สถานพยาบาลทส�ี ่ง รหสั สถานพยาบาลทีส� ่งผ้ปู ่ วยไปรักษาตอ่ REFEROUTHOSP ผ้ปู ่ วยไป 24 สาเหตกุ ารสง่ ต่อผ้ปู ่ วย 1 = เพ�ือการวินิจฉยั และรักษา, 2 = เพื�อการวินจิ ฉยั , CAUSEOUT 3 = เพอ�ื การรักษาและฟื น� ฟตู ่อเนือ� ง, 4 = เพ�อื การดแู ล ตอ่ ใกล้บ้าน, 5 = ตามความต้องการผ้ปู ่ วย 25 ราคาทนุ ของบริการ ราคาทนุ ซง�ึ รวมค่ายาและเวชภัณฑ์ทงั � หมดรวมทงั � COST ค่าบริการทางการแพทย์ (รวมจดุ ทศนยิ มและเลขหลงั จดุ 2 ตาํ แหนง่ ) 26 คา่ บริการทัง� หมด ราคาขายซงึ� รวมคา่ ยาและเวชภัณฑ์ ทงั � หมดรวมทงั � PRICE (ราคาขาย) ค่าบริการทางการแพทย์ (รวมจดุ ทศนิยมและเลขหลงั จดุ 2 ตําแหนง่ ) 27 คา่ บริการท�ีต้องจา่ ยเอง จํานวนเงนิ ที�เรียกเกบ็ เน�อื งจากเป็ นค่าใช้จา่ ยทเ�ี บกิ PAYPRICE ไมไ่ ด้ (รวมจดุ ทศนิยมและเลขหลงั จดุ 2 ตําแหนง่ ) โดย 31
ลาํ ดบั หวั ข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล ถ้าไม่มีการเรียกเกบ็ ให้ใสเ่ ลขศนู ย์ 28 เงนิ ท�ีจา่ ยจริง จํานวนเงนิ ทจ�ี า่ ยจริง ถ้าไม่มกี ารจ่ายให้ใสเ่ ลขศนู ย์ ACTUALPAY 29 วนั เดอื นปี ทีป� รบั ปรุง D_UPDATE วนั ท�เี พิม� และปรับปรุงข้อมูล กําหนดรูปแบบเป็ น ปี ข้อมลู เดอื น วนั ชวั� โมงนาทวี ินาที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศกั ราช 4A.5 การบันทึกแฟม DIAGNOSIS_OPD แฟม DIAGNOSIS_OPD ใชบนั ทึกรหสั ICD ของผทู ีม่ ารบั บรกิ าร กําหนดหวั ขอ ทคี่ วรบนั ทึกดังนี้ ลาํ ดับ หวั ข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ 1 รหสั สถานบริการ ฐานข้อมูล 2 ทะเบียนบคุ คล รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE 3 ลาํ ดบั ที� ยทุ ธศาสตร์ PID ทะเบียนของบคุ คลท�มี าขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ SEQ 4 วนั ทใี� ห้บริการ นนั � ๆ ใช้สาํ หรับเชื�อมโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอนื� ๆ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) DATE_SERV 5 ประเภทการวินิจฉยั ลาํ ดบั ที�ของการบริการท�ีกําหนดโดยโปรแกรม เรียงลาํ ดบั โดยไม่ซาํ � กนั สาํ หรับการมารบั บริการแต่ละ DIAGTYPE 6 รหสั การวินิจฉยั ครัง� (visit) หมายเหตุ : ในกรณีท�ีมารบั บริการ (visit) หลายคลนี คิ ใน 1 ครงั � ให้มีลาํ ดบั การให้บริการเป็ นตวั เลข เดยี วกนั วนั เดือนปี ท�ีมารับบริการ กาํ หนดเป็ น ค.ศ. (YYYYMMDD) หมายเหตุ : กรณีที�บนั ทีกข้อมลู ย้อนหลงั ให้เปลยี� นวนั กลบั เป็ นวนั ท�ีรับบริการจริง 1 = PRINCIPLE DX (การวนิ ิจฉยั โรคหลกั ) ,4 = OTHER (อืน� ๆ), 5 = EXTERNAL CAUSE(สาเหตุ ภายนอก) และ 7 = Morphology Code (รหสั เกี�ยวกบั เนอื � งอก) เทา่ นนั � รหสั โรค ICD - 10 - TM DIAGCODE 32
ลําดับ หัวข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ 7 แผนกท�ีรบั บริการ ฐานข้อมูล รหสั แผนกท�ีรับบริการ อ้างอิงตามมาตรฐาน สนย. CLINIC 8 เลขทผ�ี ้ใู ห้บริการ หมายเหตุ : กรณี รพ.สต. ให้ลงรหสั แผนกบริการ ตาม 9 วนั เดอื นปี ทปี� รบั ปรุง การให้บริการจริง PROVIDER เลขที�ผ้ใู ห้บริการ ออกโดยโปรแกรม ไมซ่ าํ � กนั ใน ข้อมลู สถานพยาบาลเดยี วกนั D_UPDATE วนั ที�เพ�มิ และปรับปรุงข้อมูล กําหนดรูปแบบเป็ น ปี เดือนวนั ชว�ั โมงนาทวี นิ าที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศกั ราช 4A.6 การบันทึกแฟม CHARGE_OPD แฟม CHARGE_OPD ใชบันทกึ คา ใชจายของการมารบั บรกิ ารแตละครง้ั กาํ หนดหวั ขอ ที่ควรบนั ทกึ ดงั น้ี ลาํ ดบั หัวข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ 1 รหสั สถานบริการ ฐานข้อมูล 2 ทะเบยี นบคุ คล รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE 3 ลาํ ดบั ท�ี ยทุ ธศาสตร์ PID ทะเบยี นของบคุ คลที�มาขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ 4 วนั ทใ�ี ห้บริการ นนั � ๆ ใช้สาํ หรบั เช�อื มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอื�น ๆ SEQ 5 แผนกที�รบั บริการ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) 6 หมวดของค่าบริการ ลาํ ดบั ท�ขี องการบริการที�กาํ หนดโดยโปรแกรม DATE_SERV เรียงลาํ ดบั โดยไม่ซาํ � กนั สาํ หรบั การมารบั บริการแตล่ ะ ครัง� (visit) CLINIC หมายเหตุ : ในกรณที �ีมารบั บริการ (visit) หลายคลนี คิ ใน 1 ครงั � ให้มีลาํ ดบั การให้บริการเป็ นตัวเลข เดียวกนั CHARGEITEM วนั เดือนปี ทม�ี ารับบริการ กําหนดเป็ น ค.ศ. (YYYYMMDD) หมายเหตุ : กรณีทบ�ี นั ทีกข้อมูล ย้อนหลงั ให้เปลย�ี นวนั กลบั เป็ นวนั ท�ีรบั บริการจริง รหสั แผนกท�ีรับบริการ อ้างองิ ตามมาตรฐาน สนย. หมายเหตุ : กรณี รพ.สต. ให้ลงรหัสแผนกบริการ ตาม การให้บริการจริง รหสั หมวดของค่าบริการตามมาตรฐาน สนย. 33
ลําดบั หัวข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 7 รหสั รายการค่าบริการ รหสั รายการค่าบริการท�ีเบกิ เป็ นรายการยอ่ ย หากไม่มี CHARGELIST การบนั ทกึ รายการย่อย ให้ใสค่ ่าเป็ น ‘000000’ 8 จํานวนหน่วยทเี� บิก จํานวนหนว่ ยทีเ� บิก QUANTITY 9 สทิ ธิการรักษาทเี� บกิ รหสั สทิ ธิมาตรฐาน ทใ�ี ช้ในการมารับบริการ INSTYPE 10 ราคาทนุ ของบริการ ราคาทนุ ของบริการ (รวมจดุ ทศนยิ มและเลขหลงั จดุ 2 COST ตําแหน่ง) 11 คา่ บริการทัง� หมด ราคาขายของบริการ (รวมจุดทศนิยมและเลขหลงั จดุ PRICE (ราคาขาย) 2 ตําแหนง่ ) 12 ค่าบริการที�ต้องจา่ ยเอง จาํ นวนเงนิ ที�เรียกเก็บ เนอ�ื งจากเป็ นคา่ ใช้จ่ายทเ�ี บกิ PAYPRICE ไมไ่ ด้ (รวมจดุ ทศนิยมและเลขหลงั จดุ 2 ตําแหนง่ ) โดย ถ้าไมม่ ีการเรียกเกบ็ ให้ใสเ่ ลขศนู ย์ 13 วนั เดือนปี ที�ปรับปรุง วนั ทเ�ี พิม� และปรบั ปรุงข้อมูล กาํ หนดรูปแบบเป็ น ปี D_UPDATE ข้อมลู เดอื นวนั ชว�ั โมงนาทวี นิ าที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศกั ราช แฟมที่เหลอื เปนการบันทกึ ขอ มลู เฉพาะผปู ว ยรายท่ีมีลกั ษณะเฉพาะเทานั้น เชน แฟม DEATH ใช บนั ทึกขอ มูลผูเสียชีวติ เทา นั้น เปนตน 4A.7 การบันทึกแฟม DEATH แฟม DEATH ใชบ นั ทกึ ขอ มูลผูเสยี ชวี ติ และสาเหตุการตาย กําหนดหวั ขอ ท่ีควรบันทกึ ดังน้ี ลาํ ดบั หัวข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ 1 รหสั สถานบริการ ฐานข้อมูล 2 ทะเบยี นบคุ คล รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE ยทุ ธศาสตร์ ทะเบียนของบคุ คลท�มี าขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ PID นนั � ๆ ใช้สาํ หรบั เชอื� มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอ�ืน ๆ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั )(program generate) 34
ลําดบั หวั ข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ 3 สถานบริการทเ�ี สียชีวติ ฐานข้อมูล รหสั สถานพยาบาล ท�ีเป็ นสถานทเี� สยี ชีวิต กรณี HOSPDEATH 4 เลขที�ผ้ปู ่ วยใน (AN) เสยี ชวี ิตในสถานพยาบาล กรณีไม่ทราบวา่ ตายในสถานพยาบาลใดให้บนั ทกึ AN 5 ลาํ ดบั ที� \"00000\" SEQ เลขที�ผ้ปู ่ วยใน กรณีทผ�ี ้เู สยี ชีวติ เป็ นผ้ปู ่ วยในของ 6 วนั ท�ตี าย โรงพยาบาล DDEATH 7 รหสั โรคท�เี ป็ นสาเหตุ ลาํ ดบั ที�ของการบริการที�กาํ หนดโดยโปรแกรม CDEATH_A เรียงลาํ ดบั โดยไม่ซาํ � กนั สาํ หรับการมารบั บริการแตล่ ะ CDEATH_B การตาย_a ครงั � (visit) โดยเป็ นครัง� ท�ีเสยี ชีวิต CDEATH_C 8 รหสั โรคที�เป็ นสาเหตุ วนั เดือนปี ทต�ี าย กําหนดเป็ น ค.ศ.(YYYYMMDD) CDEATH_D ODISEASE การตาย_b ตามหนงั สอื รบั รองการตาย รหสั ICD - 10 - TM 6 CDEATH 9 รหสั โรคทเี� ป็ นสาเหตุ หลกั (ไม่รวมจดุ ) ตามหนงั สอื รับรองการตาย รหสั ICD - 10 - TM 6 PREGDEATH การตาย_c หลกั (ไม่รวมจดุ ) 10 รหสั โรคทเี� ป็ นสาเหตุ ตามหนงั สอื รบั รองการตาย รหสั ICD - 10 - TM 6 PDEATH หลกั (ไม่รวมจดุ ) PROVIDER การตาย_d ตามหนงั สอื รับรองการตาย รหสั ICD - 10 - TM 6 11 รหสั โรคหรือภาวะอ�ืนที� หลกั (ไม่รวมจดุ ) ตามหนงั สอื รับรองการตาย รหสั ICD - 10 - TM 6 เป็ นเหตหุ นนุ หลกั (ไม่รวมจดุ ) 12 สาเหตกุ ารตาย ตามหนงั สอื รับรองการตาย รหัส ICD - 10 - TM 6 หลกั (ไม่รวมจดุ ) 13 การตัง� ครรภ์และการ หมายเหตุ : ไม่เป็ นค่าวา่ งและอ้างอิงตามรหัส คลอด ICD10TM ยกเว้นรหสั S,T,Z เนอื� งจากรหสั S,T เป็ น การให้รหัสการบาดเจ็บและการเป็ นพษิ สว่ นรหสั Z 14 สถานที�ตาย เป็ นรหสั การให้บริการด้านสขุ ภาพ 15 เลขทีผ� ้ใู ห้บริการ 1 = เสยี ชีวิตระหวา่ งตงั � ครรภ์, 2= เสยี ชวี ติ ระหวา่ ง คลอดหรือหลงั คลอดภายใน 42 วนั , 3 = ไม่ตงั � ครรภ์ , 4 = ผ้ชู าย ,9 = ไม่ทราบ (ตดั 3 4 9 ออก) หมายเหตุ : เฉพาะหญิงตงั � ครรภ์ 1=ในสถานพยาบาล, 2=นอกสถานพยาบาล เลขที�ผ้ใู ห้บริการ ออกโดยโปรแกรม ไมซ่ าํ � กนั ใน 35
ลาํ ดบั หัวข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 16 วนั เดอื นปี ทปี� รับปรุง สถานพยาบาลเดียวกนั D_UPDATE ข้อมลู วนั ท�เี พิ�มและปรบั ปรุงข้อมลู กําหนดรูปแบบเป็ น ปี เดอื นวนั ชวั� โมงนาทีวนิ าที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศักราช 4A.8 การบันทกึ แฟม CHRONIC แฟม CHRONIC ใชข ึน้ ทะเบยี นผูปวยโรคเรอื้ รงั กาํ หนดหัวขอที่ควรบนั ทึกดังน้ี ลาํ ดบั หัวข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ 1 ฐานข้อมูล รหสั สถานบริการ รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE 2 ทะเบยี นบคุ คล ยทุ ธศาสตร์ PID ทะเบยี นของบคุ คลที�มาขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ 3 วนั ทีต� รวจพบครงั � แรก นนั � ๆ ใช้สาํ หรับเช�ือมโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอ�นื ๆ DATE_DIAG (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั )(program 4 รหสั วนิ ิฉยั โรคเรือ� รัง generate) CHRONIC 5 สถานพยาบาลท�ี วนั เดอื นปี ทต�ี รวจพบครัง� แรก HOSP_DX หมายเหตุ : วนั เดือนปี ทีไ� ด้รับการวนิ จิ ฉยั /ตรวจพบครัง� วินิจฉยั ครัง� แรก แรก 6 สถานพยาบาลทีร� บั รหสั โรค ICD - 10 - TM (โรคเรือ� รัง) บริการประจํา รหสั สถานพยาบาลทว�ี ินิจฉยั ครงั � แรก 7 วนั ทจ�ี าํ หน่าย รหสั สถานพยาบาลที�ไปรับบริการประจาํ HOSP_RX วนั เดือนปี ทจี� าํ หนา่ ย กาํ หนดเป็ น ค.ศ.(YYYYMMDD) DATE_DISCH หมายเหตุ : บนั ทกึ กรณที สี� ามารถระบปุ ระเภทการ จําหน่าย หรือ สถานะของผ้ปู ่ วยทีท� ราบผลหลงั สดุ (No. 8) ยกเว้น 03 = ยงั รักษาอยู่, 05 = รอจําหน่าย/ เฝ้ าระวงั 36
ลาํ ดับ หวั ข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ 8 ประเภทการจําหนา่ ย ฐานข้อมูล หรือสถานะของผ้ปู ่ วยท�ี 01 = หาย , 02 = ตาย , 03 = ยงั รักษาอยู่ , 04 = ไม่ TYPEDISCH ทราบผลหลงั สดุ ทราบ(ไมม่ ขี ้อมลู ) , 05 = รอจาํ หน่าย/เฝ้ าระวงั , 06 = ขาดการรักษาไมม่ า D_UPDATE 9 วนั เดือนปี ท�ีปรบั ปรุง ติดต่ออีก (ทราบวา่ ขาดการรักษา), 07 = ครบการรักษา, 08 = โรคอย่ใู นภาวะสงบ (inactive) ไม่มคี วามจําเป็ นต้องรกั ษา, 09 = ปฏิเสธ การรักษา, 10 = ออกจากพืน� ที� วนั ที�เพิ�มและปรับปรุงข้อมลู กําหนดรูปแบบเป็ น ปี เดอื นวนั ชว�ั โมงนาทีวนิ าที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศักราช 4A.9 การบนั ทึกแฟม DISABILITY แฟม DISABILITY ใชข้ึนทะเบียนผปู วยทีเ่ ปน ผพู กิ าร กําหนดหวั ขอทค่ี วรบันทกึ ดังน้ี ลาํ ดับ หัวข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ 1 รหสั สถานบริการ ฐานข้อมูล 2 เลขทะเบยี นผ้พู กิ าร รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE ยทุ ธศาสตร์ DISABID 3 ทะเบียนบคุ คล เลขทะเบยี นผ้พู กิ ารหรือทพุ ลภาพ (ออกโดยกระทรวง การพฒั นาสงั คมและความมนั� คงของมนษุ ย์) PID 4 ประเภทความพิการ 5 สาเหตคุ วามพกิ าร ทะเบียนของบคุ คลท�ีมาขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ DISABTYPE นนั � ๆ ใช้สาํ หรับเช�อื มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอนื� ๆ DISABCAUSE 6 รหสั โรคหรือการ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) บาดเจบ็ ที�เป็ นสาเหตุ รหสั ประเภทความพิการ (7 ประเภท) DIAGCODE ของความพิการ 1 = ความพกิ ารแต่กาํ เนดิ , 2 = ความพิการจากการ บาดเจบ็ , 3 = ความพกิ ารจากโรค รหสั โรคหรือการบาดเจบ็ ตาม ICD - 10 – TM ทเี� ป็ น สาเหตขุ องความพิการ 37
ลาํ ดับ หวั ข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ 7 วนั ท�ีตรวจพบความ ฐานข้อมูล พกิ าร วนั เดอื นปี ที�ตรวจพบความพิการ กาํ หนดเป็ น ค.ศ. DATE_DETECT (YYYYMMDD) 8 วนั ทีเ� ร�ิมมีความพิการ หมายเหตุ : กรณที �บี นั ทีกข้อมลู ย้อนหลงั ให้เปลยี� นวนั DATE_DISAB กลบั เป็ นวนั ท�ีรบั บริการจริง 9 วนั เดือนปี ทป�ี รับปรุง วนั เดือนปี ทเี� ริ�มมีความพิการ กําหนดเป็ น ค.ศ. D_UPDATE (YYYYMMDD) หมายเหตุ : กรณีท�บี นั ทีกข้อมลู ย้อนหลงั ให้เปลยี� นวนั กลบั เป็ นวนั ท�ีรบั บริการจริง วนั ทเ�ี พ�มิ และปรบั ปรุงข้อมูล กาํ หนดรูปแบบเป็ น ปี เดือนวนั ชว�ั โมงนาทวี ินาที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศักราช 4A.10 การบันทกึ แฟม WOMEN แฟม WOMEN ใชขึน้ ทะเบยี นผูรับบรกิ ารที่เปน หญงิ วยั เจริญพนั ธุ กําหนดหัวขอท่ีควรบนั ทกึ ดังนี้ ลาํ ดับ หัวข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ 1 รหสั สถานบริการ ฐานข้อมูล 2 ทะเบียนบคุ คล รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE 3 รหสั วิธีการคมุ กําเนดิ ยทุ ธศาสตร์ ปัจจบุ นั ทะเบยี นของบคุ คลทีม� าขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ PID 4 สาเหตทุ �ีไม่คมุ กําเนดิ นนั � ๆ ใช้สาํ หรบั เชอ�ื มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอน�ื ๆ 5 จาํ นวนบตุ รทงั � หมดท�ี (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) เคยมี 6 จํานวนบตุ รทีม� ีชีวติ 1 = ยาเม็ด, 2 = ยาฉีด, 3 = ห่วงอนามยั , 4 = ยาฝัง, 5 FPTYPE = ถงุ ยางอนามยั , 6= หมนั ชาย, 7= หมนั หญิง, 8= นบั ระยะปลอดภัย, 9= ไมค่ มุ กําเนดิ 1 = ต้องการบตุ ร , 2 = หมนั ธรรมชาติ ,3 = อืน� ๆ NOFPCAUSE จาํ นวนบตุ รท�คี ลอดมีชีวิตทงั � หมดทเี� คยมี รวมท�ี TOTALSON เสยี ชีวิตแล้ว เป็ นเลขจํานวนเต็ม หากไมม่ ีใส่ 0 จาํ นวนบตุ รที�มีชีวิตอยู่ เป็ นเลขจาํ นวนเต็ม หากไมม่ ีใส่ NUMBERSON 0 38
ลําดับ หวั ข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ 7 จํานวนการแท้งบตุ ร ฐานข้อมูล จํานวนการแท้งบตุ ร เป็ นเลขจํานวนเต็ม หากไม่มีใส่ 0 ABORTION 8 จํานวนทารกตายใน บนั ทกึ เฉพาะกรณที ี�มีการแท้ง ครรภ์ หรือตายคลอด จํานวนทารกตายในครรภ์ หรือตายคลอด เป็ นเลข STILLBIRTH จาํ นวนเต็ม หากไม่มใี ส่ 0 บนั ทกึ เฉพาะกรณีท�บี ตุ ร 9 วนั เดือนปี ท�ีปรับปรุง ตายในครรภ์หรือตายคลอด D_UPDATE วนั ทเ�ี พ�ิมและปรับปรุงข้อมูล กาํ หนดรูปแบบเป็ น ปี เดือนวนั ชวั� โมงนาทีวนิ าที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศักราช 4A.11 การบนั ทกึ แฟม DRUG_ALLERGY แฟม DRUG_ALLERGY ใชขึน้ ทะเบียนการแพยาของผูมารับบริการ กําหนดหัวขอท่ีควรบันทึก ดงั นี้ ลําดบั หัวข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ 1 รหสั สถานบริการ ฐานข้อมูล 2 ทะเบียนบคุ คล รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE ยทุ ธศาสตร์ PID 3 วนั ท�ีบนั ทกึ ประวัติการ ทะเบียนของบคุ คลทมี� าขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ แพ้ยา นนั � ๆ ใช้สาํ หรบั เชือ� มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอน�ื ๆ DATERECORD (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) วนั ท�บี นั ทกึ ข้อมลู ประวตั กิ ารแพ้ยา หมายเหตุ : วนั ท�ตี รวจพบอาการแพ้ และ กรณีบนั ทกึ ย้อนหลงั ให้บนั ทกึ วนั ทีร� ับบริการจริง 4 รหสั ยาท�ีมีประวตั กิ าร รหสั ยามาตรฐานทีก� าํ หนดเป็ น 24 หลกั หรือรหัสยา DRUGALLERGY แพ้ยา ของสถานพยาบาลในกรณีท�ียงั ไม่มีรหสั มาตรฐาน 24 หลกั หมายเหตุ : ไม่ต้องลงครบทงั � 24 หลกั 5 ชื�อยา ชื�อยา DNAME 6 ประเภทการวนิ ิจฉัยการ ประเภทการวนิ ิจฉยั การแพ้ยา 5 ประเภท (1= certain, TYPEDX แพ้ยา 2= probable, 3= possible, 4= unlikely, 5= unclassified) 39
ลําดับ หวั ข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 7 ระดบั ความรุนแรงของ ALEVEL การแพ้ยา ระดบั ความรุนแรงของการแพ้ยา 8 ระดบั 1.ไมร่ ้ายแรง (Non-serious) 2.ร้ายแรง - เสยี ชวี ิต (Death) 3.ร้ายแรง - อาจถงึ ชวี ิต (Life-threatening) 4.ร้ายแรง - ต้องเข้ารบั การรักษาในโรงพยาบาล (Hospitalization-initial) 5.ร้ายแรง - ทาํ ให้เพม�ิ ระยะเวลาในการรกั ษานานขนึ � (Hospitalization-prolonged) 6.ร้ายแรง - พิการ (Disability) 7.ร้ายแรง - เป็ นเหตใุ ห้เกิดความผิดปกติแต่กําเนิด (Congenital anomaly) 8.ร้ายแรง-อื�นๆ (คือ เหตกุ ารณ์ร้ายแรงอนื� ๆ ทส�ี าํ คญั ทางการแพทย์ ซง�ึ สง่ ผลให้ผ้ปู ่ วยต้องได้รบั การรักษาด้วยวิธีอน�ื เช่น การ ผ่าตดั กรณนี ีร� วมถงึ ผ้ปู ่ วยซึง� เกดิ ปัญหาการหายใจ ติดขดั อย่างรุนแรงและต้องรกั ษาในห้องฉกุ เฉนิ ผ้ปู ่ วย เกิดผ้ปู ่ วยเกิดอาการชกั หมดสติ ระบบเลอื ดผิดปกติ เป็ นต้น 8 ลกั ษณะอาการของการ ลกั ษณะอาการของการแพ้ยา (20 ลกั ษณะ) SYMPTOM แพ้ยาท�พี บ 9 ผ้ใู ห้ประวตั ิการแพ้ยา 1= ผ้ปู ่ วยให้ประวัตเิ อง, 2= ผ้ปู ่ วยให้ประวตั ิจากการ INFORMANT ให้ข้อมลู ของสถานพยาบาลอ�นื , 3= สถานพยาบาลอืน� เป็ นผ้ใู ห้ข้อมูล, 4= สถานพยาบาลแหง่ นีเ�ป็ นผ้พู บการ แพ้ยาเอง 10 รหสั สถานพยาบาลผ้ใู ห้ รหสั สถานพยาบาล ผ้ใู ห้ข้อมลู ประวตั ิการแพ้ยา ตาม INFORMHOSP ประวตั กิ ารแพ้ยา มาตรฐานสาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ 11 วนั เดือนปี ท�ีปรบั ปรุง วนั ที�เพิ�มและปรบั ปรุงข้อมูล กําหนดรูปแบบเป็ น ปี D_UPDATE ข้อมลู เดอื นวนั ชว�ั โมงนาทวี ินาที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศกั ราช 40
4A.12 การบนั ทึกแฟม FUNCTIONAL แฟม FUNCTIONAL ใชบ นั ทึกการประเมินความบกพรองทางสุขภาพของผูมารับบริการ กําหนด หัวขอ ทคี่ วรบันทึกดงั น้ี ลาํ ดบั หวั ข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบาย 1 รหสั สถานบริการ และยทุ ธศาสตร์ HOSPCODE 2 ทะเบียนบคุ คล ทะเบียนของบคุ คลที�มาขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ PID นนั � ๆ ใช้สาํ หรบั เชื�อมโยงหาตวั บุคคลในแฟ้ มอ�นื ๆ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) 3 ลาํ ดบั ที� ลาํ ดบั ที�การบริการทก�ี ําหนดโดยโปรแกรมเรียงลาํ ดบั SEQ ไม่ซาํ � กนั มคี วามหมายเทา่ กบั 1 visit หมายเหตุ : ในกรณีท�ีมารบั บริการ (visit) หลาย คลนิ กิ ใน 1 ครงั � ให้มีลาํ ดบั การให้บริการเป็ นตวั เลข เดยี วกนั 4 วนั ทป�ี ระเมินความ วนั เดือนปี ทป�ี ระเมิน กาํ หนดเป็ น ค.ศ. DATE_SERV บกพร่อง (YYYYMMDD) หมายเหตุ : กรณีที�บนั ทึกข้อมลู ย้อนหลงั ให้เปลย�ี น วนั กลบั เป็ นวนั ที�รับบริการจริง วิธีประเมนิ ความ รหสั ชนิดของเครื�องมือประเมินความบกพร่องทาง 5 บกพร่อง สขุ ภาพ FUNCTIONAL_TEST ผลการประเมนิ ความบกพร่องทางสขุ ภาพ (ระดบั 6 คะแนนความบกพร่อง คะแนน) TESTRESULT ภาวะพง�ึ พงิ ของ 7 ผ้สู งู อายุ 1= ไม่พงึ� พิง, 2= พง�ึ พิงน้อย, 3= พง�ึ พิงมาก DEPENDENT 8 เลขท�ีผ้ใู ห้บริการ เลขท�ีผ้ใู ห้บริการ ออกโดยโปรแกรม ไมซ่ าํ � กนั ใน PROVIDER สถานพยาบาลเดียวกนั 9 วนั เดอื นปี ที�ปรับปรุง วนั ที�เพม�ิ และปรับปรุงข้อมลู กาํ หนดรูปแบบเป็ น ปี D_UPDATE เดือนวนั ชวั� โมงนาทีวนิ าที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศกั ราช 41
4A.13 การบันทกึ แฟม ICF แฟม ICF ใชบันทึกรหัส ICF ของของผูมารับบริการท่ีมีความบกพรองทางสุขภาพ และผานการ ประเมินจากแพทยที่ตรวจรบั รองความบกพรอง กาํ หนดหวั ขอ ที่ควรบันทกึ ดังนี้ ลาํ ดับ หวั ข้อ คําอธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 1 รหสั สถานบริการ รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE 2 เลขทะเบียนผ้พู กิ าร ยทุ ธศาสตร์ DISABID PID 3 ทะเบียนบคุ คล เลขทะเบียนผ้พู กิ การหรือทพุ ลภาพ(ออกโดยกระทรวง การพฒั นาสงั คมและความมน�ั คงของมนษุ ย์) SEQ 4 ลาํ ดบั ท�ี ทะเบยี นของบคุ คลที�มาขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ นนั � ๆ ใช้สาํ หรับเชอื� มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอื�น ๆ DATE_SERRV 5 วนั ที�ประเมินสภาวะ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) สขุ ภาพ ลาํ ดบั ที�การบริการท�ีกําหนดโดยโปรแกรมเรียงลาํ ดบั ICF ไมซ่ ํา� กนั มคี วามหมายเท่ากบั 1 visit QUALIFIER 6 รหสั สภาวะสขุ ภาพ หมายเหตุ : ในกรณีที�มารบั บริการ (visit) หลายคลนี ิค PROVIDER ระดบั ของสภาวะ ใน 1 ครงั � ให้มีลาํ ดบั การให้บริการเป็ นตัวเลข เดียวกนั D_UPDATE วนั เดือนปี ที�ประเมนิ กาํ หนดเป็ น ค.ศ.(YYYYMMDD) 7 สขุ ภาพ หมายเหตุ : กรณที ี�บนั ทีกข้อมลู ย้อนหลงั ให้เปลยี� นวนั 8 เลขท�ีผ้ใู ห้บริการ กลบั เป็ นวนั ที�รบั บริการจริง 9 วนั เดอื นปี ที�ปรบั ปรุง รหสั สภาวะสขุ ภาพ ตามมาตรฐาน ICF ระดบั ของสภาวะสขุ ภาพ (ICF) ทป�ี ระเมนิ ได้ แบ่งเป็ น 0-4 ,8 และ 9 เลขท�ีผ้ใู ห้บริการ ออกโดยโปรแกรม ไมซ่ าํ � กนั ใน สถานพยาบาลเดยี วกนั วนั ท�เี พิ�มและปรบั ปรุงข้อมูล กําหนดรูปแบบเป็ น ปี เดอื นวนั ชว�ั โมงนาทวี นิ าที (YYYYMMDDHHMMSS) และเป็ นปี คริสตศกั ราช 42
4A.14 การบนั ทกึ แฟม DRUG_OPD แฟม DRUG_OPD ใชบ ันทกึ ขอมลู การจา ยยาใหก ับผมู ารบั บรกิ าร กาํ หนดหวั ขอทีค่ วรบนั ทกึ ดังน้ี ลําดบั หวั ข้อ คาํ อธิบาย ช�อื ในระบบ ฐานข้อมูล 1 รหสั สถานบริการ รหสั สถานพยาบาล ตามมาตรฐานสาํ นกั นโยบายและ HOSPCODE ยทุ ธศาสตร์ 2 ทะเบียนบคุ คล ทะเบียนของบคุ คลทม�ี าขนึ � ทะเบยี นในสถานบริการ PID นนั � ๆ ใช้สาํ หรบั เช�อื มโยงหาตวั บคุ คลในแฟ้ มอ�ืน ๆ (สามารถกําหนดได้ตงั � แต่ 1-15 หลกั ) 3 ลาํ ดบั ท�ี ลาํ ดบั ท�ีของการบริการท�ีกาํ หนดโดยโปรแกรม SEQ 4 วนั ท�ีให้บริการ เรียงลาํ ดบั โดยไม่ซาํ � กนั สาํ หรบั การมารบั บริการแตล่ ะ DATE_SERV 5 แผนกทรี� บั บริการ ครัง� (visit) CLINIC หมายเหตุ : ในกรณที ี�มารับบริการ (visit) หลายคลนิ กิ ใน 1 ครงั � ให้มีลาํ ดบั การให้บริการเป็ นตวั เลข เดยี วกนั วนั เดอื นปี ทม�ี ารับบริการ กําหนดเป็ น ค.ศ. (YYYYMMDD) หมายเหตุ : กรณีท�ีบนั ทีกข้อมลู ย้อนหลงั ให้เปลยี� นวนั กลบั เป็ นวนั ท�ีรับบริการจริง รหสั แผนกที�รับบริการ อ้างอิงตามมาตรฐาน สนย. หมายเหตุ : กรณี รพ.สต. ให้ลงรหสั แผนกบริการ ตาม การให้บริการจริง 6 รหสั ยา 24 หลกั หรือ รหสั ยามาตรฐานทกี� ําหนดเป็ น 24 หลกั หรือรหสั ยา DIDSTD รหสั ยาของ ของสถานพยาบาลในกรณีท�ียงั ไม่มีรหสั ยามาตรฐาน สถานพยาบาล 24 หลกั 7 ช�ือยา ชอื� ยา DNAME 8 จํานวน จํานวนยาที�จา่ ย AMOUNT 9 หนว่ ยนบั ของยา รหสั มาตรฐานจาก สาํ นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ UNIT 10 ขนาดบรรจตุ อ่ หนว่ ยนบั ขนาดบรรจตุ ่อหนว่ ยนบั ทแี� สดงใน Field UNIT ใช้ UNIT_PACKING สาํ หรับยาทม�ี ีการแบ่งบรรจเุ พือ� การจ่ายยาท�ีเหมาะสม เช่น ยานาํ � หรือ ยากลมุ่ ที�มีทะเบียนยาเดียวกนั แต่มี ขนาดบรรจตุ ่างกนั ของบางบริษัท และอาจเป็ นค่า NULL ได้ 43
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172