13ตชวปี2558

ปีการศกึ ษา ๒๕๕๘ รายงานการประเมนิ ผลงานท่เี กดิ จากการปฏิบัติหนา้ ท่ี ดา้ นท่ี ๑ ดา้ นการจดั การเรียนการสอน ตวั ช้วี ัดที่ ๑.๒ การจดั การเรียนรู้ ๑.๒.๒ การจัดทาแผนการจดั การเรียนร/ู้ แผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะรายบคุ คล/ แผนการสอนรายบุคคล/แผนการจดั ประสบการณ์ นางปวณี า แสนปนิ ตา ครโู รงเรยี นทงุ่ คาวิทยา โรงเรียนทุ่งคาวิทยา สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต ๓ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

– เอกสารประกอบการประเมนิ ๑. ด้านการจดั การเรียนการสอน ๑.๒ การจัดการเรียนรู้ ๑.๒.๒ การจัดทาแผนการจดั การเรียนรู้ 1.2.2.1 วเิ คราะหผ์ เู้ รียนเปน็ รายบคุ คล 1.2.2.2 จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้สอดคลอ้ งกับการออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ ธรรมชาติของผ้เู รียนและบริบทของสถานศึกษาและทอ้ งถนิ่ ที่มอี งค์ประกอบครบถว้ น ตามรูปแบบทีห่ น่วยงานการศกึ ษาหรือสว่ นราชการตน้ สงั กัดกาหนด และสามารถ นาไปปฏบิ ัติได้จริง 1.2.2.3 มีกิจกรรมการเรียนรูด้ ว้ ยวธิ ีการปฏบิ ตั ิที่สรา้ งสรรค์ สอดคล้องกบั ธรรมชาติของสาระการเรียนรูแ้ ละผู้เรียน 1.2.2.4 มีบนั ทึกหลังการสอนทสี่ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรแู้ ละนาผลมาปรบั ประยุกตแ์ ผนการจดั การเรียนรู้ใหม้ ีคณุ ภาพสงู ขึน้ 1.2.2.5 เป็นแบบอย่างที่ดีและใหค้ าแนะนาด้านการจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ โดยมีหลกั ฐานดงั นี้ 1.แบบวิเครำะหผ์ ู้เรียน 2.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 3.แบบบนั ทกึ กจิ กรรมกำรสอนซ่อมเสริม 4.บนั ทึกหลงั กำรสอน 5.เกียรติบตั รรำงวัลรองชนะเลิศอันดับ 1(ระดบั มัธยมศึกษำตอนต้น)กำรประกวด นวัตกรรม/กำรปฏบิ ตั ทิ ี่เป็นเลศิ (Best Practice)กำรจดั กำรเรียนรู้ผู้เรยี นให้มที กั ษะใน ศตวรรษที่ 21











































ปีการศกึ ษา ๒๕๕๘ รายงานการประเมินผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏิบัตหิ น้าที่ ด้านที่ ๑ ดา้ นการจัดการเรยี นการสอน ตวั ชีว้ ดั ที่ ๑.๒ การจดั การเรยี นรู้ ๑.๒.๓ กลยทุ ธ์ในการจดั การเรยี นรู้ นางปวณี า แสนปนิ ตา ครโู รงเรยี นทงุ่ คาวิทยา โรงเรียนทุ่งคาวทิ ยา สานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาลาปาง เขต ๓ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

– เอกสารประกอบการประเมนิ ๑. ด้านการจดั การเรียนการสอน ๑.๒ การจดั การเรียนรู้ ๑.๒.๓ กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ 1.2.2.1 วเิ คราะห์ผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล 1.2.2.2 จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกบั การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ธรรมชาติของผูเ้ รียนและบริบทของสถานศึกษาและทอ้ งถนิ่ ทีม่ อี งค์ประกอบครบถ้วน ตามรูปแบบทีห่ น่วยงานการศกึ ษาหรือสว่ นราชการต้นสงั กัดกาหนด และสามารถ นาไปปฏบิ ัติไดจ้ ริง 1.2.2.3 มีกิจกรรมการเรียนร้ดู ้วยวธิ ีการปฏบิ ตั ิที่สร้างสรรค์ สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้และผ้เู รียน 1.2.2.4 มีบนั ทึกหลงั การสอนทสี่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรแู้ ละนาผลมาปรบั ประยกุ ตแ์ ผนการจดั การเรียนรู้ให้มีคณุ ภาพสูงขึน้ 1.2.2.5 เป็นแบบอยา่ งที่ดีและใหค้ าแนะนาด้านการจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยมีหลักฐานดงั นี้ 1.แบบวิเครำะหผ์ ู้เรียน 2.แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 3.แบบบันทกึ กจิ กรรมกำรสอนซ่อมเสริม 4.บันทึกหลังกำรสอน 5.เกียรติบตั รรำงวลั รองชนะเลิศอันดับ 1(ระดบั มธั ยมศึกษำตอนต้น)กำรประกวด นวตั กรรม/กำรปฏบิ ตั ทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice)กำรจดั กำรเรียนรู้ผู้เรยี นให้มที กั ษะใน ศตวรรษที่ 21























การพัฒนาผลการเรียนรใู้ นแต่ละดา้ น 1. คุณธรรม จริยธรรม 1.1 การเรยี นรู้ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม 1) ปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ในด้านความซ่ือสัตย์สุจริต เสียสละ มีวินัย ตรงต่อ เวลา และมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง

2) ปฏบิ ัตติ นเป็นผ้มู ีจติ อาสา และมคี วามรบั ผิดชอบต่อสงั คม

1.2 กลยุทธ์การสอนที่ใชพ้ ัฒนาการเรียนร้ดู ้านคุณธรรม จริยธรรม 1) การเป็นแบบอยา่ ง 2) กาหนดกติกาเก่ียวกับเวลาการเข้าชัน้ เรียน การสง่ งานทีช่ ดั เจน 3) การมอบหมายใหศ้ ึกษาค้นควา้ โดยระบแุ หลง่ อ้างอิงให้ครบถว้ น ถกู ตอ้ ง 4) การกาหนดกิจกรรมที่มีจิตอาสา รบั มอบเกยี รตบิ ตั รวิทยากรค่ายภาษาอังกฤษ

1.3 กลยทุ ธก์ ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 1) สงั เกตการปฏบิ ัตติ นของนักศกึ ษา 2) ตรวจสอบการเข้าชั้นเรยี นและการส่งส่งงานครบ ตรงเวลาทีก่ าหนด 3) ตรวจผลงานการศึกษาค้นคว้าที่มีการอ้างอิงครบถ้วน ถูกต้อง การไม่คัดลอกผลงานของ ผู้อื่น 4) การเข้ารว่ มกจิ กรรมที่มจี ิตอาสา กจิ กรรมเดินรณรงคล์ ูกน้ายงุ ลาย

2. ความรู้ 2.1 การเรยี นรดู้ ้านความรู้ 1) มคี วามรู้ ในหลักการ แนวคิด ทฤษฎีท่ีสาคัญในรายวิชาหรือศาสตรข์ องตน 2) มคี วามเขา้ ใจและสามารถอธิบายหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่สาคัญในรายวิชาหรือศาสตร์ ของตนไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

2.2 กลยทุ ธ์การสอนท่ีใช้พัฒนาการเรียนร้ดู ้านความรู้ ใช้กระบวนการการเรียนรู้เชิงผลิตภาพ (Productivity-Based-Learning) ซ่ึงเป็นรูปแบบ การเรยี นรูท้ มี่ ่งุ เนน้ ให้ผเู้ รยี นสรา้ งผลงาน สรา้ งผลผลติ สร้างองคค์ วามรู้จากการเรียนรู้เร่ืองนั้นๆ โดย ผ่านกระบวนการและวธิ กี ารสอนแบบต่างๆ เชน่ 1) การสอนแบบโครงงาน (Project-Based-Learning) 2) การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry) 3) การสอนแบบวัฏจกั รการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry cycle) การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน

2.3 กลยทุ ธก์ ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ดา้ น 1) ตรวจสอบกระบวนการทางาน ผลผลติ และผลลพั ธ์ของงาน 2) ตรวจผลงานการศึกษาค้นควา้ ที่มเี น้ือหาครบถว้ น ถกู ต้อง 3) การทดสอบยอ่ ย การทดสอบกลางภาค การทดสอบปลายภาค เข้าร่วมการประชุมวิชาการและนา้ เสนอผลงานวิจัยในชนั เรยี นของครูสังกัดสา้ นักงานเขตพนื ท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษาลา้ ปางเขต 1 เขต 2 เขต 3และส้านกั งานเขตพืนทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 35

3. ทกั ษะทางปัญญา 3.1 การเรยี นรู้ด้านทักษะทางปญั ญา 1) สามารถแสดงทักษะการคิดอย่างเปน็ ระบบ คิดอย่างมีวิจารณญาณอยา่ งสม่าเสมอ 2) สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ บูรณาการความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องในศาสตร์ของตน เพือ่ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ร่วมประชุมวาแผนการด้าเนนิ คา่ ยแบบเข้มนักเรยี นชันประถมศกึ ษาปีท่ี 4

3.2 กลยุทธ์การสอนทใ่ี ชพ้ ัฒนาการเรยี นรู้ด้านทกั ษะทางปญั ญา 1) จัดกิจกรรมการอภิปราย การระดมสมอง การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การเชื่อมโยง ความรู้และการสรปุ ผลการเรียนรู้ 2) กจิ กรรมการโตว้ าที นานกั เรียนเข้าร่วมการแข่งขันพาทีสรา้ งสรรคร์ ะดบั ภาค ณ โรงเรยี นอตุ รดติ ถ์ดรุณี

3.3 กลยทุ ธ์การประเมินผลการเรยี นรู้ดา้ นทกั ษะทางปัญญา 1) ประเมินจากการนาเสนอผลการอภิปราย การระดมสมอง การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การเช่อื มโยงความรูแ้ ละการสรปุ ผลการเรยี นรู้ 2) ประเมนิ จากขอ้ มูล เน้ือหาท่ีนามาใช้ในการโต้วาที

4. ทักษะความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบุคคลและความรบั ผิดชอบ 4.1 การเรียนรูด้ า้ นทกั ษะความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ คลและความรับผิดชอบ 1) สามารถแสดงบทบาทผู้นา ผู้ตาม และการเป็นสมาชิกท่ีดีของกลุ่มได้อย่างเหมาะสมกับ บทบาทและสถานการณ์ 2) มีความรับผดิ ชอบในงานท่ีได้รับมอบหมายทั้งของตนเองและของส่วนรวม ร่วมเปน็ วิทยากรค่ายแบบเข้มภาษาองั กฤษ นกั เรยี นชนั ประถมศึกษาปีที่ 4

4.2 กลยุทธ์การสอนที่ใช้พัฒนาการเรียนรู้ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความ รบั ผิดชอบ 1) การมอบหมายให้ทากจิ กรรมกลมุ่ ในลกั ษณะต่างๆ ทัง้ ในช้นั เรยี นและนอกชั้นเรียน 2) จัดกจิ กรรมการนาเสนอข้อมูลเป็นกล่มุ วิทยากรประจาวนั ให้ความรเู้ รื่อง Phonetic แก่ผเู้ ข้ารับการอบรมฯ