หลกั สตู รการจดั การศกึ ษาอาชพี (ชนั้ เรยี นวชิ าชพี ) ปงี บประมาณ 2562 ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสามพราน สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั นครปฐม สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
คำนำ การจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธิการ มุ่งเน้นการพัฒนา เพอื่ เพิ่ม ศักยภาพและความสามารถของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ให้สามารถต่อยอด และพัฒนาอาชีพ เพื่อ สร้างรายได้สาหรับตนเอง และครอบครัว โดยสถานศึกษาประชาสัมพันธ์ สอบถามความต้องการ ความสนใจของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และวิเคราะห์ข้อมูลพื้นท่ี นาไปสู่การกาหนดหลักสูตรเพื่อ พัฒนาอาชีพของสถานศึกษาท่ีใช้ในการจัดการเรียนการสอน การจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ เน้น การปฏิบัติจริง ผู้สอนเป็นวิทยากรท่ีมีความรู้ ความสามารถ และเป็นผู้ประกอบการในอาชีพน้ัน ๆ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพรานจึงได้จัดทาหลักสูตร การศึกษาอาชีพ (ช้ันเรียนวิชาชีพ) โดยได้ปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้เรียนหรือกลุ่มเป้าหมายประชาชนท่ีเรียนจบ หลักสูตร มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะไปตอ่ ยอด และพฒั นาอาชีพ เพ่ือสร้างรายได้สาหรับตนเอง และครอบครัว โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีย่ิงจาก ครู กศน.ตาบล วิทยากร ภูมิปัญญา และ ผู้ที่เก่ียวข้อง มาร่วมพิจารณาและตรวจสอบความถูกต้อง จึงทาให้การดาเนินการจัดทาหลักสูตรใน ครั้งนเ้ี สรจ็ สนิ้ ไปดว้ ยดี ขอขอบคณุ ทกุ ทา่ น มา ณ โอกาสน้ี (นายสมมาตร คงช่นื สิน) ผ้อู านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสามพราน
ประกาศศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสามพราน เรอื่ ง อนุมัติใช้หลักสูตรการศึกษาอาชพี (ชนั้ เรยี นวิชาชพี ) ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน ดาเนินงานการจัด การศึกษาต่อเนื่อง ตามความต้องการและความสนใจของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และเมื่อจบ หลักสูตร มีความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะนาไปต่อยอด พัฒนาอาชีพ และสามารถนาไปประกอบ อาชีพ สร้างรายได้สาหรับตนเอง และครอบครัวได้ จึงได้นาหลักสูตรอาชีพ มาทาการปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาให้มีความทันสมัย ทันต่อการเปล่ียนแปลงในปัจจุบัน และคณะกรรมการสถานศึกษาได้ให้ ความเห็นชอบแล้ว ดังนั้น ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน จังหวัด นครปฐม จงึ ไดอ้ นมุ ัติใช้หลักสตู รน้ี เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มเปา้ หมาย บรรลุจุดม่งุ หมายของหลกั สตู ร ประกาศ ณ วนั ท่ี 20 เดือน มกราคม พ.ศ 2563 (นายสมมาตร คงช่นื สิน) ผอู้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน
ความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพรานดาเนนิ งานการจัด การศกึ ษาเพื่อพฒั นาอาชพี ตามความตอ้ งการและความสนใจของประชาชนกลมุ่ เป้าหมาย เพื่อมุ่งเน้น ให้ผู้เรียนที่เรียนจบหลักสูตร มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะไปต่อยอด และพัฒนาอาชีพ เพ่ือสร้าง รายได้สาหรับตนเอง และครอบครัว ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ สามพราน จึงได้ปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาหลักสูตรการศึกษาอาชีพ (ช้ันเรียนวิชาชีพ) ให้มี ความทนั สมัย ทันตอ่ การเปล่ียนแปลงในปจั จุบัน เพื่อให้การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ (ช้ันเรียนวิชาชีพ) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล ให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชพี ร่วมมือกันจัดการศึกษา ใหก้ ับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ให้บรรลุจุดมงุ่ หมายของหลักสูตร ทง้ั น้ี ต้งั แตว่ ันท่ี 13 เดือน มกราคม พ.ศ. 2563 พระเทพศาสนาภิบาล เจ้าอาวาสวัดไร่ขงิ พระอารามหลวง รองเจา้ คณะจังหวัดนครปฐม ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษา
สารบัญ หน้า คำนำ 1-5 ประกำศอนุมัติใชห้ ลักสูตรกำรศึกษำอำชพี (ช้นั เรียนวิชำชพี ) ควำมเหน็ ชอบของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ 6-9 สำรบญั 10-13 กลุ่มอำชีพด้ำนเกษตรกรรม 14-17 18-22 หลักสตู รกำรขยำยพนั ธ์ไุ ม้ใบ 23-27 กลุ่มอำชีพดำ้ นอตุ สำหกรรมหรอื หัตถกรรม 28-35 หลกั สูตรกำรทำสมุนไพรไลแ่ มลง 36-39 หลกั สูตรกำรแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ ำกผลไม้ 40-43 หลกั สตู รกำรแปรรูปสนิ คำ้ เกษตร 44-48 หลักสตู รผำ้ ดน้ มอื (กระเป๋ำปิ่นโต) 49-52 หลักสูตรผำ้ ด้นมอื (กระเป๋ำเป้สะพำยเฉยี ง) 53-56 กลุม่ อำชีพดำ้ นพำณิชยกรรมและบริกำร 57-60 หลักสตู รกำรทำขนมไทย 61-65 หลกั สูตรขนมไทย 66-70 หลักสตู รกำรทำอำหำร - ขนม 71-78 หลักสตู รกำรทำอำหำรเพื่อสขุ ภำพ 79-82 หลักสตู รชำ่ งแต่งหนำ้ 83-86 หลกั สูตรชำ่ งแตง่ หน้ำทำผม 87-90 หลักสตู รช่ำงทำผม-เกล้ำผม 91-95 หลักสตู รชำ่ งเสริมสวยพน้ื ฐำน 96-98 หลักสตู รกำรจดั ดอกไมส้ ดข้นั พน้ื ฐำน 99-103 หลกั สูตรตดั ผมชำย 104-107 หลักสูตรนวดตวั เพื่อสุขภำพ หลักสูตรนวดแผนไทย (สปำเท้ำ) หลักสตู รนวดเพอ่ื สขุ ภำพ หลักสูตรสปำสมุนไพรเพ่ือสขุ ภำพ หลักสูตรโหรำศำสตร์ (ไพย่ ิปซี) หลักสูตรโหรำศำสตร์ไทยข้นั พน้ื ฐำน หลักสูตรอำหำรว่ำง
สารบญั หน้า กลมุ่ อำชีพด้ำนสรำ้ งสรรค์ 108-110 หลักสตู รกำรทำผลิตภณั ฑจ์ ำกเชอื ก 111-114 หลักสตู รกำรทำดอกไม้จำกกระดำษทิชชู 115-118 หลักสูตรกำรร้อยมำลยั 119-123 หลักสูตรกำรสำนเส้นพลำสติก 124-128 หลักสูตรงำนใบตอง 129-132 หลกั สูตรผลติ ภัณฑ์จำกเสน้ พลำสตกิ 133-139 หลักสูตรพรมเช็ดเทำ้ แฟนซี 140-143 หลักสตู รศลิ ปะกำรผูกผำ้ 144-146 กลุ่มอำชีพดำ้ นเฉพำะทำง 147 หลกั สูตรชำ่ งเช่ือม 148-149 ภำคผนวก ประกำศแต่งตั้งที่ปรึกษำจดั ทำหลกั สูตรกำรศึกษำอำชพี อำชพี 150-151 (ช้นั เรยี นวิชำชพี ) คำส่ังแต่งต้ังคณะกรรมกำรจัดทำหลักสตู รกำรศึกษำอำชีพ อำชพี (ชั้นเรียนวชิ ำชพี )
1 หลกั สตู รการขยายพนั ธุ์ไม้ใบ จานวน 70 ชั่วโมง กลมุ่ วิชาอาชีพเกษตรกรรม ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชพี เปน็ การแก้ปัญหาการวา่ งงานและ ส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ท่ีจะพัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน เพ่ือแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจที่จะ ยกระดับการจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความ สามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถ สร้างรายได้ ท่ีม่ันคง โดยเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ ไดร้ ับการศกึ ษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมี คุณภาพ ท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมี รายไดม้ ่ันคง ม่งั ค่ัง และมงี านทาอยา่ งย่ังยืน มคี วามสามารถเชิงการแข่งขันท้ังในระดับภมู ิภาคอาเซียน และระดับสากล ซึ่งจะเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความมั่นคงให้แก่ ประชาชนและประเทศชาต.ิ มนุษย์และสัตว์ต่าง ๆ ไม่สามารถดารงชีวิตอยู่ได้ถ้าขาดพืช เมื่อปราศจากพืช สัตว์ต่าง ๆ รวมท้ังมนุษย์ก็จะตายไปด้วย ซ่ึงแตกต่างจากพืชที่สร้างอาหารเองได้ สัตว์และคนไม่สามารถสร้าง อาหารเองได้ดังน้ัน จาเป็นต้องอาศัยพืชเพื่อการดารงชีวิตอยู่ เราได้อาศัยพืชประดับโลกให้สวยงาม นอกจากน้ีมีผักผลไม้ช่วยสร้างรสชาติให้อาหาร มีธัญพืชช่วยให้แป้งและคาร์โบไฮเดรทแก่มนุษย์และ สัตว์ต่าง ๆ พืชให้ชีวิตไม่เพียงแก่คนและสัตว์เท่าน้ัน พืชยังให้ชีวิตแก่สภาพแวดล้อมต่าง ๆ รวมท้ัง แมลง จุลินทรีย์ด้วย ทาให้ความเจริญแผ่ไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลก พืชจึงเป็นส่ิงท่ีช่วยให้สิ่งท่ีมีชีวิต ดารงชวี ติ อย่ไู ด้ ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อาชีพการเกษตรโดยเฉพาะการผลิตพืชมีความจาเป็นและสาคัญ ยิ่ง ประเทศใดที่มีสภาพแวดล้อมและปัจจัยท่ีเหมาะสมต่อการเกษตรจะได้เปรียบเพราะสามารถท่ีจะ ผลิตอาหารสาหรับเลี้ยงพลเมือง และส่งเป็นสินค้าออกไปจาหน่ายยังต่างประเทศได้ ซึ่งสัมพันธ์กับ ความจาเป็นที่จะต้องเพ่ิมจานวนพืชพันธ์ุ โดยการขยายพันธุ์ ซึ่งสามารถเป็นอาชีพได้ โดยมี ความสาคญั ดงั น้ี 1. การขยายพนั ธ์ุพืช ก่อใหเ้ กิดรายได้ต่อเกษตรกรและครอบครัว โดยปกตกิ ารปลกู พืช ทุกชนิดจาเป็นต้องมีพันธพ์ุ ชื แต่เน่อื งจากเกษตรกรสว่ นใหญ่ไมส่ ามารถขยายพนั ธุ์พืชไว้ปลกู เองไดผ้ ูท้ ่ี ขยายพนั ธ์ุพืชไวจ้ าหนา่ ยจึงมีรายได้ดมี าก บางรายมรี ายได้ดีกวา่ ผ้ปู ลูกพชื 2. การขยายพันธพุ์ ชื ทาใหม้ ีรายไดจ้ ากการส่งสนิ คา้ ออกมากขึน้ เน่อื งจากการขยายพันธุ์พืช จะทาให้ได้พันธุ์พืชดี ใหผ้ ลผลติ สงู และเร็ว จงึ ทาใหส้ ินคา้ การเกษตรมากขึน้ และเป็นเหตุให้มรี ายได้ จากการขายสินค้ามากขึน้ 3. การขยายพันธ์ุพชื ก่อให้เกิดการสรา้ งงานในทอ้ งถิ่น การขยายพนั ธพุ์ ืชเปน็ อาชพี ทีท่ าให้
2 เกษตรกรในท้องถิ่นไมต่ ้องอพยพเคลอ่ื นย้ายแรงงานไปสู่อาชีพอนื่ ในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ ซง่ึ กอ่ ให้เกดิ ปัญหากบั สังคมตามมา นอกจากนย้ี งั กอ่ ให้เกิดการจ้างงานในท้องถนิ่ ปัจจุบันจึงมีอาชีพการ ซ้อื ขายกง่ิ พนั ธเุ์ กิดข้นึ ตามท้องถิน่ ต่าง ๆ ของประเทศ และอาชพี นย้ี งั ทารายไดส้ ูงใหก้ บั ผู้ดาเนินการ ดว้ ยหลักการของหลักสูตร หลักการของหลักสตู ร การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาอาชีพเพ่อื การมีงานทา กาหนดหลกั การไวด้ งั นี้ 1. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพ ภูมิประเทศ และทาเลที่ต้ังของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ของแต่ละพ้นื ท่ีและศักยภาพของทรัพยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะพืน้ ที่ 2. มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพ ท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน สามารถสร้างรายได้ท่ีม่ันคง และเป็นบุคคลที่มีวินัยเป่ียมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม มจี ิตสานึกความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ผู้อืน่ และสังคม 3. ส่งเสริมใหม้ ีความรว่ มมือในการดาเนินงานร่วมกบั ภาคีเครอื ขา่ ย 4. เน้นการฝึกปฏิบัติจริงเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาไปประกอบ อาชีพให้เกิดรายได้ที่ม่ันคง มั่งค่ัง และยังยืนในอาชีพส่งเสริมให้มีการเทียบโอนความรู้และ ประสบการณ์เขา้ สูห่ ลกั สตู รการศึกษาข้นั พื้นฐาน จดุ หมาย เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ มีทกั ษะ ในการขยายพันธุ์พชื เป็นอาชีพได้ อย่างมีคุณธรรม กลมุ่ เปา้ หมาย กลุ่มเปา้ หมาย คือ ประชาชนกลมุ่ เป้าหมายนอกระบบโรงเรยี น 1. ผู้ที่ไม่มอี าชีพ 2. ผทู้ ม่ี อี าชพี และต้องการพฒั นาอาชพี ระยะเวลา เรียนรู้ และฝกึ ทักษะ จานวน 60 ชั่วโมง
3 โครงสร้างหลกั สตู ร 1. ช่องทางการประกอบอาชพี การขยายพนั ธ์ุพชื จานวน 10 ช่ัวโมง 1.1 ความสาคญั ของการประกอบอาชีพการขยายพนั ธุพ์ ชื 1.2 ความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชีพการขยายพันธพ์ุ ืช 1.2.1 ทุน 1.2.2 ความต้องการของตลาด 1.2.3 การใช้แรงงาน 1.2.4 การจัดหาวัสดุ อปุ กรณ์ 1.2.5 การเลอื กทาเลทตี่ ัง้ 1.2.6 การบรรจุหีบห่อ 1.2.7 การขนส่ง 1.2.8 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพตามศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่ศักยภาพ ของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิ ประเทศ และทาเลทต่ี ้ังของแตล่ ะประเทศ ศกั ยภาพของศลิ ปะ วัฒนธรรมประเพณี และวถิ ีชีวิตของ แต่ละพื้นท่ี และศักยภาพของทรัพยากรมนุษยใ์ นแต่ละพื้นที่ 1.3 แหลง่ เรยี นรู้ 1.4 ทิศทางการประกอบอาชีพจาหน่ายพันธ์ุพืช 2. ทักษะการประกอบอาชีพการขยายพนั ธ์ุพืช จานวน 50 ชวั่ โมง 2.1 ขน้ั เตรยี มการประกอบอาชพี การขยายพันธพุ์ ชื 2.1.1 สถานท่ี / พ้นื ท่ี 2.1.2 องค์ประกอบสว่ นต่าง ๆ ของพชื 2.1.3 วสั ดุ อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการประกอบอาชพี การขยายพันธพุ์ ืช 2.1.4 ความรูท้ ี่เก่ยี วขอ้ งในการประกอบอาชีพการขยายพันธพ์ุ ชื 2.2 ข้ันตอนการขยายพันธพ์ุ ืช 2.2.1 การขยายพนั ธ์พุ ืชแบบอาศัยเพศ - การเพาะเมลด็ 2.2.2 การขยายพนั ธุ์พชื แบบไม่อาศัยเพศ 1) การตอนกิ่ง 2) การตดั ชา 3) การแยกหน่อ 4) การตดิ ตา 5) การตอ่ กง่ิ 6) การเสยี บยอด 2.3 ขัน้ การปฏบิ ัตดิ ูแลพนั ธุ์พืชเพื่อจาหนา่ ย
4 3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพการขยายพันธุ์พชื จานวน 5 ชว่ั โมง 3.1 การบรหิ ารจัดการการขยายพนั ธุพ์ ชื 3.1.1 การจดั การเกย่ี วกับการควบคุมคุณภาพการขยายพันธ์พุ ืช 3.1.2 การลดต้นทนุ ในการประกอบอาชีพการขยายพันธ์ุพืช 3.1.3 การวางแผนการผลิต 3.2 การจัดการตลาดในการขยายพนั ธพุ์ ืช 3.2.1 การจัดทาฐานขอ้ มูลลูกค้า 3.2.2 การประชาสัมพันธ์ 3.2.3 การกระจายสนิ คา้ 3.2.4 การวางแผนการตลาด 3.3 การจัดการความเส่ยี ง 3.3.1 การวเิ คราะห์และแก้ไขการจดั การความเส่ียง 1) ความนิยมพันธพ์ุ ืชของลูกคา้ 2) การดแู ลรกั ษาใหต้ รงกบั ความตอ้ งการ 3) คู่แขง่ ขนั 3.3.2 การวางแผนการจัดการความเสีย่ ง 3.4 การวางแผนการดาเนินงาน 4. โครงการประกอบอาชีพการขยายพันธุพ์ ืช จานวน 5 ช่ัวโมง 4.1 ความสาคัญของโครงการประกอบอาชีพการขยายพันธพุ์ ืช 4.2 ประโยชน์ของโครงการประกอบอาชพี การขยายพันธพุ์ ชื 4.3 องคป์ ระกอบในแต่ละองคป์ ระกอบของอาชีพการขยายพนั ธุ์พืช 4.4 การเขยี นโครงการการขยายพันธพุ์ ชื 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการการขยายพนั ธ์ุพืช การจัดกระบวนการเรยี นรู้ - ศกึ ษาขอ้ มลู จากเอกสาร /ภมู ิปัญญา - การศึกษาดงู านจากแหลง่ เรียนรู้ - แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ - ฝึกปฏิบตั จิ รงิ สื่อการเรยี นรู้ ในการจดั การเรียนรู้ใช้สอ่ื การเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย ได้แก่ สื่อส่งิ พิมพ์ สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ สื่อ บคุ คล ภูมิปัญญา แหล่งเรียนร้ทู มี่ อี ยใู่ นทอ้ งถ่ิน ชุมชน และแหลง่ เรยี นรอู้ ืน่ ๆ
5 การวดั และประเมินผล 1. การประเมินความร้ภู าคทฤษฎีระหวา่ งเรยี นและจบหลกั สูตร 2. การประเมนิ ผลงานระหวา่ งเรยี นจาการปฏบิ ตั ิ ได้ผลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และจบหลกั สตู ร การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี น ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. มีผลการประเมินตลอดหลกั สูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 3. มีผลงานทม่ี คี ุณภาพ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานการประเมินผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ ิบัตร 3. วฒุ บิ ัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทียบโอน ผูเ้ รยี นทีจ่ บหลักสูตรนสี้ ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรู้กับหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวชิ าเลอื กทีส่ ถานศึกษาได้ จัดทาขึ้น
6 หลักสตู รการทาสมนุ ไพรไล่แมลง จานวน 65 ชัว่ โมง กลมุ่ อาชพี อตุ สาหกรรมหรือหตั ถกรรม ความเปน็ มา จากน โยบ ายและจุดเน้ น ใน การดาเนิ น งาน ป ระจาปี งบ ป ระม าณ 2555 ขอ ง กระทรวงศึกษาธิการ และสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีมุ่งเน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้าน เกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิดสร้างสรรค์ และด้านอานวยการและ อาชีพเฉพาะทาง ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษาอาชีพที่มุ่งพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ ความสามารถ และทกั ษะในการประกอบอาชีพ เน้นการบรู ณาการใหส้ อดคล้องกบั ศักยภาพด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนและ ประเทศชาติ ตลอดจนสามารถแก้ปญั หาการว่างงานและสง่ เสริมความเขม้ แข็งใหแ้ กเ่ ศรษฐกิจชมุ ชน การแปรรูปสมุนไพรคือการเปลี่ยนแปลงสถานะสมุนไพรให้แตกต่างไปจากเดิม เพื่อ ประโยชนใ์ นการใชง้ านท่หี ลากหลายมากข้ึน สมุนไพรมีหลายชนิดและมสี รรพคณุ ทางยาท่ีแตกตา่ งกัน ดังนั้นการศึกษา รูป รส กลิ่น และช่อสมุนไพร จึงเป็นปัจจัยหน่ึงท่ีมีความสาคัญ เพื่อให้การแปรรูป สมุนไพรมีคุณภาพดี ตลอดจนการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพใกล้เคียงผลิตภัณฑ์เดิมมากท่ีสุด เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางประเภทไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้นาน การแปรรูปจึงเข้ามามีบทบาทสาคัญ มากข้ึน เพื่อให้เกิดผลดตี อ่ การแปรรปู คงไว้ซึง่ คณุ ค่าและสรรพคุณท่ีดีของพืชสมุนไพร สานักงาน กศน. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษาให้กับ กลมุ่ เป้าหมาย คือ ผู้ไม่มอี าชีพ หรือผมู้ ีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความมั่นคง จึงได้ จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการทาสมุนไพรไล่แมลงข้ึน ซึ่งนามาใช้ได้จริงในครัวเรือนหรือ การเกษตรท่ีปลอดภัยจากสารเคมี และนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสรา้ งรายได้ให้กับครอบครัว โดยเนน้ ใหก้ ลุม่ เป้าหมายประชาชนในพน้ื ท่ีตาบลบางช้าง หลกั การของหลกั สตู ร 1. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความรู้ และทักษะไปประกอบอาชพี ได้จริงอย่างมคี ุณภาพและมคี ุณธรรมจริยธรรม 2. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการดาเนนิ งานร่วมกับเครือขา่ ย สถานประกอบการ เพื่อประโยชน์ใน การประกอบอาชพี 3. เป็นหลักสูตรที่ผู้เรียนสามารถนาผลการเรยี นรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในรายวิชาเลือกของสาระการประกอบอาชพี 4. เป็นหลักสูตรที่เน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติในเขตพน้ื ที่ให้บรกิ าร ศักยภาพของพืน้ ทตี่ ามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิ ประเทศและทาเลท่ีตั้ง ศกั ยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ศักยภาพของทรัพยากร มนษุ ย์ในเขตพนื้ ท่ี
7 จุดมงุ่ หมาย 1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ และทกั ษะเก่ียวกับการทาสมนุ ไพรไลแ่ มลงได้ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนนาความรู้เกี่ยวกับการทาสมุนไพรไล่แมลงไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ ใหก้ บั ตนเองและครอบครวั ได้อย่างมีคณุ ธรรมและมนั่ คง กลมุ่ เป้าหมาย กลมุ่ เปา้ หมาย คอื ประชาชนท่วั ไป 1. ผทู้ ไ่ี มม่ อี าชพี 2. ผู้ท่มี อี าชพี และตอ้ งการพัฒนาอาชีพ ระยะเวลา 65 ช่วั โมง จานวน 15 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 50 ช่วั โมง ภาคปฏบิ ัติ โครงสรา้ งหลกั สตู ร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทาสมนุ ไพรไลแ่ มลง จานวน 5 ช่ัวโมง 1.1 ความสาคัญในการประกอบอาชพี การทาสมุนไพรไลแ่ มลง 1.2 ความรูเ้ บ้อื งต้นในการประกอบอาชพี การทาสมุนไพรไล่แมลง 1.3 แหล่งเรยี นรู้การประกอบอาชีพการทาสมนุ ไพรไล่แมลง 1.4 การตดั สนิ ใจเลือกประกอบอาชพี การทาสมุนไพรไลแ่ มลง 2. ทกั ษะในการประกอบอาชีพการทาสมุนไพรไล่แมลง จานวน 50 ช่ัวโมง 2.1 การเตรยี มวัสดุอปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการทาสมนุ ไพรไลแ่ มลง 2.2 การทาสมนุ ไพรไลแ่ มลง เชน่ - แมลงวันทอง - หนอนในนาข้าว - แทงเกอร์ในมะนาว - หนอนกนิ ใบ - มด 2.3 บรรจภุ ณั ฑ์สมุนไพรไล่แมลง 3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชพี การทาสมนุ ไพรไลแ่ มลง จานวน 5 ช่วั โมง 3.1 การเลอื กทาเลที่ต้ังร้าน 3.2 การจัดและตกแต่งหน้าร้าน 3.3 การคดิ ราคาต้นทุนและการวเิ คราะหจ์ ุดคุ้มทุน 3.4 การขาย
8 3.5 การสง่ เสรมิ การขาย 3.6 การทาบญั ชีร้านค้าอย่างง่าย 4. โครงการประกอบอาชีพการทาสมุนไพรไล่แมลง จานวน 5 ชวั่ โมง 4.1 ความสาคัญของโครงการอาชีพ 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชพี 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ 4.4 การเขยี นโครงการอาชพี 4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชพี วิธีการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทาสมุนไพรไลแ่ มลง 1.1 วทิ ยากรบรรยายความสาคญั ความรเู้ บ้ืองต้น และการตดั สินใจเลือกในการประกอบ อาชพี การทาสมุนไพรไล่แมลง 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถานประกอบการ สถานท่จี ัดจาหน่าย 2. ทกั ษะการประกอบอาชพี การทาสมนุ ไพรไล่แมลง 2.1 วิทยากรบรรยายขั้นตอนการทาสมนุ ไพรไล่แมลง 2.2 วทิ ยากรทาการสาธิตวิธีการทาสมุนไพรไล่แมลง 2.3 วิทยากรร่วมกับผ้เู รยี นในการการออกแบบผลิตภัณฑส์ มนุ ไพรไลแ่ มลง 2.4 ผเู้ รียนฝึกปฏิบัตสิ รา้ งสรรค์การทาสมนุ ไพรไลแ่ มลง 2.5 ผเู้ รียนแลกเปล่ยี นความรู้ซึ่งกันและกัน 2.6 ผเู้ รยี นศกึ ษาดงู านจากแหล่งเรยี นรูใ้ นชุมชนและเว็บไซตอ์ อนไลน์ต่าง ๆ 3. การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพการทาสมุนไพรไล่แมลง 3.1 วทิ ยากรบรรยายเกยี่ วกบั การทาสมุนไพรไล่แมลงให้ได้มาตรฐาน และมคี ณุ ภาพ 3.2 การกาหนดราคาใหเ้ หมาะสมกับสินค้า และศึกษาขอ้ มลู การตลาดเพื่อจาหน่ายสินค้า วเิ คราะหข์ อ้ มูลความตอ้ งการของตลาด 3.3 การโฆษณาประชาสมั พันธ์ทางเว็บไซต์ออนไลนต์ า่ ง ๆ หรอื แผ่นพบั โฆษณา 3.4 การคิดราคาตน้ ทนุ และกาไร การทาบญั ชีรายรบั -รายจ่าย สื่อการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหล่งเรียนรูใ้ นชุมชน / วทิ ยากร / ภูมิปัญญาท้องถ่นิ 3. ตัวอยา่ งช้นิ งาน
9 การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎีระหวา่ งเรยี น 2. การประเมินผลงานการปฏิบตั ิระหว่างเรียนความสาเร็จของการปฏิบตั ิ การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี น ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2. มีผลการประเมินตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. มีผลงานทม่ี ีคณุ ภาพ ตรงตามหลกั การของหลกั สตู ร เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบยี นคุมวุฒบิ ัตร 3. วฒุ บิ ตั รการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทียบโอน ผ้เู รียนทจ่ี บหลกั สตู รนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนร้กู ับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน
10 หลักสตู รการแปรรูปผลิตภัณฑจ์ ากผลไม้ จานวน 35 ช่ัวโมง กลมุ่ อาชีพอตุ สาหกรรมหรือหัตถกรรม ความเป็นมา กระทรวงศึกษาธิการ ได้กาหนดนโยบายการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา เพื่อให้ สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนให้กับประชาชน เพ่ือเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งสาหรับประชาชนให้ สามารถนาไปปฏบิ ัตไิ ดจ้ รงิ และนาไปเปน็ อาชีพเ เพื่อเพมิ่ รายไดใ้ ห้กับครอบครวั และชมุ ชนได้ สานักงาน กศน. เป็นหน่วยงานของรัฐท่ีมีหน้าที่จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยให้กับประชาชนท่ีอยู่นอกระบบโรงเรียน ได้รับนโยบายดังกล่าวมาดาเนินการจัดการศึกษา อาชีพเพ่ือการมีงานทาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชนที่มีบริบทในการดารงชีวิตอันเป็นองค์ประกอบ สาคัญ เช่น สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพของพื้นท่ี ศิลปวัฒนธรรมและทรัพยากรในท้องถิ่น นามาจัดหลักสูตรการเรียนการสอนในด้านอาชีพให้เข้ากับบริบทดังกล่าว โดยเน้นให้ผู้เรียนสามารถนา ความร้ปู ฏบิ ตั ิได้จริง ทาเป็นอาชีพได้ ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพทาง เกษตร ด้วยสภาพภูมิอากาศท่ีมีมรสุมพัดผ่านทาให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก มีความหลากหลายของพืชพันธ์ุ นับได้ว่าประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารเล้ียงประชากรของโลกได้ หรือเปน็ ครวั ของโลก ผลผลิตที่เกษตรกรผลิตออกสู่ตลาด ส่วนมากต้องผ่านพ่อคา้ คนกลาง เพราะฉะนั้น ราคาผลผลิตของเกษตรกรจึงไม่สามารถกาหนดราคาเองได้ ต้องข้ึนกับกลไกของตลาดโดยพ่อค้า คนกลาง อีกทั้งการกาหนดคุณภาพของผลผลิต มีการกาหนดขนาดหรือลกั ษณะท่ีนาสู่ท้องตลาด ปัญหา เหลา่ น้ีจงึ ทาใหม้ ีผลิตผลทางการเกษตรทไี่ ม่ได้ขนาดตามท่ีต้องการตกค้างอยู่ในมือของเกษตรกร ถึงจะมี การนาไปขายเองในท้องถิ่น แตก่ จ็ ะไมไ่ ดร้ าคาท่ดี ี สภาพปัญหาของเกษตรกรส่วนมากไม่ถนัดในเร่ืองของการตลาด ถ้าหากเกษตรกรสามารถนา ผลผลิตทางการเกษตรท่ียงั ตกคา้ งในมือของตนเองนามาแปรรูปหรอื ถนอมอาหารให้มีมูลค่าเพิ่มข้ึน หรือ เป็นผลิตภัณฑใ์ หม่ทเ่ี กษตรกรสามารถผลิตได้ภายในครอบครัว หรือรวมตัวรวมกันผลิตก็จะเป็นทางออก ของเกษตรกร ในการเพมิ่ รายได้ของชุมชนและครอบครวั และเพมิ่ อาชพี การมีงานทาใหก้ บั ชมุ ชนได้ หลักสูตรการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นหลักสูตรที่ผู้เรียนสามารถนาผลิตผลทาง การเกษตรที่มีอยู่สามารถนามาเพิ่มมูลค่าได้ การจัดการหลักสูตรนี้จึงเน้นการท่ีผู้เรียนได้เรียนรู้จาก การฝึกปฏิบัตจิ ากวทิ ยากร และการศึกษาดูงานเพ่อื ให้เห็นชอ่ งทางการเขา้ สู่อาชีพได้
11 หลักการของหลักสตู ร การจัดการศึกษ าเพื่ อการพั ฒ นาอาชีพการแปรรูป ผลิตภัณ ฑ์ เห็ ดเพื่ อการ มีงานทากาหน ด หลกั การไว้ดงั น้ี 1. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ ห้าด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้ืนที่ ศักยภาพของพื้นท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพภูมิ ประเทศและทาเลท่ีตั้งของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศลิ ปะ วฒั นะธรรม ประเพณี และวถิ ีชีวติ ของแต่ ละพน้ื ทแี่ ละศกั ยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแต่ละพืน้ ท่ี 2. มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพทั่วถึง และเท่าเทียมกัน สามารถสร้างรายได้ท่ีม่ันคง และเป็นบุคคลที่มีวินัยเป่ียมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม มีจติ สานึกความรับผดิ ชอบต่อตนเอง ผูอ้ ่นื และสังคม 3. ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในการดาเนินงานการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาร่วมกับ ภาคเี ครอื ข่าย 4. เน้นการฝึกปฏิบัติจริงเพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาไปประกอบ อาชีพได้ใหเ้ กิดรายได้ที่มน่ั คง และยั่งยืนในอาชพี จุดม่งุ หมาย 1. ผเู้ รยี นเหน็ ชอ่ งทางในการนาไปประกอบอาชีพ 2. ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความสามารถและปฏิบตั งิ านอาชีพการแปรรูปผลติ ภัณฑจ์ ากผลไม้ได้ 3. ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพได้ ระยะเวลาเรียน ทงั้ หมด 35 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 10 ช่ัวโมง ภาคปฏิบตั ิ 25 ช่ัวโมง โครงสรา้ งหลกั สูตร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี จานวน 4 ชวั่ โมง 1.1 ความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ จานวน 2 ชวั่ โมง 1.2 ความสาคัญในการแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ ากผลไม้ จานวน 2 ชว่ั โมง 2. ทักษะอาชีพ จานวน 27 ชั่วโมง 2.1 ขั้นตอนในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลไม้ จานวน 27 ชั่วโมง 2.1.1 วสั ดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การหาวตั ถุดบิ 2.1.3 การแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์จากผลไม้ (ฝร่ัง,มะเขือเทศ,มะม่วงหาวมะนาวโห่) 2.1.4 การฝึกปฏบิ ตั กิ ารออกแบบและสรา้ งสรรคบ์ รรจุภณั ฑ์
12 3. การบรหิ ารจัดการอาชีพ 4 ชั่วโมง จานวน 1 ชั่วโมง 3.1 การจัดการควบคุมคุณภาพ จานวน 1 ชว่ั โมง 3.2 การจดั การการตลาด จานวน 2 ช่ัวโมง 3.3 การจัดการความเสย่ี ง การจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ 1.1 วิทยากรให้ความรู้ถงึ ความสาคัญและความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพ 1.2 ศกึ ษาขอ้ มลู จากแหลง่ เรยี นรู้ ภมู ิปัญญา ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสาร 1.3 สรปุ ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ ภมู ิปัญญา 2. ทกั ษะอาชีพ 2.1 การบรรยาย 2.2 การสาธิต 2.3 การฝึกปฏบิ ัตจิ รงิ 2.5 การแลกเปลย่ี นเรยี นรูร้ ะหว่างผเู้ รียนด้วยกัน 3. การบริหารจัดการอาชีพ 3.1 การจัดการควบคุมคุณภาพ - การลดตน้ ทนุ - การวางแผนการผลิต 3.2 การจดั การการตลาดในการแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ ากผลไม้ - การจาหนา่ ยผลติ ภณั ฑ์แปรรูปทางการเกษตร - การทาบญั ชี รายรับ – รายจ่าย 3.3 การจัดการความเส่ียงในการแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากผลไม้ - ศกึ ษาข้อมูลการตลาด วิเคราะหค์ วามต้องการของตลาด - การคดิ ราคาตน้ ทนุ กาไร สื่อการเรียนรู้ 1. ศึกษาเอกสาร / ใบความรู้ 2. ศึกษาจากแหลง่ เรียนรู้ในชมุ ชน /วิทยากร /ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ 3. วัตถุดบิ ของจรงิ ที่นามาใช้ในการปฏิบตั ิ การวดั และประเมินผล 1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฎรี ะหว่างเรยี น 2. การประเมินผลงานการปฏบิ ัตริ ะหวา่ งเรยี นความสาเรจ็ ของการปฏบิ ัติ และจบหลักสูตร
13 การจบหลักสูตร 1. มีเวลาเรยี น ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. มีผลงานท่มี ีคุณภาพ ตรงตามหลกั การของหลกั สตู ร เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. หลักฐานการประเมนิ 2. ทะเบยี นวุฒบิ ัตร 3. วุฒบิ ตั รการศึกษา ออกโดยสถานศึกษา การเทียบโอน ผู้เรียนทจี่ บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรกู้ ับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จัดทาข้นึ
14 หลกั สูตรการแปรรปู สนิ ค้าทางการเกษตร จานวน 60 ชวั่ โมง กลุม่ อาชีพอตุ สาหกรรมหรอื หัตถกรรม ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ท่ีจะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รูเ้ ขา รู้เรา เทา่ ทัน เพื่อแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะยกระดับการจัดการศกึ ษา เพ่ือเพิม่ ศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มอี าชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ ท่ีมน่ั คง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนา อาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้มั่นคง ม่ังคั่ง และมี งานทาอย่างยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซึ่งจะเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนและ ประเทศชาติ ดังนั้นสถานศึกษาจึงได้เห็นความสาคัญในการสนับสนุนให้ประชาชนนาผลผลิตทาง การเกษตรมาแปรรูปเพ่ือเพิ่มมูลค่าสินค้าเพราะประชาชนในพ้ืนที่ส่วนใหญ่ จะพืชเกษตรไว้เกือบทุก ครัวเรือน นอกจากได้นาไปบริโภคอย่างเพียงพอแล้ว เมื่อเหลือจากการจาหน่ายและบริโภคสามารถ นามาแปรรูปมาเป็นสินค้าได้หลากหลายอย่าง เป็นการนาวัตถุดิบที่ได้จากพ้ืนท่ีมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะสินค้าเกษตรสามารถหาได้ในพ้ืนท่ี มาเพมิ่ มูลค่าได้หลากหลาย เช่น การทากล้วยกรอบ การทา มะกรูดแช่อ่ิม ซ่ึงส่งผลให้เกษตรกรเพ่ิมรายได้ และสร้างอาชีพให้กับผู้ว่างงานมีอาชีพที่มั่นคงและ ยัง่ ยนื หลักการของหลักสตู ร กระบวนการทางานโดยยึดหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ตามพระราชดารัสพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว นาทางในการบริหารประเทศ กศน. เห็นความสาคัญของแนวคิดดังกล่าวจึงมีนโยบาย เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประชาชนได้มีอาชพี ท่ีสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคั่ง และม่ันคง ซึ่งการแปรรูปอาหารจากผลผลิตทางการเกษตรถือว่าเป็นงานอาชีพในชุมชนแขนงหน่ึงที่ ทารายได้ให้กับผู้ประกอบการ เป็นการส่งเสริมกสิกรรมในครัวเรือนที่ ผลิตขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ใน การรับประทานในครอบครัวและจาหน่ายในด้านเศรษฐกิจเป็นรายได้ของครอบครัว จึงได้จัดทา หลกั สูตรน้ขี ้ึนเพื่อเป็นการสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การประกอบอาชพี ในชมุ ชน 1. เป็นหลักสูตรระยะสนั้ ให้การศกึ ษาแกก่ ล่มุ ผ้สู นใจเรียนร้วู ิธีการแปรรปู ผลไม้ 2. เป็นหลกั สูตรที่สง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นสามารถนาไปประกอบอาหารใหส้ มาชิกในครอบครัว รับประทานได้ 3. เปน็ หลักสูตรท่ีสามารถนาไปประกอบอาชพี เพื่อเพ่ิมรายได้ในครวั เรือนได้
15 4. เป็นหลักสูตรท่ีบูรณาการความรู้ ประสบการณ์ ทส่ี อดคลอ้ งกับความสนใจของ กลุ่มเป้าหมายในชุมชน จุดมงุ่ หมาย 1. มคี วามรู้เกี่ยวกับวธิ กี ารแปรรูปผลไม้ในท้องถนิ่ ใหเ้ กิดมลู ค่า 2. เพื่อส่งเสริมการมีรายได้เพ่มิ กอ่ ให้เกดิ ชมุ ชนเขม้ แข็ง มน่ั คงเป็นพน้ื ฐานการพ่ึงพาตนเอง 3. เพอ่ื ให้คดิ เป็น วเิ คราะห์เปน็ ทาเป็น และแกป้ ญั หาเป็น 4. เปน็ บคุ คลแหง่ การเรียนรู้ มที ักษะ แสวงหาความรู้และบรู ณาการความรู้ที่เหมาะสมมาใช้ เพ่ือพฒั นาตนเองใหย้ ่ังยนื 5. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมที่ดงี าม ในการประกอบอาชีพ และการดาเนนิ ชีวติ 6. เพื่อให้มคี วามสุข สามารถสรา้ งรายได้จากกิจกรรมทสี่ อดคล้องกบั ความต้องการของ กลมุ่ เปา้ หมาย กลมุ่ เปา้ หมาย มี 2 กลุ่มเป้าหมาย คือ ผ้ทู ไี่ ม่มีอาชีพ และผู้ทมี่ ีอาชีพและตอ้ งการพฒั นาอาชีพ ระยะเวลา จานวน 60 ชว่ั โมง 1. ภาคทฤษฎี 4 ชัว่ โมง 2. ภาคปฏิบัติ 56 ชว่ั โมง คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1. มีความรู้ ความเข้าใจ ต่อการประกอบอาชีพของตน 2. มีเจตคติทีด่ ีต่อการประกอบอาชพี เพอ่ื เปน็ รายไดห้ ลักหรือรายไดเ้ สรมิ 3. มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมทีด่ ี ในการประกอบอาชีพและการดาเนินชีวติ โครงสร้างหลักสตู ร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ จานวน 1 ช่วั โมง 1.1 ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ 1.2 ความรู้เรือ่ งลกั ษณะกระบวนการแปรรูปท่ีมผี ลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ 1.3 การถนอมรักษาและแปรรปู ให้เป็นผลิตภัณฑ์ 1.4 ชนดิ และปัจจยั ที่มีผลต่อความเสื่อมเสียการควบคุมคุณภาพผลติ ภณั ฑ์ 2. ทักษะอาชีพ จานวน 56 ช่วั โมง 2.1 เตรยี มคน ความรู้ในเร่ืองของประโยชน์ของผลไม้ วธิ กี ารคัดเลือกวตั ถดุ ิบเพอื่ แปรรูป
16 2.2 เตรียมสถานท่ี 2.2.1 ขนาดของพนื้ ที่ ความสะอาดของพนื้ ทส่ี าหรบั เตรยี มการผลติ 2.2.2 เตรยี มพืน้ ทส่ี าหรับจดั เก็บผลิตภัณฑ์ 2.3 เตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ 2.3.1 วัสดสุ าหรบั แปรรปู สินค้าทางการเกษตร 2.4 การฝกึ ปฏิบัตกิ ารออกแบบและสร้างสรรค์การแปรรปู สนิ ค้าทางการเกษตร 2.4.1 ขนนุ ทอดกรอบ 2.4.2 กล้วยกรอบ 2.4.3 เผือกกรอบ 2.4.4 มนั กรอบ 2.4.5 การทามะกรดู แช่อ่ิม ฯลฯ 3. การบรหิ ารจัดการอาชีพ จานวน 1 ช่วั โมง 3.1 การผลติ 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชีพ การแปรรูปสินคา้ ทางการเกษตร จานวน 2 ชว่ั โมง 4.1 ความสาคัญของโครงการอาชีพ การแปรรูปสินค้าทางการเกษตร 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชพี การแปรรปู สนิ ค้าทางการเกษตร 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ การแปรรปู สนิ ค้าทางการเกษตร 4.4 การเขยี นโครงการอาชีพ การแปรรูปสนิ ค้าทางการเกษตร 4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชีพ การแปรรปู สนิ ค้าทางการเกษตร วธิ กี ารจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. วิทยากรบรรยาย 2. แลกเปล่ียนเรยี นรู้ 3. วทิ ยากรบรรยาย 4. แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ 5. แนะนาเทคนิค 6. วิทยากรบรรยายและอธบิ ายวธิ กี าร 7. การสาธิต 8. ฝึกปฏิบตั ิ
17 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ใบความร/ู้ ใบงาน 2. ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ /วิทยากร 3. ตัวอย่างชน้ิ งาน 4. วสั ดุ อุปกรณ์ ทใ่ี ช้ในการฝึกปฏบิ ัติ 5. แหล่งเรียนรู้ ทศ่ี ึกษาดูงาน การวัดและประเมนิ ผล 1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฎีระหว่างเรยี นและจบหลกั สูตร 2. การประเมินผลระหว่างเรยี นจากการปฏิบัติงานทมี่ ีคุณภาพเพยี งพอ สามารถสรา้ งรายได้ ให้กบั ตนเองความสาเร็จของการปฏิบตั แิ ละจบหลักสูตร การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรยี นไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. ผา่ นการประเมนิ ผลทงั้ ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัตไิ ม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. ผเู้ รยี นสามารถเขียนโครงการอาชีพของตนเองได้ อย่างน้อย 1 โครงการ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรียน 2. วุฒิบัตร ออกโดยสถานศึกษาในสังกดั สานกั งาน กศน. 3. ทะเบยี นคุมวฒุ บิ ัตรท่ีสถานศึกษาออกให้กบั ผ้เู รียนทจ่ี บหลกั สตู ร การเทียบโอน ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี เลือกที่สถานศึกษาได้จดั ทา ขึ้นได้
18 หลักสตู รผา้ ดน้ มือ (กระเปา๋ ปนิ่ โต) จานวน 50 ช่ัวโมง กลุ่มอาชพี อุตสาหกรรมหรือหตั ถกรรม ความเป็นมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นหน่วยงานภาครัฐท่ีมี หน้าที่จัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนท่ีพลาดโอกาสทาง การศึกษาได้มองเห็นความสาคัญและช่องทางในการขยายอาชีพผ้าด้นมือ ให้กับประชาชนที่ต้องการมี รายได้ ประกอบกับทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้กาหนดนโยบายการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงาน ทา ให้สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนให้กับประชาชน เพ่ือเป็นทางเลือกอีกทางหน่ึงสาหรับ ประชาชนให้สามารถนาไปปฏิบัติได้จริงและนาไปเป็นอาชีพเพ่ิมรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนได้ สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจึงมีแนวคิดจัดกระบวนการ พัฒนา หลักสตู รผ้าด้นมอื ให้เปน็ องค์ความรู้ แนวทาง ทเี่ ปน็ กลางในการจัดการศกึ ษาตามนโยบาย ผ้าด้นมือเป็นงานท่ีเย็บปักด้วยมือ สมยั ก่อนจะมีการเย็บผ้าห่มนวมไว้ใช้เองในครัวเรือน ฝีมือ ในการเย็บจะไม่ปราณีต และไม่เรยี บรอ้ ย เพราะทาไวใ้ ช้กันเอง ในครวั เรอื นและเป็นของฝากกับผู้ทม่ี า เยี่ยมเยือน ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบการเย็บปัก ลายเส้น ลวดลาย สีสัน เพ่ือให้เข้ากับยุคสมัย ใช้เป็นผ้าคลุมเตียงและผ้าห่มได้ แต่ยังไม่ทิ้งภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการเย็บปักด้วยมือ ลายเส้นและ ลวดลาย มีลักษณะที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงกลายเป็นผ้าด้นมือในรูปแบบใหม่ ที่มิใช่เพียงแค่การเนาผ้าห่มท่ีใช้ในครัวเรือนที่เย็บ จากฝ้ายหรือนุ่นใช้ภายในครอบครัวเรือนอยู่แล้ว ความรู้ประสบการณ์การทาผ้าด้นมือ มาประยุกต์ดัดแปลง เดิมทาเป็นงานด้นมือช้ินเล็ก ๆ และได้ พัฒนาชิ้นงานใหญ่ข้ึน เช่น ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ผ้าปูโต๊ะ ปลอกหมอน และในปัจจุบันแนวโน้มความ ตอ้ งการผลิตภัณฑท์ ท่ี าดว้ ยมือหรืองาน “Handmade” น้นั มแี นวโนม้ ทีส่ ูงข้นึ เรอ่ื ย ๆ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จึงเห็นความสาคัญใน การพัฒนาหลักสูตรผ้าด้นมือและช่องทางในการขยายอาชีพ เพื่อมุ่งพัฒนาคน ให้ได้รับการศึกษา เพ่ือพัฒนาอาชีพและ การมีงานทา สามารถสร้างรายได้อาชีพให้มีความม่ันคง สามารถทางานร่วมกับ ภาคีเครือข่าย และนาเอาความรู้มาเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ให้สอดคล้องกับศักยภาพ พัฒนาตนเอง สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม และมคี วามพรอ้ มท่ีจะสามารถทางานได้อย่างมปี ระสิทธิภาพดังกล่าวต่อไป หลกั การของหลกั สูตร การจดั การศกึ ษาเพื่อการพฒั นาอาชพี การพฒั นาหลักสตู รผ้าด้นมือ เพ่ือการมีงานทา กาหนด หลักการไว้ดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพ ภูมิประเทศและทาเลที่ต้ังของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนะธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ของแต่ละพ้ืนทแี่ ละศกั ยภาพของทรัพยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะพน้ื ท่ี
19 2. มงุ่ พฒั นาคนไทยให้ไดร้ บั การศกึ ษาเพ่ือพฒั นาอาชพี และการมีงานทาอย่างมคี ุณภาพทั่วถงึ และ เท่าเทยี มกัน สามารถสร้างรายได้ท่ีม่นั คง และเป็นบุคคลทมี่ ีวนิ ยั เปยี่ มไปดว้ ยคุณธรรม จรยิ ธรรม มีจติ สานึกความรบั ผิดชอบต่อตนเอง ผอู้ ่ืน และสงั คม 3. สง่ เสรมิ ให้มคี วามรว่ มมือในการดาเนนิ งานการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมงี านทา ร่วมกับภาคีเครือข่าย 4. เนน้ การฝึกปฏบิ ัตจิ ริงเพ่ือใหผ้ ู้เรียนเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาไปประกอบ อาชพี ได้ ใหเ้ กิดรายไดท้ ี่ม่ันคง มัง่ คั่ง และยั่งยืนในอาชพี 5. ส่งเสรมิ ใหม้ ีการเทยี บโอนความรูแ้ ละประสบการณเ์ ขา้ สู่หลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 จุดมงุ่ หมาย 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และฝึกทักษะผ้าด้นมือ พร้อมทั้งวิธีการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ผ้าด้นมอื สร้างมลู คา่ เพ่ิม 2. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจัดทาโครงการประกอบอาชีพ ซ่ึงส่งผลให้มองเห็นช่องทางและ ตัดสินใจประกอบอาชีพ พัฒนาผ้าด้นมือ ที่สอดคล้องกับศักยภาพตนเอง ชุมชน และส่ิงแวดล้อม จน สามารถสร้างรายได้ท่มี ่ันคงได้ 3. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี น มคี ุณธรรม จริยธรรม และจติ สานกึ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ชมุ ชนและ สังคม กล่มุ เป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายคอื ประชาชนกลุม่ เป้าหมายนอกระบบโรงเรยี น 1. ผู้ทไ่ี ม่มอี าชีพ 2. ผทู้ ่มี ีอาชีพและต้องการพัฒนาอาชีพ ระยะเวลา จานวน 50 ชัว่ โมง 1. ภาคทฤษฎี 10 ชั่วโมง 2. ภาคปฏิบตั ิ 40 ชว่ั โมง
20 โครงสร้างหลกั สูตร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี ผ้าด้นมือ จานวน 3 ชวั่ โมง 1.1 ความสาคัญของการประกอบอาชพี ผ้าดน้ มือ 1.2 ความรูเ้ บือ้ งต้นในการประกอบอาชีพผ้าด้นมือ 1.2.1 ขอ้ มลู ทีเ่ ก่ยี วข้องกับอาชพี จากผูร้ ู้ ผู้ประกอบการในชมุ ชน 1.2.2 ความต้องการของตลาด 1.2.3 การลงทนุ 1.2.4 กระบวนการผลติ การจัดหาวัสดุ อุปกรณแ์ ละวตั ถดุ ิบ 1.3 แหล่งเรยี นรู/้ ภมู ิปญั ญาในทอ้ งถนิ่ ผ้าด้นมือ 1.4 บอกทิศทางการประกอบอาชีพ 1.4.1 เป็นผู้ประกอบการ 1.4.2 ผูค้ ้าสง่ 2. ทักษะการประกอบอาชีพผ้าดน้ มอื จานวน 40 ช่ัวโมง 2.1 ขน้ั ตอนการเตรยี มการก่อนการประกอบอาชพี 2.1.1 สถานท่ี 2.1.2 จัดสร้างอปุ กรณ์ผ้าด้นมอื ได้แก่ แบบพมิ พ์ลายดน้ แบบพมิ พ์ลายตดั 2.1.3 การเตรียมอุปกรณ์ผ้าดน้ มอื 2.2 ข้นั ตอนการทาผ้าดน้ มือ 2.2.1 ตัดผ้าตามลายทตี่ อ้ งการ 2.2.2 วางใยสงั เคราะห์ 2.2.3 วางทาบบนผ้าพื้นแลว้ ทาการเนา วาดลายดว้ ยดินสอ ตามแบบพิมพ์และทา การดน้ 3. การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพผ้าด้นมือ จานวน 5 ชั่วโมง 3.1 การบริหารจัดการการผลติ และพัฒนารูปแบบผลติ ภัณฑ์ผ้าดน้ มือ 3.1.1 การควบคมุ ปริมาณ คุณภาพการผลิตและพัฒนารปู แบบผลติ ภัณฑ์ 3.1.2 การลดต้นทนุ 3.1.3 การวางแผนการผลิตการใช้นวตั กรรม และเทคโนโลยีในการออกแบบ ชิน้ งาน 3.2 การจดั การการตลาด 3.2.1 การทาฐานข้อมูลลูกค้า 3.2.2 การประชาสมั พันธ์ สร้างแบรนด์โลโกเ้ พื่อเพิ่มมลู ค่า 3.2.3 การนาสินคา้ เขา้ สู่กระบวนการมาตรฐานสินค้า 3.2.4 การจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ 3.2.5 การทาบัญชี รายรับ – รายจ่าย 3.2.6 การวางแผนการตลาด 3.2.7 การเข้าสู่การตลาดในระดับประเทศและตลาดต่างประเทศ
21 3.3 การจัดการความเสี่ยง จานวน 2 ชัว่ โมง 3.3.1 การวเิ คราะห์และควบคุมความเสยี่ ง 1) ระยะเวลาการผลิตกับการจาหน่าย 2) ราคาขาย 3) คแู่ ข่งขัน 3.4 การวางแผนการดาเนินงาน 4. การจดั ทาโครงการประกอบอาชพี ผ้าดน้ มือ 4.1 ความสาคัญของโครงการประกอบอาชีพ 4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชีพ 4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชพี 4.4 การเขียนโครงการ 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการ การจัดกระบวนการเรียนรู้ หลักสูตรผ้าด้นมือ เป็นหลักสูตรท่ีเนน้ ใหผ้ ูเ้ รียนได้เรยี นรจู้ ากประสบการณ์ตรงดว้ ยการปฏบิ ัติ จริง โดยมีวิทยากรอาชีพเป็นผู้ชี้แนะและจัดกระบวนการเรียนรู้พร้อมกับครูผู้สอน โดยมีการจัด กระบวนการเรยี นรู้ดังน้ี 1. การศึกษาดงู านจากสถานท่ีจริง บรรยาย และสาธติ อาชีพ 2. การฝกึ ปฏบิ ัติรว่ มกบั วทิ ยากร และให้ผู้เรยี นฝกึ ฝนด้วยตนเองจนเกิดทกั ษะ 3. ทดสอบทกั ษะท่ีไดร้ บั การฝึกฝน ส่อื การเรียนรู้ 1. ส่ือเอกสารใบความรใู้ นการบรรยายและสาธติ อาชพี และการฝกึ ปฎบิ ัตจิ รงิ 2. สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ Power Point,ภาพผ้าด้นมือ (ผ้าคลุมเตียง หมอน หมอนอิง หมอน หนุน หมอนข้าง กระเป๋า ผ้าปูโตะ๊ ผ้าแขวนฝาผนงั ) 3. ผรู้ ้/ู ภมู ปิ ญั ญา ทช่ี านาญการ 4. วตั ถดุ ิบอุปกรณ์ในอาชีพที่มีการใช้จรงิ จดั สร้างโครงการเพอ่ื ต่อยอดอาชพี 1. ช่องทางการประกอบอาชพี การทาผ้าด้นมือ (กระเป๋าปิ่นโต) 1.1 ใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาเน้ือหาจากใบความรู้ เรื่องความสาคัญในการประกอบอาชีพ 1.2 ผเู้ รียนและวิทยากรรว่ มสนทนาแลกเปล่ียนข้อมูลความคดิ เหน็ 1.3 ผเู้ รียนสรปุ ความรู้ 2. ทักษะการประกอบอาชีพการทาผา้ ด้นมือ (กระเป๋าปิ่นโต) 2.1 ใหผ้ ู้เรยี นศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ เรื่องประโยชนข์ องกระเป๋าป่ินโตที่ใชใ้ นการทา ผา้ ดน้ มอื (กระเปา๋ ปิน่ โต)
22 2.2 วทิ ยากรอธิบายและสาธิตเกยี่ วกบั วิธกี ารทา 2.3 ผเู้ รียนและวทิ ยากรร่วมสนทนาแลกเปลย่ี นข้อมลู ความคดิ เห็น 2.4 ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเน้ือหาจากใบความรู้ เรอ่ื งการทาผา้ ด้นมือ (กระเปา๋ ป่ินโต) 2.5 วิทยากรบรรยายวสั ดุอุปกรณ์ และขัน้ ตอนการทาผ้าด้นมือ (กระเป๋าปิน่ โต) งบประมาณ การทาผา้ ด้นมือ (กระเป๋าปิ่นโต) 2.6 ผเู้ รยี นฝกึ ปฏิบตั กิ ารทาผ้าดน้ มอื (กระเป๋าปิ่นโต) 2.7 วิทยากรประเมนิ ผลการทาผา้ ด้นมือ (กระเปา๋ ป่นิ โต) ของผเู้ รียน การบรรจุภัณฑ์และการตกแตง่ ผา้ ด้นมือ (กระเป๋าป่ินโต) วิทยากรอธิบายและสาธติ เกีย่ วกับการบรรจภุ ัณฑ์การทาผา้ ด้นมือ (กระเป๋าปน่ิ โต) การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชพี 1. การคิดราคาต้นทุน ค่าวัสดุอุปกรณ์ผ้าด้นมือกระเป๋าป่ินโต ค่าวัสดุอุปกรณ์ผ้าด้นมือ (กระเป๋าป่ินโต) ค่าแรง วิทยากรอธิบายและสาธิตให้คิดคานวณ ราคาต้นทุนและการวิเคราะห์ จดุ คุ้มทนุ 2. การทาบญั ชี วทิ ยากรอธบิ ายการทาบัญชแี ละสาธิตการทาบญั ชีอย่างงา่ ย การวัดและประเมินผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎีระหว่างเรยี นและจบหลกั สูตร 2. การประเมนิ ผลงานระหว่างเรียนจาการปฏิบตั ิ ได้ผลงานทม่ี ีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และจบหลักสูตร การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี น ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลกั สูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. มผี ลงานท่มี ีคณุ ภาพ ตรงตามหลกั การของหลกั สตู ร เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานการประเมินผล 2. ทะเบียนคุมวุฒิบตั ร 3. วฒุ ิบัตรการศึกษา ออกโดยสถานศึกษา การเทียบโอน ผูเ้ รยี นทีจ่ บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรู้กับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาขึ้น
23 หลกั สตู รผ้าด้นมือ (กระเปา๋ สะพายเฉยี ง) จานวน 35 ช่ัวโมง กลุ่มอาชีพอตุ สาหกรรมหรอื หัตถกรรม ความเปน็ มา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นหน่วยงานภาครัฐท่ีมี หน้าที่จัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนท่ีพลาดโอกาสทาง การศึกษาได้มองเห็นความสาคัญและช่องทางในการขยายอาชีพผ้าด้นมือ ให้กบั ประชาชนที่ต้องการมี รายได้ ประกอบกับทางกระทรวงศึกษาธกิ าร ได้กาหนดนโยบายการจัดการศกึ ษาอาชพี เพ่ือการมีงาน ทา ให้สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนให้กับประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกอีกทางหน่ึงสาหรับ ประชาชนให้สามารถนาไปปฏิบัติได้จริงและนาไปเป็นอาชีพเพ่ิมรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนได้ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจึงมีแนวคิดจัดกระบวนการ พัฒนา หลกั สูตรผ้าดน้ มอื ให้เป็นองค์ความรู้ แนวทาง ท่ีเป็นกลางในการจดั การศกึ ษาตามนโยบาย ผ้าด้นมือเป็นงานที่เย็บปักด้วยมือ สมยั ก่อนจะมีการเย็บผ้าห่มนวมไว้ใช้เองในครวั เรือน ฝีมือ ในการเยบ็ จะไม่ปราณีตและไมเ่ รียบร้อย เพราะทาไว้ใช้กันเอง ในครัวเรือนและเป็นของฝากกับผู้ที่มา เย่ียมเยือน ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบการเย็บปัก ลายเส้น ลวดลาย สีสัน เพ่ือให้เข้ากับยุคสมัย ใช้เป็นผ้าคลุมเตียงและผ้าห่มได้ แต่ยังไม่ทิ้งภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการเย็บปักด้วยมือ ลายเส้นและ ลวดลาย มีลักษณะที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของภูมิปัญญาท้องถ่ิน จึงกลายเป็นผ้าด้นมือในรูปแบบใหม่ ท่ีมิใช่เพียงแค่การเนาผ้าห่มท่ีใช้ในครัวเรือนท่ีเย็บ จากฝ้ายหรือนุ่นใช้ภายในครอบครัวเรือนอยู่แล้ว ความรู้ประสบการณ์การทาผ้าด้นมือ มาประยุกต์ดัดแปลง เดิมทาเป็นงานด้นมือชิ้นเล็ก ๆ และได้ พัฒนาชิ้นงานใหญ่ข้ึน เช่น ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ผ้าปูโต๊ะ ปลอกหมอน และในปัจจุบันแนวโน้มความ ต้องการผลิตภณั ฑ์ทท่ี าด้วยมือหรอื งาน “Handmade” นั้น มีแนวโนม้ ท่สี ูงขึ้นเรือ่ ยๆ สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงึ เห็นความสาคัญในการพฒั นา หลักสูตรผ้าด้นมือและช่องทางในการขยายอาชีพ เพื่อมุ่งพัฒนาคนให้ได้รับการศึกษา เพ่ือพัฒนา อาชีพและ การมีงานทา สามารถสร้างรายได้อาชีพให้มีความม่ันคง สามารถทางานร่วมกับภาคี เครือข่าย และนาเอาความรู้มาเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ให้สอดคล้องกับศกั ยภาพ พัฒนาตนเอง สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม และมคี วามพรอ้ มทจ่ี ะสามารถทางานได้อย่างมีประสทิ ธิภาพดงั กล่าวต่อไป
24 หลกั การของหลกั สตู ร การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาอาชีพการพัฒนาหลักสตู รผ้าดน้ มือ เพื่อการมีงานทา กาหนด หลักการไวด้ งั น้ี 1. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ศักยภาพของพื้นท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพ ภูมิประเทศและทาเลที่ตั้งของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนะธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ของแต่ละพื้นที่และศักยภาพของทรัพยากรมนษุ ย์ในแต่ละพื้นท่ี 2. มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพ ท่ัวถึงและ เท่าเทียมกัน สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง และเป็นบุคคลที่มีวินัยเป่ียมไปด้วยคุณธรรม จรยิ ธรรม มจี ิตสานึกความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ผอู้ น่ื และสังคม 3. ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในการดาเนินงานการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ร่วมกับภาคเี ครือข่าย 4. เน้นการฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริงเพื่อให้ผู้เรียนเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาไปประกอบ อาชีพได้ ให้เกิดรายไดท้ ่ีมน่ั คง มั่งคง่ั และย่ังยนื ในอาชีพ 5. สง่ เสรมิ ให้มกี ารเทยี บโอนความรูแ้ ละประสบการณเ์ ขา้ สู่หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับ การศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 จดุ มงุ่ หมาย 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และฝึกทักษะผ้าด้นมือ พร้อมทั้งวิธีการออกแบบ ผลิตภัณฑผ์ ้าด้นมอื สร้างมูลคา่ เพิ่ม 2. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถจัดทาโครงการประกอบอาชีพ ซึ่งส่งผลให้มองเห็นช่องทางและ ตัดสินใจประกอบอาชีพ พัฒนาผ้าด้นมือ ที่สอดคล้องกับศักยภาพตนเอง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จนสามารถสร้างรายได้ที่ม่ันคงได้ 3. เพอื่ ให้ผู้เรยี น มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และจิตสานึกความรับผดิ ชอบต่อตนเอง ชุมชนและ สังคม กลุ่มเปา้ หมาย กลุม่ เป้าหมายคอื ประชาชนกลุ่มเป้าหมายนอกระบบโรงเรียน 1. ผูท้ ่ีไมม่ ีอาชีพ 2. ผู้ทีม่ ีอาชพี และต้องการพัฒนาอาชีพ ระยะเวลา จานวน 35 ชว่ั โมง 1. ภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 30 ช่ัวโมง
25 โครงสร้างหลกั สตู ร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพผ้าด้นมือ จานวน 2 ชว่ั โมง 1.1 ความสาคญั ของการประกอบอาชีพผ้าด้นมือ 1.2 ความรู้เบือ้ งตน้ ในการประกอบอาชีพผ้าด้นมือ 1.2.1 ขอ้ มูลทีเ่ ก่ียวข้องกบั อาชีพจากผู้รู้ ผู้ประกอบการในชมุ ชน 1.2.2 ความตอ้ งการของตลาด 1.2.3 การลงทุน 1.2.4 กระบวนการผลติ การจัดหาวสั ดุ อุปกรณแ์ ละวตั ถุดิบ 1.3 แหล่งเรียนรู/้ ภูมิปญั ญาในทอ้ งถิน่ ผ้าด้นมือ 1.4 บอกทิศทางการประกอบอาชีพ 1.4.1 เปน็ ผปู้ ระกอบการ 1.4.2 ผ้คู ้าสง่ 2. ทักษะการประกอบอาชีพผ้าดน้ มือ จานวน 30 ชว่ั โมง 2.1 ขั้นตอนการเตรยี มการก่อนการประกอบอาชพี 2.1.1 สถานท่ี 2.1.2 จดั สร้างอปุ กรณผ์ ้าด้นมอื ได้แก่ แบบพิมพ์ลายดน้ แบบพมิ พล์ ายตดั 2.1.3 การเตรียมอปุ กรณผ์ ้าด้นมอื 2.2 ข้นั ตอนการทาผ้าด้นมือ 2.2.1 ตัดผ้าตามลายท่ตี อ้ งการ 2.2.2 วางใยสังเคราะห์ 2.2.3 วางทาบบนผ้าพืน้ แลว้ ทาการเนา วาดลายดว้ ยดนิ สอ ตามแบบพิมพ์ และ ทาการดน้ 3. การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพผ้าดน้ มือ จานวน 3 ชัว่ โมง 3.1 การบริหารจดั การการผลติ และพฒั นารูปแบบผลิตภณั ฑผ์ ้าด้นมือ 3.1.1 การควบคุม ปริมาณ คุณภาพการผลติ และพัฒนารูปแบบผลติ ภณั ฑ์ 3.1.2 การลดตน้ ทนุ 3.1.3 การวางแผนการผลิตการใชน้ วตั กรรม และเทคโนโลยีในการออกแบบ ชิน้ งาน 3.2 การจัดการการตลาด 3.2.1 การทาฐานข้อมูลลกู ค้า 3.2.2 การประชาสัมพันธ์ สร้างแบรนดโ์ ลโกเ้ พอ่ื เพิ่มมลู ค่า 3.2.3 การนาสินคา้ เขา้ สู่กระบวนการมาตรฐานสินค้า 3.2.4 การจาหน่ายผลติ ภณั ฑ์ 3.2.5 การทาบัญชี รายรับ – รายจ่าย 3.2.6 การวางแผนการตลาด 3.2.7 การเข้าส่กู ารตลาดในระดับประเทศและตลาดต่างประเทศ
26 3.3 การจดั การความเสยี่ ง 3.3.1 การวเิ คราะห์และควบคมุ ความเสย่ี ง 1) ระยะเวลาการผลติ กับการจาหน่าย 2) ราคาขาย 3) คู่แข่งขนั การจัดกระบวนการเรยี นรู้ หลกั สูตรผ้าดน้ มือ เป็นหลักสูตรท่ีเนน้ ใหผ้ เู้ รียนได้เรยี นรจู้ ากประสบการณ์ตรงด้วยการปฏิบัติ จริง โดยมีวิทยากรอาชีพเป็นผู้ชี้แนะและจัดกระบวนการเรียนรู้พร้อมกับครูผู้สอน โดยมีการจัด กระบวนการเรยี นรดู้ ังนี้ 1. การศึกษาดงู านจากสถานทจี่ รงิ บรรยาย และสาธิตอาชีพ 2. การฝกึ ปฏบิ ัตริ ่วมกบั วทิ ยากร และให้ผู้เรียนฝกึ ฝนด้วยตนเองจนเกิดทกั ษะ 3. ทดสอบทกั ษะทไ่ี ด้รบั การฝกึ ฝน ส่ือการเรียนรู้ 1. ส่อื เอกสารใบความรู้ในการบรรยายและสาธิตอาชพี และการฝกึ ปฎิบัตจิ รงิ 2. ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ Power Point,ภาพผ้าดน้ มือ (ผ้าคลุมเตียง หมอน หมอนองิ หมอน หนุน หมอนข้าง กระเป๋า ผ้าปูโตะ๊ ผ้าแขวนฝาผนงั ) 3. ผู้ร/ู้ ภูมิปัญญา ทีช่ านาญการ 4. วัตถดุ บิ อปุ กรณ์ในอาชีพท่ีมกี ารใชจ้ รงิ จัดสร้างโครงการเพ่ือต่อยอดอาชพี 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทาผ้าดน้ มือ (สะพายเฉียง) 1.1 ให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ เรื่องความสาคญั ในการประกอบอาชีพ 1.2 ผู้เรยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลย่ี นข้อมลู ความคดิ เหน็ 1.3 ผ้เู รียนสรปุ ความรู้ 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการทาผ้าดน้ มือ (สะพายเฉียง) 2.1 ให้ผูเ้ รยี นศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ เรื่องประโยชนข์ องสะพายเฉยี งที่ใช้ในการทา ผ้าด้นมือ (สะพายเฉยี ง) 2.2 วิทยากรอธบิ ายและสาธิตเกี่ยวกับวธิ กี ารทา 2.3 ผู้เรยี นและวิทยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ นข้อมลู ความคดิ เหน็ 2.4 ใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาเนื้อหาจากใบความรู้ เร่อื งการทาผา้ ด้นมือ (สะพายเฉยี ง) 2.5 วทิ ยากรบรรยายวสั ดุอปุ กรณ์ และขนั้ ตอนการทาผา้ ด้นมอื (สะพายเฉียง) งบประมาณ การทาผา้ ดน้ มือ (สะพายเฉยี ง) 2.6 ผเู้ รียนฝึกปฏิบตั กิ ารทาผ้าดน้ มอื (สะพายเฉียง) 2.7 วิทยากรประเมนิ ผลการทาผ้าด้นมือ (สะพายเฉยี ง) ของผู้เรยี น
27 การบรรจภุ ณั ฑ์และการตกแตง่ ผ้าด้นมือ (สะพายเฉยี ง) วทิ ยากรอธบิ ายและสาธติ เกี่ยวกบั การบรรจุภณั ฑ์การทาผา้ ด้นมอื (สะพายเฉยี ง) การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชพี 1. การคิดราคาต้นทุน คา่ วสั ดุอปุ กรณ์ผา้ ด้นมอื สะพายเฉียง คา่ วัสดอุ ปุ กรณผ์ ้าดน้ มือ (สะพายเฉียง) คา่ แรง วิทยากรอธิบายและสาธติ ใหค้ ิดคานวณ ราคาต้นทนุ และการวเิ คราะห์จุดคมุ้ ทนุ 2. การทาบัญชี วิทยากรอธิบายการทาบญั ชีและสาธติ การทาบญั ชีอย่างง่าย การวัดและประเมินผล 1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลักสตู ร 2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจาการปฏิบัติ ได้ผลงานทม่ี ีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และจบหลกั สูตร การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรียน ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลักสตู ร ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 3. มผี ลงานทม่ี คี ุณภาพ ตรงตามหลักการของหลกั สตู ร เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. หลกั ฐานการประเมินผล 2. ทะเบยี นคุมวุฒิบัตร 3. วุฒิบัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศึกษา การเทยี บโอน ผ้เู รยี นทีจ่ บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรกู้ ับหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จัดทาขึ้น
28 หลกั สตู รการทาขนมไทย จานวน 35 ช่ัวโมง กลุ่มอาชพี พาณชิ ยกรรมและบรกิ าร ความเปน็ มา การจัดการอาชพี ในปัจจบุ ันมคี วามสาคัญมาก เพราะการจดั การศึกษาอาชพี เปน็ เร่ืองเกี่ยวกับ การพัฒนาประชากรของประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะ ในการประกอบอาชีพ ของ บุคคล และกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน จากนโยบายและจุดเน้นในการดาเนินงานประจาปีงบประมาณ 2555 ของกระทรวงศึกษาธิการ และ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มุ่งเน้นการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้าน พาณิชยกรรม ด้านความคิดสร้างสรรค์ และด้านอานวยการและอาชีพเฉพาะทาง ซึ่งเป็นการจัด การศึกษาอาชีพที่มุ่งพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะใน การประกอบอาชีพ เน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นการจัดการศึกษา ตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ตลอดจนสามารถ แกป้ ญั หาการวา่ งงานและสง่ เสริมความเขม้ แข็งใหแ้ ก่เศรษฐกิจชุมชน การเลือกประกอบอาชีพในภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน จาเปน็ ต้องมีขอ้ มูลพื้นฐานในหลักสูตร ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านการผลิต และความตอ้ งการของตลาดแรงงานในสาขาอาชีพตา่ ง ๆ กลุ่มอาชีพ สาขาพาณชิ ยกรรมก็เปน็ ทางเลอื กหนึง่ ในการเลอื กประกอบอาชีพ ของหวานไทยหรือขนมไทย เป็นขนมที่มีความเก่ียวข้องกับคนไทยมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นวัฒนธรรมอย่างหน่ึงที่บ่งบอกว่า คนไทยเป็นคนมีลักษณะนิสัยอย่างไร ขนมไทยแต่ละชนิด ล้วนมีเสน่ห์ มีรสชาติท่ีแตกต่างกันออกไป แต่แฝงไปด้วยความ ละเมียดละไม ความวิจิตรบรรจง วิธีการทาท่ีพิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ขนมไทยแสดง ให้เห็นถึงลักษณะของคนไทยว่าเป็นคนใจเย็น รักสงบ มีฝีมือเชิงศิลปะ การประกอบอาชีพธุรกิจขนม ไทย เป็นอาชพี อสิ ระที่สามารถสร้างรายไดใ้ หก้ บั ตนเองและครอบครัวได้อย่างม่นั คง สานักงาน กศน.ได้จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการทาขนมไทย โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติ จริง เพ่ือพัฒนากระบวนการเรียนรู้ท่ีจะนาไปสู่การสร้างรายได้ การสร้างงานให้กับประชาชน เพิ่ม รายได้ลดรายจ่ายในครัวเรือน โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการ พฒั นาอาชพี ของตนให้มีความมน่ั คง ในพ้ืนท่ีตาบลบางชา้ ง หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลักสูตรท่ีเนน้ การจัดการศกึ ษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความรู้และ ทกั ษะไปประกอบอาชพี ไดจ้ รงิ อย่างมีคุณภาพและมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 2. เปน็ หลักสูตรอาชีพท่ีส่งเสริม และอนรุ กั ษ์ความรู้ของภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ 3. เป็นหลักสตู รทีเ่ น้นการดาเนนิ งานร่วมกบั เครือขา่ ย สถานประกอบการ เพื่อประโยชน์ใน การประกอบอาชีพ
29 4. เป็นหลักสูตรที่ผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในรายวิชาเลือกของสาระการประกอบอาชีพ 5. เป็นหลักสูตรที่เน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติในเขตพ้ืนที่ให้บริการ ศกั ยภาพของพื้นท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิ ประเทศและทาเลที่ต้ัง ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ศักยภาพของทรัพยากร มนุษยใ์ นเขตพนื้ ท่ี จดุ มงุ่ หมาย 1. เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ และทักษะเก่ียวกับการทาขนมไทยได้ 2. เพื่อให้ผู้เรียนนาความรู้เกี่ยวกับการทาขนมไทยไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับ ตนเองและครอบครวั ไดอ้ ย่างมีคณุ ธรรมและมนั่ คง กลุ่มเปา้ หมาย กลมุ่ เป้าหมาย คอื ประชาชนทั่วไป 1. ผ้ทู ีไ่ ม่มีอาชพี 2. ผู้ทมี่ อี าชพี และต้องการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา 35 ช่ัวโมง จานวน 5 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 30 ชว่ั โมง ภาคปฏบิ ตั ิ โครงสรา้ งหลักสูตร จานวน 2 ชัว่ โมง 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการทาขนมไทย จานวน 30 ชว่ั โมง 1.1 ความสาคัญในการประกอบอาชพี การทาขนมไทย จานวน 2 ชัว่ โมง 1.2 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพการทาขนมไทย 1.3 แหล่งเรียนรู้การประกอบอาชพี การทาขนมไทย 1.4 การตดั สนิ ใจเลอื กประกอบอาชพี การทาขนมไทย 2. ทักษะในการประกอบอาชีพการทาขนมไทย 2.1 การเตรียมวัสดุอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการทาขนมไทย 2.2 การทาขนมไทย จานวน 7 ชนิด 2.3 บรรจุภณั ฑข์ นมไทย 3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพการทาขนมไทย 3.1 การเลอื กทาเลท่ีต้งั ร้าน 3.2 การจัดและตกแต่งหน้ารา้ น 3.3 การคิดราคาตน้ ทุนและการวเิ คราะห์จดุ คุม้ ทุน
30 3.4 การขาย 3.5 การสง่ เสรมิ การขาย 3.6 การทาบญั ชีรา้ นค้าอยา่ งงา่ ย 4. โครงการประกอบอาชีพการทาขนมไทย จานวน 1 ชั่วโมง 4.1 ความสาคัญของโครงการอาชพี 4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชพี 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ 4.4 การเขียนโครงการอาชพี 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชีพ วิธกี ารจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทาขนมไทย 1.1 วิทยากรบรรยายความสาคัญ ความเป็นไปได้ และการตัดสินใจเลือกในการ ประกอบอาชพี การทาขนมไทย 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถานประกอบการ สถานท่ีจัดจาหน่าย 2. ทักษะการประกอบอาชพี การทาขนมไทย 2.1 วทิ ยากรบรรยายข้ันตอนการทาขนมไทย 2.2 วิทยากรทาการสาธติ วิธีการทาขนมไทย 2.3 วิทยากรร่วมกับผ้เู รยี นในการการออกแบบผลติ ภณั ฑข์ นมไทย 2.4 ผู้เรยี นฝึกปฏิบตั ิสร้างสรรคก์ ารทาขนมไทยในรปู แบบต่าง ๆ 2.5 ผูเ้ รียนแลกเปล่ยี นความรู้ซ่ึงกนั และกัน 2.6 ผูเ้ รยี นศึกษาดงู านจากแหล่งเรียนรูใ้ นชุมชนและเว็บไซตอ์ อนไลนต์ ่าง ๆ 3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชพี การทาขนมไทย 3.1 วทิ ยากรบรรยายเกี่ยวกับการทาขนมไทยให้มีความสวยงาม น่ารบั ประทาน เพ่ือจูง ใจให้ผซู้ ือ้ ต้องการซ้อื สินคา้ 3.2 การกาหนดราคาให้เหมาะสมกับสินค้า และศึกษาข้อมูลการตลาดเพื่อจาหน่าย สินคา้ วิเคราะห์ขอ้ มลู ความตอ้ งการของตลาด 3.3 การโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางเวบ็ ไซตอ์ อนไลนต์ า่ ง ๆ หรือแผ่นพับโฆษณา 3.4 การคิดราคาตน้ ทนุ และกาไร การทาบัญชรี ายรับ-รายจา่ ย สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหลง่ เรียนรู้ในชุมชน / วทิ ยากร / ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ
31 การวัดและประเมินผล 1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฎีระหว่างเรยี น 2. การประเมินผลงานการปฏิบตั ิระหวา่ งเรยี นความสาเร็จของการปฏิบัติ การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรยี น ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลักสูตร ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 3. มีผลงานทมี่ ีคุณภาพ ตรงตามหลักการของหลักสตู ร เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. หลักฐานการประเมินผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ตั ร 3. วฒุ บิ ตั รการศึกษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรู้กับหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน
32 หลักสูตรการทาขนมไทย จานวน 50 ช่ัวโมง กลมุ่ อาชพี าณิชยกรรมและบรกิ าร ความเปน็ มา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นหน่วยงานภาครัฐที่มี หน้าท่ีท่ีจัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนท่ีพลาดโอกาสทาง การศึกษา ได้มองเห็นความสาคัญและช่องทางในการขยายอาชีพการทาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ให้กับ ประชาชนท่ีต้องการมีรายได้ ประกอบกับทางกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดนโยบายก ารจัด การศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาให้สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนให้กับประชาชนเพื่อเป็นแนว ทางเลือกอีกทางหน่ึงสาหรับประชาชนให้สามารถนาไปปฏิบัติได้จริงและนาไปเป็นอาชีพเสริมเพ่ิม รายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนได้ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั จึงมแี นวคิดจัดกระบวนการ พฒั นาหลกั สตู รการทาขนมไทยให้เปน็ องค์ความรู้ แนวทางทเี่ ป็น กลางในการจดั การศึกษาตามนโยบาย เพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงาน กศน. ได้ปรับเปลี่ยนกานจัด การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ โดยจัดให้มีศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กศน. เป็นฐานการจัดกรรมให้แก่ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพ้ืนที่บริการ สานักงาน กศน. จังหวัด จัดทาเวทีประชาคมในระดบั จังหวัด เพ่ือกาหนดกรอบอาชีพของจังหวัด จากนั้นสถานศึกษาจึงจัดทาเวทีประชาคมในระดับอาเภอ โดยการวิเคราะห์ศักยภาพของตนเองและพื้นท่ีนาข้อมูลความต้องการด้านอาชีพขอ งทุกตาบลและ ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นมาพจิ ารณารว่ มกบั รอบอาชพี ของจังหวดั เพ่อื กาหนดเปน็ กรอบอาชีพของอาเภอ การพัฒนาหลักสูตรต้องสอดคล้องกับกลุ่มอาชีพใหม่ คือ หลักสูตรกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ความคิดสร้างสรรค์ และอาชีพเฉพาะทาง โดยการพัฒนา เนื้อหาสาระท่ีมีองค์ความรู้ครบวงจร ประกอบด้วย โครงสร้างของหลักสูตร 4 ตอน คือ ช่องทาง การประกอบอาชีพ ทักษะการประกอบอาชีพ การบริหารจัดการและการจัดทาโครงการประกอบ อาชีพ เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ทกั ษะและมีความมนั่ ใจในการประกอบอาชีพ หลกั การของหลักสูตร 1. เปน็ หลกั สูตรท่ีมีความยดื หยุ่นในการจดั กระบวนการเรียนรู้ และการวัดผลและ ประเมินผล 2. ส่งเสรมิ ดา้ นการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา 3. สง่ เสรมิ การพฒั นาดา้ น หลกั สตู รพาณชิ ยกรรมและบริการ วิชาการทาขนมไทย จุดหมาย 1. เพื่อให้ผู้เรยี นมที ักษะอาชีพทีส่ ามารถสร้างรายได้ที่มน่ั คง 2. ผู้เรียนได้นาความรมู้ าพฒั นาและช่วยเสริมอาชีพเดมิ ให้มคี วามกา้ วหน้า มน่ั คงยิ่งข้ึน 3. เพื่อให้ผเู้ รียนมีความรู้ ทักษะและประสบการณ์เกี่ยวกบั การทาขนมไทยสอู่ าชพี ได้
33 4. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีความรแู้ ละทกั ษะในการประกอบอาชพี 5. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการวางแผนการดาเนินงาน และบริการจัดการ อาชีพไดอ้ ย่างมคี ุณภาพ 6. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสังคมส่วนรวม กลุม่ เปา้ หมาย เพื่อให้ประชาชนกลุ่มผู้สนใจมีความรู้และทักษะเร่ืองการนาวัตถุดิบทางธรรมชาติมาสร้าง ผลิตภัณฑ์การทาขนมไทย ท่ีสร้างสรรค์และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถนาความรู้และ วิธีการไปปฏิบัติใช้ในครอบครัวตนเอง สามารถเผยแพร่ให้แก่ผู้อ่ืน และนาไปประกอบอาชีพเพื่อการมี งานทาได้ ระยะเวลา จานวน 50 ชว่ั โมง 1. ภาคทฤษฎี 5 ชัว่ โมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 45 ชัว่ โมง โครงสรา้ งหลักสูตร จานวน 3 ช่วั โมง 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี จานวน 45 ชวั่ โมง 1.1 ความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชพี 1.2 ความสาคญั ในการทาขนมไทย 1.3 แหล่งเรียนรูเ้ กี่ยวกับการทาขนมไทย 1.4 แหลง่ จาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์การทาขนมไทย 2. ทกั ษะอาชพี 2.1 ข้ันตอนในการทาขนมไทย 2.1.1 วัสดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคดั เลอื กสว่ นตา่ ง ๆ ของวัตถุดิบ 2.1.3 การหาวัตถุดบิ 2.1.4 การทาขนมไทย 2.1.5 การฝึกปฏบิ ตั ิการทาขนมไทย ชนดิ ตา่ งๆ เชน่ - ขา้ วต้มมดั - กลว้ ยเชื่อม - เผือกตม้ นา้ ตาล - ขนมมันม่วง - ฟักทองเชื่อม - ตะโกเ้ ผอื ก - ตะโก้ขา้ วโพด
34 - วนุ้ กะทิ - วุ้นแฟนซี - ขนมหม้อแกงเผือก - ขนมชน้ั ใบเตย 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ จานวน 1 ช่วั โมง 3.1 การผลิต 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชีพ การทาขนมไทย จานวน 1 ชวั่ โมง 4.1 ความสาคัญของโครงการอาชีพ การทาขนมไทย 4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชีพ การทาขนมไทย 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชพี การทาขนมไทย 4.4 การเขยี นโครงการอาชีพ การทาขนมไทย 4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชพี การทาขนมไทย วิธกี ารจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ 1.1 วิทยากรใหค้ วามรู้ถึงความสาคัญและความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ การทา ขนมไทย 1.2 แหล่งเรยี นรูเ้ กยี่ วกับการทาขนมไทย 1.3 ศกึ ษาขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรู้ ภมู ิปญั ญา ส่อื อิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานท่จี ดั จาหน่าย 1.4 สรุปความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการศึกษาดูงานจากแหลง่ เรยี นรู้ ภูมิปัญญา 2. ทกั ษะอาชีพ 2.1 วทิ ยากรบรรยายขน้ั ตอนการทาขนมไทย 2.2 วทิ ยากรทาการสาธติ วธิ ีการทาขนมไทย 2.3 วทิ ยากรรว่ มกับผูเ้ รียนในการการออกแบบผลิตภณั ฑ์การทาขนมไทย 2.4 การฝกึ ปฏิบตั สิ รา้ งสรรค์ชนิ้ งานแบบต่าง ๆ 2.5 การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ระหว่างผเู้ รยี นด้วยกนั 2.6 ศกึ ษาดงู านจากแหล่งเรียนรใู้ นชุมชนและชอ่ งทางออนไลน์ เว็บไซดต์ า่ งๆ 3. การบริหารจัดการอาชพี 3.1 การผลติ 3.1.1 สารวจแหล่งทุน 3.1.2 สารวจแหล่งวสั ดุ วัตถดุ บิ ในทอ้ งถิน่ 3.2 การควบคุมคณุ ภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คุณภาพของชิน้ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แขง็ แรง
35 3.3 การตลาด 3.3.1 ศึกษาข้อมลู การตลาด วเิ คราะหค์ วามต้องการของตลาด - ศูนย์ OTOP - ศูนย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน - แหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ เช่น - เว็บไซด์อาเภอ จังหวัด - แผน่ พบั โฆษณา 3.3.3 การทาบัญชี - การคดิ ราคาตน้ ทนุ กาไร - บัญชีรายรบั -รายจ่าย ส่ือการเรียนรู้ 1. สอ่ื เอกสารใบความรใู้ นการบรรยายและสาธิตอาชพี และการฝกึ ปฏบิ ัติจริง 2. ผรู้ /ู้ ภูมิปญั ญา ทช่ี านาญการ 3. วัตถุดบิ อปุ กรณ์ในอาชีพท่ีมีการใช้จริง การวดั และประเมินผล 1. การประเมินความร้ภู าคทฤษฏรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลักสตู ร 2. การประเมินผลงานระหวา่ งเรียนจากการปฏิบัติ ไดผ้ ลงานท่ีมคี ุณภาพสามารถสรา้ ง รายได้และจบหลักสตู ร การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรียน ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลักสูตร ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มีผลงานทมี่ ีคณุ ภาพ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานการประเมินผล 2. ทะเบียนคมุ วุฒิบตั ร 3. วฒุ บิ ัตรการศึกษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทียบโอน ผ้เู รียนทีจ่ บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรู้กับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน
36 หลักสูตรขนมไทย จานวน 65 ชั่วโมง กลมุ่ อาชพี พาณิชยกรรมและบรกิ าร ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่จะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รเู้ ขา รู้เรา เท่าทนั เพ่ือแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจที่จะยกระดับการจัดการศึกษา เพ่ือเพ่ิมศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ ที่มั่นคง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนา อาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้มั่นคง มั่งคั่ง และมี งานทาอย่างยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซึ่งจะ เปน็ การจัดการศกึ ษาตลอดชวี ติ ในรูปแบบใหมท่ ่สี รา้ งความมน่ั คงใหแ้ ก่ประชาชนและประเทศชาติ ดังนั้นสถานศกึ ษาจึงไดเ้ ห็นความสาคัญในเรอื่ งการนาวตั ถดุ บิ ในชมุ ชนมาแปรรูปเป็นขนมไทย ประเภทต่างๆเพ่ือบริโภคในครัวเรอื น และจาหน่ายในชุมชนและเพ่มิ มูลค่าของผลติ ภัณฑ์ สร้างรายได้ ตอ่ ไป จึงสนับสนนุ และสง่ เสริมให้กลมุ่ เป้าหมายใหม้ ีความรเู้ ร่อื งการแปรรูปอาหารประเภทตา่ ง ๆ จาก วตั ถดุ ิบท่ีมีในชุมชน โดยการพฒั นาหลกั สูตร ให้ผู้เรียนไดม้ คี วามรู้เรือ่ งการปรงุ อาหาร การแปรรูปเป็น ขนมไทย เพ่ือเพ่มิ มลู ค่าให้กบั สินค้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขนั ทางธุรกิจการผลิตสินคา้ หลักการของหลักสตู ร 1. เปน็ หลกั สตู รอาชีพทส่ี ง่ เสริม และอนุรักษ์ความรู้ของภูมปิ ัญญาท้องถิ่น 2. เปน็ หลักสูตรอาชพี ทีเ่ น้นการนาวัตถุดบิ ธรรมชาตทิ ม่ี มี ากในทอ้ งถน่ิ มาสร้างมลู ค่าเพิ่ม เพ่อื ให้ประชาชนเกิดรายได้ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษาอาชีพเพือ่ การมีงานทาของประชาชน 4. เปน็ หลักสูตรการศึกษาอาชีพที่สามารถเทียบโอนผลการเรียนเขา้ สู่หลกั สูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพรายวชิ าเลือกได้ จุดมงุ่ หมาย 1. เพ่อื ให้ผเู้ รยี นมีความรแู้ ละทักษะในการทาขนมไทย 2. เพ่อื ให้ผเู้ รยี นสามารถนาความรู้ที่ได้ไปสร้างรายได้
37 กล่มุ เป้าหมาย เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มผู้สนใจมีความรู้และทักษะเร่ืองการนาวัตถุดิบทางธรรมชาติในท้องถิ่น มาสร้างผลิตภัณฑ์อาหาร ขนมไทยที่สร้างสรรค์และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถนาความรู้ และวิธีการไปปฏิบัติใช้ในครอบครัวตนเอง สามารถเผยแพร่ให้แก่ผู้อื่น และนาไปประกอบอาชีพเพื่อ การมีงานทาได้ ระยะเวลา จานวน 65 ชวั่ โมง 1. ภาคทฤษฎี 10 ช่วั โมง 2. ภาคปฏิบัติ 55 ช่ัวโมง โครงสร้างหลักสูตร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ จานวน 3 ชวั่ โมง 2.1 ความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพ 2.2 ความสาคญั ในการทาขนมไทย 2.3 แหล่งเรยี นรเู้ กี่ยวกบั การทาขนมไทย 2.4 แหลง่ จาหน่ายผลิตภัณฑ์ขนมไทย 2. ทักษะอาชีพ 55 ชว่ั โมง 2.1 ขั้นตอนในการทาขนมไทย จานวน 55 ชวั่ โมง 2.1.1 วัสดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคดั เลอื กส่วนตา่ ง ๆ ของวตั ถุดิบ 2.1.3 การหาวัตถดุ บิ 2.1.4 การทาขนมไทย 2.1.5 การฝึกปฏิบตั กิ ารทาขนมไทย สูตรชาววัง ชนิดตา่ งๆ เช่น - ขนมเทยี นสลัดงา (ไสเ้ คม็ ไส้หวาน) - ขนมตม้ - ถั่วแปบไสก้ งุ้ - ขา้ วเหนียวมูลธญั พชื 3. การบริหารจัดการอาชีพ จานวน 2 ช่ัวโมง 3.1 การผลติ 3.2 การควบคมุ คุณภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชพี ขนมไทย จานวน 5 ชว่ั โมง 4.1 ความสาคัญของโครงการอาชพี ขนมไทย
38 4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชพี ขนมไทย 4.3 องคป์ ระกอบของโครงการอาชีพ ขนมไทย 4.4 การเขียนโครงการอาชีพ ขนมไทย 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชีพ ขนมไทย วิธกี ารจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี 2.1 วิทยากรให้ความรูถ้ ึงความสาคญั และความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ ขนมไทย 2.2 แหลง่ เรียนรู้เกีย่ วกบั ขนมไทย 2.3 ศึกษาข้อมูลจากแหลง่ เรียนรู้ ภมู ปิ ญั ญา สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานทีจ่ ดั จาหนา่ ย 2.4 สรุปความรู้ทไี่ ด้จากการศึกษาดงู านจากแหลง่ เรยี นรู้ ภูมิปัญญา 2. ทักษะอาชีพ 2.1 วิทยากรบรรยายขั้นตอนการทาขนมไทย 2.2 วิทยากรทาการสาธิตวธิ ีการทาขนมไทย 2.3 วทิ ยากรร่วมกบั ผู้เรยี นในการการออกแบบผลิตภณั ฑ์ขนมไทย 2.4 การฝกึ ปฏบิ ัติสร้างสรรค์ช้นิ งานแบบตา่ ง ๆ 2.5 การแลกเปล่ียนเรียนรรู้ ะหวา่ งผู้เรยี นด้วยกนั 2.6 ศกึ ษาดงู านจากแหล่งเรียนรใู้ นชุมชนและชอ่ งทางออนไลน์ เว็บไซดต์ า่ งๆ 3. การบริหารจดั การอาชพี 3.1 การผลิต 3.1.1 สารวจแหลง่ ทนุ 3.1.2 สารวจแหล่งวัสดุ วัตถุดิบในท้องถิ่น 3.2 การควบคมุ คุณภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คุณภาพของชิน้ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แข็งแรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศึกษาข้อมูลการตลาด วิเคราะห์ความต้องการของตลาด - ศูนย์ OTOP - ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน - แหล่งท่องเท่ยี ว 3.3.2 การโฆษณาประชาสมั พันธ์ เชน่ - เวบ็ ไซด์อาเภอ จงั หวัด - แผ่นพบั โฆษณา 3.3.3 การทาบญั ชี - การคิดราคาต้นทนุ กาไร - บัญชรี ายรับ-รายจา่ ย
39 สือ่ การเรียนรู้ 1. ใบความรู้/ใบงาน 2. ภูมปิ ัญญาท้องถิ่น/วทิ ยากร 3. ตวั อย่างชิ้นงาน 4. วสั ดุ อปุ กรณ์ ที่ใช้ในการฝกึ ปฏิบัติ 5. แหล่งเรียนรู้ ที่ศึกษาดูงาน การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎรี ะหว่างเรียนและจบหลกั สตู ร 2. การประเมินผลระหว่างเรยี นจากการปฏบิ ตั งิ านทมี่ ีคุณภาพเพยี งพอ สามารถสรา้ งรายได้ ให้กบั ตนเองความสาเร็จของการปฏบิ ตั ิและจบหลักสูตร การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรยี นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. ผ่านการประเมินผลทัง้ ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบตั ิไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. ผ้เู รยี นสามารถเขยี นโครงการอาชีพของตนเองได้ อย่างน้อย 1 โครงการ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรยี น 2. วุฒบิ ัตร ออกโดยสถานศกึ ษาในสงั กดั สานกั งาน กศน. 3. ทะเบยี นคุมวฒุ ิบตั รท่ีสถานศึกษาออกให้กบั ผู้เรียนทจ่ี บหลักสตู ร การเทยี บโอน ผู้เรียนท่จี บหลักสูตรนีส้ ามารถนาไปเทยี บโอนผลการเรียนรหู้ ลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลือกท่สี ถานศึกษาได้จดั ทา ขึ้นได้
40 หลักสตู รอาหาร – ขนม จานวน 35 ช่ัวโมง กลุม่ อาชีพพาณิชยกรรมและบรกิ าร ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่จะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รเู้ ขา รู้เรา เท่าทัน เพื่อแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจที่จะยกระดบั การจัดการศกึ ษา เพื่อเพ่ิมศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ ที่ม่ันคง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคลอ้ งกบั ศักยภาพด้านต่างๆ มงุ่ พัฒนาคนไทยใหไ้ ดร้ บั การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ และการมีงานทาอย่างมีคุณภาพท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้มั่นคง มั่งค่ัง และมีงานทา อย่างยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซึ่งจะเป็น การจดั การศกึ ษาตลอดชวี ติ ในรปู แบบใหมท่ ่สี รา้ งความมนั่ คงใหแ้ ก่ประชาชนและประเทศชาติ ดังน้ันสถานศกึ ษาจึงได้เห็นความสาคัญในเรอ่ื งการนาวตั ถดุ ิบในชมุ ชนมาแปรรูปอาหาร ขนม ประเภทต่างๆเพ่ือบริโภคในครัวเรือน และจาหน่ายในชุมชนและเพิม่ มูลค่าของผลติ ภัณฑ์ สร้างรายได้ ตอ่ ไป จึงสนบั สนุนและส่งเสรมิ ใหก้ ลมุ่ เป้าหมายให้มคี วามรูเ้ ร่ืองการแปรรูปอาหารประเภทต่างๆจาก วัตถุดิบท่ีมีในชุมชน โดยการพัฒนาหลักสูตร ให้ผู้เรียนได้มีความรู้เรื่องการปรุงอาหาร การแปรรูป อาหาร ขนม เพ่อื เพมิ่ มลู ค่าใหก้ บั สินคา้ และเพ่มิ ความสามารถในการแขง่ ขันทางธรุ กจิ การผลิตสินค้า หลกั การของหลักสูตร 1. เปน็ หลกั สตู รอาชพี ทส่ี ่งเสรมิ และอนุรักษ์ความรู้ของภูมิปญั ญาท้องถนิ่ 2. เป็นหลักสูตรอาชีพท่ีเน้นการนาวตั ถดุ ิบธรรมชาตทิ ่ีมีมากในท้องถนิ่ มาสรา้ งมลู คา่ เพิ่ม เพอ่ื ใหป้ ระชาชนเกดิ รายได้ 3. เปน็ หลกั สตู รการศกึ ษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาของประชาชน 4. เป็นหลกั สูตรการศกึ ษาอาชีพท่สี ามารถเทยี บโอนผลการเรยี นเขา้ ส่หู ลกั สตู รการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพรายวชิ าเลือกได้ จุดมุ่งหมาย 1. เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามร้แู ละทักษะในการทาอาหาร - ขนม 2. เพ่ือให้ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ทไี่ ด้ไปสร้างรายได้
41 กลุ่มเป้าหมาย เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มผู้สนใจมีความรู้และทักษะเร่ืองการนาวัตถุดิบทางธรรมชาติมาสร้าง ผลิตภัณฑ์อาหาร อาหาร – ขนม ท่ีสร้างสรรค์และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถนาความรู้ และวิธีการไปปฏิบัติใช้ในครอบครัวตนเอง สามารถเผยแพร่ให้แก่ผู้อ่ืน และนาไปประกอบอาชีพเพื่อ การมีงานทาได้ ระยะเวลา จานวน 35 ช่ัวโมง 1. ภาคทฤษฎี 5 ชว่ั โมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 30 ชั่วโมง โครงสรา้ งหลกั สตู ร 1. ช่องทางการประกอบอาชพี จานวน 3 ชัว่ โมง 1.1 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ 1.3 ความสาคัญในการทาอาหาร – ขนม 1.3 แหลง่ เรียนรเู้ กี่ยวกบั การทาอาหาร – ขนม 1.4 แหล่งจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์อาหาร – ขนม 2. ทักษะอาชีพ 55 ช่วั โมง 2.1 ขนั้ ตอนในการทาอาหาร – ขนม จานวน 30 ชว่ั โมง 2.1.1 วสั ดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคดั เลือกสว่ นตา่ ง ๆ ของวตั ถุดบิ 2.1.3 การหาวตั ถดุ บิ 2.1.4 การทาอาหาร – ขนม 2.1.5 การฝกึ ปฏิบัตกิ ารทาอาหาร – ขนม ชนดิ ตา่ งๆ เช่น - วุน้ ผลไม้ - ไกช่ ุบแป้งทอด - ยาวนุ้ เส้น,ยารวมมติ ร - ผดั ซอี ิว๊ - ราดหนา้ - ข้าวผัดสมุนไพร 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ จานวน 1 ชั่วโมง 3.1 การผลติ 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.3 การตลาด
42 4. โครงการประกอบอาชพี อาหาร – ขนม จานวน 1 ช่วั โมง 4.1 ความสาคัญของโครงการอาชพี อาหาร – ขนม 4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชพี อาหาร – ขนม 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ อาหาร – ขนม 4.4 การเขียนโครงการอาชีพ อาหาร – ขนม 4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชีพ อาหาร – ขนม วธิ ีการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี 2.1 วทิ ยากรให้ความร้ถู ึงความสาคัญและความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพ อาหาร – ขนม 2.2 แหลง่ เรียนรู้เก่ียวกับอาหาร – ขนม 2.3 ศกึ ษาขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานท่จี ัดจาหน่าย 2.4 สรปุ ความรูท้ ่ไี ด้จากการศึกษาดงู านจากแหลง่ เรยี นรู้ ภมู ิปัญญา 2. ทักษะอาชพี 2.1 วทิ ยากรบรรยายขั้นตอนการทาอาหาร – ขนม 2.2 วทิ ยากรทาการสาธติ วิธกี ารทาอาหาร – ขนม 2.3 วิทยากรรว่ มกับผเู้ รยี นในการการออกแบบผลติ ภณั ฑ์อาหาร – ขนม 2.4 การฝึกปฏบิ ัติสรา้ งสรรค์ชิ้นงานแบบต่าง ๆ 2.5 การแลกเปล่ยี นเรียนรูร้ ะหว่างผู้เรยี นด้วยกนั 2.6 ศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรียนรู้ในชมุ ชนและช่องทางออนไลน์ เวบ็ ไซด์ตา่ งๆ 3. การบรหิ ารจัดการอาชพี 3.1 การผลติ 3.1.1 สารวจแหลง่ ทนุ 3.1.2 สารวจแหล่งวัสดุ วัตถุดบิ ในท้องถ่ิน 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพของช้ินงาน ความสวยงาม ความทนทาน แข็งแรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศกึ ษาข้อมลู การตลาด วิเคราะหค์ วามต้องการของตลาด - ศนู ย์ OTOP - ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน - แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพันธ์ เชน่ - เว็บไซด์อาเภอ จงั หวดั - แผน่ พบั โฆษณา
43 3.3.3 การทาบัญชี - การคิดราคาตน้ ทุนกาไร - บัญชรี ายรบั -รายจ่าย สือ่ การเรียนรู้ 1. ใบความร้/ู ใบงาน 2. ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน/วิทยากร 3. ตวั อยา่ งชิน้ งาน 4. วสั ดุ อปุ กรณ์ ทใ่ี ช้ในการฝึกปฏบิ ัติ 5. แหล่งเรยี นรู้ ทศ่ี กึ ษาดูงาน การวัดและประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรูภ้ าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลักสตู ร 2. การประเมนิ ผลระหว่างเรียนจากการปฏิบัตงิ านท่ีมีคณุ ภาพเพยี งพอ สามารถสรา้ งรายได้ ให้กับตนเองความสาเรจ็ ของการปฏบิ ัติและจบหลกั สตู ร การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรียนไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 2. ผ่านการประเมินผลท้ังภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. ผเู้ รยี นสามารถเขียนโครงการอาชพี ของตนเองได้ อยา่ งนอ้ ย 1 โครงการ เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรียน 2. วุฒิบตั ร ออกโดยสถานศกึ ษาในสงั กดั สานกั งาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวุฒบิ ตั รที่สถานศึกษาออกใหก้ บั ผ้เู รียนท่จี บหลกั สูตร การเทียบโอน ผเู้ รยี นทจ่ี บหลักสตู รนีส้ ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรหู้ ลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลอื กทสี่ ถานศึกษาไดจ้ ดั ทา ขนึ้ ได้
44 หลกั สตู รการทาอาหารเพื่อสุขภาพ จานวน 35 ชว่ั โมง กลุม่ อาชีพพาณิชยกรรมและบรกิ าร ความเป็นมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นหน่วยงานภาครัฐท่ีมี หน้าท่ีที่จัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนที่พลาดโอกาสทาง การศึกษา ได้มองเห็นความสาคัญและช่องทางในการขยายอาชีพการทาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ให้กับ ประชาชนที่ต้องการมีรายได้ ประกอบกับทางกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดนโยบายการจัด การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาให้สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนให้กับประชาชนเพ่ือเป็น แนวทางเลือกอีกทางหน่ึงสาหรบั ประชาชนให้สามารถนาไปปฏิบตั ิไดจ้ ริงและนาไปเปน็ อาชพี เสรมิ เพิ่ม รายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนได้ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยจึงมีแนวคิดจัดกระบวนการ พัฒนาหลักสูตรการทาอาหารเพื่อสุขภาพให้เป็นองค์ความรู้ แนวทางทเ่ี ปน็ กลางในการจัดการศึกษาตามนโยบาย เพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงาน กศน. ได้ปรับเปลี่ยนการจัด การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ โดยจัดให้มีศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กศน. เป็นฐานการจัดกรรมให้แก่ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่บรกิ าร สานักงาน กศน. จังหวัด จัดทาเวทีประชาคมในระดับจังหวัด เพื่อกาหนดกรอบอาชีพของจังหวัด จากน้ันสถานศึกษาจึงจัดทาเวทีประชาคมในระดับอาเภอ โดย การวิเคราะห์ศักยภาพของตนเองและพื้น ที่นาข้อมูลความต้องการด้านอาชีพของทุกตาบลและ ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ มาพจิ ารณาร่วมกบั รอบอาชีพของจังหวัด เพ่อื กาหนดเป็นกรอบอาชีพของอาเภอ การพัฒนาหลักสูตรต้องสอดคล้องกับกลุ่มอาชีพใหม่ คือ หลักสูตรกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ความคิดสร้างสรรค์ และอาชีพเฉพาะทาง โดยการพัฒนา เน้ือหาสาระที่มีองค์ความรู้ครบวงจร ประกอบด้วย โครงสร้างของหลักสูตร 4 ตอน คือ ช่องทาง การประกอบอาชีพ ทักษะการประกอบอาชีพ การบริหารจัดการและการจัดทาโครงการประกอบ อาชีพ เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมคี วามรูท้ ักษะและมคี วามมั่นใจในการประกอบอาชีพ หลกั การของหลักสูตร 1. เปน็ หลกั สตู รท่ีมคี วามยดื หยุ่นในการจัดกระบวนการเรียนรู้ และการวดั ผลและ ประเมินผล 2. ส่งเสริมดา้ นการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทา 3. สง่ เสรมิ การพฒั นาดา้ น หลักสตู รอาชพี พาณิชยกรรมและบรกิ าร วชิ าการทาอาหารเพ่ือ สุขภาพ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165