โรงเรยี นหันคาราษฎร์รังสฤษด์ิ4 ประวตั ิศาสตร์ไทยกล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลาเรยี น 8 ชั่วโมง๑.มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั ส 4.3 ม.4-6/4 วิเคราะหผ์ ลงานของบุคคลสาคัญทั้งชาวไทยและต่างประเทศทมี่ ีสว่ นร่วม สรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมไทยและประวตั ศิ าสตร์ไทย๒.สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด บคุ คลสาคญั ท่ีมีส่วนสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและประวัตศิ าสตรไ์ ทย มีทั้งชาวไทยและ ชาวตา่ งประเทศ ชาวไทยทกุ คนควรศึกษาผลงานและยกย่องท่าน และนาไปเปน็ แบบอย่างในการ ปฏิบตั ติ น๓.สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง(K) ผลงานของบุคคลสาคัญท้งั ชาวไทยและตา่ งประเทศท่ีมสี ว่ นร่วมสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมไทย และประวัติศาสตร์ไทย เช่น - พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั - พระบาทสมเด็จพระน่งั เกล้าเจา้ อยู่หวั - พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว - สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส - พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนิท - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ กรมพระยานรศิ รานุวดั ติวงศ์ - หม่อมราโชทยั หรือหม่อมราชวงศ์กระต่าย อศิ รางกรู - สมเดจ็ เจา้ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค) - บาทหลวงปาเลอกัวซ์ 100
- หมอบรัดเลย์ ( ดร. แดน บีช บรัดเลย)์ - พระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภกั ดี (คอซิมบ้ี ณ ระนอง) - พระยากลั ยาณไมตรี (ดร. ฟรานซิส บี. แซร์) - ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พรี ะศรี๓.๒ทกั ษะกระบวนการ(P)เพื่อให้นักเรยี น๓.๒.๑อธิบายผลงานของบคุ คลสาคัญทง้ั ชาวไทยและตา่ งประเทศทีม่ ีสว่ นรว่ มสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมไทย และประวตั ศิ าสตร์ไทย เช่น - พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลัย - พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจา้ อยหู่ ัว - พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อยูห่ ัว - สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส - พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนทิ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานวุ ัดตวิ งศ์ - หมอ่ มราโชทยั หรอื หม่อมราชวงศก์ ระต่าย อศิ รางกูร - สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสรุ ิยวงศ์ (ช่วง บนุ นาค) - บาทหลวงปาเลอกวั ซ์ - หมอบรดั เลย์ ( ดร. แดน บชี บรัดเลย์) - พระยารัษฎานปุ ระดิษฐมหิศรภกั ดี (คอซิมบ้ี ณ ระนอง) - พระยากลั ยาณไมตรี (ดร. ฟรานซิส บ.ี แซร์) - ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พีระศรี๓.๓ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์(A)เพื่อใหน้ กั เรียน ๓.๓.๑ มคี วามสนใจและกระตือรือร้นในกจิ กรรมการเรียนรู้ ๓.๓.๒ มวี ามรับผดิ ชอบและมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมในชั้นเรียน๓.๔ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน(C)เพ่ือใหน้ ักเรียน ๓.๔.๑ มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ แยกแยะและคิดอย่างสร้างสรรค์ ๓.๔.๒ มคี วามสามารถในการสื่อสาร 101
๔. ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การจัดนทิ รรศการผลงานของบคุ คลสาคัญ๕. การวดั และการประเมนิ ผล ๕.1 การประเมินกอ่ นเรยี น - นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 ๕.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนร่วมกันศึกษาและสบื ค้นข้อมลู 2. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ประวตั ิและผลงาน (1) 3. ใบงานที่ 2.2 เร่ือง ประวตั แิ ละผลงาน (2) 4. ใบงานที่ 2.3 เรื่อง ประวัตแิ ละผลงาน (3) 5. ประเมนิ จากการนาเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น 6. สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ๕.3 การประเมนิ หลังเรียน - นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 ๕.4 การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การจัดนิทรรศการผลงานของบุคคลสาคัญ 102
การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการจดั นทิ รรศการผลงานของบคุ คลสาคัญรายการประเมนิ คาอธบิ ายระดับคณุ ภาพ / ระดบั คะแนน1. การวเิ คราะห์ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ผลงานของ วิเคราะห์ผลงานของ วิเคราะหผ์ ลงาน บคุ คลสาคัญ บุคคลสาคญั ตามที่ วเิ คราะห์ผลงานของ วเิ คราะห์ผลงาน ของบุคคลสาคญั2. การสรุปผล กาหนดครบถ้วนทั้ง ตามที่กาหนดเพียง การวิเคราะห์ 15 บคุ คล บคุ คลสาคญั ตามท่ี ของบุคคลสาคัญ 3-6 บคุ คล สรปุ ผลการวิเคราะห์ สรุปผลการ3. การนาเสนอ ผลงานและการมีส่วน กาหนดเพียง 11-14 ตามท่กี าหนดเพียง วเิ คราะห์ผลงาน ข้อมลู รว่ มของบุคคลตา่ งๆ และการมสี ่วนร่วม มคี วามสมบรู ณ์ บคุ คล 7-10 บุคคล ของบุคคลตา่ งๆ4. รูปแบบการ ครบถ้วน มคี วามบกพร่องจดั ทกุ ประเด็น สรปุ ผลการวิเคราะห์ สรุปผลการ เป็น สว่ นใหญ่ นิทรรศการ การนาเสนอขอ้ มลู ผลงานและการมีส่วน วิเคราะห์ผลงาน การนาเสนอขอ้ มูล มปี ระโยชนแ์ ละแสดง มีขอ้ คิดท่ีไม่เป็น5. การมีส่วน ถึงการคดิ สร้างสรรค์ ร่วมของบุคคลต่างๆ และการมสี ว่ นร่วม ประโยชน์ร่วม และสามารถนาไป ประยกุ ต์ มคี วามสมบรู ณ์ ของบุคคลต่างๆ รูปแบบไมส่ วยงาม ในการจัด ใช้ได้ ไม่มีความคดิ นิทรรศการ รูปแบบมคี วาม ครบถ้วนเปน็ มีความสมบูรณ์ สรา้ งสรรค์ สวยงาม ดงึ ดูดความ ขาดองคป์ ระกอบ สนใจด้วยรปู ภาพ ส่วนใหญ่ ครบถว้ นเปน็ ทสี่ าคญั การจัดองค์ประกอบ ทส่ี าคัญอน่ื ๆ มคี วาม บางสว่ น สมาชิกมสี ่วนร่วม สร้างสรรค์ แปลก ในการจัดกิจกรรม ใหม่ การนาเสนอข้อมลู การนาเสนอข้อมูล ตามหน้าทท่ี ี่ได้รับ สมาชกิ มสี ว่ นรว่ มใน มอบหมายเปน็ ส่วน การจัดกจิ กรรมตาม มปี ระโยชน์และแสดง มีประโยชน์ แต่ น้อย หน้าทท่ี ่ีไดร้ บั มอบหมายอยา่ งเป็น ถงึ การคดิ สร้างสรรค์ เป็นการนามาจาก ขน้ั ตอน สามารถนาไป ข้อมูลเดิมทีม่ ีอยู่ ประยกุ ต์ใช้ไดเ้ ปน็ แลว้ ส่วนใหญ่ รปู แบบมคี วาม รปู แบบมคี วาม สวยงาม ดงึ ดูดความ สวยงาม มี สนใจด้วยรปู ภาพ ภาพประกอบ การ การจัดองค์ประกอบ จัดองค์ประกอบ ส่วนใหญแ่ สดงถงึ เหมาะสมแตไ่ ม่ ความคิดสรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ สมาชกิ มสี ว่ นร่วมใน สมาชิกมสี ่วนร่วม การจัดกจิ กรรมตาม ในการจดั กจิ กรรม หนา้ ทีท่ ไ่ี ดร้ ับ ตามหน้าท่ที ่ีได้รับ มอบหมายเป็น มอบหมายเป็น สว่ นมาก บางสว่ น 103
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17-20 ดมี าก 13-16 ดี 9-12 พอใช้ 5-8 ปรบั ปรุง๖. กจิ กรรมการเรยี นรู้ นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 4 ผลงานของบุคคลสาคญั ในการสร้างสรรค์ชาติไทย (1)กจิ กรรมท่ี ๑ วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม เวลา 3 ชั่วโมง 1. ครูนาเขา้ สูบ่ ทเรียนด้วยการนาคากล่าวท่สี าคัญใหน้ กั เรียนอ่าน แลว้ ต้ังประเดน็ คาถามทก่ี ระตุ้นให้ นักเรียนเกดิ การคิดวเิ คราะห์ 2. ครอู ธบิ ายการนาเสนอรายละเอยี ดของเนื้อหาผลงานของบคุ คลสาคญั ซง่ึ ประกอบด้วย ประวตั ิ ผลงาน ที่มีความโดดเด่นหรือมีความสาคัญทส่ี ดุ และปจั จยั สาคัญท่ีกอ่ ใหเ้ กดิ ผลงานนั้นๆ 3. ครูใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม ออกเปน็ 15 กล่มุ เทา่ ๆ กัน เพื่อร่วมกนั ศึกษาและวิเคราะหผ์ ลงานของ บคุ คลสาคัญในการสร้างสรรคช์ าติไทย ตามทีต่ ัวแทนกลมุ่ ออกมาจับสลาก 4. ครูมอบหมายให้แต่ละกลมุ่ ศกึ ษาคน้ คว้าความรูเ้ พิ่มเติมจากหนงั สอื เรียน และแหลง่ การเรียนรู้อน่ื ๆ 5. ใหส้ มาชกิ ในแต่ละกลุ่มวางแผนการทางานร่วมกนั และแบ่งหนา้ ท่ีกันรับผิดชอบอย่างชดั เจน ผลงานของบคุ คลสาคัญในการสร้างสรรค์ชาติไทย (2)กิจกรรมท่ี ๒ วิธสี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม, กระบวนการ เวลา 5 ชั่วโมง คดิ วเิ คราะห์1. ครูสนทนากับนักเรยี นเกีย่ วกับการทากจิ กรรมกลุ่มร่วมกัน แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันวางแผน การนาเสนอผลงาน2. ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มสรปุ ข้อมลู และวิธกี ารนาเสนอผลงาน3. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ เตรยี มอุปกรณ์ และเอกสารในการนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น เพื่อใหเ้ กิด ควำมพร้อมและไดป้ ระโยชน์จำกกำรนำเสนอผลงำนมำกที่สุด 104
4. ให้นกั เรยี นกล่มุ ที่ 1-5 สง่ ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอประวตั ิ และผลงานของบคุ คลสาคัญท่ไี ด้ รว่ มกันศึกษาและวิเคราะห์ ตามลาดบั แล้วทาใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง ประวตั แิ ละผลงาน (1) 5. ให้นกั เรยี นกลมุ่ ท่ี 6-10 ส่งตัวแทนกล่มุ ออกมานาเสนอประวัติ และผลงานของบุคคลสาคัญท่ไี ด้ ร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ ตามลาดบั 6. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามกล่มุ ทนี่ าเสนอผลงานเพ่ิมเตมิ โดยมีครคู อยเสนอแนะในสว่ น ท่มี คี วามบกพร่อง 7. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้ที่ได้รับจากการนาเสนอผลงานของกลุ่มตา่ งๆ 8. ใหน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 2.2 เร่ือง ประวัติและผลงาน (2) 9. ให้นักเรียนกลมุ่ ที่ 11-15 สง่ ตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอประวัติและผลงานของบุคคลสาคญั ตามลาดบั 10.ครสู รุปแนวทางการศกึ ษาทต่ี ้องการให้นกั เรียนเหน็ ว่าบคุ คลสาคญั ท่นี ักเรยี นได้ศึกษาไป ลว้ นทา คุณประโยชนต์ ่อประเทศชาติ มีความซ่ือสัตย์ มีความจงรักภักดตี ่อพระมหากษตั รยิ ์ มวี ริ ยิ ะ อตุ สาหะ มีความรักและความรบั ผิดชอบต่อบ้านเมือง สมควรทค่ี นรนุ่ หลงั จะได้ยึดถือและนาไปเปน็ แบบอย่าง ในการดาเนนิ ชีวิตต่อไป 11.ใหน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 2.3 เรื่อง ประวัตแิ ละผลงาน (3) 12.ครมู อบหมายให้นกั เรียนรว่ มกันจดั นทิ รรศการ ผลงานของบคุ คลสาคัญในการสร้างสรรค์ชาตไิ ทย นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4๗.ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ ๗.1สือ่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน ประวตั ศิ าสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. สลาก 3. ใบงาน ๗.2แหล่งการเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. แหลง่ รวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น - สานกั หอสมุดแห่งชาติ - สานกั หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ - พิพิธภัณฑสถานในภมู ภิ าคต่างๆ 105
แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน ประจาหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4คาช้แี จง ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องทสี่ ุดเพียงคาตอบเดียว 1. ข้อใดคือบทบาททางการปกครองท่สี าคัญของพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก. การทาสงครามกบั พมา่ ข. การสร้างป้อมรักษาพระนคร ค. การใชก้ ฎหมายตราสามดวง ง. การให้ขุนนางมีตราประจาตาแหน่ง 2. การทีพ่ ระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หล้านภาลัยทรงลดเวลาการรับราชการของไพร่ มผี ลอย่างไร ก. ทาให้ไพร่มคี วามเปน็ อยู่ดขี ้ึน ข. ทาใหไ้ พรม่ ีเวลาสรา้ งงานศลิ ปะ ค. ทาใหต้ ้องจา้ งชาวจีนทางานแทนไพร่ ง. ทาให้ชาวตา่ งชาตเิ ขา้ รับราชการเพม่ิ ขึ้น 3. ขอ้ ใดคอื พระราชกรณยี กจิ ทส่ี าคญั ของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหล้านภาลยั ด้านนาฏกรรม ก. การต้งั กรมโขนและละคร ข. การสง่ เสริมใหค้ นไทยเล่นโขน ค. การใชซ้ อในวงมโหรีของไทย ง. การปรับปรุงท่าราโขนและละคร 4. จารกึ ท่ีวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มีความสาคัญต่อสังคมไทยอย่างไร ก. เป็นแหลง่ เผยแพรภ่ มู ิปัญญาไทย ข. เป็นแหล่งรายไดจ้ ากการทอ่ งเที่ยว ค. เปน็ สถานทีร่ กั ษาโรคด้วยการนวดแผนโบราณ ง. เปน็ มรดกโลกตามประกาศขององค์การยเู นสโก5. ขอ้ ใดคอื ผลงานด้านการแพทยข์ องพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนิท ก. ทรงนิพนธ์ตารายาสมุนไพรไทย ข. ทรงนาเคร่ืองมือแพทย์สมัยใหม่มาใชใ้ นไทย ค. ทรงนาวชิ าการแพทย์ตะวนั ตกมาเผยแพร่ในไทย ง. ทรงสนับสนนุ ให้มชิ ชนั นารีเข้ามารกั ษาโรคใหค้ นไทย 106
6. เพราะเหตุใดสมเด็จฯ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ จึงได้รับการยกย่องเป็นบดิ าแหง่ ประวัตศิ าสตรไ์ ทย ก. สนับสนุนการศกึ ษาวชิ าประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ข. เปน็ ผู้ริเรมิ่ ใหม้ กี ารเรยี นวชิ าประวตั ศิ าสตรใ์ นประเทศไทย ค. มผี ลงานด้านประวัตศิ าสตรแ์ ละโบราณคดจี านวนมาก เชน่ ไทยรบพม่า นิราศนครวดั ง. รวบรวมของเกา่ ๆ เพื่อเกบ็ ไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติจานวนมากและเปน็ ผจู้ ดั ตั้งโบราณคดสี โมสร7. ขอ้ ใดคือบทบาทสาคัญของหม่อมราโชทยั ก. เป็นผดู้ ูแลมิชชนั นารใี นไทย ข. เป็นล่ามใหแ้ ก่คณะราชทตู ของไทย ค. เป็นเอกอคั รราชทูตไทยทก่ี รุงลอนดอน ง. เป็นครสู อนภาษาองั กฤษใหแ้ กข่ นุ นางไทย8. ขอ้ ใดคอื บทบาทสาคญั ท่ีสดุ ของสมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาศรสี ุรยิ วงศ์ ก. การเป็นผู้สาเรจ็ ราชการแผ่นดิน ข. การเจรจาทาสนธสิ ญั ญาเบาว์รงิ ค. การเจรจาแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ง. การสนบั สนุนรชั กาลท่ี 5 เปน็ พระมหากษัตริย์9. เหตใุ ดสมเดจ็ เจา้ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศจ์ งึ สนับสนุนให้รชั กาลที่ 5 เสด็จประพาสต่างประเทศ ก. เพอ่ื ลดความขดั แย้งภายในประเทศ ข. เพื่อให้ศึกษาการพฒั นาประเทศแบบตะวนั ตก ค. เพื่อเจริญสัมพนั ธไมตรกี ับต่างประเทศโดยเฉพาะมหาอานาจตะวนั ตก ง. เพื่อใหช้ าตติ ะวันตกรู้จักรชั กาลท่ี 5 และเกรงกลวั อานาจของไทยมากขึ้น10.ขอ้ ใดคอื บทบาทสาคัญของบาทหลวงปาลเลอกวั ซ์ ดา้ นอักษรศาสตร์ ก. การตั้งโรงพิมพ์ในไทย ข. การแปลวรรณกรรมไทย ค. การจัดทาพจนานุกรมภาษาไทย ง. การเป็นครูสอนภาษาตา่ งประเทศให้กับรชั กาลท่ี 511.ผลงานของบาทหลวงปาลเลอกัวซ์ทมี่ ีความสาคัญต่อการศกึ ษาประวตั ิศาสตร์ไทย คือข้อใด ก. การพิมพห์ นงั สือสวดมนต์ ข. การแตง่ หนังสือเลา่ เรือ่ งเมืองสยาม ค. การเสนอวิธกี ารเขียนพงศาวดาร ง. การวาดภาพเหมือนบคุ คลสาคัญของไทย 107
12.บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ไดน้ าวทิ ยาการด้านใดเขา้ มาเผยแพร่ในไทย ก. การพิมพ์ ข. การทาแผนที่ ค. การถ่ายรปู ง. การใชก้ ลอ้ งดูดาว13.บางกอกรีคอรเ์ ดอร์มีความสาคัญต่อสงั คมไทยอย่างไร ก. แจ้งขอ้ มลู ขา่ วสาร ข. ส่งเสริมประชาธปิ ไตย ค. สอนภาษาต่างประเทศ ง. เผยแพร่ความรู้และวัฒนธรรมตะวนั ตก14.ขอ้ ใดคอื บทบาทที่สาคญั ของพระยากัลยาณไมตรี ก. เป็นผู้แทนของไทยในการทาสนธสิ ัญญาแวร์ซาย ข. เป็นผู้แทนของไทยในการแก้ไขสนธิสญั ญาทไี่ ม่เสมอภาค ค. เปน็ ราชทตู ของสหรฐั อเมรกิ าทม่ี าเจริญสมั พนั ธไมตรีกบั ไทย ง. เปน็ ท่ีปรึกษาในการปฏวิ ตั เิ ปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎร15.ศาสตราจารย์ศลิ ป์ พรี ะศรี ได้วางรากฐานการเรียนศลิ ปะแบบใหมใ่ นไทยด้วยวธิ ีใด ก. การเปิดโรงเรียนสอนศลิ ปะสมยั ใหมใ่ นไทย ข. การวางหลักสตู รวชิ าจิตรกรรมและประตมิ ากรรม ค. การสร้างงานศิลปะเป็นแบบอยา่ งใหช้ นรุน่ หลงั ทาตาม ง. การเป็นครสู อนศลิ ปะและประวตั ิศาสตรศ์ ิลปะในมหาวิทยาลัยศิลปากร เฉลย1. ค 2. ก 3. ง 4. ก 5. ก6. ง 7. ข 8. ก 9. ข 10. ค11. ข 12. ค 13. ง 14. ข 15. ข 108
โรงเรยี นหันคาราษฎรร์ งั สฤษด์ิ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ประวัตศิ าสตรไ์ ทย เวลา 3 ชว่ั โมงหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ผลงานของบคุ คลสาคญั ในการสร้างสรรค์ชาติไทยเรือ่ ง ผลงานของบุคคลสาคญั ในการสรา้ งสรรคช์ าตไิ ทย (1)๑.สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด วัฒนธรรมไทยเป็นรากฐานและความมั่นคงของประเทศชาติ ซ่ึงเป็นผลงานของบุคคลสาคัญใน ประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทยท่ีได้ร่วมกันสรา้ งสรรคแ์ ละพฒั นาใหเ้ จรญิ ร่งุ เรอื งสืบตอ่ กันมาถงึ ปัจจุบนั๒ตวั ช้ีวัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตวั ชี้วดั ส 4.3 ม.4-6/4 วิเคราะห์ผลงานของบุคคลสาคัญทั้งชาวไทยและต่างประเทศท่ีมีส่วนร่วม สรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและประวตั ิศาสตร์ไทย 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายบทบาท และหนา้ ทขี่ องบคุ คลสาคัญในการสร้างสรรค์ชาติไทยได้ 2. ระบุผลงานทส่ี าคัญของบคุ คลสาคัญในการสรา้ งสรรคช์ าติไทยได้๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง(K) ผลงานของบุคคลสาคัญทัง้ ชาวไทยและตา่ งประเทศท่ีมีส่วนรว่ มสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมไทย และประวตั ศิ าสตรไ์ ทย เชน่ - พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หล้านภาลัย - พระบำทสมเดจ็ พระนง่ั เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั - พระบำทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั - สมเดจ็ พระมหำสมณเจำ้ กรมพระยำวชิรญำณวโรรส 109
- พระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษำธิรำชสนิท - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟา้ กรมพระยานรศิ รานวุ ัดตวิ งศ์ - หม่อมราโชทยั หรอื หม่อมราชวงศก์ ระต่าย อิศรางกรู - สมเดจ็ เจา้ พระยาบรมมหาศรีสรุ ิยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) - บาทหลวงปาเลอกัวซ์ - หมอบรัดเลย์ ( ดร. แดน บีช บรดั เลย)์ - พระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภกั ดี (คอซิมบ้ี ณ ระนอง) - พระยากัลยาณไมตรี (ดร. ฟรานซสิ บ.ี แซร)์ - ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ๓.๒ทกั ษะกระบวนการ(P)เพ่ือให้นกั เรยี น๓.๒.๑อธบิ ายผลงานของบคุ คลสาคัญทั้งชาวไทยและตา่ งประเทศท่มี สี ว่ นร่วมสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทย และประวัติศาสตร์ไทย เช่น - พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั - พระบาทสมเด็จพระน่งั เกลา้ เจา้ อย่หู วั - พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หวั - สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส - พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจา้ ฟ้ากรมพระยานริศรานุวดั ติวงศ์ - หมอ่ มราโชทยั หรอื หม่อมราชวงศ์กระต่าย อศิ รางกูร - สมเดจ็ เจา้ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ช่วง บุนนาค) - บาทหลวงปาเลอกัวซ์ - หมอบรดั เลย์ ( ดร. แดน บีช บรดั เลย์) - พระยารัษฎานปุ ระดิษฐมหิศรภกั ดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) - พระยากลั ยาณไมตรี (ดร. ฟรานซิส บ.ี แซร์) - ศาสตราจารยศ์ ิลป์ พีระศรี๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค(์ A)เพื่อใหน้ กั เรียน ๓.๓.๑ มคี วามสนใจและกระตือรือร้นในกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๓.๓.๒ มีวามรับผิดชอบและมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมในชั้นเรียน 110
๓.๔ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน(C)เพ่ือใหน้ ักเรียน ๓.๔.๑ มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ แยกแยะและคิดอย่างสร้างสรรค์ ๓.๔.๒ มคี วามสามารถในการส่อื สาร๔.สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดสรา้ งสรรค์ - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา - กระบวนการสบื ค้นข้อมูล 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ - กระบวนการทางานกลมุ่๕.กิจกรรมการเรยี นรู้ (วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม) นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ชั่วโมงท่ี 1 1. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ให้นักเรียนทราบ 2. ครนู าเข้าสู่บทเรยี นดว้ ยการนาคากล่าวที่วา่ “ ในรัชกาลท่ี 1 นัน้ ถา้ ใครเขม้ แข็งในการศึกสงครามกเ็ ป็นคนโปรด ในรชั กาลที่ 2 นั้น ถา้ ใครเปน็ จนิ ตกวีกเ็ ป็นคนโปรด ในรชั กาลท่ี 3 นน้ั ถ้าใครใจบุญสรา้ งวดั วาอารามกเ็ ปน็ คนโปรด ” หรอื เขียนบนกระดานให้นักเรียนอา่ น แล้วตั้งประเด็นคาถามท่ีกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการคดิ วเิ คราะห์ ดงั น้ี - นกั เรียนมีควำมคิดเห็นอยำ่ งไรต่อคำกล่ำวน้ี - นอกจำกผลงำนอนั โดดเด่นท่ีระบุไวใ้ นแต่ละรัชกำลดงั คำกล่ำวน้ี ยงั มีผลงำนที่น่ำสนใจ อะไรอีกบำ้ ง 111
3. ให้นักเรยี นคดิ วิเคราะหต์ ่อประเดน็ คาถามของครู พร้อมท้ังใหเ้ หตุผลประกอบและอธิบายดว้ ยวา่ ผลงานน้ันๆ เกยี่ วขอ้ งกับบคุ คลสาคญั ในการสรา้ งสรรคช์ าติไทยอย่างไร4. หลงั จากนักเรียนตอบคาถามแลว้ ครอู ธิบายผลงานของบุคคลสาคญั ในการสร้างสรรค์ชาติไทย คอื พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหล้านภาลยั โดยครูแนะนาจดุ ประสงค์การเรยี นรทู้ ต่ี ้องการให้นกั เรียนร้ถู ึงผลงานของบุคคลสาคัญทีม่ ีส่วน สร้างสรรค์วัฒนธรรมและชาติไทย ทงั้ น้ีครูจัดการนาเสนอเพอ่ื แสดงประวตั ิและผลงานของบคุ คล สาคัญ โดยมอบหมายใหน้ ักเรียนเปน็ ผู้นาเสนอในชัน้ เรยี นและจัดปา้ ยนิเทศว่ามีรายละเอียดรูปแบบ วิธกี ารนาเสนอเนื้อหาใดบา้ ง เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความน่าสนใจ5. ครูอธิบายการนาเสนอรายละเอียดของเนื้อหาผลงานของบุคคลสาคญั ซึ่งประกอบดว้ ย ประวตั ิ ผลงาน ท่ีมีความโดดเดน่ หรือมีความสาคญั ท่ีสุด และปจั จยั สาคัญท่ีก่อใหเ้ กิดผลงานน้ันๆ โดยครูกบั นักเรียน ปรึกษาหารือร่วมกันในการกาหนดรปู แบบและวิธกี ารนาเสนอซึ่งวธิ กี ารน้เี ป็นการส่งเสริมให้นกั เรยี น ได้มสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมการเรียน6. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ ออกเปน็ 15 กลุ่มเท่าๆ กัน เพื่อร่วมกันศึกษาและวเิ คราะห์ผลงานของบุคคล สาคัญในการสรา้ งสรรค์ชาติไทย ตามท่ตี วั แทนกลุ่มออกมาจบั สลาก ดงั นี้ - กลมุ่ ที่ 1 พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั - กลุม่ ที่ 2 พระบาทสมเดจ็ พระนัง่ เกล้าเจ้าอยู่หวั - กลุ่มที่ 3 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อย่หู ัว - กล่มุ ท่ี 4 สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส - กลุ่มท่ี 5 พระเจ้าวรวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท - กลมุ่ ท่ี 6 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ - กลุ่มท่ี 7 สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ - กลุ่มท่ี 8 สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ - กลุ่มที่ 9 หมอ่ มราโชทัย หรอื หม่อมราชวงศก์ ระต่าย อศิ รางกรู - กลมุ่ ที่ 10 สมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค) - กลมุ่ ที่ 11 บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ - กลุ่มที่ 12 หมอบรัดเลย์ (ดร. แดน บีช บรดั เลย์) - กล่มุ ท่ี 13 พระยารัษฎานปุ ระดิษฐมหศิ รภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) - กลุ่มท่ี 14 พระยากัลยาณไมตรี (ดร.ฟรานซสิ บ.ี แซร์) - กลมุ่ ท่ี 15 ศาสตราจารยศ์ ิลป์ พีระศรี 112
ชั่วโมงที่ 21. ครมู อบหมายให้แตล่ ะกลมุ่ ศึกษาคน้ ควา้ ความรเู้ พิ่มเติมจากหนังสอื เรียน และแหลง่ การเรียนรอู้ ื่นๆ2. ให้สมาชกิ ในแตล่ ะกล่มุ วางแผนการทางานร่วมกัน และแบ่งหนา้ ทก่ี ันรับผดิ ชอบอยา่ งชัดเจน3. ครูให้ข้อเสนอแนะในการทางานรว่ มกัน และคอยให้คาปรึกษาเม่ือนักเรียนมีข้อสงสยั หรือเกดิ ปัญหา ในการทางาน ช่ัวโมงท่ี 3 1. ครสู อบถามเก่ยี วกบั ภาระงานที่ไดร้ บั มอบหมาย และแลกเปล่ียนความร้เู กย่ี วกับวิธีการทางาน ท่ีมีประสิทธิภาพของแตล่ ะกลุ่ม 2. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรวบรวมขอ้ มูลจากท่ีไดศ้ ึกษาค้นคว้า และวางแผนการสรุปข้อมลู และการนาเสนอผลงานทส่ี ร้างสรรค์๕.การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์การเรียนรู้ การวดั ผล การประเมนิ ผล รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ดา้ นความรู้ แบบทดสอบก่อนเรียนนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รวบรวมข้อมูลจากท่ีได้ศึกษาคน้ ควา้ และวางแผนการสรุปข้อมูลและการนาเสนอผลงานทส่ี ร้างสรรค์ด้านทักษะและกระบวนการการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุนกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ร ะ ดั บ คุ ณ ภ า พ 2 ผ่ า นสงั เกตการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม กลุ่ม เกณฑ์๖.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู๖.1 สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. สลาก ๖.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ 113
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่มลาดบั ช่อื ความร่วมมือ การแสดง การรบั ฟงั การตั้งใจ การร่วม รวม ที่ – 4321 ความคดิ เหน็ ความคิดเห็น ทางาน ปรับปรงุ 20 สกลุ ผลงานกลุม่ คะแนน 4321 4321 4321 4321เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ = ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง = ปรับปรงุ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรบั ปรุง 114
โรงเรยี นหนั คาราษฎร์รังสฤษด์ิ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ประวัติศาสตร์ไทย เวลา 5 ชว่ั โมงหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 ผลงานของบคุ คลสาคัญในการสร้างสรรคช์ าตไิ ทยเรอื่ ง ผลงานของบุคคลสาคัญในการสร้างสรรคช์ าติไทย (2) สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด วเิ คราะหผ์ ลงานของบุคคลสาคัญท้งั ชาวไทย และชาวตา่ งประเทศในสมยั รตั นโกสนิ ทรท์ ี่มี ส่วนร่วมในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและประวตั ศิ าสตร์ไทย ตวั ชว้ี ดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 ตัวช้วี ัด ส 4.3 ม.4-6/4 วเิ คราะห์ผลงานของบุคคลสาคญั ท้งั ชาวไทยและต่างประเทศที่มีสว่ นรว่ ม สรา้ งสรรค์วัฒนธรรมไทยและประวตั ศิ าสตรไ์ ทย 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สรุปผลงานของบุคคลสาคญั ท้ังชาวไทยและต่างประเทศท่ีมีส่วนรว่ มสร้างสรรคว์ ัฒนธรรม ไทยและประวตั ิศาสตร์ไทยได้ 2. วเิ คราะห์ผลงานของบุคคลสาคญั ท้ังชาวไทยและต่างประเทศทีม่ ีส่วนรว่ มสร้างสรรค์ วฒั นธรรมไทยและประวัติศาสตรไ์ ทยได้๓.สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง(K) ผลงานของบุคคลสาคญั ทั้งชาวไทยและตา่ งประเทศที่มสี ว่ นรว่ มสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมไทย และประวตั ศิ าสตรไ์ ทย เชน่ - พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลัย - พระบาทสมเด็จพระนัง่ เกลา้ เจ้าอยู่หวั - พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั - สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส - พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนทิ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ 115
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ กรมพระยานรศิ รานุวดั ติวงศ์ - หมอ่ มราโชทยั หรือหม่อมราชวงศก์ ระต่าย อิศรางกูร - สมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาศรีสรุ ิยวงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค) - บาทหลวงปาเลอกัวซ์ - หมอบรดั เลย์ ( ดร. แดน บีช บรัดเลย)์ - พระยารัษฎานปุ ระดิษฐมหศิ รภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) - พระยากลั ยาณไมตรี (ดร. ฟรานซิส บ.ี แซร์) - ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พีระศรี๓.๒ทกั ษะกระบวนการ(P)เพอ่ื ให้นักเรียน ๓.๒.๑ อธบิ าย ผลงานของบคุ คลสาคัญทงั้ ชาวไทยและต่างประเทศที่มีสว่ นร่วมสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมไทย และประวตั ศิ าสตรไ์ ทย เช่น - พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลัย - พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยหู่ ัว - พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อย่หู วั - สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส - พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนิท - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟา้ กรมพระยานรศิ รานุวัดตวิ งศ์ - หม่อมราโชทยั หรือหม่อมราชวงศก์ ระต่าย อศิ รางกูร - สมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค) - บาทหลวงปาเลอกัวซ์ - หมอบรดั เลย์ ( ดร. แดน บชี บรัดเลย)์ - พระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภกั ดี (คอซิมบ้ี ณ ระนอง) - พระยากัลยาณไมตรี (ดร. ฟรานซิส บ.ี แซร)์ - ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พีระศรี๓.๓ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค(์ A)เพื่อใหน้ กั เรยี น ๓.๓.๑ มีความสนใจและกระตือรือรน้ ในกิจกรรมการเรียนรู้ ๓.๓.๒ มวี ามรับผิดชอบและมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมในชั้นเรยี น๓.๔ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน(C)เพ่อื ใหน้ ักเรยี น ๓.๔.๑ มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ แยกแยะและคดิ อย่างสร้างสรรค์ ๓.๔.๒ มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร 116
๔.กิจกรรมการเรยี นรู้ (วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม, กระบวนการคดิ วิเคราะห์) ชั่วโมงที่ 1-2 1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ ักเรียนทราบ 2. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ยี วกับการทากจิ กรรมกลุม่ ร่วมกนั แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ รว่ มกันวางแผน การนาเสนอผลงาน 3. ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ สรุปข้อมูล และสรปุ วิธกี ารนาเสนอผลงาน เช่น - จดั ป้ายนเิ ทศ - จัดทาแผ่นพบั - แสดงบทบาทสมมตุ ิ 4. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเตรียมอปุ กรณ์ และเอกสารในการนาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน เพือ่ ใหเ้ กดิ ความพร้อมและได้ประโยชนจ์ ากการนาเสนอผลงานมากทีส่ ุด 5. ครตู ดิ ตามและสอบถามการดาเนนิ งานของนกั เรยี นในด้านต่างๆ 6. ใหน้ ักเรยี นกลุม่ ท่ี 1 - 5 สง่ ตวั แทนกล่มุ ออกมานาเสนอประวตั แิ ละผลงานของบุคคลสาคญั ท่ีได้ ร่วมกันศกึ ษาและวิเคราะห์ ตามลาดบั ดงั นี้ - กลมุ่ ท่ี 1 พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั - กลุ่มท่ี 2 พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หวั - กลมุ่ ท่ี 3 พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อย่หู วั - กลุ่มที่ 4 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส - กลุ่มท่ี 5 พระเจ้าวรวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนทิ 7. ครชู มเชยและให้กาลังใจนักเรียนที่นาเสนอผลงานทุกกลมุ่ และเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามกลุ่ม ที่นาเสนอผลงานเพม่ิ เติม โดยมีครคู อยเสนอแนะในส่วนท่ีมคี วามบกพร่อง 8. ใหน้ ักเรยี นส่งตัวแทนออกมา 1 คน เพอ่ื กล่าวสรุปความรู้ท่ีได้รบั จากการนาเสนอผลงานของกลุ่มต่างๆ 9. ให้นักเรียนทาใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ประวัติและผลงาน (1) ชวั่ โมงท่ี 3 1. นักเรียนและครูรว่ มกันสนทนาเพ่อื ทบทวนความรจู้ ากชวั่ โมงทีผ่ ่านมา 2. ให้นักเรียนกลุม่ ที่ 6-10 ส่งตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอประวตั ิและผลงานของบุคคลสาคญั ทีไ่ ด้ รว่ มกนั ศกึ ษาและวเิ คราะห์ ตามลาดบั ดังน้ี - กลมุ่ ที่ 6 พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ - กลมุ่ ท่ี 7 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ - กลุ่มท่ี 8 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานรศิ รานวุ ดั ตวิ งศ์ 117
- กลมุ่ ท่ี 9 หมอ่ มราโชทยั หรอื หม่อมราชวงศก์ ระต่าย อศิ รางกรู - กล่มุ ที่ 10 สมเดจ็ เจ้าพระยาบรมมหาศรีสรุ ยิ วงศ์ (ช่วง บุนนาค)3. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามกลมุ่ ท่ีนาเสนอผลงานเพม่ิ เติม โดยมคี รคู อยเสนอแนะในส่วน ที่มีความบกพร่อง4. ให้นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้ทไ่ี ด้รับจากการนาเสนอผลงานของกลมุ่ ต่างๆ5. ใหน้ ักเรียนทาใบงานที่ 2.2 เรื่อง ประวตั ิและผลงาน (2) ชั่วโมงที่ 4-51. ครูสนทนากับนักเรียนเกย่ี วกับการนาเสนอผลงานกลมุ่ ทน่ี ักเรยี นประทบั ใจ พร้อมใหแ้ สดง เหตผุ ลประกอบ เพ่อื เป็นแนวทางในการปรบั แกไ้ ขการนาเสนอผลงานของกลุ่มอน่ื ๆ2. ให้นกั เรยี นกลุม่ ที่ 11-15 ส่งตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอประวัติและผลงานของบคุ คลสาคัญ ตามลาดบั ดงั น้ี - กลุ่มท่ี 11 บาทหลวงปาเลอกัวซ์ - กลมุ่ ที่ 12 หมอบรดั เลย์ (ดร. แดน บชี บรดั เลย์) - กลมุ่ ท่ี 13 พระยารษั ฎานุประดษิ ฐมหศิ รภักดี (คอซมิ บ้ี ณ ระนอง) - กลมุ่ ที่ 14 พระยากลั ยาณไมตรี (ดร. ฟรานซสิ บี. แซร์) - กล่มุ ที่ 15 ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พรี ะศรี3. ครสู รุปแนวทางการศึกษาท่ตี ้องการให้นักเรยี นเห็นวา่ บคุ คลสาคัญทน่ี ักเรียนไดศ้ ึกษาไปลว้ นทา คณุ ประโยชน์ตอ่ ประเทศชาติ มีความซือ่ สัตย์ มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตรยิ ์ มวี ริ ยิ ะ อุตสาหะ มีความรัก และความรับผดิ ชอบต่อบ้านเมือง สมควรทคี่ นรุน่ หลังจะไดย้ ดึ ถือและนาไป เปน็ แบบอย่างในการดาเนนิ ชีวติ ตอ่ ไป4. ใหน้ ักเรียนทาใบงานที่ 2.3 เร่ือง ประวตั แิ ละผลงาน (3)5. ครูมอบหมายให้นักเรยี นร่วมกันจัดนิทรรศการ ผลงานของบุคคลสาคญั ในการสรา้ งสรรค์ชาตไิ ทย6. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันเสนอรูปแบบการจดั นิทรรศการร่วมกนั เพื่อให้นกั เรยี นฝกึ การทางานร่วมกนั อย่างมีระบบขน้ั ตอน7. ใหน้ ักเรียนสรปุ แนวทางการจัดนิทรรศการ และมอบหมายภาระงานใหก้ บั สมาชิกในชน้ั เรียน8. ครูกาหนดเวลาในการจดั นิทรรศการและตรวจผลงาน นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 118
๕.การวัดและประเมนิ ผล การวัดผล การประเมินผล ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ใบงานท่ี 2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ดา้ นความรู้ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นกั เรียนมีความรปู้ ระวัติและผลงาน ใบงานท่ี 2.3 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ของบุคคลสาคญั นักเรียนทาใบงานที่ 2.1 แบบประเมนิ การจัดนิทรรศการ นกั เรยี นทาใบงานที่ 2.2 ผลงานของบุคคลสาคัญ นักเรยี นทาใบงานที่ 2.3 แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ด้านทกั ษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน นกั เรียนรว่ มกนั จดั นิทรรศการผลงาน กล่มุ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ของบุคคลสาคญั แบบทดสอบหลังเรยี น นักเรียนนาเสนอผลงาน ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน๖. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ ๖.1 สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน ประวัติศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ประวัติและผลงาน(1) 3. ใบงานท่ี 2.2 เรื่อง ประวตั ิและผลงาน (2) 4. ใบงานที่ 2.3 เร่ือง ประวัติและผลงาน(3) ๖.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ห้องสมุด 2. แหลง่ รวบรวมหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ เช่น - สานกั หอสมดุ แหง่ ชาติ - สานกั หอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ - พิพธิ ภณั ฑสถานในภมู ภิ าคต่างๆ 119
แบบประเมินการจดั นิทรรศการผลงานของบุคคลสาคัญลาดบั ที่ รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 ลงชอ่ื1 การวเิ คราะหผ์ ลงานของบุคคลสาคัญ (2 การสรุปผลการวเิ คราะห์3 การนาเสนอข้อมลู4 รปู แบบการจัดนิทรรศการ5 การมสี ว่ นรว่ มในการจดั นิทรรศการ รวม ผู้ประเมิน ) //เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน 4 หมายถึง ดีมาก 17-20 3 หมายถงึ ดี 13-16 2 หมายถึง พอใช้ 9-12 1 หมายถึง ปรบั ปรุง 5-8 120
แบบประเมินการนาเสนอผลงานลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 43211 เนื้อหาละเอียดชดั เจน2 ความถูกตอ้ งของเนอื้ หา3 ภาษาทีใ่ ช้เขา้ ใจง่าย4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ () //เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน การนาเสนอผลงานสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน การนาเสนอผลงานสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ การนาเสนอผลงานสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางสว่ น ให้ 2 คะแนน การนาเสนอผลงานไม่สอดคล้องกบั รายการประเมิน ให้ 1 คะแนนเกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17-20 4 หมายถึง ดีมาก 13-16 3 หมายถึง ดี 9-12 2 หมายถงึ พอใช้ 5-8 1 หมายถึง ปรับปรุง 121
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุลาดบั ช่ือ ความร่วมมือ การแสดง การรับฟงั การตงั้ ใจ การร่วม รวม ที่ – 4321 ความคิดเหน็ ความคิดเห็น ทางาน ปรับปรงุ 20 สกลุ ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 4321 4321เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ = ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั = ปรับปรงุ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรุง 122
ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ประวัติและผลงาน (1)คาช้แี จง : ใหน้ ักเรียนสรปุ ผลงานของบุคคลท่ีกาหนดในการสรา้ งสรรค์ชาตไิ ทยให้ถูกต้อง พระบำทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลำ้ นภำลยั พระบำทสมเดจ็ พระนง่ั เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั พระบำทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระมหำสมณเจำ้ กรมพระยำวชิรญำณวโรรสlพระเจำ้ วรวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษำธิรำชสนิท 123
ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ประวัตแิ ละผลงาน (1)คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนสรุปผลงานของบุคคลที่กาหนดในการสร้างสรรคช์ าติไทยให้ถูกต้องพระบำทสมเดจ็ - ตรากฎหมายห้ามสูบ ห้ามซ่ือขายฝ่ิ นพระพทุ ธเลิศหลำ้ นภำลยั - บรู ณะปฏิสังขรณ์วดั แจ้ง - ทรงประพนั ธ์เพลงบุหลนั ลอยเล่ือนพระบำทสมเดจ็ - ทรงแกะสลักบานประตูวิหารพระศรีศากยมนุ ี วดั สุทัศนเทพวรารามพระนงั่ เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั - โปรดเกล้าให้สร้างวดั ราชนดั ดารามพระบำทสมเดจ็ - บูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระแก้วพระมงกฎุ เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั - ทรงทาสนธิสัญญาเบอร์นีกับอังกฤษ - ส่งเสริมการค้าขายกบั ชาวต่างชาติสมเด็จพระมหำสมณเจำ้กรมพระยำวชิรญำณวโรรส - ทรงสร้างธงไตรรงค์ เป็นธงประจาชาติ - กาหนดให้มีวันสาคัญของชาติ - ทรงตราพระราชบัญญตั ินามสกุล ตัง้ โรงเรียนมหาดเลก็ หลวง - พระราชนิพนธ์ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และบทละคร - ก่อตงั้ มหามกฎุ ราชวิทยาลยั - ชาระและเขียนแบบเรียนสาหรับหลักสูตรเปรียญธรรมและนกั ธรรม - พระนิพนธ์พงศาวดารสยาม ตานานประเทศไทยllพระเจำ้ วรวงศเ์ ธอ - เข้าร่ วมกล่มุ เจรจาทาสนธิสัญญาเบาว์ริงกับอังกฤษ - ทรงนิพนธ์ตาราสรรพคุณยากรมหลวงวงษำธิรำชสนิท - เป็นสมาชิกสถาบันการแพทย์แห่งนิวยอร์ ก - ทรงนิพนธ์หนงั สือจินดามณี เล่ม 2 124
ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง ประวัติและผลงาน (2)คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นสรุปผลงานของบุคคลท่ีกาหนดในการสรา้ งสรรคช์ าตไิ ทยให้ถูกต้อง สมเด็จพระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยำเทวะวงศว์ โรปกำร สมเดจ็ พระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยำดำรงรำชำนุภำพ สมเดจ็ พระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยำนริศรำนุวดั ติวงศ์ หมอ่ มรำโชทยั (ม.ร.ว. กระต่ำย อิศรำงกรู )lll สมเดจ็ เจำ้ พระยำบรมมหำ ศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนำค) 125
ใบงานที่ 2.2 เรอื่ ง ประวตั ิและผลงาน (2)คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นสรปุ ผลงานของบุคคลที่กาหนดในการสรา้ งสรรคช์ าติไทยให้ถกู ต้องสมเดจ็ พระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ - เป็นผ้รู อบรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีกรมพระยำเทวะวงศว์ โรปกำร - เป็นผ้สู าเร็จราชการ และอย่ใู นฐานะผ้ปู ระดจุ ดังพระหัตถ์ขวาสมเด็จพระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ ของรัชกาลท่ี 5กรมพระยำดำรงรำชำนุภำพ - ผลงานพระนิพนธ์ เช่น โคลงรามเกียรติ์ จดหมายเหตุรายวนัสมเด็จพระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ - ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทยกรมพระยำนริศรำนุวดั ติวงศ์ - ทรงดารงตาแหน่งเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยคนแรก - ผลงานพระนิพนธ์ เช่น ไทยรบพม่า ตานานพระพทุ ธเจดีย์ พระราชหม่อมรำโชทยั(ม.ร.ว. กระตำ่ ย อิศรำงกรู ) ประวตั ิสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ละครฟ้ อนราlll - ได้รับการยกย่องว่าเป็น นายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม - ทรงออกแบบก่อสร้างพระอุโบสถวดั เบญจมบพิตรดุสิตวนารามสมเดจ็ เจำ้ พระยำบรมมหำ - ทรงรอบรู้ในเรื่องดรุ ิยางคศิลป์ศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนำค) - ผลงานนิพนธ์ เช่น เพลงเขมรไทรโยค เพลงมาลยั - ทรงทาหน้าท่ีเป็นล่ามของคณะทูตไทยไปเจริญสัมพันธไมตรีกับ ประเทศอังกฤษ ในสมยั รัชกาลท่ี 4 - ทรงดารงตาแหน่งอธิบดีพิพากษาศาลต่างประเทศคนแรกของไทย - ผลงานนิพนธ์ เช่น นิราศลอนดอน จดหมายเหตุเร่ืองราชทูตไทย ไปลอนดอน - ทรงเป็ นผ้สู าเร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลที่ 5 - เป็นผ้นู าในการต่อเรือและกาป่ันแบบฝรั่ง - ร่วมเป็นคณะผ้แู ทนสยามทาหนังสือสนธิสัญญาทางไมตรี และการพาณิชย์กับประเทศตะวนั ตก 126
ใบงานท่ี 2.3 เรอื่ ง ประวัติและผลงาน (3)คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นสรุปผลงานของบุคคลที่กาหนดในการสร้างสรรคช์ าตไิ ทยให้ถกู ต้อง บำทหลวงปำลเลอกวั ซ์ หมอบรัดเลย์ (ดร. แดน บีช บรดั เลย)์ พระยำรัษฎำนุประดิษฐ มหิศรภกั ดี (คอซิมบ้ี ณ ระนอง) พระยำกลั ยำณไมตรี (ดร. ฟรำนซิล บี. แซร์) ศำสตรำจำรยศ์ ิลป์ พรี ะศรี 127
ใบงานที่ 2.3 เร่ือง ประวัตแิ ละผลงาน (3)คาชี้แจง : ให้นักเรยี นสรปุ ผลงานของบุคคลท่ีกาหนดในการสรา้ งสรรคช์ าตไิ ทยให้ถกู ต้องบำทหลวงปำลเลอกวั ซ์ - ผ้เู ผยแผ่ศาสนาคริสต์เข้าสู่ประเทศไทย - นาวิทยาการถ่ายรูปเข้ามาในประเทศไทยหมอบรัดเลย์ - จัดทาปทานกุ รม 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ฝรั่งเศส และอังกฤษ(ดร. แดน บีช บรดั เลย)์ - เป็นล่ามคณะทูตไทย สมยั พระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ณ กรุงปารีสพระยำรัษฎำนุประดิษฐ - จัดต้ังโรงพิมพ์หนงั สือไทยเป็นคนแรก และออกหนงั สือพิมพ์มหิศรภกั ดี รายเดือนชื่อ บางกอกรีคอร์เดอร์(คอซิมบ้ี ณ ระนอง) - เป็นผ้นู าการแพทย์แผนใหม่มาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นคนแรก - เผยแพร่ประวตั ิตานานไทย ขนบธรรมเนียมไทยให้ชาวต่างชาติ - เป็นนักพัฒนาแห่งปักษ์ใต้ - บุกเบิกการทาสวนยางพาราในประเทศไทย - จัดต้ังกองโปลิศภูธร เพื่อรักษาความสงบเรียบร้ อยพระยำกลั ยำณไมตรี - ผ้แู ทนรัฐบาลไทยในสมยั รัชกาลที่ 6 ในการแก้ไขสนธิสัญญา(ดร. ฟรำนซิล บี. แซร์) - ถวายคาแนะนาเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองของไทยในสมยั รัชกาล ท่ี 7ศำสตรำจำรยศ์ ิลป์ พีระศรี - เสนอวิธีแก้ไขปัญหาการคลงั และการยกร่ างรัฐธรรมนูญ - วางรากฐานการเรียนศิลปะแบบใหม่ - เปิ ดโรงเรียนสอนศิลปะของราชการแห่งแรก (มหาวิทยาลัยศิลปากร) - ผลงานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พระประธานพุทธมณฑล 128
โรงเรยี นหนั คาราษฎร์รงั สฤษด์ิ5 ประวตั ิศาสตร์ไทยกลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรมชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน 8 ชว่ั โมง๑.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั ส 4.3 ม.4-6/3 วเิ คราะห์ปจั จัยทส่ี ง่ เสริมการสร้างสรรค์ภมู ปิ ญั ญาไทย และวฒั นธรรมไทย ซึง่ มผี ลตอ่ สังคมไทยในยุคปจั จบุ ัน ม.4-6/5 วางแผนกาหนดแนวทางและการมีส่วนร่วมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยแล ะ วฒั นธรรมไทย๒.สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด วถิ กี ารดารงชวี ิตและภมู ปิ ัญญาของคนไทยในแต่ละยุคสมยั มีการปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงให้เข้ากับ สภาพแวดล้อม ซ่ึงมผี ลต่อการสรา้ งสรรค์ภมู ปิ ัญญาไทยและวฒั นธรรมไทย จึงมีความจาเป็นทีช่ าวไทยจะต้อง รว่ มมือกนั อนรุ ักษภ์ มู ปิ ัญญาและวัฒนธรรมไทย๓.สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง(K) 1. ปัจจัยสง่ เสรมิ การสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาซึ่งมีผลต่อสังคมไทยในยุคปจั จุบนั 2. สภาพแวดล้อมที่มผี ลตอ่ การสร้างสรรค์ภมู ปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทย 3. วถิ ีชวี ติ ของคนไทยในสมัยตา่ งๆ 4. การสืบทอดและเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมไทย 5. แนวทางการอนรุ กั ษ์ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรมไทยและการมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ ักษ์ 6. วิธีการมสี ่วนรว่ มอนุรกั ษภ์ มู ปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทย 7. บุคคลที่ส่งเสริมการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย ซ่ึงมีผลตอ่ สงั คมไทย ในปัจจุบนั 130
๓.๒ทักษะกระบวนการ(P)เพ่อื ให้นักเรียน ๓.๒.๑อธิบาย ปัจจัยสง่ เสริมการสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภูมิปญั ญาซ่ึงมีผลต่อสงั คมไทยในยุคปจั จุบนั สภาพแวดล้อมท่ีมีผลต่อการสรา้ งสรรค์ภมู ิปัญญาและวัฒนธรรมไทยวิถชี ีวติ ของคนไทยในสมยั ตา่ งๆการสืบทอดและเปลย่ี นแปลงของวฒั นธรรมไทยแนวทางการอนุรักษ์ภูมปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทยและการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ๓.๒.๒วธิ ีการมสี ว่ นรว่ มอนุรกั ษ์ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรมไทย บคุ คคลทีส่ ่งเสริมการสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ซงึ่ มีผลต่อสงั คมไทยในปัจจบุ นั๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค(์ A)เพื่อให้นกั เรยี น ๓.๓.๑ มคี วามสนใจและกระตือรือรน้ ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๓.๓.๒ มีวามรบั ผิดชอบและมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมในชั้นเรยี น๓.๔ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน(C)เพ่อื ใหน้ ักเรยี น ๓.๔.๑ มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ แยกแยะและคิดอย่างสรา้ งสรรค์ ๓.๔.๒ มคี วามสามารถในการสอื่ สาร๔.ชิน้ งาน / ภาระงาน (รวบยอด) การจดั นิทรรศการผลงานการสร้างสรรคภ์ ูมิปัญญาและวฒั นธรรมไทย๕. การวดั และประเมินผล ๕.1การประเมินก่อนเรียน - นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 ๕.2การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง สภาพแวดล้อมทม่ี ผี ลต่อการสร้างสรรค์ 2. ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 3. นกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายในชัน้ เรยี น 4. นักเรยี นร่วมกันคดิ วิเคราะห์ในประเด็นท่ีกาหนด 5. ประเมินจากการนาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน 6. สังเกตพฤติกรรมการทางาน ๕.3การประเมนิ หลังเรียน - นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ๕.4 การประเมนิ ชิน้ งาน / ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการจดั นิทรรศการผลงานการสรา้ งสรรค์ภูมปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทย การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 131
แบบประเมนิ การจดั นิทรรศการผลงานการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวฒั นธรรมไทยรายการประเมนิ ดีมาก (4) คาอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2)1. การ วเิ คราะห์ปัจจัยสาคญั วเิ คราะห์ปจั จัยสาคญั วิเคราะหป์ จั จัย วิเคราะห์ปัจจยัวเิ คราะห์ ไดถ้ ูกต้อง ครบถ้วน ไดถ้ ูกต้อง ครบถว้ น สาคญั ได้ถกู ต้อง สาคัญได้ เพยี ง ปจั จยั ท่ี สมบรู ณต์ ามประเดน็ ตามประเด็นที่ แต่ไม่ครบถว้ นตาม บางส่วน แต่ไม่ส่งเสรมิ การ ท่กี าหนด กาหนดเป็น ประเดน็ ที่กาหนด ครบถ้วนตาม สว่ นใหญ่ ประเดน็สรา้ งสรรค์ ทีก่ าหนดภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย2. การวางแผน วางแผนและกาหนด วางแผนและกาหนด วางแผนและ วางแผนและและ กาหนด แนวทางในการ แนวทางในการ กาหนดแนวทางใน กาหนดแนวทางในแนวทางการ อนรุ กั ษ์ภมู ปิ ัญญา อนรุ กั ษ์ภูมิปัญญา การอนุรักษภ์ มู ิ การอนุรักษ์ภมู ิมสี ่วนรว่ มใน ไทยและวฒั นธรรมได้ ไทยและวัฒนธรรมได้ ปญั ญาไทยและ ปัญญาไทยและการ อนรุ กั ษ์ อย่างถูกต้อง อย่างถูกต้อง วฒั นธรรมได้ วฒั นธรรมได้ภมู ิปัญญา เหมาะสม และเป็น เหมาะสม และเปน็ เหมาะสม และ เหมาะสม และไทยและ ประโยชน์ ประโยชนเ์ ปน็ เป็นประโยชนเ์ พยี ง เป็นประโยชนเ์ พียงวัฒนธรรม ส่วนใหญ่ บางสว่ น เลก็ น้อยไทย3. รายงาน แสดงผลงานการจดั แสดงผลงานการจัด แสดงผลงานการ แสดงผลงานการการจดั กิจกรรม กิจกรรมอนุรักษภ์ ูมิ กิจกรรมอนรุ กั ษ์ภูมิ จัดกิจกรรมอนุรกั ษ์ จดั กิจกรรมอนรุ กั ษ์อนรุ ักษ์ ปญั ญาไทยและ ปัญญาไทยและ ภมู ิปญั ญาไทยและ ภมู ิปญั ญาไทยและภมู ปิ ญั ญา วฒั นธรรมไทยได้ วฒั นธรรมไทยได้ วัฒนธรรมไทยได้ วัฒนธรรมไทยได้ไทยและ อยา่ งเหมาะสม 4 อย่างเหมาะสม 3 อย่างเหมาะสม 2 อย่างเหมาะสม 1วัฒนธรรมไทย กจิ กรรม กจิ กรรม กจิ กรรม กจิ กรรม4. การมี สมาชิกมีสว่ นรว่ มใน สมาชกิ มีสว่ นรว่ มใน สมาชกิ มสี ว่ นรว่ ม สมาชิกมสี ว่ นรว่ มส่วนรว่ ม การจดั กจิ กรรมตาม การจดั กิจกรรมตาม ในการจัดกจิ กรรม ในการจดั กิจกรรม ในการ หน้าที่ทไ่ี ด้รบั หน้าทท่ี ีไ่ ด้รับ ตามหนา้ ทีท่ ่ีไดร้ บั ตามหนา้ ที่ท่ีไดร้ ับทางาน มอบหมายอยา่ งเปน็ มอบหมายเปน็ มอบหมายเป็น มอบหมายเป็นสว่ น ขั้นตอน ส่วนมาก บางส่วน น้อย5. รูปแบบ รูปแบบมีความ รปู แบบมีความ รูปแบบมคี วาม รปู แบบไมส่ วยงามการจดั สวยงาม ดงึ ดดู ความ สวยงาม ดงึ ดดู ความ สวยงาม มี มีภาพประกอบ สนใจดว้ ยรปู ภาพ มี สนใจดว้ ยรปู ภาพ มี ภาพประกอบน้อย น้อย ขาดข้อคิดที่นิทรรศการ ข้อคิดทีเ่ ป็นประโยชน์ ขอ้ คิดท่เี ป็น มขี อ้ คดิ ที่เปน็ เปน็ ประโยชน์ ต่อการนาไป ประโยชน์ตอ่ การ ประโยชนต์ อ่ การ 132
ประยกุ ต์ใช้ นาไปประยุกต์ใช้ นาไปประยุกตใ์ ช้ หลายประเด็น บางประเดน็ เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17-20 ดีมาก 13-16 ดี 9-12 พอใช้ 5-8 ปรับปรงุ๖.กจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5กิจกรรมที่ 1 การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย (1) วธิ ีสอนโดยการจดั การเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนคิ รว่ มกันคดิ เวลา 4 ช่วั โมง1. นักเรียนชว่ ยกันยกตัวอย่างวัฒนธรรมไทย หรอื วัฒนธรรมในท้องถน่ิ ของนกั เรียนว่ามีอะไรบ้าง2. ครูสนทนากบั นักเรยี นเก่ียวกบั การประดิษฐ์เครื่องมือเคร่ืองใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ทีเ่ กิดจาก ภมู ปิ ัญญาของคนไทย3. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ศกึ ษาท่ีมาของวัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย4. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สนทนาและทบทวนความรเู้ ก่ยี วกับวฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย5. ให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “ปัจจัยที่ทาให้เกิดวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ไทย”6. ใหน้ กั เรยี นศึกษาสภาพแวดล้อมทม่ี ีผลต่อการสร้างสรรค์วฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย7. ใหน้ ักเรยี นทาใบงานที่ 1.1 เร่ือง สภาพแวดล้อมท่มี ีผลตอ่ การสร้างสรรค์8. ใหน้ กั เรยี นบอกลกั ษณะของการสรา้ งบ้านเรือนของแต่ละภมู ิภาคว่า มีความเหมือนกันหรือ แตกต่างกนั อย่างไร9. ครูอธบิ ายให้นกั เรยี นทราบว่า สภาพแวดล้อมมีส่วนสาคญั ในการกาหนดลักษณะของการสร้าง บา้ นเรอื น10.ใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภิปรายว่า การสบื ทอดและการเปลีย่ นแปลงวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย เกิดจากปัจจยั ใด11.ครูนารูปภาพการรับประทานอาหารในแบบตา่ งๆ มาให้นักเรียนดู แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกันบอกว่า 133
เป็นการรับประทานอาหารของคนไทยในภมู ิภาคใด และสงั เกตไดจ้ ากสงิ่ ใด12.ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมการกินของแต่ละภูมิภาค และแสดงความคิดเห็น เกีย่ วกับวัฒนธรรมการกนิ ในปัจจุบันท่ีไดร้ บั อทิ ธิพลมาจากต่างประเทศ13.ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม เพ่ือร่วมกันศึกษาและสืบค้นเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทยกับวัฒนธรรมและภูมิ ปัญญาไทย แล้วสรุปความรู้จากการศกึ ษาและสืบค้น14.ให้นกั เรียนบนั ทึกความร้ลู งในใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย การสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย (2)กจิ กรรมที่ ๒ วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความ เวลา 4 ชั่วโมง ตระหนกั , กระบวนการกลมุ่1. ครสู นทนากับนกั เรยี นเกีย่ วกับพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจา้ สิริกติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ ว่ามีอะไรบา้ ง แล้วยกตัวอย่าง2. ครอู ธิบายให้นกั เรยี นเข้าใจว่า พระราชกรณยี กิจเหลา่ นีเ้ ปน็ เพยี งสว่ นหนึ่งที่ถือเปน็ ปจั จัยสาคัญ ทชี่ ว่ ยส่งเสรมิ การสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทยท่ีมีผลตอ่ สังคมไทยปัจจุบนั3. ให้นกั เรียนศกึ ษาปัจจยั ท่สี ่งเสรมิ การสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมและภมู ิปัญญาท่ีมีตอ่ สังคมในปัจจบุ ัน4. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ ปัจจัยทส่ี ่งเสรมิ การสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาท่มี ตี ่อสงั คม ในปัจจบุ ัน และยกตวั อย่างประกอบ5. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายเกี่ยวกบั การผลิตสนิ ค้า OTOP ของชมุ ชนและบทบาทของรัฐบาล ในการสง่ เสรมิ การเผยแพร่วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย6. ใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยแ์ ละพระบรมวงศานุวงศ์ท่ีนักเรยี น ประทบั ใจ7. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ เพือ่ ร่วมกันศกึ ษาและสืบค้นเกี่ยวกบั พระราชกรณียกจิ ทีม่ ีบทบาทในการ ส่งเสริมการสร้างสรรคภ์ มู ิปัญญาและวฒั นธรรมไทยซึง่ มีผลต่อสังคมไทยปัจจุบนั8. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสรปุ ผลงาน และนาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน9. ให้นักเรียนร่วมกันบอกประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาพระราชกรณียกิจสาคัญที่มีบทบาทในการ สง่ เสริมสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย10.ครูมอบหมายให้นักเรียนจัดนิทรรศการ ผลงานการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย โดยใหน้ กั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์ปจั จยั ท่ีส่งเสรมิ การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมไทย ซึ่ง มีผลต่อสังคมไทยในยุคปัจจุบัน การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมไทยแล้ว สรปุ แนวคดิ ท่ไี ด้เพื่อดาเนินการจัดนิทรรศการ นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 134
๗.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ ๗.1สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น ประวัติศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. ตัวอยา่ งภาพ 3. ใบงาน 4. อุปกรณใ์ นการจัดนิทรรศการ ๗.2แหลง่ การเรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. ห้องเทคโนโลยสี ารสนเทศ 135
แบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น ประจาหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องทสี่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. ขอ้ ใดคอื ภูมปิ ัญญาไทย ก. ผลงานของไทยท่ีเก่ยี วข้องกบั การดาเนนิ ชวี ติ ข. เอกลักษณ์เฉพาะและพื้นฐานการใชช้ ีวติ ของคนไทย ค. เอกลกั ษณ์ที่ถา่ ยทอดจากคนรุ่นหนง่ึ สู่คนอีกรุ่นหน่ึง ง. วธิ ีการและผลงานของคนไทยทเี่ ปน็ ประโยชนต์ ่อการดารงชีวิต 2. วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทยเกดิ ข้ึนเพราะมีจดุ ประสงค์หลายประการ ยกเว้นดา้ นใด ก. ทาใหส้ งั คมสงบสขุ ข.ทาให้ผคู้ นมีความสุข ค.ทาใหก้ ารประกอบอาชีพคล่องตัว ง. ทาให้ความสมั พนั ธ์กับต่างประเทศดขี น้ึ 3. ขอ้ ใด ไมใ่ ชป่ ัจจยั พื้นฐานท่ีมีผลตอ่ การสรา้ งสรรคภ์ มู ิปัญญา ก. สิง่ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ ข. การลอกเลยี นแบบธรรมชาติ ค. ความพยายามท่ีจะเอาชนะธรรมชาติ ง. ความพยายามทจ่ี ะปรบั ตัวใหเ้ ขา้ กับธรรมชาติ 4. ข้อใดเปน็ ภูมปิ ัญญาท่ีเก่ยี วข้องกบั การประกอบอาชพี ก. การทอผา้ ข.การสรา้ งโบสถ์ ค.การใชค้ นั ไถไถนา ง. การปลกู บา้ น5. การแตง่ กายของหญิงชาวอยุธยาทนี่ ่งุ โจงกระเบนและห่มผ้าแถบ จดั เป็นภูมปิ ัญญาดา้ นใด ก. การดารงชีวิต 136
ข.การประกอบอาชีพ ค.การจัดระเบยี บสังคม ง. การแสดงออกทางศิลปะ6. การจัดระบบไพร่โดยให้มกี ารเข้าเดือน - ออกเดอื น และให้มศี ักดนิ า จัดเปน็ ภูมปิ ัญญาด้านใด ก. การดารงชีวิต ข.การประกอบอาชพี ค.การจัดระเบียบสงั คม ง. การแสดงออกทางศิลปะ7. การปลกู ฝังใหค้ นเคารพเทิดทูนในองค์พระมหากษตั ริย์ จัดเป็นภูมิปัญญาด้านใด ก. การดารงชีวติ ข.การประกอบอาชีพ ค.การจดั ระเบียบสังคม ง. การแสดงออกทางศิลปะ8. ภูมปิ ัญญาในอดตี ที่ไม่มีแล้วในปัจจุบนั คืออะไร ก. การสร้างที่อย่อู าศยั ข.การประกอบอาชพี ค.การแต่งกายและกนิ อาหาร ง. การปกครองและระบบไพร่9. การนับถือพระพุทธศาสนา จัดเป็นภมู ิปญั ญาหรือไม่ ก. เปน็ เพราะเปน็ การจัดระเบียบสงั คม ข.เปน็ เพราะไดร้ บั อิทธพิ ลจากภายนอก ค.ไมเ่ ปน็ เพราะไม่เกี่ยวกบั ธรรมชาติ ง. ไมเ่ ปน็ เพราะไมใ่ ช่การประดิษฐ์ข้นึ มาใหม่10. ขอ้ ใดเป็นการแสดงออกที่แสดงใหเ้ หน็ ถึงความเช่อื ดา้ นจติ วิญญาณ ก. การปลกู บ้านอยรู่ ิมนา้ ข.การทาบญุ ในวันออกพรรษา ค.การสร้างเจดยี เ์ พ่ือบชู าผลู้ ว่ งลบั ง. การประกอบพธิ ีถือน้าพิพัฒน์สัตยา 137
11. ในอดตี ของไทยทมี่ กี ารปลกู ฝงั ความเชอ่ื ด้านจติ วิญญาณ ทั้งนเ้ี พอื่ จดุ ประสงค์ใด ก. การดารงชวี ิต ข.การประกอบอาชพี ค.การจดั ระเบียบสังคม ง. การแสดงออกทางศลิ ปะ12. ข้อใดเปน็ ภูมิปัญญาในสมยั สุโขทัยเพ่ือเอาชนะธรรมชาติ ก. การสร้างเตาทเุ รยี ง ข.การสรา้ งถนนพระรว่ ง ค.การสรา้ งตระพังเงิน ตระพังทอง ง. การนมิ นต์พระจากนครศรีธรรมราช13. การตงั้ กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานโี ดยต้งั อยใู่ นบรเิ วณท่ีมีแม่นา้ เจ้าพระยา ปา่ สัก ลพบรุ ี ไหลผ่าน จัดเปน็ ภมู ิปัญญาของมนุษย์ในด้านใด ก. เอาชนะธรรมชาติ ข.แก้ปญั หาในชีวิต ค.เพือ่ การจดั ระเบยี บสังคม ง. ปรบั ตัวใหส้ อดคล้องกับธรรมชาติ14. หากจะศกึ ษาการใชย้ าตามแพทยแ์ ผนโบราณ นกั เรียนควรไปศึกษาท่ีวดั ใด ก. วดั พระเชตุพนวิมลมงั คลาราม กรุงเทพฯ ข.เจดยี พ์ ระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ค.วัดถ้ากระบอก จงั หวัดสระบุรี ง. วดั พระพุทธบาท จงั หวดั สระบรุ ี15. นกั เรยี นควรอนรุ ักษ์ภมู ปิ ัญญาไทยอย่างไร ก. รวบรวมเขียนไวเ้ ป็นตารา ข. สิ่งใดดี กค็ วรปฏบิ ตั ติ ่อไป ค. เชิญชวนใหช้ ่วยกนั อนรุ ักษ์ไว้ ง. ออกกฎหมายลงโทษผู้ไมเ่ หน็ คุณค่าของภูมปิ ัญญาไทย 138
เฉลย 2. ง 3. ข 4. ค 5. ก 7. ค 8. ง 9. ก 10. ง 1. ง 12. ค 13. ง 14. ก 15. ข 6. ค 11. ค 139
โรงเรยี นหนั คาราษฎร์รังสฤษด์ิ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ประวตั ิศาสตร์ไทย เวลา 4 ชั่วโมงหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทยเรอ่ื ง การสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย (1)๑. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาเป็นส่ิงมีค่า ทบี่ รรพบุรุษได้คิด ได้ทา ได้ประดิษฐ์ และผ่านการ กล่ันกรองมาแล้ววา่ เหมาะสม ปราศจากโทษภัย คนรุ่นหลังจงึ ควรภาคภูมิใจและอนรุ ักษ์ไว้๒. ตวั ชี้วัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้๒.1ตวั ชว้ี ัดส 4.3 ม.4-6/3 วิเคราะห์ปัจจัยท่ีส่งเสรมิ การสร้างสรรค์ภูมปิ ัญญาไทย และวฒั นธรรมไทยซ่ึงมีผลตอ่ สังคมไทยในยคุ ปัจจุบัน ม.4-6/5 วางแผนกาหนดแนวทางและการมีส่วนร่วมการอนุรักษ์ภูมิ ปญั ญา ไทยและวฒั นธรรมไทย2.2จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้1. วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท่ีมีผลต่อสังคมไทยในปัจจุบันได้2. อธิบายเก่ยี วกับสภาพแวดลอ้ มทม่ี ีผลตอ่ การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาทีม่ ตี ่อวถิ ีชีวติ ของคนไทยสมัยต่างๆ ได้3. อธบิ ายลกั ษณะการสืบทอดและการเปลยี่ นแปลงวฒั นธรรมไทยได้4. บอกแนวทางการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทยท่ถี กู ต้องและเหมาะสมได้ 140
๓.สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง(K) 1. ปจั จยั สง่ เสรมิ การสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาซ่ึงมีผลตอ่ สงั คมไทยในยุคปจั จบุ ัน 2. สภาพแวดลอ้ มที่มีผลต่อการสรา้ งสรรค์ภูมิปญั ญาและวัฒนธรรมไทย 3. วิถชี ีวิตของคนไทยในสมัยต่างๆ 4. การสบื ทอดและเปลี่ยนแปลงของวฒั นธรรมไทย 5. แนวทางการอนุรักษภ์ ูมิปญั ญาและวัฒนธรรมไทยและการมสี ่วนร่วมในการอนุรักษ์ 6. วธิ ีการมีสว่ นร่วมอนรุ กั ษ์ภมู ปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทย ๓.๒ ทักษะกระบวนการ(P)เพ่ือใหน้ ักเรียน ๓.๒.๑อธิบาย ปัจจยั สง่ เสรมิ การสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมและภูมิปัญญาซึ่งมีผลต่อสงั คมไทยในยคุ ปจั จุบนั สภาพแวดล้อมที่มีผลตอ่ การสรา้ งสรรคภ์ ูมิปญั ญาและวฒั นธรรมไทยวิถีชวี ิตของคนไทย ในสมยั ต่างๆการสบื ทอดและเปลย่ี นแปลงของวฒั นธรรมไทยแนวทางการอนุรักษ์ภมู ปิ ัญญาและ วัฒนธรรมไทยและการมีสว่ นร่วมในการอนรุ ักษ์ ๓.๒.๒วธิ กี ารมสี ่วนร่วมอนรุ กั ษ์ภมู ิปญั ญาและวฒั นธรรมไทย๓.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A)เพ่ือให้นักเรยี น ๓.๓.๑ มคี วามสนใจและกระตือรือรน้ ในกิจกรรมการเรียนรู้ ๓.๓.๒ มีวามรบั ผิดชอบและมีส่วนร่วมในกิจกรรมในชั้นเรยี น๓.๔ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน(C)เพื่อให้นักเรียน ๓.๔.๑ มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ แยกแยะและคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ ๓.๔.๒ มีความสามารถในการสอ่ื สาร๔.กจิ กรรมการเรียนรู้ (วธิ สี อนโดยการจัดการเรียนรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนคิ ร่วมกันคิด) นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 ช่ัวโมงท่ี ๑-๒ 1. ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรูใ้ ห้นักเรยี นทราบ 2. ครถู ามความคดิ เห็นของนักเรยี นเกีย่ วกับความหมายของวัฒนธรรมไทย แล้วให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น 3. ใหน้ กั เรยี นช่วยกันยกตวั อย่างวัฒนธรรมไทย หรือวฒั นธรรมในท้องถน่ิ ของนักเรียนว่า มอี ะไรบ้าง 4. ครอู ธิบายคาวา่ วัฒนธรรมไทย หมายถงึ ทกุ สิง่ ทุกอยา่ งทีค่ นไทยคิดและสรา้ งสรรคข์ ึ้นมา เพอ่ื การดารงชีวิตอยู่รว่ มกนั เปน็ สง่ิ ที่มรี ะเบยี บแบบแผนและมรี ูปแบบเปน็ ท่ยี อมรบั กนั ภายใน สงั คมไทย 5. ครูสนทนากบั นักเรียนเกีย่ วกบั การประดษิ ฐเ์ คร่ืองมือเคร่ืองใช้ในชวี ติ ประจาวนั ท่ีเกิดจาก 141
ภมู ปิ ญั ญาของคนไทย แล้วนารูปภาพมาแสดงประกอบ แล้วใหน้ กั เรียนตอบคาถามทค่ี รูกาหนด ดังน้ี - เคร่ืองมอื เครอื่ งใช้มชี อ่ื ว่าอะไร - ทามาจากส่งิ ใด - เปน็ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ในท้องถนิ่ ใด - มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร 6. ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง แล้วครูอธิบายใหน้ กั เรยี นทราบวา่ ภูมิปัญญาไทย หมายถึง ความรู้ ทักษะ ความเชอื่ และพฤตกิ รรมของคนไทยทีแ่ สดงออกถึงความสมั พนั ธ์ ระหว่างคนกบั คน ธรรมชาติกับส่ิงแวดลอ้ ม และสิ่งที่เหนอื ธรรมชาติ ซ่งึ เปน็ กจิ กรรมในชวี ติ ไมว่ า่ จะเปน็ การแก้ปัญหา การจดั การ การปรบั ตัว และการเรียนรเู้ พ่อื ความอยูร่ อดของบคุ คล ชมุ ชน และสงั คมซ่งึ เป็นพืน้ ฐานความรทู้ ี่สาคญั ในการดารงชีวิต 7. ใหน้ ักเรียนร่วมกันศกึ ษาทมี่ าของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย แล้วให้นกั เรียนสรุปความรู้ ร่วมกัน ช่ัวโมงที่ ๓๑.นักเรยี นและครูรว่ มกันสนทนาและทบทวนความรเู้ กย่ี วกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย๒.ครูอธบิ ายเพมิ่ เตมิ เพ่อื เป็นการสรุปวา่ วัฒนธรรมและภมู ิปัญญามีความสัมพนั ธ์กนั เพราะ ภมู ิปัญญาทีม่ นุษย์ไดส้ รา้ งข้นึ และปฏิบตั สิ ืบเน่อื งตอ่ กันมาย่อมหมายถึงวัฒนธรรม การจะเกดิ วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาได้ ย่อมมีสาเหตุหรือปัจจัยทท่ี าใหเ้ กดิ๓.ใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ในหัวข้อ “ปัจจยั ท่ที าใหเ้ กิดวัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย”๔.ให้ตัวแทนนักเรียนเขียนสรุปแนวคิดบนกระดาน เชน่ ความตอ้ งการท่จี ะเอาชนะธรรมชาติ ความพยายามที่จะปรับตวั ให้สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติ ความตอ้ งการท่จี ะสรา้ งสรรคส์ ังคมให้ สงบราบรืน่ ความพยายามที่จะทาให้การประกอบอาชีพหรอื ทามาหากินสะดวกราบรื่น การแสดงออกถึงอารมณ์สนุ ทรีย์ การได้รับอทิ ธิพลจากภายนอก ความตอ้ งการทจี่ ะแสวงหา ความปลอดภัยในการดารงชวี ิต และความต้องการทีจ่ ะรกั ษาชีวติ ใหย้ นื ยาว เป็นต้น๕.ให้นกั เรียนศึกษาสภาพแวดลอ้ มท่ีมีผลต่อการสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย๖.นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้เกยี่ วกบั สภาพแวดลอ้ มทเี่ ปน็ ปจั จยั พื้นฐานต่อการสร้างสรรค์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย๗.ให้นักเรยี นทาใบงานที่ 1.1 เรื่อง สภาพแวดลอ้ มท่ีมผี ลตอ่ การสรา้ งสรรค์๘.ครูถามนาวา่ จากการศึกษามาแล้วทั้งหมด นักเรยี นคิดว่าภมู ปิ ญั ญาไทยมปี ระโยชนห์ รือไม่ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนัแสดงความคดิ เหน็ อย่างกว้างขวาง ก่อนที่ครจู ะสรุปวา่ ภูมิปัญญาไทยเปน็ ส่ิงที่มีประโยชน์ 142
ที่บรรพบรุ ุษได้คดิ หรือสร้างไว้ อนั เปน็ สิง่ ท่เี หมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย ในฐานะ คนรุน่ หลัง ภมู ปิ ัญญาบางอย่างหากปฏิบัติได้ ก็ควรอยา่ งยง่ิ ท่เี ราจะปฏิบัตหิ รืออนรุ ักษ์ไว้ต่อไป เชน่ อาหารบางอยา่ งท่ีประกอบดว้ ยวตั ถดุ บิ ที่มีในประเทศ ซง่ึ เป็นสมนุ ไพรท่ีเปน็ ประโยชน์ต่อสุขภาพ นักเรียน ควรบริโภคมากกวา่ การบริโภคอาหารประเภทฟา้ สต์ฟู้ด ซงึ่ อาจเป็นผลเสียต่อสุขภาพได้ ช่ัวโมงท่ี ๔1. ให้นักเรยี นบอกลกั ษณะของการสรา้ งบา้ นเรอื นของแต่ละภูมภิ าคว่า มคี วามเหมอื นกนั หรือ แตกต่างกนั อย่างไร2. ครูอธบิ ายให้นักเรยี นทราบว่า สภาพแวดล้อมมสี ่วนสาคญั ในการกาหนดลกั ษณะของการสรา้ ง บ้านเรอื น เชน่ - บ้านในภาคกลางทอ่ี ยรู่ มิ น้า จะมลี กั ษณะยกใต้ถุนสงู หรอื เปน็ เรอื นแพ เพ่อื ปอ้ งกันนา้ ท่วม - บา้ นในภาคอสี าน จะมีลักษณะยกใต้ถนุ สงู เลีย้ งสตั วไ์ วใ้ ต้ถุนบา้ น3. ให้นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายว่า การสืบทอดและการเปล่ยี นแปลงวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย เกดิ จากปัจจยั ใด4. ครูนารูปภาพการรับประทานอาหารในแบบตา่ งๆ มาให้นักเรยี นดู แลว้ ให้นักเรียนช่วยกันบอกวา่ เปน็ การรับประทานอาหารของคนไทยในภมู ภิ าคใด และสงั เกตได้จากสิ่งใด เชน่ - ภาคเหนอื รับประทานอาหารดว้ ยมอื อาหารท่ีรบั ประทานคือ ไสอ้ ว่ั น้าพริกหนุ่ม ข้าวเหนยี ว5. ครสู นทนากบั นกั เรียนเกย่ี วกับวฒั นธรรมการกินของแตล่ ะภูมภิ าค และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั วฒั นธรรมการกินในปัจจุบันท่ีได้รบั อทิ ธพิ ลมาจากตา่ งประเทศ เช่น การใช้ช้อน สอ้ ม ตะเกยี บ6. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน เพ่ือร่วมกันศึกษาและสืบค้นเก่ียวกับวิถีชีวิตของคนไทยกับ วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย7. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ สรุปความรจู้ ากการศกึ ษาและสบื คน้ เก่ียวกบั วถิ ีชวี ติ ของคนไทยกับวัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย และรว่ มกันเสนอแนะแนวทางในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย8. ให้นักเรยี นบันทึกความรูล้ งในใบงานที่ 1.2 เร่อื ง วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 143
๕. การวดั และประเมินผล การวดั ผล การประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ด้านความรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์นักเรียนบอกลักษณะของการสร้างบ้านเรือนของแต่ละภูมิภาคว่า มีค ว า ม เ ห มื อ น กั น ห รื อ แ ต ก ต่ า ง กั นอยา่ งไรนกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนนักเรียนทาใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1นกั เรียนทาใบงานท่ี 1.2 ใบงานที่ 1.2ดา้ นทักษะและกระบวนการนกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน เพื่อร่วมกันศึกษาและสืบค้นเก่ียวกับวิถีชีวิตของคนไทยกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม การทางานกลมุ่๖.สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ ๖.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น ประวตั ิศาสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. ตวั อยา่ งภาพ 3. ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง สภาพแวดล้อมทม่ี ผี ลตอ่ การสรา้ งสรรค์ 4. ใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย ๖.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. ห้องสมุด 2. หอ้ งเทคโนโลยสี ารสนเทศ 144
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน กลุ่มลาดบั ชือ่ ความร่วมมือ การแสดง การรบั ฟงั การต้ังใจ การร่วม รวม ที่ – 4321 ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปรบั ปรุง 20 สกลุ ผลงานกล่มุ คะแนน 4321 4321 4321 4321เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง = ปรับปรุงให้ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั = เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดมี าก๔ ดี๓ พอใช้๒ ปรับปรุง๑ 145
เรอ่ื ง สภาพแวดล้อมท่มี ีผลต่อการสร้างสรรค์ คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามทกี่ าหนดให้ถูกตอ้ ง และชัดเจน 1. ปจั จยั ทางภูมิศาสตรท์ ม่ี ีส่วนสง่ เสริมการสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยอย่างไร 2. อิทธพิ ลภายนอกมผี ลต่อการสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทยหรือไม่ อย่างไร 3. ลกั ษณะร่วมทางสังคมและวฒั นธรรมที่ส่งเสรมิ การสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย มอี ะไรบา้ ง จงยกตวั อยา่ งประกอบการอธบิ าย 146
ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง สภาพแวดล้อมทม่ี ผี ลต่อการสร้างสรรค์คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามทกี่ าหนดใหถ้ ูกตอ้ ง และชัดเจน1. ปัจจัยทางภมู ิศาสตรท์ ม่ี ีส่วนสง่ เสรมิ การสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทยอย่างไร ปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ ได้แก่ ลักษณะภมู ิประเทศ ลกั ษณะภมู ิอากาศ ทรัพยากรทาง ธรรมชาติ ในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกนั ส่งผลให้มีการสร้างสรรค์วฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทยด้านต่างๆ มีความแตกต่างกนั ไปด้วย เช่น การประกอบอาชีพ การ แต่งกาย การสร้ างที่อย่อู าศัย เช่น ภาคใต้ทาประมง ภาคเหนือทาอุตสาหกรรมแปรรูปไม้2. อิทธพิ ลภายนอกมผี ลต่อการสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทยหรอื ไม่ อย่างไร มีผล เพราะคนไทยในปัจจุบันได้รับวฒั นธรรมทางภาษามาตัง้ แต่สมยั สุโขทัย โดย ได้รับอิทธิพลมาจากมอญ เขมร และอินเดีย แต่มีการเปล่ียนแปลงรูปแบบการเขียน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละยคุ สมยั จนกลายเป็นลกั ษณะของศิลปกรรมไทย3. ลักษณะร่วมทางสังคมและวัฒนธรรมที่ส่งเสรมิ การสร้างสรรค์วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย มีอะไรบ้าง จงยกตัวอย่างประกอบการอธบิ าย ลักษณะร่วมทางสังคมและวฒั นธรรม ได้แก่ การเป็นสังคมเกษตรกรรม จึงมี วฒั นธรรมประเพณีที่เป็นความเชื่อบางอย่างที่เหมือนกันในแต่ละภมู ิภาค เช่น ความเช่ือเร่ืองแม่โพสพ ทาให้เกิดการทาขวัญข้าว การบูชาแม่โพสพ หรือการท่ี คนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา จึงเกิดประเพณีทางศาสนาขึน้ เช่น การ ตกั บาตรเทโว การแห่เทียนพรรษา 147
ใบงานที่ 1.2 เรื่อง วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทยคาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นสรปุ ความรจู้ ากการศกึ ษาและสบื ค้นเกี่ยวกับวถิ ีชวี ติ ของคนไทย กบั วฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย และร่วมกนั เสนอแนะแนวทางในการอนรุ ักษ์ วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย วถิ ีชีวติ ของคนไทยกบั วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทยดา้ นความสมั พนั ธ์ระหวา่ งคนไทยกบั สถาบนั พระมหากษตั ริย์ดา้ นความสัมพนั ธ์ระหวา่ งคนไทยกบั คติความเชื่อทางดา้ นพระพุทธศาสนาและคติความเชื่อทางดา้ นจิตวิญญาณดา้ นความสมั พนั ธ์ระหวา่ งคนไทยกบั การแกไ้ ขปัญหาในการดารงชีวติแนวทางในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย เรื่อง วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 148
ใบงานท่ี 1.2คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนสรปุ ความรจู้ ากการศกึ ษาและสืบค้นเก่ยี วกับวถิ ีชวี ิตของคนไทย กับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย และรว่ มกันเสนอแนะแนวทางในการอนรุ กั ษ์ วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย วถิ ชี ีวติ ของคนไทยกบั วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทยดา้ นความสัมพนั ธ์ระหวา่ งคนไทยกบั สถาบนั พระมหากษตั ริย์ดา้ นความสัมพนั ธ์ระหวา่ งคนไทยกบั คติความเชื่อทางดา้ นพระพทุ ธศาสนาและคติความเชื่อทางดา้ นจิตวญิ ญาณดา้ นความสมั พนั ธ์ระหวา่ งคนไทยกบั การแกไ้ ขปัญหาในการดารงชีวติ (เฉลยตามคาตอบของนักเรียน และอย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผ้สู อน)แนวทางในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย 149
โรงเรยี นหนั คาราษฎรร์ งั สฤษด์ิแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ประวตั ิศาสตร์ไทย เวลา 4 ชว่ั โมงหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทยเรือ่ ง การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย (2)๑.สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด พระมหากษัตรยิ แ์ ละพระบรมวงศานุวงศเ์ ปน็ บุคคลสาคัญทส่ี ่งเสริมการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม แ ล ะภมู ปิ ัญญาไทย ซ่งึ มผี ลตอ่ สังคมไทยในปัจจุบนั๒.ตัวช้ีวดั /จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1ตวั ชวี้ ดั ส 4.3 ม.4-6/3 วเิ คราะห์ปัจจยั ทสี่ ง่ เสริมการสรา้ งสรรคภ์ ูมปิ ัญญาไทย และวฒั นธรรมไทย ซึ่งสง่ ผลตอ่ สงั คมไทยในยคุ ปัจจุบนั ม.4-6/5 วางแผนกาหนดแนวทางและการมสี ว่ นร่วมการอนุรกั ษภ์ ูมปิ ญั ญาไทย และวัฒนธรรมไทย 2.2จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ยกตัวอยา่ งบุคคลที่สง่ เสริมการสร้างสรรค์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทยได้ 2. วิเคราะห์ผลงานของบุคคลสาคญั ทส่ี ง่ เสริมการสร้างสรรค์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทยได้๓.สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง(K) บุคคลทสี่ ่งเสรมิ การสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ซึ่งมผี ลตอ่ สังคมไทย ในปจั จุบนั150
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156