แผนการสอนประวัติศาสตร์-merged-compressed

๓.๒.๒ อธิบายและเข้าใจ คุณค่าและประโยชน์ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ท่ีมีต่อการศึกษาทาง ประวัติศาสตร์๓.๓ คุณลักษณะอนั พึงประสงค(์ A)เพ่ือให้นกั เรยี น ๓.๓.๑ มีความสนใจและกระตือรอื ร้นในกิจกรรมการเรยี นรู้ ๓.๓.๒ มีวามรบั ผิดชอบและมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมในชั้นเรียน๓.๔ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน(C)เพื่อให้นักเรยี น ๓.๔.๑ มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ แยกแยะและคดิ อย่างสรา้ งสรรค์ ๓.๔.๒ มีความสามารถในการสือ่ สาร๔.กิจกรรมการเรียนรู้ (วิธสี อนโดยใชก้ ระบวนทางประวัติศาสตร์) ชัว่ โมงท่ี 1-2 1. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ 2. ครนู านักเรยี นเขา้ ศกึ ษาการสืบค้นข้อมูลโดยใช้สอ่ื มลั ตมิ ีเดียผา่ นคอมพิวเตอร์ (ครูตดิ ต่อเจา้ หน้าที่ ลว่ งหนา้ ) 3. เจ้าหนา้ ท่ีคอมพวิ เตอร์แนะนาการใช้อินเทอรเ์ น็ต ในการสบื คน้ ข้อมลู ทง้ั ทเ่ี ปน็ ตวั อกั ษร และภาพ ตลอดจนการบันทึกอ้างอิงข้อมูลที่ถูกต้อง 4. ครแู นะนาการสืบค้นข้อมลู ทางอนิ เทอรเ์ นต็ และให้นักเรียนบันทึกขอ้ มูลทสี่ บื ค้นได้ลงในใบงาน ท่ี 2.1 เรือ่ ง การใช้ ICT เพอื่ เพ่ิมประสิทธิภาพการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ จานวน 10 แหลง่ ขอ้ มูล ชั่วโมงที่ 3 1. นกั เรยี นสรปุ ความรู้ที่ได้เป็นผังมโนทัศน์แสดงองคค์ วามรกู้ ับวิธีการทางประวัตศิ าสตร์ ลงใน กระดาษ A4 แล้วนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน 2. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้ และครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั 3. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันจัดทาโครงงานสืบค้นประวัตศิ าสตรท์ ้องถ่นิ โดยนาองค์ความรกู้ บั วิธกี าร ทางประวัติศาสตรม์ าประยกุ ต์ใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ 4. ครอู ธบิ ายเก่ยี วกับภาระงานให้นักเรียนเข้าใจ และเสนอแนะวิธกี ารทางานร่วมกนั ใหป้ ระสบ ผลสาเร็จ 50

 นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2๕.การวดั และประเมินผล การวดั ผล การประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรียนรู้ ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ด้านความรู้ แบบประเมินโครงงานการ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์นกั เรียนทาใบงานท่ี 2.1 สืบคน้ ประวตั ิศาสตร์ทอ้ งถ่ินด้านทกั ษะและกระบวนการ โดยใชว้ ธิ ีการทาง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นกั เรียนร่วมกนั ทาโครงงานการ ประวตั ิศาสตร์ นกั เรียนร่วมกนั ตอบคาถามในสืบคน้ ประวตั ิศาสตร์ทอ้ งถิ่นโดยใช้ แบบทดสอบหลงั เรียน ชนั้ เรียน ถือวา่ ผา่ นวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์มคี วามสนใจและกระตอื รือรน้ ในกิจกรรมการเรียนรู้มวี ามรับผิดชอบและมสี ่วนร่วมในกิจกรรมในช้ันเรยี น๖. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ ๖.1 สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น ประวัตศิ าสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. กระดาษ A4 3. ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง การใช้ ICT เพอื่ เพิ่มประสทิ ธิภาพการเรยี นรูป้ ระวตั ิศาสตร์ ๖.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. ห้องสมดุ 2. ห้องเทคโนโลยีสารสนเทศ 51

แบบประเมินโครงงานการสืบค้นประวตั ศิ าสตร์ทอ้ งถิน่ โดยใชว้ ธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ลาดับท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 321 การกาหนดประเดน็ ปัญหาหรอื ข้อสมมุติฐาน2 การรวบรวมหลักฐาน3 การวิเคราะห์และประเมินคา่ ขอ้ มูล4 การตีความและสังเคราะห์5 การนาเสนอขอ้ มลู รวม ลงชือ่ ผู้ประเมนิ ( ) //เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก 17-20 3 หมายถงึ ดี 13-16 2 หมายถึง พอใช้ 9-12 1 หมายถงึ ปรับปรงุ 5-8 52

ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง การใช้ ICT เพื่อเพิ่มประสทิ ธภิ าพการเรียนรูป้ ระวัตศิ าสตร์คาช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นสืบค้นขอ้ มลู ทางประวัติศาสตรจ์ ากอนิ เทอร์เน็ต จานวน 10 แหลง่ 1. ใหน้ ักเรียนกาหนดประเด็นทีส่ นใจก่อนเพื่อตกี รอบของงาน 2. สบื คน้ หาหลักฐานทาง Internet อา้ งอิงให้ถกู ต้องตามหลกั การอา้ งองิ ใบงานท่ี 2.1 53

เรือ่ ง การใช้ ICT เพื่อเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการเรยี นรปู้ ระวัติศาสตร์คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นสบื ค้นขอ้ มลู ทางประวัติศาสตรจ์ ากอินเทอร์เน็ต จานวน 10 แหลง่ 1. ใหน้ ักเรียนกาหนดประเดน็ ทส่ี นใจกอ่ นเพ่ือตีกรอบของงาน 2. สบื คน้ หาหลกั ฐานทาง Internet อ้างอิงให้ถกู ต้องตามหลักการอ้างอิง (เฉลยตามคาตอบของนักเรียน และอยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน) 54

โรงเรยี นหนั คาราษฎรร์ ังสฤษดิ์3 ประวัติศาสตรไ์ ทยกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรมช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรยี น 12 ช่ัวโมง๑.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด ส 4.3 ม.4-6/1 วิเคราะหป์ ระเด็นสาคญั ของประวัติศาสตรไ์ ทย ม.4-6/2 วิเคราะหค์ วามสาคัญของสถาบนั พระมหากษัตริย์ต่อชาติไทย๒.สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาประเดน็ ทางประวตั ิศาสตรไ์ ทยนอกจากฝึกกระบวนการวิเคราะหแ์ ลว้ ยงั ทาให้เกิด องค์ความรใู้ หม่ทางประวตั ศิ าสตร์ และตระหนักถงึ ความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ต่อ ชาตไิ ทย๓.สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง(K) ประเดน็ สาคัญของประวัตศิ าสตร์ไทย เช่น - แนวคดิ เกี่ยวกับความเป็นมาของชนชาตไิ ทย - อาณาจักรโบราณในดนิ แดนไทยและอทิ ธพิ ลที่มตี อ่ สงั คมไทย - ปจั จยั ทมี่ ีผลต่อการสถาปนา - อาณาจักรไทยในช่วงเวลาต่างๆ - สาเหตุและผลของการปฏิรปู การปกครองบ้านเมือง - การเลกิ ทาส การเลิกไพร่ - การเสดจ็ ประพาสยโุ รปและหัวเมืองสมยั รัชกาลท่ี 5 - การเปล่ยี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย 57

๓.๒ทักษะกระบวนการ(P)เพอื่ ใหน้ ักเรียน ๓.๒.๑ อธบิ าย แนวคิดเกี่ยวกบั ความเป็นมาของชนชาติไทย - อาณาจักรโบราณในดินแดนไทยและอิทธพิ ลที่มีต่อสงั คมไทย - ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการสถาปนา - อาณาจักรไทยในช่วงเวลาตา่ งๆ - สาเหตุและผลของการปฏิรูปการปกครองบา้ นเมือง - การเลิกทาส การเลิกไพร่ - การเสดจ็ ประพาสยโุ รปและหัวเมืองสมัยรชั กาลที่ 5 - การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค(์ A)เพื่อใหน้ กั เรยี น ๓.๓.๑ มคี วามสนใจและกระตือรือรน้ ในกิจกรรมการเรียนรู้ ๓.๓.๒ มวี ามรับผิดชอบและมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมในช้ันเรยี น ๓.๔ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน(C)เพ่ือให้นักเรียน ๓.๔.๑ มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ แยกแยะและคิดอย่างสร้างสรรค์ ๓.๔.๒ มคี วามสามารถในการส่ือสาร๔. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผ่นพับประชาสมั พันธ์ประวัติศาสตร์ชาติไทย๕. การวดั และการประเมินผล ๕.1การประเมนิ ก่อนเรยี น - นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ๕.2การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นรว่ มกนั ศึกษาและสบื คน้ ข้อมลู 2. ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ยอ้ นรอยอดตี 3. ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง อิทธพิ ลของอาณาจักรโบราณทม่ี ตี ่อสังคมไทย 4. ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง วิเคราะห์พระราชกรณยี กจิ ของรชั กาลท่ี 5 5. ใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง ตาราง KWL Plus Chart 6. ใบงานท่ี 3.2 เร่อื ง การเปล่ียนแปลงการปกครอง 58

7. ประเมนิ จากการนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น 8. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ๕.3การประเมินหลังเรยี น - นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3๕.4 การประเมนิ ช้ินงาน / ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินแผน่ พับประชาสมั พนั ธ์ประวตั ิศาสตรช์ าติไทย การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมินแผ่นพับประชาสัมพนั ธป์ ระวัติศาสตรช์ าติไทย รายการประเมิน คาอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน1. ประเด็นสาคญัของ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) วเิ คราะห์ประเดน็ วิเคราะห์ประเด็น ประวตั ิศาสตร์ สาคัญของ วเิ คราะห์ประเด็น วิเคราะห์ประเดน็ สาคัญของชาติ ประวัติศาสตร์ สาคัญของ สาคญั ของ ประวตั ิศาสตร์ ชาติไทยตามที่ ประวตั ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ ชาตไิ ทยตามที่ ไทย กาหนดถูกตอ้ ง ชาติไทยตามที่ ชาติไทยตามท่ี กาหนดไม่ถกู ตอ้ ง ครบถว้ น กาหนดถูกตอ้ งเกือบ กาหนดถูกต้อง เปน็ สว่ นมาก ทกุ ประเดน็ ครบถ้วน บางประเดน็ ทุกประเด็น2. ความสมบรู ณ์ การสรปุ เนื้อหามี การสรุปเนื้อหามี การสรปุ เน้อื หามี การสรปุ เน้อื หา ของเนื้อหา ความถูกตอ้ งสมบูรณ์ ความถกู ต้องสมบูรณ์ ความถกู ต้องเป็น มีความบกพร่อง ครบถ้วนทุกประเด็น เกือบครบทุก บางสว่ น เป็นสว่ นใหญ่3. การ เขยี นวิเคราะห์ ประเด็น เขียนวิเคราะห์วเิ คราะห์ ความสาคัญของ ความสาคญั ของ สถาบัน เขียนวิเคราะห์ เขยี นวิเคราะห์ สถาบนั ความสาคญั ของ พระมหากษัตรยิ ไ์ ทย ความสาคัญของ ความสาคญั ของ พระมหากษัตรยิ ์ สถาบัน ต่อชาตไิ ทยได้ถูกต้อง สถาบัน สถาบนั ไทย พระมหากษตั รยิ ์ สมบูรณ์ พระมหากษัตรยิ ์ไทย พระมหากษัตรยิ ์ ต่อชาติไทยไม่ ไทย ต่อชาติไทยได้ ไทย ถกู ต้อง4. การนาเสนอ การนาเสนอข้อมลู มี ถกู ต้อง เปน็ ส่วน ต่อชาติไทยได้ การนาเสนอขอ้ มูล ข้อมูล ขอ้ คิดที่เป็น ใหญ่ ถูกต้องเปน็ มขี อ้ คดิ ท่ีไม่เปน็ ประโยชนแ์ สดงถึง บางสว่ น ประโยชน์ การคดิ สร้างสรรค์ และสามารถนาไป การนาเสนอขอ้ มลู มี การนาเสนอข้อมูล ประยุกตใ์ ช้ได้ ขอ้ คิดทเ่ี ปน็ มีข้อคิดที่เป็น ประโยชน์แสดงถงึ ประโยชน์ แตเ่ ป็น การคดิ สรา้ งสรรค์ การนามาจาก สามารถนาไป ข้อมลู เดิมทมี่ ีอยู่ ประยกุ ต์ใช้ไดเ้ ป็น แลว้ 59

สว่ นใหญ่5. รปู แบบ รปู แบบมคี วาม รปู แบบมคี วาม รปู แบบมคี วาม รูปแบบไม่สวยงาม6. การเลือกใช้ สวยงาม ดงึ ดูดความ สวยงาม ดึงดูด สวยงาม แต่ไม่มี ไม่มีความคิดภาษา สนใจไดด้ ี ความสนใจ ความแปลกใหม่ สรา้ งสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ มคี วามคิด และเปน็ รปู แบบ แปลกใหม่ สร้างสรรค์ ทีพ่ บไดท้ ่วั ไป แปลกใหมเ่ ป็น เรยี บเรยี งเน้อื หา ส่วนใหญ่ วกวนอ่านเขา้ ใจ ยาก เรยี บเรียงเนื้อหาไดด้ ี เรยี บเรยี งเนือ้ หาไดด้ ี เรยี บเรยี งเนื้อหา มาก มคี วาม เปน็ สว่ นใหญ่ ไดด้ เี ป็นบางตอน สละสลวย เลอื กใช้ เลอื กใชภ้ าษาได้ แตม่ คี วาม ภาษาไดเ้ หมาะสม เหมาะสม เข้าใจ บกพร่องในการ เขา้ ใจงา่ ย ง่าย เลอื กใชค้ าในการ สื่อสาร เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 19-24 ดมี าก 13-18 ดี 7-12 พอใช้ 1-6 ปรับปรุง 60

๖.กิจกรรมการเรยี นรู้  นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 3กิจกรรมท่ี ๑ ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยก่อนการปฏิรูปการปกครองในสมัยรัชกาลที่ 5 วธิ ีสอนโดยใชก้ ระบวนการทางประวตั ิศาสตร์ เวลา 3 ช่วั โมง1. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาเรื่อง ความเป็นมาของชนชาติไทย จากหนังสอื เรียน จากนั้นให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม และร่วมกันแสดงความคิดเห็น แล้วนามารายงานหนา้ ชัน้ โดยใช้หัวขอ้ ทก่ี าหนดให้2. ใหน้ ักเรียนเขียนสรุปแนวคิดเรอ่ื ง ถนิ่ กาเนิดของชนชาติไทย ลงในใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ย้อนรอย อดีต3. ตวั แทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอประเด็นสาคญั ตามแนวความคิดเกย่ี วกบั ถ่ินกาเนิด ของชนชาตไิ ทยที่กลมุ่ ตนไดศ้ กึ ษาในแต่ละบรเิ วณตามกระบวนการทางประวัตศิ าสตร์4. ครูทบทวนเกี่ยวกับอาณาจักรโบราณในประเทศไทยโดยแจกแผนท่ีอาณาจักรโบราณในประเทศไทย และรูปภาพเก่ียวกับอาณาจักรโบราณในประเทศไทย แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปราย และสรุป สาระความรู้ลงในใบงานท่ี 1.2 เร่ือง อิทธิพลของอาณาจักรโบราณท่ีมีต่อสังคมไทย และเตรียมเล่น เกมแขง่ ขนั ตอบคาถาม5. ครสู ุม่ เลอื กตวั แทนกลุ่มมาจบั คาถาม อา่ นคาถาม และตอบคาถามแต่ละขอ้ โดยให้แต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนมาตอบคาถาม กลุ่มละ 1 คน สลับกันออกมาเลือกคาถามและตอบคาถามจนครบ6. ครเู ฉลยคาตอบพร้อมอธิบายเพมิ่ เติม แลว้ ประกาศกลุม่ ทีไ่ ดค้ ะแนนสงู สดุ และรองลงมา7. นักเรียนแบ่งกลมุ่ แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มอา่ นหนงั สือประกอบการเรยี น และชว่ ยกันวิเคราะหป์ จั จยั ทมี่ ผี ลต่อการสถาปนาอาณาจักรไทยในสมัยต่อๆมา การปฏริ ูปการปกครองในสมัยรชั กาลท่ี 5กิจกรรมท่ี 2 วธิ ีสอนโดยใชก้ ระบวนการทางประวตั ศิ าสตร์ เวลา 3 ชว่ั โมง1. นกั เรียนแบง่ กลุ่มศกึ ษาเกย่ี วกับการปฏริ ปู บ้านเมอื งในรัชกาลที่ 5 จากหนงั สือเรยี น และสื่อตา่ งๆ โดยครูต้ังประเด็นใหศ้ ึกษา ดงั น้ี - อะไรเปน็ สาเหตุทาให้รัชกาลที่ 5 ต้องปฏริ ูปการปกครองบา้ นเมือง - การเลกิ ทาสและการเลกิ ไพร่ เกดิ ผลดีตอ่ สงั คมไทยอยา่ งไร - กำรเสดจ็ ประพำสยโุ รปและหวั เมืองสมยั รัชกำลท่ี 5 ส่งผลตอ่ กำรปกครองของพระองค์ อยำ่ งไร2. นักเรยี นสรปุ ความรูเ้ ก่ียวกบั การปฏริ ูปการปกครองของรชั กาลที่ 5 61

3. นักเรียนทาใบงานที่ 2.1 เรื่อง วิเคราะหพ์ ระราชกรณียกิจในสมัยรัชกาลท่ี 5 ที่นักเรยี นสนใจ4. ครสู มุ่ เรียกนักเรยี นเล่าพระราชกรณยี กจิ ของรัชกาลที่ 5 ท่นี กั เรยี นสนใจ การเปล่ยี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475กจิ กรรมที่ 3 วธิ ีสอนโดยใชก้ ระบวนการทางประวตั ศิ าสตร์ เวลา 3 ชวั่ โมง1. ใหน้ กั เรียนบันทึกความร้ลู งในใบงานที่ 3.1 เร่ือง ตาราง KWL Plus Chart2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้จากหนังสือเรียน แล้วบันทึกความรู้ลงในใบงานท่ี 3.2 เร่ือง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - สาเหตขุ องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง - อดุ มการณข์ องคณะราษฎรกับการเปลีย่ นแปลงการปกครอง - การดาเนนิ การเปลย่ี นแปลงการปกครอง - รัฐธรรมนญู กบั การเปลี่ยนแปลงการปกครอง3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วิเคราะห์เร่ือง พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอย่หู ัวกบั การ เปลี่ยนแปลงการปกครองดว้ ยวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์4. ตวั แทนของแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลการวิเคราะห์ด้วยวธิ ีการทางประวัติศาสตร์5. ให้นักเรยี นทาใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงการปกครอง สงั คมไทยหลังการเปลยี่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475กจิ กรรมที่ 4 วธิ สี อนโดยใชก้ ระบวนการทางประวัติศาสตร์ เวลา 3 ชั่วโมง1. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั ตอ่ ภาพบคุ คลสาคญั ในเวลาท่สี ้นั ที่สุด แลว้ อภิปรายร่วมกนั เก่ียวกับ บคุ คลในภาพ คนละ 1-2 คาตอบ2. ครูสมุ่ เรียกตวั แทนกลุ่มออกมาเล่าเรื่องเก่ียวกับบคุ คลในภาพนัน้ วา่ เปน็ ใคร มบี ทบาทสาคญั อยา่ งไร ครูชว่ ยเสริมใหเ้ ร่ืองสมบรู ณ์3. นกั เรยี นนาเสนอบทบาทของพระมหากษัตริยท์ ่ีนกั เรียนสนใจวำ่ ทรงมีบทบำทในกำรพฒั นำชำติ ไทยอยำ่ งไรบำ้ ง4. นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายร่วมกันเพ่ือหาข้อสรุปลักษณะของวัฒนธรรมตะวันออกและวัฒนธรรม ตะวันตกที่มีต่อสังคมไทย ในด้านการเมอื งการปกครอง เศรษฐกิจ ศลิ ปวัฒนธรรม สงั คม เปน็ ตน้5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทาแผ่นพับประชาสัมพนั ธ์ประวัติศาสตรช์ าติไทย ตามที่นกั เรียนไดร้ บั ความรแู้ ละนามาประยุกตใ์ ช้ในการทาช้นิ งานใหเ้ กดิ ประโยชน์ แล้วนัดหมายการส่งผลงาน ร่วมกนั 62

 นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3๗. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ ๗.1สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. แผนท่ีเสน้ ทางการอพยพของคนไทยก่อนเป็นประเทศไทย 3. ภาพเก่ยี วกบั หลกั ฐานประวัติศาสตร์ 4. ภาพจก๊ิ ซอวบ์ คุ คล 5. ใบงาน ๗.2แหลง่ การเรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. หอ้ งเทคโนโลยีสารสนเทศ 63

แบบทดสอบกอ่ นและหลังเรียน ประจาหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องทส่ี ดุ เพียงคาตอบเดยี ว 1. ทฤษฎที วี่ ่าคนไทยมาจากตอนใตแ้ ละตะวนั ออกเฉยี งใต้ของจนี ใชห้ ลักฐานอะไรสนบั สนุน ก. โครงกระดูกมนุษยส์ มยั โบราณ ข. เอกสารทางประวัติศาสตร์ ค. ฮีโมโกบนิ อี ในเลอื ด ง. หนงั สือหลักไทย 2. เหตุใดทฤษฎที วี่ ่าชนชาตไิ ทยอย่ใู นประเทศไทยมาตัง้ แต่อดีตจงึ ยงั ไมเ่ ปน็ ที่ยอมรับทง้ั ที่มีการพบ โครงกระดูกและเคร่ืองใช้ของมนษุ ยโ์ บราณในไทย ก. บรเิ วณทีพ่ บอยู่ห่างไกลจากแหลง่ ที่ตง้ั ชุมชนในปัจจุบัน ข. เคร่ืองใช้ที่พบไม่เหมือนกับเครื่องใช้ของคนไทยในปัจจุบัน ค. โครงกระดูกท่ีพบไม่มลี กั ษณะทีเ่ หมอื นกับคนไทยในปจั จบุ นั ง. ไมม่ ีหลักฐานชัดเจนวา่ โครงกระดูกและเครื่องใช้ท่ีพบเป็นของชนชาตไิ ทย 3. อาณาจักรโบราณในดนิ แดนประเทศไทยมีอิทธิพลตอ่ สงั คมไทยในเรอื่ งใดมากท่สี ุด ก. ศาสนา ข. ศิลปกรรม ค. เศรษฐกจิ ง. การปกครอง 4. ปัจจัยทางการเมอื งในการสถาปนากรุงธนบรุ ีและกรุงรัตนโกสินทรเ์ หมอื นกันอย่างไร ก. สร้างเมืองหลวงท่ีมีแมน่ ้าผา่ กลาง ข. การทาสงครามกอบกู้อิสรภาพจากพม่า ค. มีไพร่พลจานวนมากทาใหส้ รา้ งเมอื งไดร้ วดเร็ว ง. เกิดปัญหาทางการเมอื งภายในและความวุ่นวายข้ึนในอาณาจักรก่อน 5. ข้อใดคือจดุ ประสงค์สาคญั ในการปฏริ ูปประเทศ ก. เพื่อให้ไดร้ ับการยอมรับจากชาติตะวนั ตก ข. เพือ่ สรา้ งความมัน่ คงและพัฒนาทางเศรษฐกจิ ค. เพอ่ื สรา้ งความม่นั คงและจัดระเบยี บการบรหิ าร ง. เพือ่ พัฒนาทางเศรษฐกิจและความสะดวกสบาย 64

6. การปฏิรูปการปกครอง มีจุดประสงค์สาคัญในเรื่องใด ก. ลดค่าใชจ้ า่ ยของรฐั ข. การรวมอานาจไว้ท่ีศนู ย์กลาง ค. กระจายอานาจการปกครอง ง. ปอ้ งกนั การรกุ รานของตา่ งชาติ7. ขอ้ ใดคอื วธิ ีการเลิกทาสของไทย ก. ใหท้ าสมารบั ราชการทหารแทน ข. ใหท้ าสทางานใช้หน้ไี ปจนหมดคา่ ตวั ค. ประกาศเลิกทาสพรอ้ มกนั ทว่ั ราชอาณาจักร ง. ใหล้ ูกทาสมคี ่าตัวลดลงไปเร่ือยๆ ตามพระราชบัญญตั ิพิกดั อายุลูกทาสลูกไท พ.ศ. 24178. สาเหตสุ าคัญทนี่ าไปส่กู ารยกเลกิ ระบบไพร่ คือข้อใด ก. ขัดขวางการปฏิรปู ประเทศ ข. เกดิ ความไม่เป็นธรรมในสังคม ค. ไพร่ไมม่ ีงานทาเพราะสงั กัดมูลนาย ง. ไพร่หลบหนีไปเปน็ คนในบังคับตา่ งชาติ9. ขอ้ ใดคือพระราชกรณยี กิจสาคญั ในการเสดจ็ ประพาสยโุ รปครง้ั แรกของรัชกาลท่ี 5 ก. การแสวงหาพนั ธมติ รจากชาติในยโุ รป ข. การศึกษาความเจริญของชาติในยโุ รป ค. การเจรจาแก้ไขความขดั แยง้ กับชาติในยุโรป ง. การแสดงฐานะของไทยใหช้ าติในยุโรปได้ร้จู ัก10.ขอ้ ใดคอื ประโยชน์สาคัญทีส่ ุดทไี่ ดร้ ับจากการเสด็จประพาสตน้ ก. ประหยดั รายจ่าย ข. ทราบความเปน็ อยูข่ องราษฎร ค. ได้พดู คุยอย่างใกล้ชดิ กับราษฎร ง. ทราบการทางานของข้าราชการท้องถิ่น11.ปจั จยั ใดทช่ี ว่ ยสนบั สนนุ การก่อการของคณะราษฎร ก. ปัญหาเศรษฐกิจตกต่า ข. การคกุ คามของตา่ งชาติ ค. พระมหากษัตรยิ อ์ ่อนแอ ง. ไดร้ บั ความช่วยเหลอื จากต่างชาติ 65

12.ข้อใดคอื ผลจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองทส่ี ่งผลมาจนถึงปจั จบุ ัน ก. ทหารมบี ทบาทสาคัญต่อการปกครองของไทย ข. พระมหากษัตรยิ ไ์ ม่มีพระราชอานาจในการปกครอง ค. ประชาชนทุกคนมีสว่ นรว่ มในการบรหิ ารประเทศ ง. ผู้ทีจ่ บการศึกษาจากตา่ งประเทศมีบทบาทสาคัญตอ่ การปกครอง13.ภายหลังการเปลีย่ นแปลงการปกครอง พระมหากษตั รยิ ์มีความสาคญั ต่อประเทศอย่างไร ก. เปน็ ผ้ใู ห้คาปรกึ ษาและแนะนาการทางานใหแ้ ก่รัฐบาล ข. เปน็ ผ้แู ต่งต้งั และถอดถอนผู้ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง ค. เป็นตัวแทนของชาตใิ นการเจรญิ สัมพันธไมตรีกับต่างชาติ ง. เป็นศนู ยร์ วมจิตใจของคนในชาติและเปน็ สถาบันอนั ศักดิ์สทิ ธค์ิ วรแก่การเคารพ14.ขอ้ ใดคือบทบาทสาคญั ของท้าวเทพกษตั รี ทา้ วศรีสนุ ทร และทา้ วสุรนารี ก. ทาสงครามปกป้องบา้ นเมือง ข. แต่งตาราการเรือนสาหรับสตรีไทย ค. นาคนไทยหลบหนีขา้ ศึกกลับไทย ง. แต่งตาราสอนขนบธรรมเนยี มของสตรีไทย15.การแตง่ ตั้งพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 5 และรชั กาลที่ 9 เปน็ ผู้สาเร็จราชการ สะทอ้ นถึงเรอ่ื งใด ก. ผชู้ ายควรไว้วางใจภรรยาของตน ข. พระมหากษัตริย์ไม่ไว้วางใจบุคคลอ่นื ค. ผู้หญิงควรชว่ ยเหลอื งานของสามใี ห้มาก ง. สตรมี ีความสามารถในการปกครองบ้านเมือง 66

เฉลย 1. ข 2. ง 3. ก 4. ง 5. ค 6. ข 7. ง 8. ก 9. ค 10. ข 11.ก 12.ค 13.ง 14.ก 15. ง 67

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ประวตั ิศาสตร์ไทย เวลา 3 ชว่ั โมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 วเิ คราะห์ประเดน็ สาคญั ทางประวตั ิศาสตรไ์ ทยเรื่อง ประวตั ศิ าสตร์ไทยก่อนการปฏิรูปการปกครองในสมยั รชั กาลที่ 5๑. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การปรับปรุงประเทศโดยเฉพาะในดา้ นการเมืองการปกครองในสมัยรชั กาลที่ 5 ทาให้สยาม มี ฐานะเป็นรัฐชาติ และรอดพน้ จากการคุกคามของจกั รวรรดินยิ มตะวันตก๒. ตวั ชวี้ ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1ตวั ชี้วัด ส 4.3 ม.4-6/1 วิเคราะหป์ ระเด็นสาคัญของประวตั ิศาสตร์ไทย 2.2จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สรปุ แนวคดิ เกยี่ วกับความเปน็ มาของชนชาตไิ ทยได้ 2. อธบิ ายอทิ ธพิ ลของอาณาจกั รโบราณในดินแดนประเทศไทยที่มีต่อสังคมไทยได้ 3. บอกปจั จัยทีม่ ีผลต่อการสถาปนาอาณาจกั รไทยในช่วงเวลาต่างๆได้ สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง(K) ประเด็นสาคัญของประวตั ศิ าสตร์ไทย เช่น - แนวคดิ เกย่ี วกบั ความเป็นมาของชนชาติไทย - อาณาจักรโบราณในดินแดนไทยและอทิ ธิพลท่ีมตี ่อสังคมไทย - ปจั จัยที่มผี ลตอ่ การสถาปนา - อาณาจักรไทยในช่วงเวลาตา่ งๆ - สาเหตุและผลของการปฏิรปู การปกครองบา้ นเมือง - การเลกิ ทาส การเลิกไพร่ - การเสดจ็ ประพาสยุโรปและหัวเมืองสมัยรชั กาลที่ 5 - การเปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย๓.๒ทักษะกระบวนการ(P)เพื่อให้นกั เรียน - ๓.๒.๑อธิบายเวลาแนวคิดเกยี่ วกบั ความเป็นมาของชนชาตไิ ทย - อาณาจักรโบราณในดนิ แดนไทยและอิทธพิ ลที่มีต่อสงั คมไทย68

- ปจั จยั ท่มี ีผลต่อการสถาปนา - อาณาจักรไทยในช่วงเวลาต่างๆ - สาเหตแุ ละผลของการปฏิรูปการปกครองบา้ นเมือง - การเลิกทาส การเลิกไพร่ - การเสด็จประพาสยโุ รปและหัวเมืองสมยั รัชกาลที่ 5 - การเปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย๓.๓ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์(A)เพ่ือให้นักเรยี น ๓.๓.๑ มคี วามสนใจและกระตือรอื ร้นในกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๓.๓.๒ มวี ามรบั ผิดชอบและมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมในช้ันเรียน๓.๔ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน(C)เพ่ือใหน้ ักเรียน ๓.๔.๑ มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ แยกแยะและคดิ อย่างสร้างสรรค์ ๓.๔.๒ มคี วามสามารถในการสอื่ สาร๔.กิจกรรมการเรียนรู้ (วธิ สี อนโดยใชก้ ระบวนการทางประวตั ศิ าสตร)์  นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 ช่ัวโมงท่ี 1 1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ให้นักเรียนทราบ 2. ใหน้ กั เรยี นดแู ผนที่เสน้ ทางการอพยพของคนไทยก่อนเปน็ ประเทศไทยโดยครตู ้งั คาถาม ดังนี้ - นกั เรยี นรหู้ รือไม่ว่าชนชาตไิ ทยมถี ่ินกาเนิดมาจากท่ใี ด - นกั เรยี นจะได้ประโยชนอ์ ะไรจากการศึกษาเกีย่ วกับถ่ินเดมิ ของชนชาตไิ ทย 3. ให้นักเรียนศึกษาเรื่อง ความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย จากหนังสือเรียน จากนัน้ ให้นักเรียนแบง่ กล่มุ ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ แลว้ นามารายงานหน้าชั้น โดยใช้หัวขอ้ ท่ีกาหนดให้ ดงั น้ี - แนวคดิ ที่ 1 ถนิ่ เดมิ ของชนชาติไทยอยู่บริเวณเทือกเขาอลั ไต - แนวคิดท่ี 2 ถิ่นเดมิ ของชนชาตไิ ทยอยู่บรเิ วณตอนใตข้ องจีน - แนวคดิ ที่ 3 ถ่ินเดมิ ของชนชาตไิ ทยอยู่บริเวณประเทศไทยในปัจจบุ นั - แนวคิดที่ 4 ถิ่นกาเนดิ ของชนชาตไิ ทยอยู่บริเวณภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของไทย คาบสมทุ รมลายู หมู่เกาะในอินโดนีเซยี - แนวคดิ ท่ี 5 ถน่ิ กาเนดิ ของชนชาตไิ ทยอยู่ในมณฑลเสฉวน 4. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ยอ้ นรอยอดตี 5. ตวั แทนของแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอประเดน็ สาคญั ตามแนวความคดิ เก่ียวกับถ่ินกาเนดิ ของชนชำติไทยท่ีกลุ่มตนไดศ้ ึกษำในแตล่ ะบริเวณตำมกระบวนกำรทำงประวตั ิศำสตร์ 69

6. ครสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรียนระหวา่ งนาเสนอผลงาน ช่วั โมงท่ี 21. ครทู บทวนเกย่ี วกับอาณาจักรโบราณในประเทศไทยโดยแจกแผนที่อาณาจกั รโบราณในประเทศ ไทย และรปู ภาพเกี่ยวกับอาณาจกั รโบราณในประเทศไทย แล้วใหแ้ ต่ละกล่มุ อภิปรายและสรปุ สาระความรูล้ งในใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง อทิ ธพิ ลของอาณาจกั รโบราณทม่ี ีต่อสงั คมไทย และเตรียม เลน่ เกมแข่งขันตอบคาถาม2. ครสู มุ่ เลือกตัวแทนกลุ่มมาจับคาถาม อ่านคาถาม และตอบคาถามในแต่ละข้อ โดยให้แต่ละกลุ่มส่ง ตวั แทนออกมาตอบคาถาม กล่มุ ละ 1 คน สลบั กันออกมาเลือกคาถามและตอบคาถามจนครบ 10 คาถาม 3. ครูเฉลยคาตอบพร้อมอธบิ ายเพ่ิมเตมิ แลว้ ประกาศกลุ่มท่ไี ด้คะแนนสูงสดุ และรองลงมา ชวั่ โมงที่ 31. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ อา่ นหนังสอื ประกอบการเรยี น และชว่ ยกนั วเิ คราะห์ปัจจยั ทมี่ ีผลตอ่ การสถาปนาอาณาจกั รไทยในสมยั ต่อๆมา โดยครตู งั้ ประเด็นคาถาม ดังนี้ - หากนกั เรียนจะสร้างบา้ นควรเลอื กสรา้ งในลักษณะภมู ิประเทศแบบใด - การตงั้ ถิน่ ฐานของแตล่ ะอาณาจกั รของไทยมีลักษณะเหมือนกันในเรื่องใดบ้าง2. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ าถาม ดงั นี้ - นักเรียนเหน็ ดว้ ยกบั แนวคิดเรอื่ งถน่ิ กาเนิดของชนชาติไทยตามแนวคิดใด เพราะเหตุใด - อาณาจกั รโบราณใดทีน่ ักเรียนประทับใจ เพราะเหตผุ ลใด - นักเรียนคิดว่า ความเจริญด้านใดของอาณาจักรโบราณใดที่มีอิทธิพลต่ออาณาจักรไทย ในสมัยต่อมามากทสี่ ดุ เพราะเหตุใดจึงเป็นเชน่ นั้น การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์ วิธกี าร แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ใบงานท่ี 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นกั เรียนทาใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นกั เรียนทาใบงานที่ 1.2 แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม การทางานกลมุ่ 70

๗. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ ๗.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน ประวัติศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. แผนท่ีเสน้ ทางการอพยพของคนไทยก่อนเป็นประเทศไทย 3. ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง ย้อนรอยอดตี 4. ใบงานท่ี 1.2 เร่ือง อิทธพิ ลของอาณาจกั รโบราณท่มี ตี ่อสังคมไทย ๗.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. ห้องสมดุ 2. ห้องเทคโนโลยีสารสนเทศ แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุลำดบั ท่ี ชื่อ – สกลุ ควำมร่วมมอื กำรแสดงควำม กำรรับฟังควำม กำรต้ังใจทำงำน กำรร่วมปรับปรุง รวม คดิ เห็น คดิ เหน็ ผลงำนกล่มุ 20 43214321432143214321 คะแนน1.2.3.4.5.6.7.8.9.10.11.12. 71

13.14.15.16.17.18.19.20.เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ = ดมี าก ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ = ปรบั ปรงุ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรุง 72

ใบงำนท่ี 1.1 เร่ือง ย้อนรอยอดตีคาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนบอกแนวคดิ เก่ยี วกบั ถิ่นกาเนดิ ของชนชาตไิ ทยและนกั วชิ าการท่สี นับสนนุ แนวคดิ ใหถ้ กู ต้อง แนวคดิ เกยี่ วกบั ควำมเป็ นมำของ ชนชำตไิ ทย 73

ใบงานที่ 1.1 เร่ือง ย้อนรอยอดตีคาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นบอกแนวคิดเก่ยี วกบั ถิน่ กาเนิดของชนชาตไิ ทยและนักวิชาการทสี่ นับสนนุ แนวคดิ ใหถ้ กู ต้อง แนวคิดเกยี่ วกบั คนไทยอย่ทู างตอนใต้และ ควำมเป็ นมำของ ตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศจีน นกั วิชาการท่ีสนับสนุนแนวคิดนี้ คือ ชนชำตไิ ทย ดร. วิลเลียม คลิฟตนั ดอดด์ ดร. วิลเลียม เจ. เกด็ นีย์ ดร.บรรจบ คนไทยอย่แู ถบเทือกเขาอัลไต พันธุเมธา ศ.ดร.ประเสริฐ ณ นครนกั วิชาการที่สนบั สนุนแนวคิดนี้ คือขนุ วิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์ุ) คนไทยอย่ใู นดินแดนประเทศไทย คนไทยอย่บู ริเวณหม่เู กาะแถบเส้นในปัจจุบัน นักวิชาการท่ีสนับสนุน ศนู ย์สูตรของภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกแนวคิดนี้ คือ ศ.นพ.สุด แสงวิเชียร เฉียงใต้ นกั วิชาการท่ีสนบั สนุนศ. ชิน อย่ดู ี นพ. ประเวศ วสี แนวคิดนี้ คือ นพ. สมศกั ดิ์ พันธ์ุสมสุจิตต์ วงษ์เทศ บญุ ศ.รูธ เบเนดิกต์ 74

ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง อิทธิพลของอาณาจกั รโบราณที่มตี ่อสังคมไทยคาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนเขยี นแผนภาพความคิดและอธบิ ายเก่ยี วกับอิทธิพลของอาณาจักรโบราณที่มตี อ่ สังคมไทย อทิ ธิพลของ อำณำจักรโบรำณ ทม่ี ีต่อสังคมไทย 75

ใบงานท่ี 1.2เร่ือง อิทธิพลของอาณาจักรโบราณท่มี ตี อ่ สังคมไทยคาช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นแผนภาพความคิดและอธบิ ายเก่ยี วกบั อิทธิพลของอาณาจักรโบราณทม่ี ีต่อ สังคมไทยด้านศาสนาและความเช่ือ ด้านรูปแบบการปกครอง- การนบั ถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดทู ่ี ได้รับรูปแบบการปกครองมาจากจากอินเดีย โดยยอมรับนับถือควบคู่ อินเดีย ทาให้มีการปกครองระบอบไปกับพระพทุ ธศาสนา กษัตริย์ และมีพิธีและการปฏิบตั ิ- การนับถือพระพุทธศาสนาและ ต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกบั กษัตริย์กลายเป็ นศาสนาประจาชาติมาต้ังแต่สมยั สุโขทัย อทิ ธิพลของอำณำจักรโบรำณทมี่ ตี ่อสังคมไทยด้านภาษาและกฎหมาย ด้านศิลปกรรมอาณาจักรโบราณในดินแดนไทยใช้ ส่วนใหญ่เป็ นผลงานท่ีสร้างขึน้ อุทิศภาษาต่างๆ เช่น บาลี สันสกฤต แด่พระพทุ ธศาสนา เช่น เจดีย์มอญ เขมร ปัลลวะ และมีกฎหมายที่ พระปรางค์ ธรรมจักร เทวรูปรับมาจากอินเดียและกฎหมายพืน้ เมือง 76

โรงเรยี นหนั คาราษฎรร์ งั สฤษดิ์แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ประวัตศิ าสตรไ์ ทย ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๕หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 วเิ คราะหป์ ระเดน็ สาคัญทางประวตั ิศาสตร์ไทย เวลา 3 ชัว่ โมงเรื่อง การปฏิรูปการปกครองในสมยั รัชกาลท่ี 5๑. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การปรับปรงุ ประเทศโดยเฉพาะในดา้ นการเมืองการปกครองในสมัยรชั กาลที่ 5 ทาใหส้ ยาม มี ฐานะเป็นรัฐชาติ และรอดพ้นจากการคุกคามของจักรวรรดินยิ มตะวันตก๒. ตัวช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1ตัวช้วี ดั ส 4.3 ม.4-6/1วเิ คราะหป์ ระเดน็ สาคญั ของประวตั ศิ าสตรไ์ ทย 2.2จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ระบสุ าเหตุของการปฏริ ปู การปกครองในสมยั รชั กาลที่ 5 ได้ 2. วเิ คราะห์การปฏริ ูปการปกครองในสมยั รัชกาลที่ 5 ได้๓.สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง(K) ประเดน็ สาคัญของประวัตศิ าสตร์ไทย เชน่ - อาณาจักรไทยในชว่ งเวลาต่างๆ - สาเหตแุ ละผลของการปฏริ ูปการปกครองบ้านเมือง - การเลกิ ทาส การเลิกไพร่ - การเสดจ็ ประพาสยโุ รปและหัวเมืองสมยั รัชกาลที่ 5 - การเปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย๓.๒ทักษะกระบวนการ(P)เพอ่ื ใหน้ ักเรียน ๓.๒.๑อธบิ ายเวลาประเดน็ สาคัญของประวตั ศิ าสตร์ไทย เชน่ - อาณาจักรไทยในชว่ งเวลาตา่ งๆ - สาเหตแุ ละผลของการปฏริ ูปการปกครองบา้ นเมือง77

- การเลิกทาส การเลิกไพร่ - การเสด็จประพาสยโุ รปและหัวเมืองสมัยรัชกาลที่ 5 - การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย๓.๓ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค(์ A)เพ่ือให้นักเรียน ๓.๓.๑ มคี วามสนใจและกระตือรอื ร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ ๓.๓.๒ มวี ามรบั ผิดชอบและมีสว่ นร่วมในกิจกรรมในช้ันเรยี น๓.๔ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน(C)เพ่อื ใหน้ ักเรยี น ๓.๔.๑ มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ แยกแยะและคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ๓.๔.๒ มีความสามารถในการส่อื สาร๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (วิธสี อนโดยใชก้ ระบวนการทางประวัติศาสตร์) ชว่ั โมงที่ 1-2 1. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนร้ใู ห้นักเรยี นทราบ 2. ครูทบทวนความรเู้ ดิมโดยสุ่มเรยี กนกั เรยี นให้บอกเกย่ี วกบั พระราชกรณียกจิ ของรัชกาลท่ี 5 คนละ 1 เรอ่ื ง ครูเขยี นคาตอบบนกระดาน 3. ใหน้ ักเรียนนาคาตอบบนกระดานมาชว่ ยกันจัดกลมุ่ พระราชกรณียกจิ ของรชั กาลท่ี 5 ท่ีเกยี่ วขอ้ ง กับการเมืองการปกครอง 4. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ตามความสมัครใจ แล้วร่วมกันศึกษาเก่ียวกับการปฏิรูปบ้านเมืองสมัยรัชกาล ท่ี 5 จากหนงั สอื เรยี นและสือ่ ตา่ งๆ โดยครตู ้งั ประเดน็ ใหศ้ ึกษา ดงั นี้ - อะไรเปน็ สาเหตทุ าใหร้ ชั กาลท่ี 5 ต้องปฏิรูปการปกครองบ้านเมอื ง - การเลกิ ทาสและการเลิกไพรเ่ กิดผลดตี ่อสงั คมไทยอยา่ งไร - การเสดจ็ ประพาสยุโรปและหัวเมอื งของรัชกาลท่ี 5 ส่งผลต่อการปกครองของพระองค์ อยา่ งไร 5. นกั เรียนสรปุ ความรเู้ กีย่ วกับการปฏิรปู การปกครองของรัชกาลท่ี 5 78

ชวั่ โมงที่ 31. นกั เรียนทาใบงานท่ี 2.1 เรื่อง วเิ คราะหพ์ ระราชกรณียกิจของรัชกาลท่ี 5 ทน่ี ักเรยี นสนใจ2. ครูสมุ่ เรียกนกั เรียนออกมาเลา่ พระราชกรณยี กิจของรชั กาลท่ี 5 ทน่ี กั เรียนสนใจ3. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้เก่ียวกับผลการปฏริ ปู บ้านเมืองของพระบาทสมเดจ็ พระ จลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หัว ซึ่งทาใหบ้ า้ นเมอื งเปล่ียนแปลงไปสูค่ วามทันสมยั และเปน็ พ้นื ฐาน ควำมเจริญในปัจจุบนั๕. การวดั และประเมนิ ผล การวัดผล การประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ด้านความรู้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ วเิ คราะห์พระราชกรณียกิจของรัชกาล การทางานกลุ่ม ที่ 5 ที่นกั เรยี นสนใจ ด้านทักษะกระบวนการ นักเรยี นทาใบงานที่ 2.1 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สังเกตการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม๖.. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ ๖.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี น ประวตั ิศาสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง วิเคราะห์พระราชกรณยี กิจของรชั กาลที่ 5 ๖.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. หอ้ งสมุด 2. ห้องเทคโนโลยสี ารสนเทศ 79

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ลาดบั ชอ่ื ความรว่ มมือ การแสดง การรบั ฟงั การต้งั ใจ การร่วม รวม ท่ี – 4321 ความคิดเหน็ ความคดิ เห็น ทางาน ปรบั ปรงุ 20 สกลุ ผลงานกลมุ่ คะแนน 4321 4321 4321 4321๑๒๓๔๕๖๗๘๙๑๐๑๑๑๒๑๓๑๔๑๕๑๖๑๗๑๘๑๙๒๐ 80

เกณฑก์ ารให้คะแนน ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั = ปรบั ปรงุ ให้ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง =เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ17 - 20 ดีมาก13 - 16 ดี9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรงุ 81

ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง วิเคราะห์พระราชกรณียกจิ ของรัชกาลท่ี 5คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์พระราชกรณยี กจิ ของรัชกาลท่ี 5 ทีก่ าหนดให้ถูกตอ้ ง วเิ ครำะห์พระรำชกรณยี กจิ ของรัชกำลท่ี 5 กำรเลกิ ทำส กำรเลกิ ไพร่จุดประสงคก์ ำรเลิกทำส จุดประสงคก์ ำรเลิกไพร่ข้นั ตอนกำรเลิกทำส ข้นั ตอนกำรเลิกไพร่ผลของกำรเลิกทำส ผลของกำรเลิกไพร่ ใบงำนที่ 2.1 เรือ่ ง วเิ คราะห์พระราชกรณียกจิ ของรชั กาลที่ 5คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหพ์ ระราชกรณยี กจิ ของรัชกาลที่ 5 ที่กาหนดให้ถูกต้อง 82

วเิ ครำะห์พระรำชกรณยี กจิ ของรัชกำลที่ 5 กำรเลกิ ทำส กำรเลกิ ไพร่จุดประสงคก์ ำรเลิกทำส จุดประสงคก์ ำรเลิกไพร่เพื่อให้เจริญทัดเทียมกบั ชาติตะวนั ตก เพ่ือให้คนไทยทัดเทียมกับชาติตะวนั ตกและจะได้ไม่มีชาติใดดูถกู ไทยว่า ป่ าเถ่ือนล้าสมยั และกดข่ีความเป็นมนษุ ย์ -ข้นัทตรองดนึงกอำารนเลาิกจไกพารรค่ วบคุมไพร่จากมลู นายมา เป็นของหลวง โดยให้ไพร่เสียเงินแทนการถกูข-้นั ตปอรนะกกาำศรเลพิกรทะำรสาชบัญญัติพิกดั อายุ เกณฑ์แรงงานลกู ทาสไท - ออกพระราชบัญญตั ิลกั ษณะเกณฑ์จ้าง- ออกประกาศลกู ทาส และพระราช - ออกพระราชบัญญตั ิห้ามการเกณฑ์แรงงานบัญญัติเกษียณลกู ทาส ไพร่ และพระราชบญั ญตั ิเบีย้ บานาญ- ประกาศใช้พระราชบัญญัติทาส ร.ศ. 124 - ตราพระราชบัญญตั ิเกณฑ์ทหาร ร.ศ. 124 ทาให้ ประชาชนมีอิสระในการประกอบทาให้คนไทยมีสิทธิเท่าเทียมกนั รวมทั้ง ผอลาขชอีพงกแลำระเเลลิกือไกพทร่ีอ่ ย่อู าศยั ได้ตามใจชอบผสล่ งขเสอรงิ กมำเสรเรลี ภิกาทพำใสนการประกอบอาชี พ ส่ งผลดีต่ อการปฏิ รู ประบบบริ หารราชการส่ งเสริ มศีลธรรมจรรยา แผ่ นดินที่ ต้ องการแรงงานเสรี จานวนมาก 83

โรงเรียนหันคาราษฎรร์ งั สฤษดิ์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ประวัติศาสตรไ์ ทย เวลา 3 ชั่วโมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 วิเคราะหป์ ระเด็นสาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ไทยเร่อื ง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475๑.สาระสาคัญ / ความคดิ รวบยอด ในวันท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 มีเหตุการณ์ทางการเมืองท่ีสาคัญนาไปสู่การเปล่ียนแปลง การปกครองจากระบอบสมบรู ณาสิทธิราชยม์ าเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีสาเหตุและเกิดผล ที่ ตามมาอยา่ งมากมาย๒. ตัวชีว้ ัด/จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1ตัวช้วี ดั ส 4.3 ม.4-6/1วเิ คราะห์ประเด็นสาคญั ของประวัติศาสตร์ไทย 2.2จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ระบสุ าเหตุของการเปลยี่ นแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ได้ 2. วิเคราะห์ผลของการเปล่ยี นแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ได้๓.สาระการเรียนรู้ ๓.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง(K) ประเด็นสาคญั ของประวัติศาสตรไ์ ทย เช่น - การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย๓.๒ทักษะกระบวนการ(P)เพ่ือให้นักเรียน ๓.๒.๑อธบิ ายประเดน็ สาคัญของประวัตศิ าสตร์ไทย เชน่ - การเปลย่ี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย 84

๓.๒.๒ ยกตัวอยา่ งประเด็นสาคญั ของประวัติศาสตร์ไทย เช่น - การเปล่ยี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย๓.๓ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์(A)เพื่อให้นกั เรยี น ๓.๓.๑ มคี วามสนใจและกระตือรอื ร้นในกจิ กรรมการเรียนรู้ ๓.๓.๒ มีวามรบั ผดิ ชอบและมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมในชั้นเรียน๓.๔ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน(C)เพื่อให้นักเรยี น ๓.๔.๑ มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ แยกแยะและคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ ๓.๔.๒ มีความสามารถในการสอ่ื สาร๔.กิจกรรมการเรยี นรู้ (วธิ ีสอนโดยใชก้ ระบวนการทางประวัติศาสตร)์ ช่ัวโมงท่ี 1-2 1. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ 2. ใหน้ ักเรียนบนั ทึกความรลู้ งในใบงานที่ 3.1 เรื่อง ตาราง KWL Plus Chart เกยี่ วกับการเปลี่ยน แปลงการปกครองเมื่อวนั ท่ี 24 มิถนุ ายน พ.ศ. 2475 3. นักเรียนชว่ ยกันเลอื กประเดน็ ท่ยี ังไม่รู้ เขยี นบนกระดาน เรยี งตามลาดบั เหตกุ ารณ์ 4. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ แลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ศึกษาความรู้จากหนังสือเรยี น จากนัน้ บันทกึ ความรูล้ งใน ใบงานท่ี 3.2 เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในประเด็นตอ่ ไปนี้ - สาเหตขุ องการเปล่ยี นแปลงการปกครอง - อดุ มการณข์ องคณะราษฎรกบั การเปลยี่ นแปลงการปกครอง - การดาเนนิ การเปล่ียนแปลงการปกครอง - รฐั ธรรมนูญกับการเปลยี่ นแปลงการปกครอง ๕.ครูสุม่ เรียกตัวแทนนักเรียนออกมาสรปุ สาระความรู้ทีส่ ืบคน้ มา ครูอธิบายเพ่มิ เติม 85

ชั่วโมงท่ี 31. ครฉู ายวดี ทิ ศั นเ์ รอื่ ง พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อย่หู ัวกับการเปลีย่ นแปลงการปกครอง2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันวเิ คราะหเ์ รอื่ ง พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยูห่ ัวกับการเปลยี่ นแปลง การปกครองด้วยวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์3. ครูสุม่ เรยี กตวั แทนของแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลการวิเคราะหด์ ้วยวธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์4. นกั เรยี นและครชู ว่ ยกนั สรุปเร่อื ง การเปล่ียนแปลงการปกครอง5. นกั เรยี นทาใบงานที่ 3.2 เร่อื ง การเปลีย่ นแปลงการปกครอง๖. การวดั และประเมินผล การวดั ผล การประเมินผล ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ จดุ ประสงคก์ ารรยี นรู้ ใบงานท่ี 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ด้านความรู้ ใบงานท่ี 3.2 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั วเิ คราะห์ แบบประเมินการนาเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ เร่ือง พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ ผลงาน เจา้ อย่หู ัวกบั การเปล่ยี นแปลงการ แบบสังเกตพฤติกรรม ปกครองดว้ ยวิธีการทางประวตั ศิ าสตร์ การทางานกลมุ่ นกั เรยี นทาใบงานท่ี 3.1 นกั เรยี นทาใบงานท่ี 3.2 ด้านกระบวนการ นักเรยี นนาเสนอผลงาน ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สังเกตการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 86

๗. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ ๗.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น ประวตั ิศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. ใบงานที่ 3.1 เรอื่ ง ตาราง KWL Plus Chart 3. ใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง การเปลีย่ นแปลงการปกครอง ๗.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. ห้องเทคโนโลยีสารสนเทศ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 4321 เนอื้ หาละเอยี ดชดั เจน2 ความถกู ตอ้ งของเนือ้ หา3 ภาษาทใ่ี ช้เข้าใจงา่ ย4 ประโยชน์ทีไ่ ดจ้ ากการนาเสนอ5 วธิ ีการนาเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน ( ) 87 //เกณฑ์การใหค้ ะแนน

การนาเสนอผลงานสอดคลอ้ งกับรายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน การนาเสนอผลงานสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 3 คะแนน การนาเสนอผลงานสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ บางส่วน ให้ การนาเสนอผลงานไมส่ อดคล้องกับรายการประเมิน 2 คะแนน ให้ 1 คะแนนเกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน 4 หมายถึง ดีมาก 17-20 3 หมายถงึ ดี 13-16 2 หมายถึง พอใช้ 9-12 1 หมายถงึ ปรับปรงุ 5-8 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ลาดับ ชอื่ ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ การรว่ ม รวม ที่ – 4321 ความคดิ เห็น ความคดิ เห็น ทางาน ปรับปรงุ 20 สกลุ ผลงานกล่มุ คะแนน 4321 4321 4321 4321 88

เกณฑก์ ารให้คะแนนปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ = ดมี าก ให้ 4 คะแนนปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง = ดี ให้ 3 คะแนนปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง= พอใช้ ให้ 2 คะแนนปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั = ปรบั ปรงุ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรุง 89

ใบงานที่ 3.1เรื่อง ตาราง KWL Plus Chartคาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนบันทกึ ความรลู้ งในตาราง KWL Plus Chart เก่ยี วกบั การเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมอ่ื วันที่ 24 มถิ ุนายน พ.ศ. 2475มคี วามรู้อะไร (K) ตอ้ งการรู้อะไร (W) เกิดการเรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งไร (L) 90

ใบงานท่ี 3.1 เร่ือง ตาราง KWL Plus Chartคาชี้แจง : ให้นักเรียนบันทกึ ความรู้ลงในตาราง KWL Plus Chart เก่ยี วกับการเปล่ียนแปลงการปกครอง เม่อื วันท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475มคี วามรู้อะไร (K) ต้องการรูอ้ ะไร (W) เกิดการเรยี นรไู้ ด้อยา่ งไร (L)1. เกดิ การเปล่ียนแปลงการ 1. อะไรเป็นสาเหตุทาให้เกิด 1. กระบวนการสืบค้น ปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 การเปล่ียนแปลง การปกครอง2. คณะบุคคลทีก่ ่อการ 2. คณะราษฎรดาเนนิ การ 2. การศกึ ษาจากอนิ เทอร์เน็ต เปลย่ี นแปลงการปกครอง เปลยี่ นแปลงการปกครอง 3. การศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรู้ เรียกว่า คณะราษฎร อย่างไร ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ 91

ใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงการปกครองคาช้แี จง : ให้นักเรียนวเิ คราะห์ และตอบคาถามต่อไปน้ี 1. อะไรเปน็ สาเหตขุ องการเปล่ียนแปลงการปกครอง 2. คณะราษฎรไดป้ ระกาศอุดมการณ์ในการเปลีย่ นแปลงการปกครองไว้อย่างไร 3. กระบวนการเปลีย่ นแปลงการปกครองสาเรจ็ ได้ เพราะปจั จัยใดบ้าง 4. ผลทเ่ี กิดตามมาจากการเปล่ียนแปลงการปกครอง มอี ะไรบ้าง 92

5. ให้นักเรียนยกตวั อย่างหนงั สอื /เว็บไซตท์ หี่ าข้อมลู เกย่ี วกบั การเปล่ียนแปลงการปกครอง ใบงานท่ี 3.2เรื่อง การเปล่ียนแปลงการปกครองคาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์ และตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. อะไรเปน็ สาเหตุของการเปล่ียนแปลงการปกครอง 1. การแพร่หลายของความคิดแบบประชาธิปไตยจากเหล่าปัญญาชนท่ีได้รับการศึกษามาจากชาติ ตะวนั ตก 2. ความขดั แย้งทางความคิดระหว่างผ้นู ้อยท่ีเห็นว่าควรมีการเปล่ียนแปลงการปกครอง กับผ้ใู หญ่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประกอบกับความไม่เท่าเทียมกนั ในการเข้ารับ ราชการซึ่งมีแต่เจ้านายและข้าราชสานกั 3. ปัญหาความเส่ือมโทรมทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลมาจากสงครามโลกครั้งท่ี 1 2. คณะราษฎรได้ประกาศอุดมการณใ์ นการเปล่ียนแปลงการปกครองไว้อย่างไร 93

1. หลักเอกราชในทางการเมือง การศาล เศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่นคง 2. หลกั ความปลอดภยั ในประเทศจากการประทุษร้ายให้ลดน้อยลง 3. วางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติไม่ให้ราษฎรอดอยาก 4. หลักเสมอภาค ให้ราษฎรมีสิทธิเท่าเทียมกัน 5. หลักเสรีภาพ หลักการศึกษา ให้การศึกษาอย่างเตม็ ที่แก่ราษฎร3. กระบวนการเปลยี่ นแปลงการปกครองสาเรจ็ ได้ เพราะปัจจัยใดบา้ ง 1. ให้หน่วยทหารมาชุมนุมท่ีลานพระบรมรูปทรงม้า 2. ยึดพระท่ีน่งั อนนั ตสมาคม 3. จับบุคคลสาคัญเป็นตวั ประกนั 4. ทาหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอย่หู ัวให้ทรงทราบ4. ผลทเ่ี กดิ ตามมาจากการเปล่ียนแปลงการปกครอง มีอะไรบ้าง 1. มีรัฐธรรมนูญเป็ นกฎหมายหลกั ในการปกครองประเทศ 2. เกิดการเลือกต้ังเป็ นครั้งแรก มีสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรคณะแรกทั้งที่มาจากการ แต่งตัง้ และเลือกตง้ั 3. สถาบนั พระมหากษัตริย์ทรงอย่ภู ายใต้รัฐธรรมนูญ 4. ราษฎรมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันภายใต้รัฐธรรมนูญ5. ใหน้ กั เรียนยกตัวอย่างหนงั สอื /เว็บไซด์ท่ีหาข้อมลู เกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 1. เจ้าชีวิต-สยามก่อนยคุ ประชาธิปไตย ของ นายหนหวย 2. ประวตั ิศาสตร์การปกครองและการเมืองไทย ของณรงค์ พ่วงพิศ 3. เอกสารการเมืองการปกครองของไทย ของชัยอนนั ต์ สมทุ วานิช 4. การเมืองการปกครองของไทย ของชลดลา ศรสณี 5. การปกครองของไทย ของทินพนั ธ์ุ นาคะตะ 94

โรงเรยี นหันคาราษฎรร์ ังสฤษดิ์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ประวัตศิ าสตร์ไทย เวลา 3 ช่วั โมงหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 วเิ คราะห์ประเดน็ สาคญั ทางประวตั ิศาสตรไ์ ทยเรื่อง สังคมไทยหลงั การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475๑.สาระสาคัญ / ความคดิ รวบยอด หน้าท่ีของคนไทยทุกคนไมว่ ่าจะเปน็ สถาบนั พระมหากษัตริย์ สตรไี ทย ลว้ นมีบทบาทสาคัญใน การสร้างความเจริญก้าวหนา้ ใหก้ บั ชาติบา้ นเมือง รวมท้ังการรับอทิ ธิพลมาจากอารยธรรมตะวนั ออกและ ตะวนั ตกมาใชใ้ นสังคมไทย๒.ตัวชีว้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1ตวั ช้วี ดั ส 4.3 ม.4-6/1 วเิ คราะห์ประเด็นสาคญั ของประวัติศาสตรไ์ ทย ม.4-6/2 วิเคราะห์ความสาคัญของสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ต่อชาตไิ ทย 2.2จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. วเิ คราะหบ์ ทบาทสตรีไทยในสงั คมไทย 2. วิเคราะหค์ วามสาคัญของสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ต่อชาตไิ ทย 3. สรุปอิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกทมี่ ีต่อสงั คมไทย๓.สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง(K) ประเด็นสาคญั ของประวตั ิศาสตรไ์ ทย เช่น - สาเหตุและผลของการปฏริ ปู การปกครองบา้ นเมือง - การเลกิ ทาส การเลิกไพร่ - การเสด็จประพาสยุโรปและหัวเมืองสมยั รชั กาลท่ี 5 - การเปลย่ี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรีไทย95

๓.๒ทกั ษะกระบวนการ(P)เพ่ือให้นกั เรยี น ๓.๒.๑อธบิ ายเวลาประเดน็ สาคัญของประวตั ิศาสตร์ไทย เชน่ - ไทยสาเหตุและผลของการปฏิรูปการปกครองบา้ นเมือง - การเลกิ ทาส การเลิกไพร่ - การเสดจ็ ประพาสยโุ รปและหัวเมอื งสมัยรัชกาลที่ 5 - การเปล่ยี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรี ๓.๒.๒ ตวั อย่างไทยสาเหตุและผลของการปฏริ ูปการปกครองบ้านเมือง - การเลกิ ทาส การเลิกไพร่ - การเสดจ็ ประพาสยโุ รปและหัวเมอื งสมัยรัชกาลที่ 5 - การเปล่ยี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475๓.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A)เพ่ือให้นกั เรียน ๓.๓.๑ มีความสนใจและกระตือรอื รน้ ในกิจกรรมการเรียนรู้ ๓.๓.๒ มีวามรับผิดชอบและมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมในชั้นเรยี น๓.๔ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน(C)เพ่ือใหน้ ักเรียน ๓.๔.๑ มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ แยกแยะและคดิ อยา่ งสร้างสรรค์ ๓.๔.๒ มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร๔.กจิ กรรมการเรยี นรู้ (วธิ ีสอนโดยใชก้ ระบวนการทางประวัตศิ าสตร์) ชั่วโมงที่ 1 1. ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ ห้นักเรียนทราบ 2. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ตามความสมคั รใจ แล้วให้ตัวแทนกลมุ่ กลุ่มละ 1 คน มารับภาพจกิ ซอวบ์ ุคคล สาคญั ทีม่ ีชือ่ เสยี งและเป็นสตรี กล่มุ ละ 1 คน 3. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันต่อภาพบุคคลสาคัญในเวลาท่สี ้นั ท่ีสดุ แลว้ อภปิ รายร่วมกันเก่ยี วกับ บคุ คลในภาพ คนละ 1-2 คาตอบ 4. ครสู มุ่ เรียกตวั แทนกลุ่มออกมาเลา่ เรอ่ื งเกยี่ วกับบุคคลในภาพนนั้ ว่าเปน็ ใครมบี ทบาทสาคญั อยา่ งไร ครูช่วยเสริมให้เรอ่ื งสมบูรณ์ 5. นกั เรยี นสรปุ บทบาทของสตรใี นสังคมไทย 96

ชัว่ โมงที่ 21. นักเรียนเปลีย่ นกลุ่มใหม่ และสบื คน้ ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ดว้ ยกระบวนการทางประวตั ิศาสตร์ ดังน้ี - ประเด็นท่ีศึกษา พระมหากษตั รยิ ์กบั การพฒั นาชาติไทย - รวบรวมหลกั ฐาน เว็บไซต์ที่กล่าวถงึ หนังสือทเ่ี ขยี นถงึ /บทความ - ประเมนิ หลักฐาน ความนา่ เช่ือถือและความถูกตอ้ งของหลักฐาน - ตคี วามหลกั ฐาน คดั เลือกหลักฐานที่ประเมินค่าแลว้ มาเทียบเคียง เรยี บเรียงนาเสนอ มีพระมหากษตั รยิ ์พระองค์ใดบ้างที่มีบทบาทในการพฒั นาชาตไิ ทย และเด่นในด้านใด2. นกั เรียนนาเสนอบทบาทของพระมหากษัตริย์ทีน่ กั เรียนสนใจวา่ ทรงมีบทบาทในการพัฒนาชาติไทย อย่างไรบ้าง3. ครตู รวจงานและนาผลงานดเี ดน่ มาจดั ทาปา้ ยนิเทศติดหลังชนั้ เรยี นให้นกั เรยี นและผสู้ นใจไดช้ ืน่ ชม ช่ัวโมงที่ 31. ครสู มุ่ เรียกนกั เรยี นให้ยกตวั อยา่ งอทิ ธิพลของวัฒนธรรมตะวนั ตกและตะวนั ออกที่มีต่อสงั คมไทย2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเพ่ือหาข้อสรุปเกี่ยวกับลักษณะของวัฒนธรรมตะวันออกและ วฒั นธรรมตะวนั ตกท่มี ตี ่อสังคมไทย3. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจับหัวข้อในการศึกษาอิทธิพลตะวันตกและตะวันออกที่มีต่อ สงั คมไทยในดา้ นการเมอื งการปกครอง เศรษฐกิจ ศิลปวฒั นธรรม สงั คม เป็นตน้4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้ โดยครูช่วยอธิบายเพ่ิมเติมในส่วนท่ีมีความบกพร่องเพ่ือให้ นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจท่ถี กู ตอ้ ง5. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาแผ่นพับประชาสัมพันธ์ประวัติศาสตร์ชาติไทย ตามที่นักเรียนได้รับ ความรู้และนามาประยกุ ตใ์ ช้ในการทาชนิ้ งานให้เกดิ ประโยชน์ แล้วนดั หมายการสง่ ผลงานร่วมกัน นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3๕.การวดั และประเมินผล 97

จุดประสงค์การเรียนรู้ การวดั ผล การประเมินผล ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ด้านความรู้ แบบประเมนิ แผ่นพับนกั เรยี นทาแผน่ พบั ประชาสัมพนั ธ์ ประชาสมั พันธ์ประวตั ิศาสตร์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย ชาติไทย รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ด้านทักษะกระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรมสงั เกตการเขา้ ร่วมกินักเรยี นทา การทางานกลุ่มแบบทดสอบหลังเรยี นจกรรมกลุ่ม แบบทดสอบหลังเรยี นด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์นกั เรียนสนใจและกระตือริร้อในกจิ กรรมกลุ่ม๖.สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ ๖.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น ประวัติศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. ภาพจกิ ซอวบ์ คุ คล ๖.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุด 2. หอ้ งเทคโนโลยีสารสนเทศ 98

แบบประเมินแผ่นพับประชาสมั พนั ธ์ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทยลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 1 ประเด็นสาคัญของประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย 4322 ความสมบูรณข์ องเน้ือหา3 การวเิ คราะห์ความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ไทย4 การนาเสนอข้อมูล5 รปู แบบ6 การเลอื กใช้ภาษา รวม //เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 19-24 4 หมายถึง ดีมาก 13-18 3 หมายถึง ดี 7-12 2 หมายถงึ พอใช้ 1-6 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ 99

ลาดบั ชื่อ ความร่วมมือ การแสดง การรับฟงั การต้งั ใจ การรว่ ม รวม – ความคิดเหน็ ความคดิ เหน็ ทางาน ปรบั ปรุง 20 ผลงานกลุม่ คะแนนที่ สกลุ 43214321432143214321 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 100

เกณฑก์ ารให้คะแนนปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ = ดมี าก ให้ 4 คะแนนปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั = ดี ให้ 3 คะแนนปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนนปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั = ปรับปรงุ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรบั ปรงุ 101