ใบความร้ทู ่ี ๓.๒ จดุ กำเนดิ พธิ ีกรรม และความเชือ่ ทเี่ กี่ยวกบั ขา้ ว รายวชิ า ง 21201 ข้าวกับวถิ ีไทย แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๓ เร่ือง จดุ กำเนดิ พธิ กี รรม และความเช่ือท่เี กี่ยวกบั ขา้ ว ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จุดกำเนิดพิธีกรรม และความเชอ่ื ท่ีเก่ียวกบั ขา้ ว ถ้าจะพูดถึงพิธีกรรมที่เกี่ยวกับข้าวในสังคมไทย อาจพูดได้ว่าหมายถึงพิธีกรรมเกือบทั้งหมดใน สังคมไทยทีเดียว เพราะพิธีกรรมที่มีความหมายและมีความสำคัญต่อชีวิตของคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ ชาวนานั้น ที่สำคัญที่สุดก็คือ พิธีกรรมที่เกี่ยวกับการทำมาหากิน และการทำมาหากินของคนไทยในสังคมไทย น้ัน ตงั้ แต่อดีตกค็ อื การทำเกษตรกรรม การเพาะปลกู ซึ่งก็ไมพ่ น้ การทำไรท่ ำนาน่นั เอง จุดมุ่งหมาย ความหมาย และความสำคัญของพิธีกรรมที่เกี่ยวกับข้าวหรือเกี่ยวกับการเพาะปลูกก็คือ เพื่อความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น พิธีกรรมทั้งหมดหรือจุดประสงค์หลักของพิธีกรรมท่ีเก่ียวกับข้าวจะแสดงให้เห็น ถึงวิธีการแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน ที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของชาวบ้านในการเผชิญกับปัญหาเรื่องปาก เรื่องท้อง เรื่องความอยู่รอดของชาวบ้านนั่นเอง พิธีกรรมดั้งเดิมของสังคมไทยก่อนการรับพุทธศาสนาหรือ ศาสนาฮินดูเข้ามานั้น ก็คงเป็นเรื่องของความพยายามจะติดต่อกับอำนาจเหนือธรรมชาตหิ รือว่าผีนั่นเอง โดย เชื่อวา่ ผีมอี ิทธพิ ลเหนือผลผลิตและต่อสภาพแวดล้อม ซง่ึ อาจจะเรยี กวา่ ใชว้ ธิ กี ารทางไสยศาสตร์ ต่อมาเมื่อมีการรับพุทธศาสนาเข้ามาแล้วก็มีการผสมผสานกัน จนพิธีกรรมที่เป็นของชาวบ้านหลายๆ วธิ ีไดม้ ีการปรับรบั ไปเป็นพระราชพิธี นอกจากนัน้ จะเห็นว่า พิธีกรรมท่ีเก่ียวกับขา้ วทั้งหมดน้ัน จรงิ ๆ แล้วเป็น พิธีที่ทำขึ้นตามฤดูกาลซึ่งสัมพันธ์กับการเพาะปลูก ปัญหาใหญ่ที่สุดของการทำนาคือปัญหาเรื่องน้ำฝน เพราะว่าการทำนาในสังคมไทยในอดีตนั้นเป็นนาน้ำฝน เป็นนาที่จำเป็นต้องพึ่งพิงกับธรรมชาติดินฟ้าอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและมนุษย์ไม่สามารถจะควบคุมได้ เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องอาศัยอำนาจลึกลับไสย ศาสตร์เรียกผสี างเทวดาใหม้ าช่วยปัดเปา่ ขจดั ภัยอันตรายต่างๆ และวิธีการที่ทำกันกค็ ือ พยายามเอาอกเอาใจ ด้วยการเลย้ี งดเู อาใจ เซน่ การไหวภ้ ูตผีหรอื อำนาจลกึ ลบั เหนือธรรมชาตติ า่ งๆ พิธีกรรมท่เี กีย่ วกับข้าวมีความสำคัญต่อชาวบ้านมากที่สุด เพราะเกยี่ วข้องกับการทำมาหากินเล้ียงชีพ พิธีกรรมข้าวจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปีตามลำดับการเพาะปลูกข้าว โดยช่วงที่สำคัญที่สุดจะอยู่ระหว่างหลัง การเก็บเกี่ยวผลผลิตและก่อนเร่มิ ฤดกู าลใหม่ พธิ กี รรมข้าวมี ๔ ข้นั ตอน ดังตอ่ ไปน้ี พิธีกรรมก่อนการเพาะปลกู มีวัตถุประสงค์เพื่อบวงสรวง บูชาสิ่งศักด์ิสิทธิห์ รอื บรรพบุรุษให้คุ้มครอง ปอ้ งกันภยันตรายแก่ชวี ติ และทรัพย์สิน ให้มคี วามสวสั ดิมงคล มีความอุดมสมบรู ณ์ ขอโอกาสและความเช่ือมั่น ในการดำรงชีวิตในรอบปีน้ัน ๆ อาทิ พิธีเลย้ี งขุนผีขุนด้ำ พิธีแห่นางแมว เทศน์พญาคันคาก สวดคาถาปลาช่อน พิธปี ัน้ เมฆ พิธีบญุ บ้ังไฟ พธิ บี ญุ ซำฮะ พธิ กี รรมชว่ งเพาะปลูก มีเปา้ หมายเพอ่ื บวงสรวงบนบาน บอกกลา่ ว ฝากฝังสิ่งท่ีเกี่ยวข้องกับข้าวหรือ การเพาะปลูกแก่เทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธ์ิ ขอให้การเพาะปลูกข้าวดำเนินไปได้ด้วยดี ปราศจากอันตรายต่างๆ อาทิ พิธแี รกไถนา พธิ เี ลี้ยงผีตาแฮก ตกกล้า พธิ แี รกดำนา พธิ ีปกั ขา้ วตาแฮก พิธปี ักกกตาแฮก พิธีกรรมเพื่อการบำรุงรักษา เพื่อให้ข้าวงอกงาม ปลอดภัยจากสัตว์ต่างๆ หนอนเพลี้ย พิธีกรรม ประเภทนี้ จดั ขึ้นในช่วงระหวา่ งการเพาะปลูกจนกระทง่ั เก็บเก่ยี ว อาทิ พิธไี ลน่ ำ้ พธิ ีปกั ตาเหลว พธิ ีสวดสังคหะ
พธิ ีรบั ขวัญแมโ่ พสพ พิธไี ลห่ นู ไลน่ ก ไล่เพลี้ย ไลแ่ มลง และอน่ื ๆ โดยใชน้ ้ำมนต์ ผา้ ยนั ต์ ภาวนาโดยหว่านทราย หรอื เคร่ืองราง พธิ กี รรมเพื่อการเก็บเกี่ยว-ฉลองผลผลติ เพอื่ ให้ได้ผลผลิตมาก และเพ่อื แสดงความอ่อนน้อมกตัญญู ต่อข้าว ตลอดถงึ ส่ิงทีเ่ กีย่ วขอ้ ง พิธกี รรมประเภทน้ี จดั ขนึ้ ในชว่ งฤดูกาลเกบ็ เก่ยี ว อาทิ พิธรี วบขา้ ว พธิ แี รกเก่ียว ขา้ ว พิธเี ชิญข้าวขวัญ พิธวี างข้าวต๋างน้ำ พิธปี ลงขา้ ว พธิ ีขนขา้ วขึ้นยุ้ง พธิ ีตงั้ ลอมขา้ ว พธิ ีปิดยุ้ง \"แถน\" เป็นเทพดั้งเดิมของชนเผ่าไท ผีที่มีอิทธิพลต่อการทำมาหากิน ต่อความเป็นอยู่ของผู้คน เพราะว่าเป็นผู้ทีส่ ร้างทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ หรือเครื่องมือเครือ่ งใชท้ ุกอยา่ ง พระยา แถนเป็นผู้สรา้ ง อิทธิพลของพระยาแถนมีมากมายเหลือเกิน จึงทำให้ผู้คนกลัวมากและเมือ่ มีปัญหาอะไรก็รู้ว่า สาเหตุที่จะปัดเป่าได้คือต้องไปขอให้พระยาแถนช่วย เพราะฉะนั้นพิธีที่สำคัญมากต่อการทำมาหากินและการ ปลูกข้าวของคนไทยหรือคนถิ่นไทยลาว คือ พิธีจุดบั้งไฟ เพื่อส่งสารไปถึงพระยาแถน ขอให้ฝนตกต้องตาม ฤดูกาลพิธีกรรมในประเพณีจุดบั้งไฟ เป็นพิธีที่ไม่สามารถทำขึ้นโดยคนเพียงไม่กี่คน แต่เป็นเรื่องของคนท้ัง ชุมชนทั้งสังคมต้องให้ความร่วมมือ ร่วมใจกันที่จะแก้ปัญหาวิกฤตในสังคมตัวเองและบทบาทของพิธีกรรมน้ี ไม่ใช่ เพียงแต่จะบันดาลให้ฝนตกมาได้ตามความเชื่อของท้องถิ่น แต่มีความหมายอีกมากมายต่อความเป็นอยู่ ของชมุ ชนของสังคมขา้ วในสังคมไทย พิธกี รรมมีความสำคัญต่อการสรา้ งจติ สำนึกความเปน็ อนั หน่ึงอันเดียวกัน การสร้างจรยิ ธรรม คณุ ธรรมของทอ้ งถิน่ โดยผ่านพิธกี รรมตา่ งๆ ประเพณบี ุญบั้งไฟ พระแมโ่ พสพ นอกจากพิธจี ุดบ้ังไฟท่ีแสดงใหเ้ ห็นถึงความเดือดร้อนของผู้คน ท่จี ำเปน็ ตอ้ งขออำนาจจากพระยาแถน ช่วยเหลือแล้ว ความอ่อนน้อมของคนไทยที่มีต่ออำนาจเหนือธรรมชาติ จะเห็นได้จากการเรียกชื่อสิ่งที่มี ความสำคญั ตา่ ง ๆ ดว้ ยคำว่า แม่ เชน่ ขา้ วก็จะมคี ำว่า \"แมโ่ พสพ\" เป็นเทพธิดาแห่งขา้ ว แม่นนั้ เป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผทู้ ีม่ บี ทบาทสูงท่ีสุดในครอบครัวและสิ่งท่ีมีคณุ ประโยชน์ท้ังหลายในสังคมไทยน้นั มกั จะใช้คำว่าแม่เป็นคำ เรียกช่อื ไม่ว่าจะเป็นแมน่ ้ำ แมธ่ รณี ฯลฯ การใชค้ ำวา่ \"แม่\" เรยี กขา้ วก็คือเป็นการให้การยกย่องมากท่ีสุด ข้าว มีความสำคัญก็เพราะว่าข้าวเป็นผู้ให้ชีวิตแก่มนุษย์ เพราะฉะนั้น หน้าที่ที่มนุษย์ต้องตอบแทนคือมนุษย์ต้อง เลยี้ งดฟู ูมฟกั เลี้ยงดขู ้าวดว้ ย ขา้ วมขี วัญขา้ ว ซง่ึ เหมือนกบั มนุษย์ท่ยี ังมชี วี ิตอยู่ ตอ้ งมีขวัญ ขวัญนั้นสามารถท่ีจะ กระทบกระเทือนเจ็บไข้ได้ป่วยหรือไม่พึงพอใจได้ เพราะฉะนั้นถ้าต้องการให้อยู่ดีมีสุข ต้องเอาอกเอาใจขวัญ ของขา้ ว พิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้าวกจ็ ะเป็นเรื่องราวท่ีเก่ียวกับความเชือ่ เรื่องแม่โพสพซ่ึงเช่ือว่าเป็นเทพีที่ คอยดูแลรักษาพืชพันธุ์ ธัญญาหารต่างๆ ให้อุดมสมบูรณ์ แม่โพสพก็เหมือนกับมนุษย์ที่ต้องการความเอาใจใส่ เหมือนบคุ คลทัว่ ๆ
ไปมนุษย์ต้องคอยดูแลแม่โพสพเหมือนดูแลตัวเอง ต้องมีความกตัญญู ต้องเคารพนับถือ มีกิริยาที่สุภาพ เรียบร้อยจะพูดจาหยาบคายหรือพูดเสียงดังไม่ได้ แม่โพสพเป็นคนขวัญอ่อนเพราะถ้าเกดิ ไม่พอใจจะหนีไปเลย และตามประวัติเคยหนีไปหลายครั้งด้วยความน้อยใจ เวลามีคนพูดเสียงดังพอหนีไปที ก็อดอยากกันเป็นพันปี เพราะฉะนั้นอันน้ี เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมาก เวลาติดต่อกับแม่โพสพควรใช้ความสุภาพอ่อนโยน และความ กตญั ญกู ตเวทีอยา่ งสงู ท่ีสดุ พธิ ีกรรมเกี่ยวกับแม่โพสพ ก็มีข้นั ตอนตา่ งๆ พิธีในภาคกลางจะเห็นวา่ จะดำนา จะไถ อะไรก็ต้องเชิญ แม่โพสพมาก่อน ตั้งแต่ข้าวเริ่มตั้งท้องก็ต้องไปเอาอกเอาใจหาอาหาร เปรี้ยวหวาน มันเค็ม ไปบูชาแม่โพสพ หรือว่าเมื่อเสร็จแล้วจะนวดจะเอาข้าวเข้ายุ้งทุกอย่างนี้จะต้องมีพิธีกรรมเข้าไปประกอบเพื่อก่อให้เกิดความ อุดมสมบูรณ์หรือ ความมั่นใจว่าปีนี้มีข้าวและปีหน้าต้องมีนะ หรือว่าพันธุ์ข้าวที่มีต้องเก็บไว้และทำอย่างไรให้ เก็บไดด้ ี ไมเ่ สยี ไมห่ าย เพื่อท่จี ะใชเ้ ป็น พันธใ์ุ นปตี ่อไป ลกั ษณะของพิธีกรรมเรื่องข้าวสว่ นใหญ่ก็จะเก่ียวข้องกับ การที่จะพยายามเอาอกเอาใจขวญั ของขา้ ว โดยมแี มโ่ พสพเปน็ ตัวแทน ทำขวญั ขา้ ว ของไหว้แมโ่ พสพ เฉลวขวัญขา้ ว การทำพิธีกรรมเกี่ยวกับข้าว นอกจากในสังคมที่เป็นบ้านเป็นเมืองอย่างสังคมไทยแล้ว จะเห็นว่าใน สังคมอื่นๆ ที่ยังไม่ได้พัฒนาเป็นบ้านเป็นเมือง การทำไร่ ทำข้าวไร่ ก็มีพิธีกรรมเหมือนกันในการที่จะดูแลข้าว ของตวั เอง อย่างเชน่ ในกลุ่มชาวเขา เขาก็มพี ิธีกรรมเวลาปลูกขา้ วไร่ เขาจะมีวันทวี่ นั ไหนจะไปเผาไร่ได้ วันไหน เผาไมไ่ ด้ เวลาขา้ วต้ังทอ้ งตอ้ งร้วู า่ จะทำอยา่ งไร เขาถือวา่ ชว่ งข้าวตง้ั ท้องหรือช่วงขา้ วเกยี้ วพาราสี เขาจะบอกว่า หา้ มไปไรใ่ นช่วงนัน้ เพราะวา่ ข้าวกำลังเกี้ยวพาราสีกนั หรอื เวลาข้าวตง้ั ท้องก็จะตอ้ งหาเงนิ ไปผูกเอาไว้ ต้องผูก เตี้ยๆ ด้วย เพราะว่าแม่ข้าวเขาตัวเตี้ย จะได้เก็บเงินไปได้ถ้าเกิดไม่เอาเงินหรือเอากระดาษไปผกู เป็นรูปเงนิ ให้ แล้ว อาจจะไม่ดลบันดาลให้ข้าวอุดมสมบูรณ์ก็ได้ ฉะนั้น ในกลุ่มทุกกลุ่มหรือแม้แต่พวกขิ่นก็มีความเชื่อเรื่อง การปลูกขา้ วเหมอื นกนั ก่อนการปลกู ขา้ ว ก็มีการสรา้ งตูบผีเอาไว้ เชญิ ผีซึ่งเคยอยู่ทีท่ ้องนาขนึ้ มาอย่บู นตบู เวลาจะไถจะได้ไม่ รงั ควานผี มกี ารเซ่นไหว้ เวลาจะหยอดขา้ วกต็ อ้ งเรยี่ ไรเงิน มาซอ้ื หมฆู า่ หมูมาเซ่นผี มาเอาใจผอี กี เพราะว่าถ้าผี ไม่พอใจปลูกข้าวแล้วจะมีผลเสีย หรือถ้าหากว่าจะทำสู่ขวัญข้าวก็ต้องทำพิธีเลี้ยงผีอีก ก็ต้องไปซื้อสัตว์เรี่ยไร กันเอาเงินมาฆ่าเอาสัตว์มาสังเวยและจะปิดตาเหลวเอาไว้ ตาเหลวเป็นสัญลักษณ์ของการป้องกันและบอก ขอบเขต ไม่ให้สัตว์ป่าต่างๆ มาทำลายข้าวในไร่ จะเห็นว่ามีกฎหมายลงโทษคนที่ไปทำมิดีมิร้าย ไปข้ีไปเยี่ยว ช้าง ม้า ววั ควาย ไปละเมดิ ทำให้ไร่นาข้าวปลาเสียหาย มกี ฎหมายบัญญตั ิไว้ว่า ให้ทำบัตรพลีดีไหว้หรือว่าต้อง เซ่นไหว้ เพราะไม่ใช่เพียงแต่ว่าเป็นการลงโทษคนที่ละเมิดทำข้าวเสียหายเท่านั้น แต่ว่าเป็นลักษณะของความ อุบาทวห์ รอื สงิ่ ทีท่ างเหนืออาจเรียกว่า \"ขดึ \" คือถ้าเผ่ือว่าทำแล้วมนั เสยี หายแก่ท้องนาแก่ข้าวแล้วไม่ใช่เพียงแต่ ว่าคนคนนั้นหรือเจ้าของนาจะเดือดร้อน แต่ว่าจะก่อให้เกิดความอุบาทว์หรือวิปริตไปทั้งหมดได้ เพราะฉะนั้น เพอ่ื กันความเสียหายของชมุ ชนจะตอ้ งทำการบตั รพลีดีไหว้ อันน้ีเปน็ กฎหมายตราไว้เลย
ใบงานท่ี ๓ แบบบันทึกการสืบค้นข้อมลู ความสัมพันธข์ องขา้ วกับวิถีชีวิตไทย รายวชิ า ง ๒๑๒01 ขา้ วกับวิถีไทย แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ เรอ่ื ง แบบบนั ทึกการสบื คน้ ข้อมูลความสัมพันธข์ องข้าวกับวิถชี ีวิตไทย ................................................................................................................................................................... คำส่ัง ใหน้ กั เรียนเขยี นบนั ทกึ การสืบคน้ ข้อมูลความสัมพนั ธ์ของขา้ วกบั วิถชี ีวติ ไทย ๑. การทำนาของคนไทย ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๒. ความสมั พนั ธ์ของข้าวกับการบรโิ ภค ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๓. พิธกี รรม และความเช่ือท่ีเกย่ี วกบั ขา้ ว ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ชือ่ -สกุล............................................................................ ช้นั ........................ เลขที่ ..........................
เร่ือง ประเพณีเก่ียวกับข้าว หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ ตามรอยข้าว รายวิชา ขา้ วกบั วถิ ีไทย รหสั ง ๒๑๒01 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี สปั ดาหท์ ี่ 4 วันท.่ี ........................................... จำนวน ๒ ชว่ั โมง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความเปน็ มา ความสมั พันธข์ องขา้ วกับวถิ ีชวี ิตไทย ๙. มคี วามขยัน ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ รักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ ใฝเ่ รยี น มงุ่ มนั่ ในการทำงาน รักความเป็นไทย กตัญญู และมีจิตสาธารณะ ๒. สาระสำคญั ข้าว นอกจากจะมีความสำคัญในการเป็นธัญพืชซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยแล้ว ข้าวยังมีส่วน สำคัญในการกำหนดวิถชี วี ติ และวัฒนธรรมของไทยมาตั้งแต่อดีต ส่งิ เหล่านนั้ แฝงอย่ใู นเรื่องความเช่อื ประเพณี และพิธีกรรมต่าง ๆ ซึ่งกลุ่มชนในแต่ละสังคมได้กำหนดระเบียบแบบแผนขึ้น โดยอาจจะมีกรรมวิธแี ตกต่างกัน ออกไปบ้างตามวัฒนธรรมของทอ้ งถิ่นนั้น ๓. สาระการเรียนรู้๓.๑ ประเพณีเกี่ยวกบั ขา้ ว ๓.๒ ประเพณีเกี่ยวกบั ข้าวที่ทำร่วมกันทง้ั ๔ ภาค 4. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 4.1 ใฝ่เรียนรู้ 4.2 รกั ความเปน็ ไทย 4.3 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 3. ความสามารถในการแสวงหาความรู้ ๖. กิจกรรมการเรียนรู้ ๖.๑ ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรยี น ๖.๑.๑ ครูสนทนากบั นักเรยี นถงึ ประเพณีเก่ียวกับข้าวในแตล่ ะทอ้ งถ่นิ ของนักเรียนเอง ๖.๑.๒ ครูอธิบายถึงความสำคญั ของประเพณเี กี่ยวกับขา้ ว ๖.๒ ขั้นกิจกรรม ๖.๒.๑ ครจู ัดนกั เรยี นเข้ากลุ่มตามความสนใจของนกั เรยี น กล่มุ ละ ๖-๘ คน ๖.๒.๒ นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ยอ่ ยศกึ ษา ใบความรู้ท่ี ๔.๑ เรือ่ งประเพณีเก่ยี วกบั ข้าว ใบความรูท้ ่ี ๔.๒ เรือ่ งประเพณเี กีย่ วกับข้าวทที่ ำรว่ มกันท้งั ๔ ภาค
๖.๒.๓ นกั เรยี นเขยี นบนั ทกึ ลงในใบงานท่ี ๔ เรื่องแบบบันทกึ การสืบคน้ ข้อมูลประเพณีเก่ยี ว กบั ข้าว ๖.๓ ข้ันสรปุ นักเรยี นอภปิ รายและสรุปร่วมกันจากข้อมลู ท่ีสบื คน้ ได้เกีย่ วกบั ประเพณีเก่ยี วกับขา้ ว ๗. ส่ือ อุปกรณ์ และแหลง่ เรียนรู้ ๗.๑ http://www.rdi.ku.ac.th/kasetfair49/Social/s_13/s_13.htm ๗.๒ http://astro.popcornfor2.com/horoscope/folklore_detail. ๗.๓ http://mis-pattani2.pn.psu.ac.th ๗.๔ ใบความรู้ที่ ๔.๑ เร่ืองประเพณเี กี่ยวกบั ขา้ ว ๗.๕ ใบความรทู้ ี่ ๔.๒ เร่อื งประเพณีเกยี่ วกบั ขา้ วที่ทำร่วมกันท้งั ๔ ภาค ๗.๖ ใบงานที่ ๔ เร่ืองแบบบันทึกการสืบคน้ ข้อมลู ประเพณีเกีย่ วกบั ข้าว 8. ช้ินงาน หรอื ภาระงาน ๔.๑ แบบบันทึกการสืบคน้ ขอ้ มูลประเพณีเกยี่ วกบั ข้าว ๔.๒ ผลการทดสอบ 9. การวดั และประเมินผล ประเมินการเขียนบันทึกขอ้ มูลจากใบงานที่ 4 ประเมินโดยใช้เกณฑ์ดงั นี้ (๔ คะแนน) รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ๔ นกั เรียนเขยี นบันทึกข้อมูลจากการสืบคน้ ได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ๓ ๒ นักเรียนเขียนบนั ทึกข้อมลู จากการสืบคน้ ได้อย่างถูกต้อง ๑ นกั เรยี นเขียนบันทึกข้อมูลจากการสืบค้นได้เป็นบางส่วน นักเรยี นเขยี นบนั ทึกข้อมูลจากการสบื คน้ ไมส่ อดคล้องกับข้อมูล เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๔ คะแนน ดีมาก ๓ คะแนน ดี ๒ คะแนน พอใช้ ๑ คะแนน ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารประเมนิ ตดั สนิ ไดค้ ะแนนตั้งแต่ ๒ (ระดับคุณภาพพอใช)้ ขึน้ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การนำเสนผลงาน คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงใน ชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาท่ใี ช้เข้าใจงา่ ย 4 ประโยชนท์ ี่ได้จากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ้ บกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ปรับปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ชอ่ื ชั้น คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงใน ช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 การแสดงความคดิ เห็น 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ นื่ 3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย 4 ความมนี ำ้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานกลมุ่ ช่ือกลุ่ม ช้นั คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงใน ช่อง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การแบ่งหนา้ ท่ีกันอยา่ งเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กันทำงาน 3 การแสดงความคิดเหน็ 4 การรับฟงั ความคิดเหน็ 5 ความมนี ้ำใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงใน ช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยนิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธิบาย ความหมายของเพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสิทธแิ ละหนา้ ทีข่ องนกั เรียน 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในชนั้ เรียน 3. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 1.5 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตนตามหลักของ ศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเกยี่ วกับสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามที่โรงเรียน และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ถี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งทถ่ี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวท่ีจะทำความผดิ ทำ ตาม สัญญาที่ตนให้ไวก้ บั เพ่อื น พ่อแม่หรอื ผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้อน่ื ดว้ ยความซื่อตรง 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครวั และ โรงเรียน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ใน ชีวติ ประจำวัน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั ค้มุ คา่ และเก็บรกั ษาดูแล อย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ิตนและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ นื่ และไม่ทำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มให้อภยั เม่อื ผูอ้ น่ื กระทำผดิ พลาด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใช้ชวี ิตประจำวนั บนพื้นฐาน 6. ม่งุ มัน่ ในการ ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทำงาน 7. รักความเป็นไทย 5.6 ร้เู ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั 8. มีจติ สาธารณะ และปรบั ตวั อยู่รว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้อยา่ งมีความสุข 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ และแบ่งปันส่งิ ของให้ผ้อู น่ื 8.3 รจู้ กั ดูแล รักษาทรพั ย์สมบตั แิ ละสิง่ แวดลอ้ มของห้องเรยี น โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง 91 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกว่า 54 ปรบั ปรุง
ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.............................................. (นางมลฤดี พรมเอีย่ ม) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................... ........................................... .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................... (นายชัยภัทร ใจดี) รองผู้อำนวยการโรงเรียน กลุ่มบริหารวชิ าการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................. ............................. ...................................................................................................... ........................................................................ ลงชื่อ จ.ส.อ. ...................................... (เสวก ฉนุ หอม) ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 56 จงั หวดั นา่ น
10. บนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ........................................................................................................................................................ . ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ 2. ปัญหา/อุปสรรค ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ 3. วธิ ีแก้ปัญหา / อุปสรรค ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ .............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ................................................... 4. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ลงชื่อ......................................... (นายพริ ยิ พงษ์ ลอยเลศิ ) ครูผสู้ อน
ใบความร้ทู ี่ ๔.๑ ประเพณเี กยี่ วกับข้าว รายวิชา ง 21201 ข้าวกับวิถีไทย แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ เรื่อง ประเพณีเก่ยี วกบั ขา้ ว --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- พิธีกรรม ความเชอื่ ประเพณีทีเ่ กยี่ วข้อง ขา้ ว นอกจากจะมีความสำคัญในการเป็นธญั พชื ซงึ่ เป็นอาหารหลักของคนไทยแล้ว ขา้ วยังมสี ่วน สำคญั ในการกำหนดวถิ ีชวี ิตและวฒั นธรรมของไทยมาตงั้ แตอ่ ดตี สิ่งเหลา่ นนั้ แฝงอยู่ในเรอ่ื งความเชื่อ ประเพณี และพธิ กี รรมต่าง ๆ ซ่ึงกลุ่มชนในแตล่ ะสังคมได้กำหนดระเบยี บแบบแผนขน้ึ โดยอาจจะมกี รรมวิธแี ตกต่าง กนั ออกไปบ้างตามวัฒนธรรมของทอ้ งถน่ิ นน้ั พระราชพธิ พี ืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีกรรมท่พี ระมหากษัตริย์ซ่ึงเป็นองคป์ ระมขุ ของประเทศไดท้ รงมีพระมหากรุณาต่อชาวนาไทย มีความมุ่งหมายที่จะทำให้เป็นตัวอย่างแก่เกษตรกร ชักนำให้มีความมั่นใจในการทำนา ผู้เปรียบประดุจดัง กระดูกสันหลงั ของชาติ การท่พี ระมหากษัตริยไ์ ด้ทรงมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมดา้ นเกษตร ถือเปน็ การบำรุงขวญั และเปน็ กำลังใจให้แก่เกษตรกรท่วั ไป เป็นตน้ เหตุของความตงั้ มน่ั และความเจรญิ ไพบูลย์ทั้งปวง พระราชพิธพี ืชมงคลจรดพระนงั คลั แรกนาขวัญ แยกเป็น ๒ พธิ ีคือ พระราชพิธีพืชมงคลเป็นพิธีทำขวัญเมล็ดข้าวพันธุ์ข้าวต่าง ๆ เช่น ข้าวเหนียว ข้าวเปลือก ข้าวฟ่าง ข้าวโพด ถั่ว งา เผือก มัน และพืชอื่นๆ เพื่อให้พืชเหล่านั้นเจริญงอกงาม ปราศจากโรค โดยจะประกอบพระราชพธิ ี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระราชพิธีแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธีแรกก่อนที่ชาวนาจะทำพิธีแรกนาในนาของ ตนเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธานในพระราชพิธี ณ ท้อง สนามหลวง ในพระราชประเพณนี ส้ี ืบตอ่ กนั มาทุกปี พิธีขอฝน การทำนายังคงต้องพึ่งพาอาศัยน้ำฝนจากธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเพาะปลูกแล้วฝนยังไม่ตก ชาวนาจึงต้องทำพธิ ขี อฝน ซงึ่ มชี อื่ เรยี กและพธิ กี รรมแตกต่างกันไป เช่น ประเพณีบญุ บงั้ ไฟ การโยนครกโยน สากของภาคอสี าน การแหน่ างแมวของภาคเหนอื ภาคกลาง และภาคอีสาน ความเชื่อเก่ียวกับพระแม่โพสพ ชาวนาเชื่อกันว่า “แม่โพสพ” เป็นผีหรือเทวดาประจำพืชที่มนุษย์เชื่อถือและบูชากราบไหว้ เพื่อ ความอุดมสมบูรณ์ของพืชที่ปลูกตามฤดูกาล เชื่อกันอีกว่าเทวดาประจำพืชดังกล่าวมักเป็นผู้หญิง เพราะข้าว เปน็ อาหารหลกั ใชเ้ ลีย้ งชีวิตใหม้ ีสุขภาพดี เปรยี บเสมือนมารดาเล้ียงลกู ใหเ้ ติบโตต่อไป
การลงแขก การลงแขกเปน็ ชอื่ เรยี กของภาคอสี าน ภาคเหนือ และภาคกลาง สว่ นภาคใตเ้ รียกว่าออกปากกนิ วานหรอื ขอมือ เป็นประเพณีทีส่ ร้างความภาคภมู ิใจของคนไทยทั้งชาติ เป็นการรวมกลมุ่ แลกเปลย่ี นแรงงาน โดยชาวนาจะขอแรงเพ่ือนฝูง ญาติมิตร และเพอ่ื นบา้ นทีอ่ ย่รู ว่ มชมุ ชนเดียวกัน มารว่ มกันไถนา ปักดำ เก็บ เกี่ยว ตลอดจนเกบ็ ข้าวเข้ายุ้งฉาง เปน็ ประเพณีอนั งดงามทก่ี ่อใหเ้ กดิ ความรัก ความสามัคคี และความเอื้อ อาทรซึ่งกันและกนั อนั จะสง่ ผลให้สมาชิกในชมุ ชนอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสุข
ใบความรทู้ ่ี ๔.๒ ประเพณีเกีย่ วกบั ขา้ วทีท่ ำร่วมกันทง้ั 4 ภาค รายวิชา ง 21201 ข้าวไทย แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๔ เรอื่ ง ประเพณเี กีย่ วกบั ข้าวท่ีทำรว่ มกนั ทั้ง ๔ ภาค ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ประเทศไทยในสมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นแหล่งกำเนิดเกษตรกรรมของโลก เพราะปรากฏหลักฐาน การพบพรรณพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มีความเก่าแก่กว่าบริเวณอื่นของโลก โดยเฉพาะมีหลักฐานการ พบซากฟอสซิลของข้าว ที่ถ้ำปุงฮุง จังหวัดแม่ฮ่องสอน อายุประมาณ ๗,๐๐๐ ปี แสดงว่าข้าวมีถิ่นกำเนิดใน ประเทศไทย มิใช่มีถ่ินกำเนิดในประเทศจีนและอนิ เดียตามหลักฐานเดิม ประเทศไทยในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ปรากฏหลักฐานการค้นพบข้าวที่แหล่งโบราณคดีหลายแห่ง นับตั้งแต่ หลักฐานถิ่นกำเนิดข้าวที่แหล่งโบราณคดีภาคเหนือ คือ ถ้ำปุงฮุง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (๗,๐๐๐ ปี) แหล่ง โบราณคดีภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี (๕,๖๐๐ ปี), โนนนกทา จังหวัดขอนแก่น (๕,๕๐๐ ปี), บ้านนาดี จังหวัดอุดรธานี (๓,๐๐๐ – ๔,๐๐๐ ปี) แหล่งโบราณคดีภาคกลางที่โคกเจริญ จังหวัด ลพบรุ ี (๔,๐๐๐ ป)ี , โคกพลับ จงั หวัดราชบรุ ี (๒,๐๐๐ – ๓,๐๐๐ ป)ี แสดงว่าชนเผ่าไทมภี ูมิปัญญาเกี่ยวกับการ ทำนาสืบทอดมาถึงปัจจบุ ันมาไม่ต่ำกว่า ๗,๐๐๐ ปี ซึ่งก่อให้เกิดความเชื่อ พิธีกรรม และประเพณีเกี่ยวกับขา้ ว ในพระราชพธิ ีสบิ สองเดอื นมากท่สี ดุ ประเพณีเกี่ยวกับข้าวเป็นประเพณีที่ชนเผ่าไทกระทำสืบทอดกันมานับตั้งครั้งก่อนประวัติศาสตร์ ในประเทศ ไทยมีประเพณเี กี่ยวกับขา้ วท่ที ำร่วมกนั ท้ัง ๔ ภาค ได้แก่ ประเพณีเดือนหก (พ.ค.) ภาคกลางจะประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ส่วนภาคเหนือจะมี ประเพณแี ฮกนา และพิธเี ลย้ี งผขี นุ นำ้ ในเดือนเก้า (ม.ิ ย.) ภาคอีสาน มปี ระเพณีทำบุญบ้ังไฟ บชู าแถนเพ่ือขอฝน ในเดือนหก (พ.ค.) และพิธีบวงสรวงตาแฮก (พระภูมินา) ในเดือนเจ็ด (มิ.ย.) ส่วนภาคใต้ก็มีประเพณีแรกนา ขวญั และพธิ ลี าซงั บวงสรวงเจ้าทีน่ าในเดือนหก (พ.ค.) และทำขวัญคอกก่อนลงมอื ไถนา ประเพณีเดือนเก้า (ส.ค.) เมื่อข้าวอุ้มท้อง ภาคกลางมีพระราชพิธีพิรุณศาสตรเ์ พื่อขอฝน มีพิธีทำขวัญข้าว ทำ ขวญั แม่โพสพ เทพธิดาดแู ลต้นขา้ ว ภาคเหนือมพี ธิ ปี มู ทา้ งแมโ่ คสก (โพสพ) และพิธสี ู่ขวัญควายตรงกับเดือนสิบ เอ็ด (ส.ค.) ภาคอสี านมีพิธบี ญุ ขา้ วประดบั ดิน เพ่ือทำบุญอุทิศแด่ผตู้ าย ภาคใตม้ พี ิธีกดขวญั ข้าว คอื ทำขวญั ข้าว เม่อื ขา้ วเรมิ่ ต้ังทอ้ ง และอญั เชิญขวญั แม่โพสพ ประเพณีเดอื นสบิ (ก.ย.) ในภาคกลางมพี ระราชพิธสี ารทกับพิธีกวนขา้ วทิพย์ ในภาคเหนือตรงกับเดือนสิบสอง (ก.ย.) มีพธิ ีทานขันข้าวแดผ่ เู้ ฒา่ จำศีล ภาคอีสานในเพ็ญเดอื นสิบ (ก.ย.) มพี ธิ ีทำบญุ ขา้ วสาก (สลากภัต) ประเพณเี ดือนสบิ สอง (พ.ย.) เมอื่ ออกพรรษาในภาคกลางมีเทศนม์ หาชาติ ตรงกับเดือนย่ี (พ.ย.) ในภาคเหนือ มพี ธิ ใี ส่บาตรข้าวพระเจ้าหลวง (ถวายข้าวมธปุ ายาส) สว่ นภาคอีสานมพี ธิ บี ญุ ขา้ วเม่าถวายสงฆ์ ประเพณเี ดอื นอ้าย (ธ.ค.) เป็นเวลาเกี่ยวขา้ วหลังจากข้าวตกรวง ในภาคกลางมีพิธีเฉวยี น พระโคกินเล้ียง ตรง กับเดือนสาม (ธ.ค.) ในภาคเหนือมีพิธเี อามือหรือลงแขก พธิ นี วดขา้ ว พิธสี ขู่ วญั ขา้ ว เอาข้าวขึน้ หลอง (ยงุ้ ) ภาค อีสานตรงกับเดือนเจียง (ธ.ค.) มีพิธีทำลานตี (นวด) ข้าว ส่วนภาคใต้มีพิธีรวบข้าวและผูกข้าว ตั้งเครื่องพลี กรรมทำขวัญข้าวก่อนเก็บเก่ยี วข้าว ประเพณีเดือนย่ี (ม.ค.) มีพิธีกรรมฉลองหลังการเก็บเกี่ยวข้าว คือพิธีทำขวัญลานนวดข้าวและยุ้งเก็บข้าว ใน ภาคเหนือ ตรงกับเดือนสี่ (ม.ค.) มีพิธีทานข้าวจี่ ข้าวหลาม ทานข้าวล้นบาตร ทานดอยข้าว ทานข้าวท้างน้ำ
(บูชาอาหารเทวดาประจำทางน้ำเข้านา) ในภาคอีสานมีพิธีปลงลอมข้าว นำตะกร้าขวัญข้าว เชิญแม่โพสพออก จากลานนวดข้าว เพื่อตีฟาด (นวด) ข้าวในลาน และมีพิธีบุญคูณลานเป็นพธิ ที ำบุญลานข้าวและเรียกขวัญขา้ ว บูชาแม่โพสพ และพิธีขนข้าวขึ้นเล้า (ยุ้งฉาง) ส่วนภาคใต้มีพิธีทำบุญลานและพิธีเชิญขวัญข้าวขึ้นสู่ยุ้งฉางท่ี เรยี กวา่ คุก ต่อจากนนั้ จะตอ้ งทำพธิ ีตักขา้ วคือนำขา้ วออกจากยงุ้ ฉางโดยใช้กระแชงขวัญตักขา้ ว ประเพณีเดอื นสาม (ก.พ.) ในภาคกลางมีพธิ ธี านยเทาะห์ คอื พธิ เี ผาข้าว (พธิ คี รัง้ กรุงเก่า) ภาคอีสานมีพิธีเลี้ยง ตาแฮก (พระภูมินา) เพราะข้าวขึ้นเล้าแล้ว จากนั้นมีพิธีเอนขวัญข้าว (สู่ขวัญข้าว) นำกระบุงข้าวเปลือกไป ถวายวัด พอถงึ วันเพญ็ เดือนสาม (วันมาฆบชู า) จะมีพิธีทำบญุ ขา้ วจ่ีเชน่ เดยี วกับภาคเหนอื ประเพณีเดอื นส่ี (มี.ค.) เป็นเทศกาลตรุษ ทางภาคกลางจะประกอบพระราชพิธีสมั พจั ฉรฉินท์และพิธีถวายข้าว บิณฑ์ ต่อด้วยพิธีตีข้าวบิณฑ์ในเดือนห้า (เม.ย.) ในภาคเหนือตรงกับเดือนหก (มี.ค.) มีพิธีปอยข้าวสังฆ์ ส่วน ภาคอสี านจะแหข่ า้ วพนั ก้อนเพ่อื ขอฝนจากพระรัตนตรัยในวันเทศน์พระเวสสแ์ ละมีพิธบี ุญแจกขา้ วเปตพลี
ใบงานที่ ๔ แบบบนั ทกึ การสบื คน้ ข้อมลู ประเพณีเกี่ยวกบั ข้าว ใบงานที่ ๔ รายวิชา ง ๒๑๒01 ข้าวกบั วิถีไทย แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๔ เร่ือง แบบบันทึกการสืบค้นข้อมลู ประเพณเี ก่ียวกับขา้ ว ................................................................................................................................................................... คำสง่ั ให้นกั เรยี นเขียนบนั ทกึ การสบื คน้ ข้อมลู ประเพณเี ก่ยี วกบั ข้าว ๑. พระราชพธิ ีพืชมงคลจรดพระนังคลั แรกนาขวัญ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๒. การลงแขก ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๓. ประเพณเี กยี่ วกับข้าวท่ที ำรว่ มกนั ทง้ั ๔ ภาค ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ช่อื -สกุล............................................................................ ชนั้ ........................ เลขที่ ..........................
เรอ่ื ง การเตรียมพื้นทป่ี ลูกขา้ ว หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี การปลูกขา้ ว ๒ รายวิชา ขา้ วกบั วิถีไทย รหสั ง ๒๑๒01 กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ สัปดาหท์ ี่ ๕ วันท.่ี ........................................... จำนวน ๒ ช่ัวโมง ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. ผลการเรียนรู้ 2. มที กั ษะการปฏิบัตติ ิในการปลกู ขา้ ว 9. มคี วามขยนั ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ใฝ่เรยี น ม่งุ มนั่ ในการทำงาน รกั ความเป็นไทย กตัญญู และมีจิตสาธารณะ ๒. สาระสำคญั การปลกู ขา้ วไมว่ า่ จะดว้ ยวธิ หี วา่ นหรอื ปักดำ การเตรียมพนื้ ทีป่ ลกู เป็นปัจจัยสำคัญทจ่ี ะทำใหก้ ารปลูก ขา้ วประสบความสำเรจ็ การเตรยี มดนิ ท่ีดจี ะต้องมีการไถดะ ไถแปรพืน้ ท่ี เพื่อกำจัดวชั พืช ต้องมกี ารปรับพ้ืนที่ ให้เรียบ สมำ่ เสมอ ไม่มแี อ่งน้ำ หรอื สว่ นทเี่ ปน็ โคก ทด่ี อน สามารถควบคุมการให้น้ำได้ แม้วา่ การเตรียมพื้นที่ อยา่ งพิถีพิถนั ในปแี รกจะทำให้เสยี คา่ ใชจ้ า่ ยมากกต็ าม ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ การเตรยี มพน้ื ทีป่ ลกู ขา้ ว ๓.๑.๑ การไถดะ ๓.๑.๒ การไถแปร ๓.๑.๓ การคราด ๓.๑.๔ การทำเทอื ก ๓.๒ การปรบั ปรุงดิน 4. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 4.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 4.2 รกั ความเป็นไทย 4.3 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๖. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๖.๑ ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรียน ๖.๑.๑ ครูสนทนากบั นกั เรยี นถงึ การเตรยี มพ้ืนท่ปี ลูกข้าวและการปรบั ปรุงดินในแต่ละท้องถิ่น ของนักเรยี นเอง ๖.๑.๒ ครูอธิบายถึงความสำคญั ของการเตรยี มพืน้ ที่ปลูกข้าวและการปรบั ปรงุ ดนิ ๖.๒ ขั้นกิจกรรม ๖.๒.๑ ครจู ัดนกั เรยี นเขา้ กลุม่ ตามความสนใจของนักเรยี น กลุม่ ละ ๖-๘ คน ๖.๒.๒ นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มยอ่ ยศึกษาใบความรู้ท่ี ๕.๑ เรื่องการเตรียมพนื้ ที่ปลูกข้าว ใบความรู้ที่ ๕.๒ เรอ่ื งการปรับปรงุ ดนิ ๖.๒.๓ นักเรยี นเขยี นบันทึกลงในใบงานที่ ๕ เร่ืองแบบบันทึกการสืบค้นข้อมลู การเตรียม พน้ื ทปี่ ลูกขา้ ว และการปรับปรงุ ดิน ๖.๓ ขัน้ สรปุ นกั เรียนอภปิ รายและสรุปรว่ มกันจากข้อมลู ท่ีสบื ค้นได้เก่ียวกับการเตรียมพ้นื ทปี่ ลูกข้าว และ การปรบั ปรงุ ดนิ ๗. สื่อ อุปกรณ์ และแหลง่ เรียนรู้ ๗.๑ ชมุ ชนท้องถิ่น ๗.๒ http://www.ricethailand.go.th ๗.๓ ใบความรูท้ ่ี ๕.๑ เรอ่ื งการเตรียมพน้ื ท่ปี ลูกขา้ ว ๗.๔ ใบความรู้ที่ ๕.๒ เรอื่ งการปรับปรงุ ดนิ ๗.๕ ใบงานที่ ๕ เรอ่ื งแบบบนั ทึกการสบื คน้ ข้อมูลการเตรยี มพ้นื ที่ปลูกขา้ ว และการปรบั ปรงุ ดนิ 8. ชิ้นงาน หรือภาระงาน ๔.๑ แบบบันทึกการสืบค้นข้อมูลการเตรียมพืน้ ทป่ี ลกู ข้าว ๔.๒ ผลการทดสอบ 9. การวัดและประเมนิ ผล ประเมินการเขยี นบนั ทกึ ข้อมูลจากใบงานท่ี ๕ ประเมินโดยใชเ้ กณฑ์ดงั นี้ (๔ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ นกั เรยี นเขียนบนั ทึกข้อมูลจากการสบื คน้ ได้อย่างถูกต้องครบถว้ น ๔ นกั เรียนเขียนบนั ทึกข้อมลู จากการสบื ค้นได้อย่างถูกต้อง ๓ นักเรียนเขียนบนั ทึกข้อมลู จากการสืบค้นไดเ้ ป็นบางสว่ น ๒ นักเรยี นเขยี นบนั ทึกข้อมลู จากการสืบคน้ ไม่สอดคล้องกับข้อมลู ๑ เกณฑ์การให้คะแนน ๔ คะแนน ดมี าก ๓ คะแนน ดี ๒ คะแนน พอใช้ ๑ คะแนน ปรบั ปรงุ เกณฑ์การประเมนิ ตดั สนิ ไดค้ ะแนนตัง้ แต่ ๒ (ระดับคณุ ภาพพอใช้)ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การนำเสนผลงาน คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงใน ชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาท่ใี ช้เข้าใจงา่ ย 4 ประโยชนท์ ี่ได้จากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ้ บกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ปรับปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ชอ่ื ชั้น คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงใน ช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 การแสดงความคดิ เห็น 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ นื่ 3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย 4 ความมนี ำ้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานกลมุ่ ช่ือกลุ่ม ช้นั คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงใน ช่อง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การแบ่งหนา้ ท่ีกันอยา่ งเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กันทำงาน 3 การแสดงความคิดเหน็ 4 การรับฟงั ความคิดเหน็ 5 ความมนี ้ำใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงใน ช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยนิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธิบาย ความหมายของเพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสิทธแิ ละหนา้ ทีข่ องนกั เรียน 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในชนั้ เรียน 3. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 1.5 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตนตามหลักของ ศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเกยี่ วกับสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามที่โรงเรียน และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ถี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งทถ่ี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวท่ีจะทำความผดิ ทำ ตาม สัญญาที่ตนให้ไวก้ บั เพ่อื น พ่อแม่หรอื ผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้อน่ื ดว้ ยความซื่อตรง 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครวั และ โรงเรียน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ใน ชีวติ ประจำวัน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั ค้มุ คา่ และเก็บรกั ษาดูแล อย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ิตนและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ นื่ และไม่ทำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มให้อภยั เม่อื ผูอ้ น่ื กระทำผดิ พลาด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใช้ชวี ิตประจำวนั บนพื้นฐาน 6. ม่งุ มัน่ ในการ ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทำงาน 7. รักความเป็นไทย 5.6 ร้เู ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั 8. มีจติ สาธารณะ และปรบั ตวั อยู่รว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้อยา่ งมีความสุข 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ และแบ่งปันส่งิ ของให้ผ้อู น่ื 8.3 รจู้ กั ดูแล รักษาทรพั ย์สมบตั แิ ละสิง่ แวดลอ้ มของห้องเรยี น โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง 91 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกว่า 54 ปรบั ปรุง
ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.............................................. (นางมลฤดี พรมเอีย่ ม) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................... ........................................... .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................... (นายชัยภัทร ใจดี) รองผู้อำนวยการโรงเรียน กลุ่มบริหารวชิ าการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................. ............................. ...................................................................................................... ........................................................................ ลงชื่อ จ.ส.อ. ...................................... (เสวก ฉนุ หอม) ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 56 จงั หวดั นา่ น
10. บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ........................................................................................ ................................................................. ...................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ 2. ปัญหา/อุปสรรค ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ 3. วธิ ีแก้ปัญหา / อุปสรรค ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ .............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ................................................... 4. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ลงชอื่ ......................................... (นายพริ ยิ พงษ์ ลอยเลศิ ) ครูผสู้ อน
ใบความร้ทู ี่ ๕.๑ การเตรียมพนื้ ท่ปี ลกู ข้าว รายวชิ า ง ๒๑๒01 ขา้ วกับวถิ ีไทย แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๕ เรอ่ื ง การเตรียมพน้ื ที่ปลูกขา้ ว ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การเตรยี มพ้ืนที่ปลูกข้าว ๑.การไถดะ ทำการไถหลังจากเกี่ยวข้าวแล้ว จากนั้นปล่อยน้ำเข้านา พอให้ดินชุ่มน้ำทิ้งไว้ประมาณ ๕-๑๐ วัน ทัง้ น้เี พอ่ื ใหเ้ มล็ดวัชพชื ท่รี ่วงลงในดนิ ไดง้ อกเป็นตน้ ออ่ น ๒.การไถแปร หรือการใช้ลกู ทุบตี เพือ่ ยอ่ ยดินใหม้ ขี นาดเล็กลง และทำลายตน้ ออ่ นของวัชพชื ที่งอกขนึ้ มา ทำ เช่นนี้ ๒-๓ ครั้ง ทิ้งระยะห่าง ๔-๕ วัน ก็จะสามารถลดการระบาดของวัชพืชได้ หลังจากนั้น ระบายน้ำเข้านา ขังน้ำไว้ ๒-๓ สัปดาห์ ๓.การคราด หลงั จากการขงั นำ้ จะมวี ชั พืชอีกร่นุ หน่ึงท่ีข้ึนมา ทำการคราดหรอื ทบุ ทำลายวชั พชื อกี คร้งั กำจัด เศษวัชพืชที่ลอยและตดิ อยู่ตามคนั นา จากน้นั ระบายน้ำออก ๔.การทำเทอื ก หลังการระบายน้ำออกให้ทำการตเี ทือก และปรับพื้นท่ีผวิ หน้าดินใหส้ ม่ำเสมอ เกษตรกรบาง รายทใี่ ชล้ กู ทุบหรืออีขลุกย่ำลงบนหญ้าหรือฟางข้าวให้จมลงไปในดนิ แทนการไถ ดงั น้นั หลังจากย่ำฟางข้าวแล้ว ควรระบายน้ำเข้านาเพื่อแช่หญ้าและฟางข้าวให้เน่าเปื่อยอย่างน้อย ๓ สัปดาห์ แล้วจึงย่ำทำเทือก ปรับพื้นที่ เพอื่ ปลูกขา้ วตอ่ ไป ***การเตรียมดินท่ีดี ปรบั พื้นที่ให้เรยี บเช่นนี้ ทำให้ลดการระบาดของวชั พชื ได้ ความงอกของต้นข้าว สม่ำเสมอ สามารถควบคุมนำ้ ได้สะดวก*** การเตรียมดนิ และวธิ ีปลูก • ปรบั ระดบั ผวิ ดนิ ใหเ้ รียบสม่ำเสมอ เสรมิ คนั นาใหแ้ ข็งแรง สามารถเกบ็ กักน้ำฝนไดด้ ี ถา้ ต้องการเพมิ่ ความอดุ มสมบูรณ์ของดนิ ให้ปฏิบัตอิ ย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ • ไม่เผาฟางขา้ ว ควรไถกลบตอซงั และฟางข้าวหลงั เก็บเกี่ยว • หว่านปุ๋ยหมกั หรือป๋ยุ คอกท่ียอ่ ยสลายดแี ลว้ อตั รา ๕๐๐-๑,๐๐๐ กโิ ลกรัมต่อไรก่ ่อนเตรยี ม ดนิ • ควรปลูกพชื ปยุ๋ สด เชน่ โสนอฟั ริกนั อัตราเมล็ดพนั ธุ์ ๕ กิโลกรมั ตอ่ ไร่ ก่อนปลกู ข้าว ประมาณ ๒ เดือน ไถกลบเมื่อพืชปุ๋ยสดมอี ายปุ ระมาณ ๕๐ วนั
ใบความร้ทู ่ี ๕.๒ การปรบั ปรงุ ดิน รายวชิ า ง ๒๑๒01 ขา้ วกับวถิ ไี ทย แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕ เร่ือง การปรบั ปรุงดนิ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การปรับปรงุ ดิน การปลกู ถัว่ เขียวก่อนปักดำข้าวในนาโดยอาศยั นำ้ ฝน ถั่วเขียว เป็นพืชตระกูลถั่ว ที่ให้ประโยชน์ ทั้งเป็นพืชบำรุงดิน และขาย เป็นรายได้ สำหรับเกษตรกร ตน้ ฤดูฝน ช่วงแรก กอ่ นที่จะปกั ดำขา้ ว สามารถปลูกถ่ัวเขยี ว เกบ็ เก่ยี วผลผลิต และไถกลบ เป็นปุ๋ยพชื สดได้ ๑. การเลือกพนื้ ที่ปลกู เกษตรกรที่มีการทำนา โดยวิธีปักดำข้าว สามารถปลูกถั่วเขียวได้ทุกพื้นที่ ถ้าเป็นพื้นที่นา ที่ระบายน้ำได้ดี จะ ทำใหไ้ ด้ ผลผลิตถั่วเขียวสงู ๒. การระบายน้ำ การระบายนำ้ ออกจากแปลงนา จะเป็นปจั จยั กำหนด ความสำเรจ็ ของการปลกู ถว่ั เขียว ก่อนขา้ วในช่วงฤดูฝน ว่าจะได้ผลผลิต มากหรือน้อย ดังนั้นในช่วงแรก ในขณะที่ปลูกถั่วเขียว จะต้องเปิดคันนาทิ้งไว้ เพื่อระบายน้ำ ออกจากแปลงนา ๒.๑ การเตรยี มดิน เมอื่ มีฝนตน้ ฤดูตัง้ แต่ช่วงฝนสงกรานต์ ให้รีบไถดะเตรียมดนิ (ครั้งท่ี ๑) เม่อื ถึงช่วงต้นเดอื นพฤษภาคมให้ไถแปร (คร้ังที่ ๒) เพือ่ ท่จี ะปลูกถว่ั เขียวต่อไป ๒.๒ การปลกู ไถแปร (ครั้งที่ ๒) เมื่อมีฝนตกความชื้นพอที่จะปลูกแล้วหว่านเมล็ดถั่วเขียวอัตรา ๔ – ๕ กิโลกรัมต่อไร่ แล้ว คราดกลบ ๒.๓ การกำจัดวัชพืช หลังจากหวา่ นถว่ั เขียว ๕-๗ วัน เมลด็ ถวั่ เขยี วจะงอก ถ้างอกสมำ่ เสมอและงอกได้เร็วจะมปี ัญหาวัชพืชน้อย ถ้า ฝนตกชุกมีน้ำขังให้ระบายน้ำออก เพราะถั่วเขียวเปน็ พืชที่ไม่ทนน้ำขัง ปล่อยให้ถั่วเขียวเจริญเติบโตจนกระทง่ั เก็บเกี่ยว ๒.๔ การใสป่ ยุ๋ เมื่อปลูกถั่วเขียวในสภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ถ้าต้องการให้ได้ผลผลิตถั่วเขียวสูงควรจะใส่ปุ๋ยคอก ปรมิ าณท่ใี สจ่ ะมากหรือน้อยตามทีเ่ กษตรกรมีอยู่ ๒.๕ การเก็บเกีย่ ว เมื่อถั่วเขียว สุกแก่ พอที่จะเก็บเกี่ยวได ้อายปุ ระมาณ ๖๐-๗๕ วัน เก็บฝักถั่วเขยี ว นำไปตากแดดให้แห้ง นวด แลว้ นำเมล็ดไปจำหนา่ ยตอ่ ไป ๒.๖ การไถกลบซากถ่วั เขียว หลงั จากทีเ่ ก็บเก่ยี ว ฝักถั่วเขยี วแลว้ ใหไ้ ถกลบ ตน้ ถวั่ เขียว ลงสดู่ นิ เพื่อเปน็ ปุ๋ย สำหรบั ข้าวตอ่ ไป
การปลกู ขา้ วในสภาพดนิ ทราย-ทรายจดั สภาพนาดินทรายพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ ส่วนใหญ่จะ อยู่ในสภาพอาศัยน้ำฝนเสี่ยงต่อการขาดน้ำ ดังนั้น การที่จะปลูกข้าวให้ได้ผล ควรเลือกพันธุ์ข้าวเบา ซึ่งมี อายุสั้น เช่น กข.๑๐ กข.๑๕ หรือพันธุ์พื้นเมือง และหลังจากนั้นควรปรับปรุงดินด้วยอินทรีย์ วัตถุ ได้แก่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด เช่นปลูกถั่วเขียวก่อนทำนาแล้วไถกลบ ในระยะออกดอก หรือใช้วัสดุปรับปรุงดิน เช่น เศษพชื ต่าง ๆ เป็นต้น หรอื ควรไถกลบหลังเก็บเกยี่ ว จะทำให้สภาพของดนิ ดขี ึ้น นอกจากนี้หลังการหว่าน หรือปักดำข้าว ควรหาวัสดุคลุมดินเช่นแกลบ ฟางข้าว เป็นต้น การใส่ปุ๋ยเคมีควรใช้สูตร ๑๖-๑๖-๘ โดยควร แบง่ ใสห่ ลาย ๆ ครั้ง เนือ่ งจากดนิ ทรายจะเก็บกกั ป๋ยุ ไว้ไดน้ อ้ ย จะมกี ารสญู หายไปกับดนิ หรอื น้ำไดง้ า่ ย นอกจาก การปักดำขา้ วควรจะถ่ีขนึ้ หรือทำนาหวา่ นจะทำใหเ้ พิ่มผลผลติ ขึน้ ได้ อย่างไรก็ตาม หากเราสามารถใส่ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งหลาย ได้แก่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสดลงในดิน ได้ ทกุ ๆ ปี ต่อเนื่อง ๓ - ๕ ปี เราก็สามารถปรับปรงุ ดินทรายใหม้ ีสภาพดขี ึ้นและเพมิ่ ผลผลติ ขา้ วของเราได้ การปลูกขา้ วในสภาพดนิ เค็ม พ้นื ทด่ี ินเค็มระดับเค็มน้อยและเค็มปานกลางมักอยู่ในที่ลุ่ม มีนำ้ ทว่ มขังในฤดูฝนเหมาะสำหรับการทำ นา และข้าวเป็นพืชที่ทนเค็มได้ปานกลาง ถ้ามีการปรับปรุงดินและเลือกพันธุ์ข้าวที่ทนเค็ม ก็จะทำให้ผลผลิต ข้าวเพม่ิ ขึ้นได้ ซ่ึงมวี ธิ กี ารทีท่ ำได้ในระดับเกษตรกร ดังนี้ ๑. การใช้วัสดุปรับปรุงดิน เช่น แกลบ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก อัตรา ๒-๕ ตันต่อไร่ หรือใช้ปุ๋ยพืช สดเชน่ โสนอฟั รกิ นั หวา่ นในอตั รา ๗ กิโลกรัมต่อไร่ แล้วไถกลบตอนออกดอก เมอื่ อายุ ๖๐ วนั นอกจากนี้อาจ ใส่วสั ดุปรบั ปรงุ ดิน เชน่ ปูนขาว ปูนมารล์ หรอื หินปูนบด เพือ่ ลดความเปน็ กรดในดนิ ๒. การปรับกระทงนาให้สม่ำเสมอ เพื่อให้น้ำขังนาอย่างสม่ำเสมอทั้งแปลง และไถพรวนดิน ลกึ ประมาณ๓๐ เซนติเมตร ๓. เลือกพนั ธ์ขุ ้าวทนเค็ม ได้แก่ ขาวดอกมะลิ ๑๐๕ กข.๑๕ กข.๖ กข.๘ ขาวตาแห้ง ๑๗ ขาวปากหมอ้ ๑๔๘ ๔. หากปลกู โดยวิธปี กั ดำ กล้าทใ่ี ช้ควรอายุมากกว่าปกติ คอื ประมาณ ๓๕ - ๔๕ วนั และ ปักดำ ๕ - ๘ ต้นตอ่ จับ เพอ่ื ให้มจี ำนวนตน้ ตอ่ กอมากและใชร้ ะยะ ๒๐ x ๒๐ เซนตเิ มตร การใสป่ ยุ๋ ควรแบง่ ใส่ ๓ ครั้ง เท่า ๆ กัน ได้แก่ ครั้งแรก หลังปักดำ๗ - ๑๐ วัน ครั้งที่ ๒ ระยะข้าวแตกกอสูงสุด และครั้งที่ ๓ ระยะขา้ วกำลังตัง้ ทอ้ ง โดยใชส้ ตู ร ๑๖-๑๖-๘ จำนวน ๓๐ กโิ ลกรัมตอ่ ไร่ ๕. การดูแลรักษา สังเกตลกั ษณะความเค็มที่กระทบต่อตน้ ขา้ ว คอื ใบล่างจะเหี่ยวเป็นสีเงิน หรอื ใบม้วน เขา้ ตามความยาวของใบ ภายใน ๑ สปั ดาห์ ตน้ กล้าไมแ่ ตกใบใหม่แสดงว่าตน้ กลา้ ตาย ควรปักดำ ซ่อม และระบายน้ำออก จากนั้นระบายน้ำเข้าไปใหม่ ระยะที่ต้นข้าวอ่อนแอต่อความเค็ม คือ ระยะตกกล้า และระยะออกดอกซึ่งไม่ควร ใหแ้ ปลงนาขาดน้ำเพราะจะทำให้ข้าวลีบ หลังจากเกบ็ เกีย่ วข้าวแล้วไม่ควรปล่อย ให้หนา้ ดินวา่ ง ควรคลุมดนิ ดว้ ยแกลบ ฟางขา้ ว และเศษพชื และสามารถทำไดง้ ่าย ๆ โดยหลังจากเกบ็ เกี่ยวแล้ว ทำการเหยยี บยำ่ ตอซงั ที่เหลอื ใหป้ กคลมุ ดนิ ไว้
ใบงานท่ี ๕ แบบบนั ทกึ การสบื คน้ การเตรยี มพน้ื ทีป่ ลกู ข้าว และการปรับปรุงดนิ รายวชิ า ง ๒๑๒01 ขา้ วกับวิถไี ทย แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๕ เรือ่ ง แบบบนั ทึกการสบื ค้นการเตรยี มพ้นื ท่ปี ลูกข้าว และการปรับปรุงดนิ ................................................................................................................................................................... คำสง่ั ให้นกั เรยี นเขียนบันทึกการสบื คน้ ข้อมลู การเตรียมพ้ืนท่ีปลูกข้าว และการปรับปรุงดนิ ๑. การเตรยี มพ้ืนทีป่ ลูกขา้ ว ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๒. การปรับปรงุ ดนิ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ทมี่ า : ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ชอื่ -สกุล............................................................................ ชัน้ ........................ เลขที่ ..........................
เรื่อง วัสดอุ ุปกรณป์ ลกู ขา้ ว หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ การปลกู ขา้ ว รายวิชา ขา้ วกบั วถิ ีไทย รหัส ง ๒๑๒01 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ สัปดาห์ท่ี ๖ วนั ท.่ี ........................................... จำนวน ๒ ช่วั โมง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. ผลการเรยี นรู้ 2. มที ักษะการปฏิบัติตใิ นการปลูกขา้ ว 9. มีความขยนั ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ใฝเ่ รียน มุ่งมั่นในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย กตัญญู และมีจิตสาธารณะ ๒. สาระสำคัญ เครอ่ื งมอื ทำนาแบบดั้งเดมิ จะมีลักษณะคล้ายกนั ในแทบทุกภาค โดยจะแตกต่างกันบา้ งในวสั ดุทท่ี ำ จากท้องถิ่น การตกแต่งลวดลายชื่อท่ีเรียกแตกตา่ งกนั และมลี ักษณะเฉพาะทีน่ ยิ มใชแ้ ตล่ ะภมู ภิ าค เครื่องมือ เครอ่ื งใช้ในการทำนาสามารถแบ่งออกเปน็ ๒ ประเภทคือ เคร่ืองมือพืน้ บา้ นและเครื่องมือแบบสมยั ใหม่ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ เครอ่ื งมอื พ้ืนบ้าน ๓.๒ เคร่ืองมอื แบบสมยั ใหม่ 4. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4.1 ใฝเ่ รียนรู้ 4.2 รักความเป็นไทย 4.3 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๖.๑ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน ๖.๑.๑ ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกข้าวในแต่ละท้องถิ่นของ นกั เรยี นเอง ๖.๑.๒ ครูอธบิ ายถึงความสำคัญของเก่ียวกับวสั ดอุ ุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นการปลูกขา้ ว ๖.๒ ขน้ั กจิ กรรม ๖.๒.๑ ครูจัดนักเรียนเข้ากลุม่ ตามความสนใจของนักเรยี น กลุ่มละ ๖-๘ คน ๖.๒.๒ นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ยอ่ ยศึกษาใบความรู้ที่ ๖.๑ เรื่องเครอ่ื งมือพนื้ บา้ น ใบความรู้ท่ี ๖.๒ เรื่องเคร่ืองมือแบบสมัยใหม่
๖.๒.๓ นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ย่อยศึกษาจากเคร่ืองมือของจริงท่ีครูจดั เตรยี มไว้ให้ ๖.๒.๔นักเรียนเขยี นบันทกึ ลงในใบงานท่ี ๖ เร่ืองแบบบันทึกการสบื คน้ ขอ้ มลู วัสดอุ ุปกรณท์ ่ใี ช้ ในการปลูกข้าว ๖.๓ ขั้นสรุป นกั เรียนอภิปรายและสรปุ ร่วมกันจากขอ้ มูลทส่ี บื ค้นได้เก่ยี วกบั วัสดุอปุ กรณ์ที่ใช้ในการปลูก ข้าว ๗. สอ่ื อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ๗.๑ ใบความร้ทู ี่ ๖.๑ เรอื่ งเคร่ืองมือพ้ืนบ้าน ๗.๒ ใบความร้ทู ่ี ๖.๒ เร่อื งเคร่ืองมือแบบสมยั ใหม่ ๗.๓ ใบงานที่ ๖ เรอ่ื งแบบบันทกึ การสบื ค้นข้อมูลวัสดอุ ปุ กรณ์ที่ใช้ในการปลูกข้าว ๗.๔ ตัวอย่างเครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการปลูกข้าวของจริง ๗.๕ ชมุ ชนท้องถ่ิน 8. ช้ินงาน หรอื ภาระงาน 8.๑ แบบบันทึกการสบื คน้ ขอ้ มลู วสั ดุอปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในการปลูกขา้ ว 8.๒ ผลการทดสอบ 9. การวัดและประเมนิ ผล ประเมนิ การเขยี นบนั ทกึ ขอ้ มูลจากใบงานที่ ๖ ประเมินโดยใช้เกณฑ์ดังนี้ (๔ คะแนน) รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ๔ นกั เรียนเขยี นบนั ทึกข้อมูลจากการสืบคน้ ได้อย่างถูกต้องครบถว้ น ๓ ๒ นักเรยี นเขียนบนั ทึกข้อมลู จากการสืบคน้ ได้อย่างถูกต้อง ๑ นักเรียนเขยี นบนั ทึกข้อมูลจากการสืบค้นได้เปน็ บางส่วน นกั เรยี นเขียนบนั ทึกข้อมลู จากการสบื ค้นไมส่ อดคล้องกบั ข้อมลู เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๔ คะแนน ดมี าก ๓ คะแนน ดี ๒ คะแนน พอใช้ ๑ คะแนน ปรับปรงุ เกณฑ์การประเมนิ ตดั สิน ไดค้ ะแนนตั้งแต่ ๒ (ระดบั คุณภาพพอใช้)ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การนำเสนผลงาน คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงใน ชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาท่ใี ช้เข้าใจงา่ ย 4 ประโยชนท์ ี่ได้จากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ้ บกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ปรับปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ชอ่ื ชั้น คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงใน ช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 การแสดงความคดิ เห็น 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ นื่ 3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย 4 ความมนี ำ้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานกลมุ่ ช่ือกลุ่ม ช้นั คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงใน ช่อง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การแบ่งหนา้ ท่ีกันอยา่ งเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กันทำงาน 3 การแสดงความคิดเหน็ 4 การรับฟงั ความคิดเหน็ 5 ความมนี ้ำใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงใน ช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยนิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธิบาย ความหมายของเพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสิทธแิ ละหนา้ ทีข่ องนกั เรียน 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในชนั้ เรียน 3. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 1.5 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตนตามหลักของ ศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเกยี่ วกับสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามที่โรงเรียน และชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ถี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งทถ่ี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวท่ีจะทำความผดิ ทำ ตาม สัญญาที่ตนให้ไวก้ บั เพ่อื น พ่อแม่หรอื ผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้อน่ื ดว้ ยความซื่อตรง 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครวั และ โรงเรียน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ใน ชีวติ ประจำวัน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั ค้มุ คา่ และเก็บรกั ษาดูแล อย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ิตนและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ นื่ และไม่ทำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มให้อภยั เม่อื ผูอ้ น่ื กระทำผดิ พลาด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใช้ชวี ิตประจำวนั บนพื้นฐาน 6. ม่งุ มัน่ ในการ ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทำงาน 7. รักความเป็นไทย 5.6 ร้เู ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั 8. มีจติ สาธารณะ และปรบั ตวั อยู่รว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้อยา่ งมีความสุข 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ และแบ่งปันส่งิ ของให้ผ้อู น่ื 8.3 รจู้ กั ดูแล รักษาทรพั ย์สมบตั แิ ละสิง่ แวดลอ้ มของห้องเรยี น โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง 91 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกว่า 54 ปรบั ปรุง
ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.............................................. (นางมลฤดี พรมเอีย่ ม) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................... ........................................... .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................... (นายชัยภัทร ใจดี) รองผู้อำนวยการโรงเรียน กลุ่มบริหารวชิ าการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................. ............................. ...................................................................................................... ........................................................................ ลงชื่อ จ.ส.อ. ...................................... (เสวก ฉนุ หอม) ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 56 จงั หวดั นา่ น
10. บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................. ............................................................ ...................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ 2. ปัญหา/อุปสรรค ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ 3. วธิ ีแก้ปัญหา / อุปสรรค ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ .............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ................................................... 4. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................... (นายพริ ิยพงษ์ ลอยเลศิ ) ครูผสู้ อน
ใบความรทู้ ี่ ๖.๑ เคร่ืองมือทำนาแบบพ้นื บ้าน รายวิชา ง ๒๑๒01 ขา้ วกับวถิ ไี ทย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เร่ือง เครอ่ื งมอื ทำนาแบบพน้ื บ้าน ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เครอื่ งมือทำนาแบบพืน้ บ้าน เครอ่ื งมอื เครื่องใชใ้ นการเตรียมดนิ คันไถ เครอื่ งมอื ที่ใชพ้ รวนดินก่อนการปลกู ขา้ ว กลับหน้าดินเพือ่ ทำให้ดนิ รว่ นซุย ไถแบง่ ออกเปน็ ๒ ชนิด คือ ไถววั ซง่ึ เป็นไถที่ใช้แรงงานวัวและไถควายซง่ึ เปน็ ไถท่ีใชแ้ รงงานควาย แอก เครือ่ งมือทใี่ ชส้ ำหรบั สวมคอควายหรือวัวเพื่อท่จี ะไถ แอกมี ๒ ชนิดคอื แอกวัวควายคู่ กบั แอก ววั ควายเดย่ี ว คราด เครื่องมอื ทใ่ี ช้สำหรบั คราดดินให้ร่วนซุย คราดมี ๒ ชนิดคอื คราดววั ควายคู่ และ คราดวัวควาย เดยี่ ว ก๋วยกลา้ เครอื่ งมือทีใ่ ชส้ ำหรบั ใส่กำกลา้ หรือขนย้ายส่ิงของ มักใช้ทางภาคเหนือ ม้าหาบขา้ ว ใชใ้ นการเรียงต้นกล้าหรือฟ่อนข้าวในคันหลาว ไม้หาบกล้า (บางถ่นิ เรยี กคันหลาว) ใช้สำหรับหาบต้นกลา้ เพอื่ นำไปปกั ดำ ตอก เคร่อื งมืออีกชนดิ หน่ึงท่ีใชส้ ำหรับมัดฟ่อนหรือกำกล้า มอี ยู่ ๒ ชนดิ คือ ตอกมัดฟ่อนขา้ ว กบั ตอก มัดกำกลา้ จอบ เครื่องมือสำหรับดายหญ้า พรวนดนิ และเตรียมดนิ คนั ไถ
เครือ่ งมือเครอื่ งใช้ในช่วงเกบ็ เกีย่ ว เคยี ว เครอ่ื งมอื เก่ยี วข้าวมรี ูปโคง้ เคียวมี ๒ ชนิดคอื เคยี วงอ กบั เคียวลา แกระ/แกะ เคร่ืองมือเกย่ี วขา้ วท่ีใชเ้ กบ็ รวงขา้ ว นยิ มใชใ้ นภาคใต้ ไม้หนบี เปน็ ไม้คหู่ นึ่งใชห้ นีบมัดรวงข้าวเพ่ือยกขา้ วฟาดลงบนลานหรือม้ารองนวดขา้ ว หัวไมผ้ กู ติดกนั ด้วยเชือก มา้ รองนวดข้าว เอาไว้ใช้สำหรบั รองรับฟ่อนข้าวเพ่อื นวดหรือฟาดเพ่ือตีเมลด็ ข้าวจะได้หลุดร่วง ฟอยหนาม ใช้กวาดเศษฝนุ่ และเศษฟางออกจากกองขา้ วเปลือก ขาหมา เปน็ เคร่ืองมือใชห้ าบขา้ ว ประกอบด้วยตวั ขาหมาทำจากไม้ไผเ่ ป็นรปู กากบาท ๒ คู่ ขาไม้ทะลุ ตวั ไมข้ ึน้ มาทำเปน็ กระบะสำหรบั ใสร่ วงข้าวบดุ ้วยเสือ่ รำแพน พัดวี ใช้สำหรบั พดั ฝุ่นผงและข้าวลบี ให้ออกจากกองขา้ วเปลอื ก เคยี ว ไมห้ นีบ ขาหมา พดั วี เครอ่ื งมือเครอ่ื งใช้ในการแปรรูปขา้ ว ครกกระเดื่อง ใช้ตำขา้ วโดยใชป้ ลายเทา้ เหยียบกระเดื่องให้สากกระดกขนึ้ ลง ครกซอ้ มมือ ใช้สำหรบั ตำขา้ วเปลือก จากข้าวเปลอื กเปน็ ข้าวกลอ้ ง จากข้าวกลอ้ งเป็นข้าวสาร กระด้ง ใช้ฝดั ร่อนข้าวเอาเศษผงฝ่นุ แกลบ ออกจากเมลด็ ข้าว ตะแกรง ใช้สำหรับร่อนแยกเศษฟางออกจากเมล็ดขา้ ว ครกกระเดือ่ ง
ใบความร้ทู ี่ ๖.๒ เครอื่ งมือทำนาแบบสมัยใหม่ รายวิชา ง ๒๑๒01 ขา้ วกบั วถิ ีไทย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๖ เร่อื ง เครอ่ื งมือทำนาแบบสมัยใหม่ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เครอื่ งมอื ทำนาแบบสมัยใหม่ เครือ่ งมอื เครอ่ื งใชใ้ นการเตรยี มดิน รถไถนา ใชท้ ้ังเตรยี มดินนาหว่าน นาดำ และคราด รถแทรคเตอร์ เครื่องเตรียมดิน ทำนา ทำสวน ทำไร่หรอื หักร้างถางพง เครื่องปกั ดำ ใชแ้ ทนการปักดำดว้ ยแรงงานคน เคร่ืองมือชนิดนี้ยังไมเ่ ป็นทน่ี ิยมมากนกั เครอ่ื งสูบน้ำ ใชส้ บู นำ้ เขา้ นาโดยใช้เคร่อื งยนต์หรือไฟฟ้าเป็นแรงหมนุ มอเตอร์สบู จากแม่นำ้ คลอง ชลประทานเข้ามาใช้ในนา เคร่อื งมอื เคร่ืองใช้ในช่วงเก็บเก่ียว รถเก่ียวข้าวและนวดข้าว ใชส้ ำหรบั เก่ยี วและนวดข้าวไปพรอ้ มๆ กนั เป็นรถแบบตนี ตะขาบวิ่งได้ใน นาท่ีมพี นื้ ที่เรียบ เครื่องนวดข้าว ใช้เครื่องยนต์ในการนวดขา้ วให้ย่อยจากรวงเปน็ เมล็ดข้าวเปลือก เมื่อต้องการนวด ขา้ วกเ็ อาเคร่อื งยนตจ์ ากรถไถนาเดิมมาหมุนตามเครื่องนวดและ สามารถใช้กระสอบ หรือผืนผ้าใบมารองรับ เมลด็ จากเคร่ือง เคร่ืองมอื เครอื่ งใช้ในการแปรรูปข้าว เครื่องสขี า้ ว ใช้สำหรับสีข้าวเปลือกให้เป็นขา้ วสาร ออกมาเปน็ แกลบและรำ เคร่อื งสีข้าว เครื่องสีขา้ วกล้อง เครอ่ื งคัดข้าวสาร
ใบงานที่ ๖ แบบบันทกึ การสบื ค้นข้อมูลวัสดอุ ุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ นการปลูกขา้ ว รายวชิ า ง ๒๑๒๐1 ขา้ วกับวิถไี ทย แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๖ เรือ่ ง แบบบนั ทึกการสืบคน้ ข้อมูลวัสดุอุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการปลูกข้าว ................................................................................................................................................................... คำสง่ั ใหน้ กั เรียนเขยี นบันทกึ การสืบค้นข้อมูลวัสดุอุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการปลูกขา้ ว ๑. เครอ่ื งมอื พน้ื บา้ น ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๒. เครื่องมอื แบบสมัยใหม่ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๓. วาดเครื่องมือทใ่ี ช้ในการปลกู ข้าวมาจำนวน ๒ ชนิด ช่อื -สกุล............................................................................ ชั้น ........................ เลขที่ ..........................
เรือ่ ง การปลูกข้าวและการดูแลรกั ษา หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ การปลูกขา้ ว รายวิชา ขา้ วกับวิถีไทย รหัส ง ๒๑201 กลุม่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี สัปดาห์ที่ ๗-๙ วนั ท…ี่ ………………………………………… จำนวน ๖ คาบ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. ผลการเรียนรู้ 2. มีทกั ษะการปฏิบัตติ ใิ นการปลูกขา้ ว 9. มคี วามขยนั ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ใฝ่เรยี น มงุ่ ม่นั ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย กตัญญู และมจี ติ สาธารณะ ๒. สาระสำคัญ การทำนา หมายถึง การปลูกขา้ วและการดแู ลรักษาตน้ ข้าวในนา ตงั้ แต่การปลูกข้าว ฤดูปลกู การ เตรียมเมล็ดพันธุ์ การเตรียมดินและวิธีปลูก การดูแลรักษา การให้ปุ๋ยเคมี การให้ปุ๋ยอินทรีย์ การอนุรักษ์ศัตรู ธรรมชาติ แนวทางในการปฏิบัติเพื่อใช้ประโยชน์จากศัตรูธรรมชาติในนาข้าว สุขลักษณะและความสะอาด ศัตรูของข้าวและการป้องกันกำจัด คำแนะนำการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและเหมาะสม การเกบ็ เก่ียว วทิ ยาการหลงั การเกบ็ เกย่ี ว การบันทึกขอ้ มลู การปลกู ข้าวในแต่ละทอ้ งถนิ่ จะแตกต่างกันไปตาม สภาพของดินฟ้าอากาศ และสังคมของท้องถิ่นนั้น ๆ ในแหล่งที่ต้องอาศัยน้ำจากฝนเพียงอย่างเดียว ก็ต้องกะ ระยะเวลาการปลูกข้าวใหเ้ หมาะสมกับช่วงที่มีฝนตกสมำ่ เสมอ และเกบ็ เกยี่ วในช่วงท่ีฤดฝู นหมดพอดี เน่อื งจาก แต่ละท้องถิ่นมสี ภาพดนิ ฟา้ อากาศทแี่ ตกต่างกนั ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ การปลกู ขา้ ว ๓.๑.๑ ฤดปู ลกู ๓.๑.๒ การเตรยี มเมลด็ พันธุ์ ๓.๑.๓ การเตรยี มดินและวธิ ีปลกู ๓.๒ การดแู ลรักษา ๓.๒.๑ การใหป้ ยุ๋ เคมี ๓.๒.๒ การใหป้ ุย๋ อนิ ทรยี ์ ๓.๒.๓ การอนุรักษศ์ ตั รูธรรมชาติ ๓.๒.๔ แนวทางในการปฏบิ ตั เิ พอื่ ใช้ประโยชนจ์ ากศตั รูธรรมชาตใิ นนาขา้ ว ๓.๒.๕. สขุ ลักษณะและความสะอาด ๓.๒.๖. ศัตรขู องขา้ วและการปอ้ งกันกำจัด ๓.๒.๗. คำแนะนำการใช้สารปอ้ งกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม ๓.๒.๘. การเกบ็ เก่ียว ๓.๒.๙. วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว ๓.๒.๑๐. การบันทกึ ข้อมูล
4. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 4.1 ใฝเ่ รียนรู้ 4.2 รกั ความเปน็ ไทย 4.3 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๖. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๖.๑ ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น ๖.๑.๑ ครูสนทนากบั นกั เรยี นถึงการปลกู ขา้ วในแต่ละท้องถิ่นของนกั เรียนเอง ๖.๑.๒ ครอู ธิบายถงึ ความสำคญั ของขา้ ว ๖.๒ ข้นั กจิ กรรม ๖.๒.๑ ครูจดั นกั เรียนเขา้ กลุม่ ตามความสนใจของนกั เรยี น กลมุ่ ละ ๖-๘ คน ๖.๒.๒ นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ย่อยศึกษาสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เลม่ ที่ ๓ ใบความรทู้ ี่ ๑.๑ เรือ่ งจุดกำเนิดและประวัติขา้ วไทย ใบความรู้ที่ ๑.๒ เร่ืองความเป็นมาของข้าวไทย ๖.๒.๓ นกั เรยี นเขยี นบนั ทกึ ลงในใบงานที่ ๑ เร่ืองแบบบันทึกการสืบคน้ ข้อมูลจดุ กำเนดิ ประวตั ิ และความเปน็ มาของข้าวไทย ๖.๓ ขัน้ สรุป นักเรยี นอภปิ รายและสรุปรว่ มกันจากขอ้ มูลทีส่ ืบคน้ ได้เกย่ี วกบั จุดกำเนดิ ประวตั ิ และความ เปน็ มาของขา้ วไทย ๗. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ ๗.๑ สารานกุ รมไทยสำหรบั เยาวชนฯ เลม่ ท่ี ๓ ๗.๒ http://www.kanchanapisek.or.th/kp2/BOOK3/chapter1/chap1.htm ๗.๓ http://www.ricethailand.go.th/rkb/data_๐๐๓/rice_xx๒-๐๓_ricecheck๐๑๐.html ๗.๔ ใบความร้ทู ่ี 7.๑ เรื่องการปลกู ขา้ ว ๗.๕ ใบความรทู้ ี่ ๑.๒ เรอ่ื งการดแู ลรกั ษา 7.6 ใบงานท่ี 7 เรื่องแบบบันทกึ การสบื ค้นข้อมลู การปลูกข้าวและการดูแลรักษา 8. ช้นิ งาน 8.๑ แบบบนั ทึกการสบื คน้ ข้อมูลการปลกู และการดูแลรกั ษา 8.๒ ผลการทดสอบ
9. การวดั และประเมินผล ประเมินการเขียนบันทึกขอ้ มูลจากใบงานที่ 7 ประเมนิ โดยใชเ้ กณฑ์ดังน้ี (๔ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ นกั เรียนเขยี นบันทึกข้อมูลจากการสืบคน้ ได้อยา่ งถูกต้องครบถ้วน ๓ ๒ นักเรียนเขยี นบนั ทึกข้อมลู จากการสบื คน้ ได้อยา่ งถูกต้อง ๑ นักเรยี นเขียนบนั ทึกข้อมูลจากการสบื คน้ ไดเ้ ปน็ บางสว่ น นักเรยี นเขยี นบนั ทึกข้อมลู จากการสืบคน้ ไมส่ อดคล้องกบั ข้อมลู เกณฑก์ ารให้คะแนน ๔ คะแนน ดมี าก ๓ คะแนน ดี ๒ คะแนน พอใช้ ๑ คะแนน ปรบั ปรงุ เกณฑ์การประเมนิ ตัดสิน ได้คะแนนตงั้ แต่ ๒ (ระดบั คุณภาพพอใช้)ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การนำเสนผลงาน คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงใน ชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาท่ใี ช้เข้าใจงา่ ย 4 ประโยชนท์ ี่ได้จากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ้ บกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ปรับปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ชอ่ื ชั้น คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงใน ช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 การแสดงความคดิ เห็น 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ นื่ 3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย 4 ความมนี ำ้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานกลมุ่ ช่ือกลุ่ม ช้นั คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงใน ช่อง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การแบ่งหนา้ ท่ีกันอยา่ งเหมาะสม 2 ความร่วมมอื กันทำงาน 3 การแสดงความคิดเหน็ 4 การรับฟงั ความคิดเหน็ 5 ความมนี ้ำใจช่วยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240