Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการบัญชีเบื้องต้น รหัสวิชา 20200-1002

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการบัญชีเบื้องต้น รหัสวิชา 20200-1002

Published by krutip.2550, 2022-04-08 07:01:33

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการบัญชีเบื้องต้น รหัสวิชา 20200-1002

Search

Read the Text Version

40 บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

41 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 4 หน่วยที่ 4 รหสั วิชา 20200-1002 การบญั ชเี บ้ืองตน้ (2-2-3) สอนครงั้ ท่ี 4 (13-16) จานวนชวั่ โมง 4 ช.ม. ช่ือหน่วย/เร่ือง การวิเคราะหร์ ายการคา้ แนวคิด การวเิ คราะหร์ ายการคา้ ถอื เป็นจุดเรมิ่ ต้นของวงจรบญั ชี ถ้าวเิ คราะหร์ ายการคา้ ผดิ กจ็ ะทาให้ขนั้ ตอน ต่างๆ ในลาดบั ถดั ไปผดิ ไปด้วย ดงั นัน้ หากมคี วามผดิ พลาดเกดิ ขน้ึ แล้ว กจ็ ะทาใหผ้ ู้ใชข้ อ้ มูลทางการบญั ชนี ัน้ ตดั สนิ ใจผดิ พลาดไปด้วย จงึ ควรให้ความสนใจและทาความเขา้ ใจให้ถูกต้อง โดยก่อนจะทาการวเิ คราะห์ต้อง ตรวจสอบรายการคา้ ทกุ รายการทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหร้ อบคอบ จงึ วเิ คราะหต์ ามหลกั ในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ ต่อไป ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั 1.บอกประเภทของธุรกจิ และรปู แบบการดาเนินธรุ กจิ ได้ 2.อธบิ ายรายการคา้ ได้ 3.วเิ คราะหร์ ายการคา้ ตามหลกั การบญั ชที วั่ ไปได้ 4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 4.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การ และวธิ กี ารบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ าร 2.ปฏบิ ตั งิ านบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ ารตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป

42 สาระการเรียนรู้ 1.ประเภทของธุรกจิ และรปู แบบการดาเนนิ ธรุ กจิ 2.รายการคา้ 3.หลกั การวเิ คราะหร์ ายการคา้ ภาพรวม (Big Idea) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.ครสู นทนากบั ผเู้ รยี นวา่ รปู แบบของกจิ การคา้ แต่ละประเภทจะแตกต่างกนั ออกไปตามสภาพการลงทนุ ลกั ษณะการจดั ตงั้ การดาเนินงาน และความสาคญั ทางเศรษฐกจิ แบง่ ไดด้ งั น้ี  กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว (Single Proprietorship)  หา้ งหนุ้ สว่ น (Partnership)  บรษิ ทั จากดั (Corporation or Limited Company) 2.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลก่อนเรยี น โดยใชเ้ วลาประมาณ 10 นาที แลว้ ใหส้ ลบั กนั ตรวจ ขนั้ สอน 3.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี าอุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพอ่ื ประกอบการอธบิ ายประเภทธรุ กจิ และรปู แบบการดาเนินธรุ กจิ โดยทวั่ ไปสามารถแบง่ ธุรกจิ ท่ี ม่งุ แสวงหากาไรดงั น้ี

43 1) ธุรกจิ บรกิ าร (Service Businesses) เช่น รา้ นเสรมิ สวย รา้ นซ่อมรถยนต์ รา้ นซกั รดี เสอ้ื ผา้ หอพกั โรง ภาพยนตร์ คลนิ ิก โรงแรม เป็นตน้ 2) ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ (Merchandising Businesses) หรอื ธุรกจิ พาณชิ ยกรรม เช่น หา้ งสรรพสนิ คา้ รา้ น สะดวกซอ้ื ซุปเปอรม์ ารเ์ กต บรษิ ทั ขายรถยนต์ เป็นตน้ 3) ธรุ กจิ อตุ สาหกรรม (Manufacturing Businesses) หรอื ธุรกจิ ผลติ สนิ คา้ เช่น โรงงานผลติ รถยนต์ โรงงานทอผา้ เป็นตน้ 4.ครบู อกรปู แบบของการดาเนินธุรกจิ ธุรกจิ ทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ สามารถเลอื กดาเนินธรุ กจิ ไดด้ งั น้ี 1) กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว ((Single Proprietorship) 2) กจิ การหา้ งหนุ้ สว่ น (Partnership) หนุ้ สว่ นมี 2 ประเภท คอื 2.1 หา้ งหนุ้ สว่ นสามญั (Ordinary Partnership) 2.2 หา้ งหนุ้ สว่ นจากดั (Limited Partnership) 3) บรษิ ทั จากดั (Corporation or Limited Company) มี 2 ประเภท คอื 3.1 บรษิ ทั เอกชนจากดั (Private Company Limited) 3.2 บรษิ ทั มหาชนจากดั (Public Company Limited) 5.ผเู้ รยี นบอกประเภทธรุ กจิ และรปู แบบธรุ กจิ ตามโจทยท์ ค่ี รกู าหนดให้ 6.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบ Discussion Method คอื แบบอภปิ ราย โดยรายการคา้ (Business Transaction Or Accounting transaction) หมายถงึ รายการทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การแลกเปลย่ี น หรอื โอนเงนิ หรอื สง่ิ ทม่ี ี คา่ เป็นตวั เงนิ ระหว่างกจิ การกบั บคุ คลอ่นื ซง่ึ จะมจี านวนมากและแตกต่างกนั ไปตามลกั ษณะของกจิ การ เชน่ กจิ การ เจา้ ของคนเดยี ว หา้ งหนุ้ สว่ นหรอื บรษิ ทั จากดั และตามประเภทธุรกจิ เชน่ ธรุ กจิ บรกิ าร ธรุ กจิ ซอ้ื -ขายสนิ คา้ หรอื ธุรกจิ ผลติ สนิ คา้ รายการค้าเป็นรายการทก่ี จิ การนามาบนั ทกึ บญั ชเี พอ่ื เป็นขอ้ มลู ในการจดั ทางบการเงนิ ต่างๆซง่ึ ทางการ บญั ชเี รยี กว่ารายการทางบญั ชี เป็นเหตุการณ์ทท่ี าใหเ้ กดิ การโอนหรอื การแลกเปลย่ี นระหว่างหน่วยของบญั ชหี รอื บคุ คลทม่ี ผี ลต่อสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ ทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงเพม่ิ ขน้ึ และลดลง จะทาใหย้ อดทงั้ สองในสมการบญั ชนี นั้ มคี วามสมดุลกนั ทงั้ สองดา้ น 7.ครบู อกประเภทของรายการคา้ รายการคา้ จาแนกออกเป็น 2 ประเภท คอื รายการคา้ ภายนอก และ รายการคา้ ภายใน ดงั น้ี 1) รายการค้าภายนอก เป็นรายการแลกเปลย่ี นระหว่างรา้ นคา้ หน่งึ กบั อกี รา้ นคา้ หน่งึ เชน่ 1.1 การซอ้ื สนิ ทรพั ยต์ ่างๆ เป็นเงนิ สด และเงนิ เช่อื 1.6 การกยู้ มื เงนิ 1.2 ซอ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ สด และเงนิ เช่อื 1.7 การจา่ ยชาระหน้เี งนิ กพู้ รอ้ มดอกเบย้ี 1.3 ขายสนิ คา้ เป็นเงนิ สด และเงนิ เช่อื 1.8 การจ่ายค่าใชจ้ า่ ยต่างๆ 1.4 การรบั ชาระหน้จี ากลกู หน้ี 1.9 การรบั รายไดต้ ่างๆ 1.5 การจา่ ยชาระหน้เี จา้ หน้ี

44 2) รายการค้าภายใน เป็นรายการทเ่ี กดิ ขน้ึ ภายในกจิ การ ไม่เกย่ี วขอ้ งกบั บุคคลภายนอก แต่มผี ลต่อการ เปลย่ี นแปลงของสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) ดงั น้ี 2.1 การนาเงนิ สด หรอื สนิ ทรพั ยอ์ ่นื มาลงทุน 2.2 การถอนเงนิ สด หรอื สนิ คา้ ไปใชส้ ว่ นตวั ใบสาคญั รบั ชาระเงินลงทนุ ของ รา้ นกีรติผจญบริการซกั รีด วนั ท่ี 15 มกราคม 2558 ใบสาคญั ฉบบั น้อี อกใหเ้ พ่อื แสดงวา่ รา้ นกรี ตผิ จญบรกิ ารซกั รดี ไดร้ บั เงนิ จานวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถว้ น) จากนางสวยสม สง่าดี เพอ่ื ชาระเป็นสว่ นเงนิ ลงทนุ ในการจดั ตงั้ รา้ นกรี ตผิ จญบรกิ ารซกั รดี ไวเ้ มอ่ื วนั ท่ี 15 มกราคม 2558 ลงชอ่ื ………………………………………… (นางเพญ็ ศรี เลศิ เกยี รตวิ ทิ ยา) ผจู้ ดั การรา้ น 8.ผเู้ รยี นยกตวั อย่างรายการทไ่ี ม่ใช่รายการคา้ (Non-Business Transaction) สว่ นการดาเนนิ งานทไ่ี ม่ กอ่ ใหเ้ กดิ การโอนเงนิ หรอื สง่ิ ของทม่ี คี า่ เป็นตวั เงนิ เชน่ การจดั รา้ นใหส้ วยงามเพ่อื ดงึ ดดู ใจลกู คา้ การเชญิ ชวน ลกู คา้ ไปชมสนิ คา้ และการตอ้ นรบั ลกู คา้ เป็นตน้ รายการเหล่าน้ถี ือว่าไมใ่ ชร่ ายการคา้ ดงั นนั้ จงึ ไม่มกี ารนามา บนั ทกึ ในสมดุ บญั ชขี องกจิ การ

45 9.ผเู้ รยี นยกตวั อยา่ งรายการคา้ (Business Transaction) และรายการทไ่ี มใ่ ช่รายการคา้ (Non-Business Transaction) โดยแสดงเป็นเอกสารประกอบ มาคนละ 2 รายการ 10.ครอู ธบิ ายและแสดงการสาธติ หลกั การวเิ คราะหร์ ายการคา้ โดยการวเิ คราะหร์ ายการคา้ (Business transaction analysis) คอื การวเิ คราะหร์ ายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ ธุรกจิ ในแต่ละวนั ว่าจะมผี ลกระทบต่อ สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ สว่ นของเจา้ ของ รายได้ และค่าใชจ้ ่ายอย่างไร และผลกระทบต่อการเปลย่ี นแปลงนนั้ จะแสดงให้ เหน็ ถงึ ฐานะการเงนิ และผลการดาเนนิ งานของกจิ การได้ ซง่ึ การวเิ คราะหร์ ายการคา้ นนั้ เป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ของวงจร บญั ชี เป็นขนั้ แรกของการจดั ทาบญั ชี ซง่ึ สาคญั มาก เพราะหากวเิ คราะหร์ ายการคา้ ผดิ กจ็ ะทาใหข้ นั้ ตอนต่อๆ ไป ผดิ ไปดว้ ย เช่น การบนั ทกึ บญั ชใี นสมดุ รายวนั การผ่านบญั ชไี ปสมดุ บญั ชแี ยกประเภท ตลอดจนถงึ การจดั ทางบ การเงนิ กผ็ ดิ ไปดว้ ย หากมคี วามผดิ พลาดแลว้ จะทาใหผ้ ใู้ ชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชนี นั้ ตดั สนิ ใจผดิ พลาดดว้ ย ดงั นนั้ ถงึ แมว้ า่ การวเิ คราะหร์ ายการคา้ จะเป็นเพยี งขนั้ เรมิ่ ตน้ ของการทาบญั ชี แต่กค็ วรใหค้ วามสนใจและทาความเขา้ ใจ ใหถ้ กู ตอ้ ง โดยก่อนทจ่ี ะวเิ คราะหร์ ายการคา้ นนั้ จะตอ้ งมคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั รายการคา้ ใหม้ ากทส่ี ดุ ซง่ึ มหี ลกั ดงั น้ี 1) วเิ คราะหร์ ายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ วา่ ทาใหส้ นิ ทรพั ย์ หน้ีสนิ และสว่ นของเจา้ ของกจิ การเปลย่ี นแปลง โดย การเพม่ิ ขน้ึ หรอื ลดลงอย่างไรบา้ ง 2) รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เม่อื วเิ คราะหแ์ ลว้ การเปลย่ี นแปลงของสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของนนั้ จะต้องทาใหส้ มการบญั ชเี ป็นจรงิ เสมอ กล่าวคอื เม่อื วเิ คราะห์รายการค้าแลว้ สนิ ทรพั ย์ทเ่ี ปลย่ี นแปลง จะต้อง เท่ากบั หน้สี นิ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงบวกดว้ ยสว่ นของเจา้ ของทเ่ี ปลย่ี นแปลงเสมอ 11.ครอู ธบิ ายหลกั การบญั ชี (Accounting Principles) หมายถงึ แนวทางทแ่ี นะนาใหน้ กั บญั ชใี ชย้ ดึ ถอื หลกั ปฏบิ ตั ใิ นการรวบรวม จดบนั ทกึ จาแนก สรปุ ผล และรายงานเหตุการณ์เกย่ี วกบั การเงนิ โดยหลกั การบญั ชที ่ี รบั รองทวั่ ไป หมายถงึ แนวทางทไ่ี ดร้ บั การรบั รองและยอมรบั เป็นสว่ นใหญ่จากผมู้ อี านาจหน้าท่ใี นวชิ าชพี การ บญั ชี เพ่อื ใหน้ กั บญั ชใี ชย้ ดึ ถอื เป็นหลกั ปฏบิ ตั ใิ นการรวบรวม จดบนั ทกึ จาแนก สรุปผล และจดั ทางบการเงนิ อย่างมหี ลกั เกณฑม์ มี าตรฐานกระกระทาขน้ึ อยา่ งสม่าเสมอและเขา้ ใจไดง้ ่าย หลกั ในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ ขนั้ ตน้ มดี งั น้ี 1.สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ (+) สว่ นของเจา้ ของเพม่ิ (+) 2.สนิ ทรพั ยล์ ด (-) สว่ นของเจา้ ของลด (-) 3.สนิ ทรพั ยอ์ ยา่ งหน่งึ เพม่ิ (+) สนิ ทรพั ยอ์ กี อยา่ งหน่งึ ลด (-) 4.สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ (+) หน้สี นิ เพมิ่ (+) 5.สนิ ทรพั ยล์ ด (-) หน้สี นิ ลด (-) 12.ผเู้ รยี นวเิ คราะหร์ ายการคา้ ของรา้ นแพตเสรมิ สวยของเดอื นมกราคม 25X8 โดยใสเ่ คร่อื งหมาย  ดงั น้ี ว.ด.ป. รายการคา้ สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ ส่วนของ 25X8 นางสาวแพตนาเงนิ สดมาลงทุน เพมิ่ ลด เจา้ ของ ม.ค. 1 นาเงนิ สดไปฝากธนาคารพาณชิ ยแ์ หง่ หน่งึ เพม่ิ ลด เพม่ิ ลด จา่ ยค่าน้า ค่าไฟ และคา่ โทรศพั ท์    2 ซอ้ื อุปกรณ์เสรมิ สวยเป็นเงนิ สด  3 ซอ้ื อุปกรณ์เสรมิ สวยเป็นเงนิ เชอ่ื  4 ไดร้ บั เงนิ ค่าบรกิ ารเสรมิ สวย  5   6  

46 7 จา่ ยค่าเช่ารา้ นเสรมิ สวย  8 ใหบ้ รกิ ารเสรมิ สวยแกผ่ เู้ ขา้ ประกวดนางสาวไรส่ ม้ ยงั ไมไ่ ดร้ บั เงนิ  9 จ่ายชาระหน้คี ่าอุปกรณ์วนั ท่ี 5 มกราคม  10 รบั ชาระหน้จี ากกองประกวดวนั ท่ี 8 มกราคม  11 กเู้ งนิ จากธนาคารและนาเขา้ บญั ชขี องรา้ น  12 นางสาวแพตเบกิ เงนิ ของกจิ การไปใชส้ ว่ นตวั  13 จา่ ยเงนิ เดอื นลกู จา้ งในรา้ น   13.ผเู้ รยี นวเิ คราะหก์ ารเพม่ิ หรอื ลดของรายการคา้ สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ ดงั น้ี รายการคา้ สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ สว่ นของเจา้ ของ 1.นาเงนิ สดมาลงทุนในกจิ การ 200,000 บาท +200,000 +200,000 2.กเู้ งนิ จากธนาคาร 20,000 บาท +20,000 +20,000 3.ซอ้ื เครอ่ื งตกแต่งเป็นเงนิ เชอ่ื 6,000 บาท +6,000 +6,000 4.รบั รายไดค้ ่าบรกิ าร 3,000 บาท +3,000 +3,000 5.จา่ ยคา่ พาหนะ 1,000 บาท -1,000 -1,000 6.สง่ บลิ เกบ็ เงนิ จากลกู หน้คี า่ ซ่อมรถยนต์ 3,600 บาท +3,600 +3,600 7.ซอ้ื วสั ดสุ านกั งานเป็นเงนิ เชอ่ื 4,000 บาท +4,000 +4,000 8.จา่ ยชาระหน้ใี หเ้ จา้ หน้ี 3,000 บาท -3,000 -3,000 9.จา่ ยค่าเบย้ี ประกนั รา้ น 9,000 บาท -9,000 -9,000 10.ถอนเงนิ สดในรา้ นไปใชส้ ่วนตวั 2,000 บาท -2,000 -2,000 รวม 221,600 27,000 194,600 14.ผเู้ รยี นวเิ คราะหร์ ายการคา้ ของรา้ นชายขอบบรกิ าร ดงั ต่อไปน้ี รายการค้า การวิเคราะหร์ ายการค้า 1.นายชายนาเงนิ สดมาลงทุนในรา้ นเป็นเงนิ สด +สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ +ส่วนของเจา้ ของเพมิ่ 2.นายชายกเู้ งนิ จากธนาคารมาลงทุนในกจิ การ +สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ +หน้สี นิ เพม่ิ 3.ซ้อื อุปกรณ์ และเครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชเ้ ป็นเงนิ เชอ่ื +สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ +หน้สี นิ เพม่ิ 4.รบั รายไดค้ ่าบรกิ ารเสรมิ สวย +สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ +สว่ นของเจา้ ของเพม่ิ 5.ลกู คา้ รายหน่งึ คา้ งชาระค่าบรกิ ารเสรมิ สวย +สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ +สว่ นของเจา้ ของเพมิ่ 6.สง่ บลิ เกบ็ เงนิ จากลกู หน้ีทค่ี า้ งชาระ +สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ +สว่ นของเจา้ ของเพม่ิ 7.ซ้อื วสั ดุสานกั งานเป็นเงนิ เชอ่ื +สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ +หน้สี นิ เพม่ิ 8.จ่ายชาระหน้ที ค่ี า้ งในวนั ท่ี 3 +สนิ ทรพั ยล์ ด +หน้สี นิ ลด 9.จ่ายคา่ เช่ารา้ นเป็นเงนิ สด +สนิ ทรพั ยล์ ด +สว่ นของเจา้ ของลด 10.จ่ายเงนิ เดอื นใหพ้ นกั งานในรา้ น +สนิ ทรพั ยล์ ด +ส่วนของเจา้ ของลด 15.เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นซกั ถามขอ้ สงสยั และแลกเปลย่ี นความรรู้ ะหว่างกนั ภายในชนั้ เรยี น 16.ครแู นะนาผเู้ รยี นใหบ้ นั ทกึ รายรบั -รายจ่าย โดยกลา่ วถงึ เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การแกไ้ ขปญั หาความ ยากจนภาคปฏบิ ตั ิ เป็นการลงมอื ปฏบิ ตั เิ พ่อื นาพาตวั เองสเู่ ศรษฐกจิ พอเพยี ง ซง่ึ กค็ อื การอย่อู ย่างพง่ึ ตนเองใน ระดบั ครวั เรอื น จะตอ้ งมคี วามพรอ้ มทจ่ี ะอย่อู ย่างพง่ึ ตนเองดว้ ยการ ลดรายจ่าย เพมิ่ รายได้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การออม การพง่ึ ตนเองจะตอ้ งอาศยั การจดบนั ทกึ หรอื เรยี กว่า “จดเป็น พง่ึ ตนเองได”้ การจดบนั ทกึ นนั้ เรมิ่ ตงั้ แต่การทา บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ยของครวั เรอื น ไดม้ าเท่าไรจดไว้ จ่ายไปเทา่ ไรกจ็ ดไว้ ในแต่ละวนั กน็ าสมุดบญั ชรี ายรบั -

47 รายจา่ ย ทจ่ี ดไวม้ าเปิดดวู ่า วนั น้ไี ดเ้ งนิ มาเท่าไร และจา่ ยค่าอะไรบา้ ง มคี ่าอะไรบา้ งทไ่ี มม่ คี วามจาเป็นตอ้ งจา่ ย คดิ ทบทวนใหร้ อบคอบ แลว้ กต็ ดั รายการทจ่ี ่ายไปโดยไมจ่ าเป็นทง้ิ ไป เช่น ค่าเหลา้ คา่ บหุ ร่ี เป็นตน้ 17.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 19.ครสู รปุ เน้อื หาทงั้ หมดโดยอภปิ รายสนั้ ๆ และใหน้ กั เรยี นบอกรายการคา้ และรายการใดทไ่ี ม่ใช่ รายการคา้ เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ และเขา้ ใจในการนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ต่อไปได้ 20.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกปฏบิ ตั ิ และกจิ กรรมทก่ี าหนดไว้ รวมทงั้ แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ าการบญั ชเี บอ้ื งตน้ (20200-1002) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. มาตรฐานการบญั ชี 3. ใบความรู้ 4. อนิ เทอรเ์ นต็ 5. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของสถานศกึ ษา 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน

48 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อน/หลงั เรยี น 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี นมเี กณฑผ์ ่าน 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จ่าย

49 การบรู ณาการ 1) กลมุ่ วชิ าภาษาไทย ไดแ้ ก่ ทกั ษะการฟงั ทกั ษะการอา่ น ทกั ษะการเขยี นและทกั ษะการพดู 2) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3) คณุ ธรรมจรยิ ธรรม และศลี ธรรม กล่มุ วิชาภาษาไทย 4) หน้าทพ่ี ลเมอื งดี 5) อ่นื ๆ กล่มุ วิชาคณิตศาตร์ กล่มุ วิชาวิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์ การบรู ณาการ กล่มุ วิชากฏหมาย รายการคา้ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หนา้ ท่ีพลเมือง กล่มุ วิชาการขายและคอมพิวเตอร์ กล่มุ วิชาภาษาองั กฤษ

50 คาชี้แจง : ใหบ้ นั ทกึ บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย ตามความเป็นจรงิ 1. จากการลงบนั ทกึ มเี งนิ เหลอื เกบ็ หรอื ไม่……………เพราะเหตใุ ด………………..………….……… 2. จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา้ มรี ายจา่ ยมากกว่ารายรบั ………………………..…………….………………….…

51 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หม่ๆ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

52 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ใน  สง่ิ ทด่ี งี ามเพ่อื สว่ นรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและทางออ้ ม  5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี ่อผู้อ่นื เผ่อื แผแ่ ละแบ่งปนั  7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็น  ประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพผใู้ หญ่  9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของพระบาทสมเดจ็  พระเจา้ อยู่หวั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระราช  ดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ช้เม่อื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจ่าย จาหน่าย และขยายกจิ การเม่อื มี ความพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี  11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อานาจฝา่ ยต่า หรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาตมิ ากกวา่ ผลประโยชน์  ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรุง 0-19 คะแนน = ปรบั ปรุง หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแห่งชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

53 บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

54 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบูรณาการท่ี 5 หน่วยท่ี 4 รหสั วิชา 20200-1002 การบญั ชเี บ้ืองตน้ (2-2-3) สอนครงั้ ที่ 5 (17-20) ช่ือหน่วย/เร่ือง การวิเคราะหร์ ายการค้า จานวนชวั่ โมง 4 ช.ม. แนวคิด การวเิ คราะห์รายการคา้ ถือเป็นจุดเรม่ิ ตน้ ของวงจรบญั ชี ถ้าวเิ คราะห์รายการคา้ ผดิ กจ็ ะทาใหข้ นั้ ตอน ต่างๆ ในลาดบั ถดั ไปผดิ ไปดว้ ย ดงั นัน้ หากมคี วามผดิ พลาดเกดิ ขน้ึ แลว้ กจ็ ะทาให้ผู้ใชข้ อ้ มูลทางการบญั ชนี ัน้ ตดั สนิ ใจผดิ พลาดไปดว้ ย จงึ ควรให้ความสนใจและทาความเขา้ ใจให้ถูกต้อง โดยก่อนจะทาการวเิ คราะห์ต้อง ตรวจสอบรายการคา้ ทกุ รายการทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหร้ อบคอบ จงึ วเิ คราะหต์ ามหลกั ในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ ต่อไป ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั 4.วเิ คราะหผ์ ลกระทบของรายการคา้ ต่อสมการบญั ชแี ละงบแสดงฐานะการเงนิ ได้ 5.วเิ คราะหร์ ายการคา้ ตามหลกั การบญั ชคี ไู่ ด้ 6.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผู้สาเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 6.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 6.2 ความมวี นิ ยั 6.3 ความรบั ผดิ ชอบ 6.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 6.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 6.6 การประหยดั 6.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 6.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 6.9 ความรกั สามคั คี 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การ และวธิ กี ารบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ าร 2.ปฏบิ ตั งิ านบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ ารตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป สาระการเรยี นรู้ 4.ผลกระทบของรายการคา้ ต่อสมการบญั ชแี ละงบแสดงฐานะการเงนิ 5.การวเิ คราะหร์ ายการคา้ ตามหลกั การบญั ชคี ู่

55 ภาพรวม (Big Idea) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1.ครกู ลา่ วว่าการวเิ คราะหร์ ายการคา้ เป็นจดุ เรมิ่ ตน้ ของวงจรบญั ชี เป็นขนั้ แรกของการจดั ทาบญั ชี ซง่ึ สาคญั มาก เพราะหากวเิ คราะหร์ ายการคา้ ผดิ กจ็ ะทาใหข้ นั้ ตอนต่อๆ ไปผดิ ไปดว้ ย เชน่ การบนั ทกึ บญั ชใี นสมดุ รายวนั การผา่ นบญั ชไี ปสมดุ บญั ชแี ยกประเภท ตลอดจนถงึ การจดั ทางบการเงนิ กผ็ ดิ ไปดว้ ย หากมคี วาม ผดิ พลาดแลว้ จะทาใหผ้ ใู้ ชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชนี นั้ ตดั สนิ ใจผดิ พลาดดว้ ย ดงั นนั้ ถงึ แมว้ ่าการวเิ คราะหร์ ายการคา้ จะ เป็นเพยี งขนั้ เรมิ่ ตน้ ของการทาบญั ชี แต่กค็ วรใหค้ วามสนใจและทาความเขา้ ใจใหถ้ กู ตอ้ ง โดยกอ่ นทจ่ี ะวเิ คราะห์ รายการคา้ นนั้ จะตอ้ งมคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั รายการคา้ ใหม้ ากทส่ี ดุ 2.ครทู บทวนรายการบญั ชสี นิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ เพ่อื เช่อื มโยงสกู่ ารวเิ คราะหร์ ายการคา้ 3.ครกู ล่าวเพม่ิ เตมิ ว่าเมอ่ื มรี ายกาคา้ เกดิ ขน้ึ กย็ ่อมจะมผี ลกระทบต่อการเปลย่ี นแปลงของสมการบญั ชี หมวดใดหมวดหน่งึ ซง่ึ จะทาใหส้ นิ ทรพั ยเ์ ท่ากบั หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของเสมอ สว่ นหมวดรายไดแ้ ละหมวด คา่ ใชจ้ ่ายนนั้ เม่อื วเิ คราะหแ์ ลว้ จะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของเพม่ิ ขน้ึ ในกรณีทม่ี ผี ลกาไร และจะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของ ลดลงในกรณที ม่ี ผี ลขาดทุน โดยวเิ คราะหร์ ายการคา้ แต่ละรายการจะมผี ลกระทบต่อบญั ชี 5 หมวด คอื สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ สว่ นของเจา้ ของ รายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ย ซง่ึ รายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ ่ายนนั้ จะกระทบต่อบญั ชสี ว่ นของเจา้ ของดงั น้ี สนิ ทรพั ย์ = หน้ีสนิ + สว่ นของเจ้าของ กจิ การมรี ายได้เกดิ ข้นึ ย่อมจะมผี ลทาให้สว่ นของเจ้าของเพ่ิมข้นึ ในบญั ชีกาไรสทุ ธิ กจิ การมคี ่าใช้จ่ายเกดิ ข้นึ ย่อมจะมผี ลทาให้สว่ นของเจ้าของลดลงในบญั ชีกาไรสทุ ธิ

56 ขนั้ สอน 4.ครแู ละผเู้ รยี นวเิ คราะหผ์ ลกระทบของรายการคา้ ต่อสมการบญั ชแี ละงบแสดงฐานะการเงนิ ผลกระทบของรายการค้าต่อสมการบญั ชีและงบแสดงฐานะการเงิน มีดงั ต่อไปนี้ รายการคา้ ที่ 1 1 ม.ค.นางรดั เกลา้ นาเงนิ สดมาลงทนุ ในรา้ น 120,000 บาท การวิเคราะหร์ ายการค้า เป็นดงั นี้ สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ (+) สว่ นของเจา้ ของเพมิ่ (+) เงนิ สด 120,000 บาท ทุน-นางรดั เกลา้ 120,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ ทุน-รดั เกลา้ +120,000 เงนิ สด +120,000 การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน รา้ นรดั เกล้าบริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ท่ี 1 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน ส่วนของเจา้ ของ 120,000 - 120,000 - เงนิ สด 120,000 - ทนุ -นางรดั เกลา้ 120,000 - รายการคา้ ที่ 2 2 ม.ค.จา่ ยเงนิ ซอ้ื อุปกรณ์เสรมิ สวย 80,000 บาท สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ (+) สนิ ทรพั ยล์ ด (-) อปุ กรณ์ 80,000 บาท เงนิ สด 80,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ อุปกรณ์ +80,000 เงนิ สด -80,000 รา้ นรดั เกล้าบริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ท่ี 2 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ บาท สต. 120,000 - สินทรพั ยห์ มนุ เวียน ส่วนของเจา้ ของ เงนิ สด (120,000-80,000) 120,000 - 40,000 - ทุน-นางรดั เกลา้ สินทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวียน อุปกรณ์ 80,000 - 120,000 -

57 รายการค้าที่ 3 3 ม.ค.ซอ้ื เครอ่ื งตกแต่งเป็นเงนิ เชอ่ื จากรา้ นป่ินจานวน 5,000 บาท การวิเคราะหร์ ายการค้า เป็นดงั นี้ สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ (+) หน้สี นิ เพมิ่ (+) เครอ่ื งตกแต่ง 5,000 บาท เจา้ หน้ีการคา้ -รา้ นป่ิน 5,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ เคร่อื งตกแต่ง +5,000 เจา้ หน้ีการคา้ -รา้ นป่ิน +5,000 รา้ นรดั เกล้าบริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ท่ี 3 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจ้าของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด (120,000-80,000) 40,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นป่ิน 5,000 - สินทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวียน ส่วนของเจ้าของ อุปกรณ์ 80,000 - ทนุ -นางรดั เกลา้ 120,000 - เครอ่ื งตกแต่ง 5,000 - 125,000 - 125,000 - รายการคา้ ท่ี 4 5 ม.ค.ใหบ้ รกิ ารเสรมิ สวยแก่กองประกวดนางงามชาวสวน 4,000 บาท ยงั ไม่ไดร้ บั เงนิ สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ (+) สว่ นของเจา้ ของเพมิ่ (+) ลกู หน้ีการคา้ -นางงามฯ 4,000 บาท ทนุ -นางรดั เกลา้ 4,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ ลกู หน้กี ารคา้ -นางงาม +4,000 ทุน-นางรดั เกลา้ + 4,000 ร้านรดั เกล้าบริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ที่ 5 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด (120,000-80,000) 40,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นป่ิน 5,000 - ลกู หน้กี ารคา้ -นางงามฯ 124,000 - สินทรพั ยไ์ ม่หมนุ เวียน 4,000 - ส่วนของเจา้ ของ 129,000 - อุปกรณ์ ทุน-นางรดั เกลา้ เครอ่ื งตกแต่ง 80,000 - 5,000 - 129,000 - *ทนุ -นายสายน้า 120,000+4,000=124,00

58 รายการค้าท่ี 5 10 จ่ายเงนิ ชาระหนใ้ี หร้ า้ นป่ิน 3,000 บาท การวิเคราะหร์ ายการคา้ เป็นดงั นี้ สนิ ทรพั ยล์ ด (-) หน้สี นิ ลด (-) เงนิ สด 3,000 บาท เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นปิ่น 3,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ เงนิ สด - 3,000 เจา้ หน้ีการคา้ -รา้ นป่ิน - 3,000 การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน รา้ นรดั เกลา้ บริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ท่ี 10 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจ้าของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด (40,000-3,000) 37,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นป่ิน 2,000 - ลกู หน้กี ารคา้ -นางงามฯ 4,000 - ส่วนของเจา้ ของ สินทรพั ยไ์ ม่หมนุ เวียน ทนุ -นางรดั เกลา้ 124,000 - อุปกรณ์ 80,000 - เครอ่ื งตกแต่ง 5,000 - 126,000 - 126,000 - *เจา้ หน้ีการคา้ -รา้ นป่ิน 5,000+3,000=2,000 รายการคา้ ที่ 6 15 กเู้ งนิ จากธนาคารพาณิชย์ 120,000 บาท ระยะเวลาครบกาหนด 2 ปี การวิเคราะหร์ ายการค้า เป็นดงั นี้ สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ (+) หน้สี นิ เพม่ิ (+) เงนิ สด 120,000 บาท เงนิ ก-ู้ ธนาคารพาณิชย์ 120,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ เงนิ สด + 120,000 เงนิ ก-ู้ ธนาคารพาณชิ ย์ 120,000 บาท

59 การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน รา้ นรดั เกล้าบริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ที่ 15 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด (37,000+120,000) 157,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นปิ่น 2,000 - ลกู หน้กี ารคา้ -นางงามฯ สินทรพั ยไ์ ม่หมนุ เวียน 4,000 - หนี้สินไม่หมนุ เวียน 120,000 - อุปกรณ์ เงนิ ก-ู้ ธนาคารพาณชิ ย์ 124,000 - เครอ่ื งตกแต่ง 246,000 - 80,000 - ส่วนของเจ้าของ 5,000 - ทนุ -นางรดั เกลา้ 246,000 - รายการคา้ ท่ี 7 18 นางรดั เกลา้ นาเงนิ ของกจิ การไปใชส้ ว่ นตวั 10,000 บาท การวิเคราะหร์ ายการค้า เป็นดงั นี้ สนิ ทรพั ยล์ ด (-) สว่ นของเจา้ ของ (-) เงนิ สด 10,000 บาท ถอนใชส้ ว่ นตวั 10,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ เงนิ สด + 100,000 ถอนใชส้ ว่ นตวั – 10,000 การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน ร้านรดั เกล้าบริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ท่ี 18 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด (157,000+10,000) 147,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นป่ิน 2,000 - ลกู หน้กี ารคา้ -นางงามฯ สินทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวียน 4,000 - หนี้สินไมห่ มนุ เวียน 120,000 - อุปกรณ์ เครอ่ื งตกแต่ง เงนิ ก-ู้ ธนาคารพาณชิ ย์ 114,000 - 236,000 - **124,000-10,000=114,000 80,000 - ส่วนของเจา้ ของ 5,000 - ทุน-นางรดั เกลา้ 236,000 -

60 รายการคา้ ที่ 8 25 รบั ชาระหนจ้ี ากตวั แทนนางงามชาวงามชาวสวน 4,000 บาท การวิเคราะหร์ ายการคา้ เป็นดงั นี้ สนิ ทรพั ยล์ ด (+) สนิ ทรพั ยล์ ด (-) เงนิ สด 4,000 บาท ลกู หน้-ี นางงามฯ 4,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ เงนิ สด + 4,000 ลกู หน้ี-นางงามฯ -4,000 การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน ร้านรดั เกล้าบริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ท่ี 25 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด (147,000+4,000) 151,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นป่ิน 2,000 - ลกู หน้กี ารคา้ -นางงามฯ - หนี้สินไม่หมนุ เวียน สินทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวียน เงนิ ก-ู้ ธนาคารพาณชิ ย์ 120,000 - อุปกรณ์ 80,000 - ส่วนของเจา้ ของ เครอ่ื งตกแต่ง 5,000 - ทนุ -นางรดั เกลา้ 114,000 - 236,000 - 236,000 - **ลกู หน้ี-นางงามฯ (4,000-4,000=0) รายการคา้ ท่ี 9 30 รบั เงนิ จากลกู คา้ คา่ บรกิ ารทาผม 5 คน เป็นเงนิ จานวน 25,000 บาท การวิเคราะหร์ ายการคา้ เป็นดงั นี้ สนิ ทรพั ยล์ ด (+) สว่ นของเจา้ ของเพมิ่ (+) เงนิ สด 25,000 บาท ทุน-นางรดั เกลา้ 25,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ เงนิ สด + 25,000 ทุน-นางรดั เกลา้ + 25,000

61 การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน รา้ นรดั เกลา้ บริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ที่ 30 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด (151,000+25,000) 176,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นป่ิน 2,000 - 120,000 - ลกู หน้กี ารคา้ -นางงามฯ - หนี้สินไม่หมนุ เวียน สินทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวียน เงนิ ก-ู้ ธนาคารพาณชิ ย์ อุปกรณ์ 80,000 - ส่วนของเจ้าของ เครอ่ื งตกแต่ง 5,000 - ทนุ -นางรดั เกลา้ 139,000 - 261,000 - 261,000 - **ทนุ -นางรดั เกลา้ (114,000+25,000=139,000) รายการค้าที่ 10 31 จ่ายเงนิ เดอื นพนกั งานในรา้ น 15,000 บาท การวิเคราะหร์ ายการค้า เป็นดงั นี้ สนิ ทรพั ยล์ ด (-) สว่ นของเจา้ ของเพมิ่ (-) เงนิ สด 15,000 บาท ทุน-นางรดั เกลา้ 15,000 บาท ผลกระทบต่อสมการบญั ชี สินทรพั ย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจา้ ของ เงนิ สด + 15,000 ทุน-นางรดั เกลา้ + 15,000 การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน รา้ นรดั เกล้าบริการ งบแสดงฐานะการเงิน วนั ที่ 31 มกราคม 25X8 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจ้าของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด (176,000+15,000) 161,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ -รา้ นปิ่น 2,000 - ลกู หน้กี ารคา้ -นางงามฯ 120,000 - สินทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวียน - หนี้สินไม่หมนุ เวียน อุปกรณ์ เงนิ ก-ู้ ธนาคารพาณชิ ย์ 80,000 - ส่วนของเจ้าของ เครอ่ื งตกแต่ง 5,000 - ทนุ -นางรดั เกลา้ 124,000 - 246,000 - 246,000 - **ทนุ -นางรดั เกลา้ (139,000-15,000=124,000) 5.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการวเิ คราะหร์ ายการคา้ ตามโจทยท์ ก่ี าหนดใหแ้ ต่ละรายการ 6.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การวเิ คราะหร์ ายการคา้ ตามหลกั การบญั ชคี ู่ โดยหลกั การบญั ชีคู่ (Double-Entry)

62 เป็นหลกั การบญั ชที ไ่ี ดร้ บั การยอมรบั และใชก้ นั ทวั่ ไป ในปจั จบุ นั ซง่ึ กค็ อื รายการคา้ ทกุ รายการทเ่ี กดิ ขน้ึ เม่อื วเิ คราะหแ์ ลว้ กจ็ ะนาไปบนั ทกึ บญั ชี 2 ดา้ นเสมอ คอื ดา้ นเดบติ และดา้ นเครดติ ในจานวนทเ่ี ทา่ กนั ปกติรายการค้าทุกรายการจะบนั ทกึ โดยเดบติ บญั ชหี น่ึงและเครดติ อกี บญั ชหี น่ึงในจานวนเงนิ ท่เี ท่ากนั เรยี กว่าบญั ชนี นั้ ไดด้ ุลกนั (Single Journal Entry) แต่อาจจะมบี างรายการต้องบนั ทกึ บญั ชโี ดยเดบติ หรอื เครดติ หลายบญั ชกี ไ็ ด้ แต่จานวนเงนิ รวมดา้ นเดบิตและดา้ นเครดติ จะต้องเท่ากนั ตามหลกั การบญั ชคี ู่เรยี กว่าการรวม รายการ (Compound Journal Entry) ดา้ นเครดิต (Credit) หรอื Cr. หมายถึง ดา้ นเดบิต (Debit) หรือ Dr. หมายถึง 1.จานวนเงนิ ทแ่ี สดงทางดา้ นซา้ ยของบญั ชี 1.จานวนเงนิ ทแ่ี สดงทางดา้ นขวาของบญั ชี 2.การลงรายการดา้ นซา้ ยของบญั ชหี รอื การผ่านบญั ชที ท่ี าให้ 2.การลงรายการดา้ นขวาของบญั ชี หรอื การผา่ นบญั ชที ท่ี าให้ สนิ ทรพั ยห์ รอื คา่ ใชจ้ ่ายเพม่ิ ขน้ึ สนิ ทรพั ยห์ รอื ค่าใชจ้ ่ายลดลง 3.การลงรายการดา้ นซา้ ยของบญั ชหี รอื การผา่ นบญั ชที ท่ี าให้ 3.การลงรายการดา้ นขวาของบญั ชหี รอื การผา่ นบญั ชที ท่ี าใหห้ น้สี นิ หน้สี นิ รายการเงนิ ทุนหรอื รายไดล้ ดลง รายการเงนิ ทุนหรอื รายไดเ้ พม่ิ ขน้ึ 7.ครแู ละผเู้ รยี วเิ คราะห์ และแสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การบนั ทึกบญั ชีตามหลกั การบญั ชีคู่ การบนั ทกึ บญั ชตี ามระบบบญั ชคี ู่ มหี ลกั ดงั น้ี 1) การบนั ทึกบญั ชีหมวดสินทรพั ย์ รายการคา้ ใดทว่ี เิ คราะหแ์ ลว้ จะบนั ทกึ ไวด้ งั น้ี สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ ขน้ึ ใหบ้ นั ทกึ บญั ชสี นิ ทรพั ยด์ า้ นเดบติ (Dr.) สนิ ทรพั ยล์ ดลง ใหบ้ นั ทกึ บญั ชสี นิ ทรพั ยด์ า้ นเครดติ (Cr.) เดบติ สนิ ทรพั ย์ เครดติ บนั ทกึ สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ (+) บนั ทกึ สนิ ทรพั ยล์ ด (-) 2) การบนั ทึกบญั ชีหมวดหนี้สิน รายการคา้ ใดทว่ี เิ คราะหแ์ ลว้ จะบนั ทกึ ไวด้ งั น้ี หน้สี นิ เพิ่มขึน้ ใหบ้ นั ทกึ บญั ชหี น้สี นิ ดา้ นเครดิต (Cr.) หน้สี นิ ลดลง ใหบ้ นั ทกึ บญั ชหี น้สี นิ ด้านเดบิต (Dr.) เดบติ หนี้สิน เครดติ บนั ทกึ หน้ีสนิ ลด (-) บนั ทกึ หน้สี นิ เพม่ิ (+) 3) การบนั ทึกบญั ชีหมวดสว่ นของเจ้าของ (ทุน) รายการคา้ ใดทว่ี เิ คราะหแ์ ลว้ จะบนั ทกึ ดงั น้ี สว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) เพิ่มขึน้ ใหบ้ นั ทกึ ทบ่ี ญั ชสี ว่ นของเจา้ ของด้านเครดิต (Cr.) สว่ นของเจา้ ของ (ทุน) ลดลง ใหบ้ นั ทกึ ทบ่ี ญั ชสี ว่ นของเจา้ ของด้านเดบิต (Dr.) เดบติ ส่วนของเจา้ ของ เครดติ บนั ทกึ สว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) ลด (-) บนั ทกึ สว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) เพมิ่ (+) 4) การบนั ทึกบญั ชีหมวดรายได้ จากการวเิ คราะหส์ มการบญั ชี ถา้ บญั ชรี ายไดเ้ พม่ิ ขน้ึ จะมผี ลทาใหส้ ว่ น ของเจา้ ของเพม่ิ ขน้ึ หลกั การวเิ คราะหย์ ดึ ตามหลกั หมวดบญั ชสี ว่ นของเจา้ ของ ดงั น้ี ถา้ รายไดเ้ พม่ิ ขน้ึ จะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของเพ่ิมขนึ้ ใหบ้ นั ทกึ บญั ชสี ว่ นของเจา้ ของดา้ นเครดติ ถา้ รายไดล้ ดลงจะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของลดลง ใหบ้ นั ทกึ บญั ชสี ว่ นของเจา้ ของดา้ นเดบติ เดบติ ส่วนของเจา้ ของ เครดติ บนั ทกึ สว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) ลด (-) บนั ทกึ สว่ นของเจา้ ของ (ทุน) เพม่ิ (+)

63 5) การบนั ทึกบญั ชีหมวดคา่ ใช้จ่าย จากการวเิ คราะหส์ มการบญั ชี ถา้ บญั ชคี า่ ใชจ้ ่ายเพม่ิ ขน้ึ จะมผี ลทา ใหส้ ว่ นของเจา้ ของลดลง หลกั การวเิ คราะหย์ ดึ ตามหลกั หมวดบญั ชสี ว่ นของเจา้ ของ ดงั น้ี ถา้ ค่าใชจ้ ่ายเพมิ่ ขน้ึ จะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของลดลงใหบ้ นั ทกึ บญั ชสี ว่ นของเจา้ ของดา้ นเดบติ ถา้ ค่าใชจ้ า่ ยลดลงจะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของลดลงใหบ้ นั ทกึ บญั ชสี ว่ นของเจา้ ของดา้ นเครดติ เดบติ ส่วนของเจา้ ของ เครดติ บนั ทกึ สว่ นของเจา้ ของ (ทุน) ลด (-) บนั ทกึ สว่ นของเจา้ ของ (ทุน) เพม่ิ (+) 8.ครอู ธบิ ายการตงั้ ช่อื บญั ชจี ากการวเิ คราะหร์ ายการคา้ 1) บญั ชสี นิ ทรพั ย์ ใหน้ าช่อื ของสนิ ทรพั ยน์ นั้ ๆ มาตงั้ เป็นชอ่ื บญั ชี เช่น เงนิ สด ลกู หน้ีการคา้ อปุ กรณ์ เครอ่ื งตกแต่ง เป็นตน้ 2) บญั ชหี น้สี นิ ใหน้ าช่อื ของหนส้ี นิ นนั้ ๆ มาตงั้ เป็นช่อื บญั ชี เช่น เจา้ หน้ีการคา้ เงนิ กู้ เป็นตน้ 3) บญั ชสี ว่ นของเจา้ ของ (ทุน) ใหน้ าชอ่ื สว่ นทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เจา้ ของมาตงั้ เป็นชอ่ื บญั ชี เชน่ บญั ชที นุ ... ใช้ สว่ นตวั รายไดค้ า่ บรกิ าร เงนิ เดอื น เป็นตน้ สามารถแยกลกั ษณะการบนั ทกึ บญั ชปี ระเภทสว่ นของเจา้ ของไดด้ งั น้ี 3.1 ลกั ษณะของบญั ชที นุ จะถกู บนั ทกึ ทางดา้ นเครดติ เมอ่ื มกี ารลงทนุ ครงั้ แรก, ลงทุนเพมิ่ และจะถกู บนั ทกึ ดา้ นเดบติ เมอ่ื มกี ารถอนทุน 3.2 ลกั ษณะของบญั ชถี อนใชส้ ว่ นตวั จะถูกบนั ทกึ ดา้ นเดบติ เพราะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของลดลง 3.3 ลกั ษณะของบญั ชรี ายได้ จะถูกบนั ทกึ เครดติ เมอ่ื มรี ายไดเ้ กดิ ขน้ึ เพราะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของเพม่ิ ขน้ึ 3.4 ลกั ษณะบญั ชคี ่าใชจ้ ่าย จะถกู บนั ทกึ เดบติ เม่อื มคี า่ ใชจ้ า่ ยเกดิ ขน้ึ เพราะทาใหส้ ว่ นของเจา้ ของลดลง 9.ครอู ธบิ ายการจดั ทาเอกสารประกอบการบนั ทึกบญั ชี โดยผทู้ าบญั ชี (Bookkeeper) เป็นผมู้ หี น้าท่ี จดั ทาบญั ชี ซง่ึ ก่อนจะจดั ทาบญั ชนี นั้ ผทู้ าบญั ชตี อ้ งตรวจสอบเอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชใี หถ้ ูก โดยเอกสาร ประกอบการบนั ทกึ บญั ชมี ดี งั น้ี 1) ใบสาคญั ทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชใี นสมุดขนั้ ตน้ ไดแ้ ก่ สมดุ รายวนั ทวั่ ไปและสมุดรายวนั เฉพาะ ใบสาคญั ทจ่ี ดั ทาขน้ึ นนั้ จะตอ้ งกาหนดเลขทเ่ี รยี งลาดบั ใบสาคญั เพ่อื สะดวกในการตรวจสอบ อา้ งองิ ในการบนั ทกึ บญั ชี ซง่ึ ใบสาคญั เหลา่ นนั้ จะเป็นการสรปุ รายการ จานวนเงนิ และมเี อกสารหลกั ฐานการรบั -จ่ายเงนิ แนบประกอบดว้ ย เชน่ ใบสาคญั รบั ใบสาคญั จา่ ย เป็นตน้ 2) เอกสารหลกั ฐานทางการคา้ เช่น ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบกากบั ภาษี ใบขอซอ้ื ใบสงั่ ซอ้ื ใบแจง้ หน้ี เป็นตน้ 3) เอกสารหลกั ฐานทางการเงนิ เชน่ เชค็ ใบแจง้ ยอดธนาคาร ใบฝากเงนิ ใบถอนเงนิ สมุดคฝู่ าก ใบสาคญั เงนิ สดยอ่ ย เป็นตน้

64 10.ผเู้ รยี นสรุปการวเิ คราะหส์ นิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ ดงั น้ี รายการคา้ สรปุ การวเิ คราะห์ ดา้ นเดบติ ดา้ นเครดติ 1.นาหนุ่มเงนิ สดมาลงทนุ 10,000 บาท เงนิ สด 10,000 ทุน-หนุ่ม 10,000 2.ซอ้ื อุปกรณ์ 8,000 บาท อุปกรณ์ 8,000 เงนิ สด 8,000 3.ซอ้ื เครอ่ื งตกแต่เงนิ เชอ่ื จากรา้ นปนั ่ 5,000 บาท เครอ่ื งตกแต่ง 5,000 เจา้ หน้กี ารคา้ -ปนั่ 5,000 4.ตดั ผมใหล้ กู คา้ ยงั ไมไ่ ดร้ บั เงนิ 3,000 บาท ลกู หน้กี ารคา้ 3,000 รายไดค้ า่ บรกิ าร 3,000 5.ชาระหน้ีใหร้ า้ นปนั ่ 5,000 บาท เจา้ หน้กี ารคา้ -ปนั่ 5,000 เงนิ สด 5,000 6.กเู้ งนิ จากธนาคารพาณชิ ย์ 30,000 บาท เงนิ สด 30,000 เงนิ ก-ู้ ธ.พาณชิ ย์ 30,000 7.ยอดนาเงนิ ของกจิ การไปใชส้ ่วนตวั 5,000 บาท ถอนใชส้ ว่ นตวั 5,000 เงนิ สด 5,000 8.รบั ชาระหน้จี ากลกู คา้ 3,000 บาท เงนิ สด 3,000 ลกู หน้กี ารคา้ 3,000 9.รบั เงนิ จากลกู คา้ ค่าเสรมิ สวย 2,000 บาท เงนิ สด 2,000 รายไดค้ ่าบรกิ าร 2,000 10.จ่ายเงนิ เดอื น 5,000 บาท เงนิ เดอื น 5,000 เงนิ สด 5,000 11.ผเู้ รยี นวเิ คราะหก์ ารเพม่ิ หรอื ลดของสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ ดงั น้ี ว.ด.ป. รายการค้า สินทรพั ย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ 2558 เพ่ิม ลด เพ่ิม ลด เพ่ิม ลด ม.ค. 1 โด่งนาเงนิ สดมาลงทนุ เงนิ สด ทุน-โด่ง 2 นาเงนิ สดไปฝากธนาคาร เงนิ ฝากธนาคาร เงนิ สด 4 ซอ้ื อุปกรณ์เสรมิ สวย อุปกรณ์ เงนิ สด 5 ซอ้ื เครอ่ื งตกแต่งรา้ นเงนิ เชอ่ื เครอ่ื งตกแต่ง เจา้ หน้ี 6 ไดร้ บั เงนิ คา่ บรกิ ารเสรมิ สวย เงนิ สด รายไดค้ า่ บรกิ าร 7 จา่ ยคา่ เชา่ รา้ น เงนิ สด ค่าเชา่ 8 ใหบ้ รกิ ารเสรมิ สวยแกล่ กู คา้ ลกู หน้ี รายไดค้ ่าบรกิ าร ยงั ไมไ่ ดร้ บั เงนิ 9 จา่ ยชาระหน้เี มอ่ื วนั ท่ี 5 เงนิ สด เจา้ หน้ี 10 รบั ชาระหน้เี มอ่ื วนั ท่ี 8 เงนิ สด ลกู หน้ี 11 กเู้ งนิ ธนาคารฝากเขา้ บญั ชี เงนิ ฝากธนาคาร เงนิ กู้ 12 โด่งเบกิ เงนิ ไปใชส้ ว่ นตวั เงนิ ฝากฯ ถอนใชฯ้ 13 จ่ายเงนิ เดอื นพนกั งาน เงนิ สด เงนิ เดอื น

65 12.ผเู้ รยี นวเิ คราะหร์ ายการคา้ ของรา้ นแดนไดนาโมประจาเดอื นมนี าคม ตามตารางดงั น้ี ผลการวเิ คราะห์ การบนั ทกึ บญั ชี รายการคา้ A L OE เดบติ เครดติ จานวนเงนิ เพมิ่ ลด เพมิ่ ลด เพม่ิ ลด 1 แดนนาเงนิ สดมาลงทนุ 80,000 บาท 2 จ่ายค่าเช่ารา้ น 5,000 บาท 3 ซอ้ื เครอ่ื งตกแต่งเงนิ เชอ่ื 12,000 บาท 4 รบั เงนิ คา่ บรกิ ารลกู คา้ 15,000 บาท 15 ส่งบลิ เกบ็ เงนิ จากลกู คา้ 8,000 บาท 20 จา่ ยชาระหน้ใี หเ้ จา้ หน้ี 7,000 บาท 27 รบั ชาระหน้จี ากลกู หน้ี 8,000 บาท 29 แดนถอนเงนิ ใชส้ ว่ นตวั 4,000 บาท 30 จา่ ยค่าแรงงานลกู จา้ ง 6,000 บาท 13.ครปู ลกู ฝงั ใหผ้ เู้ รยี นประพฤตติ นตามระเบยี บกฎเกณฑข์ องสงั คม มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อหน้าทข่ี อง ตนเอง และการอย่รู ว่ มกนั ของทกุ คนย่อมมคี วามสมั พนั ธก์ นั ซง่ึ ตอ้ งนากฎระเบยี บและหลกั คณุ ธรรมตามศาสนาท่ี ตนนบั ถอื มาปรบั ใช้ เพ่อื ความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยในการอย่รู ่วมกนั ทาใหส้ งั คมมคี วามสขุ ดงั นนั้ ผเู้ รยี นตอ้ ง รว่ มกนั ทาประโยชน์เพอ่ื สงั คมสว่ นรวม เชน่ การเปิด-ปิดไฟ ภายในหอ้ งเรยี น หอ้ งน้า เป็นตน้ ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 14.ผเู้ รยี นสรปุ รายการคา้ หมายถงึ รายการทก่ี ่อใหเ้ กดิ การแลกเปลย่ี นหรอื โอนเงนิ หรอื สงิ่ ทม่ี คี า่ เป็นตวั เงนิ ระหว่างกจิ การกบั บคุ คลอ่นื ซง่ึ ลกั ษณะของรายการคา้ จะแตกต่างตามลกั ษณะของกจิ การคา้ เช่น เจา้ ของคน เดยี ว หา้ งหนุ้ สว่ น หรอื บรษิ ทั จากดั ซง่ึ จะมหี ลกั ในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ ดงั น้ี 1) สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ (+) สว่ นของเจา้ ของเพม่ิ (+) 2) สนิ ทรพั ยล์ ด (-) สว่ นของเจา้ ของลด (-) 3) สนิ ทรพั ยอ์ ย่างหน่งึ เพม่ิ (+) สนิ ทรพั ยอ์ กี อย่างหน่งึ ลด (-) 4) สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ (+) หน้สี นิ เพม่ิ (+) 5) สนิ ทรพั ยล์ ด (-) หน้สี นิ ลด (-) 12.ผเู้ รยี นการวเิ คราะหร์ ายการคา้ ตามหลกั การบญั ชคี ู่ มหี ลกั การบนั ทกึ บญั ชดี งั น้ี 1) บญั ชสี นิ ทรพั ยเ์ พม่ิ ขน้ึ ใหบ้ นั ทกึ ดา้ นเดบติ (Dr.) และลดลงใหบ้ นั ทกึ ดา้ นเครดติ (Cr.) 2) บญั ชหี น้สี นิ เพม่ิ ขน้ึ ใหบ้ นั ทกึ ดา้ นเครดติ (Cr.) และลดลงใหบ้ นั ทกึ ดา้ นเดบติ (Dr.) 3) บญั ชสี ว่ นของเจา้ ของเพม่ิ ขน้ึ ใหบ้ นั ทกึ ดา้ นเครดติ (Cr.) และลดลงใหบ้ นั ทกึ ดา้ นเดบติ (Dr.) 15.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกทกั ษะ เพอ่ื ฝึกทกั ษะความรแู้ ละความเขา้ ในการหลกั เกณฑแ์ ละขนั้ ตอนในการการ บนั ทกึ บญั ชเี พอ่ื นาไปประยกุ ตใ์ ชต้ ่อไป 16.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 17.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน 18.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลหลงั เรยี นหน่วยท่ี 3

66 ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ าการบญั ชเี บอ้ื งตน้ (20200-1002) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. มาตรฐานการบญั ชี 3. ใบความรู้ 4. อนิ เทอรเ์ นต็ , Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของสถานศกึ ษา 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50%

67 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อน/หลงั เรยี นมเี กณฑผ์ ่าน 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ ่าน 50% 8 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จา่ ย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ การบรู ณาการ 1) กลุม่ วชิ าภาษาไทย ไดแ้ ก่ ทกั ษะการฟงั ทกั ษะการอา่ น ทกั ษะการเขยี นและทกั ษะการพดู 2) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3) คุณธรรมจรยิ ธรรม และศลี ธรรม กล่มุ วิชาภาษาไทย 4) หน้าทพ่ี ลเมอื งดี 5) อ่นื ๆ กล่มุ วิชาคณิตศาตร์ กล่มุ วิชาวิทยาศาสตร์ กล่มุ วิชากฏหมาย การวิเคราะหร์ ายการคา้ การบรู ณาการ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หนา้ ท่ีพลเมือง กล่มุ วิชาการขายและคอมพิวเตอร์ กล่มุ วิชาภาษาองั กฤษ

68 คาชี้แจง : ใหบ้ นั ทกึ บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย ตามความเป็นจรงิ 1. จากการลงบนั ทกึ มเี งนิ เหลอื เกบ็ หรอื ไม่……………เพราะเหตใุ ด………………..………….……… 2. จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา้ มรี ายจา่ ยมากกว่ารายรบั ………………………..…………….………………….…

69 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หมๆ่ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

70 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมการณ์ใน  สงิ่ ทด่ี งี ามเพอ่ื สว่ นรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทางตรงและทางออ้ ม  5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณีไทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี ่อผอู้ ่นื เผอ่ื แผแ่ ละแบง่ ปนั  7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รง  เป็นประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพผใู้ หญ่  9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระ  ราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่อื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และ ขยายกจิ การเม่อื มคี วามพรอ้ มโดยมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออานาจฝา่ ย  ต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ต่อบาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาตมิ ากกวา่  ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรุง หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นิยม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

71 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

72 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบูรณาการท่ี 6 หน่วยที่ 5 สอนครง้ั ที่ 6 (21-24) รหสั วิชา 20200-1002 การบญั ชเี บ้ืองตน้ (2-2-3) ช่ือหน่วย/เร่ือง การบนั ทึกรายการค้าตามหลกั การบญั ชีท่ีรบั รอง จานวนชวั่ โมง 4 ช.ม. ทวั่ ไปของธรุ กิจบริการเจา้ ของคนเดียวในสมุดรายวนั ทวั่ ไป แนวคิด สมุดรายวนั ทวั่ ไปเป็นสมุดขนั้ ต้นท่ใี ชบ้ นั ทกึ รายการคา้ ท่เี กดิ ขน้ึ ทนั ที ซ่งึ จะบนั ทกึ เรยี งตามลาดบั วนั ท่ี กอ่ นหลงั ของการเกดิ รายการคา้ ขน้ึ การบนั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ จะบนั ทกึ โดย เดบติ บญั ชหี น่ึง และเครดติ อกี บญั ชหี น่ึงไวด้ ว้ ยกนั พรอ้ มทงั้ อธบิ ายรายการคา้ ท่เี กดิ ขน้ึ โดยย่อ นอกจากน้ีสมุด รายวนั ทวั่ ไปยงั สามารถตรวจสอบรายการคา้ ยอ้ นหลงั ได้ ช่วยเป็นแหลง่ อา้ งองิ ขอ้ มลู ทผ่ี า่ นรายการไปบนั ทกึ บญั ชี ในสมดุ บญั ชแี ยกประเภท ซง่ึ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการบนั ทกึ บญั ชแี ยกประเภทไดส้ ะดวกและรวดเรว็ ขน้ึ ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั 1.อธบิ ายความหมาย และประโยชน์ของสมุดรายวนั ทวั่ ไปได้ 2.บอกประเภทของสมดุ บญั ชไี ด้ 3.อธบิ ายรปู แบบของสมดุ รายวนั ทวั่ ไปได้ 4.จดั ทาผงั บญั ชไี ด้ 5.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.2 ความมวี นิ ยั 5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 5.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 5.6 การประหยดั 5.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 5.9 ความรกั สามคั คี 5.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การ และวธิ กี ารบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กจิ บรกิ าร 2.ปฏบิ ตั งิ านบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กจิ บรกิ ารตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป

73 สาระการเรยี นรู้ 1 ความหมาย และประโยชน์ของสมุดรายวนั ทวั่ ไป 2 ประเภทของสมดุ บญั ชี 3 รปู แบบของสมุดรายวนั ทวั่ ไป ภาพรวม (Big Idea) กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1.ครเู ล่าใหผ้ เู้ รยี นฟงั ว่าสมุดรายวนั ขนั้ ตน้ (Book of Original Entry) หรอื สมุดรายวนั (Journal) หมายถงึ สมดุ บญั ชที จ่ี ะใชจ้ ดบนั ทกึ รายการคา้ ต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เป็นขนั้ แรก โดยการจดบนั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ จะจด บนั ทกึ โดยเรยี งตามลาดบั ก่อนหลงั ของการเกดิ รายการคา้ 2.ผเู้ รยี นเลา่ ถงึ การบนั ทกึ บญั ชสี ว่ นตวั เปรยี บเทยี บการบนั ทกึ รายการคา้ ในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 3.ผเู้ รยี นยกตวั อย่างสมุดรายวนั ขนั้ ตน้ ขนั้ สอน 4.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบการจดั การเรยี นรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) และเล่า อธบิ ายแสดงสาธติ โดยทผ่ี เู้ รยี นเป็นผฟู้ งั และเปิดโอกาสใหซ้ กั ถามปญั หาไดบ้ า้ งในตอนทา้ ยของการบรรยาย เพอ่ื นาไปปฏบิ ตั ใิ ชใ้ นธรุ กจิ ปจั จบุ นั ความหมาย และประโยชน์ของสมดุ รายวนั ทวั่ ไป โดยสมดุ รายวนั ทวั่ ไป (General journal) หมายถงึ สมุดขนั้ ตน้ ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทนั ที โดยจะบนั ทกึ เรยี งตามลาดบั วนั ทก่ี อ่ นหลงั ของ การเกดิ รายการคา้ ขน้ึ การบนั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ จะบนั ทกึ โดยเดบติ บญั ชหี น่งึ และเครดติ อกี บญั ชหี น่งึ ไว้ ดว้ ยกนั พรอ้ มทงั้ อธบิ ายรายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยสรปุ

74 เม่อื บนั ทกึ รายการคา้ ในสมุดรายวนั ทวั่ ไปแลว้ กจ็ ะผ่านรายการไปยงั บญั ชแี ยกประเภททวั่ ไปทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ซง่ึ ตอ้ งอา้ งองิ หน้าบญั ชขี องสมุดรายวนั ทวั่ ไปในสมดุ บญั ชแี ยกประเภท โดยใชอ้ กั ษรย่อวา่ “รว” แทนสมดุ รายวนั ทวั่ ไป และอา้ งองิ เลขทบ่ี ญั ชแี ยกประเภทในสมุดรายวนั ทวั่ ไปดว้ ย 5.ครบู อกประโยชน์ของสมุดรายวนั ทวั่ ไปมปี ระโยชน์ดงั ต่อไปน้ี 1) ช่วยบนั ทกึ รายการคา้ ต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทุกรายการโดยเรยี งลาดบั วนั ท่กี ่อนหลงั ทเ่ี กดิ รายการนนั้ ๆ ซง่ึ สามารถตรวจสอบรายการคา้ ยอ้ นหลงั ได้ 2) ช่วยเป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลท่ีผ่านรายการไปบันทึกบัญชีในสมุดบัญชีแยกประเภท ซ่ึงสามารถ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการบนั ทกึ บญั ชแี ยกประเภทไดส้ ะดวกและรวดเรว็ ขน้ึ 3) ช่วยคน้ หาขอ้ ผดิ พลาดทเ่ี กดิ จากการบนั ทกึ รายการผดิ บญั ชไี ด้เรว็ ขน้ึ เน่ืองจากมกี ารอธบิ ายลกั ษณะ ของรายการคา้ ทบ่ี นั ทกึ บญั ชไี ว้ ทาใหต้ รวจสอบไดว้ า่ บนั ทกึ บญั ชถี ูกตอ้ งตามประเภทบญั ชที ค่ี วรจะบนั ทกึ หรอื ไม่ 6.ครบู อกประเภทของสมดุ บญั ชี ซง่ึ สมดุ บญั ชที ใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั น้ี 1) สมดุ รายวนั (Journal) แบง่ ได้ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1.1 สมดุ รายวนั ทวั่ ไป (General Journal) คอื สมดุ บญั ชขี นั้ ตน้ หรอื สมุดรายวนั ทใ่ี ชจ้ ดบนั ทกึ รายการคา้ ท่ี เกดิ ขน้ึ ทนั ทที ุกรายการ ถา้ กจิ การนนั้ ไมม่ สี มุดรายวนั เฉพาะ ถา้ กจิ การมกี ารใชส้ มดุ รายวนั เฉพาะ สมดุ รายวนั ทวั่ ไปกจ็ ะมไี วเ้ พ่อื บนั ทกึ รายการคา้ อ่นื ทเ่ี กดิ ขน้ึ และไมส่ ามารถนาไปบนั ทกึ ในสมุดรายวนั เฉพาะเลม่ ใดเล่มหน่งึ ได้ 1.2 สมุดรายวนั เฉพาะ (Special Journal) คอื สมุดรายวนั หรอื สมุดบญั ชขี นั้ ตน้ ทใ่ี ช้ บนั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ โดยเฉพาะ เชน่ 1.2.1 สมุดรายวนั รบั เงนิ (Cash Received Journal) เป็นสมดุ รายวนั ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กย่ี วกบั การ รบั เงนิ เท่านนั้ เช่น การรบั รายได้ การรบั ชาระหน้ี เป็นตน้ 1.2.1 สมุดรายวนั จา่ ยเงนิ (Cash Payment Journal) เป็นสมดุ รายวนั ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กย่ี วกบั การ จ่ายเงนิ เท่านนั้ เช่น จ่ายคา่ ใชจ้ า่ ย ซอ้ื สนิ ทรพั ย์ จา่ ยเงนิ ชาระหน้ี เป็นตน้ 1.2.3 สมดุ รายวนั ซอ้ื (Purchases Journal) เป็นสมุดรายวนั ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กย่ี วกบั การซอ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ เช่อื เท่านนั้ 1.2.4 สมดุ รายวนั ขาย (Sales Journal) เป็นสมุดรายวนั ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายคา้ ทเ่ี กย่ี วกบั การขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เช่อื เทา่ นนั้ 1.2.5 สมุดรายวนั สง่ คนื สนิ คา้ (Purchases Returns and Allowance Journal) เป็นสมุดรายวนั ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กย่ี วกบั การสง่ คนื สนิ คา้ ทซ่ี อ้ื มาเป็นเงนิ เชอ่ื เท่านนั้ 1.2.6 สมุดรายวนั รบั คนื สนิ คา้ (Sales Returns and Allowance Journal) เป็นสมุดรายวนั ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กย่ี วกบั การรบั คนื สนิ คา้ ทข่ี ายไปเป็นเงนิ เช่อื เท่านนั้ 2) สมุดบญั ชแี ยกประเภท (Ledger) แบง่ ออได้ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 2.1 สมุดบญั ชแี ยกประเภททวั่ ไป (General ledger) เป็นสมุดทร่ี วมบญั ชแี ยกประเภททุกบญั ชี เชน่ บญั ชี แยกประเภทเงนิ สด สนิ คา้ เจา้ หน้ี เป็นตน้ 2.2 สมุดบัญชีแยกประเภทย่อย (Subsidiary ledger) เป็นบัญชีแยกประเภทสาหรบั บันทึกรายการ เคล่อื นไหวของลกู หน้ี หรอื เจา้ หน้ีแต่ละราย 7.ครอู ธบิ ายรปู แบบของสมดุ รายวนั ทวั่ ไป โดยสมดุ รายวนั ทวั่ ไปมหี ลายรปู แบบหรอื แบบฟอรม์ แลว้ แต่

75 กจิ การจะเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั กจิ การของตนเองขน้ึ อยกู่ บั ขนาดและลกั ษณะการดาเนินกจิ การนนั้ ๆ รปู แบบท่ี นยิ มทวั่ ไป และนามาใชก้ นั ในปจั จุบนั คอื รปู แบบมาตรฐาน (Standard Form) ซง่ึ มลี กั ษณะและสว่ นประกอบดงั น้ี สมดุ รายวนั ทวั่ ไป  หน้า.. วนั เดอื น ปี รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต บญั ชี บาท สต. บาท สต.     8.ครบู อกสว่ นประกอบของสมดุ รายวนั ทวั่ ไป มดี งั น้ี  เขยี นคาวา่ “สมดุ รายวนั ทวั่ ไป (General Journal)” อย่ตู รงกง่ึ กลางหวั กระดาษ เพ่อื ทจ่ี ะบอกว่า แบบฟอรม์ ทจ่ี ดั ทาน้คี อื สมุดรายวนั ทวั่ ไป  เขยี นเลขทห่ี น้า (Page) ของสมุดรายวนั ทวั่ ไปใหอ้ ย่ตู รงมมุ บนดา้ นขวามอื ของกระดาษ เพอ่ื บอกว่า สมดุ รายวนั ทวั่ ไปทบ่ี นั ทกึ อยขู่ ณะน้เี ป็นหน้าทเ่ี ท่าไหร่  เป็นช่องวนั เดอื น ปี ซง่ึ เป็นช่องทแ่ี สดงวนั ท่ี (Date) ของรายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยจะตอ้ งเรยี งลาดบั วนั ทก่ี อ่ นหลงั ของรายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในการบนั ทกึ รายการในชอ่ งวนั ทน่ี นั้ ใหบ้ นั ทกึ ปี พ.ศ.กอ่ นโดยบนั ทกึ ไว้ ตรงกลาง ต่อมาบนั ทกึ เดอื นโดยบนั ทกึ ไวด้ า้ นหน้า แลว้ จงึ บนั ทกึ วนั ท่ี หากวนั ต่อไปของรายการคา้ ทจ่ี ะตอ้ ง บนั ทกึ บญั ชเี ป็นปีเดยี วกนั เดอื นเดยี วกนั กไ็ มจ่ าเป็นตอ้ งบนั ทกึ ใหม่อกี  เป็นชอ่ งรายการ (Account Names and Explanation) ใชบ้ นั ทกึ ช่อื บญั ชที เ่ี ดบติ ใหเ้ ขยี นชดิ ซา้ ย พรอ้ มทงั้ บนั ทกึ จานวนเงนิ ในช่องเดบติ สว่ นบญั ชที เ่ี ครดติ ใหเ้ ขยี นเยอ้ื งมาทางขวาเลก็ น้อย พรอ้ มทงั้ บนั ทกึ จานวนเงนิ ในชอ่ งเครดติ จากนนั้ ใหเ้ ขยี นคาอธบิ ายรายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในบรรทดั ถดั มาโดยสรุป โดยการเขยี น คาอธบิ ายรายการใหเ้ ขยี นชดิ ซา้ ยตดิ กบั เสน้ ทางดา้ นซา้ ยของช่อง สดุ ทา้ ยใหข้ ดี เสน้ ใตเ้ พ่อื แสดงการสน้ิ สดุ การ บนั ทกึ รายการคา้ นนั้ ๆ ในการขดี เสน้ ใตน้ ้ใี หข้ ดี เสน้ ใตเ้ ฉพาะช่องรายการเทา่ นนั้ หากรายการคา้ ใดทม่ี บี ญั ชที ่ี จะตอ้ งบนั ทกึ ดา้ นเดบติ มากกว่า 1 บญั ชใี หบ้ นั ทกึ บญั ชที างดา้ นเดบติ ใหห้ มดเสยี ก่อน ต่อจากนนั้ ใหบ้ นั ทกึ บญั ชที ่ี จะตอ้ งบนั ทกึ ทางดา้ นเครดติ โดยเยอ้ื งมาทางดา้ นขวามอื เลก็ น้อยประมาณ 1-1.5 น้วิ  เป็นชอ่ งเลขทบ่ี ญั ชี (Account No.) ใชบ้ นั ทกึ เลขทบ่ี ญั ชแี ยกประเภทเมอ่ื ทาการผา่ นรายการจาก สมุดรายวนั ทวั่ ไปไปยงั บญั ชแี ยกประเภททเ่ี กย่ี วขอ้ งแลว้ โดยบนั ทกึ ไวใ้ นชอ่ งรายการทงั้ ทางดา้ นเดบติ และเครดติ ซง่ึ เร่อื งเลขทบ่ี ญั ชนี ้จี ะไดอ้ ธบิ ายใหล้ ะเอยี ดในหวั ขอ้ ถดั ไป  เป็นชอ่ งเดบติ (Debit) ใชบ้ นั ทกึ จานวนเงนิ ทบ่ี นั ทกึ บญั ชแี ต่ละบญั ชที างดา้ นเดบติ โดยแบ่งเป็น 2 ชอ่ งยอ่ ย คอื ช่องบาท และช่องสตางค์  เป็นช่องเครดติ (Credit) ใชบ้ นั ทกึ จานวนเงนิ ทบ่ี นั ทกึ บญั ชแี ต่ละบญั ชที างดา้ นเครดติ โดยแบ่งเป็น 2 ชอ่ งย่อย คอื ช่องบาท และชอ่ งสตางค์ 9.ครอู ธบิ ายและแสดงการเขยี นผงั บญั ชี โดยผงั บญั ชี (Chart of account) คอื ผงั ทแ่ี สดงรายชอ่ื บญั ชี แยกประเภทของแต่ละกจิ การทกุ บญั ชี โดยจดั เรยี งตามหมวดหม่บู ญั ชี ไดแ้ ก่ หมวดสนิ ทรพั ย์ หมวดหน้สี นิ หมวด สว่ นของเจา้ ของ หมวดรายไดแ้ ละหมวดค่าใชจ้ ่าย พรอ้ มทงั้ กาหนดเลขทบ่ี ญั ชขี องแต่ละบญั ชี 10.ครแู ละผเู้ รยี นกาหนดเลขทบ่ี ญั ชี หรอื “ผงั บญั ช”ี จะกาหนดอย่างมรี ะบบตามมาตรฐานโดยทวั่ ไปแลว้ โดย เลขทบ่ี ญั ชจี ะถกู กาหนดตามหมวดบญั ชี ซง่ึ แบง่ ออก 5 หมวด ดงั น้ี

76 หมวดที่ 1 หมวดสนิ ทรพั ย์ รหสั บญั ชี คอื 1 หมวดที่ 2 หมวดหน้สี นิ รหสั บญั ชี คอื 2 หมวดท่ี 3 หมวดสว่ นของเจา้ ของ (ทุน) รหสั บญั ชี คอื 3 หมวดที่ 4 หมวดรายได้ รหสั บญั ชี คอื 4 หมวดท่ี 5 หมวดค่าใชจ้ า่ ย รหสั บญั ชี คอื 5 หากเป็นบญั ชหี มวดสนิ ทรพั ย์ เชน่ เงนิ สด ลกู หน้ีการคา้ ทด่ี นิ อาคารและอปุ กรณ์ เลขทบ่ี ญั ชกี จ็ ะขน้ึ ตน้ ดว้ ยเลข 1 ถ้าเป็นบญั ชหี มวดหน้ีสนิ เช่น เจ้าหน้ีการคา้ เงนิ กู้ระยะยาว หุน้ กู้ เลขท่บี ญั ชกี จ็ ะขน้ึ ต้นดว้ ยเลข 2 หรอื หากเป็นบญั ชหี มวดส่วนของเจา้ ของ เชน่ ทุน ถอนใชส้ ่วนตวั เลขทบ่ี ญั ชกี จ็ ะขน้ึ ตน้ ดว้ ยเลข 3 หากเป็นบญั ชี หมวดรายได้ เช่น รายได้ค่าเช่า ดอกเบ้ียรบั รายได้อ่ืนๆ เลขท่ีบัญชีกจ็ ะข้นึ ต้นด้วยเลข 4 และบัญชีหมวด คา่ ใชจ้ า่ ย เช่น ค่าเชา่ เงนิ เดอื น เลขทบ่ี ญั ชกี จ็ ะขน้ึ ตน้ ดว้ ยเลข 5 การกาหนดใหม้ เี ลขทบ่ี ญั ชมี ากกวา่ 2 หลกั เชน่ 1.หมวดสนิ ทรพั ย์ เลขท่ี 100-199 2.หมวดหน้สี นิ เลขท่ี 200 - 299 3.หมวดสว่ นของเจา้ ของ เลขท่ี 300 - 399 4.หมวดรายได้ เลขท่ี 400 - 499 5.หมวดค่าใชจ้ ่าย เลขท่ี 500 – 500 ส่วนหลกั หลงั ของเลขท่บี ญั ชใี นแต่ละหมวดนัน้ กจ็ ะถูกกาหนดด้วยหลกั เกณฑ์ท่แี ตกต่างกนั ไป โดยหมวด สนิ ทรพั ยน์ นั้ หลกั หลงั ของเลขทบ่ี ญั ชจี ะเรยี งตามสภาพคล่องของสนิ ทรพั ย์ โดยเรยี งจากสภาพคล่องมากไปหาสภาพ คล่องน้อย เช่น เลขทบ่ี ญั ชเี งนิ สดจะมาก่อนเลขทบ่ี ญั ชลี ูกหน้ีการคา้ เป็นต้น สาหรบั หมวดหน้ีสนิ กจ็ ะเรยี งตามสภาพ คล่องของหน้ีสนิ เช่น เลขทบ่ี ญั ชเี จา้ หน้จี ะมาก่อนเลขทบ่ี ญั ชขี องเงนิ กรู้ ะยะยาว เป็นตน้ สาหรบั หมวดสว่ นของเจา้ ของ หลกั หลงั ของเลขท่บี ญั ชจี ะเรยี งตามการเกดิ ขน้ึ ก่อนหลงั เช่น การทน่ี าสนิ ทรพั ยม์ าลงทุนทาให้เกดิ บญั ชที ุน ก่อนท่ี เจ้าของกจิ การจะถอนเงนิ ออกไปใช้ จงึ ทาให้เลขท่บี ญั ชขี องบญั ชีทุน มาก่อนเลขท่บี ญั ชถี อนใชส้ ่วนตวั ส่วนหมวด รายไดแ้ ละหมวดคา่ ใชจ้ ่าย หลกั หลงั ของเลขทบ่ี ญั ชจี ะเรยี งความสาคญั ของรายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ย 11.ผเู้ รยี นตวั อยา่ งการกาหนดเลขท่ีบญั ชีหรอื ผงั บญั ชี (Chart of Account) หมวดบญั ชี ช่ือบญั ชี เลขท่ีบญั ชี หมวดท่ี  สินทรพั ย์ เงนิ สด 101 ลกู หน้กี ารคา้ 102 สนิ คา้ คงเหลอื 103 วสั ดสุ านกั งาน 104 ทด่ี นิ อาคารและอุปกรณ์ ฯลฯ 105 หมวดที่  หนี้สิน เจา้ หน้กี ารคา้ 201 เงนิ เบกิ เกนิ บญั ชี 202 ตวั ๋ เงนิ จา่ ย 203 เงนิ กรู้ ะยาว ฯลฯ 204 หมวดท่ี  ส่วนของเจ้าของ ทุน-เจา้ ของกจิ การ 301 กาไรขาดทุน 302 ถอนใชส้ ่วนตวั ฯลฯ 303

77 หมวดท่ี  รายได้ รายไดค้ า่ บรกิ าร 401 รายไดอ้ น่ื ๆ ฯลฯ 402 หมวดที่  คา่ ใช้จ่าย ตน้ ทนุ ขาย 501 คา่ เชา่ 502 เงนิ เดอื น 503 คา่ ใชจ้ า่ ยอ่นื ๆ ฯลฯ 504 หมายเหตุ ในชอ่ งเลขทบี่ ญั ชี เลขตวั หน้า หมายถงึ หมวดบญั ชี เลขตวั หลงั หมายถงึ ลาดบั ทบี่ ญั ชแี ยกประเภทแต่ละหมวด 12.ครปู ลกู ฝงั ใหผ้ เู้ รยี นประพฤตติ นตามระเบยี บกฎเกณฑข์ องสงั คม มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อหน้าทข่ี อง ตนเอง และการอยรู่ ว่ มกนั ของทกุ คนยอ่ มมคี วามสมั พนั ธก์ นั ซง่ึ ตอ้ งนากฎระเบยี บและหลกั คณุ ธรรมตามศาสนาท่ี ตนนบั ถอื มาปรบั ใช้ เพ่อื ความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยในการอยรู่ ่วมกนั ทาใหส้ งั คมมคี วามสขุ ดงั นนั้ ผเู้ รยี นตอ้ ง ร่วมกนั ทาประโยชน์เพ่อื สงั คมสว่ นรวม เช่น การเปิด-ปิดไฟ ภายในหอ้ งเรยี น หอ้ งน้า เป็นตน้ 13.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน และแบบประเมนิ ผล ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 14.ผเู้ รยี นสรปุ โดยออกมาบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไปบางรายการหน้าชนั้ เรยี น 15.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกทกั ษะ เพ่อื ฝึกทกั ษะความรแู้ ละความเขา้ ในการหลกั เกณฑแ์ ละขนั้ ตอนในการ บนั ทกึ บญั ชเี พอ่ื นาไปประยุกตใ์ ชต้ ่อไป สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ าการบญั ชเี บอ้ื งตน้ (20200-1002) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. ใบความรู้ 3. มาตรฐานการบญั ชี 4. อนิ เทอรเ์ น็ต, Poewer Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของสถานศกึ ษา 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรูก้ ่อน/หลงั เรยี น 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ

78 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี นมเี กณฑผ์ า่ น 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จา่ ย 3. ควรทาแบบฝึกปฏบิ ตั เิ พมิ่ เตมิ

79 การบูรณาการ 1) กลุ่มวชิ าภาษาไทย ไดแ้ ก่ ทกั ษะการฟงั ทกั ษะการอา่ น ทกั ษะการเขยี นและทกั ษะการพดู 2) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3) คุณธรรมจรยิ ธรรม และศลี ธรรม กล่มุ วิชาภาษาไทย 4) หน้าทพ่ี ลเมอื งดี 5) อน่ื ๆ กล่มุ วิชาคณิตศาตร์ กล่มุ วิชาวิทยาศาสตร์ การบนั ทกึ รายการคา้ ตาม การบรู ณาการ กล่มุ วิชากฏหมาย หลกั การบญั ชีทร่ี บั รอง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทวั ่ ไปของธุรกิจบริการ เจา้ ของคนเดยี วในสมุด หนา้ ท่ีพลเพมือง รายวนั ทวั ่ ไป กล่มุ วิชาการขายและคอมพิวเตอร์ กล่มุ วิชาภาษาองั กฤษ

80 คาชี้แจง : ใหบ้ นั ทกึ บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย ตามความเป็นจรงิ 1. จากการลงบนั ทกึ มเี งนิ เหลอื เกบ็ หรอื ไม่……………เพราะเหตใุ ด………………..………….……… 2. จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา้ มรี ายจา่ ยมากกว่ารายรบั ………………………..…………….………………….…

81 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หมๆ่ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

82 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ใน  สงิ่ ทด่ี งี ามเพอ่ื ส่วนรวม 3.กตญั ญตู อ่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและทางออ้ ม  5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละแบง่ ปนั  7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็น  ประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพผใู้ หญ่  9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของพระบาทสมเดจ็  พระเจา้ อยู่หวั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระราช  ดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ มอ่ื ยาม จาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยาย กจิ การเมอ่ื มคี วามพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออานาจฝา่ ยต่า  หรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาตมิ ากกวา่  ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรงุ หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแห่งชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

83 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

84 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 7 หน่วยท่ี 5 สอนครง้ั ท่ี 7 (25-28) รหสั วิชา 20200-1002 การบญั ชเี บ้ืองตน้ (2-2-3) จานวนชวั่ โมง 4 ช.ม. ช่ือหน่วย/เร่ือง การบนั ทึกรายการคา้ ตามหลกั การบญั ชีท่ีรบั รอง ทวั่ ไปของธรุ กิจบริการเจา้ ของคนเดียวในสมุดรายวนั ทวั่ ไป แนวคิด สมุดรายวนั ทวั่ ไปเป็นสมุดขนั้ ต้นทใ่ี ช้บนั ทกึ รายการค้าท่เี กดิ ขน้ึ ทนั ที ซ่งึ จะบนั ทกึ เรยี งตามลาดบั วนั ท่ี กอ่ นหลงั ของการเกดิ รายการคา้ ขน้ึ การบนั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ จะบนั ทกึ โดยเดบติ บญั ชหี น่งึ และเครดติ อกี บัญชีหน่ึงไว้ด้วยกัน พร้อมทัง้ อธิบายรายการค้าท่ีเกิดข้ึนโดยย่อ นอกจากน้ีสมุดรายวันทัว่ ไปยังสามารถ ตรวจสอบรายการค้าย้อนหลงั ได้ ช่วยเป็นแหล่งอ้างอิงขอ้ มูลท่ีผ่านรายการไปบนั ทกึ บญั ชีในสมุดบญั ชีแยก ประเภท ซง่ึ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการบนั ทกึ บญั ชแี ยกประเภทไดส้ ะดวกและรวดเรว็ ขน้ึ ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั 5.บนั ทกึ รายการคา้ ในสมดุ รายวนั ทวั่ ไปตามหลกั การบญั ชไี ด้ 6.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 6.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 6.2 ความมวี นิ ยั 6.3 ความรบั ผดิ ชอบ 6.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 6.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 6.6 การประหยดั 6.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 6.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 6.9 ความรกั สามคั คี 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การ และวธิ กี ารบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กจิ บรกิ าร 2.ปฏบิ ตั งิ านบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ ารตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป สาระการเรียนรู้ 5.หลกั การบนั ทกึ รายการคา้ ในสมุดรายวนั ทวั่ ไป

85 กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น 1.ครทู บทวนสมุดรายวนั ทวั่ ไป เพ่อื เป็นพน้ื ฐานในการบนั ทกึ บญั ชตี ่อในสบั ดาหน์ ้ี โดยตงั้ คาถามให้ ผเู้ รยี นตอบและสมุ่ ผเู้ รยี นออกมาอภปิ รายการวเิ คราะหร์ ายการเพอ่ื นาไปบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไป 2.ครแู นะนารปู แบบการเรยี นการสอน และสมุ่ ผเู้ รยี นบางคนวเิ คราะหร์ ายการคา้ และนาไปบนั ทกึ รายการ ในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป รว่ มกบั ผเู้ รยี นคนอ่นื ๆ หน้าชนั้ เรยี น ขนั้ สอน 3.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบการจดั การเรยี นรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) โดยใช้ Power Point เป็นสอ่ื อธบิ ายและสาธติ หลกั การบนั ทกึ รายการคา้ ในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 4.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไปตามหลกั การบนั ทกึ บญั ชคี ู่ (Double-entry book-keeping) เป็นหลกั การบญั ชที ส่ี มบรู ณ์แบบ และใชก้ นั โดยทวั่ ไปในปจั จบุ นั รวมถงึ เป็นหลกั การบญั ชที ใ่ี ชใ้ น การศกึ ษาวชิ าบญั ชตี ่างๆ ซง่ึ เป็นการบนั ทกึ บญั ชขี องรายการคา้ ทุกรายการทเ่ี กดิ ขน้ึ เม่อื ทาการวเิ คราะหแ์ ลว้ จะตอ้ งนาไปบนั ทกึ บญั ชี 2 ดา้ นเสมอคอื ดา้ นเดบติ กบั ดา้ นเครดติ 1) ด้านเดบติ (Debit) จะใช้ตวั ย่อว่า Dr. คอื ด้านซ้ายของสมการบญั ชี ดงั นัน้ ดา้ นเดบติ จงึ เป็นด้านท่ใี ช้ บนั ทกึ รายการบญั ชที ท่ี าใหด้ า้ นซา้ ยของสมการบญั ชเี พม่ิ ขน้ึ หรอื รายการบญั ชที ท่ี าใหด้ า้ นขวาของสมการบัญชี ลดลง คอื การเพม่ิ ขน้ึ ของสนิ ทรพั ย์ การลดลงของหน้สี นิ และการลดลงของสว่ นของเจา้ ของ 2) ดา้ นเครดติ (Credit) จะใชต้ วั ย่อวา่ Cr. คอื ดา้ นขวาของสมการบญั ชี ดงั นนั้ ดา้ นเครดติ จงึ เป็นดา้ นท่ีใช้ บนั ทกึ รายการบญั ชที ท่ี าให้ดา้ นขวาของสมการบญั ชเี พม่ิ ขน้ึ หรอื รายการบญั ชที ่ีทาใหด้ ้านซ้ายของสมการบญั ชี ลดลง คอื การลดลงของสนิ ทรพั ย์ การเพม่ิ ขน้ึ ของหน้สี นิ และการเพม่ิ ขน้ึ ของสว่ นของเจา้ ของ

86 สรปุ หลกั การบนั ทึกบญั ชีตามหลกั การบญั ชีคู่ ด้านเดบิต (Debit) ด้านเครดิต (Credit) 1.สนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ ขน้ึ 1.สนิ ทรพั ยล์ ดลง 2.หน้สี นิ ลดลง 2.หน้ีสนิ เพมิ่ ขน้ึ 3.สว่ นของเจา้ ของลดลง 3.สว่ นของเจา้ ของเพมิ่ ขน้ึ -รายไดล้ ดลง -รายไดเ้ พม่ิ ขน้ึ -ค่าใชจ้ า่ ยเพม่ิ ขน้ึ -คา่ ใชจ้ ่ายลดลง 5.ครแู สดงความรเู้ กย่ี วกบั การบนั ทกึ บญั ชตี ามหลกั การบญั ชคี ใู่ นสมดุ รายวนั ทวั่ ไป โดยรายการคา้ ทจ่ี ะ บนั ทกึ บญั ชใี นสมุดรายวนั ทวั่ ไป แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื 1) รายการเปิดบญั ชี (Opening Entry) 2) รายการปกตขิ องกจิ การ (Journal Entry) 6.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การบนั ทกึ รายการเปิดบญั ชใี นสมดุ รายวนั ทวั่ ไป โดยรายการเปิดบญั ชี (Opening Entry) หมายถงึ รายการแรกของการบนั ทกึ บญั ชใี นสมุดรายวนั ทวั่ ไป ซง่ึ อาจจะเกดิ จากมกี ารลงทุนครงั้ แรก หรอื เม่อื มกี ารเรม่ิ รอบระยะเวลาบญั ชใี หม่ 1.1 การลงทนุ ครงั้ แรก มี 3 กรณี ดงั น้ี กรณีที่  การนาเงนิ สดมาลงทุนเพยี งอย่างเดยี ว ตวั อยา่ งที่  นายบรุ เี ปิดกจิ การ “อซู่ ่อมรถยนตบ์ ุรบี รกิ าร” เรม่ิ กจิ การเมอ่ื 1 มกราคม 25X8 และนาเงนิ สดมาลงทนุ ในกจิ การจานวน 200,000 บาท การบนั ทกึ บญั ชเี ป็นดงั น้ี สมุดรายวนั ทวั่ ไป หน้า 1 พ.ศ.25X8 รายการ เลขท่ี เดบติ เครดติ เดอื น วนั ท่ี บญั ชี บาท สต. บาท สต. ม.ค. 1 เงนิ สด 101 200,000 - ทนุ -นายบรุ ี 301 200,000 - นายบรุ นี าเงนิ สดมาลงทนุ กรณีท่ี  การนาเงินสด และสินทรพั ยอ์ ืน่ มาลงทุน ตวั อยา่ งที่ นางแพรวเปิดกจิ การรา้ นเสรมิ สวย “แพรวซาลอน” เม่อื 1 มกราคม 25X8 โดยนาเงนิ สด 500,000 บาท อาคาร ทด่ี นิ และอปุ กรณ์ 300,000 บาท มาลงทนุ การบนั ทกึ บญั ชเี ป็นดงั น้ี สมดุ รายวนั ทวั่ ไป หน้า 1 พ.ศ.25X8 รายการ เลขท่ี เดบติ เครดติ เดอื น วนั ท่ี บญั ชี บาท สต. บาท สต. ม.ค. 1 เงนิ สด 101 500,000 - อาคาร ทด่ี นิ และอุปกรณ์ 102 300,000 - ทนุ -นางแพรว 301 800,000 - นางแพรวนาเงนิ สดและสนิ ทรพั ยอ์ น่ื มาลงทุน

87 กรณีที่  การนาเงินสด สินทรพั ยอ์ ่ืน และหนี้สินมาลงทุน ตวั อยา่ งท่ี  นางสาวลูกศรเปิดรา้ นสปาเพ่อื สุขภาพช่อื “ลูกศรสปา” ในวนั ท่ี 1 มกราคม 25X8 ไดน้ าเงนิ สดจานวน 150,000 บาท วสั ดสุ านกั งานจานวน 20,000 บาท อาคาร ทด่ี นิ และอุปกรณ์ 800,000 บาท และเจา้ หน้ีการคา้ 120,000 บาท มาลงทนุ การบนั ทกึ บญั ชเี ป็นดงั น้ี สมุดรายวนั ทวั่ ไป หน้า 1 พ.ศ.25X8 รายการ เลขท่ี เดบติ เครดติ เดอื น วนั ท่ี บญั ชี บาท สต. บาท สต. ม.ค. 1 เงนิ สด 101 150,000 - วสั ดสุ านกั งาน 102 20,000 - อาคาร ทด่ี นิ และอุปกรณ์ 103 800000 เจา้ หน้กี ารคา้ 201 120,000 - ทนุ -ลกู ศร (970,000-120,000) 301 850,000 - ลกู ศรนาเงนิ สด สนิ ทรพั ยอ์ น่ื และหน้สี นิ มาลงทนุ หมายเหตุ กรณที ี่2, 3 1.การบนั ทกึ บญั ชเี ป็นลกั ษณะการบนั ทกึ บญั ชที มี่ รี ายการดา้ นเดบติ หรอื ดา้ นเครดติ มากกว่า 1 รายการ เรยี กวา่ การบนั ทกึ รายการแบบรวม (Compound Journal) 2.ใหเ้ ขยี นบนั ทกึ บญั ชเี งนิ สดและสนิ ทรพั ยอ์ นื่ ก่อนแลว้ จงึ เขยี นบนั ทกึ บญั ชที นุ 7.ผเู้ รยี นสรุปการบนั ทกึ รายการคา้ ลงในสมุดรายวนั ทวั่ ไป ตามกรณดี งั ต่อไปน้ี กรณีท่ี  นาเงนิ สดมาลงทุนในกจิ การเพยี งอย่างเดยี ว: นางสาวลซิ ่าสรา้ งอพาทเมน้ ตใ์ หเ้ ชา่ หอ้ งพกั ในวนั ท่ี 1 มนี าคม 25X8 โดยนาเงนิ สดมาลงทนุ ในกจิ การจานวน 10 ลา้ นบาท กรณีท่ี  นาเงนิ สดและสนิ ทรพั ยอ์ น่ื มาลงทนุ : วนั ท่ี 1 มถิ ุนายน 25X8 นายถน่ิ ไทเปิดรา้ นตดั ผม ไดน้ า เงนิ สด 200,000 บาท วสั ดุสานกั งาน 24,000 บาท อาคาร ทด่ี นิ และอุปกรณ์ 500,000 บาท มาลงทุน กรณที ่ี  นาเงนิ สด สนิ ทรพั ยอ์ ่นื และหน้สี นิ มาลงทุน วนั ท่ี 1 มกราคม 25X8 นางสาวเพลงเปิดรา้ นเสรมิ สวย “เพลงบวิ ตซ้ี าลอน” โดยนาเงนิ สด 300,000 บาท ทด่ี นิ อาคารและอปุ กรณ์ 800,000 บาท เจา้ หน้ีการคา้ 70,000 บาท เงนิ กยู้ มื 1 ปี จานวน 60,000 บาท มาลงทนุ 1.2 เรมิ่ รอบระยะเวลาบญั ชใี หม่ (งวดบญั ชใี หม่) การบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไปจะบนั ทกึ เหมอื น กรณีการลงทุนครงั้ แรก คอื ต้องบนั ทกึ ในสมุดรายวนั ทวั่ ไปแบบรวม โดยเขยี นเงนิ สด สนิ ทรพั ยอ์ ่นื ให้หมดก่อน แลว้ จงึ เขยี นหน้ีสนิ ใหห้ มด (ถา้ ม)ี ตามดว้ ยทุนเป็นลาดบั สุดทา้ ย และเขยี นคาอธบิ ายรายการว่าบนั ทกึ สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และทุนทม่ี อี ยู่ ณ วนั เปิดบญั ชี การบนั ทกึ รายการเปิดบญั ชี เมอ่ื เรมิ่ รอบระยะเวลาบญั ชใี หมน่ ้ี อาจจะใชส้ มดุ รายวนั ทวั่ ไปและบญั ชแี ยกประเภทเล่มเดมิ เพอ่ื บนั ทกึ รายการต่อไป หรอื จะใชส้ มดุ เล่มใหมก่ ไ็ ด้ แลว้ แต่กจิ การ รอบระยะเวลาบญั ชี หมายถงึ ช่วงระยะเวลาหน่งึ ทต่ี อ้ งแสดงผลการดาเนนิ งานและฐานะการเงนิ ของกจิ การ เชน่ 3 เดอื น 6 เดอื น หรอื 12 เดอื น กไ็ ด้ ขน้ึ อยกู่ บั กจิ การแต่ละแหง่ 8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะแสดงการบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไปตามโจทยท์ ค่ี รกู าหนดให้ 9.ครแู สดงการบนั ทกึ บญั ชตี ามขอ้ 2.การบนั ทกึ รายการปกตขิ องกจิ การในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป

88 รายการปกตขิ องกจิ การ (Journal Entry) เป็นการบนั ทกึ รายการคา้ ต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ หลงั จากมกี ารลงทนุ หรอื เรม่ิ ระยะเวลาบญั ชใี หมแ่ ลว้ ในแต่ละวนั โดยการบนั ทกึ รายการคา้ ปกตขิ องกจิ การจะบนั ทกึ โดยเรยี ง ตามลาดบั ก่อนหลงั ของการเกดิ รายการคา้ ซง่ึ จะเหมอื นกบั การบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ดงั กล่าวขา้ งตน้ 10.ผเู้ รยี นเขยี นช่อื บญั ชี โดยแยกตามหมวดบญั ชที ก่ี าหนดให้ หมวดบญั ชี ช่ือบญั ชี หมวดท่ี 1 หมวดท่ี 2 หมวดท่ี 3 หมวดท่ี 4 หมวดที่ 5 11.ผเู้ รยี นบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไป โดยใชช้ ่อื บญั ชที ร่ี ว่ มกนั กาหนดไวต้ ามขอ้ 10 12.ผเู้ รยี นแสดงวธิ ที าไปพรอ้ มกบั การสาธติ ของครผู สู้ อน ในกรณที ไ่ี ม่เขา้ ใจผเู้ รยี นกส็ ามารถสอบถามหรอื เสนอแนะขอ้ คดิ เหน็ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเสรี 13.ผเู้ รยี นและครผู สู้ อนยกตวั อยา่ งอกี ครงั้ โดยเชอ่ื มโยงการวเิ คราะหร์ ายการคา้ ไปสมุดรายวนั ทวั่ ไป 14.ครใู ชว้ ธิ ตี งั้ คาถามใหผ้ เู้ รยี นตอบ 15.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะดงั น้ี 15.1 วเิ คราะหร์ ายการคา้ 15.2 .ผา่ นรายการไปสมุดรายวนั ทวั่ ไป 16.ผเู้ รยี นแขง่ ขนั ตอบปญั หาคาศพั ท์ ดงั น้ี ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 17.สรุปสมุดรายวนั ทวั่ ไปโดยวธิ สี มุ่ ใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามและสาธติ การบนั ทกึ บญั ชใี นสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 18.ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ สมุดรายวนั ขนั้ ตน้ เป็นสมดุ บญั ชเี ลม่ แรกทม่ี ไี วบ้ นั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ โดย บนั ทกึ เกย่ี วกบั ช่อื บญั ชที เ่ี ดบติ และช่อื บญั ชที เ่ี ครดติ สมุดรายวนั ขนั้ ตน้ แบ่งเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ สมดุ รายวนั เฉพาะ และสมุดรายวนั ทวั่ ไป ซง่ึ การบนั ทกึ บญั ชมี อี ยู่ 2 หลกั การ คอื หลกั การบญั ชเี ดย่ี ว (Single-entry book- keeping) และหลกั การบนั ทกึ บญั ชคี ู่ (Double-entry book-keeping) การบนั ทกึ บญั ชตี ามหลกั การบญั ชคี ใู่ นสมุด รายวนั ทวั่ ไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื 1) รายการเปิดบญั ชี (Opening Entry) 2) รายการปกตขิ องกจิ การ (Journal Entry) 19.ทาประเมนิ ผลการเรยี นรหู้ ลงั เรยี นโดยสลบั กนั ตรวจ ครเู ฉลยใสแ่ ผ่นใสหน้าชนั้ เรยี น 20.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน 21.ครเู น้นการจะเรยี นรปู้ รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผเู้ รยี นตอ้ งมคี วามรพู้ น้ื ฐานเกย่ี วขอ้ งกบั การบรหิ าร จดั การทรพั ยากรทม่ี อี ยอู่ ย่างจากดั เพ่อื ใหม้ นุษยด์ ารงชวี ติ ในระดบั บคุ คล ครอบครวั ชมุ ชน ประเทศ ไปจนถงึ ระดบั โลกอยา่ งมคี ุณภาพ และประสทิ ธภิ าพเพอ่ื สนองความตอ้ งการของสงั คมทุกระดบั ใหส้ ามารถดารงชวี ติ อย่ไู ด้ อย่างพอเพยี งและมคี วามสขุ บนพน้ื ฐานของทางสายกลางและความไมป่ ระมาท โดยคานึงถงึ ความพอประมาณ

89 ความมเี หตุผล และการสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ตลอดจนใชค้ วามรู้ และคุณธรรม เป็นพน้ื ฐานในการดารงชวี ติ ใหอ้ ยู่ ไดอ้ ยา่ งมนั่ คงและยงั่ ยนื ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ าการบญั ชเี บอ้ื งตน้ (20200-1002) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. มาตรฐานการบญั ชี 3. อนิ เทอรเ์ น็ต, Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของสถานศกึ ษา 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)