ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM 3. Rectum (ไสต้ รง) - รูปรำ่ งโคง้ ไปตำมควำมโคง้ ของ Sacrum และ Cocyx - สว่ นลำ่ งสดุ ของ Rectum จะพองออกเป็นกระเปำะ เรยี กว่ำ Ampulla recti พองโตเพ่ือเก็บอจุ จำระไดม้ ำก 4. Anal canal - เป็นสว่ นลำ่ งสดุ ของลำไสใ้ หญ่ ยำวประมำณ 1.5 นิว้ - มชี อ่ งเปิดสภู่ ำยนอกเรยี กวำ่ anus มกี ลำ้ มเนือ้ หรู ูด 2 วง คือ - Internal anal sphincter กลำ้ มเนือ้ เรยี บ ควบคมุ โดยประสำท อตั โนมตั ิ - External anal sphincter กลำ้ มเนือ้ ลำย ควบคมุ โดยสมอง บรเิ วณนีม้ หี ลอดเลอื ดดำและหลอดเลือดแดงอยมู่ ำก บำงครง้ั หลอดเลอื ดดำ อำจโป่งออก เรยี กว่ำ รดิ สีดวงทวำร (Hemorrhoid)
ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM เย่ือบผุ นงั ลำ้ ไสใ้ หญ่ 1. Serosa: เย่ือบชุ ่องทอ้ งท่ีหมุ้ 2. Muscularis: มี 2 ชนั้ กลำ้ มเนือ้ ชน้ั นอกจะมีกำรหนำตวั ขนึ้ เป็น แถบ ตำมยำว 3 แถบ เรยี กวำ่ Taeniae coli แรงตงึ ตวั ทำใหล้ ำไส้ ใหญ่มี ลกั ษณะเป็นกระพงุ้ สลบั กบั รอยคอดเรยี กวำ่ Sacculations 3. Submucosa 4. Mucosa: บดุ ว้ ย Simple columna epithelium cells ไมม่ ี Villi ไมม่ ีกำรดดู ซมึ หรอื ย่อยอำหำร ชว่ ยดดู นำ้ และสำรละลำยบำงอย่ำง กลบั คืนเพ่ือใหเ้ กิดควำมสมดลุ ระหว่ำงนำ้ และสำรละลำยภำยใน รำ่ งกำย
ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM - เป็นต่อมท่ีใหญ่ท่ีสดุ ใน รำ่ งกำย - อยบู่ นสดุ ซีกขวำของชอ่ งทอ้ ง ใตก้ ระบงั ลมและยำวย่ืนผ่ำน แนวกลำงลำตวั ไปดำ้ นซีก ซำ้ ย - มีลกั ษณะออ่ นน่มุ - มีรูปคลำ้ ยสำมเหล่ยี ม มีสว่ น ฐำนอยทู่ ำงดำ้ นขวำ และ สว่ นยอดชีไ้ ปทำงดำ้ นซำ้ ย - เกือบทกุ สว่ นของตบั จะมี ซ่ีโครงปอ้ งกนั อยู่ ตบั แบง่ ออกเป็น 4 lobes คือ right, left, caudate และ quadrate lobes
ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM เซลลต์ บั มี 2 ชนิด 1. Parenchymal hepatic cells หรอื liver cell • ขบั นำ้ ดี Bile canaliculi Bile ducts Hepatic duct (Lt/Rt) 2. Kupffer cell • จบั กินและขจดั สง่ิ แปลกปลอมออกจำกกระแส Common hepatic duct โลหติ Cystic duct (จำกถงุ นำ้ ดี) หนำ้ ท่ี Common bile duct 1. เป็นแหลง่ เก็บเลอื ด เปิดเขำ้ สลู่ ำไสเ้ ลก็ 2. ทำลำยส่งิ แปลกปลอมในกระแสเลอื ด Detoxification และ Phagocytosis 3. สรำ้ งนำ้ ดีไปช่วยย่อยอำหำรไขมนั ในลำไสเ้ ลก็ สว่ น Duodenum 4. สรำ้ งสำรปอ้ งกนั กำรแข็งตวั ของเลอื ด (Coagulating factors) เช่น Prothrombin และ Fibrinogen 5. เป็นแหลง่ สะสมวติ ำมนิ และแรธ่ ำตตุ ำ่ งๆ เชน่ A, D, B12, ธำตเุ หลก็ และ ทองแดง 6. ควบคมุ Metabolism ของคำรโ์ บไฮเดรต ไขมนั และโปรตีน 7. สรำ้ งเมด็ เลอื ด (เฉพำะในช่วงท่ีเป็น Embryo) 8. สลำยฮีโมโกลบนิ 9. ทำลำยสง่ิ ท่ีเป็นพิษต่อรำ่ งกำย และกำจดั แอมโมเนียในเลอื ด โดยเปล่ียนเป็นยู เรยี สง่ ไปท่ีไตเพ่ือกำจดั ออกนอกรำ่ งกำย
ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM - วำงตวั อยดู่ ำ้ นหลงั ของช่องทอ้ ง ตรงกระดกู สนั หลงั ระดบั เอว ท่ี 1-2 - สว่ นหวั ตดิ กบั โคง้ Duodenum - สว่ นหำงตดิ กบั มำ้ ม - ตรงกลำงมที ่อเรยี กว่ำ Pancreatic duct - ทำหนำ้ ท่ีสรำ้ งนำ้ ยอ่ ยเปิดเขำ้ Pancreatic duct หนำ้ ท่ี แบง่ ออกเป็น 2 สว่ น ตำมกำรทำหนำ้ ท่ี 1. Exocrine Part สรำ้ งนำ้ ยอ่ ย (Pancreatic joice) - Trypsin - Polypeptidase - Amylase - Dipeptidase - Lypase 2. Endocrine Part สรำ้ งฮอรโ์ มนเรยี กว่ำ Islets of Langerhans สรำ้ งอนิ ซูลนิ
ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM ตบั ออ่ นแบง่ เป็น 3 สว่ นคือ - สว่ นหวั (Head) วำงอยู่ สว่ นโคง้ ของ duodenum - สว่ นคอ (Neck) - สว่ นตวั (Body) - สว่ นหำง (Tail) จะจรด กบั มำ้ ม
ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM - มีลกั ษณะคลำ้ ยลกู แพร์ อย่ทู ำงดำ้ นลำ่ งของ ตบั ดำ้ นหนำ้ - แบง่ ออกเป็น 3 สว่ น 1. Fundus เป็นสว่ นปลำยท่ีมลี กั ษณะกวำ้ ง 2. Body เป็นบรเิ วณสว่ นใหญ่ของถงุ นำ้ ดี 3. Neck อย่ใู กลก้ บั cystic duct ‐ หนำ้ ท่ีเก็บนำ้ ดีท่ีสรำ้ งมำจำกตบั และทำให้ นำ้ ดีมคี วำมเขม้ ขน้ ขนึ้
ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM เย่ือบถุ งุ นำ้ ดี 1. Mucosa: เป็น Mucous membrane เซลลช์ นิด Simple columnar epithelium 2. Submucosa 3. Muscularis 4. Serosa and adventitia: ซง่ึ มำจำก Peritoneum นำ้ ดี B I L E - ผลติ จำกตบั ประมำณ 500-800 cc/day - เป็นดำ่ ง ลกั ษณะ เขียวๆ เหลอื งๆ - เกิดจำก ฮีโมลโกบนิ ใน กระแสเลือด Bilirubin Bile หนำ้ ท่ี - ดดู ซมึ กำรย่อยไขมนั - ขบั สแี ละของเสียออกนอกรำ่ งกำย - ดดู ซมึ วิตำมนึ A และ K - เป็น Co-enzyme ของ Pancreatic lipase - Bile ช่วยควบคมุ Cholesteral และยบั ยงั้ กำรทำงำนของ Thromboplastin
Urinary system Reproductive system
- ระบบขบั ถ่ำยปัสสำวะ ไดแ้ ก่ ไต (kidney) - ทอ่ ท่ีเป็นทำงผ่ำนของปัสสำวะ (Urinary passage) ออกสภู่ ำยนอก ไดแ้ ก่ หลอดไต (ureter) - ท่ีพกั ปัสสำวะ ไดแ้ ก่ กระเพำะปัสสำวะ (urinary bladder) - ท่อท่ีนำปัสสำวะออกสภู่ ำยนอกรำ่ งกำย ไดแ้ ก่ ท่อปัสสำวะ (urethra)
ภำพตดั ขวำงของทอ่ ปัสสำวะ ภำพตดั ขวำงของผนงั กระเพำะปัสสำวะ
ปอด การ หลอดเลือดแดงของปอด หลอดเลือดดำของปอด ไหล เวยี น ท่อเลอื ดดำลำ่ ง โลหติ หวั ใจ ไต ผา่ น ไต หลอดเลือดแดงของหวั ใจ เลือดไหลเวียนในรำ่ งกำยครงั้ แลว้ ครงั้ เลำ่ ไตจะกรองสำรพิษ (eliminate the toxic residues) จำกกระบวนกำรเผำผลำญของรำ่ งกำยออกจำกเลอื ดในรูปของนำ้ ปัสสำวะ ดว้ ยเหตนุ ี้ ปรมิ ำณเลือดท่ีไหลผำ่ นไตในหน่ึงหน่วยเวลำจงึ สงู มำก คือ ประมำณ 20 เปอรเ์ ซ็นตข์ องปรมิ ำณเลือดท่ีหวั ใจสบู ฉีด แต่ละนำที จะมเี ลอื ดรำว 1.3 ควอรต์ (1.2 ลติ ร) ไหลผ่ำนไต
ไต (Kidney) ขำ้ งซำ้ ยสงู กว่ำขำ้ งขวำ ไตมอี ยู่ 2 ขำ้ งดว้ ยกนั ลกั ษณะของไตจะคลำ้ ยเมลด็ ถ่วั แดง แตล่ ะขำ้ งวำงตวั ใน ลกั ษณะแนวตงั้ ขนำนกบั กระดกู ไขสนั หลงั ชว่ งเอว ฝังตวั ติดกบั ผนงั ลำตวั ของแผ่นหลงั หรอื ถำ้ จะใหท้ ำควำมเขำ้ ใจง่ำยๆ ตำแหน่งของไตจะอย่บู รเิ วณสขี ำ้ งของรำ่ งกำย โดยไตขำ้ งซำ้ ย จะวำงตวั สงู กว่ำไตขำ้ งขวำเลก็ นอ้ ย เน่ืองจำกดำ้ นบนไตขำ้ งขวำเป็นตำแหน่งของตบั ซ่งึ ไต ทง้ั 2 ขำ้ งนน้ั จะหนั สว่ นเวำ้ หรอื ท่ีเรยี กว่ำ ขว้ั ไต เขำ้ หำกระดกู ไขสนั หลงั กำรมไี ต 1 ขำ้ งไมไ่ ดส้ ง่ ผลกระทบ ตอ่ กำรทำงำนในชีวิตประจำวนั สำมำรถ ทำงำนและทำกิจกรรมต่ำงๆ ไดต้ ำมปกติ เพียงดแู ลตวั เองใหด้ ี
เนือ้ ไตชน้ั นอก Renal pyramid Renal papilla เนือ้ ไตชนั้ ใน Minor calyx Renal capsule Major calyx กรวยไต เปลือกไต Renal pelvis Ureter ท่อไต เม่อื นำไตมำผำ่ ตำมยำว จะพบว่ำมีเนือ้ เย่ือ 2 ชนั้ ชนั้ นอกเรยี กวำ่ Renal cortex สว่ นชน้ั ในเรยี กว่ำ Renal medulla - Renal cortex เนือ้ มลี กั ษณะเป็นเมด็ เลก็ ๆ เม่อื ขยำยดเู ป็นกลมุ่ ของหลอดเลอื ด ฝอยท่ีเรยี กว่ำ Glomerulus และถงุ โบวแ์ มนสแ์ คปซลู (Bowman’s capsule) ทำหนำ้ ท่ีเก่ียวกบั กำรกรองของเสยี ออกจำกเลอื ดและท่อของหน่วยไต ตอนตน้ และตอนปลำย - Renal medulla ชนั้ นีเ้ ป็นสว่ นของหลอดเลก็ ๆ ท่ีต่อมำจำกชน้ั คอรเ์ ทกซ์ ทอ่ เหลำ่ นีร้ วมกนั อย่เู ป็นหมรู่ ูปรำ่ งคลำ้ ยฝำชี เรยี กวำ่ Renal pyramid ปลำยของ พีระมดิ เป็นยอดแหลมนนั้ คือท่รี วมของหลอดเลก็ ๆ เรยี กยอดแหลมนน้ั ว่ำ Renal papilla ซง่ึ เปิดเขำ้ สู่ Minor calyx หลำยๆ ไมเนอรเ์ คลกิ ซร์ วมกนั เป็น Major calyx จำกเมเจอรเ์ คลกิ ซน์ ำไปสบู่ รเิ วณท่ีมีลกั ษณะเป็นกรวย เรยี กกนั ว่ำ กรวยไต ซ่งึ เป็นท่ีสง่ นำ้ ปัสสำวะลงไปสทู่ อ่ ไต นำไปสกู่ ระเพำะปัสสำวะ
Bowman’s PCT capsule Proximal tubule Peritubular capillaries DCT Loop of Distal Henle tubule Collecting duct Renal pyramid ทำหนำ้ ท่ีในกำร “กรองเลอื ด” “ขบั สำร ตำ่ งๆ” “ดดู สำรต่ำงๆกลบั ” ซ่งึ จะถกู ควบคมุ โดย ระบบตอ่ มไรท้ ่อผ่ำนทำงฮอรโ์ มนต่ำงๆ
Bowman’s Proximal capsule tubule Distal Peritubular tubule capillaries การ Loop of Henle ทางาน Collecting ของduct หน่วยไต เม่อื เสน้ เลือดแดงขำเขำ้ (Afferent arteriole) นำเลือดเขำ้ สู่ หน่วยไตบรเิ วณ โกลเมอรูลสั (Glomerulus) และ ออกมำท่ีเสน้ เลอื ดแดงขำออก (Efferent arteriole) ดว้ ยกำรตีบลงของเสน้ เลือดขำ ออก ทำใหค้ วำมดนั เสน้ เลอื ดแดงในโกล เมอรูลสั เพ่มิ ขนึ้ เป็นผลใหส้ ว่ นประกอบของ เลือดถกู ดนั ออกจำกเสน้ เลอื ดไปอยใู่ นท่อไต สว่ นตน้ ของเหลวท่ีผำ่ นกำรกรองนีจ้ ะว่งิ ไปตำมท่อไตเลก็ ๆ และลงสกู่ รวยไต เพ่ือ ขบั ทงิ้ ไปตำมทำงเดนิ ปัสสำวะ ในกำรว่งิ ไปของของเหลวในท่อไตนนั้ จะมีกำรดดู ซมึ กลบั สำรบำงอยำ่ ง มีกำรดดู นำ้ กลบั หรอื แมก้ ระทง้ั ขบั สำรท่ี ไมจ่ ำเป็นออกมำทงิ้ ในท่อไต
กระเพาะปสั สาวะ (urinary bladder)
นำ้ ปัสสำวะลงผ่ำน ureters สกู่ ระเพำะปัสสำวะจนมปี รมิ ำณ 250 cc เกิดกำร ขยำยตวั และไปกระตนุ้ stimulate sensory nerve-ending ทำใหอ้ ยำกถ่ำย ปัสสำวะ กระเพำะปัสสำวะก็จะ บบี ตวั เอำปัสสำวะออกมำ นำ้ ใสสเี หลืองมีกลน่ิ เฉพำะ ควำมใสขนึ้ กบั ปรมิ ำณของนำ้ ในหน่งึ วนั มีปรมิ ำณ 1200-1500 cc สว่ นประกอบ : *นำ้ 95% , *Solids **organic matter= urea, Creatinine, uric acid **Inorganic matter= Na, K, Mg, NH3 นำ้ ปัสสำวะท่ีผิดปกตจิ ะมี Alb, Glucose, Acetone, กอ้ นน่ิว หนอง เลอื ด
Male reproductive system • อวยั วะสืบพนั ธุภ์ ำยนอก (External sexual organs): - penis - Scrotum • อวยั วะสืบพนั ธุภ์ ำยใน (Internal structures form continuous tube): - Testes - Epididymis - vas deferens - ejaculatory duct - urethra in penis
Accessory organs : - Seminal vesicles - Prostate gland - Cowper’s Gland
Penis - Penis เป็นอวยั วะสืบพนั ธทุ์ ่ีมีในเพศชำยเทำ่ นนั้ - Penis ประกอบดว้ ยเนือ้ เย่ือท่ีมคี วำมยืดหย่นุ และลอ้ มรอบ Urethra ไว้ และ มโี ครงสรำ้ งคลำ้ ยฟองนำ้ โดยหดและขยำยตวั เม่อื หลอดเลอื ดท่ีมกี ระจำยอยทู่ ่วั ไป กลำ้ มเนือ้ นี้ หำกเลือดเขำ้ ไปค่งั อยใู่ นหลอดเลือดฝอยทง้ั หมดกจ็ ะทำใหม้ ขี นำด ใหญ่ขนึ้ และแขง็ ตวั ประกอบดว้ ย 2 กลำ้ มเนือ้ คือ 2 corpus cavernosum (upper) 1 corpus spongiosum (ลอ้ มรอบ Urethra)
Scrotum ถงุ ท่ีรองรบั และหอ่ หมุ้ Testicles ดงั นนั้ มนั จงึ ตอ้ งควบคมุ อณุ หภมู ภิ ำยในให้ พอเหมำะตอ่ กำรแบง่ เซลลเ์ พ่ือสรำ้ งเซลลส์ บื พนั ธแุ์ ละเลีย้ งดใู หด้ ีพรอ้ มใชง้ ำน TESTIS - อณั ฑะ ตอ่ มรูปไข่ มี 2 ตอ่ ม มหี นำ้ ท่ีสรำ้ งตวั อสจุ ิ (Sperm) ซ่งึ เป็นเซลลส์ บื พนั ธุ์ และผลติ ฮอรโ์ มนเพศ - Testis ของผชู้ ำยจะมขี นำดไมเ่ ท่ำกนั แตล่ ะขำ้ งขนำดต่ำงกนั เพียงเลก็ นอ้ ย
EPIDIDYMIS หลอดเก็บตวั อสจุ ิ อย่ดู ำ้ นบนของอณั ฑะ มีลกั ษณะเป็นท่อเลก็ ๆ ขดไปมำเพ่ือเก็บและพกั ตวั อสจุ ใิ หเ้ ตบิ โต VAS DEFERENS หลอดนำตวั อสจุ ิ เช่ือมตอ่ กบั Epididymis โดยทำหนำ้ ท่ีลำเลียงอสจุ ไิ ป เก็บไวท้ ่ีตอ่ มสรำ้ งนำ้ เลยี้ งอสจุ ิ ปลำยท่อตอ่ กบั Seminal vesicles EJACULATORY DUCT เป็นทอ่ ท่ีตอ่ จำก Seminal vesicles ซง่ึ เช่ือมต่อกบั vas deferens เป็นทอ่ สน้ั ๆ เป็นทำงผ่ำน prostate gland และเช่ือมตอ่ กบั urethra ดว้ ย URETHRA ทำงผ่ำนของทงั้ อสจุ ิและปัสสำวะ เม่อื มีกำรหล่งั อสจุ ิ หรู ูดกระเพำะปัสสำวะจะมกี ำร บบี รดั ตวั อตั โนมตั ิ ปัสสำวะจะไมม่ ีกำรออกมำในกรณีนี้
Seminal vesicles ตอ่ มสรำ้ งนำ้ เลยี้ งอสจุ ิ ขนำดประมำณ 5 cm ทำหนำ้ ท่ีสรำ้ งอำหำรสำหรบั อสจุ ิ เน่ืองจำกเซลลเ์ หลำ่ นีไ้ มไ่ ดร้ บั สำรอำหำรจำกเลือดเหมอื นกบั เซลลอ์ วยั วะอ่ืน ๆ ในรำ่ งกำย โดยอำหำรสำหรบั อสจุ ปิ ระกอบไปดว้ ย นำ้ ตำลฟรกั โทส เป็นตน้
PROSTATE GLAND ต่อมลกู หมำก อยตู่ อนตน้ ของท่อปัสสำวะซ่งึ จะหล่งั สำรท่ีมฤี ทธิ์เป็นเบสอ่อน ๆ ออกมำ เน่ืองจำกปัสสำวะมีฤทธิ์เป็นกรด ท่อปัสสำวะซง่ึ เป็นเสน้ ทำงรว่ มในกำรสง่ อสจุ ิ ผ่ำนองคชำตไิ ปยงั มดลกู จงึ มีฤทธิ์เป็นกรดดว้ ย และน่นั เป็นสภำวะซง่ึ ไมเ่ หมำะสมกบั อสจุ ิ จงึ จำเป็นตอ้ งมกี ำรปรบั สภำพทอ่ ปัสสำวะก่อนท่ีจะมีกำรปลอ่ ยอสจุ ิออกมำ COWPER’S GLAND ตอ่ มคำวเปอร์ อย่ตู ดิ กบั ตอ่ มลกู หมำก ทำหนำ้ ท่ีหล่งั สำรหลอ่ ล่ืนซง่ึ มีฤทธิ์เป็นด่ำง เพ่ือชว่ ยลดควำมเป็นกรดภำยในทอ่ ปัสสำวะและชอ่ งคลอดเพศหญิงขณะมีเพศสมั พนั ธ์ SEMEN (SEMINAL FLUID) สำรคดั หล่งั ผสมอย่กู บั sperm ในกำรหล่งั 3-5 ml ประมำณ 10% เป็นสเปิรม์ สว่ น 90% จะเป็นเมอื กท่ีหล่งั ออกมำ โดยใน 90% นน้ั ประกอบดว้ ย spermatic ducts 30% และ prostatic fluid 60%
หนำ้ ท่ี 1.ทำหนำ้ ท่ีเป็นกำรลำเลยี งอำกำศ : มหี นำ้ ท่ีนำอำกำศจำกภำยนอกเขำ้ สปู่ อด เป็นทำงผำ่ นเขำ้ ออกของอำกำศเทำ่ นนั้ ไมม่ ีหนำ้ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กำรแลกเปล่ยี นแก๊ส ไดแ้ ก่ จมกู , คอหอย, กลอ่ งเสียง, หลอดคอ, หลอดลมใหญ่, หลอดลมฝอย, และ ปลำยหลอดลมฝอย 2.ทำหนำ้ ท่ีแลกเปล่ียนแก๊ส : เป็นบรเิ วณท่ีแลกเปล่ยี นแก๊สคำรบ์ อนไดออกไซด์ และแก๊สออกซิเจนกบั เนือ้ เย่ือ ไดแ้ ก่ หลอดลมฝอยแลกเปลย่ี นแก๊ส, ท่อลม, ถงุ ลม, ถงุ ลมเลก็
กำรหำยใจ (respiration) เป็นกำรนำอำกำศเขำ้ และออกจำก รำ่ งกำย สง่ ผลใหแ้ ก๊สออกซเิ จนทำปฏิกิรยิ ำกบั สำรอำหำร ไดพ้ ลงั งำน นำ้ และ แก๊สคำรบ์ อนไดออกไซด์ กระบวนกำรหำยใจเกิดขนึ้ กบั ทกุ เซลลต์ ลอดเวลำ โดยจำเป็นตอ้ งอำศยั โครงสรำ้ ง 2 ชนิดคือ กลำ้ มเนือ้ กะบงั ลม และกระดกู ซ่ีโครง ซง่ึ มีกลไกกำรทำงำนของระบบหำยใจ ดงั นี้ กำรหำยใจเขำ้ (INSPIRATION) กำรหำยใจออก (EXPIRATION) กะบงั ลมจะเลื่อนต่ำลง กระดกู กะบงั ลมจะเลื่อนสงู กระดกู ซ่ีโครง ซ่ีโครงจะเล่ือนสงู ขนึ้ ทำใหป้ รมิ ำตรของ จะเล่ือนต่ำลง ทำใหป้ รมิ ำตรของชอ่ งอกลด ชอ่ งอกเพ่มิ ขนึ้ ควำมดนั อำกำศในบรเิ วณ นอ้ ยลง ควำมดนั อำกำศในบรเิ วณรอบ ๆ รอบ ๆ ปอดลดต่ำลงกว่ำอำกำศภำยนอก ปอดสงู กวำ่ อำกำศภำยนอก อำกำศภำยใน อำกำศภำยนอกจงึ เคล่อื นเขำ้ สจู่ มกู ถงุ ลมปอดจงึ เคล่อื นท่ีจำกถงุ ลมปอดไปสู่ หลอดลม และไปยงั ถงุ ลมปอด หลอดลมและออกทำงจมกู
• โครงสรำ้ งภำยใน • โครงสรำ้ งภำยนอก - กระดกู ซ่ีโครง - Gross anatomy - Histology - กลำ้ มเนือ้ กระบงั ลม - เย่ือหมุ้ ปอด
ระบบทำงเดินหำยใจสว่ นบน ระบบทำงเดนิ หำยใจสว่ นลำ่ ง : ประกอบดว้ ยอวยั วะท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กำร : ประกอบดว้ ย กลอ่ งเสยี ง, หลอดคอ, หำยใจเหนือกลอ่ งเสยี งขนึ้ ไป ไดแ้ ก่ จมกู , หลอดลมใหญ่ และปอด คอหอย เป็นตน้
ส่วนนอก สว่ นใน - Nasal bone Etmoid, vomer, maxilla, - Maxilla Bone palatine - กระดกู อ่อน (cartilage)
Turbinate ชว่ ยเพ่มิ พืน้ ท่ีผิว และ ควบคมุ กำรไหลเวียน ของอำกำศ • Lateral nasal wall มีสว่ นกระดกู ย่ืนในแนว vertical 3 ชนิ้ เรยี กว่ำ turbinate ‐ inferior turbinate; IT ‐ middle turbinate; MT ‐ superior turbinate; ST เรยี งจำกดำ้ นลำ่ งขนึ้ ดำ้ นบน บำงรำยอำจมชี นิ้ ท่ี 4 เรยี กว่ำ supreme turbinate และมีช่องใตต้ ่อ turbinate เรยี กว่ำ meatus • Septum ประกอบดว้ ยกระดกู ออ่ น (septal cartilage) ท่ีอย่ทู ำงดำ้ น หนำ้ และกระดกู อยดู่ ำ้ นหลงั (perpendicular plate ของ ethmoid bone, vomer, maxillary bone และ palatine bone)
โพรงไซนสั (Sinus) - ทำใหอ้ ำกำศอ่นุ และชืน้ - รกั ษำสมดลุ ของศีรษะ - ช่วยในกำรเปลง่ เสยี ง - ปรบั ควำมดนั ของอำกำศในโพรงจมกู 1. Maxillary sinus อยใู่ น maxillary bone บรเิ วณโหนกแกม้ ทงั้ สอง ขำ้ ง เป็นโพรงอำกำศท่ีมีขนำดใหญ่ท่ีสดุ รูปรำ่ งคลำ้ ยพีระมดิ หวั กลบั มีรูระบำย (sinus ostium) เปิดบรเิ วณ middle meatus 2. Ethmoid sinus อยใู่ น ethmoid bone ประกอบดว้ ยโพรงอำกำศ ขนำดเลก็ รวมตวั กนั อยสู่ องขำ้ งของจมกู ระหว่ำงลกู ตำ โดยแบง่ ออกเป็นสองกลมุ่ คือ • Anterior ethmoid sinuses โพรงอำกำศจะมีขนำดเลก็ และมี จำนวนมำกกว่ำกลมุ่ หลงั มีรูระบำยออกทำง middle meatus • Posterior ethmoid sinuses โพรงอำกำศจะมขี นำดใหญ่และมี จำนวนนอ้ ยกวำ่ กลมุ่ หนำ้ มีรูระบำยออกทำง superior meatus 3. Frontal sinus อยใู่ น frontal bone บรเิ วณหวั คิว้ ทงั้ สองขำ้ ง สว่ นใหญ่ มีขนำดตำ่ งกนั และมผี นงั กน้ั กลำงระหวำ่ งขำ้ งซำ้ ยและขำ้ งขวำ มรี ูระบำยออก ทำง middle meatus 4. Sphenoid sinus เป็นโพรงอำกำศดำ้ นหลงั สดุ อยกู่ ่ึงกลำงใน sphenoid bone มรี ูระบำยเปิดสโู่ พรงจมกู บรเิ วณ sphenoethmoidal recess (SER)
ชว่ ยในกำรออกเสียง กำรกลืนและเป็นทำงผ่ำน ของอำกำศในกำรหำยใจ ปอ้ งกนั กำรสำลกั Eustachian tube • Nasopharynx อยเู่ หนือเพดำนออ่ น มี Eustachian tube ทำหนำ้ ท่ีใน กำรปรบั ควำมดนั ของหชู นั้ กลำง ใหเ้ ท่ำกบั บรรยำกำศภำยนอก และกำจดั เมือกหรอื สำรคดั หล่งั ตำ่ งๆ ออกจำกหชู นั้ กลำง • Oropharynx อย่เู หนือฝำปิดกลอ่ งเสยี ง ประกอบดว้ ยตอ่ มทอนซลิ (palatine tonsils), โคนลนิ้ (base of tongue), เพดำนอ่อน (soft palate) และผนงั คอหอย (pharyngeal wall) • Laryngopharynx เหนือกระดกู อ่อน Cricoid
ทำหนำ้ ท่ีในกำรปอ้ งกนั ทอ่ ลม (trachea) และกำรทำใหเ้ กิดเสียง ใน กลอ่ งเสียงมสี ำยเสยี งแทห้ รอื เสน้ เสยี งแท้ (vocal fold) ซ่งึ อยใู่ ตบ้ รเิ วณท่ีคอ หอย (pharynx) แยกออกเป็นท่อลมและหลอดอำหำร (esophagus) • ฝำปิดกลอ่ งเสยี ง (Epiglottis) • Bone ไดแ้ ก่ hyoid bone • Cartilage ไดแ้ ก่ ‐ thyroid cartilage ‐ cricoid cartilage ‐ arytenoid cartilage ‐ corniculate cartilage ‐ cuneiform cartilage
• Trachea • Bronchus • Bronchiole • Alveolar duct • Alveolar sac • Alveoli
Histology ของปอด 1. Pneumocyte • Type I แลกเปล่ียนก๊ำซ, มีจำนวนนอ้ ยกวำ่ แตพ่ ืน้ ท่ีผิวมำกกว่ำ • Type II เป็น precursor ของ type I, มีจำนวนมำกกว่ำ type I 2. Endothelial cell สรำ้ ง ACE 3. Alveolar macrophage ทำลำยสง่ิ แปลกปลอม 4. Surfactant อยบู่ นเย่ือบขุ อง alveolar สรำ้ งโดย Pneumocyte type II ปอ้ งกำรกำรแฟบของถงุ ลมขณะ หำยใจออก
อำกำศท่ีเขำ้ สถู่ งุ ลมปอดจะผำ่ น ทำงเดินอำกำศหรอื respiratory passageway โดยเรม่ิ ท่ีจมกู แลว้ จงึ เขำ้ สหู่ ลอดลมใหญ่ (trachea) จำกนน้ั จงึ เขำ้ สู่ bronchus ซำ้ ย และขวำเพ่ือแยกเขำ้ สปู่ อด 2 ขำ้ ง กำร แตกแขนงของทำงเดนิ อำกำศจำก trachea เป็น bronchus และ bronchiole จนกระท่งั ถึงถงุ ลม (aloveolus) มจี ำนวน 20-25 ครง้ั
หนำ้ ท่ีของปอด • หนำ้ ท่ีเก่ียวกบั กำรหำยใจ แลกเปล่ียนก๊ำซออกซเิ จนและคำรบ์ อนไดออกไซด์ • หนำ้ ท่ีอ่ืน ๆ นอกจำกกำรหำยใจ มดี งั นี้ ‐ กำรควบคมุ และขบั สำร ต่ำง ๆ เชน่ ยำ , แอลกอฮอล์ ออกจำก ระบบเลือด ‐ กำรควบคมุ สมดลุ ของ ควำมเป็นกรด-ดำ่ งใน เลือด ซง่ึ มคี วำมสำคญั ต่อ ประสทิ ธิภำพกำรทำงำน ของเอนไซม์ และอวยั วะ ต่ำง ๆ ‐ กรองล่มิ เลือดเลก็ ๆ ท่ี ตกตะกอนออกจำกเสน้ เลอื ดดำ ‐ ปกปอ้ งและรบั แรง กระแทกท่ีจะทำอนั ตรำย ต่อหวั ใจซง่ึ อยตู่ รงกลำง ชอ่ งทรวงอก ‐ ทำหนำ้ ท่ีแลกเปล่ียนแก๊ส
หนำ้ ท่ีของ trachea, bronchus และ bronchiole ผนงั ของ trachea ประกอบดว้ ยกระดกู ออ่ น (cartilage) ท่ีเป็นรูปวงกลม ประมำณ 5/6 ของเสน้ รอบวง กำรท่ีมีกระดกู ออ่ น เป็นองคป์ ระกอบก็เพ่ือคำ้ จุนใหท้ ำงเดนิ อำกำศเปิดกวำ้ งพอสำหรบั อำกำศจะผ่ำนเขำ้ สถู่ งุ ลมได้ ในสว่ นผนงั bronchus พบว่ำมกี ระดกู ออ่ นนอ้ ยกวำ่ ในสว่ น trachea และ กระดกู อ่อนจะมลี กั ษณะเป็นแผน่ ปรมิ ำณกระดกู อ่อนจะคอ่ ย ๆ ลดลงตำมกำรแตกแขนง ของ bronchus จนกระท่งั ในสว่ น bronchiole จะไมพ่ บกระดกู อ่อนเลย ดงั นนั้ กำรควบคมุ ขนำดเสน้ ผำ่ ศนู ยก์ ลำงของ bronchiole จงึ ขนึ้ กบั ปัจจยั อ่ืน ๆ ในสว่ นของทำงเดินอำกำศท่ีไมม่ ีกระดกู ออ่ นนน้ั จะมกี ลำ้ มเนือ้ เรยี บเป็น องคป์ ระกอบหลกั ผนงั ของ bronchiole จะมีกลำ้ มเนือ้ เรยี บเกือบทง้ั หมด ยกเวน้ สว่ นตอนปลำยท่ีเรยี กว่ำ respiratory bronchiole จะมกี ลำ้ มเนือ้ เรยี บเพียง เลก็ นอ้ ยเท่ำนน้ั ในคนท่ีมพี ยำธิสภำพทำงเดินอำกำศอดุ ตนั (obstructive disease) พบว่ำเสน้ ผำ่ ศนู ยก์ ลำงของ bronchus ขนำดเลก็ และ bronchiole จะมขี นำดลดลง หรอื เรยี กวำ่ bronchoconstrictionเน่ืองจำกกำรหดตวั ของ กลำ้ มเนือ้ เรยี บ ผนงั ของ trachea ประกอบดว้ ยกระดกู ออ่ น (cartilage) ท่ีเป็นรูปวงกลม ประมำณ 5/6 ของเสน้ รอบวง กำรท่ีมกี ระดกู อ่อน เป็นองคป์ ระกอบก็เพ่ือคำ้ จุนใหท้ ำงเดนิ อำกำศเปิดกวำ้ งพอสำหรบั อำกำศจะผำ่ นเขำ้ สถู่ งุ ลมได้
1. กระดกู ซ่ีโครง (rib) และกลำ้ มเนือ้ ยดึ ซ่โี ครง - ปกปอ้ งปอดและหวั ใจ - มี 12 คู่ 2. กระบงั ลม (diaphragm) - ใชใ้ นกำรหำยใจ 3. เย่ือหมุ้ ปอด ‐ ปอ้ งกนั กำรเสยี ดสขี องปอดขณะหำยใจ
Cardiovascular System
ระบบไหลเวยี นโลหิต Anatomy of the Cardiovascular System โครงสรำ้ งและหนำ้ ท่ี โครงสรำ้ งและหนำ้ ท่ี โครงสรำ้ งและหนำ้ ท่ี ของและหวั ใจ ของหลอดเลือด ของระบบนำ้ เหลอื ง • หลอดนำ้ เหลอื ง • หลอดเลอื ดแดง • อวยั วะนำ้ เหลอื ง (artery) • กำรวดั ควำมดนั โลหิต • หลอดเลอื ดดำ (vein) • กำรเจำะเลือด • หลอดเลือดฝอย • กำรวดั คล่นื ไฟฟำ้ หวั ใจ (capillary)
Heart base of heart apex of heart - หวั ใจเป็นอวยั วะท่ีประกอบดว้ ยกลำ้ มเนือ้ - มขี นำดเทำ่ กำป้ัน ภำยในกลวง - หวั ใจจะอยใู่ ตก้ ระดกู หนำ้ อก (Sternum) อย่รู ะหว่ำง rib คทู่ ่ี 2-5 โดยมีตำแหน่ง อย่ใู นบรเิ วณสว่ นกลำงของหนำ้ อก ค่อนขำ้ งไปทำงซำ้ ยเลก็ นอ้ ย
Coverings of the Heart เย่ือห้มุ หวั ใจเ ่ืยอหุ้มหัวใจและของเหลวรอบเ ่ืยอหุ้มหัวใจ เป็นเนือ้ เย่ือบำงๆ ชน้ั นอกสดุ ของหวั ใจ ท่ีห่อหมุ้ อย่โู ดยรอบ นอกหวั ใจ มีลกั ษณะเหนียวและมีควำมแขง็ แรง Pericardium ทนทำน ประกอบดว้ ยเนือ้ เย่อื 2 ชน้ั ดงั นี้ 1. fibrous pericardium เป็นชนั้ ท่ีอย่ดู ำ้ นนอก มีควำมแขง็ แรง ทนทำน มีลกั ษณะเหนียว ทำหนำ้ ท่ีห่อหมุ้ หวั ใจและหลอด เลือดใหญ่ท่ีตอ่ อยกู่ บั หวั ใจ (great vessel) 2. serous pericardium เป็นชนั้ เนือ้ เย่อื บำงๆ ท่ีอย่ถู ดั เขำ้ มำ ดำ้ นใน โดยพฒั นำมำจำก mesothelium ซง่ึ จะพบเป็น ลกั ษณะของเซลลแ์ บนๆ เรยี งตวั กนั หน่ึงแถว แบง่ ออกเป็น สองชน้ั ยอ่ ยๆไดแ้ ก่ • parietal layer เป็นสว่ นท่ีบทุ ำงดำ้ นในของชน้ั fibrous pericardium • visceral layer เป็นชน้ั ท่ีอยแู่ นบเนือ้ หวั ใจโดยบอุ ย่ทู ่ีผวิ ดำ้ นนอกของหวั ใจ และยงั ทำหนำ้ ท่ีผลติ pericardial fluid อีกดว้ ย
ระหว่ำงชนั้ ทงั้ 2 จะมชี ่องวำ่ งท่ีมองไม่ เย่ือหมุ้ หวั ใจเย่ือหมุ้ หวั ใจ มีหนำ้ ท่ี เห็นดว้ ยตำเปลำ่ (Potential - ห่อหุ้มป้องกันหัวใจไม่ให้เสียดสี space) ภำยในช่องวำ่ งจะมีของเหลว กระแทกกับอวัยวะอ่ืนๆท่ีอยู่ติดกับ ประมำณ 15-50 มลิ ลลิ ติ ร ท่ีมีหนำ้ ท่ีหลอ่ หวั ใจ เชน่ ปอด และหลอดเลือด ล่ืน ไมใ่ หเ้ กิดกำรเสยี ดสี ระหว่ำงเนือ้ เย่ือ - ชว่ ยคงรูปรำ่ งของหวั ใจ ทง้ั 2 ชน้ั ของเย่ือหมุ้ หวั ใจ และชว่ ยลดแรง - ช่วยไมใ่ หห้ วั ใจเตน้ จนเคล่ือนท่ีมำก กระแทกของหวั ใจจำกอวยั วะขำ้ งเคียง เกินไปและช่วยไม่ใหก้ ลำ้ มเนือ้ หัวใจ และจำกกำรบบี ตวั ของหวั ใจ ทง้ั นี้ ยืดขยำยตวั มำกเกินไป ของเหลวนีป้ ระกอบดว้ ย นำ้ โปรตีน เมด็ เลือดขำว และสำรเคมที ่ีเรยี กว่ำ Lactic dehydrogenase (LDH)
Walls of the Heart ประกอบดว้ ย 3 ชน้ั คือ 1. Endocardium เป็นชนั้ ในสดุ ชน้ั endocardium ใน atrium จะหนำกว่ำใน ventricle - Endothelial layer เป็นเย่ือบผุ ิวชนิด simple squamous epithelium - Subendothelial layer เป็น dense connective tissue พบ collagen fibers และ elastic fibers จำนวนมำก อำจมี smooth muscle แทรกปนอยู่ - Subendocardial layer เป็น loose connective tissue เป็นท่ีอย่ขู องหลอด เลอื ดเลก็ ๆ เสน้ ประสำท หวั ใจหอ้ ง vetricle จะพบเซลล์ Purkinje fibers ทำ หนำ้ ท่ีนำกระแสประสำทของหวั ใจในชน้ั นี้ 2. Myocardium เป็นชน้ั ท่ีหนำท่ีสดุ ประกอบดว้ ยกลำ้ มเนือ้ หวั ใจเกือบทง้ั หมด ทำหนำ้ ท่ี บบี ตวั 3. Epicardium เป็นชนั้ นอกสดุ ซง่ึ เป็นชน้ั เดียวกบั visceral layer ของ serous pericardium มีเย่ือบผุ ิวเป็น simple squamous epithelium ถดั มำเป็น loose connective tissue ท่ีมี collagen fibers และ elastic fibers เป็นจำนวนมำก เป็นท่ีอยู่ ของ หลอดเลอื ด หลอดนำ้ เหลอื ง เสน้ ประสำท และพบไขมนั เป็นจำนวนมำก ผนงั หัวใจ
Chambers หอ้ งหัวใจ of the หัวใจจะถูกแบ่งออกเป็นส่ีหอ้ ง (heart chambers) และทิศ Heart ทำงกำรไหลของเลือดเขำ้ สู่แต่ ละห้องจะถูกควบคุมโดยลิ้น หวั ใจ (cardiac valves) ทำให้ เลือดไม่ไหลยอ้ นเม่ือมีกำรบีบ ตวั และคลำยตวั ในท่ีนีจ้ ะกล่ำวถึงหอ้ งของหวั ใจ ตำมลำดับของกำรไหลของ เลือดภำยในหวั ใจ
หวั ใจห้องบนขวา หวั ใจหอ้ งบนซ้าย (Right atrium) มีหนำ้ ท่ีรบั เลือดท่ีมำจำกท่อ (Left atrium) มีขนำดเล็กท่ีสดุ ในหอ้ ง เลือดดำบน (superior vena cava) ซ่ึงรบั หัวใจท้ังส่ีห้อง และวำงตัวอยู่ทำงด้ำน เลือดมำจำกร่ำงกำยส่วนบน และท่อเลือด หลงั สดุ โดยหวั ใจหอ้ งนีจ้ ะรบั เลือดท่ีไดร้ บั ดำล่ำง (Inferior vena cava) รบั เลือดมำ ออกซิเจนจำกปอดผำ่ นทำงหลอดเลือดดำ จำกร่ำงกำยช่วงล่ำง ผนังของหัวใจห้องนี้ ปอด (pulmonary veins) และจึงส่งผ่ำน ค่อนขำ้ งบำง เลือดจำกหวั ใจหอ้ งบนขวำจะ ใหห้ วั ใจหอ้ งล่ำงซำ้ ยทำงลิน้ หัวใจไมทรลั ไหลเข้ำสู่หัวใจห้องล่ำงขวำ ผ่ำนทำงลิ้น (Mitral valve) หวั ใจไทรคสั ปิด (Tricuspid valve) หวั ใจหอ้ งล่างขวา หัวใจหอ้ งล่างซา้ ย (Right ventricle) (Left ventricle) จดั วำ่ มีขนำด จะอยทู่ ำงดำ้ น ใหญ่ท่ีสดุ และมีผนงั หนำท่ีสดุ หนำ้ สดุ ของหวั ใจ ทำหนำ้ ท่ีหลกั ในกำรสบู ฉีด และพืน้ ผิวทำง เลือดไปยงั ท่วั ทง้ั รำ่ งกำยผ่ำน ดำ้ นหลงั ของ ทำงลนิ้ หวั ใจเอออร์ หวั ใจหอ้ งนีจ้ ะ ตกิ (Aortic valve) และหลอด ติดกบั กะบงั ลม เลือดแดงใหญ่เอออร์ หวั ใจหอ้ งลำ่ งขวำ ตำ (Aorta) ทำหนำ้ ท่ีรบั เลอื ดจำก หวั ใจหอ้ งบนขวำ แลว้ สง่ ออกไปยงั ปอด ผ่ำนลนิ้ หวั ใจพลั โมนำรี (pulmonary valve) และหลอดเลือด แดงปอด (pulmonary arteries) ท่ีผนงั ของหวั ใจหอ้ งท่ี จะมีแนวของกลำ้ มเนือ้ หัวใจท่ีสำนต่อกัน และมีเอ็น เล็ก ๆ ท่ีควบคุมลิน้ หวั ใจไทรคสั ปิด ซ่ึงเรียกว่ำ คอร์ดี เท็นดินี (chordae tendinae) ซ่งึ ทำหนำ้ ท่ียึดลนิ้ หวั ใจ ไทรคัสปิ ดไม่ให้ตลบขึ้นไปทำงหัวใจห้องบนขวำ ระหว่ำงกำรบีบตวั ของหวั ใจหอ้ งล่ำง ดงั นน้ั จึงปอ้ งกัน ไมใ่ หเ้ ลอื ดไหลยอ้ นกลบั
ลน้ิ หวั ใจ V a ลนิ้ หวั ใจทำหนำ้ ท่ี เปิดใหเ้ ลือดผ่ำนไป และปิดกนั้ ไม่ใหเ้ ลือดไหลยอ้ น l ทำงกลบั ท่ีเก่ำ แบง่ ไดเ้ ป็น 2 กลมุ่ คือ v 1. ลนิ้ อะตรโิ อเวนตรคิ ลู ำร์ (Atriventricular valve) กนั้ ระหว่ำงเอ e เตรยี มกบั เวนตรเิ คิล ลนิ้ ท่ีอยทู่ ำงซีกซำ้ ยมี 2 กลบี เรยี กวำ่ ลนิ้ ไบคสั s ปิด (Bicuspid) หรอื ลนิ้ ไมตรลั (Mitral valve) และท่ีอยทู่ ำงซีกขวำ มี 3 กลีบ เรยี กว่ำ ลนิ้ ไตรคสั ปิด (Tricuspid valve) ลนิ้ นีม้ ีกลำ้ มเนือ้ ท่ี o เรยี กวำ่ คอรด์ ีเทนดนิ ี (Chordae tendinae) ทำหนำ้ ท่ีชว่ ยดงึ และกนั้ f ไมใ่ หล้ นิ้ เปิดยอ้ นทำง 2. ลนิ้ เออรต์ ิก (Aortic semiluna valve) และ ลนิ้ พลั มอนำรี T (Pulmonary semiluna valve) เป็นลนิ้ ท่ีกน้ั ระหวำ่ งหวั ใจกบั หลอด h เลอื ด โดยลนิ้ Pulmonary valve กน้ั ระหวำ่ งหอ้ งหวั ใจลำ่ งขวำ กบั e หลอดเลือด Pulmonary trunk ท่ีนำเลือดไปท่ีปอด สว่ นลนิ้ Aortic valve ทำหนำ้ ท่ีกน้ั ระหวำ่ งหวั ใจหอ้ งลำ่ งซำ้ ยกบั หลอดเลือด Aorta ท่ี H นำเลอื ดออกจำกหวั ใจไปเลยี้ งสว่ นต่ำงๆ ของรำ่ งกำย e a r t
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244