Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อับดุลลอฮ์ อิบนิสะบาอ์ และนิยายต่างๆ

อับดุลลอฮ์ อิบนิสะบาอ์ และนิยายต่างๆ

Published by thaiislamlib.com, 2022-06-07 03:31:04

Description: ตัวละครอุปโลกในประวัติศาสตร์อิสลามและเรื่อเล่าโกหกต่างๆ

Search

Read the Text Version

แตกต่างกนั โดยสิ@นเชิง ดว้ ยเหตุน@ีเม-ือท่านศาสดาเขา้ พิชิตมกั กะฮ์ อบูซุฟยาน กล่าวกบั อบั บาสวา่ “หลานของท่านไดส้ ถาปนาอาณาจกั รอนั กวา้ งใหญ่ ไพศาล” อบั บาส กล่าววา่ “นี-เป็นเรื-องของการเป็นศาสนทูตไม่ใช่เป็นเรื-อง ราชอาณาจกั ร” อบูซุฟยานยอมรับคาํ พดู น@ีโดยปราศจากการทว้ งติง ถึง แมอ้ บซู ุฟยานจะพา่ ยแพต้ ่อญาติของเขา แต่เขาก็ไม่ประสงคท์ -ีจะใหค้ นแปลก หนา้ มีอาํ นาจ และปล่อยใหเ้ ผา่ ของเขาตอ้ งไปมือเปล่า ท่านศาสดาพยายามท-ีจะป้ องกนั ความสมั พนั ธ์ในทางเครือญาติ ไม่ใหม้ า ยงุ่ เกี-ยวกบั เรื-องของความยตุ ิธรรม แต่ท่านก็ไม่ประสบความสาํ เร็จเท่าใดนกั เราจะเห็นไดเ้ มื-อศึกษาถึงเหตุการณ์ท-ีเกิดข@ึนระหวา่ งเครือญาติในช่วงชีวติ ของท่านศาสดา ในเร-ืองที-วา่ อบั บาสผเู้ ป็นลุงของท่านศาสดา ไดใ้ หก้ าร คุม้ ครองกบั อบซู ุฟยานอยา่ งไร ซ-ึงนบั เป็ นตวั อยา่ งที-ดีของความเขม้ แขง็ ใน ความสมั พนั ธ์กนั ทางเครือญาติ อิบนิ ฮิชาม บนั ทึกไวว้ า่ คืนก่อนท-ีจะเขา้ พิชิตมกั กะฮ์ ค่ายพกั ของมุสลิม ลอ้ มตวั เมืองอยู่ ลุงของท่านศาสดาข-ีล่อของท่านศาสดาออกไปมองหาไปทวั- เพ-ือวา่ จะพบศตั รูบางคน เขาตอ้ งการจะบอกพวกเขาถึงการเขา้ โจมตีของ บรรดามุสลิมที-กาํ ลงั จะเกิดข@ึน เพือ- ใหโ้ อกาสแก่ศตั รูไดข้ ออภยั โทษ เขาได้ พบอบุซุฟยานผซู้ -ึงกาํ ลงั สอดแนมฝ่ ายมุสลิมอยู่ อบั บาสกล่าวกบั เขาวา่ “ขอบคุณพระเจา้ ที-ฉนั ไดพ้ บเจา้ อบซู ุฟยานจงข@ึนลามา ฉนั จะพาเจา้ ไปพบ กบั ท่านศาสดา เพอ-ื วา่ เจา้ จะไดห้ าที-หลบภยั หรือหาไม่ในวนั รุ่งข@ึนถา้ หากเจา้ ถูกจบั เจา้ ก็จะถูกบน-ั คอ” อบั บาสข@ึนขี-ฬ่อไปพร้อมกบั อบซู ุฟยานซ-ึงนงั- อยขู่ า้ งหลงั เขาท@งั สองข-ี ผา่ นมุสลิมไปดว้ ยกนั หลายกลุ่ม ซ-ึงไดจ้ ุดไฟไวอ้ ยา่ งมากมายเพือ- ทาํ ใหศ้ ตั รู หวาดกลวั และเพื-อเฝ้ าระวงั ไม่ใหเ้ กิดอนั ตรายที-อาจเกิดข@ึนได้ พวกมุสลิม 100

กล่าววา่ “ดูลุงของท่านศาสดากาํ ลงั ข-ีฬ่อของท่านมา” อุมรั บงั เอิญไปเห็นอบู ซุฟยานเขา้ จึงตะโกนข@ึนมาวา่ “ศตั รูของพระเจา้ ขอขอบคุณพระองคท์ -ีเจา้ ไดม้ าอยใู่ นกาํ มือของเราแลว้ และเจา้ ก็ไม่มีใครสญั ญาที-จะมาปกป้ องให”้ อุมรั วงิ- ไปหาท่านศาสดา เพ-ือขออนุญาตที-จะสงั หารอบซู ุฟยาน แต่อบั บาสขี- ฬ่ออยจู่ ึงวง-ิ แซงอุมรั และไปถึงท่านศาสดาก่อน อุมรั จึงเขา้ มาและกล่าววา่ “โอ้ ศาสนทูตแห่งพระเจา้ เราไดต้ วั อบซู ุฟยานมาอยกู่ บั เราแลว้ โดย ปราศจากการรับรองในความปลอดภยั ของเขา จงอนุญาตใหฉ้ นั ไดบ้ นั- คอ ของเขาเถิด” แต่อบั บาสกล่าวข@ึนวา่ “ฉนั ไดใ้ หค้ วามปลอดภยั แก่เขา” อุมรั ยงั คงยนื กรานแต่อบั บาสกล่าววา่ “ใจเยน็ ๆไว้ อุมรั หากอบูซุฟยานมา จากเผา่ อะดีของเจา้ แลว้ เจา้ ก็คงจะไม่ยนื กรานที-จะสังหารเขา แต่เพราะเขามา จากตระกลู ของอบั ดุลมานาฟ เจา้ จึงพดู จารุนแรง” เร-ืองน@ีพิสูจน์ให้เห็นวา่ ความสัมพนั ธ์ทางเครือญาติยงั คงรุนแรงอยใู่ น ขณะน@นั ยงั เป็นการแสดงใหเ้ ห็นอีกวา่ แรงขบั ของ อบั บาสเกิดมาจากความ รักท-ีเขามีต่อเผา่ พนั ธุ์ของเขา สาเหตุของการแสดงออกของอบซู ุฟยานที- ต่อตา้ นอบบู กั รเป็นผลมาจากการใหค้ วามสาํ คญั กบั เผา่ พนั ธุ์นิยม ความสูงส่ง ของตระกลู ของอบั ดุลมานาฟ ซ-ึงเป็นตน้ ตระกลู ของบนู ฮาชิม (ครอบครัว ของมุฮมั มดั ) และบนูอุมยั ยะฮฺ (ครอบครัวของอบซู ุฟยาน) นบั เป็นที-รู้กนั เป็น อยา่ งดีของทุกคน ดงั น@นั เม-ือพอ่ ของอบูบกั รทราบวา่ บุตรชายของเขาไดเ้ ป็ น คอลีฟะฮ์ เขาไดก้ ล่าวข@ึนวา่ “บนูฮาชิมและบนูอุมยั ยะฮเ์ ห็นดว้ ยหรือเปล่า ?” เม-ือเขาไดร้ ับคาํ ตอบที-เป็นการยนื ยนั เขาจึงกล่าวข@ึนวา่ “นนั- เป็นพระ ประสงคข์ องพระเจา้ ไม่มีผใู้ ดจะขดั ขวางได”้ ความสงสารของอบูซุฟยานที-มีต่อครอบครัวของมุฮมั มดั หลงั จากท่าน เสียชีวติ น@นั สืบเน-ืองมาจากความรู้สึกท-ีเป็นหน-ึงเดียวกนั ในทางเผา่ พนั ธุ์ สาํ หรับอบซู ุฟยานน@นั ไดส้ ู้รบกบั ท่านศาสดาในทุกคร@ังท-ีเขามีโอกาส คาํ 101

กล่าวของเขาก็คือ “ถา้ หากฉนั ยงั มีชีวติ อยู่ ฉนั จะช่วยอะลีและอบั บาสเพือ- ให้ ไดต้ าํ แหน่งกลบั คืนมา” มิไดห้ มายเป็นอยา่ งอ-ืนนอกจากความหลงใหลใน เผา่ พนั ธุ์นิยม เพราะเป็ นธรรมเนียมของอาหรับ ท-ีจะช่วยญาติใกลช้ ิดต่อสู้กบั คนแปลกหนา้ ที-ห่างไกล อบซู ุฟยาน อบั บาสและอะลี มีตน้ กาํ เนิดที-เป็นเผา่ พนั ธุ์เดียวกนั น@นั คือเผา่ กุซอย ซ-ึงมีขนาดใหญ่และมีอิทธิพล น@ีเองท-ีวา่ ทาํ ไมอบูซุฟยานจึงกล่าววา่ “ใครก็ตามท-ีมีเผา่ กซุ อยเป็ นผสู้ นบั สนุนของเขา ยอ่ มไดร้ ับชยั ชนะอยา่ ง แน่นอน” อบูบกั รและอุมรั เป็นคนของเผา่ เลก็ ๆ ซ-ึงไม่อาจมาทา้ ทายเผา่ กุ ซอยได้ (กุซอยซ-ึงมีกาํ เนิดเดิมมาจากเผา่ กุเรช มีเผา่ ของอบั ดุลมานาฟเป็นราก แกว้ อนั เป็นท-ีมาของตระกลู บนูฮาชิมและอบซู ุฟยาน) นบั เป็นธรรมเนียมในสมยั ก่อน สาํ หรับเผา่ หน-ึงที-จะลาํ เอียงเขา้ ขา้ งคน ที-มาจากสมาชิกของเผา่ ของตน อะลีไดร้ ับการสนบั สนุนจาก อบซู ุฟยานและ อบั บาส ยอ่ มจะตอ้ งเอาชนะอบูบกั รไดอ้ ยา่ งไม่ตอ้ งสงสยั แต่อะลีวรี บุรุษผู้ เป็นบุตรของอบฏู อลิบ ปฏิเสธการช่วยเหลือจากอิทธิพลของเผา่ ของเขา เพราะธรรมเนียมน@ีมนั ขดั แยง้ กนั กบั คาํ สอนของอิสลาม ดงั น@นั เขาจึงพา่ ยแพ้ แก่อบบู กั ร โดยจริงๆ แลว้ หลงั จากท-ีท่านศาสดาเสียชีวติ เหตุการณ์ท@งั หมด ไดร้ ับอิทธิพลจากอคติของเผา่ อ-ืนๆ ที-มีต่อเผา่ พนั ธุ์หรือครอบครัวของท่าน ชาวอนั ศอรเสนอวา่ สะอดั ควรไดเ้ ป็ นผสู้ ืบแทนตาํ แหน่งของท่านศาสดาเพียง เพอ-ื เป็ นการคดั คา้ นต่อชาวมุฮาญิรีน พวกเขารู้ดีวา่ ชาวมุฮาญิรีนบางคนเป็ นผู้ ศรัทธาท-ียงิ- ใหญ่ในอิสลาม และเพราะฉะน@นั จึงเหมาะสมมากกวา่ ต่อการ ยอมรับ เผา่ เอาส์สนบั สนุนอบูบกั ร เพ-ือเป็นการต่อตา้ นสะอดั ผเู้ ป็นคู่แข่ง ของเผา่ คอซรอจ คาํ กล่าวของอุมรั ท-ีสะกีฟะฮเ์ ป็นหลกั ฐานยนื ยนั ท-ีแทจ้ ริง ของการโอนเอียงไปสู่เผา่ พนั ธุ์นิยม 102

การสนบั สนุนของอบซู ุฟยานท-ีมีต่ออะลี ก็มีเหตุเนื-องมาจากความลาํ เอียง ในเผา่ นิยม มีเพยี งอะลีเท่าน@นั ท-ีไดร้ ับการเล@ียงดูมาจากตกั ของท่านศาสดา นบั ต@งั แต่เยาวว์ ยั ตอ้ งการท-ีจะเชิดชูอิสลาม จึงตอ้ งการการสนบั สนุน ช่วยเหลือ จากบรรดามุสลิมเหล่าน@นั ท-ีไม่มีความรู้สึกในความอคติในเผา่ นิยม และไม่มีความผกู พนั กบั วงศาคณาญาติใดๆ ผคู้ นเช่น อบซู รั มิกดาด และซลั มาน ผซู้ -ึงมีอารมณ์ความรู้สึกเพยี งในเรื-องของความเชื-อศรัทธาใน อิสลามของพวกเขาเท่าน@นั ขอ้ สรุปของเรื-องขา้ งตน้ ที-เก-ียวกบั การสนบั สนุน ของอบซู ุฟยานที-มีต่ออะลีน@นั เพราะเขามีความเช-ืออยา่ งแรงกลา้ ในเร-ืองของ ความสูงส่งกวา่ ของเผา่ พนั ธุ์ของเขา ซ-ึงมีอะลีเป็นสมาชิกคนหน-ึง แต่ไม่ใช่ เพราะมีอารมณ์ความรู้สึกของอบูซุฟยานที-มีต่อศาสดา ฉะน@นั ดว้ ยเหตุน@ี จึงมี เขาเพยี งคนเดียวเท่าน@นั ท-ีสนบั สนุนอะลีใหต้ ่อตา้ นอบูบกั ร อบซู ุฟยาน จริงใจต่ออะลีในการต่อตา้ นอบูบกั รก็เพราะอคติในทางการเป็นวงศญ์ าติ แต่ ไดม้ ีการใหค้ วามจริงที-ผดิ ๆ เกิดข@ึนอยบู่ ่อยๆ ดงั ที-ไดม้ ีการบนั ทึกไวว้ า่ อบู ซุฟยาน และบุคคลท@งั หมด ท-ีเป็นผตู้ ่อตา้ นอบูบกั รน@นั ถูกกล่าวหาวา่ เป็น พวกตกศาสนา และถูกเรียกวา่ เป็นพวกสร้างความยงุ่ ยาก เหตุการณ์ต่างๆ ที-ผา่ นมาซ-ึงเก-ียวขอ้ งกบั อบซู ุฟยาน ทาํ ให้เรื-องดงั ต่อไปน@ี ง่ายที-จะเช-ือวา่ ไดม้ ีการบนั ทึกวา่ อบูซุฟยานถามอะลีวา่ “ทาํ ไมท่านถึงปล่อย ใหอ้ บูบกั รเป็ นผสู้ ืบแทนตาํ แหน่งของท่านศาสดาเล่า ? ถา้ หากท่านตอ้ งการ ฉนั จะบรรจุถนนของเมืองมะดีนะฮ์ ดว้ ยทหารมา้ และทหารราบ” เรื-องได้ ดาํ เนินต่อไปดว้ ยคาํ ตอบของอะลีดงั วา่ “อบซู ุฟยานท่านเป็นศตั รูกบั อิสลาม มานานพอแลว้ ท่านยอ่ มไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อไปไดอ้ ีกแลว้ ฉนั ตอ้ งยอมรับวา่ อบบู กั รเหมาะสมในตาํ แหน่งของเขา” เรื-องน@ีดูจะไม่สมจริง เพราะผเู้ ล่าไม่ไดม้ ีชีวิตอยใู่ นขณะที-เหตุการณ์น@ีเกิดข@ึน เร-ืองเทจ็ เหล่าน@ีบาง เร-ืองเช่นกนั ท-ีเล่าโดย อะวานะฮ์ ผซู้ -ึงเป็ นที-รู้จกั กนั วา่ เป็นคนไม่น่าเช-ือถือ เน@ือเรื-องก็เป็นไปอยา่ งไม่สมจริง เพราะหากอะลีพดู วา่ “ฉนั ยอมรับวา่ อบู 103

บกั ร เป็นผเู้ หมาะสมในตาํ แหน่ง” แลว้ อบซู ุฟยานก็คงจะถามเขาต่อไปวา่ “ทาํ ไมท่านถึงไม่จบั มือแสดงสตั ยาบนั กบั เขาเสียเล่า ?” ท-ีอะลีกล่าวไวอ้ ยา่ ง แน่นอนก็คือ “ถา้ หากฉนั มีผศู้ รัทธาท-ีแทจ้ ริงสกั สี-สิบคนที-มีความรู้สึกสาํ นึก ที-ถูกตอ้ ง ฉนั ก็จะต่อสู้กบั เขา” อะลีไดเ้ ขียนไวใ้ นจดหมายที-มีไปยงั มุอาวยิ ะฮด์ งั วา่ “บิดาของเจา้ (อบซู ุฟ ยาน) เห็นคุณค่าในสิทธิของฉนั มากกวา่ ท-ีเจา้ มีเสียอีก ถา้ หากเจา้ รู้จกั ฉนั ดงั เช่นที-บิดาของเจา้ รู้จกั แลว้ เจา้ ก็จะเป็นคนท-ีฉลาดกวา่ น@ี” รัฐบาลมีความ หวาดกลวั ในตวั อบซู ุฟยาน อุมรั กล่าวกบั อบบู กั รวา่ “จงใหเ้ งินเขาไปบา้ ง เพอ-ื ใหเ้ ขาเงียบเสียงลง ท่านศาสดาก็เคยทาํ ดีต่อเขาและทาํ ใหเ้ ขาเงียบเสียงลง” อบูซุฟยานรู้สึกผดิ หวงั กบั อะลี จึงยอมรับเงินที-ส่งมาให้ ฏอบารีบนั ทึกไวว้ า่ “อบซู ุฟยานยงั ไม่ยอมหยดุ ย@งั การก่อกวนจนกระทงั- ยะซีดบุตรชายของเขา ไดร้ ับการแต่งต@งั ใหเ้ ป็นแม่ทพั ส่งไปรบท-ีซีเรีย” ฌ) มุอาวยิ ะฮ์ มุอาวยิ ะฮ์ เขียนจดหมายถึง มุฮมั มดั บุตรของอบบู กั รดงั วา่ “บิดาของท่าน รู้และเราก็รู้ดีวา่ อะลีเหมาะสมที-จะเป็นผสู้ ืบแทนตาํ แหน่งของท่านศาสดา เราเคารพอะลีเป็ นที-ยง-ิ เมื-อท่านศานทตู ของพระเจา้ ขอความสนั ติจงมีแด่ ท่าน ไดป้ ฏิบตั ิภารกิจของท่านไดก้ ลบั คืนสู่พระเจา้ แลว้ บิดาของท่าน (อบู บกั ร) และมือขวาของเขาคืออุมรั เป็ นบุคคลสองคนแรกที-ร่วมมือกนั ละเมิด สิทธิของอะลี อะลีปฏิเสธ และพวกเขาไดว้ างแผนต่อตา้ นจนกระทง-ั อะลีตอ้ ง ยอมจาํ นน” “พวกเขาไม่เคยยนิ ยอมให้อะลีไดม้ ีส่วนรู้ถึงความลบั ของพวกเขา จนกระทงั- พระเจา้ ไดเ้ อาชีวิตของเขากลบั ไป ขณะน@ีเรากาํ ลงั อยบู่ นแนวทางที- บิดาของท่านไดบ้ ุกเบิกไว้ ถา้ หากเขาอยบู่ นหนทางท-ีถูกตอ้ ง เราก็จะตาม 104

แนวทางของเขา ถา้ หากเขาอยใู่ นหนทางท-ีผดิ ก็จงกล่าวโทษบิดาของท่าน เถิด นนั- คือ ไม่ใช่มากล่าวโทษเราที-ไดไ้ ปต่อตา้ นเขา และการไม่ปล่อย ตาํ แหน่งคอลีฟะฮใ์ หก้ บั เขา ขอความสันติจงมีแต่บรรดาผทู้ ี-ขอลุแก่โทษ” ญ) คอลิด อิบนิ สะอีด คอลิดบุตรของสะอีด บุตรของอาส นบั เป็ นมุสลิมคนแรกๆคนหน-ึงที-เขา้ รับอิสลาม อิบนิ กุตยั บะฮ์ ไดก้ ล่าวไวว้ า่ ในหนงั สือ มะอาริฟ หนา้ 128 ของ เขาวา่ “คอลิดเขา้ มาเป็นมุสลิมก่อนอบูบกั ร” คอลิดอพยพไปอบิสสิเนีย (เอธิโอเปี ย) และเม-ืออิสลามเขม้ แขง็ แลว้ เขาจึงกลบั มาจากที-นน-ั เขาและ นอ้ งชายอีกสองคน คืออมั รและอะบานไดร้ ับการแต่งต@งั จากท่านศาสดาให้ เป็นเจา้ หนา้ ที-เก็บภาษี ผซู้ -ึงมีหนา้ ที-ตอ้ งเก็บจากเผา่ มซั ฮจั ญ์ จากน@นั พวกเขา จึงถูกยา้ ยไปยงั เมืองซอนอาอท์ -ีเยเมน เม-ือท่านศาสดาเสียชีวติ พวกเขาจึง กลบั มายงั นครมะดีนะฮ์ อบบู กั รไดส้ อบถามพวกเขาวา่ ทาํ ไมพวกเขาจึงละทิ@งหนา้ ท-ีน@ีของพวก เขา และพวกเขากล่าวตอบวา่ “เราไดร้ ับการแต่งต@งั จากท่านศาสดาใหไ้ ดร้ ับ หนา้ ที-น@ี และเราจะไม่ทาํ ใหก้ บั ผใู้ ดอื-น เม-ือท่านศาสดาวายชนมแ์ ลว้ ” พวก เขาหาขอ้ แกต้ วั อ-ืนๆอีก และไม่ยอมจบั มือใหส้ ัตยาบนั กบั อบบู กั ร จนกระทงั- สองเดือนผา่ นไปคอลิดกล่าวกบั บนูฮาชิมวา่ “พวกท่านเป็นผมู้ ีเกียรติและ เป็นตน้ ไมท้ -ีใหผ้ ล และเราขอปฏิบตั ิตามพวกท่าน” วนั หน-ึงเขาไปพบกบั อะลีและอุศมาน และกล่าวกบั พวกเขาวา่ “พวกท่าน เป็นผสู้ ืบตระกลู ของอบั ดุลมานาฟ ไม่ยอมรับเอาตาํ แหน่งไวใ้ หจ้ ริงจงั จนกระทงั- คนอื-นมายดึ เอาไป” เขาช-ืนชมในอะลีและตอ้ งการจะให้ สัตยาบนั กบั เขา แต่มนั สายเกินไปเสียแลว้ เพราะอบูบกั รไดเ้ ป็นคอลีฟะฮ์ ฉะน@นั คอลิดจึงยอมรับเขาเสมือนกบั บรรดาบนูฮาชิม อบูบกั รไม่ถือสากบั 105

การก่อกบฏของคอลิดดว้ ยวธิ ีท-ีนุ่มนวล แต่อุมรั กลบั ถือเอาเป็นเร-ืองใหญ่โต ต่อมาภายหลงั อบบู กั รไดแ้ ต่งต@งั ใหค้ อลิดเป็นผบู้ งั คบั กองพนั ของกองทหาร ที-ส่งไปยงั แนวรบที-ซีเรียก็เหลือเอามาเรียบเรียง อุมรั เถียงกบั อบูบกั ร และยนื กรานใหป้ ลดคอลิดและใหแ้ ต่งต@งั ยะซีดบุตร ของอบูซุฟยานแทนตาํ แหน่งของเขา คอลิดไม่รังเกียจไม่วา่ เขาจะเป็นทหาร หรือเป็นผบู้ งั คบั กองพนั และเขาไดอ้ อกรบในฐานะทหารคนหน-ึง ณ แนวรบ ที-ซีเรีย จนกระทงั- ไดพ้ ลีชีพไปในปี ท-ี 13 ของฮิจเราะฮศ์ กั ราช สองคืนก่อนจะ ถึงสิ@นเดือนญะมาดุลเอาวลั ฎ) สะอดั อิบนิ อุบาดะฮ์ สะอดั อิบนิ อุบาดะฮ์ เป็นหวั หนา้ ของเผา่ คอซรอจ เขาร่วมอยใู่ น เหตุการณ์ท-ีอะกอบะฮ์ (ในฐานะเป็นผแู้ ทน ผซู้ -ึงเดินทางมาจากมะดีนะฮ์ เพ-ือ มายนื ยนั ถึงความเตม็ ใจที-จะสนบั สนุนท่านศาสดา หากท่านประสงคท์ ี-จะ อพยพ จากมกั กะฮส์ ู่มะดีนะฮ)์ สะอดั เขา้ ร่วมในสงครามทุกคร@ังที-ท่านศาสดา ไดต้ ่อสู้ ยกเวน้ ก็คงจะเป็ นสงครามบะดรั ในวนั ที-จะเขา้ ยดึ นครมกั กะฮ์ เขาได้ แสดงแนวโนม้ ของความเป็ นปฏิปักษ์ ดว้ ยกบั คาํ พดู ที-วา่ “วนั น@ีเป็ นวนั แห่ง การสู้รบ เป็นวนั ที-ผหู้ ญิงจะตอ้ งถูกจบั เป็ นเชลย” วนั น@นั ท่านศาสดาจึง มอบธงชยั ใหก้ บั กอยส์บุตรชายของสะอดั และไดล้ ดตาํ แหน่งของสะอดั ลง ใหเ้ ป็นเพียงคนทาํ ฮจั ญธ์ รรมดาคนหน-ึง สะอดั ประสบความพา่ ยแพใ้ นความพยายามของเขาท-ีจะเป็นผสู้ ืบแทน ตาํ แหน่งของท่านศาสดา เขาจึงถูกปล่อยทิ@งไวใ้ หอ้ ยอู่ ยา่ งเดียวดายใน ระหวา่ งการใหส้ ตั ยาบนั 106

แต่หลงั จากที-อบูบกั รเป็นคอลีฟะฮส์ องสามวนั สะอดั ถูกขอร้องใหจ้ บั มือ กบั เขา ดงั ท-ีคนส่วนหน-ึงของเผา่ ของเขาไดก้ ระทาํ ไปแลว้ แต่สะอดั ปฏิเสธ พร้อมกบั กล่าววา่ “ขอสาบานต่ออลั ลอฮ์ ตราบใดที-ฉนั ยงั มีลูกธนูอยใู่ นซอง ท-ีจะยงิ เจา้ หอกที-จะยอ้ มสีมนั ดว้ ยเลือดของเจา้ ดาบและพละกาํ ลงั อยใู่ นแขน ของฉนั ฉนั จะขอต่อสู้กบั เจา้ พร้อมกบั การสนบั สนุนของผคู้ นที-อยใู่ นเผา่ ของ ฉนั ผทู้ -ีเขายงั เชื-อฟังฉนั อยู่ ฉนั จะไม่จบั มือแสดงการใหส้ ัตยาบนั เจา้ ถึงแม้ มนุษยแ์ ละญินจะประกาศกบั ฉนั โดยอยขู่ า้ งเจา้ ก็ตาม จนกวา่ ฉนั จะตาย และ จะนาํ เร-ืองของฉนั น@ีไปยงั ศาลของพระองค”์ อุมรั เร่งเร้าใหอ้ บูบกั รบงั คบั สะอดั ใหย้ อมจาํ นน แต่บะชีร อิบนิ สะอดั กล่าววา่ เขารู้จกั สะอดั วา่ เป็ นคนด@ือดึง และจะไม่ ยอมเห็นพอ้ งดว้ ย เขายงั มีอิทธิพลในหมู่ผคู้ นของเขา และยอ่ มไม่อาจไปลอบ สังหารเขาได้ จนกวา่ ผคู้ นอีกจาํ นวนมากในเผา่ ของเขาและเครือญาติของเขา จะตอ้ งถูกสงั หารใหห้ มดเสียก่อน สะอดั จึงถูกปล่อยไวใ้ หอ้ ยคู่ นเดียวตาม คาํ แนะนาํ ของบะชีร (บะชีรซ-ึงเป็นบุคคลคนแรกท-ีจบั มือกบั อบบู กั รน@นั เป็นคู่ต่อสู้ของสะอดั ) สะอดั ไม่เคยเขา้ ร่วมกบั กิจกรรมในทางศาสนาที-ทาํ รวมกนั ซ-ึงจดั โดย เจา้ หนา้ ท-ีราชการ และเดินทางไปทาํ ฮจั ญแ์ ยกต่างหากจากคณะท-ีนาํ โดย รัฐบาล เขาผา่ นชีวิตของเขาไปแต่ละวนั จนกระทงั- อบบู กั รตาย เมื-ออุมรั ข@ึน ดาํ รงตาํ แหน่งแทนอบบู กั ร เขามาพบสะอดั และไดม้ ีการพดู จาไม่สู้จะดีต่อ กนั สะอดั กล่าววา่ “อบบู กั รมีความยงิ- ใหญ่มากกวา่ เจา้ ฉนั ไม่ชอบท-ีจะอยู่ ร่วมกบั เจา้ ” อุมรั กล่าวตอบวา่ “ถา้ หากผหู้ น-ึงไม่ชอบท-ีจะอยใู่ กลอ้ ีกคน หน-ึงแลว้ เขาก็ควรจะออกห่างไปเสีย” 107

จากน@นั สะอดั จึงเดินทางออกมาจากมะดีนะฮไ์ ปยงั ดามสั กสั อุมรั ส่ง เจา้ หนา้ ที-ไปเพ-ือเอาความเห็นชอบของสะอดั หรือไม่ก็ใหก้ าํ จดั เขาทิ@งเสีย หากเขาไม่เห็นพอ้ งดว้ ย เจา้ หนา้ ท-ีไดไ้ ปพบสะอดั ที-สวนผลไมแ้ ห่งหน-ึง และไดเ้ ชิญชวนเขาให้ เห็นพอ้ งดว้ ยกบั อุมรั สะอดั ปฏิเสธและชายคนน@นั ก็ยงั คงข่มข่เู ขา แต่ก็ไม่มี ผลอนั ใด ดงั น@นั เขาจึงสังหารสะอดั ทิ@งเสีย มสั อดู บนั ทึกไวว้ า่ สะอดั ไม่ยอมจบั มือใหส้ ัตยาบนั และจึงอพยพไปอยู่ ซีเรีย และถูกสงั หารในเวลาต่อมา อิบนิ อบั ดุรอบบิฮบ์ นั ทึกไวว้ า่ สะอดั ถูก มือมืดสังหาร และท-ีวา่ ญินไดใ้ ชเ้ สียงโหยหวนใส่เขา ดงั ที-ไดก้ ล่าวไวใ้ น กลอนต่อไปน@ี “เราไดฆ้ ่า สะอดั แม้ เป็นหวั หนา้ ผบู้ ญั ชา เผา่ คอซรอจ ตอ้ งโศกเศร้า ในวนั น@ี ยงิ สองคร@ัง ตรงเขา้ เป้ า หวั ใจเขา ไม่อาจหนี ชีวดี บั ” ในฏอบารีไดม้ ีบนั ทึกไวว้ า่ สะอดั กาํ ลงั ไปทาํ ธุระส่วนตวั อยู่ เมื-อมีบางคน เขา้ จู่โจมและสังหารเขาทิ@งเสีย เมื-อไดพ้ บตวั ของเขาในเวลาต่อมาปรากฏวา่ ผวิ หนงั ของเขาเปล-ียนเป็นสีเขียว ใน อุซุดุลฆอบะฮ์ มีบนั ทึกไวว้ า่ สะอดั ไม่ยอมมอบตนต่อ อบูบกั รหรือ อุมรั เขาอพยพไปอยซู่ ีเรียและเขาถูกฆ่าตายท-ีนนั- จากน@นั จึงมีเสียงดงั มาจาก บ่อลึกโดยบอกใหผ้ คู้ นไดร้ ู้วา่ สะอดั ถูกฆ่าสงั หาร ร่างของเขาถูกพบนอน ตายอยใู่ กลๆ้ บา้ นของเขาที-ฮูรอนในนครดามสั กสั ในสภาพเปลี-ยนไปเป็นสี เขียว อบั ดุลฟัตตาฮเ์ ขียนไวใ้ นหนงั สือของเขาช-ือ อลั อิมามอะลี อิบนิ อบี 108

ฏอลิบ ดงั ความวา่ ชาวบา้ นต่างพากนั พดู วา่ สะอดั ตายเพราะถูกญินฆ่า แต่ จริงๆ แลว้ คอลิด อิบนิ วะลีด และคู่หูของเขาอีกคนหน-ึงไดก้ ระทาํ ฆาตกรรม สะอดั และโยนเขาลงไปในบ่อลึกเสียงที-บอกวา่ สะอดั ถูกฆ่าสงั หารน@นั เป็น เสียงของเพอ-ื นคอลิด ไม่ใช่ของพวกญิน บะลาซุรี บนั ทึกไวว้ า่ อุมรั สั-งคอลิด และมุฮมั มดั อิบนิ มุสลิมะฮ์ ใหไ้ ปสังหารสะอดั พวกเขาก็ไดก้ ระทาํ เช่นน@นั สมาชิกคนหน-ึงของชาวอนั ศอร ไดแ้ ต่งบทกลอนดงั ต่อไปน@ีเกี-ยวกบั การ ตายของสะอดั ส-ิงท-ีพวก เขากล่าว และเล่าขาน สะอดั น@นั ถูกญินฆ่า น่าสงสยั ฉนั ไม่เคย ประสบ ณ ท-ีใด เลห์กลใคร ผดิ แปลก แหวกครรลอง สะอดั ปราศ จากบาป คราบความผดิ เพียงนอ้ ยนิด ไม่เคยมี ใหช้ ื-อหมอง และไม่เคย แมแ้ ต่ จะปรองดอง ไม่เคยหมอง ตอ้ งจบั มือ อบบู กั ร นกั ประวตั ิศาสตร์ไม่ชอบท-ีจะบนั ทึก สาเหตุการตายของสะอดั บางคน ไม่ยอมพดู ถึงเหตุการณ์น@ีเลย และบุคคลอื-นกล่าวโทษญิน ถา้ หากบรรดาผทู้ ี- พดู วา่ ญินฆ่าสังหารสะอดั กล่าววา่ “บรรดาญินท-ีเป็ นผศู้ รัทธาไม่ชอบสะอดั ท-ีไปต่อตา้ นอบบู กั ร ดงั น@นั พวกเขาจึงสงั หารเขาเสีย” ดงั น@นั เร-ืองอยา่ งน@ี ยอ่ มจะเป็นที-น่าเช-ือไดง้ ่ายข@ึน ฏ) อุมรั 109

เราไดก้ ล่าวถึงกิจกรรมต่างๆ ของเขาที-เขา้ ขา้ งอบบู กั ร ในระหวา่ งการ ประกาศสัตยาบนั อุมรั กล่าววา่ “บางคนเห็นล่วงหนา้ วา่ ฉนั กาํ ลงั จะตายและ เดาวา่ ฉนั จะต@งั ใครเป็นผสู้ ืบแทน ขอใหฉ้ นั ไดแ้ จง้ ใหเ้ ป็ นที-กระจ่างแก่พวก ท่านถึงเร-ืองน@ี การใหส้ ตั ยาบนั กบั อบูบกั รเป็ นเร-ืองผดิ พลาด แต่พระเจา้ ปกป้ องเราไวใ้ หป้ ลอดภยั จากผลลพั ธ์ของมนั ” ววิ ตั นาการในการบนั ทึกของ ซยั ฟ์ เราไดเ้ ขียนไวก้ ่อนหนา้ แลว้ ถึงเหตุการณ์ของการใหส้ ตั ยาบนั ที-ซยั ฟ์ และ บุคคลอื-นๆ ไดบ้ นั ทึกไว้ ต่อไปน@ีเราจะเปรียบเทียบดู ระหวา่ งการบนั ทึกของ พวกเขา ซยั ฟ์ ไดบ้ นั ทึกไวว้ า่ ก) ไม่มีผใู้ ดที-ปฏิเสธการประกาศสตั ยาบนั ใหก้ บั อบบู กั ร ยกเวน้ พวกตก ศาสนาหรือใกลจ้ ะตกศาสนา และบรรดาชาวมุฮาญิรีนท@งั หมดลว้ นจบั มือ กบั อบูบกั รดว้ ยความเตม็ ใจ ข) อะลีวง-ิ ออกมาจากบา้ นของเขา โดยสวมเส@ือชุดนอนเพ-ือไม่ใหเ้ สียเวลา หลงั จากท-ีเขาไดย้ นิ วา่ ผคู้ นไดจ้ บั มือประกาศสตั ยาบนั กบั อบบู กั รและเขาก็ ไดจ้ บั มือกบั อบบู กั ร เช่นเดียวกนั พวกเขาไดน้ าํ เส@ือผา้ ของเขามาใหจ้ ึงได้ จดั การแต่งตวั ค) เกาะกอฮก์ ล่าววา่ “ฉนั อยใู่ นมสั ยดิ เพ-ือการนมาซตอนเท-ียงวนั เมื-อมี ชายคนหน-ึงนาํ ข่าวการเสียชีวิตของท่านศาสดา และการชุมนุมของพวกอนั ศอรที-สะกีฟะฮ์ เพอื- แต่งต@งั สะอดั ใหเ้ ป็นผสู้ ืบตาํ แหน่งแทนของพวกเขา อนั เป็นการขดั ต่อคาํ สั-งของท่านศาสดา ข่าวน@ีไดส้ ร้างความกงั วลในใจใหก้ บั ชาวมุฮาญิรีนเป็นอยา่ งมาก” 110

ง) ฮุบาบ อิบนิ มุนซิร กาํ ลงั จะเขา้ มาจู่โจมอบูบกั รดว้ ยดาบ แต่อุมรั ไดป้ ัด ดาบจนหลุดจากมือของเขา จากน@นั ชาวอนั ศอรไดร้ ีบออกมาจบั มือกบั อ บูบกั ร โดยโดดขา้ มหวั สะอดั ผซู้ -ึงกาํ ลงั ป่ วยอยเู่ ขา้ มา และไปนงั- ขวางทาง พวกเขา ความผดิ พลาดของชาวอนั ศอร นบั เป็ นความผดิ พลาดในแบบ เดียวกนั กบั ที-เคยเกิดข@ึนในสมยั ของความโง่เขลาป่ าเถ-ือน แต่อบูบกั รได้ ป้ องกนั ไวอ้ ยา่ งเหนียวแน่นไม่ใหเ้ กิดผลลพั ธ์เช่นน@นั อีก จ) สะอดั กล่าวกบั อบูบกั รวา่ “ท่านและคนในเผา่ ของฉนั บงั คบั ใหฉ้ นั ยอม จาํ นนต่อท่าน” พวกเขาไดบ้ อกกบั สะอดั วา่ “หากเราบงั คบั ท่านใหอ้ อกไป จากชุมชนท่านก็อาจจะมีขอ้ แกต้ วั แต่เราไดท้ าํ ใหท้ ่านอยรู่ ่วมกบั คนอื-นๆเขา ถา้ หากท่านขดั ขืนต่อเสียงของประชาชนแลว้ หรือสร้างความแตกแยกให้ เกิดข@ึน เราจะตดั คอของท่าน” ฉ) อบูบกั รไดก้ ล่าวคาํ ปราศรัยอยา่ งยดื ยาวรวมสองคร@ัง ช) คอลิด สะอีด อะมาวี สวมเส@ือท-ีทาํ จากผา้ ไหมในยามสงบ และอุมรั ได้ ส-ังเขาใหฉ้ ีกเส@ือทิ@ง ดว้ ยเหตุน@ีคอลิดจึงกล่าวกบั อะลีวา่ “โอ้ ผเู้ ป็นบุตรหลาน ของอบั ดุลมานาฟ ท่านไดแ้ พค้ ดีความของท่านหรือ?” อะลี บอกกบั คอลิดวา่ “เจา้ เห็นวา่ มนั เป็นเร-ืองของการละเล่นหรือ?” จากน@นั อุมรั จึงกล่าวกบั คอลิด วา่ “ขอพระเจา้ ไดโ้ ปรดสวมบงั เหียนท-ีปากของเจา้ ดว้ ย เจา้ ไดพ้ ูดบางสิ-งท-ี พวกโป้ ปดมดเทจ็ จะยดึ เอาไปพดู ต่อ (เพอ-ื เอาไปแต่งเร-ืองเทจ็ )” เมื-อเราไดเ้ ปรียบเทียบดูถึงแนวทางท-ีซยั ฟ์ ไดบ้ นั ทึกเหตุการณ์ต่างๆไวก้ บั ที-ผอู้ ื-นไดบ้ นั ทึกไว้ เราไดเ้ ห็นวา่ ซยั ฟ์ ไดต้ บแต่งเหตุการณ์ไวด้ ว้ ยวธิ ีท-ีชาญ ฉลาดยงิ- เพ-ือใหเ้ หมาะสมกบั จุดมุ่งหมายของเขา ยกตวั อยา่ งเช่น 111

ก) เขากล่าววา่ อะลีและสะอดั จบั มือกบั อบูบกั รเพ-ือใหส้ ัตยาบนั ในวนั แรกที-เขาไดส้ ืบตาํ แหน่งแทนท่านศาสดา แต่กระน@นั นกั ประวตั ิ ศาสตร์คน อื-นๆ บอกเราถึงการเลื-อนขอ้ ตกลงของอะลีและสะอดั กบั อบบู กั รออกไป ซ-ึง แตกต่างกบั ท-ีซยั ฟ์ ไดพ้ ดู ซ-ึงแตกต่างกนั ดงั น@ีคือ “อะลีไดถ้ ามถึงเร-ืองตาํ แหน่ง ของเขา ชาวมุฮาญิรีนและบนูฮาชิม ต่างก็เห็นพอ้ งกบั อะลีที-ไม่ยอมให้ สตั ยาบนั กบั อบบู กั ร ผคู้ นเหล่าน@ีท@งั หมดตอ้ งการจะจบั มือกบั อะลีเพอ-ื ให้ สัตยาบนั และตราบเท่าที-บุตรีของท่านศาสดายงั มีชีวติ อยู่ พวกเขาไม่ยอมเห็น พอ้ งดว้ ยกบั อบูบกั ร” ถา้ หากเร-ืองที-ซยั ฟ์ พดู ไวเ้ ป็นเรื-องจริงท-ีวา่ อะลีไป พบอบูบกั รในวนั แรกเลยทีเดียวน@นั ดงั น@นั ใครจะเป็ นผจู้ ดั การเตรียมงานฝัง ศพของท่านศาสดาเล่า ? ข) สะอดั ไม่เห็นดว้ ยกบั อบูบกั ร เขาจึงไปอาศยั อยทู่ ี-ดามสั กสั และญินได้ สังหารเขาดว้ ยกบั การยงิ สองคร@ัง เพราะเขาไม่จบั มือกบั อบูบกั ร ค) ดว้ ยคาํ กล่าวที-วา่ ชาวอนั ศอร ตอ้ งการท-ีจะละเมิดพนั ธสัญญาของท่าน ศาสดา และไปประกาศสัตยาบนั กบั สะอดั ซยั ฟ์ ตอ้ งการจะพดู วา่ ท่านศาสดา ไดแ้ ต่งต@งั อบูบกั รไว้ ง) ซยั ฟ์ ไดป้ ระดิษฐค์ าํ พดู บางคาํ ของเกาะกออข์ @ึนมาดงั ต่อไปน@ี “ผคู้ นจาก คนแลว้ คนเล่าไดเ้ ขา้ สัมผสั มือกบั อบบู กั รดว้ ยความเตม็ ใจ” ถึงกระน@นั เกาะกออไ์ ม่เคยมีชีวติ อยเู่ ลย เขามีช-ือปรากฏอยกู่ ็เฉพาะในเรื-องเล่าของซยั ฟ์ เท่าน@นั จ) เพ-ือเป็นการพิสูจนว์ า่ ชาวอนั ศอรต่อตา้ นอบูบกั ร เขากล่าววา่ ฮุบาบ ผู้ เป็นสมาชิกคนหน-ึงของชาวอนั ศอรไดเ้ ขา้ จู่โจมดว้ ยดาบ แต่จริงๆแลว้ เขาคน 112

น@นั คือ ซุเบร เป็นลูกพ-ลี ูกนอ้ งของท่านศาสดา ซ-ึงเป็ นชาวมุฮาญิรีนคนหน-ึง (ชาวอพยพเป็นพรรคพวกของอะลี) ที-ไดเ้ ขา้ โจมตีดว้ ยดาบ ฉ) อุมรั ใหข้ อ้ สังเกตวา่ การเลือกต@งั อบูบกั รเป็นความผดิ พลาด ซยั ฟ์ เรียก การต่อตา้ นของชาวอนั ศอรวา่ เป็นความผดิ พลาดเช่นกนั เพอื- เป็นการกลบ เกลื-อนอุมรั และเพอื- ใหส้ อดคลอ้ งกบั ขอ้ สงั เกตของอุมรั ท-ีเป็นการต่อตา้ นกบั ชาวอนั ศอร ช) ซยั ฟ์ กล่าวไวว้ า่ อบบู กั รไดก้ ล่าวคาํ ปราศรัยเป็ นปฐมฤกษอ์ ยา่ งยดื ยาว รวมสองคร@ัง หลงั จากที-ผคู้ นไดใ้ หส้ ตั ยาบนั ต่อเขาแลว้ ลีลาและเน@ือหาของ คาํ ปราศรัยของท@งั สองคร@ังน@ีแสดงใหเ้ ห็นวา่ มนั เป็ นของปลอม และคาํ ปราศรัยของอบบู กั รท-ีเป็นของจริงน@นั ยอ่ มมีความแตกต่างกบั ลีลาและ เน@ือหาของคาํ ปราศรัยที-เป็นของปลอมน@นั ไม่เหมือนกนั กบั คาํ ปราศรัยของ คอลีฟะฮท์ @งั สาม ท-ีตามมาภายหลงั จากท่านศาสดา คาํ ปราศรัยน@ีซยั ฟ์ ไดเ้ ขียน ไวไ้ ม่ดีเท่ากนั กบั งานเขียนอื-นๆของเขา มนั ดูเหมือนวา่ ซยั ฟ์ ไม่มีความ ชาํ นาญในการแต่งคาํ ปราศรัยในทางศาสนา อีกประการหน-ึงคาํ ปราศรัย ยาวๆน@นั นบั เป็ นเร-ืองไม่ปกติในสมยั ของท่านศาสดาและของอบบู กั ร คาํ ปราศรัยยาวๆเหล่าน@ี เริ-มตน้ ข@ึนในสมยั การเป็นคอลีฟะฮข์ องอุมรั และไปถึง จุดสุดยอดในยคุ สมยั ของอะลี คาํ ปราศรัยแรกๆของผปู้ กครองคนใดก็ตาม มกั จะส@ัน ซ-ึงเป็นการกาํ หนดโครงเร-ืองของแผนงานใหม่ๆ ซ) คาํ แถลงที-อบูบกั รใชท้ ี-วา่ มารร้ายไดอ้ ยอู่ าศยั ในตวั ของเขาน@นั ฟังดูเป็น เร-ืองชวนหวั และทาํ ใหเ้ ส-ือมเสีย ซยั ฟ์ ตอ้ งการท-ีจะเนน้ ย@าํ ความคิดของเขา ท-ีวา่ ภายหลงั จากท่านศาสดาผคู้ นไม่ตอ้ งการท-ีจะยงุ่ เก-ียวกบั คุณธรรมและ ความศกั ดmิสิทธmิ คาํ พดู เหล่าน@ีจากอบูบกั รผเู้ ป็นคอลีฟะฮค์ นแรก เหมือนกนั 113

กบั คาํ วงิ วอนของเขาท-ีขอให้กบั กองทพั ของ อุซามะฮ์ เป็ นเหตุใหอ้ ิสลามตอ้ ง ร่วงหล่นสู่ความเสียช-ือเสียง ฌ) สิ-งท-ีแปลกประหลาดเก-ียวกบั คาํ ปราศรัยของอบบู กั รที-ถูกกล่าวอา้ งวา่ เป็นของเขาน@ีก็คือมนั ไดน้ าํ เอาวญิ ญาณแห่งความตลกโปกฮาเขา้ มาสู่ศาสนา อิสลามเพอ-ื วา่ เมื-อผคู้ นไดฟ้ ังจากคาํ ปราศรัยของผนู้ าํ มุสลิมแลว้ ก็จะเขา้ ใจไป ไดว้ า่ อิสลามไม่ไดเ้ ป็นศาสนาท-ีแทจ้ ริงหรืออาจเลวร้ายไปกวา่ น@นั อีกก็คือ เป็นศาสนาท-ีไม่มีพระเจา้ เหตุผลท-ีซยั ฟ์ นาํ เสนอในเรื-องอิสลามอยา่ งผดิ ๆก็ เพราะไดม้ ีบนั ทึกไวว้ า่ ซยั ฟ์ เป็นผไู้ ม่เช-ือในเร-ืองพระเจา้ ๘ อบั ดุลลอฮ์ อิบนิ สะบาอแ์ ละนิยายต่างๆ ญ) ซยั ฟ์ กล่าวถึงคอดลิด อิบนิ สะอดั อะมาวี วา่ คอลิดสวมใส่เส@ือทาํ ดว้ ย ผา้ ไหม และอุมรั สั-งใหฉ้ ีกเส@ือน@นั ทิ@งเสีย ซ-ึงผลจากการน@ีทาํ ใหค้ วามรู้สึกของ คอลิดท-ีมีต่ออบบู กั รและอุมรั เป็นไปดว้ ยความเคียดแคน้ คอลิดกล่าวกบั อะลี วา่ “เผา่ ของท่าน (อบั ดุลมานาฟ) ถูกเผา่ ของอบูบกั ร (ตยั ม)์ เอาชนะไปได”้ อะลีกล่าวตอบวา่ “ตาํ แหน่งของผสู้ ืบแทนตาํ แหน่งของท่านศาสดาไม่มีอะไร มาเกี-ยวขอ้ งกบั อิทธิพลทางเผา่ พนั ธุ์ มนั เป็นตาํ แหน่งอนั ศกั ดmิสิทธmิ” คอลิด กล่าวกบั อะลีอีกวา่ “เผา่ ของท่านสมควรที-จะไดร้ ับตาํ แหน่งน@ี” จากน@นั อุมรั จึงกล่าวกบั คอลิดวา่ “ขอใหพ้ ระเจา้ ปิ ดปากเจา้ เสีย เจา้ พดู ในสิ-งที-ทาํ ให้ พวกโกหกมดเทจ็ หาเหตุประดิษฐเ์ ร-ืองราวข@ึนมา” ณ ตรงน@ีอีกคร@ังหน-ึงที- ซยั ฟ์ ปรารถนาที-จะกล่าววา่ คอลิดคนเดียวเท่าน@นั ท-ีเช-ือวา่ อิทธิพลทาง เผา่ พนั ธุ์เป็นแรงกระตุน้ ของผคู้ นท-ีสนบั สนุนคู่แข่งขนั หาไม่แลว้ ชาวมุฮาญิ รีนและชาวอนั ศอรเป็ นผทู้ -ีไม่รู้เร-ืองอะไรเลย ท-ีจะพยายามผสมกลุ่มคนเมือง 114

กบั เรื-องศาสนา ดงั น@นั อะลีและอุมรั จึงไม่ยอมรับคอลิด ขณะที-นี-เป็นอีกคร@ัง หน-ึงที-ซยั ฟ์ ปรารถนาท-ีจะพสิ ูจน์วา่ ไม่มีการต่อตา้ นที-อบูบกั รไดเ้ ป็นคอลีฟะฮ์ ฎ) ซยั ฟ์ บอกกบั เราวา่ ไม่มีความแตกต่างอะไรกนั ระหวา่ งอะลีกบั อุมรั และในกรณีที-มีความไม่ลงรอยกนั ที-พบเห็นไดใ้ นภายหลงั ผคู้ นจะไดค้ ิดวา่ มนั เป็นเพราะคอลิด ฉะน@นั อุมรั จึงกล่าวกบั คอลิดวา่ “ภายหลงั พวกโกหก มดเทจ็ จะสร้างเร-ืองต่างๆ ข@ึนมาจากสิ-งที-เจา้ พดู ได”้ นี-คือจุดหน-ึงท-ีมี ความสาํ คญั และควรแก่การสงั เกต ฏ) ทา้ ยท-ีสุดเราจะตอ้ งไม่ลืมวา่ ซยั ฟ์ ไดเ้ ล่าเร-ืองขา้ งตน้ มาจากซคั ร์ผซู้ -ึง เป็นผอู้ ารักขาของท่านศาสดา แต่ท่านศาสดาไม่มีคนอารักขาที-เป็นคนช-ือน@ี ฐ) การโจมตีอนั รุนแรงท-ีสุดของซยั ฟ์ ท-ีมีต่อฝ่ ายต่อตา้ นก็คือ คาํ กล่าวของ เขาที-วา่ “ไม่มีผใู้ ดต่อตา้ นอบูบกั รยกเวน้ คนท-ีตกจากศาสนาไปแลว้ หรือต@งั ใจ ท-ีจะละทิ@งอิสลาม” ขอ้ กล่าวหาของซยั ฟ์ เปิ ดช่องใหก้ บั ผอู้ ่านไดเ้ ช-ือไปวา่ มุสลิมต่างยอมรับอ บูบกั รเป็นเอกฉนั ทใ์ หด้ าํ รงตาํ แหน่งคอลีฟะฮ์ ยกเวน้ ก็เฉพาะบรรดาผทู้ ี-หนั ห่างออกจากอิสลาม ณ ที-น@ีเราจะไดแ้ นะนาํ บรรดาผคู้ นท-ีต่อตา้ นอบบู กั ร และสนบั สนุนอะลีอยา่ งจริงใจ ยอ่ มไม่มีผใู้ ดสงสัยในทางใดไดว้ า่ จะมีใคร ในหมู่พวกเท่าเหล่าน@ีเขา้ ไปเกี-ยวขอ้ งกบั ขอ้ กล่าวหาของซยั ฟ์ วา่ เป็น “คนตก ศาสนา” 1) ซุเบร อิบนิ เอาวาม ญาติของท่านศาสดา 2) อบั บาส ลุงของท่านศาสดา 3) สะอดั บิน อบีวกั กอส ผพู้ ิชิตอิรัก 115

4) ตอลฮะฮ์ อิบนิ อุบยั ดุลลอฮ์ 5) มิกดาด บิน อสั วดั บุคคลเหล่าน@ีคือ ผทู้ -ีชุมนุมกนั อยทู่ ี-ฟาฏิมะฮ์ เพ-ือต่อตา้ นอบบู กั ร 6) อบูซรั กิฟารี 7) ซลั มาน อลั ฟารซี 8) อมั มาร บิน ยาซีร 9) บรั รออ์ อิบนิอาซิบ อนั ซอรี 10) อุบยั อิบนิ กะอบั อนั ซอรี 11) ฟัฎล์ อิบนิ อบั บาส ญาติของท่านศาสดา 12) อบซู ุฟยาน ฮรั บ์ อะมาวี 13) คอลิด อิบนิ สะอีด อะมาวี 14) อะบาน อิบนิ สะอีด อะมาวี นอกเหนือจากบุคคลท@งั หมดสิบสี-คนน@ี ไม่มีชาวบนูฮาชิมคนใดที-จบั มือ เพ-อื ใหส้ ัตยาบนั กบั อบบู กั ร จนกระทงั- บุตรสาวของท่านศาสดาวายชนม์ การ ต่อตา้ นของพวกเขาเป็นไปก็เพราะการสนบั สนุนของพวกเขาที-จะมอบ ใหก้ บั อะลีโดยเฉพาะ นอกเหนือจากผคู้ นเหล่าน@ีแลว้ ก็มี สะอดั อิบนิ อุบา ดะฮ์ ที-ต่อตา้ นอบบู กั ร เน-ืองจากตวั เขาเป็ นคู่แข่งขนั คนหน-ึง... จะมีใครหรือท-ี เช-ือวา่ คนใดคนหน-ึงของบุคคลท@งั หมดขา้ งตน้ ไดเ้ หินห่างออกจากการ ศรัทธาในอิสลาม? หรือวา่ พวกเขาไดก้ ลายเป็นคนตกศาสนา? เหล่าน@ีคือ ผทู้ ี- ต่อตา้ นอยใู่ นนครมะดีนะฮ์ บดั น@ีเราขออา้ งอิงไปยงั บรรดาผคู้ นที-อยนู่ อกนคร มะดีนะฮ์ บางคนถูกสงั หาร เพราะพวกเขาต่อตา้ นรัฐบาล ยกตวั อยา่ งเช่น มา ลิก อิบนิ นุวยั รอฮ์ ซ-ึงซยั ฟ์ ไดเ้ รียกเขาวา่ เป็นคนตกศาสนา การต่อสู้กบั พวก เขา จึงถูกซยั ฟ์ เรียกวา่ เป็นการทาํ สงครามศาสนากบั พวกนอกคอกท-ีตก ศาสนาไปแลว้ 116

สรุป ซยั ฟ์ ไดต้ บแต่งประวตั ิศาสตร์อิสลามอยา่ งเชี-ยวชาญยงิ- ในเรื-องราวท-ีเป็น นิยายต่างๆ ของเขา ถึงกบั วา่ นกั ประวตั ิศาสตร์ นกั โบราณคดี และถึงแมก้ บั โลกมุสลิมเอง ไดย้ อมรับในวรี บุรุษที-เขาจิตนาการข@ึนไวใ้ นหนงั สือของ ตวั เองวา่ เป็ นซอฮาบะฮ์ (สาวกของศาสดา) และเป็นบุคคลท-ีมีอยใู่ นอิสลาม จริงๆ เราเช-ือวา่ ถึงเวลาแลว้ ที-จะไดเ้ ปิ ดเผยดว้ ยการคน้ ควา้ และการวจิ ารณ์ถึง ความเป็นจริงที-เกี-ยวกบั ประวตั ิศาสตร์ของอิสลาม และแนะนาํ ศาสดาแห่ง อิสลามผสู้ ูงส่งและครอบครัวอนั มีเกียรติของท่านใหก้ บั โลก ในสีสันที-เป็น ของจริงแทข้ องมนั มากกวา่ ท-ีปกป้ องเร-ืองเล่าต่างๆ ของซยั ฟ์ ท-ีอาศยั ชื-อของ อิสลาม 3. ริดดะฮ์ (นอกรีต) คู่ต่อสู้ของอบบู กั รที-อยนู่ อกเมืองหลวงถูกเรียกวา่ เป็ นพวก “นอกรีต” และการทาํ สงครามต่อตา้ นพวกเขา ถูกอาํ พรางวา่ เป็นสงครามศาสนา คาํ วา่ นอกรีตในอิสลาม คาํ วา่ นอกรีตมาจากคาํ วา่ “อิรติดาด” ในภาษาอาหรับซ-ึงหมายถึง “หนั กลบั ” อลั กุรอาน กล่าวไวว้ า่ “เมื-อผทู้ าํ หนา้ ที-แจง้ ข่าวดีวางเส@ือของยซู ุฟล งต่อหนา้ ยะอก์ บู สายตาของเขาก็กลบั คือ (อิรตดั ดดั ) มายงั เขา” คาํ วา่ “ริด ดะฮ”์ ถูกใชใ้ นอลั กุรอาน อีกเช่นกนั ท-ีใหห้ มายถึง “การหนั กลบั ออกไป จากศาสนา” ดงั ปรากฏอยใู่ นโองการดงั ต่อไปน@ี “โอบ้ รรดาผศู้ รัทธาหาก พวกเจา้ เชื-อฟังคนกลุ่มหน-ึง ท-ีคมั ภีร์ไดถ้ ูกประทานมาใหก้ บั พวกเขาก่อน หนา้ น@ี พวกเขาก็จะหนั เหพวกเจา้ (ยะรุดดูกมุ ) ใหเ้ ป็ นผปู้ ฏิเสธภายหลงั จาก ศรัทธาของเจา้ ” 117

ในโองการน@ีไดก้ ล่าวไวอ้ ีกคร@ังหน-ึงวา่ “โอบ้ รรดาผศู้ รัทธาถา้ หากคนใด คนหน-ึงของพวกเจา้ หนั (ยรั ตดั ดุ) ออกไปจากศาสนาของเขาแลว้ พระเจา้ ก็ จะทรงนาํ ผคู้ นที-พระองคท์ รงรักพวกเขา และพวกเขาก็รักพระองคอ์ อกมา พวกเขาท@งั หลายซ-ือตรงต่อบรรดาผศู้ รัทธา และเขม้ งวดกบั บรรดาผปู้ ฏิเสธ” เราไดอ้ ่านพบในอลั กรุ อานอีกวา่ “พวกเขาจะยงั คงสู้รบกบั พวกเจา้ จนกวา่ จะ หนั เหพวกเจา้ (ยะรุดดูกมุ ) ออกไปจากศาสนาของพวกเจา้ หากพวกเขา สามารถ และถา้ หากพวกเจา้ หนั เหออกจากศาสนาของพวกเจา้ และจากน@นั ก็ ตายลง กิจการงานของพวกเจา้ ก็จะมลายสิ@น” แต่คาํ วา่ “อิรติดดาด” ได้ ถูกผนวกใหห้ มายถึงการตกศาสนาอยบู่ ่อยๆ จนกระทงั- คาํ น@ีไม่มีความหมาย เป็นอื-น นอกจากจะหมายถึงนอกรีตหรือการตกศาสนา โดยจะผดุ ข@ึนใน จิตใจในทุกคร@ังท-ีมนั ถูกใช้ (ความหมายตามนยั ) การตกศาสนาในสมยั ของท่านศาสดา เช่น มีมุสลิมบางคนหนั เหห่างออกจากอิสลามในสมยั ของท่านศาสดา อบั ดุลลอฮ์ อิบนิ อบีซรั ฮ์ เป็นตน้ อบั ดุลลอฮ์ เป็นอาลกั ษณ์คนหน-ึงของอลั กุรอานท-ี “ถูกดล” ลงมาเขา หนีจากนครมะดีนะฮก์ ลบั ไปยงั นครมกั กะฮ์ เขาชอบบอกกบั พวกกเุ รชวา่ เขา ไดเ้ ขียนคาํ อื-นที-แตกต่างจากคาํ ที-มุฮมั มดั ไดบ้ อกใหจ้ ดลงไป ยกตวั อยา่ งเช่น เม-ือมุฮมั มดั กล่าววา่ “พระเจา้ ทรงรอบรู้และทรงปรีชาญาณยงิ- ” อบั ดุลลอฮ์ ถามวา่ เขาจะเขียนดงั วา่ “พระเจา้ ทรงมหิทธาณุภาพและทรงปรีชาญาณจะได้ ไหม” มุฮมั มดั จะกล่าววา่ “น@นั ก็ใชไ้ ดเ้ ช่นเดียวกนั ” ในวนั ที-ท่านเขา้ พิชิตมกั กะฮ์ มุฮมั มดั กล่าววา่ “เลือดของอบั ดุลลอฮไ์ ม่มีค่าอนั ใด และถึงแม้ เขาจะเขา้ ไปหลบภยั อยทู่ -ีอลั กะอบ์ ะฮ์ เขาก็จะตอ้ งถูกสงั หาร” อุศมานนาํ ตวั เขาไปซ่อนไว้ และต่อมาไดน้ าํ เขามาหาท่านศาสดาเพือ- ขอการอภยั โทษ ซ-ึงก็ไดร้ ับอนุมตั ิ 118

คนนอกรีตอีกคนหน-ึงก็คือ อุบยั ดุลลอฮ์ อิบนิ ญะฮชั สามีของอุมมะ ฮะ บีบะฮ์ ซ-ึงอพยพไปยงั เอธิโอเปี ย เขาไดเ้ ปลี-ยนไปเขา้ รับคริสตศ์ าสนาและ เสียชีวติ ในฐานะคริสเตียน อบั ดุลลอฮ์ อิบนิ คอฎอล เป็ นคนนอกรีตอีกคน หน-ึงที-ถูกฆาตกรรม ขณะที-กาํ ลงั เหนี-ยวผา้ คลุมกะอบ์ ะฮอ์ นั ศกั ดmิสิทธmิอยู่ เพ-ือ หาที-หลบภยั การตกศาสนาในสมยั ของอบูบกั ร ข่าวอนั สะเทือนใจของการเสียชีวติ ของท่านศาสดา ไดแ้ พร่กระจาย ออกไปอยา่ งรวดเร็วทวั- ดินแดนแห่งคาบสมุทรอาหรับ บรรดาเผา่ ท-ียงั ไม่ได้ เขา้ รับอิสลามจนถึงขณะน@นั ต่างมีความยนิ ดีปรีดา และคงดาํ เนินกิจกรรมใน การต่อตา้ นอิสลามต่อไป เผา่ ต่างๆท-ีเป็นมุสลิมก็รู้สึกระส-าํ ระสายเช่นกนั เพราะพวกเขาไดย้ นิ วา่ จากการจบั กลุ่มทางการเมือง สาวกบางคนของท่าน ศาสดากาํ ลงั ต่อสู้กนั และกนั เพือ- ตาํ แหน่งคอลีฟะฮ์ การไม่เห็นพอ้ งดว้ ยของ ญาติของท่านศาสดาจากสายบนูฮาชิมและการต่อตา้ นของสะอดั หวั หนา้ เผา่ คอซรอจต่ออบบู กั ร ในฐานะ คอลีฟะฮน์ @นั ทาํ ใหเ้ ผา่ มุสลิมบางเผา่ สงสัยใน ตาํ แหน่งคอลีฟะฮน์ @ี พวกเขาไม่ไดป้ ฏิเสธการศรัทธาหรือก็ไม่ไดล้ ะทิ@งการ นมาซของพวกเขา หรือคดั คา้ นต่อการจ่ายภาษีซะกาต พวกเขาเพยี งแต่ ปฏิเสธที-จะไม่จ่ายภาษีที-กาํ หนดใหร้ ัฐบาลของอบูบกั ร พวกต่อตา้ นเหล่าน@ีถูกเรียกวา่ เป็นพวก “นอกรีต” และพวกเขาจะตอ้ ง ถูกกาํ จดั ใหห้ มดไปดว้ ยสงครามที-พรางตาไวด้ ว้ ยกบั คาํ วา่ ศกั ดmิสิทธmิ หลงั จาก คู่ต่อสู้ของพวกเขาท-ีเป็นมุสลิมถูกทาํ ลายลา้ งลงแลว้ รัฐบาลจึงเขา้ ต่อสู้กบั เผา่ ท-ีเป็นพวกกราบไหวเ้ จวด็ และพวกศาสดาจอมปลอมและองคก์ รของพวก เขา ในที-สุดกองทหารจึงถูกส่งออกไปนอกแผน่ ดินอาหรับ สงครามท@งั หมด ที-กระทาํ ในสมยั อบบู กั ร จึงถูกเรียกวา่ ริดดะฮ์ (สงครามต่อตา้ นพวกนอก 119

รีต) ฉะน@นั คู่ต่อสู้ท-ีเป็นมุสลิมของอบบู กั รที-อยนู่ อกเมืองมะดีนะฮ์ จึงถูกเรียก ขานวา่ “มุรตดั ดีน” (พวกนอกรีต) ดร. ฮาซนั อิบรอฮีมไดส้ นบั สนุนความคิดน@ีไวใ้ นหนงั สือของเขาช-ือ ประวตั ิศาสตร์การเมืองอิสลาม หนา้ 251 ดงั ความวา่ “ภายหลงั จากที-ท่าน ศาสดาเสียชีวติ และเป็นที-ยนื ยนั เรียบร้อยแลว้ มีมุสลิมบางคนลงั เลใจในสจั ธรรมแห่งอิสลาม และบางคนมีความหวนั- เกรงวา่ ชาวกุเรช หรือจริงๆแลว้ เผา่ ใดก็ได้ อาจสามารถเขา้ มามีอาํ นาจและต@งั รัฐเผด็จการรัฐหน-ึงข@ึนมา พวกเขา ตระหนกั ดีวา่ เฉพาะท่านศาสดาเท่าน@นั ท-ีปราศจากบาปและบุคคลอ-ืนๆ ที-จะ มาน@นั เป็นผสู้ ืบแทนตาํ แหน่งท่าน ยอ่ มไม่มีคุณลกั ษณะเช่นน@นั ที-จะทาํ ให้ เขาดูแคลนทุกคนใหเ้ ท่าเทียมกนั ดงั เช่นฟันของหวี เพราะฉะน@นั พวกเขา สงสยั วา่ หากผสู้ ืบแทนตาํ แหน่งของท่านศาสดาคนน@นั ลาํ เอียงไปสู่ ความชอบพอใจในครอบครัวและเผา่ พนั ธุ์ของตนเอง และดูถูกเผา่ อื-นๆ มนั ก็ เป็นการทาํ ลายสังคมและความยตุ ิธรรมของอิสลาม เราคาดเดาเช่นน@ี เพราะเราเห็นวา่ ภายหลงั จากท่านศาสดาแลว้ อาหรับแต่ ละกลุ่มต่างสนบั สนุนครอบครัวแห่งเผา่ ของตนอยา่ งเห็นแก่ตวั และแนวทาง อนั เป็ นธรรมชาติดงั- เดิมของอาหรับก็ไดห้ วนกลบั มาอีก ในนครมะดีนะฮ์ ชาวอนั ศอร(ผชู้ ่วยเหลือ) มีความหวนั- เกรงวา่ ชาวมุฮาญิรีน(ผอู้ พยพ) และชาว กเุ รชจะมีอาํ นาจ กลุ่มท@งั สองน@ีต่างมีความไม่ไวว้ างใจต่อกนั ชาวอนั ศอร ตอ้ งการรัฐบาลผสม ชาวมุฮาญิรีนตอ้ งการหวั หนา้ มาจากฝ่ ายตนและผชู้ ่วย หวั หนา้ มาจากชาวอนั ศอร เอาส์และคอซรอจซ-ึงเป็นสองเผา่ ยอ่ ยของชาวอนั ศอรหกั หลงั กนั เองในระหวา่ งการเลือกต@งั คอลีฟะฮ”์ “มกั กะฮก์ ็ไม่ดีไปกวา่ มะดีนะฮ์ เพราะการเลือกต@งั ไดก้ ่อใหเ้ กิดความ ขดั แยง้ ทางเผา่ พนั ธุ์ข@ึนที-นน-ั เช่นกนั บนูฮาชิมไม่เห็นดว้ ยกบั อบบู กั รที-เป็น 120

คอลีฟะฮ์ อะลีปฏิเสธที-จะสนบั สนุนอบบู กั ร และอบูซุฟยานพยายาม ชกั ชวนอะลีใหย้ ดึ อาํ นาจ” “ในท-ีสุดชาวมุฮาญิรีนชาวอนั ศอรและชาวกุเรช ผซู้ -ึงลว้ นเป็นผบู้ ุกเบิก อิสลาม และเป็นผสู้ นบั สนุนอิสลาม และญาติของท่านศาสดาไม่สามารถ รวมตวั กนั เพ-อื การจดั ต@งั รัฐบาลไดด้ ว้ ยวธิ ีสนั ติ ท@งั น@ีจึงเป็ นเหตุใหอ้ าหรับเผา่ อ-ืนๆ ไดเ้ ห็นถึงความจริง และในท-ีสุดพวกเขาจึงหมดหวงั ท-ีจะไดอ้ อกเสียง หรือมีโอกาสใดๆในคณะรัฐบาล ฉะน@นั ส่วนใหญ่ของพวกเขาจึงคดั คา้ น อบู บกั รท-ีเป็นคอลีฟะฮ์ และปฏิเสธที-จะจ่ายภาษีศาสนาใหเ้ ขา นกั วชิ าการ ต่างชาติถึงถือเรื-องน@ีวา่ เป็ นการกระทาํ นอกรีต และเป็นหลกั ฐานของการเผย แผอ่ ิสลามดว้ ยการใชด้ าบในดินแดนอาหรับ แต่การเขา้ ใจเช่นน@ีเป็นเรื-องไม่ ถูกตอ้ ง เพราะบรรดาผคู้ นที- อบบู กั ร สู้รบในฐานะพวกนอกรีตน@นั ยงั คง ซื-อสตั ยต์ ่ออิสลามอย”ู่ พวกเขามีดว้ ยกนั สองกลุ่ม 1) กลุ่มหน-ึงผซู้ -ึงเชื-อวา่ ภาษีศาสนาเป็นภาษีของท่านศาสดา และภายหลงั จากที-ท่านเสียชีวติ แลว้ ยอ่ มไม่มีผใู้ ดจะมีสิทธmิมาขอเก็บได้ ฉะน@นั พวกเขาจึง ปฏิเสธท-ีจะจ่ายมนั ใหก้ บั อบูบกั ร และดว้ ยเหตุน@ีเขาจึงสู้รบกบั คนพวกน@ี อุมรั ไดม้ าขอ้ ร้องในนามผคู้ นเหล่าน@นั ดว้ ยการกล่าววา่ “ท่านศาสดากล่าววา่ ฉนั ต่อสู้กบั ผคู้ นจนกวา่ พวกเขาจะศรัทธาในพระเจา้ องคเ์ ดียว และผใู้ ดก็ตามท-ี ศรัทธาในพระเจา้ เลือดของเขาและทรัพยส์ ินของเขายอ่ มไดร้ ับการคุม้ ครอง” 2) อีกกลุ่มหน-ึงคือ ผทู้ -ีไม่ศรัทธาในศาสนา “จริงๆ แลว้ พวกเขาไม่ใช่ มุสลิม รัฐอิสลามในสมยั ของอบูบกั ร ห่วงอยกู่ ็เฉพาะเรื-องการจดั การตดั สิน ประหารชีวติ เท่าน@นั และไม่ใยดีกบั พวกนอกรีตท-ีกลบั เขา้ มารับอิสลาม” 121

ถึงกระน@นั ดงั ท-ี ดร.ฮาซนั อิบรอฮีมไดช้ @ีแนะไวว้ า่ ตามหลกั การอิสลาม แลว้ “พวกนอกรีตคนใดตอ้ งมีเวลาสามวนั เพื-อถกเถียงทศั นะของเขากบั เจา้ หนา้ ที-ในทางศาสนา ฉะน@นั จงอนุญาตให้ขอ้ กล่าวหาไดร้ ับการพิสูจน์ ก่อนท-ีเขาจะถูกลงโทษ และเขาผทู้ ี-ไดร้ ับความปลอดภยั ก็ไดร้ ับดว้ ยการ พสิ ูจน์” เพือ- เป็นการทาํ เร-ืองน@ีใหก้ ระจ่าง เราขออา้ งอิงไปยงั ทศั นะของ ผนู้ าํ ทางสายซุนนี อิมามอบูฮะนีฟะฮ์ กล่าววา่ “ช่วงเวลาท-ีนอ้ ยท-ีสุดที-จะ อนุญาตใหบ้ ุคคลหน-ึงตดั สินใจน@นั มีเวลาสามวนั ถา้ หากพวกนอกรีตตอ้ งการ ขอเวลาผอ่ นผนั จงใหเ้ ขาสามวนั เพอื- วจิ ารณ์กนั ในความเชื-อน@นั ” อิมามมา ลิกกล่าววา่ “พวกนอกรีตไม่วา่ จะเป็นทาสหรือเป็ นไท ชายหรือหญิง จงให้ เวลาเขาสามวนั นบั จากวนั ท-ีเขาเป็นคนนอกรีต เขายอ่ มไดร้ ับอาหารและ จะตอ้ งไม่ไดร้ ับการทรมาน” อิมามชาฟิ อีกล่าววา่ “พวกนอกรีตไม่วา่ จะเป็ นชายหรือเป็นหญิงจะตอ้ ง ไดร้ ับการเคารพ เพราะเขาไม่วา่ ชายหรือหญิงเคยเป็นมุสลิมมาก่อนบา้ งแลว้ บางคนบอกวา่ ใหเ้ วลาผอ่ นผนั แก่เขาท@งั ชายหรือหญิงสามวนั ” อิมาม ฮมั บาลีกล่าววา่ “พวกนอกรีตไม่วา่ ชายหรือหญิง หากไม่เสียสติจะตอ้ งเชิญชวน สู่อิสลามก่อนเป็นเวลาสามวนั ” “หากวา่ กนั ตามทศั นะขา้ งตน้ ดว้ ยแลว้ ยอ่ มเป็นเร-ืองไม่ถูกตอ้ งท-ีจะ กล่าววา่ มุสลิมคนหน-ึงไดป้ ฏิเสธการศรัทธาของเขา ดว้ ยเพยี งการคาดเดาเอา เอง นอกจากวา่ มุสลิมท@งั หลายต่างพากนั กล่าววา่ เขาเป็นคนนอกรีต นกั วชิ าการมุสลิมไดก้ ล่าวไวว้ า่ ถา้ หากชายคนหน-ึงเป็นมุสลิมอยเู่ พยี งหน-ึง ในร้อย มนั ยอ่ มเป็นการไม่ถูกตอ้ ง ที-จะยดึ ถือวา่ ชายคนน@นั เป็ นคนนอกรีต นอกจากตอ้ งพิสูจน์วา่ เขาเป็ นคนเช่นน@นั ” นี-คือคาํ กล่าวสุดทา้ ยของ ดร. ฮาซนั อิบรอฮีม ท-ีกล่าวไวใ้ นหนงั สือประวตั ิศาสตร์การเมืองอิสลาม อิบนิกะ ซีร กล่าวไวใ้ นหนงั สือของเขาชื-อ อลั บิดายะฮ์ วะอนั นิฮายะฮ์ เล่ม 6 หนา้ 122

311 ดงั มีความวา่ “นกั เล่าวจนะทุกคนลว้ นบนั ทึกไว้ จะยกเวน้ ก็เฉพาะอิบนิ มาญะฮค์ นเดียว ดงั วา่ ตามรายงานของอบูฮุรอยเราะฮน์ @นั อุมรั คดั คา้ นอบูบกั รที-สู้รบกบั ผคู้ นโดยกล่าวไวว้ า่ ท่านศาสดาปกป้ อง ชีวติ และทรัพยส์ ินของใครก็ตามที-ปฏิญาณถึงความเป็ นหน-ึงเดียวของพระ เจา้ และการเป็ นศาสนทูตของมุฮมั มดั นอกเสียจากวา่ เขาถูกพบวา่ ไดก้ ระทาํ ผดิ อบูบกั รกล่าวตอบวา่ ขอสาบานต่อพระเจา้ ฉนั จะต่อสู้กบั บรรดาผทู้ -ีไม่ จ่ายซะกาตใหก้ บั ฉนั ซ-ึงไดเ้ คยจ่ายใหก้ บั ท่านศาสานทูตของพระเจา้ ไม่วา่ จะ เป็นอูฐสกั ตวั หน-ึงหรือเชือกผกู เทา้ อฐู สกั เส้นหน-ึง ขอสาบานต่อพระเจา้ ฉนั จะต่อสู้กบั ใครก็ตามผซู้ -ึงทาํ ใหเ้ กิดการแตกต่างกนั ระหวา่ งการจ่ายภาษี ศาสนากบั การนมาซ ฉนั จะต่อสู้จนกวา่ พวกเขาจ่ายภาษีศาสนาใหก้ บั ฉนั ซ-ึง เขาไดเ้ คยใหก้ บั ท่านศาสดา” อุมรั กล่าววา่ “เม-ือฉนั ไดเ้ ห็นความต@งั ใจ ของอบูบกั รท-ีจะต่อสู้ ฉนั จึงมาเขา้ ใจไดว้ า่ เขาเป็นฝ่ ายถูก” ตามรายงานของฏอบารี (เล่ม 2 หนา้ 474) กล่าวไวว้ า่ พวกนอกรีตไดเ้ ขา้ พบอบบู กั รเป็ นกลุ่มๆ พวกเขายนื ยนั ในเร-ืองการนมาซ แต่ยบั ย@งั การจ่ายภาษี ศาสนา (ซะกาต) อบูบกั รไม่ยอมรับความคิดเห็นของพวกเขา และใหพ้ วกเขา กลบั ไป อิบนิ กะซีรกล่าวไวใ้ น อลั บิดายะฮ์ วะอนั นิฮายะฮ์ เล่ม 6 หนา้ 311 ดงั วา่ อาหรับเป็นกลุ่มๆ เดินทางมาท-ีมะดีนะฮ์ พวกเขายอมรับการนมาซแต่ ปฏิเสธการจ่ายภาษีศาสนา มีบางคนที-ไม่ตอ้ งการจ่ายภาษีศาสนาใหก้ บั อ บูบกั ร บางคนของพวกเขาอ่านบทกลอนดงั ต่อไปน@ี เมื-อศาสดา ยงั อยู่ ในหมู่เรา ทุกคนเฝ้ า เคารพรัก ภกั ดีท่าน 123

คร@ันอบูบกั ร ปกครอง ไดไ้ ม่นาน มีเหตุการณ์ ไม่ธรรมดา พาวุน่ วาย จนทาํ ให้ พวกเรา ตอ้ งหลงั หกั เราจะยนื ปักหลกั แมเ้ ขาหมาย ใหล้ ูกชาย สืบต่อ ยามพอ่ ดบั ในฏอบารี (เล่ม 2 หนา้ 48) ซยั ฟ์ ไดบ้ นั ทึกมาจากอบมู กั นฟั วา่ ทหารมา้ ของเผา่ ตยั ไดแ้ สดงทศั นะต่อทหารมา้ ของเผา่ อะซดั และฟะซาริอฮ์ เม-ือพวก เขาข-ีมา้ สวนทางกนั แต่ก็ไม่มีการสู้รบกนั แต่คนของเผา่ อะซดั และฟะซาริอฮ์ เคยกล่าวไวว้ า่ “เราจะไม่ยอมเห็นดว้ ยกบั อบูล ฟะซีล” (ช-ือเล่นของ อบู บกั ร) หมายความวา่ พอ่ ลูกอูฐ ทหารมา้ ของเผา่ ตยั จะกล่าวตอบโตว้ า่ “เราเชื-อ แน่วา่ พวกเจา้ จะตอ้ งเห็นดว้ ยกบั อบุลฟะฮล์ ิ อกั บรั ” (หมายถึงพอ่ ของอูฐ ตวั ใหญ่ ผยู้ งิ- ใหญ่) จากเรื-องราวขา้ งตน้ จึงยอ่ มเป็นที-เขา้ ใจไดว้ า่ การเป็นคนนอกรีตในสมยั อ บบู กั รน@นั ไม่ไดเ้ ป็นการปฏิเสธการศรัทธา แต่เป็นการงดเวน้ จากการจ่าย ภาษีศาสนาใหก้ บั อบบู กั ร เนื-องแต่ฝ่ ายแพน้ @นั เป็ นพวก เบดูอินและพวกป่ า เถื-อน พวกเขาไม่มีโอกาสท-ีไดป้ กครอง แต่คู่ต่อสู้ของพวกเขาซ-ึงเป็น ผปู้ กครองอยใู่ นขณะน@นั มีอาํ นาจอยใู่ นมือเป็นเวลานาน รวมท@งั ระยะเวลาที- ประวตั ิศาสตร์ในช่วงน@ีไดถ้ ูกเขียนข@ึนไวก้ ็ตาม ถึงแมว้ า่ ประวตั ิศาสตร์ของ เหตุการณ์น@ีก็เช่นกนั ซ-ึงตกทอดมาถึงเรา ก็ไดถ้ ูกบนั ทึกไวโ้ ดยผมู้ ีอาํ นาจของ พวกเขา มนั ข@ึนอยกู่ บั เราท-ีจะสอบสวนถึงความจริงของเร-ืองต่างๆ เหล่าน@นั ท-ีเขียนถึงผคู้ นที-พา่ ยแพเ้ หล่าน@นั 124

ฏอบารีเขียนไวใ้ นหนงั สือของเขา (เล่มที- 6 หนา้ 461) ซ-ึงบนั ทึกไวโ้ ดย ซยั ฟ์ ดงั วา่ อาหรับปฏิเสธศาสนาของพวกเขา ภายหลงั จาก อบบู กั รไดเ้ ป็น คอลีฟะฮแ์ ลว้ การตกศาสนานบั เป็นสิ-งปกติธรรมดาของช่วงเวลาน@นั แต่ทวา่ มีเผา่ ต่างๆที-มีบางส่วนเท่าน@นั ที-ไดก้ ระทาํ นอกรีต มีเพียงเผา่ กเุ รชและเผา่ ซะกีฟเท่าน@นั ที-ยงั คงความศรัทธาของพวกเอาไว้ ซยั ฟ์ ไดล้ @าํ หนา้ อนั ตารอฮ์ อิบนิ ชดั ดาด และนกั เขียนนวนิยายคนอ-ืนๆ ในดา้ นการจินตนาการ วรี บุรุษในเรื-องเล่าของซยั ฟ์ เดินบนน@าํ โดยเทา้ ของ พวกเขาไม่เปี ยกน@าํ เลย พวกเขาสนทนากบั สตั วป์ ่ า และทูตสวรรคม์ าเสวนา กบั พวกเขา พวกเขาทาํ ใหน้ @าํ พุข@ึนมาจากกอ้ นหินในทะเลทราย ยงิ- ไปกวา่ น@นั ซยั ฟ์ ไดเ้ ล่าเร-ืองราวของเขา ในวธิ ีการท-ีวา่ เพื-อเป็นการเอาใจบรรดาผปู้ กครอง ในขณะน@นั และเป็ นการปิ ดบงั ความจริงที-วา่ พวกเขาไม่ไดม้ ีช-ือเสียงอะไร เลย เพ-ือเป็นการแสดงใหเ้ ห็นวา่ ซยั ฟ์ ไดเ้ ขียนเรื-องเล่าต่างๆ ของเขาอยา่ งไร เราจึงจะขอนาํ บางเร-ืองจากหนงั สือของเขาที-ช-ือ อลั ฟุตูฮ์ วลั ริดดะฮ์ มา แสดงไว้ ดงั ท-ีบนั ทึกไวใ้ นหนงั สือของฏอบารี 4. มาลิก อิบนิ นุวยั รอฮ์ ชายคนน@ีเป็นสมาชิกของเผา่ ยรั บูอ์ ของเผา่ ตะมีม เขาเป็นท-ีรู้จกั กนั ใน นาม อบู ฮนั ซะละฮ์ และชื-อเล่นของเขาก็คือญาฟุล มรั ซะบานี ไดบ้ นั ทึกไวว้ า่ มาลิก อิบนิ นุวยั รอฮ์ เป็นกวที ี-มีความรู้และ เป็นทหารมา้ ที-มีชื-อเสียงโด่งดงั ในเผา่ ของเขา หลงั จากเขา้ รับอิสลามท่าน ศาสดาไดแ้ ต่งต@งั ให้เขาเป็ นเจา้ หนา้ ท-ีเก็บภาษีศาสนาในตระกลู ของเขา เม-ือ ศาสดาเสียชีวติ แลว้ มาลิกจึงไม่ไดส้ ่งมอบภาษีศาสนาที-เก็บมาส่งใหก้ บั รัฐบาล แต่ไดแ้ บ่งใหก้ บั คนยากจนในตระกลู ของเขา เขาเคยกล่าวไวว้ า่ 125

เงินที-ท่าน ใหม้ า ฉนั จะคืน ปัญหาอื-น ต-ืนวนั พรุ่ง ยงุ่ ไม่ห่วง บางคนสู้ เพ-ืออิสลาม จนชีพร่วง เราท@งั ปวง ควรภกั ดี ต่อรัฐน@นั ฏอบารีในเล่ม 2 หนา้ 503 ไดบ้ นั ทึกเร-ืองราวจากอบั ดุรเราะฮม์ าน อิบนิ อบบู กั ร ไวด้ งั ต่อไปน@ี “เมื-อกองทพั ของคอลิดเดินทางไปถึงบตั ตอฮ์ เขาส่ง ทหารกลุ่มหน-ึงภายใตก้ ารบงั คบั บญั ชาของฎิรอร อิบนิ อซั วรั เพอื- ไปโจมตี เผา่ ของมาลิกในตอนกลางคืน อบกู อตาดะฮ์ สมาชิกคนหน-ึงของกองทหาร น@นั ไดก้ ล่าวไวใ้ นภายหลงั วา่ “เม-ือเราไดล้ อบเขา้ โจมตีเผา่ ของมาลิกโดยไม่ รู้ตวั ในคืนน@นั เราไดท้ าํ ใหพ้ วกเขาตระหนกตกใจ พวกเขารีบสวมเส@ือเกราะ ในทนั ที และประกาศวา่ พวกเขาเป็นมุสลิม ผบู้ งั คบั กองถามพวกเขาวา่ ทาํ ไม ถึงตอ้ งติดอาวธุ ดว้ ย และพวกเขาก็ไดถ้ ามกลบั มาในทาํ นองเดียวกนั เราได้ ขอใหพ้ วกเขาวางอาวธุ หากพวกเขาเป็นมุสลิม และพวกเขาก็ไดท้ าํ เช่นน@นั จากน@นั เราไดท้ าํ นมาซ พวกเขาก็ทาํ เช่นเดียวกนั ” อิบนิ อบิล ฮะดีด ไดก้ ล่าวไวใ้ นหนงั สือของเขาวา่ “เม-ือพวกเขาไดว้ าง อาวธุ แลว้ ทหารไดเ้ ขา้ มาใส่กุญแจมือพวกเขาและพาไปหาคอลิด” ใน หนงั สือ กนั ซุล อุมมาล เล่ม 3 หนา้ 132 และในหนงั สือยะอก์ บู ี เล่ม 2 หนา้ 110 ไดบ้ นั ทึกเร-ืองราวขา้ งตน้ ไวด้ งั น@ีคือ “มาลิก อิบนินุวยั รอฮพ์ ร้อมกบั ภรรยาของเขามาหาคอลิด เม-ือคอลิดเห็นหนา้ นางจึงรู้สึกหลงรักนางและ กล่าวกบั สามีของนางวา่ เจา้ จะไม่ไดก้ ลบั บา้ น ขอสาบานต่อพระเจา้ ฉนั จะ สงั หารเจา้ ” ในหนงั สือ กนั ซุล อุมมาล เล่ม 3 หนา้ 132 เขียนไวว้ า่ คอลิดกล่าวหามาลิ กวา่ เป็นคนนอกรีต ซ-ึงมาลิกเองปฏิเสธและอบั ดุลลอฮ์ อิบนิ อุมรั และอบกู อ 126

ตาดะฮไ์ ดเ้ ขามาโตแ้ ยง้ แทนมาลิก แต่คอลิดกลบั ออกคาํ สั-งให้ ฎิรอร อิบนิ อซั วรั ตดั ศีรษะของเขาสีย จากน@นั คอลิดไดย้ ดึ เอา อุมมุตะมีม ภรรยาของเขา มาเป็ นภรรยาของตน ในหนงั สือ อะบุลฟิ ดาอ์ หนา้ 158 และใน อลั วะฟะยาต ไดบ้ นั ทึกไวว้ า่ อบั ดุลลอฮ์ อิบนิ อุมรั พยายามพดู กบั คอลิดในเร-ืองราวของมาลิกแต่ไม่เป็น ผล และมาลิกขอร้องใหส้ ่งตวั เขาไปยงั อบบู กั รเพือ- การตดั สิน คอลิดกล่าววา่ “พระเจา้ จะไม่อภยั โทษใหก้ บั เจา้ ถึงแมฉ้ นั จะอภยั โทษใหก้ บั เจา้ ก็ตาม” และเขาไดส้ ั-งใหฎ้ ิรอรตดั ศีรษะของเขา มาลิกมองดูภรรยาพร้อมกบั กล่าววา่ “เธอเป็นเหตุใหฉ้ นั ตอ้ งถูกฆ่า” คอลิดกล่าววา่ “พระเจา้ ไดท้ าํ ใหเ้ จา้ ตอ้ ง ตาย เพราะการเป็ นคนนอกรีตของเจา้ ” มาลิก กล่าววา่ “ขอสาบานต่อพระ เจา้ ฉนั เป็นมุสลิม และฉนั ศรัทธาในอิสลาม” แต่คอลิดก็ยงั สั-งให้ ฎิรอร ตดั ศีรษะของเขา ไดม้ ีบนั ทึกอยใู่ น อลั อิซอบะฮ์ เล่ม 3 หนา้ 337 ดงั วา่ ซาบติ อิบนิ กอเซ็ม ไดเ้ ขียนไวใ้ น อลั ลาอิล วา่ คอลิดหลงรักภรรยาของมาลิก เม-ือเห็นเธอในคร@ัง แรก เพราะนางเป็ นผหู้ ญิงที-มีความสวยงามมาก มาลิก กล่าวกบั ภรรยาของ เขาวา่ “เธอไดฆ้ ่าฉนั แลว้ ” ไดม้ ีบนั ทึกไวใ้ นหนงั สือ อลั อิซอบะฮ์ วา่ ซุเบร อิบนิ บกั การ ซ-ึงบนั ทึก มาจากอิบนิชะฮาบวา่ คอลิดสั-งใหเ้ อาศีรษะของมาลิกมาใชเ้ ป็นเช@ือเพลิง สาํ หรับทาํ อาหาร แต่ก่อนที-ไฟจะลามไปถึงหนงั ศีรษะของ มาลิก อาหารก็ สุกพอดี เพราะมาลิกมีผมดก ในคืนเดียวกนั น@นั คอลิดไดแ้ ต่งงานกบั ภรรยา ของมาลิกผถู้ ูกสงั หาร อบู นามีร ซะอด์ ี ไดแ้ ต่งบทกลอน ไวด้ งั ต่อไปน@ี ทหารมา้ ควบมา ฝ่ าความมืด 127

เขา้ ตียดึ พวกเรา ยามราตรี รู้หรือไม่ รุ่งอรุณ เราลาที คอลิดมี ใจคดเค@ียว ฆ่ามาลิก หญิงของเจา้ เขา้ ดวงจิต คิดจะกอด คอลิดไม่ ปลอดตณั หา ใจระริก จิตน@ีช่าง อ่อนแอ ไม่หลบหลีก ไม่ยอมปลีก จากบาป ไม่ทราบธรรม ความมืดมิด มลายไป ฟ้ าใสสด เศร้าสลด สามีนาง เขากระทาํ ตดั หวั เขา ฆ่าทิ@ง ยงั ไม่หนาํ ข่มขืนซ@าํ คามือ ของคอลิด มีบนั ทึกอยใู่ นหนงั สือ อิซอบะฮ์ วา่ มินฮาล ไดเ้ ห็นร่างไร้ศีรษะของมาลิก และไดน้ าํ เส@ือของตนชุดหน-ึงมาห่อศพเขาไว้ นนั- คือเรื-องราวของมาลิก ต่อไปขอใหเ้ ราคน้ ควา้ ดูซิวา่ รัฐบาลมีปฏิกิริยาอยา่ งไร ต่อการกระทาํ ของนาย พลของเขา ยะอก์ บู ี ไดบ้ นั ทึกไวว้ า่ อบูกอตาดะฮ์ ไดร้ ายงานเหตุการณ์ใหอ้ บบู กั รรับทราบ พร้อมกบั กล่าววา่ “ขอสาบานต่อพระเจา้ ฉนั จะไม่ไปไหน อีกแลว้ หากตอ้ งอยใู่ ตก้ ารบญั ชาการของคอลิด เขาไดส้ งั หารมาลิก ถึงแมเ้ ขา จะเป็ นมุสลิมก็ตาม” ๙ อบั ดุลลอฮ์ อิบนิ สะบาอแ์ ละนิยายต่างๆ 128

ฏอบารีบนั ทึกมาจาก อิบนิ อบีบกั รวา่ อบกู อตาดะฮร์ ายงานวา่ เขาจะไม่สู้ รบหากมีคอลิดเป็นหวั หนา้ ยะอก์ บู ีไดบ้ นั ทึกไวว้ า่ อุมรั อิบนิ คอ็ ตตอ็ บ กล่าว กบั อบบู กั รวา่ “โอ้ ผสู้ ืบตาํ แหน่งของท่านศาสนทตู ของพระเจา้ คอลิดหลง รักภรรยาของมาลิก และไดส้ ังหารเขาในวนั เดียวกนั น@นั ท@งั ๆท-ีเขายงั เป็น มุสลิมอย”ู่ อบบู กั รแจง้ ให้คอลิดมาใหค้ าํ ใหก้ าร คอลิดจึงมาหาอบบู กั รพร้ อมกบั ช@ีแจงวา่ “โอ้ ผสู้ ืบตาํ แหน่งแทนของท่านศาสดา ในการสงั หารมาลิก น@นั ฉนั ไดต้ ดั สินใจถูกตอ้ งแลว้ แต่ฉนั ก็ไดก้ ระทาํ ผดิ ไปเช่นเดียวกนั ” มุตมั มิม อิบนิ นุวยั รอฮ์ นอ้ งชายของมาลิกไดแ้ ต่งกลอนไวห้ ลายบทดว้ ยกนั เพ-ือแสดงความเศร้าโศกที-พช-ี ายของเขาถูกสงั หาร เขาไปท-ีนครมะดีนะฮแ์ ละ ไปร่วมนมาซรวมกบั อบูบกั ร หลงั จากนมาซเสร็จมุตมั มิมยนื ข@ึนพร้อมคนั ธนู ท-ีเขาใชค้ @าํ ยนั ร่างของเขา พร้อมกบั อ่านบทกลอนใหอ้ บบู กั รฟัง โออ้ ิบนิ อซั วรั ท่านไดโ้ ยน ร่างของคน ท-ีสูงส่ง ลงกบั พ@นื ลมยามเชา้ พดั เอ-ือย เร-ือยรมยร์ ื-น แสนช-ืนม-ืน ผา่ นประตู ดูสดใส ท่านไดท้ าํ อดสู ข่มข่เู ขา ปากก็ปาว นามพระเจา้ ไม่ละอาย แต่มาลิก ผศู้ รัทธา อยา่ งมนั ใจ รักษาไว้ ซ-ึงคาํ พดู อยเู่ สมอ อบุลฟิ ดาไดบ้ นั ทึกไวว้ า่ เม-ือข่าวของมาลิกมาถึงอบบู กั รและอุมรั อุมรั กล่าวกบั อบูบกั รวา่ “คอลิดไดล้ ะเมิดประเวณีอยา่ งไม่ตอ้ งสงสัย ท่านควรจะ เอาเขาไปขวา้ งดว้ ยกอ้ นหิน” 129

อบบู กั รกล่าวตอบวา่ “ฉนั จะไม่ทาํ เช่นน@นั ” อุมรั จึงกล่าวกบั คอลิดวา่ “เจา้ ไดส้ ังหารพนี- อ้ งมุสลิม และฉะน@นั เจา้ จะตอ้ งถูกลงโทษประหารชีวิต” อบบู กั รกล่าวตอบวา่ คอลิดไดป้ ฏิบตั ิหนา้ ท-ีของเขา และเขาเขา้ ใจในสิ-งท-ีเขา ทาํ แต่เขาก็ไดก้ ระทาํ ผดิ เช่นกนั อุมรั ขอให้อบบู กั รปลดคอลิดออก แต่อ บูบกั รกล่าววา่ “ฉนั จะไม่เก็บดาบที-พระเจา้ ทรงชกั มนั ออกมาจากฝัก” ฏอบารีไดบ้ นั ทึกมาจากอิบนิ อบีบกั รวา่ คอลิดไดแ้ กต้ วั กบั อบบู กั ร โดยกล่าว วา่ มาลิกไดก้ ล่าวกบั เขาวา่ “ฉนั ไม่เชื-อวา่ สหายของท่าน (ท่านศาสดา) ได้ กล่าวเช่นน@นั เช่นน@ี” คอลิดถึงกล่าวตอบวา่ “และท่าน (ท่านศาสดา) ไม่ได้ เป็นสหายของท่านหรือ?” และเขาจึงมีคาํ ส-ังใหต้ ดั ศีรษะของเขา และคน ท@งั หมดท-ีอยรู่ ่วมกบั มาลิกถูกตดั ศีรษะเช่นเดียวกนั เม-ือข่าวไดม้ าถึงหูของ อุมรั เขาปรึกษาหารือกบั อบูบกั ร พร้อมกบั กล่าววา่ “ศตั รูของพระเจา้ ได้ สงั หารมุสลิม และเขาทาํ ราวกบั สตั ว์ ท-ีไดเ้ อาภรรยา(ของมาลิก)มาเป็นคู่นอน ของเขา” คอลิดกลบั บา้ น จากน@นั จึงไปยงั มสั ยดิ สวมใส่เส@ือผา้ ท-ีเป@ื อนรอยสนิมจาก เส@ือเกราะของเขา และเสียบขนนกไวท้ ี-หมวกเหลก็ เหมือนกบั ทหารมุสลิม คนหน-ึง เขาเดินผา่ นอุมรั ซ-ึงตรงเขา้ มาหาเขาอยา่ งโกรธเกร@ียว พร้อมกบั ดึง ขนนกออกจากหมวกเหล็กของเขาและกล่าวกบั เขาวา่ “เจา้ ฆ่าสงั หารมุสลิม คนหน-ึงเสมือนกบั เจา้ ไม่ใช่มุสลิม และรีบเร่งสมสู่ภรรยาของเขาทาํ ราวกบั เป็นสัตว์ ขอสาบานต่อพระเจา้ ฉนั จะขวา้ งเจา้ ดว้ ยกอ้ นหินจนตาย ซ-ึงเป็น การเหมาะสมแลว้ สาํ หรับการกระทาํ ของเจา้ ” คอลิดปิ ดปากเงียบ คิดวา่ คอ ลีฟะฮอ์ บบู กั รควรจะกล่าวเช่นเดียวกนั วา่ เขาไดก้ ระทาํ ผิด แต่เมื-อคอลิด รายงานถึงผลสาํ เร็จในภารกิจของเขา และไดส้ ารภาพความผดิ ของเขาแลว้ อบบู กั รไดอ้ ภยั โทษใหเ้ ขา ในระหวา่ งท-ีเขาเดินกลบั ออกมาจากการพบคอ ลีฟะฮแ์ ลว้ คอลิดเดินผา่ นอุมรั ไปและตะโกนใส่อุมรั ดงั วา่ “โอ้ ผเู้ ป็นบุตร ของอุมมุชมั ละฮ์ จงบอกมาเดี„ยวน@ีเลยซิวา่ เจา้ ตอ้ งการจะพดู วา่ อยา่ งไร” 130

อุมรั รู้ไดท้ นั ทีวา่ อบูบกั รไดอ้ ภยั ใหก้ บั คอลิดแลว้ เขาจึงเดินออกจากมสั ยดิ และกลบั ไปบา้ นอยา่ งเงียบหงอย เร-ืองราวของคอลิดและมาลิก ตามสาย รายงานท-ีเป็นของจริงแทก้ ็มาจบลงแต่เพียงเท่าน@ี แต่ซยั ฟ์ เล่าเรื-องน@ีไวร้ วม เจด็ เหตุการณ์ และแต่ละเหตุการณ์ต่างก็มีเรื-องราวที-เอ@ืออาํ นวยต่อกนั และฏอบารีไดบ้ นั ทึกมนั ไวใ้ นเหตุการณ์ของปี ฮิจเราะฮศ์ กั ราชท-ี 11 ดงั ต่อไปน@ี เร-ืองราวของมาลิก ตามการรายงานของซยั ฟ์ 1) ฏอบารี เมื-อไดบ้ นั ทึกคาํ กล่าวของซยั ฟ์ เกี-ยวกบั บนีตะมีมและซะญาฮ์ จึงกล่าวไวว้ า่ “เมื-อท่านศาสนทตู ของพระผเู้ ป็นเจา้ เสียชีวติ ตวั แทนของท่าน ในก๊ก บนู ตะมีม มีความเห็นไม่ลงรอยกนั วา่ ควรจะจ่ายภาษีศาสนาท-ีเก็บ รวบรวมมาใหก้ บั ใคร วา่ กนั ตามจริงแลว้ ประชาชนของก๊ก บนี ตะมีม มีการ แบ่งแยกกนั บางคนยงั มีศรัทธามนั- คงอยู่ และไดโ้ ตเ้ ถียงกบั บรรดาผทู้ -ีไม่ยอม สยบกบั อบูบกั ร มาลิกเป็นคนหน-ึงที-ต่อตา้ นและไม่ยอมจ่ายภาษีศาสนา ซ-ึง เขาไดเ้ ก็บรวบรวมไวใ้ หก้ บั อบบู กั ร” 2) ซยั ฟ์ ไดบ้ นั ทึกความเป็นพวกนอกรีตของประชาชนชาว บะฮเ์ รน โดย กล่าววา่ “อะลาอ์ อิบนิ ฮดั รอมี ถูกส่งไปจดั การกบั พวกนอกรีตท-ีญะมามะฮ์ พวกเขาไดแ้ บ่งออกเป็นสองฝ่ าย ฝ่ ายนอกรีตกบั ฝ่ ายผศู้ รัทธาและมีการ โตแ้ ยง้ ซ-ึงกนั และกนั บรรดาผศู้ รัทธาเขา้ ร่วมกบั อะลาอ์ อิบนิ ฮดั รอมี มาลิก และมารดา สหายของเขาอยทู่ ี-บุฏอฮ์ และพวกเขามีการโตเ้ ถียงกนั กบั อะลาอ์ อิบนิ ฮดั รอมี” 3) ซยั ฟ์ กล่าวถึงเหตุการณ์ขา้ งตน้ เช่นกนั โดยกล่าววา่ “เมื-อซะญาฮ์ กลบั บา้ น มาลิกรู้สึกสงสัยและเป็นกงั วล วะกีย์ และซะมาอะฮ์ ยอมรับวา่ พวกเขา ผดิ พลาด ดงั น@นั จึงขอลุแก่โทษอยา่ งจริงใจ และมอบภาษีศาสนาที-ไดจ้ ่าย 131

ล่าชา้ ไปใหก้ บั คอลิด ไม่มีอะไรท-ีไร้ระเบียบในจงั หวดั ของก๊ก บนีฮนั ซอละฮ์ นอกจากความประพฤติของมาลิก และผคู้ นของเขาท-ีบุฏอฮ์ มาลิกเป็นคนที- ไม่มีความมนั- คงในจิตใจ วนั หน-ึงเขาก็ปกติดี แต่อีกวนั หน-ึงเขากระทาํ ในสิ-ง แปลกๆ” 4) ซยั ฟ์ ไดบ้ นั ทึกไวอ้ ีกคร@ังหน-ึงวา่ เม-ือคอลิดไดจ้ ดั การกวาดลา้ งพวก นอกรีตท-ีเมืองอะซดั และกอตาฟานแลว้ เขาจึงเดินทางมายงั บุฏอฮซ์ -ึงเป็น เมืองของมาลิก ชาวอนั ศอรไม่ค่อยสู้มนั- ใจกบั คอลิดนกั จึงไม่ยอมร่วม เดินทางไปกบั เขา โดยกล่าววา่ พวกเขาไดร้ ับคาํ สั-งจากคอลีฟะฮใ์ หอ้ ยทู่ ี-บุซา เคาะฮ์ คอลิดกล่าววา่ เป็นหนา้ ท-ีของเขาที-จะติดต่อกบั คอลีฟะฮ์ เพราะเขาเป็น ผบู้ ญั ชาการทพั เขากล่าวไวเ้ ช่นกนั วา่ เขาไม่บงั คบั ใครใหต้ อ้ งร่วมเดินทาง ไปดว้ ย เพอ-ื จดั การกบั มาลิก จากน@นั เขาจึงเดินทางออกไป ชาวอนั ศอรสาํ นึก ในความผดิ ของตนเอง จึงเดินทางตามคอลิดไปในท-ีสุดพวกเขาก็ไล่มาทนั คอลิดเดินทพั ต่อไปจนกระทง-ั มาถึงบุฏอฮ์ แต่ไม่พบวา่ มีผใู้ ดอยทู่ -ีนน-ั 5) ซยั ฟ์ เล่าเร-ืองต่อไปอีกเช่นกนั วา่ มาลิกไดก้ ล่าวคาํ ปราศรัยกบั ผคู้ นของ เขาดงั ต่อไปน@ี “โอ้ ผเู้ ป็นชาวเผา่ ของบนู ยรั บูอ์ เราไดต้ ่อตา้ นกบั เจา้ หนา้ ที- และผบู้ ญั ชาการทพั แต่เราไดพ้ า่ ยแพต้ ่อพวกเขา ฉนั แนะนาํ วา่ ขออยา่ ใหพ้ วก ท่านไปขวางทางพวกเขา จงกลบั คืนไปยงั เมือง และบา้ นเรือนของพวกท่าน เสีย ผปู้ กครองเหล่าน@ีไดอ้ าํ นาจมา โดยไม่ไดร้ ับความเห็นชอบของ ประชาชน” หลงั จบคาํ ปราศรัยน@ีแลว้ ผคู้ นจึงกระจดั กระจายกนั ออกไป และมาลิกไดเ้ ดินทางกลบั บา้ นของเขาเช่นกนั ฉะน@นั เม-ือคอลิดมาถึงที-บุฏอฮ์ เขาจึงไม่พบผใู้ ดที-นน-ั จากน@นั คอลิดจึงส่งคนของเขาไปในฐานะคณะผเู้ ผย แผอ่ ิสลาม เพ-อื ไปจบั กุมบรรดาผทู้ -ีไม่ยอมรับความคิดเห็นของพวกเขา และ เพ-ือสงั หารผทู้ -ีขดั ขืน โดยจริงๆแลว้ คาํ สั-งของอบูบกั รกล่าวไวว้ า่ “จงเชิญ ชวนผคู้ นมาสู่การนมาซ ในทุกๆท-ีที-ท่านไป ถา้ หากผคู้ นไม่มาเขา้ ร่วมการ 132

นมาซก็จู่โจมพวกเขาในทนั ที และจงเผาพวกเขาทิ@งเสียหรือในวธิ ีการใดก็ได้ ถา้ หากพวกเขาเขา้ มาร่วมการนมาซ ก็จงทดสอบพวกเขาดู ถา้ หากพวกเขา ยอมตกลงจ่ายภาษีศาสนาของพวกเขา ก็จงรับการศรัทธาในอิสลามของเขา หากไม่แลว้ ผลลพั ธ์ของพวกเขาก็คือ ความพนิ าศ” ทหารของคอลิดนาํ มาลิก ญาติของเขา และคนบางคนจากเผา่ ของเขา กลบั มาจากภารกิจในคร@ังน@ี อบู กอตาดะฮ์ และทหารอีกบางคนไดย้ นื ยนั เป็น พยานวา่ มาลิกและผคู้ นของเขาไดเ้ ขา้ ร่วมการเชิญชวนมาสู่การนมาซและได้ นมาซร่วมกนั กบั พวกเขา แต่เพราะมีความแตกต่างกนั ในเร-ืองราวของทหาร เกี-ยวกบั มาลิก เขาจึงถูกจองจาํ อยตู่ ลอดท@งั คืนพร้อมกบั ผคู้ นของเขา แต่ เนื-องจากเป็นคืนท-ีหนาวเหน็บอยา่ งมาก คอลิดไดส้ ั-งใหก้ ่อไฟเพอื- ใหค้ วาม อบอุ่นแก่นกั โทษ คาํ พดู ท-ีคอลิดใชใ้ นการออกคาํ สั-งน@ีมีความหมายวา่ ให้ “สงั หาร” ในภาษาของชนบางเผา่ น@นั คือ “อิดฟะอูซะรออะกมุ ” ฉะน@นั พวกเขาจึงไดส้ ังหารมาลิก และบรรดาสหายของเขา ผทู้ าํ หนา้ ที-สงั หารมาลิก ก็คือ ฎิรอร อิบนิ อซั วรั เสียงร้องโหยหวนของผทู้ ี-กาํ ลงั จะตาย ทาํ ใหค้ อลิด ตอ้ งออกมาจากที-พกั ของเขา และเขาจึงไดร้ ับรู้ในการสังหารในคร@ังน@ี เขา กล่าววา่ “สิ-งใดที-เป็นบญั ชาของพระเจา้ ยอ่ มตอ้ งถูกกระทาํ ใหเ้ สร็จสิ@นไป” หลงั จากเหตุการณ์น@ีแลว้ อบูกอตาดะฮไ์ ดโ้ ตแ้ ยง้ กบั คอลิด และได้ เดินทางไปมะดีนะฮเ์ พื-อรายงานต่อคอลีฟะฮอ์ บูบกั ร แต่เขาไดแ้ สดงความไม่ พอใจกบั อบกู อตาดะฮ์ อุมรั เขา้ มาพดู แกต้ วั ให้ อบบู กั รจึงยกโทษใหอ้ บูกอตา ดะฮ์ และส่งเขากลบั ไปอยกู่ บั กองทพั คอลิดอีก ณ สนามรบ คอลิดสมรสกบั อุมมุตะมีม บินติ มินฮาล ภรรยาของมาลิกท-ีถูกสงั หาร แต่ยงั ไม่ไดอ้ ยรู่ ่วมกบั นางจนกระทงั- ครบระยะการรอคอย เพื-อไวท้ ุกขใ์ หก้ บั สามีเก่าของนาง อุมรั กล่าวกบั อบูบกั รวา่ “มีการละเมิดบางอยา่ งในดาบของคอลิด อยา่ งนอ้ ยก็ใน กรณีของมาลิก” อบบู กั รไม่ใหค้ วามสนใจใดๆ เพราะเขาไม่เคยตาํ หนิคน 133

ของเขาเมื-อพวกเขาทาํ ผดิ พลาด ฉะน@นั เขาจึงสั-งใหอ้ ุมรั หยดุ การกล่าวร้ายต่อ คอลิดเสีย พร้อมกบั กล่าววา่ “คอลิดอาจแปลความในภารกิจของเขาผิดพลาด ไป” อบบู กั รจึงจดั การจ่ายเงินค่าทาํ ขวญั ใหม้ าลิกและเขียนจดหมายสั-งให้ เขากลบั มายงั มะดีนะฮ์ คอลิดกลบั มาและรายงานเหตุการณ์น@ีต่ออบูบกั ร ซ-ึง ไดอ้ ภยั โทษใหก้ บั ความผิดของคอลิด แต่ตาํ หนิเขาในเร-ืองการท-ีสมรส เพราะมนั เป็ นการขดั ต่อประเพณีของชาวอาหรับ 6) ซยั ฟ์ กล่าวไวใ้ นอีกท-ีหน-ึงวา่ ทหารบางคนไดเ้ ป็นพยานในการนมาซ ของมาลิก แต่บางคนกลบั ปฏิเสธวา่ ไม่เคยเห็น และวา่ การประหารเขาน@นั เป็นเรื-องชอบธรรมแลว้ นอ้ งชายของมาลิกไดแ้ ต่งกลอนบางบทเพื-อไวอ้ าลยั และขอเงินค่าทาํ ขวญั และขอใหป้ ล่อยเชลยศึก อบูบกั ร อนุมตั ิใหป้ ล่อยเชลย ศึกได้ อุมรั ยนื ยนั ใหป้ ลดคอลิดเสีย เพราะเขาไม่อาจควบคุมดาบของตวั เอง ได้ แต่อบูบกั รกล่าววา่ เขาจะไม่เก็บดาบของพระเจา้ ที-ถูกใชเ้ พอ-ื ต่อตา้ น บรรดาผปู้ ฏิเสธกลบั เขา้ ฝัก 7) ซยั ฟ์ ไดก้ ล่าวไวใ้ นการเล่าเร-ืองสุดทา้ ยของเขาวา่ มาลิกเป็นคนมีผมดก เม-ือศีรษะของผถู้ ูกประหารถูกนาํ มาใชเ้ ป็นเช@ือเพลิงสาํ หรับทาํ อาหาร ไฟได้ ไหมม้ าถึงหนงั ศีรษะของคนท@งั หมด ยกเวน้ ศีรษะของ มาลิก เพราะเขาเป็น คนมีผมดก มุตมั มิมแต่งบทกลอนบทหน-ึง และไดแ้ สดงความช-ืนชมกบั ทอ้ ง อนั วา่ งเปล่าของมาลิก ใหเ้ ป็นตวั อยา่ งกบั บรรดานกั รบของเขาทุกคน อุมรั เคยเห็นมาลิกขณะอยใู่ นท-ีชุมนุมร่วมกบั ท่านศาสดา และยงั ไดก้ ล่าวชมมาลิ กเช่นกนั น-ีคือ การบนั ทึกสุดทา้ ยซ-ึงพบอยใู่ นขอ้ เขียนของซยั ฟ์ เกี-ยวกบั เร-ืองของ มาลิก 134

แหล่งท-ีมาของการเล่าเร-ืองของซยั ฟ์ ตามเรื-องท-ีซยั ฟ์ เล่าแลว้ สามเร-ืองแรกของท@งั เจด็ เรื-องที-ไดก้ ล่าวถึงขา้ งตน้ รับฟังมาจาก ซาอบั บุตรของอตยั ยะฮ์ ผซู้ -ึงไดร้ ับฟังมาจากบิดาของเขา อตยั ยะฮบ์ ุตรของบาลาล เร-ืองท-ีหา้ และเร-ืองที-เจด็ ที-กล่าวถึงส่งทอดต่อมาจากอุศ มาน บุตรของสุวยั ด์ บุตรของมตั ตาบะฮ์ ใครคือ ซออบั อะตียะฮ์ และอุศมาน ? ไม่มีร่องรอยของซออบั อตียะฮแ์ ละอุศมาน ผเู้ ป็ นสามคนแรกท-ีเป็ นตน้ กาํ เนิดของผเู้ ล่าเรื-องดงั กล่าวน@นั ซ-ึงซยั ฟ์ ไดอ้ า้ งถึงไวใ้ นหนงั สือ ประวตั ิศาสตร์ของเขา ฉะน@นั เราจึงสามารถกล่าวไดว้ า่ บุคคลท@งั สามคนน@ี อยใู่ นหมู่รายชื-อของซอฮาบะฮ์ (สาวกของศาสดา) จาํ นวนหน-ึงร้อยหา้ สิบคน ที-ซยั ฟ์ ไดป้ ระดิษฐข์ @ึนมา ในบางกรณีซยั ฟ์ ไดก้ ระทาํ โดยการแอบอิงตวั ละคร ต่างๆ ตามจินตนาการเขา้ ไปในเร-ืองเล่าของเขา เช่นในกรณีของอุศมาน ตามที-เขาไดบ้ นั ทึกไว้ ปรากฏวา่ ไม่มีชื-อของอุศมานในหนงั สือเล่มใดเลย ยกเวน้ ในหนงั สือของซยั ฟ์ เท่าน@นั สุวยั ด์ บุตรของมสั อะบะฮ์ (ชุอบ์ ะฮ)์ ป่ ู ของอุศมานมีชีวติ อยจู่ ริงๆ ส่วนในเรื-องของสุนขั ที-เฮาอบั มีปรากฏช-ือของ อุมมุ กรุ ฟะฮ์ ซ-ึงเป็ นมารดาของตวั ละครในนิทานของเขา ช-ืออุมมุซะมลั และฮุรมูซะฮก์ ็เป็นคนที-มีชีวติ อยจู่ ริงๆ ซ-ึงเป็นบิดาของกุมาซะบานผเู้ ป็นตวั ละครตามจินตนาการที-ซยั ฟ์ ไดป้ ระดิษฐข์ @ึนมา ทาํ ไม ? เร-ืองเล่าของ ซยั ฟ์ จึงตอ้ งเป็ นนิยายดว้ ย นกั เขียนชีวประวตั ิไดร้ วบรวมรายช-ือท@งั หมด และช-ือของผเู้ ล่าเร-ืองแต่ละ คนที-มีชีวติ อยนู่ บั จากสมยั ของท่านศาสดา ไปไกลจนกระทงั- ถึงราชวงศอ์ บั บาสิยะฮ์ ผซู้ -ึงมีอาํ นาจปกครองหลงั จากราชวงศอ์ มาวยี ะฮ์ บรรดาผเู้ ล่าเรื-องท-ี ไดพ้ บกบั ท่านศาสดา นบั เป็ นคนกลุ่มแรกท-ีเรียกชื-อกนั วา่ ซอฮาบะฮ์ กลุ่มที- 135

สองก็คือ บรรดาผทู้ -ีไดพ้ บกบั บรรดาซอฮาบะฮ์ และไดร้ ับฟังเรื-องราวมาจาก พวกเขากลุ่มน@ีมีช-ือเรียกวา่ ผตู้ ิดตามมา (ตาบิอีน) ซ-ึงมีชีวติ อยจู่ นกระทง-ั ปี ฮ. ศ. 126 ผตู้ ิดตามมาชุดสุดทา้ ยทาํ หนา้ ที-เพยี งจดั การรวบรวมขอ้ เทจ็ จริงจาก ผตู้ ิดตามมาในชุดก่อน และพวกเขามีชีวติ อยจู่ นกระทง-ั ฮ.ศ. 132 ผคู้ นเหล่าน@ี มีอยดู่ ว้ ยกนั รวมท@งั หมดสิบสี-กลุ่มดว้ ยกนั และกลุ่มสุดทา้ ยอยใู่ นสมยั ของอลั มนั ซูร ผดู้ าํ รงตาํ แหน่งคอลีฟะฮท์ -ีสองแห่งวงศอ์ บั บาสิยะฮ์ นกั ชีวประวตั ิบางคนไดใ้ ห้รายชื-อบรรดานกั เล่าเรื-อง ผซู้ -ึงเสียชีวติ ไปใน รอบซ-ึงแต่ละรอบมีเวลาสิบปี ไวเ้ ป็นประเภทหน-ึงๆ ฉะน@นั หากวา่ กนั ตามน@ี คนกลุ่มแรกก็คือผเู้ ป็นนกั เล่าเรื-องที-เสียชีวติ ไปในทศวรรษแรก และกลุ่มที- สองเสียชีวติ ไปในทศวรรษท-ีสองและต่อๆกนั ไป ผเู้ ล่าเรื-องโดยตรงเรียกวา่ “ผรู้ ู้” และบรรดาผสู้ ่งทอดเร-ืองราวต่างๆใหก้ บั พวกเขาถูกเรียกวา่ “เชค” ชีวติ ของเชคและผรู้ ู้ทุกๆคนไดถ้ ูกบนั ทึกไวอ้ ยา่ งละเอียด นนั- คือ สถานท-ี พาํ นกั ของพวกเขา และที-วา่ พวกเขาเป็นชีอะฮห์ รือซุนนี พวกเขาเป็นพวก สุดโต่งที-ชอบอะลีหรือเป็ นศตั รูกบั อะลี พวกเขาเป็ นพวกสนบั สนุนหรือ ต่อตา้ นรัฐบาล หนงั สือต่างๆท-ีรวบรวมไวน้ @ี จดั หมวดหมู่เอาไวใ้ นรูปแบบ ต่างๆกนั บา้ งก็เรียงตามลาํ ดบั อกั ษร เช่น ของฏารีคกะบีรและเล่มอ-ืนๆบาง เล่ม จดั เรียงตามระยะเวลา เช่นของ อิบนิ อะซีร และอ-ืนๆ นกั ชีวประวตั ิบาง คนไดจ้ ดั เรียงชื-อของบรรดานกั เล่าเรื-อง โดยเป็นไปตามสถานท-ีพาํ นกั ของ พวกเขาเช่น มกั กะฮ์ และอื-นๆ วชิ าวา่ ดว้ ยการเล่าเร-ืองเป็นวิชาท-ีน่าสนใจ และมีชื-อเสียงที-สุดในยคุ สมยั น@นั และนกั ชีวประวตั ิต่างคนต่างก็แยกแยะรายช-ือของบรรดานกั เล่าเร-ืองไว้ ในวธิ ีการที-แตกต่างกนั และไดใ้ หค้ วามระมดั ระวงั อยา่ งท-ีสุด กบั การบนั ทึก รายละเอียดน@นั ๆ ถึงแมว้ า่ จะมีหนงั สือต่างๆที-เขียนเพ-ือแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดของ บรรดานกั ชีวประวตั ิก็ตามที เช่นหนงั สือชื-อ อลั มุคตะลฟั และอื-นๆ ฉะน@นั 136

จึงไม่มีขอ้ สงสยั แมเ้ พียงประการเดียววา่ บรรดาผเู้ ล่าเรื-องน@นั มีประวตั ิเป็น อยา่ งไร เนื-องจากจาํ นวนของผเู้ ล่าเรื-องในสมยั ของราชวงศอ์ ุมยั ยะฮม์ ีจาํ กดั และซยั ฟ์ ไดเ้ ขียนหนงั สือสองเล่มของเขา เพื-อเอาใจผปู้ กครองในขณะน@นั ซ-ึง เป็นราชวงศอ์ ุมยั ยะฮ์ เราจึงไม่อาจพบช-ือของบรรดาบุคคลที-ซยั ฟ์ ไดบ้ นั ทึก เร-ืองราวของเขามา จากพ@ืนฐานที-ไดอ้ ธิบายไวแ้ ลว้ ขา้ งตน้ เราอาจกล่าวไดว้ า่ ซยั ฟ์ ไดป้ ระดิษฐบ์ รรดาผเู้ ล่าเร-ืองของเขาข@ึนมา และไดอ้ า้ งอิงจากตวั ละคร อนั เป็ นนิยายเหล่าน@ี เน@ือหาของเร-ืองเล่าต่างๆของซยั ฟ์ ในบางกรณี ซยั ฟ์ ไดใ้ ชช้ -ือของผเู้ ล่าเรื-องบางคนที-มีชีวติ อยจู่ ริงใน เรื-องราวต่างๆที-เป็นนิยายของเขา เช่นในตอนท-ีหา้ และตอนที-เจด็ ดงั ที-เราได้ กล่าวถึงแลว้ ในตอนตน้ จากการศึกษาอยา่ งระมดั ระวงั และอยา่ งเป็นระบบ ตามกฎเกณฑข์ องหลกั วชิ าแห่งการเล่าเร-ือง ไดเ้ ปิ ดเผยใหเ้ ห็นถึงความไม่เป็น จริงของส-ิงต่างๆท-ีไดก้ ล่าวอา้ งถึงเหล่าน@นั ขอ้ เปรียบเทียบ เม-ือเปรียบเทียบดูระหวา่ งเรื-องเล่าของซยั ฟ์ กบั ผเู้ ล่าเร-ืองคนอื-นๆ เกี-ยวกบั เร-ืองของคอลิดแสดงใหเ้ ห็นวา่ ซยั ฟ์ ไดต้ บแต่งเหตุการณ์ข@ึนเพอ-ื ขจดั ขอ้ กล่าวหาของคอลิดที-เขาไดล้ ่วงละเมิดมาลิก และไดล้ ะเมดิ ต่อภรรยาของมา ลิก เขาไดจ้ ดั เตรียมฉากซ-ึงเป็นเบ@ืองหลงั ของเรื-อง ดว้ ยกบั การกล่าวหามาลิ กวา่ มีความสงสัยในอิสลาม ซ-ึงเป็นประการแรก ประการที-สองการโตเ้ ถียง กนั ระหวา่ งบรรดาผศู้ รัทธากบั ตวั เขา ประการท-ีสามการกลบั ไปของซะญะฮ์ และความลงั เลใจของมาลิก แต่เป็นเพราะจากแหล่งอ-ืนๆน@นั ไดร้ ายงานวา่ มา ลิกอยเู่ พียงคนเดียว ซยั ฟ์ ช@ีแนะวา่ มาลิกมีกองทหารอยกู่ บั เขา แต่เขาไดส้ ลาย 137

กองทหารไป ไม่ใช่เพราะสาํ นึกผดิ เป็นเพราะความหวาดกลวั ของเขา ซยั ฟ์ จึงประกาศออกมาวา่ มาลิกเป็นพวกนอกรีต ในเร-ืองเล่าอื-นๆ ซยั ฟ์ ไดช้ @ีแนะ ความเป็นคนนอกรีตของมาลิก โดยไม่ไดก้ ล่าวถึงช-ือของคอลิดไวเ้ ลย เพอ-ื เบ-ียงเบนความสนใจของผอู้ ่านไปจากคาํ สั-งของคอลิดที-ใหส้ ังหารมาลิกและ ไปยงุ่ เกี-ยวกบั ภรรยาของเขา ซยั ฟ์ ประดิษฐค์ วามขดั แยง้ ของทหาร ที- เกี-ยวขอ้ งกบั คาํ สั-งของอบบู กั รเพอ-ื ทาํ ลายมาลิก ในขณะอยตู่ ่อหนา้ คอลิด เพ-อื เขาจะไดท้ าํ ใหอ้ บูบกั ร และเช่นเดียวกบั คอลิดพน้ ผดิ ไป ซยั ฟ์ ตอ้ งการจะ แสดงใหเ้ ห็นวา่ คอลิดไม่ปรารถนาที-จะสงั หารมาลิก เขาเพยี งแต่ออกคาํ สั-ง ใหก้ ่อไฟเพ-อื ใหค้ วามอบอุ่นกบั เชลยศึก แต่ทหารคิดเห็นไปวา่ เขา หมายความให้ “สงั หาร” เพราะความเขา้ ใจผดิ เน-ืองจากความยงุ่ ยากใน ภาษาทอ้ งถ-ิน ถึงกระน@นั ผอู้ อกคาํ ส-ังและผทู้ าํ หนา้ ท-ีประหาร พดู ภาษา สาํ เนียงเดียวกนั (กุเรชกบั บนีอะซดั ) ขอ้ เทจ็ จริงยงั คงเหลืออยอู่ ีกวา่ หาก สมมุติวา่ ความเขา้ ใจผิดไดก้ ่อใหเ้ กิดการฆ่าสงั หารข@ึนมา แต่ทาํ ไมศีรษะของ นกั โทษจึงถูกนาํ ไปใชเ้ ป็นเช@ือเพลิงเพือ- ทาํ อาหารเล่า ฏอบารี ไดบ้ นั ทึกเรื-องราวของมาลิกมาจากซยั ฟ์ ส่วนอิบนิ อะซีร อิบนิ กะซีร มีรคอนด์ ไดอ้ า้ งอิงมาจาก “ขอ้ เท็จจริง” ที-บนั ทึกไวโ้ ดยฏอบารี หากไดต้ รวจสอบดูถึงขอ้ มูลจากนกั ประวตั ิศาสตร์คนอ-ืนๆ ที-รวบรวมโดย ผปู้ ระพนั ธ์คนอื-นๆ ท-ีไดก้ ล่าวถึงเรื-องราวของมาลิกจากแหล่งอ-ืนๆ ที- นอกเหนือไปจากของคอลิดแลว้ ก็จะพบวา่ ความไม่ลงตวั กนั ระหวา่ ง “ขอ้ เทจ็ จริง” ของซยั ฟ์ กบั ความสัตยจ์ ริงจะปรากฏใหเ้ ห็น แหล่งอื-นๆ ที- กล่าวไวว้ า่ คอลิดไดอ้ อกคาํ สั-งอยา่ งแจง้ ชดั ให้ฆ่าสังหารมาลิกน@นั มี ดงั ต่อไปน@ี ฟุตูฮุล บุลดาน โดย บะลาซุรี หนา้ 105 ตะฮซ์ ีบ โดย อิบนิ อะซากิร เล่ม 5หนา้ 105, 112 138

อลั คอมีส โดย ดิยาร บกั รี เล่ม 2 หนา้ 333 อลั นิฮายะฮ์ โดย อิบนิ อะซีร เล่ม 3 หนา้ 257 อลั ซอวาอิก โดย อิบนิ ฮะญรั มกั กี หนา้ 21 (พมิ พท์ -ีอิยปิ ต)์ ตาจ อลั อะรูซ โดย ซุบยั ดี เล่ม 8 หนา้ 75 ขา้ งตน้ คือสงคราม คร@ังหน-ึงท-ีสู้รบในนามของผลู้ ะทิ@งศาสนาหรือพวก นอกรีต (ท-ีอบบู กั รไดต้ ่อสู้) สงครามคร@ังน@ีอาจใชเ้ ป็นตวั อยา่ งหน-ึงไดอ้ ยา่ งดี 5. เร-ืองราวของ อะลาอ์ อิบนิ ฮดั รอมี อะลาอ์ อิบนิ ฮดั รอมี บุตรของอบั ดุลลอฮ์ บุตรของอิบาด บุตรของอกั บรั บุตรของรอบีอะฮ์ บุตรของมาลิก บุตรของอุวยั ฟ์ ฮดั รอมี บิดาของเขาเป็ น พลเมืองชาวมกั กะฮแ์ ละเป็นเพือ- นสนิทของฮรั บ์ อิบนิ อุมยั ยะฮ์ ท่านศาสดา แต่งต@งั เขาใหเ้ ป็นเจา้ เมืองบะฮเ์ รน อบูบกั รและอุมรั อนุญาตใหเ้ ขาดาํ รง ตาํ แหน่งน@ีจนกระทง-ั เขาเสียชีวติ ไปในปี ฮ.ศ. 14 หรือ 21 (อลั อิสตีอาบ พิมพ์ คร@ังท-ี 3 หนา้ 146-148 และอลั อิสตีอาบ พิมพค์ ร@ังท-ี 2 หนา้ 491) ซยั ฟ์ เล่าใหเ้ ราฟังถึงเร-ืองของ อะลาอ์ อิบนิ ฮดั รอมิ ดงั น@ี ในฏอบารี เล่ม 2 หนา้ 522 และ 528 ซยั ฟ์ บนั ทึกมาจากมินญบั อิบนิ รอ ชิด ดงั วา่ อบบู กั รมีคาํ สั-งใหอ้ ะลาอส์ ู้รบกบั พวกนอกรีตแห่งบะฮเ์ รน มินญาบ ประจาํ อยใู่ นกองทพั น@นั ดว้ ย เขากล่าววา่ “เรามาถึงทุ่งราบแห่งดะฮน์ าอ์ เป็น ท-ีๆพระเจา้ ทรงประสงคท์ -ีจะแสดงอภินิหารประการหน-ึงใหก้ บั พวกเรา อะ ลาอแ์ ละเราไดล้ งมาจากหลงั อูฐ ทนั ใดน@นั อูฐของเราวง-ิ เตลิดออกไป และพา สมั ภาระท@งั หมดของเราไปดว้ ย และทิ@งเราไวท้ ่ามกลางทะเลทรายท-ีมีแต่โขด หิน ก่อนที-เราจะมีเวลากางกระโจมออกมาดว้ ยซ@าํ เรารู้สึกเศร้าใจและหมด หวงั ต่างก็ส-ังเสียซ-ึงกนั และกนั มีเสียงเรียกมาจากอะลาอใ์ หไ้ ปหาเขา เราจึง ไปหาเขาดว้ ยกนั ท@งั หมด เขาถามเราถึงเหตุผลของความหมดอาลยั ตายอยาก 139

เราจึงตอบกบั เขาไปวา่ “ท่านจะไปหวงั อะไรกบั คนกลุ่มหน-ึง ที-เขาไม่มีอะไร เหลือไวเ้ ลยสาํ หรับวนั พรุ่ง นอกจากจะกลายเป็นอดีตไป” เขาไดป้ ลอบใจ พวกเราพร้อมกบั กล่าววา่ “มุสลิมวางใจในพระเจา้ แน่แทพ้ ระเจา้ จะไม่ละทิ@ง บรรดาผทู้ -ีพวกเขาตกอยใู่ นสถานการณ์เช่นพวกเรา” ในวนั รุ่งข@ึนหลงั จาก นมาซตอนเชา้ แลว้ อะลาอค์ ุกเข่าลงและพวกเราก็กระทาํ เช่นเดียวกนั และเรา ไดว้ งิ วอนต่อพระเจา้ เพ-ือขอน@าํ อะลาอ์ จึงสังเกตเห็นมีระยบิ น@าํ เกิดข@ึน เขาได้ ส่งคนไปดูวา่ มีน@าํ บา้ งไหม แต่มนั เป็ นเพยี งแค่เงาสะทอ้ น เงาสะทอ้ นเช่นน@ีมี ปรากฏใหเ้ ห็นอีกในคร@ังที-สาม คนของอะลาอก์ ลบั มารายงานข่าววา่ มีน@าํ ปรากฎอยู่ ดงั น@นั กองทหารจึงไดด้ -ืมกินและอาบชาํ ระลา้ ง ทนั ใดน@นั อูฐของ เราจึงปรากฏใหเ้ ห็น และมนั ไดก้ ลบั มาดว้ ยตวั ของมนั เอง พร้อมดว้ ย สมั ภาระที-บรรทุกอยกู่ ่อนท-ีพวกมนั จะหลบหนีไป” หลงั จากที-เราไดล้ ะออกมาจากสถานท-ีน@นั แลว้ อบฮู ุรอยเราะห์ผเู้ ป็ น สหายของเราไดส้ อบถามฉนั วา่ ฉนั จาํ สถานที-น@นั ไดอ้ ีกหรือไม่ หมายถึง สถานท-ีๆเราพบน@าํ ฉนั ตอบวา่ “ฉนั รู้จกั สถานท-ีน@นั ไดด้ ีกวา่ ใครท@งั สิ@น” เขาไดข้ อใหฉ้ นั พาเขาไปยงั สถานท-ีต@งั บ่อน@าํ น@นั อีก ฉนั จึงพาเขาไปแต่มนั กลบั ไม่มีบ่อน@าํ ใดๆ แต่กระน@นั เราไดพ้ บเหยอื กใบหน-ึงมีน@าํ บรรจุอยู่ อบฮู ุ รอยเราะฮจ์ ึงกล่าววา่ มนั เป็ นเหยอื กของเขาเอง ซ-ึงเขาไดท้ ิ@งไวข้ า้ งๆบ่อน@าํ น@นั อยา่ งต@งั ใจ เพอ-ื ดูวา่ มนั มีบ่อน@าํ ที-น@นั หรือไม่ หรือวา่ เป็นเรื-องที-เกิดข@ึน อยา่ งอศั จรรย์ มินญาบ สาบานวา่ เขาไม่เคยเห็นบ่อน@าํ น@นั มาก่อนเลย อบู ฮุ รอยเราะฮจ์ ึงกล่าวขอบคุณพระเจา้ สาํ หรับความอศั จรรยน์ @ี จากน@นั ซยั ฟ์ จึง กล่าววา่ อะลาอไ์ ดร้ ับชยั ชนะจากการทาํ สงคราม (ต่อตา้ นพวกนอกรีต) ใน ตอนกลางคืน เม-ือพวกเขาท@งั หมด (พวกนอกรีต) กาํ ลงั เมามายกนั อยู่ หลงั จากอะลาอ์ แน่ใจในความพนิ าศของพวกนอกรีตแลว้ เขาจึงไดอ้ อก เดินทางไปกบั กองทหารของเขามุ่งสู่ดาดา แต่ก่อนที-เขาจะออกเดินทาง เขา 140

ไดก้ ล่าวคาํ เทศนาใหก้ บั บรรดาทหารหาญของเขา เขากล่าววา่ พระเจา้ ทรง สาํ แดงสิ-งมหศั จรรยป์ ระการหน-ึงในแผน่ ดิน เพื-อใหก้ าํ ลงั ใจแก่พวกเขาดว้ ย กบั บ่อน@าํ (เพื-อจะใหพ้ วกเขาเขา้ โจมตีพวกนอกรีตในสถานท-ีอื-นๆต่อไป) จากน@นั เขาจึงออกคาํ ส-ังใหเ้ ขา้ โจมตี พร้อมกบั กล่าววา่ “ขอใหเ้ รารุกคืบหนา้ และขา้ มทะเลไป พระเจา้ ไดท้ รงลอ้ มกรอบศตั รูใหก้ บั พวกเจา้ ไวใ้ นที- เดียวกนั แลว้ ” เหล่าทหารต่างตะโกนกอ้ งข@ึนวา่ “ขอสาบานต่อพระเจา้ เรา จะไม่มีความหวาดกลวั อีกแลว้ เนื-องจากเราไดเ้ ห็นความอศั จรรยใ์ น ทะเลทรายแห่งดะฮน์ าอ”์ อะลาอข์ @ึนขี-สัตว์ พร้อมดว้ ยกองทหารของเขา เดินเทา้ พวกเขาต่างอ่านคาํ สรรเสริญพระเจา้ ดงั วา่ “โอผ้ ทู้ รงปรานี โอผ้ ทู้ รง กรุณา ผทู้ รงขนั ติ ผทู้ รงเป็ นนิรันดร์ ผทู้ รงมีชีวิต ผทู้ รงประทานชีวติ ผทู้ รง เพยี งพอดว้ ยพระองคเ์ อง ไม่มีพระเจา้ อ-ืนใดนอกจากพระองค์ โอพ้ ระเจา้ ของ เรา” น@าํ ทะเลปรากฏใหเ้ ห็นวา่ มีความต@ืนเขิน มีความลึกแค่ขอ้ เทา้ ของอฐู ถึงแมร้ ะยะทางจากชายฝ-ังไปเกาะน@นั หากไปทางเรือตอ้ งใชเ้ วลาเดินทางถึง หน-ึงวนั เตม็ พวกเขาไปถึงเกาะน@นั และไดเ้ ขา้ สู่สมรภูมิสู้รบกนั อยา่ งดุเดือด (ระหวา่ งทหารของอะลาอแ์ ละพวกนอกรีต) จนกระทง-ั ศตั รูถูกทาํ ลายลง อยา่ งราบคาบ ไม่มีพวกนอกรีตคนใดหลงเหลือชีวติ อยู่ ท-ีจะนาํ ข่าวของพวก เขากลบั ไปเล่าขานกนั ทรัพยส์ ินและครอบครัวของพวกเขาถูกจบั กุมและ แบ่งปันกนั ทหารข-ีอูฐไดร้ ับหกพนั และทหารเดินเทา้ ไดร้ ับสองพนั อะฟี ฟ อิบนิ มุนซิร แต่งกลอนบทดงั กล่าวต่อไปน@ี ใหก้ บั เหตุการณ์ดงั กล่าว พระเจา้ ผทู้ รงเกรียงไกร ทรงมอบทะเลน@นั ไซร้ ใหเ้ ราควบคุม เหตุการณ์อนั มหศั จรรยย์ ง-ิ ใหญ่ เหลือล@าํ กวา่ คร@ังของมูซา พาวงศว์ านขา้ มทะเลแดง 141

และแม่น@าํ ไนลเ์ สียอีก ความกริ@วของพระองค์ ทรงมีกบั ผไู้ ร้ศรัทธาทุกคน น@าํ พุหลง-ั ไหล ออกจากใตห้ ิน และกอ้ นกรวด และเราไดย้ นิ กระดิ-ง ที-คออฐู ของเรา เสียงดงั กงั วาน หวนกลบั มาอีก บาทหลวงรูปหน-ึง เดินทางไปกบั กองทหารของอะลาอด์ ว้ ย ซ-ึงไดเ้ ขา้ รับ อิสลามหลงั จากที-กองทหารไดเ้ ดินทางกลบั คืนสู่บะฮเ์ รนดว้ ยชยั ชนะและ แผน่ ดินปลอดพน้ จากพวกนอกรีต ผคู้ นสอบถามบาทหลวงรูปน@นั วา่ ทาํ ไมจึง เปล-ียนศาสนา เขากล่าววา่ ไดส้ ังเกตเห็นสัญญาณของพระเจา้ รวมสาม ประการดว้ ยกนั และเขาเกรงวา่ ตวั เขาจะถูกเปลี-ยนไปเป็นสตั ว์ หากถา้ เขา ไม่ไดเ้ ปล-ียนมาเขา้ รับอิสลาม เขาถูกถามถึงสัญญาณท@งั สามน@นั เขาจึง กล่าวถึงมนั ดงั ต่อไปน@ี 1) น@าํ พทุ ี-พุง่ ข@ึนมาจากใตก้ อ้ นหินกอ้ นกรวด 2) น@าํ ทะเลที-ป-ันป่ วนเหือดแหง้ ลง 3) คาํ วงิ วอนที-พวกทหารไดใ้ ชอ้ ่านกนั ดงั ต่อไปน@ี “โอพ้ ระเจา้ พระองคท์ รงกรุณาปรานี ไม่มีพระเจา้ อ-ืนใดนอกจาก พระองค์ พระองคท์ รงคงอยดู่ ว้ ยพระองคเ์ อง ไม่มีส-ิงใดมาก่อนพระองคท์ รง นิรันดร์ ทรงตระหนกั ผทู้ รงดาํ รงชีพอยเู่ ป็ นนิจ ทรงเป็ นอมตะ ผทู้ รงสร้างท@งั ที-มองเห็นไดแ้ ละมองเห็นไม่ได้ พระองคท์ รงควบคุมอยเู่ ป็นนิจ พระองค์ ทรงรอบรู้โดยปราศจากการสั-งสอน” 142

บาทหลวงรูปน@ีกล่าววา่ บรรดาทหารเหล่าน@นั อยใู่ นหนทางท-ีถูกตอ้ ง ฉะน@นั เทวทูตจึงอยเู่ คียงขา้ งพวกเขา เรื-องราวของบาทหลวงรูปน@ีไดม้ ีการเล่า ขานกนั ต่อมาอยบู่ ่อยคร@ัง อะลาอเ์ ขียนจดหมายฉบบั หน-ึง ถึงอบบู กั รเล่าให้ เขาฟังวา่ หลงั จากตอ้ งประสบกบั ความยากลาํ บากในบางประการพระเจา้ ได้ ทรงช่วยเหลือพวกเขา ดว้ ยกบั การใหน้ @าํ พพุ ุง่ ข@ึนมาจากใตก้ อ้ นหินกรวด ใน จดหมายของอะลาอ์ เขาขอใหอ้ บูบกั รขอพรใหก้ องทหารมุสลิมท-ีกาํ ลงั ต่อสู้ ในหนทางของพระเจา้ และอบูบกั รไดก้ ระทาํ เช่นน@นั และไดเ้ ล่าวา่ ชาวเบดู อินมกั พดู กนั อยเู่ สมอวา่ “ลุกมานผชู้ าญฉลาดสั-งใหค้ นของเขาหยดุ การขดุ เจาะบ่อน@าํ ในทะเลทรายแห่งดะฮน์ าอ์ เพราะไม่มีเชือกยาวพอท-ีจะทิ@งลงไป ใหถ้ ึงแหล่งน@าํ ซ-ึงมนั จะอยรู่ ะดบั ต-าํ กวา่ แผน่ ดินเป็ นอยา่ งมาก” อบูบกั รก ล่าววา่ การปรากฏน@าํ ใหเ้ ห็นนบั เป็นสัญลกั ษณ์อนั ยงิ- ใหญ่ของพระเจา้ และ เขาไม่เคยไดย้ นิ เร-ืองน@ีมาก่อนจากประชาชาติใดๆและเขาไดก้ ล่าวเพิ-มเติมวา่ “โอพ้ ระเจา้ ขอพระองคอ์ ยา่ ไดท้ รงริบเอาความจาํ เริญของมุฮมั มดั ออกไป จากพวกเราเลย” อิบนิ กะซีร ในหนงั สือของเขา (เล่ม 6 หนา้ 328-329) ได้ บนั ทึกเร-ืองราวขา้ งตน้ มาจากซยั ฟ์ ในหนงั สือ อลั อะฆอนี ของอบุลฟะรัจ ได้ อา้ งอิงมาจากฏอบารี ผซู้ -ึงไดบ้ นั ทึกมาจากซยั ฟ์ อีกทอดหน-ึง นกั วชิ าการคน อ-ืนๆไดบ้ นั ทึกเร-ืองราวน@ีมาจากซยั ฟ์ ๑๐ อบั ดุลลอฮ์ อิบนิ สะบาอแ์ ละนิยายต่างๆ แหล่งท-ีมาในเร-ืองราวของซยั ฟ์ ซยั ฟ์ ไดเ้ ล่าเรื-องราวของอะลาอม์ าจากซออบั บุตรของอะตียะฮ์ บุตรของบิ ลาล น@นั คือ เล่าผา่ นมาจากป่ ูมาถึงพอ่ และถึงลูก เราไดแ้ สดงใหเ้ ห็นแลว้ เมื-อ 143

ไดว้ จิ ารณ์ถึงเรื-องราวของมาลิกวา่ สายธารของครอบครัวของผเู้ ล่าเรื-อง ขา้ งตน้ ไดถ้ ูกประดิษฐข์ @ึนดว้ ยฝีมือของซยั ฟ์ เร-ืองราวของ อะลาอ์ ท-ีเล่าโดยบุคคลอ-ืนท-ีไม่ใช่ซยั ฟ์ บะลาซูรี ในหนงั สือ ฟุตฮู ุล บุลดาน ของเขา (หนา้ 92-93) กล่าวไวว้ า่ ใน สมยั การปกครองของอุมรั อะลาอถ์ ูกส่งไปยงั ซาเราะฮด์ าเรน เขาไดท้ าํ สัญญาสงบศึกกบั ผคู้ นแห่งชรา เพ-ือริบเอาทองคาํ เงินและทรัพยส์ ินอ-ืนๆ ของ เมืองเป็ นจาํ นวนหน-ึงในสามบวกกบั ทรัพยส์ ินคร-ึงหน-ึง จากดินแดนที-อยู่ นอกเมืองอคั นสั อิบนิ อามิรี ผแู้ ทนของเมืองน@นั กล่าวกบั อะลาอว์ า่ สญั ญา สงบศึกน@ีมีผลเฉพาะกบั ผคู้ นแห่งเมืองซาเราะฮเ์ ท่าน@นั และไม่รวมถึงญาติ ของพวกเขาท-ีอาศยั อยนู่ อกเมืองที-เป็นเพ-อื นบา้ นกนั ณ ดาเรน อะลาอพ์ ากา ราซุลนุกรี ไปเป็นคนนาํ ทางและขา้ มทะเลไปตรงช่องแคบไปยงั เมืองดาเรน เขาไดเ้ ขา้ โจมตีผคู้ นท-ีอยู่ ณ เมืองน@นั จดั การฆ่าสังหารนกั รบของพวกเขา และจบั กุมคุมขงั ครอบครัวของพวกเขา สงครามกบั พวกนอกรีต (ขอ้ เปรียบเทียบและบทสรุป) ซยั ฟ์ เขียนไวว้ า่ 1) น@าํ พทุ ี-เกิดข@ึนอยา่ งอศั จรรย์ ซ-ึงถึงแมล้ ุกมานผชู้ าญฉลาดก็ไม่คาดวา่ จะ มีน@าํ 2) อูฐไดห้ วนกลบั มาดว้ ยกบั ตวั ของพวกมนั เอง 3) ทหารเดินไปบนน@าํ ทะเลเสมือนเดินอยบู่ นบก ซ-ึงเป็ นความมหศั จรรย์ จากการบอกเล่าวา่ บาทหลวงรูปหน-ึงไดเ้ ขา้ รับอิสลามเมื-อไดเ้ ห็นสัญญาณ เหล่าน@ี เขาไดเ้ นน้ ย@าํ วา่ ความมหศั จรรยเ์ หล่าน@ีเกิดข@ึนจากจดหมายที-อะลาอม์ ี ไปถึงอบบู กั ร เพอื- ขอใหเ้ ขาวงิ วอนขอดุอาอใ์ ห้ 144

ฏอบารี ฮะมาวี อิบนิ อะซีร อิบนิ กะซีร และนกั เขียนคนอื-นๆ ไดก้ ล่าว คาํ พดู ของซยั ฟ์ ซ@าํ ไวอ้ ีกในหนงั สือของพวกเขา และบรรดามุสลิมต่างก็ ยอมรับในเร-ืองราวน@ี วา่ เป็นประวตั ิศาสตร์อิสลามเรื-องหน-ึง ถึงกระน@นั มนั ก็ ไม่มีความมหศั จรรยอ์ นั ใดเกิดข@ึน เมืองน@นั มีทางผา่ นไปสู่แผน่ ดินใหญ่ได้ โดย ผา่ นทองช่องแคบ ซ-ึงทหารไดเ้ ดินทพั ผา่ นไปอีกเช่นกนั ท-ีวา่ เหตุการณ์ น@ีไม่ไดเ้ กิดข@ึนในสมยั ของอบูบกั ร แต่ในสมยั การปกครองของอุมรั ซยั ฟ์ เพียงคนเดียวท-ีเป็ นผรู้ ับผดิ ชอบต่อการประดิษฐเ์ รื-องเล่าเหล่าน@ีเพราะเขาเป็น คนเดียวท-ีนาํ เสนอมนั เช่นเดียวกนั เป็นเพียงคนเดียวอีกเช่นกนั ที-กล่าววา่ ไม่ มีศตั รูคนใดที-มีชีวติ รอดกลบั ไปแจง้ ข่าวน@ีใหช้ าวเมืองของตนเองไดร้ ับทราบ เลย 6. การเห่าของสุนขั ที- เฮาอบั ฏอบารีเล่ม 3 หนา้ 490-497 ไดบ้ นั ทึกมาจากซยั ฟ์ วา่ อุมมุ ซิมลั ซลั มา เป็นเชลยศึกหญิงคนหน-ึง ท-ีถูกมอบใหอ้ าอิชะฮ์ (ภรรยาของท่านศาสดา) เพราะเป็นส่วนของทรัพยเ์ ชลย ซ-ึงเป็นส่วนแบ่งของนาง อาอิชะฮไ์ ดป้ ล่อย นางใหเ้ ป็นไท แต่นางคงอยอู่ าศยั ในบา้ นของอาอิชะฮต์ ่อไป วนั หน-ึงท่านศาสดากลบั มาบา้ นและพบพวกผหู้ ญิงกาํ ลงั ชุมนุมกนั อยู่ ท่านศาสดาไดช้ @ีไปที-พวกเขาพลางกล่าววา่ “คนหน-ึงของพวกเจา้ จะทาํ ให้ สุนขั ที-แผน่ ดินแห่งเฮาอบั เห่าใส่” หลงั จากที-ท่านศาสดาวายชนมแ์ ลว้ อุม มุ ซิมลั ซลั มา ไดจ้ ดั ต@งั กองทพั ข@ึนกองหน-ึงเพ-ือการลา้ งแคน้ มุสลิมที-ไดฆ้ ่า สังหารญาติของนาง ขณะที-นางกาํ ลงั รวบรวมกองทพั จากซ็อฟร์และเฮาอบั สุนขั ไดเ้ ห่าใส่อฐู ของนางที-เฮาอบั (ทาํ ใหค้ าํ ทาํ นายของท่านศาสดาเป็นจริง) คอลิด (ผเู้ ป็นแม่ทพั ) ทราบเรื-องของอุมมุ ซิมลั ซลั มา จึงออกไปสู้รบกบั นาง ทหารของคอลิดไดต้ ดั ขาอฐู ท-ีนางใชข้ -ีและจดั การสังหารนางลงได้ 145

ในหนงั สือ มุอญ์ ะมุล บุลดาน ของฮะมาวี ไดบ้ นั ทึกเรื-องราวขา้ งตน้ มา จากซยั ฟ์ ในหนงั สือ อิซอบะฮ์ ของอิบนิ ฮะญรั เล่ม 2 หนา้ 325 ไดบ้ นั ทึกไว้ โดยไม่ไดก้ ล่าวถึงแหล่งท-ีมา แหล่งที-มาในเรื-องราวของซยั ฟ์ ซยั ฟ์ ไดเ้ ล่าเร-ืองขา้ งตน้ มาจากซะฮล์ ิบุตรของยซู ุฟ และอบยู ะอก์ บู ซ-ึง ประวตั ิของพวกเขาไม่มีการบนั ทึกไว้ อิบนิฮะญรั และอิบนิ อบั ดุลบรั ร์ได้ กล่าวไวว้ า่ “ไม่วา่ ตวั ของซะอล์ ิเองหรือยซู ุฟผเู้ ป็นบิดาของเขาไม่เป็ นที-รู้จกั ของผใู้ ดท@งั สิ@น” อบูยะอก์ บู ท-ีปรากฏอยใู่ นเร-ืองของซยั ฟ์ ก็คือ “ซะอีด อิบ นิ อุบยั ด์” ซ-ึงซอฮาบีไดก้ ล่าววา่ “เขาไม่เป็นที-รู้จกั ” นกั เขียนชีวประวตั ิ บางท่านกล่าววา่ “มีคนชื-อซะอีด อิบนิ อุบยั ด์ แต่ไม่เป็นที-รู้จกั กนั ในนามขอ งอบูยะฮก์ บู ” สุนขั เห่าใส่ใครท-ีเฮาอบั ? ในการเล่าเร-ืองเฮาอบั ของซยั ฟ์ เขาไดผ้ นวกเหตุการณ์จริงสองเรื-องเขา้ ดว้ ยกนั เหตุการณ์แรกคือ อุมมุกุรฟะฮ์ เหตุการณ์ท-ีสองคือ สุนขั ที-เฮาอบั 1) อุมมุ กุรฟะฮ์ ตามรายงานของอิบนิ สะอดั และอิบนิ ฮิชาม พอ่ คา้ กอง คาราวานคนหน-ึงเป็นชาวมุสลิม ขณะกาํ ลงั เดินทางไปยงั นครดามสั กสั ใน ระหวา่ งทางเกิดถูกปลน้ โดยคนของเผา่ ฟะซาเราะฮ์ ท-ีวาดีล กุรอ ซยั ดผ์ เู้ ป็น มุสลิมทาํ หนา้ ท-ีควบคุมกองคาราวาน ไดร้ ับบาดเจบ็ สาหสั จากการปลน้ ยะอก์ บู ีกล่าววา่ ท่านศาสดากาํ ลงั จะจดั ส่งกองทหารกองหน-ึงภายใตก้ าร นาํ ทพั ของซยั ด์ เพือ- ปราบปรามชนเผา่ ฟะซาเราะฮ์ อุมมุ กุรฟะฮ์ ผเู้ ป็นภรรยา ของหวั หนา้ เผา่ เม-ือไดท้ ราบข่าววา่ ท่านศาสดากาํ ลงั เตรียมการจดั ส่งกองทพั นางจึงจดั ส่งกองทพั กองหน-ึงภายใตก้ ารนาํ ทพั ของลูกหลานของนางเอง 146

จาํ นวนส-ีสิบคน เพ-อื มาเผชิญศึกกบั กองทพั มุสลิมใกลก้ บั นครมะดีนะฮไ์ ด้ เกิดสู้รบกนั อยา่ งดุเดือด โดยทหารของเผา่ ฟะซาเราะฮถ์ ูกสงั หารลงจนหมด ส่วนผหู้ ญิงของพวกเขาถูกจบั ตวั เป็นเชลย ยกเวน้ ตวั ของอุมมุ กุรฟะฮ์ และ บุตรสาวคนหน-ึงของนางชื-อญาริยะฮ์ ส่วนทุกคนในครอบครัวของนางถูก สังหารสิ@น ผหู้ ญิงท@งั สองคนน@ีถูกจบั ตวั ไวไ้ ดโ้ ดยไม่ไดร้ ับบาดเจบ็ ซยั ด์ ตดั สินให้ อุมมุ กุรฟะฮ์ ตอ้ งโทษประหารชีวติ และนาํ บุตรสาวท-ีชื-อญาริยะฮ์ มามอบใหก้ บั ท่านศาสดา ผซู้ -ึงท่านไดม้ อบนางใหก้ บั ลุงของท่านเอง และ ต่อมานางไดค้ ลอดบุตรชายคนหน-ึง และต@งั ชื-อใหก้ บั เขาวา่ อบั ดุรเราะฮม์ าน เหตุการณ์น@ีเกิดข@ึนในปี ฮ.ศ. 6 ในระหวา่ งช่วงชีวติ ของท่านศาสดา 2) สุนขั ที-เฮาอบั เฮาอบั เป็นสถานที-ๆต@งั อยใู่ กลๆ้ กบั เมืองบสั เราะฮ์ ตาม การรายงานของอิบนิ อบั บาส ท่านศาสดาไดก้ ล่าวกบั บรรดาภรรยาของท่าน วา่ “คนหน-ึงในหมู่พวกเธอจะข-ีอฐู ท-ีมีขนดกตวั หน-ึง ฝงู สุนขั จะเห่าใส่นาง ที-เฮาอบั ผคู้ นจาํ นวนมากจะถูกสงั หาร ท@งั ทางดา้ นขวาและทางดา้ นซา้ ยของ นาง(6) นางจะถูกคุกคามดว้ ยความตาย แต่นางก็จะปลอดภยั ” (7) ตาม รายงานของท่านหญิงอุมมุ สะลามะฮ์ (ภรรยาคนหน-ึงของท่านศาสดา) มี ความวา่ ท่านศาสดาไดก้ ล่าวถึงการก่อกบฏของภรรยาคนหน-ึงผเู้ ป็ นมารดา ของบรรดาผศู้ รัทธา (ดงั ท-ีไดเ้ รียกกนั เช่นน@นั ) เม-ือไดย้ นิ เช่นน@นั อาอิชะฮ์ (ภรรยาคนหน-ึงของท่านศาสดา) หวั เราะ ท่านศาสดาไดก้ ล่าวเป็นขอ้ สังเกต ไวก้ บั นางดงั วา่ “มนั ดูเหมือนกบั วา่ ฝงู สุนขั เห่าใส่เจา้ ท-ีเฮาอบั ขณะท-ีเจา้ กาํ ลงั ก่อกบฏอยา่ งอยตุ ิธรรมต่ออะลี” จากน@นั ท่านศาสดามองไปยงั อะลีพร้อม กบั กล่าววา่ “ถา้ หากเร-ืองราวของอาอิชะฮ์ ตอ้ งมาอยใู่ นอาํ นาจของเจา้ แลว้ ก็ จงอดทนกบั นางเถิด” ตามรายงานของฏอบารี ท-ีปรากฏอยใู่ นเล่ม 3 หนา้ 475 และจากนกั ประวตั ิศาสตร์อีกบางท่านมีเรื-องเล่าไวด้ งั ต่อไปน@ี 147

อุรานี คือคนที-ขายอูฐของเขาใหก้ บั อาอิชะฮ์ กาํ ลงั เดินทางโดยขี-อูฐของ เขาไป มีชายคนหน-ึงเขา้ มาหาเขา และตอ้ งการซ@ืออูฐตวั น@นั ของเขา อุรานี จึง กล่าวตอบวา่ “มนั มีราคาหน-ึงพนั ดิรฮมั ” ชายคนน@นั จึงอุทานข@ึนวา่ “เจา้ เสียสติไปแลว้ หรือ? ใครเล่าจะจ่ายหน-ึงพนั ดิรฮมั เพ-ือซ@ืออูฐตวั หน-ึง?” อุรานี จึงกล่าวตอบวา่ “อฐู ตวั น@ีมีราคาหน-ึงพนั ดิรฮมั เพราะเมื-อฉนั ขี-มนั แข่งกบั คู่แข่งคนอ-ืน ฉนั แซงเขาไดเ้ สมอ และไม่มีใครมาไล่จบั ฉนั ไดท้ นั หรอก เม-ือ ฉนั ขี-อูฐตวั น@ี” ชายคนน@นั จึงกล่าววา่ “เจา้ จะต่อรองกบั ฉนั ไดด้ ีกวา่ น@ีหาก เจา้ รู้วา่ ฉนั ตอ้ งการอฐู ตวั น@ีของเจา้ ไปใหก้ บั ผใู้ ด” อุรานี : ท่านตอ้ งการจะ เอาไปใหก้ บั ผใู้ ดหรือ ? อาหรับ : ใหก้ บั มารดาของเจา้ อุรานี : ฉนั ทิ@งแม่ไวท้ -ี บา้ น นางป่ วยเป็นอมั พาต อาหรับ : ฉนั ตอ้ งการอฐู ของเจา้ ไปใหก้ บั มารดา ของบรรดาผศู้ รัทธา ท่านหญิง อาอิชะฮ์ อยา่ งไรเล่า อุรานี : ถา้ อยา่ งน@นั ก็จง รับมนั ไปเป็ นของขวญั จากฉนั เถิด อาหรับ : ไม่เอา เจา้ มากบั ฉนั เถิด ฉนั จะ มอบอฐู ตวั หน-ึงและเงินจาํ นวนหน-ึงใหก้ บั เจา้ อุรานี : ฉนั จึงไปกบั ชายคนน@นั เขามอบอูฐเพศเมียตวั หน-ึงใหฉ้ นั ซ-ึงเป็น ของอาอิชะฮ์ และลูกอูฐอีกตวั หน-ึงพร้อมเงิน 400 หรือ 600 ดิรฮมั ใหอ้ ีกดว้ ย จากน@นั ชายคนน@นั ถามฉนั วา่ ฉนั รู้จกั ถนนแถวน@นั หรือไม่ ฉนั จึงตอบไปวา่ ฉนั รู้ เขาจึงขอใหฉ้ นั นาํ ทางพวกเขาไป ฉนั จึงบอกพวกเขาใหร้ ู้จกั ทะเลทราย และแม่น@าํ ทุกแห่งท-ีเราผา่ นไป เราผา่ นไปยงั แหล่งน@าํ ท-ีมีช-ือวา่ เฮาอบั เมื-อฝงู สุนขั เร-ิมเห่าหอน พวกเขาถามฉนั วา่ “แหล่งน@าํ ตรงน@ีมีช-ือวา่ อะไร ?” ฉนั จะ ตอบไปวา่ “เฮาอบั ” อาอิชะฮจ์ ึงร้องเสียงลนั- ออกมา และสั-งใหอ้ ูฐของนาง นงั- ลงพร้อมกบั กล่าววา่ “ขอสาบานต่อพระเจา้ ฉนั เป็ นหญิงคนน@นั ท-ีสุนขั เห่า ใส่ที-เฮาอบั จงพาฉนั กลบั ไปเถิด” ผคู้ นต่างนาํ อูฐของพวกเขามานงั- ลอ้ มรอบอาอิชะฮ์ อาอิชะฮไ์ ม่ไดข้ ยบั เขย@อื นไปจากสถานที-ตรงน@นั เลย จนกระทงั- วนั รุ่งข@ึน อิบนิ ซุเบรหลานของนางเขา้ มาพร้อมกบั บอกนางวา่ “จง เคล-ือนยา้ ยไปโดยเร็วเถิด” ท@งั น@ีเพราะอะลีกาํ ลงั ติดตามพวกเขามาอยา่ ง 148

กระช@นั ชิด และจะมาถึงพวกเขาในไม่ชา้ อุรานีจึงกล่าวข@ึนวา่ “พวกเขาจึงละ ออกจากสถานที-น@นั และกล่าวสาปแช่งฉนั ” ตามการรายงานในมุสนดั อิบนิ ฮมั บลั เล่ม 6 หนา้ 97 อิบนิ ซุเบร บอก กบั อาอิชะฮว์ า่ “ขณะน@ีไม่ใช่เป็นเวลาที-จะมาละทิ@งกนั บางทีพระเจา้ อาจจะ ประสงคใ์ หท้ ่านเป็นผไู้ กล่เกลี-ยระหวา่ งมุสลิมและนาํ สนั ติภาพมาสู่พวกเขา” ในหนงั สือของอิบนิ กะซีร เล่ม 7 หนา้ 230 ไดบ้ นั ทึกไวว้ า่ เชคท@งั สอง (หมายถึง บุคอรีและมุสลิม) ไม่ไดบ้ นั ทึกเร-ืองราวน@ีไวใ้ นหนงั สือซอเฮียะห์ ของพวกเขา ถึงแมจ้ ะมีหลกั เกณฑค์ รบถว้ นในทุกประการ ท-ีจะยอมรับไดว้ า่ เป็นของจริงแทส้ าํ หรับเขาท@งั สองก็ตาม ในหนงั สือของฏอบารี เล่ม 3 หนา้ 485 ไดม้ ีบนั ทึกจากซุฮร์ ีวา่ เม-ืออาอิ ชะฮไ์ ดย้ นิ ฝงู สุนขั เห่า นางไดถ้ ามข@ึนวา่ “สถานท-ีน@นั มีชื-อวา่ กระไร?” ภายหลงั จากท-ีพวกเขาไดบ้ อกนางวา่ มนั คือ “เฮาอบั ” นางรู้สึกเศร้าระทม และกล่าววา่ “เราเป็นสิทธิของอลั ลอฮ์ และเราจะตอ้ งกลบั คืนสู่พระองค”์ จากน@นั นางไดก้ ล่าวต่อไปอีกวา่ “ฉนั เป็นคนท-ีท่านศาสดาไดพ้ ดู ถึงในหมู่ ภรรยาของท่านอยา่ งแน่นอน โดยกล่าววา่ ท่านอยากจะรู้วา่ ใครกนั ท-ีฝงู สุนขั เห่าใส่ที-เฮาอบั ” อาอิชะฮ์ ตอ้ งการท-ีจะเดินทางกลบั ไปจากสถานท-ีน@นั แต่อิบนิ ซุเบร ชกั ชวนนางใหเ้ ดินทพั ต่อไปขา้ งหนา้ ในอีกท-ีหน-ึง อิบนิ กะซีร เขียนไวใ้ นเล่ม 7 หนา้ 230 และอบุลฟะรัจหนา้ 173 ดงั วา่ อาอิชะฮร์ ู้สึกเศร้าเสียใจพร้อมกบั กล่าววา่ “ฉนั คือผหู้ ญิงคนน@นั ” แต่อิบนิ ซุเบรหกั หลงั นางพร้อมกบั กล่าววา่ สถานท-ีน@นั ไม่ใช่เฮาอบั ใน หนงั สือ มุรูrุซ ซะฮบั เล่ม 2 หนา้ 248 ไดเ้ ขียนไวว้ า่ อิบนิ ซุเบร และตอล ฮะฮ์ กล่าวสาบานต่อพระเจา้ วา่ สถานท-ีน@นั ไม่ใช่เฮาอบั และไดน้ าํ อาหรับ 149


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook