จํานวนมาก ทา นอิบนุ มุอนี ไดกลาววา “เขาเปนคนมีความสําคัญอยางย่ิงคนหนึ่ง” เขาไดเสียชีวิตใน ป ฮ.ศ. 235 ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูน้ีไดไมวาในหนังสือสุนันเลมใดที่เปนรายงานมา จากทา นชะรีด... 53. อับดุรเราะซัก บิน ฮะมาม บิน นะฟอฺ ฮุมัยรียฺ ศ็อลอานีย เขาผูนี้เปนคนสําคัญคนหน่ึง ของฝายชีอะฮฺ และเปนบรรพชนที่ประเสริฐยิ่งคนหน่ึงของพวกเขา ทานอิบนุ กุตัยบะฮฺไดระบุถึง บุคคลผูน้ีไวในหนังสือมะอาริฟวา “เปนนักปราชญของฝายชีอะฮฺ” ทานอิบนุ อัลอะษีรไดกลาวไว ในหนังสืออามีลหนา 211 วา “ทานอับดุรเราะซักไดเสียชีวิตที่เมืองศ็อลอาน เขาเปนนักฮาดีษระดับ อาจารยคนหนึ่งของทานอะหฺมัดและเขาเปนชีอะฮฺ” ทานมุตตะกีย ฮินดียก็ไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไว ในหัวขอฮาดีษที่ 5994 จากหนังสือกันซฯ โดยระบุวา “เขาเปนชีอะฮฺ” ทานซะฮะบียไดกลาวถึง บุคคลผูนี้ไวในหนังสือมีซาน วา “อบั ดรุ เราะซกั บนิ ฮะมาม บิน นะฟอฺ ชาวศอ็ ลอานผูน ี้เปนหนงึ่ ใน จํานวนนักปราชญที่มีความสําคัญทั้งหลาย” ทานไดกลาวอีกวา “บุคคลผูน้ีไดเขียนตําราตาง ๆ มากมายและไดรวบรวมตําราท่ีวาดวยเรื่องตาง ๆ ท่ีสําคัญ ๆ หลายเรื่อง เขาเปนคลังแหงวิชาการ ประชาชนจํานวนมากใหการยอมรับตอเขาเชน อะหฺมัด, อิสหาก, ยะหยา, ซะฮานีย, เราะมาดียและ อาบดิ เปนตน” หลงั จากนั้นทา นไดกลาวเพิ่มเติมถึงการกลาวอางของอับบาส บิน อับดุล อฺาซีม ท่ีวา “เขาเปน คนโกหก” ซึง่ เรอ่ื งนี้ทา นซะฮะบยี ไ ดปฏิเสธโดยกลาววา “น่ีคือความไมถูกตองของอับบาส และขอแตกตางระหวา งอบั บาสกับมสุ ลมิ ตลอดจนถงึ บรรดาผทู รงคณุ วุฒอิ ื่น ๆ และบรรดาผูนําทาง วิชาการสาขาตาง ๆ ซ่ึงไดใหการยอมรับตอบุคคลผูน้ี” หลังจากนั้นทานยังไดกลาวไวในหนังสือ ของทา นอกี วา ทา นตยั ยาละซยี ไ ดกลา ววา “ฉันไดย นิ ทา นอบิ นุ มอุ ีนไดก ลา ววา “ฉนั ไดย ินคาํ พูดตาง ๆ ของอับดุรเราะซักในวันหนึ่งที่แสดงใหเห็นวา เขาเปนชีอะฮฺคือเขากลาววา “แทจริง บรรดาครูบา อาจารยของทานทั้งหลาย ผูซึ่งทานไดยอมรับตอพวกเขาน้ันท่ีเปนนักปราชญซุนนะฮฺ เชน มุอัมมัร, มาลิก, อิบนุญาริห, ซุฟยาน, และเอาซาอียนั้น เขาเหลานี้ไดยอมรับเรื่องราวตาง ๆ มาจากมัซฮับ ชีอะฮฺ” ทานอะบูศอลิห มุฮัมมัด บิน อิสมาอีล เฏาะรอรียไดกลาวไวดังมีคําอางในหนังสือมีซานวา “แนนอนท่ีสุดพวกเราไดรับวิชาการมาจากอับดุรเราะซัก แตวาอะหฺมัด และอิบนุมุอีน ตลอดถึงคน อื่น ๆ ตางไดละท้ิงฮาดีษของอับดุรเราะซัก คงเปนเพราะวาบุคคลเหลานั้น รังเกียจการเปนชีอะฮฺ ของเขา” หลังจากนั้นทานไดกลาวอีกวา “แนนอนท่ีสุด เราไดทุมเทและเราไดเดินทางมาศึกษา จน เหน็ดเหน่ือยแลว หลังจากน้ันฉันก็ไดออกไปทําฮัจญท่ีมักกะฮฺ ฉันไดเจอกับทานยะหฺยาที่น่ัน แลว ฉนั ไดถ ามเขา” เขากไ็ ดก ลา ววา “โออาบู ศอลหิ ถงึ แมวา อบั ดุรเราะซักเขาจะออกนอกศาสนาอิสลาม
เสยี แลว กต็ าม แตฉ นั ก็จะไมล ะทง้ิ ฮาดีษของเขา” ทานอิบนุ อาดียไ ดก ลาวถงึ บุคคลผนู ้ี ดังมีคําอางอยู ในหนังสือมีซานวา “เขาไดเลาฮาดีษตาง ๆ ที่เก่ียวกับในเร่ืองของเกียรติยศ คุณงามความดีอยาง ถูกตอง ชนิดที่ไมมีผูใดเสมอเหมือน(113) ซึ่งคนอ่ืน ๆ น้ันมักจะมีความบกพรอง” และมีคนกลาวหา ทานในเรื่องการเปน ชีอะฮฺ แตก ระนั้นยงั ไดมคี นเคยกลา วแกทานอะหมฺ ัด บนิ ฮันบลั ดงั ทมี่ อี า งอยใู น หนังสือมีซานวา “ทานเคยเห็นฮาดีษที่มีสายสืบดีกวาของอับดุรเราะซักบางหรือไม?” ทานตอบวา “ไม” ทา นอิบนุ กัยสะรอนียไดกลาวไวในตอนทายของหนังสือรวบรวมประวัติของนักปราชญศอฮี้ ฮฺ ตอนอธิบายถึงช่ือของทานอับดุรเราะซัก โดยอางบันทึกของทานอิมามอะหฺมัดวา “เมื่อประชาชน ท้งั หลายมีความขดั แยง กันในฮาดีษของมอุ ัมมรั แลว ก็จะถอื กนั วา ใหยดึ เอารายงานของอับดรุ เราะซกั เปนหลกั ” ทานมคุ ็อลลิด ชะอรี ียไดก ลา ววา “ครัง้ หน่ึงฉันไดน ั่งอยูกับทานอับดุรเราะซัก ทันใดน้ันก็ ไดมีบุคคลผูหนึ่งเอยถึงช่ือมุอาวียะฮฺ” ทานอับดุรเราะซักไดกลาววา “อยาใหท่ีนั่งของเราตองแปด เปอ นดวยการเอยถงึ บตุ รของอาบู ซฟุ ยาน” และจากรายงานของทา นซัยด บิน มุบาเราะฮฺ ไดกลาววา พวกเราไดน ั่งรวมกนั กบั ทานอบั ดรุ เราะซกั แลวทานอิบนุฮัสสาน ไดเลาฮาดีษขึ้นมาบทหนึ่งวา “เม่ือ คําพูดของอุมัรไดถูกอานใหทานอาลี และทานอับบาส ฟงวา “ทานทําการขอมรดกของบุตรของ นองชายของทาน และคนน้ีมาขอมรดกภรรยาของเขาที่มาจากบิดาของเธอ” ทานอับดุรเราะซักได กลาวดังท่ีมีอางอยูในหนังสือมีซานวา “จงพิจารณาดูความคลุมเครือนี้ทีเถิดวาใครที่เปนบุตรของ นอ งชายของทาน? ใครคือบดิ าของเธอ? ซง่ึ เขาไมไ ดกลา วดว ยคําวาศาสนทูต (ศ)” ถึงกระน้ันบรรดา นักปราชญท้ังหลายก็ยังไดยอมรับ เอาหลักฐานตาง ๆ มาจากบุคคลผูน้ี จนกระทั่งมีการกลาวกันวา “หลังจากสมัยของทานศาสนทูต (ศ) แลวประชาชนไดมุงหมายไปศึกษากับบุคคลผูนี้มากที่สุด” ทานเกดิ เม่ือปท ่ี ฮ.ศ. 126 เสียชวี ติ ในเดือนเชาวาล เมื่อป ฮ.ศ. 211 ทานไดมีโอกาสใชชีวิตอยูในสมัย ของอมิ ามศอดกิ 22 ป(114)และไดเ สยี ชวี ิตในสมยั ของทานอมิ ามญะอฺฟร ญะวาด กอ นการวะฟาตของ ทา นอมิ าม 9 ป(115) (113) มีรายงานจากทาน อะหฺมัด บิน อัสฮัร ผูเชี่ยวชาญในดานหลักฐานที่ถูกตองคนหนึ่ง ไดกลาววาทานอับดุรเราะซัก ไดเลาเรื่องราวที่อยูในความทรงจําของทาน ใหแกฉันโดยรายงานมา จากมุอัมมัรฺ ซุรีย จากอุบัยติลละฮฺ จากอิบนุ อับบาส ซ่ึงไดกลาววา แทจริง ทานศาสนทูตไดมอง ไป ยังทานอาลี แลวกลาววา เจาคือประมุขท้ังในโลกน้ี และเปนประมุขในวันปรโลก ผูใดที่รักเจา เทากับรักฉนั ผูใดที่โกรธเจาเทากับโกรธฉัน คนที่เจารักนั้นคือที่รักของอัลลอฮฺคนท่ีเจาโกรธน้ันคือ
คนท่ีอัลลอฮฺโกรธขอความวิบัติพึงมีแดคนโกรธเจา รายงานโดยทานฮากิมหนา 128 ุซอฺที่ 3 หนงั สือมสุ ตัดรอ็ ก 54. อับดุลมาลิก บิน อะยุน พ่ีชายของสะรอเราะฮฺ ฮุมรอน บะกีบ อับดุรเราะมาน มะลิก มู ซา และอุมมุอัสวัด บะนีอะ ยุน บุคคลเหลาน้ีเปนบรรพบุรุษของนักปราชญชีอะฮฺ เขาเหลาน้ันได ทุมเทความพากเพยี รอยา งสูงเพื่อรับใชบทบัญญัติของอิสลาม บุคคลเหลาน้ีมีเชื้อสายท่ีเปนกัลปยาน ชน และดํารงอยูบนแนวทางและสายธารของพวกเขา สําหรับอับดุลมาลิกน้ัน ทานซะฮะบียได กลาวถึงเขาไวในหนังสือมีซานวา ทานอาบีวากิล และคนอ่ืน ๆ อีกหลายคนไดยืนยันวาอาบู ฮาติม ไดกลาววา “บุคคลผูน้ีเปนนักฮาดีษที่ดีเลิศ” ทานอิบนุ มุอัยนไดกลาววา “เขาไมมีความบกพรองแต อยางใดเลย” และทานไดกลาวอีกวา “เขาเปนคนซื่อสัตยแตหัวรุนแรง” อิบนุ อัยยีนะฮฺกลาววา “อับ ดุลมาลิก นักเลาฮาดีษของเราเปนคนหัวรุนแรง” อาบูฮาติมกลาววา “เขาเปนบุคคลสําคัญยิ่งของ นักปราชญชีอะฮฺ” ที่รายงานฮาดีษไดดีท่ีสุด ทานซุฟยานก็ไดรับรายงานฮาดีษมาจากบุคคลผูนี้ จาํ นวนมาก อบิ นุ กัยสะรอนยี ไ ดกลา วถึงบคุ คลผนู ใี้ นหนงั สอื “รวบรวมชีวประวตั ิของนักปราชญฮ า ดีษศอฮ้ีฮฺ” วา “อับดุลมาลิก บิน อะยุน พ่ีชายของหุมรอนแหงเมือง กูฟะฮฺ ผูนี้เปนชีอะฮฺ อาบู วาฮิล ไดศึกษาเร่ืองเตาฮีดจากบุคคลผูนี้ แลวทานบุคอรีบันทึก และศึกษาเร่ืองการอีมานโดยทานมุสลิม บันทึก” ทานไดเสียชีวิตในสมัยของทานอิมาม ศอดิกฯ ทานอิมามไดขอพรและทําธุระใหแกทาน และมคี วามเมตตาตอทานเปน อยา งยิง่ (114) เนือ่ งจากทานอิมาม (อ) ไดเ สยี ชวี ิตในป ฮ.ศ. 148 ทา นมีอายุ 65 ป (115) เนื่องจากทานอิมามญะวาต (อ) ไดเสียชีวิตในป ฮ.ศ. 200 ทานมีอายุ 25 ป ฉะน้ันผูท่ี กลาววาทานอับดุรเราะซักไดรับรายงานมาจากทานบากิรยอมเปนการคลาดเคลื่อนตอความจริง เพราะทานอิมามบากริ (อ) เสียชวี ิตในป 114 ทานมีอายุ 57 ปก อ นอบั ดรุ เราะซัก เกิด 12 ป 55. อุบัยดิลละฮฺ บิน มูซา อาบาซีย อัลกูฟย อาจารยคนหนึ่งของอิมาม บุคอรี เจาของตํารา ศอฮี้ฮฺ ทานอิบนุ กุตัยบะฮฺไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีในหมวดวาดวยนักปราชญฮาดีษของหนังสือมะอา ริฟวา “เขาผูน้ีม่ันคงกับการเปนชีอะฮฺของเขา” ทานอิบนุ สะอัดก็ไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหมวดที่ 6 หนังสือฏอบากอต หนา 279 วา “แทจริง บุคคลผูน้ีเปนผูจดจําฮาดีษมากมายในหมูนักปราชญ ชีอะฮฺ” ดวยเหตุนี้ ประชาชนเปนจํานวนมากตางพากันถือวา หลักฐานของเขาออนแอ ท้ัง ๆ ท่ีเขา เปน นักปราชญ ผเู ช่ียวชาญใน อัล-กุรอาน ทา นอบิ นุ อะษีรไดกลาวไวในตอนทายของหนังสือกามิล วาทานผูนี้ไดเสียชีวิตในปลายป ฮ.ศ. 213 และทานอุบัยดิลละฮฺ บิน มูซา ผูน้ีเปนนักปราชญชีอะฮฺ
เปนอาจารยคนหน่ึงของทานบุคอรี ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมีซานวา “อุบัยดิลละฮฺ บิน มูซา ผูนี้เปนอาจารยของทานบุคอรีที่สําคัญมากคนหน่ึง แตทวาเขาเปนชีอะฮฺ” ทานอาบู ฮาติม และอิบนุมุอีนตางไดใหความสําคัญกับบุคคลผูน้ี ทานอะหฺมัด บิน อับดุลลอฮฺ อะญะลียไดกลาววา “อุบัยดิลละฮฺ บิน มูซา เปนผูรูและจดจําอัล-กุรอานอยางดีเลิศ” ทานอาบู ดาวูด กลาววา “อุบัยดิลละฮฺ อะบาซีย ผูน้ีเปนชีอะฮฺ” กลาวไดวานักปราชญฝายซุนนะฮฺจํานวนมากได ยอมรับหลักฐานฮาดีษของทานอุบัยดิลละฮฺ ผูนี้มาบันทึกไวในตําราศอฮี้ฮฺของพวกเขา ทานไมอาจ หลีกพน ฮาดีษของบคุ คลผนู ีไ้ ดไ มว าในตาํ ราศอฮีฮ้ ฺ เลมใดโดยเฉพาะอยางย่ิงจากรายงานที่เลาโดยชัย บาน บิน อับดุรเราะมาน สําหรับศอฮี้ฮฺ บุคอรี น้ันมีในฮาดีษทุก ๆ รายงานของอะอฺมัช ฮิชาม บิน อุ รวะหฺ และอิสมาอีล บิน อาบี คอลิด สําหรับฮาดีษของเขาท่ีมีบันทึกอยูในศอฮี้ฮฺมุสลิมนั้นก็คือ รายงานตาง ๆ ที่เลาโดยอิสรออีล ฮาซัน บิน ศอลิห และอุสามะฮฺ บิน ซัยด และจากรายงานที่บุคคล ผูนี้เปนสื่อกลางก็คือ ทุก ๆ ฮาดีษท่ีเลาโดยอิสหาก บิน ซัยด และอาบีบักรฺ บิน อาบูชัยบะฮฺ ทานซะ ฮะบียไดกลาวในหนังสือมีซานวา “บุคคลผูนี้ไดเสียชีวิตในป ฮ.ศ. 213 เขาเปนคนสมถะและ เครงครัดในการเคารพภักดี และมีความสํารวมตนเปนอยางมากเขาไดเสียชีวิตในขางขึ้นของเดือน ซุลเกาะอดฺ ะฮ”ฺ 56. อุสมาน บิน อุมัยรฺ อะบู ยักซอน สะกูฟย อัลกูฟย บะญาลีย ทานผูน้ีไดรับการกลาวถึง ดว ยช่อื วาอุสมาน บิน อะบูซุรอะฮฺ, อุสมาน บิน กัยส และอุสมาน บิน อาบู ฮะมีร อีกดวย อาบู อะหฺ มดั ซุบยั รียไ ดกลา ววา “เขาผนู ้ีเปน คนศรทั ธาตอ การคืนกลบั ของอิมามมะฮฺดีย” ฮาดีษตาง ๆ ท่ีเขาได บอกเลาลวนมีนํ้าหนักแตพรอม ๆ กันน้ัน ก็มักจะถูกถือวาออนแอไปเสียสิ้น แตถึงกระนั้นการเปน ชีอะฮฺของเขาก็ยังไมอาจจะหามการบันทึกฮาดีษ จากเขาโดยนักปราชญอื่น ๆ อีกจํานวนมาก เชน อะอฺมัช, สุฟยาน, ชุอฺบะฮฺ, ชะรีค เปนตน หลักฐานฮาดีษของบุคคลผูน้ีมีบันทึกอยูในตําราของอาบู ดาวูด และติรมีซีย และบุคคลอื่น ๆ ซ่ึงเปนเจาของตําราสุนันอีกหลายเลม ทานซะฮะบียไดกลาวถึง บุคคลผูน้ีไวในหนังสือมีซานวา ชื่อของเขามีความหมายท่ีสําคัญย่ิงตอการยอมรับของนักปราชญ ฝา ยซนุ นะฮฺ 57. อะดีย บิน ษาบิต อัลกูฟย ทานอิบนุ มุอีนไดกลาวถึงเขาผูน้ีวา “เขาเปนชีอะฮฺท่ี ปราดเปร่ือง” ทานดาเราะกุฏนียไดกลาววา “เขาเปนผูรูที่หัวรุนแรงและเปนคนสําคัญมาก” ทานมัส อูดียไดกลาววา “เราไมเคยพบเห็นบุคคลใดท่ีเปนนักปราชญฝายชีอะฮฺ มีความจดจํามากกวาอะดีย บิน ษาบิต” ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีในหนังสือมีซานวา “เขาผูน้ีคือนักปราชญใหญคน
หนง่ึ ของฝายชอี ะฮฺ เปนคนซอ่ื สตั ยข องพวกเขาเหลานนั้ เปนผูพิพากษากรณพี พิ าทตา ง ๆ ในหมพู วก เขาเหลาน้ัน และเปนทั้งอิมามของประชาชนในมัสญิดของพวกเขาเหลาน้ัน” ถาหากวาชีอะฮฺ ท้ังหลายมบี ุคลิกเหมือนกับบุคคลผูนี้แลวไซร แนนอนความเขาใจผิดตาง ๆ ในหมูพวกเขาจะมีนอย มาก หลงั จากนัน้ ทา นก็ไดพ รรณนาถงึ ถอ ยคาํ ตาง ๆ ของบรรดานกั ปราชญทไ่ี ดอางถึงบุคคลนี้มี เปน จํานวนมาก ทานดาเราะกุฏนีย ทานอะหฺมัด บิน ฮันบัล ทานอะหฺมัด อะญะลีย และทานอะหฺมัด นะ สาอีย ตางก็ถือวาชื่อของบุคคลผูนี้เปนเครื่องหมายที่ตองยอมรับของบรรดานักปราชญตําราศอฮ้ีฮฺ ท้ังหกเลม ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูน้ีได ไมวาในหนังสือศอฮี้ฮฺบุคอรีหรือมุสลิม จาก รายงานทุก ๆ ฮาดีษที่มาจากบัรรออฺ บิน อาซิบ อับดุลลอฮฺ บิน ยะซีด และเขาผูน้ีก็ยังเปนปูแหง มารดาของอับดุลลอฮฺดวย ถัดไปอีกก็คืออับดุลลอฮฺ บิน อาบีเอาฟาอฺ สุลัยมาน บิน เซาะร็อค และ ทา นสะอีด บนิ บุ ยั รฺ สําหรับฮาดีษของทานท่ีเลามาทาง ซูร บิน ฮุบัยรฺ และอาบู ฮาซิม นั้นมีบันทึก อยเู ฉพาะแตเพยี งใน ศอฮ้ีฮฺมสุ ลมิ 58. อะฏียะฮฺ บิน สะอัด บิน ุนาดะฮฺ อัลอูฟยฺ อะบูฮาซัน อัลกูฟย เขาผูนี้เปนตาบิอีนที่มี ชื่อเสียง ทานซะฮะบียไดอางถึงชื่อของเขาไวในหนังสือมีซาน โดยอางอิงคําแถลงของซาลิม อัลมะ รอดียวา “แทจริงอะฏียะฮฺผูน้ีเปนนักปราชญของฝายชีอะฮฺ” ทานอิมาม อิบนุ กุตัยบะฮฺ ไดกลาวไว ในหมวดชีวประวัตินกั ปราชญฮาดษี จากหนงั สอื มะอารฟิ วา “เช้ือสายเผา พันธขุ องบุคคลผูนนี้ ้นั คือ ฮุ เซน บิน ฮาซัน บิน อะฏียะฮฺ” และไดกลาววา “อะฏียะฮฺ บิน สะอัด ผูนี้เปนนักปราชญในสมัยของ ฮัจญาจญและเขาเปนชีอะฮฺ” ทานอิบนุ กุตัยบะฮฺก็ยังไดระบุถึงบุคคลผูน้ีวา เปนนักปราชญชีอะฮฺ ทานอิบนุ กุตัยบะฮฺก็ยังไดระบุถึงบุคคลผูน้ีวา เปนนักปราชญชีอะฮฺ ทานอิบนุ สะอัดไดอางไวใน หนังสอื ฏอบากอต ุซอฺที่ 6 โดยไดกลาวถงึ การยึดมั่นทแ่ี ขง็ แกรง ของบคุ คลผนู ใ้ี นฝายชีอะฮฺ แทจ รงิ บิดาของเขาที่มีช่ือวาสะอัด บิน ุนาดะฮฺน้ันเปนสหายคนหนึ่งของทานอาลี ซ่ึงเขาและทานอาลีได เขาไปอยูในเมืองกูฟะฮฺดวยกัน เขาไดกลาววา “โอทานอะมีรุลมุมีนีน แทจริงฉันมีบุตรชายคนหนึ่ง โปรดตั้งชื่อใหเขาดวยเถิด” ทานอิมามอาลี (อาลัยฮิสลาม) ไดกลาววา “นี่คือความโปรดปราน ของอัลลอฮฺ ฉะนั้นจงเรียกชื่อของเขาวาอะฏียะฮฺเถิด” ทานอิบนุ สะอัดไดกลาววา “อะฏียะฮฺกับอิบ นุอัซอัษ ไดตั้งตัวแข็งขอตอฮัจญาจญ แตแลวกลุมทหารก็ไดจูโจมยึดตัวอิบนุอัซอัษ สวนอะฏียะฮฺก็ หนีไปยังเปอรเซีย” ดังน้ันฮัจญาจญจึงเขียนหนังสือไปยังมุฮัมมัด บิน กอสิมวา “ใหปลอยตัวอะฏี ยะฮฺได ถาหากเขาไดกลาวสาปแชงตออาลี บินอาบฏี อลบิ แตถาหากเขาไมกระทาํ อยางนนั้ กใ็ หเ ฆยี่ น เขา 400 ทีกับใหโกนผมและเคราของเขาเสีย ดังน้ันเขาจึงถูกเรียกตัวมาแลวใหอานหนังสือของ
ฮัจญาจญ ครั้นแลวอะฏียะฮฺก็ปฏิเสธที่จะกระทําเชนน้ัน เขาถึงถูกโบย 400 ที และถูกโกนผมและ เครา ตอมาในชวงหลังเมื่อเปลี่ยนการปกครอง เขาก็ไดรับอนุญาตใหเขาไปพํานักอาศัยอยูท่ีเมือง กูฟะฮฺจนกระท่ังไดเสียชีวิตที่นั่นในป ฮ.ศ. 111” ทานอิบนุ สะอัดไดเลาตอไปวาบุคคลผูน้ีเปนคน สาํ คัญยิง่ และเปนนักเลา ฮาดษี ที่ดีเลิศ ฉะน้ันผูสืบเชื้อสายของเขาคนน้ี ทุก ๆ คนลวนเปนนักปราชญ ชีอะฮฺท่ียึดมั่นอยูกับลูกหลานของทานศาสดามุฮัมมัดทั้งสิ้น แตละคนไดรับการทดสอบอยาง มากมายและเปนผูมีอุปนิสัยท่ีเต็มไปดวยความเสียสละทั้งส้ิน เชน ทานฮุเซน บิน ฮาซัน บินอะฏี ยะฮฺ เปนตน สําหรับอะฏียะฮฺ อัลกูฟยฺผูนี้เราสามารถกลาวไดวา เขาเปนบุคคลหนึ่งที่ อาบูดาวูดและ ติรมีซียฺ ไดใหการยอมรับในหลักฐานฮาดีษตาง ๆ ของเขา ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูนี้ ได ในหนังสือศอฮี้ฮฺทั้งสองเลมน้ัน โดยเฉพาะอยางยิ่ง รายงานฮาดีษที่มาจากอิบนุ อับบาส อาบู ซะ อีด และอิบนุ อุมัร สําหรับทานน้ันยังไดรับการบอกเลาฮาดีษมาจากทานอับดุลลอฮฺ บินฮาซัน ซ่ึง ไดรับการบอกเลามาจากบิดาของเขา(ฮาซัน-อ-) ซึ่งไดรับริวายัตมาจากทานยาของเขา คือ ทานซะฮฺ รออฺ(ฟาฏมิ ะฮฺ-อ-)ประมขุ ของเหลา สตรชี าวสวรรคอีกดวย 59. อุลลาอ บิน ศอลิห อัตตัยนีย อัลกูฟย ทานอาบูฮาติม ไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ ดังที่มีบันทึก อยูในหนังสือมีซานวา “บุคคลผูน้ีเปนชีอะฮฺที่เครงครัดอยางยิ่ง” แตพรอม ๆ กันนั้น ทานก็ไดเปนที่ ยอมรับของอาบูดาวูด ติรมีซีย โดยเฉพาะอยางยิ่งอิบนุ มุอีน ไดใหความสําคัญตอเขามาก ทานอาบู ฮาตมิ และอาบซู รั อะฮฺ ไดกลาววา “บคุ คลผูน้ีไมมขี อบกพรอ งใด ๆ ฉะน้ันทา นไมอ าจหลกี พนฮาดีษ ของเขาได” โดยรายงานทีม่ าจาก ยะซีด บิน อะบีมรั ยัม และหุกม อิบนุ อุตัยบะฮฺในหนังสือศอฮี้ฮฺทั้ง สองเลมคือติรมีซียและอาบูดาวูด ตลอดจนถึงตํารามุสนัดของนักปราชญซุนนะฮฺเลมตาง ๆ นอกจากน้ีอาบูนาอีม และยะหยา บิน บะกีร ตลอดจนถึงนักปราชญทั้งหลายในกลุมนี้ก็ยังไดรับ รายงานมาจากเขาดวย นอกจากน้ีแลวก็ยังมีอุลลาอฺอีกคนหน่ึงซึ่งเปนบุตรของอาบูอับบาส ชาอิร มักกีย ซึ่งอุลลาอฺ ชาอิร ผูนี้เปนอาจารยคนหน่ึงของสุฟยาน สวนอุลลาอ บิน ศอลิห เปนชาวกูฟะฮฺ และอลุ ลาอฺชาอิรเปนชาวมักกะฮฺ ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลท้ังสองในหนังสือมีซานวา แทจริง บุคคลทง้ั สองนี้ คือ นักปราชญข องฝายชอี ะฮมฺ าตั้งแตเดมิ 60. อุลกอมะฮฺ บิน กัยส บิน อับดุลลอฮฺ นัคอีย อาบูชิบล ลุงของอัสวัดและอิบรอฮีม บุตร ของยะสีด ทานเปนผูส วามิภักดิ์ตอลูกหลานของทานศาสดามุฮัมมัด(ศ) ทานชะรอสตานียไดระบุถึง บุคคลผูนี้ไวในหนังสือมะลัลวา “เปนนักปราชญฝายชีอะฮฺและเปนหนึ่งในจํานวนของบุคคลช้ัน หัวหนา ของนกั ปราชญฮ าดีษ ท่ีอาบูอิสหาก เญาซญานียไดกลาวถึงทาน” โดยไดกลาวอีกวา เขาเปน
ชาวกูฟะฮฺซ่ึงประชาชนทั้งหลายไมคอยพอใจนักกับมัซฮับของพวกเขา โดยสาเหตุท่ีพวกเขาเปน ชีอะฮฺซึ่งพวกเขาเปนหัวหนาของบรรดานักเลาฮาดีษชาวกูฟะฮฺ... อุลกอมะฮฺผูน้ีไดตอสูรวมกับทาน อูบัย สหายคนหน่ึงของทานอาลี (อ) ในสงครามศิฟฟน ซึ่งอุบัยไดถึงชะฮีดท่ีน่ัน และปรากฏวา ทานอิมามไดขอพรใหแกอุบัยอยางมากมาย สําหรับอุลกอมะฮฺนั้น ดาบของเขาก็ไดมีโอกาสยอม ดวยเลือดของพวกทรยศอยางมากมาย เขาจึงเปนบุรุษคนหน่ึงท่ีไดทําการเสียสละในวิถีทาง ของอัลลอฮฺ และเขามิไดปลีกตนออกจากฝายศัตรูของมุอาวียะฮฺจนกระทั่งเขาไดเสียชีวิต คร้ังหนึ่ง อาบูบัรดะฮฺไดบันทึกช่ือของอุลกอมะฮฺไวในจํานวนของผูท่ีสวามิภักดิ์ตอมุอาวียะฮฺในสมัยการเปน คอลีฟะฮฺของเขา แตแลวอุลกอมะฮฺก็แสดงความไมพึงพอใจจนกระท่ังเขาไดเขียนหนังสือยื่นไปยัง อาบูบรั ดะฮฺวา “จงลบชื่อของฉัน จงลบชื่อของฉัน” เร่ืองนี้ทานอิบนุสะอัดไดบันทึกไวในหมวดท่ี 6 หนังสือฏอบากอตหนา 57 ตอนอธิบายประวัติของอุลกอมะฮฺ สําหรับความเท่ียงธรรมและเกียรติคุ รณของอุลกอมะฮฺน้ันไดถูกยอมรับโดยนักปราชญฝายซุนนะฮฺ ทั้ง ๆ ท่ีพวกเขาเหลานั้นตางก็รูดีวา บุคคลผูน้ีเปนชีอะฮฺ ซึ่งหลักฐานฮาดีษตาง ๆ ของเขาก็ไดเปนที่ยอมรับของเหลาบรรดานักปราชญ เจาของตาํ ราศอฮฮ้ี ฺทงั้ หลายของฝา ยซุนนะฮฺ ทา นไมอาจหลีกพนฮาดีษของเขาไดไมวาในหนังสือศอ ฮ้ีฮฺบุคอรีหรือมุสลิมจากทุก ๆ รายงานท่ีมาจากทานอิบนุมัสอูด และอาบู ดัรดาอ ทานหญิงอาอีชะฮฺ สําหรับฮาดีษของบุคคลผูนี้ท่ีมีรายงานมาจากอุสมาน และอาบูมัสอูดนั้นมีในศอฮี้ฮฺมุสลิม ทานผูนี้ ไดเ สยี ชวี ติ ที่เมืองกฟู ะฮเฺ ม่ือป ฮ.ศ. 62 61. อาลี บิน บดุ ัยมะฮฺ ทานซะฮะบยี ไดบนั ทกึ ไวในหนงั สือมซี านของทา น โดยอา งคาํ แถลง จากทานอะหฺมัด บิน ฮันบัล วา “แทจริงบุคคลผูนี้เปนนักเลาฮาดีษที่ดียิ่ง และแทจริงบุคคลผูน้ีเปน หัวหนาในหมูนกั ปราชญฝ ายชอี ะฮ”ฺ ทา นอิบนุ มุอีนไดกลา ววา “บุคคลผูนีม้ ีความสําคญั อยางย่ิงและ เขาเองตลอดจนถงึ คนอ่ืน ๆ กไ็ ดรับรายงานฮาดีษของบุคคลผูนี้มาจากมิกรอมะฮฺ ชื่อของบุคคลผูนี้มี ความสําคญั ที่ตองยอมรับกันของบรรดานักปราชญฝ ายซนุ นะฮฺทั้งหลาย 62. อาลี บิน ุอดีย อาบูฮาซัน เญาฮะรีย บัฆดาดีย เมาลาบะนีฮาชิม เปนคนหน่ึงในบรรดา อาจารยของทานบุคอรี ทานอิบนุกุตัยบะฮฺไดระบุไวในหนังสือมะอาริฟวา “บุคคลผูน้ีเปน นักปราชญชอี ะฮ”ฺ ในหนังสอื มซี านกลาววา “แทจ ริงเม่ือเขามีอายุถึง 60 ป เขาไดถือศีลอด 1 วันแลว รับประทานอาหาร 1 วนั ผลัดเปลี่ยนกันไปจนตลอดชีวิต” ทานอิบนุ กยั สะรอนียไดกลาวถึงบุคคลผู น้ีไวในหนังสือ “รวบรวมชีวประวัติของบรรดานักปราชญศอฮี้ฮฺ” โดยกลาววา “ทานบุคอรีไดรับ
รายงานฮาดีษของบุคคลผูนี้มาบันทึกจํานวน 12 ฮาดีษ” บุคคลผูน้ีไดเสียชีวิตในป ฮ.ศ. 203 ทานมี อายุ 96 ป 63. อาลี บิน ซัยด บิน อับดุลลอฮฺ บิน ซุฮัยร บิน อาบู มุลัยกะฮฺ บิน ญิซอาน อาบูฮาซัน กุร ชีย อัตตัยมีย อัลบะศอรีย ทานอะหฺมัด อัจญลียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีวา “เขาคือนักปราชญชีอะฮฺ” ทา นยะษีร บิน สะริอฺไดกลาววา “อาลี บนิ ซัยด ผูนี้เปน คนหวั รุนแรงมาก แตพรอม ๆ กันน้ันบรรดา นักปราชญรุนตาบิอีนเชน ชุอฺบะฮฺ และอับดุลวาริษตลอดจนถึงบุคคลตาง ๆ ในกลุมน้ีไดใหการ ยอมรับตอ เขา เขาเปน คนหนึ่งในบรรดานักกฎหมายประจําเมืองบัสเราะฮฺท่ีมีช่ือเสียงโดงดังสามคน คือ กอตาดะฮฺ, อาลี บิน ซัยด และอัสอัซ ฮัดดานีย พวกเขาเหลาน้ีลวนตาพิการ เม่ือฮาซัน บัสรียได ถึงแกกรรมชาวเมืองบัสเราะฮฺก็ไดแตงตั้งใหอาลี บิน ซัยด อยูในตําแหนงของฮาซัน ดวยเหตุน้ี เกียรติยศของเขาจึงไดเล่ืองลือไปท่ัว” ทานซะฮะบียไดกลาวไวในหนังสือมีซานเหมือนกันกับ ขอเขียนของกัยสะรอนียท่ีบันทึกไวในหนังสือรวบรวมชีวประวัตินักปราชญศอฮ้ีฮฺ บุคคลผูนี้ได เสยี ชีวติ ในป ฮ.ศ. 131 (ขอความเมตตาจากอัลลอฮฺพึงมีแดเ ขา) 64. อาลี บิน ศอลิห พ่ีชายของฮาซัน บิน ศอลิห ซ่ึงเราไดกลาวถึงไปแลวเก่ียวกับเรื่องราว ของฮาซันนองชายของเขา เขาเปนนักปราชญฝายชีอะฮฺทานมุสลิมไดใหการยอมรับฮาดีษตาง ๆ ของบุคคลผูนี้ โดยนํามาบันทึกไวในหนังสือศอฮี้ฮฺของทาน ซึ่งไดรับรายงานมาจากทานสะลามะฮฺ บิน กุหัย และทานวากิอฺ ซึ่งบุคคลท้ังสองน้ีก็เปนนักปราชญฝายชีอะฮฺเชนกัน ทานอาลีไดเสียชีวิต ในป ฮ.ศ. 151 65. อาลี บิน ฆอรอบ อาบูยะหฺยา ฟสสารีย อัลกูฟย ทานอิบนุ หิบบาน ไดกลาววา “บุคคลผู นีเ้ ปนนกั ปราชญใหญของฝายชอี ะฮฺ ทา นอาบดู าวดู ไดก ลาววา “พวกเขา (นกั รายงานฮาดีษ) ไดทิง้ ฮา ดีษของบุคคลผนู ี้ แตทวาทานอิบนุ มอุ ีน และดาเราะกุฏนียไ ดใหความสาํ คัญตอ เขา” อาบฮู าติมกลาว วา “บุคคลผูน้ีไมมีความบกพรองใด ๆ” อาบูซุรฺอะฮฺกลาววา “เขาเปนคนที่ฉันเชื่อถือมากท่ีสุด” ทา นอะหฺมดั บนิ ฮนั บัล กลาววา “ฉนั มไิ ดเห็นวาเขาเปน อยา งไร นอกจากเห็นวา เขาเปนคนซื่อสัตย” ทานอบิ นุ มุอีนไดก ลา ววา “เขาเปนคนซื่อสัตย” ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีในหนังสือมีซาน ทํานองเดียวกันกับถอยคําของบรรดานักปราชญดังกลาวน้ี ช่ือของเขาไดเปนท่ียอมรับของบรรดา นักปราชญฝายซุนนะฮฺ ในดานหลักฐานฮาดีษ ซึ่งไดรับรายงานมาจากฮิชาม บิน อุรวะฮฺ และ อุบัยดลิ ละฮฺ บนิ อมุ ัร
ทานอิบนุ สะอัดไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในุซอฺท่ี 6 หนา 273 ของหนังสือฏอบากอตวา “อิสมาอีล บิน รอยะฮฺ ไดรับรายงานฮาดีษมาจากเขา” ทานไดเสียชีวิตที่เมืองกูฟะฮฺ เมื่อตนป ฮ.ศ. 184 สมัยของฮารนู 66. อาลี บิน กอดิม อาบูฮาซัน ก็อซซาอยี อัลกูฟย เปน อาจารยของอะหมฺ ดั บนิ ฟรรอด และ ยะอกูบ ฟสวีย นักฮาดีษรุนหลังตางก็ไดยอมรับหลักฐานตาง ๆ ของบุคคลผูนี้ ทานอิบนุ สะอัดได กลาวถึงบุคคลนี้ ในุซอฺที่ 6 หนังสือฎอบาฏอต หนา 282 วา “เขาเปนนักปราชญชีอะฮฺท่ีหัวรุนแรง มาก ดวยเหตุน้ีกระมังที่ยะหฺยาไดระบุวา ฮาดีษของเขาฏออีฟ?” ทานอาบูฮาติมไดกลาววา “หลักฐานทุกอยางของบุคคลผูน้ีลวนเปนความจริง” ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ไวใน หนังสือมีซาน โดยไดอางถอยแถลงของบรรดานักปราชญดังที่เราไดกลาวไปแลว ช่ือของบุคคลผูน้ี มีความหมายทสี่ าํ คญั อยางยิ่งตอทานอาบูอาวูด และติรมีซียโดยไดยอมรับมาบันทึก ทานไดเสียชีวิต ในป ฮ.ศ. 213 สมยั ของมะอมฺ ูน (ขออัลลอฮทฺ รงมีความเมตตาตอเขาดว ยเถิด) 67. อาลี บิน มันศูร ฏอรอกิฟย เปนอาจารยคนหน่ึงของทานติรมีซีย นะสาอีย อิบนุ ศออิด อับดุรเราะมาน บิน อาบีฮาติม และคนอื่น ๆ จากนักปราชญกลุมน้ีซ่ึงตางก็ไดใหการยอมรับตอ หลกั ฐานฮาดีษท่มี าจากเขา ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมีซานวา “ช่ือของเขาได เปนท่ยี อมรับของบรรดานักปราชญฝ ายซุนนะฮฺ ซึ่งแตล ะคนจะตองนําฮาดีษของเขามาบันทึก” ทาน นะสาอียไดกลาววา “ถึงแมวา อาลี บิน มันศูร จะเปนนักปราชญชีอะฮฺก็ตาม แตหลักฐานของเขา แขง็ แรงมาก” ทา นอบิ นุ ฮาตมิ ไดก ลาววา “ความซ่ือสัตยของเขามีนํ้าหนักมาก แทจริงเขาไดรายงาน ฮาดีษท่ีมาจากอิบนุ ฟะฎีล และอิบนุ อัยยีนะฮฺ วะลีด บิน มุสลิม ทานนะสาอีย ไดยอมรับฮาดีษของ เขามาบันทึกไวในตําราศอฮี้ฮฺของทาน” ทานอิบนุ มันศูรไดเสียชีวิตในป ฮ.ศ. 256 (ขออัลลอฮฺทรง ประทานความเมตตาตอ เขา.) 68. อาลี บิน ฮาชิม บะรีค อะบูฮาซัน อัลกูฟย ค็อดสาด อาอีซีย เปนคนหน่ึง ในจํานวนของ บรรดาอาจารยของอมิ าม อะหมฺ ัด อาบู ดาวูดไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีวา “เปนนักปราชญชีอะฮฺที่มีจิตใจ ม่ันคง” ทานอิบนุ ฮิบบานไดกลาววา “อาลี บิน ฮาชิม เปนนักปราชญอาวุโสของฝายชีอะฮฺ” ทานญะอฺฟร บิน อุบานไดกลาววา “ฉันไดยิน อิบนุ นุมัยรฺกลาววา “อาลี บิน ฮาชิมผูน้ี เปน นักปราชญช้ันผูใหญของฝายชีอะฮฺ” ทานบุคอรีกลาววา “อาลี บิน ฮาชิม และบิดาของเขาเปน นักปราชญนามกระเด่ืองในมัซฮับชีอะฮฺ” ดวยเหตุน้ีกระมังบุคอรีจึงละทิ้งฮาดีษของเขา แตอิมา มค็อมซะฮฺไดยอมรับหลักฐานของทาน อิบนุ มุอีน และคนอื่น ๆ ตางไดใหการยอมรับอยางแข็งขัน
ทานอาบู ดาวูดไดจัดใหบุคคลผูนี้ อยูในจํานวนของผูท่ีมีหลักฐานมั่นคงคนหน่ึง อาบู ซัรอะฮฺได กลาววา “บุคคลผูนี้มีความซ่ือสัตย” ทานนะสาอียไดกลาววา “บุคคลผูนี้ ไมมีความบกพรองใด ๆ” ทานซะฮะบียไดกลาวไวในหนังสือมีซาน ดังคําแถลงของบรรดานักปราชญเหลาน้ีท่ีไดกลาวถึงเขา มาแลว อิมามค็อมซะฮฺไดใหการยอมรับหลักฐานฮาดีษทุกบททุกตอนของอาลี บิน ฮาชิม และทาน ไมอ าจหลกี พน ฮาดีษของบคุ คลผูน ี้ได ในหมวดวาดวยการนิกาฮฺจากหนังสือศอฮี้ฮฺมุสลิมซึ่งรายงาน ฮาดีษท่มี าจากฮชิ าม บิน อรุ วะฮใฺ นหมวดอิสติอซฺ าน ซง่ึ ฮาดีษทม่ี าจากรายงานของฏ็อลฮะฮฺ บิน ยะหฺ ยา ทา นไดเ สียชวี ติ ในป ฮ.ศ. 181 69. อัมมาร บิน ซารีก อัลกูฟย ทานสุลัยมานียไดระบุช่ือของบุคคลน้ีไวในจํานวนของพวก หัวรุนแรง ทํานองเดียวกันกับคําแถลงของซะฮะบียในหนังสือมีซาน แตพรอม ๆ กับความเปนคน หัวรุนแรงของเขาน้ี ทานมุสลิม อาบูดาวูด และทานนะสาอีย ตางไดใหการยอมรับตอเขา ทานไม อาจหลีกพน ฮาดษี ของบุคคลผูนี้ไดใ นตําราศอฮ้ฮี มฺ ุสลิม จากรายงานฮาดีษทกุ ๆ บทที่มาจาก อะอฺมัช , อาบอู สิ หาก, สบุ ยั อยี , มนั ศรู อับดลุ ลอฮฺ บนิ อสี า 70. อัมมาร บิน มุอาวียะฮฺ หรือ อิบนุ อาบู มุอาวียะฮฺ หรือมีคนเรียกวา อิบนุ คอบบาบ แลว ยังมีคนเรียกอีกวา อิบนุ ศอลิหฺ ดะฮามียฺ บัญจลียฺ อัลกูฟยฺ เขาเปนคนหน่ึงของบรรดานักปราชญฝาย ชีอะฮฺทไี่ ดถูกกวาดลา ง เขาเปนผปู ระสบภยั อนั ตราย เพราะยืนหยัดอยกู บั วิถีทางของลกู หลานศาสดา มุฮัมมัด เขาผูนี้เปนอาจารยคนหนึ่งของซุฟยานทั้งสอง ชุอฺบะฮฺ ชะรีก และอุบาล ซึ่งบุคคลเหลาน้ัน ตางไดใหการยอมรับหลักฐานฮาดีษตาง ๆ ท่ีเขาไดส่ังสอนไว นอกจากน้ีทานอะหฺมัด ทานอิบนุ มุ อีน ทานอาบูฮาติม และทานอันนาส ตางก็ไดใหการยอมรับอยางแข็งขันตอบุคคลผูนี้ ทานมุสลิม และเหลาบรรดานักปราชญฝายซุนนะฮฺ ท้ังส่ีมัซฮับตางก็ไดบันทึกฮาดีษตาง ๆ ที่บุคคลผูนี้รายงาน ทานซะฮะบียไดก ลาวถงึ บคุ คลผนู ใ้ี นหนังสอื มซี านโดยไดอางองิ เรอ่ื งราวตาง ๆ ของเขาไปตามท่เี รา ไดอางมานี้ พรอมกับอธิบายตอไปวา เขาเปนนักปราชญชีอะฮฺท่ีมีนํ้าหนักที่ไดรับความเช่ือถืออยาง ย่ิงคนหน่ึง ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูน้ีไดในหมวดอัลฮัจญ จากหนังสือศอฮี้ฮฺมุสลิม โดยรายงานของอาบู ซุบัยรฺทานไดเสียชีวิตในป ฮ.ศ. 133 (ขออัลลอฮฺทรงประทานความเมตตาตอ เขา.) 71. อุมัร บิน อับดุลลอฮฺ อาบูอิสหาก ซุบัยดีย ฮัมดานีย อัลกูฟย ทานอิบนุ กุตัยบะฮฺไดระบุ วา “บุคคลผูน เี้ ปนนักปราชญช อี ะฮฺ” ทา นชะรอสตานียฺไดกลาวไวในหนังสืออัลมะลัลวา “บุคคลผูน้ี เปนหัวหนาของบรรดานักเลาฮาดีษ ซึ่งประธานไมไดยกยองตอมัซฮับของพวกเขา เนื่องจากพวก
เขายึดม่ันอยูกับแนวทางท่ีอะฮฺลุลบัยตฺนํามาสั่งสอน” ทานเญาซฺญานียฺก็ไดกลาวเชนเดียวกันกับมี การอธิบายไวในหนังสือมีซานวา “บุคคลเหลาน้ีเปนนักปราชญชาวกูฟะฮฺท่ีประชาชนท้ังหลายไม คอยจะชนื่ ชอบตอมชั ฮับของพวกเขา พวกเขาเหลานั้นเปนหัวหนาของบรรดานักเลาฮาดีษ ชาวเมือง กฟู ะฮฺ เชน อาบอู สิ หาก มันศูร ซุบัยดฺ ยามียฺ และอะหฺมัด ตลอดจนถึงบุคคลอื่น ๆ อีกจํานวนมากที่มี ความผูกพันตอพวกเขา ประชาชนไดใหการยอมรับในความซื่อสัตยของพวกเขาดานการรายงานฮา ดีษ” และสวนหนึ่งของเร่ืองท่ีไดรับการพิจารณากันอยางหนักก็คือฮาดีษของเขาที่รายงานโดยอุมัร บิน อิสมาอีล ดังที่มีอางไวในหนังสือมีซานวา มีรายงานจากทานอาบูอิสหากผูนี้วา “ทานศาสนทูต (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของทาน) ได กลา ววา “อาลีเปรียบเสมือนตนไม ฉันคือรากของมัน อาลีคือก่ิงของมัน ฮาซันและฮุเซนเปนผลของ มัน กลุมชีอะฮฺ (ผูปฏิบัติตาม) เปนใบของมัน” อยางไรก็ดีฮาดีษอื่น ๆ ของบุคคลกลุมนี้ก็ยังเปนที่ ยอมรับของบรรดานักปราชญเจาของตําราศอฮี้ฮฺท้ังหกเลม ตลอดจนกระท่ังบุคคลอื่น ๆ ทานไมอาจ หลีกพนฮาดีษของอาบู อิสหากได ไมวาในตําราศอฮ้ีฮฺทั้งหกเลม และไมวาตําราศอฮ้ีฮฺเลมใด ซึ่งฮา ดีษท่ีรายงานมาจากบัรรออฺ บิน อาซิบ, ทานยะซีด บิน อัรก็อม, ฮาริษะฮฺ บิน วาฮับ, สุลัยมาน บิน ศ็ อดดฺ, นุมาน บิน บะชีร, อับดุลลอฮฺ บิน ยะซีด คุตุมียฺ, อุมัร บิน มัยมูน ทานเกิดเม่ือสามปหลังของ สมัยทานอุสมานเปนคอลีฟะฮฺ และไดเสียชีวิตในป ฮ.ศ. 127 และบางคนก็กลาววา 128 บาง 129 บา ง ทา นยะหฺยา บนิ มุอนี กลาววา เขาไดเ สียชวี ติ เมือ่ ป ฮ.ศ. 132 (อลั ลอฮฺอาลัม) 72. เอาฟ บิน อาบีญะมีละฮฺ อัลบัสรียฺ อาบูซะฮัล ทานซะฮะบีย ไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ใน หนังสือมีซาน วา เอาฟไดถูกยอมรับวาเปนคนซ่ือสัตยและมีคนกลาววา “เขาเปนนักปราชญชีอะฮฺ แตกลุมนักปราชญไดใหการยอมรับตอเขาอยางแข็งแรง” แตทานไดอางคํากลาวของญะอฺฟร บิน สุ ลัยมาน วา “เขาเปนชีอะฮฺเปนคนหัวรุนแรง” ทานอิบนุ กุตัยบะฮฺไดระบุวา “บุคคลผูนี้เปน นักปราชญชีอะฮฺ” ทานรุหุ เฮาดะฮฺ ชุอฺบะฮฺ, นะฏ็อร บิน ชะมีล, อุสมาน บิน หัยซัม ไดใหการ ยอมรับตอบุคคลผูนี้ บรรดานักปราชญเจาของตําราศอฮี้ฮฺท้ังหกเลม ตางก็ไดใหการยอมรับตอ หลักฐานฮาดษี ทมี่ าจากทา น ไมอ าจจะหลกี พนฮาดีษของบุคคลผูน้ีไดในหนังสือศอฮี้ฮฺบุคอรีจากทุก ๆ รายงานของฮาซัน ซะอีด อับนีย อาบูฮาซัน บัสรีย มุฮัมมัด บิน ซัยรีน ซัยยาร บิน สะลาอะฮฺ และ ฮาดีษของบุคคลผูนี้ยังมีปรากฏอยูในศอฮ้ีฮฺมุสลิม จากรายงานของนะฏ็อร บิน ชะมีล สวนรายงาน
ฮาดีษของบุคคลผูนี้ที่มาจากรายงานของอาบู ราญาอฺ อะฏอริดียฺน้ันมีบันทึกอยูในหนังสือศอฮ้ีฮฺท้ัง สอง ทานไดเสยี ชีวติ เม่อื ป ฮ.ศ. 146 (ขออลั ลอฮฺทรงประทานความเมตตาตอ เขาดวยเถิด). 73. อัลฟฏ ล บิน ดักกนี ดกั กนี คอื อุมรั บินฮมั มาด บนิ ซุฮัยรฺ มะละอียฺ อัลกูฟยฺ ทานถูกรูจัก กนั ในนามของ อาบนู าอีมเปนอาจารยคนหน่ึงของทานบุคอรี สําหรับในความสําเร็จของหนังสือศอ ฮี้ฮฺของทาน เขาผูน้ีไดถูกระบุวา เปนนักปราชญฝายชีอะฮฺ โดยกลุมนักปราชญผูทรงคุณวุฒิ เชน ทาน อิบนุ กุตัยบะฮฺ ไดกลาวไวในหนังสือมะอาริฟ ทานซะฮะบียไดกลาวไวในหนังสือมีซานวา “ฟฏล บิน ดักกีน อาบูนาอีม ผูน้ีเปนผูสันทัดตอหลักฐานฮาดีษ เพียงแตวาเปนนักปราชญชีอะฮฺ” ทานซะฮะบียไดอางวา “แทจริง อิบนุ ญะนัยตฺ อัลฆุตลีย” ไดกลาววา “ฉันไดยินทานอิบนุ มุอีน ได กลาววาอาบู นาอีมผูน้ีเม่ือถูกเอยถึงแกประชาชนแลว ตางคนก็บอกวาเขาเปนคนดีเย่ียม ตางคนก็ยก ยองแกเขาทั้ง ๆ ที่เขาเปนนักปราชญชีอะฮฺ” ทานซะฮะบียกลาววา “คํากลาวน้ียังแสดงตอไปอีกวา ยะหยฺ า บนิ มุอีน มีทา ทที ่ใี หการยอมรบั ทง้ั ท่ีเขาไดเ ห็นฟฏลเปน ชอี ะฮฺโดยแทจริง” ทานซะฮะบียได อางไวในหนังสือมีซาน โดยหยิบยกคําพูดของเญาซฺญานียฺวา “แทจริงอาบู นาอีมผูน้ีเปนนักปราชญ ชาวกฟู ะฮฺ ผูอ ยูใ นมซั ฮบั ชอี ะฮ”ฺ แตโ ดยความจรงิ แลว การที่ทานฟฏ ล บนิ ดกั กีนผูนี้เปนชีอะฮฺก็ไมมี ส่ิงท่ีนาเคลือบแคลงสงสัยใด ๆ ในตัวของเขา แนนอนบรรดานักปราชญเจาของตําราศอฮี้ฮฺท้ังหก เลมตางก็ไดใหการยอมรับตอเขาทั้งส้ิน ทานไมอาจจะหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูนี้ที่มีบันทึกอยูใน หนังสือศอฮี้ฮฺบุคอรีได โดยรายงานทุก ๆ ฮาดีษท่ีมาจาก ฮะมาม บิน ยะหฺยา อับดุลอะซีซ บิน อาบู สะลามะฮฺ ซะกะรียา บิน อาบูสาอีดะฮฺ ฮิชาม ดัสตุวาอียฺ อะหฺมัด มัสอุด เษารียมาลิก อิบนุ อัยยีนะฮฺ ชัยบาน และซุฮัยรฺ สวนฮาดีษของบุคคลผูนี้ท่ีมีบันทึกอยูในหนังสือศอฮี้ฮฺมุสลิมนั้น คือ รายงานฮา ดษี ทกุ ๆ บทท่มี าจากทานซัยด บนิ อาลีสุลัยมาน อิสมาอีล บิน มุสลิม อาบูอาซิม มุฮัมมัด บิน อัยยูบ อัษะษะกอฟยฺ อาบีอะมีส มูสา บิน อาลี อาบูฏิหาก มูสา บิน นาฟอฺ ฯลฯ สวนรายงานในบุคอรีน้ัน ไมมีบุคคลใดเปนส่ือกลาง ทานผูนี้เกิดเมื่อป ฮ.ศ. 130 เสียชีวิตที่เมืองกูฟะฮฺ เมื่อคืนวันอังคารปลาย เดือน ชะอบ านป ฮ.ศ. 210 74. ฟะฏีล บิน มัรษูบ อะอฺฆ็อร เราะวาสีย อัลกูฟยฺ อาบูอับดุรเราะมาน ทานซะฮะบียได กลาวถึง บุคคลผูนี้ในหนังสือมีซานวา “เปนที่รูกันดีวา เขาเปนนักปราชญฝายชีอะฮฺ” โดยไดอาง คํายืนยันเรื่องนี้จากซุฟยาน บิน อัยยีนะฮฺ ทาน อิบนุ มุอีน ไดกลาววา ทานอิบนุ อาดีย บอกวา “บุคคลผูน้ีไมมีขอบกพรองใด ๆ” หลังจากนั้น ทานยังไดอางคําพูดของฮัมสัม บิน ยะอฺมีล วา “ฟาฏีล บิน มรั ษูบ น้ันเปนนักปราชญระดับผูนําคนหนึ่ง มีความเปนอยูสมถะ และมีเกียรติยิ่ง” ทาน
ไดกลาวตอไปอีกวา “ทานมุสลิมไดยอมรับฮาดีษของบุคคลผูนี้มาบันทึกไวในหนังสือศอฮ้ีฮฺของ ทา น\" โดยรายงานมาจากชะกีก บิน อุกบะฮฺ ในเร่ือง “การนมาซ” และรับหลักฐานจากฮาดีษของเขา ในเรื่อง “การจายซะกาต” จากทานอะดีย บิน ซาบิร ทานผูน้ีไดเสียชีวิตเม่ือป ฮ.ศ. 158 (ขออัลลอฮฺ ประทานความเมตตาแกเขา) 75. ฟะฏ็อร บิน คุลัยฟะฮฺ อัลหันนาฎ อัลกูฟยฺ ทานอับดุลลอฮฺ บิน อะหฺมัดไดถามบิดาของ ทานเกยี่ วกับ ฟะฏ็อร บนิ คลุ ัยฟะฮฺ บิดาของทา นตอบวา “เขาเปน นักรายงานฮาดีษที่มีคนเช่ือถือมาก ท่ีสุด แตวาเขาเปนนักปราชญชีอะฮฺ” ทานอับบาสไดรับรายงานมาจากทาน อิบนุ มุอีนซึ่งกลาววา “แทจริง ฟะฏ็อร บิน คอลีฟะฮฺ ผูน้ีเปนนักปราชญคนสําคัญยิ่งทางฝายชีอะฮฺ” ทานอาบูบักรฺ บิน อี ยาจญ ไดกลาววา “ฉันไมเคยละท้ิงรายงานฮาดีษบทใดท่ีเลามาโดยฟะฏ็อร บิน คอลีฟะฮฺ ถึงแมจะมี คนรังเกียจมัซฮับของเขาก็ตาม” ทานเญาซฺญานียฺไดกลาววา “ฟะฏ็อร บิน คอลีฟะฮฺ ผูนี้เปนจอม ปราชญ” ทานอาบู ฮาติมไดกลาววา “เขาเปนนักฮาดีษท่ีดีท่ีสุดคนหน่ึง” ทานนะสาอียฺกลาววา “บุคคลผูน้ีไมมีขอตําหนิใด ๆ เลย” และกลาวอีกวา “เขาเปนคนสําคัญอยางยิ่งคนหน่ึง” ทานซะฮะ บียไดกลาวไวในหนังสือมีซาน โดยอางอิงจากถอยคําของบรรดานักปราชญ ตามท่ีเราไดกลาวไป แลวนี้(116) ทานอิบนุ กุตัยบะฮฺก็ไดกลาวยืนยันไวในหนังสือมะอาริฟวา บุคคลผูน้ีเปนนักปราชญ ชีอะฮฺ และแนนอนทานบุคอรีก็ไดน าํ ฮาดีษของบคุ คลผนู มี้ าบนั ทึก โดยสายสืบท่ีมาจากมญุ าฮดิ ทา น เญารียฺก็ไดรับรายงานฮาดีษของบุคคลผูน้ีมาบันทึกไวในหมวดท่ีวาดวย อัลอาดาบ (มารยาท) นักปราชญฝายซุนนะฮฺทั้งส่ีมัซฮับ ตางก็ไดใหการยอมรับหลักฐานฮาดีษที่เลามาโดยฟะฏ็อรท้ังน้ัน ทา นผนู ้ีไดเ สียชีวิตในป ฮ.ศ. 153 (ขออัลลอฮปฺ ระทานความเมตตาแกเ ขา) 76. มาลิก บิน อิสมาอีล บิน ซิยาด บิน ดิรฮัม อาบูฆ็อสสาน อัลกูฟย อัลฮิลอีย เปนอาจารย คนหนึ่งของทานบุคอรีท่ีมีผลงานปรากฏอยูในหนังสือศอฮ้ีฮฺของทาน ทานอิบนุ สะอัด ไดกลาวถึง บุคคลผูน้ีไวในหนา 282 ของุซอฺที่ 6 จากหนังสือฏอบากอตซ่ึงในตอนทายของคําบันทึก ทานได กลาวถึงเร่ืองราวของบุคคลผูน้ีวา “เขาคืออาบู ฆ็อสสาน เปนนักปราชญฝายชีอะฮฺ ท่ีแข็งขัน มี นา้ํ หนักในดา นความซอื่ สัตยย งิ่ คนหนึ่ง” ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมีซานโดย ไดอธิบายถึงความดีเดน ความเท่ียงธรรมของบุคคลผูนี้ และระบุวา “บุคคลผูน้ีไดยอมรับมัซฮับ ชีอะฮฺมาจากอาจารยคนหนึ่งของเขาช่ือฮาซัน บิน ศอลิหฺ” ทานอิบนุ มุอีนไดกลาววา “ไมมีชาว กฟู ะฮคฺ นใดในยุคน้ันท่ีจะสํารวมตนย่ิงไปกวาอาบู ฆ็อสสาน” ทานอาบูฮาติมก็ไดกลาววา “ฉันมิได เคยเห็นชาวกูฟะฮฺคนใดที่มีความสํารวมตนยิ่งไปกวาเขา” เขาเปนคนมีเกียรติย่ิงและเครงครัดใน
การอิบาดะฮฺ ฉันไดพิจารณามองไปยังบุคคลผูนี้แลวไดเห็นวา เขาเหมือนคนท่ีออกมาจากกุบุรของ เขา ทานบุคอรีไดรับรายงานจากบุคคลผูน้ีโดยมิไดมีสื่อกลางในการบันทึกในหนังสือ ศอฮี้ฮฺของ ทา น ทานมุสลิม กไ็ ดร ับรายงานมาจากบุคคลผูนี้ ซึ่งมบี นั ทึกไวใ นหนังสอื ศอฮ้ฮี ฺ โดยอาศยั ฮารนู บนิ อับดุลลอฮฺเปนสื่อกลางรายงานฮาดีษ ทานผูนี้ไดเสียชีวิตที่เมืองกูฟะฮฺ เมื่อป ฮ.ศ. 291 (ขออัลลอฮฺ ทรงประทานความเมตตาแกเ ขา) (116) ทานอิบนุ สะอัดไดอธิบายรายละเอียดของเรื่องน้ีไวในหนา 253 ุซอฺที่ 6 หนังสอื ฏอบากอต 77. มุฮมั มดั บนิ คอซมิ หรือท่ีรูจ ักกันในนามของ “อาบู มุอาวียะฮฺ ฎอริร ตะมีมียฺ อัลกูฟะฮฺ” ทา นซะฮะบยี ฺไดกลา วถงึ บคุ คลผูนี้ไวในหนังสือมีซานของทานวามุฮัมมัด บิน คอซิมผูนี้เปนผูไดรับ ความเช่ือถือทีม่ ัน่ คงอยางย่ิง ฉันไมเ คยไดร วู ามถี อยคําใด ๆ ของบรรดานักปราชญท่ีกลาววา “บุคคล ผนู มี้ ีความออนแอ” ทานไดก ลา วถึงตอไปอีกวา “อาบู มอุ าวยี ะฮฺ ฎอริรผนู ้เี ปนจอมปราชญคนหนึ่งที่ ไดรับความเชื่อถือเปนเยี่ยม” ทานไดกลาวอีกวา อาบูฮากิมไดกลาววา “ผูอาวุโสท้ังสอง (บุคอรีท้ัง สอง) ตางไดใหการยอมรับหลักฐานฮาดีษตาง ๆ ของบุคคลผูนี้นักปราชญเจาของตําราศอฮี้ฮฺทั้งหก เลมตางก็ไดใหการยอมรับตอหลักฐานฮาดีษที่มาจากบุคคลผูน้ีท้ังสิ้น” ทานซะฮะบียฺระบุวา “ช่ือ ของบุคคลผูนี้มีความหมายท่ีสําคัญอยางย่ิงตอบรรดานักปราชญกลุมน้ัน” ทานสามารถจะพบฮาดีษ ของบุคคลผูนี้ไดในหนังสือศอฮี้ฮฺบุคอรีและมุสลิม โดยทุก ๆ รายงานที่มาจากอะหฺมัด ฮิชาม บิน อุ วะฮฺ แลวฮาดีษหลายบทของบุคคลผูนี้ไดมีบันทึกอยูในศอฮ้ีฮฺ มุสลิม นักปราชญผูซึ่งไดรับรายงาน ฮาดีษจากบุคคลผูน้ีมาบอกเลาแกทานบุคอรีนั้นมีรายชื่อตอไปนี้ อาลี บิน มะดานียฺ, มุฮัมมัด บิน สลาม, ยูซุฟ บิน อีสา, กุตัยบะฮฺ และมุสตัฏ สวนในศอฮี้ฮฺมุสลิมนั้นมีทานสะอีด วาสิฏียฺ, สะอีด บิน มันบรู , อะมัร นากิด, อะหฺมัด บิน สินาน, อิบนุ นุมัยรุ, อิสหาก ฮันศอลียฺ, อาบูบักรฺ บิน อาบีชัยยะฮฺ, อาบูกะรีม, ยะหฺยา บิน ยะหฺยา, และทานซุฮัยรฺ ทานอาบีมูอาวียะฮฺเกิดเมื่อป ฮ.ศ. 113 เสียชีวิตเม่ือป ฮ.ศ. 195 (ขออัลลอฮทฺ รงประทานความเมตตาแกเ ขา) 78. มฮุ มั มัด บนิ อับดลุ ลอฮฺ ฏ็อบบียฺ เฏาะฮานียฺ นัยสาบูรียฺ เขาผูน้ีคือ อาบู อับดุลลอฮฺ ฮากิม เปน หัวหนาผูทรงคุณวุฒิคนหนึ่งของบรรดานักปราชญฮาดีษเปนเจาของตํารา ซ่ึงมีไมนอยกวาหนึ่ง พนั หวั ขอ ประชาชนทั้งหลายในยคุ สมัยนัน้ ตางไดใหความเชอ่ื ถือในวชิ าความรูของบุคคลผูนี้ เปนท่ี รูจกั กันอยางดใี นสมัยนนั้ เชน เศาะลูกยี ฺ อมิ าม บิน ฟูรอ็ ก และบรรดานกั ปราชญอื่น ๆ ที่มีความเพียร ในการศึกษาก็หาความรูจากบุคคลผูน้ี ตางยอมรับวาบุคคลผูน้ีมีความเหนือกวาพวกเขาในทุก ๆ
ดาน เขาเปนผูโจมตีดวยขอหาวาเปนชีอะฮฺ ซึ่งเราสามารถจะรูเรื่องราวเหลาน้ีไดโดยละเอียดในคํา กลาวของทานซะฮะบียฺ ซึ่งทานไดกลาวไวในหนังสือมีซานวา “เขาเปนผูนําที่มีความซื่อสัตย เขา เปนนักปราชญชีอะฮฺท่ีมีช่ือเสียง” ทานอิบนุ ฏอฮิรไดกลาววา “ฉันไดถามอาบู อิสมาอีล อับดุลลอฮฺ ชาวอันศอรถึงเร่ืองของฮากิม อาบู อับดุลลอฮฺผูนี้” เขาตอบวา “เขาคือหัวหนาของบรรดานักฮาดีษ เปน ผูต อ ตา นท่ีแข็งขันกับความไมดีไมงามตาง ๆ” ทานซะฮะบียฺไดกลาววา “เขาคือผูมีวาทศิลปโดย ใชคําพูดท่ีเปนฮาดีษ ซึ่งมาจากทานศาสนทูต (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุข แดทานและแดบรรดาลูกหลานของทาน)” ทานซะฮะบียฺไดกลาวตอไปวา “สําหรับความซื่อสัตย ของทานที่มีอยูในตัวและบุคลิกของทานนั้น เปนคุณลักษณะโดยท่ัวไปท่ีทานไดยึดถือปฏิบัติไว” ทา นเกิดเม่ือป ฮ.ศ. 405 (ขออัลลอฮทฺ รงประทานความเมตตาแดทา น) 79. มุฮัมมัด บิน อะบัยดิลละฮฺ บิน อาบูรรอฟอฺ มะดานียฺ เขาผูนี้คืออาบู อุบัยตินละฮฺ และมี พี่ชายสองคนคอื ฟฏ ล และอับดุลลอฮฺ บตุ รของอุบัยดิลละฮฺ ทานอาบู รอฟอฺเปนปูของเขา ลุงของเขา คือรอฟอฺฮาซัน มูฆีเราะฮฺ และทาน อาลี ซึ่งลูก ๆ ของพวกเขาทั้งหมดลวนเปนผูมีคุณธรรม ซึ่งเปน บรรพชนของนักปราชญฝายชีอะฮฺ สําหรับทานมุฮัมมัดผูน้ีทานอิบนุ อาดียฺไดกลาวถึงเขาวา เขาคือ คนหนงึ่ ในจาํ นวนนักปราชญช ีอะฮฺแหง เมอื งกูฟะฮฺ ทานซะฮะบียฺไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือ มีซานวา ชื่อของเขาไดเปนที่ยอมรับของบรรดานักปราชญฝายซุนนะฮฺและไดกลาวตอไปวา ทานผู นี้ไดรับรายงานฮาดีษมาจากบิดาและปูของทานผูซึ่งไดรับรายงานฮาดีษจากบุคคลผูนี้ก็คือทาน ฮิ บบาน บิน อาลี ยะหฺยาบิน ยะอฺลา และบางคนก็กลาววา “มุฮัมมัด บิน อุบัยดิลละฮฺ ยังไดรับรายงาน ฮาดษี มาจากพ่ชี ายของเขาทมี่ ชี ่ือวา อบั ดุลลอฮฺ บิน อุบัยดิลละฮฺอีกดวย” ทานฏ็อบรอนียฺไดบันทึกฮา ดีษของบุคคลผูน้ีไวในหนังสืออัลกาบีร โดยอางสายสืบระบุถึงช่ือมุฮัมมัด บิน อุบัยดิลละฮฺ บิน รอฟอฺซึ่งเลามาจากบิดาของเขาท่ีไดฟงมาจากปูของเขาวา “แทจริงทานศาสนทูต (อัลลอฮฺทรง ประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของทาน) ไดกลาวแกทาน อาลีวา “บคุ คลแรกทีจ่ ะไดเขาสวรรคกค็ อื ฉนั กบั เธอฮาซนั และฮเุ ซน และบรรดาผูสืบเชื้อสายของเรา หลังจากเรา และกลุมชีอะฮฺ (ผูปฏิบัติตาม) ของเรา ผูซ่ือสัตยตอพันธะสัญญาและเกียรติยศตาง ๆ ของพวกเรา” 80. มุฮัมมัด บิน ฟะฎีล ฆ็อซวาน อาบู อับดุรเราะมาน อัลกูฟยฺ ทานอิบนุ กุตัยบะฮฺไดระบุ ถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมะอาริฟของทานวา “เขาเปนนักปราชญฝายชีอะฮฺ” ทานอิบนุ สะอัดได กลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนา 271 ุซอฺท่ี 6 หนังสือฎอบากอตวา “เขาเปนคนซื่อสัตยท่ีไดรับความ
เชื่อถือ” ฮาดีษของเขาจํานวนมาก รายงานมาโดยนักปราชญชีอะฮฺ ฉะนั้นนักปราชญบางสวน จึง ไมไดใหการยอมรับตอเขา ทานซะฮะบียฺไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมีซานวา “เขาเปน นักปราชญชีอะฮฺที่มีความซ่ือสัตย” ทานไดกลาวอีกวา “เปนผูมีช่ือเสียงในดานของความซ่ือสัตย” ทานอะหฺมัดไดกลาววา “แทจริงเขาเปนนักฮาดีษฝายชีอะฮฺท่ีดีเสิศ” ทานอาบูดาวูดไดกลาววา “เขา เปนนักปราชญชีอะฮฺคนสําคัญเขาเปนนักฮาดีษท่ีไดรับการยกยอง” ทานอิบนุ มุอีน ไดใหความ เช่ือถือตอบุคคลผูนี้ ทานอะหฺมัดไดใหการรับรองความดีของบุคคลผูน้ี ทานนะสาอียไดกลาววา “บุคคลผูน้ีไมมีขอบกพรองใด ๆ” ฉะนั้นแนนอนที่สุด บรรดานักปราชญเจาของตําราศอฮ้ีฮฺทั้งหก เลมตางไดใหการยอมรับตอหลักฐานฮาดีษตาง ๆ ของเขา ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูนี้ ได ไมวาในศอฮ้ีฮฺบุคอรีหรือมุสลิม จากรายงานฮาดีษทุก ๆ บทท่ีมาจากบิดาของเขา ผูมีช่ือวาฟะฎีล และจากอะอมฺ ชั อิสมาอลี บนิ อาบู คอลิด ผูรายงานฮาดษี จากเขาแลว มาบนั ทึกไวแ กทานบุคอรีน้ันมี มุฮัมมัด บิน นุมัยรฺ, อิสหาก หันศอลียฺ, อิบนุ อาบีชัยบะฮฺ, มุฮัมมัด บิน สลาม, กุตัยบะฮฺ อิมรอน บิน มัยสะเราะฮฺ, อมุ รั บิน อาลี และผูซ ึง่ ไดร บั รายงานมาจากเขาแลวมาบันทึกไวที่ทานมุสลิม ไดแก อับ ดุลลอฮฺ บิน อามิร, อาบู กะรีบ, มุฮัมมัด บิน ฏอรีฟ, วาศิล บิน อับดุลอะอฺลา ซุฮัยรฺ, อาบูซะอีด, อะ ชัดญ, มุฮัมมัด บิน ยะซีด, มุฮัมมัด บิน มุสันนา, อะหฺมัด, วะกีอียฺ, อับดุลอะษีร บิน อุมัร บิน อุบาน ทานไดเสียชีวิตท่ีเมืองกุฟะฮฺ เมื่อป ฮ.ศ. 195 แตบางทานก็บอกวาป ฮ.ศ. 194 (ขออัลลอฮฺทรง ประทานความเมตตาตอเขา) 81. มุฮัมมัด บิน มุสลิม บิน อัฏฏออิฟยฺ เขาเปนนักเสียสละคนหนึ่งในกลุมสหายของอิมาม อาบู อับดุลลอฮฺ ศอดิก อาลัยฮิสลาม ทานอาบู ญะอฺฟรไดกลาวไวในหนังสือของทานวา “บุคคลผูน้ี เปนนักปราชญฝายชีอะฮฺ” ทานฮาซัน บิน อาลี บิน ดาวูด ก็ไดอธิบายรายละเอียดของบุคคลผูน้ีไว ในบาบซิเกาะฮฺ โดยสรุปไวอยางนั้นเชนเดียวกัน ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูนี้โดยไดอาง คํายืนยันของยะหฺยา กุตัยบะฮฺวา พวกเขาไดรับรายงานฮาดีษมาจากบุคคลพวกน้ี ทานอับดุร เราะ มาน บิน มะอฺดียฺ ไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีวา “ทานมุฮัมมัด บิน มุสลิม อัฏฏออิฟยฺผูน้ีตําราตาง ๆ ของ เขานน้ั ลว นศอฮ้ีฮ”ฺ ทา นมะอฺรูฟ บิน วาศลิ ไดกลา ววา “ฉนั ไดเ ห็นซุฟยาน อษั ษรู ียนฺ ั่งอยูตอหนามุฮัม มัด บิน มุสลมิ อัฏฏออฟิ ยฺ แลวไดบ ันทกึ รายงานฮาดีษจากเขา” กลา วไดว า “แทจริงการท่นี กั ปราชญ ระบุความออนแอในหลักฐานฮาดีษของเขาก็เพียงแตเปนเพราะสาเหตุการเปนชีอะฮฺของเขาเทานั้น
แตทวาบรรดานักปราชญหาไดระบุถึงความออนแอท่ีมาจากความประพฤติที่เสียหายของเขาแต อยางใดไม” ฉะนั้นฮาดีษของบุคคลผูนี้ที่มาจากรายงานของอุมัร บิน ฎีนาร จึงมีบันทึกอยูใน หมวดวุฎอฺ จากหนังสือศอฮี้ฮฺมุสลิม ซึ่งน่ันแสดงวาทานไดใหการยอมรับตอเขา ทํานองเดียวกันกับ ท่ีทานอิบนุสะอัด ไดกลาวไวในหนังสือฏอบากอต หนา 381 ุซอฺท่ี 5 วา “ฮาดีษของบุคคลผูนี้ยังมี อยใู นรายงานของวากีอฺ บิน ญิเราะฮฺ อีกนับจํานวนเปน รอย” 82. มุฮัมมัด บิน มูซา บิน อับดุลลอฮฺ ฟะฏอรียฺ มะดานีย ทานซะฮะบียไดกลาวถึงเร่ืองของ บุคคลผูนี้ในหนังสือมีซานของทานโดยหยิบยกคําอางของอาบู ฮาติม ท่ีกลาววา “บุคคลผูนี้ เปน นักปราชญชีอะฮฺ ทานติรมีซียไดใหความเชื่อถือในรายงานฮาดีษของบุคคลผูนี้ ชื่อของเขาไดเปน เคร่ืองหมายแหงการยอมรับของทานมุสลิม และนักปราชญเจาของตําราสุนันท้ังหลาย ซ่ึงตาง ชี้ใหเห็นวา พวกเขาเหลาน้ัน ไดใหการยอมรับตอหลักฐานฮาดีษตาง ๆ ของบุคคลผูน้ี” ทานไมอาจ หลีกพนฮาดีษของบุคคลผูน้ีไดในหมวดวาดวยอาหาร ของหนังสือ ศอฮ้ีฮฺมุสลิม ซึ่งเปนรายงานท่ี เลาตอมาจาก อับดุลลอฮฺ บิน อับดุลลอฮฺ บิน อาบีฎ็อลฮะฮฺ ซึ่งบุคคลเหลานี้ไดรับรายงานฮาดีษของ เขา มาจากอบิ นุ อาบีฟะฎีก, อิบนมุ ะอดฺ ยี ฺและกุตยั บะฮฺ 83. มุอาวียะฮฺ บิน อัมมาร อัดดะหานียฺ ปจญลียฺ อัลกูฟยฺ เขาเปนบุคคลสําคัญคนหนึ่งในหมู นักปราชญของเรา เปนผมู คี ณุ ลักษณะท่ียิ่งใหญคนหน่ึง เปนผูไดรับการเชื่อถืออยางดีเยี่ยม บิดาของ เขาที่ชื่ออัมมารน้ันเปนแบบอยางของผูไดรับภัยอันตรายและเปนตัวอยางของผูที่ยืนหยัดอยูใน พื้นฐานของสัจธรรม อัลลอฮฺไดทรงทําใหเขาเปนอุทธาหรณสําหรับบรรดาผูมีความอดทนตอความ ขมข่ืนที่เกิดข้ึนในวิถีทางของพระองค บุตรของเขาคือมุอาวียะฮฺ ผูนี้ไดรับการสืบทอดคุณลักษณะ และแบบแผนแหงชีวิตมาจากบิดา เขาเปนสหายคนหน่ึงของทานอิมามศอดิกและกาซิม (อาลัยฮิ มัสสลาม) เขาเปนผูซ่ึงรับวิชาการตาง ๆ จากทานอิมามทั้งสองทานผูนี้ไดรับการบันทึกรายงานตาง ๆ จากทานอิมามมาเสนอแกพวกเรา รายงานตาง ๆ จากบุคคลผูนี้ไดสืบตอไปยังนักปราชญของเรา เชน อิบนุ อาบูอะมัร และคนอื่น ๆ ทานมุสลิม และนะสาอียก็ไดใหการยอมรับหลักฐานฮาดีษของ บุคคลผนู ี้ เชน ฮาดษี ทีว่ าดวยเรือ่ งการทําฮจั ญ ในหนงั สือศอฮฮี้ มฺ สุ ลมิ โดยรายงานท่ีมาจากซุบัยรฺ ผูท่ี ไดรับรายงานมาจากเขาแลว มาบันทึกไวแกทานมุสลิม ก็คือ ยะหฺยา บิน ยะหฺยา, กุตัยบะฮฺ ทานผูนี้ ยังมีรายงานฮาดีษอื่น ๆ อีกมากซึ่งเลามาโดยบิดาของทานที่ช่ืออัมมาร ซ่ึงไดถูกบันทึกไวโดย
นักปราชญกลุมหนึ่ง ผูเปนเจาของตํารามุสนัดตาง ๆ ของฝายซุนนะฮฺ ทานผูนี้ไดเสียชีวิตเม่ือป ฮ.ศ. 175 (ขออัลลอฮฺไดท รงประทานความเมตตาแกท า น) 84. มะอฺรูฟ บิน คอรบูซ อัลกัรคียฺ ทานซะฮะบียไดกลาวถึงเร่ืองราวของบุคคลผูน้ีไวใน หนังสือมีซานวา เปนนักปราชญชีอะฮฺผูซื่อสัตย ชื่อของเขาไดเปนที่ยอมรับของทานบุคอรี ทาน มุสลิม และอาบูดาวูด โดยชี้ใหเห็นวา บุคคลเหลานี้ไดบันทึกรายงานฮาดีษของเขา ทานไดกลาว ตอไปอีกวา บุคคลผูน้ีไดรายงานฮาดีษตาง ๆ ที่มาจากอาบีฏอฟล อาบูอาศิม อาบูดาวูด อุบัยดิลละฮฺ บิน มูสา และบุคคลอื่น ๆ ก็ไดรับการถายทอดฮาดีษมาจากเขา ทานไดอางคํากลาวของอาบีฮาติมวา ทานไดบันทึกฮาดีษของเขา เพราะเหตุนี้เองอิบนุ ค็อนกาน ไดกลาวไวในหนังสือวุฟยาตวา เขาคือ คนท่ีจงรักตอทาน อาลีบิน มูสา ริฎอ ทานมุสลิมไดใหการยอมรับอยางดียิ่งตอหลักฐานฮาดีษของ บุคคลผูน้ี ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของเขาไดในหมวดวาดวยการทําฮัจญหนังสือศอฮี้ฮฺมุสลิมซึ่ง เปนรายงานท่ีมาจากอาบู ฏอฟล ทานไดเสียชีวิตที่กรุงแบกแดดเมื่อป ฮ.ศ. 200 กุบุรของเขายังได เปนที่รูจักแกผูเยี่ยมเยียนอยูเสมอ และปรากฏวาซะรียชะกอฎีก็เปนคนหน่ึงในจํานวนลูกศิษยของ เขา 85. มนั ศรู บนิ มุอตฺ ะมัร บิน อับดุลลอฮฺ สะละมียฺ อลั กฟู ย ฺ เขาเปน คนหน่งึ ในจาํ นวนสหายผู ใกลชดิ ของทานบากิร และทา นศอดิก (อาลยั ฮมิ ัสลาม) ดงั ท่ขี อ เขียนของหนงั สือมุนตาฮาไดกลาวไว และนอกจากนท้ี าน อบิ นุ กุตัยบะฮกฺ ไ็ ดระบวุ า เขาผูน ีค้ อื นกั ปราชญของฝายชอี ะฮฺ ทา นเญาซฺญานียฺก็ ไดกลาววา “เขาเปนคนหนึ่งในบรรดานักฮาดีษทั้งหลายท่ีประชาชนไมคอยศรัทธาตอมัซฮับของ พวกเขา ในเร่ืองของภาคปฎิบัติและรายละเอียดของศาสนา เนื่องจากพวกเขาเหลาน้ันรับหลักการ ท่ีมาจากบรรดาลกู หลานของศาสดามุฮมั มัด” ทานไดก ลาวในทํานองเดียวกันนอ้ี กี ดวยวา ชาวเมอื งฟู กะฮฺ นั้น เปนพวกท่ีประชาชนไมคอยยกยองตอมัซฮับของพวกเขา โดยชนช้ันระดับหัวหนาของนัก ฮาดีษชาวเมืองกูฟะฮฺ ดังเชน อาบู อิสหาก มันศูร ซุบัยดฺ อัลยามียฺ อะอฺมัช และบุคคลอ่ืน ๆ ท่ี ประชาชนไดใหความเชื่อถือในความซื่อสัตยของพวกเขาดานของการรายงานฮาดีษ อะไรคือ ส่ิงซึ่ง บรรดาผูที่มีความซ่ือสัตยเหลาน้ันไดตีตนใหเสมอกับทาน? พวกเขาเหลานั้น ไดยึดถือตออัษ-ษะ เกาะลัยน (ส่ิงสําคัญสองประการ) หรือ? หรือวาพวกเขาไดข้ึนข่ีนาวาท่ีใหความปลอดภัย? หรือวา พวกเขาไดเขาไปสูนครแหงความรูของทานนบี ทางประตูของมัน? หรือวาพวกเขาไดยอมรับส่ิงท่ี เปนหลักประกันความปลอดภัยใหแกชาวโลกทั้งหลายแลว? หรือวาทานศาสนทูต (อัลลอฮฺทรง ประทานความจาํ เรญิ และความสนั ตสิ ขุ แดทานและแดบรรดาลูกหลานของทาน) ไดพิทักษรักษาเขา
ไวในเช้ือสายของทาน? หรือวาความยําเกรงของพวกเขาและความหว่ันกลัวของพวกเขาที่มี ตออัลลอฮฺนั้นจะมากย่ิงไปกวาความเกรงกลัวของทาน? แมแตอิบนุ สะอัด ก็ยังไดกลาวถึงทาน มันศูร ไวในหนังสือฏอบากอต หนา 235 หมวดท่ี 6 วา “แทจริงบุคคลผูน้ีไดรองไหดวยความเกรง กลัวตออัลลอฮฺผูทรงสูงสุด จนตาของเขาแดงก่ํา เพราะหยาดนํ้าตาท่ีไหลรินอยูเปนเนืองนิจ” ทาน กลาวอีกวาผูคนตาง ๆ ไดยืนยันวา บุคคลผูนี้ถือศีลอดเปนนิจสิน เมื่อเปนเชนนี้แลว เขาควรจะได เปนตัวอยางท่ีตองไดรับความเชื่อถือจากประชาชนใชหรือไม? ทานอิบนุ สะอัดไดกลาวถึง มันศูรผู นี้จากคําบอกเลาของ หัมมาด บิน ซัยดฺ วา “ฉันไดเห็นทานมันศูรท่ีมักกะฮฺ ฉันนึกวาเขาไมใชคน โกหกแน” ขอใหเราไดยอนกลับมาพิจารณาถึงคํากลาวท่ีสอดคลองตองกันในดานของการใหความ ยอมรับตอมันศูร โดยบรรดานักปราชญเจาของตําราศอฮ้ีฮฺท้ังหกเลมซ่ึงไดใหการยอมรับตอเขา ท้ัง ๆ ที่รูวาเขาเปนนักปราชญชีอะฮฺ ฉะน้ันทานจึงไมอาจผานพนฮาดีษท่ีมาจาก อะบูวาอิล อาบีฎหา, อิบรอฮีม อันนัคอีย และบุคคลอื่น ๆ ในกลุมของนักปราชญเหลานี้ นอกจากน้ีในตําราศอฮี้ฮฺทั้งสอง ยังไดรับฮาดีษของบุคคลผูนี้มาบันทึกอีกเชนเดียวกัน โดยฮาดีษทุก ๆ บทที่มาจากชุอฺบะฮฺ, เษารีย, อิบนุ อัยยีนะฮฺ, หัมมาด บิน ซัยดฺ, ทานอิบนุ สะอัดไดกลาววา “มันศูรไดเสียชีวิตในปลายป ฮ.ศ. 132” (ขออัลลอฮทฺ รงประทานความเมตตาแกเ ขา) 86. มินฮาล บิน อุมัร อัลกูฟยฺ ดาลบิอีนผูมีช่ือเสียงของฝายชีอะฮฺแหงเมืองกูฟะฮฺ ดวยเหตุนี้ ทานเญาซฺญานียฺไดถือวาบุคคลน้ีรายงานฮาดีษออนแอโดยกลาวา “อยูในมัซฮับที่เลว” อิบนุฮาซันก็ ไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีในทํานองเดียวกัน สวนยะหฺยา บิน ซะอีดนั้นไดแสดงความเห็นอกเห็นใจ ทานอะหฺมัด บิน ฮันบัล ไดกลาววา “ปูชนียบุคคลที่ฉันรักยิ่งและใหความเชื่อถือแกเขานั้นคือมิน ฮาล” ท้ัง ๆ ที่เขาองก็รูวบุคคลผูน้ีเปนนักปราชญชีอะฮฺ ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ไวใน หนังสอื มีซาน โดยไดอ า งถอ ยคําของบรรดานกั ปราชญตาง ๆ ท่ีไดกลาวถึงเขามาบันทึกไว แลวระบุ วาทานบคุ อรีและทานมุสลิม ไดใหการยอมรับตอช่ือของบุคคลผูนี้โดยชี้ใหเห็นวา คนท้ังสองไดให การยอมรับตอเขา ฉะน้ันทานจึงไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลนี้ไดในหนังสือศอฮี้ฮฺบุคอรี จาก รายงานของสะอดี บิน ญบยั รฺ 87. มูซา บิน กัยส ฮัฏรอมีย ทานอุกัยลียไดระบุวา บุคคลผูนี้เปนคนหัวรุนแรงตัวฉกาจ คร้ัง หน่ึงซุฟยานไดถามเขาถึงเรื่องที่เกี่ยวกับอาบูบักรฺกับทานอาลี เขาผูน้ีกลาววา “อาลีคือท่ีรักของฉัน” มูซาผนู เี้ ปน ผูไดร ับรายงานฮาดีษมาจากสะลามะฮฺ บิน กุฮัยล จากอียาฎ บิน อียาฎ จากมาลิก บิน ญา
อูนะฮฺ ไดกลาววา “ฉันไดยินทานหญิงอุมมุสะลามะฮฺ กลาววา “อาลีนั้นอยูกับสัจธรรม ดังน้ันผูใด ปฏบิ ตั ติ ามเขา ก็เทากบั เขาอยูบนสัจธรรม ผูใดทอดทิ้งเขาก็เทากับทอดทิ้งสัจธรรมพันธะสัญญาตาง ๆ ทถ่ี ูกสญั ญาไว” รายงานโดยอาบูนะอีม อลั ฟฎ ล บิน ดะกีล จากมูซา บินกัยส มูซาผูนี้ไดรายงานฮา ดีษตาง ๆ ที่กลาวถงึ เกียรติยศของบรรดาอฮฺลุลบัยตฺ ซึ่งลวนแตเปนฮาดีษศอฮี้ฮฺทั้งส้ิน อิบนุมุอีนเปน คนหนึ่งที่ใหการยอมรับตอมูสา อาบูดาวูด ซะอีด บิน มันศูร ก็ไดยอมรับหลักฐานฮาดีษตาง ๆ ของ เขามาบันทึกไวในตําราสุนันของบุคคลทั้งสอง ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมี ซาน โดยใหรายละเอียดไปตามคําแถลงของบรรดานักปราชญท่ีไดกลาวไวในเร่ืองราวของเขา แลว สรุปวา ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูนี้ไดในหนังสือสุนันตาง ๆ ซ่ึงเปนรายงานฮาดีษท่ีเลา มาจากสะลามะฮฺ บิน กุหัยล และฮะญัร บิน อันบาสะฮฺ ทานฟฎล บิน ดะกีล และทานอุบัยดิลละฮฺ บิน มูซา ตลอดจนถึงบุคคลอื่น ๆ ที่มีความพิถีพิถัน ตางก็ไดรับรายงานมาจากบุคคลผูนี้ท้ังสิ้น ทาน ไดเ สียชวี ิตในสมยั ของมนั ศูร (ขออลั ลอฮฺทางประทานความเมตตาแกเขา) 88. นะฟย บนิ ฮารษิ อาบูดาวูด อันนฆั อีย อัลกูฟย ฮัมดานีย สะบีอีย ทานอุกัยลียไดกลาววา “เขาเปนคนหัวรุนแรงอยางย่ิง” ทานบุคอรีกลาววา “พวกเขาไดพูดกันถึงบุคคลผูน้ีวา เปน นักปราชญชอี ะฮฺ” อยางไรก็ดีซุฟยานกไ็ ดยอมรับตอ เขารวมท้ังฮะมาม ชะรีคและนักปราชญอีกสวน หน่ึงในกลุมของบุคคลเหลาน้ี ก็ใหการยอมรับดวย สําหรับทานติรมีซียนั้นไดใหการยอมรับตอ หลักฐานฮาดีษตาง ๆ ของบุคคลผูน้ีโดยนํามาบันทึกไวในหนังสือศอฮี้ฮฺของทาน นอกจากน้ีบรรดา นักปราชญเจาของตํารามุสนัดท้ังหลายตางก็ไดบันทึกรายงานฮาดีษที่เลามาจากบุคคลผูน้ี ทานไม อาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูนี้ได ไมวาในหนังสือของติรมีซียหรืออ่ืน ๆ อันเปนรายงานที่มา จากอะนัส บิน มาลิก, อิบนุ อับบาส, อิมรอน บิน ฮุศัยน, ซัยด บิน อัรก็อม ทานซะฮะบีย ไดอธิบาย ถึงบคุ คลผูน โ้ี ดยไดก ลา วไปตามลกั ษณะเดยี วกันกับที่เราไดก ลา วมาแลว 89. นูห บิน กัยส รอบาห ฮะดานีย ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ไวในหนังสือมีซาน ของทานวา “เขาเปนนกั ปราชญฮาดีษ ผูมีคณุ ธรรมเปนอยา งย่ิง” ทานไดก ลาวตอไปอีกวา “ทานอะหฺ มัดและอิบนุมุอีนไดใหความเช่ือถือตอบุคคลนี้” อาบูดาวูดไดกลาววา เขาเปนนักปราชญชีอะฮฺ” ทานนะสาอยี ไดก ลา ววา “เขามิไดม คี วามบกพรอ งใด ๆ” ทานซะฮะบียไดกลาววา “ชื่อของบคุ คลผนู ้ี เปน ทย่ี อมรบั ของทานมุสลมิ และบรรดานักปราชญเ จา ของตําราสุนันท้งั หลาย” นั้นแสดงวาบุคคลนี้ เปนผทู รงคณุ วุฒิคนหนง่ึ ของตําราศอฮ้ีฮฺของพวกเขาเหลานั้น ฮาดีษของบุคคลกลุมนี้มีปรากฏอยูใน หนังสือศอฮ้ีฮฺมุสลิม หมวดท่ีวาดวย “การด่ืม” โดยรายงานของเขาท่ีมาจากอิบนุ เอานและมีใน
หนังสือศอฮี้ฮฺมุสลิมอีกเชนเดียวกัน ในหมวดท่ีวาดวย “เครื่องนุงหม” โดยรายงานฮาดีษของเขาท่ี ไดรับมาจากพี่ชายของเขาคือ คอลิด บิน กัยส ผูท่ีไดรับรายงานจากเขาแลว ไดมาบันทึกไวแกทาน มุสลิมน้ัน คือ นะศิร บิน อะลี สวนผูที่ไดรับรายงานจากเขาแลวนําไปบันทึกไวกับคนอ่ืนนั้นไดแก อาบู อัชอัษ และไดมีบคุ คลตา ง ๆ ซง่ึ มีชือ่ เสียงข้นึ มาจากผลงานของทานอีกเปนจํานวนไมน อ ย 90. ฮารนู บนิ ซะอัด อัจญลีย อัลกูฟย ทา นซะฮะบียไดกลา วถงึ บคุ คลผนู ไ้ี ววา ชื่อของเขาได เปนท่ียอมรับของทานมุสลิม ซ่ึงแสดงใหเห็นวาบุคคลผูนี้คือนักปราชญคนหนึ่งของทาน หลังจาก น้ันทานไดยอยองวา “เขาเปนคนมีลักษณะท่ีซื่อสัตยอยูในตัว แตทวาเขาเปนคนหัวรุนแรงอยางย่ิง” ทานอับบาสไดรับรายงานมาจากทานอิบนุมุอีน ซ่ึงกลาววา “ฮารูน บิน ซะอัดผูนี้เปนคน ปราดเปร่ืองในหมูนักปราชญชีอะฮฺ” สําหรับเขาน้ันไดจดจําฮาดีษที่มาจากอับดุรเราะมาน บิน อาบู ซะอีด คุดรีย มุฮัมมัด อิบนุอาบีหัฟศ อะฏอร มัสอูดีย ฮาซัน บิน หัยส อาบูฮาติมไดกลาววา “คนผูน้ี ไมมีความบกพรองใด ๆ” ขอใหสังเกตฮาดีษของเขาไดในหัวขอท่ีวาดวย ลักษณะของไฟนรกจาก หนังสือศอฮี้ฮฺมุสลิม โดยผูรายงานของทานคือฮาซัน บิน ศอลิห ฮารูน บิน สะอัด อัจญลีย จาก รายงานของสลุ ยั มาน 91. ฮาชิม บนิ บะรดี บนิ ซยั ด อาบูอาลี อัลกูฟย ทานซะฮะบียไดกลาววา “ชื่อของบุคคลผูนี้ ไดเปน ท่ยี อมรับของทานอาบดู าวูด และทา นนะสาอยี โดยแสดงใหเห็นวา แทจริงบุคคลผนู ไี้ ดเปนท่ี ยอมรับของทานอาบูดาวูด และทานนะสาอีย โดยแสดงใหเห็นวา แทจริงบุคคลผูน้ีเปนนักปราชญ คนหน่ึงในตําราศอฮี้ฮฺของผูอาวุโสทั้งสอง” ทานไดอางตอไปถึงการยอมรับของทานอิบนุมุอีนและ คนอ่ืน ๆ ที่มีตอบุคคลผูนี้ พรอม ๆ กันนั้นทุกคนก็ยืนยันวา แทจริงบุคคลผูน้ีเปนพวกหัวรุนแรง ทานกลาวอีกวา ทานอะหฺมัดไดกลาววา “เขาไมมีขอเสียหายใด ๆ” อยางไรก็ตามฮาชิม ไดรายงาน มาจากทานซัยดบิน อาลี และมุสลิม บะฏีน สวนหุรัยบียและบุตรของเขาคืออาลี บิน ฮาชิมนั้นตางก็ ไดรับรายงานฮาดีษมาจากเขา ซ่ึงเราไดกลาวถึงเร่ืองน้ีผานไปแลว เปนท่ีรูของบรรดานักปราชญ ท้ังหลายกันอยางดีวา ฮาชิมผูน้ีเปนนักปราชญคนสําคัญของฝายชีอะฮฺ ซ่ึงสามารถสังเกตดูไดจาก ขอ ความทีเ่ ราไดกลาวไปแลว ในหัวขอ ของอาลี บิน ฮาชิม จากหนังสือเลม น้ี 92. ฮุบัยเราะฮฺ บิน บุรัยม อัลฮุมัยรีย เขาเปนคนใกลชิดผูหน่ึงของทานอาลี (อาลัยฮิสลาม) เปนผูยึดมั่นอยูกับตําแหนงความเปนผูปกครองของทาน ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ใน หนังสือมีซานวา ช่ือของเขาไดเปนท่ีปรากฏอยูในตําราสุนันทั้งหลาย ซ่ึงแสดงใหเห็นวา เขาเปน ผูรายงานฮาดีษตาง ๆ ของพวกเขา ทานอะหฺมัดไดกลาวถึงบุคคลผูนี้วา “เขามิไดมีความบกพรองใด
ๆ เลย” ทานชะรอสตานียไดระบุถึงบุคคลผูน้ีในหนังสือมิลัลวา เขาผูน้ีคือนักปราชญของฝายชีอะฮฺ ฮาดีษของเขาที่มีรายงานมาจากทานอาลีนั้นปรากฏวามีบันทึกอยูในตําราหลายเลมของฝายซุนนะฮฺ อาบูอสิ ฮากและอาบฟู าคตี ะฮกิ ็ไดร ับรายงานฮาดีษมาจากบุคคลผูนี้ 93. ฮิชาม บิน ซิยาด อาบูมิกดาม อัลบัสรีย ทานชะรอสตานีย ไดระบุถึงบุคคลผูน้ีไวใน หนังสือมิลัลวา เปนนักปราชญฝายชีอะฮฺ ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ไวในหนังสือมีซาน เชนเดยี วกันวา “เขาเปน ผูท่ไี ดรับความเชื่อถอื อยางมัน่ คงจากนักปราชญฝายซุนนะฮฺ” ฉะนั้นทานไม อาจหลีกพนฮาดีษของเขาไดในหนังสือศอฮ้ีฮฺติรมีซีย ตลอดทั้งในตําราเลมอ่ืน ๆ ซึ่งรายงานฮาดีษ ท่ีมาจากฮาซันและกุรอฎีย ทานชัยบาน บิน ฟะรูค และทานเกาะวารียตลอดจนถึงบุคคลอ่ืน ๆ ก็ ไดร บั รายงานฮาดีษมาจากบคุ คลผูน้เี ชนเดียวกัน 94. ฮิชาม บิน อัมมาร บิน นะศีร บิน มัยสะเราะฮฺ อาบูวะลีด เขาเปนอาจารยคนหนึ่งของ ทานบุคอรี ดังท่ีปรากฏอยูในหนังสือศอฮี้ฮฺของทาน ทานอิบนุกุตัยบะฮฺไดระบุถึงบุคคลผูน้ีวา “เปน นกั ปราชญฝ า ยชีอะฮ”ฺ และมีการกลา วถงึ ในทํานองเดียวกันน้ีอีกเชนกันในหนังสือมะอาริฟ ทานซะ ฮะบียก็ไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ไวในหนังสือมีซานโดยไดจัดอันดับใหบุคคลผูน้ีอยูในฐานะอิมาม รายงานฮาดีษผูหนึ่ง แลวระบุวา “เขาเปนคอฏีบแหงเมืองดามัสกัส และเปนนักรายงานฮาดีษ ผทู รงคุณวุฒิประจาํ เมอื งน้ี เปนผมู ีความซือ่ สัตยอยางยิ่ง” ทานบุคอรีไดรับรายงานจากบุคคลผูน้ีโดย มิไดมีผูใดเปนส่ือกลางในบาบที่วาดวย “ใหพิจารณาตอผูคับแคน” จากกิตาบุลบุยูอฺ หนังสือศอฮ้ีฮฺ ของทา น บคุ คลผนู ปี้ รากฏวา ไดเ ปน ทยี่ อมรับอยางดีในหมูนักคนควาท้ังหลาย นอกจากนี้ขาพเจาคิด วาฮาดีษของเขายังมีปรากฏอยูอีกในกีตาบุล-มะฆอซีย และกิตาบุล-อัชรอบะฮฺ และหมวดวาดวย เกียรติยศของเหลาสาวกแหงทานนบี(ศ) ฮิชามผูน้ีไดรับรายงานฮาดีษท่ีมาจากยะหฺยา บิน ฮัมซะฮฺ ศอดาเกาะฮฺ บิน คอลิด อับดุลฮามีด บิน อาบีอิชรีน หนังสือมีซานไดมีกลาวตอไปอีกวา นักปราชญ เปน จํานวนมากที่ไดพากนั เดินทางไปศกึ ษาฮาดีษจากบุคคลผูนี้ แมแตวะลีด บิน มุสลิมก็ยังไดศึกษา ฮาดีษจากเขา ฉะนั้นเขาก็เปนอาจารยคนหนึ่งของทาน ทานฮิชามเกิดเม่ือป ฮ.ศ. 153 เสียชีวิตปลาย เดือนมฮุ ัรรอม เมื่อป ฮ.ศ. 245 (ขออลั ลอฮทฺ รงประทานความเมตตาแกท า นดวย) 95. ฮะชีม บิน บะชีร บิน กอซิม บิน ดีนาร สะลามีย วาสิฏี ทานอิบนุกุตัยบะฮฺไดระบุถึง บุคคลผูนี้วา “เปนนักปราชญของฝายชีอะฮฺ เขาคืออาจารยคนหน่ึงของอิมามอะหฺมัด บิน ฮันบัล ตลอดจนถึงกลุมนักปราชญอีกจํานวนมากในขายน้ี” ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวใน หนังสือมีซานอีกวา “ไดเปนท่ียอมรับในหมูบรรดานักปราชญ เจาของตําราศอฮ้ีฮฺทั้งหกเลม” และ
ทานซะฮะบียยังไดจัดใหบุคคลผูน้ีอยูในอันดับของผูทรงคุณวุฒิระดับสูงคนหน่ึง โดยทานไดกลาว วา “แทจริงบุคคลผูน้ีเปนหนึ่งในจํานวนนักปราชญที่ทานซุฮฺรียฺ ฮุศัยน บิน อับดุรเราะมาน ยังไดให การรับฟง ทานยะหฺยา กีฎอน ทานอะหฺมัด ทานยะกูบ อัดดูริกีย ตลอดจนถึงนักปราชญเปนจํานวน มากก็ยังตองรับรายงานฮาดีษจากบุคคลผูนี้” ฉะนั้นไมตองสงสัยเลยวา ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษ ของเขาไดในตําราศอฮ้ีฮฺทั้งสองเลม ไมวาจะเปนของทานบุคอรีหรือมุสลิม โดยรายงานฮาดีษตาง ๆ ที่มาจากฮามีด อัฏฏอวีล อิสมาอีล บิน อาบี คอลิด และอาบีอิสหาก ชัยบานียและอื่น ๆ อีกจํานวน หน่ึง นอกจากน้ีก็ยังมีอุมัร นากิดและอุมัรว บิน ซะรอเราะฮฺ และสะอีด บิน สุลัยมานซ่ึงไดรับ รายงานฮาดีษจากบุคคลผูน้ีมารายงานตอไวที่ตําราศอฮี้ฮฺทั้งสอง สําหรับเฉพาะทานบุคอรีน้ันได อาศยั รายงานฮาดษี สวนหนง่ึ ของบุคคลผนู ้ที เี่ ลาเปน สื่อกลาง โดยอุมัร บิน เอาฟ, สะอีด บิน นาฎ็อร, มุฮัมมัด บิน นุบฮาน, อาบู บิน อะดีนีย, และกุตัยบะฮฺ เปนตน ผูซ่ึงไดรับรายงานจากบุคคลผูน้ีแลว นํามาบันทึกไวในหนังสือมุสลิมก็คือ ทานอะหฺมัด บิน ฮันบัล, ชาริห ยะกูบ ดูริกีย, อับดุลลอฮฺ บิน มูฎีอฺ, ยะหฺยา บิน ยะอฺยา, สะอีด อิบนุ มัรสูร, อิบนุ อาบูชัยบะฮฺ, อิสมาอีล บิน ซาลิม, มุฮัมมัด บิน ศอบาห, ดาวูด บิน รอชีด, อาหฺมัด บิน มานีอ, ยะหฺยา บิน อัยยูบ, ซุฮัยรฺ บิน ฮะร็อก, และ อุสมาน บิน อาบชู ัยบะฮ,ฺ อาลี บนิ ฮะญรั และทาน ยะซดี บนิ ฮารนู ทานผูน้ไี ดเ สียชวี ิตกลับไปสูความเมตตา ของอัลลอฮฺ ผทู รงสงู สดุ ทเี่ มืองแบกแดด ป ฮ.ศ. 183 รวมอายุของทา นได 79 ป 96. วะกีอ บิน ญีรอห บิน มะลิห บิน อะดีย ทานอิบนุกุตัยบะฮฺ ไดระบุถึงบุคคลผูนี้ไวใน หนังสือมะอาริฟวา “เปนนักปราชญชีอะฮฺ” ทานอิบนุ มะดีนียก็ไดกลาวไวในหนังสือตะฮฺซีบวา “แทจริง วะกีอ คือ นักปราชญฝายชีอะฮฺ” มัรวาน บิน มุอาวียะฮฺ ยืนยันวา “แทจริงวะกีอผูนี้เปนคน หวั รนุ แรง” คร้งั หนงึ่ ยะหยา บิน มูอีน ไดเขาไปพบเขา แลวไดก ลบั มากลา วถงึ เขาวาอยางน้ันอยางนี้ ซ่ึงโดยสรุปแลวหมายถึง การกลาววา วะกีอเปนคนหัวรุนแรง อิบนุ มุอีน จึงไดกลาวแกเขาวา... “วะกีอเปนคนดีกวาทาน” เขากลาววา “ดีกวาฉันใชไหม?” อิบนุมุอีนตอบวา “ใชแลว” อิบนุมุอี นไดกลาวตอไปวา “เมื่อเรื่องน้ีไดยินไปถึงวะกีอ วะกีอก็กลาววา แทจริงยะหยาน้ันเปนสหายของ เรา” ทานอะหฺมัด บิน ฮันบัลไดถูกถามวา “เมื่อวะกีอกับอับดุรเราะมาน บิน มะหดีย เกิดขัดแยงกัน ขึน้ เราจะยดึ ถือบคุ คลไหนดี? ดังน้ันทานจึงยกใหทานอับดุรเราะมานเปนมาตรการตัดสิน โดยกลาว วา “อับดุรเราะมานน้ันเปนผูที่บรรพชนไดใหการยอมรับตอเขา ซ่ึงคุณสมบัติเหลาน้ีวะกีอ บิน ญี รอหยังไมไดรับ” ทานซะฮะบียไดอางถึงเร่ืองนี้ไวเชนเดียวกัน ในตอนทายของคําอธิบายประวัติ ของฮาซัน บิน ศอลิห โดยไดก ลา วถึงคําพูดของวะกีอวา “แทจริงฮาซัน บิน ศอลิห ไมใหเกียรติตออุ
สมาน” เขาไดกลาวขึ้นวา “แลวทานไดใหเกียรติตอฮัจญาจหรือ? ในขณะท่ีอุสมาน ก็ไดใชอํานาจ การปกครองอยางเดียวกันกับฮัจญาจ” ทานซะฮะบีย ไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมีซานของ ทาน โดยไดอางเรื่องราวตาง ๆ ของบุคคลผูนี้ไวดังที่ไดผานมาแลว บรรดานักปราชญเจาของตํารา ศอฮฮ้ี ทฺ ง้ั หกเลม และนักปราชญอ ืน่ ๆ ตา งไดใ หการยอมรบั หลกั ฐานการรายงานฮาดษี ของบคุ คลผูน้ี ฉะน้ันทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูน้ีได ไมวาในหนังสือศอฮี้ฮฺบุคอรีหรือในหนังสือ ศอฮี้ ฮฺมุสลิมก็ตาม ซ่ึงจากรายงานฮาดีษทุก ๆ บทที่มาจาก อะหฺมัด เษารีย ชุอฺบะฮฺ อิสมาอีล บิน อาบูคอ ลิด และอาลี บิน มุบาร็อก นักปราชญซึ่งไดรับรายงานจากบุคคลผูนี้แลวนํามาบันทึกใหแก บุคอรี และมสุ ลิม คอื อิสฮาก หนั ซอลีย มุฮัมมัด บิน นุมัยร ที่ไดรับรายงานจากบุคคลผูนี้แลวมาบันทึกไวที่ ทาน บุคอรีโดยเฉพาะนั้นคือ ทานอับดุลลอฮฺ ฮุมัยดีย, มุฮัมมัด บิน สลาม, ยะหยา บิน ญะอฺฟร บิน อะหยุน, ยะหยา บิน มูซา, และมุฮัมมัด บิน มะกอติลท่ีไดรับรายงานจากบุคคลผูน้ีแลวมาบันทึก ใหแกทานมุสลิมโดยเฉพาะ ไดแก ทานซุฮัยรฺ อิบนุอาบูชัยบะฮฺ, อาบูการิบ, อาบูสะอีด อะชัจญ, นะศิร บิน อาลี, ซะอีด บิน อัสหัร, อิบนุอาบูอุมัร, อาลี บิน ค็อชร็อม, อุสมาน บิน อาบูชัยบะฮฺ, และ ทานกตุ ยั บะฮฺ บนิ ซะอีด ทานผไู ดร บั ความเมตตาจากอัลลอฮฺ ไดเ สียชีวติ เมอื่ เดินทางกลับจากการทํา ฮจั ญเ มอื่ เดอื นมุฮรั รอม ป ฮ.ศ. 197 รวมอายุของทานได 68 ป 97. ยะหยา บิน ญาซาร อัรนีย อัลกูฟย เปนสหายคนหนึ่งของทานอามีรุลมุมีนีน อาลี (อาลัยฮิสลาม) ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมีซานของทานวา “ทานมุสลิมและ บรรดานกั ปราชญฝายซนุ นะฮเฺ ปน จํานวนมากไดใ หก ารยอมรบั ตอหลักฐานฮาดีษตา ง ๆ ของบุคคลผู น้ี” และทานยังไดระบุถึงความม่ันคงแข็งแรงในหลักฐานฮาดีษของบุคคลผูน้ีโดยไดกลาววา “เขา เปน คนซอ่ื สตั ย” ทานยังไดอา งตอไปถึงคําพูดของทานหุกม บิน อุตัยบะฮฺ ท่ีไดกลาววา “ยะหยา บิน ญาซารเปนผูปราดเปรื่องในหมูนักปราชญชีอะฮฺ” ทานอิบนุสะอัดไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ไวในุซอฺที่ 6 หนา 206 หนังสือฎอบากอตวา ยะหยา บิน ญาซาร เขาเปนนักปราชญชีอะฮฺและไดเปนที่ยอมรับ เปนเสียงเดียวกันวา เขาเปนนักรายงานฮาดีษที่มีหลักฐานม่ันคงแข็งแรง กลาวไดวา ทานอาจจะ สังเกตฮาดีษของบุคคลผูน้ีไดในหมวดวาดวยการนมาซในหนังสือศอฮ้ีฮฺมุสลิม อันเปนฮาดีษท่ีเขา ไดรับรายงานมาจากทานอาลี และฮาดีษของบุคคลผูน้ียังมีปรากฏอยูในหมวด วาดวยการศรัทธาใน หนงั สือศอฮ้ฮี มฺ สุ ลิมอกี เชน กนั อนั เปน ฮาดีษทเ่ี ขาไดร บั รายงานมาจากอับดุรเราะมาน บิน อาบีลัยลา ซึ่งทานหกุ ม บนิ อุตัยบะฮฺ และทานฮาซัน อัรนียไดรับรายงานมาจากเขาแลวนํามาบันทึกไวแกทาน มุสลิม
98. ยะหยา บิน ซะอีด อัลกีฏอน ทานอิบนุกุตัยบะฮฺไดระบุถึงบุคคลผูนี้ไวในหนังสือมะอา รฟิ ของทา นวา “เขาเปน นกั ปราชญชีอะฮฺ” และบรรดานักปราชญเ จาของตําราศอฮฮ้ี ทฺ ง้ั หกเลม ตลอด จนถึงนักปราชญอ่ืน ๆ ตางก็ไดใหการตอบรับตอหลักฐานฮาดีษของบุคคลผูนี้ ซึ่งฮาดีษของเขาน้ัน คอื รายงานท่มี าจากฮิชาม บนิ อรุ วะห อามีด ฏอวีล ยะหย า อบิ นซุ ะอดี อลั สอรยี และบุคคลอ่ืน ๆ อีก ซ่ึงมีปรากฏอยูในหนังสือศอฮ้ีฮฺทั้งบุคอรีและมุสลิม ผูท่ีไดรับรายงานฮาดีษจากเขาแลวมาบันทึกไว แกทานท้ังสองนี้ก็คือมุฮัมมัด บิน มุษันนา บิน ดาร สวนผูท่ีไดรับรายงานมาแลวไดบันทึกไวใหแก บุคอรีน้ันคือมัสดัด อาลี บิน มะดีนีย, บะยาน บิน อุมัร ผูท่ีไดรับรายงานมาจากเขา แลวไดบันทึก ใหแกทานมุสลิมนั้น คือ มุฮัมมัด บิน ฮาติม, มุฮัมมัด บิน ดิลาด, บาฮิลีย อาบูกามิล ฟะอฎีล บิน ฮุ เซน ุหดารีย, มุฮัมมัด มุก็อดดามีย, อับดุลลอฮฺ บิน ฮาชิม, อาบูบักรฺ บิน อาบีชัยบะฮฺ, อับดุลลอฮฺ บิน ซะอีด, อะหฺมดั บิน ฮนั บลั , ยะกบู ดูรกิ ีย, อับดลุ ลอฮฺ เกาะวารีรีย, อะหฺมัด บิน อับดะฮฺ, อุมัร บิน อาล,ี อับดุรเราะมาน บิน บะชัร, ทานผูไดรับความเมตตาจากอัลลอฮฺไดเสียชีวิตเม่ือป ฮ.ศ. 198 ทาน มีอายุ 78 ป 99. ยะซีด บิน อาบีซิยาด อัลกูฟย อาบูอับดุลลอฮฺ เมาลาอฺ บะนีฮาชิม ทานซะฮะบียได กลาวถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมีซานของทานวา บุคคลผูน้ีไดเปนที่ยอมรับของทานมุสลิม และ กลุมนักปราชญ ฝายซุนนะฮฺท้ังส่ีมัซฮับ ซึ่งแสดงใหเห็นวาพวกเขาเหลานั้นไดรับรายงานฮาดีษจาก บุคคลผูนี้ ทานไดอางคํากลาวของอาบีฟะฎีลวา “ยะซีด บิน อาบูชิยาตผูนี้ เปนอิมามใหญคนหนึ่ง ของนักปราชญผูอาวุโสฝายชีอะฮฺ” ทานซะฮะบียไดยืนยันวา “แทจริงบุคคลผูน้ีคือหนึ่งในจํานวน ของบรรดานักปราชญผูมีชื่อเสียงแหงเมืองกูฟะฮฺ” พรอม ๆ กันน้ัน ก็มีคนต้ังขอหาตาง ๆ นานา ใหแกทา น พวกเขาเหลา น้นั ตางไดขัดขวางเทาท่พี วกเขามีความสามารถดว ยสาเหตทุ บ่ี ุคคลผนู ไ้ี ดเ ลา ฮาดีษโดยสายสืบของเขาที่มีไปถึงอาบูบัรซะฮฺวา พวกเราไดอยูรวมกับทานนบี (อัลลอฮฺทรง ประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและบรรดาลูกหลานของทาน) แลวทานไดยินเสียง รองรําทําเพลงซ่ึงขณะนั้นอุมัร บิน อาศ และมุอาวียะฮฺกําลังรองรําทําเพลงอยูทั้งสองคนแลวทาน รอซูลุลลอฮฺ (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลาน ของทาน) ไดกลาวข้ึนวา “โออัลลอฮฺขอไดทรงใหความเสื่อมของคนทั้งสองอยูในความเส่ือมทราม ท่ีชั่วรายเสียเถิด และขอไดทรงผลักใสคนทั้งสองลงสูไฟนรกดวยเถิด” อยางไรก็ตามทานไมอาจ หลีกพนฮาดีษของบุคคลผูน้ีไดในหนังสือศอฮ้ีฮฺมุสลิม หมวดวาดวย “เรื่องอาหาร” ซึ่งเปนรายงาน ฮาดีษที่นํามาจากอับดุรเราะมาน บิน อาบีลัยลา ทานสุฟยาน บิน อัยยีนะฮฺก็ไดรับรายงานฮาดีษมา
จากบุคคลผูนี้อีกดวยเชนกัน ทานผูนี้ไดรับความเมตตาจากอัลลอฮฺผูนี้ไดเสียชีวิตเมื่อป ฮ.ศ. 136 ทานมีอายยุ ืนยาวประมาณ 90 ป 100. อาบูอับดุลลอฮฺ ญัดลีย ทานซะฮะบียไดกลาวถึงบุคคลผูนี้ไววา “แทจริงเขาคือ นักปราชญผูอาวุโสคนหน่ึงของทานอาบีดาวูด และทานติรมีซียสําหรับการบันทึกตําราศอฮ้ีฮฺของ บุคคลทั้งสอง” แลวทานไดก ลาวถงึ ตอไปอีกวา “เขาเปน นกั ปราชญชีอะฮฺที่ไดรับการชิงชัง” ทานได อางคําแถลงของเญาซญาณียท่ีไดกลาววา “แทจริงบุคคลผูนี้เปนผูท่ีใหทัศนะอยางเปนอิสระ” และ ทานไดอางถอยคําของทานอะหฺมัดท่ีไดกลาวแสดงถึงความเชื่อถือของเขาท่ีมีตอบุคคลผูนี้ ทานชะ รอสตานียไดระบุถึงบุคคลผูน้ีไวในหนังสือมิลัลวา “เปนหนึ่งในจํานวนนักปราชญท้ังหลายของ ชีอะฮฺ” ทานอิบนุกุตัยบะฮฺไดกลาวถึงบุคคลผูนี้วา “เปนคนท่ีมีความคิดเห็นที่รุนแรงเปนพิเศษคน หน่ึง” ทานไมอาจหลีกพนฮาดีษของบุคคลผูน้ีไดไมวาจะเปน ตําราศอฮ้ีฮฺติรมีซียหรืออาบูดาวูด ตลอดจนถึงบรรดาตํารามุสนัดตาง ๆ ของฝายอะลิซซุนนะฮฺ ทานอิบนุสะอัดไดกลาวไวใน หนังสอื ฏอบากอต(117)วา “เขาเปน นักปราชญชอี ะฮทฺ ่ีเขมแขง็ ยงิ่ คนหนง่ึ ” นกั ประวัตศิ าสตรไดยืนยัน วา “บุคคลผูน้ีไดมีสวนในการวางเงื่อนไขใหแกมุคตาร” ในตอนที่อับดุลลอฮฺ บิน ซุบัยร ควบคุม บคุ คลจํานวนแปดรอยคน มุฮัมมัด บิน ฮานาพียะฮฺไดยับย้ังมิใหอิบนุซุบัยร ประสบความสําเร็จตาม วัตถุประสงคเปนเหตุใหอิบนุซุบัยรจับกุมอิบนุฮานาฟยะฮฺและบะนีฮาชิม โดยไดลอมพวกเขา เหลาน้ันดวยกองฟนเพ่ือจะทําการเผาทั้งเปน เน่ืองจากพวกเขาเหลานั้นตางพากันหยุดย้ังมิใหมีการ สตั ยาบันตอเขา แตทวาอาบอู บั ดุลลอฮฺ ญดั ลยี ไดช ว ยทาํ ใหพ วกเขาเหลา นัน้ พนมาจากภัยอันตรายใน ครั้งน้ี ดังนั้นอัลลอฮฺก็ไดทรงตอบแทนใหแกเขาที่เขาไดปฏิบัติโดยดีตอบรรดาลูกหลานแหงศาสดา ของพระองค นี่คือบุคคลสุดทายที่เราตองการกลาวถึงพวกเขาเหลานั้นใหยุติลงโดยเร็วที่สุด พวกเขาทั้ง หน่งึ รอยคนนลี้ ว นเปนบคุ คลท่ีถกู ปรักปรําในขอหาวาเปน ชีอะฮแฺ ตพ วกเขาเหลา น้นั เปนบรรทัดฐาน ท่ีสําคัญอยางย่ิงของฝายซุนนะฮฺและเปนกรอบแหงวิชาการท้ังปวงของประชาชาติอิสลาม โดย หนาที่ของพวกเขาเหลานั้นก็คือการเก็บรักษารวบรวมผลงานตาง ๆ ของทานศาสดา พวกเขา เหลานั้นคือมูลฐานแหงตําราศอฮ้ีฮฺสุนันและมุสนัดเลมตาง ๆ เราไดกลาวถึงบุคคลเหลานั้นดวย รายชื่อของพวกเขาผานไปแลว และเราก็ไดนําหลักฐานโดยละเอียดที่ฝายอะฮฺลุซซุนนะฮฺใหการ ยอมรับตอแนวทางและหลักฐานตาง ๆ ของพวกเขาที่สอดคลองลงเอยอยูกับหลักเกณฑของพวก
ทาน ซึ่งขา พเจาคิดวา บุคคลที่คัดคานท้ังหลาย เขาจะไดรูสึกสํานึกผิดแกตัวเขาเอง ในสิ่งท่ีเขาไดเคย เขาใจวา แนนอนที่สุดฝายอะฮฺลิซซุนนะฮฺจะไมยอมรับหลักฐานโดยนักปราชญของฝายชีอะฮฺ และ เขาจะไดรูเสียทีวา แทจริงมูลฐานท่ีสําคัญของพวกเขาไมวาในดานความสัตยและความสุจริตนั้น มิไดแบงแยกออกจากกันเลย ระหวางฝายซุนนะฮฺและฝายชีอะฮฺ เพราะถาหากไดหวนกลับไป พิจารณาฮาดีษของฝายชีอะฮฺโดยบริสุทธ์ิใจแลวก็จะสามารถมองเห็นถึงขอเท็จจริงตาง ๆ อันเปน รองรอยแหงทานศาสดาทั้งสิ้น ทํานองเดียวกันกับที่ทานซะฮะบียไดจํากัดความเอาไวในหนังสือมี ซาน หมวดการอธิบายถึงทานอุบาน บิน ตัฆลิบ ซ่ึงส่ิงเหลาน้ันเปนขอเสียหายอยางชัดแจง แตทวา ทานทั้งหลาย อัลลอฮฺไดทรงชวยเหลือใหพวกทานรับรูถึงสัจธรรมแลว ทานทั้งหลายไดรูวาแทจริง ในหมูบรรพชนของฝายชีอะฮฺนั้นยังมีบุคคลที่นักปราชญฝายอะฮฺลิสซุนนะฮฺไดใหการยอมรับตอ พวกเขาอีกเปนจํานวนมาก นอกเหนือจากรายช่ือของบุคคลที่เราไดกลาวไปแลว แนนอนพวกเขา เหลานั้นมีจํานวนมากกวาหนึ่งรอยคน พวกเขาเหลาน้ันมีคุณสมบัติสูงในการรายงานและจดจําฮา ดีษกันเปนจํานวนมาก และเปนผูทรงคุณวุฒิในวิชาการ เปนผูที่อยูในยุคสมัยกอนจริง ๆ เปนผูท่ี มั่นคงในการเจริญรอยตามแบบฉบับแตด้ังเดิม โปรดทราบไวดวยวาบรรดานักปราชญของฝายชี อะฮนฺ ั้นสว นหน่ึงก็คอื บรรดาศอฮาบะฮฺ (อัลลอฮฺทรงมีความปต ชิ น่ื ชมตอ พวกเขาเหลา นัน้ ทงั้ มวล) (117) หนา 159 ภาคที่ 6 ไดเ รยี กชอื่ ทา นผูนว้ี า อับดฮุ ฺ บนิ อับต บินอับดุลลอฮฺ บนิ อาบยู ะมัร แนนอนที่สุดเราไดเสนอรายนามของทานผูทรงเกียรติใหแกทาน ในตอนทายของขอความ ท่ีสําคัญยิ่งของเราผานไปแลว และในหมูตาบีอีน ซึ่งเปนผูที่ไดรับการเชื่อถือก็เปนบุคคลสําคัญของ ฝายชีอะฮฺ ทุกทานเหลาน้ันลวนเปนผูมีคุณสมบัติอันแข็งแกรง เปนผูเชี่ยวชาญ เปนผูกระตือรือรน เปนผูสํารวมตน เปนขอพิสูจน เชนเดียวกันน้ีพวกเขาคือบรรดาผูซึ่งเขาไดเสียสละชีวิตในวิถีทาง ของอัลลอฮฺ โดยการอนุเคราะหชวยเหลือทานอามีรุลมุมีนีน เมื่อครั้งสงครามอูฐท้ังสองวาระ สงครามศิฟฟน และนะฮฺรอวาน ตลอดท้ังในเมืองฮิญาซและยะมัน พวกเขาเหลานั้นยังมีสวนหนึ่งที่ เปนบรรดาผูซึ่งไดพลีชีพท่ีกัรบะลาอฺ พรอมกับทานประมุขของบุรุษหนุมชาวสวรรค (ทานอิมามฮุ เซนอาลยั ฮิสสลาม) และบรรดาผูซ ึ่งไดพลีชีพรวมกันกับเลือดเนื้อเช้ือไขของทาน น่ันคือทาน ชะฮีด ซัยด และบุคคลอื่น ๆ ท่ีตางเปนผูมอบหมายตนเองอยางสิ้นเชิงตออัลลอฮฺ ดวยการยึดม่ันตอ ลูกหลานของศาสดามุฮัมมัดและพวกเขาเหลานั้นคือบรรดาผูซ่ึงถูกเขนฆาอยางทารุณ ถูกทําลาย สมบัติพัสถานอยางไรความเปนธรรม เขาเหลาน้ันคือบรรดาผูซึ่งดําเนินชีวิตอยูดวยการปกปอง ตนเองใหพนจากความหวาดกลัง (ตะกียะฮฺ) และความขมข่ืน เชน ทาน อะหนัฟ บิน กัยส, อัศบัฆ
บิน นะบาตะฮฺ ยะหยา บิน ยะอมัร, คอลีล บิน อะหมัด, ผูเปนตนตํารับแหงวิชาดานภาษาศาสตร และคณิตศาสตร มุอาซ บิน มุสลิม ผูวางหลักสูตรวิชาไวยกรณ และบุคคลอื่น ๆ ซ่ึงรายละเอียดชีวิต ของแตละคนนั้นลวนมีความดีเดนอยูในระดับสูงท้ังสิ้น พวกเขาอยูหางไกลเกินไปจากขอหาของ ทานที่ปรักปรําดวยเรื่องเกี่ยวกับความมลทินมัวหมองใหแกพวกเขาเหลาน้ัน โดยถือวาพวกเขามี มาตรฐานความนาเช่ือถือตํ่า และกลาววา “ไมมีผูใดใหการยอมรับตอหลักฐานตาง ๆ ของพวกเขา เหลานั้น” จํานวนหนึ่งรอยคนตามท่ีไดกลาวมาแลวนี้ ลวนเปนบุคคลสําคัญที่มีความสันทัดจัดเจน และอุดมไปดวยวิทยาการแหงทางนําท่ีมาจากฝายผูปฏิบัติตามลูกหลานของทานศาสดามุฮัมมัด นักปราชญซุนนะฮฺไดละเลยในอันท่ีจะกลาวถึงบุคคลเหลาน้ัน แตทวานักปราชญฝายชีอะฮฺกลับถือ เปนกรณีพิเศษในอันท่ีจะกลาวขวัญถึงพวกเขา โดยไดถือเปนบทเรียนและพจนานุกรมท่ียิ่งใหญ และจากความอุตสาหะเหลาน้ันทานจงึ ไดม โี อกาสไดทราบรายละเอียดตาง ๆ ของพวกเขาอยางแจม แจงในดานการทําหนาท่ีรับใชบทบัญญัติอันบริสุทธิ์ที่สูงสงย่ิง ใครก็ตามท่ีไดมีโอกาสยืนหยัดอยู ตามครรลองของพวกเขาแลว เขาจะไดรูทีเดียววาแทจริงบุคคลตาง ๆ เหลานั้น ลวนแตเปน แบบอยางในดานของความซื่อสัตยสุจริต ความเครงครัด ความสมถะ การเคารพภักดีและความ บริสุทธิ์ใจที่มีอยางเพียรพยายามแดเอกองคอัลลอฮฺผูทรงสูงสุด และขึ้นตรงตอทานศาสนทูตของ พระองค (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของ ทาน) อีกท้ังขึ้นตรงตอพระคัมภีรของพระองค ผูทรงอานุภาพสูงสุด และตอบรรดาอิมามแหงมวล มุสลิมตลอดถึงตอบุคคลทั้งหลาย โดยท่ัวไป อัลลอฮฺไดทรงใหพวกเราไดรับผลประโยชน โดย ความจาํ เรญิ ของบคุ คลเหลา นน้ั และเปนความจาํ เริญแกพวกทานท้ังหลายดวย แทจรงิ พระองคเปนผู ทรงเมตตาเหนอื เมตตาใด ๆ วัสลาม (ช) อลั -มรุ อญิอะฮฺ 17 3 ซลุ -ฮิจญะฮฺ 1329 1. ผูใหทศั นะแสดงความพอใจ
2. การอธิบายที่วา ไมมีขอหามแกนักปราชญซุนนะฮฺในการจะยอมรับหลักฐานอันมั่นคง แข็งแรงจากฝายชอี ะฮฺ 3. เรมิ่ มีความศรัทธาตอบรรดาโองการตาง ๆ ท่กี ลาวถึงอะหฺลุลบยั ตฺ 4. ความหนกั ใจทเี่ ขามตี อการรวมตัวกันเพอ่ื ความเขาใจตอสิ่งนนั้ ๆ ระหวา งเรือ่ งราวเหลา นี้ กบั บรรดาอะฮฺลิซซนุ นะฮฺ 1. สําหรับหลกั ฐานทีส่ าํ คัญของทา น ตามที่ขาพเจา ไดป ระจักษแ กสายตาทง้ั สองของขา พเจา นัน้ นับวา เปนการปลกุ รา วทที่ า นไดบํารุงใหแกหัวใจ ขาพเจาไมเคยรวดเร็วตอการยอมรับอยางนี้มา กอน และหูท้ังสองของขาพเจาไมเคยไดรับฟงเหตุผลที่เขากับสติปญญาดวยความเฉียบขาดท่ีย่ิงไป กวาเหตุผลของทาน และไมมีใครที่จะมีสายตามองทะลุปรุโปรงยิ่งไปกวาและไมมีใครท่ีมีความ สนั ทดั จัดเจนตอหลักฐานตาง ๆ มากไปกวาทาน ขาพเจาไดรับแรงกระตุนในทุก ๆ ถอยคําของทาน อยางชนิดท่ีเหมือนไดรับแรงผลักดันมาจากกระแสนํ้าท่ีเชี่ยวกราด และขาพเจาไดเก็บรักษาทุกส่ิง ทุกอยางในถอยแถลงของทานไวเปนความเขาใจ เปนขอมูลสําหรับโสตประสาทสายตาและหัวใจ ดวยพระนามของอัลลอฮฺขอเขียนของทานคร้ังสุดทายน้ี (ขอความน้ันไมมีขอสงสัยใด ๆ ในน้ันอีก เลย) ไดโนมนาวการยอมรับใหเกิดขึ้นแกบุคคลตาง ๆ และตอกตรึงสัจธรรมใหแกผูท่ีมีทัศนะหลง ผิดท้ังหลาย 2. ฝายอะฮฺลิซซุนนะฮฺยอมไมมีขอหามใด ๆ หลงเหลืออยูเลย จากการท่ีจะยอมรับหลักฐาน ตาง ๆ ของพ่ีนองฝายชีอะฮฺของเขา เมื่อสิ่งน้ันไดประจักษแลววา มีหลักฐานที่ม่ันคงแข็งแรง ดังนั้น ทัศนะของทานในเร่ืองนี้เปนความจริงอยางเดนชัด สวนทัศนะของผูผลักไสนั้นยังดันทุรังและเปน สง่ิ ที่เปรยี บไดด ังโรคชนิดหนงึ่ ถอ ยคําของพวกเขาเหลานั้นไดอางถึงการไมยอมรับอยางเด็ดขาดตอ หลักฐานตาง ๆ ของฝายชีอะฮฺเปนถอยคําท่ีคานตอพฤติกรรมตาง ๆ ของพวกเขา เพราะพฤติกรรม ตาง ๆ ของพวกเขานั้นอยูในมูลฐานของหลักฐานตาง ๆ ท่ีถอยคําของพวกเขาปฏิเสธไมยอมรับ ฉะนั้นถอยคําและพฤติกรรมของพวกเขา จึงมิไดดําเนินอยูในรองรอยเดียวกัน และมิไดดําเนินไปสู เปาหมายท่ีสูงสุดแตอยางใด ทั้งสองประการนั้นตางปะทะกัน โดยตอสูกันอยูในความเปนจริงของ เขา ดวยเหตุนี้จึงเปนอันวา หลักฐานตาง ๆ ของพวกเขาเหลานั้นเปนเพียงสวนประกอบหรือ ภาคผนวก สวนหลักฐานของทานน้ันเปนสิ่งที่มีคาโดยแทจริงขาพเจาไดพิจารณาอยางละเอียดถ่ี ถวนแลว ในขอสรุปตา ง ๆ เหลา น้ี ซึ่งขาพเจาควรท่ีจะไดขนานนามใหแกทานเปนพิเศษวา “สายสืบ
ชีอะฮฺท่ีอยูในมาตรฐานของซุนนะฮฺ” เพ่ือท่ีหัวขอเรื่องน้ีจะไดเปนเปาหมายอันสุดยอด เบ้ืองหลัง ของมันน้ัน ไมมีชองวางใด ๆ ที่ปลอยใหเปนแนวทางไวแกผูศึกษาวิเคราะหวิจารณอีกตอไป และ ไมเปนลูทางสําหรับผูมีความปรารถนาหาความ ขาพเจาหวังเปนอยางย่ิงวาทานคงจะไดใหมัน ปรากฏขนึ้ ในโลกอสิ ลามเพ่อื ยังความดีงามที่รุงโรจน อนิ ชาอลั ลอฮฺ 3. ขาพเจามีความศรัทธาตอโองการของอัลลอฮฺทุกบททุกตอนและโองการท้ังหลาย ของอัลลอฮฺที่กลาวถึงในเร่ืองของ ซัยยิดีนา อามีรุลมุมีนีน อาลี บิน อาบีฏอลิบ และที่เกี่ยวกับ บรรดาอะหฺลุลบัยตฺ ขออัลลอฮฺทรงปติยินดีตอพวกเขามากกวาตามที่ทานทั้งหลายไดใหรายละเอียด มาแลว 4. ดังนั้นไมทราบวาดวยเหตุผลกลใดที่ชาวอะฮฺลิซซุนนะฮฺ จึงหลีกเล่ียงเบี่ยงบายจาก บรรดาอิมามแหงอะหฺลุลบัยตฺ ทําไมพวกเขาจึงไมยอมรับสิ่งหนึ่งสิ่งใดไมวาดานพ้ืนฐานหรือดาน รายละเอียดตาง ๆ ไวแกมัซฮับของพวกเขา และทําไมพวกเขาจึงมิไดยืนหยัดไปตามคําแถลงของ บรรดาอิมามแหงอะหฺลุลบัยตฺ ในเมื่อประสบปญหาขอขัดแยง และทําไมนักปราชญของประชาชาติ เหลาน้ันจึงไมยอมรับการอธิบายมาจากวิชาการของบุคคลเหลาน้ัน แตทวาพวกเขากลับแสดง ความเห็นขัดแยงในปญหาทางดานการใหทัศนะของพวกเขาเอง ถาหากวาโองการตาง ๆ แหงอัล-กุ รอาน ตลอดจนถึงหลักฐานตาง ๆ ท่ีถูกตองของฝายซุนนะฮฺ มีความเปนมาดังเชนท่ีทานไดกลาว แลว ทําไมอะฮฺลิซซุนนะฮฺจึงคลาดเคลื่อนไปจากนักปราชญของฝายอะหฺลุลบัยตฺซ่ึงนักปราชญ ฝายอะฮฺลิซซุนนะฮฺก็มิไดมีความพอใจท่ีจะเปลี่ยนแปลงไปจากพวกเขาเหลานั้น แตทวาพวกเขา เหลา นัน้ มไิ ดมคี วามเขา ใจตออัล-กุรอานและซุนนะฮตฺ าง ๆ ใหม ากยง่ิ ไปกวาการสดุดียกยองตออะหฺ ลุลบยั ตฺ อะฮฺลซิ ซุนนะฮฺกจ็ ึงดําเนินกิจการในศาสนาโดยมิไดเก่ียวของกับอะหฺลุลบัยตฺโดยถือวามิได มีความเสียหายแตอยางใด และเห็นวานักปราชญแหงอะหฺลุลบัยตฺนั้นเขาใจอัล-กุรอานและซุนนะฮฺ แตเพียงในแงของขอกําหนดที่จําเปนจะตองใหความรักและใหเกียรติตอบรรดาอะหฺลุลบัยตฺ สวน บรรพชนผูมีคุณธรรมนั้นเปนผูอยูในแนวทางท่ีถูกตอง และเปนผูที่เขาใจถึงคุณคาของซุนนะฮฺ ตลอดทัง้ อลั -กรุ อาน (ดงั นั้นโดยแนวทางของพวกเขาน้นั ขอใหทานไดด าํ เนินตาม) วัสลาม (ซ) อัล-มุรอญิอะฮฺ 18
4 ซลุ -ฮจิ ญะฮฺ 1329 1. กลาวขอบคณุ สาํ หรับการยกยอง 2. ผูรวมแสดงทัศนะมีความคลาดเคล่ือนในความเขาใจเพราะหลักจํากัดความของอะฮฺลิซ ซนุ นะฮฺ 3. การไมยอมรบั ตอแนวทางอะหฺลลุ บัยตฺน้ันขนึ้ อยูกับพนื้ ฐานการเมอื ง 4. อมิ ามทงั้ หลายแหงอะหลฺ ลุ บัยตฺ (กลา วโดยหลกั ฐานตาง ๆ ที่สรุป) 5. หลักการท่ยี ตุ ธิ รรมอนั ใดบางทต่ี ัดสนิ วา ผูท่ยี ดึ มน่ั ตอพวกเขาเหลาน้นั คอื ผทู ่ีหลงผิด 1. ขาพเจา ขอขอบคุณในขอ ความท่ีเต็มไปดวยความปรารถนาดีของทาน และความพยายาม ของพวกทาน ในการพิจารณาดวยสายตาที่มีความหวังดีขาพเจาขอนอมรับดวยสายตาของขาพเจา ตอ เบอ้ื งหนา ของความปรารถนาอันน้ีและขา พเจา จะถอื วา การยกยอ งทส่ี งู สง น้ยี ิ่งใหญนกั 2. โดยเหตุท่ีขาพเจาไดรับความปรารถนาดีมาจากความหวังดีของทาน ผูมีดุลยพินิจ พิจารณาในส่ิงดังกลาว สําหรับปญหาการหลีกเลี่ยงไมยอมรับอะหฺลุลบัยตฺของบรรดาอะฮฺลิซซุน นะฮฺน้ัน กอนอ่ืนทานตองใครครวญเสียกอนวาคร่ึงหน่ึงของบรรดาอะฮฺลิซซุนนะฮฺน้ันพวกเขาคือผู ปฏิบัติตามท่ีซ่ือสัตยของลูกหลานศาสดามุฮัมมัด พวกเขามิไดทําการบายเบี่ยงจากบรรดาอิมาม แหงอะหฺลุลบัยตฺไมวาในเร่ืองหนึ่งเร่ืองใดท่ีเกี่ยวกับพื้นฐานทางศาสนา และรายละเอียดตาง ๆ มา โดยตลอด แทจริงทัศนะของพวกเขาเหลานั้นตางเปนทัศนะท่ียอมจํานนตอแนวทางของบรรดาอิ มาม (อาลัยฮิมุสสลาม) ทั้งส้ิน เทาท่ีกําลังแหงสติปญญาจากความสามารถที่จํากัดอํานวยใหศึกษา ตามบทบัญญัติแหงอัล-กุรอานและซุนนะฮฺ ดังนั้นพวกเขาก็เปนผูเครงครัดในศาสนาของอัลลอฮฺ ผู ทรงสูงสุดกันอยางนี้อยูในทุกยุคทุกสมัยและทุกประเทศมาโดยตลอด กาลเวลาของบรรพชนผูมี คุณธรรมตาง ๆ เหลาน้ี ไดนับเนื่องผานมาต้ังแตสมัยครั้งท่ียังอยูภายใตการควบคุมของทานศาสน ทูตของอัลลอฮฺ (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลาน ของทา น) จนกระท่งั ถงึ ในยุคสมัยของเรา ปจ จบุ ันน้ี. 3. แทจริง พฤติการณที่หลีกเล่ียงจากอะหฺลุลบัยตฺ ในเร่ืองรายละเอียดและพื้นฐานตาง ๆ ของศาสนานนั้ สบื เนอ่ื งมาจากโครงสรางทางการเมืองของประชาชาติ และเหลาบรรดาผูปกครองที่ ไดดําเนินกิจการเชนนั้น นับมาตั้งแตพวกเขาไดสอพฤติการณบายเบี่ยง ออกจากอะหฺลุลบัยตฺโดย
ตําแหนงคอลีฟะฮฺ ซึ่งพวกเขาไดทําการคัดเลือกกันตามความถนัดใจ ท้ัง ๆ ท่ีมันเปนความหมาย โดยเฉพาะของทานอามีรุล-มุมีนีน อาลี บิน อาบีฏอลิบ ฉะน้ันเปนการชี้ใหเห็นวา แทจริงชาว อาหรับนั้นไมมีความอดทนตอการท่ีจะอยูในแบบแผนท่ีเจาะจงเปนการเฉพาะ พวกเขาผินหลังให ตอมลู ฐานเดิมของมนั ฉะนั้นพวกเขาจึงไดดําเนินการในเรื่องคอลีฟะฮฺไปดวยวิธีการคัดเลือกกันเอง ท้ังนี้ก็เพื่อท่ีจะใหบุคคลตาง ๆ ในหมูพวกเขาไดประสบความสมหวังกับส่ิงนั้น ถึงแมวายุคนั้นผาน ไปแลวก็ตาม เหตุการณนั้นก็ยิ่งปรากฏอยูอีกครั้งแลวครั้งเลา พวกเขาไดมีโอกาสรับกับทุกส่ิงทุก อยางท่ีพวกเขาไดพยายามมาจากกําลังและข้ันตอนที่ไดวางเอาไวสําหรับพ้ืนฐานอันนี้ และได ประสบความสําเร็จลุลวงไปกับทุกสิ่งทุกอยาง พวกเขาไดดําเนินการทุกวิถีทางอันเปนการกระดาง กระเด่อื งกับมัซฮับแหงอะหฺลุลบัยตฺและพวกเขาไดปฏิเสธกับทุกสิ่งทุกอยางที่แสดงใหเห็นถึงความ จําเปนของบัญญัติที่ใหยอมรับตอสิ่งน้ันจากอัล-กุรอานและซุนนะฮฺ ถาหากวาพวกเขาไดยอมจํานน ตอหลักฐานที่ชัดแจงดังกลาวแลวนั้น แนนอนเขาจะตองกลับไปยอมรับตออะหฺลุลบัยตฺ และพวก เขาจะยอนกลับไปหาอยางจําเพาะเจาะจงโดยทั่วไป ไมวาในดานของรายละเอียดแหงบทบัญญัติ ศาสนาหรือดานพ้ืนฐานกต็ าม แนนอนพวกเขาจะตอ งตดั ขาดจากหนทางตาง ๆ แตหนหลังของพวก เขา และแนนอนพวกเขาจะไดเห็นประจักษถึงขอเสนออันย่ิงใหญท่ีเรียกรองไปสูอะหฺลุลบัยตฺ และ นี่คือส่ิงที่ไมอาจอยูรวมกันไดกับบรรดาผูเปนหัวหนาของพวกเขา และไมสามารถสอดคลอง ตองกันกับพวกท่ีมีอํานาจและวางระเบียบในการปกครองพวกเขา ผูท่ีปดกั้นการศึกษาพิจารณาใน เร่ืองราวเหลานี้เขายอมรูอยูแกใจวา การบายเบี่ยงออกมาจากแนวทางของบรรดาอิมามแหงอะหฺ ลุลบัยตฺนั้นไมใชเพื่ออื่นใด นอกจากเปนเพียงเง่ือนไขของการจงใจหลีกเลี่ยงตอบรรดาอิมามที่มี ฐานะท่ัวไปหลังจากสมัยทานศาสนทูต(ศ) เทาน้ัน จึงไดมีการอธิบายหลักฐานตาง ๆ ไปในทํานอง วาเปนหลักฐานที่ระบุการเปนอิมามเพียงเฉพาะในกรณีหน่ึง ๆ ท้ัง ๆ ท่ีหลักฐานนั้น ๆ ตางระบุวา หมายถึง “อิมามในเหตุการณทั่วไป เพราะถาไมเปนเชนนั้น พวกเขาก็ไมมีขออางใด ๆ ที่จะอางกัน อีกเลย.” 4. เราจงึ ถกู เรยี กรอ งมาจากรายละเอียดตา ง ๆ และการอรรถาธิบายที่กล่นั กรองอยางละเอียด ถี่ถวน ทานไดเห็นวาพวกเขาเหลาน้ันมีความบกพรองในวิชาการหรือภาคปฏิบัติ หรือภาคของการ สํารวมกวาอิมามอัชอะรีย หรือบรรดาอิมามท้ังสี่ แมกระท่ังบุคคลอ่ืน ๆ บางไหม? เพราะถาหากวา พวกเขาเหลานั้นไมมีความบกพรองใด ๆ แลวไซร ทําไมจึงปรากฏวาไดมีผูอ่ืนที่มิใชพวกเขากลับ
เปนฝายไดรับการปฏิบัติตามยิ่งกวาพวกเขาเสียอีก? เพราะสัจธรรมท่ีแทจริงนั้นยอมไดรับการ ปฏิบตั ติ ามอยา งสมบูรณ 5. มีหลักฐานอ่ืนใดที่ชัดเจนบางซึ่งระบุตัดสินวา บุคคลท่ียึดมั่นตอบรรดาอะหฺลุลบัยตฺน้ัน หลงผิด แตทวาอะฮฺลิซซุนนะฮฺ วัลญามะอะฮฺ ตางไดรวมกันพิพากษาไวอยางน้ัน ขอความสันติสุข พึงมแี ดพ วกเขาท้งั หลาย วัสลาม (ช). อลั -มรุ อญอิ ะฮฺ 19 5 ซุล-ฮจิ ญะฮฺ 1329 1. ไมมีบทบัญญัติท่ียุติธรรมใด ๆ พิพากษาวา บรรดาผูยึดมั่นตออะหฺลิลบัยตฺ น้ันคือ ผูหลง ผิด 2. การปฏิบัติตามมัซฮับของพวกเขาเหลาน้ันเทากับเปนทางหนึ่งที่รอดพนจากความ ผิดพลาด 3. แทจริง พวกเขาเหลา นน้ั ก็ไดชือ่ วา เปน ผทู ่ีควรแกก ารปฏบิ ตั ติ าม 4. ขอ พสิ ูจนห ลกั ฐานตาง ๆ ในเรอื่ งคอลฟี ะฮฺ 1. ไมมีบทบัญญัติท่ียุติธรรมใด ๆ พิพากษาวา บรรดาผูยึดมั่นตออะหฺลิลบัยตฺ คือ ผูหลงผิด และขณะเดียวกันพวกเขาก็มิไดมีความบกพรองในเงื่อนไขของการเปนอิมามเชนเดียวกับบรรดาอิ มามทัง้ หลาย ไมว า ในดานคณุ สมบตั ปิ ระการหนงึ่ ประการใด 2. พฤติกรรมใด ๆ ก็ดีที่ขึ้นตอมัซฮับของพวกเขาเหลานั้น บรรดาบุคคลผูไดดําเนินการ ปฏิบตั ิไปยอมถือวาเขาไดรบั ความปลอดภัยจากความผิดพลาด เชน เดียวกันกับพฤติกรรมของบุคคล อื่น ๆ ที่ข้นึ ตรงกบั มซั ฮับทั้งสี่โดยไมมีขอ คลางแคลงใด ๆ 3. แตทวา แนนอนท่ีสุดไดเปนที่ยืนยันกันแลววา บรรดาอิมามท้ังสิบสองของพวกทานนั้น เปนผูทีค่ วรแกก ารเจริญรอยตามยงิ่ กวาบรรดาอิมามทง้ั ส่ี เนื่องจากบรรดาอิมามท้ังสิบสองน้ันอยูบน หลักการของมัซฮับเดียวกัน มีการยึดถืออยางถูกตองมั่นคงตามลักษณธที่เปนเอกฉันทระหวางพวก เขา ซึ่งแตกตางกันอยางกวางขวางในภาคของหลักการตาง ๆ แหงศาสนบัญญัติ จึงไมอํานวยใหมี ความสามารถในการที่จะดําเนินการศึกษาหรือจับความใหเขาใจอยางถองแทกับรายละเอียดตาง ๆ
เหลาน้ันโดยเหตุท่ีเปนท่ียอมรับกันโดยท่ัวไปแลววา แทจริงสําหรับส่ิงใดก็ตามท่ีบุคคลเพียงคน เดียวใหทัศนะตัดสินวาถูกตองนั้น ยอมไมเปนท่ีเพียงพอในเหตุผลอันควรยอมรับท่ีแทจริงไม เหมือนกับเหตุผลที่ตัดสินวา ถูกตองโดยอิมามสิบสองคน ทุกส่ิงทุกอยางเหลาน้ียอมเปนส่ิงท่ีไมมี อะไรซอนเรนใหหลงเหลืออยู สําหรับมาตรการตัดสินเพื่อความเปนธรรมในเร่ืองดังกลาวอีกแลว และไมมีขอแมใด ๆ ที่พอจะเหลือไวเพ่ือเปนขออางสําหรับผูมีคุณธรรมไดอีกตอไป แนนอนท่ีสุด ไดมีการคนควากันอยางขะมักเขมนจริงจังในสายสืบรายงานฮาดีษแหงมัซฮับของพวกทานที่ไปสู เร่ืองราวของบรรดาอิมามแหงอะฮฺลุลบัยตฺและแนนอนอีกเชนเดียวกัน การยึดถือปฏิบัติของพวก ทา นก็ดําเนินไปในหลักการท่ไี ดยนื หยดั อยูก บั หลักฐานตามทีไ่ ดกลา วไปแลวน้ี 4. บัดน้ีเพียงแตจะขอพิสูจนกับหลักฐานที่พวกทานท้ังหลายไดยืนยันกันมาโดยตลอด ซึ่ง หลักฐานท่ีวาดวยตําแหนงคอลีฟะฮฺของทานอิมามอาลี บิน อาบีฎอลิบขอใหทานนํามาพิสูจนอยาง ละเอียดกับหลกั ฐานทศ่ี อฮีฮ้ ฺของฝา ยอะฮฺลซิ ซุนนะฮฺ วัสลาม (ซ) ภาคการอธบิ าย อมิ าม (หรือ) คอลฟี ะฮฺ สืบตอจากทานรอซูลุลลอฮฺ (ศ) อัล-มุรอญอิ ะฮ 20
9 ซลุ ฮจิ ญะฮฺ 1329 1. การใหข อเสนอแนะทน่ี าํ ไปสหู ลกั ฐานโดยสรปุ 2. รายละเอียดบางสว นของ “บานหลงั นั้น” ในวัน “ตกั เตอื น” ทส่ี าํ คญั 3. ผบู ันทกึ หลักฐานตา ง ๆ เหลา นีเ้ ปน นักปราชญฝา ยซนุ นะฮฺ 1. สําหรับผูท่ีมีความรอบรูเกี่ยวกับวิถีชีวิตของทานนบี (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญ และความสันติสุขแดทานและบรรดาลูกหลานของทาน) จะรูไดวาในการจัดต้ังสถาปนารัฐอิสลาม ดําเนินการวางหลกั แหง บทบัญญัติของอิสลาม การวางแนวทางสําหรับหลักการของอิสลาม การวาง แบบฉบับตาง ๆ เพื่อเปนกฎเกณฑของอิสลาม ตลอดจนถึงการจัดระบบตอสภาพการณตาง ๆ ของ อิสลามน้ัน ลวนเปนส่ิงที่มาจากอัลลอฮฺผูทรงอานุภาพสูงสุดท้ังส้ิน อีกท้ังเขาจะไดเห็นวา ทานอาลี นั้น เปนผูรวมภารกิจของทานรอซูลุลอฮฺในกิจการตาง ๆ ของพระองค เปนผูปรากฏตัวอยูกับทาน รอซูล ตลอดเวลาท่ีอยูตอหนาศัตรูของทาน เปนผูบันทึกวิชาการของทาน เปนทายาทแหงวิทยาการ ตาง ๆ ของทาน เปนผูไดรับมอบหมายใหทําหนาที่ตามพันธะสัญญาตาง ๆ ของทาน เปนผูดําเนิน ภารกิจตาง ๆ ทางศาสนา ภายหลังจากทาน ผูใดก็ตามที่เขาดํารงตนอยูบนคําสั่งของทานนบี และ พฤติการณตาง ๆ ของทาน (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแด บรรดาลูกหลานของทาน) แลวเขาก็จะไดเห็นวารายละเอียดแหงหลักฐานตาง ๆ เหลาน้ีมีอยาง ถูกตอ งสอดคลอ งซ่ึงกันและกันมาโดยตลอด นับเร่ิมมาตั้งแตทานไดเริ่มดําเนินภารกิจของทานจวบ จนวาระสดุ ทา ยแหงอายุขยั ของทาน 2. ทานเองก็พอจะทราบถึงเหตุการณท่ีเกิดข้ึนกับเร่ืองดังกลาวน้ีในตอนตน ๆ ของการ ประกาศศาสนาอิสลาม คือในยุคกอนที่อิสลามไดปรากฏโฉมหนาข้ึนที่เมืองมักกะฮฺน้ัน อัลลอฮฺผู ทรงสูงสุดไดประทานโองการหนึ่งมาใหแกศาสดาของพระองควา “และเจาจงตักเตือนญาติของเจา เหลาบรรดาผูใกลชิด” (อัล-กุรอาน) ดังน้ันทานจึงไดเรียกบรรดาบุคคลเหลาน้ันไปยังบานลุงของ ทาน คืออาบูฎอลีบ บุคคลท่ีมากันในวันน้ันมีจํานวนไมมากและไมนอยไปกวาสี่สิบคน ซึ่งใน จํานวนของบุคคลเหลานั้นก็ไดแกบรรดาผูเปนลุงของทาน เชน อาบูฎอลิบ ฮัมซะฮฺ อับบาส และ อาบูลาฮับ เปนตน สําหรับฮาดีษที่กลาวถึงเรื่องนี้ก็มีบันทึกอยูในตําราศอฮี้ฮฺท้ังหลายของฝายซุน
นะฮฺดวย ซ่ึงในตอนทายของฮาดีษเหลาน้ันไดระบุถึงคําพูดของทานรอซูลุลลอฮฺ (ขออัลลอฮฺทรง ประทานความจาํ เริญและความสนั ตสิ ุขแดท า นตลอดถึงบรรดาลกู หลานของทา น) ท่ไี ดก ลาววา “โอลูกหลานของอับดุลมุฏฏอลิบ แทจริงฉันขอสาบานดวยนามของอัลลอฮฺวา ไมมีคน หนมุ ผใู ดในแควน อาหรบั น้ีท่จี ะนําความประเสรฐิ ที่เลศิ เลอสูพรรคพวกของเขาใหย่ิงใหญไปกวาส่ิง ท่ฉี นั ไดน าํ มาใหแกพวกทา น ฉันไดนาํ ขอเสนอมาใหแ กพวกทานดวยสง่ิ ท่ปี ระเสริฐยงิ่ สาํ หรบั โลกนี้ และปรโลก โดยแนนอนท่ีสุดอัลลอฮฺไดทรงบัญชามายังฉันเพื่อใหทําการเรียกรองพวกทานไปสูสิ่ง นั้น ดังนั้นจะมีผูใดบางในหมูพวกทานที่จะรวมภารกิจกับกิจการอันนี้ของฉันเพื่อท่ีเขาจะไดเปนพ่ี นอ ง เปน ทายาท และเปน ตวั แทนของฉัน ซง่ึ มีในหมูพวกทา น?” ดังน้ันพรรคพวกที่มาประชุมกันตางก็ตกตะลึงเงียบงันกันไปหมด ยกเวนทานอาลีซ่ึง ขณะนน้ั ทานเปน บุคคลที่ออนวัยที่สุดในหมูพวกเขา ทานไดยืนขึ้นแลวกลาววา “ฉันเอง โอทานนบี ของอลั ลอฮฺ ฉันจะเปน ผูร ว มภารกิจของทานเก่ยี วกบั กจิ การนั้น” ดังน้ันทานรอซูลุลลอฮฺก็ไดจับที่ตนคอของทานแลวกลาววา “แทจริงน่ีคือพี่นองของฉัน ทายาทของฉันและตัวแทนของฉันในหมูพวกทาน ดังน้ันขอใหพวกทานทั้งหลายจงไดเชื่อฟงและ ปฏบิ ัตติ ามเขาเถดิ ” ทันใดนั้นพรรคพวกตางพากันลุกข้ึนแลวหัวเราะเยาะเยยพลางกลาวแกอาบูฎอลิบวา “แนน อนเขาไดส ัง่ ใหท า นเช่อื ฟงและปฏบิ ตั ิตามบุตรของทานแลว ” 3. ถอยแถลงดังกลาวน้ีไดถูกบันทึกไวเปนจํานวนมากโดยกลุมผูทําหนาท่ีพิทักษรักษา ผลงานตาง ๆ ของทานศาสดา เชน ทานอิบนุอิสหาก อิบนุญารีรฺ อิบนุอาบีฮาติม อิบนุมัรดุวียะฮฺ อาบูนะอีม ทานบัยฮากีย ในหนังสือสุนันและในหนังสือดะลาอิล ทานษะละบีอ ทานฎ็อบรียได บันทึกไวในการอรรถาธิบายซูเราะฮฺอัชชุรออฺจากหนังสือตัฟสีรอัลกะบีร ทานฎ็อบรียยังไดบันทึก ไวอีกแหงหน่ึงในหนังสือตารีคอุมัม วัลมุลูกญะซอฺท่ี 2(118) ทานอิบนุอัล-อะษีรก็ไดทําหนาที่บันทึก ฮาดีษบทน้ีไวเชนกันในุซอฺท่ี 2 หนังสือกามิลของทาน(119) โดยทานไดอางวาเปนตอนท่ีอัลลอฮฺได ทรงบัญชาใหนบีของพระองคทําการเผยแผศาสนาอยางเปดเผย ทานอาบุล-ฟะดาอฺก็ไดบันทึกไว ในซุ อฺที่ 1 จากหนังสือตารีคของทาน(120) ซ่ึงเปนตอนท่ีทานไดกลาวถึงบุคคลแรกของประชาชนท่ี เขา รับนบั ถือศาสนาอิสลาม ทา นอิมามอาบญู ะอฟฺ ร อัสกาฟย มอุ ตฺ ะซลิ ียฺกไ็ ดบันทึกไวในหนังสือมัก ตุล อุสมานียะฮฺ โดยเปนผูยืนยันวาเปนฮาดีษศอฮ้ีฮฺ(121) ทานฮะลาบียฺไดอธิบายไวในบาบท่ีวาดวยผู สืบตําแหนงคอลีฟะฮฺของทานนบี (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและ
แดบรรดาลูกหลานของทาน) และบรรดาสาวกของทานในหนังสืออัรก็อม(122) และจากหนังสือ ชีวประวัติตาง ๆ ของทานซ่ึงเปนท่ีรูจักกันโดยทั่วไป ฮาดีษเหลานี้ไดถูกนํามาบันทึกโดยลีลาทาง สาํ นวนทีใ่ กลเคียงกนั ซ่ึงมีจํานวนมิใชน อยจากตาํ ราอันเปนทเ่ี ชอ่ื ถือของฝา ยซุนนะฮฺ (118) หนา 217 โดยสาํ นวนจากสายสบื ตา ง ๆ หลายกระแส (119) หนา 22 (120) หนา 116 (121) ตามท่ีมีอยูในหนา 263 เลมที่ 3 หนังสือชะเราะฮฺ (อรรถาธิบาย) นะฮฺญลบะเฆาะฮฺ ของทานอิบนุอะบิล-หะดีด ตีพิมพที่ประเทศอียิปตสําหรับหนังสือมักตุล อุสมานียะฮฺน้ันเปน หนังสอื ที่ไมคอยไดมโี อกาสจะไดปรากฏสายตาแกผอู า น ทง้ั ๆ ที่มีขอเท็จจริงหลายประการที่ไดถูก อธิบายไวโดยผูรักความเปนธรรมซึ่งเร่ืองเหลาน้ีมีปรากฏอยูในหนา 257 และหนาถัดไปคือหนา 281 ของเลมที่ 3 หนังสือชะเราะฮฺห นะฮฺุลบะลาเฆาะฮฺในการอธิบายตอนทายของคุฎบะฮฺ กอศอิ ะฮฺ (122) ขอใหยอนกลับไปดูเลมที่ 4 ของบาบดังกลาว หรือหนาท่ี 381 ุซอฺที่ 1 หนังสือซี เราะตุล ฮะลาบยี ะฮฺ ซึ่งเปน เรือ่ งทอี่ บิ นุตัยมียะฮฺแสดงความไมคอ ยพอใจนักตอหลักฐานตาง ๆ ซง่ึ ได แสดงไวสําหรับเรื่องนี้ น่ันแสดงวาเขาเปนผูมีอคติคนหน่ึงซ่ึงเปนท่ีรูกันโดยทั่วไป ฮาดีษน้ีสมาคม นักเขียนของประเทศอียิปตโดยมุฮัมมัด ฮาซานัยน ฮัยกัล ก็ไดเคยบันทึกรายละเอียดเอาไว ซ่ึง สามารถยอนกลับไปดูไดในหัวขอท่ี 2 ฉบับท่ี 5 อันดับที่ 2751 หนังสือญารีดะฮฺ (เกี่ยวกับการเมือง) ซ่ึงออกในวันที่ 12 เดือนชุลกีอฺดะฮฺ ป 1350 ทานจะไดพบรายละเอียดอยางมากมายและถาหากทาน ไดยอนกลบั ไปดหู ัวขอท่ี 4 ของฉบับที่ 6 อนั ดับที่ 2785 ของวารสารการเมืองเลมน้ันดวยแลว ทานก็ จะไดพบวา เขาไดอางถึงฮาดีษน้ีทุก ๆ บทท่ีรายงานมาจากศอฮี้ฮฺมุสลิมและมุสนัดของอิมามอะหฺมัด และอับดุลลอฮฺ บิน อะหฺมัด ซึ่งบันทึกไวในหนังสือสิยาดาตุลมุสนัดทานอิบนุฮาญัรอัลหัยษุมียฺก็ได บันทึกไวในหนังสือญัมอุล ฟะวาอิด ทานอิบนุกุตัยบะฮฺก็ไดบันทึกไวในหนังสืออุยูนุล อัคบาร ทานอะหฺมดั บิน อบั ดุลรอ็ บบะฮฺไดบ ันทกึ ไวใ นหนงั สอื อุกดลุ ฟะรีด ทานอุมัรบิน บะริอฺ อัล-ยาหิซ ก็ไดบันทึกไวในหนังสือีสาละฮฺจากบานีฮาชิม ทานอิมามอาบูอิสหากษะละบียฺก็ไดบันทึกไวในตัฟ สีรของทาน นอกจากน้ีทานยอรชแหงประเทศอังกฤษก็ไดอางฮาดีษนี้บันทึกไวในหนังสือเมาสูม มะกอละฮฺ ฟลอิสลาม ซึ่งหนังสือเลมน้ีไดรับการแปลออกมาเปนภาษาอาหรับ โดยบัรวฺ ตัสตานีย แลว ไดต งั้ ชื่อหนงั สือเลม นว้ี า ฮาชมิ แหงอาราเบยี ฮาดีษนี้ทานสามารถพบไดในหนา 79 ของหนังสือ
ดงั กลาวฉบับตพี มิ พคร้ังท่ี 6 ฮาดีษนี้ไดเปนท่ีรูกันอยางกวางขวางในประเทศแถบยุโรป ซึ่งมีปรากฏ อยูในตําราของพวกเขาทั้งภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมัน โทมัส การลีลก็ไดนําไป สรุปไวในหนงั สืออลั อบั ฏอลของทา นดว ย ผทู รงคุณวฒุ ิของหลักฐานฮาดีษตาง ๆ เชน ฏอหาวีย และฏียาอฺ มุก็อดดาสียไดบันทึกไวใน หนังสือมุคตาเราะฮฺ ทานซะอีด บิน มันศูรก็ไดบันทึกไวในหนังสือสุนัน และหวังวาคงจะเปนที่ เพียงพอแกทาน สําหรับการบันทึกฮาดีษบทน้ีของทานอะหมัด บิน ฮันบัล จากฮาดีษที่รายงานโดย ทานอาลีในหนา 111 และในหนา 159 ของซุ อทฺ ่ี 1 หนังสอื มุสนัดของทานซ่ึงควรที่จะไดยอนกลับ ไปพิจารณา และอีกคร้ังหน่ึงที่ทานอะหฺมัดไดบันทึกฮาดีษบทน้ีก็คือในตอนตนของหนา 331 ุซอฺ ท่ี 1 ซึ่งเปนฮาดีษที่ไดรับการรายงานมาจากทานอิบนุอับบาส โดยทานไดรวมเอาไววาเปนเนื้อหา เดียวกันถึง 10 รายงานท่ีมีมาอยางเฉพาะเจาะจงกับคุณสมบัติพิเศษท่ีทานนบีไดมอบหมายใหแก ทานอาลีเหนือกวาบุคคลอ่ืน ๆ ฮาดีษอันทรงเกียรติน้ี ทานนะสาอียก็ยังไดบันทึกไวอีกดวย จาก รายงานของทานอิบนุอับบาสในหนาที่ 6 จากเคาะศออิศ อุลุวียะฮฺของทาน ทานฮากิมก็ไดบันทึกฮา ดีษบทน้ีไวในหนา 132 ซุ อทฺ ่ี 3 จากหนังสือศอฮ้ฮี มฺ ุสตดั รอ็ กของทาน นอกจากน้ีฮาดีษบทน้ีทานซะฮะบียก็ยังไดบันทึกไวในหนังสือตัลคิสซึ่งเปนที่รูจักกันอยาง ดีถึงความถูกตองที่เช่ือถือไดของตําราเลมน้ี และทานไมอาจท่ีจะหลีกพนฮาดีษบทนี้ไดซี่งมีปรากฏ อยูใ นซุ อทฺ ี่ 6 ของหนงั สือกลั ซนุ อมุ าล เพราะแทจ รงิ ในหนงั สอื เลมน้นั ไดม กี ารกลาวถึงฮาดีษบทนี้ ไวอ ยางตอ เนื่องกนั หลายแหง (123) และในขณะนี้ขอใหทานไดพิจารณาอยา งถ่ีถว นตอ หนังสือมุนตาค็ อบ กันซฺที่ไดรับการตีพิมพบันทึกรวมอยูในฮาดีษ ฮามิช มุสนัดอิมามอะหฺมัด แลวขอใหยอนกลับ ไปพิจารณาดูฮาดีษน้ีอีกคร้ังหนึ่ง ในหนังสือฮามิชหนา 41-43 ุซอฺที่ 5 หวังวาทานคงจะไดพบ รายละเอียดท่ีครบครัน คงเปนท่ีเพียงพอแกทานแลว สําหรับความถี่ถวนของหลักฐานอันประเสริฐ น้ี (123) ขอใหยอ นกลบั ไปพจิ ารณาดูเร่อื งน้ีไดจากฮาดีษที่ 6008 หนา 392 ซ่ึงทานจะไดพบวา ฮาดีษนี้ถูกอางโดยทานอิบนุ ญะรีร และขอใหดูฮาดีษที่ 6045 ในหนา 396 ซ่ึงทานจะไดเห็นวา ฮา ดีษบทน้ีถูกอางโดยทานอะหฺมัด ซึ่งบันทึกไวในมุสนัดของทานและทานฎิยาอฺ มุก็อดดะสียฺก็ได บันทึกไวในหนังสือมุคตาเราะฮฺ ทานเฎาะฮาวีย และอิบนุญะรีรไดรับรองวาฮาดีษน้ีศอฮี้ฮฺ และ ขอใหด ูฮาดษี ท่ี 6056 ในหนา 397 ทานจะไดพบวาฮาดีษบทน้ีถูกนํามาอางโดยทานอิบนุ อิสฮาก อิบ นุ ญะรีร อิบนุ อาบูฮาติม อิบนุมัรดุวียะฮฺ อาบูนะอีม และทานบัยฮากียในหมวดวาดวยการ อีมาน
และในหนังสือดะลาอิล และขอใหดูฮาดีษที่ 6102 หนา 401 ทานจะไดพบวาฮาดีษนี้ถูกนํามาอาง โดยทานอะหมฺ ดั ในมุสนดั ของทาน และอบิ นุ ญะรรี และฎยิ าอฺในหนังสือมุคตาเราะฮฺและสําหรับผูที่ ไดศ กึ ษาหนงั สือกัลซุลอุมาน แลว เขาก็จะไดเห็นวา ฮาดีษบทนม้ี ีปรากฏอยู วสั ลาม (ช) ในสถานทีอ่ นื่ ๆ ทีแ่ ตกตางกนั ออกไป คร้ันเม่ือทานไดยอนกลับพิจารณายังหนา 255 เลม 3 หนังสือ “อธิบายนะฮฺุลบะลาเฆาะฮฺ ของอิมามมุอฺตะซาลียฺ ฮะดีดียฺ และในตอนทายของการอธิบายคุฎบะฮฺ กอศอิ ะฮจฺ ากหนงั สอื เลม นั้นแลว ทานจะไดพบวาฮาดษี นมี้ รี ายละเอียดทย่ี ดื ยาว อลั -มรุ อญิอะฮฺ 21 10 ซุล-ฮจิ ญะฮฺ 1329 • ความสงสยั ทมี่ ีตอสายสืบของหลักฐานขอ นี้ แนนอนท่ีสุด ผูขัดแยงทานน้ัน ยังมิไดยอมรับสายสืบที่ควรแกการพิจารณาสําหรับฮาดีษบทน้ี และยังไดตอบโตสายสืบน้ีดวยวาจาท่ีรุนแรงเฉียบขาด ขอใหทานไดควรเขาใจไวดวยวา แทจริง ทานชัยคผูอาวุโสทั้งสอง (บุคอรีย-มุสลิม) ก็ยังมิไดบันทึกรายงานของฮาดีษบทน้ี แมแตนักปราชญ
เจาของตําราศอฮี้ฮฺบุคคลอ่ืน ๆ ก็เชนเดียวกัน ขาพเจายังไมคอยมีความมั่นใจนักวา ฮาดีษบทน้ีจะได มกี ารยอมรบั กันวา มาจากบรรทัดฐานท่ีเชื่อถือไดของนกั ปราชญฝ ายซุนนะฮฺ และขาพเจายังมิไดเ ห็น วา ทานไดแสดงเหตผุ ลที่ศอฮฮ้ี ฺใด ๆ อันมาจากมาตรฐานทางดา นสายสบื ของพวกเขาเหลาน้ัน วัสลาม (ซ) อัล-มุรอญิอะฮฺ 22 12 ซุล-ฮิจญะฮฺ 1329 1. มขี อ พิสูจนท ่ีชดั แจง สาํ หรบั หลกั ฐานขอ น้ี 2. ทําไมบุคคลเหลา น้นั จงึ ไดพ ากันปฏเิ สธจากหลกั ฐานน้ี? 3. โดยพฤติกรรมตาง ๆ ของพวกเขาเหลา น้ันทไี่ ดแสดงออกมาใหประจักษยอมไมเปนท่ีนา ประหลาดใจแตป ระการใด 1. ทําไมไมไดแสงหลักฐานท่ีรับรองวาถูกตองอยางเดนชัดมาจากบรรทัดฐานของ นักปราชญฝายซุนนะฮฺ เกี่ยวกับรายละเอียดที่ขาพเจาไดอธิบายไปแลวน้ันก็ในเมื่อเปนหลักฐานที่ ยืนยันโดยทานอิบนุ ญะรีรฺ และ อิมามอาบู ญะอฺฟร อัสกาฟยฺซ่ึงไดบันทึกวาฮาดีษน้ีมีหลักฐานที่ศอ ฮ้ีฮฺยืนยันอยูในหนังสืออิรสาลุล-มุสลีมาต(124) และมีผูยืนยันซึ่งเปนนักปราชญผูมีความจริงใจตอสัจ ธรรมอีกจํานวนไมนอยท่ีระบุวา หลักฐานในเรื่องน้ีศอฮ้ีฮฺ ขอใหทานไดสังเกตในความชัดเจนของ หลักฐานฮาดีษนี้ที่ระบุวาศอฮี้ฮฺ โดยบรรทัดฐานท่ีมั่นคงแข็งแรง กลุมบรรดานักปราชญเหลาน้ันคือ ผูซึ่งบรรดานักปราชญเจาของตําราศอฮี้ฮฺท้ังหลายไดใหการยอมรับตอพวกเขาในทุก ๆ เง่ือนไข ทานไมอาจจะหลีกเล่ียงใหพนจากหลักฐานน้ีไปไดในหนา 111 ุซอฺท่ี 1 หนังสือมุสนัด ของอิมาม อะหฺมัด ซ่ึงทานจะไดพบวาฮาดีษบทนี้ทานอิมามอะหฺมัดไดบันทึกมาจากทานอัสวัด บิน อามีร(125) จากทานชะรีค(126) จากทานอะหฺมัด(127) จากทานมินฮาร(128) จากทานอิบาด(129) บิน อับดุลลอฮฺ อัล-อะ สะดีย ซึ่งไดนํารายงานฮาดีษน้ีสืบไปไดถึงทานอาลีเอง บุคคลทุกคนเหลานั้นลวนเปนสายสืบที่ สัมพันธกันของมาตรฐานสายสืบหลักฐานที่มีเหตุผล และทุกคนเหลาน้ันก็ลวนแตเปนบุคคลระดับ นักปราชญที่ศอฮ้ีฮฺอยางไมมีขอแมใด ๆ กลาวตําหนิได บุคคลเหลาน้ันทานกัยสะรอนียไดกลาวถึง
เร่ืองราวของพวกเขาไวในหนังสือรวบรวมชีวประวัติของนักปราชญแหงตําราศอฮ้ีฮฺทั้งหลายจึง นับวาฮาดีษนี้เปนฮาดีษที่ศอฮี้ฮฺยอยางสมบูรณท่ีแทจริงเกินจากการกลาวหาใด ๆ บนเง่ือนไขที่วาฮา ดษี บทนไี้ ดม นี กั ปราชญเ ปนจาํ นวนมากยืนยันถึงสายสบื ท่อี างถงึ ซ่ึงกันและกันได (124) ขอใหยอนกลับไปดูฮาดีษท่ี 6045 จากหนังสือรวบรวมฮาดีษ อัล-กันซ หนา 396 ุซอฺ 6 แลวทานจะไดพบวาฮาดีษนี้ อิบนุ ฮะญัรไดระบุวาเปนฮาดีษศอฮ้ีฮฺ ครั้นเมื่อถาทานได ยอ นกลับไปพจิ ารณาดูในหนงั สือมุนตาค็อบ อลั -กันซที่มหี วั ขอเรื่องอยูใน “อะวาอิลฮามิช” หนา 44 ุซอฺที่ 5 ของหนังสือมุสนัด อะหฺมัด ทานก็จะไดพบวาอิบนุ ญะรีร ไดยืนยันวา ฮาดีษน้ีศอฮ้ีฮฺอีก เชนกัน สาํ หรบั อาบู ญะอฟฺ ร อัสกาฟยน้ัน ทานไดยืนยันไวอยางแข็งแรงตามมาตรฐานการตัดสินฮา ดีษศอฮ้ีฮฺของทานไวในหนังสือมักตุล อุสมานียะฮฺ และขอใหยอนกลับไปพิจารณาดูฮาดีษน้ีที่มี ปรากฏอยูในหนา 263 ภาคท่ี 3 ของหนังสือ “นะฮฺุลบะลาเฆาะฮฺ” ของทานฮะดีดีย ตีพิมพที่ ประเทศอยี ปิ ต (125) ทา นบุคอรแี ละมสุ ลิมไดเ คยยอมรบั หลักฐานจากบคุ คลผนู ี้ไวในหนังสือศอฮ้ฮี ทฺ ้ังสอง สําหรับท้ังสองเลมนี้บุคคลผูน้ีไดรับฟงฮาดีษมาจากทานชุอฺบะฮฺ เฉพาะในบุคอรีนั้นเขาไดรับฟงมา จากอับดุลอะซีซ เฉพาะในมุสลิมนั้นบุคคลผูน้ีไดรับฟงมาจากซุฮัยร บิน มุอาวียะฮฺ และฮัมมาด บิน สะลามะฮฺ รายงานท่ีบุคคลผูนี้บอกเลาท่ีมีอยูในศอฮี้ฮฺบุคอรีนั้นคือท่ีเลามาโดยมุฮัมมัด บิน ฮาติม บิน บะซิอฺ และผทู ี่ไดรบั การบอกเลามาจากบุคคลผูน้ีแลวมาบันทึกไวในหนังสือศอฮี้ฮฺมุสลิมน้ันคือ ฮารูน บนิ อบั ดลุ ลอฮฺ นากดิ อบิ นอุ าบีชัยบะฮแฺ ละชฮุ ัยร (126) ทานมสุ ลิมไดย อมรบั หลกั ฐานฮาดีษตาง ๆ ของบุคคลผูน้ีมาบันทึกไวในหนังสือศอฮี้ ฮฺของทา นดงั ทเ่ี ราไดอ ธิบายไปแลวในมรุ อญอิ ะฮทฺ ่ี 16 (127) ทานบุคอรีและมุสลิมไดยอมรับหลักฐานฮาดีษจากบุคคลผูนี้มาบันทึกไวในหนังสือ ศอฮฮ้ี ฺทัง้ สองเลม ดังทเี่ ราไดกลาวไปแลว ในมุรอญอิ ะฮฺที่ 16 (128) ทา นบคุ อรีไดร บั หลกั ฐานจากบุคคลผูนี้ ดังทีเ่ ราไดก ลาวไปแลวในมรุ อญิอะฮฺที่ 16 (129) เขาคอื อิบาด บิน อับดุลลอฮฺ บิน ชุฮัยร บิน อะวาม กุรชีย อัลอะสะดีย ทานบุคอรีและ มุสลิมไดรับหลักฐานจากบุคคลผูนี้ไปบันทึกไวในหนังสือศอฮี้ฮฺของทาน ทานไดยินเร่ืองราวมา จากอสั มาอฺและทา นอาอีชะฮฺบตุ รสาวของอาบีบกั รฺ และผทู ่ีไดร ับรายงานมาจากทานไปบันทึกไวใน หนังสือศอฮี้ฮฺท้ังสองเลมนั้น คือ อิบนุอาบู มุลัยกะฮฺ และมุฮัมมัด บิน ญะอฺฟร บิน ซุบัยร และฮิชาม บนิ อุมรั
2. สาเหตุท่ีแทจริงที่ผูอาวุโสทั้งสอง (บุคอรีและมุสลิม) ตลอดจนถึงนักปราชญอื่น ๆ อีก จํานวนหนึง่ มิไดท ําการบนั ทกึ ฮาดีษบทน้ี ก็เน่ืองมาจากบุคคลเหลานั้นเขมีความคิดเห็นวา ฮาดีษบท นี้กระทบกระเทือนทัศนะของเขาที่มีในเร่ืองคอลีฟะฮฺ และน่ีคือสาเหตุท่ีพวกเขาตองปฏิเสธกันอีก มากมายกับหลักฐานรายละเอียดท่ีศอฮี้ฮฺอ่ืน ๆ เพราะพวกเขาพากันกลัววาหลักฐานอันน้ีจะเปน อาวุธของฝายชีอะฮฺ พวกเขาจึงปดบังอําพรางมันไวทั้ง ๆ ที่พวกเขาก็ตระหนักดี พฤติการณเชนนี้มี เปนจํานวนมากในหมูนักปราชญของฝายอะลิซซุนนะฮฺ หวังวาอัลลอฮฺทรงเอื้อเฟอการอภัยใหแก พวกเขา พวกเขาเปนผูที่อยูกับความจริงดังกลาวนี้ แตพวกเขาปดบังทุกส่ิงทุกอยางท่ีเปนส่ิงซ่ึงมา จากบุคคลกลุมน้ี และสิ่งที่ประชาชนไดรับก็คือการตกอยูในสภาพที่ถูกปดบังมิใหรูจักแนวทางที่มี ความถูกตอ ง ทา นฮาฟซ อบิ นุ ฮะญัร ไดอา งถึงเรอ่ื งนี้ท่เี กี่ยวกับพวกเขาเหลานั้นไวในหนังสือฟตฮุล บารีย ทานบุคอรีก็ไดเนนความหมายของส่ิงเหลานี้ไวในตอนทายของหมวดวาดวย “วิชาความรู” จากุซอฺที่ 1 หนงั สอื ศอฮ้ฮี ฺของทา นโดยท่ที า นไดกลาววา หมวดวาดวย “ความจําเพาะของวชิ าการที่ พวกหน่ึงมเี หนืออีกพวกหนงึ่ ”(130) 3. ไดเปนท่ีรูกันถึงการซอนเรนของทานบุคอรีที่กระทําตอบทบาทของทานอามีรุล-มุมีนีน และบรรดาอมิ ามแหงอะฮลฺ ลุ บยั ตฺ และเปนที่รูกันวาแทจริงทานบุคอรีเปนผูท่ีมีความระมัดระวังเปน อยางยิ่งตอการบันทึกถึงเร่ืองเกียรติอันย่ิงใหญในรายงานตาง ๆ ท่ีกลาวถึงเกียรติคุณของบุคคล เหลานั้น และแทจริงทานไดทําเมินเฉยตอการที่จะอธิบายถึงเกียรติคุณที่มีอยูแกบุคคลเหลานั้น ฉะนน้ั ยอ มไมเปน สิ่งทน่ี า ประหลาดใจแตอ ยา งใดสําหรับการปฏเิ สธของทานท่ีมีตอฮาดีษเหลานี้ ไม มพี ลงั และไมม ีอาํ นาจใด ๆ เวนแตอ ํานาจของอัลลอฮฺผทู รงสูงสุด ผูทรงอานภุ าพทีย่ ่งิ ใหญ (130) หนา 25 วัสลาม (ช) อลั -มรุ อญิอะฮฺ 23 14 ซลุ -ฮจิ ญะฮฺ 1329 1. การยอมรับดวยความศรทั ธาท่ีมีตอ หลักฐานฮาดษี ที่แข็งแรง 2. ไมมเี หตุผลสาํ หรับหลักฐานใด ๆ อีกทจี่ ะมาทาํ การลบลางหลักฐานฮาดีษศอฮฮ้ี ถฺ กู ตอง
3. หลกั ฐานในเร่ืองน้ีแสดงใหเ ห็นถงึ การเปนคอลีฟะฮฺทเ่ี ฉพาะในเหตกุ ารณหน่ึง ๆ 4. หลักฐานน้ไี ดถ ูกยกเลกิ 1. ขาพเจาไดยอนกลับไปพิจารณาฮาดีษนี้ในหนา 111 ของุซอฺที่ 1 จากหนังสือมุสนัด อะหฺมดั แลว ขาพเจา ก็ไดพ บกับสายสืบฮาดีษน้ี โดยนักปราชญมากมายจนระอา ดังนั้นขาพเจาจึงได เห็นวาพวกเขาเปนผูนําหลักฐานฮาดีษที่ม่ันคงแข็งแรงอยางนาเชื่อถือยิ่ง หลังจากน้ันขาพเจาไดทํา การวิเคราะหพิจารณาอยางละเอียดถี่ถวนตอบรรดาสายสืบเหลาน้ีจนไดพิสูจนแลววา หลักฐาน เหลานี้คือแนวทางท่ีปะติดปะตออันเพ่ือการสงเคราะหใหไดมีโอกาสศึกษา ซ่ึงตางก็สามารถอางอิง ไดซ ่งึ กนั และกันดว ยเหตนุ ข้ี า พเจาจงึ เชอื่ มั่นอยางเหนียวแนน แลว ตอหลกั ฐานฮาดีษขอน้ี 2. ไมมีขออา งใด ๆ ท่ีจะกลาวหาวา พวกทา นไมมีหลักฐานท่ีกลาวระบุไวในเรื่องของอิมาม โดยหลักฐานฮาดีษศอฮี้ฮฺตอไปไดอ กี แลว เนือ่ งจากวาสงิ่ เหลา นไี้ ดประจักษข้ึนมาแลววา มีหลักฐาน ท่ีสอดคลองตรงกันทางดานสายสืบ ฉะนั้นจึงเปนอันวาอิมามในทัศนะของพวกทานน้ัน เปน พ้ืนฐานท่ีแทจริงของศาสนา และฮาดีษน้ีก็ไมควรที่จะไดรับการกลาวหาใด ๆ อีกตอไป เพราะเหตุ ท่ีวาเปนฮาดีษที่อยูในขอบขายของมาตรฐานท่ีถูกตองและไมมีมาตรการใด ๆ อีกแลวที่จะสามารถ ตงั้ แงห กั ลา งมนั ได 3. แตก็ยังมีขอสังเกตอีกประการหนึ่งที่ช้ีใหเห็นวา ฮาดีษนี้เปนเพียงหลักฐานท่ีแสดงวา ทานอาลีนั้นเปนตัวแทน (คอลีฟะฮฺ) ของทานศาสดา (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความ สันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของทาน) เฉพาะแตสําหรับบุคคลในครอบครัวของทาน ศาสดา โดยเฉพาะเทานั้น ฉะนั้นยังมีหลักฐานท่ีชัดแจงอ่ืนใดบางท่ีจะสามารถใหความกระจางวา ทานเปนคอลฟี ะฮฺ (หรือตวั แทน) ของทานศาสดาสาํ หรับมุสลิมโดยทวั่ ๆ ไป? 4. บางทีอาจจะมีขออางที่กลาวกันวา ฮาดีษบทน้ีไดรับการยกเลิกไปแลว เพราะทานนบีได แสดงออกโดยการกระทําของทาน มิฉะน้ันกลุมศอฮาบะฮฺทั้งหลาย คงจะไมรวมกันออกเสียงแสดง การใหสัตยาบันรับรองตอ 3 คอลีฟะฮฺ “ผูนําทาง” เปนแนแท ขออัลลอฮฺผูทรงสูงสุดทรงมีความปติ ชื่นชมยนิ ดีกับพวกเขาเหลา นนั้ ทัง้ หลาย วสั ลาม (ซ)
อลั -มรุ อญอิ ะฮฺ 24 15 ซุล-ฮิจญะฮฺ 1329 1. สาเหตใุ นการอางเหตุผลของเราเพราะไดพ ิสูจนถึงความจริงของฮาดษี บทนี้ 2. เรื่องของตําแหนงคอลีฟะฮฺท่ีมีข้ึนเพ่ือเฉพาะเจาะจงแกครอบครัวนั้นเปนที่ปฏิเสธกัน อยางเอกฉนั ทของบรรดาผทู รงคณุ วฒุ แิ หง มุสลมิ ทงั้ มวล 3. การยกเลกิ ในเรื่องนยี้ อมเปนส่ิงทเ่ี ปน ไปไมไ ด 1. แทจริงกลุมนักปราชญของฝายซุนนะฮฺน้ัน เขาไดพยายามที่จะอางเหตุผลเพ่ือโตแยงใน หลักฐานที่ม่ันคงของเรื่องอิมาม กับทุกบททุกตอนของฮาดีษที่ศอฮี้ฮฺ เขาจะทําเชนนี้เสมอ ไมวาจะ เปนเร่ืองราวท่ีมาจากฮาดีษท่ีมีสายสืบสอดคลองตรงกันอยางไรหรือไมก็ตาม ดังนั้นเราจึงไดอาง เหตุผลใหแกพวกเขา โดยอาศัยหลักฐานฮาดีษที่มีมาตรฐานศอฮ้ีฮฺมาจากบรรทัดฐานแหงสายสืบ ของพวกเขาเองเพื่อเปนการตอกยํ้าใหแนนย่ิงข้ึนแกพวกเขาวาสิ่งน้ันฝายของพวกเขาเองก็ไดยืนยัน อยา งเหนียวแนนกนั อยู แตสําหรับการแสดงหลักฐานตาง ๆ เกี่ยวกับเร่ืองนี้ ซ่ึงบงบอกถึงหลักการอิ มามอันเปนหลักฐานทางดานของเราน้ัน แนนอนที่สุดหลักฐานขอน้ีเปนรายงานฮาดีษที่มีความ สอดคลองตรงกันโดยมาตรฐานทางสายสบื ของเราอยางชนิดท่ีไมม ีอะไรซอนเรน 2. การอางเหตผุ ลวา แทจ รงิ ฮาดีษนี้มีความหมายเพยี งแตแสดงเปน หลักฐานวา ทานอาลเี ปน ตัวแทน (คอลีฟะฮฺ) ของทานรอซูลลุลลอฮฺ เฉพาะเพียงแตสําหรับบุคคลในเครือญาติของทาน เทานั้น อันความจริงแลว ใครก็ตามที่กลาววา “แทจริงทานอาลีเปนตัวแทนของทานรอซูลุลลอฮฺ สําหรับบุคคลในครอบครัวของทานแลว” น่ันแหละคือผูที่กลาววา ทานอาลีเปนตัวแทนของทาน รอซูลุลลอฮฺ สําหรับบคุ คลท่ัวไปดว ย ฉะน้นั ใครก็ตามทเ่ี ขาปฏเิ สธตําแหนง การเปน ตัวแทนของทาน แกบุคคลท่ัวไปแลว เขาก็ยอมปฏิเสธตําแหนงการเปนตัวแทนของทาน ที่มีเฉพาะแตกลุมบุคคลใน ครอบครัวน้ันดวย และมิไดเปนคํากลาวอางท่ียืนหยัดอยูกับเหตุผลท่ีถูกตอง มิฉะนั้นแลวปรัชญา ของการมีคอลฟี ะฮฺตา ง ๆ เหลา นี้ สําหรับสังคมสว นรวมของมุสลมิ นน้ั จะเปน ฉนั ทใ ด? 3. ทานและขาพเจาเองก็ยังไมลืมคํากลาวอางที่วากันวา ฮาดีษบทนี้ไดรับการยกเลิกโดย พฤติการณของทานนบี น่ันเปนสิ่งท่ีเปนไปไมไดสําหรับเหตุผลทางสติปญญาและบทบัญญัติ เน่ืองจากวา เปน การยกเลิกท่ีเกิดข้ึนกอนเหตุการณจริงจะไดมาปรากฏ โดยสาเหตุที่วาทานไมเคยได
มีคําส่ังยกเลิกเร่ืองราวเหลานี้ มิหนําซ้ํายังไดมีการยํ้าถึงเจตนาของเรื่องน้ีจากการแสดงออกของ ทานนบี ซึ่งก็ถือวาเปนขอความท่ีมีเหตุผลสําหรับฮาดีษเชนกัน วาความจริงขอน้ีทานนบี (อัลลอฮฺ ทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของทาน) ไมเคยได แสดงออกท่ีพอจะบอกเหตุวา ทานทําการยกเลิกเรื่องนี้ แตทวาหลักฐานรายละเอียดตาง ๆ ยิ่งเปน เหตุผลที่พร่ังพรูมาเปนหลักประกันที่ยืนยันอยางสอดคลองตองกันสามารถท่ีจะเอาเหตุการณใน บางสวนมาอา งอิงประกอบกับเหตุการณอ ีกบางสว นได ถา เปนความจริงวา ไมมีหลักฐานใด ๆ ที่บง บอกใหร ูถึงพน้ื ฐานทจ่ี ะสืบตอภายหลังจากทา นแลวไซร จะมใี ครที่ไหนบา งทีจ่ ะสามารถรวู า ทานน บีไดปฏิเสธจากขอความของทานที่ผานไปแลว จะมีใครท่ีสามารถช้ีใหเห็นไดวา ทานไดบายเบ่ียง จากขอ เสนอของทา นบาง? “พวกเขาเหลาน้ันมิไดปฏิบัติตามแนวทางใด นอกจากความสงสัยและตามความปรารถนา ของอารมณเทาน้ัน แตโดยแนนอนย่ิงทางนําจากพระผูอภิบาลของพวกเขาไดมีมายังพวกเขาแลว” (อัล-กุรอาน 53 : 23) วัสลาม (ช) อลั -มรุ อญิอะฮฺ 25 16 ซุล-ฮิจญะฮฺ 1329 1. การยอมรบั ดวยความเช่อื มน่ั ตอ รายละเอยี ดของฮาดีษบทนี้ง 2. ขอรองใหเ พ่ิมหลักฐานอีก 1. ขาพเจามีความเช่ือม่ันแลว วาทานเปนผูท่ีสามารถใหความกระจางแจงแกผูท่ีอยูใน ปญหาอันมืดมนได ความเขาใจผิดตาง ๆ ยอมไดรับการอธิบายอยางแจมแจงโดยตัวของทาน พระองคไดทําใหทานมีความเขาใจดังวาทานเปนสัญญาณหนึ่งแหงบรรดาสัญญาณท้ังหลายของ
พระองค และทานเปนผูทําหนาท่ีเปดเผยใหกระจางแจง ซึ่งขอพิสูจนตาง ๆ แหงโองการที่ชัดแจง ของพระองค 2. ขอใหทานไดโปรดเพิ่มเติมหลักฐานเหลานั้นใหแกขาพเจาหวังวาอัลลอฮฺทรงตอบแทน ใหแกท า น วสั ลาม (ซ) อลั -มุรอญิอะฮฺ 26 17 ซลุ -ฮิจญะฮฺ 1329 1. หลักฐานท่ีอธิบายถึงเกียรติยศอันสูงสงของทานอาลีนั้นยังมีอีกถึง 10 ขอความ มิใช เพยี งแตข อ ความเดียวเทาที่ไดผา นไปแลวเทานัน้ 2. การแสดงเหตุผลของทานเองท่ยี ืนยันถึงหลักฐานเร่อื งน้ี 1. เปนที่เพียงพอแกทานแลว สําหรับรายละเอียดตาง ๆ ของฮาดีษที่เกิดขึ้นในครอบครัว นอกจากน้ีทานอิมามอะหฺมัดก็ยังไดบันทึกฮาดีษอีกบทหนึ่งไวใน ุซอฺท่ี 1 หนังสือมุสนัด(131) ทานอิมามนะสาอียก็ไดบันทึกไวในหนังสือ เคาะศออิศ อัลอฺลูวียะฮฺ(132) ทานฮากิมก็ไดบันทึกไว ในุซอฺที่ 3 จากหนังสือศอฮ้ีฮฺมุสตัดร็อก(133) ทานซะฮะบียก็ไดบันทึกจํากัดความยืนยันถึงความ ถูกตองของฮาดีษไวในหนังสือตัลคัศของทาน และนอกเหนือจากบุคคลเหลาน้ีก็ยังมีกลุม นกั ปราชญเ จาของตําราฝายซุนนะฮฺท่ีมีความเช่ียวชาญในเรื่องสายสืบฮาดีษท่ีศอฮ้ีฮฺไดยืนยันฮาดีษที่ รายงานโดยอมุ รั บนิ มัยมูนท่ไี ดกลา ววา (131) ตอนทายของหนา 330 (132) หนา 6 (133) หนา 123 คร้งั หนึง่ ฉนั เคยไดนัง่ อยูรว มกบั ทานอิบนุ อับบาสซ่ึงขณะน้ันไดมีกลุมบุคคลระดับหัวหนา เขา มาหาทา นจาํ นวน 9 คน พวกเขาเหลานั้นไดกลาวแกทานอิบนุ อับบาสวา “โอทาน อิบนุ อับบาส
ทา นจะลุกขึ้นไปพรอมกับเรา หรือวาทานจะปลอยใหเราเปดเผยอะไรข้ึนทามกลางพวกเขาเหลาน้ีผู เปนสหายท้งั หลายของทา น ทานอิบนุ อับบาสไดกลาววา “แนนอนฉันจะลุกไปพรอมกับทานท้ังหลาย” ทานไดกลาว อีกวา “วันปรโลกนั้นความจริงจะตองปรากฏแกสายตา” ทานอับบาสไดกลาวตอไปอีกวา “พวก ทา นลุกขึ้นไปกนั เถอะ” ดังนั้นพวกเขาก็ไดพูดคุยกัน ซ่ึงฉันเองก็ยังไมไดรูวา เขาพูดกันอยางไรบาง เมื่อทานอิบนุ อับบาสไดกลับมาแลว ทานก็ไดกลาววา “พวกเขาพูดกันถึงเร่ืองของบุคคลท่ีมีเกียรติยศดีเดน 10 ประการ ซ่ึงไมม บี คุ คลใดเทียบทันเขาไดแมแ ตคนเดยี ว” พวกเขาพูดกันถึงเรื่องของบุคคลที่ทานนบี (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความ สันติสุขแดท า นและแดบ รรดาลกู หลานของทาน) ไดก ลา วแกเ ขาวา ... (1). แนนอนที่สุดฉันจะแตงต้ังบุคคลผูซึ่งอัลลอฮฺจะไมทรงทําใหเขาไดรับความอัปยศอดสู ช่ัวนิรันดร เขารักอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค ซ่ึงอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองคก็รักเขา ดังน้ันเขาจึงมีเกียรติยศคูควรสําหรับตําแหนงนั้นย่ิงกวาผูมีเกียรติใด ๆ และทานกลาววา “อาลีอยูท่ี ไหน? ทันใดนัน้ ทา นอาลีก็ออกมาโดยท่นี ยั นตาของทานบวมช้ําแทบจะมองไมเ ห็น ทา นศาสนทตู จงึ ไดพนน้ําลายไปที่นัยนตาของทานอาลี หลังจากน้ันทานก็ไดสะบัดธง 3 คร้ัง พลางไดมอบใหแก ทานอาลีโดยเฉพาะ (เพ่อื ไปทําสงครามคยั บัร) และหลังจากนัน้ ทานอาลีก็ไดกลับมาอยางมีชัยพรอม กับไดนําทา นหญิงศอฟยะฮฺบุตรสาวของหัยยม ามอบใหแกท า นศาสดา (2). ทานอิบนุอับบาสไดกลาวตอไปอีกวา เมื่อตอนที่ทานรอนซูลุลลอฮฺ (อัลลอฮฺทรง ประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของทาน) ไดทําการแตงต้ัง บุคคลนําขอความในซูเราะฮฺเตาบะฮฺ (เพื่อไปประกาศใหแกชาวมักกะฮฺ) นั้น ทานไดแตงตั้งใหทาน อาลีเปนผูนาํ ขอความนัน้ ไปจากทาน แลว กลาววา “จะไมมีผูใดนําขอความนี้ไปได นอกจากบุคคลผู ที่มาจากฉันและฉนั ไดม าจากเขา” (3). ทานอิบนุอับบาสไดกลาวตอไปวา ทานนบี (อัลลอฮฺประทานความจําเริญและความ สันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของเทาน) ไดกลาวแกเครือญาติของลุงของทานวา “ในหมู พวกทานนีจ้ ะมผี ูใดบา งทจี่ ะใหค วามอนุเคราะหชวยเหลือตอภารกิจของฉันที่มีความหมายตอโลกนี้
และปรโลก?” ทานอาลีซ่ึงนั่งอยู ณ ท่ีตอน้ันไดตอบรับวา “ฉันเองท่ีจะเปนผูใหความชวยเหลือใน ภารกิจของทานท่ีมีผลตอโลกนี้และปรโลก” ทานศาสนทูตจึงไดกลาวขึ้นวา “เธอน้ันคือผูใหความ ชวยเหลือท่ีแทจริงของฉันทั้งในโลกน้ีและปรโลก” เสร็จแลวทานก็ไดปลอยใหทานอาลีน่ังลง หลังจากน้ันทานไดกลาวขึ้นอีกวา “ในหมูพวกทานน้ีจะมีผูใดบางที่จะใหความอนุเคราะห ชวยเหลือตอภารกิจของฉันท่ีมีความหมายตอโลกนี้และปรโลก?” ทานอาลีจึงรับคําแลวกลาว เหมือนเดิมวา “ฉันเองที่จะเปนผูใหความชวยเหลือในภารกิจของทานที่มีตอโลกน้ีและปรโลก” แลวทา นจงึ ไดกลาวแกท านอาลีวา “เธอคอื ผชู ว ยเหลือท่ีแทจริงของฉนั ทง้ั ในโลกนี้และปรโลก” (4). ทานอิบนุอับบาสไดกลาววา “ทานอาลีเปนบุคคลแรกในหมูประชาชนท่ียอมรับ หลกั การของความศรทั ธาถดั จากทา นหญิงคอดีญะฮฺ” (5). ทานอิบนุบาสไดกลาววา ทานรอซูลุลลอฮฺ (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและ ความสนั ติสุขแดทา นและแดบรรดาลูกหลานของทา น) ไดเอาผาคลมุ ของทานมาวางลนตัวของทาน อาลี ทานหญงิ ฟาฏมิ ะฮฺ ทา นฮาซนั และทานฮุเซน แลว ไดกลา วโองการของอลั ลอฮุขึ้นวา “แทจริงเพียงแตอัลลอฮฺทรงพระประสงคท่ีจะขจัดความมลทินทั้งปวงออกไปจากสูเจา โออ หฺลุลบัยตแฺ ละพระองคท รงชําระขัดเกลาสูเจาทงั้ หลายใหส ะอาดบรสิ ุทธิ์ (33 : 33) (6). ทานอาลีไดขายชีวิตของทานโดยไดหมตัวดวยผาของทานนบีแลวไดนอน ณ ท่ีนอน ของทาน ในขณะที่บรรดามุชริกนี (ผูต้งั ภาคีตออลั ลอฮ)ฺ ไดย ิงธนูใสท า น (7). ทานไดกลาวอีกวา เมื่อตอท่ีทานรอซูลุลลอฮฺไดออกเดินทางไปทําสงครามตะบูก โดย ประชาชนก็ไดอ อกไปพรอมกบั ทานดวย ทานอาลจี งึ ไดกลาวแกทานนบีวา “ใหฉ ันออกไปพรอ มกบั ทานดวยไดหรือไม?” ทานศาสนทูต (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทาน และแดบรรดาลูกหลานของทาน) ไดกลาววา “ไมได” ดังน้ันทานอาลีจึงรองไห และแลวทาน รอซูลลุลลอฮฺ (ขอลัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดา ลูกหลานของทา น) ไดกลาววา “เจามไิ ดพอใจดอกหรือตอการที่เจากับฉันน้ีมีตําแหนงเหมือนฮารูน ท่ีมีกับมูซาเพียงแตวาจะไมมีนบีภายหลังจากฉันแลวเทาน้ันเอง ฉันไมควรท่ีจะออกไปไหน นอกจากวาตองใหเจา อยูเ ปน ตวั แทนของฉัน”
(8). ทานรอซูลุลลอฮฺไดกลาวแกทาน (อาลี) อีกวา “เจาคือผูปกครองของผูศรัทธาชายหญิง ทุกคนภายหลงั จากฉนั ” (9). ทานอิบนุอับบาสไดกลาววา “ทานรอซูลุลลอฮฺไดกั้นประตูตาง ๆ ที่เปนทางเดิน ไปมสั ญดิ โดยเวนไวเ ฉพระประตูของทา นอาลี ดงั น้นั ทานจงึ ไดเ ขา มัสญิดดวยทางเดินทางเดยี วกัน กบั ทานอาลี ในเมื่อเดินออกจากบา นของทา นมามัสญดิ ” (10). ทานอิบนุอับบาสไดกลาววา ทานรอซูลุลลอฮฺ (อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและ ความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของทาน) ไดกลาววา “บุคคลใดก็ตามท่ีฉันเปน ผปู กครองของเขาแลว ดังนั้นผปู กครองของเขาก็คอื อาลีดวย” ทานอิมามฮากิมไดกลาวหลังจากไดบันทึกฮาดีษบทนี้วา “นี่คือฮาดีษศออ้ีฮฺตรงตาม มาตรฐานทางดานสายสืบทุกประการ แตบุคคลท้ังสอง (บุคอรีและมุสลิม) มิไดบันทึกไวในตํารา ของเขา” ทานซะฮะบียก็ไดบันทึกฮาดีษบทนี้ไวในหลังสือตัลคีสของทาน หลังจากนั้นทานก็ได กลาววา “นีค่ อื ฮาดษี ศอฮ้ฮี ”ฺ 2. โดยหลักฐานท่ีเดนชัดและขอพิสูจนที่แนนอนดังท่ีไดกลาวไปแลวนี้ยอมไมเปนท่ีนา สงสัยใด ๆ อีกแลววา แทจริงทานอาลีนั้นคือผูมีอํานาจในดานการปกครองในยุคสมัยของทานศา สนดา และเปนตัวแทนของทานศาสดาภายหลังจากท่ีไดวายชนมไปแลว ขอใหทานไดเขาใจดวย วา ทานศาสนทูต(อัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดา ลูกหลานของทาน) ไดแตงตั้งไวทําไม สําหรับตําแหนงผูรวมภารกิจของทานทั้งในโลกน้ีและปก โลกซ่ึงทานควรที่จะฝากฝงหนาท่ีดังกลาวใหแกญาติมิตรคนอ่ืน ๆ ทั้งหลายของทานก็ได และทาน ไดแตงตั้งใหทานอาลีอยูกับทานโดยฐานะเชนฮารูนที่อยูกับมูซา โดยมิไดยกเวนกรณีพิเศษใด ๆ สําหรับความสําคัญทั้งมวลของตําแหนงนี้ นอกจากสภาวะของการเปนศาสดาซ่ึงกรณีพิเศษอันนี้ ถือไดวาเปนหลักฐานสาํ หรับประชาชาตโิ ดยสวนรวม ทานไดทราบเปนอยางดีอยูแลววา ตําแหนงท่ีแทจริงท่ีฮารูนมีตอมูซาน้ันก็คือ ผูรวมการ ดําเนินภารกิจของทานนบี มูซา ท่ีมีหนาที่รับผิดชอบในภาระหนาท่ีตาง ๆ รวมกันกับทาน ทานน บีฮารูนเปนตัวแทนผูสืบตอของทานนบีมูซา โดยหนาที่ที่จําเปนของบรรดาประชาชาติของทานน บีมซู าทั้งมวลทจ่ี ะตองเชอื่ ฟง ปฏบิ ตั ิตามทานนบีฮารนู ดวย โดยหลกั ฐานตาง ๆ ท่ที า นไดกลา ววา
“ขอพระองคไดท รงแตงตง้ั ผูรว มภารกิจมาจากบุคคลในครอบครัวของฉันคือฮารูน พ่ีนอง ของฉันใหแกฉันดวยเถิด เพ่ือภารกิจของฉันจะไดมั่นคงเขมแข็งข้ึนเพราะเขา และทรงใหเขารวม ในการดาํ เนนิ ภารกิจตาง ๆ ของฉนั (ฏอฮา : 29-32) และโองการทีอ่ ัลลอฮไฺ ดทรงประทานมาดงั มีใจความวา “และมูซาไดกลาวแกพ่ีนองของเขาคือฮารูนวา จงเปนตัวแทนของฉันในหมูพรรคพวก ของฉัน และจงปรับปรุงใหดี แตเจาอยาไดปฏิบัติตามแนวทางผูกอความเสียหาย” (อัล-อะอุรอฟ: 124) และพระองคผ ูทรงสูงสุดไดมีโองการอีกวา “แนนอนฉันไดมอบให แกเ จาแลวตามขอ เรยี งรองของเจาโอมูซา” (ฏอฮา : 36) ฉะนั้นทานอาลีก็จึงอยูในเง่ือนไขตามหลักการขอนี้เก่ียวกับเรื่องตําแหนงคอลีฟะฮฺ (ตัวแทน) ของทานรอซูลุลลอฮฺ สําหรับการทําหนาที่ตาง ๆ แทนทานศาสดาในประชาชาติชอง ทานเปนผูรวมภารกิจในหนาที่ตาง ๆ สําหรับครอบครัวของทาน เปนพันธะมิตรที่มีสวนรวมใน กิจการงานตา ง ๆ ของทาน ท้ังนี้เฉพาะบนแนวทางของการเปนคอลีพะฮฺ (ตัวแทน) ของทานเทาน นั้น มิใชบนแนวทางของการเปนศาสดา ทานอาลีจึงเปนบุคคลที่มีเกียรติยศที่ดีเดนท่ีสุดในหมู ประชาชาติของทาน เปนผูมีอํานาจเหนือบรรดาบุคคลเหลาน้ันทั้งในขณะที่ทานศาสดามีชีวิตอยู และไดเสียชีวิตไปแลวเปนหนาที่ของบรรดาประชาชาติทั้งมวลในยุคสมัยของทานนบี ที่จําเปน จะตองเชื่อฟงปฏิบัติตามทานอาลี โดยเหตุวาทานเปนผูรวมรับภารกิจของทานนบีน่ันเอง ทํานอง เดยี วกนั กบั ท่ีเคยปรากฏแกฮ ารนู โดยประชาชาติทั้งหลายของนบีมูซา ในยุคสมยั ของทา นนบมี ซู า ผูใดก็ตามที่เขาไดเรียนรูฮาดีษซึ่งวาดวยเรื่องของฐานะตําแหนง (มันซิละฮฺ) แลวแนนอน เขาจะยอมบังเกิดความรูสึกท่ีเขากันกับสติปญญาของเขาเก่ียวกับตําแหนงฐานะอันน้ีทุกประการ และไมม กี ารภวังคพะวงในรายละเอียดตาง ๆ ขงเร่ืองน้ีจากหลักฐานอันนั้น แนนอนที่สุดทานรอซู ลุลลอฮฺ (ขออัลลอฮฺทรงประทานความจําเริญและความสันติสุขแดทานและแดบรรดาลูกหลานของ ทาน) ก็ไดใหความกระจางแจงอยางดีที่สุดแลวสําหรับการออกคําส่ังที่ทานไดแสดงออกไปโดย วาจาของทานวา “ฉันไมควรที่จะออกไปไหนนอกจากวาตองใหเจาอยูเปนตัวแทนของฉัน” และนี่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234