Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เทคนิคการเพาะพันธุ์ปลา

เทคนิคการเพาะพันธุ์ปลา

Published by วป. ติณสูลานนท์, 2021-03-05 07:33:52

Description: เทคนิคการเพาะพันธุ์ปลา

Search

Read the Text Version

บทที่ 2 ระบบสืบพนั ธุ์ของปลา เอกสารอ้างองิ นิตยา เลาหะจินดา, ปราณี ธนะชานนท์,สุธาทิพย์ ภมรประวตั ิ,สุจินดา ธนะภูมิ,อลงกรณ์ มหรรณพ, ปณต ไกรโรจนานนท์ และรุ่งโรจน์ จุกมงคล. 2551. สารวจชีวิตสัตว์โลกผู้น่าท่ึง. กรุงเทพฯ : บริษทั รีดเดอร์สไดเจสท์ (ประเทศไทย) จากดั . 438 หนา้ . พทิ ยา ณรงคพ์ งศ.์ 2555. มีนวทิ ยา. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พแ์ ห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . 321 หนา้ . สุภาพร สุกสีเหลือง. 2550. มีนวทิ ยา. กรุงเทพฯ : ศูนยส์ ่ือเสริมกรุงเทพฯ. 592 หนา้ . วมิ ล เหมะจนั ทร์. 2540. ชีววทิ ยาปลา. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . 318 หนา้ . อาพร ภิญโญวทิ ย.์ 2545. มนี วทิ ยา. จนั ทบุรี : บริษทั ตน้ ฉบบั จากดั . 314 หนา้ . อุทยั รัตน์ ณ นคร. 2538. การเพาะขยายพนั ธ์ุปลา. พมิ พค์ ร้ังท่ี 4. กรุงเทพฯ : ร้ัวเขียว. 231 หนา้ . Blaxter, J. H. S. 1969. Development : eggs and larvae. In Fish Physiology. Vol. III. New York : Academic Press. pp. 177 - 252. Jobling, M. 1995. environment biology of fishes. New York : John Wiley and Sons,Inc. Lagler , K. F., Bardach, J. E., Miller, R. R. and Passino, D. R. M. 1977 . Ichthyology. New York : John Wiley and Sons, Inc. Lam, T. J. 1982. Applications of Endocrinology to fish culture. Aquatic science : Canada Journal Fish. 39 : 111-137. 47

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธ์ุปลา หัวข้อเรื่อง 1. ความนา 2. ชนิดของฮอร์โมนท่ีมีบทบาทต่อการสืบพนั ธุ์ของปลา 3. การประยกุ ตใ์ ชฮ้ อร์โมนซูพรีแฟ็คทเ์ พือ่ การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 4. สรุป จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายชนิดและบทบาทของฮอร์โมนในระบบสืบพนั ธุ์ของปลาได้ 2. อธิบายการเจือจางฮอร์โมนซูพรีแฟ็คทเ์ พ่ือใชใ้ นการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาได้ 3. เตรียมและคานวณฮอร์โมนซูพรีแฟ็คทเ์ พือ่ ใชใ้ นการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาได้ 4. สามารถผา่ ต่อมใตส้ มองปลาลกั ษณะหวั แบนขา้ งและลกั ษณะหวั แบนลงได้ เนื้อหา 1. ความนา จากการศึกษาคน้ ควา้ ของนกั วิชาการเกี่ยวกบั ฮอร์โมนในระบบสืบพนั ธ์ของปลา ทาให้ ทราบวา่ ฮอร์โมนมีผลต่อการควบคุมการสืบพนั ธุ์ของปลา โดยระบบควบคุมการสืบพนั ธุ์ของปลามี การจดั ตวั ค่อนขา้ งจะซบั ซอ้ นไม่เพยี งแตร่ ะบบประสาทเท่าน้นั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง แต่ยงั มีการหลงั่ ฮอร์โมน หลายชนิดออกมาควบคุมการสืบพนั ธุ์อีกดว้ ย และไดม้ ีการนาความรู้เหล่าน้ีมาประยุกตใ์ ชใ้ นการ กระตุน้ การตกไขแ่ ละการวางไขข่ องปลา เพอ่ื การผลิตลูกปลาเชิงการคา้ อยา่ งแพร่หลาย โดยการใช้ ฮอร์โมนประเภทตา่ งๆ ฉีดกระตุน้ พอ่ แม่ปลา 2. ชนิดของฮอร์โมนทม่ี บี ทบาทต่อการสืบพนั ธ์ุของปลา โชคชยั (2548) ให้ความหมายของฮอร์โมนว่า เป็ นสารที่ผลิตออกมาจากต่อมไร้ท่อ ซ่ึงสามารถเขา้ สู่อวยั วะเป้าหมายไดโ้ ดยทางเส้นเลือด ฮอร์โมนแต่ละชนิดจะมีความจาเพาะสามารถ 48

บทท่ี 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ควบคุมการทางานของอวยั วะเป้าหมายไดเ้ ท่าน้นั โดยที่ไมม่ ีผลตอ่ อวยั วะอื่น สาหรับฮอร์โมนในระบบสืบพนั ธุ์ของปลาสร้างมาจากไฮโปธาลามสั ต่อมใตส้ มองและ ต่อมเพศ โดยฮอร์โมนเหล่าน้ีจะทาหนา้ ท่ีควบคุมระบบสืบพนั ธุ์ให้เป็ นปกติเพ่ือความอยูร่ อดของ เผ่าพนั ธุ์ เช่น การพฒั นาการสร้างไข่ การพฒั นาการสร้างน้าเช้ือ การควบคุมการตกไข่และการ วางไข่ รวมท้งั การแสดงออกลกั ษณะเพศภายนอก ฮอร์โมนเหล่าน้ีจะทางานได้เป็ นปกติเม่ือ สภาพแวดลอ้ มตา่ งๆ เช่น แสง อุณหภูมิ ฝน วสั ดุกระตุน้ การวางไข่ และปัจจยั ทางสังคม มีความ เหมาะสมต่อการผสมพนั ธุ์วางไข่ของปลา สภาพแวดลอ้ มเหล่าน้ีจะกระตุน้ การทางานของระบบ ประสาทและระบบต่อมไร้ท่อให้ผลิตฮอร์โมนออกมา ซ่ึงสภาพแวดลอ้ มจะไปกระตุน้ อวยั วะรับ ความรู้สึก เช่น ตา เส้นขา้ งลาตวั ให้ส่งกระแสความรู้สึกไปยงั สมองบริเวณไฮโปธาลามสั ซ่ึงจะ ทาการหลงั่ รีลีสซิ่งฮอร์โมน (releasing hormone) ออกมากระตุน้ การทางานของต่อมใตส้ มอง (pituitary gland) หลงั จากน้นั ต่อมใตส้ มองจะหลงั่ ฮอร์โมนโกนาโดโทรปิ นไป กระตุน้ รังไข่ หรือ อณั ฑะใหห้ ลง่ั ฮอร์โมนเพศออกมา ก็จะทาใหไ้ ขแ่ ละน้าเช้ือสมบูรณ์เตม็ ท่ี และถูกปล่อยออกมาเมื่อ มีการผสมพนั ธุ์ การเพาะขยายพนั ธุ์ปลาตอ้ งการพ่อแม่พนั ธุ์ที่สมบูรณ์ โดยทว่ั ไปพ่อพนั ธุ์จะมีการสร้าง น้าเช้ือที่เร็ว สาหรับแม่พนั ธุ์จะมีการพฒั นาการสร้างไข่ท่ีชา้ กวา่ การพฒั นาของน้าเช้ือ แต่สามารถ เร่งไดโ้ ดยการใชฮ้ อร์โมนชนิดตา่ งๆ ฉีดกระตุน้ ซ่ึงในปัจจุบนั การเพาะขยายพนั ธุ์ปลาเชิงการคา้ ได้ นาความรู้พ้ืนฐานของฮอร์ โมนในระบบสื บพันธุ์มาประยุกต์ใช้อย่างแพร่ หลาย และ ประสบความสาเร็จในปลาหลายชนิด ฮอร์โมนที่มีบทบาทในระบบสืบพนั ธุ์ปลาแบ่งออกได้ 3 ชนิดดงั น้ี 2.1. โกนาโดโทรปิ นรีลสี ซ่ิง ฮอร์โมน ( gonadotropin releasing hormone หรือ GnRH ) เป็ นฮอร์โมนท่ีถูกสร้างข้ึนโดยกลุ่มเซลล์ประสาทในสมองส่วนไฮโปธาลามสั ของปลา โดยพบวา่ GnRH มีน้าหนกั นอ้ ยและเช่ือวา่ ปลากระดูกแขง็ ส่วนใหญ่มี GnRH ที่เหมือนกนั และมี ลกั ษณะใกลเ้ คียงกบั ลูตีไนซิ่งฮอร์โมนรีลิสซ่ิงฮอร์โมน (luteinizing hormone releasing hormone หรือ LHRH) ของสัตวเ์ ล้ียงลูกด้วยนม (Sherwood และคณะ 1984) โดย GnRH จะไปกระตุ้น Gonadotrops ของตอ่ มใตส้ มองใหส้ ร้างโกนาโดโทรปิ น เพอ่ื ควบคุมการเจริญของไข่และการตกไข่ นอกจาก GnRH ยงั มีฮอร์โมนที่สร้างมาจากเซลล์สมองส่วนไฮโปธาลามัสอีกชนิดหน่ึง คือ โกนาโดโทรปิ นรีลิสซิงอินฮิบิตอรีแฟกเตอร์ (gonadotropin releasing inhibitory factor หรือ GRIF) แต่มีฤทธ์ิตรงกนั ขา้ มกบั GnRH คือ GRIF จะเป็ นฮอร์โมนท่ียบั ย้งั การสร้างโกนาโดโทรปิ น ของ ต่อมใตส้ มอง ซ่ึงจะไปมีผลต่อการเจริญของรังไขแ่ ละอณั ฑะดว้ ย 49

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ในปี ค.ศ. 1983 นกั วิทยาศาสตร์คน้ พบวา่ สารโดปามิน (dopamine) มีฤทธ์ิเหมือน GRIF ที่ พบในปลาทองและปลาเทราท์ (Peter, 1983) ต่อมาไดม้ ีการทดลองฉีดสารพิโมไซค์ (pimozide) ซ่ึงสามารถยบั ย้งั ฤทธ์ิของ GRIF ในปลาหลายชนิด จากผลการทดลองปัจจุบนั จึงมีการใชส้ ารยบั ย้งั ฤทธ์ิของโดปามิน (dopamine antagonists) ไปยบั ย้งั ฤทธ์ิของ GRIF ทาให้ GnRH ทางานไดม้ ากข้ึน สารโดปามินมีหลายชนิดดว้ ยกนั เช่น พิโมไซค์ (pimozide) เมโทโคลพราไมค์ (metoclopramide) สะพเิ พอโรน (spiperone) และโดมเพอริโดน (domperidone) (โชคชยั , 2548) โดยเฉพาะโดมเพอริโดน ท่ีรู้จกั กนั ดีในช่ือทางการคา้ ว่าโมทิเลี่ยมเอ็ม และไมแร็กซ์เอ็ม เป็นตน้ เป็นยาท่ีใชร้ ักษาอาการคล่ืนไส้ อาเจียน จากสาเหตุตา่ งๆ ใน 1 เมด็ จะมีตวั ยา 10 มิลลิกรัม แต่ควรเลือกใชท้ ่ีอยใู่ นรูปของเกลือมาลีเอช โดยมีอกั ษร M อยทู่ า้ ยชื่อการคา้ (พพิ ฒั น,์ 2553) การที่ GnRH และ LHRH มีน้าหนกั โมเลกุลนอ้ ย จึงไดม้ ีการพยายามสังเคราะห์ฮอร์โมน ดงั กล่าวออกมาในรูปของอนาลอกซ์ (analogue) เช่น GnRHa และ LHRHa เป็ นตน้ เพื่อใชก้ ระตุน้ การตกไข่และการวางไข่ GnRHa และ LHRHa จะมีความคงตวั และค่าคร่ึงชีวิตนานกวา่ GnRH และ LHRH เนื่องจากอนาลอกซ์ดงั กล่าวจะถูกสังเคราะห์ให้มีกรดอะมิโน 9 ตวั อยูใ่ นรูปของ D - amino acid ซ่ึงจะคงตวั ดีกวา่ L- amino acid ในธรรมชาติ อีกท้งั ยงั สามารถจบั กบั ตวั รับจาเพาะ ท่ีบริเวณต่อมใตส้ มองไดด้ ีกวา่ จึงมีผลทาใหก้ ารฉีด GnRHa และ LHRHa มีแนวโนม้ กระตุน้ ต่อม ใตส้ มองให้หลงั่ โกนาโดโทรปิ นไปยงั รังไข่หรืออณั ฑะมากข้ึน ทาให้สมบูรณ์เพศมากข้ึนและ ประสบผลสาเร็จในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาดีกวา่ การใช้ GnRH และ LHRH ในปัจจุบนั ไดม้ ีการ สังเคราะห์อนาลอกซ์ข้ึนมาอยา่ งมากมาย แต่โดยทวั่ ไปแลว้ อนาลอกซ์ท่ีนิยมนามาเพาะขยายพนั ธุ์ ปลามีหลายชนิด แต่ที่นิยมใชม้ ากไดแ้ ก่ 2.1.1 LHRHa จดั เป็ นอนาลอกซ์ของ LHRH โดย LHRHa มีชื่อการคา้ วา่ Ayerst 25201 และมีสูตรยอ่ D-Ala6 - Pri9- LARH - NEt ซ่ึงมีกรดอะมิโน 9 ตวั โดยกรดอะมิโนในลาดบั ท่ี 6 เป็ น อะลานีน (alanine) และจะไม่มีกรดอะมิโนลาดบั ที่ 10 (ไกลซีน) แต่จะเหลือกรดอะมิโนลาดบั ท่ี 9 ซ่ึงเป็นโปรลีน (proline) เกาะติดกบั เอทธิลลาไมด์ (ethylamide) 2.1.2 buserelin จดั เป็ นอนาลอกซ์ของ LHRH และมีช่ือทางการคา้ วา่ Hoechst 766 และมี สูตรยอ่ เป็ น D - Serct - bu)6 - Pro9 - LHRH - NEt โดยกรดอะมิโนลาดบั ท่ี 6 เป็ นซีรีน (serine) และ จะไม่มีกรดอะมิโนในลาดบั ท่ี 10 (ไกลซีน) แต่จะเหลือกรดอะมิโนลาดบั ท่ี 9 เกาะติดกับ เอทธิลลาไมค์ 2.1.3 GnRHa จดั เป็ นอนาลอกซ์ของ GnRH โดยในปัจจุบนั GnRHa ไดถ้ ูกสังเคราะห์และ นามาใชเ้ พาะปลา 2 รูป ไดแ้ ก่ D - Arg6 - Pro9- GnRH - NEt และ D - Ala6 - Pro9 - GnRH - NEt 50

บทท่ี 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา โดยกรดอะมิโนลาดบั ที่ 6 เป็ นอาร์จินีน และอะลานีน ตามลาดบั แต่จะไม่มีกรดอะมิโนในลาดบั ที่ 10 (ไกลซีน) แตจ่ ะเหลือกรดอะมิโนลาดบั ที่ 9 (โปรลีน) เกาะติดกบั เอทธิลลาไมค์ การฉีด LHRHa และ GnRHa เขา้ ไปในตวั ปลาเพ่ือกระตุน้ ใหป้ ลาตกไข่ เรียกวิธีน้ีวา่ ลินพี เมทธอด (linpe method) เพ่ือเป็ นเกียรติแก่ Dr. R. E. Peter และ Dr. Hao Ren Lin ซ่ึงเป็ นบุคคลแรก ท่ีคน้ พบเทคนิคดงั กล่าว การใช้ LHRHa และ GnRHa กระตุน้ การตกไข่ของปลาจะตอ้ งใชร้ ่วมกบั โดปามินแอนตาโกนิสต์ (dopamine antagonist) จากท่ีไดก้ ล่าวไปแลว้ วา่ ในการควบคุมระดบั ของ โกนาโดโทรปิ นในต่อมใตส้ มองนอกจาก GnRH และ LHRH ยงั มีโกนาโดโทรปิ นรีลิสซิงอินฮิบิทอรี แฟคเตอร์ (gonadotropin releasing inhibitory factor) หรือ GRIF ก็มีอิทธิพลที่สาคญั ในการยบั ย้งั การเพิ่มระดบั โกนาโดโทรปิ นในกระแสเลือดฉะน้นั ในการฉีดโดปามินแอนตาโกนิสต์ เพื่อไป ยบั ย้งั ฤทธ์ิของ GRIF จะมีผลทาใหร้ ะดบั โกนาโดโทปิ นในเลือดเพมิ่ สูงข้ึน โดปามินแอนตาโกนิส ท่ีใช้ในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาคือ โดมเพอริโดน (domperidone) ซ่ึงมีจาหน่ายโดยใชช้ ่ือทางการคา้ ต่างๆ กนั ออกไป เช่น โมทิเล่ียมเอม็ และโดมเพอร์เอม็ เป็นตน้ กล่าวโดยสรุปขอ้ ดี ของ GnRHa และ LHRHa คือ ฮอร์โมนน้ีจะกระตุน้ ให้มีการสังเคราะห์ โกนาโดโทรปิ น และหลง่ั ออกมา ทาใหก้ ารกระตุน้ การวางไข่เป็ นไปตามธรรมชาติท่ีสุด ยอ่ มดีกวา่ การฉีดโกนาโดโทรปิ นจากภายนอก นอกจากน้ียงั พบวา่ GnRHa และ LHRHa คงสภาพอยใู่ นเลือด ไดน้ าน ทาใหส้ ามารถกระตุน้ การวางไข่ของปลาหลายชนิดไดภ้ ายหลงั การฉีดเพียงคร้ังเดียว ระดบั ฮอร์โมนที่ใชก้ ็ค่อนขา้ งต่า และเน่ืองจากสามารถสังเคราะห์ไดน้ กั วิชาการจึงฝากความหวงั ไวก้ บั ฮอร์โมนชนิดน้ีวา่ จะสามารถแกป้ ัญหาการขาดแคลนต่อมใตส้ มองที่กาลงั เป็ นปัญหาใหญ่ในบาง ประเทศได้ 2.2 โกนาโดโทรปิ น (gonadotropin ) โกนาโดโทรปิ น เป็นไกลโคโปรตีนฮอร์โมน (glycoprotein hormone) ที่ต่อมใตส้ มองสร้าง ข้ึนและปล่อยออกสู่กระแสเลือด มีหน้าท่ีควบคุมการทางานของรังไข่ และอณั ฑะให้เป็ นปกติ โกนาโดโทรปิ นของปลาประกอบดว้ ยฮอร์โมน 2 ชนิดคือ ไวเทลโลเจนิกฮอร์โมน (vitellogenic hormone) ทาหนา้ ท่ีในการสร้างและสะสมโยลค์ และกระตุน้ การหลงั่ สเตอรอยค์ ในปลาบางชนิด และ แมททวั เรชน่ั ฮอร์โมน (maturation hormone) ทาหนา้ ท่ีกระตุน้ ใหแ้ ม่ปลามีไข่แก่เต็มท่ี และ เกิดการตกไข่ กระตุ้นให้พ่อปลาพฒั นาการสร้างน้าเช้ือ และกระตุ้นการหลั่งสเตอรอยค์ใน ปลาทั่วไป (Stacey, 1984) โกนาโดโทรปิ นท่ีใช้ในการกระตุ้นการวางไข่ของปลาได้มาจาก 2 แหล่งใหญ่ๆ คือ โกนาโดโทรปิ นจากปลา (piscine gonadotropin) และจากสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนม (mammalian gonadotropin) 51

บทท่ี 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 2.2.1 โกนาโดโทรปิ นจากปลา โกนาโดโทรปิ นจากปลามีอยู่หลายรูปแบบ เช่น ต่อมใตส้ มองบดซ่ึงมีฮอร์โมนชนิดอ่ืนๆ ติดมาดว้ ย และโกนาโดโทรปิ นค่อนขา้ งบริสุทธ์ิที่เตรียม ข้ึนด้วยวิธีการต่างๆ เป็ นตน้ แต่จะขอกล่าวเฉพาะท่ีเก่ียวกบั ต่อมใตส้ มองและโกนาโดโทรปิ น บริสุทธ์ิเทา่ น้นั 2.2.1.1 ต่อมใตส้ มองบด (fish pituitary extract) เป็ นแหล่งฮอร์โมนท่ีใชใ้ นการ เพาะขยายพนั ธุ์ปลาท่ีแพร่หลายที่สุด โดยจะใชใ้ นลกั ษณะท่ีเอาต่อมใตส้ มองมาบดแลว้ ฉีดปลา โดย ไม่ไดว้ ดั ปริมาณฮอร์โมน ปริมาณของโกนาโดโทรปิ นในต่อมใตส้ มองจะผนั แปรไปตามปัจจยั ดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ภาวะเจริญพนั ธุ์ ปลาที่จะนามาเก็บต่อมหรือเรียกกันว่า ปลาต่อม (donor fish) ตอ้ งเลือกปลาที่สืบพนั ธุ์ไดแ้ ลว้ เสมอ และควรจะเป็ นปลาที่อยู่ในระหว่างฤดูวางไข่ หากปลามีไข่แก่ และน้าเช้ือดีก็จะทาใหแ้ น่ใจวา่ ต่อมใตส้ มองของปลาตวั น้นั มีโกนาโดโทรปิ นอยู่ ในปริมาณมาก จะสังเกตไดว้ ่าในปลาที่สุขภาพไม่ดี เช่น ขาดอาหาร ซ่ึงทาให้ไข่และน้าเช้ือไม่ เจริ ญ ต่อมใต้สมองจะมีลักษณะฝ่ อมีสีซีดผิดปกติ จึงไม่ควรนาต่อมเหล่าน้ีมาใช้ในการ เพาะขยายพนั ธุ์ปลา 2) ชนิดของปลา โดยยึดหลกั ว่าควรใช้ปลาต่อมชนิดเดียวกบั ปลาที่ฉีด เพราะจากการศึกษาพบวา่ โกนาโดโทรปิ นในปลาต่างชนิดกนั มีคุณสมบตั ิต่างกนั เล็กนอ้ ย แต่ในทาง ปฏิบตั ิการใช้ต่อมใตส้ มองจากปลาชนิดเดียวกันอาจจะไม่สะดวกนัก ปัจจุบนั จึงใช้หลกั เกณฑ์ กวา้ งๆ วา่ หากฉีดปลามีเกล็ดกค็ วรใชต้ อ่ มใตส้ มองจากปลามีเกล็ด ในทางตรงขา้ มหากฉีดปลาไม่มี เกลด็ ก็ควรใชต้ ่อมจากปลาไมม่ ีเกลด็ อยา่ งไรก็ตามตอ่ มใตส้ มองของปลาแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพ ต่างกนั ต่อมใตส้ มองปลาไน (Cyprinus carpio) จดั วา่ เป็ นปลาที่มีประสิทธิภาพดีท่ีสุด สามารถนา ตอ่ มไปฉีดปลาอื่นๆ ไดแ้ ทบทุกชนิด จึงไดส้ มญาวา่ เป็นปลาตอ่ มครอบจกั รวาล (universal donor) 3) สภาพของปลา ปลาท่ีจะนามาเก็บต่อมจะตอ้ งอยู่ในสภาพที่สดที่สุด หากเป็ นปลามีชีวิตจะย่ิงไดผ้ ลดี ถา้ เป็ นปลาตายจะตอ้ งเก็บรักษาไวท้ ่ีอุณหภูมิต่า และไม่ควรใช้ ปลาท่ีตายนานแลว้ เพราะเมื่อปลาตายฮอร์โมนภายในต่อมจะค่อยๆ เสื่อมสภาพไปในที่สุดต่อมเอง จะเปื่ อยจนไม่สามารถเก็บมาใชไ้ ด้ นอกจากท่ีกล่าวไปแลว้ เก่ียวกบั ต่อมใตส้ มอง ยงั มีรายละเอียด อีกหลายประการท่ีตอ้ งศึกษา เช่น 3.1) หน่วยของต่อมใตส้ มอง หน่วยของต่อมใตส้ มองท่ีใชอ้ ยมู่ ี 2 แบบ คือ บอกเป็ นน้าหนกั ของต่อมใตส้ มองต่อหน่วยน้าหนกั ของแม่ปลา ซ่ึงส่วนใหญ่ใชเ้ ป็ นมิลลิลิตร ต่อกิโลกรัม หน่วยน้ีแมจ้ ะบอกไดแ้ น่นอนกวา่ แต่ไม่สะดวกในการปฏิบตั ิงานสนาม เพราะจาเป็ น 52

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ตอ้ งใชต้ าชง่ั ละเอียด ในประเทศท่ีกาลงั พฒั นาส่วนใหญ่รวมท้งั ประเทศไทยจึงนิยมใชห้ น่วยเป็ น โดส โดยเปรียบเทียบน้าหนกั ของปลาต่อมกบั น้าหนกั ปลาท่ีฉีด โดส = น้าหนกั ปลาต่อม น้าหนกั ปลาที่จะฉีด 3.2) การเก็บต่อมใตส้ มอง การเก็บต่อมใตส้ มองทาได้ 2 ลกั ษณะ คือ ปลาท่ีมีหัวลกั ษณะแบนขา้ ง เช่น ปลาจีน ปลาไน และปลาย่ีสกเทศ เป็ นต้น จะใช้วิธีผ่าเปิ ด กะโหลกปลาจากด้านบน พลิกสมองข้ึนจะเห็นต่อมใตส้ มองอยู่ในกล่องกระดูกบริเวณพ้ืนของ กะโหลก (ภาพท่ี 3.1 ) และปลาที่มีลกั ษณะหวั แบนลง เช่น ปลาสวาย ปลาดุกดา้ น เป็ นตน้ จะใชว้ ธิ ี ผ่าปากและแยกขากรรไกรล่างตลอดจนหนงั หุ้มเพดานออกให้หมด จากน้นั ใช้มีดเฉาะรอบๆ สัน กะโหลกแลว้ งดั กระดูกออกจะเห็นตอ่ มใตส้ มองเป็นเมด็ กลมๆ (ภาพที่ 3.2 ) ก. ลกั ษณะการผา่ ต่อมใตส้ มอง ข. บริเวณต่อมใตส้ มอง ภาพที่ 3.1 การผา่ ต่อมใตส้ มองปลาลกั ษณะหวั แบนขา้ ง ทม่ี า : ธาฎา (2556) 53

บทท่ี 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ภาพท่ี 3.2 การผา่ ต่อมใตส้ มองปลาลกั ษณะหวั แบนลง ทม่ี า : ธาฎา (2556) 3.3) การเก็บรักษาต่อมใตส้ มอง การใชต้ ่อมใตส้ มองท่ีเก็บไดส้ ดๆ ถึงแมจ้ ะไดผ้ ลดีแตอ่ าจไมส่ ะดวกเมื่อตอ้ งฉีดปลาเป็ นจานวนมาก การเก็บรักษาต่อมไวใ้ ชจ้ ึงช่วยให้ การทางานสะดวกข้ึน นอกจากน้นั ในบางคร้ังพ่อแม่พนั ธุ์ปลาอาจตายภายหลงั การเพาะ หากเก็บ ต่อมใตส้ มองไวใ้ ชป้ ระโยชน์จะช่วยลดตน้ ทุนการผลิตลงไดจ้ านวนหน่ึง ในปัจจุบนั เป็ นที่ยอมรับ กนั วา่ การเก็บต่อมใตส้ มองในน้ายาอะซีโตน (acetone) เขม้ ขน้ ไดผ้ ลดีมาก น้ายาอะซิโตนจะดึงน้า และไขมนั ออกจากต่อมซ่ึงมีผลใหก้ ารยอ่ ยสลายของฮอร์โมนเกิดข้ึนชา้ ลง การใชน้ ้ายาอะซิโตนท่ี เยน็ จดั และเก็บรักษาไวใ้ นตูเ้ ยน็ จะช่วยใหต้ ่อมใตส้ มองคงประสิทธิภาพไวไ้ ดน้ านข้ึน ระยะแรกใน การเก็บต่อมควรเปลี่ยนน้ายาใหม่ทุกๆ 6 ชว่ั โมง ประมาณ 2 ถึง 3 คร้ัง จะช่วยให้การเก็บรักษา ไดผ้ ลดีข้ึน เพราะเมื่อน้ายาอะซีโตนดึงน้าออกจากต่อม ตวั น้ายาก็จะเจือจางลง ส่วนปริมาณของ น้ายาท่ีใชค้ วรใส่ 4 ถึง 5 เท่าของปริมาตรต่อมใตส้ มอง นอกจากน้ายาอะซิโตนแลว้ อาจเก็บ ตอ่ มใตส้ มองในแอลกอฮอลเ์ ขม้ ขน้ (absolute alcohol) กไ็ ด้ แตไ่ ดผ้ ลไมด่ ีเท่าการเก็บรักษาในน้ายา อะซิโตน 2.2.1.2 โกนาโดโทรปิ นบริสุทธ์ิจากปลา (purified fish gonadotropin) นบั ต้งั แต่ ค.ศ. 1970 นกั วทิ ยาศาสตร์ไดพ้ ยายามเตรียมโกนาโดโทรปิ นบริสุทธ์ิ หรือเกือบบริสุทธ์ิจากปลา ซ่ึงฮอร์โมนท่ีได้น้ีมีข้อดีคือแทบจะไม่มีฮอร์โมนชนิดอื่นๆ ท่ีสร้างโดยต่อมใต้สมองปะปน นอกจากน้นั ยงั ทราบปริมาณฮอร์โมนที่แน่นอน และเก็บรักษาไวไ้ ดเ้ ป็ นเวลานาน การใชก้ ็สะดวก เพราะละลายน้าไดด้ ี แต่อยา่ งไรก็ตาม Donaldson และ Hunter (1983) สรุปว่าโกนาโดโทรปิ น รูปแบบน้ีเหมาะสมที่จะใช้ในงานทดลองมากกว่าที่จะใช้ในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาเป็ นการคา้ ตวั อยา่ งของโกนาโดโทรปิ น ประเภทน้ี คือ SG - G100 ซ่ึงสกดั จากปลาซลั มอน (อุทยั รัตน์, 2538) 54

บทท่ี 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 2.2.2 โกนาโดโทรปิ นจากสตั วเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนม มี 2 ประเภท คือ 2.2.2.1 โกนาโดโทรปิ นจากต่อมใตส้ มอง ไดแ้ ก่ 1) ลูเทียไนซิงฮอร์โมน (luteinizing hormone) 2) ฟอลิเคิล สติมมูเลทติง ฮอร์โมน (follicle stimulating hormone) 2.2.2.2 โกนาโดโทรปิ นจากรก ไดแ้ ก่ 1) ฮิวแมนโคริโอนิคโกนาโดโทรปิ น (human chorionic gonadotropin) 2) โกนาโดโทรปิ นสกดั จากเซรุ่มของสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนมที่กาลงั ต้งั ทอ้ ง (pregnant mare serum gonadotropin) สาหรับการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาชนิดต่าง ๆ ฮอร์โมนสกดั ท่ีไดผ้ ลดีราคาไม่แพง และ นิยมใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย ไดแ้ ก่ HCG ซ่ึงสกดั จากปัสสาวะของหญิงมีครรภ์ ซ่ึงรก (placenta) จะ สร้างโกนาโดโทรปิ นแลว้ ปล่อยสู่กระแสเลือดและในที่สุดจะถูกขบั ออกมากบั ปัสสาวะ ปริมาณ ฮอร์โมนในปัสสาวะจะเพ่มิ ข้ึนเร่ือยๆ โดยจะมีปริมาณสูงสุดในการต้งั ครรภเ์ ดือนที่ 3 จากการสกดั ปัสสาวะ 1 ลูกบาศก์เซนติเมตรจะไดฮ้ อร์โมน 30 ไอยู (international unit) โดยอยใู่ นรูปเป็ นผงมี หน่วยวดั เป็นไอยู (สุภาพร, 2554) 2.3 ฮอร์โมนเพศ (sex steroid) ฮอร์โมนเพศสร้างข้ึนจากต่อมเพศ (รังไข่และอณั ฑะ) โดยมีไขมนั เป็ นส่วนประกอบ เรียกวา่ สเตอรอยคฮ์ อร์โมน (steroid hormone) ฮอร์โมนเพศจะควบคุมความพร้อมของไข่และ น้าเช้ือในระยะสุดทา้ ย โดยพบวา่ พอ่ ปลาจะมีการหลงั่ ฮอร์โมนแอนโดรเจนออกมามากข้ึน ในขณะ ท่ีแม่ปลาจะหลง่ั ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนออกมามากข้ึน จากความรู้ที่ว่า โกนาโดโทรปิ นท่ีปลา ผลิตข้ึนเอง (endogenous gonadotropin) หรือโกนาโดโทรปิ นที่ฉีดเขา้ ไป (exogenous gonadotropin) จะไปมีผลทาให้รังไข่หรืออณั ฑะสร้างฮอร์โมนเพศออกมา และทาให้ไข่และ น้าเช้ือมีความพร้อมในการปฏิสนธิน้ัน ทาให้มีการฉีดฮอร์โมนเพศเข้าไปในพ่อแม่พนั ธุ์ปลา โดยตรงเพ่ือเร่งความสมบูรณ์เพศ แต่ก็พบว่ายงั ประสบความสาเร็จกับปลาบางชนิดเท่าน้ัน ฮอร์โมนเพศท่ีนามาใชแ้ ละไดผ้ ลดี เช่น 17 แอลฟาไฮดรอกซี 20 เบตา้ ไดไฮโดรโปรเจสเตอโรน และ 17 แอลฟาไฮดรอกซีโปรเจสเตอโรน (Kanatani and Nagahama, 1980) ส่วนใหญ่แลว้ แมป่ ลาท่ีไดร้ ับการฉีดฮอร์โมนเพศจะตกไข่จะตอ้ งมีไข่แก่จดั เท่าน้นั เนื่องจากการฉีดฮอร์โมนเพศ จะทาใหร้ ะดบั ฮอร์โมนเพศในเลือดสูงข้ึนอยา่ งรวดเร็วในระยะเวลาส้ันๆ ฉะน้นั ไข่ท่ีตอบสนองไดด้ ี ตอ้ งเป็นไข่แก่จดั เท่าน้นั แม่ปลาท่ีไข่แก่ไม่เพียงพอถา้ ไดร้ ับการฉีดฮอร์โมนเพศจะตอบสนองไม่ดี เพราะตอ้ งใชร้ ะยะเวลาในการพฒั นาให้ไข่แก่ ในขณะท่ีฮอร์โมนเพศจะมีฤทธ์ิในระยะเวลาส้ันๆ จึงไมท่ าใหต้ กไข่ 55

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะพนั ธุ์ปลาน้ีพอสรุปได้ว่า ฮอร์โมนท่ีกระตุน้ การวางไข่ ท่ีใช้กันแพร่หลายและได้ผลดี ได้แก่ LHRHa ซ่ึงต้องใช้ร่วมกันโดปามินแอนตาโกนิสต์ (โดมเพอริโดน) ซ่ึงเกษตรกรหรือฟาร์มเพาะขยายพนั ธุ์ปลานิยมใชม้ าก 3. การประยุกต์ใช้ฮอร์โมนซูพรีแฟ็ คท์เพ่ือการเพาะขยายพนั ธ์ุปลา ซูพรีแฟ็ คท์ เป็ นช่ือทางการคา้ ของ buserelin ซ่ึงเป็ นอนาลอกซ์ของ LHRH ในทาง การแพทยฮ์ อร์โมนชนิดน้ีนาไปรักษาโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบการหลงั่ ฮอร์โมนภายใน ร่างกายของคน (ภาณุ และคณะ, 2545) ซูพรีแฟ็ คท์เป็ นฮอร์โมนท่ีอยู่ในรูปของสารละลายปริมาณ การใชส้ าหรับเพาะขยายพนั ธุ์ปลาจะใชเ้ ป็นไมโครกรัม ( g ) ตอ่ น้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ที่วางขาย ในทอ้ งตลาดมี 2 แบบ คือ ซูพรีแฟ็ คท์ นาซอล และซูพรีแฟ็ คท์ อี การใช้ซูพรีแฟ็ คท์สาหรับ การเพาะขยายพนั ธุ์ปลาตอ้ งใชร้ ่วมกบั โดมเพอริโดน ซ่ึงมีชื่อทางการคา้ แตกต่างกนั ออกไป เช่น โมทิเล่ียมเอม็ โดมเพอร์เอม็ และไมแร็กซ์เอม็ เป็นตน้ (ภาพที่ 3.3 ) ก. ฮอร์โมนซูพรีแฟ็คท์ ข.โดมเพอริโดน ภาพท่ี 3.3 ฮอร์โมนซูพรีแฟ็ คท์ และโดมเพอริโดน ทมี่ า : ธาฎา (2556) 3.1 ข้อแนะนาในการใช้ซูพรีแฟ็ คท์เพ่ือการเพาะขยายพนั ธ์ุปลา 3.1.1. ใชซ้ ูพรีแฟ็คทช์ นิดที่บรรจุในขวดแกว้ 3.1.2. ให้เก็บซูพรีแฟ็คทไ์ วใ้ นตูเ้ ยน็ ท่ีไม่ใช่ช่องแช่แข็ง อุณหภูมิท่ีเหมาะสมสาหรับเก็บ รักษา คือ 5 ถึง 10 องศาเซลเซียส 56

บทท่ี 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 3.1.3. ซูพรีแฟ็คท์ท่ีมีขายอยูใ่ นทอ้ งตลาดมี 2 แบบ คือ ซูพรีแฟ็คท์ นาซอล มีตวั ยา 10 มิลลิลิตร มีปริมาณฮอร์โมน 10.5 มิลลิกรัม (10,500 ไมโครกรัม) และซูพรีแฟ็ คท์ อี มีตวั ยา 10 มิลลิลิตร มีปริมาณฮอร์โมน 15.75 มิลลิกรัม (15,750 ไมโครกรัม) การนาซูพรีแฟ็ คทไ์ ปใช้ หาก ใชค้ ร้ังละนอ้ ยๆ ควรเจือจางฮอร์โมนก่อน แต่หากใชค้ ร้ังละมากๆ ไม่ตอ้ งเจือจางก็ได้ ซ่ึงการเจือ จางจะไดก้ ล่าวถึงรายละเอียดตอ่ ไป 3.1.4. ซูพรีแฟ็ คท์ ตอ้ งใชร้ ่วมกบั โดมเพอริโดน โดยทว่ั ไปแลว้ จะใช้ 5 ถึง 10 มิลลิกรัม ตอ่ ปลา 1 กิโลกรัม 3.1.5. อุปกรณ์ท่ีใช้ในการเตรียมยา และฉีดปลาตอ้ งลา้ งให้สะอาด ตม้ ในน้าเดือดอยา่ ง นอ้ ย 5 นาที และทิ้งไวใ้ ห้เยน็ ก่อนนาไปใช้ ความสะอาดของอุปกรณ์และเคร่ืองมือต่างๆ เป็ นสิ่ง สาคญั ท่ีสุดที่จะช่วยรักษาคุณภาพของยาใหค้ งทนและทาใหก้ ารเพาะขยายพนั ธุ์ปลาไดผ้ ลสาเร็จ 3.1.6. วิธีการคานวณซูพรีแฟ็ คท์ และโดมเพอริโดน ตอ้ งคานวณให้ถูกตอ้ งจึงจะทาให้ ประสิทธิภาพของการฉีดฮอร์โมนกระตุน้ ใหแ้ มป่ ลาวางไข่ไดผ้ ลดี 3.1.7. ตาแหน่งที่ฉีด ปลามีเกล็ดควรฉีดบริเวณเน้ือเยื่อส่วนทา้ ยของโคนครีบหลงั และ ปลาไม่มีเกล็ดควรฉีดบริเวณกล้ามเน้ือเหนือเส้นขา้ งลาตวั ของปลา หรือฉีดเขา้ ช่องทอ้ งท่ีโคน ครีบทอ้ ง หรือโคนครีบหูก็ได้ แตไ่ ม่ค่อยนิยมเพราะตอ้ งใชค้ วามชานาญพิเศษ 3.1.8. ซูพรีแฟ็คท์ และโดมเพอริโดนไมม่ ีอนั ตรายต่อปลา ปลาที่ฉีดฮอร์โมนแลว้ ถา้ นาไป รับประทานต้องทาปลาให้สุกก่อน ควรเก็บไวใ้ นท่ีปลอดภยั ห่างจากมือเด็ก อย่าสัมผสั กับ ซูพรีแฟ็คทโ์ ดยตรง หากทารดมือ ใหร้ ีบลา้ งออกดว้ ยน้าสะอาดแลว้ เช็ดใหแ้ หง้ 3.1.9. เขม็ และหลอดฉีดยาท่ีใช้ จะตอ้ งผ่านการตม้ ในน้าเดือดไม่นอ้ ยกวา่ 5 นาที ถา้ นา เขม็ สกปรกไปใช้ จะทาใหย้ าเส่ือมคุณภาพอยา่ งรวดเร็ว โดยจะเห็นตะกอนอยใู่ นน้ายา 3.1.10. ขอแนะนาใหใ้ ชเ้ ข็มพลาสติกใชค้ ร้ังเดียวทิ้ง ขนาด 1 มิลลิลิตร ควรใชเ้ ข็มชนิด 1 มิลลิลิตร แบ่งเป็ น 10 ช่อง (เรียกวา่ เข็มทูเบอร์คิวลีน)ไม่ควรใชเ้ ข็ม 1 มิลลิลิตร แบ่งเป็ น 8 ช่อง (เรียกวา่ เข็มอินซูลีน) เพราะสามารถอ่านปริมาตรในเข็มไดส้ ะดวกกวา่ น้ากลนั่ ที่ใช้เจือจางหรือ ผสม ควรซ้ือชนิดเป็ นหลอดแกว้ หลอดและเข็มฉีดปลาขนาด 1 และ 2 มิลลิลิตร ถา้ ใชเ้ ป็ นแบบ แกว้ ใชเ้ ขม็ เบอร์ 20 ถึง 22 ความยาว 1 นิ้ว ถึง 1 นิ้วคร่ึงกไ็ ด้ 3.1.11. จานวนคร้ังในการฉีด การฉีดฮอร์โมนคร้ังเดียว หรือแบ่งเป็ นหลายๆ คร้ังน้นั ข้ึนอยู่กบั ชนิดและความพร้อมของแม่ปลา เหตุผลของการท่ีตอ้ งแบ่งการฉีดออกเป็ นหลายๆ คร้ัง เพราะปลาส่วนใหญ่จะเกิดการตกไข่เมื่อระดบั ของโกนาโดโทรปิ นในกระแสเลือดสูงอยูเ่ ป็ นระยะ เวลานาน และพบวา่ ฮอร์โมนจากธรรมชาติมกั คงอยใู่ นกระแสเลือดไดไ้ ม่นานไม่วา่ จะฉีดฮอร์โมน ให้แก่ปลามากน้อยเพียงใด ฮอร์โมนน้ันจะหมดไปจากกระแสเลือดในระยะเวลาใกลเ้ คียงกนั 57

บทท่ี 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ดงั น้นั หากฉีดฮอร์โมนท้งั หมดเพียงคร้ังเดียว ระดบั ของโกนาโดโทรปิ นในกระแสเลือดจะสูงอยู่ เพียงระยะส้ัน อาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการตกไข่ได้ ในปัจจุบันเกษตรกรได้นาฮอร์โมน สังเคราะห์มาใชม้ ากข้ึน ฮอร์โมนเหล่าน้ีคงอยใู่ นกระแสเลือดไดเ้ ป็ นเวลานาน ฉีดเพียงคร้ังเดียวก็ สามารถกระตุน้ ใหไ้ ข่สุกได้ เช่น ฮอร์โมน LHRHa (suprefact) แต่อยา่ งไรก็ตามพบวา่ ในกรณีที่ แมป่ ลามีความพร้อมปานกลางการฉีด 2 คร้ัง จะไดผ้ ลดีกวา่ 3.1.12. ช่วงเวลาระหวา่ งการฉีด การเวน้ ระยะระหวา่ งการฉีดแต่ละคร้ัง ข้ึนกบั ระยะเวลาท่ี ฮอร์โมนจะคงอยู่ในกระแสเลือด ซ่ึงข้ึนอยู่กบั อุณหภูมิ หากอุณหภูมิต่าอตั ราเมตาโบลิซึมของ ร่างกายต่า ฮอร์โมนก็จะอยใู่ นกระแสเลือดไดน้ าน นอกจากน้นั การเจริญของไข่ก็เป็ นไปอยา่ งชา้ ๆ ในการฉีดปลาเมืองหนาวจึงตอ้ งเวน้ ช่วงระหวา่ งการฉีดแตล่ ะคร้ังนาน ส่วนใหญ่จะเป็ น 24 ชวั่ โมง ส่วนในเมืองร้อนนิยมเวน้ ช่วงระหวา่ งการฉีดแต่ละคร้ัง 6 ถึง 8 ชว่ั โมง หรืออาจถึง 12 ชง่ั โมงใน ปลาบางชนิด เช่น ปลาสวาย เป็นตน้ 3.1.13. ตวั ทาละลาย (solvent) ตวั ทาละลายที่ใชใ้ นการบดต่อมหรือละลายฮอร์โมน อาจ เป็ นน้ากลนั่ หรือน้าเกลือ (0.6 เป็ อร์เซ็นต์) ก็ได้ สาหรับปริมาณที่ใชน้ ้นั ไม่มีเกณฑ์ตายตวั เพียงแต่ ถือหลกั ท่ีว่าหากใช้ตวั ทาละลายน้อยเกินไป หากเกิดการสูญหายโดยเหตุใดๆ เช่น น้ายาไหล ยอ้ นกลบั ภายหลงั การฉีดแมเ้ พียงหยดเดียวจะสูญเสียฮอร์โมนในปริมาณมาก ในทางตรงกนั ขา้ ม หากใชต้ วั ทาละลายปริมาณมากเกินไป อาจจะไหลยอ้ นกลบั ขณะฉีดไดง้ ่ายเน่ืองจากเน้ือเย่ือของ ปลาบริเวณที่ฉีดไม่อาจรับสารละลายไวไ้ ดห้ มด โดยทวั่ ไปจะใชเ้ กณฑค์ ร่าวๆ วา่ จะใชต้ วั ทาละลาย 1 มิลลิลิตร ในการฉีดปลา 1 กิโลกรัม 3.1.14 ปริมาณฮอร์โมนและโดมเพอริโดน ท่ีใชฉ้ ีดปลา (ตารางที่ 3.1) 58

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ตารางท่ี 3.1 ปริมาณฮอร์โมนและโดมเพอริโดน ที่ใชฉ้ ีดปลา ชนิดปลา เพศเมีย เพศผู้ เวลารีด ฟักเป็ น อุณหภูมิ ท่ีมา ปลากดเหลือง ซูพรี โดมเพอริ ซูพรี โดมเพอริ ไข่ ตวั ( C) แฟ็คท์ โดน แฟ็คท์ โดน (ชม.) (ชม.) (µg) (mg) (µg) (mg) (1) 5 - 7 5 5 5 12 - 14 27 - 30 26 - 28 วสนั ต์ และ ยพุ นิ ท์ (2) 15 - 20 5 (ม.ป.ป.) ปลาดุกอุย 10 - 30 5 5 5 16 24 - 30 28 - 30 ประพนั ธ์ (2552) ปลาตะเพยี นขาว 20 5 - 10 5 5 4 - 6 8 - 12 29 - 30 สุทธิพงค์ ปลาจีน (1) 5 10 5 (2552) 10 10 - 12 20 - 24 28 - 30 ศุภวรรณ์ ปลายส่ี กเทศ (2) 10 10 5 (2552) (1) 5 - 15 10 5 10 - 14 67 - 96 21 - 24 สุทธิพงค์ ปลาหมอไทย (2) 15 - 20 10 5 (2552) 15 5 5 5 8 - 12 18 - 20 20 - 30 ศราวธุ ปลาสวาย 20 10 (2548) 5 8 27 - 33 28 - 31 ศุภวรรณ์ (2552) 59

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 3.2 การเจือจางฮอร์โมน ซูพรีแฟ็ คท์ สาหรับการเพาะขยายพนั ธ์ุปลา ฮอร์โมนซูพรีแฟ็คท์ ท่ีมีขายในทอ้ งตลาด มี 2 ชนิด คือ 3.2.1 ซูพรีแฟ็คท์ นาซอล (suprefact nasal) ซูพรีแฟ็ คท์ นาซอล 1 ขวด ประกอบดว้ ยน้ายา 10 กรัม มีปริมาตร 10 มิลลิลิตร มีบูเซอรีลิน อซิเตท 10.5 มิลลิกรัม (10,500 ไมโครกรัม) เพื่อความสะดวกในการนาไปใช้ จึงคิด เพียง 10 มิลลิกรัม (10,000 ไมโครกรัม) การเจือจางฮอร์โมนซูฟรีแฟ็คท์ นาซอล มีข้นั ตอนดงั น้ี 3.2.1.1. เตรียมขวดแกว้ สีชาลา้ งใหส้ ะอาด แลว้ ตม้ ในน้าเดือดประมาณ 5 นาที ทิ้ง ไวใ้ หเ้ ยน็ 3.2.1.2. ใชเ้ ขม็ ฉีดยาที่สะอาดดูดฮอร์โมน 1 มิลลิลิตร (1,000 ไมโครกรัม) ใส่ใน ขวดใหมท่ ่ีเตรียมไว้ 3.2.1.3. เติมน้ากลนั่ 9 มิลลิลิตร ลงผสมกบั ฮอร์โมน รวมเป็ นสารละลายฮอร์โมน 10 มิลลิลิตร (1,000 ไมโครกรัม) ปิ ดฝาเขยา่ ใหเ้ ขา้ กนั เก็บในตูเ้ ยน็ ไวใ้ ชง้ านต่อไป ฮอร์โมนที่ เจือจางน้ี 1 มิลลิลิตร จะมีปริมาณฮอร์โมน 100 ไมโครกรัม 3.2.2 ซูพรีแฟ็คท์ อี (suprefact - E ) ซูพรีแฟ็ คท์ อี 1 ขวดประกอบด้วยน้ายา 15.75 กรัม มีปริมาตร 10 มิลลิลิตร มี บูเซอรีลิน อซิเตท 15.75 มิลลิกรัม (15,750 ไมโครกรัม) เพื่อความสะดวกในการนาไปใช้ จึงคิด เพียง 15 มิลลิกรัม (15,000 ไมโครกรัม) การเจือจางฮอร์โมนซูพรีแฟ็คท์ อี มีข้นั ตอนดงั น้ี 3.2.2.1. เตรียมขวดแกว้ สีชาลา้ งใหส้ ะอาด แลว้ ตม้ ในน้าเดือดประมาณ 5 นาที ทิ้ง ไวใ้ หเ้ ยน็ 3.2.2.2. ใชเ้ ขม็ ฉีดยาที่สะอาดดูดฮอร์โมน 1 มิลลิลิตร (1,500 ไมโครกรัม) ใส่ใน ขวดใหมท่ ่ีเตรียมไว้ 3.2.2.3. เติมน้ากลนั่ 14 มิลลิลิตร ลงผสมกบั ฮอร์โมนรวมเป็ นสารละลายฮอร์โมน 15 มิลลิลิตร (1,500 ไมโครกรัม) ปิ ดฝาเขยา่ ให้เขา้ กนั เก็บในตูเ้ ยน็ ไวใ้ ชง้ านต่อไป ฮอร์โมนท่ี เจือจางน้ี 1 มิลลิลิตร จะมีปริมาณฮอร์โมน 100 ไมโครกรัม 3.3. วธิ ีคานวณฮอร์โมนซูพรีแฟ็ คท์และโดมเพอริโดน ฮอร์โมนซูพรีแฟ็คทท์ ่ีใช้ = น้าหนกั ปลา x ปริมาณฮอร์โมนที่จะฉีด โดมเพอริโดนท่ีใช้ = น้าหนกั ปลา x ปริมาณโดมเพอริโดนที่จะฉีด น้ากลนั่ = สารละลายท้งั หมด - ฮอร์โมนที่ใช้ หมายเหตุ สารละลายท้ังหมดเทียบจากเกณฑ์มาตรฐาน ปลา 1 กิโลกรัม ฉีดสารละลาย 1 มิลลิลิตร 60

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ตวั อย่างการคานวณ ตอ้ งการเพาะพนั ธุ์ปลาดุกรัสเซีย แม่พนั ธุ์มีขนาด 0.8 กิโลกรัมจานวน 2 ตวั และขนาด 0.7 กิโลกรัม จานวน 2 ตวั พอ่ พนั ธุ์มีขนาด 1.5 กิโลกรัมจานวน 1 ตวั โดยฉีดฮอร์โมนแม่พนั ธุ์ 20 ไมโครกรัมต่อน้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ร่วมกบั โดมเพอริโดน 7 มิลลิกรัมต่อน้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม และฉีดฮอร์โมนพอ่ พนั ธุ์ 5 ไมโครกรัมตอ่ น้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ร่วมกบั โดมเพอริโดน 5 มิลลิกรัมต่อน้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ตอ้ งการทราบว่าจะใช้ซูพรีแฟ็ คทเ์ ท่าไร โดมเพอริโดน กี่เมด็ และน้ากลน่ั กี่มิลลิลิตร กาหนดให้ 1. ฮอร์โมน 1 มิลลิลิตร = 100 ไมโครกรัม 2. ปลาน้าหนกั 1 กิโลกรัมฉีดสารละลาย 1 มิลลิลิตร แม่พนั ธุ์มีน้าหนกั = (0.8 x 2 ) + (0.7 x 2) = 1.6 + 1.4 = 3 กิโลกรัม ฮอร์โมนที่ใชส้ าหรับแม่พนั ธุ์ ฮอร์โมนซูพรีแฟ็คทท์ ี่ใช้ = 3 x 20 = 60 ไมโครกรัม ฮอร์โมน 100 ไมโครกรัม อยใู่ นสารละลาย 1 มิลลิลิตร ฮอร์โมน 60 ไมโครกรัม อยใู่ นสารละลาย 1x 60 100 = 0.6 มิลลิลิตร โดมเพอริโดนที่ใช้ = 3 x 7 = 21 มิลลิกรัม = 2.1 เมด็ น้ากลนั่ = 3 - 0.6 = 2.4 มิลลิลิตร ฮอร์โมนท่ีใชส้ าหรับพอ่ พนั ธุ์ ฮอร์โมนซูพรีแฟ็คทท์ ่ีใช้ = 1.5 x 5 = 7.5 ไมโครกรัม ฮอร์โมน 100 ไมโครกรัม อยใู่ นสารละลาย 1 มิลลิลิตร ฮอร์โมน 75 ไมโครกรัม อยใู่ นสารละลาย 1x 7.5 100 = 0.075 มิลลิลิตร 61

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา โดมเพอริโดนท่ีใช้ = 1.5 x 5 = 7.5 มิลลิกรัม = 0.75 เมด็ พอ่ พนั ธุ์น้าหนกั 1.5 กิโลกรัม ตอ้ งใชส้ ารละลาย 1.5 มิลลิลิตร น้ากลน่ั = 1.5 - 0.075 = 1.425 มิลลิลิตร แมพ่ นั ธุ์ใชฮ้ อร์โมนซูพรีแฟ็คท์ 0.6 มิลลิลิตร ใชโ้ ดมเพอริโดน 2.1 เมด็ ใชน้ ้ากลน่ั 2.4 มิลลิลิตร พอ่ พนั ธุ์ใชฮ้ อร์โมนซูพรีแฟ็คท์ 0.075 มิลลิลิตร ใชโ้ ดมเพอริโดน 0.75 เมด็ ใชน้ ้ากลนั่ 1.425 มิลลิลิตร 4. สรุป ฮอร์โมนในระบบสืบพนั ธุ์ของปลาทาหน้าที่ควบคุมระบบสืบพนั ธุ์ให้เป็ นปกติเพ่ือความ อยู่รอดของเผ่าพนั ธุ์ เช่น การสร้างรังไข่ การสร้างน้าเช้ือ และควบคุมการวางไข่ เป็ นต้น ซ่ึงฮอร์โมนที่เก่ียวข้องน้ีมีหลายชนิดได้แก่ ฮอร์โมนโกนาโคโทรปิ นรี ลีสซิ่ง ฮอร์โมน โกนาโดโทรปิ น และฮอร์โมนเพศ สาหรับการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาในปัจจุบนั ฮอร์โมนที่ใช้กนั แพร่หลายและไดผ้ ลดี คือ อนาลอกซ์ของฮอร์โมนโกนาโดโทรปิ นรีลีสซิ่ง โดยวางจาหน่ายใน ทอ้ งตลาดใชช้ ่ือวา่ ซูพรีแฟ็คท์ เป็ นฮอร์โมนที่อยใู่ นรูปของสารละลาย ปริมาณการใชส้ าหรับการ เพาะขยายพนั ธุ์ปลาจะใชห้ น่วยไมโครกรัม และตอ้ งใชร้ ่วมกบั โดมเพอริโดน ซ่ึงมีชื่อทางการคา้ แตกตา่ งกนั ออกไป เช่น โมทิเลี่ยมเอม็ โดมเพอร์เอม็ และไมแร็กซ์เอม็ เป็นตน้ 62

บทท่ี 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา คาถามท้ายบท 1. จงบอกชนิดของฮอร์โมนที่มีบทบาทในระบบสืบพนั ธุ์ของปลา 2. ปลาที่จะนามาเป็นปลาต่อมควรมีลกั ษณะอยา่ งไร 3. ซูพรีแฟ็คทน์ าซอล และซูพรีแฟ็คท์ อี แตกต่างกนั อยา่ งไร 4. จงอธิบายการเจือจางฮอร์โมนซูพรีแฟ็คทส์ าหรับการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 5. จงคานวณการใชฮ้ อร์โมนซูพรีแฟ็คทแ์ ละโดมเพอริโดนจากโจทยต์ วั อยา่ ง ตอ้ งการเพาะปลาดุกรัสเซีย แม่พนั ธุ์มีน้าหนกั ขนาด 1.5 กิโลกรัมจานวน 4 ตวั พอ่ พนั ธุ์ มีน้าหนกั ขนาด 1.5 กิโลกรัมจานวน 2 ตวั โดยฉีดฮอร์โมนซูพรีแฟ็ คทแ์ ม่พนั ธุ์ 20 ไมโครกรัม ต่อน้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ร่วมกบั โดมเพอริโดน 7 มิลลิกรัมต่อน้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม และฉีด ฮอร์โมนซูพรีแฟ็ คทพ์ ่อพนั ธุ์ 7 ไมโครกรัมต่อน้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ร่วมกบั โดมเพอริโดน 5 มิลลิกรัมตอ่ น้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม (ฮอร์โมน 100 ไมโครกรัม = 1 มิลลิลิตร ) 63

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา เอกสารอ้างองิ โชคชยั เหลืองธุวปราณีต. 2548. หลกั การเพาะเลยี้ งสัตว์นา้ . กรุงเทพฯ : โฟร์เพซ. 439 หนา้ . ประพนั ธ์ ธาราเวทย.์ 2552. การเพาะพันธ์ุและการเลีย้ งปลาดุกอุย. พิมพ์คร้ังท่ี 4. กรุงเทพฯ : เกษตรสยามบุค๊ ส์. 104 หนา้ . พพิ ฒั น์ อินทรมาตย.์ 2553. ปลาดุกบกิ๊ อยุ . กรุงเทพฯ : เกษตรสยามบุค๊ . 136 หนา้ . ภาณุ เทวรัตน์มณีกลุ , สุจินต์ หนูขวญั และวรี ะ วชั รกรโยธิน. 2545. การเพาะเลยี้ งสัตว์นา้ จืด. สมุทรปราการ : สานกั งานฝ่ ายฝึกอบรม ศูนยพ์ ฒั นาการประมงแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต.้ 185 หนา้ . วสันต์ ศรีวฒั นะ และยพุ นิ ท์ ววิ ฒั นชยั เศรษฐ.์ (ม.ป.ป.) การเพาะเลยี้ งปลากดเหลือง. กรุงเทพฯ : ฝ่ ายเผยแพร่ กองส่งเสริมการประมง กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 24 หนา้ . ศราวธุ เจะ๊ โส๊ะ. 2548. ปลาหมอ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั . 42 หนา้ . ศุภวรรณ์ ใจแสน. 2552. คู่มือการเลยี้ งปลานา้ จืดเศรษฐกจิ . กรุงเทพฯ : บริษทั นาคาอินเตอร์มีเดียร์- จากดั . 144 หนา้ . สุภาพร สุกสีเหลือง. 2554. เทคนิคและวธิ ีการเพาะเลยี้ งสัตว์นา้ . กรุงเทพฯ : ศูนยส์ ื่อเสริมกรุงเทพ. 291 หนา้ . สุทธิพงศ์ วฒุ ิเจริญวงศ.์ 2552. การเพาะพนั ธ์ุปลา. กรุงเทพฯ : เกษตรสยามบุค๊ . 200 หนา้ . อุทยั รัตน์ ณ นคร. 2538. การเพาะขยายพนั ธ์ุปลา. พมิ พค์ ร้ังท่ี 4. กรุงเทพฯ : ร้ัวเขียว. 231 หนา้ . Donaldson, E. M. and G. A. Hunter. 1983. Induced final maturation, ovulation and spermiation. In Fish Physiology Vol.9. New York : Academic Press, Inc.pp. 351 - 403. Kanatani, H. and Nagahama, Y. 1980. Mediators of oocyte maturation. Biomedical Research. 1 : 273 - 293. Peter, R. E. 1983. The brain and neurohormones in teleost reproduction. In Fish Physiology Vol. 9 . New York : Academic Press, Inc. pp. 97 - 136. Sherwood, N. M., Harvey, B. Brownstein, M. J. and Eiden, L. E. 1984. Gonadotropin Releasing Hormone (GnRH) in striped mullet, milkfish, rainbow trout : comparison with salmon GnRH. Gen. Comp. Endocrinol. 55 : 174 - 181. 64

บทที่ 3 บทบาทของฮอร์โมนในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา Stacey, N. E., 1984 . Control of the timing of ovulation by exogenous and endogenous factors. In Fish Reproduction : strategies and Tacfics . London : Academic Pres, Inc. pp. 207 - 222. 65

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธ์ุปลา หวั ข้อเรื่อง 1. ความนา 2. การเตรียมปลาพอ่ แมพ่ นั ธุ์ 3. การคดั เลือกปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ 4. วธิ ีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 5. ปัจจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งในการฟักไข่ปลา 6. การอนุบาลลูกปลา 7. สรุป จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายหลกั การเล้ียงปลาพอ่ แมพ่ นั ธุ์ใหม้ ีคุณภาพได้ 2. สามารถคดั เลือกปลาพอ่ แมพ่ นั ธุ์ท่ีมีความสมบูรณ์เพศได้ 3. อธิบายวธิ ีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาตามประเภทของไข่ได้ 4. อธิบายลกั ษณะการฟักไขป่ ลาตามประเภทของไขไ่ ด้ 5. อธิบายหลกั การเบ้ืองตน้ ในการอนุบาลลูกปลาได้ 6. บอกวธิ ีการป้องกนั และรักษาโรคและปรสิตในการอนุบาลลูกปลาได้ 7. สามารถเพาะขยายพนั ธุ์ปลาสลิด ปลาตะเพยี นขาว ปลานิล และปลาดุกรัสเซียได้ เนื้อหา 1. ความนา จากการเล้ียงปลาในอดีต ลูกปลาส่วนใหญ่ไดม้ าจากการรวบรวมจากธรรมชาติ แต่เมื่อมี การเล้ียงกนั มากข้ึน ลูกปลาท่ีจบั ไดม้ ีจานวนไม่เพียงพอต่อความตอ้ งการของผเู้ ล้ียง จึงมีการเร่ิมที่ จะสังเกตการขยายพนั ธุ์ปลาตามธรรมชาติเพื่อนามาเลียนแบบและดดั แปลงทาให้สามารถควบคุม การผสมพนั ธุ์ของปลาได้ การเพาะขยายพนั ธุ์จึงมีการพฒั นาข้ึนมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบนั ท่ีมีการฉีด ฮอร์โมนกระตุน้ อยา่ งไรก็ตามวิธีการต่างๆ ที่เคยทามาในอดีตก็มีผูน้ ามาใช้อยู่ในปัจจุบนั ท้งั น้ี 66

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ข้ึนอยู่กบั ชนิดของปลา สภาพแวดลอ้ ม และส่ิงอานวยความสะดวกตลอดจนเทคโนโลยีที่มีอยู่ การเพาะขยายพนั ธุ์ปลาไมว่ า่ จะใชว้ ธิ ีการแบบใดก็ตาม หลกั การเบ้ืองตน้ ก็ยงั คงเหมือนเดิมคือ ตอ้ ง มีการเตรียมพ่อแม่พนั ธุ์ การขุนพ่อแม่พนั ธุ์ การคดั เลือกพ่อแม่พนั ธุ์ วิธีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา การฟักไขป่ ลา การอนุบาลลูกปลา รวมถึงการป้องกนั และรักษาโรคใหก้ บั ลูกปลา 2. การเตรียมปลาพ่อแม่พนั ธ์ุ การเตรียมปลาพอ่ แมพ่ นั ธุ์เป็นสิ่งสาคญั อนั ดบั แรกของการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา พ่อแม่พนั ธุ์ ปลาจะตอ้ งมีความสมบูรณ์และมีความพร้อมท่ีจะผสมพนั ธุ์ สาหรับพ่อแม่พนั ธุ์ปลาที่นามาใช้ เพาะขยายพนั ธุ์ปลาสามารถรวบรวมไดจ้ ากแหล่งต่างๆ ดงั น้ี 2.1 จากแหล่งวางไข่ ปลาบางชนิดจะผสมพนั ธุ์วางไข่ในบริเวณที่คอ่ นขา้ งเฉพาะเจาะจง การรวบรวมพอ่ แม่ปลา จากแหล่งวางไข่ทาไดค้ ่อนขา้ งง่ายกวา่ ปกติ เพราะปลาที่กาลงั วางไข่จะไม่หนี พ่อแม่ปลาเหล่าน้ี ส่วนใหญ่มีความสมบูรณ์เพศสามารถผสมเทียมไดท้ นั ที ในประเทศไทยน้นั การจบั พอ่ แม่ปลาจาก แหล่งวางไข่นิยมทาเฉพาะปลาชนิดที่ยงั ไม่สามารถเล้ียงไดใ้ นบ่อ เช่นกรณีปลาบึกและปลาเทพา ซ่ึงตอ้ งนามาฉีดฮอร์โมนกระตุน้ ก่อนแลว้ จึงผสมเทียม ปลาที่ไดจ้ ากแหล่งวางไข่น้ีมกั จะมีความ พร้อมของไขแ่ ละน้าเช้ือดีกวา่ ปลาที่ไดจ้ ากแหล่งน้าทว่ั ๆ ไป นอกจากน้นั ช่วงเวลาในการจบั ก็ค่อน ขา้ งเฉพาะเจาะจง เช่น ในการจบั ปลาบึกบริเวณแม่น้าโขง อาเภอเชียงของ จงั หวดั เชียงราย ปลาบึก จะอพยพมาถึงบริเวณดงั กล่าวในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2.2 จากแหล่งนา้ ธรรมชาติ การจบั ปลาชนิดตา่ งๆ จากแหล่งน้าทว่ั ไปจะไดป้ ลาท้งั ท่ีมีความสมบูรณ์เพศและไม่สมบูรณ์ เพศคละกนั ไป ปลาพ่อแม่พนั ธุ์ที่ไดห้ ากมีไข่แก่น้าเช้ือดีก็สามรถนามาเพาะขยายพนั ธุ์ไดท้ นั ที หากยงั ไมพ่ ร้อมอาจจะนามาเล้ียงไวก้ ่อนช่วงระยะหน่ึง ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ที่จบั จากแหล่งน้าธรรมชาติ มกั จะบอบช้า เนื่องจากการจบั และการลาเลียง เมื่อนามาเล้ียงก็จะปรับตวั ไดย้ าก และยงั อาจนา โรคพยาธิจากแหล่งน้ามาสู่โรงเพาะฟักดว้ ย แต่หากคิดเทียบตน้ ทุนแลว้ ปลาพ่อแม่พนั ธุ์จากแหล่ง ดงั กล่าวจะมีราคาถูกกวา่ ท่ีจะเล้ียงไวเ้ อง และยงั เป็ นการนาความหลากหลายทางพนั ธุกรรมมาเพ่ิม ใหป้ ระชากรที่มีอยเู่ ดิม เป็นการลดปัญหาเก่ียวกบั การผสมเลือดชิด (inbreeding) ท่ีอาจเกิดข้ึนดว้ ย 2.3 จากการเลยี้ ง ในการผลิตลูกปลาเป็ นการคา้ ไม่อาจพ่ึงปลาพ่อแม่พนั ธุ์จากธรรมชาติได้ ท้งั น้ีเพราะความ ไม่แน่นอนในเร่ืองเวลาและปริมาณ นอกจากน้นั ปลาพ่อแม่พนั ธุ์ที่ถูกจบั ดว้ ยเครื่องมือบางชนิดจะ 67

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา บอบช้าจนไม่สามารถนามาใช้เป็ นพ่อแม่พนั ธุ์ได้ ในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาในปัจจุบนั ฟาร์ม เพาะปลาส่วนใหญจ่ ะนิยมเล้ียงปลาไวเ้ ป็ นพอ่ แม่พนั ธุ์เอง วธิ ีการเล้ียงพ่อแม่พนั ธุ์ปลาคลา้ ยคลึงกบั การเล้ียงปลาเน้ือ เพยี งแตต่ อ้ งการสภาพที่ดีกวา่ เล็กนอ้ ยเทา่ น้นั โดยมีขอ้ ควรพจิ ารณาที่สาคญั ดงั น้ี 2.3.1 บ่อเล้ียงปลาพ่อแม่พนั ธุ์ โดยทว่ั ไปบ่อเล้ียงปลาพ่อแม่พนั ธุ์อาจเป็ นไปไดท้ ้งั บ่อดิน และบ่อซีเมนตม์ ีขนาดแตกต่างกนั ข้ึนอยกู่ บั วตั ถุประสงคใ์ นการใช้ และการจดั การฟาร์มที่แตกต่าง กนั ไปในแต่ละทอ้ งท่ี และชนิดของปลา อยา่ งไรก็ตามสถานที่ต้งั ฟาร์มนบั วา่ มีส่วนสาคญั อยา่ งยง่ิ ต่อการเล้ียงและการตลาดเนื่องจากถ้าอยู่ในบริเวณที่ไม่เหมาะสม เช่น ใกลช้ ุมชนหรือโรงงาน อุตสาหกรรมก็อาจทาให้คุณภาพน้าท่ีนามาใช้ไม่ดีพอ หรืออยู่ไกลจากชุมชนมากเกินไปและ ทุรกนั ดารก็อาจยากลาบากในการจบั ลาเลียงปลา เป็ นต้น สาหรับบ่อเล้ียงปลาพ่อแม่พนั ธุ์ที่มี ความสาคญั ทางเศรษฐกิจ ควรเป็ นบ่อดินมีความลึกประมาณ 1.5 เมตร มีขนาด 1 ถึง 2 ไร่ และ สามารถระบายน้าเขา้ ออกไดเ้ ป็ นคร้ังคราวเพื่อกระตุน้ ความสมบูรณ์ทางเพศ การท่ีบ่อเล้ียงปลา พอ่ แม่พนั ธุ์มีความลึกมากกว่าบ่อเล้ียงปลาทวั่ ไปซ่ึงลึกประมาณ 1 เมตรน้นั เน่ืองมาจากตอ้ งการ ให้ปลาพ่อแม่พนั ธุ์มีพ้ืนท่ีในการเคล่ือนไหวมากข้ึน และอยู่คลา้ ยสภาพธรรมชาติเพ่ือให้มีความ สมบูรณ์เพศเร็วข้ึน 2.3.2 จานวนบ่อและอตั ราปล่อยปลาพ่อแม่พนั ธุ์ โดยทวั่ ไปในทางทฤษฎีควรเล้ียงปลา พอ่ แม่พนั ธุ์แยกเพศ เพื่อกระตุน้ ให้ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์มีความพร้อมในการผสมพนั ธุ์ โดยการแยกกนั อยเู่ พศละบ่อ ซ่ึงในบอ่ เล้ียงพอ่ พนั ธุ์หรือแม่พนั ธุ์เดียวกนั อาจมีปลามากกวา่ 1 ชนิดอยูด่ ว้ ยกนั ก็ได้ หรือเอาปลาพ่อแม่พนั ธุ์มาเล้ียงในบ่อเดียวกนั ไดโ้ ดยพิจารณาว่า ปลาพ่อแม่พนั ธุ์ชนิดน้นั สามารถ เล้ียงรวมกนั ไดห้ รือไม่ เพราะถา้ ปลาพ่อแม่พนั ธุ์สามารถผสมพนั ธุ์วางไข่ในบ่อ เช่น ปลานิล ปลาไน และปลาตะเพียนขาว เป็ นตน้ ก็จะทาให้ยากลาบากในการจดั การเพราะจะเกิดลูกปลาในบ่อ จึงไม่ควรเล้ียงรวมกนั แต่หากปลาพ่อแม่พนั ธุ์ไม่ผสมพนั ธุ์วางไข่ในบ่อเดียวกนั เช่น ปลาจีน ปลาย่ีสกเทศ ปลาสวาย และปลาดุกอุย เป็ นตน้ ก็สามารถเล้ียงรวมกนั ได้ หรือ ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ บางชนิดท่ีมีอุปนิสัยหรือการกินอาหารคลา้ ยกนั ก็สามารถเล้ียงรวมกนั ได้ เพราะบ่อท่ีเหลืออาจ นาไปใช้ในการอนุบาลลูกปลาได้ การเล้ียงปลาพ่อแม่พนั ธุ์ร่วมกนั แตกต่างกนั ไปในแต่ละทอ้ งท่ี เช่น อาจเล้ียงปลาจีนร่วมกบั ปลายสี่ กเทศ หรือ ปลายสี่ กเทศร่วมกบั ปลาตะเพียนขาว หรือปลาจีน ร่วมกบั ปลาตะเพียนขาว เป็ นตน้ ซ่ึงจะมีผลทาให้ลดการใช้บ่อปลาพ่อแม่พนั ธุ์ลงได้บางส่วน จานวนบ่อเล้ียงปลาพอ่ แม่พนั ธุ์น้นั ข้ึนกบั จานวนลูกปลาที่ตอ้ งการผลิต และการจดั การฟาร์ม เช่น ตอ้ งการผลิตลูกปลานิลใหไ้ ดป้ ี ละ 5 แสนตวั ก็ตอ้ งคานวณดูวา่ ตอ้ งใชพ้ อ่ แมพ่ นั ธุ์ก่ีคู่ และเม่ือทราบ ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ท่ีตอ้ งการต่อปี แลว้ จะวางแผนหมุนเวยี นใช้ปลาพ่อแม่พนั ธุ์อยา่ งไร การเล้ียงปลา พอ่ แม่พนั ธุ์ร่วมกนั ไม่ควรเล้ียงปลาพ่อแม่พนั ธุ์หลายชนิดรวมกนั มากเกินไป เพราะอาจยากลาบาก 68

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ในการนาปลาพ่อแม่พนั ธุ์มาเพาะขยายพนั ธุ์ ซ่ึงตอ้ งตีอวนท้งั บ่อทาให้ปลาบอบช้าได้ อีกท้งั ควร เล้ียงปลาพ่อแม่พนั ธุ์ที่อายุใกล้เคียงกันในบ่อเดียวกนั และอายุต่างกนั มากแยกบ่อกนั เพ่ือเป็ น ประโยชนต์ อ่ การควบคุมพนั ธุกรรมปลา เพราะถา้ ปล่อยพอ่ แม่พนั ธุ์ท่ีอายตุ ่างกนั มากมาเล้ียงดว้ ยกนั ก็จะไม่ทราบเลยวา่ ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์น้ีไดจ้ ากปลาพอ่ แมพ่ นั ธุ์รุ่นไหน และลูกปลาก็อาจมีคุณภาพไม่ดี เพราะแม่พนั ธุ์ท่ีมีอายุมากเกินไปจะมีคุณภาพไข่ด้อยกว่าแม่พนั ธุ์ที่อายุน้อยกว่า สาหรับความ หนาแน่นของปลาพ่อแม่พนั ธุ์ข้ึนกบั คุณสมบตั ิของน้า ปริมาณอาหารธรรมชาติในบ่อ และขนาด ปลาพอ่ แมพ่ นั ธุ์เป็นสาคญั ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ท่ีมีขนาดเล็กสามารถปล่อยไดม้ ากกวา่ ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ ที่ขนาดใหญ่ เช่น ปลาตะเพียนขาวขนาด 300 ถึง 400 กรัม ปล่อยในอัตรา 800 ตัวต่อไร่ ปลาสวายขนาด 2 ถึง 3 กิโลกรัมปล่อยในอตั รา 200 ตวั ต่อไร่ ปลาดุกดา้ นปล่อยในอตั รา 400 ถึง 600 ตวั ตอ่ ไร่ เป็นตน้ 2.3.3 คุณสมบตั ิของน้า น้าท่ีใชเ้ ล้ียงปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ตอ้ งมีคุณภาพดีกวา่ ท่ีใชเ้ ล้ียงปลาทว่ั ๆ ไป โดยเฉพาะปริมาณออกซิเจนในน้าจะตอ้ งมีคา่ สูงอยตู่ ลอดเวลา การท่ีปริมาณออกซิเจนต่าลงใน บางช่วง แมจ้ ะไม่ทาใหป้ ลาตายแต่การเจริญเติบของไข่และน้าเช้ือจะชะงกั การถ่ายน้าเป็ นระยะๆ จะช่วยเพ่ิมออกซิเจนในบ่อ นอกจากน้นั ยงั เป็ นการกาจดั ของเสียจากสิ่งขบั ถ่าย และเศษอาหาร น้าใหม่จะช่วยกระตุน้ การเจริญของไข่และน้าเช้ือ ในการเล้ียงปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ควรมีการถ่ายน้าใน บอ่ 1 ถึง 2 คร้ังต่อเดือน และก่อนฤดูการเพาะขยายพนั ธุ์ประมาณ 1 ถึง 2 เดือน ควรเพิ่มการถ่ายน้า เป็ น 3 ถึง 4 คร้ังต่อเดือน โดยปล่อยให้น้าไหลเขา้ บ่อและลน้ ออกประมาณ 3 ถึง 5 ชวั่ โมงต่อคร้ัง จะมีผลใหค้ วามสมบูรณ์ของไข่และน้าเช้ือดีกวา่ ปลาพ่อแม่พนั ธุ์ที่เล้ียงในบ่อน้าน่ิง อุณหภูมิของน้า เป็ นอีกปัจจยั หน่ึงที่มีอิทธิพลต่อการเจริญของไข่และน้าเช้ือ แต่ปัจจัยน้ีไม่เป็ นปัญหาสาหรับ ประเทศไทย ท้งั น้ีเพราะอุณหภูมิของน้าค่อนขา้ งสม่าเสมอท้งั ปี 2.3.4 อาหาร ต้องมีความเหมาะสมท้งั ทางด้านปริมาณและคุณภาพ เพื่อเร่งความ สมบูรณ์เพศ อาหารขุนพ่อแม่พันธุ์ควรมีธาตุอาหารหลักครบ ได้แก่ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วติ ามิน และแร่ธาตุเพียงพอในการสร้างไข่และน้าเช้ือ อาหารเหล่าน้ีประกอบดว้ ย ปลาป่ น รา กากถวั่ เหลือง ปลายขา้ ว มาผสมกบั พรีมิกซ์ในสัดส่วนแตกต่างกนั แลว้ อดั เป็ นเม็ด ออกมา หรืออาจนาอาหารสมทบเสริมในบางคร้ัง เช่น ปลาเป็ ด และไส้ไก่ เป็ นตน้ โดยทว่ั ไป การเล้ียงปลาพอ่ แมพ่ นั ธุ์ในบ่อดินตอ้ งมีการเตรียมบ่อเป็นอยา่ งดีต้งั แต่การลอกเลน ใส่ปูนขาว และ ป๋ ุยคอก เพื่อสร้างอาหารธรรมชาติให้ปลาพ่อแม่พนั ธุ์ แต่การให้อาหารเม็ดหรืออาหารสมทบจะ ช่วยเร่งใหส้ มบูรณ์เพศเร็วข้ึน โดยเฉพาะก่อนฤดูการเพาะขยายพนั ธุ์ประมาณ 1 ถึง 2 เดือน จะช่วย ทาให้ปลาพ่อแม่พนั ธุ์สมบูรณ์ข้ึนมาก ปริมาณอาหารท่ีให้ปลาพ่อแม่พนั ธุ์ควรให้ปริมาณน้อย ประมาณ 1 ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ต่อน้าหนักตัวต่อวนั และให้วนั ละ 1 คร้ังเท่าน้ัน เพื่อป้องกัน 69

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์อว้ น ซ่ึงจะทาให้การเพาะขยายพนั ธุ์ไม่ดีเท่าที่ควร เหตุผลที่สามารถให้อาหารใน ปริมาณน้อยเน่ืองจากอาหารเล้ียงปลาพ่อแม่พนั ธุ์มีคุณค่าทางอาหารสูงอยูแ่ ลว้ โดยอาหารเล้ียง พอ่ แม่พนั ธุ์ปลากินพชื เช่น ปลาตะเพยี นขาว ปลายส่ี กเทศ ปลาจีน ปลาไน และปลานิล เป็ นตน้ ควรจะมีปริมาณโปรตีน 25 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และอาหารขนุ พ่อแม่พนั ธุ์ปลากินเน้ือหรือปลากิน พืชและเน้ือ เช่น ปลาสวาย ปลาดุกรัสเซีย และปลาบู่ เป็ นตน้ ควรมีปริมาณโปรตีน 30 ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ในระหวา่ งการเล้ียงควรหมน่ั สังเกตปลาพ่อแม่พนั ธุ์ดว้ ยวา่ อว้ นเกินไปหรือผอมเกินไป เพ่ือท่ีจะไดป้ รับปริมาณอาหารท่ีให้ เพราะปลาพ่อแม่พนั ธุ์ท่ีอว้ นหรือผอมจนเกินไปจะมีผลต่อไข่ และน้าเช้ือ 2.3.5 ความสงบของบ่อเล้ียงปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ ควรปล่อยให้ปลาพ่อแม่พนั ธุ์อยูโ่ ดยรบกวน ใหน้ อ้ ยท่ีสุดยกเวน้ ช่วงขณะมีการตีอวนคดั เลือกปลาพ่อแม่พนั ธุ์มาเพาะซ่ึงตอ้ งรบกวนปลา การที่ ปลาถูกรบกวนใหต้ กใจบอ่ ยๆ ทาใหก้ ารสร้างไขแ่ ละน้าเช้ือชา้ ลง 2.3.6 การจดั การปลาพ่อแม่พนั ธุ์ ในปัจจุบนั เป็ นท่ียอมรับกนั แล้วว่าจากการปล่อยปละ ละเลยในเร่ืองพนั ธุกรรม ทาให้ปลาหลายชนิดเร่ิมมีการเจริญเติบโตลดลง แมจ้ ะไม่มีการทดลอง ยืนยนั ในเร่ืองน้ี แต่ขอ้ มูลจากการสังเกตของผูเ้ ล้ียงปลานับร้อยๆ รายก็ทาให้เช่ือได้ว่าปัญหาที่ เกิดข้ึนน้นั มีแนวโนม้ ที่จะเป็ นความจริง จากความจริงที่วา่ ลกั ษณะปรากฏ (phenotype) เป็ นผลมา จากลกั ษณะทางพนั ธุกรรม (genotype) และสิ่งแวดลอ้ ม ซ่ึงหมายถึงสภาพการเล้ียงประกอบกนั เม่ือสิ่งแวดลอ้ มในการเล้ียงยงั เป็นเช่นเดิมแตล่ กั ษณะปรากฏ คือ การเจริญเติบโตชา้ ลง ก็ทาใหพ้ อ อนุมานได้ว่าสาเหตุน่าจะเนื่องมาจากลักษณะทางพนั ธุกรรมนั่นเอง ส่วนใหญ่เข้าใจว่าการที่ ลกั ษณะพนั ธุกรรมดอ้ ยลงน้ีมีสาเหตุมาจากการผสมเลือดชิด (inbreeding) โดยไม่ไดม้ ีการทดลอง ยืนยนั ในเร่ืองน้ี แต่จากการศึกษาของ Eknath และ Doyle (1985) พบวา่ สาเหตุใหญ่น่าจะเกิดจาก ปรากฏการณ์ที่เรียกวา่ การคดั เลือกทางลบ (negative selection) และการคดั เลือกทางออ้ ม (indirect selection ) การคดั เลือกทางลบเกิดจากการท่ีเกษตรกรนิยมจบั ปลาขนาดใหญ่ขายไปก่อน และเก็บ ปลาขนาดเล็กไวเ้ ป็ นพ่อแม่พนั ธุ์มีผลให้ยีน (gene) ท่ีดีถูกคดั ทิ้งไปเร่ือยๆ ลูกปลาที่ไดใ้ นช่วงต่อๆ มาจึงเจริญเติบโตช้าลง บางฟาร์มก็พยายามคดั เลือกพ่อแม่พนั ธุ์ขนาดใหญ่มาใช้ในการเพาะ ขยายพนั ธุ์ โดยเล้ียงพ่อแม่พนั ธุ์ที่มีอายุต่างกนั ไวด้ ว้ ยกนั ปลาที่มีอายุมากกว่ายอ่ มมีแนวโนม้ จะมี ขนาดโตกวา่ จึงมีผลให้คดั ไดพ้ ่อแม่พนั ธุ์ที่เจริญพนั ธุ์ชา้ (late maturing) ซ่ึงปลาท่ีเจริญพนั ธุ์ชา้ น้ี มกั จะโตช้ากว่าปลาท่ีเจริญพนั ธุ์เร็วลกั ษณะเช่นน้ีเรียกว่าการคดั เลือกโดยทางออ้ ม นอกจากน้ัน ผูเ้ พาะบางคนยงั มีความถนัดส่วนตัวท่ีจะเลือกปลาขนาดเล็กมาเป็ นพ่อแม่พนั ธุ์ ในบางกรณี เกษตรกรจะคดั ปลาตวั โตทิ้งเพราะนึกว่าเป็ นปลาท่ีมีอายุมากแล้ว ทาให้เกิดผลเช่นเดียวกบั การ คดั เลือกทางลบ ในการเล้ียงพอ่ แมพ่ นั ธุ์มีขอ้ ควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี 70

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 2.3.6.1 ควรคดั ปลาท่ีโตไดข้ นาดตลาดรุ่นแรกสุดในบ่อมาเป็นปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ 2.3.6.2 เล้ียงปลาพอ่ แม่พนั ธุ์อายตุ ่างกนั แยกกนั 2.3.6.3 ในการเพาะขยายพนั ธุ์แต่ละคร้ังควรใชพ้ ่อแม่พนั ธุ์หลายคู่ โดยผสมทีละคู่ หากการเพาะแต่ละคร้ังใช้ปลาเพศเมียจานวนนอ้ ย ควรใชน้ ้าเช้ือจากปลาตวั ผูห้ ลายตวั ผสมกบั ไข่ จากปลาตวั เมีย 1 ตวั เพื่อให้ไข่และน้าเช้ือผสมกนั ไดห้ ลายๆ คู่ ซ่ึงจะช่วยลดอตั ราการผสม เลือดชิดลงไดเ้ ลก็ นอ้ ย นอกจากน้นั ควรคดั ปลาที่จะใชเ้ ป็ นพอ่ แม่พนั ธุ์ในปี ต่อไปจากการผสมพนั ธุ์ พ่อแม่หลายๆ คู่ ในบางประเทศ เช่น อิสราเอลและฮงั การีมีการปรับปรุงพนั ธุ์ปลาบางชนิด เช่น ปลาไน จนได้พนั ธุ์ที่เจริญเติบโตดีทาให้การจดั การเก่ียวกบั พ่อแม่พนั ธุ์ทาได้ง่ายข้ึน สาหรับใน ประเทศไทยน้นั การปรับปรุงพนั ธุ์ปลาชนิดต่างๆ ยงั อยู่ในระยะเร่ิมตน้ เช่ือว่าภายในเวลาอีกไม่ นานนกั อาจจะมีปลาพนั ธุ์ดีใหเ้ กษตรกรเล้ียงไดท้ วั่ ถึง 2.3.6.4 เม่ือสังเกตวา่ ลูกปลาที่ผลิตเร่ิมโตช้า ควรหาพ่อแม่พนั ธุ์จากแหล่งอ่ืนซ่ึงโต ดีกวา่ มาผสม จะทาใหอ้ ตั ราส่วนของยนี ดีเพ่ิมข้ึนในประชากร 3. การคดั เลือกปลาพ่อแม่พนั ธ์ุ การคัดเลือกปลาพ่อแม่พนั ธุ์เป็ นข้นั ตอนที่สาคญั มากในการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา หาก คดั เลือกปลาพ่อแม่พนั ธุ์ที่ไม่สมบูรณ์เพศมาเพาะขยายพนั ธุ์อาจทาให้ประสบความลม้ เหลว เช่น พอ่ แมพ่ นั ธุ์ปลาไมร่ ัดกนั เลยหรือไม่สามารถรีดไข่แม่ปลาได้ เป็ นตน้ การรวบรวมปลาพ่อแม่พนั ธุ์ หากรวบรวมโดยการตีอวน ควรใชอ้ วนที่ไม่มีปม เพื่อป้องกนั การเกิดบาดแผล ควรงดอาหารก่อน 1 วนั เพ่ือป้องกนั ปลาช็อก และควรรวบรวมในช่วงเชา้ เวลา 7.00 ถึง 8.00 นาฬิกา ซ่ึงอากาศไม่ ร้อนเกินไป การเช็คปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ควรทาดว้ ยความระมดั ระวงั โดยหงายทอ้ งปลาข้ึนมาเช็คความ สมบูรณ์เพศ และใชม้ ือปิ ดบริเวณตาของปลา ปลาก็จะไม่ดิ้น การลาเลียงปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ท่ีคดั แลว้ มายงั บ่อเพาะขยายพนั ธุ์ตอ้ งทาด้วยความระมดั ระวงั ไม่ให้ปลาช้า ปล่อยให้ปลาพกั และชินกบั สภาพแวดลอ้ มและน้าใหม่ก่อนการเพาะขยายพนั ธุ์อย่างน้อย 6 ชว่ั โมง เวลาที่เหมาะสมแก่การ เพาะขยายพนั ธุ์ควรเป็ นเวลาเยน็ เพราะอากาศเยน็ สบาย มีความสงบเหมาะแก่การเพาะขยายพนั ธุ์ การคดั เลือกปลาพ่อแม่พนั ธุ์นอกจากตอ้ งแยกความแตกต่างระหวา่ งเพศในเบ้ืองตน้ ให้ไดก้ ่อนแลว้ ยงั ตอ้ งพิจารณาถึงสิ่งเหล่าน้ีอีกดว้ ย ไดแ้ ก่ 3.1 ลกั ษณะปลาพ่อแม่พนั ธ์ุ ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ที่นามาเพาะขยายพนั ธุ์ตอ้ งมีลกั ษณะท่ีดีดงั น้ี 3.1.1 ไม่ไดร้ ับความกระทบกระเทือนอยา่ งรุนแรง หรือลาเลียงจากท่ีไกลๆ เพราะปลาจะ เครียด และอ่อนแอ 71

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 3.1.2 ไม่มีส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายพกิ ารหรือขาด 3.1.3 ไม่มีบาดแผลตามลาตวั และไม่บอบช้า 3.1.4 ไม่มีโรคพยาธิเบียดเบียนและโรคติดตอ่ ทางพนั ธุกรรมท่ีร้ายแรง 3.1.5 ไมม่ ีนิสัยเกเรหรือไมเ่ ขา้ กลุ่ม เช่น รังแกหรือไล่กดั ปลาขนาดตา่ งกนั 3.1.6 ควรเป็ นพอ่ แม่ปลาที่เจริญเติบโตเร็วในคอก และไม่ควรใชป้ ลาพ่อแม่พนั ธุ์จากคอก เดียวกนั เพื่อป้องกนั การผสมของสายเลือดชิด ไม่ควรเป็ นปลาพ่อแม่พนั ธุ์ท่ีอว้ นเกินไปหรือผอม เกินไป 3.2 ลกั ษณะปลาพ่อแม่พนั ธ์ุทสี่ มบูรณ์เพศ 3.2.1 พ่อพนั ธุ์ สิ่งท่ีสาคญั ท่ีสุดไกแ้ ก่ คุณภาพน้าเช้ือซ่ึงมีผลต่อการประสบผลสาเร็จใน การเพาะขยายพนั ธุ์อยา่ งมาก เช่น ถา้ น้าเช้ือมีคุณภาพไม่ดี เมื่อปฏิสนธิกบั ไข่ท่ีแก่เตม็ ที่ก็จะมีการ ปฏิสนธิและอตั ราการฟักต่า เป็ นตน้ การประเมินคุณภาพน้าเช้ือดูไดจ้ ากกลอ้ งจุลทรรศน์และการ สังเกตจากสีของน้าเช้ือเอง สาหรับในทางปฏิบตั ิการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาเชิงการคา้ ไม่ไดป้ ระเมิน คุณภาพน้าเช้ือโดยการดูการเคล่ือนไหวและการดูตวั เป็ นตวั ตาย เนื่องจากฟาร์มส่วนใหญ่ไม่มี กลอ้ งจุลทรรศน์ ซ่ึงการประเมินความสมบูรณ์เพศปลาพอ่ พนั ธุ์โดยทว่ั ไปพิจารณาจากส่ิงเหล่าน้ี 3.2.1.1 ตุ่มสิว ปลาที่มีตุม่ สิวมาก และเม่ือลูบดูมีความสากมาก แสดงวา่ ปลาตวั น้นั มีคุณภาพน้าเช้ือดี 3.2.1.2 ติ่งเพศ ปลาที่มีต่ิงเพศ เช่น ปลานิล ปลาดุกรัสเซีย ปลาบู่ หากมีสีชมพู เร่ือๆ ท่ีปลายติ่ง แสดงวา่ น้าเช้ือมีคุณภาพดี 3.2.1.3 ช่องเพศ ปลาเพศผทู้ ุกชนิดเม่ือสมบูรณ์เพศเต็มท่ีพบวา่ ช่องเพศจะมีสีชมพู เร่ือๆ ปนแดง ฉะน้นั พอ่ ปลาที่มีช่องเพศสีชมพูเร่ือๆ ปนแดงจะมีน้าเช้ือที่มีคุณภาพดี การดูช่องเพศ เป็นประโยชน์อยา่ งมากทาใหม้ น่ั ใจไดแ้ น่นอนวา่ มีความสมบูรณ์เพศ 3.2.1.4 ช่องทวาร ปลาเพศผทู้ ุกชนิด ที่สมบูรณ์เพศเตม็ ที่น้นั ช่องทวารจะมีสีชมพู ปนแดง 3.2.1.5 สีน้าเช้ือ พบวา่ น้าเช้ือท่ีดีควรมีสีขาวข่นุ ส่วนน้าเช้ือท่ีสีจางใส สีใส สีชมพู หรือสีช้าเลือดช้าหนองน้ันเป็ นน้าเช้ือที่คุณภาพไม่ดี ไม่ควรที่จะใช้เป็ นพ่อพนั ธุ์ โดยทวั่ ไป ปลาเพศผูท้ ี่สมบูรณ์เพศเม่ือกดบริเวณช่องท้องเบาๆ ก็จะเห็นน้าเช้ือสีขาวขุ่นไหลออกมา เช่น ปลาตะเพยี นขาว ปลายสี่ กเทศ ปลาจีน ปลาไน และปลาสวาย เป็นตน้ แตส่ าหรับปลาดุก (ดุกอุย ดุกรัสเซียและดุกดา้ น) เม่ือกดบริเวณทอ้ งจะไม่มีน้าเช้ือไหลออกมา เนื่องจากปลาดุกมีผนงั ทอ้ งที่ หนาทาให้ไม่สามารถรีดน้าเช้ือออกมาได้ ในการผสมเทียมจึงตอ้ งมีการผ่าท้องปลาดุกเพ่ือเอา อณั ฑะออกมาผสมกบั ไข่ Vanderwaal (1985) กล่าววา่ สามารถรีดน้าเช้ือปลาดุกรัสเซียไดห้ ลงั จาก 72

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ฉีดต่อมใต้สมองให้พ่อพนั ธุ์ปลา และเมื่อนามาผสมกับไข่พบว่าอตั ราการปฏิสนธิจะต่าเมื่อ เปรียบเทียบกบั การผา่ เอาอณั ฑะมาตดั แลว้ ขย้ผี สมกบั ไข่ 3.2.2 แม่พนั ธุ์ ส่ิงท่ีสาคญั ที่สุดไดแ้ ก่ คุณภาพไข่ซ่ึงมีผลต่อการเพาะขยายพนั ธุ์เป็ นอยา่ ง ยง่ิ เช่น ถา้ ไข่คุณภาพไม่ดีแมจ้ ะมีการปฏิสนธิกบั น้าเช้ือที่มีคุณภาพดี ก็จะมีอตั ราการปฏิสนธิและ อตั ราการฟักต่าเช่นกนั การประเมินความสมบูรณ์เพศแม่พนั ธุ์สามารถประเมินไดจ้ ากสิ่งเหล่าน้ี 3.2.2.1 ทอ้ ง แมพ่ นั ธุ์ปลาทุกชนิดท่ีสมบูรณ์เพศเต็มท่ีจะมีทอ้ งอูมเป่ ง ผนงั ทอ้ งบาง และนิ่มแสดงวา่ มีไขแ่ ก่เหมาะท่ีจะใชเ้ ป็ นแม่พนั ธุ์ สาหรับปลามีเกล็ดที่ไข่แก่เตม็ ที่พบวา่ จะมีรอย ซอ้ นของเกลด็ แยกจากกนั ก่อนการคดั แม่พนั ธุ์ปลาควรงดอาหารอยา่ งนอ้ ย 1 วนั เพราะอาจเขา้ ใจ ผดิ คิดวา่ ทอ้ งอูมเป่ งท้งั ที่จริงอาจมีไข่ไมแ่ ก่ก็ได้ 3.2.2.2 ต่ิงเพศ เช่นเดียวกบั พ่อปลาโดยแม่ปลาท่ีมีติ่งเพศเม่ือสมบูรณ์เพศเตม็ ที่ตรง บริเวณปลายติ่งเพศจะมีสีชมพูเรื่อๆ 3.2.2.3 ช่องเพศ พบวา่ แม่ปลาที่ไม่มีต่ิงเพศ เช่น ปลาตะเพียนขาว ปลาไน และ ปลาจีน เป็ นตน้ เมื่อสมบูรณ์เพศเต็มท่ีจะมีช่องเพศขยายขนาดใหญ่ข้ึน และออกสีชมพูเรื่อๆ ปนแดง 3.2.2.4 ช่องทวาร ปลาเพศเมียทุกชนิดที่สมบูรณ์เพศเต็มท่ีจะมีช่องทวารสีชมพู ปนแดง ซ่ึงแม่ปลาที่มีช่องทวารสีชมพู และยงั มีติ่งเพศ หรือช่องเพศออกสีชมพูเรื่อๆ ก็จะย่ิง มน่ั ใจไดว้ า่ แมป่ ลาสมบูรณ์เตม็ ท่ี 3.2.2.5 การสุ่มไข่ โดยการใช้สายยางพลาสติกขนาดเล็กสอดเขา้ ไปในช่องเพศ เล็กน้อย แลว้ ดูดไข่ออกมาทาการประเมินดูว่าไข่แก่มากน้อยเพียงใด โดยดูขนาดและสีของไข่ ไข่ที่ดูดออกมาแลว้ กระจายตวั ไดด้ ีในน้า เป็นเมด็ ขนาดเท่าๆ กนั และมีสีมนั วาวเป็ นประกายแสดง ว่าไข่แก่ แต่ถ้าหากขนาดไม่สม่าเสมอ และไม่กระจายตวั หรือสีไม่สม่าเสมอ แสดงว่าไข่ไม่ สมบูรณ์ การใช้สายยางดูดไข่ออกมาน้ีไม่นิยมทาในปลาทว่ั ไป เพราะแม่ปลาอาจบอบช้าและ ช่องเพศอาจฉีกขาดได้ ซ่ึงโดยทว่ั ไปแลว้ นิยมทาในแม่ปลาขนาดใหญ่เท่าน้นั เช่น ปลาบึก และ ปลากระโห้ เป็นตน้ 3.3 อายุและขนาดปลาพ่อแม่พนั ธ์ุ ปลาก็เหมือนส่ิงมีชีวติ ทว่ั ไป จะมีการสืบพนั ธุ์ออกลูกหลานไดท้ ่ีอายุช่วงหน่ึง ซ่ึงแตกต่าง กนั ไปข้ึนอยกู่ บั สิ่งมีชีวิตชนิดน้นั ๆ เช่น คนสามารถมีลูกได้ ก็ต่อเม่ือยา่ งเขา้ วยั รุ่นข้ึนไป เพราะ ระบบต่างๆ พร้อมที่จะสืบพนั ธุ์ได้ ในปลาก็เช่นเดียวกนั ตอ้ งมีอายุหรือขนาดท่ีเหมาะสมในการ สืบพนั ธุ์ออกลูกหลาน ซ่ึงปลาแต่ละชนิดน้นั ก็ยอ่ มจะมีอายุและขนาดท่ีสมบูรณ์เพศแตกต่างกนั ฉะน้นั ขอ้ ควรพิจารณาในการเลือกอายุปลาพ่อแม่พนั ธุ์น้นั ไม่ควรใชพ้ ่อแม่พนั ธุ์ที่อายนุ อ้ ยหรือมาก 73

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา เกินไปมาเป็ นพ่อแม่พนั ธุ์ เพราะปลาท่ีอายุน้อยไปน้นั ไข่และน้าเช้ือยงั ไม่สมบูรณ์ ในขณะที่ปลา อายุมากเกินไปจะมีคุณภาพไข่และน้าเช้ือลดลง ซ่ึงมีผลอย่างมากต่อการปรับปรุงพนั ธุ์ปลา กล่าวคือ พ่อแม่พนั ธุ์ที่สมบูรณ์เพศเต็มที่จะไดล้ ูกท่ีแข็งแรง แต่ถา้ นาเอาปลาพ่อแม่พนั ธุ์ท่ีอายุไม่ เหมาะสม ซ่ึงมีความสมบูรณ์เพศต่ากจ็ ะทาใหล้ ูกท่ีไดไ้ ม่แขง็ แรงดว้ ย เช่น แม่ปลาตะเพียนขาวอายุ 4 ปี หนกั 800 กรัม ก็จะไดล้ ูกที่แขง็ แรงไมเ่ ทา่ กบั แม่ปลาตะเพียนขาวอายุ 1 ปี หนกั 800 กรัม เป็ นตน้ ขนาดปลาพอ่ แมพ่ นั ธุ์ไม่ควรมีขนาดเลก็ เกินไปหรือใหญ่เกินไป เพราะปลาขนาดเล็กถึงแม้ จะมีการว่ายน้าไดค้ ล่องแคล่วในช่วงการผสมพนั ธุ์ แต่คุณภาพไข่อาจยงั ไม่ดีพอ ส่วนปลาขนาด ใหญ่ หรืออว้ นเกินไปก็จะวา่ ยน้าไม่ปราดเปรียว และมีความพร้อมในการผสมพนั ธุ์ต่า โดยเฉพาะ การเพาะขยายพนั ธุ์ดว้ ยวธิ ีเลียนแบบธรรมชาติ ซ่ึงถา้ ปลาอว้ นเกินไปมกั จะไมม่ ีการผสมพนั ธุ์วางไข่ เน่ืองจากการปล่อยไข่และน้าเช้ือจะทาไดย้ ากลาบาก โดยทว่ั ไปปลาพ่อพนั ธุ์จะสมบูรณ์เพศเร็วกวา่ ปลาแม่พันธุ์ ซ่ึงอายุและขนาดของปลาพ่อแม่พันธุ์ข้ึนอยู่กับคุณภาพอาหารท่ีได้รับและ สภาพแวดลอ้ มที่อาศยั อยู่ 4. วธิ กี ารเพาะขยายพนั ธ์ุปลา ปลาท่ีมีไข่ประเภทเดียวกัน จะมีการจดั การเก่ียวกับการเพาะขยายพนั ธุ์ท่ีเหมือนหรือ ใกลเ้ คียงกนั วธิ ีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาตามประเภทของไข่สามารถแยกได้ 4 ประเภท ดงั น้ี 4.1 การเพาะขยายพนั ธ์ุปลาทม่ี ีไข่ประเภทไข่ลอย 4.1.1 วธิ ีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ปลาประเภทไข่ลอยส่วนใหญ่นิยมเพาะโดยวิธีธรรมชาติ ซ่ึงเป็ นการปล่อยให้พ่อแม่พนั ธุ์ผสมพนั ธุ์และวางไข่กนั เองตามธรรมชาติ หรืออาจฉีดฮอร์โมน กระตุน้ กไ็ ด้ เพื่อเร่งให้ปลาผสมพนั ธุ์เร็วข้ึน หลงั จากปลาวางไข่แลว้ อาจปล่อยให้ไข่ฟักเป็ นตวั ใน บ่อเพาะหรือจะยา้ ยไปฟักในบ่อฟักไข่ก็ได้ ปลาท่ีมีไข่ประเภทไข่ลอย ไดแ้ ก่ ปลาสลิด ปลาช่อน ปลาแรด ปลาหมอไทย ปลากดั และปลากะพงขาว เป็นตน้ 4.1.2 การฟักไข่ปลาประเภทไข่ลอย ตามปกตินิยมเพาะฟักไข่ปลาในบ่ออนุบาล โดยใช้ กระชงั ผา้ โอล่อนขึงไวใ้ นบ่อ ขนาดของกระชงั เล็กกว่าบ่ออนุบาลเล็กน้อย ใช้หูกระชงั ยึดไวก้ บั ขอบบ่อ หรืออาจจะใช้โครงเหล็กเพ่ือไวย้ ึดกระชังให้ตึง ในขณะที่ทาการเพาะต้องมีการเพิ่ม ออกซิเจนลงในน้า โดยใชแ้ อร์ป๊ัม เมื่อลูกปลาฟักออกเป็นตวั แลว้ จึงรวบรวมลูกปลาไปอนุบาลใน บอ่ ต่อไป หรืออาจจะอนุบาลในกระชงั ในบ่อเพาะระยะหน่ึงก่อนก็ได้ (ภาพท่ี 4.1) 74

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ภาพที่ 4.1 ลกั ษณะบอ่ ฟักไขป่ ลาประเภทไขล่ อย ทมี่ า : ธาฎา (2556) 4.1.3 ตวั อยา่ งการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาสลิด ปลาสลิดชอบอยใู่ นบริเวณน้านิ่ง มีพนั ธุ์ไมน้ ้า เพือ่ ใชเ้ ป็นท่ีพกั อาศยั กาบงั ตวั และก่อหวอดวางไข่ ปลาสลิดเพาะขยายพนั ธุ์ไดง้ ่าย สามารถผสมพนั ธุ์ วางไข่ไดเ้ องตามธรรมชาติ ออกลูกไดค้ ร้ังละมากๆ การเพาะขยายพนั ธุ์ปลาสลิดจะตอ้ งอาศยั การ จดั การที่ดี เก่ียวกบั การเตรียมบอ่ การคดั เลือกพอ่ แมพ่ นั ธุ์ โดยมีการจดั การดงั น้ี 4.1.3.1 การเตรียมบ่อเพาะขยายพนั ธุ์ บ่อจะมีขนาดประมาณ 1 ไร่ ลึกประมาณ 120 เซนติเมตร ส่วนใหญ่แลว้ บ่อเพาะขยายพนั ธุ์จะใชบ้ ่อเดียวกนั กบั ท่ีใชเ้ ล้ียง โดยมีการเตรียมบ่อ อยา่ งดี ต้งั แต่สูบน้ากาจดั ศตั รู ตากบอ่ ใหแ้ หง้ และลงปูนขาว หลงั จากน้นั สูบน้าเขา้ บ่อ ใส่ป๋ ุยคอก ในอตั รา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ปล่อยใหพ้ นั ธุ์ไมน้ ้าข้ึนรกบริเวณชานบ่อ หรือจะปลูกเพ่ิมเติมก็ได้ เพราะพนั ธุ์ไม้น้าจะใช้เป็ นที่ก่อหวอด พนั ธุ์ไม้น้าเหล่าน้ีจะช่วยยึดเหนี่ยวหวอดมิให้ลมพัด กระจดั กระจาย และเมื่อไข่ปลาฟักออกเป็ นตวั จะเป็ นท่ีให้ลูกปลาวยั อ่อนไดอ้ าศยั เล้ียงตวั อ่อน กาบงั ร่มเงา และหลบหลีกศตั รูไดเ้ ป็ นอย่างดีจนกว่าจะแข็งแรงหลบหลีกลงน้าลึกได้ สาหรับ พนั ธุ์ไมน้ ้าที่นิยมใช้ ไดแ้ ก่ ผกั บุง้ ผกั กระเฉด สาหร่ายหางกระรอก และแพงพวย เป็นตน้ 4.1.3.2 การคดั เลือกปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ ควรคดั เลือกตวั ท่ีมีขนาดใหญ่ อวยั วะครบถว้ น แข็งแรง สมบูรณ์ ไม่มีแผล ครีบและหางไม่แตก ไม่มีโรคพยาธิ มีอายุต้งั แต่ 7 เดือนข้ึนไป ขนาดลาตวั 10 เซนติเมตรข้ึนไป แตไ่ มค่ วรมีความยาวเกิน 20 เซนติเมตร ควรเลือกปลาท่ีมีขนาด น้าหนกั 10 ถึง 12 ตวั ต่อ 1 กิโลกรัม เป็ นขนาดท่ีดีท่ีสุด (สัญชยั , 2548) (ภาพที่ 4.2) โดยปล่อย ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ 1 คู่ต่อ 10 ตารางเมตร ในอตั ราส่วนแมพ่ นั ธุ์ 1 ตวั ต่อพอ่ พนั ธุ์ 1 ตวั 75

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ก. เพศเมีย ข. เพศผู้ ภาพท่ี 4.2 พอ่ แม่พนั ธุ์ปลาสลิด ทม่ี า : ธาฎา (2556) 4.1.3.3 การผสมพนั ธุ์วางไข่ หลงั จากปล่อยพ่อแม่พนั ธุ์ลงบ่อเพาะขยายพนั ธุ์แลว้ ปลาตวั ผจู้ ะเป็นตวั เลือกสถานท่ีก่อหวอด โดยก่อหวอดไวท้ ่ีพนั ธุ์ไมน้ ้าบริเวณที่ร่ม เมื่อปลาตวั ผกู้ ่อ หวอดเสร็จแล้วปลาจะเริ่มผสมพนั ธุ์ เวลาที่ปลาสลิดผสมพนั ธุ์น้ันเป็ นเวลากลางวนั ช่วงที่มี แสงแดดออ่ นๆ โดยปลาสลิดจะผสมพนั ธุ์บริเวณใตห้ วอด จากน้นั ปลาตวั ผูจ้ ะใชป้ ากอมไข่ไปพ่น เขา้ ใตห้ วอด ไข่จะลอยติดหวอด ในการวางไข่แตล่ ะคร้ังแม่ปลาหน่ึงตวั จะไดไ้ ขป่ ระมาณ 4,000 ถึง 10,000 ฟอง (สุทธิพงศ,์ 2552) สาหรับความดกของไข่ปลาสลิดน้นั แม่ปลาสลิดแต่ละตวั จะมีไข่ มากหรือน้อยเพียงใดข้ึนอยู่กับขนาด อายุ และความสมบูรณ์ของแม่ปลาเป็ นสาคญั หลังจาก ผสมพนั ธุ์วางไข่แล้ว ปลาตวั ผูจ้ ะไล่ตวั เมียออกจากบริเวณหวอด และทาหน้าท่ีดูแลรักษาไข่ จนกระทงั่ ไข่ฟักออกเป็นตวั และตวั ออ่ นจะเริ่มออกหาอาหารกินเองได้ 4.1.3.4 การฟักไข่ ไข่ปลาสลิดมีสีเหลือง ขนาดเส้นผ่าศูนยก์ ลาง 1 มิลลิเมตร เม็ดไข่มีหยดน้ามนั ทาให้ไข่ลอยน้า ไข่ปลาสลิดท่ีไดร้ ับการผสมกบั น้าเช้ือแลว้ จะเร่ิมฟักออก เป็ นตวั ภายในเวลา 24 ถึง 48 ชั่วโมง และถุงไข่แดงของลูกปลาจะยุบภายในเวลา 2 ถึง 3 วนั (อุธร, 2550) เมื่อถุงไข่แดงยบุ หมดลูกปลาจะเร่ิมกินอาหาร ซ่ึงลูกปลาวยั อ่อนน้ีควรให้อาหารพวก ตะไคร่น้า ไรแดง และราละเอียด เป็นตน้ 4.2 การเพาะขยายพนั ธ์ุปลาทมี่ ีไข่ประเภทไข่คร่ึงจมคร่ึงลอย 4.2.1 วิธีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ปลาประเภทไข่คร่ึงจมคร่ึงลอย นิยมเพาะโดยวธิ ีการฉีด ฮอร์โมนกระตุน้ การวางไข่ หลงั ฉีดฮอร์โมนแม่พนั ธุ์และพอ่ พนั ธุ์แลว้ จะนาพ่อพนั ธุ์และแม่พนั ธุ์ ปล่อยในบ่อเดียวกันเพ่ือให้ปลาผสมพนั ธุ์ตามธรรมชาติ โดยจดั สภาพบ่อให้เหมาะสม ปลา ประเภทน้ีจะชอบแหล่งน้าไหล จะตอ้ งจดั สภาพบ่อให้เหมือนแหล่งน้าไหล มีน้าไหลหมุนเวียน ตลอดเวลา ใหอ้ อกซิเจนท่ีเพียงพอ และแรงพอสมควร ปลาท่ีมีไขป่ ระเภทไข่คร่ึงจมคร่ึงลอยไดแ้ ก่ ปลาตะเพยี นขาว ปลายส่ี กเทศ ปลายสี่ กไทย ปลากาดา ปลาสร้อยนกเขา และปลาจีน เป็นตน้ 76

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 4.2.2 การฟักไข่ปลาประเภทไข่คร่ึงจมคร่ึงลอย ในการฟักไข่แบบน้ีที่นิยมใชท้ วั่ ไป มี 3 แบบ คือ 4.2.2.1 แบบกรวยฟักไข่ (funnel type incubator) กรวยฟักไข่ที่ใช้กนั ทว่ั ไปใน ประเทศไทยเป็นแบบท่ีมีระบบน้าเขา้ ทางกน้ กรวย แลว้ ไหลลน้ ออกทางปากกรวย แรงน้าจะทาให้ ไข่ลอยฟุ้งอยู่ตลอดเวลา โดยทว่ั ไปจะปรับให้น้าพดั ไข่ข้ึนไปสูง 2 ใน 3 ของความสูงของกรวย ดงั น้ันความแรงของน้าจะข้ึนอยู่กบั ความจุของกรวยน้นั ๆ กรวยฟักแบบด้งั เดิมเรียกว่าซอกจาร์ โดยต้งั ตามช่ือทะเลสาบในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซ่ึงเป็ นแหล่งที่เร่ิมใชก้ รวยฟักไข่แบบน้ีเป็ น คร้ังแรก ซอกจาร์น้ีทาด้วยแกว้ และต่อมาไดด้ ดั แปลงไปใช้ใยแกว้ ในปัจจุบนั นิยมใช้ผา้ โอล่อนแก้ว ทากรวยเพราะตน้ ทุนต่ากวา่ แตต่ อ้ งตรึงไวใ้ นน้า ส่วนระบบน้าก็เป็นเช่นเดียวกบั ซอกจาร์ทวั่ ไป 4.2.2.2 แบบถงั ฟักระบบน้าไหล ( running funnel type incubator) โดยให้มีระบบ น้าไหลเขา้ ถงั ดา้ นบนหรือดา้ นล่างก็ได้ ช่วยให้น้าหมุนเวียนอยู่ภายในถงั อยา่ งสม่าเสมอ บริเวณ กลางถงั มีรูระบายน้าทิ้ง บริเวณรูระบายน้าทิ้งจะมีตะแกรงที่บุดว้ ยผา้ โอล่อนแกว้ ลอ้ มรอบ ขนาด ของวงช้ันในข้ึนอยู่กับขนาดของถัง เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ไหลไปกบั น้า หลังจากลูกปลาฟัก ออกเป็ นตวั แลว้ ให้ใช้กระชงั ตาถี่รองที่ทางน้าออก พร้อมกบั ยกตะแกรงช้นั ในออก ลูกปลาก็จะ ไหลออกทางท่อระบายน้าออกลงสู่กระชงั เพ่อื นาไปอนุบาลต่อไป (ภาพท่ี 4.3) ภาพท่ี 4.3 ถงั ฟักไข่ระบบน้าไหล ทม่ี า : ธาฎา (2556) 4.2.2.3 แบบกระชงั ถ่วงกน้ (hapa incubator) กระชงั ท่ีใชใ้ นการฟักไข่ควรทาดว้ ย ผา้ โอล่อนแกว้ โดยทาการขึงกระชงั ลงในบ่อ ในขณะที่ทาการฟักไข่ตอ้ งมีการเพิ่มออกซิเจนในน้า โดยใช้แอร์ปั๊ม ซ่ึงลมจากแอร์ป๊ัมจะช่วยให้ไข่ฟุ้งกระจาย น้าหนกั ของหัวทรายหรือตะกว่ั ถ่วง 77

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา สายลมจะช่วยทาให้กระชังหย่อนและมีลกั ษณะเป็ นรูปกรวย เมื่อนาไข่ลงฟัก ไข่ปลาจะอยู่ใน ลกั ษณะหมุนเวยี นคลา้ ยการฟักไขแ่ บบกรวย 4.2.3 ตวั อยา่ งการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาตะเพียนขาว มีการจดั การดงั น้ี 4.2.3.1 การคดั เลือกพ่อแม่พนั ธุ์ คดั เลือกปลาเพศเมียท่ีมีไข่แก่ โดยสังเกตจาก ลกั ษณะทอ้ งอูมเป่ งและนิ่ม ผนงั ทอ้ งบาง ส่วนทอ้ งจะมีขนาดกวา้ งกว่าปลาเพศผู้ ช่องเพศและ ช่องทวารค่อนขา้ งมีขนาดใหญ่ ช่องเพศมีสีแดงเร่ือๆ หรือสีแดงเขม้ ส่วนปลาเพศผสู้ ่วนใหญ่จะมี ความพร้อม เนื่องจากปลาจะสร้างน้าเช้ือไดด้ ีตลอดปี แต่กค็ วรเลือกปลาที่มีลกั ษณะสมบูรณ์ ไม่ช้า ไมม่ ีบาดแผลตามตวั เม่ือใชม้ ือบีบบริเวณทอ้ งเบาๆ จะมีน้าเช้ือสีขาวข่นุ ไหลออกมา (ภาพที่ 4.4) ก. เพศผู้ ข. เพศเมีย ภาพที่ 4.4 พอ่ แมพ่ นั ธุ์ปลาตะเพียนขาว ทมี่ า : ธาฎา (2556) 4.2.3.2 การฉีดฮอร์โมน ปัจจุบนั ฮอร์โมนท่ีนิยมใชก้ นั มาก คือ ฮอร์โมนสังเคราะห์ มีช่ือทางการคา้ วา่ ซูพรีแฟ็คท์ แม่พนั ธุ์ฉีดในอตั รา 15 ถึง 20 ไมโครกรัมต่อน้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ร่วมกบั ยาเสริมฤทธ์ิโดมเพอริโดนในอตั รา 5 ถึง 10 มิลลิกรัมต่อน้าหนกั ปลา 1 กิโลกรัม ส่วนปลา พ่อพนั ธุ์จะฉีดหรือไม่ฉีดก็ได้ ถ้าฉีดจะฉีดในอัตรา 5 ไมโครกรัมต่อน้าหนักปลา 1 กิโลกรัม ร่วมกับโดมเพอริ โดนในอัตรา 5 มิลลิกรัมต่อน้ าหนักปลา 1 กิโลกรัม การฉีดฮอร์โมน ปลาตะเพียนขาวนิยมฉีดบริเวณโคนครีบหลงั (ภาพท่ี 4.5) ส่วนเวลาในการฉีดควรฉีดในเวลาเยน็ เพราะในช่วงเวลากลางคืนบรรยากาศเงียบสงบ จะทาใหป้ ลาผสมพนั ธุ์กนั ง่ายข้ึน 78

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ภาพที่ 4.5 การฉีดฮอร์โมนปลาตะเพียนขาว ทมี่ า : ธาฎา (2556) 4.2.3.3 การผสมพนั ธุ์ บ่อเพาะควรเป็ นบ่อซีเมนตม์ ีขนาดไม่ต่ากว่า 3 ตารางเมตร ลึกประมาณ 1 เมตร อตั ราการปล่อยพอ่ แม่พนั ธุ์ 1 ตวั ตอ่ 1 ตารางเมตร โดยปล่อยแม่ปลา 1 ตวั ต่อ พอ่ ปลา 2 ตวั ลงในบ่อเพาะรวมกนั ลกั ษณะของบ่อเพาะควรกางกระชงั ผา้ โอล่อนแกว้ ไวใ้ นบ่อ และกระชังตาห่างไวช้ ้ันในสุด ท้งั น้ีเพื่อความสะดวกในการแยกพ่อแม่พนั ธุ์ออกจากบ่อเพาะ หลงั จากผสมพนั ธุ์วางไขเ่ สร็จแลว้ ส่วนกระชงั ผา้ โอล่อนแกว้ เพอ่ื ความสะดวกในการยา้ ยลูกปลาลง อนุบาลต่อในบ่อดิน และควรจดั ระบบน้าให้หมุนเวียนตลอดหรือแบบสเปรยเ์ ป็ นแบบน้าพุก็ได้ (ภาพที่ 4.6) หลงั จากฉีดฮอร์โมนประมาณ 4 ถึง 6 ชวั่ โมง ปลาจะเริ่มผสมพนั ธุ์วางไข่ ตอนเชา้ จึง ยกกระชงั ตาห่างข้ึนจากบ่อ ปลาพ่อแม่พนั ธุ์ก็จะติดข้ึนมาดว้ ย ส่วนไข่ปลาจะยงั คงอยใู่ นกระชงั ผา้ โอล่อนแกว้ ปล่อยใหไ้ ข่ฟักในกระชงั ผา้ ต่อไปหรือจะรวบรวมไปฟักในกรวยฟักไข่ก็ได้ การเพาะ ปลาตะเพียนขาวดว้ ยวธิ ีน้ี มีขอ้ ดีในเร่ืองคุณภาพของไข่ท่ีไดม้ กั จะเป็ นไข่ท่ีสุกพอดี และผูเ้ พาะไม่ ตอ้ งเสียเวลารอเพือ่ ผสมเทียม ภาพท่ี 4.6 ลกั ษณะบ่อเพาะขยายพนั ธุ์ปลาตะเพียนขาว ทมี่ า : ธาฎา (2556) 79

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 4.3 การเพาะขยายพนั ธ์ุปลาทมี่ ไี ข่ประเภทไข่จมไม่ตดิ วตั ถุ 4.3.1 วธิ ีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ปลาประเภทไข่จมไม่ติดวตั ถุนิยมเพาะโดยวธิ ีธรรมชาติ โดยการปล่อยพอ่ แม่พนั ธุ์จานวนหน่ึงลงในบ่อเพาะขยายพนั ธุ์ปลา เล้ียงและให้อาหารเหมือนการ เล้ียงปลาทว่ั ๆไป ปลาจะผสมและวางไข่เองตามธรรมชาติ โดยปล่อยให้ไข่ฟักออกเป็ นตวั ในบ่อ เพาะขยายพนั ธุ์ หรือจะรวบรวมไข่ไปฟักโดยใชก้ รวยฟักไข่ก็ได้ ปลาท่ีมีไข่ประเภทไข่จมไม่ติด วตั ถุ ไดแ้ ก่ ปลานิล ปลาทบั ทิม ปลาตะพดั และปลาหมอเทศ เป็นตน้ 4.3.2 การฟักไข่ประเภทไข่จมไม่ติดวตั ถุ การฟักไข่ปลาประเภทน้ี หลงั จากที่พ่อแม่พนั ธุ์ ผสมพนั ธุ์และวางไข่แลว้ แม่พนั ธุ์จะนาไข่ท่ีผสมแลว้ อมไวใ้ นปากเพ่ือฟักไข่ โดยดูดน้าเขา้ ทาง ปากและปล่อยออกทางกระพุง้ แกม้ เพ่ือใหไ้ ขท่ ี่อยใู่ นปากไดเ้ คลื่อนไหวตลอดเวลา สาหรับปลานิล ปลาทบั ทิมใช้เวลาในการฟักไข่ประมาณ 7 วนั ส่วนปลาตะพดั จะใช้เวลาในการฟักไข่ประมาณ 1 เดือน หลงั จากไข่พฒั นาเป็ นตวั แม่ปลาก็จะปล่อยลูกปลาออกมาจากปาก เพื่อกินอาหารและ เจริญเติบโตต่อไป 4.3.3 ตวั อยา่ งการเพาะปลานิลในบอ่ ดิน มีการจดั การดงั น้ี 4.3.3.1 การคดั เลือกพ่อแม่พนั ธุ์ ปลาพ่อแม่พนั ธุ์ท่ีพร้อมจะผสมพนั ธุ์น้นั สังเกต จากอวยั วะเพศ คือ เพศเมียอวยั วะเพศจะมีสีชมพูแดงเร่ือๆ ทอ้ งค่อนขา้ งกลม ส่วนปลาเพศผู้ สังเกตไดจ้ ากสีของตวั ปลาจะเขม้ สดใส ครีบหลงั และครีบหางจะมีสีชมพูเขม้ ออกแดง (ภาพท่ี 4.7) ขนาดของปลาตวั ผแู้ ละตวั เมียท่ีคดั เลือกไวท้ าพอ่ แมพ่ นั ธุ์น้นั ควรมีขนาดใกลเ้ คียงกนั คือมีความยาว ต้งั แต่ 15 ถึง 25 เซนติเมตร มีน้าหนกั ต้งั แต่ 150 ถึง 200 กรัมต่อตวั มีอายรุ ะหวา่ ง 6 เดือนถึง 2 ปี ก่อนการเพาะควรนาพอ่ แม่พนั ธุ์ท่ีคดั เลือกแลว้ มาขุน ใหอ้ าหารที่เหมาะสม เพียงพอและดูแลอยา่ งดี โดยขุนแยกพ่อแม่พนั ธุ์ในบ่อซีเมนต์ หรือกระชงั ก็ได้ ประมาณ 20 ถึง 30 วนั เพ่ือกระตุน้ ให้ไข่ และน้าเช้ือสมบูรณ์ยงิ่ ข้ึน (ภาพที่ 4.8) 80

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ก. ปลานิลเพศเมีย ข. ปลานิลเพศผู้ ภาพท่ี 4.7 ลกั ษณะพอ่ แม่พนั ธุ์ปลานิล ทมี่ า : ธาฎา (2556) ก. บ่อขนุ พอ่ แม่พนั ธุ์ ข. กระชงั ขนุ พอ่ แม่พนั ธุ์ ภาพที่ 4.8 บอ่ และกระชงั ขนุ พอ่ แมพ่ นั ธุ์ ทม่ี า : ธาฎา (2556) 4.3.3.2 การผสมพนั ธุ์ นาพ่อแม่พนั ธุ์ท่ีผา่ นการคดั เลือกมาแลว้ ลงปล่อยบ่อเพาะใน อตั รา 1 ตวั ต่อ 4 ตารางเมตร หรือ 400 ตวั ต่อไร่ โดยใชอ้ ตั ราส่วนปลาพอ่ พนั ธุ์ 2 ตวั ต่อปลาแม่พนั ธุ์ 3 ตวั หรืออาจปล่อย 1 ตวั ต่อ 1 ตารางเมตรก็ได้ แต่ตอ้ งมีระบบน้าท่ีดี (อุดม,2552) สาหรับการ จดั การในระหวา่ งการผสมพนั ธุ์ควรใหอ้ าหารและใส่ป๋ ุยในบ่อเพาะขยายพนั ธุ์ อาหารท่ีเหมาะสม ควรเป็ นอาหารสาเร็จรูป เพราะมีธาตุอาหารเพียงพอ ให้ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของน้าหนกั ตวั และควรใส่ป๋ ุยคอกแห้งดว้ ยในอตั ราประมาณ 100 ถึง 200 กิโลกรัมต่อไร่ต่อเดือน (อุดม, 2552) หรือตามความเหมาะสมโดยสังเกตจากสีของน้าภายในบ่อเพ่ือเพ่ิมปริมาณอาหารธรรมชาติภายในบ่อ หลงั จากปล่อยพ่อแม่พนั ธุ์ลงเพาะขยายพนั ธุ์ 7 วนั ควรให้อาหารราผสมปลาป่ น ในอตั ราส่วน 81

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 1 ตอ่ 3 หรืออาหารกงุ้ เบอร์ 1 เสริมบา้ งเพอ่ื เป็นอาหารสาหรับลูกปลาท่ีรวบรวมหรือชอ้ นข้ึนจากบ่อ ไม่หมด 4.3.3.3 การรวบรวมลูกปลา หลงั จากปล่อยปลาพ่อแม่พนั ธุ์ลงในบ่อเพาะขยายพนั ธุ์ ประมาณ 7 วนั จะสงั เกตเห็นลูกปลานิลเป็นฝงู ตามขอบบ่อในเวลาเชา้ ตรู่ สามารถรวบรวมลูกปลา ไดเ้ ลย โดยใชส้ วงิ ตาถี่ชอ้ นลูกปลาข้ึนทุกวนั แลว้ นาลูกปลาที่ไดไ้ ปเล้ียงในบ่อหรือกระชงั สาหรับ อนุบาลต่อไป การเพาะขยายพนั ธุ์ปลาในบ่อดินใชเ้ วลาประมาณ 2 เดือน จึงรวบรวมพอ่ แม่พนั ธุ์ ข้ึนพร้อมลูกปลาที่ตกคา้ ง แลว้ ทาการเตรียมบ่อใหม่ โดยใชป้ ลาพ่อแม่พนั ธุ์ชุดใหม่แทน และนา ปลาพอ่ แม่พนั ธุ์ชุดเก่าไปแยกเพศเล้ียง เพอื่ ท่ีจะไดน้ ากลบั มาเพาะใหม่อีก 4.4 การเพาะขยายพนั ธ์ุปลาทมี่ ไี ข่ประเภทไข่จมติดวตั ถุ 4.4.1 วิธีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ปลาประเภทไข่จมติดวตั ถุ สามารถเพาะได้ 2 วิธี คือ การเพาะแบบฉีดฮอร์โมนกระตุน้ แลว้ ปล่อยให้พ่อแม่พนั ธุ์ผสมพนั ธุ์วางไข่กนั เองตามธรรมชาติ ปลาที่นิยมเพาะแบบน้ีไดแ้ ก่ ปลาไน ปลาทอง ปลาปอมปาดวั ร์ และปลาแกม้ ช้า เป็ นตน้ และ การเพาะขยายพนั ธุ์ปลาแบบผสมเทียม ซ่ึงหมายถึง การผสมพนั ธุ์ที่เกิดจากการรีดไข่และน้าเช้ือ ออกมาผสมพนั ธุ์กนั ภายในภาชนะที่จดั เตรียมไวน้ อกตวั ปลา พ่อแม่พนั ธุ์ปลาท่ีจะสามารถผสม พนั ธุ์ดว้ ยวธิ ีน้ีไดต้ อ้ งมีความสมบูรณ์เพศ มีความพร้อมท่ีจะตกไข่ และหลง่ั น้าเช้ือไดท้ นั ทีที่มีการ รีดบริเวณทอ้ งเบาๆ การเพาะขยายพนั ธุ์ดว้ ยวธิ ีน้ีไม่ไดป้ ล่อยใหป้ ลาพอ่ แม่พนั ธุ์ผสมพนั ธุ์กนั เองแต่ เกิดจากการกระทาของมนุษย์ ฉะน้นั จึงเรียกการเพาะขยายพนั ธุ์แบบน้ีวา่ การผสมเทียม ปลาที่นิยม เพาะแบบน้ีไดแ้ ก่ ปลาดุกรัสเซีย ปลาดุกบ๊ิกอุย ปลาสวาย และปลากดเหลือง เป็นตน้ พ่อแม่พนั ธุ์ ปลาที่จะนามาผสมเทียมอาจไดจ้ ากแหล่งน้าธรรมชาติซ่ึงมีไข่อยใู่ นข้นั สุกไหล (ripe running) หรือ อาจจาเป็นตอ้ งฉีดฮอร์โมนกระตุน้ ใหเ้ กิดการตกไขก่ ่อนก็ได้ วธิ ีการผสมเทียมน้ีพระชาวฝรั่งเศสชื่อ Dom Pinchon เป็ นคนแรกท่ีคิดคน้ วิธีน้ี โดยการผสมเทียมปลาเทราทท์ ่ีกาลงั อพยพมาวางไข่ (อุทยั รัตน์, 2538) วธิ ีการเพาะขยายพนั ธุ์ปลาแบบผสมทียม มี 3 วธิ ีดงั น้ี 4.4.1.1 การผสมเทียมดว้ ยวิธีเปี ยก (wet method) หมายถึง การรีดไข่และน้าเช้ือ ออกมาผสมพนั ธุ์ภายในภาชนะที่มีน้าอยู่แล้ว วิธีน้ีเป็ นวิธีด้งั เดิมซ่ึงเคยทากนั มาก่อนที่จะมีการ พฒั นาไปใชว้ ธิ ีการอื่น โดยไขแ่ ละน้าเช้ือจะผสมกนั เองในน้า ซ่ึงวธิ ีน้ีมีขอ้ เสียในเร่ืองของเวลา คือ ต้องรีดไข่และน้าเช้ือลงในน้าอย่างรวดเร็วเพราะไข่ปลาจะดูดน้า ส่วนน้าเช้ือจะเจือจางลง ช่องไมโครไพล์อาจปิ ดก่อนท่ีจะมีการปฏิสนธิ ทาให้อตั ราการปฏิสนธิต่า อยา่ งไรก็ตามการใช้ ยาสลบเพ่ือไม่ให้ปลาดิ้นช่วยทาใหก้ ารรีดไข่และน้าเช้ือทาไดเ้ ร็วข้ึน วิธีการน้ีไดผ้ ลพอใช้ในปลา ท่ีมีไขล่ อยและไขค่ ร่ึงจมคร่ึงลอย แตไ่ ม่เหมาะกบั ไข่แบบจมติดวตั ถุ เพราะเมื่อไข่สัมผสั กบั น้า ไข่ ประเภทน้ีจะเริ่มติดกนั เป็นกอ้ นทนั ที 82

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 4.4.1.2 การผสมเทียมดว้ ยวิธีแห้ง (dry method) หมายถึง การรีดไข่และน้าเช้ือ ออกมาผสมในภาชนะที่แห้งสนิท ใชข้ นไก่คน น้าเช้ือจะเคลือบผิวของไข่ ซ่ึงยงั ไม่สามารถเขา้ ผสมกบั ไข่ได้ จึงนาไข่ไปฟักในบ่อฟักไข่ น้าจะกระตุน้ ใหน้ ้าเช้ือเคล่ือนที่เขา้ ไปผสมกบั ไข่อยา่ ง รวดเร็วโดยท่ีช่องไมโครไพล์ไม่ทนั จะปิ ด วิธีการน้ีใช้กบั ไข่ปลาทุกประเภทโดยเฉพาะปลาที่มี ไข่จมติดวตั ถุ จะช่วยทาให้อตั ราการปฏิสนธิสูงข้ึน อยา่ งไรก็ตามการผสมโดยวิธีแหง้ มีขอ้ เสียคือ ไม่สามารถลา้ งเลือดหรือของเสียท่ีติดมากบั ไข่หรือน้าเช้ือ นอกจากน้นั การนาไข่มาผสมกบั น้าเช้ือ แลว้ นาไปโรยในบ่อเพาะฟักทนั ที น้าเช้ือจะเจือจางมากเกินไปทาใหอ้ ตั ราการปฏิสนธิลดลงได้ 4.4.1.3 การผสมเทียมดว้ ยวธิ ีแห้งดดั แปลง (modified dry method) หมายถึง การ รีดไข่และน้าเช้ือออกมาผสมในภาชนะที่แห้งสนิท ใช้ขนไก่คนให้น้าเช้ือเคลือบผิวของไข่ไว้ เช่นเดียวกบั วิธีแห้ง แต่ก่อนจะนาไข่ไปฟักให้เติมน้าลงในภาชนะพอท่วมไข่ ใช้ขนไก่คนเบาๆ ให้ทว่ั น้าจะกระตุน้ ให้น้าเช้ือเคลื่อนที่เขา้ ไปผสมกบั ไข่ไดอ้ ย่างรวดเร็ว โดยที่น้าเช้ือจะไม่ถูกเจือ จางมากเกินไป และถึงแมจ้ ะไม่ไดผ้ สมพนั ธุ์โดยทนั ที น้าเช้ือยงั มีโอกาสวา่ ยน้าเขา้ ไปผสมกบั ไข่ ได้ง่าย หลังจากน้ันให้ลา้ งสิ่งสกปรกที่ติดมากับไข่หรือน้าเช้ือก่อนที่จะนาไข่ไปฟัก แต่ถ้าเป็ น ไขจ่ มติดวตั ถุอาจลา้ งเพียงคร้ังเดียวแลว้ จึงนาไปฟัก วธิ ีการน้ีใชไ้ ดด้ ีกบั ไขป่ ลาทุกประเภท สามารถ แกไ้ ขขอ้ เสียของวธิ ีแหง้ และวิธีเปี ยก ท้งั ยงั สามารถดดั แปลงใหใ้ ชไ้ ดด้ ีกบั ปลาท่ีมีน้าเช้ือนอ้ ย เช่น ปลาดุกอุย โดยการบดขย้อี ณั ฑะใหล้ ะเอียดพร้อมกบั การเทน้าเกลือเขม้ ขน้ 0.6 ถึง 0.7 เปอร์เซ็นต์ (โชคชยั , 2548) น้าเช้ือจะไหลลงไปผสมกบั ไข่ ส่วนน้าเกลือจะช่วยทาให้น้าเช้ือมีอายนุ านข้ึนและ มีโอกาสผสมกบั ไข่ไดอ้ ยา่ งทวั่ ถึง อตั ราการปฏิสนธิจึงสูงข้ึนดว้ ย 4.4.2 การฟักไข่ปลาประเภทไขจ่ มติดวสั ถุ นิยมทาการเพาะฟักในบ่อซีเมนตห์ รือกระชงั ผา้ โอล่อนแก้วกางไว้อีกช้ันก็ได้ แต่ต้องหาวสั ดุให้ไข่ติดมาใส่ไว้ในบ่อก่อน เช่น รังเทียม (kakabans) หรือแผงฟักไข่ (ภาพที่ 4.9) ควรมีการเพิ่มออกซิเจนในบ่อฟัก เมื่อลูกปลาฟักเป็ นตวั จะลอดตามุง้ ไนล่อนของแผงฟักไข่ได้ หรือสลดั หลุดจากรังเทียม จากน้นั จึงนาแผงฟักไข่หรือรัง เทียมออก และยา้ ยลูกปลาไปยงั บอ่ อนุบาลตอ่ ไป 83

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ภาพที่ 4.9 บ่อฟักไขป่ ลาประเภทไขจ่ มติดวตั ถุ ทมี่ า : ธาฎา (2556) 4.4.3 ตวั อยา่ งการผสมเทียมปลาดุกรัสเซีย มีการจดั การดงั น้ี 4.4.3.1 ตรวจเช็คความสมบูรณ์ของพอ่ แม่พนั ธุ์ สาหรับพ่อพนั ธุ์จะสังเกตท่ีติ่งเพศ ปลาที่สมบูรณ์เพศ ติ่งเพศขยายใหญ่ อวบ และปลายต่ิงมีสีแดง ส่วนแม่พนั ธุ์ส่วนทอ้ งจะขยาย ใหญ่เห็นได้ชัดเจน บริเวณต่ิงเพศจะบวมเต่ง และปลายต่ิงมีสีแดงเช่นเดียวกัน (ภาพท่ี 4.10) ปลาแม่พนั ธุ์หากสมบูรณ์เพศเม่ือกดเบาๆ บริเวณติ่งจะมีไข่ไหลออกมา สามารถผสมเทียมไดเ้ ลย แต่เมื่อกดบริเวณติ่งเพศแลว้ ไข่ไม่ไหลออกมา กรณีน้ีควรจะฉีดฮอร์โมนก่อน นิยมฉีดในตอนเยน็ แลว้ พกั ปลาไวใ้ นบ่อ 12 ถึง 14 ชวั่ โมง เพราะเวลากลางคืนอากาศเยน็ เงียบสงบ ปลาไดพ้ กั และ ทาใหฮ้ อร์โมนกระตุน้ การพฒั นาของไข่ไดด้ ี ก. เพศเมีย ข. เพศผู้ ภาพท่ี 4.10 ลกั ษณะติ่งเพศปลาดุกรัสเซียท่ีสมบูรณ์เพศ ทมี่ า : ธาฎา (2556) 84

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 4.4.3.2 เตรียมอุปกรณ์ท่ีใช้ในการผสมเทียมให้พร้อม ได้แก่ ถว้ ยรีดไข่ ขนไก่ เครื่องมือผา่ ตดั ผา้ เช็ดมือ น้าสะอาด และผา้ ขาวบาง เป็นตน้ 4.4.3.3 หลงั จากฉีดฮอร์โมนผา่ นไป 12 ชว่ั โมง ให้ตรวจสอบความพร้อมของแม่ ปลา โดยกดบริเวณทอ้ งใกลต้ ่ิงเพศเบาๆ หากไขไ่ หลออกมากเ็ ริ่มเตรียมการผสมเทียมได้ 4.4.3.4 ก่อนการรีดไข่ ควรตรวจสอบปลาพ่อพนั ธุ์อีกคร้ัง โดยผา่ ทอ้ งเพื่อดูว่าถุง น้าเช้ือสมบูรณ์หรือไม่ หากไม่สมบูรณ์จะไดเ้ ปล่ียนตวั ใหม่ (ภาพท่ี 4.11) ถุงน้าเช้ือ ภาพที่ 4.11 การผา่ ทอ้ งปลาเพศผู้ ทม่ี า : ธาฎา (2556) 4.4.3.5 จบั แม่พนั ธุ์เช็ดน้าให้แห้ง เพื่อป้องกนั น้าลงไปในถว้ ยที่จะรีดไข่ หลงั จาก น้นั รีดไขป่ ลาลงในถว้ ย โดยรีดจากบริเวณที่อยใู่ กลต้ ิ่งเพศก่อน รีดจนไขห่ มดทอ้ ง (ภาพท่ี 4.12) ภาพที่ 4.12 การรีดไขป่ ลาเพศเมีย ทมี่ า : ธาฎา (2556) 85

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 4.4.3.6 ตดั ถุงน้าเช้ือจากปลาพอ่ พนั ธุ์ วางลงบนผา้ ขาวบาง ใชก้ รรไกรตดั ถุงน้าเช้ือ ใหข้ าดเป็ นชิ้นเล็กๆ แลว้ นามาบีบลงบนไข่ปลา พร้อมกบั ใชข้ นไก่คนเบาๆ แลว้ รดน้าตามลงไป เพ่ือช่วยใหน้ ้าเช้ือไดเ้ คลื่อนที่ไปผสมกบั ไข่ไดด้ ีข้ึน (ภาพที่ 4.13) ก. การตดั ถุงน้าเช้ือ ข. การผสมไขก่ บั น้าเช้ือ ค. การผสมน้าลงในถว้ ยท่ีผสมไข่กบั น้าเช้ือ ภาพท่ี 4.13 การผสมไข่กบั น้าเช้ือ ทม่ี า : ธาฎา (2556) 4.4.3.7 นาไข่ท่ีไดร้ ับการผสมแลว้ ไปลา้ งน้า 1 คร้ัง หลงั จากน้นั นาไข่ไปโรยบน แผงฟักไข่ ในบอ่ ฟักไข่ท่ีเตรียมไว้ (ภาพที่ 4.14) 86

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา ก. การลา้ งไข่ ข. การโรยไข่ลงบนแผงฟักไข่ ภาพที่ 4.14 การลา้ งและการโรยไขป่ ลา ทมี่ า : ธาฎา (2556) 5. ปัจจยั ทเ่ี กยี่ วข้องในการฟักไข่ปลา ในระยะแรกของการฟักไข่ ไข่ปลาที่เสียและไข่ปลาที่ดี จะมีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกนั มาก แต่หลงั จากการฟักไข่ผา่ นไป 4 ถึง 6 ชวั่ โมง ไขป่ ลาที่ไมไ่ ดร้ ับการผสมกบั เช้ือตวั ผู้ จะมีลกั ษณะสี ขาวขนุ่ ไมใ่ สเหมือนกบั ไข่ปลาที่ไดร้ ับการผสมซ่ึงจะมีการพองตวั และสีที่สม่าเสมอไปในลกั ษณะ เดียวกนั ในระยะน้ีตอ้ งมีการควบคุมคุณภาพของน้า เช่น ปริมาณออกซิเจน และอุณหภูมิให้ เหมาะสมต่อการเจริญของไข่ปลา ส่วนไข่ปลาท่ีไม่ไดร้ ับการผสมจากเช้ือตวั ผู้ จะเป็ นสาเหตุให้ เกิดเช้ือราแพร่ไปยงั ไข่ปลาท่ีดีได้ ฉะน้นั จึงควรป้องกนั การแพร่ของเช้ือรา โดยใช้มาลาไคทก์ รีน (malachite green) ในอตั ราความเขม้ ขน้ 3 พพี เี อม็ แช่นาน 30 ถึง 60 นาที ถา้ มีการแพร่กระจาย ของเช้ือรามากควรใชอ้ ตั ราความเขม้ ขน้ 0.1 ถึง 0.2 พพี เี อม็ เติมในบ่อพกั น้าท่ีใชใ้ นการฟักไข่ปลา (ภาณุ และคณะ, 2545) การฟักไข่ปลาแต่ละชนิด หลงั จากที่ไดร้ ับการผสมแลว้ จะตอ้ งนาไปฟักใน อุปกรณ์ท่ีจดั ไวต้ ามชนิดของไข่ปลา ในการฟักไข่ปลาควรคานึงถึงปัจจยั ตอ่ ไปน้ี 5.1 ปริมาณออกซิเจนทล่ี ะลายนา้ ในการฟักไข่ปลาจะตอ้ งให้ออกซิเจนแก่ไข่ที่ไดร้ ับการผสมแลว้ โดยการปล่อยให้น้าไหล ผา่ นไข่ที่กาลงั ฟักอยา่ งสม่าเสมอ และใชแ้ อร์ป๊ัมช่วยเพิม่ ออกซิเจน ไข่ท่ีกาลงั ฟักจะตอ้ งกระจายไม่ ติดกนั เป็ นกอ้ น ซ่ึงจะช่วยให้ไข่ทุกฟองมีโอกาสสัมผสั ออกซิเจนในน้ามากข้ึน ความตอ้ งการ ออกซิเจนของไข่ท่ีฟักจะเพิ่มสูงข้ึนเรื่อยๆ ตามระยะการพฒั นาของไข่ ถา้ ในขณะท่ีฟักไข่ปริมาณ ออกซิเจนท่ีละลายน้ามีไม่เพียงพอไข่อาจไม่ฟักเป็ นตวั หรืออาจฟักเป็ นตวั ไดแ้ ต่อาจมีเปอร์เซ็นต์ ของความพิการสูง โดยทวั่ ไปควรรักษาปริมาณออกซิเจนท่ีละลายน้าภายในอุปกรณ์ฟักไข่ให้ สูงกวา่ 4 มิลลิกรัมต่อลิตร (โชคชยั , 2548) 87

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 5.2 คุณภาพนา้ และความเร็วของนา้ น้าที่ใชใ้ นการฟักไข่ตอ้ งเป็ นน้าที่ใสสะอาดมีคุณภาพดี ปราศจากมลพิษ มีความเป็ นกลาง ผ่านการกรองตะกอนส่ิงแขวนลอย ปราศจากศตั รูท่ีกดั กิน หรือทาลายไข่ เช่น ลูกกุง้ ลูกปลา ตวั อ่อนแมลงปอ และแมลงป่ องน้า เป็ นต้น ไข่ปลาท่ีได้รับการผสมแล้วจะหายใจและปล่อย ของเสียละลายมากบั น้า เช่น คาร์บอนไดออกไซคแ์ ละแอมโมเนีย เป็ นตน้ ซ่ึงอาจทาให้น้าเสียได้ ถา้ มีมากจนเกินไป จึงควรวางระบบน้าใหม้ ีน้าไหลผา่ นไข่อยา่ งสม่าเสมอและมีการเปลี่ยนถ่ายน้า ภายในอุปกรณ์ตลอดเวลา โดยเฉพาะไข่ประเภทคร่ึงจมคร่ึงลอย ระวงั อย่าให้มีตะกอนมาเกาะ รอบๆ ไข่และควบคุมความเร็วของน้าใหเ้ หมาะสมอยา่ ใหก้ ระแสน้าแรงจนเกินไป จนทาให้ไข่แตก เสียหาย หรือชา้ เกินไปจนไข่จมกองทบั ถมกนั ที่พ้ืนกน้ บ่อ ความเร็วของน้าท่ีเหมาะสมจะทาให้ไข่ กระจายตวั ไดด้ ี ท้งั น้ีเพ่ือใหเ้ ปลือกไข่มีพ้ืนที่ผิวในการแลกเปลี่ยนก๊าซและของเสียมากข้ึนนน่ั เอง 5.3 อุณหภูมขิ องนา้ อุณหภูมิของน้าที่ใชใ้ นการฟักไข่ ตามปกติในเขตร้อนไม่มีปัญหาดา้ นอุณหภูมิ แต่ถา้ เป็ น เขตหนาวจาเป็ นตอ้ งควบคุมอุณหภูมิของน้าที่ใชฟ้ ักไข่ปลา โดยใชฮ้ ีตเตอร์ (heater) เป็ นอุปกรณ์ ช่วยเพิ่มความร้อนให้กับน้า โดยปกติอุณหภูมิของน้าท่ีเหมาะสมในการฟักไข่ปลาอยู่ในช่วง 25 ถึง 27 องศาเซลเซียส 5.4 โรคและศัตรู สาหรับบ่อ อุปกรณ์ และน้าท่ีใช้ฟักไข่ปลา ควรผ่านการฆ่าเช้ือหรือผ่านการกรองเพ่ือ ป้องกนั สัตวน์ ้าตามธรรมชาติติดมาดว้ ย เพราะอาจเป็ นสาเหตุทาให้เกิดโรคและศตั รูมาทาลายไข่ท่ี ผสมแลว้ ในระหวา่ งการฟักไข่ควรมีการเปล่ียนถ่ายน้าอยา่ งสม่าเสมอ เพื่อจะไดถ้ ่ายของเสียที่เกิด จากไข่ท่ีไมไ่ ดร้ ับการผสมออกไป เพราะอาจทาใหแ้ บคทีเรียและเช้ือราเจริญเติบโตลุกลามไปยงั ไข่ ท่ีไดร้ ับการผสมแลว้ 6. การอนุบาลลกู ปลา หลังจากลูกปลาฟักออกจากไข่แล้วจะมีถุงไข่แดงติดมา เรี ยกลูกปลาระยะน้ีว่า ลูกปลาวยั อ่อน (ภาพที่ 4.15) ส่วนใหญ่ยงั ไม่กินอาหาร ลักษณะและรูปร่างยงั ไม่เหมือนกับ พ่อแม่พนั ธุ์ ลูกปลาจะเจริญเติบโตและมีการเจริญพฒั นาต่อไป โดยอาศยั อาหารจากถุงไข่แดง การเจริญเติบโตของอวยั วะต่างๆ จะสมบูรณ์ย่ิงข้ึน ในขณะที่ถุงไข่แดงจะค่อยๆ ยุบลง ใช้เวลา ประมาณ 2 ถึง 3 วนั หลงั จากถุงไข่แดงยบุ หมดลูกปลาจะเร่ิมกินอาหารและจาเป็ นตอ้ งไดร้ ับอาหาร จากภายนอกจึงสามารถเจริญเติบโตและอยูร่ อดต่อไปได้ หลงั จากที่ลูกปลากินอาหารกระเพาะลม 88

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา เจริญเต็มที่และสามารถวา่ ยน้าได้ เหมือนปลาตวั เต็มวยั จะเรียกลูกปลาต้งั แต่ระยะน้ีว่า ลูกปลา (ภาพที่ 4.16) ก. ลูกปลาดุกรัสเซียวยั อ่อน ข. ลูกปลานิลวยั ออ่ น ภาพที่ 4.15 ลูกปลาวยั ออ่ น ทม่ี า : ธาฎา (2556) ก. ลูกปลาดุกรัสเซีย ข. ลูกปลานิล ภาพที่ 4.16 ลูกปลา ทมี่ า : ธาฎา (2556) การอนุบาลลูกปลา หมายถึง การเล้ียงดูลูกปลาวยั ออ่ นใหส้ ามารถอยรู่ อดและเจริญเติบโต จนสามารถเล้ียงตวั เองต่อไปได้ การอนุบาลลูกปลาควรดาเนินการหลงั จากลูกปลาฟักออกเป็ นตวั โดยการเล้ียงดูและจดั การให้มีสภาพที่เหมาะสม เพื่อลดปัจจยั ท่ีทาให้เกิดการตาย เช่น การขาด แคลนอาหาร ที่อยอู่ าศยั และสภาพส่ิงแวดลอ้ มท่ีไม่เหมาะสม ปัจจุบนั มีการศึกษาวิธีการอนุบาล ลูกปลาหลายชนิดท้ังปลาน้าจืดและปลาทะเล ส่วนใหญ่เก่ียวข้องกับการเตรียมบ่ออนุบาล 89

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา อตั ราการปล่อย รูปแบบและขนาดของอาหารท่ีเหมาะสม การจดั การคุณภาพน้าตลอดจนการ ป้องกนั ศตั รูและโรคพยาธิ ซ่ึงจาเป็ นจะตอ้ งดูแลและเอาใจใส่อย่างใกลช้ ิด เพ่ือให้ลูกปลาวยั อ่อน เจริญเติบโตและมีอัตราการรอดตายสูง ต้ังแต่ลูกปลาฟักออกเป็ นตวั จนถึงขนาดปลานิ้วมือ (fingerling) ซ่ึงเป็ นขนาดที่เหมาะสมและแขง็ แรงเพียงพอที่จะจบั และลาเลียงขนส่งไปยงั บ่อเล้ียง เพอ่ื เล้ียงใหไ้ ดข้ นาดตลาดต่อไป เทคโนโลยกี ารอนุบาลลูกปลาค่อนขา้ งจะละเอียดอ่อนกวา่ การเล้ียงปลาตวั โตเต็มวยั เพราะ ลูกปลาอ่อนแอและบอบบางเกินไปที่จะป้องกนั ตวั เองจากผูล้ ่า ความสามารถในการกินอาหารและ การปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั ส่ิงแวดลอ้ มต่า ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการอยูร่ อด เช่น ชนิด ขนาด รูปแบบอาหาร และคุณภาพน้า เป็นตน้ การศึกษาเพอื่ หาเทคนิคและวธิ ีการท่ีเหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่สาคญั ซ่ึงตอ้ ง จดั การดูแลดว้ ยความระมดั ระวงั อยา่ งใกลช้ ิด โดยพยายามควบคุมให้เหมือนกบั สภาพธรรมชาติที่ ปลาตอ้ งการใหม้ ากที่สุด ดงั น้นั การอนุบาลลูกปลาใหม้ ีคุณภาพควรศึกษารายละเอียดดงั ต่อไปน้ี 6.1 อตั ราการปล่อย อตั ราการปล่อยท่ีเหมาะสมสาหรับการอนุบาลลูกปลาแต่ละชนิด ยงั ไม่สามารถกาหนดเป็ น เกณฑ์เดียวกนั ได้ อตั ราการปล่อยจะมากหรือนอ้ ยน้นั ข้ึนอยู่กบั ชนิดของปลา ความอุดมสมบูรณ์ ของอาหารธรรมชาติ คุณภาพน้า และวธิ ีการจดั การ เป็ นตน้ ซ่ึงมกั แตกต่างกนั ระหวา่ งบ่อซีเมนต์ บ่อดิน และกระชงั อตั ราการปล่อยในแต่ละคร้ัง อาจพิจารณาจากความพร้อมในดา้ นต่างๆ ของการจดั การ สภาพบ่อ และฤดูกาล ซ่ึงส่วนใหญ่จะคานึงถึงขนาดของลูกปลาที่ตอ้ งการ อตั ราการรอด และ เวลาในการอนุบาลที่ส้ันที่สุด เช่น การอนุบาลลูกปลาดุกรัสเซียท่ีมีขนาดเล็กอายปุ ระมาณ 3 วนั ให้มีขนาด 3 เซนติเมตร ภายในเวลา 14 วนั ถ้าเป็ นบ่อดินควรปล่อยในอตั รา 300 ถึง 500 ตวั ต่อตารางเมตร ถา้ เป็ นบ่อซีเมนต์ที่มีการให้ไรแดงและอาหารเสริม มีการเปลี่ยนถ่ายน้าทุกวนั อาจปล่อยไดส้ ูงสุดถึง 3,000 ถึง 5,000 ตวั ต่อตารางเมตร และอตั ราการปล่อยโดยทว่ั ไปของ ลูกปลาตะเพียนขาว และลูกปลายี่สกเทศควรปล่อยในอตั รา 500,000 ถึง 1,000,000 ตัวต่อไร่ (โชคชยั , 2548) อยา่ งไรก็ตามควรพจิ ารณาปัจจยั อื่นๆ ดว้ ยตามที่กล่าวมาขา้ งตน้ 6.2 อาหารและการให้อาหาร อาหารท่ีเหมาะสมสาหรับลูกปลา ไดแ้ ก่อาหารธรรมชาติ แพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ อาหารสด และอาหารสาเร็จรูป ควรเลือกชนิดที่ลูกปลาตอ้ งการและมีคุณค่าทางโภชนาการ อาหารที่มีชีวติ เช่น โรติเฟอร์ ไรแดง โคพีพอด อาจไดจ้ ากการเพาะเล้ียงในห้องปฏิบตั ิการ หรือ การใส่ป๋ ุยลงในบ่อเพ่ือเพ่ิมอินทรียว์ ตั ถุ การย่อยสลายของป๋ ุยและธาตุอาหารจะทาให้เพ่ิมปริมาณ 90

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา คลอเรลลา แบคทีเรีย และอินทรียว์ ตั ถุ จะเป็นอาหารใหแ้ ก่โรติเฟอร์และไรแดงตอ่ ไป สาหรับการ อนุบาลในบ่อซีเมนต์ อาหารธรรมชาติมกั เกิดข้ึนน้อย จาเป็ นตอ้ งรวบรวมอาหารจากภายนอก สมทบให้แก่ลูกปลา อาหารสมทบท่ีนิยมใชไ้ ดแ้ ก่ ไข่แดงตม้ สุกละลายน้า ไข่ตุ๋นบดละเอียด นมผง เตา้ หู้อ่อนบดละเอียด ราบดละเอียด ปลาป่ น กากถวั่ เหลือง และแป้งสาลี เป็ นตน้ หรืออาจนา อาหารมาผสมกนั ใหม้ ีคุณค่าครบถว้ นยงิ่ ข้ึน เช่น ราละเอียดผสมปลาป่ นและวติ ามิน หรือไข่ผสม เน้ือปลา รา นมผง วิตามิน และเกลือแร่ เป็ นตน้ อาหารเหล่าน้ีจะตอ้ งบดละเอียดและขย้ีผา่ น ผา้ กรองท่ีมีขนาดพอดีกบั ปากของลูกปลา การใหอ้ าหารลูกปลาหลงั จากลูกปลาเร่ิมกินอาหารไดแ้ ลว้ อวยั วะต่างๆ จะยงั ไม่สมบูรณ์ ลูกปลาส่วนใหญ่ ไม่สามารถจบั อาหารกินเองได้ การกินอาหารจะอยู่ในลกั ษณะสุ่ม (random) โดยลูกปลาจะอา้ ปากตลอดเวลา จนกว่าจะมีอาหารพลดั ตกเขา้ ไปในปาก ขนาดของอาหารที่เล็ก พอดีกบั ปากลูกปลา รูปแบบและความหนาแน่นของอาหารที่กระจายอยา่ งเพียงพอ ยอ่ มเพิ่มโอกาส ท่ีจะทาใหล้ ูกปลาสามารถกินอาหารไดอ้ ยา่ งเพียงพอ การใหอ้ าหารถา้ เป็ นอาหารสมทบโดยเฉพาะ อาหารสดควรใหท้ ีละนอ้ ยแต่บ่อยคร้ัง โดยแบ่งการใหอ้ าหารออกเป็ นหลายม้ือในหน่ึงวนั ดีกวา่ ให้ มากเพียงคร้ังเดียว อย่างไรก็ตามการใหอ้ าหารสาหรับลูกปลาในระยะเร่ิมตน้ จะยงั ไม่สัมพนั ธ์กบั น้าหนกั ตวั เพ่ือให้ลูกปลามีโอกาสจบั กินอาหารได้มากท่ีสุด การให้อาหารจึงมกั คานึงถึงความ หนาแน่นของอาหารต่อปริมาณน้าภายในบ่ออนุบาลมากกว่า อาหารท่ีให้จึงมกั มีมากกว่าความ ตอ้ งการ การอนุบาลที่ดีจึงควรหมน่ั ตรวจสอบอาหารเหลือ โดยเฉพาะอาหารสด ควรตรวจดูความ หนาแน่นอาหารก่อนและหลงั การใหอ้ าหาร สังเกตการกินอาหาร และตรวจสอบคุณภาพน้าอยา่ ง สม่าเสมอ การเติมน้า การดูดตะกอนของเสีย และการเปล่ียนถ่ายน้าเป็ นประจาทุกวนั นบั วา่ เป็ น วธิ ีการที่ดีท่ีจะช่วยใหล้ ูกปลาเจริญเติบโตและมีอตั ราการรอดตายสูง 6.3 การจัดการคุณภาพนา้ บ่ออนุบาลควรมีระบบการถ่ายน้าเขา้ และออก โดยเฉพาะบ่อซีเมนตซ์ ่ึงปล่อยในอตั ราความ หนาแน่นสูง การอนุบาลส่วนใหญ่มักเตรียมบ่ออนุบาลโดยเริ่มต้นท่ีระดับน้าลึก 20 ถึง 30 เซนติเมตร หลงั จากการปล่อยลูกปลาแลว้ ค่อยๆ เพิ่มระดบั น้าวนั ละ 5 ถึง 10 เซนติเมตร หรือ ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของน้าภายในบ่อ การเติมน้าเขา้ ไปจะช่วยเพิ่มพ้ืนที่ว่างเพื่อรองรับการ เจริญเติบโตของลูกปลา ซ่ึงมีขนาด น้าหนกั และความยาวเพิม่ ข้ึนทุกวนั และหลงั จากระดบั น้าสูง จนเต็มบ่อแลว้ ควรหมนั่ เปล่ียนถ่ายน้าทุกวนั ๆ ละ 30 ถึง 50 เซนติเมตร หรือประมาณ 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของน้าภายในบ่อ การเปลี่ยนถ่ายน้าพร้อมกบั การดูดตะกอนของเสียภายในบ่อทุกวนั นอกจากจะช่วยเร่งการกินอาหารและการเจริญเติบโตแลว้ ยงั ช่วยป้องกนั การขาดแคลนออกซิเจน ท่ีละลายในน้าและลดการเน่าเสียของน้าภายในบ่อดว้ ย คุณภาพน้าสาหรับการอนุบาลลูกปลาใน 91

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา บ่อซีเมนต์ควรคานึงเกี่ยวกับปริมาณออกซิเจนท่ีละลายน้า ค่าความเป็ นกรดเป็ นด่าง ปริมาณ ของเสียจาพวกสารประกอบไนโตรเจน และอุณหภูมิที่เหมาะสมสาหรับการอนุบาลลูกปลาก็นบั วา่ มีส่วนสาคญั ไมน่ อ้ ย ส่วนใหญ่ปลาในเขตร้อนอุณหภูมิที่เหมาะสมสาหรับการอนุบาลลูกปลาวยั อ่อน และลูกปลานิ้ว ควรอยรู่ ะหวา่ ง 25 ถึง 32 องศาเซลเซียส 6.4 โรคและปรสิต โรคปลา หมายถึง ภาวะผิดธรรมชาติของปลา ซ่ึงตรงกนั ขา้ มกบั ภาวะท่ีมีสุขภาพดี ส่ิงที่ ทาใหเ้ กิดโรคไดแ้ ก่ แบคทีเรีย เช้ือรา ไวรัส ปรสิตจาพวกสัตวเ์ ซลล์เดียว และโปรโตซวั เป็ นตน้ โรคเหล่าน้ีจะทาลายอวยั วะภายในและอวยั วะภายนอกทาให้ปลามีอาการผดิ ปกติ พิการ หรือตาย ไดใ้ นที่สุด นอกจากน้ีโรคปลายงั อาจเกิดจากสิ่งแวดลอ้ ม และการขาดสารอาหารไดอ้ ีกดว้ ย การ เกิดโรคปลายอ่ มทาให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะลูกปลา เมื่อเกิดโรคข้ึนมาแลว้ ส่วนใหญ่การ รักษาไดผ้ ลคอ่ นขา้ งนอ้ ย ดงั น้นั เพอ่ื ลดความสูญเสียอนั เนื่องมาจากโรคและปรสิต จึงควรเนน้ ไปที่ การป้องกนั เช่น การกาจดั ตน้ เหตุหรือปัจจยั เสี่ยง ท่ีอาจเป็ นเหตุทาใหเ้ กิดโรค ดีกวา่ ปล่อยใหเ้ กิด โรคแลว้ จึงทาการรักษา 6.4.1 สาเหตุของการเกิดโรค การเกิดโรคในปลาน้นั โดยทวั่ ไปจะไม่เกิดจากสาเหตุใด สาเหตุหน่ึง แตจ่ ะเก่ียวขอ้ งกบั หลายปัจจยั ร่วมกนั ท้งั สภาพปลา สภาพแวดลอ้ ม ชนิดและปริมาณ ของเช้ือโรค ซ่ึงปณรัตน์ (2552) ไดอ้ ธิบายสาเหตุของการเกิดโรควา่ เกิดจากสาเหตุดงั น้ี 6.4.1.1 ตวั ปลาหรือสัตวน์ ้า (host) มีสุขภาพอ่อนแอ อนั เน่ืองมาจากอตั ราการ ปล่อยแบบหนาแน่น ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมหรือสายพนั ธุ์ท่ีอ่อนแอ ทาให้มีภูมิคุม้ กนั โรคต่าหรือ การไดร้ ับบาดเจบ็ เป็นตน้ 6.4.1.2 สภาพแวดล้อม (environment) ที่ไม่เหมาะสมต่อการดารงชีวิต ได้แก่ คุณภาพน้าต่างๆ เช่น อุณหภูมิ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้า ค่าความเป็ นกรดเป็ นด่าง และค่า ความกระดา้ งไมเ่ หมาะสม หรือการที่น้ามีสารหรือกา๊ ซพษิ เช่น แอมโมเนีย ก๊าซไขเ่ น่า โลหะหนกั สารพิษหรือของเสียต่างๆ มีในปริมาณที่มากเกินไป ตลอดจนวิธีการจดั การฟาร์ม เช่น วิธีการ ขนส่ง วธิ ีการเล้ียง และวธิ ีการใชย้ าในการรักษาโรค เป็นตน้ สิ่งต่างๆ เหล่าน้ีลว้ นมีผลทาให้ปลา เกิดความเครียดและอ่อนแอ จึงเกิดการติดโรคไดง้ ่าย 6.4.1.3 เช้ือโรค (pathogen) ไดแ้ ก่ ไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต และเช้ือรา การติดเช้ือ อาจเป็นการติดเช้ือเพียงชนิดเดียวหรือหลายชนิดก็ได้ ท้งั น้ีความสามารถในการก่อโรคของเช้ือโรค ข้ึนกบั ชนิด ปริมาณของเช้ือโรค รวมถึงปัจจยั ร่วมอื่นๆ เช่น สุขภาพของปลา และสภาพแวดลอ้ ม ในน้า 92

บทที่ 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา สิ่งท่ีสาคญั ที่สุดในการป้องกนั การสูญเสียเนื่องจากการเกิดโรคภายใตส้ ภาวะที่ซบั ซ้อน คือ การส่งเสริมใหป้ ลามีสุขภาพดี ดว้ ยการเลือกสายพนั ธุ์ท่ีดี การจดั การที่ดี ท้งั ทางดา้ นการให้อาหาร ที่มีคุณภาพและถูกสุขลักษณะ การควบคุมคุณภาพน้าให้เหมาะสมอยู่เสมอ หรือเสริมสร้าง ภูมิคุม้ กนั ใหแ้ ก่ปลา เช่น การให้วคั ซีนหรือการเสริมวติ ามินซี เป็ นตน้ แต่เน่ืองจากการเพาะเล้ียง ปลาในปัจจุบนั เป็ นการเล้ียงแบบพฒั นาจึงเป็ นการยากท่ีจะหลีกเล่ียงการเกิดโรค ดงั น้นั จึงตอ้ งมี การตรวจสอบอย่างสม่าเสมอ และหากพบลกั ษณะอาการผิดปกติท่ีน่าสงสัยว่าจะเกิดโรค เช่น การเกิดแผลบริเวณลาตวั การวา่ ยน้าผิดปกติ หรือมีการตายเกิดข้ึน ควรตอ้ งรีบทาการตรวจสอบ วนิ ิจฉยั และรีบหาวธิ ีป้องกนั รักษา ซ่ึงโดยทวั่ ไปแลว้ ผเู้ ล้ียงมกั จะละเลยท่ีจะเขา้ ไปจดั การหลงั พบ อาการผดิ ปกติเพยี งเลก็ นอ้ ย เน่ืองจากลกั ษณะดงั กล่าวมีผลต่อความเชื่อมน่ั และชื่อเสียงของฟาร์ม อย่างไรก็ตาม การปกปิ ดปัญหาที่เกิดข้ึนอาจไม่เป็ นผลดีต่อฟาร์มเอง ซ่ึงตอ้ งเขา้ ใจวา่ โรคสัตวน์ ้า น้นั สามารถเกิดไดท้ ุกท่ีทุกเวลา ดงั น้นั ผเู้ ล้ียงจึงควรจดั การกบั ปัญหาที่แทจ้ ริงเพ่ือจะไดท้ าการแกไ้ ข ใหถ้ ูกจุด และป้องกนั โรคที่อาจจะเกิดข้ึนในอนาคต 6.4.2 โรคท่ีเกิดจากเช้ือแบคทีเรีย เช้ือแบคทีเรียที่ทาใหเ้ กิดโรคมีดงั น้ี 6.4.2.1 แอโรโมแนส ไฮโดรฟิ ลลา (Aeromonas hydrophila) เป็ นแบคทีเรียที่มี ความสามารถและเป็ นตวั การสาคญั ท่ีก่อให้เกิดโรคในปลาแทบทุกชนิด โดยเฉพาะในปลาน้าจืด ปลาท่ีติดเช้ือจะมีอาการตกเลือด มีแผลตามลาตวั และครีบ ครีบกร่อน ตาข่นุ ตาโปน หนวดหงิก กกหูบวม ทอ้ งบวม มีน้าในช่องทอ้ ง เกล็ดต้งั ลอยหวั กินอาหารนอ้ ยลงหรือไมก่ ินอาหาร 6.4.2.2 วบิ ริโอซีส (vibriosis ) เช่น วบิ ริโอ แองกิลลารัม (Vibrio angullarum) เป็ นตน้ วบิ ริโอซีส เป็ นโรคท่ีมกั พบในปลาทะเลและปลาน้ากร่อยที่เล้ียงอยตู่ ามชายฝ่ัง ปลาที่ติดเช้ือจะมี อาการตกเลือดของอวยั วะภายใน มีแผลตามลาตวั ทอ้ งบวม ตาบวมน้า โลหิตจาง ร่างกายอ่อนแอ ไม่กินอาหาร 6.4.2.3 ซูโดโมแนส ฟลูโอเรสเซนส์ (Pseudomonas fluorescens) เป็ นแบคทีเรียที่ มกั ก่อใหเ้ กิดโรคในปลาสวยงามท่ีเล้ียงอยู่ในตูป้ ลา อาการของปลาที่ติดเช้ือ จะมีอาการตกเลือด และเป็นแผลตามลาตวั อวยั วะภายในมีอาการตกเลือด ตาบวม ทอ้ งบวม 6.4.2.4 เฟลกซิแบกเตอร์ คอลมั นาริส (Flexibacter columnaris) บางทีเรียกว่า โรคตวั ด่างหรือโรคคอลมั นาริส ปลาท่ีเป็นโรคน้ีมกั จะมีแผลด่างขาวตามลาตวั ซ่ึงถา้ ปล่อยไวน้ าน อาจกลายเป็นแผลลึกได้ มกั เกิดกบั ปลาท่ีบอบช้าจากการลาเลียงขนส่ง ในช่วงฤดูที่อุณหภูมิอากาศ เปล่ียนแปลงจากสูงไปต่า ปลาจะมีอาการตวั ด่างซีดเป็ นแถบ ครีบเปื่ อย กร่อน กระสับกระส่าย และตายเป็ นจานวนมาก 93

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 6.4.2.5 ไมโคแบคทีเรียม (Mycobacterium sp.) ทาให้เกิดวณั โรคปลา ซ่ึงพบได้ เสมอในปลาสวยงามท่ีกินเน้ือท่ีเล้ียงอยู่ในตูก้ ระจก เช่น ปลากดั ปลาออสกา้ ปลาปอมปาดวั ร์ และปลาเทวดา เป็ นตน้ ปลาอาจไม่แสดงอาการใหเ้ ห็น หรือมีอาการให้เห็น คือน้าหนกั ตวั ลดลง ไม่กินอาหาร เกล็ดหลุด มีแผล ตาโปน ว่ายน้าผิดปกติ และมีจุดขาวเกิดข้ึนตามอวยั วะภายใน เป็ นตน้ 6.4.3 โรคที่เกิดจากเช้ือไวรัส ไวรัสเป็ นจุลลินทรียท์ ี่มีขนาดเล็กมาก แบ่งเป็ น 2 กลุ่ม ใหญ่ๆ คือ ไวรัสกลุ่มอาร์เอ็นเอ (RNA) และไวรัสกลุ่ม ดีเอ็นเอ (DNA) เช่น โรคลิมโฟซิสติส (lyumphocystis) ท่ีพบไดเ้ สมอในปลาทะเลและปลาน้ากร่อย เกิดจากไวรัสจาพวกดีเอ็นเอขนาด 130 ถึง 260 นาโนเมตร ในปลากะพงขาวจะทาให้เกิดอาการเป็ นตุ่มปมนูนของเน้ือเย่ือเกี่ยวพนั คลา้ ยหูด บนผิวหนงั ส่วนต่างๆ เช่น บริเวณหลงั ครีบหลงั และเหงือกของปลา ตุ่มเหล่าน้ีมกั รวมกนั เป็ นกระจุก ขนาดและจานวนตุ่มจะแตกต่างกนั ออกไป โรคน้ีไม่สามารถรักษาได้ ดงั น้นั จึงควรแยกปลาท่ีเป็นโรคออกใหห้ มด 6.4.4 โรคท่ีเกิดจากปรสิต ปรสิตเป็ นสิ่งมีชีวิตที่ตอ้ งอาศยั ภายในหรือภายนอกตวั ปลา ปรสิตนบั วา่ เป็ นตวั การสาคญั และพบบ่อยมากท่ีสุด ในการอนุบาลลูกปลาชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ ปรสิตภายนอกที่เกาะเหงือกและลาตวั ของลูกปลา ทาใหป้ ลามีเมือกมาก มีแผลตามลาตวั ตกเลือด ครีบเป่ื อย มีจุดขาวตามลาตวั ว่ายน้าไม่มีทิศทางแบบควงสว่านหรือสีกับวตั ถุในน้า และเป็ น สาเหตุทาใหล้ ูกปลาตายเป็นจานวนมาก ปรสิตท่ีพบบ่อยมีดงั น้ี 6.4.4.1 เห็บระฆงั (Trichodina sp.) เป็ นโปรโตซวั เซลล์เดียว รูปร่างคลา้ ยระฆงั ชอบเกาะตามเหงือก ครีบและลาตวั ของปลา ทาให้เกิดแผลขนาดเล็ก ปลาจะมีอาการระคายเคือง เมือกแตก สามารถแพร่ระบาด และทาใหล้ ูกปลาท้งั บ่อตายไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 6.4.4.2 โอโอดิเนียม (Oodinium sp.) เป็ นโปรโตซวั เซลล์เดียว เกาะตามเหงือก และตามลาตวั ของปลา ทาใหเ้ กิดรอยด่างมีสีน้าตาลคลา้ ยสีสนิมตามลาตวั วา่ ยน้ากระสับกระส่าย แผน่ ปิ ดเหงือกเปิ ดอา้ มากกวา่ ปกติ ลูกปลาจะทยอยกนั ตายจนหมดบ่อ 6.4.4.3 อ๊ิค (Ichthyophthirius multifilis) เป็ นโปรโตซวั เซลล์เดียวเช่นเดียวกนั ทา ให้เกิดโรคจุดขาว โดยปลาจะมีจุดขาวเล็กๆ กระจายอยู่ตามลาตวั และครีบ เกิดจากโปรโตซัว จาพวกเคล่ือนที่ดว้ ยซีเลีย (cilia) ลกั ษณะเด่นคือ เซลลต์ วั เตม็ วยั จะมีนิวเคลียสรูปเกือกมา้ เมื่อฝังตวั เขา้ ใตผ้ วิ หนงั ปลาแลว้ จะกินเซลลผ์ วิ หนงั เป็ นอาหาร และสามารถออกจากตวั ปลาเพ่ือแพร่ระบาด ตอ่ ไป โรคจุดขาวจดั วา่ เป็นโรคท่ีมีความรุนแรงและทาใหล้ ูกปลาตายเป็นจานวนมาก 6.4.4.4 ปลิงใส (monogenetic trematode) ไดแ้ ก่ Dactylogyrus sp. และ Gyrodactylus sp. เป็นปรสิตท่ีเกาะตามบริเวณเหงือกและลาตวั ปลาจะมีอาการวา่ ยน้าทุรนทุราย เมือกแตก ตกเลือด 94

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา หายใจเร็วกว่าปกติ อาจมองเห็นตวั ปลิงใสในลกั ษณะเป็ นขนสีขาวส้ันๆ เกาะอยู่ตามลาตวั ปลา สามารถแพร่ระบาดและทาใหล้ ูกปลาตายเป็นจานวนมาก 6.4.4.5 หนอนเสมอ (Lernaea sp. ) เป็ นพวกโคพีพอด (copepod) มีเฉพาะเพศเมีย เท่าน้นั ท่ีเป็นปรสิต ลกั ษณะลาตวั ยาวคลา้ ยหนอน ตอนปลายมีถุงไข่ 1 คู่ ส่วนหวั แตกแขนงคลา้ ย สมอเรือ ชอบเกาะอยู่ตามโคนครีบ โดยจะใช้ส่วนหัวฝังเขา้ ไปใต้ผิวหนัง และลึกจนถึงช้ัน กลา้ มเน้ือ ดงั น้นั ในขณะที่มนั เกาะจึงเห็นไดเ้ ฉพาะส่วนลาตวั เท่าน้นั หนอนสมอจะดูดกินเน้ือเยื่อ ปลาเป็นอาหาร ทาใหเ้ กิดความระคายเคืองและเป็นแผลตกเลือด 6.4.5 โรคท่ีเกิดจากเช้ือรา ไดแ้ ก่ ราน้า (Saprolegnia sp.) ลกั ษณะเป็ นเส้นใยสีขาวไม่มี คลอโรฟิ ลล์ เส้นใยสามารถแตกกิ่งกา้ นแต่ภายในไมม่ ีผนงั ก้นั ชอบเกาะกบั ไขป่ ลาท่ีเสีย มีลกั ษณะ เป็ นปุยคลา้ ยเส้นใยสาลี สีขาวอมเทา ราน้ามกั พบในปลาที่มีรอยบอบช้า เช้ือราจะเขา้ ทาลายตาม รอยแผลซ่ึงอาจพบตามลาตวั ครีบและเหงือก ทาใหแ้ ผลลุกลามออกไป 6.4.6 โรคท่ีเกิดจากการขาดสารอาหาร สารอาหารบางอย่างเป็ นส่ิงจาเป็ นสาหรับการ ดารงชีวติ ของปลา เม่ือขาดสารเหล่าน้นั จะทาใหเ้ กิดโรคได้ เช่น ปลาดุกที่ขาดวิตามินซี จะทาให้ เกิดโรคหัวกะโหลกร้าว ตวั คด และตกเลือด หรือถา้ ขาดวิตามินบี จะทาให้เกิดโรคชกั กระตุก ปลาจะตวั เกร็งในขณะวา่ ยน้า เป็ นตน้ สารอาหารจึงเป็ นสิ่งที่ทาให้เกิดโรคไดถ้ า้ หากไดร้ ับนอ้ ย หรือมากเกินไป 6.4.7 โรคท่ีเกิดจากส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพและเคมี สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพและเคมี ได้แก่ แสง อุณหภูมิ ความเป็ นกรดเป็ นด่างของน้า ก๊าซที่ละลายน้า ความโปร่งแสงของน้า สารพิษตะกอนแขวนลอย สารเคมี และโลหะหนกั ปัจจยั เหล่าน้ีอาจเป็ นสาเหตุโดยตรงท่ีทาให้ เกิดโรคได้ เช่น การจดั การคุณภาพน้าภายในบ่อไม่ดี หรือการไดร้ ับวตั ถุมีพิษปนเป้ื อนเขา้ มา ซ่ึง นอกจากจะเป็นสาเหตุโดยตรงแลว้ ปัจจยั เหล่าน้ีอาจเป็ นปัจจยั โนม้ นาท่ีทาให้ปลาอ่อนแอหรือเพ่ิม ความไวต่อการเกิดโรคติดเช้ือชนิดอื่นๆ ดว้ ย 6.4.8 โรคฟองอากาศ (gas bubble disease) เป็ นโรคที่เกิดจากน้าภายในบ่อมีปริมาณก๊าซ ไนโตรเจนหรือออกซิเจนละลายเกินจุดอ่ิมตวั และเกิดการลดความกดดนั อยา่ งกะทนั หนั จนทาให้ เกิดฟองอากาศอยูภ่ ายในเส้นเลือด ฟองอากาศจะขดั ขวางการหมุนเวียนโลหิต เกิดภาวะกอ้ นจุก (embolism) ในลูกปลาวยั ออ่ น ฟองอากาศมกั เกิดข้ึนตามบริเวณใตผ้ วิ หนงั และระหวา่ งถุงไข่แดง กบั เยื่อหุ้มไข่ ลูกปลาที่โตแลว้ อาจพบตามบริเวณตา ปาก และท่ีเหงือก สาเหตุอาจเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทนั หนั หรือการยา้ ยลูกปลาลงในบ่อท่ีมีการให้อากาศในอตั ราท่ีต่า กวา่ ปกติ 95

บทท่ี 4 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลา 6.5 การใช้ยารักษาปลา การใชย้ ารักษาปลา สามารถแบง่ ออกเป็นวธิ ีหลกั ๆ ไดด้ งั น้ี 6.5.1 การแช่ (lmmersion) เหมาะสาหรับการใชย้ าหรืสารเคมีในตูห้ รือบ่อซีเมนต์ อยา่ งไร ก็ตามอาจใชใ้ นบ่อดินไดห้ ากจาเป็ น โดยมีวตั ถุประสงค์หลกั เพ่ือรักษาโรคติดเช้ือภายนอก และ ควบคุมสภาพน้า ซ่ึงจะตอ้ งรู้ปริมาตรน้าเพื่อคานวณปริมาณยาใหถ้ ูกตอ้ ง โดยทว่ั ไปการสัมผสั ยา จะแตกต่างกนั ไปข้ึนกบั ชนิดของยา และความสามารถในการทนต่อฤทธ์ิยาของปลา ซ่ึงปลาแต่ละ ชนิดและขนาดจะทนไดแ้ ตกต่างกนั โดยเฉพาะปลาป่ วยจะทนไดน้ อ้ ยกวา่ ปลาปกติ ผูใ้ ชส้ ังเกตได้ จากการตอบสนองของปลา หากปลาทนไม่ไหวก็ตอ้ งยา้ ยไปใส่ภาชนะอนั ใหม่ที่ไม่มียา ซ่ึง จาเป็นตอ้ งมีการทดสอบหาความเขม้ ขน้ ที่ไม่เป็ นพิษต่อปลาในระยะเวลาต่างๆ ก่อนจะนามาใชใ้ น การรักษา ลกั ษณะการแช่ แบ่งไดด้ งั น้ี 6.5.1.1 การจุ่ม มกั ใช้กบั การติดเช้ือภายนอก เช่น ปรสิต โดยทว่ั ไปใช้ยาและ สารเคมีในความเขม้ ขน้ สูง และใชเ้ วลาจุ่มส้นั ประมาณ 1 ถึง 60 วนิ าที 6.5.1.2 การแช่ระยะส้ัน ใช้ระยะเวลาประมาณ 10 ถึง 30 นาที ในความเขม้ ขน้ ระดบั กลาง จะมากหรือนอ้ ย ข้ึนอยกู่ บั ชนิดของยาและสารเคมี 6.5.1.3 การแช่ระยะยาว อาจเป็ นการแช่ต้งั แต่ 12 ชวั่ โมงจนถึงแช่ตลอดไป วธิ ีน้ี จะใชค้ วามเขม้ ขน้ ไม่สูงนกั 6.5.2 การทา เป็ นวิธีที่ไม่ค่อยมีการใช้รักษาโรคในปลา แต่ถือเป็ นวิธีท่ีใช้ได้ผลกับ น้ายาฆ่าเช้ือ ยาตา้ นจุลชีพ ยาปฏิชีวนะ และฮอร์โมนสเตอรอยด์ ในการใช้ยาเพ่ือป้องกนั การ ติดเช้ือและการฆา่ เช้ือน้นั นิยมใชส้ ารจาพวกโพวิโดนไอโอดีนหรือสารเคมีอ่ืน โดยใชส้ าลีจุ่มแลว้ ทาท่ีแผล หรือบริเวณท่ีตอ้ งการฆ่าเช้ือ ส่ิงสาคญั ของการรักษาโรคดว้ ยวธิ ีน้ีคือ ตอ้ งไม่ให้ปลาข้ึน จากน้าเป็นเวลาเกินกวา่ 30 วนิ าที โดยเฉพาะในปลาที่มีอาการหนกั (เน้ือเยื่อตาย หรือแผลขนาดใหญ่) ซ่ึงจะมีโอกาสซึมซบั เอาสารเคมีเขา้ เน้ือเย่ือไดม้ ากข้ึน หากทิ้งไวน้ านเกินไปจะทาใหส้ ารตกคา้ งใน ปลามากไป อาจมีผลต่อปลาได้ นอกจากวธิ ีน้ีจะช่วยลดการติดเช้ือ ช่วยสมานแผล และยงั ช่วยใน การรักษาโรคติดเช้ือภายในกระแสเลือดได้ ส่วนการใชย้ าอื่นๆ เช่น ยาปฏิชีวนะ หรือ สเตอรอยด์ เพื่อรักษาแผลหรืออาการบาดเจบ็ หรืออาการบวมน้า วธิ ีการน้ีปลาจะมีอาการดีข้ึนอยา่ งรวดเร็ว 6.5.3 การผสมอาหาร (oral administration) เป็ นวิธีที่นิยมใชใ้ นกรณีท่ีปลามีจานวนมาก โดยจะให้เม่ือปลาป่ วยยงั สามารถกินอาหารได้ เป็ นการนายาเขา้ สู่ร่างกายปลาผา่ นทางเดินอาหาร ติดต่อกนั เพ่ือรักษาโรค โดยการพน่ (spray) การละลายยาในอาหารเม็ดให้ทว่ั และทาใหแ้ ห้งแลว้ เก็บในตูเ้ ยน็ เพื่อใหป้ ลากิน อยา่ งไรก็ตามยาที่ละลายในน้าจะคงสภาพในอาหารต่า ดงั น้นั ควรใช้ 96


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook