ค่มู อื รทู้ นั โรคและภยั สุขภาพ สำ�หรบั ประชาชน ๑๐๐ ค�ำ ถาม - ค�ำ ตอบ การปอ้ งกันควบคมุ โรค
คณะผู้จดั ทำ� ทีป่ รึกษา นายแพทยส์ ุวรรณชยั วัฒนายิง่ เจริญชัย อธบิ ดกี รมควบคมุ โรค นายแพทย์อษั ฎางค์ รวยอาจิณ รองอธบิ ดีกรมควบคุมโรค นายแพทยธ์ นรกั ษ์ ผลพิ ัฒน์ รองอธิบดกี รมควบคมุ โรค นายแพทย์ขจรศักด์ิ แกว้ จรัส รองอธบิ ดีกรมควบคมุ โรค บรรณาธิการ ผู้อำ� นวยการสำ� นักสอ่ื สารความเสย่ี ง นายแพทย์วิชาญ ปาวนั และพฒั นาพฤติกรรมสขุ ภาพ กรมควบคุมโรค ผู้เรียบเรียงและจัดทำ� กอง / สำ� นัก / สถาบนั กรมควบคุมโรค ประสานงานข้อมลู / พสิ ูจนอ์ ักษร กลมุ่ วิชาการเผยแพร่และมวลชนสมั พันธ์ ส�ำนกั สอื่ สารความเส่ียงและพัฒนาพฤติกรรมสขุ ภาพ กรมควบคุมโรค เผยแพรโ่ ดย ส�ำนักสื่อสารความเสย่ี งและพฒั นาพฤตกิ รรมสขุ ภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ปที ่พี ิมพ์ : มนี าคม ๒๕๖2 พิมพ์ : ครง้ั ท่ี 1 จ�ำนวนพมิ พ์ : 1,500 เลม่ พมิ พท์ ่ี : โรงพิมพ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำ� กัด ISBN :
บทนำ� ในสังคมปัจจุบันมีความซับซ้อนมากยิ่งข้ึน สิ่งที่ท�ำให้เกิดโรคและภัยสุขภาพ อาจจะไม่ได้มาจากสาเหตุหรือปัจจัยเดียว บางโรคเป็นผลมาจากวิถีชีวิต บางโรค เป็นผลผลิตทางวฒั นธรรมหรือความเชื่อที่มีมายาวนาน บางโรคเปน็ ผลมาจากความ ก้าวหน้าทางด้านการส่ือสาร ซ่ึงท�ำให้มนุษย์ติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายข้ึน รวมท้ังการ คมนาคมมกี ารพฒั นาใหส้ ามารถเดนิ ทางสะดวกและรวดเรว็ ขนึ้ อาจนำ� มาซงึ่ โรคตดิ ตอ่ ท่ีแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีสิ่งมอมเมาเยาวชน สร้างค่านิยมการเสพ ส่งิ เสพติดมากยง่ิ ข้นึ เปน็ ต้น การใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั การดแู ลและสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ประชาชนจงึ มคี วามจำ� เปน็ ส�ำหรับคู่มือรู้ทันโรคและภัยสุขภาพส�ำหรับประชาชน 100 ค�ำถาม - ค�ำตอบ การปอ้ งกนั ควบคมุ โรค เลม่ นีป้ ระกอบด้วยความรเู้ รือ่ งโรคและภัยสขุ ภาพซึง่ มเี น้ือหา สาระเกี่ยวกับสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคและภัยสุขภาพ อาการอันตราย การปอ้ งกันและควบคมุ รวมถงึ การปฏิบตั ิตัวหรือการรักษา คณะผู้จัดท�ำหวังเป็นอย่างย่ิงว่า หนังสือเล่มน้ี จะท�ำให้ผู้อ่านมีความรู้ความ เข้าใจโรคและภัยสุขภาพเพิ่มมากย่ิงขึ้น เเละสามารถน�ำความรู้นี้ไปถ่ายทอดให้เเก่ ประชาชนให้มีความรู้เเละมีพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคที่ถูกต้องเหมาะสม ซงึ่ จะนำ� ไปสกู่ ารมสี ขุ ภาพทดี่ ใี นทสี่ ดุ อนง่ึ หากมขี อ้ ผดิ พลาดใดๆทปี่ รากฏในคมู่ อื เลม่ นี้ คณะผูจ้ ัดทำ� ขออภัยมา ณ โอกาสนด้ี ้วย
สารบญั หน้า โรคตดิ ตอ่ โรคกาฬโรค 8 โรคไข้กาฬหลงั แอน่ 12 โรคไข้ปวดข้อยงุ ลาย 15 โรคไขไ้ รอ่อน 17 โรคไขเ้ ลอื ดออก 20 โรคไขส้ มองอกั เสบ เจอ ี 23 โรคไข้เหลือง 26 โรคไขห้ วัดนก 29 โรคไข้หวดั ใหญ ่ 35 โรคคางทูม 38 โรคคอตีบ 40 โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ ์ 43 โรคตดิ เช้ือเฉยี บพลนั ทางเดินหายใจในเด็ก 47 โรคติดเชอ้ื ไวรสั ซิกา 50 โรคตดิ เชือ้ ไวรัสอีโบลา 52 โรคไวรัสตบั อักเสบ บี 54 โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลางหรอื โรคเมอร์ส 57 โรคโปลโิ อ 59 โรคพยาธิใบไมต้ บั 63 โรคพษิ สนุ ขั บ้า 66 โรคไข้มาลาเรีย 70 โรคมือ เทา้ ปาก 73
โรคเร้ือน สารบัญ โรคลิชมาเนีย โรคเลปโตสไปโรสิส หนา้ โรควณั โรค โรคหูดบั 76 โรคอาหารเป็นพิษ 79 โรคอุจจาระรว่ ง 82 โรคอหวิ าตกโรค 86 โรคเอดส์ 90 โรคไมต่ ิดตอ่ 94 โรคความดนั โลหิตสงู 97 โรคเบาหวาน 100 โรคหัวใจขาดเลอื ด 102 โรคจากการประกอบอาชีพและส่งิ แวดล้อม โรคจากการประกอบอาชพี 106 โรคปอดฝนุ่ หินจากการท�ำงาน 110 โรคพษิ จากสารกำ� จดั ศตั รพู ชื 114 ภยั สขุ ภาพจากปญั หาหมอกควัน โรคและภัยจากการทำ� งานในที่อับอากาศ 118 ภยั สขุ ภาพจากการประกอบกิจการเหมืองทองคำ� 125 ภยั สุขภาพและการบาดเจบ็ 131 เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล์ 134 บุหรี่ 137 142 146 150
สารบัญ หน้า อุบตั ิเหตุจากการเดนิ ทางทางบก 154 เมาไม่ขบั 156 ง่วงไม่ขับ 159 เข็มขดั นริ ภัยในรถยนต ์ 161 อบุ ัตเิ หตุจราจร : โทรศัพท์มอื ถอื 163 การตกนำ�้ จมนำ้� ในเดก็ 165 การบาดเจบ็ จากการพลดั ตกหกลม้ ในผสู้ ูงอาย ุ 168 แมงมมุ แมม่ ่ายนำ�้ ตาล 172 เหด็ พษิ 175 ๑๐๐ ค�ำถาม - ค�ำตอบ การปอ้ งกันควบคุมโรค โรคไขเ้ ลอื ดออก 178 โรคไขห้ วัดใหญ ่ 181 โรคเบาหวาน 184 โรคพยาธิใบไม้ตับ 186 โรคมือ เทา้ ปาก 188 ยาสบู 191 โรคพิษสุนขั บา้ 194 โรคความดนั โลหติ สงู 197 โรคอาหารเปน็ พิษ 199 เครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ 203 โรคเอดส์ 206 6
โรคตดิ ตอ่ 7
โรคกาฬโรค “โรคกาฬโรค” เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่มีแหล่งรังโรคคือสัตว์จ�ำพวกฟันแทะ เชน่ หนู เปน็ ตน้ โดยมีสำ� เหตเุ กิดจากเชอื้ แบคทีเรยี ที่มีช่ือวา่ Yersinia pestis และ มหี มัดหนเู ปน็ พาหะนำ� โรค เกดิ จากถกู หมดั หนทู มี่ เี ชอ้ื กดั และปลอ่ ยเชอื้ เขา้ สผู่ ถู้ กู กดั โดยทว่ั ไปมกี ารระบาด ของโรคในหนูก่อน เม่ือหนูตายหมัดหนูจะกระโดดลงไปยังสัตว์อื่น หรือคน เม่ือกัด จะปลอ่ ยเชอ้ื ใหแ้ กส่ ตั ว์ หรอื ผถู้ กู กดั ตอ่ ไป สว่ นใหญจ่ ะพบการเกดิ โรคในชว่ งฤดหู นาว และในบริเวณที่มีกลุ่มประชากรอยู่กันอย่างแออัด การดูแลเรื่องความสะอาด และ ควบคมุ การแพร่พนั ธุ์ของหนจู ะสามารถทำ� ใหม้ โี รคระบาดน้อยลง การติดต่อของโรค 1. หมัดหนูมากัดคนแล้วปล่อยเชื้อกาฬโรคเข้าทาง บาดแผล หรอื ทางผวิ หนงั ทถ่ี ลอกจากการเกาบรเิ วณทถี่ กู หมดั หนูกดั 2. ตดิ ตอ่ โดยการสดู หายใจเอาละอองเสมหะทมี่ เี ชอื้ ของ ผปู้ ว่ ยที่ไอ จาม หรือจากสัตวท์ ี่มีเช้ือโรค เช่น แมว และหายใจ เอาเชื้อเขา้ ไปทางปาก/จมูก 8
3. ถ้าติดเชื้อทางระบบหายใจจะท�ำให้เกิดโรคกาฬโรคปอดบวม แต่การเกิด กาฬโรคปอดบวมเร่ิมจากการถูกหมัดหนูกัดและเช้ือเข้าไปเจริญเติบโตภายในปอด การติดจากคนสู่คนโดยการหายใจ เกิดจากการคลุกคลีกับผู้ป่วยที่เป็นกาฬโรค ปอดบวม อาการของโรค อาการจะแสดงออกหลังถูกหมัดที่มีเชื้อหนูกดั แลว้ ประมาณ 2 – 8 วัน โดย เชอ้ื กาฬโรคจะเคลอื่ นไปเจรญิ เตบิ โตยงั ตอ่ มนำ้� เหลอื งทใี่ กลท้ สี่ ดุ อาการเรมิ่ แรกคลา้ ย กบั ไข้หวดั ใหญ่ คอื มีไข้สูง หนาวสนั่ ปวดศรี ษะ ปวดกล้ามเนือ้ อ่อนเพลีย คลนื่ ไส้ อาเจียน ซึ่งอาการสามารถพบได้ 3 ลักษณะ คือ 1) ชนิดต่อมน้�ำเหลืองอักเสบ ลักษณะต่อมน�้ำเหลืองจะบวม แดง กดเจ็บ ซง่ึ อาจปวดมากจนขยบั แขนหรอื ขาไมไ่ ด้ ตำ� แหนง่ ทมี่ กั พบจะเปน็ บรเิ วณขาหนบี หรอื รักแร้ 2) ชนดิ เชอื้ ในกระแสเลอื ด มกั จะลกุ ลามจากชนดิ ตอ่ มนำ้� เหลอื งอกั เสบ มอี าการ ไขส้ งู ความดนั เลอื ดตำ่� ช็อก หวั ใจเต้นเร็ว กระสับกระสา่ ย เพอ้ หมดสติ เลอื ดออก ในอวยั วะต่างๆ เสียชวี ิตภายใน 3 - 5 วันหรือภายในไม่กี่ชั่วโมง 3) ชนดิ กาฬโรคปอดบวม อาจเกดิ ตามหลงั จาก 2 ชนดิ แรก หรอื ตดิ เชอื้ จากคน ไอ จามรดกัน มีอาการปอดบวม ไอเป็นน�้ำ เสมหะไม่เหนียว ต่อมาจะมีเลือดปน อ่อนเพลยี มไี ข้ หากไม่ไดร้ ับการรกั ษา จะตายเร็วมากภายใน 1 - 3 วัน โรคกาฬโรคของต่อมนำ�้ เหลือง มรี ะยะฟกั ตวั ประมาณ 2 – 6 วนั กาฬโรคของ ปอดมรี ะยะฟักตัวประมาณ 2 – 4 วนั 9
การรกั ษา เมื่อสงสัยว่าป่วยเป็นโรคจะต้องแยกผู้ป่วย ออกจากคนอนื่ และแจง้ เจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสขุ ทราบ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลจะต้องแยก หอ้ ง (Isolation) เพอื่ ไมใ่ หเ้ ชอื้ แพรก่ ระจาย สามารถ รกั ษาไดโ้ ดยการใชย้ าปฏชิ วี นะแกผ่ ปู้ ว่ ย เชน่ สเตรป โตมัยชิน (streptomycin) คลอแรมเฟนิคอล (chloramphenicol) เตตรา้ ไซคลนิ (tetracycline) ยาซัลฟาไดอาชิน (sunfadiacin) ทั้งน้ีต้องอยู่ใน ความดูแลของแพทย์ผูท้ �ำการรักษา บุคลากรที่ท�ำการรักษาต้องมีความระมัด ระวงั อยา่ งเครง่ ครดั ดา้ นการปอ้ งกนั การตดิ เชอ้ื โดย สวมถุงมือ ปิดปากและจมูก ควรท�ำลายเชื้อจาก เลือด น�้ำเหลือง และหนองของผูป้ ว่ ย เพือ่ ปอ้ งกนั การติดเชอ้ื และการแพร่กระจายของเชอ้ื โรค 10
การปอ้ งกันโรค 1. โรคน้ีไมม่ วี ัคซีนป้องกนั โรค 2. การปรับสภาพสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ปรับปรุงอาคารบ้านเรือนให้สะอาด เปน็ ระเบียบเรยี บร้อย จดั ให้มีแหล่งทิ้งขยะมลู ฝอยและฝาปิดมิดชิด และระบบก�ำจัด ขยะมลู ฝอย เพอ่ื ไมใ่ ห้เป็นแหลง่ อาหารและที่อาศัยของหนู 3. หากมสี ัตว์ ควรใชย้ าฆ่าหมัดเปน็ ระยะๆ ระวังเดก็ หรือผูใ้ หญเ่ ม่อื ออกนอก บ้าน โดยเฉพาะในแหล่งทม่ี กี ารระบาด ไม่ควรใกลช้ ดิ กับสัตว์ฟันแทะทงั้ หลาย และ ควรทายากนั หมดั รวมทง้ั ไมส่ มั ผสั สตั วป์ ว่ ยหรอื ตาย หากจำ� เปน็ ควรใสถ่ งุ มอื ยาง เพอื่ ป้องกันเชือ้ 4. เจา้ หนา้ ทส่ี าธารณสขุ ควรดำ� เนนิ การใหค้ วามรแู้ กป่ ระชาชน เพอื่ ใหเ้ กดิ ความ รว่ มมือในการดูแลสภาพแวดล้อมในชุมชน บรเิ วณทีพ่ ักอาศยั หรือภายในบา้ นเรอื น 5. ในท้องท่ีเคยมีการระบาดของโรคกาฬโรค เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะต้อง เฝ้าระวัง ควบคุมพาหะน�ำโรค (หนู) โดยการส�ำรวจสุ่มตรวจ หาค่าดัชนีหมัดหนู (Flea index) สอบถาม ขอ้ มูลเพิ่มเติมไดท้ ี่ ส�ำนกั โรคติดต่อท่วั ไป โทรศัพท์ 0-2590-3183, 0-2590-3187 11
โรคไขก้ าฬหลังแอ่น โรคไขก้ าฬหลงั แอน่ (Meningococcal meningitis) เปน็ โรคทเ่ี กดิ เฉยี บพลนั มสี าเหตุ เกดิ จากเชื้อแบคทีเรยี ที่มชี อื่ วา่ Neisseria meningitidis โรคนี้พบไดท้ ุกกลมุ่ อายุ มักพบมากในกลุ่มคนที่อยู่รวมกันอย่างหนาแน่นและแออัด พ้ืนท่ีมีการเกิดโรคสูง อยบู่ รเิ วณประเทศแถบตะวนั ออกกลาง เชน่ ซาอดุ อิ าระเบยี ทวปี แอฟรกิ า หรอื บรเิ วณ ทเ่ี รยี กวา่ “African Meningitis belt” ซงึ่ มอี าณาเขตกวา้ งขวาง ตงั้ แตเ่ ซเนกลั ไปจนถงึ เอธิโอเปีย เช่น เซเนกลั กนิ ี ไนจเี รีย ซาด ซดู าน เอธิโอเปีย เป็นตน้ นอกจากนยี้ ังพบ การระบาดของโรคในทวีปอเมริกา เช่น คิวบา บราซิล ชิลี อาร์เจนตินา โคลัมเบีย เปน็ ตน้ หรอื ประเทศในแถบเอเชีย เชน่ เนปาล อนิ เดยี พม่า กัมพชู า ลาว เวียดนาม ไทย เป็นต้น ช่ือของโรคบอกถึงลักษณะอาการได้ดี คือ มีไข้สูงและมีผ่ืนแดงจ้�ำเขียวหรือ ด�ำคล�้ำ (จึงเรียกว่า “ไข้กาฬ” คือไข้ท่ีมีผ่ืนสีด�ำตามผิวหนัง) และอาจมีอาการของ เยือ่ หมุ้ สมองอักเสบร่วมด้วย เชน่ คอแขง็ หลงั แอน่ (จึงเรียกต่อท้ายว่า หลังแอ่น) การตดิ ต่อของโรค โรคระยะฟกั ตวั ของโรคประมาณ 2 – 10 วัน (โดยเฉลี่ย 3 – 4 วนั ) สามารถ ตดิ ตอ่ ไดโ้ ดยการสดู หายใจเอาฝอยละอองนำ�้ มกู เสมหะของผปู้ ว่ ยหรอื ผทู้ เ่ี ปน็ พาหนะ ทไ่ี อ จามรดกนั หรอื จากการสมั ผสั นำ้� มกู นำ้� ลาย เสมหะ ของผปู้ ว่ ยหรอื ผทู้ เี่ ปน็ พาหะ (ผทู้ ี่เป็นพาหะ หมายถึง ผทู้ มี่ ีเช้อื อยู่ในปาก ล�ำคอ และจมูก แตไ่ ม่แสดงอาการ) การกระจายของเช้ือโรคและอาการแบง่ ได้ ๒ แบบ คอื ๑. แบบแรก เช้ือโรคกระจายไปท่ีเย่ือหุ้มสมอง ท�ำให้เย่ือหุ้มสมองอักเสบ มีอาการ คอแข็ง หลงั แขง็ ปวดศรี ษะ อาเจยี น ผู้มีอาการเชน่ น้ี ถ้าหากรีบพบแพทย์ โดยเร็ว สามารถรักษาได้ทันแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญจ่ ะหายดี 12
๒. แบบท่ีสอง เช้ือโรคกระจายไปสู่อวัยวะอ่ืน (ท่ีไม่ใช่ สมอง) เนอื่ งจากเชือ้ โรคจะเข้าส่กู ระแสโลหติ ผูป้ ว่ ยสว่ นใหญ่จะ ปกติดีในระยะแรก อาการแสดงออกของอวัยวะอื่นๆไม่ค่อย ชัดเจน เนอื่ งจากอยูใ่ นระยะที่เช้อื โรคกระจายไปหลายแหง่ เชน่ ปอด หัวใจ ต่อมหมวกไต ช่วงที่อาการของอวัยวะแต่ละระบบ ยังไม่ปรากฏชดั นี้ ท�ำใหผ้ ้ปู ว่ ยคดิ วา่ เป็นไข้หวดั ธรรมดา จงึ ไมไ่ ด้ รักษาในระยะแรก เม่ือมีอาการแสดงออกมาให้เห็นแสดงว่ามีเช้ือโรคอยู่มากมาย ในร่างกายจนอาจท�ำให้มีอาการช็อก และมีเลือดออกตามทวารหรือมีจุดเลือดออก ท่ีผิวหนัง อาการท่ีพบบ่อยในระยะแรก คือ ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ คล่ืนไส้ อาเจียน อาการของโรค 3. อาการสำ� คญั ของโรคน้ี คือ ไข้ ผนื่ และเย่ือห้มุ สมองอักเสบ อาจมีครบทั้ง 2 ใน 3 อยา่ งนี้ ซง่ึ มคี วามรนุ แรงแตกตา่ งกนั ไป อาการเรม่ิ ตน้ คลา้ ยไขห้ วดั คอื มไี ขส้ งู เจ็บคอ ปวดศีรษะ อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณขา และหลัง ประมาณ 2 – 3 วนั มผี นื่ แดงจำ้� เขยี วหรอื ดำ� คลำ�้ จนเปน็ รอยฟกชำ�้ ขนาดใหญ่ อาจมี รปู รา่ งคลา้ ยดาวกระจาย ซง่ึ เปน็ ลกั ษณะเฉพาะของโรคนี้ มกั พบบรเิ วณลำ� ตวั สว่ นลา่ ง ขา เทา้ และบรเิ วณทมี่ แี รงกดบ่อยๆ เชน่ ขอบกางเกง ขอบถงุ เท้า เป็นตน้ อาจมี อาการเย่ือหุ้มสมองอักเสบ โดยแสดงอาการคอแข็งร่วมด้วย ในรายการท่ีมีอาการ รุนแรงผู้ปว่ ยจะซมึ ชกั ชอ็ ก และอาจเสยี ชวี ติ ได้ในภายใน 24 ช่วั โมงหลงั เริ่มมอี าการ การรักษา แพทยจ์ ะใหย้ าปฏชิ วี นะ เชน่ เพนนซิ ลิ ลนิ แอมพซิ ลิ ลนิ คลอแรมเฟนคิ อล เปน็ ตน้ ร่วมกับการรักษาแบบประคบั ประคองตามอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ การให้สารนำ้� เป็นต้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและลดความรุนแรงของโรค ควรได้รับ การรกั ษาในโรงพยาบาลตัง้ แตเ่ ริม่ มอี าการ หรือเมอ่ื สงสยั วา่ ตวั เองปว่ ย หรอื มอี าการ ไขเ้ ฉยี บพลนั เจบ็ คอ มผี น่ื ทเี่ ปน็ จำ้� เลอื ด หรอื มอี าการของเยอื่ หมุ้ สมองอบั เสบขา้ งตน้ ควรไปพบแพทยต์ งั้ แต่เร่ิมมีอาการโดยทนั ที การปอ้ งกัน 1. การป้องกันทด่ี ที ่สี ดุ คอื การหลกี เลีย่ งการสมั ผสั ใกลช้ ิดผปู้ ่วย การไอ จาม รดกนั ไมด่ มื่ นำ้� แกว้ เดยี วกนั ลา้ งมอื ใหส้ ะอาดเมอื่ สมั ผสั นำ�้ มกู นำ้� ลายของผปู้ ว่ ย และ 13
ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการออกก�ำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด รับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ และไม่ควรเข้าไปอยู่บริเวณ ทีแ่ ออัด ผคู้ นหนาแน่น หรือบริเวณทีอ่ ากาศถ่ายเทไมส่ ะดวก 2. หากจำ� เป็นตอ้ งสมั ผัสใกล้ชิดผปู้ ว่ ย เชน่ สมาชิกในครอบครัวท่พี กั อาศัยอยู่ บ้านเดียวกับผู้ป่วยเพื่อนนักเรียนในชั้นเดียวกัน ทหารท่ีปฏิบัติหน้าท่ีหรือนอนพักใน ค่ายเดียวกัน รวมท้ังเจ้าหน้าท่ีท่ีดูแลผู้ป่วย เป็นต้น ควรไปพบแพทย์ และได้รับยา ปฏิชีวนะเพอ่ื ปอ้ งกันโรค 3. การฉดี วคั ซนี ปอ้ งกันโรคไข้กาฬหลงั แอ่น โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ส�ำหรบั ผู้เดนิ ทางไปประเทศเขตพ้ืนท่ีที่มีการระบาดของโรค เช่น ไปท�ำงาน หรือ ผู้ท่ีเดินทางไป ประกอบพธิ ที างศาสนาแถบตะวันออกกลาง ต้องได้รับการฉีดวคั ซีนป้องกันโรคตาม ท่ีกำ� หนด สถานที่ให้บรกิ ารฉีดวคั ซีนป้องกนั โรคไข้กาฬหลงั แอ่น สถาบันบำ� ราศนราดรู กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข โทร. 0 2590 3432 สถานเสาวภา สภากาชาดไทย โทร. 0 2252 0161-4 ตอ่ 132 โรงพยาบาลเวชศาสตรเ์ ขตรอ้ น มหาวิทยาลยั มหดิ ล โทร. 0 2306 9100 ต่อ 3034 , 0 2306 9145 ศนู ยส์ าธิตบรกิ ารวัณโรค พต 1 สำ� นักงานปอ้ งกนั ควบคุมโรคท่ี 1 เชยี งใหม่ โทร. 0 5327 6364 , 0 5327 1435 สำ� นักงานสาธารณสขุ จงั หวัด 14 จงั หวดั (ภาคใต)้ โทร. 0 5327 6364 , 0 5327 1435 ดา่ นควบคุมโรคติดตอ่ ระหว่างประเทศ - ท่าเรอื กรงุ เทพ โทร. 0 2240 2057 - ทา่ เรือแหลมฉบงั โทร. 0 3840 9344 - ท่าอากาศยานหาดใหญ่ โทร. 0 7425 1548 สอบถาม - ทา่ เรอื ภเู กต็ โทร. 0 7621 2108 ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ ไดท้ ่ี - พรมแดนสะเดา โทร. 0 7455 7260 ส�ำนกั โรคติดตอ่ ท่วั ไป โทรศัพท์ 0-2590-3234-35 14
โรคไขป้ วดข้อยุงลาย (โรคชคิ นุ กนุ ยา) “โรคไขป้ วดขอ้ ยงุ ลาย หรอื โรคชคิ นุ กนุ ยา” เปน็ โรคตดิ เชอื้ ไวรสั ชคิ นุ กนุ ยาทม่ี ยี งุ ลายสวน และยุงลายบ้าน เป็นพาหะน�ำโรค มอี าการคล้ายไข้เลือดออก แตต่ า่ งกันท่ไี มม่ ีการรว่ั ของพลาสมาออกนอกเสน้ เลอื ด จงึ ไมพ่ บผปู้ ว่ ยทม่ี อี าการรนุ แรงมากจนถงึ มกี ารชอ็ ก โรคชคิ ุนกุนยาพบครัง้ แรกที่ประเทศแทนซาเนยี ในปี พ.ศ. 2495 ชือ่ โรคนมี้ า จากภาษาสวาฮิลี ซึ่งเป็นภาษาท้องถ่ินของทวีปแอฟริกา หมายถึง “เจ็บจนตัวงอ” ซ่ึงสะท้อนให้เหน็ ถึงสภาพคนไข้ท่เี จ็บปวดจากโรคน้ีน่นั เอง การติดตอ่ ของโรค โรคชคิ นุ กนุ ยาตดิ ตอ่ กนั ไดโ้ ดยมยี งุ ลายสวน (Aedes albopictus) และยงุ ลายบา้ น (Aedes aegypti) เป็นพาหะน�ำโรค เมื่อยุงลายตัวเมียกัดและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ ในระยะไข้สูง ซ่ึงเป็นระยะท่ีมีไวรัสอยู่ในกระแสเลือด เชื้อไวรัสจะเข้าสู่กระเพาะยุง และเพิ่มจำ� นวนมากขึ้น แล้วเดินทางเขา้ สตู่ อ่ มนำ้� ลาย เมื่อยุงทมี่ เี ชอ้ื ไวรสั ชิคุนกนุ ยา ไปกดั คนอนื่ กจ็ ะปล่อยเชื้อไปยงั คนทีถ่ กู กัด ท�ำให้คนน้นั ติดโรคได้ อาการและอาการแสดง ผปู้ ว่ ยจะมีอาการไขส้ งู อยา่ งฉับพลนั มีผ่ืนแดงข้ึนตามรา่ งกายและอาจมอี าการ คนั รว่ มดว้ ย พบมตี าแดง (conjunctival injection) แตไ่ มค่ อ่ ยพบจดุ เลอื ดออกในตาขาว ส่วนใหญ่แล้วในเด็กจะมีอาการไม่รุนแรงเท่าในผู้ใหญ่ ในผู้ใหญ่อาการที่เด่นชัดคือ อาการปวดข้อ ขอ้ บวมแดง อักเสบและเจบ็ เริ่มจากบรเิ วณข้อมอื ขอ้ เทา้ และขอ้ ตอ่ 15
แขนขา อาจพบอาการปวดกล้ามเน้อื ดว้ ย อาการปวดขอ้ จะพบไดห้ ลายๆ ขอ้ เปลย่ี น ตำ� แหนง่ ไปเรอื่ ยๆ (migratory polyarthritis) อาการจะรนุ แรงมากจนบางครงั้ ขยบั ขอ้ ไม่ได้ อาการจะหายภายใน 1 - 12 สัปดาห์ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดข้อ เกิดข้ึนได้อีกภายใน 2 - 3 สัปดาห์ต่อมา และบางรายอาการปวดข้อจะอยู่ได้นาน เปน็ เดอื นหรอื เปน็ ปี ไมพ่ บผปู้ ว่ ยทม่ี อี าการรนุ แรงถงึ ชอ็ ก ซงึ่ แตกตา่ งจากโรคไขเ้ ลอื ดออก อาจพบจุดเลอื ดออก (petichiae) บรเิ วณผวิ หนังได้ การรกั ษา โรคนม้ี กั หายเองและยงั ไมม่ ยี ารกั ษาเฉพาะโรค การรกั ษาทใ่ี หผ้ ลดที ส่ี ดุ ในตอนนี้ คอื การรักษาตามอาการ เช่น การใช้ยาอะเซตามโิ นเฟน (acetaminophen) ในการ รกั ษาอาการไข้ แก้ปวด ในระยะแรก การปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ถูกยุงกดั ในชว่ งทมี่ ีไข้ เพ่ือลด โอกาสแพร่เช้ือไปสูค่ นอ่ืน การปอ้ งกัน ปัจจุบันวัคซีนส�ำหรับโรคนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา มาตรการในการป้องกันโรคจึงเน้นหนัก ในเร่ืองการป้องกันไม่ ใหย้ งุ กัดโดยการใช้สารทาปอ้ งกนั ยงุ การใชม้ ุ้ง การค้นหาและ ท�ำลายแหล่งเพาะพนั ธทุ์ ีส่ �ำคัญของยุงลาย การกำ� จัดลกู น�้ำยงุ ลายและการกำ� จดั ยุงลายตัวเต็มวยั ท้ังทางด้านกายภาพ เชน่ การปิดฝาโอ่งให้สนิท การปรับปรุงสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่ง เพาะพันธุ์และเกาะพักของยุง ทางชีวภาพ เช่น การปล่อยปลา สอบถาม กินลูกน้�ำ และเคมีภาพ เช่น การใช้ ข้อมูลเพิม่ เติมไดท้ ี่ ทรายก�ำจัดลูกน�้ำ ก�ำจัดลูกน้�ำยุงลาย ส�ำนกั โรคตดิ ต่อน�ำโดยแมลง โดยใช้น้�ำผสมฟองสบู่หรือสารเคมีพ่น โทรศพั ท์ 0-2590-3103-5, ฆ่ายุงตัวเต็มวัย และการใช้ครีมทา 0-2590-3114 กันยงุ 16
โรคไข้ไรออ่ น “โรคไข้ไรอ่อนหรือโรคไข้รากสาดใหญ่” (scrub typhus) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจาก เชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ชื่อ O. tsutsugamushi โดยมีตัวไรอ่อนซึ่งอาศัยอยู่ในหนู เปน็ พาหะ ตดิ ตอ่ ทางบาดแผลทถ่ี กู ตวั ออ่ นของตวั ไรออ่ นกดั จงึ มกี ารเรยี กชอื่ โรคนอ้ี กี ช่อื ว่า “โรคไขไ้ รออ่ น” โรคนสี้ ่วนใหญม่ ักพบในผู้ใหญ่ตั้งแต่ 25 ปขี น้ึ ไป โดยมากมัก พบในกลุ่มเกษตรกร ชาวนา ชาวสวน ที่ต้องออกไปท�ำงานในไร่ ในนา และทหาร ต�ำรวจชายแดนทตี่ ้องออกลาดตระเวนทำ� ให้มโี อกาสถกู ไรอ่อนทีม่ เี ชอ้ื กัด แล้วปล่อย เช้ือเขา้ สู่ร่างกายทางรอยแผลหรือรอยถลอก โดยทวั่ ไป มรี ะยะฟักตวั 10 - 12 วัน แตอ่ าจแตกตา่ งกนั ไดต้ งั้ แต่ 6 – 21 วนั ทำ� ใหผ้ ถู้ กู กดั ปว่ ย มอี าการไขร้ ว่ มกบั อาการอ่นื ส�ำหรบั ในเดก็ มกั พบในเดก็ โตมากกวา่ เดก็ ออ่ น อาการ หลงั ถกู ไรออ่ นกดั 10 - 12 วนั ผปู้ ว่ ยจะมอี าการปวดศรี ษะทข่ี มบั และหนา้ ผาก มไี ข้สูงร่วมกับหนาวส่ัน ลักษณะไข้สูงตลอดเวลา (ไข้อาจเปน็ อยนู่ าน 2 - 3 สัปดาห)์ หนา้ แดง ตาแดง คลนื่ ไสอ้ าเจยี น ปวดเมอ่ื ยตามตวั บางรายมปี วดนอ่ ง ตอ่ มนำ�้ เหลอื ง โตและเจบ็ โดยเฉพาะตอ่ มนำ้� เหลอื งทอี่ ยใู่ กลแ้ ผลรอยกดั ผปู้ ว่ ยจะมอี าการออ่ นเพลยี เบอื่ อาหาร ตบั โต มา้ มโต บรเิ วณทถี่ กู กดั จะเจบ็ และมแี ผลบมุ๋ สดี ำ� รปู รา่ งกลมออกรี ขอบนูนเรียบ ลักษณะคล้ายแผลรอยไหม้จากบุหร่ีจ้ี (Eschar) เส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 0.5 - 1.5 ซม. ซึ่งพบอย่นู านประมาณ 6 - 18 วนั อาจตรวจพบได้ตง้ั แต่ 5 วันก่อนมีไข้ 17
บางรายอาจตรวจไม่พบ รอบ ๆ แผล จะมีอาการบวมแดง แต่ไม่เจ็บ มักจะพบที่ รักแร้ ขาหนีบและรอบ ๆ เอว รว่ มกับพบผนื่ แดงตามลำ� ตวั และแขนขาแตจ่ ะไมค่ นั พบได้ ประมาณวันที่ 3 - 8 หลังจากมีไข้ และผ่ืนจะ คงอยู่ประมาณ 4 - 5 วนั ก่อนจะจางลงไป ผู้ท่ีได้รับเชื้อบางรายอาจไม่มีอาการดังกล่าว ขา้ งต้น ประมาณวนั ที่ 5 - 7 หลงั มีไข้จะมี ผ่นื สแี ดงคล้�ำข้ึนทล่ี ำ� ตัวก่อน แล้วกระจายไป แขนขา ผนื่ จะมอี ยู่ 3 - 4 วนั กห็ ายไปและอาจ พบภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับเชื้อ ได้แก่ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ ตับอักเสบ ไตวายเฉยี บพลนั กล้ามเนอื้ หัวใจ อักเสบ และภาวะอวัยวะภายในล้มเหลว หลายระบบ การรกั ษา รกั ษาโรคดว้ ยการใหย้ าปฏชิ วี นะทส่ี ามารถฆา่ เชอื้ O. tsutsugamushi เปน็ วธิ เี ดยี ว ทช่ี ว่ ยลดอาการของโรค ลดอตั ราการเจบ็ ปว่ ย อตั ราตาย และการแพรก่ ระจายของโรค ในผู้ป่วย โดยท่ัวไปรักษาด้วยยา Tetracycline 500 mg วันละ 2 คร้ัง และ ยา Doxycycline 100 mg วนั ละ 2 ครงั้ เปน็ เวลา 7 วนั หรอื ยา Chloramphenicol 50 - 75 mg/นำ้� หนกั ตัว 1 kg/วนั ซง่ึ จะให้ผลการรักษาดพี อกัน ถ้าผู้ป่วยคลน่ื ไส้ อาเจยี นมากหรือในรายทอ่ี าการรนุ แรงอาจจะใชย้ าแบบฉีด กไ็ ด้ สว่ นใหญไ่ ข้จะลดลงในเวลา 24 - 36 ชวั่ โมงหลงั ไดร้ บั การรกั ษา ส�ำหรับการรักษาในผหู้ ญงิ ที่ต้งั ครรภ์ หรือเด็กจะ ไมส่ ามารถใชย้ ากลมุ่ Tetracycline หรอื Chloramphenicol อาจให้ยา Azithromycin แทน 18
การป้องกนั 1. การปอ้ งกนั โรคในคน ซง่ึ เปน็ วธิ ที ดี่ ี ทส่ี ดุ โดยปอ้ งกนั ตนเองไมใ่ หถ้ กู ไรออ่ นกดั หรอื ไม่เข้าไปในพ้ืนที่ท่ีสงสัยเป็นที่อยู่ของไรอ่อน หลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสแหล่งท่ีอยู่อาศัย ของไรอ่อน เช่น กองฟางในท้องนา ปา่ ไร่ สวน ใช้ยาทากันแมลงกัดเมื่อจ�ำเป็นต้อง เขา้ ไปในพน้ื ทเี่ สย่ี ง แตง่ กายใหร้ ดั กมุ เชน่ เอาขากางเกงใสเ่ ขา้ ไปในรองเทา้ และใสเ่ สอ้ื ในกางเกง ใสร่ องเทา้ บู๊ท สว่ นท่ีอยู่นอกรม่ ผา้ ให้ทายากนั แมลงกดั หลงั จากออกจาก พ้ืนที่เส่ียงให้เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน�้ำช�ำระร่างกายทันที หลังออกจากพ้ืนท่ีเส่ียงและมี อาการไขภ้ ายใน 2 อาทิตย์ ใหพ้ บแพทย์ทนั ที 2. การป้องกันโดยการควบคุมก�ำจัดสัตว์พาหะและแมลงน�ำโรค ก�ำจัดและ ควบคุมตัวไรอ่อนและตัวไรโดยการพ่นยากลุ่ม Chlorinated hydrocarbon เช่น Lindane, Dieldrin หรอื Chlordane ไปบนพนื้ ดนิ และพมุ่ ไมร้ อบ ๆ ทพี่ กั และบรเิ วณ ท่ีมีคนอาศัยในถิ่นที่มีการระบาดของโรค การควบคุมและก�ำจัดหนู (ควรก�ำจัดตัวไร ออ่ นก่อนการก�ำจดั หนู เพราะหนูเปน็ สตั วร์ งั โรค เมื่อหนถู กู ก�ำจัดไรอ่อนไม่มีเหยือ่ ก็ จะมากัดคน) 3. การป้องกันโดยการปรับปรุงสภาพแวดล้อม โดยถางหญ้ารอบบริเวณบ้าน เพอ่ื ไมใ่ หเ้ ปน็ ทอี่ าศยั ของไรออ่ น และจดั เกบ็ หรอื ขดุ หลมุ ฝงั ขยะใหเ้ รยี บรอ้ ยเพอ่ื ไมใ่ ห้ หนูมาอาศัยอย่ใู นบรเิ วณบา้ น สำ� หรับตวั ไรอาจใชส้ ารเคมพี ่นรอบ ๆ บริเวณบา้ น สอบถาม ข้อมลู เพิม่ เติมไดท้ ี่ ส�ำนกั โรคติดตอ่ ท่ัวไป โทรศัพท์ 0-2590-3183 19
โรคไขเ้ ลอื ดออก “โรคไขเ้ ลอื ดออก” เปน็ โรคตดิ ตอ่ ทเี่ กดิ จากเชอื้ ไวรสั เดงกี ซงึ่ มยี งุ ลายเปน็ พาหะนำ� โรค หลังจากถูกยุงมีเชื้อกัดจะอยู่ในร่างกายคนประมาณ 5 - 8 วัน ผู้ป่วยจะเริ่ม มอี าการ มไี ขส้ ูงลอย 2 - 7 วัน มีจุดเลอื ดออกใตผ้ ิวหนงั โรคนเี้ กดิ ขนึ้ ไดท้ ง้ั ในเดก็ และผใู้ หญ่ และมกั ระบาดในฤดฝู นเพราะมยี งุ เพม่ิ มากขน้ึ ยงุ ลายอาศยั อยภู่ ายในบา้ นและรอบๆ บา้ น ชอบดดู กนิ เลอื ดคนเวลากลางวนั ในระยะ เวลา 10 ปีท่ผี ่านมา ไข้เลอื ดออกมกี ารระบาดเพม่ิ มากข้นึ และกลายเป็นโรคประจ�ำ ทอ้ งถนิ่ ของประเทศ มากกวา่ 100 ประเทศในแถบแอฟรกิ า อเมรกิ า เอเชยี ตะวนั ออก เฉียงใต้ โดยมีความรนุ แรงมากในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ อาการของโรคไข้เลอื ดออก ผู้ป่วยท่ีติดเช้ือไข้เลือดออกอาจมีอาการ เพียงเล็กน้อย หรืออาจจะเกิดอาการรุนแรงจน เสียชีวิต ความรุนแรงของการติดเช้ือขน้ึ กบั อายุ ภาวะภมู คิ มุ้ กนั และความรนุ แรงของเชอ้ื ลกั ษณะ ทีส่ ำ� คัญของไขเ้ ลือดออก คือ 20
1. ไขส้ ูงเฉียบพลัน ประมาณ 2 - 7 วัน 2. เบื่ออาหาร หนา้ แดง ปวดศีรษะ ร่วมกบั อาการคลนื่ ไสอ้ าเจียน และอาจมี อาการปวดทอ้ งร่วมดว้ ย 3. บางรายอาจมีจุดเลือดสีแดงข้ึนตามล�ำตัว แขน ขา อาจมีเลือดก�ำเดาออก หรือเลือดออกตามไรฟนั และถ่ายอุจจาระดำ� เนอื่ งจากเลือดออก และอาจ ท�ำให้เกิดอาการชอ็ กได้ 4. ในรายทชี่ อ็ กจะสงั เกตไดจ้ ากอาการไขล้ ดแตผ่ ปู้ ว่ ยซมึ ลง ตวั เยน็ ชพี จรเบาเร็ว หมดสติ หากรกั ษาไมท่ ันอาจเสยี ชวี ิตได้ การรักษาโรคไขเ้ ลอื ดออก ไมม่ ยี ารกั ษาเฉพาะโรคไขเ้ ลอื ดออก การรกั ษา จะใชว้ ิธปี ระคับประคอง เช่น ให้ยาลดไข้ เชด็ ตัวลด ไข้ และให้สารน้�ำชดเชย เช่น การให้น�้ำเกลือ เนื่องจากผู้ป่วยมักมีภาวะขาดน้�ำเนื่องจากไข้สูง ถ้ามีอาการปวดท้อง ปัสสาวะน้อยลง กระสับ กระสา่ ย มอื เทา้ เยน็ โดยเฉพาะในชว่ งไขล้ ด ตอ้ งรบี นำ� สง่ โรงพยาบาลทนั ที วธิ ปี อ้ งกนั และควบคมุ ไข้เลือดออก 1. ป้องกันยุงลายกัด ยุงลายมักจะกัดคน ในเวลากลางวัน ควรนอนในมุ้งหรือติดมุ้งลวดเพ่ือ ปอ้ งกนั ยงุ เขา้ มาในบา้ น หลกี เลย่ี งการอยบู่ รเิ วณมมุ อบั ชนื้ ทายากันยุงทส่ี กดั จากพชื ธรรมชาติ 2. ก�ำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้หมดไป ยุงลายจะเพาะพันธุ์ในน�้ำใส ในภาชนะท่ีเก็บน�้ำใช้ ในบา้ น เชน่ โอง่ นำ้� ถว้ ยรองขาตกู้ นั มด แจกนั ดอกไม้ ภาชนะนอกบา้ นทม่ี นี ำ้� ขงั เชน่ ยางรถยนต์ การทำ� ลาย แหล่งเพาะพนั ธยุ์ งุ ลายกระทำ� ไดโ้ ดย 21
• ภาชนะท่ใี ชเ้ กบ็ นำ�้ ตอ้ งมีฝาปิดให้มิดชดิ • ใช้ทรายก�ำจดั ลกู น�ำ้ ใสใ่ นภาชนะขงั น้ำ� • ทำ� ลายภาชนะท่ไี ม่จำ� เป็น เพราะอาจมี น้ำ� ขังได้ • ปล่อยปลากนิ ลกู นำ�้ เช่น ปลาหางนกยงู ในภาชนะท่ีมีน้ำ� ขังขนาดใหญ่ เชน่ อ่างบัว • เปล่ียนน้ำ� ในภาชนะเล็ก ๆ เชน่ แจกันทกุ 7 วนั • ปรบั ปรงุ สิง่ แวดลอ้ มในบา้ นและรอบบ้านใหเ้ ปน็ ระเบียบ • ขัดขอบภาชนะทกุ ครั้งท่เี ปล่ียนน�้ำเพอื่ ทำ� ลายไข่ยุงลาย การปฏบิ ัติเมือ่ มคี นในบ้านเป็นไขเ้ ลือดออก 1. ควรจะบอกคนในบ้าน หรอื ขา้ งบ้านวา่ มีผู้ปว่ ยไขเ้ ลือดออก 2. กำ� จัดลูกนำ้� และยุงตวั เต็มวยั ท้งั ในบา้ นและรอบบา้ น 3. ให้สมาชิกในครอบครัว ป้องกันการถูกยุงกัดโดยการป้องกันส่วนบุคคล ดังกล่าวขา้ งตน้ 4. แจง้ สาธารณสขุ ใหม้ าฉีดยาเพื่อฆ่ายุง ป้องกนั การระบาดเพ่มิ 5. เฝ้าดอู าการของสมาชิกในบ้าน หากมไี ข้ใหร้ ะวงั วา่ อาจจะเป็นไขเ้ ลอื ดออก 6. ใหผ้ ปู้ ่วยนอนในมุ้งเพือ่ ป้องกันยงุ กัด สอบถาม ข้อมูลเพิ่มเตมิ ได้ท่ี ส�ำนักโรคตดิ ตอ่ น�ำโดยแมลง โทรศพั ท์ 0-2590-3103-5 22
โรคไข้สมองอักเสบ เจอี “โรคไขส้ มองอกั เสบเจอ”ี เปน็ โรคไขส้ มองอกั เสบทพ่ี บมากทส่ี ดุ ในภมู ภิ าคเอเชยี รวมทั้ง ประเทศไทย โรคนเ้ี กดิ จากการตดิ เชอ้ื ไวรสั แจแปนสี เอน็ เซฟฟาไลตสิ หรอื เชอื้ ไวรสั เจอี (Japanese encephalitis: JEV) พบผู้ป่วยโรคไข้สมองอักเสบเจอีรายแรกในประเทศ ญี่ป่นุ เมือ่ พ.ศ.2414 โรคน้ีท�ำให้เกิดการอักเสบของระบบสมองส่วนกลาง ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ เป็นผลให้มีอตั ราตายสงู และกอ่ ให้เกดิ ความพิการทางสมองในรายท่รี อดชวี ิต การตดิ ตอ่ คนติดเชอื้ ไวรสั เจอโี ดยถกู ยงุ กัด ยงุ ที่เป็นพาหะน�ำโรคทีส่ ำ� คญั คือ ยุงร�ำคาญ (culex) ซ่ึงเพาะพันธุ์ในน�้ำขังท่ีอยู่ตามทุ่งนา โรคนี้จึงพบในเขตชนบทและชานเมือง มากกวา่ เขตเมอื ง สดั สว่ นของผตู้ ดิ เชอื้ ทมี่ อี าการและไมม่ อี าการโดยเฉลยี่ 1 ตอ่ 300 ราย การติดต่อเริ่มจากการติดเช้ือในสัตว์ เช่น หมู นก ม้า วัว ควาย แพะ แกะ สุนัข โดยสามารถตรวจพบเชื้อไวรัสเจอีในกระแสเลือดของสัตว์อยู่ระยะเวลาหน่ึง เมื่อยุง กัดกินเลือดสตั ว์ ขณะท่มี ีเชอื้ ไวรัสเจอีอยู่ เช้ือจะเขา้ ไปเพ่มิ จ�ำนวนในยงุ โดยบางสว่ น อาจไปท่ีรังไข่ของยุง ท�ำให้ยุงเกิดใหม่มีเช้ือไวรัสเจอีตั้งแต่เกิด เม่ือยุงที่มีเช้ือไวรัส มากดั สตั วท์ ไ่ี มเ่ คยตดิ เชอ้ื มากอ่ นกจ็ ะสามารถแพรเ่ ชอ้ื นมี้ าสคู่ น เมอ่ื รา่ งกายไดร้ บั เชอ้ื 23
ไวรัสเจอีจากการถูกยุงกัด เชื้อจะเขา้ ไปในกระแสเลอื ด และเขา้ ไปในระบบประสาท โดยเฉพาะในสมองท�ำให้สมองเกิดการอักเสบ โดยเช้ือจะใช้ระยะเวลาในการฟักตัว 5 - 15 วัน ผู้ป่วยจึงจะเริ่มมอี าการป่วย อาการ ผูท้ ่ตี ิดเชือ้ ไวรัสเจอสี ่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ แตถ่ ้ามอี าการมกั รุนแรงอาจถึงขัน้ เสียชีวิต โรคน้ีอัตราป่วยตายประมาณหน่ึงในสาม อาการและอาการแสดงของโรค แบง่ เป็น 3 ระยะ คอื 1)ระยะอาการนำ� เร่มิ จากผู้ป่วยมีไข้สงู ออ่ นเพลยี ปวดเมอ่ื ย ตามเนือ้ ตัว ปวดศีรษะ มกั พบอาการคลืน่ ใสอ้ าเจยี นรว่ มดว้ ย ตวั แข็งเกร็ง 2)ระยะ สมองอกั เสบเฉียบพลัน คอื มีไข้สูงลอย มีอาการชักเกร็ง คอแขง็ มกี ารเปล่ยี นแปลง ระดับความรสู้ กึ ตัว ซมึ หมดสติ หรอื บางรายอาจเป็นอัมพาตและ 3) ระยะพนื้ โรค ผปู้ ่วยที่รอดชวี ติ ประมาณรอ้ ยละ 40 - 60 มกั พบความผิดปกติทางจิตประสาท และ เชาวนป์ ัญญา ความผนั แปรทางอารมณ์ มบี คุ ลกิ ภาพเปล่ยี นแปลงไป การรกั ษา โดยท่ัวไปเป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ และการดูแลบริบาล ผปู้ ว่ ยทัว่ ไป 24
การปอ้ งกัน การปอ้ งกันและควบคมุ โรค สามารถท�ำไดโ้ ดย 1) การให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับวงจรการเกิดโรค อาการของโรค และวิธี ปอ้ งกนั การเกดิ โรค 2) การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี ปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรค ไขส้ มองอกั เสบเจอีมี 2 ชนิดได้แก่ วัคซนี ทีท่ �ำจากเชอื้ ทีต่ ายแล้ว และวคั ซนี ที่ทำ� จาก เชื้อมีชีวิตท่ีท�ำให้อ่อนฤทธิ์ (วัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์) วัคซีนท้ังสองชนิดมีความ ปลอดภยั และมปี ระสทิ ธภิ าพสงู เดก็ ทกุ คนควรฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคไขส้ มองอกั เสบเจ อี วคั ซีนชนดิ เช้ือเป็นออ่ นฤทธ์ิฉีด 2 เข็ม ในเด็กอายุ 1 ปีและอายุ 2 ปคี รึง่ โดยฉดี เข้าใต้ผวิ หนงั วคั ซนี ชนดิ เช้ือตายให้ฉดี รวม 3 คร้งั มีระยะหา่ งระหว่างเข็มคอื 4 สัปดาห์ และ 1 ปี ตามล�ำดับ ผูท้ ี่เคยได้รบั วคั ซีนเชื้อตายมากอ่ นแต่ยงั ไมค่ รบ สามารถฉดี ตอ่ ด้วย วคั ซีนชนดิ เชื้อเปน็ ได้ 3) ควบคมุ และกำ� จัดยงุ ท่ีเปน็ พาหะนำ� โรค เชน่ การท�ำลายแหล่งเพาะพันธยุ์ งุ เปน็ ตน้ 4) ควบคุมสัตว์เลี้ยงท่ีสามารถแพร่พันธุ์เช้ือไวรัสเจอี เช่น เลี้ยงหมูในคอกที่ ห่างจากท่ีอยู่อาศัยของคน อาจท�ำคอกท่มี ีมุ้ง หรอื ฉดี วคั ซีนป้องกนั โรคใหส้ ัตว์เลยี้ ง ดังกล่าว สอบถาม ขอ้ มูลเพ่มิ เตมิ ได้ท่ี ส�ำนักโรคติดตอ่ ทว่ั ไป โทรศัพท์ 0-2590-3196-99 25
โรคไข้เหลอื ง โรคไข้เหลือง เป็นโรคติดต่ออันตรายที่เฉียบพลัน มีความรุนแรงและมีอัตราตายสูง สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสไข้เหลือง ซึ่งอยู่ในตระกูล Flavivirus โดยมียุงลายเป็นพาหะ นำ� เชื้อจากผู้ป่วยท่ีเป็นโรคไข้เหลืองไปสคู่ นปกติ เชน่ เดียวกบั โรคไขเ้ ลือดออก โรคไข้เหลืองเป็นโรคประจ�ำถิ่นของประเทศแถบแอฟริกา และทวีปอเมริกาใต้ ปจั จบุ นั องคก์ ารอนามยั โลกประกาศใหพ้ น้ื ทท่ี ไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากโรคนเ้ี ปน็ เขตตดิ ตอ่ ซงึ่ มีอยู่ทงั้ หมด 45 ประเทศใน 2 ทวีป คือ แถบทวปี แอฟริกา 32 ประเทศ เช่น ไนจเี รีย ซดู าน แคเมอรนู เคนยา กินี เป็นต้น และแถบทวีปอเมริกาใต้ เชน่ โบลเิ วยี บราซิล โคลอมเบีย เอกวาดอร์ เปรู เป็นต้น สำ� หรับคำ� วา่ “เหลอื ง” มาจากอาการไข้ รว่ มกบั ตัวเหลอื ง หรือดีซา่ นทม่ี กั พบ ในผู้ป่วย (จึงเรียกวา่ “ไข้เหลอื ง”) การติดตอ่ ของโรค การตดิ เชอ้ื เกดิ ในคนและลงิ โดยตดิ ตอ่ จากคนสคู่ น (Horizontal transmission) และมยี งุ Aedes spp. และ Haemogogus spp. (พบในทวปี อเมริกาเท่านน้ั ) เปน็ พาหะน�ำโรค สามารถตดิ ต่อได้โดยการถกู ยงุ ลายทม่ี เี ชื้อไวรสั ไขเ้ หลืองกัด เมอ่ื ยุงลาย ดดู เลอื ดเข้าไปแล้ว เชือ้ ไวรสั จะใช้เวลาฟักตวั 9 – 12 วัน ในเขตอากาศรอ้ น และเมอื่ ติดเช้ือแล้ว เช้ือจะคงอยู่ในตัวยุงน้ันไปตลอดชีวิต ซึ่งเชื้อไวรัสสามารถถ่ายทอดผ่าน ไปสยู่ งุ รนุ่ ลูกหลานไดท้ างไข่ โรคนไ้ี ม่ตดิ ตอ่ โดยการสัมผสั หรือจบั ต้องสง่ิ ของรว่ มกัน ดังนั้นยุงลายจึงเป็นแหล่งรังโรคท่ีแท้จริงของไข้เหลือง ซ่ึงยุงลายเหล่าน้ีมีทั้ง ยุงลายบ้าน และยงุ ลายป่า ส�ำหรบั การติดเชือ้ ในคนมวี งจรการตดิ ตอ่ ได้ 3 แบบ คอื 1) วงจรในป่าซึ่งประกอบด้วยยุงกับลิง (Sylvatic cycle หรือ Jungle cycle) 26
2) วงจรกง่ึ ปา่ ก่ึงเมอื ง (intermediate cycle) 3) วงจรในเมอื งซ่ึง ประกอบด้วยยุงกับคน (Urban cycle) ซ่ึงทั้ง 3 วงจรนจ้ี ะพบใน ทวปี แอฟรกิ า แตใ่ นทวปี อเมรกิ าใตจ้ ะพบวงจรในปา่ กบั วงจรในเมอื ง อาการของโรค เช้ืออาศัยอยู่ในร่างกายคน โดยมีระยะฟักตัวของโรคประมาณ ๓ – ๖ วัน แบ่งออกเปน็ ๒ ระยะ คือ ระยะแรก (Acute phase) จะมอี าการไข้สงู ปวดศรี ษะ ปวดกล้ามเนอ้ื รว่ มกบั ปวดหลงั และเอว หนาวสั่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มกั พบ บ่อยว่าผู้ป่วยจะมีไข้สูงร่วมกับชีพจรเต้นช้าผิดปกติ ประมาณ ๓ – ๔ วัน ผู้ป่วย สว่ นใหญจ่ ะมีอาการดีข้ึน อย่างไรก็ตาม ๑๕% ของผปู้ ่วยเม่ือเขา้ สรู่ ะยะทสี่ อง (Toxic phase) ภายใน ๒๔ ชว่ั โมงจะมอี าการไข้กลับ ปวดทอ้ ง อาเจยี น ผปู้ ว่ ยมักมอี าการตัวเหลอื งเลก็ นอ้ ย และจะเหลอื งมากข้ึนในระยะต่อมา มเี ลอื ดออกทาง ปาก จมกู ตา กระเพาะอาหาร ทำ� ใหอ้ าเจยี น และถา่ ยเปน็ เลอื ด โปรตนี ในปสั สาวะ (Albuminuria) และอาจปสั สาวะ ไม่ออก (Anuria) คร่ึงหนง่ึ ของผปู้ ว่ ยระยะนีจ้ ะเสยี ชีวิตภายใน ๑๐ – ๑๕ วนั เน่ืองจาก ตับวายและไตวาย การรักษา ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคไข้เหลืองจ�ำเพาะ แต่เป็นการรักษาแบบประคับ ประคองตามอาการ เชน่ ให้ยาลดไข้ และใหส้ ารนำ้� ทดแทนภาวะขาดนำ้� เปน็ ตน้ ดงั นน้ั ผทู้ อี่ ยอู่ าศยั ในประเทศทมี่ รี ายงานการเกดิ โรคของไขเ้ หลอื ง หรอื ไดเ้ ดนิ ทาง ไปประเทศเหลา่ นน้ั โดยทไ่ี มไ่ ดร้ บั การฉีดวคั ซนี ป้องกนั โรคมากอ่ น หากพบวา่ ตนเอง มอี าการไข้ อาเจียน ตัวเหลอื ง ตาเหลอื ง มีจุดเลอื ดออกตามตวั หรือมีเลือดออกตาม ท่ีตา่ งๆ ร่วมด้วย ควรรบี พบแพทยโ์ ดยทันที การปอ้ งกนั โรค การฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคไขเ้ หลอื ง เปน็ วคั ซนี ทม่ี คี วามปลอดภยั และประสทิ ธภิ าพสงู 95% ของผู้ที่ได้รับวัคซีน จะสร้างภูมิคุ้มกันภายใน 1 สัปดาห์ วัคซีนป้องกันโรค 1 เขม็ สามารถปอ้ งกันโรคไดน้ าน 10 ปี หรอื อาจอยู่ได้ถึงตลอดชีวิต ผลขา้ งเคยี งพบ นอ้ ยมาก และสว่ นใหญ่จะเกดิ ในเดก็ อายตุ ่ำ� กว่า 6 เดอื น จึงไม่แนะนำ� ให้ฉีดกบั เด็ก กลมุ่ นี้ มี 17 ประเทศในแถบแอฟรกิ าทม่ี แี ผนการใหว้ คั ซนี ปอ้ งกนั โรคไขเ้ หลอื งในเดก็ ท่ัวประเทศตามค�ำแนะนำ� ขององคก์ ารอนามัยโลก โดยฉดี ใหแ้ ก่เดก็ ช่วงอายุ 9 เดือน 27
สถานที่ให้บริการฉดี วัคซนี ปอ้ งกันโรคไขเ้ หลอื ง ทำ� การแพทยต์ รวจคนเขา้ เมอื ง ศนู ยร์ าชการฯ แจง้ วฒั นะ โทร. 0 2143 1466 สถาบันบำ� ราศนราดรู กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ โทร. 0 2590 3432 สถานเสาวภา สภากาชาดไทย โทร. 0 2252 0161-4 ตอ่ 132 โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวทิ ยาลยั มหิดล โทร. 0 2306 9100 ต่อ 3034 , 0 2306 9154 ศนู ย์สาธติ บริการวณั โรค พต 1 ส�ำนกั งานปอ้ งกนั ควบคุมโรคท่ี 1 เชียงใหม่ โทร. 0 5327 6364 , 0 5327 1435 ส�ำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวัด 14 จงั หวดั (ภาคใต้) โทร. 0 5327 6364 , 0 5327 1435 ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศ โทร. 0 5327 6364, 0 5327 1435 - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โทร. 0 2134 0139 - ท่าอากาศยานดอนเมอื ง โทร. 0 2535 4211 - ทา่ เรือกรงุ เทพ โทร 0 2240 2057 - ท่าเรอื แหลมฉบัง โทร. 0 3840 9344 - ทา่ อากาศยานหาดใหญ่ โทร. 0 7425 1548 - ท่าเรือสงขลา โทร. 0 7433 1206, 0 7433 2641 - ทา่ เรือภูเก็ต โทร. 0 7621 1075 สอบถาม - ท่าเรือศรรี าชา โทร. 0 3840 9344 ข้อมลู เพ่ิมเติมไดท้ ี่ - ท่าเรอื มาบตาพดุ โทร. 081 683 3110 ส�ำนักโรคติดตอ่ ทวั่ ไป - พรมแดนสะเดา โทร. 0 7455 7260 โทรศัพท์ 0-2590-3234-5 28
โรคไข้หวัดนก “โรคไข้หวดั นก” (Avian Influenza) โรคท่เี กิดจากการติดเช้ือไวรสั Avian Influenza virus type A ลักษณะของเชื้อไวรัสในกลุ่ม Avian Influenza virus type A น้ี ถกู ทำ� ลายไดด้ ว้ ยนำ�้ ยาฆา่ เชอ้ื ทว่ั ไป เชน่ แอลกอฮอล์ คลอโรฟอรม์ และไขห้ วดั นกทตี่ ดิ มาสคู่ นมักจะเปน็ ไวรัสชนิด H5N1 เช้ือโรคหวัดนกจะมีระยะฟักตัวในสัตว์อาจจะส้ันเพียงไม่ก่ีช่ัวโมงหรือยาวถึง 3 วัน อาการท่ีแสดงน้ันมีความผันแปรตั้งแต่ระดับที่ไม่รุนแรง ไปจนถึงข้ันเสียชีวิต ขน้ึ อยกู่ บั ชนดิ ของเชอื้ ไวรสั และสตั วท์ ไี่ ดร้ บั เชอ้ื สตั วอ์ าจจะไมแ่ สดงอาการปว่ ย แตจ่ ะมี ระดับภูมคิ ุ้มกันสงู ข้นึ ภายใน 10 - 14 วัน จึงสามารถวนิ ิจฉยั วา่ เป็นโรค สตั วอ์ าจจะ แสดงอาการดังน้ี ไก่จะซบู ผอม ซมึ มาก ไมก่ ินอาหาร ขนยงุ่ ไขล่ ด ไอ จาม หายใจ ล�ำบาก น�้ำตาไหลมาก หน้าบวม หงอนและเหนียงบวม มีสีคล�้ำ ตาปิดเน่ืองจาก หนังตาบวม อาจมีอาการของระบบประสาท และท้องเสีย ส่วนท่ีรุนแรงจะตาย กะทันหนั โดยไมแ่ สดงอาการ ซงึ่ มีอตั ราตายสูง 100 % ไวรสั ชนดิ นีอ้ าจทำ� ใหส้ ตั ว์ปกี ชนิดอ่นื ๆ ปว่ ยดว้ ย เช่น เป็ด นกกระทา ไก่งวง เปน็ ตน้ การติดต่อของโรค คนสามารถตดิ เชือ้ จากสตั วไ์ ด้ โดยการสมั ผสั ใกลช้ ดิ กับสตั วป์ กี ท่ปี ว่ ยหรอื ตาย ด้วยโรคไข้หวัดนก หรือจากการกินอาหารหรือน้�ำที่มีการปนเปื้อนเช้ือไข้หวัดนก 29
ทางออ้ มคอื การสมั ผสั กบั ดนิ นำ้� อาหาร เสอื้ ผา้ รองเทา้ พาหนะ และอื่นๆ ทป่ี นเป้อื นสารคัดหลง่ั ของสัตว์ป่วย โดยเชอื้ อาจตดิ มากบั มอื และเขา้ สรู่ า่ งกายทางเยอ่ื บจุ มกู ตา และปาก ขณะนีย้ ังไม่มีการตดิ ตอ่ จากคนสู่คน และ ไมพ่ บการติดเชื้อจากการบรโิ ภคสตั ว์ปีกท่ปี รุงสุก การรักษา หากผปู้ ว่ ยมอี าการคลา้ ยไขห้ วดั ใหญ่ และมปี ระวตั ิ สัมผัสสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตาย หรืออยู่ในพ้ืนที่ท่ีมีโรค ไข้หวัดนกระบาดอยู่ ต้องรบี ไปพบแพทย์ทีโ่ รงพยาบาล ทันที เพราะต้องไดร้ ับยาต้านไวรสั โดยเร็ว หลงั จากเริม่ มีไข้ รวมท้ังต้องได้รับยารักษาตามอาการ ภายใต้การ รักษาดูแลใกลช้ ิดจากแพทยเ์ ทา่ นั้น แนวทางการป้องกนั โรคส�ำหรับกล่มุ เสย่ี งตา่ งๆ ประชาชนผบู้ ริโภคสตั ว์ปีก และผลติ ภณั ฑจ์ ากสัตวป์ กี 1. สำ� หรบั เนอ้ื ไก/่ เปด็ ทม่ี ขี ายอยตู่ ามทอ้ งตลาดในขณะน้ี ถอื วา่ มคี วามปลอดภยั สามารถบริโภคได้ตามปกติ แตต่ ้องปรุงให้สกุ กอ่ นรบั ประทาน 2. ประชาชนผู้บรโิ ภคสตั วป์ กี และผลิตภัณฑจ์ ากสตั วป์ กี ควรรับประทานเนอ้ื ท่ี ปรุงสุกเท่าน้ัน งดการประทานเน้ือไก่/เป็ด ที่ก่ึงสุกก่ึงดิบ เน่ืองจากเช้ือโรคต่างๆ ท่ีอาจปนเปือ้ นมา ไม่ว่าจะเป็นไวรสั แบคทเี รยี หรอื พยาธิ แตเ่ ชอ้ื เหลา่ นี้จะถกู ทำ� ลาย ไดด้ ้วยความร้อน 30
3. ส่วนไข่ไก่ก็ควรเลือกฟองที่สดใหม่ และไม่มีมูลไก่ติดเปื้อนท่ีเปลือกไข่ ก่อนปรงุ ควรนำ� มาล้างให้สะอาด และปรุงให้สุกกอ่ นรับประทาน 4. หมั่นล้างมอื บ่อยๆ ไมค่ วรใช้มอื ท่ีเปือ้ นมาจบั จมูก ตา และปาก โดยเฉพาะ อยา่ งยิ่ง หลงั จบั ต้องเนื้อสตั ว์ เครือ่ งในสตั ว์ ผ้ปู ระกอบอาหาร ผู้ประกอบอาหารทั้งเพ่ือการจ�ำหน่าย และแม่บ้านที่เตรียมอาหารในครัวเรือน เป็นผู้มีบทบาทส�ำคัญในการป้องกันโรคติดต่อจากอาหาร กระทรวงสาธารณสุข ขอเนน้ การปอ้ งกัน ดังน้ี 1. ควรเลือกซ้ือไก่/เป็ดสดท่ีไม่มีลักษณะบ่งชี้ว่าอาจตายด้วยโรคติดเชื้อ เช่น เน้ือมีสีคล้ำ� มีจดุ เลือดออก เป็นต้น สำ� หรบั ไข่ ควรเลอื กฟองท่ีดสู ดใหม่ และไม่มมี ลู ไก่ติดเปอ้ื นท่ีเปลอื กไข่ กอ่ นปรุง ควรน�ำมาลา้ งใหส้ ะอาดกอ่ น 2. ไม่ใช้มือที่เปื้อนมาจับต้องจมูก ตา และปาก และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงหลังจับต้องเน้ือสัตว์ เคร่ืองในสัตว์และเปลือกไข่ท่ีมี มูลสัตวเ์ ปอื้ น 3. แยกเขยี งสำ� หรับหน่ั อาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรอื ผกั ผลไม้ โดยเฉพาะไมใ่ ช้ เขียงเดยี วกัน 31
ผู้ช�ำแหละไก่ ผู้ช�ำแหละไก่อาจมีความเส่ียงจากการติดโรคจากสัตว์จึงควรระมัดระวังขณะ ปฏบิ ัติงาน ดงั น้ี 1. ต้องไม่ซ้ือไก่ท่ีมีอาการผิดปกติจากการติดเช้ือ เช่น ซึมหงอย ขนฟู หนา้ หงอน หรอื เหนยี งบวมคล�ำ้ มีนำ้� มูก หรือขไี้ หล เปน็ ต้น หรือไก่ที่ตาย มาช�ำแหละขาย 2. ไม่ขงั สตั วป์ กี จ�ำพวก ไก่ เปด็ ห่าน ฯลฯ ที่รอชำ� แหละไว้ในกรงใกลๆ้ กนั เพราะจะเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เชื้อโรคกลายพันธุ์ จนอาจเกิดเช้ือสายพันธุ์ ใหม่ๆ ทีเ่ ปน็ อนั ตรายทัง้ ตอ่ คนและสัตว์ได้ 3. ควรทำ� ความสะอาดกรง และอปุ กรณอ์ ยา่ งสมำ�่ เสมอดว้ ยนำ้� ผงซกั ฟอก และ น�ำไปผ่ึงกลางแดดจัดๆ นอกจากนั้นอาจราดด้วยน้�ำยาฆ่าเชื้อเดือนละ 1 - 2 ครงั้ 4. หากสตั วท์ ชี่ ำ� แหละมลี กั ษณะผดิ ปกติ เชน่ มจี ดุ เลอื ดออก มนี ำ�้ หรอื เลอื ดคงั่ หรอื จดุ เนอื้ ตายสขี าวทเี่ ครอื่ งใน หรอื เนอื้ มสี ผี ดิ ปกติ ตอ้ งไมน่ ำ� ไปจำ� หนา่ ย และรบี แจ้งเจา้ หน้าทป่ี ศสุ ตั ว์มาตรวจสอบทันที เพราะอาจเปน็ โรคระบาด 5. ต้องล้างบริเวณช�ำแหละสัตว์ให้สะอาดด้วยน�้ำผงซักฟอกหลังเสร็จส้ิน การชำ� แหละไก่ และควรราดน้�ำยาฆ่าเชอื้ โรคเดอื นละ 1 - 2 ครั้ง 6. ผชู้ ำ� แหละไกค่ วรดแู ลระมดั ระวงั ตนเองอยา่ งถกู ตอ้ ง โดยใชอ้ ปุ กรณป์ อ้ งกนั ร่างกาย เช่น พลาสติกหรือผ้ากันเปื้อน ผ้าปิดปากจมูก ถุงมือ แว่นตา รองเท้าบู๊ต และต้องหมนั่ ลา้ งมือบอ่ ย ๆ 7. รีบอาบน�้ำช�ำระร่างกายด้วยน้�ำและสบู่ให้สะอาด และต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ทุกครง้ั หลงั ปฏิบตั ิงานเสรจ็ สว่ นเสอื้ ผา้ ชดุ เดมิ พลาสตกิ หรอื ผา้ กันเป้ือน ผ้าปิดปากจมูก ถุงมือ แว่นตา ควรน�ำไปซักหรือล้างให้สะอาด และผ่ึง กลางแดดใหแ้ ห้งสนิทก่อนน�ำมาใชอ้ กี ครง้ั 32
ผ้ขู นยา้ ยสตั วป์ ีก 1. งดซื้อสตั ว์จากฟารม์ ทีม่ สี ัตว์ตายมากผดิ ปกติ 2. เม่ือขนส่งสัตว์เสร็จในแต่ละวัน ต้องรีบล้างท�ำความสะอาดรถให้สะอาด ด้วยน�้ำผงซักฟอก ส�ำหรับกรงขังสัตว์ควรราดด้วยน�้ำยาฆ่าเช้ือซ�้ำอีกคร้ัง หนึ่ง 3. ควรดแู ลระมัดระวังตนเอง โดยใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั ร่างกาย เชน่ ผา้ ปดิ ปาก จมูก ถุงมือ รองเท้าบทู๊ และตอ้ งหม่นั ล้างมอื บอ่ ย ๆ 4. รีบอาบน�้ำช�ำระร่างกายด้วยน�้ำและสบู่ให้สะอาด และต้องเปล่ียนเส้ือผ้า ทุกครั้งหลังปฏิบัติเสร็จ ส่วนเส้ือผ้าชุดเดิม พลาสติกหรือผ้ากันเปื้อน ผา้ ปดิ ปากจมกู ถงุ มอื แวน่ ตา ควรนำ� ไปซกั หรอื ลา้ งใหส้ ะอาด และผงึ่ กลาง แดดให้แห้งสนิท ก่อนน�ำมาใช้อีกคร้ัง เกษตรกรผเู้ ลีย้ งไก/่ เปด็ 1. หากมไี ก/่ เปด็ ปว่ ยหรอื ตายไมว่ า่ ดว้ ย สาเหตุใด ให้รีบปรึกษาเจ้าหน้าท่ีปศุสัตว์ ในพนื้ ทที่ นั ที ต้องไม่น�ำไก่/เป็ด ท่ีป่วยหรือตายออก มาจ�ำหน่าย และท�ำลายตามค�ำแนะน�ำของ เจา้ หนา้ ทปี่ ศุสตั ว์อย่างเคร่งครัด เพ่ือป้องกัน การแพรเ่ ชอ้ื มาสสู่ ตั วอ์ นื่ หรือคน 2. เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ต้องป้องกัน สตั วป์ กี ของตนเองไมใ่ หต้ ดิ เชอื้ ไขห้ วดั นก โดย ปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำของเจ้าหน้าท่ีปศุสัตว์ การป้องกนั โรคใหแ้ กเ่ ดก็ และเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขอย่างเครง่ ครดั 1. เน่อื งจากเดก็ มักมีนสิ ัยชอบเลน่ คลกุ คลกี ับสัตวเ์ ลย้ี ง รวมทั้งไก่และนก และ หากติดเชื้อไข้หวัดนกมักป่วยรุนแรง ดังนั้นในช่วงที่มีโรคระบาด ในสัตว์ปีก มีสัตว์ตายมากผิดปกติ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรระมัดระวังดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด และเตือนไม่ให้เด็กจับอุ้ม ไกห่ รือนก หรอื จับต้องซากสตั ว์ปีกที่ตาย และตอ้ งฝึกสุขนิสยั ที่ ดใี หเ้ ดก็ โดยเฉพาะการล้างมือทกุ คร้ังหลังจับต้องสตั ว์ 33
2. หากเด็กมีอาการป่วยสงสัยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ต้องรีบพาไปพบ แพทยเ์ พอื่ รบั การรกั ษาโรคเรว็ ทสี่ ดุ โดยทว่ั ไปเมอื่ ไดร้ บั การรกั ษาและดแู ลอยา่ งถกู ตอ้ ง เดก็ จะค่อย ๆ มอี าการดีขึ้นภายใน 2 ถงึ 7 วนั แต่ควรสงั เกตอาการอยา่ งใกลช้ ิด หากมอี าการรุนแรงขึน้ เชน่ มีอาการหอบ ต้องรบี พาไปโรงพยาบาลทนั ที ข้อแนะนำ� กรณีพบสัตวป์ ีกตายผดิ สังเกต สัตว์ท่ีตายผิดสังเกต อาจมีสาเหตุมาจาก โรคระบาดหลายโรค รวมทง้ั โรคไขห้ วดั นกดว้ ย หรอื อาจ เกดิ จากสาเหตอุ ่ืน ผู้ทีพ่ บเหน็ ควรปฏบิ ตั โิ ดยเร็ว ดังน้ี 1. สัตว์ที่ตายผิดสังเกต อาจมีสาเหตุมาจาก โรคระบาดหลายโรค รวมทั้งโรคไข้หวัดนกด้วย หรือ อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ผู้ท่ีพบเห็นควรปฏิบัติโดยเร็ว ดังน้ี - กรุงเทพมหานคร แจ้งส�ำนักงานเขตท่ีพบสตั ว์ ตาย หรือศูนย์ปฏิบัติการไข้หวัดนก กทม. โทร. 0 2354 1836 หรือ 0 2245 8106 (จันทร์ - ศุกร์ 08.00 - 20.00 น., เสาร-์ อาทติ ย์ 08.00 - 12.00 น.) หรือสายด่วน 1555 และนอกเวลาดังกล่าวโทรสายด่วนส�ำนักอนามัย กทม. โทร. 0 2245 4964 หรอื - กรมปศสุ ตั ว์ โทร. 0 2653 4551-4 ตอ่ 101 - 105 - ต่างจังหวัด แจ้งปศุสัตว์อ�ำเภอหรือจังหวัด/อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�ำ หม่บู า้ น (อสม.) เจ้าหนา้ ทส่ี ถานีอนามยั /ก�ำนัน/ผู้ใหญ่บา้ น/เทศบาล/อบต. 2. เกบ็ ซากสตั วใ์ สล่ งในถงุ พลาสตกิ รดั ปากถงุ ใหแ้ นน่ ตอ้ งไมจ่ บั ซากสตั วด์ ว้ ย มือเปล่า ควรสวมถงุ มอื ยาง ถ้าไม่มอี าจใช้ถุงพลาสตกิ หนา ๆ สวมมอื เจ้าหนา้ ท่อี าจ น�ำซากบางส่วนไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการตาย ส่วนซากท่ีเหลือต้องรีบน�ำไปเผา หรือฝัง หากใช้วิธีฝังควรราดด้วยน้�ำยา ฆา่ เชอื้ หรือโรยปนู ขาว หรืออาจใชน้ �้ำเดือด สอบถาม ราดท่ซี ากก่อนกลบดินใหแ้ นน่ ขอ้ มลู เพิ่มเติมไดท้ ี่ ส�ำนักโรคติดต่อทว่ั ไป โทรศัพท์ 0-2590-3191 34
โรคไข้หวดั ใหญ่ “โรคไข้หวดั ใหญ”่ (Influenza) เปน็ โรคที่เกดิ จากเช้อื Influenza virus เป็นการตดิ เช้ือ ระบบทางเดินหายใจ พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย พบได้เกือบทั้งปี แต่จะเป็นมาก ในชว่ งฤดูฝน และฤดูหนาวซ่ึงบางปีอาจจะพบการระบาดของโรค และเปน็ สาเหตอุ ันดับ ต้นๆ ของอาการไข้ที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน แพทย์มักจะให้การวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีอาการ ตัวร้อนมา 2 - 3 วนั โดยไม่มีอาการอยา่ งอ่นื ชัดเจนวา่ เปน็ ไข้หวัดใหญ่ ซ่งึ บางครัง้ เชื้ออาจจะลามเข้าปอดท�ำให้เกิดปอดบวม ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ปวดกลา้ มเนือ้ มาก การติดต่อของโรค เชอ้ื ไขห้ วดั ใหญน่ จ้ี ะอยใู่ นนำ้� มกู นำ�้ ลาย หรอื เสมหะของผปู้ ว่ ย ตดิ ตอ่ ไดง้ า่ ยโดย ทางเดนิ หายใจ จากการไอหรอื จาม เชอ้ื จะเขา้ ทางปากและเยอื่ บตุ า สมั ผสั เสมหะของ ผ้ปู ่วยทางแกว้ น้ำ� ผา้ จูบ สมั ผัสทางมือทป่ี นเป้อื นเชือ้ โรค ระยะเวลาท่ีติดต่อคนอ่ืน คือ 1 วันก่อนเกิดอาการ 5 วันหลังจากมีอาการ ในเด็กอาจจะแพร่เช้ือ 6 วัน กอ่ นมอี าการ และแพรเ่ ชอ้ื ไดน้ าน 10 วนั ในการเกดิ โรคแตล่ ะครง้ั จะเกดิ จากสายพนั ธ์ุ ย่อยๆ เพียงพันธุ์เดียว ซึ่งเป็นแล้วจะมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์น้ัน เชื้อไข้หวัดใหญ่ บางพันธุ์ อาจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันท�ำให้เกิดการระบาดใหญ่ และมีการเรียกช่ือ โรคทีร่ ะบาดแต่ละคร้งั ตามช่ือของประเทศท่ีเป็นแหล่งต้นกำ� เนดิ 35
อาการของโรคไขห้ วดั ใหญ่ มักจะเกิดขึ้นทันทีทันใดด้วยอาการไข้สูง ตัวร้อน หนาว ปวดเม่ือยตามกล้ามเน้ือมาก โดยเฉพาะที่หลัง ต้นแขน ต้นขา ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คัดจมกู มนี ้ำ� มกู ใส ๆ ไอแหง้ ๆ จกุ แนน่ ทอ้ ง แต่บางราย อาจไมม่ อี าการคดั จมกู หรอื เปน็ หวดั เลยกไ็ ด้ มขี อ้ สงั เกต วา่ ไขห้ วดั ใหญม่ กั จะพบอาการของหวดั คอ่ นขา้ งนอ้ ย เชน่ อาการคัดจมกู น้�ำมกู ไหล ไอ จาม ซงึ่ แตกตา่ งกบั ไขห้ วดั จะพบกับอาการเหล่านี้ได้ค่อนข้างบ่อย ไข้มักเป็นอยู่ 2 - 4 วัน แล้วคอ่ ยๆ ลดลง อาการไอและออ่ นเพลีย อาจเปน็ อยู่ 1 - 4 สัปดาห์ แมว้ ่าอาการอ่ืนๆ จะหาย ลงแลว้ บางรายเมอ่ื หายจากไขห้ วดั ใหญแ่ ลว้ อาจมอี าการ เวยี นศรี ษะ เมารถเมาเรอื เนอื่ งจากการอกั เสบของอวยั วะ การทรงตัวในหชู ้ันใน ซึง่ มกั จะหายเองใน 3 - 5 วนั ข้อแนะนำ� ในการดแู ลรกั ษา โรคน้ีไม่ถือว่าเป็นโรคร้ายแรง ส่วนมากให้การดูแลตามอาการ และจะหาย เองได้ภายใน 3 - 5 วนั ซ่งึ มีวิธดี ังน้ี 1. ให้นอนพัก ไมค่ วรจะออกกำ� ลงั กาย 2. ใหด้ มื่ นำ�้ เกลอื แรห่ รอื นำ�้ ผลไม้ ดม่ื จนปสั สาวะใส ไมค่ วรดม่ื นำ้� เปลา่ มากเกนิ เพราะอาจจะขาดเกลอื แร่ 3. รักษาตามอาการ หากมไี ข้ให้ใช้ผา้ ชบุ นำ้� เช็ดตวั หากไข้ไมล่ ดให้รบั ประทาน ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล หา้ มใช้ยาแอสไพริน โดยเฉพาะในเด็กท่อี ายุ ตำ่� วา่ 12 ปี เพราะอาจท�ำใหเ้ กิดอาการรนุ แรงอนื่ ๆ ตามมา พาราเซตามอล ยาแอสไพรนิ 36
4. หากทานยาแลว้ อาการไมด่ ขี นึ้ ควรรบี พบแพทย์ ไมค่ วรซอื้ ยารบั ประทานเอง 5. ในผทู้ เ่ี จบ็ คออาจจะใชน้ �้ำ 1 แก้วผสมเกลอื 1 ช้อนกลว้ั คอ อย่าสง่ั น้�ำมกู แรงๆ อาจจะทำ� ให้เช้อื ลุกลาม 6. ในช่วงที่มีการระบาดให้หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์สาธารณะ ลูกบิดประตู เวลาไอหรือจามตอ้ งใช้ผ้าเชด็ หนา้ ปิดปากและจมกู การปอ้ งกนั 1. ล้างมือบอ่ ย ๆ ดว้ ยน�้ำและสบู่ 2. หลีกเลยี่ งการสมั ผัสใกลช้ ดิ กับผปู้ ่วย 3. ไม่ใชข้ องส่วนตวั ร่วมกับผ้อู ื่น เชน่ หลอดดูด ผ้าเช็ดตัว แกว้ น้ำ� ชอ้ น 4. หลีกเล่ยี งการไปในสถานท่แี ออดั อากาศถ่ายเทไมส่ ะดวก 5. ปิดปากปดิ จมกู เมื่อไอ จาม หรอื สวมหน้ากากอนามัย 6. เมื่อปว่ ยควรหยุดงาน หยดุ เรยี น แล้วพักผอ่ นอยู่กบั บา้ นจนกว่าจะหาย แมว้ า่ ไขห้ วัดใหญ่จะหายไดเ้ อง แต่ผปู้ ว่ ยบางราย หากอาการไม่ทุเลาควรพบแพทย์ หากท่านสงสัยว่า จะเป็นไข้หวัดใหญ่ท่านต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับยา ต้านไวรัสภายใน 48 ช่วั โมงหลงั เกิดอาการ สอบถาม ข้อมลู เพมิ่ เตมิ ได้ท่ี ส�ำนักโรคติดตอ่ ทวั่ ไป โทรศัพท์ 0-2590-3191 37
โรคคางทูม โรคคางทูม เป็นโรคติดต่อ สาเหตุมาจากการติดเช้ือไวรัสที่มีชื่อว่ามัมส์ (mumps) ซง่ึ อยู่ในกลมุ่ Paramyxovirus ทำ� ใหผ้ ตู้ ดิ เชอ้ื มกี ารอกั เสบของตอ่ มนำ�้ ลายทอี่ ยบู่ รเิ วณ ขากรรไกรท้ังสองข้าง และหน้าใบหู ท�ำให้ที่บริเวณคางบวม จึงได้ช่ือว่า “คางทูม” ส่วนใหญ่พบในเด็ก ถ้าเป็นในผู้ชายอาจมีการอักเสบของอัณฑะ ในบางรายอาจท�ำให้ เป็นหมนั ได้ ซึ่งอาจท�ำให้ลูกอณั ฑะฝ่อ และมีความเส่ยี งในการเป็นมะเรง็ อัณฑะมากขึน้ การตดิ ตอ่ ของโรค โรคน้ีติดต่อกันได้โดยตรงทางการหายใจและสัมผัสกับน�้ำลายของผู้ป่วย เช่น การกินนำ�้ และอาหารโดยใช้ภาชนะรว่ มกนั พบในเด็กไดท้ ุกอายุ ถา้ เปน็ ในผใู้ หญจ่ ะมี อาการรุนแรง และมโี รคแทรกซอ้ นได้บอ่ ยกว่าในเด็ก ระยะท่ตี ดิ ตอ่ กนั ได้ง่ายคอื จาก 1 - 2 วนั (หรอื ถงึ 7 วนั ) ก่อนมอี าการบวมของต่อมน้�ำลาย ไปจนถงึ 5 - 9 วัน หลงั จากมีอาการบวมของตอ่ มน�ำ้ ลาย ระยะฟกั ตวั ของโรคคือ 16 - 18 วัน แต่อาจสัน้ เพียง 12 วัน และนานถงึ 25 วัน หลังสัมผัสโรค อาการของโรค โรคนส้ี ว่ นมากจะเปน็ ในเดก็ วยั เรยี น ระยะเรม่ิ แรกผปู้ ว่ ยจะมอี าการไข้ ปวดศรี ษะ และอ่อนเพลียภายใน 12 - 24 ช่ัวโมงต่อมา จะมีอาการปวดบริเวณข้างแก้มและ ใบหู อาการปวดเป็นมากขึ้นเวลาขยับขากรรไกรหรือเวลาท่ีรับประทานอาหารท่ีมี 38
รสเปรยี้ วตอ่ มนำ�้ ลายบรเิ วณขากรรไกรบวมและลามไปยงั หลงั ใบหู ตอ่ มนำ�้ ลายจะบวม มากขึ้นในเวลา 1 - 3 วัน ส่วนใหญ่มักเรม่ิ ข้างเดียวก่อน แล้วเปน็ ทต่ี ่อมน้ำ� ลายอีกข้าง ตามมา หลังจากน้ันอาการบวมจะค่อยๆ ลดลงภายใน 3 - 7 วัน อาการต่างๆ จะหายเป็นปกติภายใน 7 - 10 วัน นอกจากน้ีอาจพบอาการอักเสบของต่อมชนิดอ่ืนๆ ได้ เช่น ตับอ่อน เต้านม ต่อมไทรอยด์ ทอ่ น�้ำตา เสน้ ประสาทตา เปน็ ตน้ มารดาทีต่ ดิ เชอ้ื ในชว่ ง 3 เดอื นแรก ของการต้งั ครรภ์ จะมีโอกาสแทง้ มากขึน้ การรกั ษา - รกั ษาตามอาการ ใหย้ าแก้ปวดเป็นคร้ังคราว - แยกผู้ป่วย จนถงึ 9 วัน หลังเรมิ่ มอี าการบวม ของต่อมน�้ำลาย การปอ้ งกันและควบคมุ โรค - โดยฉีดวัคซีนป้องกันโรคคางทูม ในรูปของวัคซีนรวม ป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (วัคซีน MMR) อย่างน้อย 2 ครงั้ ก�ำหนดให้ฉดี ครั้งแรก เม่อื อายุ 9 - 12 เดือน ส่วนเข็ม ท่ีสองให้ฉีดที่อายุ 2 ปีครึ่ง หลังได้รับวัคซีนดังกล่าว เด็กจะมี ภูมคิ ุม้ กันตอ่ เชอ้ื ไวรสั คางทมู หรอื ฉดี ใหแ้ ก่เดก็ วยั เรยี นหรอื วัยรุน่ ทยี่ งั ไมเ่ คยเป็นโรคคางทมู โรคนเี้ ป็นแล้วมักจะไมเ่ ปน็ อีก - หลกี เล่ยี งการสัมผัสกบั ผปู้ ว่ ย สอบถาม ข้อมลู เพมิ่ เติมไดท้ ี่ กองโรคป้องกันด้วยวัคซนี โทรศัพท์ 0-2590-3196-99 39
โรคคอตบี “โรคคอตบี ” (Diphtheria) หรอื ดิพทเี รีย เป็นโรคติดเชอ้ื เฉยี บพลนั ของระบบทางเดนิ หายใจ มีสาเหตุมาจากการติดเชอ้ื แบคทเี รยี Corynebacterium diphtheriae ซงึ่ มี รปู ทรงแท่งและย้อมตดิ สีแกรมบวก ซงึ่ ท�ำใหเ้ กิดการอักเสบ มีแผ่นเยอ่ื เกดิ ขนึ้ ในลำ� คอ ในรายท่ีรุนแรงจะมีการตีบตันของทางเดินหายใจ จึงได้ช่ือว่าโรคคอตีบ และจากพิษ (exotoxin) ของเช้ือจะท�ำให้มีอันตรายต่อกล้ามเน้ือหัวใจ และเส้นประสาทส่วนปลาย ซ่งึ ถ้าเปน็ รนุ แรงจะทำ� ให้เป็นอัมพาตและเสียชวี ิตได้ การติดต่อของโรค เชอ้ื จะพบอยใู่ นคนเทา่ นนั้ โดยจะพบอยใู่ นจมกู หรอื ลำ� คอของผปู้ ว่ ยหรอื ผตู้ ดิ เชือ้ โดยไมม่ ีอาการ และสามารถติดต่อกนั ไดง้ า่ ย โดยการได้รบั เชื้อจากการไอ จามรดกนั หรือพูดคุยในระยะใกล้ชิด เชื้อจะเข้าสู่ผู้สัมผัสทางปากหรือทางการหายใจ บางคร้ัง อาจติดตอ่ กนั ไดโ้ ดยการใช้ภาชนะรว่ มกัน เช่น แก้วนำ�้ ชอ้ น หรือ การดดู อมของเลน่ ร่วมกันในเด็กเล็ก 40
ระยะฟกั ตวั ของโรคอยรู่ ะหวา่ ง 2 - 5 วนั อาจจะนานกวา่ นไ้ี ด้ เชอ้ื จะอยใู่ นลำ� คอ ของผู้ป่วยท่ีไม่ได้รับการรักษาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่บางคร้ังอาจนานถึง หลายเดือนได้ ผู้ทไี่ ดร้ บั การรกั ษาอย่างถูกตอ้ งเชื้อจะหมดไปภายใน 1 สปั ดาห์ อาการของโรคคอตีบ หลังจากรับเช้ือผู้ป่วยจะเร่ิมมีอาการไข้ต�่ำๆ มีอาการคล้ายหวัดในระยะแรก มอี าการไอเสยี งกอ้ ง เจบ็ คอ เบอ่ื อาหาร ในเดก็ โตอาจจะบน่ เจบ็ คอคลา้ ยกบั คออกั เสบ บางรายอาจจะพบตอ่ มนำ้� เหลอื งทค่ี อโตดว้ ย เมอ่ื ตรวจดใู นคอพบแผน่ เยอื่ สขี าวปนเทา ติดแน่นอยู่บริเวณทอนซิล และบริเวณลิ้นไก่ แผ่นเย่ือน้ีเกิดจากพิษที่ออกมาท�ำให้มี การท�ำลายเนื้อเย่ือ และท�ำให้มีการตายของเน้ือเยื่อทับซ้อนกันเกิดเป็นแผ่นเย่ือ (membrane) ติดแน่นกับเย่ือบุในลำ� คอ การรักษาโรคคอตีบ เมื่อพบผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคคอตีบ ต้องรีบน�ำส่งโรงพยาบาลทันที เพราะ แพทยจ์ ะตอ้ งรบี ใหก้ ารรกั ษาโดยเรว็ ผลการรกั ษาจะไดผ้ ลหรอื ไมข่ น้ึ อยกู่ บั ระยะเวลา ที่ปว่ ยกอ่ นจะไดร้ ับการรกั ษา การปอ้ งกนั โรคคอตบี 1) ในเดก็ ทว่ั ไป การป้องกันแกเ่ ด็กก่อนวัยเรียน นับว่าเป็นวิธีท่ีดีท่ีสุด โดยการให้วัคซีนป้องกันคอตีบ 5 ครัง้ เมอื่ อายุ 2, 4, 6 และ 18 เดอื น 4 ปี และ กระตนุ้ อกี ครง้ั หนง่ึ เมอ่ื เดก็ เขา้ โรงเรยี นชน้ั ประถมปที ่ี 6 2) ผู้ที่มีอาการของโรคจะมีเชื้ออยู่ในจมูก ลำ� คอ เปน็ ระยะเวลา 2 - 3 สปั ดาห์ ดงั นั้น จงึ ตอ้ งแยก ผู้ป่วยจากผู้อื่นอย่างน้อย 3 สัปดาห์ หลังเริ่ม 41
มีอาการ หรือตรวจเพาะเช้ือไม่พบเชื้อแล้ว 2 คร้ัง ผู้ป่วยที่หายจากโรคคอตีบแล้ว อาจไมม่ ภี มู คิ มุ้ กนั โรคเกดิ ขน้ึ เตม็ ที่ จงึ อาจเปน็ โรคคอตบี ซำ้� อกี ได้ ดงั นน้ั จงึ ตอ้ งใหว้ คั ซนี ป้องกนั โรค (DTP หรือ dT) แกผ่ ปู้ ่วยทีห่ ายแล้วทกุ คน 3) เนอ่ื งจากโรคคอตบี ตดิ ตอ่ กนั ไดง้ า่ ย ดงั นนั้ ผสู้ มั ผสั โรคใกลช้ ดิ ทไี่ มม่ ภี มู คิ มุ้ กนั โรคจะตดิ เชอื้ ไดง้ า่ ย จงึ ควรไดร้ บั การตดิ ตามดอู าการอยา่ งใกลช้ ดิ โดยทำ� การเพาะเชอื้ จากลำ� คอ และติดตามดูอาการ 7 วนั พรอ้ มใช้ยาปฏชิ ีวนะ ในกรณีท่มี ผี ลเพาะเชอ้ื กลบั มา และไม่พบเชื้อคอตบี พิจารณาใหห้ ยุดยาได้ สอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองโรคปอ้ งกนั ด้วยวคั ซีน โทรศพั ท์ 0-2590-3196-99 42
โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพันธ์ คอื กลมุ่ โรคทีต่ ิดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ บางโรคอาจ ติดโดยการสัมผัส หรือการถ่ายทอดสู่ลูกขณะอยู่ในครรภ์ แบ่งตามลักษณะอาการ ดังนี้ แผล ได้แก่ ซฟิ ิลิส แผลริมอ่อน เริมอวัยวะเพศ ฝี ไดแ้ ก่ กามโรคของตอ่ มและทอ่ น้ำ� เหลืองหรอื ฝีมะม่วง แผลริมออ่ น ทม่ี ีภาวะแทรกซ้อน หนอง ได้แก่ หนองใน หนองในเทยี ม อื่น ๆ ไดแ้ ก่ หดู หงอนไก่ หดู ข้าวสกุ พยาธชิ อ่ งคลอด เชื้อราช่องคลอด จากสถานการณ์วัยรุ่นเป็นโรคติดต่อทาง เพศสมั พนั ธม์ ากขนึ้ เนอ่ื งจากมเี พศสมั พนั ธ์ โดยไม่ได้ป้องกัน หรือมีการป้องกันแต่ไม่ ถกู วธิ ี จะรู้ไดอ้ ยา่ งไรว่าตดิ โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ เม่ือมีอาการเหล่านี้ อาจมีความผิดปกติในช่องทางท่ีใช้มีเพศสัมพันธ์ เช่น มีหนองไหลออกจากทอ่ ปสั สาวะ ปสั สาวะแสบขัด ผหู้ ญิงอาจมตี กขาวมากกว่าปกติ มีแผล ตุ่ม เป็นต้น ในรายที่ไม่มีอาการ จะไม่สามารถทราบด้วยตัวเอง ต้องมีการตรวจทางห้อง ปฏบิ ตั กิ ารเพ่ิมเติม 43
ถ้าสงสยั วา่ ติดโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ ตอ้ งทำ� อยา่ งไร - ให้ไปพบแพทย์ - งดรับประทานยาปฏิชีวนะ (ยาแกอ้ ักเสบ/ยาฆา่ เชอ้ื ต่างๆ) - งดบบี รดี เค้นอวัยวะเพศก่อนมาพบแพทย์ - งดมีเพศสัมพนั ธก์ อ่ นมาตรวจ 1 - 2 วนั - ผชู้ ายใหก้ ลน้ั ปัสสาวะกอ่ นพบแพทย์ 4 ช่ัวโมง ผูห้ ญิงงดสวนล้างชอ่ งคลอด ก่อนมาพบแพทย์ ถุงยางอนามยั (Condom) และถงุ อนามยั สตรี (Female Condom) ถุงยางอนามัย และ ถุงอนามัยสตรี เป็นอุปกรณ์ชนิดเดียวท่ีสามารถป้องกัน การตดิ เชอ้ื เอชไอว/ี เอดส์ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ และการตงั้ ครรภไ์ มพ่ งึ ประสงคไ์ ด้ ถุงยางอนามยั .. ใช้ง่ายกวา่ ทค่ี ดิ เลือกถูกไซส์ : ควรเลือกใช้ขนาดที่เหมาะสม เพราะถ้าขนาดเล็กไปจะท�ำให้ ถุงยางอนามยั ฉีกขาดไดง้ ่าย หรือถ้าขนาดใหญไ่ ป จะไม่กระชับ ท�ำใหเ้ ลื่อนหลดุ ได้ ใชถ้ ูกสเตป็ : - ฉกี ซอง ระวงั อยา่ ให้เล็บสะกดิ ถงุ ยางอนามัย - บบี ปลายถงุ ยางอนามัยไล่ลมกอ่ นใส่เสมอ หากมฟี องอากาศทป่ี ลายถุงยาง อนามยั จะท�ำใหฉ้ ีกขาดขณะมเี พศสมั พนั ธ์ - สวมถุงยางอนามยั ขณะท่อี วยั วะเพศแข็งตวั บีบปลายถงุ ยางอนามยั ขณะสวมแลว้ รดู ใหส้ ดุ โคน - เมื่อเสร็จกิจ ให้รีบถอดถุงยางอนามัยออกขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยใช้น้ิวสอดเข้าในขอบถุงยางอนามัยแล้วรูดออก หรือใช้กระดาษทิชชู ห้มุ ห่อแลว้ รูดออก และทิง้ ในถังขยะท่ีมดิ ชิด 44
เกบ็ ถูกวธิ ี - ไมค่ วรเกบ็ ถงุ ยางอนามยั ในทที่ ม่ี คี วามชน้ื สงู ในทร่ี อ้ น หรอื สมั ผสั กบั แสงแดด โดยตรง เพราะจะท�ำใหถ้ ุงยางอนามยั เส่ือมคณุ ภาพ - ไมเ่ กบ็ ในลกั ษณะทไ่ี มเ่ หมาะสม เชน่ ในกระเปา๋ สตางค์ หรอื กระเปา๋ กางเกง ด้านหลงั เพราะจะเกดิ การกดทบั หักงอ ท�ำใหฉ้ ีกขาดได้ง่าย - เกบ็ ในที่หยบิ สะดวก และหยิบใชไ้ ด้งา่ ย ถุงอนามยั สตรี (Female Condom) - เปน็ ตวั กน้ั ระหวา่ งอวยั วะเพศชายกบั ปากชอ่ งคลอด ปากมดลกู และอวยั วะ สืบพันธุ์ภายนอกเพศหญิง ทวารหนัก จึงสามารถป้องกันการติดเชื้อโรค ตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ เอชไอว/ี เอดส์ มะเรง็ ปากมดลกู รวมถงึ เชอ้ื เรมิ และ แผลบรเิ วณรอบอวยั วะเพศ รวมถงึ การปอ้ งกันการตงั้ ครรภ์ - ผลิตจากไนทรีลโพลิเมอร์ ไม่เสื่อมสภาพในที่ อุณหภมู ิสงู ไม่ต้องเกบ็ รักษาพิเศษ - ใช้กบั สารหลอ่ ล่นื ชนิดใดกไ็ ด้ - ใสล่ ่วงหนา้ ไดน้ านถึง 8 ชว่ั โมง - ใชไ้ ด้ขณะมีประจำ� เดอื น ถงุ อนามัยสตรีเหมาะสำ� หรบั - ผทู้ แ่ี พย้ างพารา/ลาเท็กซ์ ท่ใี ชท้ �ำถงุ ยางอนามยั - ชายทดี่ ดั แปลงอวัยวะเพศ เช่น ฝงั มุก ผ่าเบนซ์ - อวยั วะเพศชายขนาดใหญก่ วา่ ถุงยางอนามยั - อวัยวะเพศชายแข็งตวั ไมพ่ อท่ีจะใส่ถงุ ยางอนามัย - ผู้หญิงเป็นฝ่ายเลือกและเป็นผู้น�ำในการป้องกัน ตนเอง - ชายที่มีเพศสมั พันธ์กบั ชาย (ใส่ในชอ่ งทวารหนกั ) 45
ขอ้ พงึ ระวังในการใชถ้ งุ อนามยั สตรี - ระวงั สอดใสอ่ วยั วะเพศชายไมเ่ ข้าในถงุ อนามยั สตรี - ห้ามใชซ้ ำ�้ - ห้ามใช้ร่วมกับถงุ ยางอนามัย เพราะอาจท�ำใหถ้ ุงยาง อนามัยหรอื ถุงอนามัยสตรีแตกได้ บรกิ ารปรกึ ษา คดั กรอง ตรวจรกั ษาโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ และตรวจ เลอื ดหาการตดิ เช้อื เอชไอวี/เอดส์ กลุ่มบางรกั โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ • กล่มุ งานวิจยั และพัฒนาวิชาการทางคลินกิ คลินิกชาย 0 2286 0431 ต่อ 30,32 คลนิ ิกสขุ ภาพชาย 0 2286 0431 ตอ่ 34 คลินกิ หญิง 0 2286 0431 ต่อ 29 (ทกุ วันจันทร์ – ศกุ ร์ เวลา 08.30 -11.00 และ 13.00-14.30 น. ยกเวน้ วันพธุ เปิดเฉพาะเวลา 08.30 -11.00 น.) คลินิกวัยรุน่ บางรกั ใหบ้ รกิ ารฟรี เฉพาะวัยรุน่ อายุ 10-24 ปี 0 2286 0431 ต่อ 32 (ทุกวันเสาร์ เวลา 08.30 – 12.00 น.) • เว็บไซต์ aidssti.ddc.moph.go.th • Facebook : Bangrakstiscenter • โรงพยาบาลของรฐั ทุกแหง่ โรปตงลีพรวะยทจ2าุกเบลแคาือหลรด่ง้ังขเออไดงดร้ทสัฐ่ี ์ • ศนู ย์บริการสาธารณสุข กรงุ เทพมหานคร ทุกแหง่ บริการปรึกษาและตรวจเลอื ดหาการติดเชื้อเอชไอวี คลนิ ิกนริ นาม สภากาชาดไทย โทร. 0 2256 4107 -9 จนั ทร์ – ศกุ ร์ เวลา 07.30 – 18.00 น. เสาร์ เวลา 07.30 – 15.00 น. สถาบันบ�ำราศนราดูร โทร. 0 2590 3737 สอบถาม จันทร์ – ศกุ ร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. ข้อมูลเพ่มิ เติมไดท้ ี่ สายด่วนปรึกษาเอดส์ 1663 โรงพยาบาลของรฐั ทุกแห่ง ส�ำนกั โรคเอดส์ วณั โรค และโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ โทรศพั ท์ 0-2590-3289, 0-2590-3291 46
โรคตดิ เชอ้ื เฉยี บพลนั ระบบทางเดนิ หายใจในเดก็ โรคตดิ เชอื้ เฉยี บพลนั ระบบทางเดนิ หายใจในเดก็ (Acute Respiratory Infections in Children : ARIC) เปน็ โรคตดิ ตอ่ ทมี่ กั พบในเดก็ โดยเฉพาะเดก็ กอ่ นวยั เรยี นทอ่ี ายตุ ำ่� กวา่ 3 ปี กว่า 70 เปอร์เซ็นตข์ องการเจบ็ ป่วยจากโรคระบบทางเดนิ หายใจในเด็กมาจาก การตดิ เชอ้ื ไวรัส เพราะช่วงอายหุ ลัง 4 - 6 เดอื นไปแลว้ ภมู ิค้มุ กันโรคต้งั ต้นท่ไี ด้รับ จากแม่จะเร่ิมลดลง ถา้ ได้รับเชอ้ื โรคอาการเจบ็ ปว่ ยก็จะเกดิ ขน้ึ ได้ บางครอบครวั ทีม่ ี เดก็ อยรู่ ว่ มกนั หลายคน หรอื มพี ท่ี อ่ี ยใู่ นวยั เรยี นกม็ โี อกาสรบั เชอ้ื ไดม้ ากขนึ้ และยงั พบ ว่าเช้ือแบคทีเรียก็มีส่วนท�ำให้เด็กเจ็บป่วยได้เช่นกัน สาเหตุเกิดจากเด็กได้รับเช้ือโรค ผ่านทางการหายใจ ผ่านไปตามอวัยวะส�ำคัญต่างๆ ของระบบหายใจ ตั้งแต่จมูก หลอดลม ลงไปทปี่ อดตามล�ำดบั จงึ เปน็ สาเหตหุ ลกั ทีท่ ําให้เด็กเจบ็ ปว่ ย โรคติดเชือ้ เฉียบพลันระบบทางเดินหายใจในเดก็ โรคหลักๆ ทต่ี อ้ งระวงั ได้แก่ ไขห้ วดั ไซนัสอกั เสบ หวดั เรือ้ รัง คอหรือทอนซิลอกั เสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม หรอื ปอดอักเสบ หอบหดื ไข้หวัด เป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ ท่ีพบได้บ่อยและเกิดกับ เด็กเล็กแทบทุกคน ซึ่งเกิดจากเช้ือไวรัส อาการมักเริ่มด้วยการมีน้�ำมูกใส ไอ จาม คัดจมูก หายใจเสยี งครดื คราด ไข้ไมส่ งู (ตวั รมุ ๆ) หากไอมาก กอ็ าจกนิ นมน้อยลง ในเบื้องต้นหากผู้ปกครองดูแลอย่างถูกวิธี อาการก็จะหายดีเป็นปกติ (ประมาณ 2 - 5 วัน) เพราะร่างกายจะสามารถกาํ จัดเชอ้ื ออกไปเองตามธรรมชาติ 47
ไซนัสอักเสบ เป็นโรคแทรกซ้อนของโรคหวดั จะเกดิ หลงั จากเป็นหวดั แตห่ ากเทยี บกบั โรคอน่ื ๆ โอกาสท่จี ะเกดิ มนี อ้ ย ตามปกตเิ ดก็ ทเ่ี ปน็ หวดั ควรจะหายภายใน 1 สปั ดาห์ ถ้ามีอาการคัดจมูก มีน�้ำมูกเป็นเวลานาน ควรพาไปพบ แพทยเ์ พราะอาการภายนอกใกลเ้ คยี งโรคภมู แิ พ้ หวดั เรอ้ื รงั ที่อาจส่งผลให้เกิดโรคภูมิแพ้ เน่ืองจากการท่ีทางร่างกายมี ปฏิกิริยาต่อสิ่งแปลกปลอมที่ไวเกิน ทําให้เย่ือบุทางเดิน หายใจตง้ั แตจ่ มกู ไปจนถงึ หลอดลม เกดิ การอกั เสบ มนี ำ้� มกู ไหลเรือ้ รงั บางครัง้ มอี าการหอบคล้ายหืดเพราะหลอดลมตีบ ออกซเิ จนเข้าไปไมพ่ อ เด็กก็จะมีโอกาสเส่ียงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ เกิดการติดเช้ือและกลายเป็นโรคอ่ืน ๆ ได้ง่าย จึงควรหลกี เล่ียงการอยูใ่ นแหล่งชุมชนท่มี คี นอยรู่ วมกนั มาก ๆ ควรอยูใ่ นที่ที่ อากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก คอหรอื ทอนซลิ อกั เสบ ในเดก็ เลก็ ๆ ไมส่ ามารถบอกไดว้ า่ เจบ็ คอตอ้ งใชว้ ธิ สี งั เกต อาการอย่างใกล้ชิด สัญญาณบ่งบอกอาจดูจากอาการมีไข้ กินอาหารน้อยลงหรือ ไม่ยอมกินอาหาร ไม่ยอมกลืนน้�ำลายจนน�้ำลายไหลย้อย ร้องเสียงแหบหรือเสียง เปล่ียนไปจากเดิม ต่อมน้�ำเหลืองโตจนคล�้ำหรือมองเห็นได้บริเวณลําคอหรือใต้คาง มีอาการไข้และการเจบ็ คอ หลอดลมอักเสบ คือ อาการติดเช้ือในหลอดลม ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสหรือ แบคทีเรยี อาการทพ่ี บ คือ มีไข้ ไอมาก อาจจะไอแห้ง ๆ หรือมเี สมหะ หายใจเร็ว บางรายมอี าการหอบเหนอ่ื ย หรอื เวลาหายใจไดย้ นิ เสยี งหายใจดงั ครดื คราด เนอื่ งจาก มีเสมหะมากและเหนียว การรักษาบางคร้ังจ�ำเป็นต้องให้ยาเพื่อลดอาการไอ เช่น ยาขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะ และให้ด่ืมน�้ำมากขึ้น ควรลดการดื่มน�้ำเย็น เนอื่ งจากกระตุน้ อาการไอมากขน้ึ ปอดบวมหรอื ปอดอกั เสบ มกั จะเรมิ่ ดว้ ยอาการไขห้ วดั ระยะสนั้ ๆ แลว้ เดก็ มไี ข้ สงู ทนั ที อาการไขเ้ กดิ ขนึ้ กอ่ นหรอื เกดิ ขนึ้ พรอ้ มกบั การมปี อดบวม ก็ได้ ไอมาก ไอแหง้ ๆ หรือไอแบบมีเสมหะ หายใจเร็ว บางรายมี อาการหอบเหนอื่ ย หรอื หายใจลำ� บาก เวลาหายใจจะเหน็ ปกี จมกู บาน บางรายไดย้ ินเสยี งหายใจครดื คราด เนื่องจากมเี สมหะมาก และเหนยี ว กรณที เ่ี ชอื้ รนุ แรงหรอื ไมไ่ ดร้ บั การรกั ษาอยา่ งทนั ทว่ งที อาจทาํ ให้เสยี ชวี ติ หรอื อาจเกิดภาวะแทรกซอ้ นรา้ ยแรงได้ 48
หอบหืด เกิดจากมีการเกร็งและหดตัวของกล้ามเนื้อ หลอดลม ในวนั แรก ๆ ทไ่ี มส่ บาย เดก็ จะไอรนุ แรง และหายใจเรว็ เกดิ จากหลอดลมอดุ กน้ั หรอื อดุ ตนั (หายใจเขา้ ได้ แตห่ ายใจออก ไม่ค่อยสะดวก) ควรพาไปพบแพทย์ โรคน้ีสามารถส่งผ่านทาง พนั ธกุ รรมไดเ้ ชน่ เดยี วกบั โรคภมู แิ พท้ ว่ั ไป แตก่ ส็ ามารถเกดิ ขนึ้ ได้ เองภายหลงั โดยไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั พนั ธกุ รรม หากไดร้ บั สารกระตนุ้ ใหเ้ กดิ อาการ เชน่ เกสรดอกไม้ ฝนุ่ ควนั หรอื กา๊ ซทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การ ระคายเคือง การป้องกนั 1. น�ำเด็กไปฉดี วัคซีนป้องกนั โรคตามก�ำหนดของกระทรวงสาธารณสขุ 2. เด็กอ่อนควรเลี้ยงด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน และควรเพิ่มความต้านทาน โรคดว้ ยการใหเ้ ดก็ รบั ประทานอาหารครบ 5 หมใู่ นปริมาณทเ่ี พียงพอ 3. หลกี เลย่ี งการสมั ผสั โรค เดก็ เลก็ ๆ ไมค่ วรคลกุ คลใี กลช้ ดิ กบั ผปู้ ว่ ย หากมผี ปู้ ว่ ย ไอ จาม ควรใช้กระดาษหรือผ้าปิดปาก ปิดจมูก และใส่หน้ากากอนามัยเม่ือ ต้องอยูใ่ กลช้ ดิ เดก็ 4. หลีกเล่ียงส่ิงแวดล้อมท่ีท�ำให้เด็กเล็กเส่ียงต่อการเกิดโรค เช่น ไม่น�ำเด็กเล็ก ไปในสถานท่ีแออัด เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ควันไฟ ควันบุหร่ี ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ อากาศหนาวเย็น 5. ฝกึ ใหเ้ ดก็ ลา้ งมือบ่อย ๆ ไมใ่ ชม้ อื ขยต้ี า แคะจมกู 6. ดูแลความสะอาดของบา้ นเรอื น ให้มีอากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก 7. เด็กอายุต่�ำกว่า 3 ปี ควรเลยี้ งเองทบี่ ้าน ไมค่ วรสง่ ไปเล้ียงตามสถานเลี้ยงเด็ก 8. หากเด็กไอและหายใจล�ำบาก หอบ หายใจเร็ว แรง จนชายโครงบุ๋ม หายใจ มเี สียงดงั ตอ้ งรีบพาไปพบแพทย์หรือเจา้ หน้าท่ีสาธารณสุขทนั ที สอบถาม ข้อมูลเพมิ่ เตมิ ไดท้ ี่ ส�ำนกั โรคตดิ ต่อทว่ั ไป โทรศพั ท์ 0-2590-3183 49
โรคตดิ เชื้อไวรสั ซิกา โรคตดิ เชอื้ ไวรสั ซกิ า คอื อะไร เชอื้ ไวรสั ซกิ า Zika Virus Disease อยใู่ นตระกลู ฟลาวไิ วรสั (flavivirus) จำ� พวกเดยี วกบั ไวรสั ไขเ้ หลอื ง ไวรสั เดงกี (โรคไขเ้ ลอื ดออก) ไวรสั เวสตไ์ นล์ (โรคไขเ้ วสตไ์ นล)์ และไวรสั ไขส้ มองอกั เสบเจอี มยี งุ ลายเปน็ พาหะนำ� โรค มรี ายงานพบการระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั ซกิ า Zika Virus Disease ในพน้ื ทข่ี องทวปี แอฟรกิ า เอเชยี หมเู่ กาะแปซฟิ กิ และอเมรกิ า โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ แถบอเมรกิ าใต้ และ แคริบเบียน และมีแนวโนม้ การระบาดของโรคจะแพรก่ ระจายไปยังประเทศใหมๆ่ เนื่องจากการเดินทางท่ีสะดวกรวดเร็ว นอกจากน้ียุงลาย ซ่ึงเป็นพาหะน�ำโรค ยงั มกี ระจายอยใู่ นหลายทวปี ทวั่ โลก อาการ ระยะฟกั ตวั ของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั ซกิ า Zika Virus Disease ตงั้ แต่ รบั เชอื้ กระทง่ั แสดงอาการใชเ้ วลาประมาณ 3 - 12 วนั อาการทพ่ี บบอ่ ย ไดแ้ ก่ มไี ข้ ออกผนื่ เยอ่ื บตุ าอกั เสบ ปวดกลา้ มเนอ้ื ปวดขอ้ ออ่ นเพลยี ปวดศรี ษะ อาการเหลา่ น้ี ปกตแิ ลว้ จะเปน็ เพยี งเลก็ นอ้ ย สว่ นใหญอ่ าการ ไมร่ นุ แรง อาการเหลา่ นที้ เุ ลาลงภายใน 2 - 7 วนั ไดเ้ อง ยกเวน้ ในหญงิ ตงั้ ครรภซ์ งึ่ อาจทำ� ใหท้ ารกมภี าวะศรี ษะเลก็ แตก่ ำ� เนดิ (Microcephaly) ในทารกแรกเกดิ หรอื ผมู้ ภี าวะแทรกซอ้ นทางระบบประสาท 50
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176