ตำ�รบั 6 ประกอบดว้ ย ใบหนาดใหญ่และเหงา้ เปราะปา่ ต�ำ รับ 7 ประกอบด้วย รากถอบแถบเครอื และรากกระตงั ใบ ต�ำ รับ 8 ประกอบดว้ ย เถากระดึงช้างทงั้ ต้น รากจงิ จ้อเหลอื ง ใบเตง็ หนาม ใบชมุ เหด็ เทศ ล�ำ ตน้ พญามลู เหลก็ ล�ำ ตน้ หรอื ใบตะไคร้ เหงา้ ขา่ เหง้าข่าคม และเหงา้ ขมน้ิ ต�ำ รบั 9 ประกอบดว้ ย รากจงิ จอ้ ขาว รากครอบจักรวาล และ ลำ�ตน้ ออ้ ย ต�ำ รับ 10 ประกอบดว้ ย รากพพี า่ ย และแกน่ เหมือดคนดง ต�ำ รบั 11 ประกอบดว้ ย รากพงั คี ล�ำ ตน้ เสยี วใหญ่ และรากสามสบิ ต�ำ รบั 12 ประกอบด้วย ใบชุมเหด็ เทศ ใบขเี้ หล็ก เหง้าข่า เหงา้ ขา่ คม เหงา้ ขม้ิน และขา้ วหอ่ สีดาท้งั ต้น ตำ�รับ 13 ประกอบดว้ ย แกน่ พะยูง ลำ�ต้นเครอื คางควาย แก่น ประดู่ ล�ำ ตน้ เขยตาย และลำ�ต้นเถาคนั สมนุ ไพรส�ำ หรบั ผ้ปู ว่ ยอมั พฤกษ์ อัมพาต 48 ช่วยสง่ เสริมการทำ�งานของหวั ใจ 1. เกสรทงั้ 5 ดอกมะลิ ดอกพิกลุ ดอกสารภี ดอกบญุ นาก เกสร บัวหลวง 2. แก่นกฤษณา 3. ใบบวั บก 4. เตยหอม ชว่ ยลดความดันโลหติ 1. เหด็ หลนิ จือ 150 สำ�นักการแพทย์ทางเลอื ก
2. กระเทียม 3. ใบบวั บก 4. กระเจ๊ยี บแดง 5. คึ่นฉ่าย ช่วยลดไขมันในเสน้ เลือด 1. เหด็ หลินจอื 2. ปญั จขันธ์ 3. กระเจยี๊ บแดง 4. ค�ำ ฝอย 5. อาร์ตโิ ชค บัวบก 49 กลไกทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ฤทธก์ิ ระตนุ้ ความจ�ำ และการเรยี นรู้ อาจจะมาจาก การที่บัวบกสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง เพิ่มปริมาณสาร สอ่ื ประสาททช่ี อ่ื วา่ acetylcholine ตลอดจนลดการท�ำ ลายสมองจากอนมุ ลู อสิ ระ เพม่ิ ความตน่ื ตวั และความสงบระงบั ของจติ ใจนอกจากฤทธใ์ิ นการบ�ำ รงุ ความจ�ำ และการเรยี นรแู้ ลว้ บวั บกยงั มฤี ทธค์ิ ลายกงั วลอกี ดว้ ย งานวลิ ดการหลง่ั ฮอรโ์ มน corticosterone ซ่ึงเปน็ ฮอรโ์ มนทีห่ ลั่งออกมาเมอื่ มคี วามเครียด เห็ดถั่งเฉา้ 50 สารสำ�คญั ตา่ ง ๆ ทพี่ บในเหด็ ถัง่ เฉ้าสารคอรไ์ ดเซปนิ (Cordycepin) เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด,ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรคอะดีโนซิน (Adenosine) ชว่ ยเพม่ิ พลงั งานภายในรา่ งกาย เสรมิ สรา้ งความแขง็ แกรง่ ใหน้ กั กฬี า ใช้ในการปอ้ งกนั และรกั ษาโรค เช่น โรคหอบหืด วัณโรค โรคหลอดลมอกั เสบ http://www.thaicam.go.th 151
เรื้อรัง โรคไต โรคหวั ใจ ต้านการแขง็ ตวั ของเลือด ตา้ นลิม่ เลอื ด ปอ้ งกนั การ เกดิ ล่มิ เลือดCordycepic Acid เพ่มิ เมตาโบริซมึ ของร่างกาย, ป้องกนั เลือด ออกในสมอง, ลิ่มเลือด, โรคหัวใจขาดเลือด และหอบหืดซุปเปอร์ออกไซด์ ดสิ มิวเทส (Superoxide dismutase: S.O.D.) ตา้ นอนมุ ูลอิสระ ตา้ นความ ชรา ชะลอความเส่อื มในระดบั เซลล์ ต้านการอักเสบโพลแี ซคคาไรด์ (Poly- saccharides) ชนิด เบตา้ -กลแู คน (β-glucan) และ กาแลคโตแมนแนน (Galactomannan) ชว่ ยตา้ นอนมุ ลู อสิ ระ ชะลอความชรา ตา้ นการเกิดเน้อื งอกและเซลลม์ ะเร็ง มฤี ทธิย์ บั ย้งั การอกั เสบ และส่งเสรมิ ระบบภมู คิ ้มุ กนั ใน หนูทดลอง ช่วยเสรมิ สรา้ งภมู ิค้มุ กนั ตา้ นเซลล์มะเร็ง ลดระดับน้ำ�ตาลใน เลอื ด ลดคอเลสเตอรอล ไตรกลเี ซอไรด์ (ไขมันในเลือด) กระตนุ้ เซลลใ์ ห้ต่ืน ตัวและซ่อมแซมเซลลท์ ีเ่ สยี หาย, ยืดอายุและชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วย ในการเผาผลาญอาหารของเซลล์ ท�ำ ลายและยับยง้ั การเกิดอนมุ ลู อสิ ระ ต้าน เช้อื แบคทเี รีย และไวรสั กรดนวิ คลโี อไซด์ (Nucleosides) มากกวา่ 10 ชนิด นิวคลีโอไซด์เก่ียวข้องกับกลไกและการทำ�งานของระบบประสาทส่วนกลาง และตา้ นการเกดิ เนอื้ งอกSterol ป้องกนั ไตอกั เสบเร้อื รัง, ป้องกันโรคหอบหดื , เพิม่ ประสทิ ธิภาพการบีบตัวของหวั ใจ เมล็ดหมามยุ่ 51 มสี ารแอล-โดปา (L-Dopa) ซง่ึ เปน็ สารตง้ั ตน้ ในการสงั เคราะห์ โดพามนี (Dopamine) หรือสารทีม่ อี ิทธิพลสูงตอ่ ระบบสืบพันธุ์ อกี ท้ังยงั เปน็ สารสอ่ื ประสาทซึ่งใช้ในโรคพาร์กินสัน แต่ต้องใช้ในรูปที่ผ่านวิธีการสกัดสารสำ�คัญ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถได้รับสาระสำ�คัญในรูปแบบของเมล็ดแปรรูปหรือ สดได้ 152 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลือก
พรมมิ 51 ทำ�งาน โดยยับยั้งอะซิทิลโคลีนเอสเตอเรส (Acetylcholinesterase: AchE) ซงึ่ เป็นสารท่ีทำ�ลายสารส่อื ประสาท เม่ือเซลล์ประสาทจะส่งสญั ญาณ ถึงกันเซลล์ประสาทจะใช้สารเคมีเป็นตัวส่ง หากในร่างกายมีอะซิทิลโคลีน - เอสเตอเรสมากสารตัวนี้จะทำ�ลายสารเคมีท่ีส่ือสารระหว่างเซลล์ประสาท ทำ�ให้เซลล์ประสาทไม่สามารถติดต่อกันได้จึงขาดข้อมูล พบว่า ผู้ที่หลงลืม ความจำ�ไม่ดี คนชรา ผู้ป่วย อัลไซเมอร์ จะมีอะซิทิลโคลีนเอสเตอเรสมาก คือ มตี วั ทำ�ลายสารสื่อประสาทมากนน่ั เอง สง่ ผลให้เซลล์ประสาทไมส่ ามารถ ติดตอ่ กันไดจ้ งึ หลงลืม นอกจากนนั้ ยังต้านเบตา้ อะไมลอยดโ์ ปรตีน ซงึ่ เป็น ตัวที่เหนี่ยวนำ�ให้เซลล์ประสาทตาย ยับยั้งการเหนี่ยวนำ�การเกิดสารพิษกับ เซลลป์ ระสาท (Glutamate-induced neurotoxicity) และตา้ นอนมุ ลู อสิ ระพรมมิ มฤี ทธท์ิ ด่ี มี ากในการยบั ยง้ั อะซทิ ลิ โคลนี เอสเตอเรส (Acetylcholinesterase: AchE) ได้อย่างมีนยั สำ�คัญทางสถติ ิเหมอื นกับแปะก๊วย พรมมิ ปกป้องเซลล์ประสาท เพราะมสี ารตา้ นอนมุ ูลอิสระ และสารยบั ย้งั เอนไซม์ อะซิทิลโคลนี เอสเตอเรส สมนุ ไพรจนี สำ�หรับผปู้ ว่ ยอัมพฤกษ์ อมั พาต52 ซันชี (Sanqi) มีสรรพคุณห้ามเลือดได้โดยที่ไม่เกิดเลือดคั่ง สลาย เลือดคั่งและกระตุ้นการไหลเวียน นอกจากนี้ยังมีสารสำ�คัญที่พบในโสมซานชี อกี อย่างหนึ่งกค็ ือ แร่ธาตุเยอรมาเนยี ม (Trace Element Germanium) ซึง่ มีคณุ สมบัตใิ นการเพมิ่ จ�ำ นวนออกซิเจนตอ่ เซลล์สมองของรา่ งกาย รวมท้ังเพม่ิ ประจุไฟฟ้าทางชีวเคมี ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบประสาทและการทำ�งานของ หัวใจ http://www.thaicam.go.th 153
ใบแปะ๊ กว๊ ย 53 ในตำ�ราแพทย์จีนแผนโบราณมีการนำ�จิงโกบิโลบาหรือใบแป๊ะก๊วย ไปใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นการสง่ เสรมิ คณุ ภาพสมอง สารสกดั จากจงิ โกบโิ ลบา หรอื ใบแป๊ะก๊วยมีสารออกฤทธิ์หลักซึ่งให้ผลทางการแพทย์ที่น่าสนใจอยู่ 2 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) เรียกว่า จิงโก ฟลาโวน ไกลโคไซด์ (Gink go Flavone Glycoside) สารกลมุ่ นม้ี คี ณุ สมบตั ใิ นการตอ่ ตา้ นการเกดิ อนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ต่อต้านการจับตัวกันเป็นก้อนของเกร็ดเลือด ดังนั้น ใบแป๊ะก๊วย จึงมีฤทธิ์สำ�คัญในการป้องกันการเกิดภาวะอุดตันของหลอดเลือด ทไ่ี ปเลย้ี งสมอง ไตรเทอรป์ นี แลคโตน (Triterpene Lactone) สารกลมุ่ ทพ่ี บวา่ มีบทบาทสำ�คัญในการช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิตได้รวดเร็วขึ้น คือ จิงโกไลด์ (Ginkgolides) และบิโลบาไลด์ (Bilobalide) ขนาดการเสริมอยู่ท่ี 240 มลิ ิกรมั ต่อวนั อ. อากาศ อากาศมีความสำ�คัญต่อชีวิตบนโลก มนุษย์และสัตว์ใช้อากาศในการ หายใจ พืชใช้อากาศในการหายใจและสร้างอาหาร ชีวิตจะไม่สามารถดำ�รง คงอยู่ได้หากปราศจากอากาศเป็นเวลา 2-3 นาที เมื่อพูดถึงอากาศเราจะ หมายถงึ ออกซเิ จนในอากาศทร่ี า่ งกายไดร้ บั เมอ่ื มกี ารหายใจเขา้ ไป กลา่ วไดว้ า่ 1 ใน 5 ของแรธ่ าตุส�ำ คญั ท่ีทำ�ให้ชวี ติ ด�ำ รงอยู่ไดค้ ือ ออกซิเจน ประโยชน์ของ ออกซเิ จนคือ เป็นแหล่งพลงั งานให้กับเซลลส์ ่งิ มชี ีวิตหากพฤตกิ รรมการใชช้ ีวติ ประจำ�วันไม่ถูกต้อง เช่น บริโภคอาหารไม่ถูกต้อง ดื่มสุรา อาศัยอยู่ในห้อง ทแ่ี ออดั มสี ารพษิ และไมไ่ ดอ้ อกก�ำ ลงั กาย จะสง่ ผลตอ่ เซลลใ์ นรา่ งกาย คอื จะถกู 154 สำ�นกั การแพทย์ทางเลอื ก
กีดกันไม่ให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอและส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของ ร่างกาย ทำ�ให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีประสิทธิภาพการทำ�งานลดลง เช่น มีผลกระทบต่อระบบการย่อย การผลิตสารเคมีในร่างกาย เพราะออกซิเจน จะถูกดูดซึมโดยฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) เพื่อเอาเข้าไปเก็บไว้ในเม็ดเลือด แลว้ คอ่ ย ๆ เคลื่อนย้ายไปยังทุก ๆ เซลล์ของร่างกาย ภาวะสมดุลทางฟิสิกส์ กับเคมีในของเหลวท่ีอยู่ในระดับเซลล์ของร่างกายข้ึนอยู่กับจำ�นวนออกซิเจน ในเมด็ เลือดท่ีมีอยา่ งเพียงพอ หากขาดออกซเิ จน จะเปน็ สาเหตทุ ำ�ใหร้ ่างกาย เกดิ อาการไมส่ บาย ไมก่ ระฉบั กระเฉง เมอ่ื ยลา้ การหายใจทถ่ี กู วธิ จี ะมปี ระโยชน์ ต่อร่างกาย เพราะช่วยให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ และการได้รับอากาศ ที่บริสุทธิ์ การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยเพิ่มออกซิเจนในร่างกายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้อากาศยังสามารถรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น ออกซิเจนสามารถ นำ�มาใช้กับผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิด เช่น โรคลมชัก เด็กที่ผิดปกติ เด็กออทิสติก รวมถึงผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาตด้วย การรกั ษาดว้ ยออกซเิ จนบรสิ ทุ ธิภ์ ายใตค้ วามกดอากาศสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy / HBOT) 54 HBO คือ วิธีการรักษาโดยการให้ผู้ป่วยหายใจด้วยออกซิเจนวิธีหนึ่ง ซง่ึ จะแตกตา่ งจากการใหอ้ อกซเิ จนทว่ั ไปตรงทเ่ี ปน็ การใหอ้ อกซเิ จนบรสิ ทุ ธ์ิ 100% ภายใตส้ ภาพความกดดนั บรรยากาศสงู ภายในหอ้ งปรบั บรรยากาศ (Hyperbaric Chamber) ทำ�ให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนในปริมาณที่สูงกว่าเมื่อให้ออกซิเจนที่ ความกดดันบรรยากาศปกติหลายเท่า ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในเนื้อเยื่อ รอบแผลมีมากขึ้น เซลล์ตา่ ง ๆ ที่มีหน้าที่ทำ�ให้แผลหายจะเริ่มทำ�งาน มีการ สรา้ งเนอ้ื เยอ่ื และหลอดเลอื ดฝอยใหม่ ๆ ข้ึนทำ�ใหแ้ ผลหายเรว็ ขึ้นไฮเปอรแ์ บรคิ เปน็ แนวทางการรกั ษาทีแ่ พร่หลายในปจั จุบนั ไปทวั่ โลก พบวา่ ไฮเปอรแ์ บริคมี http://www.thaicam.go.th 155
ผลดีต่อการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น เด็กผิดปกติทางสมอง CP, เด็กออทิสติก, เด็กสมองพิการขาดออกซิเจนหลังคลอด, โรคลมชัก, อัมพฤกษ์-อัมพาต, ปวดศรี ษะเรอ้ื รงั หรอื ไมเกรน, บาดแผลไฟไหม,้ บาดแผลอกั เสบเรอ้ื รงั , บาดแผล เทา้ อกั เสบจากเบาหวาน, บาดแผลไมส่ มานภายหลงั การฉายรงั ส,ี ชว่ ยสมานแผล ให้เรว็ ขึน้ ในแผลผา่ ตดั ท่วั ไป หรอื แผลศัลยกรรมความงาม เปน็ ต้น แนวทางการรักษา ระยะเวลาในการรกั ษาผลจากการรกั ษาดว้ ยไฮเปอร์แบรคิ ในคนไข้กลุ่มเด็กผิดปกติทางสมอง CP, เด็กออทิสติก, สมาธิสั้น สมองพิการจากการขาดออกซิเจนหลังคลอด, โรคลมชัก, อัมพฤกษ์ อัมพาต การรักษาด้วยไฮเปอร์แบริคจะเข้าไปช่วยซ่อมแซมหรือกระตุ้นเซลล์สมองใน ส่วนที่ไม่ทำ�งานให้เริ่มทำ�งานมากขึ้น ส่งผลถึงการรับรู้, การเคลื่อนไหว, การ เรยี นรขู้ องผปู้ ว่ ย การท�ำ ไฮเปอรแ์ บรคิ ในกลมุ่ นจ้ี ะใชค้ วามดนั ท่ี 1.3 ATA เทยี บเทา่ การด�ำ น�ำ้ ประมาณ 3 เมตร ใชเ้ วลาประมาณ 1 ชว่ั โมง ควรท�ำ 3-5 ครง้ั ตอ่ สปั ดาห์ ในชว่ ง 40 ครง้ั แรก (40 ครง้ั เปน็ คา่ ทน่ี ยิ มท�ำ การวจิ ยั วา่ ผปู้ ว่ ยดขี น้ึ ) หลงั จากนน้ั จะมกี ารประเมนิ อาการของผปู้ ว่ ยเพอ่ื วางแผนการรกั ษาตอ่ ไป แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม ในผปู้ ว่ ยกลมุ่ นต้ี อ้ งใชก้ ารรกั ษาแบบบรู ณาการควบคกู่ นั ไปจงึ จะไดผ้ ลดี ขน้ึ อยกู่ บั ผู้ป่วยขาดทักษะด้านไหน โดยความร่วมมือของแพทย์ HBO, กุมารแพทย์ พฒั นาการ, จติ แพทยเ์ ดก็ , อายแุ พทย,์ นกั กายภาพบ�ำ บดั , นกั จติ วทิ ยาคลนิ กิ , ครฝู ึกพัฒนาการ, ครฝู กึ พูด, นกั โภชนาการ ดา้ นคนไขก้ ลมุ่ ปวดศรี ษะเรอ้ื รงั หรอื ไมเกรน การปวดศรี ษะมกั เกดิ จาก หลอดเลือดในสมองขยายตัว กาสรรักษาด้วยไฮเปอร์แบริคจะช่วยกระตุ้นให้ หลอดเลือดสมองหดตัวลดอาการปวดศีรษะได้โดยใช้ความดันที่ 1.3-1.5 ATA 156 ส�ำ นักการแพทยท์ างเลอื ก
ครั้งละ 1 ชั่วโมง ทำ� 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 เดือน หรือขึ้นกับ อาการของผูป้ ่วย คนไข้กลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มแผลต่าง ๆ เช่น บาดแผลไฟไหม้, บาดแผลอักเสบเรื้อรัง, บาดแผลเท้าอักเสบจากเบาหวาน, บาดแผลไม่สมาน ภายหลังการฉายรังสี, แผลผ่าตัดทั่วไปหรือแผลศัลยกรรมความงามในกลุ่มนี้ การรักษาด้วยไฮเปอร์แบริคจะเข้าไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและไฟโบรบลาสต์ ใหก้ ารสมานของแผลเรว็ ขน้ึ , กระตนุ้ การไหลเวยี นเลอื ดใหย้ บุ บวมและลดอาการปวด, เสริมฤทธิ์ของยาปฏิชีวนะในการฆ่าเชื้อ โดยจะใช้ความดันที่ 2.0-2.2 ATA (เทยี บเทา่ ด�ำ น�ำ้ 10-12 เมตร) ใชเ้ วลาครง้ั ละ 2 ชว่ั โมง ท�ำ 5-7 วนั ตอ่ สปั ดาห์ ประมาณ 30-40 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพแผลโยการรักษานี้จะรักษาร่วมกับ อายุรแพทย์/ศัลยแพทย์ที่รักษาหลักอยู่เดิมอีกทั้งนักกายภาพบำ�บัดหากแผล มีการหดร้งั การเตรียมตัวมารักษาด้วยไฮเปอร์แบริคต้องไม่มีอาการไข้หรือหวัด ก่อนทำ�การรักษาทุกคร้งั ต้องผ่านการตรวจร่างกายโดยแพทย์ว่าสามารถทำ�การ รกั ษาไดห้ รอื ไม่ ขณะรกั ษาจะมอี าการหอู อ้ื เลก็ นอ้ ยตอนปรบั ความดนั ขน้ึ ลงโดยมี แพทย์ และเจา้ หนา้ ทค่ี อยดแู ลและแนะน�ำ อยา่ งใกลช้ ดิ ผลท่ีได้ในผู้ป่วยแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปข้ึนอยู่กับความเป็นมาก- นอ้ ยของโรค, อาย,ุ การขาดออกซเิ จน, ความสม�ำ่ เสมอของการรกั ษารว่ มอน่ื ๆ ทค่ี วรท�ำ เพยี งพอหรอื ไมอ่ กี ดว้ ย มีรายงานการวิจัยการใช้ออกซิเจนบริสุทธิ์ภายใต้ความกดอากาศสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy/HBOT) ในการรกั ษาผปู้ ว่ ยโรคหลอดเลอื ดสมอง ระยะเฉียบพลันจากการทบทวนวรรณกรรมแบบมีระบบของคอคแครน (Cochrane Database Systematic Review) พบวา่ ทำ�ใหค้ ะแนนความ http://www.thaicam.go.th 157
สามารถการทำ�หนา้ ที่ของรา่ งกายเพ่มิ ขน้ึ และทำ�ใหค้ า่ Trouilas Disability Scale ลดลง 55 นอกจากนี้ยงั ช่วยฟนื้ ความจ�ำ ในผูป้ ว่ ยด้วย 56 น้�ำ มนั หอมระเหย (Aroma oil, essential oil)57 น�ำ้ มนั หอมระเหย เปน็ ผลติ ผลจากการสกดั พชื สมนุ ไพรนานาชนดิ มาจาก ส่วนใดส่วนหนึ่งของพืชนั้น ๆ เช่น ผล ดอก ใบ เมล็ด เปลือก ก้าน ฯลฯ โดยวธิ กี ารสกดั ทน่ี ยิ มใชใ้ นปจั จบุ นั คอื การกลน่ั ดว้ ยไอน�ำ้ และการใชส้ ารเคมี เป็นตัวทำ�ลาย น้ำ�มันหอมระเหยที่นำ�มาบำ�บัดเรียก ว่า Aroma Therapy (อะโรมาเธราป)ี หมายถงึ การบ�ำ บดั รกั ษาโรคโดยใชก้ ลน่ิ หอม ซง่ึ ไดม้ าจากพชื ส่วนประวัติความเป็นมานั้นมีหลายหลักฐานที่มีการนำ�น้ำ�มันหอมระเหยมาใช้ เช่น ที่อยี ิปต์ รู้จักกนั มานานกวา่ 5,000 ปี มกั ใช้การเผาใหไ้ ด้มาซ่ึงกลิ่นหอม เพื่อบูชาเทพเจ้า เช่น กลิ่น Frankincense (กำ�ยาน) บูชาพระอาทิตย์ กลิ่น Ra และ Myrrh บูชาพระจันทร์ นอกจากนี้ชาวอียิปต์ยังใช้กลิ่น Myrrh และ Juniper จากพืชธรรมชาติรักษาสภาพศพ ส่วนที่ประเทศจีนชาวจีนรู้จักวิธีใช้ พชื สมนุ ไพร และกลน่ิ หอมมานานพอ ๆ กบั ชาวอยี ปิ ต์ ในหนงั สอื สมนุ ไพรเลม่ หนง่ึ ของจีนมีการจดบันทึกไว้ว่า เมื่อ 2,700 ปีก่อน ค.ศ. ชาวจีนสามารถแยก สารหอมจากพชื ธรรมชาตไิ ดม้ ากกวา่ 300 ชนดิ เชน่ น�ำ้ มนั กหุ ลาบ มะลิ ขงิ และคาโมมายด์ เชน่ เดยี วกบั ชาวอยี ปิ ตท์ ช่ี าวจนี กใ็ ชก้ ารเผาไมห้ อม เพอ่ื บชู าเทพเจา้ ดว้ ยเชน่ กนั นอกจากน้ีทป่ี ระเทศอินเดยี มกี ารใชน้ ำ้�มนั หอมระเหยในการแพทย์ อายรุ เวท เช่น น้ำ�มนั จันทน์ (sandalwood oil) น�ำ้ มนั หอมระเหยในประเทศกรกี พบวา่ กอ่ นครสิ ตศ์ กั ราช 370-460 ปี ได้นำ� aromatic oils (น้ำ�มันหอมระเหย) เพื่อนำ�มาใช้บำ�บัดรักษา โดย แพทยก์ รกี ผหู้ นง่ึ ชอ่ื Pedacius Dioscorides ไดเ้ ขยี นหนงั สอื เกย่ี วกบั พชื สมนุ ไพร 158 ส�ำ นกั การแพทย์ทางเลือก
กับการแพทย์ไว้ เมื่อประมาณ 1200 ปีมาแล้ว และหลักการนี้ก็ยังใช้อยู่ จนปจั จบุ นั สว่ นชาวโรมนั ไดร้ บั ความรทู้ างการแพทยด์ ว้ ยการใชก้ ลน่ิ บ�ำ บดั รกั ษา มาจากชาวกรกี และไดพ้ ฒั นาหลกั ความรนู้ ผ้ี สมผสานกบั ศาสตรอ์ น่ื เชน่ การนวด และการอาบ และถือได้ว่าชาวโรมันเป็นชาติแรก ที่ทำ�การค้าเกี่ยวกับอโรมา คือ ได้นำ�เข้าผลิตภัณฑ์อโรมา จากเปอร์เซียและชาวอาหรับก็นำ�ความรู้เกี่ยว กับอโรมาออยล์และน้ำ�มันหอมแพร่กระจาย และได้รับความนิยมมากขึ้นหลัง สงครามครูเสด ระหว่างปี ค.ศ.980-1037 นายแพทย์ อวิเซนา ชาวอาหรับ ไดค้ ดิ วธิ กี ลน่ั น�ำ้ มนั หอมระเหยขน้ึ เปน็ ครง้ั แรก และมกี ารพฒั นาการกลน่ั น�ำ้ มนั หอมระเหยดว้ ยไอน้ำ�ให้มีประสทิ ธภิ าพ โดยพชื ทกี่ ล่นั ได้ คือ กุหลาบ ตอ่ มาในครสิ ตศ์ ตวรรษ ท่ี 16 เยอรมนั ไดศ้ กึ ษาและพฒั นากระบวนการ กลั่นและคุณสมบัติของน้ำ�มันหอมระเหยในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้ใช้น้ำ�มัน หอมระเหยทางการแพทย์ เชน่ ใชฆ้ า่ เชอ้ื แบคทเี รยี เชน่ ลาเวนเดอร์ ออรกิ าโน หลงั จากนน้ั ในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 19 มคี วามกา้ วหนา้ ทางการแพทยแ์ บบตะวนั ตก จึงเป็นยุคที่มีการใช้ยาบริสุทธิ์จากพืชและการสังเคราะห์ทางเคมี ทำ�ให้การใช้ สคุ นธบ�ำ บดั นอ้ ยลง การน�ำ มาใชเ้ พอ่ื การบ�ำ บดั รกั ษามองวา่ เปน็ เรอ่ื งผดิ ปกตแิ ละ มกี ารบญั ญตั ศิ พั ทค์ �ำ วา่ Aroma Therapy ขน้ึ โดย Rene Maurice Gattefosse นักเคมีชาวฝรั่งเศส ในปี 1937 มีตำ�ราสุคนธบำ�บัดเล่มแรก ชื่อว่า Aroma- therapie แปลเปน็ ภาษาองั กฤษ ในปี 1993 และคน้ พบประโยชนจ์ ากน�ำ้ มนั ทที รี (Tea tree oil) เปน็ คร้งั แรกในประเทศออสเตรเลีย โดย Dr. Penfold ตอ่ มาในปี 1942 ไดต้ พี มิ พต์ ำ�ราเก่ยี วกับน้ำ�มนั หอมระเหยรักษาทหาร ในสงครามอินโดจีน โดย Dr.Jean Valnet และมีการใชน้ �้ำ มนั หอมระเหยใน เครอ่ื งส�ำ อางและการนวด โดย Dr. Marguerite Maury และปจั จบุ นั ความนยิ ม ของน้ำ�มันหอมระเหยในการดูแลสุขภาพมีมากขึ้นตามลำ�ดับ ประโยชน์ของ http://www.thaicam.go.th 159
น้ำ�มันหอมระเหยนั้นมีสรรพคุณที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์พืชนั้น ๆ เช่น น้ำ�มันหอมระเหยคาโมมายล์ ช่วยทำ�ให้ผิวสะอาด ช่วยให้จิตใจแจ่มใส มีสมาธิ ถ้าใช้นวดจะช่วยให้รู้สบาย และสงบเหมาะกับผิวแห้งและธรรมดา ช่วยให้ผิวหนังรู้สึกผ่อนคลาย น้ำ�มันหอมระเหย-ยูคาลิปตัส ช่วยให้หายใจโล่ง ชว่ ยใหม้ คี วามกระปรก้ี ระเปรา่ ปลอดโปรง่ และมสี มาธิ มคี ณุ สมบตั ใิ นการขจดั แบคทเี รยี ถา้ ใชน้ วดจะชว่ ยใหส้ ดชน่ื และฟน้ื ฟสู มรรถภาพของรา่ งกายเหมาะกบั ผิวธรรมดาถึงผิวมัน น้ำ�มันหอมระเหย-เป๊ปเปอร์มินต์ ช่วยกำ�จัดแบคทีเรีย ชว่ ยใหจ้ ติ ใจแจม่ ใส ปลอดโปรง่ ชว่ ยใหส้ ดชน่ื และมชี วี ติ ชวี า น�ำ้ มนั หอมระเหย- กระดงั งา (อีแลงอแี ลง) ชว่ ยใหม้ ัน่ ใจ และจิตใจสบาย ให้ความรสู้ กึ คลาสสิค ให้ความอบอนุ่ และอารมณ์รัญจวน เป็นต้น ส�ำ หรบั ผปู้ ว่ ยอมั พฤกษ์ อมั พาตมกั พบปญั หาปวดไหล่ การนวดกดจดุ ด้วยน้ำ�มันหอมระเหย สามารถบรรเทาอาการปวดได้ โดยน้ำ�มันหอมระเหย เลอื กกลน่ิ ทใ่ี ชเ้ พอ่ื กระตนุ้ การไหลเวยี นโลหติ ไดแ้ ก่ กลน่ิ ลาเวนเดอร์ (Lavender) กลิ่นที่ช่วยเสริมสร้างการทำ�งานของหัวใจให้แข็งแรง คือ กลิ่นเปปเปอร์มินท์ (peppermint) โรสแมรี่ (rosemary) โดยให้กดนวดเป็นเวลา 20 นาที วนั ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ จะทำ�ใหผ้ ปู้ ่วยคลายอาการปวดเมอื่ ยได้ 58 การใชน้ ้ำ�มนั หอมระเหยเพอื่ ผ่อนคลายและความรู้สกึ หายใจ โล่งขน้ึ ในผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต59 คุณสมบัติของผูป้ ว่ ย ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาตที่สามารถรับกลิ่นได้และใช้ออกซิเจนช่วยใน การหายใจ ขอ้ บง่ ช้ี ผปู้ ว่ ยทไ่ี ดร้ บั ออกซเิ จนทางจมกู (Nasal cannula) และรสู้ กึ ไมพ่ อใจ 160 ส�ำ นกั การแพทย์ทางเลอื ก
ต่อกลิ่นของสายออกซิเจน หรือผู้ป่วยมีความต้องการกลิ่นสดชื่นของน้ำ�มัน หอมระเหย วธิ ปี ฏบิ ตั ิ 1. จัดเตรียมอปุ กรณ์ ทใ่ี ช้ ไดแ้ ก่ 1.1 น�ำ้ มนั หอมระเหยกลน่ิ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ พมิ เสน ยคู าลปิ ตสั และ ลาเวนเดอร์ (อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ) 1.2 จุก three ways 1 อัน 1.3 กระเปาะพน่ ยา 1 อนั (ใชใ้ สส่ �ำ ลชี บุ น�ำ้ มนั หอมระเหยบรสิ ทุ ธ)์ิ 1.4 จกุ ทอ่ ระบายทรวงอก Re sterile 1.5 กาวยึดติดพลาสติก 2. ประกอบอุปกรณ์ที่เตรียมไว้เข้าด้วยกัน จะได้อุปกรณ์ที่ใส่น้ำ�มัน หอมระเหยทใ่ี ชป้ ระกอบกบั อปุ กรณก์ ารใหอ้ อกซเิ จน จากนน้ั เตมิ น�ำ้ มนั หอมระเหย ปรมิ าตร 1 มิลลลิ ิตรลงในกระเปาะพน่ ยา ดงั รูป http://www.thaicam.go.th 161
*** ขอ้ สังเกต : ควรเลือกกลนิ่ นำ�้ มนั หอมระเหยใหเ้ หมาะสมและตรงกบั ความชอบของผูป้ ว่ ย และอาจใชส้ �ำ ลชี บุ น�ำ้ มนั หอมระเหย(ทท่ี �ำ มาจากธรรมชาต)ิ ใส่ในกระเปราะแทนการใชน้ �ำ้ มนั หอม ระเหยชนดิ น�ำ้ เพอ่ื ลดความเสย่ี งในกรณกี ารใชอ้ อกซเิ จนทางจมกู ทใ่ี ชค้ วามดนั มากกวา่ คา่ มาตรฐาน ท่กี ำ�หนดซง่ึ อาจท�ำ ให้น้ำ�มนั หอมระเหยเข้าสรู่ ะบบทางเดนิ หายใจได้ กาใรหใน้ชอ้นนำ้�มหันลหบั อในมผระู้ปเหว่ ยยเอพมั อ่ื พผฤอ่ กนษค์ ลอามั ยพแลาตะช6ว่ 0ย คณุ สมบตั ิของผู้ป่วย ผู้ป่วยอมั พฤกษ์ อัมพาตทสี่ ามารถรับกล่ินได ้ ขอ้ บง่ ช้ี ผปู้ ่วยท่ีมปี ัญหานอนไมห่ ลับ วิธปี ฏบิ ัต:ิ ใช้น้ำ�มันหอมระเหยกลน่ิ ลาเวนเดอร์ (ท่ีทำ�มาจากธรรมชาติ) หยดใส่ กอ้ นส�ำ ลี 1 กอ้ น ในกลอ่ งเลก็ ๆ และวางไว้ใกล้ ๆ หมอน เป็นเวลา 3 วัน ติดต่อกัน ตั้งแต่เวลา 21.00 น - 6.00 น. จะท�ำ ให้ผู้ป่วยนอนหลบั ได้ดขี ้นึ 162 สำ�นกั การแพทยท์ างเลอื ก
การฝกึ การหายใจ (pranayama) อนโุ รมา วิโลมา (การหายใจสลับจมูก) ในผ้ปู ่วยอมั พฤกษ์ คุณสมบตั ขิ องผ้ปู ว่ ย ผปู้ ่วยอัมพฤกษ์ ท่ีน่งั ได้และสามารถยกแขน มือ มาจับท่จี มูกได้ ข้อบง่ ช้ี ผู้ป่วยทรี่ ้สู ึกหายใจไมส่ ะดวก เครียด วิตกกงั วล วิธีปฏิบตั ิ 1. หงายฝ่ามือซ้ายวางที่เข่าซ้ายใช้นิ้วกลางมือขวาปิดรูจมูกซ้าย หายใจออกรูจมูกขวาก่อนแล้ว หายใจเข้ารูจมูกขวา 2. เปลย่ี นใชน้ ว้ิ หวั แมม่ อื ปดิ รจู มกู ขวาเปดิ รจู มกู ซา้ ยพรอ้ มกบั หายใจออก หายใจเข้ารูจมูกซ้ายอีกครั้ง ทำ�สลับกันประมาณ 5-8 ครั้งแล้วพักในจังหวะ หายใจออก *หายใจเขา้ และออกรจู มกู เดยี วกนั แลว้ สลบั ” ถา้ รสู้ กึ หายใจตดิ ขดั ด้านขวามากกว่าแสดงว่าร่างกายสูญเสียพลังร้อน แสดงว่าร่างกายเย็นเกินไป ถา้ รสู้ กึ หายใจตดิ ขดั ดา้ นซา้ ยมากกวา่ แสดงวา่ รา่ งกายสญู เสยี พลงั เยน็ แสดงวา่ รา่ งกายรอ้ นเกินไป (ดา้ นขวาเปน็ พลังรอ้ น ดา้ นซา้ ยเปน็ พลงั เยน็ ) การหายใจ ในลกั ษณะน้ีจะช่วยเพมิ่ ออกซเิ จนในรา่ งกาย 61 http://www.thaicam.go.th 163
อ.อาจิณ การกระท�ำ ทเ่ี ปน็ ประจ�ำ (ขบั ถา่ ยอจุ าระ-ปสั สาวะ บว้ นปาก อาบน�ำ้ ) ในที่นี้คำ�ว่าอาจิณ คือ การกระทำ�ที่เป็นประจำ� สำ�หรับการดูแล ส่งเสริมสุขภาพที่จะต้องมีอยู่ประจำ�ในความหมายนี้ คือ การขับถ่ายอุจาระ ปัสสาวะที่ต้องเกิดขึ้นเป็นประจำ�เป็นไปได้ว่าผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาตมักเกิด ภาวะทอ้ งผกู ไดง้ า่ ย เนอ่ื งจากรบั ประทานอาหารทม่ี ี เสน้ ใยต�ำ่ รบั ประทานน�ำ้ นอ้ ย การยอ่ ยไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ หรอื บางครง้ั ยงั พบผปู้ ว่ ยอมั พฤกษ์ อมั พาต มอี าการ ขับถ่ายปัสสาวะลำ�บาก เนื่องจากไม่สามารถนั่งหรือยืนถ่ายเหมือนภาวะปกติ รว่ มกบั เกดิ จากสาเหตขุ องอาการทางสมองบางครง้ั ไมส่ ามารถสอ่ื สารกบั ผปู้ ว่ ยได้ ผดู้ แู ลต้องอาศยั การสังเกต คลำ�กระเพาะปสั สาวะท่หี น้าทอ้ งวา่ โตหรือไมถ่ า้ โต จะต้องกระตุ้นให้ผู้ป่วยถ่าย ในกรณีที่ผู้ป่วยขับถ่ายเองไม่ได้ ต้องปรึกษาแพทย์ ซึ่งอาจจะได้รับ ประทานยาขับปัสสาวะ หรือให้ใส่สายสวนปัสสาวะเช็ดทำ�ความสะอาดให้ดี ทุกครั้งที่ขับถ่าย ไม่หมักหมมเพราะจะทำ�ให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และเกดิ แผลกดทบั ไดง้ า่ ย วธิ กี ารสง่ เสรมิ และดแู ลสขุ ภาพทใ่ี ชก้ ารแพทยท์ างเลอื ก และการแพทยผ์ สมผสานในการดูแลท่ีเก่ยี วขอ้ ง มดี ังน้ี การใชน้ ำ�้ มนั หอมระเหยชว่ ยอาการทอ้ งผกู และผน่ื คันในผู้ปว่ ย อมั พฤกษ์ อมั พาต คณุ สมบตั ขิ องผปู้ ่วย ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ ที่นั่งได้และสามารถยกแขนมือมานวดท้องตนเองได้ สว่ นผู้ปว่ ยอัมพาต ใหญ้ าติชว่ ยท�ำ 164 สำ�นกั การแพทยท์ างเลือก
ข้อบง่ ชี้ 1 ผู้ป่วยที่มีอาการทอ้ งผกู วธิ ปี ฏิบัต ิ น�ำ้ มันหอมระเหย กลนิ่ โรสเมร่ี (Rosmarinus officinalis) กล่นิ ไทม ์ (Thymus spp.) นำ�มา 6 หยดผสมกับน้ำ�มันแอลมอนด์ 30 ซีซี หรือน้ำ�มัน มะกอก นวดบริเวณทอ้ งจะชว่ ยบรรเทาอาการทอ้ งผูกได้ ขอ้ บง่ ชท้ี ่ี 2 ผปู้ ว่ ยทม่ี ผี น่ื คนั วธิ ปี ฏบิ ตั ิ ใชน้ �ำ้ มนั หอมระเหย เจลราเนยี มผสมน�ำ้ มนั ตวั พา เชน่ น�ำ้ มนั มะกอก น�ำ้ มนั แอลมอนดท์ าผวิ ชว่ ยดแู ลผวิ พรรณ กระตนุ้ การไหลเวยี นของเลอื ด และ ช่วยรกั ษาอาการผ่นื คนั เช้อื ราทท่ี ำ�ให้เกิดโรคทางผวิ หนงั โยคะชว่ ยบรรเทาอาการทอ้ งผูกในผู้ปว่ ย อัมพฤกษ์ คุณสมบัติของผปู้ ว่ ย ผู้ปว่ ยอมั พฤกษ์ทท่ี รงตัวเองไดใ้ นท่านงั่ ทา่ นอน ขอ้ บง่ ช้ี ผู้ป่วยทีม่ อี าการท้องผกู วธิ ปี ฏิบัต ิ 1. สวมใส่เสื้อผา้ ท่สี บาย ยืดหย่นุ ไดด้ ี 2. บริหารรา่ งกายท่าโยคะในขณะทอ้ งวา่ งหรือหลังอาหาร ประมาณ 1 ช่วั โมง โดยท�ำ ทา่ ตอ่ ไปนี้ http://www.thaicam.go.th 165
1. ท่างอเข่าชิดอก (knee-chest position) ทา่ ท่ี 1 ท่างอเข่าชดิ อก วิธีปฏิบตั ิ 1. นอนหงายเหยยี ดขาตรงท้งั 2 ขา้ ง มือวางขา้ งลำ�ตวั 2. หายใจเขา้ ยกขาซา้ ยชูข้ึนต้ังฉากกบั ลำ�ตวั 3. หายใจออกงอเข่าซา้ ยมอื กอดเข่ายกศรี ษะขนึ้ (ดังภาพทา่ ท่ี 1) 4. หายใจเขา้ ชขู าซ้ายขน้ึ ตง้ั ฉากกบั ล�ำ ตัว 5. หายใจออกวางขาซา้ ยลงกลบั มาอยู่ในท่านอนหงาย (ตามขอ้ 1) 6. (เร่มิ สลบั ขา) หายใจเข้ายกขาขวาชูขนึ้ ต้งั ฉากกับลำ�ตัว 7. หายใจออกงอเขา่ ขวามอื กอดเขา่ ยกศรี ษะขึ้น (ตามข้อ 2) 8. หายใจเขา้ ชขู าขวาขึ้นตง้ั ฉากกับล�ำ ตวั 9. หายใจออกวางขาขวาลงกลับมาอยใู่ นทา่ นอนหงาย (ขน้ั ท่ี 1) 10 ท�ำ ท้ัง 2 ขา ถือว่า ทำ�ได้ 1 รอบ ท�ำ สลบั ขา ซา้ ยขวา ในขั้น 1-10 จนครบ 5 รอบ 166 สำ�นักการแพทยท์ างเลือก
2. ท่าศีรษะถงึ เขา่ (Shanu asana) ท่าที่ 2 ทา่ ศรี ษะถงึ เข่า วิธีปฏบิ ัติ 1. นง่ั ตวั ตรงมอื วางขา้ งล�ำ ตวั เหยยี ดขาซา้ ยหรอื ขวาสว่ นขาอกี ขา้ งพบั ไว ้ 2. หายใจเขา้ ยกแขน 2 ข้างขึ้นเหนอื ศีรษะเงยหนา้ ขนั้ 3. หายใจออกกม้ หน้าผากใหช้ ดิ เขา่ มอื 2 ขา้ งจับนว้ิ เทา้ 4. หายใจเขา้ ยกศรี ษะ และ แขน 2 ขา้ งขึ้นเหนอื ศรี ษะ 5. หายใจออก มือ 2 ขา้ งทย่ี กขนึ้ กลบั มาวางข้างลำ�ตัวตามเดิม 6. ท�ำ ข้นั ท่ี 1-5 อยา่ งน้ี 5 รอบ 7. เมือ่ ทำ�ครบ 5 รอบใหส้ ลบั ขา ทำ�วธิ เี ดมิ ข้อที่ 1-5 อีก 5 รอบ http://www.thaicam.go.th 167
3. ท่าคมี (paschimotanasana) ทา่ ที่ 3 ท่าคีม วิธปี ฏบิ ัติ 1. นง่ั ตวั ตรงมอื วางข้างล�ำ ตวั เหยยี ดขา 2 ขา้ งขึน้ 2. หายใจเข้ายกแขน 2 ข้างขึ้นเหนอื ศีรษะเงยหน้าข้นั 3. หายใจออกกม้ หนา้ ผากให้ชดิ เขา่ มือ 2 ขา้ งจบั นิ้วเท้า 4. หายใจเข้ายกศรี ษะ และ แขน 2 ข้างขนึ้ เหนือศีรษะ 5. หายใจออก มอื 2 ขา้ งท่ยี กข้นึ กลับมาวางขา้ งลำ�ตวั ตามเดมิ 6. ท�ำ ขอ้ ท่ี 1 - 5 อยา่ งนี้ 5 รอบ 168 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก
อ. อดุ มปญั ญา ในทน่ี อ้ี ดุ มปญั ญา คอื ความรทู้ ว่ั คอื รทู้ ว่ั ถงึ เหตถุ งึ ผล รอู้ ยา่ งชดั เจน, รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ, รู้สิ่งที่ควรทำ�ควรเว้น เป็นต้น เป็นธรรมที่คอยกำ�กับ ศรัทธา เพื่อให้เชื่อประกอบด้วยเหตุผล ไม่ให้หลงเชื่ออย่างงมงาย ปัญญา ทำ�ให้เกิดได้ 3 วิธี คือ 1) ปัญญาโดยการสดับตรับฟัง การศึกษาเล่าเรียน (สุตมยปัญญา) 2) ปญั ญาโดยการคดิ คน้ การตรกึ ตรอง (จินตามยปญั ญา) 3) ปัญญาโดยการอบรมจิต การเจริญภาวนา (ภาวนามยปญั ญา) ในผปู้ ่วย อัมพฤกษ์ อมั พาตสามารถท�ำ ให้เกดิ ปัญญาได้ด้วยการใช้เทคนิคทางการแพทย์ ทางเลอื ก เชน่ การใหผ้ ปู้ ่วยฝึกปัญญาโดยการเจรญิ ภาวนา ด้วยการสวดมนต์ การฝึกสมาธิ เป็นตน้ การสวดมนต์62 การสวดมนต์ได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะทางเลือกในการรักษา ทางการแพทย์ เรียกว่า สวดมนต์บำ�บัด (Vibrational Therapy) หรือพลัง ดรุ ยิ มนตรา หรอื พลงั รงั สธี รรม ท่ี ดร.พระอาจารยส์ งิ หท์ น นราสโภ ทอ่ี ธบิ ายวา่ พลังรังสีธรรม คือ พลังธรรมะหรือพลังจากการปฏิบัติธรรมที่สามารถเอาชนะ โรคร้ายได้ เป็นการรักษาโรคด้วยพลังปรมาณูโดยอาศัย สมาธิ เป็นตัวช่วย สว่ นพลงั ดรุ ยิ มนตรา คอื การสวดมนต์ ซง่ึ ท�ำ ใหเ้ กดิ พลงั รงั สธี รรม คลา้ ยกบั ศาสตร์ แหง่ การรกั ษาหนง่ึ ในมรณศาสตรข์ องชาวทเิ บต ซง่ึ ผปู้ ฏบิ ตั จิ ะเนน้ การสวดมนต์ ภาวนา ดงั นน้ั จงึ สามารถกลา่ วไดว้ า่ การสวดมนตบ์ �ำ บดั คอื หลกั การหนง่ึ ของ Vibrational Therapy หรือ Vibrational Medicine คือ การใช้ คุณสมบัติ ของคล่นื บางคล่นื มาบ�ำ บดั ความเจ็บปว่ ย ซึ่งมหี ลากหลายวิธี อาทิ เก้าอไี้ ฟฟ้า http://www.thaicam.go.th 169
เครื่องนวดต่าง ๆ ซึ่งเป็นคลื่นไฟฟ้าเชิงฟิสิกส์ที่เกิดจากสิ่งไม่มีชีวิตต่างจาก สวดมนต์บำ�บัดเป็นคลื่นที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต การสวดมนต์บำ�บัดทำ�ให้เกิดทั้ง คลื่นเสียงที่สามารถเดินทางลึกเข้าไปในสมอง และคลื่นไฟฟ้าที่ส่งกระจายไป ในชั้นบรรยากาศไกล ๆ ได้ การสวดมนต์ใช้หลักการทำ�ให้เกิดคลื่นเสียงที่มี ความสมำ่�เสมอ เพือ่ เข้าไปกระตนุ้ รา่ งกายใหเ้ กิดการเยียวยา ประโยชน์ด้านสุขภาพของการสวดมนต์ มีผู้กล่าวไว้ว่าหากเราสวดมนต์ไม่ว่าศาสนาใดก็ตามเพื่อให้ใครสักคน หายป่วย แม้จะอยู่ห่างกันคนละซีกโลก แต่พลังแห่งบทสวดนั้นจะเดินทางไป เยยี วยาความเจบ็ ปว่ ยของเขาได้ กลไกการบ�ำ บดั เรม่ิ ตน้ เมอ่ื หขู องเราไดย้ นิ เสยี ง บทสวด ก็จะส่งสัญญาณต่อไปยังศูนย์การได้ยินที่อยู่บริเวณสมองกลีบขมับ กอ่ นสง่ ไปบรเิ วณกา้ นสมอง ซง่ึ เมอ่ื ไดร้ บั คลน่ื เสยี งชา้ ๆ สม�ำ่ เสมอ จะหลง่ั สาร ส่อื ประสาทท่ีมีประโยชน์มากมาย รองศาสตราจารย์ ดร. สมพร กนั ทรดษุ ฎี เตรียมชัยศรี หัวหน้าภาค วิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล อธิบายไว้ ดงั น้ี “สมองของเราเมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงช้า ๆ สม่ำ�เสมอ ประมาณ 15 นาทขี น้ึ ไป จะท�ำ ใหเ้ ซลลป์ ระสาทของระบบประสาทสมองสงั เคราะห์ สารสื่อประสาทหลาย ๆ ชนิด บริเวณก้านสมองจะหลั่งสารสื่อประสาทชื่อ ซีโรโทนนิ (Serotonin) เพมิ่ ขึน้ ซงึ่ มีฤทธ์คิ ลา้ ยยานอนหลบั ชว่ ยการเรียนรู้ ลด ความเครียด ลดอาการซึมเศร้า ลดระดับน้ำ�ตาลในเลือด และเป็นสารตั้งต้น ในการสังเคราะหส์ ารส่อื ประสาทอ่ืน ๆ เชน่ เมลาโทนนิ ซึ่งเปรียบคล้ายกับยา อายุวัฒนะ เพราะจะช่วยยืดอายุการทำ�งานของเซลล์ประสาท เซลล์ร่างกาย ใหช้ วี ติ ยนื ยาวขน้ึ และยงั มคี ณุ สมบตั ชิ ว่ ยใหน้ อนหลบั เพม่ิ ภมู ติ า้ นทาน ท�ำ ใหเ้ ซลล์ 170 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลือก
สดชื่นขึ้น รวมถึง โดปามีน มีฤทธิ์ลดความก้าวร้าวและอาการพาร์กินสัน นอกจากนี้ปริมาณของซีโรโทนินมีความสัมพันธ์ต่อการกระตุ้นการหลั่งสาร สื่อประสาทอน่ื ๆ เชน่ อะเซทิลโคลนี ชว่ ยในกระบวนการเรยี นรแู้ ละความจำ� ช่วยขยายเส้นเลือด ทำ�ให้ความดันลดลง และยังช่วยลดปริมาณ อาร์กินิน วาโซเปรสซนิ ซง่ึ มหี นา้ ทค่ี วบคมุ ความกา้ วรา้ ว ความสมดลุ ของน�ำ้ และซโี รโทนนิ ยังเข้าไปลดปริมาณของสารเคมีชนิดหนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นของการทำ�งานของ ตอ่ มหมวกไตใหล้ ดลง สง่ ผลใหร้ ะบบประสาทสว่ นกลางท�ำ งานนอ้ ยลง รา่ งกาย จึงรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง และไม่เครียด ภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น และไม่ใช่ เฉพาะสารสื่อประสาท ที่มีประโยชน์เท่านั้นที่เราจะได้จากการสวดมนต์ แต่ การสวดมนต์ยังทำ�ให้อวยั วะต่าง ๆ ได้รบั การกระตนุ้ คลา้ ยกบั การนวดตัวเอง จากการเปลง่ เสียงสวดมนต์” อาจารย์ เสถยี รพงษ์ วรรณปก ราชบณั ฑติ อธบิ ายหลักการนว้ี ่า “เวลาเราสวดมนตน์ าน ๆ ค�ำ แตล่ ะค�ำ จะสรา้ งความสน่ั สะเทอื นไมเ่ ทา่ กนั ตามฐาน ที่เกิดของเสียงหรือตามวิธีเปล่งเสียง แม้ว่าเสียงจะออกมาจากปากเหมือนกัน แต่ว่าเสียงบางเสียงออกมาจากริมฝีปาก บางเสียงออกมาจากปุ่มเหงือก บาง เสียงออกมาจากไรฟัน บางเสียงออกมาจากคอ ดังนั้นถ้าเราสวดมนต์ถูกต้อง ตามฐานกรณ์ จงึ เกดิ พลงั ของการสน่ั และเมอ่ื เกดิ พลงั ของการสน่ั เสยี งสวดมนต์ จะไปช่วยกระตุ้นต่อมต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยปราบเชื้อโรคบางชนิด เช่น การวิจัย ของฝรั่ง พบว่า อักษร เอ บี ซี ดี จะช่วยกระตุ้นระบบน้ำ�ย่อย ส่วนบท สวดมนตใ์ นพระพทุ ธศาสนา เสยี งอกั ขระแตล่ ะตวั มคี �ำ หนกั เบาไมเ่ ทา่ กนั บางตวั สั่นสะเทือนมาก บางตวั สน่ั สะเทอื นนอ้ ย ท�ำ ใหต้ อ่ มตา่ งๆในร่างกายถกู กระตนุ้ เมื่อต่อมที่ฝ่อถูกกระตุ้นบ่อย ๆ เข้า ก็คงคืนสภาพ อาการป่วยก็จะดีขึ้น” แต่ท่สี �ำ คัญมากไปกว่านัน้ การสวดมนตใ์ ห้ประโยชนท์ างใจที่มคี ณุ ค่ากบั ผ้สู วด http://www.thaicam.go.th 171
ซึ่ง รองศาสตราจารย์จุฑาทิพย์ อุมะวิชนี ภาควิชาปรัชญาและศาสนา คณะศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ สรุปว่ามี 2 ข้อ คือ 1. การสวดมนตเ์ ปน็ เครอื่ งช่วยใหเ้ กดิ สมาธิ โดยต้องสวดเสยี งดัง ให้ หไู ด้ยินเสียงตัวเอง และจิตใจตอ้ งจดจอ่ อยกู่ ับเสียงสวด เมอ่ื ใจไมฟ่ ้งุ ไปที่อน่ื ใจอยูก่ ับเสยี งเดยี ว จึงเกดิ สมาธิ 2. ถา้ เขา้ ใจความหมายของบทสวดน้ันๆ จะทำ�ให้เรามคี วามเลื่อมใส ศรัทธา เพราะบทสวดของทุกศาสนาเป็นเรื่องของความดีงาม จิตใจก็จะ สะอาดขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น เป็นการยกระดับจิตใจของผู้สวดเมื่อร่างกายที่รับสาร สอ่ื ประสาททม่ี ปี ระโยชนแ์ ละการกระตนุ้ ระบบอวยั วะตา่ ง ๆ ใหท้ �ำ งานเปน็ ปกติ เทา่ กับว่าเราไดผ้ อ่ นคลายท้ังอวัยวะและโรคทีเ่ ปน็ อยู่ การสวดมนต์ในผู้ปว่ ยอมั พฤกษ ์ คณุ สมบตั ขิ องผูป้ ว่ ย ผู้ป่วยอมั พฤกษ์ทน่ี ง่ั ได้ อ่านหนังสือ หรือรับฟังเสยี งได้ ข้อบ่งชี้ 1 ผู้ป่วยท่ีนอนไมห่ ลบั เครยี ดวติ กกังวล ไมส่ บายใจ วธิ ปี ฏิบัติ 1. ให้ผู้สวดมนต์เตรยี มตนเองโดยไม่ควรสวดมนต์หลังกนิ อาหารทนั ที ควรทิ้งชว่ งใหร้ ่างกายเริม่ ผอ่ นคลาย อาจเปน็ เวลากอ่ นเข้านอน 2. หาสถานทท่ี ี่สงบเงียบ 3. สวดบทสน้ั ๆ 3-4 พยางค์ โดยใชเ้ วลาประมาณ 10-15 นาทขี น้ึ ไป จะทำ�ให้ร่างกายได้หลั่งสารซีโรโทนิน แต่หากสวดมนต์ด้วยบทยาว ๆ จะได้ ความผ่อนคลายและความศรทั ธา โดยบทสวดมนต์ท่แี นะน�ำ คอื ให้เลอื กตาม 172 สำ�นักการแพทยท์ างเลือก
ความชอบ เชน่ อติ ปิ โิ ส หรอื นะโม ตสั สะ นะโมพทุ ธายะ หรอื สพั เพสตั ตา ฯลฯ เลือกท่อนใดท่อนหนึ่งแล้วสวดวนไปวนมา หรือโพชฌงค์ 7 ที่หลายคน นิยมสวดให้ตัวเองหรือคนไขห้ ายป่วย การสวดมนต์ในผูป้ ว่ ยอัมพาต คุณสมบตั ขิ องผูป้ ่วย ผู้ปว่ ยอัมพาตทีส่ ามารถรับฟงั เสียงจากภายนอกได้ ขอ้ บ่งชี้ 1 ผปู้ ่วยที่นอนไมห่ ลับ เครยี ดวติ กกังวล ไม่สบายใจ วิธีปฏบิ ตั ิ ใหญ้ าตสิ วดมนตใ์ หโ้ ดยสวดอยา่ งมสี มาธิ เสยี งสวดนน้ั จะตอ้ งนมุ่ ทมุ้ ทำ�ใหเ้ กิดคลนื่ ท่ชี ่วยเยยี วยา (Healing) ได้ หรือเปดิ เสยี งสวดมนต์ทางเครอื่ ง เล่นเสยี ง http://www.thaicam.go.th 173
เอกสารอ้างอิง 1. Gore.M.M. 2002. Anatomy& physiology of yogic practice. Translated by Kawee Kongpakdeepong.เอกสารประกอบการสอนโยคะ (อดั สำ�เนา) 2. Maarten A. Imm ink, Susan Hiler and John Petkov. A Rand-omized controlled trial of yoga for chronic past-stroke hemiparesis: Motor function mental health and quality of life outcomes. [Online].2014. Available from: http:// www.resoarch gate. net [2015, March 6]. 3. กานดา แสนมณ.ี (2554). สมาธบิ �ำ บดั แบบ SKT โดย รศ. ดร.สมพร กนั ทรดษุ ฏี เตรียมชัยศรี. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา:http://www.bloggang.com/ viewdiary.php?id=kandanalikecoconutoil&month=05-2011&date =16&group=1&gblog=57.13 กมุ ภาพนั ธ์ 2558. 4. สมพร กันทรดุษฏี เตรียมชัยศรี. ([email protected]). สมาธิ บำ�บัดกับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต. E-mail to ศิริชดา เปล่งพานิช. ([email protected]). 6 กรกฎาคม 2558. 5. วิกิพีเดยี สารานุกรมเสร.ี (2558). ไทเ่ กก๊ . [ออนไลน]์ . แหล่งทม่ี า: https://th.wikipedia.org/wiki/ไทเ่ กก๊ . 10 กุมภาพนั ธ์ 2558. 6. มงคล ศรวิ ฒั น.์ ([email protected]). การฝกึ ไทเ่ กก๊ กบั ผปู้ ว่ ยอมั พฤกษ์- อมั พาต. E-mail to ศริ ชิ ดา เปลง่ พานชิ . ([email protected]). 20 กมุ ภาพันธ์ 2558. 174 ส�ำ นกั การแพทย์ทางเลอื ก
7. สุวิดา ธรรมมณีวงศ์. ([email protected]) ไท่จี๋ชี่กง. E-mail to ศริ ชิ ดา เปลง่ พานชิ . ([email protected]). 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2558. 8. Beryl Crane, 2003. Reflexology. Hong Kong; Printing express. 9. ราชบณั ฑติ ยสถาน. ( 2551). การบญั ญตั ศิ พั ทน์ วดกดจดุ สะทอ้ นเทา้ .เอกสาร ประกอบการเรียนการสอนนวดกดจุดสะทอ้ นเทา้ . (อัดสำ�เนา). 10. Reflexology and the Treatment of Stroke. (2011). Reflexology Research : Rehabilitation in stroke Patients. [Online]. Available from:http://myemail.constantcontact.com/Reflexology-and- the-Treatment-of-Stroke.html [2015,January 10]. 11. ไกรสิงห์ รงุ่ โรจนส์ กุลพร และอ�ำ ไพ ชัยชลทรพั ย์. (2557). นวดกดจดุ สะท้อนเท้า.ส�ำ นักการแพทยท์ างเลอื ก. (อัดส�ำ เนา). 12 กิตติศกั ดิ์ เกง่ สกุล. ฝงั เข็มท�ำ ไมรกั ษาอัมพฤกษ์ อมั พาตได.้ [ออนไลน์]. แหลง่ ท่มี า: http://www.thaicam.go.th/attachments/454_ฝงั เข็ม ++.pdf 10 กุมภาพนั ธ์ 2558. 13. วริ ตั น์ เตชะอาภรณก์ ลุ . (2558). รวมประสบการณก์ ารฝงั เขม็ . ศนู ยส์ ริ นิ ธร เพื่อการฟน้ื ฟสู มรรถภาพทางการแพทยแ์ หง่ ชาต.ิ (อดั ส�ำ เนา). 14. ( .) 15. แอล รอน ฮับบาร์ด. อภิธานศัพท์. ใน : การทำ�แอสซิสต์สำ�หรับความ เจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกิจ พริ้นท์ แอนด์ มีเดีย; 2553: 46. 16. แอล รอน ฮับบารด์ . เนฟิ ว์แอสซสิ ต.์ ใน : การท�ำ แอสซสิ ตส์ ำ�หรับความ เจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกิจ พริ้นท์ แอนด์ มีเดีย; 2553: 21. 17. แอล รอน ฮบั บาร์ด. อภธิ านศัพท.์ ใน : การทำ�แอสซิสตส์ ำ�หรับความ เจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกิจ พร้นิ ท์ แอนด์ มเี ดยี ; 2553: 45-6. http://www.thaicam.go.th 175
18. แอล รอน ฮับบาร์ด. เนฟิ ว์แอสซิสต์. ใน : การท�ำ แอสซสิ ตส์ �ำ หรับความ เจบ็ ปว่ ยและอาการบาดเจ็บ. พิมพค์ รงั้ ที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกิจ พรน้ิ ท์ แอนด์ มเี ดยี ; 2553: 25. 19. แอล รอน ฮับบาร์ด. เนฟิ ว์แอสซสิ ต์. ใน : การท�ำ แอสซสิ ตส์ ำ�หรบั ความ เจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกิจ พร้ินท์ แอนด์ มเี ดยี ; 2553: 21-5. 20. แอล รอน ฮับบาร์ด. ทัชแอสซิสต์. ใน : การทำ�แอสซิสต์สำ�หรับความ เจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกิจ พริน้ ท์ แอนด์ มีเดยี ; 2553: 13-5. 21. Hubbard LR. Touch Assist. In : Assists Processing Handbook. Copenhagen K: NEW ERA Publications International ApS; 1992: 45. 22. แอล รอน ฮับบาร์ด. ทัชแอสซิสต์. ใน : การทำ�แอสซิสต์สำ�หรับความ เจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกิจ พร้นิ ท์ แอนด์ มเี ดีย; 2553: 15-7. 23. แอล รอน ฮับบาร์ด. ทัชแอสซิสต์. ใน : การทำ�แอสซิสต์สำ�หรับความ เจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกิจ พร้นิ ท์ แอนด์ มีเดยี ; 2553: 20. 24. แอล รอน ฮบั บารด์ . เดอะ บอดี้ คอมมนู เิ คช่ัน โพรเซส. ใน : การท�ำ แอสซิสต์สำ�หรับความเจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สงวนกจิ พริ้นท์ แอนด์ มีเดยี ; 2553: 26-8. 25. Hubbard LR. The Body Communication Process. In : Assists Processing Handbook. Copenhagen K: NEW ERA Publications International ApS; 1992: 57. 176 ส�ำ นกั การแพทย์ทางเลือก
26. แอล รอน ฮับบารด์ . โลเคชัน่ นอล โพรเซสซง่ิ แอสซิสต.์ ใน : การทำ� แอสซิสต์สำ�หรับความเจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรงุ เทพฯ: สงวนกิจ พริน้ ท์ แอนด์ มีเดีย; 2553: 29-31. 27. อาสาสมัครไซแอนโทโลยีประเทศไทย. รายงานการสรุปผลการให้บริการ แอสซิสต์แก่ผู้สูงอายุศูนย์พัฒนาการจัดการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บา้ นบางละมงุ ระหวา่ งเดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2554-ธนั วาคม พ.ศ. 2555. อดั ส�ำ เนา 28. วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี. (2558). การนวด. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/การ นวด. 12 กุมภาพันธ์ 2558. 29. วทิ ยา ปทั มะรางกลู . การนวดเพ่ือสุขภาพ. [ออนไลน]์ . แหล่งท่มี า: http://spbkk1.sesao1.go.th/jarin/menu_b6.html. 26 มกราคม 2558. 30. Thai herbal learning site. หน่วยที่ 5 หลกั การพ้ืนฐานของการนวด- แผนไทย. [ออนไลน]์ . แหลง่ ทมี่ า:https://be7herb.wordpress.com/ สุโขทยั ธรรมธริ าช/นวดแผนไทย-1/หน่วยท-ี่ 1-7/หนว่ ยที-่ 5-พื้นฐาน. 3 กมุ ภาพนั ธ์ 2558. 31. วรชยั ทองไทย. ดนตรบี �ำ บดั . [ออนไลน]์ . แหลง่ ทม่ี า:www.2lpsr.mahldol. ac.th/newsletter/Index.php/2012-11-08-03-49-15/mnu-vol34-no3/95- cat-popdev-vol34-no3/186201402-05-04-36-55-html. 6 กมุ ภาพนั ธ์ 2558. 32. สรุ ตั น์ ตนั ประเวช. ดนตรชี ว่ ยสมองดไี ด.้ [ออนไลน]์ . แหลง่ ทม่ี า: http://www. healthtoday.net/thailand/scoop/scoop_109.html. 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2558. 33. จักรกริช กลา้ ผจญ. ([email protected]). ดนตรีบำ�บดั กบั ผปู้ ว่ ย อัมพฤกษ์ อมั พาต. E-mail to ศริ ิพร เปล่งพานิช. (sipornpoem@ yahoo.com). 20 กมุ ภาพันธ์ 2558. 34. ASTV ผจู้ ัดการรายวัน. ฟงั ดนตรีเถิดชื่นใจ บำ�บดั คนไข้หลอดเลือดสมอง. [ออนไลน]์ . แหลง่ ทม่ี า: www.manager.co.th. 18 กมุ ภาพนั ธ์ 2558. http://www.thaicam.go.th 177
35. เสาวนยี ์ สงั ฆโสภณ. การดูแลผูป้ ่วยมะเร็งด้วยดนตรีบำ�บดั .[ออนไลน์]. แหลง่ ทมี่ า: http://www.thaicam.go.th/index.php?option=com_ content&view=article&id=216:2009-09-30-18-42-37&catid=59:2009- 09-09-09-48-14&Itemid=87. 10 กุมภาพันธ์ 2558. 36. สรุ ตั น์ ตนั ประเวช. ดนตรชี ว่ ยสมองดไี ด.้ [ออนไลน]์ . แหลง่ ทม่ี า: http://www. healthtoday.net/thailand/scoop/scoop_109.html. 6 กมุ ภาพนั ธ์ 2558. 37. ศริ ชิ ดา เปลง่ พานชิ . หวั เราะบ�ำ บดั . เอกสารประกอบการอบรมอาสาสมคั ร สาธารณสขุ อบต.บางแกว้ จงั หวดั สมทุ รปราการ วนั ที่ 19 กนั ยายน 2557. (อัดส�ำ เนา) 38. University KWAZULU- NATAL. UKZN research finds laugher is good medicine.[Online]. Available from: http://www.ukzn.ac.za/ UKZNonline/V3/17/s16.html [21,February 2015]. 39. กองการแพทยท์ างเลอื ก. (2551). อาหารแมคโครไบโอตกิ ส์ ธรรมชาตบิ �ำ บดั - สขุ ภาพดว้ ยการแพทยแ์ บบผสมผสาน.พมิ พค์ รง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: สขุ ุมวิท. 40. Robert Preidt (2013). Vitamin B Supplements May Guard Against Stroke. [Online]. Available from:http:// alencountyregional. com/hl/?/news/ NRCN680154/Vitamin-B-Supplements-May- Guard-Against-Stroke [20,February 2015]. 41. Henry Ford Health System. (2010). Vitamin B3 shows early promise in treatment of stroke. [Online]. Available from: http://www. sciencedaily.com/releases/2010/02/100224183111.htm[20, February 2015]. 178 สำ�นกั การแพทย์ทางเลือก
42. Mercola. (2008). How Vitamin C and Iron Can Help Reduce Your Risk of Stroke. [Online]. Available from:http://articles. mercola.com/sites/articles/archive/2014/03/03/vitamin-c-stroke-risk. aspx [20,February2015]. 43. Health D D. แมกนเี ซยี ม. [ออนไลน]์ . แหลง่ ทม่ี า http://www.healthdd. com/article/article_preview.php?id=43. 6 กมุ ภาพันธ์ 2558. 44. วลั ลภ พรเรอื งวงศ.์ (2012). อาหาร(แมกนเี ซยี ม)ลดเสย่ี งอมั พฤกษ์ อมั พาต. [ออนไลน์] แหล่งที่มา http://health2u.exteen.com/20120117/ entry. 10 กุมภาพนั ธ์ 2558. 45. เชวงศกั ดิ์ ดสิ ถาพร. ([email protected]). สารอาหารและสมนุ ไพร กบั ผปู้ ว่ ยอัมพฤกษ์ อมั พาต. E-mail to ศริ ิพร เปล่งพานชิ . (siporn- [email protected]). 1 พฤษภาคม 2558. 46. วงศ์สถิตย์ ฉั่วกุล.(2553). สมุนไพรพื้นบ้านแก้อัมพฤกษ์และอัมพาต. [ออนไลน์] แหล่งที่มา http://ejournals.swu.ac.th/index.php/ pharm/article/view/2485/0. 11 กมุ ภาพันธ์ 2558. 47. ( .) 48. เชวงศกั ดิ์ ดสิ ถาพร. ([email protected]). สารอาหารและสมนุ ไพร กบั ผปู้ ว่ ยอัมพฤกษ-์ อมั พาต. E-mail to ศริ พิ ร เปลง่ พานิช. (siporn- [email protected]). 1 พฤษภาคม 2558 49. ( .) 50. ( .) 51. ( .) 52. สมเกยี รติ ศรไพศาล. (2550). ซนั ช:ี สมนุ ไพรจนี ส�ำ หรบั โรคหลอดเลอื ดสมอง. [ออนไลน]์ แหลง่ ทม่ี า www.thaicam.go.th/attachment/458_ การดูแลผูส้ งู อายุโรคหลอดเลือดสมอง1.pdf.15 กมุ ภาพนั ธ์ 2558. http://www.thaicam.go.th 179
53. เชวงศกั ดิ์ ดสิ ถาพร. ([email protected]). สารอาหารและสมนุ ไพร กบั ผปู้ ่วยอมั พฤกษ-์ อมั พาต.E-mail to ศริ พิ ร เปล่งพานิช. (siporn- [email protected]). 1 พฤษภาคม 2558 54. โรงพยาบาลยนั ฮ.ี แผลเรอื้ รงั รกั ษาไดโ้ ดยไมต่ อ้ งตดั ขา รกั ษาดว้ ยออกซเิ จน บริสุทธิ์ 100%. เอกสารประกอบการศึกษาดูงานโรงพยาบาลยันฮี. 26 พฤศจิกายน 2557. 55. Bennett MH.,et al. (2014). Hyperbaric oxygen therapy for acute ischaemic stroke. Cochrane Database Syst Rev [Online]. Available from:http://www.ncbinlm.nih.gov/pubmed/ 16034959[24,February 2015]. 56. Boussi-Gross R., et al. (2014). Improvement of Memory Impairments in Post stroke Patients by Hyperbaric Oxygen Therapy. Neuropsychology 2014 Nov 10 [Online]. Available from:http:// http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/25384125[24,February 2015]. 57. กองการแพทยท์ างเลอื ก. (2550). ต�ำ ราวชิ าการ สคุ นธบ�ำ บดั . พมิ พค์ รง้ั ท่ี 1 กรุงเทพ: องคก์ ารสงเคราะหท์ หารผ่านศึก. 58. Shin BC and Lee MS. (2007). Effects of aromatherapy acupressure on hemiplegic shoulder pain and motor power in stroke patients : pilot study.[online].Available from : http://www. ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/17388768 [20,February 2015] 59. คฑาวธุ นันทิกติ ติราษฎร์.(2554). Oxygen Aroma therapy หอผปู้ ่วย สามญั ชาย ศูนย์มะเรง็ อุดรธานี [ออนไลน์] แหลง่ ที่มา. www. vdcancer.org/KM/doc/innovation/innocle/2.Oxygen%20%20 therapyPdf. 24 กุมภาพนั ธ์ 2558. 180 สำ�นักการแพทยท์ างเลือก
60. Mahin Moeini et al. (2010). Effect of aromatherapy on the quality of sleep in ischemic heart disease patients hospitalized in intensive care units of heart hospital of the Isfahan University of Medical Sciences. Iran J Nurs Midwifery Res Autumm:15(4) 234-239 [Online]. Available from:http:// www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/article/PM. C3203283/[2014, November 18] 61. Ariba Khaliq. (2013). Benefits of kapalbhati pranayama. .[online]. Available from: http://www.onlymyhealth.com/benefits- kapalbhati-pranayam-yoga-1331018320[20,February 2015]. 62. สมโภช รตโิ อฬาร. (2556). การสวดมนตเ์ พื่อการบ�ำ บัดโรค.จุลสารสาขา วิทยาศาสตร์สุขภาพออนไลน์สาขาวิชาสุขภาพมหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธริ าชฉบบั ที่ 3. [ออนไลน]์ แหลง่ ทม่ี าwww.stou.ac.th/schools/ shs/booklet/book56_3/pbhealth.html. 5 กุมภาพนั ธ์ 2558. http://www.thaicam.go.th 181
182 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก
4 ตัวอย่างโปรแกรมการดแู ลผปู้ ่วย อมั พฤกษ์ อมั พาต ดว้ ยการแพทยผ์ สมผสาน 1. กรณีผู้ปว่ ยสามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ เวลา กิจกรรม ระยะเวลา คนทีท่ �ำ 6.00-6.30 น. ตนื่ นอน ทำ�ภารกจิ ส่วนตัว (แปรงฟนั บ้วนปาก 30 นาที ผู้ปว่ ย ด้วยนำ้�มันมะพร้าว (ถ้าม)ี 6.30-7.30 น. บริหารรา่ งกายแบบโยคะ/ชก่ี ง/ไท่เก๊ก/ไท่จิ๋ชีก่ ง 60 นาที ผู้ปว่ ยและญาติ ชว่ ยดูแล 7.30-8.00 น. รบั ประทานอาหาร (แมคโครไบโอตกิ ส)์ /อาหารพน้ื บา้ น/ 30 นาที ผู้ป่วย 8.00-9.00 น. รับประทานยาสมุนไพร/วิตามินช่วยเรื่อง 60 นาที ผ้ปู ว่ ย อมั พฤกษ์ อัมพาต (เสรมิ จากยาแผนปจั จุบัน) ฟงั เพลงบรรเลง/ฝกึ การออกเสยี งพดู /หวั เราะบ�ำ บดั 9.00-10.00 น. ท�ำ สมาธิแบบ SKT ทา่ 1, 3, 7 60 นาที ผปู้ ่วย 10.00-12.00 น. ท�ำ งานอดเิ รก/ท�ำ อาชพี ทีผ่ ู้ป่วยทำ�ได้/ 120 นาที ผปู้ ว่ ย รบั ประทานอาหารวา่ งหรอื เครอ่ื งดม่ื สมุนไพร 60 นาที ผู้ปว่ ย/ผู้ใหบ้ ริการ 60 นาที ผู้ปว่ ย 12.00-13.00 น. รบั ประทานอาหารแมคโครไบโอตกิ ส์ 3 วนั /สปั ดาห์ /ยาสมุนไพร/วิตามนิ ช่วยเรอ่ื งอัมพฤกษ์ อัมพาต 13.00-14.00 น. นอนหลบั /เอนกาย 14.00-15.00 น. นวดกดจุดสะท้อนเท้า/นวดแผนไทยคลายเส้น/ 60 นาที ผู้ปว่ ยและญาติ นวดกดจดุ /การไปรบั บริการฝงั เขม็ ช่วยดแู ล 15.00-16.30 น. ทำ�งานอดิเรก/ท�ำ อาชีพเสริมที่ผู้ป่วยทำ�ได้ 90 นาที ผปู้ ่วย รับประทานอาหารว่างหรือเครอ่ื งดื่มสมุนไพร 16.30-17.30 น. รบั ประทานอาหารเยน็ 60 นาที ผปู้ ่วย 17.30-18.00 น. ฟังเพลง/เดินเลน่ 30 นาที ผปู้ ่วย 18.00-20.00 น. ดูโทรทัศน์ ขา่ ว ละครทวี ี 120 นาที ผปู้ ่วย 20.00-20.30 น. อาบนำ�้ ทำ�ภารกิจส่วนตัว 30 นาที ญาต/ิ ผู้ดูแล 20.30-21.30 น. ทำ�แอสซิสต์ 60 นาที ญาติ/ผู้ดแู ล 21.30-21.45 น. สวดมนต์กอ่ นนอน 15 นาที ผปู้ ่วย 21.45 น. นอนหลับ (ใช้อะโรมา่ ออยส์) ผปู้ ่วย หมายเหต ุ โปรแกรมสามารถถกู ปรบั ให้เหมาะสมกบั ผ้ปู ่วยได้ http://www.thaicam.go.th 183
2. กรณีผู้ปว่ ยไม่สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ เวลา กจิ กรรม ระยะเวลา คนทที่ �ำ 6.00-7.00 น. ตื่นนอน ทำ�ภารกิจสว่ นตัว (แปรงฟนั 60 นาที ญาติดูแลทำ�ความ บว้ นปากด้วยนำ้�มันมะพรา้ ว (ถ้าม)ี สะอาดรา่ งกาย 7.00-7.30 น. บรหิ ารร่างกายแบบโยคะทา่ นอน 30 นาที ผูป้ ่วย/ญาติ ชว่ ยดแู ล 7.30-8.30 น. รบั ประทานอาหาร (แมคโครไบโอตกิ ส)์ / 60 นาที ญาตทิ �ำ อาหาร อาหารพ้ืนบ้าน/รับประทานยาสมนุ ไพร/ แมคโครไบโอตกิ ส์ วติ ามินชว่ ยเรอ่ื งอมั พฤกษ์ อัมพาต (เสริมยา ปอ้ นหรอื ป่ันให้ แผนปจั จุบัน) ทางสายยาง/ ท�ำ ให้กลืนได้ง่าย 8.30-9.30 น. ฟงั เพลงบรรเลง/ฝกึ การออกเสยี งพดู /หวั เราะบ�ำ บดั 60 นาที ผู้ป่วย 9.30-10.00 น. ท�ำ สมาธิแบบ SKT ท่า 1, 7 30 นาที ผปู้ ว่ ย/ญาตชิ ว่ ยดแู ล 10.00-11.00 น. เอนกาย/นอนหลบั 60 นาที ผู้ป่วย 11.00-12.00 น. ฝึกกายภาพบ�ำ บัด/ทำ�แอสซิสต์ 60 นาที ผปู้ ว่ ย/ญาตชิ ว่ ยท�ำ ให้ 12.00-13.00 น. รบั ประทานอาหาร (แมคโครไบโอตกิ ส)์ /อาหาร 60 นาที ญาตทิ �ำ อาหาร พนื้ บา้ น/รับประทานยาสมนุ ไพร/วติ ามนิ ชว่ ยเร่อื ง แมคโครไบโอติกส์ อมั พฤกษ์ อมั พาต (เสรมิ ยาแผนปจั จบุ นั ) ปอ้ นหรอื ปั่นให้ ทางสายยาง/ ทำ�ใหก้ ลนื ได้ง่าย 13.00-13.30 น. เอนกาย/นอนหลับ 30 นาที ผู้ป่วย 13.30-16.00 น. นวดกดจดุ สะทอ้ นเท้า/นวดแผนไทยคลายเสน้ / 150 นาที ญาต/ิ ผบู้ ำ�บัด นวดกดจุด/การไปรบั บรกิ ารฝังเข็ม 16.00-16.30 น. พาชมทิวทศั น/์ วาดภาพ 30 นาที ญาติ 16.30-17.30 น. รับประทานอาหารเยน็ 60 นาที ผ้ปู ่วย 17.30-18.00 น. ดนตรบี ำ�บัด/ฟังเพลง 30 นาที ผู้ป่วย 18.30-20.30 น. ดโู ทรทัศน์ ขา่ ว ละครทีว ี 120 นาท ี ผูป้ ว่ ย 20.30-21.30 น. ทำ�แอสซิสต ์ 60 นาที ญาต/ิ ผู้ดแู ล 21.30-21.45 น. สวดมนตก์ ่อนนอน/ฟงั บทสวดมนต์ 15 นาที ญาติ/ผ้ปู ่วย 21.45 น. นอนหลบั (ใชอ้ ะโรม่าออยส์) ผู้ปว่ ย หมายเหต ุ โปรแกรมสามารถถูกปรับใหเ้ หมาะสมกบั ผ้ปู ่วยได้ 184 ส�ำ นักการแพทยท์ างเลือก
การประเมนิ โปรแกรมการดแู ลผปู้ ว่ ยอมั พฤกษ์ อมั พาต ดว้ ยการแพทยผ์ สมผสาน ในการดูแลผู้ป่วยโดยใช้กิจกรรมการแพทย์ผสมผสานในกรณีผู้ป่วย อมั พฤกษ์อมั พาต ใชแ้ บบประเมินความสามารถในการท�ำ กิจกรรมของผู้ป่วย/ ผพู้ กิ ารทศ่ี นู ยส์ ริ นิ ธรเพอ่ื การฟนื้ ฟสู มรรถภาพทางการแพทยแ์ หง่ ชาติ (SNMRC Functional Assessment)1 ประเมนิ กอ่ นและประเมนิ เปน็ ระยะในแตล่ ะกจิ กรรม ดงั นี้ กจิ กรรม ครั้งท่ี 1 คร้ังที่ 2 ครงั้ ที่ 3 หมวด หมวดที่ 1 Feeding 1. ดม่ื น�ำ้ 2. รบั ประทานอาหาร หมวดท่ี 2 Grooming 3. แปรงฟนั 4. ล้างหนา้ 5. ลา้ งมือ 6. หวีผม หมวดท่ี 3 Cleaning 7. อาบน้�ำ -เช็ดตวั 8. สระผม-เชด็ ผม 9. ทำ�ความสะอาดหลงั ขับถา่ ย หมวดที่ 4 Dressing 10. ถอดเสือ้ 11. ถอดกางเกง 12. ถอดถงุ เทา้ -ถอดรองเทา้ 13. ใส่เส้อื 14. ใส่กางเกง 15. ใส่ถงุ เทา้ -ใส่รองเท้า หมวดท่ี 5 Bowel & 16. ควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะ Bladder management 17. ควบคมุ การขบั ถา่ ยอุจจาระ หมวดที่ 6 Mobility 18. พลกิ ตัวบนเตยี ง 19. ลกุ ขึ้นนั่ง http://www.thaicam.go.th 185
การประเมนิ โปรแกรมการดแู ลผปู้ ว่ ยอมั พฤกษ์ อมั พาต ด้วยการแพทย์ผสมผสาน (ต่อ) หมวด กิจกรรม ครั้งท่ี 1 คร้ังท่ี 2 คร้ังท่ี 3 20. ทรงตัวในทา่ น่งั และทา่ ทาง ในการนง่ั 21. ลุกข้ึนยนื 22. ทรงตัวในท่ายนื 23. เคลือ่ นยา้ ยตัว หมวดที่ 7 Walking 24.1 เดินบนทางราบ 24.2 เคลอ่ื นทบ่ี นทางราบ โดยใช้รถน่ังคนพิการ 25.1 เดินบนทางลาดเอยี ง 25.2 เคลื่อนท่บี นทางลาดเอยี ง โดยใช้รถนัง่ คนพกิ าร 26. ข้ึน-ลงบนั ได อย่างนอ้ ย 12-14 ขนั้ หมวดท่ี 8 27. ฟังเขา้ ใจในการส่อื สาร Communication กบั บคุ คลอน่ื 28. แสดงออกทางภาษา หมวดที่ 9 29. ปฏิสมั พนั ธท์ างสังคม Social&Cognition 30. แก้ไขปญั หา 31. ความจำ� 32. คำ�นวณ หมวดท่ี 10 IADL 33. เตรียมอาหาร 34. ท�ำ ความสะอาดท่พี ักอาศัย 35. กินยา คะแนนรวม 186 ส�ำ นักการแพทยท์ างเลอื ก
หลักการเกี่ยวกับการให้คะแนนแต่ละกิจกรรม ในแบบประเมิน SNMRC Functional Assessment 2 คะแนน ระดับความสามารถ ค�ำ อธบิ าย 5 Complete Independent ท�ำ กจิ กรรมน้ัน ๆ ไดท้ กุ ขน้ั ตอนภายในเวลา พอสมควรไม่ตอ้ งดดั แปลงวธิ ีการ ไมต่ ้องใช้ เครอ่ื งชว่ ย และมคี วามปลอดภยั ในการกระท�ำ 4 Independent with โดยระบวุ า่ assist โดย device หรอื supervision assistance กลา่ วคอื สามารถท�ำ กจิ กรรมนนั้ ไดเ้ องแตอ่ าจ ใชเ้ วลามากกวา่ ปกติ หรอื มคี วามเสย่ี งทจ่ี ะเกดิ อนั ตรายอยบู่ า้ ง อาจตอ้ งดดั แปลงวธิ กี าร อาจ ตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งชว่ ยหรอื อาจตอ้ งมผี คู้ อยระวงั ชน้ี �ำ คะยนั้ คะยอ แตผ่ ชู้ ว่ ยเหลอื ไมไ่ ดอ้ อกแรงชว่ ย ท�ำ กิจกรรมนนั้ 3 Independent with ผปู้ ว่ ยชว่ ยเหลอื ตนเองไดม้ ากกวา่ 50% ออกแรง minimal assistance ทำ�เอง ตอ้ งการผ้ชู ่วยเหลือเลก็ น้อย 2 Independent with ผปู้ ว่ ยชว่ ยเหลอื ตนเองไดน้ อ้ ยกวา่ หรอื เทา่ กบั moderate assistance 50% ต้องการผูช้ ว่ ยเหลอื มาก 1 Dependent ผปู้ ว่ ยช่วยเหลือตนเองไม่ไดเ้ ลย หมายเหตุ ดูรายละเอียดของการให้คะแนนแต่ละกิจกรรมประกอบดว้ ยในหนา้ 191-204 http://www.thaicam.go.th 187
การแบ่งระดับความสามารถของผู้ป่วยโดยใช้คะแนน รวมการประเมิน SNMRC Functional Assessment 2 ระดับความสามารถ ระดบั ช่วงคะแนน 175 Complete Independent 5 160-174 144-159 Independent with assistance 4+ 129-143 114-128 4 98-113 83-97 4- 67-82 51-66 Independent with minimal assistance 3+ 36-50 35 3 3- Independent with moderate assistance 2+ 2 2- Dependent 1 หมายเหต ุ การวัดผลผ้ปู ่วยดขี ้ึนหรอื ไม่ ใช้แบบประเมินผลนวี้ ดั กอ่ น-หลัง เปรยี บเทยี บกนั ถ้ามรี ะดับความสามารถเพิ่มข้นึ ถอื วา่ ผปู้ ่วยมีอาการดีขึน้ 188 สำ�นักการแพทย์ทางเลือก
ขั้นตอนและรายละเอยี ดในการประเมินมดี งั น้ี 1. ให้ประเมินเป็นค่าพ้ืนฐานภายใน 1 สปั ดาห์ 2. ใหต้ ดิ ตามความสามารถของผปู้ ว่ ยเปน็ ระยะ เชน่ ชว่ ง 30-60 วนั เป็นตน้ 3. เลอื กระดบั ความสามารถทเ่ี หมาะสมทส่ี ดุ ใหค้ รบทกุ ขอ้ (ทกุ กจิ กรรม) 4. SNMRC Functional Assessment จะต้องแสดงระดับความ สามารถจริงที่ได้ปฏิบัติอย่างสม่ำ�เสมอ ไม่ใช่ระดับที่สามารถทำ�ได้แต่ไม่ค่อย ไดท้ �ำ หรอื เคยทำ�เพยี ง 1 ครัง้ หรอื 2 ครั้ง 5. ถ้ามีระดับควาสามารถแตกต่างกัน ในแต่ละช่วงเวลาหรือใน แต่ละสถานการณ์ ให้เลือกระดับต่ำ�สุดท่ีทำ�ได้ในหัวข้อน้ัน เช่น ผู้ป่วยอาจ เหน่อื ย เพลยี ไมอ่ ยากชว่ ยเหลือตวั เองในตอนเยน็ 6. ถ้าไม่ทดสอบความสามารถใด ๆ เนื่องจากพิจารณาว่า อาจท�ำ ใหเ้ กดิ อันตรายตอ่ ผู้ป่วยได้ หรือผปู้ ่วยอยใู่ นสภาพไมพ่ ร้อมท่จี ะประเมนิ ความสามารถนั้น ๆ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ให้เลือกคะแนนความสามารถ = 1 (Total Dependence) 7. ถ้ากิจกรรมใดทำ�ไม่ได้เลยหรือต้องใช้ผู้ช่วยมากกว่า 1 คน ให้เลือกคะแนนความสามารถ = 1 (Total Dependence) 8. ห้ามปล่อยช่องว่างไว้ในแบบประเมินนี้ ส่วนข้อ 24.1 และ ขอ้ 24.2 ขอ้ 25.1 และขอ้ 25.2 ผปู้ ว่ ย/ผพู้ กิ ารตอ้ งประเมนิ ขอ้ ใดขอ้ หนงึ่ เทา่ นนั้ ตามศักยภาพสูงสุดของผู้ป่วย 9. ผู้ป่วย/ผู้พิการ ที่ได้รับการประเมินต้องมีอายุเกิน 13 ปี http://www.thaicam.go.th 189
10. หากผปู้ ว่ ย/ผพู้ กิ ารไมส่ ามารถใหค้ วามรว่ มมอื หรอื เขา้ ใจค�ำ สงั่ ได้ ผ้ปู ระเมินอาจใชว้ ิธสี งั เกต 11. ผู้ประเมินควรเป็นผู้ที่ผ่านการอบรม หรือมีความเข้าใจใน กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพ ซ่งึ แนะนำ�วา่ ควรเป็นบคุ ลากรทางการแพทย์ 12. การประเมนิ ควรท�ำ เปน็ ทมี เพอ่ื ปรกึ ษาแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในบางกิจกรรมท่มี ีความเหน็ ไม่ตรงกนั 190 ส�ำ นกั การแพทย์ทางเลือก
รายละเอียดของการใหค้ ะแนนแตล่ ะกจิ กรรม มีดังนี้ 1 หมวดท่ี 1 รบั ประทานอาหาร (Feeding) กิจกรรม คะแนนความสามารถ 1 543 2 1. ด่มื น้ำ� ดม่ื น�ำ้ ไดเ้ องอยา่ งปลอดภยั ดม่ื น�ำ้ ไดเ้ องอยา่ งปลอดภยั ดม่ื น�ำ้ ไดเ้ องเปน็ สว่ นใหญ ่ ดืม่ น�ำ้ ไดเ้ องบา้ งแต่ ต้องให้น้�ำ ทางสายยาง ปลอดภยั ไมส่ �ำ ลกั ไมห่ ก โดยใชอ้ ปุ กรณด์ ัดแปลง มผี ชู้ ว่ ยเหลอื เลก็ นอ้ ย เชน่ ยังตอ้ งมีผชู้ ่วยเหลือ สายนำ้�เกลือหรอื ทาง เลอะเทอะ ใชเ้ วลาปกติ เชน่ ใชห้ ลอดดดู หรอื ชว่ ยจบั แกว้ น�ำ้ โดยไมส่ �ำ ลกั ในการดม่ื เป็นสว่ นใหญ ่ gastrostomy เทา่ น้ัน และใช้อุปกรณด์ ืม่ นำ�้ ใชช้ ้อนตักนำ้� หรือ อาจสำ�ลักบางครัง้ ชนิดธรรมดาได ้ ปรับสถานที่ หรือ มีผแู้ นะน�ำ อาจใช้เวลา มากกวา่ ปกติ http://www.thaicam.go.th 191 2. รบั ประทานอาหาร รับประทานอาหาร รบั ประทานอาหาร รบั ประทานอาหาร รบั ประทานอาหาร ตอ้ งใหอ้ าหารทางสายยาง ชนิดธรรมดาไดอ้ ย่าง ชนิดธรรมดาหรอื ชนิดธรรมดาหรอื ชนดิ ธรรมดาหรือ สายน้ำ�เกลอื หรอื ทาง หมายเหตุ : อาหาร ปลอดภยั ไม่สำ�ลัก อาหารดดั แปลงได ้ อาหารดัดแปลงได้เอง อาหารดดั แปลงได้ gastrostomy เท่านัน้ ชนิดธรรมดาหมายถึง ไม่หกเลอะเทอะใชเ้ วลา เองอยา่ งปลอดภยั เปน็ สว่ นใหญ่ มผี ู้ เองบ้าง แตย่ ังตอ้ งมี อาหารทผ่ี ปู้ ว่ ยรบั ประทาน ปกตแิ ละใช้อุปกรณ์ โดยใช้อปุ กรณ์ดดั แปลง ช่วยเหลอื เลก็ น้อย เช่น ผู้ช่วยเหลอื ในการ ได้ตามปกติกอ่ นปว่ ย รับประทานอาหาร หรือปรบั สถานที่ หรือ ช่วยจบั ชอ้ นโดยไม่ส�ำ ลัก รบั ประทานเปน็ สว่ นใหญ ่ ชนดิ ธรรมดาได ้ มีผ้แู นะนำ�อาจใชเ้ วลา อาจส�ำ ลักบางครง้ั หรอื มากกว่าปกติ มหี ก กรณผี ูป้ ่วยทานได้เอง เลอะเทอะเล็กน้อย แตม่ ีส�ำ ลกั เป็นบางครง้ั
192 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก หมวดท่ี 2 ทำ�ความสะอาดใบหนา้ ศรี ษะและมือ (Grooming) กิจกรรม คะแนนความสามารถ 543 2 1 3. แปรงฟนั หรอื ท�ำ แปรงฟนั หรือทำ� แปรงฟัน หรือทำ� แปรงฟัน หรือทำ� แปรงฟันหรือทำ� ตอ้ งใหค้ นอ่นื ช่วยแปรงฟัน ความสะอาด ความสะอาดช่อง ความสะอาดชอ่ งปาก ความสะอาดช่องปาก ความสะอาดชอ่ งปาก หรือทำ�ความสะอาดช่องปาก ชอ่ งปาก ปากได้เองอย่าง เองไดอ้ ย่างปลอดภัย ไดเ้ องเป็นส่วนใหญ่ ได้เองบ้าง แต่แปรง ทัง้ หมด สะอาด ปลอดภยั โดยใชอ้ ปุ กรณด์ ดั แปลง แต่แปรงไมส่ ะอาด ไม่สะอาดทว่ั ทงั้ ปาก ไม่เลอะเทอะ ใช้ เชน่ แปรงสีฟนั ไฟฟ้า ท่วั ท้งั ปาก ตอ้ งมี ตอ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื ใน เวลาปกติ และใช้ หรอื ปรับสถานท่ี หรือ ผ้ชู ว่ ยเหลือเลก็ น้อย การแปรงเปน็ สว่ นใหญ่ อปุ กรณ์ชนิดธรรมดาได้ มผี ู้แนะน�ำ อาจใชเ้ วลา เช่น ชว่ ยถอื แก้วน้�ำ ให้ มากกว่าปกติ หรือชว่ ยแปรงฟันท่ีอยู่ ด้านในสุด 4. ลา้ งหนา้ ล้างหน้าได้เองสะอาด ลา้ งหน้าได้เองสะอาด ล้างหน้าได้เองเป็น ล้างหน้าได้เองบ้าง ตอ้ งใหค้ นลา้ งหนา้ ปลอดภยั ใชเ้ วลาปกต ิ ปลอดภยั โดยใชอ้ ปุ กรณ ์ สว่ นใหญ่ แตไ่ มส่ ะอาด แตไ่ มส่ ะอาด ตอ้ งม ี ใหท้ ง้ั หมด และใชอ้ ปุ กรณล์ า้ งหนา้ ดดั แปลงหรอื ปรบั สถานท ี่ ต้องมีผู้ช่วยเหลือ ผู้ช่วยเหลอื เปน็ ชนิดธรรมดาได ้ หรอื มผี แู้ นะน�ำ อาจใชเ้ วลา เลก็ น้อย สว่ นใหญ ่ มากกวา่ ปกติ 5. ลา้ งมอื ล้างมอื ได้เองอยา่ งสะอาด ลา้ งมอื ไดเ้ องอยา่ งสะอาด ล้างมือได้เองเป็น ล้างมือได้เองบ้าง ตอ้ งใหค้ นลา้ งมอื ปลอดภยั ใชเ้ วลาปกต ิ ปลอดภยั โดยใชอ้ ปุ กรณ ์ สว่ นใหญ่ แตไ่ มส่ ะอาด แตไ่ มส่ ะอาด ตอ้ งม ี ใหท้ ัง้ หมด และใช้อุปกรณ์ลา้ งมอื ดดั แปลง หรอื ปรบั สถานท ี่ ตอ้ งมีผู้ช่วยเหลือเลก็ นอ้ ย ผ้ชู ว่ ยเหลอื เปน็ สว่ นใหญ ่ ชนดิ ธรรมดาได ้ หรอื มผี แู้ นะน�ำ อาจใช้เวลา มากกวา่ ปกติ
หมวดที่ 2 ทำ�ความสะอาดใบหน้า ศีรษะและมือ (Grooming) (ต่อ) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 6. หวผี ม หวีผมได้เองอย่าง หวีผมได้เองอย่าง หวีผมไดเ้ อง แตอ่ าจ หวีผมได้เองบ้าง แต่ ต้องใหค้ นอนื่ หวีผม เรียบรอ้ ยและปลอดภัย เรียบร้อย ปลอดภัย ไม่เรยี บร้อย ต้องมี ไมเ่ รียบรอ้ ย ต้องม ี ใหท้ งั้ หมด ใช้เวลาปกติ และใชห้ วี โดยใชห้ วีดดั แปลง หรอื ผู้ช่วยเหลือเล็กน้อย ผชู้ ว่ ยเหลอื เปน็ สว่ นใหญ ่ ชนิดธรรมดาได ้ มีผูแ้ นะน�ำ อาจใชเ้ วลา มากกวา่ ปกต ิ หมวดท่ี 3 ทำ�ความสะอาดรา่ งกาย (Cleaning) กจิ กรรม 5 4 คะแนนความสามารถ 2 1 3 7. อาบน้�ำ -เช็ดตัว อาบน�ำ้ -เชด็ ตวั (ทง้ั แบบ อาบน้�ำ -เชด็ ตัว (แบบ ตอ้ งใหค้ นชว่ ย อาบน�ำ้ -เชด็ ตวั ตกั อาบหรอื ใชฝ้ ักบวั ) ตกั อาบหรือใช้ฝกั บัว) อาบน้ำ�-เช็ดตัว (แบบ อาบน�ำ้ -เชด็ ตัว (แบบ ให้ท้งั หมด ไดเ้ องอยา่ งสะอาด ไดอ้ ยา่ งสะอาดปลอดภยั ตักอาบหรอื ใช้ฝกั บัว) ตกั อาบหรือใชฝ้ ักบัว) ปลอดภยั ใช้เวลาปกต ิ โดยใชอ้ ปุ กรณด์ ัดแปลง ได้เองเปน็ ส่วนใหญ่ ไดเ้ องบา้ ง แตไ่ มส่ ะอาด http://www.thaicam.go.th 193 และใชอ้ ปุ กรณ์ชนดิ หรอื ปรับสถานทหี่ รอื แต่ไมส่ ะอาด อาจไม ่ ไม่ปลอดภัยตอ้ งมผี ้ ู ธรรมดาได ้ มีผูแ้ นะนำ�อาจใช้เวลา ปลอดภัย ตอ้ งมีผ ู้ ชว่ ยเหลอื เปน็ สว่ นใหญ่ มากกวา่ ปกติ ชว่ ยเหลอื เลก็ น้อย 8. สระผม-เชด็ ผม สระผม-เช็ดผม ได้เอง สระผม-เชด็ ผม ได้เอง สระผม-เช็ดผม ได้เอง สระผม ไดเ้ องบา้ ง ตอ้ งใหค้ นชว่ ยสระและ อย่างสะอาด ปลอดภยั อย่างสะอาด ปลอดภยั เปน็ สว่ นใหญ่ แตไ่ มส่ ะอาด แตไ่ มส่ ะอาด ไมป่ ลอดภยั เช็ดผมใหท้ ้ังหมด ใชเ้ วลาปกติ และใช ้ โดยใชอ้ ปุ กรณด์ ัดแปลง ต้องมีผชู้ ว่ ยเหลือเล็กนอ้ ย ต้องมผี ู้ชว่ ยเหลือ อปุ กรณ์ชนิดธรรมดาได้ หรอื ปรับสถานที่ หรอื เปน็ สว่ นใหญ ่ มผี ้แู นะน�ำ อาจใช้เวลา มากกวา่ ปกติ
194 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก หมวดที่ 3 ทำ�ความสะอาดร่างกาย (Cleaning) (ต่อ) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 ต้องให้คนอื่นช่วยทำ� 9. ท�ำ ความสะอาด ทำ�ความสะอาดหลัง ทำ�ความสะอาดหลัง ทำ�ความสะอาดหลัง ทำ�ความสะอาดหลัง ความสะอาดหลงั ขบั ถา่ ย หลงั ขับถา่ ย ขับถ่ายได้เองอย่าง ขบั ถา่ ยไดเ้ องอย่างสะอาด ขบั ถา่ ยไดเ้ องเปน็ สว่ นใหญ ่ ขับถ่ายเองไดบ้ า้ ง แต ่ ใหท้ ัง้ หมด สะอาดปลอดภยั ใช้ ปลอดภัยโดยใช้อปุ กรณ์ แต่อาจไมป่ ลอดภยั และ ไมส่ ะอาด ไมป่ ลอดภยั เวลาปกติ และใช้ ดดั แปลงหรอื ปรบั สถานท ่ี ไม่สะอาดนกั ต้องมี ต้องมีผู้ช่วยเหลือ 1 อุปกรณ์ชนิดธรรมดาได ้ หรือ มผี ้แู นะนำ�อาจใช้ ผชู้ ว่ ยเหลอื เล็กน้อย เป็นส่วนใหญ่ เวลามากกว่าปกติ ตอ้ งใหค้ นอน่ื ถอดให ้ ท้งั หมด หมวดที่ 4 แตง่ ตวั (Dressing) กจิ กรรม 5 คะแนนความสามารถ 432 10. ถอดเสือ้ ถอดเสื้อ ถอดกระดุม ทำ�ได้เองทุกขั้นตอน ท�ำ ไดเ้ องเปน็ ส่วนใหญ ่ ท�ำ ได้เองบา้ งแต่ไม ่ ถอดตะขอ ซิป รวมทั้ง อยา่ งเรียบร้อย ปลอดภยั แตถ่ อดไดไ้ ม่เรียบร้อย เรียบรอ้ ย ไมป่ ลอดภัย ถอดกายอุปกรณ์เสริม โดยใชอ้ ุปกรณ์ดัดแปลง ต้องมีผู้ชว่ ยเหลอื ตอ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื สว่ นบน และเกบ็ เขา้ ทไ่ี ดเ้ อง หรอื ปรับสถานท่ี หรือ เลก็ นอ้ ย เป็นสว่ นใหญ่ อย่างเรยี บร้อย ปลอดภยั มีผ้แู นะนำ�อาจใช้เวลา ใช้เวลาปกติ มากกวา่ ปกติ 11. ถอดกางเกง ถอดกางเกง ถอดกระดุม ทำ�ได้เองทกุ ขั้นตอน ทำ�ได้เองเป็นส่วนใหญ่ ท�ำ ได้เองบ้างแต่ไม่ ตอ้ งใหค้ นอื่นถอดให้ ถอดตะขอ ซปิ รวมทั้ง อยา่ งเรยี บรอ้ ย ปลอดภยั แตถ่ อดไดไ้ มเ่ รยี บรอ้ ยตอ้ ง เรยี บรอ้ ย ไมป่ ลอดภยั ทง้ั หมด ถอดกายอุปกรณ์เสริม โดยใช้อปุ กรณด์ ัดแปลง มีผู้ชว่ ยเหลอื เลก็ น้อย ต้องมีผู้ช่วยเหลอื เปน็ สว่ นลา่ งและเก็บเขา้ ที่ได้ หรือปรับสถานท่ี หรือ สว่ นใหญ่ อยา่ งเรียบรอ้ ย ปลอดภยั มีผู้แนะนำ� อาจใชเ้ วลา ใชเ้ วลาปกติ มากกวา่ ปกติ
หมวดที่ 4 แตง่ ตวั (Dressing) (ต่อ) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 ตอ้ งให้คนอ่ืนถอดให้ 12. ถอดถงุ เทา้ -ถอดรองเทา้ ถอดถุงเทา้ -ถอดรองเท้า ทำ�ได้เองทกุ ขั้นตอน ท�ำ ไดเ้ องเป็นสว่ นใหญ ่ ทำ�ไดเ้ องบา้ งแตไ่ ม ่ ทง้ั หมด รวมทง้ั ถอดกายอปุ กรณเ์ สรมิ อยา่ งเรยี บรอ้ ย ปลอดภยั แตถ่ อดไดไ้ มเ่ รยี บรอ้ ยตอ้ ง เรยี บรอ้ ย ไมป่ ลอดภยั สว่ นขอ้ เท้าและเก็บเข้าที่ โดยใช้อปุ กรณด์ ดั แปลง มผี ้ชู ว่ ยเหลอื เล็กน้อย ต้องมีผู้ชว่ ยเหลือเป็น ต้องใหค้ นอ่นื ใสใ่ ห้ ได้เองอย่างเรียบร้อย หรือปรบั สถานท่ี หรอื สว่ นใหญ่ ทง้ั หมด ปลอดภยั ใช้เวลาปกต ิ มีผแู้ นะน�ำ อาจใชเ้ วลา มากกว่าปกติ ตอ้ งใหค้ นอ่นื ใสใ่ ห้ ทง้ั หมด 13. ใส่เสือ้ ใส่เส้ือสวมหัวหรอื เส้อื ผ้า ท�ำ ได้เองทุกข้ันตอน ทำ�ได้เองเป็นสว่ นใหญ่ ท�ำ ไดเ้ องบา้ งแตไ่ ม ่ หนา้ ตดิ กระดมุ ตะขอ อยา่ งเรยี บรอ้ ย ปลอดภยั แตใ่ สไ่ ดไ้ มเ่ รยี บรอ้ ยตอ้ ง เรยี บรอ้ ย ไมป่ ลอดภยั ซิปหรืออุปกรณ์ยึดติด โดยใช้อุปกรณด์ ัดแปลง มีผู้ช่วยเหลอื เลก็ น้อย ตอ้ งมีผู้ชว่ ยเหลอื เปน็ อนื่ ๆ รวมท้ังใสก่ าย หรอื ปรับสถานที่ หรือ ส่วนใหญ่ อุปกรณเ์ สรมิ สว่ นบนและ มีผ้แู นะนำ� อาจใช้เวลา http://www.thaicam.go.th 195 เก็บเขา้ ทีไ่ ดเ้ องเรียบรอ้ ย มากกวา่ ปกติ ปลอดภัย ใช้เวลาปกติ 14. ใส่กางเกง ใสก่ างเกง ติดกระดมุ ทำ�ได้เองทุกขั้นตอน ท�ำ ได้เองเปน็ สว่ นใหญ ่ ทำ�ได้เองบ้างแต่ไม่ ตะขอ ซิป รวมทั้งใส่ อยา่ งเรยี บรอ้ ย ปลอดภยั แตใ่ สไ่ ดไ้ มเ่ รยี บรอ้ ยตอ้ ง เรยี บรอ้ ย ไมป่ ลอดภยั กายอุปกรณ์เสรมิ สว่ นเขา่ โดยใชอ้ ปุ กรณด์ ัดแปลง มีผูช้ ่วยเหลือเลก็ น้อย ต้องมีผชู้ ่วยเหลือ และเก็บเข้าที่ได้เอง หรอื ปรับสถานที่ หรือ เปน็ ส่วนใหญ่ เรียบร้อย ปลอดภยั มีผ้แู นะน�ำ อาจใชเ้ วลา ใชเ้ วลาปกติ มากกว่าปกติ
196 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก หมวดท่ี 4 แตง่ ตวั (Dressing) (ตอ่ ) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 15. ใส่ถุงเทา้ - ใส่ถงุ เทา้ -ใส่รองเทา้ รวม ท�ำ ไดเ้ องทกุ ข้ันตอนอยา่ ง ทำ�ไดเ้ องเปน็ ส่วนใหญ ่ ทำ�ไดเ้ องบ้างแตไ่ ม่ ต้องให้คนอืน่ ใส่ให้ ใส่รองเท้า ท้ังกายอุปกรณ์เสริม เรยี บรอ้ ย ปลอดภยั โดยใช ้ แตใ่ สไ่ ดไ้ มเ่ รยี บรอ้ ยตอ้ ง เรยี บรอ้ ย ไมป่ ลอดภยั ทง้ั หมด ส่วนขอ้ เท้าและเก็บเข้าท่ี อปุ กรณด์ ดั แปลง หรอื ปรบั มีผชู้ ่วยเหลอื เลก็ น้อย ต้องมีผู้ชว่ ยเหลือเป็น ได้เองอย่างเรยี บร้อย สถานที่ หรือมีผแู้ นะนำ� สว่ นใหญ่ ปลอดภัย ใช้เวลาปกต ิ อาจใชเ้ วลามากกว่าปกติ หมวดท่ี 5 ควบคุมการขบั ถา่ ยปสั สาวะ-อุจจาระ (Bowel and Bladder Management) กจิ กรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 43 2 16. ควบคมุ การขบั ถา่ ย ไม่เคยปสั สาวะเลด็ ราด มีการสวนปัสสาวะ มคี นชว่ ยสวนปสั สาวะ มคี นคอยชว่ ยสวนปสั สาวะ ต้องใส่ Pampers ปัสสาวะ และสามารถควบคุมการ สามารถท�ำ ความสะอาด เลก็ นอ้ ย แตส่ ว่ นใหญย่ งั เปน็ สว่ นใหญ่ มปี สั สาวะ เนอ่ื งจากกลน้ั ปสั สาวะไมไ่ ด้ ขับถ่ายได้เมื่อต้องการ ดแู ลเคร่อื งมือตา่ ง ๆ ท�ำ ไดเ้ อง มปี สั สาวะเลด็ เล็ดราดเกิน 1 ครง้ั /วนั หรือคา Foley’s Cath โดยไม่ต้องใช้เครื่องมอื ได้เอง โดยอาจต้องมี ราดไมเ่ กนิ 1 ครง้ั /วนั หรอื On Condom เช่น สวนปัสสาวะยกเวน้ คนก�ำ กับดแู ลอยู่ใกล้ ๆ การใชย้ า อาจมปี ัสสาวะเล็ดราด ไดไ้ มเ่ กนิ 1 ครง้ั /สปั ดาห์ 17. ควบคุมการขับถ่าย ไมเ่ คยมอี จุ จาระเลด็ ราด ตอ้ งใชน้ ว้ิ กระตนุ้ หรอื สวน ถา่ ยอจุ จาระเล็ดราด ถ่ายอุจจาระเลด็ ราด ต้องใส่ Pampers อุจจาระ อจุ จาระไดเ้ อง หรอื ใชย้ า ไมเ่ กนิ สปั ดาหล์ ะ 1 ครง้ั ไมเ่ กนิ วนั ละ 1 ครง้ั เนอ่ื งจากกลน้ั อจุ จาระไมไ่ ด้ ระบาย ยงั สามารถจดั การ และมผี อู้ ืน่ สวนอุจจาระให้ Colostomy เองไดโ้ ดย อาจตอ้ งมคี นคอยบอกหรอื คอยตามใหเ้ ขา้ หอ้ งนำ้� แต่ไมม่ ีอจุ จาระเล็ดราด
หมวดที่ 6 เคลื่อนไหว (Mobility) คะแนนความสามารถ 432 กิจกรรม 5 1 18. พลกิ ตวั บนเตยี ง ผู้ปว่ ยสามารถพลกิ ตัว ผปู้ ่วยสามารถพลิกตวั ผู้ป่วยสามารถพลิกตัว ผู้ป่วยสามารถพลิกตัว ผ้ปู ่วยไมส่ ามารถพลิกตัว (supine to side บนเตยี งได้เองทุกขน้ั ตอน บนเตยี งไดเ้ องทกุ ขน้ั ตอน บนเตยี งไดเ้ องบางขน้ั ตอน บนเตยี งไดเ้ องบางขน้ั ตอน บนเตยี งไดด้ ว้ ยตนเอง lying) อย่างถูกต้องและปลอดภัย อยา่ งถกู ตอ้ งและปลอดภยั แต่อาจไมป่ ลอดภัย ตอ้ ง แตอ่ าจไม่ปลอดภยั ตอ้ ง * สำ�หรบั ผูป้ ว่ ยอมั พาต ในเวลาที่เหมาะสม แตท่ �ำ ไดช้ า้ อาจตอ้ งปรบั มีผู้ช่วยออกแรงช่วย มีผูช้ ว่ ยออกแรงชว่ ยเป็น คร่ึงซกี ให้ประเมนิ ใน เตยี งชว่ ย เช่น มรี าว เล็กน้อย ส่วนใหญ่ ทา่ พลกิ ตวั ไปดา้ นปกต ิ ขา้ งเตยี ง หรอื มผี เู้ ฝา้ ระวงั 19. ลกุ ขนึ้ นัง่ (lying to ผปู้ ว่ ยสามารถลุกขน้ึ น่ัง ผปู้ ว่ ยสามารถลกุ ขน้ึ นั่ง ผปู้ ว่ ยสามารถลุกขน้ึ นั่ง ผู้ป่วยสามารถลุกข้นึ นง่ั ผปู้ ่วยไม่สามารถลุกข้นึ นั่ง sitting) ไดเ้ องทุกขน้ั ตอนอย่าง ได้เองทุกขั้นตอนอย่าง ไดเ้ องบางขน้ั ตอน แตอ่ าจ ไดเ้ องบางขน้ั ตอน แตอ่ าจ ไดเ้ อง * ส�ำ หรับผ้ปู ว่ ยอมั พาต ถกู ตอ้ งและปลอดภัย ปลอดภยั แตท่ �ำ ไดช้ า้ หรือ ไมป่ ลอดภยั ตอ้ งมผี ชู้ ว่ ยออก ไม่ปลอดภัยต้องมีผชู้ ว่ ย ครึง่ ซีกใหป้ ระเมินใน ในเวลาที่เหมาะสม บางข้ันตอนยงั ไมถ่ ูกตอ้ ง แรงชว่ ยเล็กน้อย หรอื ออกแรงชว่ ยเปน็ สว่ นใหญ ่ ทา่ ลกุ นง่ั ในดา้ นทเ่ี ปน็ หรอื อาจตอ้ งใชอ้ ปุ กรณช์ ว่ ย บางขั้นตอนยงั ไม่ถกู ตอ้ ง อัมพาต เชน่ ราวข้างเตียง http://www.thaicam.go.th 197 หรือมีผู้เฝ้าระวัง 20. ทรงตัวในท่านง่ั และ ผู้ป่วยสามารถทรงตัว ผู้ป่วยสามารถทรงตัว ผูป้ ว่ ยสามารถทรงตัวใน ผู้ป่วยสามารถทรงตัว ผ้ปู ว่ ยไม่สามารถทรงตวั ท่าทางในการนัง่ ในท่าน่ังได้เองในท่าทาง ในทา่ นง่ั ไดเ้ อง ปลอดภยั ทา่ นงั่ ไดเ้ องแตย่ ังไม ่ ในทา่ น่งั ได้บา้ ง ต้องมี ในท่าน่งั ได้เอง หมายเหตุ ไมม่ อี ปุ กรณ ์ ที่ถกู ตอ้ งปลอดภัย และ และสามารถทรงตวั ขณะ ปลอดภัยและต้องมผี ู้ ผชู้ ่วยเหลือออกแรงช่วย หรือสง่ิ ช่วยพยุงหลังและ สามารถทรงตัวขณะ เคลอ่ื นไหวแขนหรือล�ำ ตัว ช่วยเหลอื ออกแรงชว่ ย เปน็ สว่ นใหญ่ ผปู้ ว่ ยไมใ่ ชม้ อื หรอื แขนของ เคล่อื นไหวแขนหรือล�ำ ตัว ไปในทิศทางตา่ ง ๆ ได้ เลก็ น้อย ตนเองชว่ ยในการทรงตวั ไปในทศิ ทางต่าง ๆ ได ้ น้อยกว่าปกติ หรือมี (without support) อยา่ งปกติ ผู้เฝ้าระวัง
198 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก หมวดที่ 6 เคลอ่ื นไหว (Mobility) (ต่อ) กจิ กรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 21. ลุกขึ้นยืน ผู้ป่วยสามารถลุกขึ้น ผู้ป่วยสามารถลุกขึ้น ผู้ป่วยสามารถลุกขึน้ ยนื ผู้ป่วยสามารถลุกขน้ึ ยนื ผปู้ ่วยไม่สามารถลุกขน้ึ ยนื ยืนได้เองทุกขั้นตอน ยืนได้เองทุกขัน้ ตอน ไดเ้ องบา้ งแตม่ บี างขน้ั ตอน ไดเ้ องบางขน้ั ตอน ตอ้ งม ี ไดเ้ อง อยา่ งถกู ตอ้ งและปลอดภยั อยา่ งปลอดภยั แต่ทำ� ที่ไม่ถูกตอ้ ง และยงั ไม่ ผู้ช่วยออกแรงช่วยเปน็ ในเวลาท่ีเหมาะสม ได้ช้า หรือคุณภาพ ปลอดภยั ตอ้ งมีผ ู้ ส่วนใหญ่ ในการเคลื่อนไหวยังไมด่ ี ช่วยเหลือออกแรงช่วย หรอื มผี ู้เฝ้าระวัง เล็กน้อย 22. ทรงตัวในทา่ ยนื และ ผู้ปว่ ยสามารถทรงตัวใน ผู้ป่วยสามารถทรงตัว ผู้ป่วยสามารถทรงตัวใน ผู้ป่วยสามารถทรงตัว ผ้ปู ว่ ยไมส่ ามารถทรงตัว ท่าทางในการยืน ทา่ ยนื ไดเ้ อง ดว้ ยทา่ ทางท ่ี ในทา่ ยนื ไดเ้ อง ปลอดภยั ท่ายืนได้บ้างแต่ยังไม่ ในท่ายืนได้บ้าง แต่ไม่ ในทา่ ยนื ไดเ้ อง หมายเหตุ : ไมม่ อี ปุ กรณ์ ถกู ตอ้ งปลอดภยั และสามารถ สามารถทรงตัวขณะ ปลอดภัย และต้องมีผู้ ปลอดภยั ตอ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื หรอื สง่ิ ชว่ ยพยงุ และผปู้ ว่ ย ทรงตวั ขณะเคลอ่ื นไหวแขน เคลื่อนไหวแขน หรือ ช่วยเหลือออกแรงช่วย ออกแรงชว่ ยเปน็ สว่ นใหญ ่ ไม่ใช้มือหรือแขนของ หรอื ล�ำ ตวั ไปในทศิ ทางตา่ งๆ ลำ�ตัวไปในทศิ ทางต่างๆ เลก็ น้อย ตนเองช่วยในการทรงตวั ได้อย่างปกติ ไดน้ ้อยกวา่ ปกติหรือต้อง (Without Support) ใชอ้ ุปกรณช์ ว่ ยยนื ตา่ งๆ หรือมีผูเ้ ฝ้าระวงั 23. เคลอ่ื นย้ายตวั ผปู้ ว่ ยสามารถเคลอ่ื นย้าย ผู้ปว่ ยสามารถเคลือ่ นย้าย ผ้ปู ว่ ยสามารถเคลื่อนยา้ ย ผปู้ ว่ ยสามารถเคลอ่ื นยา้ ย ผปู้ ว่ ยไมส่ ามารถเคลอ่ื นยา้ ย (transfer from ตวั ได้เองทุกขั้นตอนอยา่ ง ตวั ไดเ้ องทกุ ข้ันตอนอย่าง ตวั ไดบ้ า้ งแตอ่ าจไมป่ ลอดภยั ตวั ไดบ้ า้ ง ตอ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื ตัวได้เอง Wheelchair to bed) ถกู ต้องและปลอดภยั ใน ถกู ตอ้ งและปลอดภยั แตท่ �ำ และต้องมีผูช้ ว่ ยเหลือ ออกแรงชว่ ยเปน็ สว่ นใหญ่ ระยะเวลาที่เหมาะสม ไดช้ า้ หรอื ตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ ์ ออกแรงช่วยเล็กน้อย ช่วย หรอื มีผเู้ ฝ้าระวัง
หมวดที่ 7 เดิน (Walking) หรอื เคล่ือนทโี่ ดยใชร้ ถนงั่ คนพกิ าร (Wheelchair) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 24.1 เดนิ บนทางราบ ผู้ป่วยสามารถเดนิ ไดเ้ อง ผปู้ ่วยสามารถเดินได้เอง ผู้ปว่ ยสามารถเดินไดเ้ อง ผปู้ ว่ ยสามารถเดนิ ได้เอง ผปู้ ว่ ยไมส่ ามารถเดินไดเ้ อง อยา่ งปลอดภยั โดยไมใ่ ช ้ อยา่ งปลอดภยั โดยใชก้ าย บา้ งแต่ต้องมีผู้ชว่ ยเหลือ บ้างแตต่ อ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลือ อปุ กรณ์ช่วยเดนิ ประเภท อปุ กรณเ์ สรมิ หรอื อปุ กรณ ์ ออกแรงชว่ ยเลก็ น้อย ออกแรงช่วยเปน็ สว่ นใหญ่ ตา่ ง ๆ และสามารถเดนิ ได ้ ชว่ ยเดินประเภทตา่ ง ๆ ตอ่ เนอ่ื งอยา่ งนอ้ ย 15 นาท ี หรือมีผู้เฝ้าระวัง หรือระยะทาง 50 เมตร http://www.thaicam.go.th 199 24.2 เคลอ่ื นทบ่ี นทางราบ ผ้ปู ่วยสามารถขบั เคลื่อน ผูป้ ว่ ยสามารถขับเคลอ่ื น ผปู้ ว่ ยสามารถขับเคล่ือน ผ้ปู ว่ ยสามารถขับเคลื่อน ผ้ปู ว่ ยไมส่ ามารถขับเคล่อื น โดยใชร้ ถนง่ั คนพกิ าร รถนง่ั คนพกิ ารบนทางราบ รถนง่ั คนพกิ ารบนทางราบ รถนง่ั คนพกิ ารบนทางราบ รถนง่ั คนพกิ ารบนทางราบ รถนัง่ คนพิการบนทางราบ (Wheelchair) ได้เองอยา่ งปลอดภยั เป็น ได้เองอย่างปลอดภัยเปน็ ไดบ้ า้ งแตต่ อ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื ไดบ้ า้ งแตต่ อ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื ได้เอง ต้องให้คนอื่นช่วย ระยะทางไมต่ �ำ่ กวา่ 50 เมตร ระยะทางไมต่ �ำ่ กวา่ 50 เมตร ออกแรงชว่ ยเล็กนอ้ ย ออกแรงช่วยเปน็ ส่วนใหญ ่ เข็นใหต้ ลอด โดยไมต่ อ้ งมผี คู้ อยชว่ ยเหลอื แตต่ อ้ งมีผคู้ อยเฝา้ ระวงั และไม่ต้องมคี นคอยเฝา้ โดยไม่ต้องชว่ ยเข็น ระวงั 25.1 เดนิ บนทางลาดเอยี ง ผ้ปู ่วยสามารถเดนิ บนทาง ผ้ปู ว่ ยสามารถเดินบนทาง ผ้ปู ว่ ยสามารถเดนิ บนทาง ผปู้ ว่ ยสามารถเดนิ บนทาง ผปู้ ว่ ยไมส่ ามารถเดนิ บนทาง ลาดเอยี งอตั ราสว่ น 1:12 ลาดเอยี งอตั ราสว่ น 1:12 ลาดเอยี งอตั ราสว่ น 1:12 ลาดเอยี ง อตั ราสว่ น 1:12 ลาดเอยี ง อตั ราสว่ น 1:12 ได้ ไดม้ ากกวา่ 20 เมตร อย่างปลอดภัยแต่ต้อง ไดบ้ า้ ง แตต่ อ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื ไดบ้ า้ ง แตต่ อ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื โดยไม่ตอ้ งเกาะราว เกาะราวหรอื ใชอ้ ปุ กรณเ์ สรมิ ออกแรงชว่ ยเลก็ นอ้ ย ออกแรงชว่ ยเปน็ สว่ นใหญ ่ ตา่ งๆ หรอื มีผู้เฝ้าระวัง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218