200 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก หมวดที่ 7 เดิน (Walking) หรือเคลอื่ นทโ่ี ดยใช้รถนั่งคนพิการ (Wheelchair) (ตอ่ ) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 43 2 1 25.2 เคล่ือนท่บี นทาง ผปู้ ว่ ยสามารถขบั เคลอ่ื นรถนง่ั ผูป้ ่วยสามารถขบั เคล่ือน ผปู้ ว่ ยสามารถขับเคลื่อน ผู้ป่วยสามารถขบั เคลือ่ น ผู้ป่วยไม่สามารถขบั เคลอ่ื น ลาดเอยี งโดยใช ้ คนพิการบนทางลาดเอียง รถน่ังคนพิการบนทาง รถน่งั คนพกิ ารบนทาง รถน่ังคนพิการบนทาง รถนงั่ คนพกิ ารบนทางลาด รถนงั่ คนพิการ อตั ราสว่ น 1:12 ไดอ้ ยา่ ง ลาดเอยี งอตั ราสว่ น 1:12 ลาดเอยี งอตั ราสว่ น 1:12 ลาดเอยี งอตั ราสว่ น 1:12 เอยี งอตั ราสว่ น 1:12 ไดเ้ อง (Wheelchair) ปลอดภัยเป็นระยะทาง อยา่ งปลอดภยั แตต่ อ้ งม ี ไดบ้ า้ ง แตต่ อ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื ไดบ้ า้ ง แตต่ อ้ งมผี ชู้ ว่ ยเหลอื ต้องให้คนอื่นเข็นใหต้ ลอด มากกวา่ 20 เมตร โดยไมต่ อ้ ง ผู้คอยเฝ้าระวงั โดยไมม่ ี ออกแรงช่วยเล็กนอ้ ย ออกแรงชว่ ยเป็นส่วนใหญ่ มีคนคอยชว่ ยเหลอื และ การช่วยเข็น ไม่ตอ้ งมคี นคอยเฝา้ ระวงั 26 . ขน้ึ ลง บนั ไดอ ยา่ งนอ้ ย ผปู้ ่วยสามารถเดนิ ขึ้นลง ผู้ป่วยสามารถเดินขน้ึ ลง ผปู้ ว่ ยสามารถขึ้นลง ผ้ปู ว่ ยสามารถเดินขึ้นลง ผปู้ ่วยไม่สามารถขนึ้ ลง 12-14 ชน้ั บนั ไดได้เองดว้ ยความ บนั ไดไดเ้ องอยา่ งปลอดภยั บนั ไดเองไดบ้ า้ งและตอ้ ง บนั ไดเองไดบ้ า้ งและตอ้ ง บนั ไดเองได้ ปลอดภยั โดยไมต่ อ้ งเกาะ โดยไมต่ อ้ งมคี นชว่ ย แต ่ มผี ชู้ ว่ ยเหลอื ออกแรงชว่ ย มผี ชู้ ว่ ยเหลอื ออกแรงชว่ ย ราวบนั ได ต้องเกาะราวบันไดหรือใช้ เล็กนอ้ ย เปน็ สว่ นใหญ ่ อปุ กรณเ์ สรมิ หรอื กายอปุ กรณ ์ เทยี มหรอื มผี ู้เฝา้ ระวงั หมายเหตุ ขอ้ 24.1, ข้อ 24.2, ขอ้ 25.1 และข้อ 25.2 ผปู้ ่วย/ผู้พกิ ารตอ้ งประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งเทา่ นัน้ ตามศกั ยภาพสงู สดุ ของผู้ปว่ ย
หมวดท่ี 8 สอ่ื ความหมาย (Communication) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 27.ฟงั เขา้ ใจในการสอ่ื สาร สามารถเขา้ ใจค�ำ สงั่ ท ่ี มคี วามยากล�ำ บากเลก็ นอ้ ย เขา้ ใจค�ำ สั่ง หรือค�ำ พูดท่ี เขา้ ใจค�ำ สง่ั หรือค�ำ พดู ท ่ี ฟงั ไม่เขา้ ใจ ทำ�ตามคำ�สั่ง กบั บคุ คลอน่ื ซบั ซอ้ นจากการฟงั ค�ำ พูด ในการฟัง เข้าใจคำ�พูด คนุ้ เคยและไมซ่ บั ซอ้ นทใ่ี ช ้ ใชใ้ นชวี ติ ประจ�ำ วนั หรอื ไมไ่ ดเ้ ลยหรอื ตอบสนอง (Receptive Language) และตอบสนองไดถ้ กู ตอ้ ง ทซ่ี บั ซอ้ น อาจตอ้ งพดู ซ�ำ้ ในชีวิตประจำ�วันได้ดี ทค่ี นุ้ เคยไดน้ อ้ ยกวา่ 50% ไมถ่ กู ตอ้ ง ในเวลาทเ่ี หมาะสม อธบิ ายเพม่ิ เตมิ หรอื แนะให ้ แตถ่ ้าเปน็ ค�ำ พูดหรือค�ำ สงั่ ตอ้ งอาศัยความชว่ ยเหลอื ฟังค�ำ พดู หรอื คำ�ส่งั ทซ่ี บั ซ้อนมากขน้ึ ผปู้ ว่ ย เป็นสว่ นใหญ่ สามารถเข้าใจถูกต้อง มากกว่า 50% โดยตอ้ ง อาศัยความช่วยเหลือที่ เหมาะสมกบั ปญั หา เชน่ ใช้ Hearing หรอื Visual aid 28. แสดงออกทางภาษา สามารถใช้คำ�พูดในการ ใช้คำ�พดู ในการส่อื สารได้ ใช้ค�ำ พูดในการสื่อสารได้ ใช้คำ�พูดในการสื่อสาร ไมส่ ามารถใช้ค�ำ พูดสอื่ สาร (Expressive Language) สอื่ สารกบั ผอู้ นื่ ไดถ้ ูกตอ้ ง แตอ่ าจมปี ญั หาเลก็ นอ้ ย แตพ่ ดู ไมช่ ดั พดู ไมค่ ลอ่ ง แต่พูดไม่ชัด ฟังเข้าใจ ได้เหมาะสมและตรงกับ http://www.thaicam.go.th 201 เหมาะสม ในเวลาที ่ เชน่ การพดู ไมช่ ดั หรอื นึกถึงค�ำ พดู ลำ�บาก ตอ้ ง ลำ�บากหรือพูดไมค่ ล่อง สถานการณ์ ไมส่ นใจสอื่ เหมาะสม พดู ไมค่ ลอ่ งหรอื นกึ ค�ำ พดู อาศยั ความชว่ ยเหลอื บา้ ง นกึ ค�ำ พดู ล�ำ บาก สอ่ื สาร ความหมายกับผ้อู ่นื และ ลำ�บากบ้างเล็กน้อย ผู้ป่วยจึงจะใช้ภาษาได้ โดยการพดู ไดน้ อ้ ยกวา่ 50% ไมส่ ามารถสอ่ื สารโดยใช้ อาจตอ้ งใชเ้ วลารอในการ ตามตอ้ งการมากกวา่ 50% แต่สามารถสอื่ สารโดยใช ้ Augmentative Alternative ตอบสนองโดยไม่ถามซ�ำ้ Augmentative Alternative Communication ทนั ทที นั ใด Communication (การสอ่ื สารวธิ อี ื่นนอกเหนอื (การสอ่ื สารวธิ อี น่ื นอกเหนอื จากการพดู ) จากการพดู ) เชน่ Commu- nication board ไดด้ ี
202 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก หมวดท่ี 9 เข้าสสู่ ังคม (Social Cognition) กจิ กรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 29. ปฏสิ มั พนั ธท์ างสงั คม มปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั บคุ คลอ่นื มปี ฏิสัมพนั ธก์ ับบคุ คลอื่น เร่ิมสร้างปฏสิ ัมพนั ธ์กับ ไมส่ ามารถสรา้ งปฏสิ มั พนั ธ ์ ไม่สามารถมีปฏสิ มั พนั ธ์ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทง้ั แบบ เขา้ ใจกฎเกณฑ์ มารยาท บุคคลอ่นื (active) ได้ กับบุคคลอื่น (active) ทางสังคมไดเ้ ลย เป็นผู้เรม่ิ ต้น (active) ทางสงั คมและปฏบิ ตั ติ าม เลก็ นอ้ ย แตย่ งั ตอบสนอง แตย่ ังสามารถตอบสนอง เชน่ กลา่ วทกั ทายผู้อ่ืน ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมทง้ั แบบ ตอ่ ปฏสิ มั พนั ธ์ (Passive) ตอ่ ปฏสิ ัมพนั ธ์ (Passive) และเปน็ ผูต้ อบสนองต่อ เป็นผู้เริ่มต้น (active) กบั บคุ คลอน่ื ไดบ้ า้ ง ไดเ้ ลก็ น้อย ปฏิสัมพันธ์ (Passive) และเป็นผู้ตอบสนองตอ่ เชน่ ทกั ทายตอบกลบั เมอ่ื ปฏสิ ัมพนั ธ์ (passive) มีผู้ทักทายในระดบั ปกต ิ โดยต้องมผี ้ใู หค้ ำ�แนะน�ำ เข้าใจกฎเกณฑ์ มารยาท ในการปฏบิ ตั ิ ทางสงั คมและปฏบิ ตั ติ ามได้ 30. แกไ้ ขปญั หา แกไ้ ขปญั หาในชวี ติ ประจ�ำ วนั แกไ้ ขปญั หาในชวี ติ ประจ�ำ วนั แกไ้ ขปญั หาในชวี ติ ประจ�ำ วนั แกไ้ ขปญั หาในชวี ติ ประจ�ำ วนั แก้ไขปัญหาต่าง ๆ และในการท�ำ งานไดเ้ อง และในการทำ�งานได้เอง และในการท�ำ งานเองไดบ้ า้ ง และในการท�ำ งานไดน้ อ้ ย ไมไ่ ดเ้ ลย อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม แตบ่ างครง้ั ผดิ พลาดใชเ้ วลา ผดิ พลาดบอ่ ยตอ้ งมผี ใู้ ห ้ ใช้เวลาปกติ เชน่ เวลา โดยตอ้ งมผี ใู้ หค้ �ำ ปรกึ ษา นานตอ้ งมผี ูใ้ หค้ ำ�ปรึกษา ค�ำ ปรกึ ษาแกไ้ ขปญั หา หวิ ขา้ ว หรอื มไี ข้ ผปู้ ว่ ย เล็กน้อย ในระดบั ปานกลาง เป็นส่วนใหญ ่ แก้ไขปัญหาอย่างไร
หมวดท่ี 9 เขา้ สู่สงั คม (Social Cognition) (ตอ่ ) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 31. ความจ�ำ (Memory) จ�ำ บคุ คล สถานท่ี สง่ิ ของ จ�ำ บคุ คล สถานท่ี สง่ิ ของ จ�ำ บคุ คล สถานท่ี สง่ิ ของ จ�ำ บคุ คล สถานท่ี สง่ิ ของ จ�ำ ไม่ได้เลยและไมม่ ีการ ที่คุ้นเคยได้ รวมทั้งจำ� ที่คุ้นเคยได้ รวมทั้งจำ� ที่คุ้นเคยได้ รวมทั้งจำ� ที่คุ้นเคยได้ รวมทั้งจำ� ตอบสนองตอ่ การกระตนุ้ ขน้ั ตอนในการท�ำ กจิ วตั ร ขน้ั ตอนในการท�ำ กจิ วตั ร ขน้ั ตอนในการท�ำ กจิ วตั ร ขน้ั ตอนในการท�ำ กจิ วตั ร เตอื นทง้ั โดยคนและอปุ กรณ ์ ประจ�ำ วนั และการท�ำ งาน ประจ�ำ วนั และการท�ำ งาน ประจ�ำ วนั และการท�ำ งาน ประจ�ำ วนั และการท�ำ งาน ชว่ ยจ�ำ ไดเ้ อง โดยไมต่ อ้ งใชอ้ ปุ กรณ ์ ไดโ้ ดยใชเ้ วลามากกวา่ ปกต ิ ไดเ้ ปน็ สว่ นใหญ่ อาจใชเ้ วลา ไดเ้ ลก็ นอ้ ยต้องมีผู้กระตุน้ เพื่อช่วยเตือนความจำ� หรอื ใชอ้ ุปกรณช์ ่วยเตอื น มากกวา่ ปกตใิ นการทบทวน เตือนเปน็ ส่วนใหญ่ หรอื ไมต่ อ้ งมผี กู้ ระตนุ้ เตอื น ความจำ� ความจำ�และต้องมีผู้ กระตุ้นเตือนเลก็ นอ้ ย 32. ค�ำ นวณ ค�ำ นวณเลขไดถ้ กู ตอ้ งตง้ั แต ่ ค�ำ นวณเลขไดถ้ กู ตอ้ งตง้ั แต่ ค�ำ นวณเลขต�ำ่ กวา่ หลกั รอ้ ย ค�ำ นวณเลขต�ำ่ กวา่ หลกั รอ้ ย คำ�นวณตัวเลขไมไ่ ดเ้ ลย หลักรอ้ ยข้นึ ไปโดยไม่ตอ้ ง หลกั รอ้ ยขน้ึ ไปโดยตอ้ งใช้ ไดถ้ กู ตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ ่ ไดถ้ กู บา้ งเลก็ นอ้ ย ใชเ้ วลา ใชเ้ ครอ่ื งค�ำ นวณ ใชเ้ วลา เครื่องคำ�นวณ หรือใช้ อาจใชเ้ วลามากกวา่ ปกต ิ มากกวา่ ปกติ มผี ชู้ ว่ ยเหลอื http://www.thaicam.go.th 203 ปกติ เช่น ผู้ป่วยมีเงิน เวลามากกวา่ ปกติ หรือ และใชผ้ ชู้ ว่ ยในการค�ำ นวณ ในการค�ำ นวณเปน็ สว่ นใหญ ่ 100 บาท ซอ้ื ของ 25 บาท มีผแู้ นะน�ำ เลก็ นอ้ ย จะได้รับเงินทอนเท่าไร
204 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก หมวดท่ี 10 กจิ วัตรประจำ�วนั ที่ตอ้ งใช้อุปกรณ์ขัน้ สูงในการชว่ ย (IADL) กิจกรรม 5 คะแนนความสามารถ 1 432 33. เตรยี มอาหาร เตรยี มวตั ถดุ บิ และอปุ กรณ ์ เตรยี มวตั ถดุ บิ , อปุ กรณ์ มีผชู้ ว่ ยเหลือในการเตรยี ม มผี ู้ช่วยเหลือในการเตรยี ม ไมส่ ามารถเตรียมวัตถุดิบ ในการประกอบอาหารและ และปรงุ อาหารได้อย่าง วตั ถดุ บิ อปุ กรณแ์ ละปรงุ อุปกรณ์ และสามารถ อุปกรณ์ปรุงหรืออุ่นอาหาร ปรุงอาหารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ถกู ต้องและปลอดภัยใช ้ อาหารเปน็ สว่ นใหญ่ หรอื อุ่นอาหารท่ีมีผปู้ รุงไว้แลว้ ไดเ้ ลย และปลอดภยั ในเวลาที ่ เวลามากกวา่ ปกติ โดยท ่ี สามารถเตรียมอุปกรณ ์ รบั ประทานได้อย่างปลอดภัย เหมาะสม มผี ใู้ หค้ �ำ แนะน�ำ และคอย และอนุ่ อาหารไดเ้ องอยา่ ง ระวังความปลอดภยั ใน ปลอดภัย การปรุงอาหาร 34. ท�ำ ความสะอาดทพ่ี กั สามารถดแู ลความสะอาด สามารถท�ำ งานบา้ นเลก็ ๆ สามารถท�ำ งานบา้ นเลก็ ๆ ต้องมผี ู้ชว่ ยเหลอื ในการ ไมส่ ามารถมสี ว่ นรว่ มในการ อาศยั ที่พักอาศัยได้เองอย่าง น้อย ๆ เช่น ล้างจาน น้อย ๆ ได้ แต่ไม่สามารถ ดูแลทำ�งานบ้านเป็น ท�ำ ความสะอาดทพ่ี ักอาศยั ปลอดภยั ในเวลาทเ่ี หมาะสม กวาดบา้ น ท�ำ ไดส้ ะอาด เปน็ ระเบียบ สว่ นใหญ่ ไดเ้ ลย ตอ้ งมผี ้ชู ่วยเหลอื เลก็ น้อย 35. กนิ ยา สามารถจัดยาและกนิ ยา สามารถจัดยาและกินยา สามารถบอกชนดิ ขนาด สามารถกนิ ยาไดเ้ อง โดย ต้องมีผชู้ ว่ ยเหลอื ในการ ไดเ้ อง ถกู ชนิด ถูกขนาด ไดเ้ อง แตต่ อ้ งมผี ตู้ รวจสอบ เวลา และกินยาได้เอง มีผู้จัดเตรียมยาไว้ให้ จัดเตรียมและกินยา ถูกเวลาและปลอดภัย ความถูกต้อง แต่ต้องมีผู้ช่วยเหลือใน เปน็ มื้อ ทุกขั้นตอน การจดั เตรยี ม
เอกสารอ้างอิง 1. ดารณี สวุ พันธ์ และคณะ. (2549). คมู่ อื แบบประเมนิ ความสามารถในการท�ำ กิจกรรมของผู้ป่วย/ผู้พิการที่ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพ ทางการแพทยแ์ หง่ ชาต.ิ พมิ พค์ รง้ั ท่ี 1.กรงุ เทพฯ: เอน็ .เอ.รตั นะเทรดดง้ิ . 2. กรมการแพทย์ และคณะ. (2550). แนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมอง. [ออนไลน์] แหล่งที่มา www.google.co.th/ search?q=แนวทางฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 28 มกราคม 2558. http://www.thaicam.go.th 205
206 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก
สรุปการดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ดว้ ยการแพทย์ผสมผสาน 5 โรคหลอดเลอื ดสมอง หรอื โรคอมั พฤกษ์ อมั พาต เป็นโรคที่พบบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในผู้สูงอายุและผู้ที่ มปี จั จยั เสย่ี ง เมอ่ื เกดิ โรคแลว้ จะกอ่ ใหเ้ กดิ อาการทางระบบ ประสาท ซง่ึ ผปู้ ว่ ยตอ้ งใชเ้ วลาในการฟน้ื ตวั คอ่ นขา้ งนาน โดย การรกั ษาทางเวชศาสตรฟ์ น้ื ฟหู รอื การฟน้ื ฟสู มรรถภาพนน้ั เพื่อลดความพิการป้องกันภาวะแทรกซ้อน ทำ�ให้ผู้ป่วย ช่วยเหลือตนเองได้ตามศักยภาพ ปัญหาส่วนใหญ่ใน ผู้ป่วยอัมพาตนั้น คือ สูญเสียความสามารถในการใช้ ชวี ติ ประจ�ำ วนั เกดิ ความเสย่ี งตอ่ โรคแทรกซอ้ น ทง้ั ระบบ กลา้ มเนอ้ื และกระดกู ทางเดนิ หายใจ ไปจนถงึ สขุ ภาพจติ ทล่ี ดลง อนั เนอ่ื งมาจากการสญู เสยี ความเคลอ่ื นไหว และ ความสามารถในการทางานของสมองทลี่ ดลง คือ แขน และขาขา้ งเดยี วกนั ของล�ำ ตวั ออ่ นแรงเดนิ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ปญั หา ที่เห็นได้ชัดเจน จึงทำ�ให้ผู้ป่วยและญาติกังวลมากกว่า ปัญหาอื่นรวมถึงการช่วยเหลือตนเองลดลง โดยเฉพาะ กิจวัตรประจำ�วันพื้นฐาน เช่น การรับประทานอาหาร การแต่งตัว การอาบน้ำ� ล้างหน้า แปรงฟัน เป็นต้น http://www.thaicam.go.th 207
สิ่งเหล่านี้เป็นกิจกรรมพื้นฐานที่ผู้ป่วยเคยทำ�ได้ แต่จำ�เป็นต้องพึ่งพาผู้อื่น เมื่อเกิดโรคขึ้น นอกจากน้ี ยงั มปี ญั หาสขุ ภาพจติ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เชน่ อารมณแ์ ปรปรวน หงดุ หงดิ งา่ ย บอ่ ยครง้ั ทเ่ี กดิ อารมณซ์ มึ เศรา้ เนอ่ื งจากมคี วามรสู้ กึ ดอ้ ยคา่ ในตวั เอง จากความเจ็บปว่ ยทำ�ให้ไมส่ ามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้ แม้แตก่ ิจวตั รประจำ�วัน พื้นฐาน อีกทั้งปัญหาของการสื่อสาร ผู้ป่วยบางราย อาจพูดไม่ชัด พูดได้ หรอื พดู ไดแ้ ตฟ่ งั ไมร่ เู้ รอ่ื ง เปน็ ตน้ นอกจากนย้ี งั มปี ญั หาเรอ่ื งรบั ประทานอาหาร ในแง่การเค้ียว การกลนื อาจเกดิ การส�ำ ลกั น้ำ�และอาหารได้ง่าย ปัญหาเร่ือง ระบบขบั ถา่ ย อาจไมส่ ามารถควบคมุ ได้ หรอื ขบั ถา่ ยไมค่ ลอ่ งทง้ั ปสั สาวะและอจุ จาระ ปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั ผปู้ ว่ ย รวมทง้ั ผดู้ แู ลนนั้ จงึ ตอ้ งมวี ธิ กี ารจดั การและ เรยี นรใู้ นการดแู ลผปู้ ว่ ยซงึ่ แบบแผนการดแู ลทใี่ ชส้ ว่ นใหญเ่ ปน็ การดแู ลตามหลกั การแพทย์แผนปัจจุบันที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในการดูแลได้ใน ระดบั หนงึ่ แตบ่ างกจิ กรรมการดแู ลดว้ ยการแพทยแ์ บบแผนไมส่ ามารถดแู ลผปู้ ว่ ย ไดอ้ ย่างครอบคลุมได้ จึงมีการใชก้ ารแพทย์ทางเลอื กหรอื การแพทยผ์ สมผสาน มาช่วยเติมเต็มเพ่ิมการดูแลผู้ป่วยให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นสามารถตอบสนอง ความตอ้ งการในการดแู ลผปู้ ว่ ยได้ เชน่ ในเรอ่ื งทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั จติ ใจ อารมณส์ งั คม และจติ วญิ ญาณ โดยการแพทยผ์ สมผสานทน่ี �ำ มาใชก้ บั ผปู้ ว่ ยอมั พฤกษ์ อมั พาตได้ เชน่ การใชก้ ารนวดไทย ประคบสมนุ ไพร การนวดกดจดุ สะทอ้ นเทา้ การฝงั เขม็ การใชน้ �ำ มนั หอมระเหยนวด หรอื หยดขา้ งหมอนเพอ่ื ชว่ ยการนอนหลบั ลว้ นเปน็ การกระตนุ้ ระบบไหลเวยี น และการท�ำ งานของระบบกลา้ มเนอ้ื ตา่ ง ๆ หรอื การใช้ อาหารทางเลือกเพื่อลดความเสี่ยงที่จะกลับเป็นซ้ำ� จากภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสงู โดยการรบั ประทานอาหารแมค็ โครไบโอติกส์ ทสี่ ามารถลด ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ได้ นอกจากนี้การใช้วิตามินแร่ธาตุในการบำ�บัด เพื่อบำ�รุง ระบบประสาท ระบบการท�ำ งานของกลา้ มเนอ้ื เชน่ การใชว้ ติ ามนิ บี 3 วติ ามนิ บี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี โฟลิก สังกะสี เมลานิน โอเมก้า 3 เป็นต้น นอกจากนย้ี งั มสี มนุ ไพรทางเลอื ก เชน่ แปะ๊ กว๊ ย โสม ดนั เชน สว่ นสมนุ ไพรไทย 208 ส�ำ นกั การแพทยท์ างเลอื ก
เชน่ เถากระดงึ ชา้ งทง้ั ตน้ ใบพลบั พลงึ ปรงสวน ล�ำ ตน้ รางแดง รากปอเตา่ ไห้ ล�ำ ตน้ หนุ่ แป ล�ำ ตน้ พชู า้ ง แกน่ กดั ลน้ิ แกน่ กระทมุ่ หกู วาง แกน่ กรวยปา่ แกน่ สม้ กบ ล�ำ ตน้ คดั เคา้ ดง ล�ำ ตน้ เหงอื กปลาหมอ ล�ำ ตน้ มะดกู ใบหรอื ล�ำ ตน้ มะค�ำ ไก่ ล�ำ ตน้ มะคงั แดง และเหงา้ ยาหวั ล�ำ ตน้ ชะลดู เถากระดงึ ชา้ งทง้ั ตน้ และเครอื พเู งนิ ทง้ั ตน้ แก่นโมกใหญ่ ลำ�ต้นมะคังแดง แก่นคำ�มอกหลวง ลำ�ต้นตะลุมพุก ใบกุ่มน้ำ� ใบกุม่ บก ใบสังวาลพระอินทร์ ใบสอ่ งฟา้ และใบหสั คณุ ล�ำ ตน้ เหงือกปลาหมอ ใบหรอื ล�ำ ตน้ ก�ำ แพงเจด็ ชน้ั ผกั กาดโคกทง้ั ตน้ ล�ำ ตน้ มะคงั แดง ล�ำ ตน้ กาฝากมะมว่ ง รากถอบแถบเครือ รากกระตังใบ จิงจ้อเหลือง ใบเต็งหนาม ใบชุมเห็ดเทศ ลำ�ต้นพญามูลเหล็ก ลำ�ต้นหรือใบตะไคร้ เหง้าข่า เหง้าข่าคม และเหง้าขมิ้น เป็นต้น การรักษาด้วยการแพทย์ผสมผสานที่กล่าวมาเน้นที่บำ�บัดทางกาย ส่วนการแพทย์แบบผสมผสานที่เน้นด้านจิตใจ จิตวิญญาณสำ�หรับผู้ป่วย อมั พฤกษ์ อมั พาต เช่น การใช้สมาธิ ซึ่งแล้วแต่ความถนัดหรือประสบการณ์ ของคนปฏิบัติ หรอื ผู้ดูแล การใช้ดนตรีบ�ำ บดั ท้งั การฟังเสียงและการร้องเพลง ด้วยตนเอง นอกจากน้ีอาจใชก้ ล่นิ ของอะโรม่าเพื่อใหเ้ กดิ การผอ่ นคลาย ฉะนั้น การเลือกใช้การแพทย์แบบผสมผสานในการดูแลผู้ป่วย อมั พฤกษ์ อมั พาต กข็ น้ึ อยกู่ บั ความเหมาะสมของสภาพรา่ งกายของผปู้ ว่ ย สง่ิ แวดลอ้ ม และผดู้ แู ลท้ัง 3 ประการน้ี ควรมีความสมดลุ กนั กลา่ วคอื ถ้าผู้ป่วยมสี ภาพ รา่ งกายพรอ้ มทจ่ี ะปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในการฟน้ื ฟสู ภาพรา่ งกายดว้ ยการแพทยผ์ สมผสาน แตส่ ง่ิ แวดลอ้ มไมเ่ ออ้ื อ�ำ นวย ผดู้ แู ลทจ่ี ะชว่ ยเหลอื ท�ำ กจิ กรรมบางอยา่ งไมว่ า่ ง หรอื ไมส่ ามารถจดั กจิ กรรมใหไ้ ด้ กไ็ มส่ ามารถใชก้ ารแพทยผ์ สมผสานมาดแู ลสขุ ภาพ ใหก้ บั ผปู้ ว่ ยอมั พฤกษ์ อมั พาตได้ เปน็ ตน้ ฉะนน้ั การใชก้ ารแพทยท์ างเลอื กและ การแพทยผ์ สมผสานในการดแู ลผปู้ ว่ ยจึงต้องมีความพร้อมและมีความสมดุลกัน ของผปู้ ว่ ย สง่ิ แวดลอ้ ม และผชู้ ว่ ยเหลอื ทจ่ี ะสง่ ผลใหก้ ารดแู ลผปู้ ว่ ยมปี ระสทิ ธภิ าพ และท�ำ ใหผ้ ูป้ ว่ ยมีคณุ ภาพชีวติ ทีด่ ีข้ึน http://www.thaicam.go.th 209
ภาคผนวก 210 ส�ำ นักการแพทย์ทางเลอื ก
เปลผา้ โสรง่ รอกผ้าขาวม้า ยางยืด และทะลายมะพรา้ วแอ่นอก โดย นายรอน หลีเยาว์ งานแพทยแ์ ผนไทยรว่ มกับทีมเย่ียมบา้ น โรงพยาบาลควนโดน จังหวดั สตลู 1.1 เปลผ้าโสร่ง 8 ประโยชน์ u ชว่ ยปอ้ งกันการยดึ ติดของข้อตอ่ u ชว่ ยป้องกันการหดรง้ั ของกลา้ มเน้ือ u ช่วยเพ่ิมการไหลเวียนเลอื ด u ช่วยเพ่มิ ความแข็งแรงของกล้ามเน้อื วธิ ที ำ� เปลผา้ โสรง่ : วัสดทุ ่ีใช้ คือ ผา้ โสร่ง, เชือกหรือยางยดื , ไมก้ ลม มีวิธที ำ� ดงั นี้ 1. ใช้เชือกหรือยางยดื ผูกปลายดา้ นหน่งึ กับท่ยี ึดโยงใหม้ ัน่ และ ปลายเชอื กหรอื ยางอกี ดา้ นหนง่ึ ผกู กบั ไมก้ ลมขนาดพอเหมาะใหแ้ นน่ โดยใหป้ ลาย ไมท้ ง้ั 2 ดา้ นย่ืนออกมาเล็กน้อยประมาณ 1 คบื 2. ฟ่นั ผ้าโสร่งแล้วสอดไว้ที่ปลายไม้ทยี่ ่ืนออกมาแล้วลอ็ คเปน็ ปม ไว้ท้งั 2 ขา้ ง เพ่ือปอ้ งกันผา้ หลุด ดงั รูป เปลผา้ โสรง่ บรหิ ารสะโพก (ทา่ กางขา) http://www.thaicam.go.th 211
วธิ ีการใช้เปลผ้าโสร่ง บริหารข้อสะโพก (ทา่ กางขา) u นอนหงาย ยกขาใสใ่ นเปล u เหว่ียงขาไปทางซ้ายและขวา วธิ กี ารใช้เปลผ้าโสรง่ บรหิ ารขอ้ สะโพก (ท่างอข้อสะโพก) u นอนตะแคง ยกขาใส่ในเปล u เหว่ยี งขาไปหนา้ และหลงั เปลผ้าโสร่ง บรหิ ารขอ้ สะโพก วิธกี ารใช้เปลผา้ โสร่ง บริหารขอ้ เขา่ u นอนตะแคง ยกขาใสใ่ นเปล u ข้อเข่าเข้าและเหยยี ดข้อเข่าออก หมายเหตุ : หากเป็นการออกกำ�ลงั กายเพ่อื เพ่ิมความแขง็ แรงของ กล้ามเนื้อใหเ้ ปลยี่ นจากเชือกเป็นยางยดื เพอ่ื เพิม่ แรงตา้ นในการออกก�ำ ลังกาย 212 ส�ำ นกั การแพทย์ทางเลือก
1.2 รอกผ้าขาวมา้ 8 ประโยชน์ u ชว่ ยเพม่ิ การไหลเวยี นเลอื ด u ช่วยปอ้ งกนั การหดร้งั ของเน้อื เยื่อ u ช่วยป้องกนั การยดึ ตดิ ของข้อตอ่ 8 วธิ กี ารใช้ 1. ใช้มือจบั ผา้ ขาวม้าท่วี างผ่านบนรอกไมไ้ ผ่ แล้วดงึ ขนึ้ ลง ตามจังหวะเพ่อื บรหิ ารไหล่ วธิ ีทำ�รอกผ้าขาวม้า : วัสดุทีใ่ ช้ คือ ผ้าขาวม้า, เชือก ไม้ไผ่ ทะลุปล้อง, ไม้กลม มีวิธที ำ� ดงั นี้ 1. ใชเ้ ชอื กผกู ปลายดา้ นหนง่ึ กบั ทย่ี ดึ โยงใหม้ น่ั ทง้ั 2 ขา้ ง โดยให้ ระยะหา่ งมากกวา่ ความยาวของปลอ้ งไมไ้ ผเ่ ลก็ นอ้ ย สว่ นปลายเชอื กอกี ดา้ นหนง่ึ ผกู ไวก้ บั ไมก้ ลมขนาดพอเหมาะทส่ี อดไวใ้ นไมไ้ ผท่ ะลปุ ลอ้ งทเ่ี ตรยี มไวท้ ง้ั 2 ขา้ ง ทดสอบให้ไมไ้ ผห่ มนุ ไดส้ ะดวก 2. ฟน่ั ผา้ ขาวมา้ เปน็ เชอื กวาง พาดบนไมไ้ ผ่ โดยจบั ปลายทง้ั 2 ขา้ ง แล้วดงึ ขนึ้ ลงเมอื่ ตอ้ งการใช้ ดังรปู รอกผา้ ขาวม้า บริหารไหล่ http://www.thaicam.go.th 213
1.3 ยางยืด: ใชว้ ัสดยุ างในรถ เป็นยางยดื 8 ประโยชน์ u ชว่ ยเพิม่ ความแขง็ แรงของกลา้ มเน้ือ u ช่วยลดการหดร้ังของเนื้อเยอื่ u ชว่ ยลดการยึดติดของขอ้ ต่อ 8 วธิ กี ารใช้ u ใชเ้ ปลยางยดื เอนกประสงคใ์ นการออกก�ำ ลงั กายกลา้ มเนอ้ื ที่ตอ้ งการ เชน่ แขน ขา เปน็ ตน้ ขอ้ ควรระวงั : ระวงั ในการใชย้ างยดื ในรายทม่ี อี าการปวด อาการ อกั เสบของกลา้ มเน้อื ยางยืด: ใชว้ สั ดยุ างในรถ เป็นยางยืด (ใชแ้ ทนสปรงิ เหล็ก) วิธีท�ำ ยางยืด : วสั ดุทใี่ ช้ คือ ยางในรถ มีวธิ ที ำ� ดงั นี้ 1. ตัดยางในรถออกเป็นเส้นขนาดพอเหมาะ ที่สามารถรองรับ น้ำ�หนักในการบริหารร่างกายได้ 2. ใช้ยางในรถที่เตรียมไว้ผูกเปลผ้าโสร่งแทนเชือก วิธีการทำ� เชน่ เดยี วกบั การทำ�เปลผ้าโสรง่ ในหวั ขอ้ 1.1 214 สำ�นกั การแพทยท์ างเลอื ก
1.4 ทะลายมะพร้าวแอ่นอก 8 ประโยชน์ u ชว่ ยเพ่มิ การไหลเวยี นเลอื ด u ลดการหดเกรง็ ของกลา้ มเน้ือ u ชว่ ยเพมิ่ การผอ่ นคลายของกลา้ มเนอื้ u ชว่ ยเพ่ิมความตอ่ เนื่องในการนวด u เสรมิ สรา้ งสขุ ภาพจติ ใหผ้ ปู้ ว่ ยเกดิ การผอ่ นคลาย มคี วาม หวงั ทจี่ ะสโู้ รคตอ่ ไป 8 วิธีการใช้ u ใชม้ อื จบั ทะลายมะพร้าวทง้ั สองขา้ ง (ด้านยาว) u คบี ปลายทะลายมะพรา้ วดา้ นสน้ั ตรงสว่ นโคง้ บนกลา้ มเนอ้ื ที่ตอ้ งการนวด หรอื ตรงตำ�แหนง่ ทส่ี ามารถคีบจับกลา้ มเน้ือท่ตี อ้ งการนวดตาม ความเหมาะสม u ใช้แรงบีบปลายทะลายมะพร้าวด้านยาวเข้าหากันและ คลายออกตามจงั หวะการแอน่ อก ขอ้ ควรระวัง : หา้ มใช้ทะลายมะพรา้ วบีบนวดตรงบรเิ วณที่ เป็นแผล กระดกู และขอ้ ตอ่ วิธีทำ� ทะลายมะพร้าวแอ่นอก : วัสดุที่ใช้ คือ ทะลาย มะพรา้ ว, เชือก, อุปกรณ์เจาะรู มวี ิธที ำ� ดงั นี้ 1. ตัดทะลายมะพร้าวยาวประมาณ 1 ฟุต หรือมากกว่า เลก็ น้อย จ�ำ นวน 2 ท่อน 2. เจาะรทู ะลายมะพรา้ ว ระยะจากปลายถงึ จดุ ทเ่ี จาะประมาณ 5 นว้ิ ท้ัง 2 ท่อน http://www.thaicam.go.th 215
3. ร้อยเชือกและผกู ปมป้องกนั การหลดุ โดยใหเ้ ชอื กท่รี อ้ ย มรี ะยะหา่ งเลก็ นอ้ ย ให้อยู่ในสภาพดงั รูป 216 สำ�นกั การแพทยท์ างเลือก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218