2757308_Week2_แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้_ฯ_พ.ศ.2551-12159-16599237736861

คําสัง่ กระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ เรอ่ื ง แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นในระยะตอ เนื่อง ระหวา งหลกั สูตรการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ และหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ อนสุ นธิจากคาํ สัง่ กระทรวงศกึ ษาธิการ ที่ สพฐ. ๒๙๓/๒๕๕๑ ส่งั ณ วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เรอ่ื งใหใชห ลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซ่ึงมกี ารกาํ หนดมาตรฐานการเรียนรแู ละ ตวั ช้ีวัด โครงสรางเวลาเรยี นและเกณฑการวัดและประเมินผลการเรยี น ตั้งแตป การศกึ ษา ๒๕๕๒ ใชกับโรงเรยี น ในโครงการนํารองการใชหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ และปก ารศกึ ษา ๒๕๕๓ ใชกับโรงเรียนท่ัวไป โดยใชพรอมกันทุกช้ันป ในระดับประถมศึกษาปท่ี ๑-๖ สําหรับระดับมัธยมศึกษาเริ่มใช ในชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี ๑ และ ๔ และเพิม่ ขน้ึ ปละชน้ั จนถึงปการศึกษา ๒๕๕๕ สถานศกึ ษาทุกแหง จะมกี ารใช หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ครบทุกช้ันป เพอ่ื ใหก ารจดั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานของสถานศกึ ษาทกุ สงั กดั ในระยะตอ เนอื่ งระหวา งหลกั สตู รการศกึ ษา ข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ดําเนนิ ไปดวย ความเรยี บรอ ย อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๕ แหง พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๖ จงึ เหน็ สมควรกาํ หนดแนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นในระยะตอ เนอ่ื ง ระหวางหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เนอ่ื งจากการเปลยี่ นหลกั สตู รของสถานศกึ ษา การยา ยสถานศกึ ษาทใ่ี ชห ลกั สตู รตา งกนั และ การแกไ ขผลการเรยี นเมือ่ สถานศึกษาเปลยี่ นหลกั สูตร ดงั น้ี ๑. การบันทึกระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) เพื่อแสดงหลักฐานการจบหลักสูตรของผูเรียน เมือ่ สถานศกึ ษาเปลี่ยนมาใชหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ใหนาํ ผลการเรยี นของ ผเู รยี นจากหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ ทง้ั หมดในทกุ ชนั้ ปข องชว งชนั้ นนั้ มานบั ตอ เนอื่ งกบั ผลการเรียนของหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามจาํ นวนชั้นปท ี่เหลืออยู 188 แนวปฏบิ ัตกิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p188 6/10/2558 9:22:02

การออกระเบยี นแสดงผลการเรยี น ใหใ ชร ะเบยี นแสดงผลการเรยี นหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา ขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ พรอ มระบใุ นชอ งหมายเหตวุ า ดาํ เนนิ การตามคาํ สงั่ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท่ี สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ ๒. การจัดทําระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ของผูเรียนทุกระดับที่จําเปนตองยายระหวาง สถานศึกษาท่ีใชหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กับสถานศึกษาที่ใชหลักสูตร การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ใหใชระเบียนแสดงผลการเรียนเดิมแนบไวกับระเบียนแสดง ผลการเรียนใหม โดยใหดําเนินการตามแนวปฏิบัติการเทียบโอนผลการเรียนเขาสูการศึกษาในระบบระดับ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สําหรับการจบหลักสูตรใหเปนไปตามเกณฑการจบหลักสูตรของสถานศึกษาที่ผูเรียน จบหลกั สตู ร ๓. สถานศึกษาที่เริ่มใชหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หากมีผูเรียน ตองแกไขผลการเรียนและ/หรือเรียนซํ้ารายวิชาของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ใหสถานศึกษาจัดใหแกไขผลการเรียนและ/หรือเรียนซํ้ารายวิชาจากรายวิชาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ โดยพจิ ารณาผลการเรยี นรทู ีค่ าดหวังของรายวิชานน้ั ๆ ตามหลักสูตรการศกึ ษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ เทียบเคียงกับตัวช้ีวัดของรายวิชาน้ัน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หากไมค รบถว นใหจัดเพิ่มเตมิ ใหค รบตามเกณฑหลกั สูตรการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ทั้งน้ี ตองดําเนินการใหเสร็จสิ้นภายในปการศึกษาแรกของช้ันปท่ีใชหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ทงั้ นี้ ตงั้ แตป การศกึ ษา ๒๕๕๒ เปนตน ไป ส่งั ณ วนั ที่ ๓๐ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ (นายจุรนิ ทร ลักษณวศิ ิษฏ) รฐั มนตรีวาการกระทรวงศึกษาธกิ าร แนวปฏิบัตกิ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู 189 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p189 6/10/2558 9:22:02

คําส่งั กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๕/๒๕๕๖ เรื่อง การปรบั แบบพิมพระเบยี นแสดงผลการเรยี นหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน (ปพ.๑) --------------------------------- ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการไดมีคําส่ังท่ี สพฐ. ๖๑๖/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เร่ือง การจัดทําระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน (ปพ.๑) เพื่อใหสถานศึกษา จดั ทาํ ระเบยี นแสดงผลการเรยี นไดถ กู ตอ งในแนวทางเดยี วกนั อนั จะกอ ใหเ กดิ ประโยชนใ นการสอื่ สาร ความเขา ใจ ที่ตรงกัน นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการมีประกาศใหใชผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน เปนองคประกอบหน่ึงในการตัดสินผลการเรียนของผูเรียนที่จบการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพอื่ เปนผลสะทอ นคณุ ภาพผูเ รียน ซ่งึ เรม่ิ ใชต ้งั แตป ก ารศึกษา ๒๕๕๕ เปน ตน ไป โดยใหบันทึกผลการเรียนของผูเรียนและผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐานในสัดสวนท่ีกําหนดไวในระเบียน แสดงผลการเรียน จึงมีความจําเปนท่ีจะตองปรับแบบพิมพระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน (ปพ.๑) ท้ัง ๓ แบบ คือ ๑. ระเบียนแสดงผลการเรยี นหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ระดับประถมศึกษา (ปพ.๑ : ป) ๒. ระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนตน (ปพ.๑ : บ) ๓. ระเบยี นแสดงผลการเรยี นหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ปพ.๑ : พ) จึงใหสถานศึกษาจัดทําระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (ปพ.๑) ใหผูเรียนตามแบบพิมพท่ีปรับใหม โดยปฏิบัติตามคําอธิบายการกรอกระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ท่แี นบทา ยคาํ ส่งั นี้ ทง้ั นี้ ตงั้ แตปการศกึ ษา ๒๕๕๕ เปนตนไป ส่งั ณ วนั ที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ (นายพงศเทพ เทพกาญจนา) รฐั มนตรีวา การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 190 แนวปฏบิ ัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p190 6/10/2558 9:22:02

ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่ือง การใชผ ลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ นั้ พนื้ ฐานเปน องคป ระกอบหนงึ่ ในการตดั สนิ ผลการเรยี น ของผูเรียนทจี่ บการศกึ ษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ------------------------------ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศใชหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่งเปนหลกั สตู รองิ มาตรฐาน (Standards-Based Curriculum) เพื่อใหส ถานศกึ ษาใชม าตรฐานการเรยี นรแู ละ ตัวชี้วัดเปนกรอบแนวทางในการจัดทําหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพผูเรียนใหเปนไปตามบริบทของ สถานศึกษาเปนการกระจายอํานาจดานวิชาการไปสูสถานศึกษา ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนจึงเปนส่ิงที่สะทอน ถึงคุณภาพผูเรียนท่ีสถานศึกษาตองรับผิดชอบ ซ่ึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจะตองไดมาจากวิธีการประเมินท่ีมี มาตรฐาน ปจ จบุ นั สถาบนั ทดสอบทางการศกึ ษาแหง ชาติ (องคก ารมหาชน) ไดด าํ เนนิ การทดสอบนกั เรยี นทกุ คน ในระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ มัธยมศึกษาปท่ี ๓ และมัธยมศึกษาปท ี่ ๖ ในชวงกอนจบการศึกษาตามหลักสูตร ดังนั้น ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-Net) จึงเปนเครื่องบงบอกคุณภาพของผูเรียน ที่เกิดจากการจัดการเรียนรูและการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาโดยรวม และเปนผลสะทอนท่ีสถานศึกษา สามารถแสดงความรบั ผิดชอบไดอ ยา งเปน รปู ธรรม ดงั นนั้ อาศยั อาํ นาจตามมาตรา ๘ และมาตรา ๑๒ แหง พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวง ศึกษาธกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๖ กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศใหส ถานศึกษาทจี่ ัดการศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ใหใ ชผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ั้นพ้นื ฐาน (O-Net) ของ ผเู รยี นเปน องคป ระกอบหนง่ึ ในการตดั สนิ ผลการเรยี นของผเู รยี นทจ่ี บการศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา ขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ทง้ั ระดบั ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ทั้งน้ี ในระยะเรม่ิ แรกใหใชผ ลการเรยี นของผเู รยี นทปี่ ระเมนิ โดยสถานศกึ ษา และผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับ ชาติขั้นพน้ื ฐาน (O-Net) ในสดั สว น ๘๐ : ๒๐ โดยอาจปรบั สัดสวนเพมิ่ ขึน้ ไดตามความเหมาะสมในโอกาสตอไป ท้งั นี้ ใหสถานศกึ ษาดําเนินการตั้งแตปการศกึ ษา ๒๕๕๕ เปน ตนไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๑ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕ (ศาสตราจารยสุชาติ ธาดาธาํ รงเวช) รัฐมนตรวี า การกระทรวงศึกษาธิการ แนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู 191 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p191 6/10/2558 9:22:02

ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เรื่อง การใชผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ั้นพื้นฐาน เปน องคประกอบหน่ึงในการตดั สิน ผลการเรยี นของผูเรยี นท่ีจบการศกึ ษาตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ สาํ หรบั กลมุ เปาหมายเฉพาะ --------------------------------- ตามทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดป ระกาศใหส ถานศกึ ษาทจี่ ดั การศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา ขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ใชผ ลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ น้ั พนื้ ฐานเปน องคป ระกอบหนง่ึ ในการ ตัดสนิ ผลการเรียนของผูเรยี นที่จบการศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ทั้งระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนตน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยในระยะเริ่มแรกใหใช ผลการเรยี นของผเู รยี นทปี่ ระเมนิ โดยสถานศกึ ษาและผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ นั้ พนื้ ฐาน (O-net) ในสดั สวน ๘๐ : ๒๐ ตงั้ แตปการศกึ ษา ๒๕๕๕ เปน ตนไปน้นั ทําใหการจดั การศึกษาสาํ หรับกลมุ เปา หมายเฉพาะ ทีม่ คี วามแตกตา งในดานเปา หมาย การจดั หลักสูตรและการเรียนการสอน รวมทง้ั การบรหิ ารจัดการ ซึ่งเปนไปตาม ปรัชญา จุดเนน หรอื ศกั ยภาพและความตอ งการของผเู รียนทแี่ ตกตา งกนั ไดร ับผลจากประกาศฉบบั ดงั กลา วดว ย กระทรวงศกึ ษาธิการจึงเห็นสมควรประกาศเพมิ่ เติม สําหรับกลุมเปาหมายเฉพาะ โดยกําหนดใหเปน ทางเลือกในการจัดใหผูเรียนไดรับการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน และการใชผลการทดสอบ ทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ นั้ พนื้ ฐานเปน องคป ระกอบหนงึ่ ในการตดั สนิ ผลการเรยี นของผเู รยี นทจี่ บการศกึ ษาตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ทงั้ น้ี ใหค ํานงึ ถงึ สทิ ธิ โอกาส และประโยชนสูงสุด ของผูเรียนเปน สําคญั ทง้ั นี้ ต้งั แตป ก ารศกึ ษา ๒๕๕๕ เปนตน ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๘ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ (ศาสตราจารยส ุชาติ ธาดาธํารงเวช) รฐั มนตรวี าการกระทรวงศึกษาธกิ าร 192 แนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p192 6/10/2558 9:22:02

ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เร่อื ง การปรับสัดสว นการใชผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขน้ั พ้ืนฐาน เปน องคป ระกอบหน่งึ ในการตัดสินผลการเรยี นของผูเ รียนท่จี บการศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ------------------------------ ตามท่ี กระทรวงศึกษาธิการไดออกประกาศ เรื่อง การใชผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ข้ันพื้นฐานเปนองคประกอบหน่ึงในการตัดสินผลการเรียนของผูเรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ลงวันท่ี ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ กําหนดใหสถานศึกษา ทจ่ี ดั การศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ใชผ ลการทดสอบทางการศกึ ษา ระดบั ชาตขิ น้ั พน้ื ฐาน (O-NET) ของผเู รยี นเปน องคป ระกอบหนง่ึ ในการตดั สนิ ผลการเรยี นของผเู รยี นทจ่ี บการศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ทั้งระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ตอนตน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยในระยะเร่ิมแรกใหใชผลการเรียนของผูเรียนท่ีประเมิน โดยสถานศึกษาและผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) ในสัดสวน ๘๐ : ๒๐ โดยอาจปรับสัดสวนเพ่มิ ขึ้นไดตามความเหมาะสมในโอกาสตอ ไป นน้ั เพอ่ื ใหม คี วามเหมาะสมและเปน ไปตามลาํ ดบั ขนั้ ในการปรบั สดั สว นของแนวทางการใชผ ลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) เปนองคประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของผูเรียน ทจ่ี บการศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ อาศยั อาํ นาจตามมาตรา ๘ และ มาตรา ๑๒ แหงพระราชบัญญัติระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ กระทรวงศึกษาธิการ จึงยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การใชผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน เปนองคประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของผูเรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับลงวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ และใหใชประกาศนี้แทน โดยให สถานศกึ ษาทจ่ี ัดการศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ใชผ ลการทดสอบ ทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ นั้ พนื้ ฐาน (O-NET) ของผเู รยี นเปน องคป ระกอบหนง่ึ ในการตดั สนิ ผลการเรยี นของผเู รยี น ทีจ่ บการศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ทั้งระดบั ประถมศึกษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน และระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ทั้งนี้ ในปก ารศึกษา ๒๕๕๗ ใหใ ชผ ลการเรียนของผูเรยี น ท่ีประเมนิ โดยสถานศึกษาและผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้นั พื้นฐาน (O-NET) ในสัดสวน ๗๐ : ๓๐ และในปการศกึ ษา ๒๕๕๘ เปนตนไป ใหใชผลการเรียนของผเู รียนทป่ี ระเมนิ โดยสถานศกึ ษาและผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดบั ชาตขิ น้ั พน้ื ฐาน (O-NET) ในสัดสวน ๕๐ : ๕๐ แนวปฏิบัตกิ ารวดั และประเมินผลการเรยี นรู 193 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p193 6/10/2558 9:22:03

ท้ังน้ี ใหส ถานศึกษาดําเนินการ ตงั้ แตป ก ารศกึ ษา ๒๕๕๗ เปน ตน ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ (นายจาตรุ นต ฉายแสง) รฐั มนตรีวาการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 194 แนวปฏบิ ัติการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p194 6/10/2558 9:22:03

ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรื่อง การเพม่ิ วชิ าหนา ทีพ่ ลเมืองเปน รายวชิ าเพ่มิ เติม ในหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ --------------------------------- ตามนโยบายคณะรกั ษาความสงบแหง ชาติ (คสช.) และนโยบายรฐั บาลทตี่ อ งการใหม กี ารสง เสรมิ เดก็ และเยาวชนของชาติ ไดมีความรูความเขาใจในเรื่องประวัติศาสตรความเปนไทย รักชาติ ศาสนา และเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย และเปน พลเมืองทีด่ ีในระบอบประชาธปิ ไตย มีความปรองดอง สมานฉันท เพื่อสันติสขุ ในสงั คมไทย นั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ และมาตรา ๑๒ แหงพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ กระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศกําหนดใหสถานศึกษาทุกสังกัดเพ่ิม “วชิ าหนา ทพ่ี ลเมอื ง” ลงในหลกั สตู รสถานศกึ ษา โดยจดั เปน รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ในกลมุ สาระการเรยี นรสู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ทุกระดบั ชั้นและทกุ ชวงชั้น ของการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน อนงึ่ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ไดจ ดั ทาํ กรอบคาํ อธบิ าย รายวชิ าเพมิ่ เตมิ “วชิ าหนา ทพ่ี ลเมอื ง” และแนวปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั เรอ่ื งดงั กลา วสาํ หรบั ใหส ถานศกึ ษาทจี่ ดั การเรยี นรู ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ นาํ ไปจดั ทาํ รายละเอยี ดในหลกั สตู รสถานศกึ ษา โดยมรี ายละเอียดแนบทายประกาศนี้ ทงั้ นี้ ตั้งแตภ าคเรียนที่ ๒ ปก ารศึกษา ๒๕๕๗ เปนตนไป ประกาศ ณ วันท่ี ๒๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๗ พลเรอื เอก (ณรงค พพิ ัฒนาศัย) รฐั มนตรวี าการกระทรวงศึกษาธิการ แนวปฏิบตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู 195 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p195 6/10/2558 9:22:03

ที่ ศธ ๐๔๐๑๐/ว๗๗๙ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กทม. ๑๐๓๐๐ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ เรอ่ื ง แนวปฏิบัตทิ ี่สอดคลองกบั นโยบายการจัดการเรียนการสอนประวตั ิศาสตรแ ละหนาทพ่ี ลเมอื ง เรยี น ผูอ ํานวยการสํานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาทุกเขต สง่ิ ที่สงมาดวย โครงสรางเวลาเรียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารมนี โยบายเกย่ี วกบั การปรบั ปรงุ หลกั สตู รการเรยี นการสอน และการบรหิ าร จัดการศึกษา เรื่อง การปลูกฝงคุณธรรม จริยธรรม การสรางวินัย การมีจิตสํานึกรับผิดชอบตอสังคม ยึดม่ัน ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย และมีความภาคภูมิใจในความเปนไทย ตลอดจนการเรียนการสอน ในวิชาประวัติศาสตรและหนาท่ีพลเมือง รวมถึงการสอนศีลธรรมแกนักเรียนซึ่งเปนสิ่งสําคัญและควรสงเสริม การเรียนใหเขมขน นั้น เพ่ือใหมีความชัดเจนในการปฏิบัติ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จึงกําหนดแนวปฏิบตั ิ ดงั น้ี ๑. การจดั การเรยี นการสอนประวตั ศิ าสตร ใหเ ปน ไปตามโครงสรา งเวลาเรยี นของหลกั สตู รแกนกลาง การศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๒. การจัดการเรียนการสอนหนาท่ีพลเมือง ใหสถานศึกษาจัดรายวิชาหนาท่ีพลเมืองเปนรายวิชา เพมิ่ เตมิ ทกุ ระดับช้นั และชว งชน้ั โดยดําเนนิ การดงั นี้ ระดบั ประถมศกึ ษา (ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๑ - ๖) และระดบั มัธยมศึกษาตอนตน (ชั้นมัธยมศกึ ษา ปท ี่ ๑ - ๓) ใหส ถานศกึ ษาจัดรายวชิ า “หนาท่ีพลเมือง” เปน รายวิชาเพิ่มเติม จํานวน ๔๐ ชั่วโมงตอ ป ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี ๔ - ๖) ใหส ถานศกึ ษาจดั รายวชิ า “หนา ทพ่ี ลเมอื ง” เปน รายวิชาเพิ่มเติม จํานวน ๘๐ ชวั่ โมงตลอด ๓ ป (๒ หนวยกติ ) จงึ เรียนมาเพ่ือทราบ และแจง ใหส ถานศกึ ษาทกุ แหงพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษาใหเปนไปตามแนวปฏบิ ตั ิ ดังกลาว โดยดําเนินการต้งั แตภ าคเรยี นท่ี ๒ ของปการศึกษา ๒๕๕๗ เปน ตน ไป ทงั้ น้ี สาํ นกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานจะดาํ เนนิ การจดั ทาํ คมู อื การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนและสื่อการเรียนรูต อไป ขอแสดงความนับถือ (นายอภิชาติ จีระวุฒ)ิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน สาํ นักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา กลมุ พัฒนาหลกั สตู รและมาตรฐานการเรียนรู โทร. ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๗๘ โทรสาร ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๘๐ 196 แนวปฏบิ ัตกิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p196 6/10/2558 9:22:03

ที่ ศธ ๐๔๐๑๐/ว๑๒๓๙ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กทม. ๑๐๓๐๐ ๑ กันยายน ๒๕๕๗ เรื่อง ชแี้ จงแนวปฏบิ ตั ทิ สี่ อดคลองกบั นโยบายการจัดการเรียนการสอนหนาทีพ่ ลเมอื งเพมิ่ เตมิ เรยี น ผอู าํ นวยการสํานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาทุกเขต อางถึง หนังสือสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ท่ี ศธ ๐๔๐๑๐/ว๗๗๙ ลงวันที่ ๒๖ มถิ ุนายน ๒๕๕๗ ตามหนังสือท่ีอางถึง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไดมีหนังสือแจงแนวปฏิบัติ ท่ีสอดคลอ งกับนโยบายการจดั การเรียนการสอนประวตั ศิ าสตรและหนาท่ีพลเมือง ดงั นี้ ๑. การจดั การเรยี นการสอนประวตั ศิ าสตร ใหเ ปน ไปตามโครงสรา งเวลาเรยี นของหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๒. การจัดการเรียนการสอนหนาที่พลเมือง ใหสถานศึกษาจัดรายวิชาหนาท่ีพลเมืองเปนรายวิชา เพมิ่ เติม ทุกระดับชั้นและชวงชัน้ โดยดาํ เนินการดังน้ี ระดบั ประถมศกึ ษา (ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๑ - ๖) และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน (ชน้ั มธั ยมศกึ ษา ปท ี่ ๑ - ๓) ใหส ถานศึกษาจัดรายวิชา “หนาท่พี ลเมอื ง” เปนรายวิชาเพ่มิ เติม จาํ นวน ๔๐ ชวั่ โมงตอ ป ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี ๔ - ๖) ใหส ถานศกึ ษาจดั รายวชิ า “หนา ทพ่ี ลเมอื ง” เปนรายวิชาเพ่มิ เติม จํานวน ๘๐ ชวั่ โมงตลอด ๓ ป (๒ หนว ยกิต) นั้น เพื่อใหเปนไปตามแนวปฏิบัติดังกลาว สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ขอชี้แจง เพม่ิ เตมิ ดงั นี้ ๑. ใหส ถานศกึ ษาเพมิ่ รายวชิ า“หนา ทพี่ ลเมอื ง”ลงในหลกั สตู รของสถานศกึ ษาเปน “รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ” ในกลุม สาระการเรียนรูส งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม คือ ๑.๑ ระดบั ประถมศกึ ษา (ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๑ - ๖) จาํ นวน ๖ รายวชิ า รายวชิ าละ ๔๐ ชว่ั โมง ตอป ๑.๒ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน (ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี ๑ - ๓) จํานวน ๖ รายวิชา รายวิชาละ ๒๐ ชั่วโมง (๐.๕ หนว ยกิต) ตอ ภาคเรยี น ๑.๓ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ ๔ - ๖) จาํ นวน ๔ รายวชิ า รายวิชาละ ๒๐ ช่วั โมง (๐.๕ หนว ยกติ ) ตอภาคเรียน (ตลอด ๓ ป ๒ หนวยกติ ) แนวปฏบิ ัติการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู 197 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p197 6/10/2558 9:22:03

๒. ใหสถานศึกษากําหนดรหัสรายวิชาเพ่ิมเติมหนาท่ีพลเมือง ในกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใชรหสั รายวิชาหลักที่ ๑ - ๔ ตามท่กี ําหนด สว นหลกั ท่ี ๕ และ ๖ ลาํ ดับท่ขี องรายวชิ า ใหเปนตามที่สถานศึกษากําหนด แลวนําเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาใหความเห็นชอบ โดยสถานศึกษา ทาํ หมายเหตทุ ายโครงสรา งหลักสตู รวา เพิ่มตามหนังสอื ที่ ศธ ๐๔๐๑๐/ว๗๗๙ ลงวันท่ี ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ ๓. สําหรบั ภาคเรียนที่ ๒ ปการศกึ ษา ๒๕๕๗ น้ี ใหสถานศกึ ษาจดั การเรยี นการสอนรายวิชาเพม่ิ เติม “หนา ท่พี ลเมือง” ดงั นี้ ๓.๑ ระดับประถมศึกษา ใหสถานศกึ ษาจัดการเรียนการสอนรายวชิ าหนา ทพี่ ลเมือง - ชั้นประถมศกึ ษาปที่ ๑ จดั การเรยี นการสอนรายวิชาหนาทพ่ี ลเมือง ๑ - ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ จัดการเรยี นการสอนรายวชิ าหนา ท่ีพลเมอื ง ๒ - ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ ๓ จดั การเรยี นการสอนรายวชิ าหนาท่พี ลเมอื ง ๓ - ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๔ จดั การเรยี นการสอนรายวิชาหนา ท่พี ลเมือง ๔ - ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ ๕ จัดการเรยี นการสอนรายวิชาหนาที่พลเมอื ง ๕ - ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖ จัดการเรียนการสอนรายวิชาหนา ท่พี ลเมือง ๖ โดยใชเวลาเรียน ๒๐ ช่ัวโมง ใหมีการวัดและประเมินผลโดยคิดเวลาเรียน ไมนอยกวา รอยละ ๘๐ จากเวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง ๓.๒ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน ใหสถานศกึ ษาจัดการเรียนการสอนรายวชิ าหนาทีพ่ ลเมอื ง - ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี ๑ จัดการเรยี นการสอนรายวชิ าหนาที่พลเมอื ง ๒ เวลาเรยี น ๒๐ ช่ัวโมง (๐.๕ หนว ยกติ ) ตอ ภาคเรียน - ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ ๒ จดั การเรยี นการสอนรายวชิ าหนาท่พี ลเมือง ๔ เวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง (๐.๕ หนว ยกิต) ตอ ภาคเรยี น - ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ ๓ จดั การเรียนการสอนรายวิชาหนา ที่พลเมือง ๖ เวลาเรียน ๒๐ ชัว่ โมง (๐.๕ หนว ยกิต) ตอ ภาคเรยี น และใหม ีการวดั และประเมินผลเปน รายวิชา ๓.๓ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ใหส ถานศกึ ษาจัดการเรียนการสอนรายวชิ าหนา ที่พลเมือง - ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี ๔ จัดการเรียนการสอนรายวิชาหนาท่ีพลเมอื ง ๑ เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง (๐.๕ หนว ยกิต) ตอ ภาคเรียน - ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี ๕ จัดการเรียนการสอนรายวิชาหนา ที่พลเมือง ๒ เวลาเรียน ๒๐ ชวั่ โมง (๐.๕ หนวยกติ ) ตอภาคเรียน - ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ ๖ จัดการเรียนการสอนรายวิชาหนา ทพ่ี ลเมือง ๔ เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง (๐.๕ หนวยกิต) ตอ ภาคเรยี น และใหม กี ารวัดและประเมินผลเปน รายวชิ า 198 แนวปฏบิ ัติการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p198 6/10/2558 9:22:03

ตง้ั แตป ก ารศกึ ษา ๒๕๕๘ เปน ตน ไป ใหส ถานศกึ ษาจดั การเรยี นการสอนรายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนา ทพ่ี ลเมอื ง เปนไปตามหลักสูตรสถานศึกษาที่ปรับปรุงแลว ท้ังนี้ สถานศึกษาสามารถดาวนโหลดขอมูลไดจากเว็บไซต สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน (http://www.obec.go.th) และหนวยงานทเ่ี กีย่ วของ จึงเรียนมาเพื่อทราบและแจงใหสถานศึกษาทุกแหงพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาใหเปนไปตาม แนวปฏบิ ัติดังกลาว ขอแสดงความนบั ถอื (นายกมล รอดคลาย) เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน สาํ นักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา กลุม พฒั นาหลักสตู รและมาตรฐานการเรียนรู โทร. ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๗๘ โทรสาร ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๘๐ แนวปฏบิ ัติการวดั และประเมินผลการเรียนรู 199 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p199 6/10/2558 9:22:03

การกาํ หนดรหสั รายวิชาเพ่มิ เตมิ หนาทพ่ี ลเมือง เพื่อใหการกําหนดรหัสรายวิชาเพิ่มเติมหนาท่ีพลเมือง เปนไปในแนวทางเดียวกัน จึงกําหนด รหสั ตัวเลขแสดงลําดบั รายวิชาเพมิ่ เติมหนา ท่ีพลเมือง ดังน้ี หลักท่ี ๑ ส รหัสตัวอักษรกลุมสาระการเรยี นรสู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม หลกั ที่ ๒ รหัสตวั เลขแสดง ระดับการศกึ ษา ๑ ระดบั ประถมศกึ ษา ๒ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน ๓ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หลักท่ี ๓ รหสั ตัวเลขแสดง ปที่เรียนของรายวชิ า ๐ รายวชิ าทไี่ มก ําหนดปท ่ีเรียน ๑ รายวิชาที่เรียนในปท่ี ๑ ๒ รายวิชาท่ีเรยี นในปท ่ี ๒ ๓ รายวิชาทีเ่ รยี นในปท่ี ๓ ๔ รายวชิ าทเี่ รียนในปท ่ี ๔ ๕ รายวิชาท่ีเรยี นในปที่ ๕ ๖ รายวชิ าทเ่ี รียนในปท ่ี ๖ หลักที่ ๔ รหสั ตวั เลขแสดง ประเภทรายวชิ า ๑ รายวชิ าพื้นฐาน ๒ รายวชิ าเพิม่ เตมิ หลักที่ ๕ และหลกั ท่ี ๖ เปนรหัสตัวเลขแสดง ลําดับรายวิชา โดยกําหนดรหัสตัวเลขแสดงลําดับ รายวชิ า ดงั นี้ ลาํ ดบั ท่ี ๓๑ - ๓๖ แสดงลาํ ดบั รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หนา ท่พี ลเมืองในระดบั ประถมศกึ ษา และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน ลําดับท่ี ๓๑ - ๓๔ แสดงลาํ ดบั รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนา ทพี่ ลเมอื งในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตัวอยา ง การกาํ หนดรหสั รายวิชาเพิ่มเติมหนาที่พลเมอื ง ระดับประถมศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ส๑๑๒๓๑ รายวชิ าหนาทพ่ี ลเมอื ง ๑ ส๒๑๒๓๑ รายวิชาหนาทีพ่ ลเมือง ๑ ส๓๐๒๓๑ รายวชิ าหนา ทีพ่ ลเมอื ง ๑ ส๑๒๒๓๒ รายวิชาหนา ทพี่ ลเมอื ง ๒ ส๒๑๒๓๒ รายวิชาหนา ทีพ่ ลเมือง ๒ ส๓๐๒๓๒ รายวชิ าหนาที่พลเมอื ง ๒ ส๑๓๒๓๓ รายวชิ าหนาท่ีพลเมือง ๓ ส๒๒๒๓๓ รายวิชาหนาท่พี ลเมือง ๓ ส๓๐๒๓๓ รายวิชาหนาท่ีพลเมือง ๓ ส๑๔๒๓๔ รายวชิ าหนาที่พลเมอื ง ๔ ส๒๒๒๓๔ รายวิชาหนา ทีพ่ ลเมือง ๔ ส๓๐๒๓๔ รายวชิ าหนาท่ีพลเมอื ง ๔ ส๑๕๒๓๕ รายวชิ าหนาทพี่ ลเมือง ๕ ส๒๓๒๓๕ รายวชิ าหนาท่พี ลเมือง ๕ ส๑๖๒๓๖ รายวิชาหนาที่พลเมอื ง ๖ ส๒๓๒๓๖ รายวิชาหนาที่พลเมอื ง ๖ 200 แนวปฏบิ ัตกิ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p200 6/10/2558 9:22:03

ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรอ่ื ง หลกั การและแนวปฏบิ ตั กิ ารเทียบช้นั การศึกษา สําหรบั นกั เรียนทเ่ี ขารวมโครงการแลกเปลี่ยน --------------------------------- เพอ่ื ใหก ารจดั นกั เรยี นเขา ชน้ั เรยี นไดอ ยา งเหมาะสม และเพอื่ ใหส ถานศกึ ษา ผปู กครองและนกั เรยี น องคก รเอกชนทีด่ ําเนินโครงการแลกเปล่ียน และสถาบันการศกึ ษาในระดบั อุดมศึกษา สามารถดําเนินการ ในสวนที่เกี่ยวของกับการเทียบชั้นการศึกษาไดอยางถูกตองและมีแนวเดียวกัน จึงใหยกเลิกหลักการ เทียบช้ันการศึกษาสําหรับนักเรียนท่ีเขารวมโครงการแลกเปลี่ยนไปศึกษาตอตางประเทศในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ท่ีกําหนดไวกอนใชประกาศฉบับนี้ และใหใชหลักการและแนวปฏิบัติการเทียบชั้น การศึกษา สําหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เขารวมโครงการแลกเปลี่ยนไปศึกษาตอ ตา งประเทศเปนระยะเวลา ๑ ปการศึกษา ทกุ โครงการ ดังน้ี หลกั การ ๑. การเทียบช้นั การศกึ ษาใหพ ิจารณาจากองคป ระกอบทสี่ าํ คัญ ดังนี้ ๑.๑ พ้ืนความรเู ดิมของนกั เรียนกอ นเดนิ ทาง ๑.๒ หลักฐานการศึกษาที่ไดรับจากตางประเทศ เปนใบแสดงผลการเรียนเปนรายวิชา ทไ่ี ดร ับการประเมนิ ผลการเรยี นแลว ๑.๓ สถานศึกษาในตางประเทศท่ีจะเทียบช้ันการศึกษาใหจะตองเปนสถานศึกษาของรัฐ หากเปนสถานศึกษาของเอกชนจะตองไดรับการรับรองมาตรฐาน (Accredited) จากรัฐบาลหรือองคกร ทม่ี หี นา ทใี่ นการรบั รองมาตรฐานทไ่ี ดร บั การยอมรบั เปน สากล หรอื เปน สถานศกึ ษาทเ่ี ปด สอนตามหลกั สตู ร ของรัฐ ๒. ใหเทียบช้ันการศึกษาตามลําดับชั้นตอเนื่องจากท่ีไดเรียนอยูในประเทศไทย ไมวาจะเปน การเรยี นตอเนือ่ ง การเรียนซาํ้ ชน้ั หรอื การเรยี นขา มชน้ั ในตา งประเทศ ๓. การพิจารณาเทียบช้ันการศึกษาใหพิจารณาเปนรายกรณี ตามตารางเทียบช้ันการศึกษา สาํ หรบั นกั เรียนทีเ่ ขา รว มโครงการแลกเปลย่ี นไปศึกษาตอตางประเทศ ๔. ใหนับเวลาเรยี นตอ เนือ่ งในตางประเทศและในประเทศ โดยไมถอื วาขาดเรียน ๕. ชั้นท่ีไดเรียนในตางประเทศ ใหโอนหนวยการเรียนภายในปการศึกษาเดียวกัน ยกเวน ภาคเรียนท่ี ๒ ชั้น ม.๖ ไมใหโอนหนว ยการเรียน แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู 201 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p201 6/10/2558 9:22:04

๖. รายวิชาในช้ันเรียน/ภาคเรียนที่ไดเรียนในตางประเทศจะไดรับการยอมรับผลการเรียน ใหเปนสวนหน่ึงของหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ใหโอนหนวยการเรียนตามแผนการเรียนในประเทศ แตไมตองนําหนวยการเรียนที่โอนมาคิดระดับผลการเรียนเฉล่ียเพ่ือประกอบการอนุมัติการจบหลักสูตร มัธยมศึกษาตอนปลาย หากจะคิดระดับผลการเรียนเฉลี่ยเพ่ือประกอบการศึกษาตอในระดับอุดมศึกษา หรือเพอื่ ประโยชนในการประกอบอาชีพ ใหเปน ดุลยพินิจของสถาบนั การศึกษาระดับอุดมศกึ ษา หรอื หนว ยงาน ที่รับสมัคร ที่จะคิดระดับผลการเรียนเฉลี่ยตามเกณฑสากล โดยพิจารณาจากใบแสดงผลการเรียนที่ไดรับ จากตางประเทศ ๗. ปการศึกษาที่อยูระหวางศึกษาตอในตางประเทศ หากรายวิชาในภาคเรียนใดในประเทศ ทม่ี ีระดับผลการเรียนแลว ไมต องโอนหนวยการเรียนในภาคเรียนนนั้ ซํา้ อกี ๘. โรงเรียนสามารถจดั สอบปลายภาคเรยี นใหก ับนักเรียน กอ นกําหนดเดนิ ทางไปตางประเทศ ๙. ใหป ระเมินความรคู วามสามารถ หลังการจดั เขาช้นั เรียน เพื่อเตรยี มพืน้ ฐานการเรยี น ๑๐. การอนุญาตลาพักการเรยี น การจัดสอบปลายภาคใหก ับนกั เรยี นกอนเดินทาง การประเมนิ ความรูความสามารถหลังจากนักเรียนเดินทางกลับ และการจัดเขาช้ันเรียน ใหเปนอํานาจหนาท่ีของ สถานศึกษา และใหอยูใ นดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษา ๑๑. นักเรียนที่ไดเรียนจบเกรด ๑๒ ในตางประเทศ แตไมไดประกาศนียบัตร/Transcript ที่แสดงการจบหลักสูตร High School โดยสมบูรณ ไมสามารถขอเทียบความรูเทามัธยมศึกษาตอนปลาย สวนนักเรียนที่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑการเทียบความรูเทามัธยมศึกษาตอนปลาย หากประสงค จะขอใบเทยี บความรู ใหย น่ื คาํ รอ งขอทก่ี รมวชิ าการ พรอ มแสดงประกาศนยี บตั รและ/หรอื ใบแสดงผลการเรยี น (Transcript) ท่จึี บการศึกษาโดยสมบรู ณต ามรูปแบบเฉพาะของหลกั ฐานการศกึ ษาของประเทศน้ัน ๆ แนวปฏิบตั สิ ําหรับสถานศกึ ษา ๑. ใหประสานงานกับองคกรเอกชนที่จัดโครงการแลกเปลี่ยน เพ่ือการจัดสงขอมูลที่เก่ียวของ กับการดําเนินกิจการโครงการแลกเปลี่ยน ในดานการจัดกิจกรรมในประเทศและตางประเทศ รวมท้ัง สาํ นกั งานเครอื ขายในตางประเทศทีเ่ ปน ผูดแู ลนักเรียนไทยในตางประเทศตลอดระยะเวลา ๑ ปก ารศึกษา เพ่อื ความเขา ใจทถ่ี ูกตองตรงกัน และเพื่อการบริการขอ มลู ขาวสารท่ถี กู ตอง ๒. จัดใหมีบริการขอมูลขาวสาร การใหคําแนะนํา คําปรึกษา อยางเปนระบบแกนักเรียน และผปู กครองท่สี นใจ ๓. ใหโรงเรียนกําหนดหลักเกณฑและแนวปฏิบัติสําหรับนักเรียนท่ีเขารวมโครงการแลกเปล่ียน และจัดทําขอตกลงรวมกันเปนลายลักษณอักษร ระหวางโรงเรียนและนักเรียน/ผูปกครอง ในเรื่องการลา พกั การเรยี น การจดั เตรยี มหลกั ฐานการศกึ ษากอ นเดนิ ทาง การายงานตวั เพอ่ื กลบั เขา ชน้ั เรยี น และการเทยี บชน้ั การศกึ ษาเพอ่ื การเรยี นตอเน่ือง 202 แนวปฏบิ ตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p202 6/10/2558 9:22:04

๔. ใหโ รงเรียนแจง ใหน กั เรียนทราบแนวปฏิบตั ิสาํ หรบั นักเรยี นท่ีเขา รว มโครงการแลกเปลย่ี น ๕. ใหโ รงเรยี นรายงานใหก รมตน สงั กดั ทราบในการอนญุ าตใหน กั เรยี นเขา รว มโครงการแลกเปลยี่ น พรอมท้ังใหขอมูลที่เกี่ยวของของโครงการแลกเปล่ียน โดยจัดเก็บเปนขอมูลสารสนเทศ เพ่ือการปรับปรุง หรือเพ่ือการแกไขปญ หาทอ่ี าจเกดิ ขึ้น ทง้ั นี้ ใหค าํ นึงถงึ ประโยชนของผเู รยี นสูงสดุ ๖. ใหโ อนหนว ยการเรยี นตามแผนการเรยี นทน่ี กั เรยี นเลอื กเรยี นในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ในประเทศไทยภายในปก ารศกึ ษาเดยี วกนั ในภาคเรยี นทไ่ี ปเรยี นในตา งประเทศและยงั ไมม รี ะดบั ผลการเรยี น ในประเทศไทย ยกเวนภาคเรียนท่ี ๒ ของชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี ๖ ๗. ในกรณที ม่ี คี วามจาํ เปน ตอ งจดั สอบกอ นกาํ หนดเวลาสอบปลายภาคเรยี นใหก บั นกั เรยี นกอ น เดนิ ทาง ใหส ถานศกึ ษาจดั สอนจนครบจาํ นวนคาบเรยี นและจดั สอบใหค รบทกุ รายวชิ าในภาคเรยี นนน้ั และ ใหร ะบรุ ะดบั ผลการเรยี นในรายวชิ าทไี่ ดจ ดั สอบ ตามแนวการประเมนิ ผลการเรยี นตามหลกั สตู รมธั ยมศกึ ษา ตอนปลาย ๘. หลังจากท่ีนักเรียนเดินทางกลับจากเขารวมโครงการแลกเปลี่ยนและไดรายงานตัวกลับเขา ชั้นเรียน เพ่ือเปนการเตรียมความพรอมใหกับนักเรียนในการเรียนตอในชั้นสูงขึ้น สถานศึกษาสามารถจัด สอนซอ มเสรมิ เพ่ือเสริมพน้ื ฐานใหเพยี งพอ ในกรณที ผี่ ลการประเมินบางรายวชิ าอยใู นระดับไมนา พอใจ ๙. นกั เรยี นทจ่ึี บมธั ยมศกึ ษาปท ี่ ๕ แลว หรอื กาํ ลงั เรยี นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี ๖ หากไปเรยี นหลกั สตู ร มธั ยมศกึ ษาตอนปลายในตา งประเทศ และไมไ ดป ระกาศนยี บตั รและใบแสดงผลการเรยี นเปน รายวชิ า ใหโ อน หนว ยการเรยี นใหใ นภาคเรยี นทย่ี งั ไมม ผี ลการเรยี นของชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี ๖ และโรงเรยี นจะตอ งประเมนิ ผล การเรยี นในรายวชิ าของภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ ๖ ตามแนวการประเมนิ ผลการเรยี นตามหลกั สตู ร มัธยมศึกษาตอนปลาย จึงจะอนุมตั ิใหจ บการศกึ ษาตามหลักสูตรมธั ยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียน ๑๐. ในการพิจารณาเทยี บชน้ั การศึกษาในแตละชน้ั มแี นวปฏิบตั ิดงั ตารางตอ ไปน้ี แนวปฏิบัติการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู 203 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p203 6/10/2558 9:22:04

พืน้ ความรู ชั้นเรยี นในตา งประเทศ แนวปฏิบตั ใิ นการรบั เขาเรียน ๑. กาํ ลงั เรียน ม.๔ ชน้ั เดมิ หรอื สงู กวา ๑. โอนหนวยการเรยี นช้ัน ม.๔ ในภาคเรยี นที่ยังไมม ผี ลการเรียน แตไ มใ หระดบั ผลการเรียน ๒. จบ ม.๔ ๓. กําลงั เรียน ม.๕ ๒. รับเขา เรียน ม.๕ ตามปกติ ในภาคเรียนที่ ๑ ๔. จบ ม.๕ ๓. ประเมินความรูค วามสามารถชนั้ ม.๔ เพือ่ การสอนซอ มเสริม ๕. กาํ ลงั เรียน ม.๖ ในกรณที ี่ผลการประเมินอยูในระดบั ตํา่ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ เดมิ หรือสูงกวา ๑. โอนหนว ยการเรียนช้ัน ม.๕ แตไมใหร ะดับผลการเรยี น ๖. กําลงั เรยี น ม.๖ ภาคเรียนท่ี ๒ ๒. รับเขาเรียน ม.๖ ตามปกติ ในภาคเรยี นท่ี ๑ ๓. ประเมินความรคู วามสามารถชัน้ ม.๕ เพือ่ การสอนซอ มเสริม ในกรณที ่ีผลการประเมินอยูในระดับต่ํา ชนั้ เดิม หรือตาํ่ กวา หรอื สูงกวา ๑. โอนหนวยการเรียนช้นั ม.๕ ในภาคเรยี นทย่ี ังไมม ผี ลการเรยี น แตไ มใ หระดบั ผลการเรียน ๒. รับเขา เรยี น ม.๖ ตามปกติ ในภาคเรียนที่ ๑ ๓. ประเมินความรูความสามารถชั้น ม.๕ เพอื่ การสอนซอมเสริม ในกรณีท่ผี ลการประเมินอยูใ นระดบั ต่ํา ชัน้ เดิม หรือต่าํ กวา หรือสงู กวา ๑. โอนหนว ยการเรียนชั้น ม.๖ ในภาคเรียนที่ ๑ แตไ มใหร ะดับ ผลการเรยี น ๒. รบั เขา เรียน ม.๖ ภาคเรียนที่ ๒ กรณีกลบั มาภาคเรยี นท่ี ๒ หรือ จดั สอบทกุ รายวิชาของภาคเรียนที่ ๒ เพ่อื อนมุ ตั ิการจบ หลักสตู รมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ใหเปน กรณพี เิ ศษ โดยไมตอง รอจนถงึ ปลายภาค กรณีทกี่ ลบั มาหลังจากโรงเรียนจดั สอบ ปลายภาคแลว ชัน้ ที่ต่าํ กวาหรือสูงกวา หรือชนั้ สูงสุด ๑. โอนหนวยการเรียนชั้น ม.๖ ภาคเรยี นที่ ๑ ในกรณีท่ียังไมม ี ของมธั ยมศึกษาตอนปลาย ระดบั ผลการเรยี น แตไ มใ หร ะดับผลการเรยี น แตค ุณสมบัตไิ มครบในการ ๒. จดั สอบทุกรายวิชาของภาคเรยี นที่ ๒ ใหเ ปน กรณีพเิ ศษ เพ่อื อนมุ ัตกิ ารจบหลักสูตรมัธยมศกึ ษาตอนปลาย โดยไมตองรอ ขอเทยี บความรเู ทา มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จนถงึ ปลายภาค และใหร ะดบั ผลการเรยี นดว ย หรือรบั เขาเรยี น ตอเนอ่ื งในช้ัน ม.๖ ภาคเรยี นที่ ๑ ตามปกติ หากนกั เรยี น ประสงคจ ะเรียนซํา้ ทัง้ ป ชน้ั ท่ตี ํ่ากวา หรอื สูงกวา หรือช้ันสงู สุด รบั เขา เรยี นตอเนือ่ งในภาคเรยี นที่ ๒ หรือจัดสอบทกุ รายวิชา ของมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ของภาคเรยี นที่ ๒ ใหเ ปน กรณีพเิ ศษ เพ่ืออนมุ ตั กิ ารจบหลกั สตู ร แตคณุ สมบตั ไิ มครบในการขอเทยี บ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กรณที ีก่ ลับมาหลงั จากโรงเรียนจัดสอบ ความรูเทา มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ปลายภาคแลว 204 แนวปฏิบัติการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p204 6/10/2558 9:22:04

แนวปฏิบตั ิสําหรบั นักเรยี น ๑. ศึกษารายละเอียดเก่ียวกับการดําเนินกิจการขององคกรท่ีดําเนินโครงการแลกเปล่ียน ใหมีความชัดเจน ท้ังรายละเอียดของการดําเนินงาน ผูรับผิดชอบกิจกรรมในประเทศและตางประเทศ และสํานักงานเครือขายท่เี ปน ผรู บั ผิดชอบในการดูแลนกั เรยี นในตา งประเทศ ๒. ศึกษาขอมูลขา วสาร หลกั เกณฑและแนวปฏิบัตทิ ี่โรงเรยี นกาํ หนด หลกั การและแนวปฏบิ ัติ ที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด และระเบียบตาง ๆ ที่เก่ียวของที่จําเปนตองทราบและที่จะตองปฏิบัติ อยางละเอียด โดยคํานึงถึงประโยชนที่จะไดรับและสิ่งท่ีอาจจะเสียประโยชน จากแหลงขอมูลตาง ๆ เชน สถานศกึ ษา องคก รเอกชนที่จัดโครงการแลกเปลี่ยน ๓. ในกรณีท่ีนักเรียนประสงคจะเขารวมโครงการแลกเปล่ียน ใหปฏิบัติตามหลักเกณฑและ แนวทางปฏิบตั สิ าํ หรับนกั เรียนท่ีเขารว มโครงการแลกเปลยี่ นตามทโ่ี รงเรยี นกาํ หนด ๔. ศึกษาระบบการศึกษา การจัดการเรียนการสอน การออกหลักฐานการศกึ ษา ชว งเวลาเปด ปด ภาคเรยี น ของสถานศกึ ษาในตา งประเทศทจ่ี ะไปศกึ ษาตอ เพอ่ื ใหม คี วามตอ เนอ่ื งกบั การศกึ ษาในประเทศ ๕. นกั เรยี นท่ตี ัดสนิ ใจเขารว มโครงการแลกเปลยี่ น ควรปฏบิ ตั ดิ งั นี้ ๕.๑ ใหนักเรียนย่ืนคํารองเปนการลวงหนา เพ่ือแสดงความจํานงในการเขารวมโครงการ แลกเปล่ยี น ตามแบบคาํ รองทโ่ี รงเรียนกําหนด พรอ มแนบเอกสารตา ง ๆ ที่เก่ียวของ ๕.๒ ศึกษาขอมูลทางการศึกษาของประเทศท่ีประสงคจะไปศึกษาตออยางละเอียด เปนการลวงหนา ๕.๓ รว มประสานเชอ่ื มโยงขอ มลู ระหวา งโครงการแลกเปลยี่ นกบั สถานศกึ ษาเพอ่ื การเตรยี มตวั ตรวจสอบขอมูล และทําความเขาใจใหถูกตองตรงกัน โดยเฉพาะหลักการและแนวปฏิบัติการเทียบชั้น การศกึ ษาสาํ หรบั นกั เรยี นทเี่ ขา รว มโครงการแลกเปลยี่ นกอ นการเดนิ ทางเสยี แตเ นนิ่ ๆ และเมอ่ื เดนิ ทางกลบั ตองรายงานตวั กลับเขา ชนั้ เรยี นตามระยะเวลาท่ีกําหนด ๕.๔ จดั เตรยี มใบแสดงผลการเรยี นเปน รายวชิ า (Transcript) ของหลกั สตู รมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ท่ไี ดผ า นการประเมนิ ผลการเรยี นแลว เพอ่ื นําติดตวั ไปยงั ตางประเทศ ๕.๕ การเลือกรายวิชาเรียนในตางประเทศ ควรสอดคลองกับแผนการเรียนในประเทศ และเปน รายวิชาพื้นฐานในสาขาวชิ าท่จี ะเขาเรยี นตอในระดบั อดุ มศึกษา ๕.๖ จดั เตรยี มหลกั ฐานการศกึ ษาทไ่ี ดร บั จากตา งประเทศ เพอื่ ประโยชนใ นการขอเทยี บชนั้ การศกึ ษา หรือขอเทยี บความรูเทามัธยมศึกษาตอนปลาย ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๐ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๔๕ (นายสวุ ทิ ย คุณกติ ต)ิ รัฐมนตรีวา การกระทรวงศกึ ษาธิการ แนวปฏบิ ัตกิ ารวดั และประเมินผลการเรยี นรู 205 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p205 6/10/2558 9:22:04

ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่อื ง การเทยี บโอนผลการเรยี นการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน และการศึกษาระดบั อุดมศกึ ษา ระดับต่าํ กวา ปรญิ ญา --------------------------------- เพอ่ื ใหส ถานศกึ ษาระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานและระดบั อดุ มศกึ ษา ระดบั ตาํ่ กวา ปรญิ ญาสามารถ ดําเนินการเทียบโอนผลการเรียน โดยการเชื่อมโยงผลการเรียนระหวางการศึกษาในระบบ การศึกษานอก ระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมท้ังผลการเรียนรูจากนอกระบบ ตามอัธยาศัย การฝกอาชีพหรือ จากประสบการณการทํางาน เพื่อใหเปนสวนหนึ่งของการศึกษาตอเน่ืองในหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งใน สถานศึกษา จึงกําหนดหลักการและแนวทางในการเทียบโอนผลการเรียนการศึกษาข้ันพื้นฐาน และ การศึกษาระดับอดุ มศกึ ษา ระดบั ตํา่ กวา ปรญิ ญา ดังนี้ ๑. หลกั การเทยี บโอนผลการเรียน ๑.๑ ยึดหลักการกระจายอํานาจไปสูสถานศึกษา โดยดําเนินการเทียบโอนผลการเรียน ในรูปคณะกรรมการ ๑.๒ คํานึงถึงหลกั ความเปนธรรม โปรง ใส และมีมาตรฐานเปน ทยี่ อมรับ ๑.๓ การเทยี บโอนผลการเรยี นใหพ จิ ารณาจากเอกสาร หลกั ฐานการศกึ ษา หรอื หลกั ฐานอน่ื หรือประเมินจากความรู ความสามารถ ทักษะ หรือประสบการณของผูเรียนดวยเคร่ืองมือและวิธีการ ทหี่ ลากหลาย ไมซาํ้ ซอ น ทัง้ นี้ ใหคาํ นงึ ถึงประโยชนข องผขู อเทยี บโอนผลการเรียนเปน สําคญั ๑.๔ พิจารณาเทียบโอนผลการเรียนเพ่ือการศึกษาตอ โดยพิจารณารูปแบบการศึกษา และหลักสูตรท่ีอยใู นระดับเดียวกัน ๒. แนวทางการเทยี บโอนผลการเรียน ๒.๑ การเทียบโอนผลการเรียนใหพิจารณาจากรูปแบบการจัดการศึกษา ลักษณะการจัด หลักสูตร และสาระการเรียนรู ซึ่งมีความแตกตางหลากหลาย โดยเทียบเคียงกับหลักเกณฑและวิธีการ จดั การศึกษาของสถานศกึ ษาทีร่ บั เทียบโอน ๒.๒ ชว งเวลาในการเทียบโอนผลการเรียน ดําเนนิ การได ๒ กรณี ดงั น้ี ๒.๒.๑ กรณีท่ี ๑ การเทียบโอนผลการเรยี นทเ่ี กิดข้นึ จากสภาพการณตา ง ๆ ไดแ ก การยายสถานศึกษา การเปล่ียนรูปแบบการศึกษา การยายหลักสูตร การละท้ิงการศึกษาและขอกลับ เขาศึกษาตอ การศึกษาจากตางประเทศและขอเทียบโอนเขาศึกษาตอในประเทศ ใหดําเนินการในชวง 206 แนวปฏิบัติการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p206 6/10/2558 9:22:05

กอนเปดภาคเรียนแรกหรือตนภาคเรียนแรกที่สถานศึกษารับผูขอเทียบโอนเปนนักเรียน/นักศึกษา เพ่ือ การวางแผนการเรียน ท้ังนี้ สถานศึกษาควรดําเนินการเทียบโอนผลการเรียนใหแลวเสร็จภายใน ๑ ภาคเรียน ถามีเหตุจําเปนผูขอเทียบโอนไมสามารถขอเทียบโอนไดภายในชวงเวลาที่กําหนด ใหอยูในดุลยพินิจ ของสถานศึกษา ๒.๒.๒ กรณที ี่ ๒ การเทยี บโอนความรู ทกั ษะ หรอื ประสบการณจ ากแหลง การเรยี นรู อื่น ๆ เชน สถานประกอบการ สถานประกอบอาชีพอิสระ สถาบันทางศาสนา สถาบันฝกอบรมอาชีพ บา นเรยี น (Home School) ฯลฯ ใหด ําเนนิ การตนภาคเรยี นหรอื กอนเปด ภาคเรยี น โดยสถานศกึ ษาท่ีรบั เทยี บโอนกาํ หนดรายวชิ า/หมวดวชิ า จาํ นวนหนว ยกติ /หนว ยการเรยี น ทจี่ ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม รวมท้ังกรณีของผูท่ีกําลังเรียนและประสงคจะไปศึกษาจากแหลงการเรียนรูอ่ืน ๆ ซ่ึงจะตองไดรับอนุญาต จากหัวหนาสถานศกึ ษากอน ๒.๓ การกาํ หนดอายขุ องผลการเรยี นทข่ี อเทยี บโอน ใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของสถานศกึ ษาทรี่ บั เทียบโอน โดยพิจารณาบนพ้ืนฐานของธรรมชาติวิชา ความทันสมัย ทันตอเหตุการณ และสอดคลองกับ การเปลย่ี นแปลงในโลกปจ จบุ ัน ๒.๔ การพิจารณาใหผลการเรียนในรายวิชา/หมวดวิชาท่ีไดจากการเทียบโอนผลการเรียน ใหผลการเรียนตามหลักฐานเดิมท่ีปรากฏ หรือใหผลการเรียนใหมท่ีไดจากการประเมินดวยเครื่องมือ และวธิ กี ารท่ีหลากหลาย ๒.๕ นกั เรยี น/นกั ศกึ ษาทไ่ี ดร บั การเทยี บโอนผลการเรยี นตอ งศกึ ษาตอ เนอ่ื งในสถานศกึ ษา ทร่ี บั เทยี บโอน อยางนอย ๑ ภาคเรยี น ๒.๖ การจบหลักสูตรของผูขอเทียบโอนผลการเรียน การใหหนวยกิต/หนวยการเรียน ใหเปน ไปตามเกณฑการจบหลกั สตู รของสถานศกึ ษาทีร่ บั เทยี บโอนกาํ หนด ๒.๗ การเทียบโอนผลการเรียนสําหรับนักเรียนท่ีเขารวมโครงการแลกเปล่ียนเยาวชน/ วัฒนธรรมในตางประเทศเปนเวลา ๑ ปการศึกษา ใหถือปฏิบัติตามแนวทางการเทียบช้ันการศึกษา ทก่ี ระทรวงศึกษาธิการไดม ปี ระกาศกาํ หนดไวแลว ๒.๘ การเทยี บโอนผลการเรยี นเขา สหู ลกั สตู รเดมิ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ใหถ อื ปฏบิ ตั ติ าม แนวทางการเทียบโอนผลการเรียนทกี่ ระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดม ีระเบียบ/คาํ ส่ังกําหนดไวแลว ๒.๙ สถานศึกษาเปนผูจัดทําเอกสาร/หลักฐานการศึกษาที่เก่ียวของกับการเทียบโอน ผลการเรียน โดยบันทึกผลการเทียบโอนไวเปนหลักฐาน และออกใบแจงผลการเทียบโอนใหแกผูยื่น ความจํานง และจดั เกบ็ เอกสาร/หลักฐานทีเ่ กย่ี วของกับการเทียบโอน พรอ มท้งั จดั ทาํ ทะเบยี นผขู อเทยี บโอน ผลการเรียนไวเพ่ือการอางอิง สถานศึกษาสามารถบันทึกขอมูลการเทียบโอนไวในชองหมายเหตุ โดยไมตองกรอกผลการเรียนเดิมในระเบียนแสดงผลการเรียน และแนบเอกสารแสดงผลการเรียนจาก แหลง การเรียนรูเดิมที่นาํ มาขอเทยี บโอนไวด วยกัน แนวปฏบิ ัติการวดั และประเมินผลการเรียนรู 207 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p207 6/10/2558 9:22:05

๒.๑๐ ผูท่ีประสงคจะขอเทียบโอนผลการเรียนจะตองสมัครเขาเปนนักเรียน/นักศึกษาของ สถานศึกษาทรี่ บั เทียบโอนผลการเรยี น ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการไดจัดทําแนวปฏิบัติและรายละเอียดในการเทียบโอนผลการเรียน ระหวางหลักสูตรและระหวางรูปแบบการศึกษา เพ่ือประกอบการพิจารณาเทียบโอนผลการเรียนสําหรับ สถานศึกษาไวแลว ดังปรากฏใน “เอกสารแนวดําเนินการเทียบโอนผลการเรียนการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดบั ตํ่ากวาปรญิ ญา” ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๐ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๔๖ (นายปองพล อดเิ รกสาร) รัฐมนตรวี าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 208 แนวปฏบิ ัติการวดั และประเมินผลการเรียนรู ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p208 6/10/2558 9:22:05

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วาดวยการแกวัน เดือน ปเกดิ ของนกั เรยี นและนกั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๗ --------------------------------- โดยท่ีเห็นสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยการแกวัน เดือน ปเกิด ของนักเรียนและนกั ศึกษา ใหเหมาะสมย่ิงข้นึ เพอื่ ใหสอดคลองกับกฎหมายวา ดว ยระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารและกฎหมายวา ดวยการศึกษาแหงชาติ ขอ ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วาดวยการแกวัน เดือน ปเกิด ของนักเรยี นและนกั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗” ขอ ๒ ระเบียบนี้ใหใ ชบ งั คบั ต้งั แตว ันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เปน ตน ไป ขอ ๓ ใหยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยการแกวัน เดือน ปเกิด ของนักเรียน และนักศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๒๕ ขอ ๔ ในระเบียบน้ี คําวา “สถานศึกษา” หมายความวา สถานศึกษาในสังกัดกระทรวง ศึกษาธิการและใหหมายความรวมถึงสถานศึกษาท่ีอยูในกํากับดูแล และหรืออยูในความควบคุมของกระทรวง ศกึ ษาธกิ ารดว ย ขอ ๕ การขอแกว นั เดือน ปเ กดิ ของนกั เรียนและนกั ศึกษาใหถอื ปฏิบัตดิ ังน้ี (๑) ในกรณี วนั เดอื น ปเ กดิ ของนกั เรยี นและนกั ศกึ ษาผดิ พลาดไมต รงกบั ความเปน จรงิ ดว ยเหตทุ เี่ จา หนา ทข่ี องสถานศกึ ษาเขยี นผดิ พลาดหรอื เขยี นตก ใหห วั หนา สถานศกึ ษาเปน ผแู กไ ขใหถ กู ตอ ง ตามทเ่ี ปน จรงิ ในหลกั ฐาน และการแกไ ขตกเตมิ ใหข ดี ฆา ดว ยเสน หมกึ สแี ดงโดยประณตี แลว เขยี นเตมิ ลงใหม ดวยเสน หมกึ สแี ดง โดยลงนามผูแก และวนั เดือน ป ยอ กาํ กับไวด วยทุกแหง (๒) ในกรณที ี่ วัน เดอื น ปเกิด ของนักเรยี นและนกั ศึกษาผิดพลาดและมีผูร อ งขอใหแก ผูรองจะตองสงคํารองตามแบบทายระเบียบน้ี และเอกสารหลักฐานมาแสดงตอสถานศึกษาเพ่ือประกอบ การพจิ ารณาวินิจฉยั วัน เดอื น ปเ กดิ ตามลําดบั ความสาํ คัญ ดังนี้ คือ (ก) สตู บิ ตั รหรือทะเบยี นคนเกดิ (ข) ถาหากเอกสารหลักฐานตามขอ (ก) สูญหายหรอื ถกู ทาํ ลายก็ใหส งเอกสารอื่น ๆ ที่หนวยราชการออกให เชน สําเนาทะเบียนบาน ทะเบียนทหาร ทะเบียนคนตางดาว บัตรประจําตัว ประชาชน แนวปฏบิ ตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู 209 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p209 6/10/2558 9:22:05

(ค) ในกรณีที่ปรากฏวาเอกสารหลักฐานตามขอ (ข) ที่หนวยราชการออกใหนั้น วนั เดอื น ปเ กดิ ไมตรงกัน ใหพิจารณาขอ เท็จจรงิ เปน ราย ๆ ไป (๓) เมื่อทางสถานศกึ ษาไดพ จิ ารณาวินิจฉัยเอกสารตามขอ ๕ (๒) (ก) หรอื ขอ ๕ (๒) (ข) หรือไดทาํ การสอบสวนตามขอ ๕ (๒) (ค) แลว ถาปรากฏชดั แจงวา วนั เดือน ปเกดิ ผดิ พลาดไมตรง กับหลักฐานความเปนจริง ใหทํารายงานสงคํารองขอแกวัน เดือน ปเกิด พรอมดวยเอกสารหลักฐาน ดังกลาวขางตน และสําเนาการสอบสวน (ถามี) ไปตามระเบียบราชการเพ่ือใหผูบังคับบัญชาเหนือขึ้นไป ช้ันหน่ึงเปน ผพู ิจารณาใหความเห็นชอบแกไ ขเปน ราย ๆ ไป ขอ ๖ ใหปลดั กระทรวงศึกษาธิการรักษาการใหเ ปนไปตามระเบียบน้ี ประกาศ ณ วนั ท่ี ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๗ อดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีวา การกระทรวงศกึ ษาธิการ 210 แนวปฏบิ ตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p210 6/10/2558 9:22:05

ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการ วาดว ยสมดุ หมายเหตุรายวัน พ.ศ. ๒๕๔๙ --------------------------------- โดยที่เห็นสมควรปรับปรุงขอบังคับกระทรวงธรรมการวาดวยสมุดหมายเหตุรายวัน ใหมี ความเหมาะสมกบั การบริหารราชการของกระทรวงศกึ ษาธิการ อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๑๒ แหง พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการ กระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ รัฐมนตรีวา การกระทรวงศึกษาธิการจึงออกระเบียบไวด งั ตอ ไปนี้ ขอ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยสมุดหมายเหตุรายวัน พ.ศ. ๒๕๔๙” ขอ ๒ ระเบยี บนใ้ี หใ ชบ งั คับตั้งแตว ันถัดจากวนั ประกาศเปน ตนไป ขอ ๓ ใหยกเลกิ ขอ บงั คบั กระทรวงธรรมการวาดว ยสมดุ หมายเหตรุ ายวนั ขอ ๔ ในระเบียบนี้ “สถานศกึ ษา” หมายความวา สถานศกึ ษาที่จัดการศึกษาขั้นพน้ืิ ฐาน “หวั หนา สถานศกึ ษา” หมายความวา ครใู หญ อาจารยใ หญ ผอู าํ นวยการหรอื หวั หนา สถานศกึ ษา ทเ่ี รียกชือ่ อยางอื่น ซึ่งปฏิบตั ิหนา ทีล่ กั ษณะเดยี วกบั ครูใหญ อาจารยใ หญห รือผูอํานวยการหรือผูรกั ษาราชการแทน ขอ ๕ สถานศึกษาตองใชส มุดหมายเหตุรายวนั ตามแบบทายระเบยี บนี้ ขอ ๖ สถานศกึ ษาตองรกั ษาสมดุ หมายเหตุรายวนั นี้ไวใ หด ี อยา ใหฉีกขาดสูญหาย ขอ ๗ ใหส ถานศกึ ษาเขยี นชอ่ื สถานศกึ ษาและลงรายการตา ง ๆ ทหี่ นา ปกสมดุ หมายเหตรุ ายวนั ใหบรบิ รู ณไ มยอ ไมตดั และในใบหนา ตองลงวัน เดือน ป ที่เร่ิมใชสมุดหมายเหตุรายวนั เปน ตวั อกั ษร ขอ ๘ สมดุ หมายเหตรุ ายวนั สถานศกึ ษาตอ งใหบคุ คลดังตอไปน้ี ลงชอ่ื กํากับ (๑) สถานศึกษาในสังกัดสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ใหผูอํานวยการสํานักงาน เขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาหรือผูท ไี่ ดรับมอบหมายลงชื่อกํากับ (๒) สถานศึกษาในสังกัดองคการบริหารสวนจังหวัด กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องคการบริหารสวนตําบล หรือองคกรปกครองทองถิ่นอื่น ใหนายกองคการบริหารสวนจังหวัด ผูวาราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา นายกองคการบริหารสวนตําบลหรือผูบริหารของ องคกรปกครองทองถิ่นที่เรียกชื่ออยา งอน่ื หรือผูท ไ่ี ดร ับมอบหมายลงช่อื กาํ กับ แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรยี นรู 211 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p211 6/10/2558 9:22:05

(๓) สถานศกึ ษานอกจาก (๑) และ (๒) ใหห วั หนา สว นราชการตน สงั กดั หรอื ผกู าํ กบั ดแู ล หรอื ผูท ่ีไดรบั มอบหมายลงชอื่ กาํ กับ ขอ ๙ สมดุ หมายเหตรุ ายวนั ตอ งใหม เี ลขทเี่ ปน ลาํ ดบั ไปทกุ หนา หา มมใิ หแ ทรกหนา หรอื ฉกี หนา ออกเปนอันขาดและหามมใิ หเวน ทว่ี า งไว ขอ ๑๐ การลงหมายเหตใุ นสมดุ หมายเหตรุ ายวนั ใหล งเปนปจจุบนั ทกุ วัน ขอความท่ีลงแลว จะ คดั ลอกขน้ึ หนาใหม หรือข้นึ เลม ใหมไมไ ด นอกจากไดร ับอนญุ าตจากบุคคลตามขอ ๘ ขอ ๑๑ การลงสมดุ หมายเหตรุ ายวนั ตอ งลงดว ยเสน หมกึ สดี าํ หรอื สนี า้ํ เงนิ ถา มผี ดิ ตกทใี่ ด หา มขดู ลบเพม่ิ เตมิ แตใ หข ดี ฆา ดว ยเสน หมกึ สแี ดงโดยประณตี แลว เขยี นเตมิ ลงใหมด ว ยเสน หมกึ สแี ดงเชน เดยี วกนั การแกไ ขจากเดมิ แหง ใด ผแู กต อ งลงชอื่ และวนั เดอื นปย อ กาํ กบั ไวท รี่ มิ กระดาษทกุ แหง ถา มขี อ ความตกเตมิ ใหผูต กเติมลงลายมอื ช่ือหรอื ชือ่ ยอ ไวเปนสาํ คัญ ขอ ๑๒ ใหห วั หนา สถานศกึ ษามีหนา ท่ีจดขอความลงในสมดุ หมายเหตุรายวัน ขอ ๑๓ เรอื่ งทจ่ี ะเขยี นลงในสมดุ หมายเหตรุ ายวนั ไดแ ก ประวตั ิ ระเบยี บหรอื ขอ บงั คบั การเปลย่ี นแปลง การระดมทรพั ยากร ผลการเรยี น การแกไ ขหลกั ฐานทางทะเบยี น การมาปฏบิ ตั งิ านและบาํ เหนจ็ ความชอบ ของบุคลากร การลงโทษนักเรียนและเหตภุ ยนั ตรายอืน่ ๆ นอกจากน้ี เร่ืิองอื่น ๆ ท่ีจะเขียนลงในสมุดหมายเหตุรายวันใหเปนดุลยพินิจของหัวหนา สถานศกึ ษา ถา วนั ใดไมม เี หตกุ ารณอ ะไร กใ็ หล งวา “ปกต”ิ ตอ งเขยี น วนั เดอื น ป และลงชอื่ หวั หนา สถานศกึ ษา กาํ กับไวด วย ขอ ๑๔ สมุดหมายเหตุรายวันท่ีใชอยูกอนระเบียบนี้ ใหยังคงใชเปนสมุดหมายเหตุรายวันของ สถานศกึ ษาตามระเบยี บน้ตี อไป ขอ ๑๕ ใหปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารเปนผูรักษาการตามระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ (คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา) ปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ผใู ชอํานาจของรฐั มนตรวี า การกระทรวงศึกษาธิการ 212 แนวปฏบิ ตั ิการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p212 6/10/2558 9:22:05

ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการ วา ดวยปการศกึ ษา การเปดและปดสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๙ --------------------------------- โดยที่เห็นสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยปการศึกษา การเปดและปด สถานศึกษาใหมคี วามเหมาะสมกบั การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธกิ าร อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๑๒ แหง พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการ กระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ รัฐมนตรวี า การกระทรวงศกึ ษาธิการจงึ ออกระเบยี บไวด งั ตอไปนี้ ขอ ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยปการศึกษา การเปดและปด สถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๙” ขอ ๒ ระเบียบนี้ใหใ ชบังคับตงั้ แตว นั ถัดจากวันประกาศเปนตน ไป ขอ ๓ ใหย กเลิก (๑) ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ลงวนั ท่ี ๑๐ มนี าคม ๒๕๒๐ เรอื่ ง กาํ หนดปก ารศกึ ษา (๒) คําส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สป ๔๕๘/๒๕๒๗ ลงวันท่ี ๒๘ มีนาคม ๒๕๒๗ เรอ่ื ง กําหนดวันเปด ปด ภาคเรยี นสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (๓) ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันท่ี ๔ กุมภาพันธ ๒๕๒๙ เรื่อง การสั่งปด สถานศกึ ษาชั่วคราว เปนกรณีพเิ ศษ (๔) ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๐ เรื่อง การสั่งปด สถานศึกษาชั่วคราว เน่อื งจากเหตพุ เิ ศษหรอื สาธารณภยั (๕) คําสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี อศ ๒๖๑/๒๕๓๓ ลงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๓๓ เรอ่ื ง กําหนดวนั เปด ปด ภาคเรยี นสถานศึกษาสังกัดกรมอาชวี ศึกษา (๖) ระเบยี บกระทรวงศึกษาธกิ ารวาดวยปก ารศกึ ษา การเปดเรยี นและปด สถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๓๘ (๗) ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยปการศึกษา การเปดและปดสถานศึกษา (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ บรรดาระเบียบ ขอบังคับ ประกาศและคําส่ังอ่ืนใดในสวนที่กําหนดไวในระเบียบน้ี หรอื ซึ่งขัดหรือแยง กบั ระเบยี บนใ้ี หใ ชระเบียบนีแ้ ทน แนวปฏบิ ตั ิการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู 213 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p213 6/10/2558 9:22:05

ขอ ๔ สาํ หรบั สถานศกึ ษาทมี่ กี ฎหมาย ขอ บงั คบั และระเบยี บกาํ หนดในเรอื่ งนไ้ี วเ ปน การเฉพาะ แลว ใหถอื ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ขอ บงั คบั และระเบยี บนัน้ ขอ ๕ ในระเบยี บน้ี “กรณีพิเศษ” หมายความวา กรณีจําเปนตองใชสถานศึกษาเพ่ือประชุม สัมมนา ฝกอบรม จดั สอบ พักแรม จัดกจิ กรรมเสรมิ หลักสูตรหรือกจิ กรรมอน่ื ใดทเ่ี ปนประโยชนตอ ชมุ ชนหรือเหตุจําเปนอนื่ ทไี่ มอาจเปด เรยี นไดตามปกติ “เหตุพิเศษ” เปน เหตุทเ่ี กิดขนึ้ จากภัยพบิ ัติสาธารณะ “เลขาธิการ” หมายความรวมถึงอธิบดี หรือหัวหนาสวนราชการที่เรียกชื่ออยางอ่ืนที่มีฐานะ เปน กรมดว ย “สถานศึกษา” หมายความวา สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียนศูนยการศึกษาพิเศษ ศูนยการเรียน วิทยาลัย หรือสถานศึกษาท่ีเรียกช่ืออยางอื่นของรัฐหรือเอกชน ที่มีอํานาจหนาท่ีหรือ มวี ัตถุประสงคใ นการจดั การศึกษาตามกฎหมายวาดวยการศกึ ษาแหงชาตแิ ละตามประกาศกระทรวง “หวั หนา สถานศกึ ษา” หมายความวา ครใู หญ อาจารยใ หญ ผอู าํ นวยการ อธกิ ารบดี หรอื ตาํ แหนง ทเ่ี รยี กชอื่ อยางอ่ืนในลกั ษณะเดียวกัน “นกั เรียนและนกั ศึกษา” หมายความวา บุคคลซึ่งกําลังรับการศกึ ษาอยใู นสถานศกึ ษา ขอ ๖ ในรอบปก ารศกึ ษาหนง่ึ วนั เรมิ่ ตน ปก ารศกึ ษา คอื วนั ที่ ๑๖ พฤษภาคม และวนั สน้ิ ปก ารศกึ ษา คือวนั ที่ ๑๕ พฤษภาคม ของปถ ัดไป ขอ ๗ ใหสถานศึกษาเปดและปดภาคเรียนตามปกติในรอบปการศึกษาหน่ึงตามท่ีกําหนดไว ดังตอไปน้ี (๑) ภาคเรียนท่ีหนึ่ง วันเปดภาคเรียน วันที่ ๑๖ พฤษภาคม วันปดภาคเรียน วันท่ี ๑๑ ตลุ าคม (๒) ภาคเรียนท่ีสอง วันเปดภาคเรียน วันที่ ๑ พฤศจิกายน วันปดภาคเรียนวันที่ ๑ เมษายน ของปถดั ไป สถานศกึ ษาใดประสงคจ ะเปด และปด ภาคเรยี นแตกตา งไปจากทกี่ าํ หนดไวต ามวรรคหนงึ่ ใหส ว นราชการเจา สังกัดเปนผกู ําหนดตามที่เหน็ สมควร ขอ ๘ ผูมอี าํ นาจสง่ั ปดสถานศกึ ษาเปนกรณพี ิเศษ คือ (๑) หวั หนาสถานศกึ ษา สง่ั ปด ไดไมเ กินเจด็ วัน (๒) ผอู าํ นวยการสาํ นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา สง่ั ปด ไดไ มเ กนิ สบิ หา วนั สว นสถานศกึ ษา ทีไ่ มไ ดสงั กัดสํานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาใหขอตอสวนราชการเหนือข้ึนไปหน่ึงชั้น เมอื่ ไดส ง่ั ปด สถานศกึ ษาไปแลว สถานศกึ ษาตอ งทาํ การสอนชดเชยใหค รบตามจาํ นวนวนั ทีป่ ดนน้ั 214 แนวปฏบิ ัติการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p214 6/10/2558 9:22:05

ขอ ๙ การปดสถานศึกษาเนื่องจากเหตุพิเศษ ใหส่ังปดสถานศึกษาช่ัวคราวเพ่ือระงับเหตุ หรือเพือ่ ปองกนั ภยนั ตรายอันอาจจะเกดิ ข้ึน โดยใหป ฏบิ ตั ิดงั น้ี (๑) หวั หนาสถานศกึ ษาส่งั ปด ไดไ มเ กินสบิ หา วนั (๒) ผอู าํ นวยการสาํ นกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา สงั่ ปด ไดไ มเ กนิ สามสบิ วนั สว นสถานศกึ ษา ทไ่ี มไดส ังกดั สํานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาใหขอตอ สวนราชการเหนือขนึ้ ไปหนึ่งช้นั เมอื่ ไดส งั่ ปด สถานศกึ ษาไปแลว สถานศกึ ษาตอ งทาํ การสอนชดเชยใหค รบตามจาํ นวนวนั ทป่ี ด นั้น ขอ ๑๐ เมื่อผูมอี ํานาจสั่งปดสถานศกึ ษา ตามขอ ๙ ไดสัง่ ปดสถานศกึ ษาไปแลว แตเ หตกุ ารณ ทเี่ กดิ ขนึ้ ยงั ไมส งบหรอื มีเหตุจําเปนทีจ่ ะตองส่ังปด ตอไปอกี ใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ หัวหนา สถานศกึ ษา ขอ ๑๑ ในระหวา งปด สถานศกึ ษาชวั่ คราวเปน กรณพี เิ ศษตามขอ ๘ หรอื ในระหวา งปด สถานศกึ ษา ช่ัวคราวเนื่องจากเหตุพิเศษตามขอ ๙ หัวหนาสถานศึกษาอาจส่ังใหครู อาจารย และเจาหนาที่ ประจําสถานศึกษานน้ั ๆ มาปฏิบัติงานตามปกติหรือตามคําส่ังทไ่ี ดร ับมอบหมายก็ได ขอ ๑๒ การสง่ั ปด สถานศกึ ษาชวั่ คราวใหท าํ คาํ สงั่ เปน หนงั สอื เวน แตก ารสงั่ ดว ยวาจาหรอื การสงั่ โดยการสอื่ ความหมายในรปู แบบอนื่ เมอื่ ผมู อี าํ นาจไดส งั่ ปด สถานศกึ ษาชวั่ คราว แลว ใหท าํ คาํ สง่ั เปน หนงั สอื ภายในสามวันนับแตวนั ท่ีส่ังการดวยวาจาหรือสั่งโดยการส่อื ความหมายในรูปแบบอ่นีื ขอ ๑๓ ใหป ลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ ารรักษาการใหเปนไปตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ (คุณหญงิ กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา) ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ผใู ชอาํ นาจของรัฐมนตรวี าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู 215 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p215 6/10/2558 9:22:06

ประกาศสํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน เรอื่ ง แนวปฏบิ ตั ิในการยกระดับคณุ ภาพนกั เรียนระดบั การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ----------------------------- ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยมุงปฏิรูปการเรียนรูท้ังระบบ ใหส ัมพนั ธเ ชอื่ มโยงกันระหวางหลกั สูตร การเรยี นการสอน และการวดั และประเมินผล เพื่อใหนกั เรยี นสามารถ คดิ วิเคราะห แกป ญหา และเรยี นรดู ว ยตนเองไดอ ยา งตอ เนื่อง มคี ุณลักษณะท่ีพงึ ประสงคตามหลกั สตู ร และมี ทักษะที่จําเปนสําหรับศตวรรษที่ ๒๑ และคาดหวังวาผลการจัดอันดับการศึกษาไทยจากผลการทดสอบ PISA (Programme of International Student Assessment) ในป พ.ศ. ๒๕๕๘ อยใู นอนั ดบั ทสี่ งู ขน้ึ อกี ทง้ั สาํ นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานกําหนดจุดเนนการดําเนินงานของสถานศึกษาเพ่ือใหนักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นกลมุ สาระการเรยี นรหู ลกั เพ่มิ ข้ึนอยา งนอยรอยละ ๓ นกั เรยี นทุกคนมคี วามสํานึกในความเปน ไทย มีจิตสาธารณะ อยูอยางพอเพียง มีความพรอมเขาสูประชาคมอาเซียน และมีภูมิคุมกันตอการเปลี่ยนแปลงใน สังคมพหุวัฒนธรรม ดังนั้น เพ่ือใหเกิดการดําเนินงานท่ีเปนรูปธรรมในการยกระดับคุณภาพนักเรียนสังกัดสํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน จึงกําหนดแนวปฏบิ ตั ิใหสถานศึกษาทง้ั ระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา ทกุ แหงดําเนินการ ดังน้ี ๑. จดั กจิ กรรมหนา เสาธงใหค รบถวน ทัง้ ดานการสงเสริมใหผูเรยี นรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ  และสํานกึ ถงึ บุญคณุ บคุ คลท่ที ําคณุ ประโยชนใ หกับชมุ ชนและสังคม ๒. จัดกิจกรรมแกไขปญหานักเรียนท่ีอานไมออกเขียนไมได ดวยวิธีการที่เหมาะสมและถูกหลัก การสอนภาษาไทย เชน ฝกอานแจกลูกจากหนังสือแบบเรียนเร็ว หนังสือที่สํานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้ืนฐานจัดให หรือสื่อท่ีสถานศึกษาหรือเขตพื้นที่การศึกษาพัฒนาขึ้นเอง จัดหองเรียนพิเศษหรือจัดเขาคาย เพ่ือแกปญหาการอานเขียนโดยเฉพาะ เปนตน รวมท้ังสงเสริมใหนักเรียนสามารถเขียนสรุปความและยอความ ใหมากขน้ึ ๓. จดั กจิ กรรมเสรมิ เพอื่ พฒั นาศกั ยภาพนกั เรยี นดา นการอา น เขยี น และคดิ วเิ คราะห โดยใชอ งคค วามรู จากผลการทดสอบ PISA เชน ระดบั สมรรถนะดานการอา น คณิตศาสตร และวิทยาศาสตร แนวการต้งั คาํ ถาม ของขอสอบ แนวการตอบคําถาม เกณฑการใหคะแนน เปนตน โดยใหสถานศึกษาจัดในชวงกอนเขาเรียน พักกลางวนั หรือหลังเลกิ เรยี นอยางนอย ๒ คาบเรยี น ตอสัปดาห หรอื ตามความเหมาะสม 216 แนวปฏิบตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p216 6/10/2558 9:22:06

๔. จดั กิจกรรมการเรียนรใู หนกั เรียนไดฝก ทกั ษะกระบวนการคิดวเิ คราะห และเรยี นรไู ดดวยตนเอง ในทุกกลุมสาระการเรียนรู เชน เรียนรูจากการทําโครงงาน เรียนรูดวยวิธีสืบคนขอมูล เรียนรูจากขอสงสัย หรือความสนใจของนักเรียน และเรียนรูจากปญหาสิ่งแวดลอมในชุมชน เปนตน ท้ังน้ี ใหคํานึงถึงชวงวัย และระดบั ชน้ั ของนกั เรียน ๕. จดั ใหน กั เรยี นไดเ พมิ่ พนู การฝก ทกั ษะการใชภ าษาตา งประเทศดา นการฟง พดู เชน ภาษาองั กฤษ ภาษาจนี ภาษาเกาหลีภาษาทใี่ ชใ นกลมุ อาเซยี นใหม ากขนึ้ โดยเนน ใหน กั เรยี นสามารถสอ่ื สารได(Communicative Language) เชน เพมิ่ ช่วั โมงฝกการฟง พูด (Communicative Class) จดั คายฝก การใชภ าษา เนนการฟง พูด ทั้งระยะส้ันและระยะยาวหรอื ภาคฤดรู อ น ๖. จัดกจิ กรรมเสริมหลกั สูตรที่เนน ใหนักเรยี นเกดิ จิตสํานกึ รักความเปน ไทย มีจิตสาธารณะ เห็นแก ประโยชนสวนรวมมากกวาประโยชนสวนตน รวมถึงเขาใจหลักการของประชาธิปไตย และหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง และปฏิบัติไดอ ยางถูกตอง ๗. ใหเ พมิ่ การใชข อ สอบแบบเขยี นตอบทงั้ การเขยี นตอบแบบสนั้ และแบบยาวเมอื่ จบหนว ยการเรยี น ในการสอบระหวา งภาคเรียนและในการสอบปลายภาค อยา งนอ ยรอยละ ๓๐ ของการสอบแตละคร้ัง ๘. ใหใ ชข อ สอบกลางทพ่ี ฒั นาโดยสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ในการสอบปลายป รอยละ ๒๐ ของคะแนนสอบท้ังหมด ในช้ันประถมศึกษาปที่ ๒, ๔, ๕ และช้ันมัธยมศึกษาปท่ี ๑, ๒ โดยชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๒ ใหใ ชข อ สอบกลางเฉพาะกลมุ สาระการเรยี นรภู าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๔ และ ๕ ใหใชขอสอบกลางในกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย คณิตศาสตร และวิทยาศาสตร และชั้นมัธยมศึกษาปท่ี ๑ และ ๒ ใหใชขอสอบกลางในกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย คณิตศาสตร วิทยาศาสตร สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม และภาษาตางประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ทัง้ น้ี ตง้ั แตป ก ารศกึ ษา ๒๕๕๗ เปน ตน ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (นายอภชิ าติ จีระวฒุ ิ) เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน แนวปฏิบตั กิ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู 217 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p217 6/10/2558 9:22:06

ประกาศสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน เรอ่ื ง แนวปฏบิ ัตกิ ารจัดการเรยี นการสอนโรงเรยี นมาตรฐานสากล (ฉบับปรบั ปรุง) ------------------------------ ตามท่ีสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานไดจัดโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล เพื่อเปนนวัตกรรมการจัดการศึกษาเรงดวนในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาใหเทียบเทาสากล ซ่ึงเริ่มดําเนินการในโรงเรียนทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จํานวน ๕๐๐ โรงเรียน ต้ังแต ปการศึกษา ๒๕๕๓ โดยใหมีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและกระบวนการเรียนรูตามท่ีกําหนดในหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ และมรี ายวิชาเพิม่ เติมทีเ่ ปนสากล จาํ นวน ๔ รายวิชา คือ ทฤษฎคี วามรู (TOK : Theory of Knowledge) การเขยี นความเรยี งข้นั สูง (EE : Extended - Essay) โลกศกึ ษา (GE : Global Education) และกจิ กรรมสรางสรรคประโยชน (CAS : Creativity Action and Service) นั้น เพ่ือใหการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลมีการพัฒนาอยางตอเนื่องและเปนไป อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน จงึ กาํ หนดแนวทางการจดั การเรยี นการสอน ในโรงเรยี นมาตรฐานสากล (ฉบับปรับปรงุ ) ขึ้น โดยใชก ระบวนการจดั การเรียนรอู ยา งตอ เนอ่ื ง เรยี กวา “บันได ๕ ข้ัน ของการจดั การเรียนการสอนในโรงเรยี นมาตรฐานสากล” ไดแ ก ๑. การตง้ั ประเด็นคาํ ถาม/สมมุติฐาน (Hypothesis Formulation) ๒. การสบื คนความรจู ากแหลงเรยี นรแู ละสารสนเทศ (Searching for Information) ๓. การสรุปองคค วามรู (Knowledge Formation) ๔. การส่ือสารและการนําเสนออยา งมีประสทิ ธิภาพ (Effective Communication) ๕. การบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Public Service) ท้ังน้ี กระบวนการจัดการเรียนรูดังกลาวใหจัดเปนรายวิชาเพ่ิมเติม “การศึกษาคนควาดวยตนเอง (IS : Independent Study)” ซ่งึ ประกอบดว ยสาระการเรยี นรู ๓ สาระ ดงั น้ี ๑. การศกึ ษาคน ควา และสรางองคค วามรู (IS 1 : Research and Knowledge Formation) ๒. การสอ่ื สารและการนาํ เสนอ (IS 2 : Communication and Presentation) ๓. การนาํ องคความรไู ปใชบรกิ ารสงั คม (IS 3 : Social Service Activity) 218 แนวปฏบิ ตั ิการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p218 6/10/2558 9:22:06

การจดั สาระการเรยี นรูในแตล ะระดบั การศกึ ษา ระดับประถมศกึ ษา ๑. ประถมศึกษาช้ันปท่ี ๑ - ๓ จัดเปนหนวยการเรียนรูเฉพาะในรายวิชาพื้นฐาน ใหมีกระบวน การเรียนรูครอบคลุมทั้ง IS 1 และ IS 2 และจัด IS 3 ในกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน ซง่ึ เปน สว นหนึ่งของกจิ กรรมพฒั นาผูเ รยี น ๒. ประถมศึกษาช้ันปท่ี ๔ - ๖ จัดเปนรายวิชาเพิ่มเติม ๑ รายวิชา คือ การศึกษาเพื่อเรียนรู (Knowledge Inquiry) ใหมีกระบวนการเรียนรูครอบคลุมทั้ง IS 1 และ IS 2 ใชเวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง/ป หรือ ๑ ช่ัวโมง/สัปดาห และจัดสาระ IS 3 ในกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน ซ่ึงเปนสวนหนึ่ง ของกจิ กรรมพัฒนาผเู รียน ระดบั มัธยมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนตนและระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจัดเปนรายวิชาเพิ่มเติม ๒ รายวิชา คือ การศกึ ษาคนควา และสรางองคค วามรู (Research and Knowledge Formation : IS 1) และการส่ือสารและ การนําเสนอ (Communication and Presentation : IS 2) แตล ะรายวิชามจี าํ นวนหนว ยกติ ๑ - ๑.๕ หนวยกติ โดยใหทั้ง ๒ รายวิชา เปนรายวิชาท่ีเรียนตอเนื่องกันในแตละระดับการศึกษาของระดับมัธยมศึกษาตอนตน และระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ทัง้ นี้ การจดั เนื้อหาสาระของการศึกษาคน ควา ดวยตนเอง (IS : Independent Study) ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายควรมีความเขมขนมากกวาระดับมัธยมศึกษาตอนตน และจัดใหเรียน IS 3 ในกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน ซ่ึงเปนสวนหนึ่งของกิจกรรมพัฒนาผูเรียนในชั้นปเดียวกัน กับท่เี รยี น IS 2 การดําเนินการจดั การเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล ปก ารศึกษา ๒๕๕๕ ๑. สําหรับผูเรียนท่ียังไมไดเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมมาตรฐานสากลเดิม ๔ รายวิชา ใหสถานศึกษา จัดการเรียนการสอน การศึกษาคนควาดวยตนเอง (IS : Independent Study) ตามแนวทางท่ีสํานักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานกาํ หนด ๒. สําหรับผูเรียนท่ีเรียนรายวิชาเพิ่มเติมมาตรฐานสากลเดิมครบ ๔ รายวิชา ตามขอกําหนดแลว สถานศึกษาไมต อ งจดั การเรียนการสอนรายวชิ าการศึกษาคน ควาดวยตนเอง (IS : Independent Study) ๓. สําหรับผูเรียนท่ีเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมมาตรฐานสากลเดิม ๔ รายวิชา ไมครบตามขอกําหนด ใหสถานศกึ ษาจดั การเรยี นการสอนรายวชิ าเพ่มิ เตมิ การศกึ ษาคนควา ดวยตนเอง (IS : Independent Study) แทนในสวนที่ยงั จดั ไมค รบ การกําหนดชือ่ รายวิชาและรหสั วิชา ๑. สถานศึกษาท่ีจัดรายวิชาเพิ่มเติมมาตรฐานสากลตามแนวทางเดิมใน ๒ ปการศึกษาที่ผานมา ใหเปล่ียนช่ือรายวิชาในเอกสารใบรายงานผลการเรียน (ปพ.) ฉบับภาษาอังกฤษใหม และใหใชรหัสวิชา ตามกลุมสาระที่กาํ หนดไวเดิม ดงั น้ี แนวปฏบิ ัตกิ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู 219 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p219 6/10/2558 9:22:06

ชอ่ื ภาษาไทย ช่ือภาษาอังกฤษ เดิม ช่อื ภาษาอังกฤษ ใหม ทฤษฎีความรู Theory of Knowledge Knowledge Formation โลกศึกษา Global Education Global Education การเขยี นความเรยี งขั้นสูง Extended - Essay Academic Writing กิจกรรมสรางสรรคป ระโยชน Creativity, Action, Service Social Service ๒. สถานศึกษาท่ีจัดรายวิชาเพ่ิมเติมการศึกษาคนควาดวยตนเอง (IS : Independent Study) ใหใชรหัสตวั อักษร “I” เปน ภาษาองั กฤษ สําหรับหลักที่ ๒ - ๖ ทเ่ี ปน ตวั เลขอารบิกใหใ ชต ามท่ีกาํ หนดไวเ ดิม ๓. การเทยี บเคยี งรายวชิ าเพม่ิ เตมิ มาตรฐานสากลเดิมและใหม รายวชิ าเพ่ิมเตมิ เดิม รายวิชาเพิ่มเตมิ ใหม (ปก ารศกึ ษา ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔) (ตงั้ แตป ก ารศกึ ษา ๒๕๕๕) ทฤษฎคี วามรู ระดับประถมศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษา (TOK : Theory of Knowledge) รายวิชา................... การศึกษาคน ควา โลกศึกษา (Knowledge Inquiry) และสรางองคความรู (GE : Global Education) (Research and Knowledge (IS 1 และ IS 2) Formation) (IS 1) การเขียนความเรียงขน้ั สูง (EE : Extended - Essay) กิจกรรมเพือ่ สังคม การสอ่ื สารและการนาํ เสนอ และสาธารณประโยชน (Communication and กจิ กรรมสรางสรรคประโยชน (Social Service Activity) Presentation) (IS 2) (CAS : Creativity, Action, (IS 3) กจิ กรรมเพื่อสงั คมและ Service) สาธารณประโยชน (Social Service Activity) (IS 3) สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จึงกําหนดใหสถานศึกษาในโครงการโรงเรียน มาตรฐานสากลทุกโรงเรียน ใชแนวปฏิบัติการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนมาตรฐานสากล (ฉบับปรับปรุง) ตามประกาศฉบบั นี้ เปน แนวทางในการปฏิบัติ ตั้งแตป การศกึ ษา ๒๕๕๕ เปนตน ไป ประกาศ ณ วันท่ี ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ (นายชนิ ภทั ร ภูมิรตั น) เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน 220 แนวปฏิบตั ิการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p220 6/10/2558 9:22:06

ดวนมาก ที่ ศธ ๐๔๐๑๐/ว๑๕๓๑ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กทม. ๑๐๓๐๐ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เรอ่ื ง ซกั ซอ มความเขาใจการรับโอนผลการเรียนกรณียา ยสถานศึกษา เรียน ผอู าํ นวยการสํานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาทกุ เขต สิง่ ทีส่ งมาดว ย ๑. คําสั่งกระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ เร่อื งแนวปฏิบตั ิการวัดและประเมินผล การเรยี นในระยะตอ เนอื่ ง ระหวา งหลกั สตู รการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ และ หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ลงวนั ท่ี ๓๐ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ๒. คาํ อธิบายแนวปฏิบตั ิตามคําสัง่ กระทรวงศกึ ษาธิการท่ี สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ ตามทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารมคี าํ สงั่ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารท่ี สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ เรอื่ ง แนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมินผลการเรียนในระยะตอเนื่อง ระหวางหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ และ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ลงวันท่ี ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ และไดจัดสง คําสั่งดังกลาวใหส ํานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาทกุ เขต เมอ่ื เดอื นตุลาคม ๒๕๕๒ แลวน้นั ไดม ีผูปกครองหลายทาน รอ งเรยี นไปทสี่ าํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานในกรณมี คี วามจาํ เปน ทจี่ ะใหบ ตุ รหลานยา ยสถานศกึ ษา ที่ใชหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ไปเรียนสถานศึกษาที่ใชหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ เนอ่ื งจากยา ยถ่นิ ฐาน แตม ีสถานศึกษาบางแหงปฏิเสธไมรับยา ยแตใ หน ักเรียน เรยี นซาํ้ ช้นั โดยอา งวา เรียนคนละหลกั สตู รกัน ฉะน้ัน เพ่ือใหเกิดความเขาใจถูกตองและชัดเจนในแนวปฏิบัติตามคําส่ัง สํานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐานจึงไดจัดทําคําอธิบายแนวปฏิบัติตามคําส่ังกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ (ดังสิ่งที่สงมาดวย ขอ ๒) เพ่ือใหสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาทราบและดําเนินการแจงสถานศึกษาทุกแหง ทกุ สังกดั ท่รี ับผิดชอบทราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ ไป จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและดําเนินการ ขอแสดงความนับถอื (นายชินภทั ร ภมู ิรัตน) เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน สํานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา โทร. ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๖๗-๖๘ โทรสาร ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๔๕ แนวปฏิบตั ิการวดั และประเมินผลการเรียนรู 221 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p221 6/10/2558 9:22:06

คําอธิบายแนวปฏิบัตติ ามคําสัง่ กระทรวงศกึ ษาธิการ ที่ สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ เรื่อง แนวปฏบิ ตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรียนในระยะตอเนอื่ งระหวางหลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ และหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการประกาศใชหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยในระดบั ประถมศึกษาปท่ี ๑-๖ ใชพ รอ มกนั ทุกช้ันป สาํ หรับระดบั มธั ยมศึกษาเร่มิ ใชใ นช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ ๑ และ ๔ และเพม่ิ ขนึ้ ปล ะชน้ั ทงั้ นี้ ไดใ ชก บั โรงเรยี นในโครงการนาํ รอ งการใชห ลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตั้งแตปการศึกษา ๒๕๕๒ และใชกับโรงเรียนท่ัวไปตั้งแตปการศึกษา ๒๕๕๓ ฉะน้ัน เพอื่ ใหก ารจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานของสถานศกึ ษาทกุ สงั กดั ในระยะตอ เนอื่ งระหวา งหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ และหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เปน ไปดว ยความเรยี บรอ ย กระทรวงศึกษาธิการจึงมีคาํ สงั่ กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ เรอื่ ง แนวปฏบิ ตั กิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนในระยะตอ เนือ่ งระหวางหลกั สูตรการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๔๔ และหลักสตู รแกนกลาง การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๕๒ ในการน้ี สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ไดจัดทําคําอธิบายแนวปฏิบัติตามคําส่ัง กระทรวงศึกษาธิการดังกลาว เพื่อสถานศึกษาใชเปนแนวทางในการดําเนินงานท่ีเก่ียวของกับการออกเอกสาร หลักฐานการศกึ ษา การยา ยสถานศกึ ษา และการรบั โอนผลการเรยี น ดงั น้ี ๑. การจดั ทําเอกสารระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) กรณสี ถานศกึ ษาเปลี่ยนมาใชห ลกั สตู ร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยที่ความขอ ๑ ของคําส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ กาํ หนดใหน บั ผลการเรยี นตอ เนอ่ื งระหวา งหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามจํานวนชั้นปท่ีเหลืออยู และบันทึกลงใน แบบพมิ พ ปพ.๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ผลการเรียนทนี่ บั ตอ เนื่องนี้ ครอบคลมุ ทงั้ ผลการเรยี นของรายวชิ าในกลมุ สาระตา ง ๆ และกจิ กรรมพฒั นาผเู รยี น สถานศกึ ษาดาํ เนนิ การ ดงั นี้ ๑.๑ นําผลการเรียนท่ีเรียนตามโครงสรางหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ตามจํานวนชั้นปทเ่ี รียนมา และผลการเรียนตามโครงสรางหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตามจาํ นวนช้นั ปท่เี หลือ บันทึกลงในแบบ ปพ.๑ ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน กรณีระดับประถมศึกษา ใหปรับจํานวนหนวยนํ้าหนักเปนจํานวนช่ัวโมง โดย ๑ หนว ยนา้ํ หนัก มคี า เทา กับ ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๒ กิจกรรมพัฒนาผูเรียนในสวนท่ีเปนกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน ใหเปนไป ตามโครงสรางเวลาที่หลักสูตรสถานศึกษากําหนดใหผูเรียนแตละชั้นปเขารวมกิจกรรม การบันทึกเวลาเปนไป ตามเวลาการเขารว มกิจกรรมจรงิ ตามจํานวนช้นั ปทเี่ หลืออยู 222 แนวปฏบิ ัตกิ ารวดั และประเมินผลการเรยี นรู ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p222 6/10/2558 9:22:06

๑.๓ ในชองหมายเหตุของระเบียนแสดงผลการเรียน ใหระบุขอความ “ดําเนินการตามคําสั่ง กระทรวงศกึ ษาธิการ ท่ี สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ เรือ่ ง แนวปฏิบัติการวดั และประเมนิ ผลการเรียนในระยะตอ เนือ่ ง ระหวางหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๕๒” และขอ ความอ่ืนที่จําเปน เชน “ไดผลการเรียนเฉลยี่ ของ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖..........” เปน ตน ๒. การจัดทําเอกสารระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) กรณีผูเรียนยายสถานศึกษา ระหวาง หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ การยายสถานศึกษาของผูเรียนในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานเกิดไดทั้งเมื่อสิ้นปการศึกษา/ ภาคเรยี น ซงึ่ ผูเรยี นมผี ลการเรียนท่ีไดรบั การตัดสินเรยี บรอ ยแลว และระหวา งปก ารศึกษา/ภาคเรียน ซ่ึงผเู รียน ยังไมไดรับการตดั สนิ ผลการเรยี น โดยทีค่ วามขอ ๒ ของคําสงั่ กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ กําหนดใหด ําเนนิ การ ตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเทียบโอนผลการเรียนเขาสูการศึกษาในระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ใหแ นบระเบียนแสดงผลการเรยี นเดมิ ไวก บั ระเบียนแสดงผลการเรียนใหม สถานศกึ ษาดําเนินการ ดังนี้ ๒.๑ สถานศกึ ษาพจิ ารณารบั โอนผลการเรยี นเดมิ ทง้ั หมด และจดั เขา ชนั้ เรยี น/ภาคเรยี นตอ เนอ่ื ง หากเปนการยายเมื่อสิ้นปการศึกษา/ภาคเรียน ซ่ึงผูเรียนมีผลการเรียน ผลการเขารวมกิจกรรมท่ีไดรับ การตัดสินผลแลว หรือจัดใหเรียนตอเนื่องในช้ันปการศึกษาเดิม/ภาคเรียนเดิม หากเปนการยายระหวาง ปก ารศกึ ษา/ภาคเรียน ตามแตกรณี ๒.๒ ผลการเรียนของสถานศกึ ษาเดิมใหคิดตอเน่อื งกับผลการเรยี นของสถานศกึ ษาใหม อนึ่ง หากสถานศึกษาใหมพิจารณาเห็นวาผูเรียนจะมีคุณสมบัติไมครบถวนตามเกณฑ การจบหลักสูตรของสถานศึกษา ใหพิจารณาจัดใหผูเรียนไดลงทะเบียนเรียนเพิ่มเติม เพื่อใหมีคุณสมบัติ ครบตามโครงสรางหลกั สูตรของสถานศึกษา ๒.๓ การออกระเบยี นแสดงผลการเรียน ใหแนบระเบียนแสดงผลการเรียนของสถานศกึ ษาเดมิ ไวก ับระเบยี นแสดงผลการเรยี นของสถานศึกษาใหม ๒.๔ ในชองหมายเหตุของระเบียนแสดงผลการเรียน ใหระบุขอความ “ดําเนินการตามคําสั่ง กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๖๑๙/๒๕๕๒ เรอื่ ง แนวปฏิบัตกิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นในระยะตอ เนอื่ ง ระหวางหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ลงวันท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒” และ “รับโอนผลการเรียน..........หนวยกิต” ในระดับ มธั ยมศึกษา ท้งั น้ี ในการเทียบโอนผลการเรียน สถานศกึ ษาสามารถศกึ ษาเพมิ่ เติมไดจากแนวปฏบิ ัตเิ ก่ียวกบั การเทียบโอนผลการเรียนเขาสูการศึกษาในระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (สิงหาคม ๒๕๔๙) ซ่ึงไดจัดพิมพ ไวแ ลว ในเอกสารแนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรขู องสาํ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สาํ นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ แนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู 223 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p223 6/10/2558 9:22:06

ดว นมาก สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร กทม. ๑๐๓๐๐ ที่ ศธ ๐๔๐๑๐/ว๒๒๔ ๑๑ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖ เรื่อง ซกั ซอ มความเขาใจเกี่ยวกับเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทก่ี ระทรวงศึกษาควบคมุ และบังคับแบบ เรียน ผอู าํ นวยการสํานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา/มธั ยมศกึ ษาทกุ เขต อางถงึ หนงั สือสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน ที่ ศธ ๐๔๐๑๐/ว๑๐๖ ลงวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ เร่อื ง การปรับแบบพมิ พระเบยี นแสดงผลการเรียนหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (ปพ.๑) ตามหนังสือที่อางถึง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานไดสงคําสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๕/๒๕๕๖ เรอ่ื ง การปรบั แบบพิมพร ะเบียนแสดงผลการเรียนหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน (ปพ.๑) ตัวอยา งแบบพมิ พ ปพ.๑ ทั้ง ๓ แบบ พรอมทง้ั คําอธิบายการกรอกระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ความละเอียดแจง แลว นน้ั นอกจากนี้ สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ันฐานไดร บั ขอ หารือจากสถานศกึ ษา และสาํ นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาในบางประเดน็ เกย่ี วกบั เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารควบคมุ และบังคับแบบ ดงั น้นั เพ่ือใหเกดิ ความเขาใจ ถูกตอ ง ชัดเจน และตรงกนั สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษา ข้ันพ้นื ฐานจงึ ขอซกั ซอมความเขาใจในประเดน็ ตอไปนี้ ๑. แบบพิมพระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (ปพ.๑) ฉบับ ปรับปรงุ เริ่มใชใ นปการศกึ ษา ๒๕๕๕ เปนตน ไป ๑.๑ กรณสี ถานศกึ ษามแี บบพมิ พร ะเบยี นแสดงผลการเรยี นหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน (ปพ.๑) เปนแบบพิมพปกติ ซ่ึงมีลักษณะเปนแบบพิมพสมบูรณ ครบถวน สําหรับใชกรอกขอมูลดวยการเขียน หรือพมิ พดดี กรณนี ี้ สถานศึกษาไมสามารถใชแ บบพมิ พที่มีอยเู ดมิ ได ตอ งสั่งซื้อแบบพิมพฉ บบั ปรบั ปรงุ ใหม ๑.๒ กรณสี ถานศกึ ษามแี บบพมิ พร ะเบยี นแสดงผลการเรยี นหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน (ปพ.๑) ฉบับท่ีใชกับคอมพิวเตอร กรณีนี้ สถานศึกษาสามารถใชแบบพิมพท่ีมีอยูเดิมได โดยใหข้ึนเลมใหม ไมค วรใชต อจากเลมเดิมท่ีเหลอื เพอ่ื ประโยชนใ นการควบคมุ และตรวจสอบเอกสาร ๒. การสง่ั ซอ้ื แบบพมิ พเ อกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารควบคมุ และบงั คบั แบบ ๒.๑ สาํ นกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเปน ผดู าํ เนนิ การจดั ซอ้ื แบบพมิ พร ะเบยี นแสดง ผลการเรียน (ปพ.๑) และประกาศนียบัตร (ปพ.๒) จากองคการคา ของ สกสค. ใหก ับสถานศกึ ษาในสังกดั และ สถานศกึ ษาสังกัดอ่นื ทตี่ ง้ั อยูในเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาในเขตนน้ั 224 แนวปฏิบตั ิการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p224 6/10/2558 9:22:07

๒.๒ สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาเปนผูดําเนินการจัดซ้ือแบบพิมพระเบียนแสดง ผลการเรียน (ปพ.๑) และประกาศนยี บัตร (ปพ.๒) จากองคก ารคาของ สกสค. ใหก ับสถานศึกษาในสังกดั ๒.๓ สถานศกึ ษาสงั่ ซอื้ แบบรายงานผสู าํ เรจ็ การศกึ ษา (ปพ.๓) โดยตรงไดท อ่ี งคก ารคา ของ สกสค. ๓. การจัดเก็บแบบรายงานผูสําเร็จการศกึ ษา (ปพ.๓) ๓.๑ การจัดเก็บแบบรายงานผูสําเร็จการศึกษา (ปพ.๓) ในระดับประถมศึกษาและระดับ มธั ยมศกึ ษา ใหดําเนนิ การดงั นี้ ระดบั ประถมศกึ ษา สถานศกึ ษาจัดทาํ ๒ ชดุ โดยเก็บรกั ษาไวทสี่ ถานศึกษา ๑ ชุด และ สาํ นกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาตนสงั กัด ๑ ชุด ระดบั มธั ยมศกึ ษา สถานศกึ ษาจดั ทาํ ๓ ชดุ โดยเกบ็ รกั ษาไวท สี่ ถานศกึ ษา ๑ ชดุ สาํ นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ๑ ชดุ และสํานักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพน้ื ท่ี การศึกษามัธยมศึกษาท่ีเปนตนสังกัด ๑ ชุด สําหรับสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หมายรวมถึง โรงเรียนขยายโอกาสเดิม สํานักงานคณะกรรมการการสงเสริมการศึกษาเอกชน และสังกัดอ่ืน สวนสํานักงาน เขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาจดั เกบ็ เฉพาะสถานศึกษาในสังกดั ๓.๒ แบบรายงานผสู าํ เรจ็ การศกึ ษา (ปพ.๓) หลกั สตู รการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ ท่ีจัดเก็บไวเดิมที่สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษากอนการกําหนดแกไขเปลี่ยนแปลงเขตพ้ืนท่ีการศึกษาใหจัดเก็บ ท่ีสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา และสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาที่เปนตนสังกัดของ สถานศกึ ษา ท้ังน้ี ในการจัดเก็บแบบรายงานผูสําเร็จการศึกษา (ปพ.๓) ใหอยูในความดูแลรับผิดชอบของ กลุมสงเสริมการจัดการศึกษาของสํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา และสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มธั ยมศกึ ษา ๔. การอนมุ ัติจบการศึกษา การอนุมัติจบการศึกษา สถานศึกษาสามารถอนุมัติจบการศึกษาใหผูเรียนไดตลอดป โดย ไมตองรอจนถึงปลายภาคหรือปลายปการศึกษา ควรคํานึงถึงสิทธิประโยชนของผูเรียนเปนสําคัญ การอนุมัติ ใหจบการศกึ ษาภายในวนั เดือนปเดยี วกนั ถือเปน การจบการศึกษารนุ เดยี วกนั วันอนมุ ัตจิ บการศึกษา ภาคเรยี น และปการศึกษาท่ีสําเร็จการศึกษาจะตองสอดคลองกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยปการศึกษาการเปด และปดสถานศกึ ษา ๔.๑ การอนุมตั ิจบการศกึ ษาพรอมรนุ ผูเรียนที่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑการจบการศึกษาในรุนปกติ สถานศึกษาตองจัดทํา แบบรายงานผสู ําเร็จการศกึ ษาฉบับเดยี วกนั และอนมุ ัติใหจ บการศกึ ษาภายในวันเดอื นปเดียวกัน แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู 225 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p225 6/10/2558 9:22:07

๔.๒ การอนุมตั ิจบการศกึ ษาไมพรอ มรนุ ผูเรียนท่ีมีคุณสมบัติไมครบตามเกณฑการจบการศึกษาในรุนปกติ จําเปนตองเรียนตอ เพ่ือใหจ บหลักสตู ร เชน จบภาคฤดูรอ น หรอื ตองแกไ ขผลการเรยี น หรือดว ยเหตจุ าํ เปนบางประการ เมอื่ ผเู รยี น มคี ณุ สมบัติครบตามเกณฑการจบการศกึ ษาแลว สามารถอนมุ ัตใิ หจ บได ๕. การรบั รองจบการศกึ ษาเปน ภาษาอังกฤษ การออกหนังสือรับรองการจบการศึกษาเปนภาษาอังกฤษเพื่อนําไปใชในตางประเทศ เปน อํานาจการดําเนินงานของสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา สามารถนําไปใชควบคูกับใบแสดงผลการเรียน เปนรายวชิ า (Transcript) ที่สถานศึกษาออกใหแกผ รู อ งขอเปน รายบคุ คล ๖. การแตง ต้งั เจาพนักงานทะเบียนของเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา การดําเนินงานทะเบียนและเอกสารหลักฐานการศึกษาจําเปนตองมีเจาพนักงานทะเบียนของ เขตพื้นท่ีการศึกษา ดังน้ัน ผูอํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาตองแตงตั้งเจาพนักงานทะเบียนของ เขตพืน้ ท่ีการศึกษาอยา งเปน ทางการ เพอ่ื ดูแลรับผิดชอบการดาํ เนินงานดงั กลาว จงึ แจง มาเพอ่ื ทราบและแจง ใหส ถานศกึ ษาในสงั กดั และสงั กดั อน่ื ทต่ี ง้ั อยภู ายในเขตของทา นทราบและ ดาํ เนินการในสว นทีเ่ ก่ียวของตอ ไป ขอแสดงความนับถอื (นางเบญจลักษณ น้าํ ฟา) รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ปฏิบัติราชการแทนเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน สาํ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา โทร ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๖๗-๖๘ โทรสาร ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๔๕ 226 แนวปฏิบัติการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p226 6/10/2558 9:22:07

ที่ ศธ ๐๔๐๑๐/ว๓๐๖๗ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร กทม. ๑๐๓๐๐ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ เร่ือง เอกสารหลักฐานการศกึ ษา ฉบับภาษาองั กฤษ เรยี น ผอู ํานวยการสํานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษา/มัธยมศกึ ษาทกุ เขต ส่งิ ทีส่ ง มาดวย ๑. เอกสาร “การจดั ทาํ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา ฉบบั ภาษาอังกฤษ (Transcript)” ๒. เอกสาร “ช่ือกลมุ สาระการเรยี นรู และรหัสตัวอกั ษรของกลุมสาระการเรียนร”ู ตามท่ีมีสถานศึกษาหลายแหงไดรองขอเอกสารหลักฐานการศึกษา ฉบับภาษาอังกฤษ (Transcript) ไปทส่ี าํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน เพอื่ ทจี่ ะออกเอกสารดงั กลา วใหแ กน กั เรยี นทมี่ คี วามประสงค จะไปศกึ ษาตอ ในตา งประเทศ นน้ั สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานพจิ ารณาแลว จงึ ไดจ ดั ทาํ เอกสาร หลกั ฐานการศึกษา ฉบบั ภาษาอังกฤษ ทงั้ ระดับประถมศกึ ษา มธั ยมศึกษาตอนตน และมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย พรอมทั้งช่ือกลุมสาระการเรียนรู และรหัสตัวอักษร มาเพื่อใหสถานศึกษาใชเปนแนวทางในการจัดทําเอกสาร หลกั ฐานการศกึ ษา ฉบับภาษาองั กฤษ ดงั ส่งิ ทีแ่ นบมาพรอมน้ี จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ และแจง สถานศกึ ษาทกุ แหง ทกุ สงั กดั ทรี่ บั ผดิ ชอบทราบและดาํ เนนิ การตอ ไป ขอแสดงความนับถือ (นายชยั พฤกษ เสรรี ักษ) รองเลขาธิการ ปฏบิ ตั ริ าชการแทน เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน สาํ นักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา แนวปฏิบตั ิการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู 227 โทร. ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๖๗-๖๘ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ โทรสาร ๐ ๒๖๒๘ ๕๘๕๘ 6/10/2558 9:22:07 0675_57.indd p227

การจดั ทําเอกสารหลกั ฐานการศึกษา ฉบบั ภาษาอังกฤษ (Transcript) เอกสารหลักฐานการศึกษา ฉบับภาษาอังกฤษ (Transcript) เปนเอกสารท่ีสถานศึกษาออกใหแก ผูรองขอ เพ่ือใชสิทธิประโยชนในการศึกษาหรือสมัครงานที่หนวยงานตองการเปนภาษาอังกฤษ สํานักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน จงึ ไดจ ดั ทาํ ตวั อยา งแบบพมิ พข องเอกสารดงั กลา วสาํ หรบั สถานศกึ ษาใชเ ปน แนวทางในการจัดทําเอกสารหลักฐานการศึกษา ฉบับภาษาอังกฤษ (Transcript) เอกสารหลักฐานการศึกษา ฉบบั ภาษาอังกฤษ (Transcript) ประกอบดวยขอมลู ตอ ไปน้ี เปนอยา งนอ ย ๑. ขอ มูลทวั่ ไป ๑.๑ ขอ มูลเกี่ยวกับโรงเรียน ไดแ ก ช่อื โรงเรียน (School Name) สถานท่ีตั้งโรงเรยี น (School Address) ๑.๒ ขอมูลเกี่ยวกับนักเรียน ไดแก ช่ือ-ช่ือสกุลนักเรียน (Student Name) เพศ (Sex) เลขประจําตัวประชาชน ๑๓ หลัก (ID Number) สัญชาติ (Nationality) ศาสนา (Religion) วัน เดอื น ปเกิด (Date of Birth) สถานทเ่ี กิด (Place of Birth) ทอ่ี ยูปจ จุบนั (Home Address) ชอ่ื -ชอ่ื สกลุ บิดา/มารดา หรอื ผูป กครอง (Name of Parents or Guardian) วนั เดือน ปข องวันทท่ี ีน่ ักเรียนเขา เรียน (Date of Admission) ชอื่ โรงเรียนเดิม (Name of Former School) และช้ันสุดทายที่นักเรียนเรียนในโรงเรียนเดิม (Grade) ๑.๓ ตาํ แหนง ทต่ี ิดรปู ถา ย (Photograph) ขนาด ๓x๔ เซนติเมตร ๒. ขอ มูลผลการเรยี นรายวิชาและกิจกรรม ๒.๑ รหัสวชิ า (Course Code) ๒.๒ รายวิชาที่เรียน (Course) ๒.๓ จํานวนชั่วโมงของรายวิชาตาง ๆ (Hour) สําหรับระดับประถมศึกษา หนวยกิตของรายวิชาตา ง ๆ (Credit) สาํ หรับระดับมธั ยมศึกษา ๒.๔ ระดบั ผลการเรียน/ผลการประเมนิ ท่ีได (Grade or Result) ๓. ขอ มูลเกี่ยวกับการจบการศกึ ษา ๓.๑ เกณฑก ารจบการศกึ ษา (Graduation Requirements) ระบุการจบการศึกษาตามเกณฑการจบการศึกษาของสถานศึกษาท่ีเปนไปตามโครงสราง หลักสูตร ๓.๒ ระบบการตดั สนิ ผลการเรยี น (Grading System) ระบคุ วามหมายของระดับผลการเรยี นรายวิชา และผลการประเมนิ การอาน คดิ วเิ คราะห และเขียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค และกจิ กรรมพัฒนาผเู รียน ๔. สรปุ ผล (Summary of Result) ระบผุ ลสรปุ การประเมินของผเู รียน ประกอบดวย ๔.๑ ผลการประเมนิ รายวชิ าพน้ื ฐาน/รายวิชาเพ่มิ เตมิ (Result of Core Course/Selective Course) 228 แนวปฏบิ ตั ิการวดั และประเมินผลการเรียนรู ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p228 6/10/2558 9:22:07

๔.๒ ผลการประเมินการอาน คิดวิเคราะห และเขียน (Result of Reading, Analytical Thinking and Writing Skills) ๔.๓ ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค (Result of Desired Characteristics) ๔.๔ ผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู รยี น (Result of Learner Development Activities) ๔.๕ จาํ นวนชั่วโมงทท่ี ํากจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน (Community Service) ๕. ขอ มูลเก่ียวกับการอนุมตั กิ ารจบการศึกษา การลงนามและการประทบั ตราสถานศึกษา ระบุขอมูลการจบการศกึ ษาของผูเรยี น ประกอบดว ย ๕.๑ วนั อนุมตั กิ ารจบการศึกษา (Date of Graduation) ๕.๒ วนั ออกจากโรงเรียน (Date of Leaving) ๕.๓ ลายเซน็ ของนายทะเบยี น (Registrar) และผบู รหิ ารสถานศกึ ษา (Director) และวนั /เดอื น/ป ที่ลงนาม (Date) ๕.๔ การประทับตราสถานศกึ ษา ใหประทับตรา ๒ แหง คือ ๕.๔.๑ ดานหนา ใหสวนหนึ่งติดบนรูปถายของผูเรียนเจาของใบแสดงผลการเรียน อกี สวนหนึ่ง ตดิ ขอ มูลใดขอมูลหนึ่งของผเู รยี น ๕.๔.๒ ดานหลงั ใหติดบนสว นท่ีเปน ลายเซ็นของผูบริหารสถานศกึ ษา ๖. อ่ืน ๆ (ถา ม)ี ใหระบุในชองหมายเหตุ รายละเอยี ดการจัดทํา Transcript ดงั แสดงในตวั อยา งตอ ไปนี้ ตัวอยา งที่ ๑ Transcript สําหรบั ระดบั ประถมศึกษา ตวั อยา งที่ ๒ Transcript สาํ หรบั ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน ตวั อยางที่ ๓ Transcript สาํ หรับระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู 229 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p229 6/10/2558 9:22:07

ตราโรงเรียน ตัวอยางที่ 1 BASIC EDUCATION TRANSCRIPT (Primary Level) School Name.............................................................................................................. School Address........................................................................................................... Student Name...................................................................................Sex................... Photograph ID Number.....................................Nationality......................Religion...................... 3X4 cm. Date of Birth....................................................Place of Birth................................... Home Address............................................................................................................ Name of Parents (or Guardian)............................................................................... Date of Admission............................................................................................................................................ Name of Former School.....................................................Grade (Former School).................................. Course Course Hour Result Course Course Hour Result Code Code Grade...............Year 20.......... Grade...............Year 20.......... Grade...............Year 20.......... 230 แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p230 6/10/2558 9:22:07

Course Course Hour Result Graduation Requirements Code 1. Attain the total core courses of........hours and selective courses of...........hours in accordance with the curriculum structure. 2. Pass all core courses. 3. Meet the passing criteria for reading, analytical thinking and writing skills; desired characteristics; and learner development activities. Grading System 4 = Excellent 3.5 = Very good 3 = Good 2.5 = Rather good 2 = Satisfactory 1.5 = Fairly satisfactory 1 = Pass 0 = Fail Measurement Scale for Reading, Analytical Thinking, Writing Skills and Desired Characteristics E = Excellent G = Good P = Pass F = Fail Measurement Scale for Learner Development Activities P = Pass F = Fail Summary of Result Result of Core Courses : Result of Reading, Analytical Thinking and Writing Skills : Result of Desired Characteristics : Result of Learner Development Activities : Community Service : Hrs. Date of Graduation : Date of Leaving : (.............................) Registrar Date............................ (.............................) Director Date............................ Transcript closed REMARK............................................................................................... ................................................................................................................. แนวปฏิบตั กิ ารวดั และประเมินผลการเรยี นรู 231 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p231 6/10/2558 9:22:07

ตราโรงเรยี น ตัวอยา งท่ี 2 BASIC EDUCATION TRANSCRIPT (Lower Secondary Level) School Name................................................................................................................ School Address............................................................................................................ Student Name........................................................................................Sex................ Photograph ID Number..........................................Nationality......................Religion................... Date of Birth....................................................Place of Birth..................................... 3x4 cm. Home Address.............................................................................................................. Name of Parents (or Guardian)................................................................................. Date of Admission............................................................................................................................................ Name of Former School............................................Grade (Former School)........................................... No. of Credit Earned (Former School)......................................................................................................... Course Course Credit Grade Course Course Credit Grade Code Code Grade...............Year 20.......... Grade...............Year 20.......... Semester 1 Semester 1 Semester 2 Semester 2 Grade...............Year 20.......... Semester 1 Semester 2 232 แนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p232 6/10/2558 9:22:07

Course Course Credit Grade Graduation Requirements Code 1. Meet the requirement for credits enrolled in accordance with the curriculum structure of.........credits. 2. Earn the total of 77 credits of which 66 credits are core courses and 11 credits are selective courses. 3. Meet the passing criteria for reading, analytical thinking and writing skills; desired characteristics; and learner development activities. Grading System 4 = Excellent 3.5 = Very good 3 = Good 2.5 = Rather good 2 = Satisfactory 1.5 = Fairly satisfactory 1 = Pass 0 = Fail Measurement Scale for Reading, Analytical Thinking, Writing Skills and Desired Characteristics E = Excellent G = Good P = Pass F = Fail Measurement Scale for Learner Development Activities P = Pass F = Fail Summary of Result NoC.ooref CCroeudristeof SNeole. cotfivCereCdoiut rosfe Academic Year Enrolled Passed Enrolled Passed TOTAL CREDITS TOTAL CREDITS ENROLLED : TOTAL CREDITS EARNED : GPA : Result of Reading, Analytical Thinking and Writing Skills : Result of Desired Characteristics : Result of Learner Development Activities : Community Service : Hrs. Date of Graduation : Date of Leaving : Transcript closed (.............................) Registrar Date............................ REMARK............................................................................................... (.............................) .............................................................................................................. Director Date............................ แนวปฏิบตั กิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู 233 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p233 6/10/2558 9:22:07

ตราโรงเรยี น ตวั อยางที่ 3 BASIC EDUCATION TRANSCRIPT (Upper Secondary Level) School Name............................................................................................................... School Address........................................................................................................... Student Name.....................................................................................Sex.................. ID Number..........................................Nationality......................Religion.................. Photograph Date of Birth....................................................Place of Birth.................................... 3x4 cm. Home Address............................................................................................................. Name of Parents (or Guardian)................................................................................ Date of Admission............................................................................................................................................ Name of Former School............................................Grade (Former School)........................................... No. of Credit Earned (Former School)......................................................................................................... Course Course Credit Grade Course Course Credit Grade Code Code Grade...............Year 20.......... Grade...............Year 20.......... Semester 1 Semester 1 Semester 2 Semester 2 Grade...............Year 20.......... Semester 1 Semester 2 234 แนวปฏบิ ตั ิการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p234 6/10/2558 9:22:08

Course Course Credit Grade Graduation Requirements Code 1. Meet the requirement for credits enrolled in accordance with the curriculum structure of.........credits. 2. Earn the total of 77 credits of which 41 credits are core courses and 36 credits are selective courses. 3. Meet the passing criteria for reading, analytical thinking and writing skills; desired characteristics; and learner development activities. Grading System 4 = Excellent 3.5 = Very good 3 = Good 2.5 = Rather good 2 = Satisfactory 1.5 = Fairly satisfactory 1 = Pass 0 = Fail Measurement Scale for Reading, Analytical Thinking, Writing Skills and Desired Characteristics E = Excellent G = Good P = Pass F = Fail Measurement Scale for Learner Development Activities P = Pass F = Fail Summary of Result NoC.ooref CCroeudristeof SNeole. cotfivCereCdoiut rosfe Academic Year Enrolled Passed Enrolled Passed TOTAL CREDITS TOTAL CREDITS ENROLLED : TOTAL CREDITS EARNED : GPA : Result of Reading, Analytical Thinking and Writing Skills : Result of Desired Characteristics : Result of Learner Development Activities : Community Service : Hrs. Date of Graduation : Date of Leaving : Transcript closed (.............................) Registrar Date............................ REMARK............................................................................................... (.............................) ................................................................................................................. Director Date............................ แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู 235 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p235 6/10/2558 9:22:08

ช่ือกลมุ สาระการเรยี นรู และรหัสตัวอักษรของกลุม สาระการเรียนรู ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กลุม สาระการเรียนรู รหัสตวั อกั ษร ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ท TH ภาษาไทย Thai Language ค MA ว SC คณติ ศาสตร Mathematics ส SO พ HP วทิ ยาศาสตร Science ศ AR ง OT สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม Social Studies, Religion and Culture ต FO ก KO สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา Health and Physical Education ข KH จ CH ศลิ ปะ Arts ญ JA บ PA การงานอาชพี และเทคโนโลยี Occupations and Technology ฝ FR ต MY ภาษาตางประเทศ Foreign Languages ม ML ย GE ภาษาเกาหลี Korean ร RU น LA ภาษาเขมร Khmer ล LO ต VI ภาษาจนี Chinese ป SP ร AB ภาษาญปี่ ุน Japanese อ EN ฮ HI ภาษาบาลี Pali ภาษาฝร่งั เศส French ภาษาพมา Myanmar ภาษามลายู Malay ภาษาเยอรมัน German ภาษารัสเซีย Russian ภาษาลาตนิ Latin ภาษาลาว Loas ภาษาเวยี ดนาม Vietnamese ภาษาสเปน Spanish ภาษาอาหรบั Arabic ภาษาองั กฤษ English ภาษาฮินดู Hindi ทีม่ า : กลมุ พัฒนาหลกั สตู ร สํานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา 236 แนวปฏิบัติการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p236 6/10/2558 9:22:08

บนั ทึกขอ ความ สวนราชการ สาํ นักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา กลุมพัฒนาและสงเสรมิ การวดั ฯ โทร. ๐ ๒๒๘๘ ๕๗๖๗ ที่ ศธ ๐๔๐๑๐/๒๒๑๑ วนั ท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เร่อื ง ขอหารือเร่ืองประกาศนียบตั รฉบับภาษาองั กฤษ เรียน ผอู าํ นวยการสาํ นักบรหิ ารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามที่สํานักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลายขอหารือเร่ืองการจัดทําประกาศนียบัตรฉบับ ภาษาอังกฤษใหน กั เรียนในโครงการ Education Hub ท่ีจบการศึกษาในแตล ะชว งช้ัน ไวเ ปนหลกั ฐานประกอบ การศกึ ษาตอ ท้งั ในประเทศและตา งประเทศ นั้น สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาไดพิจารณารวมกับสํานักทดสอบทางการศึกษาแลว ขอเรียนวา ในกรณที โี่ รงเรยี นในโครงการ Education Hub จดั การเรยี นการสอนโดยใชห ลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หรอื ใชหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เปนฐานและผสมผสาน สวนหนงึ่ ตามกรอบหลักสตู รของตางประเทศ น้นั หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ไดกําหนดเร่ืองการออกเอกสารหลักฐานการศึกษาท่ีกระทรวงศึกษาธิการควบคุมและบังคับแบบไวแลว ไดแก ระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑) ประกาศนยี บตั ร (ปพ.๒) และแบบรายงานผูสาํ เร็จการศึกษา (ปพ.๓) สําหรบั ฉบับภาษาอังกฤษ เปนเอกสารทตี่ อ งรอ งขอเปนการเฉพาะรายโดยมีวัตถุประสงคใ นการนาํ ไปใชตางประเทศ สําหรับกรณีการจัดทําประกาศนียบัตรฉบับภาษาอังกฤษ ใหนักเรียนในโครงการ Education Hub น้ัน หากผูเรียนประสงคจะใชประกาศนียบัตรฉบับภาษาอังกฤษ สถานศึกษามีอํานาจในการจัดทําใบแปล ประกาศนียบัตรเปนภาษาอังกฤษอยูแลว เน่ืองจากเปนผูจัดทําประกาศนียบัตรฉบับภาษาไทย ซ่ึงยึดถือ เปนหลักการและแนวปฏิบัติมาโดยตลอดวาหนวยงานใดหรือสถานศึกษาใดเปนผูออกประกาศนียบัตรฉบับ ภาษาไทย หนวยงานนั้นและสถานศึกษานั้นจะตองเปนผูแปลประกาศนียบัตรน้ันดวย (ดังเอกสาร ท่ี ศธ ๐๖๐๘/๗๒๙ ทแ่ี นบ) ทั้งนี้ ไดแนบตวั อยางใบแปลประกาศนยี บตั รมาพรอ มหนงั สือฉบับน้ีดวยแลว จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ (นางสาวไพรวลั ย พิทกั ษส าล)ี ผูอํานวยการสาํ นกั ทดสอบทางการศึกษา รกั ษาราชการแทนผูอํานวยการสํานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู 237 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ 0675_57.indd p237 6/10/2558 9:22:08