Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศบาลเมืองแพร่

ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศบาลเมืองแพร่

Published by อัศนี ศรีสวัสดิ์, 2021-07-21 03:47:17

Description: ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศบาลเมืองแพร่

Search

Read the Text Version

ทะเบยี น ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ และปราชญ์ชาวบา้ นชมุ ชน ในเขตเทศบาลเมอื งแพร่ จดั ทาโดย กองการศกึ ษา เทศบาลเมอื งแพร่

คำนำ ทะเบียนภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือปราชญ์ชาวบ้านเล่มนี้ กองการศึกษา เทศบาล เมอื งแพร่ ไดร้ วบรวม สำรวจขอ้ มลู เกี่ยวข้องกับกิจกรรมด้านศลิ ปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ จัดทำขึ้นเพื่อสำรวจเก็บข้อมูล รวบรวมข้อมูลเกี่ยวข้องกับกิจกรรม ด้านศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมน มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือของชุมชน ในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น นอกจากนี้ได้จัดทำ ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น ที่ได้รับจากการศึกษา มาเสนอต่อชุมชน เพ่ือก่อประโยชน์และตระหนักถึง ความสำคัญในคุณค่าของมรดกทางด้านศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และมสี ว่ นรว่ มในการจรรโลง เผยแพร่และรักษาไวส้ ืบต่อไป กองการศึกษา เทศบาลเมืองแพร่ จะได้นำไปเผยแพร่ ณ ชุมชนในเขตเทศบาลเมือง แพร่ จำนวน 18 ชุมชน ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดเคลื่อนที่เทศบาลเมืองแพร่ โรงเรียนและ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดเทศบาลเมืองแพร่ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนได้ ศึกษาเรยี นรู้ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน หรอื ปราชญ์ชาวบา้ นของตนเอง การจัดทำทะเบียนภูมปิ ัญญาท้องถิ่น หรอื ปราชญ์ชาวบ้าน ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ได้รับความร่วมมือจากประธานชุมชน สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ จิตอาสา ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รู้ และประชาชนในท้องถิ่น ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จึงขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสน้ี คณะผจู้ ดั ทำ กองการศกึ ษา เทศบาลเมอื งแพร่

สารบัญ หน้า 1 เร่อื ง 6 ประวัติชุมชนในเขตเทศบาลเมอื งแพร่ ความหมาย 11 58 ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ ปราชญช์ าวบา้ น ทะเบยี นประวัติภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน/ปราชญ์ชาวบ้าน บรรณานุกรม

๑ ประวตั ิชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ แบ่งชุมชนทั้งหมด 18 ชุมชน คือ ชุมชนวัดหลวง ชุมชนพงษ์ สุนันท์ ชุมชนพระนอน ชุมชนศรีบุญเรือง ชุมชนหัวข่วง ชุมชนศรีชุม ชุมชนน้ำคือ ชุมชนสระบ่อแก้ว ชุมชนบ้าน ใหมส่ วรรคนเิ วศ ชุมชนเพชรรัตน์ ชมุ ชนชัยมงคล ชุมชนเหมอื งแดง ชุมชนเหมอื งหิตพฒั นา ชมุ ชนเหมืองหติ -ต้นธง ชมุ ชนทุง่ ต้อม ชมุ ชนร่องซอ้ ชมุ ชนเชตะวัน ชุมชนพระรว่ ง ประชากร จำนวนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 มีจำนวน 15,810 คน แยกเป็นชาย 7,323 คน หญิง 8,487 คน ความหนาแน่นของประชากร 1,905 คนต่อตาราง กิโลเมตร จำนวนบา้ น 8,599 หลงั คาเรือน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง ถนนสายหลักที่ผ่านตัวเมืองแพร่ คือ ถนนยันตรกิจโกศล หรือทาง หลวงแผน่ ดินหมายเลข 101 ส่วนการขนสง่ ทางอากาศ เมอื งแพร่มที ่าอากาศยาน 1 แหง่ คอื ทา่ อากาศยานแพร่ ซง่ึ เป็นทา่ อากาศยานขนาดเลก็ ตง้ั อยูน่ อกเขตเทศบาลไปทางทิศตะวนั ออก (ตำบลเหมืองหม้อ) องคก์ ารปกครองสว่ นท้องถิน่ เทศบาลเมอื งแพร่ การศกึ ษา สถานศึกษาในเขตเทศบาลเมืองแพร่ สงั กดั เทศบาลเมอื งแพร่ มดี ังนี้ โรงเรียนเทศบาล วัดสวรรคนิเวศ โรงเรียนเทศบาลวดั ชัยมงคล โรงเรียนเทศบาลวัดหัวข่วง โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง โรงเรียน สาธติ เทศบาลบา้ นเชตวนั และศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เล็กเทศบาลเมอื งแพร่ สงั กัดสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน โรงเรียนอนุบาลแพร่ โรงเรียนบ้านในเวยี ง โรงเรียนวัดเมธังกราวาส (เทศรัฐราษฎร์นุกูล) โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาแพร่ วทิ ยาลัยเทคนคิ แพร่ สาธารณสขุ มสี ถานพยาบาลของรัฐจำนวน 1 แหง่ คอื โรงพยาบาลแพร่ และโรงพยาบาลเอกชน จำนวน 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลแพรค่ ริสเตียน และโรงพยาบาลแพร่-ราม

๒ ความหมายภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่นปราชญ์ชาวบา้ น ปัญญาท้องถิ่นหรือภูมิปัญญาชาวบ้าน หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ชาวบ้านคิดขึ้นได้เองและนำมาใช้ใน การแก้ปัญหา เป็นเทคนิควิธีเป็นองค์ความรู้ของชาวบ้าน ทั้งทางกว้างและทางลึกที่ชาวบ้านคิดเอง ทำเอง โดย อาศัยศักยภาพที่มีอยู่แก้ปัญหาการด าเนินชีวิตในท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสมกับยุคสมัยความเหมือนกันของภูมิ ปัญญาไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ เป็นองค์ความรู้ และเทคนิคที่นำมาใช้ในการแก้ปัญหาและการตัดสนิ ใจ ซึ่ง ได้สบื ทอดและเชื่อมโยงมาอยา่ งต่อเน่ืองต้ังแต่อดตี ถึงปจั จุบัน ภูมิปัญญา หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ความเชื่อ ที่นำมาไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาของ มนุษย์ หรือ ภูมิปัญญา คือ พื้นความรู้ของปวงชนในสงั คมนัน้ ๆ และปวงชนในสงั คมยอมรับรู้ เชื่อถือ เข้าใจ รว่ มกนั เรยี กว่าภูมปิ ญั ญา ภูมิปัญญาไทย หมายถึง องค์ความรู้ ความสามารถและทักษะของคนไทยอันเกิดจากการสั่งสม ประสบการณ์ท่ผี า่ นกระบวนการเรยี นรู้ เลือกสรร ปรงุ แต่ง พฒั นา และถา่ ยทอดสบื ต่อกันมา เพอื่ ใช้แก้ปัญญาและ พัฒนาวิถีชีวิตของคนไทยให้สมดุลกับสภาพแวดลอ้ มและเหมาะสมกับยุคสมัย ภูมิปัญญาไทยนี้มีลักษณะเป็นองค์ รวม มีคุณค่าทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นในวิถีชีวิตไทย ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นอาจเป็นที่มาขององค์ความรู้ที่งอกงามขึ้น ใหม่ท่จี ะชว่ ยในการเรียนรู้ การแก้ปญั หา การจดั การและการปรบั ตวั ในการดำเนินวถิ ีชีวิตของคนไทย ลักษณะองค์ รวมของภูมิปัญญามีความเด่นชัดในหลายด้านเช่น ด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม และหัตถกรรม ด้าน การแพทย์แผนไทย ด้านการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ด้านศิลปกรรม ด้าน ภาษาและวรรณกรรม ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี และด้านโภชนาการ วัฒนธรรม พัฒนาการทาง ประวัติศาสตร์ เอกลกั ษณะและภมู ิปัญญา ผู้ทรงภมู ิปัญญาไทย หมายถึง บคุ คลผู้เป็นเจา้ ของภูมปิ ญั ญา หรอื เป็นผนู้ ำภูมิปญั ญาต่าง ๆ มาใช้ ประโยชนจ์ นประสบความสำเร็จ มผี ลงานดเี ดน่ เปน็ ทีย่ อมรับและไดร้ ับการยกย่องในฐานะเป็นผู้เชยี่ วชาญ สามารถเผยแพร่และถา่ ยทอดเชอ่ื มโยงคณุ คา่ ของภมู ปิ ญั ญาในแต่ละสาขานน้ั ๆ ให้แพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง ปราชญ์ชาวบ้าน หมายถึง บุคคลผู้เป็นเจ้าของภูมิปัญญาชาวบ้าน และนำภูมิปัญญามาใช้ประโยชน์ใน การดำรงชีวิตจนประสบผลสำเร็จสามารถถ่ายทอดเชื่อมโยงคุณค่าของอดีตกับปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมความ เหมือนกันระหว่างผู้ทรงภูมิปัญญาไทยกับปราชญ์ชาวบ้านคือ บทบาทและภารกิจในการนำภูมิปัญญาไปใช้ แก้ปญั หา และการถ่ายทอดเพ่ือให้เกิดความเช่ือมโยงจากอดีตถึงปจั จุบัน ส่วนความแตกต่างกันน้ันข้ึนอยู่กับระดับ ภูมปิ ญั ญาท่ีจะนำไปแก้ปญั หาและถ่ายทอดกลา่ วคือ ผูท้ รงภมู ิปัญญาไทยย่อมมีความสามารถหรือภารกิจในการนำ ภมู ิปญั ญาระดบั ชาติไปแก้ปัญหา หรอื ถ่ายทอด หรอื ผลิตผลงานใหม่ๆ ท่ีมคี ุณคา่ ต่อประเทศชาตโิ ดยส่วนรวม ส่วน ปราชญ์ชาวบ้านมีความสามารถหรือภารกิจในการนำภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือภูมิปัญญาท้องถิ่นไปแก้ปัญหาหรือ ถ่ายทอดในทอ้ งถ่นิ ปราชญ์ชาวบ้าน หมายถึง บุคคลที่เป็นเจ้าของภูมิปัญญาชาวบ้าน และนำภูมิปัญญาไปใช้ประโยชน์ใน การ ดำรงชีวติ จนประสบความสำเรจ็ สามารถถา่ ยทอดเชื่อมโยงคณุ คา่ ของอดีตกบั ปัจจบุ ันไดเ้ หมาะสม

๓ การอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมายถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยา่ งฉลาด โดยใช้ให้น้อย เพ่ือใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ โดยคำนงึ ถึงระยะเวลาในการใชใ้ ห้ยาวนาน และกอ่ ให้เกิดผล เสียหายตอ่ สงิ่ แวดล้อมน้อยท่ีสุด รวมทัง้ ต้องมีการกระจายการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างทัว่ ถึง อยา่ งไรก็ตาม ใน สภาพปจั จุบนั ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความเสื่อมโทรมมากขนึ้ ดงั น้ันการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ มจึงมคี วามหมายรวมไปถึงการ พัฒนาคณุ ภาพส่งิ แวดล้อมดว้ ย การฟ้นื ฟู คอื การรอื้ ฟนื้ ส่งิ ทด่ี ีงามที่หายไป เลกิ ไป หรือกำลงั จะเลิก ให้กลบั มาเป็นประโยชน์ เช่น การรื้อฟ้ืน ดนตรีไทย การประยุกต์ คือ การปรับหรือการผสมผสานความรู้เก่ากับความรูใ้ หม่เข้าด้วยกัน ให้เหมาะสมกับสมยั ใหม่ เช่น การใช้ยาสมุนไพรในโรงพยาบาล ประสานกับการรักษาสมัยใหม่ การทำพิธีบวชต้นไม้ เพื่อให้เกิดสำนึกการ อนุรักษ์ธรรมชาติ รักษาป่ามากยิ่งขึ้น การประยุกต์ประเพณีการทำบุญข้าวเปลือกที่วัด มาเป็นการสร้างธนาคารข้าว เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน การสร้างใหม่ คือ การค้นคิดใหม่ที่สัมพันธ์กับความรู้ดั้งเดิม เช่น การประดิษฐ์โปงลาง การคิดโครงการพัฒนาเพือ่ แก้ไขปญั หาของชุมชน โดยอาศัยคุณคา่ ความเอื้ออาทรที่ชาวบ้านเคยมตี ่อกันมาหารูปแบบ ใหม่ เชน่ การสรา้ งธนาคารข้าว ธนาคารโคกระบือ การรวมกลมุ่ แมบ่ ้าน เยาวชน เพ่ือทำกจิ กรรมกันอย่างมีระบบมาก ย่ิงขนึ้ ภูมิปัญญาเป็นความรู้ที่ประกอบไปด้วยคุณธรรม ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิมนั้น ชีวิตของชาวบ้าน ไม่ได้แบ่งแยกเป็นส่วน ๆ หากแต่ทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันทำมาหากิน การร่วมกันในชุมชน การปฏิบัติศาสนา พิธีกรรมและประเพณี ความรู้เป็นคุณธรรม เมื่อผู้คนใช้ความรู้นั้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง คนกับคน คนกับ ธรรมชาติ และคนกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ความรู้เหล่านี้เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต เป็นแนวทาง หลักเกณฑ์ วิธี ปฏิบัติที่เกี่ยวกับความสมั พันธร์ ะหว่างสมาชกิ ของครอบครัว ความสัมพันธ์กับคนอื่น ความสัมพันธ์กับผู้ล่วงลับไป แลว้ กบั สิง่ ศกั ดิ์สทิ ธิ์ และกบั ธรรมชาติ ความรู้เรื่องทำมาหากินมีอยู่มาก เช่นการทำไร่ทำนา การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ การจับปลา จับสัตว์ การผ้า ทั้งผ้าฝ้ายและผ้าไหม ซึ่งมีลวดลายที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและความคิดของชาวบ้าน การทำ เคร่ืองป้ันดนิ เผา การแกะสลักไมแ้ ละหนิ ซ่งึ จะพบได้จากโบราณสถานในพพิ ิธภัณฑต์ ่าง ๆ ความคดิ และการแสดงออก เพื่อจะเข้าใจภูมิปัญญาชาวบ้าน จำเป็นต้องเข้าใจความคิดของชาวบ้านเกี่ยวกับโลกหรือ ทีเ่ รยี กวา่ โลกทัศน์ และเกี่ยวกับชวี ติ ทเ่ี รยี กวา่ ชวี ทศั น์ ส่งิ เหลา่ นเ้ี ป็นนามธรรมอันเก่ยี วข้องสัมพนั ธโ์ ดยตรงกับการ แสดงออกในลักษณะตา่ ง ๆ ทีเปน็ รปู ธรรม แนวคิดเรื่องความสมดุล เป็นแนวคิดพื้นฐานของภูมิปัญญาชาวบ้าน การแพทย์แผนไทยหรือที่ เคยเรียกกันว่า การแพทย์แผนโบราณ นั้นมีหลักการว่า คนมีสุขภาพดีเมื่อร่างกายมีความสมดุลระหว่างธาตุทัง้ 4 คือ ดนิ น้ำ ลม ไฟ คนเจ็บปว่ ยได้เพราะธาตขุ าดความสมดลุ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านในชุมชน ความสัมพันธ์ที่ดี มีหลักเกณฑ์ที่บรรพบุรุษได้สัง่ สอนมา เช่น ลูกควรปฏิบัตอิ ย่างไรกับพ่อแม่ กับญาติพี่น้อง กับผู้สูงอายุ พ่อแม่ควร เล้ยี งดลู ูกอยา่ งไร ความเอ้ืออาทรต่อกนั และกนั ชว่ ยเหลือเกอ้ื กลู กนั โดยเฉพาะในยามทุกข์ยากหรอื มปี ญั หา ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ ผู้คนสมัยก่อนพึ่งพาอาศัยธรรมชาติแทบทุกด้าน ตั้งแต่อาหาร การกิน เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังไม่พัฒนาก้าวหน้าเหมือน

๔ ทุกวันนี้ ยังไม่มีระบบการค้าแบบสมัยใหม่ ไม่มีตลาด ชาวบ้านมีหลักเกณฑ์ในการใช้สิ่งของในธรรมชาติ ไม่ตัดไม้ ออ่ น ทำให้ตน้ ไมใ้ นป่าข้นึ แทนท่ถี ูกตัดไปได้ตลอดเวลา ชาวบ้านยังไม่รู้จักสารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ฆ่าหญ้า ฆ่าสัตว์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ใช้สิ่งของ ในธรรมชาติให้เกื้อกูลกัน ใช้มูลสัตว์ ใบไม้ใบหญ้าที่เน่าเปื่อยเป็นปุ๋ย ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ น้ำสะอาดและ ไมเ่ หอื ดแห้ง ชาวบา้ นเคารพธรรมชาติ เชื่อว่ามีเทพมเี จ้าสถิตอยุ่ในดนิ นำ้ ปา่ เขา สถานทท่ี กุ แห่งจะทำอะไรต้อง ขออนุญาตและทำด้วยความเคารพและพอดีพองาม ชาวบ้านรู้คุณธรรมชาติ ที่ได้ให้ชีวิตแก่ตน พิธีกรรมต่าง ๆ ลว้ นแสดงออกถงึ แนวคดิ ดังกล่าว เชน่ งานบุญพิธที ี่เกยี่ วกับ น้ำ ข้าว ป่าเขา รวมถงึ สตั ว์ บา้ นเรือน เครอื่ งใช้ต่าง ๆ มีพธิ ีสขู่ วัญข้าว เปน็ ต้น ความสัมพันธ์กับสิ่งเหนือธรรมชาติ ชาวบ้านรู้ว่ามนุษย์เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของ จักรวาล ซึ่งเต็มไปด้วยความเร้นลับ มีพลังและอำนาจที่เขาไม่อาจจะหาคำอธิบายได้ ความเร้นลับดังกล่าวรวมถงึ ญาตพิ น่ี อ้ งและผคู้ นทลี่ ่วงลับไปแลว้ ชาวบา้ นยังความสมั พนั ธ์กบั พวกเขา ทำบญุ และรำลึกถึงอยา่ งสม่ำเสมอทุกวัน หรอื ในโอกาสสำคัญ ๆ การทำมาหากิน แม้วิถีชีวติ ของชาวบา้ นเมือ่ ก่อนจะดเู รียบง่ายกว่าทุกวนั นี้ และยังอาศยั ธรรมชาติและแรงงานเป็น หลักในการทำมาหากิน แต่พวกเขาก็ต้องใช้สติปัญญาที่บรรพบุรุษถ่ายทอดมาให้เพื่อจะได้อยู่รอด ทั้งนี้เพราะ ปัญหาต่าง ๆ ในอดีตก็ยังมีไมน่ ้อย โดยเฉพาะเมื่อครอบครัวมีสมาชกิ มากข้ึน จำเป็นต้องขยายทีท่ ำกิน ต้องหักร้าง ถางพง บุกเบิกพื้นที่ทำกินใหม่ การปรับพื้นที่ปั้นคันนาเพื่อทำนาซึ่งเป็นงานที่หนัก การทำไร่ทำนา ปลูกพืชเลี้ยง สตั วแ์ ละดแู ลรกั ษาให้เติบโตและไดผ้ ล เปน็ งานท่ีตอ้ งอาศัยความรู้ความสามารถ การจับปลาล่าสัตว์กม็ วี ิธีการ บาง คนมีความสามารถมาก รู้ว่าเวลาไหนที่ใดและวิธีใดจะจับปลาได้ดีที่สุด คนที่ไม่เก่งก็ต้องใช้เวลานานและได้ปลา นอ้ ย การล่าสัตว์ก็เช่นเดยี วกัน การจดั การแหลง่ นำ้ เพ่อื การเกษตร กเ็ ปน็ ความรคู้ วามสามารถท่มี ีมาแต่โบราณ คนทางภาคเหนือ รู้จักบริหารน้ำเพื่อการเกษตรและเพื่อการบริโภคต่าง ๆ โดยการจัดระบบหมืองฝายมีการจัดแบ่งปันน้ำกันตาม ระบบประเพณีที่สืบทอดกันมา มีหัวหน้าที่ทุกคนยอมรับ มีคณะกรรมการจัดสรรน้ำตามสัดส่วนและตามพื้นที่ทำ กิน นับเป็นความรู้ที่ทำให้ชุมชนต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ใกล้ลำน้ำ ไม่ว่าต้นน้ำหรือปลายน้ำ ได้รับการแบ่งปันน้ำอย่าง ยุติธรรม ทุกคนได้ประโยชนแ์ ละอยรู่ ่วมกนั อย่างสนั ติ ชาวบ้านรจู้ ักการแปรรูปผลติ ผลในหลายรปู แบบ การถนอมอาหารให้กินได้นาน การดองการหมัก เช่น ปลาร้า นำ้ ปลา ผักดอง ปลาเค็ม เน้อื เค็ม ปลาแห้ง เนอื้ แห้ง การแปรรปู ขา้ วก็ทำได้มากมายนับร้อยชนิด เช่น ขนมต่าง ๆ แต่ละพธิ กี รรมและแตล่ ะงานบุญประเพณี มขี า้ วและขนมในรปู แบบไม่ซำ้ กัน ต้งั แต่ขนมจนี สังขยา ไป ถงึ ขนมในงานสารท กาละแม ขนมครก และอน่ื ๆ ซ่ึงยงั พอมใี หเ้ ห็นอย่จู ำนวนหนง่ึ ในปัจจุบัน ส่วนใหญป่ รับเปลย่ี นมาเปน็ การผลติ เพื่อขาย หรือเป็นอตุ สากรรมในครัวเรอื น ความรู้เรื่องการปรุงอาหารก็มีอยู่มากมายแต่ละท้องถิ่นมีรูปแบบและรสชาติแตกต่างกันไปมี มากมายนับร้อยนับพันชนิด แม้ในชีวิตประจำวันจะมีเพียงไม่กี่อย่าง แต่โอกาสงานพิธี งานเลี้ยง งานฉลองสำคัญ จะมีการจดั เตรยี มอาหารอย่างดแี ละพิถีพถิ ัน การทำมาหากินในประเพณีเดิมนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ การเตรียมอาหาร การจัดขนมและ ผลไม้ ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อให้รับประทานและอร่อย แต่ให้ได้ความสวยงาม ทำให้สามารถสัมผัสกับอาหารนั้นไม่ เพียงแต่ทางปากและรสชาตขิ องลิ้น แต่ทางตาและทางใจ การเตรียมอาหารนัน้ เป็นงานศิลปะที่ปรงุ แต่งด้วยความ ต้ังใจ ใชเ้ วลา ฝีมอื และความรูค้ วามสามารถ

๕ ชาวบา้ นสมยั กอ่ นส่วนใหญจ่ ะทำนาเปน็ หลักเพราะเมื่อมีข้าวแล้วกส็ บายใจ อยา่ งอื่นพอหาได้จาก ธรรมชาติ เสร็จหน้านาก็จะทำงานหัตถกรรม การทอผ้า ทำเสื่อ เลี้ยงไหม เลี้ยงไหม ทำเครื่องมือสำหรับจับสัตว์ เครอื่ งมอื การเกษตร และอปุ กรณต์ ่าง ๆ ทีจ่ ำเปน็ หรอื เตรยี มพื้นที่เพื่อการทำนาคร้ังต่อไป หัตถกรรมเป็นทรัพย์สินและมรดกทางภูมิปัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของบรรพบุรุษเพราะ เป็นสื่อที่ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ความเชื่อและคุณค่าต่าง ๆ ที่สั่งสมมาแต่นมนาน ลายผ้ าไหม ผ้า ฝ้าย ฝีมือในการทออย่างประณีต รูปแบบเครื่องมือที่สานด้วยไม้ไผ่ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ เครื่อง ดนตรี เครื่องเล่น สิ่งเหล่านี้ได้ถูกบรรจงสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สอย การทำบุญหรือการอุทิศให้ใครคนหนึ่ง ไม่ใช่เพื่อ การค้าขาย ชาวบ้านทำมาหากนิ เพยี งเพื่อการยังชพี ไมไ่ ด้ทำเพ่ือขาย มกี ารนำผลติ ผลส่วนหน่งึ ไปแลกสิ่งของ ทจ่ี ำเปน็ ทีต่ นเองไม่มี เชน่ นำข้าวไปแลกเกลือ พรกิ ปลา ไก่ หรอื เส้ือผา้ การขายผลติ ผลมีเพียงส่วนน้อย และเม่ือ มคี วามจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อเสยี ภาษีให้รัฐ ชาวบา้ นนำผลิตผล เช่น ข้าว ไปขายในเมืองให้กับพ่อค้าหรือขายให้กับ พ่อท้องถิน่ เช่นทางภาคอีสาน เรียกวา่ \"นายฮ้อย\" คนเหล่านจ้ี ะนำผลผลิตบางอย่างเชน่ ขา้ ว ปลาร้า วัว ควาย ไป ขายในท่ีไกล ๆ ทางภาคเหนอื มพี ่อค้าววั ต่าง ๆ เป็นต้น แม้ว่าความรู้เรื่องการค้าขายของคนสมัยก่อนไม่อาจจะนำมาใช้ในระบบตลา ดเช่นปัจจุบันได้ เพราะสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแต่การค้าที่มีจริยธรรมของพ่อค้าในอดีต ที่ไม่ได้หวังแต่เพียงกำไร แต่คำนึงถึงการช่วยเหลือแบ่งปันเป็นหลัก ยังมีคุณค่าสำหรับปัจจุบัน นอกนั้น ในหลายพื้นที่ในชนบท ระบบการ แลกเปลี่ยนสิ่งของยังมีอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ยากจนซึ่งชาวบ้านไม่มีเงินสด แต่มีผลิตผลต่าง ๆ ระบบการ แลกเปลี่ยนไม่ได้ยึดหลักมาตราชั่งวัดหรือการตีราคาของสิ่งของ แต่แลกเปลี่ยนโดยการคำนึงถึงสถานการณ์ของผู้ แลกทั้งสองฝ่ายคนที่เอาปลาหรือไก่มาของแลกข้าว อาจจะได้ข้าวเป็นถังเพราะเจ้าของข้าวคำนึงถึงความจำ เป็น ของครอบครัวเจา้ ของไก่ ถ้าตีราคาเป็นเงนิ ข้าวหนึ่งถังย่อมมคี ่าสูงกวา่ ไกห่ นงึ่ ตัว การอย่รู ว่ มกันในสงั คม การอยู่ร่วมกันในชุมชนดั้งเดิมนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นญาติพี่น้องไม่กี่ตระกูล ซึ่งได้อพยพย้ายถ่ิน ฐานมาอยู่ หรือสืบทอดบรรพบุรษุ จนนบั ญาติกนั ได้ทั้งชุมชน มคี นเฒา่ คนแก่ทช่ี าวบ้านเคารพนับถือเป็นผ้นู ำ หนา้ ที่ ของผู้นำไม่ใช่การสั่ง แต่เป็นผู้ทีใ่ ห้คำแนะนำปรึกษา มีความแม่นยำในกฏระเบียบประเพณีการดำเนินชีวิต ตัดสิน ไกลเ่ กลีย่ หากเกิดความขัดแยง้ ช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึน ปัญหาในชุมชนก็มีไม่น้อย ปัญหาการทำมาหากิน ฝนแล้ง น้ำท่วม โรคระบาด โจรลักวัวควาย เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีปัญหาความขัดแย้งภายในชุมชนหรือระหว่างชุมชนการละเมิดกฎหมายประเพณี ส่วน ใหญ่จะเป็นการ \"ผิดผี\" คือ ผีของบรรพบุรุษ ผู้ซึ่งได้สร้างกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ไว้ เช่น กรณีที่ชายหนุ่มถูกเนื้อต้องตัว หญิงสาวทีย่ งั ไมแ่ ต่งงาน เปน็ ต้น ชาวบ้านอยู่อย่างพึ่งพาอาศัยกัน ยามเจ็บไข้ได้ป่วย ยามเกิดอุบัติเหตุเภทภัย ยามที่โจรขโมยวัว ควายข้าวของ การช่วยเหลือกันทำงานที่เรียกว่า การลงแขก ทั้งแรงกายแรงใจที่มีอยู่ก็จะช่วยเหลือเอื้ออาทรกัน การแลกเปลีย่ นสง่ิ ของ อาหารการกนิ และอนื่ ๆ จึงเกี่ยวขอ้ งกับวถิ ีของชุมชน ชาวบา้ นชว่ ยกนั เกบ็ เก่ยี ว สร้างบ้าน หรอื งานอื่นทต่ี ้องการคนมาก ๆ เพือ่ จะไดเ้ สร็จโดยเรว็ ไม่มีการจา้ ง ในชุมชนต่าง ๆ จะมีผู้มีความรู้ความสามารถหลากหลาย บางคนเก่งทางรักษาโรค บางคน ทางการเพาะพืช บางคนทางการเลี้ยงสัตว์ บางคนทางด้านดนตรีการละเล่น บางคนเก่งทางด้านพิธีกรรม คนเหล่านี้ต่างก็ใช้ความสามารถเพื่อประโยชน์ของชุมชน โดยไม่ถือเป็นอาชีพที่มีค่าตอบแทน อย่างมากก็มี \"ค่า ครู\" แต่เพียงเล็กน้อย ซึ่งปกติแล้ว เงินจำนวนนั้นก็ใช้สำหรับเครื่องมือประกอบพิธีกรรม หรือเพื่อทำบุญที่วัด มากกว่าที่หมอยาหรือบุคคลผู้นั้นจะเก็บไว้ใช้เอง เพราะแท้ที่จริงแล้ว \"วิชา\" ที่ครูถ่ายทอดมาให้ลูกศิษย์จะต้อง

๖ นำไปใช้เพื่อประโยชนแ์ ก่สังคม ไม่ใช่เพื่อผลประโยชนส์ ว่ นตวั การตอบแทนจึงไม่ใช่เงินหรอื ส่ิงของเสมอไปแตเ่ ปน็ การช่วยเหลอื เกอ้ื กูลกนั โดยวิธกี ารต่าง ๆ ด้วยวธิ ชี วี ติ เช่นนี้ จึงมีคำถามเพ่ือเป็นการสอนคนรนุ่ หลงั วา่ ถ้าหากคนหน่งึ จับปลาชอ่ นตัวใหญ่ได้ หนง่ึ ตวั ทำอย่างไรจึงจะกินได้ทง้ั ปีคนสมัยนี้อาจจะบอกวา่ ทำปลาเคม็ ปลารา้ หรอื เก็บรกั ษาด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ แต่ คำตอบทีถ่ กู ตอ้ ง คอื แบ่งปันใหพ้ ี่น้องเพ่อื นบา้ น เพราะเม่อื เขาได้ปลา เขาจะทำกบั เราเช่นเดยี วกนั ชีวิตทางสังคมของหมู่บ้านมีศูนย์กลางอยู่ที่วัด งานบุญกิจกรรมของส่วนรวมจะทำกันที่วัด งาน บุญประเพณีต่าง ๆ ตลอดจนการละเล่นมหรสพพระสงฆ์เป็นผู้นำทางจิตใจ เป็นครูสอนลูกหลานผู้ชาย ซง่ึ รบั ใช้พระสงฆ์ หรือ \"บวชเรยี น\" ท้ังน้กี ่อนน้ยี งั ไมม่ โี รงเรียน วดั จงึ เป็นทงั้ โรงเรยี นและหอประชมุ เพื่อกจิ กรรมต่าง ๆ ต่อเม่อื โรงเรยี นมีขน้ึ และแยกออกจากวดั บทบาทของวัดและของพระสงฆ์จึงเปลย่ี นไป ภูมปิ ญั ญาชาวบา้ นในสงั คมปจั จบุ นั ภูมิปัญญาชาวบ้านได้ก่อเกิดและสืบทอดกันมาในชุมชนหมู่บ้าน เมื่อหมู่บ้านเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับสงั คมสมัยใหม่ ภมู ิปัญญาชาวบ้านกม็ กี ารปรบั ตัวเช่นเดยี วกนั ความรู้จำนวนมากได้สูญหายไปเพราะไม่มีการปฏิบัติสืบทอด เช่น การรักษาพื้นบ้านบางอย่าง การใช้ยาสมุนไพรบางชนิด เพราะหมอยาเก่ง ๆ ได้เสียชีวิตโดยไม่ได้ถ่ายทอดให้กับคนอื่น หรือถ่ายทอดแต่คน ต่อมาไม่ไดป้ ฏิบัติเพราะชาวบ้านไม่นิยมเหมือนสมัยก่อน ใช้ยาสมัยใหม่และไปหาหมอทโี่ รงพยาบาลหรือคลินิกง่าย กว่า งานหัตถกรรมทอผ้าหรือเครื่องเงิน เครื่องเขิน แม้จะยังเหลืออยู่ไม่น้อย แต่ก็ได้ถูกพัฒนาไปเป็นการค้า ไม่ สามารถรักษาคุณภาพและผีมือแบบดั้งเดิมไว้ได้ ในการทำมาหากินมีการใช้เทคโนโลยีทันสมัย ใช้รถไถนาแทน ควาย รถอแี ต๋นแทนเกวยี น การลงแขกทำนาปลูกข้าวและปลูกสรางบ้านเรือนก็เกือบจะหมดไป มีการจ้างงานมากขึ้น แรงงานก็หายากกว่าแต่ก่อน ผู้คนอพยพย้ายถิ่น บ้างก็เข้าเมือง บ้างก็ไปทำงานที่อื่น สังคมสมัยใหม่มีระบบ การศึกษาในโรงเรียนมีอนามัยและโรงพยาบาล มีโรงหนัง วิทยุ โทรทัศน์ และเครื่องบันเทิงต่าง ๆ ทำให้ชีวิตทาง สังคมของชุมชนหมู่บ้านเปลี่ยนไป มีตำรวจ มีโรงศาล มีเจ้าหน้าที่ราชการฝา่ ยปกครอง ฝ่ายพัฒนา และอื่นเข้าไป ในหมูบ่ า้ น บทบาทของวัด พระสงฆ์ คนเฒา่ คนแกเ่ รมิ่ ลดน้อยลงลงไป การทำมาหากินก็เปลี่ยนจากการทำเพื่อยังชีพไปเป็นการผลิตเพื่อการขาย ผู้คนต้องการเงินเพ่ือ ซื้อเครื่องบริโภคต่าง ๆ ทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป ผลผลิตจากป่าก็หมด สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ผู้นำการพัฒนา หลายคนที่มีบทบาทสำคัญในระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศ เริ่มเห็นความสำคัญของภูมิปัญญา ชาวบ้าน หน่วยงานทางภาครฐั และเอกชนให้การสนับสนุน และการส่งเสริมให้มกี ารอนรุ ักษ์ ฟื้นฟู ประยุกต์ และ ค้นคิดสิง่ ใหม่ ความรู้ใหมเ่ พ่อื ประโยชน์สขุ ของสงั คม

7 ทะเบียนภมู ิปัญญาท้องถิ่นหรือชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ กองการศกึ ษา เทศบาลเมอื งแพร่ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ท่ี ชอ่ื ภมู ปิ ัญญา ชุมชน สาขา เจา้ ของภมู ิปัญญา สถานที่ หมาย เหตุ ภูมปิ ญั ญา 1 การทำบายศรี ร่องซ้อ ศลิ ปหตั ถกรรม นางสาวอรนิ ทยา เทพนม ชุมชนร่องซ้อ - บายศรสี ู่ขวญั ชอื่ เล่น เก๋ เลขที่ ซอย - บายศรีแตง่ งาน อายุ 52 ปี ต.ในเวียง - ขนั หมากล้านนา อาชีพ ธรุ กจิ ส่วนตวั อ.เมอื งแพร่ - ขันหมากภาคกลาง เบอร์โทรศัพท์ จ.แพร่ - บายศรีบวงสรวง 06 2590 5156 - บายศรพี ญานาค (ประธานชุมชนร่องซ้อ หตั ถกรรมผา้ พ้ืนเมือง ปี 2564 - ปัจจุบัน) - ถักลายผา้ ซ่ิน - การทำกระเป๋ายา่ มผา้ พืน้ เมือง - การเพ้นทเ์ ส้ือพ้นื เมือง 2 การทำตุงลา้ นนา สวรรคน์ ิเวศ ศลิ ปหตั ถกรรม นางกรพร ฉิมน้อย ชุมชนสวรรคนิเวศ อายุ 76 ปี เลขที่ ซอย - ตงุ ไส้หมู อาชีพ ข้าราชการบำนาญ ต.ในเวยี ง เบอร์โทรศัพท์ อ.เมอื งแพร่ - พวงมโหตร 08 6914 5397 จ.แพร่ สนิ ค้าพ้ืนเมอื งและ ของทีร่ ะลกึ (Handmade) - พวงกญุ แจ - สายคลอ้ งกระเปา๋ 3 การผลิตเตาถ่าน เหมืองแดง ประตมิ ากรรม นายอนวุ ฒั น์ ประเทือง ชมุ ชนเหมืองแดง ทายาท อายุ 52 ปี เลขที่ 137 รนุ่ (เตาอั้งโล)่ อาชพี รับจา้ งทัว่ ไป ซอย สดุ ทา้ ย เบอร์โทรศัพท์ ต.ในเวยี ง 4 การทำตุงล้านนา พระหลวง 08 9776 9885 อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ - ตุงไสห้ มู ศิลปหตั ถกรรม นางนฐจิ ิต เทียนถนอม อายุ 67 ปี ชุมชนพระหลวง การทำโคมแขวนล้านนา อาชีพ ข้าราชการบำนาญ เลขท่ี เบอร์โทรศัพท์ ซอย การทำผา้ มดั ย้อม 06 1962 3593 ต.ในเวยี ง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่

ท่ี ช่อื ภูมปิ ัญญา ชุมชน 8 เจา้ ของภูมิปัญญา สถานท่ี หมาย วัดหลวง สาขา 8 5 งานปกั มือผา้ พ้ืนเมอื ง เหตุ ร่วมสมัย ภูมิปัญญา หตั ถกรรม นางสาววไิ ล สันคม ชุมชนวัดหลวง อายุ 69 ปี อาชพี ขา้ ราชการบำนาญ เลขที่ เบอรโ์ ทรศัพท์ 06 1962 3593 ซอย ศิลปหัตถกรรม นางฟองแก้ว ลาภยศ ต.ในเวียง อายุ 69 ปี อาชพี รบั จา้ ง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เบอร์โทรศัพท์ 6 การทำตงุ ล้านนา วัดหลวง 08 8803 8588 ชมุ ชนพระหลวง - ตุงไส้หมู ศิลปหัตถกรรม นายเหรียญ ศรสี นั ต์ เลขท่ี 60 อายุ 86 ปี การทำโคมแขวนลา้ นนา อาชพี รับจ้างทำโคม ซอย - เบอร์โทรศัพท์ การทำผา้ มัดย้อม ต.ในเวยี ง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ 7 การทำโคมลา้ นนา นำ้ คือ ชุมชนนำ้ คอื 1 ปี เลขท่ี 7/3 จำหนา่ ย โคมเขวนเหลี่ยมเพชร ถ.เหมืองหลวง 1 คร้ัง โครงการ ต.ในเวียง ลอยกระทง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เทศบาล เมืองแพร่ 8 การทำโคมล้านนา นำ้ คอื ศลิ ปหตั ถกรรม นางปอ้ ง ศรสี นั ต์ ชุมชนนำ้ คอื อายุ 80 ปี โคมเขวนเหล่ียมเพชร อาชีพ รบั จ้างทำโคม เลขท่ี 7/3 เบอร์โทรศัพท์ ถ.เหมืองหลวง ต.ในเวียง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 9 ดนตรพี ื้นเมือง สระบอ่ แก้ว ดนตรี นางสาวสุวชิ ชา จนั ทร์ ชมุ ชนสระบ่อแก้ว - วงวรรณสงั คตี สรุ ยิ ะคณุ - วงคมุ้ เจา้ หลวง ศาสนา อายุ 61 ปี เลขที่ 3/3 (สะลอ้ , ซออู้, ซอด้วง ประเพณแี ละ อาชพี ข้าราชการบำนาญ และซอกลาง) วัฒนธรรม เบอรโ์ ทรศัพท์ ถ.เหมอื งหลวง ท้องถ่ิน 08 1882 3870 ต.ในเวยี ง นางขันทอง ชพู งษ์ อายุ 81 ปี อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ อาชีพ รับจา้ ง 10 ศาสนาพธิ ีและความเชือ่ สระบ่อแกว้ เบอรโ์ ทรศัพท์ ชุมชนสระบ่อแกว้ ลา้ นนา 08 9434 3233 เลขที่ 5/3 - พธิ ีเลย้ี งผปี ู่ยา่ ซอย 2 - พธิ ีบวงสรวง ถ.ยนั ตรกิจโกศล ต.ในเวยี ง 11 งานฝีมอื กระเป๋าผ้าด้น สระบ่อแกว้ ศิลปหตั ถกรรม นางสดุ ท่รี ัก นพรตั น์ อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ มือ ปักผ้าลายลา้ นนา อายุ 65 ปี และเพน้ ท์ผา้ ลายลา้ นนา อาชพี วทิ ยากร ชุมชนสระบ่อแกว้ เบอร์โทรศัพท์ เลขท่ี 08 8267 1049 ต.ในเวยี ง อ.เมอื ง แพร่ จ.แพร่

ท่ี ช่ือภูมิปัญญา ชมุ ชน 9 สถานที่ หมาย สาขา 8 เจ้าของภูมิปัญญา ภูมิปัญญา เหตุ 12 ดนตรพี ้ืนเมืองภาษาไทย สระบอ่ แก้ว ชุมชนสระบอ่ แกว้ ล้านนา ดนตรี นางสาวปยิ วรรณ ศรเี สน เลขที่ จำหนา่ ย ครอู ีด้ ซอย ทีบ่ ้าน 13 ศาสนพิธี สระบ่อแกว้ ศาสนา อายุ 70 ปี ต.ในเวียง ประเพณีและ อาชีพ ข้าราชการบำนาญ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ จำหนา่ ย วฒั นธรรม เบอรโ์ ทรศัพท์ กาดกอง ทอ้ งถนิ่ 08 1961 7826 ชมุ ชนสระบอ่ แก้ว เก่า เลขที่ นายสรุ เชษฐ์ ศิริขว่ ง ซอย อายุ ปี ต.ในเวียง อาชพี ข้าราชการบำนาญ อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ เบอรโ์ ทรศัพท์ ชมุ ชนพระนอน เลขท่ี 47/3 14 มะขามแก้วบัวตอง พระนอน คหกรรม นางจไุ รรัตน์ อปุ สรรค์ ซอย พระนอนใต้ หัตถกรรมผา้ พ้ืนเมือง ศลิ ปหตั ถกรรม อายุ 64 ปี ต.ในเวยี ง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 15 หตั ถศลิ ปม์ ะปา่ วแหง้ พระนอน อาชีพ อิสระ ชมุ ชนพระนอน เบอร์โทรศัพท์ เลขท่ี 47/3 16 หตั ถกรรมผา้ พนื้ เมือง พระนอน 08 6910 7544 ซอย พระนอนใต้ ต.ในเวียง 17 แคบหมูครูวจิ ติ ร พระนอน ศิลปหตั ถกรรม นายสมโภชน์ อุปสรรค์ อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ อายุ 68 ปี ชมุ ชนพระนอน 18 ศาสนพธิ ีและความเช่อื เชตะวัน อาชีพ ขา้ ราชการบำนาญ เลขที่ 55 ทอ้ งถิน่ เบอรโ์ ทรศัพท์ ซอย พระนอนใต้ 08 3766 8434 ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ศลิ ปหัตถกรรม นางวรนุช วงคค์ ำแกว้ ชมุ ชนพระนอน อายุ 56 ปี เลขที่ 45 อาชีพ อสิ ระ ซอย คำลือ เบอรโ์ ทรศัพท์ ต.ในเวยี ง 08 4740 9664 อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ ชุมชนพระนอน คหกรรม นางพรรณนา เจตะภยั เลขที่ 45 อายุ 58 ปี ซอย คำลือ อาชีพ ค้าขาย ต.ในเวยี ง เบอรโ์ ทรศัพท์ อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 08 9954 2369 ศาสนา นายมานิต จินะวงค์ ประเพณีและ อายุ 75 ปี วัฒนธรรม อาชีพ ท้องถ่นิ เบอรโ์ ทรศัพท์ 08 5041 7562

ที่ ชอ่ื ภมู ปิ ัญญา ชุมชน 10 สถานท่ี หมาย 19 แป้งข้าวหมาก เชตะวัน สาขา 8 เจ้าของภมู ิปัญญา ภูมปิ ญั ญา เหตุ ชมุ ชนเชตะวนั จำหน่าย 20 เมีย่ งคำ เชตะวนั คหกรรม นางสาวจรูญศรี เคยมา เลขท่ี รา้ นขาย คหกรรม อายุ 83 ปี ซอย 5 ของชำ 21 ขนมพ้นื บา้ น เชตะวัน คหกรรม อาชีพ คา้ ขาย (ผสู้ ูงอายุ) ต.ในเวยี ง - ไสเ้ มยี่ ง (ทอดกรอบ) เบอรโ์ ทรศัพท์ อ.เมอื งแพร่ จำหน่าย - หมี่กรอบโบราณ 06 3309 7486 จ.แพร่ ร้านขาย - ถวั่ แปป 08 6915 8412 ของชำ - ขนมกล้วย 08 63476974 ชมุ ชนเชตะวนั และกาด - ขนมมะแตง๋ เลขที่ กองเกา่ นางภารณี รอดทรัพย์ ซอย 5 จำหน่าย (ปา้ อ๊อด) ต.ในเวียง ท่ีบา้ น อายุ 70 ปี อ.เมืองแพร่ อาชพี ขา้ ราชการบำนาญ จ.แพร่ จำหน่าย เบอร์โทรศัพท์ ชมุ ชนเชตะวนั กาดสาม 08 9331 7499 เลขท่ี วยั ซอย 5 นางแสงทอง วงศว์ าร ต.ในเวียง อายุ 83 ปี อ.เมอื งแพร่ อาชีพ คา้ ขาย (ผู้สงู อาย)ุ จ.แพร่ เบอรโ์ ทรศัพท์ 08 9632 9607 22 ศาสนาพธิ ีและความเชื่อ เชตะวัน ศาสนา นายพิภพ เจตะภัย ชุมชนเชตะวัน ท้องถิ่น เชตะวัน ประเพณีและ อายุ 64 ปี เลขที่ - งานมงคล เช่น งาน วฒั นธรรม อาชีพ ขา้ ราชการบำนาญ ซอย เชตะวัน แตง่ งาน งานข้ึนบ้านใหม่ ทอ้ งถนิ่ เบอรโ์ ทรศัพท์ ต.ในเวียง - งานอวมงคล เชน่ งาน 08 7304 7317 อ.เมอื งแพร่ ศพ อาหาร จ.แพร่ นางวันทนา กนุ นะมอย 23 ไสก้ รอกเมอื ง (ไส้อัว่ ) อายุ 56 ปี ชุมชนเชตะวนั หมแู ดดเดียว (แดง) อาชพี ค้าขาย เลขท่ี 85/2 จ้นิ ปงิ้ เกลอื เบอรโ์ ทรศัพท์ ซอย 08 9432 1400 ต.ในเวยี ง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่

11 ท่ี ช่ือภมู ิปัญญา ชุมชน สาขา 8 เจา้ ของภมู ิปัญญา สถานที่ หมาย เหตุ 24 การทำตุงลา้ นนา เหมอื งหิต- ภมู ปิ ัญญา การทำโคมล้านนา พฒั นา การทำบายศรี ศิลปหัตถกรรม คณุ อัมพร แกน่ ทอง ชุมชนเหมืองหติ - อายุ ปี พฒั นา อาชีพ เลขที่ เบอร์โทรศัพท์ ซอย 09 5924 9232 ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ 25 การเยบ็ กระเปา๋ ผ้าดน้ มอื เหมอื งหติ - ศิลปหตั ถกรรม คุณอรปภา นันทศิรวิ รา ชมุ ชนเหมืองหติ - - ผา้ พน้ื เมอื ง พฒั นา อายุ ปี พฒั นา อาชีพ เลขท่ี เบอรโ์ ทรศัพท์ ซอย 09 5692 4203 ต.ในเวียง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 26 การขนมมงคล เหมอื งหติ - อาหาร นางสาววริ ัชญา ว่องวฒุ ิญาณ ชมุ ชนเหมืองหติ - - ขนมกยุ ช่าย พัฒนา อายุ ปี - ขนมถว้ ยฟู ฯลฯ พัฒนา อาชีพ เลขที่ เบอร์โทรศัพท์ ซอย 08 6901 7710 ต.ในเวยี ง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 27 การทำตุงล้านนา หัวขว่ ง ศิลปหตั ถกรรม นางสาวเนาวรัตน์ บญุ ทร ชมุ ชนหัวข่วง - ตงุ ไส้หมู การทำโคมลา้ นนา อายุ ปี เลขที่ อาชีพ ซอย เบอรโ์ ทรศัพท์ ต.ในเวียง 08 9757 3754 อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 28 การเยบ็ กระเปา๋ ดน้ มือ หัวข่วง ศิลปหัตถกรรม นางพะยอม เดชนาโต ชุมชนหัวข่วง ผา้ พ้ืนเมือง อายุ ปี เลขท่ี อาชพี ซอย เบอรโ์ ทรศัพท์ ต.ในเวียง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่

ท่ี ชือ่ ภูมปิ ัญญา ชมุ ชน 12 สถานท่ี หมาย สาขา 8 เจ้าของภูมิปัญญา ภมู ปิ ญั ญา เหตุ 29 การทำหมีก่ รอบโบราณ หวั ขว่ ง คหกรรม นางมาลยั หมื่นใจ ชมุ ชนหวั ขว่ ง การทำซาลาเปา อายุ ปี เลขที่ อาชีพ ซอย เบอร์โทรศัพท์ ต.ในเวียง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 30 การทำบายศรี ศรีชุม ศาสนา พระครสู ุจิณธรรมานยุ ตุ ประเพณีและ (อภภิ เู มธ ธมมฺ จาร)ี วดั ศรีชุม การทำโคมแขวนดอกรัก วฒั นธรรม เจ้าอาวาสวัดศรชี มุ เลขที่ ท้องถิ่น อายุ ปี ซอย การทำพิธสี ืบชะตาเมือง/ อาชีพ พระสงฆ์ ต.ในเวยี ง เบอร์โทรศัพท์ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ชะตาคน (สะตงเครอื่ ง 108) 31 การทำตุงล้านนา รอ่ งซ้อ ศิลปหตั ถกรรม นายธนวฒั น์ จนั ทรานิมิต ชมุ ชนร่องซอ้ โคมแขวนล้านนา การเพน้ ท์ผ้าพืน้ เมือง (อุดม) เลขที่ อายุ ปี ซอย อาชีพ ต.ในเวยี ง เบอรโ์ ทรศัพท์ อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 08 6375 2010 32 จิตรกรรมภาพลา้ นนา รอ่ งซ้อ จิตรกรรม นายเสกสรร ทองดี ชุมชนรอ่ งซ้อ (ปอ้ ม) เลขที่ อายุ ปี ซอย อาชีพ ต.ในเวยี ง เบอรโ์ ทรศัพท์ อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 33 ข้าวหลามปา้ ภา รอ่ งซ้อ คหกรรม นางยุภา เทพนม ชุมชนรอ่ งซอ้ อายุ ปี เลขที่ อาชพี ซอย เบอร์โทรศัพท์ ต.ในเวียง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่

ที่ ชอื่ ภูมิปัญญา ชมุ ชน 13 สถานที่ หมาย สาขา 8 เจา้ ของภูมปิ ัญญา ภมู ิปัญญา เหตุ 34 การเขียนกาพย์ คา่ ว ศรบี ญุ เรอื ง ภาษาและ นางสมถวลิ เทพยศ ชมุ ชนศรบี ญุ เรอื ง ของศรีวไิ จย (โข้) พระรว่ ง วรรณกรรม อายุ ปี เลขท่ี การทำเม่ียง คหกรรม อาชีพ ซอย - เมีย่ งสม้ เบอร์โทรศัพท์ ต.ในเวียง - เมี่ยงหวาน คหกรรม 08 5039 3258 อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 35 การทำแหนมหมูโบราณ จิตรกรรม นางองนุ่ ดำเกงิ ธรรม ชมุ ชนพระร่วง อายุ ปี เลขท่ี 36 จิตรกรรมภาพลา้ นนา พระรว่ ง อาชพี ซอย เบอรโ์ ทรศัพท์ ต.ในเวียง 09 0328 4884 อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นายอนุสรณ์ มงคลธรรม ชมุ ชนพระร่วง อายุ ปี เลขท่ี 8/3 อาชพี ซอย เบอร์โทรศัพท์ ต.ในเวยี ง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ 37 การทำบายศรี พระรว่ ง ศิลปหัตถกรรม นางสาววาณี มหยศปญั ญา อายุ ปี ชุมชนพระรว่ ง 38 ซอพ้นื เมือง พระรว่ ง อาชีพ เลขท่ี ฟอ้ นพ้นื เมือง เบอรโ์ ทรศัพท์ ซอย 09 7985 4696 ต.ในเวียง 39 การนวดแผนไทย พระรว่ ง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ ดนตรี นางสาวเครอื วลั ย์ หาญยศ นาฎศลิ ป์ อายุ ปี ชุมชนพระร่วง เลขท่ี อาชีพ ขา้ ราชการบำนาญ ซอย เบอรโ์ ทรศัพท์ ต.ในเวียง 08 4804 2654 อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ การแพทย์ นางสมจติ ร เรือนเจริญ ชุมชนพระรว่ ง แผนไทย อายุ ปี เลขที่ ซอย อาชีพ ต.ในเวียง เบอรโ์ ทรศัพท์ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่

ท่ี ชอ่ื ภูมิปัญญา ชมุ ชน 14 สถานที่ หมาย พระรว่ ง สาขา 8 เจา้ ของภูมิปัญญา ภมู ิปัญญา เหตุ 40 ซอพ้ืนเมือง ดนตรีพน้ื เมอื ง ดนตรพี ้นื บา้ น นางสาวกชพร แผ่นทอง ชมุ ชนพระร่วง อายุ 17 ปี เลขท่ี อาชีพ นักเรยี น ซอย โรงเรยี นนารีรัตน์ ต.ในเวียง จงั หวัดแพร่ อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ เบอรโ์ ทรศัพท์ 41 ดนตรีพน้ื เมอื ง สวรรคนเิ วศ ดนตรี นายอรณุ ทิพยวงศ์ ชมุ ชนสวรรคนิเวศ ดนตรีไทย อายุ 81 ปี เลขที่ 7/2 อาชพี ซอย 42 จติ รกรรมภาพลา้ นนา เหมอื งแดง จติ รกรรม เบอรโ์ ทรศัพท์ ต.ในเวยี ง ดนตรพี ื้นเมอื ง ดนตรี 08 1961 3614 อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ ดนตรีไทย 0 5452 1493 ดนตรีสากล ชุมชนเหมอื งแดง นายประสงค์ กวาวภิวงศ์ เลขที่ อายุ ปี ซอย อาชพี ต.ในเวยี ง เบอรโ์ ทรศัพท์ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ 09 3258 2825 43 จติ รกรรมลา้ นนา ชัยมงคล จติ รกรรม นายวิทยา สรุ ิยะ ชุมชนชยั มงคล ชัยมงคล อาหาร อายุ ปี เลขท่ี 44 ขนมเส้นดวงเนตร อาชีพ ซอย (เกา๋ กึก๊ ) เบอรโ์ ทรศัพท์ ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นางสาวชนดิ า หอมขจร อายุ ปี ชุมชนชัยมงคล อาชีพ เลขท่ี 22/1 เบอรโ์ ทรศัพท์ ซอย ต.ในเวียง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่

๑๕ ขอ้ มลู ภูมปิ ัญญาในท้องถนิ่ หรอื ปราชญ์ชาวบ้าน ชมุ ชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 1. การทำบายศรี และหัตถกรรมผา้ พืน้ เมอื ง ๑. ชือ่ ภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ ............การทำบายศรี และหัตถกรรมผา้ พ้นื เมือง........................................... ๒. เจ้าของภูมปิ ัญญาท้องถิ่น /ปราชญ์ชาวบา้ น ...................นางสาวอรินทยา เทพนม..................อาย.ุ ...52 ปี....... อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว (คา้ ขายสินค้าพนื้ เมอื ง วทิ ยากรหัตถกรรมพน้ื เมอื ง) ทีอ่ ยู่ บ้านเลขที่ ……….. ชมุ ชน ...รอ่ งซอ้ .... ตำบล ...ในเวยี ง.... อำเภอ ...เมอื งแพร่.... จงั หวัด ...แพร่... รหัสไปรษณีย์ ...54000.................... โทรศพั ท์ ………………06 2590 5156….…………………………… E-mail address …………………………………………………………………………..……………………………………….. ๓. ประเภทของภูมิปัญญาท้องถิน่ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมอื ) เกษตร ศลิ ปกรรม/จติ รกรรม/ประติมากรรม ดนตร/ี นาฎศลิ ป์ ✓ ศลิ ปหตั ถกรรม ศาสนา ประเพณแี ละวฒั นธรรมท้องถิ่น การแพทย์แผนไทย ภาษาและวรรณกรรม อืน่ ๆ ...................................……… ๔. จุดเดน่ ของภูมิปัญญาท้องถน่ิ “บายศรี ” ภาชนะใสเ่ ครอ่ื งสงั เวย ทจี่ ดั ตกแต่งให้สวยงามเปน็ พเิ ศษด้วยใบตอง และดอกไมส้ ด เพื่อเป็นสำรับใส่อาหารหวาน คาว ในพิธีสังเวยบูชา และพิธีทำขวัญต่างๆ ทั้งของพระราชพิธีและของราษฎรเป็น ประเพณีโบราณ ท่บี รรพบรุ ุษได้เคยปฏิบตั ิกันสืบกัน ๆ มา ถือกนั ว่าเปน็ สิริมงคลอันดี แก่การเป็นอยู่ คอื การสวัสดิภาพ ในการดำรงชีวิต ของมนุษย์แต่การทำบายศรสี ู่ขวญั นั้น ต้องอาศัยนักปราชญ์ผู้ฉลาดในวธิ ีการกระทำ จึงเป็นสิริมงคลได้ เป็นของสูงเปน็ เคร่ืองสังเวยเทพเทวดา หัตถกรรมผา้ พื้นเมือง ในอดีตผู้หญงิ จะทอผ้าถงุ หรือผา้ ซิ่นใช้เอง ลวดลายต่างๆ ซึง่ สืบทอดจากบรรพ บรุ ุษมาหลายชว่ งอายุ เป็นงานฝมี อื ที่มลี วดลายเปน็ เอกลกั ษณ์ของตัวเอง มีความประณีตสวยงาม ออกแบบลวดลายเอง โดยการปักมือ และการเพ้นท์เสื้อหม้อห้อม ลวดลายพื้นบ้าน ทางล้านนา ซึ่งเสื้อหม้อห้อมเป็นเอกลักษณ์ของชาวแพร่ และเป็นชุดแตง่ กายประจำถิน่ ของชาวแพร่

๑๖ ๕. รายละเอยี ดของภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ การทำบายศรี นนั้ นักปราชญโ์ บราณเคยทำสบื ๆ กนั มา มี 2 วธิ ี คือ วธิ ที ่ี 1 จะนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป รับศีล รับพร และประพรมน้ำมนต์ วธิ ที ่ี 2 ตง้ั เครือ่ งบูชาพาขวัญ (บายศร)ี ตามประเพณีนิยม มีข้าวสาร กล้วย ข้าวต้ม ขนม ธปู เทยี น ผา้ แพรวา (ถ้าสู่ขวัญคน จะมี เครื่องสำอางค์ด้วย) ฝ้ายผูกแขน เทียนรอบหัวและเท่าตัว ยอดกล้วย ยอดอ้อย ด้ายขาว 1 ในขนั โตกขันทองเหลอื งการทำบายศรี มี 2 อยา่ ง คอื บายศรีหลัก บายศรปี ากชาม 1. บายศรหี ลกั จะทำในงานท่ัวไป เช่น งานมงคลตา่ ง ๆ แขกมาเยีย่ มบ้านแต่งงาน ทำขวญั ผู้ใหญ่ 2. บายศรีปากชาม น้นั มักจะมีคซู่ ้าย ขวา จะทำในพิธบี วงสรวง หลักเมอื ง หรือเจ้าท่ีเจา้ ทาง หรือ ยกครู ไหว้ครู ทางไสยศาสตร์ ในสมัยโบราณการทำบายศรี จะทำในงานสำคัญเท่านั้น และทำเปน็ สีห่ ลักข้างตน้ แตเ่ ม่อื ล่วงนานมาประมาณ พ.ศ. 2500 ทางพทุ ธใหม้ หี ลักสตู ร สอนศาสนาพิธีนนั้ พานบายศรีก็มกี ารเปลีย่ นแปลงไป ตามกาลสมัย มี 3 ชัน้ 5 ช้นั 7 ชนั้ 9 ชน้ั ตามคำสวดทอี่ ญั เชญิ เทพมาในงานพิธีนั้น หตั ถกรรมผ้าพื้นเมือง ผา้ ถงุ ที่สภุ าพสตรีพน้ื เมืองนิยมสวมใส่ในชวี ติ ประจำวัน ในอดีตผู้หญงิ จะทอผ้าถุง หรือผ้าซิ่นใช้เอง ออกแบบเกิดลวดลายต่างๆ ซึ่งสืบทอดจากบรรพบุรุษมาหลายช่วงอายุ เป็นงานฝีมือที่มีลวดลายเป็น เอกลักษณ์ของตวั เอง มคี วามประณตี สวยงาม ทอดว้ ยผ้าไหม และผ้าฝา้ ย ผ้าหม้อห้อม เป็นผลิตภณั ฑ์ของจังหวัดแพร่ที่มีความโดดเด่น เนื่องจากเป็นเอกลักษณ์ของชาวแพรม่ า ช้านาน ตลอดจนเปน็ ชดุ แต่งกายประจำถิน่ ของชาวแพร่ และชาวแพร่ท่ีสวมใสใ่ นชวี ิตประจำวัน และงานประเพณตี ่าง ๆ จึงถือเป็นเอกลักษณข์ องชาวแพร่ ดังคำขวัญของจังหวัดแพร่ที่กล่าวไวว้ ่า “หม้อห้อมไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมอื ง ลือเลือ่ งแพะเมอื งผี คนแพรน่ ีใ้ จงาม” ๖. การประชาสมั พันธแ์ ละเผยแพร่ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ ยังไม่เคยมีการเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบคุ คล ✓ เคยเผยแพรเ่ ฉพาะในชมุ ชน มีการดงู านแล้วจากบุคคลภายนอกแล้ว...........……..คร้ัง/…………….…..ราย มกี ารนำไปใช้ - ในพนื้ ที่เดยี วกนั …………..ราย - นอกพืน้ ที่………………….ราย อ่นื ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลักษณะของภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ✓ ภูมปิ ัญญาท้องถิ่นดั้งเดมิ ไดร้ ับการถ่ายทอดมาจาก ……ศึกษาเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง……….…………………. ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ ที่ได้พัฒนาและต่อยอด - แบบเดิม คือ ……………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ไดพ้ ัฒนาและต่อยอด คือ ………………………………………………………………………….………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ /นวัตกรรมทคี่ ิดค้นขนึ้ มาใหม่

๑๗ ๘. วตั ถุดิบทใ่ี ช้ประโยชนใ์ นผลติ ภณั ฑ์ทเี่ กิดจากภมู ปิ ญั ญา ซ่งึ มีในพืน้ ที่ พนื้ ท่ีอ่ืนไม่มี ✓ มี ได้แก่ ๑ …ผา้ หม้อห้อม………………………………………………………………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ไม่มี หมายเหตุ : ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ภาพถา่ ยประกอบหรือวาดภาพประกอบ

๑๘ ข้อมูลภูมปิ ัญญาในทอ้ งถน่ิ หรอื ปราชญ์ชาวบ้าน ชมุ ชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 2. การทำตงุ ล้านนา และสนิ ค้าพนื้ เมอื งและของทีร่ ะลึก (Handmade) ๑. ชื่อภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ............การทำตงุ ลา้ นนา และสนิ ค้าพนื้ เมืองและของทร่ี ะลกึ (Handmade). ๒. เจา้ ของภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น /ปราชญ์ชาวบา้ น ...................นางกรพร ฉมิ น้อย..........................อาย.ุ ...76 ปี........... อาชีพ ธรุ กจิ ส่วนตวั (คา้ ขายสนิ ค้าพน้ื เมอื ง วิทยากรหตั ถกรรมพ้ืนเมอื ง) ทอ่ี ยู่ บ้านเลขท่ี …18/2…. ชมุ ชน ...สวรรคนเิ วศ...ตำบล...ในเวยี ง...อำเภอ...เมอื งแพร่...จังหวัด...แพร่.. รหัสไปรษณีย์ ...54000.................... โทรศพั ท์ ………………08 6914 5397….…………………………….. E-mail address …………………………………………………………………………..………………………………………….. ๓. ประเภทของภูมิปญั ญาท้องถ่ิน คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมือ) เกษตร ศิลปกรรม/จติ รกรรม/ประติมากรรม ดนตรี/นาฎศลิ ป์ ✓ ศลิ ปหตั ถกรรม ศาสนา ประเพณีและวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ การแพทย์แผนไทย ภาษาและวรรณกรรม อน่ื ๆ ...................................……… ๔. จดุ เด่นของภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ การทำตุงล้านนา “ตงุ ล้านนาภมู ปิ ญั ญาชาวเหนือ” - ตุงไส้หมู วิถีของคนล้านนา เต็มไปด้วยความเชื่อมากมาย ที่แสดงออกมาในหลากหลาย รูปแบบ ทั้งพิธีกรรม และศิลปะ โดยสะท้อนออกมาในรูปแบบของ “ตุง” ตุง คือศิลปะ ที่มีพิธีกรรม และความเชื่อมา เป็นสิง่ เชื่อมโยงตอ่ กัน โดยมผี ลตอ่ จติ ใจของคนลา้ นนา วถิ ดี ั้งเดมิ ทงี่ ดงาม ท่ีเปน็ ทง้ั ศาสตรแ์ ละศิลป์ มีขนาด รูปรา่ ง และ รายละเอียดด้านวสั ดตุ กแต่งทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไปตามความเชอ่ื และพิธกี รรมตลอดจนตามความนิยมในแตล่ ะท้องถ่ิน - พวงมโหตร เป็นเคร่อื งแขวนโบราณทที่ ำจากกระดาษสีต่าง ๆ นำมาพบั และตดั เป็นรูปต่าง ๆ เป็นภมู ิปัญญา พวงมโหตรเป็นเครื่องแขวนประเภทหน่งึ ซ่ึงใชแ้ ขวนในงานมงคลเท่าน้ัน สนิ คา้ พนื้ เมอื งและของทร่ี ะลึก (Handmade) การทำพวงกญุ แจจากผา้ พืน้ เมือง ในรูปแบบท่ี หลากหลายการผลติ งานท่ีใช้ไอเดยี ท่ีเป็นเอกลักษณ์ของผูท้ ำ และพลกิ แพลงเป็นช้นิ งานได้หลากหลาย โดยมีการวาง จำหนา่ ย ณ วัดจอมสวรรค์ ชมุ ชนสวรรคนเิ วศ ต.ในเวยี ง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่

๑๙ ๕. รายละเอียดของภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ การทำตงุ ลา้ นนา - ตุงไส้หมู ตุงไส้หมู มีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ รูปร่างคล้ายจอมแหหรือปรางค์ ทำจาก กระดาษสีหรอื กระดาษแก้วสตี ่างๆ อยา่ งนอ้ ยแผน่ ละสี มาวางซ้อนกันแลว้ พับทแยงมมุ หลายๆทบ ใชก้ รรไกรตัดสลับกัน เปน็ ลายฟันปลาจนถึงส่วนปลายสุด เม่ือคลอี่ อก และจบั หงายขน้ึ จะเห็นเปน็ พวงกระดาษที่สวยงาม ใชส้ ำหรับบูชาพระ ธาตุประจำปีเกดิ และในประเพณีปีใ๋ หม่เมือง - พวงมโหตร เปน็ เครื่องแขวนโบราณทที่ ำจากกระดาษสีต่าง ๆ นำมาพบั และตดั เป็นรปู ต่าง ๆ เป็นภูมิปัญญา พวงมโหตรเป็นเครื่องแขวนประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้แขวนในงานมงคลเท่านั้น เช่นงานแต่ง งานบวช งาน ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานวันสงกรานต์ งานโกนจุกและงานบุญทั่วไป ซึ่งจะนำมาแขวนสถานที่เด่นที่สุดในบ้าน เช่น ใจ กลางบ้าน สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก (Handmade) การทำพวงกุญแจจากผ้าพื้นเมือง พวงกุญแจ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และพวงกุญแจห้อยกระเป๋า มีการวางจำหน่าย ณ วัดจอมสวรรค์ ชุมชนสวรรคนิเวศ ต.ในเวยี ง อ.เมอื งแพร่ จ.แพร่ ๖. การประชาสมั พันธ์และเผยแพรภ่ มู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น ยงั ไม่เคยมีการเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบุคคล ✓ เคยเผยแพรเ่ ฉพาะในชุมชน มีการดงู านแลว้ จากบุคคลภายนอกแลว้ ...........……..คร้ัง/…………….…..ราย มกี ารนำไปใช้ - ในพื้นท่เี ดยี วกัน…………..ราย - นอกพนื้ ท่ี………………….ราย อ่ืน ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลักษณะของภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ✓ ภมู ิปญั ญาท้องถิน่ ด้ังเดิม ได้รบั การถ่ายทอดมาจาก ……การศกึ ษาเรยี นรดู้ ้วยตนเอง……….…………… ภูมิปญั ญาท้องถ่ินทีไ่ ด้พัฒนาและต่อยอด - แบบเดมิ คอื ……………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ไดพ้ ัฒนาและตอ่ ยอด คือ ………………………………………………………………………….………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน/นวัตกรรมท่ีคิดค้นขนึ้ มาใหม่ ๘. วัตถุดิบทีใ่ ช้ประโยชนใ์ นผลิตภณั ฑท์ ่เี กดิ จากภูมิปัญญา ซ่งึ มใี นพ้นื ท่ี พื้นท่ีอนื่ ไม่มี ✓ มี ได้แก่ ๑ …ผา้ พื้นเมอื ง เช่น ผา้ หม้อห้อม ในการทำพวงกญุ แจ…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ไม่มี หมายเหตุ : ………………………………………………………………………………………………………………………

๒๐ ภาพถ่ายประกอบหรือวาดภาพประกอบ ณ วัดจอมสวรรค์

๒๑ ขอ้ มูลภูมปิ ัญญาในทอ้ งถนิ่ หรอื ปราชญ์ชาวบา้ น ชมุ ชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 3. การผลิตเตาถา่ น (เตาอั้งโล)่ ๑. ชื่อภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ............การผลติ เตาถา่ น (เตาอ้ังโล)่ ……………………………………………… ๒. เจ้าของภูมิปัญญาท้องถิ่น /ปราชญ์ชาวบ้าน ...................นายอนวุ ัฒน์ ประเทือง........................อาย.ุ ...52 ปี....... อาชพี รับจา้ งทว่ั ไป ทอ่ี ยู่ บ้านเลขที่ …137…. ชุมชน ...เหมืองแดง....ตำบล...ในเวยี ง....อำเภอ...เมืองแพร่....จังหวัด...แพร่... รหสั ไปรษณีย์ ...54000.................... โทรศพั ท์ ………………08 9776 9885….……………………………. E-mail address …………………………………………………………………………..………………………………………….. ๓. ประเภทของภูมิปัญญาท้องถ่ิน คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมอื ) เกษตร ✓ ศิลปกรรม/จิตรกรรม/ประติมากรรม ศลิ ปหตั ถกรรม การแพทยแ์ ผนไทย ดนตรี/นาฎศิลป์ ภาษาและวรรณกรรม ศาสนา ประเพณแี ละวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ อน่ื ๆ ...................................……… ๔. จุดเด่นของภูมปิ ัญญาท้องถิน่ การผลิตเตาถา่ น (เตาอ้ังโล่) เปน็ อปุ กรณส์ ำหรับก่อไฟให้ความร้อนในการหงุ ต้มอาหาร มีรปู ทรงคล้าย ถัง ปากกลมผายออกเล็กน้อย ก้นสอบ ผนังเตาหนาประมาณ 2 นิ้ว ด้านหน้าเจาะเป็นชอ่ งสี่เหลีย่ ม พื้นเตาเป็นช่องให้ อากาศเข้าหรือใช้พัดโบกให้ลมเข้าไปเพื่อเร่งไฟ สืบทอดภูมิปัญญามาจากบรรพุบุรษุ จากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งรุ่นนี้อาจจะเปน็ รุ่น สุดท้าย เน่ืองจากไม่มีบตุ รหรือทายาทในการสบื ทอดภูมิปญั ญาดังกล่าว โดยการผลิตยังใช้ขน้ั ตอนแบบโบราณ ต้ังแตก่ าร ปั้นดิน การขึ้นรูปเตา ไปจนถึงขั้นตอนการเผา โดยไม่ได้อาศัยเครื่องมือ อุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม และยังจำหน่ายใน ราคา 100 -120 /เตา ส่วนใหญจ่ ะรับออเดอรแ์ ล้วจงึ ทำ เนอื่ งจากตลาดการจำหนา่ ยในปจั จบุ นั นอ้ ยลง ๕. รายละเอยี ดของภูมปิ ัญญาท้องถิ่น การผลิตเตาถ่าน (เตาอั้งโล่) ขั้นตอนการผลิตเตาอั้งโล่นั้นเริ่มจากการหาดินเหนียวตามท้องนา เนื่องจากเป็นดินที่มีคุณภาพ ง่ายต่อการขึ้นรูป ไม่แตกร้าวหลังการเผา จากนั้นนำมาตากแดดให้แห้งประมาณ 2 วัน แล้วจึงนำดินเหนียวไปหมักในบ่อดินเพื่อให้ดินผสมผสานเข้าเป็นเนื้อเดียวกันและคัดแยกเศษไม้เศษหินออกมาไม่ให้ ปะปนในเน้ือดนิ แช่ดนิ ทงิ้ ไวใ้ นบ่อประมาณ 1 คนื หลังจากนั้นนำดนิ ขน้ึ มาสะเดด็ น้ำใหแ้ หง้ พอหมาดๆ ผสมขเ้ี ถา้ แกลบ ดำ ในอัตราขเ้ี ถ้าแกลบดำ 1 ส่วน ดนิ 2 ส่วน ใช้เทา้ ย่ำใหเ้ ข้ากนั ประมาณ 3 ชว่ั โมง แกลบดำจะทำหน้าท่ีเป็นฉนวนกัน

๒๒ ไม่ให้ความร้อนกระจายออกจากตัวเตา หลังจากนั้นนำดินไปปั้นขึ้นรูปเป็นเตาสู่แม่พิมพ์ตามขนาดที่เตรียมไว้ ใช้มือตบ ปั้นดินให้ขึ้นรูปเป็นทรงเตา ตกแต่งผิวดินด้านในที่ใช้เป็นห้องสำหรับวางรังผึ้ง หลังจากนั้นอัดทับด้วยแม่พิมพ์ภายใน เพื่อขึ้นรูปเป็นปากเตาและนมเตา เมื่อได้เตาตามขนาดที่ต้องการแล้วจึงคว่ำเอาเตาออกมาจากแม่พิมพ์แล้วนำไปผึ่งลม ใหแ้ ห้งประมาณ 1-2 วันก่อนจะนำกลบั มาตกแต่งปากเตาและนมเตา พร้อมกบั เจาะช่องลมแล้วจึงนำไปผ่ึงลมและตาก แดดจนเตาแห้งสนิท ใช้เวลาประมาณ 2 วัน จากนัน้จึงนำมาเรียงในช้ันเตาเผา ใช้เวลาในการเผา 10 ชั่วโมง รอให้เตา เย็นแล้วจึงนำออกมาบรรจุลงในถังสังกะสีเฉพาะที่ใช้ทำเตา ใช้ดินเหนียวผสมขี้เถ้าแกลบยาขอบเตาให้แน่นในอัตราดิน 1 สว่ น ขี้เถา้ แกลบ 10 สว่ น เพื่อไมใ่ ห้เตาเสียหายงา่ ยเวลาใช้งาน ในส่วนรงั ผ้ึงน้ันทำจากดินเหนียวทใ่ี ชท้ ำเตามานวดผสมกับข้ีเถา้ แกลบดำมากกว่าส่วนผสมทใี่ ชท้ ำเตา เมอ่ื นวดจนได้ที่แลว้ กน็ ำดนิ ใสล่ งไปในพิมพ์ กดดนิ ให้เต็มแม่พมิ พ์ ปาดเอาดนิ สว่ นเกินออกจากแม่พมิ พท์ ้ิงไวจ้ นแห้ง ประมาณ 2-3 วนั แล้วนำแม่แบบมาเจาะรูก่อนท่จี ะผง่ึ ลมทงิ้ ไวอ้ ีก 2-3 วัน จึงนำไปเผาจนสุก แล้วจงึ นำไปใสใ่ นเตาตรง ระดบั ท่ีกำหนดไว้ ใชด้ ินเหนียวผสมข้ีเถ้าแกลบในอัตราดิน 1 สว่ น ขเ้ี ถา้ 5 สว่ น ยาภายในเตารอบบริเวณที่รังผง้ึ สัมผสั กบั ผนังเตา ทำท้ังดา้ นบนและด้านล่างก็จะไดเ้ ตาอั้งโลพ่ ร้อมใชง้ าน ๖. การประชาสมั พันธแ์ ละเผยแพรภ่ ูมิปัญญาท้องถนิ่ ✓ ยงั ไมเ่ คยมีการเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบุคคล เคยเผยแพร่เฉพาะในชุมชน มีการดูงานแลว้ จากบคุ คลภายนอกแล้ว...........……..ครง้ั /…………….…..ราย มกี ารนำไปใช้ - ในพืน้ ทีเ่ ดียวกัน…………..ราย - นอกพื้นท่ี………………….ราย อ่ืน ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลกั ษณะของภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ✓ ภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ดั้งเดิม ได้รบั การถา่ ยทอดมาจาก ……บรรพบรุ ุษ……….…………………………………… ภูมปิ ัญญาท้องถิ่นทไ่ี ด้พฒั นาและตอ่ ยอด - แบบเดิม คือ ……………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ได้พัฒนาและต่อยอด คือ ………………………………………………………………………….………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ /นวัตกรรมทค่ี ิดคน้ ข้ึนมาใหม่ ๘. วตั ถุดิบท่ีใช้ประโยชน์ในผลติ ภณั ฑท์ ่เี กิดจากภูมปิ ัญญา ซ่งึ มใี นพื้นที่ พน้ื ทอี่ ืน่ ไม่มี ✓ มี ไดแ้ ก่ ๑ …ผ้าพื้นเมือง เช่น ผ้าหมอ้ ห้อม ในการทำพวงกญุ แจ…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ไม่ หมายเหตุ : ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………

๒๓ ภาพถ่ายประกอบหรือวาดภาพประกอบ

๒๔ ขอ้ มูลภูมิปัญญาในทอ้ งถ่นิ หรอื ปราชญ์ชาวบ้าน ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 4. การทำตงุ ลา้ นนา การทำโคมแขวนลา้ นนา และการทำผา้ มดั ย้อม ๑. ช่อื ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ............การทำตุงล้านนา การทำโคมแขวนล้านนา และการทำผ้ามดั ย้อม… ๒. เจ้าของภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ /ปราชญ์ชาวบ้าน ...................นางนฐิจิต เทยี นถนอม........................อาย.ุ ...67 ปี....... อาชพี ขา้ ราชการบำนาญ (พยาบาล) ทีอ่ ยู่ บา้ นเลขท่ี …...…. ชมุ ชน ...วดั หลวง.... ตำบล ...ในเวยี ง.... อำเภอ ...เมืองแพร่.... จังหวัด ...แพร่. รหสั ไปรษณีย์ ...54000.................... โทรศัพท์ ………………06 1962 3593….………………………… E-mail address …………………………………………………………………………..……………………………………… ๓. ประเภทของภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมอื ) เกษตร ศิลปกรรม/จิตรกรรม/ประติมากรรม ดนตร/ี นาฎศลิ ป์ ✓ ศลิ ปหตั ถกรรม ศาสนา ประเพณีและวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น การแพทย์แผนไทย ภาษาและวรรณกรรม อ่นื ๆ ...................................……… ๔. จุดเดน่ ของภมู ิปัญญาท้องถ่นิ การทำตงุ ล้านนา ตุงไส้หมู ตุงไส้หมู มีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ รูปร่างคล้ายจอมแหหรือปรางค์ ทำจาก กระดาษสหี รอื กระดาษแก้วสตี า่ งๆ อยา่ งนอ้ ยแผ่นละสี มาวางซ้อนกันแล้วพบั ทแยงมมุ หลายๆทบ ใช้กรรไกรตัดสลับกัน เปน็ ลายฟนั ปลาจนถึงสว่ นปลายสุด เมื่อคลี่ออก และจับหงายขึ้น จะเห็นเปน็ พวงกระดาษที่สวยงาม ใช้สำหรับบูชาพระ ธาตุประจำปีเกดิ และในประเพณปี ๋ีใหมเ่ มือง การทำโคมแขวนลา้ นนา ในช่วงก่อนจะถึงวันเพ็ญเดือนยี่ ชาวล้านนาท่ีมีฝีมือเชิงช่างจะประดิษฐ์โคมรูปลักษณะตา่ ง ๆ เพื่อเตรียมใช้ในการจุดผางประทีสบูชาที่วัดในวันเพ็ญเดือนยี่ โดยการแขวนใส่ค้างโคมบูชาตามพระธาตุเจดีย์ แขวนไว้ หน้าวิหาร กลางวิหาร หรือในปัจจุบันนิยมแขวนประดับตกแต่งตามอาคารบ้านเรือน โคมล้านนามีลักษณะหลากหลาย รูปแบบ แลว้ แตก่ ารสร้างสรรค์ตามภูมิปญั ญาของแต่ละท้องถิ่น โคมรูปแบบโบราณที่พบทว่ั ไปในล้านนา เช่น โคมรังมด ส้ม (โคมธรรมจักร) โคมดาว โคมไห โคมเงี้ยว (โคมเพชร) โคมกระบอก โคมหูกระต่าย โคมดอกบัวโคมญี่ปุ่น โคมผัด ฯลฯ

๒๕ การทำผา้ มัดย้อม ผา้ มดั ย้อมเปน็ ภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ ของคนในท้องถิน่ ประดิษฐค์ ิดค้นขึ้นมาด้วยสตปิ ญั ญาของคน ในท้องถ่ิน โดยนำวัสดุทีม่ ีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเช่นการย้อมผา้ ที่ดดั แปลงมาจากวสั ดุทางธรรมชาติที่ มีความหลากหลายของสีสนั เชน่ สแี ดงท่ีได้มาจากผลกระเจ๊ียบ สเี หลืองจากขมน้ิ ชันและสนี ้ำตาลจากเปลือกไม้ เป็นต้น ดังนั้นเราควรที่จะศกึ ษา และอนุรักษ์การทำผ้ามดั ย้อมของชุมชนไว้เพื่อให้บุคคลรุน่ หลัง หรือผู้ที่สนใจได้ศึกษาแนวทาง ในกระบวนการผลติ ผา้ มดั ยอ้ มของชมุ ชนต่อไป ๕. รายละเอียดของภมู ิปัญญาท้องถ่ิน การทำตงุ ลา้ นนา ตุงไส้หมู ตุงไส้หมู มีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ รูปร่างคล้ายจอมแหหรือปรางค์ ทำจาก กระดาษสหี รอื กระดาษแกว้ สตี ่างๆ อย่างน้อยแผน่ ละสี มาวางซ้อนกันแลว้ พบั ทแยงมมุ หลายๆทบ ใชก้ รรไกรตัดสลับกัน เป็นลายฟันปลาจนถึงสว่ นปลายสุด เม่ือคลีอ่ อก และจบั หงายข้ึน จะเห็นเปน็ พวงกระดาษท่ีสวยงาม ใช้สำหรับบูชาพระ ธาตุประจำปเี กดิ และในประเพณปี ๋ีใหมเ่ มอื ง การทำโคมแขวนล้านนา โคมไฟ หรือ โคมแขวน เป็นงานหัถตกรรมพื้นบ้าน ที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ให้คงอย่สู บื ต่อจนถึงปัจจุบนั ในภาคเหนือซง่ึ ชาวลา้ นนาใช้ในงานประเพณีย่ีเป็ง พึงสกั การะบูชาพระพุทธเจ้า คืนวันเพ็ญ เดือนสิบสอง (ยี่เป็งล้านนา) ถือว่าเมื่อได้กระทำเช่นนี้แล้ว และประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ดำเนินชีวิต เจรญิ รุ่งเรอื งอย่เู ย็นเปน็ สุข โคมแขวน เปน็ โคมบูชาพระมหี ลายรปู แบบ รูปทรง เช่น โคมบาตรพระ โคมดาว โคมตะกร้า โคมต้องห้อยพู่ โคมพระอาทิตย์ โคมธรรมจักร ซึ่งหมายถึง \"ความแจ้งในธรรม\" จะใช้ในงานยี่เป็งหรือวันตั้งธรรม มหาชาติเวสสันดรชาดก ใช้แขวนไว้ในโบสถ์ บนศาลา ในวิหาร หรือทำค้างไม้ไผ่ทำชักรอกแขวนข้างโบสถ์ วิหารเป็น พทุ ธบชู า สวยงาม สวา่ งไสว หรอื ใช้ตกแต่งบ้านเรอื น เพ่อื บูชาเทพารกั ษ์ ผู้รักษาหอเรอื น อาคารบา้ นเรอื นกไ็ ด้ โคมแขวน หรือ โคมคา้ ง ไดแ้ ก่ โคมทีใ่ ช้แขวนบนหลกั หรอื ตามขอ่ื ในวิหาร หรือโบสถ์มีรูปร่างตา่ งๆ แลว้ แต่จะทำกนั ผทู้ ่ี นิยมทำกนั มากคือ พระภิกษุสามเณร การทำผา้ มดั ย้อม วิธีการยอ้ มสีมีวธิ ีการย้อมด้วยกนั ๓ วิธี ๑. การย้อมแบบจุ่ม ต้องเอาผ้าที่ต้องการย้อมจุ่มลงในน้ำย้อมที่มีตัวสีย้อมและสารช่วยย้อม ละลายรวมกันมีความเข้มข้นที่เหมาะสม ผ้าที่ย้อมจะเคลื่อนไปไหวโดยกระบวนการเชิงกล หรือในทางกลับกันน้ำจะ ไหลเวยี นโดยผา้ นั้นหยุดน่ิง กลา่ วคือน้ำเคลอ่ื นท่ีหรือผ้าเคลอ่ื นท่มี จี ดุ มงุ่ หมายใหย้ ้อมผา้ ไดพ้ อดีสตี ิดอยา่ งสมำ่ เสมอ ๒. ย้อมแบบต่อเนื่องเป็นวิธีย้อมสีโดยผ้าผ่านมาจากเครื่องย้อมที่ทำหน้าที่อย่างหนึ่งไป สู่เครื่องย้อมที่ทำหน้าที่อีกอย่างหนึ่งจนกว่าจะย้อมเสร็จ เริ่มจากการผ่านผ้าลงจุ่มในน้ำสีส่งไปบีบเอาน้ำออกให้เหลือ เพยี งเท่าที่ต้องการ สง่ ไปทำใหส้ ีรวมตัวและทำใหต้ ิดผ้า ๓. ย้อมด้วยการระบายสีหรือพิมพ์สีลงบนผืนผ้าให้เนื้อสีซึมติดเส้นใยผ้าจากด้านบนลงล่าง สีจะซึมลงในเน้อผ้าทั้งสองด้านการระบายซ้ำจึงทำให้สีติดเสน้ ใยเข้มและแน่น ส่วนการพิมพ์ผ้าสีติดผ้าเฉพาะด้านหลงั เท่าน้นั สยี อ้ มจากพืชหรอื สมุนไพร ชมพู ได้จาก ตน้ มหากาฬ และตน้ ฝาง สแี ดง ไดจ้ าก ดอกคำฝอย รากยอ คร่ัง มะเขือเทศสุก กระเจ๊ยี บ หัวผักกาด พรกิ แดง แกน่ รัก สเี หลอื ง ได้จาก แกน่ ขนนุ ขมิ้นช้นั ฟกั ทอง

๒๖ สนี ้ำตาล ได้จาก เปลือกไมโ้ กงกาง เปลือกเงาะ สดี ำ ไดจ้ าก ลกู มะเกลือ สสี ม้ แดง ไดจ้ าก ลูกสะต่ี หรือลกู คำเงาะ สกี ากีแกมเขียว ไดจ้ าก เปลือกเพกากับแก่นขนุน สีตองอ่อน ไดจ้ าก รากแถลง (มะพด) สเี ขียว ไดจ้ าก เปลอื กต้นมะริดไม้ ใบหกู วาง เปลอื กกระหูด เปลือกสมอ สกี ากแี กมเหลอื ง ไดจ้ าก หมากสง กับ แกน่ แกแล สีมว่ งอ่อน ไดจ้ าก ลูกหวา้ สนี ำ้ เงนิ ได้จาก ต้นคราม สยี อ้ มจากสตั ว์ การย้อมสีแดงจากครัง่ คร่งั ในภาคเหนือและภาคอีสาน ชาวบ้านมักจะเลยี้ งครั้งโดยวิธปี ลอ่ ยไวต้ ามต้นตามจรุ ีหรือออตน้ ฉำ่ ฉ่า วธิ ีการยอ้ มผา้ ดว้ ยครง่ั คือนำครั่งมาตากแดดให้แห้งแล้วจงึ นำไปปน่ ในครกตำขา้ วตำใหล้ ะเอยี ด แลว้ นำไปแช่ในนำ้ มะขามเปยี กประมาณหน่งึ วนั และไปตง้ั ไฟต้มนำ้ ให้เดือด หลงั จากน้นั จงึ เอกผ้าผา้ ย หรือไหมทฟ่ี อกสะอาดแช่ทิ้งไว้ ประมาณ ๓๐ นาที แล้วเอาไหม หรือฝ้ายขึ้นจากหมอ้ บีบให้หมาด แล้วนำไปล้างนำ้ ให้สะอาดจากน้ันตากให้แห้ง ไหม เหลา่ น้ันกจ็ ะกลายเป็นสแี ดง สีย้อมจากดิน ในประเทศไทยมดี นิ ท่ีมีลกั ษณะพเิ ศษ มีแร่เหล็กในเนื้อดนิ ซงึ่ สามารถนำมาทำเป็นสี ซ่ึงมวี ธิ ีการย้อม ทงั ยอ้ มร้อน คือ ตม้ เสน้ ใย และยอ้ มเยน็ ในอุณหภมู ขิ องหอ้ ง ๖. การประชาสมั พนั ธแ์ ละเผยแพร่ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ยังไมเ่ คยมกี ารเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบคุ คล ✓ เคยเผยแพรเ่ ฉพาะในชมุ ชน มีการดูงานแล้วจากบุคคลภายนอกแล้ว...........……..ครง้ั /…………….…..ราย มกี ารนำไปใช้ - ในพื้นท่เี ดียวกนั …………..ราย - นอกพ้ืนท่ี………………….ราย อื่น ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลกั ษณะของภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ✓ ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ดั้งเดมิ ได้รับการถา่ ยทอดมาจาก ……บรรพบุรุษและศึกษาด้วยตนเอง……….……. ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ท่ีได้พัฒนาและต่อยอด - แบบเดมิ คือ ……………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ไดพ้ ฒั นาและตอ่ ยอด คือ ………………………………………………………………………….………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ /นวัตกรรมที่คิดค้นขึน้ มาใหม่

๒๗ ๘. วตั ถุดิบทใ่ี ชป้ ระโยชนใ์ นผลติ ภณั ฑ์ที่เกิดจากภูมปิ ญั ญา ซ่ึงมใี นพื้นที่ พ้นื ทอี่ นื่ ไม่มี มี ไดแ้ ก่ ๑ ………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ✓ ไม่มี หมายเหตุ : …………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ภาพถ่ายประกอบหรือวาดภาพประกอบ

๒๘ ขอ้ มูลภูมิปัญญาในท้องถ่ิน หรอื ปราชญ์ชาวบา้ น ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 5. งานปกั ผ้าพน้ื เมอื งรว่ มสมัย ๑. ชื่อภูมปิ ัญญาท้องถิ่น ............งานปกั ผา้ พืน้ เมืองร่วมสมัย………………………………………………………. ๒. เจ้าของภูมิปัญญาท้องถ่นิ /ปราชญ์ชาวบา้ น ...................นางสาววิไล สันคม.........................อาย.ุ ...69 ปี......... อาชีพ ผูส้ งู อายุ ทีอ่ ยู่ บา้ นเลขท่ี …...…. ชมุ ชน ...วัดหลวง.... ตำบล ...ในเวียง.... อำเภอ ...เมอื งแพร่.... จังหวัด ...แพร่. รหสั ไปรษณยี ์ ...54000.................... โทรศพั ท์ ………………06 1962 3593….………………………… E-mail address …………………………………………………………………………..……………………………………… ๓. ประเภทของภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมือ) เกษตร ศิลปกรรม/จิตรกรรม/ประติมากรรม ดนตรี/นาฎศลิ ป์ ✓ ศิลปหตั ถกรรม ศาสนา ประเพณีและวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ การแพทย์แผนไทย ภาษาและวรรณกรรม อ่นื ๆ ...................................……… ๔. จดุ เดน่ ของภูมิปัญญาท้องถน่ิ งานปักผ้าพื้นเมืองร่วมสมัย เป็นงานปักมือ ด้นมืออย่างละเอียด บนผ้าพื้นเมือง หรือผ้าหม้อห้อม ทุกฝเี ข็ม แบบพ้ืนเมืองประยกุ ต์ โดยออกแบบลวดลายเอง ซงึ่ จะมลี วดลายเป็นเอกลักษณ์ 1 ช้นิ 1 แบบ ๕. รายละเอียดของภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ งานปักผ้าพื้นเมืองร่วมสมัย ได้เรียนรู้จากการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น ขององค์การบริหาร ส่วนจังหวัดแพร่ และได้นำความรู้มาพัฒนาต่อยอดออกแบบลวดลายในการปักผ้าเอง จนเกิดเป็นลวดลายร่วมสมัย แบบพ้นื เมอื งประยุกต์ ซ่งึ ได้ปกั มือทุกชน้ิ ๖. การประชาสมั พันธ์และเผยแพรภ่ มู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ✓ ยังไมเ่ คยมกี ารเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบุคคล เคยเผยแพรเ่ ฉพาะในชมุ ชน มีการดงู านแล้วจากบุคคลภายนอกแลว้ ...........……..คร้งั /…………….…..ราย

๒๙ มีการนำไปใช้ - ในพนื้ ท่ีเดยี วกนั …………..ราย - นอกพ้ืนที่………………….ราย อ่ืน ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลกั ษณะของภมู ิปญั ญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้ังเดิม ได้รับการถ่ายทอดมาจาก …………….…………………………………………………. ✓ ภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ที่ได้พัฒนาและต่อยอด - แบบเดมิ คอื …อบรมการปักลวดลายแบบพน้ื บา้ น……………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ไดพ้ ฒั นาและต่อยอด คือ …ลวดลายร่วมสมยั แบบพื้นเมืองประยุกต์ ……………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ /นวัตกรรมทีค่ ิดคน้ ข้นึ มาใหม่ ๘. วตั ถดุ บิ ท่ใี ชป้ ระโยชนใ์ นผลติ ภณั ฑ์ท่เี กิดจากภมู ปิ ญั ญา ซ่ึงมใี นพืน้ ที่ พ้ืนที่อนื่ ไม่มี มี ไดแ้ ก่ ๑ ………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ✓ ไม่มี หมายเหตุ : …………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………. ภาพถา่ ยประกอบหรือวาดภาพประกอบ

๓๐ ข้อมูลภมู ปิ ัญญาในท้องถิ่น หรอื ปราชญ์ชาวบ้าน ชมุ ชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 6. การทำตุงล้านนา ๑. ช่อื ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ............การทำตงุ ล้านนา (ตงุ ไส้หมู) และการทำโคมแขวนลา้ นนา……………. ๒. เจา้ ของภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน /ปราชญ์ชาวบา้ น ...................นางฟองแกว้ ลาภยศ..........................อาย.ุ ...69 ปี......... อาชพี รบั จ้างทว่ั ไป (รับจ้างดแู ลผูส้ งู อายุ) ท่ีอยู่ บา้ นเลขที่ ..60.. ชมุ ชน ..วดั หลวง.... ตำบล ...ในเวยี ง.... อำเภอ ..เมอื งแพร่.. จังหวัด ...แพร่. รหสั ไปรษณยี ์ ...54000.................... โทรศพั ท์ ………………08 8803 8588….………………………… E-mail address …………………………………………………………………………..……………………………………… ๓. ประเภทของภูมิปญั ญาท้องถิ่น คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมอื ) เกษตร ศลิ ปกรรม/จติ รกรรม/ประติมากรรม ดนตร/ี นาฎศิลป์ ✓ ศลิ ปหตั ถกรรม ศาสนา ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถ่ิน การแพทยแ์ ผนไทย ภาษาและวรรณกรรม อน่ื ๆ ...................................……… ๔. จุดเด่นของภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ การทำตุงล้านนา ตุงไส้หมู ตุงไส้หมู มีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ รูปร่างคล้ายจอมแหหรือปรางค์ ทำจาก กระดาษสหี รือกระดาษแกว้ สีต่างๆ อยา่ งนอ้ ยแผ่นละสี มาวางซอ้ นกันแลว้ พับทแยงมมุ หลายๆทบ ใชก้ รรไกรตัดสลับกัน เปน็ ลายฟนั ปลาจนถึงส่วนปลายสุด เมอื่ คลอ่ี อก และจับหงายขึน้ จะเหน็ เป็นพวงกระดาษท่ีสวยงาม ใช้สำหรับบูชาพระ ธาตปุ ระจำปเี กิด และในประเพณปี ใ๋ี หมเ่ มือง การทำโคมแขวนล้านนา ในช่วงก่อนจะถงึ วันเพ็ญเดือนยี่ ชาวล้านนาที่มีฝีมือเชิงช่างจะประดิษฐ์โคมรูปลักษณะต่าง ๆ เพื่อเตรียมใช้ในการจุดผางประทีสบูชาที่วัดในวันเพ็ญเดือนยี่ โดยการแขวนใส่ค้างโคมบูชาตามพระธาตุเจดีย์ แขวนไว้ หน้าวิหาร กลางวิหาร หรือในปัจจุบันนิยมแขวนประดับตกแต่งตามอาคารบ้านเรือน โคมล้านนามีลักษณะหลากหลาย รูปแบบ แล้วแต่การสร้างสรรค์ตามภูมิปัญญาของแตล่ ะท้องถ่ิน โคมรปู แบบโบราณที่พบท่ัวไปในล้านนา เช่น โคมรังมด ส้ม (โคมธรรมจักร) โคมดาว โคมไห โคมเงี้ยว (โคมเพชร) โคมกระบอก โคมหูกระต่าย โคมดอกบัวโคมญี่ปุ่น โคมผดั ฯลฯ

๓๑ การทำผ้ามดั ย้อม ผา้ มัดย้อมเปน็ ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ ของคนในท้องถ่นิ ประดษิ ฐ์คดิ คน้ ขึ้นมาด้วยสติปญั ญาของคน ในท้องถิน่ โดยนำวัสดทุ ี่มอี ยู่ในท้องถนิ่ มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ อยา่ งเชน่ การย้อมผา้ ท่ีดดั แปลงมาจากวัสดุทางธรรมชาติที่ มคี วามหลากหลายของสีสัน เชน่ สีแดงท่ีได้มาจากผลกระเจ๊ียบ สเี หลืองจากขมิ้นชนั และสีน้ำตาลจากเปลือกไม้ เป็นต้น ดังนั้นเราควรทีจ่ ะศกึ ษา และอนุรักษ์การทำผ้ามัดย้อมของชุมชนไว้เพื่อให้บุคคลรุน่ หลงั หรือผู้ที่สนใจได้ศกึ ษาแนวทาง ในกระบวนการผลิตผ้ามัดย้อมของชุมชนตอ่ ไป ๕. รายละเอียดของภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ การทำตงุ ลา้ นนา ตุงไส้หมู ตุงไส้หมู มีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ รูปร่างคล้ายจอมแหหรือปรางค์ ทำจาก กระดาษสหี รือกระดาษแกว้ สตี ่างๆ อยา่ งน้อยแผน่ ละสี มาวางซ้อนกนั แลว้ พับทแยงมุมหลายๆทบ ใช้กรรไกรตัดสลับกัน เป็นลายฟนั ปลาจนถึงสว่ นปลายสุด เม่อื คล่อี อก และจบั หงายขนึ้ จะเห็นเป็นพวงกระดาษที่สวยงาม ใช้สำหรับบูชาพระ ธาตุประจำปีเกิด และในประเพณีปใ๋ี หมเ่ มอื ง การทำโคมแขวนลา้ นนา โคมไฟ หรือ โคมแขวน เป็นงานหัถตกรรมพื้นบ้าน ที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ใหค้ งอยู่สืบต่อจนถงึ ปจั จุบนั ในภาคเหนือซ่ึงชาวลา้ นนาใช้ในงานประเพณยี ่ีเป็ง พงึ สกั การะบูชาพระพุทธเจ้า คืนวันเพ็ญ เดือนสิบสอง (ยี่เป็งล้านนา) ถือว่าเมื่อได้กระทำเช่นนี้แล้ว และประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ดำเนินชีวิต เจริญรุ่งเรืองอยูเ่ ย็นเป็นสขุ โคมแขวน เป็น โคมบชู าพระมหี ลายรปู แบบ รปู ทรง เช่น โคมบาตรพระ โคมดาว โคมตะกร้า โคมต้องห้อยพู่ โคมพระอาทิตย์ โคมธรรมจักร ซึ่งหมายถึง \"ความแจ้งในธรรม\" จะใช้ในงานยี่เป็งหรือวันตั้งธรรม มหาชาติเวสสันดรชาดก ใช้แขวนไว้ในโบสถ์ บนศาลา ในวิหาร หรือทำค้างไม้ไผ่ทำชักรอกแขวนข้างโบสถ์ วิหารเป็น พุทธบชู า สวยงาม สว่างไสว หรอื ใช้ตกแตง่ บ้านเรือน เพอื่ บูชาเทพารักษ์ ผู้รกั ษาหอเรือน อาคารบ้านเรอื นก็ได้ โคมแขวน หรือ โคมคา้ ง ไดแ้ ก่ โคมทีใ่ ช้แขวนบนหลัก หรือตามขือ่ ในวิหาร หรือโบสถม์ ีรปู รา่ งตา่ งๆ แล้วแต่จะทำกนั ผทู้ ี่ นิยมทำกนั มากคือ พระภกิ ษสุ ามเณร ๖. การประชาสัมพันธแ์ ละเผยแพร่ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ✓ ยงั ไม่เคยมีการเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบุคคล เคยเผยแพรเ่ ฉพาะในชมุ ชน มีการดูงานแล้วจากบุคคลภายนอกแล้ว...........……..ครง้ั /…………….…..ราย มีการนำไปใช้ - ในพ้ืนท่เี ดยี วกัน…………..ราย - นอกพื้นท่ี………………….ราย อนื่ ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลักษณะของภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ✓ ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ด้ังเดิม ได้รับการถ่ายทอดมาจาก ……ศึกษาด้วยตนเองและเขา้ รบั การอบรมหลักสตู ร ระยะส้นั ……….………… ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ ท่ีได้พฒั นาและต่อยอด - แบบเดมิ คอื …อบรมการปักลวดลายแบบพืน้ บ้าน……………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………………

๓๒ - ได้พัฒนาและต่อยอด คือ …ลวดลายร่วมสมยั แบบพนื้ เมืองประยุกต์ ……………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ /นวัตกรรมที่คดิ ค้นข้ึนมาใหม่ ๘. วัตถดุ ิบทใ่ี ชป้ ระโยชน์ในผลิตภณั ฑท์ ี่เกิดจากภมู ปิ ัญญา ซึง่ มใี นพื้นท่ี พื้นท่ีอื่นไม่มี มี ไดแ้ ก่ ๑ ………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ✓ ไม่มี หมายเหตุ : …………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ภาพถ่ายประกอบหรือวาดภาพประกอบ

๓๓ ขอ้ มูลภมู ิปัญญาในทอ้ งถ่นิ หรอื ปราชญ์ชาวบ้าน ชมุ ชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 7. การทำโคมล้านนา (โคมแขวนเหลย่ี มเพชร) ๑. ชือ่ ภมู ิปัญญาท้องถิ่น ............การทำโคมลา้ นนา (โคมแขวนเหล่ยี มเพชร)…………………………………… ๒. เจา้ ของภูมิปญั ญาท้องถนิ่ /ปราชญ์ชาวบา้ น ...................นายเหรยี ญ ศรีสันต์..........................อาย.ุ ...80 ปี......... อาชพี รบั จ้างทำโคม ที่อยู่ บา้ นเลขที่ ..7/3.. ชมุ ชน ..นำ้ คอื .... ตำบล ...ในเวยี ง.... อำเภอ ..เมืองแพร่.. จงั หวดั ...แพร่......... รหสั ไปรษณยี ์ ...54000.................... โทรศัพท์ ………………….………………………………………………………. E-mail address …………………………………………………………………………..…………………………………………. ๓. ประเภทของภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมือ) เกษตร ศลิ ปกรรม/จติ รกรรม/ประติมากรรม ดนตร/ี นาฎศลิ ป์ ✓ ศลิ ปหัตถกรรม ศาสนา ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถ่ิน การแพทย์แผนไทย ภาษาและวรรณกรรม อื่น ๆ ...................................……… ๔. จุดเด่นของภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน การทำตุงล้านนา ตุงไส้หมู ตุงไส้หมู มีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ รูปร่างคล้ายจอมแหหรือปรางค์ ทำจาก กระดาษสีหรือกระดาษแกว้ สีตา่ งๆ อย่างน้อยแผน่ ละสี มาวางซอ้ นกันแล้วพับทแยงมมุ หลายๆทบ ใช้กรรไกรตัดสลับกัน เป็นลายฟันปลาจนถึงส่วนปลายสุด เมอื่ คลอ่ี อก และจับหงายข้ึน จะเหน็ เป็นพวงกระดาษท่ีสวยงาม ใช้สำหรับบูชาพระ ธาตุประจำปีเกดิ และในประเพณีปี๋ใหม่เมอื ง การทำโคมแขวนลา้ นนา ในช่วงก่อนจะถึงวันเพ็ญเดือนยี่ ชาวล้านนาที่มีฝีมอื เชิงช่างจะประดิษฐ์โคมรูปลักษณะตา่ ง ๆ เพื่อเตรียมใช้ในการจุดผางประทีสบูชาที่วัดในวันเพ็ญเดือนยี่ โดยการแขวนใส่ค้างโคมบูชาตามพระธาตุเจดีย์ แขวนไ ว้ หน้าวิหาร กลางวิหาร หรือในปัจจุบันนิยมแขวนประดับตกแต่งตามอาคารบ้านเรือน โคมล้านนามีลักษณะหลากหลาย รปู แบบ แล้วแต่การสร้างสรรค์ตามภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น โคมรูปแบบโบราณที่พบทัว่ ไปในล้านนา เช่น โคมรังมด ส้ม (โคมธรรมจักร) โคมดาว โคมไห โคมเงี้ยว (โคมเพชร) โคมกระบอก โคมหูกระต่าย โคมดอกบัวโคมญี่ปุ่น โคมผัด ฯลฯ

๓๔ ๕. รายละเอียดของภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ การทำตงุ ลา้ นนา ตุงไส้หมู ตุงไส้หมู มีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ รูปร่างคล้ายจอมแหหรือปรางค์ ทำจาก กระดาษสหี รือกระดาษแก้วสตี ่างๆ อยา่ งน้อยแผ่นละสี มาวางซ้อนกนั แล้วพับทแยงมุมหลายๆทบ ใช้กรรไกรตัดสลับกัน เป็นลายฟันปลาจนถึงส่วนปลายสุด เม่อื คล่อี อก และจบั หงายขนึ้ จะเห็นเปน็ พวงกระดาษท่ีสวยงาม ใช้สำหรับบูชาพระ ธาตุประจำปีเกดิ และในประเพณีปใี๋ หมเ่ มอื ง การทำโคมแขวนลา้ นนา โคมไฟ หรือ โคมแขวน เป็นงานหัถตกรรมพื้นบ้าน ที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ใหค้ งอยูส่ บื ตอ่ จนถึงปัจจุบนั ในภาคเหนือซง่ึ ชาวลา้ นนาใช้ในงานประเพณยี ่ีเป็ง พงึ สกั การะบชู าพระพุทธเจ้า คืนวันเพ็ญ เดือนสิบสอง (ยี่เป็งล้านนา) ถือว่าเมื่อได้กระทำเช่นนี้แล้ว และประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ดำเนินชีวิต เจริญรุง่ เรอื งอย่เู ยน็ เปน็ สขุ โคมแขวน เปน็ โคมบูชาพระมหี ลายรูปแบบ รูปทรง เชน่ โคมบาตรพระ โคมดาว โคมตะกร้า โคมต้องห้อยพู่ โคมพระอาทิตย์ โคมธรรมจักร ซึ่งหมายถึง \"ความแจ้งในธรรม\" จะใช้ในงานยี่เป็งหรือวันตั้งธรรม มหาชาติเวสสันดรชาดก ใช้แขวนไว้ในโบสถ์ บนศาลา ในวิหาร หรือทำค้างไม้ไผ่ทำชักรอกแขวนข้างโบสถ์ วิหารเป็น พุทธบูชา สวยงาม สว่างไสว หรอื ใช้ตกแต่งบ้านเรอื น เพอื่ บูชาเทพารกั ษ์ ผู้รกั ษาหอเรอื น อาคารบา้ นเรอื นกไ็ ด้ โคมแขวน หรอื โคมค้าง ไดแ้ ก่ โคมที่ใช้แขวนบนหลัก หรอื ตามข่อื ในวหิ าร หรือโบสถม์ ีรูปรา่ งตา่ งๆ แลว้ แตจ่ ะทำกนั ผูท้ ่ี นยิ มทำกนั มากคือ พระภกิ ษุสามเณร ๖. การประชาสัมพนั ธ์และเผยแพร่ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ✓ ยงั ไมเ่ คยมีการเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบคุ คล เคยเผยแพร่เฉพาะในชุมชน มกี ารดงู านแล้วจากบุคคลภายนอกแล้ว...........……..ครั้ง/…………….…..ราย มีการนำไปใช้ - ในพื้นท่ีเดยี วกนั …………..ราย - นอกพน้ื ที่………………….ราย อน่ื ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลักษณะของภมู ิปญั ญาท้องถิ่น ✓ ภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ด้ังเดิม ได้รบั การถ่ายทอดมาจาก ……ศึกษาดว้ ยตนเอง……….………………………… ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ท่ีได้พฒั นาและตอ่ ยอด - แบบเดมิ คือ …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ไดพ้ ฒั นาและตอ่ ยอด คือ ………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ /นวัตกรรมท่ีคิดคน้ ขนึ้ มาใหม่ ๘. วัตถุดบิ ทใี่ ช้ประโยชน์ในผลิตภัณฑท์ ่เี กดิ จากภูมิปัญญา ซงึ่ มใี นพนื้ ที่ พืน้ ท่อี ื่นไม่มี

๓๕ มี ไดแ้ ก่ ๑ ………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ✓ ไม่มี หมายเหตุ : ทำโคมแขวนล้านนา (โคมแขวนเหลี่ยมเพชร) ซึ่งทำทั้งปี 1 ปี ขาย 1 ครั้ง คือช่วงประเพณีลอย กระทง ให้กบั เทศบาลเมอื งแพร่ เพ่ือประดบั ตกแต่งสถานท่ี ภาพถ่ายประกอบหรือวาดภาพประกอบ

๓๖ ข้อมูลภูมปิ ัญญาในทอ้ งถ่ิน หรอื ปราชญ์ชาวบ้าน ชมุ ชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 8. การทำโคมลา้ นนา (โคมแขวนเหล่ียมเพชร) ๑. ชอ่ื ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน ............การทำโคมล้านนา (โคมแขวนเหลี่ยมเพชร)…………………………………… ๒. เจา้ ของภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น /ปราชญ์ชาวบา้ น ...................นางปอ้ ง ศรสี นั ต์..........................อาย.ุ ...80 ปี......... อาชีพ รบั จา้ งทำโคม ที่อยู่ บ้านเลขท่ี ..7/3.. ชุมชน ..นำ้ คือ.... ตำบล ...ในเวยี ง.... อำเภอ ..เมืองแพร่.. จังหวดั ...แพร่......... รหัสไปรษณยี ์ ...54000.................... โทรศัพท์ ……………….…………………………….…………………………… E-mail address …………………………………………………………………………..…………………………………………. ๓. ประเภทของภูมิปญั ญาท้องถิน่ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมอื ) เกษตร ศิลปกรรม/จติ รกรรม/ประติมากรรม ดนตรี/นาฎศลิ ป์ ✓ ศิลปหัตถกรรม ศาสนา ประเพณแี ละวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน การแพทย์แผนไทย ภาษาและวรรณกรรม อ่ืน ๆ ...................................……… ๔. จดุ เด่นของภมู ิปัญญาท้องถ่นิ การทำโคมล้านนา (โคมแขวนเหลย่ี มเพชร) โคมล้านนา : รปู แบบการผลติ แบบดั้งเดิมและประยุกต์ สมัยใหม่เชิงพาณิชย์ การผลิตโคมเป็นงานศิลปหัตถกรรมแขนงหนึ่งที่อยู่คู่ชาวล้านนามาตั้งแต่โบราณ อาจกล่าวได้ว่า โคมเป็นผลติ ผลทางวฒั นธรรมท่ีเกี่ยวข้องกับประเพณีย่ีเป็ง (ลอยกระทง) ของชาวบา้ น (วชิ ยั ทพิ ยร์ ตั น์, 2535) ในอดีต มีสถานที่ที่มีการทำโคมอยู่มาก แต่ละพื้นที่ล้วนมีเอกลักษณ์หรือรูปแบบแตกต่างกัน โดยโคมที่มีชื่อเสียงและมีความ ประณีตของล้านนา ในปัจจุบันผู้ประดิษฐ์โคมเหลือน้อย เนื่องจากการผลิตต้องใช้ทักษะความชำนาญเป็นอย่างมาก แต่ยังพอมีสถานที่หรือกลุ่มชาวบ้านที่มีชื่อเสียงในการทำโคมหลงเหลืออยู่ คือ ชุมชนน้ำคือ ชุมชนหัวข่วง ปัจจุบันโคม ลา้ นนาเป็นท่ีนิยมและใช้กันอย่างแพรห่ ลายท้ังในชว่ งเดือนย่ีเป็ง (ลอยกระทง) เพอื่ ใช้ถวายเป็นพุทธบูชา หรือใช้ตกแต่ง สถานที่ บ้านเรือน ร้านอาหาร และโรงแรมทั่วไป สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้ผลิตในชุมชน เป็นอย่างมาก สามารถพฒั นาสนิ ค้าทางวัฒนธรรมนไ้ี ปสู่เศรษฐกจิ เชงิ สรา้ งสรรคไ์ ด้

๓๗ ๕. รายละเอียดของภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ การทำโคมล้านนา (โคมแขวนเหลี่ยมเพชร) ได้ศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง เหลาไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ให้มี เสน้ ผ่านศูนยก์ ลางประมาณ 0.5 ซม. ความยาวตามขนาดของโคมที่จะทำ คือ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเลก็ ถ้า เป็นโคม 8 เหลี่ยมใหห้ ักเป็น 4 เหลี่ยม จำนวน 9 ชิ้น ถ้าเป็นโคม 6 เหลี่ยมให้หักเป็น 7 เหลี่ยม จำนวน เผื่อไว้ในการ ประกอบ ประกอบโครงของโคมขึ้นเป็นรูปร่างตามลักษณะ เหลย่ี มชนเหล่ยี มโดยใช้ลวดมัดยึดติด ใชก้ ระดาษสีต่าง ๆ ที่ เตรียมไวต้ ิดตามชอ่ งของโคมตามความชอบ ๖. การประชาสมั พันธ์และเผยแพร่ภมู ิปัญญาท้องถิน่ ✓ ยังไม่เคยมีการเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบุคคล เคยเผยแพรเ่ ฉพาะในชุมชน มีการดงู านแลว้ จากบคุ คลภายนอกแลว้ ...........……..ครั้ง/…………….…..ราย มีการนำไปใช้ - ในพ้ืนที่เดยี วกัน…………..ราย - นอกพืน้ ท่ี………………….ราย อน่ื ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลกั ษณะของภูมิปัญญาท้องถ่ิน ✓ ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ด้ังเดมิ ได้รับการถา่ ยทอดมาจาก ……ศึกษาดว้ ยตนเองภายในครอบครัว………. ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ทีไ่ ด้พัฒนาและต่อยอด - แบบเดิม คอื …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ได้พฒั นาและต่อยอด คือ ………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน/นวัตกรรมทคี่ ดิ คน้ ขึ้นมาใหม่ ๘. วัตถุดิบท่ใี ชป้ ระโยชนใ์ นผลิตภัณฑท์ ีเ่ กิดจากภูมปิ ัญญา ซง่ึ มใี นพื้นที่ พ้นื ที่อื่นไม่มี มี ได้แก่ ๑ ………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ✓ ไม่มี หมายเหตุ : ทำโคมแขวนล้านนา (โคมแขวนเหลี่ยมเพชร) ซึ่งทำทั้งปี 1 ปี ขาย 1 ครั้ง คือช่วงประเพณีลอย กระทง ให้กบั เทศบาลเมืองแพร่ เพอื่ ประดบั ตกแต่งสถานทใี่ ห้สวยงามตามประเพณีล้านนา

๓๘ ภาพถ่ายประกอบหรือวาดภาพประกอบ

๓๙ ข้อมูลภูมิปัญญาในทอ้ งถน่ิ หรือปราชญ์ชาวบ้าน ชมุ ชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 9. ดนตรพี ืน้ เมอื ง ๑. ชอ่ื ภูมิปัญญาท้องถิ่น ............ดนตรีพืน้ เมอื ง และดนตรีไทย…………………………………… ๒. เจา้ ของภูมิปัญญาท้องถน่ิ /ปราชญ์ชาวบ้าน ...................นางสาวสุวิชชา จันทร์สรุ ยิ ะคุณ..........อาย.ุ ...61 ป.ี ... อาชีพ ขา้ ราชการบำนาญ (สาธารณสขุ ) ท่ีอยู่ บา้ นเลขที่ ..3/3.. ชมุ ชน ..สระบอ่ แก้ว.... ตำบล ...ในเวยี ง.... อำเภอ ..เมอื งแพร่.. จังหวัด ...แพร่.. รหสั ไปรษณีย์ ...54000.................... โทรศัพท์ ……08 1882 3870………….…………………………….… E-mail address …………………………………………………………………………..………………………………………….. ๓. ประเภทของภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมือ) เกษตร ศิลปกรรม/จติ รกรรม/ประติมากรรม ศิลปหัตถกรรม ✓ ดนตรี/นาฎศลิ ป์ การแพทย์แผนไทย ศาสนา ประเพณีและวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ภาษาและวรรณกรรม อื่น ๆ ...................................……… ๔. จุดเดน่ ของภมู ิปัญญาท้องถิ่น ดนตรพี น้ื เมือง หรือดนตรพี ื้นเมอื งบ้านภาคเหนอื ดนตรีพ้ืนบ้านเป็นดนตรชี าวบ้านสร้างสรรค์ขึน้ ด้วนการร้องหรือบรรเลงโดยชาว บ้านและชาวบ้านด้วน กันเปน็ ผฟู้ ัง ดนตรพี ืน้ บา้ นมีลักษณะดังนี้ 1. เป็นดนตรีของชาวบ้าน ส่วนมากเกิดขึ้นและพัฒนาในสังคมเกษตรกรรม มีลักษณะที่ไม่มีระบบ กฎเกณฑ์ชัดเจนตายตัว ประกอบกับใช้วิธีถ่ายทอดด้วนปากและการจดจำ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีใครเอาใจใส่ศึกษาหรือจด บนั ทกึ ไวเ้ ป็นหลักฐานดังเชน่ ดนตรสี ากล 2. เป็นดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น แต่ละท้องถิ่นจะมีดนตรีที่มีสำเนียง ทำนอง และจังหวะลีลา ของตนเอง ดนตรีพื้นบ้านส่วนใหญ่มีทำนองที่ประดิษฐ์ดัดแปลงมาจากทำนองของเสียงธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ซอของ ดนตรีภาคเหนือ คือ เพลงจะปุ มีทำนองอ่อนหวานตามสำเนียงพูดของคนไทยชาวเมืองจะปุในแควน้ สิบสองปันนาหรือ ซอลอ่ งน่าน ของจงั หวดั น่านมีทำนองเหมอื นกระแสน้ำไหล มีข้อสังเกตว่า เครื่องดนตรีพื้นบ้านผลิตด้วยฝีมือช่างชาวบ้าน รูปแบบเครื่องดนตรี เครื่องดนตรี ท่ที ำเพ่ือไวต้ ีคนทกุ คนไหนปะเทศไทย

๔๐ ๕. รายละเอยี ดของภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ดนตรีพื้นเมือง สามารถเล่นดนตรีพื้นเมืองได้ เช่น สะล้อ ซออู้ ซอด้วง และซอกลาง และเล่นดนตรี วงวรรณสังคตี และวงคมุ้ เจ้าหลวง สามารถถ่ายทอด แสดง เป็นวทิ ยากรในการสอนดนตรีพื้นเมอื งดงั กลา่ วขา้ งต้นได้ ๖. การประชาสัมพันธแ์ ละเผยแพรภ่ มู ิปัญญาท้องถ่นิ ยงั ไม่เคยมกี ารเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบุคคล ✓ เคยเผยแพร่เฉพาะในชมุ ชน มีการดงู านแลว้ จากบคุ คลภายนอกแลว้ ...........……..ครั้ง/…………….…..ราย มกี ารนำไปใช้ - ในพน้ื ท่เี ดยี วกนั …………..ราย - นอกพ้ืนท่ี………………….ราย อน่ื ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลกั ษณะของภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ ✓ ภูมิปัญญาท้องถิน่ ด้ังเดิม ได้รับการถา่ ยทอดมาจาก ……ศึกษาด้วยตนเอง………………………………… ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ทไี่ ด้พัฒนาและตอ่ ยอด - แบบเดมิ คอื …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ได้พัฒนาและตอ่ ยอด คือ ………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น/นวตั กรรมทค่ี ดิ คน้ ขนึ้ มาใหม่ ๘. วัตถดุ บิ ที่ใชป้ ระโยชน์ในผลิตภัณฑท์ ีเ่ กดิ จากภูมิปญั ญา ซ่ึงมีในพ้ืนท่ี พ้นื ที่อ่ืนไม่มี มี ไดแ้ ก่ ๑ ………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ✓ ไม่มี หมายเหตุ : - ภาพประกอบ

๔๑ ข้อมูลภูมปิ ัญญาในทอ้ งถิ่น หรอื ปราชญ์ชาวบา้ น ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 10. ศาสนาพิธแี ละความเชอ่ื ล้านนา ๑. ช่อื ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน ............ศาสนาพิธีและความเชอื่ ล้านนา…………………………………………………… - พธิ เี ล้ียงผีป่ยู า่ - รา่ งทรงเจา้ ของคนลา้ นนา ๒. เจา้ ของภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ /ปราชญ์ชาวบ้าน ...................นางขันทอง ชูพงษ์..........อาย.ุ ...81 ป.ี ... อาชพี ธุรกจิ สว่ นตัว ท่ีอยู่ บา้ นเลขท่ี ..5/3.. ชุมชน ..สระบ่อแก้ว.... ตำบล ...ในเวียง.... อำเภอ ..เมืองแพร่.. จังหวดั ...แพร่.. รหัสไปรษณีย์ ...54000.................... โทรศัพท์ ……08 1882 3870………….…………………………….… E-mail address …………………………………………………………………………..………………………………………….. ๓. ประเภทของภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมอื ) เกษตร ศลิ ปกรรม/จติ รกรรม/ประติมากรรม ศิลปหัตถกรรม ✓ ดนตร/ี นาฎศิลป์ การแพทยแ์ ผนไทย ✓ ศาสนา ประเพณแี ละวฒั นธรรมท้องถิ่น ภาษาและวรรณกรรม อน่ื ๆ ...................................……… ๔. จุดเดน่ ของภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ประเพณีล้านนาของคนเหนือ ประเพณีเลี้ยง ผีปู่ ย่า ตา ยาย แบบโบราณล้านนา หรือการเลี้ยงผี ประจำตระกูล หรือที่เรียกกันว่าผีบรรพบุรุษ ที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีกรรมนี้ทำให้ลูกหลานได้รู้จักกันสืบต่อไป และเป็น พิธีกรรมทีน่ บั ถอื และปฏบิ ัตสิ ืบทอดกันมา นานมากกว่า 100 ปี ร่างทรงเจ้าของคนล้านนา การทรงเจ้าเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อใด คงยากจะหาหลักฐานมีอ้างอิงได้ แต่จาก การสังเกตและพบเห็น มีการทรงเจ้าอยู่เกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่แถบจังหวัดต่าง ๆ ของภาคเหนือมี การทรงเจา้ กนั อยูม่ ากมาย การทรงเจา้ ของคนภาคเหนือ ในอดตี เป็นการทรงเฉพาะในชว่ งเวลาท่ชี าวบา้ นเดือดร้อนหรือ เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะมีพึ่งพาเจ้าทรงให้ช่วยรักษา รวมถึงการตรวจสอบดวงชะตาของหมู่บ้าน ซึ่งการทรงเจ้าของคน ภาคเหนอื นั้นมีการทรงอยู่หลายเจา้ เช่น การทรงเจ้าของผีหมอ้ นงึ่ การทรงผีผา่ ผีเขา การทรงผีปู่ย่า การทรงผีเจา้ พระยา เปน็ อาทิ โดยมคี วามเช่ือพนื้ ฐานก็คือ ต้องการใหบ้ รรดาเจ้าทรงต่าง ๆ ช่วยเหลือในยามเจ็บไข้ได้ปว่ ยหรือเกิดเหตุเภตภัย ใด ๆ ในหมู่บา้ น

๔๒ ในภาวะทก่ี ารเจรญิ เติบโตทางสังคมและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ การหาเหตุผลมารองรับถึงความ เช่ือดงั กลา่ วจึงเปน็ เรือ่ งยาก หลายคนอาจมองว่าการทรงเจา้ เปน็ เร่ืองโกหก งมงาย แตข่ ณะทอี่ กี หลายคนถือเอาการทรง เจา้ เป็นท่พี ึ่งทางใจแหง่ สุดทา้ ยของพวกเขา ๕. รายละเอยี ดของภูมิปัญญาท้องถ่นิ ประเพณีล้านนาของคนเหนือ สืบเนื่องกันมารุ่นต่อรุ่น กว่า 100 ปี ประเพณีเลี้ยง ผีปู่ ย่า ตา ยาย แบบโบราณล้านนา หรือการเลีย้ งผปี ระจำตระกลู หรือทเี่ รยี กกันว่าผีบรรพบรุ ุษ ทลี่ ่วงลบั ไปแลว้ พวกลูกหลานกจ็ ะสร้าง หอไวท้ างเบือ้ งทศิ หวั นอน หรอื ในสถานที่ที่เห็นว่าสมควร บนหอจะมหี ้ิงวางเครอ่ื งบูชา เชน่ พานดอกไม้ ธปู เทียน น้ำต้น (คนโท) วางเอาไว้ โดยจะมีดอกไม้ ธปู เทยี น อาหาร หวานคาว บวงสรวงอัญเชิญดวงวิญญาณของพ่อแม่ ใหม้ าอยู่ในศาล เพื่อพิทักษ์รักษาลูกหลาน ตลอดจนเครือญาติจะต้องถือผีปู่ ย่า ตา ยาย อันเดียวกัน จึงพากันทำที่อยูอ่ าศัยให้แก่ ปู่ ย่า มีเสื่อ หมอน น้ำต้น ขัน หมาก กระโถน แจกันดอกไม้ ธูป เทียน ไว้บูชา การสร้างตูบ ผีปู่ย่านั้น นิยมสร้างกันตามที่ตน้ ตระกลู เรยี กวา่ (เรือนแก้ว) หรอื เรียกวา่ เก้าผี สรา้ งเปน็ ตูบใหญบ่ ้างเล็กบ้าง เวลาทำพธิ ีเลย้ี งก็จะมากนั มากมาย การทำ เช่นนี้ก็เป็นจารีตประเพณีอันหนึ่งของคนโบราณ การทำบุญทำทานหาญาติ ชาวพุทธเราก็ทำกันอยู่เสมอ แต่ถ้าถึง ประเพณีเล้ียง ผี ปู่ ย่า มาถึงก็ทำกันอีก แต่ดูทุกวันนี้จะมีน้อยลง สิ่งที่นับถือกันดึกดำบรรพ์ ก็ละทิ้งไปเพราะไม่มีใคร สนใจ กห็ ายไป สว่ นมากอำเภอ ตำบล รอบนอกยงั มีผี ปู่ ย่า กันอยู่ ความจรงิ คนโบราณท่านถอื กัน กไ็ ม่มีการเสยี หาย การเลีย้ งผี ปู่ ยา่ แล้วแต่จะตกลงกันวา่ ปนี ี้จะเลย้ี งไก่หรือหมู ถ้าเล้ยี งไก่กน็ ำมาคนละตวั ถา้ เลย้ี งหมู ก็เก็บเงินกันนำมา สงั เวย พอไดก้ ำหนดก็จะเอามาเล้ยี งกัน เปน็ การรวมญาตเิ ป็นปี ๆ และในวนั ทำพีธเี ลี้ยงผี ปู่ยา่ ชาวบา้ นก็จะช่วยนำของ เส้นใหว้เอามาไว้ที่ ตูบ และเมื่อถึงเวลาเลี้ยงก็จะมีร่างทรงของผี ปู่ย่า มาลงในร่างทรงของกลุ่มญาติพี่น้องที่มาทำพิธี เลีย้ ง จะมกี ารฟ้อน กนิ ของเสน้ ทีท่ างลกู หลานนำมาเล้ียง พธิ กี รรมนี้ทำใหล้ กู หลานได้รู้จกั กันสืบต่อไป และเป็นพิธีกรรม ทีน่ บั ถอื และปฏบิ ตั สิ บื ทอดกนั มา นานมากกว่า 100 ปี ร่างทรงเจ้าของคนล้านนา เป็นความเชื่อ ความศรัทธา เฉพาะบุคคล เฉพาะชุมชนที่มีความเชื่อความ ศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งที่มองไม่เห็น ในรูปแบบของการปรึกษาหมอดูหรือไปหาร่างทรง การให้บริการหลัก ๆ สองประเภทคือ การตรวจดวงชะตา และ การสะเดาะห์เคราะห์ การแก้ไสยผีเข้า หรือการเรียกเทพเจ้าต่าง ๆ มาประทบั รา่ งใหด้ ู ๖. การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ภูมิปัญญาทอ้ งถนิ่ ✓ ยงั ไม่เคยมกี ารเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบคุ คล ✓ เคยเผยแพร่เฉพาะในชมุ ชน มีการดงู านแล้วจากบุคคลภายนอกแลว้ ...........……..ครั้ง/…………….…..ราย มีการนำไปใช้ - ในพื้นที่เดยี วกนั …………..ราย - นอกพน้ื ที่………………….ราย อ่นื ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลกั ษณะของภมู ิปญั ญาท้องถิ่น ✓ ภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ ดั้งเดมิ ไดร้ บั การถา่ ยทอดมาจาก..รบั การถ่ายทอดจากผูม้ ีความร้แู ละบรรพบุรษุ … ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ทไี่ ด้พฒั นาและตอ่ ยอด - แบบเดมิ คอื …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………….………………………………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………… - ได้พฒั นาและต่อยอด คือ …………………………………………………………………………………………………..

๔๓ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภูมปิ ัญญาท้องถิ่น/นวตั กรรมท่คี ดิ ค้นขน้ึ มาใหม่ ๘. วตั ถดุ ิบทใ่ี ชป้ ระโยชนใ์ นผลติ ภณั ฑท์ ีเ่ กดิ จากภูมปิ ัญญา ซงึ่ มีในพน้ื ที่ พืน้ ท่ีอ่ืนไม่มี มี ไดแ้ ก่ ๑ ………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ✓ ไม่มี หมายเหตุ : …………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภาพประกอบ

๔๔ ข้อมูลภมู ปิ ัญญาในท้องถิ่น หรือปราชญ์ชาวบา้ น ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 11. ศลิ ปหัตถกรรม ๑. ชือ่ ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ............ศิลปหตั ถกรรม …………………………………………………… - กระเป๋าผ้าดน้ มือ - ปกั ผ้าลายล้านนา - เพ้นทผ์ ้าลายล้านนา ๒. เจ้าของภูมิปญั ญาท้องถ่นิ /ปราชญ์ชาวบ้าน ..........นางสุดท่ีรกั นพรัตน์..........อาย.ุ ...65 ปี........................... อาชพี ธุรกิจสว่ นตวั ท่ีอยู่ บ้านเลขท่ี ……….. ชมุ ชน ..สระบอ่ แก้ว.... ตำบล ...ในเวียง.... อำเภอ ..เมืองแพร่.. จงั หวัด ...แพร่.. รหสั ไปรษณยี ์ ...54000.................... โทรศัพท์ ……08 8267 1049………….…………………………….… E-mail address …………………………………………………………………………..………………………………………….. ๓. ประเภทของภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมอื ) เกษตร ศิลปกรรม/จติ รกรรม/ประติมากรรม ✓ ดนตรี/นาฎศลิ ป์ ✓ ศลิ ปหัตถกรรม ✓ ศาสนา ประเพณีและวฒั นธรรมท้องถิ่น การแพทย์แผนไทย ภาษาและวรรณกรรม อน่ื ๆ ...................................……… ๔. จุดเดน่ ของภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ กระเป๋าผ้าด้นมือ ผ้าไทยภาคเหนือ ผ้าพื้นบ้านภาคเหนือ ผ้าที่ทอในบริเวณภาคเหนือหรือล้านนา ปัจจุบันคือบริเวณภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน จนถึง ดนิ แดนบางสว่ นของประเทศพม่า ประเทศจนี และประเทศลาว ผ้าพน้ื บา้ นภาคเหนอื ทีม่ เี อกลกั ษณโ์ ดดเด่นท่ีสดุ คือ ผ้า ไทยวน ผ้าไทล้ือ ผ้าของกลุ่มชนทง้ั สอง ได้แก่ เครือ่ งน่งุ ห่ม เคร่อื งนอน เครอ่ื งแต่งกาย และเคร่อื งบูชาตามความเช่ือท่ีใช้ ในพิธีกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะผา้ ซน่ิ ผา้ นงุ่ ผู้หญงิ ของกลมุ่ ไทยวนและไทลือ้ มีสว่ นประกอบคล้ายคลงึ กัน ผา้ พนื้ เมอื งภาคเหนืออีกประเภทหนึ่ง คือ ผา้ ทอมือกลมุ่ น้อย เช่น ผา้ ทอของชาวกะเหร่ยี ง ไทใหญ่ และ ผา้ ทอของชาวเขาเผ่าตา่ ง ๆ เช่น มง้ เยา้ มูเซอ ผา้ ทอเปล่านจ้ี ะมรี ูปแบบและกรรมวธิ ีในการทอทแ่ี ตกต่างกันไป ตามคติ นิยมและขนบประเพณีที่สืบทอดกันมาในกลุ่มของตน เช่น ผ้ากะเหรี่ยง นิยมทอลายขวางเป็นชิ้นเล็ก ๆ สีแดงและดำ

๔๕ เมื่อนำมาทอเครื่องนุ่งห่มจะเย็บต่อกันจนมีขนาดตามความต้องการ ส่วนชาวไทยภูเขานั้นมีกรรมวิธีในการทอผ้าต่าง ออกไป มักหนา้ แคบ ตกแต่งเป็นลวดลายดว้ ยการปกั ประดบั เครื่องเงนิ ลูกปดั เพื่อเพมิ่ สีสนั ใหง้ ดงามย่งิ ขึ้น งานผ้าด้นมือ หรือ “Quilts” มีต้นกำเนิดจากต่างประเทศ แต่มาได้รับความนิยมในประเทศไทย หลายสิบปีแล้ว โดยจังหวัดแพร่ถือเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของประเทศ ซึ่งเดิมจะทำลายแบบง่าย ๆ ลากด้วยไม้บรรทัด สอยเปน็ เส้นตรง หรอื ทแยง จุดเดน่ ทที่ ำใหผ้ ลงาน คือ ความสวยงาม และรายละเอียดความประณตี สูง รวมถึง มเี ทคนิคการลูกเล่น และเลอื กใช้สีตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม ๕. รายละเอียดของภูมิปัญญาท้องถ่ิน สินคา้ ประเภทนี้ ในประเทศไทยเรียกกนั ว่า “ผา้ ด้นมือ” แตร่ ะดบั สากลรจู้ กั กันดใี นช่ืองาน “Quilts” มอี งคป์ ระกอบสำคญั 3 ประการ คือ 1. ผ้าพน้ื 2. บุในให้เกิดความนุ่ม อดตี ใชน้ นุ่ แตป่ ัจจุบนั ใชว้ สั ดใุ ยโพลเี อสเตอร์ 3. แต่งลวดลายด้วยผา้ บน ซ่ึงจะเย็บ ปะ ต่อ หรอื เลน่ ลายต่าง ๆ โดยใช้มือล้วน ๆ การขึ้นลายต่าง ๆ จะวาดด้วยมือ (Free Hand) ซึ่งการวาดมือจำเป็นต้องใช้ทักษะ และความชำนาญ อย่างสูง ลายเส้นที่ไม่ตายตัว ช่วยให้ผลงานมีเสน่ห์ต่างกันไป ทุกชิ้นเปรียบเป็นงานชิ้นเดียวในโลก เช่น ลายการ์ตูน ดอกไม้ กราฟฟิก สัตว์ ฯลฯ ทำออกมาเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ปลอกหมอกอิง ผ้าปูโต๊ะ ผ้าติดผนัง ฯลฯ ราคาขายส่งที่หลักร้อยถึงสูงสุดประมาณ 4 พันกว่าบาท ระยะเวลาทำข้ึนอยู่กับความยากง่าย อย่างผ้าคลุมเตียง ขนาด 6 ฟุต ใช้เวลา 15-20 วันต่อช้ิน วัตถุดิบผ้าที่ใช้แตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้า ส่วนใหญ่เน้นใช้ผ้า ฝ้าย 100% เพราะมีความนุ่มเนียนน่าสัมผัส แต่บางครั้งอาจนำผ้าชนิดอื่น ๆ มาตกแต่งให้แตกต่างออกไป เป็นงาน แฮนด์เมดที่ต้องอาศัยฝีมือและระยะเวลาในการทำนาน และรับหน้าที่เป็นวิทยากรของศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองแพร่ วิทยากรฝึกอาชีพหลักสูตรระยะสั้นวิชาชีพ ผ้าด้นมือ สอนความรู้ให้ชาวบ้าน ท่อี ยากมีอาชีพดว้ ย ๖. การประชาสมั พันธแ์ ละเผยแพร่ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ ยังไม่เคยมีการเผยแพร่ / ใช้เฉพาะบคุ คล ✓ เคยเผยแพรเ่ ฉพาะในชุมชน และชุมชนใกลเ้ คียง มกี ารดูงานแลว้ จากบุคคลภายนอกแล้ว...........……..ครงั้ /…………….…..ราย มกี ารนำไปใช้ - ในพน้ื ที่เดียวกัน…………..ราย - นอกพนื้ ที่………………….ราย อืน่ ๆ (ระบุ)……………………………………………………..…………………………. ๗. ลักษณะของภมู ิปัญญาท้องถิ่น ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ด้ังเดมิ ได้รับการถ่ายทอดมาจาก........................................................................... ✓ ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ที่ได้พัฒนาและตอ่ ยอด มีความสวยงาม มีรายละเอียดความประณีตสูง - แบบเดิม คือ งานผ้าด้นมือ หรือ “Quilts” และมลี วดลายภาพลา้ นนาแบบด้งั เดิม

๔๖ - ได้พัฒนาและต่อยอด คือ ผ้าด้นมือ มีการสร้างสรรค์ลายเส้นที่ไม่ตายตัว ช่วยให้ผลงานมีเสน่ห์ต่างกันไป ทุกชิ้นเปรียบเป็นงานชิ้นเดียวในโลก เช่น ลายการ์ตูน ดอกไม้ กราฟฟิก สัตว์ ฯลฯ ทำออกมาเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น ผา้ ห่ม ผ้าคลมุ เตียง ปลอกหมอกอิง ผา้ ปโู ต๊ะ ผ้าติดผนัง ฯลฯ ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ /นวตั กรรมที่คดิ คน้ ข้ึนมาใหม่ ๘. วัตถุดิบทใี่ ช้ประโยชนใ์ นผลิตภณั ฑ์ทเ่ี กิดจากภมู ปิ ญั ญา ซง่ึ มใี นพ้นื ที่ พ้นื ท่อี ่นื ไม่มี มี ได้แก่ ๑ ………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. ๒. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………….. ๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ✓ ไม่มี หมายเหตุ : …………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ภาพประกอบ

๔๗ ข้อมูลภมู ิปัญญาในทอ้ งถ่นิ หรือปราชญ์ชาวบ้าน ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่ 12. ดนตรพี ื้นเมือง และภาษาไทยล้านนา ๑. ชือ่ ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ............ดนตรีพืน้ เมือง และภาษาไทยลา้ นนา …………………………………………………… - สะลอ้ ซอ ซงึ - ภาษาล้านนา (ภาษาเหนือ) ๒. เจา้ ของภูมิปญั ญาท้องถนิ่ /ปราชญ์ชาวบา้ น ..........นางสาวปยิ วรรณ ศรีเสน..........อาย.ุ .......70 ปี............................ อาชีพ ขา้ ราชการบำนาญ (คร)ู ที่อยู่ บา้ นเลขที่ ……….. ชมุ ชน ..สระบ่อแกว้ .... ตำบล ...ในเวยี ง.... อำเภอ ..เมอื งแพร่.. จงั หวัด ...แพร่.. รหัสไปรษณยี ์ ...54000.................... โทรศัพท์ ……08 1961 7826………….…………………………….… E-mail address …………………………………………………………………………..………………………………………….. ๓. ประเภทของภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ คหกรรม (อาหาร/ขนม/งานฝีมอื ) เกษตร ศิลปกรรม/จิตรกรรม/ประติมากรรม ศลิ ปหตั ถกรรม ✓ ดนตร/ี นาฎศลิ ป์ การแพทยแ์ ผนไทย ✓ ศาสนา ประเพณแี ละวัฒนธรรมทอ้ งถ่ิน ✓ ภาษาและวรรณกรรม อ่ืน ๆ ...................................……… ๔. จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถ่ิน ดนตรีพน้ื เมอื ง หรือดนตรพี ื้นเมืองบา้ นภาคเหนือ ดนตรีพื้นบ้านเป็นดนตรีชาวบ้านสร้างสรรค์ข้ึนดว้ นการร้องหรือบรรเลงโดยชาว บ้านและชาวบ้านด้วน กนั เป็นผ้ฟู งั ดนตรีพ้ืนบ้านมีลักษณะดงั น้ี 1. เป็นดนตรีของชาวบ้าน ส่วนมากเกิดขึ้นและพัฒนาในสังคมเกษตรกรรม มีลักษณะที่ไม่มีระบบ กฎเกณฑ์ชัดเจนตายตัว ประกอบกับใช้วิธีถ่ายทอดด้วนปากและการจดจำ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีใครเอาใจใส่ศึกษาหรือจด บนั ทกึ ไวเ้ ป็นหลักฐานดังเช่น ดนตรีสากล 2. เป็นดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น แต่ละท้องถิ่นจะมีดนตรีที่มีสำเนียง ทำนอง และจังหวะลีลา ของตนเอง ดนตรีพื้นบ้านส่วนใหญ่มีทำนองที่ประดิษฐ์ดัดแปลงมาจากทำนองของเสียงธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ซอของ ดนตรีภาคเหนือ คือ เพลงจะปุ มีทำนองอ่อนหวานตามสำเนียงพูดของคนไทยชาวเมอื งจะปุในแควน้ สิบสองปันนาหรอื ซอลอ่ งนา่ น ของจังหวัดน่านมีทำนองเหมือนกระแสน้ำไหล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook