Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การส่งเสริมสุขภาพวัยทารกและวัยก่อนเรียน ๖๑

การส่งเสริมสุขภาพวัยทารกและวัยก่อนเรียน ๖๑

Published by jajapk_lek, 2019-01-29 23:52:04

Description: การส่งเสริมสุขภาพวัยทารกและวัยก่อนเรียน ๖๑

Search

Read the Text Version

การส่งเสริมสขุ ภาพเด็กปฐมวัย (Health Promotion for Early Childhood Period) Warunsicha Supprasert DrPH, MSc (Public Health), BPH

Outline of presentation 1 การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของเดก็ ปฐมวยั 2 สุขภาพอนามัยของเด็กปฐมวยั 3 บริการสขุ ภาพสาหรบั เด็กปฐมวยั (คลนิ กิ สขุ ภาพเดก็ ดี ) - การสร้างเสรมิ ภมู คิ มุ้ กันโรค - การสรา้ งเสรมิ โภชนาการ

นิยามเดก็ ปฐมวยั เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กท่ีมีอายุต้ังแต่แรกเกิดถึง 5 ปี 11 เดือน 29 วัน (สริ มิ า ภญิ โญอนนั ตพงษ์, 2550) เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กที่มีอายุต้ังแต่แรกเกิดถึงหกปีบริบูรณ์ และให้ หมายความรวมถึงทารกในครรภ์มารดาตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงก่อนคลอด ด้วย (สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2560)

การแบ่งชว่ งวยั ของเด็กปฐมวัย (แรกเกดิ – ตา่ กวา่ 6 ปี) กลุม่ วัยทารก วยั แรกเกิด (Newborn/(Neonate) → 0-1 เดือน วัยทารก (Infant) → 1 เดือน-1 ปี กล่มุ วัยเด็กตอนต้น วัยเตาะแตะ (Toddler) → 1-3 ปี /วัยก่อนเรยี น วัยก่อนเรียน (Preschooler) → 3-5 ปี วัยอนบุ าล (Kindergartener) → 5-6 ปี ทมี่ า: กรมวชิ าการ, 2546

ความสาคญั ของเด็กปฐมวัย ๑. เป็นชว่ งวัยทีต่ อ้ งการปลูกฝัง บม่ เพาะเปน็ พเิ ศษ ๒. สมองพัฒนารวดเร็วทสี่ ดุ โดยเฉพาะสมองสว่ นการเรยี นรู้และความจา ๓. เป็นการลงทนุ ทคี่ ุ้มค่า เนื่องจากเปน็ ช่วงเวลาทองของการกาหนดศักยภาพ ของมนุษย์ ส่งผลต่ออนาคตของสังคมและประเทศชาติ “ Window of Opportunity ”

ความสาคัญของเด็กปฐมวยั วัฏจกั รชีวิตครอบครัว

ความสาคญั ของเดก็ ปฐมวยั

ครอบครวั ทีม่ บี ุตรปฐมวัย (บุตรอายุ 0-6 ปี) ❑ มีสมาชิกครอบครวั ใหมเ่ ข้ามาอย่ใู นบ้าน ทาให้มีรายจา่ ยในครอบครวั เพิม่ มากขนึ้ ❑ ลูกจะเปน็ ประเด็นสาคญั ในการดาเนนิ ชวี ิตของครอบครวั ในช่วงน้ี พอ่ แมจ่ ะใหค้ วามสาคญั และมีความกงั วลในการเล้ียงดูลกู ใหเ้ จรญิ เติบโตใหส้ มวยั ❑ พอ่ แมต่ อ้ งทางานนอกบา้ นท้ังคู่ จึงไม่มเี วลาเลยี้ งดูบุตรเอง หลายครอบครวั สง่ บตุ รหลาน ให้ปยู่ า่ ตายายเลีย้ งดู อาจทาใหเ้ กิดปัญหาพฒั นาการทีไ่ ม่สมวัยของบตุ รได้

ความสาคญั ของเดก็ ปฐมวยั

สถานการณส์ ุขภาพเด็กปฐมวัยไทย อัตราการเลี้ยงลูกดว้ ยนมแม่ อย่างเดยี ว 6 เดือน ที่มา : สถติ ิสาธารณสขุ พ.ศ. 2559 สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ทม่ี า: MICS3 2006, MICS4 2012, MICS5 2016 ปรมิ าณอาหารทไี่ ดร้ บั ใน 1 วนั ของเด็กอายุ 1-3 ป*ี * ปรมิ าณอาหารทไี่ ดร้ บั ใน 1 วนั ของเด็กอายุ 4-5 ปี** ร้อยละของ เด็กอายุ 6 -23 เดอื น ไดร้ ับอาหารเพียงพอ ที่มา: MICS4 2012, MICS5 2016 ท่มี า: *การสารวจภาวะอาหารและโภชนาการของประเทศไทย ครั้งที่ 5 พ.ศ.2546 **การสารวจสขุ ภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย คร้ังที่ 4 พ.ศ.2551-52

สถานการณส์ ขุ ภาพเดก็ ปฐมวัยไทย ❖ พัฒนาการเดก็ ปฐมวัยไทย ในเวลา 18 ปีทีผ่ า่ นมามีปัญหา พบวา่ เดก็ ปฐมวัยร้อยละ 30 มี พฒั นาการสงสยั ลา่ ช้า (Denver II) ❖ ในปี 2560 พบวา่ เด็กปฐมวยั มีพัฒนาการสงสยั ลา่ ชา้ รอ้ ยละ 24.1 (DSPM)

ขอ้ มลู เฝ้าระวงั การดาเนินงาน ต.ค.- ธ.ค. 2561 เดก็ อายุ 9 18 30 และ 42 เดือน เป้ าหมาย 1 79% 94% 4 416,039 (329,075) (308,122) คดั กรอง สมวยั 20% 5% (15,362) (4,152) ตดิ ตามไมไ่ ด3้ 0วนั รอตดิ ตาม 2 3 99% 76% 24% 99% 75% (56,847) สมวยั 2 (251,275) (77,800) (77,097) (57,583) รอกระตนุ้ ตดิ ตามได้ 1% สมวัย1 สงสัยล่าช้า ตดิ ตาม (736) 1% ลา่ ชา้ (703) การเคลื่อนไหว(GM) กลา้ มเนอื้ มดั เล็กและ การเขา้ ใจภาษา การใชภ้ าษา(EL) การชว่ ยเหลือตนเอง สง่ ตอ่ ทนั ที สติปญั ญา(FM) (RL) (PS) ที่มา : HDC ณ วนั ท่ี 28 ม.ค.2562 จดั ทาโดยสถาบันพัฒนาอนามัยเดก็ แหง่ ชาติ กรมอนามัย 222 365 368 425 232

นโยบายสุขภาพสาหรบั เด็กปฐมวยั

ตัวช้ีวดั กรมอนามัย ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560-2579 ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 Promotion & Prevention Excellence แผนงาน ตัวชว้ี ัด การพัฒนาคุณภพชวี ิตคนไทยทุกกลมุ่ วัย 1. โครงการพัฒนาและสรา้ งเสริมศักยภาพคน 2) อตั ราสว่ นการตายมารดาไทยไม่เกิน 15 ตอ่ การเกดิ มชี พี แสนคน ไทยกลมุ่ สตรแี ละเด็กปฐมวัย 3) ร้อยละของเดก็ อายุ 0-5 ปี มพี ัฒนาการสมวัย 2. โครงการพฒั นาและสรา้ งเสรมิ ศักยภาพคน 4) ร้อยละของเด็กอายุ 0-5 ปี สงู ดสี มส่วน และส่วนสงู เฉลยี่ ที่อายุ 5 ปี ไทยกล่มุ วัยเรียนและวยั รุ่น 6) ร้อยละของเด็กวัยเรียน สงู ดสี มส่วน 8) ร้อยละของเดก็ กลุม่ อายุ 0-12 ปฟี ันดไี ม่มผี ุ (cavity free) 3. โครงการพัฒนาและสร้างเสริมศักยภาพคน 9) อตั ราการคลอดมชี ีพในหญิงอายุ 15-19 ปี ไทยกลุ่มวัยทางาน 10) ร้อยละของประชาชนวัยทางาน มีคา่ ดชั นมี วลกายปกติ 11) ประชากรไทยอายตุ ้งั แต่ 15 ปี ข้นึ ไป มีกจิ กรรมทางกายเพยี งพอตอ่ สุขภาพ 4. โครงการพฒั นาและสรา้ งเสริมศักยภาพคน 12) รอ้ ยละของตาบลท่ีมรี ะบบสง่ เสรมิ สขุ ภาพดูแลผสู้ ูงอายุ ผู้พิการและผดู้ ้อยโอกาสและการดแู ลระยะยาวในชุมชน (Long ไทยกล่มุ วยั ผ้สู ูงอายุ Term Care) ผ่านเกณฑ์

กรอบการบรู ณาการความรว่ มมือ 4 กระทรวง (เด็กไทย 4.0) เป้าประสงค์ (Based on life course approach) : เดก็ และเยาวชนมีคุณภาพชวี ติ ท่ีดี เหมาะสมตามวยั เปน็ พลเมืองสรา้ งสรรค์และมีส่วนรว่ มในการพัฒนา : เด็กทุกคนได้รับการพัฒนาเตม็ ศักยภาพ เปา้ หมาย แข็งแรง เกง่ ดี มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ มีทักษะ เด็กไทย มาตรการ (Health (Head) (Heart) (Hand ) )ส่งเสรมิ ตัวชีว้ ดั ส่งเสรมิ สง่ เสรมิ สง่ เสริม พฒั นาศนู ย์เด็ก เตรยี มความพร้อม การเกิดอย่างมี เจริญเตบิ โต พฒั นาการเดก็ ครอบครวั อบอุ่น เล็กและ รร. กอ่ นเขา้ คณุ ภาพ เตม็ ศกั ยภาพ สมวัย และชุมชนเข้มแขง็ อนบุ าลคุณภาพ ประถมศึกษา ทารกแรกเกิด รอ้ ยละ 63 ของ ร้อยละ 85 ของ รอ้ ยละ 70 รอ้ ยละ 70 ของ รอ้ ยละ 70 นา้ หนักนอ้ ย เด็ก 0-5 ปี เด็กปฐมวัย มี ของครอบครัว สถานพฒั นา เด็กผ่านการ กว่า 2,500กรัม สงู ดสี มส่วน พฒั นาการสมวยั และชมุ ชน เดก็ ปฐมวัย มี ประเมนิ ความ ไม่เกินร้อยละ 7 มีความเข็มแขง็ พร้อมกอ่ นเขา้ คณุ ภาพ ศกึ ษาประถมศึกษา มาตรฐาน กลไกการ ขบั เคลื่อน ครอบครัวเป็นฐาน ชุมชนรว่ มสรา้ ง ศนู ยเ์ ดก็ เลก็ คุณภาพ ระบบบริการสาธารณสุข มาตรฐาน เขา้ ถงึ ครอบคลมุ

มหัศจรรย์ 1,000 วนั แรกของชีวติ (Child Nutrition Growth and Development) หลักการและเหตผุ ล • “โอกาสทอง” ใน 1,000 วนั คอื การดูแลทารกในครรภต์ ั้งแต่เรม่ิ ปฏสิ นธิจนถงึ คลอด (270วนั ) เด็กอายุ 0-6 เดอื น (180 วัน) 6 เดือนจนถงึ อายุ 2 ปี (550วนั ) • นักเศรษฐศาสตร์รางวลั โนเบล ศ.ดร.เจมส์ เจ เฮคแมน “การลงทนุ พฒั นาเดก็ ปฐมวยั เป็นการลงทนุ ที่คุ้มคา่ ให้ ผลตอบแทนแก่สังคมดีทส่ี ุดในระยะยาว โดยคนื ผลตอบแทนกลบั คืนมาในอนาคตมากถงึ 7 เทา่ ” วตั ถุประสงค์ • เพ่อื พัฒนาคุณภาพชีวติ เดก็ ในช่วง 1,000 วันแรกของชวี ติ ให้มีความสมบรู ณ์ทงั้ ร่างกาย อารมณ์ สงั คม จติ ใจ เต็มตามศักยภาพ • เพื่อสร้างความมสี ่วนร่วมของภาคเี ครือข่ายทกุ ภาคส่วนตามแนวทางประชารัฐ ในการพฒั นาคุณภาพชวี ิตของสตรตี ัง้ ครรภแ์ ละเด็ก 0-2 ปี • เพอ่ื บรู ณาการการทางานของกลไกทกุ ระดับทเี่ กย่ี วข้องกับการคุ้มครองและพัฒนาประชาชนกล่มุ สตรตี ้งั ครรภ์และเดก็ 0-2 ปี ให้สามารถ เช่ือมโยงในระดับนโยบาย กากับดแู ลและติดตามประเมนิ ผลการดาเนนิ งานอยา่ งต่อเนอื่ งสอดคลอ้ งกนั • เพ่อื ใหเ้ กิดการขับเคลือ่ นนโยบายและยุทธศาสตร์ สู่การปฏิบตั ิอยา่ งเปน็ รูปธรรม ในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของสตรีตง้ั ครรภ์และเด็กปฐมวัย ของหน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้อง

มหศั จรรย์ 1,000 วันแรกแหง่ ชวี ิต (แรกเกดิ –2 ปี)

ขบั เคล่อื นมหัศจรรย์ 1,000 วนั แรกแห่งชวี ติ (แรกเกดิ –2 ปี) กาหนด “มหศั จรรย์ 1000 วันแรกของชีวติ ” เปน็ นโยบายของรัฐบาล บูรณาการความร่วมมือ 4 กระทรวงหลกั รว่ มกบั หนว่ ยงานอื่นทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ตามบทบาท/ภารกิจ ขบั เคล่อื นมหัศจรรย์ 1000 วันแรกของชีวิต ทั่วประเทศ โดยใช้กลไก คณะกรรมการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ระดบั อาเภอ (พชอ.) กากับตดิ ตามและประเมนิ ผล โดยการตรวจราชการแบบบรู ณาการ

การเจริญเติบโตและพฒั นาการเด็กปฐมวยั (Early Childhood Growth & Development)

สรีรวิทยาของทารกแรกเกิด (physiology of neonates) 1. ระบบต่อมไร้ท่อ 9. ระบบขับถา่ ยปสั สาวะ 2. ระบบสบื พนั ธ์ 10. ระบบทางเดินอาหาร 3. ระบบผวิ หนัง 4. ระบบภูมคิ ุ้มกนั 5. ระบบควบคมุ อณุ หภมู ิของร่างกาย 6. ระบบหายใจ 7. ระบบหัวใจและการไหลเวยี นเลือด 8. ระบบโลหติ

สรีรวทิ ยาของทารกแรกเกดิ (ต่อ) 11. ปฏกิ ิริยาสะทอ้ นกลับ(reflex) Moro reflex หรือ Startle reflex ประคองดา้ นหลงั ของทารก แล้วปลอ่ ยมือให้ทารกนอนหงาย ไปข้างหลังประมาณ 10-15 องศา โดยใช้ฝ่ามอื คอยรองรบั ไว้ ทารกจะกางแขนกางขาออกแล้วจงึ จะงอเขา้ ทาทา่ คลา้ ยกบั กอด Tonic neck reflex เม่อื ทารกนอนหงายหันศีรษะไปดา้ นใดด้านหนึ่ง แขนขาขา้ งนั้นจะเหยียดออก ส่วนดา้ นตรงข้าม จะงอเข้า

สรีรวทิ ยาของทารกแรกเกิด (ตอ่ ) 11. ปฏิกิรยิ าสะท้อนกลบั (reflex) Babinski's reflex เม่ือขดี ดา้ นข้างของฝา่ เทา้ ทารกจากสน้ เท้าขน้ึ มาเป็นรปู ตวั เจจนถงึ บริเวณใกล้หัวแมเ่ ทา้ นิ้วหัวแม่เทา้ จะกระดกขึ้น ขณะท่นี ้วิ อนื่ ๆ จะกางออก Rooting reflex เมื่อใชม้ ือแตะทแี่ กม้ ทารกเบา ๆ ทารกจะหนั หน้าไปหาสิ่งกระตนุ้ และอา้ ปากคล้ายพยายามดูด Sucking reflex ถา้ มสี ่งิ กระตุ้นทร่ี ิมฝีปากทารกจะดูด

สรีรวทิ ยาของทารกแรกเกดิ (ตอ่ ) 11. ปฏิกิรยิ าสะทอ้ นกลับ(reflex) grasping reflex เมอ่ื สอดนว้ิ มอื เขา้ ไปในอุ้งมือ/องุ้ เท้าของทารก ทารกจะกาไวช้ ่ัวครู่แลว้ ปลอ่ ย Dancing หรือ Stepping reflex ถา้ จบั ทารกยืนใหฝ้ ่าเทา้ แตะพน้ื ในทา่ ทศี่ ีรษะเอยี งไปขา้ งหนา้ เล็กน้อย ทารก จะขยบั เท้า ทาทา่ เดินทีละก้าว

การตรวจสภาพของทารกแรกเกิด APGAR score คือ การประเมินสภาวะเดก็ ทารกแรกเกิดใน 1 นาทีแรก ต่อด้วย 5 นาที และ 10 นาที หลงั คลอด เพ่ือประเมนิ ภาวะการหายใจในทารก ประกอบดว้ ย ลกั ษณะสีผวิ อตั ราการเต้นของหัวใจ สหี นา้ จากการกระต้นุ การเคลอื่ นไหวของทารก และความพยายาม ในการหายใจ ซ่งึ คา่ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ทารกปกติต้องมีคะแนน 7 คะแนนขึน้ ไป - Appearance <Skin color> - Pulse - Grimace <reflex irritability> - Activity <muscle tone> - Respiratory rate

การตรวจสภาพของทารกแรกเกดิ

การตรวจร่างกายทารกแรกเกิด ❖ ประเมนิ ลกั ษณะโดยทั่วไป เปน็ การสงั เกตดูลกั ษณะทารกทเ่ี ห็นได้ในคร้งั แรก ทัง้ ความปกตแิ ละความผิดปกตทิ ส่ี ามารถเห็นไดท้ ันที เชน่ อว้ น ผอม ปากแหว่ง ไม่มีแขนขา ❖ วัดสญั ญาณชพี อุณหภมู ริ า่ งกาย วดั โดยใช้ปรอทท่ีหล่อลน่ื วาสลิน สอดทางทวารหนักลึก 2.5 เซนตเิ มตร นาน 1-3 นาที การหายใจ ประเมนิ จากการสงั เกตการเคล่อื นไหวท่ีบรเิ วณหนา้ อกและหน้าท้อง ให้นบั เตม็ หนงึ่ นาที อัตราการเต้นของหัวใจ ประเมนิ จากการใชห้ ูฟัง ความดันโลหิต ควรใช้ผ้าพนั แขนที่มีความกว้าง 1 นว้ิ ❖ วดั สดั ส่วนของรา่ งกาย เปน็ การประเมนิ การเจรญิ เตบิ โตท่เี หมาะสม ได้แก่ วดั รอบศรี ษะ เสน้ ผา่ น ศนู ย์กลางของศีรษะ ความกวา้ งของไหล่ เสน้ รอบอกและความยาวของทารก

การตรวจรา่ งกายทารกแรกเกิด (ตอ่ ) ❖ประเมนิ อวยั วะต่างๆ ของรา่ งกายต้งั แต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผิวหนัง ตรวจสผี วิ ความช่มุ ช้นื ความละเอยี ด ความตงึ ตัว ความยดื หยุ่น การบวม ผื่น บาดแผลและรอยตาหนทิ ่เี ป็นมาแต่กาเนดิ สงั เกตดูลกั ษณะ ตาแหน่งของความผิดปกติ ศรี ษะ ตรวจขนาด รูปรา่ งและความสมมาตรของศรี ษะ ความอ่อนแขง็ ของกระดูกกระโหลก ศรี ษะ ก้อนโน และบาดแผลหนงั ศรี ษะ ขนาดและความตึงของขมอ่ มหน้าและหลัง ลกั ษณะสี ความนมุ่ ละเอียดและการกระจายของเสน้ ผม ใบหนา้ ความสมมาตรของใบหน้าและอวยั วะบนใบหนา้ การเคลื่อนไหวบนใบหน้าขณะปกติ และรอ้ งไห้ ตา เปลอื กตา เยอื่ บตุ าขาว ตาขาว กระจกตา เลนส์ตา ตาแหน่งของตา สง่ิ คดั หลัง่

การตรวจร่างกายทารกแรกเกดิ (ต่อ) ❖ประเมนิ อวัยวะต่างๆ ของร่างกายตั้งแตศ่ รี ษะจรดปลายเท้า จมูก ลกั ษณะจมกู ความสมมาตรรจู มกู และผนงั กน้ั จมกู การตันของรูจมูกขณะหายใจเข้าออก ปาก รมิ ฝปี าก เย่ือบปุ าก เหงอื กเพดานปาก และลิน้ ไก่ หู รูปรา่ ง ลกั ษณะและตาแหน่งของใบหู การมตี ง่ิ เนอ้ื งอกขา้ งหู คอ ความสมมาตร ลักษณะกลา้ มเน้อื และกระดูกไหปลารา้ ความสามารถในการก้มและเงย ตอ่ มไทรอยด์ ปีกทค่ี อ ทรวงอก ปอดและหัวใจ รปู ร่างลกั ษณะความสมมาตรของทรวงอก ลักษณะเตา้ นม การ เคลื่อนไหวทรวงอกเมื่อหายใจ การทางานของปอดและหวั ใจ หน้าท้อง ลกั ษณะการเคลื่อนไหวของหน้าท้องและกลา้ มเนือ้ หนา้ ท้อง คลาตบั ไตและม้าม ลกั ษณะสะดือ

การตรวจร่างกายทารกแรกเกดิ (ตอ่ ) ❖ประเมนิ อวยั วะตา่ งๆ ของรา่ งกายต้ังแต่ศรี ษะจรดปลายเทา้ อวยั วะเพศ - ทารกเพศชายตรวจดอู ณั ฑะ รูเปดิ ทอ่ ปัสสาวะ ลกั ษณะองคชาติ - ทารกเพศหญิงสงั เกตดูลักษณะแคม คลิตอลสิ รูเปดิ ท่อปสั สาวะ ชอ่ งคลอดและส่ิงคดั หลง่ั จากชอ่ งคลอด ทวารหนัก ตรวจรูทวารหนกั แขนขา ขนาดและความยาวของแขนและขา ความตงึ ตวั ของกล้ามเน้อื การเคลือ่ นไหวของ แขนขา ลกั ษณะและจานวนนิ้วมอื น้ิวเทา้ เส้นลายฝา่ มอื ฝ่าเทา้ ความยาวของเลบ็ ลกั ษณะของเท้า การเคล่ือนของขอ้ สะโพก หลัง ความตรงของแนวกระดกู สันหลัง ความสมมาตรของหลงั ข้างซา้ ยและขวา การมรี เู ปดิ หรอื กอ้ นเน้ือโปง่ จากแนวกระดกู สนั หลงั

การดูแลทารกแรกเกิดปกติ 1. ประเมินสภาพเพื่อคน้ หาความผิดปกติ 2. Keep worm 3. Clear air way 4. V/S 5. BW 6. วดั สดั สว่ นร่างกาย 7. ปอ้ งกันการติดเชื้อ ตาและสะดอื 8. Vitamin K inj.

การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย การเจริญเติบโต หมายถึง การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ (Physical growth) เช่นการเพิ่มจานวนและขนาดของเซลลใ์ นทกุ ๆส่วนของรา่ งกาย ท้ังในดา้ นขนาด และรูปรา่ ง สัดส่วน ซ่งึ สามารถประเมนิ ไดจ้ ากน้าหนกั และสว่ นสูง พัฒนาการ หมายถึง การเปลยี่ นแปลงด้านการทาหนา้ ที่(function)และวฒุ ภิ าวะ (maturation) ของอวัยวะในระบบตา่ งๆ ทาใหร้ ะบบในรา่ งกายสามารถทา หน้าทไี่ ดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพและซบั ซ้อนไดม้ ากขนึ้ ซึง่ เปน็ ไปอยา่ งมีทิศทาง ตามวัน เวลา ตามชว่ งวัยที่เติบโตเพิ่มมากข้ึน รวมท้งั มีการเพม่ิ ทกั ษะสามารถ ปรบั ตัวต่อสภาพแวดลอ้ มหรือบรบิ ทของครอบครัวและสงั คมได้

ปัจจัยที่มอี ทิ ธพิ ลต่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการ ไดร้ ับการกระตุ้นไม่เพยี งพอ ขาดโอกาสเรยี นรู้ * สงิ่ แวดลอ้ ม การเจบ็ ป่วย เศรษฐกจิ ฮอร์โมน ขาดธาตเุ หลก็ ไอโอดนี * เชอื้ ชาติ อาหาร เตย้ี แคระ แกรน็ * ฤดกู าล พันธกุ รรม

ปัจจัยที่มอี ทิ ธพิ ลตอ่ การ เจรญิ เติบโตและพัฒนาการ Bronfenbrenner’s Social-Ecological Model

การเจรญิ เติบโตของรา่ งกายโดยทั่วไปของเดก็ ปฐมวยั

สาเหตุของการเจรญิ เตบิ โตทีไ่ ม่สมบรู ณ์ 1. พันธุกรรมหรือปัจจยั เฉพาะตวั บุคคล เช่น ตวั เล็ก แคระ 2. กระดกู พกิ ารผดิ ปกตมิ าแตก่ าเนิด 3. โรคกระดกู ในระยะหลงั เกิด 4. ความพกิ ารของระบบหวั ใจและหลอดเลอื ด และระบบไต 5. ความผิดปกตทิ างโภชนาการ (กินไมพ่ อ, ดดู ซมึ และนาไปใช้ไดไ้ ม่เตม็ ที่) 6. โรคของตอ่ มไรท้ ่อ เชน่ เบาหวาน ไธรอยด์

การประเมินการเจริญเติบโต ❖ การซักประวตั ิ ❖ การวัดการเจรญิ เตบิ โตของร่างกายทัว่ ไป เช่น น้าหนกั สว่ นสงู เสน้ รอบ ศรี ษะ เสน้ รอบอก และการเจริญของฟัน ❖ การตรวจสุขภาพ ตรวจร่างกายท่ัวไป และตรวจระบบประสาท

การประเมนิ การเจริญเติบโต (ตอ่ ) นา้ หนัก อายุ นา้ หนัก ( กก. ) แรกเกิด 3 3-12 เดอื น อายุ (เดอื น) + 9 /2 อายุ (ป)ี X 2 + 8 1-6 ปี อายุ (ป)ี X 7-5 /2 7-12 ปี ***เด็กกอ่ นวัยเรียน ใหใ้ ชเ้ คร่ืองชั่งน้าหนกั ทมี่ คี วามละเอยี ด 0.1 กิโลกรมั

การประเมินการเจริญเติบโต (ตอ่ ) ความยาวหรอื ความสงู อายุ ซม. • เปน็ ดชั นวี ัดการเจรญิ เตบิ โตไดด้ ีท่สี ุด แรกเกดิ 50 เพราะ เป็นผลการเจรญิ เตบิ โตของ 1 ปี 75 กระดกู อายุ (ป)ี X6 + 77 2-12 ปี เด็กอายุต่ากวา่ 2 ปี ใหน้ อนวดั เรียกว่า วัดความยาว เด็กอายุ 2 ปีขนึ้ ไป ใหย้ นื วดั เรียกวา่ วดั สว่ นสงู

การประเมนิ การเจรญิ เติบโต (ตอ่ ) ความยาว วดั ความยาวจากศีรษะ (crown-heel length) โดยเริ่มจากระดบั ของจดุ ที่นูนที่สุดของกระดกู ศรี ษะ วดั มาตามความโคง้ ของร่างกาย ผ่าน ต้นคอ หลงั ก้น ข้อเท้าจนถงึ ส้นเท้า อ่านค่าท่ีวัดได้ เป็นเซนตเิ มตร 4. อา่ นค่าใหล้ ะเอียด มีทศนยิ ม 1 ตาแหนง่ เช่น 120.4 เซนติเมตร 3. เลอ่ื นไมว้ ดั ส่วนที่ใกลเ้ ท้าให้มาชิดกับ 1. ถอดหมวก รองเท้า ปลายเท้าและส้นเท้าทีต่ ง้ั ฉากกบั พื้น 2. นอนในทา่ ขาและเขา่ เหยยี ดตรงส่วนศีรษะชิดกับไมว้ ดั ที่ตั้งฉากอยูก่ บั ท่ี

การประเมินการเจรญิ เตบิ โต (ตอ่ ) เสน้ รอบวงศรี ษะ (Head circumference) อายุ ซม. ❖ตดิ ตามการเจรญิ เตบิ โตของสมองและกะโหลกศีรษะ แรกเกิด 35 ดูรอยประสานกนั ของกระดูกและรูปร่างลกั ษณะ 3-4 เดอื น 40 ❖ควรวัดในเดก็ อายุ ต่ากวา่ 2 ปี วัดบรเิ วณท่ีใหญ่ 9-12 เดือน 45-46.5 ที่สดุ โดยวางสายวัดผา่ นส่วนบนของกระดูกเบา้ ตา 2 ปี 49 3 ปี 50 บริเวณหน้าผากไปยงั ส่วนทีน่ ูนท่ีสดุ ของ occiput วัด 3 คร้ังแลว้ หาคา่ เฉลย่ี ❖ กระหม่อมหลงั ปดิ (Posterior fontanelle) 1.6 เดือน ❖ กระหม่อมหน้าปดิ (Anterior fontanelle) 1.6 ปี ❖ ถา้ ขนาดรอบศีรษะผดิ ปกติ อาจมพี ยาธิสภาพของสมอง → ส่งต่อ

การประเมนิ การเจริญเตบิ โต (ต่อ) ปัจจัยสาคัญในการกาหนดขนาดและรปู รา่ งของศรี ษะ ❖ การเจริญเติบโตของสมอง ❖ พนั ธกุ รรม ❖ สภาวะบางอยา่ ง เชน่ การขาดออกซิเจน น้าตาลใน เลือดต่า มีการติดเชอ้ื ท่ีสมอง ชกั สมองได้รบั การ กระทบกระเทือน การเพ่มิ ความดันในกะโหลกศรี ษะ และความผิดปกติของกระดกู

การประเมินการเจริญเตบิ โต (ตอ่ ) เสน้ รอบวงอก (Chest circumference) ❖วัดเส้นผา่ นศูนยก์ ลางรอบอกผา่ นราวนม (Nipple line) หรือวดั ท่ีระดับหัวนม ❖ใชเ้ ปรียบเทยี บกับเสน้ รอบศรี ษะ ดูการเจรญิ เตบิ โตของสมองกบั ลาตวั ได้สัดสว่ นไหม ❖ปกติยาวประมาณ 31-33 ซม. โดยรอบอก จะยาวน้อยกว่ารอบศรี ษะประมาณ 2-3 ซม. อายุ เสน้ รอบศรี ษะ (ซม.) เสน้ รอบอก (ซม.) แรกเกิด 35 33 3 เดอื น 40 40 9 เดือน 45-46.5 45 4 ปี 50 52

การประเมินการเจริญเติบโต (ต่อ) การเจรญิ เตบิ โตของฟัน ❖ ฟันน้านม เร่มิ ขน้ึ ตอนอายุ 6 เดือน (ฟนั หน้าลา่ ง) ❖ ครบ 20 ซ่ี ตอนอายุ 2 ขวบครึ่ง ❖ ฟันแท้ มี 32 ซี่ เรม่ิ ข้ึนตอนอายุ 6 ปี (ฟนั กรามล่าง) ❖ สูตร จานวนฟนั = อายุ ( เดอื น ) - 6

การใช้กราฟประเมนิ การเจรญิ เติบโตของเดก็ ปฐมวยั

การใชก้ ราฟประเมนิ การเจรญิ เตบิ โตของเด็กปฐมวยั การแปลผลภาวะโภชนาการเด็กปฐมวัย นา้ หนักเทียบกับอายุ (ขาดอาหารทกี่ าลงั มีอย่แู ละเปน็ ไมน่ าน) น้าหนกั มากเกนิ เกณฑ์ คอ่ นข้างมาก ตามเกณฑ์ คอ่ นข้างน้อย นอ้ ยกวา่ เกณฑ์ ส่วนสงู เทยี บกับอายุ (เป็นผลมาจากการขาดอาหารมานาน ป่วยเรื้อรัง พันธกุ รรม) สงู ค่อนข้างสงู สูงตามเกณฑ์ คอ่ นข้างเตี้ย เตย้ี นา้ หนกั เทียบกบั ส่วนสงู (บอกภาวะโภชนาการจากอดีตถึง ปจั จบุ นั ) อว้ น เรมิ่ อ้วน ท้วม สมส่วน ค่อนข้างผอม ผอม

Four types of malnutrition • Stunting เตีย้ – A child is too short for their age(Height/age) เกดิ จาก การได้รบั อาหารทไ่ี มเ่ พยี งพอและไม่ไดค้ ณุ ภาพ และมกี ารติดเชอ้ื บ่อยๆ ภาวะเตยี้ มกั เกิดกอ่ นอายุ 2 ปี เมอ่ื เกิดแล้วมกั แก้ไขใหเ้ ป็นปกตไิ ด้ยาก อาจพบพัฒนาการ ล่าช้าด้านกล้ามเน้อื มัดใหญร่ ่วมดว้ ย impaired cognitive function and poor school performance.



Four types of malnutrition • Wasting ผอม– A child’s weight is too low for their height (Weight/Height) เกดิ จาก acute malnutrition. Wasting เป็นstrong predictor ของ mortality rate ในเดก็ อายตุ ่ากวา่ 5 ปี โดยท่วั ไปเกิดจากการขาดอาหารและเจบ็ ป่วยอย่างรนุ แรง



Four types of malnutrition • Underweight น้าหนกั นอ้ ย–– A child’s weight is too low for their age (Weight/age) เกิดจากเตย้ี ผอม หรอื ทง้ั เตยี้ และผอม Weight is a sensitive indicator of short-term (i.e., acute) undernutrition. • ภาวะเต้ยี แก้ไขได้ยาก น้าหนกั น้อยแก้ไขได้ ถา้ ไดร้ บั การแก้ไขจะทาใหภ้ าวะ โภชนาการและสขุ ภาพดขี นึ้ ในชว่ งวยั เรยี น เด็กทั่วโลกมากกว่า 100 ล้าน คนนา้ หนักนอ้ ยกว่าเกณฑ์ • 19 % ของเดก็ ทเี่ สยี ชีวิตมคี วามสมั พนั ธ์กับภาวะน้าหนกั น้อย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook