เปดิ ธรรมทถี่ ูกปิด : ทาน (การให้) ยอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหายของเทวดา เขายอ่ มเลยี้ งอตั ภาพ อยู่ในเทวโลกน้ัน ย่อมตั้งอยู่ในเทวโลกน้ัน ด้วยอาหาร ของเทวดา. พราหมณ์ ! แม้ฐานะอันเป็นท่ีไม่เข้าไปส�ำเร็จแห่ง ทานแกส่ ัตว์ผตู้ ้งั อยูน่ แี้ ล กเ็ ปน็ อฐานะ. พราหมณ์ ! บคุ คลบางคนในโลกนี้ เปน็ ผฆู้ า่ สตั ว์ ... มคี วามเหน็ ผดิ บคุ คลนน้ั เมอ่ื ตายไป ยอ่ มเขา้ ถงึ เปรตวสิ ยั เขายอ่ มเลย้ี งอตั ภาพอยใู่ นเปรตวสิ ยั นนั้ ดว้ ยอาหารของสตั ว์ ผเู้ กดิ ในเปรตวสิ ยั หรอื วา่ มติ รอำ� มาตย์ หรอื ญาตสิ าโลหติ ของเขา ยอ่ มอทุ ศิ ทานให้ เขายอ่ มเลยี้ งอตั ภาพอยใู่ นเปรตวสิ ยั นนั้ ยอ่ มตัง้ อยใู่ นเปรตวสิ ัยน้ัน ด้วยทานน้นั . พราหมณ ์ ! ฐานะอนั เปน็ ทเ่ี ขา้ ไปสำ� เรจ็ แหง่ ทานแก่ สตั วผ์ ้ตู ัง้ อย่นู แี้ ล เปน็ ฐานะ. ท่านโคดมผู้เจริญ ! ก็ถ้าญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วน้ัน ไมเ่ ขา้ ถงึ ฐานะนน้ั ใครเล่าจะบรโิ ภคทานนน้ั . พราหมณ ์! ญาตสิ าโลหติ ผลู้ ว่ งลบั ไปแลว้ แมเ้ หลา่ อนื่ ของทายกนั้นที่เข้าถึงฐานะน้ัน มีอยู่ ญาติสาโลหิตเหล่าน้ัน ย่อมบรโิ ภคทานนนั้ . 33
พทุ ธวจน - หมวดธรรม ท่านโคดมผู้เจริญ ! ก็ถ้าญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วน้ัน ไมเ่ ขา้ ถงึ ฐานะนนั้ และญาตสิ าโลหติ ผลู้ ว่ งลบั ไปแลว้ แมเ้ หลา่ อนื่ ของทายก นนั้ ก็ไมเ่ ข้าถึงฐานะนั้น ใครเลา่ จะบรโิ ภคทานนัน้ . พราหมณ์ ! ฐานะท่ีจะพึงว่างจากญาติสาโลหิต ผู้ล่วงลับไปแล้วโดยกาลช้านานเช่นน้ี มิใช่ฐานะ มิใช่ โอกาสทจ่ี ะมไี ด.้ พราหมณ์ ! อีกประการหน่ึง แม้ทายกก็เป็น ผู้ไมไ่ ร้ผล. ท่านโคดมผเู้ จรญิ ! ยอ่ มตรสั กำ�หนดแม้ในอฐานะหรือ. พราหมณ์ ! เรากล่าวก�ำหนดแม้ในอฐานะ. พราหมณ์ ! บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ... มคี วามเหน็ ผดิ แต่เขายังให้ขา้ ว นำ�้ เครื่องนงุ่ หม่ ยาน- พาหนะ ดอกไม้ ของหอม เครื่องลบู ไล้ ทนี่ อน ที่อย่อู าศยั และประทีปโคมไฟแก่สมณะหรือพราหมณ์ บุคคลน้ันเม่ือ ตายไป ยอ่ มเข้าถงึ ความเปน็ สหายของชา้ ง แตเ่ ขายังไดข้ ้าว น�ำ้ มาลา และเคร่อื งประดับตา่ งๆ ในกำ� เนิดชา้ งนัน้ . พราหมณ์ ! ขอ้ ท่บี ุคคลเป็นผฆู้ ่าสตั ว์ ... มคี วาม เห็นผิด ด้วยกรรมน้นั เมื่อตายไป ย่อมเขา้ ถงึ ความเป็น สหายของชา้ ง และขอ้ ทผ่ี นู้ นั้ เปน็ ผใู้ หข้ า้ ว ... ประทปี โคมไฟ 34
เปิดธรรมท่ีถูกปิด : ทาน (การให้) แกส่ มณะหรอื พราหมณ์ ด้วยกรรมนั้น เขาย่อมได้ข้าว นำ้� มาลาและเครื่องประดับต่างๆ ในกำ� เนดิ ชา้ งน้นั . ... ยอ่ มเข้าถงึ ความเป็นสหายของม้า ... . ... ยอ่ มเขา้ ถงึ ความเป็นสหายของโค ... . ... ย่อมเขา้ ถงึ ความเป็นสหายของสุนัข ... . พราหมณ ์ ! บคุ คลบางคนในโลกนี้ เปน็ ผเู้ วน้ ขาด จากการฆ่าสัตว์ ... มีความเห็นชอบ และเขายังให้ข้าว ... ประทปี โคมไฟแกส่ มณะหรอื พราหมณ์ บคุ คลนนั้ เมอ่ื ตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของมนุษย์ และเขาย่อมได้ เบญจกามคณุ อันเป็นของมนุษยน์ ้ัน. พราหมณ์ ! ข้อที่บุคคลเป็นผู้เว้นขาดจากการ ฆ่าสัตว์ ... มีความเห็นชอบ ด้วยกรรมนั้น เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของมนุษย์ และข้อที่ผู้นั้น เปน็ ผใู้ หข้ า้ ว ... ประทปี โคมไฟแกส่ มณะหรอื พราหมณ์ ดว้ ย กรรมนนั้ เขายอ่ มไดเ้ บญจกามคณุ อนั เปน็ ของมนษุ ยน์ นั้ . พราหมณ์ ! อน่ึง บุคคลบางคนในโลกน้ี เป็นผู้ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ... มีความเห็นชอบ และเขายังให้ ข้าว ... ประทีปโคมไฟแก่สมณะหรือพราหมณ์ บุคคลน้ัน 35
พุทธวจน - หมวดธรรม เม่ือตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา เขาย่อม ได้เบญจกามคุณอันเป็นทิพยใ์ นเทวโลกนั้น. พราหมณ์ ! ข้อที่บุคคลเป็นผู้เว้นขาดจากการ ฆ่าสัตว์ ... มีความเห็นชอบ ด้วยกรรมน้ัน เม่ือตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา และข้อท่ีผู้นั้น เป็นผู้ให้ข้าว ... ประทีปโคมไฟแก่สมณะหรือพราหมณ์ ด้วยกรรมน้ัน เขาย่อมได้เบญจกามคุณอันเป็นทิพย์ใน เทวโลกนั้น. พราหมณ์ ! (ด้วยเหตุอย่างนี้) แม้ทายกก็เป็น ผู้ไม่ไร้ผล. ข้าแต่พระโคดมผเู้ จริญ ! น่าอัศจรรย์ ไมเ่ คยมแี ล้ว. ขา้ แตพ่ ระโคดมผเู้ จรญิ ! ขอ้ ทแี่ มท้ ายกกเ็ ปน็ ผไู้ มไ่ รผ้ ลน้ี เปน็ ของควรเพ่อื ใหท้ านโดยแท ้ เปน็ ของควรเพอ่ื กระทำ�ศรัทธาโดยแท.้ พราหมณ์ ! ข้อน้เี ปน็ อย่างนีๆ้ . พราหมณ์ ! แมท้ ายกก็เปน็ ผไู้ มไ่ ร้ผล. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ... ขอพระโคดมผู้เจริญโปรดทรงจำ�ข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะ ตลอดชีวิตต้ังแตว่ ันน้เี ปน็ ตน้ ไป. 36
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถ่ี กู ปิด : ทาน (การให)้ การสงเคราะหเ์ ทวดา 20 -บาลี มหา. ท.ี ๑๐/๑๐๕/๘๔. ตรสั แกส่ นุ ธี ะและวสั สการะมหาอ�ำ มาตยภ์ ายหลงั จากทพ่ี ระองค์ ไดฉ้ นั ของเคย้ี วและของฉนั อนั ประณตี ทท่ี ง้ั สองไดถ้ วายดว้ ยมอื ของตนแลว้ ดว้ ยคาถาวา่ บุรุษชาตบิ ณั ฑติ ย่อมส�ำเรจ็ การอย่ใู นท่ใี ด พงึ เชญิ ทา่ นผมู้ ศี ลี ผสู้ ำ� รวมและประพฤตพิ รหมจรรย์ ให้บริโภคในทน่ี ้นั ควรอทุ ศิ ทกั ขิณา เพ่ือเทวดาผูส้ ถติ อยูใ่ นที่น้นั ๆ เทวดาเหล่านั้นอันบุรุษชาติบัณฑิตนับถือบูชาแล้ว ย่อมนบั ถือบูชาตอบ แตน่ น้ั ยอ่ มอนเุ คราะหบ์ รุ ษุ ชาตบิ ณั ฑติ นน้ั ประหนง่ึ มารดาอนุเคราะห์บตุ ร บรุ ษุ ผอู้ นั เทวดาอนเุ คราะหแ์ ลว้ กย็ อ่ มถงึ ความเจรญิ ทุกเมื่อ. 37
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปดิ : ทาน (การให)้ ความตระหน่ี 21 ขวางกั้นการท�ำใหแ้ จ้งซึ่งมรรคผล -บาลี ปฺ จก. อํ. ๒๒/๓๐๒/๒๕๖–๒๕๗. ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะไมล่ ะธรรม ๕ อย่าง บคุ คล จงึ ไมค่ วรเขา้ อยู่ ซงึ่ ปฐมฌาน ทตุ ยิ ฌาน ตตยิ ฌาน จตตุ ถฌาน ไม่ควรเพ่ือกระท�ำให้แจ้งซ่ึงโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามผิ ล อรหัตตผล ธรรม ๕ อยา่ งเป็นอย่างไร คอื (1) ความตระหนี่อาวาส (2) ความตระหนต่ี ระกูล (3) ความตระหน่ลี าภ (4) ความตระหน่วี รรณะ (ความดี) (5) ความตระหนธ่ี รรม (เครอื่ งให้บรรลมุ รรคผล) (ต่อจากน้ี ได้ตรัสโดยนัยตรงกันข้ามถึงการละธรรม ๕ อย่าง นัน้ แล้ว ควรเพ่ือเขา้ อยใู่ นฌานและกระทำ�ให้แจ้งซงึ่ มรรคผล). 38
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถูกปิด : ทาน (การให้) ความตระหนค่ี ือมลทิน 22 -บาลี สตตฺ ก. อํ. ๒๓/๑๙๘/๑๐๕. ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! มลทนิ (ความมวั หมอง) ๘ ประการนี้ มีอยู ่ ๘ ประการเปน็ อยา่ งไร คอื (1) มนตม์ กี ารไมท่ ่องบ่นเปน็ มลทิน (2) ความไม่หมน่ั เป็นมลทนิ ของเรือน (3) ความเกียจครา้ นเป็นมลทนิ ของผิวพรรณ (4) ความประมาทเป็นมลทนิ ของผู้รักษา (5) ความประพฤตชิ ั่วเปน็ มลทินของหญงิ (6) ความตระหนี่เปน็ มลทนิ ของผูใ้ ห้ (7) อกศุ ลธรรมอนั เปน็ บาปเปน็ มลทนิ แทท้ งั้ โลกนี้ และโลกหนา้ (8) เราจะบอกมลทินทยี่ ่งิ กวา่ มลทนิ นั้น คือ อวิชชาเป็นมลทินอยา่ งยิง่ . 39
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถกู ปิด : ทาน (การให)้ เหตุให้ไปนรก-สวรรค์ 23 -บาลี เอก. อํ. ๒๐/๑๓๒/๔๔๙. ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ และไม่ละมลทนิ ๓ ประการ ยอ่ มจะถกู เก็บไวใ้ น นรก เหมอื นถกู ขังฉะนัน้ ธรรม ๓ ประการเปน็ อย่างไร คอื (1) เปน็ ผทู้ ศุ ลี และไมล่ ะมลทนิ แหง่ ความเปน็ ผทู้ ศุ ลี (2) เปน็ ผู้รษิ ยาและไมล่ ะมลทนิ แห่งความรษิ ยา (3) เปน็ ผตู้ ระหนแ่ี ละไมล่ ะมลทนิ แหง่ ความตระหนี่ ภิกษุท้ังหลาย ! บุคคลประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนีแ้ ละไม่ละมลทนิ ๓ ประการน้ีแล จะตอ้ งตกนรก เหมอื นถูกน�ำไปฝงั ไว้ฉะนัน้ . ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ละมลทนิ ๓ ประการ ยอ่ มจะประดษิ ฐานบนสวรรค์ เหมือนถูกน�ำเอามาวางไว้ฉะนั้น ธรรม ๓ ประการเป็น อย่างไร คอื (1) เปน็ ผู้มศี ีลและละมลทนิ แห่งความเป็นผู้ทุศีล (2) เป็นผู้ไมร่ ษิ ยาและละมลทนิ แห่งความริษยา (3) เปน็ ผไู้ มต่ ระหนแ่ี ละละมลทนิ แหง่ ความตระหน่ี 40
เปิดธรรมทถ่ี ูกปิด : ทาน (การให)้ ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการน้ีและละมลทิน ๓ ประการน้ีแล ย่อมจะต้องได้ ขน้ึ สวรรค์ เหมอื นกับเชญิ ไปวางไวฉ้ ะนัน้ . 41
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี ูกปิด : ทาน (การให)้ วบิ ากของคนตระหนแ่ี ละไม่ตระหน่ี 24 -บาลี สคาถ. สํ. ๑๕/๔๖/๑๔๘-๑๕๑. เทวดาทูลถามว่า ชนเหล่าใดในโลกนี้ เป็นคนตระหนี่ เหนียวแน่น เขาดีแต่ทำ� การกดี ขวางคนเหลา่ อืน่ ผใู้ ห้อยู่ วบิ ากของคนพวกนัน้ จะเปน็ เชน่ ไร และ สมั ปรายภพของเขาจะเปน็ เชน่ ไร ขา้ พระองคม์ าเพอ่ื ทลู ถามพระผมู้ พี ระภาค ไฉนข้าพระองคจ์ งึ จะร้คู วามข้อน้นั . พระผ้มู พี ระภาคตรสั ตอบว่า ชนเหลา่ ใดในโลกน ี้ เปน็ คนตระหน ี่ เหนยี วแนน่ ดแี ตว่ า่ เขาทำ� การกดี ขวางคนเหลา่ อน่ื ผใู้ หอ้ ยู่ คนเหลา่ นนั้ ยอ่ มเขา้ ถงึ นรก กำ� เนดิ เดรจั ฉาน หรอื ยมโลก ถา้ หากถงึ ความเปน็ มนษุ ย์ กเ็ กดิ ในสกลุ คนยากจน ซง่ึ จะหาผา้ อาหาร ความร่าเริงและความสนุกสนานได้โดยยาก คนพาล เหลา่ นนั้ ตอ้ งประสงคส์ งิ่ ใดแตผ่ อู้ น่ื เขายอ่ มไมไ่ ดแ้ มส้ งิ่ นน้ั สมความปรารถนา น่นั เปน็ ผลในภพนี้ และภพหน้ากย็ งั เปน็ ทคุ ตอิ กี ด้วย. 42
เปิดธรรมทีถ่ กู ปิด : ทาน (การให)้ เทวดาทลู ถามว่า ก็ข้อนี้ข้าพระองค์เข้าใจชัดอย่างนี้ (แต่) จะทูลถามข้ออื่นกะ พระโคดม ชนเหลา่ ใดในโลกนไ้ี ดค้ วามเปน็ มนษุ ยแ์ ลว้ รถู้ อ้ ยค�ำ ปราศจาก ความตระหน่ี เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ เป็นผู้มี ความเคารพแรงกลา้ วบิ ากของชนเหลา่ นนั้ จะเปน็ เชน่ ไร และสมั ปรายภพ ของเขาจะเป็นเช่นไร ข้าพระองค์มาเพ่ือทูลถามพระผู้มีพระภาค ไฉน ขา้ พระองค์จงึ จะร้คู วามข้อนัน้ . พระผมู้ ีพระภาคตรสั ตอบวา่ ชนเหล่าใดในโลกนี้ ได้ความเป็นมนุษย์แล้ว รถู้ อ้ ยคำ� ปราศจากความตระหน่ี เลอื่ มใสในพระพทุ ธเจา้ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นผู้มีความเคารพแรงกล้า ชนเหล่านี้ย่อมปรากฏในสวรรค์อันเป็นที่อุบัติ หากถึง ความเป็นมนุษย์ ย่อมเกิดในสกุลทีม่ ัง่ คง่ั ไดผ้ า้ อาหาร ความร่าเริงและความสนกุ สนานโดยไม่ยาก พึงมีอ�ำนาจ แผไ่ ปในโภคทรพั ยท์ ผ่ี อู้ นื่ หาสะสมไว้ บนั เทงิ ใจอยู่ นนั่ เปน็ วิบากในภพนี้ ท้งั ภพหนา้ ก็เป็นสุคติ. 43
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี ูกปิด : ทาน (การให)้ ทรพั ยใ์ นอรยิ วนิ ัย (นัยท่ี ๑) 25 -บาลี ปฺ จก. อ.ํ ๒๒/๕๘/๔๗. ภิกษทุ ง้ั หลาย ! ทรัพย์ ๕ ประการเหลา่ นีม้ อี ยู่ ๕ ประการเปน็ อยา่ งไร คอื (1) ทรัพยค์ อื ศรทั ธา (2) ทรัพย์คอื ศลี (3) ทรัพย์คอื สุตะ (4) ทรพั ย์คือ จาคะ (5) ทรัพย์คือ ปญั ญา ภิกษุทั้งหลาย ! ก็ทรพั ย์คือศรัทธาเป็นอยา่ งไร. ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! อรยิ สาวกในธรรมวนิ ยั น ้ี เปน็ ผมู้ ี ศรทั ธา ยอ่ มเชอ่ื ปญั ญาเครอื่ งตรสั รขู้ องตถาคตวา่ แมเ้ พราะ เหตนุ ๆี้ พระผมู้ พี ระภาคพระองคน์ นั้ ... เปน็ ผเู้ บกิ บานแล้ว เปน็ ผจู้ ำ� แนกธรรม น้เี รยี กวา่ ทรัพยค์ ือศรทั ธา. ภิกษทุ ง้ั หลาย ! กท็ รพั ย์คอื ศลี เป็นอยา่ งไร. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! อรยิ สาวกในธรรมวนิ ยั น้ี เปน็ ผเู้ วน้ ขาดจากการฆ่าสัตว์ ... จากการด่ืมน�้ำเมาคือสุราและเมรัย อันเป็นทตี่ ัง้ แห่งความประมาท น้เี รยี กว่า ทรพั ย์คอื ศลี . 44
เปิดธรรมที่ถกู ปดิ : ทาน (การให้) ภิกษุท้ังหลาย ! ก็ทรัพย์คือสุตะเป็นอย่างไร. ภิกษุทั้งหลาย ! อริยสาวกในธรรมวินัยน้ี เป็น พหสู ูต ทรงสตุ ะ สง่ั สมสตุ ะ เปน็ ผู้ได้สดับมามาก ทรงจำ� ได้ คลอ่ งปาก ขนึ้ ใจ แทงตลอดอยา่ งดดี ว้ ยทฏิ ฐซิ ง่ึ ธรรมทงั้ หลาย อนั งามในเบอื้ งต้น งามในทา่ มกลาง งามในท่สี ุด ประกาศ พรหมจรรย์ พรอ้ มทง้ั อรรถะ ทัง้ พยัญชนะ บรสิ ุทธิบ์ รบิ รู ณ์ สิน้ เชงิ นี้เรียกว่า ทรัพยค์ อื สตุ ะ. ภกิ ษุทั้งหลาย ! กท็ รพั ยค์ อื จาคะเป็นอยา่ งไร. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! อรยิ สาวกในธรรมวนิ ยั นี้ เปน็ ผมู้ ใี จ ปราศจากมลทนิ คอื ความตระหนี่ อยคู่ รองเรอื น มกี ารบรจิ าค อนั ปลอ่ ยอยเู่ ปน็ ประจำ� มฝี า่ มอื อนั ชมุ่ ยนิ ดใี นการสละ เปน็ ผู้ควรแก่การขอ ยินดีในการให้และการแบ่งปัน น้ีเรียกว่า ทรพั ย์คือจาคะ. ภกิ ษุท้ังหลาย ! ก็ทรพั ยค์ อื ปัญญาเป็นอยา่ งไร. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! อรยิ สาวกในธรรมวนิ ยั น ี้ เปน็ ผมู้ ี ปญั ญา ประกอบดว้ ยปญั ญาอนั หยง่ั ถงึ ความตง้ั ขน้ึ และความ เสอื่ มไป เปน็ อรยิ ะ ชำ� แรกกเิ ลสใหถ้ งึ ความสนิ้ ทกุ ขโ์ ดยชอบ น้ีเรียกวา่ ทรพั ยค์ ือปัญญา. ภกิ ษทุ ัง้ หลาย ! นแี้ ล ทรัพย์ ๕ ประการ. 45
พทุ ธวจน - หมวดธรรม (คาถาผนวกท้ายพระสตู ร) ผใู้ ดมคี วามเชือ่ ในตถาคต ตั้งม่ัน ไม่หวั่นไหว มีศลี อันงาม อนั พระอริยะชอบใจ สรรเสริญ มีความเล่อื มใสในพระสงฆ์ และมคี วามเหน็ ตรง บณั ฑิตท้งั หลายกลา่ วผู้นนั้ ว่า ไม่เปน็ คนขัดสน ชวี ติ ของผนู้ นั้ ไมเ่ ปลา่ ประโยชน์ เพราะเหตุนน้ั ผู้มีปญั ญา เม่ือนึกถึงคำ� ส่ังสอนของ พระพทุ ธเจา้ ทงั้ หลาย พงึ ประกอบศรทั ธา ศลี ความเลอ่ื มใส และความเห็นธรรมเนอื งๆ เถิด. 46
พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมที่ถกู ปิด : ทาน (การให)้ ทรพั ย์ในอริยวนิ ยั (นัยที่ ๒) 26 -บาลี สตตฺ ก. อ.ํ ๒๓/๕/๖. ภิกษุท้งั หลาย ! ทรัพย์ ๗ ประการเหล่าน้ีมอี ยู่ ๗ ประการเป็นอยา่ งไร คอื (1) ทรัพย์คอื ศรัทธา (2) ทรัพย์คือ ศีล (3) ทรพั ย์คือ หิริ (4) ทรพั ย์คอื โอตตัปปะ (5) ทรพั ยค์ อื สุตะ (6) ทรพั ย์คอื จาคะ (7) ทรัพย์คือ ปญั ญา ภกิ ษุทง้ั หลาย ! ก็ทรพั ยค์ ือศรัทธาเปน็ อยา่ งไร. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! อรยิ สาวกในธรรมวนิ ยั น ี้ เปน็ ผมู้ ี ศรทั ธา ยอ่ มเชอื่ ปญั ญาเครอ่ื งตรสั รขู้ องตถาคตวา่ แมเ้ พราะ เหตนุ ๆ้ี พระผมู้ พี ระภาคพระองคน์ นั้ ... เปน็ ผเู้ บกิ บานแลว้ เป็นผูจ้ ำ�แนกธรรม นเี้ รียกวา่ ทรัพย์คอื ศรัทธา. 47
พุทธวจน - หมวดธรรม ภกิ ษทุ ัง้ หลาย ! ก็ทรพั ย์คอื ศีลเป็นอย่างไร. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! อรยิ สาวกในธรรมวนิ ยั นี้ เปน็ ผเู้ วน้ ขาดจากการฆ่าสัตว์ ... จากการดื่มน้�ำเมาคือสุราและเมรัย อนั เป็นที่ต้ังแหง่ ความประมาท น้เี รยี กว่า ทรัพย์คอื ศลี . ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! กท็ รัพย์คือหริ เิ ปน็ อยา่ งไร. ภิกษุทั้งหลาย ! อริยสาวกในธรรมวินัยน้ี เป็นผู้มี ความละอาย คอื ละอายต่อกายทุจรติ วจที จุ รติ มโนทุจรติ ละอายต่อการถูกต้องอกุศลธรรมอันเป็นบาป น้ีเรียกว่า ทรัพยค์ ือหริ .ิ ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! กท็ รพั ยค์ อื โอตตปั ปะเปน็ อยา่ งไร. ภิกษุท้ังหลาย ! อริยสาวกในธรรมวินัยน้ี เป็น ผู้มีความสะดุ้งกลัว คือ สะดุ้งกลัวต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโนทจุ รติ สะดงุ้ กลวั ตอ่ การถกู ตอ้ งอกศุ ลธรรมอนั เปน็ บาป นเี้ รียกว่า ทรัพยค์ ือโอตตัปปะ. ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! ก็ทรัพยค์ อื สุตะเปน็ อยา่ งไร. ภิกษุทั้งหลาย ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็น พหสู ตู ทรงสตุ ะ สงั่ สมสุตะ เปน็ ผไู้ ด้สดับมามาก ทรงจำ� ได้ 48
เปิดธรรมที่ถกู ปดิ : ทาน (การให้) คลอ่ งปาก ขน้ึ ใจ แทงตลอดอยา่ งดดี ว้ ยทฏิ ฐซิ งึ่ ธรรมทง้ั หลาย อันงามในเบอ้ื งตน้ งามในทา่ มกลาง งามในท่สี ดุ ประกาศ พรหมจรรย์ พรอ้ มทง้ั อรรถะ ท้งั พยัญชนะ บรสิ ุทธบิ์ รบิ รู ณ์ สนิ้ เชิง น้ีเรียกว่า ทรพั ย์คือสุตะ. ภิกษทุ งั้ หลาย ! กท็ รัพย์คอื จาคะเป็นอย่างไร. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! อรยิ สาวกในธรรมวนิ ยั นี้ เปน็ ผมู้ ใี จ ปราศจากมลทนิ คอื ความตระหน่ี อยคู่ รองเรอื น มกี ารบรจิ าค อนั ปลอ่ ยอยเู่ ปน็ ประจำ� มฝี า่ มอื อนั ชมุ่ ยนิ ดใี นการสละ เปน็ ผู้ควรแก่การขอ ยินดีในการให้และการแบ่งปัน นี้เรียกว่า ทรพั ยค์ ือจาคะ. ภิกษุทั้งหลาย ! กท็ รพั ย์คอื ปญั ญาเปน็ อย่างไร. ภิกษุท้ังหลาย ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มี ปญั ญาคอื ประกอบดว้ ยปญั ญาทกี่ ำ� หนดความเกดิ และความดบั เปน็ อรยิ ะ ชำ� แรกกเิ ลสใหถ้ งึ ความสน้ิ ทกุ ขโ์ ดยชอบ นเี้ รยี กวา่ ทรพั ย์คอื ปญั ญา. ภกิ ษุท้ังหลาย ! นแี้ ล ทรัพย์ ๗ ประการ. 49
พทุ ธวจน - หมวดธรรม (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) ทรพั ย์ คอื ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ สุตะ จาคะ และปญั ญาเป็นท่ี ๗ ทรัพยเ์ หลา่ นมี้ ีแก่ผู้ใด เป็นหญงิ หรอื ชายกต็ าม บณั ฑิตเรียกผู้นั้นวา่ เป็นผ้ไู มย่ ากจน ชวี ิตของผู้น้นั ไมเ่ ปลา่ ประโยชน์ เพราะฉะนนั้ ทา่ นผมู้ ปี ญั ญา เมอ่ื ระลกึ ถงึ คำ� สอนของ พระพทุ ธเจา้ ทง้ั หลาย พงึ ประกอบศรทั ธา ศลี ความเลอ่ื มใส และการเหน็ ธรรม. 50
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ ูกปิด : ทาน (การให้) ประโยชนข์ องการสรา้ งวหิ าร 27 -บาลี จุลลฺ . ว.ิ ๗/๘๕/๑๙๘-๒๐๓. ข้าพระพุทธเจ้าต้องการบุญ ต้องการสวรรค์ ได้ให้สร้างวิหาร ๖๐ หลังนไ้ี ว้แล้ว ข้าพระพทุ ธเจา้ จะพึงปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร ในวหิ ารเหลา่ นัน้ พระพทุ ธเจ้าข้า ! คหบด ี ! ถา้ เชน่ นน้ั เธอจงถวายวหิ ารเหลา่ นน้ั แกส่ งฆ์ ผู้มาจากทศิ ทั้ง ๔ ทัง้ ทมี่ าแล้วและยงั ไมม่ าเถิด. ราชคหเศรษฐที ลู รบั พระพทุ ธด�ำ รสั แลว้ ไดถ้ วายวหิ ารเหลา่ นนั้ แก่สงฆ์ผู้มาจากทิศทั้ง ๔ ท้ังท่ีมาแล้วและยังไม่มา จากน้ันพระผู้มี- พระภาคไดต้ รัสคำ�อนโุ มทนา ดงั น้ี. วหิ ารยอ่ มปอ้ งกนั หนาว รอ้ น และสตั วร์ า้ ย นอกจากนน้ั ยังป้องกันงู และยุง ฝนในสิสิรฤดู นอกจากนั้นวิหารยัง ปอ้ งกนั ลมและแดดอนั กลา้ ทเี่ กดิ ขน้ึ ได้ การถวายวหิ ารแกส่ งฆ์ เพอ่ื หลกี เรน้ อยู่เพอ่ื ความสขุ เพอื่ เพง่ พจิ ารณาและเพอื่ เหน็ แจง้ พระพทุ ธเจา้ ทรงสรรเสรญิ วา่ เปน็ ทานอนั เลศิ เพราะเหตนุ น้ั แล คนผฉู้ ลาด เมอ่ื เลง็ เหน็ ประโยชนต์ น พงึ สรา้ งวหิ ารอนั รนื่ รมย์ ใหภ้ กิ ษุทัง้ หลายผพู้ หูสตู อยู่ในวหิ ารนเี้ ถดิ . อนง่ึ พึงมใี จเลือ่ มใสถวายข้าว น�ำ้ ผ้า และเสนาสนะ อนั เหมาะสมแกพ่ วกเธอ ในพวกเธอผซู้ อ่ื ตรง เพราะพวกเธอ ยอ่ มแสดงธรรมอนั เปน็ เครอื่ งบรรเทาสรรพทกุ ขแ์ กเ่ ขา เขารู้ ทว่ั ถึงแล้ว จะเป็นผู้ไมม่ อี าสวะ ปรินิพพานในโลกน.้ี 51
พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมที่ถูกปดิ : ทาน (การให้) จาคานสุ สติ 28 -บาลี ทสก. อํ. ๒๔/๓๕๕/๒๑๘. มหาราช ! อีกประการหนึง่ พระองคพ์ ึงทรงระลึก ถึงจาคะของตนว่า เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ ท่ีเรามีใจปราศจากมลทินคือความตระหนี่ อยู่ครองเรือน มีการบรจิ าคอนั ปลอ่ ยอยู่เปน็ ประจำ� มีฝ่ามืออันชมุ่ ยนิ ดีใน การสละ เปน็ ผคู้ วรแกก่ ารขอ ยนิ ดใี นการใหแ้ ละการแบง่ ปนั ในหมสู่ ัตวผ์ ูถ้ กู มลทนิ คือความตระหนก่ี ล้มุ รมุ . มหาราช ! สมยั ใด อรยิ สาวกระลกึ ถงึ จาคะ สมยั นนั้ จิตของอริยสาวกน้ัน ย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม ไม่ถูกโทสะ กลมุ้ รุม ไม่ถกู โมหะกลุ้มรุม สมัยนั้น จติ ของอริยสาวกน้ัน ย่อมด�ำเนินไปตรง. มหาราช ! อริยสาวกผู้มีจิตด�ำเนินไปตรงเพราะ ปรารภจาคะ ย่อมได้ความรู้อรรถ ย่อมได้ความรู้ธรรม ย่อมได้ความปราโมทย์อันประกอบด้วยธรรม ปีติย่อมเกิด แก่อริยสาวกผู้มีความปราโมทย์ กายของอริยสาวกผู้มีใจ ประกอบด้วยปีติย่อมสงบ อริยสาวกผู้มีกายสงบแล้วย่อม เสวยสขุ จิตของอรยิ สาวกผู้มสี ุขย่อมตัง้ มัน่ . 52
เปดิ ธรรมทีถ่ กู ปิด : ทาน (การให้) มหาราช ! อริยสาวกน้ีเรากล่าวกล่าวว่า เป็นผู้ถึง ความสงบอยู่ในหมู่สัตว์ผู้ถึงความไม่สงบ เป็นผู้ไม่มีความ พยาบาทอยู่ในหมู่สัตว์ผู้มีความพยาบาท เป็นผู้ถึงพร้อม ดว้ ยกระแสธรรมเจรญิ จาคานุสสต.ิ มหาราช ! พระองค์ พงึ เจรญิ จาคานสุ สตนิ ี้ แมเ้ มอ่ื เดินอยู่ พึงเจริญ แม้เม่ือยืนอยู่ พึงเจริญ แม้เมื่อนั่งอยู่ พึงเจริญ แมเ้ ม่ือนอนอย ู่ พงึ เจรญิ แม้เม่อื กำ� ลังท�ำงานอยู่ พึงเจรญิ แม้เม่ือนอนเบยี ดบุตรอยบู่ นที่นอน. 53
เหตุเกดิ ขึ้นแหง่ ทาน
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทีถ่ กู ปดิ : ทาน (การให)้ เหตุในการให้ทาน (นัยท่ี ๑) 29 -บาลี อฏก. อ.ํ ๒๓/๒๔๐/๑๒๑. ภกิ ษทุ ้ังหลาย ! การให้ ๘ ประการเหล่านม้ี ีอยู่ ๘ ประการเป็นอย่างไร คือ (1) บางคนหวังได้จงึ ให้ทาน (2) บางคนให้ทานเพราะกลัว (3) บางคนใหท้ านเพราะนึกวา่ เขาใหแ้ ก่เราแลว้ (4) บางคนให้ทานเพราะนึกวา่ เขาจักใหต้ อบแทน (5) บางคนให้ทานเพราะนกึ วา่ ทานเปน็ การดี (6) บางคนให้ทานเพราะนึกว่าเราหุงหากิน ชน เหล่าน้ีหุงหากินไม่ได้ เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทานแก่ชน เหลา่ นผ้ี ู้ไม่หงุ หากินไมส่ มควร (7) บางคนให้ทานเพราะนึกว่า เมื่อเราให้ทาน กิตติศพั ทอ์ ันงามยอ่ มฟุ้งไป (8) บางคนใหท้ านเพื่อประดบั จิต ปรงุ แต่งจติ ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! เหล่านีแ้ ล การให้ ๘ ประการ. 56
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปิด : ทาน (การให้) เหตใุ นการให้ทาน (นยั ที่ ๒) 30 -บาลี อฏก. อ.ํ ๒๓/๒๔๐/๑๒๓. ภิกษุทั้งหลาย ! ทานวตั ถุ ๘ ประการเหลา่ นม้ี อี ยู่ ๘ ประการเปน็ อยา่ งไร คือ (1) บางคนให้ทานเพราะชอบพอกัน (2) บางคนให้ทานเพราะโกรธ (3) บางคนใหท้ านเพราะหลง (4) บางคนให้ทานเพราะกลวั (5) บางคนให้ทานเพราะนึกว่าบิดามารดา ปู่ย่า ตายาย เคยให้มา เคยทำ�มา เราไม่ควรทำ�ให้เสียประเพณี (6) บางคนให้ทานเพราะนึกว่าเราให้ทานน้ีแล้ว เมื่อตายไปจกั เข้าถงึ สุคติโลกสวรรค์ (7) บางคนให้ทานเพราะนึกว่า เม่ือเราให้ทานน้ี จติ ยอ่ มเลอ่ื มใส ความเบิกบานใจ ความดใี จ ย่อมเกดิ ตาม ลำ�ดับ (8) บางคนให้ทานเพอ่ื ประดับจติ ปรุงแต่งจติ ภิกษุท้งั หลาย ! เหลา่ น้ีแล ทานวตั ถุ ๘ ประการ. 57
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถูกปดิ : ทาน (การให้) เหตใุ นการใหท้ าน (นยั ท่ี ๓) 31 -บาลี ปฺ จก. อํ. ๒๒/๔๔/๓๖. ภกิ ษุท้ังหลาย ! กาลทาน ๕ ประการเหล่าน้มี ีอยู่ ๕ ประการเปน็ อยา่ งไร คอื (1) ใหท้ านแกผ่ มู้ าส่ถู ่ินของตน (2) ให้ทานแกผ่ ูเ้ ตรยี มจะไป (3) ให้ทานแก่ผู้ป่วยไข้ (4) ใหท้ านในสมยั ขา้ วยากหมากแพง (5) ให้ข้าวใหม่และผลไม้ใหม่แก่ผู้มีศีลก่อน ภิกษุท้ังหลาย ! น้ีแล กาลทาน ๕ ประการ. (คาถาผนวกทา้ ยพระสูตร) ผู้มีปญั ญารอบร้แู ละปราศจากความตระหนี่ ยอ่ มถวายทานตามกาลสมยั ในพระอรยิ เจา้ ทงั้ หลาย ผ้ปู ระพฤตติ รงคงท่ี เมื่อมีใจเลื่อมใสศรัทธาแล้ว ทักษิณาย่อมมีผลอัน ไพบลู ย์ ชนทัง้ หลายเหลา่ ใดร่วมอนโุ มทนา หรอื ช่วยกระท�ำ การขวนขวายในทานน้ี 58
เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปิด : ทาน (การให้) ทกั ษณิ านน้ั มไิ ดพ้ รอ่ งไปดว้ ยเหตแุ หง่ อนโุ มทนานนั้ เลย แมช้ นผู้รว่ มอนโุ มทนา กม็ ีส่วนแหง่ บุญดว้ ย เพราะฉะนั้น เม่ือบคุ คลไมม่ ีจติ ทอ้ ถอยในทาน ทานนัน้ ย่อมมผี ลมาก บุญทีท่ �ำแล้ว ย่อมเป็นท่พี ึง่ ของสัตว์ท้งั หลาย ในกาลข้างหนา้ ไดแ้ ล. (ในคาถาผนวกท้ายพระสูตรนน้ั มบี าลีอยา่ งนี้) กาเล ทะทันติ สัปปญั ญา วะทญั ญู วตี ะมจั ฉะรา, กาเลนะ ทนิ นัง อะริเยสุ อุชภุ เู ตสุ ตาทิสุ, วปิ ปะสันนะมะนา ตัสสะ วปิ ลุ า โหติ ทกั ขิณา, เย ตตั ถะ อนุโมทนั ติ เวยยาวจั จัง กะโรนติ วา, นะ เตนะ ทักขิณา โอนา, เตปิ ปญุ ญสั สะ ภาคิโน, ตัส๎มา ทะเท อปั ปะฏิวาณะจิตโต ยัตถะ ทนิ นัง มะหัปผะลัง, ปุญญานิ ปะระโลกัสม๎ งิ ปะติฏฐา โหนติ ปาณินนั ต.ิ 59
พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถูกปดิ : ทาน (การให้) เหตใุ นการใหท้ าน (นยั ที่ ๔) 32 -บาลี สตตฺ ก. อ.ํ ๒๓/๔๐๓/๒๒๓. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! เหตเุ กดิ ข้นึ แหง่ ทาน ๘ ประการน้ี มอี ยู่ ๘ ประการเปน็ อยา่ งไร คือ ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! บคุ คลบางคนในโลกน้ี ใหท้ าน คอื ขา้ ว นำ้� เครอื่ งนงุ่ หม่ ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม เครอื่ งลบู ไล้ ทน่ี อนทอี่ ยอู่ าศยั และประทปี โคมไฟแกส่ มณะหรอื พราหมณ์ เขาให้ส่ิงใด ย่อมหวังส่ิงนั้น เขาเห็นกษัตริย์มหาศาล พราหมณม์ หาศาล หรอื คหบดมี หาศาล ผเู้ อบิ อม่ิ พรง่ั พรอ้ ม ถกู บำ� เรออยดู่ ว้ ยกามคณุ ๕ เขาจงึ มคี วามปรารถนาอยา่ งน้ี วา่ “โอหนอ ! เม่ือตายไป ขอเราพึงเขา้ ถึงความเปน็ สหาย แหง่ กษตั รยิ ม์ หาศาล พราหมณม์ หาศาล หรอื คหบดมี หาศาล” เขาตั้งจิตนั้น อธิษฐานจิตนั้น เจริญจิตนั้น จิตของเขา นึกนอ้ มไปในทางเลว ไมเ่ จรญิ ยิ่งข้ึน ภายหลังแต่การตาย เพราะการท�ำลายแหง่ กาย เขายอ่ มเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคหบดี มหาศาล แตข่ ้อนน้ั เรากล่าวว่า เป็นของผมู้ ศี ลี ไมใ่ ช่ของ ผู้ทุศีล. 60
เปดิ ธรรมท่ีถูกปดิ : ทาน (การให้) ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ความปรารถนาแหง่ ใจของบคุ คล ผ้มู ีศลี ยอ่ มสำ� เร็จได้ เพราะจิตบริสุทธิ.์ ภิกษุท้ังหลาย ! ส่วนบุคคลบางคนในโลกน้ี ย่อม ใหท้ าน คือ ขา้ ว น้ำ� ... และประทีปโคมไฟแกส่ มณะหรือ พราหมณ์ เขาใหส้ งิ่ ใด ยอ่ มหวงั สง่ิ นน้ั เขาไดฟ้ งั มาวา่ เทวดา ชน้ั จาตมุ หาราชกิ า มอี ายยุ นื มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ เขาจงึ มคี วามปรารถนาอย่างนวี้ ่า “โอหนอ ! เม่ือตายไป ขอเรา พงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาชนั้ จาตมุ หาราชกิ า”เขาตงั้ จติ นนั้ อธษิ ฐานจติ นน้ั เจรญิ จติ นน้ั จติ ของเขานกึ นอ้ มไป ในทางทเ่ี ลว ไมเ่ จรญิ ยงิ่ ขน้ึ ภายหลงั แตก่ ารตาย เพราะการ ทำ� ลายแหง่ กาย เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดา ช้ันจาตุมหาราชิกา แต่ข้อน้ันเรากล่าวว่าเป็นของผู้มีศีล ไมใ่ ชข่ องผู้ทุศีล. ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! ความปรารถนาแหง่ ใจของบคุ คล ผู้มีศลี ยอ่ มส�ำเรจ็ ได้ เพราะจติ บริสทุ ธ.ิ์ ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อม ให้ทาน คอื ข้าว น้�ำ ... และประทปี โคมไฟแก่สมณะหรือ พราหมณ์ เขาใหส้ ง่ิ ใด ยอ่ มหวงั สง่ิ นน้ั เขาไดฟ้ งั มาวา่ เทวดา 61
พุทธวจน - หมวดธรรม ช้ันดาวดงึ ส์ ... เทวดาชนั้ ยามา ... เทวดาชนั้ ดสุ ติ ... เทวดา ชั้นนิมมานรดี ... เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี มีอายุยืน มี วรรณะ มากดว้ ยความสขุ เขาจงึ มคี วามปรารถนาอยา่ งนวี้ า่ “โอหนอ ! เมอ่ื ตายไป ขอเราพงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาชั้นปรนมิ มิตวสวตั ตี” เขาตัง้ จิตนั้น อธิษฐานจติ นน้ั เจรญิ จติ นน้ั จติ ของเขานกึ นอ้ มไปในทางทเี่ ลว ไมเ่ จรญิ ยง่ิ ขนึ้ ภายหลงั แตก่ ารตาย เพราะการทำ� ลายแหง่ กาย เขายอ่ ม เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาชน้ั ปรนมิ มติ วสวตั ตี แต่ ข้อนัน้ เรากลา่ วว่าเป็นของผูม้ ศี ีล ไม่ใชข่ องผู้ทศุ ลี . ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ความปรารถนาแหง่ ใจของบคุ คล ผ้มู ศี ลี ย่อมสำ� เร็จได้ เพราะจิตบริสุทธ.์ิ ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนบุคคลบางคนในโลกน้ี ย่อม ให้ทาน คือ ข้าว นำ้� ... และประทีปโคมไฟแก่สมณะหรือ พราหมณ์ เขาให้สิ่งใด ย่อมหวังส่ิงน้ัน เขาได้ฟังมาว่า เทวดาชนั้ พรหมกายกิ า มอี ายยุ นื มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ เขาจึงมีความปรารถนาอยา่ งน้ีวา่ “โอหนอ ! เมือ่ ตายไป ขอเราพงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาชนั้ พรหมกายกิ า” เขาต้งั จติ น้ัน อธิษฐานจิตนั้น เจรญิ จติ นน้ั จติ ของเขานกึ น้อมไปในทางที่เลว ไม่เจริญยิ่งข้ึน ภายหลังแต่การตาย 62
เปิดธรรมทถี่ กู ปิด : ทาน (การให้) เพราะการทำ� ลายแหง่ กาย เขายอ่ มเข้าถงึ ความเป็นสหาย แหง่ เทวดาชนั้ พรหมกายกิ า แตข่ อ้ นนั้ เรากลา่ ววา่ เปน็ ของ ผู้มศี ลี ไมใ่ ชข่ องผทู้ ศุ ลี . ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! ความปรารถนาแหง่ ใจของบคุ คล ผู้มศี ีล ยอ่ มส�ำเรจ็ ได้ เพราะจติ ปราศจากราคะ. ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! นแ้ี ล เหตเุ กดิ ขน้ึ แหง่ ทาน ๘ ประการ. 63
ผล/อานสิ งส์ ของทานแบบตา่ งๆ
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ถี กู ปิด : ทาน (การให)้ ผลแหง่ ทาน 33 -บาลี นวก. อํ. ๒๓/๔๐๕/๒๒๔. คหบด ี ! บคุ คลใหท้ านอนั เศรา้ หมองหรอื ประณตี กต็ าม แตใ่ หท้ านนน้ั โดยไมเ่ คารพ ไมใ่ หด้ ว้ ยความนอบนอ้ ม ไมใ่ ห้ด้วยมือตนเอง ใหข้ องทเี่ หลอื ให้โดยไมค่ �ำนงึ ผลที่ จะมาถงึ ผลของทานนน้ั บงั เกดิ ในทใี่ ดๆ จติ ของผใู้ หท้ าน ย่อมไม่นอ้ มไปเพือ่ บริโภคอาหารอย่างดี ยอ่ มไมน่ ้อมไป เพ่ือบริโภคผ้าอย่างดี ย่อมไม่น้อมไปเพื่อบริโภคยาน อย่างดี ย่อมไม่น้อมไปเพ่ือบริโภคกามคุณ ๕ อย่างดี แม้บรวิ ารชนของผใู้ หท้ านนนั้ คือ บุตร ภรรยา ทาส คนใช้ คนท�ำงาน กไ็ มเ่ ชอ่ื ฟัง ไม่เง่ียหฟู ัง สง่ จติ ไปที่อื่นเสยี . ขอ้ น้ันเพราะเหตุไร ทัง้ นเี้ ปน็ เพราะผลแหง่ กรรมท่ี ตนกระทำ� โดยไมเ่ คารพ. คหบด ี ! บคุ คลใหท้ านอนั เศรา้ หมองหรอื ประณตี กต็ าม แตใ่ หท้ านนนั้ โดยเคารพ ใหด้ ว้ ยความนอบนอ้ ม ให้ ดว้ ยมอื ตนเอง ใหข้ องทไ่ี มเ่ หลอื ใหโ้ ดยคำ� นงึ ผลทจ่ี ะมาถงึ 66
เปดิ ธรรมท่ถี ูกปดิ : ทาน (การให้) ผลของทานนนั้ บงั เกดิ ในทใ่ี ดๆ จติ ของผใู้ หท้ าน ย่อมน้อมไปเพ่ือบริโภคอาหารอย่างดี ย่อมน้อมไปเพ่ือ บริโภคผ้าอย่างดี ย่อมน้อมไปเพื่อบริโภคยานอย่างดี ยอ่ มน้อมไปเพื่อบริโภคกามคุณ ๕ อยา่ งดี แม้บรวิ ารชน ของผู้ใหท้ านน้นั คอื บุตร ภรรยา ทาส คนใช้ คนท�ำงาน กเ็ ชือ่ ฟงั ดี เงย่ี หฟู ัง ไม่ส่งจิตไปท่ีอน่ื . ข้อน้ันเพราะเหตุไร ทง้ั นเ้ี ปน็ เพราะผลของกรรมท่ี ตนกระทำ� โดยเคารพ. คหบด ี ! เร่ืองเคยมีมาแลว้ มพี ราหมณ์ชื่อเวลามะ พราหมณ์ผู้นั้นได้ให้ทานเป็นมหาทานอย่างน้ี คือ ได้ให้ ถาดทองเตม็ ด้วยรูปิยะ ๘๔,๐๐๐ ถาด ถาดรูปยิ ะเต็มดว้ ย ทอง ๘๔,๐๐๐ ถาด ถาดส�ำริดเตม็ ด้วยเงนิ ๘๔,๐๐๐ ถาด ให้ช้าง ๘๔,๐๐๐ เชือก มเี ครื่องประดับล้วนเปน็ ทอง มธี ง ทองคลุมด้วยข่ายทอง ให้รถ ๘๔,๐๐๐ คัน หุ้มด้วยหนัง ราชสีห์ หนังเสือโคร่ง หนังเสือเหลือง ผ้ากัมพลเหลือง มี เคร่ืองประดับล้วนเป็นทอง มีธงทอง คลุมด้วยข่ายทอง ใหแ้ มโ่ คนม ๘๔,๐๐๐ ตวั มนี ำ�้ นมไหลสะดวก ใชภ้ าชนะเงนิ รองน้ำ� นม ใหห้ ญิงสาว ๘๔,๐๐๐ คน ประดบั ดว้ ยแกว้ มณี 67
พุทธวจน - หมวดธรรม และแกว้ กุณฑล ใหบ้ ลั ลงั ก์ ๘๔,๐๐๐ ที่ ลาดด้วยผ้าโกเชาว์ ลาดด้วยขนแกะสีขาว เครื่องลาดมีสัณฐานเป็นช่อดอกไม้ มเี ครอื่ งลาดอยา่ งดที ำ� ดว้ ยหนงั ชะมด มเี ครอ่ื งลาดเพดาน มี หมอนขา้ งแดงทง้ั สอง ใหผ้ า้ ๘๔,๐๐๐ โกฏิ เปน็ ผา้ เปลอื กไม้ ผา้ แพร ผา้ ฝา้ ย เนอ้ื ละเอยี ด จะปว่ ยการกลา่ วไปไยถงึ ขา้ ว นำ้� ของเค้ียว ของบริโภค เครอ่ื งลูบไล้ ทนี่ อน ทใ่ี ห้ดุจไหลไป เหมอื นแมน่ ำ�้ . คหบด ี ! ทา่ นพงึ มคี วามคดิ อยา่ งนวี้ า่ สมยั นนั้ ผอู้ นื่ เปน็ เวลามพราหมณ์ผูท้ ใี่ ห้ทานเป็นมหาทานนน้ั . คหบดี ! แต่ท่านไม่ควรเห็นอย่างนี้ สมัยนั้น เรา เปน็ เวลามพราหมณ์ เราไดใ้ หท้ านนนั้ เปน็ มหาทาน กใ็ นทาน นนั้ ไมม่ ใี ครเปน็ ทกั ขเิ ณยยบคุ คล ใครๆ ไมช่ ำ� ระทกั ขณิ านนั้ ให้หมดจด. คหบดี ! ทานที่บุคคลถวายให้ผู้ถึงพร้อมด้วย ทฏิ ฐิ (โสดาบนั ) ผเู้ ดยี วบรโิ ภค มผี ลมากกวา่ ทานทเ่ี วลาม- พราหมณใ์ หแ้ ล้ว. ทานทบี่ คุ คลถวายใหพ้ ระสกทาคามผี เู้ ดยี วบรโิ ภค มีผลมากกว่า ทานที่บุคคลถวายให้ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ๑๐๐ ทา่ นบริโภค. 68
เปดิ ธรรมท่ีถูกปดิ : ทาน (การให้) ทานท่ีบุคคลถวายให้พระอนาคามีผู้เดียวบริโภค มผี ลมากกวา่ ทานทบ่ี คุ คลถวายใหพ้ ระสกทาคามี ๑๐๐ ทา่ น บริโภค. ทานท่ีบุคคลถวายให้พระอรหันต์ผู้เดียวบริโภค มผี ลมากกวา่ ทานทบ่ี คุ คลถวายใหพ้ ระอนาคามี ๑๐๐ ทา่ น บริโภค. ทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธเจ้ารูปเดียว บรโิ ภค มผี ลมากกวา่ ทานทบี่ คุ คลถวายใหพ้ ระอรหนั ต์ ๑๐๐ รปู บรโิ ภค. ทานทบี่ คุ คลถวายใหพ้ ระอรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธเจา้ บรโิ ภค มผี ลมากกวา่ ทานทบ่ี คุ คลถวายใหพ้ ระปจั เจกพทุ ธเจา้ ๑๐๐ รปู บรโิ ภค. ทานที่บุคคลถวายให้ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็น ประมุขบริโภค มีผลมากกวา่ ทานที่บุคคลถวายให้พระ อรหันตสมั มาสมั พุทธเจา้ บริโภค. การทบี่ คุ คลสรา้ งวหิ ารถวายสงฆผ์ มู้ าจากทศิ ทงั้ ๔ มผี ลมากกวา่ ทาน ทบ่ี คุ คลถวายใหภ้ กิ ษสุ งฆม์ พี ระพทุ ธเจา้ เปน็ ประมุขบรโิ ภค. 69
พทุ ธวจน - หมวดธรรม การทบ่ี คุ คลมจี ติ เลอ่ื มใสถงึ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม และพระสงฆ์เปน็ สรณะ มีผลมากกวา่ ทานทบี่ คุ คลสร้าง วหิ ารถวายสงฆ์ อันมาจากทศิ ทัง้ ๔. การที่บุคคลมีจิตเล่ือมใสสมาทานสิกขาบท คือ งดเวน้ จากปาณาตบิ าต ... จากการดม่ื นำ้� เมา คอื สรุ าและเมรยั อันเป็นท่ีต้ังแห่งความประมาท มีผลมากกว่าการท่ีบุคคล มีจิตเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เปน็ สรณะ. การทบ่ี คุ คลเจรญิ เมตตาจติ โดยทสี่ ดุ แมเ้ พยี งเวลา สูดดมของหอม มีผลมากกวา่ การทบี่ คุ คลมจี ิตเล่อื มใส สมาทานสิกขาบท คือ งดเวน้ จากปาณาติบาต ... และการท่ีบุคคลเจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงเวลา ลัดน้ิวมือ มีผลมากกว่า การที่บุคคลเจริญเมตตาจิต โดยทีส่ ดุ แม้เพยี งเวลาสูดดมของหอม. 70
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทีถ่ กู ปดิ : ทาน (การให)้ มหาทาน 34 -บาลี สตฺตก. อ.ํ ๒๓/๒๔๙/๑๒๙. ภิกษุท้ังหลาย ! ห้วงบุญห้วงกุศล ๘ ประการนี้ น�ำสุขมาให้ มีอารมณ์เลิศ มีสุขเป็นผล เป็นไปเพื่อสวรรค์ เปน็ ไปเพอ่ื สง่ิ ทน่ี า่ ปรารถนา นา่ ใคร่ นา่ พอใจ เพอ่ื ประโยชน์ เกอ้ื กลู เพอ่ื ความสขุ หว้ งบญุ หว้ งกศุ ล ๘ ประการเปน็ อยา่ งไร. ภิกษุท้ังหลาย ! อริยสาวกในธรรมวินัยน้ี ถึง พระพทุ ธเจา้ เปน็ สรณะ นเี้ ปน็ หว้ งบญุ หว้ งกศุ ลประการท่ี ๑ น�ำสุขมาให้ มีอารมณ์เลิศ มีสุขเป็นผล เป็นไปเพื่อสวรรค์ เปน็ ไปเพอื่ สงิ่ ทน่ี า่ ปรารถนา นา่ ใคร่ นา่ พอใจ เพอื่ ประโยชน์ เกือ้ กลู เพ่ือความสขุ . อีกประการหนึ่ง อริยสาวกในธรรมวินัยน้ี ถึง พระธรรมเปน็ สรณะ นเ้ี ปน็ หว้ งบญุ หว้ งกศุ ลประการที่ ๒ ... อีกประการหนึ่ง อริยสาวกในธรรมวินัยน้ี ถึง พระสงฆเ์ ปน็ สรณะ นเ้ี ปน็ หว้ งบญุ หว้ งกศุ ลประการที่ ๓ ... ภิกษุท้ังหลาย ! ทาน ๕ ประการน้ี เป็นมหาทาน อนั บณั ฑติ พงึ รวู้ า่ เปน็ เลศิ มมี านาน เปน็ เชอ้ื สายแหง่ พระอรยิ ะ เป็นของเก่า ไม่กระจัดกระจาย ไม่เคยกระจัดกระจาย อัน บัณฑิตไม่รังเกียจอยู่ จักไม่รังเกียจ อันสมณพราหมณ์ ผูเ้ ปน็ วิญญูไมเ่ กลียด ทาน ๕ ประการเปน็ อย่างไร. 71
พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภิกษุท้ังหลาย ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต ภิกษุท้ังหลาย ! อริยสาวกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ช่ือว่าให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความไม่เบยี ดเบียนแกส่ ัตวห์ าประมาณมิได้ ครน้ั ให้ความไม่มีภยั ความไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียนแก่ สตั วห์ าประมาณมไิ ดแ้ ลว้ ยอ่ มเปน็ ผมู้ สี ว่ นแหง่ ความไมม่ ภี ยั ความไม่มเี วร ความไมเ่ บยี ดเบียน หาประมาณมไิ ด ้ ภิกษุ ทงั้ หลาย ! นเ้ี ปน็ ทานประการที่ ๑ ทเ่ี ปน็ มหาทาน บณั ฑติ พึงรู้ว่าเป็นเลิศ มีมานาน เป็นเช้ือสายแห่งพระอริยะ เป็น ของเกา่ ไมก่ ระจดั กระจาย ไมเ่ คยกระจดั กระจาย อนั บณั ฑติ ไม่รังเกียจ อันสมณพราหมณ์ผู้เป็นวิญญูไม่เกลียด ภิกษุ ท้ังหลาย ! นี้เปน็ หว้ งบญุ หว้ งกุศลประการที่ ๔ ... . อกี ประการหนงึ่ อรยิ สาวกละอทนิ นาทาน งดเวน้ จากอทินนาทาน ... น้ีเปน็ ทานประการที่ ๒ นเี้ ป็นห้วงบุญ ห้วงกุศลประการที่ ๕ ... . อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละกาเมสุมิจฉาจาร งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร ... น้ีเปน็ ทานประการท่ี ๓ ... นีเ้ ป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๖ ... . 72
เปิดธรรมท่ีถูกปิด : ทาน (การให)้ อกี ประการหนง่ึ อรยิ สาวกละมสุ าวาท งดเวน้ จาก มุสาวาท ... น้ีเป็นทานประการท่ี ๔ ... น้ีเป็นห้วงบุญ ห้วงกุศลประการที่ ๗ ... . อกี ประการหนง่ึ อรยิ สาวกละการดม่ื นำ�้ เมา คอื สรุ า และเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท งดเว้นจากการ ดื่มน้�ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นท่ีตั้งแห่งความประมาท ภิกษุท้ังหลาย ! อริยสาวกผู้งดเว้นจากการดื่มน�้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทแล้ว ชื่อว่า ให้ความไม่มภี ัย ความไม่มเี วร ความไม่เบียดเบยี นแกส่ ตั ว์ หาประมาณมิได้ คร้ันให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความไมเ่ บยี ดเบยี นแกส่ ตั วห์ าประมาณมไิ ดแ้ ลว้ ยอ่ มเปน็ ผมู้ ี ส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียน หาประมาณมไิ ด ้ ภกิ ษทุ ้ังหลาย ! นี้เป็นทานประการท่ี ๕ ทเี่ ปน็ มหาทาน บณั ฑติ พงึ รวู้ า่ เปน็ เลศิ มมี านาน เปน็ เชอ้ื สาย แห่งพระอริยะ เป็นของเก่า ไม่กระจัดกระจาย ไม่เคย กระจัดกระจายอันบัณฑิตไม่รังเกียจ จักไม่รังเกียจ อัน สมณพราหมณผ์ เู้ ปน็ วญิ ญไู มเ่ กลยี ด ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! นเ้ี ปน็ ห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๘ น�ำสุขมาให้ มีอารมณ์ 73
พุทธวจน - หมวดธรรม อนั เลศิ มสี ุขเป็นผล เป็นไปเพอื่ สวรรค์ เปน็ ไปเพ่ือสงิ่ ทน่ี า่ ปรารถนานา่ ใคร่ นา่ พอใจ เพอื่ ประโยชนเ์ กอื้ กลู เพอ่ื ความสขุ . ภิกษทุ ง้ั หลาย ! ห้วงบญุ ห้วงกุศล ๘ ประการนี้แล น�ำสุขมาให้ มีอารมณ์เลิศ มีสุขเป็นผล เป็นไปเพ่ือสวรรค์ เปน็ ไปเพอ่ื สง่ิ ทน่ี า่ ปรารถนา นา่ ใคร่ นา่ พอใจ เพอ่ื ประโยชน์ เก้อื กูล เพ่อื ความสุข. 74
พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี ูกปดิ : ทาน (การให้) สดั ส่วนของทาน ศีล ภาวนา 35 -บาลี สตตฺ ก. อ.ํ ๒๓/๒๔๕/๑๒๖. ภิกษุทั้งหลาย ! บุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการน้ีมีอยู่ ๓ ประการเปน็ อยา่ งไร คือ (1) บญุ กิรยิ าวัตถุสำ�เร็จด้วยทาน (2) บุญกริ ิยาวตั ถุสำ�เรจ็ ดว้ ยศลี (3) บญุ กิรยิ าวัตถุสำ�เร็จด้วยภาวนา ภิกษุท้ังหลาย ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ท�ำบุญ- กิริยาวัตถุท่ีส�ำเร็จด้วยทานนิดหน่อย ท�ำบุญกิริยาวัตถุ ที่ส�ำเร็จด้วยศีลนิดหน่อย ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่ส�ำเร็จ ด้วยภาวนาเลย เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็น ผู้มสี ่วนชว่ั ในมนษุ ย.์ ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ท�ำบุญ- กิริยาวัตถุท่ีส�ำเร็จด้วยทานพอประมาณ ท�ำบุญกิริยาวัตถุ ทสี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี พอประมาณ ไมเ่ จรญิ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ด้วยภาวนาเลย เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็น ผมู้ ีสว่ นดใี นมนษุ ย.์ 75
พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ท�ำบุญ- กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยทานมปี ระมาณยงิ่ ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ทสี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี มปี ระมาณยง่ิ ไมเ่ จรญิ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ สี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอ่ื ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย แหง่ เทวดาเหล่าจาตมุ หาราชิกา. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! มหาราชทั้ง ๔ นั้น เพราะทำ� บุญ- กิริยาวัตถุที่ส�ำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ท�ำบุญกิริยาวัตถุ ที่ส�ำเร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก ย่อมก้าวล่วงพวกเทวดาเหล่า จาตุมหาราชิกาโดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทพิ ย์ กล่ินทิพย์ รสทพิ ย์ โผฏฐพั พทพิ ย์. ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ท�ำบุญ- กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยทานมปี ระมาณยงิ่ ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ทสี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี มปี ระมาณยงิ่ ไมเ่ จรญิ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอื่ ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย แหง่ เทวดาเหลา่ ดาวดงึ ส.์ ภิกษทุ ้ังหลาย ! ทา้ วสกั กะจอมเทพในดาวดึงส์นั้น กระทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยทานเปน็ อดเิ รก ทำ� บญุ กริ ยิ า- วตั ถทุ สี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี เปน็ อดเิ รก ยอ่ มกา้ วลว่ งพวกเทวดาเหลา่ ดาวดงึ สโ์ ดยฐานะ ๑๐ ประการ คอื อายทุ พิ ย์ … โผฏฐพั พทพิ ย.์ 76
เปิดธรรมทถ่ี กู ปดิ : ทาน (การให)้ ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ท�ำบุญ- กริ ยิ าวตั ถทุ สี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยทานมปี ระมาณยงิ่ ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ทสี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี มปี ระมาณยง่ิ ไมเ่ จรญิ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอื่ ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย แหง่ เทวดาเหลา่ ยามา. ภิกษุทั้งหลาย ! ท้าวสยามเทพบุตรในยามาน้ัน ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยทานเปน็ อดเิ รก ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ทสี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี เปน็ อดเิ รก ยอ่ มกา้ วลว่ งพวกเทวดาเหลา่ ยามา โดยฐานะ ๑๐ ประการ คอื อายุทิพย์ … โผฏฐพั พทพิ ย์. ภิกษุท้ังหลาย ! บุคคลบางคนในโลกน้ี ท�ำบุญ- กริ ยิ าวตั ถทุ สี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยทานมปี ระมาณยง่ิ ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ี่ สำ� เร็จด้วยศีลมปี ระมาณย่งิ ไม่เจรญิ บญุ กริ ยิ าวัตถทุ ี่สำ� เรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอ่ื ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย แหง่ เทวดาเหล่าดสุ ติ . ภิกษุทั้งหลาย ! ท้าวสันดุสิตเทพบุตรในดุสิตนั้น ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ สี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยทานเปน็ อดเิ รก ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ทสี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี เปน็ อดเิ รก ยอ่ มกา้ วลว่ งพวกเทวดาเหลา่ ดสุ ติ โดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายุทิพย์ ... โผฏฐพั พทิพย์. ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลบางคนในโลกน้ี ท�ำบุญ- กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยทานมปี ระมาณยง่ิ ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถุ 77
พทุ ธวจน - หมวดธรรม ทสี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี มปี ระมาณยง่ิ ไมเ่ จรญิ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอ่ื ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย แห่งเทวดาเหล่านมิ มานรด.ี ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ทา้ วสนุ มิ มติ เทพบตุ รในนมิ มานรดี นนั้ ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ สี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยทานเปน็ อดเิ รก ทำ� บญุ - กริ ยิ าวตั ถทุ สี่ ำ� เรจ็ ดว้ ยศลี เปน็ อดเิ รก ยอ่ มกา้ วลว่ งพวกเทวดา เหล่านิมมานรดีโดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายุทิพย์ ... โผฏฐัพพทพิ ย์. ภิกษุท้ังหลาย ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ท�ำบุญ- กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี ำ� เรจ็ ดว้ ยทานมปี ระมาณยงิ่ ทำ� บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ่ี ส�ำเรจ็ ดว้ ยศลี มปี ระมาณยง่ิ ไมเ่ จริญบุญกิรยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำเรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอื่ ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย แหง่ เทวดาเหล่าปรนมิ มติ วสวัตต.ี ภิกษุทั้งหลาย ! ท้าวปรนิมมิตวสวัตตีเทพบุตร ในปรนิมมิตวสวัตตีน้ัน ท�ำบุญกิริยาวัตถุท่ีส�ำเร็จด้วยทาน เป็นอดิเรก ท�ำบุญกิริยาวัตถุท่ีส�ำเร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก ย่อมก้าวล่วงพวกเทวดาเหล่าปรนิมมิตวสวัตตีโดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายทุ ิพย์ ... โผฏฐัพพทพิ ย์. ภิกษทุ ้งั หลาย ! นแี้ ล บญุ กิริยาวตั ถุ ๓ ประการ. 78
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถ่ี ูกปดิ : ทาน (การให)้ ความสงสยั ในทานของเทวดา 36 -บาลี สคาถ. ส.ํ ๑๕/๔๔/๑๓๗-๑๓๘. -บาลี สคาถ. ส.ํ ๑๕/๔๖/๑๔๕-๑๔๖. เทวดาทลู ถามวา่ บคุ คลใหส้ ง่ิ อะไรชอ่ื วา่ ใหก้ �ำ ลงั ใหส้ ง่ิ อะไรชอ่ื วา่ ใหว้ รรณะ ใหส้ ง่ิ อะไรชอื่ วา่ ใหค้ วามสขุ ใหส้ งิ่ อะไรชอ่ื วา่ ใหจ้ กั ษุ และบคุ คล เชน่ ไรชอ่ื วา่ ใหท้ กุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง ขา้ พระองคท์ ลู ถามพระองค์ ขอพระองคต์ รสั บอกแกข่ า้ พระองคด์ ว้ ยเถดิ . พระผมู้ พี ระภาคตรสั ตอบวา่ บคุ คลใหอ้ าหารชอ่ื วา่ ให้ กำ� ลงั ใหผ้ า้ ชอ่ื วา่ ใหว้ รรณะ ใหย้ านพาหนะชอื่ วา่ ใหค้ วามสขุ ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่าให้จักษุ และผู้ท่ีให้ท่ีอยู่อาศัยชื่อว่า ใหท้ กุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง สว่ นผทู้ พี่ รำ�่ สอนธรรมชอ่ื วา่ ใหอ้ มตะ. เทวดาทลู ถามวา่ ชนพวกไหนมบี ญุ เจรญิ ในกาลทกุ เมอ่ื ทง้ั กลางวนั และกลางคนื ชนพวกไหนตง้ั อยใู่ นธรรม สมบรู ณด์ ว้ ยศลี เปน็ ผไู้ ปสวรรค.์ พระผมู้ พี ระภาคตรสั ตอบวา่ ชนเหลา่ ใดสรา้ งอาราม ปลกู หมไู่ ม้ สรา้ งสะพาน และชนเหลา่ ใดใหโ้ รงนำ�้ เปน็ ทานและ บอ่ นำ้� ทงั้ บา้ นทพี่ กั อาศยั ชนเหลา่ นนั้ ยอ่ มมบี ญุ เจรญิ ในกาล ทกุ เมอ่ื ทงั้ กลางวนั และกลางคืน ชนเหล่านั้นตัง้ อยูใ่ นธรรม สมบรู ณด์ ว้ ยศีล เปน็ ผไู้ ปสวรรค.์ 79
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปดิ : ทาน (การให้) ผปู้ ระสบบญุ เป็นอันมาก 37 -บาลี ปฺ จก. อ.ํ ๒๒/๒๗๑/๑๙๙. ภิกษุท้ังหลาย ! นักบวชผู้มีศีล เข้าไปสู่สกุลใด มนุษยท์ ัง้ หลายในสกุลนนั้ ย่อมประสบบุญเปน็ อันมากดว้ ย ฐานะ ๕ อย่าง ๕ อย่างเปน็ อย่างไร คอื (1) ในสมยั ใด จติ ของมนษุ ยท์ ง้ั หลาย ยอ่ มเลอื่ มใส เพราะได้เห็นนักบวชผู้มีศีล ซ่ึงเข้าไปสู่สกุล ในสมัยนั้น สกลุ นัน้ ชอ่ื ว่า ปฏบิ ัติข้อปฏิบัติที่เปน็ ไปเพื่อสวรรค์ (2) ในสมยั ใด มนษุ ยท์ ง้ั หลาย พากนั ตอ้ นรบั กราบ ไหว้ ใหอ้ าสนะแกน่ กั บวชผมู้ ศี ลี ซง่ึ เขา้ ไปสสู่ กลุ ในสมยั นน้ั สกลุ นน้ั ชอ่ื วา่ ปฏบิ ตั ขิ อ้ ปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ ไปเพอ่ื การเกดิ ในสกลุ สงู (3) ในสมัยใด มนุษย์ทั้งหลาย กำ�จัดมลทินคือ ความตระหนเ่ี สยี ไดใ้ นนกั บวชผมู้ ศี ลี ซงึ่ เขา้ ไปสสู่ กลุ ใน สมยั นน้ั สกลุ นน้ั ชอ่ื วา่ ปฏบิ ตั ขิ อ้ ปฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ ไปเพอ่ื การได้ เกยี รติศกั ด์ิอันใหญ่ (4) ในสมยั ใด มนษุ ย์ทง้ั หลาย ยอ่ มแจกจา่ ยทาน ตามสติ ตามกำ�ลังในนักบวชผมู้ ีศลี ซึ่งเขา้ ไปสู่สกุล ใน สมยั นน้ั สกลุ นน้ั ชอ่ื วา่ ปฏบิ ตั ขิ อ้ ปฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ ไปเพอื่ การได้ โภคทรพั ย์ใหญ่ 80
เปดิ ธรรมที่ถูกปิด : ทาน (การให้) (5) ในสมัยใด มนุษย์ท้ังหลาย ย่อมไต่ถาม สอบสวน ย่อมฟงั ธรรมในนักบวชผู้มศี ลี ซึง่ เขา้ ไปสู่สกลุ ในสมยั นน้ั สกลุ นนั้ ชอื่ วา่ ปฏบิ ตั ขิ อ้ ปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ ไปเพอ่ื การ ไดป้ ญั ญาใหญ่ ภิกษุท้ังหลาย ! นักบวชผู้มีศีล เข้าไปสู่สกุลใด มนุษย์ท้ังหลายในสกุลน้ัน ย่อมประสบบุญเป็นอันมาก ด้วยฐานะ ๕ อย่างเหล่าน้ีแล. 81
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทีถ่ กู ปิด : ทาน (การให)้ ผลของการตอ้ นรบั บรรพชติ 38 ดว้ ยวธิ ที ต่ี า่ งกนั -บาลี สตตฺ ก. อ.ํ ๒๓/๔๐๓/๒๒๓. ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! กใ็ นราตรนี ้ี เมอื่ ปฐมยามลว่ งไปแลว้ เทวดาเป็นอันมากมีผิวพรรณงดงาม ยังวิหารเชตวันท้ังสิ้น ใหส้ ว่างไสว เข้ามาหาเราถงึ ทอี่ ยู่ ไหว้เราแล้วยนื อยูณ่ ทคี่ วร สว่ นขา้ งหนง่ึ ครน้ั แลว้ ไดก้ ลา่ วกะเราวา่ “ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ! บรรพชติ ทงั้ หลายเขา้ มายงั เรอื นของขา้ พระองคท์ งั้ หลาย เมื่อเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน ข้าพระองค์เหล่านั้น ลุกรับ แต่ไม่กราบไหว้ ข้าพระองค์เหล่านั้น มีการงานยังไม่ บริบูรณ์ มีความกินแหนงใจ มีความเดือดร้อนตามใน ภายหลัง เข้าถึงหมู่เทวดาช้ันเลว”. ภิกษุทั้งหลาย ! เทวดาอีกพวกหนึ่งเป็นอันมาก เข้ามาหาเราแล้วไดก้ ลา่ วว่า “ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ! บรรพชติ ทง้ั หลายเขา้ มา ยงั เรอื นของขา้ พระองคท์ ง้ั หลายเมอื่ เปน็ มนษุ ยอ์ ยใู่ นกาลกอ่ น ข้าพระองค์เหล่านั้น ลุกรับ กราบไหว้ แต่ไม่ให้อาสนะ ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั มกี ารงานไมบ่ รบิ รู ณ์ มคี วามกนิ แหนงใจ มคี วามเดอื ดรอ้ นตามในภายหลงั เขา้ ถงึ หมเู่ ทวดาชน้ั เลว”. “...ข้าพระองค์เหล่าน้ัน ลุกรับ กราบไหว้และ ใหอ้ าสนะ แตไ่ มแ่ บง่ ปนั ของใหต้ ามสามารถ ตามกำ� ลงั ...”. 82
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244