Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27

สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27

Published by Sarapee District Public Library, 2020-10-26 04:30:46

Description: สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27
โดย ดร.สนอง วรอุไร

Keywords: ธรรมะ,สนทนาภาษาธรรม,ดร.สนอง วรอุไร

Search

Read the Text Version

สนทนาภาษาธรรม ๒๗เ ล่ ม ดร.สนอง วรอไุ ร

สนทนาภาษาธรรม เล�ม ๒๗ ต อ บ ป ญ ห า ธ ร ร ม โ ด ย ดร. สนอง วรอุไร จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com

ชมรมกลั ยาณธรรม หนงั สือดลี �าดบั ที่ ๓ ๓ ๑ สนทนาภาษาธรรม เล�ม ๒๗ ตอบปญ หาธรรม โดย อาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร พิมพครัง้ ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ จํานวนพมิ พ ๓,๐๐๐ เลม่ จัดพมิ พถ วายเปน พทุ ธบูชาโดย ชมรมกลั ยาณธรรม ๑๐๐ ถนนประโคนชยั ตา� บลปากน�า้ อา� เภอเมือง จงั หวดั สมุทรปราการ ๑๐๒๗๐ โทรศัพท์ ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ ออกแบบปก คนข้างหลัง รูปเลม ทพิ วรรณ สายรักษา เพลท Canna Graphic โทรศัพท์ ๐๘-๖๓๑๔-๓๖๕๑ พิมพ บริษทั ขุมทองอุตสาหกรรมและการพิมพ์ จ�ากัด โทรศพั ท์ ๐-๒๘๘๕-๗๘๗๑-๓ สพั พทานงั ธัมมทานัง ชนิ าติ การใหธ้ รรมะเป็นทาน ย่อมชนะการใหท้ ง้ั ปวง www.kanlayanatam.com Facebook : kanlayanatam

ชมรมกลั ยาณธรรม ขอนอ มถวายเปน พทุ ธบชู า และกราบบชู าอาจรยิ คณุ แด ทา นอาจารย ดร. สนอง วรอไุ ร

อ นุ โ ม ท น า ก ถ า จากการอ่านหนงั สือสนทนาภาษาธรรม เล่มที่ ๒๗ ได้ รวบรวมเอา ค�าถาม - ค�าตอบ ในทางธรรมมาจัดพิมพ์ไว้เป็น รูปเล่มให้ชวนอ่าน คา� พูดของครูบาอาจารย์ (พระเทพสิทธิมนุ ี หรอื เจา้ คณุ โชดก) ทไ่ี ดก้ ลา่ วไวก้ บั หมภู่ กิ ษุ ผมู้ าปฏบิ ตั ธิ รรม เมอ่ื ปพ ทุ ธศักราช ๒๕๑๘ ณ วดั มหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ กรงุ เทพฯ ในครงั้ กระโนน้ ท่านเจ้าคุณฯ ได้กลา่ วว่า ภกิ ษทุ มี่ าปฏิบัติธรรม กับอาตมา หากพฒั นาจิตให้เขา้ ถึงธรรมไดร้ อ้ ยละสอง ก็นบั ว่า โชคดขี องพระพทุ ธศาสนา คา� กลา่ วนผ้ี จู้ ดั ทา� หนงั สอื ฯ (ผตู้ อบปญ หาธรรม) พจิ ารณา แลว้ เห็นว่าเปน็ ความจรงิ จงึ ม่นั ใจว่า หลักธรรมในพทุ ธศาสนา จะไม่เสื่อมลงก่อนส้ินพุทธกาล (๕๐๐ ป) จึงอนุโมทนาในกุศล กรรมของฆราวาสท่ีสามารถพัฒนาจิตได้ ขอให้ธรรมวินัยสถิต อยกู่ บั ใจตลอดไปจนสน้ิ อายุขัย พร้อมกันน้ี ขอให้ผู้ร่วมกระบวนกุศลกรรม (จัดท�า หนังสือฯ) ทุกท่านจงได้รับอานิสงส์แห่งบุญใหญ่น้ี จงทุกท่าน ทกุ คนเทอญ ดร.สนอง วรอุไร

คํ า นํ า ข อ ง ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม นับว่าเป็นเวลานานนับทศวรรษที่ชมรมกัลยาณธรรม ได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร เปด คอลัมน์สนทนาภาษาธรรมข้ึนในเว็บไซต์กัลยาณธรรม เพ่ือ เปดโอกาสให้สาธุชนผู้ใฝในธรรม ต้องการแสงสว่างทางธรรม ในการด�าเนินชีวิตและแก้ไขปญหาต่างๆ รวมทั้งเรื่องเก่ียวกับ การประพฤติปฏิบัติธรรมท่ีติดขัดข้องใจหรือต้องการอุบาย ธรรมเพิ่มเติม ซึ่งท่านอาจารย์ก็ได้ให้ความเมตตาด้วยจิต วิญญาณของความเป็นครูผู้อุทิศตนเพื่อตอบแทนคุณพระ- รัตนตรัยมาอย่างต่อเน่ือง คณะศิษย์ชมรมกัลยาณธรรมและ ผู้ใฝในธรรมทกุ ทา่ นตา่ งส�านกึ ในพระคุณของท่านอาจารย์ และ ขอกราบขอบพระคณุ ทา่ นอาจารย์ผู้เมตตาย่งิ มา ณ ทนี่ ้ี สนทนาภาษาธรรม เลม่ ที่ ๒๗ น้ี ไดส้ �าเร็จเป็นหนงั สือ ได้ด้วยความร่วมมือของกัลยาณมิตรทุกท่านที่ร่วมใจกันจัดท�า

รวมท้ัง คุณเฉลิมพันธุ์ สมัครพันธุ์ เว็บมาสเตอร์ของชมรม และคุณภคกรณ์ รุจาธนนันท์ ผู้พิมพ์ค�าถามค�าตอบท่ีส่งมา จากท่านอาจารย์ ขอขอบคุณกัลยาณธรรมผู้มีความเพียร ม่ันคงศรัทธา เหนืออื่นใดคือความเมตตาและแสงปญญาจาก ท่านอาจารยท์ ี่พวกเราไมป่ ล่อยให้สูญเปลา่ ขอขอบคณุ ทกุ ท่าน ผู้ถามปญหาเข้ามาซึ่งเป็นการเอื้อเฟอแก่ผู้อ่ืนที่ไม่ได้ถามด้วย ตัวเอง ขอน้อมถวายธรรมทานเป็นพุทธบูชาและอาจริยบูชา แดท่ า่ นอาจารย์ ดร.สนอง วรอไุ รใหท้ า่ นมคี วามสขุ ในสนั ตธิ รรม อนั บรสิ ทุ ธ์ิ สุขภาพกายใจแข็งแรง สมความปรารถนาในธรรม ท่ีอธิษฐานมาเพื่อช่วยเหลือเพ่ือนสหธรรมิกไปสู่เส้นทางท่ี จบวัฏฏะ จนถึงที่สุดแห่งทุกข์คือพระนิพพาน เทอญ กราบอนุโมทนาและขอบพระคุณทุกทา่ น ทพญ. อัจฉรา กล่นิ สุวรรณ ประธานชมรมกลั ยาณธรรม

ธ ร ร ม ส า ร บั ญ ๑. ผ้ใู หญบ่ อกให้ไปทา� บุญ ๑๒ ๒. ห้ามหรือให้งดเว้น ๑๓ ๓. อยากปฏบิ ตั ิธรรม ๑๕ ๔. เลอื กใหถ้ ูก ๑๖ ๕. ร้แู ละมีสจั จะ ๑๘ ๖. ปวารณาเปน็ ศษิ ย์ ๑๘ ๗. รจู้ า� หรือ รแู้ จง้ ๒๐ ๘. โง่ หรือ ฉลาด ๒๒ ๙. ไม่เคารพพ่อแม่ ๒๓ ๑๐. สง่ิ ทช่ี ีวติ ตอ้ งการ ๒๔ ๑๑. ดคู ุณยายเปน็ ครูสอนใจ ๒๗ ๑๒. สติสัมปชัญญะอ่อน ๒๘ ๑๓. ทา� ความดียอ่ มมมี ารขดั ขวาง ๓๒ ๑๔. โชคดที ่มี ีมารอยู่ใกล้ ๓๓ ๑๕. เพียงแคร่ ู้ แต่ยงั ไม่มี ๓๕ ๑๖. กรรมฝงลกึ ในดวงจติ ๓๗ ๑๗. ต้องมีศลี และสติ ๓๙ ๑๘. รไู้ ม่จริง ๔๒ ๑๙. กลวั พญายมราช ๔๓

๒๐. แพทย์จา่ ยยาฆ่าเชื้อ บาปไหม ๔๔ ๒๑. ดเู ขาเป็นครู ๔๕ ๒๒. แบกของหนัก ๔๘ ๒๓. อธิษฐานซิครบั ๔๙ ๒๔. กรรมเปน็ โมฆะหรือไม่ ๕๐ ๒๕. กรรมเก่าให้ผล ๕๑ ๒๖. ศลี ไมบ่ ริสุทธิ์ ๕๔ ๒๗. คนจติ อ่อน ๕๖ ๒๘. ไม่พ้นวัฏฏะ ๕๙ ๒๙. เริ่มปล่อยวางทุกข์ ๖๒ ๓๐. มารขดั ขวาง ๖๕ ๓๑. ไมร่ จู้ ริงจึงสงสยั ๖๘ ๓๒. ยงั ไม่พ้นทุกข์ ๗๓ ๓๓. อยากรตู้ ้องพสิ จู น์ ๗๕ ๓๔. ชอบทะเลาะวิวาท ๗๗ ๓๕. คนเร่ิมจะดี ๘๑ ๓๖. อกุศลวิบากใหผ้ ล ๘๒ ๓๗. ยงั แพม้ าร ๘๕ ๓๘. ก้าวลว่ งในมรณกรรมคนอน่ื ๘๗ ๓๙. บารมียงั ออ่ น ๙๑ ๔๐. ผแู้ พ้กเิ ลสมาร ๙๓ ๔๑. ร้แู ตย่ งั ไมม่ ี ๙๔ ๔๒. ช่วยตวั เองใหพ้ น้ อกศุ ลวิบาก ๙๗ ๔๓. ทอ้ แท้ในการปฏิบัตธิ รรม ๑๐๐

๔๔. หนีกรรมไม่พ้น ๑๐๑ ๔๕. เม่ือกายและใจมีบุญ ๑๐๕ ๔๖. จติ เร่มิ ดี ๑๐๖ ๔๗. ไม่ผิดศลี แตผ่ ิดกฎหมาย ๑๐๘ ๔๘. ตณั หาของผลู้ ว่ งลบั ๑๐๙ ๔๙. อกศุ ลวิบากยังคงอยู่ ๑๑๐ ๕๐. สอนด้วยศรทั ธา ไม่บังคับ ๑๑๑ ๕๑. คนแพ้มาร ๑๑๕ ๕๒. คนตกงาน ๑๑๗ ๕๓. ความเห็นแก่ตวั ๑๑๙ ๕๔. ร�่ำรวยเพราะใหท้ รัพย์ ๑๒๓ ๕๕. อกุศลวบิ าก ๑๒๕ ๕๖. เหตุเกดิ เพราะรู้ไม่จรงิ ๑๒๖ ๕๗. คดิ ไม่ดี ๑๒๘ ๕๘. รู้ทันมาร ๑๒๙ ๕๙. ตดิ โลกียะ ๑๓๑ ๖๐. ปฏิบตั ิธรรมผดิ ทาง ๑๓๒ ๖๑. ปรบั แก้ไขเลก็ นอ้ ย ๑๓๔ ๖๒. จติ ขาดสติ ๑๓๕ ๖๓. ชอบตกปลาตกกุง้ ๑๓๗ ๖๔. ตอ้ งเลือกเอง ๑๓๙ ๖๕. อธษิ ฐานกอ่ นเดนิ ทาง ๑๔๑ ๖๖. รตู้ ัวเมือ่ ถกู หลอก ๑๔๒ ๖๗. ท�ำความดยี ่อมมมี ารขดั ขวาง ๑๔๔

๖๘. ไตรสกิ ขาชว่ ยได้ ๑๔๙ ๖๙. จิตเป็นทาสของกาม ๑๕๑ ๗๐. อำ� นาจของกิเลส ๑๕๔ ๗๑. ท�ำบญุ แบบไหน ๑๕๕ ๗๒. เปน็ พุทธศาสนกิ ชนที่ดีงาม ๑๕๖ ๗๓. ประกันชวี ิต ๑๕๙ ๗๔. ชวี ิตมีความสวัสดี ๑๖๑ ๗๕. ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า ๑๖๓ ๗๖. เห็นถูกจงึ วางได้ ๑๖๔ ๗๗. คำ� แนะนำ� ท่ีเปน็ บุญ ๑๗๐ ๗๘. ทำ� ตามใจแม่ ๑๗๒ ๗๙. จริงไหม ๑๗๖ ๘๐. พฤตกิ รรมต่างจากคนอ่นื ๑๗๘ ๘๑. ผลที่ผดิ ทาง ๑๘๐ ๘๒. ไปเกดิ ในกามภพ ๑๘๔ ๘๓. ไมก่ ลา้ นั่งสมาธิ. ๑๘๗ ๘๔. วางตวั อย่างไร ๑๘๘ ๘๕. ติดสมมติ ๑๙๓ ๘๖. เลือกทางไหน ๑๙๕ ๘๗. หมอยังต้องตาย ๑๙๙ ๘๘. เรอื่ งของเขา ๒๐๑ ๘๙. อยา่ ไปบอกนอ้ ง ๒๐๓

เ ป ด หŒ อ ง ส น ท น า

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ๑. ผใู หญบ อกใหไปทาํ บญุ คําถาม สวัสดีคะ อาจารย คอื หนมู ีเร่ืองท่อี ยากจะสอบถามนะ คะ เร่ืองมอี ยวู าแฟนหนูเกิดวนั ท่ี ๒๓ กนั ยายน คะ ปน้ีก็ ๒๕ ป คะ คอื กอนหนา ทจ่ี ะถงึ วันเกิด ๒ วนั ตอนกลางคืนหนมู คี วาม รูสึกวาแฟนมาอยูกับหนตู ลอด แลวหนกู ม็ ั่นใจวา มนั ไมใชความ ฝน มันเปน เรอ่ื งจรงิ ที่หนูสมั ผัสได มีความรูสกึ แบบนี้มาตลอด ต้ังแตวันท่ี ๒๑ จนถึงวันนี้หนูก็มีความรูสึกแบบน้ีตลอดเวลา นอนหลบั ตอนกลางคนื หนูไมสบายใจเลยคะ อีกอยางปนี้แฟน ๑๒ หนูก็ครบเบญเพศพอดี ทําใหหนูเปนกังวลอยางมากที่หนูมี ความรูสกึ แบบนี้ ทง้ั ๆ ทแี่ ฟนหนกู ย็ งั มีชวี ิตอยู เลาใหผใู หญฟ ง ก็ไมมีใครสบายใจเลยคะ ผูใหญก็บอกใหไปทําบุญ ไหวพระ สวดมนต ชวยตอบหนูหนอยนะคะ วาท่ีหนูมีความรูสึกแบบนี้ เพราะอะไร หรอื เปน เพราะวา ดวงจติ ของแฟนมาหาจรงิ ๆ ตามที่ หนูรูสึกได แลวอะไรไมดีมันจะเกิดขึ้นกับแฟนหนูหรือเปลาคะ หนคู วรจะทําอยา งไรไดบ าง กราบขอบพระคณุ เปนอยางสูงคะ คาํ ตอบ สงิ่ ทผ่ี ใู หญบอกใหไปทําบญุ ไหวพ ระ สวดมนตน ัน้ ถกู ตอง แลว แตควรเพ่ิมการพัฒนาจิต ดวยวิธีเจริญอานาปานสติ หลังสวดมนต แลวอุทิศบุญกุศลใหเจากรรมนายเวรของตน

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com เม่ือทํากิจกรรมดังกลาวแลวเสร็จ เร่ืองท่ีถามไปในตอนทาย ไมควรเอาจิตไปจดจอ แตควรระลึกอยูกับปจจุบันนั้นดีท่ีสุด ๒. หามหรือใหง ดเวน คําถาม ๑๓ ผมสงสัยวาศีลหาใชคําวา งดเวน ซึ่งหมายถึงไมกระทํา ตามหรือไมดําเนินการตามปรกติ แตทําไมปจจุบันจึงกลาย เปนการหามทําซะทีเดียว ก็ไมใชวาไมดี แตเทาที่ทราบมา หลักพุทธ การกระทําจะผิดบาปหรือไมข้ึนอยูกับเจตนามิใช หรือ จึงทําใหผมอดคิดไมไดวาหากเปนการหามเด็ดขาด ศาสนาพุทธจะตางจากศาสนาเชนท่ีเกิดขึ้นมาในยุคเดียวกับ ศาสนาพุทธอยางเรา เพราะศาสนาเชนน้ัน ถึงขนาดท่ีวาคน ทําไรไถนาเกิดไปฆามดแมลงในแปลงนา แมไมตั้งใจก็เปน บาป ผมจึงถอื โอกาสขอความรูจากทานอาจารยวา การกระทาํ เชนใดจึงกอใหเกิดบาปขึ้น แนนอนวาทุกการกระทํามักมีผล ตามมาทั้งส้ิน ผมเชื่อวาแนวทางของพุทธคงไมไดปฏิบัติยาก ถึงขนาดมนุษยปุถุชนปฏิบัติไมไดเปนแนแท มิฉะนั้นแลวพุทธ ศาสนาคงไมยืนยงมาไดสองพันกวาปและคงมีอายุสืบตอไป เพียงแตอาจจะมีการยายพ้ืนท่ีที่มีคนนับถือไปดังเชนจากชมพู ทวีปมาสูเอเซียอาคเนย และอนาคตอาจจะไปยังฝงตะวันตก สุดทายปจจุบันนี้มีธรรมเกิดขึ้นหลากหลายสํานักหลากหลาย

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร แนวทาง ท้ังที่ทุกคนก็เปนนักบวชในพุทธศาสนา เชนน้ีผมจะ ทราบไดอยางใดวาคําสอนของพระพุทธองคแทจริงเปนเชนใด ถาผมลวงเกินอาจารย ทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ดวยความต้ังใจก็ดี ไมต้งั ใจก็ดี ขออโหสกิ รรมจากอาจารยดวย ครบั ดวยความเคารพอยางสงู คาํ ตอบ ศีล เปนวินัยที่พระพุทธเจาทรงบัญญัติไว เปนขอปฏิบัติ หรือขอบังคับ ซึ่งมีความหมายในทํานองเดียวกันกับคําวา “หาม” แตมิใชบัญญัติวา “หามเด็ดขาด” ผูถามปญหาทราบ ๑๔ มาวา หลักการทางพุทธใหดูท่ีเจตนาเปนหลักน้ัน ถูกตองใน กรณีท่ีเปนการชดใชหนี้เวรกรรม แมมิไดมีเจตนาละเมิดศีล หากผูถ กู กระทาํ มีการผูกพยาบาทหรอื จองเวรเกดิ ขนึ้ ผูกระทาํ ตองรับผลแหงบาปน้ันดวย จึงสรุปไดวา การกระทําใดที่มิได มเี จตนาแตม กี ารผกู พยาบาทเกดิ ขนึ้ ถอื วา การกระทาํ นนั้ เปน บาปได พระพุทธโคดมไดมอบกาลามสูตรใหกับชาวกาลามะ ไวใชเปนหลักตัดสินวา ส่ิงที่สัมผัสน้ัน เปนจริงหรือเปนเท็จ ผูตอบปญหาบอกวา ผูใดพัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนเขาถึง อภิญญา ๕ ได และพัฒนาจิต (วิปสสนาภาวนา) จนเขาถึง ญาณ ๑๖ ไดแลว ผูนัน้ ยอ มรไู ดดว ยตวั เองวา สง่ิ ท่ไี ดย ิน สิ่งท่ี ไดฟง ส่ิงที่ไดเห็น ฯลฯ น้ันถูกตรง หรือคลาดเคลื่อนไปจาก ธรรมในพุทธศาสนา

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๓. อยากปฏิบตั ิธรรม คําถาม ๑๕ เนื่องดวยกระผมกําลังศึกษา ที่ จ.นครราชสีมา มีความ ตองการท่ีจะปฏิบัติธรรมกรรมฐานเปนอยางย่ิง เนื่องจาก ไมเคยปฏิบัติที่ไหนมากอน จึงใครขอความอนุเคราะหทาน อาจารย ชวยแนะสถานท่ีปฏิบัติให เพ่ือเปนประโยชนในกาล ขางหนา เน่ืองจากอาจารยน ั้นเปนสิ่งสาํ คัญตอศษิ ย เนื่องจาก จริตนิสัยของแตละคนนั้นตางกัน จึงขอความอนุเคราะหทาน อาจารยดวยครับ และเม่ือเรียนจบ จะขออุปสมบทครับ ชวย แนะนําสถานท่ีอุปสมบทปฏิบัติกรรมฐานดวยครับ สาธุ คําตอบ สาธุ ท่ีผูถามปญหามองไปถึงประโยชนของชีวิตในกาล ขางหนา แตควรมองหรือเอาจิตอยูกับปจจุบันนั้นดีที่สุด ดวย การสวดมนตกอนนอน หลังสวดมนตปฏิบัติจิตตภาวนา ตาม วิธีการท่ีใชอยูในปจจุบัน วิธีวัดวาวิธีการใดถูกกับจริต คือ มี จิตตั้งมั่นเปนสมาธิ วิธีการน้ันใชได วิธีการใดทําแลวเกิด ปญญาเหน็ แจง (ญาณ ๑๖) วิธีการนนั้ ใชไ ด เมือ่ สองกิจกรรม แลว เสรจ็ ตองอทุ ิศบุญกศุ ลใหกบั เจา กรรมนายเวรทุกวัน จาก ผลงานวิจัยของฝร่ังท่ีทําไวในตางประเทศพบวา ผูที่ประสบ ความสําเร็จในชีวิต ใชปญญาทางโลกรอยละ ๒๐ แตใช

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร คุณธรรมมากถึงรอยละ ๘๐ คุณธรรมเกิดจากการประพฤติ จรยิ ธรรม เชน จรยิ ธรรมของลกู ตอ พอ แม จรยิ ธรรมของศษิ ย ตอครู จริยธรรมพลเมืองตอประเทศชาติ ฯลฯ ในระหวาง ท่ีผูตอบปญหาศึกษาอยูตางประเทศ ไดพัฒนาจิตใหเปนสมาธิ ผลปรากฏวา คลนื่ สมองเปลีย่ น แลว ทําใหความจําเพิ่ม เรียน ปริญญาเอกจึงสําเร็จไดงาย หากผูถามปญหาจะพิสูจนก็ อนุโมทนาดวย ผูถามปญหาตั้งใจจะอุปสมบทเม่ือเรียนจบ จะบวชกับใคร จะปฏิบัติธรรมท่ีไหน ใหตั้งจิตปรารถนา (อธิษฐาน) ดวยตัวเองน้ันดีที่สุด ๑๖ ๔. เลือกใหถ ูก คาํ ถาม ดฉิ ันมขี อสงสยั อยากจะเรียนถามวา ๑. การท่คี นเราอยากมคี ูครองและขณะเดียวกันก็ไมอยาก มีคูครองทุกภพทุกชาติ จะตองทําบุญดวยวิธีการใด ตาม หลักพุทธศาสนา จึงจะสมความปรารถนา ๒. การท่ีคนเราไมอยากพบเจอกับคนบางคนในชาติน้ี จะตองทําบุญดวยวิธีใดเพื่อท่ีจะไมตองพบเจอในชาติหนา และชาติตอๆ ไป

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com คาํ ตอบ ๑๗ (๑) พระพทุ ธโคดมตรัสไวในทาํ นองทวี่ า ความรกั เกดิ จาก เหตเุ คยอยรู ว มกนั มาในภพกอ น และภพปจ จบุ นั ยงั ไดเ กอื้ กลู กนั ทส่ี าํ คญั ยงิ่ กวา นนั้ พระองคย งั ไดต รสั ไวว า “มนษุ ยม ที รพั ยส มบตั ิ เปนหวงผกู ขา มีสามี - ภรรยาเปนหวงผูกมือ มบี ุตร - ธดิ าเปน หวงผูกคอ” ดังน้ันพึงเลือกเอาตามที่จิตปรารถนาเถิด ผูตอบ ปญหาแนะนําวา หากผูถามปญหาประสงคมีชีวิตเปนอิสระ อยา งนอ ยตองพฒั นาจิตตนเองใหเ ปน พระอนาคามี แลวชวี ติ ที่ เปนอิสระ จึงจะมีโอกาสเกดิ ขึ้นได (๒) ในวัฏสงสารน้ี สัตวบุคคลไมสามารถหนีจิตตัวเอง ใหพนไดอยางถาวร ดวยเหตุน้ีจึงตองดํารงชีวิตอยูอยางมีสติ แลวใชปญญาเห็นแจงสองนําทางชีวิต จึงจะสามารถทําเหตุ ใหตางไปจากบุคคลที่ไมอยากพบเจอ ผูรูจริงแทนิยมใชปญญา เห็นแจง สอ งนาํ ทางชวี ิตไปสูการเกดิ เปน พรหมอยใู นสทุ ธาวาส พรหมโลก และสคู วามพนไปจากวัฏสงสาร นั้นเปนทางเลือกท่ี ดีทีส่ ุดของชีวติ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๕. รแู ละมสี จั จะ คาํ ถาม ผมอยากถามอาจารยว า การเสพสอ่ื ลามก เชน ดูหนังโป ผลของกรรมน้ี จะสงผลใหเปนเชนไร และเปนบาปมากไหม และผิดศีลขอไหนครับ พยายามจะเลิกอยูครับ ขอบพระคุณ ทานอาจารยส นองครับ คาํ ตอบ ที่ถามไปไมถือวาเปนการประพฤติผิดศีล แตถือวามีศีล ๑๘ ขาด ศลี ทะลุ ศีลดาง ศีลพรอย พดู ไดวายังมจี ติ เปนทาสของ เมถนุ สงั โยค ผูใดยังมจี ิตของอยกู ับเมถนุ สังโยค ผนู ้ันสามารถ ปฏิบัติธรรมได แตจิตไมสามารถเขาถึงธรรมที่ปฏิบัติ คือจิต ไมตั้งม่ันเปนสมาธิ จิตไมเกิดปญญาเห็นแจง ๖. ปวารณาเปน ศิษย คําถาม กระผม อายุ ๔๐ ปค รบั อยูจ งั หวดั อยธุ ยาครบั กระผม และทา นอาจารยไมเ คยเจอตวั ตน ไมเคยสง email หรอื พดู คยุ กบั อาจารยม ากอ นครบั เพียงแตผมเองไดกราบขอตัวเปนศิษย ของทา นอาจารย เพอื่ ขอนสิ ยั ในการปฏบิ ตั ิ ตอ หนา พระพทุ ธรปู

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ทบ่ี า น กอ นสวดมนตเยน็ เม่ือหลายปก อนครบั และยดึ แนวการ ๑๙ ปฏิบัติ ตามทานอาจารย, หลวงพอ จรญั วดั อัมพวนั และทสี่ ดุ คอื ผมเปน ศิษยของหลวงปูสงั วาลย เขมโก วดั ทงุ สามคั คธี รรม ที่จงั หวัดสพุ รรณบุรี ในระยะเวลากวา ๗ ปท ่ีผมไดต ดิ ตามฟง ธรรมะและแนวทางการปฏิบตั ิตามท่ีอาจารยส อนไวใ นสอ่ื ตา งๆ ผมทําไดบ าง ไมไ ดบา ง ตามนิสยั ของคนอยากไดด แี ตยังข้เี กียจ อยมู าก แตต ัวเองไมเคยทอและมีกําลังใจทกุ คร้ังทไี่ ดฟง ธรรมะ ของอาจารยครับ อยางนอยๆ ผมก็ตองใหไดพระโสดาบันใน ชาติน้ี ตามท่ีทานอาจารยสอนไวครับ กระผมศรัทธา และเช่ือวาทานอาจารยเปนผูปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏบิ ัตชิ อบ ดว ยใจจริงตัง้ แตแ รกจากเหตุท่ี ทา น อาจารยไมใชแคพ ูดสอน แตทําใหด ู จากการท่ที าํ งานหนกั ใน การเทย่ี วตะเวนสอนลกู ศษิ ยต ลอดเวลา อนั ทจี่ รงิ ทผี่ มสง email มาหาอาจารยก ็แคอยากบอกใหอ าจารยทราบวา ทา นอาจารย ยังมีศิษยท่ีรักและเคารพ และแนวแนจะยึดแนวทางที่อาจารย สอนไปตลอดครับ สดุ ทา ยกระผมขอกราบบชู าทา นอาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร ดวยความเคารพย่ิงครับ และขอใหทานอาจารยมีสุขภาพ แข็งแรง เปน ทีพ่ งึ่ ของผมและลูกศิษยค นอ่ืนๆ ตอไปนานๆ ครบั

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร คาํ ตอบ ผูที่ประพฤติตนใหถูกตรงกับผูที่เคารพนับถือ แมจะมิได เคยพบเห็นกัน ถือวายังมีความเปนครูเปนศิษยกันได ผูที่เรง ความเพยี รในการปฏิบัติธรรมทถ่ี ูกตรง ยอ มเขา ถึงธรรมไดง า ย ซึ่งทานเจาคุณโชดกไดกลาวไววา ผูมีความเพียรมาก ปฏิบัติ ธรรมวนั ละ ๒๐ ชั่วโมง ผมู ีความเพยี รปานกลาง ปฏิบัตธิ รรม วันละ ๑๐ - ๑๕ ชว่ั โมง ผูม ีความเพยี รนอย ปฏิบตั ิธรรมวันละ ๕ - ๖ ช่ัวโมง ดังนน้ั พึงเลอื กปฏิบัติธรรมตามกําลงั ศรัทธาเถิด ๗. รูจาํ หรือ รแู จง ๒๐ คาํ ถาม คาใจเร่ือง ตายแลว เกดิ ทันที ขดั แยงกับทวี่ า ตายแลว มี ยมทูตมารบั ตัว หนูไดศ กึ ษาธรรมะมาไดระยะหนง่ึ คะ หนูไดพอ ศึกษามาจากครูอาจารยทีว่ า ตายแลว เกิดทันที ซึง่ การจุตแิ ลว ไปปฏิสนธใิ นภพภูมใิ หมท นั ที เชน อรปู ภูมิ รปู ภูมิ สวรรค มนุษย อบายภูมิ (นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน) แลวคํากลาว เร่ืองราวท่ีวาเม่ือตายแลวจะมียมทูตมารับตัวไปตัดสินกรรม ทําใหหนงู งและสับสนคะ วา คืออะไร แลว ถาเรื่องน้มี ีจรงิ ตวั จติ ที่ปฏิสนธิใหมตัวน้ันมันเกิดในภูมิไหนกันคะ ยมทูตถึงตองรับไป ตัดสนิ กอ นวา จะสงไปภูมิไหนตอ ไป หรือเร่ืองนี้ไมไ ดม ีอยจู ริงคะ หนูสงสัยและเปนขอของใจท่ีสุดคะ พยายามหาคําตอบในเว็ป

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ตางๆ แตไมกระจางคะ หนูจึงมาขอคําช้ีแนะจากทานอาจารย คะ ขอความเมตตาจากทานอาจารยไ ดเมตตา กรุณาชี้แนะคํา ตอบใหหนูดวยนะคะ ขอขอบพระคุณเปนอยางสูง ดวยความ เคารพเปนอยางสงู คําตอบ ๒๑ ศาสนาพุทธท่ีแพรขยายมาสูสุวรรณภูมิ เปนศาสนาพุทธ สายใตท่ีเรียกวา เถรวาท การเขาถึงความรูในพุทธศาสนา เถรวาท (พระไตรปฎ ก) เขาถึงไดสองแนวทาง คอื การศึกษา เลาเรียนแบบคันถธุระ หรือปริยัติธรรม และเขาถึงไดดวย การพัฒนาจิตที่เรียกวา วิปสสนาธุระ จนเกิดปญญาเห็นแจง ขึ้นกบั จิต ความรทู ่ีเขา ถึงแบบแรก เปน ปญ ญาสญั ญา หรอื รูจํา ไมสามารถนําพาชีวิตไปสูความพนทุกข แตความรูแบบ ทสี่ อง เปน ความรทู จี่ รงิ แท สามารถสอ งนาํ ทางชวี ติ ไปสคู วาม พนทุกขได ตองขออภัยกับทานผูถามปญหา หากวางตํารา คัมภีรลงช่ัวคราว แลวพัฒนาจิต (ปฏิบัติธรรม) จนเขาถึง ปญ ญาเหน็ แจง ไดแลว ความสงสยั ความของใจ ความสบั สน ฯลฯ ยอมหมดไปจากใจอยางแทจริง ลองพิสูจนดูไหม

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๘. โง หรอื ฉลาด คําถาม เราขอตายกอนตอนน้ีเลย เพื่อไปใชกรรมในนรกกอน ไดไหม มีชีวิตอยูตอไปก็ทรมาน การมีชีวิตอยู มันมีสิ่งกระทบ รอบดาน หากตายตอนน้ีเลย จะไดกมหนาใชกรรมอยางเดียว คาํ ตอบ ขออภัยท่ีพูดตรง คนโงยอมคิดเชนน้ี คนฉลาดนอย หนี นรกดวยการพัฒนาจิตใหเปนอิสระจากโทสะ คนฉลาดนอย ๒๒ พัฒนาจิตใหมีสตินําพาชีวิตไปสูสุคติ คนฉลาดนอย บําเพ็ญ ทานและรักษาศีลอยูเปนนิจ เพ่ือนําชีวิตสูเทวโลก คนฉลาด นอย พัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนตั้งม่ันเปนฌานตลอดชีวิต คนฉลาดมาก พัฒนาจิต (วิปสสนาภาวนา) จนเกิดปญญา เห็นแจง แลวใชปญญานั้นปดอบายภูมิ คนฉลาดที่สุด ใช ปญญาเห็นแจงนําพาชีวิตใหพนไปจากวัฏสงสาร

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๙. ไมเ คารพพอแม คําถาม ๒๓ หนมู ปี ญหา ขอเรียนถามทานดังน้คี ะ ๑. ผูท่ีมีปญหากับบุพการีของตน ขาดความเคารพ นอบนอม และเคยใชถอยคําไมสุภาพ เคยตวาด ตะคอก หรือโตเถียงบอยๆ จะมีวิธีใดแกไขเพื่อนําพาจิตใจไมใหโมโห หรอื เกิดอารมณเสยี เวลาคยุ กัน หรอื อยดู วยกนั หากไปปฏิบตั ิ ธรรมนั่งสมาธิจะสามารถเขาถึงธรรมไดหรือไมคะ ถาไมมีการ ขอขมาตอ พอ แมเสียกอน ๒. มศี ลี คุมใจ หมายความวาอยา งไรคะ ๓. ทําอยางไรจึงจะมีความออนนอมตอทุกคนที่เราอยู ดวยไดและกับผูท่ีเราเคยไดลวงเกินดวยวาจาไปแลว เราตอง ไปขอขมาหรือขออโหสิกรรมกับทุกคนหรือไม หากตองการ จะเจรญิ ภาวนาใหเ ขา ถึงมรรคผล หนูขอกราบขอบพระคุณทานอาจารยที่เมตตาไขปญหา และกราบขออโหสิกรรมกับทานอาจารย หากวาหนูไดเคย ลวงเกินทาน ดว ยกาย วาจา ใจ ทงั้ โดยตั้งใจหรอื ไมตงั้ ใจกต็ าม ขอทา นอาจารยไ ดโปรดใหอภัย อโหสกิ รรมแกหนดู ว ยคะ คาํ ตอบ (๑) ตองขอขมาตอ พอ แมเ ม่อื มโี อกาสอนั ควร (วนั พอหรือ วันแม) หลงั จากนัน้ สวดมนตก อ นนอนทกุ วนั แลว สวดมนตเ พื่อ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร พฒั นาจิต (สมถภาวนา) ประมาณ ๓๐ นาที แลว อุทศิ บญุ กุศล ใหเจากรรมนายเวร อุทิศทุกคร้ังเมื่อปฏิบัติธรรมแลวเสร็จ เมื่อมีโอกาสตองนําตัวเองเขาปฏิบัติธรรม ตามสถานที่หรือ ตามวัดท่ีจัดใหมีการปฏิบัติธรรม ในกรณีท่ียังมิไดขอขมาตอ พอ แม สามารถปฏบิ ตั ธิ รรมได แตโ อกาสทจี่ ะพฒั นาจติ ใหเ ขา ถงึ ธรรม ยอ มเกิดขน้ึ ไดย ากเพราะบาปยงั ตามใหผ ลอยู (๒) ใจมหี นาท่ี รู คดิ นกึ คาํ วา “มศี ลี คุมใจ” หมายความ วาทุกขณะตื่น ใจตองไมนึกคิดสิ่งอันเปนอกุศล โดยเฉพาะ อกุศลที่เกิดจากการคิดละเมิดศีล (ศีล ๕) ท่ีตนตอง รักษาไว ใหไ ดก อนที่จะนําตัวเองเขาปฏิบัติธรรม ๒๔ (๓) หากมีโอกาสเปดใหทํา ตองไปขอขมาตอทุกคน ที่ ผูถามปญหาเคยมีพฤติกรรมท่ีไมดีตอเขา เม่ือเขากลาววาจา ยกโทษให การพัฒนาจติ ของผูถามปญ หา จงึ จะเจริญกา วหนา ได สุดทาย ผตู อบปญหายกโทษใหแลว ๑๐. สง่ิ ท่ีชีวิตตอ งการ คาํ ถาม ขอความเมตตาจากทานอาจารย ดร.สนอง คะ ๑. หนูอยากทราบวาเราเกิดมา ชีวิตเราตองการอะไร กันแนคะ หนูควรจะใชหลักธรรมขอไหนเปนเคร่ืองคอยยึด เอาไวเตือนสติ เพราะทานอาจารยผานโลกมามาก ทานมี

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com แนวทางดําเนินชีวิตอยางไรใหชีวิตไมวุนวาย มีหลักคิดและ ๒๕ วิธปี ฏิบตั อิ ยา งไร ๒. เมื่อมีอะไรเขามาในชีวิตใหเราตองตัดสินใจ เราจะรู ไดอ ยา งไรคะวา เราจะตดั สนิ ใจถกู ทา นอาจารยม หี ลกั อยา งไรคะ ๓. หนูควรวางใจอยางไรดีกับการกระทําของพอแมคะ เมื่อเห็นวาทานกําลังทําในสิ่งท่ีนาอึดอัดใจคะ เชน ทานชอบ พูดจาแรงๆ ไมไวหนาใคร หนูอยูดวยก็รูสึกอึดอัด แตจะวาก็ ไมใชหนาท่ีลกู คะ ทานอาจารยพ อจะมีอบุ ายไหมคะ ๔. ทานอาจารยคะ บางทีเรารูวาส่ิงน้ีผิดแตทําไมเรา จึงทําคะ ทําไมเรายังตัดไมได อาจารยมีวิธีแกไขอยางไรคะ หนูจะปฏิบัติตาม ขอความเมตตาคะ คาํ ตอบ (๑) ถามวา : ชวี ิตตองการอะไร ตอบวา : ความตองการ ข้ึนอยูกับความรูหรือปญญาท่ีแตละบุคคลพัฒนาได อาทิ บางคนเกิดมาเพ่ือชดใชหน้ีกรรมเกา พรอมกับสรางหนี้กรรม ใหม บางคนเกิดมาเพื่อปรับปรุงแกไขชีวิตใหดีขึ้น บางคน เกิดมาเพ่ือสั่งสมบุญไปสูสุคติภพ บางคนเกิดมาเพื่อนําพา ชวี ติ ใหพ น ไปจากวฏั สงสาร ฯลฯ อยา งไรกต็ ามมนษุ ยม ศี กั ยภาพ ในการพฒั นาจติ ใหเ ขา ถงึ สภาวะที่ตนปรารถนาได (๒) ถามวา : เม่ือมีสงิ่ ใดเขามาในชวี ติ จะตัดสนิ ใจใหถ กู ไดอยางไร ตอบวา : คําวาถูกน้ัน ถูกของใคร หากใชปญญา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ทางโลก (อวชิ ชา) ตัดสินใจ ก็เปน ที่หวงั ไดว า ทุกขก ายทุกขใจ ยอมเกิดตามมาไมจ บสิ้น ตรงกันขาม หากพัฒนาจติ (วปิ ส สนา ภาวนา) จนเกิดปญญาเห็นแจง แลวใชปญญาเห็นแจงดับท่ี ตนเหตขุ องปญ หา ปญหาจงึ จะหมดไปไดอ ยา งแทจ ริง (๓) ใหดูพอแมเปนครูสอนใจ เมื่อเห็นวาพอแมทําไมดี ก็เปนเร่ืองของพอแม ผูเปนลูกตองไมประพฤติ เชน พอแม แลวเรา (ลูก) ก็จะไมมีพฤติกรรมไมดีเชนทาน ย่ิงไปกวาน้ัน พอแมยังมีพระคุณ ที่ทําใหลูกไดสรางเมตตาบารมี ดวยการ ใหอภัยทุกครั้งท่ีพอแมเปนตนเหตุของความขัดใจ ดังน้ันจง มองใหออก ดวยการพัฒนาจิตตนเองใหมีสติ แลวส่ิงดีๆ ๒๖ ทงั้ หลายจะเกดิ ขน้ึ กบั ผถู ามปญหา (๔) ขอ (๓) และขอ (๔) เหตุเกิดจากจิตตนเองมีกําลัง สติออน หากประสงคใหปญหาหมดไป ตองพัฒนาจิตใหมีสติ มากกวาท่ีเปนอยู ดวยการเอาศีล ๕ มาคุมใจ แลวสวดมนต กอนนอนทุกวัน หลังสวดมนตเจริญสติภาวนาครึ่งชั่วโมงหรือ มากกวา เมื่อสองกิจกรรมแลวเสร็จ ตองอุทิศบุญกุศลให เจากรรมนายเวร ผูมีสัจจะประพฤติตามที่ช้ีแนะใหถูกตรง แลวโอกาสท่ีปญหาจะหมดไปยอมเกิดข้ึนได

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๑๑. ดูคณุ ยายเปนครูสอนใจ คาํ ถาม ๒๗ สวัสดีครับ อาจารย ผมมีขอสงสัยที่อยากรบกวนถาม อาจารย ดังนี้ครบั ๑. เม่ือกําลังภาวนา จิตอยูกับลมหายใจเขา-ออก แลว เกิดมีอาการคันขึ้นมา ควรเลือกกําหนดจิตอยูกับลมหายใจ ตอไป หรือเปลีย่ นไปกาํ หนดกับอาการคันนน้ั จนหายครับ ๒. ท่ีบานมีศาลพระภูมิครับ เม่ือผมยึดถือพระรัตนตรัย แลว แตผ มอยากใหทานชวยคมุ ครองคนในบาน ผมจะสามารถ นําอาหารมาถวาย หรือแผบุญกุศลให โดยไมกราบไหวไดไหม ครบั ๓. พระเครื่อง เคร่ืองราง ท่ีมีการนํามาปลุกเสกแลวนั้น มพี ลังทส่ี ามารถชว ยคมุ ครองผูใ ชไ ดจ รงิ หรอื ไมครบั ๔. คุณยายของผมอายุ ๗๘ ป ทานเปนคนชอบทําบุญ ทาํ ทานมากครับ แตช ว งหลังๆ มาน้ี ทานมอี าการปว ยทางจิต มีอาการหวาดระแวงกลัวคนจะมาทําราย ไดยินเสียง เห็น โนนเห็นนี่ คิดไปเอง โดยลูกหลานก็พาไปหาหมอ ใหยามา ทานแลว ทานก็ไมยอมทาน เพราะทานเชื่อวาสิ่งนั้นมีจริง ไม ไดค ดิ ไปเอง ผมไมรูจ ะทําอยางไร จึงทาํ ไดเพียงแคเ ปด รายการ ธรรมะใหทาน อยางนอยทานก็ไดน่ังสมาธิบางครับ ผมกลัว สุขภาพของคุณยายจะแยลง รบกวนอาจารยชวยชี้แนะดวย ครับ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร คาํ ตอบ (๑) ตอ งกําหนดวา “คันหนอๆ ๆ ๆ ๆ” ไปเรอื่ ยๆ จนกวา อาการคันหายไป แลวจึงเอาจิตมาจดจออยูกับลมหายใจ เขา-ออกดงั เดมิ จิตจงึ จะมกี าํ ลงั สติเพิ่มขนึ้ (๒) พฤติกรรมที่บอกเลาไป สามารถทําไดในฐานะของ เพื่อนตางมิติท่ีดีตอกัน ทั้งน้ีตองไมเอาเทวดามาเปนที่พ่ึง ทเี่ คารพบูชาเลื่อมใส (๓) ผูเห็นผิดนิยมแสวงหาเคร่ืองรางของขลังมาคุมครอง ชีวิต เพราะมีความคิดเห็นวาเปนส่ิงศักดิ์สิทธิ์ แตธรรมวินัย ในพทุ ธศาสนานน้ั มคี วามศกั ดิ์สทิ ธิ์ยิง่ กวา ผมู คี วามเห็นถูกจึง ๒๘ แสวงหามาคมุ ชีวติ ใหป ลอดจากภัยทง้ั ปวงในวฏั สงสาร (๔) คุณยายมีอายุเขาสูวัยชราแลว ยอมมีสุขภาพเสื่อม ลงเปนธรรมดา ส่ิงที่คุณยายเห็นนั้นเห็นจริง แตส่ิงที่ถูกเห็น น้ันไมจริง ผูถามปญหาไดเปดธรรมะใหคุณยายฟงนั้นดีแลว จงทาํ ตอ ไป ผรู ูจริงเอาคณุ ยายเปน ครูสอนใจครับ ๑๒. สตสิ มั ปชัญญะออ น คาํ ถาม หนมู ปี ญ หาสงสยั ในการปฏบิ ตั ริ บกวนเรยี นถามอาจารยค ะ ๑. ปฏิบัติเองในชีวิตประจําวันโดยกําหนดอิริยาบถยอย เทาท่ีทําได ไมไดเดินจงกรม น่ังสมาธิ เพราะมีอาจารยสอน

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com กรรมฐาน (ไมใชพระวปิ ส สนาจารย) บอกวา หนูไมค วรนงั่ สมาธิ ๒๙ แลว ใหเนนอิริยาบถยอยมากกวา อาจารยคิดวาเขากลาวถูก หรือไมคะ ๒. กเิ ลสที่เปนอนุสัย เวลาเกดิ ขน้ึ เรารแู ลวเห็นแลว แตรู เหน็ ไมชัด พอมาชวงหลังหนูคดิ วา หนูเหน็ จิตท่ีไมพ งึ ใจที่จะดู ท่ี จะรู คือเปน ๒ อารมณคูกันแลวแยกไมออก บางทีเหมือน พอจะแยกออก ก็เหมือนตัวรูคิดวาเปนจิตที่รูมันไลอกุศลไปจน หมดแลว เลยไมต อ งรกู นั ตอ งทาํ อยา งไร เพราะมนั รดู ว ยใจเปน กลางไมได มันไลไปเองเปน อตั โนมัตเิ ลยคะ ๓. กิเลสที่เรากําหนดรูดูอยู แตมีกําลังแรงกวาสติ แลว เหมอื นเราจะไมใ ชผดู ู แตจะกลายเปนฝา ยกิเลสไปแลว เพราะ มันยากมากและใจท่ีดูมันก็ส่ัน เราจะจงใจเปลี่ยนฐานมารูกาย ที่เคลอ่ื นไหวไปมาแทนเพอ่ื ออกมาจากอกุศลตอนน้นั เพอื่ ไมให เกดิ เปนภพชาตอิ กี ไดห รอื ไมคะ ๔. ท่ีรูสึกตลอดวาคนนั้นรูสึกกับเราดี คนนี้รูสึกกับเรา ไมด ี เรียนถามวาหนคู ดิ ไปเองหรือเปลา ถาไมไดคิดไปเอง แต เปนความสามารถที่รูได มีวิธีใดที่เราจะไมรูไดไหม เพราะจิต ไมไดต้ังมั่นตลอดเวลา บางชวงรูแลวเรารับได บางชวงจิตสั่น และรบั ไมไ ดค ะ ๕. เวลาท่ีทันปจจุบันเชนอกุศลเกิด รูปจจุบันเมื่อนั้นเปน กศุ ลดี แตผลท่ีไดร บั คือทกุ ขเ ชน ไอมาก ทอ งเสยี ทองอดื แนน ทอ งมาก และถา กาํ ลังไมด ีเหมือนมนั ไมอ อก หนูรสู ึกอดึ อดั มาก

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร และปวดทองเพราะทองอืดเกือบตลอดเวลา จนมานั่งสมาธิ มันก็มารอนๆ อุนๆ ออกที่ขา เกือบตลอดบัลลังกท่ีน่ังสมาธิ มันไมคอยมีพองยุบ มีแตอาการรูสึกอุนๆ ที่ขา พอออกสมาธิ เหมอื นตวั สบาย มันไลอ าการลมในทอ งได สง่ิ เหลา นีเ้ กีย่ วของ กันจริงหรือไม แลว ถา เปน ผลดี หนูไมค วรนงั่ สมาธจิ ริงหรือ ๖. หนูมีอาการน่ังทํางานอยูเขียนหนังสือแลวเกิดยกแขน ไมข ้นึ หนกู ฝ็ น ยกขน้ึ มันกข็ นึ้ อกี ทหี น่ึงหนนู ง่ั ทานขา วอยู พอ จะขยับขา มนั ขยบั ไมไ ด หนูคิดเองวาเกิดจากสมาธิ สมาธอิ าจ มากไป ก็เลยไมคอยไดน่ังสมาธิ พอไมไดน่ังสมาธิ มันฟุงมาก กําหนดไมคอยอยู ก็เลยนง่ั สมาธิบา งเหมือนจงใจจะใหส งบ ผดิ ๓๐ ไหมคะ อาจารยค ิดวาทาํ ถูกไหมคะ ควรปรับอยา งไรใหพอดคี ะ ๗. ศีล ๘ ท่ีงดทานอาหารกําหนดเวลาตอนเท่ียงวัน แตตอนเชาท่ีตื่นนอนแลว กําหนดเวลาก่ีนาฬกาคะ ในสวน ของนา้ํ เตา หแู ละคอฟฟเมตหา มดวยไหมคะ กราบขอบพระคุณที่อาจารยเมตตาตอบคําถามคะ คาํ ตอบ (๑) หากปฏิบัติไดถูกตรงตามธรรมวินัย เมื่อถึงท่ีสุดแลว จติ ตองต้งั มน่ั เปนสมาธิ จิตตองเกิดปญญาเห็นแจง สิง่ ที่ผูสอน ชแ้ี นะนนั้ ถูกตรง แตผปู ฏิบัตธิ รรมยงั พฒั นาจิตไมถึงทส่ี ุด (๒) การปฏบิ ตั ิธรรมยงั เกิดปญญาเหน็ แจงไมช ดั ตอ งเรง ความเพียรพัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนเขาถึงความตั้งม่ันเปน

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com สมาธิแนวแน (อัปปนาสมาธิ) จิตออกจากอัปปนาสมาธิ ให ๓๑ มาตั้งอยูในระดับอุปจารสมาธิ แลวจึงจะมีโอกาสเห็นอารมณ ในดวงจติ ไดเดนชัดย่งิ ขึ้น (๓) ตองพัฒนาจิตใหมีกําลังของพละ ๕ กลาแข็งไดแลว จิตจึงจะสามารถตานอํานาจของกิเลสมารได การเปล่ียนเอา จิตมาดูท่ีกาย เทากับเปนการหนีปญหา ผูรูจริงแทไมนิยม ประพฤติเชนนน้ั เพราะบคุ คลไมสามารถหนใี จตวั เองไดพ น ผรู ู จึงไมนิยมประพฤติ แตผูรูพัฒนาจิตจนเกิดปญญาเห็นแจง แลวนําปญ ญามาใชดบั ปญ หา จึงดบั ปญหาใหเ ปนอนตั ตาได (๔) ตลอด ๔๕ พรรษา ท่ีพระพุทธเจาเผยแพรธรรม พระพุทธโคดมไมเคยสอนใหเอาจิตไประลึกรูอยูกับส่ิงนอกกาย เพราะนั่นคืออาการขาดสติของคนท่ีรูไมจริง จึงไมสามารถ บรรลอุ ริยธรรมเปน พุทธสาวก (๕) การระลึกรูในสิ่งอกุศลท่ีเปนปจจุบัน หากจิตระลึกรู แลวไมรับเขาปรุงเปนอารมณ การระลึกรูในลักษณะนี้จึงจะ ถือวาเปนกุศล ตรงกันขาม หากจิตระลึกรูในส่ิงอกุศลท่ีเปน ปจจุบัน แลวจิตรับเขาปรุงเปนอารมณ ยังถือวาการระลึกรู ในลักษณะน้ีเปนอกุศลเชนกัน ดังนั้นเม่ือนั่งสมาธิแลว จิตไป ระลึกรูทั้งส่ิงที่เปนอกุศลและส่ิงท่ีเปนกุศลท่ีเปนปจจุบัน แลวจิตไมรับเขาปรุงเปนอารมณไมดีและอารมณดี อยางน้ี จงึ จะถือวาดี เพราะจติ มีปญ ญาเหน็ แจงเกิดขนึ้

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร (๖) ท่ีเขียนบอกเลาไป ถือวาเปนการปฏิบัติธรรมที่ผิด ทาง การเจริญสมาธิ ตองเอาจิตระลึกรูอยูกับอิริยาบถใหญท่ี เปน ปจ จุบนั ขณะ เชน ขณะเขียนหนังสอื ตองเอาจิตจดจอ อยู กับการเขียน ขณะทานขาวตองเอาจิตจดจออยูกับการเค้ียว คําขาว ขณะนั่งตองเอาจิตจดจออยูกับอิริยาบถน่ัง หากทําได เชนน้ี แลวสติจะไมเคล่ือนออกไปนอกอิริยาบถ แลวทําให เกดิ เปน ปญ หาตอ งแกไข (๗) ตองขออภัยไมตอบ เพราะมิไดศึกษามาทางดาน คนั ถธุระ ๓๒ ๑๓. ทาํ ความดียอมมมี ารขดั ขวาง คาํ ถาม เรียนทานอาจารยสนอง วรอุไร คือวา หนูมีขอสงสัย ทางบานคะอาจารย พอ แมและพี่สาว บอกหนูวาอยา ไปจริงจังกับการปฏิบัติมากนักนะ เพราะหนูเปนคนจิตออน ฟงุ งาย ครอบครัวเลยเปน หวง เวลาทห่ี นจู ะปฏิบัติอยางจรงิ จัง ถา บอกทาน ทา นก็จะหามไว ทา นใหแ คนัง่ สมาธิเทาน้นั หนจู ะ บอกกบั พอ กับแมข อไปบวชบอ ยๆ แตท านกไ็ มย อมใหไ ป หนูจะ พูดกับทานอยางไรดีคะ หนูอยากศึกษาอยางจริงจัง แตก็หวง ทานและตองดูแลทานดวย เพราะพี่ก็มีครอบครัวกันหมด หนู เลยตอ งดแู ลพอ แมแ ทน แตก อ็ ยากบวช อยากศกึ ษาอยา งจรงิ จงั ขอบคณุ คะ สาํ หรับคําตอบ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com คาํ ตอบ ๓๓ ผูรจู รงิ แทไมเ ขา ไปกา วลวงในชีวติ ของผูอ ่นื ผูบรรลธุ รรม สงู สดุ (พระอรหนั ต) ในพทุ ธศาสนากลา ววา “คาํ พดู ของคนอน่ื ทําใหเราเปนโจร เปนมุนีไมได” ดังนั้นแมและพ่ีสาวจะพูด อยางไรก็เปนเร่ืองของเขา แตเรื่องของเราตองทําเหตุใหตรง คอื พัฒนาจิต (วปิ ส สนาภาวนา) ใหมีดวงตาเห็นธรรมนั้นดที ี่สดุ การเลี้ยงดูพอแมตอบแทน ถือวาเปนจริยธรรมที่ลูกตอง ปฏิบัติ ทําไดแลวจะเกิดเปนคุณธรรมที่เรียกวา ความกตัญู กตเวที ซงึ่ มอี ยใู นจติ วญิ ญาณของคนดที กุ คน ดงั นน้ั พงึ พจิ ารณา ดว ยตวั เองเถดิ วา การดแู ลพอ แมต อบแทนนน้ั ทาํ ไดส มบรู ณแ ลว หรอื ยงั ทงั้ นตี้ อ งไมล มื วา ตวั เองมงี านอกี หนงึ่ อยา งทตี่ อ งทาํ คอื งานภายในทีท่ าํ ใหกบั ตวั เอง เตรยี มบญุ เพอ่ื เดนิ ทางในปรโลก ๑๔. โชคดที ่ีมีมารอยใู กล คําถาม กราบเรยี นอาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร ดฉิ นั ขอคําชแ้ี นะคะ หากเราตองอยูหรือทํางานรวมกับคนเห็นแกตัว ไมรับผิดชอบ ในหนาท่ีของตัวเอง และทาํ ใหกระทบกับผลงานของเรา เพราะ งานไมสามารถเดินตอไปได เราจะมีวิธีคิดหรือหาทางออก อยางไร เพื่อใหงานเดนิ หนาตอ ไปได หรืออยรู วมกบั คนเหลา น้ี อยา งไรคะ และหากเราทาํ งานใดๆ กต็ ามทท่ี าํ ใหเ ราไมม คี วามสขุ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร มแี ตค วามเครยี ด และความทกุ ข เราจะหาทางออกอยา งไรดคี ะ ดว ยความเคารพนับถืออยา งสูง คาํ ตอบ วธิ ีแกปญหานท้ี าํ ไดสองทาง ก. ใหดูเขาเปนครู วาคนท่ีมีอัตตา มี ego หรือมีความ เห็นแกตัว เกิดขึ้นจากการพัฒนาความรูทางโลกเพียงอยาง เดียว มิไดประพฤติจริยธรรมเพ่ือกลบฝงอัตตา ความสําเร็จ ที่ย่ังยืนของชีวิตจึงไมเกิดขึ้น เขามีพฤติกรรมที่ไมดี เราตอง ไมประพฤติเชน เขา ๓๔ ข. การจะรวมทํางานกับคนประเภทนี้ เราตองใหอภัย เปน ทานแกเ ขา แลว พฒั นาตนเองใหม คี วามรแู ละมคี ณุ ธรรม (ประพฤติจริยธรรม) ใหมากย่ิงขึ้น จึงจะอยูรวมงานกับคน ประเภทนไ้ี ด คนไมฉลาดชอบมองคนอ่ืน แลวเอาความไมดีของคนอ่ืน มาทับถมใจตัวเองใหเครียดใหทุกข ตรงกันขามคนฉลาดมอง คนอื่นแลวเห็นวาเขามีพฤติกรรม (คิด พูด ทํา) ไมดี เราจะ ไมประพฤตเิ ชนเขา แลว เรากจ็ ะไมเปนคนไมดีเหมือนเขา สรปุ จงมองใหถ กู ดว ยการพฒั นาจติ ตนเองใหม สี ตริ ะลกึ รอู ยทู กุ ขณะตน่ื หรือใหอภัยในทกุ เหตทุ ่ที าํ ใหขดั ใจ แลวเรา จะไมเครียดไมทกุ ข

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๑๕. เพียงแครู แตย งั ไมม ี คาํ ถาม ๓๕ สวัสดีคะ ทานอาจารย หนูขออนุญาตเรียนถามปญหา ชีวิตของหนูนะคะ คือหนูเริ่มเปนคนคิดมากมานานแลวคะ แตม าชว งปด เทอมทว่ี า งมากๆ ถงึ หกเดอื นคะ หนเู กดิ เหตกุ ารณ ท่ีมันเปลี่ยนชีวิตหนูไปหน่ึงเดือนกวาเลยคะ คือ หนูไมไดจับ หนังสือมานานก็เร่ิมคิดมากวาถาถึงเวลาไปเรียนจะรูเร่ืองไหม หนเู ลยไปลองอา นคะ ปรากฏวา ถาปกติคนเราอานหนงั สือกจ็ ะ อยูกับเน้ือหาถูกไหมคะ แตวันนั้นหนูกลับอยูกับความกลัวไมรู เร่ือง คืออานไปก็ระแวงตัวเองวากําลังเขาใจหรือเปลา ทําให ไมไดเขาไปในเน้ือหาแบบสมบูรณเหมือนเดิม ทีนี้คิดมากใหญ เลยคะวา จะทํายังไงถาไปเรียนแลวเปนแบบนี้ ก็ลองไปเปด คลิปเรียนในยูทูปคะ ปรากฏวาอยูกับความคิดระแวงวาจะไมรู เร่ืองอีกเหมือนเดิม (ถาหนูไมคิดแบบวันนั้น ถาหนูรูวาความ ระแวงนั่นแหละคือตัวที่ทําใหหนูอานไมไดประสิทธิภาพ ฟง ไมไดประสิทธิภาพ หนูคงจะไมมีวันแยๆ แบบตอนนี้เลย) ยิ่ง เปนแบบน้ี ยิ่งคดิ มากคะ คดิ ๆ ๆ ๆ พอ แม พดู อะไรกร็ ะแวงวา จะไมรูเรื่อง ไมอยากไปไหน ไมอ ยากกนิ อะไร ไมอยากเจอใคร ไมอยากฟงไมอยากอานอะไรท้ังนั้นเลยคะ รองไหแทบบา เปนเวลาเกือบเดือน ใครไมเปนจะดูเหมือนเร่ืองบาบอสําหรับ เขาคะ คือประเด็นที่ทรมานใจคือ ทําไมตองมาทําใหตัวเอง

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร คิดมากเวลาฟงเวลาอานอะไรดวย ทําไมไมไปคิดมากเร่ืองอ่ืน ทําไมตองสังเกตและเก็บเอามาเปนนิสัยแบบน้ี พอเปนสอง เรื่องน้ีเราเจอแทบทุกเวลา พยายามลืมก็ทําไมได ชวงนั้นเปน หนักมากคะ แบบสงสัยไปหมดเลยคะ วาทําไมสะกดแบบนี้ ทําไมเราพูดกันโดยไมตองคิดกอน ทําไมตองมีภาษา คุณหมอ ที่รูจักบอกวา มันไมใชโรคทางอารมณท่ีตองรักษา แตเปน ความคิดมากของเราเอง พอหนูเจอตัวหนังสือหรือเจอเสียง ทีไรจะระแวงตลอดวา จะรูเรื่องไหม กลายเปนดูหนังก็ไมสนุก คอยแตแปลเสยี งของตัวละครวา ทําไมตองพดู ประโยคนี้ ทาํ ไม ตองตอบประโยคนี้ อะไรแบบนี้นะคะ แตตอนน้ีดีข้ึนมากแลว ๓๖ นะคะ แตยงั รสู กึ อยูนิดหนอ ย หนูควรทําไงดคี ะ หนคู ิดมากจริงๆ แตหนฟู ง ธรรมะเขาบอกวาพอเกดิ ความ คิดใหรูวาคิดแลวปลอยวางไมตองคิดตอ ซึ่งก็ไดผลดีนะคะแต มันก็ยังขัดๆ การอานการฟงอยูพอสมควรคะ แตนอยลงกวา เดิมพอสมควร หนูทราบคะวาทุกอยางเกิดจากความคิดมาก และไมยอมหามใจใหหยุดคิดมากในตอนแรก พอเปนเรื้อรังมา นานๆ เหมือนฝงเปนปมพอสมควรคะ แมจะยังไมลึกมากแตก็ รบกวนชีวิตประจําวันพอสมควรคะ หนูควรทําอยางไรคะ ให เลิกคิดมากเวลาอานหรือฟงอะไร หนูอยากกลับไปสนุกกับ การอา น การดทู ีวี ฟงเพลงเหมอื นเดิมคะ กราบขอบพระคณุ ลวงหนา นะคะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com คําตอบ ๓๗ คําวา “ถาไปเรียน” หมายความวา เอาจิตไประลึกรูอยู กับเรื่องที่ยังไมเกิด (อนาคต) ยอมแกปญหาไมได เหตุเปน เพราะมีความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ผูมีความเห็นถูก (สัมมา- ทิฏฐิ) เอาจิตไประลึกรอู ยกู บั เรือ่ งทีเ่ ปน ปจ จุบัน ดว ยการดบั ทตี่ น เหตุแลว ปญหาจงึ จะไมเ กิดข้ึน ดังนั้น หากผูถามปญหา พัฒนาจิตตนเองใหมีสติ ดวย การสวดมนต (สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย) กอนนอน แลว สวดมนตตองเอาจิตจดจออยูกับลมหายใจเขา จดจออยูกับ ลมหายใจออก นานประมาณ ๓๐ นาที หรือจนกวาจะหลับ ผูมีศีล (ศีล ๕) และมีสัจจะคุมใจ ความรูหรือปญญาเห็นถูก ยอมเกิดขึน้ ปญ หาดงั กลาวจงึ จะหมดไปได ๑๖. กรรมฝงลึกในดวงจิต คาํ ถาม กราบเรียนถามคะ ถาภาวนา กําหนดรู พอเริ่มมีสมาธิ แลว เห็นภาพลบหลูครูบาอาจารยหรือผูมีพระคุณที่เราเคารพ เทิดทูน หรือภาพลามก หรือคําหยาบ ผุดขึ้นมา โดยท่ีไมเคย คิดหรือพูดแบบนั้นมากอน เกิดหลายครั้งเวลาท่ีการภาวนา กําลังไปไดดี เกิดแลวรูสึกตกใจและผิดบาปมากจนอยากเลิก สติสมาธิก็รวน กําหนดไมออกทุกที สิ่งน้ีเกิดจากอะไร ดิฉัน ควรทําอยา งไรดี หรอื จะกาํ หนดวาอะไรดีคะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร คําตอบ ส่ิงที่ผูถามปญหาเขียนบอกเลาไป เปนผลของกรรมไมดี แตอดตี ทีถ่ ูกเก็บส่ังสมไวในจิตใตสาํ นึก เม่อื เหตุทที่ ําในปจจบุ ัน เปนกุศลกรรม คอื พฒั นาจติ (สมถภาวนา) จนความถค่ี ลืน่ จิต เริ่มเปน ระเบยี บไดแ ลว อดตี กรรมจึงสงผลเขา กระทบจิต เกดิ เปนอกศุ ลวบิ ากทบี่ อกเลาไป หากไปอานหนังสอื ทางสายเอกที่ เขียนโดยผูตอบปญหา จะพบวากฎแหงกรรมนั้นศักด์ิสิทธิ์ บางชนิดของกรรมใหผลขามภพชาติได ดวยเหตุนี้ผูเห็นผิด จึงคิดหนีผลของกรรม ตรงกันขาม ผูเห็นถูก ไมหนีไปไหน แตยอมชดใชผลของกรรม ซ้ํายังพัฒนาจิตจนสามารถปด ๓๘ อบายภูมิ หรือพัฒนาจติ ใหพ นไปจากวฏั สงสาร ผลของกรรมไมดี ทเ่ี กดิ ขึ้นขณะนัง่ ภาวนา ตองกําหนดวา “รหู นอๆ ๆ ๆ ๆ” ไปเรอ่ื ยๆ จนกวา อกศุ ลวบิ ากหายไป ไมห าย ตอ งไมเ ลกิ กาํ หนด ผมู ศี ลี และมสี จั จะคมุ ใจ ยอ มมคี วามศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ หากไมแ พใ จตัวเอง ปญหาดงั กลา วจงึ จะหมดไปได สูน ะ สิ่งท่ีถามไปเกิดจากเหตุที่จิตของผูถามปญหายังมีกําลัง (พละ ๕) ออน จึงไมสามารถตานกําลังของกิเลสมารได ผูใด พัฒนาจิตจนมีกําลังของพละ ๕ (ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปญญา) กลาแข็งไดแลว ผูน้ันยอมมีจิตท่ีกลาแข็ง สามารถ ตานทานกิเลสมารได ดังนั้น หากบุคคลพัฒนาจิตใหมีศีล ๕ คุมใจไดทุกขณะต่ืน และพัฒนาจิตใหมีกําลังกลาแข็งไดแลว ปญ หาที่ถามไปจะไมเกดิ ขึน้ อกี ตอไป

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๑๗. ตองมศี ลี และสติ คาํ ถาม ๓๙ กราบเรียน อ.สนอง ท่ีเคารพอยางสูง หนูเคยเขียนมา ถามปญหาธรรมะอาจารยหลายคร้ัง เม่ือหลายปกอน และ นับถืออาจารยเปนครูบาอาจารยกันต้ังแตน้ันมาคะ หนูไดนํา คําสอนของอาจารยไปปฏิบัติตลอดจนถึงทุกวันน้ีคะ หนูรักษา ศลี สวดมนต เปน ประจาํ ทกุ วัน ทําบญุ ทําทานอยางสมาํ่ เสมอ หนอู ยากถามปญหาอาจารย ดงั น้ี ๑) ปกติแลวถาพวกจิตบริสุทธ ทําความดีหรือความชั่ว แลว จะไดรับผลกรรมทันที โดยเฉพาะกรรมไมดี จนเหมือน โดนตีกรอบความประพฤติอยูตลอดเวลา แตทําไมบางชวง กรรมดีก็ตอบสนองชามาก จนทอแทไปบาง ทําใหรูสึกวาอาจ มีขอยกเวน ใชไหมคะ ๒) มีวิธีไหนบาง ท่ีจะทําใหไสยศาสตรไมสามารถมา ทํารายเราไดโดยสิ้นเชิง จริงหรือไมที่มีคนบอกหนูวา คนที่ เคยโดนคุณไสย ถึงจะถอนไปแลวจะเหมือนกับมีชองทางให สามารถกลับทาํ รา ยไดอ กี รบกวนอาจารยช ว ยแนะนําดว ยคะ ๓) เม่ือเราไดพบกับคนที่มีจิตใจไมดี คิดแตจะหาเร่ือง หาความเดือดรอนมาใหคนอื่นไมเลิกรา เพราะเขาคิดไปเอง ตางๆ นานา เราพยายามอโหสิกรรมใหก็ไมยอมหยุด เรา ควรจะทําอยางไรดีคะ มีวิธีไหนบางคะท่ีจะทําใหหมดเวร หมดกรรมตอกนั โดยเร็ว

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๔) การที่เรารักษาศีล ปฏิบัติธรรม แลวที่คนมาพูดดูถูก ดูหม่ินสิ่งที่เราทํา ถึงเราจะไมสนใจ แตอยากทราบวา เขาจะ บาปไหมคะ คนพวกน้ีจะไดรบั ผลกรรมอยา งไรบาง ๕) มคี นรจู กั ทีถ่ อื ศลี ปฏิบตั ธิ รรม มาชวนทําบุญหนูทําบญุ อยูตลอด หนูก็ไมเคยปฏิเสธ บางครั้งพอหนูไปบอกบุญกับ ญาติและเพื่อนจนทั่วหมดและไดเงินมาพอสมควร แตอาจไม มากพออยางท่ีเขาตองการ เขาก็มักจะไมพอใจ จนตองเลิก คบกันไป หนูเจอบอยมากจนเหน่อื ยกับคน (แตยังทําตอ เพราะ สุขใจในบุญ) จึงอยากถามวา ถาเราไมอยากมีเรื่องแบบนี้ ตอ งทําอยา งไรคะ ขอบพระคุณอาจารยส นองมากคะ ทก่ี รณุ า ๔๐ ตอบคาํ ถามของหนู คาํ ตอบ (๑) ชีวิตของสรรพสัตวในวัฏสงสาร ลวนตางดําเนินไป ตามกฎธรรมชาติที่เรียกวา กฎแหงกรรม หากบุคคลไดทํา กรรมดี (กศุ ลกรรม) หรอื กรรมไมด ี (อกศุ ลกรรม) เมอื่ เหตปุ จ จยั ลงตัว ยอมมีผลเกิดข้ึนกับผูท่ีทําเหตุนั้นไว เพียงแตวากรรม บางอยา งใหผลเรว็ กรรมบางอยางใหผ ลชา อาทิ กระโดดลง จากที่สูง ขายอมเคล็ดหรือหักได ขับรถชนตนไม ยอมไดรับ บาดเจ็บ พกิ าร หรือตายได ดม่ื สุราแกวแรกมิไดทาํ ใหตับแขง็ แตหากด่ืมบอยๆ และยาวนาน โอกาสเปนโรคตับแข็งยอม เกิดข้ึนได เสพเมถุนกับบุตรผูอ่ืนหรือกับภรรยาของผูอื่น หาก

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com กลับมาเกิดเปน มนษุ ยยอ มมีเพศเบ่ยี งเบนได ฯลฯ ทกุ ชนดิ ของ ๔๑ กรรมทท่ี ํา จิตยอมเกบ็ บนั ทึกการกระทําไวภายใน เมอ่ื ใดท่เี หตุ ปจจัยลงตัว ผลของกรรมยอมเกิดข้ึน ดวยเหตุน้ีผูรูจริงแทจึง ไมป ระมาท พฒั นาจิต (สมถภาวนา) ใหม ีสติ แลว เลอื กทําแต กรรมท่ดี ีเทานน้ั แลว ผลดี (กศุ ลวบิ าก) จงึ จะเกดิ ขึ้นใหเขาเปน ผไู ดรบั กรรมใดใหผลกอน กรรมที่ทํารองลงมาจึงตองรอใหผล ภายหลัง คนรูไมจริง จึงคิดวากรรมใหผลชา และย่ิงกรรมที่ เปนอโหสิกรรม (กรรมยกเลิกใหผ ล) ดว ยแลว คนที่รูไมจ รงิ แท จึงไมเขาใจวาเปนไปไดอ ยางไร (๒) พทุ ธวจนะที่วา “ธรรมยอ มคุม รกั ษาผปู ระพฤตธิ รรม” เปนส่ิงท่ีมีอยูจริงในพุทธศาสนา ผูใดรักษาตนใหมีศีล (ศีล ๕) คุมใจ และพัฒนาจิตใหมีสติอยูทุกขณะต่ืนไดแลว ไสยศาสตร ไมสามารถทําอันตรายผูมีสภาวธรรมในดวงจิตเปนเชนนี้ได พสิ ูจนไ หม ? (๓) จากมงคลสูตรมีอยูขอหน่ึงท่ีกลาววา “อเสวนา จะ พาลานงั ” ผูใดประพฤติไดแ ลว ความดคี วามงาม (มงคล) ยอม เกิดขึน้ กบั ผูน้นั คนทย่ี กโทษใหก บั คนพาล หากไมแ พใจตวั เอง ตอ งให อภัยเปนทานในทุกครั้งที่มีเหตุขัดใจเกิดขึ้น แลวความ เมตตายอมเกิดตามมากับผูใหอภัย และย่ิงประพฤติตาม มงคลสูตรไดแ ลว ปญ หาเรือ่ งคนพาลจึงจะผานพนไปได

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร (๔) ผขู าดสตยิ อ มสรา งบาปใหก บั ตวั เอง ดว ยการประพฤติ อกุศลวจีกรรม สวนผลของบาปจะเสียอยางไร ผูรูจริงแทไม สนใจ เพราะมิไดเปนเหตุนําพาชีวิตไปสูความพนทุกข ในครั้งพุทธกาล มีพระอรหันตอยูรูปหน่ึงท่ีชื่อวา พระ- มหากจั จายนะ ไดก ลา วไวในทาํ นองท่วี า คนมปี ญญาเหน็ แจง - มีตา เปน เหมือน คนตาบอด - มีหู เปน เหมอื น คนหูหนวก - มีปาก เปน เหมือน คนใบ - มกี ําลงั เปน เหมอื น คนออ นแอ ดงั นัน้ พงึ หนั กลับมาดูตวั เองวา เราเปน คนประเภทไหน ๔๒ (๕) คนอน่ื จะพอใจหรอื ไมพ อใจเปน เร่ืองของเขา แตเ ร่อื ง ของเราตองดูใหออกวา การใหทรัพยเปนทาน ยอมทําใหมี ทรพั ยมาก มอี านิสงสเปนบุญทีท่ าํ ใหเขา ถงึ สวรรคสมบัติ สวน การปฏบิ ตั ธิ รรม (วปิ ส สนาภาวนา) เปนบญุ ใหญส ุด มีอานสิ งส ผลักดันชีวิตไปสูความเปนอริยบุคคล และทําใหพนทุกขได ดังน้ัน พึงเลือกกระทําตามท่ีใจปรารถนาเถิด ๑๘. รไู มจริง คําถาม คือผมอยากถามวาถาเรากลัวผีน้ีมันเกิดจากอวิชา แต สมมตวิ ามคี นเดินมาเอามดี มาจะแทงเรา แลว เรากลวั มนั เกิด จากอะไรครับ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com คําตอบ เกดิ จากความไมร จู รงิ ในส่งิ ทก่ี ลัว ๑๙. กลัวพญายมราช คาํ ถาม ๔๓ ฝนถึงพญายมตัวอวนๆ สีแดง ไมใสเสื้อใสโจงกระเบน ตัวเดียว มีเขาท่ีหัวดวย เหมือนทานจะมารับใคร ทานถาม ชื่อหนู แลวทานก็บอกวายังไมใช แลวก็กลับ นอนไมหลับเลย คะ ไมกลาหลบั เลย คําตอบ สัตวบุคคลในวัฏสงสาร ท่ีมีปญญาเห็นผิด (โมหะ) ยัง สามารถฝนเห็นพญายมผูมีหนาท่ีตัดสินชีวิตของสรรพสัตวใน กามภพ (อบายภมู ิ มนษุ ยโลก และเทวโลก) ได หากประสงค จะไมไปเกิดเปนสัตว (รูปนาม) อยูในกามภพ ตองพัฒนาจิต ใหเ ปน อิสระจากกาม (รปู เสียง กล่ิน รส สมั ผัสทางกาย) เชน ปฏิบัติสมถภาวนาจนจิตตั้งม่ันเปนฌาน จึงจะมีโอกาสไปเกิด เปนสัตวอ ยใู นพรหมโลก หรือพัฒนาจิต (วิปสสนาภาวนา) จน สามารถเปนอริยบุคคลนําพาชีวิตไปเกิดอยูในสุทธาวาส หรือ นําพาชวี ิตพนไปจากวัฏสงสาร จึงจะไมพ บกบั พญายม

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ๒๐. แพทยจ า ยยาฆา เชอ้ื บาปไหม คําถาม เรยี นถามอาจารยด ว ยความเคารพครบั ผมเปนนกั ศกึ ษา แพทยครับ อยากทราบครับวาเหตุใดอาจารยจึงกลาววา แบคทีเรีย ไวรัส ไมมีรูปนามละครับ เพราะมองเห็นได มี การดื้อยาได ผมเองเห็นวาเวลาหมอใหยาฆาเชื้อกับคนไขจะ ครบองค ๕ ของขอปาณาฯ (สัตวมีชวี ิต-รูวาสัตวมีชวี ติ -จติ คิด จะฆา-เพียรจะฆา-สัตวต ายลง) ที่ผมถามเชน น้ีเพราะคบั ขอ งใจ ทจ่ี ะตอ งจา ยยาเหลานี้นะ ครับ ๔๔ คาํ ตอบ คําวา “สัตว” หมายถึง ส่ิงมีชีวิตที่มีความรูสึก และ เคล่อื นไหวยายที่ไปไดเ อง (เห็นดวยตา) สวนคําวา “จุลินทรยี ” หมายถงึ สิ่งมชี ีวติ ทม่ี ขี นาดเล็กและไมส ามารถมองเหน็ ดว ยตา ดวยเหตุนี้นักวิทยาศาสตรจึงบัญญัติใหส่ิงมีชีวิตทั้งสองเปน คนละประเภทกัน คําวา “ปาณาตบิ าต” (ปาณาตปิ าต) ตามที่พระพุทธโคดม บัญญัติไวในศีล ๕ หมายถึง การนําพาชีวิตสัตวใหตกลวงไป หรือหมายถึงการฆาสัตว ดวยเหตุนี้การใหยาฆาเชื้อโรค (จุลินทรีย) จึงมิไดถือวาเปนการฆาสัตวครับ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๒๑. ดเู ขาเปน ครู คาํ ถาม ๔๕ กราบเรยี น อาจารย ดร.สนองท่ีเคารพ สองสปั ดาหกอ น ผมมีโอกาสไดไปฟงการบรรยายของ ดร.อาจารยทานหนึ่ง ทานพูดเก่ียวกับภัยธรรมชาติท่ีจะเกิดขึ้นในเมืองไทยและ โลกใบน้ีที่เราอาศยั อยู ผมมขี อสงสัยบางขอที่อยากใหอ าจารย กรุณาไขขอสงสยั ดงั นี้ ๑) อาจารยผูบรรยายสามารถบังคับหรือเปลี่ยนแปลง ธรรมชาติได เชน พายุแทนท่ีเขามาในเมืองไทยกลับปรับ เปลี่ยนทิศทางใหพัดไปท่ีประเทศอ่ืน - การทําแบบน้ีถือผิดศีลหรือไม ? เพราะถาทําไดจริง เหมือนไปทําใหค นอ่นื เดอื ดรอ น ๒) อาจารยผูบรรยายมีส่ิงของมาจําหนายใหสมาชิก ผานการทําพิธี หรือปลุกเสกจากทานอาจารยผูบรรยายเอง - การทําแบบน้ีถือวาผิดศีลหรือไม ? ถาทําเพื่อหา รายไดมาสนับสนุนชมรม ผมคิดวาก็โอเค แตการจําหนาย สิ่งของแบบนี้ เปนการทําใหผูคนหลงผิดหรือไม ? ๓) อาจารยผูบรรยาย เนนหลายคร้ังระหวางบรรยายวา จะพยายามรักษาแผนดินไทยใหคงอยูในยุคของพระพุทธเจา องคถัดไป มีการบรรยายถึงเคร่ืองทรงพระพุทธรูปของพระ- พุทธเจาองคถ ัดไป

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร - ผมอาจเขาใจอาจารยทานผูบรรยายผิดที่เขาใจ จุดประสงคของชมรม ท่ีวาพยายามพาตัวเองไปเกิดในยุค ของพระพุทธเจาองคถัดไป ผมสงสัยวาเราควรเปลี่ยนจุดหมายของเราจากพระ- พุทธเจาองคปจจุบันซึ่งยังไมหมดวาระ ไปยังพระพุทธเจาองค ถัดไปหรือไม มีผลดี ผลเสียอยางไร ? ๔) อาจารยผูบรรยาย นํารูปถายที่อาจารยบอกวาเปน รูปของเทพท่ีมาชวยเมืองไทย รูปลําแสงสีมวงที่หมายถึง ประตสู วรรค ขออนุญาตนะครับ ผมอานหนังสือ - เทปบรรยายของ ๔๖ อาจารยสนอง ซึง่ ระบุวา เทคโนโลยีปจ จุบนั ยังไมส ามารถถา ย รปู ลกั ษณะดังกลา วได - ผมขอความเห็นจากอาจารยใ นคาํ ถามขอนีด้ ว ยครับ ขอบพระคณุ อาจารยส นองมากครับ คาํ ตอบ (๑) ท่ีเอยชื่อวาอาจารยผูบรรยาย มิไดระบุวาชมรมหรือ มูลนิธิช่ือวาอะไร แตอยางไรก็ตาม มิไดบรรยายใหกับผูมาฟง ธรรมจากชมรมกัลยาณธรรมแนนอน เพราะมิใชจุดประสงค ของชมรมกัลยาณธรรม ท่ีใหผูบรรยายเผยแผธรรมปฏิรูป เชนนั้น การบังคับพายุใหเปลี่ยนทิศทางไปทําความเดือดรอน ใหผูอ่ืน มิใชคําสอนของพระพุทธโคดมครับ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com (๒) การปลุกเสกวัตถุใหขลัง เปนดิรัจฉานวิชา หรือเปน ๔๗ พระวินัย (ศีล) ท่ีพระพุทธโคดมบัญญัติใหภิกษุเวนประพฤติ แมจะทาํ รายไดเขาสชู มรมกต็ าม ชมรมกัลยาณธรรมไมสอนให ผูฟงธรรมประพฤติเชนน้ัน เพราะนั่นคือเหตุแหงความเห็นผิด ไปจากธรรม (๓) หากผูบรรยายคิดเชนน้ัน เห็นวาเปนความเห็นผิด ไปจากธรรมของพระพุทธโคดม การเผยแผธรรมะท่ีดีงาม เปนจุดประสงคหลักของชมรมกัลยาณธรรม ท่ีตองการรักษา ความดงี ามในธรรมวินยั ของพทุ ธศาสนานไ้ี ว (๔) ผูท่ียังมีสภาวธรรมในดวงจิตเปนปุถุชนเห็นวาเปน ความถูกตอง แตผูท่ีมีความรูจริงแทในพุทธศาสนา มองเทพ และประตูสวรรควา เปนสิ่งทีไ่ มม อี ยจู รงิ (อนตั ตา) จงึ มจี ิตเปน อิสระจากส่ิงที่ยกขึน้ มากลาวอาง ท่ีบอกวาเทคโนโลยีในปจจุบันไมสามารถถายรูปลักษณะ ของส่ิงอันเปนทิพยได เหตุเปนเพราะความรูหรือปญญาทาง โลกไมส ามารถเขา ถงึ ความถค่ี ลน่ื พลงั งานของสงิ่ อนั เปน ทพิ ยไ ด

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๒๒. แบกของหนกั คาํ ถาม เรียน อาจารย ดร.สนอง ท่ีเคารพ ตัวผมเองพยายามท่ีจะคอยดูตัวเองไมใหความโกรธ เกิดขึ้น แตก็มีพลาดอยูบางครับ สวนสิ่งท่ีผมจะเรียนถาม อาจารยคือ ถาการกระทําของผม ไมวาทางกายหรือวาจา แลวทําใหคนอื่นมีความโกรธเกิดข้ึนจากการกระทําของผม ไมวาเปนความผิดพลาดของผมเองหรือเกิดจากจิตใจของ ผูอ่ืนท่ีมักโกรธก็ตาม ถาผมสัมผัสไดวาเขาเหลานั้นมีความ ๔๘ โกรธเกิดขนึ้ กจ็ ะทาํ ใหผมมคี วามไมส บายใจ มอี าการหอ เหยี่ ว ทางจิตใจเกิดขึ้นทุกครั้ง ซึ่งมักเกิดจากการที่ผมไปแครความ รูสึกของคนอ่ืนนั่นเอง ขอขอบพระคุณอาจารยมากครับ ดวย ความเคารพ คําตอบ การฝก จติ ใหเ ปนอิสระจากอารมณของคนอื่น ตอ งพัฒนา จติ ตนเอง (สมถภาวนา) ใหม ีกาํ ลังของสติกลาแข็ง และพัฒนา จิตตนเอง (วิปสสนาภาวนา) ใหม ีกําลงั ของปญญาเหน็ ถกู ตาม ธรรมกลาแข็ง ผูถามปญหาจึงจะสามารถมีจิตเปนอิสระจาก อารมณของคนอน่ื ได

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๒๓. อธิษฐานซิครบั คําถาม กราบเรยี น ทา นอาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร ทเี่ คารพ กระผม เปนนกั ศกึ ษาป ๑ นติ ิศาสตร มหาวิทยาลัยรามคาํ แหง ๑. ทําอยางไรถงึ จะไดพบกบั คนที่ใช (คนที่ดี) ๒. และเมือ่ พบแลว ทาํ อยา งไร เขาถงึ จะยอมคบกับเรา ขอบพระคณุ ครบั คาํ ตอบ ๔๙ (๑) คําวา “คนท่ีใช” หากผูถามปญหาหมายถึง คนที่ดี อยางนอยตองพัฒนาตนเองใหม พี ฤตกิ รรมดี มเี มตตา มีความ กตัญูกตเวที มสี ัจจะ ฯลฯ คุมใจใหไ ดทกุ ขณะต่นื (๒) การที่จะใหคนดียอมรับ (ยอมคบกับเรา) เปนความ เห็นผิดไปจากธรรมในพุทธศาสนา แตหากเราพัฒนาตนเอง ใหมีเมตตาและประพฤติตนเปนผูใหส่ิงดีงามแกผูอื่น สัตวอื่น อยเู สมอ การยอมรับจากบคุ คลอน่ื สัตวอ นื่ จึงจะเกดิ ข้ึน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook