195 เฉลย บทท่ี 6 การใชเ ครอ่ื งมอื และการออกแบบผลิตภณั ฑ แบบฝกหดั ที่ 1 1. กาํ หนดมุมสเี่ หลี่ยมมุมฉากดงั รูป ก. ผืนผา ข. 90 องศา ค. แนวทแยง ง. สามเหลี่ยม BDE 2 รูปประกอบกับเปน ส่เี หลยี่ ม BDEG 2. จงเขียนรูปคลี่ของทรงสามมิติตอไปนี้
196
197 3. จงเขียนรูปทรงสามมิติจากมุมมองภาพดานบน ภาพดา นหนา ภาพดานขา งที่กําหนดให
198 แบบฝกหดั ที่ 2 1. ใหเขียนภาพที่เกิดจากการเลื่อนขนานจากรูปตนแบบและทิศทางที่กําหนดให ก. ข. A C B D C A B 2. ใหเ ขยี นภาพการเลอ่ื นขนานโดยกาํ หนดภาพตนแบบ ทิศทางและระยะทางของการเลื่อนขนานเอง ก. ข.
199 แบบฝกหดั (ตอ ) ขอ 3 ภาพ พิกัดของตําแหนงทกี่ ําหนดให Y C′(5 , - 3) A(- C X B(- 0 A/(2,- B/(1,- C Y A′(-5 , - 3 ) D B′(-3 , - 5 ) C′(0 , - 2) C A D/(- B X 0 A/ C/ B/
200 แบบฝกหัดท่ี 3 คาํ ช้แี จง จงพิจารณารูปทีก่ ําหนดใหแลว - เขียนรปู สะทอ น - เขยี นเสน สะทอน - บอกจุดพิกัดของจุดยอดของมุมของรูปสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้นจากการสะทอน - บอกจดุ พกิ ดั บางจดุ บนเสนสะทอนที่ได Ä
201 แบบฝกหัดท่ี 4 1. Y B C ใหเ ตมิ รปู สามเหล่ยี ม A′B′C′ ท่ี เกิดจากการหมุนสามเหลี่ยม ABC X เพยี งอยา งเดยี ว โดยหมนุ ทวนเขม็ นาฬกิ า 90๐ และใชจ ุด (0 , 0) เปน จดุ หมนุ 0
202 2. Y Y ใหเติมรปู สเ่ี หล่ยี ม O/X/Y/Z/ ทเ่ี กดิ X จากการหมุนสเ่ี หลยี่ ม OXYZ X เพยี งอยา งเดยี ว โดยหมนุ ทวนเขม็ Z นาฬกิ า 270๐ และใชจุด (0 , 0) เปนจดุ หมุน
203 3. Y B ใหเตมิ สว นของเสน ตรง A′B′ ที่ เกดิ จากการหมุนสว นของเสนตรง AB เพยี งอยา งเดยี ว โดยหมุนตาม X เข็มนาฬิกา 90๐ และใชจุด (-2, -2) 0 เปนจดุ หมุน
204 4. Y ใหเ ตมิ รปู สามเหลีย่ ม A′B′C′ ท่ี เกิดจากการหมุนสามเหลี่ยม ABC 0 เพยี งอยา งเดยี ว โดยหมนุ ทวนเขม็ X นาฬกิ า 90๐ และใชจุด (-4 , -2) B เปนจุดหมุน C
205 เฉลย บทท่ี 7 สถิติ แบบฝกหัดท่ี 1 6. จงเขียนขอมูลสถิติที่เกี่ยวของกับบุคคลในครอบครัว เชน เพศ อายุ สถานภาพ อาชีพ ตอบ อายุเฉลี่ยของคนในครอบครัว 45.2 ป อาชีพ : รบั ราชการ, ลกู จา ง, ทํางานอิสระ 7. จงยกตัวอยางขอมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณมาอยางละ 5 ชนดิ ตอบ ขอมูลเชิงปริมาณ 1. จาํ นวน รถยนตใ นกรงุ เทพมหานคร 7 2. จาํ นวนบตุ รในครอบครวั 7 3. น้ําหนักเฉล่ยี ของนกั ศึกษา กศน.บา นแพว 4. จาํ นวนคนงานแยกตามเงนิ เดอื น 5. จํานวนของผเู ขารว มประชุมที่มีอายุ 20 ไปขึ้นไป ขอ มลู เชิงคุณภาพ 1. สถานภาพของผูเขารวมอบรม 2. รายช่ือจงั หวัดท่ีมนี กั ศกึ ษาท่ีเขา สอบ 3. โรคที่มีผูปวยมารักษามากที่สุดในเดือนมกราคม 54 3 ลําดบั 4. กลุมเลือดของคนในโรงงาน 5. ศาสนาคริสตที่คนในประเทศไทยนับถือ 8. จงพิจารณาวา ขอ มลู ตอไปนเ้ี ปนขอมูลเชิงคุณภาพ และขอมูลเชิงปริมาณ - พนักงานในรงงานแหงหนึ่งถูกสอบถามถึงสุขภาพรางกายในขณะปฏิบัติงาน คุณภาพ ปริมาณ เปน ขอ มูลเชิงคณุ ภาพ เพราะคาํ ตอบจะไมใ หตอบออกมาเปนตวั เลข - นักศึกษาจํานวนหนึ่งที่ถูกสอบถามถึงคาใชจายในการไปพบกลมุ ท่ีหองสมุด คณุ ภาพ ปริมาณ เปน ขอมูลเชิงปริมาณ เพราะคาใชจายเปนขอมูลทางตัวเลข สามารถนํามาเปรียบเทียบกันได 9. ขอ มลู ปฐมภมู ิตา งจากขอมูลทุตยิ ภูมิอยางไร จงอธิบายและยกตวั อยาง ตอบ ขอมลู ปฐมภูมเิ ปนขอมูลท่ีเราตองเกบ็ หรือสํารวจจากแหลง ทีเ่ ปนขอมูลโดยตรง ฯลฯ ขอมูลทุตยิ ภมู ิเปน ขอมูลเกบ็ จากแหลง ขอมลู ท่ีมกี ารเกบ็ รวบรวมไวกอนแลว
206 10. ขอ มลู ตอไปน้ีควรใชว ิธใี ดในการรวบรวม (ตอบไดหลายคําตอบ) ตอบ 1 สํารวจ สัมภาษณ ใชแบบสอบถาม 2 สาํ รวจ สมั ภาษณ ใชแ บบสอบถาม 3 ใชแบบสอบถาม ขอมูลจากสาธารณสุขชุมชนไปชั่งน้ําหนักเด็กในหมูบานทีละคน 4. แบบสอบถาม ทดลอง 5 ขอมูลจากสาธารณสุข 11. จงบอกขอดีขอเสียของการเก็บรวบรวมขอมูลโดยวิธีการตาง ๆ ตอบ ขอ ดี 1. ถกู ตองแมนยํา 2. ไดข อ มูลเชิงลกึ 3. ความสมบูรณครบถวนของขอมูล 4. ตรงความตองการของผูใช ขอ เสยี 1. ตอ งใชเ วลา 2. มีคาใชจายเปนปจจุบัน 3. การเก็บขอมูลอาจบันทึกคาดเคลื่อน 7. ขอมลู การสํารวจอายุ ( ป ) ของคนงานจาํ นวน 50 คนในโรงงานอตุ สาหกรรมแหง หนง่ึ เปน ดงั น้ี 27 35 21 49 24 29 22 37 32 49 33 28 30 24 26 45 38 22 40 46 20 31 18 27 25 42 21 30 25 27 26 50 31 19 53 22 28 36 24 23 21 29 37 32 38 31 36 28 27 41 กําหนดความกวางของอันตรภาคชั้นเปน 8
207 1. จงสรางตารางแจกแจงความถี่ คะแนน รอยขีด ความถี่ 9 16 – 23 //// //// 22 10 24 – 31 //// //// //// //// // 5 4 32 – 39 //// //// 40 – 47 //// 48 – 55 //// 2. จงหาขีดจํากดั ชั้นท่แี ทจ ริงและจดุ กง่ึ กลางชั้น คะแนน ความถี่ ขีดจํากดั บน ขดี จํากัดลาง จดุ ก่ึงกลางชน้ั 15.5 19.5 16 – 23 9 23.5 23.5 27.5 31.5 33.5 24 – 31 22 31.5 40.5 43.5 47.5 51.5 32 – 39 10 39.5 40 – 47 5 47.5 48 – 55 4 55.5 3. จงหาความถีส่ ะสม ความถ่ีสัมพัทธ และความถสี่ ะสมสัมพัทธ คะแนน ความถี่ ความถี่ ความถี่สะสม ความถี่สะสม สัมพัทธ สัมพทั ธ 0.18 16 – 23 9 0.18 9 0.62 0.82 24 – 31 22 0.44 31 0.92 32 – 39 10 0.2 41 1 40 – 47 5 0.1 46 48 – 55 4 0.08 50 4. จงหาพิสัยของขอมูลชุดนี้ 53 – 18 = 35 5. จงหาจํานวนคนงานทีม่ อี ายุตํ่ากวา 45 ป 44 คน
208 แบบฝกหดั ที่ 2 1. จงหาคาเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยมของน้ําหนักเดก็ 20 คน ซง่ึ มีนํ้าหนักเปนกโิ ลกรมั ดงั น้ี 32 60 54 48 60 52 46 35 60 38 44 48 49 54 47 48 44 48 60 32 คา เฉล่ยี x = 959 = 47.95 20 มัธยฐาน 32 32 35 38 44 44 46 47 48 48 48 48 49 52 54 54 60 60 60 60 ตาํ แหนงของมัธยฐาน = N +1 = 10.5 2 = 48 ฐานนยิ ม 48 และ 60 2. ตารางแสดงรายไดพิเศษตอวันของลูกจางในสํานักงานแหงหนึ่ง ความถี่สะสม รายได (บาท) จาํ นวน (f) จุดกลาง (x) fx 1 140 – 144 1 142 142 3 145 – 149 2 147 294 37 150 – 154 34 152 5168 62 155 – 159 25 157 3925 72 160 – 164 10 162 1620 77 165 - 169 5 167 835 170 – 174 3 172 516 80 ∑ f = 80 ∑ fx = 12 , 500 1. คา เฉลีย่ เลขคณติ ( x ) = ∑ fx ∑f = 12 , 500 80 = 156.25 รายไดพ ิเศษตอวันเฉลยี่ 156.25 บาท 2. มัธยฐาน : N = 80 = 40 ∴ มัธยฐานอยูในข้ัน 155 – 159 22
209 อันตรภาคชั้นท่มี ีมธั ยฐานอยูคือ 155 – 159 N −∑ fl 2 จากสตู ร Md = Lo + i fm เมอื่ N = 80 , i = 50, Lo = 154.5 , ∑ f l = 37 , fm = 25 ∴ Md = 154.6 + 5 40 − 37 = 155.10 25 มัธยฐานของรายไดพิเศษตอวันมีคาเปน 155.10 บาท 3. ฐานนยิ ม : ฐานนิยมอยใู นชน้ั 150 – 154 จากสตู ร Mo = Lo +i d1 d 1 + d 2 เมอ่ื Lo = 149.5, d1 = 34 – 25 = 9, d2 = 34 – 2 = 32, I = 5 ∴ Mo = 149.5 + 5 9 = 150.5 9 + 32 ฐานนิยมของรายไดพิเศษตอวัน มีคาเปน 150.5 บาท
210 แบบฝกหดั ท่ี 3 1. กาํ หนดใหว า จาํ นวนคนไข (คนไขใน) ของโรงพยาบาลอําเภอแหงหนึ่งในป 2545 และ 2546 ซงึ่ ไดม าก จากการสํารวจของโรงพยาบาลเปนดังนี้ พ.ศ. 2545 มีเพศชาย 4,571 คน หญิง 3,820 คน ป 2546 มเี พศ ชาย 5,830 หญงิ 4,259 คน จงนําเสนอขอมูล ก. ในรูปบทความ ผลจากการสํารวจจํานวนคนไขในโรงพยาบาลแหงหนึ่ง ในป 2545 และ 2546 มดี ังนี้ ป 2545 มจี าํ นวนคนไข ทั้งหมด 8,391 แบงเปน ชาย 4,571 คน หญงิ 3,820 คน และในป 2546 มจี าํ นวน ท้งั หมด 10,089 คน แบงเปน ชาย 5,830 หญงิ 4,259 คน ข. ในรูปบทความ / ขอความกึ่งตาราง ผลจากการสํารวจจํานวนคนไขในโรงพยาบาลแหงหนึ่ง ในป 2545 และ 2546 มีดังนี้ พ.ศ. 2545 มีเพศชาย 4,571 คน หญิง 3,820 คน พ.ศ. 2546 มีเพศชาย 5,830 หญงิ 4,259 คน 2. จากขอมูลที่นําเสนอในรูปตาราง รอยละของนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนตนของสถาบันการศึกษาแหง หนึ่ง ไดผ ลการเรยี นใน 4 วิชาหลกั ในป 2546 มดี ังนี้ หมวดวิชา ระดบั ผลการเรียน 4 3 2 10 คณิตศาสตร 4.49 9.51 22.88 43.58 16.28 5.82 12.14 26.55 41.18 13.10 ภาษาไทย 4.82 11.23 23.50 39.81 19.91 วิทยาศาสตร 9.04 16.60 29.10 34.75 9.09 สังคมศึกษา รวม 84.55 13.67 จากตารางจงตอบคําถามตอไปนี้ 1. หมวดวชิ าใดทีน่ ักศกึ ษาไดระดบั ผลการเรียน 4 มากท่ีสดุ และไดระดับ 0 นอ ยทส่ี ุดและคดิ เปน รอ ยละเทา ไร ตอบ วชิ าทไี่ ดระดับผลการเรียน 4 มากทสี่ ุด คอื วชิ าสังคมศึกษา คิดเปนรอยละ 9.04 และไดร ะดบั 0 นอยทีส่ ุด คอื วชิ าสงั คมศึกษา คดิ เปน รอยละ 9.09
211 2. นกั ศกึ ษาสว นใหญไ ดร ะดับผลการเรยี นใด ตอบ ผลการเรยี น 1 3. ระดับผลการเรยี นทนี่ กั ศึกษามจี ํานวนมากทสี่ ดุ ไดรับตอบ ผลการเรยี น 1 วิชาคณิตศาสตร 4. ระดับผลการเรยี นที่นักศกึ ษามจี ํานวนนอยทส่ี ดุ ไดร บั ตอบ ผลการเรยี น 4 วิชาคณิตศาสตร 5. กลา วโดยสรุปถึงผลการเรียนของสถาบันแหงนี้เปนอยางไร ตอบ สถาบันแหงน้ีนักศกึ ษาสวนใหญจะมีระดับผลการเรยี นอยูท่ี เกรด 1 และเกรด 2 ทุกวิชา วิชาที่มี นักศกึ ษาสอบไมผา น (ไดเ กรด 0) มากที่สุด คือ คณิตศาสตร รองลงมาเปนวิทยาศาสตร ภาษาไทย และสังคม ศึกษา 6. ตารางแสดงปริมาณผลิตยางพาราของประเภทตาง ๆ ในป พ.ศ. 2544 และป พ.ศ. 2545 ดงั น้ี ประเทศ ปรมิ าณการผลติ ( ลา นตนั ) ป 2544 ป 2545 มาเลเซยี อนิ โดนีเซยี 2.5 3.0 3.0 4.0 ไทย 2.0 3.5 เวยี ดนาม 1.5 2.0 1.0 1.5 ลาว จงเขียน 1. แผนภูมิแทงแสดงการเปรียบเทียบการผลิตยางพาราของประเทศตาง ๆ ในป 2544 3 2.5 2 1.5 ยางพารา 1 0.5 0 ไทย ลาว มาเลเซีย
212 2. แผนภูมิแทงแสดงการเปรียบเทียบการผลิตยางพาราของประเทศตาง ๆ ในป 2544 และในป 2545 4 ไทย พ.ศ.2544 3.5 พ.ศ.2545 3 ลาว 2.5 2 1.5 1 0.5 0 มาเลเซยี 3. แผนภูมิวงกลมแสดงการเปรียบเทียบการผลิตยางพาราของแตละประเทศในป 2544 มาเลเซีย อินโดนเี ซีย ไทย เวียดนาม ลาว 4. จงเขียนกราฟแสดงการเปรียบเทียบปรมิ าณสัตวน า้ํ จืดและสัตวน้ําเคม็ ท่จี บั ไดต งั้ แต พ.ศ. 2540 ถึง พ.ศ. 2546 พ.ศ. ปริมาณท่ีจบั ได ( พนั ตนั ) สตั วนาํ้ จดื สตั วนํา้ เคม็ 2540 1,550 130 2541 1,529 141 2542 1,395 159 2543 2,068 161 2544 1,538 122 2545 1,352 147 2546 1,958 145
213 กราฟแสดงการเปรียบเทียบปริมาณสัตวน า้ํ จืดและสตั วน้ําเค็มทจ่ี บั ไดต้ังแตพ .ศ. 2540 – 2546 2,500 สตั วน าํ้ จืด 2,000 สตั วน ้ําเคม็ 1,500 1,000 500 0 2540 2542 2544 2546 แบบฝกหดั ท่ี 4 1. การเลือกขอมูลมาใชประกอบการตัดสินใจตองอาศัยหลักการใดบาง 1. เชอ่ื ถอื ได 2. ครบถวน 3. ทนั สมัย 2. ขอ มูล ตา งกับ สารสนเทศ อยา งไร จงอธิบายพรอ มยกตัวอยางประกอบดว ย ขอมูล หมายถึง ขอ เทจ็ จริง หรอื เหตกุ ารณทเ่ี กี่ยวของกับส่ิงตา ง ๆ เชน บุคคล ส่ิงของ สถานที่ ฯลฯ ขอมูลเปน เรื่องเกี่ยวกับเหตุการณท เ่ี กิดขึ้นอยางตอเน่ือง ขอมูลตอ งถูกตองแมน ยํา ครบถว นข้นึ อยู กับผูดําเนินการที่ใหความสําคัญของความรวดเร็วของการเก็บขอมูล สารสนเทศ เกิดจากการนําขอมูล ผานระบบการประมวลผล คํานวณ วิเคราะหและแปลความหมายเปน ขอความที่สามารถนําไปใชประโยชนได
214 เฉลย บทที่ 8 ความนาจะเปน แบบฝกหัดท่ี 1 1. โยนเหรยี ญ 1 เหรยี ญ 3 คร้ัง จงหาจาํ นวนท่ีเหรยี ญจะขน้ึ หนา ตา งๆ โดยวิธเี ขียนแผนภมู ิตนไม 2. ในการทดสอบวชิ าคณติ ศาสตร ประกอบดวย โจทยแ บบปรนยั 4 ตัวเลอื ก จาํ นวน 5 ขอ โจทยแ ตละขอ มี คาํ ตอบทถ่ี กู ตองเพียงหนง่ึ ตวั เลอื กเทา นนั้ แลวจํานวนวธิ ีการตอบคาํ ถามที่เปน ไปไดท ง้ั หมดมกี ว่ี ธิ ี มี 4 ×4 ×4 ×4 ×4 = 1,024 วธิ ี 3. มนี ักเรียน 5 คน ยืนเขา แถวเพ่อื ซื้ออาหารกลางวนั ของรานหนง่ึ จงหาวาจาํ นวนวิธีทย่ี นื เขา แถวท่ีแตกตางกัน มีทง้ั หมดกว่ี ิธี ตอบ 5 × 4 × 3 × 2 × 1 = 120 วธิ ี 4. มีชาย 6 คน หญิง 5 คน ตองการจัดคแู ขงขันระหวางชาย 1 คน หญงิ 1 คนในการแขงขันกีฬาแทนนิสมี จาํ นวนทง้ั หมดกว่ี ธิ ี ตอบ 6 × 5 = 30 วธิ ี 5. เพ่ือน 3 คน นดั กนั ไปรับประทานอาหารเย็นทภี่ ัตตาคารและ ซื้อของทีห่ า งสรรพสนิ คา โดยเลือกท่ีจะไป รับประทานอาหารและซื้อของ ซึ่งมีภตั ตาคาร 5 แหง และมีหา งสรรพสินคา 4 แหง ทงั้ สามคนน้จี ะมีวธิ ีเลอื ก กระทําดงั กลา วไดท ง้ั หมดก่วี ิธี ตอบ 5 × 4 = 20 วธิ ี 6. บริษัทแหงหนงึ่ เปดรบั สมัครพนกั งานเขา ทํางาน โดยพจิ ารณาจากเงอื่ นไขคอื เพศชาย หญงิ ระดับอายุมี 6 ระดับ และมีสาขาวิชาชีพ 10 ประเภท แลว บรษิ ทั นจ้ี ะมีวธิ ีการจําแนกผสู มคั รไดท ัง้ หมดกีว่ ิธี
215 ตอบ มี 2 X 6 X 10 = 60 วธิ ี 7. จากการสัมภาษณรับคนเขาทํางานจํานวน 8 คน จะมวี ิธจี ะคัดเลอื กไดพนักงานหนึง่ คนจากผูเ ขา สมั ภาษณ ทั้งหมด ตอบ 8 วธิ ี 8. จงเขยี นแผนภาพตนไมเพ่ือแสดงผลทเี่ กิดข้ึนจากการโยนเหรียญ 1 เหรยี ญ 4 ครั้ง จงหาจํานวนวิธีท่ี แตกตางกนั ในการโยนเหรยี ญคร้ังน้ี โดยที่ 1. ไมม หี นา หวั เลย 2. มหี นาหัวเพยี ง 1 คร้งั 3. มีหนาท้ัง 2 ครงั้ 4. มีหนาหวั เพียง 3 ครัง้ 5. มหี นา หวั 4 คร้ัง ตอบ ครง้ั ที่ 1 ครั้งท่ี 2 ครั้งท่ี 3 คร้ังที่ 4 เหตกุ ารณ 1 (T,T,T,T) = 1 วธิ ี 2. (H,T,T,T),(T,H,T,T),(T,T,H,T),(T,T,T,H) = 4 วธิ ี 3. (H,H,T,T),(H,T,H,T),(H,T,T,H),(T,H,H,T)(T,H,T,H) (T,T,H,H) = 6 วธิ ี 4. (H,H,H,T)(H,H,T,H) (H,T,H,H) (T,H,H,H) = 4 วธิ ี 5. (H,H,H,H) = 1 วธิ ี
216 แบบฝกหัดที่ 2 2. จากการทดลองสุมตอไปนี้ จงเขียนแซมเปลสเปซและเหตุการณที่สนใจในการทดลองนั้นๆ (1) ไดห วั สองเหรยี ญจากการโยนเหรยี ญสองอนั หนึง่ คร้ัง ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ ทัง้ หมด (H,H) , (H,T) ,(T,H) ,(T,T) เหตกุ ารณท ีส่ นใจ = (H,H) = 1 4 (2) ไดผลรวมของแตมบนหนาลูกเตาทั้งสองเปน 2 หรือ 6 จากการโยนลูกเตา สองลูกหนึ่งครง้ั ผลทเ่ี กิดขน้ึ ทงั้ หมด {(1,1),(1,2),(1,3),(1,4),(1,5),(1,6), (2,1),(2,2),(2,3),(2,4),(2,5),(2,6), (3,1),(3,2),(3,3),(3,4),(3,5),(3,6), (4,1),(4,2),(4,3),(4,4),(4,5),(4,6), (5,1),(5,2),(5,3),(5,4),(5,5),(5,6), (6,1),(6,2),(6,3),(6,4),(6,5),(6,6)} เหตุการณทีส่ นใจ = (1,1) (1,5), (2,4), (3,3), (4,2) ,(5,1) (3) หยิบไดสลากหมายเลข 5 หรือ 6 หรือ 7 หรอื 8 จากสลาก 10 ใบซึ่งเขียนหมายเลข 1 ถงึ 10 กํากับไว ผลที่เกดิ ขนึ้ ท้ังหมด 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10 เหตุการณท่สี นใจ = 5, 6, 7, 8 (4) ไดนักเรยี นท่ีถนัดมอื ซายในหองเรียนท่ีทานเรยี นอยู ตอบ อยูในดุลยพินจิ ของผูสอน (5) ไดสลากที่มีรางวัลจากการจับสลากที่ประกอบดวยสลากที่มีรางวัล 3 ใบ และไมมีรางวัล 7 ใบ ผลท่ีเกิดขึ้นทงั้ หมด รางวลั ที่ ถ1, ถ2, ถ3, ผ1, ผ2, ผ3, ผ4, ผ5, ผ6, ผ7 เหตุการณที่สนใจ คือโอกาสท่ถี กู รางวลั = ถ1, ถ2, ถ3 (6) ไดคําตอบจากครอบครัว 3 ครอบครัววามีจักรเย็บผาใชทั้งสามครอบครัว ผลท่เี กดิ ขน้ึ ท้ังหมด มีมีมี, มีมีไม, มีไมมี, มีไมไม, ไมมีมี, ไมมีไม, ไมไมมี, ไมไมไม เหตกุ ารณท ีส่ นใจ คอื มีเคร่ืองซักผาทัง้ 3 ครอบครัว มีมมี ี (7) ไดลกู บอลสีขาว 2 ลกู สดี ํา 1 ลกู ในการหยิบลกู บอลทีละลกู แบบไมใสคืน 3 ลกู จากกลอ งซ่งึ บรรจุลูกบอลสีขาว 3 ลกู และสีดํา 2 ลูก ให ข แทนบอลสีขาว และ ด แทนบอลสดี าํ ผลทเี่ กิดขึ้นทง้ั หมด คือ ขคข, ขขค, ขคข, ขคค, คขข, ดขด, ดดข เหตกุ ารณท ่ีสนใจ คือ ขคข, ขขค, ขคข, คขข (8) ไดแ ตม ทเ่ี หมอื นกันหรือไดแ ตม 2 จากลูกเตาลูกใดลูกหน่ึงในการทอดลกู เตาพรอมกันสองลกู
217 ผลที่เกิดข้ึนทงั้ หมด {(1,1),(1,2),(1,3),(1,4),(1,5),(1,6), (2,1),(2,2),(2,3),(2,4),(2,5),(2,6), (3,1),(3,2),(3,3),(3,4),(3,5),(3,6), (4,1),(4,2),(4,3),(4,4),(4,5),(4,6), (5,1),(5,2),(5,3),(5,4),(5,5),(5,6), (6,1),(6,2),(6,3),(6,4),(6,5),(6,6)} เหตกุ ารณท ีส่ นใจ = (1,1) (2,2), (3,3), (4,4), (5,5) ,(6,6) (9) ไดห วั และแตม ทม่ี ากกวา 4 จากการโยนเหรยี ญหนึ่งเหรียญและทอดลกู เตาหนึ่งลูก หน่ึงคร้ัง ผลที่เกิดข้นึ ท้ังหมด (H,1) ,(H,2), (H,3),(H,4),(H,5),(H,6) (T,1) ,(T,2), (T,3),(T,4),(T,5),(T,6) เหตกุ ารณท ี่สนใจ = (H,5),(H,6) (10) ไดสีที่ชอบคือ สีฟาหรือสีชมพูจากการสอบถามนางสาวสุชาดาถึงสีของกระดาษเช็ดหนาที่ ชอบสองสีจากสีทั้งหมด 5 สี คอื ขาว ฟา ชมพู เขียว และเหลอื ง ผลทเ่ี กิดข้นึ ขาว, ฟา, ชมพู, เขยี ว, เหลอื ง เหตุการณที่สนใจ ฟา , ชมพู 1. ถา S = {0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 } Ε1 = { 0, 2, 4, 6, 8 } Ε2 = {1, 3 ,5 ,7 ,9 } Ε3 ={ 2, 3, 4, 5 } และ Ε4 = { 1, 6, 7 } จงหาสมาชิกของ S ท่อี ยูในเหตุการณต อไปนี้ (2) Ε1 Ε3 = {0, 2, 3, 4, 5, 6, 8,} (2) Ε1 Ε2 = { } (3) Ε′3 = {0, 1, 6, 7, 8, 9} (4) (Ε′3 Ε4 ) Ε2 = {1} (5) (S Ε3 )′ = {0, 1, 6, 7, 8} (6) (Ε′1 Ε′2 ) Ε′3 = { } 2. จากเหตุการณ Ε1 , Ε2 , Ε3 ในขอ 2 จงเขยี นแผนภาพของเวนน – ออยเลอรแ สดงเหตกุ ารณตอไปน้ี (1) Ε1 Ε′2 = {0, 2, 4, 6, 8} (2) (Ε1 Ε2 )′ = {0, 1, 2, 3, 4, 5, 6} (3) (Ε1 Ε3 ) Ε2
218 3. ในการสาํ รวจอายขุ องผปู วยแผนกเดก็ (อายไุ มเกนิ 15 ป ) ของโรงพยาบาลแหงหนึง่ ถา Ε1 เปน เหตุการณท ่ผี ูปวยมอี ายุตั้งแต 1 ถงึ 9 ป Ε2 เปน เหตกุ ารณทผ่ี ปู ว ยมีอายุนอยกวา 5 ป และ Ε3 เปนเหตุการณท่ีผปู วยมอี ายมุ ากกวา 9 ป จงหา (1) Ε1 Ε2 เปนเหตุการณท่ีผปู วยมีอายนุ อ ยกวา 9 ป (2) Ε1 Ε2 เปนเหตุการณที่ผูป วยท่ีอายตุ ง้ั แต 1 ป ถงึ อายุนอยกวา 5 ป (3) (Ε1 Ε3 ) Ε2 เปน เหตกุ ารณท ผ่ี ปู ว ยมีอายตุ ้ังแตเกดิ จนตาย (4) Ε2 Ε3 เปน เหตุการณท ่ีผูปวยอายุนอยกวา 5 ป และอายุมากกวา 9 ป 5 ในการจับสลาก 1 ใบ จากสลาก 10 ใบ ซึ่งมีเลข 0 ถึง 9 กาํ กับอยู ถา สนใจเลขท่เี ขยี นกํากบั ไวใ นสลากใบทจี่ บั ได โดยให Ε1 เปนเหตกุ ารณที่เลขท่เี ขยี นกาํ กบั ไวเ ปนจาํ นวนคู Ε2 เปนเหตกุ ารณทีเ่ ลขท่ีเขียนกาํ กับไวเ ปน จาํ นวนค่ี Ε3 เปนเหตกุ ารณท เี่ ลขทีเ่ ขยี นกํากับไวเ ปนจํานวนเฉพาะ Ε4 เปน เหตุการณท่เี ลขท่เี ขียนกาํ กบั ไวเปน จํานวนทห่ี ารดว ย 3 ลงตวั จงเขยี นเหตกุ ารณต อไปนีใ้ นรปู Ε1 , Ε2 , Ε3 หรอื Ε4 พรอมทั้งแจกแจงสมาชิกเมื่อ (5) เลขทเี่ ขยี นกํากบั ไวเ ปน จํานวนคหู รือค่ีหรอื จํานวนเฉพาะ Ε = {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9} (6) เลขทีเ่ ขียนกาํ กบั ไวเ ปน จํานวนเฉพาะทห่ี ารดว ย 3 ลงตวั Ε ={3} (7) เลขท่ีเขยี นกาํ กบั ไวไ มเ ปนจํานวนค่ี และไมเ ปนจํานวนที่หารดว ย 3 ลงตวั Ε = {0, 2, 4, 6, 8} {1, 2, 4, 5, 7, 8} (8) เลขทเี่ ขยี นกํากับไวเปนจาํ นวนคูทเ่ี ปนจาํ นวนเฉพาะหรือจํานวน Ε ={ }
219 แบบฝกหดั ที่ 3 1. ในการโยนลกู เตา 1 ลูก 1 ครั้ง จงหาความนาจะเปนของเหตุการณ และสรุปถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นวามีมาก หรอื นอยเพยี งใด 1. ไดแ ตม 4 E แทนเหตกุ ารณท่ีโยนลกู เตา 1 ลูก หงายแตม 4 P ( E ) = 1 = 0.167 6 เหตุการณน้ีมีโอกาสเกดิ ข้ึนนอยมาก 4. ไดแ ตมคู E แทนเหตกุ ารณท่ีโยนลูกเตา 1 ลกู ไดแตมคู P ( E )=3=1 62 เหตุการณน ีม้ ีโอกาสเกดิ ขึ้นและไมเ กิดขน้ึ เทา ๆ กนั หรือมีโอกาสเกดิ รอ ยละ 50% 5. ไดแตมมากกวา 4 E แทนเหตกุ ารณที่โยนลูกเตา 1 ลูก ไดแ ตมมากกวา 4 P ( E ) = 2 = 1 = 0.33 63 เหตกุ ารณนมี้ ีโอกาสเกดิ นอ ย 6. ไดแ ตม นอยกวา 7 E แทนเหตุการณท ่ีโยนลกู เตา 1 ลูก ไดแ ตมนอยกวา 7 6 P ( E ) = =1 6 เหตกุ ารณน้มี ีโอกาสเกดิ ข้ึนแนนอน 7. ไดแตมมากกวา 0 E แทนเหตกุ ารณท ี่โยนลูกเตา 1 ลูก ไดแตม มากกวา 0 6 P ( E ) = =1 6 8. ไดแ ตมมากกวา 6 หรือเปนแตม ค่ี E1 แทนเหตุการณท ี่โยนลกู เตา 1 ลูก ไดแ ตม มากกวา 6 หรือแตม ค่ี E2 แทนเหตุการณท่ีโยนลกู เตา 1 ลกู ไดแ ตม ค่ี P ( E 1 E 2 ) = 3 = 1 = 0.5 62 เหตุการณนมี้ ีโอกาสเกดิ ข้ึน 50%
220 7. ไดแ ตม มากกวา 3 และเปนแตม ค่ี E1 แทนเหตุการณท ่ีโยนลูกเตา 1 ลกู ไดแตม > 3 E2 แทนเหตุการณท่ีโยนลกู เตา 1 ลูก ไดแตมคี่ P ( E 1 E 2 ) = 1 = 0.166 6 เหตกุ ารณน ีม้ ีโอกาสเกดิ ข้ึนนอยมาก 2. ทอดลกู เตา 2 ลูกสองครั้ง ความนาจะเปนที่จะไดแ ตมรวมเปน 7 ในครง้ั แรกและไดแ ตม รวมเปน 10 ใน ครง้ั ที่ 2 เทากับเทาใด E1 แทนการทอดลูกเตา 2 ลกู ไดแตม รวมเปน 7 E2 แทนการทอดลูกเตา 2 ลกู ไดแตม รวมเปน 10 P ( E1 E 2 321 ) = × = = 0.166 36 36 6 เหตุการณนีม้ ีโอกาสเกิดนอ ยมาก 3. ชางกอ สรางกลุมหน่งึ มี 10 คน ประกอบดวย ชางปูน 6 คน และชางไม 4 คน ถา ตองการเลอื กชาง 7 คน จากกลุมนี้ ความนา จะเปน ที่จะไดชา งปูน 4 คน และชา งไม 3 คน เทากับเทาใด 4. กลอ งใบหนง่ึ บรรจหุ ลอดไฟสแี ดง 6 หลอดซง่ึ เปน หลอดดี 4 หลอและหลอดไฟสนี ํ้าเงนิ 4 หลอด ซง่ึ เปน หลอดดี 2 หลอด ในการสุม หยบิ หลอดไฟครัง้ ละ 1 หลอด 2 ครั้ง แบบไมใสคืน ความนาจะเปนที่จะได หลอดไฟสเี ดยี วกัน และเปนหลอดดที ้งั สองครัง้ มคี า เทากบั เทา ใด 5. กลองใบหนึง่ มีลูกบอลสีแดง 3 ลกู และสขี าวจํานวนหน่งึ โดยทีจ่ ํานวนวธิ ีการหยิบลูกบอล 2 ลกู เปนลกู บอลสีเหมือนกัน เทากับ 9 ถาสุม หยบิ ลูกบอลพรอมพัน 2 ลูก แลวความนา จะเปน ท่ีจะไดล กู บอลสีขาวท้งั 2 ลูกเทากับเทาใด
ท่ปี รกึ ษา คณะผจู ดั ทํา 1. นายประเสรฐิ บญุ เรอื ง เลขาธิการ กศน. 2. ดร.ชัยยศ อ่ิมสวุ รรณ รองเลขาธิการ กศน. รองเลขาธิการ กศน. 3. นายวชั รนิ ทร จําป ท่ปี รึกษาดานการพัฒนาหลักสตู ร กศน. ผูอํานวยการกลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรยี น 4. ดร.ทองอยู แกว ไทรฮะ ขาราชการบํานาญ 5. นางรักขณา ตณั ฑวุฑโฒ ขาราชการบํานาญ ผเู ขยี นและเรียบเรียง 1. นายไชโย มวงบุญมี ขาราชการบํานาญ ขาราชการบํานาญ 2. นางสาวกรณุ า ตตยิ รัตนาภรณ สํานักงาน กศน. จ.สมุทรสาคร ผูบรรณาธิการ และพัฒนาปรับปรุง สํานักงาน กศน. จ.สมุทรสาคร 1. นายชุมพล หนสู ง กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 2. นายไชโย มวงบุญมี ขาราชการบํานาญ 3. นางสาวสริ นิ ธร นาคคุม กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 4. นางสาวบีบีฮารา สะมทั กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 5. นางพรทพิ ย กลารบ กลมุ พฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรยี น 6. นายสรุ พงษ มัน่ มะโน กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 7. นางพรทิพย กลา รบ กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน คณะทํางาน 1. นายสุรพงษ ม่ันมะโน 2. นายศุภโชค ศรีรัตนศิลป 3. นางสาววรรณพร ปทมานนท 4. นางสาวศริญญา กุลประดิษฐ 5. นางสาวเพชรินทร เหลอื งจิตวฒั นา ผพู มิ พตนฉบบั นางสาวเพชรินทร เหลอื งจิตวฒั นา ผูออกแบบปก นายศภุ โชค ศรรี ัตนศลิ ป
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227