แผนการจัดการเรียนรู้ ท32101 ประเมินpa

ใบงานที่ ๒ การถามและการตอบ คำชแ้ี จง : จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี จุดประสงค์ : ตงั้ คำถามและตอบคำถามได้ ๑.การตงั้ คำถามและการตอบท่ดี ี จะต้องมลี กั ษณะอยา่ งไร ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ๒.ใหต้ ง้ั คำถามเพ่ือไดข้ ้อเทจ็ จริง พร้อมตอบ (จำนวน ๒ คำถาม) ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ๓.ใหต้ ัง้ คำถามเพ่อื ใหไ้ ดข้ ้อคิดเหน็ พร้อมตอบ (จำนวน ๒ คำถาม) ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ๔.ให้ต้งั คำถามเพ่ือใหไ้ ดค้ ำตอบหลากหลาย พร้อมตอบ (จำนวน ๒ คำถาม) ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. .. ช่ือ สกุล...............................................................................................ชน้ั ........................เลขที่.................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี ๑ รหัสวชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 พฒั นาการสือ่ สาร ตระหนักการมีคุณธรรม เวลา 6 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง การถามและการตอบ เวลา 1 ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง สอนสัปดาห์ที่......... ม.5/1 วนั ท.ี่ ...................................... ม.5/2 วันท.่ี ...................................... ม.5/3 วันท.่ี ...................................... ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดเพอื่ นำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หา ในการดำเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๖ ตอบคำถามจากการอา่ นประเภทตา่ งๆ ภายในเวลาที่กำหนด ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. ยกตัวอยา่ งข้อควรคำนงึ ในการถามและการตอบ (K) ๒. วิเคราะห์ลักษณะของคำถามและคำตอบทด่ี ีได้ (K) ๓. มมี ารยาทและคณุ ธรรมในการถามและการตอบ (A) ๓. สาระสำคญั การถามและการตอบเป็นกระบวนการสื่อสารท่ีมนุษย์ทุกรูปทุกนามต้องทำอยู่เป็นนิจ ทั้งในการดำรงชีวิต ประจำวันและในการประกอบกิจการงานทุกอย่าง ที่เราไม่ควรมองข้ามหลักการและข้อควรคำนึงในการถามและ การตอบ ๔. สาระการเรยี นรู้ ความรู้  จุดประสงค์ของการถามและการตอบ  ข้อควรคำนงึ ในการถาม  ข้อควรคำนงึ ในการตอบ  วธิ ีตง้ั คำถาม  วธิ ีตอบที่ดี ทักษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะการอ่าน การเขียน ๒. กระบวนการคิด ๕. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ขอ้ ๑ ความสามารถในการส่ือสาร

๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ข้อ ๔ ใฝเ่ รยี นรู้ ๗. ชิ้นงาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรียนรู้ แบบทดสอบ ๘. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ กจิ กรรมเตรียมความพร้อม / กจิ กรรมนำเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ครพู ูดคยุ เตรยี มความพรอ้ มของนักเรียน 2. ครใู หน้ กั เรียนเลน่ เกม ตอบคำถาม จาก PPT 3. พดู คุยสนทนากับนักเรียนเร่อื ง การถามการตอบคาบท่ีผ่านมา กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 1. ทบทวน เรอ่ื ง การถามและการตอบ โดยครใู ชส้ ือ่ PowerPoint 2. นักเรียนศกึ ษาไปพร้อมๆ กนั และรว่ มตอบคำถามปากเปล่า จากขอ้ คำถามใน PowerPoint 3. ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบเรอ่ื ง การถาม การตอบ กิจกรรมรวบยอด 1. ครพู ูดคยุ ซกั ถามความเข้าใจของนักเรียนครนู ำเสนอภาพรวมของการเรยี น ๙. ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑. หนงั สือเรียนหลกั ภาษาและการใช้ภาษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ๒. เกมตอบคำถาม ๓. สื่อ PPT เร่อื ง การถามและการตอบ 4. แบบทดสอบ ๑๐. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ /สงิ่ ท่ีต้องการวัด วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ๑. ยกตวั อย่างขอ้ ควรคำนงึ ใน แบบฝกึ หัด/ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 แบบทดสอบ การถามและการตอบ ประเมนิ จากการทำ ผ่านเกณฑร์ ะดับ แบบสังเกต คณุ ภาพ ๒ ๒.วิเคราะหล์ กั ษณะของคำถาม แบบฝกึ หดั /แบบทดสอบ และคำตอบท่ีดีได้ ๓. มีมารยาทและคณุ ธรรมใน สงั เกต การถามและการตอบ ( นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ



ส่อื ที่ใช้ / แหลง่ เรียนรู้

แบบทดสอบเร่อื ง การถามและการตอบ คำชแี้ จง : จงเลอื กคำตอบทถ่ี ูกท่สี ุดเพียงคำตอบเดียว 1.การถามเป็นองค์ประกอบของหวั ใจนักปราชญใ์ นข้อใด ก. ขอ้ 1 ข. ขอ้ 2 ค. ข้อ 3 ง. ข้อ 4 2.ข้อใดเป็นคำถามที่แสดงอธั ยาศัยไมตรี ไมห่ วงั คำตอบอยา่ งจรงิ จงั ก.ไปไหนมา ข. เธอทำอะไรอยู่ ค.ใครอยบู่ า้ น ง. ส่งการบา้ นแลว้ หรือยัง 3.การถามเมือ่ ฟงั คำบรรยายแลว้ จัดเป็นคำถามประเภทใด ก. ถามเพื่อร้ขู ้อเท็จจรงิ ข. ถามเพ่ือตรวจสอบว่ารู้ข้อเท็จจรงิ หรือไม่ ค. ถามเพ่อื แสดงอัธยาศัยไมตรี ง. ถามเพ่ือแสดงความสนใจ 4.การถามตอบระหวา่ งพระภกิ ษุ 2-3 รูป ในการเทศน์ ปจั ฉา วสิ ชั นา เปน็ การถามในจุดประสงค์ใด ก. เพ่ือรู้ข้อเทจ็ จริง ข.เพื่อเปน็ กลวิธีในการใหค้ วามรู้ ความคิด ค. เพื่อแสดงอธั ยาศยั ไมตรี ง. เพอื่ แสดงความสนใจ 5.ข้อใดเปน็ การอธิบายความหมายของการถามไดถ้ ูกตอ้ งทสี่ ุด ก. การส่งสารใหผ้ ้รู บั สารบอกข้อเทจ็ จรงิ หรอื ความคิดเห็น ข. การส่งสารเพ่ือใหผ้ ู้รบั สารได้แสดงความเหน็ อยา่ งเตม็ ที่ ค. การส่งสารเพ่อื ให้ผรู้ ับสารแสดงเหตผุ ลตามขอ้ เทจ็ จรงิ ง. การสง่ สารเพื่อให้ผ้รู บั สารตอบข้อความใหก้ ระชับชัดเจน 6.ข้อใดเป็นการอธบิ ายการตอบใหถ้ ูกตอ้ งทสี่ ดุ ก. การแสดงเหตุผล ข. การส่งสารเพ่ือตอบสนองหลงั จากท่ไี ดร้ บั ทราบคำถามแลว้ ค. การจดั ลำดับเนือ้ หาใหเ้ ป็นข้นั ตอนงา่ ยต่อการฟงั ง. การแสดงเหตุผลท่ปี ระกอบดว้ ยตวั อย่างทชี่ ดั เจน 7.คำถาม \"กนิ ขา้ วหรอื ยัง\" \"กลบั แลว้ หรอื \" เปน็ คำถามตามจุดประสงค์ใด ก. เพือ่ ให้รขู้ ้อเท็จจริง ข. เป็นกลวิธใี ห้ความรแู้ ละขอ้ คดิ ค. เพอื่ แสดงอัธยาศยั ไมตรี ง. เพ่อื แสดงความสนใจ 8.ข้อควรคำนงึ ในการถามคอื ขอ้ ใดถกู ตอ้ งทสี่ ดุ ก. มารยาท บุคคล สาระ ข. มารยาท บุคคล ภาษา ค. มารยาท กาลเทศะ ภาษา ง. มารยาท บุคคล กาลเทศะ สาระ ภาษา 9.วิธีตอบคำถามทีด่ ีทสี่ ดุ ควรเปน็ ข้อใด ก. ตอบให้ตรงคำถาม ตอบให้แจ่มชัด ตอบใหเ้ หมาะกาลเทศะ ข. ตอบให้ตรงคำถาม ตอบให้แจ่มชดั ตอบใหถ้ ูกใจผู้ฟงั ค. ตอบใหต้ รงคำถาม ตอบให้แจ่มชัด ตอบให้ครบถว้ น ง. ตอบใหต้ รงคำถาม ตอบใหแ้ จม่ ชดั ตอบใหเ้ หมาะกบั บุคคล 10.คำตอบขอ้ ใดเปน็ การถามขอ้ เทจ็ จริง ก. อะไรเป็นสาเหตุสำคญั ทที่ ำใหช้ าวชนบทอพยพเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง ข. ระหวา่ งปิดภาคฤดรู อ้ นนักเรยี นควรใช้เวลาวา่ งอย่างไร ค. จงเปรยี บเทยี บภมู อิ ากาศของประเทศไทยกบั ประเทศมาเลเซยี ง. ทำอย่างไรจึงจะเรยี นภาษาตา่ งประเทศใหใ้ ช้การไดจ้ ริง ช่อื สกุล...............................................................................................ช้นั ........................เลขท่.ี ................................

แบบทดสอบเร่ือง การถามและการตอบ คำชแี้ จง : จงเลอื กคำตอบทีถ่ กู ทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว 1.การถามเปน็ องคป์ ระกอบของหัวใจนกั ปราชญ์ในข้อใด ก. ขอ้ 1 ข. ขอ้ 2 ค. ขอ้ 3 ง. ข้อ 4 2.ข้อใดเป็นคำถามที่แสดงอธั ยาศัยไมตรี ไม่หวังคำตอบอยา่ งจรงิ จงั ก.ไปไหนมา ข. เธอทำอะไรอยู่ ค.ใครอยูบ่ ้าน ง. ส่งการบา้ นแลว้ หรอื ยัง 3.การถามเม่อื ฟงั คำบรรยายแลว้ จดั เปน็ คำถามประเภทใด ก. ถามเพอื่ ร้ขู ้อเท็จจรงิ ข. ถามเพอ่ื ตรวจสอบว่ารูข้ ้อเท็จจรงิ หรอื ไม่ ค. ถามเพอ่ื แสดงอธั ยาศัยไมตรี ง. ถามเพื่อแสดงความสนใจ 4.การถามตอบระหว่างพระภิกษุ 2-3 รปู ในการเทศน์ ปัจฉา วสิ ัชนา เปน็ การถามในจุดประสงค์ใด ก. เพ่อื รู้ขอ้ เทจ็ จรงิ ข.เพอื่ เป็นกลวิธีในการใหค้ วามรู้ ความคิด ค. เพือ่ แสดงอธั ยาศัยไมตรี ง. เพือ่ แสดงความสนใจ 5.ขอ้ ใดเป็นการอธิบายความหมายของการถามไดถ้ ูกตอ้ งทีส่ ุด ก. การสง่ สารใหผ้ รู้ ับสารบอกข้อเทจ็ จรงิ หรอื ความคดิ เห็น ข. การสง่ สารเพอ่ื ใหผ้ ู้รบั สารได้แสดงความเหน็ อยา่ งเตม็ ท่ี ค. การส่งสารเพอ่ื ใหผ้ ้รู บั สารแสดงเหตุผลตามข้อเท็จจริง ง. การสง่ สารเพือ่ ใหผ้ ้รู ับสารตอบข้อความใหก้ ระชบั ชดั เจน 6.ข้อใดเป็นการอธิบายการตอบให้ถกู ต้องท่ีสุด ก. การแสดงเหตผุ ล ข. การสง่ สารเพอ่ื ตอบสนองหลงั จากท่ไี ดร้ บั ทราบคำถามแล้ว ค. การจัดลำดบั เน้อื หาให้เปน็ ขนั้ ตอนงา่ ยตอ่ การฟงั ง. การแสดงเหตุผลที่ประกอบด้วยตวั อยา่ งทช่ี ดั เจน 7.คำถาม \"กินขา้ วหรอื ยัง\" \"กลับแล้วหรือ\" เปน็ คำถามตามจดุ ประสงคใ์ ด ก. เพือ่ ให้รู้ข้อเทจ็ จรงิ ข. เป็นกลวิธใี หค้ วามรูแ้ ละข้อคดิ ค. เพอื่ แสดงอธั ยาศัยไมตรี ง. เพือ่ แสดงความสนใจ 8.ขอ้ ควรคำนึงในการถามคือขอ้ ใดถูกต้องท่ีสดุ ก. มารยาท บุคคล สาระ ข. มารยาท บคุ คล ภาษา ค. มารยาท กาลเทศะ ภาษา ง. มารยาท บคุ คล กาลเทศะ สาระ ภาษา 9.วิธตี อบคำถามทีด่ ีทส่ี ดุ ควรเปน็ ขอ้ ใด ก. ตอบให้ตรงคำถาม ตอบใหแ้ จม่ ชัด ตอบให้เหมาะกาลเทศะ ข. ตอบให้ตรงคำถาม ตอบให้แจม่ ชัด ตอบใหถ้ ูกใจผูฟ้ ัง ค. ตอบให้ตรงคำถาม ตอบให้แจม่ ชดั ตอบให้ครบถว้ น ง. ตอบให้ตรงคำถาม ตอบใหแ้ จม่ ชัด ตอบใหเ้ หมาะกับบุคคล 10.คำตอบข้อใดเปน็ การถามขอ้ เท็จจริง ก. อะไรเปน็ สาเหตุสำคญั ที่ทำให้ชาวชนบทอพยพเขา้ มาอยใู่ นเมืองหลวง ข. ระหว่างปิดภาคฤดรู อ้ นนักเรียนควรใช้เวลาวา่ งอยา่ งไร ค. จงเปรียบเทียบภมู อิ ากาศของประเทศไทยกบั ประเทศมาเลเซีย ง. ทำอยา่ งไรจึงจะเรียนภาษาตา่ งประเทศใหใ้ ชก้ ารไดจ้ รงิ ช่ือ สกลุ ................................................................................................ชน้ั ........................เลขท่ี.................................

แผนการจัดการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี ๑ รหสั วชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 พฒั นาการสื่อสาร ตระหนักการมีคุณธรรม เวลา 6 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง การพดู ต่อประชมุ ชน เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวกวกี านต์ สงั ข์ทอง สอนสปั ดาห์ท่ี......... ม.5/1 วันท.่ี ...................................... ม.5/2 วันท.ี่ ...................................... ม.5/3 วนั ท.่ี ...................................... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ ความร้สู กึ ในโอกาสต่างๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท ๓.๑ ม.๔-๖/๕ พดู ในโอกาสต่างๆ พูดแสดงทรรศนะ โตแ้ ยง้ โน้มน้าวใจ และเสนอแนวคดิ ใหม่ดว้ ย ภาษาถูกต้องเหมาะสม ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. จำแนกประเภทของการพูดตอ่ ประชุมชนได้ (K) ๒. บอกความหมายของการพูดตอ่ ประชุมชนได้ (K) ๓. แสดงออกถึงพฤติกรรมการพดู อย่างเหมาะสม (A) ๓. สาระสำคัญ การพูดต่อประชุมชนเป็นการพูดให้คนจำนวนมากฟัง และผู้ฟังก็มักจะต้ังความหวังไว้ว่าจะได้รับความรู้ หรือสารประโยชน์จากการฟัง ผูพ้ ดู จงึ ควรเตรียมใหพ้ ร้อมเพ่ือจะไดม้ ีความมั่นใจในตนเอง ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้ การพดู ในโอกาสตา่ งๆ  ประเภทของการพูดต่อประชมุ ชน  หลักการเตรยี มตัวพดู ต่อประชมุ ชน ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะพดู ๒. กระบวนการคิด ๕. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ขอ้ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ขอ้ ๔ ใฝ่เรยี นรู้ ๗. ช้ินงาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรยี นรู้ บันทึกสรปุ ความรู้

๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กจิ กรรมเตรยี มความพรอ้ ม / กจิ กรรมนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครพู ดู คยุ เตรียมความพรอ้ มของนกั เรยี น 2. ครูใหน้ กั เรยี นดูคลปิ วดี ีโอ สนุ ทรพจน์ “สร้างฐานวิถีชีวิตใหม่ ส้ภู ัยโควิด -19” จากสื่อ YouTube 3. พดู คยุ กับนักเรียนเก่ียวกบั คลปิ วดี ีโอนน้ั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 1. ครูนำสนทนา และอธิบายเกี่ยวกับเร่ือง การพูดในท่ีประชุมชน โดยครูใช้สื่อ PowerPoint พร้อมบอก แหลง่ ความรเู้ พม่ิ เติม ในหนังสอื หลักภาษาและการใช้ภาษาเพอื่ การส่อื สาร ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ 2. นักเรยี นศึกษาไปพร้อมๆ กัน และจดบันทึกสาระสำคัญลงในสมดุ 3.ครูให้นกั เรียนทำใบงาน กิจกรรมรวบยอด 1. ครพู ูดคุยซกั ถามความเขา้ ใจของนักเรียนครนู ำเสนอภาพรวมของการเรยี น ๙. สือ่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑. หนังสือเรยี นหลักภาษาและการใช้ภาษา ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ๒. ส่ือ PPT เรอ่ื ง การพดู ในท่ปี ระชุมชน 3. คลปิ วดี ีโอ สุนทรพจน์ “สรา้ งฐานวิถชี วี ติ ใหม่ สูภ้ ัยโควดิ -19” จากสอ่ื YouTube ๑๐. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ /สง่ิ ที่ต้องการวัด วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์ แบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ๑. จำแนกประเภทของการพูด ตรวจแบบฝึกหัด ตอ่ ประชุมชน แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ๒. บอกความหมายของการพูด ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ ต่อประชมุ ชน ๓. แสดงออกถงึ พฤติกรรม สังเกตพฤติกรรม การพูดอยา่ งเหมาะสม ( นางสาวกวกี านต์ สังข์ทอง ) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการพเิ ศษ



ส่อื ที่ใช้ / แหลง่ เรียนรู้

แบบทดสอบ เร่อื ง การพดู ต่อประชุมชน คำชแ้ี จง : จงเลอื กคำตอบท่ถี กู ที่สุดเพยี งคำตอบเดยี ว 1. การพูดต่อประชุมชนคืออะไร ก. การพูดที่แสดงความรูแ้ กผ่ ฟู้ ัง ข. การพดู ท่ีเสนอแนะต่าง ๆ ต่อผฟู้ ังจำนวนมาก ค. การพดู แสดงความรู้แก่บุคคลอาชีพเดยี วกนั ง. ผ้ฟู ังเป็นจำนวนมากมีพ้นื ความรู้ รสนิยม แตกตา่ งกนั 2. สิง่ สำคัญท่สี ดุ ในการพูดต่อประชุมชนคือข้อใด ก. สารทีผ่ พู้ ูดสง่ ออกไปต้องเปน็ ประโยชน์ต่อสังคม ข. สารทผ่ี ู้พูดสง่ ออกไปต้องเป็นเรื่องสนุกสนาน ค. สารท่ีผพู้ ูดสง่ ออกไปรับฟงั ไดก้ ับบุคคลทั่วไป ง. สารท่ผี ้พู ดู สง่ ออกไปต้องเป็นเร่ืองทส่ี งั คมกำลังสนใจ 3. การพดู ตอ่ ประชมุ ชน แบ่งตามวิธนี ำเสนอ ข. 3 ประเภท ก. 2 ประเภท ง. 5 ประเภท ค. 4 ประเภท 4. การกล่าวเปิดประชมุ การกลา่ วปราศรยั และการกล่าวรายงานเปน็ การพูดแบบใด ก. การพดู โดยวิธอี ่านจากรา่ ง ข. การพูดโดยวธิ ที อ่ งจำ ค. การพดู โดยอาศัยต้นร่าง ง. การพูดโดยฉบั พลัน 5. การพดู แบบใดทเี่ สยี เวลาและไม่ใคร่เปน็ ธรรมชาติ ข. การโดยวธิ ีทอ่ งจำ ก. การพูดโดยอาศัยตน้ ร่าง ง. การพูดโดยวิธที อ่ งจำและวธิ ีอาศยั ต้นรา่ ง ค. การพดู โดยวธิ อี า่ นจากร่าง 6. ขอ้ ใดเปน็ อวจั นภาษาในการพูด ข. การใช้กริ ยิ าทา่ ทาง ก. การอา่ น ง. การพูดประกอบการใชส้ ื่ออปุ กรณ์ ค. การใชส้ ือ่ อุปกรณ์ 7. หากท่านตอ้ งกลา่ วปราศรัยเนอื่ งในโอกาสไดร้ ับเลือกเข้ารบั ตำแหนง่ ใหม่ในหนว่ ยงานเพือ่ ใหก้ ารพูดคร้งั น้ี ประสบความสำเร็จตามจดุ มุ่งหมายและเปน็ ธรรมชาตทิ ่านควรเลอื กวธิ กี ารพูดแบบใด ก. การพดู โดยวิธอี า่ นจากร่าง ข. การพดู โดยอาศยั ตน้ รา่ ง ค. การพดู โดยวิธกี ารทอ่ งจำ

ง. การพูดโดยฉับพลนั 8. หากมผี ู้ฟงั คนหนึ่งวิจารณ์ผู้พดู ซึ่งพูดต่อหนา้ ประชุมชนว่า\"ฉันว่าเขาพดู ดีอย่หู รอกแตถ่ า้ สบตากับผู้ฟัง หน่อย และหนา้ ยมิ้ สักนิด การพูดวนั นจี้ ะดมี ากทเี ดยี ว\" ทา่ นคิดวา่ ผู้พูดมีจดุ บกพร่องในขอ้ ใด ก. ขาดการวเิ คราะหผ์ ฟู้ ัง ข. ขาดความเช่ือมั่นในตัวเอง ค. ขาดความจริงใจต่อผู้ฟัง ง. ขาดอวัจนภาษาบางประการ 9. การเตรยี มการพูดท่ดี ีควรมีลำดับอยา่ งไร ข. 1, 3, 2, 4 1. กำหนดขอบข่ายของเรื่องที่พดู 2. กำหนดเร่ืองและจุดมุ่งหมายทีจ่ ะพดู 3. เตรียมเนอ้ื หาและลำดับเร่ืองที่จะพูด 4. ซกั ซอ้ มการพูดและการใชภ้ าษา ก. 1, 2, 3, 4 ค. 2, 1, 3, 4 ง. 2, 4, 1, 3 10. การปาฐกถามีลกั ษณะสำคัญตามข้อใด ก. เปน็ การพูดโต้แย้งระหวา่ งบุคคล 2 ฝา่ ย ข. เปน็ การพดู ท่ีไม่เปิดโอกาสให้ผ้ฟู ังซักถามปญั หา ค. เป็นการพดู สำคญั ผฟู้ งั ต้องประกอบอาชีพเดียวกัน ง. ผู้ปาฐกถาต้องเปน็ ผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะด้าน ชอื่ สกุล................................................................................................ชัน้ ........................เลขท.่ี ................................

แบบทดสอบ เรอ่ื ง การพดู ต่อประชุมชน คำชี้แจง : จงเลอื กคำตอบที่ถกู ที่สดุ เพียงคำตอบเดยี ว 1. การพูดต่อประชมุ ชนคืออะไร ก. การพดู ท่ีแสดงความรู้แกผ่ ูฟ้ งั ข. การพูดท่ีเสนอแนะต่าง ๆ ต่อผฟู้ ังจำนวนมาก ค. การพดู แสดงความรู้แก่บุคคลอาชพี เดยี วกัน ง. ผู้ฟังเปน็ จำนวนมากมีพ้นื ความรู้ รสนยิ ม แตกตา่ งกัน 2. สง่ิ สำคัญที่สดุ ในการพูดต่อประชมุ ชนคือข้อใด ก. สารที่ผพู้ ูดส่งออกไปต้องเป็นประโยชน์ตอ่ สงั คม ข. สารทผี่ ูพ้ ดู สง่ ออกไปต้องเป็นเรื่องสนุกสนาน ค. สารทผ่ี พู้ ดู ส่งออกไปรบั ฟังไดก้ ับบุคคลทัว่ ไป ง. สารทีผ่ ู้พดู ส่งออกไปต้องเป็นเรื่องที่สังคมกำลังสนใจ 3. การพูดต่อประชมุ ชน แบง่ ตามวธิ ีนำเสนอ ข. 3 ประเภท ก. 2 ประเภท ง. 5 ประเภท ค. 4 ประเภท 4. การกล่าวเปิดประชมุ การกล่าวปราศรยั และการกล่าวรายงานเปน็ การพูดแบบใด ก. การพดู โดยวธิ อี ่านจากร่าง ข. การพูดโดยวธิ ที อ่ งจำ ค. การพดู โดยอาศัยต้นรา่ ง ง. การพูดโดยฉบั พลัน 5. การพูดแบบใดท่ีเสียเวลาและไมใ่ ครเ่ ป็นธรรมชาติ ก. การพูดโดยอาศัยต้นร่าง ข. การโดยวิธที ่องจำ ค. การพูดโดยวธิ ีอ่านจากร่าง ง. การพดู โดยวธิ ีทอ่ งจำและวธิ ีอาศยั ตน้ รา่ ง 6. ขอ้ ใดเปน็ อวัจนภาษาในการพูด ข. การใช้กริ ยิ าทา่ ทาง ก. การอา่ น ง. การพดู ประกอบการใช้สอ่ื อปุ กรณ์ ค. การใชส้ อ่ื อปุ กรณ์ 7. หากทา่ นตอ้ งกล่าวปราศรยั เนอ่ื งในโอกาสได้รบั เลือกเขา้ รับตำแหน่งใหม่ในหนว่ ยงานเพ่อื ให้การพดู ครงั้ น้ปี ระสบความสำเร็จตามจดุ มุ่งหมายและเปน็ ธรรมชาติทา่ นควรเลอื กวธิ กี ารพูดแบบใด ก. การพูดโดยวธิ ีอา่ นจากรา่ ง ข. การพูดโดยอาศยั ต้นร่าง ค. การพดู โดยวิธกี ารท่องจำ

ง. การพดู โดยฉบั พลัน 8. หากมผี ฟู้ ังคนหน่งึ วจิ ารณ์ผพู้ ูดซ่งึ พดู ต่อหน้าประชุมชนว่า\"ฉนั วา่ เขาพดู ดอี ยหู่ รอกแต่ถ้าสบตากับผฟู้ งั หนอ่ ยและหนา้ ยิ้มสักนิด การพดู วันนจ้ี ะดมี ากทเี ดยี ว\" ท่านคิดว่าผพู้ ดู มีจดุ บกพร่องในข้อใด ก. ขาดการวิเคราะหผ์ ู้ฟงั ข. ขาดความเช่ือมน่ั ในตวั เอง ค. ขาดความจริงใจตอ่ ผฟู้ ัง ง. ขาดอวัจนภาษาบางประการ 9. การเตรยี มการพูดทด่ี คี วรมีลำดับอยา่ งไร ข. 1, 3, 2, 4 1. กำหนดขอบข่ายของเรอ่ื งที่พดู 2. กำหนดเรอื่ งและจุดมงุ่ หมายที่จะพดู 3. เตรยี มเนอื้ หาและลำดับเร่อื งที่จะพดู 4. ซักซ้อมการพดู และการใช้ภาษา ข. 1, 2, 3, 4 ง. 2, 1, 3, 4 ง. 2, 4, 1, 3 10. การปาฐกถามีลกั ษณะสำคัญตามข้อใด ก. เปน็ การพูดโต้แย้งระหว่างบุคคล 2 ฝา่ ย ข. เป็นการพูดที่ไม่เปิดโอกาสให้ผฟู้ ังซกั ถามปญั หา ค. เปน็ การพูดสำคัญผู้ฟังต้องประกอบอาชีพเดียวกนั ง. ผ้ปู าฐกถาตอ้ งเป็นผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้าน

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี ๑ รหัสวชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 พฒั นาการสื่อสาร ตระหนักการมีคณุ ธรรม เวลา 6 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง การพดู ต่อประชุมชน เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวกวกี านต์ สังข์ทอง สอนสปั ดาห์ที่......... ม.5/1 วันท.่ี ...................................... ม.5/2 วันท.่ี ...................................... ม.5/3 วันท.ี่ ...................................... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท ๓.๑ ม.๔-๖/๕ พดู ในโอกาสตา่ งๆ พูดแสดงทรรศนะ โต้แยง้ โน้มน้าวใจ และเสนอแนวคิดใหมด่ ้วย ภาษาถูกต้องเหมาะสม ท ๔.๑ ม.๔-๖/๓ ใชภ้ าษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบุคคล รวมทัง้ คำราชาศัพท์อย่างเหมาะสม ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายหลกั การเตรยี มตัวพูดตอ่ ประชุมชนได้ (K) ๒. สาธติ /ปฏิบัติพดู ตอ่ ประชุมชนโดยใชร้ ะดับภาษาได้ถูกต้องเหมาะสม (P) ๓. แสดงออกถงึ พฤติกรรมการพดู อยา่ งเหมาะสม (A) ๓. สาระสำคญั การพูดต่อประชุมชนเป็นการพูดให้คนจำนวนมากฟัง และผู้ฟังก็มักจะต้ังความหวังไว้ว่าจะได้รับความรู้ หรือสารประโยชน์จากการฟงั ผพู้ ดู จึงควรเตรียมให้พร้อมเพ่ือจะได้มีความมั่นใจในตนเอง ๔. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ การพูดในโอกาสต่างๆ  ประเภทของการพูดต่อประชมุ ชน  หลักการเตรียมตวั พูดต่อประชุมชน ระดบั ของภาษา ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะพดู ๒. กระบวนการคิด ๕. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน ขอ้ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ขอ้ ๔ ใฝ่เรยี นรู้ ๗. ชิ้นงาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรยี นรู้

แบบทดสอบ ๘. กระบวนการจดั การเรียนรู้ กิจกรรมเตรยี มความพรอ้ ม / กิจกรรมนำเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูพดู คยุ เตรยี มความพรอ้ มของนักเรยี น 2. พดู คุยทบทวนเรื่องการพดู ตอ่ ทปี่ ระชุมชน 3. ชี้แจงวธิ กี ารเรียนและจุดประสงค์การเรยี น กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน 1. ครใู หน้ ักเรียนดูคลิปวดี ิโอ ตัวอย่างการพูดต่อท่ีประชมุ ชน ในโอกาสต่างๆ จากสอื่ YouTube 2. ครูนำสนทนา เก่ียวกับคลิป ตัวอย่างการพูดนั้นๆ แล้วร่วมกันสนทนาว่า เป็นการพูดต่อที่ประชุมชน ประเภทใดบ้าง 3. ครูอธบิ ายเพม่ิ เติม โดยใช้ สอ่ื PPT เร่อื ง การพดู ต่อทปี่ ระชมุ ชนในโอกาสตา่ งๆ 4. ครูมอบหมายให้นักเรียนฝึกพูดในโอกาสต่างๆ แล้วอัดคลิบวดี ิโอ หรือพูดให้เพื่อนฟังในคาบถดั ไป โดยครู กำหนดโอกาสใหน้ กั เรียนดังน้ี 1. การกล่าวไว้อาลัย 2. อวยพรขึ้นบา้ นใหม่ 3. อวยพรวนั เกิด 4. อวยพรคสู่ มรส 5. กลา่ วต้อนรับ 6. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบ กจิ กรรมรวบยอด 1. ครพู ดู คุยซกั ถามความเขา้ ใจของนักเรียน ครนู ำเสนอภาพรวมของการเรยี น ๙. สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนหลกั ภาษาและการใช้ภาษา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ๒. แบบทดสอบ ๓. สอ่ื PPT เรอื่ ง การพูดต่อทปี่ ระชมุ ชนในโอกาสตา่ งๆ ๑๐. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ /ส่งิ ท่ีต้องการวดั วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๖๐ ๑. อธิบายหลักการเตรยี มตวั ตรวจแบบฝึกหัด พูดตอ่ ประชุมชน แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ ๒. จำแนกประเภทของการพูด ประเมนิ การปฏิบัติ แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่าน ต่อประชมุ ชนได้ เกณฑ์ ๓. แสดงออกถึงพฤติกรรม สังเกตพฤตกิ รรม การพดู อยา่ งเหมาะสม ( นางสาวกวีกานต์ สังข์ทอง ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ



แบบทดสอบ เรอ่ื ง การพดู ตอ่ ประชุมชน คำช้ีแจง : จงเลอื กคำตอบทีถ่ ูกท่ีสุดเพยี งคำตอบเดยี ว ๑. ข้อใดให้ความหมายของการพูดไดถ้ ูกต้องชดั เจนท่สี ุด ก. การติดต่อส่อื สารของมนุษยด์ ้วยการใชถ้ ้อยคำและน้ำเสียง ข. พฤติกรรมการใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสยี ง และอากัปกริ ยิ าของมนษุ ย์ ค. การเปลง่ เสียงออกมาเปน็ ถ้อยคำเพ่ือระบายอารมณข์ องมนุษย์ ง. การถ่ายทอดความรสู้ ึกนึกคดิ ของผู้พดู ไปยังผฟู้ งั ด้วยนำ้ เสียง ถ้อยคำและกริ ยิ าท่าทางตา่ ง ๆ ๒. ข้อใดให้ความหมายของการพูดตอ่ ท่ปี ระชุมชนได้ถกู ต้องชดั เจนทสี่ ดุ ก. การท่บี ุคคลแสดงความรู้ ความร้สู กึ ต่อหนา้ ค่สู นทนา ข. การท่ีบุคคลเสนอแนะข้อคดิ เห็นตอ่ หน้าทป่ี ระชุมสาธารณะ ค. การทีบ่ คุ คลกล่าวแสดงความรสู้ ึกนกึ คดิ ของตนในห้องบันทึกเสียง ง. การทบ่ี คุ คลพดู แสดงความรู้ ความรู้สึกนกึ คดิ ต่อหน้าผู้ฟงั จำนวนมาก ๓. ขอ้ ใดเปน็ ความจำเปน็ ในการพดู ต่อทปี่ ระชุมชน ก. เพือ่ เป็นการสรา้ งความสัมพนั ธใ์ นหมคู่ ณะ ข. เพื่อขอร้องผ้อู นื่ ให้เห็นความสำคญั ของตน ค. เพอ่ื ถ่ายทอดวทิ ยาการใหม่ ๆ ส่บู คุ คลอน่ื ง. เพื่อให้สมาชกิ ในสงั คมฝึกฝนและนำไปปฏิบัติได้ ๔. สำนวนคำในข้อใดแสดงใหเ้ ห็นถึงความสำคัญของการพดู ก. พูดไปสองไพเบยี้ นงิ่ เสียตำลึงทอง ข. พดู ดีเป็นศรีแกต่ วั พดู ช่ัวอัปราชัย ค. สำเนยี งส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ง. ปากปราศรยั ใจเชือดคอ ๕. องคป์ ระกอบใดของการพูดท่ีสามารถชี้วัดได้วา่ การพดู ในครง้ั น้นั สมั ฤทธผิ ล ก. ผฟู้ ัง ข. สาร ค. ส่ือ ง. ผลตอบสนอง

๖. การเตรียมตวั ผพู้ ูด สงิ่ แรกทผ่ี ู้พูดต้องรูค้ ือ ก. เร่ืองท่ีพูด ข. วตั ถุประสงค์ของการพูด ค. ลีลาท่าทางการพูด ง. การรจู้ กั ผู้ฟงั ๗. การเตรยี มตวั ผพู้ ดู มีประโยชนอ์ ยา่ งไร ก. ไมใ่ หล้ มื เน้ือเรอ่ื ง ข. พดู ได้น่าสนใจ ค. จติ ใจมน่ั คงไม่สะทกสะทา้ น ง. พูดไดส้ นุก ๘. การพูดลักษณะใดเปน็ การพดู จูงใจใหผ้ ้ฟู งั ยอมรบั ไดด้ ที ส่ี ดุ ก. พดู อ่อนน้อมถ่อมตน ข. พดู แสดงน้ำเสยี งและลีลาทีน่ ่าฟงั ค. พดู แสดงเหตุผลและข้อเทจ็ จริง ง. พดู วจิ ารณแ์ ละใหข้ ้อคิดเห็น ๙. คำว่า “พูดเปน็ ” หมายความว่าอย่างไร ก. กล้าท่ีจะพูด ข. ออกเสียงชดั เจน ค. พูดไพเราะสำนวนสละสลวย ง. โนม้ นา้ วใจผู้ฟังใหค้ ล้อยตามได้ ๑๐.ข้อใดจัดเปน็ วจั นภาษาในการพดู ตอ่ ทีป่ ระชมุ ชน ก. ใช้คำพดู ท่สี ภุ าพ ใช้น้ำเสยี งท่ีนมุ่ นวล ข. รกั ษาทว่ งทีและกิริยาอาการให้อ่อนโยน ค. ใชแ้ ววตาทีแ่ สดงความเป็นมิตร ง. ย้มิ แยม้ แจม่ ใส สบตาผูฟ้ ังทุกคน ชอ่ื สกลุ ................................................................................................ช้นั ........................เลขที่.......................... .......

แบบทดสอบ เรือ่ ง การพดู ตอ่ ประชุมชน คำชี้แจง : จงเลอื กคำตอบท่ถี ูกท่ีสุดเพียงคำตอบเดียว 1.ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของการพูดได้ถกู ต้องชดั เจนทส่ี ดุ จ. การติดต่อสอื่ สารของมนุษย์ด้วยการใชถ้ อ้ ยคำและน้ำเสียง ฉ. พฤติกรรมการใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสยี ง และอากปั กิริยาของมนุษย์ ช. การเปลง่ เสียงออกมาเป็นถ้อยคำเพื่อระบายอารมณ์ของมนุษย์ ซ. การถา่ ยทอดความรู้สึกนึกคดิ ของผู้พูดไปยังผ้ฟู ังด้วยนำ้ เสียง ถ้อยคำและกริ ิยาท่าทางตา่ ง ๆ 2.ข้อใดให้ความหมายของการพูดตอ่ ทีป่ ระชุมชนไดถ้ ูกต้องชัดเจนท่ีสดุ จ. การที่บคุ คลแสดงความรู้ ความร้สู ึกตอ่ หน้าค่สู นทนา ฉ. การท่บี ุคคลเสนอแนะข้อคดิ เหน็ ตอ่ หนา้ ทปี่ ระชุมสาธารณะ ช. การทบ่ี คุ คลกลา่ วแสดงความรสู้ ึกนึกคิดของตนในหอ้ งบนั ทึกเสียง ซ. การทบี่ คุ คลพดู แสดงความรู้ ความร้สู ึกนึกคดิ ต่อหนา้ ผู้ฟังจำนวนมาก 3.ข้อใดเปน็ ความจำเป็นในการพดู ตอ่ ที่ประชมุ ชน จ. เพ่ือเป็นการสร้างความสัมพันธใ์ นหมู่คณะ ฉ. เพื่อขอร้องผอู้ ่นื ให้เห็นความสำคญั ของตน ช. เพ่ือถ่ายทอดวิทยาการใหม่ ๆ ส่บู ุคคลอนื่ ซ. เพอ่ื ให้สมาชกิ ในสังคมฝกึ ฝนและนำไปปฏบิ ัติได้ 4.สำนวนคำในขอ้ ใดแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความสำคัญของการพดู จ. พดู ไปสองไพเบีย้ นิง่ เสยี ตำลึงทอง ฉ. พดู ดีเปน็ ศรีแก่ตวั พูดช่ัวอัปราชัย ช. สำเนยี งสอ่ ภาษา กริ ิยาส่อสกุล ซ. ปากปราศรยั ใจเชือดคอ 5.องค์ประกอบใดของการพูดท่สี ามารถชีว้ ดั ไดว้ ่าการพูดในคร้งั น้ันสัมฤทธผิ ล จ. ผูฟ้ งั ฉ. สาร ช. ส่อื ซ. ผลตอบสนอง

6. การเตรยี มตัวผู้พดู สง่ิ แรกทผ่ี พู้ ูดต้องรู้คือ จ. เร่ืองท่ีพูด ฉ. วตั ถปุ ระสงค์ของการพดู ช. ลีลาทา่ ทางการพดู ซ. การรู้จกั ผู้ฟัง 7.การเตรยี มตัวผ้พู ดู มีประโยชนอ์ ยา่ งไร จ. ไม่ให้ลมื เนื้อเร่ือง ฉ. พดู ได้น่าสนใจ ช. จติ ใจมั่นคงไม่สะทกสะท้าน ซ. พดู ได้สนุก 8.การพูดลักษณะใดเปน็ การพดู จงู ใจใหผ้ ู้ฟงั ยอมรับไดด้ ที ่ีสุด จ. พดู อ่อนน้อมถ่อมตน ฉ. พูดแสดงน้ำเสียงและลลี าทีน่ ่าฟัง ช. พูดแสดงเหตุผลและข้อเทจ็ จริง ซ. พูดวจิ ารณแ์ ละให้ข้อคิดเหน็ 9.คำว่า “พูดเป็น” หมายความว่าอย่างไร จ. กล้าทจี่ ะพดู ฉ. ออกเสยี งชดั เจน ช. พดู ไพเราะสำนวนสละสลวย ซ. โน้มน้าวใจผ้ฟู ังใหค้ ล้อยตามได้ 10.ขอ้ ใดจดั เปน็ วัจนภาษาในการพูดต่อทปี่ ระชมุ ชน จ. ใช้คำพูดทสี่ ภุ าพ ใช้น้ำเสียงท่ีน่มุ นวล ฉ. รกั ษาทว่ งทีและกิริยาอาการให้อ่อนโยน ช. ใช้แววตาท่ีแสดงความเป็นมิตร ซ. ยมิ้ แยม้ แจ่มใส สบตาผ้ฟู ังทุกคน

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ รหสั วชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 พฒั นาการสอ่ื สาร ตระหนักการมีคุณธรรม เวลา 6 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 6 เรอื่ ง การพดู ต่อประชุมชน เวลา 1 ชว่ั โมง ผูส้ อน นางสาวกวกี านต์ สังข์ทอง สอนสัปดาห์ที่......... ม.5/1 วนั ท.ี่ ...................................... ม.5/2 วันท.่ี ...................................... ม.5/3 วนั ท.่ี ...................................... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท ๓.๑ ม.๔-๖/๕ พูดในโอกาสตา่ งๆ พูดแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจ และเสนอแนวคิดใหม่ด้วย ภาษาถกู ต้องเหมาะสม ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายหลักการเตรยี มตัวพดู ต่อประชมุ ชนได้ (K) ๒. สาธติ /ปฏบิ ตั พิ ดู ต่อประชุมชนโดยใช้ระดบั ภาษาได้ถูกต้องเหมาะสม (P) ๓. แสดงออกถึงพฤติกรรมการพูดอย่างเหมาะสม (A) ๓. สาระสำคญั การพูดต่อประชุมชนเป็นการพูดให้คนจำนวนมากฟัง และผู้ฟังก็มักจะต้ังความหวังไว้ว่าจะได้รับความรู้ หรือสารประโยชนจ์ ากการฟัง ผู้พูดจงึ ควรเตรยี มให้พรอ้ มเพื่อจะไดม้ ีความม่นั ใจในตนเอง ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  ประเภทของการพูดต่อประชมุ ชน  หลกั การเตรยี มตวั พูดต่อประชุมชน ทักษะ / กระบวนการ ๑. ทักษะพูด ๒. กระบวนการคิด ๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ข้อ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ขอ้ ๔ ใฝเ่ รียนรู้ ๗. ช้ินงาน / ภาระงาน / รอ่ งรอยการเรียนรู้ การปฏบิ ตั ิ ๘. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ กจิ กรรมเตรยี มความพร้อม / กจิ กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. ครูพดู คยุ เตรียมความพร้อมของนักเรยี น 2. ทบทวนเรื่อง การพูดตอ่ ท่ปี ระชุมชน กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน 1. ครใู ห้นักเรยี นแชร์คลิปวีดิโอการพูดของตนเอง / หรือ พูดสดๆ ให้เพอ่ื นๆ ในช้นั เรยี นไดด้ ู 2. เพอ่ื นๆ ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ครูประเมินการพดู ของนักเรียนให้คำแนะนำ ติชม ใหก้ ำลังใจ กิจกรรมรวบยอด 3. สรปุ ความรเู้ รือ่ งการพูดในท่ปี ระชุมชน ๙. สือ่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑. ส่อื คลิปวดี ิโอการพดู ต่อที่ประชุมชนของนักเรียน ๑๐. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ /สงิ่ ทตี่ ้องการวดั วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ๑. อธบิ ายหลกั การเตรียมตัว ตรวจแบบฝกึ หดั แบบฝึกหดั ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่าน พูดต่อประชุมชน เกณฑ์ ๒. สาธติ /ปฏิบตั พิ ูดต่อประชุม ประเมนิ การปฏิบัตงิ านกลุ่ม แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ น ชนโดยใชร้ ะดับภาษาได้ถกู ต้อง เกณฑ์ เหมาะสม ๓. แสดงออกถงึ พฤติกรรม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน การพูดอย่างเหมาะสม ( นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการพเิ ศษ





แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ รหสั วชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๔ เรื่อง เชีย่ วชาญการเขียน พากเพียรฝกึ ฝน เวลา ๖ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอื่ ง การเขียนเชงิ วิชาการ เวลา ๑ ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง สอนสปั ดาหท์ .่ี .........วันท.ี่ ........เดอื น...........................พ.ศ......... ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ช้วี ดั มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่อื งราวใน รปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธิภาพ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๖ เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้าเรื่องที่สนใจตามหลักการเขียนเชิงวิชาการ และใช้ ขอ้ มลู สารสนเทศอา้ งอิงอย่างถกู ต้อง ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกความหมาย หลักการเขียน และลักษณะของงานเขียนเชงิ วิชาการได้ (K) ๒. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของการเขียนเชงิ วชิ าการ (A) ๓. สาระสำคัญ การเขียนเชิงวิชาการ เป็นการนำเสนอผลการศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบ สำรวจ รวบรวม และวิเคราะห์ อย่างละเอียดถี่ถ้วน มีเหตุผล รวมท้ังอ้างอิงหลักฐานที่มาอย่างมีระเบียบแบบแผนแน่นอน นักเรียนจึงจำเป็นต้อง ศกึ ษาใหเ้ ขา้ ใจเพ่อื จะเขียนได้อยา่ งถูกต้อง ๔. สาระการเรยี นรู้ ความรู้  การเขยี นเชงิ วิชาการ  มารยาทในการเขียน ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะการอา่ น ๒. ทักษะการเขยี น ๓. ทกั ษะกระบวนการทางภาษา ๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ขอ้ ๑ ความสามารถในการส่ือสาร

ขอ้ ๒ ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ สงั เคราะห์ - ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ - ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ๖. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ข้อ ๖ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ๗. ช้ินงาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรียนรู้ แบบทดสอบ ๘. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กจิ กรรมนำเขา้ สูบ่ ทเรียน ๑. ครูใหน้ ักเรียนดตู วั อยา่ งรายงานเชงิ วิชาการของรุน่ พ่ี กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑. นกั เรียนดู PPT เรื่องการเขียนเชงิ วิชาการ ครซู ักถามความเขา้ ใจและอธบิ ายเพ่มิ เติม ๒. นักเรียน ดูส่ือออนไลน์ ช่องทาง YouTube (เร่ือง การเขียนเชิงวิชาการ ภาษาไทย ม.5 ประมาณเวลา ๑๐ นาที) ๓. ครซู กั ถามความเข้าใจ และอธบิ ายเพ่ิมเติม เกยี่ วกับ การเขียนเชิงวชิ าการ ๔. ให้นักเรยี นศกึ ษาความร้เู ร่อื งการเขยี นเชิงวิชาการ ในหนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เพิ่มเตมิ ๕. นกั เรียนทำแบบทดสอบ กิจกรรมรวบยอด ๑. สรุปลกั ษณะของงานเขียนเชงิ วิชาการ ๙. สอ่ื การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑. หนังสอื เรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ๒. แบบทดสอบ ๓. PPT เรือ่ งการเขยี นเชิงวิชาการ ๔. สอื่ ออนไลน์ ช่องทาง YouTube

๑๐. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้/ ส่ิงทจี่ ะวดั วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ แบบทดสอบ รอ้ ยละ ๖๐ ๑. บอกความหมาย หลักการเขยี น ตรวจแบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ แบบประเมนิ และลกั ษณะของงานเขียนเชิง ระดบั คุณภาพ แบบประเมิน ๒ ผ่านเกณฑ์ วชิ าการได้ คณุ ลักษณะอันพึง ระดบั คุณภาพ ประสงค์ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ๒.ตระหนักถงึ ความสำคัญของการ สังเกต เขยี นเชงิ วิชาการ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สงั เกต ลงช่ือ..................................................ครูผสู้ อน ( นางสาวกวกี านต์ สังขท์ อง ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ

แบบประเมินการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ ลำดบั รายการประเมนิ ดมี าก ระดบั คุณภาพ ที่ ๔ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ๓ ๒๑ ๑ การวางโครงเรอ่ื ง การศึกษา มีการวางโครง มกี ารวางโครง มกี ารวางโครง ไม่มีการวาง เรือ่ ง ศึกษา เรื่อง ศกึ ษา โครงเรือ่ ง ค้นคว้า และรวบรวมข้อมลู เร่ือง ศกึ ษา ค้นคว้าและ คน้ ควา้ และ ศกึ ษาค้นคว้า รวบรวมขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มลู และรวบรวม ค้นควา้ และ โดยมีการบันทึก โดยไมม่ กี าร ข้อมูลโดยไมม่ ี ในแบบบันทึก บนั ทกึ ในแบบ การบันทกึ ใน รวบรวมข้อมลู ความร้แู ต่ไม่ บันทกึ ความรู้ แบบบนั ทกึ ชัดเจน ความรู้ โดยบนั ทกึ ใน แบบบันทึก ความรอู้ ย่าง ชัดเจน ๒ การเขยี นอ้างองิ ข้อมูล ระบแุ หล่ง ระบแุ หลง่ ระบุแหลง่ ที่มา ไมร่ ะบุ สารสนเทศ อ้างองิ ของ อ้างอิงของ แตไ่ ม่ครบถว้ น แหลง่ ท่ีมา ขอ้ มลู ท่ีบนั ทกึ ข้อมลู ท่ีบนั ทึก อยา่ งชดั เจน ไมช่ ดั เจน ๓ รปู เล่มของรายงาน มีสว่ นประกอบ ขาด ขาด ขาด ของรายงาน ส่วนประกอบ ส่วนประกอบ สว่ นประกอบ ครบถ้วน ของรายงาน ๑ ของรายงาน ของรายงาน ประเดน็ ๒ ประเด็น ๓ประเด็นขน้ึ ไป ๔ ลายมือเป็นระเบียบอ่านงา่ ย ลายมอื เป็น ลายมอื ค่อนข้าง ลายมือไม่เปน็ ลายมือไม่เปน็ ระเบียบอา่ น ง่าย เป็นระเบียบ ระเบียบ ระเบยี บอา่ น อ่านง่าย พออา่ นได้ ยาก ๕ ความสะอาดของงาน สะอาด มีรอยลบ มีความสกปรก สกปรกมาก เล็กนอ้ ย นดิ หน่อย



แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ รหัสวิชา ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๔ เรื่อง เชี่ยวชาญการเขยี น พากเพียรฝึกฝน เวลา ๖ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรือ่ ง การเขียนรายงานเชิงวิชาการ เวลา ๑ ช่ัวโมง ผ้สู อน นางสาวกวกี านต์ สงั ข์ทอง สอนสัปดาห์ท่ี..........วนั ท.่ี ........เดอื น...........................พ.ศ......... ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ช้วี ดั มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่อื งราวใน รปู แบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๖ เขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ เร่ืองทส่ี นใจตามหลักการเขยี นเชิงวชิ าการ และใช้ ข้อมลู สารสนเทศอ้างอิงอย่างถูกต้อง ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกความหมาย ส่วนประกอบ ขั้นตอนการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการได้ (K) ๒. ตระหนกั ถึงความสำคัญของการเขียนรายงานเชงิ วิชาการที่ถูกต้อง (A) ๓. สาระสำคญั การเขียนรายงานเชิงวิชาการ เป็นการนำเสนอผลท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดและมีแบบแผน แลว้ นำมาเรยี บเรียงตามขนั้ ตอนทถ่ี ูกต้องตามรปู แบบการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  การเขยี นรายงานเชงิ วิชาการ  มารยาทในการเขยี น ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทักษะการอ่าน ๒. ทักษะการเขยี น ๓. ทักษะกระบวนการทางภาษา

๕. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ข้อ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ขอ้ ๒ ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคิดสังเคราะห์ - ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ - ทกั ษะการประยุกต์ใชค้ วามรู้ ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ขอ้ ๖ มุง่ มัน่ ในการทำงาน ๗. ช้ินงาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรียนรู้ แบบทดสอบ ๘. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ กิจกรรมนำเขา้ สบู่ ทเรียน ๑. ครูใหน้ กั เรียนดตู ัวอยา่ งรายงานเชงิ วิชาการของรุ่นพ่ี ๒. ทบทวนเร่ืองการเขียนรายงาน กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ๑. นักเรยี นดู PPT เรือ่ งการเขียนรายงาน ครูซักถามความเขา้ ใจและอธิบายเพ่ิมเติม ๒. นักเรียนจดบันทกึ ในสว่ นของความหมายของการเขียนรายงาน / ส่วนประกอบของรายงาน ๓ . นักเรียน ดูสอื่ ออนไลน์ ช่องทาง YouTube (วชิ าภาษาไทยชั้นม.๕ เรือ่ งการเขียนเชิงวิชาการ อาจารยอ์ ุ้ม ประมาณ เวลา ๑๐ นาที) ๔. ครูซักถามความเขา้ ใจ และอธิบายเพ่มิ เติม เกยี่ วกบั ขนั้ ตอนของการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ ๕. ให้นักเรียนศึกษาความรูเ้ ร่อื งการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ในหนงั สอื เรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เพ่ิมเติม ๖. นักเรยี นทำแบบทดสอบ กจิ กรรมรวบยอด ๑. ดสู ือ่ ออนไลน์ ช่องทาง YouTube (รูปแบบการเขียนรายงาน NRRU.MOOC ความยาว ๗ นาที) ๙. สือ่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. หนงั สือเรียนหลกั ภาษาและการใช้ภาษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ๒. ตวั อยา่ งรายงานเชงิ วชิ าการ

๓. แบบทดสอบ ๔. PPT เร่อื งการเขียนรายงาน ๕. สื่อออนไลน์ ช่องทาง YouTube ๑๐. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จุ จุดประสงค์การเรียนรู้/ สิ่งทจ่ี ะวัด วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ๑. บอกความหมาย สว่ นประกอบ ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ ร้อยละ ๖๐ ข้นั ตอนการเขียนรายงานเชงิ ผ่านเกณฑ์ วชิ าการ สังเกต แบบประเมนิ ๒.ตระหนักถงึ ความสำคัญของการ สงั เกต ระดบั คุณภาพ เขียนรายงานเชงิ วิชาการที่ถูกต้อง แบบประเมิน ๒ ผา่ นเกณฑ์ คุณลกั ษณะอันพึง ระดับคุณภาพ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสงค์ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ลงช่ือ..................................................ครผู สู้ อน ( นางสาวกวกี านต์ สงั ข์ทอง ) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ ............../..................................../..............

แบบประเมินการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ ลำดบั รายการประเมนิ ดมี าก ระดบั คุณภาพ ที่ ๔ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ๓ ๒๑ ๑ การวางโครงเรอ่ื ง การศึกษา มีการวางโครง มกี ารวางโครง มกี ารวางโครง ไม่มีการวาง เรือ่ ง ศึกษา เรื่อง ศกึ ษา โครงเรือ่ ง ค้นคว้า และรวบรวมข้อมลู เร่ือง ศกึ ษา ค้นคว้าและ คน้ ควา้ และ ศกึ ษาค้นคว้า รวบรวมขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มลู และรวบรวม ค้นควา้ และ โดยมีการบันทึก โดยไมม่ กี าร ข้อมูลโดยไมม่ ี ในแบบบันทึก บนั ทกึ ในแบบ การบันทกึ ใน รวบรวมข้อมูล ความร้แู ต่ไม่ บันทกึ ความรู้ แบบบนั ทกึ ชัดเจน ความรู้ โดยบนั ทกึ ใน แบบบันทึก ความรอู้ ย่าง ชัดเจน ๒ การเขยี นอ้างองิ ข้อมูล ระบแุ หล่ง ระบแุ หลง่ ระบุแหลง่ ที่มา ไมร่ ะบุ สารสนเทศ อ้างองิ ของ อ้างอิงของ แตไ่ ม่ครบถว้ น แหล่งท่ีมา ขอ้ มลู ท่ีบนั ทกึ ข้อมลู ท่ีบนั ทึก อยา่ งชดั เจน ไมช่ ดั เจน ๓ รปู เล่มของรายงาน มีสว่ นประกอบ ขาด ขาด ขาด ของรายงาน ส่วนประกอบ ส่วนประกอบ สว่ นประกอบ ครบถ้วน ของรายงาน ๑ ของรายงาน ของรายงาน ประเดน็ ๒ ประเด็น ๓ประเด็นขน้ึ ไป ๔ ลายมือเป็นระเบียบอ่านงา่ ย ลายมอื เปน็ ลายมอื ค่อนข้าง ลายมือไม่เปน็ ลายมือไม่เปน็ ระเบียบอา่ น ง่าย เป็นระเบียบ ระเบียบ ระเบยี บอา่ น อ่านง่าย พออา่ นได้ ยาก ๕ ความสะอาดของงาน สะอาด มีรอยลบ มีความสกปรก สกปรกมาก เล็กนอ้ ย นดิ หน่อย



แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ รหสั วิชา ท๓๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๔ เร่ือง เชยี่ วชาญการเขียน พากเพียรฝึกฝน เวลา ๖ ชั่วโมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๓ เรื่อง การเขยี นอา้ งอิงข้อมูลสารสนเทศ เวลา ๑ ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวกวีกานต์ สงั ข์ทอง สอนสปั ดาห์ที.่ .........วนั ท่.ี ........เดือน...........................พ.ศ......... ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตัวชวี้ ัด มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน รปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๖ เขียนรายงานการศึกษาค้นควา้ เรื่องท่สี นใจตามหลักการเขยี นเชงิ วชิ าการ และใช้ ขอ้ มูลสารสนเทศอา้ งอิงอยา่ งถูกต้อง ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกวิธีการเขียนอา้ งอิงขอ้ มลู สารสนเทศได้ (K) ๒. เขยี นอ้างองิ ข้อมูลสารสนเทศได้ (P) ๓. ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของการเขยี นอา้ งอิงข้อมูลสารสนเทศ (A) ๓. สาระสำคัญ การอ้างอิงข้อมูลสารสนเทศ คือการบอกแหล่งท่ีมาของข้อมูลท่ีผู้เขียนนำมาใช้อ้างอิงในการเขียนรายงาน หรือผลงานต่างๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคล หรือองค์กรผู้เป็นเจ้าของความคิดเดิม และเพ่ือแสดงเจตนาบริสุทธิ์ว่า ไม่ได้ขโมยความคิด หรือลอกเลียนข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่มีการอ้างอิงรวมทั้งสะดวกแก่ผู้อ่านที่ประสงค์จะทราบ รายละเอยี ดอน่ื ๆ และตรวจสอบความถกู ต้อง จากต้นฉบบั เดมิ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  การอา้ งองิ ขอ้ มูลสารสนเทศ ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทักษะการอ่าน

๒. ทกั ษะการเขียน ๓. ทกั ษะกระบวนการทางภาษา ๕. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ขอ้ ๑ ความสามารถในการส่ือสาร ข้อ ๒ ความสามารถในการคิด - ทักษะการคดิ สังเคราะห์ - ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ - ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้ ๖. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ข้อ ๖ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ๗. ชิ้นงาน / ภาระงาน / รอ่ งรอยการเรยี นรู้ การเขียนรายงาน แบบฝึกหัด ๘. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ กิจกรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น ๑. ทบทวนขั้นตอนการเขยี นรายงาน กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น ๑. นักเรียนดสู ่ือออนไลน์ ช่องทาง YouTube (ภาษาไทย ม.6 การเขียนบรรณานกุ รม โดย ครู Teerawee Bualuang Suphaphitchayapong ประมาณเวลา ๑๔ นาท)ี ๒. นกั เรยี นจดบันทกึ ความรู้ ๓. ครูซกั ถามความเข้าใจ และอธบิ ายเพ่ิมเติม ๔. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั กิจกรรมรวบยอด ๑. ดู PPT เรื่องการเขียนบรรณานุกรมสรปุ บทเรียน ๙. ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑. หนงั สือเรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ๒. ตวั อยา่ งรายงานเชงิ วิชาการ

๓. แบบฝึกหัด ๔. PPT เร่ืองการเขียนบรรณานกุ รม ๕. สื่อออนไลน์ ชอ่ งทาง YouTube ๑๐. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จุ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้/ สิ่งท่จี ะวดั วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์ ๑. บอกวิธีการเขียนอ้างอิงข้อมลู ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหัด รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ สารสนเทศ ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝึกหัด ร้อยละ ๖๐ ๒. เขยี นอา้ งองิ ข้อมูลสารสนเทศ แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ ๓. ตระหนักถงึ ความสำคัญของการ สังเกต แบบประเมิน ๒ ผ่านเกณฑ์ คณุ ลักษณะอันพึง เขียนอา้ งอิงขอ้ มูลสารสนเทศ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สังเกต ๒ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ..................................................ครูผูส้ อน ( นางสาวกวกี านต์ สังขท์ อง ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ



ใบความรู้ เรอ่ื งการเขียนข้อมูลสารสนเทศ ความหมายและความสำคญั ของการอ้างอิงข้อมูลสารสนเทศ การอ้างอิงข้อมูลสารสนเทศ คือ การบอกแหล่งของขอ้ ความท่ีผู้เขียนนำมาอ้างอิงประกอบการเรียบเรียง รายงาน การแสดงแหล่งท่ีมาของข้อความหรือเน้ือหาทางวิชาการที่ผู้ค้นคว้าได้จากแหล่งสารสนเทศต่างๆ ทั้งสื่อ สิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ และส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ผู้ค้นคว้าสามารถทำได้ทันทีในเน้ือหาเฉพาะในขณะท่ีอ้างข้อความ แล้ว รายงานรายละเอียดทางบรรณานกุ รมอยา่ งละเอยี ดไวท้ ้ายงานในรปู บรรณานุกรม ความสำคัญของการอ้างอิง 1.เพอ่ื แสดงการรบั รใู้ นสทิ ธขิ องเจ้าของ หรอื ลิขสทิ ธิ์ ของเจา้ ของแนวคิดหรอื ผลงานนน้ั เปน็ สำคัญ ซึ่งเป็นการแสดงถึงจริยธรรมทางวิชาการ และให้เกียรติแกเ่ จ้าของผลงานท่นี ำมาใช้อา้ งอิง 2.เปน็ การแสดงหลกั ฐาน และเพิม่ น้ำหนักความน่าเช่ือถือของสารสนเทศท่ีนำเสนอ 3.ชว่ ยใหผ้ ู้อ่านเขา้ ถึงขอ้ มลู หรอื ตรวจสอบแหลง่ ท่มี าของข้อมูล หรือหลักฐานเดมิ ได้ 4.ชว่ ยใหผ้ ู้อา่ นสามารถค้นหาข้อมูลอ่านประกอบเพ่ิมเติมได้มากย่ิงข้ึนหากต้องการศึกษา เพิ่มเติม 5.ป้องกนั การละเมดิ ลขิ สิทธิ์

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ รหัสวชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ เรื่อง เชยี่ วชาญการเขยี น พากเพียรฝกึ ฝน เวลา ๖ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๔ เรอ่ื ง การเขียนรายงานเชิงวิชาการ เวลา ๑ ช่ัวโมง ผสู้ อน นางสาวกวีกานต์ สงั ขท์ อง สอนสปั ดาห์ที่..........วนั ท.ี่ ........เดือน...........................พ.ศ......... ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่อื งราวใน รูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๖ เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้าเรื่องที่สนใจตามหลักการเขยี นเชิงวิชาการ และใช้ ขอ้ มูลสารสนเทศอา้ งองิ อยา่ งถกู ต้อง ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. บอกความหมาย ส่วนประกอบ ขัน้ ตอนการเขยี นรายงานเชงิ วิชาการได้ (K) ๒. เขยี นรายงานเชิงวิชาการได้ (P) ๓. เขยี นรายงานเชงิ วชิ าการได้อย่างมีมารยาท (A) ๓. สาระสำคญั การเขียนรายงานเชิงวิชาการ เป็นการนำเสนอผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดและมีแบบแผน แลว้ นำมาเรยี บเรียงตามขั้นตอนทถ่ี กู ต้องตามรปู แบบการเขยี นรายงานเชิงวิชาการ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  การเขยี นรายงานเชงิ วชิ าการ  มารยาทในการเขียน ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทักษะการอ่าน ๒. ทักษะการเขยี น

๓. ทกั ษะกระบวนการทางภาษา ๕. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ขอ้ ๑ ความสามารถในการส่ือสาร ขอ้ ๒ ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ สงั เคราะห์ - ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ - ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้ ๖. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ขอ้ ๖ ม่งุ มั่นในการทำงาน ๗. ช้ินงาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรียนรู้ เขียนรายงาน ๘. กระบวนการจดั การเรียนรู้ กิจกรรมนำเขา้ ส่บู ทเรียน ๑. ทบทวนเรอื่ งการเขยี นรายงาน กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๑. ใหน้ ักเรียนจัดกลุ่ม ๆ ละ ๔-๕ คน ปฏิบตั กิ ารเขียนรายงาน โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ เริ่มและปฏิบัติตาม ขน้ั ตอนการเขียนรายงานเชงิ วิชาการ ๒. ครูคอยแนะนำใหค้ ำปรกึ ษา กิจกรรมรวบยอด ๑. สรุปปญั หาของการเขียนและแนวทางการแก้ปัญหา ๙. สื่อการเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. หนังสอื เรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ๒. เอกสาร หนังสอื ประกอบการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ๓. กระดาษรายงาน กระดาษปก และอปุ กรณอ์ ืน่ ๆ

๑๐. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้/ สิ่งท่จี ะวัด วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์ ๑. บอกความหมาย ส่วนประกอบ ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ ร้อยละ ๖๐ ขนั้ ตอนการเขยี นรายงานเชงิ ผา่ นเกณฑ์ วิชาการ ตรวจรายงาน แบบประเมิน รอ้ ยละ ๖๐ ๒. เขียนรายงานเชงิ วิชาการ ผ่านเกณฑ์ ๓. เขยี นรายงานเชงิ วชิ าการได้ อย่างมีมารยาท ลงชือ่ ..................................................ครผู สู้ อน ( นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ รหสั วิชา ท๓๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๕ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ เรื่อง เช่ยี วชาญการเขยี น พากเพียรฝกึ ฝน เวลา ๖ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง การเขยี นบนั ทึกความรู้ เวลา ๑ ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวกวีกานต์ สังขท์ อง สอนสัปดาหท์ ่.ี .........วันท.่ี ........เดือน...........................พ.ศ......... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเรอ่ื งราวใน รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๗ บนั ทึกการศกึ ษาคน้ ควา้ เพ่อื นำไปพัฒนาตนเองอย่างสมำ่ เสมอ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกวธิ ีเขียนบันทึกความรู้ได้ (K) ๒. เขียนบันทกึ ความรู้ได้ (P) ๓. มมี ารยาทในการเขยี น (A) ๓. สาระสำคญั การเขียนบันทึกความรู้ท่ีได้จากการอ่าน การฟัง และการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ ช่วยให้สามารถนำ ความรไู้ ปใช้ในการพัฒนาตนเอง ตลอดจนการนำความร้ไู ปคิดต่อยอดให้เกิดประโยชน์ สร้างสรรค์ต่อสังคมได้อยา่ ง มปี ระสิทธภิ าพ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  การเขียนบันทึกความรู้  มารยาทในการเขียน ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทักษะการอ่าน ๒. ทักษะการเขยี น ๕. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ข้อ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ขอ้ ๒ ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์

- ทักษะการคดิ ไตร่ตรอง - ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ ๖. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ขอ้ ๖ มุ่งมนั่ ในการทำงาน ตัวชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในหนา้ ทก่ี ารงาน ๗. ชนิ้ งาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรยี นรู้ การเขยี นบันทึกความรู้ แบบฝึกหัด ๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมนำเข้าส่บู ทเรียน ๑. ครยู กตวั อยา่ งบคุ คลท่เี ป็นแบบอยา่ งในการเขียนบนั ทึกความรู้ คือ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑. ครูตั้งประเด็นคำถามนำให้นักเรยี นร่วมกันวิเคราะห์ถึงความสำคญั ของการเขียนบันทึกความรู้ เชน่ - ถ้าโลกนไ้ี ม่มีการบันทกึ ความรทู้ ี่คดิ ขึน้ มาใหม่ ไม่มีการบันทกึ ความรู้ทีไ่ ด้จากการศกึ ษาคน้ คว้าโลกจะ เปน็ อย่างไร - การเขยี นบนั ทึกความรู้มีความจำเป็นหรือไม่ เพียงไร - ถา้ จะเขยี นบนั ทึกความรู้จากการอ่าน เราควรปฏิบตั อิ ย่างไร ๒. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษาความรู้เร่ืองการเขียนบันทึกความร้จู ากการอ่าน จากหนงั สือเรยี น และร่วมกันสรปุ ประเดน็ สำคญั ๓. ครทู บทวนการบนั ทึกการอ่านดว้ ยแผนผงั ความคดิ การใชก้ ระดาษ วิธีเขียนผังความคิด การใช้เส้น สี ภาพ การสรปุ สาระสำคัญจากเร่ืองท่ีอ่าน การสงั เกตใจความหลัก ใจความรอง ๔. ใหน้ กั เรยี นอ่านตัวอยา่ งเรอื่ ง สรุ าและการขบั รถ จากหนงั สอื เรียน แลว้ จบั คกู่ ันสรุปเป็นผงั ความคิด และตรวจคำตอบด้วยตนเอง ๕. ให้นกั เรยี นตรวจสอบความเข้าใจ การบันทกึ การอา่ นด้วยแผนผงั ความคิด และแก้ไขงานใหถ้ ูกต้อง ๖. ให้นกั เรยี นทำใบงาน เรื่อง การเขยี นบันทึกความรจู้ ากการอา่ น โดยอา่ นเอกสารที่กำหนดแลว้ จับคกู่ ันวเิ คราะห์สาระที่ไดจ้ ากการอ่าน ว่าส่งิ ใดเป็นประเด็นหลกั สิง่ ใดเป็นประเด็นรอง แล้วรว่ มกนั สรปุ เป็นผัง ความคิด ๗. ใหน้ กั เรียนแลกเปลีย่ นงานกบั กลุ่มอ่ืนเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หรือวจิ ารณ์แสดงความคิดเหน็ ใน การใชเ้ สน้ สี และรูปภาพ ๘. ให้นักเรียนนำผลงานส่งครู ครพู ิจารณาเลือกตวั อย่างผลงานมาใหน้ กั เรยี นไดแ้ สดงความคดิ เหน็ ติ ชม เพอ่ื แกไ้ ขปรบั ปรงุ ผลงาน

๙. ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกันนำผลงานของเพ่ือนหลากหลายตัวอย่างท้งั ดแี ละไม่ดี มาช่วยกนั วจิ ารณ์และ เสนอแนะการแกไ้ ขข้อบกพร่องชน้ิ งานนั้นๆ โดยครชู ่วยแนะนำเพ่ิมเติม เพือ่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจที่ถกู ต้อง และ นกั เรียนไดเ้ รยี นรู้จากตัวอย่างท่หี ลากหลาย ช่วยย้ำความเข้าใจใหม้ ัน่ คงยิ่งข้ึน ๑๐. ให้นกั เรียนนำวิธกี ารบันทึกการอา่ น/การฟงั ไปปฏบิ ัติกบั การเรยี นวิชาต่างๆ กิจกรรมรวบยอด ๑. นกั เรียนสรุปขอ้ ควรคำนึงในการเขียนบนั ทึกความรู้ ๙. ส่อื การเรยี นรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ ๑. หนังสอื เรียนหลกั ภาษาและการใช้ภาษา ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ๒. ตวั อยา่ งการจดบนั ทึกความรู้ ๓. แบบฝึกหัด ๑๐. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้/ ส่ิงทจ่ี ะวัด วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ แบบฝกึ หัด ๑. บอกวิธเี ขียนบนั ทกึ ความรู้ ตรวจแบบฝกึ หัด ร้อยละ ๖๐ แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ ๒. เขยี นบันทกึ ความรู้ ตรวจการเขียน รอ้ ยละ ๖๐ ๓. มีมารยาทในการเขียน ประกาศ แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ สังเกต ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สังเกต แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะอันพงึ ๒ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ ลงชอ่ื ..................................................ครผู สู้ อน ( นางสาวกวีกานต์ สงั ขท์ อง ) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ

แบบประเมนิ การเขยี นบนั ทกึ ความรู้ ลำดบั รายการประเมนิ ดีมาก ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ ท่ี ๔ ดี พอใช้ ๑ ๓๒ ๑ ระบแุ หล่งอ้างอิงของข้อมูลท่ี ระบุแหลง่ ระบุแหลง่ ระบุแหลง่ ที่มา ไมร่ ะบุ บนั ทกึ อา้ งอิงของ อ้างอิงของ แตไ่ ม่ครบถว้ น แหล่งท่ีมา ขอ้ มูลท่ีบันทกึ ข้อมูลที่บนั ทกึ อยา่ งชดั เจน ไม่ชัดเจน ๒ การจับใจความสำคัญของ เน้อื หาครบถ้วน เน้ือหาครบถ้วน เน้ือหา เน้ือหาขาด เรอื่ งท่ีอา่ น/ฟัง ชดั เจน ใชค้ ำ ชัดเจนบาง ครบถว้ น แต่ ความชดั เจน กะทัดรัด ประเดน็ ใชค้ ำ ไม่ชดั เจน ฟมุ่ เฟอื ย ๓ การเขียนบันทึกสง่ิ ที่อ่าน/ เขยี นบันทึกสงิ่ ที่ เขียนบนั ทึกส่ิงที่ เขียนบันทกึ สงิ่ เขยี นบันทกึ สิง่ ฟงั ตามรปู แบบท่ีกำหนด อ่าน/ฟังตาม อ่าน/ฟังตาม ทอ่ี า่ น/ฟังตาม ท่อี า่ น/ฟงั ตาม รปู แบบที่ รูปแบบท่ี รปู แบบท่ี โดยไมม่ ี กำหนด กำหนดในบาง กำหนดแต่ไม่ รปู แบบ ประเดน็ สมบูรณ์ ๔ ลายมือเปน็ ระเบียบอ่านงา่ ย ลายมอื เป็น ลายมือค่อนข้าง ลายมือไม่เปน็ ลายมอื ไมเ่ ป็น ระเบยี บอ่าน เปน็ ระเบยี บ ระเบยี บ ระเบียบอ่าน งา่ ย อ่านงา่ ย พออา่ นได้ ยาก ๕ ความสะอาดของงาน สะอาด มีรอยลบ มคี วามสกปรก สกปรกมาก เล็กนอ้ ย นิดหนอ่ ย



แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ รหัสวชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๕ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๔ เรื่อง เชยี่ วชาญการเขียน พากเพียรฝกึ ฝน เวลา ๖ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๖ เรื่อง การเขียนบันทึกความรู้ เวลา ๑ ชัว่ โมง ผสู้ อน นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง สอนสปั ดาหท์ ี.่ .........วันที่.........เดือน...........................พ.ศ......... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวใน รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๗ บนั ทกึ การศึกษาคน้ คว้าเพอื่ นำไปพฒั นาตนเองอย่างสม่ำเสมอ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกวิธีเขียนบนั ทึกความรู้ได้ (K) ๒. เขียนบนั ทกึ ความรู้ได้ (P) ๓. มมี ารยาทในการเขยี น (A) ๓. สาระสำคัญ การเขียนบันทึกความรู้ที่ได้จากการอ่าน การฟัง และการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ ช่วยให้สามารถนำ ความร้ไู ปใช้ในการพัฒนาตนเอง ตลอดจนการนำความรูไ้ ปคิดต่อยอดให้เกิดประโยชน์ สรา้ งสรรค์ต่อสังคมได้อย่าง มปี ระสิทธิภาพ ๔. สาระการเรยี นรู้ ความรู้  การเขียนบนั ทึกความรู้  มารยาทในการเขียน ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะการอ่าน ๒. ทกั ษะการเขียน