Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ท32101 ประเมินpa

แผนการจัดการเรียนรู้ ท32101 ประเมินpa

Published by Kaweekan Sangthong, 2023-07-19 08:01:40

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ท32101 ประเมินpa

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ เรือ่ ง การสร้างคำในภาษาไทย (คำมูล , คำประสม) คำและพยางค์มคี วามแตกต่างกัน คำ คอื เสียงทมี่ ีความหมาย และเปน็ หนว่ ยที่เลก็ ทส่ี ดุ ในภาษาท่ีสามารถใช้สื่อสารไดต้ รงกนั พยางค์ คอื เสียงทีเ่ ปลง่ ออกมาจะมคี วามหมายหรือไม่มีความหมายกไ็ ด้ การสรา้ งคำ มดี งั นี้ 1.คำมูล คือ คำพนื้ ฐานในภาษาไทยเป็นคำย่อยสดุ ทีม่ คี วามหมายชัดเจน ลักษณะของคำมลู คอื 1) เปน็ คำไทยแท้หรือคำภาษาอ่นื ก็ได้ ตวั อย่างคำมูลทเ่ี ปน็ คำไทย เช่น แม่ กนิ นำ้ ป่า นก มะเขือ เปน็ ตน้ ตวั อยา่ งคำมลู ทีเ่ ป็นคำจากภาษาอ่นื เช่น มารดา เสวย พนา สกุณา วารี เป็นต้น ๒) เป็นคำพยางค์เดียวหรอื มากพยางคก์ ็ได้ (ถ้าเป็นคำหลายพยางค์คำมลู จะแยกพยางค์ไม่ได้) ตัวอยา่ งคำมูลพยางคเ์ ดยี ว เช่น ฟา้ กลา้ ขวด ควา้ งา่ ย สวย พรอ้ ม ยาย เปน็ ต้น ตัวอย่างคำมูลหลายพยางค์ เช่น กระดาษ ขนม คะนอง ระฆัง จรวด ฉะน้ัน ศิลปะ คณะ สปั ปะรด เป็นตน้ ๒.คำประสม คือ คำที่สร้างจากคำมูลต้ังแต่ 2 คำขึ้นไป มารวมกัน เกิดเป็นคำใหม่ มีความหมายใหม่ที่ชัดเจน คำ ประสมมลี กั ษณะทส่ี ำคญั ดงั นี้ ๑) คำทน่ี ำหนา้ มาประสมต้องเขียนต่างกนั และมีความหมายต่างกนั ๒) คำทป่ี ระสมกันแล้วเกิดเป็นคำใหม่และมคี วามหมายใหมท่ ี่ชัดเจน ๓) คำประสมสามารถแยกออกเป็นคำมลู ย่อย ๆ ได้ ตัวอย่างคำประสม เช่น ตาร้อน เตารีด ไฟฟ้า ราวตากผ้า เก้าอี้ดนตรี หมอฟัน แว่นตา ไม้เท้า เคร่อื งบิน ตม้ นำ นอกใจ เมอื งหลวง คำทข่ี ้นึ ต้นดว้ ยคำว่า ช่าง ชาว นกั หมอ การ ความ เครอื่ ง แม่ พ่อ จัดเป็นคำประสมได้ เชน่ ช่าง ช่างเช่ือม ชา่ งยนต์ ช่างไฟ เปน็ ต้น ชาว ชาวเขา ชาวนา ชาวสวน เป็นต้น นัก นกั เรียน นักบนิ นักการเมือง เป็นต้น หมอ หมอฟัน หมอดู หมอผี เปน็ ตน้ การ การบ้าน การเมือง การเรียน เป็นตน้ ความ ความดี ความช่ัว ความเรว็ เปน็ ตน้ เครอ่ื ง เครอื่ งบิน เครอ่ื งเรือน เคร่ืองเขียน เปน็ ต้น แม่ แมบ่ า้ น แม่เรอื น แม่ยาย เป็นต้น พอ่ พอ่ บ้าน พ่อครวั พ่อมด เป็นตน้

ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง คำมูล คำมลู คือ .................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... คำมูลแบ่งเปน็ .....................................ชนิดคือ ๑.......................................................................................................................................................... ๒................................................................................................................... ....................................... จงยกตวั อยา่ งคำมูลท่ีมีลักษณะต่อไปนี้ ข้อละ ๓ คำ ๑. คำมูลพยางคเ์ ดยี ว เช่น .............................................................................................................. ๒. คำมลู สองพยางค์ เชน่ .............................................................................................................. ๓. คำมูลสามพยางค์ เช่น ............................................................................................................. ๔. คำมูลสพี่ ยางค์ เช่น ............................................................................................................. ช่อื สกุล............................................................................................................ชั้น....................เลขที่..............

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี ๑ รหัสวิชา ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การเพม่ิ คำในภาษา พัฒนาอย่างสร้างสรรค์ เวลา 6 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เร่อื ง หลกั การสร้างคำในภาษาไทย (คำซ้ำ) เวลา 1 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาวกวีกานต์ สังขท์ อง สอนสปั ดาห์ท่ี......... ม.5/1 วนั ท.ี่ ................................... ม.5/2 วันท.่ี ................................... ม.5/3 วนั ท.ี่ ................................... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๖ อธิบายและวเิ คราะห์หลักการสร้างคำในภาษาไทย ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายและวเิ คราะห์หลกั การสรา้ งคำในภาษาไทย(K) ๒. พูดอธิบายหลักการสร้างคำไทยใหเ้ พือ่ นๆ ฟังได้ (P) 3. เห็นความสำคญั ของการสร้างคำไทย (A) ๓. สาระสำคญั การสรา้ งคำในภาษาไทยมีท้ังคำทส่ี รา้ งมาจากคำภาษาไทย และคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ มีวิธีการ สร้างคำหลายวิธีทำให้มีคำใหม่ใช้ในภาษาไทยมากข้ึน ต้องมีความรู้เรื่องการสร้างคำโดยวิธีต่างๆ เช่น การประสม คำ การซ้อนคำ การซ้ำ การสมาสคำ ซ่ึงคำสมาสเกิดจากการนำคำบาลีหรือคำสันสกฤตตั้งแต่ ๒ คำข้ึนไปมา รวมกนั เปน็ วธิ ีการสร้างคำอีกวธิ หี น่ึงในภาษาไทยที่ควรแกก่ ารเรยี นรู้ ๔. สาระการเรยี นรู้ ความรู้  หลกั การสร้างคำในภาษาไทย ทักษะ / กระบวนการ ๑. ทักษะการอ่าน 2. ทักษะการพูด ๕. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ขอ้ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ขอ้ ๗ รักความเป็นไทย ๗. ช้นิ งาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรียนรู้ แบบฝึกหดั

๘. กระบวนการจดั การเรียนรู้ กจิ กรรมเตรียมความพร้อม / กจิ กรรมนำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูพดู คุยเตรยี มความพรอ้ มของนักเรียน 2. ครูแจง้ จุดประสงคข์ องการเรียน แนะนำวธิ ีการเรยี น 3. ให้นกั เรยี นฟังเพลง คำซ้ำ (ทำนองเพลง มะงึก ๆ องุ๋ ๆ) จาก YouTube กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น 1. ครสู นทนาพดู คุยกบั นกั เรียนเกี่ยวกับเนื้อหาในเพลง 2. ครูนำสนทนา และอธบิ ายเกี่ยวกบั เรอื่ ง การสร้างคำไทย (คำซำ้ ) โดยครูใชส้ ่ือ PowerPoint 3. ครูให้นกั เรียนดูหนังสือหลักภาษาและการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ พร้อมทั้งกำชับ นักเรยี นวา่ นักเรยี นสามารถศกึ ษาความร้เู พ่ิมเตมิ อยา่ งละเอยี ดในหนงั สือเรียนได้ 4. นักเรยี นศกึ ษาไปพร้อมๆ กัน และจดบันทึกสาระสำคญั ลงในสมดุ 5. ครขู านชอ่ื นกั เรียนให้อธิบายความเขา้ ใจของตนเองเกีย่ วกับเรอ่ื ง คำซำ้ ใหเ้ พื่อนๆ ในหอ้ งฟัง 6. ครใู หน้ กั เรยี นดูงานเสรมิ ความร้ทู ่คี รูมอบหมายให้นักเรียนทำ กจิ กรรมรวบยอด ใหน้ ักเรียนฟงั เพลง(ทำนองเพลง แฟนตัวยง) โรงเรยี น มอ.วิทยานุสรณ์ จากสอ่ื YouTube ๙. สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑. หนงั สือหลกั ภาษาและการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ๒. แบบฝกึ หัด 3. PowerPoint เรื่อง หลักการสร้างคำในภาษาไทย (คำซำ้ ) 4. เพลงคำซำ้ (ทำนองเพลง มะงึก ๆ องุ๋ ๆ) จากส่อื YouTube 5. เพลงคำซ้ำ (ทำนองเพลง แฟนตวั ยง) โรงเรียน มอ.วิทยานสุ รณ์ จากส่อื YouTube ๑๐. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จุ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร/ู้ สิ่งที่จะวดั วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั อธิบายและวเิ คราะห์หลกั การสรา้ ง ร้อยละ 60 คำไทย สังเกต แบบสงั เกต ผ่านเกณฑ์ พดู อธิบายหลักการสร้างคำไทยให้ ระดับคุณภาพ เพอ่ื นๆ ฟงั ได้ ๒ ผา่ นเกณฑ์ เห็นความสำคัญของการสรา้ งคำ สงั เกตจากการทำ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ ไทย กิจกรรม ๒ ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ..................................................ครผู ้สู อน ( นางสาวกวีกานต์ สังขท์ อง ) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ



ส่อื ที่ใช้ / แหลง่ เรียนรู้

ส่อื / แหล่งเรียนรู้

ใบความรู้ เร่ือง การสร้างคำในภาษาไทย (คำซ้ำ , คำซอ้ น) คำซ้อน เปน็ การนำคำท่มี คี ุณสมบัติบางอย่างเหมอื นกันมารวมกนั คำซ้อนมีคณุ ลกั ษณะท่คี วรจำ ดังนี้ 1) คำท่นี ำมาซ้อนตอ้ งเขียนต่างกัน 2) คำทน่ี ำมาซ้อนต้องมคี วามหมายเหมอื นกนั คล้ายกัน หรือตรงขา้ มกนั ตวั อย่างคำซ้อนท่ีมีความหายเหมอื นกัน เชน่ ภตู ผี รูปภาพ ดูแล เส่ือสาด อว้ นพี ทรัพย์สมบตั ิ เขียวขจี ป่าเถอ่ื น โหดรา้ ย ซากศพ โศกเศรา้ เปน็ ต้น ตวั อย่างำซ้อนท่ีมีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น ตบตี ขัดถู พี่น้อง หลบหลีก ขัดขวาง ถ้วยชาม กูตา ลูกหลาน ผักปลา เปน็ ตน้ ตัวอย่างคำซ้อนท่ีความหมายตรงข้าม เช่น ช่ัวดี ถี่ห่าง เช้าเย็น สูงต่ำ ดำขาว ยาวส้ัน บาปบุญ อ้วนผอม ช้า เร็ว สุขทกุ ข์ เปน็ ต้น คำซ้อนแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ 1.คำซ้อนเพ่ือความหมาย คำซอ้ นลักษณะน้ีคำที่นำมาซ้อนกนั ต้องมีความหมายเหมือนกันทุกคำ เช่น ทอดท้ิง กีด กนั ขดั ขวาง สัง่ สอน เบย่ี งเบน เป็นตน้ 2.คำซ้อนเพื่อเสียง คำซ้อนลักษณะน้ีไม่เน้นความหมาย คำทีน่ ำมาซ้อนจะเป็นคำที่มีเสยี งสัมผัสกัน เช่น เอะอะ กุ๊ งกงิ๊ โยกเยง เคว้งควา้ ง อดื อาด เป็นตน้ คำซ้ำ เกดิ จากการซ้ำเสียงและมีความหมายอย่างเดยี วกันซง่ึ มีลักษณะที่น่าสนใจ ดังน้ี คำซ้ำต้องเขียนเหมือนกัน ความหมายเหมือนกัน และหน้าท่ีเหมือนกัน เช่น เด็ก ๆ กิน ๆ เขียน ๆ แผ่น ๆ ช้า ๆ ร้อน ๆ ข้าง ๆ สด ๆ ใกล้ ๆ จืด ๆ หมู ๆ เป็นต้น คำท่ีนำมาซำ้ จะแสดงความหมายไดห้ ลายลักษณะ ดังนี้ 1) ซ้ำแลว้ แสดงจำนวนเอกพจน์ เชน่ - คนงานกำลงั เก็บของเปน็ ลัง ๆ (ทีละลงั ) - ชาวสวนตดั มะมว่ งทง้ิ เป็นต้น ๆ (ทลี ะตน้ ) ๒) ซ้ำแล้วแสดงจำนวนพหูพจน์ เช่น - เดก็ ๆ เล่นฟุตบอลกันอยกู่ ลางสนาม (เด็กหลายคน) - มาบอกลกู ๆ ให้รีบเข้านอน (ลกู หลายคน) ๓) ซำ้ แล้วแสดงคำสั่ง เช่น -กนิ ดี ๆ อย่าให้เลอะเทอะ - เขยี นสวย ๆ ครูจะด่านออก ๔) ซ้ำแลว้ แสดงความหมายไมเ่ น้นย้ำ เชน่ - ผลไมเ้ นา่ ๆ กเ็ อาไปทง้ิ ซะ (ไมไ่ ด้เน้นวา่ ลูกไหนเนา่ ) - คนไหน ๆ ก็รกั เธอท้ังน้นั (ไม่ได้เนน้ ว่าคนใดคนหน่งึ ) ๕) ซำ้ แลว้ ไม่ระบตุ ำแหนง่ ทแี่ นน่ อน เชน่ - นักเรยี นท่นี ัง่ หลัง ๆ ลกุ ขน้ึ ตอบครูซิ (ไมร่ ะบุวา่ นง่ั ตรงไหนแน่นอน) - พรุง่ นเ้ี จอกันข้าง ๆ โรงเรียนนะ (ไมร่ ะบวุ า่ ตรงไหนของโรงเรยี น) 6) ซำ้ แล้วเนน้ ย้ำความรู้สึก เชน่ - เขาเป็นคนดด๊ี ี - ผหู้ ญิงคนนั้นซว้ ยสวย ๗) ซำ้ แล้วมคี วามหมายเชงิ เปรียบเทียบ (ความหมายไม่เหมือนเดมิ ) เช่น - อยา่ ทำงานลวกๆ มาสง่ ครู (ทำงานไม่เรยี บรอ้ ย)

ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง คำซ้ำ คำช้ีแจง จงยกตัวอย่างคำซ้ำทมี่ ลี ักษณะต่อไปนี้ ข้อละ ๒ คำ ๑. ซ้ำคำนามแลว้ แสดงความเป็นพหพู จน์ เช่น ................................................................................................ ๒. ซ้ำคำกริยาแลว้ แสดงกริ ยิ าอาการซ้ำๆ เชน่ ................................................................................................ ๓. ซำ้ คำวิเศษณ์แลว้ บอกความไมเ่ จาะจง เชน่ ................................................................................................ ๔. ซำ้ เพ่ือแสดงอาการหรือเหตุการณ์ที่ตอ่ เน่ือง เชน่ ................................................................................................ ๕. ซ้ำเพ่ือเลียนเสยี งธรรมชาติ เชน่ ................................................................................................ ๖. ซ้ำโดยใชเ้ สยี งสูงเน้นความหมาย มักใชใ้ นภาษาพูดทไ่ี ม่เป็นทางการ เช่น ..................................................... ๗. ซำ้ แลว้ เกิดความหมายใหม่ ๗.๑ งู ๆ ปลา ๆ หมายถงึ ............................................................................................... แตง่ ประโยค............................................................................................... ๗.๒ กล้วย ๆ หมายถึง............................................................................................... แต่งประโยค............................................................................................... ๗.๓ ส่ง ๆ หมายถงึ ............................................................................................... แตง่ ประโยค............................................................................................... ๗.๔ หยก ๆ หมายถงึ ............................................................................................... แตง่ ประโยค............................................................................................... ๗.๕ ลวก ๆ หมายถึง............................................................................................... แตง่ ประโยค............................................................................................... ชอื่ สกุล...........................................................................................................ช้ัน....................เลขที่..............

ใบงาน เรื่อง คำซ้ำ คำชี้แจง จงยกตัวอย่างคำซ้ำทม่ี ลี ักษณะต่อไปนี้ ข้อละ ๒ คำ ๑. ซำ้ คำนามแลว้ แสดงความเปน็ พหูพจน์ เชน่ เดก็ ๆ พ่ี ๆ น้องๆ เพอื่ น ๆ ๒. ซ้ำคำกรยิ าแล้วแสดงกิรยิ าอาการซ้ำๆ เชน่ กนิ ๆ วิ่ง ๆ เดิน ๆ พดู ๆ ๓. ซ้ำคำวิเศษณ์แลว้ บอกความไมเ่ จาะจง เชน่ ขาว ๆ ไกล ๆ ใกล้ ๆ ๔. ซำ้ เพ่ือแสดงอาการหรือเหตุการณ์ที่ต่อเน่ือง เช่น ลูบ ๆ วาด ๆ ๕. ซำ้ เพื่อเลียนเสียงธรรมชาติ เช่น ปงั ๆ โครม ๆ อู๊ด ๆ ๖. ซ้ำโดยใช้เสียงสูงเนน้ ความหมาย มกั ใชใ้ นภาษาพดู ที่ไม่เปน็ ทางการ เช่น ซว้ ยสวย แด๊งแดง ๗. ซ้ำแล้วเกิดความหมายใหม่ ๗.๑ งู ๆ ปลา ๆ หมายถึง มีความร้เู ล็ก ๆ น้อย ๆ ไมร่ จู้ ริง แตง่ ประโยค อยา่ มาถามเร่ืองโปรแกรมฉันเลย ฉันรแู้ คง่ ู ๆ ปลา ๆ เทา่ น้ัน ๗.๒ กล้วย ๆ หมายถึง งา่ ย ๆ แต่งประโยค การบา้ นวิชาภาษาไทยเป็นเรื่องกลว้ ย ๆ สำหรับฉนั ๗.๓ ส่ง ๆ หมายถึง ส่งเดช ลวก ๆ หยาบ ๆ แตง่ ประโยค ฉนั รีบทำการบา้ นโดยไม่อ่านเพือ่ จะได้สง่ ๆ ใหเ้ สรจ็ ๗.๔ หยก ๆ หมายถงึ เร็ว ๆ นี้ สด ๆ ร้อน ๆ แต่งประโยค แมวว่ิงผา่ นหน้าฉันไปหยก ๆ ๗.๕ ลวก ๆ หมายถงึ มักงา่ ย อย่างหยาบ ๆไม่เรียบร้อย แตง่ ประโยค สุณิสา ทำการบา้ นวชิ าภาษาไทยแคล่ วก ๆ พอได้สง่

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ รหัสวิชา ท๓๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเพิ่มคำในภาษา พัฒนาอยา่ งสรา้ งสรรค์ เวลา 6 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 เร่อื ง หลกั การสร้างคำในภาษาไทย (คำซ้อน) เวลา 1 ชั่วโมง ผ้สู อน นางสาวกวีกานต์ สงั ข์ทอง สอนสปั ดาห์ที่......... ม.5/1 วนั ท.ี่ ................................... ม.5/2 วันท.่ี ................................... ม.5/3 วนั ท.ี่ ................................... ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๖ อธบิ ายและวเิ คราะห์หลักการสร้างคำในภาษาไทย ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายและวิเคราะห์หลกั การสรา้ งคำในภาษาไทย(K) ๒. พูดอธบิ ายหลกั การสร้างคำไทยให้เพ่อื นๆ ฟังได้ (P) 3. เหน็ ความสำคัญของการสร้างคำไทย (A) ๓. สาระสำคัญ การสรา้ งคำในภาษาไทยมีทั้งคำทีส่ ร้างมาจากคำภาษาไทย และคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ มวี ธิ ีการ สร้างคำหลายวิธีทำให้มีคำใหม่ใช้ในภาษาไทยมากขึ้น ต้องมีความรู้เร่ืองการสร้างคำโดยวิธีต่างๆ เช่น การประสม คำ การซ้อนคำ การซ้ำ การสมาสคำ ซ่ึงคำสมาสเกิดจากการนำคำบาลีหรือคำสันสกฤตตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปมา รวมกนั เปน็ วิธกี ารสรา้ งคำอกี วิธหี นึ่งในภาษาไทยทค่ี วรแกก่ ารเรียนรู้ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  หลักการสรา้ งคำในภาษาไทย ทักษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะการอ่าน 2. ทกั ษะการพูด ๕. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ข้อ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ขอ้ ๗ รกั ความเป็นไทย ๗. ชิ้นงาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรยี นรู้ แบบฝึกหัด

๘. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กิจกรรมเตรียมความพร้อม / กจิ กรรมนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูพดู คุยเตรียมความพร้อมของนกั เรยี นผา่ นระบบ Google Meet 2. พดู คยุ ทบทวนเรือ่ ง การสรา้ งคำในภาษาไทย (คำซ้ำ) 3. ครแู จ้งจดุ ประสงคข์ องการเรียน แนะนำวิธีการเรียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 1. ให้นักเรียนฟงั เพลง คำซอ้ น จาก YouTube ทีค่ รูแชร์หนา้ จอไปให้ 2. ครูสนทนาพูดคุยกบั นกั เรยี นเก่ยี วกับเน้ือหาในเพลง 3. ครนู ำสนทนา และอธบิ ายเกยี่ วกับเรือ่ ง การสรา้ งคำไทย (คำซอ้ น) โดยครูใชส้ ื่อ PowerPoint 4. ครูให้นกั เรียนดูหนังสือหลักภาษาและการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ พร้อมทั้งกำชับ นักเรยี นวา่ นกั เรียนสามารถศึกษาความรูเ้ พิ่มเติมอยา่ งละเอียดในหนงั สือเรียนได้ 5. นกั เรียนศกึ ษาไปพร้อมๆ กัน และจดบันทึกสาระสำคญั ลงในสมดุ 6. ครขู านชอื่ นกั เรียนให้อธิบายความเขา้ ใจของตนเองเกีย่ วกับเรอ่ื ง คำซอ้ น ให้เพ่ือนๆ ในหอ้ งฟัง 7. ครูใหน้ กั เรยี นดงู านเสริมความรู้ทคี่ รมู อบหมายให้นักเรียนทำ กิจกรรมรวบยอด ให้นักเรียนฟังเพลงคำซอ้ น (ทำนองเพลง รกั คือฝนั ไป) จากสอ่ื YouTube ๙. สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑. หนงั สือหลักภาษาและการใชภ้ าษาเพื่อการส่ือสาร ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ ๒. แบบฝึกหัด 3. PowerPoint เร่ือง หลักการสร้างคำในภาษาไทย (คำซ้อน) 4. เพลงคำซ้อน จากสื่อ YouTube 5. เพลงคำซ้อน (ทำนองเพลง รกั คอื ฝนั ไป) จากส่ือ YouTube ๑๐. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จุ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร/ู้ ส่ิงที่จะวัด วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ อธิบายและวเิ คราะห์หลกั การสรา้ ง ตรวจแบบฝกึ หดั แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 คำไทย ผา่ นเกณฑ์ พูดอธิบายหลกั การสร้างคำไทยให้ สงั เกตจากการถาม แบบสังเกต ระดับคุณภาพ เพอ่ื นๆ ฟงั ได้ ตอบใน Google ๒ ผา่ นเกณฑ์ Meet เห็นความสำคัญของการสร้างคำ สังเกตจากการทำ แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ ไทย กิจกรรม ๒ ผ่านเกณฑ์ ลงชือ่ ..................................................ครผู สู้ อน ( นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ



ส่อื การสอน / แหลง่ เรียนรู้



ใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง คำซ้อน ๑. คำซ้อนม.ี ................ชนิด คือ................................................................................................................ ๒ จงยกตัวอย่างคำซ้อนเพ่ือความหมาย ต่อไปนี้ ข้อละ ๒ คำ ๑.๑ ความหมายเหมือนเดิม เชน่ ......................................................................................................... ๑.๒ ความหมายแคบหรอื เฉพาะเจาะจงมากกว่าเดิม เช่น ...................................................................... ๑.๓ ความหมายกวา้ งกวา่ เดิม เชน่ ......................................................................................................... ๑.๔ ความหมายเปลย่ี นไปจากเดมิ เช่น .................................................................................................... ๑.๕ ความหมายไมแ่ นน่ อน ขึน้ อยกู่ ับสถานการณ์การใช้ สว่ นใหญเ่ ป็นคำซอ้ นจากคำที่มีความหมาย ตรงกนั ข้าม เชน่ ......................................................................................................... ๓. จงยกตัวอยา่ งคำซ้อน ที่มีวิธีสรา้ งดงั ตอ่ ไปน้ี ๓.๑ สร้างจากคำไทยกับภาษาถ่ิน เชน่ อว้ น........ ผี........... เส่ือ......... พดั ...... ง.ู ........ คอย........ บ้าน......... ภู.......... ดู........... ๓.๒ สร้างจากคำไทย กับ คำไทย เชน่ ใหญ.่ ........ ก่อ.......... แบง่ ........ ชกุ ....... ขบั ......... ขดั ....... ๓.๓ สรา้ งจากคำไทย กับ คำยมื ภาษาอ่ืน บาลี + ไทย ..........ใจ รปู .......... สญู ......... ............ทาง ไทย + บาลี รา่ ง......... ข้า.......... ชา้ ง......... ถนิ่ .......... สันสกฤต + ไทย .........กรย้ี ว .........เหง้า ..........สิน ...........เศร้า ไทย + สันสกฤต สงิ .......... สร้าง......... ผวิ .......... เนือง......... ไทย + เขมร เงยี บ........ แบบ........ โง.่ ........ ดา่ ......... เขมร + ไทย ...........อก ..........หา ...........มอง .............หา จนี + ไทย ...........รา้ น ..........เฉล่ีย .........ส่วน ..........ท้งิ ๓.๔. สร้างจากคำภาษาต่างประเทศทุกคำ บาลี + บาลี รปู ......... กจิ ........ ภยั ......... สบถ........... บาลี + สนั สกฤต อดุ ม........ เวร......... เวท.............. ยาน.............. สันสกฤต + บาลี ฤทธิ์......... ภิกษุ......... มติ ร.......... ยกั ษ์.......... สันสกฤต + สันสกฤต ทรพั ย์........ เคราะห์...... วิจิตร........ วิพากษ์........... เขมร + เขมร เสนียด......... เลอ........ โสรจ......... เฉลมิ .........

๒. ซ้อนเพอ่ื เสียง เคร่ง............. ๒.๑ นำคำมลู ทม่ี คี วามหมายและเสียงใกล้เคียงกันมาซ้อนกัน เชน่ กอ่ รา่ ง............ เก่ง......... แขง่ ........ ขัด............ ๒.๒ นำคำที่ไม่มีความหมาย แต่มเี สียงกลมกลืนกับคำมูลหลักมาซอ้ น โดยความหมายของคำมลู เดิมไม่ เปล่ยี นแปลง เช่น คร้ืน....... โคลง........... งง........... งด.......... โจง่ .............. ขอ้ สังเกต ๑. คำซอ้ นทีม่ ีมากกว่า ๒ พยางค์ มกั มเี สียงสมั ผัส หรอื มกี ารซ้ำพยางค์ เชน่ สัมผัสสระ คุยโม้......... จุดหมาย............ ภูเขา............. ซ้ำพยางคท์ ่ี ๑ กับ ๓ ได้ดบิ .......... หอ้ งนำ้ ............. ทำบุญ............ ซำ้ พยางคท์ ี่ ๒ กบั ๔ กนิ ด.ี ....... นั่งกิน............ มอื หา่ ง........... ชื่อ สกุล............................................................................................................ช้นั ....................เลขท่.ี .............

ใบงาน เรื่อง คำซ้อน ๑. คำซ้อนม.ี ......๒..........ชนิด คอื ซ้อนเสยี ง กับ ซ้อนความหมาย ๒ จงยกตัวอยา่ งคำซ้อนเพ่ือความหมาย ต่อไปน้ี ขอ้ ละ ๒ คำ ๑.๑ ความหมายเหมอื นเดมิ เชน่ พดั วี หลบหลีก มากมาย ก่อสรา้ ง สญู หาย จิตใจ ๑.๒ ความหมายแคบหรอื เฉพาะเจาะจงมากกวา่ เดิม เชน่ หยบิ ยมื ขดั ถู ใจคอ ๑.๓ ความหมายกวา้ งกวา่ เดมิ เช่น ตับไตไส้พงุ ข้าวปลาอาหาร ทบุ ตี พี่น้อง หมูเหด็ เปด็ ไก่ ๑.๔ ความหมายเปลยี่ นไปจากเดิม เช่น กดขี่ ค้ำจุน ขา้ วยากหมากแพง อุ้มชู ถากถาง ๑.๕ ความหมายไม่แน่นอน ขน้ึ อยู่กับสถานการณก์ ารใช้ ส่วนใหญเ่ ปน็ คำซ้อนจากคำท่ีมคี วามหมาย ตรงกันข้าม เช่น ดเี ลว ชว่ั ดี ผิดถูก ๓. จงยกตวั อย่างคำซอ้ น ท่ีมีวิธสี รา้ งดงั ต่อไปนี้ ๓.๑ สรา้ งจากคำไทยกับภาษาถ่นิ เชน่ อว้ นพี ผีสาง เส่ือสาด. พัดวี ถุงไถ้ งเู งย้ี ว คอยท่า บา้ นเรือน ภูเขา ดแู ล ๓.๒ สร้างจากคำไทย กับ คำไทย เช่น ใหญโ่ ต ก่อสรา้ ง แข็งขัน แบ่งปัน ชกุ ชุม ขบั ไล่ ขัดถู ขับกล่อม ลกู หลาน ขัดข้อง ๓.๓ สรา้ งจากคำไทย กับ คำยืมภาษาอืน่ บาลี + ไทย จติ ใจ รปู ร่าง สูญหาย ญาติโยม ลู่เส้นทาง ไทย + บาลี ร่างกาย ขา้ ทาส ชา้ งสาร ถ่ินฐาน เคา้ โครง สนั สกฤต + ไทย .โกรธเกรีย้ ว รากเหงา้ ทรัพย์สนิ พรรคพวก โศกเศร้า ไทย + สันสกฤต สิงสถิตย์สรา้ งสรรค์ ผวิ พรรณ ซอ่ื สัตย์ เนอื งนิตย์ ไทย + เขมร เงยี บสงบ แบบฉบบั ยกขโยง โงเ่ ขลา ดา่ ทอ เขมร + ไทย แมกไม้ ทรวงอก แสวงหา เมยี งมอง เสาะหา ไทย + จีน ช่อื ตรง กกั ตนุ ตม้ ตนุ๋ นง่ั จ๋อ เหมาะเหมง็ จีน + ไทย ห้างรา้ น ถัวเฉลยี่ สัดส่วน เกก๊ ทา่ ละทิ้ง

ไทย + องั กฤษ แบบแปลน เสอ้ื สทู แบบฟอรม์ ท่อแปบ รุมสกรัม ๓.๔. สรา้ งจากคำภาษาต่างประเทศทกุ คำ บาลี + บาลี รปู ภาพ กจิ การ ภยั อนั ตราย สบถสาบาน รสชาติ บาลี + สนั สกฤต อุดมสมบรู ณ์ ญาติมติ ร เวรกรรม เวทมนตร์ ยานพาหนะ สันสกฤต + บาลี ฤกษย์ าม ฤทธิ์เดช ภิกษุสงฆ์ มิตรสหาย ยกั ษ์มาร สนั สกฤต + สันสกฤต ทรัพย์สมบัติ เคราะห์กรรม วจิ ิตรพสิ ดาร วพิ ากษ์วิจารณ์ เขมร + เขมร เสนียดจญั ไร เลอเลศิ โสรจสรง. เฉลิมฉลอง ๒. ซ้อนเพ่อื เสียง ๒.๑ นำคำมลู ทม่ี คี วามหมายและเสยี งใกล้เคียงกนั มาซ้อนกัน เชน่ ก่อรา่ งสรา้ งตัว เก่งกาจ . แข่ง.ขัน . ขัดขวาง เคร่งครดั ................... .................... ...................... ................... ....................... ๒.๒ นำคำที่ไม่มีความหมาย แต่มีเสียงกลมกลืนกบั คำมูลหลักมาซ้อน โดยความหมายของคำมลู เดมิ ไม่ เปลย่ี นแปลง เช่น ครน้ื เครง โคลงเคลง. งงงวย งดงาม โจง่ แจง้ ................... .................... ...................... ................... ....................... ................... .................... ...................... ................... ....................... ข้อสงั เกต ๑. คำซอ้ นทม่ี ีมากกวา่ ๒ พยางค์ มกั มีเสียงสมั ผัส หรือมีการซำ้ พยางค์ เช่น สัมผัสสระ คยุ โม้โอ้อวด จดุ หมายปลายทาง ภเู ขาเนาไพร ........................... ................................. ......................... ........................... ................................. ......................... ซำ้ พยางคท์ ี่ ๑ กับ ๓ ได้ดบิ ได้ดี หอ้ งนำ้ หอ้ งท่า ทำบญุ ทำทาน ........................... ................................. ......................... ........................... ................................. ......................... ซ้ำพยางค์ที่ ๒ กับ ๔ กินดีอยดู่ ี นั่งกนิ นอนกนิ มอื ห่างตนี ห่าง ........................... ................................. ......................... ........................... ................................. .........................

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ รหัสวชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 การเพม่ิ คำในภาษา พัฒนาอย่างสร้างสรรค์ เวลา 6 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 4 เรือ่ ง หลักการสร้างคำในภาษาไทย (คำประสม) เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู้ อน นางสาวกวกี านต์ สังขท์ อง สอนสัปดาห์ที่......... ม.5/1 วันท.ี่ ................................... ม.5/2 วนั ท.ี่ ................................... ม.5/3 วันท.่ี ................................... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๖ อธิบายและวเิ คราะห์หลักการสร้างคำในภาษาไทย ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายและวิเคราะห์หลักการสรา้ งคำในภาษาไทย(K) ๒. พูดอธบิ ายหลักการสร้างคำไทยใหเ้ พื่อนๆ ฟังได้ (P) 3. เหน็ ความสำคัญของการสรา้ งคำไทย (A) ๓. สาระสำคญั การสร้างคำในภาษาไทยมีท้ังคำทส่ี รา้ งมาจากคำภาษาไทย และคำท่ียืมมาจากภาษาต่างประเทศ มีวิธีการ สร้างคำหลายวิธีทำให้มีคำใหม่ใช้ในภาษาไทยมากข้ึน ต้องมีความรู้เร่ืองการสร้างคำโดยวิธีต่างๆ เช่น การประสม คำ การซ้อนคำ การซ้ำ การสมาสคำ ซึ่งคำสมาสเกิดจากการนำคำบาลีหรือคำสันสกฤตตั้งแต่ ๒ คำข้ึนไปมา รวมกนั เป็นวิธีการสร้างคำอกี วธิ ีหนึ่งในภาษาไทยทคี่ วรแกก่ ารเรียนรู้ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  หลักการสรา้ งคำในภาษาไทย ทักษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะการอา่ น 2. ทักษะการพูด ๕. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ขอ้ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อ ๗ รักความเปน็ ไทย ๗. ชน้ิ งาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรยี นรู้ แบบฝกึ หัด

๘. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กิจกรรมเตรียมความพร้อม / กิจกรรมนำเข้าสูบ่ ทเรียน 1. ครพู ูดคุยเตรียมความพร้อมของนักเรยี น 2. ครใู หน้ กั เรยี นเลน่ เกม ทายภาพคำประสม 3. ครูแจง้ จุดประสงคข์ องการเรียน แนะนำวธิ ีการเรียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 1. ใหน้ กั เรียนฟงั เพลงคำประสม Official MV จาก YouTube ทีค่ รูแชรห์ นา้ จอไปให้ 2. ครูสนทนาพดู คุยกบั นกั เรียนเกีย่ วกับเน้ือหาในเพลง โดยขานชือ่ ซักถาม 3. ครนู ำสนทนา และอธิบายเกีย่ วกบั เรื่อง การสร้างคำไทย (คำประสม) โดยครใู ชส้ ่อื PowerPoint 4. ครูให้นกั เรยี นดู สือ่ เรื่อง คำประสม ไทยบา้ 5 นาที EP 10 คำประสมจาก YouTube 5. นกั เรียนศึกษาพร้อม จดบันทกึ สาระสำคัญลงในสมดุ 6. ครขู านชือ่ นกั เรียนให้อธบิ ายความเข้าใจของตนเองเกีย่ วกบั เร่ือง คำประสม ใหเ้ พื่อนๆ ในห้องฟงั 7. ครใู หน้ กั เรยี นดูงานเสริมความรู้ท่ีครมู อบหมายให้นักเรียนทำ กจิ กรรมรวบยอด ใหน้ ักเรียนฟงั เพลงคำประสม (ทำนองเพลง มองไดแ้ ต่อย่าชอบ) จากสอ่ื YouTube ๙. สอื่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หัด 2. PowerPoint เรื่อง หลกั การสร้างคำในภาษาไทย (คำประสม) 3. เพลงคำประสม Official MV จากสอื่ YouTube 4. เพลงคำประสม (ทำนองเพลง รักคือฝนั ไป) จากส่ือ YouTube ๑๐. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จุ จุดประสงค์การเรียนรู้/ ส่ิงทจี่ ะวัด วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ อธิบายและวิเคราะห์หลักการสร้าง ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 คำไทย ผ่านเกณฑ์ พดู อธิบายหลกั การสร้างคำไทยให้ สงั เกตจากการถาม แบบสงั เกต ระดบั คุณภาพ เพอ่ื นๆ ฟังได้ ตอบใน Google ๒ ผ่านเกณฑ์ Meet เหน็ ความสำคัญของการสร้างคำ สงั เกตจากการทำ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ ไทย กิจกรรม ๒ ผ่านเกณฑ์ ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน ( นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ



ส่อื การสอน / แหลง่ เรียนรู้



ใบงานที่ 2.4 เร่ือง คำประสม คำชีแ้ จง ใหพ้ จิ ารณาข้อความตอ่ ไปนี้ แล้วทำเครอ่ื งหมาย / หน้าข้อความที่มีคำประสม และ เคร่อื งหมาย X หนา้ ขอ้ ความทไ่ี ม่มคี ำประสม ๑. ...............เขามีแผลเป็นทีใ่ บหนา้ ๒. ...............เขาไดร้ ับบาดเจ็บมแี ผลเปน็ รอยลกึ นา่ กลัว ๓. ...............แมเ่ ลย้ี งของเขารกั เขาเหมือนลูกแท้ๆ ๔. ...............แม่เล้ียงเขามาดี จงึ มคี นชมวา่ เขาเป็นคนมีมารยาทดี ๕. ...............แม่มดพาลูกมดตัวน้อยๆ ไต่ตามกันมาเปน็ แถว ๖. ...............แมม่ ดในนยิ ายใจรา้ ยเสมอ ๗. ...............พวกกินแล้วไมจ่ ่าย เขาเรียกว่าชกั ดาบ ๘. ...............ซามไู รชักดาบเม่ือถึงคราวต้องสู้ ๙. ...............ครูคือ แม่พมิ พ์ของชาติ ๑๐. ...............เขาวานแม่พมิ พ์งานทง้ั หมด คำชแ้ี จง จงแยกคำประสมตามโครงสร้างของคำ ต่อไปนี้ ลงในช่องว่างใหถ้ กู ต้อง น้ำปลา ใจดี ถั่วตดั เครื่องใน ทองม้วน มือหนัก รถม้า เพง่ เล็ง ตาตำ่ เบย้ี ลา่ ง ใบพัด ดอกเบยี้ ตาปลา ซกั ฟอก คอแข็ง คัดเลอื ก เรือแจว หวั นอก ข่มขู่ เข็มทิศ วงใน บา้ นพัก คนกลาง ใจกว้าง ปิดบัง คำนาม + คำนาม คำนาม + คำวิเศษณ์ คำนาม + คำกรยิ า คำนาม + คำบุพบท คำกริยา + คำกรยิ า ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ............................. ช่อื สกุล.....................................................................................ชั้น....................เลขท.ี่ .............

ใบงาน เรือ่ ง คำประสม คำชี้แจง ใหพ้ ิจารณาข้อความต่อไปนี้ แล้วทำเครื่องหมาย / หน้าข้อความท่ีมีคำประสม และ เครอื่ งหมาย X หน้าขอ้ ความท่ีไม่มคี ำประสม ๑. ...../........เขามแี ผลเปน็ ที่ใบหนา้ ๒. .....x........เขาไดร้ บั บาดเจ็บมีแผลเป็นรอยลกึ นา่ กลัว ๓. ...... /.......แมเ่ ล้ียงของเขารกั เขาเหมือนลูกแท้ๆ ๔. ....... x......แมเ่ ลย้ี งเขามาดี จงึ มีคนชมว่าเขาเป็นคนมีมารยาทดี ๕. ....... x......แมม่ ดพาลูกมดต้ัวน้อยๆ ไต่ตามกนั มาเป็นแถว ๖. ....... /......แมม่ ดในนิยายใจรา้ ยเสมอ ๗. ........ /.....พวกกนิ แล้วไม่จ่าย เขาเรียกว่าชักดาบ ๘. ........ x.....ซามูไรชกั ดาบเมื่อถึงคราวต้องสู้ ๙. ........ /.....ครคู อื แม่พิมพข์ องชาติ ๑๐. ........ x.....เขาวานแม่พิมพ์งานท้งั หมด คำชี้แจง จงแยกคำประสมตามโครงสรา้ งของคำ ตอ่ ไปนี้ ลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง น้ำปลา ใจดี ถ่วั ตดั เคร่ืองใน ทองมว้ น มือหนัก รถมา้ เพง่ เล็ง ตาตำ่ เบ้ียลา่ ง ใบพัด ดอกเบี้ย ตา ปลา ซกั ฟอก คอแข็ง คัดเลอื ก เรอื แจว หวั นอก ข่มขู่ เข็มทิศ วงใน บ้านพัก คนกลาง ใจ กวา้ ง ปิดบัง คำนาม + คำนาม คำนาม + คำวิเศษณ์ คำนาม + คำกริยา คำนาม + คำบุพบท คำกริยา + คำกรยิ า น้ำปลา ใจดี ถั่วตัด เคร่ืองใน เพง่ เล็ง รถมา้ มอื หนัก ทองมว้ น หัวนอก ซกั ฟอก ดอกเบ้ยี ตาตำ่ ใบพัด วงใน คัดเลือก ตาปลา คอแขง็ เรอื แจว คนกลาง ขม่ ขู่ เขม็ ทิศ ใจกว้าง บา้ นพกั เบยี้ ล่าง ปิดบัง

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ รหสั วิชา ท๓๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเพิ่มคำในภาษา พัฒนาอยา่ งสรา้ งสรรค์ เวลา 6 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 เร่อื ง หลกั การสร้างคำในภาษาไทย (คำสมาส) เวลา 1 ชัว่ โมง ผ้สู อน นางสาวกวีกานต์ สงั ข์ทอง สอนสปั ดาห์ที่......... ม.5/1 วันท.ี่ ................................... ม.5/2 วันท.่ี ................................... ม.5/3 วนั ท.ี่ ................................... ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๖ อธบิ ายและวเิ คราะห์หลักการสร้างคำในภาษาไทย ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายและวิเคราะห์หลกั การสรา้ งคำในภาษาไทย(K) ๒. พดู อธบิ ายหลกั การสร้างคำไทยให้เพ่อื นๆ ฟังได้ (P) 3. เหน็ ความสำคัญของการสร้างคำไทย (A) ๓. สาระสำคัญ การสรา้ งคำในภาษาไทยมีทั้งคำทีส่ ร้างมาจากคำภาษาไทย และคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ มวี ธิ ีการ สร้างคำหลายวิธีทำให้มีคำใหม่ใช้ในภาษาไทยมากขึ้น ต้องมีความรู้เร่ืองการสร้างคำโดยวิธีต่างๆ เช่น การประสม คำ การซ้อนคำ การซ้ำ การสมาสคำ ซ่ึงคำสมาสเกิดจากการนำคำบาลีหรือคำสันสกฤตตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปมา รวมกนั เปน็ วิธกี ารสรา้ งคำอกี วิธหี นึ่งในภาษาไทยทค่ี วรแกก่ ารเรยี นรู้ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  หลักการสรา้ งคำในภาษาไทย ทักษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะการอ่าน 2. ทกั ษะการพูด ๕. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ข้อ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ขอ้ ๗ รกั ความเป็นไทย ๗. ชิ้นงาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรยี นรู้ แบบฝกึ หัด

๘. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กิจกรรมเตรียมความพร้อม / กิจกรรมนำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครพู ดู คยุ เตรียมความพร้อมของนักเรียน 2. ครูใหน้ ักเรียนเลน่ เกม ทายภาพคำสมาส 3. ครแู จ้งจุดประสงคข์ องการเรียน แนะนำวธิ กี ารเรยี น กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น 1. ใหน้ กั เรยี นฟงั เพลงคำสมาส ทำนองเพลงแสงสดุ ทา้ ย จาก YouTube ทค่ี รูแชร์หนา้ จอไปให้ 2. ครูสนทนาพูดคยุ กับนักเรยี นเกี่ยวกับเนื้อหาในเพลง โดยขานชอื่ ซกั ถาม 3. ครูนำสนทนา และอธิบายเก่ียวกบั เรื่อง การสรา้ งคำไทย (คำสมาส) โดยครูใช้สื่อ PowerPoint 4. ครใู หน้ กั เรยี นดู สื่อวีดิโอ เร่อื ง คำสมาส จาก YouTube 5. นักเรยี นศกึ ษาพรอ้ ม จดบันทึกสาระสำคญั ลงในสมดุ 6. ครขู านชือ่ นกั เรยี นให้อธบิ ายความเข้าใจของตนเองเก่ียวกบั เรื่อง คำสมาส ให้เพ่ือนๆ ในหอ้ งฟัง 7. ครูใหน้ ักเรียนดงู านเสรมิ ความรทู้ ่ีครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทำ กจิ กรรมรวบยอด ใหน้ กั เรยี นฟงั เพลงคำสมาส (ทำนองเพลง ฝนเทลงมา) จากสอื่ YouTube ๙. สอื่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝึกหดั 2. PowerPoint เร่ือง หลกั การสรา้ งคำในภาษาไทย (คำสมาส) 3. เพลงคำสมาส (ทำนองเพลงฝนเทลงมา) จากสื่อ YouTube 4. เพลงคำสมาส (ทำนองเพลง แสงสดุ ท้าย) จากสื่อ YouTube 5. เกมทายคำสมาส ๑๐. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุ จุดประสงค์การเรียนร/ู้ สิ่งท่จี ะวดั วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ อธิบายและวิเคราะห์หลกั การสร้าง ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝึกหัด ร้อยละ 60 คำไทย ผ่านเกณฑ์ พูดอธิบายหลักการสร้างคำไทยให้ สังเกตจากการถาม แบบสังเกต ระดับคุณภาพ เพอื่ นๆ ฟงั ได้ ตอบใน Google ๒ ผ่านเกณฑ์ Meet เหน็ ความสำคัญของการสร้างคำ สงั เกตจากการทำ แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ ไทย กิจกรรม ๒ ผ่านเกณฑ์ ลงชือ่ ..................................................ครผู สู้ อน ( นางสาวกวกี านต์ สงั ข์ทอง ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ



ส่ือการสอน / แหลง่ เรียนรู้

ใบความรู้ เรอ่ื ง การสร้างคำในภาษาไทย (คำสมาส) คำสมาส คือ คำที่เกิดจากการนำคำในภาษาบาลีและสนั สกฤตมารวมเขา้ ด้วยกนั เพอ่ื ทำให้เกดิ คำใหม่ ทีม่ คี วามหมายใหม่ โดยยงั มเี คา้ ของความหมายเดมิ อยู่ หลักสังเกตคำสมาสในภาษาไทย 1. เกิดจากคำมลู ตั้งแตส่ องคำข้นึ ไป 2. เปน็ คำท่มี ีรากศพั ท์มาจากภาษาบาลแี ละสนั สกฤตเท่าน้ัน เช่น กาฬพกั ตร์ ภูมิศาสตร์ ราชธรรม บตุ รทาน อกั ษรศาสตร์ อรรถคดี ฯลฯ 3. พยางค์สุดทา้ ยของคำหน้า หากมสี ระ อะ หรอื มตี ัวการันต์อยู่ ให้ยบุ ตวั น้นั ออก (ยกเว้นคำบางคำ เช่น กิจจะลักษณะ เป็นต้น) 4. แปลความจากหลังมาหนา้ เช่น ราชบุตร แปลวา่ บุตรของพระราชา, เทวบัญชา แปลวา่ คำสงั่ ของ เทวดา, ราชการ แปลว่า งานของพระเจา้ แผน่ ดิน 5. สว่ นมากออกเสียงพยางค์ทา้ ยของคำหนา้ แมจ้ ะไมม่ ีรูปสระกำกบั อยู่ โดยจะใชเ้ สียง อะ อิ และ อุ (เชน่ เทพบตุ ร) แตบ่ างคำก็ไม่ออกเสียง (เชน่ สมยั นยิ ม สมุทรปราการ) 6. คำบาลีสนั สกฤตที่มีคำวา่ พระ ซงึ่ กลายเสียงมาจากบาลีสนั สกฤต กถ็ ือว่าเปน็ คำสมาส (เชน่ พระกร พระจนั ทร์) 7. ส่วนใหญจ่ ะลงท้ายว่า ศาสตร์ กรรม ภาพ ภัย ศึกษา ศิลป์ วิทยา (เชน่ ศึกษาศาสตร์ ทุกขภาพ จติ วทิ ยา) ตวั อย่างคำสมาส ธรุ กิจ กิจกรรม กรรมกร ขัณฑสมี า คหกรรม เอกภพ กาฬทวีป สุนทรพจน์ จรี กาล บปุ ผชาติ ประถมศกึ ษา ราชทัณฑ์ มหาราช ฉันทลกั ษณ์ พุทธธรรม วรรณคดี อิทธพิ ล มาฆบูชา มจั จุราช วิทยฐานะ วรรณกรรม สัมมาอาชีพ หัตถศึกษา ยทุ ธวธิ ี วาตภยั อตุ สาหกรรม สงั ฆราช รัตตกิ าล วสันตฤดู สุขภาพ อธิการบดี ดาราศาสตร์ พุพภิกขภยั สุคนธรส วสิ าขบูชา

ใบงานที่ 2.5 เรื่อง คำสมาส คำชแี้ จง จงเขียนเครอื่ งหมาย / หน้าขอ้ ที่กล่าวถกู ตอ้ ง และเขยี นเครือ่ งหมาย x หน้าข้อท่ีกล่าวไม่ถูกต้อง ............. ๑. คำสมาสเกดิ จากคำบาลี สนั สกฤตเท่านั้น .............. ๒. คำสมาสคือคำมูลต้งั แต่ ๒ คำขึ้นไป .............. ๓. คำสมาสพยางคท์ า้ ยของคำหน้าไมป่ ระวิสรรชนีย์ หรือเปน็ ตัวการนั ต์ .............. ๔. การแปลความหมายคำสมาสโดยมากแปลจากคำหลงั ไปคำหนา้ .............. ๕. การอ่านคำสมาสต้องอ่านออกเสียงตอ่ เน่ืองกัน .............. ๖. คณิตศาสตร์ เกดิ จาก คณิต + ศาสตร์ .............. ๗. ผลผลิตเป็นคำสมาสเพราะเป็นคำบาลี สนั สกฤต .............. ๘. ผลไม้เป็นคำสมาสทเ่ี กิดจาก ผล + ไม้ .............. ๙. ชลบรุ ี ไม่ใช่คำสมาส เพราะไม่ได้อ่านออกเสียงต่อเนื่อง .............. ๑๐. คำท่ีมี “พระ” นำหน้าคำบาลสี นั สกฤตจดั เปน็ คำสมาส คำช้ีแจง จงเขยี นคำอา่ นคำสมาสตอ่ ไปนี้ ๑. วิทยฐานะ อา่ นว่า .................................................................................... ๒. มธั ยมศกึ ษา อา่ นวา่ .................................................................................... ๓. สนุ ทรพจน์ อ่านว่า ............................................................................... ๔. วรรณคดี อา่ นว่า .................................................................................... ๕. ทศั นคติ อ่านวา่ .................................................................................... ๖. อกั ขรวิธี อา่ นว่า .................................................................................... ๗. กิจการ อ่านวา่ .................................................................................... ๘. ประวัติศาสตร์ อา่ นว่า .................................................................................... ๙. ธรุ กจิ อา่ นว่า .................................................................................... ๑๐. อสิ รภาพ อา่ นว่า .................................................................................... ชอื่ สกุล...........................................................................................................ช้นั ....................เลขท.่ี .............

ใบงานท่ี 2.5 เร่ือง คำสมาส คำชแี้ จง จงเขียนเครอื่ งหมาย / หน้าขอ้ ที่กล่าวถูกต้อง และเขียนเครอื่ งหมาย x หน้าข้อท่ีกล่าวไม่ถูกต้อง ............. ๑. คำสมาสเกดิ จากคำบาลี สนั สกฤตเท่านัน้ .............. ๒. คำสมาสคือคำมูลต้งั แต่ ๒ คำขน้ึ ไป .............. ๓. คำสมาสพยางคท์ า้ ยของคำหน้าไมป่ ระวิสรรชนีย์ หรือเปน็ ตัวการนั ต์ .............. ๔. การแปลความหมายคำสมาสโดยมากแปลจากคำหลงั ไปคำหนา้ .............. ๕. การอ่านคำสมาสต้องอ่านออกเสยี งตอ่ เนื่องกัน .............. ๖. คณิตศาสตร์ เกดิ จาก คณติ + ศาสตร์ .............. ๗. ผลผลิตเป็นคำสมาสเพราะเป็นคำบาลี สันสกฤต .............. ๘. ผลไม้เป็นคำสมาสทเ่ี กิดจาก ผล + ไม้ .............. ๙. ชลบรุ ี ไม่ใช่คำสมาส เพราะไม่ได้อ่านออกเสียงต่อเน่ือง .............. ๑๐. คำท่ีมี “พระ” นำหนา้ คำบาลสี นั สกฤตจดั เปน็ คำสมาส คำช้ีแจง จงเขยี นคำอา่ นคำสมาสตอ่ ไปนี้ ๑. วิทยฐานะ อา่ นว่า .................................................................................... ๒. มธั ยมศกึ ษา อา่ นวา่ .................................................................................... ๓. สนุ ทรพจน์ อ่านว่า ............................................................................... ๔. วรรณคดี อา่ นว่า .................................................................................... ๕. ทศั นคติ อ่านว่า .................................................................................... ๖. อกั ขรวิธี อา่ นว่า .................................................................................... ๗. กิจการ อ่านวา่ .................................................................................... ๘. ประวัติศาสตร์ อา่ นว่า .................................................................................... ๙. ธรุ กจิ อา่ นว่า .................................................................................... ๑๐. อสิ รภาพ อา่ นว่า .................................................................................... ชอื่ สกุล...........................................................................................................ช้นั ....................เลขท.่ี .............

ใบงาน เรื่อง คำสมาส คำช้แี จง จงเขยี นเครอ่ื งหมาย / หน้าข้อท่ีกลา่ วถูกต้อง และเขียนเคร่อื งหมาย x หน้าขอ้ ท่ีกลา่ วไม่ถกู ต้อง / ๑. คำสมาสเกดิ จากคำบาลี สันสกฤตเทา่ นนั้ X ๒. คำสมาสคือคำมลู ต้ังแต่ ๒ คำขึ้นไป / ๓. คำสมาสพยางค์ทา้ ยของคำหน้าไม่ประวิสรรชนยี ์ หรอื เป็นตวั การนั ต์ / ๔. การแปลความหมายคำสมาสโดยมากแปลจากคำหลงั ไปคำหน้า / ๕. การอา่ นคำสมาสต้องอา่ นออกเสยี งตอ่ เน่ืองกนั / ๖. คณติ ศาสตร์ เกดิ จาก คณิต + ศาสตร์ X ๗. ผลผลิตเป็นคำสมาสเพราะเป็นคำบาลี สนั สกฤต X ๘. ผลไม้เปน็ คำสมาสท่ีเกิดจาก ผล + ไม้ / ๙. ชลบุรี ไมใ่ ช่คำสมาส เพราะไมไ่ ด้อ่านออกเสยี งต่อเนื่อง / ๑๐. คำทีม่ ี “พระ” นำหนา้ คำบาลีสนั สกฤตจัดเป็นคำสมาส คำช้ีแจง จงเขียนคำอ่านคำสมาสต่อไปน้ี ๑. วิทยฐานะ อา่ นว่า วดิ - ทะ - ยะ - ถา - นะ ๒. มธั ยมศกึ ษา อา่ นว่า มัด - ทะ - ยม - มะ - สกึ - สา ๓. สุนทรพจน์ อ่านว่า สุน – ทอ - ระ - พด ๔. วรรณคดี อ่านวา่ วนั - นะ - คะ - ดี ๕. ทัศนคติ อ่านวา่ ทัด - สะ - นะ - คะ - ติ ๖. อกั ขรวธิ ี อ่านวา่ อัก - ขะ - หระ - วิ - ที ๗. กจิ การ อ่านว่า กิด - จะ - กาน ๘. ประวตั ศิ าสตร์ อ่านว่า ประ - หวดั - ติ - สาด ๙. ธรุ กิจ อ่านวา่ ทุ - ระ - กิด ๑๐. อสิ รภาพ อา่ นว่า อิด - สะ - หระ - พาบ

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ รหสั วชิ า ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 การเพม่ิ คำในภาษา พฒั นาอย่างสร้างสรรค์ เวลา 6 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 6 เรือ่ ง หลักการสร้างคำในภาษาไทย (สรปุ รวม) เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวกวกี านต์ สังข์ทอง สอนสัปดาห์ท.ี่ ........ ม.5/1 วนั ท.ี่ ................................... ม.5/2 วนั ท.ี่ ................................... ม.5/3 วันท.ี่ ................................... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๖ อธิบายและวเิ คราะห์หลักการสร้างคำในภาษาไทย ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายและวิเคราะห์หลักการสรา้ งคำในภาษาไทย(K) ๒. พูดอธบิ ายหลักการสร้างคำไทยใหเ้ พื่อนๆ ฟังได้ (P) 3. เหน็ ความสำคัญของการสรา้ งคำไทย (A) ๓. สาระสำคญั การสร้างคำในภาษาไทยมีท้ังคำทส่ี รา้ งมาจากคำภาษาไทย และคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ มวี ิธีการ สร้างคำหลายวิธีทำให้มีคำใหม่ใช้ในภาษาไทยมากข้ึน ต้องมีความรู้เรื่องการสร้างคำโดยวิธีต่างๆ เช่น การประสม คำ การซ้อนคำ การซ้ำ การสมาสคำ ซึ่งคำสมาสเกิดจากการนำคำบาลีหรือคำสันสกฤตต้ังแต่ ๒ คำขึ้นไปมา รวมกนั เป็นวิธีการสร้างคำอกี วธิ ีหนึ่งในภาษาไทยทคี่ วรแกก่ ารเรยี นรู้ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  หลักการสรา้ งคำในภาษาไทย ทักษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะการอา่ น 2. ทักษะการพูด ๕. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ขอ้ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อ ๗ รักความเปน็ ไทย ๗. ชน้ิ งาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรยี นรู้ แบบฝกึ หัด

๘. กระบวนการจดั การเรียนรู้ กจิ กรรมเตรียมความพรอ้ ม / กจิ กรรมนำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครพู ดู คยุ เตรยี มความพรอ้ มของนักเรียน 2. ครทู บทวนเรอ่ื ง การสรา้ งคำไทย 3. ครูแจง้ จดุ ประสงคข์ องการเรียน แนะนำวิธกี ารเรยี น กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน 2. ใหน้ ักเรียนฟงั เพลงคำประสม คำซ้ำและคำซอ้ น ทำนองเพลงฝนเทลงมอื จาก YouTube ที่ ครูแชรห์ นา้ จอไปให้ 2. ครูสนทนาพดู คุยกับนักเรยี นเกี่ยวกับเนื้อหาในเพลง โดยขานชอื่ ซักถาม 3. ครูนำสนทนา และอธิบายทบทวน พร้อมสรุปเก่ยี วกบั เร่ือง การสรา้ งคำไทย โดยครูใชส้ ่อื PowerPoint 4. ครขู านช่ือนักเรยี นให้อธิบายความเขา้ ใจของตนเองเก่ียวกบั เรอ่ื ง การสร้างคำไทย ให้เพือ่ นๆ ในห้องฟงั 5. ครใู หน้ กั เรียนเพ่ือทำแบบทดสอบ เรื่อง การสร้างคำไทย กจิ กรรมรวบยอด 2. ครพู ูดคุยซกั ถามความเข้าใจของนักเรยี น ครูนำเสนอภาพรวมของการเรยี น ๙. สอ่ื การเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบทดสอบ 2. PowerPoint เร่ือง หลกั การสร้างคำในภาษาไทย 3. เพลงคำประสม คำซ้อน คำซำ้ จากส่อื YouTube 4. คลิปวีดโิ อ เร่ือง คำซำ้ คำซ้อน คำประสม จากส่ือ YouTube ๑๐. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จุ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร/ู้ สิ่งท่จี ะวัด วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ อธิบายและวเิ คราะห์หลักการสร้าง ตรวจแบบฝกึ หดั แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ คำไทย ระดับคุณภาพ พดู อธิบายหลกั การสร้างคำไทยให้ สังเกตจากการถามตอบใน แบบสังเกต ๒ ผ่านเกณฑ์ เพือ่ นๆ ฟงั ได้ Google Meet ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ เห็นความสำคญั ของการสรา้ งคำไทย สงั เกตจากการทำกิจกรรม แบบประเมิน ลงชอื่ ..................................................ครผู สู้ อน ( นางสาวกวกี านต์ สงั ขท์ อง ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ



ส่ือการสอน / แหลง่ เรียนรู้

แบบทดสอบ การเพิม่ คำในภาษา ตอนท่ี ๑ จงจับคคู่ ำซ้อนต่อไปนโ้ี ดยนำตัวอกั ษรทางขวามือมาเติมหน้าข้อทส่ี ัมพนั ธ์กัน ..............๑ ยาก ก. ขัง ..............๒ บาป ข. ทาง ..............๓ ทุบ ค. ขจี ..............๔ ลู่ ง. ทอง ..............๕ ขัด จ. ง่าย ..............๖ สด ฉ. ตี ..............๗ เงนิ ช. บุญ ..............๘ ขงึ ซ. ช่ืน ..............๙ ซู่ ฌ. ถู ..............๑๐ เขียว ญ. ซา่ ตอนที่ ๒ จงนำคำซ้อนต่อไปน้ี แยกเขียนลงในตารางให้ถูกต้อง ตามชนดิ ของคำซ้อน กกั ขัง อ้วนผอม หนักเบา ถ้วยชาม ข่มขู่ รุงรงั ถูกแพง ใชจ้ ่าย ยยู่ ี่ งอแง คำซอ้ นความหมายทำนองเดียวกัน คำซ้อนความหมายตรงกันข้าม คำซอ้ นเพ่ือเสียง

ตอนท่ี 3 จงเลือกคำตอบท่ถี ูกท่ีสดุ เพียงคำตอบเดียว ค. ลกู เสอื ง. หมอดู ๑. ขอ้ ใดเป็นคำประสมท่ีเกิดจากคำนามกับคำนาม รถไฟ ง. ลอ้ รถ ใบไม้ ง. เขม็ ทิศ ก. หมหู วาน ข. เครอ่ื งบนิ ชาวบ้าน ง. บ้านนอก รองเทา้ ง. ไมเ้ ทา้ ๒. ข้อใดเปน็ คำประสมท่ีเกดิ จากคำนามกับคำวิเศษณ์ น้ำซปุ ง. เครอื่ งพมิ พ์ดดี รปู ถา่ ย ง. ลูกเลน่ ก. รถมา้ ข. ของหวาน ค. พวงหรีด ง. เขม็ ทิศ ทศิ เหนือ ง. โรงนา ๓. ขอ้ ใดเป็นคำประสมที่เกิดจากคำนามกบั คำกรยิ า ค. รูปถา่ ย ง. เครอ่ื งพมิ พด์ ีด ก. เรือแจว ข. ไฟฟา้ ๔. ข้อใดเปน็ คำประสมที่เกิดจากคำนามกบั คำบพุ บท ก. แมบ่ ้าน ข. พ่อบ้าน ค. ๕. ขอ้ ใดเปน็ คำประสมท่ีเกิดจากคำกรยิ ากับคำกรยิ า ก. น้ำใจ ข. ห่อหมก ค. ๖. ข้อใดเปน็ คำประสมท่ีเกดิ จากคำไทยกับคำไทย ค. ก. ลูกกญุ แจ ข. หมอดู ๗. ขอ้ ใดเปน็ คำประสมที่มิได้เกิดจากคำไทยกับคำไทย ก. ลูกน้ำ ข. ลูกนอ้ ง ค. ๘. ข้อใดเป็นคำประสมที่เกิดจากคำไทยกับคำภาษาเขมร ก. แมย่ าย ข. นาปรัง ค. ๙. ข้อใดเปน็ คำประสมที่เกดิ จากคำไทยกับคำภาษาองั กฤษ ก. เหยือกนำ้ ข. หมอ้ น้ำ ค. ๑๐. คำประสมข้อใดเปน็ คำกรยิ า ก. ถอื ตัว ข. เครอ่ื งบนิ ค. ช่อื สกุล...........................................................................................................ช้ัน....................เลขท่.ี .............



แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี ๑ รหัสวิชา ท๓๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 พฒั นาการส่ือสาร ตระหนักการมีคณุ ธรรม เวลา 6 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง มารยาทและคุณธรรมในการส่ือสาร เวลา 1 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวกวกี านต์ สังขท์ อง สอนสัปดาห์ที่......... ม.5/1 วนั ท.่ี ...................................... ม.5/2 วันท.่ี ...................................... ม.5/3 วนั ท.่ี ...................................... ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอื่ นำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หา ในการดำเนินชีวิต และมีนสิ ัยรักการอ่าน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๘ สังเคราะห์ความรจู้ ากการอา่ นส่ือส่ิงพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ และแหลง่ เรยี นร้ตู ่างๆ มา พฒั นาตน พัฒนาการเรยี น และพฒั นาความรทู้ างอาชีพ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกมารยาทและคุณธรรมในการสือ่ สารได(้ K) ๒. เขยี นข้อความ เรื่องราว นิทาน ท่ีสะท้อนการใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบคุ คลได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ (P) ๓. มีมารยาทและคุณธรรมในการสอื่ สาร (A) ๓. สาระสำคัญ การสื่อสารของมนุษย์เป็นการแสดงพฤติกรรมทั้งด้านนอกและด้านในของผูส้ ่งสารไปยังผ้รู บั สาร การแสดง มารยาทในการส่ือสารในบริบทต่างๆ มีความสำคัญ ดังน้ันการศึกษาให้เข้าใจกระบวนการสื่อสารของมนุษย์อย่าง ถ่องแท้ เพ่ือพฒั นาให้มีสมรรถภาพสงู จำเป็นต้องเขา้ ใจเร่ือง มารยาทและคณุ ธรรมในการสอื่ สาร ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  การส่ือสารของมนุษย์  มารยาทและคณุ ธรรมในการส่ือสาร  ข้อควรคำนึงในการสื่อสารในแตล่ ะบรบิ ท ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทักษะการอา่ น ๒. ทักษะการเขยี น ๓. กระบวนการคดิ ๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ข้อ ๑ ความสามารถในการส่ือสาร ๖. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ขอ้ ๔ ใฝ่เรียนรู้ ๗. ชน้ิ งาน / ภาระงาน / ร่องรอยการเรยี นรู้

ใบงาน ๘. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กิจกรรมเตรียมความพรอ้ ม / กิจกรรมนำเข้าสูบ่ ทเรียน 1. ครพู ูดคยุ เตรยี มความพรอ้ มของนักเรยี น 2. ครใู ห้นกั เรยี นดคู ลิปวีดโิ อ มารยาทในการเรียนออนไลน์ จาก YouTube 3. สนทนาเก่ียวกบั คลปิ วดี ิโอนั้น 4. ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 1. ครใู ห้นกั เรียนดูคลิปวีดิโอ มารยาทในการส่ือสารออนไลน์ จาก YouTube 2. ครูนำสนทนา และอธิบายเก่ียวกับเรื่อง มารยาทและคุณธรรมในการสื่อสาร โดยครูใช้สื่อ PowerPoint พรอ้ มทง้ั บอกแหล่งศกึ ษาความรู้เพ่ิมเติมจากในหนังสอื เรยี นหลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ 3. นักเรยี นศึกษาไปพรอ้ มๆ กัน และจดบันทกึ สาระสำคญั ลงในสมุด 4. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานการเขียนขอ้ ความ เรอ่ื งราว นทิ าน ที่สะท้อนการใชภ้ าษาพดู และภาษาเขยี น เหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบคุ คลไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์) กจิ กรรมรวบยอด 3. ครูพูดคยุ ซกั ถามความเขา้ ใจของนกั เรยี น ๙. ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑. หนงั สอื เรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ๒. ใบงาน ๓. ส่อื PPT เรอ่ื ง มารยาทและคุณธรรมในการสือ่ สาร 4. คลปิ วดี ิโอ การใชส้ ่ือสงั คมออนไลน์ จากสือ่ YouTube ๑๐. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ /สิ่งท่ตี ้องการวดั วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ ๑. บอกมารยาทและคุณธรรมในการส่ือสาร ผา่ นเกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ๒. เขียนข้อความ เรื่องราว นทิ าน ท่ี ประเมนิ จากการทำ แบบประเมนิ สะทอ้ นการใช้ภาษาพูดและภาษาเขยี น ใบงาน ผา่ นเกณฑร์ ะดบั เหมาะสมแกโ่ อกาส กาลเทศะ และบคุ คล คณุ ภาพ ๒ ไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ ๓. มีมารยาทและคณุ ธรรมในการส่ือสาร สังเกต แบบสงั เกต ลงชือ่ ..................................................ครผู ้สู อน ( นางสาวกวีกานต์ สงั ข์ทอง ) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ



ส่อื ที่ใช้ / แหลง่ เรียนรู้

ใบงานที่ 1 มารยาทและคุณธรรมในการสอ่ื สาร คำช้แี จง : จงเขียนข้อความ เร่ืองราว นิทาน ทส่ี ะท้อนการใชภ้ าษาพูดและภาษาเขียนเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบุคคลได้อยา่ งสร้างสรรค์ ความยาวไมเ่ กนิ 20 บรรทัด จุดประสงค์ : เขยี นขอ้ ความ เรอ่ื งราว นทิ าน ทสี่ ะทอ้ นการใช้ภาษาพูดและภาษาเขยี นเหมาะสมแกโ่ อกาส กาลเทศะ และบุคคลได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ ชอื่ เรือ่ ง................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ....................................................................................................................................................... .............................. ............................................................................................. ........................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ................................................................................................................................................................... .................. ......................................................................................................... ............................................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................................................................... ...... ..................................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ..................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ..................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ชอื่ สกุล..............................................................................................ช้นั ........................เลขท.่ี ............. ...................

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ รหสั วิชา ท๓๒๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 พัฒนาการสอื่ สาร ตระหนักการมีคณุ ธรรม เวลา 6 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง การถามและการตอบ เวลา 1 ช่วั โมง ผู้สอน นางสาวกวีกานต์ สงั ข์ทอง สอนสัปดาห์ท่ี......... ม.5/1 วนั ท.่ี ...................................... ม.5/2 วนั ท.ี่ ...................................... ม.5/3 วนั ท.ี่ ...................................... ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่ือนำไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปญั หา ในการดำเนินชวี ติ และมีนสิ ยั รักการอา่ น ท ๑.๑ ม.๔-๖/๘ สังเคราะห์ความรู้จากการอ่านสื่อสง่ิ พิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนกิ ส์ และแหลง่ เรียนร้ตู า่ งๆ มา พฒั นาตน พัฒนาการเรยี น และพฒั นาความรทู้ างอาชพี ท ๑.๑ ม.๔-๖/๖ ตอบคำถามจากการอ่านงานเขยี นประเภทต่างๆ ภายในเวลาทีก่ ำหนด ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นแปลความ ตีความ ขยายความเรอื่ งสนั้ คุณธรรมได้ (P) ๒. ต้ังคำถามและตอบคำถามได้ (P) ๓. มีมารยาทและคุณธรรมในการถามและการตอบ (A) ๓. สาระสำคัญ การถามและการตอบเป็นกระบวนการส่ือสารที่มนุษย์ทุกรูปทุกนามต้องทำอยู่เป็นนิจ ทั้งในการดำรงชีวิต ประจำวันและในการประกอบกิจการงานทุกอย่าง ท่ีเราไม่ควรมองข้ามหลักการและข้อควรคำนึงในการถามและ การตอบ ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้  จดุ ประสงคข์ องการถามและการตอบ  ข้อควรคำนงึ ในการถาม  ข้อควรคำนึงในการตอบ  วิธีต้งั คำถาม  วิธีตอบที่ดี ทกั ษะ / กระบวนการ ๑. ทกั ษะการอ่าน ๒. ทกั ษะการเขยี น ๓. กระบวนการคิด

๕. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ขอ้ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ขอ้ ๔ ใฝเ่ รยี นรู้ ๗. ชน้ิ งาน / ภาระงาน / รอ่ งรอยการเรยี นรู้ ใบงาน ๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมเตรยี มความพรอ้ ม / กจิ กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครพู ดู คยุ เตรียมความพร้อมของนักเรียน 2. ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกม ตอบคำถาม จาก PPT 3. พูดคุยกับนักเรียนว่า เคยประสบปัญหาเร่ืองการถามและการตอบหรือไม่ อย่างไร ปัญหานั้นมาจาก สาเหตุใด มวี ิธีแก้อย่างไรบ้าง กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน 1. ครูนำสนทนา และอธิบายเกี่ยวกับเรื่อง การถามและการตอบ โดยครูใช้สื่อ PowerPoint พร้อมบอก แหลง่ ความรู้เพ่ิมเติม คือ ในหนังสอื เรยี นหลกั ภาษาและการใช้ภาษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ 2. นักเรยี นศกึ ษาไปพร้อมๆ กนั และจดบันทึกสาระสำคัญลงในสมดุ 3. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงาน การตัง้ คำถามและคำตอบ กิจกรรมรวบยอด 1. ครูพูดคยุ ซกั ถามความเขา้ ใจของนักเรียนครูนำเสนอภาพรวมของการเรียน ๙. สอื่ การเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. หนงั สือเรียนหลักภาษาและการใชภ้ าษา ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ๒. เกมตอบคำถาม ๓. ส่ือ PPT เรอื่ ง การถามและการตอบ ๑๐. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ /สิ่งทตี่ ้องการวดั วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ ๑. อา่ นแปลความ ตีความ ประเมนิ จากการทำใบงาน แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ระดับ ขยายความเรื่องสน้ั คุณธรรม กลุ่ม คณุ ภาพ ๒ ๒. ตง้ั คำถามและตอบคำถาม ผา่ นเกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ๓. มีมารยาทและคณุ ธรรมใน สังเกต แบบสังเกต การถามและการตอบ ( นางสาวกวีกานต์ สงั ข์ทอง ) ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ

ส่อื ที่ใช้ / แหลง่ เรียนรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook