คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม รหัสวิชา ท30209 รายวิชา การพูดในทปี่ ระชุมชน ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต เวลา 40 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที1่ ,2 ศึกษาหลักการพูด วิธกี ารพดู ฝกึ การพูดต่อหน้าประชมุ ชน ทงั้ ทีเ่ ปน็ การบรรยาย พรรณนา ชักชวน ชี้แจง อภิปราย ดำเนินการอภิปราย สัมภาษณ์ การโต้วาที ทำหน้าท่ีพิธีกรหรือโฆษก ทั้งนี้ โดยเน้นการใช้ถ้อยคำและน้ำเสียงและท่าทางท่ีเหมาะสม เพ่ือให้สามารถพูดได้อย่างมีเน้ือหาสาระและ น่าสนใจ ทำให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจ พอใจหรือคล้อยตาม เพ่ือพัฒนาศักยภาพในการพูดของตนเองได้ ถกู ต้องตามหลกั และวธิ กี ารของการพูด โดยมีมารยาทความรบั ผดิ ชอบและคณุ ธรรมในการพูด มาตรฐานการเรยี นร้/ู ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวงั สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั 1.สามารถพดู ต่อหน้าประชมุ ชนในโอกาสต่างๆได้ตามศกั ยภาพ 2. สมารถเล่าเร่ืองประเทอื งปัญญาพารืน่ รมย์ใหผ้ ้อู ่นื สนใจได้เปน็ อยา่ งดี 3. สามารถพดู บรรยายและพรรณนาใหผ้ ู้อืน่ เข้าใจและเห็นภาพไดเ้ ปน็ อย่างดี 4. สามารถอภปิ รายตอ่ หน้าประชุมชนได้ 5. สามารถโตว้ าทไี ดอ้ ย่างมีเนื้อหาสาระและสรา้ งความสนุกสนานได้เปน็ อย่างดี 6. สามารถใชก้ ารพูดในการสมั ภาษณ์ได้อย่างถูกตอ้ งตามหลักการ 7. สามารถใช้การพดู ในการเปน็ พธิ ีกรไดอ้ ย่างนา่ สนใจ รวมทง้ั หมด 7 ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวีธาภเิ ศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 150
รหัสวชิ า ท30209 โครงสรา้ งรายวิชา ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรยี นท1ี่ ,2 รายวชิ า การพดู ในที่ประชมุ ชน เวลา 40 ชว่ั โมง ท่ี ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก เรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 1 พูดต่อหนา้ ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดู พดู ตอ่ หน้าประชมุ ชนใน 5 10 ประชมุ ชน อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพดู โอกาสต่างๆได้ตามศักยภาพ แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ ง มวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ 2 พดู ไดพ้ ูดดี ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดู เล่าเรอ่ื งประเทืองปัญญาพา 5 10 อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู รื่นรมยใ์ ห้ผู้อืน่ สนใจได้เป็น แสดงความรู้ ความคิด และ อยา่ งดี ความร้สู กึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ ง มีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ 3 ภาพในใจ ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดู พูดบรรยายและพรรณนาให้ 5 10 อยา่ งมีวิจารณญาณ และพูด ผู้อนื่ เข้าใจและเห็นภาพได้ แสดงความรู้ ความคิด และ เปน็ อย่างดี ความรูส้ ึกในโอกาสต่างๆ อยา่ ง มวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ 4 ตาต่อตา ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดู อภปิ รายต่อหน้าประชมุ ชน 3 10 อย่างมีวจิ ารณญาณ และพูด ได้ แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรู้สึกในโอกาสตา่ งๆ อยา่ ง มีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ สอบกลางภาค 2 10 5 ใครดใี ครได้ ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดู โต้วาทีไดอ้ ย่างมเี นื้อหา 8 10 อยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู สาระและสร้างความ แสดงความรู้ ความคิด และ สนกุ สนานไดเ้ ป็นอย่างดี ความรูส้ ึกในโอกาสต่างๆ อย่าง มีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวีธาภเิ ศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 151
6 การสัมภาษณ์ ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดู ใชก้ ารพดู ในการสมั ภาษณ์ 5 10 อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพดู ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งตามหลกั การ แสดงความรู้ ความคดิ และ 5 10 ความรสู้ ึกในโอกาสต่างๆ อยา่ ง มีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ 2 20 40 100 7 พิธกี ารพธิ ี ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดู พูดในการเป็นพิธกี รได้อยา่ ง การ อย่างมวี จิ ารณญาณ และพูด น่าสนใจ แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรู้สกึ ในโอกาสต่างๆ อย่าง มวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ สอบปลายภาค รวม เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 152
รหสั วิชา ท30210 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรียนท่1ี ,2 รายวิชา ศิลปะการเลา่ เรื่อง เวลา 40 ชว่ั โมง ฝึกทักษะการเล่าเรื่อง การอ่านตีบท โดยใช้นิทานรวมถึงวรรณกรรมต่าง ๆ เป็นตัวบทในการ ส่ือสาร ศกึ ษานิทานประเภทต่าง ๆ เช่น นิทานภาพ นิทานพ้นื บา้ น วรรณกรรมเยาวชน วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ ง เชิงวรรณกรรม เช่น โครงเร่ือง แก่นเรื่อง ตัวละคร บทสนทนา ฉาก สถานที่ ปมขัดแย้ง บทเปิดเรื่อง และ สามารถนำมาเล่าและประยุกต์เป็นการแสดงต่าง ๆ ได้ โดยฝึกปฏิบัติการใช้น้ำเสียง ท่าทางประกอบ ออกแบบการเล่าด้วยวิธีต่าง ๆ สร้างวรรณกรรมด้วยตนเองและสามารถจัดแสดงการเล่านิทานได้อย่าง หลากหลาย โดยใช้กระบวนการพูด การอ่านตีบท และความคิดสร้างสรรค์ในกระบวนการทำงาน ทักษะการ แสดงเพ่อื ถา่ ยทอดเร่อื งราวและสร้างสรรคผ์ ลงานได้ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความสำคญั ของเรื่องเลา่ ได้ 2. อธบิ ายลักษณะของเรื่องเล่าประเภทต่าง ๆ ได้ 3. พฒั นาทกั ษะการเล่าเรื่องประเภทต่าง ๆ ได้ 4. เลา่ เรอ่ื งได้อยา่ งมีศิลปะ 5. สามารถนำเรอ่ื งเล่าประเภทตา่ ง ๆ มาจัดเป็นการแสดงได้ 6. กล้าแสดงออกอยา่ งสร้างสรรค์ รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หน้าที่ 153
รหัสวชิ า ท30210 โครงสร้างรายวิชา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ภาคเรยี นท่ี 2 รายวชิ า ศิลปะการเลา่ เร่อื ง เวลา 40 ชัว่ โมง ท่ี หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั เรยี นรูท้ ่ี ทค่ี าดหวงั (คาบ) (คะแนน) 11 ขอ้ 1 ความหมาย ความเป็นมาของการเล่าเรือ่ ง 2 5 นทิ านหรือเร่อื งราวทเ่ี ล่าเพ่อื สร้างความ เพลดิ เพลนิ อาจจะเป็นเร่ืองท่ีสืบทอดกนั มา หรอื แต่งขนึ้ ใหม่ก็ได้ นทิ านเป็นผลงาน ศิลปกรรมแรกของมนุษยชาติที่สรา้ งขน้ึ มา เพื่อความบันเทงิ เรงิ รมย์ 22 ขอ้ 1 พฒั นาการของศิลปะการเล่าเรือ่ ง 25 ศิลปะการเรื่องมีพฒั นาการมาอย่าง ยาวนาน โดยเริม่ จากกลุ่มชนเผ่าท่ตี อ้ งการ แสดงความยิ่งใหญ่ของตนผา่ นเรอื่ งราวการลา่ สัตว์ ต่อมาได้กำเนิดนักเลา่ นิทานขบั ลำนำ เป็นอาชีพที่เดินทางไปตามพระราชวงั เพ่ือเล่า นทิ านขับกล่อมลกู พระราชาและขนุ นาง จนกระทง่ั มาถึงยุคปัจจุบนั ที่ศิลปะการเล่า นทิ านปรับเปลี่ยนไปตามสื่อต่าง ๆ เชน่ รายการ ช่อง Youtube และอน่ื ๆ 33 ข้อ 2 การเลา่ เรอื่ งประเภทตา่ ง ๆ 6 10 การเล่าเรอ่ื งมีหลายประเภท เช่น นิทานพืน้ บา้ น นิทานเขา้ แบบ นิทานมุขตลก นิทานภาพ นิทานไร้คำพดู นิทานความคิด รว่ มยอด ฯลฯ 44 ข้อ 1 ลั ก ษ ณ ะแ ล ะศิ ล ป ะก ารเล่ าเรื่อ งจ าก 2 5 นานาชาติ ศลิ ปะการเล่าเรอ่ื งมีมากมาย แตกต่าง กันไปตามแต่ละพื้นที่ เช่น อินเดีย เล่านิทาน ประกอบเครื่องดนตรีพ้ืนเมือง จีน เล่านิทาน ภาพการแสดงงิ้ว ญี่ปุ่น เล่านิทานคามิชิไบ ฯลฯ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรียนทวีธาภเิ ศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรับปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 154
55 ขอ้ 2 การตีความนิทาน 4 5 66 นทิ านแตล่ ะเร่ืองมีนัยตา่ ง ๆ ซ่งึ สง่ ผล 77 2 5 ตอ่ เน้อื เรื่องท่ดี ำเนนิ ไป การอ่านตคี วามนิทาน 2 5 88 จะช่วยให้ผู้เล่าเข้าใจเน้อื เร่ืองและเพ่ิม ประสทิ ธภิ าพในการเลา่ นิทานให้ดีข้ึน 2 20 ขอ้ 3 การใชเ้ สียงในการเล่าเร่ือง 3 5 ข้อ 4 การเล่าเร่ืองทดี่ ีเกดิ จากการใช้เสยี งที่ ขอ้ 6 เหมาะกบั เร่ือง เชน่ เสยี งของตัวละคร เสยี ง ของฉาก เสียงเหตุการณต์ ่าง ๆ ทด่ี ำเนินไป ขอ้ 3 การใช้หนังสือนิทานในการเล่าและเทคนิค ขอ้ 4 การรเล่านิทานมีเทคนิคมากมายเพ่ือเพ่ิม ประสิทธิภาพ เช่น การจับหนังสือ การใช้มือ การเคล่ือนไหวหนังสือ จังหวะในการเปิด หนงั สอื ฯลฯ สอบกลางภาค ข้อ 3 การเล่าในส่อื สมัยใหม่ ข้อ 4 การเล่าเรื่องในส่ือสมัยใหม่มีเทคนิค ข้อ 6 วิธีการและลักษณะเฉพาะท่ีหลากหลาย ล้วน มอี ทิ ธพิ ลตอ่ สังคมในหลายมติ ิ 99 ขอ้ 3 การเล่าเรื่องเชิงส่งิ แวดลอ้ ม 3 5 10 10 ขอ้ 4 การเลา่ เรือ่ งท่ปี ระสบความสำเรจ็ คือ 10 ข้อ 5 การเลา่ เร่ืองท่ีสามารถเปน็ พลังในการขบั เคลื่อน 20 100 ข้อ 6 และพฒั นาสังคมโลก ประเดน็ สิ่งแวดล้อมเปน็ เรอื่ งที่พลโลกใหค้ วามสำคญั การศกึ ษากลวธิ ี การเลา่ เรื่องเชิงส่ิงแวดล้อมจะทำใหร้ ู้เทคนคิ หลายหลาก ขอ้ 4 การผลิตผลงานการเลา่ เรอ่ื ง 10 ข้อ 5 การเล่าเร่ืองของศิลปะเป็นศาสตร์ ข้อ 6 ช้ันสูงในการเล่านิทาน จำเป็นต้องอาศัยความ รว่ มมือของหลายฝ่าย เช่น คนปรับบท การวาง ฉาก สร้างตัวละคร สร้างและประสานการ เทคนิคต่าง ๆ เพ่ือประสิทธิภาพสูงสุดในการ ถ่ายทอดเร่อื งเล่า สอบปลายภาค 2 รวม 40 เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรียนทวธี าภิเศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หน้าที่ 155
รหสั วชิ า ท30211 คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ภาคเรยี นท1่ี ,2 รายวิชา วรรณกรรมสำหรับเดก็ เวลา 40 ชว่ั โมง ฝกึ ทักษะการอ่านคดิ วิเคราะห์ ฟังและดู ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวรรณกรรมสำหรบั เด็กและเยาวชน อย่างหลากหลาย เช่น วรรณกรรมคลาสสิก วรรณกรรมร่วมสมยั สำหรบั เด็กและเยาวชน นิทาน เทพนิยาย การ์ตูนมังงะ กราฟิกโนเวล รวมทั้งภาพยนตร์อนิเมชั่นสำหรับเด็กทั้งของไทยและต่างประเทศ ฝึกการเขียน บทวิจารณ์จากเรื่องที่อ่านด้วยทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และสามารถสร้างวรรณกรรมสำหรับเด็กและ เยาวชนได้ โดยใช้กระบวนการอ่าน คิดวิเคราะห์ ให้เกิดความเข้าใจ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในกระบวนการ ทำงาน ทักษะการเขียนเพอ่ื ถา่ ยทอดความคดิ และสร้างสรรคผ์ ลงานของตนเองได้ ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายความเปน็ มาของวรรณกรรมสำหรบั เด็กและเยาวชนได้ 2. วิเคราะห์ แยกแยะ จดั ประเภทของวรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชนได้ 3. รจู้ ักวรรณกรรมสำหรบั เดก็ และเยาวชนอยา่ งหลากหลาย 4. วิเคราะห์ วิจารณ์ วรรณกรรมสำหรบั เด็กและเยาวชนได้ 5. เขยี นวิจารณว์ รรณกรรมสำหรบั เด็กและเยาวชนได้อยา่ งมีหลักการ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวธี าภิเศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หน้าท่ี 156
รหสั วิชา ท30211 โครงสรา้ งรายวิชา ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ภาคเรยี นที่1,2 รายวชิ า วรรณกรรมสำหรับเดก็ เวลา 40 ชวั่ โมง ที่ หนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั เรียนรู้ที่ ทคี่ าดหวงั (คาบ) (คะแนน) 11 ขอ้ 1 ความหมายและความเป็นมาของวรรณกรรม 3 5 สำหรบั เด็ก วรรณกรรมสำหรับเด็กคืองานเขยี นและสื่อต่าง ๆ ท่สี ร้างข้นึ มาให้เดก็ และเยาวชนอ่าน โดย คำนึงถึงหลักจิตวทิ ยาและธรรมชาติของวัยรนุ่ มี เนือ้ หาหลากหลายข้ึนอยูก่ ับความสนใจตา่ ง ๆ ของ วัยรุ่น มีหลายรปู แบบและนำเสนอผ่านสอื่ ต่าง ๆ ที่ หลากหลาย ประวตั คิ วามเปน็ มาของวยั เด็ก กำหนดลักษณะของวรรณกรรมสำหรับเด็กในยุค สมัยต่าง ๆ ซ่งึ เปน็ อิทธพิ ลมาถึงวรรณกรรมสำหรับ เด็กในยุคปจั จุบนั 22 ข้อ 2 ประเภทของวรรณกรรมสำหรบั เด็ก 45 วรรณกรรมสำหรบั เดก็ มีหลายประเภท (Genre) เชน่ วรรณกรรมแนวสัจนยิ ม (Realism) วรรณกรรมแนว แฟนตาซี (Fantasy) วรรณกรรม แนวพนื้ บ้าน (Traditional Literature) วรรณกรรมแนวบทกวี (Poetry) วรรณกรรมแนว สารคดี (non fiction) วรรณกรรมเชงิ ใหข้ ้อมูล (Information book) โดยอาจแบ่งประเภทไดอ้ ีก จากการถ่ายทอดหรอื นำเสนอ (Medium) เชน่ หนังสอื ภาพ (Picturebook) ภาพยนตรอ์ นเิ มชั่น การต์ นู มงั งะ (Manga) 33 ข้อ 1 วรรณกรรมแนวสจั นิยมสำหรบั เยาวชน 35 ข้อ 2 วรรณกรรมสัจนิยมสำหรับเยาวชน คือ ข้อ 3 วรรณกรรมที่สะท้อนเรื่องราวเก่ียวกับปัญหาใน ชีวิตของ หรือเหตุการณ์ท่ีสามารถเกิดขึ้นได้ใน เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวธี าภิเศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หนา้ ที่ 157
ชีวิตประจำวันของเยาวชน มีหลากหลายประเด็น เช่น เรื่องเรียน เพื่อน ครอบครัว ความรัก ซ่ึง วรรณกรรมแต่ละเร่อื งจะเปน็ แนวทางการใช้ชีวิตให้ เยาวชนเห็นท้ังในทางดีและไม่ดีเพื่อประกอบการ ตัดสินใจให้เยาวชนท่ีอื่นนำมาปรับและประยุกต์ใช้ ในชีวิตของตน โดยมีรูปแบบท้ังวรรณกรรมร้อย แกว้ หนงั สือภาพและภาพยนตร์ 44 ข้อ 1 วรรณกรรมแนวแฟนตาซสี ำหรบั เยาวชน 3 5 55 5 ข้อ 2 วรรณกรรมแนวแฟนตาซีสำหรับเยาวชน คือ 20 ขอ้ 3 วรรณกรรมทีเ่ ก่ียวกบั เรอ่ื งเหนือวสิ ัย โดยมกั จะมีสิ่ง มหัศจรรย์ ของวิเศษ พ่อมด แม่มด นางฟ้า แต่ ประเด็นของเร่ืองยังคงเกี่ยวข้องกับชีวิตของวัยรุ่น และเยาวชนเช่น ครอบครัว เพื่อน การตัดสินใจใน เร่ืองสำคัญต่าง ๆ ของชีวิต โดยมีรูปแบบทั้ง วรรณกรรมร้อยแกว้ หนงั สือภาพและภาพยนตร์ ข้อ 1 วรรณกรรมสารคดสี ำหรับเยาวชน 3 ขอ้ 2 วรรณ กรรมสารคดีสำห รับ เยาวช น คื อ ขอ้ 3 วรรณกรรมท่ีให้ข้อมูลความรู้ ข้อเท็จจริง ที่ปรับ เนื้อหาและประเด็นในเหมาะสมกับวัยรุ่น อาจเป็น เร่ืองเกี่ยวกับข้อมูลความรู้เร่ืองใดเรื่องหน่ึง หรือ อาจเป็นบันทึกประสบการณ์ หรือบันทึกการ เดินทางซ่ึงใช้ภาษาในการเล่าเร่ืองน่าสนใจ ดึงดูด กลุ่มเปา้ หมายผู้อ่านที่เปน็ เยาวชน สอบกลางภาค 2 66 ขอ้ 4 การอ่านและวเิ คราะห์วรรณกรรมสำหรบั เดก็ 10 15 การอ่านและวิเคราะห์วรรณกรรมสำหรับเด็ก คือ การศึกษาและแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ของเร่ือง เช่น โครงเร่ือง แก่นเรื่อง ฉาก บท สนทนา ตัวละคร ปมขัดแย้ง มุมมองในการเล่า เรื่อง สัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏในเร่ือง โดยนำแต่ ละองค์ประกอบมาวิเคราะห์เป็นส่วน ๆ แล้วจึง เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวีธาภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรงุ 2564) หน้าท่ี 158
นำมาวิเคราะห์ในองค์รวมของเรอ่ื ง 77 ขอ้ 4 ทฤษฎที ่ีเก่ยี วข้องในการวิเคราะหว์ รรณกรรม 6 10 88 สำหรบั เด็ก วรรณกรรมสำหรับเดก็ แตล่ ะเรอ่ื ง 10 สามารถใช้ทฤษฎไี ดห้ ลากหลาย แลว้ แต่ประเดน็ 20 100 ของเร่ือง เช่น การตามหาตัวตน จติ วเิ คราะห์ สตรี นิยม โครงสร้างนยิ ม อาณานิคม หลงั อาณานิคม นิเวศน์ศกึ ษา การศึกษาทฤษฎเี บอ้ื งต้นและการ นำไปประยุกต์ใช้จะช่วยให้อา่ นวรรณกรรมแตล่ ะ เร่ืองได้อย่างลึกซึง้ มากขนึ้ ข้อ 5 การเขียนวิจารณ์วรรณกรรมสำหรบั เด็ก 4 การเขียนวิจารณว์ รรณกรรมสำหรับเดก็ คือ การ ถ่ายทอดความคิดของผู้อ่านและตัดสินคณุ ค่าว่า วรรณกรรมเรือ่ งนั้น ดีหรือไม่ดีอยา่ งไร โดยมี รปู แบบการเขยี น คอื การบอกช่อื เรื่อง ผูเ้ ขยี น เรอ่ื งย่อ องค์ประกอบต่าง ๆ ทฤษฎีทน่ี ำมาใช้ ประกอบกบั ความคิดเห็นของผูเ้ ขียน ซ่ึงจะทำให้ ผู้อา่ นบทวิจารณ์เข้าใจและสนใจเพื่อเปน็ การ ประกอบการตัดสนิ ใจในการอ่านตัววรรณกรรม เรื่องทนี่ ำมาวจิ ารณ์ สอบปลายภาค 2 รวม 40 เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวธี าภิเศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หน้าที่ 159
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม รหสั วชิ า ท30212 รายวิชา ตา่ งประเทศในวรรณกรรมไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกิต เวลา 40 ชวั่ โมง ภาคเรยี นท1่ี ,2 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาอิทธิพลต่างประเทศท่ีมีต่อวรรณกรรมไทยท้ังอิทธิพลตะวันออกและอิทธพิ ลตะวันตก ศึกษา วรรณคดีอินเดีย วรรณคดีจีน วรรณคดอี าหรับ-เปอรเ์ ซีย วรรณคดีชวา-มลายู วรรณคดเี ขมร และวรรณคดี จากกลุ่มประเทศในตะวันตกในเบื้องต้น โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการคิดและกระบวนการ วิเคราะหใ์ นการจัดการเรียนรู้ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับวรรณคดี วรรณกรรม และอทิ ธิพล ท่มี ีต่อวรรณกรรมไทย สามารถวิเคราะห์และเปรยี บเทียบ ตลอดจนตระหนักถงึ ความสำคัญวรรณกรรมและ วรรณคดี อันจะนำไปสู่การเขา้ ใจและซาบซง้ึ ในการศกึ ษาวรรณกรรมไทย ผลการเรียนรู้ 1. บอกสาเหตตุ า่ ง ๆ ของอิทธิพลในวรรณกรรมไทยได้ 2. อธบิ ายอิทธิพลของวรรณคดตี ะวนั ออกทมี่ ตี ่อวรรณกรรมไทยได้ 3. อธบิ ายอทิ ธพิ ลของวรรณคดีตะวนั ตกที่มีต่อวรรณกรรมไทยได้ 4. วิเคราะหอ์ ทิ ธิพลตา่ งประเทศในวรรณกรรมไทยได้ 5. เปรยี บเทียบวรรณกรรมต้นฉบับและวรรณกรรมที่ได้รบั อทิ ธพิ ล 6. นำความรไู้ ปศึกษาวรรณคดีได้อย่างลึกซึ้ง รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวธี าภเิ ศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หน้าท่ี 160
โครงสรา้ งรายวิชา รหัสวิชา ท30212 รายวชิ า ตา่ งประเทศในวรรณกรรมไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกิต เวลา 40 ชั่วโมง ภาคเรียนท1่ี ,2 ที่ หน่วยการ ผลการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั เรียนรูท้ ี่ เรียนรทู้ ี่ (คาบ) (คะแนน) คาดหวงั 1 1 ขอ้ 1 สาเหตุของการรับอทิ ธพิ ล 25 สาเหตุของการรับอิทธิพลในวรรณกรรม ไท ย ก ารค้ าแ ล ะ ก ารแ ส วงห าโช ค การศึกสงคราม การเผยแพร่ศาสนา การถ่ายทอดขนบประเพณีพิธกี รรมตา่ ง ๆ 2 2 ขอ้ 1 อทิ ธิพลวรรรคดอี นิ เดีย 6 10 ข้อ 2 ศกึ ษาวรรณคดีศาสนา วรรณคดมี หา ข้อ 4 กาพย์ รามายณะ มหาภารตะ วรรณคดี บทละคร หนงั สือปรุ าณะ นิทานนิยาย 3 3 ข้อ 1 อทิ ธิพลวรรณคดีจีน 6 10 ขอ้ 2 ลกั ษณะของการแปลหนังสอื เป็น ภาษาไทย หนังสือพงศาวดารจนี ท่ีแปล เปน็ ภาษาไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึง รชั กาลที่ 6 อทิ ธิพลวรรณคดีจีนทมี่ ีตอ่ วรรณกรรมไทย 4 4 ขอ้ 1 อทิ ธวิ รรณคดีอาหรบั -เปอร์เซยี 45 ข้อ 2 อทิ ธพิ ลวรรณคดเี ปอร์เซยี เชน่ นทิ าน อหิ ร่านราชธรรม รุไบยาต อทิ ธิพล วรรณคดีอาหรับ เชน่ อาหรบั ราตรี พัน หนง่ึ ทวิ า สอบกลางภาค 2 20 5 5 ขอ้ 1 อิทธวิ รรณคดชี วา มลายู ประวัตชิ วา 4 5 ข้อ 2 โดยสงั เขป นิทานปันหยขี องชวา ประวตั ิ ข้อ 6 นทิ านปนั หยใี นไทย ความนิยมเรือ่ งอิเหนา การรับอิทธิพลเรือ่ งอิเหนาจากชวา ลกั ษณะความเป็นชวาในเร่ืองอเิ หนาและ ดาหลัง เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 161
6 6 ข้อ 1 อทิ ธิพลวรรณคดเี ขมร ความเปน็ เขมรใน 4 5 ข้อ 2 พระราชพิธสี บิ สองเดือน และพิธกี ลอ่ งชา้ ง ข้อ 4 7 7 ขอ้ 1 อิทธพิ ลวรรณกรรมตะวันตก สาเหตขุ อง 10 20 ข้อ 3 การรบั อทิ ธพิ ล อิทธพิ ลในวรรณคดีร้อย ขอ้ 5 ขอ้ 6 แก้ว ร้อยกรอง บทละครและวรรณกรรม สมัยใหม่ สอบปลายภาค 2 20 รวม 40 100 เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวธี าภเิ ศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หน้าท่ี 162
รหัสวชิ า ท30213 คำอธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรียนท่1ี ,2 รายวชิ า วรรณกรรมภาพยนตร์ เวลา 40 ชัว่ โมง ฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ ฟังและดู ศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับการ์ตูน อนิเมช่ันและภาพยนตร์ อย่างหลากหลาย เช่น การ์ตูนและภาพยนตร์ยุคศตวรรษท่ี ๒๐ จนถึงการ์ตูนและภาพยนตร์ยุคศตวรรษท่ี ๒๑ ท่ีมีอทิ ธิพลตอ่ การเสพส่อื และวฒั นธรรมบันเทิงของเยาวชนไทย ศกึ ษาการ์ตูนและภาพยนตร์ท่ีสรา้ งโดย คนไทยซ่ึงนำเน้ือหามาจากวรรณคดี รวมท้ังภาพยนตร์อนิเมชั่นสำหรับเยาวชนอ่ืน ๆ ท้ังของไทยและ ตา่ งประเทศ ฝกึ การเขยี นบทวจิ ารณภ์ าพยนตรส์ ำหรบั เยาวชนด้วยทฤษฎีต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งมีหลักการ โดยใช้กระบวนการอ่าน คิดวิเคราะห์ ให้เกิดความเข้าใจ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในกระบวนการ ทำงาน ทักษะการเขียนเพ่อื ถา่ ยทอดความคิด และสรา้ งงานวิจารณ์ได้ ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายความเป็นมาของการ์ตูนและภาพยนตร์สำหรบั เยาวชนได้ ๒. วิเคราะห์ แยกแยะ จดั ประเภทของการ์ตูนและภาพยนตร์สำหรบั เยาวชนได้ ๓. รูจ้ ักการต์ นู และภาพยนตร์สำหรบั เยาวชนอยา่ งหลากหลาย ๔. วิเคราะห์ วิจารณ์ การ์ตูนและภาพยนตร์สำหรบั เยาวชนได้ ๕. เขียนวจิ ารณ์การ์ตูนและภาพยนตร์สำหรับเยาวชนได้ รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หนา้ ที่ 163
รหัสวชิ า ท30213 โครงสร้างรายวิชา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ภาคเรยี นท1่ี ,2 รายวิชา วรรณกรรมภาพยนตร์ เวลา 40 ช่วั โมง ที่ หนว่ ยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก เรียนรทู้ ่ี ทคี่ าดหวัง (คาบ) (คะแนน) 11 ข้อ 1 ความหมายและความเป็นมาของภาพยนตร์ 3 5 ข้อ 2 สำหรับเยาวชน 5 ศึกษาความเปน็ มาของภาพยนตรส์ ำหรบั 5 เยาวชนท้ังของตะวนั ตกและของตะวนั ออก อาทิ 5 Disney Dreamwork Pixar Ghibli Studio และ 20 ของไทย 22 ขอ้ 4 แนวคดิ และปรชั ญาในภาพยนตร์ 4 ศกึ ษาแนวคดิ เช่น สตรนี ิยม โครงสร้างนยิ ม จิตวิทยา จิตวิเคราะห์ ทีป่ รากฎอยู่ในภาพยนตร์ สำหรบั เด็กรวมถึงปรชั ญาตา่ ง ๆ ทแี่ ฝงอยใู่ น เร่ือง 33 ขอ้ 3 ภาพยนตร์สำหรบั เด็กจาก Disney Studio 3 ข้อ 4 ศึกษาแนวคิด เช่น สตรีนิยม โครงสร้างนิยม ข้อ 5 จิตวิทยา จิตวิเคราะห์ ที่ปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ สำหรับเด็กรวมถึงปรัชญาต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ใน ภาพยนตร์สำหรับเด็กท่ีกำหนดจาก Disney Studio และวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ได้ 44 ข้อ 3 ภาพยนตร์สำหรับเดก็ จาก Pixar Studio 3 ขอ้ 4 ศึกษาแนวคิด เช่น สตรีนิยม โครงสร้างนิยม ขอ้ 5 จิตวิทยา จิตวิเคราะห์ ที่ปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ สำหรับเด็กรวมถึงปรัชญาต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ใน ภาพยนตร์สำหรับเด็กที่กำหนดจาก Pixar Studio และวเิ คราะห์ วิจารณ์ได้ สอบกลางภาค 2 เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรียนทวีธาภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หน้าท่ี 164
56 ข้อ 3 ภาพยนตร์สำหรับเดก็ จาก Dreamwork 10 15 67 6 10 78 ขอ้ 4 ศึกษาแนวคิด เช่น สตรีนิยม โครงสร้างนิยม 4 10 ขอ้ 5 จิตวิทยา จิตวิเคราะห์ ที่ปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ สำหรับเด็กรวมถึงปรัชญาต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ใน 2 20 40 100 ภ า พ ย น ต ร์ ส ำ ห รั บ เด็ ก ท่ี ก ำ ห น ด จ า ก Dreamworkและวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ได้ ขอ้ 3 ภาพยนตร์สำหรบั เดก็ จาก Ghibli Studio ข้อ 4 ศึกษาแนวคิด เช่น สตรนี ิยม โครงสร้างนยิ ม ข้อ 5 จติ วิทยา จติ วิเคราะห์ ทป่ี รากฎอยู่ในภาพยนตร์ สำหรบั เดก็ รวมถงึ ปรัชญาตา่ ง ๆ ทีแ่ ฝงอยู่ใน ภาพยนตร์สำหรับเด็กที่กำหนดจาก Ghibli Studio และวเิ คราะห์ วจิ ารณไ์ ด้ ขอ้ 3 ภาพยนตร์สำหรบั เดก็ จากบรษิ ทั ของไทย ขอ้ 4 ศึกษาแนวคิด เชน่ สตรีนิยม โครงสรา้ งนยิ ม ขอ้ 5 จิตวทิ ยา จติ วเิ คราะห์ ทป่ี รากฎอยู่ในภาพยนตร์ สำหรบั เด็กรวมถงึ ปรัชญาต่าง ๆ ท่ีแฝงอยูใ่ น ภาพยนตร์สำหรบั เดก็ ของไทยที่กำหนดและ วเิ คราะห์ วิจารณไ์ ด้ สอบปลายภาค รวม เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวีธาภิเศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หน้าท่ี 165
รหสั วชิ า ท30214 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ภาคเรยี นท่1ี ,2 รายวชิ า ภาษาไทยสร้างสรรค์ เวลา 40 ชวั่ โมง ศกึ ษาหลักการใชภ้ าษาไทยเรื่องธรรมชาติของภาษา กำเนิดของภาษา ลกั ษณะของภาษาไทยและ ศึกษาเรื่องไตรยางค์ คำเป็น คำตาย เปรียบเทียบลักษณะของคำไทยแท้กับคำภาษาในกลุ่มอาเซียน วเิ คราะห์ลักษณะการเพ่ิมคำในภาษาไทย วเิ คราะหช์ นิดและหน้าทข่ี องคำ สามารถเลือกใช้คำ กลุ่มคำ มา แต่งประโยคความเดียว ความรวม และความซ้อน ได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ในการ สอื่ สาร และนำไปใช้ในชวี ิตประจำวัน โดยใช้กระบวนการคิดกระบวนการสร้างความรู้กระบวนการสร้างความตระหนักกระบวนการ ปฏิบตั ิกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกดิ ความรู้ มมี รรยาทในการอ่าน การเขียน การฟงั การดู การพูด มคี วามสามารถในการสอื่ สาร ในการดำรงชีวติ เป็นผู้ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น มุง่ ม่ันในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มคี ณุ ธรรมจริยธรรมและคา่ นยิ มที่เหมาะสม สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ ผลการเรียนรู้ 1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเสียงในภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง 2. มคี วามรูค้ วามเข้าใจไตรยางคไ์ ด้อยา่ งถูกต้อง 3. มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถวิเคราะหอ์ กั ษรควบ อักษรนำ คำเปน็ คำตายได้ 4. ศึกษาและวิเคราะหช์ นดิ และหน้าทข่ี องคำชนดิ ต่าง ๆ ได้ 5. ศกึ ษาและวิเคราะห์ประโยคชนิดต่าง ๆ และสามารถแตง่ ประโยค รวมทัง้ หมด ๕ ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวีธาภิเศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หนา้ ที่ 166
รหสั วชิ า ท30214 โครงสร้างรายวิชา ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ภาคเรียนที่1,2 รายวิชา ภาษาไทยสรา้ งสรรค์ เวลา 40 ช่วั โมง ท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั (ชว่ั โมง) คะแนน เรียนรู/้ 5 10 ตัวชีว้ ัด 1 เปดิ ใจฟังเสยี ง ท ๓.๑ ความเข้าใจเสยี งในภาษาไทยได้อยา่ ง ถกู ต้อง 2 สามชนั้ หรรษา ท ๔.๑ ความเข้าใจไตรยางคไ์ ด้อย่างถูกต้อง 5 10 3 อกั ษรควบ 8 10 ท ๔.๑ สามารถวเิ คราะหอ์ ักษรควบ อักษรนำ อักษรนำ คำเปน็ คำเปน็ คำตายได้ 2 20 9 10 4 คำ ๆ สอบกลางภาค ท ๔.๑ วิเคราะหช์ นิดและหน้าทข่ี องคำชนดิ 9 20 5 คิดได้คดิ เป็น ต่าง ๆ ได้ 2 20 40 100 ท ๔.๑ วิเคราะหป์ ระโยคชนิดต่าง ๆ และ สามารถแต่งประโยค สอบปลายภาค รวม เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หน้าท่ี 167
รหสั วิชา ท30215 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ภาคเรยี นท่ี1,2 รายวิชา การวเิ คราะหว์ รรณกรรม เวลา 40 ช่ัวโมง ฝึกการอ่านวิเคราะห์วรรณกรรมด้วยการแยกองค์ประกอบของเรื่อง การดำเนินเรื่อง ตัวละคร ความขัดแย้ง ฉาก บทสนทนา มุมมองของเรื่อง แก่นเร่ืองและการใช้ภาษา เพ่ือตระหนักถึงคุณค่าของ วรรณกรรม ความงดงามทางวรรณศลิ ปแ์ ละเกดิ นิสัยรกั การอ่านและการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ โดยใชค้ วามสามารถในการอ่าน การคิดวิเคราะห์และความสามารถในคิดเชงิ บรู ณาการความรู้และ ประสบการณ์ เพอ่ื ให้สามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งมีคณุ ภาพ ผลการเรียนรู้ 1. บอกแนวทางในการศึกษาวรรณกรรมได้ 2. แยกองคป์ ระกอบของวรรณกรรมได้ 3. วิเคราะห์ตวั ละครในวรรณกรรมได้ 4. บอกแกน่ เรือ่ งของวรรณกรรมได้ 5. วิจารณค์ ณุ ค่าทางวรรณศลิ ป์ในตัวบทวรรณกรรมท่กี ำหนดใหไ้ ด้ 6. เขยี นบทวเิ คราะหว์ รรณกรรมได้อยา่ งมหี ลกั การ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวีธาภเิ ศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หนา้ ท่ี 168
รหัสวชิ า ท30215 โครงสร้างรายวชิ า ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ภาคเรียนที่1,2 รายวชิ า การวเิ คราะหว์ รรณกรรม เวลา 40 ชว่ั โมง ท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก เรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน แนวทางศกึ ษา ขอ้ 1 การศึกษาวรรณกรรมคือการทำความเข้าใจ 6 5 1 วรรณกรรม เร่ืองที่อ่าน โดยเร่ิมจากการแยกประเภทของ วรรณกรรม ศึกษาธรรมชาติของวรรณกรรม ประเภทต่าง ๆ จุดมุ่งหมายในการแต่ง แล้ว แนวคดิ ตา่ ง ๆ ท่นี ำมาใชศ้ ึกษา องคป์ ระกอบของ ข้อ 1 องค์ประกอบของวรรณกรรมมีหลายอย่าง เช่น 6 5 2 วรรณกรรม ขอ้ 2 การดำเนินเรื่อง ตัวละคร ความขัดแย้ง ฉาก บทสนทนา มุมมองของเรื่อง แก่นเรื่องและการ ใช้ภาษา การดำเนนิ เรอ่ื ง ขอ้ 2 การดำเนินเร่ือง หรือ Plot คือ การท่ีผู้แต่ง 6 10 3 สมมุติเหตุการณ์ขึ้นมา โดยแบ่งเป็น ต้นตอน ตอนกลางและตอนจบ ทำให้ผู้อ่านทราบว่าใคร ทำอะไรทีไ่ หนอยา่ งไร ตัวละคร ขอ้ 3 ตัวละคร คือ บุคคล สัตว์ หรือส่ิงของท่ีมีตัวตน 10 10 4 ในเร่ืองท่ีถูกกำหนดให้แสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ให้เร่ืองราวดำเนินไป โดยแบ่งเป็นหลายแบบ เช่น ตัวละครแบบกลม ตัวละครแบบแบน ตัว ละครแบบมีพัฒนาการ ตัวละครแบบไม่มี พฒั นาการ สอบกลางภาค 2 20 5 ความขดั แย้งและ ข้อ 2 ความขัดแย้งคือการสู้กับสิ่งใดส่ิงหนึ่งของตัว 6 5 ฉาก ละครใดตัวละครหนึ่งโดยเฉพาะหรืออาจเป็น หมู่คณะ ธรรมชาติรอบตัว หรือขัดแย้งภายใน จิตใจของตัวเอง ฉากคือ การกำหนดภูมิหลัง ของเหตกุ ารณซ์ ่งึ ต้องเกยี่ วขอ้ งกับหลาย ๆ ส่ิง มุมมองในการเล่า ขอ้ 2 มุมมองในการเล่าเร่ือง หรือ Point of View 6 5 6 เรื่อง คอื วิธีการเล่าเร่ืองผา่ นตวั ละคร มหี ลายวิธี เช่น เล่าด้วยสรรพนามบรุ ุษที่หนึ่ง การเล่าด้วยสรรพ นามบุรุษท่ีสอง การเล่าด้วยสรรพนามบุรุษที่ สาม การเล่าแบบกระแสสำนึก 7 แกน่ ของเรือ่ ง ข้อ 4 แก่นของเร่ือง หรือ Theme การแสดงของ 6 10 เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรงุ 2564) หนา้ ที่ 169
คิดเห็นเกี่ยวกับชีวิตผ่านวรรณกรรมทั้งเร่ือง เป็นข้อความท่ีผู้เขียนต้องการส่งผ่านถึงคนอ่าน โดยแก่นเรื่องท่ีดีจะทำให้วรรณกรรมน่าสนใจ และมคี วามลึกซง้ึ การวิจารณ์ ขอ้ 5 การวิจารณ์วรรณกรรม 10 10 8 วรรณกรรม ขอ้ 6 การวิจารณ์วรรณกรรมคือการกล่าวถึงคุณค่า ของวรรณ กรรมอ ย่างมี ห ลั กเกณ ฑ์ เผ ย วรรณ ศิลป์และข้อคิดท่ีซ่อนอยู่ในตัวบ ท วรรณกรรม สอบปลายภาค 2 20 รวม 40 100 เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 170
รหัสวิชา ท30216 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกิต ภาคเรียนท่1ี ,2 รายวิชา วรรณกรรมส่งิ แวดลอ้ ม เวลา 40 ชั่วโมง ศกึ ษาวรรณกรรมแนวสิ่งแวดล้อมหลากหลายรูปแบบ เช่น หนังสือสำหรับเด็ก บทกวี เร่ืองส้ัน นว นิยาย การ์ตูน ภาพยนตร์ และวิเคราะห์ วิจารณ์ ตามแนวทางวรรณกรรมวิจารณ์สิ่งแวดล้อมหรือการ วิจารณ์เชิงนิเวศ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสื่อสารและกระบวนการลงมือปฏิบัติในการจัดการ เรียนรู้ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับวรรณกรรมสิ่งแวดล้อม สามารถคิด วิเคราะห์ได้ถูกต้อง ตลอดจนตระหนักถึงความสำคัญสิ่งแวดล้อมที่ปรากฎในวรรณกรรมสิ่งสะท้อนถึงสิ่งแวดล้อมในสังคม อัน จะนำไปสูก่ ารอนุรกั ษแ์ ละพัฒนาส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชนและสงั คม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายของวรรณกรรมสิ่งแวดล้อมได้ 2. อธบิ ายประเภทของวรรณกรรมสิ่งแวดล้อมได้ 3. อธบิ ายแนวคดิ การวจิ ารณเ์ ชงิ นเิ วศได้ 4. วิเคราะห์ วิจารณ์ ตามแนวการวจิ ารณเ์ ชงิ นิเวศได้ 5. เขยี นวิเคราะห์ วจิ ารณ์ ตามแนวการวิจารณ์เชงิ นิเวศได้ 6. ตระหนักและเหน็ คณุ คา่ ของส่ิงแวดลอ้ มในชุมชนและสงั คม รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวีธาภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หนา้ ที่ 171
รหสั วิชา ท30216 โครงสรา้ งรายวชิ า ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ภาคเรียนที่1,2 รายวชิ า วรรณกรรมสงิ่ แวดลอ้ ม เวลา 40 ชั่วโมง ที่ หนว่ ยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั (คาบ) (คะแนน) เรยี นรู้ท่ี ทคี่ าดหวัง 11 ขอ้ 1 ความหมายของวรรณกรรมส่งิ แวดล้อม 25 วรรณกรรมสง่ิ แวดลอ้ มคืองานเขียนท้ัง บนั เทิงคดีและสารคดีทีม่ เี น้ือหาเก่ียวกบั สิ่งแวดลอ้ ม ปัญหาเชิงนเิ วศ และการรณรงค์ดา้ นสง่ิ แวดล้อม ต่าง ๆ 22 ข้อ 2 ประเภทของวรรณกรรมสิ่งแวดลอ้ ม 25 วรรณกรรมสิง่ แวดลอ้ มมีหลายประเภทและ หลายรูปแบบ เชน่ หนังสือภาพสำหรับเดก็ วรรณกรรมสำหรับเด็ก นวนิยาย การต์ ูนและ ภาพยนตร์ 33 ขอ้ 2 หนังสอื สำหรับเด็กและวรรณกรรมสำหรบั เดก็ 4 5 เกี่ยวกบั สิ่งแวดล้อม หนังสือสำหรับเด็กเสนอเร่ืองสิ่งแวดล้อม ผ่านทางภาพ ตัวละครเกี่ยวกับสัตว์ โดยส่ือสาร ตรงไปตรงมา ส่วนวรรณกรรมเยาวชาอาจจะเสนอ ประเด็นเรื่องส่ิงแวดล้อมแบบอ้อมๆ โดยเสนอผ่าน ความสมั พนั ธ์ระหว่างตวั ละครและธรรมชาตริ อบตัว 44 ข้อ 2 บทกวี เรื่องสัน้ นวนิยายเกย่ี วกบั สิ่งแวดล้อม 45 บทกวี เรอ่ื งสั้น และนวนิยายปจั จุบันไดเ้ สนอ ภาพเกี่ยวกับปัญหาทางส่ิงแวดล้อมมากมาย โดย อาจเสนออย่างตรงไปตรงมา หรืออ้อม ๆ โดยใช้ ประเด็นเรื่องความเป็นเมือง และระบบทุนนิยมซึ่ง ส่งผลกระทบตอ่ ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวธี าภิเศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หน้าที่ 172
55 ข้อ 3 ทฤษฎกี ารวจิ ารณว์ รรณกรรมเบ้อื งต้น 6 10 66 ศึกษาเก่ียวกับหลักในการวิจารณ์วรรณกรรม 2 20 77 พื้นฐาน เช่น องค์ประกอบของวรรณกรรม แนวคิด 4 5 88 ของเรื่อง แก่นเรื่อง ตัวละคร ฉาก มุมมองในการ 99 เลา่ เรอื่ ง 5 สอบกลางภาค 10 10 ข้อ 3 ทฤษฎวี จิ ารณ์เชิงนิเวศในตา่ งประเทศ 20 ศึกษาเก่ียวกับความเป็นมาและแนวคิดของ 100 การวิจารณ์วรรณกรรมผา่ นแว่นสเี ขยี วหรือการมอง ตัวบทวรรณกรรมในฐานะองค์ประกอบหนึ่งของ โลกธรรมชาติตามแนวทางของการวิจารณ์เชงิ นิเวศ ข้อ 4 ทฤษฎีวจิ ารณ์เชิงนิเวศในประเทศไทย 6 ศึกษาแนวคดิ การวจิ ารณ์เชิงนเิ วศใน 4 ประเทศไทยโดยการประยุกต์ใช้ในตวั บท 4 วรรณกรรมไทย เช่น งานของ ดร.ธัญญา สงั ข 2 พนั ธานนท์ ดารนิ ทร์ ประดิษฐทัศนยี ์ 40 ขอ้ 5 การเขยี นวิจารณว์ รรรกรรมเชงิ นิเวศ ฝกึ ปฎบิ ัติการเขยี นงานวิจารณด์ ว้ ยทฤษฎี วิจารณเ์ ชิงนเิ วศเบอื้ งตน้ ตามหลักของการวจิ ารณ์ วรรณกรรม ขอ้ 1-6 เสวนาวรรณกรรมสิ่งแวดลอ้ ม จัดการเสวนาปญั หาสงิ่ แวดล้อมผ่าน วรรณกรรมตามหลกั วิชาเพ่อื ประมวลความรจู้ ากสง่ิ ทไี่ ดศ้ ึกษา สอบปลายภาค รวม เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หนา้ ที่ 173
รหัสวชิ า ท30217 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรยี นที1่ ,2 รายวิชา การเขียนเชิงสร้างสรรค์ เวลา 40 ชั่วโมง ฝึกทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์เก่ียวกับงานเขียนประเภทร้อยแก้ว เช่นบทความสั้นๆ เป็นต้น และงานเขียนประเภทร้อยกรอง เช่น บทกวีต่าง ๆ เป็นต้น รู้จักการเลอื กใช้คำ สำนวน และโวหารจากการ เขียนเชิงบรรยาย เชิงพรรณนา ใช้ถ้อยคำสละสลวยก่อให้เกิดความเพลิดเพลินในงานเขียน สามารถให้แง่ คดิ ในการเขียนเชงิ สรา้ งสรรค์ รู้จกั ใชจ้ ิตนาการในเชงิ สร้างสรรคใ์ นการสรา้ งผลงาน โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ การลงมือปฏิบัติ และเทคโนโลยีในการศึกษา ค้นคว้าในกระบวนการทำงาน เพ่ือถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ออกมาเป็นงานเขียน โดยเป็นผลงานของ ตนเองได้ ผลการเรียนรู้ 1. จำแนกงานเขียนประเภทร้อยแกว้ และอธบิ ายงานลกั ษณะของงานเขยี นแต่ละชนดิ ได้ 2. จำแนกงานเขยี นประเภทร้อยกรอง และอธิบายฉันทลกั ษณ์ของรอ้ ยกรองแตล่ ะชนดิ ได้ 3. ใช้คำได้ถกู ตอ้ งตรงตามความหมาย 4. มีความรู้ความเข้าใจเร่ืองสำนวน และโวหารการเขยี น ภาพพจน์ 5. เขียนสร้างสรรค์งานเขียนประเภทร้อยแกว้ ตามความถนัดและหวั ข้อท่ีกำหนดได้ 6. เขยี นสรา้ งสรรค์งานเขียนประเภทรอ้ ยกรองตามความถนัดและหวั ข้อที่กำหนดได้ 7. นำความรู้ไปใช้ในการวิเคราะหง์ านเขยี นประเภทร้อยแกว้ และรอ้ ยกรองได้ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 174
รหสั วชิ า ท30217 โครงสรา้ งรายวชิ า ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกิต ภาคเรียนที่1,2 รายวชิ า การเขียนเชงิ สรา้ งสรรค์ เวลา 40 ชัว่ โมง ท่ี หน่วยการ ผลการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก เรยี นรทู้ ่ี เรียนร้ทู ี่ (ชั่วโมง) (คะแนน) 1 1 ข้อ 3 ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกับการเขียน ข้อ 4 เปน็ การความรพู้ ื้นฐานเก่ียวกับองคป์ ระกอบ 3 5 สำคญั ตา่ งๆในการเขยี น ทง้ั ลักษณะของเน้ือหา การใชภ้ าษา การสะกดคำ การลำดบั ใจความสำคัญ รูปแบบของการเขียนและส่วนประกอบอนื่ ๆทีช่ ว่ ย พฒั นางานเขียนใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ 2 2 ข้อ 3 การเขียนบรรยายและเขียนพรรณนาเชงิ สร้างสรรค์ 5 10 การเขียนบรรยาย เป็นการเขยี นถึง เหตุการณ์ท่ีเกดิ ข้ึนอยโู่ ดยการแสดงให้เห็นสถานท่ี เกดิ เหตุ สภาพแวดลอ้ ม บุคคล ตลอดจนผลท่ี เกดิ ข้ึนจากเหตกุ ารณน์ น้ั ๆการเขยี นพรรณนา คือ การเขียนบรรยายอยา่ งละเอียดและประณตี โดย มุง่ เนน้ ให้ผ้อู ่านเกิดความรูส้ ึกทางอารมณ์ เกิดมโน ภาพ 3 3 ขอ้ 3 การเขยี นอธบิ ายและมารยาทในการเขยี น การอธบิ ายเปน็ สิ่งท่ีเกิดขนึ้ เสมอในการ 25 ส่อื สาร โดยมีจดุ ประสงค์เพ่ืออธิบายให้มี รายละเอียดทช่ี ดั เจนยิ่งข้นึ การเขยี นอธิบายจึงเป็น การเขียนเพือ่ ไขความใหค้ วามหมายกระจ่าง ผูเ้ ขียนจึงต้องร้จู ักเลือกสรรถ้อยคำทจ่ี ะทำใหผ้ ้อู ่าน เขา้ ใจสารไดต้ รงตามจุดประสงค์ 4 4 ขอ้ 2 การเขยี นแสดงความคิดเห็นอย่างสรา้ งสรรค์ เป็นกระบวนการถ่ายทอดความรู้ ความคิด 3 10 20 ความรู้สึก ความคิดเห็นของผู้ส่งสารไปให้ผู้รับสาร เข้าใจทำได้ กระบวนการเขียนที่สามารถทำให้ผู้รับ สารเช่ือถือต้องมีข้อมูลหลักฐาน และเหตุผล ประกอบอย่างชัดเจน ผู้เรยี นจงึ ต้องหมั่นฝกึ ฝนการ เขยี นอยเู่ สมอเพื่อพัฒนาตนเอง สอบกลางภาคเรียน 2 เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวีธาภิเศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หน้าที่ 175
5 5 ขอ้ 2 การเขียนเรือ่ งส้นั 10 ขอ้ 5 เรือ่ งส้นั มอี งค์ประกอบที่สำคญั ท้งั การวาง 6 โครงเรอ่ื ง เนื้อเรื่อง ตัวละคร ฉากและบรรยากาศ การเขียนเร่ืองสัน้ จงึ ต้องเขยี นให้มคี วามนา่ สนใจ และมีข้อคิด คณุ คา่ คตสิ อนใจ 6 6 ข้อ 1 หลกั การแตง่ บทร้อยกรอง ข้อ 6 บทร้อยกรอง เป็นคำประพนั ธ์ทีแ่ ต่งขนึ้ 6 10 ตามลักษณะบังคับของฉนั ทลักษณ์ บทร้อยกรอง ของไทย ได้แก่ โคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน รา่ ย ฯลฯ การแต่งคำประพนั ธ์เปน็ ภูมิปัญญา และเปน็ มรดก ทางภาษาของชาติที่คนไทยควรอนรุ ักษ์ด้วยความ ภมู ิใจ 7 7 ข้อ 7 การพจิ ารณาคุณคา่ งานเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ งานเขียนแตล่ ะชนิดมีคณุ ค่าควรแก่การ 6 10 อ่านและการพิจารณาในหลายดา้ น คณุ ค่าทาง อารมณ์ คณุ ค่าดา้ นสติปัญญา สงั คม การเมือง จินตนาการ จรยิ ธรรม และภาษา ซงึ่ สามารถนำ คณุ ค่าเหลา่ น้ีมาใชพ้ ัฒนางานเขียนตนเอง สอบปลายภาค 2 20 รวม 40 100 เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรียนทวธี าภเิ ศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หน้าท่ี 176
รหัสวชิ า ท30218 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรียนที1่ ,2 รายวชิ า การทำหนังสอื เลม่ เล็ก เวลา 40 ชัว่ โมง ศึกษาและฝึกทกั ษะการอ่านหนงั สือประเภทต่างๆ การบันทึกข้อมูลจากการอ่าน หนงั สือเล่มเลก็ การสบื ค้นข้อมลู สารนิเทศ ความหมายและความสำคัญของรายงาน วัตถปุ ระสงค์ของรายงานทางวิชาการ ประเภทของรายงานทางวชิ าการ ส่วนประกอบของการเขียนรายงานการคน้ ควา้ ข้ันตอนการเขียนรายงาน การค้นควา้ การเขยี นอ้างองิ ในรายงานและการนำเสนอข้อมูลดว้ ยปากเปล่า และเลือกใช้สื่อโสตทศั น์หรอื โปรแกรมสำเรจ็ รปู นำเสนอข้อมลู โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการคิด ทักษะการส่ือสาร กระบวนการกล่มุ ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา ทกั ษะกระบวนการทำงาน ทักษะการทาํ งานร่วมกัน ทักษะแสวงหาความรู้ เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเทคนคิ การอา่ นหนังสือประเภทต่างๆ บันทกึ ข้อมลู จากการอ่าน ทักษะ การทำหนังสือเล่มเลก็ ทักษะกระบวนการสืบค้นข้อมูลสารนิเทศ ทกั ษะกระบวนการเขียนรายงานจาก การศกึ ษาค้นควา้ ได้อย่างถูกต้อง และการเลือกใช้สอื่ โสตทัศน์หรอื โปรแกรมสำเร็จรปู นำเสนอข้อมูลได้อย่าง เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. มีทักษะในการอ่านหนังสือ 2. เขยี นบันทึกข้อมูลจากการอา่ น 3. สามารถทำหนงั สอื เล่มเลก็ ได้ 4. สามารถสบื ค้นข้อมูล สารนิเทศทีต่ ้องการได้อยา่ งถกู ต้อง 5. สามารถเขียนรายงานจากการคน้ คว้าทมี่ สี ่วนประกอบถูกต้องครบถว้ นตามมาตรฐาน 6. เขยี นอ้างอิงเขยี นบรรณานุกรม ในการรายงานจากการค้นควา้ ได้อย่างถูกตอ้ งตามรปู แบบ 7. สามารถนำเสนอ ข้อมูลดว้ ยปากเปล่าได้ 8. เลือกใชส้ ่ือโสตทัศน์หรือโปรแกรมสำเร็จรูปนำเสนอข้อมูลได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งหมด 8 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวีธาภเิ ศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หนา้ ที่ 177
รหัสวชิ า ท30218 โครงสรา้ งรายวิชา ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรยี นที่1,2 รายวิชา การทำหนงั สอื เล่มเลก็ เวลา 40 ชวั่ โมง ท่ี ชอื่ หน่วยการ ผลการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก เรียนรู้ เรียนรู้ (ชว่ั โมง) (คะแนน) 1 ความหมายของ ขอ้ 1 ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ก า ร อ่ า น 6 10 การอา่ น ความสำคัญของของการอ่าน ประโยชน์ของการอ่านจุดมุ่งหมาย 6 10 2 การบนั ทึกการ ของการอ่าน เท คนิ คการอ่าน อา่ น หนังสือและสื่อต่างๆ วิธีการอ่านที่ 6 15 เหมาะสม 3 หนังสือเล่มเล็ก 2 20 ขอ้ 2 ความหมายของการบันทึกการอ่าน 10 10 4 การสบื คน้ กลวิธใี นการบันทึกการอ่าน วิธีการ สารนิเทศ บนั ทกึ ข้อมลู จากการอ่าน 8 15 ข้อคิดเกยี่ วกับการบันทึกจากการ 2 20 5 การนำเสนอ อ่าน 40 100 ข้อมูล ขอ้ 3 ความหมายของหนงั สือเล่มเล็ก สว่ นประกอบของหนังสอื เล่มเลก็ การเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมเน้ือหา การพมิ พ์ ออกทางเคร่อื งพิมพ์ วาดภาพเองหรือทำเป็นหนังสือ การ์ตนู การเข้าเล่ม สอบกลางภาค ข้อ 4 การสบื ค้นสารนเิ ทศระบบห้องสมุด ข้อ 5 อัตโนมตั ิ โรงเรยี นทวธี าภเิ ศกบาง ข้อ 8 ขนุ เทยี น การสืบค้นขอ้ มลู สารนเิ ทศ สบื ค้นบนเครือข่าย อนิ เทอร์เน็ต ข้อ 6 การนำเสนอข้อมูลดว้ ยปากเปล่าได้ ข้อ 7 การนำเสนอข้อมูลโดยใชส้ อ่ื โสต ข้อ 8 ทศั น์หรือโปรแกรมสำเรจ็ รปู สอบปลายภาค รวม เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภเิ ศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หน้าท่ี 178
รหสั วิชา ท30219 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ภาคเรียนท1ี่ ,2 รายวชิ า การแตง่ คำประพนั ธ์ เวลา 40 ชว่ั โมง ศึกษาวเิ คราะห์และฝึกทักษะเกี่ยวกับข้อบงั คับของคำประพันธ์ประเภทตา่ งๆ ฝึกแต่งคำประพนั ธ์ ประเภทโคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน ร่าย โดยคำนงึ ถึงลักษณะบังคบั ความไพเราะ เนือ้ หา สาระความคิด สร้างสรรค์ เพอ่ื ใหม้ คี วามรูเ้ ก่ียวกบั ฉันทลกั ษณ์ สามารถแต่งคำประพนั ธป์ ระเภทต่างๆได้เหน็ คุณค่าของงาน ประพันธป์ ระเภทรอ้ ยกรอง โดยใชก้ ระบวนการเรยี นภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสรา้ งความตระหนักกระบวนการกลมุ่ กระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจ กระบวนการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และเสรมิ สร้างคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ เกิดทักษะการประพันธ์ ในการถา่ ยทอดความคิดความรู้สกึ ให้ถกู ต้องตาม ธรรมเนียมนยิ ม เกิดความชำนาญในการประพันธ์ตามรูปแบบตา่ งๆ สาระท่ี 4 หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของร้อยกรองได้ 2. อธิบายความรู้เก่ียวกับประเภทของบทรอ้ ยกรองและลกั ษณะบังคบั ของบทร้อยกรองประเภท ต่างๆได้ 3. อธิบายและประเมินคา่ บทร้อยกรองในดา้ นความงามจากตวั อยา่ งทกี่ ำหนดให้ได้ 4. อธิบายขอ้ บงั คับประเภทกลอนและสามารถแตง่ กลอนประเภทตา่ งๆได้ 5. อธบิ ายลักษณะข้อบังคับของโคลงและสามารถแต่งโคลงตามที่ตนถนัดได้ 6. อธิบายข้อบังคับของกาพย์แตล่ ะประเภทและสามารถแต่งกาพย์ตามหวั ข้อท่ีถนดั ได้ ๗. อธบิ ายขอ้ บงั คับของรา่ ยและสามารถแตง่ รา่ ยตามที่ตนถนดั ได้ 7. เข้าใจเก่ียวกบั คำประพนั ธป์ ระเภทฉนั ท์และสามารถแต่งฉนั ทต์ ามหัวข้อท่ีกำหนด รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรียนทวีธาภเิ ศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หน้าท่ี 179
รหัสวิชา ท30219 โครงสร้างรายวชิ า ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี1,2 รายวชิ า การแตง่ คำประพนั ธ์ เวลา 40 ชัว่ โมง ที่ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการเรียนร้/ู สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั เรียนรู้ ตัวช้วี ัด (ช่วั โมง) คะแนน 1 ร้อยกรองร้อย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจ บอกความหมายของร้อย 5 10 รัก ธรรมชาตขิ องภาษาและ กรองแบบต่าง ๆ ได้ หลักภาษาไทย การ เปลย่ี นแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภมู ิ ปญั ญาทางภาษา และ รักษาภาษาไทยไว้เป็น สมบตั ิของชาติ 2 รู้หลกั รกั ษ์ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจ อธิบายความร้เู กี่ยวกับ 5 5 กลอน ธรรมชาติของภาษาและ ประเภทของบทร้อยกรอง หลกั ภาษาไทย การ และลกั ษณะบังคบั เปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิ ปัญญาทางภาษา และ รักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ 3 สอนศลิ ปก์ ินใจ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจ อธบิ ายและประเมินค่าบท 4 5 ธรรมชาติของภาษาและ รอ้ ยกรองในด้านความงาม หลกั ภาษาไทย การ จากตวั อยา่ งทีก่ ำหนดให้ เปล่ยี นแปลงของภาษา ได้ และพลงั ของภาษา ภูมิ ปญั ญาทางภาษา และ รกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ 4 หวั ใจร้อยกรอง มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจ อธบิ ายข้อบงั คบั ประเภท 4 10 ธรรมชาติของภาษาและ กลอนและสามารถแต่ง หลักภาษาไทย การ กลอนประเภทต่างๆได้ เปลยี่ นแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิ ปัญญาทางภาษา และ รกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 180
สอบกลางภาค 2 20 6 10 5 มองผ่าน มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจ อธิบายลักษณะขอ้ บังคบั 4 10 หลกั การ ธรรมชาตขิ องภาษาและ ของโคลงและสามารถแต่ง 4 5 หลกั ภาษาไทย การ โคลงตามท่ีตนถนัดได้ 4 5 เปลีย่ นแปลงของภาษา ดี 2 20 และพลังของภาษา ภูมิ 40 100 ปัญญาทางภาษา และ รักษาภาษาไทยไวเ้ ป็น สมบตั ิของชาติ 6 แตง่ ตามถนัด มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจ อธิบายขอ้ บังคับของกาพย์ ธรรมชาติของภาษาและ แตล่ ะประเภทและ หลักภาษาไทย การ สามารถแตง่ กาพย์ตาม เปล่ียนแปลงของภาษา หัวขอ้ ทถ่ี นัดได้ และพลงั ของภาษา ภูมิ ปัญญาทางภาษา และ รักษาภาษาไทยไวเ้ ป็น สมบตั ิของชาติ 7 บังคับจัดสรร มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจ อธบิ ายขอ้ บังคบั ของร่าย ธรรมชาตขิ องภาษาและ และสามารถแตง่ ร่าย หลกั ภาษาไทย การ ตามท่ีตนถนัดได้ เปลีย่ นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิ ปญั ญาทางภาษา และ รกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ 8 รางวลั หัวใจ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจ มีความรูค้ วามเขา้ ใจ ธรรมชาติของภาษาและ เกีย่ วกับคำประพันธ์ หลักภาษาไทย การ ประเภทฉันท์และสามารถ เปลี่ยนแปลงของภาษา แต่งฉนั ท์ตามหัวขอ้ ท่ี และพลงั ของภาษา ภมู ิ กำหนดและตามท่ตี น ปญั ญาทางภาษา และ รกั ษาภาษาไทยไว้เป็น สมบตั ิของชาติ สอบปลายภาค รวม เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หน้าที่ 181
รหสั วชิ า ท30220 คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ภาคเรยี นท1่ี ,2 รายวิชา ววิ ฒั นการของภาษาไทย เวลา 40 ช่ัวโมง ศึกษาวิวัฒนการของภาษาไทย ประวัติความเป็นมาของภาษา ลักษณะทั่วไปของภาษา การ เปลยี่ นแปลงของภาษาเก่ียวกับเสยี ง คำ สำนวน ประโยคและความหมาย ตามทฤษฎีเชงิ ภาษาศาสตร์ โดย ใช้กระบวนการคิด กระบวนการส่ือสารและกระบวนการลงมือปฏิบัติในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมี ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับวิวัฒนาการของภาษาไทย ลักษณะของภาษาไทย สามารถสื่ อสารและใช้ ภาษาไทยได้ถูกต้อง ตลอดจนตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทย อันจะนำไปสู่การอนุรักษ์และพัฒนา ภาษาไทย ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความเปน็ มาของภาษาไทยได้ 2. อธบิ ายการเปลีย่ นแปลงของภาษาได้ 3. อธิบายการเปลีย่ นแปลงด้านเสียงในภาษาไทยได้ 4. อธบิ ายการเปล่ียนแปลงด้านคำในภาษาไทยได้ 5. อธบิ ายการเปลีย่ นแปลงด้านประโยคในภาษาไทยได้ 6. อธิบายการเปลยี่ นแปลงด้านความหมายและสำนวนได้ 7. นำความรู้ไปใช้วิเคราะหก์ ารใช้ภาษาได้ถูกตอ้ ง รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรับปรงุ 2564) หนา้ ท่ี 182
รหัสวิชา ท30220 โครงสรา้ งรายวชิ า ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกิต ภาคเรียนที่1,2 รายวิชา วิวัฒนาการของภาษาไทย เวลา 40 ชวั่ โมง ที่ ช่อื หน่วยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั เรยี นรู้ ขอ้ 1 (ชั่วโมง) คะแนน ขอ้ 2 ภ าษ าไท ย เป็ น ภ าษ าท่ี ใช้พู ดกัน ใน ความเปน็ มา ประเทศไทยและนอกประเทศไทย อยู่ใน 5 5 1 ของภาษาไทย ขอ้ 3 กลุ่มภาษาตระกูลภาษาไท มีลักษณะเป็น คำโดด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปคำเมื่อเข้า 5 10 2 การ ขอ้ 4 ประโยค เปลี่ยนแปลง ภาษาทุกภาษาย่อมมีการเปล่ียนแปลง 3 5 ของภาษา ขอ้ 5 หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงถือว่าเป็นภาษา ที่ตายแล้ว ปัจจัยในการเปล่ียนแปลงของ 5 10 การ ภาษา เชน่ ความแตกต่างของภาษาที่มอี ยู่ 3 เปลี่ยนแปลง ในสังคม สภาพทางจิตวิทยาของผู้พูด 2 20 การออกเสียงของผู้ใช้ภาษา คุณสมบัติ 5 10 ดา้ นเสยี ง ของภาษา การยืมคำต่างประเทศ การเปล่ียนแปลงด้านเสียง คือ เสียงใด 4 การ เสียงหนึ่งมีการเปล่ียนแปลงไปจากเดิม เปล่ยี นแปลง ซึ่งสามารถพิจารณาได้สองลักษณะ คือ ดา้ นคำ ระบบเสียง และการเปล่ียนเสียงในบางคำ โดยพ บ ได้ห ลายลัก ษ ณ ะ เช่น ก าร สอบกลางภาค กลมกลืนเสียง การผลักเสียง การสับที่ 5 การ ของเสียง การตัดเสียง การเพ่ิมเสียง การย้ายเสียงและการเปล่ยี นเสียง เปลย่ี นแปลง การเปล่ียนแปลงด้านคำ คือ คำใดคำหนี่ง ดา้ นประโยค มีการเป ล่ียน แป ลงไป จากเดิม มี 4 ลักษณะ คือ การเปลี่ยนแปลงหน้าท่ีของ คำ การเปล่ียนแปลงโครงสร้างของคำ ก ารเป ล่ี ย น แ ป ล งด้ าน รูป ค ำ ก าร เปลีย่ นแปลงด้านการสูญคำ การเปลี่ยนแปลงด้านประโยค คือ คำหรือ ข้อความใดข้อความหนึ่งในประโยคมีการ เปล่ียนแปลงโดยมีการเรียงลำดับที่ต่างไป จากเดมิ การเปลี่ยนแปลงประโยคปรากฏ การเปลี่ยนแปลงในลักษณะต่าง ๆ อาทิ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรียนทวีธาภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หนา้ ที่ 183
6 การ การสูญโครงสร้างประโยค การเรียงลำดับ 10 10 เปล่ียนแปลง คำในประโยคและการเรยี งลำดบั ประโยค ดา้ น 3 10 ความหมาย ข้อ 6 การเปลี่ยนแปลงด้านความหมาย คือ 2 20 และสำนวน ค ว า ม ห ม า ย เป ล่ี ย น แ ป ล ง ไป จ า ก เดิ ม 40 100 ปั จ จั ย ท่ี ท ำ ให้ เกิ ด ได้ แ ก่ ค ว า ม 7 การวิเคราะห์ เจรญิ ก้าวหน้าทางวทิ ยาการ ความเปรียบ ภาษา การใช้คำร่วมกัน ค ำต้ องห้ าม การ เป ลี่ ย น แ ป ล งด้ าน ส ำน ว น เป็ น ก าร เปลยี่ นแปลงสำนวนในลกั ษณะ ต่าง ๆ ท้ังด้านเสียง รูปสำนวน และ ความหมาย ขอ้ 7 การวิเคราะห์ภาษาด้วยแนวคิดทางด้าน วิวัฒนาการของภาษา ทำให้มองเห็น ค ว า ม ส ำ คั ญ ข อ งภ า ษ า ที่ ใช้ อ ยู่ ใน ชีวิตประจำวนั สอบปลายภาค รวม เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขนุ เทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หน้าที่ 184
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ รหัสวชิ า ท30221 รายวิชา หลักภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ เวลา 40 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท1่ี ,2 ศึกษาธรรมชาติของภาษา ลักษณะทั่วไปของภาษา เสียงในภาษา พยางค์คำเป็น คำตาย คำไทย และคำยืมภาษาต่างประเทศ พยางค์ คำ การสร้างคำ กลุ่มคำ ชนิดของคำ โครงสร้างประโยค เจตนาของ ประโยค ชนิดของประโยค ประโยคสมบรู ณ์ โดยใช้กระบวนการคดิ กระบวนการส่อื สารและกระบวนการลง มือปฏิบัติในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับหลักภาษาไทย สามารถสื่อสาร และใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง ตลอดจนตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทยและการใช้ภาษาให้ถูกต้องตาม หลักภาษาไทย อนั จะนำไปสู่การอนรุ กั ษ์และพฒั นาภาษาไทย ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายลักษณะทว่ั ไปของภาษา ธรรมชาตขิ องภาษาได้ 2. อธบิ ายระบบเสียงในภาษาไทยและพยางคค์ ำเป็น คำตายได้ 3. อธบิ ายลกั ษณะของคำไทยแท้และจำแนกคำยมื ภาษาต่างประเทศได้ 4. อธบิ ายหลักการสร้างคำในภาษาไทย 5. จำแนกชนิดของคำได้ 6. มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับพยางค์ กลมุ่ คำโครงสรา้ งประโยค เจตนาของประโยค ชนดิ ของ ประโยคและการใชป้ ระโยค 7. นำความรู้ไปใช้วเิ คราะหก์ ารใช้ภาษาได้ถูกตอ้ ง รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลกั สตู ร โรงเรียนทวธี าภเิ ศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หน้าที่ 185
รหัสวิชา ท30221 โครงสรา้ งรายวชิ า ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ภาคเรียนท1่ี ,2 รายวิชา หลกั ภาษาไทย เวลา 40 ช่ัวโมง ที่ หนว่ ยการ ผลการเรยี นรูท้ ่ี สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก เรียนรทู้ ี่ คาดหวงั (คาบ) (คะแนน) 11 ขอ้ 1 ลักษณะท่ัวไปของภาษาไทย 25 ภาษาไทยเปน็ ภาษาท่ีมลี ักษณะเฉพาะตวั คือเป็นภาษาตระกูลคำโดด มีมาตราตวั สะกด คำ ควบกล้ำ อกั ษรนำ ลกั ษณะของคำเป็นคำตาย ซึ่ง เปน็ ลกั ษณะของภาษาไทยเบ้ืองตน้ 22 ข้อ 1 ธรรมชาตขิ องภาษา 25 ธรรมชาตขิ องภาษามีการเปลย่ี นแปลงซึ่งมี หลายสาเหตุ ภาษามี 2 ความหมายคือความหมาย อยา่ งกวา้ ง และความหมายอยา่ งแคบ 33 ขอ้ 2 เสียงในภาษาไทย 8 10 เสียงของมนุษย์ท่ีเปล่งออกมาเพื่อใช้ในการ ส่ือสาร เสียงในภาษาไทยประกอบด้วย เสียง พยัญชนะ เสยี งสระ และเสยี งวรรณยกุ ต์ 44 ขอ้ 2 พยางคค์ ำเป็น – คำตาย 25 พยางค์คำตาย คอื พยางคท์ ี่สะกดด้วยมาตรา แม่ กก กบ กด และมา ก กา เสียงส้ัน พยางค์คำ เป็นคือพยางค์ที่สะกดด้วยมาตราแม่ กน กม เกย เกอว กง และแม่ ก กา เสยี งยาว 55 ข้อ 3 คำไทยแทแ้ ละคำยืมภาษาต่างประเทศ 4 10 ในภาษาไทยมีท้ังคำไทยแท้คือคำท่ีสะกดตรง ตามมาตราและคำท่ียืมจากภาษาต่างประเทศ ได้แก่ บาลี – สันกฤต เขมร จีน ญี่ปุ่น ชวา – มลายู ฯลฯ สอบกลางภาค 2 20 เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวธี าภเิ ศก บางขุนเทยี น พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หน้าที่ 186
66 ข้อ 4 การสร้างคำ 4 5 77 5 88 คำมูลซึ่งเป็นคำดั่งเดิมในภาษาไทยมีไม่เพียง 10 99 พอท่ีจะนำไปใช้ จึงจำเป็นต้องมีการสร้างคำใหม่ 5 20 ด้วยการประสมคำ ซ้อนคำ ซ้ำคำ สมาส-สนธิ เพื่อ 100 เพิ่มคำในการสอ่ื สารมากขึ้น ขอ้ 5 ชนิดของคำ 4 คำในภาษาไทยแบง่ ออกเปน็ 7 ชนิด ดงั นี้ คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา คำบุพบท คำสนั ธาน คำวิเศษณ์ และคำอุทาน ขอ้ 6 กลมุ่ คำและประโยค 8 การนำคำหลายคำมาเรียงกนั จะเกดิ เปน็ กลมุ่ คำท่ีมคี วามหมายแต่ยงั ไม่สมบรู ณ์เรารยี กว่า วลี ถา้ กลุ่มคำน้ันชดั เจนวา่ ใครทำอะไร ทำแกใ่ คร ทำให้เราเข้าใจชดั เจนยง่ิ ขน้ึ เรียกว่า ประโยค ขอ้ 7 การวเิ คราะห์การใชภ้ าษาใหถ้ กู ตอ้ ง 2 การตระหนกั ถึงความสำคญั ของภาษาไทย และการใช้ภาษาให้ถูกต้องตามหลกั ภาษาไทย อนั จะนำไปสู่การอนุรักษแ์ ละพฒั นาภาษาไทย สอบปลายภาค 2 รวม 40 เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรียนทวีธาภเิ ศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรงุ 2564) หน้าที่ 187
รหัสวชิ า ท30222 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี1,2 รายวิชา ภาษาไทยวิเคราะห์ เวลา 40 ช่วั โมง ศึกษาหลักการวิเคราะห์การใช้ภาษาไทยในงานเขียนประเภทวรรณคดี วรรณกรรม ข่าว บทความ บทเพลง และเรื่องสั้น โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการส่ือสารและกระบวนการลงมือปฏิบัติ ในการ จัดการเรียนรู้ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับหลักภาษาไทย สามารถสื่อสารและใช้ภาษาไทยได้ ถูกตอ้ ง ตลอดจนตระหนกั ถึงความสำคัญของภาษาไทยและการใชภ้ าษาให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย อันจะ นำไปส่กู ารอนุรักษแ์ ละพัฒนาภาษาไทย ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลกั การวิเคราะห์การใช้ภาษาไทยได้ 2. จำแนกงานเขยี นประเภทร้อยแก้วและรอ้ ยกรองได้ 3. วเิ คราะห์งานเขียนประเภทวรรณคดไี ด้ 4. วเิ คราะหง์ านเขยี นประเภทวรรณกรรมได้ 5. วิเคราะห์งานเขยี นประเภทข่าวได้ 6. วิเคราะหง์ านเขียนประเภทบทความได้ 7. วเิ คราะหง์ านเขยี นประเภทบทเพลงได้ 8. วิเคราะหง์ านเขยี นประเภทเรอ่ื งส้ันได้ 9. นำความรู้ไปใชว้ ิเคราะห์การใชภ้ าษาไดถ้ ูกต้อง รวมท้ังหมด 9 ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวธี าภเิ ศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หนา้ ท่ี 188
รหัสวชิ า ท30222 โครงสร้างรายวิชา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรยี นท่1ี ,2 รายวิชา ภาษาไทยวเิ คราะห์ เวลา 40 ช่วั โมง ที่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก การ ที่คาดหวัง (คาบ) (คะแนน) เรยี นร้ทู ่ี 11 ข้อ 1 หลกั การวเิ คราะห์ภาษาไทย 25 ภาษาไทยเปน็ ภาษาที่มเี อกลักษณ์ ซง่ึ สะท้อนผ่านงานเขียนแตล่ ะประเภท งานเขียนแต่ ละประเภทจะสะท้อนคุณคา่ ทางดา้ นเน้ือหา ดา้ น วรรณศลิ ป์ และดา้ นสงั คมวัฒนธรรม 22 ข้อ 2 การจำแนกประเภทของงานเขียนร้อยแก้วและ 2 5 รอ้ ยกรอง งานเขียนในภาษาไทยสามารถจำแนก ออกเปน็ งานเขยี นประเภทร้อยแกว้ และร้อยกรอง ซง่ึ มีความแตกตา่ งกัน 33 ข้อ 3 วิเคราะห์งานเขียนประเภทวรรณคดี 8 10 วรรณคดีถือเป็นงานเขียนท่ีเป็นมรดกทาง วฒั นธรรมของชาติไทยที่สืบทอดมาแต่โบราณ การ วิเคราะห์ภาษาจากวรรณคดีจะทำให้ได้เรียนรู้ เกีย่ วกับคุณค่าและความงานของภาษา 44 ข้อ 4 วิเคราะหง์ านเขยี นประเภทวรรณกรรม 4 10 วรรณ กรรมถือเป็นงานเขียนที่สะท้อน ความคิดของคนในสังคม การวิเคราะห์ภาษาจาก วรรณกรรมทำให้ไดเ้ รียนรู้เก่ียวการใช้ภาษาของคน ในสงั คมปัจจุบนั 55 ขอ้ 5 วิเคราะหง์ านเขยี นประเภทขา่ ว 25 ข่าวถือว่าเป็นงานเขียนที่มีการใช้ภาษา นา่ สนใจ โดยเฉพาะการพาดหวั ข่าวทม่ี ีการใช้ภาษา เพ่ือดึงดดู ความสนใจของผูอ้ า่ น เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขุนเทียน พ.ศ. 2553 (ปรบั ปรุง 2564) หน้าท่ี 189
สอบกลางภาค 2 20 5 66 ขอ้ 6 วเิ คราะห์งานเขียนประเภทบทความ 4 5 77 88 บทความเป็นงานเขียนที่สะท้อนความรู้ 10 99 ความคิดและการใช้ภาษาของผู้เขียน ท้ังทางด้าน 5 วิชาการ และบนั เทิง 20 100 ขอ้ 7 วเิ คราะห์งานเขียนประเภทบทเพลง 4 บทเพลง ถือเป็นงานเขียนทใ่ี ห้คุณคา่ ทางดา้ นวรรณศลิ ป์ และสะท้อนอารมณ์ ความรู้สึก ผ่านการใชถ้ อ้ ยคำภาษา ทำให้ผฟู้ งั เกดิ ความรูส้ กึ รว่ ม ข้อ 8 วเิ คราะห์งานเขยี นประเภทเรอ่ื งส้นั 8 เร่ืองสัน้ เปน็ งานเขยี นทม่ี คี วามน่าสนใจ เรอื่ งสั้นหลายเรอื่ งได้รบั รางวัลกวีซีไรต์ เพราะมี ความโดดเดน่ ในดา้ นของการนำเสนอ และการใช้ ภาษาถา่ ยทอดเร่ืองราว ข้อ 9 การวิเคราะหก์ ารใช้ภาษาให้ถูกตอ้ ง 2 การตระหนักถึงความสำคญั ของภาษาไทย และการใชภ้ าษาใหถ้ ูกต้องตามหลกั ภาษาไทย อนั จะนำไปสู่การอนุรักษ์และพัฒนาภาษาไทย สอบปลายภาค 2 รวม 40 เอกสารประกอบหลักสตู ร โรงเรยี นทวธี าภิเศก บางขนุ เทยี น พ.ศ. 2553 (ปรับปรุง 2564) หน้าที่ 190
โรงเรยนทวธาภิเศกบางขุนเทียน สำนักงานเขตพืนทีการศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานครเขต๑ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192