นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สงั คม 32 ตาราง 6 แสดงกระบวนท่าและการใช้พืน้ ทีข่ องศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ โพชฌงคปริตร ลำดบั ชว่ งเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ ้นื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย ช่วงที่ 1 โควดิ 19 นักแสดง 1 01.40 – อย่ใู น ตำแหน่ง C 02.04 มีอีแร้งมากนิ ผู้คนที่ เสยี ชีวิตจาก โรคห่า ลำดบั ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ น้ื ที่ในการแสดง อธิบาย ช่วงที่ 1 โควดิ 19 นักแสดง 2 02.09 – อยูใ่ น ตำแหนง่ 02.34 DRC ปฏิบัติ ท่าทางการ ป้องกนั ตนเองจาก สารเคมี
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 33 ลำดบั ชว่ งเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ ้นื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 1 โควดิ 19 นักแสดง 3 01.11 - อยูใ่ น 01.35 ตำแหน่ง UC ทำภาพ ลำดับ ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ ้นื ที่ในการแสดง ประกอบ ชว่ งที่ 2 โพชฌงคปรติ ร สร้าง สอ่ื ถึง ความกลัว 4 06.13 – ความสับสบ 06.40 ที่รุมเร้า ผู้คน อธิบาย นักแสดงอยู่ ในตำแหน่ง DL ทำภาพ ประกอบ สร้าง การทำ สมาธโิ ดย การระลกึ และยึด หลักธรรม ทางพระ พทุ ธ ศาสนา
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ ังคม 34 ลำดับ ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ ้ืนทีใ่ นการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 2 โพชฌงคปรติ ร นกั แสดง 5 06.53 – อยตู่ ำแหน่ง RC ,UC ,UL 07.02 ลักษณะ แถวเฉียง ปฏิบตั ทิ ่ารำ และให้มี ช่องทางวิ่ง ตรงกลาง ลำดับ ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใช้พน้ื ที่ในการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 2 โพชฌงคปรติ ร นักแสดง 6 08.44 - อยู่ใน ตำแหน่ง C 08.58 ทำท่า ประกอบ สร้างเปน็ ทา่ รำครึ่ง วงกลม
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สังคม 35 ลำดับ ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ ้นื ที่ในการแสดง อธิบาย ช่วงที่ 3 ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) นกั แสดงอยู่ 7 09.14 – ในตำแหนง่ UC,UL,ULC 09.26 ทำท่า ประกอบ สร้างปน็ การ จบั มือกัน ลำดับ ชว่ งเวลา กระบวนท่าและการใชพ้ ้นื ที่ในการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 3 ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) นกั แสดง 8 09.30 – 4 คนอยู่ ตำแหน่ง UR 09.48 ทำท่า ทางการใส่ หน้ากาก อนามัย และนักแสดง 6 คนอยู่ ตำแหน่ง DL ทำท่า ทางการใส่ หน้ากาก อนามัย
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สู่สังคม 36 บทสรุปและข้อเสนอแนะ - บทสรุป ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ โพชฌงคปริตร มีวัตถปุ ระสงคข์ องการสร้างสรรค์ 1. เพื่อ นำบทสวดมนต์มาสร้างสรรค์การแสดง 2. เพือ่ เผยแพร่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา 3. เพื่อนำการแสดงไปต่อยอดเป็นสื่อการสอนให้กับเยาวชน โดยกำหนดการแสดงออกเป็น 3 ชว่ ง คือ ช่วงที่ 1 โควิด19 กล่าวถึง โรคโควิด19 ที่ในปัจจุบันเปน็ ผลกระทบกบั ผู้คนทวั่ โลก แบ่ง ออกเปน็ 3 ความเชื่อ คือ ความเชือ่ เรื่องโรคห่า การทำสงครามเคมี และโรคระบาดในปัจจุบัน ทำให้เกิดความยากลำบากในการใช้ชีวิต เกิดความสับสนวุ่นวาย ช่วงที่ 2 โพชฌงคปริตร กลา่ วถึง สงั คมไทยเป็นสงั คมพุทธศาสนา จึงอาราธนา นำบท “โพชฌงคปริตร” สวดเพื่อให้ ผู้คนเกิดสติ ช่วงที่ 3 ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) กล่าวถึง การมีสติในการป้องกันตนเองด้วยวิธี ปฏิบัติ และการจัดการ เพื่อรับมือกับสถานการณ์โรคระบาด และอยู่กับโรคระบาดนี้อย่าง ปลอดภัย ควบคู่กับการใช้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา เป็นหลักในการดำเนินชีวิต ตอ่ ไป ผู้สร้างสรรคไ์ ด้กำหนดวิธกี ารดำเนนิ งานสร้างสรรคก์ ารแสดงเปน็ 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นวางแผน โดยผู้สร้างสรรค์ประชุมกับกรรมการภายในเพื่อรับฟังหัวข้อภายใต้ แนวคิดและรายละเอียดในการสอบรูปเล่มศิลปะการแสดงนิพนธ์ ขั้นตอนที่ 2 ขั้นเตรียมการ ประกอบไปด้วย กำหนดหัวข้อศิลปะการแสดงนิพนธ์ การศึกษาข้อมูลหัวข้อศิลปะการแสดง นิพนธ์ และ เสนอหัวข้อศิลปะการแสดงนิพนธ์ ขั้นตอนที่ 3 ขั้นดำเนินการ สามารถแบง่ ออกได้ 11 ลำดบั คือ 1) ศึกษาหาข้อมลู ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเตมิ เพื่อนำข้อมูลมาใส่ในรปู เลม่ 2) ศึกษาขอ้ มูลที่ เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและออกแบบการแสดงและองคป์ ระกอบการแสดงเพื่อนำเสนอสอบ 3) สอบ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ รอบที่1 30% 4) ฝึกซ้อมการแสดงชุดที่ 1 - 4 พร้อมกับพัฒนางาน ปรับปรุง และแก้ไขศิลปะการแสดงนิพนธ์ 5) สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ รอบที่ 2 50% 6) ฝึกซอ้ มการแสดงชุดท่ี 1 - 4 พร้อมกบั พฒั นางาน ปรับปรุง และแก้ไขศิลปะการแสดงนิพนธ์ 7) สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ รอบที่ 3 70-90% 8) ฝึกซ้อมการแสดงชุดที่ 1 - 4 พร้อมกับ พัฒนางาน ปรับปรุง และแก้ไขศิลปะการแสดงนิพนธ์ 9) บันทึก VDO การแสดงชุดที่ 1 – 4 10) สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์รอบที่4 100% 11) สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ และในลำดับ สุดท้ายเป็นข้ันตอนการประเมินผล โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการทั้งภายในและภายนอกตรวจ รูปเล่มศิลปะการแสดงนิพนธ์ โดยพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานชุด โพชฌงคปริตร ได้รับ คำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษาและคณะกรรมการภายใน โดยในวันที่ 6 กันยายน 2564 รอบ
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สู่สงั คม 37 50% ผู้สร้างสรรค์ได้รบั การแนะนำให้ปรับปรุงการแสดงในช่วงที่ 1 คือกระบวนท่าของนักแสดง ยังไม่ชัด ควรปรับให้มีการแสดงอาการขอโควิดให้ชัดขึ้น ช่วงที่ 2 ควรเพิ่มกระบวนทา่ และการ ประกอบสร้างให้เข้าใจมากขึน้ ในวันที่ 27 กันยายน 2564 รอบ 70-90% ช่วงที่ 1 มีกระบวนท่า และการเล่าเรื่องที่ชัดเจนขึ้น ช่วงที่ 2 ควรปรับแก้ท่ารำ และการทรงตัวของการประกอบสร้าง ของนักแสดง ในวันที่ 11 ตุลาคม 2564 คณะกรรมภายนอก ช่วงที่ 1 มีการแยกภาพของการ แสดงที่ชดั เจน ช่วงที่ 2 การประกอบสร้างสวยงาม ช่วงที่ 3 มีระยะเวลาสั้นไป ศิลปะการแสดง นิพนธ์สร้างสรรคช์ ุด โพชฌงคปริตร เป็นผลงานสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิดศิลปกรรมสร้างสรรค์ สู่สงั คม โดยผู้สร้างสรรค์ได้กำหนดองค์ประกอบสำหรบั การแสดงเป็น 7 องค์ประกอบ ดงั นี้ 1. ดนตรีประกอบการแสดง ชุดโพชฌงคปริตร เป็นดนตรีที่ผู้สร้างสรรค์ได้นำ ดนตรีทีม่ อี ยแู่ ล้วมาสร้างสรรค์เปน็ การแสดง เพื่อให้อารมณ์ของดนตรีสอดคล้องกบั รูปแบบการ แสดง ผู้สร้างสรรคน์ ำเสนอการแสดงออกมาในรูปแบบศิลปะการแสดงรว่ มสมัย แบง่ การแสดง ออกเปน็ 3 ช่วง คือ ชว่ งที่ 1 โควิด 19 ผู้สร้างสรรคไ์ ด้ออกแบบโดยใช้เพลง Fractal Forest ของ Harmonic Frequency ส่อื ให้เห็นถึงโรค โควิด19 ในปจั จบุ ันทีท่ ำให้เกิดความยากลำบากในการ ใช้ชีวิต เป็นผลกระทบกบั ผู้คนทว่ั โลก แบง่ ออกเปน็ 3 ความเชือ่ คือ ความเชือ่ เรื่องโรคห่า การ ทำสงครามเคมี และโรคระบาดในปัจจุบัน เกิดความสับสนวุ่นวาย ช่วงที่ 2 โพชฌงคปริตร ผู้สร้างสรรค์ได้ออกแบบโดยใช้เพลง บทสวดมนต์โพชฌงคปริตร ประพันธ์และขับร้อง โดย คณุ ครูกัญญานัทธ์ ศิริ ส่อื ให้เห็นถึงการนำหลักธรรมคำสอนของพระพทุ ธศาสนามาปฏิบัติ ทำ ให้เกิดสติ ช่วงที่ 3 ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ผู้สร้างสรรค์ได้ออกแบบโดยใช้เพลง จากการ แสดง หตั ถศิลป์ถิ่นเวียงบวั สร้างสรรค์ผลงานโดย นายธนพงษ์ ดใี จ สาขาวิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลยั พะเยา ส่อื ให้เห็นถึงการมีสติทำให้เกิดปญั ญา โดยการปฏิบตั ติ นโดยใช้ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ในการใช้ชีวิตในสถานการณโ์ รคระบาด ซึง่ ผสู้ ร้างสรรค์ผลงานนั้นได้ดำเนินการ ขออนุญาตในการใช้เพลงเปน็ ที่เรยี บรอ้ ยแล้วประกอบการแสดงแล้ว 2. เครอ่ื งแต่งกาย การออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย ประกอบดว้ ย รูปแบบการแตง่ กาย แบบร่วมสมัย และองค์ประกอบอื่น ๆ ได้แก่ การแต่งหน้า การออกแบบทรงผม ผู้สร้างสรรค์ สามารถอธิบายถึงความสำคัญของรูปแบบการแต่งกายที่ใช้ในกระบวนการสร้างสรรค์ให้ผู้ แสดงแต่งกายแตกต่างกันสื่อให้เห็นถึงความหลากหลายของมนุษย์ สีขาว หมายถึง พระพุทธศาสนา สีเทา หมายถึง โควิด 19 เครื่องแต่งกายจึงสื่อให้เห็นถึง โรคระบาด โควิด 19 ไมไ่ ดห้ ายไป มนษุ ยจ์ ะอยู่กบั โรคระบาดนี้ได้ ถ้ามหี ลกั ธรรม และมีสติในการใช้ชีวิต จัดแต่งทรง ผมโดยรวบผมต่ำแลว้ มวยผมไปดา้ นหลงั
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ูส่ ังคม 38 3. ผู้แสดง การคัดเลือกนักแสดง ผู้สร้างสรรค์ได้กำหนดนักแสดงทั้งหมด 10 คน ประกอบไปด้วย ผู้แสดงชายจำนวน 3 คน ผู้แสดงหญงิ จำนวน 7 คน โดยผู้สร้างสรรคค์ ดั เลือกผู้ แสดงจากความสามารถและทกั ษะการแสดงผา่ นบูรณาการ คือ 1. ผู้สร้างสรรค์ผลงานมกี ารบูร ณาการร่วมกับรายวิชาพื้นฐานการเคลื่อนไหว เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของตัวนักแสดงและ คดั เลอื กนกั แสดงให้เหมาะสมกบั การแสดงของผู้สร้างสรรค์ 2. ดำเนนิ การฝึกซอ้ มนกั แสดงตาม การออกแบบการแสดงของผู้สร้างสรรค์ ขณะที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำการฝึกซ้อมนักแสดงผู้ สร้างสรรค์ก็พบปัญหาหลายจุดในการแสดง คือ การปฏิบัติท่ารำ ท่าเต้น เนื่องจาก มีทั้ง นักแสดงที่มีพื้นฐาน และไม่มีพื้นฐานทางด้านการแสดง จึงเกิดปัญหาในการฝึกซ้อม ผู้ สร้างสรรคจ์ ึงแก้ปญั หาโดยมีการปรับทา่ ให้สอดคลอ้ งกบั นักแสดง 4. อุปกรณ์ประกอบการแสดง ชุด โพชฌงคปริตร ผู้สร้างสรรค์ได้นำหน้ากาก อนามยั มาประกอบการแสดงเพื่อให้เหน็ ถึงการป้องกนั ตนเองจากโรคระบาด 5. แสงและฉากประกอบการแสดง เป็นปจั จัยสำคัญโดยผู้สร้างสรรค์ได้ออกแบบ ให้สอดคล้องกับช่วงการแสดง โดยช่วงการแสดงที่ 1 ผู้สร้างสรรค์ได้ออกแบบแสงจำนวน 3 สี คือ สแี ดง สนี ้ำเงิน สเี ขียว ชว่ งที่ 2 ผู้สร้างสรรคอ์ อกแบบแสงจำนวน 3 สี คือ สีส้ม สีน้ำเงิน สี แดง ชว่ งที่ 3 ผู้สร้างสรรคอ์ อกแบบแสงจำนวน 1 สี คือ สขี าว ฉากประกอบการแสดงในช่วงที่ 1 มีจำนวน 3 ภาพ ประกอบไปด้วย ผู้เสียชีวิต สงครามเคมี และไวรัส ในช่วงที่ 2 มีจำนวน 2 ภาพ ประกอบไปด้วย พระสมั มาสมั พุทธเจ้า นง่ั สมาธิ ช่วงที่ 3 มีจำนวน 3 ภาพ คือ ภาพการร่วมมือ ภาพใส่แมส และภาพ New Normal 6. การใช้พื้นที่ในการแสดง ผู้สร้างสรรค์ได้ออกแบบพื้นที่ที่ใช้สำหรับการแสดง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ 1 ประกอบด้วย Center stage (C) ส่วนกลางเวที Downstage Right Center (DRC) เวทีส่วนหน้าขวากลาง Upstage Center (UC) เวทีส่วนในตรง กลาง ช่วงที่ 2 ประกอบด้วย Downstage Left (DL) เวทีส่วนด้านหน้าซ้ายสุด Right stage Center (RC) เวทีฝั่งขวากลาง Upstage Center (UC) เวทีส่วนในตรงกลาง Upstage Left (UL) เวทีสว่ นในดา้ นซ้ายสดุ Center stage (C) สว่ นกลางเวที ช่วงที่ 3 ประกอบดว้ ย Downstage Left (DL) เวทีส่วนด้านหน้าซ้ายสุด Upstage Center (UC) เวทีส่วนในตรงกลาง Upstage Left (UL) เวทีส่วนในด้านซ้ายสุด Upstage Left Center (ULC) เวทีส่วนในด้านซ้ายกลาง Upstage Right (UR) เวทีสว่ นในขวาสดุ 7. กระบวนทา่ รำ ผู้สร้างสรรคไ์ ดอ้ อกแบบทา่ ทางโดยใช้ต้นทุนจากการบูรณาการ ร่วมกับรายวิชาพืน้ ฐานการเคล่อื นไหว รายวิชา contemporary และผสมผสานกับทา่ รำ
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 39 ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรบริหารจัดการเรื่องเวลาในการฝึกซอ้ มการแสดง 2. ควรบรหิ ารจัดการเรื่องเวลาในการบนั ทึกวีดทิ ศั นอ์ ย่างรอบดา้ น 3. ผู้สร้างสรรคค์ วรมีองค์ความรใู้ นการตดั ตอ่ วีดทิ ัศน์ และถ่ายภาพ 4. ควรทำการแสดงสดเพื่อให้คนดเู ข้าใจและถึงการแสดงมากกวา่ น้ี
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 40 เอกสารอา้ งอิง ธ.ธรรมรักษ์. (2561). บทสวดโพชฌงคปรติ ร การสวดมนต์ขจัดโรครา้ ย. สบื ค้นเมื่อ 15 มิถุนายน 2564, จาก https://www.sanook.com/horoscope/88367/ ศนู ยก์ ารแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลยั มหิดล. (2553). ไวรสั โคโรนา หรอื โควิด-19. สบื ค้นเมือ่ 26 มิถนุ ายน 2564, จาก https://minimore.com/b/RcoPh/13 คุณครกู ัญญนัทธ์ ศิริ. เพลงบทสวดมนต์ โพชฌงคปรติ ร.(2557).// สบื ค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2564, จาก https://www.youtube.com/watch?v=zMbngbI7Li0&list=WL&index=1&t=6s พันธทุ์ ิพย์ ธีระเนตร. หน้าประชาชื่น มติชนรายวนั . (2563). โรคระบาดในประวตั ิศาสตร์ไทย เราผ่านพ้นมาได้อยา่ งไร?. สบื ค้นเมื่อ 31 ตุลาคม 2564. จาก https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-scoop/news_2069826 องคก์ ารอนามัยโลก. (2563). โรคโควิด 19 คืออะไร. สบื ค้นเมือ่ 31 ตลุ าคม 2564. จาก https://www.who.int/docs/default-source/searo/thailand/update-28-covid-19 -what-we-know---june2020---thai.pdf?sfvrsn=724d2ce3_0 วิกิพีเดยี . (2564). การสงครามเคมี. สบื ค้นเมอื่ 31 ตลุ าคม 2564. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/การสงครามเคมี สุรพล วิรฬุ ห์รักษ์. (2547). หลักแสดงนาฏยศิลป์ปรทิ รรศน์ กรุงเทพฯ : สำนักพิมพแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์ส่สู งั คม 41 ภาคผนวก ภาพบรรยากาศการฝึกซอ้ มการแสดง
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สงั คม 42
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สงั คม 43 ประวัติผู้สร้างสรรค์ ชื่อ-สกลุ จารุวรรณ แสนยาวิชัย วัน เดือน ปีเกิด 28 กันยายน 2543 ภมู ิลำเนา 51 หมู่ที่ 10 ตำบลท่าจำปี อำเภอเมือง จงั หวัดพะเยา 56000 ประวัติการศึกษา พ.ศ. 2564 ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี ช้ันปีที่ 4 สาขาวิชาศิลปะการแสดง คณะสถาปตั ยกรรมศาสตรแ์ ละศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั พะเยา ประวตั ิอาจารย์ที่ปรึกษา ชื่อ-สกุล ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ศราวธุ จนั ทรขำ วัน เดอื น ปีเกิด 29 มิถุนายน 2525 ภูมิลำเนา 157/68 หมูท่ ี่ 5 ตำบลนครสวรรคต์ ก อำเภอเมอื ง จังหวดั นครสวรรค์ 60000 ประวตั ิการศึกษา ปรญิ ญาตรี ศิลปศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชานาฏศิลปไ์ ทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร ปรญิ ญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานาฏยศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลงั ศึกษาต่อระดับปรญิ ญาเอก หลกั สตู รศิลปศาสตรดษุ ฎีบณั ฑิต สาขาวิชานาฏยศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั ประวัติอาจารยท์ ีป่ รึกษา ชื่อ-สกลุ ภูดิท ศิริวฒั นกุล วัน เดือน ปีเกิด 3 เมษายน 2526 ภูมิลำเนา 6/26 หมู่ที่ 6 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทมุ ธานี 12120 สถานทีต่ ิดต่อ คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั พะเยา 19 หมู่ 2 ตำบลแมก่ า อำเภอเมืองพะเยา จังหวดั พะเยา 56000 ประวตั ิการศึกษา ปรญิ ญาตร:ี ศศ.บ.(นาฏศิลป์ไทย) มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒ ปรญิ ญาโท: กำลังศึกษา ศศ.ม ศิลปะการแสดง สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์ส่สู งั คม บทที่ 3 ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ ฮกั สถิต ปทิตตา ไชยปรงุ 4 ลิขิต ใจดี5 ภดู ิท ศิริวฒั นกลุ 6 บทคัดยอ่ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ฮักสถิต เปน็ การสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะการแสดงที่ ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมความรัก เรื่อง ตำนานรักดอกเอื้องแซะ จากการศึกษา พบวา่ ตำนานรักดอกเอือ้ งแซะเป็นตำนานที่เล่าขานถึงหญงิ สาวชาวล้านนาทีย่ ึดม่ัน ศรัทธา ใน ความรักและรอคอยชายหนุ่มจนถึงเวลาที่หญิงสาวต้องลาจากโลกนี้ไป ด้วยจิตวิญญาณที่ยัง ผูกพันจึงกลายเป็นหมอกควันไปเกาะห่อหุ้มแฝงจิตอยู่กับต้นดอกเอื้องแซะ ผู้สร้างสรรค์ นำเสนอผลงานในรูปแบบการแสดงล้านนาร่วมสมัย แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ความ ฮัก เป็นชว่ งทีแ่ สดงให้เห็นถึงหนุ่มสาวชาวล้านนาที่มีความรักต่อกัน ช่วงที่ 2 สถิตฮัก เป็นช่วงที่ แสดงให้เห็นถึงหญิงสาวที่รอคอยชายหนุ่มด้วยจิตวิญญาณที่ยังผูกพันของหญิงสาวจึง กลายเป็นหมอกควันไปเกาะห่อหุ้มแฝงจิตอยู่กับต้นดอกเอื้องแซะ โดยการแสดงมีทั้งหมด 7 องคป์ ระกอบ ได้แก่ 1) ดนตรีและเสยี งประกอบการแสดง 2) เครอ่ื งแต่งกายประกอบการแสดง 3) ผู้แสดง 4) อุปกรณ์ประกอบการแสดง 5)แสงและฉากในการแสดง 6) การใช้พื้นที่ในการ แสดง และ 7) กระบวนทา่ ฟ้อนประกอบการแสดง 4 นิสิตหลกั สูตรศลิ ปกรรมศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง มหาวทิ ยาลัยพะเยา 5 อาจารยท์ ี่ปรกึ ษาในการจัดทำเอกสารและผลงานสร้างสรรค์ ประจำหลักสตู รศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีและ นาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยพะเยา 6 อาจารยท์ ีป่ รกึ ษาการออกแบบผลงานสร้างสรรค์ ประจำหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีและนาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยพะเยา
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 45 ความเปน็ มาและความสำคัญของผลงาน ดอกเอื้องเป็นคำใช้เรียกสื่อความหมายถึง ดอกกล้วยไม้ ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปทาง ภาคเหนือของประเทศไทย นอกจากนี้ คำวา่ เอือ้ ง ชาวไทยใหญใ่ นรัฐฉานของสหภาพเมียนมาร์ และชาวไตในแคว้นสบิ สองปนั นาทางตอนใต้ของประเทศจีน ยงั ใช้คำน้สี ือ่ ความหมายถึงกลว้ ยไม้ ดว้ ยเชน่ กัน เรือ่ งราวของอาณาจกั รลา้ นนาในครั้งอดีตกว่า 700 ปีทีผ่ า่ นมา มีบนั ทึกไว้ว่า ดอก เอือ้ งชนิดหนึง่ ซ่งึ เปน็ ของสูงคา่ หายาก ขนึ้ อยูบ่ นต้นไมส้ งู บนภูสูงได้ถกู นำมาเปน็ หนึง่ ใน “เคร่อื ง บรรณาการ” ถวายแด่เจ้าเมืองเชียงใหม่ ดอกเอือ้ งชนิดน้ัน คือ ดอกเออื้ งแซะ ซึ่งเป็นดอกเอื้องสี ขาว ทีม่ ีกลิน่ หอมเย็น ชื่นใจ และกลิ่นหอมคงอยูย่ าวนาน ไม่เหมือนดอกเอือ้ งชนิดอื่น จากบทประพันธ์ในรูปแบบร่ายของคุณสุนทรี เวชานนท์ (2551) ที่ประพันธ์เรื่องราว เกี่ยวกบั เอือ้ งแซะไว้วา่ “เอือ้ งแซะ ขาวหอม อยสู่ ูงสุดสอยแหงนคอตั้งบา่ สองฟากผาจื้นรื่นด้วย ตะไครแ่ ละไครผ่ า ตำ่ ลงมาเปน็ น้ำตกหลน่ั ครนื คร่ันโครมครึก เหมือนเสยี ง จ้างฮ้อง ฝอยน้ำฟอง กระจายพรายกล๋ายเป็นรุ้ง เอื้องแซะกลิ่นฟุ้ง เสียแต่อยู่สูงสุดสอยบ่ได้ มีเรื่องเล่าขานเป๋นต๋ำ นานของคนหนุ่มคนสาว ที่เฝ้าบ่มฮกั และอย่ใู นฮีตในฮอย หวังก่อรา่ งสร้างตั๋ว เข้าของเงินทองจ่ง ไจ้เขียมนักอีนางเฮย ปี้อ้ายขอลาไกล๋ไปแสวงหาเงินทองของหมั้น แล้วจะฝั้งปิก๊ มาหา ยกยอเอา สเู่ จ้าเปน็ เมียนางจ้างแก้วสาวเจ้าหันดหี นั งาม เข้าใจ๋ในเหตใุ นผล ไปเตอ๊ ะปี้อ้ายเหย ข้าเจ้าจะรอ จากวันเปน็ เดอื น จากเดอื นล่วงเลยเป๋นหลา๋ ยปี๋ ปี้อ้ายคนดี หา่ งหาย บา่ มีข่าวมีคราว แต่ด้วยใจ๋ ตีบ่ ริสทุ ธิแ์ ละเปีย่ มดว้ ยศรัทธา ยึดมน่ั ถอื มนั่ ในความฮกั ของสาวเจ้าแม้แตป่ ลา๋ ยก้อย ก็บ่เกยคิด ฮ้าย วา่ ปี้อ้ายคนดีจะนอกใจ๋ หรือลม้ หายต๋ายจาก รอคอยดว้ ยใจ๋พิสทุ ธิ์ ยกมอื ไหว้สาผาธนาคุณ ผะเจ้า ช่วยชีแ้ นะนำตาง หือ้ ปี้อ้ายได้ปิ๊กคืน จ๋นถึงวันเวลาทีน่ างต้องลาละสงั ขาร จิตวิญญาณ ยังผูกพันรอคอย ต๋ายไปแล้ว กล๋ายเป็นหมอกควันไปเกาะ ห่อหุ้ม แฝงจิตอยู่กับต้นดอกเอื้อง แซะ เป๋นขนปุยห่อหุ้มกิ่งก้าน ยามเอื้องแซะดอกน้อยบาน กลิ่นหอมอ่อน ๆ จะลอยมาต๋ามลม เหมือนจะได้มาเหน็บแซมเสียบผมยามลมเดือนห้า” และมียังมีบทเพลงเอื้องแซะที่ขับร้องโดย คุณสุนทรี เวชานนท์ ประพันธ์บทร้องโดย คุณปฏิญญา ตั้งตระกูลที่ได้กล่าวถึงการรอคอย การศรัทธายึดมั่นในความรักของหญิงสาว เปรียบผู้หญิงเป็นดั่งดอกไม้ และบ่งบอกอารมณ์ ทั้งหมดของหญิงสาว (สุนทรี เวชานนท์, 2557) นอกจากนี้ยังพบบทประพันธ์ฉบับกิ่งโศก ที่ ประพันธ์ในรูปแบบกลอนสภุ าพไว้วา่ เอื้องแซะเอือ่ ยแทรกเอื้อซ่านอกเอม ชื่นเกษมชอนไซชวน กระสัน จรุงกลิ่นกลั้วจรัสกรุ่นจรัล ดอกสวรรค์เทียบไว้อย่าหมายชม เคียงคู่สรวงช่วงชั้นชน ชั้นสูง ชาวต่ำยูงใต้ฟ้าหาคู่สม เทิดเทียบไว้แว่นแคว้นแดนภิรมย์ มิเกลือกตมติดต้องละอองดิน บุราณบอกเล่าเบื้องกอ่ นบทมา บ่งศรัทธารกั เปี่ยมเทียมเวหน หญงิ หนึง่ นั้นม่นั หมายชายแห่งตน
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สงั คม 46 ผลัดห้วงผ่านวารพ้นเป็นแรมปี สัญญาใจได้สานสมานสมัคร ปฏิพัทธ์สวาทรักเฉกสักขี คำ สาบานน้ันก้องกุมฤดี ทกุ ราตรีต่างพร่ำเพียรขอพร จวบละร่างสังขารเร้ารานเรื้อ วิญญาณเก้ือ ติดกายไม่ถา่ ยถอน จึงสถิตสถานกิ่งก้านคอน อนุสรณเ์ ซน่ รักประจักชม(กิง่ โศก, 2553) จากการทบทวนวรรณกรรมข้างต้น ที่กล่าวถึงตำนานรักดอกเอื้องแซะ ผู้สร้างสรรค์ ผลงานจึงเกิดแรงบันดาลใจนำวรรณกรรมความรัก เรื่อง ตำนานรักดอกเอื้องแซะ มานำเสนอ ในรูปแบบการแสดงล้านนาร่วมสมัยโดยใช้บทประพันธ์ฉบับกิ่งโศกและเพลงเอื้องแซะที่ได้ กลา่ วถึงดอกเออื้ งแซะเปน็ ดอกไม้ชั้นสูงทีเ่ ปรียบกบั หญิงสาวชาวล้านนาที่มีจิตใจที่สูงส่ง ยึดม่ัน ศรทั ธาในความรัก มาสร้างสรรคเ์ ป็นการแสดงชุด ฮักสถิต วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อศึกษาบทวรรณกรรมความรกั เรือ่ ง ตำนานรักดอกเออื้ งแซะ 2. เพือ่ สร้างสรรคผ์ ลงานการแสดงชุด ฮักสถิต แรงบนั ดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจมาจากวรรณกรรมความรัก เรื่อง ตำนานรัก ดอกเอื้องแซะ ซึ่งเปน็ ตำนานที่เล่าขานถึงหญิงสาวชาวล้านนาทีย่ ึดมัน่ ศรัทธา ในความรักและ รอคอยชายหนมุ่ จนถึงเวลาที่หญงิ สาวต้องลาจากโลกนไี้ ป ดว้ ยจิตวิญญาณทีย่ งั ผกู พันของหญิง สาวจึงกลายเป็นหมอกควันไปเกาะห่อหุ้มแฝงจิตอย่กู ับต้นดอกเอือ้ งแซะ แนวความคดิ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้นำวรรณกรรมเรื่อง ตำนานรักดอกเอื้องแซะ มานำเสนอใน รูปแบบการแสดงล้านนารว่ มสมัยโดยใช้บทประพันธ์ฉบบั กิ่งโศกและเพลงเออื้ งแซะ ขับร้องโดย คุณสนุ ทรี เวชานนท์ ประพันธ์บทร้องโดย คณุ ปฏิญญา ตั้งตระกลู ที่ได้กล่าวถึงดอกเอื้องแซะ เป็นดอกไม้ชั้นสูงที่เปรียบกับหญิงสาวชาวล้านนาที่มีจิตใจที่สูงส่ง ยึดมั่น ศรัทธาในความรัก ผู้สร้างสรรค์จึงได้นำตำนานรักดังกล่าวมาสร้างสรรค์เป็นการแสดงชุด ฮักสถิต โดยแบ่งการ แสดงออกเปน็ 2 ชว่ ง ดงั นี้
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ งั คม 47 ชว่ งที่ 1 ความฮกั เปน็ ช่วงทีแ่ สดงให้เห็นถึงหน่มุ สาวชาวลา้ นนาทีม่ คี วามรักต่อกนั ชว่ งที่ 2 สถิตฮัก เป็นช่วงที่แสดงให้เห็นถึงหญิงสาวที่รอคอยชายหนุ่มกลับมา ด้วยใจที่ยึดมั่น ศรัทธาในความรักของหญิงสาว จนถึงเวลาที่หญิงสาวต้องลาจากโลกนี้ไป ด้วยจิต วิญญาณที่ยงั ผูกพันของหญงิ สาวจึงกลายเป็นหมอกควันไปเกาะห่อหุ้มแฝงจิตอยู่กับต้น ดอกเอือ้ งแซะ นยิ ามศัพท์ ฮัก หมายถึง ความรกั ของหญงิ สาวชาวลา้ นนาที่มีจิตใจที่สูงส่ง ยึดมน่ั ศรัทธาในความ รกั ของตน สถิต วิญญาณของหญงิ สาวที่ยังผกู พันจึงกลายเป็นหมอกควนั ไปเกาะห่อหุ้มแฝงจิตอยู่ กบั ต้นดอกเอือ้ งแซะ ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รับ 1. สนับสนุนคณุ ค่าของผู้หญงิ ปัจจุบันให้รักเดียวใจเดยี ว 2. ได้เรียนรู้การออกแบบท่ารำ ตีบทตามเนื้อร้องและบทประพนั ธ์โดยใช้ต้นทุนจากแม่ท่า ฟ้อนสายสกุลช่างฟ้อนของล้านนาตะวันออก เช่น ท่าฟ้อนสาวไหมของแม่ครูบวั เรียว รัตนมณี ภรณ์ ลกั ษณะการแง้นของครกู ฤษณา กาญจนสรุ ะกิจ และท่าตบเจิงของครอู ริน พลู เกษม 3. ได้เรียนรู้เกีย่ วกับลักษณะการใส่เกดม้ัมและสกั ขาลายของชายชาวลา้ นนา
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สูส่ งั คม 48 วรรณกรรมทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 1. วรรณกรรมความรัก เรื่อง ตำนานรักดอกเอื้องแซะ ที่กล่าวว่า“เอื้องแซะ ขาวหอม อยู่สูงสุดสอยแหงนคอตั้งบ่า สองฟากผาจื้นรื่นด้วยตะไคร่และไคร่ผา ต่ำลงมาเป็น น้ำตกหลั่นครืนครั่นโครมครึก เหมือนเสียง จ้างฮ้อง ฝอยน้ำฟองกระจายพรายกล๋ายเป็นรุ้ง เออื้ งแซะกลิ่นฟุ้ง เสยี แตอ่ ยู่สงู สดุ สอยบ่ได้ มีเร่อื งเลา่ ขานเป๋นต๋ำนานของคนหนุ่มคนสาว ที่เฝ้า บ่มฮักและอยู่ในฮีตในฮอย หวังกอ่ รา่ งสร้างตั๋ว เข้าของเงินทองจง่ ไจเ้ ขียมนกั อีนางเฮย ปี้อ้ายขอ ลาไกล๋ไปแสวงหาเงินทองของหมั้น แล้วจะฝ้ังปิก๊ มาหา ยกยอเอาส่เู จ้าเป็นเมียนางจ้างแก้วสาว เจ้าหันดีหันงาม เข้าใจ๋ในเหตุในผล ไปเต๊อะปี้อ้ายเหย ข้าเจ้าจะรอจากวันเปน็ เดือน จากเดือน ล่วงเลยเป๋นหล๋ายปี๋ ปี้อ้ายคนดี ห่างหาย บ่ามีข่าวมีคราว แต่ด้วยใจ๋ตี่บริสุทธิ์และเปี่ยมด้วย ศรัทธา ยึดมั่นถือมั่นในความฮักของสาวเจ้าแม้แต่ปล๋ายก้อย ก็บ่เกยคิดฮ้าย ว่าปี้อ้ายคนดีจะ นอกใจ๋ หรือลม้ หายต๋ายจาก รอคอยดว้ ยใจ๋พิสุทธิ์ ยกมอื ไหว้สาผาธนาคุณผะเจ้า ช่วยชี้แนะนำ ตาง หอื้ ปี้อ้ายได้ปิ๊กคืน จ๋นถึงวนั เวลาทีน่ างตอ้ งลาละสงั ขาร จิตวิญญาณยงั ผกู พนั รอคอย ต๋าย ไปแลว้ กล๋ายเป็นหมอกควนั ไปเกาะ หอ่ หุ้ม แฝงจิตอยกู่ ับต้นดอกเออื้ งแซะ เป๋นขนปุยห่อหุ้มกิ่ง ก้าน ยามเออื้ งแซะดอกน้อยบาน กลิน่ หอมอ่อน ๆ จะลอยมาต๋ามลม เหมือนจะไดม้ าเหน็บแซม เสียบผมยามลมเดือนห้า” (สุนทรี เวชานนท์, 2551) ซึ่งในเพลงถือเปน็ วรรณกรรมหลักในการ สร้างสรรคผ์ ลงานในครงั้ นี้ 2. เพลงเอื้องแซะ ขับร้องโดย คุณสุนทรี เวชานนท์ ประพันธ์บทร้องโดย คุณปฏิญญา ตั้งตระกูล โดยมีเนื้อเรื่อง ดังนี้ กลีบ ขาวนวล กลิ่น เย้ายวน จวน ใฝ่ฝันเมือมา แซม ผมงาม นาม น้ันฤา คือ เอือ้ งแซะหลวงบวงสรวง เตวา ฮืม.... ศรัทธา ใฝ่หาวิญญา ฮ่ำฮ้อง หัวใจ๋ ใฝ่ปองกู่ฮ้อง ฮ่ำหาเอื้อง แซะงามเมือ่ ยามฮักมาดั่ง กำสญั ญา วา่ ใจหนอ รอคอย ลม แล้ง เอยอย่าเลย พัดพาจ้วย นำฮักมา ข้ามฟ้าแดนดอย ฮืม.... ศรัทธา ข้าน้อยรอคอย..คอยหาคำม่ัน สญั ญา บล่ า ร้างห่างไป ....ดนตรี..... เอือ้ งขาวนวล เจ้าเยา้ ยวนกลิน่ ครวญชวนเชยความฮักเอย ฮื้อมาแนบทรวง.วิญญาณ ผู้เกยผิดหวังยังรอ ขอคุ้มอุ้มชูผู้บูชาฮักแต๊ แน่ จง สมหวังกลีบ ขาว นวล กลิน่ เย้ายวนชวน ใฝฝ่ นั มัน่ ฟ้า.. เอือ้ ง แซะงาม ขอความ ฮักมาดง่ั กำสญั ญาว่าใจหนอ รอ คอย ฮืม....... ศรทั ธา ข้าน้อยรอคอย..คอยหาคำมน่ั สญั ญา บล่ า ร้างหา่ งไป เออื้ งขาวนวล เจ้า เย้ายวนกลิน่ ครวญชวนเชยความฮักเอย ฮอื้ มาแนบทรวงวิญญาณฮกั ตผี้ ิดหวังยงั รอ ขอคุ้มอุ้มชู ผู้บชู าฮักแต๊ แน่จง สมใจวิญญาณฮกั ตผี้ ิดหวงั ยังรอ ขอคุ้มอุ้มชผู ู้บชู าฮกั แต๊ แน่จง สมใจ (สุนทรี เวชานนท์, 2557) ซึง่ ในเพลงได้กล่าวถึงการรอคอย การศรัทธายดึ มั่นในความรกั ของหญิงสาว เปรยี บผู้หญงิ เป็นดั่งดอกไม้ และบง่ บอกอารมณ์ท้ังหมดของหญงิ สาวจึงสอดคล้องกับแนวคิดผู้ สร้างสรรค์
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ูส่ ังคม 49 3. บทประพันธ์ฉบับกิ่งโศก ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้ไปศึกษาค้นคว้าแล้วพบว่า บทกลอนนีแ้ ต่งแบบกลอนสุภาพที่กล่าวว่า เอือ้ งแซะเอื่อยแทรกเอือ้ ซา่ นอกเอม ชื่นเกษมชอนไซ ชวนกระสัน จรุงกล่นิ กลั้วจรัสกรุ่นจรัล ดอกสวรรค์เทียบไว้อย่าหมายชม เคียงคสู่ รวงช่วงชั้นชน ชั้นสูง ชาวต่ำยูงใต้ฟ้าหาคู่สม เทิดเทียบไว้แว่นแคว้นแดนภิรมย์ มิเกลือกตมติดต้องละอองดิน บุราณบอกเล่าเบื้องก่อนบทมา บ่งศรทั ธารักเปี่ยมเทียมเวหน หญงิ หนึง่ นั้นมนั่ หมายชายแห่งตน ผลัดห้วงผ่านวารพ้นเป็นแรมปี สัญญาใจได้สานสมานสมัคร ปฏิพัทธ์สวาทรักเฉกสักขี คำ สาบานนั้นก้องกมุ ฤดี ทกุ ราตรีตา่ งพร่ำเพียรขอพร จวบละร่างสงั ขารเร้ารานเรื้อ วิญญาณเก้ือ ติดกายไม่ถ่ายถอน จึงสถิตสถานกิ่งก้านคอน อนุสรณ์เซ่นรักประจักชม(กิ่งโศก,2553) ซึ่งผู้ สร้างสรรคไ์ ด้นำมาดดั แปลงแล้วใช้สำเนียงแบบเหนือเพือ่ ให้สอดคล้องกบั แนวคิดในการแสดง วิธีการดำเนนิ งาน - ระยะเวลาและสถานทีใ่ นการดำเนนิ งาน ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้มีการดำเนินงาน ในการสร้างสรรค์ศิลปะนิพนธ์ชุด ฮักสถิต ตามระยะเวลาและสถานที่ ดังตารางต่อไปนี้ ตาราง 7 แสดงระยะเวลาและสถานทีใ่ นการดำเนินงาน ลำดบั วัน/เดือน/ปี รายละเอียด สถานที่ ผ้รู ับผดิ ชอบ 1 23 เม.ย. 2564 เข้ารับการประชมุ กับ ออนไลน์ ผู้สร้างสรรค์ คณะกรรมการภายใน ผลงาน นางสาวป 2 19 ก.ค. 2564 เพือ่ รบั ฟงั แนวทางและ ออนไลน์ ทิตตา ไชยปรงุ รายละเอียด ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ผู้สร้างสรรค์ ดำเนนิ การสอบหัวข้อ ผลงาน นางสาวป การศิลปะแสดงนิพนธ์ ทิตตา ไชยปรุง ผู้สร้างสรรค์ 3 9 ส.ค. 2564 ดำเนนิ การหาข้อมลู ออนไลน์ ผลงาน นางสาวป ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ทิตตา ไชยปรงุ ชดุ ฮกั สถิต คณะกรรมการและ นิสิต 4 16 ส.ค. 2564 สอบศิลปะการแสดง ออนไลน์ นิพนธ์ 30%
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สู่สังคม 50 ลำดับ วนั /เดือน/ปี รายละเอียด สถานที่ ผู้รบั ผดิ ชอบ 5 5 ก.ย . 2564 ดำเนนิ การฝึกซอ้ ม ศิลปะการแสดงนิพนธ์ อาคาร ผู้สร้างสรรค์ ชดุ ฮักสถิต ปฏิบตั กิ าร ผลงาน นางสาวป สาขาวิชา ทิตตา ไชยปรุง ศิลปะการแสดง (หลงั ที่ 9) มหาวิทยาลัย พะเยา 6 6 ก.ย . 2564 สอบศิลปะการแสดง ออนไลน์ คณะกรรมการและ นิพนธ์ 50% นิสิต 7 14 ก.ย . 2564 ดำเนนิ การฝึกซอ้ ม ศิลปะการแสดงนิพนธ์ อาคาร ผู้สร้างสรรค์ ชดุ ฮักสถิต ปฏิบตั กิ าร ผลงาน นางสาวป สาขาวิชา ทิตตา ไชยปรุง ศิลปะการแสดง (หลังที่ 9) มหาวิทยาลยั พะเยา 8 16 ก.ย . 2564 ดำเนนิ การฝึกซอ้ ม อาคาร ผู้สร้างสรรค์ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ฮักสถิต ปฏิบตั กิ าร ผลงาน นางสาวป สาขาวิชา ทิตตา ไชยปรุง ศิลปะการแสดง (หลงั ที่ 9) มหาวิทยาลัย พะเยา 9 18-19 ก.ย. ดำเนนิ การฝึกซอ้ ม อาคาร ผู้สร้างสรรค์ 2564 ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ฮักสถิต ปฏิบตั กิ าร ผลงาน นางสาวป สาขาวิชา ทิตตา ไชยปรุง ศิลปะการแสดง (หลงั ที่ 9)
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สู่สังคม 51 ลำดับ วัน/เดือน/ปี รายละเอียด สถานที่ ผู้รบั ผดิ ชอบ มหาวิทยาลัย พะเยา 10 25 ก.ย. 2564 ดำเนนิ การฝึกซอ้ ม อาคาร ผู้สร้างสรรค์ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ ฮักสถิต ปฏิบัตกิ าร ผลงาน นางสาวป สาขาวิชา ทิตตา ไชยปรงุ ศิลปะการแสดง (หลังที่ 9) มหาวิทยาลัย พะเยา 11 27 ก.ย. 2564 สอบศิลปะการแสดง ออนไลน์ คณะกรรมการและ นิพนธ์ 70 - 90% นิสิต 12 2–3 ต.ค. 2564 บนั ทึกวีดทิ ศั น์ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ อาคาร ผู้สร้างสรรค์ ชุดท่ี 1 - 4 ปฏิบตั กิ าร ผลงาน นางสาวป สาขาวิชา ทิตตา ไชยปรงุ ศิลปะการแสดง (หลังที่ 9) มหาวิทยาลยั พะเยา และสถานทต่ี า่ ง ๆ ใน มหาวิทยาลยั พะเยา 13 11 ต.ค. 2564 สอบศิลปะการแสดง ออนไลน์ ณ คณะกรรมการและ นิพนธ์ 100% คณะ นิสิต สถาปัตยกรรม ศาสตร์และ ศิลปกรรม ศาสตร์
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์ส่สู ังคม 52 - ข้นั ตอนการดำเนนิ งาน ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้ศึกษาหาข้อมลู เกี่ยวกับวรรณกรรมความรัก เรื่อง ตำนานรัก ดอกเอื้องแซะ โดยได้นำเพลงเอื้องแซะและบทประพันธ์ฉบับกิ่งโศก มาสร้างสรรค์เป็น การแสดงชุด ฮักสถิต และวางแผนการดำเนินงานดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ตาราง 8 แสดงขั้นตอนการดำเนนิ งาน ลำดบั รายการ ระยะเวลาดำเนนิ งานตั้งแต่ เดือน เมษายน -เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 เดือน เดือน เดือน เดือน เดือน เดือน เม.ย. พ.ค ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค 1. ประชุมกบั กรรมการภายใน เพือ่ รบั ฟังหวั ข้อภายใต้ แนวคิดและรายละเอียดใน การสอบรปู เล่ม ศิลปะการแสดงนิพนธ์ 2. กำหนดหัวข้อ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ 3. ศึกษาขอ้ มูลหวั ข้อ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ 4. เสนอหัวข้อศิลปะการแสดง นิพนธ์ 5. ศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพิม่ เติมเพือ่ นำข้อมลู มาใส่ ในรปู เล่ม 6. ศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพิม่ เตมิ และออกแบบการ แสดงและองค์ประกอบการ แสดงเพื่อนำเสนอสอบ
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 53 ลำดบั รายการ ระยะเวลาดำเนนิ งานตั้งแต่ เดือน เมษายน -เดือนตลุ าคม พ.ศ. 2564 เดือน เดือน เดือน เดือน เดือน เดือน เม.ย. พ.ค ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค 7. สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ รอบที่1 30% 8. ฝึกซอ้ มการแสดงชุดท่ี 1 - 4 พร้อมกับพฒั นางาน ปรับปรุง และแก้ไข ศิลปะการแสดงนิพนธ์ 9. สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ รอบที2่ 50% 10. ฝึกซอ้ มการแสดงชดุ ท่ี 1 - 4 พร้อมกับพฒั นางาน ปรับปรุง และแก้ไข ศิลปะการแสดงนิพนธ์ 11. สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ รอบที3่ 70-90% 12. ฝึกซอ้ มการแสดงชดุ ท่ี 1 - 4 พร้อมกบั พฒั นางาน ปรบั ปรุง และแก้ไข ศิลปะการแสดงนิพนธ์ 13. บันทึก VDO การแสดงชุดท่ี 1-4 14. สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ รอบที4่ 100% 15. สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ งั คม 54 - การหาแรงบนั ดาลใจและแนวความคิด แรงบันดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้ไปศึกษาเกี่ยวกับวรรณกรรมความรัก เรื่อง ตำนานรักดอกเอื้องแซะ ซึ่งเป็นตำนานที่เล่าขานถึงหญิงสาวชาวล้านนาที่ยึดมั่น ศรัทธา ใน ความรักและรอคอยชายหนุ่มจนถึงเวลาที่หญิงสาวต้องลาจากโลกนี้ไป ด้วยจิตวิญญาณที่ยัง ผูกพันของหญงิ สาวจึงกลายเป็นหมอกควันไปเกาะหอ่ หุ้มแฝงจิตอยู่กับต้นดอกเอือ้ งแซะ แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้นำวรรณกรรมเรื่อง ตำนานรักดอกเอื้องแซะ มานำเสนอในรูปแบบการแสดงล้านนาร่วมสมัยโดยใช้บทประพันธ์ฉบับกิ่งโศกและเพลงเอื้อง แซะ ที่ได้กล่าวถึงดอกเอื้องแซะเป็นดอกไม้ชั้นสูงที่เปรียบกับหญิงสาวชาวล้านนาที่มีจิตใจที่ สงู สง่ ยึดม่นั ศรัทธาในความรัก - การรวบรวมขอ้ มลู ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ฮักสถิต ผู้ศึกษาได้รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จาก วรรณกรรมทีเ่ กี่ยวข้อง สรปุ ได้ดงั นี้ 1. เพลงเอื้องแซะ ขับร้องโดย คุณสุนทรี เวชานนท์ ประพันธ์บทร้องโดย คุณ ปฏิญญา ตั้งตระกูล ในเพลงได้กล่าวถึงการรอคอย การศรัทธายึดม่ันในความรักของหญิงสาว เปรยี บผู้หญงิ เปน็ ดงั่ ดอกไม้ และบ่งบอกอารมณท์ ั้งหมดของหญงิ สาวจึงสอดคล้องกับแนวคิดผู้ สร้างสรรค์ 2. บทประพันธ์ฉบับกิง่ โศก ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้ไปศึกษาค้นคว้าแล้วพบว่า บท กลอนนี้แต่งแบบ กลอนสุภาพ ผู้สร้างสรรค์จึงนำมาดัดแปลงแล้วใช้สำเนียงแบบเหนือ เพื่อให้ สอดคลอ้ งกบั แนวคิด - การออกแบบการแสดง การออกแบบการแสดงศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ ฮักสถิต ผู้สร้างสรรคไ์ ด้ออกแบบการ แสดงคามแนวความคิดที่ได้จากวรรณกรรมความรัก เรื่อง ตำนานรักดอกเอื้องแซะ ซึ่งเป็น ตำนานที่เล่าขานถึงหญงิ สาวชาวล้านนาที่ยึดมั่น ศรัทธา ในความรกั และรอคอยชายหนุ่มจนถึง เวลาที่หญิงสาวต้องลาจากโลกนี้ไป ด้วยจิตวิญญาณที่ยังผูกพันของหญิงสาวจึงกลายเป็น หมอกควันไปเกาะห่อหุ้มแฝงจิตอยู่กับต้นดอกเอื้องแซะจากข้อคิดดังกล่าว ผู้สร้างสรรค์ ต้องการนำเสนอการแสดงในรูปแบบการแสดงล้านนาร่วมสมัยโดยแบ่งการแสดงออกเป็น 2 ช่วง ดงั นี้
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สู่สังคม 55 ชว่ งที่ 1 ความฮกั เปน็ ชว่ งที่แสดงให้เหน็ ถึงหนมุ่ สาวชาวลา้ นนาทีม่ คี วามรกั ต่อกนั ช่วงที่ 2 สถิตฮกั เป็นช่วงที่แสดงให้เห็นถึงหญิงสาวที่รอคอยชายหนุ่มกลับมา ด้วยใจที่ยึดม่ัน ศรัทธาในความรักของหญงิ สาว จนถึงเวลาทีห่ ญงิ สาวต้องลาจากโลกนไี้ ป ดว้ ยจติ วิญญาณที่ยัง ผกู พันของหญงิ สาวจึงกลายเปน็ หมอกควนั ไปเกาะหอ่ หุ้มแฝงจิตอยู่กับต้นดอกเอือ้ งแซะ - พฒั นาการของการออกแบบการแสดง พัฒนาการของการออกแบบการแสดง ผู้สร้างสรรค์ได้ปรับปรุงแก้ไขงาน ตาม คำแนะนำจากคณะกรรมการภายใน ตลอดระยะเวลาที่สร้างสรรค์ผลงาน ดังรายละเอียด ต่อไปนี้ 1. ข้อเสนอแนะจากอาจารย์ทีป่ รกึ ษา 2. ข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการภายใน 3. ข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการภายนอก ตาราง 9 แสดงพฒั นาการของการออกแบบการแสดง วัน/เดือน/ปี ขอ้ เสนอจากอาจารยท์ ี่ปรึกษา/คณะกรรมการภายในและภายนอก 6 กันยายน 2564 ช่วงที่ 1 กระบวนท่าของนกั แสดงหลักยงั ไม่ชดั ควรปรบั ให้มกี ารเล่าเรอ่ื ง รอบ 50 % ที่ชดั เจนขนึ้ และชว่ งที่ 2 ควรเพิม่ กระบวนทา่ ให้กบั นักแสดงประกอบ 27 กนั ยายน ชว่ งที่ 1 มีกระบวนท่าและการเลา่ เร่อื งที่ชดั เจนขนึ้ และควรปรับแก้ท่า 2564 ประกอบสร้างให้นกั แสดงยกแลว้ ทรงตัวให้ดีข้ึน และช่วงที่ 2 ควร รอบ 70 - 90 % ปรบั แก้กระบวนทา่ ให้สอดคล้องกับเรื่องราวทผี่ ู้สร้างสรรค์กำลงั สอ่ื สาร อยู่ 11 ตลุ าคม 2564 ช่วงที่ 1 กระบวนท่าของนักแสดงหลกั ยังไมช่ ัด ทำให้นกั แสดงประกอบ คณะกรรม เด่นกว่า นกั แสดงหลกั ผู้ชายยังมีความกังวลและช่วงที่ 2 อยากให้ลอง ภายนอก ปรบั เปลย่ี นการใช้อุปกรณ์ประกอบการแสดง
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สงั คม 56 องค์ประกอบการแสดง องค์ประกอบการแสดงถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างสรรค์ผลงานทางด้าน นาฏศิลป์ ผู้สร้างสรรคไ์ ด้มกี ารออกแบบองคป์ ระกอบในการแสดงชุด ฮักสถิต โดยแบง่ ออกเป็น 7 องค์ประกอบ คือ ดนตรีประกอบการแสดง เครื่องแต่งกาย ผู้แสดง อุปกรณ์ประกอบการ แสดง แสงและฉาก การใช้พนื้ ที่ และกระบวนทา่ รำ โดยผู้สร้างสรรค์ได้ดำเนินการเขียนอธิบาย ไว้ ดงั นี้ - ดนตรีและเสียงประกอบการแสดง ผู้สร้างสรรค์ได้ออกแบบดนตรีและเสียงประกอบการแสดงให้สอดคล้องตามช่วงการ แสดงแบ่งออกเปน็ 2 ช่วงดังนี้ ช่วงที่ 1 ผู้สร้างสรรค์ผลงานใช้เพลง ล่องแม่ปิง เพื่อสื่อให้เห็นถึงการเปรียบผู้หญิงเปน็ เหมือนดอกไม้ชั้นสูง ดัง่ ความรกั ของหญงิ สาวที่ ยึดมนั่ และศรัทธาในความรกั โดยเลือกใช้เสียง ของปลุ่ยเมือง ภาษาถิ่นล้านนาอาจเรียกว่า ขลุ่ยตาด ชาวหนุ่มล้านนามักนิยมใช้เสียงขลุ่ยนั้น เวลาจีบสาว ผู้สร้างสรรค์ผลงานจงึ ใช้การเป่าขลุ่ยเปน็ ตัวสอ่ื ให้เห็นถึงการเกี้ยวพาราสีของหนุ่ม สาว และนำบทประพนั ธฉ์ บบั กิ่งโศกมาใช้เพือ่ ส่อื ถึงความรสู้ กึ ของหญงิ สาว ช่วงที่ 2 เพลงเอื้องแซะ ขับร้องโดยคุณสุนทรี เวชานนท์ ประพันธ์บทร้อ ง โดยคุณ ปฏิญญา ตั้งตระกูล สื่อให้เห็นถึงการรอคอย การศรัทธายึดมั่นในความรักของหญิงสาว ซึ่งผู้ สร้างสรรค์ผลงานนั้นได้ดำเนินการขออนุญาตในการใช้เพลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วประกอบกา ร แสดงแล้ว ตาราง 10 แสดงดนตรีและเสยี งประกอบการแสดงนิพนธ์ ชุด ฮักสถิต ช่วง เวลา การสือ่ ความหมาย/อารมณเ์ พลง 1) เพลงลอ่ งแมป่ ิง 00.00 – 02.82 ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องการสื่อให้เห็นถึงการ เปรยี บผู้หญงิ เป็นเหมือนดอกไม้ช้ันสูง ดั่งความ บทประพนั ธ์ 02.82 – 05.10 รกั ของหญงิ สาวที่ ยึดมั่นและศรัทธาในความรัก กิง่ โศก โดยเลอื กใช้เสยี งของปลุ่ยเมือง ภาษาถิน่ ลา้ นนา อาจเรียกว่า ขลุ่ยตาด ชาวหนุ่มล้านนามักนิยม ใช้เสยี งขล่ยุ น้ันเวลาจีบสาว ผู้สร้างสรรค์ผลงาน จึงใช้การเป่าขลุ่ยเป็นตัวสื่อให้เห็นถึงการเกี้ยว
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สงั คม 57 ชว่ ง เวลา การสื่อความหมาย/อารมณเ์ พลง 2) เพลงเอือ้ งแซะ 05.11 – 11.04 พาราสีของหนุ่มสาว และนำบทประพันธ์ฉบับ ขับรอ้ งโดยคณุ กิ่งโศกมาใช้เพื่อสอ่ื ถึงความรสู้ กึ ของหญงิ สาว สุนทรี เวชานนท์ ประพนั ธ์บทร้อง ผู้สร้างสรรคผ์ ลงานต้องการสื่อให้เห็นถึงการรอ โดยคณุ ปฏิญญา คอยและการศรัทธายึดมั่นในความรักของหญิง ตั้งตระกลู สาว ซึ่งผสู้ ร้างสรรค์ผลงานน้ันได้ดำเนินการขอ อนุญาตในการใช้เพลงเพื่อประกอบการแสดง เป็นทีเ่ รยี บรอ้ ยแล้ว - เครือ่ งแตง่ กาย การออกแบบเคร่อื งแตง่ กายการแสดง ประกอบดว้ ย รปู แบบการแต่งกาย แบบชาว ล้านนาและองค์ประกอบอื่น ๆ ได้แก่ เครื่องประดับ การแต่งหน้า การออกแบบทรงผม ผู้ สร้างสรรค์สามารถอธิบายถึงความสำคัญของรูปแบบการแต่งกายที่ใช้ในกระบวนการ สร้างสรรค์แบง่ ออกเป็น 2 แบบ ดงั นี้ ภาพ 7 เครอ่ื งแต่งกายของนักแสดงหลัก ที่มา: ปทิตตา ไชยปรงุ
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สังคม 58 ตาราง 11 แสดงรปู แบบการแต่งกายของนักแสดงหลัก นักแสดง ลกั ษณะการออกแบบ องคป์ ระกอบอื่น ๆ นักแสดงฝ่ายชาย ผู้สร้างสรรค์ไดอ้ อกแบบ เคร่อื งประดับที่ใช้สำหรับ นักแสดงฝา่ ยหญงิ เครอ่ื งแตง่ กายนกั แสดงฝ่าย การแตง่ กายของผู้แสดง ชายให้สอดคลอ้ งกับ ประกอบไปด้วย เข็มขดั เงิน ลกั ษณะการแตง่ กายของ ตามลักษณะชายหนมุ่ ชาวลา้ นนาอันประกอบไป ลา้ นนา ดว้ ยพนั ผ้าโพกศีรษะสขี าว เส้อื แขนยาวสขี าว ผ้าคล้อง คอสเี ขียวเข้ม ใส่เกดมั้มสี น้ำตาลออกแดง ผ้าคาดเอว สเี ขียวอ่อนและสักขาลาย การสกั ขาลาย เป็นการสกั เพือ่ ความสวยงามตาม จารีตประเพณนี ิยม เปน็ เอกลกั ษณท์ ี่แสดงถึงความ เข้มแข็งของชายลา้ นนา ผู้สร้างสรรค์ไดอ้ อกแบบ เครื่องประดบั ทีใ่ ช้สำหรบั เคร่อื งแต่งกายนักแสดงฝา่ ย การแตง่ กายของนกั แสดง หญงิ ให้สอดคลอ้ งกบั ประกอบไปด้วย เขม็ ขัดทอง ลักษณะการแต่งกายของ กำไลข้อมือ ตา่ งหู ปิ่นปักผม ชาวลา้ นนาอันประกอบไป และดอกไมท้ ีอ่ อกแบบจาก ดว้ ยผ้าพนั อกสีขาว สไบสี ดนิ ปั้นตามลกั ษณะของดอก เหลอื งการห่มสไบหม่ แบบ เอือ้ งแซะ จดั แตง่ ทรงผม ลา้ นนารว่ มสมัย ผ้าซิน่ ตีน โดยรวบผมต่ำแลว้ มวยผม จกส่วนหวั ซิน่ สขี าว ตวั ซิน่ ไปด้านหลัง สม้ ตีนซิ่นสเี ขียวเพือ่ ให้ สอดคลอ้ งกับสขี องดอก เอือ้ งแซะ
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สังคม 59 ภาพ 8 เครอ่ื งแต่งกายของนักแสดงประกอบ ทีม่ า: ปทิตตา ไชยปรงุ ตาราง 12 แสดงรูปแบบการแตง่ กายของนักแสดงรอง นักแสดง ลกั ษณะการออกแบบ องค์ประกอบอื่นๆ นักแสดงฝา่ ยชาย ผู้สร้างสรรค์ไดอ้ อกแบบ เครอ่ื งประดับที่ใช้สำหรบั เครอ่ื งแตง่ กายนกั แสดงฝ่าย การแตง่ กายของผู้แสดง ชายให้สอดคลอ้ งกับ ประกอบไปด้วย เข็มขัดเงิน ลักษณะการแตง่ กายของ เชือกมัดแขน ตามลกั ษณะ ชาวลา้ นนาอันประกอบไป ชายหนุ่มลา้ นนา ดว้ ยพันผ้าโพกศีรษะสขี าว เส้อื ก๊กั คอจีนสคี รมี ใส่เกด มั้มสีน้ำตาลออกแดง ผ้า คาดเอวสีแดงและสักขาลาย การสกั ขาลาย เปน็ การสกั เพื่อความสวยงามตาม จารีตประเพณนี ิยม เป็น เอกลกั ษณท์ ีแ่ สดงถึงความ เข้มแข็งของชายลา้ นนา
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 60 นกั แสดง ลกั ษณะการออกแบบ องคป์ ระกอบอื่นๆ นักแสดงฝ่ายหญงิ ผู้สร้างสรรคไ์ ดอ้ อกแบบ เคร่อื งประดับทีใ่ ช้สำหรับ เครอ่ื งแตง่ กายนกั แสดงฝา่ ย การแตง่ กายของนกั แสดง หญงิ ให้สอดคลอ้ งกับ ประกอบไปด้วย เข็มขัดทอง ลักษณะการแตง่ กายของ กำไลข้อมือและปิน่ ปักผม ชาวลา้ นนาอนั ประกอบไป จดั แตง่ ทรงผมโดยรวบผม ดว้ ยผ้าพนั อกสีขาว สไบสี ตำ่ แลว้ มวยผมไปดา้ นหลัง ขาว การหม่ สไบหม่ แบบ ลา้ นนารว่ มสมัย ผ้าซิน่ ก่าน สว่ นหวั ซิน่ สดี ำ ตวั ซิน่ สแี ดง น้ำตาล ตีนซิ่นสดี ำเพือ่ ให้ สอดคลอ้ งกบั นกั แสดงฝา่ ย ชายและสขี องกลบี ดอก เออื้ งแซะ - ผู้แสดง การคัดเลือกนักแสดงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ นักแสดงหลักและนักแสดง ประกอบ โดยผู้แสดงทั้ง 2 ประเภท แบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ ได้แก่ ฝา่ ยหญงิ และฝ่ายชาย ผู้สร้างสรรคไ์ ด้กำหนดนักแสดงทั้งหมด 8 คน ประกอบไปด้วย ผู้แสดงฝ่ายชายจำนวน 4 คน ผู้แสดงฝา่ ยหญงิ จำนวน 4 คน โดยผู้สร้างสรรค์คดั เลอื กผู้แสดงจากความสามารถและทักษะ การแสดงผา่ นบูรณาการ มีขน้ั ตอนดงั นี้ 1. ฝึกหดั นักแสดง ผู้สร้างสรรค์ผลงานมกี ารบูรณาการรว่ มกับรายวิชาพืน้ ฐาน การเคลื่อนไหว เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของตัวนักแสดงและคัดเลือกนักแสดงให้ เหมาะสมกบั การแสดงของผู้สร้างสรรค์
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ่สู ังคม 61 ภาพ 9 ภาพฝึกซอ้ มการแสดง ที่มา: ปทิตตา ไชยปรุง ภาพ 10 ภาพฝึกซอ้ มการแสดง ที่มา: ปทิตตา ไชยปรุง
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สังคม 62 2. ดำเนินการฝึกหัดนักแสดงตามการออกแบบการแสดงของผู้สร้างสรรค์ขณะที่ ผู้สร้างสรรค์ได้ทำการฝกึ หดั นกั แสดงผู้สร้างสรรคไ์ ด้พบปญั หาในการแสดง เชน่ นกั แสดงยัง มีทักษะการแสดงไม่เพียงพอตามที่ผู้สร้างสรรค์ต้องการจึงเกิดปัญหาในการฝึกหัด ผู้ สร้างสรรค์จึงแก้ปญั หา ดังนี้ 2.1 ดำเนนิ การปรบั ท่าให้สอดคลอ้ งกับนักแสดง 2.2 ดำเนนิ การฝึกสมรรถนะการเคลอ่ื นไหวของแสดง โดยบูรณาการรว่ มกับ งานวิจัยของ อาจารยล์ ขิ ิต ใจดแี ละผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ปราณี อยู่ศิริ จากคณะวิทยาศาสตร์ การกีฬา เรื่อง การเพิ่มสมรรถนะการเคลื่อนไหวของนาฏศิลปินสร้างสรรค์ต ามหลัก วิทยาศาสตร์ ผู้สร้างสรรค์จึงได้นำมาทดลองใช้แบบฝึกหัดในงานวิจัยมาดำเนินตามการ ออกแบบการแสดงของผู้สร้างสรรค์ “จึงได้เห็นว่านักแสดงมีการทรงตัวที่มั่นคง และสามารถ ทำท่าประกอบสร้างได้ดีขึ้น” อีกทั้งยังเป็นการรักษาสุขภาพมิให้เกิดการบาดเจ็บขณะทำการ แสดง โดยมีรายชื่อผู้แสดงดังต่อไปนี้ นกั แสดงหลัก 1. นางสาวปทิตตา ไชยปรุง นิสิตสาขาศิลปะการแสดง ชั้นปีที่ 4 2. นายกิจสมบูรณ์ จมี้ ลู นิสิตสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ช้ันปีที่ 1 นกั แสดงประกอบ 1. นางสาวชญาณี ลขิ ิตานุสทิ ธิ์ นิสิตสาขาศิลปะการแสดง ชั้นปีที่ 4 2. นางสาวจารุวรรณ แสนยาวิชยั นิสิตสาขาศิลปะการแสดง ชั้นปีที่ 4 3. นายอภิศักดิ์ ขนุ ประเสริฐ นิสิตสาขาศิลปะการแสดง ช้ันปีที่ 4 4. นางสาวนริศราภรณ์ เจนพรมราช นิสิตสาขาศิลปะการแสดง ชั้นปีที่ 1 5. นางสาวนาฏอนงค์ กรีประดบั นิสิตสาขาศิลปะการแสดง ชั้นปีที่ 1 6. นายไพศาล สะสมนิยม นิสิตสาขาศิลปะการแสดง ชั้นปีที่ 1 7. นายโยธิน คำพลแสน นิสิตสาขาศิลปะการแสดง ช้ันปีที่ 1
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ่สู งั คม 63 - อปุ กรณ์ประกอบการแสดง อุปกรณ์ประกอบการแสดง ชุด ฮักสถิต ผู้สร้างสรรค์ได้กำหนดให้ใช้ร่มเพื่อสื่อให้ เหน็ ถึงอัตลักษณข์ องชาวลา้ นนา อีกทง้ั ยงั เป็นอุปกรณป์ ระกอบเพื่อสร้างมิติในการแสดงและ สอดคลอ้ งกบั แนวความคิดในแต่ละชว่ ง ภาพ 11 ภาพการแสดงในชว่ งที่ 1 ความฮัก ทีม่ า: ปทิตตา ไชยปรงุ ภาพ 12 ภาพการแสดงในชว่ งที่ 2 สถิตฮัก ที่มา: ปทิตตา ไชยปรงุ
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ งั คม 64 - แสงและฉากประกอบการแสดง แสงและฉากประกอบการแสดงประกอบการแสดง ชุด ฮักสถิต ผู้สร้างสรรค์ได้ กำหนดให้มีแสงปรากฏอยู่ในการแสดงทั้ง 2 ช่วง เพื่อสื่อให้เห็นถึงขั้นตอนการแสดงตาม ลักษณะของช่วงการแสดงที่ผู้สร้างสรรค์ ได้กำหนดเอาไว้โดยได้ออกแบบดงั นี้ ตาราง 13 แสดงแสงและฉากศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ ฮกั สถิต ชว่ งที่ 1 ภาพประกอบ ช่วงเวลา แสง ฉาก สือ่ อารมณ์ 00.00 – ใช้แสงสีชมพู ใช้รม่ เปิดตวั ส่อื ให้เห็นถึงการเกยี้ วพาราสีของหนมุ่ 01.47 สอ่ื ถึง ความรัก นกั แสดงเพือ่ สร้าง สาวโดยใช้เสียงขล่ยุ ในการดำเนินเรื่อง มิติในการแสดง
ชว่ งที่ 1 นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ งั คม 65 ภาพประกอบ ช่วงเวลา แสง ฉาก สือ่ อารมณ์ 01.48 – ใช้แสงสีน้ำเงิน ฉายภาพพืน้ หลัง การให้คำสาบาน ส่อื ให้เห็นถึงการให้ 03.32 ส่อื ถึง เป็นภาพต้นไม้ สญั ญาใจของหนุ่มสาว ใหญ่ ความม่ันคง ความศรัทธา ภาพประกอบ ความเชื่อถือ ช่วงที่ 1 ชว่ งเวลา แสง ฉาก สือ่ อารมณ์ 03.33 – ใช้แสงสีน้ำเงิน ฉายภาพพนื้ หลัง ปักดอก หรือการนำดอกไมม้ าทดั หใู ห้ 04.20 สอ่ื ถึง ความ เป็นภาพดอกเอือ้ ง หญงิ สาว ซึ่งสาวเมืองเหนือนยิ มนำ แซะ ดอกเอือ้ งมาแซมผมชายใดที่เอาเออื้ ง มั่นคง ความศรทั ธา แซะแซมผมให้คนรักจะเป็นสิง่ ทีท่ ำให้ ความจงรักภกั ดี คนรกั รู้วา่ \"เขารักเธอจริงและยกย่อง เธอเสมอเหมือนทีเ่ ออื้ งแซะเป็นของสูง กต็ ้องค่คู วรกับหญงิ สาว\"
ช่วงที่ 1 นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สู่สังคม 66 ภาพประกอบ ช่วงเวลา แสง ฉาก สือ่ อารมณ์ 04.21 – ใช้แสงสีน้ำเงิน ฉายภาพพนื้ หลงั สอ่ื ให้เห็นถึงการจากลาของหนมุ่ สาว 05.33 ส่อื ถึง ความ เป็น โดยชายหนุ่มไดใ้ ห้สัญญาวา่ จะหาเงิน ภาพดอกเออื้ งแซะ ทองมาหมัน้ หมายแล้วจะกลบั มา มน่ั คง ความจงรกั ภกั ดี ช่วงที่ 2 ภาพประกอบ ช่วงเวลา แสง ฉาก สื่ออารมณ์ 05.34 – ใช้แสงสีแดง ฉายภาพพนื้ หลัง สอ่ื ให้เหน็ ถึงการรอคอย เฝ้ารอคนรัก 09.44 ส่อื ถึง ความ เป็นภาพ พระจนั ทร์และ มุ่งมั่น ดอกไม้
ช่วงที่ 2 นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 67 ภาพประกอบ ชว่ งเวลา แสง ฉาก สื่ออารมณ์ 09.45 – ใช้แสงสีขาว ฉายภาพพืน้ หลงั ต้องการสือ่ ให้เห็นถึงความมนั่ คงใน 10.00 สอ่ื ถึง ความ เปน็ ความรกั ของหญงิ สาวแม้จะจากโลกไป ภาพดอกเออื้ งแซะ ก็ยึดมัน่ และศรทั ธาความรักเชน่ เดมิ บรสิ ุทธ์ิ ชว่ งที่ 2 ภาพประกอบ ช่วงเวลา แสง ฉาก สื่ออารมณ์ 10.01 – ใช้แสงสีขาว ฉายภาพพืน้ หลัง ส่อื ให้เห็นถึงการกลับมาของชายหนมุ่ 11.04 ส่อื ถึง ความ เป็น ดัง่ คำร้องของเพลงเอือ้ งเพลงที่ได้กลา่ ว ภาพดอกเอือ้ งแซะ ว่า บูชาฮกั แต้ แน่จง สมใจ บรสิ ทุ ธ์ิ
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ ังคม 68 กระบวนทา่ และการใช้พน้ื ที่ในการแสดง ผู้สร้างสรรค์ได้ออกแบบทา่ ทางตามเนือ้ ร้องและบทประพนั ธ์โดยใช้ต้นทุนจากแม่ท่า ฟ้อนสายสกุลช่างฟ้อนของล้านนาตะวันออก เช่น ท่าฟ้อนสาวไหมของแม่ครูบวั เรียว รัตนมณี ภรณ์ ลักษณะการแง้นของครูกฤษณา กาญจนสุระกิจ และท่าตบเจิงของครูอริน พูลเกษม ตวั อย่างท่าปรากฏอยู่ในการแสดง และการใช้พนื้ ทีต่ ำแหนง่ ต่าง ๆ ในการแสดง เป็นสิง่ หนึ่งที่ทำ ให้ผู้รบั ชมมคี วามสนใจในการแสดงนั้น อีกทง้ั ยังสื่อให้เหน็ ถึงการแสดงในรูปแบบหลากหลายมิติ ที่ส่งผลให้การแสดงมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการแสดงครั้งนี้ผู้สร้างสรรค์ได้แบ่ง พนื้ ทีบ่ นเวทีออกเปน็ 15 ส่วน ดังนี้ 1. Upstage Right (UR) เวทีสว่ นในขวาสดุ 2. Upstage Right Center (URC) เวทีส่วนในดา้ นขวากลาง 3. Upstage Center (UC) เวทีส่วนในตรงกลาง 4. Upstage Left Center (ULC) เวทีส่วนในดา้ นซ้ายกลาง 5. Upstage Left (UL) เวทีส่วนในดา้ นซ้ายสดุ 6. Right stage (R) เวทีฝงั่ ขวา 7. Right stage Center (RC) เวทีฝ่ังขวากลาง 8. Center stage (C) ส่วนกลางเวที 9. Left stage Center (LC) เวทีฝั่งซา้ ยกลาง 10. Left stage (L) เวทีฝั่งซา้ ย 11. Downstage Right (DR) เวทีส่วนหน้าขวาสุด 12. Downstage Right Center (DRC) เวทีส่วนหน้าขวากลาง 13. Downstage Center (DC) เวทีหน้ากลาง 14. Downstage Left Center (DLC) เวทีส่วนหน้าดา้ นซ้ายกลาง 15. Downstage Left (DL) เวทีสว่ นด้านหน้าซ้ายสดุ
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ ังคม 69 ตาราง 14 แสดงกระบวนท่าและการใช้พืน้ ที่ของ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ฮักสถิต ลำดับ ชว่ งเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ ้นื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 1 ความฮกั 1 00.00 นักแสดงหลกั ทั้งฝา่ ยชาย และฝ่ายหญงิ อย่ใู น ตำแหน่ง C ฝ่ายชายเปา่ ขลยุ่ เพลง ลอ่ งแมป่ ิง และผู้แสดง ฝ่ายหญงิ ฟ้อนตาม ทำนองเพลง โดยใช้ต้นทนุ จากแม่ทา่ ของคณุ ครู กฤษณา กาญจนสรุ ะ กิจและ คุณครูอรนิ พลู เกษม ชว่ งที่ 1 ความฮกั
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ ังคม 70 ลำดับ ชว่ งเวลา กระบวนท่าและการใช้พน้ื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย 2 00.00 – นกั แสดง 01.10 หลักทั้งฝ่าย ชายและฝา่ ย หญงิ อยใู่ น ตำแหน่ง C ฝา่ ยชายเปา่ ขลุ่ยเพลง ล่องแมป่ ิง และผู้แสดง ฝา่ ยหญงิ ฟ้อนตาม ทำนองเพลง โดยใช้ต้นทนุ จากแมท่ ่า ของคณุ ครู กฤษณา กาญจนสรุ ะ กิจและ คุณครูอรนิ พูลเกษม นกั แสดง ประกอบฝา่ ย หญงิ วิง่ มาอยู่ ตำแหน่ง C ,DC ทำ ภาพประกอบ สร้าง ชว่ งที่ 1 ความฮัก
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 71 ลำดับ ชว่ งเวลา กระบวนท่าและการใช้พน้ื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย 3 01.11 - นักแสดง 01.35 หลักทั้งฝ่าย ชายและฝา่ ย หญงิ เดนิ ไป อยใู่ น ตำแหนง่ DR ฝา่ ยชายเป่า ขลุ่ยเพลง ล่องแมป่ ิง และผู้แสดง ฝ่ายหญงิ ฟ้อนตาม ทำนองเพลง โดยใช้ต้นทนุ จากแมท่ ่า ของแมค่ รูบวั เรียว รัต นมณีภรณ์ นักแสดง ประกอบฝ่าย หญงิ วิง่ ไปอยู่ ตำแหนง่ DL ,LC ทำ ภาพประกอบ สร้าง ชว่ งที่ 1 ความฮัก
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ่สู งั คม 72 ลำดับ ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใช้พน้ื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย 4 01.36 – นักแสดง 02.20 หลกั ทั้งฝา่ ย ชายและฝา่ ย หญงิ เดนิ ไป อยใู่ น ตำแหน่ง DL ฝ่ายชายเป่า ขล่ยุ เพลง ล่องแมป่ ิง และผู้แสดง ฝ่ายหญงิ ฟ้อนตาม ทำนองเพลง โดยใชแ้ มท่ ่า ของแมค่ รูบัว เรียว รตั นมณีภรณ์ นกั แสดง ประกอบฝา่ ย หญงิ วิง่ ไปอยู่ ตำแหนง่ LC ,UL เปน็ ลักษณะแถว เฉียง ทำ ภาพประกอบ สร้าง ชว่ งที่ 1 ความฮัก
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 73 ลำดับ ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใช้พน้ื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย 5 02.21 – ชว่ งที่ 1 ความฮัก นกั แสดง 02.50 หลกั ฝา่ ยชาย เดนิ ไปอยู่ ตำแหนง่ UC ฝา่ ยหญงิ วิง่ ไปอยูใ่ น ตำแหน่ง UC ฝา่ ยชายเปา่ ขลุ่ยเพลง ลอ่ งแม่ปิง ผู้แสดงฝ่าย หญงิ ทำ ภาพประกอบ สร้างและ ฟ้อนตาม ทำนองเพลง โดยใช้ต้นทุน จากแม่ทา่ ของคุณครู กฤษณา กาญจนสุระ กิจและ คุณครูอรนิ พลู เกษม นกั แสดง ประกอบฝา่ ย หญงิ วิ่งไปอยู่ ตำแหนง่ UC
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ู่สงั คม 74 ลำดับ ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใช้พน้ื ที่ในการแสดง อธิบาย 6 02.51 - นักแสดง 03.04 หลกั ทั้งฝ่าย ชายและฝ่าย หญงิ เดนิ ไป อยู่ใน ตำแหน่ง C ฝ่ายชายเดนิ โอบหลงั ฝา่ ย หญงิ ไปยัง ตำแหน่ง C นกั แสดง ประกอบฝา่ ย หญงิ วิง่ ไปอยู่ ตำแหนง่ DR ,RC ,UR ฝา่ ย ชายวิ่งไปอยู่ ตำแหนง่ DL ,LC ,UL ทำทา่ รอวิง่ สวนกนั ชว่ งที่ 1 ความฮัก
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สูส่ งั คม 75 ลำดับ ชว่ งเวลา กระบวนท่าและการใชพ้ น้ื ที่ในการแสดง อธิบาย 7 03.05 – นักแสดง 03.30 หลกั ท้ังฝ่าย ชายและฝา่ ย หญงิ เดนิ ไป อยใู่ น ตำแหน่ง C ทั้งสองกำลัง ให้คำสาบาน กันที่ใต้ต้นไม้ ใหญ่ ช่วงที่ 1 ความฮกั 8 03.31 – นักแสดง 04.30 หลกั ท้ังฝ่าย ชายและฝ่าย หญงิ เดนิ ไป อยู่ใน ตำแหน่ง C ฝา่ ยหญงิ รำตี บทตามบท ประพันธ์ ฉบบั กิง่ โศก โดยใช้ต้นทุน จากแม่ท่า ของคณุ ครู กฤษณา กาญจนสุระ กิจและ
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ งั คม 76 ลำดับ ช่วงเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ น้ื ที่ในการแสดง อธิบาย คุณครอู รนิ 9 04.31 - พลู เกษม 04.51 นักแสดง ประกอบท้ัง ฝ่ายหญงิ และฝา่ ยชาย วิ่งเข้ามาอยู่ ตำแหนง่ RC ,UC ,UL เป็น ค่ลู กั ษณะ แถวเฉียง ทำท่าตีบท ตามบท ประพันธ์ ฉบบั กิ่งโศก ช่วงที่ 1 ความฮกั นักแสดง หลกั ทั้งฝ่าย ชายและฝา่ ย หญงิ เดนิ ไป อย่ใู น ตำแหน่ง C ท้ังสองโอบ กอดกนั ดว้ ย ความรกั ไม่ อยากพลดั พรากจากกนั ไปนกั แสดง
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ ังคม 77 ลำดบั ชว่ งเวลา กระบวนทา่ และการใชพ้ ้นื ที่ในการแสดง อธิบาย ช่วงที่ 2 สถิตฮัก ประกอบฝ่าย 10 04.52 – หญงิ วิ่งไปอยู่ 05.15 ตำแหน่ง UC ฝา่ ยชายวิง่ ไป อยู่ตำแหน่ง DC ท้ังสอง ทำ ภาพประกอบ สร้าง นักแสดง หลักทั้งฝ่าย ชายและฝา่ ย หญงิ เดนิ ไป อยู่ใน ตำแหน่ง C ทั้งสองจบั มือ กันดว้ ย อารมณ์ทีย่ ัง ไมอ่ ยากพลดั พรากจากกัน นกั แสดง ประกอบฝ่าย หญงิ ลุกข้นึ ไปอยู่ ตำแหนง่ C ฝ่ายชายลุก ขนึ้ ไปอยู่ ตำแหน่ง C
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ ังคม 78 ลำดับ ชว่ งเวลา กระบวนทา่ และการใช้พ้นื ที่ในการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 2 สถิตฮัก ,UC ทั้งสอง 11 05.16 – ทำ 05.32 ภาพประกอบ สร้าง นกั แสดง หลกั ฝา่ ยชาย ค่อยๆเดนิ ไป ตำแหนง่ RC ฝา่ ยหญงิ คอ่ ยๆเดนิ ไป ตำแหนง่ LC ทั้งสองคอ่ ย เดนิ ออกจาก กัน นกั แสดง ประกอบฝ่าย หญงิ ค่อยๆ เดนิ ไป ตำแหนง่ UL ฝา่ ยชาย คอ่ ยๆเดนิ ไป ตำแหนง่ UR ท้ังสองทำ ค่อยๆท่าเดนิ ออก
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรค์สสู่ ังคม 79 ลำดบั ช่วงเวลา กระบวนท่าและการใชพ้ ้นื ที่ในการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 2 สถิตฮกั 12 05.33 – นกั แสดง 06.10 หลกั ฝา่ ย หญงิ วิ่งมาอยู่ ตำแหนง่ C นกั แสดง ประกอบฝา่ ย หญงิ วิ่งจาก ตำแหน่ง UL มาอยู่ ตำแหน่ง C ทั้งสองทำ ทา่ ทางฟ้อน ตามเนือ้ ร้อง เพลง เอือ้ ง แซะ โดยใช้ ต้นทุนจาก แม่ทา่ ของ คุณครู กฤษณา กาญจนสุระ กิจและ คุณครอู รนิ พูลเกษม
นาฏยปญั ญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ สู่ ังคม 80 ลำดบั ช่วงเวลา กระบวนท่าและการใชพ้ ้นื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 2 สถิตฮกั 13 06.11 – นกั แสดง 06.38 หลักฝ่าย หญงิ อยู่ ตำแหน่ง C ทำทา่ ทาง ฟ้อนตามเนือ้ ร้อง เพลง เอือ้ งแซะ ส่อื ให้เหน็ ถึง การรอคอย คนรัก และ ขนึ้ ประกอบ สร้าง โดยใช้ ต้นทนุ จาก แม่ท่าของ คุณครู กฤษณา กาญจนสุระ กิจและ คณุ ครูอรนิ พูลเกษม นกั แสดง ประกอบฝ่าย หญงิ วิง่ มาอยู่ ตำแหน่ง DC ทำ ภาพประกอบ สร้าง ฝา่ ย
นาฏยปัญญา: ศลิ ปกรรมสร้างสรรคส์ ่สู งั คม 81 ลำดับ ชว่ งเวลา กระบวนทา่ และการใช้พน้ื ทีใ่ นการแสดง อธิบาย ชว่ งที่ 2 สถิตฮัก ชายวิง่ เข้ามา 14 06.39 - อยตู่ ำแหน่ง 06.59 C ทำ ภาพประกอบ สร้าง นักแสดง หลกั ฝา่ ย หญงิ วิ่งไปอยู่ อยตู่ ำแหนง่ RC ทำทา่ ทางฟ้อนตาม เนือ้ ร้อง เพลง เออื้ ง แซะ ส่อื ให้ เห็นถึงการ รอคอยคนรกั นักแสดง ประกอบฝ่าย หญงิ วิง่ ไปอยู่ ตำแหน่ง C , UL ฝ่ายชาย วิ่งไปอยู่ ตำแหน่ง URC ,UC ทั้ง สองทำ ภาพประกอบ สร้าง เปน็
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270