Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมเล่มเยือนถิ่น เพลงซอ

รวมเล่มเยือนถิ่น เพลงซอ

Published by panadda tocomnust, 2019-10-24 23:13:56

Description: รวมเล่มเยือนถิ่น เพลงซอ

Search

Read the Text Version

๔๑. วนั นั้นเกดิ อัศจรรย์ เกดิ ขนึ้ ส่องหน้าพี่น้อง เณรเทืองมอบ(แอบ)อยู่ในห้อง ทอ่ งสวดคดั ถา(คาถา)บาลี ท่ีปา่ ชา้ าบ้านสันทรายก้อม เพ่นิ จะสร้างเมรเุ ผาผี โหล่งอา้ เภอสารภี เพน่ิ จนพออู้พอเลา่ ๔๒. อันหมพู่ ี่น้องศรัทธา กไ็ หลกันมาใส่บาตรธุเจา้ (พระ) คนอ่นื เพ่ินตน่ื ชาดเชา้ (แต่เช้า) บา่ ว่าเถ้าแกห่ ญิงชาย เดือดว่าพระตนน้ี อะหยง่ั มานอนลุกขวาย ค้าน้ันศรัทธาทั้งหลาย เขาพากันไปผกผ่อ(แอบดู) ๔๓. มันเปน็ สิ่งทห่ี น้ากลัว งเู ห่ายอหวั ข้นึ มาฝ่อๆ ชาวบ้านที่เพ่ินมาผ่อ (ดู) เดือดกันเต็มบ้านเต็มเมือง พระน้อยไดย้ ินเปน้ิ เดือด ฟง่ั (รีบ)ลกุ มานุ่งผ้าเหลือง งูเหา่ สดเขา้ กองเฟอื ง หายไปอยา่ งหนา้ ประหลาด ๔๔. ศรทั ธาทเี่ พ่ินมาผก(ด)ู พอ่ งพอใจตกอกขาด เณรหน้อยก็ฟั่ง(รีบ)อุ้มบาตร ออกมาหาหมู่ศรทั ธา บไ่ ด้วิตกสักอย่าง ดงั่ กบั บ่มีปัญหา เปน็ อานภุ าพบุญญา ของท่านครูบาปางก่อน ๔๕. ช่ือเสยี งก็ทวีคูณ ว่าเปน็ ตนบญุ ละอ่อน ทา้ หอ้ื เปน็ เงาสะท้อน ท่วั อ้าเภอสารภี บางคนก็อู้กเ็ ลา่ วา่ งเู ห่าน้ันเปน็ ผี เลา่ ว่าพระหนอ้ ยมดี ี ผีมานอนด้วยคนื ร่งุ ๔๖. เพราะทา่ นมีเหรยี ญครบู า ผีสางเทวาบม่ ีหยัง(อะไร)มายุ่ง ชือ่ เสยี งโด่งดังหอมฟงุ้ เหมอื นดั่งครบู าศลี ธรรม ฤทธเี ตชะเพ่ินแรง เพิน่ มาแสดงห้อื ท้าตาม ฉนั ขา้ วคาบเดยี วประจา้ ถือเอกาทา้ ตั้งตลอด

๔๗. จบแผวธรรมตรีธรรมโท ตั้งแตน่ ะโมแผว(ถึง)ยอด มีความลา่้ ปดึ๊ ก๊ึดฮอด ไหว้สาพระเถรเณรองค์ อายยุ า่ งเขา้ ซาวเอด็ (ยส่ี ิบเอ็ด) ทา่ นก็ได้เพ็กขเ์ ป็นสงฆ์ (อปุ สมบท) เดือนแปดเหนือมนั ตรง วนั อาติตย์แรมสามคา้่ ๔๘. ซ้าเปน็ เดือนพฤษภา ฤกษ์ยามเวลาพร้อมพร่้า สองพันห้าร้อยมาย้่า ปลายแถมซาว(ยี่สบิ )เก้าพอดี ตามอปุ ชั ฌายะ ทา่ นไดว้ าระดถิ ี เจ็ดโมงปลายสบิ เกา้ นาที สุริยะมใี สสอ่ ง ๔๙. เป็นธุอยทู่ ่ีวัดหวั ดง ปฏบิ ัตอิ งคบ์ เ่ คยบกพร่อง อาศัยหมู่พห่ี มูน่ ้อง ท่เี พิน่ เลอื่ มใสศรัทธา อยทู่ ว่ี ัดหัวดงหั้น ประมาณไดส้ ามวสั สา อันเป็นหลวงปคู่ รบู า ท่านเคยไปมาสากราบ ๕๐. ตอนนนั้ ก็มีครูบา ช่อื วา่ บญุ มาก็ได้มรณภาพ ทา่ นกไ็ ดม้ าไหวก้ ราบ วัดเด่นสะหรบี ุญเรอื ง หลวงพอ่ ได้มรณะ บุญพระเส้ียงจากผา้ เหลือง ตอนนนั้ ครบู าเจา้ เทือง ไดม้ ารบั ทานกบั เพน่ิ ๕๑. ทว่ี ัดบา้ นเด่นแม่แตง จะขอชแ้ี จงกลา่ วเอนิ้ (กล่าวถึง) เป็นดอยเก่าแก่แต่เน้นิ (นาน) เหมาะแกน่ ักบวชหลวงลุง สายลมเยน็ พัดชอย(โชย) วัดอยูบ่ นดอยทีส่ ูง ไหวส้ าวญิ ญาณหลวงลุง ชกั จูงหือ้ ได้มาอยู่ ๕๒. อธิษฐานอยใู่ นใจ ทงึ บบ่ อกไผได้รู้ ว่าขอวญิ ญาณหลวงปู่ อนุญาตหื้อเรามา กลัวเปน็ วัดหา่ งวดั ร้าง บ่มีไผมารักษา นกึ แล้วท่านก็อา้ ลา พน่ี อ้ งศรัทธาเฒ่าแก่

๕๓. พอ่ อุ๊ยแม่อยุ๊ ตายไป เหลอื แตห่ ัวใจคือพ่อกับแม่ ตะก่อนได้เล้ยี งคนแก่ บดั นีท้ ่านไปสบาย มาละบา้ นจองเปน็ ห่าง สุดแสนอ้างว้างหัวใจ เราใครไ่ ปอยไู่ กลๆ ทา้ ใจบไ่ ด้เหมือนเก่า ๕๔. ถ้าอยทู่ ี่วัดหวั ดง จติ ใจพะวงพะเวา้ มาคึดเทงิ (คดิ ถงึ )หาคนเฒา่ บช่ า่ งจะยะชาใด เลยเปีย(หยบิ )ได้บาตรกับวี รบี จรลีเดินไกล ครบู ามีความตั้งใจ ไปตามบุญน้ากรรมสง่ ๕๕. สพายบาตรข้ึนบนดอย สายลมจอยปลอดโปรง่ เป็นหนา้ บญุ นา้ ส่ง เปน็ วันท่เี ก้ามนี า พ.ศ สองพันห้าร้อย สามสิบเอด็ ย่างเข้ามาหา มันเป็นวนั ศกุ รน์ ัน้ นา ครบู าเริม่ เข้ามาอยู่ ๕๖. ท่เี พนิ่ อยใู่ กล้วัดใกลว้ า เมื่อคืนก็พากนั มาอูฟ้ ู่(พูดคยุ ) ยนิ ดที ่านจะมาอยู่ มาช่วยเปน็ เค้าเป็นคนั ศรทั ธาแท้บ่มนี ัก มพี ่อแกว่ ัดอาจารย์ พอ่ ตาพ่อเผือกพ่อปนั อา้ ยแกว้ อา้ ยจันอ้ายหน่นั ๕๗. อยมู่ าบเ่ มินบ่นาน วิถีจบี๋ าน(ดอกตมู ดอกบาน)ก็มหี ลายขน้ั ก็มีพ่นี ้องชาวบา้ น หวั ฝายท้งั สันปา่ ตอง วดั เพน่ิ บ่มีธเุ จา้ (พระ) มนั มาหม่นเร้าเศรา้ หมอง นิมนต์ท่านไปปกครอง รบั รองเปน็ เจ้าอาวาส ๕๘. เหมือนกับของว่าของกิน ถา้ บ่สัมผัสลนิ้ มนั บ่รูร้ สชาติ จะเผด็ จะขมจะส้มจะฝาด รสชาตเิ ปน็ อย่างใดชา ลองคอยจะผดคาบ่ผด(ได้หรือไม่ได)้ มันจะอดได้กีว่ ะสา เพ่อื บห่ ้ือ(ไม่ให)้ เสียศรทั ธา จะทดสอบเวลาห้อื คล่อง

๕๙. คนื ทห่ี นึ่งมานอน เอาบทพันพอน(ใหพ้ ร)มาท่อง หายใจพอบา่ รอดทอ้ ง ก็เลยน่ังภาวนา รวบรวมสมาธิ สง่ กระแสจิตไปหา นกึ ถงึ ครบู าบุญมา ตายละวดั วาบา้ นเด่น ๖๐. คนื ทีส่ องท่านนั่งสวดมนต์ ไดย้ นิ เสยี งคนตะโกนด่าเลน่ ไอ่พวกทะลึ่งทะเล้น เดือดกันเต็มบา้ นเต็มเมือง แก้วหูเหมอื นจะหยวดจะหยัวะ(แตก,หลุด) จ้าเป็นไดห้ ล๊ัวะผ้าเหลือง หัวใจครูบาเจา้ เทือง เหมือนกับเสาคา้ งเฟืองเปน็ มอด ๖๑. พอเขา้ คนื ทส่ี าม เหมือนเทว(เดิน)ป่าหนามตลอด จติ ท่านกค็ ึดฮอด (คิดถึง) ไหว้สาหาเทวดา ห้าง(เตรียม)ขนั ข้าวตอกดอกไม้ แล้วเอาไปไหว้ไปสา เม่อื สวดมนตภ์ าวนา ห้อื มใี จฑฆี าอยา่ เบนเบย่ี ง ๖๒. คืนท่สี ี่มแี ตร่ ะแวง ต้ัง(ต้ังแต)่ กินขา้ วแลงเ(ย็น)จนเท้ารอด(กระทั่ง)เท่ียง บึด(เดี๋ยว)กน็ อนคว่้านอนเหงี่ยง ใจเป็นวอ่ แวว่ อแว ตาใสอย่างกับนกเค้า ผอ่ (ดู)ข้ึนบนข่ือบนแป หวั ใจเหมือนเพิ่นเอาแพ ข่ีในทะเลโต้คลน่ื ๖๓. อดหน่อเจ้าพ่ออด นอนพอบ่ผดเป็นหลับๆต่ืนๆ แถมไผจะมาจ้างคืนหมนื่ กจ็ ะหนที ้ังขวางทงั้ ยนื ขอไปตายเอาดาบหนา้ หอบผา้ ได้สองสามผนื หนอี อกวดั หวั ฝายท้ังคืน พิก(กลบั )ไปหัวดงวัดเกา่ ๖๔. เรือ่ งราวท่ซี อผ่านมา เร่ืองของครบู าทา่ นเจ้า ขอเชญิ ตดิ ตามไต่เต้า เรื่องราวเปน็ อยา่ งใดจา พระสงฆ์ทเ่ี พิน่ แก่เฒา่ เคยไปน้อมเกลา้ ไหว้สา ใคร่รเู้ รอ่ื งราวครูบา เปิดตอนสองมาฟงั ต่อ วางเพลง………

ทานองซอลับแลง ๑. ประวัตคิ รูบายงั มแี ถมตอน ท่แี ม่บวั ซอนเปน็ คนแต่งข้ึน คา้ จ๊อยค้าซอมันจะเล๊ิก(ลึก)จะต้ืน จะได้พลกิ ฟนื้ มาเล่าหื้อฟัง ด้านอุปสรรคลอ้ มหนา้ ลอ้ มหลงั นน้ั เปน็ พลังได้นักบห่ น้อย เชญิ ท่านฟังคอย จนจบมว้ นน้ี ๒. เมื่อท่านหนีออกวัดท่ีบ้านหัวฝาย แลว้ กพ็ ิกกลับไปหวั ดงทหี่ ั้น เราเป็นชาววดั บ่ใชช่ าวบ้าน ถา้ จิตใจบห่ ม้ันเพิน่ ว่ามนั บ่ดี ใจก็คึด(คิด)หาวดั เด่นสหลี ถ้าหากบุญมีปารมีกวา้ ง ตวั เราก็หลา้ ง(อาจจะ)พกิ๊ (กลบั )มาแถมครัง้ ๓. ท่านออกจากวดั เดิมออนก่อนหลัง จัดผอ่ สตางคใ์ นถงุ หยา้ มหน้อย จัดแลว้ จัดแถมมหี นั้ สองร้อย เหรยี ญกอ้ มเหรยี ญย่อยมีนัน้ แถมซาว(ยีส่ บิ ) มาคดึ ใจ(คดิ ได้)ย้อนเปน็ ร้อนๆหนาวๆ ตางค์สองร้อยซาวเท็กไหนเท็กหนั้ (ถึงไหนแค่นั้น) แสนเวทนาครูบาตอนน้ัน ๔. มาเคึด(ดกั )ขน้ึ รถสล่ี อ้ สองแถว โซเฟอร์พาแจวไปแผวท่ีหั้น คิวรถแมแ่ ตงพอแลง(เย็น)แล้วนัน้ คา่ โดยสารเพ่นิ บ่เอาสักกา(ไม่เอา) คนน่ังในรถเพิน่ ก็พากนั ถาม ว่าทา่ นครบู าไปไหนมาเจ้า ต่านเลยบอกข้อมลู ห้ือผใู้ จ๋บุญน้นั เลา้ ๕. ทา่ นลงจากรถสี่ล้อแม่แตง ตะวนั ลงแลง(เยน็ )ยังบ่เถงิ (ถึง)บางอ้อ ท่านกเ็ ลยถามจ้างรถสามล้อ ขอไปส่งกาน่อ(ขอไปส่งที)จะเอาเท่าใด เจา้ ของสามลอ้ ว่าหนทางมนั ไกล ว่าบ่เอาหลายขอเสียสิบห้า จะซ้ือยาโดป้ พลังแข้งขามนั เม่ือยล้า ๖. มาเถิง(ถงึ )วดั แลว้ ดีใจล้าเหลือ ทงึ บถ่ ามทางเมอื (ทางกลบั บ้าน)คา้ นี้และเจ้า จะขออยู่ไปจนเทา้ (จนกระท่งั )แกเ่ ฒ่า บิณฑบาตรเข้าโปรดหมู่ศรัทธา หม่ทู ่ีเพ่ินรักเพนิ่ กเ็ สน่หา บางพ่องก็อิจฉาจๆู้ จ้ีๆ จา้ เปน็ ต้องทนกบั พวกคนหมู่นี้

๗. ไม้ใหญ่แทท้ ังใน(ข้างใน)มันกลวง ปลาตัวหลวงมันช่างตายนา้ ตื้น แจง้ เช้ามาครบู าก็ต่นื ขนึ้ สวดมนต์ไหวพ้ ระตามกาละเวลา มคี นกล่มุ หนง่ึ เขาเคยเลา่ เคยจ๋า วา่ ห้อื ครบู าสีทา่ (น่าจะ)บต่ ายเฒ่า เขาก็ไดอ้ อกมาใส่บาตรครูบาตอนเชา้ ๘. ครูบารู้แล้วว่าคนขเี้ ลา่ ขวัญ เขาได้เตรยี มอาหารมาเกิ๊ด(รอ)อย่ทู งั (ตรง)หน้า ครบู าปนั พอรว่าหอ้ื ไดข้ ้นึ ฟา้ มาใสบ่ าตรตูข้าตนอายบุ ย่ นื คนนนั้ ไดย้ นิ จนสะดุ้งสุดฝนื ผ่อมันยนื จุกพอบ่หม้ัน(จะล้ม) น้าตาพอไหลเสียใจได้วา่ นนั้ ๙. เขาว่าคนอ้นู ักมักมแี ต่ศัตรู เปน็ ดีอนิ ดู(เอ็นดู)ครบู าท่านเจ้า จบั ใสบ่ างคนเขากซ็ า้ มาเลา่ วา่ ผ่อหนา้ ธุเจ้า(พระ)ท่าจะมักปลาทู แพเ้ ปน็ พระชนะเปน็ ศัตรู ตอ้ งข่มใจกูกลนั้ ไวห้ ้ือได้ พวกปากปีจอเขาชอบส็วกสอบไซ้(ย่งุ เร่ืองคนอ่ืน) ๑๐. โบราณวา่ ไวอ้ ดเผ็ดไดก้ ินหวาน คนทเี่ ปน็ หนานเพราะเคยเปน็ ธเุ จ้า(พระ) สิบใบแขมบเ่ ทา่ แหลมใบเข้า เขาว่าสิบเมาเหล้าบ่เท่าเมาน้องเมยี ครบู ารแู้ ล้ววา่ หมคู่ นปากเสยี ทงั้ ผวั ทัง้ เมียเขามาเก๊ิด(ดักรอ)อยหู่ ้ัน ว่าธเุ จา้ (พระ)ตนนน้ั นามาหั้นแล้วนัน้ ๑๑. หื้อทุกข์แก่ทา่ นทุกข์นนั้ ถึงตน ครบู าท่านบ่สนไอ้พวกคนจู้จี้ ออกโปรดเมตตาศรัทธามาเถิง(ถึง)หน้ี ถามวา่ ปลาทูจ่ี(ป้ิง)บม่ ีพ่องคาเรา คา้ อบู้ ทน้ีได้เข้าสู่หเู ขา เหมือนเปนิ้ โดนหมดั เมาไอ่เขาทรายจนเข่าหย้อ(เข่าเคลด็ ) เขาเหลียวผ่อหน้ากันเป็นปะว้ีปะวอ้ (ปนั้ หน้ไม่ถกู ) ๑๒. ค้าอ้เู หล่านีท้ ่านครบู าบ่สน เหมือนเพิ่นขเ่ี รือวนบ่มไี ม้ถ่อจ้า นนิ ทากาเลเหมือนเขาเทนา้ ตกใสน่ ั้นทีใ่ บบวั บอน คา้ อเู้ หลา่ น้ีถือเปน็ คตสิ อน ทา่ นไดส้ งั วรเอาไว้ใจใ้ จ๊ (บ่อยๆ) อเุ บกขนั ตีมันตึงบม่ ีร้อนรา้ ย

๑๓. ท่านถือวิปัสสนากรรมฐาน เหมือนดอกไม้บานหอมไกลบ่ใกล้ พี่นอ้ งศรัทธาพากันมาไหว้ ตกเหนือออกใต้แผวเชยี งแสนเชยี งราย ไดเ้ งนิ สมบทจตุปัจจัย รอม(รวม)ไว้ได้หลายท่านจะได้คึด(คดิ )สรา้ ง สมปณิธานบห่ ื้อ(ไม่ให)้ มันข้องค้าง ๑๔. ครบู าทา่ นคิดเปน็ นมิ ิตความฝัน ทา่ นได้สร้างวหิ ารจนส้าเรจ็ เน่อเจ้า ท่านเป็นประธานเดินงานไต่เต้า ศรทั ธาแก่เฒ่าได้อาบน้าฟงั ธรรม ศรทั ธากรงุ เทพรว่ มอุปถัมภ์ และได้ติดตามพระประธานแท่นแก้ว โดยความเลอื่ มใสคดึ (คดิ )อนั ใดกแ็ ล้ว ๑๕. จะขออู้(พดู )ยอ้ นเร่ืองความเป็นมา ทเ่ี พิน่ ร้องครบู าอายุหนุ่มเหน้า ตามท่ีศรัทธาบ้านเด่นได้เลา่ เร่อื งครบู าเจ้าบไ่ ดโ้ มโ้ อ่คุย มีคนหนง่ึ น้นั ชอื่ ว่าน้องอุ๋ย ไหๆ้ หยุ ๆเจบ็ ท้องเจ็บไส้ จะยะอย่างใดชาไผจะมาช่วยไว้ ๑๖. คนเฒา่ คนหนึง่ ลน่ เข้ามาหา ไหวส้ าไหวส้ าธเุ จา้ (พระ)ชว่ ยด้วย กนั ท่านบเ่ อน็ ดูก็มหี วังมอดมว้ ย ขอทา่ นพอชว่ ยโผดหอ้ื เป็นทาน มคี นเจ็บท้องเปน็ ดสี งสาร จะไปโรงบาลซา้ สตางคก์ ็มหี น้อย คนท่ลี ่นมาหาอ(ู้ พดู )เป็นนา้ ตายอ้ ย ๑๗. ท่านได้ยินเสยี งเอิ้น(ตะโกน)เปน็ บา่ เรเจกัง(อื้ออึง) ฟง่ั ปั๊กขวิดป๊ักขวาง(รีบลน)ลุกมากระดองผ้า ใครทีไ่ หนเพน่ิ (เขา)ตายเพิ่น(เขา)ฆ่า กาวา่ เปน็ บา้ กนิ เหล้าเมายา คนเฒ่าคนนัน้ คลานเขา้ มาหา ขอพอเมตตาเถอะสวาธเุ จา้ (ค้าเรยี กพระภิกษุ) ขะใจขะใจ(รบี ๆ)คนจะตายแล้วเลา่ ๑๘. พอไปถึงบ้านคนเจ็บช่ืออุ๋ย ไหๆ้ หุยๆครางอยู่ออ้ื ๆ ท่านครบู าก็เขา้ ไปหย้อื มนต์นา้ ห้ือ(ให)้ กินแล้วเลยสบาย ลุกมาน่งั อู้(พูด)ข้าเจ้าขอขอบใจ ขา้ เจา้ รอดตายเพ่ือพระคุณเจ้า เขาเลยร้อง(เรยี ก)ครูบาตั้งหัน้ มาน้นั เลา้ (ตั้งแต่นน้ั มา)

๑๙. คราน้นั ชาวบา้ นเขากย็ กมือสา คนทรี่ อ้ ง(เรียก)ครบู านนั้ คอื พ่อตาหลอ้ น เป็นหนา้ บญุ เพิน่ (เขา)ไดห้ นุนเต่ือมข้อน(ค่อนข้าง) ดังสะท้อนไปเต็มบ้านเต็มเมือง เป็นพลวะแด่พระบุญเปลือง ครูบาเจ้าเทืองตนบุญหนุ่มแหน่น ช่ือเสยี งลือชาไปท่วั เขตแคว้น ๒๐.ชอ่ื เสยี งครบู าดังไปทุกถน่ิ ฐาน เพิน่ (เขา)ไหลกันมาทานหลายจองหลายบา้ น พอ่ งก็มารอม(รวม)เปน็ แสนเป็นล้าน เศรษฐนี ายหา้ งนายธนาคาร จะสร้างกฏุ ิสรา้ งพระวิหาร ศาลาเปรยี ญธรรมกา้ แพงงามสด่ี า้ น นบั เป็นงบประมาณเส้ียง(เสยี )ไปหลายรอ้ ยล้าน ๒๑. ตอนเมื่อทา่ นเสรจ็ จากทา้ บุญปอยหลวง เหตกุ ารณท์ ้ังปวงยงั มแี ถมไจไใจ๊(มอี ีกมากมาย) เพ่นิ กลัวครบู าถกู เคราะห์นามต้า่ ใต้ เลยนิมนตย์ า้ ยไปพกั ผ่อนอารมณ์ ออกจากกุฏศิ าลาอาศรม ไปพักผ่อนอารมณ์ต่างจองตา่ งบา้ น ไปหลกี เคราะห์หลกี มารตามโบราณบเ่ กา่ นนั้

ทานองพมา่ ๑. สาธโุ นขอโอกาสไหว้ ครบู าได้ย้ายไปอยู่ดอยน้อยจอมทอง ตามรตี ตามคลองของคนแกเ่ ฒา่ ไดน้ ิมนต์ธเุ จา้ (พระ)ไปหลกี เคราะหเ์ ลาะนาม ๒. ที่ครบู าศลี ธรรมทา่ นไปคึด(คิด)สร้าง องคเ์ จดยี ์ร้างมาแตน่ มนาน เจตยี ะสถานท่วี ดั ดอยหน้อย จติ ใจเปง่ ปอ้ ยคลาดคล้อยภยั มาร ๓. เกดิ อัศจรรย์ต่นื มาสะดงุ้ เหงื่อแตกเง่ือฟงุ้ เมอื่ ยามหลบั นอน เกดิ ลางสงั หรณเ์ ม่ือจกั เข็บ(ตะเขบ็ )ตัวเฒ่า ไต่หาครบู าเจ้าบุน่ เข้าในจวี ร ๔. ทา่ นก้าลงั นอนดับไฟสุม่ มืด ไตข่ ้ึนมาหลืดๆท่านเอามือเข้าซวาม(ควานหา) แลว้ มือทา่ นกห็ งวม(จบั )ตวั จกั เขบ็ (ตะเข็บ)มาได้ บร่ ู้วา่ จะมารา้ ยคาว่ามาดี ๕. คาจะ(หรือวา่ )เป็นภตู ผธี รณเี จ้าวดั ท่านเสกฝา้ ยแล้วมดั ยัดลงในกระป๋อง เอาผ้าเหลืองมารองแล้วเอายองไวห้ ้นั แลว้ ต่อจากนน้ั ท่านกม็ าภาวนา ๖. หากเปน็ เทวาผ้ขู า้ ขอน้อมไหว้ ขออย่าได้ท้าร้ายค่้าขาราวี ตัวผูข้ ้ามาดโี ปรดปรานอี วบฝัก ตัวผ้ขู า้ ขอพักในร่มไม้ชายคา ๗. แล้วกแ็ ผ่เมตตาห้ือจกั เข็บตวั เฒ่า ลกุ มาเมื่อเช้า(ตอนเชา้ )ได้ไปผ่อไปมอง จกั เข็บ(ตะเข็บ)ในกระปอ๋ งทเี่ รามดั ไวน้ ัน้ ปูน(เปน็ ท่ี)อศั จรรยม์ นั หายไปทางใด ๘. หากวา่ มนั ตายก็หล้าง(ก็คง)ว่ามหี ้ัน ซากศพมันนนั้ เซาะหาไหนกด็ าย หรือวา่ มันหลุดไปด้วยบญุ ญาแกก่ ลา้ ถา้ บเ่ ป็นเจ้าฟ้ากท็ ่าจะเปน็ เจา้ ดิน ๙. ท่านเลยปนั ศลี ปนั พอร(ใหพ้ ร)ผายโผด ขอไดพ้ น้ โทษโทสาท้งั มวล อย่าได้รบกวนตึงท่านตงึ ขา้ ชาตนิ ้ชี าตหิ นา้ อยา่ มีกรรมมีเวร ๑๐. พ้นจากทุกขเ์ ข็ญอย่าระเดนโศกเศร้า ขอวิญญาณเจา้ ไปสู่เมืองบน ขออทุ ิศกุศลจงรบั ไปดว้ ยเถดิ ขอหื้อ(ให้)ไปเกดิ เป็นเทวบตุ รเทวดา

๑๑. เรือ่ งของครบู าบ่ใช่มเี ทา่ น้ี จะเลา่ ต่อไปน้ที ่ีทา่ นไปท้าบุญ เชยี งใหม่ล้าพูนตนบุญแก่กลา้ กลายจากพมา่ เปน็ ท้านองพระลอ

ทานองพระลอ ๑. ตน..บุญเคา้ (แรก)เจา้ แทน่ คา้ เหลือง ทีค่ รบู าเจ้าเทืองไปสากราบน้อม น้าบปุ ผามาลาดอกส้อม นพกราบน้อมดว้ ยกายวาจาใจ ตนที่หนงึ่ คือครูบาศรีวิชัย ทา่ นไดน้ ิพพานไปเหลือแต่สารปู ไว้ อนสุ าวรยี ์มีไว้ห้ือ(ให้)ไหว้ มไี วห้ ลายที่..หลายทาง ทีว่ ดั บ้านปางและตีนดอยห้วยแกว้ ที่เราเคยหันอยู่ ..แล้วนา ๒. ตน..ท่สี องนั้นคอื หลวงปแู่ หวน ส้านักดนิ แดนแม่ปั๋งเมืองพรา้ ว ตนทสี่ ามนน้ั คือครูบาเจา้ ขาวปนี นั้ เลา้ อยูท่ วี่ ัดผาหนาม ตนท่สี ่ที ี่บวชครูบาศลี ธรรม ชอ่ื ครบู าขตั ยิ ะสงั ฆะตนแกน่ นั้ หลวงปฉู่ ิมและหลวงป่หู มน้ั และครบู าหลวงนนั้ อยู่ที่วดั ฝายหิน สงั ฆปราโมกข์สนั โดษด้วยศลี ไหว้เป็นอาจณิ บเ่ คยเวน้ ไว้ พทุ ธจารยโ์ ตอยวู่ ดั ระฆงั ทางใต้ กน็ ับถือไว้...ในอทุ ร สวดชินบัญชรท่านเปน็ ผคู้ ้นได้ ที่หมเู่ ราควนสวดไวน้ า ๓. แถม..ตนนั้นทา่ นไดน้ มัสการ ชื่อครูบาคา้ ปันตนเฒ่าแก่คา้ ว(แกม่ าก) ลกู ศิษย์องค์สัมมาสมั พุทธเจ้า ที่อยู่นนั้ เลา้ ท่ีวดั หม้อค้าตวง และครบู าสมุ ณะทว่ี ดั บ้านโฮง่ หลวง สง่ิ รา้ ยภัยปวงท่านสอนห้ือ(ให้)หลกี เว้น ครูบากาญจนะวัดเมืองแพร่สงู เมน่ บไ่ ดล้ ะเว้นไปนมัสการ มหาวนั หลวงปู่อยู่วัดมหาวนั มีพระรอดเพนิ่ (ท่าน)เลา่ กนั ขา่ ม(ฟนั แทงไม่เขา้ )ทงึ มดี ทึงพรา้ ครูบาพรหมาวัดพระบาทตากผ้า และหลวงปหู่ ล้า ..ปา่ ตงึ เมื่อท่านคดึ ถึงก็ไปสาไปไหว้ และยงั ได้ถา่ ยรูปไว้นา ๔. ไป..ไคว่(ไปมาหมด)แคว้นทกุ แห่งทุกหน เจา้ คุณมงคลเทพมุนีปากน้า พระครูปัญญาวดั ป่าเดื่อเจื่อ(บ่อย)ล้า ครบู าอนิ ทจักรทวี่ ดั น้าบ่อหลวง เคยไดต้ อบกุณตนบญุ อ่ิมทรวง ภกิ ขุธุหลวงชอื่ ดงั แซ่ซ้อง ครบู าชยั ยาตนบุญช่ือกอ้ ง ดอยสะเก็ดป่าป้องล่องไปตามกระแส ครบู าอุปาละอยู่วดั ดอยแต ทา่ นอย่ใู กลนกั แกบ้านทาหละปนู นน้ั แล้วกพ็ กิ มา(กลบั มา)บอกศรัทธาจาวบ้าน วา่ ตวั เราน้นั จะไปพม่าเชียงตุง

ศรทั ธากล็ น่ ทวย(วิง่ ตาม)เปน็ หมเู่ ปน็ ฝงู ไผ่บไ่ ด้ชักจงู ขอไปด้วยลุ้มลมุ้ บุญครบู ามันมาโอบอุ้ม ไปหาครูบาบญุ ชุ่มนน้ั เป็นพระสหาย ขออาราธนาท่านมาแอ่วเมอื งไทย ท่านสง่ กระแสใจถงึ กนั บย่ ง้ั สายใยธรรมนา้ มาต่อตัง้ ยดึ เหนยี่ วรัง้ ...เดมิ มา หลงั จากนน้ั นา ท่านก็พิกมา(กลับมา)บา้ น เริ่มพฒั นาต่อนน้ั หนา

ทานองเสเลเมา (เง้ยี ว) ๑. จากนนั้ มากส็ รา้ งศาลาอาคาร ต้ังปณิธานจะสรา้ งห้ือจนแล้ว(ทา้ จนเสรจ็ ) พฒั นาตอ่ ไปแตว่ แต่ว(เร่อื ย ๆ) อนั ใดบแ่ ล้วก็ค่อยไปค่ ่อยแป๋ง(คอ่ ย ๆ ท้า) ท่านจะสรา้ งห้ือ(ให้)ไดเ้ ป็นขอบเขต ทา่ นไดส้ ังเกตเตมิ ต่อผ่อแยง(ดู , พิจารณา) เสาะสตางค์ไว้หอื้ (ให)้ ค่าแรง จา้ งเปิน้ (เขา)กอ่ ก้าแพงแลว้ แตแ่ ปลนสล่า ท่านบเ่ คยหยดุ เพราะเป็นจุดประสงค์ มคี วามเท่ยี งตรงมั่นคงแกร่งกล้า จากนั้นศรัทธาปลู่ งุ แมป่ า้ บา้ นหวั ดงมานมิ นต์เอาท่าน ครูบา ปีสองหา้ สองเกา้ ต่อมา ขอนิมนต์ครบู าไปสรา้ งศาลาใหม่ ๒. ท่านยนิ ดรี ับใช้เพื่อเป็นการตอบแตน เตรียมเงินไปหลายแสนแป๋ง(ท้า)กุฏแิ ถมซ้า เมรเุ ผาศพและห้องอาบน้า เพราะบ้านหวั ดงเป็นบา้ นเก่าสถาน ครูบาเจ้าเทืองมีจิตใจผอ่ งแผ้ว สรา้ งแผว(ถงึ )แทน่ แกว้ นัง่ องค์พระประธาน แล้วสร้างถนนตอ่ จากบ้านหวั ดง หอ้ื (ให้)มนั เชือ่ มโยงกับวหิ ารหลังใหญ่ ทา่ นขออทุ ิศสว่ นบุญกุศล ให้แกบ่ ุคคลทที่ ่านเคยกราบไหว้ อุ้ยหน้ิวอยุ้ ตาอ้ยุ คา้ ท่านบอกไว้ ผ้ทู ี่ทา่ นได้มรณาตายจาก เมืองคน ท่านได้อุทิศสว่ นบญุ กศุ ล หอ้ื (ให)้ อุ้ยถึงสามคนส่เู มืองบนประเสริฐ ๓. พอย่างเขา้ มาสองหา้ สามสอง รวบรวมเงินทองซื้อปูนซ้ือไม้ เปน็ อุปกรณท์ จี่ ะไดใ้ ช้ จะไดส้ ร้างไวใ้ นวดั เดน่ สลี ทา่ นไดส้ ร้างโรงท้ากับเข้า(กับขา้ ว) หอธรรมเจา้ องคพ์ ระมุนี ถนนเข้าวัดมนั ก็แคบเต็มที เจ้าศรทั ธาเปิน้ (ท่าน)มีแป๋ง(ท้า)หอ้ื (ให)้ ดีกวา่ เก่า ไดส้ ร้างถนนอ้อมไปทางหลัง สะดวกแก่ทางรถออกรถเขา้ เม่อื มีงานก็มว่ นงันสนั เลา้ (สนุกสนาน) มีศรัทธาเก๊า(แรกเริ่ม)มาแปง๋ (ท้า)ลานรถจอด สบาย เม่อื มีงานศรทั ธาก็มาหลาย คนเมืองคนไทยและพี่น้องปะลอ่ ง(พบเจอกัน) ๔. กุฏิหลงั เก่าท่านก็ได้ซ่อมแซม แล้วกม็ าแป๋งแถม(ท้าอีก)หลงั มอกปอดีปอฮา้ ย(พอดี) มันบ่พอน้อยมนั บพ่ อใหญ่ ทา่ นว่าแปง๋ (ท้า)ไวเ้ ป็นส่วนตวั ประจา้ เพราะเอาไวเ้ ป็นทีพ่ ักผ่อน เม่อื ท่านเหน่อื ยออ่ นเกดิ จากการงานทา้ กรรมเจ้าท่านกรรม หล่อรูปครบู าศีลธรรมเอาไว้ไหว้ไวก้ ราบ

แล้วทา่ นยงั สร้างแผวพระปางนาคปรก ไวเ้ ป็นมรดกไปจนเท่าตราบ คนเกิดวันเสาร์ไคม่ โี จคมลี าภ(อยากมโี ชคลาภ) หื้อ(ให้)ไหว้พระปางนาคปรกน้ันเนอ่ แถมอัน ทา่ นยังได้สร้างพระประธาน ไว้ทีใ่ นวหิ ารหื้อ(ให)้ ลูกหลานไดก้ ราบ ๕. ท่านยังได้สร้างพระมหาขะจา๋ ย(พระสังขจาย) พระอุบาลีขยายอภนิ หิ ารนั้นเล่า ตอนเม่ือทา่ นไปบิณฑบาตข้าว ด้วยพระพทุ ธเจา้ ท่ีเมืองพาราณะสี หมสู่ าวๆมาท้าระรกิ ระร้ี(ดใี จทีไดเ้ จอ) วา่ พระตนนี้อะหยัง่ มาหลอ่ ดี ท่านกลวั ผดิ พรมจารีย์ ท่านเลยเบง่ ฤทธีบ่หื้อ(ไมใ่ ห้)มันเหมอื นเก่า เพราะอันนเ้ี ป็นพทุ ธนทิ าน และเปน็ ผลงานของครูบาทา่ นเจา้ ตัง้ แต่เรมิ่ สรา้ งมาแต่เคา๊ (แรก) ครบู าเจา้ ท่านเอาไว้ห้ือผอ่ เหลือเฟือทา่ นยังหล่อแผวรูปพระเจ้าเสือ ถา้ เวลาเหลอื จะเล่าหอื้ (ให)้ ฟงั ต่อ ๖. จากนน้ั กม็ าสร้างที่วดั ใหม่หวั ดง เมอ่ื ก่อนเปน็ ป่าบงผโี ผงผรี ้าย คนเตว(คนเดิน)เม่ือคนื ไผตงึ ไปบไ่ ด้ เปน็ เม่ย(ไมส่ บาย)เป็นไข้ได้เลี้ยงหวั ไกห่ ัวหมู เขาไปถามเจา้ นายเพ่นิ (ทา่ น)ทกั ผีกะยกั ษ์(ปอบ)ว่าเขาเตว(เดิน)ขา้ มหัวกู นิมนต์ครูบาทา่ นมาผอ่ มาดู ท่านเลยขันครเู สกกดั ถา(คาถา)ปดั เป่า ตอ่ จากน้นั พ่นี อ้ งศรัทธา กน็ มิ นต์ครูบาเป็นเคา้ เป็นเหง้า(เป็นประธาน) ขอไหวว้ านมาเปน็ ประธานเก๊า สมทบทนุ พ่ึงบุญครบู าทา่ น รุ่งเรือง..เลยใส่ชือ่ วัดวา่ วดั ครูบาเจ้าเทือง ชาวบา้ นชาวเมอื งได้กนิ ทานบ่ขาด ๗. ๓๘-๓๙ อยา่ งเขา้ สี่ศูนย์ บาระมีบุญทา่ นสงู เสียดฟ้า ชอ่ื เสยี งกด็ ังไปกู้ฮ่อม(ทวั่ )หย่อมหญา้ ชาวดนิ ชาวฟ้าก็มาสาธกุ าร ความดีทา่ นมีอยแู่ ล้ว หมู่ยางหม่แู ม้วกไ็ หลกนั มาทาน ทา่ นจัดวันเกดิ เดือนกุมภาพันธ์ แป๋ง(ทา้ )ต้นเงนิ ตน้ ทานผ่อ(ดู)อยา่ งกบั เกา๊ ไผ่(ตน้ ไผ)่ ครบเทา่ อายุตน้ ละแสนปา๋ ย(แสนกว่า) ตงึ บ่มีไหนไผไผก็มาไหว้ ผอ่ (ดู)ต้นเงนิ เหมือนอย่างใบไม้ พระที่ท้าไดอ้ ย่างทา่ นน้หี ายาก เนอนาย เปน็ ท่ยี อมรับของศรทั ธาทง้ั หลาย กด๊ึ (คิด)งานเม่ือใดกไ็ หลกนั มารว่ ม

๘. เพน่ิ ตงึ ฮอ๊ งวา่ (เรียกว่า)กรรมไผบุญมัน ไผบ่หนั กห็ นั ไผบร่ ู้กร็ ู้ จบั บางคนไดย้ นิ ก่าเพิ่นอู้(ข้ีคุย) ถา้ ไผอยากรู้ห้ือมาผอ่ ด้วยตา (ให้มาดูด้วยตา) เป้ินเลา่ กนั ไปท่วั บ้านทัว่ เมอื ง วา่ ครบู าเจ้าเทืองเปน็ ตนพัฒนา เปนิ้ ตึงเลา่ เหมือนด่งั ช้างสามงา เขาตงึ ว่าครูบาตัวน้อยกากดึ๊ (ความคิด)ใหญ่ ด้วยบญุ ญาและอานะฤทธ์ิ ท่านจะเนรมติ ทา้ อะหยัง่ กไ็ ด้ จะมีศรัทธาไหลกนั มาจองไว้ บ่วา่ ทางใตก้ รุงไทยกรุงเทพ มาทาน ห้างร้านบรษิ ัทธนาคาร ไหลกนั มาทานลกู่ นั (แย่งกัน)เปน็ เจา้ ภาพ ๙. ครบู าเจา้ เทืองสร้างแต่ความเจรญิ เพนิ่ มานิมนต์เชิญท่านกบ็ ค่ ดั ค้าน บดึ (เดย๋ี ว)กบ็ ้านน้ีบดึ (เดี๋ยว)ก็บ้านนั้น กา้ นันแก่บ้านเพนิ่ พากันมาขอ บางท่ีก็ไปสร้างเรียบร้อย ยังมาขอแผวชา่ งจ๊อยช่างซอ นอเจ้าพนี่ อ ค่าจา้ งช่างซอยังขอครูบาชว่ ย ตึงบ่ว่าใกล้ตึงบ่ว่าไกล(ไมว่ า่ ใกล้ไกล) บางทกี ็ไปแผว(ถึง)บ้านปา่ บา้ นห้วย จับบางทเี ขากม็ าขอช่วย ทุนการศึกษาห้ือละเด็กละอ่อน(เดก็ ๆ) กม็ ี เวลาตัวเกา่ เกือบดาจะบ่มี เกอื บดาจะบม่ ีหื้อกับวดั ตวั เก่า ๑๐. ครูบาขออุทิศทง้ั ชวี ิตรา่ งกาย ขอหื้อไดบ้ ุญหลายด่งั เม็ดทรายสายนา้ จะขอสร้างบญุ หื้อเปน็ ทุนเตื่อมกา้ เปรียบเหมือนดงั่ น้าบม่ ีการหยุดไหล ขออุทศิ แด่เจา้ เวรเจา้ กรรม เจรญิ รอยตามครูบาศรีวิชยั จะขออยู่ไปตามศลี และวนิ ยั มรรคแปดอยใู่ นใจบห่ ื้อไผได้เล่า มรรคองคท์ ห่ี นึง่ ทฎิ ฐธมั มกิ ัตถะ สองสังกปั ปะต่อมาเน้อเจา้ สัมมะวาจาถัดมาน้ันเล่า กัปมันตะถดั มาถว้ นสี่ ในชวี นิ สัมมาอาชีวะการท้ามาหากนิ บห่ ้ือได้ผิดศีลหากนิ ทางท่ชี อบ ๑๑. ท่านถือมรรคแปดตดิ ไว้ประจ้าตัว ทา่ นเลยบก่ ลัวเหมอื นมีววั ลากลอ้ อ้เู ถงิ (พดู ถึง)มรรคแปดยังค้างแถมหลายข้อ ขอลูกหญิงอ่ีพ่อบอกห้ืออ้ายเข้าใจ องค์ท่หี กทเี่ จ็ดท่แี ปด มรรคเปน้ิ ได้แขวดห้ามอะหยงั่ อนั ใด นายทา่ นนาย อันน้ีคือหัวใจของครบู าเจา้ ทา่ น ถา้ คนใดประพฤติปฏิบตั ิ เปน็ การขจัดง่าวงืดมดื ด้าน (ขจัดความสงสัย) แตส่ ้าหรบั ครบู าเราน้ัน ตา่ งถอื เป็นหลักและตระหนักถว้ นถ่ี ขอนาย คนถือมรรคแปดแขวดไวใ้ นใจ ใครร่ ู้ความหมายและบน้ั ปลายประโยชน์

๑๒. ถือมรรคแปดเป็นทุนจะมีบุญเหลอื แสน ผอ่ เอาผงึ้ เอาแตนแป๋ง(ท้า)รงั แขวนกิง่ ไม้ จะปรารถนาส่ิงใดมนั ก็ได้ง่าย ตายแล้วกจ็ ะได้ไปสสู่ รวงสวรรค์ ครูบาท่านถือมรรคแปดองค์ หันกอ่ อนิสงส์เกดิ ขึน้ อย่างเร็วพลัน มีศรัทธาหล่งั ไหลมาทาน กศุ ลบญุ บานเหมอื นกับฝนแสนห่า สัมมาวายามะและสมั มาสติ เหมอื นบัวบานผลริ บั แสงแดดกล้า สัมมาสมาธฐิ านเหมอื นดวงจันทรแ์ จ่มฟ้า ชีวิตจะก้าวหนา้ บ่มีความตกต่้า หมองเมิน มรรคแปดนน้ั คอื หนทางเดิน ไปสู่ความเจริญครูบาท่านได้บอก ๑๓. ทา่ นพฒั นามาได้สิบกว่าปี ทว่ี ดั เดน่ สลีบ่มีการหยดุ หยงั้ อันใดบ่มีท่านก็จะคิดสร้าง บ่หื้อ(ไม่ให้)ไดค้ ้างสรา้ งเป็นอนุสรณ์ ไว้ห้อื (ให)้ เปน็ มรดกโลก ถอื ว่าเปน็ โชควาสนาถาวร ศาสนาขององคม์ ุนนิ ทร บห่ ือ้ (ให้)ได้เฟือนคอนหอ้ื ม่นั คงแข็งแกร่ง เมื่อครบู าท่านไดส้ รา้ งสมปราณ ขออยา่ ได้มีมารน้ันมากลัน่ แกล้ง มารทัง้ หลายอย่างได้มาขัดแย้ง ขอห้ือ(ให้)มนั แจ้งเหมือนแสงไฟไต้ส่อง ธานี ผลงานท่สี ร้างในวัดเด่นสลี ถา้ เวลามันมจี ะเอามาเล่าตอ่ ๑๔. ผลงานครบู ามมี ากมายกา่ ยกอง ยกไปไว้ม้วนสองรอฟังเถอะพ่ีนอ้ ง ท่ที ่านสร้างมาหลายแห่งหลายห้อง ขอเชญิ พน่ี ้องจงอดเผด็ กนิ หวาน ครบู าพฒั นกิจ มปี ระกาสทิ ธ์แิ ละปฏภิ าณ ถา้ ไผไดย้ นิ ทา่ นบวงสรวงเวรทาน ทัว่ พืน้ จักวาลทึงบ่มไี ผเทยี บ บ่ใชโ้ ทรศัพทแ์ ละบม่ ีทีวี วดั เดน่ สลมี ีแต่ความสงบเงียบ วดั เดน่ สลนี น้ั เป็นระเบียบ เป็นสมาถะตบะเป็นจุดเด่น เมนิ มา ครูบาทา่ นตัง้ กฎไวป้ ฏิบตั ิ หื้อ(ให)้ มีความสงัดและสงบสว่าง ความดี จะวา่ ไปนักกเ็ วลาบ่มี ขอทุกทา่ นโชคดีมีความสุขตลอด วางเพลง...............

บทซอเรื่องประวัติครบู านา้ มนต์ (ครูบาศศิพงค)์ ประพนั ธบ์ ทโดย แม่ครบู วั ซอน ถนอมบุญ ๑. ก่อนทจ่ี ะซอประวัติ ต้องจัดเร่ืองราวหือ้ ถูก ฟงั เนอ้ หมหู่ ลานหมลู่ ูก กลัวมนั บ่ถูก บ่ตรง บใ่ ชเ่ รื่องสัพเพเหระ จะซอเร่ืองพระเรื่องสงฆ์ เรอื่ งธุเจ้า(พระ)ศศิพงค์ ครบู าน้ามนต์องค์เรืองรุง่ ๒. เม่อื ท่านเป็นสามเณร ได้บา้ เพญ็ อยู่ทวี่ ดั แม่กงุ้ มแี ต่ปญั หายงุ่ ๆ ทีเ่ ป็นอดตี ผา่ นมา เหมอื นกบั ละครชวี ติ ย่งิ คิดย่งิ มีปัญหา เหมอื นเพ่ิน(เขา)ร้องเพลงอี่สา ผ่านไปผา่ นมาขึ้นล่อง ๓. ก่อนจะขึน้ เอยลงเอย วา่ จะขอเคยเห่ยี พอ่ ง(ถูกต้อง) บ่ได้ปกปลา่ วกลา่ วร้อง ขอห้ือ(ให้)พ่ีน้องฟงั ไป ประวัตคิ รูบาน้ามนต์ ศรทั ธากคู่ นเลื่อมใส อยากรู้เร่ืองราวต่อไป เชิญท่านทงั้ หลายฟังตอ่ ๔. ทา่ นเรยี นทั้งสิพกณุ กศุ ลส่วนบุญห้มุ ห่อ เปน็ คนชอบฟังชอบผ่อ(ดู) สมองทา่ นกอ่ ทงึ (ก็)ดี เปน็ ลกู พ่อจมแม่คา้ มนี ามสกลุ จ่มุ ศรี อยู่ดว้ ยกันมาหลายปี กอ่ นจะมเี ตา้ มลี ูก ๕. พอ่ แม่มีธรรมมีศีล เซาะวา่ หาก๋ินกุ้มวันน้ีวนั พูก แม่ค้าเริ่มจะมีลูก ฝนั ไปต่างๆ นานา ฝันวา่ ละอ่อน(เดก็ )หวั หมด มาขอเปน็ ลูกบุตรา และฝนั หนั คนเฒา่ ชรา เอารูปพระพุทธามาฝาก ๖. แมค่ ้าสะดงุ้ ตน่ื มา เอามือซวาม(คล้า)หาต๋มฝาตามฟาก(ไมเกระดาน) ซวามหาพระเจ้าต้ีเขาเอามาฝาก กน็ ึกว่าเปน็ ความจรงิ ร้องวา่ อ้ายจมอ้ายจม เมาหลับบ่ท้วงบต่ ๋งิ (นอนน่งิ ๆ) รอ้ งจนพ่อจมร้คู ิง(รูต้ วั ) แกก้ า้ ฝันห้ือข้าเหยี กอ่ น

๗. แม่คา้ ได้เลา่ ความฝัน ว่าข้าฝันหัน(ฝนั เหน็ )ละอ่อน(เดก็ ) มาขูดหวั หมดจ้อนลอ้ น ขอเข้ามาอยูใ่ นครรภ์ พอ่ จมเลยยกมือไหว้ เฮาจะไดโ้ จคมหาสาร เทวบตุ รบนสวรรค์ สง่ ดวงวญิ ญาณมาเกดิ ๘. แม่ค้าอยดู่ ว้ ยพ่อจม มีใจหมัน่ สร้างสมเปน็ เลศิ ท่านเป็นผ้หู อื้ ก้าเนดิ ครบู าได้เกดิ เปน็ คน ซ้าเกิดฝนตกน้านอง(นา้ ท่วม) น้าท่วมบา้ นชอง(บา้ นเรือน)ถนน บว่ ่ารถเคร่ืองรถยนต์ ถนนทงึ บ่ได้ผ่าน ๙. บไ่ ดไ้ ปเกิดโรงยา ทา่ นครูบาเลยไดเ้ กิดบ้าน พ่อจมไปเสาะแม่ชา้ งนัน้ ไปเสียทุกบา้ น ทกุ ชอง(เรือน) ไปได้แมจ่ า้ งหนองใคร้ ฟ่ังเก็บครวั ใส่กระป๋อง ไปไหวข้ อแม่อยุ้ ฟอง เพิ่น(ท่าน)บ่ได้ปฏิเสธ ๑๐. จะอ(ู้ พูด)ไปตามลา้ ดับ หื้อจบั ประมาณขอบเขต ตามได้ฟงั เทปคาสเซท เล่าจากครบู า น้ามนต์ จะจรงิ หรือวา่ บจ่ ริง เอามาอา้ งองิ เหตุผล วนั ทสี่ ิบเกา้ พฤษภามาดน พอศอสองห้าสองหน่ึง ๑๑. ปสี ะหง้าเปง้ิ มา้ (ปีมะเมยี )กัณฑก เป็นคนหล๊วก(ฉลาด)ตงึ บ่หล่ึง(ไมด่ ้ือ) ซ้าเป็นลูกคนที่หน่ึง ของพอ่ จม แม่ค้า มีก้าสายรกสายแห่ สะวา้ นตามแหล่ตามหลัง อ้ยุ ฟองได้บอกหอื้ ฟัง ลูกสมู ีหวงั ได้บวช ๑๒. ไดย้ ินค้าแม่อุ้ยฟอง พอ่ แม่ทงั้ สองถือเป็นโชคประจวบ เพ่งิ (พ่ึง)บญุ ปยู่ า่ ตาทวด เอาไปฝากอ้ยุ หมอ่ น จันทร์ฟอง ตอนนัน้ ครอบครัวล้าบาก อยู่บา้ นปฟู ากมุงตอง(ปูไมไ้ ผมุงใบตอง) พอ่ แม่เมาเสาะเงินทอง เอาไปฝากหม่อนฟองหม่อนปรา่้

๑๓. เนื่องจากภาวะยากจน พอ่ แมส่ องคนทนเย๊ียะการ(ทา้ งาน)วนั คา่้ บว่ ่าขึ้นบกตกน้า เอาเสียกูอ่ ยา่ งกู่ราย(ท้าทุกอยา่ ง) บ่ว่ารายกอ้ มรายยอ่ ย(ไมว่ ่าเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ) เสาะเอาหมูน้อยไปขาย แมค่ า้ ก็เยียะกู่ราย(ทุกอย่าง,ท้าหมด) บว่ ่าคา้ ขายตอหูก ๑๔. บว่ า่ หากุ้งหาหอย สู้ตึงบถ่ อยเพือ่ ลูก ถา้ เปน็ อาชีพที่ถูก และไดเ้ ปน็ เงนิ ทองมา เอาไวส้ ง่ เสยี ลูกรัก ไดเ้ รยี นหนังสือหนังหา บ่แหนม(ไม่กลา้ )กินชิน้ กินปลา ฮิหากินไปเรือ่ ยๆ (ท้ามาหากินเร่อื ย ๆ) ๑๕. บ่วา่ ตากแดดฮา้ ฝน แม่ค้าพอ่ จมจนพอเหน็ดเหน่ือย บางวันเป็นไขเ้ ปน็ เมอ่ื ย เป็นทุกข์กับเงินกบั ทอง กินยาแกป้ วดหัวยาว มอกปอ(แค่พอ)บรรเทาสมอง ละ(ทิ้ง)ลกู อยู่ทวย(อยู่กับ)อ้ยุ ฟอง เปน็ ทกุ ข์คนเฒ่าได้ผอ่ ๑๖. ตอนน้นั ลกู ศศิพงค์ มอกก้าลังซนแตน่ อ้ ไปเลน่ ใกลป้ ากนา้ บ่อ บ่ไดใ้ สท่ ่อ ราวบัง เปิน้ เอาถืมตองปกไว้ ละอ่อนมันร้ายบา่ รู้ข้อี ะหยงั แม่อุ้ยหา้ มทึงบ่ฟงั เสยี ปะเลดิ วา(ลื่นล้ม)ตกบ่อ ๑๗. หน้าบุญมันเปน็ บ่อดนิ บ่ใช่มีหินมที ่อ อยุ้ ฟองฟัง่ ลน่ มาผ่อ(วางมาดู) ตายแล้วหลานน้อย ของกู พอ่ จมเยียะ(ท้า)การอยู่บ้าน ไดย้ นิ เสียงรอ้ งเข้าหู พ่อจมฟง่ั สวะ(รีบวาง)ก๋วย(ตะกรา้ )หมู ลน่ (ว่งิ )มาโดดลงไปชว่ ย ๑๘. อยา่ งกับผเี หลา้ เข้าตือ ตนี มอื พอส่ันด่วยๆ(งันงก) พ่อจมโดดลงไปช่วย หันลูกจมปดู้ จมแมน พ่อฟง่ั เอามือเข้าหอบ มากอดไวใ้ นออ้ มแขน ไหว้ขอเจา้ ที่เจ้าแดน กอดไว้ในอ้อมแขนอ้มุ ฮ่อน

๑๙. พ่อจมอ้มุ ลูกข้นึ มา ตอนน้ันครบู ากนิ น้าพอออ่อน มาจว่ ยกันท้งั อ้ยุ หม่อน กลวั จะเป็นอันตราย บางคนก็มาชว่ ยป๊มั เอาน้าออกจากหัวใจ แลว้ หลังถัดนนั้ ต่อไป กไ็ ปเจอใสค่ วายน้อยดดี ๒๐. อายุไดส้ องสามปี บ่ฮ(ู้ ไมร่ ู้)จักหนหี นตางมนั กีด ไปจกั หางควายเสียควายนอ้ ยดดี เกือบดาบ่ได้ เป็นคน เพราะทา่ นมีบญุ ชว่ ยไว้ รอดตายมาไดส้ องหน ชีวติ ครูบานา้ มนต์ รอดตายมาไดส้ องเต่ือ ๒๑. บใ่ ชข่ ล้ี มขฝี้ น บางคนเขาทงึ บ่เชื่อ ใครบ่เคยรู้สกั เทอ่ื (สักครง้ั ) ได้ยนิ จากแม่ บัวซอน บ่ใชม่ าหลอกมาจุ๊(มาโกหก) มนั เปน็ เรือ่ งอุทาหรณ์ บใ่ ชว่ ่าตวั บวั ซอน แม่นแ้ี ค้งอา้ งแป๋งอวด (อวดอ้าง) ๒๒. อยโู่ ตยอยุ้ ปร่้าอุ้ยฟอง บ่เคยจองหองปากกลา้ จาตวั ว่าบ่หลา้ บห่ ลา้ (ไม่อ่อนล้า) เปน็ คนเปน็ คนรา่ งแค้วเอวบาง ช่างพูดผมผมครับครับ อ่านนบั สี่ห้าหน้าหลัง พ่อแม่บ่มสี ตางค์ ลกู ยังบ่เคยขอสักบาท ๒๓. พ่อแม่เอาไปฝากท่ีโรงเรียนอนบุ าล เพอ่ิ ต้องการใหล้ กู ได้ฉลาด จ้างครูเดือนหลายร้อยบาท อยากหือ้ (ให้)ลูกเป็นคนดี นสิ ยั เรยี บร้อยขยนั เฮยี น บเ่ คยโดนเฆี่ยนโดนตี อายยุ ่างเขา้ เจ็ดปี รบั หมายเกณฑเ์ ข้าป.หนง่ึ ๒๔. รถู้ ึงการรา่้ การเรียน เจา้ ก็พากเพยี รทงึ รา้ ยบ่หลง่ึ (ไมโ่ ง)่ สร้างความพอใจทราบซง้ึ คุณครูผสู้ อนช่นื ชม ตั้งแต่ช้นั อนุบาล ยนั ไปแผว(ถงึ )ชน้ั ประถม จนไดร้ ับเกยี รตินยิ ม วา่ เป็นนักเรยี นดีเดน่

๒๕. เป็นคนท่มี ีไอคิวสงู บม่ ไี ผเคย่ี วไดเ้ ข่น อันนค้ี ือเป็นจดุ เดน่ ตง้ั แตเ่ มื่อน้อย ติดมา จนเต้า(ถงึ )ขนึ้ ช้นั ป.หก มรดกคือการศกึ ษา เลิกโรงเรยี นกไ็ ปแอ่ว(เทย่ี ว)หา ธุ(พระ)เจ้าครูบาบ่ขาด ๒๖. ทวี่ ัดสพุ รรณรังสี ธุเจ้า(พระ)เพ่ิน(เขา)ดีขนาด เลยเขา้ ไปไหว้ท่านเจา้ อาวาส ขอสมัครเปน็ ขะโยม(ศิษย์) เปน็ ศิษยค์ รบู าหลวงปู่ เพี่อหาความร้สู ร้างสม ตอนที่ไปเป็นขะโยม(เดก็ วดั ) เรียนไหว้พระอบรมสวดมนต์คนื รงุ่ ๒๗. บึด(เด๋ียว)ก็ตวั เมืองบึด(เดยี๋ ว)กต็ วั ไทย ยิ่งเมิน(นาน)ไปก็หยั่ง(ทา้ ไม)มายงุ่ เป็นขะโยม (เด็กวดั )อยูว่ ดั แม่กงุ้ บใ่ ช่วา่ มัน สบาย จา้ เป็นหลับเดิก๊ ลุกเจา้ (หลับดึกต่นื เช้า)ตุ๊เจ้า(พระ) บห่ ื้อ(ไม่ให้)ตื่นขวาย(ตืน่ สาย) พระน้อยขะโยม (เดก็ วัด)ก็หลาย จา้ เปน็ ต้องไปกมุ บาตร(ออกบิณฑบาตร) ๒๘. ไปอยู่ได้เสยี สามเดือน ปก๊ิ (กลับ)มาอย่เู รือนเปน็ ขะโยมฮาด(เดก็ วัดที่ไมไ่ ดบ้ วชเณร) ออกมาใช้ความสามารถ บร่ ู้จะไป ทางใด เพอ่ื ชว่ ยพ่อแมส่ องคน จะต้องด้ินรนขนขวาย เม่ือจบปอหกออกไป แตว่ ัยยังเป็นละอ่อน ๒๙. อาศยั ในภมู ปิ ัญญา ลุงกพ็ าไปขายผา้ ขายผอ่ น ถึงเราจะเป็นละอ่อน แต่กบ็ ่เคยทะเยอทะยาน หาประสบการณ์ชีวิต ความคดิ มีความสร้างสรรค์ ช่วยลุงขายผ้าทกุ วัน ได้รางวัลต๋ามก่าหละออ่ น ๓๐. พอถงึ ปใี หม่เมษา อี่แม่ก็พาไปดา้ หวั ธุ(พระ)หมอ่ น ที่วดั ป่ารวกแตก่ ่อน เฒา่ (แก)่ จนหวั สน่ั หง่อนๆ ธุ(พระ)หม่อน(จา)เพิน่ รู้วา่ เปน็ ขะโยมฮาด(เด็กวดั ที่ไมไ่ ด้บวชเณร) เอานะวะโกวาทมาสอน บ่ว่าเทศธรรมปัน๋ ปอน(ให้พร) จ้าไดท้ ุกตอนตั้งบทแรก

๓๑. ได้สบิ วันธหุ มอ่ น(หลวงปู)่ เพ่ินสอน สวดมนตเ์ ปน็ ปอน(พร)บห่ ้ือผดิ แผก ถ้าจ้าบไ่ ด้ก่อจะโดนหลังแตก จ้าเป็นจะต้องอดทน ท่องได้ทงึ ธรรมทึงสวด เพ่ินเลยเอาบวชเปน็ ตน สองห้าสามสามพฤษภามาดน อังคารทีแ่ ปดเดือนแปดลนู ี่(น่ี) ๓๒. เรยี นจนไดน้ กั ธรรมตรี พ.ศ.สองหา้ สามสี่ ถอื ว่าโชคดเี ตม็ ท่ี เพราะเปน็ บุญค้าบุญชู จะตอ้ งอดทนอดออม แต่เราบย่ อมอดสู มนี ้องช่อื วะตัญญู เปน็ พอ่ ชายแถมคนหน่ึงเน่อ ๓๓. ถอื เป็นโจคงามงาม ถึงไผจะรวยมเี งินป่าเลอ้ เฮายงั บ่ขอยเตอื่ เนอ้ (ยังไม่อิจฉา) ขอยท่ีเพ่ิน(ฉจิ ฉาที่เขา)อยดู่ สี บาย ตอนนัน้ ครบู ามาบวชอย่วู ดั ปา่ รวกไดส้ องปีปาย(กวา่ ) ตหุ๊ ม่อน(หลวงปู)่ ก็ซา้ มาตาย ทา้ ห้อื (ให)้ หัวใจแห้งเหีย่ ว ๓๔. เดิก(ดกึ )มาไดย้ ินหมาหอน เหมอื นกบั เรานอนปา่ เร่ียว(ชา้ ) มีแตค่ วามโดดเดยี่ ว มันแสนเปลา่ เปลย่ี ว เอกา สมัยธหุ มอ่ น(หลวงป่)เรามี มันบ่เคยมีปัญหา ทา่ นเลยไดล้ าสกิ ขา เพราะอาลัยหาธุหม่อน(หลวงปู่) ๓๕. วนั ท่สี บิ หกมถิ นุ ายน บม่ ฟี ้าฝนอากาศกเ็ ร่ิมรอ้ น ชีวติ หวนคนื กลบั ย้อน ไปตามชะตานาบญุ เรายงั มีเพื่อนมีพ้อง พ่อแม่พีน่ ้องตระกูล ปิก๊ (กลบั )ไปขายวันลูน ได้เงินเปน็ ทนุ ไว้จ่าย ๓๖. พ.ศ สองหา้ สามหา้ มนั เป็นทหี่ นา้ เบื่อหน่าย ชวี ิตมันเป็นดีกา่ ย(น่าเบื่อหนา่ ย) อาการเริ่มบ่ สบาย เรมิ่ เจบ็ ออดๆแอดๆ อันโรคร้อยแปดทั้งหลาย คราน้นั เลยตดั สนิ ใจ เอาตัวป๊ิก(กลับ)เขา้ มาบวช

๓๗. วนั ท่ี สิบสามกมุ ภา เขา้ มาศึกษาบทสวด สองหา้ สามหกปกิ (กลบั )เข้ามาบวช เรยี นต่อไดน้ ัก ธรรมโท ไดส้ องปีปลายแม่นตด๊ั เพ่อื อายุวฒั โก ไดจ้ บเป็นนกั ธรรมโท ท่วี ัดเจดีย์หลวงเชยี งใหม่ ๓๘. เรยี นมัธยมตอนปลาย ขยับขยายเต้าไต่ ต่อจากนนั้ ก็ได้ ย้ายไปอยู่ทรายมลู หางดง เพ่อื จะไปศึกษาต่อ เตมิ ต่อบุญอานิสงค์ เดอื นเมษายนมาตรง พ.ศ สองหา้ สามแปด ๓๙. ศรทั ธาแม่กุง้ หลวงทกุ คน เดินขบวนฝา่ ฝนฝ่าแดด ครูบาหนั เพ่ิน(เหน็ เขา)เขา้ มาแวด บ่าร้จู ะมารา้ ยมาดี เปนิ้ มากราบคารวะ ว่าพระวัดเราบ่มี วัดบ่มีธุเจ้า(พระ)มันทึงบ่ดี มันมรแตค่ วามวิเวก ๔๐. ตา่ นเรียนบม่ ีหยดุ พัก จนจบเปน็ นกั ธรรมเอก ขยนั อนันตเ์ อนก นกึ จะเรยี นเปรียญต่อไป ถ้ามีสมองความคิด ชีวติ จะไดผ้ อ่ งใส เกดิ ความเป็นหว่ งเปน็ ใย อาลัยหาพ่อหาแม่ ๔๑. เพราะเราอยากเรียนศึกษา กลวั มปี ญั หายา่้ แย่ เมือมานึกถึงพ่อแม่ เราซ้าบ่ร้า่ บร่ วย ปัญหารอ้ ยอนั ปนั ขอด เหมอื นเอาไมส้ อดต๋าก๋วย(ตะกร้า) เพราะบญุ ผา้ เหลอื งมนั ฮวย(หมดบญุ ผ้เหลอื ง) เลยได้สกิ ขาลาขาด ๔๒. ตอนเราอยู่ในผา้ เหลอื ง ใจกเ่ รืองเรืองกวา่ เปน็ ฆราวาส สกิ ออกมากอ่ มแี ต่พยาธิ มนั กเ็ ริ่มเขา้ มาใจ(มาหา) บดึ กเ็ ป็นหอบเปน็ หดื มนั หยง่ั มาฝืดหวั ใจ เอาไปโฮงยา(โรงพยาบาล)ท่ีไหน วิจัยบ่ได้สกั ท่ี

๔๓. ครานัน้ แม่ก็พาไป หาหมอเจา้ นายม้าขี่ บอกวา่ เหลนน้อยคนนี่ ขวัญอย่ใู นวดั ในวา วา่ บุญผ้าเหลืองบ่เสยี้ ง ฟั่ง(รบี )สกิ มาเยียะหยงั่ หา หอื้ (ให)้ เขาไปบวชเถอะนา อันเรอ่ื งปัญหาบ่จ่อ ๔๔. ครานน้ั แมค่ ้ากถ็ าม วา่ จะบวชอยกู่ ่อ(จะบวชอยูห่ รือไม่) ก็เปน็ ฮือนอ่ ฮือนอ่ (ตัดสนิ ใจไม่ได)้ บใ่ ครร่ ับปาก รบั ค้า กลวั ได้เป็นชายสามโบสถ์ กลัวชาวบา้ นเป้ิน(ขา)โจษขาน วา่ เฮานี่ข้ีค้านยะการ จาวบ้านจะปากนั ยแุ หย่ ๔๕. แม่บ่ช่างบังคบั ใจ คราวนีต้ อ้ งตายแนๆ่ บช่ ่างเอาหยงั่ มาแก้ ปล่อยไปตามกรรม ตามเวร ไปตามอะนากะตะ ไผ(ใคร)บ่ได้กะไดเ้ กณฑ์ อนั เร่อื งการตายการเป็น บอ่ มีบรเิ วณเป็นท่ี ๔๖. ความรกั ลกู สดุ หวั ใจ จะต้องแก้ไขให้คลายคลี่ ไปหาหลวงพ่อหลวงพี่ ท่ีเพ่ินเคยนั่ง ตางใน ถา้ เอาผ้าเหลืองมายนื ยง ศศพิ งค์เจ้าคงบต่ าย ถา้ วา่ พยาธมิ ันหาย ห้อื ขะใจ(รบี )ปาไปบวช ๔๗. บก่ องบนแล้วสดั เสพ็ กเ็ ลยหายเจ็บหายปวด ตอ่ น้ันก็เลยเขา้ บวช ในศาสนา หน้าบุญ(ดยี ง่ิ แลว้ ) วนั ท่ีซาวเกา้ (ย่ีสบิ เกา้ )เดอื นพฤษภาคม พ.ศ.สองห้าส่ศี นู ย์ เริ่มดว้ ยกศุ ลผลบุญ ไดม้ าเพมิ่ พูนเป็นอยู่ ๔๘. อยู่มาบเ่ มนิ บ่นาน ก็มีวิญญาณตุ๊ปู่ (พระผอู้ าวุโส) ที่เพ่ิน(ท่าน)ได้ก่อกู้ นอกวดั มาแต่ นมนาน ท่านไดม้ าทรงรา่ ง วา่ จะจว่ ยสรา้ งวิหาร ชาวบา้ นก็แตกตน่ื กนั ว่าเป็นผีเข้าเจา้ วอก

๔๙. ครานนั้ แกว่ ัดอาจารย์ ก็พากนั ลน่ (วง่ิ )ไปบอก ถูกนมิ นต์ไปสอบ ครูบากบ็ อก ตามตรง ทางเจา้ คณะพระครู ท่านก็ฟังดวู า่ ผิดวนิ ัยสงฆ์ จาวบา้ นช่วยกนั ฟันธง เขาพากนั แชง่ กันดา่ ๕๐. พ่อง(บางครั้ง)ก็วา่ เพิ่น(ทา่ น)เมากัญชา พอ่ งกห็ าเพิน่ (ทา่ น)เมายาม้า พอ่ งวา่ ตุ๊เจา้ (พระ)ผบี ้า วา่ เปน็ ประสาท เลอะเลือน พอ่ งกว็ า่ กนิ ขา้ วเสยี ข้าว เป็นพระเป็นเจ้าบ่าฟังก้าไผเตือน หาวา่ สติฟั่นเฟือน จิตใจ๋สะเทือนเจ็บปวด ๕๑. เกดิ ความวนุ่ วายสบั สน เขาไปแจ้งกรมต้ารวจ เพ่นิ เอาไปสอบไปตรวจ มายะผดิ แบบผิดปิม เพราะท่านเป็นเณรเป็นพร มายะหื้อเกดิ สนิม พวกนักข่าวหนงั สอื พิมพ์ พากนั เอาไปลงขา่ ว ๕๒. กล่าวหาต่างๆนานา ตามทค่ี รูบาเพ่ิน(ทา่ น)เลา่ ประการท่หี น่ึงน้นั เล่า หาว่าเปน็ คนลอกลวง ว่าเปน็ สบิ แปดมงกฎุ เปน็ ผีหัวปุดหัวหลวง วา่ ท่านเปน็ คนหลวงลวง เป็นคนหน้าไหว้หลงั หลอก ๕๓. ประการท่ีสองน้ันนา ตามท่ีครูบาได้บอก น้าตาเราก็จะออก สุดแสนซา้ ซอก ทรวงใน ใคร่ห้ือ(ให)้ เราหนจี ากท่ีพัก หาว่าเราลักพระเจ้าไปขาย ถา้ คนไหนลักเอาไป หอ้ื (ให)้ เขาฉิบหายวายวอด ๕๔. ความรู้เรามที ว่ มหัว จะตอ้ งเอาตัวหื้อ(ให)้ รอด ขอ้ สามครูบาทา่ นบอก หาว่าเราหลอกผู้คน ว่าปลกุ ระดมชาวบ้าน มีการคัดคา้ นเหตผุ ล ว่าปลกุ ระดมมวลชน หือ้ (ให้)เขาหลงกลอ้านาจอ้านาจ

๕๕. อันข้อทส่ี ่ีนนั้ นา ว่าศีลครบู าปุด๊ ขาด ว่าเราหลงในอา้ นาจ ว่าใครเ่ ป็นใหญเ่ ปน็ โต ไอ้พวกปากหลายใจชัว่ เขาทงึ (ก็)ชอบยว่ั โมโห วา่ เราเป็นพระขโี้ ว(ข้ีโม้) ใครใ่ หญใ่ ครโ่ ตเหลอื เจา้ อาวาส ๕๖. อนั ข้อที่ห้านนั้ แถม วา่ เราหน่อมแน้มแล้วอวดฉลาด หาว่าเราไปปา่ วประกาศ ฟังนาปปู่ ้าอาลงุ บใ่ ช่ควายดา้ ควายเผือก แตงดัง(แทงจมูก)มัดเชอื กหื้อ(ให)้ จงู ไอ้พวกมีความร้สู งู จิตใจเขาหย่ังมาตา่ (จิตใจต้า่ ช้า) ๕๗. มาถงึ ประการทีห่ ก น้าตาเราตกวันค่า้ เหมอื นดนหนามยอกชอกช้า ใสค่ วามแปดเป้ือนราคิน หาว่าเราเอายาบ้า ยามา้ หื้อตุ๊หลวง(เจ้าอาวาส)กิน ข้าขอวานพรหมวานอินทร์ ช่วยเป็นพยานข้าพ่อง ๕๘. เร่อื งราวท่ีมันผ่านมา ขอเตวดาสอดส่อง เขาสร้างปัญหาฟ้องร้อง จะเกดิ เปน็ ถ้อยเป็นความ ลางพอ่ งพากันมาขู่ บห่ ้ือ(ไม่ให)้ เขาได้อยู่เขาจ้า ต้องไปตามยถากรรม ทีม่ นั ติดตามตวยเข่น ๕๙. น้าตาเราจนพอไหล หนีไปอาศัยอยูว่ ดั บ้านเดน่ หัวใจพอจะหยุดเต้น ได้หนอี อกบ้าน ออกเมือง เพ่ิน(เขา)ว่าท้าดีได้รา้ ย อ(ู้ พูด)ไดช้ า่ งไปบเ่ ปลือง ไปเพงิ่ (พง่ึ )ครูบาเจ้าเทอื ง ท่านรกั เหมือนน้องเหมือนนุง่ (รกั เหมือนพีน่ ้องกนั ) ๖๐. เพราะทา่ นเป็นตนเมตตา จ่วยแก้ปัญหายงุ่ ยงุ่ บต่ ้องกึดหาวัดแม่กุ้ง เพ่ินจว่ ยปลอบขวัญ ปลอบโยน หือ้ นึกถึงอะตาหิ ไว้ในสตขิ องตน อะตาโนนาโถคือผล ตนจะตอ้ งเพ่ิง(พ่ึง)ตวั เกา่

๖๑. เลีย้ งควายยงั ได้ใสน่ า เลีย้ งหมาไวห้ ้ือมนั เห่า มวี ัดบม่ ีธุเจา้ (พระ) จะเป็นไปได้จะใด อนั ปญั หาเรื่องนี้ ขอข้ีห้อื (ให)้ ทา่ นเขา้ ใจ ตังเก๊ามันเปน็ ขี้ควาย ตังปลายเปน็ ดอกกุหลาบ(ต้นร้ายปลายด)ี ๖๒. อยู่ไปอยา่ งทรหด ตามกฏของบญุ ของบาป ตอ้ งหอบสังขารสภาพ ไดจ้ ากถิน่ ฐานบ้านชอง(เรือน) คงเปน็ กรรมเกา่ ชาติแลว้ มาตอบสะแว้วสนอง นึกถึงขติงคงิ คอง มนั ยงั บ่ตายอยู่ในป่า ๖๓. อันอนาคตนางอ เป็นสิ่งทรี่ ออยู่ถ้า เหมือนเราเอามือลบู หนา้ มันยงั ปะใส่ฮดู ัง นกึ ถงึ เร่ืองราวอดีต ขอขีดเสน้ ไว้ตงั หลัง บุญกินบุญตานเรายัง เหมือนไฟส่องตางดวงแรก ๖๔. อยู่ตวยครูบาเจ้าเทือง ได้เรียนรเู้ รอ่ื งแปลกๆ ทา่ นไดส้ อนสอดแทรก มหี ลายแผนกหลายแนว ความคดิ ของท่านกว้างเกิน เราจะต้องเดนิ ห้ือแผว(ใหถ้ ึง) ครูบาเจา้ เทืองแนะแนว บวชแลว้ อยา่ ไดไ้ หวหวั่น ๖๕. ไดส้ บิ แปดวันปอดี ทเ่ี ราไดห้ นีออกวดั เม่ืออั้น ญาติๆของเราตงั บ้าน ไดพ้ ากันไปนิมนต์ วา่ ขอกลบั ไปอยู่วดั เร่ืองอืน่ บ่ตอ้ งไปสน กลวั ไดเ้ ป็นข้ีปากของคน ว่าธแุ อ่ว(พระเทีย่ ว)พเนจรรอ่ นเร่ ๖๖. บ่ากอง(เมื่อ)เข้ามาอยู่วดั ทา่ นกไ็ ด้รับทางใบสนเท่ห์ ว่าเป็นครบู าเจ้าเลห่ ์ ชอบใชเ้ สนห่ ์ มายา พอ่ งก็เขยี นมาดา่ ว่าเปน็ ครูบาชาตหิ มา ไอ้พวกปากนกปากกา เขาชอบยุยงสนส่อ

๖๗. เขามีแต่ความอจิ ฉา มีแก้วแกน่ ตา(ดวงตา)แล้วเขายงั บผ่ ่อ ไอ้พวกปากแตนปากตอ่ ชอบพูดไปเรอื่ ยไปเลย ถงึ แม้จะถูกประณาม ทา่ นก็ยงั มีความวางเฉย หาวา่ เป็นกระเทย เขาเคยปากบางคางร่วั ๖๘. ทา้ ดยี ังบ่ได้ดี หาว่าอปั รียต์ ีถั่ว เพน่ิ ว่าหวั เรอื รวั่ ตอ้ งปัน้ ข้าวอั่วหวั เรอื ไอ้พวกปากแมงปู่ข้ี เขาชอบจจู้ ้ีล้าเหลอื หาวา่ ครบู าเปน็ เสอื ร้ายเหลือสนุ ขั จิง้ จอก ๖๙. อวดตัววา่ เปน็ ตน๋ บญุ วา่ ชอบต้มตุ๋นลวงหลอก ดา่ แผว(ถึง)เป็นก้างเปน็ วอก วา่ เป็นพระอันตะพาล ตวั เราไดแ้ ตเ่ ก็บกด อย่ใู นอโบสถ์วหิ าร สมาธถิ ูกรงั ควาน ทงึ บเ่ ป็นอันเรียนอันสวด ๗๐. ครบู าเลยตดั สินใจ เพราะเปน็ นสิ ัยนักบวช ทึงบอ่ จิ ฉาคยุ อวด มีแตท่ ่องสวดอยา่ งเดียว บใ่ ช่มปี กี บินเหมือนนก จะปนิ ขา้ มนรกหาดเหว เกิดมาเปน็ คนชาตเดียว บย่ อมหื้อมันเสียชื่อ ๗๑. คา้ สอนครบู าอาจา๋ รย์ ทีเ่ ราได้จา้ ได้จอ่ื อันใดทเี่ พิน่ (ทา่ น)สอนห้ือ(ให้) จา้ ใส่สมองอ่องออ เป็นศษิ ย์พระคุณบญุ เรือง ครบู าเจ้าเทืองน้นั หนอ เราไดเ้ ปน็ ธเุ จา้ (พระ)หมอ มที ้งั อาคมมนตเ์ วทย์ ๗๒. อันความเมตตาปราณี มนั ทึงบ่มีขอบเขต ครูบาเจ้าเทืองทา่ นเทศน์ สอนหอ้ื (ให)้ รู้จักใจคน มแี ต่อุปะสะมะ เป็นพระข่มใจตน เร่อื งราวครูบานา้ มนต์ ยังมีเรอื่ งราวสาวต่อ

๗๓. อดตี ทีเ่ คยผา่ นมา ขอทา่ นศรทั ธาฟังผอ่ สง่ิ ทีไ่ ดค้ ิดได้ก่อ มีอยู่หลายสง่ิ หลายอัน มแี ผวห้องน้าหอ้ งสว้ ม แปง๋ (ทา้ )ไวค้ รบถ้วนเปน็ ฐาน จก๊ิ (เกศา)พระเจ้าในวหิ าร ก็เอาไปซ่อมแซมแป๋ง(ทา้ )ใหม่ ๗๔. เราได้รบั ความจว่ ยเหลอื พีน่ อ้ งบ้านเหนือบ้านใต้ เราจะมีงานครั้งใหญ่ จะสบื ชาตาบูชาดวง จะแป๋งพอยเพก๊ ต๋ัวเกา่ (จะบวชตวั เอง) เมือ่ เจ้ามีการบวงสรวง ได้ไปนิมนตค์ รบู าธุหลวง(พระ) มาเปน็ ประธานเค๊า(แรก)ตัวอย่าง ๗๕. บางตนก็บ่ไดม้ า เพราะกจิ ครบู าบว่ ่าง ไอ้พวกต้ีอู้บ่จ่าง(พูดไม่ปน็ ) ก่อว่าไปต่างๆนานา เขาหาวา่ เราเปน็ ธุ(พระ) หยังมาขี้จุ๊มุสา แอบอา้ งเอาชื่อครูบา หลายวัดหลายวามาใส่ ๗๖. เพราะเราบร่ เู้ หตกุ ารณ์ หยั่งมาสงสารแท้ใบ้ พอ่ งพอเปน็ ร้องเป็นไห้ บ่ช่างแกไ้ ขจะใด น้าตาเราจนพอตก ได้แตเ่ สยี อกเสยี ใจ เพราะบุญเราน้อยล้าไป บช่ ่างแก้ไขสาเหตุ ๗๗. อยู่กรรมธุ(พระ)ใหม่สามวนั อยู่ในวหิ ารบเ่ กยออกนอกเขต ได้แต่อ่านเขียนเรียนเทศ จนครบได้เถงิ (ถึง)สามวนั ถือศลี สองร้อยซาวเจด็ (สองร้อยยี่สบิ เจ็ด) ทงึ บ่ยอมเขด็ ยอมขาน พอครบก้าหนดวันถว้ นสาม กไ็ ด้ไปอยู่กรรมแถมเต่ือ(อีกคร้ัง) ๗๘. ทดสอบในความอดทน บางคนเขาทึงบ่เชือ่ ได้ไปอยูก่ รรมแถมเต่ือ(อีกครั้ง) ไดอ้ ยูส่ ี่สบิ เก้าวัน ทกี่ ่(ู เจดีย)์ ร้างนอกวดั ไปเข้าวปิ สั นากรรมฐาน บ่วา่ ขา้ วปลาอาหาร ทึงบก่ นิ หยั่งสกั อย่าง

๗๙. ทึงบ่ยอมอ้จู ๋าไผ(พูดกับใคร) อดจนเหงื่อไหลไคลหลง่ั บดึ (เด๋ยี ว)เปลีย่ นท่านอนท่าน่ัง กนิ แตน่ ้าเปล่าอย่างเดียว ท่านอย่ใู นความสนั โดษ ชา้ ระความโหดห้ือแหลกเหลว ทึงบ่ย่อมย่างยอมเตยี ว ภาวนาคืนรงุ่ วนั ค้า่ ๘๐. ต้งั สัจจะอธิษฐาน ขอบุญสมปารเท่อื มค้า(ค้าชู) เกดิ แกเ่ จ็บตา๋ ยหงายควา่้ เป็นพละสัจจะธรรม เม่ือพ้นจากวาระ เนกขะมะนโิ รจกรรม ไดพ้ าศรทั ธาวงวาน ไปทานพระสงั ฆราช ๘๑. สว่ นพระสงั ฆราชา ทา่ นทรงพระอนุญาต และมีพระราโชวาท ให้แก่ศรัทธาต้งั ปวง ท่านไดป้ ระทานฤกษ์ ท่ีจะสร้างพระวหิ ารหลวง จากน้ันศรทั ธาตงั ปวง กับครบู ากลบั มาเชียงใหม่ ๘๒. ท่านพระมหาสกล ทา่ นรบั นิมนต์ถามไถ่ ฝากพระพทุ ธรปู องค์ใหญ่ ให้มาเปน็ พระประธาน ชอื่ พระไพรีพินาศ พระสังฆราชได้ปนั ท่านได้มอบเงินเป๋นตาน เป็นคา่ รถโดยสารจากกรงุ เทพ ๘๓. ตอนน้นั ครบู าน้ามนต์ ได้ถวายเหตผุ ลมอกพอสงั เขป ได้กลบั จากกรงุ เทพ ป๊กิ (กลบั )อ้าเภอสนั ป่าตอง บอกหอื้ (ให)ศรัทธาเฒ่าแก่ พากันแห่ฆ้องแหก่ ๋อง(ตีกลอง) ไปอ้าเภอสันป่าตอง ไปรบั พระเจา้ องค์ใหม่ ๘๔. อายุยังหนมุ่ ยังกรรม ความพยายามท่านใหญ่ บางคนท่ีเขาคิดร้าย เขาว่าบใ่ ชข่ องจริง หาวา่ ครูบาจอมงก หลอกลวงหอ้ื นกถกู ยิง จา้ งพวกนักเรียนว่าเป็นความจรงิ อา้ งอิงแถลงแป๋ง(ทา้ )ข่าว

๘๕. พวกปากปีจอทั้งหลาย อยูไ่ หนมนั ทงึ ชอบเห่า คนท่ีชอบพูดชอบเล่า เพราะเป็นความสุขของมัน ศรัทธาพ่ีน้องเจ้าข้า กม็ าปรึกษาหากัน เอาจะได้เต(รื้อ)วิหาร ตอ้ งปรึกษากนั หลายฝ่าย ๘๖. บ่วา่ แก่วัดอาจารย์ กรรมการและทา่ นผใู้ หญ่ ที่ได้มอบหมายให้ ครูบาไดเ้ ป็นประธาน ได้วางศลิ าฤกษ์ ไว้กลางใจเต๋ิน(ระเบียง)วิหาร ทไ่ี ด้พระราชทาน จากสมเด็จสงั ฆราช ๘๗. คนที่บร่ พู้ น้ ตวั เขาทงึ บ่กลัวขนาด กลวั เกิดความผดิ พลาด เมื่อจะริเริม่ ทา้ งาน สงิ่ ที่บ่หันบา่ รู้(ไมร่ ู่ไมเ่ ห็น) จะไปยู้ใสก่ ัน(ผลักใสไลส่ ่ง) เร่อื งมันสูนอะ๊ สนู อาน(ปนกนั ) จะเล่ากลา่ วขานจนหมดเปลือก ๘๘. บางพ่องกว็ ่าป้าบวั ซอน อวดดมี าวอนจาเสือก เมามาสล้ากลง้ิ เกลือก เหมือนคนตาเหลอื กตามวั มนั เป็นก้าเล่าเขาอา้ ง วา่ ได้ค่าจา้ งค่าตวั ฟังแล้วเป็นดีไค่หัว(หวั เราะ) บไ่ ด้คา่ ตวั สกั บาท ๘๙. คนชั่วกน็ กั เตม็ ที คนดีแตย่ ังมวี ิพาก กา๋ รท้าดีมันยาก ตงั ฮากแผวต้นแผวใบ เกยฟงั เร่ืองของตุ๊เจ้า ตเ่ี ปน้ิ ลงขา่ วกม็ หี ลาย เราคอ่ ยตานไปผ่อ(ดู)ไป ดเี หลืออยูบ่ ด่ ายเปลา่ เปล่า วางเพลง............

จ๊อยทานองวิงวอนสงั เวช ประพันธ์บทและทานองโดย แมค่ รบู วั ซอน ถนอมบุญ ยอพนมกร ขอพรจากพระ มัจุราชะเจา้ แห่งสงสาร มจั รุ าชท้าว เจา้ แหง่ สงั ขาร ประทานวิญาญชีวติ ตวั ข้า บุญอยู่ข้างหลังกรรมอยขู่ ้างหน้า เป็นของพามาแต่เคา้ (ตน้ ) ทเ่ี พ่ิน(เขา)มีบุญม่ังมูลตุ่นเต้า(เจรญิ ขนึ้ ) เกดิ มาเป็นเจา้ นาย เราเกิดมาทุกขจ์ นล้มเกือบตาย กน้ ไปหัวไป คุ้มกินเท่านั้น แลว้ แตบ่ ุญกรรม ตามมาเปน็ ข้ัน พ่อง(บา้ ง)สขุ ส้าราญฟุ้งเฟ้อ อยา่ งเพ่ินคนจน กจ็ นแทเ้ นอ้ (จริงๆ) บ่มสี ่ิงอัน้ (ไหน) ใดเลย ชวี ิตคนทุกข์ ฝนุ่ ขมุกแดดเหมย เกดิ มาบ่เคย สุขใจเน้อเจ้า(นะท่าน) ซ้าวา่ มาจน ทง้ั นา้ และข้าว สมบัตอิ นั ใดก็แลว้ เกดิ มามีกรรม ตามมาคาดแค้ว(ทัน) คึดสงั (คิดอะไร)บ่ได้สักอนั เกิดมาชาตนิ ้ี เฮามันทุกผลาญ บุญกนิ บุญทานเราบ่ได้สรา้ ง ชาติแลว้ ปางหลงั กรรมมาถูกหลา้ ง(ใส่) ควรจะระวงั พ่องเถอะ บุญกศุ ล หากมีป่าเลอ่ ะ(เยอะแยะ) ขอนพนอ้ มไหว้บชู า ขอไหวค้ ณุ พระ องค์กษตั รยิ ์ตรา บิตา มารดา ผ้บู งั เกดิ เกลา้ ประทานสังขาร หอ้ื (ให้)หมลู่ กู เตา้ กุศลน้ามาแต่เค๊า(แรก) ลกู เตา้ จะขอบ้า...เพ็ง(เพญ็ )...บุญ

ทานองจ้อย (ช้อย) เชียงแสน ประพนั ธ์บทโดย แมค่ รบู ัวซอน ถนอมบุญ หอมหอมมวลมาลาดอกไม้ ทีเ่ หล่านางฟ้าเทพไธ้ปลกู ไวใ้ นสวนสวรรค์ กลิ่นมันโชยมาอด๊ เอา้ (ตลบอบอวล) ยงั บห่ อมเทา่ กลิ่นพ่อท้าวราชันย์ ท่านเปน็ เทพแหง่ สรรค์ บรรดานมนุษยล์ ุม่ ใต้ พระชนั ย์แปดสิบพรรษา ปวงประชาขา้ บาทใต้ ขออภิวาทไหว้หือ้ (ให)้ พ่อไธ้ทรงพระเจริญ

ค่าวตารายาตลก เรยี นเพมิ่ เตมิ มาจาก แมค่ รคู าปัน เงาใส หญ้าละมืน(สมุนไพร) กบั ปกี นกไส้ เป็นลมปานใน ผู่ปดิ๊ (เป็นพษิ ) หญ้าปกั ข้กี า๋ (สมนุ ไพร) กบั หญา้ ลุบรบิ (สมุนไพร) เปน็ ยากา๋ กั้ง(แก้) กนั คน(ปอ้ งกัน) พรกิ ดบิ พริกน้อย ตากแห้งตา้ ผง เปน็ ยาลม แมห่ ญิงเหย่ี วแหง้ กาฝากไม้สา กาฝากฝาแปน้ (แบน) ตามปนิ เตา ออกปึด้ พิจารณา ไปมาน่งั คดึ (คดิ ) เพยี (หยิบ)เสียมถอดบ้อง(ดา้ ม) คันยาว ยาแมร่ ้าง ใครใ่ หเ้ ป็นสาว เอารากมะนาว กับปกี นกอิน้ หากนมมันยาน เพียงแผว(ถงึ )ปกส้นิ ก็หดขึน้ มา ยา้ วๆ กาฝากครกมอง กบั ออง(กะลา)มะพร้าว เป็นสาวหนมุ่ ข้ึน ทนั ที แม่หมา้ ยแมร่ า้ ง ใครเ่ ป็นสาวจ๋ี(แรกแยม้ ) ต้ังใจห้อื (ให้)ดี กนิ เอาจนเสี้ยง(หมด) จักบอกไขปัน แมใ่ บหนา้ เกลี้ยง(มน) บ้านนอกในเวยี ง ช่างเถอะ หมอหยกุ หมอยา มนั มปี า่ เลอะ บ่เท่าป้ากอ้ี(ไมเ่ ทา่ ยานี้) สักอัน ปีห้ นานป้ีหนอ้ ย(ทิศ) เจบ็ แหล่ปวดหลงั เอาเหล้าสักพนั (กลม) กบั ขาไกต่ ้ม ๆ

จ้อยกะโลงสอง (ชอ้ ยโคลงสอง) แบบโบราณ เรยี นมาจาก แม่ครูคาปนั เงาใส จะไปจุ๊(หลอก)..บวั ชวน ขา้ มาตักน้าใส่ซา้ (ตะกรา้ ) มันจะเตม็ หือ้ (ให)้ ขา้ แลว้ ปีเฮย เดือนใด กนั ขา้ ไดร้ ักแลว้ ข้าก็บ่ฟงั หนอค้าไผ(คนไหน) เปน็ อนั ไดไป ชา่ งมนั เถอะเจา้ สองคนเราจัก มาล้นเบ้าเหลอื เบ้า(รกั กันมาก) เพน่ิ (เขา)จะเอานาย ไปฟ้อง เอาขะแจะหนาหนา(โซต่ รวน) มาคาดตาตอ้ ยว้อง(เอามามดั ) สุบสอดขน้ึ ท้งั แต่ตนี (มดั เทา้ ) หน่อแผวคอ(จนถึงคอ) เชอื กเหล็กบ่พอ ซ้ามาเพ่ิมแถม(อีก)แส้ ตีสองกา้ เลือด ด้าก็ยอ้ ย มานอ้ ยใจสัง(ทา้ ไม) คนงามพ่นี อ้ ย มาเจบ็ ปวดเจ้า ผวั แพง(รัก) ค้ากนิ แหนง นอ้ งทงึ บ่เอามาอ้าง ตราบใดรอยเทา้ คน บ่กลมเหมือนรอยเทา้ ชา้ ง บวั ชวนแมร่ า้ ง(หญงิ ทีถ่ ูกผวั ทง้ิ ) จะค่อยขอผันผอ่ ....พองก่อน(ขอดูไปก่อน)

เพลงสิกจงุ้ จา(เลน่ ชงิ ชา้ )แบบล้านนา แม่ครบู วั ซอน ถนอมบญุ (เมืองพรา้ ว) ไดจ้ ามาตงั้ แต่เด็ก สิกจุง่ จา(โลช้ ิงช่า)บา่ หลา้ ชุ่งช้อย ขึ้นดอยน้อย ขึน้ ดอยหลวง เก็บผกั อีก่ ลว๋ ง(ผกั มเี ฉพาะภาคเหนือ) ใส่ซา้ ตังลุ่ม(ข้างลา่ ง) เก็บผกั อ่ีกมุ่ ใสซ่ ้าข้างบน ลกู แก้วสองตน อยู่บนตนหนง่ึ ตตี ดื ตงึ ..ห้ือ(ให้)ยา่ สาวฟัง ควกขด้ี ัง(แคะจมูก) ห้ือ(ให)้ ย่าสาวจูบ แปงตบู (ท้ากระท่อม)น้อย หื้อ(ให้)ยา่ สาวนอน *ขยี้ องขอนหอื้ (วางตอไมใ้ ห)้ ย่าสาวไหว้ เก็บดอกไม้ หอื้ (ให)้ ย่าสาวเหน็บ(เสียบ) เห็บขบ(กัด)หู ปหู นีบข้าง(ขา้ งลาตวั ) ช้างไล่แทง แมงแดงขบเข้ียว(ฟังผ)ุ เงี้ยว(พม่า)ไล่ฟัน ตกขุม(หลุม)มนั ตฆี ้องมองๆ มองตง่ึ แส่(เสียงกลอง) เจ้าพอ่ แม่ อาบน้าด้าหัว เจา้ พ่อผัว ขมี้ า้ ดังไฟ(ก่อไฟ) ไฟดบั ไป หมาน้อยร้องเหา่ ข้เี ตา้ (ขี้เฒ้า)แขวน แมลงมนั ออก ข้ีนกจอก มาต่าง(ตก)หลังคา ยายาจ้นิ ยายาปลา หลก(ดึง)ขนตา มาใส่อม(ค้า)เหม้ยี ง แมอ่ ุ้มเกลยี้ ง(ดแู ล) เลยี้ งใหญ่มา *เอาเทีนยข้ีผงึ้ ให้แมส่ าวไปไหว้พระ

เพลงกลอ่ มเด็กทางภาคเหนือ แมค่ รูบัวซอน ถนอมบญุ (เมืองพรา้ ว) ไดจ้ ามาต้ังแต่เดก็ อ่อื ………อ่ือ……….อื่อ…......ออ่ื ……….จาจา หลับสองตา อแ่ี มไ่ ปนานอกบ้าน อ่อื …… ไปเกบ็ มะส้าน(ชื่อผลไม้พ้ืนบ้าน)เอาใส่ถงุ อื่อ….... ไปเก็บลูกโก๋ง(ลูกหนังสต๊ิก)เอามาใส่ปก๊ (พกพา) อือ่ …………… ไปเก็บลูกนกเอามาใส่ซา้ อ่อื …………..... ตัวหนึง่ เอาไวท้ ้ากินงาย(ตอนเชา้ ) อื่อ……………. ตัวหนง่ึ เอาไวข้ ายแลกข้าว อื่อ………….… ตัวหน่งึ เอาไว้ไกวอู่(ไกวแปล)เจ้าวา่ อ่ือ………………จาจา ออื่ ………..จาจา หลับสองตา ถา้ แมน่ ายมา คอ่ ยตืน่ ถ้าหลับ บช่ ่ืน(ไมอ่ ิ่ม)ก็คอ่ ยหลับแถม อ่ือ……………….

ซอสาธติ รอ่ื งพระเจ้าสิบชาติบาเพ็ญวริ ิยะปารมี ชาติท่สี องเร่ืองมหาชนกชาดก แตง่ โดยแม่บัวซอน เมืองพร้าว ทา้ นองตั้งเชียงใหม่ จะปลุ ะมา้ ย สรา้ งบารมมี าได้ทึงสบิ ชาติ หากมันผิดพลาดขออโหสิกรรม ชาย ประกอบคัมภรี ์ของมณุ ชี าดก หลอน……..กอ่ นทจ่ี ะซอเรื่ององค์พระมณุ ี ก่อนที่จะไดย้ กเอามาเล่าห้อื (ให้)ฟงั จะขอจะขอสูมา(ขออภัย)ท่านคณะนักปราชญ์ จะได้เลา่ สู่หื้อหมู่ชนร่นุ หลงั ขา้ เจ้า ….ชาตท่ีหนึ่งเปน็ กุมารเตมียะ เรือ่ งพระอรหังองคพ์ ุทธงั หนอ่ ไท้ ตอ่ ไปชาติทส่ี องเปน็ มหาชนก จะขอสมู าครบู าหลวงปู่ ได้ปฏบิ ัติมาบ่ได้ไคว่ เขว ลกู หลานท่านเตา้ เขาบเ่ คยได้ฟัง ถอื ศิลกนิ เจมาเมินเจ้นลา้ (นานมาก) ขอยอมือกราบทูลสา อย่ตู ามภผู าดงดอยหลืบ(รู)ถา้ นอ้ มไหว้….ปางเม่อื ท่านได้เป็นโพธิสัตย์ อาศัยอยถู่ ้า ครี ี เตชะสเุ นมะภูจะนะวิเว บางชาตกิ ม็ าเกิดพารานสี ไจข้ ันตดิ า้ ริคน้ หา สร้างบารมีสบิ ชาตเิ นอเจา้ ทึงบ่กนิ เขา้ ทงึ บ่กินน้า นแี่ ละนอเค้าแหละนา บางชาตกิ อ็ ยู่ทเ่ี มืองมิถิลา จะตอ้ งชนะรอ้ ยอันประการ บางชาติก็โดนคา้่ ขาราวี ไวเ้ ป็นสะพานมรรคญาณไต่เต้า สร้างบารมีบญุ ไว้เป็นมลู เปน็ ราก นแี่ หละนอ้ เค้าแหละนา นายมอญ.....กว่าจะได้เปน็ องค์พระพทุ ธ เมกขัมมะเอาชนะสนั ดาน สละโลกยี๋ ส์ รา้ งปา๋ ระมีมาก่อน ญ. นาย......สบิ น้วิ จะขอย่ืนยอ ก่อนทจ่ี ะซอเรอื่ งพระเจา้ สบิ จาติ โพธิสตั ยโ์ ตนะโมโอวาท กอ่ นทจ่ี ะถึงชาติพระอรหนั ต์ เนอเจา้ ...สิบน้ิวจะขอมือยอ กอ่ นที่จะซอเร่ืองพระเจา้ สบิ จาติ โพธสิ ตั ยโ์ ตนะโมโอวาท กอ่ นทีจ่ ะถึงชาตเิ ป็นพระสพั พัญญู ทา่ นได้ต่อตา้ นโลกียะ อพรัมมะจระด้งั ราคะศัตรู กวา่ จะได้เป็นองค์พระสัพปัญญู ลูกหนิ พอจะฟลู อยขึน้ เหนือน้า คิดแล้วมันไกลจอยวอย เหมอื นด่ังเรือลอยกจ็ ะต้องอาศัย... ถอ่ จ้า......อยู่กลางน้าหาว...ยาว............นาน

ตัดทา้ นองจะปหุ รือชาวปุ ก่อนท่ีจะยกเอามาอู้(พูด)จา ๑. ชาติทสี่ องเปน็ มหาชนก ความเป็นมาต่ีจะเอามาอู้ ต่านปฏิบัติอยา่ งใดกบ่ ่ฮ(ุ้ ไม่พูด) ความเปน็ ไปมันเป็นจะใดชา จะเป็นคนหรือว่าเป็นสตั ว์ มนั กเ่ ลยแตง่ มาเลยี แข่งเลยี ขา จะคิดกบฏกลบั กฎอ้านาจ ๒. อามาตคนนีม้ นั อยากไดต้ า้ แหน่ง พระอรฎิ จะเลยเป็นคนขีข้ าด หาวา่ คดิ บงั อาจจังไร หาวา่ โปละชนกอุปาราจา ไปมาพลักบ่อยเขา้ เสายังไหว ปราชนอ้ งชายบ่มีผิดสักน้อย เพราะถูกค้ายว่ั ยุตตุ ะ ทึงบ่ได้กินยังเจา้ นง่ั นา้ ตายอ้ ย เลยสง่ั จับโปละมหาอุปราช ไปขงั ห้องมืดมิดดูหยงั (อะไร)ทงึ บ่ทันหนั ขอบุญสมพานจุ่งมาผายโผด อนั เสาหนิ แปดศอกตอกเป็นหลัก โปรดมาปลดเปลือ้ งห้ือขา้ เจ้าพน้ โทษ มาแปงโทษหอ้ื (ให้)ต้องมณฑลิ ฑน๋ ้องกันแ?ๆ?ฎกันไดช้ าใด อุ ประตูคอกเลยอา้ ทึงโซ่มือโซ่ตีน หน่ีจากแผ่นดินไปใกลบ่ไกล้ โปละชนกยงั ถกู พจี่ ับไปขงั ไดส้ ง่ เสยี งรอ้ ยห้ือ(ให้)พระอินทรม์ าหา ๓. เขายงั เอาคนดที ่ีบ่มคี วามผดิ กระดา้ งดงั่ ศลิ าหน้าประหลาด เจ้าโปละตัง้ สจั จะอธฐิ าน องค์อัมรนิ ทร์ก็เพ่งพิศขนาด ขอสิ่งศักดส์ิ ทิ ธฮ์ ักษาเมือง ทอี่ ยู่ในศกั ราชมารดา พระปี่ของเฮาเป๋นคนใจเห้ียมโหด เลยเนรมิตเป็นคนมาหา ท่านอธฐิ านหาเจา้ ตินเจ้าฟา้ เขา้ ไปพกู จากันแมน่ างทีน่ ่ัน ยอมือพระนมพระพรหมพระอินทร์ ถามว่าแม่หนจู ะไปท่ีไหนน้นั ๔. ด้วยบญุ ญาธิการลกู ในครรในท้อง นางก็ยกมือไหวเปน็ น้าหนู ้าตา ทพิ ย์อาสนเ์ คยออ่ นแต่ก่อนมา ถามวา่ ตาชาตาเป็นม่ะลอมซอมซ่อ(ตกอับ) จะมเี หตมุ ัน่ แม่นในแดนดนิ แลว้ ลงุ ก็ขบั ฮ่อพาไป ได้ยนิ เสียงร้องของมหาชนกนาถ เสยี งก็ดกั แซ่วนางสลบไสล ไดจ้ ้าแลงแปลงกายจะมาชว่ ยชีวติ หนทางมันไกลท่านกย็ อ่ หือ้ (ให)้ ส้ัน น่งั ขบั วัวล้อหรอื วา่ เกวยี นผ่านมา ทเ่ี มอื งกาละจ้าปาไปพักศาลาท่ีน่ัน พระอทิ ร์หนั แลว้ ก็เป็นดีอนิ ดู ๕. เมื่อพระอนิ ทร์ทาก้าลังมาซกั ไซ้ ขา้ เจา้ จะไปเมืองกาละจา้ ปา กเ็ ลยบอกหือ้ นางขึน้ นงั่ วัวลอ้ ไมท่ นั ว่านางขนึ้ นง่ั เกวยี นแลว้ พระญาอินทร์ทาก็พานางไป พอไปถงึ ร้องหื้อนางลืมตา

๖. พระอินทรข์ บั ล้อไปจอดประตูวันออก แล้วกบ็ อกว่าบ้านลงุ มที างเหนือ ส่ังนางเสรจ็ แลว้ ลงุ กร็ บี เมือ(กลบั ) ทา่ นได้ช่วยเหลือเทวนี ้องหลา้ คนเทวโละ๊ ๆแตบ่ ่รู้จักกัน พอดีมีอาจารยเ์ ทวผา่ นมาต่อหนา้ หันนางหอบหวิ้ เอากระเซ้าเสื้อผ้า วา่ น้องหล้าจะไปไหนชา เมอ่ื นางไดย้ ินกส็ ะดุ้งสะอื้ก ข้านอ้ งหนีขา้ ศึกบ่ายตายมาหา ชา้ บ่มพี ่นี ้องเพี่อนพ้องวงศ์ษา ขอท่านโปรดขนุ ณาพาไปพักหอหอ้ ง หมู่ลกู ศิษย์ทง้ั หลายเขามาถามอาจารย์ ท่านเลยบอกไขปันว่านางนเี้ ป็นนอ้ ง ๗. มาอยโู่ ตยอาจารย์ในฐานะพี่น้อง แม่นางได้อุ้มทอ้ งน่าอนิ ดสู งสาร ในอปุ การะของพระอาจารย์ แมน่ างกเ่ จบ็ ครรภ์ไดป้ ระสตู ิทารก พระอาจารย์ท่านไดใ้ จใส่ดแู ล ตดั ทัง้ สายแหต่ ัดท้ังสายรก แล้วเอามานอนในอาภรณ์หม่ ปีก ใสช่ ่ือ มหาชนกกุมาร เจา้ มหาชนกเจา้ เป็นลูกก้าพร้า แตแ่ มก่ ่บอกว่าเจ้าเป็นลกู อาจารย์ ไปเล่นกับละอ่อนลกู จาวบ้านทง้ั วัน ตหี วั กันเสียเขาสบู้ ่ได้ เขาวา่ ลูกบ่มีพ่อต่อบม่ ีรัง มหาชนกได้ฟงั เจ้าก่เลยจา้ ไว้

ซอขมุ ต้นฉบับเดมิ ทานองซอขมุ แมค่ รบู ัวซอน ถนอมบุญ (เมอื งพร้าว) รา่ เรียนมาจากแมค่ รคู าปนั เงาใส ทา้ ไร่ก็บช่ า่ ง(ไม่เป็น) ท้านากบ็ ่ได้ อยูก่ ับนายหา้ ง ได้เงนิ เดือนสองบาท วันพรุ่งเมื่อเช้า เราจะได้ไปกาด(ตลาด) ไปซ้อื ฝ้ายแดง เอามาแป๋ง(ท้า)สายดาบ ตดใส่สวน เป็นสวนผกั กาด ตดใสก่ ระดาษ เป็นตัวหนงั สือ ตดใส่มอื เปน็ นิว้ ปา่ งซา่ ง(เป็นรปู เป็นร่าง) ตดใสจ่ ้าง เป็นงวงเป็นงา ตดใส่นา ขา้ วเหลอื งเต็มโตง่ (ทุ่ง) ตดใส่ดง้ (กระด้ง) ฝัดได้ฝัดดี ตดใส่โยนี เปน็ รูจอ้ งวอ้ ง ตาม(จุด)เทียนส่อง หนั (เห็น)ขื่อหันแป ปดื เส้ือแฮ(เปดิ เสื้อยกทรง) หนั นมสองเตา้ ปืด(เปดิ )ซนิ่ เจา้ หันเตา่ หน้อยอองค้า(กระดองทอง) ลองปดื แหมกา(เปิดอกี ครัง้ ) ขนดาขอื่ ม้ือ(ขมดามดิ ) ฮือ้ น่อฮือน่อ ฮือน่อฮือน่อ

ซอต้ังเชียงใหม่ แบบโบราณ ภาษาท้องถิ่นเรียกวา่ บา่ เกา่ กลาง ทานองซอตั้งเชียงใหมโ่ บราณ(บ่าเกา่ กลาง) แมค่ รบู วั ซอน ถนอมบุญ (เมืองพร้าว) ไดร้ า่ เรียนมาจากแม่ครคู าปัน เงาใส ทานองตั้งเชียงใหมโ่ บราณ ยาม....คา้่ มา หนาใจจะลา จากกัน.... เจ้าเฮย....คา้่ มอก(เวลา)นี้ มันหยัง(ท้าไม)มาเร็ว ค่า้ ล้า แลว้ จะชวน พอ่ แขน ปอ้ งส้ัน จะหลอนค้่ามา ย้าวย้าว(ยะเยอื ก) มะพรา้ วบ้านรา้ ง ไกวใบ หนาอกหนาใจ จะไดพ้ ลดั จาก ตัวอ้าย อาลัยหาพ่ี ไทห้ นา แถมก้า....บญุ มีบ่า(ไม่)ตาย ก็หลา้ ง(หวงั )ได้หนั (หน็ ) หนา้ อา้ ย อาลัยหาพ่ี ไท้หนา ตั้งเชยี งใหม่กลาย ยาม....ค่้ามา ขอลาพนี่ ้อง ทง้ั หลาย เน้อเจ้า....คา่้ มอก(เวลา)น้ี จะจาก ลาไป บุญมบี ่ตาย หลา้ ง(หวงั )ไดป้ ๊ะนาย แถม(อีก)ครงั้ คิดยากจะหนี พรากข้าง มันหยงั (ทา้ ไม)มาง่อม(เหงา) มา...งัน..... รับ ทานองจะปุ หรือชาวปุ เวลา มอก(เวลา)ตะวนั หลวง กค็ ่า้ ไปจ้องจ้อง(ยามเยน็ ) หนาใจจะลา อาวอาพ่นี ้อง ก่อนแลเนอ........


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook