Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Law_Book_2019_e-Book_update

Law_Book_2019_e-Book_update

Published by Tanatporn Sukploy, 2020-08-26 01:11:30

Description: Law_Book_2019_e-Book_update

Search

Read the Text Version

ช่อื หนงั สือ กฎหมายดจิ ทิ ลั รวบรวมโดย ส�ำนักกฎหมาย ศูนยก์ ฎหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ส�ำนักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ อาคารเดอะ ไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์ พระรามเก้า (อาคารบี) ชน้ั ๒๐-๒๒ เลขท่ี ๓๓/๔ ถนนพระราม ๙ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรงุ เทพฯ ๑๐๓๑๐ โทรศัพท ์ ๐ ๒๑๒๓ ๑๒๓๔ โทรสาร ๐ ๒๑๒๓ ๑๒๐๐ เวบ็ ไซต์ www.etda.or.th http://ictlawcenter.etda.or.th www.facebook.com/ictlawcenter ISBN (e-Book) ๙๗๘-๖๑๖-๗๙๕๖-๔๗-3 พิมพ์ครง้ั ที ่ ๑ (สิงหาคม ๒๕๖๒) จำ� นวน ๑,๐๐๐ เล่ม แหลง่ ทีม่ า ราชกิจจานุเบกษา ราคา ๓๐๐ บาท





สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 4

ค�ำนำ� ปจั จุบันธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรอื ธรุ กรรมทางออนไลน์มคี วามหมายครอบคลุมทัง้ พาณชิ ย์ อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Commerce) และธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ภาครฐั (e-Government) ซึ่งนบั วนั มปี รมิ าณการใชง้ านเพมิ่ มากขนึ้ และมบี ทบาทอยา่ งมากในการใชช้ วี ติ ประจำ� วนั ดงั นน้ั เพอ่ื ผลกั ดนั ให้ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือธุรกรรมทางออนไลน์เป็นกลไกส�ำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย การพฒั นาเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั และยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชน คณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ในฐานะคณะกรรมการระดบั ชาติ จงึ ไดก้ ำ� หนดยทุ ธศาสตรเ์ ชงิ รกุ เพอ่ื สง่ เสรมิ ความเชอ่ื มนั่ และผลกั ดนั ใหก้ ารทำ� ธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สม์ น่ั คงปลอดภยั ภายใตม้ าตรฐานทนี่ า่ เชอ่ื ถอื โดยมสี ำ� นกั งาน พฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หรอื สพธอ. (Electronic Transactions Development Agency : ETDA) ท�ำหนา้ ทขี่ บั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตรเ์ กย่ี วกบั ธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ หเ้ กดิ ผลในทางปฏบิ ตั ิ อนั เปน็ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาการทำ� ธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สข์ องประเทศ ในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การทำ� ธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ สข์ องประเทศ สพธอ. ไดร้ วบรวม กฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับการท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีดิจิทัล น�ำมาจัดพิมพ์เป็น หนังสือ เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูลส�ำหรับใช้ศึกษาหาความรู้ด้านกฎหมายดิจิทัล การจัดพิมพ์คร้ังนี้ ไดร้ วบรวมกฎหมายใหม่ ๆ โดยเฉพาะทกี่ ระทรวงดจิ ทิ ัลเพ่อื เศรษฐกิจและสงั คมได้ผลักดันให้เกิดขน้ึ ในช่วงไมก่ ี่ปที ี่ผ่านมา อันเปน็ ประโยชนต์ ่อการสร้างความรคู้ วามเข้าใจ รวมถึงสรา้ งความเช่ือมนั่ และ ความน่าเช่ือถือในการท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กับทุกภาคส่วน โดยเป็นส่วนช่วย ในการขับเคลือ่ นเศรษฐกิจและยกระดับคณุ ภาพชีวติ ของประชาชนในยุคดิจทิ ัลต่อไป ศนู ย์กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (ICT Law Center) ภายใต้ส�ำนกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์



สารบัญ ๑๑ ๒๗ ๑. พระราชบญั ญัติส�ำ นกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒. พระราชบญั ญตั ิว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ (ฉบบั แก้ไขเพิม่ เติม) ๒.๑ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ๕๙ เร่อื ง แนวทางการจัดทำ�แนวนโยบาย (Certificate Policy) และแนวปฏิบตั ิ (Certification Practice Statement) ของผูใ้ หบ้ ริการ ออกใบรบั รองอิเล็กทรอนกิ ส์ (Certification Authority) พ.ศ. ๒๕๕๒ ๒.๒ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์ ๘๓ เร่อื ง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำ�หรอื แปลงเอกสาร และขอ้ ความใหอ้ ยูใ่ นรูปของขอ้ มูลอิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒.๓ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ๙๗ เร่อื ง การรบั รองสงิ่ พิมพอ์ อก พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒.๔ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ ๑๐๗ เร่ือง หนว่ ยงานรบั รองสงิ่ พมิ พ์ออก พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒.๕ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์ ๑๑๑ เร่อื ง แนวทางการใช้บริการคลาวด์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒.๖ พระราชกฤษฎีกากำ�หนดประเภทธุรกรรมในทางแพง่ และพาณิชย์ ๑๒๑ ที่ยกเว้นมิให้นำ�กฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ มาใช้บังคับ พ.ศ. ๒๕๔๙ ๒.๗ พระราชกฤษฎีกากำ�หนดหลักเกณฑ์และวิธกี ารในการทำ�ธุรกรรม ๑๒๗ ทางอิเล็กทรอนกิ สภ์ าครฐั พ.ศ. ๒๕๔๙ ๒.๗.๑ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๓๕ เร่ือง แนวนโยบายและแนวปฏิบตั ิในการรกั ษาความม่ันคงปลอดภัย ด้านสารสนเทศของหนว่ ยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๓ (ฉบับแก้ไขเพิม่ เติม) ๒.๗.๒ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ ๑๔๕ เร่ือง แนวนโยบายและแนวปฏิบตั ิในการคุ้มครองข้อมูลสว่ นบุคคล ของหนว่ ยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๓

๒.๘ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยวิธีการแบบปลอดภัย ๑๕๕ ในการทำ�ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒.๘.๑ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส ์ ๑๖๕ เร่อื ง ประเภทของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ และหลักเกณฑ์ การประเมนิ ระดับผลกระทบของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามวิธกี ารแบบปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒.๘.๒ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ ๑๗๑ เร่อื ง มาตรฐานการรกั ษาความม่นั คงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ตามวิธกี ารแบบปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒.๘.๓ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑๘๗ เร่อื ง รายช่อื หนว่ ยงานหรือองค์กร หรอื สว่ นงานของหนว่ ยงาน หรือองค์กรที่ถือเป็ นโครงสร้างพ้นื ฐานสำ�คัญของประเทศ ๑๙๗ ซ่ึงต้องกระทำ�ตามวิธีการแบบปลอดภัยในระดับเครง่ ครัด พ.ศ. ๒๕๕๙ ๒๒๓ ๓. พระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ๔. พระราชบญั ญตั ิสภาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕. พระราชบญั ญัติการบริหารงานและการใหบ้ ริการภาครฐั ผา่ นระบบดิจิทัล พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒๔๓ ๖. พระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระทำ�ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒๕๗ (ฉบบั แก้ไขเพิม่ เติม) ๖.๑ กฎกระทรวงกำ�หนดแบบหนงั สือแสดงการยึด ๒๗๕ หรืออายัดระบบคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ๖.๒ ประกาศกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ๒๘๕ เร่อื ง หลักเกณฑ์การเก็บรกั ษาข้อมลู จราจรทางคอมพวิ เตอร์ ของผใู้ ห้บรกิ าร พ.ศ. ๒๕๕๐ ๖.๓ ประกาศกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ๓๐๑ เร่ือง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับคณุ สมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบญั ญตั ิ ว่าด้วยการกระทำ�ความผดิ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ (ฉบบั แก้ไขเพิม่ เติม)

๖.๔ ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ๓๑๓ เร่ือง กำ�หนดแบบบตั รประจำ�ตัวพนกั งานเจ้าหนา้ ที่ตามพระราชบญั ญตั ิ ว่าด้วยการกระทำ�ความผิดเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๖.๕ ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ๓๒๑ เร่ือง ลักษณะและวิธกี ารสง่ และลักษณะและปรมิ าณของขอ้ มลู ความถี่และวิธกี ารสง่ ซ่ึงไมก่ ่อให้เกิดความเดือดรอ้ นร�ำ คาญแก่ผรู้ บั พ.ศ. ๒๕๖๐ ๖.๖ ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสงั คม ๓๒๙ เร่ือง หลักเกณฑ์ ระยะเวลา และวิธกี ารปฏิบตั ิสำ�หรบั การระงับการทำ�ให้แพรห่ ลาย หรอื ลบข้อมลู คอมพวิ เตอรข์ องพนกั งานเจ้าหนา้ ท่ีหรอื ผู้ใหบ้ ริการ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๖.๗ ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสงั คม ๓๓๙ เร่ือง แต่งต้ังคณะกรรมการเปรียบเทียบตามพระราชบญั ญตั ิ ว่าด้วยการกระทำ�ความผดิ เก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๖.๘ ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ๓๔๙ เร่ือง แต่งต้ังคณะกรรมการกล่ันกรองขอ้ มูลคอมพิวเตอรต์ ามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำ�ความผดิ เก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๖.๙ ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ๓๕๗ เร่ือง ข้ันตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำ�ให้แพรห่ ลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการน�ำ ข้อมลู คอมพวิ เตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๖.๑๐ ระเบยี บ ว่าด้วยการจับ ควบคุม ค้น การทำ�สำ�นวนสอบสวนและดำ�เนนิ คดี ๓๖๗ กับผู้กระทำ�ความผดิ ตามพระราชบญั ญัติว่าด้วยการกระทำ�ความผิด ๓๗๓ เกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๓๗๙ ๖.๑๑ ระเบยี บกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสงั คม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผทู้ รงคุณวุฒิในคณะกรรมการ กล่ันกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๗. พระราชบัญญัติการรกั ษาความม่ันคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๘. พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลสว่ นบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔๑๕

ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 10

พระราชบัญญัติ สำนักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๖๒ ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 11

ชื่อกฎหมาย พระราชบัญญตั สิ ำนักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๓๖ / ตอนที่ ๔๙ ก / หนา ๔๕ / วนั ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ เร่มิ บังคับใช วนั ที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๒ ผรู ักษาการ รัฐมนตรีวาการกระทรวงดิจทิ ัลเพ่ือเศรษฐกจิ และสงั คม ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 12

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๙ ก หน้า ๔๕ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา พระราชบัญญตั ิ สานกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเด็จพระเจ้าอยู่หวั มหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เปน็ ปที ่ี ๔ ในรัชกาลปัจจบุ นั สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยท่เี ป็นการสมควรมกี ฎหมายว่าดว้ ยสานกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแหง่ ชาติทาหน้าท่ีรฐั สภา ดงั ต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติสานักงานพัฒนาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๖๒” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญัตินี้ “คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า คณะกรรมการธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกสต์ ามกฎหมายว่าด้วยธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการกากบั สานักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการกากับสานักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ “สานักงาน” หมายความว่า สานกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ส�ำ นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 13

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๙ ก หน้า ๔๖ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา “ผู้อานวยการ” หมายความว่า ผ้อู านวยการสานกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรผี รู้ กั ษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี มาตรา ๔ ให้มีสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มีวัตถุประสงค์เก่ียวกับ การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายและแผนของรัฐด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม รวมท้ังส่งเสริมให้เกิดการพัฒนามาตรฐานหรือกฎเกณฑ์ในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้ระบบ งานเทคโนโลยดี ิจิทัลต่าง ๆ เชื่อมโยงกันไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ มีความมั่นคงปลอดภยั และมคี วามนา่ เช่ือถอื สานกั งานเปน็ หนว่ ยงานของรฐั ท่มี ฐี านะเปน็ นิติบุคคล และไม่เปน็ ส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วย ระเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดิน หรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายวา่ ด้วยวิธกี ารงบประมาณหรอื กฎหมายอ่นื กิจการของสานักงานไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมาย ว่าดว้ ยแรงงานสัมพนั ธ์ กฎหมายวา่ ด้วยการประกนั สังคม และกฎหมายว่าดว้ ยเงินทดแทน แต่พนกั งาน และลูกจ้างของสานักงานต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กาหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วย การคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าดว้ ยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน ใหส้ านกั งานเปน็ หน่วยงานของรฐั ตามกฎหมายว่าด้วยความรบั ผิดทางละเมิดของเจ้าหนา้ ท่ี มาตรา ๕ นอกจากดาเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง ให้สานักงานรับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีหน้าท่ีและ อานาจดงั ตอ่ ไปนด้ี ้วย (๑) จัดทาแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เสนอต่อคณะกรรมการธุรกรรม ทางอิเลก็ ทรอนิกส์เพอ่ื พิจารณาให้ความเหน็ ชอบ (๒) จัดทาแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานด้านมาตรฐานที่สอดคล้องกับนโยบาย และแผนระดับชาติว่าดว้ ยการพัฒนาดจิ ทิ ัลเพ่อื เศรษฐกิจและสังคม (๓) ส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องท้ังภาครัฐและภาคเอกชน ให้มีการดาเนินการ ด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพ่ือรองรับการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ทั้งทางการเงิน การค้า การลงทุน และการนาเข้าส่งออก รวมท้ังการให้บริการประชาชนของภาครัฐ ให้สอดคล้องกบั แผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ส�ำ นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 14

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๙ ก หน้า ๔๗ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๔) ศกึ ษา วิจยั และพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทลั เพอ่ื รองรับการทาธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งส่งเสริมการออกแบบสถาปัตยกรรม ดา้ นเทคโนโลยดี จิ ิทัล เพอ่ื เสนอแนะต่อคณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ สใ์ นการกาหนดมาตรฐาน เร่ืองดังกลา่ ว (๕) จัดทาข้อเสนอแนะเก่ียวกับมาตรฐาน และมาตรการหรือกลไกการกากับดูแลท่ีเกี่ยวข้อง กับการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและ ภาคเอกชนสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลท่ีสอดคล้องและเชื่อมโยงกันอย่างมีความมั่นคงปลอดภัยและ มคี วามนา่ เชอ่ื ถือ (๖) กากับดูแลการประกอบธุรกิจบริการเก่ียวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชกฤษฎีกา ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการให้การสนับสนุนการประกอบธุรกิจบริการ เก่ยี วกบั ธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ดงั กล่าว (๗) วิเคราะห์และรับรองความสอดคล้องและความถูกต้องตามมาตรฐานหรือตามมาตรการ หรือกลไกการกากับดูแลที่เกี่ยวข้องกับการทาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละพาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ (๘) เป็นศูนย์กลางในการให้บริการทางวิชาการหรือให้บริการที่เก่ียวกับการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชน และประชาชน รวมทั้งเผยแพร่และใหค้ วามรูค้ วามเขา้ ใจในการทาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ และพาณิชยอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ (๙) ทาความตกลงและร่วมมือกับองค์การหรือหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศใน กิจการทีเ่ กยี่ วกบั การดาเนนิ การตามหนา้ ทีแ่ ละอานาจของสานกั งาน (๑๐) ฝึกอบรมเพ่ือยกระดับของบุคลากรของสานักงานและบุคคลภายนอกให้มีทักษะเกี่ยวกับ มาตรฐาน ความมั่นคงปลอดภัย และการสร้างความน่าเชื่อถือในระบบและการให้บริการทางธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกสแ์ ละพาณิชยอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ (๑๑) ปฏิบัติหน้าท่ีอื่นตามท่ีคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือคณะกรรมการ มอบหมาย หรือตามที่กฎหมายกาหนด มาตรา ๖ ในการดาเนินงานของสานักงาน นอกจากหน้าท่ีและอานาจตามที่บัญญัติใน มาตรา ๕ แล้ว ใหส้ านกั งานมหี นา้ ทีแ่ ละอานาจทว่ั ไป ดังตอ่ ไปนีด้ ว้ ย (๑) ถอื กรรมสิทธิ์ มีสิทธิครอบครอง และมที รัพยสทิ ธติ า่ ง ๆ สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 15

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๔๙ ก หน้า ๔๘ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา (๒) ก่อตั้งสิทธิ หรือทานิติกรรมทุกประเภทผูกพันทรัพย์สิน ตลอดจนทานิติกรรมอื่นใด เพ่ือประโยชนใ์ นการดาเนนิ กิจการของสานกั งาน (๓) จัดใหม้ ีและให้ทุนเพอื่ สนับสนนุ การดาเนนิ กจิ การของสานกั งาน (๔) เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบารุง ค่าตอบแทน หรือค่าบริการในการดาเนินงาน ทั้งน้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละอัตราทีส่ านกั งานกาหนดโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ (๕) ปฏิบัติการอ่ืนใดท่ีกฎหมายกาหนดให้เป็นหน้าท่ีและอานาจของสานักงาน หรือตามที่ คณะกรรมการธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกสห์ รือคณะกรรมการมอบหมาย มาตรา ๗ ทุนและทรพั ย์สินในการดาเนินงานของสานกั งานประกอบดว้ ย (๑) เงินและทรพั ย์สนิ ท่ีได้รับโอนมาตามมาตรา ๓๕ (๒) เงนิ อดุ หนนุ ท่ัวไปที่รัฐบาลจัดสรรใหต้ ามความเหมาะสมเป็นรายปี (๓) คา่ ธรรมเนียม ค่าบารุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ หรอื รายไดจ้ ากการดาเนินงาน (๔) เงินบรจิ าคจากภาคเอกชนหรือองค์กรอ่ืน รวมท้งั จากตา่ งประเทศหรอื องค์การระหว่างประเทศ และเงินหรือทรพั ย์สนิ ทม่ี ผี ู้อุทศิ ให้ (๕) ดอกผลและผลประโยชนห์ รอื รายไดอ้ ืน่ ใดทีเ่ กิดจากการดาเนินงานของสานักงาน ทรพั ยส์ นิ ของสานักงานไม่อยใู่ นความรบั ผดิ แหง่ การบงั คับคดแี ละมาตรการบงั คบั ทางปกครอง มาตรา ๘ รายได้ของสานักงานไมต่ อ้ งนาส่งคลงั เป็นรายไดแ้ ผน่ ดนิ มาตรา ๙ ใหม้ ีคณะกรรมการกากบั สานกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ ประกอบดว้ ย ประธานกรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญและประสบการณ์ในด้านธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผูแ้ ทนสานกั งบประมาณ และกรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิซงึ่ รัฐมนตรีแต่งตั้งจานวนหกคน ใหผ้ ู้อานวยการเป็นกรรมการและเลขานกุ าร และใหผ้ อู้ านวยการแตง่ ตง้ั พนักงานของสานกั งาน เป็นผู้ช่วยเลขานุการไดต้ ามความจาเปน็ แต่ไม่เกินสองคน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงรัฐมนตรีแต่งต้ังตามวรรคหน่ึง ต้องมีความรู้ ความเช่ียวชาญและ ประสบการณ์ในด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสามคน และ ด้านอน่ื ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอนั เป็นประโยชนต์ ่อการดาเนนิ งานของสานกั งาน มาตรา ๑๐ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีสัญชาติไทย และไม่มีลักษณะ ต้องหา้ ม ดังตอ่ ไปนี้ ส�ำ นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 16

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๙ ก หน้า ๔๙ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๑) เปน็ บคุ คลล้มละลายหรอื เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (๒) เป็นคนไรค้ วามสามารถหรือคนเสมอื นไร้ความสามารถ (๓) เคยได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงท่ีสุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดที่ได้ กระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ (๔) เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการการเมือง ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถ่ิน หรอื ผบู้ รหิ ารท้องถนิ่ เวน้ แต่จะได้พน้ จากตาแหน่งมาแล้วไมน่ อ้ ยกวา่ หน่ึงปี (๕) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการหรือผู้ดารงตาแหน่งอื่นในพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าท่ีของ พรรคการเมือง เวน้ แตจ่ ะได้พน้ จากตาแหน่งมาแล้วไมน่ ้อยกว่าหนงึ่ ปี (๖) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรอื จากหนว่ ยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหนา้ ท่หี รอื ประพฤติชั่วอย่างรา้ ยแรง (๗) ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพอิสระอ่ืนใด หรือเป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือลูกจ้างของ องค์การเอกชนใดท่ีมีส่วนได้เสียหรือมีผลประโยชนข์ ัดแย้งไม่ว่าโดยตรงหรอื โดยอ้อมกับการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ในตาแหน่งกรรมการและหนา้ ที่และอานาจของสานกั งาน มาตรา ๑๑ ประธานกรรมการและกรรมการผ้ทู รงคุณวุฒมิ วี าระการดารงตาแหนง่ คราวละสป่ี ี มาตรา ๑๒ เม่ือประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่งตามวาระ ให้ดาเนินการแต่งต้ังใหม่ภายในหกสิบวัน ในระหว่างที่ยังมิได้มีการแต่งต้ังประธานกรรมการและกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิข้ึนใหม่ ให้ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตาแหน่งตามวาระนั้น อยู่ในตาแหน่งเพื่อปฏบิ ัติหน้าที่ตอ่ ไปจนกว่าประธานกรรมการและกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒซิ งึ่ ไดร้ ับแตง่ ตั้งใหม่ เข้ารบั หนา้ ท่ี มาตรา ๑๓ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๑๑ ประธานกรรมการและ กรรมการผูท้ รงคุณวุฒิพ้นจากตาแหนง่ เมอ่ื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคณุ สมบัติหรือมลี ักษณะต้องหา้ มตามมาตรา ๑๐ (๔) คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหน้าท่ี หรือหยอ่ นความสามารถ สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 17

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๔๙ ก หน้า ๕๐ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๑๔ ในกรณีท่ีประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่และให้ดาเนินการแต่งตั้งประธานกรรมการหรือ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตาแหน่งที่ว่างภายในหกสิบวันนับแต่วันท่ีตาแหน่งว่างลง เว้นแต่วาระของ กรรมการเหลือไม่ถึงเก้าสิบวัน และให้ผู้ท่ีได้รับแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งแทนอยู่ในตาแหน่งเท่ากับวาระ ทีเ่ หลืออยูข่ องผู้ซึ่งตนแทน มาตรา ๑๕ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกวา่ กง่ึ หนึ่งของ จานวนกรรมการทม่ี อี ยู่ จงึ จะเปน็ องค์ประชมุ ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในท่ีประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจ ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ได้ ให้ทป่ี ระชมุ เลอื กกรรมการคนหน่งึ เพอ่ื ทาหน้าท่ีประธานในทป่ี ระชุม ในการวินิจฉัยชี้ขาดให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหน่ึงในการลงคะแนน ถ้ามคี ะแนนเสยี งเท่ากนั ให้ประธานในท่ีประชุมออกเสยี งเพิ่มขน้ึ อกี เสยี งหนงึ่ เปน็ เสยี งชี้ขาด กรรมการที่มสี ว่ นไดเ้ สียในเรอ่ื งทม่ี กี ารพิจารณาจะเขา้ ร่วมประชุมมิได้ การประชุมของคณะกรรมการอาจกระทาโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่คณะกรรมการ กาหนดกไ็ ด้ มาตรา ๑๖ ใหค้ ณะกรรมการมีหน้าทีแ่ ละอานาจ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) กาหนดนโยบายการบริหารงาน และให้ความเหน็ ชอบแผนการดาเนินงานของสานักงาน (๒) ออกข้อบังคับวา่ ดว้ ยการจัดองค์กร การเงิน การบริหารงานบุคคล การบริหารงานทวั่ ไป การพสั ดุ การตรวจสอบภายใน รวมตลอดท้ังการสงเคราะห์และสวสั ดิการตา่ ง ๆ ของสานกั งาน (๓) อนุมัตแิ ผนการใชจ้ ่ายเงนิ และงบประมาณรายจา่ ยประจาปีของสานกั งาน (๔) ควบคุมการบริหารงานและการดาเนินการของสานักงานและผู้อานวยการให้เป็นไป ตามพระราชบญั ญตั ินแี้ ละกฎหมายอ่นื ทีเ่ กี่ยวข้อง (๕) แตง่ ตั้งคณะกรรมการสรรหาผ้อู านวยการ (๖) วินิจฉัยอุทธรณ์คาสั่งทางปกครองของผู้อานวยการในส่วนท่ีเกี่ยวกับการบริหารงานของ สานักงาน (๗) ประเมินผลการดาเนนิ งานของสานักงาน และการปฏิบตั ิงานของผอู้ านวยการ (๘) ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนตามท่ีพระราชบัญญัติน้ีหรือกฎหมายอ่ืนกาหนดให้เป็นหน้าท่ีและอานาจ ของคณะกรรมการหรือตามทคี่ ณะรฐั มนตรมี อบหมาย สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 18

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๙ ก หน้า ๕๑ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา ข้อบังคับตาม (๒) ถ้ามีการจากัดอานาจผู้อานวยการในการทานิติกรรมกับบุคคลภายนอก ให้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๑๗ ให้คณะกรรมการมีอานาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อปฏิบัติหน้าท่ีหรือ กระทาการอย่างหน่งึ อยา่ งใดตามทีค่ ณะกรรมการมอบหมายได้ คณะกรรมการอาจแต่งต้ังบุคคลซึ่งมีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ใน การปฏิบัติหน้าทข่ี องคณะกรรมการ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการได้ การปฏิบัติหน้าที่และจานวนของคณะอนุกรรมการตามวรรคหน่ึงหรือที่ปรึกษาตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการกาหนด ใหน้ ามาตรา ๑๕ มาใชบ้ งั คับแก่คณะอนุกรรมการโดยอนโุ ลม มาตรา ๑๘ ให้ประธานกรรมการ กรรมการ ท่ีปรึกษาคณะกรรมการ ประธานอนุกรรมการ และอนกุ รรมการ ได้รับเบยี้ ประชุมหรือคา่ ตอบแทนตามหลักเกณฑท์ ่ีคณะรฐั มนตรีกาหนด มาตรา ๑๙ ให้สานักงานมีผู้อานวยการคนหน่ึงซ่ึงคณะกรรมการแต่งต้ัง มีหน้าท่ีบริหาร กิจการของสานกั งาน มาตรา ๒๐ ผู้ที่จะได้รับการแต่งต้ังเป็นผู้อานวยการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องหา้ ม ดังตอ่ ไปนี้ (๑) มีสัญชาติไทย (๒) อายุไม่เกินหา้ สิบแปดปบี ริบรู ณ์ (๓) สามารถทางานให้แกส่ านักงานได้เตม็ เวลา (๔) เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวกับภารกิจของสานักงาน และการบริหารจดั การ (๕) ไมเ่ ปน็ บุคคลลม้ ละลายหรอื เคยเป็นบคุ คลล้มละลายทุจรติ (๖) ไม่เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรอื คนเสมือนไรค้ วามสามารถ (๗) ไมเ่ คยไดร้ ับโทษจาคกุ โดยคาพพิ ากษาถงึ ทีส่ ดุ ใหจ้ าคกุ เวน้ แตเ่ ปน็ โทษสาหรบั ความผดิ ทไ่ี ด้ กระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ (๘) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรอื จากหน่วยงานของเอกชน เพราะทจุ รติ ตอ่ หนา้ ท่ีหรือประพฤตชิ ่ัวอยา่ งร้ายแรง (๙) ไม่เคยถูกถอดถอนออกจากตาแหนง่ ตามกฎหมาย ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 19

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๙ ก หน้า ๕๒ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๑๐) ไม่เป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง สมาชิกสภาทอ้ งถน่ิ หรือผูบ้ ริหารท้องถ่นิ กรรมการ หรือผู้ดารงตาแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ท่ีปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าท่ี พรรคการเมือง (๑๑) ไมเ่ ปน็ ผูม้ สี ่วนไดเ้ สยี ในกจิ การทเี่ ก่ยี วข้องกับสานกั งานไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางออ้ ม มาตรา ๒๑ ผู้อานวยการมีวาระการดารงตาแหน่งคราวละส่ีปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดารงตาแหนง่ เกนิ สองวาระตดิ ตอ่ กนั ไมไ่ ด้ ก่อนครบกาหนดตามวาระการดารงตาแหน่งของผู้อานวยการเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวัน แตไ่ มเ่ กนิ หกสิบวนั หรือภายในสามสบิ วันนบั แตว่ นั ที่ผู้อานวยการพ้นจากตาแหนง่ ก่อนวาระ ใหค้ ณะกรรมการ แต่งต้ังคณะกรรมการเพ่ือสรรหาผู้อานวยการคนใหม่ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสรรหาเสนอรายช่ือบุคคล ทเ่ี หมาะสมไม่เกินสามคนตอ่ คณะกรรมการ มาตรา ๒๒ ในแต่ละปีให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของผูอ้ านวยการ ท้ังน้ี ให้เป็นไป ตามระยะเวลาและวธิ กี ารท่คี ณะกรรมการกาหนด มาตรา ๒๓ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๒๑ ผู้อานวยการพ้นจาก ตาแหน่ง เมอื่ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) อายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ (๔) คณะกรรมการให้ออก เพราะไมผ่ า่ นการประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน มคี วามประพฤติเสอ่ื มเสีย บกพรอ่ งหรือไมส่ ุจรติ ตอ่ หนา้ ท่ี หรือหยอ่ นความสามารถ (๕) ได้รับโทษจาคกุ โดยคาพิพากษาถงึ ที่สดุ ให้จาคุก (๖) ขาดคุณสมบัติหรอื มลี ักษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๒๐ ยกเวน้ กรณมี าตรา ๒๐ (๒) มาตรา ๒๔ ใหผ้ ู้อานวยการมีหนา้ ทแ่ี ละอานาจ ดงั ต่อไปนี้ (๑) บริหารงานของสานักงานให้เกิดผลสัมฤทธ์ิตามภารกิจของสานักงาน และตามนโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แผนยุทธศาสตร์เก่ียวกับธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านมาตรฐานที่สอดคล้องกับ นโยบายและแผนดงั กล่าว นโยบายของคณะรฐั มนตรีและคณะกรรมการ และระเบียบ ข้อบังคบั หรือ มติของคณะกรรมการ สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 20

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๔๙ ก หน้า ๕๓ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา (๒) วางระเบียบเกี่ยวกับการดาเนนิ งานของสานกั งานโดยไมข่ ัดหรอื แย้งกบั กฎหมาย มติคณะรฐั มนตรี และระเบยี บ ข้อบงั คับ ขอ้ กาหนด นโยบาย มติ หรอื ประกาศของคณะกรรมการ (๓) เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของสานักงาน และประเมินผลการปฏิบัติงานของ พนักงานและลูกจ้างของสานักงานตามระเบยี บหรอื ข้อบังคับของสานกั งาน (๔) แต่งตั้งรองผู้อานวยการหรือผู้ช่วยผู้อานวยการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ เพอื่ เปน็ ผู้ชว่ ยปฏบิ ัติงานของผอู้ านวยการตามทผ่ี อู้ านวยการมอบหมาย (๕) บรรจุ แต่งตั้ง เล่ือน ลด ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงานและลูกจ้าง ของสานักงาน ตลอดจนให้พนักงานและลูกจ้างของสานักงานออกจากตาแหน่ง ท้ังนี้ ตามข้อบังคับท่ี คณะกรรมการกาหนด (๖) ปฏิบัติการอื่นใดตามระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกาหนด นโยบาย มติ หรือประกาศของ คณะกรรมการ ให้ผอู้ านวยการรับผดิ ชอบในการบรหิ ารงานของสานกั งานขน้ึ ตรงตอ่ คณะกรรมการ มาตรา ๒๕ ในกิจการของสานักงานท่ีเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ผู้อานวยการเป็นผู้แทน ของสานักงาน เพ่ือการน้ี ผู้อานวยการจะมอบอานาจให้บุคคลใดปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนก็ได้ แตต่ อ้ งเป็นไปตามข้อบงั คบั ท่ีคณะกรรมการกาหนด มาตรา ๒๖ ให้คณะกรรมการเป็นผู้กาหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของ ผู้อานวยการตามหลกั เกณฑท์ ีค่ ณะรัฐมนตรกี าหนด มาตรา ๒๗ เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานของสานกั งาน ผู้อานวยการอาจขอให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชน หรือ หน่วยงานอื่นของรัฐ มาปฏิบัติงานเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสานักงานเป็นการชั่วคราวได้ ท้ังนี้ เมอ่ื ได้รบั อนมุ ัติจากผบู้ งั คบั บญั ชาหรอื นายจา้ งของผูน้ ้ัน และมีข้อตกลงทท่ี าไว้ในการอนุมตั ิ และในกรณี ที่เจ้าหน้าท่ีของรัฐได้รับอนุมัติให้มาปฏิบัติงานเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสานักงานเป็นการชั่วคราว ให้ถือว่าเป็นการไดร้ บั อนญุ าตใหอ้ อกจากราชการหรอื ออกจากงานไปปฏบิ ัตงิ านใด ๆ เมื่อส้ินสุดระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติให้มาปฏิบัติงานในสานักงาน ให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐตามวรรคหน่ึง มีสิทธิได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งและรับเงินเดือนในส่วนราชการหรือหน่วยงานเดิม ไมต่ ่ากวา่ ตาแหนง่ และเงินเดือนเดมิ ตามข้อตกลงท่ที าไว้ในการอนุมตั ิ ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 21

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๔๙ ก หน้า ๕๔ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ในกรณีท่ีเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้น้ันกลับมาบรรจุและไดร้ ับแต่งตั้งในส่วนราชการหรือหน่วยงานเดิม ตามวรรคสองแล้ว ใหน้ ับระยะเวลาของเจ้าหน้าท่ขี องรฐั ผู้นน้ั ระหว่างทม่ี าปฏบิ ตั งิ านในสานกั งานสาหรับ การคานวณบาเหน็จบานาญหรือประโยชน์ตอบแทนอ่ืนทานองเดียวกันเสมือนอยู่ปฏิบัติราชการหรือ ปฏิบตั งิ านเตม็ เวลาดังกลา่ ว แลว้ แตก่ รณี มาตรา ๒๘ ข้าราชการหรอื เจ้าหน้าที่ของรฐั ซึง่ อยู่ระหวา่ งการปฏิบตั งิ านชดใช้ทนุ การศกึ ษา ท่ีได้รับจากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ที่ได้ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ท่ีสานักงานโดยได้รับความเห็นชอบ จากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ให้ถือเป็นการชดใช้ทุนตามสัญญา และให้นับระยะเวลาการปฏิบัติงานใน สานักงานเป็นระยะเวลาในการชดใชท้ นุ ในกรณีที่หน่วยงานของรฐั แหง่ ใดประสงค์จะขอให้พนักงานของสานักงานซง่ึ อยู่ระหว่างการปฏิบัติงาน ชดใช้ทุนการศึกษาท่ีได้รับจากสานักงานไปเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานของรัฐ แหง่ นั้น ตอ้ งได้รับความเห็นชอบจากผู้อานวยการกอ่ น และใหถ้ อื วา่ การไปปฏบิ ัตงิ านในหน่วยงานของรฐั แห่งนั้นเป็นการชดใช้ทุนตามสัญญา และให้นับระยะเวลาการปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐแห่งนั้น เป็นระยะเวลาในการชดใช้ทุน มาตรา ๒๙ การบัญชีของสานักงานให้จัดทาตามหลักสากล ตามแบบและหลักเกณฑ์ท่ี คณะกรรมการกาหนด มาตรา ๓๐ ให้สานักงานจัดทางบดุล งบการเงินและบัญชี แล้วส่งผู้สอบบัญชีภายใน หนึง่ รอ้ ยยี่สิบวันนบั แตว่ นั สิ้นปีบัญชี ให้สานักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของสานักงาน และประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของ สานกั งานทุกรอบปแี ลว้ ทารายงานผลการสอบบญั ชเี สนอต่อคณะกรรมการเพ่อื รับรอง มาตรา ๓๑ ให้สานักงานจัดทารายงานการดาเนินงานประจาปีเสนอคณะกรรมการและ รัฐมนตรีภายในหนง่ึ ร้อยแปดสบิ วนั นบั แตว่ นั สิ้นปีบัญชี และเผยแพร่รายงานนตี้ ่อสาธารณชน รายงานการดาเนนิ งานประจาปีตามวรรคหนง่ึ ให้แสดงรายละเอียดของงบการเงนิ ทีผ่ สู้ อบบญั ชี ใหค้ วามเห็นแล้ว พรอ้ มทั้งผลงานของสานกั งานและรายงานการประเมนิ ผลการดาเนินงานของสานักงาน ในปที ลี่ ว่ งมาแล้ว การประเมินผลการดาเนินงานของสานักงานตามวรรคสอง จะต้องดาเนินการโดยบุคคลภายนอก ท่คี ณะกรรมการใหค้ วามเหน็ ชอบ สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 22

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๔๙ ก หน้า ๕๕ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๓๒ ให้รัฐมนตรีมอี านาจกากับดูแลโดยทวั่ ไปซึ่งกิจการของสานกั งานใหเ้ ป็นไปตามหนา้ ท่ี และอานาจ และตามกฎหมาย นโยบายของรฐั บาล แผนยุทธศาสตร์ และมติคณะรฐั มนตรีท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือการน้ี รัฐมนตรีมีอานาจสั่งให้ผู้อานวยการชี้แจงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น หรือทารายงานเสนอ และมีอานาจสั่งยับย้ังการกระทาของสานักงานท่ีขัดต่อหน้าท่ีและอานาจของสานักงาน นโยบายของ รัฐบาล แผนยุทธศาสตร์ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนส่ังสอบสวนข้อเท็จจริงเก่ียวกับ การดาเนินการของสานกั งานได้ ในกรณที ี่ผู้อานวยการฝา่ ฝืนหรอื ไม่กระทาการตามคาสัง่ ของรฐั มนตรตี ามวรรคหนง่ึ ใหร้ ัฐมนตรี ส่งเร่ืองใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาดาเนนิ การตามหนา้ ทแ่ี ละอานาจต่อไป มาตรา ๓๓ ให้คณะกรรมการบริหารสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามพระราชกฤษฎีกาจัดต้ังสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งดารงตาแหน่งอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้เท่าที่จาเป็นไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งต้ังคณะกรรมการ ตามพระราชบัญญัติน้ี ซ่ึงต้องไม่เกินหน่ึงร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ มาตรา ๓๔ ในวาระเร่ิมแรก ให้ผู้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสานักงานพัฒนาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดต้ังสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ อยใู่ นวันก่อนวนั ท่พี ระราชบัญญตั ินใ้ี ช้บังคบั ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีผู้อานวยการ จนกวา่ จะมีการแต่งตัง้ ผอู้ านวยการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๓๕ เม่ือพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับแล้ว ให้พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสานักงาน พัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นอันยกเลิก และให้โอนบรรดา กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าท่ี หน้ี เจ้าหน้าที่และลูกจ้าง และงบประมาณของสานักงานพัฒนาธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดต้ังสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ ท่มี ีอยู่ในวันกอ่ นวันทีพ่ ระราชบญั ญัตินใี้ ชบ้ ังคับ ไปเป็นของสานักงาน ให้เจ้าหน้าที่และลกู จ้างท่ีโอนไปตามวรรคหน่งึ ไดร้ บั เงนิ เดอื น เงินประจาตาแหน่ง หรือค่าจ้าง รวมทั้งสิทธิและประโยชน์ต่าง ๆ เท่ากับท่ีเคยได้รับอยู่เดิมไปพลางก่อน จนกว่าจะได้บรรจุและแต่งต้ัง ให้ดารงตาแหน่งในสานกั งาน โดยไดร้ บั เงนิ เดอื นหรือคา่ จ้างไม่ต่ากว่าเงินเดือนหรือคา่ จา้ งทไี่ ด้รับอยเู่ ดิม ในกรณที ีเ่ จ้าหน้าท่หี รอื ลูกจา้ งผใู้ ดอยู่ภายใต้ระเบยี บหรอื สัญญาจ้างทม่ี ไิ ดก้ าหนดระยะเวลาการจ้าง มใิ ห้ถือวา่ การจา้ งโดยไม่มกี าหนดระยะเวลาดังกลา่ วเปน็ สทิ ธิและประโยชนต์ ามวรรคสอง สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 23

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔๙ ก หน้า ๕๖ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา การบรรจแุ ละแตง่ ต้ังเจ้าหน้าทห่ี รอื ลกู จ้างตามวรรคสองไม่ถือเปน็ การออกจากงานเพราะสังกัดเดมิ เลกิ จ้าง มาตรา ๓๖ ให้นาบทบัญญัติเก่ียวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม การพ้นจากตาแหน่ง และการปฏบิ ัติหน้าทีข่ องเจา้ หน้าทีแ่ ละลูกจา้ งของสานกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ตามที่กาหนดไวใ้ นพระราชกฤษฎีกาจัดตง้ั สานักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาใช้กับพนักงานและลูกจ้างของสานักงาน จนกว่าจะมีข้อบังคับเกี่ยวกับเร่ืองดังกล่าว ทอ่ี อกตามพระราชบญั ญัติน้ี มาตรา ๓๗ ในวาระเรมิ่ แรก กรณที ่งี บประมาณซง่ึ ได้รบั โอนมาตามมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง ไมเ่ พยี งพอแก่การดาเนนิ งานของสานักงาน ให้ผอู้ านวยการเสนอต่อคณะรฐั มนตรเี พื่อขอรับเงินอุดหนนุ ทั่วไป เพอ่ื เป็นค่าใชจ้ ่ายในการดาเนนิ งานใหเ้ ป็นไปตามวัตถุประสงคข์ องสานักงาน ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาจัดสรรเงนิ งบประมาณรายจา่ ยเป็นเงนิ อุดหนุนทัว่ ไปตามทีผ่ อู้ านวยการเสนอ ตามความจาเปน็ และเหมาะสม มาตรา ๓๘ การร่วมทุน การกู้ยืมเงิน และการดาเนินการใดเท่าที่จาเป็นหรือต่อเนื่องเพื่อให้ บรรลุวัตถุประสงคข์ องสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎกี า จัดตั้งสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ ท่ีได้กระทาไว้ก่อน วันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ และยังไม่ส้ินสุด ให้ยังคงดาเนินการได้ต่อไปจนกว่าการดาเนินการ ดังกล่าวจะส้นิ สุดลง มาตรา ๓๙ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศท่ีออกตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ ท่ีใช้บังคับอยู่ในวันก่อน วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติน้ี จนกว่าจะมีระเบยี บ ข้อบังคับ หรอื ประกาศทอ่ี อกตามพระราชบญั ญัตินี้ มาตรา ๔๐ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการ ตามพระราชบญั ญัตินี้ ผรู้ ับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 24

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๔๙ ก ราชกหิจนจ้ าานุเ๕บ๗กษา ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญตั ิฉบับน้ี คือ โดยที่ปัจจุบันสานกั งานพัฒนาธรุ กรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ซึ่งมีสถานะเป็นองค์การมหาชน ตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน มีหน้าที่เฉพาะการส่งเสริมและสนับสนุนการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานต่าง ๆ เท่านั้น แต่ด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมจะต้องมีการพัฒนา ส่งเสริม และ สนับสนุนการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในฐานะคณะกรรมการระดับชาติและต้องมีการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจเก่ียวกับ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานสากล สามารถแข่งขันกับนานาประเทศ รวมท้ัง ต้องมกี ารบรู ณาการการทางานระหว่างหนว่ ยงานของรัฐทเี่ กยี่ วข้องกับการสง่ เสริมภาคเอกชนในการดาเนินการ ด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ ตลอดจนการดาเนินการในด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และ ด้านอื่นท่ีเก่ียวข้อง สมควรท่ีจะมีหน่วยงานที่มีการบริหารงานที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพเพื่อรับผิดชอบใน การดาเนินการดังกล่าว ในการนี้จึงได้ปรับปรุงสถานะและอานาจหน้าที่ของสานักงานพัฒนาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เพื่อให้สามารถรองรับการปฏิบัติงานตามภารกิจได้อย่างเหมาะสมและ สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา ส่งเสริมและสนับสนุนการทาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ของประเทศ จงึ จาเป็นต้องตราพระราชบัญญตั ิน้ี สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 25

ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 26

พระราชบัญญัติ วา ดวยธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๔๔ (ฉบบั แกไ ขเพ่ิมเตมิ ) สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 27

ชอื่ กฎหมาย พระราชบญั ญัติวา ดว ยธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๔๔ (ฉบบั แกไ ขเพิ่มเตมิ ) ประกาศ ในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๑๘ / ตอนท่ี ๑๑๒ ก / หนา ๒๖ / วันท่ี ๔ ธันวาคม ๒๕๔๔ เรม่ิ บังคบั ใช วนั ท่ี ๓ เมษายน ๒๕๔๕ ผูร กั ษาการ รัฐมนตรีวาการกระทรวงดิจทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสังคม แกไขเพมิ่ เติมโดย  พระราชกฤษฎีกาแกไขบทบัญญัตใิ หสอดคลองกบั การโอนอำนาจหนาทข่ี องสวนราชการ ใหเ ปน ไปตามพระราชบัญญตั ิปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕  ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา : เลม ๑๑๙ / ตอนท่ี ๑๐๒ ก / หนา ๖๖ / วันท่ี ๘ ตุลาคม ๒๕๔๕  เริม่ บังคบั ใช : วันท่ี ๙ ตุลาคม ๒๕๔๕  พระราชบญั ญตั วิ าดว ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑  ประกาศในราชกิจจานุเบกษา : เลม ๑๒๕ / ตอนที่ ๓๓ ก / หนา ๘๑ / วันที่ ๑๓ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๑  เร่ิมบงั คบั ใช : วนั ที่ ๑๔ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๑ สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 28

 พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมบทบญั ญตั แิ หง กฎหมายที่เกี่ยวกับความรบั ผดิ ในทางอาญา ของผูแทนนติ ิบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐  ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา : เลม ๑๓๔ / ตอนที่ ๑๘ ก / หนา ๑ / วันท่ี ๑๑ กุมภาพนั ธ ๒๕๖๐  เรมิ่ บังคบั ใช : วันท่ี ๑๒ กุมภาพันธ ๒๕๖๐  พระราชบญั ญัตวิ า ดว ยธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒  ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๓๖ / ตอนที่ ๔๙ ก / หนา ๑๒ / วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒  เร่ิมบังคับใช : วันท่ี ๑๕ เมษายน ๒๕๖๒  พระราชบัญญัติวา ดวยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒  ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๓๖ / ตอนท่ี ๖๗ ก / หนา ๒๐๓ / วนั ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒  เริ่มบังคบั ใช : วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 29

พระราชบัญญตั ิ วา ดวยธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๔๔  ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ป.ร. ใหไว ณ วนั ท่ี ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ เปนปท่ี ๕๖ ในรชั กาลปจ จบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ใหประกาศวา โดยทเ่ี ปนการสมควรใหมีกฎหมายวาดวยธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส พระราชบัญญตั ินม้ี บี ทบญั ญัติบางประการเก่ียวกับการจำกัดสิทธแิ ละเสรีภาพของบุคคล ซงึ่ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๕๐ ของรฐั ธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย บัญญัตใิ หกระทำได โดยอาศยั อำนาจตามบทบัญญัตแิ หง กฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชบัญญัตขิ ึ้นไวโดยคำแนะนำและยนิ ยอมของ รฐั สภา ดังตอไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตินี้เรียกวา “พระราชบัญญตั วิ าดว ยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔” มาตรา ๒๑ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับเมื่อพนกำหนดหนึ่งรอยยี่สิบวันนับแตวัน ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปนตน ไป มาตรา ๓ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับแกธุรกรรมในทางแพงและพาณิชยที่ดำเนินการ โดยใชขอมูลอิเล็กทรอนิกส เวนแตธุรกรรมท่ีมพี ระราชกฤษฎีกากำหนดมใิ หนำพระราชบัญญัตนิ ี้ ทง้ั หมดหรอื แตบางสว นมาใชบงั คับ ความในวรรคหนึ่งไมมีผลกระทบกระเทือนถึงกฎหมายหรือกฎใดที่กำหนดขึ้นเพ่ือ คมุ ครองผูบรโิ ภค พระราชบญั ญตั นิ ใ้ี หใ ชบงั คับแกธรุ กรรมในการดำเนินงานของรฐั ตามทีก่ ำหนดในหมวด ๔ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั ินี้ “ธุรกรรม” หมายความวา การกระทำใด ๆ ที่เกี่ยวกับกิจกรรมในทางแพงและพาณิชย หรอื ในการดำเนินงานของรฐั ตามทีก่ ำหนดในหมวด ๔ ๑ ราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๑๑๘/ตอนท่ี ๑๑๒ ก/หนา ๒๖/๔ ธันวาคม ๒๕๔๔ 30 สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

๒ “อิเล็กทรอนิกส” หมายความวา การประยุกตใชวิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟา คลื่นแมเหล็กไฟฟา หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคลายกัน และใหหมายความรวมถึงการประยุกตใช วิธีการทางแสง วธิ ีการทางแมเหล็ก หรอื อุปกรณทเ่ี กย่ี วขอ งกับการประยุกตใชว ิธตี าง ๆ เชนวา นั้น “ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส” หมายความวา ธุรกรรมที่กระทำขึ้นโดยใชวิธีการ ทางอิเลก็ ทรอนิกสท ง้ั หมดหรอื แตบ างสว น “ขอความ” หมายความวา เรื่องราวหรือขอเท็จจริง ไมวาจะปรากฏในรูปแบบของ ตัวอักษร ตัวเลข เสียง ภาพ หรือรูปแบบอื่นใดที่สื่อความหมายไดโดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือ โดยผานวิธกี ารใด ๆ “ขอมูลอิเล็กทรอนิกส” หมายความวา ขอความที่ไดสราง สง รับ เก็บรักษา หรือ ประมวลผลดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส เชน วิธีการแลกเปลี่ยนขอมูลทางอิเล็กทรอนิกส จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส โทรเลข โทรพมิ พ หรือโทรสาร “ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส” หมายความวา อักษร อักขระ ตัวเลข เสียงหรือสัญลักษณ อื่นใดที่สรางขึ้นใหอยูในรูปแบบอิเล็กทรอนิกสซึ่งนำมาใชประกอบกับขอมูลอิเล็กทรอนิกสเพื่อ แสดงความสัมพันธระหวางบุคคลกับขอมูลอิเล็กทรอนิกส โดยมีวัตถุประสงคเพื่อระบุตัวบุคคล ผูเปนเจาของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสที่เกี่ยวของกับขอมูลอิเล็กทรอนิกสนั้น และเพื่อแสดงวา บคุ คลดังกลา วยอมรบั ขอความในขอมลู อิเล็กทรอนิกสน น้ั “ระบบขอมูล” หมายความวา กระบวนการประมวลผลดวยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส สำหรบั สรา ง สง รบั เก็บรกั ษา หรือประมวลผลขอ มลู อิเลก็ ทรอนกิ ส “การพิสูจนและยืนยันตัวตน”๒ หมายความวา กระบวนการพิสูจนและยืนยัน ความถกู ตอ งของตวั บคุ คล “ระบบการพิสูจนและยืนยันตัวตนทางดิจิทัล”๓ หมายความวา เครือขาย ทางอิเล็กทรอนิกสที่เชื่อมโยงขอมูลระหวางบุคคลใด ๆ หรือหนวยงานของรัฐเพื่อประโยชน ในการพสิ ูจนแ ละยืนยันตวั ตน และการทำธรุ กรรมอื่น ๆ ที่เก่ียวเนื่องกับการพสิ จู นและยืนยันตวั ตน “ระบบแลกเปลี่ยนขอมูลอิเล็กทรอนิกสอัตโนมัติ”๔ หมายความวา โปรแกรม คอมพิวเตอรหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกสหรือวิธีการอัตโนมัติอื่น ที่ใชเพื่อที่จะทำใหเกิด การกระทำหรือการตอบสนองตอขอมูลอิเล็กทรอนิกสหรือการปฏิบัติการใด ๆ ตอระบบขอมูล ไมวาทั้งหมดหรือแตบางสวน โดยปราศจากการตรวจสอบหรือการแทรกแซงโดยบุคคลธรรมดา ในแตละครง้ั ทมี่ ีการดำเนินการหรือแตล ะครง้ั ท่ีระบบไดส รา งการตอบสนอง “การแลกเปลีย่ นขอมูลทางอเิ ลก็ ทรอนิกส” หมายความวา การสง หรอื รบั ขอความดวย วธิ กี ารทางอิเลก็ ทรอนิกสร ะหวา งเคร่ืองคอมพวิ เตอรโ ดยใชมาตรฐานท่กี ำหนดไวล ว งหนา ๒ มาตรา ๔ นิยามคำวา “การพิสูจนและยืนยันตัวตน” เพิ่มโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓ มาตรา ๔ นิยามคำวา “ระบบการพิสูจนและยืนยันตัวตนทางดิจิทัล” เพิ่มโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔ มาตรา ๔ นิยามคำวา “ระบบแลกเปลี่ยนขอมูลอิเล็กทรอนิกสอัตโนมัติ” เพิ่มโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรม ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 31

๓ “ผูสงขอมูล” หมายความวา บุคคลซึ่งเปนผูสงหรือสรางขอมูลอิเล็กทรอนิกสกอนจะมี การเก็บรักษาขอมูลเพื่อสงไปตามวิธีการที่ผูนั้นกำหนด โดยบุคคลนั้นอาจจะสงหรือสรางขอมูล อเิ ลก็ ทรอนิกสด วยตนเอง หรอื มกี ารสง หรือสรางขอมลู อเิ ล็กทรอนิกสในนามหรือแทนบุคคลน้ันก็ได ทงั้ น้ี ไมร วมถงึ บคุ คลท่เี ปน ส่อื กลางสำหรับขอ มลู อิเล็กทรอนกิ สน้ัน “ผูรับขอมูล” หมายความวา บุคคลซึ่งผูสงขอมูลประสงคจะสงขอมูลอิเล็กทรอนิกสให และไดรับขอมูลอิเล็กทรอนิกสนั้น ทั้งนี้ ไมรวมถึงบุคคลที่เปนสื่อกลางสำหรับขอมูล อเิ ล็กทรอนกิ สน้ัน “บุคคลที่เปนสื่อกลาง” หมายความวา บุคคลซึ่งกระทำการในนามผูอื่นในการสง รับ หรือเก็บรักษาขอมูลอิเล็กทรอนิกสอันใดอันหนึ่งโดยเฉพาะ รวมถึงใหบริการอื่นที่เกี่ยวกับขอมลู อิเลก็ ทรอนกิ สนัน้ “ใบรับรอง” หมายความวา ขอมูลอิเล็กทรอนิกสหรือการบันทึกอื่นใด ซึ่งยืนยันความ เชือ่ มโยงระหวางเจา ของลายมือชือ่ กบั ขอมลู สำหรับใชส รา งลายมือชอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส “เจาของลายมือชื่อ” หมายความวา ผูซึ่งถือขอมูลสำหรับใชสรางลายมือช่ือ อเิ ลก็ ทรอนิกสแ ละสรางลายมอื ชื่ออิเล็กทรอนกิ สน ั้นในนามตนเองหรือแทนบคุ คลอนื่ “คูกรณีที่เกี่ยวของ” หมายความวา ผูซึ่งอาจกระทำการใด ๆ โดยขึ้นอยูกับใบรับรอง หรอื ลายมอื ชอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส “หนวยงานของรัฐ”๕ หมายความวา (๑) กระทรวง ทบวง กรม สวนราชการที่เรียกชื่ออยางอื่นและมีฐานะเปนกรม ราชการ สว นภูมภิ าค และราชการสวนทองถ่ิน (๒) รัฐวิสาหกจิ ท่ตี ัง้ ข้ึนโดยพระราชบญั ญัติหรอื พระราชกฤษฎกี า (๓) องคก ารมหาชนที่ตัง้ ขึ้นโดยพระราชบัญญตั ิหรอื พระราชกฤษฎกี า (๔) หนวยงานของรฐั สภา (๕) หนวยงานของศาล ในสวนทไ่ี มเก่ียวกบั การพพิ ากษาอรรถคดี (๖) องคก รตามรฐั ธรรมนญู ในสวนท่ีไมเ กยี่ วกบั การวินจิ ฉัยชี้ขาดขอพพิ าท (๗) องคกรอิสระทตี่ ง้ั ข้นึ ตามกฎหมาย (๘) นิติบุคคล คณะบุคคล หรือบุคคลซึ่งมีหนาที่และอำนาจในการดำเนินงานของรัฐ ไมวา ในการใด ๆ “คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส “ผูอ ำนวยการ”๖ หมายความวา ผูอ ำนวยการสำนักงานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส ๕ มาตรา ๔ นิยามคำวา “หนวยงานของรัฐ” แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖ มาตรา ๔ นิยามคำวา “ผูอำนวยการ” เพิ่มโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 32

๔ “สำนักงาน”๗ หมายความวา สำนักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ตามกฎหมาย วาดวยสำนักงานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส “รฐั มนตร”ี หมายความวา รฐั มนตรีผูรักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี มาตรา ๕ บทบญั ญัติมาตรา ๑๓ ถงึ มาตรา ๒๔ และบทบญั ญตั มิ าตรา ๒๖ ถึงมาตรา ๓๑ จะตกลงกนั เปนอยา งอน่ื กไ็ ด มาตรา ๖๘ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการ ตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี หมวด ๑ ธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส  มาตรา ๗ หามมิใหปฏิเสธความมผี ลผูกพันและการบังคับใชทางกฎหมายของขอความใด เพียงเพราะเหตทุ ีข่ อความนัน้ อยูในรปู ของขอ มูลอเิ ล็กทรอนิกส มาตรา ๘ ภายใตบ งั คับบทบัญญัตแิ หง มาตรา ๙ ในกรณที กี่ ฎหมายกำหนดใหก ารใดตอง ทำเปนหนังสือ มีหลักฐานเปนหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดง หรือกำหนดผลทางกฎหมาย กรณีไมทำเปนหนังสือ ไมมีหลักฐานเปนหนังสือหรือไมมีเอกสารมาแสดง ถาไดมีการจัดทำ ขอความขึ้นเปนขอมูลอิเล็กทรอนิกสที่สามารถเขาถึงและนำกลับมาใชไดโดยความหมาย ไมเปลี่ยนแปลง ใหถือวาขอความนั้นไดทำเปนหนังสือ มีหลักฐานเปนหนังสือหรือมีเอกสาร มาแสดงตามทก่ี ฎหมายกำหนด๙ ในกรณีกฎหมายกำหนดใหตองมีการปดอากรแสตมป หากไดมีการชำระเงินแทนหรือ ดำเนินการอื่นใดดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกสตามหลักเกณฑและวิธีการที่หนวยงานของรัฐซ่ึง เกี่ยวของประกาศกำหนด ใหถือวาหนังสือ หลักฐานเปนหนังสือ หรือเอกสาร ซึ่งมีลักษณะเปน ตราสารนั้นไดมีการปดอากรแสตมปและขีดฆาตามกฎหมายนั้นแลว ในการนี้ในการกำหนด หลักเกณฑและวิธีการของหนวยงานของรัฐดังกลาว คณะกรรมการจะกำหนดกรอบและแนวทาง เพ่อื เปนมาตรฐานทั่วไปไวดวยกไ็ ด๑๐ ๗ มาตรา ๔ นิยามคำวา “สำนักงาน” เพิ่มโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๘ มาตรา ๖ แกไ ขเพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญัติวา ดวยธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๙ มาตรา ๘ วรรคแรก แกไ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญัติวาดวยธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๐ มาตรา ๘ วรรคสอง เพมิ่ โดยพระราชบัญญัตวิ าดวยธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 33

๕ มาตรา ๙๑๑ ในกรณีท่ีกฎหมายกำหนดใหมีการลงลายมือชื่อ หรือกำหนดผลทางกฎหมาย กรณีทไ่ี มม ีการลงลายมือชอ่ื ไว ใหถ ือวาไดม ีการลงลายมอื ชอื่ แลว ถา (๑) ใชวิธีการที่สามารถระบุตัวเจาของลายมือชื่อ และสามารถแสดงเจตนาของเจาของ ลายมอื ชอื่ เกีย่ วกับขอ ความในขอมูลอิเล็กทรอนิกส และ (๒) ใชว ธิ ีการในลักษณะอยางใดอยางหนงึ่ ดังตอ ไปน้ี (ก) วิธีการที่เชื่อถือไดโดยเหมาะสมกับวัตถุประสงคของการสรางหรือสงขอมูล อิเลก็ ทรอนกิ ส โดยคำนงึ ถึงพฤติการณแวดลอมทง้ั ปวง รวมถงึ ขอ ตกลงใด ๆ ทีเ่ กยี่ วขอ ง หรอื (ข) วิธีการอื่นใดที่สามารถยืนยันตวั เจาของลายมือชื่อและสามารถแสดงเจตนาของ เจาของลายมอื ชอื่ ตาม (๑) ไดด วยวธิ ีการนนั้ เองหรอื ประกอบกับพยานหลักฐานอืน่ วธิ กี ารทเี่ ช่ือถือไดต ามวรรคหน่ึง (๒) (ก) ใหคำนึงถึง (๑) ความมั่นคงและรัดกุมของการใชวิธีการหรืออุปกรณในการระบุตัวบุคคล สภาพพรอมใชงานของทางเลือกในการระบุตัวบุคคล กฎเกณฑเกี่ยวกับลายมือชื่อที่กำหนดไวใน กฎหมายระดับความมั่นคงปลอดภัยของการใชลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส การปฏิบัติตาม กระบวนการในการระบุตวั บุคคลผูเ ปน สื่อกลาง ระดับของการยอมรับหรือไมยอมรับ วิธีการที่ใช ในการระบุตัวบุคคลในการทำธุรกรรม วิธีการระบุตัวบุคคล ณ ชวงเวลาที่มีการทำธุรกรรมและ ตดิ ตอส่อื สาร (๒) ลักษณะ ประเภท หรือขนาดของธุรกรรมที่ทำ จำนวนครั้งหรือความสม่ำเสมอ ในการทำธรุ กรรม ประเพณที างการคา หรือทางปฏิบตั ิ ความสำคัญ มลู คาของธรุ กรรมท่ที ำ หรือ (๓) ความรดั กมุ ของระบบการตดิ ตอส่ือสาร ใหนำความในวรรคหนึ่งมาใชบังคับกับการประทับตราของนิติบุคคลดวยวิธีการ ทางอเิ ล็กทรอนิกสดวยโดยอนโุ ลม มาตรา ๑๐ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดใหนำเสนอหรือเก็บรักษาขอความใดในสภาพ ที่เปนมาแตเดิมอยางเอกสารตนฉบับ ถาไดนำเสนอหรือเก็บรักษาในรูปขอมูลอิเล็กทรอนิกส ตามหลักเกณฑดังตอไปนี้ ใหถือวาไดมีการนำเสนอหรือเก็บรักษาเปนเอกสารตนฉบับ ตามกฎหมายแลว (๑) ขอมูลอิเล็กทรอนิกสไดใชวิธีการที่เชื่อถือไดในการรักษาความถูกตองของขอความ ตง้ั แตการสรา งขอความเสรจ็ สมบรู ณ และ (๒) สามารถแสดงขอความนนั้ ในภายหลงั ได ความถูกตองของขอความตาม (๑) ใหพิจารณาถึงความครบถวนและไมมี การเปลยี่ นแปลงใดของขอความ เวน แตก ารรับรองหรือบันทึกเพม่ิ เตมิ หรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นไดตามปกติในการติดตอสื่อสาร การเก็บรักษา หรือการแสดงขอความซึ่งไมมีผล ตอความถูกตองของขอ ความนัน้ ๑๑ มาตรา ๙ แกไ ขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบญั ญัติวาดว ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ 34 สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

๖ ในการวินิจฉัยความนาเชื่อถือของวิธีการรักษาความถูกตองของขอความตาม (๑) ใหพิเคราะหถึงพฤติการณที่เกี่ยวของทั้งปวง รวมทั้งวัตถุประสงคของการสรางขอความนั้น ในกรณีที่มีการทำสิ่งพิมพออกของขอมูลอิเล็กทรอนิกสตามวรรคหนึ่งสำหรับใชอางอิง ขอความของขอมูลอิเล็กทรอนิกส หากสิ่งพิมพออกนั้นมีขอความถูกตองครบถวนตรงกับขอมูล อิเล็กทรอนิกส และมีการรับรองสิ่งพิมพออกโดยหนวยงานที่มีอำนาจตามที่คณะกรรมการ ประกาศกำหนดแลว ใหถอื วาสงิ่ พิมพออกดังกลาวใชแ ทนตน ฉบบั ได๑ ๒ มาตรา ๑๑๑๓ หามมิใหปฏิเสธการรับฟงขอมูลอิเล็กทรอนิกสเปนพยานหลักฐาน ในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายทั้งในคดีแพง คดีอาญา หรือคดีอื่นใด เพียงเพราะเหตุวา เปน ขอมลู อเิ ล็กทรอนกิ ส ในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสจะเชื่อถือไดหรือไมเพียงใดน้ัน ใหพิเคราะหถึงความนาเชื่อถือของลักษณะหรือวิธีการที่ใชสราง เก็บรักษา หรือสื่อสารขอมูล อิเล็กทรอนิกส ลักษณะหรือวิธีการเก็บรักษา ความครบถวน และไมมีการเปลี่ยนแปลงของ ขอความ ลักษณะ หรือวิธีการที่ใชในการระบุหรือแสดงตัวผูสงขอมูล รวมทั้งพฤติการณท่ี เก่ียวขอ งท้งั ปวง ใหน ำความในวรรคหนึง่ มาใชบงั คบั กับสงิ่ พมิ พออกของขอมลู อเิ ลก็ ทรอนิกสด ว ย มาตรา ๑๒ ภายใตบังคับบทบัญญัติมาตรา ๑๐ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดใหเก็บรักษา เอกสารหรือขอความใด ถาไดเก็บรักษาในรูปขอมูลอิเล็กทรอนิกสตามหลักเกณฑดังตอไปน้ี ใหถอื วา ไดมีการเกบ็ รกั ษาเอกสารหรอื ขอความตามทีก่ ฎหมายตองการแลว (๑) ขอมูลอิเล็กทรอนิกสนั้นสามารถเขาถึงและนำกลับมาใชไดโดยความหมาย ไมเ ปลย่ี นแปลง (๒) ไดเกบ็ รกั ษาขอ มลู อเิ ล็กทรอนิกสนน้ั ใหอยใู นรปู แบบทเี่ ปน อยูในขณะท่ีสราง สง หรือ ไดรับขอมูลอิเล็กทรอนิกสนั้น หรืออยูในรูปแบบที่สามารถแสดงขอความที่สราง สง หรือไดรับ ใหป รากฏอยา งถกู ตอ งได และ (๓) ไดเก็บรักษาขอความสวนที่ระบุถึงแหลงกำเนิด ตนทาง และปลายทางของขอมูล อเิ ล็กทรอนิกส ตลอดจนวนั และเวลาทสี่ งหรือไดรับขอ ความดงั กลา ว ถา มี ความในวรรคหนึ่ง มิใหใชบังคับกับขอความที่ใชเพียงเพื่อวัตถุประสงคในการสงหรือ รบั ขอ มูลอเิ ลก็ ทรอนกิ ส หนวยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการเก็บรักษาเอกสารหรือขอความใด อาจกำหนด หลกั เกณฑรายละเอียดเพ่ิมเตมิ เกี่ยวกบั การเก็บรกั ษาเอกสารหรือขอความน้ันได เทาที่ไมขัดหรือ แยง กับบทบัญญัติในมาตราน้ี ๑๒ มาตรา ๑๐ วรรคส่ี เพ่มิ โดยพระราชบญั ญตั วิ า ดว ยธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ๑๓ มาตรา ๑๑ แกไ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญัตวิ า ดวยธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 35

๗ มาตรา ๑๒/๑๑๔ ใหนำบทบญั ญัตใิ นมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ มาใชบังคับ กับเอกสารหรือขอความที่ไดมีการจัดทำหรือแปลงใหอยูในรูปของขอมูลอิเล็กทรอนิกส ในภายหลังดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส และการเก็บรักษาเอกสารและขอความดังกลาวดวย โดยอนุโลม การจดั ทำหรือแปลงเอกสารและขอความใหอยูในรูปของขอมูลอิเล็กทรอนิกสตามวรรคหน่ึง ใหเปน ไปตามหลักเกณฑแ ละวิธกี ารที่คณะกรรมการกำหนด มาตรา ๑๓ คำเสนอหรือคำสนองในการทำสัญญาอาจทำเปนขอมูลอิเล็กทรอนิกสก็ได และหามมิใหปฏิเสธการมีผลทางกฎหมายของสัญญาเพียงเพราะเหตุที่สัญญานั้นไดทำคำเสนอ หรอื คำสนองเปน ขอ มูลอิเลก็ ทรอนิกส มาตรา ๑๓/๑๑๕ การเสนอเพื่อทำสัญญาผานการติดตอสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส ครงั้ เดียวหรอื หลายครั้ง ซึ่งไมไดสง ถึงบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจง แตบ ุคคลท่วั ไปทีใ่ ชระบบขอมูลน้ัน สามารถเขาถึงได รวมถงึ การเสนอโดยใหร ะบบขอมูลสามารถโตตอบไดโ ดยอัตโนมตั ิ ในการทำคำส่ัง ผานระบบขอมูลใหถือเปนคำเชิญชวนเพื่อทำคำเสนอ เวนแตการเสนอเพื่อทำสัญญาระบุได โดยแจง ชัดถึงเจตนาของบุคคลที่ทำการเสนอทจี่ ะผูกพันหากมีการสนองรบั มาตรา ๑๓/๒๑๖ หามมิใหปฏิเสธความสมบูรณหรือการบังคับใชของสัญญาที่ทำโดย การโตตอบระหวางระบบแลกเปลี่ยนขอมูลทางอิเล็กทรอนิกสอัตโนมัติกับบุคคลธรรมดา หรือ ระหวางระบบแลกเปลี่ยนขอมูลทางอิเล็กทรอนิกสอัตโนมัติดวยกัน เพียงเพราะเหตุที่ไมมีบุคคล ธรรมดาเขาไปเกี่ยวของกับการดำเนินการในแตละครั้งที่กระทำโดยระบบแลกเปลี่ยนขอมูล ทางอิเลก็ ทรอนกิ สอัตโนมัตหิ รอื ในผลแหงสัญญา มาตรา ๑๔ ในระหวางผูสงขอมูลและผูรับขอมูล การแสดงเจตนาหรือคำบอกกลาว อาจทำเปน ขอ มลู อิเล็กทรอนิกสก ไ็ ด มาตรา ๑๕ บุคคลใดเปนผูสงขอมูลไมวาจะเปนการสงโดยวิธีใด ใหถือวาขอมูล อิเลก็ ทรอนิกสเ ปน ของผูนนั้ ในระหวางผูสงขอมูลและผูรับขอมูล ใหถือวาเปนขอมูลอิเล็กทรอนิกสของผูสงขอมูล หากขอมูลอเิ ล็กทรอนกิ สนน้ั ไดสงโดย (๑) บคุ คลผมู ีอำนาจกระทำการแทนผูส งขอ มลู เก่ียวกับขอมลู อิเล็กทรอนิกสนั้น หรือ (๒) ระบบขอ มูลทีผ่ ูสง ขอมลู หรือบุคคลผูม ีอำนาจกระทำการแทนผสู งขอมูลไดกำหนดไว ลว งหนาใหส ามารถทำงานไดโดยอตั โนมัติ ๑๔ มาตรา ๑๒/๑ เพิม่ โดยพระราชบญั ญตั วิ า ดวยธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ 36 ๑๕ มาตรา ๑๓/๑ เพ่มิ โดยพระราชบญั ญัตวิ า ดว ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๖ มาตรา ๑๓/๒ เพ่มิ โดยพระราชบญั ญตั วิ า ดวยธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

๘ มาตรา ๑๖ ผูรับขอมูลชอบที่จะถือวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสเปนของผูสงขอมูลและ ชอบท่จี ะดำเนินการไปตามขอมลู อเิ ลก็ ทรอนิกสน ้ันได ถา (๑)๑๗ ผรู บั ขอ มูลไดตรวจสอบโดยสมควรตามวธิ กี ารทผ่ี สู งขอมลู ไดต กลงหรือผูกพันตนไว วาเปน ขอมลู อิเลก็ ทรอนิกสเปน ของผสู ง ขอมลู หรอื (๒) ขอมูลอิเล็กทรอนิกสที่ผูร บั ขอมลู ไดรบั นัน้ เกิดจากการกระทำของบุคคลซึง่ ใชวิธีการ ที่ผูสงขอมูลใชในการแสดงวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสนั้นเปนของผูสงขอมูล ซึ่งบุคคลนั้นไดลวงรู โดยอาศยั ความสมั พันธร ะหวางบคุ คลนน้ั กับผสู ง ขอ มูลหรือผมู ีอำนาจกระทำการแทนผสู งขอมูล ความในวรรคหนง่ึ มิใหใ ชบ ังคบั ถา (๑) ในขณะนั้นผูรับขอมูลไดรับแจงจากผูสงขอมูลวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสที่ผูรับขอมูล ไดรับนั้นมิใชของผูสงขอมูล และในขณะเดียวกันผูรับขอมูลมีเวลาพอสมควรที่จะตรวจสอบ ขอ เท็จจริงตามทไี่ ดร บั แจง นั้น หรอื (๒) กรณตี ามวรรคหน่ึง (๒) เมื่อผรู ับขอมูลไดรูหรือควรจะไดรูวา ขอ มลู อิเลก็ ทรอนิกสน้ัน ไมใชของผูสงขอมูล หากผูรับขอมูลไดใชความระมัดระวังตามสมควร หรือดำเนินการตามวิธีการ ทีไ่ ดต กลงกันไวกอนแลว มาตรา ๑๗ ในกรณีตามมาตรา ๑๕ หรือมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง ในระหวางผูสงขอมูล และผูรับขอมูล ผูรับขอมูลมีสิทธิถือวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสที่ไดรับนั้นถูกตองตามเจตนาของ ผูสงขอมูลและสามารถดำเนินการไปตามขอมูลอิเล็กทรอนิกสนั้นได เวนแตผูรับขอมูลไดรูหรือ ควรจะไดรูวา ขอ มูลอิเล็กทรอนิกสท่ไี ดร บั นั้นมีขอผดิ พลาดอันเกิดจากการสง หากผูรับขอมูลไดใช ความระมดั ระวงั ตามสมควรหรือดำเนินการตามวิธกี ารทีไ่ ดตกลงกนั ไวกอนแลว มาตรา ๑๗/๑๑๘ ในกรณีที่มีการลงขอมูลผิดพลาดโดยบุคคลธรรมดาและสงผานระบบ แลกเปลี่ยนขอมูลทางอิเล็กทรอนิกสอัตโนมัติของผูอื่น และระบบแลกเปลี่ยนขอมูล ทางอิเล็กทรอนิกสอัตโนมตั นิ ัน้ ไมม ชี องทางใหบคุ คลดงั กลา วแกไขขอผิดพลาดที่เกดิ ขน้ึ บคุ คลดงั กลา ว หรือผแู ทนมีสิทธทิ จ่ี ะถอนการแสดงเจตนาในสว นท่เี กดิ จากการลงขอมลู ผิดพลาดได หาก (๑) บคุ คลดังกลา วหรือผแู ทนไดแจงใหอ ีกฝา ยหนึ่งทราบถึงขอผิดพลาดโดยพลันหลังจาก ที่ตนไดรูถึงขอผิดพลาดนั้น และแสดงใหเห็นวาไดสงขอมูลผิดพลาดผานระบบแลกเปล่ียนขอมลู ทางอิเล็กทรอนกิ สอัตโนมัติ และ (๒) บุคคลดังกลาวหรือผูแทนไมไดใชหรือไดรับประโยชนใด ๆ จากสินคา บริการ หรือ ส่ิงอืน่ ใดอยางนยั สำคญั จากอกี ฝา ยหนึ่ง ๑๗ มาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง (๑) แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๘ มาตรา ๑๗/๑ เพิ่มโดยพระราชบญั ญตั วิ าดวยธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 37

๙ มาตรา ๑๘ ผูรับขอมูลชอบที่จะถือวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสที่ไดรับแตละชุดเปนขอมูล ที่แยกจากกัน และสามารถดำเนินการไปตามขอมูลอิเล็กทรอนิกสแตละชุดนั้นได เวนแตขอมูล อิเล็กทรอนิกสชุดนั้นจะซ้ำกับขอมูลอิเล็กทรอนิกสอีกชุดหนึ่ง และผูรับขอมูลไดรูหรือควรจะ ไดรูวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสนั้นเปนขอมูลอิเล็กทรอนิกสซ้ำ หากผูรับขอมูลไดใชความระมัดระวัง ตามสมควร หรอื ดำเนนิ การตามวธิ ีการทไ่ี ดตกลงกันไวก อนแลว มาตรา ๑๙ ในกรณีที่ตองมีการตอบแจงการรับขอมูลอิเล็กทรอนิกส ไมวาผูสงขอมูลได รองขอหรือตกลงกับผูรับขอมูลไวกอนหรือขณะที่สงขอมูลอิเล็กทรอนิกสหรือปรากฏในขอมูล อเิ ล็กทรอนกิ สใ หเ ปนไปตามหลักเกณฑดังตอไปนี้ (๑) ในกรณีที่ผูสงขอมูลมิไดตกลงใหตอบแจงการรับขอมูลอิเล็กทรอนิกสในรูปแบบหรือ วิธกี ารใดโดยเฉพาะ การตอบแจงการรับอาจทำไดด ว ยการติดตอสื่อสารจากผูร ับขอมูล ไมวาโดย ระบบขอมูลที่ทำงานโดยอัตโนมัติหรือโดยวิธีอื่นใด หรือดวยการกระทำใด ๆ ของผูรับขอมูล ซง่ึ เพยี งพอจะแสดงตอ ผูส ง ขอ มูลวา ผรู ับขอมูลไดร ับขอ มลู อิเลก็ ทรอนิกสน ้ันแลว (๒) ในกรณีที่ผูสงขอมูลกำหนดเงื่อนไขวาจะถือวามีการสงขอมูลอิเล็กทรอนิกสตอเม่ือ ไดรับการตอบแจงการรับจากผูรับขอมูล ใหถือวายังไมมีการสงขอมูลอิเล็กทรอนิกสจนกวา ผสู งขอมลู จะไดรบั การตอบแจงการรบั แลว (๓) ในกรณีที่ผูสงขอมูลมิไดกำหนดเงื่อนไขตามความใน (๒) และผูสงขอมูลมิไดรับ การตอบแจงการรับนั้นภายในเวลาที่กำหนดหรือตกลงกัน หรือภายในระยะเวลาอันสมควร ในกรณที ม่ี ไิ ดกำหนดหรอื ตกลงเวลาไว (ก) ผูสงขอมูลอาจสงคำบอกกลาวไปยังผูรับขอมูลวาตนยังมิไดรับการตอบแจง การรบั และกำหนดระยะเวลาอนั สมควรใหผูรับขอมูลตอบแจง การรบั และ (ข) หากผสู ง ขอมูลมิไดร ับการตอบแจงการรับภายในระยะเวลาตาม (ก) เมอื่ ผูสงขอมูล บอกกลาวแกผูรับขอมูลแลว ผูสงขอมูลชอบที่จะถือวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสนั้นมิไดมีการสงเลย หรอื ผสู งขอมูลอาจใชสิทธอิ ืน่ ใดทผี่ สู ง ขอมูลมอี ยูได มาตรา ๒๐ ในกรณีที่ผูสงขอมูลไดรับการตอบแจงการรับจากผูรับขอมูล ใหสันนิษฐาน วาผูรบั ขอมลู ไดร ับขอมูลอิเล็กทรอนิกสท่ีเกยี่ วของแลว แตขอสนั นษิ ฐานดังกลาวมิใหถือวาขอมูล อิเลก็ ทรอนกิ สท ผ่ี รู ับขอมูลไดร บั น้นั ถูกตองตรงกันกับขอมูลอเิ ล็กทรอนิกสทีผ่ สู ง ขอ มูลไดสงมา มาตรา ๒๑ ในกรณีที่ปรากฏในการตอบแจงการรับขอมลู อิเล็กทรอนิกสนั้นเองวาขอมูล อิเล็กทรอนิกสที่ผูรับขอมูลไดรับเปนไปตามขอกำหนดทางเทคนิคที่ผูสงขอมูลและผูรับขอมูลได ตกลงหรือระบุไวในมาตรฐานซึ่งใชบังคับอยู ใหสันนิษฐานวาขอมูลอิเล็กทรอนิกสที่สงไปน้ัน ไดเปน ไปตามขอ กำหนดทางเทคนิคทัง้ หมดแลว มาตรา ๒๒ การสงขอมูลอิเล็กทรอนิกสใหถือวาไดมีการสงเมื่อขอมูลอิเล็กทรอนิกสนน้ั ไดเ ขา สรู ะบบขอมลู ที่อยูนอกเหนอื การควบคุมของผสู งขอมูล สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 38

๑๐ มาตรา ๒๓ การรับขอมูลอิเล็กทรอนิกสใหถือวามีผลนับแตเวลาที่ขอมูลอิเล็กทรอนิกส น้นั ไดเ ขาสูระบบขอมลู ของผูร บั ขอ มลู หากผูรับขอมูลไดกำหนดระบบขอมูลที่ประสงคจะใชในการรับขอมูลอิเล็กทรอนิกสไว โดยเฉพาะใหถือวาการรับขอมูลอิเล็กทรอนิกสมีผลนับแตเวลาทีข่ อมูลอิเล็กทรอนิกสนั้นไดเขาสู ระบบขอมูลที่ผูรับขอมูลไดกำหนดไวนั้น แตถาขอมูลอิเล็กทรอนิกสดังกลาวไดสงไปยังระบบ ขอมูลอื่นของผูรับขอมูลซึ่งมิใชระบบขอมูลที่ผูรับขอมูลกำหนดไว ใหถือวาการรับขอมูล อเิ ลก็ ทรอนกิ สม ผี ลนับแตเวลาที่ไดเรยี กขอ มูลอิเล็กทรอนิกสจากระบบขอมูลนัน้ ความในมาตรานี้ใหใชบังคับแมระบบขอมูลของผูรับขอมูลตั้งอยูในสถานที่อีกแหงหน่ึง ตา งหากจากสถานท่ีทถี่ อื วา ผรู บั ขอมูลไดร บั ขอมูลอเิ ล็กทรอนิกสตามมาตรา ๒๔ มาตรา ๒๔ การสงหรือการรับขอมูลอิเล็กทรอนิกส ใหถือวาไดสง ณ ที่ทำการงานของ ผสู ง ขอมูล หรอื ไดรับ ณ ทีท่ ำการงานของผรู บั ขอ มูล แลวแตกรณี ในกรณีที่ผูสงขอมูลหรือผูรับขอมูลมีที่ทำการงานหลายแหง ใหถือเอาที่ทำการงาน ทเี่ ก่ยี วขอ งมากท่ีสุดกบั ธุรกรรมนัน้ เปน ที่ทำการงานเพ่ือประโยชนต ามวรรคหน่ึง แตถ าไมสามารถ กำหนดไดวาธุรกรรมนั้นเกี่ยวของกับที่ทำการงานแหงใดมากที่สุด ใหถือเอาสำนักงานใหญ เปนสถานที่ทไี่ ดรบั หรอื สง ขอ มลู อิเลก็ ทรอนิกสน ้ัน ในกรณที ่ีไมป รากฏที่ทำการงานของผสู งขอมูลหรือผรู บั ขอมูล ใหถ ือเอาถนิ่ ท่ีอยูปกติเปน สถานที่ทีส่ งหรือไดรบั ขอ มูลอิเล็กทรอนิกส ความในมาตรานี้มิใหใชบังคับกับการสงและการรับขอมูลอิเล็กทรอนิกสโดยวิธีการ ทางโทรเลขและโทรพิมพ หรอื วิธกี ารส่ือสารอ่ืนตามทกี่ ำหนดในพระราชกฤษฎกี า มาตรา ๒๕ ธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกสใดที่ไดกระทำตามวิธีการแบบปลอดภัยที่กำหนด ในพระราชกฤษฎกี า ใหส นั นิษฐานวา เปน วิธีการท่เี ชื่อถือได หมวด ๒ ลายมือชอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส  มาตรา ๒๖ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสที่มีลักษณะดังตอไปนี้ใหถือวาเปนลายมือช่ือ อเิ ลก็ ทรอนิกสท ่เี ชอื่ ถอื ได (๑) ขอมูลสำหรับใชสรา งลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสนน้ั ไดเช่อื มโยงไปยังเจาของลายมือช่ือ โดยไมเชื่อมโยงไปยังบุคคลอนื่ ภายใตส ภาพท่ีนำมาใช (๒) ในขณะสรางลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสนั้น ขอมูลสำหรับใชสรางลายมือช่ือ อเิ ลก็ ทรอนกิ สอ ยภู ายใตการควบคมุ ของเจา ของลายมือช่อื โดยไมมีการควบคมุ ของบุคคลอนื่ (๓) การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดแกลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส นับแตเวลาที่ไดสรางข้ึน สามารถจะตรวจพบได และ สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 39

๑๑ (๔)๑๙ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดใหการลงลายมือชื่อเปนไปเพื่อรับรองความครบถวน และไมมีการเปลี่ยนแปลงของขอความ การเปลี่ยนแปลงใดแกขอความนั้นสามารถตรวจพบได นับแตเ วลาทล่ี งลายมือชือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส บทบัญญัติในวรรคหนึ่ง ไมเปนการจำกัดวาไมมีวิธีการอื่นใดที่แสดงไดวาเปนลายมือช่ือ อิเลก็ ทรอนิกสท่ีเช่ือถือได หรือการแสดงพยานหลักฐานใดเกยี่ วกับความไมนาเชื่อถือของลายมือชื่อ อเิ ล็กทรอนกิ ส มาตรา ๒๗ ในกรณีมีการใชขอมูลสำหรับใชสรางลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสเพื่อสราง ลายมอื ชอ่ื อิเล็กทรอนกิ สทจ่ี ะมีผลตามกฎหมาย เจาของลายมือชอื่ ตอ งดำเนินการดังตอ ไปน้ี (๑) ใชความระมัดระวังตามสมควรเพื่อมิใหมีการใชขอมูลสำหรับใชสรางลายมือช่ือ อเิ ลก็ ทรอนิกสโดยไมไ ดรบั อนญุ าต (๒) แจงใหบุคคลที่คาดหมายไดโดยมีเหตุอันควรเชื่อวาจะกระทำการใดโดยขึ้นอยูกับ ลายมือชื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ สหรอื ใหบ ริการเกย่ี วกับลายมือช่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส ทราบโดยมิชักชา เม่ือ (ก) เจาของลายมือชื่อรูห รือควรไดรวู าขอมูลสำหรับใชสรางลายมือช่ืออเิ ล็กทรอนิกสนั้น สูญหาย ถูกทำลาย ถูกแกไข ถูกเปดเผยโดยมชิ อบ หรอื ถูกลวงรโู ดยไมสอดคลองกับวตั ถปุ ระสงค (ข) เจา ของลายมือชือ่ รจู ากสภาพการณท่ีปรากฏวา กรณีมีความเส่ียงมากพอที่ขอมูล สำหรับใชสรางลายมือชื่ออิเลก็ ทรอนิกส สูญหาย ถูกทำลาย ถูกแกไข ถูกเปดเผยโดยมชิ อบ หรือ ถกู ลวงรูโดยไมส อดคลองกับวัตถุประสงค (๓) ในกรณีมีการออกใบรับรองสนับสนุนการใชลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส จะตองใช ความระมัดระวังตามสมควรใหแนใจในความถูกตองและสมบูรณของการแสดงสาระสำคัญ ทั้งหมด ซึ่งกระทำโดยเจาของลายมือชื่อเกี่ยวกับใบรับรองนั้นตลอดอายุใบรับรอง หรือตามที่มี การกำหนดในใบรบั รอง มาตรา ๒๘ ในกรณมี กี ารใหบ ริการออกใบรับรองเพ่ือสนับสนนุ ลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส ใหม ผี ลทางกฎหมายเสมือนหนึง่ ลงลายมือชอ่ื ผใู หบรกิ ารออกใบรบั รองตอ งดำเนินการ ดังตอไปนี้ (๑) ปฏบิ ตั ิตามแนวนโยบายและแนวปฏบิ ตั ิทีต่ นไดแสดงไว (๒) ใชความระมัดระวังตามสมควรใหแนใจในความถูกตองและความสมบูรณของ การแสดงสาระสำคัญทั้งหมดทีต่ นไดกระทำเก่ียวกบั ใบรับรองนัน้ ตลอดอายุใบรับรอง หรือตามท่ี มกี ารกำหนดในใบรบั รอง (๓) จัดใหมีวิธีการในการเขาถึงโดยสมควร ใหคูกรณีที่เกี่ยวของสามารถตรวจสอบ ขอเทจ็ จริงในการแสดงสาระสำคญั ทั้งหมดจากใบรับรองได ในเรือ่ งดังตอ ไปน้ี (ก) การระบุผใู หบ รกิ ารออกใบรับรอง (ข) เจาของลายมือชื่อซึ่งระบุในใบรับรองไดควบคุมขอมูลสำหรบั ใชส รางลายมือช่อื อิเลก็ ทรอนิกสในขณะมกี ารออกใบรบั รอง ๑๙ มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง (๔) แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 40

๑๒ (ค) ขอมูลสำหรับใชสรางลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสมีผลใชไดในขณะหรือกอนที่มี การออกใบรับรอง (๔) จัดใหมีวิธีการเขาถึงโดยสมควร ใหคูกรณีที่เกี่ยวของสามารถตรวจสอบ กรณีดังตอไปนจ้ี ากใบรับรองหรือจากวิธอี ื่น (ก) วิธกี ารท่ีใชใ นการระบุตวั เจาของลายมอื ชือ่ (ข) ขอ จำกดั เก่ียวกับวัตถุประสงคและคุณคาท่ีมีการนำขอมูลสำหรับใชส รางลายมือชื่อ อิเลก็ ทรอนกิ สห รอื ใบรบั รอง (ค) ขอมูลสำหรับใชสรางลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสมีผลสมบูรณใชไ ดและไมสูญหาย ถกู ทำลาย ถูกแกไข ถกู เปด เผยโดยมชิ อบ หรือถกู ลว งรูโดยไมส อดคลองกบั วัตถปุ ระสงค (ง) ขอ จำกดั เกย่ี วกบั ขอบเขตความรบั ผิดท่ีผูใหบรกิ ารออกใบรบั รองไดร ะบุไว (จ) การมีวธิ ีการใหเ จาของลายมอื ช่อื สง คำบอกกลาวเมือ่ มีเหตุตามมาตรา ๒๗ (๒) (ฉ) การมีบริการเกย่ี วกับการเพกิ ถอนใบรบั รองทท่ี ันการ (๕) ในกรณีทมี่ บี ริการตาม (๔) (จ) บริการน้นั ตองมวี ิธกี ารทีใ่ หเ จาของลายมือชื่อสามารถ แจงไดต ามหลกั เกณฑท ีก่ ำหนดตามมาตรา ๒๗ (๒) และในกรณีที่มบี รกิ ารตาม (๔) (ฉ) บริการนน้ั ตองสามารถเพิกถอนใบรบั รองไดทนั การ (๖) ใชร ะบบ วธิ กี าร และบุคลากรท่เี ช่ือถอื ไดใ นการใหบรกิ าร มาตรา ๒๙ ในการพิจารณาความเชื่อถือไดของระบบ วิธีการ และบุคลากรตามมาตรา ๒๘ (๖) ใหค ำนงึ ถงึ กรณีดังตอ ไปนี้ (๑) สถานภาพทางการเงนิ บุคลากร และสนิ ทรัพยทมี่ อี ยู (๒) คุณภาพของระบบฮารดแวรและซอฟตแวร (๓) วิธีการออกใบรับรอง การขอใบรบั รอง และการเก็บรกั ษาขอมูลการใหบ ริการนัน้ (๔) การจัดใหมีขอมูลขาวสารเกี่ยวกับเจาของลายมือชื่อ ที่ระบุในใบรับรองและผูท่ี อาจคาดหมายไดว าจะเปน คกู รณีทเ่ี กี่ยวของ (๕) ความสมำ่ เสมอและขอบเขตในการตรวจสอบโดยผูตรวจสอบอสิ ระ (๖) องคกรที่ใหการรับรองหรือใหบริการออกใบรับรองเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือการมีอยู ของสิ่งทีก่ ลาวมาใน (๑) ถึง (๕) (๗) กรณใี ด ๆ ทีค่ ณะกรรมการประกาศกำหนด มาตรา ๓๐ คกู รณที เ่ี ก่ียวขอ งตองดำเนนิ การ ดงั ตอไปน้ี (๑) ดำเนินการตามสมควรในการตรวจสอบความนาเชื่อถอื ของลายมือชอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส (๒) ในกรณีลายมอื ชอื่ อเิ ล็กทรอนิกสม ใี บรบั รอง ตองมีการดำเนินการตามสมควร ดงั น้ี (ก) ตรวจสอบความสมบูรณของใบรับรอง การพักใช หรือการเพิกถอนใบรบั รอง และ (ข) ปฏบิ ตั ติ ามขอจำกดั ใด ๆ ที่เกย่ี วกับใบรับรอง ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 41

๑๓ มาตรา ๓๑ ใบรบั รองหรอื ลายมือชอ่ื อิเล็กทรอนกิ สใ หถือวามผี ลทางกฎหมายโดยไมต อง คำนึงถงึ (๑) สถานที่ออกใบรับรองหรือสถานทสี่ รา งหรือใชลายมือชอื่ อเิ ล็กทรอนิกส หรือ (๒) สถานท่ีทำการงานของผูอ อกใบรบั รองหรือเจาของลายมือชื่ออิเล็กทรอนกิ ส ใบรับรองที่ออกในตางประเทศใหมีผลตามกฎหมายในประเทศเชนเดียวกับใบรับรอง ทีอ่ อกในประเทศ หากการออกใบรับรองดังกลาวไดใชระบบที่เชื่อถือไดไมน อยกวาระบบท่ีเชื่อถือได ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสที่สรางหรือใชในตางประเทศใหถือวามีผลตามกฎหมายใน ประเทศ เชนเดียวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสที่สรางหรือใชในประเทศ หากการสรางหรือใช ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกสดังกลาวไดใชระบบที่เชื่อถือไดไมนอยกวาระบบที่เชื่อถือไดตาม พระราชบัญญตั นิ ้ี ในการพิจารณาวาใบรับรองหรือลายมือช่ืออเิ ล็กทรอนิกสใดมีความเชื่อถือไดตามวรรคสอง หรอื วรรคสาม ใหค ำนงึ ถึงมาตรฐานระหวา งประเทศและปจจยั อืน่ ๆ ทเี่ กีย่ วขอ งประกอบดว ย หมวด ๓ ธรุ กจิ บริการเกย่ี วกับธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส  มาตรา ๓๒๒๐ บคุ คลยอมมสี ทิ ธปิ ระกอบธุรกจิ บริการเกย่ี วกับธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส แตในกรณีที่จำเปนเพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย หรือเพื่อประโยชน ในการเสริมสรางความนาเชื่อถือและยอมรับในระบบขอมูลอิเล็กทรอนิกส หรือเพื่อปองกัน ความเสียหายตอสาธารณชน ใหมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดใหการประกอบธุรกิจบริการ เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสใดเปนกิจการที่ตองแจงใหทราบ ตองขึ้นทะเบียน หรือ ตองไดรับใบอนญุ าตกอน แลว แตก กรณี ในการกำหนดใหกรณีใดตองแจงใหทราบ ตองขึ้นทะเบียน หรือตองไดรับใบอนุญาต ตามวรรคหนึ่ง ใหกำหนดโดยพิจารณาจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจน้ัน ประกอบกับความเหมาะสมในการควบคุมดูแลและการปองกันความเสียหายตามระดับ ความรนุ แรงของผลกระทบที่อาจเกิดข้ึนจากการประกอบธรุ กิจดงั กลา ว ในการนี้ จะกำหนดใหหนวยงานของรัฐแหงหนึ่งแหงใดเปนผูรับผิดชอบใน การควบคุมดูแลในพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามวรรคหนึ่งก็ได หากไมมีการกำหนดใหหนวยงาน ของรฐั แหง ใดเปน ผรู ับผดิ ชอบในการควบคุมดแู ล ใหส ำนักงานเปนผูรบั ผิดชอบในการควบคุมดูแล การประกอบธุรกิจบริการเกย่ี วกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสตามพระราชกฤษฎีกาดงั กลาว ทั้งน้ี ใหหนวยงานของรัฐซึ่งเปนผูรับผิดชอบในการควบคุมดูแลตามพระราชกฤษฎีกาหรือสำนักงาน แลวแตกรณี แตงตงั้ พนกั งานเจา หนาทเี่ พอื่ ปฏบิ ัติการใหเ ปนไปตามพระราชกฤษฎกี าดว ย ๒๐ มาตรา ๓๒ แกไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญัตวิ า ดว ยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ 42 สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

๑๔ กอ นเสนอใหตราพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่ง ตอ งจดั ใหมีการรับฟงความคิดเห็นของ ประชาชนตามความเหมาะสม และนำขอมลู ทีไ่ ดร ับมาประกอบการพจิ ารณา มาตรา ๓๓๒๑ ในกรณีที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดใหการประกอบธุรกิจบริการเก่ียวกับ ธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ สใดเปนกิจการทตี่ องแจงใหทราบ ผูทปี่ ระสงคจะประกอบธุรกิจดังกลาว ตองแจงตอพนักงานเจาหนาที่กอนเริ่มประกอบธุรกิจนั้น ตามหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข ทก่ี ำหนดในพระราชกฤษฎกี า เมื่อพนักงานเจาหนาที่ไดรับแจง ใหออกใบรับแจงเพื่อเปนหลักฐานการแจงในวันท่ี รับแจงนั้นและใหผูแจงประกอบธุรกิจนั้นไดตั้งแตวันที่ไดรับใบรับแจงดังกลาว แตถาพนักงาน เจาหนาที่ตรวจพบในภายหลังวาการแจงไมถูกตองหรือไมครบถวน ใหมีอำนาจส่ังผูแจงแกไขให ถูกตองหรือครบถวนและนำผลการแกไขมาแสดงตอพนักงานเจาหนาที่ภายในระยะเวลา ท่กี ำหนด ในกรณีที่ผูประกอบธุรกิจไมแกไขหรือไมปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจาหนาที่ภายใน ระยะเวลาที่กำหนด ใหพนักงานเจาหนาที่สัง่ ใหผูนั้นหยดุ การใหบรกิ ารในสว นที่เกี่ยวกบั ธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกสในการประกอบธุรกิจนั้นนับแตวันที่ครบกำหนดระยะเวลาตามวรรคสอง จนกวา จะแกไ ขใหถ ูกตอ งและครบถว นตามคำสงั่ ของพนักงานเจา หนาที่ ในการประกอบธุรกจิ ผูแ จง ตองปฏบิ ัติตามหลกั เกณฑท่ีกำหนดในพระราชกฤษฎีกาและ ตามประกาศที่คณะกรรมการกำหนด หลักเกณฑตามพระราชกฤษฎีกาดังกลาวใหกำหนดเรื่อง การชดใชหรอื เยยี วยาผูไดรบั ความเสียหายจากการประกอบธุรกจิ ไวดวย ถาผูแจงไมปฏิบัติตามหลักเกณฑการประกอบธุรกิจตามวรรคสี่ ใหพนักงานเจาหนาที่ มีคำสั่งหามมิใหผูน ้ันใหบริการในสวนที่เก่ียวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสในการประกอบธุรกิจนั้น จนกวา จะไดป ฏิบัตใิ หถ กู ตอ งครบถว นตามหลักเกณฑท ่ีกำหนดดงั กลาว ในกรณที ี่ผูแจงไมแกไขตามวรรคสามหรือไมปฏิบัตติ ามวรรคหาภายในระยะเวลาเกาสิบวัน นบั แตว ันที่หยุดหรือถกู หา มการใหบริการ ใหพ นักงานเจาหนา ท่ถี อนการรบั แจงของผนู ั้นออกจาก สารบบการรบั แจงและแจง เปน หนงั สอื ใหผ นู ้นั ทราบโดยเรว็ มาตรา ๓๓/๑๒๒ ในกรณีทีพ่ ระราชกฤษฎีกากำหนดใหการประกอบธุรกิจบริการเก่ียวกับ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสใดเปน กจิ การทต่ี องขึ้นทะเบยี น ผูท ีป่ ระสงคจ ะประกอบธุรกิจดังกลาว ตองขอขึ้นทะเบียนตอ พนักงานเจาหนาท่ีกอนเริ่มประกอบธุรกจิ นั้น ตามหลักเกณฑ วิธีการ และ เงื่อนไขท่ีกำหนดในพระราชกฤษฎีกา เมื่อพนักงานเจาหนาที่ไดรับคำขอขึ้นทะเบียนแลว ใหออกใบรับการขอขึ้นทะเบียนเพื่อ เปนหลักฐานการขอขึ้นทะเบียนในวันที่ยื่นคำขอนั้น และหากพนักงานเจาหนาที่ตรวจสอบ เอกสารและหลักฐานการขึ้นทะเบียนแลวเห็นวาครบถวนและถูกตองตามที่กำหนดใน พระราชกฤษฎีกา ใหรบั ขึ้นทะเบยี นและแจง เปนหนังสือใหผขู อขน้ึ ทะเบียนทราบภายในสามสิบวัน ๒๑ มาตรา ๓๓ แกไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิวาดว ยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ 43 ๒๒ มาตรา ๓๓/๑ เพิม่ โดยพระราชบญั ญัตวิ า ดว ยธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

๑๕ นับแตวันที่ไดรับคำขอขึ้นทะเบียนดังกลาว และใหผูขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจนั้นไดตั้งแตวันที่ ไดร บั ข้ึนทะเบยี น หากพนักงานเจาหนาที่ไมสามารถตรวจสอบใหแ ลวเสร็จไดภายในระยะเวลาตามวรรคสอง ใหผูขอขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจไปพลางกอนได นับแตวันถัดจากวันที่ครบกำหนดระยะเวลา ดงั กลาว ในกรณีที่พนักงานเจาหนาที่ตรวจสอบกอนการรับขึ้นทะเบียนตามวรรคสอง หรือตรวจ พบหลังจากที่ผูนั้นไดประกอบธุรกิจดังกลาวแลว วาเอกสารและหลักฐานการขึ้นทะเบียนของ ผูขอขึ้นทะเบียนไมครบถวนหรือไมถูกตอง ใหแจงเปนหนังสือแกผูขอขึ้นทะเบียนหรือ ผูขึ้นทะเบียนแลวแตกรณี เพื่อแกไขใหถูกตองและครบถวนภายในระยะเวลาที่กำหนด ในการนี้ ถาผูขอขึ้นทะเบียนหรือผูขึ้นทะเบียนไมแกไขใหถูกตองและครบถวน หรือไมดำเนินการจนพน กำหนดระยะเวลาที่พนักงานเจาหนาที่กำหนดโดยไมมีเหตุอันสมควร ใหสิทธิในการประกอบ ธุรกิจของผูขอขึ้นทะเบียนตามวรรคสามเปนอันระงับและใหถือวาคำขอขึ้นทะเบียนนั้นตกไป หรอื ใหมคี ำสง่ั เพกิ ถอนการขึน้ ทะเบยี นของผปู ระกอบธรุ กจิ นนั้ แลว แตก รณี ในการประกอบธุรกิจ ผูขึ้นทะเบียนตองปฏิบัติตามหลักเกณฑที่กำหนดใน พระราชกฤษฎีกาและตามประกาศที่คณะกรรมการกำหนด หลักเกณฑตามพระราชกฤษฎีกา ดังกลา วใหกำหนดเรือ่ งการชดใชห รือเยยี วยาผูไดรับความเสยี หายจากการประกอบธรุ กจิ ไวดวย ถาผูขึ้นทะเบียนฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามหลักเกณฑการประกอบธุรกิจตามวรรคหา ใหคณะกรรมการพิจารณามีคำสั่งปรับผูนั้นไมเกินหนึ่งลานบาท โดยคำนึงถึงความรายแรง แหงพฤติกรรมที่กระทำผิด หลักเกณฑในการพิจารณากำหนดคาปรับใหเปนไปตามท่ี คณะกรรมการกำหนด และในกรณที ่เี ห็นสมควรคณะกรรมการอาจมคี ำสั่งใหผ นู ้ันดำเนินการใด ๆ เพอ่ื แกไขใหถกู ตอ งหรือเหมาะสมได ถาผูถูกปรับตามวรรคหกไมชำระคาปรับ ใหคณะกรรมการมีอำนาจฟองคดีตอศาล ที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาคดีอาญาเพื่อบังคับชำระคาปรับ ในการนี้ ถาศาลพิพากษาให ชำระคาปรับ หากผูนั้นไมชำระคาปรับภายในสามสิบวันนับแตวันที่ศาลมีคำพิพากษา ใหยึด ทรพั ยสินของผนู น้ั เพือ่ ชดใชแ ทนคา ปรับ แตมิใหน ำมาตรการกกั ขังแทนคาปรับมาใชแ กผูน้นั ในกรณีที่ผูกระทำผิดตามวรรคหกไมดำเนินการแกไขตามคำสั่งของคณะกรรมการ หรือ ฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามหลักเกณฑการประกอบธุรกิจตามวรรคหาซ้ำอีกภายในระยะเวลาหน่ึงป นบั แตวันท่คี ณะกรรมการมคี ำสง่ั ปรบั ครั้งแรก คณะกรรมการอาจมีคำสัง่ เพิกถอนการข้ึนทะเบียน ของผขู น้ึ ทะเบียนน้นั ใหพ นกั งานเจา หนาท่แี จงคำส่งั ดังกลา วใหผูนั้นทราบโดยเร็ว มาตรา ๓๔๒๓ ในกรณีที่พระราชกฤษฎีกากำหนดใหการประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสใดเปนกิจการที่ตองไดรับใบอนุญาต ใหผูที่ประสงคจะประกอบธุรกิจ ดังกลา วยืน่ คำขอรบั ใบอนุญาตตอ พนกั งานเจา หนา ที่ตามทกี่ ำหนดในพระราชกฤษฎกี า ๒๓ มาตรา ๓๔ แกไขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิวาดว ยธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 44

๑๖ คุณสมบัติของผูขอรับใบอนุญาต หลักเกณฑและวิธีการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การตออายใุ บอนุญาต การคืนใบอนญุ าต และการสง่ั พกั ใชหรือเพิกถอนใบอนุญาต ใหเปนไปตาม หลักเกณฑ วธิ กี าร และเงือ่ นไขที่กำหนดในพระราชกฤษฎกี า ในการประกอบธุรกิจ ผูไดรับใบอนุญาตตองปฏิบัติตามหลักเกณฑที่กำหนดใน พระราชกฤษฎีกา ประกาศที่คณะกรรมการกำหนด หรือเงื่อนไขในใบอนุญาต หลักเกณฑ ตามพระราชกฤษฎีกาดังกลาวใหกำหนดเรื่องการชดใชหรือเยียวยาผูไดรับความเสียหายจาก การประกอบธุรกจิ ไวด ว ย ในกรณีที่ผูไดรับใบอนุญาตฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามหลักเกณฑการประกอบธุรกิจ ตามวรรคสาม ใหค ณะกรรมการพจิ ารณามีคำสั่งปรับผูนน้ั ไมเกนิ สองลานบาท และใหนำความใน มาตรา ๓๓/๑ วรรคหกและวรรคเจ็ด มาใชบ งั คับโดยอนุโลม ในกรณีที่ผูกระทำผิดตามวรรคสี่ไมดำเนินการแกไขตามคำสั่งของคณะกรรมการ หรือ ฝา ฝนหรือไมปฏิบัติตามหลักเกณฑการประกอบธรุ กิจตามวรรคสามซำ้ อีกภายในระยะเวลาหน่ึงป นับแตวันที่คณะกรรมการมีคำสั่งปรับครั้งแรก คณะกรรมการอาจมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ของผไู ดรบั ใบอนุญาตนนั้ ใหพ นักงานเจา หนาที่แจง คำสัง่ ดงั กลา วใหผ นู ั้นทราบโดยเร็ว มาตรา ๓๔/๑๒๔ เพื่อประโยชนในการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสตามหมวดนี้ ใหคณะกรรมการ สำนักงานหรือหนวยงานของรัฐซึ่งเปน ผรู ับผดิ ชอบในการควบคมุ ดูแลตามมาตรา ๓๒ วรรคสาม ประกาศกำหนดรายละเอียดเพมิ่ เติมใน เรื่องที่กำหนดไวในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓๒ ได โดยไมขัดหรือแยงกับพระราชกฤษฎีกา ดงั กลา ว มาตรา ๓๔/๒๒๕ เพื่อประโยชนในการควบคุมดูแลและกำกับการประกอบธุรกิจบริการ เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสใหเปนไปตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามพระราชกฤษฎีกา ตามมาตรา ๓๒ ใหพนักงานเจาหนาที่ของหนวยงานของรัฐหรือสำนักงานที่มีหนาที่ควบคุมดูแล การประกอบธรุ กิจบรกิ ารเกีย่ วกับธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกสนัน้ มีหนา ที่และอำนาจ ดังตอไปนี้ (๑) มีหนังสือแจงใหผูใหบริการหรือเจาหนาที่ของผูใหบริการ หรือบุคคลใดมาใหขอมูล หรอื สงเอกสารหรือหลกั ฐานใด ๆ เกีย่ วกับการประกอบธุรกิจการใหบ ริการนน้ั (๒) ตรวจสอบและรวบรวมขอเท็จจริงเพื่อรายงานตอคณะกรรมการ ในกรณีท่ี ผูใหบริการไดกระทำความผิดหรือทำใหเกิดความเสียหายเพราะเหตุฝาฝนหรือไมปฏิบัติตาม พระราชบัญญัตินี้หรือตามพระราชกฤษฎีกา ประกาศของคณะกรรมการ หรือเงื่อนไขใน ใบอนุญาต (๓) เขาไปในสถานที่ของผูใหบริการในระหวา งเวลาพระอาทิตยขึ้นจนถึงพระอาทิตยตก หรือในเวลาทำการของสถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบและรวบรวมขอเท็จจริง และยึดหรืออายัด ๒๔ มาตรา ๓๔/๑ เพ่มิ โดยพระราชบญั ญตั วิ า ดวยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ 45 ๒๕ มาตรา ๓๔/๒ เพมิ่ โดยพระราชบญั ญตั วิ า ดวยธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

๑๗ เอกสารและหลักฐาน รวมถึงสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวกับการใหบริการที่สงสัยวามีไวเพื่อใชหรือไดใช ในการกระทำความผิด ในการปฏบิ ตั หิ นา ที่ของพนักงานเจาหนาที่ตามมาตรานี้ ใหแสดงบัตรประจำตัวพนักงาน เจาหนาที่ที่หนวยงานของรัฐหรือสำนักงานที่มีหนาที่ควบคุมดูแลออกให และใหผูที่เกี่ยวของ อำนวยความสะดวกตามสมควร หมวด ๓/๑ ระบบการพสิ ูจนและยืนยนั ตัวตนทางดิจทิ ัล๒๖  มาตรา ๓๔/๓๒๗ การพิสูจนและยืนยันตัวตนของบุคคลอาจกระทำผานระบบการพิสูจน และยนื ยนั ตวั ตนทางดิจทิ ลั ได ผูใดประสงคจะอาศัยการพิสูจนและยืนยันตัวตนของบุคคลอื่นผานระบบการพิสูจนและ ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลอาจแจงเงื่อนไขเกี่ยวกับความนาเชื่อถือของการพิสูจนและยืนยันตัวตน ทางดิจิทัลทตี่ อ งใชใหบุคคลอน่ื น้นั ทราบเปนการลว งหนา และเมือ่ ไดมกี ารพสิ ูจนและยืนยันตัวตน ทางดิจิทัลตามเง่ือนไขดังกลาวแลว ใหสันนิษฐานวาบุคคลท่ีไดรบั การพสิ ูจนและยืนยันตัวตนเปน บุคคลนน้ั จรงิ เงื่อนไขเกี่ยวกับความนาเชื่อถือของการพิสูจนและยืนยันตัวตนทางดิจิทัลตามวรรคสอง ตองมีมาตรฐานไมต่ำกวาที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการตามมาตรา ๓๔/๔ วรรคสอง แลวแตกรณี ประกาศกำหนด โดยมีหลักประกันการเขาถึงและการใชประโยชนของประชาชน โดยสะดวกและไมเ ลอื กปฏบิ ตั ิ มาตรา ๓๔/๔๒๘ ในกรณีที่จำเปนเพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย หรือเพื่อประโยชนในการเสริมสรางความนาเชื่อถือและยอมรับในระบบการพิสูจนและยืนยันตัวตน ทางดจิ ทิ ัล หรือเพ่อื ปองกันความเสียหายแกสาธารณชน ใหมกี ารตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจนและยนื ยนั ตัวตนทางดิจิทลั ใดเปนการประกอบ ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ สที่ตองไดรับใบอนุญาตกอน และใหนำบทบัญญตั ิ ในหมวด ๓ ธุรกิจบริการเก่ยี วกบั ธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส มาใชบ งั คับโดยอนุโลม พระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่งอาจกำหนดใหมกี ารจัดต้ังคณะกรรมการขึ้นมาคณะหน่ึง เพื่อทำหนาที่ประกาศกำหนดหลักเกณฑที่ผูประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจนและ ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลจะตองปฏิบัติ และใหมีอำนาจพิจารณามีคำสั่งและดำเนินการอื่นใดตาม ๒๖ หมวด ๓/๑ ระบบการพิสูจนและยืนยนั ตัวตนทางดิจทิ ัล มาตรา ๓๔/๓ และมาตรา ๓๔/๔ เพม่ิ โดยพระราชบัญญตั ิ วาดวยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒๗ มาตรา ๓๔/๓ เพิ่มโดยพระราชบญั ญัตวิ าดวยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒๘ มาตรา ๓๔/๔ เพ่มิ โดยพระราชบญั ญตั วิ าดวยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 46

๑๘ มาตรา ๓๔ ในกรณีที่ผูไดรับใบอนุญาตฝาฝนหรือปฏิบัติไมถูกตองตามหลักเกณฑการประกอบ ธรุ กิจกไ็ ด หมวด ๔ ธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ สภาครัฐ  มาตรา ๓๕ คำขอ การอนุญาต การจดทะเบียน คำสั่งทางปกครอง การชำระเงิน การประกาศหรือการดำเนินการใด ๆ ตามกฎหมายกับหนวยงานของรัฐหรือโดยหนวยงานของรัฐ ถาไดกระทำในรูปของขอมูลอิเล็กทรอนิกสตามหลักเกณฑและวิธีการที่กำหนดโดย พระราชกฤษฎีกา ใหนำพระราชบัญญัตินี้มาใชบังคับและใหถือวามีผลโดยชอบดวยกฎหมาย เชนเดียวกับการดำเนินการตามหลักเกณฑและวิธีการที่กฎหมายในเรื่องนั้นกำหนด ทั้งนี้ ในพระราชกฤษฎีกาอาจกำหนดใหบุคคลที่เกี่ยวของตองกระทำหรืองดเวนกระทำการใด ๆ หรือ ใหห นวยงานของรฐั ออกระเบียบเพือ่ กำหนดรายละเอียดในบางกรณดี ว ยก็ได ในการออกพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่ง พระราชกฤษฎีกาดังกลาวอาจกำหนดให ผปู ระกอบธรุ กจิ บรกิ ารเกย่ี วกบั ธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกสต องแจงใหทราบ ตองขนึ้ ทะเบียน หรือ ตอ งไดรบั ใบอนญุ าต แลวแตกรณี กอนประกอบกจิ การก็ได ในกรณีนี้ ใหนำบทบญั ญตั ิในหมวด ๓ และบทกำหนดโทษท่เี กยี่ วของมาใชบ งั คับโดยอนุโลม เมื่อไดมีการตราพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่งแลว ศาลหรือองคกรตามรัฐธรรมนูญ อาจพิจารณานำหลักเกณฑในเรื่องใดที่กำหนดไวตามพระราชกฤษฎีกาดังกลาวมาใชบังคับแก การดำเนินการในสวนที่เกี่ยวกับกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีของศาลหรือในการวินิจฉัยชี้ขาด ขอพิพาทแลวแตกรณี เพื่อใหเปนไปตามความเหมาะสมกับหนาที่และอำนาจของตนตาม กฎหมายได รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑเพิ่มเตมิ ดวย ทั้งนี้ โดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา๒๙ หมวด ๕ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส  มาตรา ๓๖๓๐ ใหมีคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสคณะหนึ่ง ประกอบดวย ประธานกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแตงตั้งจากผูทรงคุณวุฒิ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมเปนรองประธานกรรมการ และกรรมการผูทรงคุณวุฒิอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแตงต้ัง จำนวนแปดคน ใหผูอำนวยการเปนกรรมการและเลขานุการ และแตงตั้งพนักงานของสำนักงานเปน ผูช ว ยเลขานกุ ารไดตามความจำเปนแตไ มเกนิ สองคน ๒๙ มาตรา ๓๕ วรรคสาม เพ่ิมโดยพระราชบญั ญตั วิ าดว ยธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓๐ มาตรา ๓๖ แกไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญัติวา ดว ยธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 47

๑๙ ประธานกรรมการและกรรมการผูทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่ง ตองเปนบุคคลที่มีความรู ความเชี่ยวชาญ และความสามารถเปนที่ประจักษดานการเงิน ดานการพาณิชยอิเล็กทรอนิกส ดานนิติศาสตร ดานวิทยาการคอมพิวเตอร ดานวิทยาศาสตรหรือวิศวกรรมศาสตร ดานสังคมศาสตร หรือดานอื่นใดที่เปนประโยชนตอการดำเนินงานของคณะกรรมการ ทั้งนี้ กรรมการผูทรงคุณวุฒิตองประกอบดวยบุคคลซึ่งมิใชขาราชการหรือผูปฏิบัติงานในหนวยงาน ของรัฐที่มีตำแหนงหรือเงินเดือนประจำรวมเปนกรรมการผูทรงคุณวุฒิดวยไมนอยกวากึ่งหน่ึง ของจำนวนกรรมการผทู รงคุณวุฒทิ ง้ั หมด หลักเกณฑและวิธีการไดมาซึ่งประธานกรรมการและกรรมการผูทรงคุณวุฒิ ใหเปนไป ตามระเบียบทร่ี ัฐมนตรีกำหนด มาตรา ๓๗๓๑ ใหคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสมีหนาที่และอำนาจ ดังตอ ไปน้ี (๑) พิจารณาใหความเห็นชอบแผนยุทธศาสตรเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ทสี่ ำนักงานเสนอตามมาตรา ๔๓ วรรคสอง (๒) สงเสริมและสนับสนุนหนวยงานของรัฐ เอกชน และประชาชนใหดำเนินกิจกรรม ตามแผนยทุ ธศาสตรตาม (๑) (๓) กำหนดมาตรฐานดานเทคโนโลยีดิจิทัลในสวนที่เกี่ยวของกับธุรกรรม ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส (๔) กำกับและติดตามการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตรตาม (๑) เพื่อรวบรวมขอมูล และปญหาเกยี่ วกับการทำธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ สท่สี งผลกระทบตอการดำเนนิ การและพัฒนา ทางเทคโนโลยีดจิ ิทลั เพ่อื เสนอตอคณะกรรมการดจิ ิทัลเพ่อื เศรษฐกจิ และสังคมแหง ชาติ (๕) เสนอแนะตอคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติและ คณะรัฐมนตรีในการจัดใหมีหรือปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวของกับการพัฒนาธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส และการคุมครองทรัพยสินทางปญญาเกี่ยวกับการทำธุรกรรม ทางอเิ ล็กทรอนิกส (๖) เสนอแนะหรือใหคำปรึกษาตอรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกาตาม พระราชบัญญัตินี้ (๗) ออกระเบียบหรือประกาศเพื่อใหเปนไปตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน ในการสงเสรมิ และสนับสนุนการทำธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (๘) กำกับดูแลการประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสตาม พระราชบัญญตั นิ ้ี (๙) ปฏิบัติการอืน่ ใดเพอื่ ใหเปน ไปตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ หรอื กฎหมายอืน่ ๓๑ มาตรา ๓๗ แกไ ขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญตั วิ าดว ยธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ 48 ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

๒๐ ในการปฏิบัติเพื่อใหเปนไปตามหนาที่และอำนาจตามวรรคหนึ่ง ใหคณะกรรมการ มีหนังสือเรียกหนวยงานของรัฐหรือบุคคลใดมาชี้แจง ใหขอเท็จจริง หรือมาใหถอยคำหรือ สงเอกสารหลกั ฐานที่เกี่ยวขอ งเพ่อื ประกอบการดำเนนิ งานได ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ใหคณะกรรมการเปนเจาพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๘๓๒ ประธานกรรมการและกรรมการผทู รงคณุ วฒุ ิมีวาระการดำรงตำแหนงส่ีป เมื่อครบกำหนดวาระตามวรรคหนึ่ง หากยังมิไดมีการแตงตั้งประธานกรรมการและ กรรมการผทู รงคณุ วุฒิข้ึนใหม ใหประธานกรรมการและกรรมการผทู รงคณุ วฒุ ิซึ่งพน จากตำแหนง ตามวาระนั้นอยูในตำแหนงเพื่อปฏิบัติหนาที่ตอไปจนกวาประธานกรรมการและ กรรมการผูทรงคุณวุฒิซึ่งไดรับแตงตั้งใหมเขารับหนาที่ แตตองไมเกินเกาสิบวันนับแตวันที่ ประธานกรรมการและกรรมการผทู รงคุณวฒุ ิพน จากตำแหนง ตามวาระนั้น มาตรา ๓๙๓๓ นอกจากการพนจากตำแหนง ตามวาระตามมาตรา ๓๘ ประธานกรรมการ และกรรมการผูท รงคุณวุฒิพน จากตำแหนง เมือ่ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะรัฐมนตรีใหออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพรองหรือไมสุจริต ตอ หนา ทีห่ รอื หยอ นความสามารถ (๔) เปนคนไรความสามารถหรือคนเสมือนไรค วามสามารถ (๕) ไดรับโทษจำคุกโดยตองคำพิพากษาถึงที่สดุ ใหจำคุก เวนแตเปนโทษสำหรับความผิด ท่ไี ดกระทำโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหโุ ทษ มาตรา ๔๐๓๔ ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการผูทรงคุณวุฒิพนจากตำแหนง กอนวาระ ใหคณะกรรมการประกอบดวยกรรมการเทาที่เหลืออยู และใหดำเนินการแตงตั้ง ประธานกรรมการหรือกรรมการผูทรงคุณวุฒิแทนตำแหนงที่วางภายในหกสิบวันนับแตวันที่ ตำแหนงวางลง เวนแตวาระของกรรมการเหลือไมถึงเกาสิบวัน และใหผูที่ไดรับแตงตั้งใหดำรง ตำแหนงแทนอยูใ นตำแหนงเทากับวาระทเี่ หลอื อยขู องผซู ึ่งตนแทน มาตรา ๔๑ การประชุมของคณะกรรมการตองมีกรรมการมาประชุมไมนอยกวากึง่ หน่ึง ของจำนวนกรรมการทง้ั หมดจงึ เปน องคป ระชุม ถาประธานกรรมการไมมาประชุมหรือไมอาจปฏิบัติหนาที่ได ใหคณะกรรมการเลือก กรรมการคนหน่ึงทำหนาทปี่ ระธานในท่ีประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมใหถือเสียงขางมาก กรรมการคนหนึ่งใหมีเสียงหน่ึง ในการลงคะแนน ถาคะแนนเสยี งเทากันใหป ระธานออกเสียงเพ่มิ ขนึ้ อีกเสยี งหนง่ึ เปน เสยี งชี้ขาด ๓๒ มาตรา ๓๘ แกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญตั ิวา ดว ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓๓ มาตรา ๓๙ แกไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั วิ า ดว ยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓๔ มาตรา ๔๐ แกไ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญัตวิ าดว ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ส�ำ นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook