หลักสูตร ค.บ. -บรรณารักษ์ฯ

93มคอ. 2 3.5 ดา้ นทกั ษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การส่อื สาร และการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 3.5.1 ผลการเรยี นรู้ด้านทักษะการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การสอื่ สาร และการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 1) มีทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ การสังเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเพื่อ เข้าใจองคค์ วามรู้ หรือประเด็นปัญหาทางการศึกษาได้อยา่ งรวดเร็วและถูกต้อง 2) ส่ือสารกับผู้เรียน พ่อแม่ผู้ปกครอง บุคคลในชุมชนและสังคม และผู้เกี่ยวข้องกลุ่มต่าง ๆ ได้ อย่างมีประสทิ ธิภาพโดยสามารถเลือกใช้การสื่อสารทางวาจา การเขียน หรือการนำเสนอด้วยรูปแบบตา่ ง ๆ โดย ใช้เทคโนโลยีและนวตั กรรมต่าง ๆ ทีเ่ หมาะสม 3) ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลหรือความรู้จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปท่ีจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ การทำงาน การประชุม การจดั การและสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศ รับและสง่ ข้อมูลและสารสนเทศโดยใช้ดุลยพนิ ิจท่ีดี ในการตรวจสอบความน่าเชือ่ ถือของข้อมูลและสารสนเทศ อีกท้งั ตระหนักถงึ การละเมิดลิขสิทธิ์และการลอก เลียนผลงาน 3.5.2 กลยุทธ์การสอนท่ีใช้ในการพัฒนาการเรยี นรู้ด้านทักษะการวิเคราะหเ์ ชิงตัวเลข การสือ่ สารและการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1) การติดตาม วิเคราะห์ และนำเสนอรายงานประเด็นสำคัญด้านการศึกษาจากข่าวสาร บนสื่อสังคมออนไลน์ 2) การสืบค้นและนำเสนอรายงานประเด็นสำคัญด้านการศึกษาโดยบูรณาการการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล 3) การจัดทำอินโฟกราฟิกเพื่อสรปุ ประเดน็ สาระสำคัญของงานท่ีนำเสนอ 4) การเรียนรู้โดยบูรณาการการปฏิบัติงานจริงในสถานศึกษา (Work-Integrated Learning: WIL) 5) การเข้าร่วมกิจกรรมเสรมิ ความเปน็ ครูโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.5.3 กลยุทธก์ ารประเมินผลการเรียนรู้ด้านทกั ษะการวิเคราะห์เชงิ ตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1) วัดและประเมินจากการติดตาม วิเคราะห์ และนำเสนอรายงานประเด็นสำคัญด้าน การศึกษา 2) วัดและประเมินจากผลการสืบค้นและนำเสนอรายงานประเด็นสำคัญการศึกษาที่มีการบูรณา การเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั 3) วดั และประเมนิ จากผลการปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศึกษา คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร 93

94มคอ. 2 4) วัดและประเมินจากผลการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมความเป็นครูโดยใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ 3.6 วธิ ีวทิ ยาการจดั การเรียนรู้ 3.6.1 ผลการเรียนรดู้ า้ นวธิ ีวทิ ยาการจดั การเรียนรู้ 1) สามารถเลือกใช้ปรัชญาตามความเชื่อในการสร้างหลักสูตรรายวิชา การออกแบบ เนื้อหาสาระ กิจกรรมการเรียนการสอน ส่ือและเทคโนโลยีการส่ือสาร การวัดและประเมินผู้เรียน การ บริหารจัดการช้ันเรียน การจัดการเรียนโดยใช้แหล่งการเรียนรู้ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน แหล่งการ เรียนรู้แบบเปิดได้อย่างเหมาะสมกบั สภาพบรบิ ทท่ตี า่ งกันของผู้เรียนและพืน้ ที่ 2) สามารถในการนำความรู้ทางจิตวิทยาไปใช้ในการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ออกแบบกจิ กรรม การจัดเน้ือหาสาระ การบริหารจัดการ และกลไกการช่วยเหลอื แก้ไขและส่งเสรมิ พัฒนา ผ้เู รียนที่ตอบสนองความต้องการ ความสนใจ ความถนดั และศักยภาพของผู้เรียนที่มคี วามแตกตา่ งระหว่าง บคุ คล ทง้ั ผู้เรยี นปกติและผเู้ รียนทีม่ ีความต้องการจำเปน็ พิเศษ หรือผูเ้ รยี นทมี่ ขี ้อจำกดั ทางกาย 3) จัดกิจกรรมและออกแบบการจัดการเรยี นรู้ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ เรยี นรู้ ผ่านการลงมือปฏิบัติและการทำงานในสถานการณ์จริง ส่งเสริมการพัฒนาการคิด การทำงาน การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น โดยบูรณาการการทำงานกับการเรียนรู้และ คุณธรรมจริยธรรม สามารถประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกัน แก้ไขปัญหา และพัฒนาด้วยความซ่ือสัตย์ สจุ รติ มีวินัยและรบั ผดิ ชอบต่อผู้เรยี นโดยยึดผเู้ รียนสำคญั ทสี่ ุด 4) สร้างบรรยากาศ และจัดสภาพแวดล้อม ส่ือการเรียน แหล่งวิทยาการ เทคโนโลยี วฒั นธรรมและภูมิปัญญาทั้งในและนอกสถานศึกษาเพ่ือการเรยี นรู้ มีความสามารถในการประสานงานและ สร้างความร่วมมือกับบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนทุกฝ่าย เพ่ืออำนวยความสะดวกและ ร่วมมอื กันพัฒนาผู้เรยี นให้มีความรอบรู้ มปี ัญญาร้คู ดิ และเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเน่ืองใหเ้ ตม็ ตามศักยภาพ 5) สามารถจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนมีทักษะศตวรรษ ท่ี 21 เช่น ทักษะการเรียนรู้ ทักษะการรู้เรือ่ ง ทักษะการคดิ ทักษะชีวิต ทักษะการทำงานแบบร่วมมอื ทักษะการใชภ้ าษาเพ่ือการส่ือสาร ทกั ษะเทคโนโลยี และการดำเนินชีวติ ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และสามารถนำทักษะเหล่าน้ีมาใช้ ในการจัดการเรยี นรูเ้ พอื่ พัฒนาผู้เรยี น และพัฒนาตนเอง 3.6.2 กลยุทธก์ ารสอนที่ใช้ในการพฒั นาด้านวิธวี ิทยาการจดั การเรียนรู้ 1) การเรยี นรโู้ ดยบรู ณาการการปฏิบัตงิ านจริงในสถานศึกษา (Work-integrated learning: WIL) 2) การออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการความรูใ้ นเน้ือหาวิชาเฉพาะผนวกวิธีสอน กบั เทคโนโลยี (Technological Pedagogical Content Knowledge: TPCK) 3) การทำวิจัยในช้นั เรียนเพอื่ พฒั นาการเรยี นรขู้ องผ้เู รียน คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร 94

95มคอ. 2 4) การเรียนรู้โดยบูรณาการการปฏิบัติงานจริงในสถานศึกษา (Work-Integrated Learning: WIL) 5) การเข้ารว่ มกิจกรรมเสรมิ ความเปน็ ครเู ปน็ รายปตี ลอดหลักสูตร 6) การเรียนรผู้ า่ นประสบการณ์ (Experience-Based Approach) 7) การเรยี นรเู้ ชงิ ผลติ ภาพ (Productive-based learning) 3.6.3 กลยทุ ธ์การประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นวิธีวทิ ยาการจัดการเรยี นรู้ 1) วัดและประเมนิ จากการฝกึ ทกั ษะจดั การเรียนรู้ในสถานการณจ์ ำลอง 2) วัดและประเมนิ จากผลการปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศกึ ษา 3) วดั และประเมนิ จากรายงานการทำวจิ ัยในชน้ั เรียน 4) วัดและประเมินจากผลการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมความเป็นครูเป็นรายปีตลอดหลักสูตร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร 95

ผงั แสดงการกระจายความรับผดิ ชอบมาตรฐา  ความรบั ผดิ ชอบหลกั รหัสวิชา ผลการเรียนรู้ 1. คุณธรรม จรยิ ธรรม 2. ความรู้ วิชาชีพครู รายวิชา 12341234 1001105 1001120 จติ วทิ ยาสำหรับครู ⚫ ⚫ 1001121 หลักสูตรและการจดั การเรียนรู้ ⚫ ⚫ ⚫ 1001202 ปฏบิ ัตกิ ารหลักสตู รและการจัดการเรยี นรู้ ⚫ ⚫ ⚫ 1001203 ภาษาไทยเพอื่ การส่อื สารสำหรับครู ⚫⚫⚫ ⚫ ⚫ 1001204 ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสารสำหรับครู  ⚫  ⚫  ⚫ นวตั กรรมและเทคโนโลยดี ิจิทัลเพอื่  ⚫  ⚫ 1001205 การศกึ ษา การประเมินการเรียนรู้และการประกัน ⚫ ⚫ ⚫ 1001206 คณุ ภาพการศึกษา 1001208 การวจิ ยั เพื่อพัฒนาการเรียนรู้  ⚫  ⚫  การเปล่ียนบริบทของโลกและกฎหมาย ทางการศึกษา ⚫  ⚫  ⚫  คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

96มคอ. 2 านผลการเรยี นรู้จากหลักสูตรสูร่ ายวิชาเฉพาะ  ความรบั ผดิ ชอบรอง 3. ทกั ษะทาง 4. ทักษะความสมั พนั ธ์ 5 ทักษะ 6. วิธีวิทยาการจดั การเรยี นรู้ ปัญญา ระหว่างบคุ คล และ การวิเคราะหเ์ ชิง ความรบั ผิดชอบ ตัวเลข การ สอื่ สารและการ ใชเ้ ทคโนโลยี 5123123412312345 ⚫⚫⚫ ⚫  ⚫  ⚫  ⚫  ⚫ ⚫ ⚫ ⚫⚫⚫ ⚫ ⚫ ⚫ ⚫ ⚫⚫⚫ ⚫ ⚫⚫⚫⚫ ⚫ ⚫⚫⚫ ⚫⚫ ⚫ ⚫ ⚫⚫⚫⚫ ⚫ ⚫ ⚫ ⚫  ⚫  ⚫  ⚫  ⚫  ⚫⚫⚫ ⚫⚫⚫ 96

ผงั แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐา  ความรับผิดชอบหลัก รหัสวิชา ผลการเรียนรู้ 1. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 2. ความรู้ รายวชิ า 12341234 วิชาปฏิบตั ิการสอนในสถานศกึ ษา ⚫⚫ ⚫ ⚫ 1001301 การฝึกปฏบิ ตั ิวิชาชีพระหว่างเรยี น 1 ⚫ ⚫⚫ ⚫ ⚫ (เรียนรู้งานคร)ู ⚫ ⚫⚫ ⚫ ⚫⚫ ⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫ 1001302 การฝึกปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรียน 2 (ฝกึ ปฏิบตั ิงานผู้ช่วยครู) 1001303 การฝึกปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ระหว่างเรยี น 3 (ฝึกปฏิบัติการจัดการเรยี นรู้) 1001304 การปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษาใน สาขาวชิ าเฉพาะ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร

97มคอ. 2 านผลการเรียนร้จู ากหลกั สตู รสรู่ ายวิชาเฉพาะ  ความรับผิดชอบรอง 3. ทักษะทาง 4. ทกั ษะความสมั พันธ์ 5 ทกั ษะ 6. วธิ วี ทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ปญั ญา ระหว่างบุคคล และ การวเิ คราะห์เชงิ ความรบั ผิดชอบ ตวั เลข การ สื่อสารและการ ใช้เทคโนโลยี 5123123412312345 ⚫⚫⚫⚫ ⚫ ⚫ ⚫⚫ ⚫ ⚫⚫⚫ ⚫ ⚫ ⚫⚫ ⚫ ⚫⚫ ⚫⚫ ⚫ ⚫ ⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫ 97

ผังแสดงการกระจายความรับผดิ ชอบมาตรฐา  ความรับผิดชอบหล รหัสวิชา ผลการเรียนรู้ 1. คณุ ธรรม จริยธรรม 2. ความรู้ รายวิชา 12341 234 กลุม่ วชิ าเอกเดี่ยว (วิชาเอกบังคับ) 1161101 บรรณารักษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์   เบอ้ื งต้น     1161201 ห้องสมดุ โรงเรียน     1161202 หอ้ งสมดุ ดจิ ิทัล     1161401 ภาษาอังกฤษสำหรับครูบรรณารักษ์     1161501 เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานสารสนเทศ     1162401 การจดั หมู่ระบบทศนิยมดวิ อ้ี     1162402 การทำรายการทรพั ยากรสารสนเทศ     1162403 การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ     1162404 การบรกิ ารสารสนเทศและแหลง่ สารสนเทศ     1162407 การจัดการหอ้ งสมุดและศูนย์สารสนทศ 1163401 การสอนและการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้     สารสนเทศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร

98มคอ. 2 านผลการเรียนรูจ้ ากหลกั สตู รสู่รายวชิ าเฉพาะ ลกั  ความรับผิดชอบ 3. ทักษะทาง 4. ทักษะความสมั พนั ธ์ 5 ทกั ษะการ 6. วิธีวทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ปัญญา ระหว่างบุคคล และ วิเคราะห์เชงิ 1 2345 ความรบั ผดิ ชอบ ตัวเลข การ 51 2 3 สื่อสารและการ 1 234 ใชเ้ ทคโนโลยี 123                                                                                                    98

ผังแสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐา  ความรบั ผิดชอบหล รหัสวชิ า ผลการเรียนรู้ 1. คุณธรรม จริยธรรม 2. ความรู้ รายวชิ า 12341 234 1163402 การออกแบบฐานข้อมลู และการออกแบบเวบ็ ไซต์         1163404 การจัดการสารสนเทศและสื่อดิจทิ ัล   1163901 การวิจยั ทางบรรณารกั ษศาสตรแ์ ละ   สารสนเทศศาสตร์ กลมุ่ วชิ าเอกเดี่ยว (วชิ าเอกเลือก) 1161102 วรรณกรรมเบ้ืองตน้      1161103 วรรณกรรมสำหรับเดก็ และเยาวชน      1161203 หอ้ งสมุดมชี ีวิต      1161301 การจัดการความรทู้ างบรรณารักษศาสตรแ์ ละ   สารสนเทศศาสตร์ 1161502 โปรแกรมประยกุ ต์โอเพนซอร์สและคลาวด์      คอมพวิ ติ้ง 1161701 จรยิ ธรรมและกฎหมายสำหรบั วชิ าชีพ      บรรณารกั ษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์ 1162101 การศึกษาพฤติกรรมและความตอ้ งการของ      ผใู้ ช้ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร

99มคอ. 2 านผลการเรียนรู้จากหลกั สตู รสู่รายวิชาเฉพาะ ลัก  ความรับผิดชอบ 3. ทกั ษะทาง 4. ทักษะความสัมพนั ธ์ 5 ทกั ษะการ 6. วธิ วี ทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ปัญญา ระหว่างบคุ คล และ วเิ คราะหเ์ ชงิ ความรับผดิ ชอบ ตวั เลข การ สอื่ สารและการ ใชเ้ ทคโนโลยี 51 2 3 1 2 3 4 1 2 3 1 2 3 4 5                                                                                                                99

ผงั แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐา  ความรับผิดชอบหล รหสั วชิ า ผลการเรียนรู้ 1. คณุ ธรรม จริยธรรม 2. ความรู้ 1162201 รายวิชา 1234 1 2 3 4 1162405 การตลาดดิจิทัลเพ่ืองานบรกิ ารสารสนเทศ      1162406 การจัดหมู่ระบบหอสมดุ รัฐสภาอเมรกิ ัน      1163403 การจดั เกบ็ และสืบคน้ สารสนเทศ      1163405 การอา่ นและกิจกรรมสง่ เสริมการอา่ น      การสงวนรกั ษาและการอนรุ ักษ์ทรัพยากร 1163406 สารสนเทศ      1163407 การจัดการสารสนเทศทอ้ งถ่ิน 1163408 การทำรายการทรัพยากรสารสนเทศขน้ั สงู      การจัดการเอกสาร จดหมายเหตุ      1163409 และพพิ ธิ ภัณฑ์ 1163902 การพฒั นาสอ่ื และนวตั กรรมการเรยี นรู้      สมั มนาทางบรรณารักษศาสตร์และ สารสนเทศศาสตร์        คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร

100มคอ. 2 านผลการเรยี นรู้จากหลกั สูตรสู่รายวชิ าเฉพาะ ลัก  ความรับผิดชอบ 3. ทักษะทาง 4. ทักษะความสมั พนั ธ์ 5 ทักษะการ 6. วธิ ีวทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ปญั ญา ระหว่างบุคคล และ วเิ คราะหเ์ ชงิ ความรับผดิ ชอบ ตวั เลข การ ส่อื สารและการ ใช้เทคโนโลยี 51 2 3 1 2 3 4 1 2 3 1 2 3 4 5                                                                                           100

ผงั แสดงการกระจายความรับผดิ ชอบมาตรฐา  ความรับผิดชอบหล รหสั วิชา ผลการเรียนรู้ 1. คุณธรรม จริยธรรม 2. ความรู้ รายวชิ า 1234 1 2 3 4 กลุ่มวชิ าเอก – โท (วิชาเอก) 1161101 บรรณารกั ษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์      เบอื้ งตน้ 1161201 หอ้ งสมุดโรงเรียน      1161202 ห้องสมดุ ดิจทิ ัล      1161401 ภาษาองั กฤษสำหรับครูบรรณารกั ษ์      1161501 เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานสารสนเทศ         1162401 การจัดหมู่ระบบทศนยิ มดวิ อี้      1162402 การทำรายการทรัพยากรสารสนเทศ      1162403 การจดั การทรัพยากรสารสนเทศ      1162404 การบริการสารสนเทศและแหล่งสารสนเทศ         1162407 การจดั การหอ้ งสมดุ และศนู ยส์ ารสนทศ         1163401 การสอนและการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้      สารสนเทศ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร

101มคอ. 2 านผลการเรียนร้จู ากหลกั สตู รสู่รายวิชาเฉพาะ ลัก  ความรบั ผิดชอบ 3. ทักษะทาง 4. ทกั ษะความสัมพันธ์ 5 ทักษะการ 6. วธิ วี ทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ปัญญา ระหว่างบคุ คล และ วิเคราะห์เชงิ 1234 5 ความรับผิดชอบ ตัวเลข การ 51 2 3 สอื่ สารและการ 1 234 ใช้เทคโนโลยี 12 3                                                                                                    101

ผงั แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐา  ความรับผิดชอบหล รหสั วิชา ผลการเรยี นรู้ 1. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 2. ความรู้ รายวชิ า 12341 234 1163402 การออกแบบฐานขอ้ มูลและการออกแบบเวบ็ ไซต์         1163404 1163901 การจัดการสารสนเทศและสื่อดจิ ทิ ลั      การวจิ ยั ทางบรรณารักษศาสตรแ์ ละ      สารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร

102มคอ. 2 านผลการเรยี นรจู้ ากหลักสตู รสู่รายวชิ าเฉพาะ ลัก  ความรบั ผิดชอบ 3. ทกั ษะทาง 4. ทักษะความสมั พันธ์ 5 ทักษะการ 6. วธิ ีวทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ปญั ญา ระหว่างบุคคล และ วเิ คราะห์เชงิ ความรับผิดชอบ ตวั เลข การ สอ่ื สารและการ ใชเ้ ทคโนโลยี 51 2 3 1 2 3 4 1 2 3 1 2 3 4 5                                   102

103มคอ. 2 4. ความคาดหวังของผลลัพธก์ ารเรยี นรู้เมอ่ื สน้ิ ปกี ารศกึ ษา ช้ันปีที่ รายละเอยี ด 1 นักศึกษามีความรู้เก่ียวกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎี เน้ือหาสาระบรรณารักษศาสตร์และ สารสนเทศศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการห้องสมุดโรงเรียน มีความรับผิดชอบต่อ ตนเองและสังคม ความสามารถทางดา้ นการส่อื สาร 2 นักศึกษามีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ค้นคว้า แก้ปัญหา มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรู้ ในงานวิชาชีพครู เรียนรู้ระบบการจัดการทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด เลือกใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในการจดั การและการบริการทรพั ยากรสารสนเทศ มีทักษะสืบค้นขอ้ มลู 3 นักศึกษามีความรู้และความสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสอน มีความรู้ใน กระบวนการดำเนินงานของโรงเรียน คดิ วิเคราะหแ์ ละแก้ปญั หาไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ เป็นผูช้ ่วยใน การปฏิบัติงานในโรงเรียน จัดกิจกรรมของห้องสมุด การสงวนรักษาและอนุรักษ์ทรัพยากร สารสนเทศ ความสามารถในการวิจัย 4 นักศึกษามีความเป็นครู เข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของตนเอง สามารถจัดการเรียนการสอน ส่ือสารด้วยการพูด ฟัง อ่าน เขียน สามารถสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการและวิชาชีพ นำเสนอ ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีทัศนคติที่เปิดกว้างยอมรับแนวคิดของผู้อ่ืน สามารถแสดง ความคดิ อย่างมเี หตผุ ล มคี วามรอบร้ใู นการประกอบวชิ าชพี คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร 103

104มคอ. 2 หมวดที่ 5 หลักเกณฑใ์ นการประเมนิ ผลนกั ศกึ ษา 1. กฎระเบียบหรือหลกั เกณฑ์ในการใหร้ ะดบั คะแนน (เกรด) การวัดผล ให้เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับ อนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาตรี (ต่อเนอ่ื ง) พ.ศ. 2548 (แสดงในภาคผนวก 2) 2. กระบวนการทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธิ์ของนักศึกษา 2.1 การทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรู้ขณะนักศึกษายงั ไม่สำเรจ็ การศึกษา ให้กำหนดระบบการทวนสอบผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้ของนักศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของระบบ การประกันคุณภาพภายในของสถาบันอุดมศึกษาที่จะต้องทำความเข้าใจตรงกันท้ังสถาบัน และนำไป ดำเนนิ การจนบรรลผุ ลสัมฤทธิ์ ซงึ่ ผปู้ ระเมินภายนอกจะตอ้ งสามารถตรวจสอบได้ การทวนสอบในระดับรายวิชาควรให้นักศึกษาประเมินการเรียนการสอนในระดับรายวิชา มีคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมของข้อสอบให้เป็นไปตามแผนการสอน มีการประเมินข้อสอบโดย ผทู้ รงคณุ วุฒภิ ายนอก การทวนสอบในระดับหลักสูตรสามารถทำได้โดยมีระบบประกันคุณ ภาพภายใน สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรแู้ ละรายงานผล 2.2 การทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรู้หลงั จากนักศกึ ษาสำเรจ็ การศกึ ษา การกำหนดกลวิธีการทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรู้ของนักศึกษา ควรเน้นการทำวิจัย สัมฤทธิผลของการประกอบอาชีพของบัณฑิต ที่ทำอย่างต่อเน่ืองและนำผลวิจัยท่ีได้ย้อนกลับมาปรับปรุง กระบวนการการเรียนการสอน และหลักสูตรแบบครบวงจร รวมท้ังการประเมินคุณภาพของหลักสูตรและ หนว่ ยงานโดยองค์กรระดบั สากล โดยการวิจัยอาจจะดำเนนิ การดังตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้ 2.2.1 ภาวะการมีงานทำของบัณฑิต ประเมินจากบัณฑิตแต่ละรุ่นท่ีจบการศึกษา ในด้าน ของระยะเวลาในการหางานทำ ความเห็นต่อความรู้ ความสามารถ ความม่ันใจของบัณฑิตในการประกอบ การงานอาชพี 2.2.2 การตรวจสอบจากผู้ประกอบการ โดยการขอสัมภาษณ์หรือการส่งแบบสอบ ถาม เพ่ือประเมินความพึงพอใจในบัณฑิตที่จบการศึกษาและเข้าทำงานในสถานประกอบการน้ัน ๆ ในคาบ ระยะเวลาตา่ ง ๆ เช่น ปที ่ี 1 ปีที่ 5 เป็นต้น 2.2.3 การประเมนิ ตำแหนง่ และหรอื ความก้าวหนา้ ในสายงานของบัณฑิต 2.2.4 การประเมินจากสถานศกึ ษาอ่นื โดยการสง่ แบบสอบถาม หรอื สอบถามเมอ่ื มีโอกาส ในระดับความพึงพอใจในด้านความรู้ ความพร้อม และสมบัติด้านอ่ืน ๆ ของบัณฑิตจะจบการศึกษาและ เข้าศึกษาเพ่ือปรญิ ญาที่สูงขน้ึ ในสถานศกึ ษานนั้ ๆ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร 104

105มคอ. 2 2.2.5 การประเมินจากศิษย์เก่าที่ไปประกอบอาชีพ ในแง่ของความพร้อมและความรู้ จากสาขาวชิ าทีเ่ รียน รวมทั้งสาขาอื่น ๆ ทก่ี ำหนดในหลักสตู ร ทีเ่ ก่ียวเน่ืองกับการประกอบอาชีพของบัณฑิต รวมทั้งเปิดโอกาสให้เสนอข้อคิดเห็นในการปรับหลักสูตรให้ดียิง่ ขน้ึ ด้วย 2.2.6 ความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกท่ีมาประเมินหลักสูตร หรือเป็นอาจารย์พิเศษ ต่อความพร้อมของนักศึกษาในการเรียนและคุณสมบัติอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาองค์ความรู้ของนักศึกษาผลงานของนักศึกษาท่ีวัดเป็นรูปธรรมได้อาทิ (1) จำนวนผล การศึกษาค้นคว้าอิสระ/กรณีศึกษา (2) จำนวนรางวัลทางสังคมและวิชาชีพ (3) จำนวนกิจกรรมการกุศล เพื่อสังคมและประเทศชาติ (4) จำนวนกิจกรรมอาสาสมคั รในองคก์ รทท่ี ำประโยชน์ตอ่ สงั คม 3. เกณฑก์ ารสำเรจ็ การศกึ ษาตามหลกั สตู ร การขอรับและอนุมตั ิปรญิ ญาหรอื อนุปริญญา 1 นักศึกษาท่ีจะมีสิทธิ์ขอรับปริญญาหรืออนุปริญญา ต้องศึกษารายวิชาต่าง ๆ ครบถ้วน และผ่าน เกณฑ์อื่นตามข้อกำหนดและระเบียบของมหาวิทยาลัย โดยมีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป และมีเวลาศึกษาในมหาวิทยาลัยตามจำนวนปีที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ท้ังน้ียกเว้นผู้ได้รับ การเทยี บโอนรายวิชา 2 นักศึกษาที่เรยี นครบตามหลักสตู ร ในระดับปริญญาตรี และผา่ นเกณฑ์ตามข้อกำหนดและ ระเบียบของมหาวิทยาลัย แต่ได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสมต่ำกว่า 2.00 อาจขอรับอนุปรญิ ญาได้ ทง้ั นี้ ตอ้ งไดค้ า่ ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมสูงกวา่ 1.80 3 ให้นักศึกษายื่นคำร้องแสดงความจำนงขอรับปริญญาหรืออนุปริญญาต่ออาจารย์ที่ปรึกษาและคณบดี ตามลำดับภายใน 30 วัน นับแต่วันเปิดเรียนของภาคการศึกษาสุดท้ายที่นักศึกษาคาดว่าจะสอบได้หน่วย กิตครบถว้ นตามหลักสตู ร 4 นักศึกษาจะต้องชำระหน้ีสินท้ังหมดท่ีมีต่อมหาวิทยาลัยให้เรียบร้อยเสร็จส้ินก่อน จึงจะได้รบั การ เสนอช่อื เพอ่ื ขอรับปริญญาหรืออนุปรญิ ญา 5 นักศึกษาที่สมควรได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับปริญญาหรืออนุปริญญา จะต้องเป็นผู้ท่ีมีความ ประพฤติทีไ่ มข่ ัดตอ่ ระเบียบของมหาวทิ ยาลยั และวินยั ของนกั ศกึ ษา 6 สภามหาวิทยาลยั เป็นผ้พู จิ ารณาอนุมัติปรญิ ญาหรืออนุปริญญา การใหป้ ริญญาเกียรตินยิ ม 1 คณุ สมบัติดา้ นการศึกษาของนักศึกษาที่มสี ิทธไิ์ ด้รับปรญิ ญาเกียรตนิ ิยม 1.1 สอบไดร้ ายวิชาเฉพาะดา้ น ไมต่ ่ำกว่า “C” ตามระบบค่าระดับคะแนน หรือไม่ได้ “F” ตาม ระบบไม่มีค่าระดบั คะแนน 1.2 สอบได้รายวิชาในหมวดวิชาอ่ืน ๆไม่ต่ำกว่า “C” และอาจได้รับผลการประเมินบาง รายวชิ าในระดบั คะแนน “D” ไดไ้ มเ่ กนิ 2 รายวชิ า คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร 105

106มคอ. 2 1.3 ไม่เคยเรยี นซ้ำรายวิชาใดเพือ่ เปลย่ี นค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสม 1.4 ไม่เคยเรียนซ้ำเพื่อนับหน่วยกิตในรายวิชาที่ได้ลงทะเบียนเรียนโดยไม่นับหน่วยกิต (Audit) มาก่อน 1.5 ได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.60 ขึ้นไป สำหรับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้ค่า ระดับคะแนนเฉล่ียสะสม 3.25 ข้ึนไป สำหรับเกียรตินิยมอนั ดบั สอง กรณีศึกษาในระดับปริญญาตรี (ต่อเน่ือง) ต้องได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียตามเกณฑ์ใน วรรคแรกทัง้ ในระดบั อนปุ ริญญาหรือเทยี บเทา่ และในระดบั ปริญญาตรี(ต่อเน่ือง) 1.6 เรียนจบภายในกำหนดเวลาไม่เกินจำนวนปีท่ีระบุไว้ในหลักสูตรนักศึกษาภาคปกติที่ ลงทะเบียนเรียนภาคฤดูร้อนตอ่ จากภาคการศกึ ษาสุดท้ายของหลักสตู ร ไมม่ สี ิทธไิ์ ดร้ บั เกียรตนิ ิยม 2 คุณสมบัติด้านคุณธรรม จริยธรรม นักศึกษาท่ีจะได้รับปริญญาเกียรตินิยมจะต้องเป็นผู้มีความ ประพฤตดิ ี และไมเ่ คยถกู ลงโทษทางวินัยตลอดระยะเวลาที่ศึกษาในมหาวทิ ยาลยั รางวลั การเรยี นดี นักศึกษาที่มีสทิ ธิ์ได้รับรางวัลการเรียนดี จะต้องมีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสูงสุดแต่ละสาขาวิชา ท้ังนี้ ต้องมีคะแนนเฉล่ียสะสมไม่ต่ำกว่า 3.60 และต้องมีคุณสมบัตติ ามขอ้ 28.2 คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร 106

107มคอ. 2 หมวดที่ 6 การพัฒนาคณาจารย์ 1. การเตรียมการสำหรับอาจารย์ใหม่ 1.1 มีการปฐมนิเทศแนะแนวการเป็นครูแก่อาจารย์ใหม่ ให้มีความรู้และเข้าใจนโยบาย ของมหาวิทยาลยั คณะตลอดจนหลักสตู รท่ีสอน 1.2 ส่งเสริมอาจารย์ให้มีการเพิ่มพูนความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์เพื่อส่งเสริมการสอนและ การวิจัยอย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนด้านการศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงานทางวิชาการและวิชาชีพในองค์กร ตา่ ง ๆ การประชุมทางวชิ าการทัง้ ในประเทศและ/หรือต่างประเทศ หรือการลาเพอ่ื เพิ่มพนู ประสบการณ์ 2. การพฒั นาความรูแ้ ละทักษะใหแ้ ก่คณาจารย์ แผนพฒั นาบคุ ลากรสาขาวชิ าบรรณารักษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์ ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567 ปี 2568 ปี 2569 1. การพัฒนาเพอ่ื เขา้ สู่ 1. การพฒั นาเพื่อเขา้ สู่ 1. การพฒั นาเพื่อเขา้ สู่ 1. การพฒั นาเพ่ือเขา้ สู่ 1. การพัฒนาเพ่ือเขา้ สู่ ตำแหน่งทางวชิ าการ ตำแหน่งทางวชิ าการ ตำแหนง่ ทางวิชาการ ตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหนง่ ทางวิชาการ 1.1 การอบรม ความสามารถในการ - การอบรม - การอบรม - การอบรม - การอบรม จัดทำผลงานวิชาการที่ได้ คณุ ภาพทางวิชาการเพอ่ื ความสามารถในการ ความสามารถในการ ความสามารถในการ ความสามารถในการ เข้าสูต่ ำแหนง่ วชิ าการ ผศ. (1 คน) จดั ทำผลงานวชิ าการที่ จดั ทำผลงานวิชาการที่ จดั ทำผลงานวิชาการที่ จัดทำผลงานวชิ าการทีไ่ ด้ 1.2 การอบรมการ ได้คุณภาพทางวชิ าการ ไดค้ ณุ ภาพทางวชิ าการ ไดค้ ุณภาพทางวิชาการ คณุ ภาพทางวชิ าการเพือ่ วจิ ยั เพอื่ ให้อาจารยม์ ี ความสามารถในการ เพ่อื เข้าสตู่ ำแหนง่ เพอ่ื เข้าสูต่ ำแหน่ง เพอ่ื เข้าสตู่ ำแหนง่ เข้าสตู่ ำแหน่งวิชาการ จดั ทำผลงานวจิ ยั ทม่ี ี ประโยชน์และขอเขา้ สู่ วชิ าการ ผศ. (2 คน) วิชาการ ผศ. (2 คน) วชิ าการ ผศ. (1 คน) รศ. (2 คน) ตำแหน่งวิชาการ รศ. (2 คน) 2. การพฒั นาเพ่ือเพมิ่ 2. การพัฒนาเพอ่ื เพิม่ 2. การพฒั นาเพือ่ เพิ่ม 2. การพฒั นาเพื่อเพิ่ม คณุ วฒุ ทิ ้งั ในประเทศ คณุ วุฒิทั้งในประเทศ คุณวฒุ ิทัง้ ในประเทศ คณุ วฒุ ทิ งั้ ในประเทศและ 2. การพฒั นาเพ่อื เพิม่ และต่างประเทศ และต่างประเทศ และต่างประเทศ ตา่ งประเทศ คุณวุฒิท้งั ในประเทศและ ตา่ งประเทศ - ระดบั ปริญญาเอก - ระดับปรญิ ญาเอก - ระดบั ปริญญาเอก - ระดบั ปรญิ ญาเอก ( - คน) (1 คน) (2 คน) (2 คน) - ระดับปรญิ ญาเอก (2 คน) คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร 107

108มคอ. 2 ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567 ปี 2568 ปี 2569 3. การอบรมความรูเ้ พอื่ 3. การอบรมเชิง 3.การอบรมความรเู้ พอ่ื 3. อบรมความรู้ด้าน 3. อบรมความรูแ้ ละ พฒั นาประมวลการสอน ปฏิบัตกิ ารจัดทำ ผลิตเอกสาร เทคโนโลยีสารสนเทศ ศึกษาดูงานใน ตามแบบ มคอ. ตา่ ง ๆ ประมวลการสอนตาม ประกอบการสอน ตำรา และการจดั ทำสื่อ สถาบนั การศึกษาท่ีมแี นว แบบ มคอ. หนังสอื e-Learning และเวบ็ ไซด์ ปฏิบัติท่ดี ีเพ่ือปรบั ปรุง 4. อบรมความรู้ ของสาขาวชิ า และพฒั นากระบวนการ ภาษาตา่ งประเทศเพื่อ 4. อบรมความรู้ 4. อบรมความรู้ บรรณารกั ษศาสตร์และ เรยี นการสอน การศึกษาตอ่ ระดับ ภาษาตา่ งประเทศเพือ่ ภาษาตา่ งประเทศเพื่อ สารสนเทศศาสตร์ ปรญิ ญาเอกและจัดทำ การศึกษาต่อระดบั การศกึ ษาต่อระดับ 4. อบรมความรู้ 4. อบรมความรู้ ผลงานวิชาการ ปรญิ ญาเอกและจดั ทำ ปริญญาเอกและจัดทำ ภาษาตา่ งประเทศเพอ่ื ภาษาตา่ งประเทศเพอ่ื (ภาษาองั กฤษและภาษา ผลงานวชิ าการ ผลงานวิชาการ การศกึ ษาต่อระดับ การศึกษาต่อระดับ อาเซยี น) (ภาษาองั กฤษและภาษา (ภาษาอังกฤษและภาษา ปริญญาเอกและจัดทำ ปริญญาเอกและจดั ทำ 5. การศกึ ษาดูงานหรอื อาเซยี น) อาเซียน) ผลงานวิชาการ ผลงานวชิ าการ ความรว่ มมือทาง 5. การศึกษาดูงานหรอื 5. การศกึ ษาดงู านหรอื (ภาษาองั กฤษและภาษา (ภาษาอังกฤษและภาษา วิชาการกบั ความรว่ มมือทาง ความรว่ มมือทาง อาเซียน) อาเซยี น) สถาบนั การศึกษาอนื่ ทมี่ ี วชิ าการกบั วิชาการกบั 5. การศึกษาดงู านหรอื การศึกษาสาขาวิชา สถาบนั การศกึ ษาอ่นื ทม่ี ี สถาบนั การศึกษาอน่ื ทีม่ ี 5. การศึกษาดูงานหรอื ความร่วมมือทางวิชาการ บรรณารักษศาสตร์และ การศึกษาสาขาวิชา การศกึ ษาสาขาวชิ า ความรว่ มมอื ทางวิชาการ กับสถาบันการศกึ ษาอืน่ สารสนเทศศาสตร์เพื่อ บรรณารกั ษศาสตร์และ บรรณารกั ษศาสตร์และ กับสถาบันการศึกษาอ่นื ที่มกี ารศกึ ษาสาขาวชิ า เพม่ิ พูนศักยภาพดา้ น สารสนเทศศาสตร์เพอ่ื สารสนเทศศาสตร์ เพอ่ื ที่มกี ารศึกษาสาขาวชิ า บรรณารักษศาสตรแ์ ละ วชิ าชีพทั้งในและ เพ่ิมพนู ศกั ยภาพด้าน เพม่ิ พนู ศักยภาพดา้ น บรรณารกั ษศาสตร์และ สารสนเทศศาสตร์เพ่ือ ต่างประเทศ วิชาชีพท้ังในและ วชิ าชีพทง้ั ในและ สารสนเทศศาสตร์เพอื่ เพิ่มพูนศักยภาพด้าน ต่างประเทศ ตา่ งประเทศ เพ่มิ พนู ศักยภาพดา้ น วิชาชพี ท้ังในและ วชิ าชพี ทงั้ ในและ ตา่ งประเทศ ต่างประเทศ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร 108

109มคอ. 2 หมวดที่ 7 การประกนั คณุ ภาพหลกั สตู ร 1. การกำกับมาตรฐาน 1.1 กำกับมาตรฐานให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรีสาขาครุศาสตรและสาขา ศึกษาศาสตร์ (หลักสูตรส่ีปี) พ.ศ. 2562 และข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2562 1.2 มอี าจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลักสูตร จำนวน 5 คน และไมเ่ ปน็ อาจารยป์ ระจำหลักสตู รอื่น พรอ้ มท้ัง ประจำหลกั สตู รตลอดระยะเวลาทจ่ี ัดการศึกษา 1.3 มีอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรท่ีมีคุณวุฒิระดับต้ังแต่ปริญญาโท หรือตำแหน่งทางวิชาการ ตั้งแต่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในสาขาท่ีตรงหรือสัมพันธ์และต้องมีผลงานทางวิชาการที่ไม่ใช่ส่วนหน่ึงของ การศึกษาเพ่ือรับปริญญา และเป็นผลงานทางวิชาการท่ีได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในการ พิจารณาแต่งต้ังใหบ้ ุคคลดำรงตำแหน่งทางวชิ าการอย่างน้อย 1 รายการ ในรอบ 5 ปยี ้อนหลัง 2. บัณฑติ ผลิตบัณฑิตให้มีคุณสมบัติ ดังนี้ 2.1 มีความรู้ความสามารถทักษะในการประกอบวิชาชีพครู ตามมาตรฐานวิชาชีพครูและสามารถ วิเคราะหป์ ญั หา วางแผน แกป้ ัญหาได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 2.2 มีความรูค้ วามสามารถในการจดั การเรยี นการสอนภาษาอังกฤษและทกั ษะภาษาอังกฤษ 2.3 มคี วามรัก ศรัทธา ภูมิใจในวชิ าชีพครแู ละมีจรรยาบรรณของวิชาชีพครู 2.4 มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มคี วามเมตตา กรุณา ตอ่ ผู้เรยี น 2.5 มีจติ สำนึกในการพัฒนาตนเอง สังคม มีจิตใจเป็นประชาธิปไตย สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 2.6 มบี ุคลกิ ภาพเหมาะสมทปี่ ระกอบวิชาชพี ครูมีความประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอย่างทด่ี ี 2.7 มีความใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น กระตือรือร้น แสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองและสามารถ นำความรู้ท่ไี ด้รับไปประยุกต์ใชใ้ นการจดั ประสบการณใ์ หแ้ กผ่ ู้เรียนได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 2.8 มีความสามารถในการใช้ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ เพื่อสื่อสารได้อย่างดีและสามารถใช้ส่ือ เทคโนโลยีต่าง ๆ ท่มี คี วามทันสมยั 2.9 สามารถผลิตส่ือ วัสดทุ างการศึกษาเพอ่ื สง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรไู้ ดเ้ ป็นอย่างดี คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร 109

110มคอ. 2 3. นักศึกษา 3.1 หลักสูตรมีระบบกลไกในการรับนักศึกษา โดยกำหนดแผนการรับนักศึกษาในแต่ละป การศกึ ษาของสาขาวชิ า มีการกำหนดคุณสมบัตใิ นการรับเขาของผู้สมคั รโดยระบเุ กณฑการรับ ได้แก สำเร็จ การศึกษาระดับชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี 6 ในระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หรือเทียบเทา่ ไมต่ ำ่ กว่านี้ การคัดเลอื ก ผู้เขาศึกษาเป็นไป ตามประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เร่ือง การรับนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนครดวยวธิ ี จัดสรรโควตาแกสถานศึกษา และประกาศมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร เรื่อง การรับสมคั ร บคุ คลเขาศึกษา ในมหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร (ภาคปกต)ิ 3.2 กระบวนการรับนักศึกษาได้ดำเนินการพิจารณาใบสมัครและประกาศรายช่ือผู้มีสิทธิ์สอบ ขอเขยี น จากนัน้ ผู้สมคั รจะเขารับการทดสอบขอเขียนท้ังในหมวดวชิ าการศึกษาท่วั ไปและวดั แววความเป็น ครูตามท่ีกำหนด โดยพิจารณาจากคะแนนการสอบขอเขียน เจตคติตอหลักสูตร ความรูความสามารถใน ด้านอ่นื ๆ ประกอบการรับเขาศกึ ษา เพื่อประกาศรายชอื่ ผู้มีสิทธ์เิ ขาศกึ ษาในหลกั สูตร 3.3 หลักสูตรมีระบบกลไกในการเตรียมความพรอมก่อนเขาศึกษา โดยอาจารยผู้รับผิดชอบ หลักสูตรจะพิจารณาคณุ สมบัติของนักศึกษาใหม่ท่ีมารายงานตัว และพิจารณาคะแนนจากการวัดแววความ เปนครู ความรคู วามสามารถท่ัวไป และความรูความสามารถเฉพาะสาขา 3.4 การสนบั สนุนและการใหคำแนะนำนกั ศึกษา หลกั สตู รมกี ารดำเนินการดังน้ี 1) อาจารยที่ปรึกษา มีการจัดอาจารยท่ีปรึกษาเพื่อใหคำแนะนำ ดูแลใหคำปรึกษาด้าน การเรยี น ความประพฤติ และปญหาส่วนตวั โดยคดั เลือกจากกรรมการประจำหลกั สตู รสาขาวิชานน้ั ๆ โดย เป็นผู้มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาโท หรือดำรงตำแหนงทางวิชาการไม่ต่ำกว่าผู้ช่วยศาสตราจารย หรือมี ประสบการณเกย่ี วกบั การจัดทำแผนการเรียนรูหรือการจัดทำหลกั สตู ร 2) คณะกรรมการประจำหลักสูตร มีบทบาทในการดูแลรับผิดชอบด้านการเรียนการสอน การพัฒนาคุณลักษณะของนักศึกษา ทั้งน้ีมหาวิทยาลัยได้มอบหมายใหคณะกรรมการประจำหลักสูตร จัดทำโครงการพัฒนานักศกึ ษาในหลักสูตรทร่ี ับผิดชอบเสนอมหาวิทยาลัย เพ่ือดำเนินการพฒั นาคุณลกั ษณะ ของนกั ศึกษาใหเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงคของหลกั สูตร 3) ฝ่ายกิจการนักศึกษาของวิทยาลัยการฝกหัดครู มีบทบาทหนาที่ในการดูแลจัดกิจกรรม เสริมทักษะและประสบการณต่าง ๆ ใหนักศึกษา เพื่อใหนักศึกษาได้พัฒนาตนเองครบทุกด้านท้ังร่างกาย อารมณ สังคม และสติปัญญา ตลอดจนการสืบทอดศิลปวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งอาจจัดในรูปของชุมนุม ชมรมหรอื กิจกรรมโครงการต่าง ๆ 4) ฝ่ายวชิ าการของวิทยาลัยการฝกหัดครู โดยคณะทำงานพัฒนาทักษะวิชาการและวิชาชีพ ดูแลรับผิดชอบใหคำแนะนำและจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะของนักศึกษามุ่งใหเป็นครูดีและ ครเู กงในการจัดอาจดำเนินการร่วมกบั ฝายต่าง ๆ ที่เก่ียวของ 5) ควรเชิญผูเ้ ชีย่ วชาญจากภาครฐั หรือภาคเอกชนท่ีมีประสบการณต์ รงในรายวิชาตา่ ง ๆ มาเป็นอาจารยพ์ เิ ศษเพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์ใหแ้ กน่ ักศกึ ษา คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร 110

111มคอ. 2 6) ควรมีผู้ช่วยสอนประจำห้องปฏิบัติการท่ีมีความรู้เก่ียวกับงานเทคนิค งานบริการ งานเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่ายหรือวิชาที่เก่ียวข้องในจำนวนที่เหมาะสม สถาบันอุดมศึกษา ควรสง่ ผชู้ ่วยสอนประจำห้องปฏบิ ัตกิ ารไปอบรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทางดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งนอ้ ยปี ละครง้ั 3.5 การอทุ ธรณ์ของนักศึกษา กรณีที่นักศึกษามีความสงสัยเก่ียวกับผลการประเมินในรายวิชาใดสามารถที่จะยื่นคำร้อง ขอดูผลการตรวจจากกระดาษคำตอบในการสอบ ตลอดจนดูคะแนนและวิธีการประเมินของอาจารย์ในแต่ ละรายวชิ าได้ ทงั้ นใี้ หเปน็ ไปตามระเบียบการวัดและเมินผลการเรียนรูของมหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร 3.6 หลักสูตรทำการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีตอการบริหารจัดการหลักสูตรใน ดานต่าง ๆ ได้แก 1) ด้านหลักสูตรการศึกษา 2) ด้านระบบอาจารยท่ีปรึกษาทางวิชาการ 3) ด้านกิจกรรม นักศึกษา 4) ดานส่ิงสนับสนุนการเรียนรู และ 5) ด้านอ่ืน ๆ รวมทั้งขอรองเรียนต่าง ๆ เพ่ือนำมาประเมิน ปรบั ปรงุ การเรียนการสอนตอไป 4. อาจารย์ 4.1 การบรหิ ารคณาจารย์ 4.1.1 การรบั อาจารยใ์ หม่ 1) อ าจารย์ป ระจำต้ อ งมี คุ ณ วุฒิ เป็ น ไป ต าม ป ระก าศ ก ระท รวงศึ ก ษ าธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2558 ตามระเบียบและหลักเกณฑของมหาวิทยาลัย ราชภัฏพระนคร อาจารยใหม่จะตองมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอกในแผนการศึกษาที่ เปน็ การทำวทิ ยานิพนธขน้ึ ไปโดยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) สำเร็จการศึกษาทางสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ สารสนเทศศึกษา สารสนเทศศาสตร์ การจัดการสารสนเทศ หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น หรือ สาขาวชิ าท่เี กี่ยวขอ้ ง และ/หรอื มีคุณวุฒิทางการศกึ ษา (2) มีประสบการณ์การสอนทางสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งนอ้ ย 1 ปี 2) มคี วามเขา้ ใจถึงวัตถุประสงคแ์ ละเปา้ หมายของหลกั สูตร 3) มคี วามรู้ มีทักษะในการจดั การเรียนการสอน และการประเมินผลสมั ฤทธ์ิของนักศกึ ษา และมปี ระสบการณ์ทำวิจัยหรือประสบการณ์ประกอบวชิ าชีพในสาขาวชิ าท่สี อน 4) หลักสูตรวางแผนพิจารณากรอบอัตรากำลังที่มีอยู่ในปจจุบันและวิเคราะห์แนวโน้ม ความตองการในอนาคตและเสนอตอคณะและมหาวิทยาลัยเพื่อรับอาจารยใหม่เพิ่มเติมใหเพียงพอ ตอภาระงาน ในกรณีทีม่ กี ารเกษยี ณอายรุ าชการ และ/หรือการลาออกของอาจารย์ คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร 111

112มคอ. 2 4.2 การมสี ่วนร่วมของคณาจารยใ์ นการวางแผน การตดิ ตามและทบทวนหลักสูตร คณาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร และผู้สอน จะต้องประชุมร่วมกันในการวางแผนจัดการเรียน การสอน ประเมินผลและให้ความเห็นชอบการประเมินผลทุกรายวิชา เก็บรวบรวมข้อมูลเพ่ือเตรียมไว้ สำหรับการปรับปรุงหลักสูตร ตลอดจนปรึกษาหารือแนวทางท่ีจะทำให้บรรลุเป้าหมายตามหลักสูตร และผลติ บัณฑติ เป็นไปตามคุณลักษณะบัณฑิตทพ่ี งึ ประสงค์ 4.3 คณาจารย์ที่สอนบางเวลาและคณาจารย์พิเศษ 4.3.1 มีนโยบายในการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก (ท้ังในและต่างประเทศ) มาร่วมสอนใน บางหวั ขอ้ ทีต่ อ้ งการความเชี่ยวชาญเฉพาะหรือประสบการณ์จริง 4.3.2 สัดสวนอาจารยตอนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเทา ใหเป็นไปตามเกณฑการประกันคุณภาพ การศกึ ษาภายในสถานศกึ ษา ระดับอุดมศึกษา สกอ. 4.3.3 สำหรับอาจารยพิเศษหรือวิทยากรผู้เชี่ยวชาญถือวามีความสำคัญมาก เพราะจะเป็น ผู้ถ่ายทอดประสบการณตรงจากการปฏบิ ัตมิ าใหกบั นักศึกษา 4.4 การบรหิ ารบุคลากรสนับสนนุ การเรยี นการสอน 4.4.1 การกำหนดคุณสมบตั ิเฉพาะสำหรบั ตำแหน่ง มีการกำหนดคุณสมบัติบุคลากรให้ตรงตามภาระหน้าท่ีที่ต้องรับผิดชอบ โดยคณะกรรมการ คัดเลือกบุคลากร ก่อนรับเข้าทำงาน และต้องผ่านการสอบแข่งขันท่ีประกอบไปด้วยการสอบข้อเขียนและ การสอบสัมภาษณ์ โดยข้อสอบให้ความสำคัญต่อความสามารถในการปฏิบัติงานตามตำแหน่ง และเจตคติ ต่องาน 4.5 การเพมิ่ ทักษะความรู้เพอื่ การปฏิบตั งิ าน มีการพัฒนาอาจารย์ให้มีพัฒนาการเพ่ิมพูนความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ในวิชาชีพหรือสาขา ที่เกี่ยวข้องในกรณีการเรยี นรู้แบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการสอนอย่างต่อเน่ือง รวมท้ังสนบั สนุนให้อาจารย์ มีผลงานวิจัยท่ีสามารถตีพิมพ์ในระดับนานาชาติเพิ่มข้ึน โดยอาจร่วมมือกับอาจารย์ต่างสาขา หรือต่างสถาบัน การสนับสนุนสามารถทำได้ในรปู ของการให้ค่าเดินทางไปเสนอผลงานทางวิชาการ การให้ เงินพิเศษเพ่ิมเมื่อมีบทความวิชาการตีพิมพ์ใน Proceedings และ Journals รวมท้ังการลดภาระงานสอน ให้เหมาะกบั เวลาทใ่ี ช้เพอ่ื เพิม่ พูนความรู้ ประสบการณ์ และการทำวิจัย 5. หลกั สตู ร การเรียนการสอน การประเมินผเู้ รยี น มีคณาจารย์ผู้รับผดิ ชอบหลักสตู ร ดำเนนิ การบรหิ ารหลกั สูตร ดังน้ี 5.1 ก่อนเปิดภาคการศึกษา มีการประชุมอาจารย์ท่ีสอนในสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และ สารสนเทศศาสตร์เพื่อยืนยันการจัดตารางสอนและมอบหมายให้ คณาจารย์เตรียมความพร้อมในเร่ือง เครื่องมอื อุปกรณป์ ระกอบการเรยี นการสอน สอื่ การสอน เอกสารประกอบการสอนตา่ ง ๆ คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 112

113มคอ. 2 5.2 มีการกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู (มคอ.3 และมคอ.4) มีการจัดการเรียนการสอนท่ีบูรณาการกับการวิจัย การบริการวิชาการทางสังคม และการทำนุบำรุงศิลปะ และวัฒนธรรม รวมถึงมีกระบวนการจัดการเรียนการสอนใหเป็นไปตามข้อบังคับคุรุสภาวาด้วยมาตรฐาน วิชาชีพ พ.ศ. 2556 พรอมทั้งจัดกิจกรรมกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเนนนักศึกษาเป็นสำคัญ และสงเสริม ทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 โดยหนึ่งภาคการศึกษา จัดให้มีการประเมินผลอย่างน้อยสองครั้งคือ สอบกลางภาค และสอบปลายภาค 5.3 มีการประเมินผลการเรียนรูตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิในความรับผิดชอบหลักและรอง ในแต่ ละรายวิชา อาจารยผู้สอนแต่ละรายวิชามีรูปแบบการประเมินที่หลากหลายท้ังการประเมินตามสภาพ จริง และการประเมินในรูปแบบการสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมทั้งอาจารยผู้สอนได้ประเมินตาม มาตรฐานผลการเรียนรูใน มคอ.3 มีการตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรูของนักศึกษาโดยอาจารย์ ผู้รบั ผิดชอบหลกั สตู ร 5.4 มีการทวนสอบโดยคณะกรรมการทวนสอบผลสมั ฤทธ์ฯิ และมกี ารประเมินคุณภาพการศึกษาใน ทุก ๆ ด้านโดยคณะกรรมการที่ได้แต่งต้ัง และมีการแจ้งผลการประเมินให้อาจารย์ผู้สอนทราบเพ่ือทำการ ปรบั ปรุงต่อไป 5.5 แตง่ ตง้ั คณะกรรมการเพ่ือปรับปรงุ หลกั สตู รอย่างน้อยทุก 5 ปี 6. ส่งิ สนบั สนนุ การเรียนรู้ 6.1 การบรหิ ารทรพั ยากรการเรยี นการสอน 6.1.1 การบรหิ ารงบประมาณ มีการประมาณการรายจ่ายต่อนักศึกษาหนึ่งคนต่อปี และมีการคำนวณรายรับจากงบประมาณ แผน่ ดิน และรายได้จากค่าลงทะเบียนเรยี นของนกั ศึกษา ให้เพยี งพอตอ่ การดำเนนิ การ 6.1.2 ทรพั ยากรการเรยี นการสอนที่มีอย่เู ดิม 1) สถานทเ่ี รยี น ลำดบั รายการและลกั ษณะเฉพาะ จำนวนท่มี อี ยู่ จำนวนทคี่ าดวา่ จะเพยี งพอ 2 ห้อง 1 ห้องปฏบิ ตั ิการบรรณารกั ษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์ 1 ห้อง 15 ห้อง 2 ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอรภ์ ายในมหาวิทยาลยั 12 ห้อง 100 หอ้ ง 3 ห้องเรยี นรวมของมหาวทิ ยาลัย 80 หอ้ ง จำนวนทคี่ าดว่าจะเพยี งพอ 5 2) อุปกรณก์ ารสอน - 1 ลำดับ รายการ จำนวนทม่ี อี ยู่ 1 คอมพิวเตอรแ์ บบพกพา 3 2 โปรเจคเตอร์ 3 3 เครอื่ งวิชวลไลเซอร์ 1 คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร 113

114มคอ. 2 3) เอกสารและตำราเรียน 3.1) หนงั สือและตำราเรียนทง้ั ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ลำดบั ท่ี ชือ่ หนงั สอื /ชอ่ื ผ้แู ตง่ /ปี พ.ศ. จำนวน จำนวนท่ี ที่มอี ยู่ ต้องการเพ่มิ 1 ประมวลสาระชุดวชิ าการวิจยั และสถิติประยกุ ต์ทางสารสนเทศศาสตร์ / บัณฑิตศกึ ษา สาขาวชิ าศิลป ศาสตร์ มหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช, 2554 44 2 เอกสารการสอนชุดวิชาประสบการณ์วชิ าชพี สารสนเทศศาสตร์ / สาขาวชิ าศิลปศาสตร์ 44 มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช, 2556 44 3 เอกสารการสอนชุดวิชาสารสนเทศศาสตรเ์ บอื้ งตน้ / สาขาวิชาศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช, 2556 24 33 4 การประมวลสารนเิ ทศสำเรจ็ รูป / จินดารตั น์ เบอรพันธ์ุ, 2560 44 5 การเผยแพรส่ ารสนเทศ / จฑุ ารัตน์ นกแกว้ , 2561 44 23 6 ประมวลสาระชุดวชิ าผใู้ ช้และการบรกิ ารสารสนเทศ / บณั ฑิตศกึ ษา สาขาวชิ าศลิ ปศาสตร์ 44 มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช, 2555 25 7 สารสนเทศเพือ่ การศึกษาค้นควา้ / อำไพวรรณ ทัพเป็นไทย 2553 43 8 แหลง่ สารสนเทศ : สำหรับงานบริการสารสนเทศเพ่ือช่วยการคน้ คว้า / ระเบียบ สภุ วริ ี 2555 24 24 9 เอกสารการสอนชดุ วิชาการบรกิ ารและเผยแพร่สารสนเทศ / สาขาวชิ าศิลปศาสตร์ 22 มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช, 2555 22 10 การจัดหมรู่ ะบบหอสมุดรฐั สภาอเมริกนั / ระเบียบ สุภวริ ี, 2559 22 22 11 การจดั หมู่ระบบทศนิยมดิวอี้ / นอ้ ย คันชง่ั ทอง, 2561 42 12 การรู้สารสนเทศ : ทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 / ปราโมทย์ เหลาลาภ, 2563 13 ทกั ษะการรู้สารสนเทศในศตวรรษท่ี 21 / เทอดศักดิ์ ไมเ้ ทา้ ทอง, 2563 22 14 AACR2R & MARC 21 : การทำรายการจาก OPAC / ระเบยี บ สภุ วิรี, 2555 42 15 การจดั หมวดหมู่และรหสั มาตรฐานภูมิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย เล่ม 1 / บรรณาธิการ อษุ า กลนิ่ หอม 42 และ รัชนี จนั ทรเ์ กษ, 2559 16 การสอื่ สารทางวิชาการและการเข้าถงึ ขอ้ มลู แบบเสรี / น้ำทพิ ย์ วภิ าวนิ , 2561 11 17 พัฒนาห้องสมดุ ให้ก้าวหนา้ ดว้ ยกจิ กรรม 5 ส / สุดใจ ธนไพศาล, 2550 22 18 อกสารการสอนชุดวชิ าการจัดการระบบสารสนเทศ / สาขาวชิ าศลิ ปศาสตร์ 31 มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช, 2552 22 19 การจัดการทรพั ยากรสารสนเทศตอ่ เน่ือง / ปราณี วงศจ์ ำรสั , 2560 20 ประมวลสาระชุดวชิ าเทคโนโลยเี พอ่ื การจดั การสารสนเทศ / บณั ฑิตศกึ ษา สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช, 2556 21 เอกสารการสอนชุดวชิ าทรัพยากรสารสนเทศลักษณะพเิ ศษ / สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช, 2556 22 การวิจยั ทางบรรณารกั ษศาสตร์และสารนเิ ทศศาสตร์ / ศริ ิพร ศรเี ชลยี ง, 2552 23 ทกั ษะทางสารสนเทศในสงั คมฐานความรู้ / กุสลวฒั น์ คงประดิษฐ์, 2558 24 สารนิเทศและการเขียนรายงานทางวชิ าการ = Information and academic report writing / รงุ่ ฤดี อภิวฒั นศร...[และคนอน่ื ๆ], 2556 25 ห้องสมดุ ในฝนั / นำ้ ทพิ ย์ วภิ าวิน, 2550 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 114

115มคอ. 2 ลำดบั ที่ ชื่อหนงั สือ/ชอ่ื ผ้แู ตง่ /ปี พ.ศ. จำนวน จำนวนท่ี ทีม่ อี ยู่ ต้องการเพมิ่ 26 ห้องสมดุ การศกึ ษา วิชาชีพบรรณารักษศาสตรแ์ ละสารสนเทสศาสตร์ในยุคการเปลี่ยนแปลง / สมาคม 3 1 ห้องสมดุ แหง่ ประเทศไทยฯ, 2552 27 การอ่านเพอื่ พัฒนาคณุ ภาพชีวิต : Reading for improving life quality / จิรวฒั น์ เพชรรตั น์ และ อมั พร 5 - ทองใบ, 2556 28 การกำหนดหัวเรอื่ งและบญั ชีหัวเรื่องภาษาไทยพรอ้ มท้ังเลขหมู่ระบบทศนยิ มดวิ อี้ / พวา พันธ์เุ มฆา, 5 5 2537 29 ดีดีซี 22 : การแบง่ หมู่หนงั สือและแผนการแบง่ หมรู่ ะบบทศนยิ มดวิ อี้ จากตน้ ฉบับพิมพ์ครง้ั ท่ี 22 / พวา 3 7 พันธ์เุ มฆา, 2551 30 ดีดีซี 23 : การแบง่ หนงั สือและแผนการแบง่ ระบบทสนิยมดวิ อ้ี / พวา พันธเ์ุ มฆา, 2559 52 31 หัวเรือ่ งภาษาไทย / พวา พันธุ์เมฆา, 2554 10 - 32 ห้องสมุดในฝนั / น้ำทพิ ย์ วภิ าวิน, 2550 32 33 ส่ือโสตทศั นแ์ ละส่อื อเิ ล็กทรอนกิ สใ์ นหอ้ งสมุดอัตโนมตั ิ / สกุ ัญญา กุลนติ ิ, 2550 37 34 การพัฒนาทรพั ยากรสารสนเทศ / ณรงค์ ปอ้ มบบุ ผา, 2553 32 35 การบริหารหอ้ งสมดุ ยคุ ใหม่ / นำ้ ทพิ ย์ วภิ าวิน, 2550 14 36 องค์กรแห่งความรู้ : จากแนวคดิ สูก่ ารปฏิบัติ. ทพิ วรรณ หล่อสวุ รรณรัตน,์ 2551 - 10 37 มาตรฐานห้องสมดุ โรงเรยี นสงั กัดสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน / สำนักงานคณะกรรมการ 1 3 การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน, 2556 38 มาร์ก 21 สำหรับการลงรายการหนงั สือ / เบญจรัตน์ สีทองสุก,2548 10 - 39 การพฒั นาหอ้ งสมดุ ดจิ ิทลั ด้วย Greenstone / สมชาย วรญั ญานไุ กร, 2553 12 40 หอ้ งสมดุ และสารนเิ ทศเพื่อการศกึ ษาค้นควา้ / สกุ ญั ญา กลุ นติ ิ, 2549 36 41 MARC 21 สำหรบั ระเบยี นหนงั สอื /เอกสาร / สวุ ันนา ทองสสี ุขใจ,2543 46 43 การวจิ ยั กับวชิ าชพี บรรณารักษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์ / ชตุ ิมา สจั จานนั ท์, 2546 55 44 วรรณกรรมสำหรบั เด็ก. ฉวีวรรณ คูหาภินันท์, 2542 28 45 ความรเู้ บ้อื งตน้ เก่ยี วกบั หนังสอื อา้ งองิ / สุนิตย์ เย็นสบาย, 2542 28 46 การอ่านและการส่งเสริมการอ่าน. ฉวีวรรณ คูหาภินนั ท,์ 2542 55 47 เทคนิคการอ่าน. ฉววี รรณ คูหาภินนั ท,์ 2542 28 48 การอา่ นและการสง่ เสริมการอา่ น / ฉววี รรณ คูหาภินันทน์,2542 33 49 การจัดการความรู้ / สมชาย นำประเสรฐิ ชยั , 2558 22 50 ส่อื และกจิ กรรมการสอนวชิ าการใชห้ ้องสมุด. สมจติ ร พรหมเทพ, 2542 19 51 ทักษะการใชห้ อ้ งสมดุ ยคุ ใหม่ / นำ้ ทิพย์ วิภาวนิ 32 52 การส่งเสรมิ การอา่ น / ไพพรรณ อินทนลิ , 2546 32 คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 115

116มคอ. 2 ลำดับที่ ช่อื หนังสอื /ชอ่ื ผู้แต่ง/ปี พ.ศ. จำนวน จำนวนที่ 53 ท่ีมอี ยู่ ตอ้ งการเพม่ิ 54 นวตั กรรมการเรยี นการสอนเพอื่ พฒั นาทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 / สุคนธ์ สนิ ธพานนท์, 2561 55 ศิลปะการสอนเพอื่ ผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 / ชัยวฒั น์ สุทธริ ตั น์, 2558, 4 1 56 3 2 การจัดและงานเทคนิคห้องสมดุ โรงเรียน / เดช เผ่าน้อย, 2558 57 2 2 สารานกุ รมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงคใ์ นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ฉบบั เสริมการ 58 4 6 เรยี นรู้ / โครงการ, 2548 59 1 2 Cataloguing and classification : an introduction to AACR2, RDA, DDC, LCC, LCSH 60 and MARC 21standards / Fotis Lazarinis, 2015 1 2 61 Cataloging with AACR2 & MARC21 : for books, electronic resources, sound recordings, 62 videorecordings, and serials / Deborah A. Fritz, 2007 1 2 Describing electronic, digital, and other media using AACR2 and RDA : a how-to-do-it 63 manual and CD-ROM for librarians / Mary Beth Weber and Fay Angela Austin, 2011 6 6 64 Library of Congress subject headings / Library of Congress, Subject Cataloging Division 1 2 65 Service, 2009 1 2 The audiovisual cataloging current / edited by Sandra K. Roe, 2013 66 Crash course in basic cataloging with RDA / Heather Lea Moulaison and Raegan 1 2 Wiechert, 2015 4 4 67 Dewey decimal classifcation, 22nd edition a study manual and numder building guide 1 2 / Mona L Scott, 2005 68 Dewey decimal classification and relative index / devised by Melvil Dewey, 2011 1 2 Library of Congress classification Z Bibliography library science information resosources 69 / By: Library of Congress, 2006 1 2 Library of Congress classification : class Q science / Library of Congress 70 By: Library of Congress, 2007 1 2 Library Storage Facilities From Planning to Construction to Operation / Wyoma Van 71 Duinkerken, 2019 1 2 72 Reference and information services : an introduction / Linda C. Smith and Melissa A. 73 Wong, editors, 2016 1 2 Is digital different? : How information creation, capture, preservation and discovery are 74 being transformed / edited by Michael Moss and Barbara Endicott-Popovsky with Marc 1 5 J. Dupuis, 2015 1 4 Libraries in the information age : an introduction and career exploration / Denise K. 1 1 Fourie and Nancy E. Loe, 2016 Working Knowledge : How Orgnizations Manage What They Know. Davenport,T & 1 1 Prusak, L, 2000 Library contests : how-to-do-it manual / Kathleen R.T. Imhoff, Ruthie Maslin, 2007 RDA : resource Description & Access / developed in a collaborative process led by the Joint Steering Committee for Development of RDA, 2015 RDA, Resource description & access and cartographic resources / Paige G. Andrew, Susan M. Moore and Mary Lynette Larsgaard, 2015 คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร 116

117มคอ. 2 ลำดับที่ ช่ือหนังสือ/ช่อื ผ้แู ต่ง/ปี พ.ศ. จำนวน จำนวนท่ี ทมี่ อี ยู่ ต้องการเพิ่ม 75 Publication manual of the American Psychological Association : the official guide to APA style/ by American Psychological Association, 2020 1 1 76 Library of Congress Classification .H.Social sciences / Library of Congress, 2007 1 4 1 4 76 Library of congress classification : L Education / Library of congress, 2005 2 3 1 4 77 Learn about information / Mary Gosling and Elizabeth Hopgood, 1999 1 4 78 Learn basic library skills / Elaine Andersen, Mary Gosling, Mary Mortimer, 1999 1 4 79 Learn reference work / by Mary, Gosling., 1999 1 4 80 Children and young people : Library Association guidelines for public library services / Catherine Blanshard, ed. ;Carl, 1997 81 Children and young people : Library Association guidelines for public library services / Catherine Blanshard, ed. ;Carl, 1997 3.2) จำนวนวารสารและเอกสารอ่ืน ๆ ลำดับที่ รายการและลักษณะ จำนวน จำนวนท่ี ทมี่ ีอยู่ ต้องการเพ่ิม 1. ขา่ วสารหอ้ งสมดุ วารสารบรรณารกั ษม์ หาวทิ ยาลัยขอนแกน่ 2. สารสนเทศ - 1 3. ฐานขอ้ มลู ดจิ ติ อล LISA - 1 4. วารสารห้องสมดุ เช่น บรรณารกั ษศาสตร์มหาวิทยาลัยเป็นต้น 1 1 5. ฐานข้อมลู ABI / INFORM - 1 6. ฐานขอ้ มลู H.W. Wilson - 1 7. ฐานข้อมลู DAO - 1 8. ฐานข้อมลู TAO - 1 9. วารสารโดมทัศน์ - 1 10. รังสิตสารสนเทศ - 1 11. วารสารบรรณารักษศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั - 1 12. บรรณศาสตร์มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ - 1 13. วารสารวทิ ยาบรกิ ารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี - 1 14. วารสารบรรณารักษศาสตร์มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒ - 1 15. วารสารวจิ ยั สมาคมหอ้ งสมดุ แห่งประเทศไทย - 1 16. วารสารวิทยาการจดั การและสารสนเทศศาสตรม์ หาวิทยาลัยนเรศวร 1 - 17. วารสารสำนักหอสมดุ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ - 1 18. วารสารสำนกั หอสมดุ มหาวิทยาลยั ทกั ษณิ - 1 19. อินฟอร์เมช่นั สำนกั วทิ ยบรกิ ารมหาวทิ ยาลัยขอนแก่น - 1 20. The Information Management Journal - 1 21. IFLA Journal - 1 22. Information Technology and Libraries - 1 23. International Information and Library Review - 1 24. Journal of Academic Librarianship - 1 - 1 คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร 117

118มคอ. 2 ลำดบั ท่ี รายการและลักษณะ จำนวน จำนวนท่ี ทมี่ อี ยู่ ตอ้ งการเพ่มิ 25. Journal of Education for Librarianship and Information Science (JELIS) 26. Journal of Information Science - 1 27. Journal of Libraianship and Information Science - 1 28. Journal of Library Administration - 1 29. Jounal of Library administration - 1 30. Library Resources & Technical sciences - 1 - 1 6.1.3 การจัดหาทรพั ยากรการเรยี นการสอนเพิ่มเติม ส่ิงสนับสนุนการเรียนการสอนท่ีสำคัญของสาขาวิชาบรรณ ารักษ ศาสตร์และสารสนเทศ ศาสตร์ คือเคร่ืองมืออุปกรณ์หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร 6.1.4 การประเมินความเพียงพอของทรพั ยากรสารสนเทศ ประเมนิ ความพึงพอใจและความเพียงพอของทรพั ยากรการเรียนการสอน โดยนกั ศึกษาและ อาจารย์ประจำรายวิชา สำรวจด้วยแบบสอบถามจากนักศึกษา และอาจารย์ผู้สอนโดยมีรายละเอียดดัง ตารางตอ่ ไปนี้ เปา้ หมาย การดำเนนิ การ การประเมนิ ผล 1. มีห้องเรียน ห้ องปฏิบั ติการอุปกรณ์ - จั ด ใ ห้ มี ห้ อ ง เ รี ย น แ ล ะ - ผลสำรวจความพึงพอใจในการจัด ทรัพยากร ส่ือ และช่องทางการเรียนการสอน ห้องปฏิบัตกิ ารท่ีมคี วามพรอ้ มในการ ห้องเรียนและห้องปฏิบัติการเพื่อการ ทเี่ พียงพอเหมาะสม ใช้งานอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ เรียนการสอนของอาจารย์ และ - จัดพื้นท่ีศกึ ษาหาความรใู้ ห้เพียงพอ นักศกึ ษา สำหรับนักศึกษา - ผลสำรวจความพึงพอใจในการ ท้ังเป็นรายบคุ คล และเปน็ กลมุ่ ให้บริการทรัพยากรสารสนเทศ แก่ อาจารย์ และนกั ศึกษา 2. มีหนังสือ ตำราประกอบการเรียนการสอน - สำรวจความต้องการทรัพยากร - ผลสำรวจความพึงพอใจในการใช้ ฐานข้อมูลในการสืบค้นข้อมูลเพียงพอต่อ สารสนเทศ ทั้งวัสดุตีพิมพ์ และวัสดุ ทรัพยากรสารสนเทศทั้งวัสดุตีพิมพ์ ความตอ้ งการของอาจารย์ และนกั ศึกษา ไม่ตีพิมพ์จากอาจารย์ผู้สอน และ และวัสดุไม่ตีพิมพ์ของอาจารย์และ นักศึกษา นกั ศกึ ษา - นำผลสำรวจข้อมูลประสาน งาน กับ ส ำนั กวิท ย บ ริก ารแ ล ะ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือจัดหา ท รั พ ย า ก ร ส า ร ส น เท ศ ให้ ต ร ง กั บ ความตอ้ งการของผู้ใชต้ อ่ ไป คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 118

119มคอ. 2 7. ตวั บง่ ชผ้ี ลการดำเนนิ งาน (Key Performance Indicators) 7.1 ตัวบง่ ชีผ้ ลการดำเนินงาน สำหรับหลกั สตู ร 4 ปี ตัวบง่ ชแ้ี ละเป้าหมาย ปที ่ี 1 ปกี ารศึกษา ✓ ปีที่ 2 ปีท่ี 3 ปที ่ี 4 ปีที่ 5 1 อาจารยผ์ ู้รับผดิ ชอบหลักสูตรอยา่ งน้อยรอ้ ยละ 80 มีส่วนรว่ มในการประชมุ ✓ ✓✓✓ ✓ เพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนนิ งานหลกั สตู ร ✓ ✓✓✓ ✓ 2 มีรายละเอยี ดของหลกั สตู รอยา่ งน้อยรอ้ ยละ 80 ตามแบบ มคอ.2 ท่ี สอดคล้องกับมาตรฐานคุณวฒุ ริ ะดบั ปรญิ ญาตรีครศุ าสตร์และศึกษาศาสตร์ ✓ ✓✓✓ ✓ (หลักสตู รสปี่ ี) พ.ศ. 2562 ✓ ✓✓✓ ✓ 3 มรี ายละเอยี ดของรายวิชา และรายละเอยี ดของประสบการณ์ภาคสนาม ✓ (ถา้ ม)ี ตามแบบ มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างนอ้ ยก่อนการเปดิ สอนในแตล่ ะ ✓✓✓ ✓ ภาคการศกึ ษาให้ครบทุกรายวิชา ✓ ✓✓✓ ✓ 4 จดั ทำรายงานผลการดำเนนิ การของรายวชิ า และรายงานผลการดำเนนิ การ ✓ ✓✓✓ ✓ ของประสบการณภ์ าคสนาม (ถ้าม)ี ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน ✓ 30 วัน หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาทเี่ ปิดสอนใหค้ รบทุกรายวชิ า ✓ ✓✓✓ ✓ - ✓✓✓ ✓ 5 จดั ทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสตู ร ตามแบบ มคอ.7 ภายใน 60 - ✓✓✓ ✓ วนั หลังสนิ้ สดุ ปกี ารศึกษา ✓ - -✓ ✓ 6 มกี ารทวนสอบผลสมั ฤทธิ์ของนกั ศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ ท่ี - - -✓ กำหนดในมคอ.3 และมคอ.4 (ถา้ ม)ี อย่างนอ้ ยรอ้ ยละ 25 ของรายวชิ าที่ ✓ ✓ ✓✓ เปิดสอนในแตล่ ะปกี ารศกึ ษา 7 มกี ารพฒั นา/ปรับปรงุ การจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน หรอื การ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จากผลการประเมนิ การดำเนินงานที่รายงานใน มคอ.7 ปที แ่ี ลว้ 8 อาจารย์ใหม่ (ถ้ามี) ทุกคน ไดร้ บั การปฐมนเิ ทศหรือคำแนะนำดา้ นการ จัดการเรียนการสอน 9 อาจารยป์ ระจำทุกคนไดร้ ับการพฒั นาทางวชิ าการ และ/หรอื วชิ าชีพ อยา่ ง นอ้ ยปลี ะหนึ่งครัง้ 10 จำนวนบุคลากรสนับสนนุ การเรียนการสอน (ถา้ มี) ไดร้ บั การพฒั นาวชิ าการ และ/หรือวิชาชพี ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 50 ตอ่ ปี 11 ระดับความพงึ พอใจของนกั ศกึ ษาปสี ดุ ท้าย/บัณฑิตใหม่ที่มตี ่อคุณภาพ หลักสตู ร เฉล่ยี ไมน่ อ้ ยกว่า 3.51 จากคะแนนเตม็ 5.0 12 ระดับความพงึ พอใจของผู้ใชบ้ ณั ฑติ ทม่ี ีต่อบัณฑิตใหม่ เฉลีย่ ไมน่ อ้ ยกวา่ 3.51 จากคะแนนเต็ม 5.0 13 นิสติ /นักศกึ ษาไดร้ บั เข้าร่วมกิจกรรมสง่ เสรมิ ความเปน็ ครคู รบถว้ นทกุ กจิ กรรมท่ีกำหนดและเปน็ ประจำทกุ ปี คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร 119

120มคอ. 2 ตวั บง่ ชแี้ ละเปา้ หมาย ปกี ารศึกษา ปีท่ี 1 ปีท่ี 2 ปีที่ 3 ปีท่ี 4 ปที ่ี 5 14 มีการจัดประสบการณบ์ รู ณาการการเรยี นรูก้ ับการปฏิบตั ิงานวชิ าชีพครูใน ✓ ✓ ✓ ✓✓ สถานศกึ ษาเป็นประจำทกุ ปกี ารศกึ ษา ✓ ✓ ✓ ✓✓ 15 มกี ารพัฒนาและประเมนิ สมรรถนะทางดา้ นภาษาองั กฤษ เกณฑ์ประเมิน ตวั บง่ ช้แี ละเป้าหมาย : หลกั สูตรไดม้ าตรฐานตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒฯิ ตอ้ งผ่านเกณฑ์ประเมนิ ดังน้ี ตัวบ่งช้ีบังคับ (ตัวบ่งชี้ท่ี 1-5) มีการดำเนินการบรรลุตามเป้าหมาย และมีจำนวนตัวบ่งช้ีที่มีผลดำเนินการ บรรลเุ ป้าหมาย ไมน่ อ้ ยกวา่ 80 % ของตัวบง่ ชร้ี วม โดยพิจารณาจากจำนวนตัวบง่ ช้บี ังคบั และตัวบ่งชี้รวมใน แต่ละปี คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร 120

121มคอ. 2 หมวดที่ 8 การประเมนิ และปรับปรงุ การดำเนินการของหลักสตู ร 1. การประเมินประสิทธผิ ลของการสอน 1.1 การประเมินกลยทุ ธก์ ารสอน 1.1.1 การประชุมรว่ มของอาจารย์ในสาขาวชิ าเพ่ือแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ และขอคำแนะนำหรือ ขอ้ เสนอแนะของอาจารย์ท่ีมคี วามรู้ในการใช้กลยทุ ธก์ ารสอน 1.1.2 อาจารย์รับผิดชอบ/อาจารย์ผู้สอนรายวิชา ขอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากอาจารย์ ทา่ นอืน่ หลังการวางแผนกลยทุ ธ์การสอนสำหรับรายวชิ า 1.1.3 ก ารส อ บ ถาม จาก นั กศึ ก ษ า ถึงป ระสิท ธิผล ขอ งก ารเรียน รู้จากวิธีก ารที่ ใช้ โดยใช้แบบสอบถามหรือการสนทนากบั กลุ่มนกั ศึกษา ระหว่างภาคการศึกษา โดยอาจารย์ผู้สอน 1.1.4 ประเมินจากการเรียนรู้ของนักศึกษา จากพฤติกรรมการแสดงออก การทำกิจกรรม และผลการสอบ 1.2 การประเมนิ ทกั ษะของอาจารยใ์ นการใช้แผนกลยทุ ธ์การสอน 1.2.1 การประเมินการสอนโดยนักศกึ ษาทกุ ปลายภาคการศึกษา 1.2.2 การประเมนิ การสอนของอาจารยจ์ ากการสงั เกตในช้ันเรยี นถงึ วิธกี ารสอน กิจกรรม งานท่ี มอบหมายแก่นักศึกษา โดยคณะกรรมการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ข้อมูลท่ีได้จะถูกวิเคราะห์ โดยคณะกรรมการ และส่งให้อาจารย์ผู้สอนแต่ละคนในภาคการศึกษาถัดไปเพื่อใช้เป็นผลป้อนกลับใน การปรบั ปรงุ การสอนและรายวิชาของตน 2. การประเมนิ หลกั สูตรในภาพรวม 2.1 กลยุทธก์ ารประเมิน การมีกลยุทธ์การประเมินผลและทวนสอบว่าเกิดผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานจริง ซ่ึง สถาบันอุดมศึกษาจะตอ้ งวางแผนไว้ล่วงหน้า การประเมินหลักสูตรในภาพรวมน้ันจะกระทำเม่ือนักศึกษาเรียน จบหลักสูตรและจะตองออกฝกประสบการณวิชาชีพครู ในรายวิชาการปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษา จำนวน 2 ภาคการศึกษา โดยปฏิบัติงานในหนาที่ของครูทุกอย่างเสมือนเป็นครูประจำการคนหน่ึงในสถานการณจริงใน สถานศึกษาอย่างต่อเน่ืองกันเป็นเวลาอย่าน้อยภาคการศึกษาละ 15 สัปดาห์ หรือ 360 ช่ัวโมง ซึ่งจะเป็นชวง เวลาท่ีอาจารยจะไปนิเทศนักศึกษา ตลอดจนติดตามประเมินความรูของนักศึกษาวา สามารถปฏิบัติงานได้ หรอื ไม่ มีความรับผิดชอบ และขาดคุณสมบัตใิ นด้านใด ซงึ่ จะมีการรวบรวมข้อมูลทงั้ หมดเพ่ือการปรับปรุง และ พฒั นาหลกั สูตร ตลอดจนปรบั ปรงุ กระบวนการการจดั การเรยี นการสอนท้งั ในภาพรวมและในแตล่ ะรายวชิ า คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร 121

122มคอ. 2 3. การประเมินผลการดำเนินงานตามรายละเอียดหลักสูตร การประเมินคุณภาพการศึกษาประจำปี ตามดัชนีบ่งช้ีผลการดำเนินงานที่ระบุในหมวดท่ี 7 ข้อ 7 โดยคณะกรรมการประเมนิ อย่างน้อย 3 คน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวชิ าอย่างน้อย 1 คน ที่ได้รับ การแต่งตั้งจากมหาวิทยาลัย ท้ังน้ีมหาวิทยาลัยได้กำหนดใหทุกหลักสูตรมีการพัฒนาหลักสูตรใหทันสมัย แสดงการปรับปรุงดัชนีด้ านมาตรฐานและคุณภาพการศึกษาตลอดจนมีการประเมินเพ่ื อปรับปรุงและ พฒั นาหลกั สตู รอย่างตอ่ เน่อื งทุก 4 ป 4. การทบทวนผลการประเมินวางแผนปรบั ปรงุ หลักสตู ร จากการรวบรวมข้อมูล การสัมมนา และการประชุมผู้บริหาร อาจารย นักศึกษา และผู้ใชบัณฑิต จะทำใหทราบปญหาของการบริหารหลักสูตรท้ังในภาพรวมและในแต่ละรายวิชา กรณีท่ีพบปญหาของ รายวิชาก็สามารถที่จะดำเนินการปรับปรุงรายวิชานั้น ๆ ได้ทันที ซึ่งก็จะเป็นการปรับปรุงย่อย ในการ ปรับปรุงยอ่ ยน้ันควรทำได้ตลอดเวลาที่พบปญหา สำหรับการปรับปรุงหลักสตู รทง้ั ฉบับนน้ั จะกระทำทกุ 4 ป ทง้ั นเ้ี พ่อื ใหหลักสูตรมคี วามทนั สมัยและสอดคลองกับความตองการของผู้ใชบณั ฑิต คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 122

123มคอ. 2 ภาคผนวก คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร 123

124มคอ. 2 ภาคผนวก 1 การสำรวจ/วิจยั ประเมนิ หลักสูตร/อื่น ๆ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร 124

125มคอ. 2 สรปุ รายงานผลการวจิ ัยซึ่งนำมาใช้ประกอบการพิจารณาปรับปรุงหลักสูตรครศุ าสตรบัณฑิต สาขาบรรณารกั ษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์ หลกั สูตรปรับปรุง พ.ศ. 2565 หวั ข้อวิจัย งานวิจยั เรื่องที่ 1 ผวู้ ิจยั ความตอ้ งการศกึ ษาตอ่ หลกั สตู รครุศาสตรบณั ฑติ สาขาวชิ าบรรณารกั ษศาสตรแ์ ละ ปที ที่ ำวิจัย สารสนเทศศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร (ค.บ. หลกั สตู ร 4 ปี) คณาจารยส์ าขาวชิ าบรรณารกั ษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ 2563 การวิจัยน้ีเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาความต้องการศึกษาต่อหลักสูตร ครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์และบรรณารักษศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และ ความคิดเห็นเก่ียวกับความจำเป็นและความสำคัญของหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสารสนเทศ ศาสตร์และบรรณารักษศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียน/ นักศึกษา ครู – อาจารย์ นักวิชาการ จำนวน 107 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถติ ิทีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูล ไดแ้ ก่ ค่าความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ความต้องการศึกษาต่อหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์ และสารสนเทศศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร (ค.บ. หลกั สูตร 4 ปี) ผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญเ่ ป็น เพศหญิง เม่ือจำแนกตามกลุ่มอายุ พบว่า กลมุ่ อายุ 15 – 20 ปี มากท่ีสุด รองลงมา 31 – 40 ปี เมอื่ จำแนก ตามอาชีพ พบว่า เป็นนักเรียน/นักศึกษามากท่ีสุด รองลงมา ครู – อาจารย์ เม่ือจำแนกตามวุฒิการศึกษา พบว่า อยู่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมากที่สุด รองลงมา ระดับปริญญาตรี เมื่อจำแนกตามสถานะ พบว่า เป็นนักเรียน/นักศึกษา มากที่สุด รองลงมา ครู – อาจารย์ และเมื่อจำแนกตามสถานที่ทำงาน/ สถานศกึ ษา พบวา่ อยู่ในโรงเรียนมากทส่ี ุด รองลงมา หนว่ ยงานอ่นื ๆ ความตอ้ งการศึกษาตอ่ หลักสตู รครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบรรณารักษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศกึ ษา มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร พบว่า ต้องการให้เปิดหลักสูตรมากท่ีสดุ คิดเป็นร้อยละ 93.50 เมื่อพิจารณา ความต้องการให้หลักสตู รครุศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาบรรณารักษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศึกษา มหาวิทยาลัย ราชภัฏพระนคร เป็นวิชาลักษณะใด พบว่า เป็นวิชาเอกคู่มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 52.30 รองลงมา วิชาเอกเดี่ยว คิดเป็นร้อยละ 25.20 และวิชาเอกและวิชาโท คิดเป็นร้อยละ 22.40 ความคาดหวังในการ ประกอบอาชีพ พบว่า ความต้องการครูบรรณารักษม์ าก รองลงมา บรรณารักษ์ ชื่อหลักสูตรที่สนใจเข้าศึกษาต่อ พบว่า บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์มากท่ีสุด รองลงมา สารสนเทศศาสตร์และบรรณารักษศาสตร์ ถัดมา บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศึกษา ตามลำดับ เม่ือพิจารณาวิธีการเรียนการสอนที่ต้องการศึกษา พบว่า เข้าชั้นเรียนปกติมากท่ีสุด รองลงมา การเรียนผ่านสื่อออนไลน์ ถัดมา เรียนทางไกล ตามลำดับ คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร 125

126มคอ. 2 รูปแบบกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีต้องการ พบว่า การเรียนพร้อมฝึกปฏิบัติมากที่สุด รองลงมา การเรียนแบบผสมผสานโดยบรรยาย/อภิปรายในชั้นเรียนและการเรียนผ่านส่ือออนไลน์ ถัดมา การเรียนด้วยส่ือรปู แบบใหม่ ๆ ตามลำดับ เมื่อพิจารณาส่ิงท่ีต้องการการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย พบว่า ส่ิงสนับสนุนการศึกษา เช่น สัญญาณ WIFI ห้องสมุด ห้องค้นคว้ากลุ่มย่อย เป็นต้น มากที่สุด รองลงมา แหลง่ เรยี นรู้ ถัดมา หอ้ งปฏบิ ัติการ ตามลำดบั หากมหาวิทยาลัยเชิญให้ท่านมาสัมมนารับฟังข้อมูลเก่ียวกับหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร พบวา่ ยินดเี ขา้ รว่ มสัมมนามากทส่ี ุด และไม่สามารถเข้าร่วมสัมมนาได้น้อยท่ีสุด เม่ือพิจารณาการแนะนำให้คนรู้จักมาศึกษาในหลักสูตรครุศา สตรบัณฑติ บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร พบวา่ แนะนำมากท่สี ุด และไมแ่ นะนำนอ้ ยทสี่ ดุ รูปแบบของค่าใช้จ่ายในการศกึ ษาต่อ พบว่า ค่าธรรมเนียมการศึกษาแบบเหมาจ่ายแต่แบ่งจ่ายเป็น ภาคการศึกษามากท่ีสุด รองลงมา ค่าธรรมเนียมการศึกษาแบบคิดจากหน่วยกิตการลงทะเบียน ถัดมา ค่าธรรมเนียมการศกึ ษาแบบเหมาจ่ายตลอดหลกั สูตร เม่ือพิจารณาความต้องการศึกษาต่อในหลักสูตรครุศา สตรบัณฑิต สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร พบว่า ต้องการมากท่ีสุด รองลงมา รอตัดสินใจ ถัดมา ไม่ต้องการ ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาวัตถุประสงค์ของ การศึกษาตอ่ เพอ่ื พบว่า แสวงหาความรู้เพม่ิ เติมมากทีส่ ดุ รองลงมา ประกอบอาชพี ตามลำดบั ความคิดเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นและความสำคัญของหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา บรรณารกั ษศาสตร์และสารสนเทศศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ครูบรรณารักษ์มีความสำคัญในการจัดการห้องสมุด และส่งเสริมการอ่านให้กับนักเรียนในโรงเรียนและหน่วยงานที่เก่ียวข้องทางการศึกษา รองลงมา ครู บรรณารกั ษม์ คี วามสำคัญและจำเป็นกับหอ้ งสมุดโรงเรียนและหนว่ ยงานที่เก่ียวข้องทางการศึกษา ถัดมา ครู บรรณารักษ์ท่ีทำหน้าท่ีจัดการห้องสมุดโรงเรียนจำเป็นต้องมีคุณวุฒิครุศาสตร/ศึกษาศาสตรบัณฑิต ทาง บรรณารกั ษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศกึ ษา และครูบรรณารักษจ์ ำเป็นต้องมที ักษะในการสอนเพ่ือส่งเสริมการ ใช้บริการห้องสมุด แหล่งสารสนเทศ และรายวิชาท่ีเกี่ยวข้อง ตามลำดับ ส่วนข้อที่มีค่าเฉล่ียต่ำสุด คือ หลกั สูตรครศุ าสตร/ศกึ ษาศาสตรบณั ฑิต สาขาวชิ าบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศึกษา มีความต้องการ ของผู้เรียน ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ อาชพี ทส่ี ำเร็จการศกึ ษา ครูผสู้ อน ครูบรรณารักษ์ เป็นต้น คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร 126

127มคอ. 2 หัวขอ้ วจิ ัย งานวจิ ัยเรอ่ื งที่ 2 การติดตามผลบัณฑติ หลักสตู รศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และ ผูว้ จิ ัย สารสนเทศศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ปีท่ีทำวจิ ยั ปกี ารศกึ ษา 2562 คณาจารย์สาขาวชิ าบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ 2563 การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาสภาพ ภาวะการมีงานทำ การประกอบอาชีพของบัณฑิต และ ข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงการจัดการสอนของสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และ สารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ที่สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา 2562 เป็นการวิจัยเชิง สำรวจ ประชากรคือ บัณฑิต หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศ ศาสตร์ ท่ีสำเร็จการศกึ ษาปีการศึกษา 2562 จำนวน 23 คน เครอ่ื งมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม การ วิเคราะหข์ อ้ มูลโดยใช้คา่ ความถ่แี ละคา่ ร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) สถานภาพ บัณฑิตส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 18 คน (ร้อยละ 85.7) 2) ภาวะการมีงานทำ บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา 2562 ได้ทำงาน (ร้อยละ 66.7) ส่วนใหญ่ใช้เวลา ในการหางาน ทำ 1-2 เดอื น (ร้อยละ 57.9) ในการหางานทำส่วนใหญ่ไม่พบปัญหาอุปสรรค (ร้อยละ 57.9) 3) ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ส่วนใหญ่ทำงานภาคเอกชน (ร้อยละ 50) และไม่ตรงกับสาขาท่ีสำเร็จการศึกษา (ร้อยละ 71.4) 4) ปัญหาในการทำงาน บัณฑติ ส่วนใหญไ่ มพ่ บปัญหาในการทำงาน (รอ้ ยละ 78.6) 5) รายได้ เฉลี่ยต่อเดอื น บณั ฑติ สว่ นใหญม่ ีรายไดจ้ ากงานประจำตอ่ เดอื น ตำ่ กวา่ 15,000 บาท (รอ้ ยละ 64.3) 6) การ นำความรู้จากที่ได้จากการศึกษาไปใช้ในการประกอบอาชีพ บัณฑิตสว่ นใหญ่นำความร้ทู ี่ไดจ้ ากการศึกษาใน สาขาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพอยู่ในระดับปานกลา ง (รอ้ ยละ 51.1) 7) ข้อเสนอแนะ บัณฑิตส่วนใหญ่ต้องการให้เพ่ิมการเรยี นการสอนรายวิชาคอมพิวเตอร์ โดย การเน้นเน้ือหาเร่ืองการสอนโปรแกรมพื้นฐานสำหรับสำนกั งาน มีการฝึกปฏิบัติให้มากขึ้น บัณฑิตส่วนใหญ่ ท่ีสำเร็จการศึกษาหลักสูตรศลิ ปศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ าบรรณารักษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์ทำงานไม่ ตรงสาขา ดังนั้นควรปรับปรุงหลักสูตรเป็นครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศ ศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร 127

128มคอ. 2 ภาคผนวก 2 ขอ้ บังคับมหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร ว่าดว้ ยการจดั การศึกษาระดบั อนปุ ริญญา ปริญญาตรี และปริญญาตรี(ตอ่ เน่อื ง) พ.ศ. 2548 และ ข้อบงั คับมหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร วา่ ด้วยการจัดการศึกษาระดบั อนปุ ริญญา ปริญญาตรี และปรญิ ญาตร(ี ตอ่ เน่ือง) (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2563 คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 128

129มคอ. 2 ขอ้ บังคบั มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร วา่ ด้วยการจัดการศึกษาระดับอนุปรญิ ญา ปริญญาตรี และปริญญาตรี(ตอ่ เน่ือง) พ.ศ. 2548 เพือ่ ให้การจัดการศึกษาระดับอนุปริญญา ปรญิ ญาตรีและปริญญาตรี(ต่อเนอ่ื ง) พ.ศ. 2548 ดำเนิน ไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18(2) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 สภามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จงึ ตราข้อบงั คบั ไวด้ ังต่อไปน้ี ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ว่าดว้ ยการจัดการศึกษา หลักสตู รระดบั อนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาตรี (ต่อเนอื่ ง) พ.ศ. 2548” ขอ้ 2 ข้อบังคบั นี้ให้ใชบ้ ังคับสำหรับการจัดการศึกษาหลักสตู รระดบั อนปุ ริญญา ปรญิ ญาตรี และ ปรญิ ญาตรี(ต่อเน่ือง) ตั้งแต่ปกี ารศกึ ษา 2548 เปน็ ตน้ ไป ข้อ 3 ข้อบังคบั ระเบียบ หรอื ประกาศใดทข่ี ดั แย้งกบั ขอ้ บังคบั น้ีใหใ้ ช้ข้อบังคับนแี้ ทน ข้อ 4 ในข้อบังคับน้ี “มหาวิทยาลัย” หมายความวา่ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร “สภามหาวิทยาลัย” หมายความวา่ สภามหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร “อธกิ ารบด”ี หมายความว่า อธกิ ารบดมี หาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร “นักศกึ ษาภาคปกติ” หมายความว่า นกั ศึกษาทีศ่ กึ ษาเต็มเวลาในวันทที่ ำการปกติ “นกั ศึกษาภาคพิเศษ” หมายความวา่ นักศึกษาท่ีเข้าศึกษาตามโครงการการจัด การศกึ ษาเพ่อื ปวงชน หรอื นักศึกษาท่เี ข้าศกึ ษาตามโครงการอืน่ ใดท่ีไมใ่ ชน่ ักศึกษาภาคปกติ “ภาคการศึกษาปกติ” หมายความวา่ ภาคการศึกษาตน้ และภาคการศึกษาปลาย “ภาคการศึกษาฤดูรอ้ น” หมายความว่า ภาคการศึกษาหลงั ภาคการศึกษาปลาย “อาจารยท์ ป่ี รึกษา” หมายความว่า อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแต่งต้ังโดยคำแนะนำของ คณบดีเพ่อื ใหท้ ำหนา้ ทแี่ นะนำนักศึกษาและใหค้ ำปรกึ ษาด้านการเรยี นและดา้ นอ่ืนๆ “ศูนย์บรกิ ารการศกึ ษา” หมายความวา่ ศูนย์บริการการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระ นคร ท่ีต้ังอย่ภู ายนอกมหาวิทยาลยั คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร 129

130มคอ. 2 หมวดที่ 1 การรับเข้าศึกษา ข้อ 5 ผู้มสี ทิ ธสิ์ มคั รเข้าเปน็ นักศึกษา 5.1 คณุ สมบตั ขิ องผู้สมคั รเข้าเป็นนักศึกษา 5.1.1 ไมเ่ คยรบั โทษจำคกุ โดยคำพิพากษาถึงท่ีสดุ ใหจ้ ำคุก เว้นแตใ่ นกรณีท่ีโทษน้ัน เกดิ จากความผดิ อนั ไดก้ ระทำโดยประมาท หรอื ความผดิ อันเปน็ ลหุโทษ 5.1.2 ไมเ่ คยเป็นผูม้ ีความประพฤติเสียหาย 5.1.3 ไม่เป็นคนวิกลจริต และไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคอน่ื ซ่ึงสังคมรงั เกียจ 5.1.4 ไม่เคยถูกคัดชือ่ ออกจากสถานศึกษาเพราะมคี วามผดิ ทางวนิ ยั 5.1.5 มีคุณสมบัติอื่นตามข้อกำหนดของมหาวิทยาลัยและหรือหลักสูตรสาขาวิชาท่ี สมัครเข้าศกึ ษา สำหรับผู้สมัครที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามที่กำหนดให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะ กรรมการบรหิ ารมหาวิทยาลยั 5.2 คุณวฒุ ขิ องผ้สู มัคร ผ้สู มัครเข้าเป็นนักศึกษาหลกั สูตรอนุปริญญา ปรญิ ญาตรี 4 ปี และปริญญาตรี 5 ปี ต้อง สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ผู้สมัครเข้าเป็นนักศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี (ตอ่ เน่ือง) ต้องสำเร็จการศึกษาระดับอนปุ รญิ ญาหรอื เทยี บเท่าหรือสงู กว่า สำหรับผู้สมัครเข้าเป็นนักศึกษาภาคพิเศษ คุณวุฒิของผู้สมัครให้เป็นไปตามประกาศ ของมหาวทิ ยาลัย ขอ้ 6 การรับเขา้ เป็นนักศึกษา กำหนดการและวิธีการรับเข้าศึกษาให้เป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย ขอ้ 7 การขนึ้ ทะเบียนเปน็ นักศึกษา 7.1 ผู้สมัครเปน็ นกั ศึกษาจะมีสถานภาพเปน็ นักศึกษาเม่ือไดข้ ้นึ ทะเบยี นแล้ว 7.2 วธิ กี ารข้ึนทะเบียนเปน็ นักศึกษาใหเ้ ปน็ ไปตามท่มี หาวิทยาลยั กำหนด หมวดท่ี 2 ระบบการศกึ ษา ขอ้ 8 ระบบการศึกษา 8.1 การจัดการศึกษา ใช้ระบบทวิภาคโดยหนึ่งปีการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษา ปกติ หนึ่งภาคการศึกษาปกติมีระยะเวลาศึกษารวมทั้งเวลาสอบไม่น้อยกว่า 16 สัปดาห์ มหาวิทยาลัยอาจ จัดภาคการศึกษาฤดูร้อนโดยกำหนดระยะเวลาของแต่ละรายวิชาให้มีสัดส่วนเทียบเคียงกันได้กับภาค การศึกษาปกติ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 130

131มคอ. 2 8.2 “หนว่ ยกิต” หมายความวา่ มาตราทีใ่ ชแ้ สดงปรมิ าณการศึกษาทน่ี ักศึกษาได้รับ เกณฑใ์ นการกำหนดจำนวนหน่วยกิต มีดงั นี้ 8.2.1 รายวิชาภาคทฤษฎีที่ใช้เวลาบรรยายหรืออภิปรายปัญหาในชั้นเรียนไม่น้อยกว่า 15 ชวั่ โมง ตอ่ ภาคการศึกษาใหน้ บั เป็น 1 หนว่ ยกิต 8.2.2 รายวิชาภาคปฏิบัติท่ีใช้เวลาปฏิบัติหรือทดลองไม่น้อยกว่า30ช่ัวโมง ต่อภาค การศกึ ษาใหน้ บั เปน็ 1 หน่วยกติ 8.2.3 รายวิชาการฝึกงานหรือฝึกภาคสนามที่ใช้เวลาฝึกไม่น้อยกว่า 45 ชั่วโมง ตอ่ ภาคการศกึ ษาให้นับเปน็ 1 หนว่ ยกิต ขอ้ 9 กำหนดวนั เปิดและปิดภาคการศึกษาของมหาวิทยาลัยให้ทำเป็นประกาศของมหาวทิ ยาลัย หมวดที่ 3 การลงทะเบียนเรียน ขอ้ 10 การลงทะเบียนเรียน 10.1 นักศึกษาใหม่ที่เข้าศึกษาในภาคการศึกษาแรกต้องลงทะเบียนเรียนภายในเวลาท่ี มหาวทิ ยาลัยกำหนดมิฉะนนั้ จะถือว่าสละสิทธิก์ ารเข้าเป็นนักศึกษาและจะถูกถอนช่ือออกจากทะเบยี น 10.2 นักศึกษาปัจจุบันจะต้องลงทะเบียนเรียนภายในเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด มิฉะน้นั จะไมม่ ีสิทธ์ิลงทะเบียนเรยี นในภาคการศกึ ษาน้นั 10.3 การลงทะเบียนเรียนจะสมบูรณ์เม่ือได้ชำระค่าธรรมเนียมภายในเวลาท่ีมหาวิทยาลัย กำหนด 10.4 กำหนดการลงทะเบียนเรียน วิธีการลงทะเบียนเรียน ให้เป็นไปตามท่ีมหาวิทยาลัย กำหนด 10.5 การลงทะเบียนเรียน จะต้องได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษา และเป็นไป ตามขอ้ กำหนดของหลักสตู ร 10.6 นักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนภาคการศกึ ษาฤดรู ้อนตามรายวิชาท่ีมหาวิทยาลัยจัดจะไม่ เสียสทิ ธิ์ในการไดร้ ับปริญญาเกยี รตนิ ิยม 10.7 การลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคการศึกษาปกติ นักศึกษาภาคปกติต้องลงทะเบียนเรียน ไม่ต่ำกว่า 9 หน่วยกิต แต่ไม่เกิน 22 หน่วยกิต ส่วนในภาคการศึกษาฤดูร้อนลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 9 หน่วยกิต นักศึกษาลงทะเบียนเรียนสูงกว่าหรือต่ำกว่าท่ีกำหนดได้ในกรณีที่จะขอสำเร็จการศึกษาในภาค การศึกษาน้ัน ทั้งน้ีให้คณบดีท่ีนักศึกษาสังกัดเป็นผู้พิจารณาอนุมัติโดยคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษาก่อน การลงทะเบียนเรียน สำหรับนักศึกษาภาคพิเศษจำนวนหน่วยกิตที่ลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคการศึกษาให้ เป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 131

132มคอ. 2 10.8 นักศึกษาจะต้องตรวจสอบสถานภาพของตนเองก่อนการลงทะเบียนเรียนทุกคร้ัง นักศึกษาทไี่ มป่ ฏบิ ัติตามข้อกำหนดและเง่ือนไขของมหาวิทยาลัยท่ปี ระกาศไว้จะไม่มสี ิทธ์ิลงทะเบียนเรียน ข้อ 11 การลงทะเบียนเรียนรายวิชาท่ีมีวิชาบังคับก่อน (Pre-requisite) นักศึกษาจะต้อง ลงทะเบียนเรียนรายวิชาที่เป็นวิชาบังคับก่อนลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่อเนื่อง มิฉะนั้นให้ถือว่าการ ลงทะเบยี นเรยี นรายวชิ าต่อเนอื่ งเปน็ โมฆะ ข้อ 12 การขอเพิ่ม ขอถอน และขอยกเลกิ รายวชิ า 12.1 การขอเพ่ิมและขอถอนรายวิชา จะกระทำได้ภายใน 2 สัปดาห์แรกของภาคการศึกษา ปกติ และภายใน 1 สัปดาห์แรกของภาคการศึกษาฤดูร้อน โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ท่ี ปรกึ ษา ถ้านกั ศกึ ษาขอยกเลิกรายวิชาหลงั จากช่วงเวลาดงั กล่าวจะไดร้ ับการบันทึกอักษร W 12.2 การขอยกเลิกรายวชิ าตอ้ งกระทำให้เสร็จสน้ิ ก่อนสอบปลายภาค 2 สัปดาห์ 12.3 นักศึกษาที่ชำระเงินค่าธรรมเนียมแบบเหมาจ่ายที่ขอเพิ่มและถอนรายวิชาภายใน ระยะเวลาที่กำหนดไม่ต้องชำระเงินเพ่ิมในกรณีเพิ่มรายวิชาและไม่สามารถถอน เงินคืนได้กรณีขอถอน รายวิชา หมวดท่ี 4 ระยะเวลาการศกึ ษา ขอ้ 13 ระยะเวลาการศึกษา 13.1 นักศึกษาภาคปกติ 13.1.1 หลักสูตรอนุปริญญา (3 ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 5 ภาคการศึกษา ปกติ และไม่เกนิ 6 ปกี ารศกึ ษา 13.1.2 หลักสูตรปริญญาตรี (4 ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 6 ภาคการศึกษาปกติ และไมเ่ กิน 8 ปีการศึกษา 13.1.3 หลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 4 ภาคการศึกษา ปกติ และไม่เกนิ 4 ปีการศึกษา 13.1.4 หลักสูตรปริญญาตรี (5 ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 8 ภาคการศึกษา ปกติ และไมเ่ กิน 10 ปีการศึกษา 13.1.5 หลักสูตรปริญญาตรี (6 ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 10 ภาคการศึกษา ปกติ และไม่เกนิ 12 ปีการศกึ ษาหรือเทยี บเทา่ 13.2 นักศึกษาภาคพเิ ศษ 13.2.1 หลักสูตรอนุปริญญา (3 ปี) ใชเ้ วลาศึกษาไมน่ ้อยกว่า 8 ภาคการศึกษา และไม่ เกิน 6 ปีการศึกษา คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 132

133มคอ. 2 13.2.2 หลักสูตรปริญญาตรี(4 ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 10 ภาคการศึกษา และไมเ่ กิน 8 ปกี ารศึกษา 13.2.3 หลักสูตรปริญญาตรี(ต่อเน่ือง) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 6 ภาคการศึกษา และไมเ่ กิน 4 ปกี ารศกึ ษา 13.2.4 หลักสูตรปริญญาตรี(5 ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 13 ภาคการศึกษา และไมเ่ กนิ 10 ปกี ารศกึ ษา 13.2.5 หลักสูตรปริญญาตรี(6 ปี) ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 15 ภาคการศึกษา และไมเ่ กนิ 12 ปกี ารศึกษา หมวดที่ 5 การเรียน การฝึกประสบการณ์วิชาชีพและการสอบ ข้อ 14 การเรยี น 14.1 นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนติดต่อกันทุกภาคการศึกษาปกติ การลาพัก การศึกษาจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามระเบียบการลาพกั การศึกษา 14.2 นักศกึ ษาจะต้องมีเวลาเรยี นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นทัง้ หมดของรายวิชา น้ันจึงจะมีสิทธิเ์ ขา้ สอบปลายภาค ในกรณีที่นักศึกษามีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ 80 ต้องยื่นคำรอ้ งขอมีสิทธิ์ สอบพร้อมหลักฐานแสดงเหตุจำเป็นของการขาดเรียน โดยย่ืนท่ีสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน ก่อนสอบ ปลายภาค 3 สัปดาห์ เพ่ือให้มหาวิทยาลัยพิจารณาสิทธ์ิในการเข้าสอบ นักศึกษาที่มีเวลาเรียนน้อยกว่า รอ้ ยละ 60 จะหมดสทิ ธ์ิสอบ ข้อ 15 การฝึกประสบการณ์วชิ าชีพ 15.1 นักศึกษาจะต้องฝึกประสบการณ์วิชาชีพตามท่ีระบุไว้ในหลักสูตร ถ้าผู้ใดปฏิบัติงานไม่ ครบถว้ น ใหถ้ อื ว่าการศกึ ษายงั ไมส่ มบูรณ์ 15.2ในระหวา่ งการฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพ นักศึกษาจะต้องประพฤติตนตามระเบียบวนิ ัย และ ปฏิบตั ิงานตามข้อกำหนดทุกประการ หากฝา่ ฝืน ผู้ควบคุมซ่ึงเป็นอาจารย์และบุคลากรในหนว่ ยฝึกประสบการณ์วชิ าชีพ อาจพิจารณาสง่ ตัวกลับ ขอ้ 16 การสอบ 16.1 การสอบแบ่งเป็น 3 ประเภทคอื การสอบย่อย การสอบกลางภาค และการสอบปลายภาค 16.2 การกำหนดจำนวนคร้ัง และวิธีการสอบย่อยและการสอบกลางภาค ให้อยู่ในดุลยพินิจ ของอาจารยป์ ระจำวชิ า 16.3 ระเบียบการเข้าสอบ ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของมหาวทิ ยาลยั คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร 133

134มคอ. 2 16.4 นักศึกษาที่ไม่ได้เข้าสอบปลายภาคตามกำหนดโดยมีเหตผุ ลความจำเป็น จะตอ้ งยื่นคำ ร้องขอสอบที่สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน ภายใน 2 สัปดาห์ นับต้ังแต่วันสอบวิชาน้ัน และให้ สอบให้เสร็จส้ินภายในภาคการศึกษาถัดไป หากพ้นกำหนดให้นายทะเบียนเปลี่ยนระดับคะแนนเป็น “E” หรอื “F” โดยอัตโนมัติ 16.5 นักศึกษาที่ทุจริตในการสอบ เม่ือนักศึกษากระทำผิดหรือร่วมกระทำผิดระเบียบการ สอบให้คณะกรรมการที่มหาวิทยาลัยแต่งตั้งพิจารณาโทษนักศึกษาที่กระทำผิดระเบียบการสอบแล้ว รายงานผลการพจิ ารณาต่อมหาวทิ ยาลัยเพ่อื ดำเนนิ การลงโทษและแจ้งโทษใหท้ กุ ฝ่ายท่ีเก่ยี วข้องทราบ โดย มีแนวทางการพจิ ารณาโทษดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ถ้าเป็นความผิดประเภททุจริต ให้ลงโทษโดยให้ได้รับ “E” หรือ “F” ในรายวิชาที่ กระทำผิดระเบียบการสอบ ส่วนรายวิชาอื่นที่นักศึกษาผู้นั้นลงทะเบียนเรียนไว้ให้ได้ผลการสอบตามที่ สอบได้จริง และให้พิจารณาสั่งพักการศึกษานักศึกษาผู้นั้น 1 ภาคการศึกษาเป็นอย่างน้อย ในภาค การศึกษาถัดไป หรอื อาจใหพ้ น้ สภาพการเปน็ นกั ศึกษาก็ได้ (2) ถ้าเป็นความผิดประเภทส่อเจตนาให้ลงโทษโดยให้ได้รับ “E” หรือ “F” ใน รายวิชาท่ีกระทำผิดระเบียบการสอบ และอาจพิจารณาส่ังพักการศึกษานักศึกษาผู้นั้นได้ไม่เกิน 1 ภาค การศึกษา (3) ถ้าเป็นความผิดอย่างอื่นตามท่ีระบุไว้ในข้อปฏิบัติของนักศึกษาในการสอบ ให้ ลงโทษตามควรแก่ความผิดน้นั แตจ่ ะตอ้ งไมเ่ กนิ กวา่ ระดบั โทษต่ำสดุ ของความผดิ ประเภททจุ รติ (4) ถ้านักศึกษากระทำผิดหรือร่วมกระทำผิดอื่นๆที่เกี่ยวกับการสอบ ให้คณะกรรมการ พจิ ารณาโทษนักศึกษาที่กระทำผิดระเบียบการสอบเป็นผู้พิจารณาเสนอการลงโทษต่อมหาวิทยาลัยตามควรแก่ ความผดิ นนั้ (5) การให้พักการศึกษาของนักศึกษาตามคำส่ังของมหาวิทยาลัย ให้เร่ิมเมื่อสิ้นสุด ภาคการศกึ ษาที่กระทำผดิ นั้นทง้ั น้ีให้นับระยะเวลาทถี่ ูกส่ังพักการศกึ ษาเข้าเป็นระยะเวลาการศึกษาด้วย (6) นักศึกษาที่ถูกส่ังพักการศึกษาจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการรักษาสถานภาพนักศึกษา ทุกภาคการศึกษาท่ีพกั การศึกษา หมวดท่ี 6 การวัดและประเมินผล ขอ้ 17 ใหม้ ีการประเมินผลการศกึ ษาในรายวชิ าต่างๆ ตามหลกั สูตร เปน็ 2 ระบบ ดังนี้ 17.1 ระบบค่าระดบั คะแนน แบง่ เป็น 8 ระดบั ระดบั คะแนน ความหมาย ค่าระดบั คะแนน A ดีเยยี่ ม 4.0 B+ ดมี าก 3.5 คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร 134

135มคอ. 2 B ดี 3.0 C+ ดีพอใช้ 2.5 C พอใช้ 2.0 D+ ออ่ น 1.5 D ออ่ นมาก 1.0 E ตก 0.0 ระบบนี้ใช้สำหรับการประเมินผลรายวิชาที่เรียนตามหลักสูตร ระดับคะแนนที่ถือว่าสอบได้ต้อง ไม่ต่ำกว่า “D” ถ้านักศึกษาได้ระดับคะแนนในรายวิชาใดต่ำกว่า ต้องลงทะเบียนและเรียนใหม่จนกว่าจะ สอบได้ กรณีวิชาเลือกถ้าได้ระดับคะแนนต่ำกว่า “D” สามารถเปลี่ยนไปเลือกเรียนรายวิชาอ่ืนได้ ส่วนการ ประเมินผลรายวชิ าเตรยี มฝึกประสบการณ์วชิ าชีพ และรายวชิ าฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ถ้าได้ระดับคะแนนต่ำ กว่า “C” ถือว่าสอบตก นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนและเรียนใหม่ ถ้าได้รับการประเมินผลต่ำกว่า “C” เป็น ครัง้ ท่สี อง ถอื วา่ พ้นสภาพเปน็ นกั ศึกษา กรณีที่นักศึกษาขอลงทะเบียนรายวิชาเลือกอ่ืนแทนรายวิชาเลือกท่ีสอบไม่ผ่าน รายวิชาท่ี สอบไมผ่ า่ นจะไดร้ บั การบนั ทึกผลการเรียนเปน็ “E” 17.2 ระบบไมม่ ีคา่ ระดับคะแนน กำหนดสัญลกั ษณก์ ารประเมนิ ผลดังนี้ ผลการศึกษา ระดบั การประเมิน ผา่ นดเี ยย่ี ม PD (Pass with Distinction) ผ่าน P (Pass) ไม่ผ่าน F (Fail) ระบบคะแนนนี้ใช้สำหรับการประเมินผลรายวิชาที่หลักสูตรบังคับให้เรียนเพิ่มตาม ข้อกำหนดเฉพาะ และรายวิชาทีส่ ภามหาวิทยาลยั กำหนดให้เรยี นเพิ่ม รายวิชาท่ไี ด้ผลประเมนิ “F” นักศึกษาต้องลงทะเบยี นและเรียนใหมจ่ นกว่าจะสอบได้ ขอ้ 18 สญั ลักษณอ์ ่นื มีดังนี้ Au (Audit) ใชส้ ำหรับการลงทะเบียนเพอ่ื ร่วมฟัง โดยไม่นบั หนว่ ยกิต W (Withdraw) ใช้สำหรับการบันทึกรายวิชาที่ได้รับอนุมัติให้ยกเลิกรายวิชาน้ัน โดยต้อง ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนกำหนดสอบปลายภาคไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ และใช้ในกรณีที่นักศึกษาลาพัก การศึกษาหรือถูกสั่งให้พักการศึกษาหลังจากลงทะเบียนเรียนในภาคการ ศึกษานั้นแล้ว I (Incomplete) ใช้สำหรับการบันทึกการประเมินผลในรายวิชาที่นักศึกษายังทำงานไม่สมบูรณ์ เมื่อส้ินภาคการศึกษา หรือใช้สำหรับบันทึกรายวิชาที่นักศึกษาขาดสอบ นักศึกษาที่ได้ “I” ตอ้ งดำเนินการ ขอรบั การประเมนิ ผล เพื่อเปลย่ี นระดบั คะแนนใหเ้ สรจ็ ส้นิ ในภาคการศกึ ษาถัดไป การเปลย่ี นระดับคะแนน “I” ให้ดำเนินการดังน้ี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร 135