Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 4552110

4552110

Description: 4552110

Search

Read the Text Version

\" มหาวิทยาลัยสวนดุสติ เพ่อื การศกึ ษาเทา่ น้นั \"

\" มหา ิวทยาลัยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ าการจดั ดอกไม้ พรยุพรรณ พรสุขสวัสดิ์ ปร.ด.(วัฒนธรรมศาสตร)์ สายบงั อร ปานพรม ปร.ด.(วัฒนธรรมศาสตร)์ กาญจนา เฟ่ืองศรี คม. (หลกั สูตรและการสอน) หลักสตู รศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ าคหกรรมศาสตร์ โรงเรยี นการเรอื น มหาวิทยาลยั สวนดุสิต 2560

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" เอกสารประกอบการเรียน การจัดดอกไม้ ผู้เรยี บเรยี ง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสดิ์ ดร.สายบงั อร ปานพรม อาจารยก์ าญจนา เฟ่ืองศรี พมิ พค์ รงั้ ที่ 1 : จานวน 60 เล่ม มีนาคม 2561 พิมพค์ รั้งท่ี 2 : จานวน 7 เล่ม กันยายน 2561 ออกแบบปก : ศูนย์บริการสื่อและสง่ิ พมิ พ์กราฟฟิคไซท์ พมิ พท์ ่ี : ศนู ย์บริการส่ือและสง่ิ พมิ พ์กราฟฟิคไซท์ โทร : 0-2244-5081

(1) คำนำ เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาการจัดดอกไม้ รหัสวิชา 4552110 นี้ ได้เรียบเรียงขึ้น อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมเน้ือหาสาระรายวิชา ในหมวดวิชาของมหาวิทยาลัย เพ่ือใช้เป็นเคร่ืองมือ สาคัญของผู้สอนในการใช้ประกอบการสอนของอาจารย์ ท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจใน เนอื้ หา เอกสารเล่มนี้ ได้แบ่งเนื้อหาในการเรียนการสอนไว้ 15 สัปดาห์ ได้แก่ ประวัติและ ความเป็นมา ศิลปะที่ใช้ในการจัดดอกไม้ วัสดุและอุปกรณ์ท่ีใช้ในการจัดดอกไม้ การจัดแจกันดอกไม้ การจดั ช่อดอกไม้ การจัดกระเช้าดอกไม้ พานพ่มุ ดอกไม้ การร้อยมาลยั และ การประดิษฐเ์ คร่อื งแขวนพวงดอกไม้ ผู้สอนไดศ้ ึกษารายละเอยี ดแตล่ ะหวั ข้อเร่อื งทสี่ อนจากเอกสาร หนังสือ ตารา หรือสื่ออ่ืน ๆ เพิม่ เตมิ อกี หวงั วา่ เอกสารประกอบการสอนน้ีคงอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนตามสมควร หากท่านท่นี าไปใช้มขี ้อเสนอแนะ ผู้เขยี นยินดีรับฟงั ข้อคิดเหน็ ต่าง ๆ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ พรยพุ รรณ พรสุขสวัสดิ์ 2561 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" (2) หนา้ สารบัญ (1) (2) คานา (6) สารบญั (9) สารบัญภาพ 1 แผนการสอนและการประเมินผล (ตามมคอ.3) 2 บทท่ี 1 ประวัติและความเป็นมา 3 6 ความหมายของการจัดดอกไม้ 6 รปู แบบการจัดดอกไม้ของไทย 8 ความมุ่งหมายของการจัดดอกไม้ 8 ประโยชนข์ องการจดั ดอกไม้ 9 สรุป 11 แบบฝกึ หัดท้ายบท 11 เอกสารอ้างองิ 12 บทที่ 2 ศลิ ปะทีใ่ ช้ในการจดั ดอกไม้ 13 การออกแบบ 14 ความหมายของการออกแบบ 17 หลักการออกแบบ 22 หลักศลิ ปะ 23 ทฤษฏีและการใช้สี 24 สรุป 25 แบบฝึกหดั ท้ายบท 25 เอกสารอา้ งอิง 32 บทท่ี 3 วสั ดุและอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการจัดดอกไม้ วัสดุการจดั ดอกไม้แบบสากล วัสดุการจัดดอกไม้แบบไทย

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" (3) สารบัญ สรปุ หนา้ แบบฝึกหดั ทา้ ยบท เอกสารอ้างอิง 39 บทที่ 4 การจัดแจกนั ดอกไม้ 40 วิธกี ารจัด และหลักการจดั ดอกไม้ 41 เทคนคิ การจดั ดอกไม้ 43 ประเภทของการจัดแจกนั ดอกไม้ 43 สรุป 44 แบบฝกึ หดั ท้ายบท 44 เอกสารอ้างอิง 68 บทท่ี 5 การจดั ชอ่ ดอกไม้ 69 การเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ 70 การจัดช่อดอกไม้แบบช่อกลม 71 การจดั ชอ่ หน้าเดยี ว 71 ประโยชน์การจัดชอ่ ดอกไม้ 71 สรปุ 76 แบบฝึกหัดท้ายบท 81 เอกสารอ้างองิ 82 บทที่ 6 การจัดกระเช้าดอกไม้ 83 ความหมายของกระเชา้ 84 วัสดุอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการจดั กระเชา้ ดอกไม้ 85 การเตรียมการจัดกระเชา้ ดอกไม้ 85 การออกแบบมาประยกุ ต์ใช้กับการจดั ดอกไม้ 86 สรุป 86 99 102

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" (4) สารบญั แบบฝกึ หัดทา้ ยบท หน้า เอกสารอา้ งองิ บทท่ี 7 การจัดพานพุ่มดอกไม้สด 103 104 การจัดพานพมุ่ 105 รูปลกั ษณ์ของพาน 105 รปู ลักษณะการจัดพานพมุ่ ดอกไม้ 105 หลักการจดั พานพุ่มดอกไม้ 106 วิธกี ารและข้ันตอนการจัดพานพมุ่ ดอกไม้ 109 การจดั พานพมุ่ ดอกไมส้ ด 109 การวางพานพุ่ม 110 สรปุ 130 แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท 132 เอกสารอา้ งอิง 133 บทที่ 8 การรอ้ ยมาลัย 134 พวงมาลัย 135 ประเภทของมาลยั 135 สว่ นประกอบของมาลัย 135 พวงมาลัยชายเดียว 136 พวงมาลัยสองชาย 155 ประโยชน์ของมาลัย 168 ความงามของมาลัย 178 การเก็บรักษามาลัย 180 สรุป 180 แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท 181 เอกสารอา้ งองิ 182 183

(5) สารบญั บทท่ี 9 การประดษิ ฐเ์ คร่อื งแขวนพวงดอกไม้ หนา้ ประเภทของเครื่องแขวนพวงดอกไม้ ส่วนประกอบของเคร่อื งแขวน 185 วธิ กี ารและขั้นตอนการประดิษฐ์เครื่องแขวนพวงดอกไม้ 186 ประโยชน์และโอกาสการใชเ้ ครื่องแขวนพวงดอกไม้ 198 สรุป 219 แบบฝึกหัดท้ายบท 220 221 เอกสารอา้ งองิ 222 บรรณานกุ รม 223 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 216

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" (6) หนา้ สารบัญภาพ 17 18 ภาพท่ี 18 18 2.1 วงจรสี 12 สี 19 2.2 แมส่ ขี ั้นท่ี 1 20 2.3 แม่สขี ัน้ ท่ี 2 28 2.4 แมส่ ีขนั้ ท่ี 3 28 2.5 วรรณะของสี 29 2.6 สีตรงขา้ ม 30 3.1 แจกนั ทรงเตี้ย 31 3.2 แจกันทรงกลาง 45 3.3 แจกนั ทรงสูง 48 3.4 เคร่อื งมือจัดดอกไม้ 50 3.5 กระเชา้ รูปทรงต่าง ๆ 54 4.1 แจกันรูปทรงวงกลม 57 4.2 การจดั ดอกไม้รูปทรงแนวนอน 60 4.3 การจัดดอกไมร้ ปู ทรงสามเหลีย่ มดา้ นเท่า 62 4.4 การจัดดอกไมร้ ูปทรงสามเหลย่ี มดา้ นไม่เทา่ 65 4.5 แจกันรปู ทรงตัว C 72 4.6 แจกันรปู ทรงตัว L 72 4.7 แจกนั รปู ทรงตัว S 75 4.8 แจกันรูปทรงตวั U 76 5.1 การจัดช่อกลมแบบผสมผสาน 78 5.2 การจดั ชอ่ กลม แบบท่ี 1 5.3 การจดั ช่อกลม แบบท่ี 2 5.4 การจัดชอ่ หนา้ เดยี ว แบบที่ 1 5.5 การจดั ช่อหน้าเดียว แบบท่ี 2

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" (7) สารบญั ภาพ ภาพท่ี หน้า 5.6 การจัดชอ่ ตามความคิดสรา้ งสรรค์ 80 6.1 กระเชา้ ของขวัญ 85 6.2 กระเช้าดอกไม้ 85 6.3 กระเช้าผลไม้ 85 6.4 กระเชา้ ของท่ีระลึก 85 6.5 วสั ดอุ ปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการจัดกระเชา้ 86 6.6 กระเชา้ ดอกไม้ทรงสามเหลย่ี มมมุ ฉาก แบบท่ี 1 86 6.7 กระเชา้ ดอกไมท้ รงสามเหลี่ยมมุมฉาก แบบท่ี 2 89 6.8 กระเช้าดอกไม้ทรงสามเหล่ียมด้านไม่เท่า 91 6.9 กระเช้าดอกไม้ทรงกลม 94 6.10 กระเชา้ รปู ทรงพระจนั ทรเ์ สยี้ ว 97 7.1 พานก้นต้นื 106 7.2 พานแว่นฟ้า 106 7.3 พานกน้ ลึก 107 7.4 พานโตก 4 ขา 107 7.5 โตกสานแบบอีสาน 108 7.6 พานโตกไม้แบบภาคเหนือ 109 7.7 พานพุ่มดอกบัว 114 7.8 พานพุ่มกลีบผกา 115 7.9 พานพุ่มถวายพระ 119 7.10 พานพ่มุ พระปรมาภไิ ธยย่อ ภปร 120 7.11 พานพมุ่ พระปรมาภิไธยยอ่ สก 122 7.12 พานพุ่มถวายสกั การะ รชั กาลท่ี 5 124 7.7 พานไหว้ครู 126 8.1 มาลยั ชาร่วยหว่ งรกั 137 8.2 มาลัยชารว่ ยโซ่รกั 141

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" (8) สารบัญภาพ 8.3 มาลยั ตวั กระแต 151 8.4 มาลัยชายเดยี วเกลยี วรกั 155 8.5 มาลัยสองชายแต่งช่อ 165 8.6 มาลัยสองชายลายเกลียว 168 8.7 มาลยั สองชายหว่ งรัก 169 8.8 มาลัยสองชายคทู่ บั ทิม 173 9.1 แบบสวน 897 9.2 แบบดอกทดั หู 190 9.3 ทัดหูแบบวงกลม 190 9.4 ทดั หูแบบส่กี ลบี 191 9.5 ทัดหแู บบหกกลีบ 191 9.6 ทัดหแู บบหา้ กลบี 192 9.7 แบบพ่กู ลิน่ 193 9.8 แบบกนก 193 9.9 แบบเฟ่ือง 193 9.10 แบบเฟ่ืองปีกนก 194 9.11 อบุ ะ 195 9.12 อบุ ะไทยธรรมดา 196 9.13 ดอกตุม้ กลว้ ยไม้ 196 9.14 กลนิ่ ตะแคง 198 9.15 ตาข่ายหน้าช้าง 202 9.16 กลิ่นควา่ 209 9.17 เครือ่ งแขวนแบบไทยประยกุ ต์ 215 9.18 เครอ่ื งแขวนแบบไทยสากล 216 9.19 เครอ่ื งแขวนดอกไมร้ ปู ทรงกลม 217 9.20 เครือ่ งแขวนดอกไมร้ ปู หัวใจ 218

(9) แผนการสอนและการประเมินผล (ตาม มคอ.3) รายวิชา 4552110 การจดั ดอกไม้ จานวนหน่วยกิต 3 (2-2-5) หน่วยกติ เวลาเรยี น บรรยาย 30 ชม./ภาคเรียน ปฏบิ ัติ 45 .ชม/ภาคเรียน ศึกษาคน้ คว้าด้วยตนเอง 90 ชม./ภาคเรียน \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาความเปน็ มา คุณประโยชนข์ องการจัดดอกไม้ การเลือก การเตรียม การใช้ และ การดูแลรักษาวัสดุ อุปกรณ์การจัดดอกไม้ รูปแบบ วิธีการและขั้นตอนการจัดดอกไม้แบบ สากล และแบบไทย การจัดแจกัน กระเช้าดอกไม้ พานดอกไม้ ช่อดอกไม้ การร้อยมาลัย และการร้อยตาขา่ ย จุดมุ่งหมายของรายวิชา 1.1 เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมีความรู้เรอ่ื งการจัดดอกไม้แบบไทยและแบบสากล 1.2 เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นออกแบบ เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์และจัดดอกไม้ได้ทง้ั แบบไทยและแบบ สากล ตามแบบเบ้ืองตน้ และแบบนยิ ม 1.3 เพ่อื ให้ผู้เรยี นสรรหาวสั ดตุ า่ งๆ ทีม่ ีอยทู่ วั่ ไปมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์สูงในการจัดดอกไม้ เพ่มิ คุณค่าความงามทางศลิ ปะ และมูลคา่ เป็นรายได้ 1.4 เพอื่ ใหผ้ ้เู รยี นสามารถนาผลงานจัดดอกไม้ไปจัดวาง ใชใ้ นโอกาสต่างๆ อย่าง เหมาะสม 1.5 เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนสามารถนาความรไู้ ปประกอบอาชีพหลกั อาชีพรองหรือใช้เป็นงาน อดเิ รกได้ 1.6 เพื่อใหผ้ ู้เรียนสามารถนาความรู้ไปบูรณาการกับวิทยาการดา้ นอ่นื ๆ เชน่ วชิ าอาหาร การจดั เล้ียง การตกแตง่ บ้านเรอื น แผนการสอน จานวน กิจกรรมการเรียน ผ้สู อน สัปดาห์ที่ หัวข้อ/รายละเอียด ชว่ั โมง การสอน สื่อที่ใช้ (ถา้ มี) ผศ.ดร.พรยพุ รรณ 1 -แนะนะกิจกรรมการเรยี น 4 -อธิบายพร้อม พรสุขสวสั ดิ์ การมอบหมายงาน ภาพประกอบ ดร.สายบงั อร ปานพรม - คณุ ธรรม จรยิ ธรรม วนิ ยั ใน -อธิบายระเบียบ วนิ ยั การ อ.กาญจนา เฟ่ืองศรี การเขา้ เรยี น การเรยี น การสง่ งาน - ความเป็นมา คุณประโยชน์ - บรรยาย /ซกั ถามโดยใช้ การออกแบบ รูปแบบการ รปู ภาพ หนงั สือ วีดทิ ศั น์ จัดดอกไม้แบบไทยและสากล เปน็ สือ่ ในการสอน -ความมุง่ หมายของการจดั ดอกไม้

แผนบริหารการสอนและการประเมินผล (10) สัปดาห์ท่ี หวั ข้อ/รายละเอียด\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"จานวนกจิ กรรมการเรยี นผสู้ อน ชวั่ โมง การสอน สอื่ ทีใ่ ช้ (ถา้ มี) ผศ.ดร.พรยุพรรณ 2 ศิลปะท่ใี ชใ้ นการจดั ดอกไม้ บรรยาย /ซกั ถาม พรสุขสวัสด์ิ -การออกแบบ 4 โดยดูภาพประกอบ ดร.สายบงั อร ปานพรม -ความหมายของการ อ.กาญจนา เฟ่ืองศรี ออกแบบ การเลือก 4 -บรรยายหลกั การจดั และ การเตรยี ม การใช้ การดูแล การสาธติ วิธีการและ ผศ.ดร.พรยุพรรณ รักษาวสั ดอุ ุปกรณ์การจัด 4 ขั้นตอนการจดั ดอกไมแ้ บบ พรสุขสวัสด์ิ ดอกไม้ สากลรูปทรงเรขาคณิตและ ดร.สายบังอร ปานพรม -หลักศิลปะ แบบไทย อ.กาญจนา เฟ่ืองศรี -การใช้สี - ฝกึ ปฏิบตั ิการจดั แจกัน ดอกไม้รปู ทรง วงกลม ผศ.ดร.พรยพุ รรณ 3-5 การจดั แจกันดอกไม้ มองเหน็ รอบด้าน พรสขุ สวสั ดิ์ การจัดดอกไมแ้ บบสากล (งานเดย่ี ว) ดร.สายบังอร ปานพรม รูปทรงเรขาคณติ - บรรยายหลกั การจดั และ อ.กาญจนา เฟ่ืองศรี และแบบไทย สาธติ วิธกี ารและขั้นตอน - การจดั แจกนั ดอกไมร้ ูปทรง - นกั ศกึ ษาปฏิบัตกิ ารจดั ครึง่ วงกลม แจกันดอกไมร้ ปู ทรง -การจดั แจกนั ดอกไม้รูปทรง สามเหลย่ี ม (งานเด่ียว) วงกลมมองเห็นรอบด้าน - บรรยายหลกั การจัดและ สาธิตวิธีการและขนั้ ตอน 6-7 การจัดช่อดอกไม้ - นักศกึ ษาปฏิบตั ิการจดั -การจดั ช่อดอกไม้แบบต่างๆ แจกันดอกไม้รปู ทรง s -การจัดดอกไมร้ ปู ทรง -นกั ศกึ ษาปฏิบัติการจดั สามเหลี่ยมดา้ นเท่า กระเช้าดอกไมร้ ปู ทรง C -การจัดดอกไมร้ ปู ทรง (งานเด่ียว) สามเหล่ียมด้านไม่เทา่ 8-9 การจดั กระเช้าดอกไม้ -สาธติ วิธีการและข้ันตอน ผศ.ดร พรยุพรรณ - หลักการจดั วิธกี ารและ การจดั กระเชา้ ดอกไม้ พรสุขสวสั ดิ์ ขนั้ ตอนการจดั กระเชา้ รูปทรงรปู ทรง Lหรือ U ดร.สายบงั อร ปานพรม

แผนบริหารการสอนและการประเมนิ ผล (11) สัปดาหท์ ี่ หัวข้อ/รายละเอยี ด จานวน กจิ กรรมการเรียน ผู้สอน ช่วั โมง การสอน ส่ือท่ีใช้ (ถา้ มี) อ.กาญจนา เฟื่องศรี ดอกไมส้ ากลรปู ทรงตัวอักษร -นกั ศกึ ษาปฏิบัตกิ ารจดั 4 กระเช้าดอกไม้รปู ทรงกลม ผศ.ดร.พรยพุ รรณ CLU (งานเดยี่ ว) พรสุขสวัสดิ์ ดร.สายบงั อร ปานพรม -การจดั ดอกไมร้ ูปทรง C -รปู แบบ หลักการ วธิ ีการ อ.กาญจนา เฟื่องศรี - การจัดกระเชา้ ดอกไม้ และขัน้ ตอนการจัดพานพมุ่ รปู ทรงกลม บูชาพระ 10-11 การจดั พานพ่มุ บูชาพระ -การสาธิต และปฏบิ ตั ิการ -รปู ทรงดอกบัวตูม จดั พานพุ่มบชู าพระจาก \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ดอกบวั (งานคู่ 2 คน) 12-13 การร้อยมาลัย 4 -การสาธิตและปฏิบัติการ ผศ.ดร พรยพุ รรณ -รปู แบบ หลักการ วธิ ีการ และขัน้ ตอนการร้อยมาลัยซีก ร้อยมาลัยซกี และอุบะแขก พรสุขสวสั ดิ์ อุบะแขก -การร้อยมาลัยโซ่ดอกรัก การแตง่ ตวั เปน็ มาลัย ดร.สายบงั อร ปานพรม -มาลยั ตวั กระแต - การร้อยมาลยั กลมดอกมะลิ -นักศกึ ษาฝึกการรอ้ ยมาลัย อ.นพณภัทร ทองแย้ม -การร้อยมาลัยกลมลาย เกลยี ว โซ่ดอกรัก 14-15 การประดิษฐ์เครอื่ งแขวน -มาลัยตัวกระแต พวงดอกไม้ -ประเภท -รูปแบบ หลักการ วธิ กี าร -ส่วนประกอบ -วิธีและขัน้ ตอนการผลติ และขั้นตอนการร้อยมาลัย 16 กลมดอกมะลิ -การสาธติ และปฏิบัตกิ าร รอ้ ยมาลัยกลมดอกมะลิ และการร้อยมาลยั กลม ลายเกลียว 4 -บรรยาย ผศ.ดร.พรยพุ รรณ -การสาธิตและปฏบิ ัติ พรสุขสวัสดิ์ ดร.สายบังอร ปานพรม อ.กาญจนา เฟื่องศรี สอบภาคปฏบิ ตั ิ

แผนบริหารการสอนและการประเมินผล (12) วธิ ีสอนและกจิ กรรม (ตาม มคอ.3) สอนโดยการอธิบายและยกตัวอย่างเป็นกรณีศึกษาในการใช้สถานการณ์จริงในการจัด กจิ กรรม/โครงการครบเครือ่ งเร่ืองการเรือน 1) กาบรรยาย ประกอบสอ่ื การสอน แบ่งกล่มุ เพ่ือระดมสมองและการอภิปรายร่วมกนั 2) การสาธติ การจดั ดอกไมต้ ามลาดบั ขั้นตอนในแต่ละเรอ่ื ง 3) นักศึกษาฝึกปฏิบัติการจัดดอกไม้แตล่ ะรปู แบบ 4) การทางานเป็นกลุ่มโดยฝึกทักษะการจัดดอกไม้แบบธรรมชาติเพ่ือเข้าแข่งขันตาม โครงการเยบ็ ร้อยค่อยจบี ประดษิ ฐ์ใบตอง \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" การวัดและการประเมนิ ผล (ตาม มคอ.3) 1. การวัดผล(คือการกาหนดตวั เลขหรอื คะแนนดิบ) 1.1 คะแนนระหวา่ งภาครวม รอ้ ยละ 70 1.1.1 รายงานปฏิบัตกิ าร รอ้ ยละ 50 1.1.2 พฤติกรรมการเรียน ร้อยละ 10 1.1.3 รายงานและอภิปราย รอ้ ยละ 10 1.2 คะแนนสอบปลายภาครวม รอ้ ยละ 30 1.2.1 รายงานปฏิบัติการ รอ้ ยละ 10 1.2.2 สอบปลายภาค ร้อยละ 20 2. การประเมินผล (คือ การพิจารณาตัดสินคุณภาพการเรียนการสอนโดยเอาการ วัดผลมาเป็นเครอ่ื งมอื ) แบบองิ เกณฑม์ หาวทิ ยาลยั ระดับคะแนน ค่ารอ้ ยละ ค่าระดบั คะแนน A 90-100 4.00 B+ 85-89 3.50 B 75-84 3.00 C+ 70-74 2.50 C 60-69 2.00 D+ 55-59 1.50 D 50-54 1.00 E 0-49 0.00

บทที่ 1 วัส ประวัตแิ ละความเป็นมา ผศ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ดอกไม้เป็นสื่อหรือตัวแทนความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดภาษาใด มักมอบดอกไม้ท่ีจัด อย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ชนดิ ใด สีสันรูปทรงอื่นใดใหก้ ัน ไม่มผี ู้ใดทจ่ี ะปฎิเสธว่าดอกไม้ ไม่ใช่ส่ิง สาคัญในชีวิต เพราะตั้งแต่เกิดและลืมตาข้ึนมา ก็จะพบความสดใสสวยงามของดอกไม้ จนวาระ สุดท้ายของชีวิตดอกไมก้ ย็ งั มีบทบาทสาคัญ การจัดดอกไม้ จาเป็นต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ เพราะจะต้องใช้ดอกไม้ที่แตกต่างกัน ในหลากหลายสี หลายขนาด โดยนาดอกไม้หรือใบไม้ ตลอดจนวัสดุต่างๆ มาจัดให้อยู่ในองค์ประกอบ ทางศิลปะ ซ่ึงต้องมีความสัมพันธ์กัน และทาให้เกิดมุมมองที่สวยงาม นับได้ว่าศิลปะการจัดดอกไม้มี การสืบทอดกันมาช้านาน โดยส่วนใหญ่นิยมจัดเลียนแบบดอกไม้สดจากธรรมชาติ มนุษย์ไม่อาจ ปฏิเสธไดว้ า่ ดอกไม้ไม่มคี วามสาคญั ต่อการดารงชวี ิตของมนษุ ย์ในปจั จบุ ัน นอกจากน้ีมนุษย์ได้รู้จักและ นาเอาดอกไม้เข้ามาใชใ้ นการตกแตง่ เพือ่ เพิ่มสสี ันความสวยงามให้กับอาคารบ้านเรือน สถานท่ีและใช้ ในพิธีการสาคญั ตา่ งๆ มาอย่างยาวนานจนยากที่จะแยกออกจาก วถิ กี ารดารงชวี ิตของคนไทยได้ ประวัติความเปน็ มา ศิลปะการจัดดอกไม้สดของไทยมีมาช้านาน โดยเฉพาะการประดิษฐ์ดอกไม้ ใบไม้และ ผลไม้ให้มีรูปลักษณ์ใหม่ก่อนนาไปจัด ถือได้ว่าเป็นที่รู้จักมาช้านานแต่ไม่ปรากฏหลักฐานท่ีแน่ชัดว่า เร่ิมมีมาต้ังแต่สมัยใด ในช่วงสมัยของสมเด็จพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย นางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬา ลกั ษณ์ พระสนมเอกในสมเด็จพระร่วงเจา้ เปน็ ผูท้ ่มี ฝี มี ือการประดษิ ฐด์ อกไมส้ ดเปน็ เลิศ ในสมัยนั้น จากหลักฐานท่ีอ้างถึงในพระราชนิพนธ์เรื่องพระราชพิธี 12 เดือน ตอนหนึ่งที่กล่าวถึงพระราชพิธี จองเปรียง นางนพมาศได้คิดเอาดอกไม้ต่างๆ มาประดิษฐ์โคมลอยเป็นรูปดอกบัว แบ่งกลีบรับแสง จนั ทร์โดยใชด้ อกไมซ้ อ้ นสลับสีให้เป็นลวดลาย และยังได้นาผลไม้มาแกะสลักตกแต่งเป็นรูปนกจับจิก เกสรดอกบัว นอกจากนี้ยังได้กล่าวอ้างถึงพระราชพิธีสนานใหญ่ที่บรรดาเจ้าเมือง เศรษฐีคหบดีต่าง เข้าเฝูาสมเด็จพระร่วงเจ้า เพื่อถวายเครื่องราชบรรณาการ พระสนมและนางกานัลต่างร้อยกรอง ดอกไม้เป็นรูปสัตว์จัดใส่พานเม่ียงหมาก เพื่อถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชทานแก่ผู้ มาเขา้ เฝาู ในพระราชพธิ สี นานใหญ่ นางนพมาศไดน้ าดอกไมม้ ารอ้ ยกรองเป็นรูปพานขันหมาก และให้ เรยี กว่า “พานขันหมาก” ตัง้ แตส่ มัยนน้ั เป็นตน้ มา (สานักวฒั นธรรมฝุายหญงิ , 2500, หน้า 5-6) สมัยรัตนโกสินทร์ งานช่างดอกไม้สดเป็นท่ีนิยมประดิษฐ์ขึ้นใช้ในงานต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระราชนิยม การทาดอกไม้แบบไทยไม่ว่าจะเป็นพระราชพิธีใด เจ้านายฝุายในจะต้องมีการจัดตกแต่งดอกไม้มาถวายให้พระมหากษัตริย์ได้ทรงใช้งาน พระเจ้าบรม วงศ์เธอ กรมหลวงทพิ ยรัตนกริ ิตกลุ ินี ถือวา่ ทรงเปน็ ผูค้ ิดพัฒนาวิธีการจัดพุ่มเครื่องทองน้อย จากการ ใช้ดอกไม้มัดเป็นช่อรูปทรงดอกบัวปักในถ้วยแก้วมาเป็นการจัดแบบการใช้ แกนหรือการใช้หุ่น โดย

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"2 นาผลมะละกอหรือหัวมันเทศเกลาเป็นรูปดอกบัวตูมพับกลีบดอกไม้และใบไม้ปักบนหุ่น โดยใช้เข็ม หมุดปัก ซึ่งเป็นวิธีการจัดพุ่มเครื่องทองน้อยที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน (สานักวัฒนธรรมฝุายหญิง, 2500, หน้า 11) การประดิษฐ์ดอกไม้ของไทยมีการเผยแพร่และเจริญในช่วงรัชกาลที่ 6 ผู้ที่มีบทบาทในงาน ศิลปหตั ถกรรมสาหรับสตรี จนเป็นท่ีรู้จักนั้นคือ อาจารย์เย้ือน ภานุทัต ท่านมีความรู้ในด้าน งานดอกไม้ สด งานใบตอง งานแกะสลัก ฯลฯ และยังได้ออกแบบการพับกลีบใบตองไว้หลายกลีบดังปรากฏใน โรงเรยี นการเรอื นพระนคร หรือมหาวิทยาลัยราชภฏั สวนดสุ ติ ในปัจจุบัน ซ่ึงจะใช้เป็นแนวทางการศึกษา ค้นคว้าอ้างอิง และใช้เป็นหลักฐานทางด้านประวัติผู้คิดประดิษฐ์ดอกไม้สดมาใช้ในพิธีต่างๆ เป็นคร้ัง แรก เพ่ือเก็บไว้เป็นหลักฐานเรื่องราวให้เยาวชนรุ่นหลัง ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมารวมทั้งข้อ สันนิษฐานว่าบรรพบุรุษได้นาดอกไม้ ท่ีมีความสวยงามตามธรรมชาติมาใช้อย่างเป็นพิธีการ เช่น นามาจดั พานบูชาพระรตั นตรัย นามาจัดประดับตกแต่งสถานที่ในงานท่ัวไปและในพิธีสาคัญ เพื่อให้มี ความสดชื่นสวยงาม หรูหราและตื่นตา และสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันหลากหลายของดอกไม้ ซ่ึงสบื ทอดมาจนถงึ ปัจจุบนั น้ี จากหลักฐานอ้างอิงที่ได้กล่าวมา น่าจะเป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่า นางนพมาศหรือท้าวศรี จุฬาลักษณ์ เป็นสตรีไทยท่านแรกท่ีเป็นผู้ริเริ่มนาเอาดอกไม้สดมาใช้ในพิธีการตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็น ครั้งแรก และไดส้ ืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันน้ี ความหมายของการจัดดอกไม้ ปัจจุบันมนุษย์มีการนาเอา “ดอกไม้” มาใช้ในงานต่างๆ มากมายแทบจะกล่าวได้ว่าทุก เทศกาลและทุกฤดูกาลก็ว่าได้ แต่หลายคนก็ยังไม่เข้าใจความหมายของดอกไม้ ซ่ึงความสาคัญของ ดอกไม้ไม่ว่าจะเป็นความหมายของดอกไม้ การนาดอกไม้มาเป็นสื่อกลางหรือแทนการสื่อสาร การ เลอื กใช้ดอกไม้สาหรบั งานตางๆ การเลือกซ้อื ดอกไม้ การดูแลรักษาดอกไม้ ซง่ึ จะได้กล่าวในบทตอ่ ไป นอกจากนี้ยังจะได้กล่าวถึงการจัดดอกไม้ ซึ่งถือว่าเป็นท้ัง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” รวมไปถึง เทคนิคการออกแบบ ซ่ึงเป็นการนาเอาดอกไม่มาสร้างสรรค์ตามแนวคิดและจิตนาการและถ่ายทอด ออกมาเป็นความรู้สึกผ่านผลงานการจัดดอกไม้ รวมไปถึงเรื่องของรูปทรงที่ให้ความหมายและ ความรูส้ ึกท่ีแตกต่างกนั ออกไป ในเรื่องของเสน้ สี ความกลมกลนื ผวิ สัมผสั ความสมดุลต่างๆ การเลอื กใช้ดอกไมใ้ นแตล่ ะเทศกาล หรือในแต่ละโอกาสจะต้องคานึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่นใน เร่ืองของ “สี” ซ่ึงความหมายของแต่ละสีจะให้ความหมายและความรู้สึกท่ีแตกต่างกัน หรือแม้แต่ ดอกไม้ชนิดเดียวกันแต่หากนามาใช้ต่างท่ีต่างวัฒนธรรม ความหมายที่ส่ือก็แตกต่างกัน เช่น ในงาน แต่งงานของชาวตะวันออกท่ีมักนิยมสีที่มีความสดใส เช่น สีแดง สีชมพู ซึ่งหมายถึงความเป็นมงคล แตว่ ัฒนธรรมตะวันตก จะให้ความหมายของสีโทนน้ีแตกต่างออกไปจากวัฒนธรรมชาวตะวันออก ซ่ึง ชาวตะวันตกจะให้ความหมายของโทนสีน้ีว่า เจ้าสาวที่ได้ผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว และในทาง กลับกนั วฒั นธรรมตะวันตก จะใช้ดอกไม้สีขาวเป็นสื่อแห่งความบริสุทธิ์ หรือส่ือความหมายเป็นนัยว่า เป็นการแต่งงานคร้ังแรกของหญิงสาว แต่วัฒนธรรมตะวันออก กลับมองว่าสีขาว คือ สีท่ีใช้ในงาน อวมงคล ในทานองเดียวกัน ดอกไม้แต่ละชนิด ยังให้ความหมายท่ีแตกต่างกัน เช่น คนไทยนิยมนา

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 3 ดอกคาร์เนช่ันมาจัดแจกัน กระเช้า ช่อดอกไม้ เพ่ือแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ แต่สาหรับ วัฒนธรรมของชาวตะวันตก จะใช้ดอกคาร์เนชั่นวางบนหลุมฝังศพ ซ่ึงใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งการพลัด พราก หรือการจากลา ดังนั้น การที่จะเลือกใช้ดอกไม้ในแต่ละโอกาส จะต้องทาความเข้าใจในเร่ืองของการส่ือ ความหมายของดอกไม้ตามวฒั นธรรมของชนชาติก่อนเสมอ รปู แบบการจัดดอกไมข้ องไทย รูปแบบการจัดดอกไม้ของไทยมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะของงานพิธีการ สถานท่แี ละศิลปะการจัดดอกไมข้ องชา่ งทช่ี ่วยจดั งานคร้ังนั้น ๆ ซ่ึงได้ศึกษาฝึกฝนการจัดดอกไม้ตาม รปู แบบแนวประเพณไี ทย การผสมผสานกับแบบสากล และการนาไปใช้ ซ่ึงได้แบ่งรูปแบบตามวิธีการ จดั ไว้ 3 ลักษณะ (มณีรตั น์ จนั ทนะผะลนิ , 2525, หนา้ 10-12) ดงั น้ี 1. การจดั ดอกไมแ้ บบไทยประณตี ศลิ ป์ การจัดดอกไม้แบบไทยประณีตศิลป์ เป็นรูปแบบการจัดดอกไม้ท่ีมีมาช้านาน โดยการ ประดิษฐ์สร้างสรรค์ดอกไม้ใบไม้ โดยการพับ การเย็บแบบ การร้อยกรอง การร้อยตาข่ายหรือการ แกะสลักพืชผักผลไม้ให้เป็นรูปลักษณ์ใหม่ ก่อนท่ีจะนามาจัดตกแต่งและประกอบผลงานการจัด ดอกไม้ในแบบไทยประณตี ศิลป์แบ่งเปน็ 6 ประเภท ดังน้ี 1.1 พานดอกไม้ เป็นการจัดดอกไม้ขนาดเล็กบนพาน โดยใช้ แกนดินเหนียว ขี้เลื่อย ต้นผักตบชวามัดเป็นหุ่นพาน จากนั้นนากลีบดอกไม้ ใบไม้ มาพับจับจีบจัดตามรูปทรงต่างๆ ปักลง บนพ้ืนหุน่ พานโดยมีวิธกี ารจดั 3 วธิ ดี ้วยกนั คอื การปัก การเย็บ และการร้อย 1.2 พวงมาลัย เป็นการจัดดอกไม้แบบไทย โดยวิธีร้อยกรองดอกไม้ กลีบดอกไม้ ใบไม้ หรือส่วนต่างๆ ของดอกไม้ที่นามาร้อยให้เกิดลวดลายของพวงมาลัยในลักษณะต่างๆ กัน หลากหลายรูปแบบ แบ่งโดยหนา้ ทใ่ี ชส้ อยได้ 3 ประเภทคือ 1.2.1 มาลัยชายเดียว หมายถึง มาลัยท่ีมีลักษณะเป็นพวงวงกลมมีอุบะห้อยชาย เพยี งพวงเดยี ว บางทีเรยี กมาลยั มือ มาลยั ข้อมอื หรือมาลัยคล้องแขน 1.2.2 มาลัยสองชาย หมายถึง มาลัยท่ีใช้คล้องคอปล่อยชายท้ังสองข้างมีอุบะห้อย สองขา้ งเพ่ือให้บุคคลสาคญั ในงานเป็นจุดเด่นสงั เกตเห็นไดช้ ดั เจนสวยงามเป็นมงคล 1.2.3 มาลัยชาร่วย หมายถึง มาลัยขนาดเล็กสาหรับมอบให้บุคคลท่ีมาร่วมแสดง ความยินดีหรือผู้ที่มาเยือน เพ่ือเป็นการขอบพระคุณ เช่น มาลัยตุ้ม มาลัยโซ่ มาลัยผ้าเช็ดหน้า มาลัย ตัวสัตว์ นอกจากน้ียังแบ่งตามลักษณะของลวดลาย เช่น มาลัยซีก มาลัยลายข้าวหลามตัด มาลัยลาย ตาสมทุ ร และแบ่งตามรูปทรง เช่น มาลยั กลม มาลัยแบน มาลัยสามเหล่ียม มาลัยตุ้ม มาลัยตัวหนอน

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"4 มาลัยลูกโซ่ มาลัยตัวสัตว์ พวงมาลัยเหล่าน้ีจะสวยงามได้ข้ึนอยู่กับสีสันของดอกไม้ ขนาดรูปทรง ลวดลาย สัดส่วน ความประณตี และความสดของดอกไม้ที่นามาร้อย 1.3 เคร่อื งแขวนพวงดอกไม้ เป็นศิลปะการจัดดอกไม้อีกแบบหนึ่งของไทยซ่ึงสามารถ ทาไดท้ ง้ั ดอกไมส้ ดและดอกไม้ประดษิ ฐ์ มีลกั ษณะเป็นพวงดอกไม้สดหรือกระเช้ารูปทรงต่างๆ โดยใช้ วิธีผสมผสานทั้งส่วนที่เป็นผืนตาข่าย พวงมาลัยเย็บแบบเฟือง อุบะ ทั้งที่มีรูปร่างแบนและรูปทรง กลมหรือรูปทรงเหล่ียม ใช้แขวนตามช่องประตู หน้าต่างเพื่อเป็นพุทธบูชาในวันสาคัญทางพุทธ ศาสนา นอกจากนี้ยังใช้เป็นเคร่ืองประดับตกแต่งสถานที่ในโอกาสพิเศษต่างๆ เคร่ืองแขวน พวงดอกไม้แบ่งเป็น 3 ประเภท ตามรปู ลักษณแ์ ละวิธกี ารประดิษฐ์ ดงั นี้ 1.3.1 เคร่ืองแขวนพวงดอกไม้แบบไทยประณีตศิลป์ หรือที่เรียกว่าแบบประเพณี ไทย เป็นแบบท่ีมีการตกแต่งด้วยเคร่ืองแต่งตัวท่ีประดิษฐ์อย่างสวยงามประกอบไปด้วย อุบะ เฟื่อง ดอกทัดหูมีการเย็บแบบร้อยกรองดอกไม้อย่างประณีตได้แก่ ตาข่ายหน้าช้าง พู่กล่ิน วิมานพระอินทร์ วมิ านแท่น ระย้านอ้ ย ฯลฯ 1.3.2 เครื่องแขวนพวงดอกไม้แบบประยุกต์ศิลป์ เป็นลักษณะการตกแต่งประทีป โคมไฟแบบต่างๆ โดยลดเครื่องแต่งตัวลง ลดการประดิษฐ์ดอกไม้ การเย็บแบบและการร้อยกรอง ดอกไม้แตผ่ สมผสาน การจดั ดอกไมแ้ บบธรรมชาติ เพ่ือให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งข้ึนได้แก่ โคมจีน โคม ไฟทรงกลม โคมฝรัง่ ฯลฯ 1.3.3 เครอื่ งแขวนพวงดอกไมแ้ บบสากลหรอื แบบธรรมชาติ เปน็ การจัดดอกไม้สด ตามลักษณะธรรมชาติโดยไม่มีการประดิษฐ์หรือร้อยกรองดอกไม้ก่อนที่จะนามาจัดเป็นเคร่ืองแขวน พวงดอกไมซ้ ่ึงไดแ้ ก่ เคร่ืองแขวนพวงดอกไม้ทรงกลม ทรงรี ทรงรปู หวั ใจ 1.4 งานใบตอง เป็นงานศิลปกรรมที่เกิดจากการนาใบตองประดิษฐ์ใบ เป็นเครื่องบูชา เคร่ืองใช้รปู ทรงต่างๆ เพอ่ื นามาใชง้ านในโอกาสต่าง ๆ ดังนี้ 1.4.1 ใช้ในชีวิตประจาวัน เช่น การห่อขนม ห่ออาหาร เพ่ือช่วยให้ขนมและ อาหารมสี ีสวยและมกี ลิน่ หอม หรอื การห่อผกั ห่อดอกไม้เพือ่ ใหช้ ว่ ยผักและดอกไม้สดทนนาน 1.4.2 งานวันสาคัญ ประดิษฐ์ภาชนะใบตองสาหรับจัดดอกไม้ ใส่ขนม ผลไม้ เพ่ือนาไปให้บุคคลที่เคารพนับถือในวันคล้ายวันเกิด วันปีใหม่ เยี่ยมผู้ปุวยเพื่อส่ือถึงความรู้สึกท่ีลึกซ้ึง ของผใู้ ห้ 1.4.3 งานประเพณีนิยม คนไทยนิยมท่ีจะประดิษฐ์งานดอกไม้และงานใบตอง แบบประณีตศิลป์เพ่ือใช้ในงานประเพณีอย่างเช่น พานขันหมาก พานขันหม้ัน พานสินสอด พาน แหวนหมัน้ พานรับนา้ สงั ข์ บายศรี กระทงลอย เพื่อใช้ในพิธีมงคลสมรส ประเพณี ลอยกระทง พิธียก เสาเอก ฯลฯ

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 5 1.4.4 งานพิธีทางศาสนา เป็นวันสาคัญทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิ สาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเขา้ พรรษา มักมีการประดษิ ฐ์งานใบตองข้ึนใช้ เช่น พานดอกไม้ธูปเทียน กระทงดอกไม้ แต่งเทยี นพรรษาฯลฯ 1.5 งานแกะสลักผักผลไม้ เป็นการนาผักและผลไม้มาประดิษฐ์ให้เกิดลวดลาย รูปทรง ท่ีสวยงามโดยการใชม้ ีดแกะสลกั ลงบนผกั และผลไม้ชนดิ ตา่ งๆ 1.6 งานเบ็ดเตล็ด เป็นงานท่ีเกี่ยวกับงานเย็บ ปัก ถัก ร้อย สาน ทอ ผูกมัด ซ่ึง ผลงานแต่ละชิ้นจะใช้วิธีการประดิษฐ์ผลงานโดยวิธีการใดวิธีการหน่ึง แต่จะมีลักษณะงานบางแบบ บางลักษณะใช้วิธีการประดิษฐ์ผลงานโดยการผสมผสานวิธีหลายอย่างในหมวดของงาน เบ็ดเตล็ด ส่วนใหญ่จะเป็นงานหัตถกรรมในครัวเรือน อาทิ เช่น การสานปลาตะเพียนและร้อยเป็นพวงเครื่อง แขวน นอกจากน้ยี ังมีงานสานจาพวก สานตะกรา้ ชะลอม กระเช้า ของใชอ้ ืน่ ๆ 2. การจัดดอกไม้แบบไทยประยุกตศ์ ลิ ป์ การจัดดอกไม้แบบไทยประยุกต์ศิลป์ หมายถึง การจัดดอกไม้แบบที่มีการผสมผสาน ระหว่างแบบไทยประณีตศิลป์กับการจัดดอกไม้แบบธรรมชาติหรือแบบสากล โดยที่มีท้ังส่วนของการ ประดิษฐ์สร้างสรรค์ดัดแปลงรูปลักษณ์ดอกไม้ ใบไม้ และส่วนท่ีคงรูปตามธรรมชาติ นามาจัดรวมกัน ตามวิธีการจดั ดอกไม้แบบสากล จึงทาให้ได้ผลงานจานวนมากข้ึนในเวลาอันส้ันกว่าแบบประณีตศิลป์ ล้วนๆ ลกั ษณะการจัดแบบไทยประยุกต์ศิลป์ ลักษณะเด่นคือ ได้ทั้งกลุ่มทั้งแบบเส้นเช่น การเย็บดอก ตุ้ม การเย็บแบบดอกไม้หรือการร้อยมาลัยซีกจากกลีบดอกไม้นามาประกอบเป็นดอกไม้ในลักษณะ รูปแบบใหม่ กอ่ นนามาจัดแจกันหรอื จัดพานดอกไม้ 3. การจดั ดอกไม้แบบธรรมชาติ การจัดดอกไม้แบบธรรมชาติ หรือการจัดดอกไม้แบบไทยสากล หมายถึง การนา ดอกไม้ใบไม้ในลักษณะธรรมชาตินามาจัดหรือปักลงในภาชนะรูปทรงต่างๆ กัน โดยการจัดให้มีขนาด และรปู แบบต่างๆ โดยยึดหลกั ศลิ ปะและจุดมุ่งหมายในการนาไปใช้ ตลอดจนสถานท่ีตั้งวาง ซึ่งการจัด ดอกไม้ดงั กลา่ วมกี ารแบง่ 2 ลักษณะดังน้ี 3.1 การจัดแบบมองเห็นรอบด้าน ซ่ึงมีท้ังรูปทรงกลม รูปทรงรี รูปทรงแหลมหรือการ แขวนขึน้ อยู่กบั การนาไปใช้ เชน่ ดอกไม้ตั้งโต๊ะรับแขก ดอกไมป้ ระดับโตะ๊ อาหาร 3.2 การจัดแบบมองเห็นด้านเดียว เป็นการจัดดอกไม้ที่ต้องการนาไปวางในท่ีที่มีฉาก หลัง เช่น ดอกไม้บูชาพระ ดอกไม้ถวายพระ ดอกไม้หน้าฉากรดน้า รูปทรงและขนาดสัดส่วนของการ จดั ดอกไม้จะตอ้ งเลือกให้เหมาะสมกับสถานท่ี

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"6 ความมุง่ หมายของการจดั ดอกไม้ การจัดดอกไม้เพื่อนาไปใช้ในโอกาสต่างๆ ย่อมมีความมุ่งหมายท่ีแตกต่างกันออกไปในเรื่อง ของรูปทรง วัสดุท่ีใช้จัด และโอกาสที่นาไปใช้ ซ่ึงมนุษย์นาดอกไม้มาใช้ในชีวิตประจาวันและโอกาส พิเศษตามความมุง่ หมายดังตอ่ ไปน้ี 1. ใชส้ าหรบั บชู าพระ 2. ใชป้ ระดบั ตกแตง่ สถานท่ีใหส้ วยงาม 3. ใช้สาหรับมอบใหบ้ ุคคลอ่นื ในโอกาสตา่ งๆ เช่นแสดงความยินดี วันเกดิ เยี่ยมผู้ปุวย แสดง ความรัก จะเห็นไดว้ ่าดอกไมเ้ ป็นส่ือความหมายของความรู้สึกของผู้ให้ส่งถึงผู้รับได้ดีกว่าคาพูดใดๆ ซ่ึง การจดั ดอกไมใ้ นแตล่ ะครงั้ สิง่ ทีจ่ ะต้องคานึงมีรายละเอียดดงั น้ี 3.1 สถานที่ จะเป็นตัวกาหนดรูปแบบการจัด รูปทรง สี ขนาดสัดส่วน เพ่ือให้เหมาะ สถานท่ตี ั้ง 3.2 เวลา หมายถึงเวลาท่ีจะนาดอกไม้ไปใช้ในช่วงเวลาใด เช่น เช้า บ่าย เย็น หรือ กลางคนื ซง่ึ จะทาให้เลอื กใชด้ อกไม้ได้เหมาะสมกับเวลาทีกาหนด 3.3 แรงงาน ซึ่งมี 2 ประเภท คือ ประเภทที่มีฝีมือ และประเภทที่ไม่มีฝีมือ ซ่ึงผู้จัด จาเป็นจะต้องทราบเพอ่ื กาหนดรูปแบบ ปรมิ าณงานทเ่ี หมาะสมกบั แรงงานท่ีมีอยู่ 3.4 งบประมาณ เปน็ ตัวกาหนดขนาดของงานดอกไม้ที่ใช้ ซึ่งในการใช้จ่ายต่างๆต้องอยู่ ในงบประมาณ 3.5 ฤดกู าล เปน็ สงิ่ ทกี่ าหนดดอกไมแ้ ละใบไม้ หากเลือกใช้ดอกไม้ท่ีมีตามฤดูกาลจะช่วย ประหยัดงบประมาณของผู้เปน็ เจ้าภาพ ประโยชนข์ องการจดั ดอกไม้ ดอกไม้เป็นพืชที่มีความสาคัญมากชนิดหนึ่งเน่ืองจากในปัจจุบัน ดอกไม้มีความสาคัญต่อ มนุษย์มากท้ังในระดับครอบครัว ชุมชน สังคมและระดับประเทศรวมทั้งระดับโลก ดังน้ันความมุง หมายของการจัดดอกไม้จงึ สามารถสรุปได้ดงั นี้ 1. ทาให้เกิดความเพลดิ เพลนิ เจริญใจแก่มนุษย์ความสวยงามรวม ทั้งกล่ินหอมของดอกไม้ จะทาให้มนษุ ย์เกิดความเพลดิ เพลินใจคลายทุกข์ คลายความกงั วลลงได้ ดังจะเห็นได้จากสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน วัด สถานศึกษา สถานที่ราชการ ห้างร้าน อาคารพาณิชย์ต่างๆ เป็นต้น การปลกู ไมด้ อก ไมป้ ระดบั ในสถานทต่ี า่ งๆเหล่าน้ีจะทาให้ผ้ทู ่อี ยู่อาศัยเกิดความสุขกายสบายใจ 2. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ในปัจจุบันมีบุคคลหลายประเภท หลายกลุ่ม ที่มี เวลาว่าง เช่นข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว คนกลุ่มน้ีได้หันมาปลูกไม้ดอกกันมากข้ึนเพ่ือเป็นการใช้ เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดการปลูกดอกไม้เป็นงานอดิเรกทาให้คลายความเหงา ได้อย่างดียิ่ง 3. ก่อให้เกดิ รายไดใ้ นครอบครวั มีผปู้ ลูกไม้ดอกบางรายท่ีปลูกไม้ดอกเล่นๆ เป็นงานอดิเรก แต่ผลิตผลท่ีไดม้ ปี ริมาณมากเกินความต้องการ จงึ สามารถนาไปจาหน่ายทาให้เกิดรายได้แก่ครอบครัว อีกทางหน่งึ

7 4. ยึดเป็นอาชีพได้ อาชีพการปลูกไม้ดอกนับว่าเป็นอาชีพท่ีทารายได้สูงและเป็นอาชีพท่ี ม่ันคงอาชีพหนึ่งการปลูกไม้ดอก เช่น เยอร์บีร่า ผลตอบแทนท่ีได้จะตกประมาณ 80,000 - 100,000 บาทตอ่ ปี 5. เป็นสินค้าท่ีสาคัญของประเทศและของโลกปัจจุบันไม้ดอก กาลังได้รับความนิยมมาก และเป็นที่ตอ้ งการของตลาดสูง ไม้ดอกจงึ นับวา่ มีความสาคัญทางเศรษฐกจิ เป็นอย่างมาก สรุป การจดั ดอกไม้มีมาตั้งแต่สมัยใดไม่ปรากฏหลักฐาน แต่ท่ีสืบค้นได้ในช่วงสมัยของสมเด็จพระ ร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย โดยนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระสนมเอกในสมเด็จพระร่วงเจ้า เปน็ ผทู้ ม่ี ฝี ีมือการประดษิ ฐด์ อกไม้สดเป็นเลศิ ซึง่ อ้างถงึ ในพระราชนพิ นธ์เร่อื งพระราชพธิ ี 12 เดือน การจัดดอกไม้ตามรูปแบบแนวประเพณีไทย การผสมผสานกับแบบสากล และการนาไปใช้ ซ่ึงได้แบ่งรูปแบบตามวิธีการจัดไว้ 3 ลักษณะ 1) การจัดดอกไม้แบบไทยประณีตศิลป์ 2) การจัด ดอกไมแ้ บบไทยประยุกต์ศิลป์ 3) การจัดดอกไม้แบบธรรมชาติ ในการจัดดอกไมใ้ นแต่ละคร้ัง ส่ิงท่ีผู้จัด ดอกไมจ้ ะตอ้ งคานึงในเรือ่ ง สถานที่ เวลา แรงงาน งบประมาณ ฤดกู าล \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"

8 แบบฝกึ หัดทา้ ยบท 1. แจกนั ดอกไมส้ ดมักนิยมให้ในโอกาสใด 2. การจดั ดอกไม้เกิดขน้ึ ในสมัยใด 3. ในสมัยหรอื รัชกาลใดท่ีมพี ระราชนิยมในการนาดอกไม้สดมาใช้ในประเพณีตา่ งๆ จง อธบิ าย 4. ในการจัดดอกไม้มจี ดุ มุ่งหมายเพือ่ อะไรจงอธิบาย 5. การจัดดอกไม้มีประโยชน์อย่างไรจงอธิบาย \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"

9 เอกสารอา้ งองิ มณรี ัตน์ จนั ทนะผะลนิ . (2525). งานใบตอง. กรุงเทพฯ :อมรนิ ทรพ์ ร้ินต้ิงแอนดพ์ ับลชิ ช่ิง. มณีรตั น์ จนั ทนะผะลิน. (2542). การจดั ดอกแบบธรรมชาติอภวิ าทจอมราชนั . กรงุ เทพฯ : อมรินทร์พร้ินต้ิงแอนด์พบั ลชิ ช่งิ . จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเดจ็ พระ. (2516). พระราชพธิ สี บิ สองเดอื น. พิมพ์ครง้ั ท่ี 14. กรงุ เทพฯ : รุง่ วฒั นา. วฒั นธรรมฝุายหญิง (2499). สานักวฒั นธรรมทางประณตี ศิลปะการจดั ดอกไม้สด.กรงุ เทพฯ: มปส, 2499.สานกั งาน \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"

\" มหาวิทยาลัยสวนดุสติ เพ่อื การศกึ ษาเทา่ น้นั \"

11 บทท่ี 2 วัส ศลิ ปะทใ่ี ช้ในการจดั ดอกไม้ ผศ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" การจัดดอกไม้ สิ่งที่สาคัญท่ีจะต้องคานึงถึงคือการออกแบบ เพราะการออกแบบจะต้อง วางแผนไปถึงขนั้ ตอนการประกอบเข้าเป็นดอกหรือช่อดอกไม้ ในการจัดดอกไม้ จาเป็นต้องอาศัยการ ออกแบบท่ีมีความเหมาะสมและง่ายในการจัดดอกไม้ ซึ่งจะทาให้ได้ดอกไม้ตรงตามวัตถุประสงค์ ดังน้ันในการออกแบบจึงต้องคานึงถึงความสัมพันธ์ทุกข้ันตอน เช่น การจัดดอกไม้ชนิดหนึ่ง ต้อง คานงึ ถึงวัตถุประสงคห์ ลักในการจัด พิจารณารูปร่าง สัดส่วน ตามธรรมชาติ ของดอกไม้ ถือได้ว่าการ ออกแบบเป็นเร่ืองจาเป็นในการจัดดอกไม้ โดยทั่วไปใช้ดอกไม้จริงเป็นหลักในการจัดดอกไม้ โดยยึด หลกั การทส่ี าคัญคือ วัตถุประสงคข์ องการจัด รูปทรง สัดส่วน การใชเ้ ส้น สี วัสดุ และวิธีการในการจัด ดอกไม้ การออกแบบ การออกแบบการจัดอกไม้ส่วนใหญ่อาศัยแบบดอกไม้จากธรรมชาติจุดมุ่งหมายหลักของการ จัดดอกไม้เพ่อื ทจี่ ะรกั ษาความงามของธรรมชาติให้คงอยู่ การจัดดอกไม้จึงเน้นในการที่ลอกเลียนแบบ ให้เหมือนธรรมชาติมากท่ีสุด บางครั้งเมื่อจุดมุ่งหมายเปลี่ยนไป เช่น การจัดดอกไม้ท่ีต้องการเน้น เฉพาะเรอ่ื งความสวยงาม การออกแบบกจ็ ะผิดไปจากธรรมชาติและจะเป็นไปในแนวสรา้ งสรรค์แทน ธรรมชาติ การออกแบบตามธรรมชาติเป็นการนาแม่แบบท่ีมีอยู่นามาออกแบบให้สวยงาม แต่ยังคงเอกลักษณ์ของธรรมชาติดอกไม้ให้คงอยู่ โดยที่ผู้ออกแบบจะต้องรู้จักที่จะศึกษารายละเอียด เก่ียวกับดอกไมแ้ ละต้นไม้ก่อนเพื่อใชเ้ ปน็ แนวทางในการจัดดอกไม้ สร้างสรรค์ เป็นการออกแบบท่ีเกิดจากแนวความคิดผู้จัดคิดขึ้นจากจินตนาการ ซึ่งจะทาให้ ได้รูปแบบของดอกไม้ที่แตกต่างไปจากธรรมชาติ มีการเน้นในเรื่องของธรรมชาติให้โดดเด่นหรือเป็น การเลียนแบบธรรมชาติท่ีตา่ งไปจากธรรมชาติ โดยที่ต้องใช้ความคิดและจินตนาการสร้างรูปแบบการ จัดดอกไม้ที่ใหม่ๆ ออกมาให้หนีห่างออกจากธรรมชาติ การจัดดอกไม้มีหลายแบบที่มีลักษณะเหมือน ธรรมชาติ แต่มกี ารสรา้ งสรรค์ในเรื่องรายละเอียดของการจัด สีสนั และการแต่งเตมิ เทคนิคพเิ ศษ การจัดดอกไม้ จาเป็นต้องมีการออกแบบ และกาหนดส่วนประกอบต่างๆ ของดอกไม้ ว่ามี ลักษณะอย่างไร รวมถึงสีของส่วนต่างๆ ของดอกไม้ รูปแบบการจัดแจกันดอกไม้ ช่อดอกไม้ กระเช้า ดอกไม้ และพวงหรีดรวมถงึ การจดั ดอกไม้แบบไทย ซึ่งรูปแบบการจัดดอกไม้จะสวยงามเพียงใด ผู้จัด จะต้องรู้จักนาหลักศิลปะมาประยุกต์ใช้ในเร่ืองของรูปแบบ รูปทรง และสี ตัวอย่างหรือรูปแบบ สามารถหาได้โดยท่ัวๆ ไปทั้งที่มีในธรรมชาติและสิ่งที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ซึ่งในการ ออกแบบมวี ิธีการออกแบบไดห้ ลายวธิ ี ซ่งึ ประกอบดว้ ย 1. การออกแบบท่ีเปน็ ไปตามธรรมชาติ เป็นการนาดอกไม้ ใบไม้ เพ่ือนามาจดั ดอกไม้ตาม แบบจากธรรมชาติเพียงแตน่ าธรรมชาติมาจัดใหส้ วยงามให้สีดอกไมเ้ ปน็ สธี รรมชาติ

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"12 2. การออกแบบที่ใช้เส้นรวมนอก คือ การออกแบบที่มุ่งเพ่ือการตกแต่งให้เกิดความ สวยงามเป็นการออกแบบการจัดดอกไม้ในแนวความคิดสร้างสรรค์ โดยสร้างรูปแบบการจัดดอกไม้ ขน้ึ มาใหม่จากการใชเ้ ส้นตา่ ง ๆ และนาเอาธรรมชาตมิ าประกอบในการออกแบบ 3. การออกแบบโดยอาศยั รปู เรขาคณิต เช่น รูปสามเหล่ียม รูปสี่เหล่ียม รูปวงกลม มาใช้ ประกอบเป็นการจัดดอกไมแ้ บบสร้างสรรค์ จดั ให้เป็นดอกไมช้ นิดใหม่และสวยงามต่างไปจากดอกไม้ท่ี มีอยู่ในธรรมชาติ โดยการผสมผสานระหว่างรูปทรงต่างๆ และการนาหลักศิลปะในเรื่องของสีทาให้ การจัดดอกไมส้ วยงามและแปลกตา 4. การออกแบบทีไ่ ม่แสดงเน้ือหา การออกแบบท่มี ุ่งแตค่ วามสวยงาม โดยท่ีไม่ได้คานึงถึง ธรรมชาติ มองดูได้หลายมุมแล้วแต่ความรู้สึกของคนดู จะอยู่ในลักษณะการออกแบบดอกไม้แบบ สรา้ งสรรคต์ ามจินตนาการ รปู แบบการจดั ดอกไมต้ ่างไปจากธรรมชาติ 5. แบบผสม เปน็ การออกแบบ แบบใดแบบหนึ่ง หรอื ใชแ้ บบผสมโดยนาเอาหลายแบบมา รวมกัน สรา้ งรูปแบบการจดั ดอกไม้แบบใหม่ซงึ่ เป็นดอกไม้ที่เกดิ จากศิลปะ 6. การออกแบบโดยใช้สีกระจาย การออกแบบในลักษณะนี้ใช้สีกระจายตามใจชอบ อาจจะมีสีซ้าและไม่ซ้ากันก็ได้ เช่น ดอกไม้ท่ีมีสีชมพูจัดเป็นจุดก่ึงกลาง รอบๆ ดอกออกแบบเป็นเส้น แผ่กระจายออกไป และในการออกแบบต้องเนน้ ชอ่ งไฟให้ดอกไม้สับหว่างกันให้มชี ่องไฟที่สวยงาม 7. การออกแบบทใี่ ชส้ ีซา้ กนั ให้สซี ้าเรียงสลบั กนั และเวน้ จังหวะชอ่ งไฟให้เทา่ กัน ความหมายของการออกแบบ ความเขา้ ใจในเร่อื งความหมายของการออกแบบการจัดดอกไม้ การออกแบบ (Design) เป็นคา ที่ใช้กนั อย่างแพรห่ ลายมผี ใู้ ห้ความหมายของการออกแบบไวด้ ังนี้ มาโนช กงกะนันทน์ (2538, หน้า 27) กล่าวว่า การออกแบบ คือ กระบวนการสร้างสรรค์ ประเภทหน่ึงของมนุษย์ โดยมที ัศนธาตุและลกั ษณะของทศั นธาตุเป็นองค์ประกอบใช้ทฤษฎีต่างๆ เป็น แนวทางและใชว้ ัสดุนานาชนิดเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์โดยที่นักออกแบบจะต้องมีข้ันตอนในการ ปฏิบตั งิ านหลายขนั้ ตอนในกระบวนการสรา้ งสรรคง์ าน วิรณุ ต้งั เจริญ (2526, หน้า 19) กลา่ ววา่ การออกแบบ คือ การวางแผนสร้างสรรค์รูปแบบ โดยวางแผนจดั ส่วนประกอบของการออกแบบให้สมั พนั ธ์กับประโยชน์ใชส้ อย วัสดุและการผลิตของสิ่ง ทตี่ อ้ งการออกแบบ สิทธิศักด์ิ ธัญศรีสวัสดิ์กุล (2529, หน้า 5) กล่าวว่า การออกแบบเป็นกิจกรรมอันสาคัญ ประการหน่ึงของมนุษย์ ซ่ึงหมายถึงสิ่งท่ีมีอยู่ในความนึกคิด อันอาจจะเป็นโครงการหรือรูปแบบท่ีนัก ออกแบบกาหนดข้ึนด้วยการจัด ท่าทาง ถ้อยคา เส้น สี แสง เสียง รูปแบบและวัสดุต่างๆ โดยมี กฎเกณฑท์ างความงาม จากแนวคิดขา้ งตน้ พอสรุปได้ว่า การออกแบบ หมายถึง การจัดระบบ ความคิดของมนุษย์ โดยผา่ นกระบวนการสรา้ งสรรคผ์ สมผสานกบั องค์ประกอบของการออกแบบ โดยการถ่ายทอดออกมา ในรปู แบบทเ่ี หมาะสมและสวยงาม

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 13 ดังน้ันผู้เขียนขอให้ความหมายของการออกแบบการจัดดอกไม้จึงหมายถึง การคิดวางแผน ออกแบบดอกไม้ การเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ รูปแบบของการจัดดอกไม้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการ นาไปใช้ หลกั การออกแบบ หลักเกณฑ์ในการออกแบบ เป็นหลักเกณฑ์สาหรับใช้เป็นพื้นฐานสาหรับการสร้างสรรค์ หลักของการออกแบบซ่ึงไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวเป็นเพียงแนวทางของความคิดสาหรับผู้ออกแบบ เพื่อสร้างศิลปะการจัดดอกไม้ให้มีรูปแบบตามที่จินตนาการไว้ การออกแบบโดยเฉพาะในด้านท่ี เกย่ี วกบั การสนองความตอ้ งการของมนุษย์ ดอกไม้ท่ีจัดจะต้องมาจากความมุ่งหมายที่วางไว้ ซ่ึงหน้าที่ ใช้สอยของศิลปะงานดอกไม้ จึงเป็นจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้และจะต้องจัดให้มีความสัมพันธ์กับงาน ศิลปะโดยเฉพาะ การออกแบบงานดอกไม้แบบสร้างสรรค์จะต้องออกแบบให้มีความงามประสานกับ การใช้สอยอย่างมีเหตุผล ฉะนั้นการออกแบบจึงมีลักษณะแตกต่างไปตามลักษณะหน้าที่ใช้สอยของ การจัดดอกไม้แต่ละแบบ จุดมุ่งหมายของการนาดอกไม้ไปใช้ย่อมแตกต่างกันตามหน้าท่ีใช้สอย ในแต่ ละโอกาสฉะน้ันในการออกแบบจึงจาเป็นต้องเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายของการจัดดอกไม้แต่ละแจกัน จากน้นั จึงใช้ความคิดพจิ ารณาออกแบบและแก้ปญั หาให้เหมาะสม กับการนาไปใช้ประโยชน์ ลักษณะ ของการออกแบบจัดดอกไมท้ ่ดี จี ึงควรจะต้องมีหลกั การออกแบบดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ความเปน็ เอกภาพในการออกแบบ ความเป็นเอกภาพในการออกแบบ หมายถึง ความเป็นเอกภาพของดอกไม้ โดยรวม ท้ังหมดให้ความสัมพันธ์ ในของสีที่ประสานกลมกลืนกัน รูปทรงของสีของดอกไม้ที่มีรูปแบบสัมพันธ์ กนั ลักษณะของพ้นื ผวิ ของดอกไม้ ที่นามาจัดรวมกันอยา่ งงดงาม 2. คุณคา่ ทางรปู แบบ คณุ ค่าทางรูปแบบ หมายถึงคุณค่าทางความงามของการออกแบบ เช่น ความงามของสี ความงามของดอกไม้ ความงามในการจัดตกแต่ง อาจจะเป็นความงามในรูปแบบเก่า เช่น การ ออกแบบตกแตง่ ในภาชนะท่ีเป็นแบบไทย ๆ เครื่องหวาย เครื่องจักสาน หรือเป็นความงามในรูปแบบ สรา้ งสรรค์กไ็ ด้ เพราะรูปแบบเก่าหรอื รปู แบบใหมย่ อ่ มออกแบบตกแต่งให้เด่นและสวยงามไดท้ งั้ สน้ิ 3. คุณคา่ ทางหน้าที่ใชส้ อย คุณค่าทางหน้าท่ีใช้สอย เป็นคุณค่าที่พิจารณาว่าการออกแบบจัดดอกไม้น้ันมีความ เหมาะสมกับหนา้ ท่ีใช้สอย หรือการใช้ชีวิตประจาวันมากน้อยเพียงใด เช่น การออกแบบจัดดอกไม้ท่ี จะใชจ้ ัดมมุ ห้อง หรือกลางโต๊ะอาหาร 4. ความเหมาะสมกบั สภาพเศรษฐกิจ ความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ การออกแบบที่มิใช้แค่เพียงเป็นการ ออกแบบให้ ได้งานดอกไม้ท่ีดีท่ีสวยงาม แต่ต้องคานึงถึงความเหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจในสังคมปัจจุบัน เพราะถ้าออกแบบจัดดอกไม้ที่หรูหราเกินความจาเป็น อาจจะเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจข้ึน เท่านั้นยัง ไม่พอยังเกิดปัญหาในเรื่องของการดูรักษาอีกด้วย และความหรูหราฟุ่มเฟือยก็ใช่จะเป็นส่ิงที่ดีสาหรับ การใช้ชีวิตในสังคมไทยยคุ ปัจจุบันเสมอไป

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"14 5.ความสอดคล้องกับรสนยิ มของผอู้ ยอู่ าศยั ความสอดคล้องกับรสนิยมของผู้อยู่อาศัย รสนิยมคือความต้องการหรือความชอบ ทางด้านความสวยงามและส่ิงที่ดีงามในชีวิตประจาวัน การออกแบบการจัดดอกไม้ จาเป็นจะต้อง ศึกษาถึงรสนิยมของผู้บริโภคเป็นส่ิงแรก นอกจากรสนิยมทางด้านความสวยงามแล้ว ควรจะต้อง สอดคล้องกับความต้องการในการใช้นาไปใช้ในแต่ละโอกาสซึ่งรวมไปถึงคติความเช่ือที่มีอิทธิพลต่อ การออกแบบการจดั ดอกไม้ หลักของการออกแบบ จึงเป็นการจัดองค์ประกอบของเส้น รูปร่าง รูปทรง มวล ค่าของ แสงและเงา ช่องว่างและสี ให้ถูกหลักการออกแบท่ีดี คือ มีดุลยภาพ (Balance) สัดส่วน (proportion) ช่วงจังหวะ (rhythm) ความกลมกลนื (harmony) ความแตกต่าง (contrast) และเน้น ให้เกิดจุดเดน่ (emphasis) หลักศิลปะ หลกั ศิลปะที่ใช้ในการจัดดอกไม้เป็นองค์ประกอบที่มีความสาคัญ ในการจัดดอกไม้สดให้มี คุณภาพ และสวยงามตามลักษณะของดอกไม้ตามธรรมชาติ ซ่ึงผู้จัดดอกไม้ จาเป็นต้องศึกษาและทา ความเขา้ ใจถงึ หลักการนาหลกั ศลิ ปะมาใช้ท่ีถูกต้องและเหมาะสม ต่อการจัดดอกไม้ให้มีความสวยงาม และมีความประณีต จะต้องมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถนาความรู้ในด้านศิลปะมาประยุกต์ใช้ ในงานดอกไม้ได้เป็นอย่างดี ซ่ึงองค์ประกอบทางศิลปะถือเป็นความรู้พ้ืนฐานที่จะต้องรู้ในเรื่อง เส้น รปู ร่าง รูปทรง สีลักษณะผวิ ชว่ งจงั หวะ สดั ส่วน ความสมดลุ เอกภาพ ความกลมกลนื การตดั กันเป็น องคป์ ระกอบท่สี าคัญโดยมีรายละเอยี ดดงั นี้ 1. เส้น เส้น (Line) ท่ีเกิดจากการจัดวางดอกไม้ จะเป็นตัวกาหนดรูปร่างและขนาดของการ จัดดอกไม้ เสน้ ทใี่ ช้ในการจัดดอกไม้ มหี ลายเสน้ ดังน้ี 1.1 เส้นดิ่ง (Vertical Line) เน้นความสูงมากกว่าความกว้าง เป็นเส้นท่ีดูแข็งแกร่ง มนั่ คง ทาใหด้ ูเปน็ ทางการเชน่ การจัดดอกไมท้ รงสงู 1.2 เส้นแนวนอน (Horizontal Line) เน้นความกว้างมากกว่าความสูงจะวางขนาน กับพื้นผวิ เปน็ เสน้ ทใ่ี ห้ความรูส้ กึ ถึงความสงบ สนั ตภิ าพ ความเงียบ 1.3 เส้นทแยง (Diagonal Line) แสดงถึงความเคล่ือนไหว ไม่อยู่นิ่ง ความไม่แน่นอน และไม่มั่นคง ถ้าใช้เส้นทแยงกับเส้นด่ิงหรือเส้นแนวนอนในการจัดดอกไม้ ทาให้ผลงานน่าสนใจมาก ยิง่ ขนึ้ 1.4 เส้นโค้ง (Curve Line) เป็นเส้นที่ให้ความรู้สึกในลักษณะเดียวกับเส้นตรง แต่ดู สง่างามและนา่ สนใจมากกวา่ เส้นโคง้ แสดงถงึ การเคล่ือนไหว ความนุม่ นวล (ศศวิ มิ ล โฉมเฉลา, 2538, หนา้ 112) 2. รูปรา่ ง รูปทรง รูปรา่ ง รูปทรง (Shape and Form) ในการจดั ดอกไม้จะต้องมีความกลมกลืนกับภาชนะ ดอกไมห้ รือใบไม้ท่มี ลี กั ษณะกลมมนยอ่ มกลมกลืนกับภาชนะรปู กลม วงรี รูปทรงการจัดดอกไม้ท่ีใช้จะ เป็นรปู ทรงกลม ครึ่งวงกลม วงรี ดูจะเหมาะกว่าการจัดกับภาชนะรูปเหลี่ยมนอกจากน้ีรูปร่าง รูปทรง

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 15 การจัดดอกไม้ยงั จะตอ้ งมีความสมั พนั ธแ์ ละกลมกลนื กับสถานท่จี ดั วางดอกไม้ การจัดดอกไม้ท่ีมีรูปร่าง รูปทรงท่ีดี มองดมู น่ั คงไม่เอียง ไม่โค่นล้มง่าย ซ่ึงข้ึนอยู่กับเส้นและทิศทางการปักดอกไม้และตาแหน่ง ของที่ยึดในภาชนะ ในลกั ษณะการจัดแจกันทรงสูง 3. จดุ เด่น จุดเด่น (Focal Point) ถือเป็นจุดแรกในการจัดดอกไม้ท่ีผู้คนจะมองเห็น เป็นจุดที่ ดึงดูดความสนใจดึงดูดสายตาของผู้ชมมาสู่แจกันดอกไม้ การสร้างจุดเด่นในการจัดดอกไม้ โดยวาง เส้นทีย่ าวทสี่ ดุ ผ่านจดุ เดน่ เพ่อื นาสายตา ควรเลือกใช้ดอกไม้ท่ีมีขนาดใหญ่ สีเข้ม ดอกสวยงาม ดอกไม้ ท่ีจัดอยู่ใกล้จุดเด่นควรเลือกใช้สีใกล้เคียงกับจุดเด่น การจัดควรจัดรวมกลุ่มกันเพ่ือให้เห็นได้ชัดเจน เช่น การจัดดอกไม้รปู ทรงตัวแอล 4. ความสมดุล การจัดดอกไม้ที่ออกมาสวยงามจะต้องมีความสมดุล (Balance) ของน้าหนักจะต้อง มนั่ คง ไมร่ ู้สึกว่าเอยี งไปด้านใดด้านหนึ่ง ซงึ่ การจัดดอกไมใ้ ห้สมดุลมี 2 ประการ คอื 4.1 สมดลุ ซา้ ยและขวาเหมอื นกนั (Asymmetrical balance) ในการจัดดอกไม้ใน ลักษณะน้ีจุดเด่นจะต้องอยู่ตรงกลาง เม่ือลากเส้นดิ่งผ่านจุดเด่นส่วนที่อยู่ซ้ายและขวาของเส้นดิ่งมี น้าหนักเทา่ กนั เช่นการจัดดอกไม้รปู ทรงสามเหล่ียมดา้ นเทา่ 4.2 สมดุลซ้ายและขวาไม่เหมือนกัน (Asymmetrical balance) การจัดดอกไม้ จุดเด่นไม่จาเป็นต้องอยู่ตรงกลาง เมื่อลากเส้นดิ่งผ่านจุดเด่นส่วนที่อยู่ด้านซ้ายและขวาของเส้นด่ิงมี น้าหนกั เทา่ กนั ในการจัดดอกไม้ใหม้ คี วามสมดุลโดยจดั ดอกไม้สีเขม้ ดอกขนาดใหญ่และดอกบานจัดให้ อยู่ใกล้กับส่วนฐาน เนื่องจากดอกไม้สีเข้มขนาดใหญ่จะดูมีน้าหนักมาก ดอกไม้สีอ่อน ดอกเล็กๆ และ ดอกตูมควรจัดให้อยู่ส่วนบนเพราะจะดนู า้ หนกั เบาๆ 5. สดั ส่วนและขนาด สัดส่วนและขนาด (Proportion and scale) ถือเป็นส่ิงท่ีสาคัญในการจัดดอกไม้ให้มี สัดส่วนที่เหมาะสมและสวยงาม ผู้จัดดอกไม้ต้องคานึงถึงขนาดของดอกไม้ ใบไม้ ภาชนะและของ ตกแต่งอ่ืนๆ ทใี่ ช้ประกอบกันจะต้องจัดวางให้เหมาะสม ความสูงของดอกไม้ที่จัดควรมีความสูง 1.5 - 2 เท่า ของความกว้างของภาชนะ สาหรับการจัดดอกไม้แบบทันสมัยอาจจะต้องใช้ก้านดอกไม้ท้ัง ก้านยาวและก้านสั้น สิ่งที่มีผลต่อสัดส่วนของการจัดดอกไม้ คือ ขนาด พื้นผิว และสีสันของภาชนะที่ ใชจ้ ดั ดอกไม้ 6. ผิวสัมผัส ผิวสัมผัส (Texture) ในการจัดดอกไม้ หมายถึง ลักษณะพื้นผิวของดอกไม้ ใบไม้ที่ สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้จะต้องมีท้ังที่มองดูแล้วรู้สึกว่าแข็ง หยาบ และนุ่มนวล ดังน้ันการใช้ ประโยชนจ์ ากผิวสมั ผัสในการจัดดอกไม้ โดยการเลอื กผิวสัมผัสท่ีแตกต่าง ตรงกันข้ามมาจัดคู่กัน แต่ มักเลือกใช้สีเอกรงค์ เช่น เลือกผิวเรียบคู่กับผิวขรุขระ ผิวนุ่มกับผิวท่ีมีหนาม แจกันดอกไม้ท่ีมี ผวิ สัมผัสที่แตกต่างกันจะน่าสนใจถงึ แมว้ า่ จะใช้เรียบๆ เพยี งสีเดยี ว เช่นการจัดดอกไม้บนขอนไม้ 7. ความลกึ ความลึก (Depth) ของการจัดดอกไม้ เกิดข้ึนเมื่อนาดอกไม้ ใบไม้ ถูกจัดให้อยู่ต่างระดับ กัน ซึ่งการจัดดอกไม้ควรจัดให้หน้าดอกไม้ลดหลั่นเอียงทามุมไล่กันไป ไม่ชิดและแน่นจนเกินไป เอน

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"16 ก้านดอกไม้ไปด้านหลังและดอกไม้ที่อยู่ด้านหลังเอนไปด้านหน้า แต่จะต้องดูมั่นคงและด้านหลังให้ ปกั ด้วยใบไมส้ เี ขยี วหรอื ดอกไม้สเี ยน็ เชน่ สีม่วง เพื่อชว่ ยเพ่ิมความลกึ ให้กบั การจัดดอกไม้ 8. จังหวะ จงั หวะ (Rhythm) ของการจดั ดอกไม้เป็นเสมือนชีวิตและความเป็นธรรมชาติของการจัด ดอกไม้ที่ถูกตามทฤษฎีการจัดดอกไม้ท่ีขาดการวางจังหวะ การเว้นช่องว่างของสีสันและรูปทรงของ ดอกไม้ หากขาดเส้นที่เคล่ือนไหว และเส้นนาสายตาจะทาให้ดอกไม้ที่จัดออกมาดูแข็ง ไร้ความรู้สึก การจัดดอกไม้ให้ดูมีชีวิตชีวา เมื่อมองตามเส้น สี และรูปทรงต่างๆ เข้าไปสู่จุดเด่นผ่านไปถึงด้านข้าง และดา้ นหลังมีความเป็นธรรมชาติ การวางจังหวะใหเ้ หมาะสม ทาได้โดยให้ขอบและส่วนบนของดอกไม้ท่ีจัดมีช่องว่างดูโปร่ง กว่าส่วนล่าง โดยเลือกดอกไม้ขนาดเล็ก จัดให้อยู่ส่วนบนหน้าดอกให้หันขึ้นและเอนก้านดอกไม้ไป ทางด้านหลังเล็กน้อย ส่วนดอกไม้ท่ีอยู่ส่วนล่างๆ ให้หันหน้าดอกออกมาด้านหน้า อาจเลือกใช้ดอกไม้ ที่มีรูปทรงท่ีใกล้เคียงกันหรือการเลือกใช้สีใดสีหนึ่ง เป็นกลุ่มๆ และไล่สีเข้มสีอ่อนจากด้านหน้าไป ด้านหลังและจดั จากสว่ นลา่ งไปหาส่วนบน 9. ความแตกต่าง ความแตกตา่ งของการจัดดอกไม้ เกิดจากการใช้ดอกไม้ท่ีต่างกลุ่ม ต่างสี ขนาด รูปทรง ควรนามาเปน็ ดอกทเี่ ป็นจดุ เดน่ โดยจัดให้อยตู่ รงกลางของรูปทรง ในความแตกต่างน้ี ยังต้องให้มีความ เหมือน หรือความซ้าในบางเร่ือง เพื่อช่วยให้เกิดความกลมกลืนในเรื่องของการต่างสี แต่ เป็น ชนิดเดยี วกัน มรี ปู ทรง ผวิ พรรณ ที่มีความเหมือนกันหรือต่างขนาดกัน แต่รูปทรงเดียวกัน (มณีรัตน์ จันทนะผะลนิ , 2542, หนา้ 47) 10. ความกลมกลนื การเลือกใช้วัสดุที่นามาจัดรวมกันต้องมีความกลมกลืน (Harmony) เป็นอันหน่ึงอัน เดียวกันท้ังในเรื่องรูปร่าง รูปทรง ขนาด สัดส่วน สีสัน เส้นทิศทาง ช่องว่าง ผิวสัมผัส จุดเด่น รวมถึง การนาความแตกต่างส่ิงที่ไม่เหมือนกัน ส่ิงที่ตัดกัน สิ่งที่ตรงกันข้ามมาจัดเข้าด้วยกันในปริมาณและ น้าหนักที่พอเหมาะได้อย่างกลมกลืน รวมถึงการเลือกใช้ภาชนะท่ีนามาใช้ในการจัดดอกไม้ (มณีรัตน์ จันทนะผะลนิ , 2542, หน้า 47) 11. เอกภาพ เอกภาพ (Unity) คือความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน ของรูปทรงดอกไม้ที่ใช้ในการจัด ดอกไม้ โดยอาศัยส่วนประกอบของศิลปะท่ีนามาใช้ในการจัดวาง ให้เกิดความประสานสัมพันธ์กัน ความเป็นเอกภาพในงานดอกไม้ ช่วยให้ดอกไม้ที่จัดมีความโดดเด่นและมีคุณค่า ซ่ึงนักออกแบบงาน ดอกไม้ท่ีจะต้องสร้างสรรค์ผลงานจาเป็นต้องศึกษาและทาความเข้าใจในความเป็นเอกภาพ ซ่ึง สามารถทาได้หลายวธิ ดี ังน้ี 11.1 การจัดองค์ประกอบแบบเด่ียว เป็นการจัดท่ีมีเรื่องราวรูปทรงเพียงอย่างเดียว การจัดองค์ประกอบจึงมักอยู่ตรงกลางซ่ึงจะเห็นได้ทั่วไป เช่น การจัดดอกไม้ที่เน้นความสาคัญของ ดอกไม้ และนามาจดั วางในสว่ นตรงกลางให้เหน็ เด่นชัด สอื่ ความหมายไดท้ นั ที 11.2 การจัดองค์ประกอบแบบคู่ เป็นการจัดองค์ประกอบของสองสิ่ง ซึ่งอาจจะมี ขนาดเท่ากนั หรอื ไมเ่ ทา่ กนั กไ็ ด้ การจดั องค์ประกอบแบบนี้เพ่อื ใหม้ ีความเป็นเอกภาพ จึงควรจัดวางให้

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 17 เหล่ือมล้ากัน ซ่ึงจะทาให้มีส่วนเด่นและส่วนรอง ในการจัดองค์ประกอบแบบคู่น้ีช่วยให้ดอกไม้มี มุมมองท่ีแตกต่างจากการจัดองค์ประกอบแบบเดี่ยว และยังสามารถทาให้เกิดระยะ หรือความต้ืนลึก เกดิ ข้นึ ในแจกนั ดอกไมไ้ ด้ 11.3 การจัดองค์ประกอบแบบกลุ่ม เป็นการจัดองค์ประกอบของหลายๆ สิ่ง ซึ่ง องค์ประกอบเหล่าน้ัน อาจมีขนาดรูปร่าง รูปทรงที่ต่างกันบ้าง เหมือนกันบ้าง การจัดองค์ประกอบ จากส่ิงที่หลากหลายนี้จะต้องสร้างความสัมพันธ์ของรูปร่าง รูปทรงให้มีความเป็นเอกภาพเช่นกัน นัก จดั ดอกไมจ้ งึ จาเป็นตอ้ งศึกษา และทาความเข้าใจในการจดั ดอกไม้ให้มีเอกภาพแบบต่างๆ จะช่วยให้ งานทสี่ ร้างสรรค์ขนึ้ ดูน่าสนใจ และไม่นา่ เบอ่ื ทฤษฏีและการใชส้ ี การใช้สีเป็นองค์ประกอบท่ีมีความสาคัญ ต่อการจัดดอกไม้สามารถรับความรู้สึกทางด้าน อารมณ์ ความเชอ่ื และค่านิยมจากการนาสีมาใช้ ดังน้ันการการนาสมี าใช้ตกแต่ง การผสมสีที่ถูกต้อง การออกแบบสีของดอกไม้และใบไม้ เป็นสิ่งที่สาคัญ ท่ีทาให้ดอกไม้มีคุณภาพและสวยงาม ตาม ลักษณะธรรมชาติของดอกไม้หรือสวยงามตามความคิดสร้างสรรค์จา เป็นต้องศึกษาและทาความ เข้าใจถึงคุณสมบัติของสีและหลักการใช้สีท่ีถูกต้อง โดยนาสีจากวงจรของสีมาประยุกต์ใช้ตาม หลักการดงั นี้ 1. สี สี (Color) การเลอื กใชส้ ใี นการจัดดอกไม้สดจะต้องดึงดูดสายตาและทาให้ผู้ที่พบเห็น เกิดความช่ืนชอบ การเลือกใช้สีที่เหมาะสมในการจัดดอกไม้สด โดยนาทฤษฎีสีมาใช้เป็นหลัก เบื้องต้น จากวงสที ้งั 12 สี ในเรื่องตา่ งๆ ภาพที่ 2.1 วงจรสี 12 สี ทีม่ า : พรยุพรรณ พรสุขสวัสด,์ิ 2557 1.1 แม่สี หมายถึง สีแท้ ท่ีไม่สามารถนาสีอื่นมาผสมเป็นแม่สีได้ แต่เมื่อนาแม่สีสองสีมา ผสมในอัตราส่วนที่เทา่ กนั จะเกิดเปน็ สใี หมข่ ึ้น แตถ่ ้านาแม่สีมารวมกนั ทัง้ สามสี จะเกดิ เป็นสกี ลาง 1.1.1 สีขัน้ ท่ี 1 (Primary Color) มสี ามสคี อื สีแดง สเี หลอื ง สนี ้าเงนิ

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"18 ภาพที่ 2.2 สขี นั้ ท่ี 1 ท่มี า : พรยุพรรณ พรสขุ สวัสด์ิ, 2557 1.1.2 สีข้ันที่ 2 (Secondary Color) เป็นการนาสีขั้นที่ 1 หรือแม่สีอย่างละ เท่ากนั มาผสมกนั จะเกดิ เปน็ สใี หม่อีกสามสีเรยี กวา่ สีขนั้ ที่ 2 ประกอบด้วย 1) สแี ดงผสมกับสีเหลอื ไดเ้ ป็นสีส้ม 2) สีเหลืองผสมกับสีนา้ เงิน ไดเ้ ป็นสเี ขยี ว 3) สีน้าเงินผสมกับสแี ดง ไดเ้ ป็นสีมว่ ง ภาพท่ี 2.3 สีข้นั ที่ 2 ทมี่ า : พรยพุ รรณ พรสุขสวสั ดิ์, 2557 1.1.3 สีขั้นที่ 3 (Intermediate Color) เป็นการนาแม่สีผสมกับสีข้ันที่ 2 ท่ีอยู่ ข้างเคียงกันเกดิ เป็นสีขน้ ท่ี3 ประกอบดว้ ย 1) สีแดงผสมกับสีสม้ ไดเ้ ปน็ สี แดงสม้ 2) สีเหลอื งผสมกบั สเี ขียว ได้เป็นสเี หลอื งเขยี ว 3) สเี หลอื งผสมกับสสี ม้ ได้เปน็ สีเหลอื งส้ม 4) สนี ้าเงนิ ผสมกับสีเขียว ได้เปน็ สีน้าเงนิ เขยี ว 5) สแี ดงผสมกับสมี ว่ ง ไดเ้ ป็นสีแดงมว่ ง 6) สนี ้าเงินผสมกบั สีมว่ ง ได้เป็นสนี ้าเงนิ มว่ ง ภาพท่ี 2.4 สีข้นั ที่ 3 ทม่ี า : พรยุพรรณ พรสขุ สวสั ด์ิ, 2557

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 19 อัตราส่วนที่ใช้ผสมสีจะต้องอยู่ในอัตราส่วนที่เท่ากัน หากต้องการให้สีหนักไปข้างใดข้าง หน่ึง ให้ผสมสีนั้นให้มีอัตราส่วนมากกว่าอีกสีหน่ึง เช่น ต้องการสีม่วง แต่มีสีแดงปนก็ผสมสีม่วง มากกว่าสแี ดงสที ่ีได้จะเป็นสีม่วงอมแดง 1.2 วรรณะของสี (Tone Color) หมายถึง กล่มุ สที ่ีมีคุณสมบัติท่ีให้ความรู้สึกแตกต่างกัน ในวงสีธรรมชาติแบง่ เปน็ 2 วรรณะคอื 1.2.1 สีวรรณะร้อน (Warm Tone) หมายถึง สีใดสีหน่ึงที่ผสมจากสีแดงหรือสี เหลืองให้ความรู้สึกเร่าร้อน ตื่นเต้น และสะดุดตา ในวงสีธรรมชาติได้แก่สีเหลือง ส้มเหลือง ส้ม ส้ม แดง ม่วงแดง ม่วง สาหรับการเลือกสีดอกไม้ สีร้อนจะให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง คึกคัก เช่น ดอก กหุ ลาบสีสม้ หรือขงิ แดง 1.2.2 สีวรรณะเย็น (Cool Tone) หมายถึง สีใดสีหนึ่งที่ผสมจากสีน้าเงินหรือสี เหลอื ง ให้ความรู้สึกเยน็ สบายตา ในวงจรสธี รรมชาติ ได้แก่ สีเหลืองเขียว สีเขียว เขียวน้าเงิน น้าเงิน น้าเงินม่วง ม่วง ซ่ึงถ้าอยู่ในห้องที่มีผู้คนพลุกพล่านสับสนวุ่นวาย ควรเลือกดอกไม้ สีเย็น เช่น ดอกไอ รีสสีม่วง หรือน้าเงิน จะทาให้ความรู้สึกผ่อนคลายลง สาหรับสีเหลืองและสีม่วงจัดเป็นสีกลาง เนื่องจากอยู่ในตาแหนง่ ท่กี า่ กึ่งให้ความรูส้ กึ ทง้ั รอ้ นและเย็นในการจัดดอกไม้ ควรที่จะคิดและตัดสินใจ ว่าดอกไม้ทน่ี ามาจัดต้องการเน้นความรู้สึกอย่างไร เพ่ือจะได้เลือกใช้วรรณะสีให้เหมาะสมกับลักษณะ ของดอกไม้ ภาพท่ี 2.5 วรรณะของสี ที่มา : พรยุพรรณ พรสุขสวสั ด,ิ์ 2557 1.3 คา่ ของสี (Values) หมายถงึ คา่ ความอ่อน-แก่ของสี ซงึ่ สามารถแบ่งเป็นระดับความ เข้มมากน้อยต่างกันตามลักษณะของการจัดดอกไม้สด เช่น ค่าของสีท่ีมีน้าหนักต่างกันมากจะเหมาะ กับการจัดดอกไม้สดท่ใี ห้ความรู้สกึ รนุ แรง ถา้ หากค่าน้าหนักของสีต่างกันน้อยหรือมีความกลมกลืนกัน จะเหมาะกับการจัดดอกไม้ท่ีใหค้ วามรู้สึกนุ่มนวล สงบ เป็นต้น การนาค่าของสีมาใช้กับการจัดดอกไม้ ช่วยสร้างมิติของการจัดดอกไม้สด ให้เกิดความสวยงามในทางปฏิบัติจะใช้ สีขาว ดา หรือเทา ผสมกับสีแท้ซึ่งสีใดสีหน่ึงจะทาให้เกิดค่าน้าหนักตามที่ต้องการทาให้สีหม่นลง (อ้อยทิพย์, 2542 หน้า 82) 1.4 สีเอกรงค์ (Monochromatic Color) หมายถึง การเลือกใช้สีหลักเพียงสีเดียวแล้ว เพิ่มหรือลดค่าของสีให้สีอ่อนสีเข้มในระดับต่าง ๆ กัน ประกอบในการจัดดอกไม้ เช่น การจัดแจกัน ดอกไม้โดยใช้สีชมพูทั้งหมดโดยท่ีมีท้ังสีชมพูเข้ม สีชมพูกลางและสีชมพูอ่อนไล่น้าหนักสี เป็นต้น ซ่ึง การเลือกใช้สีเอกรงค์เป็นวิธีการเลือกใช้สีที่เหมาะสมสาหรับผู้ท่ีเริ่มเรียนรู้การจัดดอกไม้ สีสันไม่ ฉดู ฉาดไมข่ ดั ตาและยงั ทาให้การจัดดอกไมส้ ดมีความกลมกลนื

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"20 1.5 สีหลายสี (Polychromatic color) เป็นวิธีการใช้สีที่นิยมในยุโรปสมัยก่อนจนเป็น เอกลักษณ์ของการจัดดอกไม้แบบโบราณ (Old – Fashion) คือการใช้สี 5 สี หรือมากกว่าจากวงสี มกั ใชด้ อกไม้หลายแบบ หลายชนดิ ในการจัดดอกไม้ ซง่ึ ในการเลือกใชส้ ดี อกไม้หลายสไี ม่เหมาะสาหรับ ผู้ที่พึ่งเริ่มหัดจัดดอกไม้ เนื่องจากยังขาดความรู้ความชานาญในการจัดวางตาแหน่งของสีดอกไม้และ การกาหนดปริมาณดอกไม้ในแต่ละสี 1.6 สขี ้างเคยี ง (Analogous Color) เป็นวิธีการเลือกใช้สีท่ีถือว่านิยมมากอีกวิธีหน่ึง ซ่ึง ทาให้การจัดดอกไมท้ มี่ ีสสี ันดูดี กลมกลืนไม่ฉดู ฉาดจนเกนิ ไป ในการเลือกใช้สีข้างเคียง ทาได้โดยเลือก สีขา้ งเคยี งในวงจรสี 3 สี มาใช้ร่วมกนั ในการจัดดอกไม้ดว้ ยวิธตี า่ ง ๆ 1.7 สีตรงข้าม (Complementary Color) เป็นการเลือกใช้ดอกไม้ท่ีมีสีค่อนข้างฉูดฉาด และดึงดดู สายตาโดยเลอื กใช้ดอกไม้ 2 สี ท่ีอยู่ตรงกนั ขา้ ม เช่น ใช้ดอกไม้สีแดงคู่กับดอกไม้สีเขียว การ ใช้ดอกไมส้ ีเหลืองคกู่ ับดอกไม้สีม่วง และการใช้ดอกไม้สีน้าเงินคู่กับดอกไม้สีส้ม ซึ่งการใช้ดอกไม้สีตรง ข้ามจะให้ความรู้สึกท่ีตัดกันอย่างรุนแรงแต่ถ้าหากใช้ดอกไม้ในปริมาณท่ีเหมาะสมจะทาให้การจัด ดอกไมม้ คี วามสวยงามและกลมกลืนกนั โดยใช้อัตราส่วนร้อยละ 30: 70 หรอื ร้อยละ 20: 80 ภาพท่ี 2.6 สตี รงข้าม ทมี่ า : พรยุพรรณ พรสุขสวสั ด์ิ, 2557 1.8 สกี ลมกลนื (Harmony) หมายถึงสีท่ีใกล้เคียงกันในวงล้อของสี เช่นสีเหลืองเป็นสี หลักสีข้างเคียงของสีเหลืองได้แก่ สีเหลืองเขียวกับสีน้าเงินเขียว สีน้าเงินกับน้าเงินม่วงและสีม่วง ทา ให้สีกลมกลืนกันหลายแบบเช่น สีกลมกลืนแบบข้างเคียง โดยการใช้สีหนึ่งสีใดเป็นสีหลัก เรียงไป ทางขวาหรือทางซา้ ยแตไ่ ม่เกนิ 6 สี ซงึ่ สกี ลมกลนื จะเกิดความออ่ นแก่ การใช้สีถือเป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญในการจัดดอกไม้ เพราะสีต่างๆ ทาให้เกิดความ สวยงามน่าสนใจ และแสดงถึงอารมณ์ ความรู้สึก ในการจัดดอกไม้ สีจะช่วยเสรอมให้บรรยากาศสด ช่ืนและยงั เป็นแรงบนั ดาลใจในการแสดงออกถึงความรู้สึกและความน่าสนใจในการใช้สี เสื้อผ้าควรใช้ ลักษณะของค่านา้ หนกั (Value) คอื การใชส้ ีออ่ น-แก่ เพ่ือทาใหเ้ กดิ ความแตกต่างของค่าน้าหนักสี เช่น สีม่วงออ่ น หรอื สีม่วงเข้ม หรือการใช้สีกลมกลืน (Harmony) ท่ีดูแล้วนุ่มนวล เช่น สีโทนเดียวกันและ หากต้องการความสดชื่นควรใช้สีสดใสหรือสีตัดกันในปริมาณที่ต่างกันซ่ึงจะช่วยให้บรรยากาศสดช่ื น ข้ึน ในการจัดดอกไม้ท่เี กี่ยวข้องกับการใชส้ ที างจิตวิทยา จะมีปฏิกริ ยิ าต่ออารมณข์ องผรู้ ับดงั น้ี

21 1. สีแดง เป็นสที ่ีกระตุ้นจิตใจเป็นอย่างดี เย้ายวน ร้อนแรง ผู้ที่ชอบดอกไม้สีแดงจะต้อง เปน็ คนท่ีมคี วามมน่ั ใจในตัวเอง เปดิ เผย และเป็นผ้นู า 2. สีเหลอื ง เป็นสีท่ีบ่งบอกถึงความเป็นคนอารมณ์ดี ร่าเริง อ่อนโยน มีพลัง ความฉลาด และมีจติ นาการ 3. สีเขียว เป็นสีที่แสดงถึงความสุขุม เยือกเย็น เหมาะสาหรับงานที่ต้องใช้พลังหรือ ความคดิ คนทช่ี อบดอกไมส่ ีเขยี วจะดเู ป็นคนกระฉับกระเฉง 4. สีฟ้า เป็นสีของความสงบ เป็นบรรยากาศท่ีผ่อนคลาย ควรหลีกเล่ียงสีฟ้าหากอยู่ใน บรรยากาศเศร้าเหงาเพราะจะทาให้เศร้ามากยงิ่ ข้ึน ควรใช้ดอกไม้สีฟ้าคู่กับดอกไม้สีส้มอ่อนๆ จึงจะทา ใหด้ ูสดใสขึ้น 5. สีมว่ ง เป็นสีท่คี รมึ สง่า เกดิ ความศรทั ธาและความสงบหากเป็นคนเปิดเผยจะยอมรับ สมี ว่ งไดโ้ ดยเฉพาะสีม่วงปนแดงจะยิง่ เป็นสีท่สี รา้ งความม่นั ใจได้ดี 6. สีขาว เป็นสีที่ใสสะอาด เข้าได้กับทุกสี คนชอบดอกไม่สีขาวเป็นคนท่ีชอบหาความ จรงิ ของชีวติ เปน็ สขี องนักคิด เมอื่ ใช้ดอกไม้สขี าวจะทาใหข้ าดอานาจในการตดั สินใจ 7. สีแสด เป็นสีท่ีให้ความรู้สึก สดใส ร้อนแรง เจิดจ้า คนท่ีชอบสีแสดแสดงถึงพลังและ อานาจ 8. สีชมพู เป็นสีที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน คนที่ชอบดอกไม้สีชมพูบ่งบอกถึงความ ประณตี ร่าเรงิ 9. สที อง เป็นสีทีใ่ ห้ความร้สู ึกมั่นคง อดุ มสมบรู ณ์ 10. สีส้ม เป็นสีท่ีให้ความรู้สึกร้อน ความอบอุ่น ความสดใส มีชีวิตชีวา ต่ืนเต้น ร่าเริง ฉูดฉาดความเปน็ วยั รนุ่ ความคึกคะนอง การปลดปลอ่ ย ความเปรี้ยว ความระมัดระวัง 11. สีน้าเงิน เป็นสีท่ีให้ความรู้สึกสุขุม ภูมิฐาน ความสุภาพ หนักแน่น เคร่งขรึม สงบ เอาการเอางาน ละเอยี ด รอบคอบ สงา่ งาม มศี ักดิศ์ รี สูงศกั ดิ์ มีฐานะ เปน็ ระเบียบถ่อมตน จงรักภกั ดี 12. สนี ้าตาล เปน็ สที ี่ให้ความร้สู กึ เข้มแขง็ น่าเช่อื ถือ มั่นคง มีความเป็นธรรมชาติ ความ ยากจนความสกปรก 13. สีเทา เป็นสีท่ีให้ความรู้สึกเศร้า อาลัย ท้อแท้ ความลึกลับ ความหดหู่ ความน่าเบื่อ ความชรา ความสงบ ความเงยี บ สุภาพ สุขมุ ถ่อมตน สกปรก 14. สดี ้า เป็นสีที่ให้ความรู้สึกภูมิฐาน หรูหรามีระดับ สง่า ร่วมสมัย เป็นทางการ ความ โกรธ ความโศกเศร้า ความกลวั มีพลงั อานาจ ความลึกลับ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"

22 สรปุ การจัดดอกไม้ ส่ิงที่สาคัญที่จะต้องคานึงถึงคือการออกแบบ เพราะการออกแบบจะต้อง วางแผนไปถึงขัน้ ตอนการประกอบเข้าเป็นดอกหรือช่อดอกไม้ ในการจัดดอกไม้ จาเป็นต้องอาศัยการ ออกแบบที่มีความเหมาะสมและง่ายในการจัดดอกไม้ ซ่ึงจะทาให้ได้ดอกไม้ตรงตามวัตถุประสงค์ ดังน้ันในการออกแบบจึงต้องคานึงถึงความสัมพันธ์ทุกข้ันตอน เช่น การจัดดอกไม้ชนิดหน่ึง ต้อง คานึงถงึ วตั ถปุ ระสงคห์ ลักในการจัด พิจารณารูปร่าง สัดส่วน ตามธรรมชาติ ของดอกไม้ ถือได้ว่าการ ออกแบบเป็นเรื่องจาเป็นในการจัดดอกไม้ โดยท่ัวไปใช้ดอกไม้จริงเป็นหลักในการจัดดอกไม้ โดยยึด หลักการทีส่ าคญั คอื วตั ถุประสงคข์ องการจดั รูปทรง สัดส่วน การใช้เส้น สี วัสดุ ซ่ึงในการออกแบบมี 2 ลักษณะ คอื จากธรรมชาติ และจากการสร้างสรรค์ โดยยึดหลักในการออกแบบในเรื่องของ คุณค่า ทางหน้าทใี่ ช้สอย โอกาส ความเหมาะสมกบั สภาพทางเศรษฐกิจในสังคมปัจจุบัน ซ่ึงองค์ประกอบทาง ศิลปะถือเป็นความรู้พ้ืนฐานที่จะต้องรู้ในเร่ือง เส้น รูปร่าง รูปทรง สีลักษณะผิว ช่วงจังหวะ สัดส่วน ความสมดุล เอกภาพ ความกลมกลืน \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"

23 แบบฝึกหัดทา้ ยบท 1. การออกแบบการจัดดอกไม้ มคี วามสาคัญอย่างไร จงอธิบาย 2. การออกแบบมคี วามหมายอยา่ งไรจงอธบิ าย 3. นกั ศกึ ษามีหลกั ในการออกแบบการจัดแจกนั ช่อ กระเช้าดอกไม้อยา่ งไร 4. หลกั ศิลปะทีใ่ ช้ในการจดั ดอกไมม้ ีความจาเป็นหรือไม่อย่างไร 5. ส่งิ ทจ่ี ะต้องทาเปน็ ส่งิ แรกก่อนการจดั ดอกไม้คืออะไรบ้างจงอธบิ าย \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"

24 เอกสารอา้ งองิ มณรี ัตน์ จันทนะผะลิน .(2542). การจดั ดอกแบบธรรมชาติอภิวาทจอมราชัน. กรงุ เทพฯ : อมรนิ ทร์พรน้ิ ต้งิ แอนด์พับลิชชิ่ง. มาโนช กงกะนนั ทน์. (2538). ศลิ ปะการออกแบบ. กรงุ เทพฯ: ไทยวัฒนาพานชิ . วริ ณุ ต้งั เจริญ. (2526). การออกแบบ. กรุงเทพฯ : กรงุ สยามการพิมพ.์ Deenee Solution Co. Ltd. (2009). รู้เร่อื งสีสนั .[Online] Available: http//www.deenee. Com/htm//toa_01. Php. [2009, November 5]. สิทธิศกั ด์ิ ธัญศรีสวัสดก์ิ ุล. การออกแบบลวดลาย. กรุงเทพฯ : โอเดยี นสโตร์, 2529. \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"

25 บทท่ี 3 วสั วสั ดุและอุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการจัดดอกไม้ ผศ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" การจัดดอกไม้แบบสากล และการจัดดอกไม้แบบไทย เป็นงานท่ีต้องใช้เวลาและความ ประณตี บรรจง โดยอาศยั หลักศิลปะและความสวยงามของดอกไม้ตามธรรมชาติโดยนําดอกไม้ใบไม้มา จดั และมาสร้างสรรคช์ ิน้ งาน การจดั ดอกไม้จําเป็นต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับลักษณะของการ จัดท้ังการจัดดอกไม้แบบสากล และการจัดดอกไม้แบบไทย การศึกษาข้อมูลในเรื่องของวัสดุอุปกรณ์ จงึ เป็นส่งิ จําเปน็ สาํ หรับการจัดดอกไม้ จะเห็นได้ว่าวัสดุอุปกรณ์ท่ีนํามาใช้ในการจัดดอกไม้ มีมากมาย หลายชนิด จึงควรเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ตามลักษณะการใช้งานซ่ึงวัสดุอุปกรณ์ที่นํามาใช้ในการจัด ดอกไม้แบบสากล และแบบไทยมรี ายละเอยี ดดงั นี้ 1. วัสดุอุปกรณก์ ารจัดดอกไม้แบบสากล การจัดดอกไม้แบบสากล เป็นการจัดดอกไม้โดยนําดอกไม้ตามลักษณะธรรมชาติมา จัดเป็นแจกนั ดอกไม้ ช่อดอกไม้ กระเชา้ ดอกไม้ และพวงมาลา ซง่ึ จะต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ โดย มีรายลายละเอยี ดดงั น้ี 1.1 ลกั ษณะของดอกไม้ ดอกไมใ้ นตลาดมีหลากหลายชนิดซ่ึงในแต่ละพ้ืนท่ีดอกไม้ชนิดเดียวกันอาจเรียกชื่อ ต่างกันออกไปดังนั้นในการเรียกชื่อดอกไม้จะแบ่งตามลักษณะของดอกไม้แต่ละท้องถ่ินและตามการ ซ้ือขายในตลาดดอกไม้สดซ่ึงในการจัดลักษณะของดอกไม้สามารถจัดตามลักษณะของดอกไม้ได้ 4 ลกั ษณะดังน้ี 1.1.1 ดอกไม้เปน็ ช่อเป็นแนว (Line Flower) เปน็ ดอกไม้ทม่ี ลี ักษณะเป็นกลมุ่ ดอก ชูต้งั ชนั ขึ้นเป็นเสน้ แนวสงู ตามความยาวของกา้ นดอก และมีกา้ นดอกทีย่ าว เหมาะสําหรับการปักท่ีมี รูปทรงการจัดทรงสูง เชน่ ดอกขิงแดง ดอกกล้วยไม้ ดอกแกดิโอลัส ดอกลิน้ มงั กร ดอกประทมุ มา 1.1.2 ดอกไม้กลีบซ้อน (Mass Flowers) เป็นดอกไม้ที่มีลักษณะของดอกเดี่ยวมี กลีบดอกซ้อนกันจํานวนมาก มีน้ําหนัก ซึ่งดอกไม้ประเภทน้ีใช้จัดวางเพื่อสร้างความสมดุลให้นํ้าหนัก สายตา และเม่ือนํามาจับกลุ่มรวมกันก็จะเป็นจุดอ่อนของการจัดดอกไม้ได้เช่น ดอกเบญจมาศชนิด กลีบลา และชนิดกลีบซอ้ น ดอกเยยี บริ า่ 1.1.3 ดอกไม้ท่ีรูปทรงเด่นชัด (Form Flowers) เป็นดอกไม้ที่มีลักษณะกลีบดอก ไม่มาก และมีความเด่นชัดสร้างจุดเด่น สะดุดตาให้กับการจัดดอกไม้ เช่น ดอกหน้าวัว ดอกลิลล่ี ดอกแคทลยี า ดอกกระเจียว เบริ ด์ ออฟพาราไดซ์ ฯลฯ 1.1.4 ไม้ดอกเสริมหรือแซม (Filler Flowers) เป็นดอกไม้ที่มีลักษณะดอกเล็กๆ กระจายเป็นกลุ่มหรือเป็นช่อ เช่น ดอกคัสเตอร์ ดอกแวกซี่ ดอกสไปเดอร์ ดอกสร้อยทอง ยิบโซ สแต

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"26 ตีส แอสเตอร์ และแคสเปียร์ใช้สําหรับแต่งเติมเสริมการจัดดอกไม้เพื่อเพ่ิมความกลมกลืนและเก็บ รายละเอยี ดของการจดั ดอกไม้ แตห่ ากใชม้ ากเกนิ ไปจะทาํ ใหด้ รู กรงุ รัง 1.2 ลกั ษณะของใบไม้ ใบไมท้ ่ีนํามาจัดคกู่ ับดอกไม้สามารถนําไปจดั ตามลกั ษณะรปู ทรงของใบและการใช้งานซึ่ง แบ่งออกเปน็ 3 ประเภท 1.2.1 ใบทมี่ ีรปู รา่ งเป็นเสน้ แนว เปน็ ใบไมท้ ีม่ แี นวของใบเป็นแนวเส้น เหมาะสําหรับที่ จะนาํ ไปใช้ในการวางของรูปทรงของการจัดดอกไม้ลักษณะของใบไม้ชนิดน้ีได้แก่ ใบกก ใบกําแพงเงิน ใบหมากแดง และใบเฟิรน์ ฯลฯ 1.2.2 ใบท่ีมีลักษณะใบซ้อน เป็นใบไม้ท่ีมีโครงสร้างของใบประกอบด้วยใบย่อย จํานวนมากใช้ประกอบในการจัดดอกไม้ โดยใช้ปิดช่องว่างระหว่างดอกไม้ท่ีจัดให้ หรือใช้ปิดปังที่ยึด ดอกไม้เพ่ือให้เกิดความเรียบร้อยของผลงาน ใบที่มีลักษณะกลีบซ้อนได้แก่ ใบเล็บครุฑกระจก ใบ เลบ็ ครฑุ ดา่ ง ใบเขม็ ใบโปร่งฟา้ และใบพุด ฯลฯ 1.2.3 ใบที่มีรูปทรงสวยงาม เป็นใบไม้ที่มีลักษณะพิเศษท่ีมองดูแล้วก่อให้เกิด ความรู้สึกได้หลายลักษณะ ซึ่งใบประเภทน้ีมักจะนําไปใช้เพื่อตกแต่งให้เกิดความสวยงาม หรูหรา ให้กับผลงานมากย่ิงข้ึน ใบชนิดน้ีได้แก่ ใบซานาดู ใบยางอินเดีย ใบไผ่ฟิลิปปินส์ ใบว่าน ใบเต่ารั้ง ใบ พลูดา่ ง ใบจัง๋ และใบทางหมากฯลฯ 1.3 การเลอื กดอกไมแ้ ละใบไม้ การเลือกดอกไม้และใบไม้ในการจัดแจกัน กระเช้าดอกไม้ ช่อดอกไม้ ลักษณะท่ี เหมาะสมกับรูปแบบการจัด เพ่ือลดระยะเวลาในการเตรียมและการดูแลดอกไม้ ซึ่งจะช่วยให้ ประหยดั เวลา แรงงาน และงบประมาณ ดงั นั้นการเลือกดอกไม้ใบไม้ควรพจิ ารณาดงั นี้ 1.3.1 ดอกควรมสี สี ดใส และตอ้ งไมซ่ ดี เซียว 1.3.2 กลีบดอกไม้จะต้องไม่มีรอยซ้ํา ปลายกลีบไม่เห่ียวแห้ง กลีบเล้ียงยังหุ้มดอก ไม่ห้อยตกลง 1.3.3 กลีบดอกไมจ้ ะตอ้ งไม่ร่วงโรยในขณะทีจบั ต้อง 1.3.4 ก้านดอกไม้ยงั สดแขง็ ไม่อ่อนไหวไปมา 1.3.5 กา้ นดอกไมต้ อ้ งสดและไม่มีรอยถลอก 1.3.6 ใบไมจ้ ะตอ้ งมสี ีเขียวสด ปลายใบไม่แหง้ กรอบ ไมเ่ หยี่ ว ไม่เนา่ 1.3.7 โคนกา้ นดอกไม้และใบไม่จะต้องไม่มเี มอื กเหนี่ยว ๆ 1.3.8 ดอกไม้ท่มี ลี ักษณะเปน็ ช่อหลายๆ ดอกจะต้องมีดอกหลายๆ ขนาดในช่อ 1.3.9 รอยตัดกา้ นดอกไม้และใบไม่จะต้องเป็นรอ้ ยตดั ทส่ี ดใหม่ 1.4 การเก็บรักษาดอกไม้และใบไม้ ดอกไม้ และใบไมท้ ซ่ี อื้ มาจากตลาดควรได้รับการปรับสภาพให้สดก่อนท่ีจะนํามาจัดเมื่อ ดอกไม้ และใบไม้ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็จะสวยงามและมีความสดนานกว่าไม่ได้รับการปรับ

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 27 สภาพ เมื่อดอกไม้และใบถูกตัดจากต้นก้านดอกควรจะอยู่ในน้ําเสมอเพื่อให้มีนํ้าหล่อเล้ียงอยู่ ตลอดเวลาแต่โดยท่ัวไปแล้วกว่าดอกไม้และใบไม้จะมาถึงบ้านก็จะขาดน้ําเนื่องจากการขนส่ง จึงควร ปรบั สภาพดอกไมแ้ ละใบไมใ้ หส้ ดช่นื ดว้ ยวธิ ีการดงั ตอ่ ไปน้ี 1.4.1 ปลิดหรือริดใบที่ไม่จําเป้นออก เพ่ือไม่ให้ใบแช่อยู่ในน้ํา ซ่ึงเป็นการลดเช้ือ แบคทีเรีย 1.4.2 ตัดก้านดอกไม้และใบไม้ในน้ํา ก้านดอกไม้ที่แข็งให้ตัดก้านเฉียง ส่วนก้านดอกไม้ ท่ีอ่อนนุ่มใหต้ ดั ก้านตรง 1.4.3 หอ่ ด้วยกระดาษหนงั สือพิมพ์ ในกรณีที่เกบ็ ไวจ้ ดั ในวนั รงุ่ ข้ึน 1.4.4 นําห่อดอกไม้แช่ในถังนํ้า 1.5 การเลอื กวสั ดุและอุปกรณ์ การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ในการจัดแจกันดอกไม้ถือเป็นส่วนท่ีสําคัญท่ีช่วยให้การจัด ดอกไม้แจกันดอกไม้ ช่อดอกไม้ และพวงหรีด ดําเนินไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว โดยแต่ละรูปแบบ ของการจดั ดอกไมม้ ีวิธกี ารเลอื กวัสดอุ ปุ กรณ์ดังต่อไปนี้ 1.5.1 วสั ดอุ ุปกรณ์การจัดแจกนั ดอกไม้ วัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการจัดแจกันดอกไม้มีมากมายหลายชนิดที่จําเป็นจะต้อง นํามาใช้ในการจัดแจกันดอกไม้ ซึ่งมีท้ังภาชนะท่ีใช้จัดดอกไม้ รูปทรงของภาชนะ ที่ยึดดอกไม้ เคร่ืองมือเครื่องใช้ ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมาย ซ่ึงผู้จัดดอกไม้ควรใช้ให้เหมาะกับการจัดดอกไม้ รูปแบบต่างๆ ดงั นี้ 1) การเลือกภาชนะ ภาชนะที่ใช้จัดดอกไม้ หมายถึง แจกันสําหรับจัดดอกไม้รูปทรงต่างๆ ที่มี ความสวยงาม สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและหลายลักษณะ ในการเลือกภาชนะที่ใช้จัด แจกนั จดั ดอกไมค้ วรเลอื กขนาดใหเ้ หมาะสมกบั สถานทแ่ี ละลักษณะของการนําไปใช้งานดังนี้ 1.1) ภาชนะที่จัดดอกไม้ ควรเลือกภาชนะที่ใส่นํ้าได้มากพอสมควร เพ่ือให้ ก้านดอกไมแ้ ชน่ ํา้ ใหส้ ดอยเู่ สมอ โดยเฉพาะทีเ่ ปน็ ภาชนะทรงเต้ีย หากใช้จดั ดอกไม้สดจะต้องให้มีความ สูงให้นาํ้ ทว่ มที่ยดึ ดอกไม้ 1.2) ควรเลือกแจกันสีกลาง สีเข้ม หรือหม่นดีกว่า ไม่ควรมีลวดลาย หลากหลาย จะทําใหด้ อกไมไ้ ม่เดน่ และลดความสง่างามลง 1.3) ควรเลือกใช้แจกันหรือภาชนะทึบแสงดีกว่าโปร่งแสง เม่ือเวลาจัด ดอกไมแ้ ล้วจะได้มองไมเ่ หน็ ก้านดอกไม้ 1.4) ควรเลอื กใชแ้ จกันหรือภาชนะท่มี ีความกลมกลนื กับดอกไม้ ในเร่ืองของ ผิวสัมผัส ขนาด สี แบบการจดั และให้กลมกลืนกบั สถานที่วางดอกไม้ 1.5) คอแจกนั จะตอ้ งไมแ่ คบจนเกินไป เพราะจะทาํ ใหจ้ ดั ดอกไม้ไมส่ ะดวก 1.6) แจกันควรมีนํ้าหนักเหมาะกับขนาดของตัวแจกัน เพ่ือจะได้ไม่โค่นล้ม ไดง้ า่ ยเมื่อถูกลมพดั

28 2) รูปทรงของแจกัน แจกันท่ีนิยมนํามาจัดดอกไม้มีอยู่ 3 ลักษณะซ่ึงผู้จัดดอกไม้ควรเลือกใช้ให้ เหมาะสถานท่ีตง้ั ดอกไม้ รูปทรง รวมถึงดอกไม้ทน่ี าํ มาจัดซึ่งมรี ายละเอยี ดดงั นี้ 2.1) แจกันทรงเตย้ี คือแจกนั ที่มคี วามกวา้ งมากกว่าความสูง ลกั ษณะปาก แจกนั กว้าง \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพที่ 3.1 แจกนั ทรงเต้ยี ท่ีมา (พรยุพรรณ พรสขุ สวัสด์ิ, 2546, หนา้ 12) 2.2) แจกนั ทรงกลาง คือแจกนั ทม่ี ีความสงู เท่ากบั ความกวา้ ง ซง่ึ ไมส่ ามารถจดั เข้ากลุ่มใดได้ ภาพที่ 3.2 แจกนั ทรงกลาง ทม่ี า (พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสด์ิ, 2546, หน้า 12) 2.3) แจกันทรงสูง คือแจกันทีม่ คี วามสูงมากกวา่ ความกว้าง หากสงั เกตแล้ว จะเหน็ รปู ทรงความสูงของแจกันโดดเด่น

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 29 ภาพที่ 3.3 แจกนั ทรงสูง ทมี่ า (พรยุพรรณ พรสุขสวัสด,ิ์ 2546, หนา้ 12) 3) ท่ียดึ สาหรับจัดดอกไม้ ท่ียึดดอกไม้ถือเป็นส่วนสําคัญในการจัดดอกไม้ท่ีจะทําให้รูปทรงของการจัด ดอกไม้เกิดความม่ันคงและแข็งแรง การเลือกที่ยึดดอกไม้ข้ึนอยู่กับขนาดของแจกัน หากแจกันขนาด ใหญค่ วรใช้ตน้ กลว้ ย หรอื ผกั ตบชวาวางด้านในกอ่ นเพ่ือความสะดวกในการจัดดอกไม้ ซึ่งท่ียึดดอกไม้ที่ ควรรู้จกั มีดังน้ี 3.1) ที่ยึดดอกไม้แบบตะปูแผง นิยมใช้จัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น มีหลายขนาด โดยใช้ดนิ นาํ้ มันสาํ หรบั ยดึ ติดกบั ภาชนะ ปจั จุบนั ไมน่ ยิ มใช้ เน่อื งจากบงั คบั ดอกไมไ้ ด้ยาก 3.2) ที่ยึดดอกไม้แบบโฟมดูดน้ํา สามารถดูดนํ้าได้ดี มีลักษณะเป็นก้อน ส่เี หลย่ี มผนื ผ้า สะดวกและประหยดั เวลาในการจัดเตรียมควรเลือกชนิดท่ีดูดซับน้ําได้ดี เนื้อโฟมดูดนํ้า ละเอียดไม่ขาดไม่ยยุ้ ไดง้ ่าย ซึ่งปจั จบุ ันเป็นท่นี ิยมใชก้ ันอย่างแพร่หลาย 3.3) ก้านผักตบ ใช้บรรจุในภาชนะประกอบกับตะปูเข็มโดยตัดเป็นท่อนปัก จนเตม็ ตะปเู ขม็ ซงึ่ ก้านผักตบช่วยกา้ นดอกไมท้ ี่มีขนาดเลก็ และไม่แขง็ แรงให้ปักอยู่ได้ 3.4) ตน้ กลว้ ย ใช้ในลักษณะเดียวกับผักตบชวา โดยเฉพาะกับภาชนะที่ใช้จัด งานขนาดใหญ่ นยิ มใช้เป็นทีย่ ึดจดั ดอกไม้หน้าศพแต่จะต้องต่อกา้ นดอกไม้ก่อนจัด 4) การเตรียมทีย่ ดึ การเตรียมทีย่ ึดในภาชนะถือวา่ เปน็ ส่งิ สําคัญอกี อย่างหนึ่งท่ีผู้จัดดอกไม้จะต้อง คํานึงถึง เพราะถ้าหากเตรียมที่ยึดไม่ได้ขนาดสูงหรือตํ่าจนเกินไป อาจจะเป็นปัญหาในการจัดในเร่ือง ของมุมหรอื ตาํ แหน่งของการจัดดอกไม้ ดังน้ันในการเตรียมท่ยี ดึ ควรปฏบิ ัตดิ งั ตอ่ ไปนี้ 4.1) นําแจกนั ท่จี ะใชจ้ ดั วางกะขนาดบนตวั ทย่ี ดึ 4.2) ตดั ตัวที่ยดึ ให้พอดกี บั ตัวแจกนั นําไปแชน่ ํ้าจนตัวทีย่ ดึ ไดน้ ้ําเตม็ ท่ี 4.3) นําตัวที่ยึดท่ีแช่น้ําเต็มที่ ตัดให้เป็นทรงกรวยใส่ในตัวแจกัน ปาดลบ เหลยี่ มให้กลมมน โดยให้ตัวทยี่ ึดสูงจากปากภาชนะประมาณ 0.5 น้ิว

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"30 5) เครื่องมอื เครือ่ งใช้ การเลือกใช้เครื่องมือเครื่องใช้ที่เหมาะสมจะช่วยให้การจัดแจกันดอกไม้ได้ สะดวก ประหยดั เวลาและแรงงาน โดยเลือกเคร่ืองมือและเครือ่ งใช้ทีเ่ หมาะสมกบั หนา้ ทีใ่ ช้สอยดังน้ี 5.1) มีดตัดดอกไม้ เป็นมีดเลก็ ทีม่ คี วามคมเปน็ พเิ ศษ ใช้สําหรับตัดก้านดอกไม้ หรอื ตดั ทยี่ ึดดอกไม้ โดยไมท่ ําให้ที่ยึดดอกไม้ ก่ิงกา้ นดอกไมเ้ สยี หาย 5.2) กรรไกร ใช้สาํ หรับตดั รบิ บนิ้ ผ้า กระดาษ 5.3) กรรไกรตัดก่ิงไม้ ใชส้ าํ หรบั ตดั ก้านดอกไม้ ใบไม้ 5.4) กรรไกรตัดลวด ใช้สําหรับตัดลวด ซ่ึงควรเลือกใช้กรรไกรให้เหมาะกับ ประเภทของวัสดุ เพราะจะทาํ ให้กรรไกรเสยี คม 5.5) ฟลอรา่ เทป ใช้พันก้าน ก่งิ ดอกไม้ให้ไดร้ ปู ทรงตามต้องการ 5.6) ลวดพนั ดอกไม้ ซงึ่ มีหลายขนาด ใชส้ ําหรบั ดามคอดอกไม้ พันดอกไม้เพื่อ ช่วยในการดดั โค้ง งอใหด้ อกไมห้ รอื กิง่ ไม้ ใบไมไ้ ด้รูปทรงตามต้องการ 5.7) ไม้แข็ง ใช้ต่อก้านดอกไม้ ใบไม้ ยึดรอยต่อต่างๆ 5.8) ลวดกรงไก่ สาํ หรับหุ้มโฟมดดู น้ําไม่ให้แตก 5.9) รบิ บน้ิ ใชผ้ กู รัด มัด โยงเป็นโบวส์ ําหรับตกแต่งการจัดแจกนั ดอกไม้ ชอ่ ดอกไม้ กระเช้าดอกไม้ พวงหรดี 5.10) กระบอกฉีดนํา้ เป็นสิ่งจําเปน็ อกี ช้นิ หนึง่ เม่ือจัดดอกไม้เสรจ็ ควรฉีดนํ้า ซึง่ จะทําใหด้ อกไม้ดสู ดช่นื ในการฉดี นํา้ ควรมลี ักษณะเปน็ ละอองถ้าฉีดแรงและมากเกินไปจะทาํ ให้ ดอกไม้ช้าํ นา้ํ ทีใ่ ช้ควรเป็นนํ้าสะอาด 5.11) ถงั นา้ํ ใช้สําหรบั พักดอกไม้ท่ีซอ้ื มาจากตลาด 5.12) ถ้วยนํ้า ใชส้ ําหรับใส่น้าํ เวลาตัดกา้ นดอกไม้ใต้นํ้า ภาพท่ี 3.4 เครือ่ งมือจัดดอกไม้ ทีม่ า (พรยพุ รรณ พรสขุ สวสั ดิ์, 2546, หนา้ 15) 1.5.2 วสั ดอุ ุปกรณก์ ารจดั ชอ่ ดอกไม้ การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดช่อดอกไม้มีหลายชนิดเช่นเดียวกับ การจัดแจกันดอกไม้ แต่จะมวี สั ดุพิเศษทใ่ี ช้ในการห่อและรองกันนํ้า ซ่งึ มีรายละเอียดดังน้ี

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 31 1) ผา้ โปร่ง ใช้สําหรับเพิ่มความสวยงามในการจัดดอกไม้ 2) ผา้ รามี ใชส้ ําหรบั ห่อและตกแตง่ การจัดดอกไมช้ ่อดอกไม้ 3) ใยปา่ น ใช้สาํ หรับหอ่ ช่อดอกไม้ หรือตกแต่งสว่ นอื่นๆ 4) กระดาษฟรอยล์ใช้ห่อชอ่ ดอกไม้หมุ้ โฟมดดู นา้ํ เพ่ือกนั ไม่ให้น้าํ ไหล 5) ลวดสี ใชม้ ัดหรอื ผกู โบวห์ รือใชต้ กแต่งให้เกิดความสวยงาม 6) กระดาษสา ชนดิ ต่างๆ ใชส้ าํ หรับห่อและตกแต่งชอ่ ดอกไม้ 7) เทปใส ใช้ติดกระดาษตกแตง่ ช่อดอกไมแ้ ละประโยชนอ์ ื่นๆ 8) แม็ก ใช้เย็บตดิ กระดาษตกแต่ง และอนื่ ๆ 9) สาํ ลี ใชส้ าํ หรบั ห่อกา้ นดอกไมเ้ พ่ือให้กา้ นหล่อนาํ้ 1.5.3 วสั ดุอุปกรณ์การจดั กระเช้าดอกไม้ การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดกระเช้าดอกไม้ใช้วัสดุอุปกรณ์ใน ลกั ษณะเดยี วกบั การจดั แจกันดอกไม้จะต่างที่ตัวกระเช้าในการเลือกกระเช้า จะต้องดูลักษณะของเช้า ว่ามรี ูปทรงกลม รปู ทรงวงรี รูปทรงส่ีเหลี่ยม หรือรูปทรงหัวใจ และจะต้องพิจารณาว่ากระเช้ามีขนาด เล็กหรือขนาดใหญ่ หูกระเช้าแต่ละใบหูยาวหรือหูสั้น ผู้จัดจะต้องเลือกใช้ดอกไม้ให้เหมาะกับตัว กระเชา้ ในการจดั กระเช้าดอกไมจ้ ะตอ้ งคาํ นึงถึงส่ิงต่างๆ ดงั น้ี 1) รปู รา่ งของกระเช้า 2) ดอกไมท้ ่ีจะนาํ มาจัด 3) ขนาดของกระเช้า 4) โอกาสและฐานะของผทู้ ่ีจะมอบให้ ภาพที่ 3.5 กระเชา้ รูปทรงตา่ ง ๆ ทีม่ า (พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสด์ิ, 2546, หน้า 16)

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"32 1.5.4 วสั ดุอุปกรณ์การจดั พวงมาลา (พวงหรดี ) การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ท่ีใช้ในการจัดพวงหรีดใช้วัสดุอุปกรณ์ในลักษณะ เดียวกับการจัดแจกันดอกไม้จะต่างท่ีตัวโครงพวงหรีด จะต้องดูลักษณะของโครงว่ามีรูปทรงกลม รูปทรงวงรี รูปทรงส่ีเหล่ียม หรือรูปทรงหัวใจ รูปทรงหยดนํ้า และจะต้องพิจารณาว่าจะจัดดอกไม้ใน ลักษณะแบบไหน ผู้จดั จะต้องเลอื กใช้ดอกไม้ใหเ้ หมาะกบั รูปแบบ ในการจัดพวงหรีด ซ่ึงวัสดุอุปกรณ์ที่ จาํ เปน็ สําหรบั การจัดพวงหรีดมดี งั นี้ 1) โครงพวงหรดี รปู ทรงต่างๆ ท่ีมดั ด้วยเชือก ฟาง เถาวลั ย์ หรอื โครงไม้ ควร เลอื กทีล่ ักษณะรูปทรงไม่เอยี ง และแขง็ แรง 2) โฟมดูดนาํ้ ใช้มดั ตดิ กับตวั โครงสําหรับปกั ดอกไม้ 3) ลวดตาขา่ ย ใชส้ าํ หรับหมุ้ โฟมดดู นาํ้ 4) เชอื กฟางใช้มัดลวดตาขา่ ยกบั โฟมดูดน้าํ ใหแ้ นน่ 5) ไม้เสยี บลูกช้ิน ใช้ปกั ยดึ 6) ลวดเปลือย ใชม้ ัดหรอื ยึดพวงหรีดใหแ้ น่นและแข็ง 2. วัสดอุ ุปกรณก์ ารจดั ดอกไมแ้ บบไทย การจัดดอกไม้แบบไทยเป็นการจัดดอกไม้ในรูปแบบท่ีมีการประดิษฐ์ร้อยกรองดอกไม้ในรูป ของการรอ้ ยมาลยั การจดั พานพุ่มบูชาพระ และเคร่ืองแขวนพวงดอกไม้ซ่ึงดอกไม้ที่ใช้เป็นดอกไม้ไทย ท่ีมีลกั ษณะบอบบางเช่น ดอกรัก ดอกมะลิ ดอกพุด ดอกบัว ดอกกล้วยไม้ ฯลฯ ในการจัดดอกไม้แบบ ไทยผู้จัดดอกไมจ้ ะด้องรจู้ ักเลอื กดอกไม้ใบ อปุ กรณ์ต่างๆ มาใช้ใหเ้ หมาะกบั ลกั ษณะการจัดได้ดังน้ี 2.1 การเลือกดอกไมแ้ ละใบไม้ ดอกไม้ใบไมท้ ่ีใช้ในการจัดดอกไม้แบบไทย ควรเลอื กดอกไมแ้ ละใบไม้ท่ีมีความสดใหม่ ไมม่ ีตาํ หนิ ไมช่ ํา้ และไม่มีรอยฉีกขาด ท่สี ําคญั ควรเลอื กดอกไมท้ ่ีมชี ื่อ และทีม่ ีความหมายเป็นมงคล นอกจากน้ีการเลือกดอกไม้ใบไม้ท่ีมตี ามฤดูกาลหรือทีม่ ีอยแู่ ตล่ ะท้องถนิ่ จะชว่ ยประหยัดงบประมาณ และค่าใช้จา่ ย ดอกไมใ้ บไม้แต่ละชนิดมีวิธกี ารเลอื กแตกต่างกันดงั น้ี 2.1.1 ดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบทใ่ี ชใ้ นการจัดดอกไมใ้ นพิธีมงคลสมรสมสี องชนิดคือ 1) ดอกกุหลาบมอญ เป็นชนิดที่ใช้ร้อยมาลัย การเลือกซ้ือควรเลือกดอกที่ ไมบ่ านหรือตูมจนเกินไป ขว้ั ดอกสด กลีบดอกยึดติดกับขั้วดอกแน่น กลีบดอกแข็งไม่มีรอยช้ําและรอย แมลงกัดกินเป็นรพู รุน 2) ดอกกุหลาบชนิดตัดก้านยาว ใช้สําหรับจัดแจกันหรือพานรับน้ําสังข์ แบบธรรมชาติ ควรเลอื กดอกตมู และดอกแย้ม กลีบดอกแข็งสีสด ไม่มีรอยชํ้า ก้านชูดอกสดไม่อ่อนงอ ไปมา ก้านผิวเรียบไม่มีรอยถลอก ผิวไม่แห้ง ใบมีสีเขียวสดไม่สีอมเหลือง สีน้ําตาล ปลายใบไม่แห้ง เกรยี มและใบไม่เหย่ี วไมเ่ นา

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 33 2.1.2 ดอกกล้วยไม้ ดอกกล้วยไม้ท่ีนํามาใช้ในหนังสือเล่มนี้ จะเป็นกล้วยไม้ประเภทกล้วยไม้ หวาย เช่น หวายขาว หวายยอ้ มสี ซีซ่ ่าร์ มาดาม ในการเลือกซื้อดอกกล้วยไม้ควรเลือกช่อดอกยาว มี ทงั้ ดอกตูม ดอกแย้ม และดอกบาน กา้ นชอ่ แขง็ กลบี ดอกสดไมช่ า้ํ สสี ดใส 2.1.3 ดอกดาวเรือง การเลือกซ้ือดอกดาวเรือง ควรเลือกดอกท่ีมีกลีบดอกสด ไม่บอบช้ํา ไม่ เห่ยี วเฉา ก้านดอกแขง็ แรงและมีสเี ขียวสด 2.1.4 ดอกบานไมร่ โู้ รย การเลือกซ้ือดอกบานไม่รู้ ควรเลือกดอกท่ีสดใหม่ โดยดูจากดอกท่ีมีกลีบ แขง็ สีสด กา้ นดอกเปน็ สเี ขียวสด เลือกใช้ดอกท่ีมีขนาดกลาง ไม่ควรเลือกอ่อนหรือดอกแก่จนเกินไป ซึง่ สงั เกตจากลักษณะของดอกถา้ ดอกออ่ นหนา้ ดอกจะแบน มจี าํ นวนกลีบน้อยชั้น กลีบดอกอ่อนทําให้ ดอกเห่ียวเฉาได้เร็ว ส่วนดอกท่ีแก่จัด จะมีจํานวนกลีบดอกมากชั้น กลีบดอกแข็ง และกลีบดอก ช้นั นอกจะซดี ขาวไมส่ ดใส 2.1.5 ดอกบัว การเลือกดอกบัวควรเลือกดอกตูม ยอดแหลม กลีบดอกแข็ง ปลายกลีบดอก ไม่ชํ้า ไม่ดํา ไม่มรี อยบุบบี้ สีดอกสดใส ไม่ซีด ก้านดอกใหม่อวบแข็งแรงและมีกลีบเล้ียงเล็กๆ ติดอยู่ ท่โี คนดอก 2.1.6 ดอกเบญจมาศนา้ การเลือกใช้ดอกเบญจมาศ ควรเลือกดอกตูม ขนาดปานกลาง ลักษณะกลีบ ดอกแนน่ มสี ีเขยี วสด กา้ นดอกแขง็ แรงและมขี นาดเท่าๆ กัน 2.1.7 ดอกผกากรอง ดอกผกากรองท่ีนํามาใช้ส่วนใหญ่จะใช้ดอกตูม โดยเลือกดอกตูมแน่นสีสด ก้านตรง แข็งและอวบยาวสีเขียวสด เลือกขนาดดอกเท่าๆ กัน แต่ถ้าจะใช้ดอกบาน ควรเลือกดอกท่ี บานใหม่ๆ ภายในกระจกุ ดอกควรมดี อกเล็กๆ อยูค่ รบ ไม่มกี ารหลดุ ร่วงของกลีบดอก 2.1.8 ดอกพุด การเลือกใช้ดอกพุด ควรเลือกดอกสดใหม่ ลักษณะดอกตูมเล็กสีขาว เลือก ดอกขนาดท่ีเท่ากัน ก้านดอกแข็งสีเขียวอ่อน ไม่ควรเลือกก้านดอกสีเขียวอมเหลืองเพราะจะทําให้ ผลงานที่จัดเหยี่ วเฉาได้เร็ว 2.1.9 ดอกมะลิลา การเลือกซ้ือดอกมะลิควรเลือกดอกตูมเล็กยาวจะสวยกว่าดอกท่ีมีลักษณะ กลม มสี ขี าวอมสีเขียว ยังมีขั้วกลีบเล้ียงติดอยู่กับตัวดอก และไม่ควรเลือกดอกมะลิที่แช่นํ้าแข็งหรือ มกี ารคา้ งคนื ซง่ึ ดอกจะมลี ักษณะอมน้าํ และชํ้า 2.1.10 ดอกรัก การเลือกซ้ือดอกรัก ควรเลือกซอื้ ดอกรักท่จี ะเก็บไวใ้ ชง้ านในวันรุ่งขึ้นได้ด้วย โดยเลือกดอกที่สดใหม่ ยังอยู่ในช่อและมีกลีบเล้ียง โดยท่ีเปลือกและกลีบเลี้ยงแข็ง สีดอกสดตาม ธรรมชาติ กา้ นชอ่ และกา้ นดอกแขง็ แรงสดใหม่

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"34 2.1.11 ใบแกว้ การเลือกใบแก้ว ควรเลือกใช้ใบแก้วท่ีมีอายุขนาดกลาง ใบไม่อ่อนหรือ แก่ จนเกินไป ถ้าใบอ่อนจะเห่ียวได้ง่าย แต่ถ้าใบแก่จะแข็งและกรอบเวลาพับกลีบจะแตกได้ง่าย ในการ เลือกใบแกว้ ใหเ้ ลือกใบสดใหม่ ไม่มีตาํ หนิหรือรอยหนอนเจาะกิน 2.1.12 ใบเงิน การเลือกใบเงิน ควรเลือกใช้ใบเงินที่มีอายุขนาดกลาง ใบสดและแข็ง สี ของใบสด ไม่เห่ียวเฉา ไมม่ รี อยหนอนกัดกนิ ใบไมม่ รี อยไหม้ ชาํ้ และฉีกขาด 2.1.13 ใบตอง การเลือกใบตอง ควรเลือกใช้ใบตองตานีเน่ืองจาก มีความเหนียว ไม่ฉีก ขาดง่าย เหมาะท่ีจะนาํ มาประดษิ ฐ์เปน็ ผลงานหรอื ตดั เปน็ แบบโดยเลือกช่วงอายุของใบตองตานีขนาด กลาง และมสี ีเขยี วเข้มเสมอกันช่วงใบตองกว้างและยาว ไมม่ ีตําหนิหรือรอยช้ํา 2.1.14 ใบทอง การเลือกใบทอง ควรเลือกใช้ใบทองท่ีมีอายุขนาดกลาง ใบไม่อ่อนไม่แก่ จนเกินไป ใบสดและใหมก่ ้านใบแข็งแรง ปลายใบไม่มชี ้ําและรอยไหม้สีนํา้ ตาล 2.1.15 ใบนาค การเลอื กใบนาค ควรเลือกใบใบนาคที่มีช่วงอายุขนาดกลาง ใบสด ก้านใบ แข็ง สใี บสดไมเ่ หีย่ วเฉา ไม่มีรอยช้าํ และฉกี ขาด 2.1.16. ใบมะยม การเลือกใบมะยม ควรเลือกชนิดท่ีเป็นช่อใบมีก้านตรง ช่วงอายุของใบ มะยมท่เี หมาะสมคือชว่ งอายุขนาดกลางคือ ใบไม่ออ่ นหรือแก่จนเกินไป ลักษณะใบสด ไม่เหี่ยวเฉา ใบ ไมม่ ตี าํ หนหิ รอื รอยฉีกขาด ซ่ึงไม่ควรทจ่ี ะเลอื กนาํ ใช้ 2.1.17 ใบสนฉตั ร ใบสนฉัตร เป็นใบไม้ที่มีลักษณะท่ีแตกต่างจากใบไม้อื่น ลักษณะใบเป็นเส้น กลมยาวควรเลอื กช่วงอายุขนาดกลาง ลักษณะก้านใบอวบมีสีเขยี วสดไมม่ รี อยไหมส้ นี ํ้าตาล 2.2 การเกบ็ รกั ษาดอกไม้และใบไม้ ดอกไม้หรือใบไม้ที่นํามาใช้ในการจัดดอกไม้ในพิธีมงคลสมรส จะต้องรู้วิธีการเก็บ รักษาดอกไม้ใบไม้ให้สดก่อนนําไปใช้งานหรือดอกไม้ใบไม้ท่ีใช้งานไม่หมดจะต้องรู้วิธีการเก็บรักษา ดอกไมใ้ บไมใ้ หถ้ กู วธิ ี เพื่อชว่ ยให้ดอกไมใ้ บไมม้ อี ายุการใช้งานได้นานวัน ซ่ึงดอกไม้และใบไม้แต่ละชนิด จะมวี ธิ ีการเกบ็ รกั ษาที่เหมือนและแตกต่างกนั ตามลักษณะของดอกไม้และใบไม้แต่ละชนิดดังต่อไปนี้ 2.2.1 ดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบที่ใช้ในการจัดดอกไม้มีสองชนิดคือ ดอกกุหลาบท่ีใช้ร้อยมาลัย เปน็ ดอกไม้ที่ต้องการนาํ้ ต้องพรมนา้ํ บอ่ ยๆ มฉิ ะน้นั กลีบจะเหี่ยวเฉาได้เร็ว เวลาเก็บให้พรมนํ้าให้ท่ัวคุม ดว้ ยผา้ ขาวบางหรือถา้ จะเก็บในตเู้ ย็นควรใส่ถุงพลาสตกิ รัดปากถุงให้แนน่ เก็บในชอ่ งผัก แต่ถ้าเป็นดอก กุหลาบที่นํามาจัดแจกันให้เด็ดใบบางส่วนออกเพื่อลดการดูดน้ําของใบ ตัดก้านดอกกุหลาบใต้น้ํา

\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 35 เพือ่ ให้ดอกสดแขง็ จากนน้ั นํามาเรียงให้หน้าดอกเสมอกัน ห่อด้วยใบตองหรือกระดาษ และถ้าหากยัง ไมไ่ ดใ้ ช้งานไม่ควรที่จะแกะออกจากห่อ เพราะจะทําให้หนา้ ดอกขยายออกเรว็ 2.2.2 ดอกกล้วยไม้ ดอกกล้วยไม้เป็นดอกไม้ท่ีมีกลีบแข็ง สามารถเก็บไว้ได้นาน ท่ีนํามาใช้ส่วน ใหญ่เป็นกล้วยไม้จําพวกกล้วยไม้สกุลหวาย เช่น กล้วยไม้ซีซ่าร์ กล้วยไม้มาดาม โดยนําก้านดอก กล้วยไม้แช่ลงถังน้ําคลุมด้วยผ้า แต่ถ้าหากจะเก็บไว้ใช้ในการเย็บแบบ หรือมัดดอกตุ้ม ควรเด็ดแยก เป็นสว่ นๆ หอ่ เก็บไวใ้ นช่องผัก 2.2.3 ดอกดาวเรอื ง การเกบ็ ดอกดาวเรอื งให้พรมน้ําบางๆ ใส่ถุงพลาสติกเก็บในตู้เย็นในช่องผัก แตถ่ า้ เกบ็ ในระยะสั้น ให้พรมน้ําดอกดาวเรอื งให้ท่วั ใส่ในกะละมังคลมุ ด้วยผ้าขาวบางชุบนํา้ หมาดๆ 2.2.4 ดอกบานไม่ร้โู รย ดอกบานไม่รู้โรยที่ตดั ทั้งกา้ นช่อยาว เกบ็ โดยมดั กา้ นรวมกันนํากา้ นช่อแช่ ในถังนํา้ แตถ่ ้าตัดก้านดอกส้นั ให้นําใส่ถาดคลุมด้วยผา้ ขาวบางชุบนํ้าหมาดๆ หรือใส่ถุงพลาสตกิ เก็บ ในตเู้ ย็นไม่ควรให้ดอกถูกลมเพราะจะทาํ ใหด้ อกบานไมร่ ้โู รยเสียความชืน้ ทาํ ใหส้ ีดอกซดี จาง 2.2.5 ดอกบวั ดอกบวั เป็นดอกไม้ทีต่ ้องอยู่กับน้ําตลอดเวลา ในการเก็บควรกําเปน็ มัดห่อ หนา้ ดอกใหเ้ รียบร้อย ตดั ก้านดอกบวั ให้ก้านเสมอกนั นาํ ก้านไปแช่ในนา้ํ มากๆ แต่ถ้าจะเกบ็ ขา้ มวัน จะต้องตัดกา้ นใหส้ ัน้ ประมาณ 1.5 นว้ิ 2.2.6 ดอกเบญจมาศ ดอกเบญจมาศน้าํ เปน็ ดอกไมท้ ่ีต้องพรมนํา้ ให้ช้นื มากๆ ขณะนํามาใช้งาน ตอ้ งคุมด้วยผ้าเพื่อไม่ให้ดอกเหีย่ วเรว็ การเกบ็ รกั ษาใหห้ ่อด้วยใบตอง หรอื เก็บใส่ถุงพลาสตกิ รัดปากถงุ เกบ็ ในตเู้ ย็นชน้ั ลา่ ง 2.2.7 ดอกผกากรอง การเกบ็ รกั ษาดอกผกากรอง มวี ิธกี ารเกบ็ ลักษณะเดยี วกับดอกเบญจมาศ นํ้าคือพรมน้าํ ให้ทัว่ หอ่ ดว้ ยใบตองหรือใสถ่ งุ พลาสตกิ เกบ็ ในต้เู ย็น 2.2.8 ดอกพดุ ดอกพุดเป็นดอกไม้ที่มียางมาก เวลานํามาใช้งานควรผ่ึงให้ดอกนุ่มอ่อนตัว เล็กน้อย ขณะร้อยใช้วาสลีนทาเข็มให้ล่ืน เวลารูดกลีบดอกจะไม่คลีออกและไม่ควรฉีดนํ้ามาก จนเกนิ ไป เพราะจะทาํ ให้ดอกบานเร็ว การเก็บรักษาให้ห่อด้วยใบตองหรือใส่ถุงพลาสติกรัดปากถุงให้ แน่นเกบ็ ในตูเ้ ย็น แตถ่ ้าเกบ็ จากต้นควรนํามาล้างน้ําละลายสารส้มเจือจางวางบนผ้าขาวบางผึ้งให้แห้ง กอ่ นนาํ ไปเก็บในต้เู ย็น 2.2.9 ดอกมะลิ ดอกมะลิท่ีนํามาร้อยมาลัย ไม่ควรพรมน้ํา เพราะจะทําให้ดอกบานเร็ว การ เก็บรกั ษา ใช้ใบตองหอ่ หรอื เก็บใส่ถงุ พลาสตกิ รดั ปากถงุ นาํ เก็บในตู้เยน็


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook