199พรรณไมใ้ นมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวดั ปทุมธานี มะพรา้ ว ชอื่ วงศ์ ARECACEAE ชอื่ สามญั Coconut Palm, Coconut ชือ่ อน่ื ย่อ, หมากอุ๋น, หมากอนู , องุ ปาลม์ ลาตน้ เดย่ี ว สงู 12–24 ม. มรี อยแตกตามยาว รอยวงรอบลาต้น และรอยของกา้ นใบ ลาต้นส่วนลา่ งมี เสน้ ผ่านศูนย์กลางประมาณ 60 ซม. กา้ นใบยาว 90–150 ซม. หนาและเว้า ด้านบน โคนก้านใบถูกห่อหมุ้ ดว้ ยเส้นใย ทห่ี ยาบเหนียวคลา้ ยทอหยาบๆ เป็นผนื ใบยาวประมาณ 2–4.5 ม. เปน็ ใบ ประกอบแบบขนนก ใบยอ่ ย ยาว 120–180 ซม. ดอกเปน็ ดอกสมบรู ณ์เพศ อยใู่ นตน้ เดียวกนั ดอกออกเป็นช่อเชิงลด อยู่รวมกันในกาบทห่ี ุ้ม ผลแขง็ รูปใข่กลับ ยาว 20–30 ซม. เปลือกเป็นเส้นใยแน่น แข็งเหนียว ภายในกลวง มีเอนโดสเปิรม์
200 Plant s in Valaya มะเฟื อง ชื่อวงศ์ OXALIDACEAE ช่อื สามญั Carambola, Star fruit ชื่ออน่ื มะเฟอื ง (ทัว่ ไป); สะบือ (เขมร) ไม้ตน้ สูงไดถ้ งึ 15 ม. ใบประกอบปลายคี่ ส่วนมากมีใบยอ่ ย 5–6 คู่ รปู ไขห่ รอื แกมรปู ขอบขนาน ยาว 4–10 ซม. ชอ่ ดอกแบบชอ่ แยกแขนงออก ตามซอกใบ กิ่ง หรือลาต้น ยาวไดถ้ ึง 7 ซม. ก้านดอกยาว 3–6 มม. มขี อ้ ท่ีใตด้ อก ยาว ประมาณ 8 มม. กลีบเล้ยี ง 5 กลีบ ขนาดเล็ก สีคล้ายกลีบดอก ดอกสแี ดงอมชมพู มี 5 กลบี รูปใบหอก ยาว 5–6 มม. เช่ือมตดิ กนั เหนือก้านกลีบ ด้านในมีขนต่อมประปรายเกสรเพศผู้ 10 อนั อนั ยาว 5 อัน เป็นหมัน 5 อัน รงั ไข่ส่วนมากมี 5 ช่อง แต่ละช่องมีออวลุ 3–5 ออวลุ เกสรเพศเมยี 5 อัน ผลสดมีหลายเมล็ด รปู รหี รอื รปู ขอบขนาน ยาวไดถ้ งึ 12 ซม. มคี รบี คลา้ ยปีก 5 อัน ตดั ตามขวางรปู ดาวห้าแฉก เมล็ดมเี ยอ่ื หมุ้
201พรรณไม้ในมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จงั หวัดปทุมธานี มะม่วง ชื่อวงศ์ Anacardiaceae ชื่อสามญั Mango ชือ่ อ่นื มะม่วงบ้าน มะมว่ งสวน ไม้ตน้ ลาต้นตรง สงู ประมาณ 10–14 ม. เปลือกแขง็ เมอ่ื แก่จะเปลี่ยนเป็นสนี ้าตาล ใบเปน็ ใบเด่ียว เรียงสลับกัน ใบอ่อนมกั มสี อี อกแดง เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสเี ขียวเข้มเป็นมัน กา้ นใบยาว 1–10 ซม. แผ่นใบ กว้าง 2–10 ซม. ยาว 8–40 ซม. ใบมีรูปร่างแบบโล่ รปู หอก รปู ไข่ และเรยี วยาว ฐานใบรูปลิม่ แหลม ปลายใบแหลม ขอบใบเปน็ คลน่ื ดอกออกเป็นชอ่ มกี ลนิ่ หอม ดอกมีหลายสีแตกตา่ งกนั เชน่ แดง ชมพู ขาว กลบี เล้ียงมี 5 กลบี แยกกัน สีเขยี ว อมเหลือง กลีบดอกมี 5 กลีบ กลีบดอกยาวเปน็ 2 เท่าของกลบี เลยี้ ง สีเหลอื ง เมือ่ แก่กลบี ดอก จะเปล่ียนเป็นสชี มพู ผลทรงกลมถึงรูปไขค่ อ่ นขา้ งยาว แบนดา้ นลา่ ง เมือ่ สุกจะมีสเี หลือง ส้ม แดง มี 1 เมลด็ เปลอื กแข็ง
202 Plant s in Valaya มะม่วงหิมพานต์ ชื่อวงศ์ ANACARDIACEAE ชื่อสามัญ Cashew nut tree ชอ่ื อ่ืน กาหยู, ยะร่วง, ม่วงชหู น่วย, ม่วงเม็ดลอ่ , ยะโหย้ , ยาหยี, ตาหยาว, มะมว่ งสิงหฬ,ี มะมว่ งกลุ า, มะมว่ งหวอด ไมย้ ืนต้นขนาดกลาง สูง 8–10 ม. กิ่งแขนงแตกออกเปน็ พ่มุ แนน่ ทรงกลมถงึ แผ่ กระจาย เปลือกหนา ผวิ เรียบสนี า้ ตาลเทา ใบเด่ยี วออกเรียงสลับหนาแนน่ ช่วงปลายยอด ใบหนาแข็ง รูปรหี รือรูปไข่กลับ ปลายใบมนโคนสอบ สเี ขียวสด ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ที่ปลายยอด สเี หลอื งนวล แตล่ ะช่อประกอบดว้ ยดอกย่อยจานวนมาก กลีบเล้ียงขนาดเล็ก สเี ขยี ว โคนดอกเชอ่ื มตดิ กนั ปลายแยกเป็นกลบี 5 กลบี ผลเปน็ พวงห้อยย้อยลง ผลอ่อน สีเขียว เม่อื แกส่ แี ดงส้ม จะมีเมลด็ คลา้ ยเมล็ดถง่ั งอกติดอยู่บรเิ วณก้านผล เปลือกสนี ้าตาลเขม้
203พรรณไมใ้ นมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวัดปทุมธานี มะยงชดิ ชื่อวงศ์ ANACARDIACEAE ช่ือสามัญ Marian plum ชื่ออื่น มะปราง ไม้ยนื ต้น สงู 15–30 ซม. ทรงต้นค่อนข้างแหลม มีกิ่งกา้ น คอ่ นขา้ งทบึ ใบเรียว กวา้ งประมาณ 3.5 ซม. ยาว 10–14 ซม. ดอกออกเปน็ ชอ่ บรเิ วณปลายกิง่ แขนง สีเหลอื ง ช่อดอกยาว 8–15 ซม. เปน็ ดอกสมบูรณ์เพศ ผลทรงกลมรูป ไข่และกลม ปลายเรยี วแหลม ในช่อ หนง่ึ มผี ล 1–15 ผล ผลอ่อนสเี ขยี ว ออ่ นถงึ เขยี วเขม้ เมอ่ื แกส่ ีเหลืองหรือ เหลืองอมสม้ เปลอื กนิ่ม เนอ้ื สเี หลือง แดง หรอื สม้ ออกแดง ผลหน่ึงจะมี 1 เมลด็ ส่วนผิวของกะลาเมล็ดมี ลกั ษณะเป็นเสน้ ใย เน้ือของเมล็ด สขี าว หรือสีชมพอู มม่วง รสขมและฝาด
204 Plant s in Valaya ไมต้ ้น สงู ได้ถึง 10 ม. ใบรูปไขห่ รือแกมรูปขอบขนาน ยาว 2.5–10 ซม. ปลายมีตง่ิ แหลม โคนมน ชอ่ ดอกมีดอกเพศผู้ ออกเปน็ กระจุก 2–6 ดอกมักออกทโ่ี คนช่อตามซอกใบหรือ ตามกงิ่ ชอ่ ดอกเพศเมยี ส่วนมากออกตามกง่ิ กา้ นดอกยาว 0.5–3 มม. ขยายในผลยาว 2–5 มม. กลีบเล้ียงสีแดง รปู ไข่ ยาว 1–2 มม. ดอกเพศผมู้ ี 4 กลบี แคบกว่าในดอกเพศเมยี เลก็ นอ้ ย จานฐานดอกเปน็ ตอ่ ม 4 ต่อม ดอกเพศเมียมี 4–6 กลบี จานฐานดอกเปน็ ต่อม 4–6 ต่อม เกสรเพศผู้ 4 อัน แยกกนั ยาวประมาณ 5 มม. บางครง้ั มี 1–2 อนั ในดอกเพศเมีย ลดรปู รังไข่จัก 6–8 พู ก้านเกสรเพศเมยี 3–4 อนั ยาว 1–6 มม. ผลจัก 6–8 พู เสน้ ผ่านศนู ย์กลาง 1.5–2.7 ซม. เมล็ดกลมแกมรปู สามเหลย่ี มมน ยาว 5–8 มม.
205พรรณไม้ในมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี ชอื่ วงศ์ PHYLLANTHACEAE ช่ือสามัญ Otaheite Gooseberry, Star Gooseberry ชอ่ื อื่น – มะยม
206 Plant s in Valaya มะรมุ ช่ือวงศ์ MORINGACEAE ชื่อสามัญ Drumstick Tree, Horseradish Tree ช่ืออื่น กาแน้งเดิง (กะเหร่ียง–กาญจนบุรี); ผักเน้ือไก่ (เงี้ยว–แม่ฮ่องสอน); ผักอีฮึม, ผักอีฮุม, มะคอ้ นกอ้ ม (ภาคเหนือ); มะรมุ (ภาคกลาง, ภาคใต)้ ; เสช่ อ่ ยะ (กะเหรยี่ ง–แม่ฮ่องสอน) ไมต้ น้ สงู ไดถ้ ึง 30 ม. ใบประกอบ 3 ชั้น เรียงเวียน ยาวไดถ้ ึง 60 ซม. มีตอ่ มท่ีโคนกา้ นใบและแผน่ ใบ มีก้านใบ ย่อยมี 4–6 คู่ รปู รหี รือรูปไข่ ยาว 1–2 ซม. ใบออ่ นมีขน ประปราย ปลายกลมหรอื เว้าต้ืน โคนกลมหรอื รูปล่ิม กา้ นใบส้ัน ชอ่ ดอกแยกแขนง ออกตามซอกใบ ยาวไดถ้ ึง 30 ซม. ใบประดับขนาดเลก็ กา้ นดอกเทยี มยาว 0.7–1.5 ซม. ก้านดอกสนั้ กลบี เล้ียง 5 กลีบ รูปใบหอก ขนาดเล็ก พบั งอกลับ ดอกสีครมี คลา้ ยรูปดอกถวั่ มี 5 กลีบ รปู ใบพาย ยาว 1–2 ซม. กลีบหลังตง้ั ขนึ้ 4 กลบี ล่างพบั งอกลบั เกสรเพศผู้ 5 อนั เปน็ หมนั 5 อัน เรียงคน ละวง โคนมขี น รงั ไขม่ ชี อ่ งเดียว มกี า้ น พลาเซนตาตาม แนวตะเขบ็ 3 แนว มีขน ออวุลจานวนมาก ก้านเกสรเพศ เมยี 1 อัน ยอดเกสรเปน็ ตมุ่ ขนาดเลก็ ผลแหง้ แตก มี 3 ซกี รูปทรงกระบอกเปน็ สัน ยาวได้ถงึ 50 ซม. เมล็ดกลมแกม รูปสามเหลีย่ ม เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง 0.8–1.5 ซม.มีปีกบาง กว้าง 0.5–1 ซม.
207พรรณไม้ในมหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี มะละกอ ชอ่ื วงศ์ CARICACEAE ชอื่ สามัญ Melon Tree, Papaya, Pawpaw ชอื่ อน่ื กวยเตศ, ก้วยลา, แตงต้น, มะก้วยเทศ, ลอกอ, หมกั หุ่ง ไมต้ น้ ขนาดเลก็ สูง 2.5–10 ม. มีรอย แผลทีก่ ้านใบ ทกุ สว่ นมียางสีขาว ใบเป็นใบ เดยี่ วออกเวียนสลับถ่บี ริเวณยอด กวา้ งและยาว 25–60 ซม. ปลายแหลม โคนเวา้ ขอบเว้าลึก เป็นแฉก 5–7 แฉก และจกั เป็นฟันเลือ่ ย กา้ นใบกลวง ยาว 25–100 ซม. ดอกออกตาม ซอกใบ สขี าว มีกลน่ิ หอม ดอกแยกเพศ สว่ นใหญแ่ ยกต้น ดอกเพศผ้อู อกเป็นช่อห้อยลง กา้ นชอ่ ดอกยาว กลีบดอกโคนเชื่อมกนั เป็นหลอด ยาว 1.5–2.5 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เมื่อบานเสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง 1.5–2.5 ซม. ผลรปู รี รูปไข่ ปลายแหลม หรอื รปู เกอื บกลม ขนาดแตกตา่ งกันตามพนั ธ์ุ เมอ่ื สกุ สสี ้มอมแดง หรอื สีเหลอื ง
208 Plant s in Valaya มะลลิ า ชอื่ วงศ์ OLEACEAE ชอ่ื สามัญ Arabian Jasmine, Sampaguita ชื่ออ่ืน ข้าวแตก (เง้ยี ว–แม่ฮ่องสอน); เตียมนู (ละว้า–เชียงใหม่); มะลิ (ทั่วไป); มะลิขไี้ ก่ (เชียงใหม)่ ; มะลิซ้อน (ภาคกลาง); มะลปิ อ้ ม (ภาคเหนือ); มะลลิ า (ทั่วไป); มะลิหลวง (แม่ฮ่องสอน) ไม้พ่มุ รอเลอ้ื ย สูงไดถ้ งึ 3 ม. กิ่งมขี นประปราย ใบเด่ียว รปู รีหรอื รูปไขก่ ลับกว้างเกือบ กลม ยาว 4–12.5 ซม. แผ่นใบด้านล่างมขี นตามเสน้ แขนงใบ ก้านใบยาว 2–6 มม. มขี นสั้นนมุ่ โคนและปลายแหลม เส้นแขนงใบข้างละ 4–6 เสน้ เส้นโคนใบไม่ชดั เจน ช่อดอกออกสนั้ ๆ ท่ี ปลายกง่ิ มี 1–5 ดอก ใบประดบั รูปลม่ิ แคบ ยาว 4–8 มม. ก้านดอกยาว 0.3–2 ซม. กลีบเลีย้ ง 8–9 กลีบ รูปแถบ ยาว 5–7 มม. หลอดกลีบดอกส้นั กลีบดอกมีไดถ้ ึง 16 กลีบ รปู รีหรือเกือบ กลม ยาว 5–9 มม. ผลรูปกลม เสน้ ผ่านศนู ย์กลางประมาณ 1 ซม. สุกสีมว่ งดา
209พรรณไมใ้ นมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวดั ปทุมธานี มะสงั ชอ่ื วงศ์ RUTACEAE ช่อื สามัญ Wood Apple ชื่ออ่ืน ผกั สัง ไม้ต้น สงู 4–8 ม. ลาต้นและกิ่งมี หนามแข็ง ยาว 1–4 ซม. มีตอ่ มน้ามนั ใสๆ กระจายท่ัวไป ใบเปน็ ใบประกอบ แบบขนนกออกสลับกัน ใบย่อย 3–11 ใบ รูปไข่กลับ กวา้ ง 1–1.5 ซม. ยาว 2–3 ซม. ปลายมนโคนสอบ เนอ้ื ใบหนา ผิวใบเกลี้ยง เป็นมัน ดอกออกเป็นชอ่ แยกแขนงตามซอก ใบ สีขาว มีกล่ินหอม ดอกยอ่ ย 5–10 ดอก กลบี ดอกมี 5 กลบี รูปไขแ่ กมขอบขนาน ปลายแหลม เมอ่ื บานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1–3 ซม. ก้านดอกยาว 1–1.5 ซม. ผลกลม กดแบนลง เสน้ ผ่านศูนย์กลาง 4–12 ซม. ผิวเกล้ยี ง เปลือกหนาและแข็ง เน้ือในผล มีกล่นิ หอม และมีเมล็ดมาก
210 Plant s in Valaya มะฮอกกานใี บใหญ่ ชอื่ วงศ์ MELIACEAE ชอื่ สามัญ Broad Leaf Mahogany, False Mahogany, Honduras Mahogany ชื่ออื่น – ไมต้ ้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15–25 ม. เปลือกตน้ สีน้าตาลเข้ม ปนดา ใบเรยี งตรงขา้ ม ใบประกอบ แบบขนนกช้นั เดยี ว ปลายคู่ ใบย่อย รปู รเี บ้ียว 3–6 คู่ กว้าง 2.5–6 ซม. ยาว 6–15 ซม. โคนใบแหลม ปลายใบ แหลม ใบคอ่ นข้างหนา สเี ขียวเข้ม ใตใ้ บสีอ่อน ดอกออกที่ซอกใบใกล้ ปลายกง่ิ กลีบดอกสีเหลืองออ่ นหรือ เหลอื งแกมเขียว กลีบดอกมี 5 กลบี ปลายมน เม่ือบานแล้วเส้นผ่าน ศนู ย์กลาง 0.7–1.2 ซม. ผลแห้งแตก จากโคนเปน็ 5 พู รูปไข่ เปลอื กหนา แข็ง เมล็ดสีนา้ ตาล มีปกี
211พรรณไมใ้ นมหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี มนั ปู ชื่อวงศ์ PHYLLANTHACEAE ชื่อสามัญ – ชอ่ื อืน่ ยอดเทะ, นกนอนทะเล ไมล้ ม้ ลุก สูง 10–40 ซม. แตกกิง่ ตา่ มีขนยาวประปรายตามลาต้น แผน่ ใบ ทัง้ สองด้าน ก้านดอก ใบประดบั และ กลีบเลี้ยง ใบรูปไขห่ รอื แกมรูปขอบขนาน ยาว 1.5–4.5 ซม. ปลายแหลม โคนมน หรอื กลม ขอบจักฟนั เล่ือย ไรก้ ้านหรือ มกี า้ นยาวได้ถึง 1.5 ซม. ดอกออกเดยี่ ว ๆ ตามซอกใบ หรอื ออกเปน็ คูห่ า่ ง ๆ คล้ายชอ่ กระจะที่ปลายก่ิง ก้านชอ่ เป็น สเ่ี หลีย่ ม ใบประดับรปู แถบ ยาว 3–7 มม. ก้านดอกยาว 5–7 มม. กลีบเล้ยี งยาว 5–9 มม. หลอดกลีบมีสันเป็นครบี 5 อนั ตดิ ทนหุ้มผล ดอกสเี หลอื ง ยาว 0.8–1 ซม. กลบี บนรูปกลมกว้าง ขนาดประมาณ 5 มม. กลีบลา่ ง 3 กลบี กลม เล็กกวา่ กลบี บน เล็กน้อย เกสรเพศผู้มีเดือยทโ่ี คนรปู กระบอง ส้ัน ๆ ผลยาว 0.8–1 ซม.
212 Plant s in Valaya มิกก้เี มาส์ ชอื่ วงศ์ OCHNACEAE ชอ่ื สามัญ Micky Mouse ชอ่ื อ่นื – ไมพ้ ุ่มขนาดเล็ก แตกกงิ่ ก้านจานวนมากเปน็ พุม่ ทบึ ลาต้นสนี ้าตาลอ่อน ใบเปน็ ใบเดี่ยว เรยี งเวียน ใบรปู รีกว้าง 3–4 ซม. ยาว 5–8 ซม. ปลายใบมน โคนใบสอบแคบ ขอบใบมีหนาม เล็กๆ ผิวใบด้านบนสีเขยี วเข้มเปน็ มัน ดอกสีเหลือง ออกดอกเป็นชอ่ แบบชอ่ แยกแขนงทป่ี ลาย ก่ิง กลีบเล้ียงสแี ดงสด กลบี ดอก 5 กลบี ดอกบานเต็มท่ี กว้าง 1–2 ซม. ผลสดมีเน้อื นมุ่ สีเขยี ว เมอื่ สุกมสี ดี า มีเมล็ดเดยี ว
213พรรณไม้ในมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวัดปทุมธานี โมก ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE ช่ือสามัญ Water Jasmine, Wild Water Plum ชื่ออ่นื ปิดจงวา (เขมร–สรุ นิ ทร)์ ; โมกซ้อน, โมกบ้าน (ภาคกลาง); หลักปา่ (ระยอง) ไม้พุม่ อาจสูงได้ถงึ 5 ม. ใบบาง รูปรี ยาว 2–8 ซม. ก้านใบยาว 1–4 มม. ช่อดอกหอ้ ยลง ยาว 1.5–5 ซม. ก้านดอกยาว 0.8–3 ซม. กลบี เล้ียงรปู ไข่ ยาว 1–3 มม. ตอ่ มโคนกลีบขนาดเลก็ ดอกสขี าว หลอดกลีบดอกยาว 2–4 มม. กลบี รปู ไข่กลับ ยาว 0.5–1 ซม. ไมม่ ีกะบงั เกสรเพศผู้ ติดบนปากหลอดกลบี ดอก อบั เรณูยาวประมาณ 4 มม. รงั ไข่เกลี้ยง กา้ นเกสรเพศเมียยาว 6–8 มม. รวมยอดเกสร ผลแยกกนั ยาวไดถ้ งึ 30 ซม. เมล็ดยาวได้ถงึ 2 ซม. ขนกระจกุ ยาว 3.5–4 ซม.
214 Plant s in Valaya ยอ ชอ่ื วงศ์ RUBIACEAE ชอื่ สามัญ Beach mulberry, Cheese fruit, Indian mulberry ช่อื อ่นื กะมดู ู (มาเลย์–นราธิวาส); คูยู่ (กะเหรีย่ ง– แม่ฮ่องสอน, สว่ ย); เควาะ (กะเหรี่ยง–กาญจนบรุ ี); เคาะขมนิ้ (ภาคเหนอื ); ตะเกรย (ราชบุรี); ตะลุมพุก (ขอนแก่น); มะตาเสอื (ภาคเหนือ); ยอ (ภาคกลาง); ยอเถอ่ื น (ชุมพร); ยอบา้ น (ภาคกลาง); ยอปา่ (ตรัง, สตลู , ภาคเหนอื ); แยใหญ่ (กะเหร่ยี ง–แม่ฮ่องสอน); สะกยึ , สะเกย, หัสเกย (ภาคเหนือ) ไม้พมุ่ หรอื ไมต้ น้ อาจสูงได้ถึง 10 ม. หใู บรปู ไข่ ยาว 0.5–1.5 ซม. ใบรปู รีหรอื รปู ไข่ ยาว 10–25 ซม. ปลายแหลมหรอื มน โคนแหลมหรอื เรียวสอบ เสน้ แขนงใบ ข้างละ 5–7 เส้น มักมตี มุ่ ใบเปน็ ขน ก้านใบยาว 0.5–3.5 ซม. กา้ นช่อยาว 1–1.5 ซม. ช่อขนาดเส้นผา่ นศนู ย์กลาง 0.5–1 ซม. บางครั้งมีแผน่ คลา้ ยใบประดับสีขาว 1–3 ใบ รูปรี ยาว 0.5–1.5 ซม. ดอกรูปแตรแคบ ๆ หลอดกลบี ดอก ยาว 0.8–1.5 ซม. ดา้ นในมีขนหนาแน่น มี 5–6 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปไข่ ยาว 2–6 มม. กา้ นเกสรเพศเมียยาว 0.8–1 ซม. ชอ่ ผลแกส่ ีขาว รูปไขห่ รือกลม เส้นผา่ นศูนยก์ ลาง 2.5–5 ซม. ผลย่อยจานวนมากเชอื่ มติดกัน
215พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จงั หวัดปทุมธานี ยางนา ชื่อวงศ์ DIPTEROCARPACEAE ชื่อสามญั Yang ชือ่ อ่ืน กาตลี (เขมร–ปราจนี บุรี); ขะยาง (ชาวบน–นครราชสีมา); จอ้ ง (กะเหรี่ยง); จะเตยี ล (เขมร); ชนั นา (ชุมพร); ทองหลกั (ละว้า); ยาง (ทวั่ ไป); ยางกุง (เลย); ยางขาว (ท่ัวไป); ยางควาย (หนองคาย); ยางตงั (ชมุ พร); ยางนา(ทัว่ ไป); ยางเนิน (จันทบรุ ี); ยางแม่นา้ , ยางหยวก (ทั่วไป); ราลอย (ส่วย–สุรนิ ทร์); ลอย (โซ่–นครพนม) ไมต้ น้ ตายอดมีขนยาวหนาแน่น หใู บรปู ใบหอก ยาวได้ถึง 10 ซม. ใบรูปรีหรือรูปไข่ ยาว 9–24 ซม. ปลายแหลม โคนรปู ลิม่ กว้าง กลมหรือเว้าต้ืน เสน้ แขนงใบขา้ งละ 12–20 เส้น กา้ นใบยาว 2–6 ซม. ช่อดอกยาวไดถ้ ึง 10 ซม. ช่อแยกแขนง ยาว 3–7 ซม. มี 3–5 ดอก ก้านดอกยาวประมาณ 1 มม. หลอดกลีบเลีย้ งยาวประมาณ 1 ซม. กลบี ยาว 1–1.5 ซม. กลบี ส้นั ยาวประมาณ 5 มม. กลบี ดอก ยาวประมาณ 3 ซม. ด้านนอกมีขนส้นั นุ่ม เกสรเพศผู้ 30 อัน อบั เรณยู าวประมาณ 8 มม. หลอดกลีบเล้ยี งห้มุ ผลยาว 3–4 ซม. มี 5 สัน เป็นปีกกวา้ ง 0.5–1 ซม. ปีกยาวยาว 8–13 ซม. ปกี ส้ันยาวประมาณ 1 ซม. ขอบพับกลับ
216 Plant s in Valaya ยางอนิ เดยี ชื่อวงศ์ MORACEAE ชอ่ื สามัญ Decora Tree, Indian Rubber Tree, Rubber Plant ชื่ออน่ื ยางลบ ลุง ไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูง 10–15 ม. มรี ากอากาศจากลาต้นและกง่ิ ใบเดีย่ ว เรียงเวยี น เม่อื ยงั ออ่ นเส้นกลางใบและก้านใบมีสีแดง ใบรปู รหี รือเกือบเป็นรูปไข่กลับ กวา้ ง 4–7.5 ยาว 10–15 ซม. ปลายแหลมเรียว โคนสอบ ดอกมขี นาดเลก็ เกิดภายในฐานรองดอก ทม่ี ีรปู ร่างยาวรคี ล้ายผล ออกเป็นคู่ข้างกิง่ ดอกเพศผู้และเพศเมียไมม่ ีกลีบ ผลกลมรี กว้าง 0.8–0.9 ซม. ยาว 0.9–1.2 ซม. เม่อื ผลสกุ จะมีสเี หลือง
217พรรณไม้ในมหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จังหวดั ปทุมธานี กยโ่ี ถ ช่ือวงศ์ APOCYNACEAE ช่ือสามัญ Oleander ชื่ออน่ื ยีโ่ ถฝรัง่ (ภาคกลาง) ไม้พมุ่ หรือไม้ตน้ ขนาดเล็ก สงู ได้ถึง 6 ม. น้ายางสขี าว ใบสว่ นใหญเ่ รียงรอบข้อ 3 ใบ ซอกใบมีต่อม ใบรูปขอบขนานถึงรปู แถบ ยาว 5–20 ซม. ปลายแหลมหรอื แหลมยาว เส้นแขนงใบจานวนมาก ไมช่ ดั เจน แผน่ ใบหนา เกลี้ยงหรือมขี นละเอยี ด ก้านใบส้นั ช่อดอก แบบช่อกระจกุ แยกแขนงสน้ั ๆ กลบี เลย้ี ง 5 กลบี รปู ไขแ่ กมรปู สามเหลีย่ ม ยาวไดถ้ ึง 1 ซม. กลีบดอกเรียงซ้อนทับดา้ นขวาในตาดอก ดอกบานรูปแตร สขี าว สชี มพู หรอื สีเหลือง หลอดกลีบดอกยาว 1–2 ซม. มี 5 กลีบ รูปรี ยาว 1.3–3 ซม. กะบงั แฉกลึกไม่เป็นระเบยี บ เกสรเพศผู้ 5 อนั ติดภายในหลอดกลบี ดอกช่วงป่อง ก้านชอู บั เรณสู ั้น อับเรณูรูปสามเหล่ียม แคบ ยาว 4–6 มม. มรี ยางคบ์ ิดเวยี นเปน็ ขน ยาว 7–9 มม. มี 2 คาร์เพลเช่ือมตดิ กนั ก้านเกสร เพศเมยี ยาว 0.7–1.3 ซม. รวมยอดเกสรเพศเมีย ผลแตกแนวเดยี ว ยาว 7.5–17.5 ซม. เมล็ดจานวนมาก เรียวแคบ ยาว 4–7 มม. ปลายมีกระจกุ ขนยาว 0.9–1.2 ซม.
218 Plant s in Valaya ยูคาลปิ ตสั ช่อื วงศ์ MYRTACEAE ช่ือสามัญ Eucalyptus ช่ืออ่ืน ยูคาลปิ ไมต้ น้ ขนาดใหญ่ สูง 24–26 ม. เปลอื กเรยี บ เป็นมัน สีเทาสลบั ขาวและนา้ ตาลแดงเป็นบางแห่ง เปลอื กนอกแตกร่อนเป็นแผ่นหลดุ ออกจากบรเิ วณผวิ ของ ลาตน้ เมอ่ื แหง้ จะลอกออกงา่ ย ใบเปน็ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รปู ใบหอก ก้านใบยาว ใบสีเขียวออ่ นท้ังดา้ นบนและ ด้านล่าง เสน้ ใบมองเหน็ ไดช้ ดั ดอกออกเป็นชอ่ แบบซร่ี ่ม ออกตามซอกใบ ดอกย่อยมี 7–11 ดอก ก้านชอ่ ดอก ยาว 0.6–1.5 ซม. ก้านดอกยอ่ ยเรียว ยาว 0.5–1.2 ซม. ดอกตมู รูปกลมหรือกรวยกลม ด้านบนเปน็ ฝาปดิ ทรงกลม ปลายมีจงอยฝาปิด ร่วงเมื่อดอกบาน ด้านล่างเป็นฐานดอก รปู ถว้ ย ผลมขี นาดเลก็ กว่า 1 มม. สีเหลือง เมล็ดมีลักษณะ เป็นคร่ึงวงกลม ผวิ นอกแขง็ เมือ่ ยังอ่อนจะมสี ีเขียวและจะ เปลี่ยนเป็นสีน้าตาลเม่อื แก่ เมอ่ื ผลแกป่ ลายผลจะแยกออก ทาให้เมล็ดทีอ่ ยภู่ ายในหล่นออกมา
219พรรณไมใ้ นมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี รกั ช่ือวงศ์ APOCYNACEAE ชอื่ สามญั Crown Flower, Giant Indian Milkweed ชือ่ อนื่ ปอเถอ่ื น ป่านเถ่อื น ไม้ยนื ต้นขนาดเลก็ สงู ประมาณ 1–3 ม. เปลือกลาต้นสีนา้ ตาลอ่อน ตามกิ่งออ่ นและ ยอดอ่อนมขี นสีขาวปกคลุมหนาแน่น ทกุ ส่วนมียางสีขาวข้น ใบเปน็ ใบเดี่ยว ออกเรยี งตรงขา้ ม กนั ใบรปู รแี กมขอบขนาน กว้าง 4–5 ซม. ยาว 8–30 ซม. ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบมน หรอื เว้าเล็กนอ้ ยหลงั ใบและท้องใบมีขนสขี าวปกคลุมขอบใบเรยี บ เนือ้ ใบหนา ก้านใบส้นั ดอกออกเปน็ ช่อ ออกตามซอกใบ ดอกย่อยมจี านวนมาก สขี าวหรอื สมี ่วง กลีบดอกมี 5 กลีบ ปลายบดิ โคนกลบี ดอกเชื่อมติดกนั มีรยางคเ์ ปน็ รปู มงกุฎขนาดใหญอ่ ยู่ตรงกลางดอก มีกลบี เกล้ียง 5 กลบี ผลเปน็ ฝักติดกนั เป็นคู่ รูปรี ปลายฝักแหลม ผิวฝกั แหลม ผิวมีนวลมขี าว ฝกั แก่จะแตกออก เมลด็ แบนสีนา้ ตาลจานวนมาก มีขนสขี าวติดอยูท่ ี่ปลายเมล็ด สามารถปลิว ไปตามลมได้
220 Plant s in Valaya ราชพฤกษ์
221พรรณไม้ในมหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จงั หวดั ปทุมธานี ชื่อวงศ์ FABACEAE ชอ่ื สามัญ Golden Shower, Indian Laburnum, Pudding–Pipe Tree ชือ่ อ่ืน กุเพยะ (กะเหรีย่ ง–กาญจนบรุ ี); คูน (ภาคกลาง, ภาคเหนือ); ชยั พฤกษ์, ราชพฤกษ์ (ภาคกลาง); ปือยู, ปโู ย, เปอ โซ, แมะหลา่ หยู่ (กะเหรี่ยง–แมฮ่ ่องสอน); ราชพริก (ภาค ตะวนั ออกเฉียงใต้); ลมแล้ง (ภาคเหนอื ); ลกั เคยลักเกลือ (ภาคใต)้ ไมต้ น้ สูงได้ถึง 15 ม. หูใบขนาดเลก็ รว่ งเร็ว ใบประกอบ ยาว 30–40 ซม. มีใบย่อย 3–8 คู่ รปู ไข่หรอื แกมรูปขอบขนาน ยาว 7–13 ซม. ปลายแหลม โคนรูปล่มิ ก้านใบย่อยยาว 0.5–1 ซม. ช่อดอกหอ้ ยลง ยาว 20–60 ซม. ใบประดับยาวประมาณ 1 ซม. รว่ งเร็ว กา้ นดอกยาว 3–5 มม. กลบี เลย้ี งรปู ไขแ่ คบ ยาว 1–1.5 ซม. ดอกสีเหลอื ง กลีบรปู ไข่กว้าง ยาว 2.5–3.5 ซม. มีก้านสัน้ ๆ เกสรเพศผู้อันยาว 3 อนั ก้านชูอบั เรณูยาว 3–4 ซม. โค้งงอ อับเรณูยาวประมาณ 5 มม. มีรูเปิดทโี่ คน อนั สน้ั 4 อนั กา้ นชอู บั เรณูยาว 0.6–1 ซม. ตรง ลดรูป 3 อนั รังไข่และ ก้านเกสรเพศเมียมีขนกามะหย่ี ฝักรปู ทรงกระบอก หอ้ ยลง ยาว 20–60 ซม. เส้นผ่านศนู ย์กลาง 1.5–2.5 ซม. เมลด็ รูปรี แบน สนี ้าตาลเป็นเงา ยาวประมาณ 1 ซม. มีผนงั กั้นบาง ๆ
222 Plant s in Valaya ราชาวดี ช่ือวงศ์ SCROPHULARIACEAE ช่อื สามัญ Asian Butterfly Bush, White Butterfly Bush, Winter Lilac ชื่ออ่นื เกี๊ยงพาไหล (เชียงใหม่); ไครบ้ ก (ภาคเหนอื ); ไคร้หางหมา (เชยี งใหม่); งวงช้าง (ชยั ภูม)ิ ; ดอกด้ายน้า (เชียงใหม่, แมฮ่ ่องสอน); ดอกดา้ ยหางหมา (เชียงใหม่, ลาปาง); ดอกถอ่ น (เลย); ดอกฟู (เชียงใหม่); ดอกแม่มา่ ย (กาญจนบุรี); ปวกน้า (เชียงราย); ปุนปุ๊ก (เงีย้ ว–แมฮ่ อ่ งสอน); พจู่ ี่บอย (กะเหร่ียง–แมฮ่ ่องสอน); โพหนองป๊ี (กะเหรี่ยง–กาญจนบุรี); ฟอน (เลย); มะหาดน้า (เชียงใหม่); แมม่ ่าย (กาญจนบรุ ี); ราชาวดีปา่ , หญา้ นา้ แป้ง, หัวเถ่อื น (เชยี งใหม)่ ไม้พ่มุ สูงได้ถึง 5 ม. มขี นกระจุกส้ันน่มุ หนาแน่นตามก่งิ ออ่ น แผน่ ใบด้านลา่ ง ช่อดอก กลบี เล้ยี งและกลีบดอกดา้ นนอก ใบรูปไข่ รูปขอบขนาน หรือรูปใบหอก ยาวได้ถงึ 16 ซม. ปลายแหลมยาว โคนเรียวสอบ ขอบจักฟันเลื่อย กา้ นใบยาว 0.2–1.5 ซม. ช่อดอกแบบ ชอ่ เชงิ ลด ยาวได้ถงึ 30 ซม. บางครัง้ แยกแขนง กา้ นดอกยาวประมาณ 2 มม. หลอดกลีบเลย้ี ง ยาว 1.5–4.5 มม. กลีบรูปสามเหล่ยี มแคบ ยาวประมาณ 1.5 มม. ดอกสีขาวหรอื อมเขียว หลอดกลบี ยาว 2.5–6 มม. กลบี กลม ยาว 1–1.7 มม. ขอบเรียบหรือจกั เป็นคล่ืน อับเรณูยาว ประมาณ 1 มม. รังไข่เกลี้ยงหรือมีเกล็ดรังแค ปลายเรียวยาวเป็นก้านเกสรเพศเมยี ยาวได้ถึง 3.5 มม. ผลแห้งแตก รูปรี ยาว 3–5 มม.
223พรรณไม้ในมหาวิทยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี ราเพย ช่อื วงศ์ APOCYNACEAE ช่อื สามัญ Be still tree, Lucky nut, Trumpet flower, Yellow Oleander ช่ืออื่น กระบอก, กะทอก (กรุงเทพฯ); แซน่าวา, แซะศาลา (ภาคเหนือ); บานบรุ ี, ยโี่ ถฝรงั่ (กรงุ เทพฯ); ราพน (ภาคเหนือ); ราเพย (ภาคกลาง) ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 4 ม. น้ายางสีขาว ใบเรียงเวียน รูปแถบ ยาว 6–12 ซม. มีต่อมตาม ซอกใบ เสน้ ใบไม่ชัดเจน ก้านใบสั้น ช่อดอกแบบช่อกระจุก มี 5–8 ดอก บานคร้งั ละ 1–2 ดอก กลบี เลี้ยง 5 กลีบ รูปสามเหล่ียมแคบ ยาว 0.7–1 ซม. ติดทน ดอกสีเหลือง รูปลาโพง กลีบดอกเรียงซ้อนทบั ด้านซา้ ยในตาดอก หลอดกลบี ดอกยาว 2.5–3 ซม. มี 5 กลีบ รปู ขอบ ขนาน บิดเวียน เรียงซ้อนเหล่ือม ยาวประมาณ 3 ซม. ด้านในมีขนสั้นนุ่ม กะบังขนาดเลก็ อยู่ ดา้ นบนและล่างของเกสรเพศผู้ มีขนสั้นนุ่ม เกสรเพศผู้ 5 อนั ติดประมาณกงึ่ กลางหลอดกลบี ดอก จานฐานดอกสูงประมาณ 1 มม. คาร์เพล 2 อัน เชือ่ มติดกนั คร่ึงล่าง ก้านเกสรเพศเมียรปู เสน้ ด้าย ยาวประมาณ 1 ซม. ผลผนังชั้นในแขง็ ยาว 3–5 ซม. มี 2 ซีกเชื่อมติดกนั คล้ายรปู สามเหล่ยี มกลบั แต่ละซีกมเี มล็ดเดยี ว แบน มีปกี เล็ก ๆ
224 Plant s in Valaya ละมุด ช่อื วงศ์ SAPOTACEAE ช่ือสามญั Sapodilla Plum ช่อื อืน่ ละมุดดา่ ง, ละมดุ ไทย, ละมุดสีดา ไมต้ น้ ขนาดกลาง สูง 10–15 ม. มยี างสีขาวอยู่ท่วั ทุกสว่ นของลาตน้ ใบเดย่ี ว รูปรี กว้าง 3–7 ซม. ยาว 10–15 ซม. ปลายใบแหลมเล็กน้อย ขอบใบเรยี บ ดอกเด่ียว เกดิ ตามซอกใบใกล้ปลายกิง่ เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีกลบี เล้ยี ง 6 กลีบ กลีบดอก 6 กลบี โคนกลีบเชือ่ มตดิ กนั ปลายกลีบแยก ผลเนือ้ นุ่ม เปลือกผลบาง มสี นี ้าตาลอ่อน ผลขณะยงั ดิบ อยู่จะมยี างสีขาว แต่เม่ือสกุ เน้อื ผลจะมีสนี ้าตาลปนแดง เมลด็ มีลักษณะแขง็ สีดาเป็นมัน
225พรรณไม้ในมหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวดั ปทุมธานี ละมุดเขมร ชอ่ื วงศ์ SAPOTACEAE ชอ่ื สามญั Canistel, Egg Fruit, Yellow Sapote ช่อื อ่ืน เขมา, เซยี นทอ้ , โตมา, ละมุดเขมร, ลกู ทอ้ , แอปเปลิ เขมร (ภาคกลาง) ไมต้ ้น สูงได้ถึง 10 ม. น้ายางสขี าว ใบเรียงเวยี นหนาแน่นที่ปลายกิ่ง รปู รี รปู ใบหอก หรอื แกมรปู ไข่กลับ ยาว 8–33 ซม. ปลายมน แหลม หรือแหลมยาว ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกสัน้ ๆ ตามซอกใบ ก้านดอกยาว 0.6–1.2 ซม. มีขนสนั้ นุม่ กลบี เล้ียง มี 5–6 กลีบ เรียงซอ้ นเหลอ่ื ม มีขนด้านนอก รปู ไข่กลับกวา้ ง ยาว 0.4–1 ซม. ดอกรปู ระฆัง มี 5–7 กลีบ สีเขียว ยาว 0.8–1.2 ซม. หลอดกลบี ยาว 5–8 มม. มขี นกระจายดา้ นนอก เกสรเพศผู้ 5–7 อนั แผ่นเกสรเพศผู้ทเ่ี ป็นหมนั มีเท่าจานวนเกสรเพศผู้ เรียงระหว่างเกสรเพศผู้ ยาว 2–4 มม. สว่ นมากมี 5–7 คาร์เพล มขี น ผลสดมีหลายเมลด็ รูปรกี ว้าง ยาว 3–7 ซม. ปลายมกั มจี งอย สั้น ๆ สกุ สีเหลอื ง ก้านหนา มี 1–10 เมลด็ สนี ้าตาล เรียว แบน ๆ ยาว 2–4 ซม.
226 Plant s in Valaya ลกนั่ ทมขาว ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE ชื่อสามญั - ชอ่ื อ่นื ลีลาวดี ไมย้ นื ตน้ ขนาดเลก็ ลาต้นสงู ประมาณ 4–6 ม. มยี างสขี าว ใบเป็นใบเดย่ี ว เรียงเวียน มีใบดก ทป่ี ลายกิง่ ใบรปู ไขก่ ลับ ปลายมน โคนใบสอบ แคบ ขอบใบเรียบ หลังใบเปน็ มนั สเี ขยี วเข้ม ด้านลา่ งมีขนสั้นๆ ประปราย และมองเหน็ เส้น ใบได้ชัดเจน ขนาดกวา้ งประมาณ 2–3.5 ซม. กา้ นใบยาว 2–2.5 ซม. ดอกออกเป็นช่ออยู่ ตรงสว่ นยอด รปู กรวยสีขาว ภายในหลอด ดอกมขี นประปราย ผลเป็นฝักยาว ผวิ เกลี้ยง ยาว 6–11 ซม. ภายในมเี มลด็ รูปแบนๆ อยู่ จานวนมาก
227พรรณไมใ้ นมหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวดั ปทุมธานี
228 Plant s in Valaya ลกนั่ ทมแดง ชอ่ื วงศ์ APOCYNACEAE ชือ่ สามญั Desert Rose ชือ่ อ่นื ชวนชม, ลั่นทมแดง, ล่นั ทมยะวา (กรุงเทพฯ) ไมพ้ ุม่ อวบน้า นา้ ยางขาว ใบเรยี งหนาแน่นท่ปี ลายกิ่ง รปู ไขก่ ลับถึงรูปแถบ ยาว 3–17 ซม. ปลายมตี ่ิงแหลม ก้านใบสั้น มตี อ่ มท่ีซอกใบ ช่อดอกแบบชอ่ กระจุกแยกแขนงสน้ั ๆ ออกตามซอก ใบทีป่ ลายกงิ่ กลีบเล้ียง 5 กลบี รปู ไขแ่ คบ ยาว 0.5–1 ซม. ดอกรปู แตร สว่ นมากสชี มพูหรือสีแดง กลีบเรียงซ้อนทบั ดา้ นขวาในตาดอก มี 5 กลีบ หลอดกลบี ยาว 2–4.5 ซม. ด้านในมขี นส้นั น่มุ กลบี เกอื บกลม ยาว 1–2.8 ซม. มีกะบังระหว่างกลีบ เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดภายในหลอดกลีบ ก้านชอู บั เรณยู าว 5–7 มม. ปลายอับเรณูเรยี วเปน็ รยางค์ มีขนยาว มี 2 คาร์เพล ปลายเชือ่ มติดกัน เรยี วเป็นกา้ นเกสรเพศเมีย ยาว 1–2 ซม. ผลเปน็ ฝกั คู่ ยาว 10–22 ซม. เมล็ดจานวนมาก เรยี วแคบ ยาว 1–1.5 ซม. กระจกุ ขนยาว 2.5–3.5 ซม.
229พรรณไม้ในมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวัดปทุมธานี ลาไย ชอื่ วงศ์ SAPINDACEAE ชอ่ื สามัญ Longan ชื่ออน่ื ลาไยป่า ไมต้ น้ ขนาดกลาง แตกกิง่ กา้ นสาขาท่ีเรอื นยอด สนี า้ ตาลอมเทา ใบเป็นใบเดย่ี ว ขนาดเล็ก ใบดกหนาทึบ รูปหอก ปลายแหลม โคนสอบ ขอบใบเรยี บหรือเปน็ คลนื่ เล็กนอ้ ย สีเขยี วเขม้ ดอกออกเปน็ ช่ออยตู่ รงส่วนยอด มีขนาดเลก็ สีเหลอื งหรอื น้าตาลอ่อนๆ ผลทรงกลม เปลือกสนี ้าตาล เนอ้ื ในสีขาวใส รสหวาน มีเมลด็ 1 เมล็ด สดี า
230 Plant s in Valaya ล้นิ กระบอื ชือ่ วงศ์ EUPHORBIACEAE ช่ือสามัญ Yellow Star ชอ่ื อ่นื ตาตุ่มไก,่ ตาตุ่มนก (ประจวบคีรขี ันธ์); ล้นิ กระบอื (จนั ทบรุ ี, ภาคกลาง) ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 2 ม. แยกเพศร่วมตน้ หูใบยาว ประมาณ 2 มม. ใบเรยี งตรงขา้ มหรือเรียงสลับ ระนาบเดียว รปู รถี ึงรูปใบหอก ยาว 4–14 ซม. ก้านใบยาว 0.4–1 ซม. ชอ่ ดอกสั้นหรือยาวได้ ถึง 5 ซม. ดอกเพศเมยี อยู่ทีโ่ คน ดอกเพศผู้ ก้านดอกส้นั กลบี เลี้ยงรูปสามเหลี่ยม ยาว 0.6–1 มม. ขอบจกั ชายครุย กา้ นชูอบั เรณู ยาวประมาณ 1 มม. ดอกเพศเมยี ก้านดอก ขยายในผล ยาวไดถ้ ึง 3 มม. กลีบเล้ยี งรปู ไข่ ยาวประมาณ 1.5 มม. ก้านเกสรเพศเมยี สัน้ ยอดเกสรยาว 2–2.5 มม. ผลจกั เปน็ พู เส้นผ่านศนู ย์กลาง 5–7 มม. เมล็ดกลม เส้นผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 2.5 มม.
231พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวดั ปทุมธานี เลบ็ มือนาง ชื่อวงศ์ COMBRETACEAE ชือ่ สามัญ Rangoon Creeper, Drunken Sailor ชือ่ อนื่ จะมัง่ , อะดอนิง่ , ไทห้ ม่อง ไม้เถา กิ่งแก่มีหนาม ใบเด่ียว ออกตรงข้าม รปู รหี รอื รูปรีแกมรปู ขอบขนาน กวา้ ง 2.5–9 ซม. ยาว 5–18 ซม. ปลายแหลมเป็นติง่ โคนใบค่อนข้างกลม ดอกออกเป็นช่อ ใหญ่ตามซอกใบหรอื ปลายก่ิง สขี าวแลว้ เปลย่ี นเปน็ สีชมพู และสีแดงเขม้ กลนิ่ หอม กลีบเลย้ี งโคนเช่อื มกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 7.5 ซม. ปลายแยกเป็น 5 แฉกส้นั รปู สามเหลีย่ ม กลีบดอก 5 กลีบ ช้นั เดยี วหรือมากกว่า เรยี งซ้อนกนั รูปขอบขนาน ยาว 1–1.4 ซม. เมื่อบานเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง ประมาณ 3.5 ซม. มีสันตามยาว 5 สัน มี 1 เมลด็
232 Plant s in Valaya ว่านธรณสี าร ชอื่ วงศ์ PHYLLANTHACEAE ชอื่ สามัญ – ชือ่ อ่นื กระทืบยอบ, ก้างปลา, ก้างปลาดิน, คดทราย, ครบี ยอบ, ดอกใต้ใบ, ตรึงบาดาล, ปลาแดง, รุรี, เสนียดหาง ไม้พมุ่ สงู 1–2 ม. ลาตน้ ตง้ั ตรง แตกกอ ใบเด่ยี ว เรียงสลบั แผน่ ใบรูปขอบขนานเบ้ยี ว หรอื รูปไข่แกมรูปขอบขนาน กวา้ ง 0.8–1 ซม. ยาว 1.5–3 ซม. ปลายมน โคนแหลมหรอื มน เบ้ียว ดอกเปน็ ดอกเดี่ยวเกดิ ตามง่ามใบและปลายกิ่ง แยกเพศ ดอกเพศผู้ออกเปน็ กระจุก ตามงา่ มใบใกล้โคนกิ่ง กลีบเล้ียง 4–5 กลีบ รูปสามเหลยี่ ม กว้าง 1–1.6 มม. ยาว 2–3 มม. เกสรเพศผู้มี 4 อนั ดอกเพศเมยี ออกตามง่ามใบที่อยู่ตอนบนของก่งิ กลีบเลยี้ ง 6 กลบี รปู ไขห่ รือไข่แกมขอบขนาน ยาวประมาณ 8 มม. ผลคอ่ นขา้ งกลม ขนาดประมาณ 3 มม. ผวิ เกลย้ี ง สีน้าตาลอ่อน
233พรรณไมใ้ นมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวัดปทุมธานี ว่านเพชรหึง ชอ่ื วงศ์ ORCHIDACEAE ชอ่ื สามัญ – ชอื่ อน่ื กล้วยกา, ว่านงูเหลือม, วา่ นหางชา้ ง กล้วยไม้อิงอาศยั แตกกอขนาดใหญ่ สงู 1–2 ม. เส้นผ่านศูนยก์ ลางต้นมีขนาด 3–5 ซม. เห็นขอ้ ปลอ้ งชดั เจน รากกลม อวบ ใบเดยี่ ว รปู แถบ กวา้ ง 3–4 ซม. ยาว 30–60 ซม. เรยี งสลับในระนาบเดียวกัน ชอ่ ดอก ออกจากลาต้นเทียมเป็นช่อกระจะ ขนาดใหญ่ ชูตัง้ ยาว 50–100 ซม. ดอกบานมีขนาด 6–8 ซม. สีเหลือง มีจดุ สนี ้าตาลกระจายท่ัวดอก เป็นกล้วยไมท้ มี่ ีขนาดใหญ่ท่สี ดุ ในโลก
234 Plant s in Valaya ศรตี รงั ไม้ตน้ ขนาดเลก็ เปลือกสีน้าตาลอมขาว แตกลอ่ นเปน็ แผน่ บางตามยาวคล้ายกระดาษ ใบเปน็ ใบประกอบแบบขนนก 2 ช้ัน เรยี งตรงกนั ขา้ ม ใบย่อย 12–21 คู่ เรียงตรงขา้ ม ใบรูปขอบขนานแกมรปู สี่เหล่ียมขา้ วหลามตดั มขี นาดเลก็ กว้าง 0.5–0.7 ซม. ยาว 1–1.5 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบเบ้ียว เส้นแขนงใบ ข้างละ 4–5 เส้น ก้านใบหลกั ยาว 7–11 ซม. ก้านใบประกอบ ยาว 4–8 มม. ไมม่ กี ้านใบย่อย ดอกสมี ่วงอ่อน มกี ลน่ิ หอมอ่อน ออกเป็นชอ่ แบบกระจกุ แยกแขนงตามกงิ่ และซอกใบ ใกลป้ ลายก่งิ ช่อดอก ยาว 5–9 ซม. กลบี ดอกเช่ือมติดกันเป็นหลอดสมี ่วงเข้ม ปลายแยก 5 แฉก ผลแห้งแตกเป็นฝกั สีนา้ ตาล อ่อน กว้าง 1–1.5 ซม. ยาว 2.2–2.5 ซม. เมลด็ มปี ีกจานวนมาก
235พรรณไมใ้ นมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จังหวดั ปทุมธานี ช่ือวงศ์ BIGNONIACEAE ช่ือสามญั Green Ebony ชอ่ื อน่ื แคฝอย
236 Plant s in Valaya สนประดพิ ทั ธ์ ชอ่ื วงศ์ CASUARINACEAE ชือ่ สามัญ Iron Wood Horsetail ชื่ออน่ื สนปฏิพทั ธ์ ไมต้ ้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15–35 ม. ไม่ผลดั ใบ เรือนยอดรูปพรี ะมดิ คล้ายสนทะเล แตแ่ คบกว่า กิ่งกา้ นมขี นาดเลก็ กวา่ สนทะเล เปลอื กตน้ สนี ้าตาลเข้ม โตเร็ว เจรญิ เติบโตไดด้ ี ในดินปนทรายหรอื ดินเคม็ แสงแดดจัด ทนลม และทนน้าทว่ มขงั สามารถตดั แตง่ รูปทรงไดต้ าม ต้องการ เหมาะจะปลูกในทีท่ ่ีตอ้ งการการดแู ล รกั ษานอ้ ย ปลกู รมิ ทะเลได้ ตน้ แยกเพศ ใบเดยี่ ว เรียงเวียนรอบก่ิงเปน็ ข้อ ข้อละ 8 –10 ใบ ใบรปู สามเหลย่ี ม ขนาดเล็กยอดอ่อนหรอื ปลาย ก่ิงออ่ นมีสีแดง ดอกขนาดเลก็ แบบแยกเพศ และแยกอยคู่ นละตน้ ดอกเพศผูอ้ ย่ทู ี่ปลายกิง่ ดอกเพศเมยี ทรงกระบอกหรือเกือบกลม ขนาดเล็ก สนี ้าตาลอมเทา
237พรรณไม้ในมหาวิทยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี สนมงั กร ชือ่ วงศ์ CUPPRESSACEAE ชอ่ื สามญั Chinese Juniper ชอ่ื อ่ืน – ไมพ้ ุม่ ส่วนใหญเ่ ป็นตน้ แยกเพศ ใบคล้ายเกล็ดเล็กๆ โคนเพศผูอ้ ยรู่ วมกนั เปน็ กลุ่ม เกิดที่ปลายกิง่ หรอื บริเวณยอดที่มีใบแบบเกล็ด โคนเพศเมียเกิดทป่ี ลายกิ่งเช่นกัน เมล็ดอยู่ ภายในคล้ายรูปสามเหล่ียมขนาดเล็ก มีเปลือกแขง็ ปลกู ในเมืองไทยไมค่ อ่ ยตดิ เมล็ด ส่วนของเนอ้ื ทค่ี ล้ายผลพัฒนามาจากเกลด็ ของช่อดอกทมี่ ีเนือ้ หนา
238 Plant s in Valaya สบ่ดู า ชือ่ วงศ์ EUPHORBIACEAE ชื่อสามญั Black soap, Physic nut ชอ่ื อน่ื ละหุง่ ร้ัว, สบู่หัวเทศ, สลอดป่า, สลอดดา
239พรรณไม้ในมหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จังหวดั ปทุมธานี ไมพ้ มุ่ สงู ได้ถึง 6 ม. ใบเป็นใบเดี่ยวเกอื บกลม ปลายใบมน โคนใบเวา้ ขอบใบเรียบ ถงึ เป็นคลื่น ยาว 7–15 ซม. ดอกออกเปน็ ช่อที่ปลายยอด ขนาดเล็ก สีเหลอื ง มีกลน่ิ หอมอ่อนๆ ดอกเพศผู้และดอกเพศเมยี อยู่แยกกนั แตอ่ ยู่ภายในช่อดอกเดียวกัน ชอ่ ดอกยาว 6–10 ซม. ดอกรปู ถว้ ย มีกลบี เลย้ี งและกลบี ดอก จานวน 5 กลีบ กลีบเลี้ยงสีเขียวออ่ นอมเหลอื ง กลบี ดอกสีเหลอื งอมขาว มตี อ่ มนา้ หวานติดอยู่ท่โี คนด้านในของกลีบดอก ผลกลมเกลีย้ ง สเี หลอื ง เมลด็ รี มีเปลอื กหุ้มสดี า
240 Plant s in Valaya สม้ กจดี๊ ชื่อวงศ์ RUTACEAE ชอ่ื สามัญ Calamondin, China Orange, Golden Lime ช่อื อ่นื สม้ มะปีด๊ ไม้พุ่มหรอื ไมต้ ้นขนาดเล็ก สงู 2–7 ม. ลาต้นเรียวมหี นามแหลมห่างๆ ใบเดย่ี วเรียงตัว แบบสลับ รูปรหี รือไข่กลับ กวา้ ง 1–4 ซม. ยาว 3–8 ซม. ปลายใบมนเว้ากลางหรือมนแหลม โคนใบสอบแหลม ขอบใบจกั ซ่ฟี นั ละเอยี ด ใบด้านบนสเี ขยี วเขม้ เป็นมนั ด้านล่างสเี ขยี วอ่อน มเี ส้นผ่านศนู ยก์ ลางประมาณ 2 ซม. ผลแบบผลสดมีเน้ือ รูปกลมหรอื เกอื บกลม สเี ขียวอม เหลืองหรือเกือบแดง มหี ลายเมล็ด
241พรรณไมใ้ นมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จงั หวัดปทุมธานี สม้ โอ ชอ่ื วงศ์ RUTACEAE ชอ่ื สามัญ Pummelo, Shaddock ชื่ออ่นื มะขุน, มะโอ ไม้ต้น สงู 5–15 ม. ใบเด่ยี ว เรียงสลับ รูปไข่หรอื รูปรี กวา้ ง 2–12 ซม. ยาว 5–20 ซม. โคนใบมน ขอบเรยี บหรือมีรอยจักซี่ฟนั ตืน้ ปลายใบทู่ กา้ นใบแผเ่ ปน็ ปีกกวา้ ง ขนาดประมาณ 7 ซม. ลักษณะปีกเป็นรปู หวั ใจกลบั ดอกออกเป็นช่อกระจกุ สีขาว กล่นิ หอม กลบี เลยี้ ง 5 อนั โคนเช่ือมกนั กลบี ดอก 5 กลบี แยกกัน เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 3–5 ซม. ปกคลุมดว้ ยขนส้ัน เกสรเพศผู้ 20–35 อัน รงั ไขม่ ี 11–16 ช่อง ผลสดมีเน้ือหลายเมล็ด รปู กลม หรือรปู คล้ายผล แพร์ เสน้ ผา่ นศูนย์กลางผล 10–30 ซม. สีเขียวแกมเหลือง พบตอ่ มน้ามนั ขนาดใหญ่ เห็นชดั เจนท่ีเปลอื กผล เนื้อในผลสีเหลืองอ่อน หรือชมพู
242 Plant s in Valaya สะเดา ชือ่ วงศ์ MELIACEAE ช่ือสามัญ – ช่อื อน่ื สะเลียม, กะเดา ไมต้ น้ ขนาดกลาง เปลอื กต้นแตกเปน็ รอ่ งลกึ ตามยาว ยอดอ่อนสีนา้ ตาลแดง ใบเปน็ ใบประกอบ แบบขนนก ออกเรยี งเวียนรูปใบหอก กวา้ ง 3–4 ซม. ยาว 4–8 ซม. โคนใบมนไมเ่ ท่ากัน ขอบใบจกั เป็นฟนั เล่ือย แผ่นใบเรียบสเี ขยี วเปน็ มัน ดอกออกเป็นช่อที่ ปลายก่งิ ขณะแตกใบอ่อน ดอกสขี าวนวล กลบี เลี้ยงมี 5 แฉก โคนเชอ่ื มติดกัน กลีบดอกโคน เชอื่ มตดิ กัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก ผลรปู ทรงรี ขนาด 0.8–1 ซม. ผวิ เรยี บ ผลอ่อนสเี ขียว ผลสกุ เปน็ สีเหลอื งสม้ เมล็ดเด่ียว รูปรี
243พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี สกั ช่อื วงศ์ LAMIACEAE ชื่อสามัญ Teak ชื่ออนื่ กระเบียด, เซบา่ ย้ี, ปีฮอื , ปาย้ี, เป้อยี ไมต้ ้นขนาดใหญ่ เปลอื กเรียบหรอื แตกเป็นรอ่ งเลก็ ๆ สเี ทา โคนเปน็ พูพอนตา่ ๆ เรือน ยอดเปน็ พมุ่ ทรงกลม ค่อนข้างทบึ เปลอื กสีเทา เรียบ หรอื แตกเป็นร่องต้นื ตามความยาว ของลาตน้ ใบเดย่ี วใหญ่มาก ออกตรงข้ามกันเปน็ คู่ ปลายใบแหลม โคนมน ยาว 25–30 ซม. กว้างเกือบเท่ายาว ใบของตน้ อ่อนจะใหญ่กว่านี้มาก ผวิ ใบขนสากคาย สีเขียวเข้ม ขยี้ใบสด จะมีสแี ดงเหมอื นเลือด ดอกมขี นาดเลก็ สขี าวนวล ออกเปน็ ช่อตามปลายก่ิง ผลแหง้ ค่อนข้าง กลม เสน้ ผ่านศนู ย์กลางประมาณ 2 ซม. เปลือกแขง็ ภายในมี 1–3 เมล็ด
244 Plant s in Valaya สตั บรรณ ช่ือวงศ์ APOCYNACEAE ชอื่ สามญั Blackboard tree, Devil tree, Indian devil tree, Milkwood pine, White cheesewood ช่ืออน่ื กะโน้ะ (กะเหรี่ยง–แมฮ่ ่องสอน); จะบัน (เขมร–ปราจนี บุร)ี ; ชบา, ตนี เปด็ (ภาคกลาง); ตีนเปด็ ดา (นราธิวาส); บะซา, ปลู า, ปแู ล (ปัตตานี, มาเลย์–ยะลา); พญาสัตบรรณ (ภาค กลาง); ยางขาว (ลาปาง); สตั บรรณ (ภาคกลาง, เขมร–จันทบุรี); หัสบรรณ (กาญจนบรุ )ี ไม้ต้น สงู ไดถ้ งึ 40 ม. ก่ิงมีชอ่ งอากาศ หูใบคลา้ ยเป็นตง่ิ ท่ซี อกก้านใบ ใบเรียงเป็นวง 4–10 ใบ รูปรี รปู ไขก่ ลับ หรอื รูปใบพาย ยาว 4–32 ซม. ปลายแหลมหรือกลม โคนรปู ลม่ิ หรอื เป็นครบี เสน้ ใบตรงจานวนมาก ก้านใบยาว 0.7–1.5 ซม. ชอ่ ดอกแนน่ เปน็ กระจุก ยาว 3–8.5 ซม. ก้านดอกสั้น กลบี เล้ียงรปู ไข่ ยาว 1–2 มม. มขี นสน้ั นุม่ และขนครยุ กลบี ดอกเรยี งซอ้ นทับ ด้านซา้ ยในตาดอก หลอดกลบี ยาว 0.5–1 ซม. กลบี รปู รี ยาว 2–5 มม. เกสรเพศผู้ติดเหนอื ก่งึ กลางหลอดกลีบ จานฐานดอกเปน็ ต่อมแยกกนั คาร์เพลมขี น เกสรเพศเมียยาว 3–5 มม. ผลออกเป็นฝักคู่ รูปแถบ ยาว 20–55 ซม. เมล็ดรปู ขอบขนาน ยาว 4–8 มม. ขนครยุ ยาว 1–2 มม.
245พรรณไม้ในมหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จังหวดั ปทุมธานี สารภี ช่อื วงศ์ CALOPHYLLACEAE ช่อื สามญั Negkassar ช่อื อื่น แก้มอ้น (ชมุ พร); คาโซ่, ตองหนัง, ตา้ จงึ , ตนี จา, ทาซงุ , บานมา, พระราม, โมงนงั่ (ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ); ทึกลอ (กะเหรยี่ ง–แม่ฮ่องสอน); ปนั มา้ , ส้านแดง, สา้ นแดงใหญ่, สารภี, สารภคี วาย, สารภีดอย, สารภหี มู, สุน (เชียงใหม่); สารภปี ่า (ภาคกลาง); ฮาฮอย (เขมร–สรุ นิ ทร์) ไมต้ ้น สูงไดถ้ งึ 15 ม. ใบเรียงเวียนหนาแนน่ ทีป่ ลายกิ่ง รปู รี รปู ขอบขนาน หรอื แกม รปู ไข่ ยาว 4–16 ซม. ปลายมนหรอื กลม โคนรปู ลิม่ แผ่นใบดา้ นล่างมักมนี วลและต่อม สีนา้ ตาลกระจาย ขอบเรียบหรอื จักซี่ฟันชว่ งปลายใบ ก้านใบยาว 2–3.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อ เชิงหล่นั ออกตามซอกใบ กา้ นดอกยาว 2–7 ซม. ใบประดบั ยอ่ ย 2 ใบ รูปสามเหล่ยี ม ยาวประมาณ 4 มม. ตดิ ทน ขอบมตี อ่ ม กลบี เล้ียงสีน้าตาลอมแดงเรียงซ้อนเหลื่อม มี 5 กลบี รูปไขก่ วา้ ง ยาว 1–1.5 ซม. ขยายในผล ดอกสีครีมหรอื เหลอื งอ่อน ๆ ยาวประมาณ 1.5 ซม. เช่ือมตดิ กันประมาณ 5 มม. ปลายแยกเปน็ 5 กลีบ รปู ไข่ ปลายแหลม เกสรเพศผจู้ านวนมาก เรียง 1–2 วง ยาว 1.2–1.5 ซม. กา้ นชอู ับเรณูเช่อื มติดกนั ประมาณ 5 มม. อบั เรณูเรยี วยาว แกนอบั เรณูปลายมีรยางค์ รังไขก่ ึ่งใตว้ งกลบี เกล้ียง มี 2–5 ชอ่ ง พลาเซนตาแบบรอบแกนรว่ ม กา้ นเกสรเพศเมยี ยาว 1.5–2 ซม. ปลายจัก 2–5 พู ผลรูปรีเกือบกลม ยาว 2–3.5 ซม. ผนงั แข็ง แตกตามรอยกลบี เล้ียง แตล่ ะชอ่ งมี 2–3 เมลด็ รูปไข่กลบั ยาว 0.7–1.2 ซม. มีเย่ือห้มุ สดสแี ดง
246 Plant s in Valaya สาละลงั กา ชอ่ื วงศ์ LECYTHIDACEAE ชือ่ สามัญ Cannonball tree ช่อื อนื่ ลูกปนื ใหญ่ (Chon Buri); สาละลังกา (Bangkok) ไม้ต้น ผลัดใบ สูงไดถ้ ึง 35 ม. ใบเรียงเวียนหนาแน่นทป่ี ลายกงิ่ รปู ไข่กลบั หรือแกม รูปขอบขนาน ยาวไดถ้ งึ 30 ซม. ปลายแหลมหรือแหลมยาว โคนรปู ลมิ่ แผน่ ใบด้านล่างมขี น ตามเสน้ แขนงใบ เส้นแขนงใบข้างละ 15–25 เสน้ ก้านใบยาว 0.5–3 ซม. ชอ่ ดอกแบบ ชอ่ กระจะ บางครง้ั แยกแขนง ออกตามลาต้น ยาวไดถ้ งึ 3 ม. ดอกสมมาตรดา้ นข้าง ขนาดใหญ่ เส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 5–6 ซม. กา้ นดอกยาว 1.5–6 ซม. กลบี เล้ียง 6 กลบี เรียงซอ้ นเหลอ่ื ม ทีโ่ คน รูปไข่กลบั ยาว 4–5 ซม. ขอบมีขนครุย ดอกสีเหลืองถึงสีชมพูอมแดงหรือน้าตาล มี 6 กลีบ เกสรเพศผู้จานวนมาก เรียงเปน็ วงรูปคมุ่ ด้านเดียว วงเกสรท่ีเป็นหมันติดทโี่ คน รงั ไข่ใตว้ งกลบี มี 6 ช่อง ผลแหง้ ไม่แตก เส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 12–25 ซม. เมล็ดจานวนมาก เรียงอัดแน่นในเนือ้ ทนี่ มุ่
247พรรณไมใ้ นมหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงั หวดั ปทุมธานี
248 Plant s in Valaya เสลา ชอ่ื วงศ์ LYTHRACEAE ชื่อสามญั – ชอื่ อ่ืน จะวอ, จูดอ, ชวง (กะเหรี่ยง–แมฮ่ ่องสอน); ฉ่วงฟ้า (กะเหร่ียง–กาญจนบรุ ี); เบาะโยง, เบาะสะแอน, เบาะเสา้ (เชียงราย); เปอื๋ ยขาว, เสา้ , เส้าขาว, เสา้ เบาะ, เสา้ หลวง (ภาคเหนอื ); เสลา (ราชบุรี, สระบรุ ี); เสลาขาว (ราชบรุ ี); เสลาเปลือกบาง (กาแพงเพชร) ไมต้ น้ ผลดั ใบ สงู 20–35 ม. เปลือกนอกสีนา้ ตาลถงึ เทาเข้ม แตกตามยาว มขี นรูปดาว และขนสั้นนมุ่ ตามกิ่งอ่อน แผน่ ใบด้านล่าง ชอ่ ดอก กลบี เลีย้ งดา้ นนอก รังไข่ และผลอ่อน ใบรปู รหี รอื รปู ขอบขนาน ยาว 7–18 ซม. ปลายแหลมหรอื แหลมยาว โคนมนหรอื กลม ก้านใบ ยาว 4–8 มม. ชอ่ ดอกสว่ นมากออกทป่ี ลายกิ่ง ยาวไดถ้ งึ 40 ซม. หลอดกลีบเล้ียงยาว 3–4 มม. มปี ระมาณ 12 สนั ปลายแยกเปน็ รปู สามเหลี่ยม 5–6 แฉก ยาวประมาณ 3 มม. ด้านนอก มีขนหนาแนน่ ดา้ นในเกล้ียง ติดทน ดอกสขี าวหรืออมม่วงออ่ น มี 5–6 กลีบ รปู ไขก่ ลบั ยาว 1–1.5 ซม. รวมก้านกลบี ท่ยี าว 3–5 มม. ขอบเป็นคลนื่ แผน่ กลบี ยน่ เกสรเพศผูท้ ส่ี มบูรณ์ มี 6–7 อนั ยาวและหนา กา้ นเกสรเพศเมียยาวประมาณ 1.5 ซม. ผลแหง้ แตกเปน็ 6 ซกี รูปขอบขนาน ยาว 1–1.7 ซม.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294