รายงานวิจัย-สภาพปัญหาทางกฎหมายในชีวิตประจำวันฯ - อ.ทศพล

37 แนวทางแก้ไข ใช้หลักการเลือกประติบัติต่อบุคคล ซ่ึงกรณีน้ีมีกฎหมายอื่นนอกจากรัฐธรรมนูญใน การประกันสิทธิในการได้รับการปฏิบัติอย่าเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย ดังน้ันจึงมีแนวทาง กฎหมายวีพิจารณาความอาญาเพื่อดาํ เนินการ หรือในบางพ้ืนทต่ี ้องใช้สิทธใิ นทางการเมืองเพ่ือ ร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐและรัฐบาลเพื่อผลักดันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ในเชิงโครงสร้าง เช่น ผลักดันให้มี พรบ.ต่อต้านการเลือกประติบัติฯ เป็นต้น หรือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิ มนษุ ยชนแห่งชาติให้ตรวจสอบและมีมาตรการต่อไป 1.3) ปญั หาในกระบวนการทางแพ่งและพาณิชย์ 1.3.1) รถชน , ละเมิด , ไม่ได้ Punitive Damage รายละเอียด บ้านข้าพเจ้าตั้งอยู่ห่างจากถนนเข้าไปทางด้านหลังของพื้นท่ีท้ังหมด คืนหน่ึงมีรถสิบล้อ พุ่งมาชนตัวบ้านไปครึ่งหลัง เกิดความเสียหายกับโครงสร้างบ้านท้ังหลัง ทางบริษัทกลับจ่าย ค่าเสียหายเฉพาะแค่ส่วนที่ได้รับความเสียหายจริงๆ เท่านั้น ครอบครัวข้าพเจ้าไม่ยอมจึงไป ฟ้องศาล แต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางครอบครัวข้าพเจ้าจึงได้รับค่าเสียหายเฉพาะส่วนที่ ได้เสียหายของไม้ท่ีหักไปจริงๆ ซ่ึงข้าพเจ้าเห็นว่า แล้วด้านความรู้สึกควรจะได้รับค่าชดใช้ มากกว่าน้ันซึง่ เรากไ็ ม่สามารถไปเรียกร้องค่าชดใช้ท่ีเป็นรูปธรรมได การแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ ดังกล่าวจึงต้องยอมไปตามกฎหมาย แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักกฎหมายละเมิด กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซ่ึงกรณีน้ีศาลตัดสินให้ชดเชย เฉพาะความเสียหายเฉพาะหน้า ไม่ให้ค่าเสียหายต่อจิตใจ ไม่ให้ปรับในเชิงลงโทษ และไม่ คํานึงถึงความเสียหายและผลกระทบในอนาคต จึงเป็นเร่ืองการนําสืบให้เห็นความเสียหายจริง ในช้ันศาล และอาจต้องผลักดันให้เกิดความเปล่ียนแปลงกฎหมายในเชิงโครงสร้างความรับผิด และการชดเชยค่าเสียหายจากมลู ละเมิดทั้งระบบ

38 1.3.2) สัญญาค้ําประกนั ซ้อื รถ , เจ้าพนักงานรบั สินบน, ทนายข่มขู่ รายละเอียด บิดาข้าพเจ้าไปเซ็นคํ้าประกันการซ้ือรถยนต์ ต่อมาผู้ซ้ือรถไม่ได้ส่งค่างวดตามบริษัท กําหนดหลายเดือน บริษัทเจ้าของรถจึงต้องมีการดําเนินการฟ้องศาลแต่ตัวเจ้าของรถได้นํารถ ออกจนอกจังหวัดหายไป บริษัทเจ้าของรถจึงฟ้องศาลขอให้ผู้คํ้าประกันท้ังสองคนเป็น ผู้รับผิดชอบและติดตามนํารถมาคืนใหไ้ ดใ้ นเวลา 75 วัน หากเกินกําหนดให้ผู้คํ้าประกันชดใช้ค่า ทนาย ค่างวด ค่าปรับต่างๆ รวมถึงค่างวดท่ีจะมาถึงในงวดต่อๆมาด้วย บิดาข้าพเจ้าไม่รู้เร่ือง กฎหมาย ศาลจึงนาํ หนงั สือยินยอมมาให้ข้าพเจ้าเซ็นโดยไม่ชี้แจงซกั นิด โดยบิดาข้าพเจ้าต้องทํา ตามทีศ่ าลมีคาํ ส่ังทนายบริษทั มาบอก บิดาข้าพเจ้าหลงเชือ่ จนเมื่อไปขอให้ตาํ รวจช่วย โดยมีค่า ติดตามหรือค่าเสียเวลา บิดาข้าพเจ้าเสียเงินให้ตํารวจคร้ังแรก 20,000 บาท และตามมาอีก หลายพันในคร้ังต่อๆมา หลายเดือนผ่านไปไม่มีความคืบหน้ากระทั่งต้องไปต่อว่าและ ประสานงานบอกเลขรถ สีรถ ย่ีห้อ แลรูปพรรณสัณฐานของเจ้าของให้กับเพื่อนตํารวจด้วยกัน ในจุดต่างๆ เพ่อื ท่ีจะสามารถติดตามรถคืนบริษทั แต่ผ่านไป 2 เดือนกไ็ ร้วแ่ี วว วิธีแก้ บริษัทเจ้าของรถยื่นเรื่องต่อศาลให้ขอให้ยื้อระยะเวลาออกไปอีก จนครึ่งเดือน พบเห็นผู้ซ้ือรถพร้อมรถได้ย้อนกลับมาท่ีบ้าน จึงได้รีบแจ้งตํารวจและหมายศาลท่ีมีคําส่ังให้ สามารถยึดรถไว้ ทําให้บิดาข้าพเจ้ารอดจากการรบั ผิดชอบหน้ีสินท้ังหมด แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายค้ําประกัน และการติดตามเจ้าของทรัพย์มาบังคับชําระหนี้ วิธี พิจารณาความแพ่ง ซง่ึ กรณีน้ีนายประกันจะตกอยู่ในสถานะผู้รับผิดชอบชําระหน้ีให้แก่บริษัท และสามารถฟ้องไล่เบี้ยเอากับคนท่ีตนเข้าคํ้าประกันให้ และสามารถติดตามทรัพย์เพื่อนํามา บงั คบั คดีให้กลายเปน็ ทรพั ย์ทใ่ี ช้ชําระหนไ้ี ด้ 1.3.3) ทาํ ร้ายสตั ว์ รายละเอียด สุนัขพันธุ์ไทยตัวหนึ่งมีนิสัยข้ีเล่นอารมณ์ดี เพราะเจ้าของสัตว์ไม่เคยที่จะขังสุนัขไว้เลย ปล่อยให้ว่ิงเล่นได้ อยู่มาวันหน่ึงมีเด็กข้างบ้านมาแหย่สุนัขตัวดังกล่าว จึงถูกสุนัขกัด เจ้าของ สุนัขแสดงความรับผิดชอบด้วยการนําไปรักษาพยาบาลและได้ให้เงินค่าทําขวัญแก่ครอบครัว

39 เด็ก วันต่อมาเด็กไปโรงเรียนเดก็ กลบั ร้องไห้กลัวสนุ ัขท่โี รงเรียน ครอบครัวเด็กกลัวสุนัขเป็นโรค พิษสุนัขบ้า แต่เจ้าของได้ยืนยันว่าสนุ ขั ดงั กล่าวได้รับวัคซีนแล้วไม่เป็นโรคแน่นอน แต่ครอบครัว ของเด็กคนดังกล่าวไม่ยอม ต้องการท่ีจะฆ่าสุนัขตัวดังกล่าว แทนท่ีจะฆ่าสุนัขไปฝัง แต่กลับฆ่า สุนขั ตวั ดงั กล่าวเพอ่ื ไปทาํ อาหาร เรอ่ื งน้ีจึงได้สร้างความสลดใจแก่ผู้เป็นเจ้าของเปน็ อย่างมาก เร่ืองน้ีน่าจะมีองค์กรอนุรักษ์สัตว์มาช่วยและชาวบ้านไม่น่าท่ีจะทําร้ายสัตว์ควรหา ทางออกทีด่ ีกว่าน้ี เช่น การสร้างกรงให้สุนัขตวั ดังกล่าวแทนการฆ่าสตั ว์ แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายทรัพย์ วิธีพิจารณาความแพ่ง ซ่ึงกรณีน้ีการกล่าวหาว่าสัตว์เป็นโรค ต้องพิสจู น์ก่อนด้วยการนาํ ไปตรวจ หากไม่เป็นโรคเจ้าของสามารถกําหนดอนาคตของชีวิตสุนัข ได้ ส่วนการทําทารุณต่อสัตว์เจ้าของสามารถฟ้องต่อศาลฐานละเมิดทําให้เสียทรัพย์และ เรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งได้ 1.4) ปัญหาในกระบวนการแพง่ เก่ยี วเนอ่ื งอาญา 1.4.1) รถชนอีกฝา่ ยเมา , เจา้ พนักงานปฏิบัติมิชอบ รายละเอียด กลางดึกคืนหน่ึง ข้าพเจ้าได้มีการต่อเติมบ้าน หลังจากเสร็จก็ได้ไปส่งคนงานกลับ โดย จอดรถอยู่ริมถนน ขณะท่จี อดและลงไปหยิบของ กไ็ ด้มีรถคนั หน่งึ ขับเข้ามาชนท้ายรถด้วยความ แรง จนคนงานบาดเจ็บจนต้องเสียขา พ่อข้าพเจ้ากไ็ ด้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยอาการของชายผู้ น้ันมีอาการเมาสุราอย่างมาก การวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดก็สูงมาก ชายคนน้ีรู้จักกับ ตํารวจท่ีโรงพัก พ่อข้าพเจ้าบอกว่าเขาได้ติดสินบนตํารวจไว้ด้วย จนพ่อข้าพเจ้ารู้สึกไม่ได้รับ ความเป็นธรรม กระท่ังหลังจากนั้นได้มีการฟ้องร้องกัน ท้ังทางแพ่งและอาญา ซ่ึงเน่ืองจาก ค่าใช้จ่ายจากความเสียหายทั้งหมดจากการซ่อมรถเสียไปถึงหน่ึงแสนห้าหมื่นบาท รวมถึง ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลคนงานด้วย ท่ีต้องรับผิดชอบท้ังหมด โดยทางคู่กรณีเองไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย เพียงแต่ศาลตัดสินเขาให้จําคุกเพียง 1 ปี เท่าน้ัน ซ่ึงนับว่าไม่เป็นธรรม อย่างมาก

40 วิธีแก้ไขคือข้าพเจ้าฟ้องศาล ในทางแพ่งและอาญา เพ่ือเอาความผิดแก่ผู้กระทํา เรียกร้องให้ลงโทษ เพ่ือให้จําเลยชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล แต่จําเลยไม่ยอมชําระ ค่าเสียหาย แต่ยอมจาํ คุก 1 ปีเท่าน้ัน แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักการทําให้เสียทรัพย์ทางอาญาและละเมิดในทางแพ่งซึ่งเก่ียวเน่ืองกัน ส่วน กระบวนการและการใช้อํานาจของเจ้าพนักงานตํารวจและศาลตามกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญาการชี้ว่าผู้ใดผิดและต้องชดเชยความเสียหายต้องดูว่าผูใ้ ดประมาทกว่า ซึ่งกรณีน้ีผู้มึนเมา แอลกอฮอล์จะต้องถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าประมาท ส่วนเร่ืองการติดสินบนต้องแจ้งต่อ ผู้บังคับบัญชา หรือ ปปช. ให้ดําเนินการ หากไม่พอใจคําตัดสินของศาลอาจทําการอุทธรณ์ ต่อไปเพือ่ ให้มีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในทางแพ่งท่เี กิดจากมูลละเมิด 1.4.2) ชนแล้วหนี รายละเอียด ผมนั่งกินเล้ียงสังสรรค์ในร้าน และนํารถไปจอดในร้านที่ทางร้านจัดไว้ นั่งสักพักได้ยิน เสียงคล้ายกับรถชน จนมีเด็กเสิร์ฟทางร้านมาเรียกออกไปดูพบว่าเป็นรถเพื่อนผม จึงพากันไป แจ้งตํารวจ จากนั้น 3 วันเพ่ือนผมจึงติดต่อไปยังตํารวจท่ีแจ้งความไว้แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลใดมา พวกผมจึงเลิกติดต่อและนํารถไปซ่อมเอง วิธีแก้ อยากให้ผู้ก่อเหตุมีความรับผิดชอบต่อท่ีตนกระทําไว้โดยชดใช้ค่าเสียหาย อยาก ให้ทางตํารวจมีการสืบหาข้อมูลท่ีแน่นอนไม่ใช่แค่เขียนบันทึกประจําวันหรือปล่อยปะละเลย อยากให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์ให้ข้อมลู เกย่ี วกับรถทม่ี าชน แนวทางแก้ไข ใช้หลกั ละเมิด ความผิดต่อทรัพย์ และกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งกรณีนี้ต้อง หาผู้กระทําผิดมาดําเนินคดีเพ่ือนําไปสู่การชดเชยค่าเสียหาย ซ่ึงเจ้าหน้าท่ีตํารวจต้องติดตาม ผู้กระทําผิดมา หากไม่สําเร็จต้องร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชา และร้องต่อ ปปช. หากมีการ เจตนาไม่ติดตามคดี

41 1.4.3) เพลิงไหม้ , โดยประมาท, ละเมิด รายละเอียด ครอบครวั ผมประกอบธุรกิจเป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์มาก่อนหน้าน้ีกว่า 4 ปีแล้ว โรงงาน พ่อเป็นพื้นทีเ่ ช่า ซ่ึงมีโรงงานผลิตยาต้ังอยู่ใกล้กัน วันหนึ่งโรงงานผลิตยาที่ว่าน้ัน เกิดระเบิดขึ้น และเต็มไปด้วยสารเคมี เพิ่มความแรงมากข้ึน จนไฟลามสู่โรงงานเฟอร์นิเจอร์พ่อ จนมอดไหม้ แต่ทว่านําเร่ืองสู่ประกันภัย กลายเป็นว่าทุกอย่างถูกโยนเข้ามาใส่ให้ครอบครัวผมรับผิดชอบ ท้ังหมด ทั้งๆที่เหตุมาจากฝ่ายโน้นแท้ๆ ทําให้ครอบครัวผมล้มละลายพร้อมกับการรับหนี้สิน หลักล้าน วิธีทที่ ําได้คือผ่อนผันหน้ีสินให้น้อยลงเท่านั้น และยอมรบั ชะตากรรม แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักกฎหมาละเมิด และความผิดต่อทรัพย์สินทางอาญา กระบวนการยุติธรรมทาง อาญาทีเ่ กี่ยวเนอ่ื งกบั แพ่ง ซึง่ กรณีน้ีจะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการ กระทําหรือการประมาทของใคร ผู้นั้นต้องรับผิดและผลของความเสียหาย คดีน้ีจึงอยู่ที่การ พิสจู น์ข้อเท็จจริง 2. กรณีศึกษาปัญหาดา้ นกฎหมายมหาชน 2.1) สัญญาทางปกครอง 2.1.1) นํ้าประปา รายละเอียด หมู่บ้านหนึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการใช้นํ้าประปาท่ีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังน้ันชาวบ้านจึงได้แจ้งให้แก่ทางประปาจังหวัดให้รีบแก้ไข โดยในระหว่างนั้นชาวบ้านใน หมู่บ้านน้ีต้องเปลี่ยนวิถีการใช้นํ้ามาใช้นํ้าตอนกลางคืนแทนตอนกลางวัน เม่ือเวลาผ่านไปก็ ไม่ได้รับการแก้ไข โดยเจ้าหน้าท่ีอ้างว่า งบประมาณหมดต้องรอเบิกจากรัฐเสียก่อนและได้ทํา สัญญาตกลงว่าจะต่อท่อนํา้ ประปาไปยังหมู่บ้านท่เี กิดข้ึนมาใหม่ เม่ือเวลาผ่านไปจนชาวบ้านทน ไม่ไหว จึงมีการร้องเรียนต่อการประปาส่วนภูมิภาค เม่ือตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตเงินของ

42 เจ้าหน้าที่ทําให้ไม่มีงบประมาณในการเพ่ิมท่อนํ้าให้แก่ชาวบ้าน ดังนั้นในเรื่องนี้การประปาส่วน ภูมิภาคจึงดาํ เนินแกไ้ ขปญั หาของชาวบ้านแทน แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักสัญญาในการจัดทําบริการสาธารณะ และความโปร่งใส ซ่ึงกรณีน้ีเป็นหน้าท่ี ขององค์กรท่ีเก่ียวข้องของรัฐ ทั้ง อปท. และรัฐวิสาหกิจ ในการจัดบริการสาธารณะอย่าง ต่อเน่ืองและท่ัวถึง ส่วนการทุจริตในการใช้งบประมาณอาจร้องเรียนต่อสํานักงานตรวจเงิน แผ่นดิน(สตง.)ให้ตรวจสอบต่อไป 2.2) คาํ ส่งั ทางปกครอง 2.2.1) อยากมใี บขบั ข่ี รายละเอียด บุคคลท่ีมีอาการตราบอดสี ไม่สามารถมีใบอนุญาตขับข่ีรถทุกประเภท โดยบุคคล เหล่านน้ันมกั จะไม่ผ่านการทดสอบจากกรมการขนส่ง ซ่งึ จะมีเครื่องมือตัวหนึ่งตรวจจับบุคคลผู้ มีอาการไม่ให้ผ่านการทดสอบ หนง่ึ ในของผู้มีอาการตาบอดสีรายหนึ่งมีอาการตาบอดสีไม่มาก นัก สามารถแยกสีของสัญญาณไฟจราจรได้ แต่เขาคนน้ันก็ไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจด้วย เคร่ืองมือดังกล่าว จึงได้สร้างความน้อยเน้ือตํ่าใจว่าทําไมต้องแยกคนประเภทพวกนี้ออกจาก คนปกติ เครื่องมือในการตรวจน่าจะมีความละเอียดในการวัดมากกว่าน้ี ก็จะสามารถทําให้ บคุ คลท่มี ีอาการตาบอดสไี ม่มากนกั สามารถแยกสญั ญาณไฟออกได้ มใี บอนญุ าตใบขับขไี่ ด้ แนวทางแก้ไข ใช้หลักคําสั่งทางปกครองต้องต้ังอยู่บนหลักเหตุผล ความเป็นธรรม ซึ่งการปฏิบัติต่อ บุคคลด้วยเหตุแห่งคุณสมบัติท่ีเป็นสาระสําคัญของเร่ืองสามารถกระทําได้ ซึ่งกรณีน้ีการตา บอดสีเป็นความเส่ียงต่อการอ่านสัญญาณจราจรทั้งหลายอันอาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้ จึง จาํ เป็นต้องตั้งข้อห้ามเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อน่ื

43 2.2.2) ที่สาธารณะ, ทาํ ให้เสียทรัพย์, เดือดรอ้ นรําคาญ รายละเอียด ( โดย นางสาว ธนฐั พร ทองรอด ) เปน็ เร่ืองของทด่ี ินทํากินของทางบ้านเน่ืองจากท่ีดินผืนน้ีเม่ือก่อนเป็นที่สาธารณะ แล้ว เข้าไปจับจองเม่ือประมาณ 30 กว่าปีก่อน และท่ีดินผืนน้ีก็ได้ถูกเซ้งต่อมาเรื่อยๆแบบไม่มี เอกสารการจับจองแต่มีการทํามาหากินท่ีสุจริตและเปิดเผยซึ่งเป็นท่ีรับรู้ของคนในย่านนั้น โดยทัว่ ไป วันหน่ึงทางรัฐก็ได้ให้ไปมีการขั้นเอกสารสิทธิ แต่ในระยะนั้นทางร้านข้าพเจ้ายังไม่ได้ เข้ามาทาํ มาหากินทท่ี ดี่ ินตรงนี้และเจ้าของในขณะนั้นก็ได้ละเลยการทําโฉนด กระทั่งปิดการทํา โฉนด และกระท่ังมีบุคคลหนึ่งย้ายเข้ามาบริเวณข้างๆที่ดินผืนน้ีและได้รู้ว่าท่ีดินดังกล่าวไม่มี เอกสารสิทธิจึงไปร้องเรียนเทศบาลว่าเราบุกรุก เพราะหลังจากที่ไปร้องเรียนท่ีเทศบาลใน กรณีแรกที่ว่า ร้านส่งกล่ินเหม็น เทศบาลเข้ามาตรวจสอบก็ทําให้มีการติดต้ังปล่องควัน กรณี สอง บุกรุกพื้นที่ เทศบาลบอกว่าให้ร้ือถอน เราเลยดําเนินการฝากเร่ืองน้ีให้กับลูกศิษย์ของ ท่านคือเจ้าของหนังสือพิมพ์ช่ือดังในจังหวัดเชียงใหม่ดําเนินการต่อสู้ทางคดีความ กระทั่งเร่ือง มันดําเนินการนานประมาณ 2 ปีกว่า จนสุดท้ายฝ่ายเรายอมให้คดีถึงท่ีสุด แต่ไม่เพียงเท่านั้น คนคนน้ันยังทําการข้ึนป้ายโฆษณาคร่อมร้านค้าของข้าพเจ้าในปัจจุบันทําให้เราไม่สามารถทํา มาหากินได้ จึงอยากขอปรึกษาว่ากฎหมายท่ีเก่ียวกับเรื่องน้ีมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง พอมี กฎหมายใดบ้างทจ่ี ะลงโทษได้หรือไม่ แนวทางแกไ้ ข ใช้หลกั การยืนยนั สิทธใิ นอสังหาริมทรัพย์ การใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และการละเมิด โดย มีทั้งกระบวนการทางแพ่ง และทางปกครองในการแก้ไขปัญหา การรังวัดแนวเขตท่ีดินสามารถ ทําได้โดยนําแนวเขตท่ีล้อมสี่ด้านของท่ีดินไปยืนยันท่ีสํานักงานท่ีดินเพื่อออกเอกสารสิทธิ หลังจากนั้นก็ดําเนินการให้มีการร้ือถอนป้ายท่ีคร่อมร้านอันเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตอัน ก่อให้เกิดการละเมิด ท้ังน้ีต้องฟ้องร้องทศ่ี าลแพ่งในเรื่องสิทธใิ นทด่ี ิน และร้ือถอนป้ายออก ส่วน เรื่องความสะอาดของร้านเป็นขั้นตอนทางปกครองท่ีต้องยืนยันกับเทศบาลว่าได้ทําตาม มาตรฐานแล้ว

44 2.2.3) สิทธิพิเศษของบตุ รราชการสัญญาบัตร รายละเอียด ในการสอบเข้ารับเลือกเป็นนักเรียนนายร้อย บุตรของข้าราชการตํารวจ หรือ ทหารที่มี ตําแหน่งสัญญาบัตรข้ึนไป จะมีคะแนนพิเศษบวกเพ่ิมขึ้นมา ร้อยละ 5 ในการนําไปรวมกับ คะแนนข้อเขียน ซ่งึ เปน็ ระเบียบการสอบคดั เลือก จากระเบียบการสอบดังกล่าว ทาํ ให้เด็กผู้ชายคนหนง่ึ ต้องสอบตก โดยมีคะแนนรวมแพ้ บตุ รของราชการสัญญาบตั รเพียง 1 แต้มเท่านั้น หากเหตุการณ์น้ีไม่มีระเบียบการสอบดังกล่าว เดก็ ชายคนนั้นต้องผ่านการคดั เลือก ซ่งึ มีคะแนนนําอยู่ การเหตุการณ์นี้การแก้ไขปัญหา อาจจะต้องไปร้องต่อศาลปกตรองเน่ืองจากระเบียบ การดังกล่าวเปน็ การเลือกปฏิบตั ิของเจ้าหน้าทข่ี องรฐั แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักการออกคําส่ังทางปกครองต้องคํานึงถึงความเสมอภาคและไม่เลือกประติบัติ ต่อบุคคล ซึ่งกรณีน้ีเป็นเร่ืองการออกเกณฑ์สอบแข่งขันท่ีคนบางกลุ่มเสียประโยชน์บางกลุ่ม ได้ประโยชน์ จึงต้องฟ้องต่อศาลปกครองให้พิจารณาว่าเกณฑ์ดงั กล่าวเป็นเรื่องคุณสมบัติที่เป็น สาระสําคัญหรือไม่ กล่าวคือ การเป็นลูกตํารวจจะมีความสามารถในการเป็นตํารวจเหนือคน ท่ัวไปหรือไม่ หรือว่าเกณฑ์ดังกล่าวเป็นเรื่องสวัสดิการท่ีคงต่อไป หรือเป็นการให้สิทธิพิเศษ อย่างไม่เปน็ ธรรมทตี่ ้องยกเลิก 2.3) การกระทําทางปกครอง 2.3.1) การเพิกเฉยขององค์การบริหารส่วนตําบล รายละเอียด ในหมู่บ้านแห่งหน่ึงอยู่ในเขตการปกครองของ อบต. ในหมู่บ้านดังกล่าวชาวบ้านได้รับ ความเดือดร้อนจากการสญั จร เนื่องจากถนนท่ใี ช้กนั ภายในหมู่บ้านมีความชํารุด เป็นหลุม เป็น บ่อ ชาวบ้านได้เรียกร้องต่อผ้ใู หญ่บ้าน แตไ่ ด้กลับเพิกเฉยไมไ่ ด้ดําเนินการอะไร จนมีชาวบ้านคน หนงึ่ ได้เขียนข้อความประท้วงลงในใบปลิวตามท้องถนน ปรากฏว่าเช้าวันต่อมา อบต. มีการขึ้น ป้านกระดาษขนาดใหญ่ โดยระบุข้อความว่า ถนนเส้นดังกล่าวไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต. แต่เป็นความรับผิดชอบของ อบจ. ซ่ึงได้สร้างความแปลกใจว่าการทํางานของหน่วงงาน

45 ของรัฐไร้ประสิทธิภาพเปน็ อย่างมากในการติดต่อประสานงานกนั เพ่อื บรรเทาทุกข์ของชาวบ้าน เรอ่ื งน้ีน่าจะร้องเรียนหน่อยงานทเ่ี ก่ยี วข้องให้มาจดั การเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักการจัดทําบริการสาธารณะโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และการกระทํา ทางปกครอง ซ่ึงสามารถนํากรณีน้ีไปร้องเรียนต่อองค์กรท่ีมีหน้าท่ีในการรับผิดชอบโดยตรง คือ อบจ. หากมีการผลักภาระ ให้ร้องเรียนต่อองค์กรอิสระ เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินเพ่ือให้ หน่วยงานปฏิบิตหน้าท่ี หรือฟ้องต่อศาลปกครองให้ช้ีว่าเป็นหน้าที่ของ อปท. ใดในการปฏิบัติ หน้าท่ี 2.3.2) คนชราไม่ไดร้ บั สิทธใิ นสวสั ดิการของรฐั รายละเอียด เม่ือรัฐบาลได้จัดโครงการเก่ียวกับการประกันสุขภาพให้กับผู้สูงอายุ มีสูงอายุที่ติดว่า ตนน่าจะเกณฑ์ไปลงรายชื่อ แต่มีผู้สงู อายุจํานวนหน่ึงถูกตัดสิทธิ เน่ืองจากเป็นราชการบํานาญ คณุ ย่าคนหนง่ึ มีสามีเป็นราชการบํานาญก็คิดว่าตนมีสิทธิ เมื่อมาการนัดตรวจสุขภาพคุณย่าคน ดังกล่าวก็จะไปใช้สิทธิ แต่ถูกกาํ นนั ในท้องท่ใี ห้กลับไป เน่ืองจากได้บอกว่าคุณย่าได้สละสิทธิไป แล้ว ซ่ึงแท้จริงแล้วคุณย่าไม่เคยได้ลงชื่อสละสิทธิแต่อย่างไร ภายหลังก็พบว่าคนในครอบครัว ของกํานันได้รับสิทธิดังกล่าวทุกคนแม้บางคนไม่มีอายุถึงเกณฑ์ที่จะเป็นผู้สูงอายุก็ตาม ทาง ครอบครัวของคณุ ย่าจึงได้เขียนหนังสือร้องเรียนเกย่ี วกับการทํางานของกาํ นนั คนดงั กล่าว แนวทางแกไ้ ข ใช้หลกั สิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐตามคุณสมบัติท่ีกฎหมายรับรอง ซ่ึงกรณีนี้ เป็นความผิดพลาดทางกระบวนการทะเบียนต้องร้องเรียนต่อหน่วยงานที่ดูแล หากไม่มีการ แก้ไขปรับปรุงสามารถฟ้องร้องต่อไปยังศาลปกครองเพ่ือให้มีการปฏิบัติตามกําหมายและ เจตนาของผู้เป็นเจ้าของสิทธิ

46 2.3.3) อาจารย์ เลือกปฏิบตั ิ รายละเอียด ( โดย นางสาว รัตนเ์ กา้ กนั ทะ ) ข้าพเจ้ากําลังศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายชั้นปีท่ี 6 ทุกๆปีในภาคเรียนท่ี 2 จะมีข่าว การรับสมัครเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทุกๆครั้งจะมีอาจารย์จากฝ่าย แนะแนวเข้ามาประชาสัมพนั ธ์ แต่ครั้งน้ีอาจารย์ได้ประชาสัมพันธ์แต่ห้อง king ห้อง 1 เพียงห้อง เดียวซ่ึงเด็กห้องน้ีก็เห็นแก่ตัวพอท่ีจะไม่บอกต่อห้องอ่ืนเพราะเห็นว่าจะเป็นการเพิ่มคู่แข่งมาก ขึ้น แต่เพราะข้าพเจ้ามีเพอื่ นสนิทในห้องนั้นจึงทําให้รู้ข่าวสารมา ต่อมาอีกวันหน่ึงจึงนําเอกสาร ต่างๆไปให้อาจารย์ฝ่ายแนะแนวเพ่ือทําการจัดส่งให้มหาวิทยาลัย ซ่ึงอาจารย์มีการแสดงออก ทางสีหน้าอย่างไม่พอใน พวกเราจึงถามอาจารย์ว่าทําไมเร่ืองนี้จึงรู้เพียงแค่กลุ่มคนเก่งเท่านั้น คนอื่นไม่รู้ คําตอบจากอาจารย์กลับมาว่า “พวกเธอคิดหรอว่าเกรดอย่างพวกเธอจะติด” พร้อมกับบอกปัดว่าคงส่งไม่ทนั ทําให้พวกเราเสียความรู้สึกอย่างมาก และคิดว่าทําไมอาจารย์ เอนเอียงความไม่ยตุ ิธรรมขนาดน้ี พวกเราผิดหวังและไมไ่ ด้รับความเป็นธรรมเสียเลย แนวทางแก้ไข ใช้หลักการห้ามเลือกประติบัติต่อบุคคล ซ่ึงกรณีน้ีครูถือเป็นเจ้าพนักงานท่ีต้อง ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลทางการศึกษาแก่นกั เรียนทุกคนอย่างเสมอภาคหากมีพฤติกรรมเช่นว่า ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าท่ีอย่างไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา เขตการศึกษา และฟ้องต่อศาลปกครองได้หากเปน็ การทาํ ให้เสียสิทธิ 2.3.4) โรงงานเสียงดัง เดือดรอ้ นราํ คาญ รายละเอียด ( โดย นางสาว จริยา ชยั สุ ) การรบกวนทางเสียงของโรงเหล็ก ส่งเสียงดังรบกวนความสงบ เพราะบ้านต้ังอยู่ใน ย่านท่ีสงบ บริเวณโดยรอบก็เป็นบ้านและหอพัก ไม่ได้ต้ังย่านโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเสียง เหล็กท่ีโยนจากที่สูงลงมาอย่างแรง เสียงรถบรรทุกเข้าออก และเสียงคนงานที่พูดกัน โหวกเหวก จนผู้เข้าพักบางคนทนไม่ไหวต้องไปแจ้งเจ้าหน้าท่ีให้มาตรวจสอบ แต่ทางเจ้าหน้าที่ บอกว่าเสียงไม่ได้ดังเกินกว่าท่ีกฎหมายระบุไว้จึงไม่มีความผิด แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าน่าจะถือเป็น

47 การละเมิดสิทธิได้เหมือนกันและน่าจะให้เขาย้ายไปตั้งท่ีเป็นเสียงดัง โดยมีการออกกฎหมาย เกยี่ วกับเร่อื งน้ีด้วย แนวทางแกไ้ ข ใช้หลกั การใช้สิทธิเกินขอบเขต และความผิดลหุโทษเก่ียวกับการก่อกวน ซ่ึงกรณีนี้อาจ แจ้งต่อเจ้าพนักงานตํารวจหรือฝ่ายปกครองท้องถ่ินให้เข้าตรวจว่ามีการใช้เสียงในช่วงใด ต้อง ไม่ใช้เสียงในเวลาพักผ่อน ถึงแม้จะเป็นเวลากลางวันก็อาจให้วัดค่าเสียงว่าเกินกว่าท่ีกฎหมาย กําหนดหรือไม่ หรือใช้หลักกฎหมายผังเมืองว่า โรงงานเหล็กต้ังอยู่ในพ้ืนที่นอกเหนือไปจากที่ ผังกําหนดหรือไม่ โดยอาจร้องเรียนต่อไปยังผู้ตรวจการผ่านดิน หรือศาลปกครองหาก เจ้าหน้าที่เพิกเฉย ไมใ่ ส่ใจ 2.4) ปญั หาเกี่ยวกบั รัฐ และการใชส้ ิทธิพลเมืองและการเมือง 2.4.1) สิทธิชมุ ชน , ประกอบอาชีพภาษีสรรพสามิตสุรา รายละเอียด หมู่บ้านฉันเกือบทุกครอบครัวมีอาชีพกลั่นสุราพ้ืนบ้านขายเพื่อยังชีพ ซึ่งก็ได้เสียภาษี ตามกฎระเบียบของกรมสรรพสามิตเป็นสุราถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับสุราที่ ขายตามท้องตลาดแล้วซ่ึงรัฐบาลปล่อยให้สุราประเภทน้ีเข้ามามีสิทธิอย่างมากเม่ือเปรียบเทียบ กับสุรากลัน่ ชมุ ชน ซง่ึ ได้กาํ หนดให้สรุ ากล่นั ชุมชนน้ีต้องเสียอากรแสตมป์เฉลี่ยขวดละ ประมาณ เกือบยี่สิบบาท ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นมาตรการหน่ึงของรัฐบาลที่พยายามจะกําจัดสุรากล่ันชุมชน ออกไปจากระบบตลาด หากไม่ปฏิบัติตามกฏหมายอากรแสตมป์ท่ีเป็นการเฉพาะจากกรม สรรพสามิตโรงงานผลิตสุรากลน่ั น้ีกาจะถกู นาํ เสนอกฎหมายให้ปิดโรงงาน ทั้งหมดนี้เป็นความ จริงทางเศรษฐศาสตร์เกิดคาํ ถามว่าใครเป็นผู้ผลิตสุรากลัน่ ชุมชน ซึ่งก็คือชาวบ้าน ประชาชนตา ดําๆที่หาเล้ียงปากท้องไปวันๆ หากรัฐบาลบีบบังคับด้วยกฎหมาย พวกเขาจะยังชีพอยู่อย่างไร ซึ่งเป็นส่ิงขัดแย้งกับวัตถุประสงค์ในการท่ีต้องมีกฎหมาย ข้าพเจ้าไม่สามารถมองเห็นถึงสิทธิ เสรีภาพทปี่ ระชาชนควรจะได้รบั อย่างเท่าเทียมกันเลย ไม่ใช่การออกกฎหมายมาเพื่อการฆ่าประชาชน แต่หมายถึงการให้มีสิทธิเสรีภาพใน การประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการต่างๆท้ังลดอัตราภาษี ลดอัตราการใช้แสตมป์ขั้นต่ํา ที่ ทาํ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ทด่ี ีกว่าเดิมให้พวกเขาได้รับสิทธิท่คี วรจะเป็น

48 แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักสิทธิชุมชน และเสรีภาพในการประกอบอาชีพอย่างอิสระและเป็นธรรม การ ออกคําส่ังทางปกครอง ซึ่งกรณีน้ีเป็นอํานาจของกรมสรรพสามิตในการกําหนดอัตราภาษีก็ จริง แต่อัตราดังกล่าวเป็นคําสั่งท่ีต้องต้ังอยู่บนหลักเหตุผลและความชอบธรรม ซ่ึงกรณีน้ีต้อง ฟ้องต่อศาลปกครอง หรือศาลรฐั ธรรมนูญเพ่ือช้ีขาดว่ารัฐต้องยึดถือสิทธิชุมชนว่าจะสามารถใช้ สิทธิตามรัฐธรรมนูญหรือถูกจํากัดสิทธิโดยกฎหมายของกระทรวงการคลังท่ีจัดเก็บภาษีสุรา ท้องถนิ่ มากกว่าสุรานาํ เข้า 2.4.2) สิทธิทางการแพทย์ รายละเอียด ผู้ป่วยทเี่ ข้ารบั การรักษาท่ใี ช้สิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสงั คม สิทธิของราชการ จะได้รับ การบริการทางการแพทย์หรือยารักษาโรคต่างกัน ผู้ป่วยท่ีเข้ารับการรักษาโดยใช้สิทธิราชการ จะได้รับการบริการและยารักษาโรคท่ีดีกว่าผู้ป่วยท่ีใช้สิทธิจากสองสิทธิแรก จะเห็นได้จาก ผู้ป่วยท่ีมีฐานะยากจนส่วนใหญ่จะได้รับยาท่ีไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาเท่าไร ซึ่งจะเห็นได้ จากค่าใช้จ่ายรวมในแต่ละปีที่เฉล่ียต่อคนของการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของราชการจะมี อัตราท่ีสงู กว่าผู้ป่วยที่มีบตั รทอง และประกันสงั คมเปน็ อย่างมาก แนวทางแก้ไข กรณีน้ีต้องดําเนินการเรียกร้องสิทธิในเชิงโครงสร้าง โดยใช้ช่องทางต่างๆที่กฎหมาย เปิดช่องเพื่อเสนอแนะให้รัฐบาลปรับปรุงระบบสวัสดิการของแรงงานอย่างเป็นระบบ และเป็น ธรรมมากข้ึน เช่น เข้าช่อื เสนอปรับปรงุ กฎหมาย ชุมนุมเพอ่ื เสนอข้อเรียกร้อง เปน็ ต้น 2.4.3) สิทธใิ นการรักษาพยาบาลไม่เท่าเทียมกัน รายละเอียด เหตุการณ์น้ี เก่ียวกับการเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลในรัฐ ไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างคนไข้ ทเี่ สียเงินเอง คนไข้ของประกันสังคม และคนไข้ท่ีใช้สิทธิบัตรทอง ซ่ึงประเภทของ คนไข้จะแยกตามการใช้สิทธิในการเข้ารับการรักษา ซ่ึงในที่น้ี คนไข้ท่ีใช้บัตรทอง จะได้รับยาใน เกรดต่ํากว่าคนไข้ประเภทอื่นๆๆ และถูกจําจัดยาบางประเภท ซึ่งหมอไม่สามารถจ่ายยาที่อยู่ นอกบญั ชไี ด้

49 จากเหตกุ ารณ์เป็นการปรับตัวของทางโรงพยาบาล เนื่องจากเงินท่ีได้รับการสนับสนุน จากภาครัฐไม่เพียงพอ กับค่าใช่จ่ายทท่ี างโรงพยาบาลจะต้องแบกรับ การแก้ไขปัญหาในเร่ืองนี้ ต้องเป็นการแกไ้ ขจากทางภาครัฐ แนวทางแกไ้ ข กรณีนี้ต้องดําเนินการเรียกร้องสิทธิในเชิงโครงสร้าง โดยใช้ช่องทางต่างๆที่กฎหมาย เปิดช่องเพ่ือเสนอแนะให้รัฐบาลปรับปรุงระบบสวัสดิการของแรงงานอย่างเป็นระบบ และเป็น ธรรมมากขึ้น เช่น เข้าช่ือเสนอปรับปรุงกฎหมาย ชุมนุมเพ่ือเสนอข้อเรียกร้อง เป็นต้น หากมี การขัดขวางการเข้าถึงสิทธิอาจฟ้องต่อศาลปกครองให้บังคับโรงพยาบาลให้บริการสาธารณสุข ตามสิทธิทร่ี ฐั ธรรมนูญรบั รองได้ 2.4.4) เทศบาลสญั ญาจะทําถนน แตช่ าํ รุด รายละเอียด ( โดย นางสาว อริญา พนั ธุมโกมล ) ขณะทข่ี ้าพเจ้าศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที 5 บ้านท่ีข้าพเจ้าอาศัยอยู่เป็นบ้านท่ีอยู่ท้าย ซอย แต่ถนนท่ีเป็นเส้นเข้าสู่บ้านเป็นของรัฐบาล ขณะน้ันองค์การบริหารส่วนตําบลได้มาบอก ว่ามีงบประมาณจะนําดินมาถมถนนให้ ซ่ึงครอบครัวข้าพเจ้าก็เห็นว่าเป็นการดีจึงตอบตกลง หลังจากดําเนินการถมดินเสร็จแล้ว 2 วัน เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดข้ึน ข้าพเจ้านํารถออกไป ซ้ือของนอกบ้านปรากฏว่ารถติดล่มฝ่ังในดิน เน่ืองจากดินที่ใช้ถมเป็นดินเหนียวราคาถูก ทําให้ เกิดความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ในการใช้ถนนเพื่ออํานวยความสะดวก ด้วยความเดือดร้อน ท่ีไม่สามารถใช้เส้นทางได้ พ่อข้าพเจ้าจึงตัดสินใจส่ังรถขนดินลูกรังอย่างดีมาถมเส้นทาง ประมาณ 150 เมตร และเสียงบประมาณเองเกือบสองหมื่นบาท สถานการณ์ที่กดดันและได้รับ ความเดือดร้อนนี้ถือว่าครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างย่ิง และทําให้สงสัยว่า งบประมาณที่ได้มาจํานวนมากน้ัน นาํ ไปทาํ อะไรหมดกเ็ ป็นเรือ่ งน่าคิดมากทีเดียว แนวทางแก้ไข ใช้หลักการจัดบริการสาธารณะโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซ่ึงกรณีนี้ เทศบาล ไดใ้ ช้งบประมาณสร้างถนนแต่ชาํ รุด มีลกั ษณะพิรุธจากการจัดจ้างว่าได้มีการควบคุมมาตรฐาน

50 ก่อนรบั มอบงานหรือไม่ อาจร้องเรียนไปยัง ปปช. เพ่ือฟ้องให้รับผิดในศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองต่อไป 2.4.5) เหยียดสีผิว รายละเอียด ( โดย นายรวินวฒั น์ จารุกาํ เนิดกนก ) ขณะทข่ี ้าพเจ้าศึกษา ภาษาอยู่ อเมริกาในช่วงฤดรู ้อน ซึ่งข้าพเจ้าเจอเรื่องการเหยียดสี ผิว โดยการท่ีอาจารย์สอนผู้สอนข้าพเจ้าได้พยายามกีดกันไม่ให้ข้าพเจ้าตอบคําถามหรือแม้แต่ ไม่ให้ข้าพเจ้าแสดงความคิดเห็นจนข้าพเจ้ารู้สึกได้ เช่น ท้ังห้องมีข้าพเจ้าตอบคําถามของ อาจารย์ได้และยกมืออยู่คนเดียว แต่อาจารย์ก็ได้เรียกคนท่ีไม่ยกมือ พร้อมทั้งยังพูดออกมาว่า คนเอเชียไม่น่าตอบได้ถูกหรอกพร้อมทั้งหวั เราะเยาะข้าพเจ้า ซึง่ เป็นผลให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวเอง ถูกเหยียดสีผิว ข้าพเจ้าจึงนําเร่ืองน้ีไปแจ้งแก่อาจารย์หัวหน้าฝ่ายทราบ จนข้าพเจ้าไดรับการขอโทษ จากทางคนน้ันแล้วและได้รับการตอบสนองทด่ี ีข้ึน แนวทางแก้ไข ใช้หลกั การเลือกประติบัติต่อบคุ คลด้วยเหตแุ ห่งความแตกต่างของสถานภาพติดตัว ซึ่ง สามารถใช้มาตรการเพื่อขจัดการเหยียดสีผิวได้ด้วยการร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาให้มีคําส่ัง ต่ออาจารย์ผู้นั้น หากไม่มีความคืบหน้าอาจร้องต่อหน่วยงานระดบั ท้องท่หี รือฟ้องต่อศาลได้ 2.4.6) ถูกขม่ ขู่ รายละเอียด นักศึกษากลุ่มหนึ่งได้ทําแบบสอบถามเพ่ือเก็บข้อมูลในการทํางาน เกี่ยวกับเร่ือง สังคมไทยกับการดูดวง โดยมีการทํางานกันหลายแห่งทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่จะลงแต่ละ พื้นท่ีก็มีการขออนุญาตเจ้าของสถานท่ีก่อนเสมอ และได้ขอความร่วมมือผู้ตอบแบบสอบถาม ก่อนทุกครั้ง ซึ่งทุกฝ่ายก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เม่ือถึงตอนกลางคืนจึงไปเก็บข้อมูล บริเวณ หลังมอ แถวนั้นมีร้านดูดวงซง่ึ มีคนรอดดู วงอยู่เป็นจํานวนมาก เม่อื ทํางานผ่านได้สักพัก ได้มีผู้ชายร่างใหญ่เดินเข้ามาทางกลุ่มนักศึกษาท่ีกําลังทํางานอยู่ และได้ตะโกนต่อว่ากลุ่ม นกั ศึกษาทม่ี าทาํ งาน โดยอ้างว่าไม่มใี ครเตม็ ใจตอบแบบสอบถามให้ ท่ังๆท่ีจริงทุกครั้งนักศึกษา

51 พวกนั้นต้องขอความร่วมมือก่อนเสมอและผู้ท่ีมาตอบแบบสอบถามทุกคนก็เต็มใจทําให้ จึงทํา ให้เกิดปากเสียระหว่างชายคนดังกล่าวกับกลุ่มนักศึกษา นักศึกษาคนหน่ึงได้แจ้งเร่ืองไปยัง ตํารวจ แต่ก็กลบั ถูกเพิกเฉยกับเรอื่ งทเ่ี กิดข้ึนโดยเหน็ ว่าเป็นเรือ่ งเลก็ น้อย แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักการใช้สิทธิในทางวิชาการ และความผิดต่อเสรีภาพจากการข่มขู่ ซึ่งกรณีนี้มี การคุกคามจากผไู้ ม่ประสงค์ดีจึงสามารถแจ้งความให้ดําเนินการปกป้องสิทธิให้กลับผู้เสียหาย ได้ หากไม่รบั แจ้งความให้ร้องเรียนต่อผู้บงั คับบญั ชาให้ตรวจสอบการทํางานต่อไป 2.4.7) ปิดถนน รายละเอียด ชาวบ้านกลุ่มหน่ึงได้ออกมาปิดถนนเพื่อท่ีจะเรียกร้องในส่ิงที่ตนเองต้องการ แต่การ กระทําดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อบุคคลท่ีไม่เก่ียวข้องในการเดินทาง ดังน้ันการปิดถนน เรียกร้องสิ่งใดก็ตามควรท่ีจะสร้างความเสียหายแก่ผู้อ่ืนที่ไม่เกี่ยวข้องน้อยที่สุด แต่ถึงกระน้ัน หากชาวบ้านท่ีออกมาปิดถนนมีผู้บุคคลหรือหน่วงงานใดมาบรรเทาความเดือดร้อยของ ชาวบ้านเสียก่อนท่ี ชาวบ้านทีอ่ อกมาประท้วงทนไมไ่ หวจึงต้องออกมาเรียกร้องด้วยวิธีน้ี แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักการใช้สิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ดังน้ันหากมีการชุมนุมในขอบเขตของความ สงบและปราศจากอาวะจึงกระทําได้ รัฐไม่มีอํานาจในการสลายการชุมนุมโดยใช้กําลังหรือใช้ กฎหมายลําดับศักดิ์ตํ่ากว่ารัฐธรรมนูญมาลงโทษผู้ชุมนุม อย่างไรก็ดีหากมีการใช้สิทธิเกิน ส่วนจนละเมิดสิทธิผู้อน่ื กเ็ ปน็ อํานาจของเจ้าพนกั งานในการเข้าควบคุมและยุติการชุมนุมโดยใช้ วิธีการตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 2.4.8) ไม่มีเสน้ สาย รายละเอียด ผู้หญิงคนหนึ่งเรียนจบปริญญาตรี เธอได้สอบเข้าทํางานในบริษัทแห่งหน่ึง ซ่ึงเธอมีผล คะแนนเป็นอันดับต้นๆ เธอจึงมีความคาดหวังว่าตนเองจะได้รับเลือกให้เข้าทํางานในบริษัท ดังกล่าว แต่เมื่อประกาศผลผู้ท่ีผ่านได้รับทํางาน เธอกลับไม่ได้รับเลือก ไม่ติดแม้กระท่ังตัวลํา

52 รอง แต่บคุ คลท่ไี ด้รบั เลือกเข้าทํางานปรากฏว่าเป็นบุคคลท่ีได้คะแนนสอบน้อยกว่าเธอกลับถูก ได้รบั เลือกให้เข้าทาํ งาน เนือ่ งจากมีความสนิทสนมเป็นการส่วนตวั กบั ทางบริษัท แนวทางแกไ้ ข ใช้หลกั การเลือกประติบัติต่อบคุ คล ซ่ึงกรณีน้ียงั ไม่มีกฎหมายอ่ืนนอกจากรัฐธรรมนูญ ในการประกันสิทธิในการเข้าถึงงาน ดังนั้นจึงไม่มีแนวทางกฎหมายเฉพาะเพ่ือดําเนินการ ต้อง ใช้สิทธใิ นทางการเมืองเพื่อร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐและรัฐบาลเพ่ือผลักดันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ในเชิงโครงสร้าง เช่น ผลักดันให้มี พรบ.ต่อต้านการเลือกประติบัติฯ เป็นต้น หรือร้องเรียนต่อ คณะกรรมการสิทธิมนษุ ยชนแห่งชาตใิ ห้ตรวจสอบและมีมาตรการต่อไป 3. กรณีศึกษาปญั หาด้านกฎหมายอาญา 3.1) เจา้ พนักงานปฏิบตั ิหนา้ ทโ่ี ดยมิชอบ 3.1.1) อัยการเรียกรับเงิน รายละเอียด ชายคนหนง่ึ ได้กระทําความผิดในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งเป็นความผิดอาญา และ ทางเจ้าทุกข์ได้ย่นื เร่ืองฟ้องคดีต่อศาล ซง่ึ ผู้กระทําผิดกไ็ ด้ยอมรบั ว่าตนได้กระทําผิดจริง เม่ือคดี ถึงมือพนังงานอัยการ ตกเย็นพนักงานอัยการได้มาท่ีบ้านของผู้กระทําผิด โดยเข้ามาเรียนร้อง เงินเป็นจํานวนหลายหมื่นบาทเพอื่ แลกกบั การช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาพ้นผิด ด้วยความที่ไม่อยาก รับผิดญาติของผู้กระทําผิดจึงได้นําเงินตามท่ีอัยการเรียกร้องให้ไปตามเพ่ือแลกกับการพ้นผิด แต่แล้วเหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างท่ีตกลงกัน ผู้กระทําความผิดก็ต้องข้ึนศาลและรับผิดตามที่ ศาลได้ตัดสิน งานนี้เสียท้ังเงินและยังต้องรับโทษอีก เร่อื งทาํ ให้เหน็ ว่ากระบวนการยุติธรรมบ้านเมืองเรายงั มีจุดทีย่ งั ควรแก้ไขปรับปรงุ เป็นอย่างมาก แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายอาญาว่าด้วยความรับผิดของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมท่ี กระทําผิดต่อหน้าท่ี ซึ่งกรณีน้ีการเรียกรับเงินสินบนถือเป็นความผิดทางอาญา สามารถแจ้ง ความดําเนินคดีต่อตํารวจไปยังศาลอาญา หรือร้องเรียนไปยังสํานักงานอัยการภาค อัยการ สูงสุดเพ่ือให้มีการตรวจสอบและดําเนินคดีต่ออยั การคนดังกล่าวตามกฎหมาย

53 3.1.2) ดา่ นลอย , เจ้าพนกั งานประพฤติมิชอบ , ทาํ รา้ ย รายละเอียด พี่ชายผมและพ่ีสะใภ้เดินทางไปบ้านญาติท่ีอยู่ในซอยค่อนข้างเปลี่ยวแต่ไม่ไกลจากชุมชน มากนัก ซึ่งพบด่านตํารวจจึงหยุดให้ตรวจตามปกติ เจ้าหน้าท่ีคนหน่ึงได้ขอตรวจค้น และพบ หนังสือพิมพ์กีฬาฉบับหน่ึงเขาจึงถามว่าเล่นพนันฟุตบอกหรือ พ่ีชายผมปฏิเสธไปเพราะไม่มี หลักฐานอ่ืนได้ เขาจึงเปลี่ยนประเด็น และบอกว่าเป็นบุคคลต้องสงสัยที่มีประวัติเคยค้ายาเสพ ติด พี่ชายและพ่ีสะใภ้ผมจึงปฏิเสธอีกคร้ัง ขณะเดียวกันพี่ชายผมกําลังโทรศัพท์กลับมาที่บ้าน เพ่ือบอกให้แมไ่ ด้ทราบเจ้าหน้าทีคนกล่าวดึงโทรศัพท์ออกและรุมทําร้ายพ่ีชายผม พร้อมกับพูด ว่า “ มึงหัวหมอนักหรือ” จากนั้นเอาโทรศัพท์ไปคุย และแนะนําตัวว่าเป็น สารวัตกํานัน และ บอกแม่ผมว่าพ่ีชายถูกจับเพราะมากับผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด ซึ่งแม่ได้ปฏิเสธ จากน้ัน เจ้าหน้าท่คี นน้ันรับปากทางโทรศัพท์ว่าจะช่วยดูแลพ่ีชายผม ซ่ึงจริงๆแล้วได้ทําร้ายพ่ีชายผมไป แล้วจากนั้นก็ได้ปล่อยตัวพ่ีชายผมและพ่ีสะใภ้ผมกลับมา หลังจากนั้นแม่จึงรีบไปแจ้งความที่ สภอ.เมือง แต่ สภอ.กลับให้ไปแจ้งท่ี สน.ท้องท่ี เมื่อไปถึงท่ีท้องท่ีกลับบอกว่าไม่มีการตั้งด่านที่ นั้น หากมีการตั้งด่านจะมีแต่ท่ี สภอ.เท่านั้น ซง่ึ ก่อนกลบั ไดไ้ ปแวะท่เี กิดเหตุหลงั จากเดิม 3 ชม. ก็ไม่พบการต้ังด่านใดๆ เมือ่กลับไปท่ี สภอ.เมืองอีกครั้ง จึงได้ลงบันทึกประจําวัน และ เจ้าหน้าท่ีก็ได้พูดปัดความรับผิดชอบว่าคนทําร้ายเป็นสารวัตกํานันไม่ใช่เจ้าหน้าท่ีตํารวจ เป็น เพียงเจ้าหน้าที่ อบต.ใหไ้ ปเอาผิดท่นี ้ันเอง เช้าวันรุ่งขั้นแม่จึงโทรศัพท์ติดต่อไปแต่ถูกปฏิเสธและ ถกู พดู เชิงดูถกู แม่จึงโทรไปหากาํ นันท้องท่ี ซ่งึ กาํ นันคนนั้นกพ็ ูดและถามด้วยความรําคาญท้ังยัง เยาะเย้ยและดูถูกโดยไม่สนใจแต่อย่างใด ซง่ึ หลังจากน้ันแม่จึงโทรศัพท์ไปที่ อบต.อีกคร้ัง และ ได้พบนายกฯอบต.แม่จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ซ่ึงเขายอมรับฟังเหตุผลและสนทนาด้วย พร้อมกับรับปากว่าจะตักเตือนเจ้าหน้าท่ีในสังกัด และกล่าวขอโทษแม่ แม่จึงยอมยุติเร่ืองไว้ เท่านี้ แต่ส่วนผมเหน็ ว่าเปน็ การกระทาํ ท่ใี ช้อํานาจท่มี ิชอบ แนวทางแก้ไข ใช้หลักการใช้อาํ นาจของเจ้าพนกั งานต้องกระทําตามกรอบของกฎหมาย และความผิด ต่อร่างกายทางอาญา ซ่ึงกรณีน้ีมีการตั้งด่านลอยโดยไม่มีเจ้าหน้าท่ีร้อยเวรประจําการ และ ยังมีการใช้กําลังทําร้ายร่างกาย จึงเป็นการกระทําผิดอาญาสามารถแจ้งความดําเนินคดีได้ต่อ

54 เจ้าพนักงานตํารวจ หากคดีไม่คืบหน้าอาจร้องเรียนไปยัง ปปช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน 3.1.3) ตัง้ ด่านผิดกฎหมาย รายละเอียด มีเจ้าหน้าทีต่ ํารวจส่วนหนง่ึ ไดใ้ ช้อํานาจของตนใช้ในการที่มิชอบ กล่าวคือ มีการตั้งด่าน ตรวจรถและเรียกรับค่าปรับจากผู้ขับข่ี โดยลกั ษณะการตั้งด่านตั้งตรวจในทางโค้ง ซ่ึงกฎหมาย กําหนดว่าจะต้องตั้งในทางตรงท่ีสามารถมองเห็นได้ และต้องมีนายตํารวจช้ันสัญญาบัตรดูแล ควบคุมด้วย ประชาชนคนหน่ึงถูกตํารวจท่ีปฏิบัติหน้าท่ีไม่ชอบในการเรียกค่าปรับในกรณีขับขี่ รถโดยที่ไม่มใี บอนุญาต ซงึ่ ชาวบ้านก็ไม่รู้คิดว่าตนผิด จึงยอมจ่ายค่าปรับ แต่การจ่ายดังกล่าว เป็นการจ่ายโดยท่ีไม่มีการออกเอกสารใดๆ ให้ และเสียตรงจุดเกิดเหตุ ลักษณะการกระทํา ดังกล่าวเปน็ ช่องทางหาผลประโยชน์ทม่ี ีชอบของเจ้าพนักงาน แนวทางแกไ้ ข ใช้หลกั การใช้อาํ นาจของเจ้าพนักงานต้องกระทําตามกรอบของกฎหมาย และความผิด ต่อตําแหน่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งกรณีน้ีไม่มีนายตํารวจร้อยเวร และมีการปรับ ณ จุดเกิดเหตุ ย่อมเป็นการกระทําผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชา และ ปปช. รวมถึงฟ้อง ศาลอาญาในคดีเจ้าพนกั งานปฏิบตั ิหน้าท่โี ดยมิชอบ 3.1.4) เจา้ พนกั งานปฏิบตั ิมิชอบ รายละเอียด มารดาข้าพเจ้ามีความคิดท่ีจะเปิดร้านเกมส์ กิจการดําเนินไปได้ด้วยดีแต่อยู่มาวันหนึ่ง เวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษ มีตํารวจ 2 นายเดินเข้ามาในร้าน นําปืนออกมาควงเล่น และพูดจาเชิง ข่มขู่ ว่า “ พวกลื้อทําผิดกฎหมายนะ” ท่ีมาเปิดร้านละแวกน้ี เพราะมีคนมาแจ้งว่าเสียงดัง รบกวนผู้อื่น ตํารวจอีกคนหนึ่งจึงพูดอีกว่า “ผมมาเก็บค่าปรับอาทิตย์ละ 1,000 บาท ถ้าไม่ จ่ายก็ให้ไปขึ้นโรงพัก” ด้วยความตกใจของมารดา จึงได้ให้เงินไปจํานวน 1,000 บาท แต่ท่ีน่า สงสยั คือร้านข้าพเจ้าเป็นร้านเก็บเสียงด้วยกระจกใส และมองเห็นได้ชัดเจน อีกท้ังยังปิดเวลา 5 ทุ่มทุกวันไม่ได้เปิดเลยเวลาท่ีกฎหมายกําหนด เป็นประสบการณ์สะเทือนใจข้าพเจ้าว่าทําไม

55 ตํารวจต้องใช้อํานาจมาขูดรีดประชาชน ซ่ึงครอบครัวของข้าพเจ้าได้แต่จ่ายเงินให้กับตํารวจ 2 คนนั้นอาทิตย์ละ 1,000 บาท น้ีเปน็ วิธีแก้ปญั หาในสถานการณ์ แนวทางแก้ไข ใช้หลักการปฏิบัติหน้าทโ่ี ดยมิชอบของเจ้าพนกั งานและกระบวนการยุติธรรม ซ่ึงกรณีนี้ เจ้าพนักงานต้องใช้อํานาจตามกฎหมายหรือคําสั่งทางปกครองท่ีออกมาล่วงหน้า หากไม่มี และใช้อํานาจจะถือเป็นการใช้อํานาจโดยมิชอบ และหากเป็นการปรับตาม พรบ.ที่มีโทษปรับ ทางอาญา จะต้องดําเนินกระบวนการทางอาญา คือมีการตั้งข้อกล่าวหาและเปรียบเทียบปรับ ท่ีสถานีตํารวจ ดังนั้นจึงสามารถฟ้องคดีอาญาต่อเจ้าพนักงานท่ีปฏิบัติหน้าทโ่ี ดยมิชอบได้ 3.1.5) วิง่ ราว, เจา้ หนา้ ท่เี พิกเฉย รายละเอียด (โดน นางสาว ปัทมา ยะอินทร ) ข้าพเจ้าประสบเหตุการณ์ถูกกระชากกระเป๋า และได้เข้าแจ้งความท่ีสถานีตํารวจแต่ก็ ไม่ได้รับการบริการท่ีดีเท่าที่ควร เจ้าหน้าท่ีค่อนข้างท่ีจะเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ ทําให้คดีเกิด ความล่าช้า ไมไ่ ด้รบั การบริการและคุ้มครองท่ดี ีจากสิทธิทีค่ วรจะได้รบั แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักความผิดต่อทรัพย์ และการปฏิบัติหน้าท่ตี ามกฎหมายของเจ้าพนักงาน ซึ่งการ แจ้งความเปน็ วิธีการที่เหมาะสม หากไม่คืบหน้าต้องร้องเรียนผู้บงั คบั บญั ชา ภาค หรือร้องไปยัง ปปช. 3.1.6) เจ้าหนา้ ท่ปี ฏิบตั ิหน้าท่มี ิชอบ รายละเอียด การดําเนินเร่ืองที่ดิน การขอเลขท่ีบ้านและการทําเรื่องเซ็นอนุญาตแบบแปลนบ้าน ซึ่ง ครอบครัวข้าพเจ้ากําลังดําเนินการสร้างบ้านท่ีต้องได้รับการเซ็นยินยอมจากทาง อบต.และ สถาปนิก แต่เมือ่ ไปทําการติดต่อล่าช้า การทําเร่ืองขอนํ้าประปาและไฟฟ้าก็ยังไม่ได้ ซ่ึงทุกครั้ง ที่ไปติดต่อจะต้องจ่ายเงินค่าเสียเวลาแก่เจ้าหน้าท่ีไม่ตํ่ากว่า 3000 บาท และการขอให้เซ็น รับรองแบบแปลนบ้านและยื่นขอเลขท่ีบ้านจะต้องจ่ายเงินค่าเอกสารแก่เจ้าหน้าท่ีอีก 5000

56 บาท ให้เจ้าหน้าท่ีและสถาปนิก ข้าพเจ้าเห็นว่าการติดต่อกับเจ้าหน้าท่ีในคร้ังต่อไปก็ต้องเสียเงิน จ่ายค่าเสียเวลาอีกจํานวนหลายพนั บาท ซ่งึ ไม่รู้ว่าเรือ่ งทย่ี น่ื ไปจะได้รบั การอนุมัติเมอ่ื ไหร่ จนขณะน้ีผ่านไปสามถึงส่ีเดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้า ไม่สามารถต่อไฟฟ้าและ นํ้าประปาได้ เนื่องจากหน่วยงานราชการยังไม่ดําเนินการใดๆให้ อยากทราบว่าร้องเรียน หน่วยงานราชการท่ีเรียกร้องเงินจากประชาชนเปน็ กรณีพิเศษนอกจากค่าธรรมเนียมท่ีต้องจ่าย แล้วจะสามารถทําได้หรือไม่ และอย่างไร เน่ืองจากมีผู้ประสบปัญหาในแบบเดียวกันอีกหลาย ราย แนวทางแก้ไข ใช้หลักการกระทาํ ทางปกครอง การปฏิบัติหน้าท่โี ดยมิชอบของเจ้าพนักงานท่ีก่อให้เกิด ความเสียหาย ซึ่งกรณีนี้เจ้าพนักงานทั้งหลายต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและตามเงื่อนเวลาที่ กฎหมายหรือคําส่ังในการขออนุญาตตาม พรบ.ควบคุมอาคารฯ กําหนด การปฏิบัติหน้าท่ี ล่าช้าเป็นเหตุให้ฟ้องศาลปกครองได้ ส่วนการเรียกรบั เงินสินบนถือเปน็ ความผิดทางอาญา 3.2) ความผิดตอ่ ความมัน่ คงและความสงบเรียบร้อย 3.2.1) รฐั อายดั เงินตาม กม ฟอกเงิน ในสถานการณฉ์ กุ เฉิน รายละเอียด น้าสะใภ้ของนักศึกษาได้เขียนเช็คเงินสดไว้ล้วงหน้าให้แก่ลูกค้าและลูกน้องจํานวน 4-6 คน โดยไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงข้ึน และไม่ทราบว่ากลุ่มลูกค้า เหล่าน้ันจะนาํ เช็คเงินสดไปข้ึนธนาคารเปน็ ช่วงเวลาพร้อมๆกัน จึงทําให้ยอดรวมของจํานวนเงิน ทเ่ี กิดจาการทาํ ธุรกรรมผ่านในวนั นั้นเกิดยอดจาํ กัด 2,000,000 บาท น้าสะใภ้ของนักศึกษาถูก จึงรัฐส่ังอายัดเงินทั้งหมดในทุกธนาคารของน้าสะใภ้ไม่ให้สามารถทําธุรกรรมใดได้จนกว่า ยอดเงินท่ีเกิดการถ่ายเทในวันน้ันได้รับการตรวจสอบสอบจากทาง ปปง. แล้วว่าไม่ได้มีส่วน เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ชุมนุม จนกระท่ัง ณ ขณะน้ีก็เป็นเวลากว่าสองปีแล้วทางรัฐบาลก็ ยงั ตรวจสอบไม่เสรจ็ ทําให้ธรุ กิจต้องปิดกิจการลง หาหลกั ฐานบิลชําระเงินสด แฟ็กซ์ ท่ีใช้ทําธุรกิจมารับรองความบริสุทธิ์ และต้องไปขึ้น ศาลเพือ่ แจ้งความบริสทุ ธใิ์ จต่อศาลตามการนดั หมายของศาล

57 แนวทางแก้ไข ใช้หลักความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาญา ซ่ึงต้องใช้หลักกฎหมายอาญาและวิธี พิจารณาความอาญาซึ่งต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้บริสุทธ์ิ จนกว่าจะมีคํา พิพากษาของศาล ซ่ึงกรณีนี้มีการใช้กฎหมายพิเศษท่ีมีลักษณะละเมิดสิทธิดังกล่าว และสร้าง ภาระในการพิสูจน์ให้กับประชาชน จึงต้องมีการฟ้องเพิกถอนการออกคําสั่งอายัดบัญชีของ ปปง. ในศาลยุติธรรมตาม พรบ.การฟอกเงินฯ แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง เนื่องจาก พรบ.ความมั่นคง พรก.ฉุกเฉินฯ ตัดสิทธิของประชาชนในการฟ้องศาลปกครองให้ ตรวจสอบการใช้อํานาจตามกฎหมายทั้งสอง จึงต้องมีการผลักดันให้มีการแก้ไข หรือยกเลิก กฎหมายท้ังสองฉบบั เพ่อื ป้องกันการละเมิดสิทธิของประชาชนอีกต่อไป 3.3) ความผิดต่อชีวิต 3.3.1) ถูกยิง , ยกครอบครวั หนี, คดไี มค่ ืบหนา้ รายละเอียด ( โดย นางสาว ชนาภา ณรงค์ทิพย์ ) เหตกุ ารณ์เกิดขึ้นเม่ือปี 2534 เมื่อครอบครวั ข้าพเจ้าเปิดกิจการโรงแรมอยู่ท่ีเกาะ สมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในคืนเกิดเหตุ พ่อข้าพเจ้าพูดคุยธุรกิจอยู่กับผู้มาติดต่อในเวลาดึก พอสมควร ข้าพเจ้าและแม่นอนในห้อง แต่มีเสียงหน่ึงทําให้เราสามคนตื่นมาดู นั้นคือเสียงปืน แล้วออกไปดูพบว่าพ่อมีเลือดอาบทั่วทั้งตัว แม่พาพ่อไปส่งโรงพยาบาล แพทย์สรุปอาการว่า พ่อถูกยิง 11 นัด จากวันนั้น แม่ได้พยายามดําเนินการทุกอย่าง แจ้งความและรอการพิจารณา คดี แต่กระบวนการทางกฎหมายไม่อาจหาผู้กระทําผิด และดําเนินการลงโทษได้ อ้างว่าไม่มี พยานบคุ คลที่เห็นเหตกุ ารณ์ ทั้งๆทเ่ี หตุการณ์เกิดข้ึนในบ้าน ด้วยความกลัวจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซํ้าสอง ครอบครัวเราจึงย้ายกิจการออกจากสมุย เดินทางไปเร่ือยๆ จนมาประกอบกิจการ ร้านอาหารเล็กๆที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนวันหนึ่งพ่อได้เปิดหนังสือพิมพ์เจอข่าวรับ สมัครงานที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ครอบครัวเราจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่แม่ฮ่องสอนด้วยกันเพ่ือหนี เพราะไม่สามารถทําอะไรได้ เมื่อจนถึงวันน้ี กฎหมายก็ยังไม่สามารถทําอะไรได้ไม่สามารถจับ ผู้กระทาํ ผิดมาลงโทษได้ เวลาผ่านไปเกือบ 20 ปี ความทรงจําทีเจ็บปวดของครอบครัวก็ค่อยๆ เลือนรางไป กฎหมายกค็ งจะลืมคดีท่คี รอบครัวของข้าพเจ้าต้องประสบไปแล้วเช่นกัน

58 วิธีแก้ไข ครอบครวั ข้าพเจ้าทาํ ได้แค่ “หนี” ความกลวั ส่งผลให้ครอบครัวข้าพเจ้าต้องทิ้ง ทุกอย่างทีมี ท้ังกิจการที่สร้างเนื้อสร้างตัวกับครอบครัว เพ่ือน ญาติพี่น้อง ทุกอย่าง ที่ไม่ สามารถจะรู้ได้ว่าครอบครัวเราอยู่ท่ีไหน เพ่ือความปลอดภัยของชีวิต ท่ีกลับมามีชีวิตไม่มีหลัก ไม่มฐี าน เพราะเหตกุ ารณ์ทเี่ ปลยี่ นชีวิต แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักคดีความผิดต่อชีวิตทางอาญา และกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และ กระบวนการคุ้มครองผู้เสียหายและพยาน ซ่ึงกรณีน้ีหากได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดําเนินคดี แล้วไม่คืบหน้า อาจร้องไปยังกองปราบและสํานักงานตํารวจแห่งชาติเพ่ือเร่งรัดคดี หรือ ร้องเรียน ปปช. ปัจจุบันมีกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพท่ีให้ความช่วยเหลือแก่เหย่ือในคดีอาญา และมีกองทุนฯซึ่งสามารถช่วยเหลือเบื้องต้น รวมถึงขอเข้าโครงการคุ้มครองพยานได้อีกด้วย หากตํารวจและอัยการส่ังไม่ฟ้อง ก็อาจแต่งต้ังทนายให้ฟ้องคดีต่อศาลได้เองเพื่อเอาผิดต่อผู้ ร่วมกระทาํ ผิดและให้ชดเชยสินไหมทดแทนด้วย 3.3.2) ลอบฆ่า รายละเอียด ครอบครัวใหญ่ครอบครัวหน่ึง ไม่ทราบว่าบุคคลในครอบครัวของตนไปกระทําอะไรที่ ไหน จึงมีคนใกล้ชิดคิดท่จี ะฆ่าคนในครอบครัวดังกล่าวจนหมด เร่ืองมีอยู่ว่า คนร้านได้วางยาใน หม้อที่แช่ข้าวที่จะใช้ประกอบอาหาร แต่เน่ืองจากในขณะที่ประกอบอาหารน้ัน ข้าวมีลักษณะ ผิดปกติ จึงได้ทราบว่าข้าวมีการปนเป้ือนสารพิษ เม่ือครั้งแรกไม่สําเร็จตนร้ายก็ได้วางยาอีก คร้ังคราวนี้วางได้ใส่ยาพิษท่ีหม้อนํ้าดื่มและทุกคนก็ได้ดื่มน้ําดังกล่าว แต่ท่ีโชคยังดีที่ทุกคนรอด ชีวิตเน่ืองจากนําส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา สดุ ท้ายเร่อื งน้ีกย็ ังคงจับตัวคนร้ายไมไ่ ด้ แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักความผิดต่อชีวิตทางอาญา และกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซ่ึงกรณีนี้ จะต้องมีการแจ้งความต่อเจ้าพนกั งานให้ดาํ เนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทําความผิดมา ดาํ เนินคดีและเปน็ การป้องปรามมใิ ห้เกิดการกระทําซาํ้ อนั เปน็ อันตรายต่อชีวิต

59 3.3.3) ฆ่า, อิทธิพล, ท่ีดิน, สิทธิชมุ ชน รายละเอียด มีการฆ่ากันตายในหมู่บ้านและผู้ฆ่าเป็นคนมีหน้าตาในหมู่บ้าน ผู้ถูกฆ่าเป็นชาวบ้าน ธรรมดา แต่คนฆ่าถูกจับไม่ถึงเดือนก็ถูกปล่อยตัวออกมา โดยผู้ตายเป็นผู้ต่อต้านคอยขัด ผลประโยชน์จึงถกู ฆ่า และอีกเร่ืองคือการครอบครองท่ีดินที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า ท่ีเป็นการใช้กฎ หมู่มากกว่ากฎหมาย ในชุมชน ท่ีดินท่ีเป็นป่าเรียกว่าป่าเสื่อมสถานแล้วชาวบ้านก็ช่วยกันถาง ไถเป็นช่องๆเพ่ือแบ่งกันเองในชุมชน โดยคนท่ีเป็นหัวโจกจะได้ครอบครองพ้ืนท่ีมาก และมา จนทกุ วันน้ีบริเวณทีช่ าวบ้านช่วยกนั ถางกย็ งั ไมไ่ ด้รบั กรรมสิทธ์ขิ องตนเอง ซง่ึ ทางการก็ได้เข้ามา จัดสรรเพ่อื ใหใ้ ช้ประโยชน์ร่วมกนั แถมปัจจุบนั ชาวบ้านยงั คงดาํ เนินการ และเสียค่าต่างๆกันเอง ซงึ่ เท่าทเี่ หน็ ทกุ วนั น้ีมันเปน็ ช่องโหว่ของกฎหมายมากมายเพอ่ื หลบหนีมาเป็นเคร่ืองมือ เพ่ือคอย หาผลประโยชน์เข้าตวั เอง ทางที่ดีทสี่ ดุ ในเวลานี้คือ การใช้ศาสนามาเป็นท่ยี ึดเหนย่ี วจิตใจ แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายทรัพย์ และความผิดต่อชีวิตในทางอาญา ซ่ึงที่ดินซึ่งประชาชน สามารถเข้าครอบครองเพื่อทําประโยชน์ต้องเป็นทรัพย์ในพาณิชย์ กล่าวคือ ต้องไม่เป็นที่ดิน ของรัฐหรือท่าสงวน ซ่ึงการจัดสรรพ้ืนท่ีเหล่าน้ีต้องเป็นไปตามท่ีกฎหมายกําหนดและควบคุม ส่วนการฆ่ากันตายเป็นความผิดทางอาญาตามกระบวนการยุติธรรม หากคดีไม่เป็นธรรมอาจ ร้องเรียนต่อผู้บังคับบญั ชาหรือ ปปช. แต่หากเป็นการปล่อยตัวตามสิทธิในการได้รับประกันตัว ก็ต้องร้องต่อศาลให้ใช้ดุลยพินิจใหม่หากการปล่อยตัวเป็นเหตุขัดขวางกระบวนการยุติธรรม เช่น ข่มขู่พยาน หรือ หลบหนี 3.4) ความผิดต่อเน้ือตัวรา่ งกาย 3.4.1) ความรนุ แรงในครอบครัว รายละเอียด เป็นเรื่องเร้ือรังมาเป็นเวลาหลายปี แม่ข้าพเจ้าแนะนําให้ชายคนหนึ่งเรียนต่อ เพ่ือจะ ได้มาสมัครงานทีโรงพยาบาลท่ีแม่ทําอยู่ โดยชายคนนั้นได้เข้ามาอยู่ท่ีบ้านข้าพเจ้า ซ่ึงใน ทะเบียนบ้านก็ไม่มีเจ้าบ้าน ผู้ชายคนนั้นหลังจากท่ีเข้ามาอยู่อาศัยด้วยก็เริ่มมีพฤติกรรมวางตัว

60 เป็นใหญ่ในบ้าน เกิดความรุนแรงข้ึนในบ้านบ่อยมาก ผู้ชายคนน้ันจะชอบทําร้ายและขู่แม่ ข้าพเจ้า น้องสาวข้าพเจ้าก็โดนเรียกใช้เหมือนเป็นคนใช้ และโดนทุบตีเป็นประจํา แต่ผู้ชายคนน้ี จะไม่ทําต่อหน้าข้าพเจ้าจนวันหน่ึงข้าพเจ้าซ่ึงเห็นกับตาว่าเขาถือไม้กวาดมาทุบตีน้องสาว ข้าพเจ้า เขาทะเลาะกับแม่ข้าพเจ้าจนตกบันได แม่ข้าพเจ้าเริ่มเดินเซ พดู ไม่ชัดไปหาหมอหลายที จนพบว่าก้อนเลือดในสมองโต ต่อมายายข้าพเจ้าเข้ามาอยู่ด้วยจนกระท่ังเห็นว่าชายคนนี้มี พฤติกรรมยังไง และจนกระท่ังวันหน่ึงเขาจึงออกจากบ้านไปเองเน่ืองจากเขาเก็บเงินสร้างบ้าน ได้ทาํ ให้ทกุ อย่างคล่คี ลายความรุนแรงลง ตอนน้ันข้าพเจ้าไม่สามารถทําอะไรได้เลยได้แต่ทนอยู่บ้านหลังนั้นเพ่ือดูความเป็นไป และไมใ่ ห้เกิดเร่อื งร้ายแรงกว่าน้ัน แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักความผิดต่อร่างกายทางอาญา และอาจนํากระบวนการยุติธรรมตาม พรบ. ความรุนแรงในครอบครัวฯ มาใช้ได้ ซ่ึงกรณีน้ีเป็นการทําร้ายร่างกายท่ีแจ้งความต่อเจ้า พนกั งานตามกระบวนการยุติธรรมได้ ซ่ึงมีกระบวนการคดีความรุนแรงทางครอบครัวรองรับ อย่างไรก็ดีกรณีน้ีไม่อยู่ในขอบเขตเน่ืองจากไม่แน่ชัดว่าชายคนดังกล่าวมีความสัมพันธ์ใน ครอบครัวอย่างใด 3.4.2) ถกู ทํารา้ ย รายละเอียด เด็กนักเรียนมอ 4 คบหากับเด็กนักเรียนชายมอ 5 เมื่อคบหากันได้สักพัก ผู้ชายมี อารมณ์ร้อน มกั จะทะเลาะกับฝ่ายหญิงเรม่ิ บ่อยข้ึน นานวันเหตุการณ์ย่ิงเลวร้ายฝ่ายชายเร่ิมทํา ร้ายร่ายกายผู้หญิง เม่ือฝ่ายหญิงเอ่ยปากบอกเลิก เมื่อทุกอย่างไม่ดีขึ้นและเลวร้ายมากขึ้นทุก วัน ฝ่ายหญิงจึงต้องปรึกษาครอบครัว ผู้เป็นพ่อจึงมารับตัวลูกให้ไปแจ้งความและพาไปตรวจ ร่างกายและได้เก็บหลักฐานส่งตํารวจเพ่ือท่ีจะดําเนินคดี แต่ไม่มีความคืบหน้าเวลาผ่านไป หลายเดือนเจ้าหน้าทีจ่ ึงเรียกตัวไปสอบสวน แต่การสอบสวนไม่เป็นไปตามวิธีการที่กฎหมายได้ กําหนดข้ันตอนเอาไว้ บางคําถามเป็นคําถามท่ีรุนแรงเกินไปสําหรับเด็ก พ่อของเด็กจึงพาเด็ก กลบั บ้านเพราะเห็นว่าสอบสวนต่อไปลูกคงจะไมไ่ หว จึงนาํ เร่ืองนไี้ ปร้องเรียนต่อผู้กํากับอีก สน.

61 หนึ่ง จึงได้ทราบว่าการสอบสวนเด็กจะต้องมีนักจิตวิทยาร่วมกับการสอบสวนและต้องใช้ คาํ ถามทีเ่ หมาะสมสําหรับเดก็ จากเหตกุ ารณ์นี้พบว่าเจ้าหน้าท่บี างคนยงั มีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แนวทางแก้ไข ใช้หลักกระบวนการยุติธรรมทางอาญาสําหรับคดีเด็กและเยาวชน และความผิดต่อ ร่างกาย ซ่ึงกรณีนี้เป็นความผิดต่อร่างกายซ่ึงเป็นคดีทางอาญาแต่ผู้กระทําผิดและผู้เสียหาย เปน็ เยาวชนจึงต้องใช้กระบวนการพิเศษ คือ มีสหวิชาชีพเข้าร่วมกระบวนการต้ังแต่ต้นจนไปถึง ช้ันศาลเพอ่ื เป็นการประกันสิทธใิ ห้เยาวช 3.4.3) ทะเลาะวิวาท ชลุ มุน อา้ งทํารา้ ย และ ป้องกนั เกินสมควร รายละเอียด ( โดย นางสาว วศินีภรณ์ วงศใ์ หญ่ ) ดิฉันและพี่ชายรวมท้ังเพื่อนๆของพ่ีชายด้วย เป็นวันปิดเรียนของการปิดภาคเรียนและ ได้เล้ียงฉลองกันท่ีร้านอาหาร ซ่ึงลักษณะของโต๊ะเป็นโต๊ะติดกันไม่มีการแยก ซึ่งโต๊ะข้างเกิด การทะเลาะกัน จนเกิดการชุลมุนข้ึน พ่ีชายดิฉันหัวแตก และเพื่อนของพ่ีชายก็โดนแทง กระทั่ง ตํารวจมาและนําตัวกลุ่มน้ีไปโรงพัก รวมท้ังกลุ่มพ่ีชายดิฉันด้วย ซึ่งเจ้าของร้านได้เป็นพยาน ให้กับฝ่ายที่เป็นต้นเหตุ เพราว่าบุคคลผู้นั้นเป็นลูกผู้มีอิทธิพลในคนนั้น และมักมาใช้บริการ บ่อยๆเป็นการง่ายท่ีจะตกลงกัน การเจรจาพูดคุยกันเป็นไปด้วยอารมณ์ทั้งสองฝ่าย แต่ในที่สุด ฝ่ายเรากลับเปน็ ฝ่ายผิด แนวทางแก้ไข ใช้หลักผู้ได้รับผลจากการทะเลาะวิวาทผู้ท่ีอยู่วงชุลมุนทะเลาะวิวาทต้องรับผิดทุกคน และชดเชยค่าเสียหาย ซึ่งกรณีน้ีต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามิได้มีส่วนร่วมในเหตุทะเลาะวิวาทโดย ช้ีให้เห็นถึงกลุ่มคนท่ีมีส่วนร่วมและแสวงหาพยานหลักฐานมาหักล้างพยานท่ีปรักปรํา ซึ่งใน กระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะต้องกระทํากับผู้ถูกกล่าวหาในฐานะผู้บริสุทธ์ิจนกว่าจะมีคํา พิพากษาถึงทสี่ ุด

62 3.4.4) ทําร้ายร่างกาย , เจ้าพนักงานประพฤติมิชอบ, วิ.อาญา ความ ปลอดภัยพยาน รายละเอียด เมือ่ เทศกาลสงกรานต์เม่อื ปีทแ่ี ล้ว ในวันทาํ ซุ้ม ซง่ึ ตรงข้ามก็มีซุ้มเย้ืองอยู่ ซ่ึงใครๆต่างก็ มองว่าเป็นซุ้มพวกแก๊งอันธพาล ผมจึงชวนเพื่อนๆ เขยิบซุ้มหนีออกไปหน่อย ซึ่งในวันน้ันก็มี การดื่มแอลกอฮอล์เพอ่ื ความสนุกสนาน จนประมาณบ่าย 3 โมง ก็มีขวดเบียร์ขว้างปามาที่ซุ้ม พวกเรา กม็ องเหน็ ว่ามีคนจากซุ้มตรงข้ามเดินมาทีซุ้มเรา 1 คน แล้วว่ิงเข้ามาต่อยรุ่นพ่ีคนหนึ่ง ของผม เพอื่ นของพอ่ี ีกคนจึงวิ่งเข้าไปช่วย พร้อมกับพวกเรา ผมซึ่งเห็นกลุ่มคนในแก๊งนั้นถือมีด ดาบประมาณดาบซามูไร ฟันลงท่ีหลังพ่ีคนท่ีเข้าไปช่วยเพื่อน ซักพักจึงมีตํารวจเข้ามาห้าม ซึง หลังจากน้ันก็ไปท่ีโรงพักเพื่อไปให้ช้ีตัวผู้ต้องหา แต่พอหลังจากท่ีเข้าไปในห้องชี้ตัวแล้ว พี่ผมที่ เข้าไปกลบั ออกมาจึงพูดให้ฟงั ว่า ตํารวจพดู ประมาณว่า “ เราพอจะยอมๆกันได้ม้ัย” พี่ผมซ่ึงไม่ ยอมตาํ รวจจึงให้ไปชี้ตวั อีกครั้ง พ่ผี มตอบและช้ีด้วยความม่ันใจ แต่ตํารวจก็ยังซักถามพร้อมกับ พาตัวผู้ต้องหาออกมาด้วย ทําให้พวกเราคิดว่าตํารวจจะปกป้องพยานไม่ให้ผู้ต้องหาเห็นหน้า พยานไมใ่ ช่เหรอ แต่ทาํ ไมกลับพาเขาออกมาให้เห็นหน้าพวกผมซ่ึงเป็นพยาน จนพวกเรารู้สึกว่า ตํารวจท่ีมารับเรื่องน้ีเป็นญาติกับคนท่ีมีเร่ืองกับพวกผม ซ่ึงเป็นเร่ืองท่ีเกิดความไม่เป็นธรรมที่ ผมเจอเข้ากบั ตัวเอง วิธีแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ ผมคงเรียกนายตํารวจคนอ่ืนๆมาฟังเรื่องหรือรับรู้ เรื่องราวด้วย ให้ได้รบั รู้ว่าเพื่อนร่วมงานของพวกเขาเป็นอย่างไร หรือเพื่อไม่ให้นายตํารวจคนนี้ ทําแบบนี้อีก เพราะการกระทําเขาเป็นการแสดงความไม่เป็นธรรมอย่างมาก ซ่ึงหากผมรู้ว่า พวกเขากับตํารวจคนน้ีเป็นญาติกันผมจะเอาเรื่องตํารวจคนน้ีฟ้องด้วย เพราะกฎหมายจะต้อง ยตุ ิธรรมกบั ประชาชน แนวทางแก้ไข ใช้หลกั ความผิดต่อร่างกายในทางอาญา และกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งกรณี น้ีต้องพิสูจน์ว่าเป็นการทําร้ายร่างกายมิใช่การทะเลาะวิวาท ส่วนกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงการไม่ทําตามข้ันตอนท่ีกฎหมายกําหนด ถือเป็นความผิดต่อหน้าท่ีของเจ้าพนักงานเป็น

63 คดีอาญาที่ฟ้องต่อศาลอาญาได้ โดยสามารถร้องเรียนผู้บังคับบัญชา หรือ ปปช. ให้มีการ ตรวจสอบ ทั้งนี้หากคดไี ม่คืบหน้าสามารถแต่งทนายข้ึนทาํ คดีต่อไปได้ 3.4.5) ป้องกนั , บกุ รุก , ทาํ รา้ ย , สญั ญา , กู้ยืม , ดอกเบ้ยี รายละเอียด คณุ อาข้าพเจ้าโดนข้อหา บุกรุก และทําร้ายร่างกาย เนื่องจากตอนนั้นคุณอาเห็นเพ่ือน บ้านดื่มเหล้าอย่างเมามากและเกิดการอาละวาดข้ึน โดยการถือมีดเดินไปมาแถวละแวก หมู่บ้าน และเกิดความหวาดกลัวแก่คนในหมู่บ้านอย่างมาก ซ่ึงหลังจากท่ีคนเมานี้หมดสติอา ข้าพเจ้าก็ได้พาส่งที่บ้าน แล้วเพื่อนบ้านคนน้ีก็รู้สึกตัวและไม่พอใจที่อาข้าพเจ้าเข้าไปยุ่งเร่ือง ของเขา เลยเอามือชกกําแพง จนวันรุ่งข้ึนชายคนน้ีไปแจ้งความว่าอาข้าพเจ้าบุกรุกบ้านและทํา ร้ายร่างกาย จนบาดเจบ็ เพราะอยากได้เงินค่าประกนั 100,000 บาท กระท่ังมีการต่อสู้กันในชั้น ศาล อีกเรื่องหนง่ึ คือ บิดาข้าพเจ้าไดไ้ ปยืมเงินคนรู้จกั เป็นเงินประมาณ 15,000 บาท ซ่ึงเป็น คนรู้จักของบิดา ซึ่งต้องการท่ีจะซื้อสวนลําไยของบิดาข้าพเจ้าอยู่นานแล้วแต่บิดาข้าพเจ้าไม่ ยอมขาย เขาเลยบอกว่าถ้าภายใน 1 เดือนบิดาข้าพเจ้าไม่ขายเขาจะยึดสวนลําไย หลังจากนั้น ภายใน 1 เดือนบิดาข้าพเจ้านําเงิน 15,000 ไปคืนเขาตามสัญญา เขาบอกว่ายังเหลือดอกเบ้ียซึ่ง รวมเป็นเงิน 150,000 บาท ซึ่งบิดาไม่มีเงินจึงต้องขอผ่อนผันไปอีก 2 สัปดาห์ เขาก็บอกว่าถ้า ภายในอีก 2 สัปดาห์ไม่นําเงินมาคืนจะแจ้งความยึดสวนลําไย เวลาผ่านไป บิดาข้าพเจ้าไม่มีเงิน มาคืนเขาเลยแจ้งยึดสวนลาํ ไยทนั ที พร้อมทั้งต่อว่าต่างๆนานา ประสบการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ สะเทือนใจที่สุดไม่มีวนั ลืม จากเหตุการณ์นี้เราควรจะใช้สติ และนําหลักทรัพย์มาประกันตัว และนําพยานบุคคลที่ เหน็ เหตกุ ารณ์มายืนยันต่อศาล ส่วนเหตุการณ์ท่สี องได้แต่เพียงจาํ ไว้เปน็ บทเรียน และควรต้อง ศึกษากฎหมาย แนวทางแกไ้ ข ในกรณีแรกใช้หลักการป้องกันสิทธิตามท่ีกฎหมายอนุญาต และกระบวนการยุติธรรม ซ่ึงกรณีน้ีมีพยานเหน็ เหตุการณ์เยอะและเปน็ การปกป้องสิทธิของสาธารณชนย่อมไม่มีความผิด ทางอาญา หากไม่มีการใช้กาํ ลงั ทาํ ร้ายจนเกินกว่าเหตุ

64 ในกรณีท่ีสองใช้หลักดอกเบ้ียตามอัตราท่ีกฎหมายกําหนด ซึ่งในกรณีน้ีการที่คิด ดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี เป็นเหตุให้ดอกเบ้ียเสียไปทั้งก้อน การชําระเงินต้นจึงเป็นการ เพียงพอแล้ว ส่วนการยึดสวนไปใช้หน้ีกระทําไม่ได้ เน่ืองจากต้องมีการทําสัญญาเอาทรัพย์เป็น ประกันล่วงหน้า และหากจะนาํ ทรพั ย์มาชดใช้หน้ี จะต้องเปน็ การนําไปขายทอดตลาดเมื่อได้เงิน มาจึงเอามาใช้หน้ี หรือต้องเขียนสัญญาตกลงแต่แรกว่าจะเอาสวนลาํ ไยมาใช้หนี้ 3.5) ความผิดต่อเพศ 3.5.1) ข่มขืนอนาจาร เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบ ทนายผิด จริยธรรม รายละเอียด อาจารย์ ก เป็นอาจารย์สอนวิชาดนตรีนาฏศิลป์ ในโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งในชนบทและ เป็นท่ีเคารพนับถือของชาวบ้าน ถูกกล่าวหาว่าลวนลามเด็กหญิงคนหน่ึงอายุประมาณ5 – 7 ปี เพราะมีผู้พบเห็นว่าอาจารย์ ก ให้เด็กหญิงคนน้ีน่ังบนตักตนแล้วสอนตบมือตามจังหวะ อาจารย์ ก ตดั สินใจสู้คดี ศาลตัดสินว่าอาจารย์ ก ไม่ผิด แต่ฝ่ายโจทก์และทนายโจทก์ไม่พอใจ ในคาํ ตดั สินกพ็ ยายามสร้างเร่อื งข้ึนมากล่าวหาฟ้องร้องอาจารย์ ก อีก เนื่องจากความเครียดและส้ินหวัง อาจารย์ ก จึงฆ่าตัวตาย โดยท้ิงจดหมายยืนยัน ความบริสุทธิ์ของตน แนวทางแก้ไข ใช้หลกั กฎหมายอาญาความผิดเกย่ี วกบั เพศ หม่นิ ประมาท เจ้าพนักงานในกระบวนการ ยตุ ิธรรมปฏิบตั ิหน้าที่โดยมิชอบ ทนายความทําผิดมารยาททนาย ซึ่งกรณีนี้เม่ือมีการต่อสู้คดี ในทางอาญาจนพ้นข้อกล่าวหาเนื่องจากไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศแล้ว ถ้ายังมีคนกล่าวหาก็ ถือเปน็ การใส่ความอันเป็นความผิดฐานหม่ินประมาท ส่วนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบ อาจร้องต่อผู้บังคับบัญชาหรือร้องเรียน ปปช. และสามารถนําพฤติกรรมของทนายไป ร้องเรียนเพอ่ื ให้เพิกถอนใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพทนาย

65 3.5.2) บงั คับให้แต่งงาน รายละเอียด ชายกับหญิงได้คบหากันเป็นแฟนกันได้ระยะหน่ึง เมื่อเวลาผ่านไปฝ่ายชายขอมี เพศสัมพันธ์กบั ฝ่ายหญิง แต่ถูกปฏิเสธจากฝ่ายหญิง แต่ผู้ชายไม่ยอมจึงได้ใช้กําลังบังคับข่มขืน ผู้หญิงจนสําเร็จ เม่ือเร่ืองนี้ทราบถึงผู้ใหญ่ จึงได้มีการบังคับให้แต่งงานกันเกิดข้ึน ทั้งทีผู้หญิง ไมไ่ ดใ้ ห้ความยินยอมทจี่ ะอยู่กินด้วยก็ตาม ในเร่ืองน้ีได้สร้างความบอกชํ้าให้แก่ผู้หญิงเป็นอย่าง มาก เรอื่ งนี้ควรท่ีจะไปร้องเรียนหน่อยงานท่ีเก่ียวข้องกับผู้หญิงให้เข้ามาจัดการให้ มิเช่นน้ัน ท่านก็จะต้องทนอยู่กับผู้ชายท่ีท่านยังไม่พร้อมท่ีจะใช้ชีวิตร่วม และในเร่ืองน้ีผู้ชายเป็นฝ่ายผิด อย่างมากผู้ใหญไ่ ม่ควรทจ่ี ะแกไ้ ขปญั หาดังกล่าวด้วยทางนี้เลย แนวทางแก้ไข ใช้หลักสิทธิในการมีครอบครัวของบุคคล ความผิดต่อเพศในทางอาญา กระบวนการ ยุติธรรมต่อเด็กและสตรี ซึ่งกรณีน้ีเจ้าตัวมีสิทธิในการปฏิเสธการแต่งงาน และแจ้งความให้ ดําเนินคดีต่อการผู้กระทําความผิดฐานข่มขืนและเรียกค่าสินไหมทดแทนในการละเมิดดังกล่าว ด้วย และกระบวนการต่างๆต้องกระทาํ วิธีพิจารณาอาญาพิเศษท่ใี ห้การคุ้มครองสิทธิเด็กและ สตรี 3.5.3) พยายามข่มขืน , ลม้ คดีเงิน (เจ้าทกุ ขย์ ินยอม) รายละเอียด เพอ่ื นฉนั ไปเท่ียวผบั กัน แล้วเจอคนรู้จักแล้วพากันกลับหอพกั โดยให้เขาไปส่ง แต่ทางที่ ไปไม่ใช่ทางกลับหอ จึงเกิดการทะเลาะกัน และพาขับรถเข้าโรงแรมม่านรูด เกิดการทําร้าย ร่างกายเพื่อนของฉัน เพื่อนของฉันร้องไห้และร้องไห้ป้าคนหน่ึงช่วย โดยป้าช่วยพูดเกล้ียกล่อม และฉันตามมาจึงโทรศัพท์แจ้งตํารวจให้ไปท่ีเกิดเหตุ หลังจากน้ันพาเพื่อนฉันไปแจ้งความ ซึ่ง นายคนน้ีเป็นคนรํ่ารวย แต่ผ่านไป 2 เดือนคดียังไม่คืบหน้า และไม่มีการดําเนินการใดๆเกิดขั้น และที่แปลกใจคือเพื่อนของฉนั ได้ออกรถคันใหม่ซ่งึ เงินดาวน์รถก้อนน้ีมนั มาจากไหน รู้สึกว่ากฎหมายยังมีช่องว่าง มันจึงมีความเหล่ือมลํ้าท่ีไม่อาจแก้ไขได้โดยเฉพาะผู้มีอภิ สิทธ์ในอํานาจเท่าน้ัน

66 แนวทางแก้ไข ใช้หลักความผิดต่อเพศและร่างกายทางอาญา ซ่ึงกรณีนี้มีการทําร้ายร่างกายและ พยายามข่มขืนจึงเป็นความผิดทางอาญาท่ีแจ้งความต่อตํารวจเพื่อดําเนินคดีได้ อย่างไรก็ตาม คดีน้ีเป็นความผิดส่วนตัวอันอาจยอมความได้ โดยอาจมีการตกลงชดเชยค่าสินไหมทดแทนกัน ตามทีผ่ ู้เสียหายเรียกร้องเพื่อระงับข้อพิพาทกนั เองได้ 3.5.4) พยายามข่มขืน, ล้มคดี รายละเอียด หญิงสาวคนหนึ่งวัย 20 ปี ได้นอนอาศัยอยู่ในบ้านกับน้อง วัย 4 ขวบ ซ่ึงห้องนอน ดงั กล่าวไม่ได้ล็อกประตู มีผู้ชายคนหน่ึงแอบย่องข้ึนห้องนอนของหญิงสาว เพ่ือหวังข่มขืนหญิง สาว หญิงสาวไม่ยอม เกิดการต่อสู้กันข้ึน ผู้ชายไดใ้ ช้สากทบุ หัวหญิงสาวจนเลือดไหล หญิงสาว แกล้งทําเป็นเสียชีวิต จนผู้ชายหลงเชื่อว่า ผู้หญิงเสียชีวิตจริง จึงเดินออกจากบ้านท่ีเกิดเหตุ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว หญิงสาว ได้แจ้งเร่ืองต่อพ่อและแม่ จากน้ันก็ไปร้องทุกข์ เพื่อท่ีจะดําเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซ่ึงเป็นชายในหมู่บ้านเดียวกัน ผู้เป็นแม่ของผู้กระทําผิดพยาม จ่ายเงินให้แก่ ผู้เสียหายเปน็ จํานวน 3 แสน บาท เพ่ือแลกกับการยอมความ แต่ผู้เสียหายไม่รับ แต่สุดท้ายผู้กระทําความผิดกไ็ ม่ถกู รับโทษได้รับการปล่อยตัวจากเจ้าหน้าท่ี แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายท่ีปรับใช้กับเรื่องน้ี ความผิดต่อร่างกายและเพศ และ เจ้าพนักงานกระทําผิด ต่อหน้าท่ี ซึง่ กรณีนี้ถือเป็นการพยายามข่มขืน และการทําร้ายร่างกาย สามารถแจ้งความให้ ตํารวจดําเนินคดีได้ หากไม่มีการดําเนินคดีให้ร้องต่อผู้บังคับบัญชา หรืออาจแต่งทนายเพ่ือ ฟ้องร้องต่อศาลเองกไ็ ด้ 3.6) ความผิดต่อเสรีภาพและชอ่ื เสียงเกียรติยศ 3.6.1) สิทธใิ นช่อื เสียงเกียรติยศ ข่มขู่ , ขม่ ขืน รายละเอียด ฉันคบหากับชายคนหน่ึงอายุแก่กว่าฉันอยู่ 6 ปี มีความสัมพันธ์กันลึกซ้ึง ครั้งหน่ึงเขา ถ่ายรูปฉันในสภาพเปลือยเปล่าเก็บเอาไว้ จนเวลาผ่านไป 1 ปี ฉันเรียนจบม.6 และเลิกคบหา กัน ฉันได้ไปพบเขาแล้วขอรูปถ่ายฉันคืน แต่เขากลับไม่ยอมคืนให้และไม่ยอมเลิกกับฉัน ฉันไม่

67 สนใจและหนไี ปอยู่กรงุ เทพซกั พักเวลา 1 เดือน อยู่มาวันหน่ึงเขาก็โทรมาหาถามสารทุกข์สุขดิบ หลงั จากกลบั มาจาก กรุงเทพเปิดเทอมฉันก็มาเรียน เขาโทรมาหาฉันแล้วนัดพบกันไปกินข้าวที่ ร้านแห่งหนึง่ หลังจากน้ันเขาก็อาสาขับรถมาส่งฉันท่ีหอ แต่ระหว่างน้ันเขาพาฉันไปโรงแรม ฉัน โวยวายและขัดขืน แต่เขากลับขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะนํารูปถ่ายฉันไปอัพโหลดลงเว็ปไซต์ ผ่านไป 3 เดือน เขาทําแบบน้ีอยู่หลายครั้ง กระทั่งฉันอึดอัดทนไม่ไหวจึงเล่าให้แฟนฉันฟังทุกอย่าง ซึ่งเขา ก็เข้าใจฉัน ทุกคร้ังที่ชายคนนั้นโทรมาฉันจะปฏิเสธแต่เขาพยายามพูดหว่านล้อมอ้อนวอน หลังจากวางสายชายคนนี้ส่งรูป mms มาเป็นรูปฉันแล้วบอกว่าจะนํารูปน้ีข้ึนเว็ปไซต์ ฉันจึงปิด เครอ่ื งและไม่สนใจ ซง่ึ ฉนั เองก็หวาดกลวั และไม่คิดจะไว้ใจใครอีกต่อไป แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักความผิดต่อเพศ และความผิดต่อเสรีภาพ ชื่อเสียงเกียรติยศ ซ่ึงกรณีนี้ สามารถแจ้งความดําเนินคดีฐานข่มขืน และการทําให้เสียหายต่อเกียรติยศช่ือเสียง กักขังหน่วง เหนี่ยว ต่อเจ้าพนักงานตาํ รวจแผนกคดีปราบปรามการกระทําผิดต่อเด็กและสตรี โดยจะมีการ ประกนั สิทธใิ ห้กบั ผู้เสียหายได้ เพือ่ ป้องกนั การข่มขู่และละเมิดสิทธิซาํ้ ซากต่อไป 3.6.2) ขฆู่ า่ รายละเอียด พนงั งานบริษัทบญั ชีแห่งหน่งึ ได้ทํางานในบริษัทดงั กล่าวเป็นเวลานาน จึงได้ลาออกจาก บริษทั ดงั กล่าว เพื่อทีจ่ ะไปตั้งบริษทั เป็นของตวั เอง ก่อนลาออกพนังงานคนดังกล่าวได้มีการตก ลงกับผู้บริหารบริษัทเดิมและลูกค้าของบริษัทว่า ลูกค้าของบริษัทเดิมจะย้ายเป็นลูกค้าของ บริษัทใหม่ที่พนังงานคนดังกล่าวกําลังจะเปิด ซ่ึงทุกฝ่ายได้ตกลงกันทําสัญญากันไว้อย่าง เรียบร้อย ต่อจากนั้นไม่นานได้มีการส่งจดหมายข่มขู่ลูกค้าไม่เข้าไปทําบัญชีกับอดีตพนังงาน หากไม่เชือ่ ฟังจะฆ่าให้ตาย เหตกุ ารณ์น้ีสร้างความหวาดกลัวกับบคุ คลทเี่ กย่ี วข้องเป็นอย่างมาก สดุ ท้ายต้องมีการแจ้งความและสามารถตกลงกันได้อีกคร้ัง แนวทางแก้ไข ใช้หลักนิติกรรมสญั ญา การใช้สิทธิต้องกระทําโดยสุจริต และความผิดต่อเสรีภาพและ ชีวิตทางอาญา ซึง่ กรณีน้ีคู่สัญญาท่ตี กลงกนั ไว้ต้องทําตามสัญญา แม้ทกุ ฝ่ายย่อมมีสิทธิแข่งขัน ทางการค้าแต่ใช้วิธีการทคี่ ุกคามสิทธิผู้อนื่ โดยการข่มขู่มไิ ด้

68 3.6.3) พรากผ้เู ยาว์และลอ่ ล่วง รายละเอียด มีโทรศัพท์ลึกลับมานัดแนะเด็กอายุ 17 ปี โดยมีการพูดคุยอยากจะมีอะไรกับเด็ก และ ได้โทรมาหลายคร้ัง ในท่ีสุดเด็กก็ไปแจ้งต่อผู้ปกครอง จากนั้นก็ได้ร่วมมือกับตํารวจในการ จับกุมชายคนดังกล่าว เมอื่ ชายผู้ก่อเหตไุ ด้ติดต่อมาอีกเด็กหญิงกร็ ับสายและได้ไปตามนัดที่ชาย ได้บอกไว้ โดยเหตุการณ์นี้มีตํารวจดักจับอยู่ เมื่อไปถึงท่ีเกิดเหตุ ชายคนดังกล่าวเป็นผู้ช่วย ผใู้ หญ่บ้านและมีความคุ้นเคยกับเดก็ มาก จากนั้นกพ็ ยายามฉุดเดก็ ข้ึนรถ ขณะเดียวกันตํารวจก็ ได้เข้าจับกุม สดุ ท้ายต้องดาํ เนินคดีถึงศาลและชายคนดังกล่าวก็ได้รับโทษ บางครั้งคนใกล้ชิดกับเรา กอ็ าจจะเป็นคนร้ายทีเ่ รามองไม่เห็นได้ แนวทางแกไ้ ข ใช้หลกั กฎหมายความผิดต่อเสรีภาพทางอาญา ซึ่งกรณีน้ีมีการพรากผู้เยาว์แม้จะมีการ ยินยอมของเยาวชนก็ยังเป็นความผิดเนื่องจากกฎหมายกําหนดไว้อย่างเด็ดขาด ซึ่งการติดต่อ เจ้าพนักงานให้ดําเนินการถือเป็นวิธีการท่ีรอบคอบท้ังในแง่ป้องกันสิทธิและการนําตัวผู้กระทํา ความผิดมาดาํ เนินคดี 3.7) ความผิดตอ่ ทรัพย์ 3.7.1) ที่ดิน ผิดตอ่ ทรัพย์ รายละเอียด บิดาของนักศึกษามีอาชีพเล้ียงเป็ด ทุกวันก่อนท่ีไล่เป็ดไปเลี้ยงในหนองน้ําสาธารณะ จะต้องผ่านทํานบก้ันน้ําก้ันที่สวนของนาย ก ซ่ึงมีท่ีดินขุดเป็นร่องสวนเอาไว้ปลูกผัก นาย ก กล่าวหาว่าเป็ดบุกรุกท่ีดินตน วันหน่ึงเป็ดจํานวนไม่น้อยของบิดาของนักศึกษาก็หงายท้องตาย ขณะทีไ่ ปกินข้าวเปลือกท่ีมียาฆ่าแมลงท่ถี กู นาํ วางกองไว้ บนทีข่ องนาย ก ไปแจ้งความกบั ผู้ใหญ่บ้านและดาํ เนินคดีกับนาย ก จนถึงช้ันฎีกา แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายทรัพย์เร่ืองแดนกรรมสิทธ์ิ และความผิดต่อทรัพย์ในทางอาญา ซ่ึง กรณีนี้การต้อนเป็ดผ่านท่ีดินของคนอ่ืนเป็นการละเมิดสิทธิในท่ีดินและเป็นการบุกรุกในทาง

69 อาญา อย่างไรก็ตามการวางยาถือเป็นความผิดต่อทรัพย์ท่ีผู้กระทําต้องรับผิดทางอาญาและ ชดเชยค่าสินไหมทดแทนในทางแพ่งด้วย 3.7.2) รถหาย รายละเอียด เพ่ือนบ้านได้มาขอยืมรถมอเตอร์ไซด์ โดยบอกว่าจะนําไปซื้อของ ผู้ให้ยืมก็ไม่ได้คิด อะไรมาก เพราะเห็นว่าเป็นเพ่ือนบ้านกันจึงไว้เนื้อเช่ือใจ แต่เม่ือเวลาผ่านไปถึงเย็น เพ่ือนบ้าน คนดงั กล่าวไดโ้ ทรศพั ท์มาบอกว่ารถได้หายไป โดยท่เี ค้ายอมรับว่าได้เสียบกุญแจรถคาท้ิงไว้ ซ่ึง รถคันดังกล่าวซ้ือมายังไม่ถึงปี ผ่อนชําระราคายังไม่หมด เจ้าของรถจึงไปเรียนร้องแก่ผู้ยืมให้ ช่วยชดใช้ราคารถ หรือช่วยผ่อนค่ารถท่ียังค้างชําระอยู่ แต่บุคคลดังกล่าวเพิกเฉย ไม่ยอม รบั ผิดชอบ จึงนาํ เรื่องร้องเรียนแก่ตํารวจ แต่คําตอบทไ่ี ด้รบั แก่เจ้าของรถ ที่ตํารวจให้คําตอบว่า แล้วให้เขายืมทําไมละ เรอ่ื งน้ี น่าจะร้องเกี่ยวเก่ียวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าท่ีตํารวจแก่ผู้บังคับบัญชาและให้ จดั การในเรอื่ งน้ีด้วย แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายความรับผิดของผู้ยืมทรัพย์ และความผิดต่อทรัพย์ในทางอาญา เจ้า พนกั งานปฏิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบ ซ่ึงกรณีน้ีผู้ยืมทรัพย์มีหน้าท่ีในการดูแลทรัพย์หากเกิดความ เสียหายต้องรับผิดชอบแต่การผิดสัญญาท่ีตกลงว่าจะรับผิดชอบต้องฟ้องต่อศาลแพ่งให้บังคับ คดี และการติดตามรถท่ีสูญหายเป็นกระบวนการทางอาญาที่เจ้าหน้าท่ีต้องปฏิบัติหากไม่ทํา ให้ ร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา 3.7.3) ยกั ยอกเงิน , ปรกั ปราํ , พกั งาน , เลิกจ้าง รายละเอียด ข้าพเจ้าเคยทํางานที่ร้านเช่าวีดีโอช้ันนําแห่งหน่ึงในห้างสรรพสินค้าได้ประมาน 1 เดือน โดยมีคนทาํ หน้าที่นาํ เงินไปฝากคือ Senior ได้นําเงินไปฝาก ผ่านไป 5 นาที กลับมาบอกว่า เงิน หาย 10,000 บาท ซ่งึ จากยอดท่ไี ด้ประมาณ 25,000 บาท ซง่ึ เหลือในถงุ เงินเพียง 15,000 บาท เงินหายไปไหน เกิดคาํ ถามขึ้นของคนในร้าน ซ่ึงคนท่ีน่าสงสัยที่สุดคือคนท่ีถือเงิน ซึ่งทางร้านก็ ไม่มีกล้องวงจรปิด หลังจากน้ันจึงเกิดการสอบสวนกันระหว่างพวกเราลูกจ้างและเจ้าของร้าน

70 แล้วปล่อยไป ในวนั รุ่งขึ้นเจ้าของร้านกม็ าบอกว่าเอากล้องวงจรปิดจากทางห้างฯมาดูแล้วแต่ไม่ อยากพดู อยากให้คนทํารบั ผิดเอง แต่หลังจากนั้น กลับมาพูดคุยกันด้วยความโล่งใจของฉัน แต่ แล้วก็มโี ทรศัพท์ดังขึ้นเข้ามาว่าฉันโดนพักงาน 1 เดือน เจ้าของร้านบอกว่าข้าพเจ้าไม่เหมาะสม ที่จะทาํ งานในร้านน้ีต่อไปเพราะวฒุ ิภาวะทางสังคมข้าพเจ้ายังไม่เหมาะสม ข้าพเจ้าเสียใจมากๆ ฉนั ทถ่ี กู พักงานหลังจากน้ันจึงตัดสินใจลาออกจากงานท่ที ํา แนวทางแก้ไข ใช้หลักความผิดต่อทรัพย์ในทางอาญา และกระบวนการยุติธรรมทางอาญา กฎหมาย แรงงาน ซึ่งกรณีนี้ควรจะแจ้งความต่อเจ้าพนักงานเพ่ือให้มีการพิสูจน์พยานหลักฐานต่างๆ ก่อนทจี่ ะปรกั ปราํ ว่าใครเปน็ ผู้กระทําผิดอาญาฐานยักยอกทรัพย์ ส่วนการพักงานโดยไม่มีเหตุ อันควรสามารถร้องเรียนต่อกรมแรงงาน หรือฟ้องต่อศาลแรงงานเพอื่ ให้มีมาตรการแก้ไขได้ 3.7.4) ทํารา้ ย , ขโมยรถ , ซ้ือตอ่ ของโจร รายละเอียด ผมและเพ่ือนนํารถมอเตอร์ไซค์ไปเท่ียวเล่นเกมหลังมอ จอดอยู่หน้าร้านเกม พวกเรา ได้เห็นมีชาย 2 คนอายุประมาณ 20-25 และ 40-45 จอดรถขวางมอเตอร์ไซค์พวกเราไว้ เม่ือ พวกเราทาํ ทีว่าจะย้ายรถเขากม็ าถามว่าเปน็ เจ้าของรถเหรอ เม่ือเพื่อนตอบว่าใช่ ชายท้ัง 2 คน เข้ามาทําร้ายเพ่ือนผมอย่างต้ังใจ ไม่นานมีตํารวจมา โดยชาย2 คนน้ันกลับตะโกนว่า “เน่ียทุก คน ดูซิไอ้เนี่ยมันขโมยรถเพ่ือนผม ซ่ึงช้ีไปท่ีเพ่ือนผม ตํารวจจึงเชิญไปโรงพัก แล้วสอบสวน เพ่ือนผมว่าไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์มาอย่างไร เพื่อนบอกว่าจากชายคนหน่ึงขายในราคา 20,000 บาท ซงึ่ ชายคนท่ีทําร้ายร่างกายเพื่อนผม ให้การว่า รถมีการตกแต่งแต่รหัสอุปกรณ์ตกแต่งรถ ตรงกับที่นายคนที่ทําร้ายร่างกายบอก ไว้ จากน้ันเขาก็เล่าเรื่องให้การกับตํารวจฟังว่า รถคัน ดังกล่าวน้ีได้ถูกขโมยไปด้วยความประมาทของเพื่อนเขาเอง เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทําให้เพ่ือน ข้าพเจ้าเองได้รับข้อกล่าวหารบั ซ้ือของโจร วิธีแก้ - ทําตามท่ีเจ้าหน้าท่ีตํารวจบอกคือนอนในคุกเพื่อรอทําเร่ืองประกันตัวในเช้า วนั ต่อมา - ผู้ปกครองมาทาํ เรอื่ ง ขอ ประกนั ตวั - ให้การแก่ศาล

71 แนวทางแก้ไข ใช้หลกั กฎหมายทรพั ย์ และความผิดต่อร่างกายและทรัพย์ทางอาญา และกระบวนการ ยุติธรรม ซ่ึงกรณีน้ีจะต้องมีการนําสืบของฝ่ายท่ีกล่าวหาให้ได้ว่าทรัพย์น้ันเป็นของตน หาก มิได้ก็จะกล่าวหาว่าเราขโมยหรือรับของโจรไม่ได้ และเอาทรัพย์กลับคืนไปไม่ได้ อย่างไรก็ดี แม้ทรัพย์เป็นของเขาจริงแต่ในทางแพ่งน้ัน หากทรัพย์ใดที่ผู้ซ้ือได้ซ้ือมาโดยสุจริตและเสีย ค่าตอบแทนย่อมได้รับการคุ้มครองสิทธิ ส่วนเจ้าของทรัพย์เดิมก็ให้ฟ้องไล่เบ้ียเอาจากคนที่ ขโมยมาหรือร้านท่ีรบั ของโจรมาขาย ส่วนคดีทําร้ายร่างกายย่อมเปน็ ความผิดทางอาญา 3.7.5) ชิงทรัพย์ รายละเอียด เด็กนักเรียนจํานวน3 คนได้เดินกลับหอพักหลักจากท่ีไปเรียนพิเศษกลับมา ระหว่าง ทางกลับ มีชาย 2 คน ชักปืนมาขู่ให้นําเงินและโทรศัพท์มือไปให้ เด็กนักเรียกพวนน้ันกลัวมาก จึงยอมทาํ ตาม โดยย่ืนโทรศพั ท์มือถือให้ แตไ่ ม่มีเงินให้ คนร้ายไม่เชอ่ื จึงได้ค้นประเป๋าแต่ก็ไม่พบ เงิน เมื่อคนร้ายได้ของไปแล้ว เด็กพวนน้ันรีบกลับหอพัก และได้แจ้งให้แก่ผู้ดูแลหอพักทราบ จากนั้น ไปแจ้งความกบั ทางตาํ รวจ ซง่ึ สามารถจับคนร้ายไดใ้ นคืนท่กี ่อเหตุ แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายความผิดต่อทรัพย์ ซ่ึงกรณีน้ีเป็นการชิงทรัพย์ผิดกฎหมายอาญา จึง ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าท่ตี ํารวจเพ่อื ให้ดาํ เนินคดีกับคนร้าย และนําทรัพย์กลับคืนมา 3.7.6) ฉอ้ โกง รายละเอียด เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องของรุ่นพ่ีของโรงเรียนท่ีเรียนจบไปแล้ว ซ่ึงได้ดํารงตําเหน่ง ประธานเยาวชนตาํ บลแห่งหนึ่ง ได้ชักชวนรุ่นน้องรวมกลุ่มกันไปเท่ียว โดยอ้าวว่ามีงบประมาณ เพราะเป็นโครงการของเยาวชนตําบล โดยให้เสียค่าใช้จ่าย คนละ 100 บาทสําหรับค่าเส้ือ แต่ รุ่นน้องที่สนใจไปเท่ียวไม่ได้สนใจเร่ืองเส้ือจึงไม่ได้ส่ังซื้อแต่อย่างใด เม่ือถึงกําหนดวันที่จะไป เท่ียวรถท่จี ะนําเท่ยี วกม็ าช้า เมื่อรถมาถึงก็รับรุ่นน้องประมาณ 20 คนขึ้นรถมุ่งหน้าไปเชียงใหม่ พอถึงที่เชียงใหม่ รุ่นพี่ดงั กล่าวบอกให้รุ่นน้องจ่ายเงินค่ารถไปก่อนเพราะเงินอยู่ท่ีอีกคน รุ่นน้อง ยอมเช่ือเลยจ่ายเงินไปก่อน จากนั้นก็ไปพักท่ีโรงแรมโดยในคืนดังกล่าวรุ่นพ่ีคนนั้นได้แอบ

72 ออกไปจากโรงแรม รุ่งเช้าจึงพบว่า รุ่นพ่ไี มไ่ ด้จ่ายเงินค่าโรงแรม รุ่นน้องที่เหลือจึงรวบรวมเงินที่ ติดตัวท้ังหมดจ่ายค่าโรงแรม เม่ือรุ่นพ่ีคนดังกล่าวมารับ ทุกคนจึงลงเสียงเดียวกันว่าต้องการ กลับบ้าน เม่ือถึงที่หมายรุ่นพี่ก็ไม่มีเงินจ่ายค่ารถอีก รุ่นน้องจึงได้ไปยืมเงินท่ีญาติมาจ่ายค่ารถ สุดท้ายจึงพบว่ารุ่นพี่ต้องการหลอกจะเอาเงินคนละ 100 บาทในตอนแรก โดยไม่มีโครงการไป เทย่ี วอย่างท่ีบอกไว้แต่อย่างไร แนวทางแกไ้ ข ใช้หลกั นิติกรรมสัญญาและหน้ี และความผิดต่อทรัพย์ทางอาญา ซ่ึงกรณีน้ี รุ่นพ่ีเม่ือ แสดงคาํ มั่นใดออกไปเมื่อรุ่นน้องตอบรับก็เกิดข้อผูกมัดให้ต้องชําระหนี้ตามท่ีสัญญาไว้ หากไม่ ทาํ อาจฟ้องให้ชดเชยค่าเสียหายได้ และเงิน 100 บาท ท่ีเอาไปก็ถือเป็นความผิดฐานฉ้อโกงทาง อาญาแจ้งความดําเนินคดีต่อตาํ รวจได้ 3.7.7) โกงขา้ ว รายละเอียด ชาวนาจํานวนหน่ึงได้นําข้าวไปจํานํากับโรงสีท่ีอ้าวว่าได้ร่วมโครงการจํานําข้าวกับทาง รัฐบาล จึงทําให้ชาวนาหลงเช่ือนําเข้าไปจํานําเป็นจํานวนมาก และได้ออกใบประทวนให้กับ ชาวนาให้มารับเงินภายหลัง เม่ือถึงกําหนดรับเงินชาวบ้านก็ได้เงินไม่ครบตามจํานวน โดย เจ้าของโรงสีอ้างว่าให้มารับเงินวันหลัง แต่แล้วเจ้าของโรงสีก็ได้หนีหายไป ชาวบ้านจึงไปแจ้ง ความต่อตาํ รวจ เพอ่ื ทาํ การสอบสวนกพ็ บว่าข้าวในโกงดังหายไปหมดแล้ว จึงได้ติดตามเจ้าของ โรงสีมารับผิดชอบ แต่แล้วก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเน่ืองจากเจ้าของโรงสีไม่มีเงินจ่าย ความ เสียหายดังกล่าวเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท และชาวบ้านส่วนน้ีเคยร้องเรียนให้รัฐบาล ช่วยเหลือแต่กไ็ ม่มีความคีบหน้า สดุ ท้ายชาวนาจึงต้องรบั ผลเสียหายไปตามกัน แนวทางแก้ไข ใช้หลักนิติกรรมสัญญาและการบังคับชําระหน้ี และหลักความผิดเก่ียวกับฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ และการหนีหน้ี ซ่ึงกรณีน้ีเจ้าของโรงสีมีหน้ีเงินอยู่กับชาวนาสมารถฟ้องบังคับ ชําระหน้ีต่อศาลแพ่งได้ แต่การหลบหนี ย่อมเป็นความผิดทางอาญาเก่ียวกับทรัพย์ และหนีหนี้ ชาวนาแจ้งความต่อเจ้าหน้าท่ีตํารวจดําเนินคดีทางอาญาเพ่ือให้มีการลงโทษ และนําไปสู่การ บงั คบั ชําระหน้ีโดยเอาทรัพย์สินของโรงสีมาขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินมาชดใช้หนไ้ี ด้

73 3.7.8) ของหายในห้างสรรพสินค้า รายละเอียด ( โดย นางสาว จฑุ ารัตน์ บรรเจิด ) สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 จังหวัดชลบุรี ข้าพเจ้าด้วยอารมณ์สนุกสนานร่าเริงได้ ออกไปเที่ยวกรุงเทพตามประสาเด็กต่างจังหวัด ไปเดินห้างฯแห่งหน่ึง ด้วยความเห็นว่าห้องน้ํา สวยมากมีไฟสีส้มและกระจกบานใหญ่บนผนัง จึงคว้าโทรศัพท์มาถ่ายรูปอยู่นาน จนลืม โทรศัพท์ท่ีวางไว้ หลังจากล้างมือ แล้วเดินออกไป จนนึกข้ึนได้จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา แต่ กลับไม่พบจึงรีบกลับไปทหี่ ้องน้าํ แล้วถามป้าทาํ ความสะอาดว่าพบเห็นหรือไม่ ป้าตอบว่า “ไม่รู้ ไม่เห็นมีน่ีนา” จากน้ันฉันจึงไปท่ีเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ห้างฯเพื่อสอบถาม และให้ลองถาม รปภ.ห้างฯดูว่ามีใครพบเห็นหรือไม่ หลังจากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ของห้างฯ 2 คน มาเชิญ พวกเราไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย พวกเราช่วยกันซักถามแม่บ้าน แต่เธอก็ตอบปฏิเสธ ไม่ นานนัก ก็มีทนายความประจําห้างฯเข้ามา เพื่อมาไกล่เกลี่ย คุณทนายปากเอกก็สรุปให้การว่า เราไม่มีหลักฐาน ไม่มีพยาน คนของเขาไม่ผิดและจะไม่มีการรับผิดชอบใดๆเกิดขึ้น ฉันคว้า กระเป๋ามากอดแน่นและก้าวออกมาด้วยความสบั สนและผิดหวัง ถือว่าเป็นประสบการณ์ร้ายท่ี มีค่ามากสาํ หรับฉันจากคนรอบข้าง แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักผู้ประกอบการท่ีเป็นเจ้าของสถานท่ีมีหน้าท่ีตามธรรมดาในการดูแลความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้มาใช้บริการ และความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ ซึ่งห้างฯมี หน้าที่ต้องชดเชยค่าเสียหายแก่ลูกค้าเมื่อมีของสูญหายในบริเวณท่ีอยู่ใต้การควบคุมของห้างฯ และไม่มีอํานาจในการควบคุมตัวลูกค้าไปอยู่ในสถานท่ีปิดทึบและใช้พฤติกรรมข่มขู่ซ่ึงถือเป็น การกระทําผิดต่อเสรีภาพสามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าทตี่ ํารวจได้ 3.7.9) ลกั ทรัพย์ ทํารา้ ยรา่ งกายเจา้ พนักงานไม่เปน็ ธรรม รายละเอียด ขณะท่ีนักศึกษากําลังศึกษาอยู่ระดับมัธยม นักศึกษาให้เพื่อนยืมโทรศัพท์ไปจํานําเพ่ือ เอาเงินไปใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ โดยเพ่ือนรับปากว่าจะนําโทรศัพท์มาคืนแต่ก็ไม่นํามาคืน ตามกําหนดและปฏิเสธไม่รับรู้เรื่องโทรศัพท์ นักศึกษาจึงโกรธและทําร้ายร่างกายเพื่อนคนน้ัน

74 คุณครูฝ่ายปกครองไม่ฟังเหตุผลของการทําร้ายร่างกายและปฏิเสธที่จะรับฟังพยานที่เห็น เหตุการณ์ โดยบอกกับนักศึกษาว่าไม่มีหลักฐานอย่ามาพูดเพราะอาจจะโดนแจ้งความข้อหา หม่ินประมาทได้ โดยนักศึกษามารู้ความจริงเอาภายหลังว่าคุณครูฝ่ายปกครองคนน้ันเป็น พ่อเลี้ยงของเพือ่ นคนน้ันทีเ่ ป็นคู่กรณีกับนกั ศึกษา น.ศ.ใช้กําลงั ทาํ ร้ายร่างกายเอาโทรศพั ท์คืน แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักกฎหมายลักษณะทรัพย์ และความผิดต่อทรัพย์ ช่ือเสียงและร่างกายในทาง อาญา ซ่ึงกรณีน้ีเป็นการพิสูจน์ว่าทรัพย์เป็นของผู้ใด หากเป็นของเราจริงผู้ท่ีเอาทรัพย์ไปโดย เรายังไม่สละการครอบครองจะถือว่าเป็นผู้ลักทรัพย์มีความผิดทางอาญา การทะเลาะวิวาทก็ ถือเป็นความผิดที่ผู้ร่วมทะเลาะวิวาทถือว่าสมัครใจเข้าร่วมเส่ียงภัยมีความผิดท้ังคู่ แต่อาจจะ เสย่ี งว่าตกเป็นผู้ต้องหาทําร้ายร่างกายเสียเอง ส่วนการต้ังข้อสังเกตว่ามีการขโมยของถือเป็น การใช้สิทธิธรรมดาตามกฎหมายไม่ถือเปน็ การหมน่ิ ประมาท 3.7.10) รับซือ้ ของโจรโดยไมร่ ู้ รายละเอียด ( โดย นางสาว พรรณธิการ ใจวงศ์ ) ครอบครัวของข้าพเจ้าทาํ ธุรกิจเก่ียวกับการค้าขายของเก่า และบริเวณน้ันพื้นที่นั้นได้มี การทาํ ธุรกิจแบบเดียวกันหลายๆร้านจึงมีการแย่งลูกค้ากัน วนั หนึ่งมีลูกค้านําแบตเตอร่ีท่ีไม่ได้ ใช้งานแล้วมาขาย จนในช่วงบ่ายวันน้ันได้มีตํารวจมาท่ีร้านและต้ังข้อกล่าวหาให้แม่ของข้าพเจ้า ว่ารับซ้ือของโจร วิธีแก้ไขปัญหา ครอบครัวของข้าพเจ้าจึงไม่ได้ยินยอมรับต่อข้อกล่าวหา ดังกล่าวน้ัน แล้วได้เรียกทนายมาปรึกษาและได้บอกกับฝ่ายน้ันว่าถ้าเกิดจะเอาผิดกันก็ให้เอา เร่ืองขึ้นศาลและพร้อมท่ีจะสู้คดี ถ้าฝ่ายน้ันพอเห็นว่าครอบครัวของข้าพเจ้าไม่ยอมง่ายๆก็ขอ ถอนข้อกล่าวหาไป แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักผู้ประกอบกิจการใดเป็นปกติย่อมไม่อาจล่วงรู้ถึงการกระทําผิดหากเป็นการ ดําเนินการปกติของกิจการนั้น ซ่ึงสามารถใช้เป็นข้อต่อสู้ในข้อกล่าวหารับของโจรได้หากไม่มี พฤติการณ์ทจุ ริตใดๆทผี่ ดปกตไิ ปจากการรบั ซื้อของทร่ี ้านดาํ เนินกิจการ

75 3.7.11) ลักบัตรเครดิตไปรูดเงิน , เจ้าพนักงานปฏิบตั ิหนา้ ทโ่ี ดยมิชอบ รายละเอียด ( โดย นางสาว กษมา หิรัณยรัชต์ ) ขณะเวลาประมาณ 20.00 น. ข้าพเจ้าและแม่ช่วยกันหยิบของท่ีซ้ือออกจากรถเข็นของ ห้างสรรพสินค้า ด้วยความประมาทของแม่ได้ลืมกระเป๋าเงินท้ิงไว้กระท่ังนึกข้ันได้ว่าลืมทิ้งไว้ แม่จึงรีบโทรศพั ทไ์ ปอายัดบัตรเครดิต เม่อื สอบถามยอดการชําระเงินพบว่าต้ังแต่ เวลา 20.00- 8.00 น. อีกวนั ได้มีการใช้วงเงินไป 29,000 บาท ซง่ึ แม่ข้าพเจ้าไมไ่ ด้เปน็ คนใช้บตั รนั้นเลย แม่จึง ไปแจ้งความ ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นตํารวจก็ได้ติดตามคนร้ายจาก กล้องวงจรปิดจากทางห้างสรรพสินค้า ซ่งึ กไ็ ด้จบั ภาพคนร้ายและป้ายทะเบียนรถของคนร้ายได้ แต่หลังจากนั้น 3-4 วันผ่านไป ตํารวจกลับบอกว่าแม่ข้าพเจ้าว่ายังไม่สามารถระบุคนร้ายได้ ทั้งๆท่ีรู้ตัวแล้ว อีกทั้งยังเกล้ียกล่อมให้แม่ข้าพเจ้ายอมความกับคดีนี้ โดยต้องเสียเงินจํานวน หนึ่งให้ทางเจ้าหน้าท่ีตํารวจ ซ่ึงทางครอบครัวข้าพเจ้าก็ยอมตกลงตามนั้น เพราะทางบริษัท บัตรเครดิตนั้นยินดีท่ีจะชดใช้ค่าเสียหายแก่แม่ข้าพเจ้า และคดีน้ีก็จบลงในท่ีสุด แต่ท่ีน่าสงสัย คือ เมอื่ รู้ตัวคนร้ายแน่ชัดแล้วทําไมถึงไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ และหากไม่ทําตาม ความต้องการของเจ้าหน้าที่ตํารวจอาจทําให้เกิดปัญหาต่อการดําเนินชีวิตครอบครัวของ ข้าพเจ้าหรือไม่ วิธีแก้ไข ครอบครัวข้าพเจ้าปฏิบัติตามคําส่ังของเจ้าหน้าท่ีตํารวจทุกประการ โดยให้เรื่องจบอย่างสงบ เพราะไม่อาจทราบได้ว่าถ้าหากไม่ปฏิบัติตามคําสั่งแล้วจะต้องพบกับ ปญั หาใดหรือไม่ แสดงให้เหน็ ถึงความไม่ยตุ ิธรรมในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ี และกฎหมาย ไม่สามารถนําตวั ผู้กระทําผิดมาลงโทษได้เสมอไป แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักเจ้าของกิจการและธุรกิจผู้เป็นเจ้าของข้อมูลและเทคโนโลยีมีหน้าที่ในการแก้ไข ปัญหา และเจ้าพนักงานต้องดําเนินการจับกุมคนร้ายมาดําเนินคดีและชดเชยความเสียหาย ซ่ึงกรณีน้ีเมื่อแจ้งความแล้วตํารวจต้องดําเนินการโดยสถาบันการเงินเจ้าของบัตรและมีกล้อง บันทึกภาพหน้าตู้จะต้องเปน็ ผ้ใู ห้หลกั ฐาน นาํ ไปสู่การดาํ นินคดีทางอาญาและชดเชยค่าเสียหาย ทเี่ กิดข้ึนด้วย ส่วนการร้องเรียนตํารวจให้ร้องไปสู่ ปปช.

76 3.8) ความผิดต่อเอกสาร 3.8.1) เชค็ เดง้ รายละเอียด ลูกค้าคนหน่ึงสั่งของจํานวนมากโดยจ่ายเงินเป็นเช็ค โดยความเช่ือใจและเป็นลูกค้าที่ เคยสงั่ ของหลายคร้ังแม่จึงยอมรบั เชค็ แต่เชค็ นําไปข้ึนเงินไม่ได้ แม่กไ็ ด้ติดต่อกลับไป เขาก็ทําไม่ รู้เรอ่ื ง ไม่รบั ผิดชอบใดๆ แม่จึงไปแจ้งตํารวจซ่ึงก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะลูกค้ารายน้ีเป็นน้องชาย ตํารวจทําให้แม่ต้องเสียสินค้าไม้แกะสลักไปฟรีๆ และไม่ได้เงินจากสินค้าโดยตํารวจก็ให้ความ ช่วยเหลืออะไรไมไ่ ด้เลย จากสถานการณ์เห็นว่าเราไม่ควรจะไว้ใจใครง่ายๆ ยิ่งธุรกิจแล้วยิ่งต้องรอบคอบ พยายามหลีกเล่ียงการรับเช็ค เพราะไม่มีความแน่นอนแม้รู้จักกันมานาน ซ่ึงคนโกงก็ยัง ลอยนวลซ่ึงถือเป็นประสบการณ์ชีวิตทเ่ี ตือนใจเรา แนวทางแก้ไข ใช้หลักกฎหมายการชําระหน้ีต้องกระทาํ โดยสจุ ริต และความผิดเกี่ยวกับเช็ค ซึ่งกรณี นี้เป็นการจ่ายเช็คเด้งซ่ึงเป็นความผิดทางอาญาแจ้งความต่อตํารวจได้ และยังเป็นหน้าที่ของ ลูกหนี้ท่ีจะต้องหาเงินมาชาํ ระหนใ้ี หไ้ ด้ตามท่ตี กลงกันไว้ด้วย 3.8.2) ปลอมเอกสาร , ฉ้อโกง, ยกั ยอก, เช็คเด้ง , ขฆู่ า่ รายละเอียด เป็นเรื่องราวจากสถานการณ์จริงโดยใช้นามสมมุติว่า แจง ซึ่งได้ทําธุรกิจเกี่ยวกับการ รับจํานํารถ ซ่ึงมีเงื่อนไขในการให้ราคา ดังน้ี ถ้าเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ 15,000 -20,000 บาท รุ่น เก่า 8,000-12,000 บาท รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ 8,000 – 15,000 บาท รุ่นเก่า 5,000 – 7,000 บาท โดยดอกเบี้ยร้อยละ 10 บาท ช่วงแรกกิจการดําเนินไปด้วยดี ซ่ึงมีจอยเป็นผู้จัดหา รถมาให้ ลูกค้ามีจํานวนมาก พอเข้า เดือนท่ี 2 กิจการเร่ิมมีแววล้มเหลว เพราะจอยเริ่มโกง ดอกเบ้ียจากการทําธุรกิจ และเอกสารท่ีใช้ในการรับเงินนั้นก็เป็นเอกสารปลอม ร่วม 10 ชุด มูลค่า 300,000 บาท จากน้ันจึงไปเรียกร้องสิทธิจากจอย แต่จอยหลบหนี ก่อนจอยกับแจง จะ ทําธุรกิจด้วยกันนั้น จอยได้ให้เช็คเงินสดมูลค่า 500,000 บาทแก่แจง แต่เม่ือแจงนําไปถอนก็ เกิดเช็คเด้ง เช็คนั้นเป็นเช็คของคนอ่ืนท่ีจอยไปขอซ้ือมา เมื่อไปแจ้งความปรากฏว่าคดีของจอย

77 น้ันมีมากกว่า 30 คดี เม่ือแจงไปแจ้งความในระยะแรกโดนจอยขู่ฆ่าลูกของแจง ทําให้แจงเกิด ความผวามากจึงขอให้เจ้าหน้าท่ตี ํารวจมาช่วยสังเกตการณ์ท่บี ้าน วิธีแก้ ข้ันแรก พยายามเอาเงินส่วนท่ีควรเป็นของเรามาโดยการโทรศัพท์ไปหา เม่ือไม่ ได้ผลกไ็ ปหาทบ่ี ้านแต่กลบั หลบหนี ขั้นท่ีสอง แจ้งเจ้าหน้าท่ีตํารวจจากเหตุการณ์ท้ังหมด แต่แจ้งความได้แต่คดีพยายาม ฆ่าและเรื่องเชค็ ข้ันสุดท้าย ยอมรับในส่ิงท่ีเกิดข้ึนมาเป็นบทเรียน เน่ืองจากเอาผิดจอยไม่ได้แม้กระทั่ง ตํารวจก็ทาํ อะไรจอยไมไ่ ด้เช่นกนั แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักกฎหมายสัญญาหุ้นส่วน ต๋ัวเงิน ความผิดเก่ียวกับชีวิตและเอกสารเช็คในทาง อาญา ซึ่งกรณีนี้สามารถแจ้งความต่อตํารวจในคดีข่มขู่คุกคาม และคดีเช็ค เพื่อให้ติดตามมา ดําเนินคดี นอกจากน้ีสัญญาหุ้นส่วนอาจบังคับได้ในศาลแพ่งหากนําผู้ท่ีสัญญามาเข้าสู่ กระบวนการยุติธรรมได้ ดังน้ันจึงต้องร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา ตํารวจภาค และกองปราบ และ ปปช. ให้เร่งรัดคดี 3.8.3) หน้จี าํ นอง , ปลอมลายน้วิ มือ, ฉอ้ ฉล , เซ็น รายละเอียด ป้าข้าพเจ้าเป็นคนติดหน้ีสินมากมาย ป้าไปขอความช่วยเหลือจากตาว่าจะเอาโฉนด ท่ีดินบ้านไปจํานองกับเส่ียคนหน่ึง แต่เน่ืองจากโฉนดท่ีดินน้ีเป็นชื่อของยาย ตาจึงไม่สามารถ เซ็นอะไรได้ และยายก็ไม่อยูใ่ นช่วงท่ยี ายไม่สบายพูดไม่รู้เร่ือง ป้าได้พายายไปปั้มลายนิ้วมือเพ่ือ โอนเป็นช่ือตา เมื่อได้เงินจากนําโฉนดไปจํานองก็ไม่ได้เอาเงินไปใช้คืน แถมยังเอาเงินจากเสี่ย คนนั้นมาเร่ือยๆ เป็นหนี้แสนๆ หลังจาน้ันไม่นานยายก็เสียชีวิต ญาติก็ไม่ได้คิดแบ่งท่ีดินกัน แต่ เรื่องไม่คาดคิดเกิดข้ึนเสี่ยคนที่ป้ายืมเงินก็มาหาพร้อมกับนําเจ้าหน้าที่ธนาคารมายึดที่พวกเรา โดยเสีย่ คนนั้นบอกว่าป้าเอาเงินมาจากเข้าเกือบล้าน แล้วก็ให้ตาเซ็นโฉนดท่ีดินเป็นของเขาแล้ว ด้วย พวกเราจึงช่วยกนั พดู เสี่ยกย็ อมโดยท่ีพวกเราต้องขอแบ่งส่วนซ่ึงเป็นท่ีดินท่ีบ้านพวกเราอยู่ โดยผ่อนเงินให้เขาเป็นเดือน ซ่ึงพวกเรารู้สึกเสียใจมาก คนกระทําก็ไม่ไดผ่อนเงินด้วยกลับ ลอยหน้าลอยตาอย่างสบายใจ

78 วิธีที่ดใี นตอนนั้นคือต้องผ่อนบ้านไปก่อน ซ่งึ ช่อื ในโฉนดกเ็ ป็นของเสี่ยคนน้ันซึ่งพวกเราก็ ทาํ อะไรไมไ่ ด้เลย แนวทางแก้ไข ใช้หลักนิติกรรมสัญญา การแสดงเจตนาโดยกลฉ้อฉล ความผิดฐานปลอมแปลง เอกสาร ซ่ึงกรณีน้ีจะต้องมีการแจ้งความเรื่องปลอมแปลงเอกสารเป็นคดีทางอาญาเพ่ือ ลงโทษผู้ปลอมแปลง หรืออาจฟ้องเพิกถอนนิติกรรมท่ีเกิดจากกลฉ้อฉลอันเนื่องมาจากการฉ้อ ฉล และยายไม่อยู่ในสภาวะท่ีทาํ นิติกรรมได้ด้วยตัวเอง เพ่ือท่ีจะคงความเป็นเจ้าของและปลอด จากภาระติดพันต่อทรพั ย์สินนั้น 3.8.4) ฉ้อโกง รายละเอียด แม่ฉันประกอบอาชีพพนักงานธนาคาร โดยแม่เล่าให้ฟังว่าหลายปีก่อนมีหญิงคนหนึ่ง มาถอนเงินซ่งึ ก็มีเอกสารมาครบถ้วน แต่กลับไม่สามารถถอนเงินได้ ซ่ึงทําให้ทุกคนท้ังพนักงาน และตัวลูกค้าคนนี้เองงง จึงต้องไปเปิดกล้องวงจรปิด จากนั้นลูกค้าคนน้ีจึงบอกว่าเธอมี น้องสาวฝาแฝดของเธออีกคนซ่ึงหน้าตาเหมือนกันแล้วอ้างว่าเธอคงขโมยสมุดบัญชี และบัตร ประชาชนของเธอซ่ึงมีหน้าตาเหมือนกันมาเซ็นถอน ซ่ึงในท่ีสุดเธอก็แจ้งจับน้องสาวฝาแฝดของ เธอในข้อหาลกั ทรัพย์และฉ้อโกงในเวลาต่อมา ซึ่งแม่บอกว่าความจริงแล้วพนักงานท่ีรับถอนเงิน ควรจะถูกลงโทษ และทางธนาคาร จะต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีน้ี เพราะถือเปน็ ความสะเพร่าของพนักงานเอง ซ่ึงเหตุการณ์นี้ก็ ทําให้พนกั งานหลายคนเพ่มิ ความระมดั ระวังในการทาํ งานมากข้ึน แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักกฎหมายการเข้าทํานิติกรรมด้วยการฉ้อฉลโดยทุจริต และความผิดต่อเอกสาร และทรัพย์ในทางอาญา ซ่ึงกรณีน้ีหากมีการพิสูจน์ได้จะเป็นความผิดทางอาญาต่อตัวผู้ลวง และมีผลยกเลิกนิติกรรมที่ทาํ กบั ธนาคาร เพอื่ คืนเงินให้กับเจ้าของเงินตัวจริง

79 3.8.5) โดนแอบอ้าง รายละเอียด หญิงคนหนงึ่ ถกู ธนาคารเรียกเก็บเงินจากหน้ีท่ีไปซื้อสินค้าต่าง ทั้งทีหญิงคนดังกล่าวไม่ เคยทํานิติกรรมใดกับทางธนาคารมาก่อน และไม่เคยไดใ้ ช้บตั รรูดซื้อสินค้าตามยอดหนีที่ได้แจ้ง มา ในเรือ่ งนี้ธนาคารได้รบั ปากว่าจะดําเนินการช่วยเหลือให้ ในเร่อื งน้ีเอกสารที่สําคัญไม่ควรท่ีจะท้ิงหรือเก็บไว้แก่บุคคลท่ีตนเองไม่ไว้วางใจเป็นอัน ขาด แนวทางแก้ไข ใช้หลักผู้ประกอบกิจการมีหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้า ซ่ึงกรณีน้ีธนาคารเป็นผู้เก็บข้อมูลและมีศักยภาพในการตรวจสอบธุรกรรมทั้งหลายของลูกค้า ได้ จึงมีหน้าที่ตรวจสอบนิติกรรมท่ีเกิดข้ึนโดยไม่ตรงตามเจตนาของผู้ใช้บริการ ซ่ึงเช่ือมโยง กบั ความผิดเกย่ี วกับบัตรเครดิต 3.9) ความผิดลหโุ ทษ 3.9.1) เมายา , เดือดรอ้ น,เจ้าพนกั งานไกล่เกล่ยี รายละเอียด ( โดย นางสาว เบญจพร ติยะธะ ) เพ่ือนและพ่ีสาวรวมกัน 6 คน ถูกคนเมายาขับรถตาม หลังจากไปเท่ียวผับกันจนถึงตี ห้า และไปส่งเพื่อนพี่สาวหอแถวหลังมอ. ทุกคนสังเกตมีรถคันหน่ึงตามมาระยะประชิดมาก และเล้ียวตามมาปาดหน้า ซง่ึ คนขบั รถนั้นเปน็ ผู้หญิงลงมาจากรถ ทุกคนในรถรีบล็อคประตูรถ ทุกด้าน ผู้หญิงคนนั้นเดินมาและพยายามมาเปิดประตู แต่เปิดไม่ได้จึงตบกระจกหน้ารถหลาย ครั้งและแรงมาก และนั่งทับกระโปรงหน้ารถ ระหว่างนั้นทุกคนตัดสินใจโทรหาตํารวจ ระหว่าง ท่ีรอตํารวจ ยามหลังมอก็ได้ให้ความช่วยเหลือพวกเรา เพราะอาการผู้หญิงคนนั้นเป็นอาการ เมายา เธอพยามยามทําร้ายยาม เธอว่ิงไปมาเปิดเสื้อไม่หยุด และเตะไฟท้ายรถเราจนแตก กระทั่งตํารวจมาและมาตกลงขอให้พวกเราไม่เอาเรื่อง เพราะเห็นว่านักศึกษา มช. เหมือนกัน ซ่ึงพวกเราก็ไม่เอาเรือ่ ง เม่อื ตกลงเสรจ็ กแ็ ยกย้ายกนั กลับ

80 แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักการใช้สิทธิเสรีภาพเท่าท่ไี ม่ละเมิดต่อความสงบเรียบร้อยของผู้อ่ืน ความผิดฐาน ทาํ ให้เสียทรัพย์ และอํานาจของเจ้าพนกั งานในการปฏิบัติหน้าท่ี การทําใ ห้เสียท รัพย์เป็น ความผิดทางอาญาแต่อาจยอมความได้ข้ึนอยู่กับเจ้าทุกข์ผู้เสียหาย แต่ยังเรียกร้องค่าเสียหาย ทางแพ่งเพ่ิมเติมได้ ส่วนการคุกคามก่อความวุ่นวายเป็นความผิดลหุโทษทางอาญา แต่หาก พบว่ามึนเมายาเสพติดที่ผิดกฎหมายเจ้าพนักงานต้องดําเนินคดีเพื่อนําตัวไปบําบัดตาม กฎหมาย 3.9.2) ฉีกบตั รเลือกตัง้ รายละเอียด คณุ ตาวยั 82 ปี ต้องการไปใช้สิทธิเลือกต้ัง และคุณตาก็ไดไ้ ปใช้สิทธิดังกล่าว เม่ือไปถึง หน่วยเลือกต้ัง คุณตาก็ได้ป้ัมลายมือชื่อแทนการลงช่ือ เพราะคุณตาเขียนหนังสือไม่ได้ จากนั้น เจ้าหน้าทกี่ ไ็ ด้ให้บัตรเลือกต้ังแก่คณุ ตา เม่ือคณุ ตาไดไ้ ปกากบาทท่ีคูหาตามปกติ จากน้ันก็ได้นํา บัตรมาหย่อนบตั รลงหีบ แต่เนอ่ื งจากคณุ ตาหย่อนบตั รเลือกต้ังไม่ลง คณุ ตาจึงได้ฉีกบัตรให้เล็ก ลง เพื่อที่จะนําบัตรใส่ลงไป เมื่อเจ้าหน้าท่ีเห็นดังกล่าวจึงได้พาคุณตาไปโรงพัก และคุณตาถูก นําตังส่งต่อศาล แต่สุดท้ายเร่ืองก็จบลงด้วยดีเน่ืองจากคุณตาไม่มีเจตนาที่จะกระทําผิด กฎหมายเลือกตั้ง แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักการกระทําผิดทางอาญาจะต้องมีองค์ประกอบภายในคือ “เจตนา” ซึ่งกรณีนี้ คุณตาไม่มีเจตนาในการทําลายบัตรเลือกต้ังเป็นเพียงการกระทําท่ีมีลักษณะตามองค์ประกอบ ภายนอกทางอาญาแต่ไม่มีเจตนาจึงไม่ถือเปน็ ความผิดทางอาญา 3.9.3) ชกต่อย เจ้าพนกั งานใช้ดุลยพินิจ รายละเอียด ออกไปกินหมูกระทะ มีวัยรุ่นคนหน่ึงเมาสุราเดินตรงเข้ามาชกหน้าก่อน ก็เลยชกกลับ ด้วยอารมณ์โมโห จนต้องเข้าโรงพัก ตํารวจบอกว่าเราเป็นฝ่ายผิดท่ีไปชกคนท่ีเขาขาดสติ แต่ เห็นว่าทําไมถึงไม่มีการตรวจแอลกอฮอล์เสียก่อน ซ่ึงเราเองก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะไปชกเขาซะ

81 ระนาว ก็เลยยอมเสียค่าทําขวัญไปแต่ไม่มีการลงบันทึกลงประจําวัน เพราะตํารวจเห็นว่าไม่ได้ ต้ังใจ วิธีแก้ไข ถามเขาว่ามีเรอ่ื งอะไรไม่พอใจหรือเปล่า โดยพูดคุยเสียให้เข้าใจ ไม่ควรไปทํา ร้ายเขาให้เกิดเร่ืองใหญ่โต หรือให้เรียกตํารวจหากไม่ทันก็ให้เพ่ือนช่วยกันจับคนๆน้ันเพ่ือ ควบคมุ สติ แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักกฎหมายความผิดต่อร่างกาย ความผิดลหุโทษ และการป้องกันตามกฎหมาย อาญา กรณีนี้ผู้ถูกชกอาจจะมีการกระทาํ เพื่อปกป้องตวั เองได้ตามสมควรไม่เกินกว่าเหตุ แต่ถ้า มากเกินจะเป็นการทําร้ายร่างกายผู้อื่นไปเสียเอง การเปรียบเทียบปรับแล้วปล่อยตัวน่าจะเป็น การปรับความผิดเข้ากับความผิดลหุโทษฐานทําร้ายร่างกายเล็กน้อยซ่ึงไม่ต้องพิสูจน์เจตนาก็ ต้องรบั ผิดหากมีการกระทาํ ครบองค์ประกอบภายนอก 4. กรณีศึกษาปัญหาด้านกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ 4.1) บคุ คล 4.1.1) นาง ,นางสาว รายละเอียด ดิฉันจดทะเบียนสมรสเม่ือปี 2548 เมื่ออายุ 21 ปี และกฎหมายให้เปล่ียนคํานําหน้าว่า “นาง” เท่านั้นโดยไม่สามารถกลับไปใช้ “นางสาว” ได้อีก หลังจากนั้นไม่ถึงปี เราก็หย่ากัน จึง ทําให้ดิฉนั จึงต้องจําใจใช้ มาโดยตลอด วิธีแก้ ได้ดําเนินการนับแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ในเร่ืองกฎหมายว่าด้วย สตรีท่ีมีความ ประสงค์ต้องการเปล่ียนคํานําหน้าช่ือจาก “นาง” เป็น “นางสาว” นับแต่ดําเนินการตาม กฎหมายที่มีผลบังคับใช้ “นางสาว” เหมือนเดิม แนวทางแก้ไข ใช้หลักความเสมอภาคทางเพศ ซ่ึงกรณีน้ี พรบ. ช่อื ฯ ได้อนุญาตให้สตรีเลือกคํานําหน้า ชอ่ื ได้ตามที่ตนต้องการ จึงเลือกกลับไปใช้ นางสาว ได้

82 4.1.2) บคุ คลท่ถี กู ลืม รายละเอียด พื้นที่ราบสงู ในอาํ เภอแม่แตงจงั หวดั เชียงใหม่ มีหมู่บ้านปากะยอซ่ึงมีประชากรอาศัยอยู่ ประมาณ 30 คน แต่คนในหมู่บ้านดังกล่าว ไม่เคยได้รับสาธารณูปโภคจากรัฐเลย ไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา สิทธใิ นการรักษาพยาบาลจากภาครัฐ เมื่อไปสอบถามเจ้าหน้าท่ีของรัฐ แทบจะ ไม่มีใครรู้จกั หมู่บ้านดังกล่าวเลย ทั่งๆทช่ี าวบ้านได้อาศยั อยู่พ้ืนท่นี ้ีเป็นเวลานาน แนวทางแก้ไข หลักการได้สัญชาติตามดินแดนท่ีกําเนิด และเง่ือนไขของ พรบ.สัญชาติ ซ่ึงกรณีนี้ผู้ท่ี ยังไม่ได้รับสัญชาติอาจรวมตัวกันโดยมีกํานันผู้ใหญ่บ้านรวมถึงหมอตําแย ท่ีสามารถให้การ ยืนยนั การเกิดไดไ้ ปดาํ เนินการขอจดแจ้งทะเบียนการเกิดและเข้าสู่ทะเบียนราษฎร์พร้อมกัน 4.1.3) ท้องแลว้ ไมร่ บั ผิดชอบ รายละเอียด ชายอายุ 20 ปี ได้กระทําให้หญิงท่ีมีอายุ 17 ปี ต้ังครรภ์ ซ่ึงขณะน้ันผู้หญิงยังอยู่ในวัย เรียน เมื่อทราบว่าตนองท้องจึงได้ไปบอกให้ฝ่ายชายทราบ เม่ือผู้ชายทราบเร่ืองก็ปัดความ รับผิดชอบ โดยอ้าวว่าเด็กในท้องมิใช่ลูกของตน สุดท้ายผู้หญิงก็ต้องท้องโดยไม่มีพ่อของเด็ก และยอมรบั ชะตากรรมเลี้ยงลูกด้วยตนเอง โดยทไ่ี ม่คิดทจ่ี ะไปเรียกร้องอะไรกบั ผู้ชายอีกเลย แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักกฎหมายบุคคลและครอบครัว ซ่ึงกรณีน้ีการพิสูจน์จําต้องอาศัยการตรวจ ลักษณะทางพันธุกรรมเพื่อนําไปฟ้องให้ผู้เป็นบิดารับผิดชอบต่อเด็กที่เกิดมา และหากมีการ เพิกเฉยอาจแจ้งความเป็นความผิดทางอาญาเก่ียวกับการพรากผู้เยาว์เพราะแม้เป็นความ ยินยอมแต่อายุตํ่ากว่า 18 ปียังไงก็เป็นความผิดเพื่อบีบให้ฝ่ายชายเขามาแสดงความรับผิดชอบ หรือตรวจพนั ธุกรรมต่อไป

83 4.2) ครอบครวั 4.2.1) ชีวิตสมรส รายละเอียด ชายคนหนึ่งแต่งงานกับผู้หญิงท่ีมีลูกติด 1 คน โดยระหว่างแต่งงานกันทั้งคู่ไม่มีลูก ด้วยกัน เม่ือแต่งงานกันได้ 3 ปี ฝ่ายชายได้ไปทํางานต่างประเทศ โดยได้ส่งเงินกลับบ้านให้ ภรรยาจ้างคนดูแลสวน ต่อเติมบ้าน และส่งเสียลูกเรียนหนังสือ ผู้หญิงกลับคิดไม่ซื่อนําเงินแบ่ง ให้ชายชู้ จนไม่สามารถนํางานไปใช้ตามท่ีส่ังไว้ เงินท่ีส่งมาให้ร่วมหลักล้านบาท มีญาติฝ่ายชาย เตือนผู้ชายเก่ียวกับพฤติกรรมของภรรยาแล้ว แต่ผู้ชายกลับไม่เช่ือ แต่เมื่อหมดสัญญาทํางาน ในต่างประเทศ ชายดงั กล่าวกลับมาพบว่าภรรยาไมไ่ ด้ทาํ ตามที่ให้จดั การจริง ฝ่ายหญิงได้ตกลง กบั สามี ว่าจะเลิกพฤติกรรมดังกล่าวโดยให้สามโี อนบ้านให้เปน็ ช่ือฝ่ายหญิงเสียก่อน สามีจึงตก ลงตามนั้นโดยท่ไี ม่มีใครคัดค้านได้ หลังจากนั้นพฤติกรรมของภรรยาก็ไม่ได้เปล่ียนไปแต่อย่าง ใด สามีจึงได้ปรึกษาญาติ ซ่ึงทุกคนยอมท่ีจะช่วยเหลือฝ่ายชายอย่างเต็มท่ี โดยนําเรื่องขึ้นฟ้อง ต่อศาลเพื่อจะนําทรัพย์สินกลับคืนมา แต่คืนก่อนวันศาลนัดข้ึนศาล ฝ่ายหญิงมาพบฝ่ายชาย เพื่อที่จะขอคุย หลังจากท่ีคุยกันเสร็จ ฝ่ายชายกลับมาบอกญาติว่าจะล้มคดี และจะโอนที่ดิน ให้กบั ฝ่ายหญิงอีกด้วย ซง่ึ บุคคลทจ่ี ะให้ความช่วยเหลืองงไปตามกัน ปัจจุบันผู้หญิงก็ยังไม่ยอม เปลี่ยนพฤติกรรม โดยท่ีฝ่ายชายก็ไม่ได้ว่ากล่าวแต่อย่างใด เร่ืองน้ีได้สร้างความมึนงงกับญาติ ฝ่ายชายเป็นอย่างมากว่าคืนท่ีฝ่ายหญิงมาคุยกบั ฝ่ายชายเกิดอะไรขึ้นทําไมฝ่ายชายจึงได้เปลี่ยน ใจอย่างกะทันหัน แนวทางแก้ไข ใช้หลกั กฎหมายครอบครัว นิติกรรมและทรัพย์ รวมถึงกระบวนการทางแพ่ง ซึ่งกรณี น้ีเป็นเร่ืองทางแพ่งทั้งสิ้นจึงขึ้นอยู่กับผู้เสียหายหรือคู่ความท่ีจะตกลงระงับข้อพิพาทกันอย่างไร ย่ิงถ้าการแต่งงานเปน็ การจดทะเบียนตามหลกั นิตินัย ย่ิงทําให้ทรัพย์สินท้ังหมดเป็นของคู่สมรส แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็เปน็ เรอ่ื งทรพั ย์ข้ึนอยู่กับผู้เป็นเจ้าของจะจดั การอย่างไรก็แล้วแต่การแสดง เจตนา

84 4.2.2) ฟ้องหยา่ รายละเอียด มารดาของนักศึกษาฟ้องหย่า เน่ืองจากพบว่าบิดาได้ติดต่อและมีความสัมพันธ์กับหญิงอ่ืน แต่บิดาไม่ยอมพยายามต่อสู้โดยอ้างว่าเป็นคนหาเล้ียงครอบครัว และถ้าจะมีการหย่าร้างต้อง ให้บิดาเล้ียงลูกสาว ส่วนมารดาให้เล้ียงลูกชาย แต่มารดาไม่ยอมจึงสู้คดีโดยท้ายสุดศาลเรียก บิดาไปคุยและตัดสินให้บุตรท้ังสองได้อาศัยอยู่กับมารดาและสินสมรสทั้งหมดเป็นของมารดา เนอ่ื งจากเป็นผู้เล้ียงดูบุตรทั้งสองคน โดยศาลได้บอกกับฝ่ายบิดาว่า “ให้เห็นแก่อนาคตของลูก คณุ ทีอ่ ยู่กบั แก่เขาเถอะ ถ้าคิดจะแบ่งสินสมรส อนาคตข้างหน้าของลูกคุณจะเป็นอย่างไรบ้างก็ ไม่รู้ สมบตั ิเหล่านี้คณุ ยงั สามารถหาได้อีกหากคณุ พยายาม มีความขยันขนั แข็งในการทํางาน” ท้ังสองฝ่ายยอมรบั กับผลท่ีตัดสินออกมา แนวทางแก้ไข ใช้หลกั กฎหมายครอบครัวเร่ืองการหย่า และสิทธิเด็ก ซ่ึงกรณีนี้มีสองเร่ืองสําคัญคือ เรื่องการแบ่งสินสมรส และการดูแลบุตรธิดา ซ่ึงการทําหน้าท่ีของศาลย่อมคํานึงถึงผลกระทบ จากคําพิพากษาจึงต้องมีกระบวนการไกล่เกล่ียประนีประนอมกับคู่ความโดยคํานึงถึง “เด็ก” เป็นสําคัญ จึงมีการยอมรับการประนีประนอมและผลของคําพิพากษาโดยบิดาโดยคํานึงถึง อนาคตของ “ลูก” เปน็ สาํ คัญ 4.2.3) หยา่ ร้าง , สินสมรส , ทรพั ยท์ ด่ี ิน , อสังหาริมทรัพย์ รายละเอียด คุณพ่อกับคุณแม่แต่งงาน คุณแม่ได้ย้ายไปอยู่ชนบทกับคุณพ่อ และคุณตาก็ได้รับเงิน จํานวนหน่ึงจากการเกษียณ คุณตาและคุณยายจึงคิดที่จะนําเงินไปสร้างบ้านท่ีชนบทใน ที่ดิน ของคุณพ่อข้าพเจ้า โดยคุณตาใช้เงินทุ่มเทกับบ้านหลังนั้น เม่ือสร้างบ้านเสร็จตาและยายก็ได้ อาศัยบ้านหลังน้ีต่ออีกประมาณ 2 ปี ก็เกิดเร่ืองข้ึน คุณพ่อและคุณแม่ข้าพเจ้าหย่าร้างกัน คุณ แม่จึงพาข้าพเจ้าและน้องสาวข้ึนมาอยู่ในเมืองเช่นเดิม โดยอาศัยบ้านเช่า โดยคุณตาและคุณ ยายก็ยงั คงอาศัยอยูใ่ นบ้านหลงั น้ันเช่นเดิม แต่ต่อมา ประมาณ 1 ปี คุณพ่อข้าพเจ้าก็ได้แต่งงาน ใหม่ ซ่งึ ภรรยาใหม่คุณพ่อได้ทํางานอยู่ท่ีว่าการศาลจังหวัดลําพูนและเธอก็รู้เร่ืองกฎหมาย เธอ จึงบอกให้คุณพ่อไล่คุณตาออกไปจากท่ีดินตรงนั้นเพราะเธอต้องการจะขายบ้านพร้อมที่ดิน

85 โดยอ้างว่าที่ดินท่ีสร้างบ้านนั้นเป็นของคุณพ่อ ฉะน้ันเธอมีสิทธิ์ที่จะไล่คุณตาออก และมีสิทธิ์ท่ี จะขายบ้านด้วย คุณตาจึงได้แต่อ้อนวอน จากนั้นคุณพ่อและภรรยาใหม่ก็ไม่มาหาคุณตาอีก ประมาณ 2 อาทิตย์แต่ได้รับจดหมายฉบับหน่ึงซ่ึงเป็นเอกสารจากศาลให้คุณตาไปขึ้นศาล ซึ่ง เธอได้ดาํ เนินคดีทางกฎหมายข้อหาบุกรกุ พ้ืนทส่ี ่วนตัว คณุ ตาจึงต้องยอมไปข้ันศาล แถมยังต้อง ยอมแพ้คดีความให้ย้ายออกจากพื้นท่ีภายใน 7 วัน ทุกคนในบ้านเสียใจมาก โดยเฉพาะคุณแม่ ท่ีคิดว่าตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องน้ี และหลังจากน้ันบ้านหลังน้ีก็ถูกประกาศขายทันที ทําให้ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าโลกช่างไม่มีความยุติธรรมเลย ข้าพเจ้าจึงอยากเรียนรู้กฎหมายไว้บ้าง เผ่ือ ข้าพเจ้าและน้องสาวจะต้องเกิดปัญหาในเรื่องการแบ่งทรัพย์สินกับภรรยาใหม่ของคุณพ่ออีก แน่นอน แนวทางแกไ้ ข ใช้หลักกฎหมายทรัพย์ และสินสมรส ซ่ึงกรณีน้ีต้องพิสูจน์ว่าที่ดินดังกล่าวพ่อได้มา ในช่วงสมรสแล้วหรือไม่ ถ้าใช่ถือเป็นสินสมรสต้องแบ่งกับแม่เม่ือมีการหย่าร้าง หากไม่ใช่จะ กลายเป็นสินส่วนตัวของพ่อ และส่ิงปลูกสร้างใดท่ีอยู่เหนือท่ีดินจะกลายเป็นส่วนควบไปกับ ที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์ประธาน จึงต้องมีการไปจดทะเบียนต่อสํานักงานที่ดินให้กลายเป็นสิทธิอยู่ อาศัยเหนือที่ดิน หากไม่มีการดําเนินการก็จะเป็นเรื่องของเจ้าของท่ีดินในการฟ้องบังคับขับไล่ ให้บุคคลออกจากท่ีดินของตน อย่างไรก็ดีอาจดําเนินการขอให้มีการรื้อถอนบ้านออกจาก ทด่ี ินก่อนท่จี ะมีการขายท่ีดินในฐานะผู้เป็นเจ้าของตัวบ้านของตาและยาย 4.2.4) รับภาระหนแ้ี ทนสามี รายละเอียด คุณป้าแต่งงานอยู่กินกับคุณลุง วันหน่ึงลุงมีความจําเป็นท่ีจะต้องใช้รถเพื่อมาทํางาน ทั้งคู่จึงตัดสินใจว่าจะซื้อรถเพ่ือให้ลุงใช้ทาํ งาน โดยได้เก็บเงินมาหลายเดือนแล้วเอาเงินไปดาวน์ รถออกมาใช้ โดยไดใ้ ช้บ้านที่อาศัยเป็นหลักประกัน อยู่มาวันหน่ึงทั้งคู่เกิดทะเลอะกันอย่างหนัก และลุงก็ได้หายตัวออกจากบ้านไป และได้ท้ิงรถไว้ให้กับป้า ป้าต้องทํางานหนักเพื่อท่ีจะหาเงิน มาผ่อนรถทีย่ ังค้างชาํ ระอยู่ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถผ่อนไหว ทางบริษัทจึงแจ้งว่ามีความจําเป็น ที่จะต้องยึดบ้านเน่ืองจากบ้านเป็นหลักประกัน ป้าไม่รู้จะทําอย่างไรจึงไปปรึกษาญาติ สุดท้าย

86 ญาติของป้าก็ต้องจําใจซ้ือรถคันนั้นต่อจากป้าและได้ผ่อนชําระต่อจนครบ ท้ังๆท่ีไม่คิดที่ อยากจะได้รถรุ่นนี้มาใช้เลย แนวทางแก้ไข ใช้หลกั กฎหมายสินสมรส และคาํ้ ประกันโดยใช้ทรพั ย์สิน ซง่ึ กรณีนี้ป้าในฐานะคู่สมรส ต้องรบั ผิดชอบหนี้ที่สามีก่อไว้ แต่การยึดบ้านไปใช้หน้ีทันทีกระทําไม่ได้ จะต้องมีการฟ้องบังคับ คดีนําบ้านไปขายทอดตลาดเพ่อื นําเงินมาชําระหน้ีส่วนเงินทีเ่ หลือก็เป็นของป้า 4.3) หนุ้ สว่ น บริษัท 4.3.1) หนุ้ ฯ , กูย้ ืม, ทะเลาะและทําร้าย , บกุ รุก รายละเอียด ( โดย นางสาว อลิศรา เปียต้งั ) เหตุการณ์ในสมัยยงั เยาว์วัยของข้าพเจ้า บิดา มารดา ประกอบธรุ กิจส่วนตัว ค่อนข้างมี ฐานะดี จึงเปน็ ทพ่ี ่งึ ของญาติพี่น้องและผองเพ่ือนในการกู้ยืมเงินยามขาดแคลน และมีเพื่อนของ บิดาของข้าพเจ้าคนหน่งึ ซงึ่ มีพ่ีน้องและผองเพอ่ื นในการกู้ยืมเงินยามขาดแคลน และมีเพื่อนของ บิดาของข้าพเจ้าคนหนึ่งซ่ึงมีความสนิทสนมกันมากมาขอกู้ยืมเงินเพ่ือไปเข้าหุ้นส่วนกับญาติพ่ี น้องเพ่ือประกอบธุรกิจบางอย่าง บิดาของข้าพเจ้าเห็นเป็นเร่ืองไม่เสียหายและเช่ือใจว่าจะต้อง ได้เงินคืนเหมือนดังญาติพ่ีน้องคนอื่นๆ แต่เนื่องจากหลังที่ธุรกิจของพ่อเร่ิมก้าวสู่วิกฤตภายใต้ เศรษฐกิจฟองสบู่ พ่อจึงทวงเงินก้อนหน่ึงคืนจากเพื่อนคนน้ี แต่เค้าก็ปฏิเสธท่ีจะคืนเงินและอ้าง ว่าแน่จริงเอาหลักฐานการกู้ยืมเงินมาโชว์สิแล้วจะให้เงิน ด้วยความโมโหจึงเกิดการทะเลาะ วิวาทกันข้ัน บิดาฟ้องร้องข้อหาทําร้ายร่างกายและบุกรุกถิ่นท่ีอยู่อาศัย แล้วเงินก็ไม่ได้คืนแถม ยังต้องเสียค่าปรับอีกต่างหากจะร้องเรียนกับใครก็ไม่ได้ เพราะเป็นความสับเพล่าของตัวท่าน เอง เหตุการณ์ในคร้ังน้ีจึงฝงั ใจข้าพเจ้าและครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้ในเหตุการณ์คร้ัง น้ีจะทําให้พ่อต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งเพ่ือน เสียใจ รวมท้ังต้องเสียธุรกิจอันเป็นที่รักไปแต่ยังคงไว้ ซึ่งความเข้าใจในครอบครัวหลังจากเหตุการณ์ในคร้ังนั้นผ่านพ้นไปพ่อก็กลายเป็นคนที่ละเอียด รอบคอบ สนใจกฎหมายต่างๆ มากข้ึนเพราะต้องการท่ีจะนําความรู้เรื่องกฎหมายต่างๆมาเป็น เกาะป้องกันจากผู้ที่ไม่หวังดี เหตุการณ์ร้ายๆน้ันก็ไม่เกิดข้ึนอีกเพราะบิดาของข้าพเจ้าได้ ตระหนักดีแล้วว่าการรู้แตไ่ ม่นํามาใช้น้ันส่งผลร้ายเช่นไร